ปีที่ 14 ฉบับที่ 146 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนกรกรกฎาคม น ก า ร ณ์ 2559ติ
ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่
w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1
ปีที่ 14 ฉบับที่ 146 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2559 ราคา 10 บาท
“ทองลุน”ประกาศพาสปป.ลาว พ้นด้อยพัฒนาให้ได้ในปี2563 ปี2568GDPโตไม่ตาํ่ กว่า7%
ติดตามความก้าวหน้าระบบคมนาคม ; นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม พร้อมคณะเดินทางโดย รถไฟจากกทม.ลงพืน้ ที่ จ.หนองคาย เพือ่ ตรวจติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาโครงข่ายระบบคมนาคม ขนส่งทัง้ ทางรางและทางถนน เพือ่ พิจารณาแผนพัฒนาโครงข่ายขนส่งในพืน้ ทีเ่ ขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หนองคาย ระยะที่ 2 โดยมี นายสุชาติ นพวรรณ ผวจ.หนองคาย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ
น” ประกาศเดินหน้าพา แก้กฎหมายลดเอาเปรียบ อ สั ง ห า ฯ อี ส า น “ทองลุ สปป.ลาว ก้าวพ้นจากประเทศ และผู ก ขาดทางการค้ า ด้ อ ยพั ฒ นาให้ ไ ด้ ใ นปี 2563 ส่งสัญญาณฟื้นตัว และก้าวสู่ประเทศรายได้ปาน สนช. เดินสายจัดสัมมนาแก้ไขกฎหมาย 2573 ในโอกาสมา ว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค หลังเข้าสู่ พีดีเฮ้าส์มั่นใจปี59 กลางในปี เยือนขอนแก่น และปาฐกถา ประชาคมอาเซียน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับ ย อ ด ข า ย 7 0 ล . เรื่อง “สปป.ลาว สู่อนาคตการ ความเป็นธรรม ลดปัญหาการเอาเปรียบ
มอบดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ; นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว รับมอบ ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (การจัดการ) ที่สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ภาคอีสาน โดยมี ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภามหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดี เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2559 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น
หนองคายนำ�ร่องทำ�แผน จุดเชื่อมต่ออาเซียนไฮเวย์
สนข. เลือกหนองคายเป็นจังหวัดนำ�ร่อง ทำ� แผนจัดการขนส่งที่ยั่งยืน สำ�หรับเมืองที่เป็น จุดเชือ่ มต่อเส้นทางอาเซียนไฮเวย์ ลดผลกระทบ จากการเปิด AEC ให้เป็นเมืองน่าอยูอ่ นั ดับหนึง่ ของภาคอีสาน
และผูกขาดทางการค้า ให้ผบู้ ริโภคมีอ�ำ นาจ อ่านต่อหน้า 11 ชี้ ก ฏหมายภาษี พัฒนา” อ่านต่อหน้า 11 ต่ อ รองมากขึ น ้ ที่ ดิ น ฉบั บ ใหม่ เกาหลีรุกตลาดเที่ยวอีสาน ส่ ง ผลดี ต่ อ ธุ ร กิ จ คนไทยแห่ย้อนรอยซีรี่ย์ดัง รั บ สร้ า งบ้ า น “พี นิรัญ โพธิ์ศรี 2559เพิ่มกว่า10% ดีเฮ้าส์” เผยปี 59 ปรับตัวแรง คาดปี ท่องเทีย่ วเกาหลี รุกตลาดไทย เดินสาย คมนาคมอนุมัติงบศึกษาออกแบบก่อสร้างสนาม หวังเจาะกลุ่มกำ�ลังซื้อใหม่ ปลื้ม ชวนคนไทยจัดกระเป๋าไปเที่ยวเกาหลี บินขอนแก่นระยะที่ 2 เพื่อยกระดับสู่สนามบิน ยอดขายสาขาอุดรฯ ครึง่ ปีแรกพุง่ คาดปี 2559 มีนักท่องเที่ยวไทยเพิ่ม นานาชาติ คาดงบก่อสร้างกว่า 2,000 ล้านบาท อนรอยซีรยี่ ล์ ะครดัง แล้วเสร็จปี 2563 ขณะที่สายการบินไทย-เทศ เชื่อครึ่งปีหลังกวาดยอดขายทะลุ ขึทีน้ ่กอีำ�ลักงกว่ฮิตา อยู10% ย้ ่ในจอแก้วเมืองไทย เป็น สนใจเปิ ด เส้ น ทางบิ น เพิ่ ม ต่ อ เนื่ อ ง เชื่ อ มต่ อ อ่ า นต่ อ หน้ า 11 เป้า 70 ล้านบาท ภูมิภาคและในกลุ่มประเทศอาเซียน อ่านต่อหน้า 11 หนึ่งโปรแกรมสุดฮิต
คค.อนุมตั งิ บกว่า 2,000 ล้าน ยกระดับเป็นสนามบินนานาชาติ
อ่านต่อหน้า 2
หน้า 2 คค.อนุมตั งิ บ
ปีที่ 14 ฉบับที่ 146 ประจำ�เดือนกรกรกฎาคม 2559 • ต่อจากหน้า 11 ประเทศเกาหลีเพิ่มกว่า 10% ของปี พ.ศ.2557 ที่อยู่
เคาน์เตอร์เช็กอิน ทั้งหมด 24 จุด เพื่อให้บริการแก่ สายการบินพาณิชย์ได้ครบและสมบูรณ์แบบที่สุด รวมทัง้ เพิม่ ทีพ่ กั ผูโ้ ดยสารหลังจากตรวจบัตรโดยสาร แล้ว สอดคล้องกับหลุมจอดเครื่องบิน คือ 6 หลุม จอด และ 6 GATE นอกจากนี้ยังเพิ่มที่ทำ�การของ ศุลกากรและตำ�รวจตรวจคนเข้าเมือง ตำ�รวจท่อง เที่ยวและตำ�รวจท้องที่ที่จะต้องมาปฏิบัติหน้าที่ทุก วัน ให้แยกออกเป็นสัดส่วนและสามารถให้บริการ แก่ผู้โดยสารได้อย่างสะดวกสบายและครอบคลุม ที่สุด ” ผู้อำ�นวยการท่าอากาศยานขอนแก่น กล่าว และว่า ว่าที่ ร.ต.อัธยากล่าวว่า อาคารผู้โดยสารรูป แบบใหม่นี้จะสามารถรองรับให้บริการผู้โดยสารได้ มากถึง 5 ล้านคนต่อปี ขณะนี้อัตราเฉลี่ยจำ�นวนผู้ โดยสารอยูท่ ปี่ ลี ะไม่นอ้ ยกว่า 1.5 ล้านคน จะสามารถ เริม่ ก่อสร้างได้ในปี 2561 และจะแล้วเสร็จในปี 2563 ทั้งนี้ ขอนแก่นเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีอัตราการใช้ บริการการบินเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยยังคงจะ ขยายรันเวย์ 1 เส้น ซึ่งจะสามารถเพิ่มการให้บริการ ของเทีย่ วบินพาณิชย์ได้จากเดิม 6 เทีย่ วบินต่อชัว่ โมง เป็น 10 เที่ยวบินต่อชั่วโมง สามารถรองรับเครื่อง บินขนาดใหญ่ คือ Airbus A330 , Boeing 777 รวม ไปถึงเครื่องบินขนาดกลาง อย่าง Airbus A320 และ Boeing 737 สำ�หรับการทำ�การบินภายในประเทศ และต่างประเทศได้
เกาหลีรุก
• ต่อจากหน้า 1
น.ส.อริ ญ ชยา เลิ ศ วั ฒ นชั ย ผู้ ช่ ว ยผู้ จั ด การองค์ ก ารส่ ง เสริ ม การท่ อ งเที่ ย วเกาหลี ประจำ�ประเทศไทย เปิดเผย ในโอกาสที่พาคณะ ผู้ ป ระกอบการท่ อ งเที่ ย วเดิ น ทางไปให้ ข้ อ มู ล เกี่ ย วกั บ การท่ อ งเที่ ย ว วั ฒ นธรรม อาหาร แห ล่งช้อปปิ้ง ในประเทศเกาหลี ที่จังหวัดอุดรธานี ว่า สถานการณ์ 6 เดือนแรกของปี 2559 มีนัก ท่องเที่ยวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเกาหลี เพิ่มขึ้นประมาณ 5% เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วง เดียวกันของปีที่แล้ว โดยในปี พ.ศ.2558 ที่ผ่าน มามีนักท่องเที่ยวไทย เดินทางเข้าประเทศเกาหลี เพื่อการท่องเที่ยวทั้งปีประมาณ 3.8 แสนคน ลด ลงจากปี พ.ศ.2557 ประมาณ 10% เนื่องจากในปี 2558 ประเทศเกาหลีมโี รคเมอร์สแพร่ระบาด ทำ�ให้ นักท่องเที่ยวไทยไม่เดินทางเข้าประเทศเกาหลี ซึ่ง ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยว ในกลุ่มประเทศเอเชีย ที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยว ประเทศเกาหลี สาเหตุ ที่ นั ก ท่ อ งเที่ ย วไทยนิ ย มเดิ น ทาง ไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลี เพราะประเทศนี้มี ธรรมชาติมากถึง 4 ฤดู เป็นจุดขายของการท่องเทีย่ ว ประเทศเกาหลีทงั้ ปีเพราะมีอากาศเย็นสบายและคน ไทยทีเ่ ดินทางไปท่องเทีย่ วในประเทศเกาหลี คือ ฤดู หนาว รองลงมาคือฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งโปรแกรมเดิน ทางท่องเที่ยวประเทศเกาหลีของนักท่องเที่ยวจาก ประเทศไทย คือ โปรแกรมเดินทางไปเล่นสกีตาม ศูนย์บริการทั่วประเทศ เพื่อที่จะมีโอกาสสัมผัสกับ หิมะอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้แล้วประเทศเกาหลี ได้เปิดศูนย์การกีฬาสกีขนาดใหญ่ตามเมืองหลัก ที่ ก่อสร้างเตรียมเอาไว้จัดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ที่ เกาหลีเป็นเจ้าภาพ และการท่องเที่ยวตามรอยซีรี่ย์ ละครดังเกาหลีหลายเรือ่ งโดยเฉพาะซีรยี่ ล์ ะครเรือ่ ง ล่าสุดของเก่หลี นอกจากนี้ แ ล้ ว ก็ ยั ง มี ส ถานที่ ท่ อ งเที่ ย ว ในหลายรู ป แบบ เช่ น สถานที่ ท่ อ งเที่ ย วแบบ ธรรมชาติ ผจญภั ย สถานที่ ท่ อ งเที่ ย วที่ มี ก าร ก่อสร้างขึ้นมา คือ สวนสนุกขนาดใหญ่ที่เปิดให้ บริการอีกหลายแห่ง สถานที่โบราณ และแหล่ง มรดกโลก มี นั ก ท่ อ งเที่ ย วเดิ น ทางไปเที่ ย วตาม สถานที่ ที่หนังเรื่องดังกล่าวใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ� กันมาก นอกจากนี้แล้วก็เป็นนักท่องเที่ยวที่เป็นก ลุ่มประชุมสัมมนา หรือหน่วยราชการ และภาค เอกชน บริษทั แบ่งเป็นนักท่องเทีย่ วทัว่ ไปประมาณ 60% เป็ น กลุ่ ม หน่ ว ยราชการ บริ ษั ท องค์ ก ร ประมาณ 40% นอกจากนี้ แ ล้ ว ในการเดิ น ทางของนั ก ท่องเที่ยวหรือนักธุรกิจของภาคอีสาน โดยเฉพาะ จากจั ง หวั ด อุ ด รธานี แ ละจากภาคอี ส านตอน บน ก็สามารถเดินทางไปประเทศเกาหลีผ่านทาง สนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ไปยั ง ประเทศเกาหลี ไ ด้ โ ดยมี ส ายการบิ น หลาย สาย ที่ ทำ�การบิ น จากสนามบิ น ดั ง กล่ า ว ได้ โ ดย สะดวก ทัง้ สายการบินของเกาหลีเอง สายการบินโล คอสของเกาหลี หรือสายการบินของลาว และใช้ เวลาในการเดินทางไม่นานจากภาคอีสานตอนบน ไปขึ้นเครื่องที่สนามบินวัดไต โดยที่ไม่ต้องเดินทาง ไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ น.ส.อริญชยาฯ คาดหมายว่า ในปี พ.ศ. 2559 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปท่องเที่ยว
คุ ม เข้ ม ผู้ ป ระกอบการ เอไอเอส เดินหน้าขยาย เครื อ ข่ า ยไฟเบอร์ 100% ผลิตนํ้าดื่มและนํ้าแข็ง
ที่ประมาณ 3.8 แสนคน ขึ้นไปอยู่ที่กว่า 4 แสนคน เล็กน้อย และคาดหมายว่าการท่องเที่ยวระหว่าง ประเทศไทยและประเทศเกาหลีจะมีแนวโน้มที่ จะเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากว่า ทั้งสองฝ่ายได้มีการทำ� บันทึกความเข้าใจ (MOU) กันเป็นครั้งแรกเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนในด้าน ต่างๆ โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนด้านบุคลากรด้าน การท่องเทีย่ ว โดยจะมีการแลกเปลีย่ นการอบรมใน วันที่ 7 กรกฎาคม 2559 ด้านต่างๆ และเป็นครัง้ แรกทีท่ งั้ สองฝ่ายได้มกี ารลง ณ โรงแรมหนองคายไวท์โฮเทล นาม MOU ร่วมกันอย่างเป็นทางการ นายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์ นายแพทย์ ส าธารณสุ ข หนองคายนำ�ร่อง • ต่อจากหน้า 1 เวลา จังหวัดหนองคาย เป็นประธาน เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2559 ที่ห้องประชุมโรงแรม เปิ ด การอบรมพนั ก งานเจ้ า รอยัลนาคารา อ.เมือง จ.หนองคาย นายประสงค์ คง หน้ า ที่ แ ละผู้ ป ระกอบการใน เคารพธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็น การพัฒนาที่ผลิตนํ้าบริโภคใน ประธานเปิดการประชุมสัมมนา โครงการศึกษาจัด ภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทและนํ้า ทำ�แผนจัดการขนส่งที่ยังยืนสำ�หรับเมืองที่เป็นจุด แข็ ง ตามเกณฑ์ GMP จั ง หวั ด เชื่อมต่อเส้นทางอาเซียนไฮเวย์เพื่อเป็นเมืองต้นแบบ หนองคาย ประจำ�ปีงบประมาณ ในการพัฒนา และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 2559 โดยมีนายราเชนทร์ พิเชฐ ในภาคคมนาคม สำ�นักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคายได้ พันธุ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย นายชั ย วั ฒ น์ ทองคำ�คู ณ ผู้ อำ�นวยการ ให้การต้อนรับ ผู้เข้าร่วมอบรมประกอบด้วย ผู้ ร่วมกันกับผู้ประกอบการพัฒนามาตรฐานสถาน สำ�นักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ประกอบการผลิ ต นํ้ า บริ โ ภคในภาชนะบรรจุ ที่ ที่ผลิตนํ้าบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทและ กล่าวว่า จากการเปิดเสรีดา้ นการขนส่งสินค้าระหว่าง ปิดสนิทและนํ้าแข็ง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงาน นํ้าแข็ง ตามมาตรฐาน GMP อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ประเทศ (AEC) ส่งผลให้ปริมาณการเดินทางและการ คุ้มครองผู้บริโภคระดับอำ�เภอ และเภสัชกร โรง ปี 2546 ซึ่งการพัฒนาสถานที่ผลิตนํ้าบริโภคใน ขนส่งสินค้าผ่านเมืองชายแดนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งย่อม พยาบาลในจังหวัดหนองคาย รวมทั้งสิ้น 150 คน ภาชนะบรรจุทปี่ ดิ สนิทและนํา้ แข็ง ให้ได้มาตรฐาน เกิดผลกระทบกับประชาชนในพืน้ ทีท่ งั้ ด้านบวกและ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์ ตามหลักเกณฑ์ GMP จะเป็นการสร้างหลักประกัน ด้านลบ ประกอบกับประชาคมโลกได้ให้ความสำ�คัญ สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย กล่าวว่าจากการที่ เบื้องต้นให้กับผู้บริโภคได้ว่า ผู้ประกอบการได้ กั บ แนวคิ ด เรื่ อ งการพั ฒ นาการขนส่ ง ที่ ป ระหยั ด กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศกระทรวง ดำ�เนินการผลิตภายใต้วิธีการผลิตอาหารที่ดีอัน พลังงาน ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าถึงบริการได้ สาธารณสุข ฉบับที่ 193 พ.ศ. 2543 เรื่อง วิธีการ จะนำ�ไปสู่การได้ผลิตที่ได้คุณภาพ มาตรฐานและ อย่างเท่าเทียมและยั่งยืน อีกทั้ง ประเทศไทยได้แสดง ผลิต เครื่องมือเครื่องใช้ในการผลิต และการเก็บ ปลอดภัย พร้อมที่จะจำ�หน่ายต่อผู้บริโภคต่อไป เจตนารมณ์ต่อที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการ รักษาอาหาร, ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ว่าประเทศไทยได้ตั้ง ที่ 220 พ.ศ.2544 เรื่อง นํ้าบริโภคในภาชนะบรรจุ กล่าวต่อว่า การอบรมครั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพ ค่าเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20- ที่ปิดสนิท ทำ�ให้สถานที่ผลิตนํ้าบริโภคในภาชนะ เจ้าหน้าที่ระดับอำ�เภอ ในการให้คำ�แนะนำ�และ 25% ภายในปี 2573 โดยกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซ บรรจุ ที่ ปิ ด สนิ ท และนํ้ า แข็ ง จะต้ อ งผ่ า นเกณฑ์ ตรวจประเมินสถานที่ผลิตและให้ผู้ประกอบการ เรือนกระจกเป็นกิจกรรมของทุกภาคส่วนที่ต้องรับ GMP มีการพัฒนาสถานที่ผลิต และให้ผู้ประกอบการมี ผิดชอบดำ�เนินการร่วมกัน จากการตรวจประเมินมาตรฐานสถานที่ การพัฒนาสถานที่ผลิตนํ้าบริโภคในภาชนะบรรจุ และจากยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัด ผลิตนํ้าบริโภคในภาชนะที่บรรจุที่ปิดสนิทและนํ้า ที่ปิดสนิทและนํ้าแข็ง ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน หนองคายทีก่ ำ�หนดวิสยั ทัศน์ไว้ ให้จงั หวัดหนองคาย แข็ง ตามเกณฑ์ GMP สาเหตุส่วนใหญ่ที่สถานที่ GMP ที่มีความต่อเนื่องและยั่งยืน ตลอดจนทราบ เป็นเมืองน่าอยู่อันดับหนึ่งของภาคอีสาน ซึ่งการ ผลิตอาหารไม่ผา่ นเกณฑ์ GMP เกิดจากการควบคุม แนวทางเก็บตัวอย่างเพือ่ ส่งตรวจวิเคราะห์และการ พัฒนาเพือ่ ให้บรรลุเป้าหมายรวมของจังหวัดนัน้ ต้อง คุณภาพมาตรฐานกระบวนการผลิตทีไ่ ม่ได้คณ ุ ภาพ ดำ�เนินการตามกฎเกณฑ์ด้านอาหาร ได้รับการสนับสนุนแผนการพัฒนาที่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะเรือ่ ง การปรับสภาพนํา้ ดิบ การปนเปือ้ น จากภาครัฐ ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมได้ให้ หลังการฆ่าเชื้อ ความสำ�คัญกับกลุ่มจังหวัดตามพื้นที่แนวเส้นทาง เชื่อมต่ออาเซียนไฮเวย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัด หนองคายซึ่งเป็นเมืองชายแดนที่เป็นจุดเชื่อมต่อ เส้นทางอาเซียนไฮเวย์ จึงได้จัดทำ�แผนการจัดการ ขนส่งยั่งยืน ในการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพ นายวิทยา ผิว การใช้พลังงานในภาคคมนาคมขนส่ง ในพื้นที่เมือง ผ่อง ผู้ช่วยรัฐมนตรี หนองคาย ป ร ะ จำ� ก ร ะ ท ร ว ง นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ประกอบกับจังหวัด เกษตรและสหกรณ์ หนองคายเป็ น เมื อ งนำ�ร่ อ งของโครงการศึ ก ษาฯ เ ป็ น ป ร ะ ธ า น เ ปิ ด เพื่ อ ให้ เ กิ ด การพั ฒ นาเมื อ งอย่ า งยั่ ง ยื น ลดการใช้ งาน“ตลาดสิ น ค้ า พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะส่ง เกษตรคุณภาพ อ.