หนังสือพิมพ์ไทยเสรี ฉบับที่ 133

Page 1

ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 �เดือนมิ “ครัประจำ ว โนนทั น ถ” ุนต้ายน น ตำ2558 � รั บ อาหารอี ส าน

า1 ปลานํ้ า โขง เปิ ด ให้ บ ริ ก าร 7 มิ ถุ น ายนนี้ แน่ หน้ น อน...

ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 ประจำ�เดือนมิถนุ ายน 2558 ราคา 10 บาท

นักธุรกิจขอนแก่น ขานรับ ม.44 ลดขัดแย้งเห็นผล แต่ ศก.ไม่ผา่ น ธุรกิจรากหญ้ารับผลกระทบมากสุด อภิชาติ สินธุมา

ปากีสถานรุกหนักเดินสาย หาพั น ธมิ ต รร่ ว มทำ � ธุ ร กิ จ

ครบ 1 ปี คสช. นั ก ธุ ร กิ จ ขอนแก่ น มอง “ประยุทธ์” แก้ปญ ั หาความขัดแย้งเห็นผล แต่ดา้ น เศรษฐกิจลดความน่าเชือ่ ถือ ไม่มคี วามชัดเจน แก้ ปัญหาไม่ตรงจุด ซึ่งจะทำ�ให้ธุรกิจ SMEs ไปไม่ ปากี ส ถานส่ ง อุ ป ทู ต เดิ น สายชวนนั ก ธุ ร กิ จ รอด ชี้รัฐบาลควรแยก การพัฒนาเศรษฐกิจ กับ ไทยลงทุนร่วมรับเปิด AEC ด้านหอการค้า ความมั่นคงของประเทศ ออกจากกัน อ่านต่อหน้า 11 อุ ด รธานี เ ผย ปากี ส ถานเตรี ย มจั บ มื อ ลง นาม FTA กับไทย หลังบินไปจรดปากากับ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย แล้ว อ่านต่อหน้า 11

ที เ ส็ บ เร่ ง เครื่ อ ง “ต้นกล้า ทูโกล” ดันขอนแก่นเป็น พั ฒ นาศั ก ยภาพ ศู น ย์ ก ลางธุ ร กิ จ SMEsเปิดตลาดสากล สนามบินอุดรธานีพร้อม ศรัทธา “หลวงพ่อคูณ” ล้นหลาม แห่ร่วม ไ ม ซ์ ลุ่ ม นํ​ํ้ า โ ข ง ติวเข้มผู้ประกอบการอีสาน ดัน เปิ ด ใช้ อ าคารหลั ง ที่ 2 เปิดตัวรถกระบะ Toyota Hilux REVO ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น นายกมลพงษ์ สงวนตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้าขอนแก่นผู้ จำ�หน่ายโตโยต้า จำ�กัด นายสายันต์ ทรัพย์ปัญญาดี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้ อำ�นวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด และนายมนตรี ธีรกนก กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าอมตะ จำ�กัด ร่วมเปิดงาน Hilux REVO กระบะแห่งอนาคต เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 ณ ลานอเนกประสงค์ศูนย์ค้าส่ง อู้ฟู่ จ.ขอนแก่น

้ น ตลาดประชุ ม และแสดง ธุรกิจ SMEs สู่เวทีการค้าสากล 5 สนามบินอุดรธานี ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง หลังได้ งานกว่า2ล้านคน ยอดบริจาคกว่า51ล. ทีสินเส็ค้บา จัดกระตุ งานไมซ์ มาร์ท ครัง้ ที่ 2 ยกระดับ กลุ่มธุรกิจหลัก มั่นใจสินค้าไปโลด งบ 296 ล้าน ปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลัง

พลังศรัทธาทัว่ สารทิศหลัง่ ไหล ร่วมงานบำ�เพ็ญ กุศลสรีระสังขารหลวงพ่อคูณตลอด 9 วัน 8 คืน ประชาชนแห่ร่วมงานกว่า 2 ล้านคน ยอด อ่านต่อหน้า 2 บริจาคกว่า 51 ล้านบาท

ภาคบริการและพัฒนาธุรกิจไมซ์แห่งอีสาน และกลุม่ ลุม่ แม่นํ​ํ้าโขง ขณะทีข่ อนแก่นอัด งบกว่า 79 ล.บาท เร่งพัฒนาเมือง คาด ปี 58 นักเดินทางเพิ่ม 5% มูลค่าร่วม 33,069 ล้านบาท อ่านต่อหน้า 11

ขณะที่ หอการค้าฯ แนะรัฐบาล เร่ง เสริมสภาพคล่องโดยรวมหลังพบ ภาคธุ ร กิ จ เอกชนในต่ า งจั ง หวั ด อ่านต่อหน้า 11 ซบเซาต่อเนื่อง

ที่ 2 เรียบร้อยแล้ว เตรียมเปิดเป็นอาคารผู้ โดยสารระหว่างประเทศ รองรับธุรกิจการบิน และการเดินทางหลังเปิด AEC เตรียมขยาย หลุมจอดเป็น 16 หลุมจอด อ่านต่อหน้า 2


หน้า 2

ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2558

นทางมาเพิม่ อย่างต่อเนือ่ ง จึงสัง่ ดอกบัวเพิม่ ศรัทธาหลวงพ่อคูณ • ต่อจากหน้า 1 ทยอยเดิ เป็น 100,000 ดอกต่อวัน และในวันที่ 24 พฤษภาคม

รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น เปิ ด เผยว่ า ภาพรวมการ จัดงานบำ�เพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ปริ สุทโธ ตั้งแต่วันที่ 16-24 พ.ค.58 รวมทั้งหมด 9 วัน 8 คืน มีประชาชนมาร่วมงานประมาณ 2,000,000 คน ในระหว่างวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2558 โดย เฉพาะในช่วงบำ�เพ็ญกุศลวันสุดท้ายคือคืนวันที่ 23 พฤษภาคม 2558 และวันเคลือ่ นสรีระสังขารถึงคณะ แพทยศาสตร์ มข. มีประชานชนแห่มากราบสรีระ สังขารเป็นจำ�นวนมากทีส่ ดุ ภาพรวมมีความพึงพอใจ มีหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น และหน่วย งานภายนอกให้ความร่วมมือในการจัดงานอย่างเข้ม แข็ง โดยไม่เรียกร้องค่าใช้จา่ ย จนงานสำ�เร็จลุลว่ งและ ได้รับคำ�ชม แม้ระยะการเตรียมงานจะสั้นก็ตาม รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดี คณะแพทยศาสตร์ มข. เปิดเผยยอดเงินทำ�บุญบำ�เพ็ญ กุศลสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ทัง้ เงินโอนและเงินสด หน้างาน รวมทั้งสิ้น 51,799,325.58 บาท โดยยังไม่ หักเงินค่าใช้จ่ายที่คณะแพทยศาสตร์ทดลองจ่ายไป ก่อน ตามพินัยกรรมหลวงพ่อคูณที่ระบุว่าให้คณะ แพทยศาสตร์ มข.สำ�รองจ่ายเงินก่อน แล้วนำ�ยอดเงิน หลังหักค่าใช้จ่ายเข้ากองทุนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ บริจาคเพื่อพระภิกษุสงฆ์อาพาธที่รับการรักษาใน โรงพยาบาลศรีนครินทร์ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยอด เงินทดรองจ่ายของคณะแพทยศาสตร์ อยูท่ ปี่ ระมาณ 6,669,734.66 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะเหลือ เงินประมาณ 45 ล้านบาท โดยเงินจำ�นวนนี้จะจัด ตั้งเป็นกองทุนหลวงพ่อคุณ ปริสุทโธ นำ�ไปใช้ใน การรักษาพระสงฆ์อาพาธที่เข้ารับการรักษา ที่โรง พยาบาลศรีนครินทร์ ตามเจตนารมณ์ของท่านต่อไป ขณะที่ ผศ.ยรรยง ทุมแสน หัวหน้าภาควิชา กายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. เปิดเผย ว่า ขณะนี้มีจำ�นวนประชาชนแจ้งความประสงค์จะ บริจาคร่างกายให้แก่คณะแพทยศาสตร์ มข. เพื่อ เป็นอาจารย์ใหญ่ให้แก่นักศึกษาแพทย์เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ยอมรับว่าเป็นผลจากบารมีของหลวงพ่อคูณที่ เสียสละเป็นต้นแบบ ซึ่งโดยปกติจะมีผู้มายื่นความ ประสงค์บริจาคร่างกายเฉลี่ยวันละ 50 ราย หลังจาก หลวงพ่อคูณละสังขาร มีประชาชนสนใจมาบริจา คร่างกายเพิ่มขึ้นกว่าปกติวันละกว่า 100 รายขึ้นไป ด้วยปริมาณคนเสนอบริจาคมากขึ้นดังกล่าว ทำ�ให้ การทำ�งานของเจ้าหน้าที่อาจจะล่าช้าบ้าง จนต้อง ทำ�คิวเพื่อจัดทำ�บัตร ซึ่งบางคนต้องส่งไปให้ที่บ้าน ในภายหลัง ผศ.นพ.สุมานนท์ เชาว์เจริญ รองคณบดี ฝ่ า ยศู น ย์ ก ลางบริ ก ารสุ ข ภาพ ซึ่ ง เป็ น กรรมการ ฝ่ายดูแลโรงทาน เปิดเผยว่า ในช่วงแรกได้มีการจัด ระเบียบตั้งโรงทานเพื่ออำ�นวยความสะดวกให้กับ ประชาชนที่เดินทางมากราบสรีระสังขารหลวงพ่อ คูณ โดยมีหน่วยงาน องค์กร และประชาชนที่แจ้ง ความประสงค์ขอเปิดโรงทานอาหารและเครื่องดื่ม มากกว่า 500 โรง ซึ่งจะนำ�อาหาร ขนม และนํ​ํ้าดื่ม มาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เดินทางมาอย่างต่อ เนือ่ งตลอดทัง้ วัน ทำ�ให้ในช่วงสองวันแรกอาหารไม่ เพียงพอกับปริมาณประชาชนทีห่ ลัง่ ไหลเข้ามาอย่าง มากมาย และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกวัน นอกจากการแจ้ ง ขอตั้ ง โรงทานผ่ า นทางคณะ กรรมการจั ด งานแล้ ว ยั ง มี ป ระชาชนและผู้ มี จิ ต ศรั ท ธา ที่ มี ค วามเลื่ อ มใสในหลวงพ่ อ คู ณ ได้ นำ � อาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เข้ามาแจกจ่ายโดยมิได้ แจ้งผ่านทางคณะกรรมการฯ อีกวันละกว่า 3,000 ราย ทำ�ให้ประชาชนทีเ่ ดินทางมากราบสรีระสังขารหลวง พ่อคูณ และพักแรมบริเวณรอบศูนย์ประชุมฯ ได้อิ่ม บุญและอิ่มท้อง สร้างความปลื้มปิติกับประชาชน อย่างถ้วนหน้า ด้ า น คุ ณ สุ ภ าวดี ประดั บ วงษ์ หั ว หน้ า สำ�นักงานคณบดี คณะพยาบาลศาสตร์ มข. เปิดเผย ว่า เจ้าหน้าทีแ่ ละนักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์ มข. ได้ร่วมกันตั้งโรงทาน โดยทำ�ข้าวไข่เจียว แจกให้กับ ประชาชนที่เดินทางมากราบสรีระสังขารหลวงพ่อ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. จนถึง 21.30 น. ทุกวัน เพื่อเป็น หลักให้กับประชาชนที่เดินทางมาไม่ว่าจะถึงช่วง เวลาใด จะได้มอี าหารไว้รองรับตลอด สองวันแรกใช้ ไข่ไก่วนั ละ 200 ถาด ตัง้ แต่วนั ที่ 20 พฤษภาคม จนถึง วันสุดท้ายของการจัดงาน มีประชาชนมากราบหลวง พ่อน่าจะประมาณแสนคนต่อวัน จึงต้องเพิม่ ปริมาณ ไข่ไก่ เป็นวันละ 600 ถาด และบริษทั ซี พี ได้น�ำ ไข่ไก่ ร่วมสมทบโรงทานเพิ่มอีกวันละ 200 ถาด รวมเป็น 800 ถาด และข้าวจ้าววันละ 150 กก. ต่อวัน โดยไม่มี การประเมินเป็นยอดเงินรายจ่ายแต่อย่างใด นอกจากนี้ คณะพยาบาลศาสตร์ ยังรับผิด ชอบดูแลเรื่องดอกไม้สำ�หรับใช้กราบสรีระสังขาร หลวงพ่อ โดยใช้เป็น “ดอกบัว” ซึ่งในสองวันแรก ได้ นำ � ดอกบั ว จากที่ ช าวบ้ า นปลู ก ในพื้ น ที่ จั ง หวั ด ขอนแก่น รวม 50,000 ดอก ในราคาดอกละ 2.50 บาท มาเตรียมให้ประชาชนนำ�ไปกราบสรีระสังขารหลวง พ่อ ปรากฏว่าไม่เพียงพอกับปริมาณของประชาชนที่

ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการกราบสรีระสังขาร ได้เพิ่ม ปริมาณดอกบัวเป็น 150,000 ดอก เป็นเงินค่าดอกบัว รวมกว่าสองล้านบาท เจ๊แดง ผัดไทยอยุธยา กล่าวว่า มีหน่วยงาน และประชาชนว่ า จ้ า งให้ ม าทำ� ผั ด ไทยในโรงทาน หลวงพ่อคูณ ตั้งแต่วันแรกของการนำ�สรีระสังขาร หลวงพ่อมาตัง้ ทีศ่ นู ย์ประชุมฯ จนถึงวันสุดท้ายทีส่ ง่ หลวงพ่อ โดยลูกค้าสัง่ ให้ท�ำ ผัดไทยทีห่ น้างานราว 2-3 รอบต่อวัน นับเป็นความโชคดีของประชาชน ทีห่ ลวง พ่อเลือกจังหวัดขอนแก่น เป็นสถานทีจ่ ดั งาน ซึง่ ร้าน ค้าต่างๆ ล้วนเต็มใจที่จะให้ความร่วมมือช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน การออกโรงทานปกติจะรับครั้งละ 5,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ลูกค้าต้องการ แต่สำ�หรับการออกโรงทานครั้งนี้ นอกจากรับตาม ปริมาณที่ลูกค้าสั่งไว้ 500 ถ้วยแล้ว ที่ร้านจะเพิ่มอีก 100 ถ้วย เพื่อร่วมสมทบบุญด้วย น้องออย อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทเอกชน จ.ขอนแก่ น เปิ ด เผยว่ า ตั้ ง ใจทำ � โรงทานให้ กั บ ประชาชนที่เดินทางมากราบสรีระสังขารหลวงพ่อ คูณ โดยรวมตัวกับเพือ่ นๆ 10 คน ซือ้ นํ​ํา้ อัดลม นํ​ํา้ แข็ง ถ้วยแก้ว หลอดและอุปกรณ์ต่างๆ กว่าหมื่นบาท นำ� มาออกโรงทานตัง้ แต่วนั แรกจนถึงวันสุดท้าย โดยจะ มาช่วงบ่ายๆ เพราะเป็นช่วงทีอ่ ากาศร้อน ประชาชน ส่วนใหญ่ที่เดินทางมากราบสรีระสังขารหลวงพ่อ น่าจะกระหายนํ​ํ้ามากกว่าช่วงอื่นๆ โดยใช้เวลาไม่ถึง ชัว่ โมง นํ​ํา้ อัดลม และเครือ่ งดืม่ ทีน่ ำ�มาแจกวันละ 800 แก้ว จะหมดลงอย่างรวดเร็ว น้องออย กล่าวด้วยรอย ยิ้ม ที่ได้ทำ�บุญให้กับหลวงพ่อคูณ นอกจากนี้ แม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลราย หนึ่งที่ได้มาตั้งแผงขายบริเวณศูนย์ประชุมฯ ยังบอก อีกว่า เลขที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อคูณจะถูกกวาดซื้อ ไปหมดแล้ว ไม่วา่ จะเป็นเลข วัน เดือน ปี เกิด ทัง้ พ.ศ. และ ค.ศ. เลขจำ�นวนพรรษา เลขที่บัตรประชาชน เลขห้อง เลขทะเบียนรถ ซึ่งถูกนักเสี่ยงโชคซื้อไป หมด หากยังเหลือบ้างก็จะเพิ่มราคาเป็นคู่ละ 150 บาท เมื่อเลขหลวงพ่อคูณหมดไม่มีขาย นักเสี่ยงโชค บางรายจะให้ความสนใจเลขข้างเคียง ซึ่งยังสามารถ ขายได้ดเี ช่นเดียวกับเลขอืน่ ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องกับหลวงพ่อ คูณด้วยเช่นกัน

สนามบินอุดรฯ • ต่อจากหน้า 1 โครงการพั ฒ นาปรั บ ปรุ ง ท่ า อากาศยาน นานาชาติ อุ ด รธานี ของกรมการบิ น พลเรื อ น ก้ า วไปอี ก ขั้ น หนึ่ ง เมื่ อ โครงการก่ อ สร้ า งขยาย อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ที่นำ�เอาอาคารผู้โดยสาร หลั ง เดิ ม มาปรั บ ปรุ ง พั ฒ นารู ป โฉมใหม่ ด้ ว ยงบ ประมาณ 296 ล้านบาทเสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียม เปิดเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และสาย การบินที่ทำ�ระบบ CIQ แล้ว หอการค้าจังหวัด อุดรธานี มองการณ์ไกลเตรียมผลักดันให้ทำ�การ ศึกษาก่อสร้างอาคารผูโ้ ดยสารหลังที่ 3 เพือ่ รองรับ ธุรกิจการบิน และการเดินทางทางอากาศในอนาคต หลังเปิดเป็น AEC แล้ว เมื่ อ วั น ที่ 27 พฤษภาคม 2558 คณะ กรรมการหอการค้าจังหวัดอุดรธานี นำ�โดยนาย สวาท ธีระรัตน์นุกูลชัย ประธานหอการค้าจังหวัด อุดรธานี เดินทางไปติดตามการก่อสร้างอาคาร ผู้โดยสารหลังที่ 2 โดยมี นางทิพย์วรรณ อังศานุ วัติ รักษาการแทนผู้อำ�นายการการท่าอากาศยาน อุดรธานี, นายสุเทพ ชาติเจริญ ผู้จัดการโครงการ และเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ นายสุเทพฯ กล่าวว่า โครงการก่อสร้าง อาคารผู้ โ ดยสารหลั ง 2 นี้ ได้ รั บ การจั ด สรร งบประมาณจำ � นวน 296.5 ล้ า นบาท จากกรม การบิ น พลเรื อ น มี บริ ษั ท งามวงศ์ ว าน จำ � กั ด เป็ น ผู้ รั บ เหมาก่ อ สร้ า ง วั น เริ่ ม สั ญ ญา 6 มิ . ย. 56 วันสิ้นสุดสัญญา 28 พ.ค.58 รวม 720 วัน ขณะ นี้เหลืองานเก็บอีกเพียงเล็กน้อยก็สามารถจะส่ง มอบงานได้แล้ว เป็นอาคารสูง 3 ชั้น โดยปรับปรุง จากอาคารผู้ โ ดยสารหลั ง เก่ า มี พื้ น ที่ ใ ช้ ส อย ทั้ ง หมด 8536 ตร.ม.สามารถรองรั บ ผู้ โ ดยสาร ได้ 400 คน/ชั่วโมง หรือประมาณ 3200 คน/วัน มี อุปกรณ์อ�ำ นวยความสะดวกเบือ้ งต้น คือ ลิฟต์ 2 ตัว บันไดเลื่อน 3 ชุด สะพานเทียบเครื่องบิน (งวง ช้าง) 1 ชุด นอกจากนี้แล้วยังมีพื้นที่ส่วนหนึ่งสำ�หรับ การใช้ประโยชน์สำ �หรับที่ทำ�การท่าอากาศยาน ภัตตาคาร ร้านค้าจำ�หน่ายสินค้าสำ�หรับผู้โดยสาร พร้อมด้วยพื้นที่สำ�หรับการบริการตรวจลงตรา ประทับหนังสือเดินทาง พิธีการด้านศุลกากร และ อื่นๆ ครบถ้วนทุกหน่วยงาน รวมทั้งพื้นที่สำ�หรับ ที่ทำ�การของสายการบิน นางทิพย์วรรณฯ รกท.ผู้อำ�นวยงาน เปิด เผยว่า อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 อนาคตเมื่อเปิดใช้ งานอย่างเป็นทางการ จะใช้เป็นอาคารผู้โดยสาร ระหว่างประเทศ ทั้งนี้เนื่องว่าได้มีการจัดเตรียม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับงานระบบพิธีการศุลกากร

หมู่บ้านรวยสุข 428/17 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ออกแบบ/ผลิต

ป้ายไวนิล ป้ายโฆษณา ธงญี่ปุ่น สติ๊กเกอร์ นามบัตร

ใบปลิว การ์ด แผ่นพับ โปสเตอร์ สื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ติดต่อ ยิ้ม 0834170363 E-mail : smile7738@gmail.com

เอไอเอส สร้างลานสุขภาพ ดูแลสุขภาพชุมชน เอไอเอส สร้างลานสุขภาพชุมชนแห่งทีส่ อง มอบแก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำ�บล หนอง แวง จังหวัดนครราชสีมา ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ สนับสนุนการดำ�เนินงาน แก่ รพ.สต. ในการดูแล สุขภาพชุมชน ส่งเสริมให้คนในชุมชนเห็นความ สำ�คัญของการออกกำ�ลังกายอย่างถูกวิธี เหมาะสม และต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ ติดต่อเรื้อรัง นายอุดมศักดิ์ โสมคำ� ผู้ช่วยกรรมการผู้ อำ � นวยการ ส่ ว นงานปฏิ บั ติ ก ารภู มิ ภ าค บริ ษั ท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำ�กัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นความสำ�คัญใน การดำ�เนินงานของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำ�บล (รพ.สต.) ด้านการดูแลส่งเสริมสุขภาพของ คนในชุ ม ชน ทั้ ง ในด้ า นการให้ ค วามรู้ ควบคุ ม ป้ อ งกั น และให้ บ ริ ก ารด้ า นสุ ข ภาพ จึ ง ขอร่ ว ม เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน รพ.สต.โดยได้จัด สร้าง “ลานสุขภาพเอไอเอส รพ.สต.หนองแวง เพื่อ สุขภาพทีด่ ขี องคนในชุมชน” พร้อมเครือ่ งออกกำ�ลัง กาย แห่งนี้ ซึ่งเป็นแห่งที่สอง ให้แก่ รพ.สต.หนอง แวง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา พร้อมจัดทำ�คู่มือ แนะนำ�วิธีการใช้เครื่องออกกำ�ลังกายให้แก่ชุมชน พร้อมติดตามผลความก้าวหน้าของสุขภาพคนใน ชุมชนอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ดา้ นสาธารณสุขในปัจจุบนั พบว่า มีผู้ป่วย หรือกลุ่มเสี่ยงที่เป็นโรคไม่ติดต่อ เรื้อรัง เพิ่มขึ้น และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทัง้ นีส้ ว่ นใหญ่มสี าเหตุมาจากการรับประทานอาหาร ในปริมาณทีม่ าก แต่ขาดการออกกำ�ลังกายทีถ่ กู ต้อง เหมาะสมและต่อเนื่อง รวมถึงการเกิดความเครียด จากการทำ�งาน หรือการดำ�เนินชีวติ ประจำ�วัน ดังนัน้ เอไอเอส จึงต้องการส่งเสริมและเชิญชวนให้คนใน ชุมชนหนองแวงมาใช้ประโยชน์จากลานสุขภาพ ชุมชนแห่งนี้ ในการออกกำ�ลังกายอย่างต่อเนือ่ งเป็น ประจำ� ซึง่ จะสามารถช่วยลดอัตราความเสีย่ งในการ เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ เช่น โรคความดันโลหิต สูง โรคเบาหวาน โรคอ้วนลงพุง โรคหลอดเลือด สมองและหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง และ โรคมะเร็ง เป็นต้น เพราะเครื่องออกกำ�ลังกายที่ได้นำ�มาติดตั้ง ณ ลานสุขภาพแห่งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้าง กล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกาย ช่วยเพิ่มความแข็ง แรงของการหายใจ ปอด และกล้ามเนื้อหัวใจ เช่น จักรยานนั่งปั่น แนวนอน เครื่องบริหารกล้ามเนื้อ แขน เครือ่ งบริหารเอวและออกกำ�ลังขาแบบยํา่ สลับ และ เครือ่ งเดินสลับแนวราบ ตลอดจนลานเดินนวด เท้า ซึง่ จะส่งผลให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขนึ้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน ทัง้ นีย้ งั ได้จดั ทำ�คูม่ อื แนะนำ�วิธกี ารใช้เครือ่ ง ออกกำ � ลั ง กายแต่ ล ะชนิ ด ให้ แ ก่ ช าวบ้ า น เพื่ อ ไว้ จดบันทึกจำ�นวนครั้งที่ชาวบ้านมาใช้บริการ และ บันทึกผลการตรวจร่างกายทุกครัง้ ตามเวลาทีแ่ พทย์ นัดหมาย เพือ่ ให้แพทย์ หรือ อาสาสมัครสาธารณสุข ประจำ�หมู่บ้าน (อสม.) สามารถทำ�การติดตามผล และประเมินว่า ชาวบ้านในชุมชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น แข็งแรงขึ้น จำ�นวนผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยงมีจำ�นวน ลดลงหรือไม่ มากน้อยอย่างไร “เอไอเอส มุง่ หวังให้คนในชุมชนเห็นความสำ�คัญใน การออกกำ�ลังกายอย่างถูกวิธี และต่อเนือ่ ง เพือ่ สร้าง ภูมิคุ้มกัน และลดภาวะเสี่ยงเป็นโรคต่างๆ เพราะ การมีสุขภาพที่ดีนั้น จะส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยสำ�คัญในการสร้างความเข้มแข็ง แก่ชุมชน ให้สามารถทำ�หน้าที่ของตนเองได้อย่าง เต็มความสามารถ” นายอุดมศักดิ์ กล่าว นายสมเกียรติ อินทรวัฒนวงษ์ ผูอ้ �ำ นวยการ

