ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 �เดือนพฤษภาคม “ครัประจำ ว โนนทั น ” ต้ น ตำ �2558 รั บ อาหารอี ส าน
า1 ปลานํ้ า โขง เปิ ด ให้ บ ริ ก าร 7 มิ ถุ น ายนนี้ แน่ หน้ น อน...
ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 ประจำ�เดือนพฤษภาคม 2558 ราคา 10 บาท
ตลาดนํ้าดื่มขอนแก่นรุ่ง แห่เปิดโรงนํา้ แข็งรับร้อน รับยอดขายนํ้าดื่มเกินเป้า เศรษฐกิจไทยปี58 รอเผาจริง แนวโน้ม
SMEsไปไม่ ร อด สานต่อไมตรีสัมพันธ์สองเมือง ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนคร ขอนแก่น และ MS.Guo Min รองนายกเทศมนตรีนครหนานหนิง ร่วมเจรจาและ ลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างเทศบาลนครขอนแก่น กับเทศบาลนครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในด้านต่างๆ ตลอด จนเพื่อกระชับมิตรภาพสองประเทศ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2558 ณ ภัตตาคาร บัวหลวง ริมบึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น
“กลุ่มประจักษ์ตรา”เปิด2โรงแรมใจกลางเมืองอุดรฯ ทุ่มกว่า1,000ล้าน ผุดโรงแรม5ดาวริมหนองประจักษ์ กลุ่มโรงแรมประจักษ์ตรา อุดรธานี เปิดแนวรุกทุ่มทุน กว่า 50 ล้านบาท เช่าที่ดินราชพัสดุผุดโรงแรมกลางเมือง อุดรธานี พร้อมลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ยึดทำ�เลทอง ริมหนองประจักษ์ สร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว แห่งแรกของ เมืองอุดรธานี คาดจะเปิดได้ปลายปี 2560 อ่านต่อหน้า 2
เ ล็ ง แ น ว โ น้ ม เศรษฐกิ จ ไทย ระดั บ ภู มิ ภ าคปี 2558 มีแต่ทรง จิรพงษ์ ดอกพุด กับทรุด ทุนใหญ่ หยุดเคลือ่ นไหว SMEs ยังไปได้ เรื่อยๆ แต่สุดท้ายอาจปิดตัวได้ ในที่สุด ขณะที่พ่อค้าหน้าใหม่ เพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 60-70% อ่านต่อหน้า 11
ตลาดนํ้ า ดื่ ม ขอนแก่ น ยั ง โต อย่างต่อเนื่อง รับอานิสงส์ภัย แล้ ง -ร้ อ นจั ด ผู้ ผ ลิ ต นํ้ า แข็ ง หลอดรายใหม่แจ้งเกิดเกือบ 20 ราย ทำ�ให้มีการแข่งขันสูง คาด อนาคตผู้ ประกอบการรายเล็ ก อยู่ลำ�บาก หากไม่ปรับตัวทำ�การ ตลาดเจาะกลุ่มลูกค้า อ่านต่อหน้า 11
5เทศบาลในเมืองขอนแก่น จับมือตั้งบริษัทจำ�กัดเทศบาล ไม่รองบประมาณจากภาครัฐ 5 เทศบาลในเมือง ขอนแก่น ลงนาม MOU จัดตั้งบริษัทจำ�กัด เทศบาล เพื่อพัฒนาระบบขนส่งมวลชน BRT ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ รองรับความเจริญ เติบโตของเมืองขอนแก่น อ่านต่อหน้า 11
คมนาคมจ่อสร้างรถไฟ “เมืองเก่า”รุกตลาดเฟอร์นิเจอร์ เร็วสูงสายอีสานเส้นแรก ขยายสาขาลงภาคใต้ รมว.คมนาคม ยํ้า 8 ปี เม็กกะ โปร์เจ็กส์ต้องเสร็จ คนไทยจะเห็น ความเปลี่ย นแปลงของประเทศ มัน่ ใจรัฐบาลทีเ่ ข้ามาใหม่จะสานต่อ งานที่วางไว้ เพราะเป็นประโยชน์ ต่อสังคม และยังกระตุน้ เศรษฐกิจ ได้เป็นอย่างดี อ่านต่อหน้า 11
สารทูล นิรมัยถาวร
“เมืองเก่าเฟอร์นิเจอร์” ไม่หวั่น เศรษฐกิจชะลอตัว พลิกวิกฤตเป็น โอกาส ทุ่มทุนกว่า 360 ล้านบาท ขยายสาขาลงภาคใต้ และเตรียม ลงเสาเข็ ม เปิ ด สาขาสุ พ รรณบุ รี กลางปี 58 ให้ ค รอบคลุ ม ทุ ก ภูมิภาคทั่วประเทศ อ่านต่อหน้า 11
หน้า 2
ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 ประจำ�เดือนพฤษภาคม 2558
เศรษฐกิจไทยปี58 • ต่อจากหน้า 11 ฟรี เพราะต้องการให้ผู้พักเลือกใช้บริการร้านค้า มีลูกค้าทั่วไปที่บอกต่อๆ กันไปทำ�ให้ต่อยอดธุรกิจ ได้ถงึ จะลดน้อยลงไปบ้าง แต่การบอกต่อกันไปของ ลูกค้าทำ�ให้มงี านเข้ามาเรือ่ ยๆ ไม่ขาดหายไปเลย ถึง แม้วา่ งานอลูมเิ นียมและงานต่อเติมฯ ทีส่ บื ทอดกัน มายังรับเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มมากขึ้นคืองานหน้า ร้าน ที่มาให้ทางร้านต่อตู้เพื่อขายอาหาร อาทิ ลูก ชิ้นปิ้ง/ทอด ขายผลไม้ ต่อรถเข็นก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โบราณ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแม่ค้ารายใหม่ที่หันมา จับการขายอาหารที่ลงทุนไม่มากนักเพื่อหาเลี้ยง ครอบครัวในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยมี ลูกค้าใหม่หน้าร้านเพิ่มขึ้นกว่า 60-70% นายจิ ร พงษ์ กล่ า วต่ อ ไปว่ า ตั้ ง แต่ ก่ อ น สงกรานต์ปีนี้ จะมีลูกค้าที่ให้ต่อตู้เพื่อเปิดร้านร้าน อาหารเล็กๆ ไปจนถึงการต่อรถเข็นเพิ่มมากขึ้น กว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำ�ให้มองว่า การบริหารงานใน ระดับประเทศอาจมีความจำ�เป็นที่ต้องมองภาพ ความเป็นจริงของประชาชนระดับรากหญ้าด้วย เพราะเศรษฐกิจจะเดินต่อไปได้หรือไม่ ขบวนการ ขับเคลื่อนที่แท้จริงคงไม่พ้นประชาชนระดับกลาง ลงมาถึงรากหญ้าทีจ่ ะเป็นตัวให้เกิดการใช้เงินหมุน สะพัดในทุกพื้นที่ เพราะนักลงทุน หรือนักธุรกิจระดับใหญ่ เมื่อมีผลกระทบก็จะชะลอการลงทุนและปล่อย ให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปตามกลไก เป็นผลกระทบ ให้ เ ศรษฐกิ จ ไม่ มี ก ารกระตุ้ น ให้ ก ระแสการเงิ น หมุนเวียน แต่ธุรกิจขนาดเล็กจำ�เป็นต้องพยุงตัว ให้ครอบครัวอยูร่ อด เพือ่ รอนักลงทุนเล็งหาทิศทาง และกระตุ้นให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ใน ระดับภูมิภาคและระดับชุมชน อย่างไรก็ตาม เชื่อ ว่าปีหน้าเศรษฐกิจของเมืองขอนแก่นจะกลับมา บูมอย่างแน่นอน
กลุ่มประจักษ์ตรา • ต่อจากหน้า 1 นายวี ร ะศั ก ดิ์ ศุ ภ ชั ย สาคร ประธาน กรรมการ กลุ่ ม โรงแรมประจั ก ษ์ ต รา จั ง หวั ด อุ ด รธานี เปิ ด เผยในโอกาสที่ ทำ� การเปิ ด กิ จ การ โรงแรมประจักษ์ตรา ซิตโี้ ฮสเต็ล ถนนราชพัสดุ ซึง่ เป็นโรงแรมในเครือธุรกิจของโรงแรมประจักษ์ตรา ดีไซน์โฮเต็ลแห่งที่ 2 ว่า สำ�หรับธุรกิจโรงแรมนั้น ตนได้เริม่ ต้นโครงการเมือ่ ปี พ.ศ.2553 ด้วยโครงการ โรงแรมประเภทบู ติ ค ชื่ อ โรงแรมประจักษ์ตรา ดีไซน์ โฮเต็ลที่ตั้งอยู่ที่ถนนศุภกิจจรรยา ริมหนอง ประจักษ์ศิลปาคม กลางเมืองอุดรธานี ถือว่าเป็น โรงแรมประเภทบูตคิ แห่งแรกของจังหวัดอุดรธานี ส่วนโรงแรมประจักษ์ตรา ซิตี้โฮสเต็ล ก็ เป็นธุรกิจโรงแรมทีพ่ กั อีกประเภทหนึง่ ทีไ่ ด้ลงทุน ไป 50 ล้านบาท ทั้งการก่อสร้างและเช่าที่ดินราช พัสดุ กรมธนารักษ์ เป็นระยะ 30 ปี สามารถต่อ สัญญาได้ เป็นโรงแรมผสมผสานในรูปแบบของ สแตนดาร์ดผสมกับบูตคิ ขนาดเล็ก ภายในประกอบ ด้วยอาคาร 2 หลัง อาคารแรกเป็นล็อบบี้ที่ชั้น 1 ส่วนชั้น 2 และชั้น 3 เป็นห้องประชุมขนาดจุได้ไม่ เกิน 50 คน ส่วนอาคารที่ 2 เป็นห้องพักจำ�นวน 53 ห้อง ประกอบด้วยห้องเตียงเดี่ยวดับเบิ้ล จำ�นวน 9 ห้อง และห้องเตียงคู่จำ�นวน 44 ห้อง นายวีระศักดิฯ์ กล่าวถึงสาเหตุทตี่ ดั สินใจมา ทำ�โรงแรมประเภทโฮสเต็ล แห่งนีถ้ อื ว่าเป็นโรงแรม ขนาดทีม่ ขี นาดเล็ก แต่มสี ถานทีต่ งั้ อยูก่ ลางใจเมือง ย่านธุรกิจของเมืองเดิมนัน้ ซึง่ เป็นทำ�เลทีม่ ศี กั ยภาพ มาก รายล้อ มไปด้ วยสถานที่สำ �คัญทุกด้าน ทั้ง สถานที่ราชการและย่านการค้าของเมืองอุดรธานี ทั้งนี้ ได้วางตำ �แหน่งให้เป็นโรงแรมสำ �หรับนัก ธุรกิจ นักเดินทาง ที่ต้องการความฉับไว สะดวก สบายใจกลางเมือง ในราคาเริ่มต้นที่ 800 บาท ต้องการให้บริการแก่ลกู ค้าทีเ่ ป็นนักธุรกิจที่ ต้องการทีพ่ กั ทีม่ คี ณ ุ ภาพสามารถไปติดต่อทำ�ธุรกิจ ได้งา่ ย มีความสะดวกเรียบง่าย ซึง่ จะไม่มอี าหารเช้า บริการ แต่จะให้บริการชา กาแฟ ขนมปังแก่ลูกค้า
ร้านอาหารที่อยู่รายล้อมที่มีความหลากหลายทั้ง อาหารไทย จีน เวียดนาม หรืออาหารพืน้ เมืองอีสาน ได้ทำ�ธุรกิจแบบพึ่งพาอาศัยกัน ซึ่งลักษณะแบบนี้ กำ�ลังเป็นที่นิยม และมีรถตู้รับ-ส่งไปยังสนามบิน หรือบริการไปยังสถานที่สำ�คัญในตัวเมือง “นอกจากนี้ แ ล้ ว เพื่ อ เป็ น การรองรั บ การเป็ น ประชาคมอาเซียน หรือ AEC ผมต้องการมาก และเน้นในเรื่องของความสะดวก สบาย ปลอดภัย โดยเฉพาะในการสร้ า งความประทั บ ใจให้ กั บ ลูกค้า เพราะเชือ่ ว่าจากการออกแบบห้องพักทีผ่ สม ผสานกัน และจุดเด่นของสถานที่ตั้ง ก็จะทำ�ให้ ลูกค้าทีม่ าใช้บริการของโฮเต็ลแห่งนี้ จะประทับใจ” นายวีระศักดิ์ฯ ยังเปิดเผยถึงการดำ�เนินธุรกิจอีกว่า ขณะนี้ได้มีการจัดซื้อที่ดินแปลงที่อยู่ ข้างหนอง ประจักษ์ศิลปาคมอีกกว่า 10 ไร่เศษ อยู่ห่างจาก โรงแรมประจักษ์ตราดีไซน์ โฮเต็ล ประมาณ 100 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นที่ดินแปลงใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่ใน เมืองขณะนี้ เพื่อที่จะเป็นพื้นที่ก่อสร้างโรงแรม แห่งที่ 3 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนกว่า 1000 ล้านบาท ซึง่ ขณะนีอ้ ยูร่ ะหว่างการออกแบบ และขออนุญาต สำ�หรับโครงการก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่ซึ่งเป็น แห่งที่ 3 ในเครือข่ายโรงแรมประจักษ์ตรา โดยจะ เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ขนาด 250 ห้อง ห้องประชุม ทีจ่ คุ นได้ถงึ 4,000 คน สระว่ายนํา้ ฟิตเนส สปา ห้อง อาหารทั้งในและนอกอาคาร ร้านกาแฟ รวมทั้งจะ มีการวางระบบภายในที่ทันสมัย ลูกค้าสามารถใช้ ไวไฟกับสิ่งอำ�นวยความสะดวกในห้องพักได้ เป็น โรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งแรกของจังหวัดอุดรธานี และในภาคอีสานตอนบน “ขณะนี้การออกแบบก่อสร้างใกล้จะเสร็จ เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถลงมือก่อสร้างได้ ในเร็วๆนี้ และจะสามารถเปิดกิจการได้ในกลางปี หรือปลายปี 2560 จะเป็นโรงแรมประเภทคอนเวน ชั่น ที่มีสิ่งอำ�นวยความสะดวกที่ครบครันทุกอย่าง ยกเว้นสถานบันเทิง เนื่องจากไม่มีนโยบายในการ ทำ�สถานบันเทิง กลุ่มเป้าหมายคือลูกค้าระดับพรี เมีย่ ม นักธุรกิจ ผูเ้ ข้าร่วมประชุมสัมมนาต่าง ๆ รวม ถึงนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ” นายวี ร ะศั ก ดิ์ ฯ กล่ า วว่ า ตนมี ค วามเชื่ อ มั่นในการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของจังหวัด อุดรธานี และมองเห็นว่าจังหวัดอุดรธานีมศี กั ยภาพ ในทุ ก ด้ า น เป็ น เมื อ งใหญ่ ข องภาคอี ส านและที่ สำ�คัญเมืองอุดรธานีได้ถกู กำ�หนดให้เป็นศูนย์กลาง ของ AEC ส่ ว นระยะคุ้ ม ทุ น ของกิ จ การธุ ร กิ จ โรงแรมแห่งใหม่นั้นอยู่ที่ระยะเวลา 10 ปี ขึ้นไป เนื่องจากว่าการทำ�ธุรกิจด้านที่พักโรงแรมนั้น ไม่ ได้เป็นธุรกิจที่สร้างผลกำ�ไรให้กับผู้ประกอบการ มากมาย แต่คนที่ทำ�ธุรกิจด้านนี้ ทำ�ด้วยความรัก และชอบในธุรกิจการบริการ และยังมีแผนที่จะไป ลงทุนธุรกิจโรงแรมในจังหวัดอื่น ๆ ในภาคอีสาน รวมถึงใน สปป.ลาว อีกด้วย ด้าน นายสุทัศน์ แพรสุรินทร์ เลขาธิการ สมาคมโรงแรมไทย ภาคตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ ตอนบน กล่าวให้ความเห็นที่สอดคล้องกับความ คิดแผนการการลงทุนของโรงแรมประจักษ์ตรา และในเครือว่า เป็นความคิดการลงทุนที่มีความ สอดคล้องกับความเจริญเติบโตในด้านธุรกิจด้าน นีใ้ นอนาคตของเมือง เนือ่ งจากในปัจจุบนั นีจ้ งั หวัด อุดรธานีมโี รงแรมขนาด 4 ดาว อยูเ่ พียงแห่งเดียวคือ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์คอนเวนชั่น มีห้องทั้งสิ้น 250 ห้องเศษ แต่ความต้องการของตลาดที่พักของ จังหวัดอุดรธานียังมีความต้องการอยู่อีกมาก ดังนี้ การลงทุนของโรงแรมประจักษ์ตรา จึงเป็นเรื่องที่ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่พักทั้งใน ปัจจุบนั และอนาคต เพราะปัจจุบนั จังหวัดอุดรธานี มีห้องพักในระดับ 3 ดาวลงมาเป็นจำ�นวนมาก ซึ่ง ยังไม่รวมกับทีเ่ ปิดกิจการกึง่ โรงแรม ทีน่ �ำ เอาอาคาร ทีพ่ กั อพาร์ทเม้นต์ ห้องพักรายเดือนมาเปิดเป็นห้อง พักรายวัน/คืน ซึ่งเป็นการทำ�ผิด พ.ร.บ.โรงแรม
เรือนและชุมชน ณ หอประชุมอำ�เภอเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น
อ บ ร ม เ พ า ะ เ ห็ ด ; ด ร . พ ง ษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง ว า นิ ช กพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่ น เป็ น ประธาน เปิ ด โครงการอบรมส่ ง เสริมอาชีพการเพาะเห็ด ใ ห้ กั บ ก ลุ่ ม เ ก ษ ต ร ก ร อำ�เภอเขาสวนกวาง เพื่อ เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิด ประโยชน์ ลดค่าใช้จ่าย ภายในครอบครั ว และ เป็นการสร้างกิจกรรมการ ส่งเสริมอาชีพภายในครัว
หมู่บ้านรวยสุข 428/17 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ออกแบบ/ผลิต
ป้ายไวนิล ป้ายโฆษณา ธงญี่ปุ่น สติ๊กเกอร์ นามบัตร
ใบปลิว การ์ด แผ่นพับ โปสเตอร์ สื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ติดต่อ ยิ้ม 0834170363 E-mail : smile7738@gmail.com
ส่งซิม “แฮปปีไ้ ว้LINE” เล่น LINE ได้สนุกขึน้ และง่ายกว่าเดิม แฮปปี้ส่งซิม “แฮปปี้ไว้LINE” ครั้งแรกใน โลกที่ให้ฟรี LINE Bonus จากทุกยอดการใช้งาน เพื่ อ ซื้ อ สติ ก เกอร์ ธี ม และไอเทมเกม พร้ อ ม เล่น 12 แอพฯสุดฮิตในเครือ LINE ฟรี นายศรุต วานิชพันธุ์ (ที่ 2 จากซ้าย) รอง ผู้อำ�นวยการ ฝ่ายการตลาด และ คุณโปรดปราน หมื่ น สุ ก แสง (ที่ 2 จากขวา) ผู้ ช่ ว ยผู้ อำ � นวยการ ฝ่ายการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิ เคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรือดีแทค พร้อมด้วย คุณ เอื้อสุข ตันเรืองศรี (กลาง) Head of Partnership & Retail บริ ษั ท ไลน์ ประเทศไทย ร่ ว มกั น ส่ ง ซิม “แฮปปี้ไว้LINE” ซิมใหม่จากแฮปปี้ครั้งแรก ในโลกที่ให้ลูกค้าแฮปปี้ที่เป็นสาวก LINE สามารถ เล่น LINE ได้สนุกขึ้นและง่ายกว่าเดิม เมื่อลูกค้า
เบอร์แฮปปี้ใช้งานครบ 100 บาท จะได้รับ LINE Bonus 15 บาทฟรี ทั น ที สำ � หรั บ นำ � ไปซื้ อ ของ ผ่าน store.line.me อาทิ LINE สติกเกอร์ใหม่ๆ, LINE ธี ม น่ า รั ก ๆ หรื อ จะเป็ น ไอเทมเกมที่ จ ะ ทำ � ให้ เ ล่ น เกมในเครื อ LINE แข่ ง กั บ เพื่ อ นได้ สนุ ก มากขึ้ น พิ เ ศษยิ่ ง ขึ้ น สำ � หรั บ ลู ก ค้ า ที่ เ ปิ ด ใช้ ซิม “แฮปปี้ไว้LINE” วันนี้ จะได้รับสติกเกอร์ตัว ละครที่ ร ะลึ ก จาก LINE และแฮปปี้ ใ นแพ็ ก ซิ ม ทันที พร้อมรับสิทธิ์เล่นฟรี 12 แอพพลิเคชั่นสุด ฮิตในเครือ LINE ไม่อั้นนาน 1 เดือน อาทิ LINE messenger, LINE dictionary, LINE DECO, LINE camera หรือ aillis, LINE Shop, Webtoon, LINE rangers, LINE POP2, Cookie Run, LINE Let’s Get Rich, LINE Bubble 2 และเกมส์ใหม่ LINE Paper
Dash World (สำ � หรั บ เดือนที่ 2-6 คิดค่าบริการ เพียงเดือนละ 49 บาท) สำ � ห รั บ ลู ก ค้ า ระบบเติ ม เงิ น ปั จ จุ บั น สามารถเปลี่ยนมาใช้โปร โมชั่นแฮปปี้ไว้ LINE ได้ ง่ า ยๆ เพี ย งกดสมั ค ร ที่ *103*777# โทรออก ค่าบริการเปลี่ยนโปรโม ชั่นเพียง50 บาทเท่านั้น รับสิทธิใช้ฟรี 12 แอพพลิ เคชั่นในเครือ LINE ไม่อั้น 1 เดือนเช่นกัน ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th
เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น สร้างถนนสาย ช๓
จังหวัดขอนแก่นถือเป็นศูนย์กลางของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากเชื่อมโยงการ เดินทาง การขนส่ง ของจังหวัดแล้ว ขอนแก่น ยังเป็นประตูสู่ประเทศกลุ่มอินโดจีนในพื้นที่ลุ่ม นํ้าโขงอีกด้วย ดังนั้น ความต้องการที่ใช้เส้นทาง เพื่อการคมนาคม และการขนส่งจึงมีปริมาณเพิ่ม ขึ้นตามความเจริญเติบโตของเมืองทั้งในปัจจุบัน และอนาคต โครงการก่อสร้างถนนตามผังเมือง รวม ถนนสาย ช๓ ผังเมืองรวมเมืองขอนแก่น เป็นโครงการที่ได้ร่วมกันพิจารณาความเหมาะ สม เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาความแออัดของที่อยู่ อาศัย ปัญหาการจราจร และเป็นการเชื่อมโยง เครือข่ายให้มีความสมบูรณ์ โดยมีกรมทางหลวง ชนบท ดำ�เนินการสำ�รวจและออกแบบสำ�รวจเพือ่ การเวนคืนที่ดิน และก่อสร้าง ให้เป็นไปตามหลัก วิชาการพัฒนาเมืองต่อไป สำ � หรั บ หลั ก เกณฑ์ ใ นการคั ด เลื อ ก ประกอบด้วย ๓ หลักเกณฑ์ คือ เกณฑ์ทางด้าน วิศวกรรมและการจราจร เกณฑ์ด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และ เกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งแต่ละ เกณฑ์ได้มีการเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียแต่ละ ทางเลื อ ก เพื่ อ คั ด เลื อ กแนวทางที่ เ หมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพืน้ ที่ ให้มีความเหมาะสมมากที่สุด และจากการสำ�รวจ แนวทางที่จะเป็นไปได้แบ่งเป็น ๔ ทางเลือก ซึ่ง เปิดให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็น โดย กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม เปิด รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในการสำ�รวจ ออกแบบรายละเอียด โครงการก่อสร้างถนนตาม ผังเมืองรวมเมือง “ถนนสาย ช๓” ผังเมืองรวม เมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โดยมีรปู แบบทาง เลือกถนนโครงการรวม ๔ รูปแบบ แบบทางเลือก ที่๑ (แผนที่ผังสีแดง) ระยะทาง ๘,๙๓๕ กม. แบบ ทางเลือกที่๒ (แผนที่ผังสีม่วง) ระยะทาง ๘,๔๕๖ กม. แบบทางเลือกที่๓ (แผนที่ผังสีเหลือง) ระยะ ทาง ๘,๙๓๘ กม. แบบทางเลือกที่๔ (แผนที่ผังสี ฟ้า) ระยะทาง ๘,๗๔๙ กม. นายชูศักดิ์ อัศวเมนะกุล รักษาราชการ แทนผูอ้ �ำ นวยการแขวงทางหลวงชนบทขอนแก่น กล่าวว่า การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของ ประชาชนที่ มี ต่ อ โครงการก่ อ สร้ า งถนนตาม ผังเมืองรวมเมืองขอนแก่น สาย ช๓ รวม ๓ ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่โรงแรมบุษราคัม วันที่ 9-10 เมษายน เทศบาลตำ�บลบ้านเป็ด และวันที่ 1 พฤษภาคม 2558 ณ ห้องประชาสโมสร โรงแรม เซ็นทารา คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ขอนแก่น โดยมี นายศิวโรจน์ มุ่งหมายผล รองผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่ น เป็ น ประธานในการประชุ ม รั บ ฟั ง ความคิดเห็นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ ประชาชนที่สนใจเข้ารับฟังอย่างเนืองแน่น จากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ โครงการรวม 3 ครั้ง ที่ประชุมซึ่งเป็นประชาชน ในแนวเขตสำ�รวจลงมติเลือก ถนนสายที่ ๓ (สี เหลือง) โดยสรุปแนวสายทางโครงการมีจดุ เริม่ ต้น จากทางหลวงหมายเลข ๑๒ (ถนนมะลิวัลย์) กม.