ต.ก. ผลให้โครงการ มาตรการต่างๆ ที่มีการดำ�เนินงาน จั ง ห วั ด ข อ น แ ก่ น ในเมืองหนองคาย สามารถคำ�นวณเป็นปริมาณการ 2559” โดยมี น าย ใช้พลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเสริฐ ลือชาธนา ได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมให้ น น ท์ ร อ ง ผ ว จ . ยุทธศาสตร์เหล่านี้ได้รับการสนับสนุน และการนำ� ขอนแก่น และ นายกมลวิศว์ แก้วแฝก ผู้อำ�นวยการ วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2559 ณ อตก.ขอนแก่น (ตรง ไปสูก่ ารปฏิบตั อิ ย่างเป็นรูปธรรมนัน้ ต้องอาศัยความ องค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร ให้การต้อนรับ เมื่อ ข้ามมหาวิทยาลัยขอนแก่น ถนนมิตรภาพ) ร่วมมือ ร่วมใจจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การพัฒนาระบบการขนส่งที่ยั่งยืน เป็นไปอย่างต่อเนือ่ งและมีแนวทางในการปฏิบตั อิ ย่าง เป็นรูปธรรม สนข.จึงได้ดำ�เนินโครงการศึกษาจัดทำ� แผนการขนส่งทีย่ งั่ ยืนสำ�หรับเมืองทีเ่ ป็นจุดเชือ่ มต่อ เส้นทางอาเซียนไฮเวย์เพื่อเป็นเมืองต้นแบบในการ น า ย กำ� ธ ร พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในภาค ถาวรสถิ ต ย์ ผวจ. คมนาคม การลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคมและ ข อ น แ ก่ น เ ป็ น สิ่งแวดล้อม ที่เกิดจากการขนส่งทางถนนระหว่าง ประธานการแข่งขัน ประเทศจากการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ช ก ม ว ย ชิ ง แ ช ม ป์ (AEC) โดยเฉพาะเมืองที่เป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางอาเ โลกศึ ก ซี พี เ ฟรชมาร์ ซียนไฮเวย์ ซึ่งได้พิจารณาคัดเลือกจังหวัดหนองคาย ทเขย่ า บั ล ลั ง ก์ โ ลก เป็นเมืองนำ�ร่องจากเมืองที่เป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทาง ระหว่าง น็อคเอาท์ ซี อาเซียนไฮเวย์จำ�นวน 11 จังหวัด 12 พื้นที่ โดยจะจัด พีเฟรชมาร์ท เจ้าของ ทำ�แผนงานโครงการ มาตรการต่างๆ แชมป์ โ ลกรุ่ น มิ นิ มั่ ม “วันนี้จึงเป็นโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ เวทสมาคมมวยโลก มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น แผนการพัฒนาเมือง WBA INTERIM กับ ไบรอน โรฮาส เจ้าของแชมป์ ว ณ เวทีมวยชั่วคราว สนามหน้าศาลากลางจังหวัด หนองคาย และให้ข้อเสนอแนะต่างๆ รวมถึงการ โลกรุน่ มินมิ มั่ เวทสมาคมมวยโลก WBA ชาวนิคารากั ขอนแก่น พิจารณาประเด็นปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการ ดำ�เนินโครงการและร่วมกันหาแนวทางป้องกันแก้ไข อย่างรอบคอบ ซึ่ง สนข.จะนำ�ข้อคิดเห็นและข้อ เสนอแนะไปพิจารณาปรับใช้ในการดำ�เนินโครงการ ศึกษาจัดทำ�แผนจัดการขนส่งที่ยังยืนสำ�หรับเมืองที่ เป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางอาเซียนไฮเวย์เพื่อให้จังหวัด หนองคายเป็นเมืองต้นแบบในการพัฒนาและเพิ่ม ประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคคมนาคมให้มี ความถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ และมีประสิทธิภาพ รศ.พญ.วราภรณ์ เชื้ออินทร์ ผู้อำ�นวยการศูนย์ ต่อไป” นายชัยวัฒน์ กล่าว หัวใจสิรกิ ติ ฯิ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระชนมายุ 85 พรรษา ศูนย์ หัวใจสิริกิติ์ฯ จึงได้จัดโครงการบริการตรวจสุขภาพ หัวใจให้กบั คุณพ่อคุณแม่จำ�นวน 85 ราย เนือ่ งในวันแม่ แห่งชาติปี 2559 ขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม เวลา 08.00 น. ทัง้ นีเ้ พือ่ กระตุน้ ให้พนี่ อ้ งประชาชนใส่ใจในสุขภาพ ของหัวใจเป็นสิ่งสำ�คัญ โดยจะมีการตรวจสุขภาพของหัวใจในเบื้อง ต้น หรือ (EKG) ตรวจตับความเข้มข้นของเลือดการ ทำ�งานของไต เอนไซม์ในตับ ไขมัน X-RAY และรับคำ� แนะนำ�จากแพทย์ผเู้ ชียวชาญเฉพาะทางอีกด้วย ในการ ตรวจครั้งนี้ท่านจะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ผู้ ที่ลงทะเบียนไว้แล้วทั้ง 85 ราย ขอให้เดินทางมาตรวจ ที่ศูนย์หัวใจฯ ตามวันเวลาที่กำ�หนด
เอไอเอส ไฟเบอร์ ผนึ ก เอ็ น . ซี . เ ฮ้ า ส์ ซิ่ ง เ ดิ น หน้ า ขยายเครื อ ข่ า ย ไฟเบอร์ 100% ยก ระดั บ บ้ า นทุ ก หลั ง เป็ น โรงหนั ง ส่ ว น ตั ว พร้ อ มเล่ น เน็ ต แรง50/10 Mbps ฟรี ตลอดปี! เอไอเอส ตอก ยํ้าความเป็นผู้นำ�ด้านเครือข่าย และบริการดิจิทัล อันดับหนึง่ ของประเทศ เดินหน้าจับมือพันธมิตร ทางธุ ร กิ จ อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ชั้ น นำ�ของประเทศ ขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์ความเร็ว สู ง ไฟเบอร์ แ ท้ 100 % รายแรกและรายเดี ย ว ที่ ใ ห้ คุ ณ ภาพสั ญ ญาณแรง เสถี ย รอย่ า งเต็ ม ประสิทธิภาพ เข้าถึงที่พักอาศัย ยกระดับคุณภาพ ชีวิตการอยู่อาศัยของคนไทย ล่ า สุ ด ! จั บ มื อ เอ็ น .ซี . เฮ้ า ส์ ซิ่ ง หนึ่ ง ในผู้ นำ�ด้ า นอสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ วางโครงข่ า ย เอไอเอสไฟเบอร์ ในโครงการบ้ า นจั ด สรรค์ ของ บ.เอ็ น .ซี . เฮ้ า ส์ ซิ่ ง รวม 11โครงการ ใน ทำ�เลรอบกรุ ง เทพฯ และปริ ม ณฑล โดยมอบ
สิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่ซื้อบ้านใหม่ ในโครงการ บ้ า นฟ้ า กรี น เนอรี่ ปากเกร็ ด - ราชพฤกษ์ และบ้ า นฟ้ า กรี น เนอรี่ ปิ่ น เกล้ า สาย 5 ได้ ใช้ AIS Fibre อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 50/10 Mbps ฟรี 1 ปี เ ต็ ม ! พร้ อ มรั บ AIS PLAY BOX กล่องทีวีอินเทอร์เน็ต เพื่อชมช่องทีวีสด และย้อนหลัง และพิเศษสุด! รับชมหนัง และซี รีย์ จาก HOOQ ฟรี 1 ปีเต็ม ดูสนุกสะใจไม่สะดุด เสมือนยกโรงหนังส่วนตัวมาไว้ในบ้าน ให้ลูกค้า ได้สมั ผัสประสบการณ์ชวี ติ ดิจทิ ลั ได้อย่างสมบูรณ์ แบบ ทั้งนี้ ลูกค้าที่สนใจ สามารถดูรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ www.ncgroup.co.th
เอไอเอส จ่ายเงินงวดแรกรับ ใบอนุญาตคลื่น 900 MHz
ตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพ อ.ต.ก.
รักษาเข็มขัดแชมป์ได้อีกสมัย
ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯขอนแก่น ตรวจสุขภาพหัวใจฟรี เนื่องในวันแม่แห่งชาติ
เอดับบลิวเอ็น ในเครือ เอไอเอส รับใบ อนุญาตคลื่น 900 MHz หลังชำ�ระเงินค่าใบอนุญ าตคลื่นความถี่ 900 MHz งวดแรกเมื่อ 28 มิ.ย.59 ทีผ่ า่ นมา ยืนยันพร้อมนำ�คลืน่ 900 MHz มาพัฒน าโครงสร้างพืน้ ฐานด้านดิจทิ ลั สนับสนุนการเดิน ไปข้างหน้าตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มที่ นายสมชั ย เลิ ศ สุ ท ธิ ว งค์ ประธานเจ้ า หน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำ�กัด (มหาชน) ในฐานะ รักษาการกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำ�กัด (เอดับบลิวเอ็น) ในเครือ เอไอเอส พร้อม คณะผู้บริหาร ได้เป็นตัวแทนรับมอบใบอนุญาต คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz (895 – 905MHz / 940 – 950 MHz) ในมูลค่า 75,654 ล้านบาท หลัง จากชำ�ระค่าประมูลงวดแรกจำ�นวน 8,602.8 ล้าน บาท (รวมVAT) พร้อมแบงค์การันตี 72,346.98 ล้ า นบาท (รวมVAT) ให้ กั บ สำ�นั ก งานคณะ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อ นำ�ส่งเงินเป็นรายได้ของแผ่นดิน เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา โดยนายสมชั ย กล่ า วว่ า การได้ ม าซึ่ ง คลื่น 900 MHzครั้งนี้ นับเป็นการต่อยอดความ แข็ ง แกร่ ง ของเครื อ ข่ า ยไร้ ส ายเอไอเอส ด้ ว ย เทคโนโลยีทั้ง 3G และ 4G โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ด้านคุณภาพการใช้งานของลูกค้า รวมถึงต่อยอ ดโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศไทย ตามนโยบายสร้างการเติบโตร่วมกับพันธมิตร ตามหลั ก Ecosystem ที่ จ ะทำ�ให้ เ ราสามารถ
พั ฒ นาบริ ก ารดิ จิ ทั ล ใหม่ ๆ อาทิ Internet of Things ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ ทั้งในระดับบุคคล องค์กร และประโยชน์สาธารณะให้แก่ประชาชน ในพื้นที่ห่างไกล อาทิ การบริหารจัดการนํ้า หรือ ระบบสื่อสารในชนบทได้อย่างมีประสิทธิภาพ “ผมขอขอบคุณรัฐบาลที่สนับสนุนให้ เกิดการนำ�คลื่น 900 MHz ออกมาพัฒนา เพื่อ ประโยชน์ของประเทศ เพราะนอกจากจะเป็นการ ลงทุนเครือข่ายดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด เพื่อสร้างความ แข็งแกร่งของโครงสร้างพืน้ ฐานด้านดิจทิ ลั อันจะ เป็นประโยชน์โดยตรงต่อการเข้าถึงระบบสือ่ สาร ของประชาชนแล้ว ยังถือเป็นการอัดฉีดเม็ดเงิน เข้าระบบเศรษฐกิจ ทั้งการส่งมอบเงินจากการ ประมูลให้แก่ภาครัฐ, เกิดการลงทุน และจ้างงาน จากธุรกิจทีเ่ กีย่ วข้องกับการขยายเครือข่าย ทีล่ ว้ น แล้วแต่กอ่ ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ อย่างมาก” นายสมชั ย กล่ า วยํ้ า ว่ า ด้ ว ยขี ด ความสามารถ ของพนักงานและความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ผม ขอยื น ยั น และให้ ค วามมั่ น ใจแก่ ผู้ ใ ช้ บ ริ ก าร จากคุ ณ ภาพที่ ส มบู ร ณ์ แ บบทั้ ง ในวั น นี้ แ ละ อนาคต, การลงทุนที่เป็นไปอย่างสมเหตุสมผล สอดคล้องกับภาพรวมการขยายตัวของความนิยม ใช้บริการด้านดิจิทัลของคนไทย, ประชาชน ที่จะ ได้รับประโยชน์จากการยกระดับการใช้ชีวิตด้วย เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ทีส่ ำ�คัญ เป็นประโยชน์ตอ่ ระบบ เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ที่จะสนับสนุนการ ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ได้สมตามเจตนารมณ์อย่าง แน่นอน
คุ้ ม เว่ อ ร์ ! โอนแต้ ม คลั บ การ์ ด เทสโก้ โลตัส เติมนํา้ มันฟรีทเี่ อสโซ่ เทสโก้ โลตัส ผนึกพันธมิตร บริษทั เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำ�กั ด เอาใจลู ก ค้ า ส ม า ชิ ก บั ต ร เ ท ส โ ก้ โ ล ตั ส ค ลั บ การ์ ด สามารถโอน แต้ ม คลั บ การ์ ด เป็ น คะแนนเอสโซ่ สไมล์ ส เพื่อใช้เติมนํ้ามันที่ สถานบริ ก ารนํ้ า มั น เอสโซ่กว่า 540 สถานีทั่วประเทศ เปิดแคมเปญ คะแนน ใช้แทนเงินสดเติมนํ้ามันฟรี 100 บาทได้ พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มเพียง 5,000 แต้มคลับการ์ด ทันที ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2559 สามารถเปลี่ยนเป็นคะแนนเอสโซ่ สไมล์ส 500
หน้า 3
146 ประจำ�เดือนมิ นกรกรกฎาคม 2559 ปีที่ 14 ฉบับที่ 145 ถุนายน 2559
สภาการค้าฮ่องกง จับมือ นสพ.ภูมภิ าค เชิญนักธุรกิจชัน้ นำ�ทัว่ ไทย สัมมนาใหญ่ In Style-Hong Kong หาลู่ทางขยายเครือข่ายธุรกิจ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง ลงนามความร่วมมือสภาวิชาชีพนักหนังสือพิมพ์ภมู ภิ าค แห่งชาติ (สนภช.) สนับสนุน In Style-Hong Kong งานใหญ่จัดขึ้นในวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๙ ณ รร.พลาซ่า แอทธีนี เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและต่อยอดความเติบโตทางธุรกิจ นายไดสึเขะ นากาจิมะ ผูช้ ว่ ยผูจ้ ดั การโครงการ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Council-HKTDC) เดินทางเข้าพบนายสุนทร จันทร์รังสี ประธานสภาวิชาชีพนัก หนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งชาติ (สนภช.) และผู้บุกเบิกหนังสือพิมพ์โคราชคนอีสาน เพื่อหารือถึง ความร่วมมือในงาน In Style - Hong Kong ซึง่ กำ�หนดจัดขึน้ ในวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๙ ณ โรงแรม พลาซ่า แอทธีนี กรุงเทพฯ ซึง่ เป็นการประชาสัมพันธ์ครัง้ ใหญ่ในกรุงเทพฯ โดยจะมีบริษทั ชัน้ นำ� จากฮ่องกงมากกว่า ๕๐ บริษัท เดินทางมาร่วมงาน เพื่อแสวงหาความร่วมมือกับภาคธุรกิจของ ไทย ในการพัฒนาโอกาสทางการค้า ทีใ่ ช้ประโยชน์จากข้อตกลง ASEAN Economic Community (AEC) ซึง่ จะสร้างผลประโยชน์สงู สุดให้กบั ทัง้ สองฝ่ายจากการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของภูมภิ าคนี้ สำ�หรับกิจกรรมหนึง่ ในการประชาสัมพันธ์ระดับสูงจะรวมถึง Services Symposium การจัดการ ประชุมเพือ่ หารือถึงประเด็นสำ�คัญต่างๆ อาทิ การเพิม่ ศักยภาพด้านโลจิสติกส์ การเข้าถึงแหล่งเงิน ทุน ความสามารถทางการตลาด การขายสินค้าไปยังประเทศจีนให้ประสบความสำ�เร็จ นอกจาก นี้ ยังจะมี citywide promotion การจัดการประชาสัมพันธ์ที่ครอบคลุมทั่วเมือง เพื่อสร้างความ สนใจในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยด้วย นายไดสึเขะ นากาจิมะ เปิดเผยว่า งาน In Style - Hong Kong จัดขึน้ เพือ่ เป็นการร่วมฉลอง ปีแรกของการเป็นกลุม่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง เตรียมจัดขึน้ เพือ่ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในการต่อยอดจากความเติบโตของภูมภิ าคนีแ้ ละ โอกาสในตลาดเอเชียโดยรวม สาเหตุที่เลือกจัดงาน In Style - Hong Kong ที่ประเทศไทย เพราะ เป็นประเทศทีม่ ขี นาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ ๒ ในอาเซียน และได้รบั การจัดอันดับให้เป็นที่ ๒ ด้านการทำ�ธุรกิจสำ�หรับประเทศเศรษฐกิจดาวรุง่ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามรายงาน Ease of Doing Business 2016 Report โดยธนาคารโลก โดยเมื่อปี ค.ศ.