หนังสือพิมพ์ไทยเสรี ฉบับที่ 145

Page 1

ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนมิ น ถกุนายน า ร 2559 ณ์

ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่

w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1

ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ประจำ�เดือนมิถนุ ายน 2559 ราคา 10 บาท

แอลทีกรุป๊ รุกเปิด“ฮาร์เบอร์แลนด์” สวนสนุกในร่มแห่งแรกในอีสาน ธีมสไตล์คาวบอย รำ�ลึกถึงแยงกี้ หนุนสร้างรถไฟฟ้ารางเบา ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ร่วมกับชาวขอนแก่นทั้งภาคราชการ ธุรกิจเอกชน ภาคประชาชน ท้องถิ่น และสื่อมวลชน ยื่นหนังสือให้กับตัวแทน สนข.เพื่อให้การสนับสนุน ขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าระบบรางเบา ใน การประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 การศึกษาออกแบบรายละเอียดขนส่งสาธารณะใน เขตจังหวัดขอนแก่นและผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อศึกษาวิเคราะห์หาความเหมาะสมของ ระบบขนส่งสาธารณะของเมืองขอนแก่น

ขอนแก่นหนุนสร้าง “รถไฟฟ้ารางเบา” พร้อมยกระดับเป็นเมือง smart city’ วอน สนข.สนับสนุน ระบบรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) ยืนยันผลสำ�รวจตอบสนองความต้องการได้มากกว่า รถ BRT ทั้งจะกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสถานีให้ดี ขึ้นได้ และพร้อมจะต่อยอดให้ขอนแก่นเป็นเมือง อ่านต่อหน้า 2 smart city

ของดีเมืองอุดร ปี 2559 ; นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานเปิดงานของดีเมืองอุดร the best of udonthani ปี 2559 โดยมีบุคคลสำ�คัญในจังหวัดอุดรธานีร่วมงานคับคั่ง ภายใต้โครงการ ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการลงทุนตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำ�ปีงบประมาณ 2559 ณ ลานโปรโม ชั่นชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า อุดรธานี

รถเมล์ ติ ด แอร์ “ขอนแก่นซิตี้บัส” 15 บาท ตลอดสาย

คิง เพาเวอร์ ซือ้ หุน้ ไทยแอร์เอเชีย ร่วมกันสยายปีกต่อยอดธุรกิจ

ขอนแก่น ทุ่มงบ กว่า 33 ล้านบาท พั ฒ นาระบบรถ ทินกร ทองเผ้า โดยสารสาธารณะรู ป แบบใหม่ ด้วยระบบที่ทันสมัย “ขอนแก่น ซิตี้บัส” บริการตลอด 24 ชั่วโมง ให้เป็นอีกทางเลือกสำ�หรับการ เดินทาง

หนุ น นทท.หญิ ง จั ด โซนนิ่ ง พื้ น ที่ เ กษตร กล้าชอปมากกว่าชาย ตัง้ เป้าเป็นSmart Farmer

แอลทีกรุป๊ ขยายไลน์ธรุ กิจใหม่ เจาะเป้าหมายกลุ่มครอบครัว เปิดสวนสนุกในร่มแห่งที่ 2 บนตึกคอมอุดรธานี ด้วยงบ ลงทุ น 50 ล้ า นบาท คาด ให้การตอบรับดีเช่นเดียวกับ พัทยา เชื่อศักยภาพอุดรธานี นั ก ธุ ร กิ จ เ มื อ ง พาธุรกิจไปโลด อ่านต่อหน้า 11

อ่านต่อหน้า 2

ททท.กระตุ้นคนไทยเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น หรื อ หน้ า ฝน ชี้ ช่ ว งนี้ แ หล่ ง ท่ อ งเที่ ย ว ธรรมชาติสวยงาม เตรียมเปิดตัวทูตท่อง เที่ยวคนใหม่ หันมาส่งเสริมให้นักท่อง เทีย่ วผูห้ ญิงเดินทางให้มากขึน้ เพราะวิจยั พบกล้าใช้จ่ายมากกว่าชาย อ่านต่อหน้า 11

กลุ่ ม บริ ษั ท คิ ง เพาเวอร์ ซื้ อ หุ้ น ไทยแอร์ เอเชีย หวังผนึกกำ�ลัง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่แห่ง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและคมนาคมเติบโตไป ด้วยกัน โดยมีธรรศพลฐ์เดินหน้าบริหารไทย แอร์เอเชียต่อ และยืนยันแผนการขยายธุรกิจ อ่านต่อหน้า 11 ตามเป้าหมายเดิม

อุดรธานี สนองนโยบายรัฐ เร่งจัดโซนนิง่ พืน้ ที่ การเกษตร ระดมพลลงพื้นที่ถ่ายทอดความ รู้เ กษตรรูปแบบใหม่ใ ห้แก่เ กษตรกร ลด ต้นทุน เพิ่มผลผลิตและคุณภาพ เป้าหมาย ให้เป็น Smart Farmer อ่านต่อหน้า 11


หน้า 2 หนุนนทท.หญิง

ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2559 อง จำ�กัด หรือ KKTT นายกฤษดา อา สาธารณะของเมืองขอนแก่น ศึกษาความเหมาะสม ของไทยทีม่ รี ะบบขนส่งมวลชนเป็นของตนเอง นอก • ต่อจากหน้า 11 พัรัมฒภ์นาเมื วิโรจน์ ประธานฝ่ายเทคนิค บริษัท จัมป์อัพ ด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และออกแบบ เหนือจากกรุงเทพฯ ซึ่งขอนแก่นจะกลายเป็นต้น

อาหารประจำ�ถิน่ เช่นทีจ่ งั หวัดอยุธยา ก็มกี ว๋ ยเตีย๋ วเรือ อยุธยา ซึง่ คนกรุงเทพฯต้องลงทุนขับรถจากกรุงเทพฯ ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือถึงจังหวัดอยุธยา ซึ่งในแต่ละภาค แต่ละจังหวัดก็มีอาหารประจำ�ถิ่นของตัวเอง เช่น ที่ จั ง หวั ด อุ ด รธานี มี ล าบเป็ ด อุ ด ร ที่ ปั จ จุ บั น นี้ มี ค น จังหวัดอืน่ หรือทีก่ รุงเทพฯ ก็มรี า้ นลาบเป็ดอุดร หลาย แห่ง แต่เชื่อได้ว่า รสชาติ จะไม่เหมือนกับต้นตำ�รับทำ� ที่จังหวัดอุดรธานี หรือเช่นข้าวจี่ยัดใส้ ซึ่งเป็นอาหาร ของเวียดนามผสมไทย เป็นขนมปังเวียดนาม/ฝรัง่ เศส ยัดไส้กุนเชียง หมูยอ ปิ้งหรืออบให้ร้อนกินกับกาแฟ ตอนเช้า ที่กำ�ลังเป็นของฝากเมืองอุดรฯ ที่วางขายอยู่ ที่สนามบินอุดรธานี หรือแม้กระทั้งส้มตำ� ซึ่งรสชาติ ก็ไม่เหมือนจังหวัดอื่น ฯลฯ สำ�หรับจังหวัดขอนแก่น เป็นเมืองศูนย์กลาง ที่มีศักยภาพหลายด้าน มีการคมนาคมที่เป็นเส้นทาง โลจิสติกสามารถเชื่องโยงสู่จังหวัดและภูมิภาคต่างๆ ทัง้ ในและต่างประเทศ และทีส่ �ำ คัญ การสร้างกิจกรรม ต่างๆ ภายในจังหวัดขอนแก่นทีผ่ า่ นมาล้วนได้รบั ความ นิยม ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล อาทิ การจัด คลืน่ มนุษย์ถนนข้าวเหนียว ในเทศกาลสงกรานต์ การ จัดงานวันเกษตรภาคอีสาน งานมหัศจรรย์พรรณไม้ และอีกหลายกิจกรรม และในขณะเดียวกันในช่วงที่ ไม่มีกิจกรรม ยังอยากให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีการ สำ�รวจหรือเทีย่ วไปในสถานทีต่ า่ งๆ ในจังหวัด และนำ� มาเผยแพร่ในช่องทางการสือ่ สารต่างๆ ทัง้ นี้ นอกจาก เป็นการเผยแพร่ความสวยงามน่าสนใจออกสู่สายตา ของประชาชนทัง้ ในและต่างประเทศให้เป็นทีร่ จู้ กั และ อยากเข้ามาชื่นชมความสวยงาม เชื่อว่าการท่องเที่ยว ในพื้นที่ท้องถิ่นตนเอง นอกจากเป็นการศึกษาเรียน รู้พื้นที่ที่ตนเองอยู่อย่างท่องแท้แล้ว ยังเป็นการช่วย กระตุ้นเศรษฐกิจ และขอนแก่นเป็นเมืองศักยภาพที่ สามารถสร้างแรงจูงใจให้ประชาชน และนักท่องเทีย่ ว สามารถเข้ามาในพืน้ ที่ ซึง่ จะช่วยกระตุน้ การท่องเทีย่ ว ในภูมิภาคควบคู่ความกับความเจริญเติบโตของเมือง นอกนีแ้ ล้วก็ยงั กิจกรรมทีท่ อ้ งถิน่ ต่างๆมีต�ำ นาน มีเรือ่ ง เล่าขานมาตั้งแต่โบรํ่าโบราณ ซึ่งในแต่ละภาค แต่ละ จังหวัด แต่ละท้องถิ่น ต่างก็มีเรื่องเล่าถึงสถานที่ สิ่ง ปลูกสร้าง หรือเรื่องราวต่างๆในแต่ละท้องถิ่น เรื่อง ราวทีเ่ ป็นเรือ่ งทีม่ กี ารบอกเล่ากันต่อๆมา จนกลายเป็น กิจกรรมเขาเล่าว่า ซึ่งในแต่ละเรื่อง แต่ละแห่งนั้น ก็มี เรื่องราวตำ�นานการเล่าขาน บอกเล่าต่อๆกันมา เป็น ชั่วอายุคน ซึ่งอาจจะกลายเป็นเรื่องเชื่อมโยงจากอดีต มาถึงปัจจุบันได้ ซึ่งคนที่เป็นมัคคุเทศก์หรือไกด์นำ� เทีย่ ว ควรทีต่ อ้ งค้นคว้าหรืออาจจะใช้ปราชญ์ชาวบ้าน เป็นผู้เล่าเรื่องให้ฟัง นายพิชยา กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา สำ�นักงาน การท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทยจะมีการกระตุน้ กระแส การท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ไม่ใช่ ช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเป็นการร่วมมือกับผู้ประกอบการใน พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นทางเลือก สำ�หรับประชาชนที่ไม่ชอบการท่องเที่ยวในเทศกาล ซึ่งอาจมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการมาก ทำ�ให้เกิด ความแออั ด ซึ่ ง การท่ อ งเที่ ย วในช่ ว งโลว์ ซี ซั่ น จะ เป็นการเที่ยวที่ใช้งบประมาณการใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ทำ�ให้ประชาชนมีทางเลือกและสามารถเข้าถึงแหล่ง ท่องเที่ยวได้ในสถานที่ที่ต้องการได้มากขึ้น “อย่างไรก็ตาม หากพื้นที่ภาคอีสานสามารถ ดึงจุดเด่นที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในเชิง ศึกษาค้นคว้าเรียนรูแ้ ล้ว ยังมีสถานทีเ่ ชิงประวัตศิ าสตร์ ความเชือ่ ความศรัทธา ทีป่ ระชาชนคนในพืน้ ทีเ่ ท่านัน้ ที่รู้จริง และสามารถนำ�เสนอให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่ หลายได้ถูกต้อง และอาจกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว สำ�หรับกลุ่มที่มีความสนใจได้ในอนาคต ซึ่ง ททท. พร้ อ มสนั บ สนุ น ให้ เ กิ ด การท่ อ งเที่ ย วในพื้ น ที่ ทุ ก ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยมองที่ภาคอีสานเป็นอันดับ แรก ทัง้ นีเ้ พือ่ ช่วยกระตุน้ ธุรกิจในท้องถิน่ และให้ชาว ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการสำ�นึกรักบ้านเกิดตนเอง” ผอ. กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ททท. กล่าว

รถเมล์ติดแอร์

• ต่อจากหน้า 1

นายกมลพงศ์ สงวนตระกูล ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำ�กัด เปิดเผยว่า การ จราจรเมืองขอนแก่นนับวันจะมีปริมาณรถยนต์หนา แน่นเพิ่มมากขึ้น รถโดยสารสาธารณะจะเป็นทาง เลือกสำ�หรับประชาชนคนทำ�งาน นักธุรกิจ นักศึกษา และประชาชนโดยทั่วไปที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดย เฉพาะจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ ควรมีรถ โดยสารสาธารณะที่ให้บริการอย่างเป็นมาตรฐาน สากล ซึ่งผู้โดยสารต้องมีความมั่นใจ ไว้วางใจ และ ที่สำ�คัญรูปแบบรถโดยสารควรมีความแตกต่างจาก ที่ผ่านมา เพื่อสร้างแรงจูงใจในการใช้บริการ รู ป แบบรถโดยสารสาธารณะ หรื อ “ซิ ตี้ บัส” เป็นการรวมหุ้นของกลุ่มนักธุรกิจ โดยมี นายก มลพงษ์ สงวนตระกูล ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทขอนแก่น

จำ�กัด และนายภูริภัทร ลิมป์นิศากร ผู้จัดการ บริษัท ขอนแก่นซิตี้บัส จำ�กัด เพื่อเป็นทางเลือกและสร้าง แรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถโดยสาร มากยิ่งขึ้น ซิตี้บัส จึงเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ ที่มีความทันสมัย ให้บริการแบบครบวงจร จำ�กัด ความเร็วของรถอยู่ที่ 40 กม./ชั่วโมง ติดตั้งทีวี 2 จุด เพื่อติดตามข่าวสารและความบันเทิง มีกล้อง วงจรปิดป้องกันและรักษาความปลอดภัย มีระบบ Free Wifi โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังสามารถ จ่ายค่าบริการได้ทั้งแบบหยอดเหรียญ หรือใช้ระบบ บัตรเติมเงิน หรือแบบการ์ด เช่นเดียวกับการให้ บริการของรถ BTS หรือ MRT ซึง่ จะให้ความสะดวก ในการเลือกใช้บริการแบบเงินสด และในระบบเติม การ์ดที่สามารถใช้ได้ทั้งจังหวัด นายกมลพงษ์ กล่ า วต่ อ ว่ า รถโดยสาร ขอนแก่นซิตี้บัส ใช้งบประมาณการลงทุนโดยแยก เป็นการลงทุนเฉพาะตัวรถ คันละ 3,000,000 บาท ติดตัง้ ระบบการให้บริการบนรถ ระบบความบันเทิง อีกคันละ 300,000 บาท โดยมีรถให้บริการจำ�นวน 10 คัน รวมลงทุนในเบื้องต้นอยู่ที่คันละ 3.3 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนในระยะแรก 33 ล้านบาท คิดอัตราค่า โดยสาร 15 บาทตลอดสาย นักเรียน 10 บาทตลอด สาย ระยะทางให้บริการ 17 กม.โดยเริ่มจาก สถานี ขนส่ ง แห่ ง ที่ 3 ถนนมิ ต รภาพ ให้ บ ริ ก ารเดิ น รถ โดยสารใน 2 เส้นทางหลัก หรือทีเ่ รียกว่าเส้นทางวน ซ้าย และวนขวา เป็นการจัดระบบรถวิง่ สวนทางเป็น วงกลม เพือ่ รองรับผูโ้ ดยสารได้อย่างครอบคลุม และ มีสถานีจอดรับผูโ้ ดยสาร 14 จุด ซึง่ ผูโ้ ดยสารสามารถ ใช้บริการได้เฉพาะที่จุดจอดรถเท่านั้น ขณะเดียวกัน ยังคงมีการจัดทำ�แอฟพลิเคชั่น สามารถตรวจสอบ บริการรถโดยสาร เวลา สถานที่ การให้บริการซึ่ง สามารถโหลดลงเครื่องโทรศัพท์ ในชื่อ KK Transit ได้อีกด้วย นายภูริภัทร ลิมป์นิศากร ผู้จัดการ บริษัท ขอนแก่นซิตี้บัส กล่าวว่า ในระยะแรกของการให้ บริการรถโดยสารสาธารณะ ซิตี้บัส ซึ่งมีการจัด ระบบการเดินรถในช่วงเวลาปกติจะปล่อยรถทุก 15 นาที ส่วนในชัว่ โมงเร่งด่วนจะปล่อยรถวิง่ ทุก 5 นาที และหลังเที่ยงคืนไปแล้ว รถจะออกให้บริการทุก 30 นาที ซึ่งถือว่าครอบคลุมการให้บริการผู้โดยสารทุก กลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย และเป็นไปตามราคาค่าโดยสาร ที่กรมการขนส่งทางบกกำ�หนด ส่ ว นระยะที่ 2 จะต้ อ งมี ก ารประชุ ม ร่ ว ม กับฝ่ายบริหาร ในด้านการเพิ่มจำ�นวนรถบัสอีก 6 คัน เพื่อรองรับการให้บริการผู้โดยสารที่ใช้บริการ มากกว่า 1,200 คนต่อวัน รวมถึงการประสานขอ เพิม่ เส้นทางการเดินรถกับหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง ทัง้ นี้ เพื่อให้เป็นรถโดยสารสาธารณะที่สามารถรองรับ ประชาชนได้ครอบคลุมทุกเส้นทางในจังหวัด โดย เพาะผู้โดยสารที่จำ�เป็นต้องใช้เส้นทางจากตัวเมือง ไปยังสนามบินขอนแก่น “อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดให้บริการมาแล้ว 3 เดือน ซิตี้บัส เป็นรถโดยสารที่ประชาชนให้ความ สนใจมาก นับเป็นการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ที่เป็นทางเลือกใหม่สำ�หรับประชาชนในเขตพื้นที่ ชุมชน มีความทันสมัย ตอบโจทย์ได้ทกุ ความต้องการ โดยเฉพาะการดึงให้หน่วยงานและองค์กรเข้ามามี ส่วนร่วมในการบริหารจัดระบบ ซึง่ การมีรถโดยสาร สาธารณะทีม่ คี วามเป็นมาตรฐานสากล มีเทคโนโลยี ทีท่ นั สมัย จะนำ�ไปสูก่ ารพัฒนาเมืองขอนแก่นทีม่ รี ปู แบบของเมืองแห่งการให้บริการที่สมบูรณ์ที่สุด” นายภูริภัทร กล่าว

รถไฟฟ้ารางเบา

• ต่อจากหน้า 1

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2559 ที่ห้องคอนเวนชั่น 2 โรงแรมเซ็ น ทาราแอนด์ คอนเวนชั่ น เซ็ น เตอร์ ขอนแก่น โดยมี นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟัง ความคิดเห็นครัง้ ที่ 1 การศึกษาออกแบบรายละเอียด ขนส่งสาธารณะในเขตจังหวัดขอนแก่นและผลกระ ทบสิ่งแวดล้อม เพื่อศึกษาวิเคราะห์หาความเหมาะ สมของระบบขนส่งสาธารณะของเมืองขอนแก่น โดยมี รศ.ดร.กิ ต ติ ชั ย ไตรรั ต นศิ ริ ชั ย อธิ ก ารบดี มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น , ศ.ดร.ปริ ญ ญา จิ น ดา ประเสริฐ ผูอ้ �ำ นวยการศูนย์วจิ ยั และพัฒนาโครงสร้าง มูลฐานอย่างยั่งยืน มข. และผู้จัดการโครงการศึกษา ออกแบบรายละเอียดระบบขนส่งสาธารณะในเขต จังหวัดขอนแก่นและผลกระทบสิ่งแวดล้อม ,ผศ. ดร.พนกฤษณ คลังบุญครอง รองผู้อำ�นวยการฝ่าย บริหาร ศูนย์วิจัยและพัฒนาโครงสร้างมูลฐานอย่าง ยั่งยืน และรองผู้จัดการโครงการฯ พร้อมหน่วยงาน องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ให้ความ สนใจเข้าร่วมประชุมกว่า 360 คน ซึ่ ง โครงการดั ง กล่ า วมี วั ต ถุ ป ระสงค์ เ พื่ อ ศึกษาวิเคราะห์หาความเหมาะสมของระบบขนส่ง