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำ�บล หนองแวง กล่าว ว่า รพ.สต.ขอขอบคุณเอไอเอส ที่เล็งเห็นถึงความ สำ�คัญของสุขภาพคนในชุมชนหนองแวง โดยได้ มอบลานสุขภาพ พร้อมเครื่องออกกำ�ลังกาย เพื่อ สนั บ สนุ น การทำ � งานของ รพ.สต.ในการดู แ ล สุขภาพของชาวบ้านหนองแวง ซึ่งลานสุขภาพ แห่งนี้จะเป็นศูนย์รวมของกลุ่มผู้ป่วย กลุ่มเสี่ยง รวมถึ ง ทุ ก คนในชุ ม ชนหนองแวง ที่ ต้ อ งการมี สุขภาพพลานามัยทีส่ มบูรณ์แข็งแรง ให้หนั มาออก กำ�ลังกายเพื่อลดโรค และสร้างสุขภาพที่ดี ซึ่งนับ ว่าเอไอเอส ได้มาสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้แก่ ชุมชน รวมทั้งสนับสนุนเครื่องมือในการดำ�เนิน งานของ รพ.สต. ทั้ง แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และ อสม.ให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการส่ง เสริมให้คนในชุมชน มีสุขภาพที่ดี สมบูรณ์แข็ง แรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ในระยะยาว สำ�หรับ รพ.สต.หนองแวง นับเป็นหน่วย พยาบาลระดับต้นทีใ่ กล้ชดิ กับคนในชุมชนของเรา มากที่สุด เราให้การดูแล และให้บริการประชาชน ประมาณ 4,000 คน ประกอบด้วย 7 หมู่บ้าน จาก 12 หมู่บ้านในตำ�บลหนองตะไก้ โดยมี อสม.เป็น ตัวกลางในการลงพื้นที่ทำ�กิจกรรมด้านสุขภาพ กับชุมชน เป็นเสมือนหน่วยเฝ้าระวังและดูแล ทั้งกลุ่มผู้ป่วย ผู้สูงอายุ สตรีตั้งครรภ์ เด็ก รวมถึง กลุ่มเสี่ยงในชุมชนอย่างเป็นพิเศษ โดยจากสถิติ ภาวะสุขภาพของชาวบ้านหนองแวง เรามีกลุ่มผู้ ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ประมาณ 200 คน และ โรคเบาหวาน 60 คน ซึ่งทาง รพ.สต.ได้มีการจัด คลินิกเบาหวานเพื่อให้คำ�แนะนำ� และรักษาผู้ป่วย เป็นประจำ�ทุกเดือน และมีการจัดอบรมให้ความรู้ เรื่อง 3อ. : อาหาร ออกกำ�ลังกาย อารมณ์ เพื่อลด ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เพื่อให้ชาวบ้านได้ มีความรู้ในเรื่องการเลือกรับประทานอาหาร การ รักษาอารมณ์ให้แจ่มใส และยังมีการจัดกิจกรรม ที่ส่งเสริม และแนะนำ�วิธีการออกกำ�ลังกายให้แก่ ชาวบ้านอย่างสมํ่าเสมอ ด้วยต้องการกระตุ้นชาว บ้ า นในชุ ม ชนให้ เ ห็ น ความสำ� คั ญ ของการออก กำ�ลังกาย โดย รพ.สต.จะมีวิธีการติดตามผลความ ก้าวหน้าของสุขภาพคนในชุมชน ด้วยการตรวจ เช็คเรื่องนํ้าหนัก การวัดรอบเอว มีการตรวจสอบ ประวัตกิ ารเจ็บป่วย เพือ่ ทำ�การประเมินผลสุขภาพ ของชาวบ้านในชุมชนอย่างต่อเนื่อง “รพ.สต. ขอขอบคุณ เอไอเอส ที่ได้มอบ ลานสุขภาพชุมชน และเครื่องออกกำ�ลังกาย ให้ แก่ รพ.สต.หนองแวง ซึ่ง ลานสุขภาพชุมชน แห่ง นี้ จะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชาวบ้านทุก คนในชุมชน รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการทำ�งาน ของแพทย์, พยาบาล และ อสม.เพื่อใช้ส่งเสริมให้ ทุกคนในชุมชนหันมาออกกำ�ลังกาย โดย รพ.สต.จะ ร่วมมือกับ เอไอเอส ในการดำ�เนินกิจกรรมส่งเสริม ให้ชาวบ้านในชุมชนหันมาออกกำ�ลังกายอย่างสมํ่า เสมอ และต่อเนื่อง เพื่อให้คนในชุมชนหนองแวงมี สุขภาพพลานามัยทีส่ มบูรณ์แข็งแรงมากยิง่ ขึน้ และ ลดจำ�นวนกลุ่มเสี่ยงได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายสม เกียรติ อินทรวัฒนวงษ์ กล่าว

สำ�หรับผู้โดยสารเดินทางไปต่างประเทศพร้อม แล้ ว ในขณะนี้ ส นามบิ น นานาชาติ อุ ด รธานี มี สายการบิน 2 สายคือ บางกอกแอร์เวยส์ และสาย การบินไทยแอร์เอเชีย ได้มกี ารนำ�เอาระบบ CIQ มา ใช้ส�ำ หรับผูโ้ ดยสารทีต่ อ้ งการเดินทางต่อไปยังต่าง ประเทศเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนัน้ ก็ยงั สามารถให้ บริการสำ�หรับผูโ้ ดยสารในประเทศไปพร้อมกันใน เวลาเดียวกันด้วย ขณะนี้ กรมการบินพลเรือน ได้มกี ารว่าจ้าง บริษัทที่ปรึกษา ให้ทำ�การศึกษาความเป็นไปได้ใน กรณีของการก่อสร้างขยายลานจอดอากาศยาน หรือหลุมจอดเครื่องบินจากเดิม 4 หลุมจอด เป็นมี หลุมจอด 16 หลุมจอด ตามนโยบายของรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม แต่รายละเอียดต่างๆ ยัง อยู่ที่กรมการบินพลเรือน นายสวาท เปิ ด เผยว่ า การที่ นำ � คณะ กรรมการหอการค้าจังหวัดอุดรธานี มาเยี่ยมชม และรับทราบโครงการการก่อสร้างปรับปรุงอาคาร ผู้โดยสารหลังที่ 2 (หลังใหม่) เนื่องจากหอการค้า จังหวัดอุดรธานีในฐานะที่เป็นภาคเอกชน มีส่วน ในการผลักดันให้มีการก่อสร้างปรับปรุงอาคารผู้ โดยสารหลังนี้ เนื่องจากว่าการเดินทางโดยเครื่อง บินในช่วงที่ผ่านมาของจังหวัดอุดรธานีนั้น มีการ เติบโตแบบก้าวกระโดดจากเพียงวันละไม่กี่เที่ยว บิน มาเป็นวันละ 26เที่ยวบินอย่างเช่นปัจจุบัน “นอกจากจะติดตามความก้าวหน้าของ การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่แล้ว คณะ กรรมการหอการค้า ต้องการมาดูพนื้ ที่ ทีจ่ ะผลักดัน ขอให้มกี ารศึกษาความเป็นไปได้ ในการก่อสร้างอา คาผู้โดยสารหลังที่ 3 เพื่อรองรับความเจริญเติบโต ของธุรกิจการบินหลังเปิด AEC แล้ว เพราะจากการ ศึกษาและมีการพูดคุยกับภาคเอกชน ผู้ประกอบ การลงทุนจากประเทศต่างๆ คำ�ถามหนึ่งที่จะถูก สอบถามเป็นประจำ�ได้แก่ สนามบินอุดรธานี มี

เทีย่ วบินกีเ่ ทีย่ วบินต่อวัน ซึง่ ถือว่าเป็นคำ�ถามปัจจัย ที่สำ�คัญของการลงทุน เพราะนักลงทุนมักห่วงใย ในเรื่องความสะดวกในการเดินทางมาก” นายสวาท กล่าวต่อว่า สำ �หรับอาคารผู้ โดยสารหลังที ่ 2 นี้ คาดหวังหลังการเปิด AEC แล้ว จะเกิดผลที่ตามมาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะใน ด้านการท่องเที่ยว ที่ผ่านมานั้น หอการค้าจังหวัด อุ ด รธานี ได้ มี ก ารเจรจากั บ นั ก ธุ ร กิ จ เวี ย ดนาม หลายราย ในการทำ�การบินแบบเช่าเหมาลำ�จาก เมืองต่างๆ ของประเทศเวียดนาม เข้ามายังสนาม บินอุดรธานี แต่ที่ผ่านมานั้นสนามบินนานาชาติ อุดรธานียงั ไม่พร้อมรับการบินแบบดังกล่าว เพราะ ยังขาดบุคลากรที่เกี่ยวข้อง แต่ทราบว่าหลังจากที่ เปิดทำ�การอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศของ สนามบินนาชาติอุดรธานีแล้ว จะมีบุคลากรทุก หน่วยงานพร้อมปฏิบัติหน้าที่ ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ยังมอง ไปถึงปัญหาการขนถ่ายสินค้าจากจังหวัดอุดรธานี เข้ า สู่ ส่ ว นกลางอี ก ว่ า ปั จ จุ บั น ในพื้ น ที่ จั ง หวั ด อุดรธานีมีโรงงานอุตสาหกรรมหลายขนาด หลาย ชนิด เช่น โรงงานประกอบชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำ�เร็จรูป โรงงานทำ�ดอกไม้ พลาสติก และ ฯลฯ ที่จะต้องอาศัยการขนส่งที่ รวดเร็วปลอดภัยโดยเฉพาะชิน้ ส่วนอิเลคทรอนิคส์ ที่มีอยู่ถึง 5 แห่ง “ขอให้ ห น่ ว ยงานที่ เ กี่ ย วข้ อ ง ทำ � การ ศึ ก ษาความเป็ น ไปได้ เ อาไว้ ล่ ว งหน้ า สำ � หรั บ ใน อนาคตถึงการก่อสร้างอาคารรับส่งสินค้าเอาไว้ รองรับเอาไว้เลย จะได้ไม่ต้องมาทำ�การศึกษาใหม่ เมื่ อ ได้ รั บ งบประมาณมา และเพื่ อ รองรั บ นิ ค ม อุตสาหกรรมสีเขียวที่กำ�ลังดำ�เนินการก่อตั้ง และ สำ � คั ญ ก็ เ พื่ อ รองรั บ เขตเศรษฐกิ จ พิ เ ศษจั ง หวั ด หนองคาย, มุกดาหาร ตามนโยบายในเฟสแรกของ รัฐบาลอีกด้วย”

บุ ญ เ บิ ก บ้ า น ชุ ม ช น ห น อ ง ใ ห ญ่ ; นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พั น ธุ์ น า ย ก เ ท ศ ม น ต รี น ค ร ขอนแก่น ร่วมงานบุญเบิก บ้านชาวชุมชนหนองใหญ่ 3 ซึ่งเป็นประเพณีสืบทอด เสริ ม ความเป็ น สิ ริ ม งคล ให้กับคนในชุมชน พร้อม เปิ ด ป้ า ยศู น ย์ ส าธารณสุ ข มู ล ฐานชุ ม ชนหนองใหญ่ 3 (ศสมช.) ณ บริเวณลาน กีฬาชุมชนหนองใหญ่ 3 เขตเทศบาลนครขอนแก่น ริมบึงหนองใหญ่ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2558


หน้า 3

ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2558

“ปฏิรูปสื่อมวลชน” เหล้าเก่าในขวดใหม่ การปฏิรปู สือ่ ซึง่ จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เรือ่ งใหม่ ทีเ่ พิง่ นำ�มาพูดถึงกันช่วงนี้ หากจะย้อนกลับไปแล้ว แนวคิดเรื่องการ “ปฏิรูปสื่อ” เพิ่งถูกนำ�มาพูดถึง อย่างจริงจังเมื่อช่วงหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2535 แรกเริม่ ทีเดียว แนวคิดเรือ่ ง การปฏิรปู สือ่ จำ�กัดอยู่ที่การปฏิรูปสื่อวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งเป็น สือ่ ทีห่ น่วยงานของรัฐ เป็นเจ้าของ ภาคเอกชนเป็น เพียงผู้รับสัมปทานที่ต้องดำ�เนินงานตอบสนอง นโยบายหน่ ว ยงานรั ฐ ที่ เ ป็ น เจ้ า ของสั ม ปทาน เท่านั้น ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ที่การ ปฏิรูปสื่อ จึงเป็นเพียงแนวคิดและตัวหนังสือที่ บรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญปี 2540 และปี 2550 ตาม ลำ�ดับ รัฐบาลจึงมีอำ�นาจในการครอบงำ�สื่อวิทยุ และโทรทัศน์มาตลอด และไม่มรี ฐั บาลใดเลย ทีใ่ ห้ ความสำ�คัญกับการปฏิรูปสื่อวิทยุโทรทัศน์ตลอด ระยะเวลาดังกล่าว เพราะทุกรัฐบาล ต่างมุ่งใช้สื่อ ของรัฐเหล่านี้ เป็นเครื่องมือในการรักษาอำ�นาจ ของตนเองไว้ แต่ ก ารปฏิ รู ป สื่ อ ในความหมายของ คสช. น่าจะมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ว่า ทำ�อย่างไร สือ่ มวลชนไทยจะทำ�หน้าทีอ่ ย่างมีความรับผิดชอบ ต่อสังคม ไม่เป็นต้นเหตุของการสร้างความเกลียด ชังระหว่างคนในชาติ ในขณะที่ ห ลั ก การ การทำ � หน้ า ที่ ข อง สือ่ มวลชน คือ สือ่ จะต้องมีเสรีภาพในการนำ�เสนอ ข่าวสารและวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ แต่ต้องมีความ รับผิดชอบต่อสังคม และอยูใ่ นกรอบของจริยธรรม

แห่ ง วิ ช าชี พ ซึ่ ง การกำ� กั บ ดู แ ลให้ สื่ อ ทำ� หน้ า ที่ อยู่ในกรอบจริยธรรมนี้ ประเทศประชาธิปไตย ส่ ว นใหญ่ ใช้ ร ะบบการกำ � กั บ ดู แ ลกั น เองของ สื่อมวลชน การกำ�กับดูแลสื่อมวลชน ในประเทศที่ ปกครองในระบอบประชาธิปไตย จะต้องเป็นการ กำ�กับดูแลโดยไม่มีบทลงโทษทางกฎหมาย แต่ใช้ จริยธรรมเป็นตัวกำ�หนด โดยเน้นการกำ�กับดูแล กันเองโดยองค์กรวิชาชีพและใช้บทลงโทษทาง สังคม ซึง่ หากสังคมไม่มคี วามเข้มแข็งในการเข้า มาร่วมตรวจสอบจริยธรรมของสื่อมวลชนแล้ว การกำ�กับดูแลกันเองย่อมเป็นไปได้ยาก เพราะ ขาดแรงกดดันทางสังคม ให้สื่อมวลชนทำ�หน้าที่ ในกรอบจริยธรรม การปฏิรปู สือ่ สารมวลชน จึงไม่ใช่เรือ่ งง่าย เพราะตราบใดที่สังคมยังไม่มีความตื่นตัวในการ เข้ามาร่วมกันตรวจสอบจริยธรรมของสือ่ มวลชน ก็เป็นการยากที่จะควบคุมให้สื่อทำ�หน้าที่อยู่ใน กรอบจริยธรรมภายใต้การตรวจสอบกันเอง ครั้นจะใช้วิธีทางกฎหมายเข้ามาควบคุม จริยธรรมในการทำ�หน้าที่ของสื่อมวลชน ก็ย่อม เป็นอันตรายและง่ายต่อการที่ผู้มีอำ�นาจทางการ เมืองจะเข้ามาแทรกแซงการทำ�หน้าทีท่ เี่ ป็นอิสระ ของสื่อมวลชน ซึ่งพิสูจน์กันมาแล้วในประเทศ ประชาธิปไตยทั้งหลายว่า ไม่ใช่วิธีที่ส่งเสริมการ ปกครองในระบอบประชาธิปไตย การปฏิรปู สือ่ มวลชนในวันนี้ จึงไม่ใช่เรือ่ ง ง่ายอย่างที่หลายคนคิดจริงๆ.

ฉลองมงคลสมรส ; พลเอก กิจพันธ์ ธัญชว นิ ช ประธานที่ ป รึ ก ษา กรรมการผู้ อำ � นวยการ ใหญ่ สถานีวิทยุกองทัพ บก เป็นประธานฉลอง มงคลสมรสระหว่ า ง นางสาวสุดารัตน์ สากิยะ กั บ นาย นรรถพล ศิ ริ สวัสดิ์ โดยมี นายทนง สากิยะ พร้อมครอบครัว และ นางสุพตั รา ศุขโข บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ไทยเสรี ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องศรีจนั ทร์บอลลูน โรงแรมเจริญธานี ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2558 ตั้งศาลตาปู่หนองไผ่ล้อม ; นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พั น ธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่ น พร้ อ ม ด้วยคณะผู้บริหาร และ สมาชิกสภาเทศบาลนคร ขอนแก่น ร่วมพิธตี งั้ ศาล ใหม่ แ ทนศาลเดิ ม เพื่ อ ถวายตาปู่หนองไผ่ล้อม พร้อมจัดงานฉลองศาล ใหม่ให้ตาปู่หนองไผ่ล้อม เพื่อความเป็นสิริมงคลกับประชาชนและผู้ประกอบการ ณ ตลาดหนองไผ่ ล้อม ถนนรื่นรมย์ ตำ�บลในเมือง อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เมื่อประเทศ อาเซี ย นเข้ า สู่ AEC ในปลายปี 2558 ไม่ว่าคนของแต่ละ ประเทศจะใช้ภาษาอะไรเป็นภาษาราชการ และภาษา ประจำ�ชาติอยูใ่ นขณะนี้ เมือ่ ต้องติดต่อสือ่ สารกับคน ต่างชาติ ต่างภาษา และต่างวัฒนธรรมนัน้ การเตรียม ความพร้อมในเรื่องของภาษาเพื่อใช้ในการสื่อสาร จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และควรจะต้องเตรียม ความพร้อมให้ดี สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่น ร่วมกับชมรมส่งเสริมภาษา เวี ย ดนาม ได้ จั ด โครงการเรี ย นภาษา เวี ย ดนามขึ้ น ภายใต้ โ ครงการเรี ย น ภาษาเพื่ อ นบ้ า นอาเซี ย น เพื่ อ เตรี ย ม ความพร้ อ มสู่ ก ารเป็ น ประชาคมอาเซี ย น โดยมี วัตถุประสงค์ เพื่อให้สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ได้มีความรู้ในเรื่องภาษา ประเพณี และวัฒนธรรม ของประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน และเพื่อ เตรียมการรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน ปลาย ปี 2558 โดยกำ�หนดเรียนทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 18.00 – 20.00 น. รวม 30 ชั่วโมง เริ่มเรียนเมื่อ วันพุธที่ 18 มีนาคม เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมชั้น 2 โอโซนวิลเลจ ถนนเทพารักษ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีผู้เข้าอบรม 25 คน พั น ตรี พิ สิ ษ ฐ์ ชาญเจริ ญ นายกสมาคม สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า หากจะให้ ลำ�ดับความสำ�คัญของภาษาที่จำ�เป็นสำ�หรับชาว อาเซียนแล้วละก็ ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาบังคับ อันดับแรกที่ประชาชนใน10 ประเทศอาเซียนจะ ต้องพัฒนาขีดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ เพราะจะต้องใช้ภาษาอังกฤษกันมากขึ้นแน่นอน เนื่องจากประชาชนของประเทศอาเซียนจะต้องไป มาหาสู่ ทำ�ความรู้จัก เรียนรู้ซึ่งกันละกัน เดินทาง ท่องเที่ยว หางานทำ�และแสวงหาโอกาสที่ดีกว่าให้ กับชีวิต ดังนั้น ภาษาอังกฤษจึงเป็นภาษาที่สองของ ชาวอาเซียน เคียงคูภ่ าษาทีห่ นึง่ อันเป็นภาษาประจำ� ชาติของตน แต่คนที่สามารถพูดภาษาที่สามได้ จึงค่อน ข้างได้เปรียบกว่าคนทีพ่ ดู ภาษาอังกฤษได้เพียงอย่าง

เดียว เพราะไม่เพียงแต่จะติดต่อกับภาครัฐ และภาค ธุรกิจเป็นภาษาอังกฤษได้เท่านั้น ยังติดต่อกับคนที่ สื่อสารเป็นภาษาท้องถิ่นได้ด้วย ทำ�ให้สามารถเข้า ถึงคนได้ในทุกระดับ การเรียนรู้ภาษาอาเซียนอื่น ๆ เป็นภาษาทีส่ าม จะช่วยให้ชวี ติ ของเรามีสสี นั มากขึน้ ได้เรียนรู้วัฒนธรรม ประเพณีชาติอื่น ๆ ผ่านภาษาที่ เราเรียน อีกทัง้ ยังทำ�ให้เราได้เรียนรู้ และสนุกสนาน กับวัฒนธรรมทีม่ สี สี นั และหลากหลายของประเทศ เพื่อนบ้านในอาเซียน นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น

ก้าวสู่ AEC ... ภาษาอาเซียน

จำ�เป็นต้องเรียนจริงหรือ

กล่าวต่อว่า ชาวเวียดนาม เป็นผู้ที่อัธยาศัยดี มีความ รู้ ความสามารถ ขยันในการทำ�มาหากิน และทีส่ �ำ คัญ เทคโนโลยีของเวียดนามก็กำ�ลังก้าวหน้า ดังนั้น หาก เราจะมองตลาดและความร่วมมือ เวียดนาม เป็น ประเทศที่น่าสนใจที่ผู้ประกอบการไทยควรศึกษา เพื่อหาลู่ทางขยายช่องทางในการลงทุน เนื่องจาก เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงและมีกำ�ลัง ซื้อ รวมทั้งการที่สินค้าไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อชาว เวียดนาม ซึ่งทำ�ให้เป็นโอกาสที่ดีสำ�หรับสินค้าและ ธุรกิจไทยในตลาดเวียดนาม ภาษาเวียดนาม จึงเป็น อีกภาษาที่น่าสนใจ ศึกษาเรียนรู้ “ในการจัดโครงการเรียนภาษาเวียดนาม ใน ครั้งนี้ ขอขอบคุณ ชมรมส่งเสริมภาษาเวียดนาม ที่ ได้กรุณาจัดครูผู้สอนที่มีความรู้ ความสามารถใน การถ่ายทอด ทำ�ให้การเรียนภาษาเวียดนาม เป็นการ เรียนทีส่ นุก และไม่ยากอย่างทีค่ ดิ ได้รบั ความรูท้ งั้ ใน ด้านการอ่าน การเขียน และการใช้ภาษาในการพูดคุย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก และสามารถนำ�ไปใช้ใน ชีวิตประจำ�วันได้จริง และขอขอบคุณผู้บริหาร โอโซ นวิลเลจ ทีไ่ ด้กรุณาให้ใช้สถานที่ และสิง่ อำ�นวยความ สะดวกต่างๆ ตลอดการอบรม โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่ อย่างใด และสุดท้ายต้องขอขอบคุณ คณะกรรมการ

บั น ทึ ก ข้ อ ตกลงความ ร่วมมือรักษาความสงบ เรี ย บร้ อ ย ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ช กพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่ น , พล.ต.ธรากฤต ทับทองสิทธ์ ผบ.มทบ.๒๓, พล.ต.ต. จิ ต ร จ รู ญ ศ รี ว นิ ช ย์ ผ บ ก . ภ . ข อ น แ ก่ น , พ.อ.จตุ ร พงศ์ บกบน รอง ผอ.กอ.รมน.ขอนแก่น และ รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ คณบดีวทิ ยาลัยปกครองท้องถิน่ ร่วม ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการดำ�เนินภารกิจด้านการจัดระบบรักษาความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงภายในจังหวัดขอนแก่น ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น อ.เมือง ขอนแก่น จ.ขอนแก่น