๒๐๑๕ ประเทศไทยเป็นตลาดส่ง ออกขนาดใหญ่เป็นลำ�ดับ ๓ ของฮ่องกงสำ�หรับกลุ่มประเทศอาเซียน คิดเป็นร้อยละ ๑๘.๑ ของ ยอดรวมทัง้ หมด ๖,๒๙๐ ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติ กส์สำ�หรับองค์กรข้ามชาติทมี่ ฐี านการผลิตและเครือข่ายการจำ�หน่ายในกลุม่ ประเทศลุม่ แม่นาํ้ โขง Greater Mekong Sub-region (GMS) และยังมีความพร้อมด้านโครงสร้างพืน้ ฐานเป็นอย่างดี รวม ทัง้ ประเทศไทยยังสานต่อนโยบายด้านการส่งเสริมการลงทุนเพือ่ ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ โดยในเดือนมกราคมของปี ๒๐๑๕ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้เปิดตัวกลยุทธ์สง่ เสริมการ ลงทุนสำ�หรับปี ค.ศ.๒๐๑๕-๒๐๒๑ ด้วยการมอบสิทธิพเิ ศษด้านภาษีและมาตรการคุม้ ครองนัก ลงทุนอีกด้วย สำ�หรับการประชุม In Style - Hong Kong จะจัดขึ้นที่โรงแรมพลาซ่า แอทธีนี ในวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๙ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ น. โดยครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ด้านความคิดสร้างสรรค์ การตลาด โลจิสติกส์ การเงิน และการบริการ พร้อมชี้ให้เห็นว่าปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวมีส่วนช่วย ในการขยายตัวของภาคธุรกิจในไทยได้อย่างไร การประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย การประชุมหลัก หัวข้อย่อย และโอกาสในการสร้างเครือข่าย ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ พิธีเปิดงานจะมีขึ้นระหว่าง เวลา ๐๙.๓๐-๑๐.๐๐ น. จากนั้นเวลา ๑๐.๐๐-๑๑.๐๐ น. จะเป็นการประชุมหลัก แล้วพักรับ ประทานอาหารว่าง ๑๕ นาที ต่อด้วยการสัมมนาหัวข้อย่อย ๒ หัวข้อ ในเวลา ๑๑.๑๕-๑๒.๔๕ น. ได้แก่ หัวข้อย่อย ๑ “ทางลัดสู่ระบบอีคอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ (The fast track to E-Commerce Logistics) และหัวข้อย่อย ๒ “เงินหยวนในตลาดสากลและระบบการเงินขององค์กร” (Renminbi Internationalisation and Corporate Treasury) โดย Financial Services Development Council, Hong Kong จากนัน้ จะพักรับประทานอาหารกลางวันในช่วงเวลา ๑๒.๔๕-๑๔.๐๐ น. ซึง่ ในช่วง นี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมสัมมนาได้มีโอกาสในการขยายเครือข่ายทางธุรกิจด้วย การสัมมนาในช่วงบ่ายจะเริม่ เวลา ๑๔.๐๐-๑๕.๓๐ น. ได้แก่ หัวข้อย่อย ๓ “การประสาน ความคิดสร้างสรรค์เข้ากับนวัตกรรมเพื่อปลดล็อกความสำ�เร็จในการทำ�ธุรกิจในยุคดิจิทัล” (Integrating creativity with Innovation : Unlocking Asia’s Business Success in the Digital Era),
เวลา ๑๔.๐๐-๑๖.๓๐ น. หัวข้อย่อย ๔ “การแก้ปัญหาด้านกฎหมายและความขัดแย้ง : กุญแจสู่การ ค้าระดับสากล” (Legal and Dispute Resolution : Key for International Trade) โดย Department of Justice, HKSARG และเวลา ๑๔.๐๐-๑๕.๓๐ น. หัวข้อย่อย ๕ “ICT” โดย Hong Kong Public Key Infrastructure (HKPKI) Forum นายไดสิเขะ กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการอำ�นวยความสะดวกในการเดินทางมาร่วมงานให้กับ กลุ่มนักธุรกิจที่อยู่นอกเขตกรุงเทพฯ ทางผู้จัดงานได้มอบค่าเดินทางจำ�นวน ๓,๐๐๐ บาท ให้ผู้ร่วม งานด้วย แต่ทั้งนี้จะต้องเข้าร่วมงาน In Style - Hong Kong Symposium และสัมมนาย่อย ๒ หัวข้อ โดยต้องได้รบั การประทับตราทัง้ ๒ ครัง้ ในการสัมมนาทัง้ ช่วงเช้าและบ่าย ซึง่ ผูร้ ว่ มสัมมนาจะต้อง กรอกแบบฟอร์มการเข้าร่วมสัมมนาล่วงหน้า นอกจากนี้ นายไดสึเขะ นากาจิมะ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากงาน In Style - Hong Kong ที่จัด ขึ้นในวันที่ ๖ ตุลาคมแล้ว ยังมีการจัดงาน Hong Kong Galleria ซึ่งจะจัดแสดงในสยาม พารากอน ระหว่างวันที่ ๓-๙ ตุลาคม ๒๕๕๙ โดยเป็นงานที่รวบรวมการประชาสัมพันธ์แบบออนไลน์ด้าน สินค้าในชีวิตประจำ�วัน (Lifestye Product) แฟชั่น และอาหารจากฮ่องกง ซึ่งจะมีร้านค้าและร้าน อาหารทัว่ กรุงเทพฯ มาร่วมงานพร้อมมอบส่วนลดและข้อเสนอสุดพิเศษให้กบั ผูม้ าร่วมงานอีกด้วย ในขณะที่นายสุนทร จันทร์รังสี ประธาน สนภช. กล่าวว่า งาน In Style - Hong Kong มี ความน่าสนใจมาก จะเป็นประโยชน์กบั ผูเ้ ข้าร่วม และสามารถสร้างเครือข่ายทางธุรกิจให้ผเู้ ข้าร่วม ได้ ในฐานะประธาน สนภช. จึงลงนามความร่วมมือเป็นหน่วยงานทีใ่ ห้การสนับสนุนการจัดงานนี้ โดยจะนำ�กรรมการและสมาชิก สนภช. และนักธุรกิจที่สำ�คัญจากภูมิภาคทั่วประเทศไม่ตํ่ากว่า ๕๐ คน โดยทุกคนจะต้องนำ�เอกสารประจำ�ตัว ได้แก่ บัตรประจำ�ตัวประชาชน/ใบอนุญาตขับขี่ และ นามบัตรทีแ่ สดงความเป็นเจ้าของธุรกิจไปด้วย (๑ คน ๑ ธุรกิจ/บริษทั ) ร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมงาน นี้ พร้อมทั้งร่วมประชาสัมพันธ์งาน In Style - Hong Kong ผ่านสื่อต่างๆ สำ�หรับกรรมการ และสมาชิก สนภช. รวมทัง้ นักธุรกิจทีส่ นใจเข้าร่วมงาน In Style - Hong Kong ในวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๙ สามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดเพิม่ เติม พร้อมทัง้ ขอแบบฟอร์ม ลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ นายพิษณุ ธีระกนก เลขาธิการ สนภช. โทรศัพท์ ๐๘๖-๔๖๕๓๓๘๘, ๐๔๔-๒๕๖๙๖๕-๖ อีเมล์ regionalpress.thai@gmail.com
พัฒนาทักษะผู้นำ�ชุมชน ; นายกระแสร์ ตระกู ล พ ร พ ง ศ์ ร อ ง น า ย ก อบจ.หนองคาย เป็ น ประธานเปิ ด โครงการ พั ฒ น า ก ล ไ ก ก า ร ขั บ เคลื่อนกระบวนการแผน ชุมชนจังหวัดหนองคาย กิจกรรมการพัฒนาทักษะ ผู้นำ�ชุมชนด้านการจัดทำ� แผนชุมชน โดยมีนายประจักษ์ จอมทรักษ์ พัฒนาการจังหวัดหนองคาย ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2559 ที่ห้องประชุมโรงแรมอัศวรรณ อำ�เภอเมืองหนองคาย
ขอขอบคุณจากใจคนทำ�งาน
ปลื้มใจ และตื้นตันใจมากครับ ที่ผู้ใหญ่หลาย ท่านให้ความสำ�คัญ เสียสละเวลา ไปร่วมฟังการเสวนา “ใช้สื่อยุคใหม่อย่างไรให้สร้างสรรค์” ภายใต้สื่อเป็น โรงเรียนของสังคม เมื่อวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม 2559 ที่ ห้องมงกุฎเพชร 1 โรงแรมโฆษะ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก่ อ นจั ด งาน สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่น ได้ประชุมคณะกรรมการ ตั้งเป้าผู้เข้าร่วม งานไว้ที่ 100 คน โดยคาดหมายว่า มีมาสักประมาณ 70 คน ก็หรูแล้ว ไม่กล้าคิดการณ์ใหญ่ เพราะต้องใช้งบ ประมาณจำ�นวนมาก ซึ่งก็เป็นที่รู้กันนะครับว่า ภาวะ เศรษฐกิจในปัจจุบันก็เลือดตากระเด็นกันทุกเจ้า ทุก วงการ แต่ก็เป็นความโชคดีของผม ของสมาคมฯ ที่ ได้เพื่อน บสส.6 ช่วยกันให้การสนับสนุน จนกล้าพูด ได้ว่า เราแทบไม่ต้องรบกวนหน่วยงาน องค์กร หรือผู้ ประกอบการในพื้นที่เลย ในการจัดงานครั้งนี้ หลั ง จากที่ มี ก ารประชาสั ม พั น ธ์ พร้ อ มส่ ง หนังสือเชิญไปยังหน่วยงานต่างๆ เสียงตอบรับที่กลับ มา ทำ�ให้ต้องมีการเรียกคณะกรรมการสมาคมฯ มา ประชุมหารือกันใหม่ พูดง่ายๆ ก็คอื มาตัง้ หลักกันใหม่ เพราะทุกหน่วยงานให้ความสนใจเป็นอย่าง มาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตำ�รวจภูธรภาค 4 ,แบงค์ ชาติ ขอนแก่น ,หน่วยงาน ,องค์กรเอกชน และโดย
เฉพาะสถาบันการศึกษา ทัง้ ในขอนแก่น และจังหวัด ใกล้เคียง ตอบรับเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง เกือบ 400 คน (วันงานมีผู้ลงชื่อร่วมงาน 360 คน ไม่ร่วม คณะกรรมการจัดงาน) ปัญหาหนักเกิดขึน้ กับฝ่ายจัดการ ต้องสัง่ เพิม่ อาหารว่าง เสริมเก้าอีใ้ ห้เพียงพอทีจ่ ะรองรับผูท้ จี่ ะมา ร่วมงาน คณะกรรมการฯ เองก็มาพูดคุยกันถึงสาเหตุที่ มีเสียงตอบรับร่วมงานเกิดคาดหมายว่า มาจากอะไร พอสรุปได้ว่า ชื่อเสียงของวิทยากรทั้ง 3 ท่าน เป็นจุด ดึงดูดอันดับแรก ข้อสองคือหัวข้อเรื่องที่จะทำ�การ เสวนา เป็นเรื่องที่อยู่ในกระแส และความสนใจของ สังคม ในนามของ สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่น และเครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ภาคอีสาน ขอขอบพระคุณท่าน นายกเทศมนตรี นครขอนแก่ น นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พั น ธ์ ที่ ให้ เ กี ย รติ ม ากล่ า วเปิ ด การเสวนา ท่ า นรอง ผบ.มทบ.23 พ.อ.สมชาย ครรภาฉาย ที่ ไ ด้ ร่ ว ม แลกเปลี่ ย นให้ ค วามรู้ กั บ ผู้ เ ข้ า ร่ ว มเสวนา ท่ า น พ.ต.อ.สุภากร คำ�สิงห์นอก รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และผูใ้ หญ่อกี หลายท่านทีผ่ มไม่ได้กล่าวนามในทีน่ ี่ ... ขอบคุณครับ
ตั้งศูนย์ TO BE NUMBER ONE คืนคนดี กลับสู่สังคม นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธ์ นายกเทศมนตรีนคร ขอนแก่น กล่าวว่า สำ�หรับแนวคิด การดำ�เนินงาน ของโครงการ TO BE NUMBER ONE ของเทศบาล นครขอนแก่น การตั้งศูนย์ TO BE NUMBER ONE ที่ตลาดสดเทศบาล1 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เยาวชน ได้ มี โ อกาสค้ น พบศั ก ยภาพในการแสดงออกของ ตนเอง และเพือ่ ไม่ให้เยาวชนมีเวลาว่างมากนัก เพราะ จะนำ�ไปสู่การมั่วสิ่งเสพติดได้ และที่สำ�คัญ เยาวชน กลุ่มนี้ไม่ได้อยู่ในแนวทางตามกรอบของโครงการ TO BE NUMBER ONE หรือเป็นเด็กชายขอบ หรือ ที่คนในชุมชนเรียกเด็กแว้น เด็กสก๊อย ซึ่งเทศบาล นครขอนแก่น ได้จดั โครงการฟืน้ ฟูเยียวยาและพัฒนา คุณภาพชีวิตเด็กเยาวชนชายขอบในสังคม เมือง เป็น นวัตกรรมที่ทำ�ให้กลุ่มเด็กนอกระบบ เกิดการปรับ ทัศนคติเปลีย่ นแปลงตนเองในการดำ�เนินชีวติ ได้อย่าง มีเป้าหมาย จากที่เคยเป็นภาพลบในสังคม กลายมา เป็นผู้มีจิตอาสาในการทำ�กิจกรรมที่เป็นสาธารณะ
ประโยชน์ ซึ่งภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น อาจมีการตัง้ กลุม่ หรือมีชอื่ กลุม่ อาทิ แก๊งมังกร ดำ�, แก๊งเพชรสามเหลีย่ ม, แก๊งโลงแตก, แก๊งตลาด โดย เทศบาลฯ ได้จัดตั้งศูนย์สร้างโอกาสเด็ก เพื่อใช้เป็น ศูนย์เรียนรู้และแนะนำ�การศึกษา, ส่งเสริมอาชีพ และ เป็นศูนย์ประชุมเครือข่าย ภายใต้โครงการเด็กชายขอบ เพื่อให้คนในกลุ่มนี้ลดภาวะความเสี่ยงที่จะเป็นภัยต่อ สังคม ลดปัญหาเด็กติดยาเสพติด เพราะเด็กที่จะมา เข้าร่วมในศูนย์นตี้ อ้ งห่างไกลจากยาเสพติด ผูท้ ตี่ ดิ ต้อง เข้าไปบำ�บัดก่อนถึงจะเข้ามาอยู่ในศูนย์แห่งนี้ได้
หน้า 4
ที่ 14 ที่ 146 ประจำ อนกรกฎาคม 2559 ปีทปีี่ 14 ฉบัฉบั บทีบ่ 146 ประจำ �เดื�อเดืนกรกรกฎาคม
สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ตามรอยพระยุคลบาท ; คุณชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการ บริหาร (4จากขวา) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร โรงแรมโฆษะ ให้การต้อนรับ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในโอกาสมาบรรยาย พิเศษเรื่อง “หลักการทรงงานตามรอยพระยุคลบาท” ณ ห้องมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ
นิทรรศการพระราชกรณียกิจ ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานเปิดนิทรรศการแสดงพระราชกรณียกิจเฉลิม พระเกียรติ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในโอกาสเถลิงถวัลย์ทรงครองราชย์ครบ 70 ปี โดย จังหวัดขอนแก่น จัดนิทรรศการเพื่อ เฉลิมพระเกียรติฯในหลวง และเปิด แสดงให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา เข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้ตลอดทั้งปี ณ ห้องโถงศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังใหม่
พร้อมใจสวมเสือ้ เหลือง ถวายความจงรักภักดี ; คณะผูบ้ ริหารและพนักงาน โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด พร้อมใจกันสวมเสือ้ เหลือง เพือ่ ร่วม ถวายความจงรักภักดีและสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ เนือ่ งในโอกาสมหา มงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัตคิ รบ ๗๐ ปี ณ บริเวณโถงต้อนรับ ของโรงแรมฯ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙
แลกเปลีย่ นข้อคิดเห็น ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อม หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน ร่วมให้การต้อนรับ นายสกัฟฟาน แฮร์สเตริม เอกอัครราชทูตสวีเดน ประจำ�ประเทศไทย เข้าเยีย่ มคารวะโอกาสทีม่ ารับตำ�แหน่ง เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 ณ ห้องขวัญเมือง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น
เปิดอาคารสำ�นักงานแห่งใหม่ ; นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เป็นประธานเปิดอาคารสำ�นักพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออก เฉียงเหนือแห่งใหม่ โดยมีนายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น ดร.ปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2559
มาสะสมความดี ; พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล บรรยายธรรมในหัวข้อ “มาสะสมความดี ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินกันเถิด” ในโครงการธรรมะ เยียวยาสังคม ครั้งที่ 36 จัดโดย มูลนิธิหอเกียรติยศรัฐบุรุษพลเอกเปรม ติณสูลานนท์, ธนาคารแห่งประเทศไทย สำ�นักงานภาคตะวันออกเฉียง เหนือ, องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น, วิทยาลัยการปกครองท้องถิน่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และโรงแรมโฆษะ ณ ห้องมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ
สื่อขอนแก่น จัดเสวนา
“ใช้สื่อยุคใหม่อย่างไรให้สร้างสรรค์” ภายใต้สื่อเป็นโรงเรียนของสังคม
