ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนเมษายน น ก า ร2560 ณ์
ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่
w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1
ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ประจำ�เดือนเมษายน 2560 ราคา 10 บาท
ห้ า มนั่ ง ท้ า ยรถกระบะ แก้ ปั ญ หาที่ ป ลายเหตุ “เมาแล้ ว ขั บ ”คื อ ตั ว การ สื่อยุคใหม่ กล้าคิด กล้าทำ� กล้านำ�เสนอ ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานงานวันสถาปนาสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ครบรอบปีที่ 19 พร้อมมอบโล่ เกียรติยศและเงินรางวัลให้กบั สือ่ มวลชนดีเด่น ประจำ�ปี 2559 โดยมี พ.ท พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการบริหาร ร่วมต้อนรับ ภายใน งานมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำ�องค์กร และนักธุรกิจ ร่วมแสดงความยินดีจำ�นวนมาก เมื่อ วันที่ 9 เมษายน 2559 ที่ห้องมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น
คลื่นมนุษย์สุดรางคู่ ; นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมต.ท่องเที่ยวและกีฬา กระโดดดีใจร่วมกับนาย พงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น และหัวหน้า ส่วนราชการ ลุน้ คลืน่ มนุษย์ไร้แอลกอฮอล์ ส่งท้ายสงกรานต์ถนนข้าวเหนียวรวม 135,271 คน มีผเู้ ข้าร่วม กิจกรรมถนนข้าวเหนียวทั้ง 3 วัน 3.7 แสนกว่าคน
ย คุณวาสี” ชี้ห้ามนั่ง สงกรานต์ขอนแก่น คาด “ขอนแก่ น ลิ ง ค์ ” “โชคชั ท้ายรถกระบะ ลดอันตราย เงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาท ค ว้ า ร า ง วั ล สื่ อ จากอุบตั เิ หตุ แต่เป็นการแก้ สงกรานต์ถนนข้าวเหนียว ยํ้าสนุกได้โดย ที่ปลายเหตุ สาเหตุที่ทำ�ให้ ออนไลน์ ดี เ ด่ น เสียชีวิตส่วนใหญ่คือ เมา ไม่ต้องใช้แอลกอฮอล์ คาดเงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาท ห้องพักรอบถนนข้าวเหนียว แล้ ว ขั บ เป็ น ปั ญ หาที ่ ต ้ อ ง ปี แ รกไปครอง แก้ไขอย่างจริงจัง ไม่เฉพาะ ยอดจองกว่า 85% แล้ว โดยปีนนี้ า่ จะมีคน
มาเล่นนํ้ากว่า 2 แสนคน งานวันสถาปนาสมาคมสื่อฯ เทศกาลเท่านั้น ขอนแก่ น ครบรอบปี ที่ 19 ยูดี ทาวน์ ทุม่ งบกว่า 50 ล้านบาท จั ด อย่ า งยิ่ ง ใหญ่ เพิ่ ม รางวั ล พลิ ก วิ ก ฤติ แ ล้ ง แหย่ ไ ข่ สร้างอุโมงค์นาํ้ ใหญ่สดุ ในอีสาน โวยห้ า มนั่ ง ท้ า ยกระบะ สื่อมวลชนดีเด่นอีก 2 สาขา มดแดงขาย สร้างรายได้งาม สงกรานต์เมืองอุดรฯสุดคึก ยูดี ทาวน์ ไม่ เ ป็ น ธรรมกั บ คนจน คือ สาขาสื่อออนไลน์และสื่อ สุดยอดของดีหน้าแล้ง ชาวนา เนรมิตพื้นที่กว่า 8000 ตร.ม. เป็นอุโมง กลายเป็นกระแส เมื่อมีคำ�สั่งหัวหน้า คสช. คุ ณ ธรรม พร้ อ มมอบทุ น การ หนองคายว่ า งเว้ น จากการทำ � ค์นาํ้ ขนาดใหญ่แห่งแรกของภาคอีสาน ภาย ห้ามนัง่ ท้ายรถกระบะ ทำ�ให้เกิดกระแสต่อต้านอย่าง รุนแรงจากประชาชน ถึงแม้ว่า ล่าสุดได้มีการผ่อน ศึกษาให้กบั ลูกสือ่ ฯขอนแก่นอีก นา ขับสามล้อตระเวนหาแหย่ไข่ ใต้ชอื่ งาน Pepsi Present Wonder Water มดแดง สร้างรายได้มากถึงวันละ Land @ UD Town รองรับนักท่องเที่ยว ผันการบังคับใช้กฎหมายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กว่า 150,000 บาท กว่า 1,000 บาท ได้ไม่น้อยกว่า 4 แสนคน นี้ แต่คาดว่าจะนำ�มาใช้ในโอกาสต่อไป อ่านต่อหน้า 2
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
หน้า 2 ขอนแก่นลิง้ ค์
ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ประจำ�เดือนเมษายน 2560 • ต่อจากหน้า 11 น้องสือ่ มวลชนจังหวัดขอนแก่น และจากนอกพืน้ ที่ คน ไม่ต่างจากรถมอเตอร์ไซค์ แต่รถประเภทไหน
ทุน ต้องเป็นบุตรของสื่อมวลชนที่ยังคงปฏิบัติงาน อยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และกำ�ลังศึกษาอยู่ใน ระดับต่างๆ โดยให้สิทธิ์ 1 ครอบครัว 1 ทุน แบ่งออกเป็นระดับต่างๆ ดังนี้ ระดับอนุบาล จำ�นวน 4 ทุนๆ ละ 2,000 บาท เป็นเงิน 10,000 บาท ระดับประถมศึกษา จำ�นวน 11 ทุนๆ ละ 2,000 บาท เป็นเงิน 22,000 บาท ระดับมัธยมต้น จำ�นวน 12 ทุนๆ ละ 2,300 บาท เป็นเงิน 27,000 บาท ระดับ มัธยมปลาย จำ�นวน 10 ทุนๆ ละ 2,500 บาท เป็นเงิน 25,000 บาท และระดับอุดมศึกษา จำ�นวน 23 ทุนๆ ละ 3,000 บาท เป็นเงิน 69,000 บาท รวมทั้งสิ้น 61 ทุน เป็นเงินทั้งสิ้น 153,600 บาท พ.ท.พิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า การมอบทุนการ ศึ ก ษาแก่ บุ ต รสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น เพื่ อ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนทางด้านการศึกษา ให้กับบุตรสื่อมวลชนถึงแม้จะเป็นเงินจำ�นวนไม่ มากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระด้านค่า ใช้จ่ายต่างๆของสมาชิกได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะ การดำ � เนิ น ชี วิ ต ท่ า มกลางสภาวการณ์ เ ศรษฐกิ จ ในยุคปัจจุบัน ที่สินค้าและค่าครองชีพสูงขึ้นเป็น ลำ�ดับ อย่างไรก็ตามที่สำ�คัญมากไปกว่าสิ่งอื่นใดก็ คือ เป็นการแสดงออกซึง่ ความรัก ความสามัคคี และ ความปรารถนาดีที่สมาคมฯ มอบให้แก่สมาชิก สำ�หรับในช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นพิธีมอบโล่เกียรติยศแก่สื่อมวลชนสาขาต่างๆ โดยในปีนี้ สมาคมฯ ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ให้แก่สื่อมวลชนดีเด่นรวม 7 สาขา ประกอบด้วย สือ่ มวลชนอาวุโส ได้แก่ นายสุรชัย อักฌราศิวะโรจน์ อดีตผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ส่วนกลางและท้องถิ่น และเป็น 1 ใน 3 ท่านทีเ่ ป็นผูก้ อ่ ตัง้ สมาคมสือ่ มวลชน จังหวัดขอนแก่น ,สาขาวิทยุกระจายเสียง ได้แก่ น.ส.วารุณีย์ บัวมาตย์ ผู้ประกาศและนักจัดรายการ สถานีวิทยุ อ.ส.ม.ท.ขอนแก่น ,สาขาหนังสือพิมพ์ ได้แก่ นายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าว ศูนย์ข่าวเดลิ นิวส์ จ.ขอนแก่น ,สาขาโทรทัศน์ ได้แก่ น.ส.มยุรี อัครบาล ผู้สื่อข่าว สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ภาค อีสาน ,สาขาสื่อออนไลน์ ได้แก่ ขอนแก่นลิงค์ เวป ไซค์จงั หวัดขอนแก่น ทีม่ ยี อดผูเ้ ข้าชมมากเป็นอันดับ หนึ่งของประเทศ และติดอันดับเว็บไซต์ TOP100 ของไทย ติดต่อกัน 5 ปี ,ช่างภาพดีเด่น ได้แก่ นาย สันติพล พลบุตร ช่างภาพ ศูนย์ข่าว ททบ.5 ภาค อีสาน และรางวัลสือ่ คุณธรรม ได้แก่ น.ส.ปภินพิทย์ พัวโสพิศ หัวหน้าฝ่ายรายการ สทท.11 ขอนแก่น โดยสื่อมวลชนดีเด่น ทั้ง 7 สาขา นอกจาก จะได้ รั บ โล่ ป ระกาศเกี ย รติ คุ ณ แล้ ว ยั ง ได้ รั บ เงิ น รางวัล 3,000 บาท, บัตรเดินทาง บริษัทไทยแอร์ เอเชีย, บัตรเดินทาง บริษัทชาญทัวร์ ไปได้ทั่วไทย, บัตรห้องพักโรงแรมสุดหรู โรงแรมพูลแมน ราชาออ คิด ขอนแก่น และโรงแรมโฆษะ, บัตรตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลขอนแก่น ราม, ชุดกิป๊ เซ็ทจากห้างสรรพ สินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น และนํ้ามันเครื่อง ปตท. ทั้งนี้การมอบรางวัลดังกล่าว เพื่อเป็นกำ�ลัง ใจให้กบั เพือ่ นร่วมอาชีพ อันจะเป็นพลังให้ได้ด�ำ เนิน บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนได้อย่างเข้มแข็ง สม เกียรติของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนต่อไป พ.ท.พิสษิ ฐ์ กล่าวว่า ปีนนี้ บั เป็นปีแรกทีส่ มา คมฯ มอบรางวัลสือ่ มวลชนดีเด่นเพิม่ ขึน้ อีก 2 สาขา คือสาขาสือ่ ออนไลน์ และสือ่ คุณธรรม เนือ่ งจากเล็ง เห็นว่าในปัจจุบัน สื่อออนไลน์ได้มีการใช้อย่างแพร่ หลายและมีบทบาทต่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของ ประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งสมาคมฯ ได้เห็นความ สำ�คัญและได้เคยจัดเสวนาให้ความรู้ในเรื่อง “ใช้ สื่อยุคใหม่อย่างไรให้สร้างสรรค์” เมื่อปีที่แล้ว เพื่อ เป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการใช้สื่อในการ สร้างสรรค์สังคมที่ดีงาม ที่ผ่านปัญหาทางด้านคุณธรรม จริยธรรม ของสือ่ มวลชนในปัจจุบนั เป็นปัญหาสำ�คัญทีค่ วรได้ รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นตัวแปรสำ�คัญที่ ทำ�ให้สงั คมไทยอ่อนแอ เพราะสือ่ เป็นพลังทางสังคม ทีส่ �ำ คัญ ทีจ่ ะทำ�ให้เกิดการเปลีย่ นแปลงไปสูส่ งั คมที่ ดีได้ “คณะกรรมการสมาคมฯ จึงได้พจิ ารณาเพิม่ รางวัลสื่อออนไลน์ และสื่อคุณธรรม ดีเด่น ขึ้นเป็น ปีแรก เพื่อมอบให้กับเจ้าของและทีมงานแอดมิน ที่ กำ�กับดูแล ควบคุมสื่อออนไลน์ในจังหวัดขอนแก่น เพือ่ เป็นการยกย่องเชิดชู และให้ก�ำ ลังใจในการสร้าง งาน และสิ่งดีงามที่มีประโยชน์กับสังคมต่อไป” พ.ท.พิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า บนเส้นทางที่ทอด ยาวของผู้ทำ�หน้าที่ สื่อมวลชน แน่นอนว่าเส้นทาง นี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และก็ไม่ได้เรียบสบาย อย่างที่คิด แต่เป็นเส้นทางที่คนทำ�สื่อต้องร่วมกัน พิสจู น์ศกั ยภาพและคุณค่าของตนให้เป็นทีป่ ระจักษ์ โดยมุ่งมั่นเดินเคียงคู่ไปกับคุณธรรม จริยธรรม และ จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสื่อ สื่อมวลชนขอนแก่น จะพัฒนาให้กล้าแข็ง และเป็นที่พึ่งของสังคมได้ ย่อมเกิดจากจิตวิญญาณและพลังของผู้ประกอบ วิชาชีพสือ่ ทีย่ ดึ มัน่ ในคุณธรรมความดี ความซือ่ สัตย์ ซื่อตรง และความเป็นมืออาชีพ เพื่อเกียรติ ศักดิ์ศรี และอุดมการณ์ทมี่ งุ่ แด่ประโยชน์ของสาธารณะเป็น สำ�คัญ ในงานได้รับเกียรติจาก นายหลี่ หมิง กัง กงสุ ล ใหญ่ ส าธารณรั ฐ ประชาชนจี น ณ จั ง หวั ด ขอนแก่น พ.อ.สมชาย ครรภาฉาย รอง ผบ.มทบ. 23 นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้อำ�นวยการอาวุโส ธปท.สำ�นักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายสิทธิ กุล ภูคำ�วงศ์ รองนายก อบจ.ขอนแก่น นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น นาย อดิเรก หงส์พูนพิพัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จั ง หวั ด ขอนแก่ น และหั ว หน้ า หน่ ว ยงาน ส่ ว น ราชการ องค์กรภาคเอกชน และแขกผู้มีเกียรติ พี่
รวมประมาณ 320 คน ร่วมเป็นเกียรติในงานดังกล่าว จากนัน้ เป็นงานเลีย้ งสังสรรค์ และแลกเปลีย่ นข้อคิด เห็นระหว่างสือ่ มวลชนกับแหล่งข่าว ซึง่ เต็มไปด้วย ไมตรีจิตที่ดีที่มอบต่อกัน
โวยห้ามนัง่ ท้ายกระบะ • ต่อจากหน้า 1 หลั ง จากรั ฐ บาลเริ่ ม บั ง คั บ ใช้ ก ฎหมาย จราจรใหม่ตาม ม.44 บรรยากาศการใช้รถใช้ถนน ของรถยนต์กระบะ ที่วิ่งในเขตตัวเมืองขอนแก่น หลายคนก็ยงั ไม่ทราบแน่ชดั ว่าจะบังคับใช้กฎหมาย ห้ามนั่งภายในแค็ป และด้านหลังรถกระบะอย่าง จริงจังเมื่อไหร่ และการใช้รถยนต์กระบะวันนี้ ก็ ยังคงใช้กันตามปกติ ขณะที่การเข้มงวดบังคับใช้ อย่างจริงจังนั้น ตำ�รวจจราจร สภ.เมืองขอนแก่น ที่ตั้งด่านตรวจก็เน้นเฉพาะการทำ�ผิดกม.จราจร ทั่วไป อาทิ ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัด นิรภัย ขาดต่อภาษีประจำ�ปี ขณะที่การห้ามนั่งใน แค็ปและกระบะนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตักเตือน และ ประชาสัมพันธ์เป็นหลัก ยังไม่เน้นจับกุม นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้า กล่ า วว่ า มาตรการเพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพบั ง คั บ ใช้ กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก โดยหลักการ แล้วเป็นเรื่องที่ดี แต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ พัฒนา ดังนั้น การใช้พาหนะ จำ�เป็นต้องมีความ เป็นอเนกประสงค์ ใช้งานได้หลายประเภท บ้าน เราเป็นเมืองการเกษตร ดังนั้น รถปิคอัพที่มีความ เป็นอเนกประสงค์ สามารถใช้ได้ทกุ สถานการณ์ ทัง้ บรรทุกคน บรรทุกพืชผลการเกษตร รวมถึงราคาที่ เข้าถึงได้ง่ายกว่า จึงเป็นที่นิยมใช้ในทุกพื้นที่และ ทุกสถานการณ์ เห็นด้วยกับการให้มกี ฎหมายออกมาบังคับ ใช้เพื่อให้เกิดเป็นรูปแบบสากลซึ่งประชาชนทุก คนต้องเคารพกฎหมาย แต่ทงั้ นี้ ควรมีการทำ�ความ เข้าใจและชัดเจนถึงข้อห้ามที่สามารถทำ�ได้ และ สิ่งที่ไม่สามารถทำ�ได้ เพื่อความเข้าใจในทิศทาง เดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อต้องกำ�หนดบังคับใช้ ต้อง สร้างความรู้และเข้าใจกับประชาชน ถึงแม้จะเป็น เจตนาที่ดีในการป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล สงกรานต์ แต่ความไม่เข้าใจของประชาชนในช่วง สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน อาจเกิดผลกระทบในวง กว้างได้เช่นกัน ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น กล่าว ต่อว่า เพือ่ ปรับความเหมาะสมในพืน้ ทีใ่ ช้มาตรการ บั ง คั บ ใช้ ก ฎหมายสำ � หรั บ รถปิ ค อั พ ที่ เ ป็ น กรณี ข้ อ สงสั ย ควรกำ � หนดความชั ด เจนของการใช้ พื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ถนนหลวง แน่นอนที่ ไม่ควรบรรทุกคน ไม่ควรขับเร็วเกินมาตรฐาน กำ�หนด และต้องมีความปลอดภัยในการใช้ แต่ ในขณะเดียวกัน ถ้าเป็นในพื้นที่ท้องถิ่น ระหว่าง เมือง ระหว่างตำ�บล ระหว่างหมู่บ้าน ซึ่งเป็นวิถี ไทยในการเอื้อเฟื้อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การ ขนพืชผลการเกษตรและการบรรทุกคนเพื่อร่วม เดินทาง ล้วนเป็นสถานะความเป็นอยู่ของชุมชน ในท้องถิ่น ซึ่งควรมีข้อกำ�หนด สิ่งสำ�คัญคือการ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ ให้ระยะ เวลาในการตั้งตัว เชื่อว่าหากผู้รักษากฎหมายมี การบังคับใช้ในมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ไม่น่า จะมีปัญหา เพราะประชาชนทุกคนต้องอยู่ภายใต้ กฎหมายเดียวกันอยู่แล้ว ด้านนายอนุพงษ์ บุญอาจ ผู้บริหาร ร้านมง คลอิเลคทริก ถนนหลังเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ทีร่ า้ นเปิดให้บริการซ่อมบำ�รุงแอร์รถยนต์ แบตเตอรี่ กระจกรถยนต์ หม้อนํา้ ไดนาโม และช่วง ล่าง รถยนต์ทุกประเภท โดยเปิดให้บริการมานาน กว่า 20 ปี มีชา่ งผูเ้ ชีย่ วชาญด้านรถยนต์ทกุ ประเภท จากกรณีทรี่ ฐั บาลประกาศบังคับใช้กฎหมายจราจร ทางบก มองว่าเป็นความหวังดีทจี่ ะให้เกิดอุบตั เิ หตุ ลดลงมากทีส่ ดุ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปนี ี้ แต่การ จะบังคับใช้กฎหมาย หรือการใดๆ ก็ตามควรจะ ค่อยเป็นค่อยไป โดยปกติไปไหนมาไหนมักชักชวน กันไปเป็นหมู่คณะ เป็นวัฒนธรรมเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ของสังคมไทย ซึง่ ประหยัดค่าใช้จา่ ยในการเดินทาง ก่ อ นหน้ า นี้ รั ฐ บาลได้ มี ก ารรณรงค์ ใ ห้ ล ดใช้ พลังงาน ทางเดียวกันไปด้วยกัน เพื่อประหยัด พลังงาน และการรณรงค์ให้ประชาชนใช้บริการรถ โดยสารสาธารณะไม่ได้ผลเท่าทีค่ วร ล้วนเป็นปัจจัย ทีร่ ฐั ต้องพิจารณาปรับปรุงองค์กรให้เป็นทีย่ อมรับ ของประชาชน มิใช่การบังคับคนทั้งประเทศโดย ไม่มีการทำ�ความเข้าใจ ซึ่งหากมีการรณรงค์ให้ ความรู้อย่างต่อเนื่อง และเริ่มบังคับใช้เต็มรูปแบบ ในปีหน้า 2561 เพื่อสร้างความเข้าใจ ให้เกิดการ ปรับตัวของประชาชน น่าจะให้ผลตอบรับที่ดีกว่า นายอนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องของการบังคับ ใช้กฎหมายจราจรที่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ทุกที่นั่ง โดยปกติแล้วรถที่ผลิตออกมาทั่วโลกจะมี เข็มขัดนิรภัยมาทุกที่นั่งอยู่แล้ว การรัดเข็มขัดเพื่อ ความปลอดภัย โดยเฉพาะการเดินทางไกล เพราะ หากเกิดอุบตั เิ หตุ ย่อมเป็นการรักษาความปลอดภัย ให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถนั้นๆ เช่นกัน ซึ่ง การป้องกันต้องเริม่ ตัง้ แต่จดุ เริม่ ต้น ไม่วา่ จะไปใกล้ หรือไกล การคาดเข็มขัดนิรภัยต้องทำ�ทันทีที่ขึ้น นั่งบนรถ ทำ�ให้เป็นปกติวิสัยก็ไม่น่าจะเกิดปัญหา หากทุกคนเคารพกฎกติกาที่ไม่จำ�เป็นต้องให้ใคร มาบังคับ เพราะเป็นกฎหมายที่ผู้ใช้รถทุกคนต้อง รู้และปฎิบัติ การออกกฎหมายมาบังคับใช้ทันทีในเรื่อง ของการไม่ให้มีผู้โดยสารนั่งท้ายรถกระบะ และ รถกระบะแบบมีแคป มองว่าขัดกับวัฒนธรรมของ ประชาชนคนในท้องถิ่น ซึ่งประชาชนคนไทยต่าง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน รถกระบะนั่งได้สอง
อันตรายมากกว่ากัน และที่มีรถกระบะใช้งานและ สมาชิกในครอบครัวเดินทางพร้อมกัน จะร่วมเดิน ทางไปด้วยกันอย่างไร และการที่ผู้ผลิตรถยนต์ทุก ค่ายต่างแจ้งคุณสมบัติให้ทราบ ก่อนที่จะตัดสิน ใจซื้อรถกระบะแบบมีแคปว่า ลุกนั่งสะดวกสบาย กว้ า งขวางภายในแคป มิ เ ท่ า กั บ เป็ น การหลอก ลวงประชาชนหรือ และกรมการขนส่งทางบก อนุญาตให้มีการโฆษณาเชิญชวนว่าแคปนั่งได้จะ ให้ประชาชนเข้าใจว่าอย่างไร และการไม่บังคับใช้ กับรถที่จดทะเบียนก่อน ปี 2537 หากเกิดอุบัติเหตุ ความรุนแรงจะไม่เท่าเทียมกันหรือ ล้วนเป็นข้อ กังขาและความเร่งรีบออกกฎบังคับใช้ ถึงแม้จะ เป็นมาตรการปรับจากเบาไปหาหนักก็ตาม ควร ปรับแนวความคิดประชาชนให้ค่อยเป็นค่อยไปน่า จะได้ผลกว่า