ปลูกต้นไม้วนั พืชมงคล ; พระครู สุ น ทรธรรมนิ วิ ฐ เจ้ า อาวาสวั ด ป่ า ศิ ริ วั น วนาราม นายธี ร ะ ศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายก เทศมนตรีนครขอนแก่น พร้ อ มคณะผู้ บ ริ ห าร สมาชิ ก สภาเทศบาล และประชาชน ร่วมกัน ปลูกต้นไม้ เพือ่ เพิม่ พืน้ ที่ สีเขียวในชุมชนให้เป็นแหล่งพักผ่อนของเมืองขอนแก่น เนือ่ งในวันพืชมงคล ณ บริเวณสนามฟุตบอล ชุมชนหนองใหญ่ ๑ เขตเทศบาลนครขอนแก่น เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2558 มอบถังนํ​ํ้าช่วยภัยแล้ง ; นายประสงค์ เลิ ศ รั ต น วิ สุ ท ธิ์ ผู้ อำ � น ว ย ก า ร บริหารสถาบันอิศรา และ ผู้แทน บสส. รุ่นที่ 4 โดย ความร่วมมือจาก บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำ�กัด (มหาชน) (PTTGC) ส่งมอบถังนํ​ํ้า InnoPlus จำ � นวน 20 ใบ ให้ ช าว ชุมชนที่ประสบภัยแล้งในจังหวัดน่าน ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ณ โรงงานเอนเทค กรุงเทพฯ เมื่อ วันที่ 13 พฤษภาคม 2558

งานบุ ญ ประเพณี บุ ญ บั้ ง ไฟล้ า น ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ช กพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่ น เป็นประธานเปิดงานบุญ ประเพณี บุญบั้งไฟล้าน ประจำ�ปี 2558 เพื่อส่ง เสริม อนุรักษ์ สืบสาน ประเพณี วั ฒ นธรรม ภู มิ ปั ญ ญาท้ อ งถิ่ น มี ขบวนแห่จากชุมชนต่างๆเข้าร่วมงานคับคัง่ เมือ่ วันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ทีบ่ ริเวณสนามกีฬาหน้าที่ ทำ�การองค์การบริหารส่วนตำ�บลดูนสาด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น

สร้ า งสรรค์ สิ่ ง ประดิ ษ ฐ์ จากวัสดุเหลือใช้ ; นาย กำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ. ขอนแก่น เป็น ประธาน มอบรางวัลการประกวด สร้ า งสรรค์ สิ่ ง ประดิ ษ ฐ์ จากวัสดุเหลือใช้ ประจำ�ปี 2558 เพื่อสร้างจิตสำ�นึก ให้เยาวชนและประชาชน มีส่วนร่วมในการจัดการ และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยดัดแปลงสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ให้ทันสมัยและใช้ได้จริง ณ อาคารหอประชุมสำ�นักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาเขต1 ขอนแก่น

ฝายหิ น ทิ้ ง แบบประชา อาสา ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ช กพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น ให้กำ�ลัง ใจผูท้ เี่ ข้าร่วมกิจกรรมทำ� ฝายหิ น ทิ้ ง แบบประชา อาสา ตามโครงการ พั ฒ นาแหล่ ง นํ​ํ้ า ทำ � ฝาย ปลูกแฝก ประจำ�ปี 2558 เพื่อส่งเสริมการมีส่วน ร่วมของประชาชน อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 ณ ลำ�ห้วยบ้านป่ากล้วย หมู่ 6 ต.โนนคอม อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น

พัฒนาโรงเรียน ; พระครู ศ รี วุ ฒิ เ ม ธี เ จ้ า ค ณ ะ ตำ�บลเขวาไร่เขต 2 จัด โครงการมอบอุ ป กรณ์ กีฬา-เวชภัณฑ์ยารักษา โรค-ชุ ด กี ฬ าและปั จ จั ย สนับสนุนการก่อสร้าง พัฒนาโรงเรียน มอบให้ แก่โรงเรียนในเขตตำ�บล เขวาไร่ อ.โกสุ ม พิ สั ย จ.มหาสารคาม ทัง้ 5 แห่ง ประกอบไปด้วย โรงเรียนเขวาไร่ศกึ ษา, โรงเรียนบ้านหนองสระพัง, โรงเรียน บ้านโนนราษีโคกล่าม, โรงเรียนบ้านวังกุง และโรงเรียนบ้านวังโพน เมือ่ วันที่ 21 - 27 พฤษภาคม 2558

บริหาร สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ที่ได้คิด ริเริ่มโครงการ ให้การสนับสนุน และผลักดันจนเกิด โครงการดีๆ เช่นนี้ขึ้น” นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น กล่าวในโอกาสที่มาเป็นประธานมอบ ใบประกาศให้กับผู้ที่สำ�เร็จการศึกษาการเรียนภาษา เวียดนาม รุ่นที่ 1/2558 ว่า ขอแสดงความชื่นชมกับ สื่อมวลชนขอนแก่น ที่เป็นองค์กรที่ตื่นตัวในระดับ ต้นๆ ของเมืองขอนแก่นที่แสดงความพร้อมในการ ก้าวสู่ AEC การเรียนภาษาในโอกาสต่อไป อย่าไป ยึดติดคำ�ว่าอาเซียน ภาษาจีน ต้องรู้ให้ได้ครับ เพราะ นอกจากใน 10 ประเทศอาเซียน ประเทศที่น่าจะ มี อิ ท ธิ พ ล ไม่ ว่ า จะเป็ น เรื่ อ งประเพณี วั ฒ นธรรม เศรษฐกิจ สังคมและการเมืองในอนาคต ก็คอื ประเทศ จีน ดังนัน้ สิง่ ทีต่ อ้ งเรียนรูค้ อื ภาษาจีน เอาแค่เส้นทาง ที่จีนกล้าลงทุนทะลุจากจีนตอนใต้ผ่านประเทศไทย ไปมาเลเซีย ไปสิงคโปร์ จีนกล้าออกเงินทำ�เส้นทาง สายใหม่ให้พม่า และกัมพูชา เข้าเวียดนาม ทั้งหมด เป็นการแสดงถึงการรุกคืบ ที่ต้องจับตามอง และคน กลุ่มหนึ่งที่ต้องจับตามองก่อนเพื่อน คือสื่อมวลชน เพราะว่ า สื่ อ มวลชนจะเป็ น กลุ่ ม ที่ รั บ เอาข่ า วสาร ต่างๆ ไปเผยแพร่ให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้ และถ้า ประชาชนรับทราบว่าสื่อมวลชนตื่นตัวในเรื่องนี้ ก็ จะก่อให้เกิดกระแสการตื่นตัวที่ดีตามมา “สือ่ มวลชนเป็นกลุม่ ทีม่ อี ทิ ธิพลต่อสังคมมาก ทีส่ ดุ ก็เลยรูส้ กึ ยินดีเป็นพิเศษ ขอแสดงความยินดี และ ขอขอบคุณกับโครงการดีๆ ของสมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น ทีเ่ ล็งเห็นความสำ�คัญ และก็ตดิ อาวุธ ทางปัญญา ให้สื่อมวลชนขอนแก่น มีความพร้อม ในการเผชิญหลายสิ่งหลายอย่างที่กำ�ลังคุกคาม และ

การเตรียมตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว” นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวต่อว่า คนที่เร็วกว่าเท่านั้นจึงจะได้เปรียบ ในอดีตเรามัก จะพูดอยู่คำ�หนึ่งเสมอว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่ ต่อจากนี้ไปมันไม่ใช่แล้ว มันต้องปลาเร็วกินปลา ช้า คนที่ช้าปรับตัวไม่ทันและก็ยึดติดกับสิ่งที่เป็น ประวัติศาสตร์ และก็หลงภาคภูมิใจกับความเป็น ประวัติศาสตร์ และก็ยึดติดกับสิ่งแวดล้อมไม่พร้อม จะรับการเปลีย่ นแปลงตกยุคหมดแล้ว หวังเป็นอย่าง ยิ่งว่าท่านจะสามารถนำ�ไปปรับใช้ในชีวิตประจำ� วั น ได้ ยิ น ดี กั บ ความสำ � เร็ จ ที่ เ กิ ด ขึ้ น กั บ ก้ า วแรก อันงดงามและสง่างามยิ่งต่อความเป็นสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น การเรียนรู้แม้จะเพียงน้อยนิด หรือเพียง เบื้องต้นของความรู้ทั้งหมด แต่หากเราได้เตรียม ความพร้อม เราก็จะก้าวนำ�คนอื่นไปอย่างน้อยหนึ่ง ก้าว การเรียนรู้ภาษาอาเซียนสำ�หรับการเปิดเสรี อาเซียนนั้น จะทำ�ให้การติดต่อประสานงาน เพื่อ เชื่อมความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านได้ง่ายขึ้น

ปรกชล ศุขโข...รายงาน

ขอนแก่ น ยู ไ นเต็ ด เสริ ม ทั พ

9 นักเตะ สู้ศึก เอไอเอสลีก 2015 นายเอกราช ช่ า ง เหลา สมาชิ ก สภาปฏิ รู ป แห่งชาติจังหวัดขอนแก่น กรรมาธิการปฏิรูปการกีฬา สภาปฏิ รู ป แห่ ง ชาติ นาย วัฒนา ช่างเหลา ประธาน สโมสรฟุ ต บอลขอนแก่ น ยูไนเต็ด นายพิทักษ์ชน ช่าง เหลา ผู้จัดการทีมขอนแก่น ยูไนเต็ด และนายธงชัย สุขโกกี โค้ช ร่วมแถลงข่าว เปิดตัว 9 นักเตะน้องใหม่ทีมฟุตบอล เดอะคิงส์ คอบบร้า “ขอนแก่นยูไนเต็ด” เพื่อสู้ศึกเอไอเอสลีก ภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ประจำ�ปี 2015 ณ ห้องออคิดบอล รูม โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เมื่อวัน ที่ 3 มิถุนายน 2558 นายวั ฒ นา ช่ า งเหลา ประธานสโมสร ฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ด เปิดเผยว่า ในเลกที่ 1สโ มสรขอนแก่นยูไนเต็ดทำ�ผลงานไว้เป็นทีน่ า่ ประทับ ใจ ในศึกเอไอเอสลีก 1 ด้วยสถิติชนะ 15 ครั้ง แพ้ 2 ครั้ง เป็นแชมป์กลุ่มด้วยสถิติใหม่ในวงการฟุตบอล ไทย และสามารถชนะติดต่อกันรวมถึง 13 ครั้งรวด ถือเป็นสโมสรแรกในประเทศไทยทีส่ ามารถทำ�สถิติ ใหม่นไี้ ด้ และเชือ่ ว่าในเลกที่ 2 จะทำ�ผลงานได้ไม่ตา่ ง จากเลกที่1 อย่างแน่นอน ส่วนฟุตบอลโตโยต้าลีกคัพ ยังโชว์ผลงาน สามารถเอาชนะทีม ไทยพรีเมียร์ลกี อย่างชัยนาทเอฟ ซี และผ่านเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้ายได้สำ�เร็จ สำ�หรับ เลกที่ 2 “สโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ด” มุ่งมั่น ที่จะพัฒนาทีมในทุกด้านเพื่อก้าวสู่ความสำ�เร็จ โดย เฉพาะการเฟ้นหาตัวนักเตะทีจ่ ะยกระดับทีมมาเสริม ทัพกับนักเตะหลักทีส่ ามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอด เยีย่ มอยูแ่ ล้วในเลกแรก เพือ่ ให้สโมสรได้ลนุ้ การเป็น แชมป์กลุ่ม และแชมป์ระดับประเทศในรอบแชมป์ เปีย้ นส์ลกี อย่างเต็มความสามารถ รวมถึงการพัฒนา สโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ดให้เป็นสโมสร ฟุตบอลอาชีพอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงต่อไป ด้าน นายพิทักษ์ชน ช่างเหลา ผู้จัดการทีม ขอนแก่นยูไนเต็ด กล่าวเสริมว่า สำ�หรับนักเตะทัง้ 9 รายทีเ่ ข้ามาช่วยเสริมทัพนักเตะชุดแรก ได้แก่ นายวิ สิทธิ์ ดอนอาจ ย้ายมาจาก ร้อยเอ็ดยูไนเต็ด ตำ�แหน่ง กองกลาง, นายเดวิด สร้างนานอก ย้ายมาจาก อุบล เอฟซี ตำ�แหน่งกองหน้า, นายธวัชชัย บัวเพ ย้ายมา จากลีกประเทศฝรั่งเศส Olympigue Saumur FC

ตำ�แหน่งกองหน้า, นายสิทธิพงษ์ มะนาวหวาน ย้ายมาจาก ระยองเอฟซี ตำ�แหน่งผู้รักษาประตู, นายพัทรชัย สถิตวาส ย้ายมาจาก กาฬสินธุ์เอฟซี ตำ�แหน่งกองกลาง, นายอนุรักษ์ กมลจิตร ย้ายมา จาก ประจวบเอฟซี ตำ�แหน่งกองหลัง, นายเอกพจน์ คงเกตุ ย้ายมาจาก ประจวบเอฟซี ตำ�แหน่งกองหน้า, Mr. Kim Mung Yu ย้ายมาจาก อุบลเอฟซี อดีตทีม ชาติเกหลีใต้ชุด U-17 ตำ�แหน่งกองกลาง, Mr.Olof Hviden-Watson ย้ายมาจาก อุบลยูเอ็มทียูไนเต็ด ตำ�แหน่งกองหน้า เมื่อรวมทีมกับขุนพลนักเตะเดิม ที่สร้างผลงานไว้อย่างสวยงาม เชื่อว่า ทีมขอนแก่น ยูไนเต็ด จะเป็นทีมฟุตบอลที่แข็งแกร่งและประสบ ความสำ�เร็จได้อย่างแน่นอน นายเอกราช ช่างเหลา สมาชิกสภาปฏิรูป แห่งชาติจังหวัดขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า สโมสร ฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ด ยังได้เตรียมปรับพื้นที่ สนามกอล์ฟรถไฟรวม 62 ไร่ ให้เป็น สนามฟุตบอล ระดับ A Class ทีม่ คี วามจุผเู้ ข้าชมได้ถงึ 25,000 ทีน่ งั่ มีพนื้ ทีจ่ อดรถ 1,700 คัน สปอร์คอมเพล็ก พร้อมด้วย สิง่ อำ�นวยความสะดวก อาทิ ห้องประชุม ห้องวีไอพี บ็อกซ์ ลูว่ งิ่ และเลนจักรยานรอบสนามฟุตบอล โดย จะเปิดให้ประชาชนทัว่ ไปสามารถเข้ามาใช้เป็นพืน้ ที่ ออกกำ�ลังกายรอบสนามฟุตบอลได้ ทัง้ นีเ้ พือ่ ให้เกิด เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์สำ�หรับประชาชน ทั่วไป โดยตั้งงบประมาณมากกว่า 600 ล้านบาท สำ�หรับด้านการจราจร กำ�ลังปรับพื้นที่ให้ สามารถเข้าออกได้หลายทาง อาทิ เส้นทางเข้าออก ที่เป็นปัจจุบัน เส้นทางชุมชนหนองวัด และกำ�ลัง เพิ่มช่องทางที่สามารถออกสู่ถนนมิตรภาพโดยตรง เพื่อเป็นการระบายรถที่อาจเกิดความแออัดในช่วง ที่มีการแข่งขันฟุตบอล ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงเขียน แบบโครงสร้าง เมื่อแบบแล้วเสร็จสามารถดำ�เนิน การก่อสร้างได้ทันที เชื่อว่าปลายปี 58 นี้ น่าจะเห็น เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน


หน้า 4

ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2558

สมาคมสื่อมวลชนขอนแก่น ครบรอบวั น สถาปนาทหาร สื่อสาร ปีที่ 91 ; พ.ต.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายทหารฝ่ายการ สื่ อ สาร มทบ.23 รั บ มอบ พระบรมฉายาลักษณ์พระบาท สมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว ฯ เพื่ อ ประดิ ษ ฐานที่ ห มวดสื่ อ สาร มทบ.23 เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว จิ ต ใจ ในโอกาสครบรอบวั น สถาปนาเหล่าทหารสื่อสาร ปีที่ 91 จาก จ.ส.อ.สุรจิตร สุวรรณมา โจ เมือ่ วันที่ 27 พฤษภาคม 2558 โรงทานสมาคมสื่ อ มวลชน ; พ.ต.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายก สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการ บริ ห าร และสมาชิ ก สมาคม สื่อมวลชนฯ ร่วมตั้งโรงทาน อาหารและนํ​ํ้ า ดื่ ม มอบให้ กั บ ประชาชนที่ เ ดิ น ทางมาก ราบสรี ร ะสั ง ขารหลวงพ่ อ คูณ ปริสุทโธ ณ ศูนย์ประชุม อเนกประสงค์ ก าญจนาภิ เ ษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2558

เปิดตัวหนังสือ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับ คณะองคมนตรี” ; นายอดุล จันทนปุ่ม รอง ผวจ.อุดรธานี ร่วมกับนายสัก กอแสงเรือง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิด งานนิทรรศการและเปิดตัวหนังสือชุด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั กับ คณะองคมนตรี 3 ภาษา ไทย จีน และอังกฤษ เพื่อเผยแพร่ไปยังประชาชนในระดับสากล ได้เข้าใจถึงพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซนทรัล พลาซ่า อุดรธานี

ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น และ Mr. Song Kening Director General of Fujian Provincial Foreign Affairs Office ลงนามแลกเปลีย่ นธุรกิจการ ค้าและการลงทุนระหว่าง กลุม่ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับมณฑลฝูเจีย้ น สาธารณรัฐ ประชาชนจีน โดยมีหัวหน้าหน่วยงาน ภาครัฐ นักธุรกิจและภาคเอกชน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ ขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558

เสริมสร้างความจงรักภักดี ; คุณสุวิชัย เลาหไพศาล รองประธานกรรมการบริหาร โรงแรม โฆษะ ให้การต้อนรับ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำ�สำ�นักนายกรัฐมนตรี และ ปลัดสำ�นักนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาบรรยายพิเศษในโครงการเสริมสร้างความจงรัก ภักดี พัฒนาวิถีประชาธิปไตย ไทขอนแก่น ณ ห้องมงกุฏเพชร โรงแรมโฆษะ

มหกรรมเมืองสะอาด รับวันสิ่งแวดล้อมโลก 58 ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมเมืองสะอาด” เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกประจำ�ปี 2558 ซึ่ง สำ�นักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม จ.ขอนแก่น จัดขึน้ เพือ่ เน้นยํา้ ถึงแนวนโยบาย การจัดการขยะของ คสช. โดยมีชาวขอนแก่น ร่วมกิจกรรมกว่า 300 คน เมือ่ วันที่ 5 มิ.ย.2558 ณ ศาลาประชาคมจังหวัดขอนแก่น

สั ม มนาร่ า งรั ฐ ธรรมนู ญ ; พ.ต.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายก สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่น ร่วมสัมมนา “การ เผยแพร่ ค วามรู้ ค วามเข้ า ใจ และรั บ ฟั ง ความคิ ด เห็ น ของ ประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญ” และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ร่าง รัฐธรรมนูญ” ระหว่างวันที่ 2324 พฤษภาคม 2558 ณ โรงแรม โฆษะ จ.ขอนแก่น

ทอดผ้าป่าสามัคคี ; พ.ต.พิสิษฐ์ ช า ญ เ จ ริ ญ น า ย ก ส ม า ค ม สื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนสร้างพระอุโบสถ วัด ป่าบ้านม่วง ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีพระอาจารย์ ปรีชา กุสลจิตโต เจ้าอาวาสวัด ป่าบ้านม่วง เป็นประธานสงฆ์ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2558

เปิ ด ร้ า นอาหารญี่ ปุ่ น คะชะ คะชะ ; พ.ต.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ น า ย ก ส ม า ค ม สื่ อ ม ว ล ช น จั ง หวั ด ขอนแก่ น ร่ ว มเป็ น เกี ย รติ ง าน Grand Opening “KACHA*KACHA@HUGZ MALL” ร้ า นอาหารญี่ ปุ่ น ดัง้ เดิม เฟรนไชส์จากเมืองนาโก ย่า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 ณ ศูนย์การค้า Hugz Mall จ.ขอนแก่น วั น วิ ส าขบู ช ามหากุ ศ ล ; พ.ต.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายก สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่น ร่วมพิธีเปิดงานวัน วิ ส าขบู ช ามหากุ ศ ล โดยได้ อั ญ เชิ ญ พระบรมสารี ริ ก ธาตุ จากวัดหนองแวงพระอาราม หลวง มาประดิ ษ ฐานยั ง มณฑปพิธี ตลาดบางลำ�ภู ให้ ชาวขอนแก่ น กราบสั ก การะ ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2558 ฉลองมงคลสมรส ; พ.ต.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายก สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น ร่ ว มเป็ น เกี ย รติ งานฉลองมงคลสมรส น.ส.ศรั ญ ญา นามโนริ น ทร์ และ นายกฤษณะ มัฆวาลย์ ณ ห้องออร์คิดบอลรูม โรงแรม พูลแมนขอนแก่น ราชาออคิด เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2558

รณรงค์การใช้ผ้าไทย ; นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็น ประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนารณรงค์การใช้ผ้าไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งผู้ เข้าร่วมการประชุมสัมมนาฯประกอบไปด้วย ผู้แทนสถาบันการศึกษา ผู้แทนองค์กรต่างๆ ที่ สนับสนุนการใช้ผ้าไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวง วัฒนธรรม ณ โรงแรมเจริญธานี ขอนแก่น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2558

โอกาสของผูป้ ระกอบการ SMEs ; นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเทีย่ ว จังหวัดขอนแก่น และรองประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยคณะกรรมการหอการ ค้าฯ ร่วมเปิดการสัมมนา “โอกาสของผูป้ ระกอบการ SMEs ในโอกาสสถานการณ์ปจั จุบนั ” เพือ่ เปิดโอกาสให้สมาชิกหอการค้าฯ และผูป้ ระกอบการ SMEs ได้เรียนรูก้ ารปรับธุรกิจให้สามารถ แข่งขันได้ในตลาดการค้าสากล ณ ห้องแกรนพาวิเลีย่ น โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2558

มอบทุนการศึกษา ; คุณชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมโฆษะ มอบ ทุนการศึกษาแก่บุตรพนักงานที่เรียนดี ประพฤติดี ประจำ�ปี 2558 ณ โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558

ขอนแก่ น ร่ ว มใจกั น ปลู ก ต้ น คู น ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น นำ �หัวหน้า ส่วนราชการ องค์กร ภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้น�ำ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน ชาวขอนแก่น ร่วมกันปลูกต้นคูน 293 ต้น เนื่องในวันต้นไม้ประจำ�ปีของชาติ และวันสิ่ง แวดล้อมโลก ปี 2558 รอบบริเวณพุทธมณฑลอีสาน ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวัน ที่ 5 มิถุนายน 2558

วันดืม่ นมโลก World Milk Day 2015 ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิด งานวันดื่มนมโลก ซึ่งจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.), สหกรณ์โคนมขอนแก่น และคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันจัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2558

รวมพลังปัน่ จักรยานรณรงค์งดสูบบุหรี่ ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธาน เปิดงานวันรณรงค์รวมพลังงดสูบบุหรี่ เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ซึ่ง สำ�นักงานส่งเสริมสุข ภาพแห่งชาติ จัดขึ้น เป็นการรวมพลังของคนขอนแก่นในการปั่นจักรยานไปตามถนนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น รณรงค์ต้านสูบบุหรี่เมื่อวันที่ 31 พ.ค.58

รณรงค์เมืองขอนแก่นปลอดบุหรี่ ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธาน เปิดโครงการอบรมสัมมนาสื่อมวลชนขอนแก่น จัดโดยมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ร่วม กับสำ�นักงานประชาสัมพันธ์จงั หวัดขอนแก่น มีสอื่ มวลชนจังหวัดขอนแก่น เป็นเครือข่ายร่วม รณรงค์อย่างคับคั่ง ณ ห้องประชุมเสียงแคน ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น

มหกรรมจักรยานครบวงจร ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมจักรยานครบวงจร ภายในงาน เป็นการนำ�จักรยานทีม่ อี ายุกว่าร้อยปีมาโชว์ พร้อมทัง้ มีการจัดนิทรรศการทีเ่ กีย่ วข้องกับจักรยาน ถือเป็นการจัดมหกรรมงานทีเ่ กีย่ วข้องกับจักรยาน ที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดในภาคอีสาน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น