เมือ่ วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 ทีห่ อ้ งมงกุฎเพชร 1 โรงแรมโฆษะ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เป็นประธานเปิด การเสวนาโครงการพัฒนาศักยภาพสื่อท้องถิ่น เรื่อง “ใช้สื่อยุคใหม่อย่างไร ให้สร้างสรรค์” ภายใต้สอื่ เป็นโรงเรียนของสังคม จัดโดยสมาคมสือ่ มวลชน จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับเครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคอีสาน โดย ได้รบั เกียรติจาก นายชวรงค์ ลิมป์ปทั มปาณี ประธานสภาการหนังสือพิมพ์ แห่งชาติ และทีป่ รึกษาบรรณาธิการการข่าวไทยรัฐออนไลน์ บริษทั เทรนด์ วีจี 3 จำ�กัด ดร.อุดมธิปก ไพรเกษตร กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเพิลมีเดีย กรุ๊ป จำ�กัด และอุปนายกสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย เป็น วิทยากร และคุณศตกมล วรกุล บรรณาธิการบริหารฝ่ายข่าวสถานีนิวทีวี ผู้ประกาศข่าว และอดีตนายกสมาคมนักข่าวบันเทิง เป็นผู้ดำ�เนินรายการ มีผู้ร่วมเข้าฟังการเสวนาจำ�นวน 360 คน ก่อนเริ่มการเสวนา นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนคร ขอนแก่น พร้อม พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัด ขอนแก่น ได้มอบรถวีลแชร์ให้กับ นางสาวสุพรรณี พรหมบุตร ผู้พิการ ที่ได้รับอุบัติเหตุจากภัยบนท้องถนน จากนั้น อาจารย์ดนัย หวังบุญชัย ผู้ จัดการแผนงานสื่อศิลปะวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สำ�นักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้บรรยายในหัวข้อ ที่มาและ กรอบแนวคิดสื่อเป็นโรงเรียนของสังคม และ พ.อ.สมชาย ครรภาฉาย รอง ผบ.มทบ.23 บรรยายในหัวข้อ สื่อยุคใหม่กับความมั่นคงของประเทศ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าว ว่า การจัดโครงการพัฒนาศักยภาพสื่อท้องถิ่นในครั้งนี้ จะทำ�ให้เกิดความ ร่วมมือระหว่างสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น เครือข่ายบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ภาคอีสาน ส่วนราชการ ภาครัฐและเอกชน จังหวัดขอนแก่น และสถาบันศึกษา สร้างความมั่นใจ มีความพร้อม ความคิดเห็นที่เป็น ประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนา ที่จะนำ�ไปปรับปรุงการทำ�งานของตนเอง ให้ดียิ่งขึ้น และให้เกิดทักษะความรู้ แก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนท้อง ถิ่นทุกสาขา ที่จะนำ�ไปปรับปรุงการทำ�หน้าที่สื่อมวลชน ในการใช้งานสื่อ อินเทอร์เน็ตต่อไป
พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ในปัจจุบันสื่ออินเทอร์เน็ตเป็นที่นิยมกันมากโดยเฉพาะในกลุ่ม เด็กวัยรุ่น ที่ชื่นชอบกับการใช้สื่อเครือข่ายทางสังคม และสื่อเพื่อความ บันเทิง ซึ่งแม้ว่าจะได้ความสนุกสนาน ไม่ขาดการติดต่อสื่อสาร แถมยังได้ สาระความรู้แทรกเข้ามาด้วย และมีแนวโน้มว่าจะมีบทบาทสำ�คัญมากยิ่ง ขึ้นในอนาคต โดยสื่อใหม่แต่ละประเภทมีความโดดเด่นและแตกต่างกัน ตามประโยชน์และวัตถุประสงค์ในการใช้สื่อ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ายังมีภัยแฝง ทีอ่ าจเป็นอันตรายต่อผูท้ ใี่ ช้ทไี่ ม่คำ�นึงถึงความปลอดภัยเวลาใช้สอื่ ออนไลน์ ดั ง นั้ น สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น ร่ ว มกั บ เครื อ ข่ า ย บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคอีสานจึงได้จัดทำ�โครงการพัฒนาศักยภาพ สื่อท้องถิ่น ในประเด็น “ใช้สื่ออย่างไรให้สร้างสรรค์” ขึ้นเพื่อให้สื่อท้อง ถิน่ ตระหนักรู้ ปรับเปลีย่ นทัศนคติ ปรับตัวและวางบทบาทการทำ�หน้าทีใ่ น ฐานะของสือ่ มวลชนตามสภาพการเปลีย่ นแปลงในยุคปัจจุบนั ซึง่ จะทำ�ให้ เราเห็นภาพของการสื่อการในยุคโลกาภิวัตน์ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น การจัดโครงการดังกล่าวฯ เพื่อเป็นเวที ในการเปลี่ยนแปลง พัฒนา ศักยภาพบุคลากร ในวิชาชีพสื่อสารมวลชน ให้มีความรู้ความเข้าใจการใช้ สื่อยุคใหม่อย่างสร้างสรรค์ พร้อมเพิ่มพูนทักษะความรู้ให้แก่สื่อมวลชน ท้องถิ่น เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด และปรับทัศนคติ ตระหนักถึงบทบาท หน้าทีใ่ นการนำ�เสนอข่าวสารตามสภาพการเปลีย่ นแปลงในยุคปัจจุบนั และ ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายสื่อมวลชนท้องถิ่น
สวดมนต์เฉลิมพระเกียรติ ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลย ราชสมบัติครบ 70 ปี ที่วัดธาตุพระอารามหลวง อ.เมืองขอนแก่น โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้าประชาชน และชาวขอนแก่นมาร่วม พิธีจำ�นวนมาก เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2559
ติดตามงานโครงการเขือ่ นนํา้ เชิญ ; นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี และ คณะ เดินทางมาติดตามงานโครงการเขื่อนนํ้าเชิญ อันเนื่องมาจากพระ ราชดำ�ริ รับฟังบรรยายสรุปผลการดำ�เนินงานโครงการฯ ชมการแสดงของ ยุวชนเกษตรกร และร่วมปล่อยปลา เมือ่ วันที่ 8 ก.ค.59 ทีโ่ ครงการส่งนํา้ และ บำ�รุงรักษาพรม-เชิญ บ้านดอนหัน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น
มอบทุนการศึกษา มูลนิธฯิ ขอนแก่นครบ 200 ปี ; นางระเบียบรัตน์ พงษ์พา นิช ประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษา จังหวัดขอนแก่นครบ 200 ปี พร้อมด้วย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานมอบเงิน ทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียน นักศึกษา พระภิกษุ และสามเณร จำ�นวน 177 ทุน เงิน 1,270 ,000บาท ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 7 ก.ค.59 ณ หอ ประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น
สานสัมพันธ์ 40 ปี ไทย - จีน ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนคร ขอนแก่น นายชาญณรงค์ บุรสิ ตระกูล รักษาการประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการฯ ร่วมให้การต้อนรับนักธุรกิจชาวจีน จากมณฑลกวางตุง้ และ มณฑลกวางซี สาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางมาเยือนจังหวัดขอนแก่น เพือ่ ร่วมกิจกรรมจับคูเ่ จรจาธุรกิจการค้าการลงทุน พร้อมร่วมงานเฉลิมฉลอง 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย – จีน ณ หอการค้าจังหวัดขอนแก่น
หน้า 5
ปีที่ 14 ฉบับที่ 146 ประจำ�เดือนกรกรกฎาคม 2559
ฟันสึกได้ด้วยหรือ
สวัสดีครับ พบกันอีกครัง้ กับคอลัมน์กา้ ว ทันโรค กับโรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันต แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ต้องบอก ว่า ยังมีอีกหลายคำ�ถามจากทุกท่านในเรื่องของ การดูแลสุขภาพช่องปากและฟันเบื้องต้น เราจึง อดไม่ได้ทหี่ ยิบเกร็ดความรูท้ างทันตกรรมมาฝาก กัน เรือ่ งของ “ฟันสึก” หลายคนมักจะถามว่า ฟัน สึกได้ด้วยหรือ เรามารู้จักกันนะคะ ถึงแม้ว่าฟันเป็นส่วนที่แข็งแรงที่สุดใน ร่างกาย แต่เมื่ออายุมากขึ้นจะมีการสึกกร่อน เปลี่ ย นรู ป ร่ า งไป ส่ ว นใหญ่ เ ป็ น เรื่ อ งของการ เคี้ ย ว เช่ น การเคี้ ย วอาหารแข็ ง เมื่ อ อายุ ม าก ขึ้นก็จะทำ�ให้ฟันสึกบริเวณด้านบดเคี้ยวที่ฟัน สบได้ ถ้าการสึกมีไม่มากก็จะไม่มีอาการเสียว ฟัน แต่ถ้าเป็นมากอาจต้องครอบ หรือถ้าเป็น มากกว่านั้น คือ สึกจนจะทะลุประสาทฟัน ก็ อาจต้องรักษารากฟันก่อน แต่ว่าดีที่สุด คือ พบ
ทันตแพทย์ สำ�หรับลักษณะของฟันสึกนั้น บาง ราย ฟันทางด้านที่ตัดกับแก้มสึกแหว่งออกไป เป็นแถบส่วนใหญ่ ลักษณะนี้อาจเกิดจากการ แปรงฟัน คือ อาจใช้แปรงทีข่ นแข็ง และแปรงฟัน ถูไปมาแรง ๆ เพราะกลัวฟันไม่สะอาด นอกจาก นี้ อ าจมี อ าการเสี ย วเมื่ อ แปรงฟั น หรื อ ดื่ ม นํ้ า ร้อน/นํ้าเย็น หรือทานอาหารหวานๆ กรณีนี้จะ ทำ�การรักษาโดยการอุดฟัน แต่ถ้าฟันสึก ลึกจน ทะลุประสาทฟันเชื้อโรคหรือ bacreria เข้าไปใน รากฟันแล้วต้องรักษา โดยการรักษารากฟันก่อน แล้วจึงอุด หรืออาจต้องทำ�ครอบฟันไว้ เมื่อเกิด มีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาทันตแพทย์เพื่อ ทำ�การแก้ไขต่อไป สอบถามรายละเอียดได้ที่ โรงพยาบาล ทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น โทร.0-4320-2405 ต่อ 45198 ในวัน และเวลาราชการ
ปลุกจิตสำ�นึกเยาวชนดูแล ด้านทรัพย์สินทางปัญญา เ มื่ อ วั น ที่ 11 ก.ค.2559 นาง อ ร ม น ท รั พ ย์ ท วี ธรรม รองอธิบดีกรม ทรัพย์สินทางปัญญา เ ป็ น ป ร ะ ธ า น เ ปิ ด โครงการค่ายเยาวชน ด้ า นทรั พ ย์ สิ น ทาง ปั ญ ญ า แ ล ะ ม อ บ รางวั ล การประกวด ภาพยนตร์สั้น ภูมิปัญญาหรือทรัพย์สินทางปัญญา บ้านฉัน ณ โรงแรมอินภาวา อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น โครงการดั ง กล่ า วจั ด ขึ้ น เพื่ อ เสริ ม สร้ า งรากฐาน ความรู้ ความเข้าใจด้านทรัพย์สินทางปัญญาและ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้แก่เยาวชนและคณาจารย์ ในสถานศึ ก ษาระดั บ การศึ ก ษาขั้ น พื้ น ฐาน เพื่ อ ปลุกจิตสำ�นึกการไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และกระตุ้นเยาวชนได้มีโอกาสแสดงความคิดนำ� ทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ให้เกิดประโยชน์ การจัด ค่ายในครัง้ นีม้ เี ยาวชนและคณาจารย์จากโรงเรียนใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทีเ่ ข้าร่วมโครงการ จำ�นวน 150 คน โครงการดังกล่าวจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 9 11 กรกฎาคม 2559 รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าว ว่ า การจั ด โครงการค่ า ยเยาวชนสร้ า งสรรค์ ด้ า น ทรัพย์สินทางปัญญา ประจำ�ปีงบประมาณ 2559 จัด ขึน้ เป็นปีที่ 2 เพือ่ ส่งเสริมการเผยแพร่ความรูค้ วามเข้ าใจในด้านทรัพย์สนิ ทางปัญญาให้แก่เยาวชน รวมถึง คณาจารย์ ได้มีองค์ความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญา ในเชิงลึก ให้เกิดจิตสำ�นึกในเชิงบวกเรื่องทรัพย์สิน ทางปัญญา และสามารถนำ�ทรัพย์สินทางปัญญา
ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำ�วันได้ เปิดโอกาสให้ เยาวชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด เข้า ร่วมกิจกรรมค่ายเยาวชนสร้างสรรค์ด้านทรัพย์สิน ทางปัญญา ในรูปแบบของฐานกิจกรรม กิจกรรม กระตุ้นการสร้างสรรค์ประกวดชิงรางวัล ให้เกิด การพัฒนา สร้างสรรค์ทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ พร้อมนำ�เสนอวิธีปฏิบัติตนของการเป็นเยาวชน ที่ดี ไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น และ กิจกรรมศึกษาดูงานด้านทรัพย์สินทางปัญญากับ หน่วยงาน ด้านวัตกรรมที่หลากหลาย ที่สำ�นักงาน บริหารทรัพย์สิน คณะศิลปกรรมศาสตร์ หอศิลป วัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น สำ�หรับการประกวดโครงการ ภาพยนตร์สนั้ ภายใต้หัวข้อ“ทรัพย์สินทางปัญญา หรือ ภูมิปัญญา บ้านฉัน ชิงเงินรางวัลกว่า 60,000 บาท โรงเรียนที่ ชนะเลิศได้แก่ โรงเรียนกัลยาณวัตร จ.ขอนแก่น รอง ชนะเลิศอันดับ 1โรงเรียนพระพุทธบาทวิทยาคม จ.หนองคาย รองชนะเลิ ศ อั น ดั บ 2 โรงเรี ย น ขอนแก่นวิทยายน จ.ขอนแก่น รางวัลชมเชย 2 รางวัล โรงเรียนสตรีราชินูทิศ จ.อุดรธานี และ โรงเรียนผดุงนารี จ.มหาสารคาม
ค่ า ยเยาวชน (อี ส าน) รักษ์สิ่งแวดล้อม ; นาย พ ร พิ ทั ก ษ์ แ ม้ น ศิ ริ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ขอนแก่ น จั ด กิ จ กรรม ค่ า ยเยาวชน (อี ส าน) รั ก ษ์ สิ่ ง แวดล้ อ ม เพื่ อ จุ ด ประกายให้ เ ด็ ก และ เยาวชนได้เกิดจิตสำ�นึก และเป็ น ต้ น แบบใน การอนุรักษ์และบริหาร จั ด ก า ร ข ย ะ แ ล ะ สิ่ ง แวดล้อมให้เหมาะสม ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน 2559 ณ โรงไฟฟ้าพลังนํ้า ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ (เขื่อนอุบลรัตน์) อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
สื่อยุคออนไลน์แข่งขันสูง นักวิชาการ ชี้คอนเทนต์ดี แม่น น่าเชื่อถือ ถึงซื้อใจคนได้
โลกออนไลน์ แข่งขันสูง คอนเทนต์ต้อง ดี ต้องแม่น ถึงจะซื้อใจคน นักวิชาการติงคนสื่อ ต้องสร้างบรรทัดฐาน ผู้บริโภคต้องกลั่นกรอง เมื่ อ วั น ที่ 4 กรกฎาคม2559 สภาการ หนั ง สื อ พิ ม พ์ แ ห่ ง ชาติ จั ด งานเนื่ อ งในโอกาส ครอบรอบ 19 ปี ที่ห้องประชุมอิศรา อมันตกุล สมาคมนักข่าวฯ โดยในช่วงหนึ่งของเสวนากลุ่ม เรื่อง “สื่อมืออาชีพยุคสงครามออนไลน์” ผศ.ดร.พิรงรอง รามสูต อาจารย์ภาควิชา วารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการเปลี่ยนผ่านจากยุคห นึ่งไปยุคหนึ่งคือการ การทำ�ลายที่สร้างสรรค์ (creative destruction) ถ้าเกิดว่า ของเก่าทำ�ลาย ไป เพือ่ สร้างสรรค์สงิ่ ใหม่ ในความหมายของการ สือ่ สารของสือ่ ในยุคนี้ คือการทำ�ลายทีส่ ร้างสรรค์ จริงหรือเปล่า หรือเป็นการทำ�ลายแบบทำ�ลายล้าง “วั น นี้ เ ราพู ด เรื่ อ งสั ง คมแห่ ง ข้ อ มู ล สารสนเทศ ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เชื่อมต่อด้วย ข้อมูล ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นต้องเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อ ถือ ถูกต้อง ถึงจะเป็นสารสนเทศที่ดีได้ อย่างวัน นี้เราจะเจอปรากฏการณ์ ไม่สั้นไม่เร็ว ไม่อ่าน ทุก อย่างจึงต้องสั้น เร็ว ถึงจะอ่าน จนทำ�ให้นักข่าว หรือสำ�นักข่าวต่างๆ ถูกลดลงความน่าเชื่อถือลง เพราะการรายงานข่าวที่เร่งรีบ แข่งขัน จนไม่ได้ ตรวจสอบความถูกต้อง แต่ถึงอย่างนั้นก็ปัจจุบั นเรามีฐานันดรที่ห้า คือกลุ่มคนในอินเทอร์เน็ต อย่างบรรดาเพจต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาเพื่อตรวจเช็ค ฐานันดรทั้งหมด รวมถึงสื่อด้วย” ผศ.ดร.พิรงรอง กล่าวด้วยว่า เมื่อก่อน หนังสือพิมพ์ เป็นลักษณะส่วนกลางที่รวมความ สนใจ แต่พอสื่อใหม่ ถ้าเราไม่สนใจเรื่องนั้น เรา ไม่มีทางรับรู้ข่าวได้เลย เพราะอัลกอริทึมของ โลกออนไลน์จะนำ�เสนอไปตามความสนใจของ เรา และจากการที่เราค้นหาบ่อยๆ โลกทัศน์เราจึง
จะสั้นลง แคบลงเรื่อยๆ แต่เมื่อก่อน ชอบไม่ชอบ แต่ซื้อหนังสือพิมพ์มาแล้วหนึ่งเล่มก็ต้องเปิดอ่าน นอกจากนี้ ออนไลน์ทำ�ให้เราเลือกที่จะเชื่อในเรื่อง ที่เราสนใจเท่านั้น โดยไม่ได้สนใจข้อมูลอีกด้าน ทำ�ให้ทุกวันนี้เราเกิดสังคมที่สุดขั้ว อย่างปัญหา ทางการเมือง เป็นต้น ดังนัน้ ปรากฏการณ์นจี้ งึ ไม่ใช่ สังคมของสารสนเทศอีกต่อไป เพราะไม่มีความ หลากหลายทางความคิด การเปิดรับความต่าง “นักข่าวมืออาชีพหลายคนทีท่ ำ�งานมานาน หลายสิบปี มีคนตามอ่านกีค่ น เทียบกับเพจดังๆ บน เฟสบุ๊ค กลับมีคนอ่านมากกว่า ติดตามมากกว่า ดัง นัน้ สงครามบนโลกออนไลน์คอื การทำ�งานต่อสูก้ บั ความไม่เป็นมืออาชีพ” ด้านนางสาวกนกพร ประสิทธิ์ผล นายก สมาคมผู้ ผ ลิ ต ข่ า วออนไลน์ กล่ า วว่ า เราหยุ ด เทคโนโลยีไม่ได้ เราหยุดพฤติกรรมการเสพสื่อ ของคนยุคนี้ไม่ได้ ทำ�ข่าวมาดี แต่ไม่มีคนอ่านไม่มี ประโยชน์ ดังนัน้ พฤติกรรมคนไปทางไหน เราต้อง ตามให้ทนั เราไม่รวู้ า่ อนาคตข้างหน้าจะมีอะไรเพิม่ มา เพราะฉะนั้นสิ่งหนึ่ง เราต้องเรียนรู้เรื่องการทำ� ข่าว “วันนี้นักข่าวต้องเรียนรู้เรื่องอื่นๆ มาก ขึ้นเป็น Multi Skill มากขึ้น เราไม่ได้มองแค่สื่อ ออนไลน์ดว้ ยกัน แต่รวมไปถึงเว็ปไซต์อนื่ ๆ ไหนจะ ต้องแข่งกับเพจต่างๆ เดี๋ยวนี้ถ้าเราทำ�ข่าวออนไลน์ ใครก็ทำ�ได้ คนผลิตคอนเทนต์ถูกตัดออกไปมาก แต่ถามว่าคนที่รับสื่อรู้ไหม อันนี้น่ากลัว เขารู้ไหม ว่าเว็ปปลอม การรู้เท่าทันสื่อ คนผลิตสื่อก็ผลิตไป แต่วา่ ผูบ้ ริโภคสือ่ เองไม่สามารถกลัน่ กรองได้วา่ อัน ไหนปลอม อันไหนจริง ซึ่งอันนี้น่ากลัว” ด้ า นนายอภิ ศิ ล ป์ ตรุ ง กานนท์ นายก สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย กล่าวว่า การที่คนเข้าถึงสื่อ ออนไลน์ได้มีสามส่วน ส่วนที่ 1.คือ คอนเทนต์ 2.อุ ป กรณ์ จากเดิ ม ต้ อ งเข้ า เฉพาะคอมพิ ว เตอร์