รายละเอียดเพื่อเป็นโครงการนำ�ร่อง รวมถึงการจัด ทำ�แผนพัฒนาพืน้ ทีแ่ ละแผนการจัดระบบการจราจร โดยรอบพื้นที่สถานีและพื้นที่ต่อเนื่องตลอดแนว เส้นทางโครงการนำ�ร่องให้สอดคล้องในการมีระบบ ขนส่งทีเ่ ชือ่ มโยงโครงข่ายกับระบบ Feeder ต่างๆเพือ่ ให้เกิดการเชือ่ มต่อการเดินทางกับระบบขนส่งในรูป แบบอื่นๆของประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง สะดวก สบายและปลอดภัย รวมทั้งแก้ไขปัญหาจราจรได้ อย่างมีประสิทธิภาพ สำ�หรับการประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1.แนะนำ�และชี้แจงข้อมูลความเป็นมาของโค รงการ รวมทั้งเหตุผลความจำ�เป็นของการพัฒนา โครงการตลอดจนแนวทางและขั้นตอนการศึกษาที่ สำ�คัญ 2.รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับการศึกษาและวางแผนพัฒ นาโครงการและกำ�หนดแนวเส้นทางเลือกพร้อมระ บบที่เหมาะสม รวมทั้งประเด็นปัญหาสำ�คัญที่อาจ เกิดขึ้นจากการพัฒนาและข้อแนะนำ�และประเด็นที่ ควรระมัดระวังหรือให้ความสำ�คัญในการศึกษาและ แนวทางในการจัดการกับปัญหาต่างๆทีค่ าดว่าจะเกิด ขึ้น ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งแรก นี้ ทางผู้ศึกษาโครงการได้นำ�เสนอระบบรถเมล์ด่วน พิเศษ (BRT) และระบบรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) เป็น รูปแบบของระบบขนส่งสำ�หรับเส้นทางนำ�ร่อง โดย ได้จัดให้ผู้เข้าร่วมประชุมลงมติเลือกรูปแบบระบบ ที่จะนำ�มาใช้ และเลือกเส้นนำ�ร่อง 1 เส้นทางจาก ทั้งหมด 5 เส้นทาง จากนัน้ ผูศ้ กึ ษาโครงการจะจัดทำ�รายละเอียด หลังจากการลงมติของประชาชนในพื้นที่ เพื่อเสนอ สนข. และรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุ พันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ได้นำ�ข้าราชการ นักธุรกิจ องค์กรภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น ยื่นหนังสือผ่านผู้แทน สนข. เพื่อ ให้ศกึ ษาระบบไฟฟ้ารางเบา (LRT) เป็นระบบขนส่ง มวลชนของจังหวัดขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่ น เปิ ด เผยว่ า ระบบขนส่ ง มวลชน ระบบไฟฟ้ารางเบา (LRT) สามารถตอบสนองความ ต้องการในการขนส่งของจังหวัดได้อย่างมาก ทั้งยัง คงสามารถที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ วันนี้ ขอนแก่นพร้อมทีจ่ ะพัฒนาระบบขนส่งทางรางแห่ง แรกของภาคอีสานได้โดยสมบูรณ์แบบที่สุด อย่ า งไรก็ ต ามการดำ � เนิ น งานร่ ว มกั น โดย เฉพาะกับการลงพืน้ ทีส่ �ำ รวจของทีมวิจยั วิทยาลัยการ ปกครองท้องถิ่นในการศึกษาด้านผลกระทบ และ ผลการสำ�รวจความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งคณะทำ�งานได้ทำ�การศึกษาผลกระทบที่จะเกิด ขึ้นอย่างถี่ถ้วน พร้อมทำ�ความเข้าใจกับประชาชน ในพื้นที่ เพื่อให้ได้รับข้อมูลข่าวสารการขับเคลื่อน โครงการที่ครบถ้วน เพื่อนำ�ไปสู่แนวทางการดำ�เนิน งานตามโครงการดังกล่าวให้ส�ำ เร็จลุลว่ งในภาพรวม ทั้งหมด ซึง่ นอกจากจะเป็นแผนการพัฒนาเมืองทีเ่ กิด ขึ้นจากความร่วมมือของชาวขอนแก่นแล้วยังคงจะ ต่อยอดถึงการยกระดับให้ขอนแก่นเป็นเมือง smart city ทีเ่ กิดขึน้ จากความร่วมมือกันของทุกฝ่ายในการ เข้ามาทำ�การศึกษาและนำ�มาพัฒนาเมืองให้ได้อย่าง เป็นรูปธรรม นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้ จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช.ทวี ดอลล่าเซียน จำ�กัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อ วันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความ สงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เซ็นคำ�สั่งอนุมัติหลักการ โครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนใน จ.ขอนแก่น ด้ ว ยระบบรถรางไฟฟ้ า (แทรม) ระยะที่ 1 ช่ ว ง เหนือ – ใต้ ระยะทาง 26 กิโลเมตร ตามข้อเสนอของ พล.อ.อ.ประจิน จัน่ ตอง รองนายกรัฐมนตรี และรอง หัวหน้า คสช.ด้านเศรษฐกิจ โครงการดังกล่าวจะใช้งบประมาณลงทุน ประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยใช้รูปแบบการลงทุน จากภาคเอกชนทัง้ หมด ซึง่ จะมีการร่วมมือกับองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่น จัดตั้งเป็น บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำ�กัด หรือ เคทีที ขึ้น โดยยึดรูปแบบโมเดลของบริหารงานแบบรถไฟฟ้า บีอาร์ทีของกรุงเทพฯ ซึ่งในขณะนี้มีผู้ประกอบการ ใน จังหวัดขอนแก่น 20 บริษัท ร่วมกันลงขันแล้วก ว่า 200 ล้านบาท “หากโครงการในระยะแรก สามารถดำ�เนิน การจนเปิดเดินรถได้ จ.ขอนแก่นก็จะถือเป็นจังหวัด

แบบให้จังหวัดอื่นที่มีศักยภาพ พร้อมที่รุกขึ้นมา ก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนด้วยตนเอง” นายสุรเดช กล่าว นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น เปิดเผยว่า การจัดรับฟังความคิดเห็นใน โครงการวางระบบขนส่ ง สาธารณะในเขตพื้ น ที่ จังหวัดขอนแก่น จะเป็นการจัดระบบการจราจรโดย รอบให้สอดคล้องเชื่อมโยงกับระบบ Feeder และ มีการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งในรูปแบบอื่นของ ประชาชนอย่างต่อเนือ่ ง ซึง่ จะทำ�ให้เกิดความสะดวก ปลอดภัย และยังเป็นการแก้ปญั หาการจราจรได้อย่าง มีประสิทธิภาพ การศึ ก ษาสำ � รวจเส้ น ทาง การออกแบบ วางระบบขนส่ง และการศึกษาถึงผลกระทบต่อสิ่ง แวดล้อม และได้นำ�ข้อมูลมาชี้แจงรวมทั้งเหตุผล ความจำ�เป็นของการพัฒนาโครงการ และได้น�ำ เสนอ ทางเลือกพร้อมระบบที่เหมาะสม เป็นประเด็นที่ หน่ ว ยงานและประชาชนต้ อ งมี ส่ ว นร่ ว มในการ บริหารจัดการกับปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งการ พัฒนาและออกแบบระบบขนส่งสาธารณะในเขต จังหวัดขอนแก่น และการประเมินผลกระทบจาก สิ่งแวดล้อม รวมถึงข้อเสนอแนะจากประชาชนใน ครั้งนี้ เชื่อว่าจะนำ�ไปสู่การพัฒนาโครงการที่เกิด ประโยชน์สูงสุดในจังหวัดขอนแก่นอย่างแน่นอน ผศ.ดร.พนกฤษณ คลังบุญครอง รองผูอ้ �ำ นวยการฝ่าย บริหาร ศูนย์วิจัยและพัฒนาโครงสร้างมูลฐานอย่าง ยัง่ ยืน ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ และรองผู้จัดการโครงการฯ เปิดเผยว่า สำ�นักงาน นโยบายและแผนการจราจร กระทรวงคมนาคม มีน โยบายพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในภูมิภาค โดย คำ�นึงจากการพัฒนาเมือง ความหนาแน่นประชากร เศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด โดยเฉพาะ จังหวัดทีม่ ปี ระชากรอาศัยอยูอ่ ย่างหนาแน่น ซึง่ ล้วน มีปัญหาด้านการขนส่งและจราจร จังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์รวมการพัฒนา เศรษฐกิจในภูมิภาค มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนา แน่น เป็นศูนย์กลางทางการศึกษาและการแพทย์ ทำ � ให้ ป ริ ม าณความต้ อ งการด้ า นการขนส่ ง และ คมนาคมสูงขึ้น กระทรวงคมนาคมจึงเห็นควรให้ มี ก ารวางแผนพั ฒ นาโครงสร้ า งพื้ น ฐานจั ง หวั ด ขอนแก่น อย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด ปัญหาตามมาในอนาคต โดยยึดหลักการวางแผน พัฒนาที่สำ�คัญ 5 ประการ ประกอบด้วย เลือกใช้ เทคโนโลยีที่เหมาะสมทันสมัย เกิดความสะดวก รวดเร็ว ตระหนักถึงความปลอดภัย คำ�นึงถึงความ เชื่ อ มโยงเป็ น โครงข่ า ยอย่ า งครอบคลุ ม และเป็ น ระบบ และเป็นโครงการประหยัดพลังงาน รองผู้จัดการโครงการฯ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน ขอนแก่นอยู่ในภาวะวิกฤติทางการจราจรซึ่งเกิด ติ ด ขั ด ในชั่ ว โมงเร่ ง ด่ ว น อั ต ราจำ � นวนประชากร แฝงเพิ่มมากขึ้น มีการขยายตัวด้านอสังหาฯ ออก ไปบริเวณรอบชานเมืองมากกว่าปกติ ทำ�ให้คนเดิน ทางยากขึ้น พื้นผิวถนนไม่สามารถรองรับจำ�นวน การคมนาคมขนส่งได้ ทำ�ให้เกิดการจราจรติดขัด อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการจัดระบบจราจรทาง บก หรือ คจร. มีมติรบั ทราบแนวทางการดำ�เนินงาน โครงการระบบขนส่งมวลชนในเมืองภูมภิ าค ในการ ประชุมครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2558 ที่ผ่าน มา และมอบให้ สนข.ศึกษาความเหมาะสม โดยเพิ่ม เนือ้ หาการสำ�รวจและออกแบบระบบขนส่งมวลชน ในภูมิภาคที่เหมาะสม รวมถึงการวิเคราะห์ผลกระ ทบต่อสิง่ แวดล้อม (EIA) ทำ�แผนการพัฒนาแผนการ จัดระบบจราจร พื้นที่สำ�หรับจอด และต้องมีความ สอดคล้องกับระบบรถเสริมอื่นๆ จากเดิม ระบบ รางขนาดเบา ระบบรถโดยสารด่วนพิเศษ หรืออื่นๆ ที่เหมาะสม “โครงการ การศึกษาออกแบบรายละเอียด ระบบขนส่งสาธารณะในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในครั้งนี้ ได้รับการ สนับสนุนทุนในการทำ�วิจัยจาก สำ�นักงานนโยบาย และแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวง คมนาคม ซึ่งการเปิดตัวแนะนำ�โครงการเพื่อให้ทุก ภาคส่วนได้มสี ว่ นร่วมในการดำ�เนินงานการศึกษาโค รงการฯ รวมทัง้ การเปิดพืน้ ทีร่ บั ฟังความคิดเห็นจาก ชาวขอนแก่น ทีม่ โี อกาสได้เลือกว่าระบบใดสำ�คัญกับ เมืองขอนแก่นมากทีส่ ดุ จะก่อให้เกิดความเหมาะสม ตรงตามความต้องการของสภาพเศรษฐกิจและสังคม เมือง นำ�ไปสู่การมีระบบขนส่งมวลชนเร็วกว่า ตรง เวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย ปลอดภัยกว่า และจะเป็น เมืองน่าอยู่อย่างแท้จริง” ผศ.ดร.พนกฤษณ กล่าว

มอบเงินช่วยเหลือเกษตรกร ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือ เกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งรวม 16 อำ�เภอ เกษตรกร 45,991 ราย พื้นที่เสียหายกว่า 354,901 ไร่ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ และอนุมัติเงินช่วยเหลือเกษตรกรเป็นเงิน 395,009,455.75 บาท โดยมี ตัวแทนเกษตรกรจาก 16 อำ�เภอ เดินทางมารับเงิน ณ หอประชุมอำ�เภอบ้านแฮด จ.ขอนแก่น

สินเชื่อ SMEs จดบัญชี เ ดี ย ว กั บ ส ร ร พ า ก ร

SME Bank ขอนแก่น จัดสัมมนา ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ใ น โครงการ “สิ น เชื่ อ SMEs บั ญ ชี เ ดี ย ว” ส น อ ง น โ ย บ า ย ที่ ส นั บ ส นุ น ใ ห้ ผู้ ประกอบการ SMEs จดแจ้ ง บั ญ ชี เ ดี ย วกั บ กรมสรรพากร โดยจัด โปรโมชั่นพิเศษให้เข้า ถึงแหล่งเงินจากสถาบันการเงิน นายวิจยั วรรณภักดี ผูจ้ ดั การเขต สำ�นักงาน เขต 7 เปิดเผยว่า โครงการสินเชื่อ SMEs บัญชี เดี ย ว เพื่ อ ต้ อ งการสนั บ สนุ น ให้ ผู้ ป ระกอบการ SMEs จัดทำ�ระบบการเงินจดแจ้งบัญชีเดียวกับ กรมสรรพากร ซึ่งภาครัฐได้ให้การสนับสนุนและ ยกเว้น ลดอัตราภาษีเงินได้นติ บิ คุ คลสำ�หรับ SMEs รวมทั้งสนับสนุนให้มีเงินทุนหมุนเวียนรวมวงเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่ จดแจ้งบัญชีเดียว ใช้เสริมสภาพคล่องในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ รวมถึงการเพิม่ ประสิทธิภาพในการผลิต สินค้าให้มีความเป็นมาตรฐาน พร้อมจัด 5 เงื่อนไข พิเศษ อาทิ ให้กสู้ งู สุดรายละ 5 ล้านบาท ดอกเบีย้ ตํา่ 5% ในปีแรก และปลอดชำ�ระเงินต้นนาน 5 เดือน ผ่อนนาน 5 ปี นอกจากนี้ ถ้าเอกสารครบถ้วนเป็น

ไปตามเงื่อนไขธนาคาร จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อ ภายใน 5 วันทำ�การ ทัง้ นี้ ผูป้ ระกอบการสามารถใช้ บสย. คํ้าประกัน หรือ จะใช้หลักประกันตามหลัก เกณฑ์ปกติของธนาคารได้ SME Bank ขอนแก่ น จึ ง จั ด โครงการ สัมมนาเพือ่ ให้ผปู้ ระกอบการได้มคี วามเชือ่ ว่าเข้าใจ ในการจัดทำ�ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ SMEs บัญชีเดียว ซึ่งจะช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบ การ SMEs ได้ อ ย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ โดยสร้ า ง โอกาสเข้าสู่แหล่งเงินทุนของธนาคาร ทั้งด้านสิน เชือ่ และเติบโตไปสูก่ ารร่วมลงทุน อันจะก่อให้เกิด ประโยชน์ต่อธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อไป อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสนับสนุนนโยบายการจัดทำ� บัญชีชดุ เดียวของรัฐบาล และส่งผลบวกต่อการขับ เคลือ่ นเศรษฐกิจโดยภาพรวมและการจ้างงานต่อไป

ขอนแก่ น เตรี ย มความ พร้อมรับมือไข้เลือดออก

เทศบาลนคร ขอนแก่น ร่วมกับภาคี เครื อ ข่ า ย สำ � นั ก งาน สาธารณสุ ข จั ง หวั ด ข อ น แ ก่ น โ ร ง พยาบาลขอนแก่ น คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น แถลงข่าวเตรียมความ พ ร้ อ ม รั บ มื อ แ ล ะ ร ณ ร ง ค์ ป ร ะ ช า รั ฐ ร่ ว มใจ ใช้ ม าตรการ 3 เก็บ 5 ส. ป้องกัน 3 โรค (ไข้เลือดออก ไข้ติด เชื้ อ ไวรั ส ซิ ก า ไข้ ป วดข้ อ ยุ ง ลาย) เมื่ อ วั น ที่ 25 พฤษภาคม 2559 ณ ศาลาประชาคม อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทมี่ ผี ปู้ ว่ ย ไข้เลือดออกในเขตเทศบาลนครขอนแก่นเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 2558 จนถึงปัจจุบัน เทศบาลนครขอนแก่น จึงมีนโยบายให้ประชาชน ในพื้นที่อำ�เภอเมืองขอนแก่น เตรียมแผนเฝ้าระวัง และป้องกันยุงลาย โดยการจัดเตรียมแผนเฝ้าระวัง ทีเ่ หมาะสมกับสภาพแวดล้อม อีกทัง้ ให้ด�ำ เนินการ สำ�รวจและทำ�ลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกนํ้ายุงลายใน เขตเทศบาล และให้ขยายผลไปในชุมชนรอบข้าง อีกด้วย และในโอกาสนี้ เทศบาลนครขอนแก่น ยังมอบอุปกรณ์รณรงค์เครื่องพ่นละอองฝอยให้ กับโรง พยาบาลศรีนครินทร์ และโรงพยาบาล

ขอนแก่ น รวมถึ ง การรณรงค์ ใ ห้ ค วามรู้ กั บ ประชาชน เพื่อตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการ ป้องกันและ ยับยั้งยุงลายซึ่งเป็นพาหะของ 3 โรค โดยดำ�เนินการตามมาตรการ 3 เก็บ5 ส. อาทิ เก็บ บ้าน ให้ปลอดโปร่งไม่ให้ยุงลายเกาะพัก เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย และเก็ บ นํ้ า ปิ ด ให้ มิ ด ชิ ด หรื อ เปลี่ ย นถ่ า ยนํ้ า ทุ ก สัปดาห์ไม่ให้ยุงลายวางไข่ สามารถป้องกัน 3 โรค คือไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ ปวดข้อยุงลาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่าย ขอเชิ ญ ชวนให้ ทุ ก ท่ า นมี ส่ ว นร่ ว มในการยั บ ยั้ ง การติดเชื้อไข้เลือดออก โดยการทำ�ลายแหล่งเพาะ พันธุ์ลูกนํ้ายุงลาย และขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ เทศบาลนคร ขอนแก่น โทรศัพท์ 043 – 221202 ต่อ 1803 หรือ 085 - 0064716

นครขอนแก่น จัดระเบียบ ผิ ว ถ น น 3 ส า ย ห ลั ก เ มื่ อ วั น ที่ 2 มิถนุ ายน 2559 ทีบ่ ริเวณ หน้ า สถานี ตำ � รวจภู ธ ร เมื อ งขอนแก่ น ถนน กลางเมื อ ง อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.นพ ดล เพ็ ช ร์ สุ ท ธิ์ ผกก. สภ.เมืองขอนแก่น และ นายธณาวุธ ก้อนใจจิต รองปลั ด เทศบาลนคร ขอนแก่น ร่วมพิธีปล่อย แถว จนท.ตร.สภ.เมืองขอนแก่น, ทหาร และเทศกิจ นครขอนแก่น ลงพืน้ ทีถ่ นนสายหลักในเขตเทศบาล นครขอนแก่น เพื่อจัดระเบียบบริเวณหน้าร้านค้าที่ นำ�สิ่งของวางปิดกั้น กีดขวางพื้นผิวทางจราจร โดย การตักเตือน และตรวจจับ นายธณาวุธ ก้อนใจจิต รองปลัดเทศบาล นครขอนแก่น เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก ประชาชนเป็นจำ�นวนมาก ที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่สะดวกในการใช้บริการ เนือ่ งจากมีผปู้ ระกอบการ บางราย นำ�อุปกรณ์ต่างๆ มาวางกีดขวางพื้นผิวทาง จราจรซึ่งเป็นทางสาธารณะ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำ�รวจ ทหาร และหน่วยงานเทศกิจฯ จึงได้ลงพื้นที่ปฏิบัติ การร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำ�ความเข้าใจ กับผู้ประกอบการ พร้อมขอคืนพื้นผิวทางจราจรดัง

กล่าวฯ ซึ่งในปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการลงพื้นที่ถนน สายสำ�คัญที่ได้รับร้องเรียนมากที่สุดรวม 3 สาย คือ ถนนหน้าเมือง ถนนกลางเมือง และถนนชวนชื่น โดยเจ้ า หน้ า ที่ ไ ด้ ต รวจสอบพบว่ า มี ผู้ ประกอบการบางราย ยังนำ�อุปกรณ์มาตัง้ กีดขวางพืน้ ผิวทางจราจรตามที่มีการร้องเรียนจริง จึงทำ�ความ เข้าใจและตรวจยึดอุปกรณ์กีดขวางดังกล่าว ทั้งนี้ เทศบาลนครขอนแก่น จะส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจ ร่วม ปฏิบัติการจัดระเบียบการวางสิ่งของกีดขวางพื้นผิว ทางจราจร ตามถนนสายต่างๆต่อไปอย่างต่อเนื่อง และขอรณรงค์ให้ชาวขอนแก่นทุกท่าน ร่วมแสดง พลังการเป็นพลเมืองที่ดี ด้วยการเคารพกฎระเบียบ ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เพื่อสังคมที่ดีในส่วน รวม และเพือ่ ให้เกิดเป็นเมืองทีน่ า่ อยูอ่ ย่างยัง่ ยืนต่อไป