นายอนุพงษ์ กล่าวต่อไปว่า กฎหมายกับ วัฒนธรรมกำ�ลังขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง การออก กฎหมายบังคับใช้ฉบับนี้ เศรษฐกิจที่ชะลอตัวของ ภาคการเกษตร การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และมีนํ้าใจ ซึ่ง เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยกำ�ลังถูกบังคับให้เกิด ความเห็นแก่ตัว ไม่สามารถให้เพื่อนบ้านร่วมเดิน ทางในทิศทางเดียวกัน ล้วนเป็นแรงกดดันที่รอ การระเบิดจากประชาชนส่วนใหญ่ทอี่ อกมาต่อต้าน แนวคิดของคณะรัฐบาลทีอ่ อกมาแบบเร่งด่วน มอง ว่าขัดกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ได้แต่หวังว่า น่าจะทบทวนและหาทางออกทีด่ กี ว่า นี้ ทำ�ความเข้าใจกับประชาชน โดยกำ�หนดบังคับ ใช้ในปีต่อไป เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ และจะ เป็นการใช้กฎหมายที่ประชาชนทุกคนต้องเคารพ โดยไม่มีการต่อต้านเช่นที่เป็นอยู่
ดีแทคเปิดให้จอง Samsung Galaxy S8 และ S8+ พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม
ดี แ ท ค เ ปิ ด ใ ห้ จ อ ง S a m s u n g G a l a x y S 8 และ S8+ สุดยอดสมาร์ทโฟนแห่ง ปี 2017 มาพร้ อ มโปรโมชั่ น สุ ด คุ้ม ลดสูงสุดถึง 8,400 บาท เปิด ประสบการณ์ใหม่ที่ทุกคนรอคอย ดีแทคเปิดตัวซัมซุง กาแลค ซี่ S8 และกาแลคซี่ S8+ สุดยอด สมาร์ทโฟนแห่งปี 2017 ที่มีดีไซน์ สวยลํ้า พร้อมจอภาพไร้กรอบ ไร้ ปุ่มโฮม มอบประสบการณ์การชมที่ช่วยให้สามา รถดื่มดํ่ากับภาพได้เต็มตาอย่างแท้จริง ด้วยขนาด หน้าจอ 5.8 นิ้วสำ�หรับกาแลคซี่ S8 และ 6.2 นิ้ว กับกาแลคซี่ S8+ พร้อมเทคโนโลยีปลดล็อคด้วย การสแกนม่านตา และ Bixby อินเตอร์เฟซอัจฉ ริ ย ะ เหมื อ นเป็ น ผู้ ช่ ว ยส่ ว นตั ว ที่ เ ข้ า ใจทั้ ง คำ� พู ด ข้อความ และการค้นหาข้อมูลด้วยรูปภาพ โดยจะ เริ่มเปิดให้จองผ่านเว็บไซต์ซัมซุง www.samsung. com/th/galaxys8 ในวันที่ 17- 23 เมษายน 2560 นี้ และสามารถรับสินค้าได้ก่อนใครตั้งแต่วันที่ 2830 เมษายน 2560 ที่สำ�นักงานบริการดีแทค ตาม สาขาที่ลูกค้าเลือกรับหรือเลือกจัดส่งถึงบ้าน นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานเจ้า หน้าทีบ่ ริหาร กลุม่ การตลาด บริษทั โทเทิล่ แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าว ว่า ดีแทคนำ�เสนอประสบการณ์สดุ ยอดสมาร์ทโฟน แห่งปี เปิดให้จองซัมซุง Galaxy S8 และ S8+ พร้อม รับส่วนลดสูงสุดถึง 8,400 บาท เมื่อสมัครแพ็กเก จรายเดือนตั้งแต่ 899 บาทขึ้นไป รับรับส่วนลดค่า เครื่องทันที 6,000 บาท พร้อมรับส่วนลดค่าบริการ รายเดือนเพิม่ เดือนละ 200 บาท นาน 12 เดือน เหลือ จ่ายเพียงเดือนละ 699 บาทเท่านั้น และสำ � หรั บ ลู ก ค้ า ย้ า ยค่ า ยเบอร์ เ ดิ ม รั บ ส่ ว นลดเพิ่ ม อี ก 1,500 บาท กั บ แพ็ ก เกจSuper 4G Unlimited เต็ ม สปี ด กั บ เน็ ต 4G ไม่ อั้ น ไม่ ลดสปีด พร้อมรับของสมนาคุณจากซัมซุง รวม มูลค่าทั้งสิ้น 6,950 บาท ได้แก่ Starter Kit (Clear Coverสีดำ�, ฟิล์มกันรอยด้านหน้า 2 ชิ้น, Stand Wireless Charger, Micro USB Cable)
มูลค่า 3,260 บาท Level Box Slim ลำ�โพงบลูทูธ กันนํ้ามาตรฐาน IPx7 มูลค่า3,190 บาท คูปอง ส่ ว นลด จาก 11street มู ล ค่ า 500 บาทเฉพาะ ลู ก ค้ า ที่ จ องซื้ อ ล่ ว งหน้ า (จำ � นวนจำ � กั ด ) โดย ลู ก ค้ า ส า ม า ร ถ ติ ด ต า ม ร า ย ล ะ เ อี ย ด ร า ค า และโปรโมชั่ น พิ เ ศษสุ ด คุ้ ม ได้ ที่ www.dtac. co.th ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2560 เป็นต้นไป พร้อมทั้งโปรโมชั่นพิเศษอื่นๆ อาทิ แพ็ก เกจรายเดื อ นที่ ดี ที่ สุ ด คุ้ ม ที่ สุ ด dtac 4Gไม่ อั้ น เน็ต 4G ไม่อั้น ไม่ลดสปีด พิเศษเฉพาะที่ดีแทค จ่ า ย 0 บาทในวั น ที่ ซื้ อ เครื่ อ ง เพราะที่ ดี แ ทค ให้ คุ ณ สามารถผ่ อ นทั้ ง ค่ า เครื่ อ งและค่ า บริ ก าร ล่วงหน้า นานสูงสุด 24 เดือน รับเครดิตเงินคืน สูงสุด 3% ผ่อนได้ 0% สูงสุดถึง 24 เดือน ผ่าน บัญชีซิตี้แบงก์เรดดี้เครดิต และผ่อนได้ 0% สูงสุด ถึง 10 เดือน ผ่านบัตรธนาคารชั้นนำ� รับเครดิต เงินคืนเมื่อผ่อนชำ�ระ 0% 10 เดือน รับเครดิตเงิน คืน 1,200 บาท เมื่อใช้บัตรในเครือกรุงศรีฯ และ เฟิร์สช้อยส์ หรือ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 17%เมื่อ ใช้บตั รธนาคารกรุงเทพและอืน่ ๆ พร้อมบริการ dtac Wifi Calling บริการ ที่เปลี่ยนสัญญาณทั่วโลกเป็น สัญญาณดีแทค ดี แ ทคพร้ อ มให้ คุ ณ เป็ น เจ้ า ของ Galaxy S8|S8+ รุ่ น ใหม่ ไ ด้ ก่ อ นใคร เพี ย งจองตั้ ง แต่ วั น ที่ 17-23 เมษายน 2560 เพื่ อ รั บ เครื่ อ งในวั น ที่ 28 เมษายน 2560 และพร้อมวางจำ�หน่ายพร้อม กันทีศ่ นู ย์บริการดีแทค ทัว่ ประเทศ หรือ dtac online store เร็วๆนี้ ลูกค้าสามารถติดตามรายละเอียดโปร โมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th
เอไอเอส ครอง ใ จ นั ก ล ง ทุ น ค ว้ า รางวั ล หุ้ น ยอดนิ ย ม ก ลุ่ ม เ ท ค โ น โ ล ยี ; น า ง ส า ว นั ฐิ ย า พั ว พงศกร ผูช้ ว่ ยกรรมการ ผู้ อำ � นวยการ ส่ ว น งานนักลงทุนสัมพันธ์ และกำ � กั บ ดู แ ลการ ปฏิบตั งิ าน เอไอเอส รับ รางวั ล หุ้ น ยอดนิ ย ม กลุ่มเทคโนโลยี จากงานประกาศรางวัลหุ้นขวัญใจมหาชน ปี 2559 (Popular Stock Awards) ซึ่งแส ดงให้เห็นถึงการเป็นองค์กรที่ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากนักลงทุนมากที่สุดของกลุ่มธุรกิจเ ทคโนโลยีในประเทศไทย โดยรางวัลนี้ เป็นการรวบรวมผลการประเมินความนิยมของนักลงทุนที่มีต่อหุ้นสามัญของ บริษทั มหาชนทีจ่ ดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทุกกลุม่ ซึง่ จัดทำ�โดยหนังสือพิมพ์ขา่ ว หุ้นธุรกิจ ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยมีนายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำ�กัด (มหาชน) เป็นผู้ มอบรางวัล
หน้า 3
ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ประจำ�เดือนเมษายน 2560
5 เทศบาลขอนแก่น เดินหน้าจดทะเบียนตัง้ บริษทั ขนส่งรางเบา 5 เทศบาลจั บ มื อ ตั้ ง บริ ษั ท เดิ น รถขนส่ ง สาธารณะรางเบาจดทะเบี ย นที่ พ าณิ ช ย์ จั ง หวั ด ขอนแก่น เป็นแห่งแรกของประเทศไทยแก้จราจร ในเมืองต่างจังหวัด เมื่อวันที่ 24 มี.ค.60 ที่กลุ่มทะเบียนธุรกิจ และอำ�นวยความสะดวกทางการค้า สนง.พาณิชย์ จังหวัดขอนแก่น ได้มี นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ. ขอนแก่น นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น นายคำ�นวณ สุวรรณดี พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น นายสันติ แป้นอํ่า ผอ.กลุ่มบริการทะเบียน ฯ และ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดขอนแก่น ได้มาเป็น สักขีพยาน 5 เทศบาลในจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ เทศบาลตำ�บลสำ�ราญ เทศบาลเมืองศิลา เทศบาล นครขอนแก่น เทศบาลตำ�บลเมืองเก่า และเทศบาล ตำ�บลท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น รวมตัวจัดตั้ง และจดทะเบียน บริษัท KhonKaen Transit System CO.,Ltd. เพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อน โครงการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะระบบราง เบา (LRT) จังหวัดขอนแก่น วงเงิน 5 ล้านบาท นายธีระศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า วันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกเทศมนตรี 5 เทศบาลดังกล่าวได้ใช้ชื่อ ว่า บริษัท ขอนแก่นท รานซิทซิสเต็ม ได้มาจดทะเบียนที่พาณิชย์จังหวัด ขอนแก่นถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะสามารถทำ� นิติกรรม ประชุมร่วม และจัดทำ�ทุกภารกิจ ภาย ใต้นโยบายของ 5 เทศบาลดังกล่าวที่ให้บริษัทไป ดำ�เนินการในโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชน รางเบา (แทรม) สายเหนือ – สายใต้ ต้นแบบในเมือง
ภูมิภาคจ.ขอนแก่น โดย มีบอร์ดบริหาร จำ�นวน 5 ท่าน ไม่ว่าเป็นการดำ�เนินเรื่องของเช่าที่ดินจาก กรมธนารักษ์ ทำ�เรื่องขออนุมัติจากสนข./คจร. เพื่อขอทำ�โครงการดังกล่าว หลังจากก่อนหน้านี้ ได้รับการอนุมัติการจัดตั้งบริษัทจำ�กัด เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 จากรัฐบาล โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดย เป็นพืน้ ทีแ่ รกทีจ่ ดั ทำ�สำ�เร็จ รูปแบบเหมือนกับการ ดำ�เนินกิจการของบริษทั กรุงเทพธนาคม ทีบ่ ริหาร ในพื้นที่กรุงเทพ นายธีระศักดิ์ เปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่า จินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ได้ ล งนามอนุ มั ติ ใ ห้ 5 เทศบาลใน จ.ขอนแก่ น ประกอบด้วย เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลเมือง ศิลา เทศบาลตำ�บลเมืองเก่า เทศบาลตำ�บลท่าพระ และเทศบาลตำ�บลสำ�ราญ ซึ่งมีแนวคิดจะลงทุน โครงการรถไฟฟ้าระบบรางเบา (Light Rail Transit: LRT) หรือ TRAM ระยะทาง 22.6 กม. มูลค่าลงทุน รวมหลักหมืน่ ล้านบาท ในตัวเมืองขอนแก่น เพือ่ แก้ ปัญหาการจราจร รองรับการขยายตัวของเมือง และ อำ�นวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน โดยจัดตั้งบริษัทเพื่อดำ�เนินการโครงการดังกล่าว ตามมาตรา 57 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496 ทัง้ นี้ การจัดตัง้ บริษทั ของ 5 เทศบาล ใน จ.ขอนแก่น ถื อ ว่าเกิ ดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย นับตั้ งแต่ พ.ร.บ.เทศบาลฯ ประกาศบังคับใช้ ทำ�ให้วันนี้ทีม ขอนแก่ น เหมื อ นเป็ น ดรี ม ที ม ของการปกครอง ท้องถิ่น ซึ่งในส่วนของบริษัทที่สนใจโครงการนี้
และต้องการมีส่วนร่วมใน การดำ�เนินการ ทัง้ จากยุโรป ตะวันออก ญีป่ นุ่ เกาหลี จีน ทุกรายสนใจจะร่วมลงทุน โครงการระบบรางเบาด้วย สำ�หรับการดำ�เนิน โครงการพั ฒ นาระบบ ขนส่ ง มวลชนของทั้ ง 5 เทศบาลนั้ น คาดว่ า ใช้ รู ป แบบการให้ สั ม ปทาน โครงการ และเส้นทาง โดยให้บริษัทเอกชนเข้ามา ดำ�เนินการทัง้ หมด โดยบริษทั ขอนแก่นพัฒนาเมือง (เคเคทีท)ี จำ�กัด จะดำ�เนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า รางเบา ซึง่ บริษทั อยูร่ ะหว่างการระดมทุนจากหลาย กลุ่มที่สนใจจะร่วมทุนด้วย โครงการรถรางขอนแก่น จะนำ�ร่อง เส้น ทางแนวเหนือ-ใต้ ถนนมิตรภาพ ช่วงบ้านท่าพระบ้ า นสำ � ราญ ระยะทาง 22.6 กม. มี 16 สถานี ประกอบด้วย สถานีท่าพระ ,สถานีกุดกว้าง ,สถานี บขส.3 ,สถานีประตูนํ้า ,สถานีแยกเจริญศรี ,สถานี ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (บิ๊กซี) ,สถานีเซ็นเต อร์พ้อยท์ ,สถานีแยกประตูเมือง (เซ็นทรัล) ,สถานี แยกสามเหลี่ยม ,สถานีไทยสมุทร ,สถานี โตโยต้า มอดินแดง ,สถานีแยก รพ.ศรีนครินทร์ ,สถานี มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น ,สถานี โ ลตั ส เอ็ ก ซ์ ต ร้ า ,สถานีหนองกุง และ 16.สถานีสำ�ราญ สถานีและรางรถไฟฟ้าใช้พื้นที่เกาะกลาง ถนนมิตรภาพเป็นระดับดิน 11 สถานี และยกระดับ
ทำ�ไมสื่อภาคอีสานถึงต้องค้าน พ.ร.บ.ควบคุมสื่อฯ 5 สถานี ได้แก่ สถานีแยกเจริญศรี, สถานี ม.ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ (บิ๊กซี), สถานีเซ็นเตอร์พ้อ ยท์, สถานีแยกประตูเมือง (เซ็นทรัล) และสถานี แยกสามเหลีย่ ม พร้อมโรงจอด และศูนย์ซอ่ มบำ�รุง จุดจอดแล้วจร 4 สถานี สถานีท่าพระ, บขส.3, โลตัสเอ็กซ์ตร้า และสถานีสำ�ราญ ตลอดแนวเส้น ทางมีจุดส่งกำ�ลังไฟฟ้าเข้าระบบตั้งใกล้สถานี 6-7 จุด ห่างกันจุดละ 3-4 กม. การเลือกนำ�ร่องเส้นทางดังกล่าว เนือ่ งจาก มี เ ขตทางกว้ า งพอแก่ ก ารก่ อ สร้ า งเส้ น ทาง ไม่ ต้องเวนคืนที่ดิน และลดผลกระทบจากการใช้ ประโยชน์ทดี่ นิ สองข้างทางทำ�ได้งา่ ยกว่า นอกจาก นี้ ยังออกแบบรายละเอียดระบบขนส่งสาธารณะ โดยนำ�อัตลักษณ์ในท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์และ ทำ�ให้มีความกลมกลืนต่อสภาพแวดล้อมอีกด้วย ขอบคุณ ก่อสิทธิ์ กองโฉม / จิราภรณ์ พอกพูล นศ.ฝึกงาน / รายงาน / ขอนแก่น
รมว.พลังงานตรวจเยีย่ มโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลทีช่ ยั ภูมิ
กระทรวงพลังงานเดินหน้าสนับสนุนส่ง เสริมให้ผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนชีวมวล แต่มี ข้อแม้คือจะต้องมีแหล่งที่สามารถป้อนวัสดุผลิต ไฟฟ้าได้และไม่ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อม เมือ่ วันที่ 24 มี.ค.60 ทีอ่ ทุ ยานมิตรผล อำ�เภอ ภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินทางมาตรวจ เยี่ยมโรงไฟฟ้ามิตรผล ไบโอ-พาวเวอร์ ที่โรงงานนํ้า ตาลมิ ต รผล อ.ภู เ ขี ย ว จ.ชั ย ภู มิ และตรวจเยี่ ย ม โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนํ้าท้ายเขื่อนจุฬาภรณ์ และโรงไฟฟ้าพลังนํ้าเขื่อนจุฬาภรณ์แบบสูบกลับ โดยมีนายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการ กฟผ.นำ� เยี่ยมชม, นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร รองผู้ว่าราชการ
จั ง หวั ด ชั ย ภู มิ , นายกฤษฎา มนเที ย รวิ เ ชี ย รฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ใหญ่ กลุ่มบริษัท นํ้าตาลมิตรผลจำ�กัด, นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มธุรกิจกลุ่มงาน อ้อย บริษัทนํ้าตาลมิตรผลจำ�กัด และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ พล.อ.อนั น ตพร กาญจนรั ต น์ รั ฐ มนตรี ว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในการบริหาร จั ด การภาคพลั ง งานของประเทศนั้ น กระทรวง พลังงานได้ดำ�เนินการตามแผนบูรณาการพลังงาน ระยะยาว เพื่อให้ภาคพลังงานมีความมั่งคง มั่งคั่ง และยั่ ง ยื น เพื่ อ ตอบสนองนโยบายพลั ง งานของ กระทรวงพลั ง งานที่ ส่ ง เสริ ม การผลิ ต ไฟฟ้ า จาก
พลั ง งานหมุ น เวี ย นอย่ า งต่ อ เนื่อง รัฐบาลสนับสนุนให้เปิด โรงงานโรงงานพลังงานไฟฟ้า หลักซากฟอสซิลถ่านหินและ แก๊ ส เพื่ อ ส่ ง เสริ ม และสร้ า ง พลังงานทดแทนชีวมวล ซึ่งโรงงานเหล่านั้นจะ ต้องมีไม้ หรือพืชผลทางการ เกษตรอย่ า งเพี ย งพอ เช่ น บริษัทในเครือมิตรผล มีการเตรียมการที่ดีพร้อมที่ จะผลิตไฟฟ้าได้ตลอดเวลา ส่วนทีอ่ นื่ จะต้องดูวา่ จะมี ปัญหาตามมาภายหลังหรือไม่ อย่างไรก็ตามการผลิต ไฟฟ้าชีวมวล เป็นเรื่องสำ�คัญที่รัฐบาลจะต้องดูแล
หรือควบคุมการผลิตเพราะอาจจะส่งผลกระทบใน การผลิตไฟฟ้า ส่วนผู้ประกอบการรายใดจะเสนอ เรือ่ งสร้างพลังงานทดแทน ก็สามารถเสนอเรือ่ งขอ อนุญาตเข้ามาได้ ซึง่ เจ้าหน้าทีเ่ ข้าสำ�รวจ และดำ�เนิน การตามขั้นตอน
ร่ า งพระราชบั ญ ญั ติ การคุ้ ม ครองสิ ท ธิ เสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพ สื่อมวลชน ที่ยกร่างขึ้นมาโดย คณะกรรมาธิการ ขั บ เคลื่ อ นการปฏิ รู ป ประเทศด้ า นการสื่ อ สาร มวลชน ของ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) หากดูจากชื่อแล้ว ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีงาม แต่ทำ�ไม 30 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ถึง ต้องออกมารวมตัวกัน แสดงความไม่เห็นด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวที่กำ�ลังดำ�เนินการอยู่ใน เวลานี้ แม้ ว่ า จะมี ก ารปรั บ แก้ ไ ข ทบทวนราย ละเอียดต่างๆ ในบางประเด็น แต่หัวใจหลักก็ยัง คงไว้เช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นที่มาของคณะกรรมการ ของสภาวิ ช าชี พ ฯ หรื อ การออกใบอนุ ญ าตให้ กั บ ผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พ สื่ อ มวลชน ที่ กำ� หนดให้ สื่อมวลชนทุกคนต้องมีใบอนุญาต หากไม่มีอาจ ได้รับโทษ คือทั้งจำ�คุกและปรับ โดยก่อนจะได้มา ซึ่งใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพนั้น จะต้องผ่าน กระบวนการสอบและอบรมจึงจะได้มาซึ่งใบดัง กล่าว
แม้จะมีการอนุโลมให้ ภายใน 2 ปีหลังจาก ที่มีสภาวิชาชีพแล้วก็ตาม แต่มันเป็นการจำ�กัด สิทธิของคนที่มีอาชีพทำ�ข่าวเลี้ยงชีพมากว่าค่อน ชีวติ วันหนึง่ ต้องไปสอบไปอบรมกับเด็กรุน่ หลาน ที่เพิ่งเดินออกมาจากรั้วมหาวิทยาลัย มันใช่ไหม ที่ผ่านมาแต่ละองค์กรสื่อ ก็มีการกำ�กับ ดูแลกันเอง ภายใต้ข้อบังคับ ระเบียบของแต่ละ องค์กรที่กำ�หนดขึ้นมา เพื่อใช้กับคนในองค์กรไม่ ให้ไปกระทำ�เรื่องเสื่อมเสีย บทลงโทษผู้กระทำ� ความผิดอาจไม่รุนแรง เช่นกฎหมายบ้านเมือง แต่ ก็ใช้ เพื่อกำ�กับดูแล และควบคุมกันเองมาตลอด เพราะคำ�ว่า “จริยธรรม” หรือ “จรรยาบรรณ” มัน ซึมซับอยู่ในสายเลือดของคนทำ�สื่อมาโดยตลอด เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาค อีสาน ได้ประกาศเจตนารมณ์และจุดยืน ในการที่ จะคัดค้าน ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.ควบคุมสือ่ มาโดย ตลอด เพราะเป็นการจำ�กัดสิทธิในการรับรู้ และ นำ�เสนอข่าวสารให้ประชาชนได้รบั รูใ้ นทุกๆ ด้าน ปราศจากการครอบงำ� หรือชี้นำ�จากบุคคลหรือ หน่วยงาน องค์กรใดๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้อง ผลประโยชน์ของประชาชนชาวไทยเป็นหลัก