จนกระทั่ ง เรามี ส มาร์ ท โฟน เราสามารถเข้ า ถึ ง ง่าย 3.โครงสร้างพื้นฐาน อย่างเครือข่าย 3G 4G ที่ราคาถูกมาก สมัยก่อน สื่อเป็นผู้ทรงอิทธิพล เพราะว่าการจะมาเป็นสื่อไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้อง มีทีมนักข่าว มีกองบรรณาธิการ มีแท่นพิมพ์ มี สายส่ง นี่คืออิทธิพลของการมีสื่อในยุคเก่า ต่อมา เมื่อเทคโนโลยีเข้ามา ทดแทน สื่อรูปแบบเดิม คน ธรรมดาก็เริ่มเป็นสื่อได้ อย่างเพจต่างๆ บนเฟส บุ๊ค ดังนั้นสื่อออนไลน์เป็นสนามที่ยากมาก เพราะ คนสามารถทำ�คอนเทนต์ได้เอง เมื่อมีคอนเทนต์ มหาศาลผูบ้ ริโภคก็ยอ่ มมีตวั เลือกมหาศาลทีจ่ ะเลือก นายอภิศิลป์ กล่าวด้วยว่า ประเด็น สื่อโช เชียลต่างๆในวันนี้ เรากำ�ลังยืมจมูกคนอื่นหายใจ ไม่เหมือนจากเมื่อก่อนที่เรามีโรงพิมพ์ สายส่งเอง ยุคสื่อออนไลน์แข่งกันลำ�บาก วันนี้คุณต้องสร้าง อิทธิพลให้ได้ นั่นคือ ต้องเข้าไปอยู่ในใจคนให้ได้ และด้วยคอนเทนต์ที่มีมากมาย คนต้องเลือกอ่าน ฉะนั้น ทำ�อย่างไรในเนื้อหาของเราน่าสนใจ แต่ ขณะเดียวกันก็ต้องอย่าทำ�ลายความเชื่อของสำ�นัก ตัวเอง อย่ามักง่าย สมัยก่อนเชื่อนักข่าว เพราะนัก ข่าวกรองมาดีพอแล้ว แต่เมื่อไรที่เราตัดส่วนนี้ไป คนเสพจะตั้งคำ�ถามแล้วว่า จะเชื่อหรือไม่ ซึ่งนั่น
ทำ�ให้คนเลือกไปเชื่อเพจในเฟสบุ๊คมากกว่า นางสาววาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวอาวุโส หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ กล่าวว่า สงครามโลก ออนไลน์ ทุกวันนี้สื่อออนไลน์ เมื่อฉบับไหนขึ้น ฉบับอื่นๆ ก็จะตามกันไป ผิดก็จะผิดเหมือนกัน ทำ�ไมต้องรีบ เราไม่สามารถรู้ว่าอันไหนเป็นต้น ฉบับ เพราะออกมาคัดลอกกันเลย ในที่สุดเมื่อ ผิดก็ต้องมาแก้ตามกัน มองว่าเป็นปัญหา ที่เกิด จริงๆ นักข่าวเป็นเหมือนคนที่จะต้องตรวจสอบ ข้อมูลให้มากกว่าในยุคโซเชียล ข่าวลือเยอะมาก หรือข่าวประเภท เอาเร็วไว้กอ่ น โดยไม่ตรวจสอบ ทำ�อย่างไร ให้ข่าวที่ออกจากนักข่าวมืออาชีพคือ ความจริง เชื่อถือได้ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องแข่ง เอาแค่ ทันข่าว ทันสมัยพอ น.ส.วาสนา กล่ า วด้ ว ยว่ า ยุ ค นี้ คื อ ยุ ค เปลีย่ นผ่าน ณ วันนีไ้ ม่ใช่จดุ พีคของการแข่งขันสือ่ ออนไลน์ เป็นแค่สัญญาณเตือนเท่านั้น การต่อสู้ จะมากกว่านี้ การให้เครดิตข่าวของแต่ละที่ คือการ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน คนในสนามข่าวต้องช่วย กันตรวจสอบ ในอนาคตหากเราไม่จัดการดีๆ จะ เกิดสงครามออนไลน์
มอบเครื่องอัลตราซาวนด์ คัดกรองโรคมะเร็งท่อนํ้าดี เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๙ ที่ศูนย์ ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัย ขอนแก่น พล.อ.จิระศักดิ์ วัฒนาวงศ์ รองประธาน กรรมการมูลนิธิสำ�นักงานทรัพย์สินส่วนพระมหา กษัตริย์ เป็นประธานมอบเครื่องอัลตราซาวนด์ ให้กับ โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เบื้ อ งต้ น 20 แห่ ง ตามโครงการรณรงค์ กำ�จั ด ปัญหาโรคพยาธิใบไม้ในตับและมะเร็งท่อนํา้ ดี เพือ่ น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในโอกาสทรงครองราชย์ ครบ ๗๐ ปี ในปี ๒๕๕๙ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา และในปี ๒๕๖๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา พล.อ.จิระศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า เครื่องอัลตรา ซาวนด์ ตรวจหาโรคมะเร็งท่อนํ้าดีและโรคพยาธิ ใบไม้ในตับ เป็นการสนับสนุนแนวทางการดำ�เนิน งานของกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาล เครือข่าย รวมไปถึงมหาวิทยาลัยในพืน้ ทีท่ ตี่ งั้ อยูใ่ น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังพบสถิติผู้เสียชีวิต มากถึงปีละกว่า 20,000 ราย ขณะที่ สาธารณสุข
เผยกลุ่มเสี่ยงผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อนํ้าดีทั่วประเทศ มากกว่า 6 ล้านคน พบอยู่ในภาคอีสานมากที่สุด จึงเร่งมอบเครื่องอัลตราซาวนด์ ตรวจคัดกรองผู้ ป่วยในชุดแรกจำ�นวน 20 เครื่อง ทั้งนี้ เพื่อรณรงค์ ให้ชาวอีสานได้ตระหนักถึงความสำ�คัญในการรับ ประทานอาหารปรุงสุก งดรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ ก้อย ซึ่งเป็นสาเหตุสำ�คัญของการ เกิดโรคพยาธิ ใบไม้ในตับ และมะเร็งท่อนํ้าดี “เพื่อให้โรคพยาธิ ใบไม้ในตับ และมะเร็ง ท่อนํ้าดีหมดไปจากภาคอีสาน ลดอัตราเกิดผู้ป่วย ลง ยังมีแผนดำ�เนินงานระยะที่ 2 ที่จะสั่งซื้อเครื่อง อัลตราซาวนด์ ตรวจหาโรคมะเร็งท่อนํ้าดีและโรค พยาธิใบไม้ในตับ อีกจำ�นวน 20 เครื่อง เพื่อมอบ ให้กับโรงพยาบาลรัฐที่ตั้งอยู่ใน 84 อำ�เภอของภาค อีสาน และเพื่อให้มีการตื่นตัวของประชาชนใน ภาคอีสาน จึงได้เชิญให้ ร.ต.ท.เกียรติศักดิ์ เสนา เมือง หรือซิโก้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติ ไทย ร่วมรณรงค์ให้คนอีสานตระหนักถึงผลกระ ทบจากโรค และพร้อมช่วยให้โรคดังกล่าวลดและ หมดไปจากภาคอีสานในที่สุด” พล.อ.จิระศักดิ์ กล่าว
นพ.โสภณ เ ม ฆ ธ น ป ลั ด กระทรวง ส า ธ า ร ณ สุ ข ก ล่ า ว ว่ า โ ร ค พยาธิใบไม้ในตับ และโรคมะเร็ ง ท่ อ นํ้ า ดี เ ป็ น โรค ที่ พ บมากที่ สุ ด ใ น ภ า ค อี ส า น ของ ไทย โดย เฉพาะจำ�นวนผู้ ป่ ว ยที่ ต รวจพบ สูงสุด และที่ตรวจพบนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะ สุดท้ายของโรคแล้ว ดังนัน้ การให้บริการรักษา การ ป้องกันจึงเป็นสิง่ สำ�คัญทีก่ ระทรวงสาธารณสุขให้ ความสำ�คัญและประสานทำ�งาน กับทุกหน่วยงาน เพื่อรณรงค์ให้คนไทยโดยเฉพาะคนอีสานให้ความ สนใจในโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้น จากสถิติโรคพยาธิใบไม้ในตับและโรคมะ เร็งท่อนํา้ ดีนนั้ เป็นโรคทีก่ ระทบ ต่อสังคมทีช่ ดั เจน
แต่ละปีจะมีผปู้ ว่ ยทีเ่ สียชีวติ ด้วยโรคดังกล่าวนีม้ าก ถึงปีละกว่า 20,000 คน และยังตรวจพบกลุ่มเสี่ยง จากการเป็นมะเร็งท่อนํ้าดีอีกถึง 6 ล้านคน การ ทำ�งานเชิงรุกจัดหน่วยให้บริการตรวจคัดกรอง ผู้ป่วยสัญจรครอบคลุมทุก จังหวัดทั่วประเทศ เป็นแผนทำ�งานที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวง สาธารณสุขต้องทำ�
หน้า 6
ปีที่ 14 ฉบับที่ 146 ประจำ�เดือนกรกรกฎาคม 2559
ปีที่ 14 ฉบับที่ 146 ประจำ�เดือนกรกรกฎาคม 2559
หน้า 7
หน้า 8
ปีที่ 14 ฉบับที่ 146 ประจำ�เดือนกรกรกฎาคม 2559
ปลูกหญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติ
ทองปลอมระบาดหนักในอีสาน
ตำ�รวจเมื อ งขอนแก่ น ทลายแหล่ ง ผลิ ต สร้ อ ยคอทองคำ�ปลอม หลั ง ได้ รั บ แจ้ ง มี ท อง ปลอมมาจำ�นำ�ในร้ า นค้ า ทองจั ง หวั ด ขอนแก่ น จึ ง ขยายผลเข้ า จั บ กุ ม แหล่ ง ผลิ ต โดยเจ้ า ของ บ้ า นรั บ สารภาพทำ�ทองปลอมไปจำ�นำ�รวม นํ้ า หนั ก กว่ า 60 บาท มู ล ค่ า กว่ า 1.3 ล้ า นบาท เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2559 พล.ต.ต.จิตร จรูญ ศรีวนิช ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.สุภากร คำ� สิงห์นอก รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.ชุมพล หันชะนา ผกก.สภ.บ้านเป็ด อำ�เภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าทีช่ ดุ สืบสวน แถลง ข่าวการจับกุม นายปกรณ์ หรือปอ คำ�ลือ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/127 หมู่ 7 แขวงท่าข้าม เขต บางขุนเทียน กรุงเทพฯ ผูต้ อ้ งหาผลิตทองคำ�ปลอม พร้อมของกลางอุปกรณ์ เครือ่ งจักรทอง หัวเป่าทอง นํ้ายาเคมี และอุปกรณ์ชุบทองปลอม และ น.ส.ปุ้ม ปุ้ย หรือปุ้ย ชำ�นาญ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ 18 ตำ�บลหนองบัวแดง อำ�เภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ผูน้ ำ�สร้อยทองคำ�ปลอมไปขายฝากที่ ร้านทอง พร้อมยึดสร้อยข้อมือคล้ายทองคำ� จำ�นวน 1 เส้น จาก น.ส.ปุม้ ปุย้ ซึง่ เจ้าหน้าทีต่ ำ�รวจ สภ.บ้าน เป็ ด ได้ ยึ ด ของกลางทั้ ง หมด พร้ อ มคุ ม ตั ว นาย ปกรณ์ และ น.ส.ปุ้มปุ้ย แจ้งข้อหาร่วมกันพยายาม ฉ้อโกงทรัพย์ ส่วนนายปกรณ์ แจ้งข้อหา มียาเสพ ติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดย ผิดกฎหมายอีกข้อหาหนึ่ง โดยยึดของกลางนำ�ส่ง พนักงานสอบสวนเพื่อดำ�เนินคดีต่อไป พ.ต.อ.สุภากร คำ�สิงห์นอก รอง ผบก.ภ.จว. ขอนแก่ น กล่ า วว่ า ได้ รั บ แจ้ ง จากร้ า นจำ�หน่ า ย ทองคำ�รูปพรรณแห่งหนึ่งว่ามีลูกค้านำ�สร้อยทอง คำ�ปลอมไปขายฝากทีร่ า้ น จึงเดินทางไปตรวจสอบ และจับกุมตัว น.ส.ปุม้ ปุย้ หรือปุย้ ชำ�นาญ พร้อมยึด
ของกลางเป็นสร้อยข้อมือคล้ายทองคำ�อีกหนึ่งเส้น และขยายผลการจับกุมโดยนำ�หมายศาลเข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 24/33 หมูบ่ า้ นแก่นนครปาร์ควิว บ้านกอก ตำ�บลบ้านเป็ด อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น หลังสืบ ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีการหลอมทองปลอม และจำ�นำ�ตามร้านทองย่านชานเมือง จากการตรวจค้นพบว่า นายปกรณ์ หรือปอ คำ�ลือ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/127 หมู่ 7 แขวง ท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ อาศัยอยู่ภายใน บ้าน เจ้าหน้าทีต่ ำ�รวจจึงควบคุมตัว พร้อมทัง้ อุปกรณ์ เครือ่ งจักรทอง หัวเป่าทอง นํา้ ยาเคมี และอุปกรณ์ชบุ ทองปลอม โดยนายปกรณ์ รับสารภาพว่าได้ว่าจ้าง ช่างมาทำ�สร้อยทองคำ�ปลอม โดยนำ�เงินมาหุม้ ทองคำ� จริงไว้ทงั้ เส้น และต้องทำ�ให้นาํ้ หนักเท่าทองจริง รวม ถึงการใช้ตะขอและหัวจรวดที่หุ้มด้วยทองคำ�แท้ทุก เส้น เจ้าหน้าตำ�รวจฯ จึงได้ตรวจยึดอุปกรณ์นำ�ส่ง พนักงานสอบสวน และสืบสวนสอบสวนขยายผลผู้ ร่วมกระทำ�ความผิดต่อไป รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวและว่า จากการสืบสวนข้อมูลเกี่ยวกับนายปกรณ์ พบว่า ได้เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วรวม 7 พื้นที่ อาทิ อ.กันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ, อ.เมือง จังหวัดสกลนคร, อ.เมือง จังหวัดมุกดาหาร, อ.เมือง จังหวัดระนอง มีหมายจับ 3 หมาย (ถอนแล้ว 1 หมาย) เคยเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง โดยมีการก ระทำ�ร่วมกันเป็นขบวนการ จากการตรวจสอบพบ การกระทำ�ผิดมาแล้ว 16 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย กว่า 500,000 บาท และเชื่อว่าน่าจะมีร้านค้าทองอีก หลายร้านที่อาจถูกกลุ่มมิจฉาชีพนี้นำ�ทองปลอมไป ขายฝากด้วยเช่นกัน จึงฝากเตือนให้มกี ารระมัดระวัง หากพบเห็นการกระทำ�ที่ผิดสังเกตให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ตำ�รวจช่วยตรวจสอบได้ตลอดเวลา พ.ต.อ.สุภากร
คำ�สิงห์นอก กล่าว ร้านค้าทองผู้เสียหาย (สงวนสิทธิในการนำ� เสนอชื่อ) กล่าวว่า น.ส.ปุ้มปุ้ย หรือปุ้ย ชำ�นาญ ได้ นำ�สร้อยคอทองคำ�หนัก 1-2 บาท มาขายฝากที่ร้าน รวม 4 ครั้ง รับเงินในการขายฝากครั้งละไม่ตํ่ากว่า 38,000.-บาท โดยใช้บัตรประชาชนของตนเอง และ ของนายปกรณ์ จากการตรวจสอบเบื้องต้นบริเวณ หัวจรวดและตะขอสร้อยคอจะไม่พบสิ่งผิดปกติ เพราะเป็นทองคำ�แท้ และมีตราจากแหล่งผลิตที่ถูก ต้อง โดยนำ�มาขายฝากวันเว้นวัน เว้นสองวัน รวม 4 ครัง้ จึงรูส้ กึ ผิดสังเกต ครัง้ สุดท้ายจึงทดลองใช้ตะใบ ถูบริเวณสร้อยคอ พบเป็นเงินที่หุ้มทอง จึงรู้ว่าเป็น ของปลอม หลังจากนั้นได้แจ้ง รปภ. และเจ้าหน้าที่ ตำ�รวจ โดยรอให้ น.ส.ปุ้มปุ้ย กลับมาขายฝากทอง อีกครั้ง เพื่อจะได้ของกลางและสามารถขยายผลไป ถึงแหล่งผลิตได้ ร้านค้าทองผู้เสียหาย กล่าว ด้านนายโกเมนทร์ อารยะสัจพงษ์ ประธาน ชมรมผู้ค้าทองจังหวัดขอนแก่น และเจ้าของร้าน ทองเองเกียฮึ้ง ถนนศรีจันทร์ อำ�เภอเมือง จังหวัด ขอนแก่น กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความทัน สมั ย มากขึ้ น กลุ่ ม มิ จ ฉาชี พ ก็ มี ก ารพั ฒ นาในการ ปลอมแปลงสินค้าซึ่งยากต่อการตรวจสอบมากขึ้น เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว การ ทำ�มาค้าขายไม่คล่องตัว ทำ�ให้เกิดโจรผูร้ า้ ยและกลุม่ มิจฉาชีพเพิม่ มากขึน้ เช่นเดียวกัน จากกรณีทมี่ กี ารนำ� ทองปลอมมาขายฝากที่ร้านทองแถบชานเมืองใน จังหวัดขอนแก่นทำ�ให้เกิดความเสียหายอย่างมาก จำ�เป็นต้องมีมาตรการในการป้องกันระมัดระวังกลุม่ มิจฉาชีพ ปัจจุบันสมาชิกชมรมผู้ค้าทองฯ เฉพาะใน เขตเทศบาลนครขอนแก่นมีรวมกว่า 100 ราย โดยมี การประชุมแลกเปลี่ยนปัญหาในการรับซื้อและขาย
ฝากเสมอ ซึ่งต่อไปจำ�เป็นต้องมีกาตรวจสอบมาก ขึ้นกว่าเดิม นอกจากการตรวจสอบหัวจรวดและ ตะขอแล้ว จำ�เป็นต้องตะใบฝนดูเนื้อทองหรือเป่า ไฟ จากปกติที่ผ่านมาฝนนิดเดียวจะรู้ว่าเป็นทอง แท้หรือไม่ แต่ปจั จุบนั การเคลือบทองหนาขึน้ การ ทดสอบจึงยากขึ้นกว่าเดิม จำ�เป็นต้องเพิ่มการฝน เนื้อทองมากกว่าเดิมเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และ ข้อสังเกตุคือ ทองคำ�แท้ถึงแม้จะเป็นทองตัน เนื้อ ทองจะนิ่มกว่าทองปลอมมาก อย่างไรก็ตาม ร้าน ทองทุกร้านจำ�เป็นต้องมีการตรวจสอบทุกขัน้ ตอน เพือ่ ให้เกิดความมัน่ ใจในการรับซือ้ และรับขายฝาก จากลูกค้า ประธานชมรมผูค้ า้ ทองจังหวัดขอนแก่น กล่าวและว่า ในอนาคต ชมรมผูค้ า้ ทองจังหวัดขอนแก่น มีแผนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีแอพพริเคชั่นร่วมกับ ตำ�รวจ ในการตรวจสอบป้องกันอาชญากรเบื้อง ต้น โดยผู้ที่จะนำ�ทองมาขายฝากจะต้องแสดงบัตร ประชาชนที่สามารถลิงค์ข้อมูลว่าเป็นผู้เคยกระทำ� ผิด มีหมายจับ หรือเป็นบุคคลทีก่ ำ�ลังหนีคดีหรือไม่ ซึง่ การพัฒนาใช้แอพพริเคชัน่ ตรวจสอบอาชญากร เบื้องต้นนี้ยังอยู่ในระหว่างการพูดคุยหารือเพื่อให้ เกิดความเป็นไปได้ ซึ่ง ขอนแก่นจะเป็นจังหวัด นำ�ร่องในการใช้เพื่อนำ�ไปสู่การป้องกันโจรกรรมอาชญากรรมแล้ว ยังสามารถป้องกันกลุม่ มิจฉาชีพ ที่แอบแฝงมาในรูปแบบต่างๆ ได้อีกด้วย นายโกเม นทร์ กล่าว ..