หน้า 3

ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2559

พฤติกรรมเปลีย่ น การเสพสือ่ ก็เปลีย่ น

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน พฤติกรรมการเสพสื่อ ได้มกี ารเปลีย่ นแปลงอย่างต่อเนือ่ งและรวดเร็วมาก ครัง้ หนึง่ ทีวเี คยมีบทบาทมาก ฟรีทวี เี พียงไม่กชี่ อ่ ง ปัจจุบนั ฟรีทีวี เพิ่มมากขึ้น เป็น 24 ช่อง และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โทรศัพท์มอื ถือ ได้เข้ามา เปลีย่ นพฤติกรรมของผูบ้ ริโภคอีกครัง้ เกิดสังคมก้มหน้า ขึ้น เพราะต่างคนต่างจ้องหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง ในยุคที่การสื่อสารในโลกเปลี่ยนไป ทุกคน สร้างข้อมูลได้ ส่งต่อข้อมูลไปในสังคมได้ง่ายๆ ผ่าน สังคมออนไลน์ การรับข้อมูลจากใครก็ไม่รู้ หรือไม่ ทราบแหล่งทีม่ า แล้วกดแชร์ จะรูไ้ ด้อย่างไรว่าเราไม่ได้ ถูกใช้เป็นเครื่องมือให้กับใคร หยุดคิด มีสติ ก่อนแชร์ หยุดเป็นเครื่องมือให้ ใครใช้ทำ�ร้ายคนอื่น ถึงเวลาทีผ่ บู้ ริโภคสือ่ จะต้องเปลีย่ นบทบาทจาก ผูร้ บั ข่าวสารเป็นผูต้ รวจสอบข่าวสารอย่างจริงจังเสียที เสพข่าวอย่างมีสติ อย่าปักใจเชือ่ ว่าทุกเรือ่ งทีเ่ ผยแพร่ใน โลกออนไลน์ คือข้อเท็จจริงที่เชื่อถือได้ ความเสื่อมถอยทางศีลธรรมของคนในสังคมถูกรา ยงานซํ้าๆ บ่อยครั้ง ถูกแชร์ในโลกออนไลน์บ่อยจน เป็นค่านิยมไปเสียแล้ว เรียกได้วา่ มีเหตุทะเลาะวิวาทกัน

ทีไ่ หน เป็นต้องมีคลิปเผยแพร่ผา่ นยูทบู มีคนตัง้ กล้อง อัดคลิป แชร์ให้โลกออนไลน์รับรู้ด้วยเสมอ น่าเป็นห่วงทีผ่ คู้ นจำ�นวนมากเข้าใจผิด คิดว่า ตนมีอสิ ระทีจ่ ะเผยแพร่อะไรก็ได้ลงบนพืน้ ทีอ่ อนไลน์ ส่วนตัว ทั้งที่ความเป็นจริง มีแต่พื้นที่สาธารณะที่ให้ พื้นที่ความเป็นส่วนตัวได้บ้าง ผู้ใช้สื่อที่พร่องวิจารณญาณอาจเลือกรับสาร อย่างขาดการไตร่ตรอง และนำ�ไปสู่การเลียนแบบ พฤติกรรมในชีวิตจริงได้ ขณะเดียวกันถ้าเห็นว่าสื่อนำ�เสนอข่าวที่ไม่ สร้างสรรค์ เน้นขายข่าว เสนอปรากฏการณ์เชิงเร้า อารมณ์เกินไป ไม่สะท้อนปัญหาที่นำ�ไปสู่วิธีแก้ไข แล้ว ผู้รับสื่อก็มีสิทธิปิดรับข่าวสารจากแหล่งนั้นได้ ทันที เพราะถ้ารับข่าวมากๆ แล้วเก็บไปคิด ปลงตก จนจิตซึมเศร้า ไม่มีภูมิคุ้มกันตนเองจากสิ่งเร้าที่ดีพอ อาจตัดสินใจแก้ปญั หาชีวติ ด้วยวิธที สี่ อื่ ตีแผ่ออกไปได้ บางครั้งการปิดรับ ไม่เชื่อทุกอย่างที่หูได้ยิน ตาเห็น ก็ช่วยลดความเครียดรุมเร้าได้ อย่าปลงใจ เชื่ออะไรง่ายๆ การเปิดรับข่าวจากสื่อ จำ�เป็นต้อง ไตร่ตรองก่อนแชร์ เพราะยิ่งแชร์ยิ่งเพิ่มปัญหาใน สังคม

มอบโค-กระบือให้กับเกษตรกร เทิดพระเกียรติในหลวง

ประชุมธรรมาภิบาลสัญจร ; ข อ น แ ก่ น เ มื อ ง ใ จ ดี พล.ต.อ.เอก อั ง สนา ออกแบบเพื่อคนทั้งมวล นนท์ ปลั ด สำ � นั ก นายก ; นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ รัฐมนตรี เป็นประธานเปิด พันธุ์ นายกเทศมนตรีนคร การสัมมนาและบรรยาย ขอนแก่น และ นายสิทธิ พิ เ ศษ บทบาทของภาค กุ ล ภู คำ � วงศ์ รองนายก ประชาชนในการเสริ ม อบจ.ขอนแก่ น พร้ อ มผู้ สร้างธรรมาภิบาลให้กับ แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ธรรมาภิ บ าลจั ง หวั ด 12 และเอกชน ร่วมลงนาม จั ง หวั ด และเครื อ ข่ า ย บันทึกข้อตกลง (MOU) อีสานตอนบน ในการร่วม ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ดำ � เ นิ น ตรวจสอบการทุ จ ริ ต ตอบแทนบุ ญ คุ ณ แผ่ น ดิ น ณ โรงแรมเซ็ น ทารา แอนด์ คอนเวนชั่น โครงการขอนแก่นเมืองใจดี ออกแบบเพือ่ คนทัง้ มวล ณ ห้องประชุมเป็งจาล เทศบาลนคร เซนเตอร์ ขอนแก่น เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2559 ขอนแก่น อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น

นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานในการประกอบพิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่อง ในมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี ให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในพื้นที่ อ.ชนบท จำ�นวน 135 ราย และมีการมอบเอกสารกรรมสิทธิ์โคกระบือให้แก่สมาชิกที่ปฏิบัติตามระเบียบธนาคารโคกระบืออีก 199 ราย นอกจากนีท้ างสำ�นักงานปศุสตั ว์ยงั มีการฝึกอบรมการเรียนรูก้ ารดูแลรักษา การผสมเทียม รวมไปถึงการฝังเครื่องติดตามตัวโคและกระบือ ที่ได้ รับมอบตามโครงการดังกล่าว ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การดำ�เนินการตาม โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระ ราชดำ�ริ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวฯ ทรงมีพระราชดำ�ริในการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อ ไปให้กับเกษตรกรผู้มีฐานะยากจนที่มีความต้องการ และมี ศั ก ยภาพในการเลี้ ย งโค-กระบื อ ทำ � การยื ม ไปเลี้ยงเพื่อการผลิตลูกและใช้ภาคการเกษตร โดย

เกษตรกรที่ได้รับมอบนั้นจะต้องนำ�ลูกตัวที่ 1 คืนให้ กับโครงการฯ เมื่ออายุครบ 18 เดือนตามระเบียบกรม ปศุสัตว์ และเมื่อสัญญาครบ 5 ปี จะมอบกรรมสิทธิ์ แม่พร้อมกับลูกตัวอื่นๆทั้งหมดให้กับผู้ยืม โดยห้าม ไม่ให้ไปทำ�การจำ�หน่ายหรือกระทำ�การเชิงพาณิชย์ใน ลักษณะต่างๆ สำ�หรับการดำ�เนินตามโครงการธนาคาร โค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำ�ริฯ ในปีนี้ นั้น จังหวัดขอนแก่นมีเกษตรกรจากทั้ง 26 อำ�เภอเข้า ร่วมโครงการทั้งหมด 5,718ราย มีการส่งมอบโคให้กับ เกษตรกร 4,487 ตัว และกระบือ 1,231 ตัว


หน้า 4

ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2559

สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น

แถลงข่าววันผู้บริจาคโลหิตโลก 2016 ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคม สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ร่วมทำ�ข่าวและฟังการแถลงข่าว การจัดงาน “วันผู้บริจาคโลหิตโลกขอนแก่น 2016” โดยชมรมผู้บริจาคโลหิต ขอนแก่น ซึ่งจะจัดงานในวันอาทิตย์ที่ 12 มิ.ย.นี้ ที่ห้างเซ็นทรัลขอนแก่น ณ โรงแรมก รีนโฮเต็ลขอนแก่น

สื่อมวลชนสัมพันธ์ ; พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาค 2 มอบของที่ระลึก ให้กับ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ใน โอกาสเดินทางมาเป็นประธานงานสื่อมวลชนสัมพันธ์ระดับภาค พบปะ พูด คุยและพัฒนาสัมพันธ์ เพือ่ สร้างความเข้าใจในการนำ�เสนอข่าวทีถ่ กู ต้อง กับ สื่อมวลชนภาคอีสาน ตอนบน ณ โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น เมื่อ 19 พ.ค.2559

เยี่ยมให้กำ�ลังใจ ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัด ขอนแก่น และประธานเครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคอีสาน พร้อม คณะกรรมการบริหาร สมาคมสือ่ มวลชนฯ และเครือข่าย บก.ภาคอีสาน มอบ กระเช้าให้กับ นายจักรพันธ์ นาทันริ ผู้สื่อข่าวสปริงนิวส์ เพื่อเป็นกำ�ลังใจใน โอกาสที่เข้ารับการผ่าตัด ณ โรงพยาบาลขอนแก่น ราม อำ�เภอเมือง จังหวัด ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้

สีสนั ตะวันออกสูภ่ าคอีสาน ; พ.ท.พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสือ่ มวลชน จังหวัดขอนแก่น ร่วมงานส่งเสริมการขายธุรกิจท่องเทีย่ ว (Road Show : East Meets Northeast 2016) โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวจากพัทยา และจังหวัดชลบุรี มานำ�เสนอการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ณ โรงแรมพูลแมน ราชาออคิด ขอนแก่น

สุดท้ายปลายทางชีวิต ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการบริหาร ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระ อภิธรรม คุณสุนันทา บุญชื่นชม โดยมี นายสุพล บุญชื่นชม ผู้สื่อข่าวมติ ชน-ข่าวสด จังหวัดขอนแก่น ให้การต้อนรับ ณ วัดกลาง อ.เมือง จ.ขอนแก่น

บำ�เพ็ญกุศล หลวงพ่อคูณ ; นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รอง ผวจ. ขอนแก่น รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำ�พุทธศาสนิกชนทัง้ ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ร่วมทำ�บุญตักบาตรพระ สงฆ์ จำ�นวน 100 รูป ในโอกาสการจัดงานบำ�เพ็ญกุศลทักษิณานุประทาน ครบรอบ 1 ปี ของการละสังขาร พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริ สุทโร ณ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

สื่อสัญจร เชิญเปิดเสวนา “ใช้สอื่ ยุคใหม่อย่างไรให้สร้างสรรค์” ; พ.ท.พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น นำ�คณะกรรมการบริหารสมา คมฯ เข้าพบ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ร่วม พูดคุย และเชิญให้เกียรติเป็นประธานเปิดการเสวนา เรื่อง “ใช้สื่อยุคใหม่ อย่างไรให้สร้างสรรค์” ในวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม 2559 ที่โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น เมือ่ วันที่ 7 มิถนุ ายน พ.ศ. 2559 ณ ห้องทำ�งานนายกเทศมนตรี ฯ

สมาคมสือ่ มวลชนจังหวัดขอนแก่น จัดประชุมสัญจร ครัง้ ที่ 1/2559 ณ บ้านกล้วยไม้ชายเขา อ.โป่งนํา้ ร้อน จ.จันทบุรี ระหว่างวันที่ 27 – 29 พฤษภาคม 2559 เพื่อแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์กับสื่อมวลชนจังหวัดจันทบุรี และทัศนศึกษาพื้นที่จังหวัดจันทบุรี

บรรเทาทุกข์ ; นายกองเอกวิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ ประธานฝ่ายบรรเทาทุกข์ มูลนิธริ าชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะฯ นำ�สิง่ ของ พระราชทานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบ ให้แก่ผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ไชย ,ชุมแพ ,สีชมพู และ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น รวม 871 หลังคาเรือน โดยมี นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผวจ.ขอนแก่น พร้อมคณะ ร่วมให้การต้อนรับ

วันผู้บริจาคโลหิตโลก 2559 ; คุณชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการ บริหาร โรงแรมโฆษะ นำ�ทีมผู้บริหารและพนักงาน สะสมความดีด้วยการ บริจาคโลหิต ในกิจกรรม วันผู้บริจาคโลหิตโลก 2559 ณ ห้องรับบริจาค โลหิต โรงแรมโฆษะ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 6 จังหวัดขอนแก่น

พัฒนาศักยภาพ ผู้ประกอบการ SMEs ใหม่ ; นายสุรชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาพัฒนาศักยภาพ ผู้ประกอบการ SMEs ใหม่ หรือ Start Up 2016 จัดโดยมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น มีผปู้ ระกอบการในพืน้ ทีภ่ าค อีสานตอนบน เข้าร่วมสัมมนากว่า 250 คน ณ ห้องคอนแวนชั่น โรงแรม เซ็นทารา ขอนแก่น

ถวายพระพรชั ย มงคล “พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว ” ; พนั ก งานเอไอ เอส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทั่วประเทศ ร่วมถวายพระพรชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 70 ป ี 9 มถิ นุ ายน 2559 โดยพร้อมใจใส่เสือ้ เหลือง เพือ่ รวมพลังแสดงความจงรักภักดี พร้อมเชิญชวนชาวไทยทุกคน ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดี และสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ที่ www.ais. co.th/70thanniversary ตัง้ แต่วนั นี ้ - 30 มิถนุ ายน 2559 โดยเอไอเอสจะรวบรวมรายชือ่ และนำ�ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายต่อไป

ต้อนรับทูตนิวซีแลนด์ ; ผู้บริหารโรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออ คิ ด นำ � โดย มร. แสตนลี่ ย์ ชาน ร่ ว มให้ ก ารต้ อ นรั บ นายเบนจา มิน คิง เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำ�ประเทศไทย ในโอกาสที่ท่านได้ เดินทางมาเพือ่ พบปะเจรจาทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มุมมอง ทางเศรษฐกิจ และพำ�นัก ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ฯ

หนึง่ ตำ�บล หนึง่ ผลิตภัณฑ์ขอนแก่น ; นายศิวาโรจน์ มุง่ หมายผล รอง ผวจ. ขอนแก่น เป็นประธานคัดสรรผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP หนึ่งตำ�บล หนึ่ง ผลิตภัณฑ์ไทยของจังหวัดขอนแก่น ทีผ่ า่ นการคัดสรรในระดับจังหวัด โดย มี นายศุภกร มูลสุวรรณ พัฒนาการจังหวัดขอนแก่น และผูป้ ระกอบการใน จังหวัดขอนแก่น ลงทะเบียน นำ�ผลิตภัณฑ์เข้าร่วมงานจำ�นวน 1,441 ราย รวม 2,788 ผลิตภัณฑ์ ณ โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล จ.ขอนแก่น

ผูน้ �ำ แห่งยุค เพือ่ ความสุขทีย่ งั่ ยืน ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานเปิดโครงการ“ผู้นำ�แห่งยุค เพื่อความสุขที่ยั่งยืน” จัดโดย สำ�นักงาน คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ (สนง.กปร.) ร่วมกับ มูลนิธิยุวสถิรคุณ มูลนิธิมั่นพัฒนา และมูลนิธิบุคคล พอเพียง เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงผู้นำ�ยุคใหม่ให้ใช้การดำ�เนินชีวิตตาม หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ณ โรงแรมกรีนโฮเทล อ.เมือง จ.ขอนแก่น

มอบรถเข็น ; นายวิทยา ศิรชิ าติวาปี ประธานกรรมการตรวจสอบ บริษทั โตโย ต้าแก่นนคร จำ�กัด มอบรถวีลแชร์ ให้กบั เครือข่ายจิตอาสาขอนแก่นลิง้ ค์-บ้าน ชีวาศิลป์ฯ โดยมี นายจงชัย ทองเครือ บรรณาธิการเครือข่ายจิตอาสาขอนแก่น ลิ้งค์ เป็นผู้แทนรับมอบ ณ ชั้น 3 บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด เมื่อเร็วๆ นี้

แลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อม ข้าราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กร ร่วมให้การต้อนรับ มี สเตอร์ เบน คิง เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำ�ประเทศไทย พร้อมคณะฯ ในโอกาสเข้าพบเพื่อแลกเปลี่ยนการบริหาร ศิลปวัฒนธรรม ณ ห้องรับรอง พงษ์พานิช ศาลากลางชั้น 4 อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

ฉลองครบรอบ 99 ปี ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนคร ขอนแก่น ร่วมแสดงความยินดีกับ อากง เทียนเอง แซ่โค้ว ในโอกาสที่ลูก หลานจัดงานแสดงความยินดีครบรอบ 99 ปี โดยมี นายชัชวาล พรอมร ธรรม รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ให้การต้อนรับ ณ ร้านฟาร์ม เทพารักษ์ ถนนเทพารักษ์ ตำ�บลในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น


หน้า 5

ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2559

วิธีการดูแลแผลผ่าตัดเล็กในช่องปาก หลั ง การผ่ า ตั ด ภายในช่ อ งปาก จะมี อาการเลือดออกจากแผลถอนฟันหรือผ่าตัด ซึ่ง โดยทั่วไปก็จะหยุดได้จากการใช้แรงกด ส่วน จากการบวมจะเกิดขึ้นได้ และมักบวมมากที่สุด ใน 2-3 วันแรก จากนั้นก็จะเริ่มยุบบวมและกลับ สู่ภาวะปกติประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนอาการชา ก็เป็นได้ถ้าหากฟันอยู่ใกล้กับเส้นประสาทที่มา เลี้ยงขากรรไกรล่างมาก แต่โดยทั่วไปทันตแพทย์ จะประเมิ น และแนะนำ � คนไข้ ก่ อ น ถ้ า หากไม่ ได้ตัดหรือทำ�ลายเส้นประสาท อาการชาก็จะดี ขึ้นประมาณ 2-4สัปดาห์ และกลับสู่ภาวะปกติ ภายใน 3 เดือน เราควรดูแลตัวเองภายหลังการ ผ่าตัด ดังต่อไปนี้

1. ควรกัดผ้าก็อซแน่นๆ 1 ชั่วโมง หลัง ผ่าฟันคุดออก และหากมีเลือดซึมออกมาก็ควร กัดต่อประมาณ 15 นาที ทั้งนี้ต้องกลืนนํ้าลายลง ไป เพือ่ ไม่ให้กอ้ นเลือดทีแ่ ข็งแล้วหลุดออกมา ซึง่ จะทำ�ให้เลือดไหลออกมาอีกได้ 2. หมัน่ ประคบนํา้ เย็นข้างแก้ม จะช่วยลด อาการบวม และทำ�ให้เลือดหยุดเร็วขึ้น 3. ควรรักษาความสะอาดในช่องปากให้ดี โดยแปรงฟันตามปกติและบ้วนนํา้ เกลืออุน่ ทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่ โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โทร.0-4320-2405 ต่อ 45241 ในวันและเวลา ราชการ

สร้างสื่อให้เป็น โรงเรียนของสังคม สำ � นั ก ง า น กองทุ น สนั บ สนุ น การสร้ า งเสริ ม สุ ข ภาพ (สสส.) จั ด เ ว ที เ ส ว น า เ ชิ ง ปฏิ บั ติ ก าร เรื่ อ ง กระบวนทั ศ น์ ใ หม่ ระดมภาคีเครือข่าย สร้ า งแนวคิ ด หลั ก การ และแนวทาง พั ฒ นาการมี ส่ ว น ร่วม ในโครงการส่ง เสริ ม กระบวนการ สร้างสือ่ ให้เป็นโรงเรียนของสังคม ณ ห้องประชุม มงกุฎทอง โรงแรมโฆษะ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อ วันที่ 19 พฤษภาคม 2559 นายดนัย หวังบุญชัย ผูจ้ ดั การแผนงานสือ่ ศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ (ศสส.) กล่าวว่า เพราะสือ่ มีความสำ�คัญต่อการเรียนรู้ ทำ�อย่างไรให้ สังคมไทยเกิดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง การนำ�เสนอเรือ่ งราวต่างๆ รวมไปถึงการเรียนการ สอนในชัน้ เรียน ต้องมีการเปลีย่ นแปลงวิธกี ารให้ ทันกับความก้าวหน้าและวิทยาการของ โลก การ ศึกษาในปัจจุบันนอกจากจะต้องสื่อสารกันให้ เกิดความเข้าใจแล้ว จะต้องมีการนำ�เอาสื่อเข้ามา ประกอบการเรียนการสอน สื่อการสอนในสมัย ปัจจุบัน มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ เว็บไซด์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่สมบูรณ์ ยิ่งขึ้นในสังคมไทย สำ�นักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ต้องหันมาร่วมกัน ผลักดันให้เกิดการปฏิรูปการเรียนรู้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะสื่อในยุคปัจจุบันที่มีรูปแบบและช่อง ทางหลากหลาย พัฒนาสื่อให้เป็นโรงเรียนของ

สังคม เพราะสื่อมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับกลไก การเรียนรู้ ซึ่งไม่ได้จำ�กัดอยู่เฉพาะในห้องเรียน เท่านั้น แต่เป็นการเรียนรู้ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุก ที่ ทุกเวลา ฉะนั้น ทำ�อย่างไรให้สังคมไทยเกิดการ เรียนรู้ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง และขณะเดียวกัน ภาครัฐก็ควรเข้ามามีบทบาทสนับสนุนกลไกการ เรียนรู้ โดยกำ�หนดแผน หรือนโยบายที่ชัดเจน เพื่อส่งเสริมให้สื่อได้ทำ�หน้าที่อย่างสมบูรณ์ เช่น เดียวกัน นายดนัย กล่าวต่อว่า ด้วยแนวคิดทีว่ า่ ‘สือ่ คือโรงเรียนของสังคม’ จึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย ที่ต้องช่วยกันกำ�หนดทิศทางและคัดกรองเนื้อหา ที่ สร้างสรรค์ เพื่อสร้างพลเมืองรุ่นใหม่ ให้เป็น ผู้ตื่นรู้ และนำ�ไปสู่การปฏิรูปการเรียนรู้ ในที่สุด การจัดเวทีเสวนาเชิงปฏิบตั กิ าร “สือ่ เป็นโรงเรียน ของสังคม” จะมีการระดมแนวคิดจากเครือข่ายทัว่ ทุกภูมภิ าค เพือ่ รับฟังความคิดเห็นและสร้างการมี ส่วนร่วมในโครงการส่งเสริมกระบวนการสร้าง สื่อให้เป็นโรงเรียนของสังคม เพื่อเป็นแนวทาง การพัฒนา สู่การขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรมของ สังคมต่อไป