ศู น ย์ ป ร ะ ส า น ง า น ค น ไ ร้ บ้ า น ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุ พันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น พร้อม คณะผู้ บ ริ ห าร เยี่ ย ม ศู น ย์ ป ระสานงาน คนไร้ บ้ า นฯ ซึ่ ง เปิ ด บริ ก าร เพื่ อ ให้ ก าร ช่ ว ยเหลื อ คนไร้ บ้ า น ในจั ง หวั ด ขอนแก่ น โดยมี นายจิตติ เชิดชู ประธานศูนย์คนไร้บ้าน พร้อมคณะกรรมการ ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์ประสานงานคนไร้บ้าน ชุมชน เทพารักษ์ 5
หน้า 4
วันข้าราชการพลเรือน ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานพิธมี อบรางวัลให้กบั ข้าราชการพลเรือนดีเด่น ระดับจังหวัดประจำ� ปี 2559 พร้อมแสดงความยินดี ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น
เกษตรกรรุ่นใหม่ YOUNG SMART FARME ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดตลาด “เกษตรกรรุ่นใหม่ YOUNG SMART FARME” เพือ่ ประชาสัมพันธ์ผลงาน แลกเปลี่ยนเรียน รู้ สร้างเครือข่ายการผลิต การตลาด โดยเครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่ ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 12 จังหวัด ซึ่งมีการจัดกิจกรรมระหว่างวัน ที่ 31 มีนาคม – วันที่ 2 เมษายน ณ ตลาดอู้ฟู่ ถนนมิตรภาพ อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ประจำ�เดือนเมษายน 2560
สมโภชองค์พระใหญ่ ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานพิธีบวงสรวงและสมโภชองค์พระใหญ่ปางปฐมเทศนา “สมเด็จ องค์ปฐมไชยราชา” ขนาดหน้าตักกว้าง 11.90 เมตร สูง 21 เมตร นับเป็น พระพุทธรูปทีม่ ขี นาดองค์ใหญ่ทสี่ ดุ ในจังหวัดขอนแก่น ณ วัดป่าสมุนไพร ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ร่วมพิธเี คารพศพ ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ร่วมเป็นประธานในพิธคี �ำ นับศพ คุณพ่อชูรตั น์ เกษียรสินธุ์ ณ มูลนิธสิ ว่าง ขอนแก่นสามัคคีอุทิศ (โป๊ยเซียน) ถนนรอบเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
เสาเอกจวนผู้ว่า ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อมหัวหน้า ส่วนราชการ และผู้น�ำ ท้องถิ่น ร่วมพิธีลงเสาเอก ในการก่อสร้างบ้านพัก จวนผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นหลังใหม่ เพื่อเป็นที่พักของผู้ว่าราชการ จังหวัด และต้อนรับแขก บ้านแขกเมือง บริเวณพื้นที่ภายในจวนผู้ว่า ราชการจังหวัดขอนแก่น
สุดท้ายปลายทางชีวิต ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อม ด้วย นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น และแขก ผู้มีเกียรติร่วมทอดผ้าบังสุกุลในงานฌาปนกิจศพ นายธราดล พัฒนพีระ เดช โดยมี นายพีระพล พัฒนพีระเดช อดีตนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น คุณโฉมสุดา วโนทยาโรจน์ ผู้บริหารศูนย์การค้าแฟรี่พลาซ่า และตลาด ต้นตาล ร่วมให้การต้อนรับ ณ ศาลาโฆษะรวมมิตรอนุสรณ์ วัดศรีจันทร์ พระอารามหลวง
ร่วมทำ�บุญศูนย์ข่าวเดลินิวส์ ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคม สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ร่วมทำ�บุญกับ นายจีระศักดิ์ วงษ์คำ�จันทร์ หน.ศูนย์ข่าวเดลินิวส์ อีสานตอนบน จ ขอนแก่น ในโอกาสที่ศูนย์ข่าวเดลิ นิวส์ อีสานตอนบน จ ขอนแก่น ทำ�บุญถวายเพล อุทิศส่วนกุศลให้กับนัก ข่าวที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่เจ้าหน้าที่และศูนย์ข่าวฯ
แสดงความอาลัย ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัด ขอนแก่น ร่วมงานฌาปนกิจศพทอดผ้าบังสุกุล และวางดอกไม้จันทน์ เคารพศพ นายนที วงศ์บุญมี ซึ่งเป็นบุตรชายของนายชูไทย วงศ์บุญมี ผู้ สือ่ ข่าวหนังสือพิมพ์อสี านขอนแก่นนิวส์ ณ วัดศรีจนั ทร์ พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
วันสถาปนาสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ปีที่ ๑๙
มอบทุนการศึกษา
แสดงความอาลัย ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัด ขอนแก่น ร่วมงานฌาปนกิจศพทอดผ้าบังสุกุล และวางดอกไม้จันทน์ เคารพศพ นายนที วงศ์บุญมี ซึ่งเป็นบุตรชายของนายชูไทย วงศ์บุญมี ผู้ สือ่ ข่าวหนังสือพิมพ์อสี านขอนแก่นนิวส์ ณ วัดศรีจนั ทร์ พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
มอบโล่เกียรติคุณ
สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ขอขอบพระคุณ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ที่ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานวันสถาปนาสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ปีที่ ๑๙ ท่านนายกเหล่า กาชาดจังหวัดขอนแก่น นางศศิธร ปรีชาวิทย์ ที่ให้เกียรติมาเป็นประธานมอบทุนการศึกษา และผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่ให้เกียรติมาร่วมแสดงความยินดี และร่วมมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรสื่อมวลชน เนื่องในวันสถาปนาสมาคม สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ปีที่ ๑๙ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐ ณ ห้องมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น คณะกรรมการบริหารสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ขอกราบขอบพระคุณครับ
หน้า 5
ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ประจำ�เดือนเมษายน 2560
“การติดเชื้อเริมในช่องปาก”
ผศ.ดร.ทพ.อชิรวุธ สุพรรณเภสัช รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา ศิษย์เก่าและชุมชนสัมพันธ์
สวัสดีครับ พบกันอีกครัง้ กับคอลัมน์ ก้าว ทันโลก กับโรงพยาบาลทันตกรรม คอลัมน์ดีๆ เพือ่ ความรูค้ วามเข้าใจในการดูแลสุขภาพช่องปาก และฟันเบือ้ งต้น ครัง้ นีเ้ ราหยิบเรือ่ งน่ารูแ้ ต่ไม่ควร มองข้ามมาฝากกันนะครับ “การติดโรคเริมในช่อง ปาก” มาจากไหน แล้วจะแก้ไขอย่างไร เรามารู้กัน นะครับ “โรคเริมในช่องปาก” เป็นการติดเชือ้ ไวรัส ในกลุ่ม HerpesSimplex พบครั้งแรกได้บ่อยใน เด็กเล็กอายุ 1-2 ปี โดยจะมีอาการ เป็นไข้ ครั่น เนื้ อ ครั่ น ตั ว ต่ อ มนํ้ า เหลื อ งโต ซึ่ ง จะเป็ น อยู่ ประมาณ 1-2 วัน หลังจากนั้น จะมีตุ่มนํ้าใสๆ ขึ้น บริเวณเหงือก และแตกออก ขอบเหงือกจะอักเสบ แดงมีเลือดออก ประมาณ 7-10 วัน และจะหายได้ เอง เชือ้ นีต้ ดิ ต่อได้โดยทางนํา้ ลายจากผูใ้ กล้ชดิ เช่น คุณพ่อคุณแม่ทเี่ ป็นเริมบริเวณริมฝีปาก กอดจูบลูก หรือเป่าอาหารให้เย็นก่อนป้อนให้ลูก ทำ�ให้มีการ
ปนเปือ้ นของนํา้ ลายทีม่ เี ชือ้ ซึง่ ทำ�ให้ลกู ติดเชือ้ เริม ในช่องปากได้ เนื่องจากตัวโรคจะหายได้เอง การ รักษาจึงเป็นเพียงการรักษาตามอาการ คือ หากมี ไข้ ก็ให้ยาลดไข้ และใส่ถงุ มือใช้ผา้ ก๊อซชุบนํา้ เกลือ อุน่ ซับทำ�ความสะอาดเบาๆ ในช่องปากโดยไม่ถไู ป มา เนือ่ งจากจะทำ�ให้แผลลุกลาม หากรับประทาน อาหารไม่ได้ ต้องให้สารนํา้ เพือ่ ป้องกันการขาดนํา้ และกรณีที่เกิดอาการโรคอย่างรุนแรง จำ�เป็นต้อง รับยาต้านไวรัส คุณพ่อคุณแม่ ต้องพาเด็กมาพบ แพทย์หรือทันตแพทย์ เพื่อให้ตรวจรักษาและให้ คำ�แนะนำ�เพิ่มเติมต่อไปนะครับ “โรคเริมในช่องปาก” หายได้ถา้ รักษาอย่าง ถูกต้องนะครับ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โทร.0-4320-2405 ต่อ 45186 ในวันและเวลาราชการ พบกันใหม่ฉบับ หน้า สวัสดีครับ
ธรรมชาติวทิ ยาแหล่งเรียนรู้ เยาวชนไทยยุค 4.0
สื่อมวลชนภาคอีสาน เดินตามสายส่งไฟฟ้า “กว่าจะมาเป็นไฟฟ้า” การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๓ ฝ่าย จัดโครงการ “สื่อมวลชนสัมพันธ์ กฟผ.ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ” โดยนำ�คณะสื่อมวลชนภาคอีสาน ศึกษา ดู ง าน สฟ.ร้ อ ยเอ็ ด ๒, โรงไฟฟ้ า เขื่ อ นสิ ริ น ธร จ.อุบลราชธานี และศึกษาศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น พร้อมเยี่ยมชมธรรมชาติ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ ๒๘ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๓ ฝ่าย ประกอบด้วย ฝ่าย ปฏิบตั กิ ารภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อปอ.), โรงไฟ ฟ้าพลังนํ้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อฟอ.) และ โรงไฟฟ้านํ้าพอง (อฟพ.) จัดโครงการ “สื่อมวลชน สัมพันธ์ กฟผ. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” นำ�คณะ สื่อมวลชนในภาคอีสาน ศึกษาดูงาน ระบบส่ง จ่ายไฟฟ้า สถานีไฟฟ้าแรงสูงร้อยเอ็ด ๒ กฟผ. มี ภารกิจในการผลิต จัดหา และส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้า จากแหล่งผลิตต่างๆ ผ่านสายส่งไฟฟ้าแรงสูงไป ยังสถานีไฟฟ้าแรงสูง(สฟ.) ก่อนส่งจ่ายไฟฟ้าให้ กับผู้ใช้ไฟ ซึ่งแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้ามีทั้งโรงไฟ
ฟ้าพลังนํ้าจากเขื่อนต่างๆ โรงไฟฟ้าพลังความร้อน และโรงไฟฟ้าทีใ่ ช้กา๊ ชธรรมชาติ ใช้ถา่ นลิกไนต์ หรือ ใช้นํ้ามันเผาเป็นเชื้อเพลิง นอกนั้นเป็นโรงไฟฟ้า ประเภทพลังงานทดแทน ได้แก่ โรงไฟฟ้ากังหันลม โรงไฟฟ้าเซลแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าชีวมวล การเสวนาในหัวข้อเรื่อง “กว่าจะมาเป็น ไฟฟ้า” โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจาก กฟผ. รวมถึง อุปสรรค ปัญหา และความไม่เข้าใจของประชาชน ที่อาศัยอยู่บริเวณแนว “สายส่งไฟฟ้า” ซึ่งถือเป็น เส้นเลือดใหญ่แห่งพลังงาน โดยการปฎิบตั หิ น้าทีข่ อง กฟผ. มีหน้าที่จัดหาผลิตไฟฟ้า ซึ่งมีปริมาณความ ต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กฟผ. จึงได้ เร่งพัฒนาแหล่งผลิตไฟฟ้า ควบคุมระบบผลิตและส่ง จ่ายผ่านเครือข่ายสายส่งไฟฟ้าทั่วประเทศ โดยเชื่อม ไปยังระบบจำ�หน่ายของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค (PEA) ซึง่ จะปรับแรงดัน ให้เหมาะสมก่อนส่งถึงประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าทุกครัว เรือนทั่วประเทศ ดังนั้น “สายส่งไฟฟ้า” จึงเปรียบเสมือน เส้นเลือดใหญ่แห่งพลังงาน ที่ภาคประชาชนควร
ม . ข อ น แ ก่ น จั ด กิ จ กรรม “Museum Day” ในโอกาสครบรอบ 1 ปี พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ธ รรมชาติ วิ ท ยา อพ.สธ. – มข. เพื่อเป็นแหล่ง เรียนรู้ที่สำ�คัญให้เด็ก เยาวชน นั ก ศึ ก ษา และประชาชน ทั่ ว ไปในภู มิ ภ าคตะวั น ออก เฉี ย งเหนื อ และใกล้ เ คี ย ง ให้ สอดคล้ อ งกั บ นโยบายของ รั ฐ บาล Thailand 4.0 พร้ อ มการผลิ ต นวั ต กรรม ใหม่ๆ เพื่อเป็นฐานในการพัฒนาประเทศ โดยมีคณะ ผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา นักเรียน ร่วมกิจกรรม ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพ.สธ. เมื่อเร็วๆ นี้ ศ.ดร.ศุ ภ ชั ย ปทุ ม นากุ ล รองอธิ ก ารบดี ฝ่ายวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยี เปิดเผยว่า มข. มีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ภายใน มหาวิทยาลัย โดยการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิ ทยาฯ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำ�คัญให้เด็ก เยาวชน นั ก ศึ ก ษา และประชาชนทั่ ว ไปในภู มิ ภ าคตะวั น ออกเฉียงเหนือ และจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลThailand 4.0 ที่ ต้องการพัฒนาประเทศ ให้มคี วามทันสมัย ประชาชน มีรายได้เพิ่มมากขึ้น และก้าวพ้นจากประเทศที่มีราย ได้ปานกลาง พิพธิ ภัณฑ์ธรรมชาติวทิ ยาฯ เป็นสือ่ การเรียน
เป็นจำ�นวนมาก นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์รวบรวมวัสดุ สำ�หรับการกิจกรรม “Museum Day” ในโอกาสครบ อุเทศ งานแสดงนิทรรศการและเผยแพร่ความรู้ พร้อม รอบ 1 ปี พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพ.สธ. – มข. ทัง้ เปิดโอกาสให้เยาวชน และประชาชนได้เข้ามาศึกษา ได้จัดประกวด History Natural Museum Ambass ธรรมชาติวิทยาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ adorเพื่อคัดเลือกนักศึกษาระดับปริญญาตรี มข.ที่ ภายในพิพธิ ภัณฑ์ธรรมชาติวทิ ยาฯ ได้จดั ให้มี มีความรู้ ความสามารถ และมีศักยภาพ เพื่อปฏิบัติ นิทรรศการประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติวิทยา ตั้งแต่ หน้าที่เป็นผู้นำ�นักศึกษาในการจัดกิจกรรมการเรียน การกำ�เนิดโลกสิง่ มีชวี ติ ความหลากหลายทางชีวภาพ รู้ รวมถึงการเป็นผู้นำ�ในการสร้างภาคีเครือข่ายของ รู้ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความคิดริเริ่ม นำ�เสนอในรูปแบบทีแ่ ปลกใหม่ โดยผูเ้ ข้าชมสามารถมี นักศึกษา ทีม่ คี วามสนใจเกีย่ วกับกิจกรรมอาสาสมัคร ค้นคว้าและพัฒนาสิ่งใหม่ เป็นรากฐานสำ�คัญในการ ส่วนร่วมในการเรียนรูแ้ ละค้นหาคำ�ตอบได้ดว้ ยตนเอง ของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาฯ มข.อีกด้วย วิจัยพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ เอไอเอส รั บ รางวั ล ประเทศไทย ซึ่ง มข. เปิดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ฯ แหล่ง THAILAND TOP ท่องเที่ยวเชิงความรู้ที่สำ�คัญของภูมิภาคอีสาน ซึ่งจะ COMPANY AWARDS ยกระดับความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชน 2017 ต่อเนือ่ งเป็นปีท ี่ 2 ; ที่ชื่นชอบการค้นคว้าเพื่อการพัฒนาของคนในท้อง นายสมชั ย เลิ ศ สุ ท ธิ ถิ่นต่อไป วงค์ ประธานเจ้าหน้าที่ ผศ.เพ็ ญ ประภา เพชระบู ร ณิ น ผู้ จั ด การ บริ ห าร เอไอเอส รั บ สำ�นักงานโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชดำ�ริ กล่าว รางวั ล THAILAND ว่า พิพธิ ภัณฑ์ธรรมชาติวทิ ยา อพ.สธ. เป็นหนึง่ ในผล TOP COMPANY งานสนองพระราชดำ�ริโครงการอนุรกั ษ์พนั ธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ สมเด็จพระเทพรัตนราช AWARDS 2017 ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในฐานะบริษัทที่มีผล สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) โดยดำ�เนินงาน การดำ�เนินงานยอดเยีย่ ม มีการบริหารจัดการทีโ่ ดดเด่น และเป็นองค์กรตัวอย่างในการดำ�เนินธุรกิจ ซึง่ จัด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 มีโครงการศึกษาวิจัยทรัพยากร โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับ นิตยสาร Business+ ในเครือ เออาร์ไอพี โดยมี ฯพณฯ ศาตราจารย์ ทางกายภาพ ชีวภาพ การใช้ประโยชน์ทางทรัพยากร เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นผู้มอบรางวัล ณ โรงแรมดุสิตธานี
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วม กับองค์กรภาคีเครือข่ายด้านการพัฒนาเยาวชน จัดโครงการ Move World Together เพื่อพลังงาน และสิ่งแวดล้อมผ่านค่ายอบรมผู้นำ�เยาวชนเพื่อ โลกที่ยั่งยืน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศต่อเนื่องเป็นปี ที่ 6 เพื่อสร้างผู้นำ�เยาวชนให้คิดนอกกรอบอย่าง สร้างสรรค์ โดยการคิดค้นโครงงานที่สามารถ แก้ ไ ขปั ญ หาด้ า นพลั ง งานและสิ่ ง แวดล้ อ มใน ชุมชนท้องถิ่น เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2560 นายทินกร พอ จิต ผูช้ ว่ ยผูอ้ �ำ นวยการฝ่ายกิจการสังคม-ปฏิบตั กิ าร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นประธาน ปิดค่ายอบรมผู้นำ�เยาวชนเพื่อโลกที่ยั่งยืน Move World Together เพื่อพลังงานและสิ่งแวดล้อม
(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ปีที่ 6 ซึง่ จัดขึน้ ระหว่าง วันที่ 31 มีนาคม –4 เมษายน 2560 ณ เขื่อนจุฬา ภรณ์ จ.ชัยภูมิโดยมี รศ.ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์ เลขาธิการสมาคมพัฒนาศักยภาพและอัจฉริยภาพ มนุษย์ คุณสกุณา บัณฑุรตั น์ รองคณบดีฝา่ ยบริหาร และวางแผน วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วยอึง๊ ภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้แทนองค์กรภาคี เครือข่ายร่วมในพิธีปิดการอบรม ผู้เข้าค่ายในครั้งนี้ ประกอบด้วยวิทยากร และผู้ เ ชี่ ย วชาญ 9 คน ที ม งานอาสาสมั ค รจาก มหาวิทยาลัยทัว่ ประเทศและวิทยากรกระบวนการ ของ กฟผ. รวม 30 คน ครูที่ปรึกษาและบุคลากรผู้ สนับสนุน 33 คน และผู้นำ�เยาวชน 26 ทีม รวม 78 คน รวมถึงนักศึกษาจาก National University of
กฟผ. เดินหน้าจัดค่ายเยาวชน Move World Together ปีที่ 6 สร้างเยาวชนคนพันธุใ์ หม่ทแี่ ก้ปญ ั หาพลังงานและสิง่ แวดล้อม
Laosสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวจำ�น วน 2 กลุ่ม รวมผู้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายครั้งนี้ทั้งสิ้น 150 คน นายทินกร พอจิต กล่าวว่า โครงการ Move World Together : เพื่อพลังงานและสิ่งแวดล้อม เป็ น โครงการความร่ ว มมื อ ระหว่ า ง การไฟฟ้ า
ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน และ สมาคมพัฒนาศักยภาพและอัจฉริยภาพมนุษย์ ที่ มุง่ เน้นการพัฒนาศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ ของเยาวชนในรู ป แบบค่ า ยอบรมผู้ นำ � เยาวชน เพื่อโลกที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการเปลี่ยนวิธีคิดของ
ให้ความสำ�คัญ โดยไม่ติดตั้ง ป้ายโฆษณาทุกชนิด ไม่ขโมย สายไฟ ไม่เล่นว่าว ไม่ปลูกสิง่ ก่อสร้างรุกลํ้า และ ฯลฯ ใน เขตระบบโครงข่ายไฟฟ้าและ เสาสายส่งไฟฟ้า ทั้งนี้ เพื่อ ความปลอดภัยในชีวิตและ ทรั พ ย์ สิ น ของตนเอง และ เพื่อความมั่นคงของระบบ ไฟฟ้าไทย ซึ่งล้วนเป็นการร่วมมือให้สื่อมวลชนได้ ทำ�ความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รบั ทราบถึงอันตราย ทั้งตนเองและรวมถึงความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้นในระดับประเทศ จากนัน้ กฟผ. ได้นำ�คณะสือ่ มวลชน เยีย่ มชม วัฒนธรรมท้องถิ่น พิพิธภัณฑ์ชุมชนรวมกว่า ๘ เผ่า การอยูอ่ าศัยของชนเผ่ากะเหรีย่ ง, ส่วย ลาวสุม่ การอยู่ อาศัยทีแ่ ตกต่าง อาทิ บ้านต้นไม้ เฮือนเสาเดียว ภายใน บริเวณอุทยานบาเจียง นํ้าตกผาส้วม พร้อมชมความ สวยงามทางธรรมชาติ ที่ “นํา้ ตกตาดฟาน” เป็นนํา้ ตก ที่ไหลจากหน้าผามีความสูงกว่า 200 เมตร เป็นนํ้าตก ทีไ่ หลออกมาจากเขตป่าอนุรกั ษ์ดงหัวสาว แยกเป็น 2 สาย ไหลลงไปในหุบเหวที่มองแทบไม่เห็นพื้น ความ
แรงและความสูงของนํ้าตก ทำ�ให้เกิดเป็นละออง ขาวนวลคล้ายเมฆหมอก โดยมองจากจุดชมวิวที่ อยู่บนเขาคนละลูกกับนํ้าตก ส่วนนํ้าตก “ตาดเยือง” เป็นนํ้าตกสวยงาม อีกแห่งหนึ่งของเมืองปากซอง คำ�ว่าเยืองแปลว่า เลียงผา เป็นนํ้าตกขนาดกลางไม่สูงเท่านํ้าตกตาด ฟาน และสามารถเดินลัดเลาะเพื่อสัมผัสกลิ่นไอ แบบใกล้ชิดถึงธารนํ้าตก เป็นสายนํ้าที่ไหลออก มาตามหน้าผา กระทบโขดหินแตกเป็นละออง ท่ามกลางธรรมชาติอนั ร่มรืน่ ของแมกไม้และขุนเขา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ณ แขวง จำ�ปาสัก สปป.ลาว สุพัตรา ศุขโข รายงาน
ม่วนซืน่ เมืองหมอแคน แดนหมอลำ� ในงานหมอลำ � คาร์ นิ วั ล ปี 2560 พ่อยกแม่ยกทั่วฟ้าเมืองไทยมาเบิ่งหมอลำ� ที่เมืองหมอแคน ในงานหมอลำ�คาร์นิวัล 2560 พบ กับขบวนคาร์นิวัลของศิลปินหมอลำ�ชื่อดังระดับ ประเทศมากมาย ตลอดระยะทางกว่า 2 กม. นายพงษ์ ศั ก ดิ์ ปรี ช าวิ ท ย์ ผู้ ว่ า ราชการ จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานประชุมการจัดงาน หมอลำ�คาร์นิวัล ปี 2560 : Morlam Carnival 2017 โดยจะจัดให้มกี ารแสดงระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม 2560 ณ บริเวณบึงแก่นนคร ซึ่งได้รับความร่วมมือ จากทุกส่วนราชการ ภาคเอกชน และกลุ่มมวลชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่นในการจัดงานครั้งนี้ และภายในงานหมอลำ�คาร์นิวัล ได้จัดให้มีขบวน แห่ บูทจำ�หน่ายสินค้า OTOP ภายในงาน และจัดหา แผงจราจรสำ�หรับการจัดการจราจร ณ ห้องประชุม แก่นภูมิ 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายชั ย ธวั ช เนี ย มศิ ริ รองผู้ ว่ า ราชการ จั ง หวั ด ขอนแก่ น กล่ า วว่ า การท่ อ งเที่ ย วแห่ ง ประเทศไทย (ททท.) ร่ ว มกั บ จั ง หวั ด ขอนแก่ น เทศบาลนครขอนแก่น และพันธมิตรภาครัฐและ เอกชน กำ�หนดจัด“งานหมอลำ�คาร์นิวัล 2560” ในวันที่ 6-7 พฤษภาคม 2560 ที่ลานกีฬาต้านยา เสพติด ริมบึงแก่นนคร อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อ เผยแพร่และร่วมสืบสานมรดกทางภูมิปัญญาด้าน ศิ ล ปวั ฒ นธรรมไทย อี ก ทั้ ง เป็ น การสร้ า งสรรค์
กิจกรรมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนัก ท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านให้เดินทางเข้ามาท่อง เที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะ จั ง หวั ด ขอนแก่ น ซึ่ ง เป็ น จั ง หวั ด ที่ มี ศั ก ยภาพใน การจัดกิจกรรม Mega-Event และศักยภาพในการ รองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งการจัดกิจรรมนี้คาดว่าจะ ก่อให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวและรายได้ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเพิ่มขึ้น ในการจัดงาน “งานหมอลำ�คาร์นวิ ลั 2560” นี้ จะเริ่มขบวนตั้งแต่โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน และไปสิ้นสุดขบวน ณ ณ ลานกีฬาต้านยาเสพติด บึงแก่นนคร เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่ ง ตลอดระยะทางท่ า นจะได้ เ พลิ ด เพลิ น ไปกั บ ศิลปินหมอลำ�ชื่อดังระดับประเทศมากมาย อาทิ แม่บานเย็น รากแก่น ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะ การแสดง(การแสดงพืน้ บ้าน-หมอลำ�) คณะหมอลำ� แก่นนครบันเทิงศิลป์ คณะหมอลำ�เพชรแพรวา และ คณะหมอลำ�ที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย รวมถึงดารา นักแสดงจากช่อง 3 เคน ภูภูมิ และดารานักแสดง จากช่อง 7 ทับทิม อัญรินทร์ ที่จะมาร่วมขบวนแห่ เพือ่ สร้างสีสนั และความบันเทิงให้กบั นักท่องเทีย่ ว โดยขบวนแห่จะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2560 และการแสดงหมอลำ�จะเริม่ ตัง้ แต่ เวลา 19.00-23.00 น
เยาวชนด้วยกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ที่ มีประสิทธิภาพ ช่วยให้เยาวชนสามารถนำ�ความคิด นอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ไปใช้ในการแก้ปญ ั หา ที่ เกิดขึ้นในท้องถิ่นของตน ลดปัญหาด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมทั้งสร้างสรรค์ผล งานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับประเทศและ นานาชาติ สำ�หรับกิจกรรมตลอดทั้ง 5 วัน เยาวชน ที่เข้าร่วมการอบรมจะได้เรียนรู้ถึงการทำ�งานเป็น ทีม การพัฒนาศักยภาพทางความคิด สร้างเยาวชน ให้มีจิตสำ�นึกต่อส่วนรวมและตระหนักถึงปัญหา ทางสังคม เข้าใจแก่นความรู้ด้านพลังงานและสิ่ง
แวดล้อมและการคิดค้นโครงงานที่สามารถแก้ไข ปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อต่อยอด พัฒนาให้เป็นนวัตกรรมต่อไป โครงการ Move World Together เพื่อ พลังงานและสิง่ แวดล้อมเริม่ ดำ�เนินการมาตัง้ แต่ ปี พ.ศ.2555 จนถึงปัจจุบนั มีเยาวชนผ่านเข้าร่วมการ อบรมกว่า 2,500 คน จากทั้งสี่ภูมิภาคทั่วประเทศ และมี ผ ลงานเยาวชนที่ ส ามารถพิ สู จ น์ ค วาม สำ�เร็จจากการเข้าร่วมประกวดสิ่งประดิษฐ์และ นวัตกรรมระดับประเทศและนานาชาติ จำ�นวน 16 ผลงานและได้รบั รางวัลเหรียญทอง เหรียญเงิน และรางวัลพิเศษต่างๆ รวม 65 รางวัล
หน้า 6
ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ประจำ�เดือนเมษายน 2560
ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ประจำ�เดือนเมษายน 2560
หน้า 7
หน้า 8
ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ประจำ�เดือนเมษายน 2560
ปั่นล้อ For Earth ปีที่ 3 “ปั่นคืน มิติใหม่ท่องเที่ยวประเทศ ผื น ป่ า ปลู ก ต้ น กล้ า สู่ ผื น ดิ น ” เพื่อนบ้านอาเซียน ททท.สำ�นักงานพัทยา ร่วม กั บ สนามบิ น นานาชาติ อู่ ต ะเภา ระยอง พัทยา จัดกิจกรรม “ปัน่ ล้อ For Earth” ปีที่ 3 กิจกรรมที่รวบรวมกลุ่ม นักปั่นจักรยาน กลุ่มคนรักสุขภาพ และรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นกิจกรรม เล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่จากหัวใจของจิตอาสา ที่ ร่ ว มเดิ น ทางในรู ป แบบคาราวาน จักรยาน พร้อมเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ โลกสดชืน่ ด้วยการร่วมกันปลูกป่า ใน โครงการป่าสิริเจริญวรรษ อันเนื่อง มาจากพระราชดำ�ริ ซึ่งเป็นหนึ่งใน เส้นทางภายใต้ ๗๐ เส้นทางตามรอย พระบาท ของ ททท.และเพื่อเป็นการ ประชาสั ม พั น ธ์ กิ จ กรรมพร้ อ มเปิ ด เส้นทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย จึงได้นำ�คณะสื่อมวลชนจากพื้นที่ภาคอีสานร่วม กิจกรรมระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม 2560 น.ส.สุ ลั ด ดา ศรุ ติ ล าวั ณ ย์ ผอ.ททท. สำ�นักงานพัทยา เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรม ปั่นล้อ For Earth ปีที่ 3 “ปัน่ คืนผืนป่า ปลูกต้นกล้า สูผ่ นื ดิน” นอกจากช่วยส่งเสริมอนุรักษ์ที่เติมเต็มโครงการป่า สิริเจริญวรรษ อันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ แล้ว ยัง เป็นการแนะนำ�เส้นทางท่องเที่ยวโดยใช้เส้นทางใน การปัน่ จักรยานพืน้ ทีจ่ งั หวัดชลบุรใี ห้เป็นทีร่ จู้ กั อย่าง แพร่หลายอีกด้วย ปั่นล้อ For Earth เป็นกิจกรรมที่รวมพล จากประชาชนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัยที่ชื่นชอบการ ออกกำ�ลังกายด้วยการปั่นจักรยาน และยังได้ทำ� ประโยชน์ด้วยการปลูกป่าคืนพื้นที่สีเขียว ซึ่งนับ เป็นการร่วมรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีระยะ ทางในการปั่นจักรยานรวม 30 กิโลเมตร ซึ่งมีจุด เริ่มต้นจาก สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา มุ่งหน้าสู่ โครงการป่าสิริเจริญวรรษ โครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำ�ริ สำ�หรับผูท้ เี่ ข้าเส้นชัย จะได้รบั เหรียญที่ ระลึก FINISHER ทุกท่าน พร้อมสนุกกับการลุน้ ของ รางวัลกลับบ้าน โดยความร่วมมือจากหลายหน่วย งาน อาทิ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา, ท่าเรือแหลม ฉบัง, ท่าเทียบเรือ B4 แหลมฉบัง, สายการบินแอร์ เอเชีย สำ�นักงานบริการลูกค้า กสท. เขตตะวันออก, บริษัท โตโยต้า เจริญยนต์ ชลบุรี จำ�กัด (สำ�นักงาน ใหญ่) ฯลฯ ผอ.ททท.สำ�นักงานพัทยา กล่าวต่อว่า การ จัดกิจกรรม ปั่นคืนผืนป่า ปลูกต้นกล้า สู่ผืนดิน ใน ครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มนักปั่น จักรยาน รวมถึงการมีส่วนร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใน เขตพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะเส้นทาง พัทยาระยอง ทีส่ ามารถเดินทางเชือ่ มโยงได้ทกุ ภูมภิ าคของ ประเทศ ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และยังสามารถ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะมา แบบเป็นคู่ แบบครอบครัว หรือท่องเที่ยวพร้อม ศึกษาเรียนรู้แบบกลุ่มหรือคณะ ซึ่งมีสถานที่ท่อง เที่ยวแบบธรรมชาติ หรือรูปแบบสร้างสรรค์ความ สนุก ซึ่งจะรองรับการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ สำ � หรั บ เส้ น ทางการท่ อ งเที่ ย ว รวมถึ ง แหล่งท่องเที่ยวที่สำ�คัญมีมากมาย และมีสถานที่ซึ่ง ได้รับความสนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อาทิ เกาะสีชัง, เกาะล้าน, ชาดหาดบางแสน, ชายหาด พัทยา สะดือมังกร ที่มีความเชื่อกันว่า เป็นจุดศูนย์
รวมแห่งพลังจักรวาลที่ครบทั้ง 4 ธาตุ หากใครได้ ยืนแช่นํ้าบริเวณนี้ จะได้รับพลังชีวิตใหม่ช่วยเสริม ความเจริญก้าวหน้าในทุกด้าน หรือ แพ็คเก็จจัดทริ ปล่องเรือยอร์ชสุดหรูในราคาเบาๆ นอกจากแหล่ง ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีสถานที่ รองรับในการท่องเที่ยวอีกมากมาย อาทิ พิพิธภัณฑ์ ภาพ 3 มิติ Art in Paradise, สวนนํา้ รามายณะ ซึง่ เป็น สวนนํา้ ทีม่ เี ครือ่ งเล่นสไลเดอร์มากกว่า 21 เครือ่ งเล่น บนพืน้ ทีม่ ากกว่า 100 ไร่, บ้านกลับหัว, มิโมซ่า พัทยา และที่พลาดไม่ได้กับการแสดง อัลคาซ่าร์ คาบาเร่ต์ เป็นโชว์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเฉพาะการ พัฒนารูปแบบการแสดงที่เหนือจินตนาการ ผอ.ททท.สำ � นั ก งานพั ท ยา กล่ า วทิ้ ง ท้ า ย ว่า ในปี 2560 นี้ ททท.สำ�นักงานพัทยา ยังมีแผน งานส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้ามา ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และกลุ่มจัดงานประชุมสัมมนา โดยมีการ ส่งเสริมการตลาดร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่อย่างต่อ เนื่องในโครงการต่างๆ อาทิ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ราคาพิเศษจังหวัดชลบุรี อาทิโครงการ Exclusively Luxperience @ PATTAYA, โครงการ เที่ยวหรู อยู่ดี @พัทยา, เที่ยวสบายสไตล์บางแสน พร้อมโปร โมชั่นส่วนลดเพื่อท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี โดยความ ร่วมมือจากกลุม่ ผูป้ ระกอบการโรงแรมทีพ่ ร้อมใจจัด แพ็คเก็จราคาพิเศษ ร้านอาหาร ร้านจำ�หน่ายของฝาก ของที่ระลึก ร่วมกับหน่วยงานปรับลดราคา จัดโปร โมชั่น นอกจากนี้ ททท.พัทยา ร่วมกับ บริษัท Blue Voyage จัดทริปล่องเรือยอร์ซสุดหรู ในราคาเบาๆ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี “จากสถิ ติ ที่ ผ่ า นมา อั ต ราส่ ว นนั ก ท่ อ ง เที่ยวชาวไทยกว่า 65% มาจากภาคอีสาน ดังนั้น การจัดกิจกรรมโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ เที่ยว หรู อ ยู่ ดี @พั ท ยา ซึ่ ง เน้ น กลุ่ ม สตรี เ ป็ น ฐานของ การท่องเที่ยว เนื่องจากผู้หญิงจะมีอำ�นาจในการ ตัดสินใจซื้อ และมีปริมาณในการจ่ายสูง เมื่อคิด เป็นสัดส่วนประชากรผู้หญิงประมาณ 30 ล้านคน หรือ 48%ของประชากรไทย และ 65% ที่ผู้หญิงจะ ออกเดินทางท่องเที่ยว จึงเป็นกำ �ลังสำ�คัญในการ ทำ�ให้เศรษฐกิจหมุนเวียน และเชื่อมั่นว่าโครงการที่ วางแผนการตลาดในปี 2560 จะช่วยปรับภาพลักษณ์ ของเมืองพัทยาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มผู้หญิง และสามารถเพิม่ ปริมาณนักท่องเทีย่ วชาวไทยให้เข้า มาในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น” ผอ.ททท.สำ�นักงานพัทยา กล่าว
แห่ ใ ช้ โ รงจำ � นำ � เอกชน ไม่ ห วั่ น ดอกแพงกว่าโรงตึ๋งรัฐเกือบเท่าตัว นางวรารัตน์ ขลิบเงิน ผู้จัดการสถานธนา นุบาล เทศบาลนครขอนแก่น 1 เปิดเผยว่า โรง รับจำ�นำ�แห่งที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ที่คุ้มหนองคู เป็นโรง รับจำ�นำ�คู่กับเมืองขอนแก่น และเป็นที่รู้จักของ ประชาชนทั่วไป อีกทั้ง เป็นแหล่งเงินกู้ที่ได้รับ ความนิยมจากประชาชนในช่วงภาวะจำ�เป็นที่ต้อง หมุนเงิน โดยเฉพาะช่วงฉุกเฉิน ช่วงวิกฤตทางการ เงิน ซึ่งจะได้เงินสดมาใช้โดยไม่ต้องเช็คเครดิต จากสถาบันการเงิน ไม่ต้องมีคนคํ้าประกัน แค่ใช้ บัตรประชาชนพร้อมทรัพย์สินมีค่าวางจำ�นำ�ไว้ ก็ สามารถนำ�เงินมาใช้จา่ ยแก้ปญ ั หาภายในครอบครัว ได้ อีกทั้งดอกเบี้ยซึ่งคิดในอัตราตํ่า ทำ�ให้โรงรับ จำ�นำ�เป็นที่พึ่งของประชาชนมายาวนาน ช่วงก่อนเปิดเทอมของทุกปี จะเป็นช่วง คึ ก คั ก กว่ า ปกติ ห ลายเท่ า ตั ว ประชาชนต่ า งนำ � ทรัพย์สินมีค่าต่างๆ มาแปลงเป็นเงินสด โรงรับ จำ�นำ�ต้องมีการเตรียมความพร้อมมากกว่าในช่วง ปกติทั่วไป โดยปี 2560 นี้ ได้จัดเตรียมสำ�รองเงิน หมุนเวียนไว้กว่า 100 ล้านบาท และยังลดอัตรา ดอกเบี้ยในช่วงเปิดเทอมลงจากอัตราปกติ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย และเป็นช่วงที่มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยในช่วง ปกติที่โรงรับจำ�นำ�ของภาครัฐอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ ที่ หากจำ�นำ�ทรัพย์สินไม่เกิน 5,000 บาท ดอกเบี้ย 0.50 หรือ 50 สตางค์ต่อเดือน จำ�นำ�ตั้งแต่ 5,001 -30,000.-บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 1.00.-บาท ต่อ เดือน จำ�นำ�ตัง้ แต่ 30,001 – 100,000.-บาท คิดอัตรา ดอกเบี้ยที่ 1.25.-บาท ต่อเดือน
นางวรารัตน์ กล่าวต่อว่า สำ�หรับช่วงตัง้ แต่ วันที่ 1 เมษายน ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม เป็นช่วงที่ โรงรับจำ�นำ�ลดอัตราดอกเบีย้ เพือ่ ช่วยบรรเทาความ เดือดร้อนของประชาชน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยลด ลงจากเดิม คือจำ�นำ�ทรัพย์สินไม่เกิน 5,000.-บาท คิดอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25.-บาท ต่อเดือน หรือ 25 สตางค์ จำ�นำ�ตั้งแต่ 5,001 -30,000.-บาท คิดอัตรา ดอกเบี้ย 0.75.-บาท หรือ 75 สตางค์ ต่อเดือน โดย ส่วนใหญ่ทนี่ �ำ มาจำ�นำ�จะเป็นทองคำ�ถึง 90% ซึง่ จะ จำ�นำ�ได้ไม่เกิน 80% ของราคาขาย ปัจจุบัน ราคา ทองคำ�ไม่นิ่ง มีขึ้นมีลงซึ่งเป็นราคาที่ยังผันผวน ตลอดเวลา ทางโรงจำ�นำ�ยังตรึงราคาอยู่ที่ บาทละ 16,000.-บาท แต่ก็ขึ้นอยู่ที่เนื้อทองและนํ้าหนัก ประกอบการพิจารณาด้วยเช่นกัน ปัจจุบัน ประชาชนที่เคยเข้ามาใช้บริการ ที่โรงรับจำ�นำ�ของภาครัฐ มีสัดส่วนลดน้อยลงไป ราว 15-20% จากสถิติในเดือนมีนาคม 2559 ที่ ผ่านมามีประชาชนเข้ามาในบริการที่โรงรับจำ�นำ� 1 คุ้มหนองคูแห่งนี้ จำ�นวน 3,523 ราย เมื่อเทียบ