เสริมสร้างผลิตภัณฑ์ OTOP สู่สากลด้วยวิทย์และเทคโนโลยี
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.59 ที่โรงแรมเซ็นทารา คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ จ.ขอนแก่น ดร.สุทธิเวช ต.แสงจันทร์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ เป็น ประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการ เสริมสร้างผลิตภัณฑ์ OTOP ให้ก้าวไกลสู่ระดับ สากลด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรือ่ ง “สร้าง คุณภาพสินค้า OTOP เพื่อรายได้ที่ยั่งยืน” ครั้งที่ ๓ กลุม่ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีนายสุร ชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น พร้อมผู้ ประกอบการ OTOP และวิสาหกิจชุมชน และกลุม่ ห้องปฏิบัติการที่ให้บริการทดลองคุณภาพสินค้า OTOP ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ สาธารณสุข จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด พัฒนาการจังหวัด เกษตรกรจังหวัด มหาวิทยาลัยขอนแก่น บุคลากร ในห้องปฏิบตั กิ ารของมหาวิทยาลัยในภูมภิ าค ทีใ่ ห้ บริการทดสอบคุณภาพสินค้า OTOP รวมทั้งสิ้น 350 คน เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ดร.สุทธิเวช กล่าวว่า สินค้าหนึ่งตำ�บล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ของไทยในภาคต่าง ๆ มีเอกลักษณ์ท้องถิ่นที่โดดเด่นแตกต่างกัน เป็น ที่ นิ ย มของผู้ ซื้ อ จึ ง มี ส่ ว นช่ ว ยสร้ า งรายได้ ใ ห้ ชุ ม ชน อย่ า งไรก็ ต ามในปั จ จุ บั น สิ น ค้ า OTOP
ประสบปัญหาหลายด้าน ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ กระบวนการผลิต จนถึงการจำ�หน่ายและสินค้า OTOP ส่ ว นใหญ่ คุ ณ ภาพไม่ ไ ด้ ม าตรฐานตาม เกณฑ์ตา่ ง ๆ ทัง้ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชมุ ชน (มผช.) มาตรฐานอาหารและยา (อย.) ปัญหาด้านการผลิต ได้แก่ วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตมีคุณภาพไม่สมํ่า เสมอ กรรมวิธีการผลิตไม่ถูกสุขลักษณะ ทำ�ให้คุณภาพสินค้าในการผลิตแต่ละครั้ง ไม่คงที่ ไม่สมํ่าเสมอ และไม่ได้ตามมาตรฐานผู้ ประกอบการ OTOP ส่วนใหญ่ ไม่สามารถผลิต สินค้าได้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้ารวมทัง้ ผู้ประกอบการขาดความตระหนัก ความเข้าใจ ใน เรือ่ งการได้รบั รองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ปัญหาด้าน การตลาด ได้แก่ สินค้าไม่แตกต่างกัน บรรจุภัณฑ์ ไม่เหมาะสม ไม่สวยงาม ช่องทางการจัดจำ�หน่าย สินค้ามีน้อย โดยเฉพาะการส่งออก ตลอดจนยัง ขาดความรู้เรื่องการบริหารจัดการด้านการตลาด ดร.สุทธิเวช กล่าวว่า ด้วยสาเหตุดังกล่าว กรมวิทยาศาสตร์บริการจึงได้จดั สัมมนาเชิงปฏิบตั ิ การโครงการเสริมสร้างผลิตภัณฑ์ OTOP ให้ก้าว ไกลสู่ระดับสากลด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่ ง เสริ ม การสร้ า งคุ ณ ภาพสิ น ค้ า OTOP เพื่ อ รายได้ที่ยั่งยืน ให้แก่ผู้ประกอบการ OTOP และ
ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ ตำ�รวจผู้อุทิศตนปลูกป่า เพื่อประโยชน์ส่วนรวม
“สวั ส ดี ค่ ะ ” หนั ง สื อ พิ ม พ์ ไ ทยเสรี ขอ ต้อนรับทุกท่านเข้าสู่คอลัมน์ “สายตรงโรงพัก” ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช 2559 เราขอแนะนำ�ท่านผู้อ่านให้รู้จักกับคนในแวดวง สีกากี คือ “ตำ�รวจ” หรือ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ในพื้นที่ภาคอีสานเช่นเคยค่ะ โดยในฉบับนี้เราขอ แนะนำ�ท่านให้รู้จักกับ ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ หรือ “ดาบวิชัย” ผู้ที่ทำ�ความดีเพื่อส่วนรวมด้วยการ ปลูกต้นไม้จำ�นวนมากกว่าสองล้านต้นในพื้นที่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้ อ.ปรางค์กู่ ที่เคย แห้งแล้งที่สุดแห่งหนึ่ง ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่ ที่อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก สมดังคำ�ขวัญของ อ.ปรางค์กู่ ที่ว่า “ปรางค์กู่อยู่ในป่ายางกลางดงตาล บานสะพรั่งดอกคูน บริบูรณ์ไร่นาสวนผสม” ร.ต.ต.วิชยั สุรยิ ทุ ธ เกิดเมือ่ วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ.2489 ปัจจุบันอายุ 69 ปี เป็นชาว จ.ศรีสะเกษ โดยกำ�เนิ ด เป็ น บุ ต รคนที่ ส ามในจำ�นวนพี่ น้ อ ง ทั้งหมด 6 คน ครอบครัวประกอบอาชีพทำ�นา ในปี 2548 ด.ต.วิ ชั ย สุ ริ ยุ ท ธ ได้ รั บ พระราชทานยศ“ร้อยตำ�รวจตรี”เป็นกรณีพิเศษ จากการอุทิศตนต่อประเทศชาติ และในปีต่อมา คือ ปี 2549 ได้รับรางวัล บุคคลดีเด่น ด้วยผลแห่ง การทำ�ความดีอย่างไม่มีสิ้นสุด จากการที่ทุกเช้า และหลังเลิกงานของแต่ละวัน ดาบวิชัย จะขับ รถ จยย.คู่ชีพ ออกตระเวนปลูกต้นไม้ไปตามพื้นที่
ต่างๆ ใน อ.ปรางค์กู่ จ . ศ รี ส ะ เ ก ษ ใ น ระยะแรกชาวบ้าน จะมองว่าเป็นคนบ้า ปลูกต้นไม้ ถึงแม้จะถูกมองเช่นนั้น ดาบวิชัยก็ไม่ ลดละความพยายามในการปลูกต้นไม้เพิ่มจำ�นวน ขึน้ เรือ่ ยๆ นัน่ เพราะว่า ดาบวิชยั เห็นว่าผลทีจ่ ะตาม มา จะเป็นผลทีย่ งั่ ยืน เป็นประโยชน์ไปถึงคนรุน่ ลูก รุน่ หลาน สร้างประโยชน์มหาศาลต่อบ้านเกิดเมือง นอนและประเทศชาติบ้านเมืองของเราสืบไป นับ ไล่เรียงมาจนกล่าวได้วา่ เป็นผูป้ ลูกต้นไม้ได้จำ�นวน มากกว่าสองล้านต้นทีเดียว ในโอกาสมาเยื อ นคอลั ม น์ ส ายตรงโรงพั ก ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ ตำ�รวจปลูกป่าผู้โด่งดัง เจ้าของ ประโยคเด็ด “...ปลูกต้นไม้ไปเรือ่ ยๆ ปลูกไปจนกว่า จะตายนั่นแหละ...” กล่าวฝากถึงตำ�รวจรุ่นน้อง ในพื้นที่ภาคอีสานว่า “ถึงจะล่วงเข้าสู่วัยชราถ้า ยังพอมีเรี่ยวแรงก็จะยังคงเดินหน้าปลูกป่าต่อไป โดยจะปลูกต้นไม้ไปเรื่อยๆ ปลูกไปจนกว่าจะตาย นั่นแหละครับ” สำ�หรับคอลัมน์สายตรงโรงพักฉบับนี้ ต้อง ขอลงท่านผู้อ่านไปก่อน ไว้พบกันฉบับหน้าเดือน สิงหาคม 2559 นะคะ “สวัสดีค่ะ”
เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน
วิสาหกิจชุมชนช่วยให้ ผู้ประกอบการ OTOP มี ค วามรู้ แ ละความ ตระหนั ก ถึ ง การนำ� วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี แ ล ะ น วั ต ก ร ร ม ม า ใช้ ใ นการผลิ ต สิ น ค้ า ที่ มี คุ ณ ภ า พ แ ล ะ ไ ด้ มาตรฐาน มี ค วาม ปลอดภั ย ต่ อ ผู้ บ ริ โ ภค ซึ่งเน้นการบูรณาการ ร่ ว มกั บ จั ง หวั ด มุ่ ง ให้ มี ค วามสอดคล้ อ งกั บ การ ดำ�เนินการยุทธศาสตร์ของจังหวัด และกลุม่ จังหวัด ในการพัฒนาการผลิต การตลอาด และการบริหาร จั ด การสิ น ค้ า ทั้ ง สิ น ค้ า เกษตรเชิ ง คุ ณ ภาพหรื อ สินค้าอื่น ๆ เป็นการเพิม่ มูลค่าผลผลิต พัฒนาเศรษฐกิจ ของชุ ม ชนและช่ ว ยให้ สิ น ค้ า ได้ รั บ การพั ฒ นา ปรั บ ปรุ ง คุ ณ ภาพและเข้ า สู่ ก ระบวนการยื่ น ขอ การรับรองตามมาตรฐานได้ ดำ�เนินการให้การ แก้ไขปัญหามีความต่อเนื่องครอบคลุมทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นนํ้าจนถึงปลายนํ้า เป็นประโยชน์สำ�หรับ ผู้ประกอบการในจังหวัดหรือชุมชนส่งเสริมให้ ได้รับความช่วยเหลือ สามารถแก้ไขปัญหาและ พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เป็นพื้นฐานได้อย่างเป็นรูปธรรม ตรงตามความ ต้องการสามารถพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวติ ได้อย่างยั่งยืน โดยประโยชน์ ที่ ค าดว่ า จะได้ จ ากการ สัมมนาเชิงปฏิบตั กิ ารในครัง้ นี้ ดร.สุทธิเวช กล่าว ว่า จะช่วยให้ผู้ประกอบการ OTOP และวิสาหกิจ ชุ ม ชน มี ค วามรู้ แ ละความเข้ า ใจตระหนั ก ถึ ง การนำ�วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาใช้ ใ นการผลิ ต ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ใ ห้ มี คุ ณ ภาพตาม มาตรฐาน สามารถยื่นขอรับรองตามมาตรฐาน ได้มคี วามปลอดภัยต่อผูบ้ ริโภค มีความรับผิดชอบ ต่อสังคม เป็นการเพิม่ พูนมูลค่าผลผลิตและพัฒนา เศรษฐกิจของชุมชนอย่างยั่งยืน
กลุ่ ม มิ ต รผลสนั บ สนุ น เยาวชนไทย ; คุ ณ สุ น ทร ว่ อ ง กุ ศ ล กิ จ ป ร ะ ธ า น กิ ต ติ ม ศั ก ดิ์ ก ลุ่ ม มิ ต รผล และคุ ณ กฤษฎา มนเที ย ร วิ เ ชี ย รฉาย ประธานเจ้ า หน้าทีบ่ ริหารและกรรมการ ผู้ จั ด การใหญ่ ก ลุ่ ม มิ ต รผล มอบทุนการศึกษาประจำ�ปี 2559 ให้แก่นกั เรียน จำ�นวน ทั้งสิ้น 455 ทุน รวมมูลค่ากว่า11 ล้านบาท ส่งเสริมให้เยาวชนไทยเห็นคุณค่าของอาชีพเกษตรกร เพื่อ เตรียมพร้อมสู่การเป็น Smart Farmer
เตรียมประชุมวิชาการ และเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ
วิ ท ย า ลั ย บัณฑิตเอเชีย จัดการ ป ร ะ ชุ ม เ จ้ า ภ า พ ร่วม14 สถาบัน ทั้ง ในและต่างประเทศ เ พื่ อ เ ต รี ย ม ค ว า ม พร้อมการจัดประชุม วิ ช าการและเสนอ ผลงานวิ จั ย ระดั บ ช า ติ แ ล ะ ร ะ ดั บ นานาชาติ ครั้ ง ที่ 4 CASNIC 2016 ในวัน ที่ 7 ตุลาคม 2559 โดยมี ผศ.สุกิจจา จันทะชุม รอง ต้อนรับ ณ ห้องประชุมวิทยา-นงลักษณ์ วิทยาลัย อธิการบดี วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย เป็นประธานกล่าว บัณฑิตเอเซีย จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 8 ก.ค.59
เ มื่ อ วั น ที่ 4 ก.ค. 2559 ที่ บริ เ วณห้ ว ยทอน ตอนล่ า ง หมู่ ที่ 2 ต.โพธิ์ ต าก อ.โพธิ์ ตาก จ.หนองคาย นายภิญโญ สุวรรณ ช น ะ ผู้ อำ� น ว ย ก า ร สำ� นั ก ง า น พั ฒ นาที่ ดิ น เขต 5 เ ป็ น ป ร ะ ธ า น โ ค ร ง ร ณ ร ง ค์ ป ลู ก ห ญ้ า แ ฝ ก เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนือ่ งในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 จำ�นวน 700,000 ต้น ปล่อยปลาลงสูล่ ำ�นํา้ สาธารณะเพือ่ เป็นแหล่งอาหาร จำ�นวน 70,000ตัว นอกจากนัน้ ได้มอบปัจจัยกรผลิต และเมล็ดพันธุ์ปุ๋ยพืชสดแก่เกษตรกร โดยมี นาย วิชัย ลิ้มโพธิ์ทอง ผอ.สำ�นักงานพัฒนาที่ดินจังหวัด หนองคาย นายสุเทพ ทุมมาจันทร์ นายกองค์การ บริการส่วนตำ�บลโพธิต์ าก พันเอกธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ผบ.นพค. 25 หน.ส่วนราชการ องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน และนักเรียนใน พื้นที่ตำ�บลโพธิ์ตากอำ�เภอโพธิ์ตาก ร่วมกิจกรรม จำ�นวนมาก เพือ่ เป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้ า อยู่ หั ว ฯ และน้ อ มนำ�วิ ธี ป ฏิ บั ติ ต ามแนว
พระราชดำ�ริที่ทรงพระราชทานมาใช้ในการจัดการ ทรัพยากรด้านดินและนํ้าและการฟื้นฟูปรับปรุงดิน ให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ โดยให้เกษตรกรและ ประชาชนทัว่ ไปได้มสี ว่ นร่วมในการดำ�เนินกิจกรรม เพือ่ สนองแนวพระราชดำ�ริดา้ นการใช้หญ้าแฝกเพือ่ ป้องกันการพังทลายของดินในการพัฒนาทรัพยากร ดินและนํ้าและเพื่อรณรงค์สร้างจิตสำ�นึกที่ดีให้กับ เกษตรกรในการอนุรักษ์ทรัพยากรดินและนํ้า และ เป็ น การเสริ ม งานโครงการของรั ฐ บาล ที่ ม อบ หมายให้ กองบัญชาการกองทัพไทย โดยพัฒนาการ เคลือ่ นที่ 2-5 เป็นหน่วยดำ�เนินการขุดลอกห้วยทอน ตอนล่าง ซึ่งจะมีชาวบ้านได้รับประโยชน์ จำ�นวน 6 หมู่บ้าน 1,223 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 12,000 ไร่ และยังสามารถแก้ปญ ั หานํา้ ท่วมพืน้ ทีก่ ารเกษตรใน ฤดูนาํ้ มาก และแก้ปญั หาการขาดแคลนนํา้ ในฤดูแล้ว ได้อย่างยั่งยืน
ปลูกฝัง คุณธรรม จริยธรรม ใ ห้ กั บ เ ด็ ก ป ฐ ม วั ย ; นายกำ�ภล เมืองโคตร นายก เทศมนตรีเมืองหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ประจำ�ปี 2559 เพื่อพัฒนา และปลูกฝังด้านคุณธรรม จริยธรรมให้กับเด็กปฐมวัย โรงเรียนเทศบาล 4 ฉลองรัตน เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2559 ณ หอประชุมอเนกประสงค์โรงเรียนเทศบาล 4 ฉลองรัตน อ.เมืองหนองคาย ม อ บ ร า ง วั ล ; พล.ต.ต.สมชาย เกาสำ�ราญ ผบก.ทล. มอบรางวัลให้กับ ด.ต.จิระ พลสงค์ พร้อมชุด จั บ กุ ม ยาเสพติ ด เพื่ อ เป็ น ขวั ญ และกำ�ลั ง ใจในการ ปฏิบตั หิ น้าทีท่ หี่ น่วยบริการ ตำ�รวจทางหลวง อ.นํ้าพอง จ.ขอนแก่น เมื่อเร็วๆนี้ โรงพั ก เพื่ อ ประชาชน ; พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย เ ป็ น ป ร ะ ธ า น เ ปิ ด ป้ า ย ที่ทำ�การสถานีตำ�รวจภูธร โพนพิสัย โดยมี พ.ต.อ.ธิติ บูลย์ธรรมาวิวฒ ั น์กลุ ผกก. สภ.โพนพิสยั พ.ต.ท.สุรกิจ ค้วนเครือ รอง ผกก.ป.สภ. โพนพิสยั ข้าราชการตำ�รวจ หัวหน้าส่วนราชการ ผูบ้ ริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ และประชาชน ร่วมแสดงความยินดีจำ�นวนมาก โดยจัดให้มีพิธีทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคลและกำ�ลังใจ ข้าราชการตำ�รวจที่ปฏิบัติงานในอาคารแห่งใหม่อีกด้วย ล ด ใ ช้ พ ลั ง ง า น ส น อ ง นโยบายรัฐ ; นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รอง ผวจ. หนองคาย เป็ น ประธาน เปิดการอบรมโครงการลด ใช้ พ ลั ง งานในหน่ ว ยงาน ภาครัฐ ปี 2559 เพื่อให้ทุก ภาคส่ ว นมี ค วามเข้ า ใจใน การปฏิบัติในการประหยัด พลังงาน เป็นตัวชี้วัดด้าน ประหยัดพลังงานของจังหวัด เมือ่ วันที่ 7 กรกฎาคม 2559 ทีห่ อ้ งประชุมทับทิม โรงแรมแกรนด์พาราไดซ์ จ.หนองคาย ประกันคุณภาพการศึกษา ; น า ย วิ ฑู ร ย์ ก ม ล น ฤ เมธ ประธานกิ ต ติ ม ศั ก ดิ์ ส ภ า อุ ต ส า ห ก ร ร ม จ.ขอนแก่น ได้รับเชิญจาก คณะบริ ห ารธุ ร กิ จ และ เทคโนโลยี ส ารสนเทศ มทร. อี ส าน วิ ท ยาเขต ขอนแก่ น ให้ เ ป็ น ผู้ ท รง คุ ณ วุ ฒิ ก ารทวนสอบผล สัมฤทธิ์นักศึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับการดำ�เนินงานด้านประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ประจำ�ปี การศึกษา 2558 ที่ มทร. อีสาน วิทยาเขตขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น สนุ ก วิ ท ย์ พลั ง คิ ด เพื่ อ อนาคต ; นายศิ ว าโรจน์ มุ่ ง หมายผล รอง ผวจ. ขอนแก่น เป็นประธานเปิด โครงการ “สนุกวิทย์ พลัง คิด เพื่ออนาคต” และมอบ อุ ป กรณ์ ก ารเรี ย นให้ กั บ โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ โดยมี คุ ณ ศั น สนา มลาย อริศูนย์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่าย ชุมชนสัมพันธ์ บริษทั เชฟรอน (ประเทศไทย) สำ�รวจและผลิต จำ�กัด และผูบ้ ริหารสถานศึกษา ร่วมเปิด งาน ณ อาคารเรียนรวม ตึกเพียรวิจิตร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หน้า 9
นกรกรกฎาคม 2559 ปีที่ 14 ฉบับที่ 146 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2559
Road show กระบี่ “ประกาศศักดาท้าเที่ยวข้ามภาค”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำ�นักงานกระบี่ จัด Road show “ประกาศศักดา ท้าเที่ยวข้ามภาค” หวังกระตุ้นให้มีการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการท่อง เที่ยวข้ามภูมิภาค โดยเปิดเสวนาเชิญชวนชาวอีสานล่องใต้ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษต้อนรับการ ท่องเที่ยวข้ามภูมิภาค จากอีสานสู่ใต้ โดยมี นายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รองผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น เป็นประธานในการเปิดงาน ณ โรงแรมเซนทารา คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน 2559 นายอภิชัย อรัญญิก ผู้อำ�นวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำ�นักงานกระบี่ งาน Road show ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เสวนา “ประกาศศักดาท้าเที่ยวข้ามภาค” โดยการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำ�นักงานกระบี่ ร่วมกับ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัด
กระบี่ สมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ และองค์การ บริหารส่วนจังหวัดกระบี่ นำ�ผูป้ ระกอบการธุรกิจการ ท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย Road show ข้ามภูมิภาค เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวข้าม ภูมิภาค สร้างกระแสความหมุนเวียนของเศรษฐกิจ ในภูมิภาคให้มีการกระจายสู่ชุมชนในท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังเป็นการลดการกระจุกตัวและ ความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูการท่อง เทีย่ ว และเติมเต็มสำ�หรับท่านทีต่ อ้ งการเข้าถึงแหล่ง ท่องเทีย่ วแบบสบายๆ โดยมีความหลากหลายในการ ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่มาแบบคู่รัก กลุ่ม Gen-Y กลุ่ม ผู้หญิง กลุ่มครอบครัว หรือกลุ่มผู้สูงวัย ที่สามารถ ร่วมกิจกรรมได้ทุกรูปแบบ อาทิ สุขภาพ ปา แช่บ่อนํ้ าร้อน หือกิจกรรมปีนผา พายคายัค หรือกิจกรรมที่ ต้องการเรียนรูว้ ถิ ชี วี ติ ชุมชน กิจกรรม CSR การสร้าง บ้านปลา ปลูกป่าชายเลน และฯลฯ เชื่อว่า จังหวัด กระบี่ จะสามารถตอบสนองความต้องการของนัก ท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่มอย่างมีศักยภาพ และเป็นเมือง ศูนย์กลางการท่องเทีย่ วของกลุม่ อันดามันในอนาคต และยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทุก กลุ่มที่ไม่ควรพลาด ผู้อำ�นวยการการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) สำ�นักงานกระบี่ กล่าว
โตโยต้าแก่นนคร ให้เลือด ให้ชีวิต ครั้งที่ 32
แชมป์แบรนด์ค้าปลีกดาวรุ่ง ต้อนรับมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จาก Kantar Award 2016
มร.ทิม แนปป์ ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส รับรางวัลแบรนด์ค้าปลีกดาวรุ่งจาก คุณพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำ�นวย การกองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ ในงานประกาศผลสุด ยอดแบรนด์ทผี่ บู้ ริโภคเลือกซือ้ สูงสุด และแบรนด์ดาวรุง่ Brand Footprint Award 2016 ซึ่งจัดโดย บริษัท กันตาร์ เวิร์ลพาแนล (ประเทศไทย) จำ�กัด ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เมื่อเร็ว ๆ นี้
มร.แสตนลี่ ชาน ผูจ้ ดั การใหญ่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออ คิด ให้การต้อนรับ ‘คุณริด้า’ ฟาริด้า วัลเล่อร์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2012 และเหล่าสาวงามผูเ้ ข้าร่วมการสมัครและสัมภาษณ์มสิ ยูนเิ วิรส์ ไทยแลนด์ 2016 ณ ห้องฉัตรฑันต์ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เมื่อเร็วๆนี้
พระราชทานเพลิงศพ“ครูใหญ่”เกียรติยศสูงสุดแห่งชีวิต
พิธพี ระราชทานเพลิงศพ “ครูใหญ่” เป็นกรณีพเิ ศษ ประจำ�ปี 2559 ซึ่งนักศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ 6 คณะ ได้ร่วมใจกันทุ่มเททำ�งาน เชิดชูเกียรติอย่างสูงแด่“ครู” แสดงออกถึงความกตัญญุตา ผู้ทำ�คุณงาม ความดีให้กับประเทศชาติ เสียส ละร่างกายของตนเพื่ออุทิศให้นักศึกษา ศูนย์วทิ ยาศาสตร์สขุ ภาพศึกษาเรียนรู้ เป็นสิง่ สุดท้ายแห่งการแสดงความ กตัญญุตาในความรูอ้ ปุ การะทีท่ า่ นทำ�แล้วแก่นกั ศึกษา โดยจัดขึน้ ระหว่าง วันที่ 18-20 มิถนุ ายน 2559 ณ อาคาร 25 ปี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นงาน ที่จัดออกมาได้อย่างงดงาม สมเกียรติแห่งความเป็นครู และวงศ์ตระกูล ที่ ลูกศิษย์ได้บชู าครูผอู้ ทุ ศิ ร่างกาย และจะได้นำ�ความรูอ้ อกไปช่วยเหลือผูค้ น ต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด
รวมพลั ง เพื่ อ ศิ ล ปิ น เ ดิ น เด็กสุขภาพดี ; รั บ บ ริ จ า ค น า ง อ อ ด รี ย์ ก อ ง ทุ น วั น เลียว ประธาน ศรีนครินทร์ ; กรรมการ ศูนย์สรรพสิน และประธาน ค้าแฟรี่พลาซ่า คณะผู้ บ ริ ห าร ขอนแก่น ร่วม เนสท์ เ ล่ อิ น ส นั บ ส นุ น โดไชน่ า เป็ น ก อ ง ทุ น วั น ประธานเปิ ด ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยการเอื้อเฟื้อ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2559 บริษัทโตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด ได้จัดโครงการให้เลือด ให้ชีวิต ครั้งที่ 32 โดยคุณโชคชัย คุณวาสี กรรมการผู้จัด สถานที่ในการเดินรับบริจาคสมทบทุนกองทุนวันศรีนครินทร์ เมื่อวัน งานโครงการ “รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี United For Healthier Kids” โดยมี บริษทั โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด และทีป่ รึกษาภาคเอกชนสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น คณะแพทยศาสตร์ ที่ 20 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ในการนี้มีคณะศิลปิน อาทิ ไมค์ ภิรมย์พร, ป๋อ ณัฐวุฒิ สะกิดใจ และผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กอาทิ นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์, มหาวิทยาลัยขอนแก่น ศูนย์คลังเลือดกลาง โรงพยาบาลขอนแก่น ชมรมผูบ้ ริจาคโลหิตจังหวัดขอนแก่น จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต เพือ่ ช่วยเหลือ เดวิด อินธี และเอิ้นขวัญ วรัญญา ร่วมเดินรับบริจาคในครั้งนี้ด้วย ดร.ชนิศา ตันติเฉลิม, ผศ.ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล, เชฟวิลเมนต์ เหลียง และเชฟ เพื่อนมนุษย์ที่รอรับการรักษาพยาบาล ณ ห้องประชุมชั้น 4 บริษัทโตโยต้าแก่นนครจำ�กัด ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ดวงพร ทรงวิศวะ ร่วมเปิดงาน ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
หน้า 10
ที่ 14 ที่ 146 ประจำ อนกรกฎาคม 2559 ปีทปีี่ 14 ฉบัฉบั บทีบ่ 146 ประจำ �เดื�อเดืนกรกรกฎาคม
คลื่นจากเสาส่ แม่เหล็ ก ไฟฟ้ า งสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่อันตราย ปัจจุบนั โทรศัพท์มอื ถือกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในชีวติ ประจำ�วันแล้ว บางคนลืมโทรศัพท์มอื ถือเสมือนชีวติ ขาดอะไรไปสักอย่าง จึงปฏิเสธไม่ ได้ว่าโทรศัพท์มือถือเข้ามาเป็นปัจจัยที่ช่วยอำ�นวยความสะดวกสบาย ทำ�ให้ชีวิตง่ายขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้งานโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น การขยายโครงข่ายโทรคมนาคมจึงต้องกระจายไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงตามแหล่งชุมชนต่างๆ เพือ่ รองรับการใช้งานของผูใ้ ช้บริการ และ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการติดต่อสื่อสารทั้งผ่านการโทรเข้า โทร ออก และการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต แม้เทคโนโลยีการสื่อสารจะมีส่วนทำ�ให้ชีวิตความเป็นอยู่ของ คนไทยสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็ยังมีประชาชนบางกลุ่มที่เกิดความ วิตกกังวลเกรงว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่ออกมาจากเสาส่งสัญญาณ โทรศัพท์มือถือจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพทำ�ให้คนที่อาศัยบริเวณนั้น ล้มป่วย ปวดหัว ตาพร่า ใจสั่น นอนไม่หลับ ไปจนถึงอาจก่อให้เกิด มะเร็งได้ ทำ�ให้บางชุมชนออกมาต่อต้านและให้รอื้ ถอน เสาส่งสัญญาณ จนไปถึงขั้นมีการยื่นฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อให้รื้อถอนเสา ส่งสัญญาณดังกล่าวออก พร้อมเรียกค่าเสียหาย แต่ สุดท้ายศาลแพ่งมีคำ�สั่งให้ยกฟ้อง เนื่องจาก ศาลพิเคราะห์แล้วว่าไม่มีหลักฐานยืนยันว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่ออกมาจะเป็น อันตรายต่อสุขภาพมนุษย์จริง และยัง ตํ่ากว่าเกณฑ์ที่มาตรฐานกำ�หนดอีก ด้วย เพื่อคลายความวิตกกังวล ของชุมชนทีอ่ าศัยอยูใ่ กล้กบั เสาส่ง สัญญาณ หน่วยงานภาครัฐทีก่ ำ�กับ ดู แ ลคลื่ น ความถี่ อ ย่ า งสำ�นั ก งาน คณะกรรมการกิ จ การกระจาย เสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)และ ภาคเอกชน จึ ง ได้ เ ดิ น สายจั ด เสวนา เรื่ อ งคลื่ น แม่ เ หล็ ก ไฟฟ้ า จากเสาส่ ง สัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องว่า คลื่นจากเสาส่งสัญญาณ โทรศัพท์มือถือเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีพลังงานตํ่า และไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเซลล์ และพันธุกรรมต่างๆในร่างกาย
จึงไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ อีกทั้งก่อนการติดตั้งเสาส่งสัญญาณ โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ ผู้ ใ ห้ บ ริ ก ารโทรศั พ ท์ มื อ ถื อ ทุ ก รายจะต้ อ งยื่ น ขอ อนุญาตก่อน ว่าเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพ และ ประเมินความแรงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าว่ามีระดับตํ่ากว่าเกณฑ์ มาตรฐาน เช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญด้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจาก เอไอ เอส ที่ได้จัดเสวนาให้ความรู้กับสื่อมวลชนท้องถิ่นในหลายพื้นที่ เพื่อทำ�ความเข้าใจ และเผยแพร่ข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐเรื่อง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยอธิบายว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่ง สัญญาณโทรศัพท์มือถือ เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่ตํ่า เช่น เดียวกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งวิทยุเอเอ็ม และเอฟเอ็ม และ คลื่นจากเสาโทรทัศน์ แต่มีกำ�ลังส่งน้อยกว่ามาก รวมไปถึงคลื่นจาก วิทยุสื่อสารตำ�รวจหรือกู้ภัย และสัญญาณ WI-FI โดยปัจจุบันยังไม่มีผลวิจัยใดที่ชี้ชัดว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จากเสาส่ ง สั ญ ญาณโทรศั พ ท์ มื อ ถื อ มี ผ ลกระทบ ทำ�ให้ เ กิ ด โรคต่ า งๆต่ อ ร่ า งกายมนุ ษ ย์ หรือสัตว์เลย เช่นเดียวกับ กสทช. ที่ อ อกมาระบุ อ ย่ า งชั ด เจนว่ า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสา ส่ ง สั ญ ญาณโทรศั พ ท์ มื อ ถือทั่วประเทศมีเกณฑ์ตํ่า กว่าเกณฑ์มาตราฐานที่ กสทช.กำ�หนดไว้ น อ ก จ า ก นี้ อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ ใ นการ ติ ด ตั้ ง เสาส่ ง สั ญ ญาณ โทรศัพท์มือถือ ได้ผ่าน การรับรองจากองค์การ อนามัยโลก ซึ่งต้องผ่าน ขั้ น ตอนการตรวจสอบ ต่างๆ รวมทัง้ มีการจำ�กัดความ แรงในการส่งสัญญาณ จึงมั่นใจ ได้ว่าเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ทุกแห่งทั่วประเทศมีการส่งสัญญาณตํ่ากว่า เกณฑ์มาตราฐานที่ กสทช.กำ�หนด
ส่งเสริมการเกษตรในช่วงหน้าแล้ง
เมือ่ วันที่ 25 มิถนุ ายน ทีผ่ า่ นมา บริษทั โตโยต้าขอนแก่น ผูจ้ ำ�หน่ายโต โยต้า จำ�กัด ได้จดั กิจกรรมสังคมสัมพันธ์ “ส่งเสริมการเกษตรในช่วงหน้าแล้ง” ณ ตำ�บลคูคำ� อำ�เภอซำ�สูง จังหวัดขอนแก่น ได้ร่วมกับชาวบ้านในชุมชน ร่วม กันเพาะเห็ดฟางในตะกร้า ซึง่ เป็นการปลูกพืชนํา้ น้อยเหมาะสำ�หรับหน้าแล้ง ทีม่ ปี ริมาณนํา้ ไม่เพียงพอต่อการเกษตร อีกทัง้ ยังมีวทิ ยากรคอยให้ความรูเ้ กีย่ ว กับวิธีเพาะเห็นและวิธีการดูแลอย่างถูกต้อง โดยสามารถนำ�ความรู้ที่ได้รับมา ปรับใช้กับการประกอบอาชีพของตนเองให้มีความมั่นคงตามหลักเศรษฐกิจ พอเพียง ลดการทิ้งถิ่นฐานไปทำ�งานในตัวเมือง ทำ�ให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถผลิตอาหารเองได้ ช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือนและยังเป็นการนำ� วัสดุเหลือใช้ในพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์อีกด้วย
อวยพรวันเกิด Thank you Party@Seminar 2016
ผู้ บ ริ ห ารโรงแรมฯ ตั ว แทนของพนั ก งานโรงแรมพู ล แมน ขอนแก่น ราชา ออคิด นำ�เค้ก ของขวัญ และดอกไม้ อวยพรวันเกิดแด่คุณ อรวรรณ พัฒนพีระเดช กรรมการผู้จัดการของโรงแรมฯ โดยมีคุณพนิดา รักสุจริต ประธานกรรมการของโรงแรมและกลุ่มบริษัทราชากรุ๊ป ร่วม แสดงความยินดีในโอกาสพิเศษนี้ ณ เพนเฮาส์ ‘รอยัลสวีท’ เมื่อเร็วๆนี้
กัปตัน วรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร บริษทั ไทยสมายล์แอร์ เวย์ จำ�กัด เป็นประธาน Thank you Party @Seminar 2016 ในการสัมมนาตัวแทน จำ�หน่ายบัตรโดยสารสายการบินไทยสมายล์ และเลี้ยงขอบคุณพร้อมมอบรางวัล THAI Smile Agency (Northeast) Top Award เมื่อ 3 ก.ค.2559 ณ โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล ขอนแก่น
หน้า 11
ปีที่ 14 ฉบับที่ 146 ประจำ�เดือนกรกรกฎาคม 2559 “ทองลุน”
• ต่อจากหน้า 1 ผู้นำ�ระดับชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นสถาบัน บังคับใช้ในปี 2560 นั้น ประเด็นดังกล่าวมีผลด้าน มนาฯ เพื่อเป็นการให้ความรู้ ความเข้าใจต่อปัญหา พร้อมๆกันทุกส่วน หากเปรียบเป็นรถ ล้อก็จะต้อง เทีย่ ว โดยมีรถโดยสารสาธารณะซิตบี้ สั จากเดิมทีร่ บั -