หน้า 5

ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2558

ปัญหาที่มักพบในการแปรงฟันให้ลูก เรามักพบว่า ลูกจะไม่ยอมให้คุณพ่อคุณแม่ แปรงฟันให้ แต่จะต้องการแปรงฟันเองเหมือนกับ ผู้ใหญ่ ซึ่งจริงๆ แล้ว เป็นเรื่องดีที่ลูกอยากแปรงเอง แสดงว่าเขาสนใจทำ�ความสะอาด แต่อย่างไรก็ตาม การที่เด็กแปรงเองมักจะไม่ค่อยสะอาด และไม่ทั่ว ถึง เด็กมักจะเอาแปรงสีฟันไปอมๆกัดๆ พอหมดรส อร่อยของยาสีฟนั ก็เลิกแปรงหรือบางที เขาก็จะแปรง เฉพาะฟันหน้าด้านนอก ไม่ได้แปรงด้านใน ไม่ได้แป รงเน้นๆในบริเวณที่มีแผ่นคราบจุลินทรีย์สะสม วิธกี ารแก้ปญั หาทีด่ ี มีหลายวิธดี ว้ ยกัน เช่น ช่วยจับมือเขาแปรงในจุดทีเ่ ขาไม่ถนัด หรือแปรงซํ​ํา้ ให้อีกครั้ง หรือสลับกันแปรง เช่นลูกแปรงเช้า แม่ แปรงเย็น เป็นต้น เด็กบางคนไม่ชอบแปรงฟันและ มักจะบ่นว่าเจ็บ ต้องพิจารณาสาเหตุทแี่ ท้จริง ถ้ามา จากการต่อต้านของเด็กเอง ก็ควรต้องใช้วิธีหลอก

ล่อ ตั้งเงื่อนไข ให้รางวัล สารพัดวิธี ไปจนถึงวิธี สุดท้ายคือ การบังคับ แต่ถ้าเป็นอาการที่เจ็บปวด จริงๆ ก็สามารถสังเกตได้จากถ้าเป็นเหงือกอักเสบ จะมีขอบๆเหงือกบวมแดง หรือมีเลือดออกเวลา แปรงฟัน ต้องปรึกษาทันตแพทย์ก่อนว่าต้องรักษา อะไรหรือไม่ แล้วทำ�การรักษาให้หายและขอคำ� แนะนำ�ในการทำ�ความสะอาดจากทันตแพทย์ หรือ อาจเกิดจากแผลร้อนใน โดยคุณแม่จะต้องระวังใน ระหว่างแปรงฟัน เพราะถ้าลูกเจ็บแล้ววันหลังจะ ไม่ยอมให้แปรงฟันอีกต่อไป “ปัญหาการแปรงฟันแก้ไขได้ง่ายๆ นะคะ” หากท่านมีข้อสงสัย เขียนมาหาเราได้ที่ หน่ ว ยประชาสั ม พั น ธ์ คณะทั น ตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 40002 โทร. 043-202405 ต่อ 11188 พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ

นํ​ํ้ า ดื่ ม สมุ น ไพรไทย เพื่ อ สุ ข ภาพ ; นาย วุฒิศักดิ์ พิชญกานต์ ผู้ จั ด การทั่ ว ไปโรงแรม เซ็ น ทารา คอนเวนชั น เซ็นเตอร์ ขอนแก่น พร้อม ด้ ว ยที ม ผู้ บ ริ ห ารและ พนั ก งาน ร่ ว มแจกจ่ า ย นํ​ํ้าดื่มสมุนไพรไทยเพื่อ สุขภาพ สำ�หรับกลุ่มคน รักสุขภาพที่มาออกกำ�ลังกาย ณ บึงแก่นนคร จังหวัดขอนแก่น ภายใต้คอนเซ็ปส์ เซ็นทารา แคร์ หนึ่งในกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคม เมื่อเร็วๆนี้

กฟผ.สร้างเครือข่ายชุมชนพึ่งตนเอง ให้กบั ชุมชนทีอ่ ยูใ่ กล้แนวสายส่งไฟฟ้า การไฟฟ้ า ฝ่ า ยผลิ ต แห่ ง ประเทศไทย จั ด โครงการการสือ่ สารและการสร้างเครือข่ายชุมชนพึง่ ตนเอง ให้กับชุมชนที่อยู่ใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าอย่าง ยั่งยืนในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2558 ที่ลานธรรมดอน ปู่ตา บ้านห้วยยาง หมู่ที่ 5,15 ต.ดงเมืองแอม อ.เขา สวนกวาง จ.ขอนแก่น นายอนุชติ เจริญพันธ์ ผูช้ ว่ ยผู้ อำ�นวยการฝ่ายปฏิบตั กิ ารภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริหาร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พร้อม คณะเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และพุทธศาสนิกชน อ.เขาสวนกวาง ทำ�พิธีทอด ผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนสร้างอาคารศูนย์ปฏิบตั ธิ รรม ศาลาอเนกประสงค์ เพื่อใช้สำ�หรับจัดกิจกรรมการ ปฏิบัติธรรม และทำ�นุบำ�รุงพระพุทธศาสนา รวม

ทั้งยังสามารถใช้เป็นสถานีที่ในการฝึกอบรม และ การประชุมต่างๆ ของชุมชนได้อีกด้วย นายอนุชิต เจริญพันธ์ ผู้ช่วยผู้อำ�นวยการ ฝ่ายปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-บริหาร กฟผ. เปิดเผยว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มี ภ ารกิ จ ในการดู แ ลรั ก ษาระบบส่ ง จ่ า ย กระแสไฟฟ้ า จากแหล่ ง ผลิ ต ไปยั ง การไฟฟ้ า ส่ ว น ภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อจัดส่งจำ�หน่ายให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า อย่างเพียงพอมั่นคง และมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอก เหนือจากภารกิจหลักแล้ว กฟผ.ยังได้ค�ำ นึงถึงชุมชน ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมโดยได้จดั ทำ� โครงการ การสื่อสารและการสร้างเครือข่ายชุมชนพึ่งตนเอง พื้นที่ใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าอย่างยั่งยืนภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ ภายใต้ชื่อ “โครงการส่งเสริมการพึ่ง ตนเองอย่างยั่งยืน บ้านห้วยยาง อ.เขาสวน กวาง จ.ขอนแก่น” มีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นที่ปรึกษา ซึ่งได้ดำ�เนินการแล้วเสร็จ และได้ รั บ รางวั ล ชนะเลิ ศ EGAT CSR AWARD 2558 โดยการคัดจากโครงการ กฟผ.ทั่วประเทศ และมีโครงการต่อเนื่อง คือ โครงการสร้างแหล่งเรียนรู้ด้านความ มัน่ คงทางอาหาร พลังงานและสิง่ แวดล้อม เพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่าง ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และหลักการพึ่งตนเอง

คณะทั น ตแพทยศาสตร์ มข. คืนความสุขให้คอหวย รับมอบรถทันตกรรมเคลือ่ นที่ คุมราคาสลาก 80 บาททุกใบ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2558 ที่ห้องประชุมพระ ธาตุขามแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น ,พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิ ชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ,พ.อ.สมบูรณ์ ณ หนองคาย รองเสนาธิการ มทบ.23 และ นายสุรชัย วัฒนาอุดม ชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น ร่วมประชุมผู้ค้าสลากกิน แบ่งรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อทำ�ความ เข้าใจชี้แจงถึงหลักเกณฑ์การจำ�หน่ายสลากกินแบ่ง รัฐบาลใหม่ในการจำ�หน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด วันที่ 16 มิถุนายน 2558 เพื่อที่ผู้ค้าทุกรายจะต้องขาย ไม่เกินคู่ละ 80 บาท ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามประกาศของ สำ�นักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และคำ�สัง่ คสช.โดยมี ตัวแทนจำ�หน่ายเข้ารับฟังกว่า 300 คน ผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด ขอนแก่ น เปิ ด เผยว่ า สำ�นักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะมีการปรับจำ�นวน สลากของผู้แทนจำ�หน่ายรายเดิมของแต่ละจังหวัด ใหม่ในจำ�นวนรายละ 5 เล่มเท่ากันทุกราย โดยจำ�หน่าย ราคาอยูท่ ี่ 70.40 บาท แต่ผคู้ า้ จะต้องจำ�หน่ายได้ไม่เกิน ราคาคู่ละ 80 บาท สำ�หรับสลากที่เหลือจากการปรับ ลด จะนำ�มาจัดสรรให้กับบัญชีสำ�รองประเภทบุคล ทั่วไป และคนพิการที่ขึ้นบัญชีสำ�รองตามประกาศ สำ�นักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา โดยให้ผู้ขึ้นบัญชีสำ�รองมา แสดงตัวและรับสลากทีส่ �ำ นักงานฯ ก่อน หลังจากนัน้ จะได้แยกบัญชีให้รับได้ที่ภูมิลำ�เนาจังหวัดนั้นๆ ทั้งนี้ จะเริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2558 เป็นต้นไป นอกจากนี้ สำ�นักงานสลากฯ ยังห้ามนำ�สลาก ทุกประเภทจัดรวมชุดเพื่อจำ�หน่ายอย่างเด็ดขาด หาก พบการกระทำ�ดังกล่าว จะบอกเลิกสัญญาตัวแทน จำ�หน่ายทันที โดยตัวแทนจังหวัดขอนแก่นทุกราย จะต้องลงทะเบียนชัดเจน มีตัวตนจริง พร้อมทั้งติด บัตรที่มีรูปผู้จำ�หน่ายไว้ให้เห็นเด่นชัดอีกด้วย และ ยังยกเลิกการมอบอำ�นาจให้ผู้อื่นมารับฉลากแทน ซึ่ง การรับสลากไปจำ�หน่าย ตัวแทนจะได้สว่ นลดในอัตรา ร้อยละ 12 สำ�หรับตัวแทนทั่วไปและคนพิการ (ราคา ใบละ 70.40 บาท ได้ส่วนลด 9.60 บาท) ตามประกาศ

สำ�นักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สำ � หรั บ ตั ว แทนจำ � หน่ า ยสลากกิ น แบ่ ง รัฐบาลของจังหวัดขอนแก่นมีจ�ำ นวน 300 ราย แยก เป็นตัวแทนประเภทบุคคลทั่วไป 252 ราย ตัวแทน ประเภทบุคคลพิการ 28 ราย ตัวแทนประเภทคน พิการ (รายใหม่) 20 ราย ซึ่งตัวแทนจะได้รับสลากกิน แบ่งรัฐบาลคนละ 5 เล่มคู่ ยกเว้นตัวแทนประเภทคน พิการ (รายใหม่) ที่จะได้รับ 3 เล่มคู่ ในราคาเล่มละ 8,000 บาท ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2558 เป็นต้นไป สลากกินแบ่งรัฐบาลจะต้องขายไม่เกิน 80 บาท ซึ่ง จังหวัดจะมีการออกสุ่มตรวจ หากพบผู้ค้ารายใด ฝ่าฝืนขายเกินราคาก็ จะมีการตักเตือน ก่อนกล่าวโทษ และจับกุมเป็นมาตรการสุดท้าย ที่จังหวัดขอนแก่น ดำ�เนินการกับผูท้ ฝี่ า่ ฝืน ซึง่ มีโทษจำ�คุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งปรับทั้งจำ� และ จะทำ�การยกเลิกสัญญาทันที โดยมีเจ้าหน้าที่ตำ�รวจ และทหารเป็นผูด้ แู ลกวดขันจับกุมผูท้ ที่ �ำ ความผิดขาย สลากเกินราคา เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.2558 เป็นต้นไป สำ � หรั บ ตั ว แทนที่ ต้ อ งการข้ อ มู ล เพิ่ ม เติ ม สามารถเข้าชมได้ที่ เว็ปไซต์ของสำ�นักงานสลากกิน แบ่งรัฐบาล ที่ www.glo.or.th หรือสอบถามข้อมูล ข่าวสารได้ที่ Call Center หมายเลข 02-345-1466 ที่ จังหวัดขอนแก่น สามารถสอบถามได้ที่ห้องเสมียน ตรา 043-236-102 และ 043-241-251 ในวันเวลา ราชการ

มู ล นิ ธิ ทั น ต นวัตกรรมในพระราชูปถัมภ์ มอบรถยนต์เพื่อใช้ในการ อ อ ก ห น่ ว ย ทั น ต ก ร ร ม พระราชทานเคลื่ อ นที่ แ ก่ ห น่ ว ย ทั น ต ก ร ร ม พระราชทาน ในพระบรม ราชูปถัมภ์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2558 ที่อาคาร เฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา คณะ ทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ศ.พิเศษ ทพญ.ท่ า นผู้ ห ญิ ง เพ็ ช รา เตชะกั ม พุ ช ผู้ อำ � นวย การหน่วยทันตกรรมพระราชทานและประธาน มู ล นิ ธิ ทั น ตนวั ต กรรมในพระราชู ป ถั ม ภ์ เป็ น ประธานในพิธมี อบรถยนต์ ให้แก่หน่วยทันตกรรม พระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั คณะ ทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อใช้ ในการออกหน่วยทันตกรรมพระราชทานเคลือ่ นที่ โดยมี รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น รศ.ทพญ.ดร.นวรัตน์ วรา อัศวปติ เจริญ คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ และ ผู้บริหาร ตลอดจนบุคลากร ร่วมรับมอบ หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2513 ด้วย พระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มี พระราชปรารภให้ประชาชนในท้องถิ่นห่างไกล ได้เข้าถึงการบริการทันตกรรม ในระยะแรกการ ดำ�เนินงานจะอยู่ในพื้นที่ภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ ต่อมาได้มีการขยายพื้นที่การให้บริการออกไปทั่ว ประเทศโดยมีพระบรมราชานุญาต ให้จัดตั้งหน่วย ทันตกรรมพระราชทานขึน้ ในมหาวิทยาลัยภูมภิ าค อีก 6 แห่ง โดย หน่ ว ยทั น ตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว คณะทั น ต แพทยศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย -ขอนแก่ น ได้ รั บ

พระราชทานพระบรมราชานุญาต จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2534 รับผิดชอบดูแลราษฎรในพื้นที่ในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของ หน่วยทันตกรรมพระราชทานกลาง และได้รับงบ ประมาณในการดำ�เนินงานจากกองทุนทันตกรรม พระราชทานเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการออกหน่วยทันตกรรม เคลื่อนที่ทั้งในพื้นที่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดารตลอด มา เพือ่ เป็นการอำ�นวยความสะดวกให้แก่อาสาสมัคร ที่ร่วมออกหน่วยทันตกรรมพระราชทานเคลื่อนที่ จึงมีการมอบรถยนต์ สำ�หรับใช้ในกิจกรรมการออก หน่วยบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ เพื่อทดแทนของ เดิมทีอ่ ยูใ่ นสภาพเก่า และชำ�รุด ซึง่ เป็นรถยนต์ขนาด 30 ที่นั่ง ที่สามารถโดยสารทันตบุคลากร และอาสา สมัครออกปฏิบัติงานพร้อมกับบรรทุกเครื่องมือ ทันตกรรมได้ในคราวเดียวกัน อันจะเป็นการอำ�นวย ความสะดวกในการปฏิบตั งิ าน และลดความสูญเสีย เนือ่ งมาจากการใช้งานยานพาหนะทีเ่ สือ่ มสภาพ และ เพื่อให้หน่วยทันตกรรมพระราชทาน สามารถจัด บริการรักษาทางทันตกรรมแก่ประชาชนในพื้นที่ ต่างๆ ให้ได้รบั บริการอย่างทัว่ ถึงและมีประสิทธิภาพ ยิง่ ขึน้ โดยหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาท สมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว คณะทั น ตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะได้นำ �ไปใช้เพื่อให้เกิด ประโยชน์ตอ่ การออกหน่วยทันตกรรมพระราชทาน เคลือ่ นที่ เพือ่ ดูแลสุขภาพในช่องปากของประชาชน ผู้ด้อย โอกาสในพื้นที่ต่างๆ ของภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวต่อไป

ลานธรรมดอน ปู่ตา บ้านห้วยยาง เป็น สถานที่ที่คณะสงฆ์และ พุ ท ธศาสนิ ก ชนชาว อำ � เภอเขาสวนกวาง ใช้ เ ป็ น สถานที่ ป ฏิ บั ติ ธรรมประจำ�อำ�เภอ โดย จั ด มาต่ อ เนื่ อ งจากปี 2556-2558 เดิมเป็นลาน ดิ น อาศั ย ร่ ม ไม้ ปู เ สื่ อ ใบไม้ ใบหญ้า ต่อมา เจ้า คณะจั ง หวั ด ขอนแก่ น (พระราชปริยัติโมลี) ได้ มาเห็ น ความไม่ ส ะดวก ในการปฏิ บั ติ ธ รรม จึ ง ดำ � ริ ใ ห้ เ จ้ า คณะอำ � เภอ เขาสวนกวาง พร้ อ ม คณะสงฆ์ แ ละฆราวาส พิ จ า ร ณ า ส ร้ า ง ศ า ล า อเนกประสงค์ จำ�นวน 1 หลัง โดยจัดให้มกี ารทอด ผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบ ทุนการก่อสร้าง นายอนุชิต กล่าวต่อว่า กฟผ. จึงได้ร่วมกับ ประชาชนบ้านห้วยยาง หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 15 ซึ่งเป็น หมู่บ้านที่อยู่ใกล้แนวสายส่ง 500 กิโลวัตต์ พร้อม ทั้งคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่อำ�เภอเขา สวนกวาง เป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสร้างศูนย์ปฏิบัติ ธรรมศาลาอเนกประสงค์ แห่งนี้ขึ้น เพื่อใช้สำ�หรับ จัดกิจกรรมการปฏิบตั ธิ รรมและทำ�นุบ�ำ รุงพระพุทธ ศาสนา รวมถึงใช้ประโยชน์ในการจัดฝึกอบรม และ

การประชุมต่างๆ เมื่อในวันที่ 1 มิถุนายน 2558 ซึ่ง เป็นวันวิสาขบูชา โดยมี พระครูญาณสารโสภณ เจ้า คณะอำ�เภอเขาสวนกวาง แสดงพระธรรมเทศนา พร้อมนำ�ชาวบ้านปลูกต้นไม้บริเวณรอบสระหนอง แสง และร่วมเวียนเทียนรอบศาลาปฏิบัติธรรม อเนกประสงค์

ปรกชล ศุขโข ... รายงาน

เปิดศึกดวลแข้งเยาวชน TOYOTA Kaennakorn 7 FA cup 2015 สมาคมฟุ ต บอลจั ง หวั ด ขอนแก่ น ร่วมกับ บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด เปิด ตัวฟุตบอลเยาวชนรุน่ อายุไม่เกิน 12 ปี เปิดศึก ลูกหนังค้นหาช้างเผือกเมืองหมอแคน พร้อม อบรมนักกีฬาและโค้ช ณ ห้องประชุม ชั้น 4 บริษทั โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด สำ�นักงานใหญ่ ถนนมิตรภาพ อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2558 นายโชคชัย คุณวาสี ประธานบริหาร บริษัท โตโยต้า แก่นนคร จำ�กัด เปิดแถลง ข่าวการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน TOYOTA Kaennakorn 7 FA cup 2015 โดย บริษัทโตโยต้าแก่น นคร จำ�กัด ร่วมกับ สมาคมฟุตบอลจังหวัดขอนแก่น โดย นายกำ�พล สุริยะไกร ผู้อำ�นวยการธนาคารทิสโก้ สาขาขอนแก่น นายมนูญ นาควรพงศ์ บริษัท วิริยะ ประกันภัย จำ�กัด (มหาชน) สาขาขอนแก่น นายวัจน ลักษณ์ ประจิม ผูช้ ว่ ยผูจ้ ดั การบริษทั สินมัน่ คงประกัน ภัย จำ�กัด (มหาชน) สาขาขอนแก่น นายสุรศักดิ์ ชุ่ม วัฒนะ ผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำ�กัด สำ�นักงานภาคขอนแก่น และนายปรัชญา ทอง แท่งไทย กรรมการบริหาร สถานีโทรทัศน์ผ่านดาว เทียว ขอนแก่น แชลเนล การจัดแข่งขันฟุตบอล 7 คน รุน่ อายุไม่เกิน 12 ปี ในรายการ “โตโยต้าแก่นนคร 7 เอฟ เอ คัพ 2015” ประจำ�ปี 2558 มีการกำ�หนดระเบียบว่าด้วยเยาวชน ที่ลงแข่งขันต้องเป็นผู้ที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2546 ผู้เล่นแต่ละทีมจะต้องศึกษาในสถาบันเดียวกัน และมีภูมิลำ�เนาอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ส่วนกฎกติกา ที่ระบุในการแข่งขันแล้วยังให้ใช้กติกาของสหพันธ์ นานาชาติ (FIFA) การแข่งขันในรอบคัดเลือก และ รอบสุดท้ายใช้วิธีการแพ้คัดออก (เอฟ เอ คัพ) โดยใน รอบคัดเลือกจะเหลือเพียง 3 ทีมต่อสนามแข่งขัน

นายโชคชั ย กล่ า วต่ อ ไปว่ า การแข่ ง ขั น ฟุตบอลเยาวชน TOYOTA Kaennakorn 7 FA cup 2015 มีกำ�หนดการแข่งขันรอบคัดเลือก ในวันเสาร์ ที่ 6 มิถุนายน 2558 ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ขอนแก่น อ.มัญจาคีรี วัน อาทิตย์ที่ 7 มิถนุ ายน 2558 ณ โรงเรี ย นบ้ า นนาหว้ า อ.หนองเรือ วันเสาร์ที่ 13 มิถนุ ายน 2558 ณ วิทยาลัย บัณฑิตเอเชีย จ.ขอนแก่น และการแข่ ง ขั น รอบ สุ ด ท้ า ย ในวั น อาทิ ต ย์ ที่ 28 มิถุนายน 2558 ณ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วน จังหวัดขอนแก่น โดยมีการจับแบ่งสายในวันแข่งขัน ทุกสนาม นอกจากนี้ ยังได้โค้ชซึ่งเป็นอดีตนักฟุตบอล ที ม ชาติ “อดุ ล ย์ รุ่ ง เรื อ ง” เป็ น โค้ ช ฝึ ก อบรมและ ถ่ายทอดประสบการณ์ให้กบั โค้ชทีมเยาวชนหลักสูตร “Grassroots Football Coaching Course“เพื่อร่วมสร้ างฝันเยาวชนขอนแก่น ทีจ่ ะก้าวสูน่ กั กีฬาฟุตบอลทีม ชาติต่อไปในอนาคต


หน้า 6

ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2558


ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2558

หน้า 7


หน้า 8

ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2558

เทสโก้ โลตัส จับมือ ทรู ขาย สอนชาวนาปลูกข้าวเหนียว สมาร์ทโฟน TrueSmart 3.5” แบบดั่ ง เดิ ม ไร้ ส ารเคมี

เทสโก้ โลตัส ผนึก ทรู ชวนคนไทย สัมผัสประสบการณ์ 3จีทั่วประเทศ เปิดช่องทางจำ�หน่ายสมาร์ทโฟน TrueSmart3.5” ผ่านโลตัสทุกสาขาทั่วไทย เมื่ อ วั น ที่ 28 พฤษภาคม ที่ ผ่ า น มา คุณวรวุฒิ พงศ์ชินภัค รองประธาน กรรมการฝ่ า ยการค้ า และภาณิ ช ย์ กลุ่ ม สิ น ค้ า เครื่ อ งใช้ ไ ฟฟ้ า และ คุ ณ ชาคริ ต ดิ เ รกวั ฒ นชั ย รองประธานกรรมการ แผนกสื่อสารองค์กรและความยั่งยืน เท สโก้ โลตัส จับมือพันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มทรู คุณ สาโรช เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำ�นวยการสายงาน Central Distribution & Sales และคุณปเนต ทองตัน ผู้ จัดการทัว่ ไป ภาคกลาง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชัน่ ร่วม เปิดตัวการขยายช่องทางการจัดจำ�หน่ายเครือ่ งสมา ร์ทโฟน TrueSmart 3.5” ฟีเจอร์โฟนครบทุกฟัง ก์ชั่นการใช้งานของกลุ่มทรู ผ่านช่องทางการจัด จำ�หน่ายของเทสโก้ โลตัส ธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ ของเมืองไทยทุกสาขาทัว่ ประเทศเป็นครัง้ แรก ทีเ่ ท สโก้ โลตัส พลัสมอลล์ ศรีนรินทร์ เพือ่ ให้คนไทยทุก ระดับได้สัมผัสประสบการณ์ความเร็วและแรงบน เครือข่ายคุณภาพ 3จีของทรูมูฟ เอชที่ครอบคลุม 97% มากสุดทั่วไทย พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ เมื่อซื้อสมาร์ทโฟน TrueSmart 3.5” ในราคา 799 บาท รับฟรีทันที!!! ค่าบริการรายเดือน 299 บาท นาน 3 เดือน สำ�หรับผู้ที่สนใจตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 29 กรกฎาคม ศกนี้