ท่ อ งเที่ ย วเวี ย ดนามเดิ น หน้ า ลุยภาคอีสาน หยอดคำ�หวาน ขอบคุณ ทุกหน่วยงานให้การสนับสนุน พร้อม ขอให้ ตม.ขยายเวลาเปิดให้บริการเพิ่ม ขึ้น เผยนโยบายท่องเที่ยวเวียดนามยัง ต้องการนักท่องเที่ยว INBOUNS เป็น หลัก นายหว๋ อ วั น เวิ น ห์ ( VO VAN VAN) หั ว หน้ า สำ � นั ก งานการ ท่องเที่ยวจังหวัดกวางนิงห์ ประเทศเวียดนาม (เทียบ เท่า ผอ.ททท.สำ�นักงานจังหวัด) และ นายท๋า ดั๊ก เหลียน กรรมการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแงห์ อาน ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศ อาเซียน เป็นหัวคณะนำ�คณะผูป้ ระกอบการท่องเทีย่ ว จาก 5 จังหวัดภาคกลาง ประเทศเวียดนาม ประกอบ ด้วย ดานัง เว้ กวางนำ�ห์ กวางนิงห์ และฮอยอัน จำ�นวน 40 แห่ง เดินทางโดยรถยนต์ ผ่าน สปป.ลาว ผ่าน ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว มายังจังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 29-31 มี.ค.2560 เพื่อทำ�Famtrip ทำ�การ สำ�รวจตลาด เส้นทาง สถานที่บริการ สำ�หรับนักท่อง เที่ยวในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งสมาคมธุรกิจท่อง เทีย่ วอุดรธานีและหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องให้การต้อนรับ และนำ�คณะทำ�การสำ�รวจเส้นทาง แหล่งท่องเที่ยว และสถานที่พัก ตามกำ�หนดการอย่างทั่วถึง นายหว๋อ วัน เวินห์ หัวหน้าสำ�นักงานการ ท่องเที่ยวจังหวัดกวางนิงห์ ประเทศเวียดนาม กล่าว ผ่านล่ามว่า ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้ประกอบการการ ท่องเที่ยวของ 5 จังหวัดของเวียดนามภาคกลางและ ของจังหวัดอุดรธานี ได้มารวมตัวกันอยู่ที่จังหวัด อุดรธานี เพื่อพูดคุยกันในเรื่องของการร่วมมือและ ร่วมกันพัฒนาธุรกิจการท่องเทีย่ วของทัง้ สองฝ่าย เพือ่ ให้เกิดความเจริญเติบโตก้าวหน้าในอนาคต และด้วย ความต้องการที่จะเห็นความร่วมมือในการท่องเที่ยว มีความเจริญเติบโต หวังว่าการท่องเที่ยวของทั้งสอง ฝ่ายจะมีความเจริญก้าวหน้าไปในอนาคต และขอให้ ความสัมพันธ์ดา้ นการท่องเทีย่ วของทัง้ สองฝ่ายเจริญ ยิง่ ๆ ขึน้ ไป ถือว่าการทีท่ งั้ สองฝ่ายมารวมตัวกันในครัง้ นี้เป็นสัญลักษณ์ที่ดี นายหว๋อฯ กล่าวขอบคุณหน่วยงานราชการ ของไทยและ หน่วยงาน รวมถึงบริษัทการท่องเที่ยว ของไทย ที่มีการอุดหนุนธุรกิจการท่องเที่ยว บริษัท ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของเวียดนามที่ผ่านมาด้วยดี พร้อมกับขอรับการสนับสนุนที่ดีเช่นนี้ตลอดไปใน อนาคตข้างหน้า นอกจากนี้แล้วทั้งสองฝ่ายก็จะมีการ พบปะพูดคุยกันระหว่างผู้ประกอบการของจังหวัด อุดรธานี และจากภาคกลางของประเทศเวียดนาม โดย เฉพาะในกิจกรรม Top table sale ที่ทั้งสองฝ่ายได้มีก ารพบปะแลกเปลี่ยนกันในรูปแบบของการจัดการโป รแกรมท่องเที่ยว ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะทำ�ให้เกิด การแลกเปลีย่ นนักท่องเทีย่ วระหว่างจังหวัดภาคกลาง เวียดนามและจากประเทศไทย และการพัฒนาด้านการ ท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต นายท๋า ดั๊ก เหลียน กรรมการสมาคมธุรกิจ ท่องเที่ยวจังหวัดแงห์อาน ประเทศเวียดนาม กล่าว
จว.มุกดาหาร บก.ตม.4 ตำ�รวจหนุ่มไฟแรง.. ‘ดาวประดับฟ้า’ วงการตำ�รวจไทย
ว่า ในเวลา 10 ปี ที่ผ่านมานั้น ธุรกิจการท่องเที่ยว ไม่ ได้เป็นเศรษฐกิจเพียงตัวเดียวที่ทำ�ให้เศรษฐกิจของ ประเทศเวียดนามเจริญเติบโตอย่างในปัจจุบัน แต่ก็ เป็น 1 ใน 10 เศรษฐกิจที่ทำ�ให้เศรษฐกิจของเวียดนาม เติบโตก้าวหน้าอย่างทีเ่ ป็นอยูใ่ นขณะนี ้ และในอนาคต อีก 10 ปี ข้างหน้าเศรษฐกิจธุรกิจการท่องเที่ยวก็ยังอยู่ ในจำ�นวน เศรษฐกิจ 10 อย่างของเวียดนามที่รัฐบาล เอามารวมอยู่ในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ ธุรกิจการท่องเที่ยวจะถูกกำ �หนดให้เป็นเศรษฐกิจ อันดับต้นที่จะถูกผลักดันให้เป็นเศรษฐกิจที่จะอยู่ใน ระดับต้นๆ สถานการณ์ ก ารท่ อ งเที่ ย วของประเทศ เวี ย ดนามนั้ น ก็ เ หมื อ นกั น กั บ ประเทศอื่ น ๆทั่ ว ไป คือ มีทั้งการท่องเที่ยวภายในประเทศและการท่อง เที่ยวออกนอกประเทศ แต่อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่าน มานั้น การท่องเที่ยวของประเทศเวียดนามจะเน้น ไปที่นโยบายของรัฐบาลในกรณีอนุญาตให้นักท่อง เที่ยวเดินทางเข้าไปเที่ยวในเวียดนาม หรือที่ เรียก ว่า Inbound มากกว่าการท่องเทีย่ วแบบ Outbound และ รัฐบาลก็ยังมีนโยบายที่จะทำ�การผลักดันให้เกิดการ ท่ อ งเที่ ย วแบบ Inbound อี ก ต่ อ ไป เพื่ อ ให้ กิ จ การ ธุ ร กิ จ ท่ อ งเที่ ย วของประเทศมาเป็ น ตั ว ชู เ ศรษฐกิ จ ของประเทศตามเป้าหมาย ซึ่งในส่วนของนักท่อง เที่ยวเวียดนามนั้น รัฐบาลยังไม่มีนโยบายส่งเสริมให้ เดินทางออกไปเที่ยวนอกประเทศ แต่ส่งเสริมให้เดิน ทางท่องเที่ยวในประเทศมากกว่า และเน้นให้มีการ ท่องเที่ยวแบบ Inbound เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้าน เศรษฐกิจของประเทศ นายเหลียนฯ กล่าวถึงความร่วมมือการท่อง เที่ ย วของเวี ย ดนามภาคกลางและภาคอี ส านของ ประเทศไทยว่า การเดินทางมาของสมาคมธุรกิจท่อง เที่ยวของเมืองแงห์อาน มาพบกับสมาคมธุรกิจท่อง เที่ยวจังหวัดอุดรธานีเป็นครั้งแรก ซึ่งก็ถือว่าจะกลาย เป็นจุดเริ่มต้นในการที่จะมีการพัฒนาร่วมกันในด้าน การท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรธานีและภาคอีสานของ ไทยกับเวียดนามภาคกลางในอนาคตต่อไป พร้อมกันนี้ยังกล่าวขอให้สมาคมธุรกิจท่อง เที่ยวอุดรธานี ช่วยทำ�การประสานกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง ควรที่จะ ขยายเวลาเปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ผู้ ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีและ ใกล้เคียงคอยอำ�นวยความสะดวก คล้ายๆเป็นพี่เลี้ยง ให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากเวียดนามที่นำ�นัก ท่องเที่ยวเดินทางมาในพื้นที่
ส า น สั ม พั น ธ์ ร ะ ห ว่ า ง อ ง ค์ ก ร ; นายบุญธรรม พลเรือง ประธานชมรมนักธุรกิจ รุ่นใหม่ ขอนแก่น เป็น ประธานจั ด งานงาน สานสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า ง องค์ ก ร ซึ่ ง เป็ น การ สานพลั ง องค์ ก รทั้ ง 16 องค์ ก ร ในจั ง หวั ด ขอนแก่น เพื่อประสานความร่วมมือ ในการขับเคลื่อนกิจกรรมดีๆ ที่เป็นประโยชน์แก่จังหวัด ขอนแก่น ในโอกาสอันใกล้นี้ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2560 ณ SF Biz Hotel จ.ขอนแก่น น วั ต ก ร ร ม พั ฒ น า เ ด็ ก เ ล็ ก ; นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พั นธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่ น เป็ น ประธานเปิ ด โครงการ “ วั ต ก ร ร ม ท า ง ก า ร ศึกษา” เพื่อเตรียมความ พร้อมให้เด็กได้รับการ พั ฒ นาครบทั้ ง ร่ า งกาย อารมณ์ สังคมและสติ ปัญญา ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพครู ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดเทศบาลนครขอนแก่น ณ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนชัย กับเดือนมีนาคม 2560 มีประชาชนเข้ามาใช้บริการ เพียง 2,828 ราย เมือ่ เทียบสถิตใิ นแต่ละเดือนจากปี ที่ผ่านมา จะเห็นว่า มีอัตราการเข้ามาใช้บริการลด ลงอย่างต่อเนื่อง มองว่า อาจเป็นเพราะมีการเปิด ให้บริการของโรงรับจำ�นำ�ภาคเอกชน ซึ่งให้ราคา สูงกว่าภาครัฐ ประชาชนจึงให้ความสนใจ โดยไม่ นึกถึงอัตราดอกเบี้ยที่แพงกว่าเกือบเท่าตัว ทำ�ให้ มีทรัพย์สินหลุดจำ�นำ�เป็นจำ�นวนมากโดยเฉพาะ ทองคำ� ขณะเดียวกัน ในส่วนของโรงรับจำ�นำ�ภาค รัฐ มีทรัพย์สินที่หลุดจำ�นำ�ไม่ถึง 10% ประชาชน ส่วนใหญ่สามารถไถ่ถอนคืนได้ในเวลาที่กำ�หนด หรืออาจยืดระยะเวลาออกไป แต่ไม่ปล่อยให้หลุด จำ�นำ�
ร.ต.อ.อชิรพงศ์ ประจง รอง สว.ตม.
นางวรารัตน์ กล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ ตลอดจนถึงช่วงเปิดเทอมใหม่นี้ เป็นเวลาถึงสอง เดือนเต็มที่ประชาชนสามารถเข้ามาใช้บริการจาก โรงรับจำ�นำ�ได้ในช่วงโปรโมชั่นลดอัตราดอกเบี้ย พิเศษ พร้อมเตรียมเงินสำ�รองไว้รองรับเพียงพอ กั บ ความต้ อ งการของประชาชนอย่ า งแน่ น อน และมั่นใจได้ว่า โรงรับจำ�นำ�1 คุ้มหนองคู อำ�เภอ เมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเปิดให้บริการอยู่คู่กับ ประชาชนมาช้านาน พร้อมสถานที่จอดรถกว้าง ขวาง สะดวกสบาย จะเป็นที่พึ่งของประชาชนทุก ท่านให้สามารถเข้าถึงบริการได้ดว้ ยความประทับใจ
“สวัสดีค่ะ” หนังสือพิมพ์ไทยเสรี ขอ ต้อนรับทุกท่านเข้าสู่คอลัมน์ “สายตรงโรงพัก” ฉบับประจำ�เดือนเมษายนพุทธศักราช 2560 เรา ขอแนะนำ�ท่านผู้อ่านให้รู้จักกับคนในแวดวงสี กากี คือ “ตำ�รวจ” หรือ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ในพื้นที่ภาคอีสานเช่นเคยค่ะ โดยในฉบับนี้เรา ขอแนะนำ�ท่านผู้อ่านให้รู้จักกับ ร.ต.อ.อชิรพงศ์ ประจง รอง สว.ตม.จว.มุกดาหารบก.ตม.4 หรือ “ผูก้ องหนุม่ ”ผูท้ ยี่ ดึ คติในการทำ�งานทีว่ า่ “หากวัน นี้ทำ�ถูกต้อง วันพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องกลัวอะไร” ร.ต.อ.อชิ ร พงศ์ ประจง หรื อ “ผู้ ก อง หนุ่ม”เกิดเมื่อวันที่ 12 ส.ค.2519 ปัจจุบันอายุ40 ย่าง 41 ปี เป็นชาว จ.ชัยภูมิโดยกำ�เนิด จบการ ศึ ก ษาระดั บ ชั้ น มั ธ ยมศึ ก ษา จากโรงเรี ย นวั ด สระเกศ กรุ ง เทพฯ ปริ ญ ญาตรี ศิ ล ปศาสตร บัณฑิต (การจัดการทั่วไป) มหาวิทยาลัยราชภัฎ สวนสุนันทา กรุงเทพฯ และ ศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง ก่อนเข้า อบรม นพต.จอหอ รุ่นที่ 54 และนายร้อยอบรม กอส.รุ่นที่ 25 ตามลำ�ดับ รับราชการ ดำ�รงตำ�แหน่ง รอง สว.ชุด ตรวจคนเข้าเมือง 4 ฝ่าย 1 ตม.2 ,รอง สว.ฝ่าย ตม. 2 ด่าน ตม.ทอ. กรุงเทพฯ ,รอง สว.ฝ่ายพิธกี ารเข้า เมือง ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิและ รอง สว.ตม. จว.มุกดาหาร บก.ตม.4 ถึงปัจจุบัน โดยสร้ า งเกี ย รติ ป ระวั ติ ใ ห้ กั บ วงการ
ตำ�รวจไทย หลัง ได้รับคำ�สั่งจาก ผู้ บั ง คั บ บั ญ ชา สายตรง พ.ต.อ.สิทธิ์ ศิริกังวาลกุล ผกก.ตม.จว. มุกดาหาร บก.ตม.4 และ พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ ทิพย์ธนา วิวัฒ รอง ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร บก.ตม.4 ให้นำ� กำ�ลังตำ�รวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร ไปจับกุมชาวลาวที่เกี่ยวข้องในคดียาเสพติดข้าม ฝั่งโขงจนสร้างผลงานชิ้นเอกในการโชว์ผลงาน จั บ กุ ม เครื อ ข่ า ยค้ า ยาบ้ า ชาวลาวข้ า มมายั ง ฝั่ ง ประเทศไทย โดยสามารถจับกุมกลุม่ ผูต้ อ้ งหาชาว ลาวได้เป็นจำ�นวนมาก ถือเป็นดาวประดับฟ้าของ วงการตำ�รวจบ้านเรา ในโอกาสที่ “ผู้ ก องหนุ่ ม ” ได้ ม าเยื อ น คอลัมน์สายตรงโรงพักได้กล่าวฝากถึงการทำ�งาน ของตำ�รวจทีด่ ดี ว้ ยว่า “อาชีพตำ�รวจเราไม่สามารถ เลือกได้ว่า จะไปอยู่ตำ�แหน่งใดได้ ดังนั้น จงทำ� หน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด และ หมั่นศึกษาระเบียบ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับหน้าที่ การงานของตนอยูต่ ลอดเวลา หากวันนีท้ �ำ ถูกต้อง วันพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องกลัวอะไรครับ” สำ�หรับคอลัมน์สายตรงโรงพักฉบับนี้ ต้องขอลาท่านผู้อ่านไปก่อน ไว้พบกันใหม่ฉบับ หน้าเดือนพฤษภาคม 2560 นะคะ “สวัสดีค่ะ”
เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน
3 อปท.หนองคาย จับมือ จัดงานสับปะรดหวาน
3 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใน 2 อำ�เภอของหนองคาย จับมือจัดงาน สับปะรดหวาน ส่งเสริมการท่องเที่ยว และพืชเศรษฐกิจของเกษตรกรชาวสวน สับปะรด เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2560 ที่ อบต.พระพุ ท ธบาท อ.ศรี เ ชี ย งใหม่ จ.หนองคาย นายวรรณพล ต่อพล นาย อำ�เภอศรีเชียงใหม่ เป็นประธานเปิด งานประเพณีสับปะรดหวานพระพุทธบาท ครั้ง ที่ 5 ประจำ�ปี 2560 จัดโดย อบต.พระพุทธบาท, อบต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ และ อบต.ด่าน ศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ร่วมกันจัด เพื่อ สืบสานวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น และส่ง เสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจของท้องถิ่นที่สร้าง รายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนสับปะรดในพื้นที่ อำ�เภอศรีเชียงใหม่ และอำ�เภอโพธิ์ตาก อีกทั้ง เพื่อประชาสัมพันธ์สับปะรดหวาน และส่งเสริม การท่องเที่ยว สร้างมูลค่าให้กับผลผลิตทางการ เกษตรกรชาวสวนสับปะรดด้วย โดยมีนายอชิร พั ฒ น์ สิ ง ห์ ท รายขาว นายก อบต.ด่ า นศรี สุ ข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย หัวหน้าส่วนราชการผู้ บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ กำ�นัน ผูใ้ หญ่ บ้าน ประชาชน ร่วมในพิธีจำ�นวนมาก สำ�หรับสับปะรด ถือเป็นพืชเศรษฐกิจใน การสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น ซึ่งเป็นพืชที่มีความ เหมาะสมกับสภาพภูมอิ ากาศ มีเอกลักษณ์โดดเด่น ทั้งรสชาติที่มีความหอม หวาน ไม่กัดลิ้นเหมือน สับปะรดทั่วไป มีคุณภาพดี สามารถนำ�ไปแข่งขัน ในระดั บ ประเทศหรื อ ส่ ง ออกไปจำ� หน่ า ย และ ผลผลิตจากสับปะรดหวานยังสามารถนำ�ไปแปรรูป เป็นสินค้าต่างๆ ทำ�ให้เกิดอุตสาหกรรมขนาดเล็ก จนถึงใหญ่ และเป็นสินค้า OTOP ที่ขึ้นชื่อให้กับ ประชาชนในเขตพื้นที่ตำ�บลพระพุทธบาท อำ�เภอ ศรีเชียงใหม่ และอำ�เภอโพธิ์ตาก
ภายในงานมี ก ารจั ด ขบวนแห่ สั บ ปะรด หวาน โดยทำ�การตกแต่งประดับประดารถด้วย การจำ � ลองสั บ ปะรดขนาดใหญ่ แ ละพื ช เกษตร พื้นเมืองออกมาเป็นรูปลักษณ์ที่สวยงาม มีขบวน เทิ ด ทู น สถาบั น และขบวนฟ้ อ นรำ � แห่ ไปตาม ถนนสายหลักของตำ�บลพระพุทธบาท นอกจาก นั้นยังมีการออกร้านนิทรรศการการเกษตรและ ชมสินค้า OTOP การแข่งขันประกวดสับปะรด หวาน, การแข่งขันกินสับปะรดหวาน, การแข่งขัน สับปะรดใหญ่, การแข่งขันประกวดธิดาชาวสวน, การแข่งขันประกวดธิดาสับปะรดหวาน และการ แข่งขันการประกวดตำ�สับปะรด พ.จ.อ.พิเชษฐ์ ไพรพะยอม นายก อบต. พระพุทธบาท กล่าวว่า งานวันสับปะรดหวาน พระพุทธบาท ครั้งที่ 5 ประจำ�ปี 2560 เป็นความ ร่วมมือกันระหว่าง อบต.พระพุทธบาท, อบต. บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ และ อบต.ด่านศรีสุข อ.โพธิต์ าก จ.หนองคาย เพือ่ เป็นการส่งเสริมการจัด งานวันสับปะรดหวานของชาวอำ�เภอศรีเชียงใหม่ และอำ � เภอโพธิ์ ต าก ส่ ง เสริ ม และพั ฒ นาด้ า น เศรษฐกิจของตำ�บลพระพุทธบาท ส่งเสริมและ พั ฒ นาการท่ อ งเที่ ย ว สร้ า งมู ล ค่ า ให้ กั บ ผลผลิ ต ทางการเกษตรของชุมชน และประชาสัมพันธ์ สับปะรดหวานของชาวสวนสับปะรดด้วย
ประกวดนางสาวชุมแพ ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ชกพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่น เป็นประธาน เ ปิ ด ก า ร ป ร ะ ก ว ด นางสาวชุ ม แพ ในงาน กาชาดประจำ � ปี รวม ของดีเมืองชุมแพ ครั้งที่ 16 ประจำ�ปี 2560 โดยมี นายพันธ์เทพ เสาโกศล นายอำ�เภอชุมแพ ร่วมในพิธี ณ เวทีกลางบริเวณสนามหน้าทีว่ า่ การ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น สร้างฝายหินทิ้งประชา อาสา ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ช กพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น ให้กำ�ลัง ใจและร่ ว มสร้ า งฝาย เสริมสร้างระบบนิเวศน์ ต้ น นํ้ า และฝายหิ น ทิ้ ง แบบประชาอาสา ประจำ� ปี 2560 โดยมี นายณัฐ วุฒิ ถุนนอก นายอำ�เภอบ้านฝาง ร่วมให้กำ�ลังใจ ณ ลำ�ห้วยยาง บ้านหนองคลองใหญ่ ต.ป่ามะนาว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น
หน้า 9
ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ประจำ�เดือนเมษายน 2560
ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 ผ่าน AIS Digital For Thais