๕+๕๕๐ ลงมาทางใต้ผ่านถนนศรีจันทร์บริเวณ ด้านตะวันตกบึงหนองโคตร ลงมาทางใต้ประมาณ กม.๓+๐๐๐ เลี้ยวไปทางตะวันออกประมาณ ๑.๒ กม.มุง่ หน้าไปทางโรงเรียนแก่นวิทยาลัย๒ เลีย้ วลง ทิศใต้ตดั ผ่านถนนเหล่านาดีประมาณ กม.๓+๖๐๐ ลงมาทางใต้อีกประมาณ ๑ กม. แล้วเลี้ยวไปทาง ทิศตะวันออกผ่านด้านเหนือสนามม้าขอนแก่น ผ่ า นสนามไดร์ ฟ กอล์ ฟ ตั ด ผ่ า นถนนมิ ต รภาพ บริเวณ กม. ๓๙+๔๕๐ ตัดผ่านทางรถไฟตรงไป สิ้นสุดโครงการที่ทางหลวงหมายเลข๒ เดิม กม. ๗๓+๖๗๕ บริเวณโกดังรองเท้า ตรงข้ามทางเข้า หมู่บ้านการเคหะชุมชนขอนแก่น รวมระยะทาง ประมาณ ๙ กิโลเมตร นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า ถนนสาย ช๓ จะ เป็นยุทธศาสตร์ระบบขนส่งการคมนาคมทางบก เชือ่ มโยงทัง้ เครือข่ายการค้า การลงทุน การบริการ และการคมนาคมขนส่งในภูมิภาคสู่สากล ไปยัง กลุ่มประเทศอินโดจีน และยังช่วยแก้ปัญหาการ จราจรที่หนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วนได้อีกด้วย โดยกรมทางหลวงชนบท ได้ท�ำ การว่าจ้างบริษทั ที่ ปรึกษาให้ด�ำ เนินการสำ�รวจเส้นทางใหม่ พร้อมทัง้ งานสำ�รวจออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้าง ถนนตามผังเมืองรวม ถนนสาย ช๓ ผังเมืองรวม ขอนแก่น ภายใต้แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่ง พ.ศ.2558-2565 โดยกำ�หนด เส้นทางสำ�รวจและก่อสร้าง ถนนสาย ช๓ เพื่อ รองรับการเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้า การบริการ การท่องเที่ยวและนันทนาการ ให้ประชาชนได้ ใช้เป็นสาธารณะประโยชน์ แต่ทั้งนี้ ต้องรองรับ ปัญหาด้านการจราจรที่อาศัยโดยรอบโครงการ และประชาชนที่มีความจำ�เป็นได้ใช้เส้นทางดัง กล่าว คุณกฤษณา บุญญจันลานนท์ ผู้จัดการ โครงการฯ เปิดเผยว่า หลังได้ผลสรุปโครงการ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนซึ่งเห็นควรใช้ ทางเลือกที่ ๓ ในเบื้องต้น จากการสำ�รวจที่ดิน ถูกเวนคืนรวม ๒๒๘ ไร่ (๒๗๐ แปลง) มีผลกระ ทบจากบ้านเรือนประชาชนรวม ๒๗ หลัง โกดัง รองเท้า ๑ หลัง สนามไดร์กอล์ฟ ๑ แห่ง มูลค่า การเวนคืน ประมาณ ๗๓๐ ล้านบาท ส่วนรูป แบบถนนสาย ช๓ เป็นถนนขนาด ๔ ช่องจราจร มีทางเท้าและทางจักรยานอยู่บนทางเท้า พร้อม ท่อระบายนํ้าใต้ทางเท้าขนาดท่อ ๑.๒๐X๑.๒๐ ม. ยกระดับเป็นสะพานข้ามบริเวณตัดถนนเหล่า นาดี ถนนมิตรภาพ และทางรถไฟ โดยประมาณ มูลค่าการก่อสร้างประมาณ ๑,๔๐๐ ล้านบาท รวม มูลค่าการลงทุน ๒,๑๓๐ ล้านบาท ใช้ระยะเวลาใน การก่อสร้าง ๒-๓ ปี โดยจะมีการสำ�รวจออกแบบถนนในปี ๒๕๕๘ และออก พ.ร.ฎ.เวนคืนทีด่ นิ ในปี ๒๕๖๐ สำ�รวจอสังหาริมทรัพย์พร้อมกำ�หนดค่าทดแทน และประกาศฯ ในปี ๒๕๖๑ ทำ�สัญญาจ่าย-รับเงิน ค่าเวนที่ดินคืนในปี ๒๕๖๒ และเริ่มดำ�เนินการ ก่อสร้างในปี ๒๕๖๓ – ๒๕๖๕ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่การ สั่งจ่ายงบประมาณตามกำ�หนด
ประกาศ
นายนเรศร์ เคนมาตร ได้พ้นสภาพจากการเป็นพนักงาน บริษัท เอ็ม.ซี.เชน จำ�กัด นับตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2555 เป็นต้นไป การกระทำ�ใดๆของบุคคลดังกล่าว ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
ผู้ให้ประกาศ
นายภูริทัต ศรีเจริญ บริษัท เอ็ม.ซี.เชน จำ�กัด เลขที่77/62 อาคารสินสาธรทาว์เวอร์ ถนน กรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม.10600 เบอร์โทรศัพท์ 02-4400322 ต่อ 552
เอไอเอส ส่งท้ายแคมเปญ พรี เ มี ย ร์ ลี ก สุ ด ยิ่ ง ใหญ่ ; คุณพงษกรณ์ คอวนิช ผู้ อำ � นวยการส่ ว นงาน สื่อสารและกิจกรรมการ ตลาด เอไอเอสร่วมแสดง ความยินดี และพาลูกค้า เอไอเอสผู้โชคดี ที่สมัคร ใช้ แ พ็ ก เกจ เอไอเอส พรีเมียร์ลีก บินลัดฟ้า ชม ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดคู่ บิ๊กแมตซ์ เชลซี ปะทะ ลิเวอร์พูล ถึงสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ประเทศอังกฤษ พร้อมแพ็กเกจเที่ยว มหานครลอนดอน เป็นทริปส่งท้ายแคมเปญ โดยมีดาราดัง นานา-เวย์ ไทย์เทเนี่ยม และฟิล์ม-รัฐภูมิ ร่วมชมความมันส์ติดขอบสนามอีกด้วย วั น แ ร ง ง า น แ ห่ ง ช า ติ ขอนแก่ น ; นายกำ � ธร ถาวรสถิยต์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน“วัน แรงงานแห่งชาติจังหวัด ข อ น แ ก่ น ” ป ร ะ จำ � ปี 2558 เพื่ อ สร้ า งความ สมานฉันท์ให้กับองค์กร ระหว่ า งนายจ้ า ง ลู ก จ้ า ง ไ ด้ มี กิ จ ก ร ร ม ร่ ว ม กั น อาทิ ช่วยกันปลูกต้นคูน แข่งขันวอลเลย์บอลชายหญิง โดยมีหัวหน้าหน่วย งาน ส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ใช้แรงงาน ร่วมงาน ณ บริเวณบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น
หน้า 3
ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 ประจำ�เดือนพฤษภาคม 2558
“ไทยเสรี” ย่างก้าวเข้าปีที่ 13
ย้อนหลังกลับไปเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2546 เป็นวันฤกษ์งามยามดีที่หนังสือพิมพ์ท้อง ถิ่นของจังหวัดขอนแก่น จากฝีมือคนทำ�วิทยุได้ ถือกำ�เนิดขึ้น ในนาม “ไทยเสรี” ที่โรงพิมพ์รุ่งกิจ จ.นครสวรรค์ อย่างทุลักทุเล หนังสือพิมพ์ทอ้ งถิน่ มาจากจิตสำ�นึกของ คนท้องถิ่นที่มุ่งแสวงหาความถูกต้องในฐานะที่ เป็นส่วนหนึ่งของสังคมท้องถิ่นนั้น ดังนั้นการ ผลิตสือ่ ออกมาในรูปหนังสือพิมพ์ ก็เพือ่ ใช้เป็นสือ่ กลางในการถ่ายทอดเหตุการณ์ ปัญหาต่างๆ ทีเ่ กิด ขึ้นในรูปแบบข่าว บทความ ที่วิจารณ์เหตุการณ์ หรือปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้คนในท้องถิ่นได้รับรู้ และรวมไปถึงการมีสว่ นร่วมในการแก้ปญ ั หาหรือ เสนอความคิดเพื่อเป็นการพัฒนาท้องถิ่น กว่า 12 ปี ที่โลดแล่นกลางดงนํ้าหมึก กว่า จะมาถึงวันนี้ได้ ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและ นํ้าตา บทเรียนที่ได้รับระหว่างการเดินทางเป็น บทพิสูจน์ได้อย่างดีว่า หากคิดจะเดินบนเส้นทาง นี้ ต้องพร้อมในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเงินทุนที่จะ ต้องมาเป็นค่าจัดพิมพ์ ค่าใช้จ่ายในการออกไปทำ� ข่าว และที่สำ�คัญคือ ใจจะต้องมั่นคง และยึดมั่น ในจริยธรรมของคนหนังสือพิมพ์
มาถึงวันนีย้ า่ งเข้าสูป่ ที ี่ 13 ยังคงยืนหยัดทำ� หน้าที่เป็นกระบอกเสียง แจ้งข่าวสาร เหตุการณ์ ความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นให้รับ ทราบ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ การลงทุน ใน แบบอย่างมุมมองของเราที่อาจจะขัดใจบ้างใน บางประเด็น แต่นนั้ ก็หาใช่ปญ ั หา ทีจ่ ะมาบัน่ ทอน กำ�ลังใจไม่ กำ�ลังขาทีม่ อี ยู่ บวกกับแรงใจทีไ่ ด้รบั จากผู้ ให้การสนับสนุน วันนี้ยังทำ�ให้เรามีแรงยกขาก้าว เดินต่อไปยังจุดหมายทีอ่ ยูไ่ กลโพ้น ตามอุดมการณ์ ทีต่ งั้ ไว้ “อิสระทางความคิด ในการทำ�งาน” พร้อม สะท้อนความเป็นจริง ตามโลโก้ “ไทยเสรี” ที่ ประกอบด้วยบูมเมอแรง 3 อันมาประสานกัน ท้ายทีส่ ดุ นี้ ขอคารวะผูร้ ว่ มก่อกำ�เนิด และ วางรากฐานหนังสือพิมพ์ไทยเสรี “ยุทธพงษ์ พึ่ง แรงตน” ทีไ่ ด้ชว่ ยชีแ้ นะ จากคนทีไ่ ม่เคยรูเ้ รือ่ งการ ทำ�ข่าว เขียนข่าวเลย จนวันนี้ก้าวมาเป็น เจ้าของ และบรรณาธิการบริหาร อย่างเต็มภาคภูมิ คุณ ความดีที่ท่านมอบให้จะจดจำ�ไว้ไปตราบนานเท่า นาน ...
คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ ; นายทั ศ นั ย สุ ข สบาย กำ � นั น ตำ � บลบ้ า นเป็ ด แ ล ะ ป ร ะ ธ า น กำ � นั น ผู้ ใ ห ญ่ บ้ า น จั ง ห วั ด ขอนแก่ น นำ �กำ � นั น ผู้ใหญ่บ้านทั้ง 26 อำ�เภอ ประมาณ 300 คน เดิน ทางมายื่ น หนั ง สื อ ผ่ า น นายกำ � ธร ถาวรสถิ ต ย์ ผู้ ว่ า ร า ช ก า ร จั ง ห วั ด ขอนแก่น ณ ศาลากลาง จังหวัดขอนแก่น เพื่อคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 284 มาตรา 82(3) มาตรา 285 และร่าง พ.ร.บ.จังหวัดจัดการตัวเอง พ.ศ. ....... เพื่อทำ�หนังสือเสนอผ่านไปทางรัฐบาลและ คสช.ต่อไป บวชสามเณรภาคฤดู ร้อน ; ดร.พงษ์ศักดิ์ ตั้ง วานิชกพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่น เป็นประธาน มอบใบประกาศนียบัตร แก่สามเณร-ชีพราหมณ์ ต า ม โ ค ร ง ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม บ ว ช ส า ม เ ณ ร ชี พ ร า ห ม ณ์ ภ า ค ฤ ดู ร้อน อำ�เภอหนองนาคำ� ประจำ�ปีงบประมาณ 2558 เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้นำ�หลักธรรม คำ�สอน ไปปรับใช้ในชีวิตประจำ� วัน ณ วัดสว่างอารมณ์ บ้านหนองหอย ต.บ้านโคก อ.หนองนาคำ� จ.ขอนแก่น ปลู ก ข้ า วนาปรั ง ใช้ นํ้ า อย่ า งประหยั ด ; นาย ศิ ว โรจน์ มุ่ ง หมายผล ร อ ง ผ ว จ . ข อ น แ ก่ น เป็ น ประธานงานวั น สาธิ ต รณรงค์ ป ลู ก ข้ า ว นาปรั ง โดยใช้ นํ้ า อย่ า ง ประหยั ด ตามแนวพระ ราชดำ � ริ เ ศรษฐกิ จ พอ เพี ย ง เฉลิ ม พระเกี ย รติ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระ ชนมายุ ๖๐ พรรษา ณ แปลงนาสาธิตบ้านหนองแสง ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๘ งานประเพณี ปิ ด ทอง หลวงพ่ อ พระใหญ่ ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ชกพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่น เป็นประธาน เปิดงานประเพณีประจำ� ปี ปิดทองหลวงพ่อใหญ่ บ้านเมืองเพีย ประจำ�ปี 2558 โดยมีคณะบริหาร สมาชิกสภาตำ�บล กำ�นัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำ�ชุมชน และประชาคมหมู่บ้าน ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ วัดมงคลหลวงบ้านเมืองเพีย ต.เมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ทำ � ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ชกพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่น เป็นประธาน เปิ ด โครงการอบรมส่ ง เสริ ม การทำ � ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ในครั ว เรื อ น เพื่ อ ให้ ความรูเ้ กษตรกรเกีย่ วกับ การทำ�ผลิตภัณฑ์ชวี ภาพ สำ � หรั บ ใช้ ใ นครั ว เรื อ น โดยมี นายตระกูล เจริญ เชื้อ ส.อบจ.ขอนแก่น อ.กระนวน เขต 2 ให้การต้อนรับ ณ ศาลากลางบ้าน หมู่ที่ 8 ตำ�บลหนองกุง ใหญ่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
ชาวบึงกาฬได้เฮ “ประจิน” เห็นชอบ
รมว.คมนาคมเห็นดีกับโครงการก่อสร้างสนาม บินบึงกาฬ เพือ่ เป็นการพัฒนาโครงข่ายเดินทางทาง อากาศ เผยห่วงรัฐบาลใหม่มาบริหารประเทศ ก็มัก จะเปลีย่ นโครงการพัฒนาประเทศ แต่ยงั หวังว่าการที่ รัฐบาลนีท้ ำ�แผนโครงการขึน้ เพือ่ ประโยชน์ประเทศ ชาติและสังคม หวังให้มีการสานต่อ การประชุ ม คณะกรรมการร่ ว มภาครั ฐ และเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่ม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วย จังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำ�ภู เลย หนองคาย และ จังหวัดบึงกาฬ ที่ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 22 เม.ย.58 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ในฐานะ ประธานที่ ป ระชุ ม ได้ เ สนอให้ มี ก ารศึ ก ษาความ เป็ น ไปได้ ใ นการก่ อ สร้ า งท่ า อากาศยานจั ง หวั ด บึงกาฬ ปัจจุบนั ต้องเดินทางไปขึน้ เครือ่ งทีส่ นามบิน อุดรธานี ซึง่ ก็หา่ งจากบึงกาฬประมาณ 200 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินทางถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง พล.อ.อ.ประจิ น กล่ า วว่ า การเตรี ย มรั บ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ภาคอีสานตอนบนต้อง ให้ความสำ�คัญกับ สปป.ลาว ซึ่งถือเป็นจุดที่ต้อง ผ่านไปสูป่ ระเทศจีนและเวียดนาม ทีผ่ า่ นมาได้หารือ กับ สปป.ลาว ในการกำ�หนดพื้นที่เชื่อมโยงไว้ 4 จุด ประกอบด้วย จ.หนองคาย, มุกดาหาร ,อุบลราชธานี และ จ.บึงกาฬ ซึ่งมีความจำ�เป็นต้องเร่งทำ�แผน พัฒนาเส้นทางตลอดจนโครงข่ายถนนเชื่อมแต่ละ จังหวัดให้มากขึ้น “สำ�หรับการเดินทางทางอากาศของภาค อีสานตอนบนในปัจจุบันนี้นั้นมีความเจริญเติบโต แบบก้าวกระโดด โดยมีสนามบินนานาชาติอดุ รธานี เป็นศูนย์กลาง มีสายการบินมาใช้บริการในแต่ละ วันมากถึง 23 เที่ยวต่อวัน ฉะนั้นหากมีสนามบิน ที่ บึ ง กาฬเกิ ด ขึ้ น จะเป็ น สนามบิ น แห่ ง หนึ่ ง ที่ จ ะ สามารถให้ ค วามสะดวกสบายแก่ ป ระชาชนใน แถบนั้นรวมถึงประชาชนชาวลาวที่อาศัยอยู่ใกล้ เคียง เพราะการเดินทางมาขึน้ เครือ่ งบินทีส่ นามบินฯ อุดรธานีนั้นต้องใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง” ทั้ ง นี้ ใ นกรณี ดั ง กล่ า ว รมว.คมนาคม ได้ มีความเห็นชอบกับโครงการดังกล่าวของจังหวัด บึงกาฬ และมอบหมายให้กรมการบินพลเรือน ไป เร่งทำ�การศึกษารายละเอียดของโครงกล่าว และเร่ง เสนอรายละเอียดของแผนการโครงการดังกล่าว เป็นการด่วน นายเทวัญ สรรนิกร รองผูว้ า่ ราชการจังหวัด
สร้างสนามบินบึงกาฬ
บึงกาฬ เปิดเผยว่า จังหวัดบึงกาฬ ได้ทำ�การทำ�การ ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นและความเป็นไปได้ โดยอาศัย แบบแผนจากผลการศึ ก ษาข้ อ มู ล เบื้ อ งต้ น และ ความเป็นไปได้สนามบินจังหวัดนครสวรรค์ มา ทำ�การศึกษาข้อมูลเบื้องต้นและความเป็นไปได้ ใน การก่อสร้างสนามบินจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งผลการ ศึกษา พบว่ามีความเป็นไปได้มาก จึงได้นำ�เอาผล การศึกษาฯเสนอต่อ พล.อ.ประจิน จั่นตอง รมว. คมนาคม ต่อที่ประชุม กรอ.จังหวัดและ กรอ.กลุ่ม จังหวัด กลุ่ม1 ที่จังหวัดอุดรธานี เป็นเจ้าภาพจัดการ ประชุม ทั้ ง นี้ ท างจั ง หวั ด บึ ง กาฬ ได้ จั ด หาพื้ น ที่ สาธารณะจำ�นวน 2 แปลง รวมกันได้ประมาณ 4,700 ไร่เศษ บริเวณตำ�บลหนองแข็ง อ.เมือง จ.บึงกาฬ ตั้งอยู่ตามเส้นทาง หมายเลข 212 บึงกาฬ-ปากคาด จ.หนองคาย บริเวณหลัก ก.ม.ที่ 110+ 57 ห่างจาก ถนนหมายเลข 212 เข้าไปอีกประมาณ 2 ก.ม. พื้นที่ โครงการตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองบึงกาฬ 25 ก.ม. เป็น พืน้ ทีส่ าธารณะสภาพเป็นทุง่ นาสลับทีร่ าบ หนองนํา้ และมีการบุกรุกเล็กน้อยเป็นสวนป่ายางพารา “กระทรวงมหาดไทยเตรี ย มพื้ น ที่ ไ ว้ ร าว 4,700 ไร่ ถ้าดำ�เนินการจะใช้งบราว 2,000 ล้านบาท เริ่มช่วงปี 2562 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปีครึ่ง ช่วงแรก อาจจะขาดทุน แต่อนาคตจะเป็นสนามบินที่มีคน นิยม โดยเฉพาะอยู่ริมแม่นํ้าโขง แม่นํ้าสำ�คัญที่สุด
ระดมสมองทำ � แผนแม่ บ ท ความปลอดภั ย บนถนน
บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำ�กัด ร่วมกับศูนย์อำ�นวยการความปลอดภัยทาง ถนน โดยกรมป้ อ งกั น และบรรเทาสาธารณภั ย สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุข ภาพ หรือ สสส. จัดประชุมสัมมนาเชิงปฎิบัติ การ โครงการจัดทำ�แผนแม่บทความปลอดภัยทาง ถนน พ.ศ. 2556-2559 เพื่อนำ�ไปสู่การแก้ไขปัญหา อุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน ณ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ขอนแก่น เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 นายนภดล สั น ติ ภ ากรณ์ กรรมการผู้ จัดการ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำ�กัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีแนวโน้ม การเกิ ด อุ บั ติ เ หตุ ท างถนนเพิ่ ม สู ง ขึ้ น จากสถิ ติ ของกระทรวงสาธารณสุขพบว่ามีผู้เสียชีวิตจาก อุบัติเหตุทางถนนถึงปีละ 14,000 ราย เฉลี่ยเดือน ละ 1,190 คน หรือ 40 คนต่อวัน และสาเหตุส่วน ใหญ่เกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ไม่ปฎิบัติตาม กฎหมายจราจร ศูนย์อำ�นวยการความปลอดภัย ทางถนนร่ ว มกั บ หน่ ว ยงานภาคี เ ครื อ ข่ า ยที่ เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน ดำ�เนินการป้องกันและ แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่องพร้อมกันนี้ ยัง ได้นำ�กรอบปฎิญญามอสโก และนโยบายรัฐบาล จั ด ทำ � แผนแม่ บ ทเพื่ อ กำ � หนดยุ ท ธศาสตร์ เป้ า หมาย มาตรการ แผนการป้องกันและแก้ไขปัญหา อุ บั ติ เ หตุ ท างถนนในระดั บ ประเทศ เพื่ อ ให้ ล ด จำ�นวนลงให้เหลือน้อยที่สุด บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำ�กัด จึงประสานความร่วมมือกับ ศูนย์อำ�นวย การความปลอดภัยทางถนนโดยกรมป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย และ สสส. ศูนย์วิชาการเพื่อ ความปลอดภัยทางถนน จัดโครงการทำ�แผนแม่บท ความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2556-2559 ซึ่งจัด โครงการประชุมสัมมนาเชิงปฎิบัติการด้านความ ปลอดภัยทางถนน รวม 77 จังหวัด แบ่งเป็นระดับ ภูมภิ าค 9 ครัง้ อาทิ กรุงเทพฯ, นครปฐม,ขอนแก่น,