สมาร์ทโฟน TrueSmart 3.5” เป็นฟีเจอร์ โฟนทีม่ คี รบทุกฟังก์ชนั่ รองรับ 2 ซิม พร้อมหน่วย ประมวลผล Single-Core 1 GHz บนระบบปฏิบัติ การ Android 4.4 KitKat รองรับเครือข่าย 3G สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ต ดูทีวี เล่นเฟซบุ๊กได้ เต็ม มาพร้อมหน้าจอกว้าง 3.5 นิว้ กล้องหลังความ ละเอียด 2.0 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 0.3 ล้านพิกเซล ไม่ตอ้ งห่วงเรือ่ งแบตเตอร์รี่ ด้วยความจุ 1,300 mAh ตัวเครื่องสีดำ� ในราคา 799 บาท พร้อมแพ็กเกจสุด คุ้ม ไม่ต้องกลัวเน็ตหมด กับแพ็คเกจ iSmart 299 บาท/เดือน รับค่าโทร 120 นาที เล่นเน็ตสูงสุด 750 MB และ WiFi ไม่จำ�กัด โดยรับประกันตัวเครื่อง นาน 15 เดือน ผู้ ที่ ส น ใ จ เ ป็ น เ จ้ า ข อ ง ส ม า ร์ ท โ ฟ น TrueSmart 3.5” สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ เทสโก้ โลตัส ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ไป จนถึง 29 กรกฎาคมนี้

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2558 ที่สำ�นักงานสหกร ณ์การเกษตรอำ�เภอเพ็ญ จ.อุดรธานี นายณรงค์ พล ละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็น ประธานเปิดการอบรมส่งเสริมระบบการผลิต และการค้าข้าวเหนียวไทย ตามโครงการปฏิรูป ระบบการผลิ ต และการค้ า ข้ า วเหนี ย วไทย ซึ่ ง เป็นโครงการที่ร่วมมือกันของหลายหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมการข้าว และกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวง พาณิ ช ย์ มู ล นิ ธิ ก สิ ก รรมธรรมชาติ สถาบั น เศรษฐกิจพอเพียง ร่วมกันจัดทำ�โครงการดังกล่าว ตามนโยบายของรัฐบาลทีม่ เี ป้าหมายทีจ่ ะส่งเสริม ให้เกษตรกรชาวนาเป็นเกษตรกรชาวนาปราด เปรือ่ ง หรือ Smart Farmer โดยมีเกษตรกรทีไ่ ด้รบั การคัดเลือกมาจากอำ�เภอเพ็ญ และอำ�เภอบ้านผือ เข้ารับการชี้แจง เพื่อที่จะเข้ารับการฝึกอบรมการ เป็นชาวนาปราดเปรื่อง ที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง จ.ชลบุรี นายสรศักดิ์ เปี่ยมสง่า สหกรณ์จังหวัด อุดรธานี เปิดเผยว่าสำ�หรับโครงการปฏิรูประบบ การผลิตและการค้าข้าวเหนียวไทย มีวตั ถุประสงค์ ทีจ่ ะพัฒนาให้ชาวนาทีป่ ลูกข้าวเหนียวหันมาทำ�นา โดยไม่ใช้สารเคมี ในการทำ�นาข้าวเหนียวที่ปลูก กันมากในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและภาคอีสาน ตอนบน แต่ระบบการผลิตยังมีปัญหาทั้งในด้าน ปริมาณผลผลิตและคุณภาพอยู่รวมไปจนถึงการ

พัฒนาองค์ความรู้ของชาวนา ทำ�ให้มีปัญหาด้าน การตลาดทัง้ ในและต่างประเทศและมีพอ่ ค้ารับซือ้ ข้าวในประเทศหลายแห่ง ไม่รบั ซือ้ ข้าวเหนียวของ ภาคอีสาน โครงการฯดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการนำ�ร่องโดย มีนโยบาย ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตและไม่ ใช้สารเคมีการทำ�นาปลูกข้าว ยุทธศาสตร์ให้ชาวนา หันมาใช้การทำ�นาแบบธรรมชาติ โดยการฝึกให้ ชาวนาเข้าใจในการทำ�นาแบบธรรมชาติ หรือแบบ ดัง่ เดิม โดยไม่ตอ้ งใช้สารเคมี โดยมีเป้าหมายเปลีย่ น ชาวนาร้อยละ 25 ให้เป็นชาวนาธรรมชาติ ทำ�นา ข้าวอย่างปลอดภัย โดยมีภาคส่วนต่างๆ 5 ภาค ส่วนร่วมบูรณาการในโครงการดังกล่าว คือ ส่วน ราชการ วิชาการ ประชาชน เอกชน และภาคประชา สังคมและสื่อ โดยโครงการจะแบ่งออกเป็นระยะๆ คือ ขัน้ ที ่ 1 คัด เลือกชาวนาที่สมัครใจที่จะเปลี่ยนแปลงการทำ� นาจากการใช้สารสารเคมี มาเข้าโครงการนำ�ร่อง จังหวัดละ 80 คน จาก 4จังหวัด คือ จากจังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ อุดรธานี และจังหวัดขอนแก่น ให้เดินทางไปรับการอบรมการทำ�นาไม่ใช้สารเคมี ที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จ.ชลบุรี เป็น เวลา 5วัน 4 คืน โดยกำ�หนดเป้าหมายการทำ�ยาไม่ ใช้สารเคมีในฤดูกาลทำ�นานปี 2558/2559 และการ ดำ�เนินการดังกล่าวจะทำ�ทั่วทุกพื้นที่ที่มีการเพาะ ปลูกข้าวเหนียงในฤดูการเพาะปลูก

ทั ว ร์ อุ ด รธานี จั ด ชิ ม ชม ช้ อ ป โปรโมทแหล่ ง ท่ อ งเที่ ย ว4ภาค

ธุรกิจท่องเทีย่ วอุดรธานี จับมือสมาพันธ์ ธุรกิจท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคประเทศไทย จัดชิม ชม ช็อป เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ตั้งโต๊ะเจรจาขายสินค้ากันโดยตรง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2558 ที่ห้องประชุมยูดี ฮอลล์ 1 ศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ นายณรงค์ พล ละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็น ประธานเปิดงาน ชิม ชม ช้อป สินค้าแหล่งท่อง เที่ยวของจังหวัดต่างๆทั่วประเทศไทยทั้ง 4 ภาค รวม 50 บูธ ซึ่งจัดโดยสำ�นักงานการท่องเที่ยว และกี ฬ าจั ง หวั ด อุ ด รธานี สมาคมธุ ร กิ จ ท่ อ ง เที่ยวจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับสมาพันธ์ธุรกิจ

ท่องเทีย่ วส่วนภูมภิ าคแห่งประเทศไทย โดยมี นาย ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสมาพันธ์ธุรกิจ ท่องเทีย่ วส่วนภูมภิ าคแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วม ในงานดังกล่าว นายธนกร วีรชาติยานุกูล ประธานสภา อุ ต สาหกรรมการท่ อ งเที่ ย วแห่ ง ประเทศไทย และ นายกสมาคมธุ ร กิ จ ท่ อ งเที่ ย วจั ง หวั ด อุ ด รธานี กล่ า วว่ า เนื่ อ งจากจะมี ก ารประชุ ม สามัญประจำ�ปีของสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวส่วน ภู มิ ภ าคแห่ ง ประเทศไทย ในระหว่ า งวั น ที่ 2024 พฤษภาคม 2558 ที่จังหวัดหนองคาย เป็นเจ้า

ภาพ สมาพันธ์ธรุ กิจท่อง เที่ ย วส่ ว นภู มิ ภ าคแห่ ง ประเทศไทย ร่ ว มกั บ หน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง ได้ จัดงานชม ชิม ช้อป เพื่อ ประชาสัมพันธ์สินค้าแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัด ต่างๆทั่วประเทศ ด้วยการทำ�การพบปะเจรจาพูด คุยซือ้ ขาย สินค้าท่องเทีย่ วกันโดยตรง (Top Table Sale) ระหว่างผูป้ ระกอบการท่องเทีย่ วของจังหวัด ต่างๆ กับผูป้ ระกอบการท่องเทีย่ วในพืน้ ทีจ่ งั หวัด อุดรธานี การจัดงานชม ชิม ช้อป เพือ่ ให้ผปู้ ระกอบ

การท่องเทีย่ วจังหวัดอุดรธานี ได้พบปะพูดคุยแลก เปลีย่ นข้อคิดเห็น และเจรจาซือ้ ขายสินค้าการท่อง เทีย่ วกันโดยตรงกับผูป้ ระกอบการท่องเทีย่ วจังหวัด ต่างๆ ที่มาร่วมงาน ทั้งยังเป็นการเตรียมรับมือกับ การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และปรับ ตั ว เข้ า กั บ บริ บ ทการเปลี่ ย นแปลงชองการท่ อ ง เที่ยวภาครวม ในเรื่องการสร้างความเข้มแข็งและ

พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น

นายตำ�รวจฝีมือเยี่ยมมีรางวัลการันตีมากมาย เน้น! ‘ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก’ สวัสดีคะ่ หนังสือพิมพ์ไทยเสรี ขอต้อนรับ ทุกท่านเข้าสู่คอลัมน์สายตรงโรงพักฉบับประจำ� เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2558 ฉบับนี้เราขอ แนะนำ � ท่ า นให้ รู้ จั ก กั บ คนในแวดวงสี ก ากี คื อ “ตำ�รวจ”หรือ“ผูพ้ ทิ กั ษ์สนั ติราษฎร์”ในพืน้ ทีภ่ าค อีสานเช่นเคยค่ะ สำ�หรับเดือนนี้เราขอแนะนำ�นำ� ท่านให้รู้จักกับผู้กำ�กับการ สถานีตำ�รวจภูธรเมือง ขอนแก่นนั่นคือ พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผกก. เมืองขอนแก่น คนปัจจุบันค่ะ พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ มีภูมิลำ�เนาเดิม อยู่ ต.เชียรใหญ่ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นนายตำ�รวจฝีมอื เยีย่ ม มีผลงานดีเด่น คว้ารางวัล เกียรติยศมาแล้วมากมาย ดังต่อไปนี้ รางวัลตำ�รวจ ชุมชนสัมพันธ์ กองบัญชาการตำ�รวจนครบาล ปี 2540 รางวัลตำ�รวจชุมชนสัมพันธ์ดีเด่น ตำ�รวจ ภูธรภาค 9 ปี 2545 รางวัลป้องกันยาเสพติดดีเด่น ตำ�รวจภูธรภาค 9 ปี 2548 และรางวัลตำ�รวจสีขาว ดาวคุณธรรม ปี 2556 การศึกษา ระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์ บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง และปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง ประวัติรับราชการ 22 มี.ค.2533 เจ้าหน้าที่ตำ�รวจ จราจร สน.หัวหมาก กรุงเทพฯ ปี 2534 ข้ามชั้น เป็น รอง สว.สส.สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ปี 2536 ย้ า ยเข้ า เมื อ งกรุ ง มาเป็ น รอง สวส. สน.สามเสน ,รอง สว.สน.สุทธิสาร และ รอง สวป. สน.มักกะสัน ก่อนจะย้ายกลับลงใต้ในปี 2543 ในตำ�แหน่ง สวป.สภ.สทิงพระ ,สวป.สภ.จะนะ จ.สงขลา ปี 2546 ขยับขึ้นเป็น รอง สว.สส.ภ.จว. สงขลา ปี 2548 เป็น รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.ยะลา และในปี 2550 ย้ายมาเป็น รอง ผกก. (ป) สภ.สะเดา จ.สงขลา

ต่ อ ม า ใ น ปี 2555 ขึ้นชั้นเป็นผู้ก�ำ กับฯ สภ.สะเดา จ.สงขลา ก่อนจะข้ามภาคมาเป็น ผูก้ �ำ กับ ฝอ.2 บก.อก.ภ.4 จากนัน้ ในปี 2557 ออกไป เป็นผูก้ ำ�กับ สส.ภ.จว.นครพนม ก่อนทีจ่ ะมาดำ�รง ตำ�แหน่ง ผู้กำ�กับ สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2558 ที่ผ่านมา ในขณะรับราชการ ได้เข้ารับการศึกษา อบรมในหลักสูตรต่างๆ อาทิ หลักสูตรสารวัตร รุ่น 55 ,สืบสวนก้าวหน้า รุ่นที่ 2 ,การหยุดยั้งการ ก่อการร้าย และหลักสูตรผู้กำ�กับรุ่น 62 ที่สถาบัน พัฒนาข้าราชการตำ�รวจ นอกจากนี้ยังได้ไปอบรม หลักสูตร การสืบสวนหลังเหตุระเบิด รัฐหลุย เซียน่า สหรัฐอเมริกา ในโอกาสที่มาเยือนคอลัมน์สายตรงโรง พัก น.ส.พ.ไทยเสรี พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ได้ กล่าวฝากถึง ข้าราชการตำ�รวจในสังกัด สภ.เมือง ขอนแก่น ว่า “อาชีพตำ�รวจเป็นอาชีพมีตน้ ทุนทาง สังคมตํ่า มีทั้งคนรักและคนชัง การทำ�งานของ ตำ�รวจจะต้องยึดกรอบของกฎหมาย ตรงไปตรง มา เป็นที่พึ่งของประชาชนให้ได้ ขอให้ยึดหลัก การเป็น “ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก”พร้อมที่จะให้ความ ยุติธรรม ให้บริการที่ดี และให้ความปลอดภัยใน ชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนโดยต้ อ งทำ�ให้ ประชาชนรักศรัทธา และพร้อมจะให้ความร่วม มือเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมต่อไปครับ” สำ�หรับคอลัมน์ “สายตรงโรงพัก”ฉบับนี้ ต้องขอลาท่านผู้อ่านไปก่อน ไว้พบกันใหม่ฉบับ หน้าเดือนกรกฎาคม 2558 นะคะ “สวัสดีค่ะ”

เอกภาพขององค์กร ให้สอดคล้องกับศักยภาพ และนโยบายของรัฐ เพื่อให้เกิดการพัฒนาตรงกับ ศักยภาพที่มีอยู่แต่ละท้องถิ่นต่อไป นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการ จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ถือว่าเป็นการส่งเสริม พั ฒ นาการท่ อ งเที่ ย วของแต่ ล ะพื้ น ที่ ที่ ถู ก ต้ อ ง ปัจจุบนั นีท้ กุ ฝ่ายทุกองค์กรจะต้องร่วมกันทำ�การบู รณาการกันในการดำ�เนินนโยบายและแนวทางการ

พัฒนาส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวที่ไปด้วยกัน และในแนวทางที่สอดคล้องเอื้อประโยชน์ต่อกัน สำ�หรับจังหวัดอุดรธานีซึ่งเป็นหัวหน้า กลุ่ ม จั ง หวั ด สบายดี มี 5 จั ง หวั ด ในกลุ่ ม คื อ จังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำ�ภู เลย หนองคาย และจังหวัดบึงกาฬนัน้ มีนโยบายด้านการส่งเสริม พัฒนาการท่องเทีย่ วหลักคือ เทีย่ วเป็นวงรอบและ เชือ่ มโยงกับประเทศเพือ่ นบ้านรอบด้านทัง้ 4 ทิศ

เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน


หน้า 9

ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2558

“Kacha Kacha” ร้านอาหารญี่ปุ่นขนานแท้ เปิดสาขาเอาใจคนขอนแก่น

“Kacha Kacha” คือเสียงตะหลิวกระทบกับกระทะ คนญีป่ นุ่ จะได้ยนิ เป็นเสียง คะชะคะชะ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้านคะชะคะชะ ซึ่งมีการแสดงโชว์ การประกอบอาหารบนกระทะเหล็ก ทีจ่ ะทำ�ให้คณ ุ ได้สมั ผัสกับความอร่อยทัง้ 5 ประสาทสัมผัสของคุณ ทัง้ การรับชมและได้ยนิ เสียงการประกอบอาหารอัน น่าตืน่ ตาตืน่ ใจ ได้กลิน่ หอมของอาหาร สุดท้ายก็สมั ผัสกับรสชาติความอร่อย ของเมนูนั้นๆ ด้วยตัวคุณเอง นายวิเชียร อินไกรดี กรรมการผู้จัดการ เมกุมิ กรุ๊ป ผู้บริหารแบรนด์ Kacha Kacha เปิดเผยว่า คนไทยมีความตื่นตัวในเรื่องอาหารมาก มีความ ต้องการบริโภคอาหารนานาชาติ โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่น ที่ประชาชนชาว ไทยให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งมอบวัฒนธรรมการ กินดื่มแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ครบสัมผัสทั้ง 5 คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และ ในบรรยากาศเสมือนทานอาหารอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ต้องลองเข้ามาที่ คะ ชะ คะชะ ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์กระทะร้อน เทปันยากิและยากิโทริ เปิดให้ บริการแล้วที่ HugzMall Khon Kaen ชัน้ 1 ถนนศรีจนั ทร์ อำ�เภอเมือง จังหวัด ขอนแก่น ตั้งแต่เวลา 17.00 – 24.00 น. ทุกวัน “Kacha Kacha” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีความน่าสนใจ เพราะนำ� เสนออาหารญี่ปุ่นที่เรียกว่า เทปันยากิ และยากิโทริ ซึ่งเป็นเฟรนไชส์มาจาก เมืองนาโกย่า การพิถพี ถิ นั ใส่ใจในทุกรายละเอียดไม่วา่ จะเป็นการนำ�ไม้หอม ญีป่ นุ่ มาเผาไฟเพือ่ ใช้ในการตกแต่งภายในร้าน ฝาผนังห้องทีฉ่ าบด้วยหญ้า ผสมซีเมนต์ ซึ่งเป็นแบบฉบับดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น การนำ�เทคนิคออกแบบ ตกแต่งร้านด้วยสิง่ ของเครือ่ งใช้ทปี่ ระมูลมาจากประเทศญีป่ นุ่ เพือ่ ให้ Kacha Kacha เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำ�รับขนานแท้และดั้งเดิม “ภายในร้านตกแต่งได้บรรยากาศสบายๆ สไตล์ญปี่ นุ่ มีโต๊ะให้เลือก นั่งหลายโซน มีโซนโต๊ะนั่งแบบเคาน์เตอร์ที่จะได้เห็นเชฟปรุงอาหารอย่าง ใกล้ชิด โซนโต๊ะนั่งเบาะนุ่มๆ หรือโซนโต๊ะนั่งบนเบาะหย่อนขาลงไปได้แบบ สบายๆ ตกแต่งโคมไฟด้วยการนำ�ขวดเหล้ามาประดับอยู่บนโคมไฟ ไม่ เหมือนใคร กำ�แพงของร้านตกแต่งแบบก่ออิฐเปลือย ครัวเป็นแบบครัวเปิด อาจจะมีกลิ่นนิดหน่อยหากนั่งที่เคาน์เตอร์ แต่ก็ได้เห็นเชฟญี่ปุ่นขนานแท้ ปรุงสดๆ ที่หน้าเตาได้อย่างใกล้ชิด สนุกไปอีกแบบ” ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ เทปันยากิ ยากิโทริ Kacha Kacha นอกจาก พิถพี ถิ นั ในรายละเอียดของรูปแบบของการจัดร้านแล้ว ไม่เว้นแม้ธรรมเนียม ปฎิบตั ภิ ายในร้าน เริม่ ตัง้ แต่เดินเข้าร้านมา ซึง่ จะได้รบั การเปล่งเสียงต้อนรับ คำ�ทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่น ทั้งจากพนักงานต้อนรับ และเซฟทุกๆท่าน อย่าง พร้อมเพรียงกัน ซึง่ ถือเป็นวัฒนธรรมการต้อนรับดัง้ เดิมในแบบฉบับของชาว ญี่ปุ่น นายวิเชียร กล่าวและว่า

“เมื่อก้าวเข้ามาในร้านแห่งนี้แล้วจะได้รับคำ�ทักทายอย่างเป็นกันเอง เป็นภาษาญีป่ นุ่ ดนตรีทเี่ ปิดในร้านเป็นเพลงญีป่ นุ่ จังหวะสนุกสนาน ทำ�ให้ได้ บรรยากาศเหมือนทานอาหารอยู่ในประเทศญี่ปุ่น และสิ่งที่สำ�คัญคือรสชาติ อาหารนัน้ อร่อยตามสไตล์ญปี่ นุ่ แท้ๆ เหมือนทานอยูท่ ญ ี่ ปี่ นุ่ เลย อาหารของที่ นีก่ ม็ เี มนูเทปันยากิ และยากิโทริหลายหลากให้เลือกสัง่ มาลิม้ ลองกัน ทีส่ �ำ คัญ ราคากับปริมาณที่ได้รับถือว่าไม่แพงเลย” สำ�หรับอาหารญี่ปุ่นที่ Kacha Kacha ได้จัดไลท์ติ้งที่สวยสมบูรณ์ แบบ ด้วยการสร้างและทำ�ครัวเปิดที่ใหญ่ที่สุด เตาเทปันขนาดยาวที่สุดใน ประเทศไทยส่งตรงจากนาโกย่า และฝีมือการปรุงอาหารจากเชฟชาวญี่ปุ่นผู้ เชี่ยวชาญด้านอาหารรสชาติแบบดั้งเดิม สำ�หรับท่านที่ชื่นชอบรสชาติอาหาร ญีป่ นุ่ ไม่ควรพลาดเมนูหลากหลายให้เลือก อาทิ เทปันยากิ, ยากิโทริ, โทโรทา มะยากิหรือไข่มว้ นโมจิซสี , คะชะคะชะสลัดสไตล์ญปี่ นุ่ , โอโคโนมิยากิหรือพิช ซ่าญี่ปุ่นสไตล์คะชะ, ยากิโซบะ ยากิโทริรวมหรือการรวมเอาเนื้อสัตว์มาย่าง กับผักนานาชนิด ฯลฯ ส่วนของหวานยอดนิยม อาทิ ซีสเค้กสไตล์คะชะ ผู้บริหารแบรนด์ Kacha Kacha กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ เมกุมิ กรุ๊ป ยังมีแบรนด์แฟรนไชส์ธุรกิจร้านราเมน Fujiyama Go Go ซึ่งมีทั้งหมด ในประเทศไทยรวม 4 สาขา คือ สุขุมวิท 39 ,เดอะซัน ปิ่นเกล้า , Promenada เชียงใหม่ ,HugzMall Khon Kaen และกำ�ลังเตรียมขยายสาขาในอีก 2 ปีขา้ ง หน้าที่ เซ็นทรัล เวสต์เกต และเซ็นทรัล ศาลายา โดยในปี 2559 ตั้งเป้าขยาย สาขาเพิ่มอีก 10 สาขา ส่วนธุรกิจ คาราเกะ Gaburi Ghioken ตั้งเป้าในการ เปิดขยายสาขา 30 สาขาภายในระยะเวลา 3 ปี พร้อมด้วย Fujiyama Go Go อีก 10 สาขาทั่วประเทศ คุณวิโรจน์ สฤษฎีชยั กุล กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั ซีนทิ พลาซ่า จำ�กัด เปิดเผยว่า โครงการ HugzMall ซึ่งสร้างเป็นแบบไลฟ์สไตล์มอล์แห่งแรกใน จังหวัดขอนแก่น บนพื้นที่ 3.8 ไร่ ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 336 ล้าน บาท และเพื่อให้การต่อยอดธุรกิจประสบความสำ�เร็จตรงตามกลุ่มเป้าหมาย HugzMall จึงร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างรูปแบบบริการสำ�หรับท่านที่ต้องการ สถานทีด่ มื่ กินนอกบ้าน การพบปะสังสรรค์ การเดินเล่นพักผ่อน การนัง่ ทำ�งาน ในบรรยากาศสบายๆ ซึ่งมีทั้ง โกลบัลแบรนด์ และแบรนด์พรีเมียม ที่เปิดให้ บริการมากกว่า 30 ร้าน พร้อมสถานที่จอดรถสะดวกปลอดภัย การเปิดตัวร้านอาหารญี่ปุ่น Kacha Kacha ซึ่งเป็นที่นิยมสำ�หรับผู้ที่ ชื่นชอบอาหาร บรรยากาศ และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นขนาดแท้และดั้งเดิมจะ เป็นมิติใหม่ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและประชาชนชาว ไทยที่จะได้สัมผัสความเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น อีกทั้งจะเสริมศักยภาพ การเป็นศูนย์กลางของภาคอีสานทีม่ คี วามเจริญเติบโตและความเปลีย่ นแปลง ในอนาคต ปรกชล ศุขโข...รายงาน

Fairy Fantasia 9 By LTD รอบชิงชนะเลิศ

ศูนย์สรรพสินค้าแฟรีพ่ ลาซ่า ขอนแก่น ร่วมกับผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า บุรุษ LTD จัดการประกวดร้องเพลง Fairy Fatasia 9 By LTD รอบชิง ชนะเลิศ ที่เวทีกลางตลาดต้นตาล ขอนแก่น เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2558 ที่ ผ่านมา โดยผูท้ ไี่ ด้รบั รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ คุณกฤษกร บุญมา, รางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ คุณอภิ รุจชวัลกร บุตรศรี และรางวัลรอง ชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ คุณกรอง กาญจน์ สุทธมาตย์ ขอแสดงความ ยินดีกับทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย

เผยโฉม TOYOTA Hilux REVO กระบะแห่งอนาคต

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 บริษัท TOYOTA โดย มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด มร.ฮิโรกิ นาคาจิมะ หัวหน้าวิศวกรอาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น พร้อมด้วย นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้ จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด ได้แนะนำ� Hilux REVO กระบะแห่งอนาคต ณ ศูนย์แสดงนิทศรรการ ไบเทค บางนา และพร้อมกันทัว่ ประเทศใน 4 จังหวัดภูมภิ าค คือ จังหวัดขอนแก่น เชียงใหม่ ชลบุรี และอำ�เภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สำ�หรับจังหวัดขอนแก่น มีการเปิดตัวรถกระบะ Hilux REVO พร้อม กิจกรรมการแสดงสมรรถนะและทดลองขับ ณ ลานอเนกประสงค์ศูนย์ค้าส่ง อู้ฟู่ โดยมี นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายกมลพงษ์ สงวนตระกูล ผูช้ ว่ ยกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ บริษทั โตโยต้าขอนแก่นผูจ้ �ำ หน่าย โตโยต้าจำ�กัด นายสายันต์ ทรัพย์ปัญญาดี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้ อำ�นวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด และนาย มนตรี ธีรกนก กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าอมตะ จำ�กัด ร่วมเปิดงาน ท่ามกลางความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชน มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ บริษทั โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด เปิดเผยว่า นับตั้งแต่การแนะนำ�รถกระบะไฮลักซ์ เจเนอ เรชัน่ ที่ 1 เมือ่ ปี 2511 จำ�หน่ายให้กบั ลูกค้า 16 ล้านคน ใน 180 ประเทศทัว่ โลก โดยมีโรงงานผลิตรถยนต์โตโยต้าใน 6 ประเทศ ซึง่ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง การผลิตที่ใหญ่ที่สุด โดยมียอดการผลิตถึง 70 % ของยอดผลิตทั่วโลก สำ�หรับประเทศไทย รถกระบะไฮลักซ์ เป็นรถทีไ่ ด้รบั ความนิยมสูงสุดสามารถ ครองแชมป์ด้วยยอดขายสะสมภายในประเทศกว่า 1,650,000 คัน ครอง อันดับ 1 ในตลาดรถกระบะรวม 9 ปีซ้อน และยังมียอดการผลิตที่ส่งออก รถยนต์ภายใต้โครงการ IMV กว่า 2,400,000 คัน เป็นการแสดงถึงความเชื่อ มัน่ ของลูกค้าทีม่ ตี อ่ คุณภาพและสมรรถนะของโตโยต้า ไฮลักซ์ เป็นรถกระบะ ยอดนิยมระดับโลกอย่างแท้จริง สำ�หรับ ไฮลักซ์ เจเนอเรชั่นที่ 8 นี้ นับเป็นความภาคภูมิใจของโต โยต้า เพราะถือว่าเป็นปฎิวัติใหม่ทุกมิติ การเปลี่ยนโฉมทุกตารางนิ้ว และ มีความเชื่อมั่นว่า รถกระบะ Hilux REVO จะเป็นแรงขับเคลื่อนและกระตุ้น ยอดขายในตลาดอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศให้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงขับ เคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้น Hilux REVO ไม่เพียงเป็นความภาคภูมใิ จของโตโยต้าเท่านัน้ แต่ยงั ถือเป็นความสำ�เร็จและ ภาคภูมิใจของคนไทยด้วยเช่นกัน มร.เคียวอิจิ กล่าว

นายกมลพงษ์ สงวนตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโย ต้าขอนแก่นผูจ้ �ำ หน่ายโตโยต้าจำ�กัด เปิดเผยว่า TOYOTA Hilux REVO เปลีย่ น รูปลักษณ์ใหม่ทั้งภายในและภายนอก โดยกำ�หนดนิยามให้มีความแข็งแกร่ง สะท้อนภาพลักษณ์ตามแนวคิด “ยุคใหม่แห่งกระบะ ทุกตารางนิว้ ต้องไฮลักซ์” เครื่องยนต์ใหม่บนโครงสร้างแซลซีส์ใหม่ แรงบิดสูงขึ้น ลดระดับเสียงรบกวน จากการทำ�งานของเครื่องยนต์ เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานเชื้อ เพลิง ระบบ 6 เกียร์สปีดใหม่ทจี่ ะช่วยปลดปล่อยศักยภาพของเครือ่ งยนต์อย่าง เต็มสมรรถนะ ระบบกันสะเทือนทีน่ มุ่ นวลยิง่ ขึน้ กว่าเดิม เหมาะกับสภาพถนน ของประเทศไทยโดยเฉพาะ ดีไซน์ใหม่ให้อารมณ์เรียบหรู ระบบความปลอดภัย เหนือกว่ารถรุ่นเดียวกัน เชื่อว่าจะเป็นรถกระบะที่มีความพร้อมในทุกความ ต้องการของการใช้งานอย่างลงตัว นายสายันต์ ทรัพย์ปญ ั ญาดี ผูช้ ว่ ยกรรมการผูจ้ ดั การและผูอ้ �ำ นวยการ ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด กล่าวว่า Hilux REVO นับเป็นการพลิกโฉมครั้งสำ�คัญของรถกระบะที่พัฒนาเพื่อปฎิวัติโลกยนตกร รมในวันนี้และในอนาคต ซึ่งทุกท่านสามารถชมและทดลองขับได้ที่โชว์รูมโต โยต้า 427 แห่งทั่วประเทศ และโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จะมีการเปิด สนามเพือ่ ให้ทดลองขับในช่วงไตรมาสที่ 3 อีกครัง้ ซึง่ ลูกค้าสามารถร่วมสัมผัส ประสบการณ์ในการขับขี่กับ Hilux REVO ด้วยตัวเอง โดยมีให้เลือกถึง 3 รุ่น 33 แบบ เพื่อตอบสนองให้ตรงความต้องการใช้งาน สำ�หรับท่านที่สั่งจอง Toyota Hilux REVO รุ่นดับเบิ้ลแค็บ และรุ่น มาตรฐาน สามารถรับและเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ส่วนรุ่นสมารท์แค็บ จะมี การส่งมอบรถให้ถึงมือลูกค้าในเดือนมิถุนายน เป็นต้นไป โดยราคารถยนต์ กระบะ Hilux REVO เริ่มต้นเพียง 569,000.- บาท


หน้า 10

ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2558

ค่ายรวงข้าว พักเงินต้น

ลดดอกเบี้ย ช่วย SME ฝ่าวิกฤต

เศรษฐกิจ ห ด ตั ว ธุ ร กิ จ SME กระทบ หนัก กสิกรไทย โดดอุ้มจัดมาตรการด่วน ช่วยลดภาระให้ลูกค้า ที่ ไ ด้ รั บ ผลกระทบทั้ ง ทางตรงและทางอ้ อ ม ออกมาตรการพักชำ�ระเงินต้น 12 เดือนหรือลด ดอกเบี้ย หวังช่วย SME ฝ่าวิกฤต นายปรี ดี ดาวฉาย กรรมการผู้ จั ด การ ธนาคารกสิ ก รไทย เปิ ด เผยว่ า ผู้ ป ระกอบการ SME ต้องเผชิญกับปัญหาในการทำ�ธุรกิจมาโดย ตลอด ตั้งแต่เหตุการณ์นํ​ํ้าท่วม ปัญหาทางการ เมือง ค่าแรงงานขั้นตํ่าและค่าเงินบาท โดยในปีนี้ เศรษฐกิจดูเหมือนจะดีขนึ้ แต่กย็ งั มาเจอกับปัญหา ราคาผลผลิตตกตํา่ และหนีค้ รัวเรือนทีท่ ำ�ให้ก�ำ ลัง

ซื้ อ ในประเทศหดตั ว ซึ่ ง ส่ ง ผลกระทบทำ � ให้ ผู้ ประกอบการ SME มีรายได้ลดลงทีผ่ า่ นมาธนาคาร กสิกรไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือผูป้ ระกอบการ SME มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้า และให้ลูกค้าดำ�เนินธุรกิจต่อไปได้โดยรูปแบบการ ช่วยเหลือขึ้นอยู่กับความรุนแรงของผลกระทบที่ ลูกค้าได้รับ ซึ่งธนาคารให้ความช่วยเหลือทั้งการ พักชำ�ระเงินต้นและลดดอกเบี้ย ในช่ ว งไตรมาสแรกที่ ผ่ า นมา ธนาคาร ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้า SME ที่ได้รับผลก ระทบไปแล้ว10,115 ราย คิดเป็นยอดวงเงินสิน เชื่อ52,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเข้าไปช่วยเหลือ และปรับโครงสร้างหนี้ก่อนที่ลูกค้าจะผิดนัดชำ�ระ โดยมีทั้งลดดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งธนาคารได้พิจารณา ลดดอกเบี้ยอย่างเต็มที่สำ�หรับลูกค้าที่ได้รับผลก

ระทบหนักเพื่อให้ลูกค้าดำ�เนินธุรกิจได้และการ พักชำ�ระเงินต้นได้นานสูงสุด 12 เดือน นอกจาก นี้ธนาคารยังสนับสนุนเงินทุนให้กับธุรกิจ SME ที่ต้องการลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มสภาพคล่อง โดยใน ไตรมาสแรกธนาคารได้ปล่อยสินเชือ่ เพิม่ จำ�นวน 64,000 ล้านบาท ซึง่ ขยายตัวกว่า40% จากไตรมาส สีป่ ที แี่ ล้ว และคาดว่าในไตรมาสสองนีธ้ นาคารจะ ปล่อยสินเชื่อเพิ่มได้เท่ากับไตรมาสแรก ธนาคารกสิกรไทยมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและให้ ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ SME ในทุก วิกฤตเพื่อให้ธุรกิจเติบโตและอยู่รอดได้ ดังนั้น ธนาคารจึงได้ขยายระยะเวลาของมาตรการช่วย เหลือในช่วงเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวออกไปจนถึง 31 ตุลาคม 2558

ผู้นำ�องค์กรเอกชนอุดรธานีโวย โยธาธิการ และผังเมือง ทำ�ร่างผังเมืองรวม ไม่สอดคล้องกับ ความเป็นจริง ความเปลี่ยนแปลง ความเจริญ และ การขยายตัวของบ้านเมืองในปัจจุบนั และในอนาคต เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2558 ที่ห้องประชุมหอกา รค้าจังหวัดอุดรธานี มีการประชุมร่วมกันของภาค เอกชนจังหวัดอุดรธานี ประกอบด้วย หอการค้า จังหวัดอุดรธานี สภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ เพื่อ ร่วมกันพิจารณาผังเมืองรวมจังหวัดฉบับแรกที่จะ มีการประกาศใช้ในราวปี พ.ศ.2559 ว่ามีความเหมา ะสมกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง ที่มีการเจริญเติบโตในอัตราแบบก้าวกระโดด และ มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศของรัฐบาล ซึ่งจะส่งกระทบต่อธุรกิจรวมของจังหวัดอุดรธานี นายประชา บุญหล้า นักวิเคราะห์ผังเมือง ชำ�นาญการ สำ�นักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ชี้แจงรายละเอียดของตัวร่างผังเมืองรวมจังหวัด

ฉบับดังกล่าวว่า เป็นผังเมืองรวมจังหวัดทัง้ 20 อำ�เภอ ซึ่งขณะนี้ สำ�นักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด อุดรธานี ได้ทำ�การปิดประกาศ แผนผัง ข้อกำ�หนด และรายการประกอบแผนผังของผังเมืองรวมจังหวัด อุดรธานี ที่สำ�นักงานที่ดินทุกสาขา ที่ว่าการอำ�เภอ ทุกแห่ง สำ�นักงานเทศบาลทุกแห่ง สำ�นักงานองค์กร บริหารส่วนตำ�บลทุกแห่ง และทีส่ �ำ นักงานโยธาธิการ และผังเมืองจังหวัดอุดรธานี นอกจากนีย้ งั ได้เผยแพร่ ทางเว็บไซต์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ตัง้ แต่วนั ที่ 15 พ.ค.2558 แล้ว เพื่อให้ประชาชนที่มีที่ดิน อาคารที่ตั้งอยู่ ในเขตพื้นที่จัดทำ�ผังเมืองรวม ได้ไปทำ�การตรวจ สอบ และร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งหากมีข้อแก้ไข สามารถยื่ น คำ � ร้ อ งได้ ภายในวั น ที่ 12 สิ ง หาคม 2558 โดยผู้ที่มีส่วนได้เสีย มีสิทธิร้องขอแก้ไขหรือ เปลีย่ นแปลง หรือยกเลิกข้อกำ�หนดการใช้ประโยชน์ ที่ดินของผังเมืองรวมได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ในเอกสาร เสนอคำ � ร้ อ งได้ ที่ ศ าลากลางจั ง หวั ด ที่ทำ�การ อบจ. ที่ทำ�การ เทศบาลตำ � บล อบต. สำ � นั ก งานที่ ดิ น สำ � นั ก งานโยธาธิ ก าร และ ผังเมืองจังหวัดอุดรธานี ซึ่ ง จากการชี้ แ จง ของนายปรีชาฯ ดังกล่าว ทำ � ให้ เ อกชนหลายราย ที่ เ ข้ า ร่ ว มประชุ ม ด้ ว ย ทำ � การซั ก ถามข้ อ มู ล

ต่ า งๆ จากทางสำ� นั ก งานโยธาธิ ก ารและผั ง เมื อ ง จังหวัดอุดรธานี โดยเฉพาะในประเด็นข้อกำ�หนด สีในพื้นที่ต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ทั้งในผังเมืองจังหวัดที่ เป็นของเดิมที่ใช้บังคับเฉพาะตัวเมืองอุดรธานีและ เขตเทศบาลโดยรอบที่ มี พื้ น ที่ ติ ด กั บ เขตตั ว เมื อ ง อุดรธานี และในร่างผังเมืองรวมจังหวัดอุดรธานีที่ ปิดประกาศอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ และการขยายตัวของเมืองทีเ่ ป็นไปอย่างก้าวกระโดด มี ก ารรุ ก ลํ​ํ้ า การใช้ ป ระโยชน์ ใ นพื้ น ที่ สี ต่ า งๆ ทั้ ง ในด้านที่อยู่อาศัย ปลูกสร้างโรงงานอุตสาหกรรม หรือแม้กระทั้งการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล เข้าไปใช้ประโยชน์ทดี่ นิ เพือ่ ทำ�การก่อสร้าง ถนน สิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ดินผิดประเภท เนื่องมา จากปัญหาการขาดการประสานงานระหว่างหน่วย งานที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก และเกรงว่ายิ่งเป็นผังเมือง รวมจังหวัดที่จะมีผลบังคับใช้ทุกพื้นที่ ทุกอำ�เภอ ทั้ ง หมดของจั ง หวั ด ก็ จ ะยิ่ ง มี ปั ญ หาตามมามาก ขึ้น เพราะประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ยังไม่เข้าใจการ ใช้ผงั เมือง ดังทีจ่ ะเห็นได้ตามพืน้ ทีช่ นบท ประชาชน ก่อสร้างสิ่งต่างๆ โดยไม่ ได้มีการขออนุญาตหน่วย งานใดๆ และไม่ได้เคยรับ รู้ว่าผังเมืองคืออะไร นายสวาท ธี ร ะ รั ต นนุ กู ล ชั ย ประธาน หอการค้าจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า การจัดทำ�ร่าง

เอกชนโวยผังเมืองรวมจังหวัดอุดรธานี ไม่สอดคล้องความเปลี่ยนแปลงของเมือง

ตั้งตู้ยามอาเซียนให้บริการชาวต่างชาติ ตำ�รวจภูธรภาค ๔ ร่วมกับ กองบังคับการ ตรวจคนเข้าเมือง ๔ ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับ สำ�นักงานตรวจคนเข้าเมือง “ให้เพื่อนรู้ด้วย ให้ เพื่อนช่วยกัน” ตามโครงการส่งเสริมความรู้เกี่ยว กับงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อถ่ายทอดความรู้เกี่ยว กับการตรวจเอกสารเดินทางของบุคคล และพาหนะ ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำ�รวจในสังกัด ภาค ๔ และผู้ปฎิบัติ หน้าที่ ณ จุดตรวจจุดสกัด ในเส้นทางสุม่ เสีย่ งต่อการ ลักลอบเข้าเมืองชั้นใน โดยมี ท่านสินใจ มณีวรรณ รองกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน ลาว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีใน ณ ห้องประชุมศูนย์ฝึกอบรมตำ�รวจภูธรภาค ๔ ถนน มิตรภาพ อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการ ตำ � รวจภู ธ รภาค ๔ เปิ ด เผยว่ า เพื่ อ อำ� นวยความ สะดวกในด้ า นต่ า งๆ และให้ บ ริ ก ารกั บ ชาวต่ า ง ชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย หรือพำ�นักอยู่ ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ปัญหา อาชญากรรมข้ามชาติ ให้เกิดประสิทธิภาพ อีกทั้ง เพิ่มขีดความสามารถ และศักยภาพในการทำ�งาน ในพื้นที่ ๑๒ จังหวัดภาคอีสานตอนบน จึงประสาน ความร่วมมือระหว่างตำ�รวจภูธรภาค ๔ และตำ�รวจ ตรวจคนเข้าเมืองจัดตัง้ “ตูย้ ามตำ�รวจอาเซียน” พร้อม ทัง้ จัดกำ�ลังเจ้าหน้าทีต่ �ำ รวจประจำ�ร่วมกัน ประกอบ ด้วยตำ�รวจในพื้นที่ สภ. ที่รับผิดชอบ ตำ�รวจตรวจ คนเข้าเมือง และตำ�รวจท่องเที่ยว ประจำ�อยู่ตลอด ๒๔ ชั่ ว โมง โดยสามารถให้ บ ริ ก ารได้ อ ย่ า งครบ วงจร ทั้งการตรวจเอกสารการเดินทางของบุคคล ทุกประเทศทั่วโลก ผ่านระบบโครงข่ายอินเทอร์เน็ต และโปรแกรมตรวจสอบบุคคลที่เชื่อมต่อกับด่าน ตรวจคนเข้าเมือง ทั้งชายแดนและสนามบิน การ ตรวจสอบเอกสารพาหนะ และตรวจสอบประวัติ ข้ อ มู ล บุ ค คลในภาพ รวมถึ ง การรั บ แจ้ ง เหตุ แ ละ การให้ความช่วยเหลือชาวต่างชาติในพื้นที่ได้โดย ทันที เพราะตู้ยามดังกล่าวจะตั้งติดกับเส้นทางถนน สายหลักที่ชาวต่างชาติหรือผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถ สังเกตเห็นได้ชดั เจน และขอเข้ารับบริการได้สะดวก และรวดเร็ว ภาคอีสานตอนบน เป็นพื้นที่ที่มีชาวต่าง ชาติทั่วทั้งโลกเดินทางเข้ามาในพื้นที่จำ�นวนมาก มา ในรูปแบบของการดำ�เนินธุรกิจ การท่องเที่ยว การ

ประชุมสัมมนา รวมทั้งการมาเข้าพักในรูป แบบของครอบครัว ส่วนใหญ่จะมีทะเบียน ประวัติการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยที่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วทุกจุด แต่เมือ่ เดิน ทางเข้ามาในระดับพื้นที่หรือจังหวัดต่างๆ แล้ว หากเกิดปัญหาหรือต้องการความช่วย เหลือ บางครั้งตำ�รวจท้องที่อาจไม่สามารถ ดำ�เนินการได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะการ สื่อสารด้านภาษาเฉพาะทาง ซึ่งส่วนใหญ่ ปัญหาที่ชาวต่างชาติขอรับการช่วยเหลือ จากตำ�รวจท้องที่จะเป็นในรูปแบบของเอกสาร การ ตรวจสอบเอกสารการเดินทางของคนต่างด้าวใน เกิดอุบัติเหตุ และการสอบถามเส้นทาง ส่วนปัญหา เบื้องต้นได้อย่างถูกต้อง การจัดทำ�สมุดพกเพื่อเพิ่ม อาชญากรรมนั้นมีน้อยมาก ดังนั้น การให้บริการที่ ทักษะการสื่อสารกับชาวต่างชาติ มอบให้ตำ�รวจผู้ ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ โดยให้ตำ�รวจเป็น ปฏิบัติหน้าที่สามารถเรียนรู้ครอบคลุมหลายภาษา หน่วยงานแรกที่ชาวต่างชาตินึกถึงเมื่อเกิดปัญหา อย่ า งไรก็ ต าม ตม.ภาคอี ส านมี ด่ า นตรวจคนเข้ า ต่างๆ ขณะที่เข้ามาในประเทศไทย เป็นสิ่งที่ตำ�รวจ เมืองในการดูแลทั้งหมด ๑๓ ด่าน จะพบว่าแต่ละ ภูธรภาค ๔ จะต้องดำ�เนินการให้มีประสิทธิภาพและ วันมีชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยจำ�นวน มาก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่เดินทาง สมบูรณ์แบบที่สุด ด้ า น พล.ต.ต.สุ กิ จ โคอิ น ทรางกู ล รองผู้ โดยรถยนต์ส่วนบุคคล หรือรถโดยสารระหว่าง บังคับการ สำ�นักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า ตูย้ าม ประเทศ ดั ง นั้ น ตำ � รวจทุ ก หน่ ว ยจะต้ อ งเปลี่ ย น ตำ�รวจอาเซียน เป็นรูปแบบการดำ�เนินงานที่เป็นรูป แนวทางการทำ�งานรูปแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อพร้อม ธรรมมากขึน้ สามารถให้ชาวต่างชาติเข้าถึงบริการได้ เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่กำ�ลังจะเกิดขึ้น รวมทั้งต้อง โดยสะดวก เป็นการร่วมปฏิบัติงานของ ตม. ที่ขยาย ปรับแนวความคิด ปรับวิธีการทำ�งาน กระทั่งนำ�ไป เขตเพิ่มขึ้นและมีประจำ�อยู่แทบทุกจังหวัด ซึ่งชาว สูก่ ารเป็นทีร่ กั ของประชาชนทัง้ ภายในประเทศและ ต่างชาติสามารถประสานการขอความช่วยเหลือกับ ต่างประเทศให้ได้ ตำ�รวจพื้นที่ และตำ�รวจ ท่ อ งเที่ ย ว ได้ เ พิ่ ม มาก ขึ้น โดยใช้ตู้ยามตำ�รวจ อาเซียน การตั้ ง “ตู้ ย าม ตำ � รวจอาเซี ย น” ได้ เตรียมพิจารณาขยายการ จั ด ตั้ ง ให้ ค รอบคลุ ม ทุ ก พื้นที่ เพราะจะสามารถ คั ด กรองบุ ค คล การ ตรวจเอกสารเดิ น ทาง ของบุคคลและพาหนะ ปลูกต้นคูณบึงหนองโคตร ; นายวุฒศิ กั ดิ์ พิชญกานต์ ผูจ้ ดั การทัว่ ไปโรงแรม ในจุดตรวจจุดสกัดถาวร เซ็นทารา คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ ขอนแก่น นำ�ทีมผู้บริหารและพนักงาน ร่วม ในเส้ น ทางที่ สุ่ ม เสี่ ย ง กิจกรรมปรับปรุงทัศนียภาพสวนสาธารณะบึงหนองโคตร โดยร่วมมือกับภาค ต่อการลักลอบเข้าเมือง รัฐและเอกชนปลูกต้นคูณ ต้นไม้ประจำ�จังหวัดขอนแก่น กว่า 200 ต้น บริเวณ มายังพื้นที่ชั้นใน ซึ่งจะ รอบบึงหนองโคตร จังหวัดขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้