เอไอเอส ภาคตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ ประกาศวิ สั ย ทั ศ น์ ปี 2 017 พร้ อ มยกระดั บ คุ ณ ภาพชี วิ ต ของคนไทย ก้ า วสู่ ป ระเทศไทย 4.0 ผ่านแนวคิด “AIS Digital For Thais” (เอ ไอเอส ดิจิทัล ฟอร์ ไทย) เตรียมความพร้อมของ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในพื้นที่ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ทั้งเครือข่าย Mobile Super Wifi และ Fixed Broadband (ฟิกซ์ บรอดแบนด์) เสริมความ แข็งแกร่งผนึกความร่วมมือกับพันธมิตร หนุน การนำ�ดิจทิ ลั ส่งเสริมการทำ�งานของภาครัฐ พัฒนา โครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้เข้มแข็ง นายอุดมศักดิ์ โสมคำ� ผู้ช่วยกรรมการผู้ อำ�นวยการส่วนงานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศนโยบาย ในการขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 ภายใต้แนวทางสานพลังประชารัฐ โดยมุ่ง เน้นการนำ�เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ ให้ส่ง เสริมศักยภาพการทำ�งาน รวมถึงสนับสนุนให้ภาค เอกชนเข้าไปมีสว่ นร่วมในการสนับสนุนโครงการ ต่างๆ ของภาครัฐ ดังนัน้ เอไอเอส ในฐานะ Digital Life Service Provider ซึ่งให้บริการด้านเครือข่าย การให้บริการดิจิทัล จึงพร้อมที่จะประกาศยืนยัน ว่า ในปี 2560 เราจะร่วมทำ�งานกับภาครัฐในการ มุ่งมั่นนำ�เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปสนับสนุน เสริม ความแข็งแรงในรากฐานหลักของประเทศ สร้าง โอกาสทางการเข้าถึง และความเท่าเทียมกันของ เทคโนโลยีสู่ประชาชน ผ่านแนวคิด “AIS Digital For Thais” ทีน่ �ำ ดิจทิ ลั เข้าไปเพิม่ ศักยภาพและสร้าง การเติบโต สู่ประเทศไทย 4.0 ตามนโยบายรัฐบาล การที่ ป ระเทศจะก้ า วสู่ ดิ จิ ทั ล ได้ นั้ น จะต้ อ งมี โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ด้านเครือข่าย การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง ภายหลังจากการ ประมูลคลืน่ 1800 MHz และ 900 MHz ชาวเอไอเอ สมุ่งมั่นทำ�งานอย่างหนักเพื่อพัฒนาเครือข่ายด้วย เทคโนโลยีที่ดีที่สุด ด้วยระยะเวลาเพียง 300 วัน เท่านั้น และวันนี้เครือข่าย AIS 4G จึงก้าวสู่เครือ ข่ายทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ครอบคลุมแล้วกว่า 98% ของพืน้ ที่ ประชากร โดยขณะนี ้ เอไอเอสมีลกู ค้ารวมทัง้ หมด 41 ล้านราย โดยยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดที่
49.5% (ตัวเลข ณ สิ้นไตรมาส 4 ปี พ.ศ.2559) นาย อุดมศักดิ์กล่าวและว่า การที่ เ อไอเอสมี ค ลื่ น ที่ ห ลากหลายจาก การประมูล ย่อมนำ�มาซึ่งความพร้อมในการต่อย อดสู่เทคโนโลยี IoT ที่เป็นรากฐานสำ�คัญในการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ จุดประกายใน การพัฒนาบริการสาธารณะ พร้อมก้าวสู่ Smart City อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้น เครือข่ายเอไอเอส จึงเป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เปิด ตัว เครือข่าย Narrowband IoT มาตรฐานระดับ โลก ที่จะรองรับการใช้งานอุปกรณ์ IoT ต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เอไอเอส ยังได้นำ� นวัตกรรมระดับโลกเข้ามาเสริมขีดความสามารถ เครือข่ายอย่างต่อเนือ่ ง ไม่วา่ จะเป็นการพัฒนาเครือ ข่าย4.5G ครัง้ แรกในโลก ซึง่ ได้มกี ารประกาศตัง้ แต่ ต้นปี 2559 จนได้รบั การรับรองจาก OOKLA Speed test ว่าเอไอเอสเป็นเครือข่ายโทรศัพท์เคลือ่ นทีท่ เี่ ร็ว ที่สุดในประเทศไทย นายอุดมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า สำ�หรับภาพ รวมการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปี 2560 เชื่อว่าจะ เติบโตถึง 300% โดยตลาดที่เติบโตมากที่สุดคือ Fixed Broadband และกลุม่ การใช้งานของอุปกรณ์ IoT ที่เข้ามาในตลาดอย่างชัดเจน อาทิ Wearable, Machine2Machine ซึ่งถือว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนใน การสร้างโอกาสใหม่ ยกระดับการบริหารจัดการ ธุรกิจและการใช้ชีวิตของคนไทยไปอีกขั้น ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจดิจิทัล ของไทยจะทำ � ให้ อุ ต สาหกรรมหลั ก แต่ ล ะด้ า น เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการขยายตัวเข้าถึงทุก พื้นที่ของ Digital Infrastructure 3 ส่วนหลัก คือ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง, สมาร์ทโฟนที่เติบโต มากกว่า 70 ล้านเครื่อง และ IoT มากกว่า 20 ล้าน รูปแบบ” “ในปีที่ผ่านมา ลูกค้าเอไอเอส มียอดการ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านมือถือสูงถึง 24 ล้านราย ในจำ�นวนนี้ 12 ล้านราย ใช้งานผ่านมือถือ 4G และ ใช้อินเตอร์เน็ตวันละ 6 ชั่วโมง โดยพบว่ามีการชม วีดีโอถึง 10 ล้านคลิปต่อวัน รวมถึงอัพโหลดภาพ วันละ 1.8 ล้านภาพ นับเป็นการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง” นายอุดมศักดิ์ กล่าว
แอป อสม.ออนไลน์ คว้ า รางวั ล ดี เด่นสาขาโครงการเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน เรือ่ งสุขภาพทีด่ ขี องคนไทย เป็น อีกเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำ�คัญมาโดย ตลอด โดยเฉพาะในยุคที่ประเทศไทย กำ�ลังก้าวเข้าสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 ที่ ภาครัฐมุ่งเน้นการนำ�เทคโนโลยีที่ทัน สมัยเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิตและ ขับเคลือ่ นเศรษฐกิจของประเทศ ซึง่ เป็น แนวทางเดียวกับเอไอเอสที่ต้องการยก ระดับคุณภาพชีวติ ทางด้านสาธารณสุข ชุมชนให้ดียิ่งขึ้น จึงพัฒนา แอปพลิเคชัน อสม. ออนไลน์ ขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสารสำ�หรับ การปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขชุมชนเชิงรุกของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำ�บล (รพ.สต.) และ เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำ�หมู่บ้าน (อสม.) ที่ช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงแพทย์ และการดูแลสุขภาพได้อย่างสะดวกและง่ายยิ่ง ขึ้น ด้ ว ยความมุ่ ง มั่ น ดั ง กล่ า ว ล่ า สุ ด แอป พลิ เ คชั น อสม.ออนไลน์ จากเอไอเอส ได้ รั บ การยอมรั บ คว้ า รางวั ล ดี เ ด่ น สาขาโครงการ เพื่ อ ธุ ร กิ จ ที่ ยั่ ง ยื น (Business Sustainability
Projects) จากเวที Thailand ICT Excellence Awards 2017 โดยมี นางวิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการ ผู้อำ�นวยการอาวุโส ส่วนงานประชาสัมพันธ์ เป็น ตัวแทนรับมอบรางวัลจาก ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สังคม โดยรางวัลนี้ นับเป็นรางวัลที ่ 10 ทีเ่ อไอเอส ได้รบั ในไตรมาสแรกของปี 2560 ซึง่ จะเป็นแรงผลัก ดันให้เอไอเอสรักษามาตรฐานการให้บริการทีม่ คี ณ ุ ภาพยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ ลูกค้าอย่างต่อเนื่องต่อไป
น้องอิม่ ท้องแฟรีอ่ มิ่ ใจครัง้ ที่ 48 ; ศูนย์สรรพสินค้าแฟรีพ่ ลาซ่า ขอนแก่น ร่วมกับรายการแสตมป์บญ ุ แฟรีพ่ ลาซ่า ปีที่ 2จัดกิจกรรมน้องอิม่ ท้องแฟรีอ่ มิ่ ใจครัง้ ที่ 48 เลีย้ งอาหารกลางวันพร้อมมอบทุนการ ศึกษามูลค่า 5,000 บาท ให้กับมูลนิธิช่วยเหลือเด็กบ้านลูกรัก จัดกิจกรรมที่เวทีชั้น 2 ศูนย์สรรพสิน ค้าแฟรี่พลาซ่า ขอนแก่น เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 19 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา
โตโยต้าแก่นนคร ฉลองรางวัล Best of the Best AWARD เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2560 ที่ห้องแกรนด์ ออคิด บอลรูม โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น บริษทั โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด จัดกิจกรรม “โตโยต้าแก่นคร ตามรอยพ่อทำ�ความ ดีก้าวสู่ทศวรรษที่ 2” เพื่อจัดงานเลี้ยงฉลองใน โอกาสที่ได้รับรางวัล President’s Award 2016 และรางวัล Best of the Best Award 3 ปีซอ้ น แห่ง แรกในจังหวัดขอนแก่น พร้อมแสดงการขอบคุณ ลูกค้า และมอบรางวัลให้กบั พนักงานทีม่ อี ายุงาน ตัง้ แต่ 5 ปีขนึ้ ไป โดยมี นายกิจ มหาจุนทการ ผูช้ ว่ ย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด เป็นประธานเปิดงาน และมี นักธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ลูกค้าและ พนักงานร่วมแสดงความยินดีและฉลองความ สำ�เร็จ
รศ.ระจิต ตรีพุทธรัตน์ ประธานกรรมการ บริ ษั ท โตโยต้ า แก่ น นคร จำ� กั ด กล่ า วถึ ง ความ สำ�เร็จและวัตถุประสงค์ของงานฯ ในครั้งนี้ และ คุ ณ กิ จ มหาจุ น ทการ ผู้ ช่ ว ยกรรมการผู้ จั ด การ ใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด กล่าวชื่นชมและแสดงความ ยินดีกบั ความสำ�เร็จในครัง้ นี ้ จากนัน้ ได้มอบรางวัล Best of the Best (รางวัลผลการดำ�เนินงานยอด เยี่ยม 3 ปีซ้อน) ประจำ�ปี 2560 ให้กับ รศ.ระจิต ตรี พุทธรัตน์,นายโชคชัย คุณวาสี ประธานกรรมการผู้ จัดการ บริษทั โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด รับมอบถ้วย รางวัล President’s Award 2016 จากนายสัญชัย ตรี ชิต ผู้อำ�นวยการฝ่ายขายบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด และนายสายันต์ ทรัพย์ปัญญา ดี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และผู้อำ�นวยการฝ่าย
ขายและการตลาด บริษัท โตโยต้ า แก่ น นคร จำ � กั ด รั บ มอบกรอบรู ป จากคุ ณ ศุภกร ธำ�รงชลพิสิฐ ผู้ช่วย กรรมการผู้ จั ด การใหญ่ อาวุโส สายงานการตลาด บริ ษั ท โตโยต้ า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด จากนั้น ผู้บริหาร บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด มอบโล่ และเงินรางวัลแก่ผู้จัดการขายยอดเยี่ยม และมอบ รางวัลสร้อยคอทองคำ� ให้กับพนักงานขายดีเด่น นายโชคชัย คุณวาสี กล่าวว่า โตโยต้าแก่น นคร มีอยู่ 4 สาขา สำ�นักงานใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนน มิตรภาพ ข้างบิ๊กซี, สาขาอำ�เภอหนองเรือ, สาขา อำ�เภอมัญจาคิรี และสาขาบ้านดอนหญ้านาง หน้า
เกษตรกรจังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง ดร.สรินทิพย์ สถิตย์เสถียร ผูอ้ ำ�นวยการฝ่าย สรรหาและพัฒนาอาหารสด เทสโก้ โลตัส กล่าว ว่ า เทสโก้ โลตั ส ให้ ค วามสำ � คั ญ กั บ การจั ด หา อาหารสดคุ ณ ภาพสู ง และมี ค วามปลอดภั ย ใน ราคาย่ อ มเยา ให้ ลู ก ค้ า ได้ เ ลื อ กซื้ อ ส่ ง ตรงจาก แหล่ ง เพาะปลู ก เพื่ อ ให้ ส ามารถตรวจสอบย้ อ น กลั บ ได้ ความต้ อ งการรั บ ซื้ อ ผั ก และผลไม้ ที่ ไ ด้ รั บ รองมาตรฐานของเทสโก้ โลตั ส มากขึ้ น ทุ ก ปี ปัจจุบันผลิตผลทางการเกษตรเกือบทั้งหมดที่ จำ�หน่ายในเทสโก้ โลตัส มาจากโครงการรับซื้อตรง หรือ direct sourcing โดยในปี 2559 เทสโก้ โลตัส รับซือ้ ผักและผลไม้สดตรงจากเกษตรกรทัว่ ประเทศ มากกว่า 150,000 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านั้น ที่รับซื้อทั้งหมด 100,000 ตัน ทั้งนี้ เทสโก้ โลตัส มีศูนย์กระจายสินค้า ภูมิภาคตั้งอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งทำ�ให้การรับ
ซื้อผลผลิตตรงจากเกษตรมี ความสะดวก รวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย ในปัจจุบันเทสโก้ โลตัส ได้ รับซื้อผลิตผลทางการเกษตร จากกลุ่มเกษตรกรบ้านโนน เขวา จังหวัดขอนแก่น ภายใต้ โครงการเทสโก้ โลตัส ประชา รั ฐ ร่ ว มใจ และต้ อ งการ สนับสนุนนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ของภาครัฐ จึง ได้สรรหาเกษตรกรจากโครงการเกษตรกรแปลงใหญ่ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำ�นวน 9 ราย เข้า ร่วมโครงการ BU Matching เกษตรแปลงใหญ่ เพื่อ ช่วยให้เกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และยังช่วยลดความเสี่ยงสินค้าล้น ตลาด ราคาตกตํ่าด้วย ขณะที่ เ กษตรกร 9 ราย ที่ ไ ด้ รั บ เลื อ ก ให้ เ ข้ า ร่ ว มโครงการจั บ คู่ ธุ ร กิ จ ได้ ผ่ า นเกณฑ์ คั ด
ค่ายศรีพชั รินทร อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยเน้นการ สร้างเป็นอาคารเขียว (Green Building) เพื่อให้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน สำ � หรั บ ลู ก ค้ า ที่ ส นใจรถยนต์ โตโยต้ า ทุ ก รุ่ น สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ 043-333444 ทุกวัน
เทสโก้ โลตัส ผนึกกระทรวงเกษตรฯ ขยายเครือข่ายผู้ผลิตสินค้า อาหารสด ส่งตรงเข้าศูนย์กระจายสินค้า เทสโก้ โลตัส ร่วมกับกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ สำ�นักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร จัดงานจับคู่ธุรกิจขยายโอกาสให้เกษตรกรจังหวัด ขอนแก่น เข้ากระบวนการสรรหาตรง ส่งผลิตผล ทางการเกษตรคุณภาพสูงเพือ่ จำ�หน่ายภายใน เทสโก้ โลตัส โดยจะช่วยสร้างรายได้ทมี่ นั่ คงให้กบั เกษตรกร ลดความเสี่ยงสินค้าล้นตลาด ซึ่งนำ�ไปสู่ปัญหาราคา ผลิตผลเกษตรตกตํ่า เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 ที่ห้องประชุม อเนกประสงค์สำ�นักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขต พื้นที่ 3 จ.ขอนแก่น นายนำ�ชัย พรหมมีชัย รองปลัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีงาน จับคูธ่ รุ กิจผลผลิตทางการเกษตร โดยมี นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต้อนรับเกษตรกร และผู้เข้าร่วมงาน และ ดร.สรินทิพย์ สถิตย์เสถียร ผู้อำ�นวยการฝ่ายสรรหาและพัฒนาอาหารสด เทส โก้ โลตัส พร้อมหัวหน้าส่วนราชการทีเ่ กีย่ วข้อง และ
โรงไฟฟ้านํํา้ พอง คว้ารางวัล TQC ตอกยํํา้ การบริหารองค์กรทีม่ มี าตรฐานระดับโลก
โรงไฟฟ้านํํ้าพอง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง ประเทศไทย (กฟผ.) หนึง่ ในเจ็ดองค์กรไทยคุณภาพ ที่ได้รับรางวัล “การบริหารสู่ความเป็นเลิศ หรือ Thailand Quality Class (TQC)” ประจำ�ปี 2559 จาก กระทรวงอุตสาหกรรม และสถาบันเพิ่มผลผลิต แห่ ง ชาติ แสดงถึ ง ความเป็ น เลิ ศ ในการบริ ห าร จัดการขององค์กรที่ทัดเทียมระดับมาตรฐานโลก เมือ่ วันที่ 23 มีนาคม 2560 ทีห่ อประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยนายสมชาย หาญ หิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน มอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ประจำ�ปี 2559 ซึ่ง เป็นรางวัลสำ�หรับองค์กรในประเทศไทยที่มีวิธี ปฏิบัติและผลการดำ�เนินการในระดับมาตรฐาน โลก ในการนี้ นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการ กฟผ.เข้ารับมอบรางวัล “การบริหารสู่ความเป็น เลิศ หรือ Thailand Quality Class (TQC)” ประจำ� ปี 2559 จากระบบบริหารจัดการของโรงไฟฟ้านํํ้า พอง อ.นํํา้ พอง จ.ขอนแก่น และโรงไฟฟ้าบางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีนายนิกูล ศิลา สุวรรณ รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า นายเชาวลิต ตั้ง ตระกูล ผูช้ ว่ ยผูว้ า่ การผลิตไฟฟ้า 1 นายอมรพันธ์ ลี ลาภรณ์ ผูช้ ว่ ยผูว้ า่ การผลิตไฟฟ้า 2 นายจรัญ คำ�เงิน ผูอ้ �ำ นวยการโรงไฟฟ้านํํา้ พอง นายยงยุทธ ปรีชม ผู้ อำ�นวยการฝ่ายการผลิตโรงไฟฟ้าบางปะกง พร้อม ด้วยคณะผูบ้ ริหาร และผูป้ ฏิบตั งิ าน กฟผ. ร่วมเป็น สักขีพยานในพิธีมอบรางวัล นายสมชาย หาญหิรญ ั ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เกณฑ์การรับรางวัลนี้จะเป็นส่วนหนึ่ง
ที่ทำ�ให้องค์กรมีการปรับตัวเพราะเกณฑ์การรับ รางวัลจะปรับเปลีย่ นไปตามเกณฑ์หรือทิศทางการ พัฒนาในระดับโลก ดังนั้นองค์กรในประเทศไทย ต้องมีการปรับตัว เปลี่ยนแปลงให้ทันต่อการปรับ ตัวของโลก ต้องมีการพัฒนาทัง้ วัฒนธรรม ผูป้ ฏิบตั ิ งาน และนวัตกรรม เพือ่ ให้แข่งขันได้ในระดับสากล อันจะส่งผลดีตอ่ เศรษฐกิจของประเทศโดยภาพรวม ซึ่งองค์กรที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ถือเป็นการแสดง ให้เห็นถึงวิสยั ทัศน์ และแผนการทำ�งานขององค์กร นายจรัญ คำ�เงิน ผู้อำ�นวยการโรงไฟฟ้านํํ้า พอง กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นของผู้ปฏิบัติงานใน การพัฒนาโรงไฟฟ้านํํ้าพอง เพื่อเสริมสร้างความ มั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ และเป็นที่ ยอมรับของชุมชนรอบโรงไฟฟ้า เรามีความเชือ่ มัน่ ในหลักการบริหารงานที่เป็นเลิศตามเกณฑ์รางวัล คุณภาพแห่งชาติ จึงนำ�มาปรับใช้ในการบริหาร งาน เพื่อพัฒนาระบบการทำ�งานแบบบูรณาการ ตอบสนองความต้ อ งการและสร้ า งคุ ณ ค่ า ร่ ว ม กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างสมดุลและยั่งยืน พร้อมนำ�ข้อเสนอแนะมาเป็นโอกาสในการพัฒนา ปรั บ ปรุ ง กระตุ้ น ให้ เ กิ ด การเรี ย นรู้ พั ฒ นาการ ทำ�งานที่เชื่อมโยงเป็นระบบ ส่งผลให้มีการดำ�เนิน งานผลิตพลังงานไฟฟ้าดีตอ่ เนือ่ งขึน้ ทุกปี รวมถึงมี การควบคุมมลสารทีอ่ อกจากกระบวนการผลิตและ ควบคุมคุณภาพนํํ้าทิ้งได้ในเกณฑ์ที่ดีกว่ากฎหมาย กำ�หนด ด้วยความทุ่มเทและมุ่งมั่นของทุกคนใน องค์กร ทำ�ให้โรงไฟฟ้านํํ้าพองได้รับรางวัลการ บริหารสู่ความเป็นเลิศ หรือ TQC ในปี 2559 ซึ่ง ส ง ก ร า น ต์ ข อ น แ ก่ น ม่วนหลาย ; สายการบิน แอร์ เ อเชี ย จั ด กิ จ กรรม สนุกๆ ต้อนรับเทศกาล สงกรานต์ขอนแก่นม่วน หลาย ตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน 2560 โดยจัดเวที เล่นนํ้า ณ บริเวณถนน ข้ า วเหนี ย ว ซึ่ ง ในปี นี้ มี ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและ ต่างชาติมาร่วมกิจกรรม อย่างคึกคัก
ขอนแก่ น ดิ น แดนดอก คูณ ; นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชา วิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น เป็นประธาน เปิดเทศกาลถนนดอกคูณ “ขอนแก่นดินแดนเสียง แคนดอกคูน” ซึง่ จัดขึน้ ที่ เส้นทางถนนกัลปพฤกษ์ ข้ า งศู น ย์ ป ระชุ ม อเนก ประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อเสริมสร้างอัตลักษณ์ของจังหวัด ที่จะสื่อถึงการเริ่มเข้าสู่เทศกาลดอกคูน เสียงแคน ประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน และถนนข้าวเหนียว