นครราชสี ม า, เชี ย งใหม่ , พิ ษ ณุ โ ลก,ชลบุ รี , สุราษฎร์ธานี และจังหวัดสงขลา โดยนำ�ข้อมูลสถิติ การเกิดอุบตั เิ หตุ และปัจจัยเสีย่ งในพืน้ ทีข่ องแต่ละ จังหวัดมาวิเคราะห์ จัดทำ�แผนส่งให้หน่วยงานที่ เกีย่ วข้องของแต่ละจังหวัด อาทิ สำ�นักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ตำ�รวจภูธรจังหวัด สำ�นักงานสาธารณสุขจังหวัด สำ�นักงานขนส่ง จังหวัด แขวงการทางจังหวัด สำ�นักงานทางหลวง ชนบทจังหวัด สำ�นักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมูลนิธิในพื้นที่ แต่ละจังหวัด ร่วมขับเคลื่อนเพื่อดำ�เนินมาตรการ แก้ไขปัญหาในระดับจังหวัด ทัง้ ระยะสัน้ ระยะยาว และป้องกันอุบตั เิ หตุทางถนนอย่างยัง่ ยืน และเกิด เป็นรูปธรรม ต่อไป นายนภดล กล่าวต่อว่า การขับเคลือ่ นสร้าง ความปลอดภัยทางถนน ได้พิจารณาแผนปฏิบัติ การฯ ภายใต้วิสัยทัศน์ “ร่วมกันสร้างการสัญจร ที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล” มุ่งเน้นการสร้าง ความปลอดภัยทางถนนในทุกมิติ พร้อมเสริม สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ให้เป็น รากฐานของสังคมไทย ทั้งนี้ เพื่อลดความสูญเสีย จากปัจจัยเสี่ยงหลักอย่างยั่งยืน และเสริมสร้าง ความปลอดภัยในท้องถิ่นอย่างมีส่วนร่วม รวมถึง การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการให้มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามเป้าหมายในการสร้างมาตรฐาน ความปลอดภัยทางถนนของประเทศและลดความ สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด
ของอาเซียน ซึง่ เป็นถนนเลียบริมโขง อยูร่ ะหว่างการ ศึกษาในขณะนี้” ซึ่ ง ผลการศึ ก ษาข้ อ มู ล เบื้ อ งต้ น ทางด้ า น ศั ก ยภาพก็ พ บว่ า มี ค วามเหมาะสม เนื่ อ งจากว่ า พื้นที่โครงการตั้งอยู่ห่างจากชุมชน จะไม่ก่อให้เกิด มลภาวะด้านเสียง สิง่ แวดล้อม เพราะพืน้ ทีส่ ว่ นใหญ่ เป็นทุ่งนา หนองนํ้า ป่าละเมาะสลับกับที่ราบ มีป่า สวนยางพาราทีช่ าวบ้านบุกรุกเข้าไปปลูกเล็กน้อย ไม่ ต้องมีการเวนคืนที่ดิน ในด้ า นศั ก ยภาพของพื้ น ที่ นั้ น สามารถ ออกแบบรันเวย์ (Runway) ยาวได้ 2.10-2.40 ก.ม.ได้ พร้อมอาคารผูโ้ ดยสาร พืน้ ทีล่ านจอดเครือ่ งบิน พืน้ ที่ ก่อสร้างโรงซ่อมเครือ่ งบิน ลานจอดรถผูม้ าใช้บริการ และพื้นที่ก่อสร้างคลังเก็บสินค้า นางกุ สุ ม า หงส์ สุ ต า ประธานหอการค้ า จังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวนั้นถือว่า เป็นข่าวดีของชาวบึงกาฬ และจังหวัดใกล้เคียง เช่น นครพนม มุกดาหาร สกลนคร หรือส่วนของประเทศ สปป.ลาว ในการเดินทางทางอากาศทีม่ คี วามสะดวก รวดเร็ว ลดเวลาการเดินทางที่จะต้องไปใช้สนามบิน นานาชาติอุดรธานี จังหวัดบึงกาฬมียุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดเอา ไว้ 3 ประเด็นที่สำ�คัญคือ 1.จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม 2.ก่อสร้างสนามบิน และ 3.ก่อสร้างสะพานข้ามแม่ นํ้าโขงแห่งที่ 5 หอการค้าจังหวัดบึงกาฬในฐานะข องภาคเอกชน ก็ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนในการผลัก ดันโครงการดังกล่าวนั้นมาโดยตลอดตั้งแต่ได้มีการ ประกาศตั้งเป็นจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งขณะนี้โครงการ ก่อสร้างสะพานข้ามแม่นาํ้ โขงแห่งที5่ ใกล้ทจี่ ะสำ�เร็จ ให้เห็นแล้ว โดยกรมทางหลวงเจ้าของเรื่อง มีการ ออกแบบ ทำ�การศึกษาจนได้พนื้ ทีจ่ ดุ ก่อสร้างทัง้ ทาง ฝั่ง จ.บึงกาฬ และฝั่งประเทศ สปป.ลาวแล้ว สำ�หรับโครงการก่อสร้างสนามบินบึงกาฬ
นั้น ก็เป็นอีกโครงการหนึ่ง ที่อยู่ในแผนการพัฒนา จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งก็มีการจัดหาพื้นที่เอาไว้แล้วอยู่ เส้นทางทางหลวงหมายเลข 212 บึงกาฬ-หนองคาย เป็นพื้นที่ 2 แปลงติดกัน รวมเนื้อที่ประมาณ 4700 ไร่เศษ นางกุ สุ ม า กล่ า วถึ ง ประโยชน์ ที่ จั ง หวั ด บึงกาฬ จังหวัดใกล้เคียง รวมไปถึงประชาชนชาว ลาว ที่ อ ยู่ ต รงข้ า มกั บ จั ง หวั ด บึ ง กาฬจะเป็ น ทาง เลือกในการเดินทางทางอากาศอีกแห่งหนึง่ ของภาค อีสานตอนบน ทีม่ อี ยูแ่ ล้วคือจังหวัดอุดรธานีซงึ่ เป็น สนามบินขนาดใหญ่ นอกนัน้ ก็เป็นสนามบินขนาด เล็กคือ จังหวัดเลย สกลนคร นครพนม มีสายการบิน ใช้บริการน้อย ผู้โดยสารส่วนหนึ่งต้องเดินทางไป ขึ้นเครื่องที่สนามบินอุดรธานี ซึ่งก็ห่างจากบึงกาฬ ประมาณ 200 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินทางไปขึ้น เครื่องถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยเฉพาะชาวบึงกาฬเอง ประมาณ 20-30% ไปใช้สนามบินนานาชาติอดุ รธานี ซึ่งหลังจากที่ชาวจังหวัดบึงกาฬได้รับทราบการให้ ข่าวของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมใน เรื่องของการก่อสร้างสนามบินที่บึงกาฬแล้วนั้น ได้มีการเคลื่อนไหวในหมู่ชาวจังหวัดบึงกาฬทุก หมู่เหล่าในด้านให้การสนับสนุน โดยเฉพาะทางโซ เซียลมีเดีย ทั้งในทางเฟซบุ๊ก ไลน์ และอินเตอร์เน็ต “เมื่อมีการสร้างสนามบินที่บึงกาฬเสร็จ ตามโครงการแล้วนั้น ก็จะสามารถอำ�นวยความ สะดวกด้ า นการเดิ น ทาง เนื่ อ งจากว่ า จั ง หวั ด บึงกาฬเป็นศูนย์ของการเจรจาของนักธุรกิจจาก ประเทศไทย, สปป.ลาว และเวี ย ดนาม ทำ � ให้ เศรษฐกิจดีกว่าตัวจังหวัด เมือ่ ครัง้ ทีเ่ ป็นอำ�เภอหนึง่ ของจังหวัดหนองคาย และปัจจุบนั นี้ สภาพดังกล่าว ก็ยังคงอยู่ในจังหวัดบึงกาฬ” นางกุสุมาฯ กล่าว
ยงยุทธ ขาวโกมล...รายงาน
มอบเครื่องกระตุกหัวใจ ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ชกพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่ น มอบเครื่ อ ง กระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้า อั ต โนมั ติ เพื่ อ ติ ด ตั้ ง ไว้ ณ สถานที่ มี ค นสั ญ จร ที่มีความเสี่ยงต่างๆ เพื่อ ไว้ช่วยชีวิตผู้ที่เกิดภาวะ หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ให้สงั คมไทยได้ตระหนักถึงการดูแลภาวะทีค่ กุ คามแก่ชวี ติ ได้อย่างทันท่วงที ณ บริเวณขอนแก่นฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น
“พล.ต.อ.อดุลย์” แจกที่ดินทำ�กิน รองรับสังคมผู้สูงอายุ เ มื่ อ วั น ที่ 2 9 เ ม ษ า ย น 2 5 5 8 ที่ นิคมสร้างตนเอง อำ�เภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการการ ทรวงพั ฒ นาสั ง คมและความมั่ น คงของมนุ ษ ย์ ลงพืน้ ทีต่ รวจเยีย่ มนิคมสร้างตนเองเขือ่ นอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งมอบหนังสือแสดงการ ทำ�ประโยชน์ในที่ดิน (นค.3) ให้แก่สมาชิกจำ�นวน 100 ราย มอบโล่ประกาศเกียรติคณ ุ สมาชิกตัวอย่าง ที่ดำ�เนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จำ�นวน 7 ราย มอบเงินช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านผูส้ งู อายุ 28 ราย รถโยกและวิลแชร์ผู้พิการ 16 คัน มอบ เงินครอบครัวอุปถัมภ์ 6 ราย เงินสงเคราะห์เด็ก 100 ราย และวุฒบิ ตั รผูแ้ ทนกลุม่ โครงการสร้างชีวติ ใหม่ ให้สตรีและครอบครัว 4 หลักสูตร 120 ราย ผ้าห่ม 400 ผืน โดยมี บริษัท ฟินิคซ พัลพ์ แอนด์ เพเพอร์ จำ�กัด (มหาชน) เข้ารับโล่เกียรติคุณในฐานะที่เป็น ผูใ้ ห้การสนับสนุนการทำ�งานด้านการพัฒนาสังคม โดยมี นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น พร้อมคณะหน่วยงานส่วนราชการและ เอกชน ร่วมให้การต้อนรับ นิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ มีพื้นที่ คลอบคลุม 3 อำ�เภอ คือ อำ�เภออุบลรัตน์ นํ้าพอง และอำ�เภอเขาสวนกวาง มีเนือ้ ที่ 370,700 ไร่ ในการ มอบเอกสารสิทธิที่ดิน เป็นหนังสือแสดงการทำ� ประโยชน์ในที่ดิน (นค.3) นับเป็นการตอบสนอง
นโยบายรั ฐ บาลมี ค วามมั่ น คงด้ า นที่ ดิ น รองรั บ สังคมผู้สูงอายุพัฒนาคุณภาพชีวิตและอาชีพให้ค รอบครัว ให้นิคมมีความมั่นคง กรมพัฒนาสังคม และสวัสดิการ ได้ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงาน ใหม่ โดยเฉพาะงานนิคมสร้างตนเอง ได้มแี ผนงาน พัฒนานิคม จัดทำ�เป็น Road Map ซึ่งในปี 25582559 กำ�หนดให้นคิ มสร้างตนเองมีการพัฒนาด้าน บุคลากร การพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ การ จัดระบบการที่ดินและทรัพยากร การจัดทำ�ห้อง ปฏิบัติการนิคม (War room) การจัดตั้งศูนย์เรียน รู้ และการสาธิตด้านเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งในและ นอกนิคม ทัง้ นี้ เพือ่ ให้สมาชิกนิคมฯ ได้เรียนรู้ และ นำ�ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดคุณภาพชีวิตและอาชีพใน ครอบครัว ซึ่งจะส่งผลให้มีความ “มั่นคง มั่งคั่ง และ ยั่งยืน ต่อไป
หน้า 4
ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 ประจำ�เดือนพฤษภาคม 2558
สมาคมสื่อมวลชนขอนแก่น ป ร ะ ชุ ม ใ ห ญ่ เ ค รื อ ข่ า ย บ ก . น ส พ . ภ า ค อี ส า น ; พ.ต.พิ สิ ษ ฐ์ ชาญเจริ ญ ที่ ปรึกษา เครือข่ายบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ภาคอีสาน ร่วม ประชุมสามัญประจำ�ปี 2558 เครือข่าย บก.นสพ.ภาคอีสาน โดยมีนายศตวรรษ วงศ์ประทุม ประธานเครือข่าย บก.นสพ. ภาคอี ส าน ให้ ก ารต้ อ นรั บ ณ โรงแรมลายทอง อ.เมื อ ง จ.อุบลราชธานี
ต้อนรับเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำ�ประเทศไทย ; พล.ต.ธรากฤต ทับทองสิทธ์ ผบ.มทบ. ๒๓ พร้อมด้วยหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ มทบ.๒๓ ร่วมให้การต้อนรับ H.E. Mr.Philip Calvert เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำ�ประเทศไทย เพื่อพบปะหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ณ กอง บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๓ เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๘
รับรองเอกอัครราชทูตแคนาดา ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมให้การต้อนรับ ฯพณฯ ฟิลิป คาลเวิร์ท เอกอัครราชทูตแคนาดา ประจำ�ประเทศไทย ในโอกาส เข้าพบและปรึกษาหารือด้านธุรกิจ โดยมีนกั ธุรกิจจังหวัดขอนแก่น ร่วมปรึกษา ณ ห้องรับรองพงษ์ พานิช ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558
ถวายราชสดุดี “วันฉัตรมงคล” ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานในพิธีถวาย ราชสดุดีเพื่อเฉลิมพระเกียรติ และถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องใน “วัน ฉัตรมงคล” เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยมี หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และองค์กรต่างๆ เข้าร่วมพิธี ณ ศาลาประชาคม จังหวัดขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘
วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานพิธี“วัน คล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำ�ลึก ถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมีหวั หน้าหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และองค์กรต่างๆ เข้าร่วมในพิธี ณ ศาลาประชาคมจังหวัดขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๘
ขอบคุณแผ่นดินไทย ; นายเหงียน งอกเซิน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำ� จังหวัดขอนแก่น และนายเหงียน ฮูนดิน อดีตกงสุลใหญ่ฯ ประจำ�ขอนแก่น ร่วมงานวันปีใหม่ ไทย “เทศกาลสงกรานต์” พร้อมมอบของขวัญให้กับผู้สูงอายุชาวเวียดนามเพื่อร่วมฉลองเทศกาล สงกรานต์ปีใหม่ไทย และเป็นการขอบคุณที่ชาวเวียดนามได้อาศัยประเทศไทย ประกอบธุรกิจจน ประสบผลสำ�เร็จ ณ โรงแรม เอสเอฟ ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้
มอบรางวัลอายุงาน ; มร.โอเล่ นีลเซ่น ผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยฝ่ายบริหารโรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด มอบเกียรติบัตรและร่วมแสดงความยินดี ในพิธีมอบรางวัลอายุงานเป็นที่ ระลึกสำ�หรับผู้ที่ปฏิบัติงานครบ 3, 5, 10, 15 ปี ประจำ�ปี 2557 เพื่อเป็นการขอบคุณสำ�หรับการ อุทศิ ตนทำ�งานร่วมกับโรงแรมฯ เพือ่ เป็นการขอบคุณสำ�หรับการอุทศิ ตนทำ�งานร่วมกับโรงแรมฯ ซึง่ มีผู้เข้ารับรางวัลทั้งหมด 70 คน แบ่งเป็นอายุงาน 3 ปี 26 คน, 5 ปี 19 คน, 10 ปี 9 คน และ 15 ปี 16 คน ตามลำ�ดับ ณ ออคิดบอลรูม 3 โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น
ปลายทางชีวิต ; นายสมิง ยิ้มศิริ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น คุณโฉมสุดา วโนทยา โรจน์ กรรมการผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าแฟรี่ พลาซ่า นายสัญชัย ชินจตุรภัทร์ กรรมการผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าเซ็นโทซ่า คุณชุติมา สงวนตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าขอนแก่นผู้ จำ�หน่ายโตโยต้า จำ�กัด ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ นายวิเชียร คุณกิตติ โดยมี นายสุ วิทย์ คุณกิตติ อดีตรองนายรัฐมนตรีฯ ร่วมให้การต้อนรับ ณ วัดหนองแวงพระอารามหลวง ต.ใน เมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
รดนํ้าดำ�หัว ขอพรผู้ใหญ่ ; ดร.พงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิด โครงการงานประเพณีสงกรานต์ ทำ�บุญปล่อยปลา รดนํา้ ดำ�หัว ขอพรผูใ้ หญ่ ประจำ�ปี ๒๕๕๘ โดย มี ส.อบจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน และข้าราชการครูโรงเรียน ในสังกัด อบจ.ขอนแก่น ร่วมพิธี ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น
แสดงความยินดี ; พ.ต.พิสิษฐ์ ชาญเจริ ญ นายกสมาคม สื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น และคณะกรรมการบริ ห ารฯ ร่วมแสดงความยินดีกบั นายสม พงษ์ ปัตตานี ปชส.ขอนแก่น ในโอกาสจะเดิ น ทางไปรั บ ตำ�แหน่งใหม่เป็น ผอ.สปข.2 จ.อุบลราชธานี ณ ภัตตาคาร บัวหลวง บึงแก่นนคร อ.เมือง จ.ขอนแก่น วั น ชื่ น คื น สุ ข ; พ.ต.พิ สิ ษ ฐ์ ชาญเจริ ญ นายกสมาคม สื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น เป็นประธานงานฉลองมงคล สมรส น.ส.เบญจมาศ สุจริต กับ นายมงคล ศรีเตชะ นักจัด รายการวิทยุ หนุ่มสกอร์เปี้ยน คิ ง ส์ ณ ลานตลาดกระติ บ มาร์เก็ต ริมบึงแก่นนคร อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ณ บ้านกุดกว้าง ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2558
ฉลองมงคลสมรส ; นาย ธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พั น ธุ์ นายก เทศมนตรีนครขอนแก่น และ พ.ต.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายก สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น พร้ อ มกรรมการ บ ริ ห า ร แ ล ะ สื่ อ ม ว ล ช น ขอนแก่ น ร่ ว มเป็ น เกี ย รติ ใ น งานมงคลสมรสระหว่าง นาย วิ สุ ท ธิ์ นาเมื อ งจั น ทร์ กั บ นางสาวเกสร วงษ์ภักดี บุตร สาว นายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผูส้ อื่ ข่าวเดลินวิ ส์ ศูนย์ขา่ วขอนแก่น
ร่วมไว้อาลัย ; พ.ต.พิสษิ ฐ์ ชาญ เจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชน จั ง หวั ด ขอนแก่ น และคณะ กรรมการบริ ห ารฯ ร่ ว มงาน ฌาปนกิจศพ “แม่ตุ๊” นางสม คอง โยคุ ณ ภรรยา คุ ณ ชั ย กมล ชุ ม ชนสั ม พั น ธ์ ที่ เ มรุ วั ด โพธิ์ บ้ า นโนนทั น อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่น
ไปไม่ ก ลั บ หลั บ ไม่ ตื่ น ; พ.ต.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายก สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น และคณะกรรมกา รบริ ห ารฯ ร่ ว มเป็ น เจ้ า ภาพ สวดพระอภิ ธ รรม บำ � เพ็ ญ กุ ศ ลศพ นายจำ � นง บุ ต รพุ ฒ สามีคุณรัชฎาวรรณ วัฒนสุข ปชส.มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น ณ วั ด มรรคสำ � ราญ อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่น ด้ ว ยรั ก และอาลั ย ; พั น ตรี พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคม สื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น พร้อมคณะกรรมการบริหาร สมาคมฯ และสื่ อ มวลชน ร่วมไว้อาลัยและฟังสวดพระ อภิ ธ รรม คุ ณ พ่ อ ยงยุ ท ธ พั ว โสพิศ สื่ออาวุโสดีเด่นปี 2558 และนักจัดรายการวิทยุ “บอก กล่าวเล่าแจ้ง” ณ วัดหนองแวง พระอารามหลวง เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558
ทำ�บุญตักบาตร เลี้ยงพระ
พิมานกรุ๊ป ทำ�บุญตักบาตร เลี้ยง พระ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ มี ผู้บริหารและพนักงานร่วมทำ�บุญ และร่วมรดนํา้ ขอพรจากคุณบุรนิ ทร์ บุ ริ ส ตระกู ล ประธานกรรมการ บริษัท เพื่อความเป็น ศิริมงคล
หน้า 5
ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 ประจำ�เดือนพฤษภาคม 2558
มารู้จักฟันนํ้านมกันเถอะ โดยปกติแล้วฟันนํ้านมซี่แรกนั้นจะขึ้น บริเวณด้านหน้าล่าง เมือ่ ลูกอายุประมาณ 6-8 เดือน แต่อาจขึ้นช้ากว่านี้ได้ถือว่าไม่ผิดปกติ โดยสังเกต จากลูกจะมีอาการเจ็บๆ คันๆ ทีเ่ หงือก อาจมีนาํ้ ลาย ไหลยืด ตลอดเวลา เด็กบางคนอาจมีไข้เล็กน้อย คุณ แม่ต้องดูแลทำ�ความสะอาดเหงือกให้มากหน่อย จะได้ไม่เกิดการติดเชื้อที่เหงือกขณะฟันขึ้น ถ้าลูก มีไข้อาจให้ยาลดไข้ได้ ช่วงนี้ลูกจะอยากกัด อยาก แทะสิง่ ของ คุณแม่ควรหายางกัดสำ�หรับเด็กให้ลกู กัดเล่น ลูกจะได้รสู้ กึ สบายขึน้ จนอายุครบ 2 ปีครึง่ ฟันนํ้านมจะขึ้นทั้งหมด เป็นจำ�นวน 20 ซี่ เป็นที่น่าสังเกตว่าฟันนํ้านมที่ปกติ จะมี สีขาว อาจมีสีขาวอมเหลืองนิดๆ ผิวฟันเรียบเป็น
มัน ส่วนฟันหลัง ด้านที่ใช้เคี้ยวอาหาร จะมีหลุม ร่องขรุขระเล็กน้อย ซึ่งมักจะผุได้ง่าย เพราะหลุม ร่องฟันเหล่านีจ้ ะเป็นจุดทีก่ กั เก็บเชือ้ โรคและคราบ อาหารได้ดี จึงควรดูแลรักษาความสะอาดให้ดเี พือ่ ป้องกันโรคฟันผุและโรคที่เกี่ยวกับช่องปากที่จะ เกิดขึ้นต่อไป “ฟั น นํ้ า นมเป็ น จุ ด เริ่ ม ต้ น แห่ ง การมี สุขภาพช่องปากและฟันทีด่ ใี นอนาคต” หากท่านมี ข้อสงสัย เขียนมาหาเราได้ที่ หน่วยประชาสัมพันธ์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 40002 โทร. 043-202405 ต่อ 11188 พบกันใหม่ ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ
ขอนแก่นเปิดศูนย์รับบริจาค ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เนปาล จังหวัดขอนแก่นตั้งศูนย์ รับบริจาคเงินหรือสิง่ ของเพือ่ ช่วย เหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ ประเทศเนปาล ที่หน้าศูนย์ดำ�รง ธรรมจังหวัดขอนแก่น ชั้น 1 ห้อง โถง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558 ตามน โยบายของรัฐบาลทีใ่ ห้ความสำ�คัญ ในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแ ก่ผู้ประสบแผ่นดินไหว นายกำ � ธร ถาวรสถิ ต ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า เงินและ สิ่ ง ของที่ มี ผู้ นำ � มาบริ จ าคช่ ว ย เหลือผู้ประสบภัยแผนดินไหวที่ ประเทศเนปาล จังหวัดขอนแก่น จ ะ ส่ ง ม อ บ ใ ห้ กั บ ก ร ะ ท ร ว ง มหาดไทย ตามนโยบายการให้ ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยของ ทางรั ฐ บาล และช่ ว ยเหลื อ ผ่ า น องค์การสหประชาชาติ ในขณะ นี้ได้รับบริจาคเงินจากหน่วยงาน องค์ ก รต่ า งๆ และผู้ มี จิ ต ศรั ท ธา ยอดเงินรวม 927,067 บาท โดยได้ ทำ�การจัดส่งความช่วยเหลือให้กบั กระทรวงมหาดไทยแล้ว อย่างไรก็ตาม จังหวัดยังคงเปิดบัญชีธนาคาร กรุงไทย ชื่อบัญชี ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเนปาล เลข ที่บัญชี 983-2-91596 สำ�หรับเป็นช่องทางในการรับ บริจาคช่วยเหลือผูป้ ระสบภัยอีกทางหนึง่ ด้วย และยัง คงมีประชาชนทยอยนำ�นํา้ ดืม่ , เวชภัณฑ์ยา และเครือ่ ง
นุ่งห่ม มาร่วมบริจาคที่ศูนย์ดำ�รงธรรมจังหวัดอย่าง ต่อเนื่องทุกวัน ขอเชิญชวนหน่วยงาน ส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกภาคส่วน ร่วม บริจาคเงินเพื่อนำ�ไปช่วยเหลือประชาชนประเทศ เนปาล หรื อ สอบถามรายละเอี ย ดได้ ที่ ห มายเลข โทรศัพท์ 0-4323-6882 ทุกวัน ในเวลาราชการ
ลงนามส่ ง เสริ ม เครื อ ข่ า ยเกษตรอิ น ทรี ย์ ; นายนิ รุ จ น์ อุ ท ธา ผู้ อำ � นวยการศู น ย์ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ก า ร บ ริ โ ภ ค เครื่ อ งดื่ ม แอลกอฮอล์ สำ � นั ก ง า น เ ค รื อ ข่ า ย องค์ ก รงดเหล้ า ภาค อี ส านตอนบน ร่ ว มกั บ สภาเกษตรกรจั ง หวั ด กาฬสินธุ์ สภาเกษตรกร จั ง หวั ด ขอนแก่ น เครื อ ข่ายตลาดสีเขียว อ.กมลไสย และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ภาคอีสานตอนบน ภายใต้การสนับสนุน สสส. ทำ�พิธลี งนาม MOU ว่าด้วยการส่งเสริมเครือข่ายเกษตรอินทรียเ์ พือ่ อาหารปลอดภัยระหว่าง จังหวัดขอนแก่น-กาฬสินธุ์ เพื่อเพิ่มช่องทางตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ และให้เกษตรกรเพิ่ม ช่องทางการผลิตวัตถุดิบจำ�หน่ายให้กับร้านอาหารเพื่อสุขภาพให้ผู้บริโภคปลอดภัย ณ ร้านธัญ ญรส อาหารมังสวิรัติ เพื่อสุขภาพ ถนนหลังศูนย์ราชการ อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558
วันภาษาไทยแห่ง ชาติ ตรงกั บ วั น ที่ 29 กรกฎาคมของทุ ก ปี มี พระราชดำ�รัสของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญา บัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 ที่ได้ทรงมีพระบรมราโชวาท ตอนหนึ่งว่า “ในปัจจุบันนี้ปรากฏว่า ได้มีการใช้ คำ�ออกจะฟุ่มเฟือย และไม่ตรงกับความหมายอัน แท้ จ ริ ง อยู่ เ นื อ งๆ ทั้ ง ออกเสี ย งก็ ไ ม่ ถู ก ต้ อ งตาม อักขรวิธี ถ้าปล่อยให้เป็นไปดังนี้ ภาษาของเราก็มี แต่จะทรุดโทรม ชาติไทยเรามีภาษาของเราใช้เองเป็น สิ่งอันประเสริฐอยู่แล้ว เป็นมรดกอันมีค่าตกทอด มาถึงเราทุกคนจึงมีหน้าที่จะต้องรักษาไว้ ฉะนั้น จึงขอให้บรรดานิสิตและบัณฑิต ตลอดจนครูบา อาจารย์ได้ช่วยกันรักษาและส่งเสริมภาษาไทย ซึ่ง เป็นอุปกรณ์และหลักประกันเพื่อความเจริญวัฒนา ของประเทศชาติ” การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วม กับ ชมรมเพลงแห่งสยาม และสถานีวิทยุเพื่อการ อนุรักษ์ FM 104.75 MHz. พญาไท กรุงเทพ จัด โครงการ “กฟผ.รักษ์ภาษาไทยด้วยบทเพลง” ทั้ง 4 ภูมิภาค เพื่อให้นักเรียนเยาวชนรุ่นใหม่ได้ใช้ภาษา ไทยอย่างถูกต้อง และร่วมกันอนุรักษ์เพลงไทย โดย ทีมวิทยากรจาก ชมรมเพลงแห่งสยาม ที่มาให้ความ รู้ แ ละสอนเทคนิ ค การใช้ เ สี ย งร้ อ งเพลงอย่ า งถู ก ต้อง ทั้งนี้ เพื่อสนองพระราชดำ�รัสพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใยภาษาไทย เนื่องในวัน ภาษาไทยแห่งชาติ เพือ่ เชิดชูครูเพลงและศิลปินเพลง ที่เป็นแบบอย่างที่ดี ในการรักษาเอกลักษณ์ทางด้าน ภาษาของชาติ เพื่อปลุกกระแสให้คนรุ่นใหม่เห็น ความสำ�คัญในการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องในการขับ ร้องเพลงไทย เพื่อช่วยกันส่งเสริมและเผยแพร่เพลง ไทยสากล (ลูกกรุง) ให้คงอยู่ต่อไป โดยนักเรียนที่ เข้ารับอบรมทั้ง ชาย หญิง อายุระหว่าง 15 ปี – 25 ปี ,กำ�ลังศึกษาในระดับมัธยมปลาย หรือเทียบเท่า และ อุดมศึกษา ,ไม่เคยออกอัลบัม้ หรือซิงเกิล้ เพลงใดๆ มา ก่อน และไม่ติดสัญญาผูกพันกับค่ายเพลงใดๆ
กฟผ.ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่ รักษ์ภาษาไทยด้วยบทเพลง
นายกิ ต ติ ตั น เจริ ญ อดี ต ผู้ ช่ ว ยผู้ ว่ า การโรงไฟฟ้ า พลังนํ้า ผู้ก่อตั้งโครงการ “กฟผ.รักษ์ภาษาไทยด้วย บทเพลง” เปิดเผยว่า กฟผ. มีกิจกรรมที่ร่วมอนุรักษ์ ธรรมชาติ กิจกรรมคืนกำ�ไรสู่สังคม และการช่วย เหลื อ ดู แ ลชุ ม ชนที่ อ าศั ย รอบบริ เ วณ กฟผ. เป็ น ประจำ�อยู่แล้ว การร่วมอนุรักษ์ภาษาไทยที่กำ�ลังมี การใช้ทผี่ ดิ เพีย้ นไป หรือแม้แต่บทเพลงไทยสากลซึง่ นับวันจะสูญหายไปจากเยาวชนไทยรุน่ ใหม่ทอี่ ายุตาํ่ กว่า ๒๕ ปี ที่แทบจะไม่เคยยินได้ฟังเพลงไทยสากล เลย หากปล่อยไปบทเพลงเหล่านีจ้ ะนับวันเลือนหาย ไปจากคนไทยรุ่นใหม่อย่างแน่นอน จึงได้แนวคิดที่ จะร่วมอนุรักษ์ภาษาไทยให้กับเยาวชน โดยร่วมกับ ชมรมเพลงแห่งสยาม และสถานีวิทยุ FM 104.75 MHz. พญาไท กรุงเทพ นำ�เด็กนักเรียนมัธยมศึกษา ตอนปลายที่มีอายุตั้งแต่ ๑๕ – ๒๕ ปี เข้าค่ายเรียนรู้ ประวัติศาสตร์เพลงลูกกรุง สอนเทคนิคทฤษฎีการ ขับร้องเพลงขั้นพื้นฐาน ฝึกการใช้อักขระอย่างถูก ต้อง ชัดเจน ฝึกการใช้ลมหายใจที่ถูกต้องสำ�หรับ การขับร้องเพลง การรักษาเส้นเสียง เทคนิคการ ใช้ไมโครโฟน สอนบุคลิกการวางตัวบนเวที และ คุณสมบัติการเป็นศิลปินนักร้องที่ดี สำ�หรับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการหลังจาก การประกวดในระดับภูมิภาคซึ่งจะได้รับเงินรางวัล
เปิ ด ศู น ย์ รั บ บริ จ าคช่ ว ยเหลื อ ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเนปาล เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2558 ที่บริเวณหน้า อาคารศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็น ประธานเปิดศูนย์รบั บริจาคหรือสิง่ ของเพือ่ ช่วย เหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวประเทศเนปาล ประจำ�จังหวัดอุดรธานีโดยมีสว่ นราชการพ่อค้า และประชาชน เข้าร่วมงานจำ�นวนมาก นายสุ ร ศั ก ดิ์ เกษมสุ ว รรณ หั ว หน้ า สำ � นั ก งานจั ง หวั ด อุ ด รธานี กล่ า วว่ า จาก เหตุการณ์เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558 ได้เกิด แผ่นดินไหวในประเทศเนปาลทำ�ให้ได้รับความ เสียหายเป็นบริเวณกว้างและมีผู้เสียชีวิตเป็น จำ�นวนมาก โดยรัฐบาลไทยได้ให้ความสำ�คัญใน ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัย แผ่นดินไหวจึงได้สงั่ การให้ทกุ จังหวัดตัง้ ศูนย์รบั บริจาคเงินหรือสิง่ ของเพือ่ ช่วยเหลือผูป้ ระสบภัย แผ่นดินไหวในประเทศเนปาล สำ�หรับประเทศเนปาลก็เป็นประเทศที่ นับถือศาสนาพุทธเช่นเดียวกันกับประเทศไทย
การที่ได้รับภัยพิบัติในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ ต้องเร่งด่วนให้ความช่วยเหลือ จึงขอเชิญชวนให้ ประชาชนร่วมบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ แต่หาก สะดวกจะขอรับบริจาคเป็นเงิน เนือ่ งจากจะสะดวก กว่าบริจาคเป็นสิ่งของที่จะต้องขนย้ายเข้าไปให้ และเป็นการเสียเวลากว่าของจะเดินทางไปถึง นายนพวัชร สิงห์ศกั ดา ผูว้ า่ ราชการจังหวัด อุ ด รธานี กล่ า วว่ า กรณี นี้ เ ป็ น เรื่ อ งด่ ว นมาก จึ ง ขอรับบริจาคเป็นเงินสด เพื่อที่จะได้สะดวกต่อ การโอนเงินเข้าไปให้รัฐบาลในระยะนี้ก่อน ส่วน สิ่งของ เครื่องใช้ในช่วงนี้ของดเอาไว้ก่อน หากมี
พร้อมโล่เกียรติยศแล้ว ยังมีโอกาสเข้าชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ โดย กฟผ. มุ่งเน้นมาตรฐาน ศักยภาพ ในการขับร้องเพลงลูกกรุง การใช้ภาษาอย่างถูกต้อง ชัดเจนของเยาวชนทั่วประเทศ โดยมีการประกวด รอบแรกในระดั บ ประเทศวั น ที่ ๖-๗ มิ ถุ น ายน ประกวดรอบรองชนะเลิศวันที่ ๒๐-๒๑ มิถนุ ายน ณ ห้องประชุม กฟผ. และจะประกวดรอบชิงชนะเลิศใน วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ณ หอประชุมใหญ่กรม ประชาสัมพันธ์ กทม. นายเขมราษฎร์ เอี่ยมมีศรี (ครูตุ้ย) ประธาน ชมรมเพลงแห่งสยาม กล่าวว่า อยูใ่ นวงการเพลงไทย สากลมานานมาก การที่ กฟผ.เห็นคุณค่าของการ ร่วมอนุรักษ์เพลงไทยสากลให้กลับมาอยู่ในใจของ เยาวชนเพือ่ สืบสานต่อไป นอกจากประโยชน์ทไี่ ด้รบั กับตัวเยาวชนเองแล้ว ผู้ปกครอง ครอบครัว รวมทั้ง ชุมชนก็จะได้รับคุณค่าทางด้านจิตใจด้วย การประกวดร้องเพลงสตริง หรือเพลงลูก ทุ่ง มีการจัดแข่งขันมากมายหลายเวที ทำ�ให้การ แข่งขันค่อนข้างสูง โครงการ “กฟผ.รักษ์ภาษาไทย ด้วยบทเพลง” จึงเป็นทางเลือกใหม่ให้กับเยาวชนใน การประกวดร้องเพลงลูกกรุง และยังได้เรียนรูเ้ ทคนิค การใช้เสียง รักษาเส้นเสียง และการรู้จักวางบุคลิกที่ ดี ซึ่งสามารถนำ�ไปใช้ได้ทุกโอกาสในสังคม เชื่อว่า โครงการ “กฟผ.รักษ์ภาษาไทยด้วยบทเพลง” จะเป็น เวทีที่คนไทยทัง้ ประเทศให้ความสนใจและรอคอยที่ จะส่งลูกหลานให้เข้ามาร่วมกิจกรรมในโอกาสต่อไป อย่างแน่นอน นายวนิช แสงสุวรรณ ผู้อำ�นวยการโรงไฟ ฟ้าพลังนํ้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า การ ทำ� CSR โดยมุ่งเน้นที่เยาวชน ซึ่งเป็นกำ�ลังสำ�คัญ ของประเทศชาติในอนาคต โดยใช้เวลาว่างให้เกิด ประโยชน์ และยังสามารถหารายได้ให้กับครอบครัว ได้ด้วย โครงการ “กฟผ.รักษ์ภาษาไทยด้วยบทเพลง”
โดยใช้สถานทีเ่ ขือ่ น กฟผ.ทัง้ ๔ ภาค อาทิ ภาคเหนือ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ภาคใต้ เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคกลาง เขื่อนวชิราลงกรณ์ จังหวัดกาญจนบุรี และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น สำ � หรั บ ผู้ ช นะเลิ ศ ในการประกวดระดั บ ภูมิภาคจะได้รับเงินรางวัล ๕,๐๐๐.-บาท ๓,๐๐๐.บาท และ ๒,๐๐๐.-บาท พร้อมโล่เกียรติยศ สำ�หรับ นั ก เรี ย นที่ เ ข้ า ประกวดรอบชิ ง ชนะเลิ ศ ระดั บ ประเทศ ผู้ชนะเลิศการประกวดจะได้รับเงินรางวัล ๕๐,๐๐๐.-บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศและเกียรติบัตร สถาบันการศึกษาที่ส่งเข้าประกวดได้รับเงินรางวัล อีก ๒๐,๐๐๐.-บาท รองชนะเลิศอันดับหนึง่ จะได้รบั เงินรางวัล ๓๐,๐๐๐.-บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศและ เกียรติบตั ร สถาบันการศึกษาทีส่ ง่ เข้าประกวดได้รบั เงินรางวัลอีก ๑๐,๐๐๐.-บาท รองชนะเลิศอันดับที่ สอง จะได้รับเงินรางวัล ๒๐,๐๐๐.-บาท พร้อมถ้วย เกียรติยศและเกียรติบตั ร สถาบันการศึกษาทีส่ ง่ เข้า ประกวดได้รับเงินรางวัลอีก ๑๐,๐๐๐.-บาท รางวัล ชมเชย ๘ รางวัล ๆ ละ ๑๐,๐๐๐.-บาท พร้อมเกียรติ บั ต ร สถาบั น การศึ ก ษาผู้ ส่ ง เข้ า ประกวดรั บ เงิ น รางวัล ๕,๐๐๐.-บาท และผู้ที่ได้รับรางวัลจากการ ประกวด ยังมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ “กฟผ. สานฝัน สรรค์ความสุขเพื่อคนไทย” อีกด้วย ปัจจุบนั ภาษาไทยกำ�ลังถูกลดความสำ�คัญลง ด้วยกระแสนิยมภาษาต่างชาติ ซึง่ เป็นเรือ่ งทีย่ อมรับ ได้เนื่องจากยุคสมัยเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ควรละเลย ภาษาประจำ�ชาติจนถึงขัน้ ไม่ใส่ใจ จะใช้อย่างไรก็ได้ จนเกิดการใช้ภาษาไทยทีไ่ ม่ถกู ต้องถึงขัน้ วิกฤต การ เป็นผู้ใช้ภาษาไทยที่ดี จึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุก คนเพราะ “ภาษาไทยเป็นภาษาประจำ�ชาติ”
ปรกชล ศุขโข ... รายงาน
บ ริ จ า ค เ งิ น ช่ ว ย ผู้ ป ร ะ ส บ ภั ย เ น ป า ล ; นายสิ ท ธิ กุ ล ภู คำ � วงศ์ รองนายก อบจ. ขอนแก่น พร้อมด้วย ผู้ บริหาร อบจ.ขอนแก่น ม อ บ เ งิ น บ ริ จ า ค จำ � นวน ๒๑๖,๗๗๐ บาท เพื่ อ ช่ ว ยเหลื อ ประชาชนชาวเนปาล ผู้ประสบภัย และร่วม ฟื้ น ฟู ป ระเทศเนปาล จากเหตุการณ์แผ่นดิน ไหว โดยมี นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นผูร้ บั มอบเงิน ณ ศูนย์ดำ�รงธรรมจังหวัดขอนแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น การเปลี่ยนแปลงภายหลังจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง หนึ่ง ยอดบริจาคเงินในวันนี้ตั้งแต่เปิดศูนย์ ล่าสุด มียอดเงินจำ�นวน 320,000 บาท โดยเป็นเงินสด ที่ได้รับจากการบริจาค จังหวัดอุดรธานี จะนำ�ส่ง ไปร่วมไว้ยังศูนย์รับบริจาคส่วนกลางเพื่อดำ�เนิน การต่อไป หากประชาชนท่านใดอยากร่วมบริจาค เงิน สิ่งของและปัจจัย เพื่อการดำ�รงชีพ ช่วยเหลือ
พี่น้องชาวเนปาลที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว บริจาคได้ที่ ศูนย์ดำ�รงธรรมจังหวัดทุกจังหวัดทั่ว ประเทศ หรือติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์ด�ำ รงธรรม จังหวัดอุดรธานี ทีช่ นั้ 1 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัด อุ ด รธานี โทรศั พ ท์ ส ายด่ ว น 1567 หรื อ 042221890 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
หน้า 6
ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 ประจำ�เดือนพฤษภาคม 2558
ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 ประจำ�เดือนพฤษภาคม 2558
หน้า 7
หน้า 8
ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 ประจำ�เดือนพฤษภาคม 2558 ถวายเงินสรงนํ้าพระ ; คุ ณ สงวนวรรณ ศรี ธ น ธรรม ผู้ จั ด การตลาด ต้ น ตาล และที ม งาน ถวายเงินลูกค้าที่สรงนํ้า พระเนือ่ งในวันสงกรานต์ และหยอดตู้บริจาคเพื่อ สมทบ ทุนการศึกษาพระ ภิกษุสามเณร โรงเรียน ประภัสสร วัดศรีนวล ทหารช่ ว ยภั ย แล้ ง ; พล.ต.ธรากฤต ทับทอง สิ ท ธ์ ผบ.มทบ.๒๓/ ผบ.กกล.รส.จว.ข.ก. และคณะฝ่ายเสนาธิการ มทบ.๒๓ ตรวจเยีย่ มการ แจกจ่ายนํ้าและสำ�รวจ พื้นที่โครงการหนึ่งตำ�บล หนึ่ ง ล้ า น ณ วั ด ไชยศรี บ้ า นสาวะถี ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อ วันที่ ๒๙ เม.ย.๕๘ รดนํา้ ขอพร ; พล.ต.ธรา ก ฤ ต ทั บ ท อ ง สิ ท ธ์ ผบ.มทบ.๒๓ พร้ อ ม ค ณ ะ ร ด นํ้ า ข อ พ ร พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิ ษฐ ผู้บัญชาการตำ�รวจ ภูธรภาค ๔ เนื่องในวัน สงกรานต์ ณ สำ�นักงาน ตำ � ร ว จ ภู ธ ร ภ า ค ๔ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อ วันที่ ๒๐ เม.ย.๕๘
เตือนเกษตรกรรับมือศัตรูพืชฤดูแล้ง นายรักสกุล สุริโย เกษตรและสหกรณ์ จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตร มีค�ำ เตือนภัยเรือ่ งของศัตรูพชื ฤดูแล้งและการเตรียม พร้อมในการรับมือสถานการณ์การระบาดของศัตรู พืชในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากเกษตรกรในหลายพื้นที่หันมา ปลูกพืชทีใ่ ช้นาํ้ น้อยทดแทนการปลูกข้าว เนือ่ งจาก ในปีนสี้ ถานการณ์นาํ้ ในทีเ่ ก็บกักนํา้ ลดน้อยลง และ คาดว่ า สถานการณ์ แ ล้ ง จะรุ น แรงมากกว่ า ทุ ก ปี ซึ่งหากไม่มีการป้องกันและวางแผนเตรียมรับ สถานการณ์การระบาดของศัตรูพืชชนิดต่างๆ อาจ เกิดปัญหาการระบาดของศัตรูพชื เป็นพืน้ ทีก่ ว้าง ส่ง ผลให้ผลผลิตของเกษตรกรได้รบั ความเสียหาย และ กระทบต่อเศรษฐกิจของจังหวัดและประเทศได้ เพื่อเป็นการป้องกันและเตรียมพร้อมรับ สถานการณ์การระบาดของศัตรูพชื ขอให้เกษตรกร หมั่นทำ�การสำ�รวจแปลงปลูกพืชของเกษตรกร อย่างสมํ่าเสมอ เมื่อพบการระบาดของศัตรูพืชขอ ให้รายงานให้เจ้าหน้าที่เกษตรตำ �บลทราบทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้วินิจฉัยว่าเป็นศัตรูพืชชนิดใด และจะได้รายงานให้จังหวัดทราบเพื่อหาแนวทาง ป้องกันและกำ�จัดให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ ทั้ ง นี้ ท างจั ง หวั ด ได้ สั่ ง การให้ เ จ้ า หน้ า ที่ เกษตรตำ � บลในทุ ก พื้ น ที่ ออกสำ � รวจติ ด ตาม
สถานการณ์ศัตรูพืชอย่างต่อเนื่องแล้ว พร้อมทั้งให้ ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน หมู่บ้านเป็นศูนย์กลาง ในการผลิตขยายชีวภัณฑ์เพื่อใช้ในชุมชน หมู่บ้าน เองเป็นเบื้องต้น และให้เจ้าหน้าที่เกษตรตำ�บลให้คำ� แนะนำ�แก่เกษตรกรอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ และตามรายชนิดของพืชแต่ละชนิดที่ใช้สารกำ�จัด ศัตรูพืชที่ไม่เหมือนกัน เช่น พริก ในระยะเพาะกล้า ควรฉีดพ่นด้วยเชื้อราไตรโคเดอร์มา เพื่อป้องกันการ เกิดโรค รากเน่า - โคนเน่า หรือหากพบเพลี้ยไฟ หรือ เพลีย้ อ่อนเข้าทำ�ลาย เน้นว่าไม่ควรฉีดพ่นสารเคมีทกุ ชนิด ให้ฉีดพ่นด้วยเชื้อราบิวเวอเรีย หรือสารสะเดา และในระยะเริ่มติดผลอ่อน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานี กล่าว เพิ่มเติมว่า หากเกษตรกรพบโรคแอนแทรกโนส ให้ ฉีดพ่นด้วยเชือ้ ราไตรโคเดอร์มา ส่วนพืชผักตระกูลกะ หลํา่ ควรสำ�รวจศัตรูพชื เป็นประจำ� สัปดาห์ละครัง้ ใน ระยะเพาะกล้า ควรฉีดพ่นด้วยเชื้อรา ไตรโคเดอร์มา เพือ่ ป้องกันการเกิดโรค รากเน่า-โคนเน่า หากพบด้วง หมัดผัก แนะนำ�ให้ใช้ไส้เดือนฝอยกำ�จัดตัวอ่อนในดิน เมือ่ พบการระบาดให้ใช้สารเคมีฟโิ ปรนิล แต่หากเริม่ พบหนอนใบผัก หนอนคืบกะหลํา่ หรือหนอนกระทู้ ผัก ให้ใช้เชือ้ บาซิลลัส ทูรงิ เยนซิส เมือ่ พบการระบาด รุนแรงให้ใช้สารเคมีฟิโปรโนฟอส เป็นต้น