ลงนามพั ฒ นางานพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ; รศ.ดร.กิ ต ติ ชั ย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น และนายทศพร นุชอนงค์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ร่ ว ม ล ง น า ม บั น ทึ ก ข้ อ ตกลง (MOU) ระหว่ า ง มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น และ กรมทรั พ ยากรธรณี ในความร่ ว มมื อ ส่ ง เสริ ม และพั ฒ นาความรู้ ค วาม เข้าใจด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และสิ่งแวดล้อม ณ อาคารพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2559

กฟผ.ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ สร้างแหล่งอาหารและสมุนไพร

กฟผ. และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วม กับภาคีเครือข่ายชุมชนใต้แนวสายส่ง ร่วมปลูกป่า ขยายพื้นที่ป่าเฉลิมพระเกียรติ ในโครงการตาม แนวพระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพิ่มพื้นที่ป่าให้แก่ชุมชน สร้างแหล่งอาหารและสมุนไพร เพื่อความยั่งยืน ของชุมชนใต้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2559 ที่บริเวณ ป่าชุมชนบ้านนางิ้ว-นาโพธิ์ ตำ�บลนางิ้ว อ.เขา สวนกวาง จ.ขอนแก่น นายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ ว่ า การระบบส่ ง การไฟฟ้ า ฝ่ า ยผลิ ต แห่ ง ประเทศไทย (กฟผ.) เป็ น ประธานการปลู ก ต้ น ป่ า ในโครงการ “ร่ ว มใจปลู ก ป่ า พั ฒ นา ชุมชน” ซึ่งเป็นการขยายผลจากโครงการปลูก ป่าเฉลิมพระเกียรติ ตามแนวพระราชดำ�ริสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อ ปี 2558 พื้นที่ชุมชนบ้านนางิ้ว-นาโพธิ์ อ.เขาสวน กวาง จ. ขอนแก่น จำ�นวน 3,000 ต้น ในพื้นที่ กว่า 10 ไร่ โดยมีคณะทำ�งานจากมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ โดยความร่วมมือในโครงการการ สื่อสารและสร้างเครือข่ายชุมชนพึ่งตนเองพื้นที่ ใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ร่วมกับองค์การบริหารตำ�บลเขาสวน กวาง ผู้นำ�ชุมชน คณะอาจารย์ ครู นักเรียนใน พื้นที่ พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. เข้าร่วมปลูก ป่ากว่า 500 คน นายเทวัญ ตันทนะเทวินทร์ ผู้อำ�นวยการ ฝ่ายปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าว ว่า ในปัจจุบันสถานการณ์ด้านทรัพยากรป่าไม้ และความอุดมสมบูรณ์ด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งใน ระดับประเทศและระดับนานาชาติ มีแนวโน้ม ของการเปลี่ยนแปลงที่ลดลง ซึ่งสาเหตุสำ�คัญ มาจากการดำ�เนินกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ เช่น การตั ด ไม้ ทำ � ลายป่ า การพั ฒ นาเศรษฐกิ จ บน ฐานด้านอุตสาหกรรม และการอพยพที่อยู่อาศัย หรือที่ประกอบอาชีพของประชาชน เข้าสู่เมือง ใหญ่มากขึ้น เป็นต้น สาเหตุเหล่านี้ส่งผลกระทบ

ที่นำ�ไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การขาดแคลนพลังงาน และ ขาดความมั่นคงทาง ด้านอาหาร แนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่า นี้ จำ�เป็นต้องดำ�เนินการในลักษณะของความรับ ผิดชอบร่วมกัน ของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาค เอกชน และชุมชนท้องถิ่น จึงจะประสบความ สำ�เร็จ สำ � หรั บ ประเทศไทย ปั ญ หาเหล่ า นี้ ได้ เป็นที่รับทราบกันมาเป็นเวลายาวนานแล้ว ดังจะ เห็นได้จากการดำ�เนินโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และจำ�เป็นต่อการพัฒนาป่าไม้ สิ่งแวดล้อม และ คุณภาพชีวิต ของประชาชนที่มีอยู่มากมายหลาย โครงการ รวมถึ ง โครงการที่ เ กิ ด ขึ้ น จากภาค ประชาชนในท้องถิ่นเอง ที่รวมตัวกันฟื้นฟูดูแล รักษาป่าขึ้นมา สถานการณ์เช่นนี้บ่งชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยยังมีความต้องการพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นอีก มาก จึงจะเกิดความสมดุลของระบบนิเวศวิทยา และเอื้ออำ�นวยประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง การพัฒนาคุณภาพชีวติ ของคนในประเทศได้อย่าง เหมาะสม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งของภาครัฐ ที่ตระหนักถึง ความสำ�คัญของปัญหาสิ่งแวดล้อม และคุณภาพ ชีวิตของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้ จากปณิธานที่มุ่งเน้นการดำ�เนินงานด้านพลังงาน ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชนและ สิ่งแวดล้อม ฉะนัน้ กฟผ. จึงได้รว่ มมือกับ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ จัดตั้งโครงการการสื่อสารและสร้าง เครือข่ายชุมชนพึ่งตนเองในพื้นที่ใกล้แนวสายส่ง ไฟฟ้ า อย่ า งยั่ ง ยื น เพื่ อ พั ฒ นาคุ ณ ภาพชี วิ ต ของ ประชาชน ที่มีบ้านเรือนหรือที่ทำ �กินใกล้แนว สายส่งไฟฟ้าของ กฟผ. กิจกรรมของโครงการ ปลูกป่าชุมชนในวันนี้ ดำ�เนินการโดย ฝ่ายปฏิบัติ การภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของ กฟผ. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหน่วยงานองค์กร ในพื้ น ที่ ซึ่ ง ได้ เ ชิ ญ ชวนพี่ น้ อ งประชาชนและ

พัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการ ; รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานเปิดการอบรม หลักสูตร “การเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพชีวติ ของข้าราชการใน จังหวัดชายแดนภาคใต้” รุ่น ๘ (รุ่นเพิ่มเติม) ประจำ�ปี ๒๕๕๙ โดย มี น.ส.ปรางค์มาศ บุญสิทธิ์ ผอ.ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการ ผศ.รักพงษ์ เพชรคำ� ผู้อำ�นวยการสำ�นักบริการวิชาการ มข. ร่วม เป็นเกียรติ ณ ห้องแก่นนครา ชั้น ๒ โรงแรมวีวิช ขอนแก่น อ.เมือง ขอนแก่น จ.ขอนแก่น

เยาวชนบ้ า นนางิ้ ว นาโพธิ์ อำ� เภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น มาช่วยกันร่วมปลูกป่าจำ�นวน 3,000 ต้น บนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ นายสุ ธ น บุ ญ ประสงค์ รองผู้ ว่ า การ ระบบส่ง กฟผ. กล่าวว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง ประเทศไทยนั้น ได้ให้ความสำ�คัญกับสิ่งเหล่านี้มา ช้านาน โดยในอดีตมีการจัดตั้งโครงการปลูกป่า ถาวรเฉลิมพระเกียรติ โครงการเกษตรชีววิถีเพื่อ การพัฒนาอย่างยั่งยืน และโครงการอื่นๆอีกหลาย โครงการ ปัจจุบัน กฟผ.ได้มีกิจกรรมที่ร่วมมือ กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดตั้งโครงการการ สื่อสารและสร้างเครือข่ายชุมชนพึ่งตนเองพื้นที่ ใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าอย่างยั่งยืน โดยมี ผศ.ดร.จิต ติ มงคลชัยอรัญญา คณบดีวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋ ว ย อึ้ ง ภากรณ์ และที ม งานของมหาวิ ท ยาลั ย ธรรมศาสตร์ ที่ได้ดำ�เนินการร่วมกับ ผู้นำ�ชุมชน และชาวบ้านในชุมชนนำ�ร่อง เพื่อร่วมกันพัฒนา สิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของราษฎรใน ชุมชน ดังเช่นตัวอย่างโครงการส่งเสริมการพึ่งพา ตนเองอย่างยั่งยืนที่ บ้านห้วยยาง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ที่ได้มีการแก้ปัญหาการขาดแคลนนํ้า เพื่อการอุปโภคบริโภค และเพื่อการเกษตร และ โครงการฟื้นฟูป่าชุมชนบ้านนางิ้วนาโพธิ์ ที่ กฟผ.

วันผู้บริจาคโลหิตโลก 2016 ; นางพิมพ์วิมล ถาวรสถิตย์. นายก เหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานวันผู้บริจาค โลหิตโลก 2016 จัดโดย ชมรมผู้บริจาคโลหิตจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ เหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น, คลังเลือดกลางคณะ แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ภาคบริการโลหิตแห่ง ชาติที่ 6 สภากาชาดไทย และ ศูนย์คลังเลือดกลางรพ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2559 ณ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลา ซาขอนแก่น

ได้ด�ำ เนินการปลูกป่าร่วมกับชุมชนบ้านนางิ้วนา โพธิ์ ไปแล้วจำ�นวน 60 ไร่ ในระยะแรก การปลูกป่าขยายพื้นที่ป่าชุมชน บ้านนา งิว้ นาโพธิ์ เป็นความต่อเนือ่ งจากโครงการปลูกป่า เฉลิมพระเกียรติฯ ทีไ่ ด้เริม่ โครงการฯ เมือ่ ปี 2558 ปลูกป่าชุมชนในพื้นที่ 60 ไร่ ใช้ต้นกล้า 30,000 ต้น สร้างระบบนํา้ บาดาล มีการดูแลพืน้ ทีป่ า่ อย่าง ใกล้ชิด ทำ�ให้ต้นไม้ได้เจริญเติบโตและอยู่รอด นายสุธน กล่าวต่อว่า การปลูกป่าในครัง้ นี้ เป็นการเพิม่ พืน้ ทีส่ เี ขียวให้มากมียงิ่ ขึน้ โดยขยาย พื้นที่ปลูกป่าเพิ่มอีก 10 ไร่ ใช้กล้าไม้ กว่า 3,000 ต้น ปลูกป่าชุมชนสร้างต้นแบบในการพัฒนา พื้นที่ป่าชุมชนที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน ทำ�ให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีอาหารตามท้องถิ่นเป็น รากฐานในอนาคตไว้ให้รุ่นหลานต่อไป และอาจ ขยายผลเป็นต้นแบบป่าชุมชนให้แก่ชุมชนอื่นๆ ต่อไปในอนาคต สำ�หรับพันธุ์ไม้ที่ใช้ในครั้งนี้ประกอบ ด้วย ต้นยางนา 1,500 ต้น ต้นประดู่ 1,000 ต้น ต้นมะค่าโยง 200 ต้นพะยูง 200 ต้น และต้นหว้า 100 ต้น โดยส่วนหนึ่ง กฟผ. รับซื้อจากชาวบ้าน ในชุมชนพืน้ ที่ อำ�เภอเขาสวนกวาง เป็นการสร้าง รายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่ง

ฝึกดับเพลิงขั้นต้น ประจำ�ปี 2559 ; โรงแรมโฆษะ ตระหนัก ถึงความสำ�คัญด้านความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน จัดการฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นต้น ประจำ�ปี 2559 เพื่อให้ ผู้บริหารและพนักงาน มีความรู้ ความเข้าใจ และแนวทาง ปฏิ บั ติ เ พื่ อ ช่ ว ยเหลื อ ลู ก ค้ า ได้ ทั น ท่ ว งที ใ นกรณี เ กิ ด เหตุ ฉุกเฉิน โดยช่วงเช้า วิทยากรบรรยายให้ความรูใ้ นภาคทฤษฏี และในช่วงบ่ายทดลองปฏิบตั จิ ริง โดยวิทยากรผูท้ รงคุณวุฒิ จากเทศบาลนครขอนแก่น


หน้า 6

ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2559


ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2559

หน้า 7


หน้า 8

ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2559

เครื อ ข่ า ย บก.นสพ.อี ส าน ผลั ด ใบ “พิสิษฐ์” นั่งแท่นประธานคนใหม่ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.59 ที่ บริษัท ทองเนื้อ เก้า จำ�กัด ถนนราชดำ�เนิน อำ�เภอเมือง จังหวัด นครราชสีมา เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ภาคอีสาน จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำ�ปี 2559 โดยมี นายหั ส ดิ น สุ วั ฒ นะพงศ์ เ ชฎ ประธาน หอการค้ า จั ง หวั ด นครราชสี ม า กล่ า วต้ อ นรั บ กรรมการและสมาชิ ก เครื อ ข่ า ย พร้ อ มเปิ ด การ ประชุม จากนั้นเป็นการบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ทำ� เว็บไซต์ (ข่าว) อย่างไรให้เป็นที่หนึ่งของประเทศ” โดยนายนิรนั ดร์ เยาวภา อดีตเว็บมาสเตอร์ Manager Online และอดีตนายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ มีนายสุนทร จันทร์รังสี ประธาน สภาวิชาชีพนัก หนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งชาติ (สนภช.) ในฐานะ กรรมการที่ปรึกษา และนายศตวรรษ วงศ์ประทุม ประธานเครือข่ายฯ พร้อมสมาชิกเครือข่ายฯ ร่วม ประชุม

ในการประชุมใหญ่ครัง้ นี้ ได้มวี าระการเลือก ตัง้ ประธานเครือข่ายฯ และกรรมการบริหารชุดใหม่ ขึ้นมาแทนนายศตวรรษ วงศ์ประทุม ประธานเครือ ข่ายฯ และกรรมการบริหารที่ครบวาระ ซึ่งในการ เลือกตั้งในครั้งนี้ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ ได้รับความ ไว้ ว างใจจากสมาชิ ก เครื อ ข่ า ยฯ ให้ เ ป็ น ประธาน เครือข่ายฯ คนที่ 6 ปีบริหาร 2559-2561 และได้มี การเลือกตั้งกรรมการเครือข่าย อีก 7 คน ได้แก่ นาย วิโรจน์ ทิพวัฒน์ (นสพ.ข่าวภูธร จ.อุบลราชธานี), ว่าที่ ร.ท.อิสเรศนุชิตภ์ จันทร์ศรี (นสพ.ร่วมช่วย ด้วยใจ จ.อุดรธานี), นายพิษณุ ธีระกนก (นสพ. โคราชคนอีสาน จ.นครราชสีมา), นางสุพัตรา สุข โข (นสพ.ไทยเสรี จ.ขอนแก่น), นายวรรธนะ ทองดี (นสพ.หนองบัวลำ�ภูนิวส์ จ.หนองบัวลำ�ภู), นายสุ พจน์ สอนสมนึก (นสพ.คนนครสกล จ.สกลนคร)

สำ � นั ก งานป้ อ งกั น และปราบปรามการ ทุจริต จังหวัดขอนแก่น หรือ ป.ป.ช. ประจำ�จังหวัด ขอนแก่น จัดโครงการสนับสนุนและสร้างการมี ส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริต ระดับจังหวัด เพือ่ เสริมสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมของหน่วย งานและภาคประชาชน โดยมี นายพิเชฐ พุ่มพันธ์ ผู้ ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน เปิดโครงการฯ และวิทยากรจากทุกภาคส่วนใน พื้นที่จังหวัดขอนแก่น ร่วมเสวนาเรื่อง “กลไกการ ขั บ เคลื่ อ นงานด้ า นป้ อ งกั น และปราบปรามการ ทุจริตระดับจังหวัด อาทิ นายทรงพล จำ�ปาพันธ์, พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น ,นายจีรทีป ลี้ตระกูล รองประธาน หอการค้าจังหวัดขอนแก่น และ ดร.นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ณ ห้องแก่น นครา โรงแรมวีวิช อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2559 นายทรงพล จำ�ปาพันธ์ กรรมการป.ป.ช. ประจำ�จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การทุจริตไม่ว่าจะ เกิดขึ้นกับหน่วยงานหรือองค์กรใดก็ตาม ความเสีย หายจะตามมาไม่ช้าก็เร็ว และสร้างความเสียหาย มากที่สุด ในการที่จะป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตให้ได้ผลสำ�เร็จ จำ�เป็นต้องรู้จักสถานการณ์ การทุจริตให้ถ่องแท้ การทุจริตที่เกิดจากหน่วยงาน เป็นการปราบปรามทีย่ ากมากทีส่ ดุ เพราะทำ�กันเป็น ขบวนการ การทุจริตอาจมีทกุ หน่วยงาน อาทิการปราบ ปรามยาเสพติด ซึง่ หน่วยงานภาครัฐอาจไม่รแู้ หล่งที่ ขาย และแหล่งซือ้ ยาเสพติด แต่ประชาชนในพืน้ ทีจ่ ะ รูด้ วี า่ มีแหล่งซือ้ ขายกันทีไ่ หนอย่างไร หรือในวงการ การศึกษา ต้องรูถ้ งึ สาเหตุวา่ ทำ�ไมจึงมีการทุจริตมาก ทีส่ ดุ ดังนัน้ ปัญหาการทีจ่ ะป้องกันและปราบปราม

การทุจริต จึงมีความจำ�เป็นต้องรู้ถึงสาเหตุว่าเกิด ขึ้นได้อย่างไร ป้องกันและปราบปรามที่ต้นเหตุจึง ประสบผลสำ�เร็จ ถ้าไม่พยายามที่จะเรียนรู้ถึงสาเหตุ การปราบปรามอย่างไรก็ไม่มีวันสัมฤทธิ์ผล พ.ท.พิ สิ ษ ฐ์ ชาญเจริ ญ นายกสมาคม สื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น ในฐานะตั ว แทน สื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น กล่ า วว่ า การที่ จ ะ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ไม่วา่ จะเป็นระดับ ชาติหรือระดับจังหวัด ต้องทำ�ความเข้าใจในคำ�ว่า “ทุจริต และ คอรัปชั่น” ก่อนว่าสร้างความเสียหาย อย่างไร ในปัจจุบัน หน่วยงานภาครัฐที่หลายท่าน จะบอกว่ามีการทุจริตกันมากที่สุด แต่การคอรัปชั่น ซึ่ ง สร้ า งความเสี ย หายมากกว่ า การทุ จ ริ ต มากนั ก เพราะเป็นการคอรัปชั่นตั้งแต่เริ่มคิดและเขียนเป็น โครงการ หรือจะเรียกว่า คอรัปชัน่ เชิงนโยบาย ทำ�ให้ งบประมาณที่ได้จากโครงการต่างๆ จากหน่วยงาน ภาครัฐขาดหายไปมากกว่าครึ่ง ทำ�ให้เกิดการสูญ เสียต่อประเทศโดยส่วนรวม ซึง่ ถือเป็นความหายนะ อย่างใหญ่หลวง ปั จ จุ บั น จะเห็ น ว่ า สั ง คมไทยได้ ส อนให้ เด็กและเยาวชนรู้จักการทุจริตคอรัปชั่นตั้งแต่เริ่ม เข้าเรียนในชั้นอนุบาล เพราะมีการเรียกร้องเงิน ค่าแป๊ะเจี๊ยะในการเข้าเรียนหนังสือในสถาบันการ ศึกษาหลายแห่ง ซึ่งจะทำ�ให้เด็กและเยาวชนซึมซับ การทุจริตคอรัปชั่น และกลายเป็นเรื่องปกติ โดยไม่ คำ�นึงถึงความหายนะที่จะตามมาในอนาคต นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่อว่า สื่อมวลชน จึงต้องทำ�หน้าที่อย่างหนัก เพื่ อ สื บ หาต้ น เหตุ ข องการคอรั ป ชั่ น และจำ� เป็ น ที่ ต้ อ งได้ รั บ ความร่ ว มมื อ จากองค์ ก รและหน่ ว ย งานถึงข้อมูล สาเหตุ ที่อาจยากมากเพราะหากทำ� เป็นขบวนการ ก็ยากที่จะสืบค้นหาถึงต้นเหตุแห่ง

และนายกิตติศักดิ์ ศิริคลังเจริญรุ่ง (นสพ.คู่แผ่นดิน จ.อุดรธานี) ทั้งนี้ประธานเครือข่ายฯ จะแต่งตั้ง สมาชิ ก สามั ญ เป็ น คณะกรรมการอี ก 5 คน ทำ � หน้ า ที่ บ ริ ห ารกิ จ การของเครื อ ข่ า ยบรรณาธิ ก าร หนังสือพิมพ์ภาคอีสาน วาระปีบริหาร 2559 - 2561

พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ ปัจจุบันเป็น นายก สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ,เลขาธิการ สภาวิ ช าชี พ นั ก หนั ง สื อ พิ ม พ์ ภู มิ ภ าคแห่ ง ชาติ (สนภช.) และเป็นเจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์และเวปไซต์ไทยเสรี จ.ขอนแก่น