จะเป็ น แรงผลั ก ดั น ให้ ทุ ก คนพั ฒ นาโรง ไฟฟ้านํํ้าพองให้เป็น แหล่งผลิตไฟฟ้าหลัก ของภาคตะวั น ออก เฉียงเหนือ และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้ แก่ประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป ทัง้ นี้ กฟผ. นำ�แนวทางการบริหารคุณภาพ ทัว่ ทัง้ องค์กร (Total Quality Management : TQM) มาใช้ในหน่วยงานตั้งแต่ปี 2546 เพื่อสร้างระบบ งานให้มีคุณภาพ และส่งเสริมให้ทุกหน่วยงานนำ� ระบบมาตรฐานสากล ISO 9000 , ISO 14001 มาใช้ เพื่อให้สาธารณชนเกิดความมั่นใจในกระบวนการ ทำ�งาน โดยมีการปรับปรุงกระบวนการทำ�งานให้มี ประสิทธิภาพ มุง่ เน้นประโยชน์สงู สุดทัง้ ต่อองค์กร และต่อประชาชน รวมทั้งใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและ ชุมชนโดยรอบ ซึ่งส่งผลให้ กฟผ. ได้รับรางวัล TQC จากการบริหารงานที่เป็นเลิศของโรงไฟฟ้า นํํ้าพองและโรงไฟฟ้าบางปะกง โดยที่ผ่านมา โรง ไฟฟ้าแม่เมาะได้ปรับปรุงกระบวนการทำ�งาน เพื่อ ปรับให้มกี ารบริหารงานทีม่ คี ณ ุ ภาพสอดคล้องกับ เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ จนได้รบั รางวัล TQC ครัง้ ที่ 1 ในปี 2556 และครัง้ ที่ 2 ในปี 2558 ซึง่ กฟผ. จะมุง่ มัน่ ส่งเสริมให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ ทีด่ ยี งิ่ ขึน้ โดยเชือ่ มัน่ ว่าอนาคตจะพัฒนาการทำ�งาน จนได้รับรางวัล TQA ซึ่งมีเกณฑ์การประเมินใน ระดับที่สูงกว่าได้ในที่สุด รางวั ล คุ ณ ภาพแห่ ง ชาติ เ ป็ น รางวั ล อั น
เลื อ กมาตรฐานกั บ ทางเทสโก้ โลตั ส โดยเป็ น สิ น ค้ า ผั ก ผลไม้ ป ระเภท ลำ � ไย, ปลานิ ล , กุ้ ง ก้ามกราม, มะม่วง, กล้วยหอม ดร.สิรินทิพย์ กล่าวอีกว่า เทสโก้ โลตัส มี ความมุง่ มัน่ ทีจ่ ะทำ�ให้เกษตรกรไทยมีความเข้มแข็ง ทั้งในเรื่องมาตรฐานการเพาะปลูก การวางแผน การผลิต การจัดการ ตลอดจนการตลาด เพื่อให้ เกษตรกรไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพ สร้างผลผลิต ที่ตลาดมีความต้องการได้อย่างแท้จริง
ทรงเกี ย รติ ซึ่ ง ได้ รั บ การยอมรั บ อย่ า งกว้ า ง ขวาง เนื่องจากมีพื้นฐานทางด้านเทคนิคและ กระบวนการตัดสินรางวัลเช่นเดียวกับรางวัล คุ ณ ภาพแห่ ง ชาติ ข องประเทศสหรั ฐ อเมริ ก า ซึ่งเป็นต้นแบบรางวัลคุณภาพแห่งชาติที่หลาย ประเทศทัว่ โลกนำ�ไปประยุกต์ใช้ เป็นเครือ่ งหมาย แสดงถึงความเป็นเลิศในการบริหารจัดการของ องค์กรที่ทัดเทียมระดับมาตรฐานโลก เริ่มต้น ตั้งแต่มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่าง สถาบันเพิม่ ผลผลิตแห่งชาติและสำ�นักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2539 โดยมีสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่ง ชาติเป็นหน่วยงานหลักในการประสานความร่วม มือกับหน่วยงานต่างๆ ทัง้ ภาครัฐและเอกชน เพือ่ เผยแพร่ สนับสนุน และผลักดันให้องค์กรต่างๆ ทั้งภาคการผลิตและการบริการนำ�เกณฑ์รางวัล คุณภาพแห่งชาติไปพัฒนาขีดความสามารถด้าน การบริหารจัดการ และองค์กรที่ได้รับรางวัลจะ นำ�เสนอวิธีปฏิบัติที่นำ�องค์กรของตนไปสู่ความ สำ�เร็จเพื่อเป็นแบบอย่างให้องค์กรอื่นๆ นำ�ไป ประยุกต์ใช้ให้ประสบผลสำ�เร็จเช่นเดียวกัน
ถนนไก่ย่าง สงกรานต์เด็กน้อย เชื่อมรอยวัฒนธรรม คุ ณ ส ม ฤ ดี จิ ต ร จ ง ผอ.ภู มิ ภ าคภาคตะวั น ออก เ ฉี ย ง เ ห นื อ ท ท ท . เ ป็ น ประธานพิ ธี เ ปิ ด กิ จ กรรม “ถนนไก่ย่าง สงกรานต์เด็ก น้ อ ย เชื่ อ มรอยวั ฒ นธรรม” โดยมี คุ ณ กนกวรรณ ดุ ง ศรี แก้ว รอง ผอ.ททท.สำ�นักงาน จ.ขอนแก่น คุณชาติชาย โฆษะ วิ สุ ท ธิ์ ประธานกรรมการ บริ ห ารโรงแรมโฆษะ และ คุณภูวศิษฐ์ วีระปัญญาวัฒน์ ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห าร ฝ่ายปฏิบัติการ โรงแรมโฆษะ ให้ เ กี ย รติ ร่ ว มงานและให้ เด็ ก ๆได้ ร ดนํ้ า ขอพร เนื่ อ ง ในวันสงกรานต์ ณ ถนนไก่ ย่าง โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น
หน้า 10
ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ประจำ�เดือนเมษายน 2560
โรงแรม อวานี ขอนแก่น จัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้า
โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้า ในธีม “เดอะ เกรท แกสวานี”Thank You Party 2017เพื่อเป็นการขอบคุณผู้มีอุปการคุณที่ให้การสนับสนุนที่ดีเสมอมา โดยได้รับเกียรติจาก สุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น เป็นประธานกล่าวเปิดงาน ร่วมกับ มนต์สิทธิ์ สิงหาฤกษ์ Owner representative เนาวรัตน์ อรุณคง Cluster general manager สหพล ลัดดา Hotel manager และ Mr.Mark Alan Thomson Director of public relations & communications ภายในงานเต็มไปด้วยสีสันของชุดแต่งกายของผู้มาร่วมงานที่ใส่มาประชันเพื่อร่วมเล่นกิจกรรม พร้อมลุ้นของรางวัลพิเศษภายในงาน ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ต จากเต้น นรารักษ์ ศิลปินคุณภาพของเมืองไทย ที่มาร่วมถ่ายทอดบทเพลงอันไพเราะ และความสนุกสนานตลอดทั้งคืน
หน้า 11
ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ประจำ�เดือนเมษายน 2560 ห้ามนั่งกะบะ
• ต่อจากหน้า 1 ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ คือสาเหตุหลักที่ควรเน้นและ สงกรานต์เท่านั้น แต่จะลดอุบัติเหตุได้จริงหรือใน สร้างรายได้ให้กับจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นี้ ศูนย์การค้ายูดีทาวน์ ได้เตรียมสร้างปรากฏการณ์ ต้องใช้ประสบการณ์ เพราะหลายคนจะถูกมดแดง
นายโชคชั ย คุ ณ วาสี ประธานบริ ห าร บริษัท โตโยต้า แก่นนคร จำ�กัด เปิดเผยว่า ตลาด อุ ต สาหกรรมรถยนต์ ใ นปี 2560 นี้ หลั ง ผ่ า น ไตรมาสแรกอนุมานได้ว่า ภาพรวมของตลาดน่า จะดีขึ้น แต่จะดีขึ้นมากหรือน้อยไม่สามารถคาด เดาได้ เนื่องจากยังมีปัญหาที่น่าเป็นห่วงคือ พืชผล ทางการเกษตรซึ่งในขณะนี้ราคากำ�ลังดี แต่ไม่มี ผลผลิต หรือผลผลิตยังไม่ออกสู่ตลาด แต่ถ้าผลิต ออกสู่ตลาดแล้ว ราคาจะยังดีอยู่ไหม ปริมาณการ ผลิตจะเพียงพอกับความต้องการของตลาดหรือไม่ ปัญหาต่อมาคือหนีค้ รัวเรือนทีย่ งั มีอยู่ ประกอบกับ ดอกเบี้ยที่มีการปรับเพิ่มสูงขึ้น จึงทำ�ให้มีข้อจำ�กัด ในการซื้อรถยนต์ใหม่ แต่ทั้งนี้ ยังมีกระแสบวก ซึ่งเป็นทางออกคือการปลดล็อครถคันแรกที่ครบ กำ�หนด สามารถเปลี่ยนมือ หรือขายต่อได้ ทำ�ให้ มองได้วา่ ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนใี้ ห้มแี นว โน้มดีกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน คาดว่าตัวเลข โดยรวมปี 2560 นี้ น่าจะมียอดจำ�หน่ายมากกว่า 800,000 คัน สำ�หรับขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีสภาพ เศรษฐกิจค่อนข้างสูง หลายกระแสหลายปัจจัยที่ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมระดับประเทศ แต่ ข อนแก่ น จะไม่ ไ ด้ รั บ ผลกระทบโดยตรงจาก เศรษฐกิจโดยเฉพาะตัวเลขของยอดจำ�หน่ายรถยนต์ ในปีทผี่ า่ นมา ตัวเลขของจังหวัดขอนแก่นมียอดลด ลงราว 1% เมือ่ เทียบกับตลาดรวมซึง่ ไม่ถอื เป็นผลก ระทบมากนัก มองว่าในปีนี้ จังหวัดขอนแก่นซึง่ นับ เป็นตลาดย่อยจากภาพรวม น่าจะมียอดจำ�หน่ายใน ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวมมากกว่า 20,000 คั น ผลที่ ส่ ง ให้ ต ลาดอุ ต สาหกรรมดี ขึ้ น เป็ น ทา มลายน์ในเรื่องของการเลือกตั้งที่มีความชัดเจน ขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศจะผ่านพ้นวิกฤต ใดๆก็ตาม ต้องนำ�คำ�สอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 เข้ามาใช้เพื่อให้ประชาชนได้รู้จักคำ�ว่า พออยู่พอ กิน ทำ�ในสิ่งที่ตนเองถนัด มองว่าประเทศไทยเรา โชคดี ที่ มี ทั้ ง การปลู ก พื ช ผลทางการเกษตรและ พลั ง งาน แต่ ป ระเทศเราอาจไม่ พ ร้ อ มที่ จ ะเป็ น ประเทศเทคโนโลยีมากนัก ต้องมองฐานและสิ่งที่ ตนเองถนัด จะทำ�ให้ตัวเราและประเทศอยู่รอดได้ ประธานบริหาร บริษัท โตโยต้า แก่นนคร กล่าวต่อว่า ในด้านของการออกกฎหมายข้อบังคับ ใช้ว่าด้วยการจราจรทางบก โดยเฉพาะกรณีรัด เข็มขัดนิรภัยทุกทีน่ งั่ ในรถทุกประเภท ในกรณีหา้ ม นั่งในแคปรถกระบะ หรือห้ามนั่งท้ายรถกระบะ ก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีการผ่อนผันเลื่อนการจับกุมไป แล้วก็ตาม แต่จะขอให้ทุกท่านทำ�ความเข้าใจใน เรื่องของกฎหมายข้อบังคับ กฎหมายหลายฉบับ ของไทยเรายังล้าสมัย รวมทั้งการที่คนไทยเป็นคน ง่ายๆ สบายๆ ไม่คำ�นึงถึงความปลอดภัยมากมาย นัก จึงกลายเป็นคนที่ละเลยกฎระเบียบและข้อ ห้ามของกฎต่างๆ มาช้านาน ซึ่งมักจะได้ยินคำ�ว่า ทำ�อะไรก็ได้ตามใจ คือไทยแท้ ซึ่งถือว่าเป็นข้อเสีย ของคนไทยทีต่ อ้ งยอมรับ ในแง่ของกฎหมายซึง่ การ ออกมาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรัดเข็มขัดก็ดี การห้ามนั่งท้ายรถกระบะก็ดี ล้วนเป็นมาตรการ ที่นำ�ออกมาเพื่อช่วยลดอันตรายความรุนแรงจาก อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มองว่าเป็นความปรารถนาดี แต่ วิธีหรือจังหวะในการนำ�มาใช้อาจจะเร่งรัดมากไป รัฐบาลมองว่าทุกเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เป็นช่วงเดินทางของประชาชน และมักกลายเป็น โศกนาฏกรรมที่ เ กิ ด ขึ้ น จึ ง อยากป้ อ งกั น ให้ ล ด อุบัติเหตุ ลดความรุนแรงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงมีมาตรการบังคับใช้ กฎหมาย แต่ถา้ จะมองทีค่ วามเป็นจริง “อุบตั เิ หตุไม่ ได้เกิดจากการรัดเข็มขัดหรือไม่รดั เข็มขัด อุบตั เิ หตุ ไม่ได้เกิดจากมีคนนั่งที่ท้ายรถกระบะ หรือไม่มีคน นั่งที่ท้ายรถกระบะ” เพียงแต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว การรัดเข็มขัดจะช่วยเซฟความรุนแรงกับผู้ที่อยู่ใน รถนัน้ ๆ หรือ เมือ่ เกิดเหตุแล้วการไม่มคี นนัง่ ท้ายรถ กระบะ ก็จะไม่เกิดเป็นโศกนาฏกรรมความสูญเสีย ชีวติ จากผูท้ นี่ งั่ อยูท่ า้ ยรถกระบะนัน้ ๆ เป็นการแก้ที่ ปลายเหตุ ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุแห่งปัญหา การบังคับ ใช้กฎหมายในครั้งนี้เพียงแค่เมื่อเกิดเหตุแล้วจะไม่ รุนแรงก็เท่านัน้ เอง ดังนัน้ ควรต้องกลับมาพิจารณา หาวิธีแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ นายโชคชัย กล่าวต่อไปว่า การแก้ปัญหา
ทำ�อย่างจริงจัง การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับ ประชาชน ทำ�ความเข้าใจอย่างจริงจังต่อเนื่อง โดย กำ�หนดระยะเวลาทีเ่ หมาะสม ชัดเจนในการบังคับ และนำ�กฎหมายออกมาใช้อย่างจริงจัง รวมทั้ง บทลงโทษที่รุนแรง อาทิ หากพิสูจน์ได้ว่าเมาจริง ร่างกายไม่มีความพร้อมด้วยโรคที่มีอัตราเสี่ยงใน การเกิดอุบัติเหตุ บุคคลเหล่านี้ต้องเพิกถอนใบ อนุญาตขับขี่ ห้ามเป็นผูข้ บั ขีร่ ถทุกประเภทให้เป็น เพียงผู้โดยสาร หรือใช้ขนส่งมวลชนสาธารณะ เพราะประชาชนทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เดียวกันไม่ใช่เพียงแค่บังคับเป็นช่วงๆ เหมือนไฟ ไหม้ฟางไม่จริงจัง รวมถึงการปฎิบัติหน้าที่ของผู้ รักษากฎหมายทีต่ อ้ งทำ�ด้วยความบริสทุ ธิย์ ตุ ธิ รรม เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปโดยประชาชน ทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือในการปฎิบัติตามกฎ ทั้งนี้ ผู้รักษากฎหมายจะต้องมีความเท่าเทียมกัน การจับ ปรับ ต้องไม่มีสิ่งใดแอบแฝง ไม่ใช้ช่องว่าง ของกฎหมายเพือ่ ผลประโยชน์สว่ นตน ไม่วา่ จะรวย ล้นฟ้าหรือประชาชนหาเช้ากินคํา่ ทัว่ ไปต้องอยูภ่ าย ใต้กฎหมายเดียวกัน เชื่อว่าจะเป็นการกำ�จัดบุคคล ประเภทที่ไม่มีระเบียบวินัยให้หมดไปจากการใช้ รถใช้ถนนสาธารณะได้บ้าง ปั ญ หาหลั ก ของการเกิ ด อุ บั ติ เ หตุ หรื อ สาเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ�ทุกต้นเหตุล้วน มาจาก “คน” ความไม่มีระเบียบ ไม่มีวินัย ความ ประมาท ไม่มีความรับผิดชอบ อันดับสองมาจาก “รถ” สภาพรถไม่พร้อมใช้งาน ไม่มีการตรวจเช็ค ไม่บำ�รุงรักษา ไม่มีการตรวจเช็คสภาพก่อนการ เดินทาง ซึง่ ก็เกิดจากความไม่เอาใจใส่ของคนทีเ่ ป็น เจ้าของ ดังนั้น ต้องแก้ที่ “คน” อีกเช่นกัน และอีก ประเภทคือ ขนส่งมวลชนสาธารณะ ผู้ขับขี่มีการ พักผ่อนเพียงพอหรือไม่ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล ที่ประชาชนจำ�เป็นต้องใช้รถโดยสารสาธารณะ เป็นจำ�นวนมาก พนักงานขับรถไม่มีเวลาพักผ่อน สภาพร่างกายไม่พร้อม ล้วนเป็นอีกสาเหตุของ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลต่างๆ และจาก สถิติที่ผ่านมา จะเห็นว่าอุบัติเหตุซึ่งทำ�ให้เสียชีวิต ส่วนใหญ่คือ เมาแล้วขับ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ นั่นคือปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจังว่าควรแก้ไข อย่างไรให้เกิดความยั่งยืนเป็นรูปธรรมและใช้ด้วย ความเข้มงวดตลอดไปไม่เฉพาะเทศกาลเท่านั้น นายโชคชัย กล่าวต่อไปว่า ที่ประเทศไทย เราจะโชคร้ายตรงที่ ระบบการจราจรและผู้ขับรถ จะเห็นแก่ตัว ไม่มีวินัย ทำ�ให้รถที่ไม่ควรจะติดก็ ต้องติด อาทิ รถช้าขับเลนขวา รถทีเ่ ร็วกว่าต้องแซง ซ้าย รถทีเ่ ปลีย่ นความเร็วบ่อยๆ รวมถึงการเปลีย่ น เลนมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงกว่ารถที่แล่นมาด้วย ความเร็วใกล้เคียงกันหรือเท่ากัน ซึง่ ไม่มโี อกาสชน กัน ไม่เกิดอุบัติเหตุแน่นอน สาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุ คือความเร็วต่างกัน รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วและ มาเจอรถที่ช้ากว่าย่อมทำ�ให้เกิดการสะดุดจากการ เปลี่ยนเลน และอีกสาเหตุคือการหลับใน รวมถึง จังหวะพลั้งเผลอได้ ในช่วงเทศกาล แน่นอนไม่ สามารถใช้ความเร็วได้อยู่แล้วเพราะรถติด จึงต้อง ใช้ความเร็วตํ่าแต่ถ้าร่างกายพักผ่อนไม่พอก็จะเกิด อาการง่วง หลับใน และเกิดอุบัติเหตุตามมา การออกกฎมาในครั้งนี้เป็นแค่ปลายเหตุ ถ้าจะออกกฎหมาย พ.ร.บ.จราจร ควรต้องทบทวน ใหม่เพราะมองว่ายังไม่มีความเป็นสากลเท่าที่ควร การจะออกกฎข้อห้ามต้องอยูบ่ นพืน้ ฐานความเป็น จริง ปฎิบัติได้จริง คนที่ทำ�ผิด คนที่ไม่มีวินัยต้อง ลงโทษอย่างรุนแรง เพราะบุคคลเหล่านีจ้ ะทำ�ให้คน ทีต่ งั้ ใจทำ�ดีปฎิบตั ติ ามกฎ ต้องแปลงสภาพเป็นคน เห็นแก่ตวั ตามไปด้วย การลดอุบตั เิ หตุทใี่ ห้ผลอย่าง แท้จริงคือการทำ�ให้คนมีวนิ ยั เชือ่ ว่า อุบตั เิ หตจะลด ลงไปได้เอง แต่การออกกฎบังคับที่ปลายเหตุ ไม่มี วันแก้ปัญหาได้แน่นอน “คนทีบ่ งั คับใช้กฎหมายต้องบังคับใช้อย่าง จริงจังไม่อาศัยช่องว่างเพื่อผลประโยชน์ใดๆ คนที่ อยู่ภายใต้กฎหมายต้องเคารพกฎหมาย เรื่องของ อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ แต่อุบัติเหตุป้องกัน ได้ถา้ ผูข้ บั ขีม่ กี ารตืน่ ตัว มูลเหตุของการแข่งขันจน ลืมคำ�ว่า นํ้าใจ ลืมการมีวินัย และกลายเป็นความ เคยชินมายาวนาน แต่การออกกฎหมายต้องออก มาเพื่อสนับสนุนไม่ใช่บังคับ ต้องเหมาะสม การ ออกมาในช่วงนีเ้ พียงแค่ตอ้ งการลดอุบตั เิ หตุในช่วง
เมือ่ ทุกคนต้องเดินทางกลับภูมลิ ำ�เนา อย่างไรก็ตาม ควรต้องปรับและแก้ปญ ั หาทีต่ น้ เหตุ ทำ�ความเข้าใจ กับประชาชน และทำ�ให้จริงจังต่อเนือ่ ง เพือ่ ให้เกิด เป็นรูปธรรมภายใต้กฎหมายเดียวกัน” ประธาน บริหาร บริษัท โตโยต้า แก่นนคร กล่าว