สร้างรายได้จากธุรกิจแฟรนไชส์ ; นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับนายรังสรรค์ จันทร์นฤกุล รองกรรมการผู้ จัดการใหญ่ บริษทั ทีโอที จำ�กัด(มหาชน) ลงนามความร่วมมือในการสนับสนุน ทางการเงินแก่พนักงานทีโอทีให้ทำ�ธุรกิจอย่างมืออาชีพด้วยสินเชื่อดอกเบี้ย พิเศษ พร้อมความรู้ในการทำ�ธุรกิจกับแฟรนไชส์ที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นทาง เลือกในการสร้างรายได้ที่มีความเสี่ยงตํ่าและมั่นคง ณ บริษัท ทีโอที จำ�กัด (มหาชน) เมื่อ 4 มิ.ย.58 ทีเส็บเยือนพูลแมน ขอนแก่น ; โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออ คิด ให้การต้อนรับตัวแทนจากทั้งทางภาครัฐและเอกชน ที่ได้เดินทางมายัง จังหวัดขอนแก่น เพื่อร่วมพิธีเปิดโครงการไทยแลนด์ไมซ์มาร์ท ครั้งที่ 2 โดย สำ�นักงานส่งเสริมการจัดประชุม และนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือที เส็บ (TCEB) จากนั้นทางคณะได้เดินทางมายังโรงแรมพูลแมน ขอนแก่นฯ เพื่อเยี่ยมชมส่วนบริการต่างๆ ของทางโรงแรมฯ เมื่อเร็วๆ นี้ ผังเมืองรวมจังหวัดฉบับดังกล่าวที่กำ�ลังปิดประกาศ นั้น กรมโยธาธิการและผังเมืองไม่ได้มีการนำ�เอา ข้ อ มู ล ที่ เ ป็ น ปั จ จุ บั น ของแต่ ล ะพื้ น ที่ ไ ปเป็ น หลั ก ในการทำ� ร่ า งผั ง เมื อ งรวมจั ง หวั ด อุ ด รธานี ทำ� ให้ ร่างผังเมืองรวมจังหวัดฉบับดังกล่าว ไม่ได้มีความ สอดคล้องกับหลักความเป็นจริงกับสถานการณ์การ เปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจและการขยายตัว ของบ้านเมืองในปัจจุบัน และในอนาคต และไม่ได้มี ความสอดคล้องและสนองตามนโยบายของรัฐบาล และ คสช.แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นายสวาทฯ ให้แง่คิดว่า ร่าง ผังเมืองรวมจังหวัดฉบับดังกล่าว มีทั้งข้อดี และข้อ เสีย โดยข้อดีจะเป็นการควบคุมท้องถิ่นต่างๆในเรื่อง ของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่ ง มี ค วามจำ � เป็ น ต้ อ งมี พ.ร.บ.หรื อ กฎหมายการ ควบคุมอาคารทุกพื้นที่จะต้องมี เพื่อไม่ให้เกิดความ ไม่เป็นระเบียบในอนาคต ส่วนข้อเสียก็คือ ไม่มีความ สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันของแต่ละพื้นที่ ที่มีความเจริญเติบโตไปมากแล้ว แต่การยกร่างของ ผังเมืองรวมจังหวัด ยังไปเอาข้อมูลเดิมๆ ย้อนหลัง ไปหลายปีมาบรรจุเข้าไปในการทำ�ยกร่างแล้วออก มาเป็นร่างผังเมือง การกำ�หนดสีพื้นที่ในผังเมืองไม่ ได้ตรงกับความเป็นจริง และที่สำ�คัญการจัดทำ�ร่าง ผังเมือง ก็ไม่ได้มีการวางผังล่วงหน้าว่าหากบ้านเมือง เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละด้าน ควรที่จะทำ�อย่างไร ซึ่ง หากว่าประกาศออกมาบังคับใช้แล้วจะเกิดปัญหาตาม มาอีกมากมาย “สำ�หรับความคิดเห็นของหอการค้าจังหวัด อุดรธานีนนั้ การจัดทำ�ผังเมืองรวม ควรกำ�หนดให้เป็น ไปตามความเปลีย่ นแปลงของเมือง ซึง่ ปัจจุบนั จังหวัด อุดรธานีถือเป็นจังหวัดด้านการค้าการลงทุน มีความ เติบโตทางเศรษฐกิจและมีแนวโน้มด้านการลงทุน มากขึน้ และเป็นฮับของสินค้านานาชนิดทีจ่ ะส่งออก ไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้ง สปป.ลาว เวียดนาม และ ส่วนหนึ่งคือประเทศจีนตอนใต้ โดยเฉพาะนโยบาย ของรัฐบาลนี้ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจ พิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดน ซึ่งที่ภาคอีสานตอน บนคือ จังหวัดหนองคาย มุกดาหาร และนครพนม ซึ่งมีพื้นที่เชื่อมโยงกับจังหวัดอุดรธานี แม้ว่าจังหวัด อุ ด รธานี ไ ม่ ไ ด้ เ ป็ น พื้ น ที่ จั ง หวั ด ชายแดน แต่ ก็ มี ตัวเลขการค้าชายแดนที่สูงมาก, การจัดสร้างนิคม อุตสาหกรรม, พื้นที่โครงการเหมืองแร่โปแตซซึ่ง เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่, การจัดทำ�รถไฟทาง คู่ และรองรับรถไฟความเร็วสูง รวมไปถึงการเข้า สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะทำ�ให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงทางด้านศักยภาพ โครงสร้างของบ้าน เมืองและพื้นที่ต่างๆ ทั้งในเขตเมืองและเขตชนบท กรมโยธาธิการและผังเมือง ควรที่จะเร่งทำ �การหา ข้อมูลและศึกษาความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นใน

อนาคต แล้วนำ �เอาเข้า บรรจุไว้ในผังเมืองรวม จั ง หวั ด ” นายสวาทฯ ที ม เชฟพู ล แมนฯ คว้ า เหรี ย ญรางวั ล ; ขอแสดงความยิ น ดี กั บ ที ม กล่าว เชฟของโรงแรมพู ลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ที่สามารถคว้าเหรียญ นายสวาทฯ กล่ า วต่ อ ไปอี ก ว่ า ใน รางวัล (2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง) จากงานแสดงสินค้าและอาหาร การแก้ ไ ขปั ญ หาการ นานาชาติ THAIFEX 2015 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 พฤษภาคม 2558 ณ ทำ � ผั ง เมื อ งรวมจั ง หวั ด อิมแพค ฟอรัม ฮอล กรุงเทพ ฉบับที่กำ�ลังปิดประกาศอยู่ในขณะนี้นั้น จะต้อง กำ�หนดให้การอุตสาหกรรมเข้าไปใช้อย่างเสรี เช่น ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ/ คณะทำ �งานของ ในพื้นที่สีเขียวในเขตอำ�เภอเพ็ญประมาณ 1 หมื่น แต่ละฝ่ายระดับจังหวัด ระดับอำ�เภอขึ้นมา แล้วเร่ง ไร่เศษ ก็ไปกำ�หนดให้การอุตสาหกรรมสามารถ ทำ�การสำ�รวจข้อมูล ข้อเท็จจริงว่า พื้นที่ไหนมีอะไร เข้าไปใช้พื้นที่ได้ หรือกรณีของพื้นที่สองข้างทาง ควรกำ�หนดเป็นพื้นที่สีอะไร แล้วรีบนำ�เอาข้อมูล มิตรภาพจากตัวเมืองอุดรธานี ไปจนถึงเขตอำ�เภอ ไปเสนอขอทำ�การปรับปรุงแก้ไข ต่อคณะผังเมือง กุมภวาปี ซึง่ ควรทีจ่ ะให้เป็นพืน้ ทีก่ ารพาณิชย์กรรม จังหวัด เสนอต่อไปคณะกรรมการชุดใหญ่ในส่วน ก็จะไม่สามารถทำ�ได้ เพราะไปติดผังสี และจะไม่ กลาง เพือ่ ให้มกี ารแก้ไขปรับปรุงให้เกิดความเป็นจริง สามารถสร้างตึกสูงกว่า 23 เมตร หรือทีม่ พี นื้ ทีก่ ว้าง และเหมาะสมกับทุกพืน้ ที่ โดยหลังจากทีไ่ ด้ความคิด กว่า 2000 ตารางเมตรได้ในพื้นที่ดังกล่าว “การยกร่างผังเมืองรวมจังหวัดอุดรธานีของ เห็น และข้อมูลการสำ�รวจพื้นที่แล้ว จะนำ�เข้าเสนอ ต่อคณะกรรมการผังเมืองจังหวัดอุดรธานี เพื่อยื่น กรมโยธาธิการและผังเมืองครัง้ นี้ เป็นการยกเมฆนัง่ ขอแก้ไขผังเมืองรวมจังหวัดอุดรธานี ให้ถูกต้องตาม เทียนขีดพื้นที่กันอยู่ในห้องแอร์ โดยที่ไม่ได้นำ�เอา สถานการณ์ปัจจุบันต่อไป ซึ่งกรณีนี้อาจจะมีปัญหา ข้อมูลข้อเท็จจริงจากพื้นที่เข้าไปทำ�การพิจารณาให้ ไม่สามารถทันในวันที่ 12 สิงหาคม 2558 ก็ควรที่จะ เป็นธรรมาภิบาลเลย ผังเมืองรวมจังหวัดฉบับนีเ้ มือ่ ต้องประกาศเลื่อนการร้องขอแก้หรือร้องค้าน จาก ถูกประกาศออกมาใช้ ก็จะเป็นการล็อคความเจริญ เติบโตของเมืองอุดรธานีทันทีไปอีก 5 ปี ทุกๆด้าน เดิมออกไปตามความเหมาะสม ด้ า น นายสุ ริ ยั น เพราะต่อไปนี้ผังเมืองจะไม่มีการกำ�หนดอายุระยะ เหล่ า สุ อ าภา เลขาธิ ก าร เวลาการใช้งาน แต่จะสามารถขอแก้ไขได้เมื่ออายุ สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ครบ 5 ปีเท่านั้น” ในเบื้ อ งต้ น นี้ ห อการค้ า และสภาอุ ต สา อุ ด รธานี ซึ่ ง เป็ น นั ก หกรรมจั งหวัดอุดรธานี จะแยกกันทำ�งานโดยสภา วิ ช าการผั ง เมื อ งเอกชน ที่ มี ค วามรู้ เ รื่ อ งการวาง อุตสาหกรรมจังหวัด จะมารวบรวมปัญหาจากผู้ ผังเมือง เปิดเผยความคิด ประกอบการอุสาหกรรม หอการค้าก็จะรวบรวม เห็นถึงข้อดี ข้อเสีย ตลอด ปัญหาของการพาณิชย์กรรม แล้วนำ�เอามารวมกัน จนความต้องการข้อเสนอแนะ พร้อมด้วยการวิพากษ์ จัดทำ�ประเด็นปัญหาต่างๆ แล้วเข้าประชุม กกร./ วิจารณ์ถงึ การร่างผังเมืองรวมจังหวัดอุดรธานี ทีก่ รม กรอ. นำ�เสนอต่อผูว้ า่ ราชการจังหวัดอุดรธานีเพือ่ ส่ง โยธาธิการและผังเมือง กำ�ลังอยู่ในขั้นติดประกาศว่า ไปยังส่วนกลาง เพือ่ ขอให้ท�ำ การแก้ไขข้อกำ�หนดผัง จะต้องพิจารณาว่าการประกาศผังเมืองรวมจังหวัด สีใหม่ ส่วนตัวผังก็จะต้องปล่อยให้ประกาศออกมา อุดรธานี ฉบับดังกล่าวถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ แล้วก็ค่อยทำ�การขอแก้ไขผังเมืองงรวมใหม่อีกครั้ง ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตนเห็นว่าเป็นการข้าม และอีกวิธหี นึง่ ก็ตอ้ งนำ�เรือ่ งเข้าไปร้องเรียนต่อท่าน ขั้นตอนที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เนื่องจากว่าร่าง นายกรัฐมนตรีโดยตรงเลย นายสุริยันฯ ยังกล่าวแนะนำ�ว่า สมควรที่ ผังเมืองรวมจังหวัดอุดรธานีฉบับดังกล่าวนัน้ เอกชน ในพืน้ ทีไ่ ด้แสดงการคัดค้านในหลายกรณี โดยเฉพาะ มีข้อกำ�หนดพื้นที่ในแต่ละโซนสำ�หรับธุรกิจแต่ละ ผังสีและข้อกำ�หนด ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมืองก็ ประเภท เช่น ด้านสองข้างทางไปทางทิศตะวันออก รับข้อค้านไป และไม่เคยนำ�กลับมาสอบถามพืน้ ทีอ่ กี เป็นพืน้ ทีก่ ารอุตสาหกรรมทุกประเภททัง้ หนักและ เลย จู่ๆ ก็ออกมาประกาศว่าร่างผังเมืองรวมจังหวัด เบา, ด้านทิศตะวันตกของเมืองเป็นพื้นที่การศึกษา ด้านทิศเหนือ กำ�หนดให้เป็นพื้นที่โลจิสติกส์ การ ได้ทำ�การติดประกาศแล้ว นายสุริยันฯ กล่าวอีกว่า ร่างผังเมืองรวม บริการ หรือศูนย์การขนถ่ายสินค้า โดยเฉพาะพื้นที่ จั ง หวั ด ที่ ติ ด ประกาศอยู่ ใ นขณะนี้ มี ข้ อ ผิ ด พลาด ต.นาพู่ อ.เพ็ญ เพราะจากพืน้ ทีด่ งั กล่าวสามารถออก หลายอย่าง โดยยกตัวอย่างให้เห็นได้อย่างชัดเจน ก็ ไปได้ทั้ง 4 ทิศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย ส่วน คือในพืน้ ทีส่ เี ขียวทีเ่ ป็นพืน้ ทีก่ ารเกษตรกรรมนัน้ ไป ด้านทิศใต้ก็เปิดเป็นพื้นที่ด้านพาณิชย์กรรม


หน้า 11

ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2558

นักธุรกิจขอนแก่น • ต่อจากหน้า 1 ทางด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังมีความล่าช้ามากเกินไป ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศภาคตะวันออกเฉียง อุ ด รธานี ว่ า ที่ ผ่ า นมานั้ น ได้ มี ก ารเดิ น ทางไป การจัดประชุมสัมมนาและงานแสดงสินค้า สร้าง ประมาณสนับสนุนโครงการขอนแก่นไมซ์ซิตี้กว่า

นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ กรรมการผู้จัดการ โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล และ นายก สมาคมธุ ร กิ จ การท่ อ งเที่ ย วจั ง หวั ด ขอนแก่ น เปิดเผยว่า หลังการเข้าควบคุมอำ �นาจของคณะ รั ก ษาความสงบแห่ ง ชาติ หรื อ คสช. นำ � โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ได้มีการประกาศไว้ว่าจะคืนความสุขให้ประชาชน จะมีการปฏิรูปประเทศ ลดความเหลื่อมลํ​ํ้าทาง สังคม การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความขัดแย้ง ของคนในชาติ ซึ่งผ่านมาหนึ่งปี ของการบริหาร ประเทศ สำ�หรับนักธุรกิจในส่วนภูมิภาคมองว่า ความเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นอย่างชัดเจนคือความ สงบเรียบร้อย ไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก การลด บทบาทและอำ�นาจของนักการเมืองที่มีอิทธิพล เหนือข้าราชการประจำ� ซึง่ จะเห็นได้อย่างเด่นชัดถึง การแก้ปญ ั หาทีไ่ ด้ผล แต่ยงั ไม่ทงั้ หมด เพราะยังบาง จุดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และอาจทำ�ให้เกิดปัญหา กลับมาเหมือนเดิมได้ในอนาคต ส่วนการพัฒนาประเทศชาติยังเห็นไม่เด่น ชัด เข้าใจว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ราก หรือการ แก้ปัญหาที่โครงสร้างก็แล้วแต่ ไม่ควรใช้เวลานาน เกินไป เพราะนักธุรกิจบางคนที่ไม่อาจยืนได้ใน ระยะยาวจะทำ�ให้เกิดความเสี่ยงที่จะต้องปิดตัวลง ก่อนได้รับการแก้ไขจากรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหา เศรษฐกิจที่มีทั้งปัจจัยภายในประเทศและภายนอก ประเทศทั่วโลก ซึ่งเกิดการชะลอตัวด้วยเช่นกัน ปัญหาจากนโยบายรัฐบาลชุดที่ผ่านมาซึ่งล้วนส่ง ผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว การก่อปัญหา ค่าครองชีพสูงกว่ารายได้ ปัญหาหนี้สินครัวเรือน ซึ่งเป็นปัจจัยต่อเนื่องมา ดังนั้น การแก้ปัญหาจึง ต้องใช้ความสามารถเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ควรให้ผู้ที่ มีความรูค้ วามสามารถและเชีย่ วชาญเฉพาะด้านเข้า มาดูแลแก้ปัญหา น่าจะใช้เวลาไม่นานมากเกินไป นายเข็มชาติ กล่าวต่อว่า การนำ�มาตรา 44 มาใช้ ถ้า มองในด้านการแก้ปัญหา การป้องกัน หรือปราบ ปรามการกระทำ � อั น เป็ น การบ่ อ นทำ � ลายความ สงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของชาติ เป็นเรื่อง ดีเหมาะและควร แต่ในด้านการพัฒนาต้องขึ้นอยู่ ที่การยอมรับ ขึ้นอยู่กับผู้ที่นำ�มาใช้เหมาะสมหรือ ไม่ มีผลข้างเคียงมากน้อยแค่ไหน ในบางเรื่องอาจ ไม่เหมาะสมที่จะใช้ รัฐบาลควรแยกระหว่างการ พัฒนาเศรษฐกิจ กับความมั่นคง ออกจากกันให้ได้ ก่อน เพือ่ จะได้แก้ปญ ั หาให้ถกู ต้องและตรงประเด็น ในด้านการบริหารประเทศของคณะ คสช. และของ นายกรัฐมนตรีทผี่ า่ นมา มีความพอใจมากทีส่ ามารถ แก้ปัญหาความขัดแย้งได้อย่างเห็นผลชัดเจน แต่ การบริหารเศรษฐกิจที่ผ่านมา บอกได้เลยว่าไม่มี ความชัดเจน และยังไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆ ได้ เลย ทำ�ให้เริ่มมีความรู้สึกถึงความล่าช้ามากเกินไป ซึ่งจะทำ�ให้นักธุรกิจเริ่มลดความน่าเชื่อถือ และ หมดความเชื่อมั่นต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาลภาย ใต้การนำ�ของ คสช. นายเข็ ม ชาติ กล่ า วต่ อ ไปว่ า จั ง หวั ด ขอนแก่ น ยั ง มี ค วามโชคดี ที่ ส ามารถขั บ เคลื่ อ น เศรษฐกิจไปได้ตามกลไก เนื่องจากมีโครงสร้าง พื้นฐานที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ในเส้นทางการค้าการ คมนาคม และเป็นเมืองที่นักลงทุนทั้งชาวไทยและ ชาวต่างชาติให้ความสนใจ แต่ในการพัฒนาธุรกิจ หรือเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นในระดับประเทศ หรือ ระดับภูมิภาค หน่วยงานภาครัฐควรเปิดโอกาส ให้นักธุรกิจที่มีความชำ�นาญพิเศษเฉพาะทางได้ สื่ อ สารโดยตรงกั บ ส่ ว นกลาง เพื่ อ ให้ ก ารแก้ ไ ข ปั ญ หาเศรษฐกิ จ ในส่ ว นภู มิ ภ าคดำ� เนิ น ไปอย่ า ง ตรงเป้าหมายและเป็นรูปธรรม จากที่ผ่านมาเป็น เพียงหน่วยงานของจังหวัดที่รายงานภาพรวมของ เศรษฐกิจส่งส่วนกลางแบบวันเวย์ โดยที่นักธุรกิจ ไม่ มี ส่ ว นในรั บ ทราบถึ ง ปั ญ หาและสิ่ ง ที่ ค วรจะ แก้ไข จึงฝากถึงหน่วยงานภาครัฐที่ควรเปิดโอกาส ให้กับนักธุรกิจภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการแก้ ปัญหาเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคนั้นๆ เพื่อการมี ส่วนร่วมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของจังหวัด ต่อไป ด้าน นายอภิชาต สินธุมา ผูจ้ ดั การภูมภิ าค 1 บริษัท ซีพีแลนด์ จำ�กัด เปิดเผยว่า การบริหารงาน ของคณะรัฐมนตรีชุด คสช. ที่ผ่านมานอกจากไม่มี ความชัดเจนทีจ่ ะเห็นเป็นรูปธรรมในการแก้ปญ ั หา

ต่างจากการแก้ปัญหาด้านความมั่นคง ซึ่งเห็นเด่น ชัดในการแก้ปญ ั หาความขัดแย้ง ไม่มกี ารแบ่งพรรค แบ่งฝ่าย ทำ�ให้เกิดความสงบ ซึง่ น่าจะทำ�ให้ประเทศ ก้าวเดินต่อไปได้ หากการแก้ปัญหาด้านโครงสร้างต่างๆ ที่ ต่อเนื่องมาจากเดิม อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ การ ขยายสนามบินขอนแก่น การสนับสนุนให้จังหวัด ชายแดนเป็ น เขตเศรษฐกิ จ พิ เ ศษ และอี ก หลาย โครงการที่น่าจะเริ่มดำ�เนินการให้เป็นรูปธรรม บ้าง เพื่อให้นักธุรกิจที่มีความพร้อมกับการลงทุน ได้พัฒนาเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาคให้ขับเคลื่อนต่อ ไปได้ มิใช่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบลองผิดลอง ถูก ซึ่งรัฐบาลควรให้ผู้บริหารที่มีความสามารถ เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ให้ผู้ที่มีความถนัดในการ บริหารเศรษฐกิจเข้ามา เชื่อว่า จะทำ�ให้ปัญหาด้าน เศรษฐกิจคลี่คลายได้รวดเร็วกว่านี้ นายอภิ ช าต กล่ า วต่ อ ว่ า สำ � หรั บ การที่ รัฐบาลนำ�มาตรา 44 มาใช้ ในช่วงครึ่งปีหลังจาก ที่ความสงบของบ้านเมืองเกิดขึ้นแล้ว น่าจะล่าช้า เกินไป ทำ�ให้เศรษฐกิจหยุดชะงักทันที ในประเทศ อาจมองเหมือนไม่สง่ ผลกระทบมากนัก แต่ส�ำ หรับ นักลงทุนชาวต่างชาติ จะมองถึงความเป็นเผด็จการ และไม่มคี วามเชือ่ มัน่ ในการแก้ปญ ั หาทางเศรษฐกิจ ของรัฐบาลไทย ทำ�ให้ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ เสียหาย เป็นการใช้ในภาวะที่ไม่เหมาะกับการแก้ ปัญหาทางเศรษฐกิจ “ในสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ที่มีเงินถึงแม้จะ ยังใช้จ่ายอย่างปกติ แต่จะหยุดขยายธุรกิจหรือหยุด การลงทุนทุกประเภททำ�ให้เศรษฐกิจไม่เคลือ่ นไหว ส่วนประชาชนระดับรากหญ้าที่จำ�เป็นต้องใช้จ่าย หาเช้ากินคํา่ แต่เกิดปัญหาหนีค้ รัวเรือนสูง ในขณะ เดียวกัน สถาบันการเงินทัง้ ในภาคส่วนของรัฐและ ธนาคารพาณิชย์รวมทัง้ ไฟแนนท์ตา่ งไม่ปล่อยเงินกู้ ล้วนเป็นปัจจัยที่ยังรอคอยความชัดเจนจากรัฐบาล ที่จะทำ�ให้เกิดความเชื่อมั่นในการดำ�เนินกิจการต่อ ไปในทิศทางใด เชื่อว่า หากความชัดเจนยังไม่เกิด ขึ้นก่อนไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ อาจทำ�ให้ธุรกิจ SMEs และธุรกิจอีกหลายประเภทต้องปิดตัวเอง ลงไปอย่างแน่นอน โดยเฉพาะประชาชนระดับราก หญ้าที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด” นายอภิชาต กล่าวและว่า ในสถานการณ์ ภ าวะเศรษฐกิ จ หยุ ด การ เติบโต มองว่าน่าจะเป็นโอกาสดีของนักธุรกิจที่จะ ได้มีการสำ�รวจตัวเอง สำ�รวจความพร้อมของการ ขยายตัวทางธุรกิจอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา การสร้างความเจริญเติบโตทางวัตถุมากเกินความ ต้องการหรือไม่ เชื่อว่า เศรษฐกิจยังไม่น่าจะฟื้น นับจากนี้ไปจนถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2559 เพราะ ไม่มีปัจจัยบวกทั้งภายในประเทศที่ยังมองไม่เห็น การจัดสรรงบประมาณลงพื้นที่ให้เกิดการกระตุ้น เศรษฐกิจ หรือปัจจัยภายนอกประเทศทั่วโลกที่ เกิดวิกฤติทางธรรมชาติ ทั้งแผ่นดินไหว ทั้งปัญหา การชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศต่างๆ เอง ล้วนเป็นปัจจัยลบที่ยากจะทำ�ให้เกิดการกระ ตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ ปีนี้จึงเป็นปีที่นักธุรกิจ จะต้องประคองตัวเองให้รอด และจะต้องสำ�รวจ ตั ว เองเพื่ อ พั ฒ นาปั ญ หาต่ า งๆที่ เ กิ ด ขึ้ น ให้ เ ป็ น ประสบการณ์ และรอโอกาสที่เหมาะสมต่อไป

ต้นกล้า ทูโกล

• ต่อจากหน้า 1

เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2558 ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ ขอนแก่ น นายสมิ ง ยิ้ ม ศิ ริ ประธานหอการค้ า จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุม เชิงปฏิบัติการในหัวข้อ ไขรหัส เทคนิคขยายเครือ ข่าย SMEs สู่อาเซียน ตามโครงการ SMEs ไทย สู่เวทีการค้าสากล ประจำ�ปี 2558 หรือ ต้นกล้า ทูโกล ซึ่ง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันองค์ความรู้ด้านการ ค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับ สำ�นักงานส่งเสริม การค้าระหว่างประเทศ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้กำ�หนดจัดการประชุมขึ้นท่ามกลางความสนใจ จากผู้ประกอบการจากทั้ง 20 จังหวัดภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือเข้าร่วมในการประชุมดังกล่าวรวม กว่า 200 คน นายอฐิคม ตันติวงศ์ ผูอ้ �ำ นวยการสำ�นักงาน