เ ปิ ด ส อ น ภ า ษ า เวียดนาม ; พล.ต.ธรา กฤต ทั บ ทองสิ ท ธ์ ผบ. มทบ.๒๓/ผบ.กกล. รส.จว.ข.ก. เป็นประธาน เ ปิ ด ก า ร ส อ น ภ า ษ า เวี ย ดนามให้ กำ � ลั ง พล ครอบครั ว บุ ต รหลาน กำ � ลั ง พล และเยาวชน รอบค่ายทหาร มทบ.๒๓ ณ สโมสรนายทหารค่ายศรีพัชรินทร มทบ.๒๓ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ ๒๘ เม.ย.๕๘
พ.ต.อ.อานนท์ นามประเสริฐ
รองผู้การฯ บึงกาฬ ตำ�รวจนํ้าดี Arnon’s Model
อส.ทั่วไทยรวมใจภักดิ์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผูว้ า่ ราชการจังหวัด ขอนแก่น ในฐานะผูบ้ งั คับการกองร้อยอาสารักษา ดิ น แดนจั ง หวั ด ขอนแก่ น นำ � รองผู้ ว่ า ราชการ จังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ อาสา สมัครรักษาดินแดน ร่วมกิจกรรมกองอาสารักษา ดินแดน (อส.) ทัว่ ไทยรวมใจภักดิเ์ ฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุ ม ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ณ หอประชุมอำ�เภอเมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2558 โดยมีสมาชิกกองร้อย อาสาสมัครรักษาดินแดนจาก 27 กองร้อย กำ�ลัง พล 259 นาย มาร่วมงาน
เพื่อให้ก�ำ ลังพล อส. กระทรวงมหาดไทย ทั้ ง ผู้ บั ง คั บ บั ญ ชา เจ้ า หน้ า ที่ และสมาชิ ก อส. ได้ จั ด กิ จ กรรมบำ � เพ็ ญ ประโยชน์ ต่ อ สาธารณะ แสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำ�นึกในพระ มหากรุณาธิคุณ และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ใน โอกาสพระชนมายุ 5 รอบ โดยกองร้อย อส.ทั้ง 27 กองร้อย ได้ร่วมทำ�กิจกรรมเพื่อเป็นประโยชน์ต่อ สาธารณะ อาทิ กิจกรรมการปลูกป่า การบริจาค โลหิต การปฏิบัติธรรม การบำ�เพ็ญประโยชน์ใน ด้านอื่นๆ ที่เป็นการแสดงความจงรักภักดี ซึ่งจะ จัดต่อเนื่องไปจนถึงเดือนธันวาคม 2558
ให้ กำ � ลั ง ใจนั ก กี ฬ า ฟุตบอลขอนแก่น FC ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ชกพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่น ร่วมเชีย และ ให้ กำ � ลั ง ใจนั ก เตะที ม ขอนแก่น เอฟซี ในการ แข่งขันฟุตบอล เอไอเอส ลี ก ภู มิ ภ าค 2015 โซน อี ส าน กั บ ที ม ร้ อ ยเอ็ ด ยูไนเต็ด ผลการแข่งขัน ขอนแก่ น เอฟซี ชนะ ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด 5 ต่อ 0 เมือ่ วันที่ 26 เมษายน 2558 ณ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ธารนํ้าใจหลั่งไหลช่วย ผู้ประสบภัยเนปาล ; นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พั น ธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่ น รั บ มอบ เงิ น บริ จ าคช่ ว ยเหลื อ ผู้ ป ระสบภั ย ประเทศ เนปาล จากตัวแทนห้าง สรรพสินค้าแฟรี่ พลาซ่า ขอนแก่ น ศู น ย์ ค้ า ส่ ง อู้ ฟู่ ข อนแก่ น และตลาด ต้นตาล ร่วมบริจาคเงินจำ�นวน 30,000 บาท และคณะครู ผู้ปกครองและนักเรียน โรงเรียนเทศบาล สวนสนุก
แฟรี่พลาซ่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2558
ส่ ง นํ้ า ใจสู่ เ นปาล ; คุ ณ ธิ ด ารั ต น์ อากรตน ปฏิคม สมาคมสือ่ มวลชน ขอนแก่น เป็นผู้แทนสมา คมฯ มอบเงินช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ประเทศเนปาล ในงาน คอนเสิร์ตการกุศล “ส่ง นํ้ า ใจสู่ เ นปาล” ให้ กั บ ตั ว แทน มู ล นิ ธิ ศุ ภ นิ มิ ต แห่งประเทศไทย ภูมภิ าค อีสาน ณ ห้างสรรพสินค้า
“สวั ส ดี ค่ ะ ” หนั ง สื อ พิ ม พ์ ไ ทยเสรี ขอ ต้ อ นรั บ ทุ ก ท่ า นเข้ า สู่ ค อลั ม น์ “สายตรงโรง พัก” ฉบับประจำ�เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2558 ฉบั บ นี้ เ ราขอแนะนำ � ท่ า นผู้ อ่ า นให้ รู้ จั ก กับคนในแวดวงสีกากี คือ “ตำ�รวจ” หรือ “ผู้ พิ ทั ก ษ์ สั น ติ ร าษฎร์ ” ในพื้ น ที่ ภ าคอี ส านเช่ น เคยค่ะ ในเดือนนี้เราขอแนะนำ �ท่านให้รู้จักกับ พ.ต.อ.อานนท์ นามประเสริฐ รองผู้บังคับการ ตำ�รวจภูธรจังหวัดบึงกาฬค่ะ พ.ต.อ.อานนท์ นามประเสริ ฐ รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ เป็นตำ�รวจนํ้าดี “มือรางวัล” อาทิ เช่น เมื่อปี 2549 ได้รับโล่บุคคลดีเด่นในด้าน การนำ �ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมการป้องกัน อุบตั เิ หตุจราจรจากคณะกรรมการป้องกันอุบตั ภิ ยั แห่งชาติ ในปี 2550 ได้รับรางวัลเข็มครุฑทองคำ� ข้าราชการพลเรือนดีเด่น จากนายกรัฐมนตรี ปี 2554ได้รับรางวัลบุคคลดีเด่น Prime Minister Road Safety Award รับโล่นายกรัฐมนตรีนางสาว ยิง่ ลักษณ์ ชินวัตร ปี 2555 เป็นตัวแทนประเทศไทย นำ�เสนอผลงาน (Oral &Poster Presentation) การ ประชุมวิชาการ Safety 2012 World Conference ทีW ่ ellington–New Zealand และเข้ารับโล่ประกาศ เกียรติคณ ุ บุคคลดีเด่นในด้านการป้องกันยาเสพติด จากนายกรัฐมนตรี และรางวัลอื่นๆ อีกมากมายที่ ไม่ได้กล่าวถึง พ.ต.อ.อานนท์ จบการศึ ก ษา ระดั บ ปริ ญ ญาตรี รั ฐ ประศาสนศาสตรบั ณ ฑิ ต จาก โรงเรียนนายร้อยตำ�รวจ ระดับปริญญาโท พัฒน บริหารศาสตรมหาบัณฑิต จากสถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) เข้ารับการฝึกอบรม หลักสูตรผูก้ �ำ กับการ จากสถาบันพัฒนาข้าราชการ ตำ � รวจ หลั ก สู ต รยุ ท ธศาสตร์ ก ารทำ � งานให้ มี ประสิทธิภาพ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ หลักสูตรจิตวิทยาความมั่นคง สถาบันวิชาการ ป้องกันประเทศ ประวัติรับราชการ ปี 2527 เป็นพนักงาน สอบสวน (พงส.) สภ.เมืองร้อยเอ็ด ปี 2528 ย้าย ไปเป็น รอง สวป.สภ.เมืองเลย ปี 2534 ขยับขึน้ เป็น
พนั ก งานสอบสวน ร ะ ดั บ ส า ร วั ต ร ( ส ว . ) ส ภ . เ มื อ ง นครราชสีมา ก่อนจะ ย้ายมาเป็น สารวัตรสืบสวน(สว.สส.) สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่นและหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.ขอนแก่น แล้วโยกไปเป็น สวป.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น และหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด ให้โทษภาค 4 ในปี 2540 ขึ้นเป็นสารวัตรสืบสวน (สว.สส.) กองกำ�กับการสืบสวนตำ�รวจภูธรภาค 4 และ ดำ�รงตำ�แหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ใน ปี 2557 บทบาททางสั ง คม เป็ น ผู้ อำ � นวยการ หลักสูตรการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมวัยโจ๋ หรือ Arnon’s Model อั น เป็ น ต้ น แบบในการปรั บ ปรั บ เปลี่ ย นพฤติ ก รรมวั ย รุ รุ่ น ทั่ ว ไปให้ เ ป็ น คนดี ใ นสั ง คมอย่ า งสง่ า งาม เป็ น อาจารย์ พิ เ ศษ คณะนิ ติ ศ าสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น , ศู น ย์ วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนนวิทยาลัยการ ตำ�รวจ เป็นวิทยากรมหาวิทยาลัยขอนแก่น, กอง บัญชาการศึกษา สำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ และ สำ�นักงานควบคุมโรค (สคร.5) สำ�นักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพแห่งชาติ (สสส.) ในโอกาสทีไ่ ด้มาเยือนคอลัมน์สายตรงโรง พัก พ.ต.อ.อานนท์ นามประเสริฐ ได้กล่าวไว้ว่า “ในฐานะที่เป็นผู้อำ�นวยการหลักสูตรการปรับ เปลีย่ นพฤติกรรมวัยโจ๋ หรือ Arnon’s Model อยาก ให้มีการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มเยาวชนเกเร ที่ ชอบแก้ปัญหาด้วยการใช้ความรุนแรงให้ได้กลับ ตัวเป็นคนดีของสังคม เพือ่ ให้เยาวชนเหล่านีม้ ที ยี่ นื ในสังคมอย่างสง่างาม โดยพร้อมทีจ่ ะผลักดันให้วยั รุน่ กลุม่ นีเ้ ป็นพลังขับเคลือ่ นทีส่ �ำ คัญในการพัฒนา ประเทศชาติบา้ นเมืองของเราให้เจริญก้าวหน้าต่อ ไป” สำ�หรับคอลัมน์สายตรงโรงพักฉบับนีต้ อ้ ง ขอลาท่านผู้อ่านไปก่อน ไว้พบกันใหม่ฉบับหน้า เดือนมิถุนายน2558 นะคะ “สวัสดีค่ะ”
เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน
อพิโก้จัดเวทีรับฟังโครงการ วางท่อก๊าซจากภูฮ่อม เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2558 ที่ห้องประชุมทอง ใหญ่ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายอดุล จันทน ปุ่ม รอง ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานเปิดเวทีชี้แจง โครงการผลิตและวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติและรับ ฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ซึ่งจัดโดย บริษัท อพิโก้ โคราช จำ�กัด โดยมีผแู้ ทนหน่วยงานราชการ สถาบัน การศึกษา องค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิง่ แวดล้อม และ สื่อมวลชนในจังหวัดอุดรธานี นายศิ ว เรศ ธรรมวิ เ ศษ พลั ง งานจั ง หวั ด อุดรธานี กล่าวว่า โครงการผลิตและวางท่อส่งก๊าซ ธรรมชาติ จัดเป็นประเภทโครงการที่ต้องได้รับการ ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และรับฟังความคิด เห็นของประชาชนก่อนการพัฒนาโครงการฯ โดย ต้องเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียในระดับพื้นที่ได้มี ส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น ซึ่งเป็นไปตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พุ ท ธศั ก ราช 2557 บั ญ ญั ติ ใ ห้ มี ส ภาปฏิ รู ป แห่ ง ชาติ สปช. มีหน้าที่ศึกษา และเสนอแนะให้ เกิด การปฏิรูปด้านต่างๆ รวมถึงเรื่องการปฏิรูปด้าน ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม เพือ่ ให้เกิดการ มีสว่ นร่วมของทุกภาคส่วนและลดความขัดแย้งทาง
สังคม จากโครงการพัฒนาต่างๆ สำ � หรั บ การชี้ แ จงโครงการและรั บ ฟั ง ความคิ ด เห็ น ครั้ ง ที่ 1 นี้ เ ป็ น โครงการผลิ ต และวางท่ อ ส่ ง ก๊ า ซธรรมชาติ แหล่ ง สิ น ภู ฮ่ อ ม ตะวั น ออกหลุ ม sphe-1st แปลงสำ � รวจบนบก หมายเลข l 15 / 43 จังหวัดอุดรธานี ความยาว ป ร ะ ม า ณ 6 กิ โ ล เ ม ต ร แ ห ล่ ง สิ น ภู ฮ่ อ ม ตะวันออกหลุมsphe-1st ถึง tie.In kp 9.0 ความยาว ประมาณ 9 กิโลเมตร และ แหล่งสินภูฮ่อมตะวัน ออกหลุม sph-1แปลงสำ�รวจบนบกหมายเลข l 15/43 จังหวัดขอนแก่นท่อก๊าซระหว่างหลวง sph1 ถึงt1 ความยาวประมาณ 0.1 km ของบริษัท อาพิโก้โคราชจำ�กัด เพือ่ ชีแ้ จงรายละเอียดเบือ้ งต้นของโครงการ เสนอแนวทางการศึกษาผลกระทบด้านสิง่ แวดล้อม ให้เกิดการรับรู้เข้าใจ และร่วมแสดงความคิดเห็น จากผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งจะเป็นข้อเสนอแนะ สำ�หรับ ผู้ รั บ สั ม ปทานและคณะที่ ป รึ ก ษาจะได้ นำ � ไป พิจารณาประกอบจากทำ�รายงานการวิเคราะห์ผลก ระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการให้มีความสมบูรณ์ มากยิ่งขึ้นต่อไป
รางวัลสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ขอนแก่ น เปิ ด โครงการพั ฒ นาสื่ อ ปลอดภั ย และสร้ า งสรรค์ และมอบรางวั ล ภาพถ่ า ยและคลิ ป สั้ น การท่ อ งเที่ ย วเชิ ง วัฒนธรรมส่งเสริมค่านิยมหลัก 12 ประการ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2558 ที่ห้องโถง ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็น ประธานเปิดนิทรรศการภาพถ่ายท่องเที่ยวเชิง วัฒนธรรมส่งเสริมค่านิยมหลัก 12 ประการ และแถลงผลการดำ�เนินงานโครงการพัฒนา สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จังหวัดขอนแก่น ปี 2558 มีการมอบเกียรติบัตรให้แก่ ผู้ชนะเลิศ การประกวดภาพถ่ายและวีดโี อคลิป จำ�นวน 12 ผลงาน ซึ่ ง การประกวดภาพถ่ า ยโครงการ พั ฒ นาสื่ อ ปลอดภั ย และสร้ า งสรรค์ จั ง หวั ด ขอนแก่น หัวข้อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และคลิปสัน้ ค่านิยม 12 ประการ ภาพถ่ายแหล่ง ท่องเทีย่ วเชิงวัฒนธรรม มีผสู้ ง่ ภาพเข้าประกวด 13 ราย ผู้ชนะเลิศได้แก่ นายเชษฐ์ อัครจรรยา
จากอำ�เภอนํ้าพอง รองชนะเลิศอันดับ 1 นายปรุฬ กรณ์ ศรีจนั ทร์ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น รองชนะ เลิศอันดับ 2 นายชวนนท์ เฉลิมชนม์ จาก อ.เมือง ขอนแก่น ส่ ว นประเภทคลิ ป สั้ น ค่ า นิ ย ม 12 ประการมี ผู้ ส่ง 11 ผลงาน ผู้ชนะเลิศได้รับคัดเลือก 5 ผล งานเผยแพร่ทางสื่อ ชนะเลิศที่ 1 เรื่องพระพุทธ
ศรีมงคล จากเทศบาลกุดนํ้าใส ที่ 2 เรื่อง มีสติ รู้ตัว รู้คิด รู้ทำ� โดยนางปิยพร ศรีปรีชาพันธ์ 3.เรื่องการทำ�บุญวันมาฆบูชา โดยนางสาวอัชฌ พรรณ ผลาเลิศ 4. เรื่องรักชาติแบบพิเศษ โดย นางสาวนชุดา กาญจนะกัณโห และเรื่อง นิยม อิส แฮปปี้ โดย นางสาววริศรา รถแก้ว
หน้า 9
ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 ประจำ�เดือนพฤษภาคม 2558
ครัวโนนทัน....อาณาจักรความอร่อย
“บ้าน ป.ครัวโนนทัน” สวนกระแสเศรษฐกิจ เนรมิตพืน้ ทีเ่ ศรษฐกิจริมบึง แก่นนคร ด้วยงบประมาณมากกว่า 10 ล้านบาท สร้างอาณาจักรความอร่อยให้ กับนักท่องเทีย่ วและทุกท่านทีช่ นื่ ชอบรสชาติอาหารอีสานขนานแท้และดัง้ เดิม โดยยกเมนูเด็ดที่เป็นสุดยอดอาหารในภาคอีสานมาไว้ในอาณาจักร “ครัวโนน ทัน” เพียงแห่งเดียวที่เติมเต็มในทุกความต้องการอาหารที่หลากหลาย นายนพพร วรรณพงษ์ กรรมการผูจ้ ดั การ บ้าน ป.ครัวโนนทัน เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่นมีความเติบโตในด้านต่างๆ เพิม่ มากขึน้ และในอนาคต เชือ่ ว่า ความเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน จะนำ�นักท่องเทีย่ ว และนักลงทุนเข้ามาใน พื้นที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้มาเยือนมักต้องการสัมผัสกลิ่นอายของวัฒนธรรมอีสาน รวมทัง้ รสชาติอาหารอีสานแท้ๆ จึงออกแบบอาณาจักร “บ้าน ป.โนนทัน” ในรูป แบบไลฟ์สไตล์ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นพื้นบ้านอีสานที่ประยุกต์ให้ทัน สมัยในโลกยุคใหม่อย่างลงตัว โดยสร้างเป็นเรือนทรงไทยพื้นบ้านยกสูง แบ่ง เป็นโซนสำ�หรับบรรยากาศการรับประทานอาหารที่หลากหลาย มีทั้งห้องแอร์ ปรับอากาศสำ�หรับการหลบลมร้อน โซนสำ�หรับบรรยากาศโปร่งโล่งสบาย และ มุมสงบท่ามกลางธรรมชาติส�ำ หรับการผ่อนคลายเบาๆ นอกจากนี้ ยังมีหอ้ งจัด เลี้ยงสำ�หรับหมู่คณะที่สามารถรองรับได้ตั้งแต่ 50 – 100 คนขึ้นไป “อาณาจักร “บ้าน ป.โนนทัน” หรือ “ครัวโนนทัน” เน้นความเป็นอีสาน ขนานแท้และดั้งเดิม มีอาหารอีสานทุกประเภทให้ลิ้มลองความอร่อย อาทิ ส้มตำ� ที่จะเป็นเมนูเด็ดมอบให้สำ�หรับท่านที่หลงใหลในรสชาติของส้มตำ� มี ให้เลือกมากกว่า 10 ชนิด ทั้งตำ�ถาดสำ�หรับหมู่คณะ ขนาดมินิ สำ�หรับกลุ่ม เล็กๆ ซึ่งส้มตำ� จะเป็นเมนูเด็ดที่ต้องท้าให้ลองลิ้มชิมความอร่อยจากกุ๊กชั้น ยอด นอกจากนี้ยังมีมีปลานํ้าโขงไว้บริการได้ทุกเมนู อาทิ ลาบ ต้ม ยำ� พล่า ปลานํ้าโขง หรือ ปลานํ้าโขงนึ่ง, ปลาช่อน-ปลานิลเผา เสิร์ฟพร้อมแจ่ว รสแซ่บ สะใจ และยังมีเมนูอาหารอีสานกว่า 100 เมนูส�ำ หรับท่านทีช่ นื่ ชอบอาหารอีสาน ไม่ผิดหวังแน่นอน” นายนพพร กล่าวและว่า
นอกจาก อ า ห า ร อี ส า น ทุ ก ป ร ะ เ ภ ท แล้ ว สำ � หรั บ ท่ า นที่ ช อบรั บ ประทานเนื้อวัว ขอแนะนำ� “เนื้อ โคขุ น โพนยาง คำ�” ที่ส่งตรงจาก ฟาร์มใหม่สดทุกวัน นับเป็นอีกเมนูเด็ดที่ยก มาจากจังหวัดสกลนคร “เตาถ่าน โพนยางคำ�” ที่นำ�เนื้อโคขุนย่างบนเตาถ่าน ด้วยกระทะทองเหลือง พร้อมนํ้าจิ้ม รสแซ่บมีให้เลือก 2 แบบ หรือจะเป็นสเต็กกระทะร้อน เนื้อย่าง ในราคาเบาๆ ที่ ทุกท่านสามารถลิ้มลองได้ “นอกจากอาหารอีสานขนานแท้แล้ว ภายในอาณาจักร “บ้าน ป.โนน ทัน” ยังมีโซนกาแฟ “YES COFFEE“สำ�หรับท่านที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือมุมสงบจิบกาแฟที่ให้รสชาติของกาแฟแท้ๆ พร้อมกลิ่นอายความเป็นส่วน ตัวแบบสบายๆ” นายนพพร กล่าว “ครัวโนนทัน” พร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 7 มิถุนายน 2558 เป็นต้นไป ตัง้ แต่เวลา 10.00 – 22.00 น. พิเศษช่วงโปรโมชัน่ แนะนำ� “บ้าน ป.โนนทัน” หรือ “ครัวโนนทัน” สำ�หรับทุกท่านที่เข้ามาใช้บริการ จะได้รับส่วนลดพิเศษ พร้อม บัตรส่วนลดสำ�หรับหมู่คณะ สอบถามรายละเอียด หรือสั่งจองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่ 081-260-2751 หรือ 098-663-7813
เมือ่ วันที่ 28 เมษายน 2558 ทีห่ อ้ งประชาสโมสรโรงแรมเซ็นทารา คอน เวนชัน่ เซ็นเตอร์ จ.ขอนแก่น นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดขอนแก่น นายกนก ศิรพิ านิชกร ขนส่งจังหวัดขอนแก่น แถลงข่าวการจัดประมูลหมายเลข ทะเบียนรถยนต์ ซึ่งเป็นที่นิยมของประชาชน “เลขทะเบียนรถสวย” ครั้งที่ 12 ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง รถเก๋ง 4 ประตู หมวดอักษร กษ นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จากสถิติที่มีการ ประมูลเลขทะเบียนสวย 11 ครั้งที่ผ่านมา มียอดการประมูลเพิ่มขึ้นทุกปี นับ เป็นผลสำ�เร็จที่น่าพอใจ อย่างการประมูลครั้งแรกในหมวดอักษร กต เมื่อ ปี 2547 รวมยอดเงิน 9,333,500 บาท ครั้งที่ 2 หมวดอักษร กท ปี 2548 รวมยอดเงิน 9,768,000 บาท ครั้งที่ 3 หมวดอักษร กธ ปี2550 รวมยอดเงิน 13,055,999 บาท ครัง้ ที่ 4 หมวดอักษร กน ปี 2551 รวมยอดเงิน 10,162,900 บาท ครั้งที่ 5 หมวดอักษร กบ ปี2552 รวมยอดเงิน 13,884,500 บาท ครั้ง ที่ 6 หมวด กพ ปี 2553 รวมยอดเงิน 16,598,500 บาท ครั้งที่ 7 หมวดอักษร กม ปี2554 รวมยอดเงิน 18,854,500 บาท ครั้งที่ 8 หมวดอักษร กย ปี 2555 รวมยอดเงิน 18,908,999 บาท ครั้งที่ 9 หมวดอักษร กร ปี 2555 รวม ยอดเงิน 23,882,000 บาท ครั้งที่ 10 หมวดอักษร กล ปี 2556 รวมยอดเงิน