กลไกการขับเคลื่อนงานด้านป้องกัน และปราบปรามการทุจริตระดับจังหวัด การทุจริตคอรัปชั่น การมีส่วน ร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วย งานภาครั ฐ ภาคเอกชน และ ประชาชน จะเป็นการป้องกัน และปราบปรามการทุ จ ริ ต คอรั ป ชั่ น ให้ ค นโกงเหลื อ น้ อ ย ที่สุด ซึ่งต่อไปในอนาคต บุคคล เหล่านี้ก็จะหมดที่ยืนในสังคม นายจี ร ที ป ต์ ลี้ ต ระกู ล รองประธานหอการค้าจังหวัด ขอนแก่ น กล่ า วว่ า ในฐานะที่ อยู่ ใ นภาคขององค์ ก รเอกชน ปัญหาการทุจริต โดยเฉพาะการ เรียกร้องเงินแป๊ะเจี๊ยะในการเข้าเรียนหนังสือ เป็น อีกสาเหตุที่เกิดมายาวนานมาก การที่ ป.ป.ช.มีการ ปราบปราม ล้วนเป็นการวิ่งไล่จับ แต่ไม่ใช่การแก้ ปัญหาที่แท้จริง ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ทำ� อย่างไรจึงจะแก้ปัญหาที่เกิดการทุจริตให้หมดไปได้ เป็นเรือ่ งทีต่ อ้ งทำ�กันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการปรับ เปลี่ยนผู้บริหาร การปรับเปลี่ยนผู้บริหารที่ได้รับการร้องเรียนว่ามี การโกงกิน มีการทุจริต และให้ทุกหน่วยงานปฎิบัติ ไปในทิศทางเดียวกันทั่วประเทศ และพร้อมตรวจ สอบทันทีที่ได้รับการร้องเรียน ซึ่งการควบคุมดูแล และตรวจสอบผู้บริหารหน่วยงานอย่างจริงจัง จะ ช่วยแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นได้ในระดับหนึ่ง ดร. เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ กล่าวว่า ในฐานะทีเ่ ป็นผูน้ �ำ องค์กรส่วนท้องถิน่ และ เป็น สส. มาหลายสมัย อยากบอกว่า อย่าให้วัวหาย แล้วล้อมคอก ประเทศไทยเราเปรียบเสมือน วัวหาย แล้วล้อมคอก แต่การล้อมคอกในวันนี้ ยังดีกว่าทีเ่ รา ไม่ได้ท�ำ อะไรเลย การทีจ่ ะร่วมมือกันเพือ่ ป้องกันและ

อีสานการลงทุนชะลอ ต้นเหตุแล้งเป็นหลัก

นายอิสระ อมรกิจบำ�รุง ผอ.ศูนย์เศรษฐกิจภาค 3 (บีโอไอ.ภาค 3) ขอนแก่น เปิดเผยว่า ในปัจจุบนั นี้ ศูนย์เศรษฐกิจภาค 3 ดูแลรับผิด ชอบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนรวม 12 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวลำ�ภู หนองคาย ร้อยเอ็ด สกลนคร นครพนม มหาสารคาม กาฬสินธุ์ หนองบัวลำ�ภู เลย มุกดาหาร และ บึงกาฬ ภาวะการส่ ง เสริ ม การลงทุ น ภาคตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ ตอนบนช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม ปี 2559 มีบริษัทยื่นขอรับ การส่ ง เสริ ม การลงทุ น จำ � นวน 5โครงการ เปรี ย บเที ย บกั บ ใน ช่ ว งเดี ย วกั น ของปี 2558 จำ � นวนเพิ่ ม ขึ้ น 66.67% เงิ น ทุ น เพิ่ ม 523.67% และการจ้างงานเพิ่ม 100% มีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเส ริมการลงทุน ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2559 มีจ�ำ นวนทัง้ สิน้ 9 โครงการ แยกเป็น กิจการเกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร จำ�นวน 5 โครงการ อุตสาหกรรมเบา จำ�นวน 2 โครงการ กิจการผลิตภัณฑ์โลหะ เครือ่ งจักร และอุปกรณ์ขนส่ง และกิจการบริการและสาธารณูปโภค หมวดละ 1 โครงการเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 สัดส่วน จำ�นวนโครงการ มูลค่าเงินลงทุน และการจ้างงาน เพิ่มขึ้นร้อย ละ 66.67 523.67 และ 100.00 ตามลำ�ดับ มีโครงการที่ออกบัตรส่งเสริมการลงทุน ในช่วงไตรมาส ที่ 1 ปี 2559 มีจำ�นวนทั้งสิ้น 7 โครงการ เท่ากันกับปีที่ผ่านมา แยกเป็นกิจการเกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร จำ�นวน 4 โครงการ กิจการบริการและสาธารณูปโภค จำ�นวน 2 โครงการ และ กิจการเหมืองแร่ เซรามิกซ์ และโลหะขั้นมูลฐานจำ�นวน 1 โครงการ โครงการที่เปิดดำ�เนินการ ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2559 มี จำ�นวน 2 โครงการ เป็นกิจการเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และ บริการและสาธารณูปโภค หมวดละ 1 โครงการ โครงการที่ ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 12 จังหวัด ในไตรมาสที่ 1ของปี 2559 รวม 9 โครงการ เงินลงทุน 2,543 ล้านบาท เมือ่ เปรียบเทียบจากช่วงเดียวกันของปีทแี่ ล้ว จำ�นวน

โครงการและเงินลงทุน เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.00 และ 92.07 ตามลำ�ดับ จังหวัดที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนสูงที่สุด คือ จังหวัด ขอนแก่น ,กาฬสินธุ์ ,อุดรธานี และจังหวัดสกลนคร จังหวัดละ 2 โครงการ รองลงมาคือ จังหวัดร้อยเอ็ด จำ�นวน 1 โครงการ โดยจังหวัด ที่มีการลงทุนสูงสุดคือ จังหวัดสกลนคร 827 ล้านบาท รองลงมาคือ จังหวัดกาฬสินธุ์ 795 ล้านบาท ภาวะการส่ ง เสริ ม การลงทุ น ไตรมาส 1 ปี 2559 เทียบกับปีที่ผ่านมาจำ�นวนโครงการ เงินลงทุน การจ้างงานเพิ่มขึ้น ร้อยละ 50.00 92.07 และ 125.32 ตามลำ�ดับ การลงทุนเป็นกิจการ ดังนี้ กิจการผลิตก๊าซชีวภาพ กิจการผลิตเอทานอล กิจการผลิตข้าว คัดคุณภาพ กิจการผลิตนํ้ามันปาล์มดิบ นํ้ามันเมล็ดในปาล์ม เมล็ด ในปาล์มอบแห้ง กิจการผลิตยางแท่งและยางผสม กิจการผลิตผ้าที่มี คุณสมบัตพิ เิ ศษ กิจการผลิตผ้าทอ กิจการผลิตเครือ่ งจักรและอุปกรณ์ ขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ พาเลท และเครื่องชั่งนํ้าหนักอัตโนมัติ และ กิจการเขตอุตสาหกรรม แนวโน้มการลงทุนไตรมาสที่ 2 คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน ภาวะการส่งออกที่หดตัว ค่าเงินบาท ผันผวน หนีส้ นิ ครัวเรือนอยูใ่ นระดับสูง ประกอบกับภาคการเกษตร เจอปัญหาภัยแล้งทีย่ าวนาน จึงส่งผลให้ผปู้ ระกอบการยังคงขาดความ เชื่อมั่นที่จะลงทุน นอกจากนีแ้ ล้วก็ยงั มีรายงานภาวะการส่งเสริมการลงทุนภาค ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประจำ�เดือนเมษายน ปี 2559 เมือ่ เปรียบ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่า คำ�ขอรับการส่งเสริมการ ลงทุน เพิ่มขึ้น แต่การอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน ลดลง สำ�หรับแนวโน้มการลงทุนในเดือนพฤษภาคม คาดว่าจะ ชะลอตัว เนื่องจากเกษตรกรประสบปัญหาภัยแล้งที่ยาวนาน ส่ง ผลให้ผลผลิตด้านการเกษตรที่เป็นกิจการหลักของคนในพื้นที่ลด ลง ประกอบกับการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนลดลง เนื่องจากผู้ ปกครองต้องเตรียมเงินสำ�หรับให้ลูกหลานใช้ในการเปิดเทอมใหม่

ปราบปรามการทุจริตนั้น ขึ้นอยู่ที่ปัจจัยทั้งภายนอก และภายใน ปัจจัยภายนอก คือสังคมไทยที่มีสิ่งฟุ้งเฟ้อและยั่ว ยุให้เกิดเป็นกิเลส และปัจจัยภายในทำ�ให้เกิดความ โลภ การอยากได้ ในที่สุดก็ตามมาซึ่งการฉ้อโกง ยิ่ง ผูท้ มี่ อี �ำ นาจมากเท่าไร ก็ยงิ่ มองเห็นเส้นทางแห่งการ ทุจริตมากเท่านั้น ดังนั้น ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น จึงเกิดขึ้นจากบุคคลบางคนที่มีความโลภ หากไม่มี การฟุง้ เฟ้อ หรืออยากได้มากกว่าทีก่ �ำ ลังตนเองมี ก็จะ ไม่เกิดการทุจริต สิง่ สำ�คัญจึงอยูท่ กี่ ารประเมินตัวเอง นายกเทศมนตรี เ มื อ งบ้ า นไผ่ กล่ า วต่ อ ว่ า การ แก้ ปั ญ หาที่ ไ ม่ ป ระสบผลสำ � เร็ จ เป็ น เพราะบท ลงโทษ หรือกฎหมายไทยยังไม่มีความรุนแรงพอ ให้ผู้ที่ทำ�การทุจริตเกรงกลัว การแก้ปัญหาที่แท้จริง จำ�เป็นต้องมีผู้นำ�ที่เข้มแข็ง มีการปราบปรามอย่าง แท้จริง โดยเฉพาะการมีอ�ำ นาจทางการเมือง หากไม่มี การลงทุน ก็จะไม่มกี ารถอนทุน ซึง่ นับเป็นวงจรการ โกงกินที่อุบาทว์ จำ�เป็นที่ต้องมีบทลงโทษที่รุนแรง พอ เพื่อให้การทุจริตคอรัปชั่นหมดไป

ช้ อ ปทอง ช้ อ ปฟรี ตลอดปีทเี่ ทสโก้ โลตัส

ปังเว่อร์! หั่นค่ากำ�เหน็จลงเหลือ 499 บาท หรือเมื่อซื้อทองผ่าน บัตรเครดิต เทสโก้ โลตัส วีซ่าการ์ด รับสิทธิ์ผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ นาน 3 เดือน คุณวรรณดี เชื้อทอง ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายบริหารพื้นที่เช่า เทสโก้ โลตัส เอาใจคนรักทองจัดมหกรรม “ทอง ทอง ทอง ครั้งที่ 7” ช้อปทอง ช้อปฟรี ตลอดปีทเี่ ทสโก้ โลตัส ผนึก 5 พันธมิตรร้านทองชัน้ นำ� อาทิ ร้าน ทองเยาวราชกรุงเทพ, ร้านทอง Aurora, ร้านทองเยาวราช สินทวี , ร้าน ทอง บางกอกโกลด์ , ร้านทองหวังโต๊ะกัง เพื่อคืนกำ�ไรให้กับลูกค้าคนพิเศษของเทสโก้ โลตัส โดยหั่นค่า กำ�เหน็จลงเหลือ 499 บาท หรือเมื่อซื้อทองผ่านบัตรเครดิตเทสโก้ โลตัส วีซ่าการ์ด รับสิทธิ์ผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ นาน 3 เดือน (เฉพาะร้านทองที่ ร่วมรายการ) พร้อมลุ้นบัตรของขวัญ มูลค่า 50,000 บาท 10 รางวัล รวม มูลค่า 500,000 บาท ในระหว่างวันที่ 7-30 มิถุนายน 2559 นี้ ที่เทสโก้ โลตัส ทีร่ ว่ มรายการทัว่ ประเทศ ตรวจสอบรายละเอียดเพิม่ เติมได้ที่ www. tescolotusfs.com ประกาศผลรางวัล www.luckyonegroup.net

พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่

รอง ผบช.ภ.4 เน้น! ‘นโยบายดูแลประชาชนเป็นหลัก มุ่งสร้างความดีด้วยผลงาน’ “สวั ส ดี ค่ ะ ”หนั ง สื อ พิ ม พ์ ไ ทยเสรี ข อ ต้ อ นรั บ ทุ ก ท่ า นเข้ า สู่ ค อลั ม น์ “สายตรงโรง พัก”ฉบับประจำ�เดือนมิถุนายนพุทธศักราช 2559 ฉบับนี้เราขอแนะนำ�ท่านให้รู้จักกับคนในแวดวง สีกากี คือ “ตำ�รวจ”หรือ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์”ใน พืน้ ทีภ่ าคอีสานเช่นเคยค่ะโดยเราขอแนะนำ�ท่านให้ รู้จักกับ พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ รองผู้บัญชาการ ตำ�รวจภูธรภาค 4 (อาวุโสอันดับ1) นักบริหารงาน ตำ�รวจแบบฉบับนายตำ�รวจมืออาชีพ เน้นนโยบาย ดูแลประชาชนเป็นหลักมุง่ สร้างความดีดว้ ยผลงาน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองค่ะ พล.ต.ต.รั ฐ พงษ์ ยิ้ ม ใหญ่ รอง ผบช.ภ. 4 เกิดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2501 เป็นชาว จ.นครนายก สมรสกับนางธนัชญา ยิ้มใหญ่ มีบุตร ด้วยด้วยกัน 1 คน คือ พญ.ภรภัทร ยิ้มใหญ่เป็น นักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 19 และนักเรียนนายร้อย ตำ�รวจ รุ่น 35 ปริญญาตรี รัฐประศาสนศาสตร บัณฑิต โรงเรียนนายร้อยตำ�รวจ และปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิตสาขาอาชญวิทยาและงาน ยุติธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล รับราชการหลายแห่ง ไม่วา่ จะเป็นที่ ตำ�รวจ ภูธรภาค 3, ตำ�รวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.),ตำ�รวจ ภูธรภาค 4 และที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำ�รวจจังหวัด ชายแดนภาคใต้ ด้ า นการศึ ก ษาอบรม ที่ ส ถาบั น พั ฒ นา ข้ า ราชการตำ � รวจ อบรมฝ่ า ยอำ � นวยการ

ตำ�รวจ(เร่งรัด) รุ่น ที่ 1 ,หลั ก สู ต ร ผกก.รุ่นที่ 27 และ หลักสูตรการบริหารตำ�รวจชั้นสูง รุ่นที่ 24 ไป สัมมนาเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมที่ประเทศ ญี่ปุ่น รวม 2 ครั้ง วิสยั ทัศน์ในการทำ�งาน ยึดหลักว่า เราต้อง รูว้ า่ สังคมมีปญั หาอะไร ตำ�รวจมีหน้าทีอ่ ะไร เราจะ แก้ไขปัญหาให้สงั คม ประชาชน/บ้านเมืองอย่างไร ในโอกาสที่ได้มาเยือนคอลัมน์สายตรง โรงพัก ได้กล่าวฝากถึงตำ�รวจผู้ใต้บังคับบัญชา ในสังกัดตำ�รวจภูธรภาค 4 ทั้ง 12 จังหวัดภาค อีสานตอนบนด้วยว่า “การทำ�งานตำ�รวจเพื่อรับ ใช้ประชาชนไม่มีสูตรสำ�เร็จ สิ่งที่สำ�คัญที่สุด คือ หลักการครองตน ครองงาน ให้พยายามศึกษาดู ตัวอย่างที่ดีจากผู้บังคับบัญชาแล้วนำ�มาปรับใช้ โดยไม่เอารัดเอาเปรียบ ให้มีนํ้าใจซึ่งกันและกัน มี ความเสียสละ โดยให้เน้นนโยบายดูแลประชาชน เป็นหลัก และสร้างความดีด้วยผลงานก็จะส่งผล ถึงความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานในที่สุด ครับ” สำ�หรับคอลัมน์สายตรงโรงพักฉบับนีต้ อ้ ง ขอลาท่านผู้อ่านไปก่อน ไว้พบกันใหม่ฉบับหน้า เดือนกรกฎาคมนะคะ“สวัสดีค่ะ”

เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน

ณ อ่างเก็บนํ้าฝายโคกบ้านนาเจริญ ต.นาจาน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น

สืบสานประเพณีบุญบั้งไฟ ; ดร.พงษ์ศกั ดิ์ ตัง้ วานิชกพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น เป็น ประธานเปิดงานประเพณี สืบสานบุญบั้งไฟตำ�บลนา จาน ประจำ�ปี 2559 โดยมี นายอรรถพันธุ์ สงวนเสริม ศรี นายอำ�เภอสีชมพู นาย บุญโฮม บุญแดนไพร กำ�นัน ตำ � บลนาจาน และผู้ นำ � ชุมชน ร่วมให้การต้อนรับ

ป้ อ ง กั น ย า เ ส พ ติ ด ใ น ชุ ม ชน ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่น เป็นประธานเปิด โครงการป้ อ งกั น ยาเสพ ติ ด ในชุ ม ชน รุ่ น ที่ 2 โดย มี นางนริศรา อรุณเดชาชัย ส.อบจ.ขอนแก่น และนาย ศิริพงษ์ อรุณเดชาชัย นายก เทศมนตรี ตำ � บลบ้ า นแฮด ร่วมเป็นเกียรติ ณ หอประชุมเทศบาลตำ�บลบ้านแฮด อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ฝายหิ น ทิ้ ง แบบประชา อาสา ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ช กพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่ น เป็ น ประธาน เปิดโครงการก่อสร้างฝาย เสริมสร้างระบบนิเวศต้น นํ้ า และฝายหิ น ทิ้ ง แบบ ประชาอาสา (Check Dam) อำ � เภอกระนวน ประจำ � ปี 2559 โดยมี นายตระกูล เจริญเชื้อ ส.อบจ.ขอนแก่น อ.กระนวน เขต 2 ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ วัดพัฒนสีลา ต.บ้านฝาง อ.กระนวน จ.ขอนแก่น โครงการสานฝั น วั ย ใส ; พล.ท.ธนสร ป้ อ งอาณา รองผู้ บั ญ ชาการ หน่ ว ย บั ญ ชาการทหารพั ฒ นา เป็นประธานเปิดโครงการ สานฝั น วั ย ใส ซึ่ ง หน่ ว ย บัญชาการทหารพัฒนา กอง บัญชาการกองทัพไทย ร่วม กับมูลนิธิ รัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จัดขึ้น เพื่อแนะแนววางแผนเข้ารับการศึกษาต่อในสถาบันต่างๆ ของนักเรียนมัธยมปลาย ที่มหาวิทยาลัยภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2559 ครอบครัวสุขหรรษาตะลุย อี ส าน ; ททท.สำ � นั ก งาน ขอนแก่น ร่วมกับสายการ บินแอร์เอเซีย จัดกิจกรรม “ทริปครอบครัวสุขหรรษา ตะลุ ย อี ส าน” โดยเชิ ญ ครอบครัว celebrity พร้อม ทัง้ สือ่ มวลชน จากหาดใหญ่ และเชียงใหม่ เดินทางมา สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม และแหล่งท่องเทีย่ วจังหวัด ขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยง ข้ามภูมิภาค


หน้า 9

ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2559

Mega city

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี น ครขอนแก่ น พร้อมคณะผูบ้ ริหาร ให้การต้อนรับ นพ.อำ � นวย กาจี น ะ อธิ บ ดี ก รม ควบคุมโรค และ นพ.รุ่งเรือง กิจ ผาติ ผู้ อำ � นวยการสำ � นั ก งาน ป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น พร้อมคณะ ในโอกาสเข้าพบแลก เปลี่ ย นแนวทางการดำ � เนิ น งาน Mega city ณ ห้องประชุมสีโหวั น เทศบาลนครขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ลงนามกำ�จัดขยะมูลฝอยชุมชน นายอิ ท ธิ พ นธ์ ตรี วั ฒ น สุ ว รรณ นายกเทศมนตรี น คร อุดรธานี และ นายวีระ บูรพชัยศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโซ ริค รีนิวเอเบิ้ล เอนเนอร์ยี่ จำ �กัด ร่ ว มลงนามในสั ญ ญาก่ อ สร้ า ง และบริ ห ารจั ด การระบบกำ � จั ด ขยะมูลฝอยชุมชน โดยมีผู้บริหาร องค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น 19 แห่ง หัวหน้าส่วนราชการทีเ่ กีย่ วข้อง ร่วมในพิธี ณ ห้องประชุมเวสสุวัณ สำ�นักงานเทศบาลนครอุดรธานี

ประชุมสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวขอนแก่น

มร.แสตนลี่ ย์ ชาน ผู้ จั ด การใหญ่ โรงแรมพู ล แมน ขอนแก่ น ราชา ออ คิด ให้การต้อนรับ นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุ ธ ยา นายกสมาคมธุ ร กิ จ การท่ อ งเที่ ย ว จั ง หวั ด ขอนแก่ น และกรรมการบริ ห าร รวมไปถึ ง สมาชิ ก และผู้ แ ทนจากหน่ ว ย งานต่ า งๆ ที่ เ ข้ า ร่ ว มประชุ ม ประจำ � เดื อ น พฤษภาคม 2558 ของ สมาคมธุรกิจการ ท่ อ งเที่ ย วจั ง หวั ด ขอนแก่ น ณ ห้ อ งศาลา ไทย ชั้น 4 และโรงแรมฯ ได้จัดเลี้ยงสังสรรค์ แบบค๊อกเทลปาร์ตี้ ณ มุมอาหารอิตาเลี่ยน สกร็อปปิโน่ เมื่อเร็วๆนี้

ประมูลเลขทะเบียนสวยหมวด กย.

นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี พร้อมกับ นายนิติธร เพชรคูหา ผอ.สำ�นักงานขนส่งจังหวัดอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าว การเปิดประมูลเลขทะเบียนรถสวยหมวด กย อุดรธานี กิจการก้าวไกล ยิ่งใหญ่ยั่งยืน จำ�นวน 301เลขหมาย ในระหว่างวันที่ 18-19 มิ.ย.2559 นี้ ที่โรงแรมนภาลัย โดยมี บริษัท ไมค้า จำ�กัด เป็นผู้ดำ�เนินการ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2559 ที่ห้องประชุมโรงแรมนภาลัย จ.อุดรธานี

Fairy Fantasia 10 รอบชิงชนะเลิศ

ศู น ย์ ส รรพสิ น ค้ า แฟรี่ พลาซ่า ขอนแก่น จัดการ ประกวดร้องเพลง Fairy Faintasia 10 รอบชิ ง ชนะเลิ ศ เมื่ อ วั น เสาร์ ที่ 14 พฤษภาคม 2559 ที่ ผ่ า นมา ณ เวที ก ลาง ตลาดต้นตาล ขอนแก่น รางวั ล ชนะเลิ ศ Fairy Faintasia 10 ได้แก่ คุณ ต้ อ ง นายอภิ รุ จ ชวั ล กร บุตรศรี


หน้า 10

ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2559

เอไอเอส จับมือ ปชส.ขอนแก่น ให้ความรู้

“คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ไม่อันตรายต่อสุขภาพ”

ปชส. จ . ข อ น แ ก่ น ร่ ว ม กั บ เอไอเอส จั ด เสวนา “ ค ลื่ น แ ม่ เ ห ล็ ก ไ ฟ ฟ้ า จากเสาส่ ง สั ญ ญาณ โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ ”ไม่ อันตรายอย่างทีค่ ดิ ชี้ เสวนาครัง้ นี้ หวังเผย แพร่ข้อมูล ข่าวสาร ที่ ถู ก ต้ อ งจากภาค รั ฐ ผ่ า นสื่ อ มวลชนสู่ สาธารณชนต่อไป นายอุ ด มศั ก ดิ์ โสมคำ � ผู้ ช่ ว ยกรรมการผู้ อำ � นวยการส่ ว นงานปฏิ บั ติ ก าร ภู มิ ภ าค-ภาคตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ บริ ษั ท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำ�กัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่าจากเงื่อนไขข้อกำ�หนด ในการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมตามที่คณะ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิ จ การโทรคมนาคมแห่ ง ชาติ (กสทช.) กำ�หนดนั้น บริษัทฯไม่ได้เพียงมุ่งขยายโครง ข่ า ยให้ ค รอบคลุ ม เพี ย งอย่ า งเดี ย วแต่ มี จุ ด มุ่ ง หมาย คือ การทำ�ให้คนไทยทุกคนสามารถเข้า ถึงเทคโนโลยีทางการสื่อสารได้อย่างเท่าเทียม กันในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งขณะเดียวกัน บริษัทฯ ตระหนักถึง ความกังวลของประชาชน และคนในชุมชน เกี่ยวกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณ โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ ว่ า มี ผ ลต่ อ สุ ข ภาพจริ ง หรื อ ไม่ เ อไอเอสจึ ง ร่ ว มกั บ สำ � นั ก ประชาสั ม พั น ธ์ จั ง หวั ด ขอนแก่ น จั ด งานเสวนาให้ ค วามรู้ ใ น หัวข้อ “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณ โทรศัพท์มือถือไม่อันตรายต่อสุขภาพ” ทั้งนี้ เพื่ อ เป็ น ข้ อ มู ล สำ � หรั บ ท่ า นสื่ อ มวลชน นำ �

เสนอเผยแพร่ สู่ ส าธารณต่ อ ไป และยั ง เป็นการสอดรับกับนโยบายของ สำ�นักงา นกสทช.ในการเดินสายให้ความ รูก้ บั ประชาชนในประเด็นดัง กล่าวทั่วประเทศ น า ย ธี ร ศั ก ดิ์ อ นั น ต กุ ล ผู้ จั ด ก า ร แผนกเทคนิ ค โครง ข่ า ย โ ท ร ค ม น า ค ม เ อ ไ อ เ อ ส ก ล่ า ว ว่ า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจาก เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ มื อ ถื อ ที่ มี ป ระชาชนวิ ต ก กังวลนั้นความจริงแล้วไม่ได้ส่ง ผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายมนุษย์ และ สัตว์ เพราะว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดังกล่าว มีกำ�ลัง ส่งทีต่ าํ่ กว่าเกณฑ์มาตรฐานทีก่ สทช.กำ�หนดไว้ เช่น เดียวกับโครงสร้างเสาส่งสัญญาณที่ก่อสร้างตาม หลักวิศวกรรมที่เป็นไปตามมาตรฐานของสถาบัน วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และ กสทช.ดัง นั้น ประชาชน และผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณรอบเสาส่ง สัญญาณจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบแต่ อย่างใด โดยจากงานวิจยั ระบุวา่ คลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้า มี 2 ประเภท คือ คลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้ากลุม่ ชนิดไม่กอ่ ไอออน (Non-ionizing radiation)ซึง่ เป็นย่านความถี่ ชนิ ด ที่ ไ ม่ ส ามารถเปลี่ ย นแปลงพั น ธุ ก รรมหรื อ ดีเอ็นเอ(DNA) ในมนุษย์ และสัตว์ ได้ เนื่องจาก เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ตํ่าซึ่งจะอยู่ในกลุ่ม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ มือถือ ,คลื่นจากวิทยุ เอเอ็ม เอฟเอ็ม และโทรทัศน์ รวมถึงคลื่นจากวิทยุสื่อสารตำ�รวจหรือกู้ภัย และ สัญญาณ WI-FIเป็นต้น โดยองค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ได้ กำ�หนดให้คลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้าประเภทนี้ อยูใ่ นกลุม่

2Bซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับกาแฟ แสงแดด (UV) และนํ้ า มั น มะพร้ า วที่ ผ สมกั บ ไดเอทาโนลาไมด์ สำ�หรับทำ�ให้เกิดฟองในผลิตภัณฑ์ทำ�ความสะอาด จำ�พวกแชมพู สบู่ รวมไปถึงเครื่องสำ�อางและสาร สกัด เป็นต้นโดยทัง้ หมดถือเป็นกลุม่ ทีอ่ าจจะ หรือ อาจเสี่ยงให้ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพเท่านั้น “ปั จ จุ บั น ยั ง ไม่ มี ผ ลวิ จั ย ใดที่ ชี้ ชั ด ว่ า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ มือถือมีผลกระทบทำ�ให้เกิดโรคต่างๆต่อร่างกาย มนุษย์ หรือสัตว์เลย เช่นเดียวกับ กสทช.ที่ออก มาระบุอย่างชัดเจนว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสา ส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศมีเกณฑ์ตํ่า กว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กสทช.กำ�หนดไว้” ค ลื่ น แ ม่ เ ห ล็ ก ไ ฟ ฟ้ า ก ลุ่ ม ช นิ ด ก่ อ ไอออน(Ionizing-radiation) ซึ่งเป็นคลื่นที่มีผลต่อ อะตอม และมีผลต่อการแยกอนุภาคอีเล็กตรอน ออกไปกลายเป็นอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุสำ�คัญ ของการเกิดโรคมะเร็ง เช่น คลื่นจากรังสีแกมมา รังสีเอ็กซ์ เป็นต้น ในประเด็ น เรื่ อ งความปลอดภั ย ของ โครงสร้างเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือนั้น ทา งบริ ษั ท ฯได้ ดำ � เนิ น การติ ด ตั้ ง ก่ อ สร้ า งตามหลั ก วิ ศ วกรรมที่ เ ป็ น ไปตามมาตรฐานของสถาบั น วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และ กสทช. ซึ่ง ในการดำ�เนินงานก่อสร้างจะปฏิบัติตามขั้นตอน อย่างเคร่งครัด ดังนัน้ จึงมีความมัน่ คง แข็งแรงของ โครงสร้างที่สามารถทนต่อแรงลมปะทะได้สูงสุด ถึง 130กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับระดับ ความแรงของพายุใต้ฝุ่นหรือแม้แต่แผ่นดินไหว ก็ตาม “เอไอเอส ขอยืนยันว่าการติดตั้งเสาส่งสัญญาณ โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ เป็ น ไปตามมาตรฐานที่ ก สทช. กำ�หนดไว้ เช่นเดียวกับอุปกรณ์ตา่ งๆทีต่ ดิ ตัง้ อยูบ่ น เสาส่งสัญญาณซึง่ ได้การรองรับจากผูใ้ ห้บริการทัว่ โลกในการใช้งาน”

เชือ่ มโยงท่องเทีย่ วอีสาน-ตะวันออกกระตุน้ ท่องเทีย่ วภูมภิ าค การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำ�นักงาน ในภูมิภาค จับมือสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัด ภาคอีสาน–ตะวันออก แลกเปลี่ยนเชื่อมโยงการ ท่องเที่ยวระหว่างภาค โดยการสนับสนุนของสาย การบินไทยแอร์เอเชีย ในการเดินทาง ทำ�การสำ�รวจ เส้นทางการท่องเที่ยว แหล่งที่พัก ร้านอาหาร ด้าน ประธาน TTAA อีสานเผยเตรียมให้ผปู้ ระกอบท่อง เที่ยวทั้งสองภาค ทำ�โปรแกรมทัวร์แบบกรุ๊ปจอย ด้วยการให้ทุกเอเย่นต์ขายเป็นกลุ่มย่อยๆมารวม กันเป็นกรุ๊ปขนาดไม่เกิน 50-60 คน-กรุ๊ป ตั้งความ หวังโกยรายได้จากกิจกรรมการท่องเทีย่ วได้เพิม่ จาก กิจกรรมดังกล่าว เมื่อระหว่างวันที่ 30 พ.ค.-2 มิ.ย.2559 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี โดย นาย ทินกร ทองเผ้า นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัด อุ ด รธานี และเป็ น ประธานภาคตะวั น ออก เฉี ย งเหนื อ สมาคมไทยบริ ก ารท่ อ งเที่ ย วไทย หรือTTAA พร้อมด้วยสำ�นักงาน ททท.จังหวัด อุดรธานี โดย นายเสกสรร ศรีไพรวรรณ ผู้อำ�นวย การสำ � นั ก งาน ททท.จั ง หวั ด อุ ด รธานี ได้ นำ � ผู้ ประกอบการการท่องเที่ยวจากจังหวัดอุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และจังหวัด ร้อยเอ็ด ประมาณ 60 คน ร่วมกิจกรรมทำ�การ สำ�รวจเส้นทางการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการแลก เปลี่ยนการท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาค โดยได้รับ การสนับสนุนการเดินทางโดยสายการบินไทยแอร์ เอเชีย ที่ท�ำ การบินในเส้นทาง อุดรธานี-สนามบิน อู่ตะเภา ระยอง-จันทบุรี โดยมีเป้าหมายในการเต รียมจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวใหม่ ที่หันมาขาย โปรแกรมแบบจอยทัวร์ คือการให้ผู้ประกอบการ ทุกแห่งขายโปรแกรมเป็นกลุ่มขนาดเล็กๆแล้วส่ง ไปรวมกันเป็นกรุป๊ เดินทางทีไ่ ม่เกิน 50-60 คน/กรุป๊ ทัง้ นีโ้ ปรแกรมการท่องเทีย่ วในพืน้ ทีท่ งั้ สองภูมภิ าค จะต้องเปลีย่ นแปลงไป เพราะสามารถเดินทางด้วย ความสะดวก รวดเร็ว ที่เคยต้องจัดโปรแกรมเที่ยว ละ 5 วัน 4 คืน จะเหลือแค่โปรแกรมละ 3 วัน 2 คืน แทน ทั้ ง นี้ ไ ด้ รั บ การอำ � นวยความสะดวกใน การพาผู้ประกอบการจากภาคอีสานตอนบน โดย สำ � นั ก งาน ททท.จั ง หวั ด ระยอง-จั น ทบุ รี โดย น.ส.กนกกิ ต ติ ก า กฤตย์ วุ ฒิ ก ร ผอ.สำ � นั ก งาน ททท.จังหวัดระยอง-จันทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ ใน การเดินทางสำ�รวจเส้นทางการท่องเที่ยว แหล่ง ท่องเที่ยวของทั้ง 2 จังหวัด ที่พักโรงแรม รวมไป ถึงร้านอาหาร ที่ผู้ประกอบการจะนำ�เอาไปบรรจุ ไว้ในโปรแกรมการเดินทางการท่องเที่ยวในแต่ละ

โปรแกรมต่อไป นายวิทวัช ศรีนาม ผวจ.จันทบุรี กล่าวว่า จังหวัดจันทบุรี ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้าน การท่องเที่ยวจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกทุกด้าน ทั้งด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี แหล่งท่องเที่ยว ทางธรรมชาติ เช่นนํ้าตกหลายแห่งที่สวยงาม เกาะที่ สำ�คัญๆ เช่น เกาะช้าง เกาะกูด หรือ รอยพระพุทธบาท ที่เขาคิชฌกูฏ มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง สวนผล ไม้มากมาย จนได้ชอื่ ว่าเป็นเมืองสวรรค์แห่งผลไม้ ผูค้ น มีวิถีชีวิตที่หลากหลาย หรือแม้กระทั้งตัวอาคารศาลา กลางจังหวัดที่มีอายุกว่า 106 ปี ก็ยังสามารถใช้เป็น สถานที่ท่องเที่ยวได้เช่นกัน สำ�หรับกิจกรรมการแลกเปลี่ยนกิจการท่อง เที่ยวระหว่างภาค ระหว่างจังหวัด ถือว่าเป็นเรื่องที่ ดีสำ�หรับการท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลถือเอาเป็นวาระที่ สำ�คัญ เพราะการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้ กับประเทศเป็นอันดับหนึ่ง “สำ�หรับการต้อนรับจากพืน้ ทีท่ สี่ �ำ คัญคือ การ ต้อนรับจากภายในที่เกิดมาจากพี่น้องประชาชนใน พืน้ ทีท่ กุ จังหวัดถือว่าเป็นปัจจัยภายใน หรือการเป็นเจ้า บ้านที่ดี เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และถือว่าเป็นทรัพยากรที่ สำ�คัญทีส่ ดุ เพราะหากว่าจะกล่าวถึงทรัพยากรการท่อง เที่ยวในพื้นที่ ทุกจังหวัดก็มีพร้อมอยู่แล้วทุกด้าน ซึ่ง ขึน้ อยูก่ บั แต่ละพืน้ ที่ ซึง่ ถือว่าเป็นปัจจัยภายนอก และ ทุกพืน้ ทีจ่ ะต้องยึดถือเอาการท่องเทีย่ วทุกด้าน จะต้อง ควบคุมคุณภาพสินค้าการท่องเที่ยวให้ได้อยู่ที่ความ ยุติธรรมในทุกด้นอีกด้วย ซึ่งก็เป็นมาตรฐานหนึ่งที่มี ความสำ�คัญมาก” ผวจ.จันทบุรี กล่าว นายทินกร ทองเผ้า นายกสมาคมธุรกิจท่อง เที่ยวจังหวัดอุดรธานี และประธานภาคตะวันออก เฉียงเหนือ สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว กล่าวถึง โครงการกิจกรรมส่งเสริม Table Top Sale ระหว่าง บริษัทนำ�เที่ยวจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน กับผูป้ ระกอบการท่องเทีย่ ว ระยอง-จันทบุรี ว่า การทำ� ตลาดการท่องเทีย่ วในภาคตะวันออกในขณะนี้ ถือว่ามี ความสะดวกมากยิง่ ขึน้ เนือ่ งจากการมีสายการบินไทย แอร์เอเชีย เปิดเส้นทางบินระหว่าง อุดรธานี- อู่ตะเภา จ.ระยอง ทุกวันๆละ 1 เที่ยวบิน ทำ�ให้ลดเวลาการเดิน ทางลงไปได้มาก นับรวมกันแล้วกว่า 2 วัน ซึง่ สามารถ นำ�เอาเวลาดังกล่าวไปทำ�การจัดโปรแกรมการเดินทาง ท่องเทีย่ วในจังหวัดภาคตะวันออกได้มากขึน้ และทำ�ให้ โปรแกรมแต่ละโปรแกรมสัน้ ลง สามารถทำ�โปรแกรม ให้เหมาะสมกับช่วงวันหยุด ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ หรือ วันหยุดติดต่อกันหลายๆวันได้ ต่อจากนี้ไปนักเดิน ทางท่องเที่ยวจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมไป ถึงประเทศเพือ่ นบ้าน สปป.ลาว และเวียดนาม ก็มที าง

เลือกในการเดินทาง และภาคตะวัน ออก สามารถจะเดินทางไปมาเพื่อการ ท่องเที่ยว หรือเพื่อการอื่นๆได้สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในส่วนความร่วมมือของสมาคมธุรกิจ การท่องเที่ยวของภาคอีสาน การท่อง เที่ ย วแห่ ง ประเทศไทย กั บ สมาคม ธุรกิจการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก และ ททท.นั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่าน มาก็มีการพัฒนาร่วมกันมาโดยตลอด ดังที่จะเห็นว่า ได้มีการแลกเปลี่ยนกัน ทำ�การจัดกิจกรรมโรดโชว์เป็นระยะ ตามความเหมาะสมกับเวลาและงบ ประมาณ เช่ น ล่ า สุ ด การท่ อ งเที่ ย ว จั ง หวั ด ชลบุ รี นำ � เอาผู้ ป ระกอบการ ในจั ง หวั ด ชลบุ รี เดิ น ทางไปทำ� การ โรดโชว์ทจี่ งั หวัดอุดรธานี หรือการทีผ่ ู้ ประกอบการจากจังหวัดอุดรธานี เดิน ทางไปทำ � การโรดโชว์ ต ามจั ง หวั ด อื่นๆ และในโอกาสต่อไป คาดว่าว่า จะสามารถเชื่ อ มโยงการเดิ น ทางได้ อย่างทั่วถึง ซึ่งการขายโปรแกรมทัวร์จากจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน จะต้องทำ�เป็นในลักษณะร่วมกัน คือ จะทำ�แบบทุกบริษัทขายแล้วก็มารวมเป็นกรุ๊ปใหญ่ ด้วยเหตุผลที่ว่า การขายทัวร์ในลักษณะดังกล่าว จะ สามารถทำ�การขายได้ตลอดเวลา แบ่งออกเป็นกรุ๊ป ขนาดไม่ใหญ่นักไม่น่าจะเกิน 50-60 คน/กรุ๊ป ง่ายต่อ การดูแลและสามารถแบ่งกลุ่มได้ตลอดเวลา สามารถ ขายได้มากขึ้น ไม่ต้องรอเป็นกรุ๊ปใหญ่ๆ ทั้งนี้จุดเด่นในการขายโปรแกรมตะวันออก ได้แก่ ทะเล ชายหาดที่สวยงาม สวนผลไม้นานาชนิด และแหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วทางธรรมชาติ เช่ น ทุ่ ง โปร่ ง ทอง ซึ่งเป็นทุ่งของต้นไม้โกรงกางขนาดใหญ่ที่มีสิ่ง มหัศจรรย์และมีเรื่องเล่า หรือเนินนางพญาบนถนน สายบูรพาชลทิศ และ ฯลฯ น.ส.กนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำ�นวยการ สำ�นักงาน ททท.จังหวัดระยอง จันทบุรี ซึ่งมีพื้นที่ รับผิดชอบจังหวัดจันทบุรีด้วย กล่าวว่า การที่เกิดการ ร่วมมือระหว่าง สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว และ ททท. ภาคตะวันออก จัดทำ�กิจกรรมแลกเปลี่ยนการท่อง เที่ยวกับภาคอีสานตอนบน ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมท่อง เที่ยวทั่วๆไป เป็นการดึงเอานักท่องเที่ยวของอีสาน ตอนบน รวมไปถึง สปป.ลาวและเวียดนามบางส่วน ให้เดินทางเข้ามาเที่ยวในพื้นที่ของภาคตะวันออก ซึ่งมีจุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวที่มีชายหาดทะเลที่