เหนือ กล่าวว่าการเสริมสร้างและพัฒนาองค์ความ รู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจการค้าระหว่าง ประเทศในด้านต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบ การขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEs เป็นสิ่ง ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะยังคงให้ ความสำ�คัญและเข้าไปสร้างเครือข่ายพันธมิตรทาง ธุรกิจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ ซึ่งภาคอีสานเป็น ภูมิภาคที่มีสัดส่วนของกลุ่มผู้ประกอบในขนาด เล็ก, กลาง และใหญ่เป็นจำ�นวนมากไม่แพ้ภูมิภาค ต่างๆ ของไทย การเฟ้นหาผูป้ ระกอบการรายใหม่ เข้าร่วม โครงการต้นกล้าทูโกล ในปีนี้ยังคงเน้นหนักไปใน กลุ่มผู้ประกอบการสินค้าประเภทแฟชั่น, ค้าปลีก, สมุนไพร, ร้านอาหาร, บริการและแฟรนไชส์ มา ทำ�ความเข้าใจและเปิดโอกาสให้กลุม่ ธุรกิจในระดับ ภูมภิ าคได้เข้าสูก่ ระบวนการขอรับการส่งเสริมด้าน การค้าระหว่างประเทศในสัดส่วนทีเ่ พิม่ ขึน้ โดยไม่ ต้องเดินทางไปถึงส่วนกลาง ทั้งยังคงสร้างความ เข้มแข็งและความแข็งแกร่งในการประกอบธุรกิจ ที่เป็นกระบวนการตามแบบฉบับของมืออาชีพจน นำ�ไปสู่การขยายธุรกิจในต่างประเทศได้ “ผู้ประกอบการที่สมัครเข้าร่วมโครงการ ต้นกล้า ทูโกล จะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ แยกเป็นการ เข้าร่วมสัมมนาฯดังกล่าว โดยหลังจากการสัมมนา คณะกรรมการผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนา ธุ ร กิ จ จะทำ � การคั ด เลื อ กผู้ ป ระกอบการเข้ า ร่ ว ม โครงการเพื่อเข้าสู่ระยะที่ 2 คือการเทรนนิ่ง ตาม หลักสูตรที่กระทรวงพาณิชย์กำ�หนด จากนั้นจะ เป็นการตรวจสอบคุณสมบัตแิ ละส่งเสริมมาตรฐาน สินค้า ท้ายทีส่ ดุ คือการเข้าสูช่ อ่ งทางการจำ�หน่ายใน ตลาดต่างประเทศในรูปแบบต่างๆ ตามที่ กระทรวง พาณิชย์ได้กำ �หนดไว้ ทั้งหมดถือเป็นขั้นตอนที่ สมบูรณ์แบบทีส่ ามารถส่งเสริมธุรกิจในระดับท้อง ถิ่น ที่สามารถก้าวเข้าสู่ตลาดการค้าระดับสากลได้ ตรงตามความต้องการของลูกค้าอย่างชัดเจนทีส่ ดุ ” ขณะที่นายสมิง ยิ้มศิริ ประธานหอการค้า จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ไตรมาสที่ 2 ต่อเนื่อง ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ภาคธุรกิจเอกชนในระดับ ภูมิภาคเริ่มซบเซามากขึ้น การค้า การลงทุน ชะลอ ตัวอย่างมาก ซึ่งผู้ประกอบการเริ่มมีเสียงสะท้อน ไปยังรัฐบาลในด้านต่างๆ ที่จะได้รับการช่วยเหลือ หรือแรงสนับสนนุจากภาครัฐในอัตราส่วนที่เพิ่ม ขึน้ ทัง้ ในเรือ่ งของการเร่งรัดงบประมาณรายจ่ายให้ กับระดับภูมภิ าคเพือ่ เสริมสภาพคล่องให้กบั หน่วย งานของรัฐและภาคประชาชน การหาช่องทางการ ตลาดเชือ่ มโยงระหว่างภูมภิ าคและนานาชาติทเี่ พิม่ ขึ้น ดีกว่าจะไปทำ�โครงการอะไรที่ได้ผลประโยชน์ เพียงเฉพาะกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด “ภาพรวมในเรื่ อ งปั ญ หาปากท้ อ งและ เศรษฐกิจ ยังคงเป็นประเด็นที่สำ�คัญที่รัฐบาลจะ ต้องให้ความสำ�คัญและใส่ใจอย่างมากในระยะนี้ อย่างไรก็ตามการประชุมฯดังกล่าว จะส่งผลต่อ การที่ผู้ประกอบการสามารถเขียนแผนธุรกิจทั้ง ในระยะสั้นและระยะยาวได้อย่างถูกต้องและเป็น มาตรฐานระดับสากล ที่จะส่งผลต่อการขยายการ ลงทุนทางธุรกิจในอนาคตให้กับผู้ประกอบการใน ระดับภูมิภาคได้อย่างตรงจุดที่สุด”

ปากีสถานรุกหนัก

• ต่อจากหน้า 1

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2558 ที่ห้องประชุมหอ การค้าจังหวัดอุดรธานี นายสุวัฒน์ วิไลง่าม รอง ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ฝ่ายการพาณิชย์ ให้การต้อนรับ นายอาต้า-อูลมูนิม ซาฮิด( Mr.Ataul Munim Shahid) อุปทูตประจำ�สถานเอกอัครร าชทูตปากีสถานประจำ�ประเทศไทย และ นายนา ซิม ลาตีฟ ( MR.Nazim Latif) ที่ปรึกษาฝ่ายการ พาณิชย์ โดยมีคณะกรรมการหอการค้าฯ ฝ่ายต่างๆ ร่วมให้การต้อนรับ และประชุมปรึกษาหารือเพื่อ หาแนวทางในการร่วมกันดำ�เนินธุรกิจการค้า การ ลงทุนร่วมกันระหว่างประเทศปากีสถาน และภาค อีสานตอนบนโดยเฉพาะพืน้ ทีจ่ งั หวัดอุดรธานี หลัง จากการเปิดเป็น AEC ในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้นาย อาต้า อูล มูนิม ซาฉิด อุปทูต ปากี ส ถาน กล่ า วนำ � ถึ ง สาเหตุ ที่ ท างสถานทู ต ปากีสถาน ให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานทูต เดินทางไปพบปรึกษาหารือกับหอการค้าจังหวัด

พบปะกั บ ทางหอการค้ า จั ง หวั ด เชี ย งใหม่ แ ล้ ว และหอการค้าจังหวัดอุดรธานีนี้ เป็นแห่งที่สอง ในโอกาสต่อไปก็จะเดินทางไปพบกับหอการค้า จั ง หวั ด ในภาคใต้ ข องประเทศไทย เพื่ อ แนะนำ � ประเทศปากีสถาน และการทำ�ธุรกิจในด้านต่างๆ เพื่อเป็นการชักชวนและหาพันธมิตรร่วมในการ ทำ�ธุรกิจ การค้า การลงทุนร่วมกัน ในส่วนการค้าระหว่างประเทศปากีสถาน และประเทศไทยในปี ค.ศ. 2013ที่ผ่านมานั้น มี มู ล ค่ า การค้ า ทั้ ง สิ้ น มากกว่ า 3 แสนล้ า นบาท (มากกว่า 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ : US$ 1 billion) โดยประเทศปากี ส ถานส่ ง สิ น ค้ า มายั ง ประเทศ ประมาณ 20% สินค้าหลักที่ส่งมายังประเทศไทย ได้ แ ก่ สิ น ค้ า สิ่ ง ทอ พรมทอด้ ว ยมื อ ข้ า วสาลี ฯลฯ สาเหตุ ที่ ป ระเทศปากี ส ถานส่ ง สิ น ค้ า มา ประเทศไทยยังน้อยอยู่ ปัญหาหลักได้แก่ปญ ั หาภาษี และประเทศไทยส่งสินค้าไปประเทศปากีสถาน ประมาณ 80% ได้แก่ รถยนต์ สินค้าการเกษตร เช่นข้าว ยางพารา เครื่องอิเลคทรอนิกส์ เครื่อง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ นอกจากนี้แล้ว นายซาฮิดฯ ยังได้กล่าว ว่า สาเหตุที่ทางสถานทูตปากีสถานเลือกเจาะจง ที่เดินทางมาพบกับทางหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ในครั้งนี้ เนื่องจากจังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัด ใหญ่ ที่สำ�คัญเนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีการติดต่อ ทำ�การค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน คือประเทศ สปป. ลาว เวียดนาม และประเทศจีนตอนใต้ และมอง ว่าจังหวัดอุดรธานีมีศักยภาพเพียงพอที่จะใช้เป็น จุดเชื่อมโยงไปยังประเทศต่างๆในกลุ่มประเทศ อาเซียน หลังจากที่มีการเปิดเป็น AEC แล้ว พร้อม กันนี้ก็ได้กล่าวชักชวนให้นักธุรกิจในภาคอีสาน ตอนบนโดยเฉพาะจากจังหวัดอุดรธานี ให้เข้าไป ลงทุนทำ�ธุรกิจในสาขาต่างๆในประเทศปากีสถาน ผ่านสมาคมธุรกิจไทย- ปากีสถาน ซึ่งมีสำ�นักงาน อยู่ที่กรุงเทพฯ ในส่วนประเทศปากีสถานนั้น มี นักลงทุนชาวปากีสถานเข้ามาลงทุนทำ�โรงงาน อุตสาหกรรมสิ่งทอ ที่จังหวัดนครราชสีมาแล้ว ซึ่ ง เจ้ า หน้ า ที่ ร ะดั บ สู ง ของสถานทู ต ปากี ส ถาน ยั ง ได้ มี ก ารสอบถามข้ อ มู ล ด้ า นการ ค้า และด้านอุตสาหกรรมชนิดต่างๆของจังหวัด อุดรธานี และยังได้สอบถามถึงความก้าวหน้าการ ดำ�เนินงานของนิคมอุตสาหกรรมสีเขียวจังหวัด อุดรธานี ที่ตำ�บลโนนสูง นอกจากนี้แล้ว นาย นา ซิม ลสตีฟ ที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ สถานทูต ปากีสถาน กล่าวเสริมว่า ที่ประเทศปากีสถาน จะ มีการจัดงานแสดงสินค้าทุกปี ที่ผ่านมาเคยมีนัก ธุรกิจ จากจังหวัดภาคใต้ของประเทศไทยเดินทาง ไปร่วมในงานดังกล่าว จึงอยากจะเชิญให้นักธุรกิจ จากทางภาคอีสาน เดินทางไปร่วมในงานดังกล่าว ด้วย เพื่อเป็นการเปิดโอกาสและหาลู่ทางในการ ดำ�เนินธุรกิจร่วมกันในอนาคต ทัง้ นีข้ อให้แจ้งผ่าน ทางสมาคมธุรกิจไทย-ปากีสถาน ที่กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม นายสุวัฒน์ วิไลง่าม รอง ประธานหอการค้าฝ่ายพาณิชย์ ได้มีการสอบถาม กับ นายซาฮิดฯถึงการทำ� FTA ระหว่างประเทศ ปากีสถาน – ประเทศไทยว่า ได้มีการดำ�เนินการ แล้วหรือยัง ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า ขณะนี้ประเทศ ปากีสถาน ได้มกี ารลงนาม FTA กับประเทศในกลุม่ ประเทศอาเซียนแล้ว 2 ประเทศ คือ มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ส่วนประเทศไทยนั้น ทั้งสองประเทศ ได้มีการพูดคุยเบื้องต้นแล้ว คาดว่าจะสามารถลง นามได้ในอีกไม่นาน เพราะทัง้ สองประเทศได้มกี าร ดำ�เนินในกรณีดังกล่าวมาแล้วในรัฐบาลที่แล้ว นายโสภณ พนาสวั ส ดิ์ ว งศ์ กรรมการ หอการค้าจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่าถือว่าเป็นเรือ่ ง ทีด่ ี ทีท่ างสถานทูตปากีสถานให้ความสนใจจังหวัด อุดรธานี และเดินทางมาขอรับทราบข้อมูลในด้าน ต่างๆ แม้วา่ จะเป็นเพียงการเริม่ ต้นครัง้ แรก ซึง่ เชือ่ ว่าน่าที่จะมีการสานต่อในกรณีดังกล่าว

ทีเส็บ เร่งเครื่อง

• ต่อจากหน้า 1

สำ � นั ก งานส่ ง เสริ ม การจั ด ประชุ ม และ นิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เดิน หน้าผสานความร่วมมือตามกรอบการดำ�เนินงาน กลยุทธ์องค์กร “Khon Kaen Mice City” ผ่าน 5 แผน ยุทธศาสตร์หลัก มุง่ พัฒนาสูก่ ารเป็นเมืองศูนย์กลาง

โอกาสทางธุรกิจในระดับอนุภาคลุม่ นํ​ํา้ โขง ในขณะ เดียวกัน จังหวัดขอนแก่นทุ่มงบประมาณกว่า 79 ล้านบาท ผ่าน 59 โครงการ เร่งพัฒนาศักยภาพทาง เศรษฐกิจและการลงทุนตามแผนพัฒนา 3 ปี รองรับ การเติบโตของเมืองขอนแก่น เมือ่ วันที่ 28 พฤษภาคม 2558 ทีห่ อ้ งประชุม คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมเซนทาราขอนแก่น นายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รองผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น ร่วมกับ นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้ อำ�นวยการสำ�นักงานส่งเสริมการจัดประชุมและ นิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เป็น ประธานเปิดโครงการไทยแลนด์ ไมซ์ มาร์ท ครั้ง ที่ 2 “2th Thailand Domestic MICE Mart (TDMM 2015)” โดยมีผปู้ ระกอบการในธุรกิจโรงแรม การจัด สัมมนา การท่องเที่ยว เข้าร่วมงานจำ�นวนมาก นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำ�นวยการ สำ�นักงาน ส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การ มหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวในพิธีเปิดงาน “ไทย แลนด์ไมซ์มาร์ท ครัง้ ที่ 2 จังหวัดขอนแก่น ว่า ทีเส็บ มีนโยบายขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ ของจังหวัดขอนแก่น ตามแผนแม่บทไมซ์ซติ ี้ (พ.ศ. 2557-2561) เพื่อให้จังหวัดขอนแก่นเป็นศูนย์กลาง การจัดประชุมสัมมนาและการแสดงสินค้าที่สร้าง โอกาสทางธุรกิจในอนุภาคลุม่ นํ​ํา้ โขง โดยเร่งดำ�เนิน การภายใต้ 5 แผนยุทธศาสตร์หลัก คือ ผลักดันให้ มีการจัดงานไมซ์อย่างต่อเนื่อง, ยกระดับมาตรฐาน บริการสู่ระดับสากล, สร้างเครือข่ายความร่วมมือ ในประเทศและอนุภาคลุ่มนํ​ํ้าโขง, ส่งเสริมและ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตลอดจนสิ่งอำ�นวยความ สะดวก และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพื่อนำ�ไปสู่ผู้นำ�ด้านธุรกิจไมซ์ในอนุภาคลุ่มนํ​ํ้าโขง ผ่านการสร้างแบรนด์ “แผนการดำ�เนินงานยังอยูใ่ นช่วงที่ 1 (พ.ศ. 2557-2558) มุง่ เน้นสร้างความพร้อมโครงสร้างพืน้ ฐาน การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ สร้างเครือ ข่ายความร่วมมือในระดับท้องถิ่นและกระตุ้นการ จัดงานให้ผ่านเข้าสู่ระยะที่ 2 (พ.ศ.2559-2560) เป็นการขยายกรอบการทำ�งานเพิ่มความมั่นใจใน การเป็นศูนย์กลางไมซ์ และส่งเสริมการจัดงาน ระดับเมกะโปรเจค ความร่วมมือระหว่างประเทศ มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อพัฒนาให้จังหวัดขอนแก่นก้าว สู่การเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ที่เข้มแข็งและยั่งยืน” นาย นพรัตน์ กล่าวและว่า นอกจากนี้ ที เ ส็ บ ยั ง ดำ � เนิ น งานภายใต้ กลยุทธ์การพัฒนาตลาดไมซ์ภายในประเทศ 4 ด้าน เพื่อส่งเสริมธุรกิจไมซ์ในจังหวัดขอนแก่น อาทิ กลยุทธ์การเปิดตัวแคมเปญประชุมเมืองไทยภูมิใจ ช่ ว ยชาติ เน้ น การสร้ า งกิ จ กรรมไมซ์ ใ นจั ง หวั ด พร้อมกับขยายศักยภาพเมืองไมซ์ในจังหวัดพื้นที่ ภาคอีสานที่สามารถรองรับการประชุมและการ แสดงสินค้าในประเทศ กลยุทธการขยายตลาดใน พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและกลุ่มประเทศ CLMV กลยุทธ์ส่งเสริมจัดประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็น รางวั ล ในพื้ น ที่ โ ครงการพระราชดำ � ริ แ ละแหล่ ง ท่องเที่ยวเขตทหาร เช่น การจัดประชุมสัมมนา ในอุ ท ยานศู น ย์ กิ จ กรรม มณฑลทหารบกที่ 23 การสร้างสรรค์งานแสดงสินค้าใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น ในจั ง หวั ด ขอนแก่ น อย่ า งต่ อ เนื่ อ ง การจั ด งาน อุตสาหกรรมแฟร์ การยกระดับมาตรฐานการจัด งานระดั บ ท้ อ งถิ่ น สู่ ร ะดั บ ภู มิ ภ าคอย่ า งเช่ น งาน มหกรรมหนังสือภาคอีสานที่จะเกิดขึ้นในเดือน สิงหาคม 2558 และยังมีงานกิจกรรมระดับภูมิภาค ในจังหวัดขอนแก่นอีกมากมายที่ประกาศศักยภาพ ความเป็นเมืองไมซ์ นายนพรัตน์ กล่าวต่อไปว่า จากสถิตนิ กั เดิน ทางกลุม่ ไมซ์ในปี 2557 ของจังหวัดขอนแก่นทีผ่ า่ น มา จำ�นวน 280,440 ราย สร้างรายได้ 730.28 ล้าน บาท ขณะที่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ 2 ในไตรมาสแรก ของปีงบประมาณ 2558 มีจ�ำ นวน 1,585,043 ราย คิดเป็นรายได้ 5,659.10 ล้านบาท โดยจำ�นวนนัก เดินทางกลุม่ ไมซ์ทเี่ พิม่ สูงขึน้ ส่วนใหญ่มาจากกลุม่ ผู้ เข้าร่วมงานแสดงสินค้าถึง 1,518,825 คน และกลุม่ ประชุมนานาชาติ 54,966 คน กลุ่มประชุมองค์กร 11,252 คน นายศิวาโรจน์ มุง่ หมายผล รองผูว้ า่ ราชการ จั ง หวั ด ขอนแก่ น เปิ ด เผยว่ า จั ง หวั ด ได้ จั ด งบ

12 ล้านบาท เพื่อดำ�เนินการตามแผนแม่บทที่วาง ไว้ โดยเฉพาะการดำ�เนินโครงการศูนย์กลางประชุม นานาชาติ และท่องเทีย่ วยุคก่อนประวัตศิ าสตร์ การ จัดทำ�สือ่ ประชาสัมพันธ์ ไกด์บคุ๊ ฉบับภาษาไทยและ ภาษาต่างประเทศ กิจกรรมโรดโชว์ในประเทศ การ สร้างเครือข่ายไมซ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้ จัดตั้งศูนย์ ขอนแก่นไมซ์ซิตี้ เพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูล การจัด อบรมบุคคลากรรองรับ AEC ยกระดับสู่มาตรฐาน สากล นอกจากนี้ จังหวัดขอนแก่นยังได้ดำ�เนิน งานสอดรับแผนยุทธศาสตร์หลักของจังหวัดซึ่ง ประกอบด้วย 3 พันธกิจหลักคือ เสริมสร้างชุมชน เข้มแข็ง พัฒนาให้เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน และ พัฒนาให้เป็นศูนย์กลางกลุ่มประเทศอนุภาคลุ่มนํ​ํ้า โขง ดังนั้น อุตสาหกรรมไมซ์จึงเป็นกลไกในการ ร่วมผลักดันขอนแก่นให้พัฒนาสู่การเป็น “ไมซ์ ซิตี้” ศูนย์กลางการจัดประชุมสัมมนา และงาน แสดงสินค้าแห่งภาคอีสาน รองรับกลุ่มลูกค้าทั้งใน ประเทศและต่างประเทศ กลุม่ อินโดจีน และจีนตอน ใต้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าว นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น กล่าวว่า การที่จังหวัดขอนแก่นได้ รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 5 เมือง MICE CITY ของ ประเทศไทย ซึ่ ง ขอนแก่ น มี ค วามพร้ อ มทั้ ง ด้ า น โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค สิ่งอำ�นวยความ สะดวก การมีแผนแม่บทและกลยุทธ์ในการพัฒนา ทีช่ ดั เจน รวมทัง้ หน่วยงานเครือข่าย การได้รบั ความ ร่วมมือที่เข้มแข็งจากทุกภาคส่วน การเชื่อมโยงกับ องค์กรในพื้นที่จังหวัด นับเป็นการร่วมพัฒนาใน อนาคตให้ดียิ่งขึ้น โดยเทศบาลนครขอนแก่นได้มี การวางแผนพัฒนา 3 ปี (พ.ศ.2557-2559) เพื่อให้ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์หลักของจังหวัด ซึ่ง เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์โดยตรง การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ซึ่ง จะต้องพัฒนาระบบการคมนาคม ปรับปรุงระบบ โครงสร้างพื้นฐานและผังเมือง พัฒนาเศรษฐกิจ และเงินทุนเพื่อจัดการด้านโครงสร้าง ซึ่งถือเป็น ปัจจัยสำ�คัญในการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจ และการลงทุน ตลอดจนด้านการศึกษา เรื่องระบบ ขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าบีอาร์ที รวมถึงการจัดสร้าง ศูนย์แสดงสินค้าแห่งใหม่ที่ได้มาตรฐานยกระดับ สากลในจังหวัดขอนแก่น โดยมีโครงการรวม 59 โครงการ ภายใต้วงเงินงบประมาณ 78,964,000 บาท อาทิ ระบบขนส่งมวลชนและการจราจร การเพิม่ ผิว จราจร การพัฒนาพื้นที่จัดสรรที่ดินเฉพาะ รวมถึง การพัฒนาและสร้างโอกาสในการใช้แหล่งท่องเทีย่ ว นายธีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยัง มีโครงการส่งเสริมให้จังหวัดขอนแก่นเป็นเมือง แห่งเทศกาล หรือ E-veant City โดยนำ�จุดเด่นของ จังหวัดมาผสานผ่านแคมเปญ “OK KhonKaen” ภายใต้กรอบ “สืบสานวัฒนธรรมประเพณี เสริม สร้างพื้นที่ทางเศรษฐกิจ” เพื่อดึงดูดให้เกิดความ น่าสนใจกับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ ทั้งชาวไทยและ ชาวต่างชาติตลอดทั้งปี อาทิ งานเทศกาลหนังเมือง แคน, งานมหัศจรรย์พรรณไม้นานาชาติ, งานขอน แก่นเคาท์ดาวน์, งานขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ, งานวันเกษตรภาคอีสาน และงานเทศกาลหม่อน ไหมนานาชาติ “ที เ ส็ บ ให้ ค วามสำ � คั ญ ในการสนั บ สนุ น ส่งเสริมและพัฒนาให้จังหวัดขอนแก่นเป็น 1 ใน 5 ของเมืองไมซ์ซิตี้ของประเทศร่วมกับ กรุงเทพฯ เชี ย งใหม่ ภู เ ก็ ต และพั ท ยา โดยเฉพาะการจั ด กิจกรรมส่งเสริมการขายงาน “ไทยแลนด์มาร์ท ครั้งที่ 2” ภายใต้การประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วย ชาติประจำ�ปี 2558 ซึง่ จะเป็นกิจกรรมทีช่ ว่ ยกระตุน้ ตลาดไมซ์ในประเทศ และเป็นส่วนหนึง่ ในการผลัก ดันอุตสาหกรรมไมซ์ภายในประเทศ หรือ D-MICE เชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตขึ้นอีกร้อยละ 5 คิดเป็น นักเดินทางกลุ่มไมซ์จำ�นวน 15.23 ล้านคน สร้าง รายได้ 33,069 ล้านบาท”นายธีระศักดิ์ กล่าว

สนใจพื้นที่โฆษณา ติดต่อ คุณสุพัตรา thaisaeree@gmail.com thaisaeree@yahoo.com


หน้า 12

ปีที่ 13 ฉบับที่ 133 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2558

ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ต.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา ปรกชล ศุขโข กองบรรณาธิการ เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,

ประคอง หนูราช,พันธ์ศักดิ์ วีระชัย,เสริมศักดิ์ ขาวโกมล สำ�นักงาน 76 ม.20 ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 โทรศัพท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย 78 หมู่ 4 ถนนเฉลิมพระเกียรติ์ ต.เมือง อ.เมือง จ.หนองคาย 43000 ที่ปรึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอื้อดีไซน์ 08-3417-0363


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.