21,786,000 บาท ล่าสุดครั้งที่ 11 หมวดอักษร กว ปี 2557 รวม ยอดเงิน 21,090,000 บาท รวมยอดรายได้จากการประมูล 11 ครั้ง เป็นเงิน 177,324,898 บาท สำ�หรับจังหวัดขอนแก่น ได้รบั อนุมตั เิ งินค่าอุปกรณ์ชว่ ย เหลือผูพ้ กิ ารอันเนือ่ งมาจากการประสบภัยทีเ่ กิดจากการใช้รถใช้ ถนนประจำ�ปีงบประมาณ 2557 จำ�นวน 82 ราย เป็นเงิน 3,747,000.-บาท จึง เชิญชวนทุกท่านให้ร่วมการประมูลหมายเลขทะเบียนสวย เพราะนอกจากได้ ทะเบียนรถที่เป็นมงคล เป็นเลขที่เราต้องการแล้ว ยังมีโอกาสได้ท�ำ บุญสร้าง กุศลด้วยการสนับสนุนเงินเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยบนในการใช้รถใช้ ถนน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และมีส่วนร่วมในการป้องกัน ลดความ สูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนอีกด้วย นายกนก ศิริพานิชกร ขนส่งจังหวัดขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า การ ประมูลหมายเลขทะเบียนรถเลขสวย ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง หรือรถเก๋ง รถ 4 ประตู หมวดอักษร กษ โดยมีสื่อความหมายว่า “กิจการ ก้าวหน้า ชีวาเกษมสุข” จำ�นวน 301 หมายเลข โดยแบ่งเป็น เลขสี่ตัวเหมือน อาทิ 1111 ถึง 9999 เลขสามตัวเหมือน สองตัวเหมือน เลขเดี่ยว เลขคู่ 8 เลขคู่
มอบอาคารเรียนมูลนิธิ เอสซีจี หลังที่ 34
ประกวดร้องเพลง Fairy Fantasia 9 By LTD ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า ขอนแก่น ร่วมกับผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าบุรุษ LTD จัดการประกวดร้องเพลง Fairy Fantasia 9 By LTD รอบชิงรางวัลพิเศษ ด้านเพลงร็อค เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2558 ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ นางสาวณฐกานต์ อนันตศิริจินดา (ภาพบน) และรอบชิงรางวัลพิเศษด้านเพลงแด๊นซ์ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2558 ที่ผ่านมา ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ นางสาวกรองกาญจน์ สุทธมาตย์ (ภาพล่าง) และขอเชิญชมการประกวด รอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 16 พ.ค. 2558 เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป ณ เวทีกลางตลาดต้นตาล ขอนแก่น
ประมูลเลขทะเบียนสวย “กิจการก้าวหน้า ชีวาเกษมสุข”
9 เลขหลักพัน เลขเรียง และเลขคู่ โดยกำ�หนดเปิดการประมูลในวันที่ 16 – 17 พฤษภาคม 2558 ณ โรงแรมเซ็นทารา คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จ.ขอนแก่น เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมประมูล จะมีรถอยู่แล้วหรือไม่ก็ได้ เพราะหมายเลข ที่ได้จากการประมูล สามารถจดทะเบียนรถได้ทันที และสามารถเปลี่ยนกับ ทะเบียนรถเดิมที่มีอยู่แล้วได้ อีกทั้งยังโอนสิทธิ์ให้กับใครก็ได้ตามกฎหมาย สำ�หรับประชาชนที่สนใจร่วมประมูลหมายเลขทะเบียนสวย สามารถ ติดต่อขอลงทะเบียนได้ที่ สำ�นักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่นแห่งที่ 1 และแห่ง ที่ 2 สำ�นักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่นสาขาอำ�เภอพลอำ�เภอชุมแพ, อำ�เภอ บ้านไผ่, อำ�เภอนํ้าพอง ในวันและเวลาราชการ หรือ ณ สถานที่จัดการประมูล หรือโทรศัพท์ หมายเลข 043-379-480 หรือ 080-758-8558, 080-758-8668
นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ธรากฤต ทับทองสิทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัช รินทร นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี นายเมธา ประภาวกุล ประธานชมรมอาสาพัฒนาเอสซีจี พร้อมสมาชิกอาสาฯ จัด พิธีมอบอาคารเรียน พร้อมอุปกรณ์การเรียนและห้องนํ้า รวมมูลค่ากว่า 3,000,000.-บาท ให้กับโรงเรียนบ้านคำ�ครึ่ง ตำ�บลหัวนาคำ� อำ�เภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น โดยมี นายกิตติพล พลพิลา ผอ.สำ�นักงานเขตพื้นที่การ ศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 และนางลัชรี เดชโยธิน ผู้อ�ำ นวยการ โรงเรียนบ้านคำ�ครึ่ง เป็นผู้รับมอบ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี เปิดเผยว่า กว่า 50 ปี ที่มูลนิธิเอสซีจีนำ�อุดมการณ์ของ บริษัท เอสซีจี มาใช้ในเรื่องถือ มั่นในการรับผิดชอบต่อสังคม และเชื่อมั่นในคุณค่าของคน ซึ่งเป็นหลักใน การดำ�เนินงานอย่างต่อเนือ่ ง การตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และ มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือตอบแทนสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคม ด้วยตระหนักว่า สังคมของประเทศจะเข้มแข็งได้อย่างยั่งยืน ต้องเริ่มจากทรัพยากรบุคคลที่ มีคุณภาพ โครงการค่ายอาสา โดยมูลนิธิเอสซีจี จึงเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจที่ จะปลูกฝังให้พนักงานเอสซีจี เกิดจิตอาสา ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อ สังคมด้านต่างๆ รวมถึงการช่วยเหลือ ตอบแทนสิ่งที่ดี มีประโยชน์ กลับคืน สู่สังคม ดังนั้น มูลนิธิฯ ดำ�เนินการก่อสร้างอาคารเรียนให้กับโรงเรียนในถิ่น ทุรกันดาร ที่ยังขาดแคลนอาคารเรียนปีละ 1 หลัง พร้อมทั้งสนับสนุนปัจจัย พื้นฐานทางการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชน เป็นเวลามากกว่า 30 ปี โดยมูลนิธิเอสซีจี ได้มีการส่งมอบอาคารเรียนให้กับสำ�นักงานคณะ กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ทางการศึกษา ของเด็กและเยาวชนที่ผ่านมา รวม 33 หลัง ห้องนํ้า 8 หลัง สถานพยาบาล 2 หลัง และถังเก็บนํ้าฝน 2 ถัง และในปี 2558 ชมรมอาสาพัฒนาเอสซีจี ได้พิจารณาคัดเลือกโรงเรียนบ้านคำ�ครึ่ง ตำ�บลหัวนาคำ� อำ�เภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น สร้างอาคารเรียน ห้องนํ้า และทำ�พิธีส่งมอบอาคารเรียน พร้อมอุปกรณ์การเรียน ชั้นหนังสือ อุปกรณ์กีฬา และครุภัณฑ์ รวมมูลค่า กว่า 3,000,000 บาท ให้กับโรงเรียนบ้านคำ�ครึ่ง และนับเป็นอาคารเรียน หลังที่ 34 จากโครงการค่ายอาสา โดยมูลนิธิเอสซีจี “เอสซีจี ถือว่าการสร้างอาคารเรียนให้โรงเรียนที่ขาดแคลนนั้น เป็นการส่งเสริมการศึกษาของเด็กและเยาวชน เป็นการลงทุนทางปัญญาที่ คุ้มค่า และอยากเห็นเด็กเติบโตเป็นคนเก่ง เป็นคนดีของสังคม โดยเชื่อมั่น ว่า การศึกษาจะสร้างคน และจิตอาสาจะจรรโลงสังคมให้นา่ อยูอ่ ย่างยัง่ ยืน” นายขจรเดช กล่าว
หน้า 10
ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 ประจำ�เดือนพฤษภาคม 2558
ซ้อมแผนอัคคีภัยและก่อวินาศกรรม ; นายชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธาน บริหารโรงแรมโฆษะ นำ�พนักงานโรงแรมโฆษะ ร่วมการฝึกซ้อมแผนการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด ประจำ�ปี 2558 ด้านการก่อ วินาศกรรม อาคารถล่ม สารเคมี และอัคคีภัยสูงในจังหวัดขอนแก่น ให้ สามารถรับมือและเตรียมความพร้อมต่อการเผชิญสถานการณ์จริง ณ บริเวณ ลานจอดรถโรงแรมโฆษะ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
“วันแห่งต้นกล้า” เปิดมิติการวางแผนธุรกิจแนวใหม่ ; นายสมิง ยิ้มศิริ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการสร้าง SMEs ไทยสู่เวทีการค้าสากล ประจำ�ปีงบประมาณ 2558 (ต้นกล้า ทูโกล) “วันแห่ง ต้นกล้า” เปิดมิติการวางแผนธุรกิจแนวใหม่ สัมมนา ไขรหัสลับเทคนิคการ ขยายเครือข่าย SMEs สู่ ASEAN จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ณ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์คอนเว็นชันเซ็นเตอร์ ขอนแก่น
เยือนเซ็นทารา ขอนแก่น ; ฯพณฯ ตีแรยี วีโต เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำ�ประเทศไทย รับการต้อนรับอย่างอบอุน่ จาก นายวุฒศิ กั ดิ์ พิชญกานต์ ผูจ้ ดั การทัว่ ไปโรงแรมเซ็นทารา คอนเวนชันเซ็นเตอร์ ขอนแก่น เนือ่ งในโอกาส เข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ณ ห้องประชาสโมสร โรงแรมเซ็นทารา คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ ขอนแก่น เมื่อเร็วๆนี้
กอล์ฟเทศบาล Invitation 2015 ; นายวิทยา ศิริชาติวาปี อดีตผู้อำ�นวย การสำ�นักการช่างเทศบาลนครขอนแก่น ร่วมเปิดการแข่งขันกอล์ฟเทศบาล Invitation 2015 ร่วมกับ ชมรมช่างเทศบาลทั่วประเทศ ณ สนามกอล์ฟสิงห์ ปาร์ค ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558
นครขอนแก่นเป็นเจ้าภาพ ประชุมช่างแห่งประเทศไทย
คนขอนแก่นปลอดภัย จากโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ จังหวัดขอนแก่นจัดงานวันคุ้มครองผู้ บริโภคขอนแก่นกับมหกรรม “คนขอนแก่น ปลอดภัยจากโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ” โดย สำ�นักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำ � จั ง หวั ด ขอนแก่ น ศู น ย์ ดำ � รงธรรม จังหวัดขอนแก่น สำ�นักงานสาธารณสุขจังหวัด ขอนแก่ น สมาคมผู้ บ ริ โ ภคจั ง หวั ด ขอนแก่ น เครือข่ายทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจาย เสียงและสถานวิทยุกระจายเสียงทุกแห่ง ร่วม พิ ธี ล งนามในบั น ทึ ก ข้ อ ตกลงความร่ ว มมื อ (MOU) ในการแก้ไขปัญหาการโฆษณาอาหาร และยา ผลิตภัณฑ์สุภาพ ณ ศาลาประชาคม จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2558 นายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รอง ผวจ. ขอนแก่น เปิดเผยว่า การจัดงาน “วันคุ้มครอง ผู้บริโภคไทย” ประจำ�ปี 2558 และงานมหกรรม “คนขอนแก่นปลอดภัยจากโฆษณาผลิตภัณฑ์ สุขภาพ” เพื่อให้ประชาชนมีความตระหนักถึง อันตรายต่างๆ จากการบริโภคอาหารและยาที่ ไม่มีประสิทธิภาพ การหลงเชื่อคำ�โฆษณาเกิน จริ ง จำ � เป็ น ต้ อ งศึ ก ษาเพื่ อ ประโยชน์ สำ � หรั บ ตนเอง ในการจั ด งานครั้ ง นี้ เพื่ อ ให้ ค วามรู้ ด้ า นการคุ้ ม ครองผู้ บ ริ โ ภค และรณรงค์ ใ ห้ ผู้ บริโภคปลอดภัยจากโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ
โดยจั ด เวที เ สวนา ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ใ น การแก้ ไ ขปั ญ หา การโฆษณาอาหาร ยา และผลิ ต ภั ณ ฑ์ สุขภาพ และการจัด นิ ท รรศการความ รู้ ด้ า นการบริ โ ภค อาหาร การใช้ยาปฎิ ชี ว นะ และความ สำ�คัญของฉลากก่อนบริโภค นอกจากนิ ท รรศการความรู้ จ ากหน่ ว ย งานต่างๆ ยังมีการจัดเสวนา และการลงนามใน บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ( MOU) ในการแก้ไข ปัญหาการโฆษณาอาหารและยา ผลิตภัณฑ์สุภาพ ระหว่าง สำ�นักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้ บริโภค ประจำ�จังหวัดขอนแก่น ศูนย์ดำ�รงธรรม จังหวัดขอนแก่น สำ�นักงานสาธารณสุขจังหวัด ขอนแก่ น สมาคมผู้ บ ริ โ ภคจั ง หวั ด ขอนแก่ น เครื อ ข่ า ยทดลองประกอบกิ จ การวิ ท ยุ ก ระจาย เสี ย ง และสถานวิ ท ยุ ก ระจายเสี ย งทุ ก แห่ ง ได้ ร่ ว มลงนามในบั น ทึ ก ข้ อ ตกลงความร่ ว มมื อ ( MOU) ในการแก้ไขปัญหาการโฆษณาอาหาร และยา ผลิตภัณฑ์สุภาพ “คนขอนแก่นปลอดภัย
เปเปอร์มาเช่ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
จากโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ” ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ ประกอบกิจการวิทยุกระจายสียง กิจการโทรทัศน์ นักจัดรายการวิทยุและประชาชนได้รบั ความรูแ้ ละ คุม้ ครองของประชาชน ให้ได้รบั ความปลอดภัยใน การบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพตามโฆษณา ซึง่ ปัจจุบนั การโฆษณาผลิตภัณฑ์สขุ ภาพ อาหาร ยา เครื่องสำ�อาง เครื่องมือแพทย์ มีการ โฆษณาที่ฝ่าฝืนกฎหมายจำ�นวนมาก ด้วยการนำ� เสนอทีมีลักษณะโอ้อวดหรือแสดงสรรพคุณเกิน จริง ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และก่อให้เกิด ผลเสียต่อสุขภาพ ไม่หายจากการเจ็บป่วย หรือ เป็นโรคมากขึ้นแล้ว ยังเสียทรัพย์จำ�นวนมากการ โฆษณาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งบันทึกข้อตกลงนี้มีผล ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2558 ถึง 30 เมษายน 2560 โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จัดกิจกรรมเวิรค์ ช็อปสอนการทำ� เปเปอร์มาเช่ ใน วันครบรอบก่อตั้งโครงการแพลนเนต 21 เมื่อวัน ที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา โดยการนำ�เศษกระดาษ ที่ไม่มีประโยชน์ หรือที่ไม่ใช้แล้ว นำ�กลับมาเป็น วัสดุหลักในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพื่อสื่อ ให้เห็นถึงความสำ�คัญของการรีไซเคิลและอนุรกั ษ์ สิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถนำ�ผลงานดังกล่าวใช้เป็น ประโยชน์ในการตกแต่งสร้างความสวยงามให้กบั ห้องอาหารของโรงแรมฯ ได้อีกด้วย โครงการแพลนเนต 21 คื อ โครงการ ที่ มุ่ ง เน้ น การพั ฒ นาสิ่ ง แวดล้ อ มอย่ า งยั่ ง ยื น ของแอคคอร์ โดยดำ � เนิ น การตามแผนปฏิ บั ติ งาน 21 ประการ ซึ่งให้ความสำ�คัญอย่างยิ่งยวด ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางการผลิตและการ บริโภค เพือ่ ช่วยอนุรกั ษ์โลก ผูค้ น และสิง่ แวดล้อม รวมถึงปฏิบตั ติ ามบัญญัต ิ 21 ประการด้านสุขภาพ ธรรมชาติ พลังงาน ความริเริม่ สร้างสรรค์ การจ้าง งาน และอื่นๆ อีกมากมาย
สถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ ชมรม ช่างเทศบาลแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาวิชาการเพือ่ พัฒนาประสิทธิภาพการ ปฏิบตั งิ านวิชาชีพด้านช่าง ระหว่างวันที่ 14-15 พ.ค.58 มีบคุ ลากรองค์กรช่าง อปท.ทั่วประเทศเข้าร่วม เกือบ 1,000 คน เมื่อวันที่ 14 พ.ค.58 ที่โรงแรมเซ็นทารา แอนด์คอนเว็นชันเซ็นเตอร์ ขอนแก่น นายสมดี คชายั่งยืน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานเปิด“โครงการฝึกอบรมสัมมนาวิชาการเพือ่ พัฒนาประสิทธิภาพ การปฏิบัติงาน สำ�หรับบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านช่างขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น” ระหว่างวันที่ 13 -15 พฤษภาคม 2558 ซึ่งสถาบันพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ ชมรมช่างเทศบาลแห่ง ประเทศไทย จัดขึ้น โดยมี นายศิวโรจน์ มุ่งหมายผล รองผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น รศ.ดร.อำ�นวย คำ�ตื้อ ผู้อำ�นวยการสถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนคร ขอนแก่น และนายยินชัย อนันทนสกุล ผู้อำ�นวยการสำ�นักการช่างเทศบาล นครขอนแก่น และประธานชมรมช่างเทศบาลแห่งประเทศไทย ร่วมเป็น เกียรติและให้การต้อนรับ โดยมีพนักงานกองช่างเทศบาลทั่วประเทศ เข้า ร่วมงานสัมมนาเกือบ 1,000 คน
ทำ�ความเข้าใจการออกอากาศ ; พล.ต.ธรากฤต ทับทองสิทธ์ ผบ.มทบ.๒๓ และผบ.กกล.รส.จว.ข.ก. เป็นประธานประชุมและพบปะพูดคุย ผูบ้ ริหารสถานี วิทยุชุมชนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อทำ�ความเข้าใจและขอความร่วมมือ ในการถ่ายทอดสัญญาณเสียงรายการ ณ สโมสรนายทหารค่ายศรีพัชรินทร มทบ.๒๓ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ ๑๔ พ.ค.๕๘
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ปัจจุบันมีความสำ�คัญเพิ่มขึ้นอย่างมาก มีบทบาท ภารกิจ อำ�นาจหน้าที่ ที่หลากหลาย ครอบคลุมเกี่ยวข้องกับความ ต้องการของประชาชน โดยเฉพาะบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านช่าง ของ อปท. มีหน้าที่ที่สำ�คัญในการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย ภารกิจ และปฏิบัติงานให้บริการสาธารณะในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งจำ�เป็นจะต้อง มีความรู้ ความสามารถ ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ รู้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับการปฏิบัติงานที่ทันสมัยอีกด้วย นายยินชัย อานันทนสกุล ผอ.สำ�นักการช่าง เทศบาลนครขอนแก่น และประธานชมรมช่างเทศบาลแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการจัดโครงการฝึก อบรมสัมมนาวิชาการเพือ่ พัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบตั งิ านวิชาชีพด้านช่าง ว่า เพือ่ ให้ผเู้ ข้าร่วมสัมมนามีความรูค้ วามเข้าใจในกฎหมาย สามารถวิเคราะห์ หาจุดเด่นจุดด้อย ของงานเพือ่ ปรับเป็นกลยุทธ์ในการปฏิบตั งิ าน พร้อมทัง้ ใช้ โอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวิชาการและประสบการร่วมกัน จากนั้น นายสมดี คชายั่งยืน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครอง ท้องถิน่ ได้กล่าวเปิดงานพร้อมทัง้ เป็นวิทยากรบรรยายเรือ่ งระบบงานบริหาร บุคคลท้องถิ่น นายพิเชฐ พุ่มพันธ์ ผช.เลขาธิการคณะกรรมการสำ�นักงาน ป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) กล่าวถึง ข้อร้องเรียน และข้อแนะนำ�การปฏิบัติ กรณีที่หน่วยงานของ อปท.ที่จะ ต้องปฏิบัติ และความหลีกเลี่ยงจะกระทำ�เมื่อถูกร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. และ ดร.ธเนศ วีระศิริ อดีตเลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรม ราชูปถัมภ์ กล่าวถึง ทางรอดช่าง กรณีอาคารถล่ม
หน้า 11
ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 ประจำ�เดือนพฤษภาคม 2558 ตลาดนํ้าดื่ม ขก.