สวยงามทั้งของจังหวัดระยอง จันทบุรีเป็นจำ�นวน มาก เกาะแก่งน้อยใหญ่ วิถีชีวิตของคนภาคตะวัน ออกทีห่ ลากหลาย รวมไปถึงเป็นภาคทีม่ คี วามสำ�คัญ ทางวรรณคดี ประวิตศิ าสตร์ของชาติไทย เช่น สถาน ทีพ่ กั ทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในสมัย เดินทัพเข้าตีเมืองจันทบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวที่การ ท่องเทีย่ วได้ บรรจุเข้าไปอยูใ่ นเมืองทีต่ อ้ งห้ามพลาด เช่น ถนนบูรพาชลทิศ และจังหวัดจันทบุรี ชุมชนริ มนํ้าจันทบูร ที่เป็นชุมชนที่มีความเก่าแก่และมีการ อนุรักษ์วิถีชีวิตเดิมเอาไว้ หรือชุมชนชาวประมง ปากแม่นํ้าประแสเป็นต้น ในด้านที่พักทั้ง 2 จังหวัด ก็มที งั้ ทีพ่ กั แบบโฮมสเตย์ โรงแรมตัง้ แต่ขนาด 3 ดาว ไปจนถึงโรงแรมขนาด 5 ดาว ทีต่ งั้ อยูใ่ นพืน้ ทีบ่ นบก หรือ ตามเกาะสำ�คัญๆ เช่น เกาะเสม็ด และเกาะอืน่ ๆ อีกมากมาย ให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกสรรหา เป็นทีพ่ กั ได้ รวมทัง้ 2 จังหวัดคือระยองและจันทบุรี ประมาณ 20,000 ห้องเศษ ซึ่งในช่วงโลว์ซีซั่นนั้น ททท.ได้จัดโปรโมชั่น เที่ยววันธรรมดา ซึ่ง ททท.ได้ จัดโปรแกรมการท่องเทีย่ ว วันธรรมดาเอาไว้ตอ้ นรับ นักท่อเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขอทราบราย ละเอียดต่างๆได้ที่สำ�นักงาน ททท.จังหวัดระยอง หมายเลข โทร.098-655420-1 โทรสาร.038-655422 หรือ E-Mail:-Kanokkittika.krit@tat.co.th --ยงยุทธ ขาวโกมล รายงาน--


หน้า 11

ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2559 แอลทีกรุ๊ป

• ต่อจากหน้า 1

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2559 ที่บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าตึกคอมอุดรธานี นายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด อุ ด รธานี เป็ น ประธาน เปิด “ฮาร์เบอร์แลนด์ สนามเด็กเล่นในร่มสาขา ใหม่จังหวัดอุดรธานี” โดยมีนายสมควร นกหงส์ ประธานกรรมการบริหาร นายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒน สุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี นายสวาท ธีระรัตนนุกลู ชัย ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี และนายเสกสรร ศรีไพรวรรณ ผู้อำ�นวยการ ททท. สำ�นักงานอุดรธานี พร้อมนักธุรกิจ ร่วมงานอย่าง คับคั่ง นายปราการ นกหงส์ กรรมการผู้จัดการ ใหญ่ บริษัทในเครือ แอล ที กรุ๊ป เปิดเผยว่า “ฮาร์ เบอร์แลนด์ สาขาอุดรธานี” ถือสวนสนุกในร่มแห่ง ที่ 2 โดยเปิดให้บริการรูปแบบเดียวกันกับฮาร์เบอร์ แลนด์ทพี่ ทั ยา ซึง่ เพิง่ เปิดตัวไปเมือ่ ต้นเดือนเมษายน ทีผ่ า่ นมา และได้รบั การตอบรับเป็นอย่างดียงิ่ ทำ�ให้ มัน่ ใจในทิศทางการสร้าง “ศูนย์การค้ามหาสนุก” ที่ เน้นกลุ่มครอบครัว “ฮาร์เบอร์แลนด์ อุดร” สวนสนุกในร่มแห่ง ที่ 2 ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้าตึกคอมอุดรฯ ซึ่งมีพื้นที่ 1500 ตร.ม.แม้จะมีขนาดพืน้ ทีน่ อ้ ยกว่าทีพ่ ทั ยา แต่ก็ จัดเป็น Indoor Playground ทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ในภาคอีสาน โดยเครื่องเล่นหลักๆ ก็จะมีคล้ายๆ กับที่พัทยา ทั้ง โซนสไลเดอร์, เครื่องเล่นสำ�หรับเด็กทั่วไป, โซน บอล, สนามกีฬา, แทรมโพลีน และโซน Racing ที่ สำ�คัญคือเรือ่ งความปลอดภัยเพราะเราให้ความใส่ใจ กับเรื่องนี้เป็นอันดับแรก เลือกใช้ผู้ผลิตเครื่องเล่น ชัน้ นำ�จากประเทศเนเธอร์แลนด์ และใช้ทมี ติดตัง้ มา จากบริษทั ผูผ้ ลิตในยุโรปโดยตรง โดยจะมีการตรวจ สอบอย่างละเอียดก่อนที่จะเปิดให้บริการ นายปราการ เปิดเผยถึงสาเหตุทตี่ ดั สินใจใน การเปิดสวนสนุกในร่มสำ�หรับเด็กๆว่า เนื่องจาก ตนเองเป็นคนทีม่ คี รอบครัวและมีเด็กในครอบครัว และเมือ่ นำ�ไปเล่นสวนสนุกสำ�หรับเด็กในกรุงเทพฯ เห็นเด็กๆ มีความสุขจึงได้ความคิดว่า หากจะมี การนำ�เอาพืน้ ทีข่ องห้างต่างๆทีม่ อี ยูแ่ ล้วของบริษทั นำ�มาปรับปรุงแบ่งพืน้ ทีส่ ว่ นหนึง่ ให้เป็นพืน้ ทีส่ วน สนุกในร่มสำ�หรับเด็ก ก็จะทำ�ให้มีพื้นที่ออกกำ�ลัง หรือเล่นสำ�หรับเด็กๆ ทัว่ ไป เพราะประเทศไทยเป็น ประเทศร้อน การปล่อยให้เด็กออกไปเล่นกลางแดด ก็อาจจะมีปัญหาต่อสุขภาพเด็กได้ จากความคิดดังกล่าวในฐานะที่กลุ่มบริษัท เอ ที กรุ๊ป เป็นผู้ดำ�เนินกิจการธุรกิจศูนย์การค้าอยู่ แล้ว จึงได้ทดลองเปิดเป็นแห่งแรกที่เมืองพัทยา ซึ่งมีผลตอบรับดีมาก จึงเริ่มมองหาพื้นที่แห่งใหม่ ก็เห็นว่าที่จังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ ตั้งอยู่ในจุดที่เป็นศูนย์กลางของภาคอีสานตอนบน และภูมิภาคนี้ คน สปป.ลาว และชาวต่างประเทศ ที่อาศัยอยู่ในประเทศ สปป.ลาว เดินทางมาหาซื้อ สินค้าที่จังหวัดอุดรธานี เป็นจำ�นวนมาก นอกจาก นี้แล้วก็มีจังหวัดใกล้เคียงคือ หนองบัวลำ �ภู เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร ฯลฯ ที่เดินทางมาทำ� ธุรกิจในจังหวัดอุดรธานี “ฮาร์ เ บอร์ แ ลนด์ ” เป็ น สวนสนุ ก ในร่ ม แบรนด์ของไทยที่ทางกลุ่มบริษัท เอ ที กรุ๊ป ตั้ง ขึ้นมาเองแต่อุปกรณ์ทุกอย่างสั่งนำ�เข้ามาจากต่าง ประเทศ ซึง่ เน้นในเรือ่ งของความปลอดภัย แข็งแรง สะอาด เป็นหลัก และต้องการที่จะให้แบรนด์ของ ฮาร์เบอร์แลนด์เป็นแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ จึงได้ ตัดสินสินใจมาเปิดที่ตึกคอม จังหวัดอุดรธานี เป็น แห่งที่ 2 ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท โดยกำ�หนดธีมให้เป็นสไตล์ของคาวบอย เนื่องจาก เป็นการรำ�ลึกว่าจังหวัดอุดรธานี เคยเป็นสถานที่ ตัง้ ฐานทัพอเมริกนั จึงเป็นทีม่ าของธีมคาวบอย และ เป็นเครื่องเล่นสำ�หรับเด็กตั้งแต่อายุ 2-12 ปี สำ�หรับเป้าหมายการเปิดสวนสนุกฮาร์เบอร์ แลนด์ของบริษัทฯ ในปีนี้มีเป้าที่จะเปิด 6 แห่งด้วย กันคือ ทีเ่ มืองพัทยา เป็นธีมทะเลสวยสดงดงามตาม แบบฉบับของทะเลภาคตะวันออก ในพื้นที่ 2600 ตร.ม.ใหญ่ที่สุดในเอเซีย แห่งที่ 2 ตึกตอมจังหวัด อุดรธานี ธีมคาวบอย ในพื้นที่ 1500 ตร.ม. ในวัน ที่ 22 มิ.ย.นี้จะเปิดที่จังหวัดชลบุรี เป็นธีมจูราส สิค เดือนตุลาคมจะเปิดที่ศรีราชา ธีมญี่ปุ่น และที่ กรุงเทพฯจะเปิดอีก 2 แห่ง ยังไม่ได้กำ�หนดธีม “เราให้ ค วามสำ � คั ญ ของความปลอดภั ย

สำ�หรับเด็ก ที่จะเข้าเล่นเครื่องเล่นในร่มของอาร์ เบอร์แลนด์ว่า บริษัทฯ ได้คำ�นึงและเน้นมากเป็น พิเศษในกรณีดังกล่าว จึงได้สั่งนำ�เข้าเครื่องเล่นทุก อย่างจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึง่ ถือว่าเป็นเครือ่ ง เล่นสวนสนุกในร่มทีม่ คี ณ ุ ภาพและบริษทั ซัพพลาย เออร์ก็เป็นเบอร์หนึ่งของกลุ่มประเทศยุโรป และ เป็นมาตรฐานยุโรปสแตนดาร์ด และจะมีการตรวจ เช็คในด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์ทกุ ๆ 6 เดือน และทีส่ �ำ คัญทีส่ ดุ บริษทั ฯ กำ�หนดให้สวนสนุกของ ฮาร์เบอร์แลนด์ทุกแห่งจะต้องมีเจ้าหน้าที่พยาบาล ประจำ�อยูท่ กุ แห่ง เพือ่ สามารถดูแลปัญหาฉุกเฉินที่ เกิดขึน้ จากเด็กเล่นอุปกรณ์แล้วเกิดเหตุฉกุ เฉินได้ใน ทันที”นายปราการฯ กล่าวและว่า “นอกจากเราจะมั่ น ใจทั้ ง ศั ก ยภาพทาง เศรษฐกิจและกำ�ลังซือ้ ของกลุม่ ครอบครัวในจังหวัด อุดรธานีแล้ว ที่สำ�คัญเรามั่นใจในคุณภาพความ สนุกของเครื่องเล่นในฮาร์เบอร์แลนด์ของเราเป็น อย่างมาก เชือ่ ว่าเด็กๆ ทีไ่ ด้เข้ามาใช้บริการจะมีความ สุขและอยากกลับมาอีกอย่างแน่นอน” นายปราการ กล่าวต่อว่า แผนการลงทุนใน เรื่องของสวนสนุกในร่มในปีหน้า จะต้องบริหาร จัดการเปิดสวนสนุกฮาร์เบอร์แลนด์ในปีนใี้ ห้ได้ทงั้ 6 แห่งก่อน และต่อจากนัน้ ก็จะพิจารณาเมืองทีเ่ ป็น เมืองท่องเที่ยวและที่กรุงเทพฯเป็นหลักก่อน เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สงขลา ฯลฯ หรือกรุงเทพฯ เพราะ ธุรกิจสวนสนุกในร่มยังเป็นธุรกิจใหม่มากสำ�หรับ เมืองไทยเพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน “ในเรื่ อ งของการขายแฟนซ์ ช ายย์ ใ ห้ กั บ ผู้ ล งทุ น อื่ น ๆนำ � เอาไปทำ � ธุ ร กิ จ ต่ อ ยอด กลุ่ ม บริษัทฯพิจารณาแล้ว จะไม่มีการขายแฟนซ์ชายย์ เพราะการควบคุมดูแลในเรื่องของคุณภาพความ ปลอดภัย ความสะอาดของอุปกรณ์เครือ่ งเล่น เกรง ว่าจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง” นายปราการฯกล่าว

คิง พาวเวอร์

• ต่อจากหน้า 1

นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ เปิดเผยถึงเหตุผลในการ เข้าซื้อหุ้น AAV ว่าเป็นการลงทุนในระยะยาวให้ กับตนเองและครอบครัว ซึ่งคิดว่าจะสามารถใช้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเครือข่ายการ ค้าของ กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ จากการทำ�ธุรกิจใน อุตสาหกรรมการท่องเทีย่ วมาต่อยอดเเละส่งเสริมซึง่ กันเเละกันกับธุรกิจของไทยแอร์เอเชีย เพือ่ ให้เติบโต ต่ออย่างมั่นคง โดยการเข้าซื้อหุ้น AAV ในครั้งนี้นายวิชัย ได้มอบหมายให้นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา นาย อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา และนายสมบัตร เดชา พานิชกุล เข้ามารับตำ�แหน่งคณะกรรมการบริษัท เพื่อร่วมกำ�หนดวิสัยทัศน์และนโยบายกับไทยแอร์ เอเชีย ร่วมกันกับการบริหารของนายธรรศพลฐ์ แบ เลเว็ลด์เเละผู้บริหารชุดเดิม ทั้ ง นี้ ภ ายหลั ง จากการซื้ อ ขายหุ้ น AAV เสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และ เงื่ อ นไขของประกาศคณะกรรมการกำ � กั บ ตลาด ทุนที่ ทจ. 12/2554 เรื่องหลักเกณฑ์เงื่อนไข และ วิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำ�กิจการ นายวิชัยจะทำ�คำ�เสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ กิจการ (Mandatory Tender Offer) ส่วนที่เหลือจาก ผู้ถือหุ้นอื่นๆ ประมาณร้อยละ 60 ของหุ้นที่ออก จำ�หน่ายแล้วทั้งหมดของ AAV โดยมีราคาเสนอซื้อ ที่ 4.20 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้าน บาท โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาและ สนับสนุนทางการเงิน ในการทำ�คำ�เสนอซื้อหลัก ทรัพย์ และได้ทำ�การยื่นแบบประกาศเจตนาในการ เข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำ�กิจการ (แบบ 247-3 ) แก่สำ�นักงานคณะกรรมการกำ�กับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงเช้าของวันที่ 14 มิถุนายน นี้ แ ล้ ว พร้ อ มทั้ ง คาดว่ า จะยื่ น คำ � เสนอซื้ อ หลั ก ทรัพย์ (แบบ247-4) อย่างเป็นทางการ ได้ในวันที่ 23 มิถุนายน นี้ ด้านนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้า หน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ได้ตัดสินใจขายหุ้น AAV ในส่วนของตนเองและ ครอบครัว จากเดิมในสัดส่วนร้อยละ 44 ให้กับคุณ วิชัยและครอบครัวศรีวัฒนประภาในสัดส่วนร้อย ละ 39 ในราคา 4.20 บาทต่อหุ้น รวมกว่า 1,892 ล้าน หุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,945ล้านบาท ซึ่งราคา

ดังกล่าวเป็นราคาที่สะท้อนถึงข้อจำ�กัดการถือครอง หุน้ ของสายการบินในประเทศไทย ตามกฏหมายอัน เกี่ยวกับการเดินอากาศ ที่ได้กำ�หนดสัดส่วนการถือ ครองหุ้นว่า ผู้ถือหุ้นต้องเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติ ไทย ไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ซึ่งข้อจำ�กัดนี้ทำ�ให้ยากที่ จะหาผู้ที่มีความประสงค์และมีกำ�ลังซื้อสูงพอที่จะ ซื้อหุ้น AAV เป็นจำ�นวนมากดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม นายธรรศพลฐ์ ยังคงถือหุ้น อยู่ที่ร้อยละ 5 และมองว่าเป็นโอกาสดีของไทยแอร์ เอเชียทีไ่ ด้พนั ธมิตรทีแ่ ข็งแกร่งมากในอุตสาหกรรม ท่องเทีย่ วมาช่วยต่อยอดธุรกิจให้เติบโตและมัน่ คงขึน้ “ขอให้ ค วามมั่ น ใจว่ า ผมและที ม งานผู้ บริหารสายการบินยังคงทำ�หน้าที่บริหารของไทย แอร์เอเชียต่อไป และยังทุ่มเทในการทำ �งานเต็มที่ เหมื อ นวั น แรกที่ เ ข้ า มาบุ ก เบิ ก ตลาดสายการบิ น ราคาประหยัดในประเทศไทยเมื่อ 13 ปีก่อนและ ผ่านบทพิสูจน์มากมาย โดยไทยแอร์เอเชียยังยืนยัน การลงทุนเพื่อการเติบโตตามแผนปี 2559 นี้ โดยจะ รับเครือ่ งบินจนครบ 51 ลำ� คาดการณ์ผโู้ ดยสารอยูท่ ี่ 17 ล้านคน พร้อมเจาะตลาดอาเซียน จีนและอินเดีย ซึง่ ในส่วนนีค้ าดว่าจะได้ความแข็งแกร่งของนายวิชยั และกลุม่ บริษทั คิง เพาเวอร์ เข้ามาช่วยสนับสนุนการ ขยายธุรกิจให้เติบโตในอัตราเร่งทีอ่ าจจะมากกว่าเดิม ทั้งนี้นายธรรศพลฐ์กล่าวว่า การซื้อขายหุ้นครั้งนี้ ทางโทนี่ เฟอร์นานเดส ผู้ก่อตั้งกลุ่มสายการบินแอร์ เอเชียรับทราบและมีความเห็นสอดคล้องในการ ทำ�งานร่วมกันมองหาโอกาสใหม่เพื่อการเติบโต ที่ มัน่ คงกับนายวิชยั และครอบครัว รวมทัง้ กลุม่ บริษทั คิง เพาเวอร์ ซึง่ เป็นองค์กรทีม่ ศี กั ยภาพการบริหาร มี เครือข่ายการค้าการลงทุนที่เข้มแข็ง มีฐานะทางการ เงินที่มั่นคง และเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับ ระดั บ โลก นายโทนี่ เฟอร์ น านเดส ประธานเจ้ า หน้าที่บริหาร กลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย กล่าวว่า การลงทุนที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นการพิสูจน์ไทยแอร์ เอเชียเป็นบริษัทที่มีมูลค่าเหมาะสมกับการลงทุน จากการทีม่ คี รอบครัวนักธุรกิจทีป่ ระสบความสำ�เร็จ ให้ความสนใจเข้ามาลงทุน การผสานพลังระหว่าง แอร์เอเชียเเละกลุ่มคิง เพาเวอร์ บริษัทผู้ให้บริการ สินค้าปลอดภาษีของประเทศไทย จะเป็นการเพิ่ม ศักยภาพทางธุรกิจให้เติบโตขึ้น และเราก็พร้อมที่ จะทำ�งานร่วมกัน ไม่ใช่เเค่เพียงในประเทศไทย แต่ จะขยายครอบคลุมไปทั่วภูมิภาคอาเซียน ด้านนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธาน เจ้าหน้าทีบ่ ริหารกลุม่ บริษทั คิง เพาเวอร์ ซึง่ จะเข้ารับ ตำ�แหน่งคณะกรรมการบริษัทของ AAV และไทย แอร์เอเชีย กล่าวว่า ทั้ง2 บริษัทยังดำ�เนินนโยบายใน ธุรกิจหลักที่เข้มแข็ง แต่จะร่วมกันสร้างโอกาสใหม่ ในธุรกิจ โดยเฉพาะการมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ใน ตลาดประเทศจีนและกลุ่มอาเซียน ที่กำ�ลังเติบโต อย่างรวดเร็ว ซึ่งไทยแอร์เอเชียก็เป็นสายการบิน ที่มีเส้นทางบินเชื่อมไทย-จีน และขนส่งผู้โดยสาร จีนมากที่สุดเช่นกัน การเพิ่มช่องทางจำ�หน่ายและ กระจายสินค้าในธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ รวมทั้งการพัฒนาแบรนด์ร่วมกันในระดับ นานาชาติ อย่างไรก็ตามความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะยัง ตอกยํ้าการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดทั้งด้านการ ช็อปปิง้ และการเดินทาง ด้วยมาตรฐานยอมรับทีเ่ ป็น สากล

Smart Farmer

• ต่อจากหน้า 1

นายรั ก สกุ ล สุ ริ โ ย เกษตรและสหกรณ์ จั ง หวั ด อุ ด รธานี เปิ ด เผยว่ า จั ง หวั ด อุ ด รธานี ไ ด้ สนองนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ “การบริหารจัดการพืน้ ทีเ่ กษตรกรรมให้เกิด ประโยชน์สงู สุด” โดยการใช้ทรัพยากรทีด่ นิ ทีม่ อี ยูม่ า ดำ�เนินการส่งเสริมให้เกิดประโยชน์ให้มคี วามเหมาะ สม ด้วยแก้ปัญหาในหลากหลายรูปแบบ เช่น การ โซนนิ่งพื้นที่การเพาะปลูก ลดพื้นที่การเพาะปลูก หรือการรวมหลายแปลงให้หันมาทำ�การการเพาะ ปลูกทำ�การเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อเป็นการจัดการ บริหารให้เหมาะสม ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต และคุณภาพ พร้อมเผยหากจะให้การทำ�การเกษตร ยั่งยืนไปในอนาคตนั้น จะต้องใช้วิธีการโซนนิ่งพื้น ทีฯ่ การรวมกันทำ�การเกษตรในรูปแปลงใหญ่ โดยตัว เกษตรกรเองต้องช่วยเหลือบริหารจัดการกันเองโดย มีฝา่ ยราชการเป็นพีเ่ ลีย้ ง โดยจะใช้เวลาในการดำ�เนิน การตั้งแต่ พ.ศ.2558-2564