สงกรานต์ขอนแก่น • ต่อจากหน้า 1 นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น เปิดเผยว่า การจัดงานในปีที่ผ่าน มา “งานประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาล ดอกคูนเสียงแคน และถนนข้าวเหนียว 2559” มี ประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำ�นวนมาก ได้มกี ารทำ�ลายสถิติ โดยในวันที่ 15 เมษายน ปีทแี่ ล้ว มีผมู้ าร่วมงานจำ�นวน 61,725 คน ใช้วธิ กี ารนับผูเ้ ข้า มาร่วมงานทั้งหมดด้วยระบบคอมพิวเตอร์แสกน จำ�นวนคนเข้าภายในงาน ในวันที่ 13-15 เมษายน มี ผู้มาร่วมงานจำ�นวนมากถึง 323,099 คน โดยมีเป้า หมาย 3 ปีทจี่ ะทำ�ลายสถิตโิ ลก ซึง่ จะแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ปี 2560 ตอนที่ 1 คลื่นมนุษย์สุดรางคู่ ,ปี 2561 ตอนที่ 2 คลืน่ มนุษย์สดุ ประตูเมือง และปี 2562 ตอน ที่ 3 คลื่นมนุษย์สุดศรีจันทร์ คาดหวังว่าจะเป็นการ ทำ�ลายสถิติอีกครั้งหนึ่ง ส่วนแนวคิดการจัดงานในปีน ี้ สืบเนือ่ งจาก ปีทแี่ ล้วมีปญ ั หาขาดแคลนนํา้ มีแนวคิดจะให้พนี่ อ้ ง ประชาชนใช้นํ้าอย่างประหยัด จึงจัดงานภายใต้ แนวคิด “ซิดแทนสาด ช่วยชาติประหยัดนํ้า” แต่ใน ปีนี้ฟ้าฝนตกตามห้วงเวลา ผู้บริหารจึงมีนโยบายจัด งานภายใต้แนวคิด “สาดโลด สาดเหลือแน้เด้อ” เพ ราะนํ้าปีนี้มีเหลือพวกเราจึงสาดนํ้า และเมื่อสาดนํ้า แล้วให้เหลือไว้ให้ใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ นายธีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า ยังคงเช่นเดิมทุกปี คือ การเสริมสร้างค่านิยมและจิตสำ�นึกที่ดีร่วมกัน ในการเล่นนํ้าสงกรานต์ที่สุภาพ มีความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนเป็นงานสงกรานต์ ทีส่ นุกได้โดยไม่ตอ้ งใช้แอลกอฮอล์ เพือ่ แก้ไขปัญหา การดื่ ม การทะเลาะวิ ว าท การแต่ ง กายและการ แสดงออกที่ไม่เหมาะสมของเด็กเยาวชน โดยงด รับการสนับสนุนจากบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำ � ให้ ส งกรานต์ ถ นนข้ า วเหนี ย วกลายเป็ น พื้ น ที่ เล่ น นํ้ า สงกรานต์ ที่ ป ลอดภั ย และเป็ น พื้ น ที่ ก าร แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ของเด็กเยาวชน จนกลาย เป็นแหล่งท่องเทีย่ วสำ�คัญแห่งหนึง่ ของประเทศไทย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และได้รับการยกย่องให้ เป็นต้นแบบการจัดงานสงกรานต์ตระกูลข้าวปลอด เหล้า สนุกปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์แห่งแรกของ ประเทศไทย นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ซึ่ง จ.ขอนแก่น โดยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้กำ�หนดจัดงานประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคู น เสี ย งแคนและถนนข้ า วเหนี ย ว ประจำ�ปี 2560 โดยกำ�หนดจัดกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 8-15 เม.ย.2560 ทำ�ให้ในขณะนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาว ไทยและชาวต่างชาติได้ทยอยเดินทางมาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น อย่างต่อเนือ่ งมากขึน้ ส่งผลต่อภาพรวม ทางเศรษฐกิจนั้นดีขั้นอย่างมาก ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของกลุม่ ผูป้ ระกอบการโรงแรมและทีพ่ กั พบว่าโรงแรมขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็กโดยรอบ ถนนข้าวเหนียว หรือตามแนวถนนศรีจันทร์ ซึ่ง เป็นจุดที่ใช้จัดกิจกรรมปิดถนนเล่นนํ้าสงกรานต์ นั้น มียอดการจองห้องพักไปมากกว่าร้อยละ 85 แล้ว หรือคิดจำ�นวนรวมแล้วกว่า 3,000 ห้อง ขณะ ที่พื้นที่บริเวณใกล้เคียงและพื้นที่ชานเมือง นักท่อง เทีย่ วเริม่ ทยอยจองห้องพักกันอย่างต่อเนือ่ งแล้วเช่น กัน ทัง้ นี้ ยังคงมั่นใจว่าจำ�นวนห้องพักภาพรวมของ จ.ขอนแก่น ทั้ง 26 อำ�เภอ ที่มีมากกว่า 70,000 ห้อง จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเล่นนํ้า สงกรานต์ปีนี้ได้ทั้งหมด นายเข็ ม ชาติ กล่ า วอี ก ว่ า จุ ด เด่ น ที่ เ ป็ น เอกลักษณ์ของการเล่นนํ้าสงกรานต์ของขอนแก่น คือ การเล่นนํ้าสงกรานต์แบบร่วมสมัย ที่ยังคงไว้ ซึ่งรากเหง้าของความเป็นขอนแก่น และความร่วม สมัยต่างๆ ทีเ่ กิดขึน้ จึงเป็นจุดเด่นทีน่ กั ท่องเทีย่ วให้ ความสำ�คัญและสนใจเดินทางมาเล่นนํ้าสงกรานต์ ที่ขอนแก่น ปีละไม่น้อยกว่า 200,000 คน และจะ
ปีนี้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท นอกจากการเล่นนํ้า สงกรานต์ที่ขอนแก่นแล้ว นักท่องเที่ยวยังเดินทาง ไปในกลุ่มจังหวัดภาคอีสาน เช่น บุรีรัมย์ อุดรธานี นครพนม หรือจะเดินทางไปในประเทศเพื่อนบ้าน ได้อีกด้วย ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น กล่าวด้วย ว่า เพือ่ เป็นการให้บริการกับนักท่องเทีย่ วทีต่ อ้ งการ อุปกรณ์ส�ำ หรับการเล่นนํา้ หอการค้าจังหวัดยังคงได้ จัดทำ�ขวดนํ้าไดโน่ ที่เป็นการนำ�เอาอัตลักษณ์ของ จังหวัดมาเป็นจุดขายสร้างเสน่ห์ให้กับการเล่นนํ้า สงกรานต์ในปีนี้ โดยขวดนํ้าดังกล่าวจะมีรูปทรง เป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ ภูเวียงโกโซรัสสิรินธรเน ที่ค้นพบใน จ.ขอนแก่น มาเป็นรูปแบบและจัดทำ� ขึ้นเพื่อจำ�หน่ายให้กับนักท่องเที่ยวในราคาขวดละ 10 บาท และ 20 บาท ซึ่งถือเป็นขวดนํ้าไดโนเสาร์ ที่แรกของโลก นอกจากนี้ ยังคงมีการจัดทำ�มาสคอ ตน้อง “ไดโน่” สัญลักษณ์ของจังหวัด พร้อมเพื่อนๆ ไดโนเสาร์ 4 สายพันธุท์ คี่ น้ พบที่ จ.ขอนแก่น มาร่วม กิจกรรมและสร้างสีสันให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งหาก ท่านใดอยากชมไดโนเสาร์รำ�วง, ฟ้อนรำ� หรือได โนเสาร์เต้ยหมอลำ� เชิญมาสัมผัสและร่วมกิจกรรม สงกรานต์ได้ที่ จ.ขอนแก่น
ยูดี ทาวน์
• ต่อจากหน้า 1
ในช่ ว งเทศกาลงานสงกรานต์ ปี 2560 นี้ จั ง หวั ด อุ ด รธานี มี ค วามคึ ก คั ก เป็ น อย่ า งมาก เนื่องจากจะมีหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ให้ ความสนใจใช้ พื้ น ที่ เ ป็ น สถานที่ จั ด งานมหา สงกรานต์ เ ป็ น จำ � นวนมาก เช่ น บริ ษั ท ไทย เบฟเวอเรจ จำ�กัด เลือกเอาพืน้ ทีบ่ า้ นเชียงเป็นสถาน ที่จัดงานมหาสงกรานต์ 1 ใน 3 แห่งทั่วประเทศ ดร.เกศินี สวัสดี วัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานี กล่าวในงานแถลงข่าวของจังหวัดอุดรธานีว่า ใน ระหว่ า งวั น ที่ 13-16 เมษายน 2560 สำ � นั ก งาน วัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ บริษัท ไทย เบฟเวอเรจ จำ � กั ด ร่ ว มกั น จั ด งานเทศกาลมหา สงกรานต์ปี 2560 ภายใต้แนวความคิดว่า “วิถีนํ้า วิถีไทย หม่วนหลาย..สงกรานต์ไทพวนบ้านเชียง” โดยจะจัดขึน้ ทีล่ านวัฒนธรรมบ้านเชียง ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลก ดินแดนอารยธรรม 5000 ปี เป็นงานเทศกาลมหา สงกรานต์ที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำ�กัด จัดขึ้นทั่ว ประเทศ 3 แห่ง และทีบ่ า้ นเชียงเป็น 1 ใน 3 แห่ง และ เป็นครัง้ แรกที่ บริษทั ไทยเบฟเวอเรจ จำ�กัด เลือกเอา พืน้ ทีบ่ า้ นเชียงฯ ในการจัดงานมหาสงกรานต์ในภาค อีสาน ดร.เกศินีฯ กล่าวอีกว่า สำ�หรับพื้นที่บ้าน เชียงแหล่งมรดกโลกบ้านเชียง เป็นพื้นที่ที่แฝงไว้ ด้วยเรือ่ งราวร่องรอยของอารยะธรรมโบราณและวิถี ชีวิตของไทพวนที่รอคอยการมาเยี่ยมเยือนของนัก ท่องเทีย่ วทัว่ ๆไป สำ�หรับกิจกรรมต่างๆ ในงานคณะ กรรมการจัดงานได้น�ำ เอากิจกรรมพิธมี งคล อาทิเช่น ตักบาตรวิถไี ทพวน ทีเ่ ป็นวิถชี วี ติ ในรูปแบบของชาว ไทพวน ที่เป็นพิธีที่มีเสน่ห์ในตัวของพิธีดังกล่าว พิธีแห่พระพุทธรูปสำ�คัญและพระพุทธรูปประจำ� หมูบ่ า้ นไปรอบๆหมูบ่ า้ น และพิธแี ห่ดอกสะกึง่ เป็น ดอกไม้ประจำ�ถิน่ สือ่ ถึงความอุดมสมบูรณ์ของพืน้ ที่ คล้ายๆกับขบวนแห่ต้นดอกไท้ของ อำ�เภอนาแห้ว จ.เลย ซึ่งมีเป็นเวลานานเป็นร้อยๆปีแล้ว เช่นกัน พิธสี รงนํา้ พระพุทธรูปประจำ�วันเกิดทีล่ าน บุญ ต่อด้วยพิธรี ดนํา้ ดำ�หัวขอพรจากพ่อเฒ่า แม่เฒ่า ผู้สูงอายุ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พิธีแต่งแก้ เสีย เคราะห์ หรือพิธสี ะเดานพเคราะห์ตอ่ ชะตาชีวติ เพือ่ ให้เกิดสิริมงคลแก่ชีวิต น อ ก จ า ก นี้ แ ล้ ว ก็ ยั ง มี กิ จ ก ร ร ม ล า น วัฒนธรรมไทพวนบ้านเชียงทีเ่ ก่าแก่ดงั่ เดิม กิจกรรม ขี่รถจักรยานท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของ ชาวบ้านเชียงและแหล่งประวัตศิ าสตร์ บ้านไทพวน สถานทีท่ พี่ ระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมพิ ล อดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ ทรงเสด็จทรงเยี่ยมชมการขุดค้นแหล่ง โบราณคดีบ้านเชียงครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2515 น.ส.อภิชา วีชาติยานุกลู ผูจ้ ดั การภาพลักษณ์ ขององค์กร บริษัท อุดรพลาซ่า จำ�กัด ผู้ดำ�เนินการ ศูนย์การค้า ยูดี ทาวน์ เปิดเผยว่า งานสงกรานต์ในปี
ใหม่ ด้วยการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี โดยร่วม กับ บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำ�กัด จับ มือร่วมกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท สิงค์ คอร์ปอเรชั่น จำ�กัด, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ต ติ้ง จำ�กัด, บริษัท ไทยประกันชีวิต จำ�กัด (มหาชน), บริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำ�กัด และบริษัท CMO จำ�กัด (มหาชน) ร่วมกันจัดกิจกรรมงานสงกรานต์ ” Wonder Water Land @ UD Town” ต่อเนื่องเป็นปี ที่ 8 ภายใต้แนวคิด “Bigger Longer Wilder Water Tunnel in Northeastern” หรืออุโมงค์นํ้าที่ใหญ่กว่า ยาวกว่า กว้างกว่า ในภาคอีสาน โดยการจัดพื้นที่ กว่า 8000 ตร.ม.แบบ 360 องศา รอบบริเวณจัดงาน เนรมิตให้กลายเป็นคอนเสิร์ต EDM ใหญ่-ยาว-สุด เพิ่มความมันส์ เต็มรูปแบบ 5 วัน 5 คืน 50 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 12 -16 เมษายน 2560 ให้นักท่องเที่ยวได้ เย็นฉํา่ สะใจและเพลิดเพลินไปกับ Foam Party เอาใจ ทั้งชาวอุดรธานี และชาวอีสาน โดยจะใช้พื้นที่บริเวณลานโปรโมชั่น ด้านที่ ติดกับถนนโพศรี เป็นสถานทีใ่ นการจัดงาน พืน้ ทีจ่ ดั งานปีที่แล้ว 3,000 ตร.ม. แต่ปีนี้ได้เพิ่มพื้นที่จัดงาน ขึ้นเป็น 8,000 ตร.ม. สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ ไม่นอ้ ยกว่า 4 แสนคน เพือ่ งานสงกรานต์ที่ ยู ดี ทาวน์ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 หวังให้เป็นงานส่งเสริมการท่อง เทีย่ วและส่งเสริมเศรษฐกิจจังหวัดอุดรธานี ได้ใช้งบ ประมาณในการจัดกิจกรรมครั้งนี้กว่า 50 ล้านบาท น.ส.อภิชา เปิดเผยว่า งานจะมีขึ้นตั้งแต่วัน ที่ 12 - 16 เมษายน และแต่ละวันจะมีไฮไลท์เด็ดๆ ที่ไม่ซํ้ากัน เพราะได้เชิญเหล่าบรรดาสุดยอดดีเจ ระดับโลก อาทิ VALENTINO KHAN , KILL THE NOISE และดีเจชัน้ นำ�ระดับประเทศ อาทิ DJ CLEO P, DJ YuKie , DJ Riviere , DJ IVY , Swindali & Joe Long และอีกกว่า 50 ชีวิต มาสร้างความมันส์ ในสไตล์ EDM พร้อมกับปาร์ตี้โฟมสุดหรรษาให้ได้ สนุกกันตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมี Highlight อื่นๆที่น่าสนใจ อาทิ ร่วมสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมของไทย เพื่ อ ให้ ส อดคล้ อ งกั บ ปี ท่ อ งเที่ ย ววิ ถี ไ ทยด้ ว ยการ อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐาน ณ บริเวณ ลานกิจกรรม ซอย1 เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ร่วม สรงนํ้าเพื่อเป็นสิริมงคล และกิจกรรมความบันเทิง ต่างๆ ช็อป ชิม ชิล บนถนนอาหารที่ได้รวบรวมสุด ยอดร้านอาหารชือ่ ดังจากทัว่ ทุกทีม่ าให้อมิ่ อร่อยกัน มากกว่า 100 ร้านค้า
พลิกวิกฤต
• ต่อจากหน้า 1
สถานการณ์ ภั ย แล้ ง เริ่ ม ทำ � ให้ เ กษตรกร ชาวนา ในหลายพื้นที่ของจังหวัดหนองคายไม่ สามารถประกอบอาชี พ ในช่ ว งนี้ ไ ด้ เพราะมี แหล่ ง นํ้ า ไม่ เ พี ย งพอ หลายพื้ น ที่ ข าดแคลนนํ้ า ทำ�การเกษตร ชาวบ้านต้องหยุดทำ�ไร่ทำ�นาหัน ไปประกอบอาชีพอื่น เพื่อหารายได้เสริมมาเลี้ยง ครอบครัว ทำ�ให้เกษตรกรบางกลุ่ม ที่หยุดพักการ ทำ�ไร่ทำ�นาซึ่งเป็นอาชีพหลักต้องปรับเปลี่ยนวิถี ชีวติ ใหม่ โดยการหันมาออกหา “แหย่ไข่มดแดง” ที่ ทำ�รังอยูบ่ นต้นไม้ทงั้ ในหมูบ่ า้ น และตามทุง่ นา เพือ่ นำ�ไปขายเป็นรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว แทนการ ทำ�การเกษตรในช่วงนี้ นางพิสมัย วีไลวรรณ อายุ 45 ปี ชาวอำ�เภอ โพธิ์ตาก จ.หนองคาย เปิดเผยว่า ใช้เวลาว่างจาก การทำ�นา ขับรถสามล้อออกหาแหย่ไข่มดแดงขาย โดยถือไม้ไผ่และฮวด ที่เป็นอุปกรณ์สำ�หรับแหย่ ไข่มดแดง ออกหาแหย่ไข่มดแดงตามต้นไม้ ทั้งใน หมู่บ้าน และตามทุ่งนา ซึ่งแต่ละวันสามารถหาไข่ มดแดงมาขายได้ไม่ตํ่ากว่าวันละ 600-900 บาทเลย ทีเดียว นางพิสมัย เล่าว่า อาชีพหลักของตนนั้น คือการทำ�ไร่ ทำ�นา แต่เมื่อมีเวลาว่างก็จะหาไข่ มดแดงมาขายเป็นรายได้เสริม ซึ่งทำ�มานานหลาย ปีแล้ว สำ�หรับการหาไข่มดแดงนัน้ ก็จะขับสามล้อ ตระเวนไปตามที่ต่างๆ โดยจะออกไปหารังมดแดง ในทุ่งนา หรือในหมู่บ้าน ตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งมดแดง จะชอบทำ�รังออกไข่บนต้นไม้หลายชนิด อาทิ ต้น สะเดา ต้นมะม่วง ส่วนจะรู้ว่ารังไหนมีไข่มากๆ นั้น ก็ต้องสังเกตรังที่มีใยขาวๆ อยู่ขอบรัง และ ถ้ารังไหนที่มีนํ้าหนักจนกิ่งไม้โน้มลงมา จะได้ไข่ มดแดงมากเป็นพิเศษ สำ�หรับการแหย่รังมดแดงก็
จำ�นวนมากกัด ทำ�ให้เกิดอาการแสบคันไปทั้งตัว นานหลายชั่วโมงเลยทีเดียว เมื่ อ ได้ ไ ข่ ม ดแดงมาแล้ ว ก็ จ ะนำ � มาแช่ นํ้าเพื่อทำ�การคัดแยกไข่ออกจากตัวมดแดง ซึ่ง วิธีคัดก็ต้องนำ�กระด้งมาฟัดออก เหมือนฟัดข้าว ทำ�ให้ไข่มดแดงซึ่งมีนํ้าหนักกว่าตัวมดแดงร่วงลง มา เป็นการคัดแยกไข่มดแดงตามแบบภูมิปัญญา ชาวบ้านทั้งนี้ไข่มดแดงที่หามาได้ จะขายในราคา กิโลกรัมละ 300-400 บาท ซึ่งบางวันก็หามาได้ 3-5 กิโลกรัม และขายดีมาก มีคนจองไว้หมดทุกวัน หา มาได้เท่าไหร่ก็ไม่พอ โดยเฉลี่ยจะสามารถขายได้ ประมาณวันละ 600-900 บาท แต่บางวันหาได้มาก ก็จะขายได้วันละกว่า 1,000 บาท เป็นรายได้เสริม สำ�หรับใช้ในครอบครัวได้ นางพิสมัย เล่าต่อว่า ทั้งนี้จะสามารถหา ไข่มดแดงได้ตลอดทั้งปี แต่มดแดงจะออกไข่มาก ที่สุดก็ช่วงหน้าแล้ง ช่วงนี้จึงสามารถหาแหย่ไข่ มดแดงมาขายได้มากที่สุด ส่วนลูกค้าที่ซื้อไปนั้น ก็จะนิยมนำ�ไปทำ�อาหารได้หลายชนิด อาทิ ยำ�ไข่ มดแดง ทอดไข่ไก่ใส่ไข่มดแดง และแกงไข่มดแดง ผักหวาน เป็นต้น จากการลงเดินสำ�รวจตามท้องตลาดทั่วไป พบว่า ไข่มดแดงมีราคาแพงมากกว่าเนื้อหมู เนื้อ วัว หลายเท่า ตกกิโลกรัมละ 700-1,000 บาท อยู่ ที่ความเต่งตึงของตัวไข่ พ่อค้าจะไปรับซื้อมาแบ่ง ขายกองละ 50 -100 บาท มีลูกค้านิยมซื้อไปปรุง เป็นอาหาร แกง ทอด ยำ� หรือก้อย ตามความชอบ เนื่องจากมีรสชาติอร่อย ยิ่งขึ้นร้านอาหารราคา จานละ 100-200 บาท เมนูยอดนิยมที่สุดคือ แกง ผักหวานใส่ไข่มดแดงและเห็ด เป็นอาหารพื้นบ้าน ที่อร่อยสุดๆ ใครก็อยากจะซื้อไปรับประทาน เป็น อาหารเลิศรสหารับประทานได้ยาก ในหนึ่งปีจะ มี “ไข่มดแดง” เพียงช่วงเดียว คือช่วงปลายเดือน กุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนของทุกปี
ขอนแก่นลิ้งค์
• ต่อจากหน้า 1
เมือ่ วันที่ 9 เมษายน 2559 ทีห่ อ้ งมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชา วิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานงานวันสถาปนา สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ครบรอบปี ที่ 19 พร้อมมอบโล่เกียรติยศและเงินรางวัลให้กับ สื่อมวลชนดีเด่น ประจำ�ปี 2559 โดยมี พ.ท พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสือ่ มวลชนจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการบริหาร ร่วมต้อนรับและจัดงาน ภายในงานมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำ�องค์กร และ นักธุรกิจ ร่วมแสดงความยินดีจำ�นวนมาก การจัดงานวันสถาปนาสมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น ครบรอบปีที่ 19 มีกิจกรรมต่างๆ ดังนี้ เมื่อวันที่ 6 เม.ย.60 คณะกรรมการบริหาร ได้ จัดพิธีทำ�บุญเลี้ยงพระเพล ที่สมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น โดยนิมนต์พระจำ�นวน 9 รูป จาก วัดวุฒาราม อ.เมือง จ.ขอนแก่น มาประกอบพิธที าง ศาสนา เพือ่ ความเป็นสิรมิ งคล และอุทศิ ถวายให้กบั สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่นที่ล่วงลับไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 เม.ย.60 เวลา 10.00 น. ที่ห้อ งมงกุฏเพชร โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น นางศศิธร ปรีชาวิทย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น เป็น ประธานพิธีมอบทุนการศึกษาให้บุตรสื่อมวลชน จั ง หวั ด ขอนแก่ น เนื่ อ งในวั น สถาปนาสมาคม สื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น โดยมี หั ว หน้ า ส่ ว น ราชการ นักธุรกิจ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมเป็น เกียรติจำ�นวนมาก พ.ท.พิ สิ ษ ฐ์ ชาญเจริ ญ นายกสมาคม สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมอบทุน การศึกษาแก่บตุ รสมาชิก สมาคมสือ่ มวลชนจังหวัด ขอนแก่นนั้น ถือเป็นกิจกรรมที่สมาคมฯ ได้ปฏิบัติ ต่อเนื่องกันมานานหลายปี โดยใช้เงินทุนของสมา คมฯ ที่ได้จากการจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล และที่ได้รับการสนับสนุนจากบุคคล หน่วยงาน และองค์กรต่างๆ ส่วนเกณฑ์การคัดเลือกผู้เข้ารับ อ่านต่อหน้า 2
สนใจพื้นที่โฆษณา ติดต่อ คุณสุพัตรา thaisaeree@gmail.com thaisaeree@yahoo.com
หน้า 12
ปีที่ 14 ฉบับที่ 155 ประจำ�เดือนเมษายน 2560
ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา สุพัตรา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,
ประคอง หนู ร าช,พั น ธ์ ศั ก ดิ์ วี ร ะชั ย ,เสริ ม ศั ก ดิ์ ขาวโกมล สำ � นั ก งาน 76 ม.20 ถ.กสิ ก รทุ่ ง สร้ า ง ต.ศิ ล า อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น 40000 โทรศั พ ท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย ภัทรวินทร์ ลีปาน 92 หมู่ 1 ต.บ้าน ่ รึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอือ้ ดีไซน์ 08-3417-0363 ว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 43110 โทรศัพท์ 087-8627979 E-mail : pattarawin2519@hotmail.co.th ทีป