• ต่อจากหน้า 1 เพิ่มขึ้น และยังเป็นการกระตุ้นให้ยอดจำ�หน่ายนํ้า ไป” นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวและว่า ขยายสาขาไปยังจังหวัดมหาสารคาม นครราชสีมา พล.อ.อ.ประจินฯ กล่าวว่า ภาคตะวันออกเฉียง จากการคิดคำ�นวณดูแล้ว การใช้ไฟฟ้าสำ�หรับรถไฟ
คุณยุพิน พงษ์พิศ กรรมการผู้จัดการ หจก. โรงนํ้าแข็งหลอดศรีนวล และประธานชมรมผู้ผลิ ตนํ้าบริโภคจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากสภาพ อากาศที่ร้อนอบอ้าวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน และมีแนวโน้มว่าอุณหภูมิจะสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำ�ให้ความต้องการนํ้าดื่ม และนํ้าแข็งเพิ่มสูงขึ้น ด้วยเช่นกัน โรงนํา้ แข็งศรีนวลผลิตและจำ�หน่ายนํา้ แข็งหลอด นํ้าดื่มศรีนวล และนํ้าดื่มไดโนสะออน ให้ลูกค้าทั้งปลีกและส่งมานานกว่า 25 ปี โดยมี เครือ่ งผลิตนํา้ แข็งหลอดรวม 10 เครือ่ ง สามารถเดิน เครือ่ งได้ตลอด 24 ชัว่ โมง เพือ่ ผลิตนํา้ แข็งหลอดส่ง ให้ได้เพียงพอกับความต้องการของผูบ้ ริโภค เพือ่ ไม่ ให้นํ้าแข็งขาดตลาดในช่วงเทศกาลต่างๆ ในช่ ว งสภาพอากาศที่ มี อุ ณ หภู มิ สู ง ขึ้ น ทำ�ให้ประชาชนมีความต้องการบริโภคนํา้ แข็งและ นํ้าดื่มเพิ่มมากขึ้น จากปกติที่โรงนํ้าแข็งศรีนวลมี ยอดผลิตนํ้าแข็งหลอดเพื่อส่งให้ร้านค้าต่างๆ ทั้ง ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านค้าโชห่วย ที่ต้องส่งเป็น ประจำ � ในพื้ น ที่ จั ง หวั ด ขอนแก่ น และขายปลี ก หน้าโรงงาน ซึ่งมีอัตราการผลิตรวม 80 ตันต่อวัน แต่ในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศร้อน มากที่สุด และในช่วงเทศกาลสงกรานต์แต่ละปี จะมียอดจำ�หน่ายนํ้าแข็งสูงขึ้นเกือบ 100% เพราะ ประชาชนทัว่ ไปนิยมใช้นาํ้ แข็งแช่นาํ้ เล่นสงกรานต์ เพื่อสร้างความเย็นชุ่มฉํ่าคลายร้อนได้เป็นอย่างดี “ในปี นี้ ปริ ม าณความต้ อ งการใช้ นํ้ า แข็ ง เล่ น สงกรานต์ลดลงกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 50% อาจเป็น เพราะปัจจุบนั มีโรงงานผลิตนํา้ แข็งหลอดเปิดใหม่ เพิ่มขึ้น ซึ่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นมีโรงงานผลิ ตนํ้าแข็งหลอดเกือบ 20 โรง ทำ�ให้ยอดจำ�หน่ายมี การแชร์ตลาดออกไป ทำ�ให้ยอดจำ�หน่ายนํา้ แข็งลด ลงไปบ้าง” คุณยุพิน กล่าวและว่า ที่ผ่านมาก็มีผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ เข้า มาในตลาดเพิ่มขึ้น และมีการขยายโรงงานหรือ ลงทุนเปิดโรงงาน ทำ�ให้มีการแข่งขันสูง แบรนด์ ขนาดเล็กเริ่มสู้รายใหญ่ไม่ได้และมีแนวโน้มที่จะ ปิดตัวลงเนือ่ งจากเศรษฐกิจไม่ดี ภาคอุตสาหกรรม มีการจ้างงานไม่คึกคัก ทำ�ให้ผู้ประกอบการที่ผลิ ตนํ้าดื่มป้อนโรงงานอุตสาหกรรมน้อยลง จึงมีการ ปรับแผนการตลาดหันมาเจาะกลุ่มลูกค้าหน่วย งานราชการ ร้านอาหาร กลุ่มจัดประชุม/สัมมนา เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งปัจจุบันกลุ่มผู้ประกอบการ ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ ก็หันมาทำ�นํ้าดื่มที่เป็น แบรนด์ ข องตั ว เองมากขึ้ น คาดว่ า ในอนาคตผู้ ประกอบการรายเล็กที่มีทุนน้อยจะอยู่ลำ�บาก หาก ไม่ปรับตัวทำ�การตลาดเจาะกลุม่ ร้านอาหารมากขึน้ คุณยุพิน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในช่วง ที่สภาพอากาศมีอุณหภูมิสูงขึ้น และมีแนวโน้ม ร้อนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำ �ให้ความต้องการ ของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยยอดจำ�หน่ายนํ้า แข็งหลอดเพิ่มขึ้นเป็น 400 ตันต่อวัน สูงกว่าปกติ ราว 70-80% ไม่เฉพาะนํ้าแข็งเท่านั้นที่ผู้บริโภคมี ความต้องการเพิ่มมากขึ้น นํ้าดื่มยังได้รับผลกระ ทบจากอากาศร้อน ทำ�ให้ยอดจำ�หน่ายเพิ่มสูงขึ้น กว่าเท่าตัวด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ “นํ้าดื่มไดโนสะ ออน” ที่ได้รับอานิสงส์ของอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำ�ให้มียอดจำ�หน่ายสูงขึ้นเกิน 100% ด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากจะใช้ดมื่ แล้ว ด้วยรูปทรงขวดบรรจุ ทีส่ วยงามยังกลายเป็นของฝากทีใ่ ห้คณ ุ ค่าทางจิตใจ อีกด้วย ทำ�ให้นักท่องเที่ยวนิยมซื้อเป็นที่ระลึก “ถึงจะมีการแชร์ตลาดนํ้าแข็งหลอดและ นํ้ า ดื่ ม แต่ ไ ม่ มี ผ ลกระทบมากนั ก ซึ่ ง ปั จ จุ บั น ที่ โรงงานผลิตนํ้าดื่มศรีนวลขนาด 18.9 ลิตร ที่เคย มียอดจำ�หน่าย 300 ถังต่อวัน จะเพิ่มเป็น 500-600 ถังต่อวัน นํา้ ดืม่ ขนาด 600 cc. จำ�หน่าย 300 โหลต่อ วัน เพิ่มเป็น 600 โหลต่อวัน ส่วนนํ้าดื่มในแบรนด์ “ไดโนสะออน” มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นมาก เนื่องจาก นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเมืองขอนแก่นส่วน ใหญ่ให้ความสนใจ และชื่นชอบซื้อเป็นของฝาก ของที่ระลึก เพราะนอกจาก สีสัน ความสวยงาม ของฉลากข้างขวดที่นำ� “ไดโนเสาร์” แต่ละสาย พันธุ์มาเป็นโลโก้ข้างขวด สร้างการเรียนรู้ รวมทั้ง รูปแบบขวดที่สวยงามไม่เหมือนใคร ทำ�ให้ได้รับ ความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาว ต่างชาติ นับเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ของจังหวัดขอนแก่นให้เป็นที่รู้จักเมืองขอนแก่น
ดืม่ ไดโนสะออนเพิม่ สูงขึน้ อีกด้วย” คุณยุพนิ กล่าว ด้าน นายจิตร มณีรตั น์ พ่อค้าขายกาแฟเย็น โอเลีย้ ง ชาดำ � เย็ น และเครื่ อ งดื่ ม ทุ ก ชนิ ด บริ เ วณหน้ า สำ�นักงานเทศบาลนครขอนแก่น เปิดเผยว่า ตนเอง และภรรยา เปิดขายเครือ่ งดืม่ ประเภท กาแฟโบราณ ชามะนาว นํา้ ผลไม้ ฯลฯ เป็นประจำ�มานานกว่า 10 ปี โดยปกติถ้าเป็นช่วงโรงเรียนเปิดเทอมจะขายดี มาก โดยใช้นํ้าแข็งวันละ 4 - 5 ถุง แต่ช่วงโรงเรียน ปิดเทอมกับช่วงหน้าฝนยอดขายจะลดลง นํ้าแข็ง ที่ใช้ก็ลดลงเหลือเพียง 3 - 4 ถุงต่อวัน ถ้าเป็นหน้า ร้อน ปริมาณของนํ้าแข็งจะเพิ่มอีก 3 – 4 กระสอบ ไม่แน่นอน สำ�หรับปีนี้ อากาศร้อนกว่าหลายปีที่ผ่าน มา เครื่องดื่มประเภทนํ้ามะนาว นํ้าหวาน กาแฟ เย็น ได้รับความต้องการจากประชาชนโดยทั่วไป ทัง้ ขาจร และขาประจำ� ซึง่ มีปริมาณเพิม่ สูงขึน้ จาก ช่วงปกติราว 20-30% หากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ ชะลอตัว เชื่อว่าน่าจะขายดีกว่านี้ และยังเป็นช่วง ที่นักเรียนปิดเทอมทำ�ให้ยอดขายถึงจะเพิ่มขึ้น แต่ ไม่มากเท่าไร
5 เทศบาลในขก.
• ต่อจากหน้า 1
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2558 ที่ห้องประชุม เป็งจาล เทศบาลนครขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆา ยุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นายยอดยิ่ง จันทนพิมพ์ นายกเทศมนตรีเมืองศิลา นายวิทิต ทองโสภิต นายกเทศมนตรีเมืองเก่า นายประสิทธิ์ ตาตินิจ รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตำ�บลท่าพระ และนายสั ม ฤทธิ์ มู ล สาร รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตำ�บลสำ�ราญ ร่วมลงนาม (MOU) “บันทึก ความเข้ า ใจว่ า ด้ ว ยความร่ ว มมื อ การดำ � เนิ น การ สาธารณูปโภค” จัดตั้งบริษัทจำ�กัดเทศบาล โดยมี นายปิยิน ตลับนาค นายอำ�เภอเมืองขอนแก่น ร่วม เป็นสักขีพยาน เพื่อพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ซึ่ง ระบบที่เทศบาลนครขอนแก่นศึกษาไว้คือ ระบบ BRT และพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อ รองรับความเจริญเติบโตของเมืองขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น เปิดเผยว่า ทั้ง 5 เทศบาล ได้แก่ เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลเมืองศิลา เทศบาล เมืองเก่า เทศบาลตำ�บลท่าพระ และเทศบาลตำ�บล สำ�ราญ ตระหนักถึงปัญหาในการจัดการเกี่ยวกับ สาธารณูปโภคในปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ เครือข่ายสาธารณูปโภคเมืองขอนแก่น จะต้อง ดำ�เนินการแก้ไขทั้งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น และชุมชนเมืองโดยรอบ ซึ่งจำ�เป็นจะต้องมีแผน ปฏิ บั ติ ก ารที่ ชั ด เจนในการร่ ว มกั น แก้ ไ ขปั ญ หา ดั ง กล่ า วอย่ า งเป็ น ระบบ อาทิ การจั ด การขยะ มูลฝอย การบริการสาธารณะ และการจัดระบบ โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ด้วยเจตนารมณ์ที่เห็น พ้องต้องกัน เครือข่ายสาธารณูปโภคเมืองขอนแก่น จึ ง ได้ จั ด ทำ � โครงการความร่ ว มมื อ การดำ � เนิ น กิจการสาธารณูปโภคขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ ประชาชนโดยตรงต่อไป ทัง้ นี้ เทศบาลนครขอนแก่นมีแผนเร่งด่วน พัฒนาและขยายตัวเมืองขอนแก่น โดยโครงการ ที่จะดำ�เนินการคือ โครงการพัฒนาระบบขนส่ง มวลชนสาธารณะ ทีผ่ า่ นมาได้เสนอของบประมาณ จากรัฐบาลไปแล้ว แต่ติดปัญหาที่รัฐบาลยังไม่มี โครงการสนับสนุนทางด้านภูมิภาค เพื่อให้การ ขับเคลื่อนแผนพัฒนาที่วางเป้าหมายเดินหน้าได้ อย่างต่อเนือ่ ง จึงสร้างความร่วมมือกับองค์กรเครือ ข่ายในท้องถิ่นตั้ง “บริษัทจำ�กัด” เพื่อเป็นกลไกขับ เคลื่อนในการลงทุนพัฒนาพื้นที่ “ทำ � ให้ เ ทศบาลนครขอนแก่ น เปลี่ ย น แนวคิดทางการขับเคลื่อนด้วยพลังท้องถิ่นในการ จัดตัง้ บริษทั จำ�กัด โดยมีการร่วมลงนามกับเทศบาล เครือข่ายทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วย เทศบาลนคร ขอนแก่น เทศบาลเมืองเมืองศิลา เทศบาลตำ�บล เมืองเก่า เทศบาลตำ�บลท่าพระ และเทศบาลตำ�บล สำ�ราญ เพื่อดำ�เนินการร่วมกันในการสนับสนุน กิจการสาธารณูปโภค โดยเทศบาลนครขอนแก่น ถือหุ้นจำ�นวนร้อยละ 72 ส่วนเทศบาลเครือข่ายอีก 4 แห่ง ถือหุ้นร้อยละ 7 ซึ่งมีการร่วมลงนามบันทึก ความร่วมมือ และเสนอหนังสือไปยังจังหวัด และ กระทรวงมหาดไทย เพื่ออนุมัติให้ดำ�เนินงานต่อ
สำ � หรั บ การแก้ ไ ขปั ญ หาที่ เ กิ ด ขึ้ น ไม่ ใ ช่ เป็นอำ�นาจหน้าที่ของเทศบาลเพียงหน่วยงาน แต่ เป็นการร่วมขับเคลื่อนท้องถิ่นไปพร้อมๆ กันตาม อำ�นาจหน้าทีข่ องแต่ละหน่วยงาน ซึง่ หากโครงการ ดังกล่าวได้ผา่ นการอนุมตั แิ ละได้รบั การจดทะเบียน จากกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว จะส่งผลต่อ ทิศทางการพัฒนาเมืองขอนแก่นในอนาคต ส่วนผล การศึกษาเดิมนัน้ จะต้องมีการศึกษาเพิม่ เติมใหม่อกี ครั้งเพื่อปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวต่อว่า แนวทางการพัฒนาเมืองขององค์กรปกครองส่วน ท้ อ งถิ่ น ที่ ผ่ า นมา ส่ ว นใหญ่ ก็ จ ะทำ � โครงการไป ขอรับงบประมาณจากส่วนกลางเพือ่ ดำ�เนินการ ซึง่ ที่ผ่านมาในอดีต รัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะทำ�ระบบ ขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ในหัวเมืองส่วนภูมภิ าค ถ้า จะให้รอรัฐบาลสนับสนุนก็คงจะยาก ท้องถิ่นเรา โดยเฉพาะเทศบาลนครขอนแก่น เล็งเห็นว่าเราควร จะมีชอ่ งทาง คือจัดตัง้ บริษทั จำ�กัดของเทศบาล เพือ่ จะร่วมกับเอกชนในการที่จะลงทุนในการพัฒนา ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะร่วมกัน ซึ่งในปัจจุบันก็มีบริษัทของเอกชน ซึ่งก็ เป็นคนขอนแก่นรุ่นใหม่ร่วมตัวกันก่อตั้งบริษัท ขอนแก่นติ้งแทงค์ หรือ KKTT (บริษัท ขอนแก่น พั ฒ นาเมื อ ง KKTT) จำ � กั ด เพื่ อ จะได้ ร อร่ ว ม กับบริษัทจำ�กัดของเทศบาล ในการที่จะพัฒนา ระบบขนส่งมวลชน ซึ่งระบบที่เทศบาลศึกษาไว้ ก็คือ ระบบ BRT ส่วนระบบขนส่งมวลชนที่จะ สามารถเอื้อให้เกิดการระดมทุน ผ่านกองทุนรวม โครงสร้างพื้นฐานจังหวัดขอนแก่นได้ เมื่อบริษัท จำ�กัดเทศบาลได้รับการอนุมัติจัดตั้ง และเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องประ ชุมเป็งจาล เทศบาลนครขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เป็น ประธานเสวนาสร้างความรู้ และความเข้าใจเกี่ยว กับการดำ�เนินการเพื่อการจัดตั้งบริษัทจำ�กัดร่วม กันระหว่างเทศบาลทั้ง 5 แห่ง เพื่อพัฒนาระบบ ขนส่งมวลชน BRT หรือระบบโดยสารด่วนพิเศษ และระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ที่เหมาะสม จะได้ ออกหนังสือฉบับลงนามร่วมกัน ให้ทันภายใน ปลายเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อขออนุมัติจังหวัดส่ง ไปยังกระทรวงมหาดไทย เสนอรัฐบาลเพือ่ ขอจัดตัง้ เป็นบริษทั จำ�กัด คาดว่าจะจดทะเบียนตามกฎหมาย กระทรวงพาณิชย์ ให้แล้วเสร็จไม่เกิน 2 เดือนนี้ “หากจดทะเบียนแล้วเสร็จ ขั้นตอนต่อไป จะหารือถึงผู้ถือหุ้นตามกฎหมาย ประกอบด้วย องค์กรทีเ่ ป็นนิตบิ คุ คล จากนัน้ จะพูดคุยถึงรูปแบบ ทีเ่ หมาะสมในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน BRT หรือระบบการขนส่งอื่นๆ ที่เหมาะสม รวมถึงการ ระดมเงินทุนจากภาคเอกชน และระดมเงินทุนใน ตลาดหลักทรัพย์ เพือ่ ลดต้นทุนในการประกอบการ ด้วย” นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าว ทั้ ง นี้ เทศบาลนครขอนแก่ น ร่ ว มกั บ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้วางแผนพัฒนาระบบ ขนส่ ง มวลชน BRT 5 เส้ น ทาง ทั้ ง หมด 108 กิโลเมตร ด้วยเงินงบประมาณ 6,356.6 ล้านบาท ซึ่งโครงการนำ�ร่องสายแรก ท่าพระ-สำ�ราญ (สาย สีแดง) ระยะทาง 28 กิโลเมตร 16 สถานี งบ 712 ล้านบาท สายรอบเมือง (สายสีชมพู) ระยะทาง 7 กิโลเมตร สายหนองโคตร-หนองใหญ่ (สายสีนํ้า เงิน) ระยะทาง 20 กิโลเมตร สายนํา้ ต้อน-ศิลา (สาย สีเขียว) ระยะทาง 36 กิโลเมตร และสายบ้านทุม่ -บึง เนียม (สายสีเหลือง) ระยะทาง 27 กิโลเมตร นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวต่อว่า คาด ว่าจะสามารถดำ�เนินการได้ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า พร้อมเร่งพัฒนาอย่างเต็มทีเ่ พือ่ ให้จงั หวัดขอนแก่น เป็นต้นแบบเมืองภูมิภาคเพื่อการจราจรปลอดภัย อย่างยั่งยืน แก้ไขอุบัติเหตุจราจรและปัญหาจราจร ติดขัด รวมถึงช่วยลดโลกร้อน และผลกระทบสิ่ง แวดล้อม และส่งเสริมความเป็นเมืองน่าอยู่อย่าง ยั่งยืนต่อไป
เมืองเก่ารุกตลาด
• ต่อจากหน้า 1