แนวทางดั ง กล่ า วนั้ น จะเป็ น การบริ ห ารจั ด การ กระบวนการผลิตพืชผลการเกษตรให้กับเกษตรกร ให้ มี ค วามรู้ แ ละเทคโนโลยี ที่ เ หมาะสมให้ แ ก่ เกษตรกร พัฒนาเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับสภาพ พื้นที่ ส่งเสริมการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี เจ้าหน้าที่ของภาครัฐ เอกชนและเกษตรกรเอง จะ ต้องมีการทำ�งานร่วมกันแบบบูรณาการ ร่วมกันใน แต่ละพื้นที่ แต่ละเขตตามภารกิจของหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมาย และจากการที่ได้รับการอบรมสัมมนา เพือ่ เป็นแนวทางในการเพิม่ ประสิทธิภาพการบริหาร จัดการพื้นที่เกษตรกรรมในระดับจังหวัด นายรักสกุลฯ กล่าวต่อว่า วัตถุประสงค์ใน การกำ�หนดเขตพื้นที่ใช้ที่ดินทางการเกษตร พร้อม ทั้ ง พร้ อ มทั้ ง จั ด ทำ � แผนที่ แ ละรายงานเพื่ อ เสนอ แนะแนวทางการใช้พื้นที่ประโยชน์ของที่ดิน เพื่อ เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติสงิ่ แวดล้อม เพือ่ ให้เป็นแนวทาง ในการจัดทำ�แผนปฏิบัติการพัฒนาเกษตรกรรมใน ระดับตำ�บล/หมูบ่ า้ น โดยคาดว่าหากมีการดำ�เนินการ แนวทางดังกล่าวไป จะทำ�ให้มแี นวทางในการบริการ จัดการทรัพยากรธรรมชาติระดับตำ �บล-หมู่บ้าน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับความ ต้องการของชุมชน จะทำ�ให้เขตพืน้ ทีเ่ กิดการใช้ทดี่ นิ เพื่อการเกษตรกรรมในระดับตำ�บล/หมู่บ้าน เป็นไป อย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการแนวทางดังกล่าวของจังหวัด อุดรธานีได้มีการลงมือดำ�เนินมาตั้งแต่ปี 2558 แล้ว ด้วยการทำ�การศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลด้านศักยภาพ ด้านเศรษฐกิจและสังคม สภาพการใช้ประโยชน์ทดี่ นิ ป่าไม้ ชลประทาน และการประเมินความเหมาะสม ของที่ดินด้านการเกษตร เพื่อนำ�เอาไปจัดทำ�แผนที่ และจำ�แนกความเหมาะสมของที่ดินในแต่ละพื้นที่ ว่าพื้นที่ใด ควรเพาะปลูกพืชการเกษตรใด ขัน้ ตอนที่ 2 (ปี 2559) ตัง้ แต่เดือนมากราคมกันยายน จัดส่งคณะทำ�งานในระดับจังหวัดลงพื้นที่ ตรวจสอบพืน้ ทีท่ งั้ หมดเพือ่ ให้ได้ความชัดเจนเหมาะ สมว่าพืน้ ทีห่ รือเขตใดมีความเหมาะในระดับใด โดย จะมีการแบ่งพืน้ ทีอ่ อกเป็น 4 ระดับคือ ระดับมีความ เหมาะสมมาก , เหมาะสมปานกลาง, เหมาะสมน้อย และไม่มีความเหมาะสมเลย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่ม ผลผลิต ด้วยการดำ�เนินการถ่ายทอดสูเ่ กษตรกรผ่าน โครงการเกษตรแปลงใหญ่ 7 แปลง หรือศูนย์เรียน รู้ 20 ศูนย์ และในส่วนของพื้นที่เพาะปลูกในระดับ เหมาะสมน้อย และไม่เหมาะสมเลย ก็จะให้การ แนะนำ�เพาะปลูกพืชเกษตรชนิดอื่นที่มีความเหมาะ สม ในแต่ละพืน้ ที่ หรือแนะนำ�ให้เกษตรกรในแต่ละ พื้นที่/เขต ไปประกอบอาชีพชนิดอื่นที่เหมาะสม แทน ขั้นตอนที่ 3 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560-2564 จะ เป็นการขยายพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ หรือศูนย์เรียน รู้ ทั้งนี้โดยการนำ�เอาวัตถุประสงค์ อุปสงค์ อุปทาน ทั้งหลายทั้งหมดจากในระดับตำ�บล/หมู่บ้านไปสู่ใน ระดับประเทศ นายรักสกุลฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำ�หรับ ศูนย์เรียนรู้จ�ำ นวน 20 ศูนย์ของจังหวัดอุดรธานี ได้ มีการจัดตั้งไปครบทุกอำ�เภอ 20 อำ�เภอแล้ว ตาม นโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะให้ มีการจัดตั้งทุกอำ�เภอจำ�นวน 882 แห่งทั่วประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่เกษตรอำ�เภอทำ�หน้าที่เป็นประธาน ศูนย์ และมีเกษตรกรเป็นศูนย์กลาง เป้าหมายคือ การทำ�ให้เกษตรเป็น Smart Farmer ที่จะทำ�ให้การเ พาะปลูกพืชการเกษตรที่สำ�คัญของชาติ มีการปรับ เปลี่ยนทัศนคติในการทำ�การเกษตรจากรูปแบบเดิม เป็นเกษตรกรที่มีความรู้อย่างแท้จริงในการทำ�การ เกษตร และโครงการเกษตรแปลงใหญ่คือวิธีการ รวบรวมพื้นที่การเกษตรให้เป็นการทำ�การเกษตร แปลงใหญ่ เช่นการเพาะปลูกข้าวแปลงหนึ่งต้องไม่ น้อยกว่า 1000 ไร่ มันสำ�ปะหลังไม่นอ้ ยกว่าแปลงละ 1000 ไร่ และอ้อยโรงงานไม่น้อยกว่าแปลงละ 3000 ไร่ ส่วนยางพาราแม้วา่ จะมีการศึกษาวิเคราะห์สภาพ ทั่วไปถึงความเหมาะสมของพื้นที่ แต่ก็มีหน่วยงาน ที่ให้ความรู้แก่เกษตรกรผู้ปลูกสวนยางพารา คอย ให้คำ�แนะนำ�อยู่แล้วจึงไม่มีการรวมแปลง ในระดับ จังหวัดนั้นได้ดำ�เนินการนำ�ร่องเป็นจังหวัดแรกใน ภาคอีสานตอนบน ในปี 2558 ดำ�เนินการนพร่อง ไปแล้ว 5 แปลง และในปี 2559 นี้มีเป้าหมายจะให้

ขยายการดำ�เนินให้ได้ 16 แปลง เป็นแปลงปลูกข้าว 14 แปลง แปลงปลูกอ้อยโรงงาน 2 แปลง ส่วนในปี ต่อๆไปนั้น ต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณที่จะได้รับการ จัดสรรมาจากส่วนกลาง น า ย รั ก ส กุ ล ฯ ชี้ แ จ ง ถึ ง ก า ร จั ด ก า ร บริหาร”เกษตรแปลงใหญ่” เป็นเพราะว่าเกษตรกร ไทยโดยมากจะทำ�การเกษตรในลักษณะที่เป็นแป ลงเล็กๆ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงจัดทำ � โครงการเกษตรแปลงใหญ่ขึ้น วิธีการก็คือทำ�การ รวมพื้นที่การเกษตรของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ให้ ได้ตามที่กำ�หนดในแต่ละพื้นที่ แล้วนำ�เอามาจัดการ บริหารการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจแต่ละประเภทโดย มี เกษตรอำ�เภอ/เกษตรตำ�บลในแต่ละอำ�เภอ/ตำ�บล จะทำ�หน้าที่เป็นผู้จัดการบริหาร จังหวัดอุดรธานี มีพชื เศรษฐกิจหลักทีส่ �ำ คัญ คือ ข้าว อ้อยโรงงาน มันสำ�ปะหลังและยางพารา ปัญหาการเกษตรของจังหวัดอุดรธานี ก็มีปัญหาที่ คล้ายๆกัน หรือเหมือนกันกับจังหวัดอื่นๆที่มี เช่น การใช้พื้นที่การเกษตรไม่เหมาะสมกับพืชที่เพาะ ปลูกแต่ละชนิด ผลผลิตน้อย/ตํา่ เช่น ผลผลิตข้าวของ จังหวัดเฉลีย่ แล้วยังไม่ถงึ 400 ก.ก.ต่อไร่ การตลาดไม่ ดีเพราะยังต้องซื้อ ขายผ่านพ่อค้าคนกลาง ในปีใดที่ ราคาพืชผลการเกษตรชนิดนัน้ มีราคาสูง เกษตรกรก็ จะหันไปปลูกพืชชนิดดังกล่าวมากจนทำ�ให้ลน้ ตลาด หรือเกินความต้องการขอตลาด ทำ�ให้ราคาตกตํ่า และปัญหาเกษตรกรยังไม่มีการปรับเปลี่ยนทัศนคติ ในการทำ�การเกษตรรูปแบบใหม่ก็เป็นปัญหาที่มีมา อย่างยาวนาน ปัญหาเหล่านี้จะต้องมีการบูรณาการ กันทำ�การปรับเปลี่ยน ปรับปรุง กันอย่างจริงจังและ ต่อเนื่อง สำ � หรั บ การโซนนิ่ ง พื้ น ที่ ก ารเกษตร นั้ น รั ฐ บาลได้ มี ก ารนำ � เอามาใช้ จั ด การกั บ พื้ น ที่ เกษตรกรรมในประเทศไทยมาหลายปีแล้ว แต่ก็ ต้องยอมรับว่ายังไม่เป็นรูปธรรมเท่าไหร่ เนื่องจาก ว่าเกษตรกรไทย มีความคุน้ เคยกับการทำ�การเกษตร ในแบบเดิมๆ มาเป็นเวลานาน ไม่ต้องการเปลี่ยน ไปทำ�การเกษตรชนิดอื่น พื้นที่การเกษตรใช้ทำ�การ เกษตรมาเป็นเวลานานและซํา้ ๆ ไม่ได้มกี ารปรับปรุง ประกอบกับในปีนี้กระทรวงเกษตรประกาศให้เป็น ปีของการ”รณรงค์ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มโอกาส ในการแข่ ง ขั น ” ทำ � ให้ ก ารทำ � เกษตรกรรมในพื ช เศรษฐกิจของประเทศต้องลดพื้นที่การเพาะปลูกลง เช่น จังหวัดอุดรธานีก็ต้องลดพื้นที่เพาะปลูกลงไป จำ�นวน 3 แสนไร่ ดังนั้นการโซนนิ่งพื้นที่การเกษตร และการทำ�การเกษตรแปลงใหญ่ จึงมีการนำ�เอามา ทำ�เป็นโครงการเร่งด่วนให้เกิดความเป็นรูปธรรม นายรักสกุลฯ เปิดเผยต่อไปอีกว่า จากการ ที่ ท างคณะทำ � งานในระดั บ จั ง หวั ด ทำ � การสำ � รวจ พื้นที่ การตรวจดิน และสภาพทั่วไป พบว่าในพื้นที่ เพาะปลูกพืชเกษตรในจังหวัดอุดรธานี มีพนื้ ที่ สภาพ ดิน สภาพสิ่งแวดล้อมทั่วไป มีความแตกต่างๆ และ กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ที่แตกต่างกันไปตามสภาพ ของธรรมชาติ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ พบว่ามีพื้นที่การ ทำ�การเกษตรที่มีความเหมาะสมมากและเหมาะสม ปานกลาง เพียงประมาณ 1. 7-1.8 ล้านไร่เท่านั้น มี ตัวเลขรายงานทีย่ งั ไม่นงิ่ แยกออกเป็นรายพืชเศรษฐ กิจหลักๆ คือ 1.ข้าวมีพนื้ ทีเ่ พาะปลูกประมาณ 2.230 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่มีความเหมาะสมมาก149,098 ไร่ เหมาะสมปานกลาง 807,087 ไร่ เหมาะสมน้อย 309,402 ไร่ และไม่มีความเหมาะสม 965,229 ไร่ 2.ยางพารามีพื้นที่ปลูก 277,802 ไร่ เหมาะสมมาก 2,824 ไร่ เหมาะสมปานกลาง 56,747 ไร่ เหมาะ สมน้ อ ย 210,832 ไร่ และไม่ มี ค วามเหมาะสม เลย7,399 ไร่ 3.มันสำ�ปะหลังมีพื้นที่ปลูก 470,972 ไร่ มีพื้นที่เหมาะสมมาก 44,275 ไร่ เหมาะสมปาน กลาง 222,062 ไร่ เหมาะสมน้อย 131,121 ไร่ และ ไม่เหมาะสมเลย 73,524 ไร่ และ 4.อ้อยโรงงาน มี พื้นที่ปลูก 796,875 ไร่ เป็นพื้นที่มีความเหมาะสม มาก63,724 ไร่ เหมาะสมปานกลาง 555,667 ไร่ เหมาะสมน้อย 150,706 ไร่ และพืน้ ทีไ่ ม่มคี วามเหมาะ สมเลย 26,778 ไร่ ซึง่ เมือ่ รวมพืน้ ทีท่ มี่ คี วามเหมาะสมมาก และ พื้นที่เหมาะสมปานกลาง มีจำ�นวน 1,836,548 ไร่ นอกจากนั้นเป็นพื้นที่เหมาะสมน้อยและไม่เหมาะ สมเลย 1,836,548 ไร่ นอกนั้นเป็นพื้นที่เหมาะสม น้อยและไม่เหมาะสมเลย จังหวัดอุดรธานี จึงร่วมกับทางสำ�นักงาน

เกษตรและสหกรณ์จงั หวัดอุดรธานี และภาคเอกชน ได้ แ ก่ ผู้ ป ระกอบการด้ า นปั จ จั ย การเพาะปลู ก ใน จังหวัดอุดรธานี ร่วมกันจัดทำ �โครงการถ่ายทอด ความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่เกษตร ตำ�บล อำ�เภอ และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้รับรู้ถึงความเหมาะ สมของแต่ละพื้นที่ เสร็จแล้วก็ให้นำ�เอาไปถ่ายทอด ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่อีกทอดหนึ่ง ให้ได้รับรู้ว่า พืน้ ทีใ่ ด มีความเหมาะสมกับการปลูก หรือเพาะปลูก พืชเศรษฐกิจชนิดอืน่ แทน หรือทำ�อาชีพอืน่ เช่น การ ประมง ปศุสัตว์ ฯลฯ

หนุนนทท.หญิง

• ต่อจากหน้า 1

นายพิ ช ยา สายแสงจั น ทน์ ผู้ อำ � นวยกอง ประชาสั ม พั น ธ์ ใ นประเทศ การท่ อ งเที่ ย วแห่ ง ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2559 ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ททท.ได้วางแผนการทำ�ตลาด ที่เรียกว่า ชวนคนไทยเที่ยวไทย ในช่วงโลว์ซีซั่น โดย เฉพาะช่วงหน้าฝน ที่ในบางภาคมีแหล่งท่องเที่ยวที่มี ความสวยงามกว่าในฤดูอนื่ ๆ โดยมีกจิ กรรมทีส่ �ำ คัญๆ ได้แก่ สิงหาพาแม่เทีย่ ว พร้อมกับจะทำ�การเปิดทูตการ ท่องเที่ยวคนใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนี้ นอกจากนี้ ก็ จ ะมี กิ จ กรรมที่ เ ป็ น งานบุ ญ ประเพณีของแต่ละภาค โดยเฉพาะภาคอีสานที่จะมี บุญประเพณีทสี่ �ำ คัญจำ�นวนมาก หรือการทีจ่ ะคัดเลือก อาหารเดินๆประจำ�จังหวัด เพือ่ ดึงดูดนักท่องเทีย่ ว นัก เดินทาง ให้เดินทางไปช็อป ชิม และส่งเสริมให้นกั ท่อง เที่ยวผู้หญิงเดินทางท่องเที่ยว เพราะจากการวิเคราะห์ แล้วพบว่า นักท่องเทีย่ วผูห้ ญิง เฉลีย่ แล้วใช้จา่ ยในการ ท่องเที่ยวมากกว่านักท่องเที่ยวผู้ชาย นายพิชยาฯ ได้กล่าวให้รายละเอียดการส่ง เสริมการท่องเที่ยวคนไทยท่องเที่ยวไทยให้มากขึ้น ในช่วงฤดูฝนหรือที่เรียกว่าช่วงโลว์ซีซั่นอีกว่า จุด ประสงค์ของแผนการตลาดดังกล่าวนั้น เพื่อให้เกิด ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเวลาหลังจากนี้ เป็นต้นไป หรือที่ภาษาการท่องเที่ยวเรียดว่า”ช่วงโลว์ ซีซนั่ ”ซึง่ เป็นช่วงทีม่ กี ารท่องเทีย่ ว การเดินทางของนัก ท่องเทีย่ วลดน้อยลงไป เพราะเป็นช่วงเข้าสูฤ่ ดูฝน และ เป็นช่วงทีห่ ลังจากการเปิดเทอม นักท่องเทีย่ ว นักเดิน ทางส่วนหนึ่งต้องนำ�เงินไปเป็นค่าใช้จ่าย แต่อย่างไร ก็ตามก็มีนักท่องเที่ยวอีกส่วนหนึ่งที่ยังมีศักยภาพใน การเดินทางท่องเที่ยว รวมไปถึงผู้สูงอายุวัยก่อนการ เกษียณอายุราชการ ท่องเที่ยวเดินทางเพื่อเป็นโบนัส ของการทำ�งานก่อนวัยเกษียณอายุราชการของตนเอง ที่สำ�คัญก็คือค่าใช้จ่ายในช่วงนี้ของการเดินทางท่อง เที่ยว ตํ่ากว่าปกติ ทั้งค่าที่พัก ค่าเดินทาง หรือหากว่า เป็นเพ็กเก็จก็จะได้รบั ในราคาพิเศษ ซึง่ ในบางภาคเช่น ภาคอีสาน ภาคเหนือ ในช่วงของโลว์ซซี นั่ นี้ แหล่งท่อง เที่ยวส่วนหนึ่งจะมีความสะดวก ลดความแออัดด้าน ต่างๆ มีความสวยงามตามธรรมชาติ ที่พัก เช่นแหล่ง ท่องเที่ยวนํ้าตก หรือแม้กระทั้งในภาคใต้เอง แหล่ง ท่องเที่ยวบางแห่งก็จะได้รับความสะดวกในช่วงนี้ ในส่วนของกิจกรรมที่ ททท.ส่งเสริมและเน้น เป็นกรณีพเิ ศษมาก ได้แก่ กิจกรรมสิงหาพาแม่เทีย่ ว ซึง่ ททท.ได้ส่งเสริมให้ในเดือนสิงหาคมของทุกปี และ เป็นเดือนของวันแม่ 12 สิงหาคม ให้จัดกิจกรรม”สิง หาพาแม่เที่ยว” และ ททท.ยังจะทำ�อย่างต่อเนื่องต่อ ไป และในเดือนมิถนุ ายน 2559 นี้ ททท.จะเปิดตัว แอม บาสซีเดอร์การท่องเทีย่ ว หรือ ทูตการท่องเทีย่ ว สิงหา พาแม่เทีย่ ว คนใหม่อย่างเป็นทางการ แต่ในช่วงนีย้ งั ขอ ไม่เปิดเผย การส่งเสริมกิจกรรมให้นักเดินทางท่องเที่ยว ที่เป็นผู้หญิงเดินทางท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากในประเทศไทยในปัจจุบันนี้ มีนักเดินทาง ท่องเที่ยวที่เป็นผู้หญิงมากขึ้น ซึ่งมีการวิจัยแล้วพบ ว่าอัตราเทียบกับนักเดินทางเที่ยวชายแล้วนั้น เกือบ ครึ่ ง ต่ อ ครึ่ ง นอกจากนี้ ก็ ยั ง พบอี ก ว่ า นั ก เดิ น ทาง ท่องเที่ยวผู้หญิงนั้น มีการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว มากกว่าผู้ชาย เช่น การใช้จ่ายในการฃ็อปปิ้ง เพื่อซื้อ สินค้า ของฝากต่างๆ นั้น มีอัตราสูงกว่าผู้ชายเกินกว่า 50% ซึ่งตรงนี้เอง ก็จะทำ�ให้เกิดการกระจายรายได้ลง ไปสู่หมู่บ้าน ชุมชน ได้มาก รวมไปถึงการใช้จ่ายใน เรื่องของความสวยความงามในระหว่างเดินทาง ก็มี อัตราสูงกว่าของผู้ชาย อีกกิจกรรมหนึง่ นอกจากทีจ่ ะใช้บญุ ประเพณี ท้องถิ่นเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้วนั้น ก็ได้แก่

อ่านต่อหน้า 2


หน้า 12

ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ประจำ�เดือนมิถุนายน 2559

ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผูพ ้ ม ิ พ์และผูโ้ ฆษณา สุพตั รา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,

ประคอง หนูราช,พันธ์ศักดิ์ วีระชัย,เสริมศักดิ์ ขาวโกมล สำ�นักงาน 76 ม.20 ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 โทรศัพท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย 78 หมู่ 4 ถนนเฉลิมพระเกียรติ์ ต.เมือง อ.เมือง จ.หนองคาย 43000 ที่ปรึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอื้อดีไซน์ 08-3417-0363


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.