นายสารทูล นิรมัยถาวร กรรมการผูจ้ ดั การ บริษัท เมืองเก่าเฟอร์นิเจอร์ 1999 จำ�กัด เปิดเผย ว่า ปัจจุบันเมืองเก่าเฟอร์นิเจอร์ นอกจากจะมี สำ�นักงานใหญ่อยู่ที่จังหวัดขอนแก่นแล้ว ยังได้
และเมื่อปลายปีที่ผ่านมา “เมเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ มอลล์” ได้ขยายสาขาลงจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดศูนย์จำ�หน่ายเครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ ตบแต่งภายใน เครื่องใช้สำ�นักงาน บนพื้นที่กว่า 7 ½ ไร่ ใช้เงินลงทุนมากกว่า 180 ล้านบาท ซึ่งได้รับ การตอบรับจากลูกค้าทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้ เคียง มียอดจำ�หน่ายสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ตลาดเฟอร์นิเจอร์โดยรวมมีการ ชะลอตัวตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา โดยยอดจำ�หน่าย ลดลงกว่า 30% เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว ภาค อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ คอนโดมิ เ นี ย ม อพาร์ ท เม้ น ท์ หอพัก รวมถึงบ้านจัดสรร ต่างชะลอโครงการ ส่งผลกระทบให้ยอดการตบแต่งภายใน และการ สั่งเฟอร์นิเจอร์ต้องถูกชะลอตัวลงไปด้วยเช่นกัน นอกจากการชะลอโครงการต่างๆ แล้ว การจัดสรร งบประมาณจากภาครั ฐ ยั ง อั ด ลงมาสู่ ภู มิ ภ าคไม่ เต็มที่ ทำ�ให้แรงงานขาดรายได้ ประชาชนระดับ รากหญ้ า ขาดกำ � ลั ง ซื้ อ ทำ � ให้ ก ระแสการเงิ น ไม่ หมุนเวียน เชื่อว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโดยเฉพาะ ตลาดเฟอร์นเิ จอร์นา่ จะซบเซาอีกยาวนานไปถึงต้น ปีหน้าอย่างแน่นอน นายสารทูล กล่าวต่อว่า มองว่าการลงทุน ในช่วงที่เศรษฐกิจระดับประเทศกำ�ลังชะลอตัว จะเป็ น การพลิ ก วิ ก ฤตให้ เ ป็ น โอกาสที่ ส ามารถ ก้าวเดินต่อไปได้เมื่อภาพรวมของเศรษฐกิจฟื้นตัว จึงลงทุนเปิดศูนย์ “เมเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ มอล์ล” จำ�หน่ายเฟอร์นิเจอร์ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ หลัง เปิดให้บริการทีจ่ งั หวัดนครศรีธรรมราชเมือ่ ปลายปี 2557 เรียบร้อย จึงเริม่ ออกแบบโครงการ ปรับพืน้ ที่ เตรียมลงเสาเข็ม เมเจอร์ มอล์ล ทีอ่ �ำ เภอบางปลาม้า จั ง หวั ด สุ พ รรณบุ รี ในกลางปี นี้ โดยเตรี ย มงบ ประมาณไว้ที่ 180 ล้านบาท รองรับประชาชนใน พื้นที่ครอบคลุมภาคกลางอีกหนึ่งแห่ง นายสารทูล กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันการทำ� ธุรกิจต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับความเปลีย่ นแปลง ของโลกยุคใหม่ การสร้างฐานความมั่นคงให้กับ ธุรกิจจะหยุดนิง่ ไม่ได้ ต้องสร้างและขยายเครือข่าย สร้างพันธมิตร เพื่อเอื้ออำ�นวยและต่อยอดธุรกิจ โดยเฉพาะการขยายสาขาเพื่อรองรับผู้บริโภคจาก ประชาชนในพื้น ที่แล้ ว ยั งรองรับ ผู้บริ โภคจาก ประเทศเพือ่ นบ้านอย่าง สปป.ลาว ทีน่ ยิ มการนำ�เข้า เฟอร์นิเจอร์จากประเทศไทยมากกว่าการซื้อสินค้า ไทยในประเทศ สปป.ลาว
คมนาคมทางรถไฟ • ต่อจากหน้า 1 เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2558 ที่ห้องประชุมข องโรงแรมประจักษ์ตรา ดีไซน์ โฮเต็ล เทศบาล นครอุดรธานี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการ ประชุ ม สั ม มนาคณะกรรมการร่ ว มภาครั ฐ และ เอกชนเพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) จังหวัด อุดรธานี และกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอน บน 1 (กลุ่มสบายดี) โดยมีภาครัฐซึ่งเป็นผู้แทน ของจังหวัดในกลุม่ จังหวัดสบายดี และภาคเอกชน เช่น หอการค้าจังหวัด ชมรมธนาคารพาณิชย์ สภา อุตสาหกรรมจังหวัด และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ที่สังกัดกระทรวงคมนาคมในพื้นที่จากจังหวัด ต่างๆ ในกลุม่ จังหวัดสบายดี ได้แก่จงั หวัดอุดรธานี หนองบัวลำ�ภู เลย หนองคาย และจังหวัดบึงกาฬ เข้าร่วมประชุม หลังจากที่เป็นประธานเปิดการประชุม สัมมนา กรอ.จังหวัดอุดรธานี และกลุ่มจังหวัด สบายดีแล้ว พล.อ.อ.ประจิน ได้เป็นองค์ปาฐกถา พิ เ ศษในหั ว ข้ อ เรื่ อ ง ”ทิ ศ ทางการพั ฒ นาขนส่ ง ทางอากาศ ทิศทางการขนส่งทางราง และการเต รี ย มการรองรั บ การจั ด ตั้ ง เขตเศรษฐกิ จ พิ เ ศษ : หนองคาย” โดยในภาพรวมได้กล่าวถึงการพัฒนา ระบบการขนส่งทางอากาศ ทางบก และทางนํ้า ที่เป็นการเชื่อมโยงระหว่างภาคต่อภาค และเชื่อม โยงระหว่างประเทศไทย กับประเทศต่างๆ ในกลุ่ม ประเทศอาเซียน และประเทศจีน หลังจากที่ พล.อ.อ.ประจิน ปาฐกถาเสร็จ เรียบร้อยแล้ว ได้ทำ�การแถลงข่าวแก่สื่อมวลชน ถึงการดำ�เนินการโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้น ฐานของประเทศไทยหรือเม็กกะโปรเจ็กส์ทั้งหมด ว่า ในส่วนนี้จะใช้เวลา 8 ปี (2558-2565)
เหนือตอนบนนี้มีสิ่งดึงดูดเป็นจุดเด่นคือ สามารถ เชื่อมโยงออกไปได้รอบตัวทั้งทิศตะวันตกคือเมีย นมาร์ ตะวันออกคือ สปป.ลาว เวียดนาม ทิศเหนือ คือจีน และส่วนทีท่ �ำ ให้เกิดการเชือ่ มโยงทีส่ �ำ คัญคือ การขนส่งทางบก รถยนต์ รถไฟ การเชื่อมโยงทาง อากาศ คือเครื่องบิน การคมนาคมทั้งสองประเภท นั้น รัฐบาลนี้ได้ให้ความสำ�คัญมาก ในภาคอีสาน ตอนบนนั้นรัฐบาลก็มีแผนการที่จะให้การพัฒนา ทีส่ นามบินจังหวัดเลย สนามบินอุดรธานี และการ ก่อสร้างสนามบินใหม่ที่จังหวัดบึงกาฬ ในส่วนของจังหวัดอุดรธานีนั้น สนามบิน มีขนาดใหญ่กว่าสนามบินพาณิชย์ในปัจจุบันของ ประเทศไทยหลายแห่ง แต่ก็ยอมรับว่าการพัฒนา ปรับปรุงสนามบินเป็นไปด้วยความล่าช้า จนทำ�ให้ เกิดการแออัดในการบริการ ลานจอดเครื่องบินมี น้อย ลานจอดรถก็แออัด ก็ได้มีแผนการว่าภายใน เวลา 5 ปี จากนีไ้ ป จะต้องพัฒนาสนามบินอุดรธานี ให้สามารถรองรับผูโ้ ดยสารให้ได้ไม่นอ้ ยกว่า 6 ล้าน คนต่อปี ปัจจุบนั มีผใู้ ช้สนามบินปีละ 1 ล้านคนเศษ และยังได้ฝากให้มกี ารจัดเตรียมขยายความสามารถ อีกว่า ภายในเวลา 10 ปีนั้น จะต้องสามารถรองรับ คนได้ 12 ล้านคน การพั ฒ นาปรั บ ปรุ ง สนามบิ น อุ ด รธานี ส่ ว นหนึ่ ง ก็ ทำ � ไปแล้ ว คื อ การก่ อ สร้ า งอาคารผู้ โดยสารหลังที่ 2 ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์เปิดใช้บริการ ได้แล้ว และมีแผนที่จะขยายหลุมจอดเครื่องบิน เพิ่มจาก 7 หลุม เป็น 11 หลุมนั้น รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกล่าวว่า ควรที่จะวางแผนการขยายจาก เดิมให้สามารถจอดได้ในครั้งเดียวกัน 15 หลุมเลย นอกจากนี้ในส่วนของลานจอดรถที่มีความแออัด ก็สมควรทีจ่ ะหาวิธกี อ่ สร้างลานจอดรถใต้ดนิ หรือ อาคารจอดรถ “ทั้งนี้เชื่อว่า เมื่อเปิดเป็น AEC แล้ว เชื่อว่า จะมีชาวต่างประเทศโดยเฉพาะชาวจีนจะเดินทาง ผ่านประเทศลาวเข้ามามาก เฉพาะคนจีนตอนใต้ที่ มีประชากรเกือบ 20 ล้านคน คิดเอาแค่สัก 10% ก็ พอแล้ ว แต่ ต้ อ งมี ก ารเตรี ย มการรองรั บ ให้ ดี มี ประสิทธิภาพ” ในส่วนการขนส่งทางราง ซึ่งประเทศไทย นั้นมีระบบรางเดี่ยวขนาด 1 เมตร แต่ในเวลา 50 ปี ที่ผ่านมานั้นไม่ได้รับการพัฒนาปรับปรุง จนทำ�ให้ การรถไฟไทยล้าหลังประเทศเพือ่ นบ้าน ไม่สามารถ วิ่ ง สวนกั น ได้ และสภาพของระบบก็ มี ค วาม เสียหาย โดยเฉพาะในภาคอีสาน ก็จะต้องมีการ ปรับปรุงพัฒนาให้เกิดความปลอดภัย แข็งแรง และ จะทำ�ระบบรางคู่ เพือ่ ให้สามารถวิง่ สวนทางกันได้ เน้นไปทีก่ ารขนส่งสินค้า และการเดินทางเป็นหลัก การท่องเที่ยว นอกจากนีแ้ ล้วการก่อสร้างทางรถไฟขนาด มาตรฐานขนาด 1.435 ม.นั้น จะเกิดในภาคอีสาน เป็นเส้นแรกคือจากจังหวัดหนองคาย-อุดรธานีขอนแก่น-นครราชสีมา-สระบุรี-กรุงเทพฯ เส้น แยกจากสระบุ รี - มาบตาพุ ด ซึ่ ง จะใช้ ค วามเร็ ว ประมาณ 180 ก.ม./ชั่วโมง เส้นหนึ่งจากหนองคาย ก็จะเชื่อมต่อกับ สปป.ลาว และไปยังประเทศจีน ทำ�ให้เกิดการเชื่อมโยงระบบรางจากจีน-ลาว-ไทย ซึ่งโครงข่ายเชื่อมโยงก็ได้วางแผนการเอาไว้ จาก กรุงเทพฯ จะต้องเกิดการเชื่อมโยงทั้ง 4 ทิศ คือ ทิศเหนือเชื่อมโยงถึงประเทศจีน ทิศใต้ถึงประเทศ สิงคโปร์ ทิศตะวันตกถึงเมียนมาร์ และทิศตะวัน ออก เชื่อมโยงถึงประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ขณะนี้ได้ รั บ ความร่ ว มมื อ จากหลายประเทศ โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น และประเทศจีน ในการที่จะทำ�การก่อสร้าง ในหลายเส้นทาง นอกจากนี้แล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวง คมนาคม ได้กล่าวถึงการพัฒนาปรับปรุงระบบ การรถไฟของประเทศไทยว่า นับตั้งปี พ.ศ.2560 - พ.ศ.2575 จะเริ่มเปลี่ยนแปลงระบบจากการใช้นํ้ ามันดีเซล ไปเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมด โดยจะเริ่ม ต้นทางภาคใต้กอ่ น เนือ่ งจากระบบรางของประเทศ มาเลเซียมีขนาดเท่ากันกับของไทยคือ 1 ม. จะ เป็นการเดินทางที่ปลอดภัย สะอาดและรวดเร็ว ในส่วนที่มีความเป็นห่วงว่ารถไฟระบบ ไฟฟ้า จะต้องใช้ไฟฟ้าจำ�นวนมากนั้นได้รับการ อธิบายว่า จะเป็นระบบเดียวกับระบบของรถยนต์ เมื่อรถไฟเริ่มวิ่ง ก็จะเริ่มชาร์ตไฟฟ้าไปเก็บไว้ และ
ทั้งระบบนั้น จะใช้ไฟฟ้าเพียง 1-3% ของจำ�นวน กระแสไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมดของประเทศเท่านั้น รมว.คมนาคม ยังกล่าวต่อไปอีกว่า สำ�หรับ โครงการการพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐานของประเทศ ทุกโครงการที่กล่าวมาแล้วนั้น รัฐบาลได้ให้ความ สำ � คั ญ มาก โดยกำ � หนดให้ เ ริ่ ม ดำ � เนิ น การตั้ ง ปี ปี 2558- 2565 เป็นเวลา 8 ปี โดยงบประมาณ สำ�หรับการดำ�เนินการนั้น จะมาจาก 3 ส่วน คือ 1. งบประมาณปกติที่รัฐบาลได้รับการจัดสรร ส่วน นี้จะใช้ในการเป็นค่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ค่าศึกษา วิจัย ค่าเวนคืนที่ดิน 2.เงินกู้ที่กู้มาจากสถาบันการ เงินของต่างประเทศ และ 3.จากเงินกู้ที่ขอกู้มาจาก สถาบันการเงินในปะเทศ และส่วนหนึง่ ก็จะมาจาก กองทุนร่วมโครงสร้างพื้นฐาน ต่อข้อซักถามที่ว่า มีความเป็นห่วงหรือ ไม่หากว่ามีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศแล้ว จะมีการเปลี่ยนแปลงโครงการ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม ตอบว่า “เราได้ศึกษาจากบท เรี ย นที่ ผ่ า นมาว่ า เป็ น ธรรมชาติ เมื่ อ มี รั ฐ มนตรี ใหม่ หรือรัฐบาลใหม่ ก็นิยมที่จ ะเปลี่ ย นแปลง นโยบายที่รัฐบาลผ่านมา เราได้มีการกำ�หนดเป้า หมายยุทธศาสตร์ทชี่ ดั เจน ด้วยการรองรับของคณะ รัฐมนตรี จึงมีความมัน่ ใจว่ารัฐบาลทีเ่ ข้ามาใหม่จะมี การสานต่อ เนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อสังคม และ ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี”
เศรษฐกิจไทยปี58 • ต่อจากหน้า 1 นั ก ธุ ร กิ จ เมื อ งหมอแคน มองแนวโน้ ม เศรษฐกิจระดับภูมิภาคในปี 2558 นี้ มีทรงกับ ทรุ ด ในขณะที่ นั ก ลงทุ น ขนาดใหญ่ ยั ง ไม่ มี ก าร เคลื่อนไหวการลงทุนใดๆ ธุรกิจ SMEs ยังทรงตัว ไปได้เรื่อยๆ แต่ไม่อาจยืนได้ในระยะยาวมากนัก หากเศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น อาจทำ�ให้ธรุ กิจ SMEs ปิดตัวได้ในทีส่ ดุ แต่ในขณะ เดียวกัน พ่อค้าแม่คา้ หาเช้ากินคํา่ ทำ�ธุรกิจขนาดเล็ก ทีต่ อ้ งดิน้ รนหาเลีย้ งครอบครัวให้อยูร่ อดกำ�ลังขยาย เพิ่มจากเดิมกว่าเท่าตัว นายจิรพงษ์ ดอกพุด ผู้จัดการห้างหุ้นส่วน ณัฐพงศ์คา้ วัสดุ จำ�กัด (ซินซุน่ เฮง) เปิดเผยว่า ทีร่ า้ น เปิดให้บริการติดตัง้ กระจก อลูมเิ นียมชุด ฝ้าเพดาน เหล็กดัด งานสแตนเลส และเป็นตัวแทนจำ�หน่าย อลูมิเนียมกระจกและแผ่นยิมซั่ม รวมทั้งตกแต่ง ภายใน ตัง้ แต่รนุ่ คุณปู่ คุณพ่อ จนถึงปัจจุบนั เป็นรุน่ ที่ 3 ของการสืบทอดเจตนารมณ์ในการให้บริการ ของณัฐพงศ์ค้าวัสดุแบบครบวงจร จากประสบการณ์ ที่ ไ ด้ รั บ และสะสมมา นานกว่า 25 ปี ทำ�ให้เห็นว่าธุรกิจทุกประเภทมี ความเปลีย่ นแปลงไปตามยุคสมัยของกาลเวลา ย้อน หลังไป 3-4 ปีที่ผ่านมา จะเห็นความเปลี่ยนแปลง หลายอย่าง การบูมลงทุนธุรกิจขนาดใหญ่ถึงใหญ่ มาก การเก็งกำ�ไรจากพ่อค้าคนกลางที่เข้ามาจับ ธุรกิจที่ดินและอสังหาฯ โดยคาดว่าจะสร้างผล กำ�ไรมหาศาล ทำ�ให้ราคาที่ดินและอสังหาฯ ใน เมืองขอนแก่นแพงสูงเกินความเป็นจริง เป็นเหตุให้ เศรษฐกิจของเมืองขอนแก่นมีอาการช็อค นักลงทุน ทั้งโครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ต่างชะลอ โครงการ หอพักอพาร์ทเม้นท์ต่างปรับกลยุทธ์ให้ เช่าทั้งรายวันรายเดือน คนงานหายากขึ้นทั้งที่ให้ ค่าแรงสูงกว่า 300 บาทต่อวัน ความเปลี่ยนแปลง ทางการเมื อ งส่ ง ผลให้ เ ศรษฐกิ จ เกิ ด การชะลอ ตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ปีทผี่ า่ นมาเศรษฐกิจเมืองขอนแก่นเริม่ ส่ง สัญญาณที่ดีขึ้น เมื่อราคาที่ดินไม่แพงเกินจริง นัก ธุรกิจเริ่มมองหาช่องทางที่สามารถลงทุนต่อยอด ธุรกิจได้แบบงบประมาณไม่สูงมากเกินไป แต่การ ลงทุนธุรกิจใหม่ๆ ทีใ่ ช้ทนุ สูงอาจไม่สามารถยืนอยู่ ได้ในสภาวะเศรษฐกิจทีก่ ำ�ลังผันผวนอย่างในขณะ นี้ แต่ขณะเดียวกัน พ่อค้าคนกลางเริม่ ปล่อยทิง้ อสัง หาฯ คอนโดมิเนียม ห้องชุดทีม่ กี ารจองไว้กอ่ นหน้า นี้ ทำ�ให้ประชาชนทีต่ อ้ งการทีอ่ ยูอ่ าศัยจริงสามารถ เข้าถึงได้” นายจิรพงษ์ กล่าวและว่า สำ�หรับที่ร้านงานอลูมิเนียม งานต่อเติม บ้าน อาคาร สำ�นักงาน ที่ผ่านมาจะเป็นการเข้า ประสานรับงานให้กับองค์กร หน่วยงานทั้งภาค รัฐและภาคเอกชนซึ่งมีงบประมาณจำ�กัด และยัง
หน้า 12
ปีที่ 13 ฉบับที่ 132 ประจำ�เดือนพฤษภาคม 2558
ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ต.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา ปรกชล ศุขโข กองบรรณาธิการ เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,
ประคอง หนูราช,พันธ์ศักดิ์ วีระชัย,เสริมศักดิ์ ขาวโกมล สำ�นักงาน 76 ม.20 ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 โทรศัพท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย 78 หมู่ 4 ถนนเฉลิมพระเกียรติ์ ต.เมือง อ.เมือง จ.หนองคาย 43000 ที่ปรึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอื้อดีไซน์ 08-3417-0363