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2559 ที่ห้องประชุม พีรสิทธิ์ คำ�นวณศิลป์ วิทยาลัยการปกครองท้องถิน่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ขอนแก่น นำ�โดย ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายก สภามหาวิทยาลัยขอนแก่น รศ.ดร.กิตติชัย ไตร รัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วม ต้อนรับ นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ในโอกาสปาฐกถาเรื่อง “สปป.ลาว สู่อนาคต การพัฒนา” ทั้งนี้มีประชาชน นักศึกษา นักธุรกิจ ในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้ง ประชาชนชาวลาวที่อาศัยอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ร่วมฟังปาฐกถากว่า 700 คน นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว กล่าวปาฐกถาว่า ลาวและไทยมีความสัมพันธ์ อั น ดี ย่ า งยาวนาน สาธารณรั ฐ ประชาธิ ป ไตย ประชาชนลาวผ่ า นขบวนการต่ อ สู้ โดยสั น ติ วิ ธี กระทัง่ ปัจจุบนั มีแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ 7 เพือ่ ขยาย การผลิตและส่งออกประคับประคอง เศรษฐกิจให้ ฟื้นขึ้นมา แต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับดังกล่าว กลับได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจมหาภาคที่ถูก คุกคามจึงไม่ประสบผลสำ�เร็จ ปัจจุบันกำ�ลังสร้าง แผนเศรษฐกิจที่ 8 โดยมีเป้าหมายให้ลาวก้าวออก จากประเทศด้อยพัฒนาเป็นประเทศกำ�ลังพัฒนา ให้ แล้วเสร็จในปีคริสต์ศักราช 2020 ภายใต้วิสัยทัศน์ ในการทำ�ให้ชีวิตประชาชนลาวดีขึ้น โดยที่ รายได้ มวลรวมประชาชาติ และผลิตภัณฑ์มวลรวมใน ประเทศ จะต้องสอดคล้องหรือไม่ส่งผลกระทบแง่ ลบต่อดัชนีความสงบสุขของคนในประเทศ นั่น หมายความว่าลาวจะพยายามพัฒนาเศรษฐกิจอย่าง เหมาะสมภายใต้ความสุขของประชาชน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ระบุแผนพัฒนา ชาติลาวในอนาคตต่อว่า ในปีคริสต์ศักราช 2025 ต้องการพัฒนา GDP ให้เติบโตไม่ตํ่ากว่าร้อยละ 7 ต่อคนต่อปี พัฒนาให้ประชาชนมีรายรับระดับ ปานกลาง ภายใต้การคำ�นึงถึงผลกระทบด้านสิ่ง แวดล้ อ ม ตลอดจนส่ ง เสริ ม การท่ อ งเที่ ย วและ วัฒนธรรม เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากมหาวิทยาลัย ขอนแก่นทีเ่ ป็นแบบอย่างในการบริหารจัดการด้าน Green and Smart Campus และในปีคริสต์ศักราช 2030 ลาวจะพัฒนาให้ก้าวสู่การเป็นประเทศกำ�ลัง พัฒนา มีรายรับปานกลาง และขยายนโยบายลงทุน ร่วมกับนักลุงทุนชาวต่างชาติมากขึ้น ความยากจน ของประชาชน จะต้องถูกขจัดออกไปให้แล้วเสร็จ ทรัพยากรมนุษย์จะต้องก้าวทันประเทศอาเซียน ปัจจัยหลักที่ทำ�ให้ลาวประสบความสำ�เร็จได้ตาม แผนพัฒนาคือต้องสร้างเสถียรภาพทางการเมือง และสังคม พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทัง้ ด้านแรงงาน วิชาการ คุณภาพการศึกษา และประชาชนทุกคน ต้องสามัคคีปรองดอง เคารพกฎหมายบนพื้นฐาน ประชาธิปไตย ตลอดจนส่งเสริมให้มีการลงทุน กับต่างประเทศ สร้างความเข้มแข็งให้ภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังดังกล่าวถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย แต่เชื่อว่าทำ�ได้หากได้รับความช่วยเหลือร่วมมือ จากประเทศไทย “ลาวและไทย ไม่สามารถแบ่งแยกกันได้ เพราะทั้งสองประเทศมีความร่วมมือช่วยเหลือกัน ด้วยดีตลอดมา ลาวมีหลายสิ่งที่ไทยสามารถนำ� มาใช้ได้ ขณะที่ลาวก็อาศัยทรัพยากรหลายอย่าง จากไทยเช่ น กั น ทั้ ง สองประเทศเราต่ า งเชื่ อ มั่ น ระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่นแห่งนี้ช่วยอบรมบ่มเพาะ นักศึกษาลาวจบไปหลายรุ่น ให้อนาคต ให้ความรู้ ให้การศึกษา ขอบคุณมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ สมาคมไทยลาวเพื่อมิตรภาพที่ได้จัดงานในวันนี้ ขึน้ โดยเฉพาะการได้เข้าพบท่านนายกรัฐมนตรีแห่ง ราชอาณาจักรไทยทีส่ ญ ั ญาว่าจะช่วยลาวพัฒนาชาติ อย่างสุดความสามารถ ร่วมมือกันพัฒนาเศรษฐกิจ GMS ไปพร้อมกัน” นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าว ดร.ณรงค์ ชั ย อั ค รเศรณี นายกสภา มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น กล่ า วว่ า ถื อ เป็ น เกี ย รติ อย่ า งยิ่ ง ที่ ท่ า นนายกรั ฐ มนตรี แ ห่ ง สาธารณรั ฐ ประชาธิ ป ไตยประชาชนลาว เดิ น ทางมาเยื อ น มหาวิทยาลัยขอนแก่น เหตุการณ์ในวันนี้นับเป็น ประวัติศาสตร์ ในรอบ 6 ทศวรรษที่ได้ต้อนรับ
ที่มีความพร้อม ทั้งด้านวิจัย วิชาการ และศิลป วัฒนธรรม ทั้งยังเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียน ให้บริการภาครัฐและเอกชนในภาคตะวันออเฉียง เหนือ เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ สาธารณสุข ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำ�ให้นักลงทุนนิยมทำ�ธุรกิจใน จังหวัดขอนแก่นจำ�นวนมาก จังหวัดขอนแก่น นับเป็นศูนย์กลางลุ่มนํ้าโขง มีบทบาทช่วยพัฒนา เศรษฐกิจในประเทศกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มนํ้าโขงมา โดยตลอด ประเทศไทยและลาว มีความสัมพันธ์ ผ่านทางระบบเศรษฐกิจ การศึกษา และสาธารณสุข อย่ า งมหาศาลซึ่ ง ประเมิ น ค่ า ไม่ ไ ด้ โดยเฉพาะ การศึกษามีนักศึกษาชาวลาวนิยมเข้ามาศึกษาใน มหาวิทยาลัยขอนแก่นจำ�นวนมาก “ปัจจุบันมีศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น ปฏิบตั งิ านในตำ�แหน่งสำ�คัญของลาวมากมาย ทัง้ นี้ มี นั ก ศึ ก ษาชาวลาวเข้ า มาศึ ก ษาในมหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่นจำ�นวนทั้งสิ้นกว่า 102 คน ซึ่งมากเป็น ลำ�ดับที่ 2 ของนักศึกษาต่างชาติทั้งหมด นับว่า พี่ น้ อ งชาวลาวมี ค วามเชื่ อ มั่ น ในมหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่น ขอขอบคุณสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว ที่ ร่ ว มมื อ กั บ ราชอาณาจั ก รไทย ในการพั ฒ นา นั ก ศึ ก ษา เศรษฐกิ จ สั ง คม และ วัฒนธรรมร่วมกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิด ความร่วมมือ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเช่นนี้ตลอดไป” ดร.ณรงค์ชัย กล่าว ทั้ ง นี้ น ายกรั ฐ มนตรี แ ห่ ง สาธารณรั ฐ ประชาธิ ป ไตยประชาชนลาว พร้ อ มด้ ว ยผู้ แ ทน ระดับรัฐมนตรีจาก 13 กระทรวงสำ�คัญ ทีก่ ำ�กับดูแล งานด้านการต่างประเทศ, สังคม, วัฒนธรรมและ การท่องเทีย่ ว, แรงงาน, ความมัน่ คง, การค้าและการ ลงทุน, พลังงาน, การศึกษา และการคมนาคมขนส่ง ได้ เ ดิ น ทางเยื อ นประเทศไทยอย่ า งเป็ น ทางการ ระหว่างวันที่ 5 - 6 กรกฎาคม 2559 ในฐานะแขก ของรัฐบาล ตามคำ�เชิญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อ หารือความร่วมมือการเชื่อมโยงภูมิภาค ลงนามข้อ ตกลงแรงงาน ส่งเสริมการค้าการลงทุน ก่อนเดิน ทางมายังจังหวัดขอนแก่น สำ�หรั บ ภารกิ จ ของนายกรั ฐ มนตรี แ ห่ ง สปป.ลาว ในพื้ น ที่ จ.ขอนแก่ น นั้ น นอกจาก จะกล่ า วปาฐกถาพิ เ ศษในหั ว ข้ อ “สปป.ลาวสู่ อนาคตการพัฒนา” แล้ว ยังคงเข้ารับมอบปริญญา ดุ ษ ฎี บั ณ ฑิ ต กิ ต ติ ม ศั ก ดิ์ สาขาการจั ด การ จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน รวมทั้ง การเยีย่ มชมและพบปะผูป้ ระกอบการไทยทีป่ ระสบ ผลสำ�เร็จและลงทุนใน สปป.ลาว การมอบเหรียญ ชั ย มิ ต รภาพแก่ ค ณะกรรมกรสมาคมไทย-ลาว เพื่อมิตรภาพ และเปิดห้องสมุด COLA Library ณ วิ ท ยาลั ย การปกครองท้ อ งถิ่ น มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่นในการนี้ด้วย ร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญตามขนบธรรมเนียม ประเพณีของคนอีสาน ก่อนที่จะร่วมรับประทาน อาหารคํ่า กับคณะกรรมการสมาคมไทย-ลาว เพื่อ มิตรภาพ, คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ก่อนนำ�คณะ เดินทางกลับ ด้วยเที่ยวพิเศษของสายการบินลาว จากท่าอากาศยานขอนแก่นไปยังท่าอากาศยานวัด ไต นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว
“พีดี เฮ้าส์”
• ต่อจากหน้า 1
นายนิรัญ โพธิ์ศรี รองประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปเรชั่น จำ�กัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เผยว่า ภาพรวมตลาด บ้านสร้างเองทัว่ ประเทศ (มิใช่ บ้านจัดสรร) ในช่วง ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ยังคงมีการแข่งขันราคารุนแรง และต่อเนือ่ ง เหตุเพราะความต้องการสร้างบ้านและ กำ�ลังซื้อผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวดี กอปรกับเกิดคู่แข่ง ทางตรงและทางอ้อมเพิ่มขึ้น ทั้งผู้ประกอบการรับ สร้างบ้าน บ้านจัดสรรในท้องถิน่ และจากส่วนกลาง ซึง่ รุกขยายตลาดและสาขาออกไปในต่างจังหวัด ดัง เช่นหลายๆ จังหวัดในภาคอีสาน ขณะที่กำ�ลังซื้อผู้ บริโภคยังมีเท่าเดิมหรือทรงตัว ส่งผลให้ตวั เลขยอด ขายของบรรดาผู้ประกอบการ ถูกแชร์แบ่งกันและ ส่วนใหญ่ยังตํ่ากว่าเป้าที่คาดการณ์ไว้ครึ่งปีแรก “จากการทีร่ ฐั บาลประกาศใช้กฎหมายภาษี ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ โดยจะเริ่มมีผล
บวกต่อภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านมากกว่า โดย เฉพาะการเก็บภาษีที่ดินรกร้างว่างเปล่าแบบอัตรา ก้าวหน้า ได้แก่ ปีที่ 1-3 อัตราเรียกเก็บภาษีสูงสุด ร้อยละ 1, ปีที่ 4-6 เรียกเก็บร้อยละ 2 และปีที่ 7 เป็นต้นไป เรียกเก็บร้อยละ 3 ทั้งนี้ หากประชาชน ถื อ ครองที่ ดิ น เปล่ า ไว้ น านก็ จ ะเสี ย ภาษี สู ง ขึ้ น ตัวอย่างเช่น ทีด่ นิ ขนาด 100 ตารางวา ราคาตารางวา ละ 1 หมืน่ บาท คิดเป็นเงิน 1 ล้านบาท หากปล่อยทิง้ ไว้รกร้างว่าเปล่านาน 7 ปีขึ้นไป ก็จะเสียภาษีอัตรา สูงสุดร้อยละ 3 หรือคิดเป็นเงิน 3 หมื่นบาทต่อปี หากไม่นำ�ที่ดินมาใช้ประโยชน์หรือปลูกสร้างบ้าน เรือน ซึ่งนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล จึงเป็นการ กระตุ้นให้ประชาชนหรือเจ้าของที่ดินเปล่าหันมา ปลูกสร้างบ้านกันมากขึ้น เพื่อจะได้ไม่ต้องแบกรับ ภาษีตามกฏหมายฉบับใหม่ คาดว่าจะเริม่ ส่งผลดีตอ่ ตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป” นายนิรัญ กล่าวต่อว่า ปี 2559 นี้ถือเป็นปี แห่งการปรับตัวของบริษัทฯ โดยช่วงครึ่งปีแรกได้ มีการรีแบรนด์ และเปลี่ยนเครื่องหมายการค้าใหม่ ทั้งนี้เพื่อต้องการสื่อสารถึงอัตลักษณ์ของพีดีเฮ้าส์ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นในสายตาของผู้บริโภค พร้อมกัน นี้ก็ทำ�การรีโปรดักส์ ด้วยการนำ�ระบบโครงสร้าง เหล็กมาใช้ในการก่อสร้างบ้านแทนระบบเดิมมาก ขึ้น เพื่อจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด และสะท้อนความเป็นผู้นำ�ธุรกิจรับสร้างบ้าน ว่า ด้วยการนำ�เทคโนโลยีก่อสร้างมาใช้ในการสร้าง บ้านให้แก่ผู้บริโภค ฯลฯ ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้บริษัทฯ ยังเตรียม แผนรีไพร์ซ หรือปรับราคาขายบ้านลง อันเป็นผล มาจากความสามารถในการบริหารต้นทุนได้ตํ่าลง ทั้งในส่วนของต้นทุนวัสดุที่ใช้การรวมคำ�สั่งซื้อ ภายใต้ระบบแฟรนไชส์ และการนำ�ระบบก่อสร้าง และวัสดุสำ�เร็จรูปมาใช้มากขึ้น ซึ่งช่วยให้ลดระยะ เวลาก่อสร้างและต้นทุนค่าดำ�เนินงานลง ทั้งนี้การ ปรับราคาบ้านลงจะไม่กระทบกำ�ไรต่อหน่วย แต่ ในมุมตรงข้ามกลับช่วยสร้างความได้เปรียบในการ แข่งขัน และสอดคล้องกับสถานการณ์กำ�ลังซื้อผู้ บริโภคที่มีอยู่จำ�กัด “สำ�หรั บ ตลาดบ้ า นสร้ า งเองจั ง หวั ด อุ ด รธานี และจั ง หวั ด ในภาคอี ส านตอนบนที่ มี สาขาของพีดีเฮ้าส์ตั้งอยู่ได้แก่ ขอนแก่น อุดรธานี เลย กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร ตลอดช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา พบว่าความต้องการสร้างบ้าน ใหม่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับ ช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ส่งผลให้ศูนย์รับสร้างบ้านพี ดีเฮ้าส์หลายๆ สาขาสามารถทำ�ยอดขายได้ตามเป้า ที่ตั้งไว้ หลังจากในช่วงปี 2558 ยอดขายชะลอตัว มาตลอด” นายนิรัญ กล่าวและว่า ปี 2559 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ ทั้งสิ้น 1.4 พันล้านบาท จากสาขาที่มีอยู่ 40 แห่ง ทั่วประเทศ โดยในช่วง 6 เดือนแรกมียอดขายรวม 620 ล้านบาทเศษ ขณะที่ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาอุดรธานี มียอดขายแล้วกว่า 40 ล้านบาท จาก เป้ายอดขายทัง้ ปีตงั้ ไว้ 50 ล้านบาท มัน่ ใจครึง่ ปีหลัง สามารถทำ�ยอดขายได้ทะลุเป้าหรือกว่า 70 ล้านบาท
แก้กฎหมาย
• ต่อจากหน้า 1
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2559 ที่ห้องประชาสโมสร บอลรูม โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอน เวนชั่นเซ็นเตอร์ จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.พงษ์ชัย วราชิต ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและเสนอ แนะแนวทางการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ บริโภค สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคณะฯ เดินทาง มาจัดการสัมมนาเรื่อง “ฉลาดคิด ฉลาดใช้ ฉลาดอยู่” โดยมีนายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น กล่าวต้อนรับ มีผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน กำ�นัน ผูใ้ หญ่บา้ น ผูแ้ ทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ผู้ประกอบการ และประชาชน จาก จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และจังหวัด ร้อยเอ็ด รวมกว่า 400 คน เพื่อร่วมกันเสนอแนวทาง ในการแก้ไขกฎหมายฯ ให้ประชาชนได้รับความ ช่วย เหลืออย่างถูกต้อง และเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนต่อไป คณะกรรมาธิ ก ารวิ ส ามั ญ ศึ ก ษาและเสนอ แนะแนวทางการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง ผู้บริโภค สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จัดโครงการสัม
การแก้ไขกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค ที่มี อยู่ในปัจจุบันซึ่งใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 2522 และกำ�ลัง มีการเสนอยกร่างกฎหมายฉบับใหม่ทดแทนฉบับ เดิม และเพื่อประมวลปัญหาอุปสรรคที่ได้จากการจัด สัมมนา เอาไปเป็นแนวทางหนึง่ ในการแก้ไขปรับปรุง แก้ไขกฎหมายทีว่ า่ ด้วยการคุม้ ครองผูบ้ ริโภคฉบับเดิม เพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม และเพื่อให้ กฎหมายที่ว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคใหม่นั้นเป็น กฎหมายที่เป็นของกลาง ที่สามารถเอาไปใช้ได้ทั้ง ประเทศ กลุ่มประเทศสมาชิก AEC ตามเจตนารมณ์ ของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคอาเซียน ( Asean Committee on Consummer Protection:ACCP ) นายประเสริ ฐ ลื อ ชาธนานนท์ รองผู้ ว่ า ราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การสัมมนาในหัวข้อ เรื่องดังกล่าว ถือว่ามีความสำ�คัญที่จะต้องมีกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคมาก เพราะว่า กฎหมาย ดังกล่าวถือว่าเป็นความจำ�เป็นสำ�หรับประชาชนทุก ระดับขั้น เพราะหลังจากที่มีการเปิดเป็นประขาคม อาเซียนแล้วนั้น การค้า การขาย ในประเทศต่างๆใน กลุม่ ก็จะเป็นไปอย่างเสรีและเพิม่ จำ�นวนมากขึน้ ขณะ เดียวกันก็จะมีการสร้างมาตรการในการคุ้มครองผู้ บริโภคด้วยในประเทศของแต่ละประเทศก็จำ�เป็นที่ จะต้องมี ที่จะทำ�ให้ผู้บริโภคและผู้รับบริการจะเกิด ความพึง่ พอใจ และปลอดภัยจากการซือ้ สินค้าและการ บริการนัน้ เป็นเรือ่ งทีม่ คี วามสำ�คัญอย่างยิง่ ในอนาคต สำ�หรับผู้บริโภค และเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไข กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคให้ประชาชนได้ รับความช่วยเหลืออย่างถูกต้อง นอกจากนี้ การผลิ ต สิ น ค้ า และบริ ก ารใน ปัจจุบันมีรูปแบบใหม่เกิดขึ้นมากมาย โดยอาศัยช่อง ว่างของกฎหมาย ทำ�ให้สินค้าและบริการด้อยคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐาน ผู้ผลิตมีอำ�นาจต่อรองทางการตลาด เหนือกว่าผู้บริโภค และปัญหาอื่นๆ อีกนานัปการ อัน ส่งผลให้ผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นจึง ต้องเร่งพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่ว่าด้วยการ คุ้มครองผู้บริโภค เพื่อลดปัญหาการผูกขาดทางการ ค้าให้ผู้บริโภคมีอำ�นาจต่อรอง รวมทั้งมีการปรับปรุง เปลีย่ นแปลง และแก้ไขการดำ�เนินการใดๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรม ให้ สินค้าและบริการมีมาตรฐาน ปราศจากการกีดกันหรือ ผูกขาดทางการค้า ทัง้ จากภายในและภายนอกประเทศ ได้อย่างยั่งยืน พ.ต.ท.พงษ์ ชั ย วราชิ ต ประธานคณะกร รมาธิการฯ กล่าวว่า จากการที่อาเซียนได้จัดตั้งคณะ กรรมการคุ้มครองผู้บริโภคอาเซียน ซึ่งเป็นหน่วย งานหลักในการดำ�เนินการและกำ�กับดูแลจัดทำ�กลไก ในการคุ้มครองผู้บริโภคในระดับแต่ละภูมิภาค เพื่อ อำ�นวยความสะดวกในการพัฒนาเศรษฐกิจและรวม ตัวเป็นตลาดเดียวกัน จึงจำ�เป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการ ศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคของไทย เพื่อให้มีมาตรฐานในระดับเดียวกันกับทุกประเทศใน กลุ่มประเทศสมาชิกของอาเซียน ขณะเดี ย วกั น ภารกิ จ ของภาครั ฐ ของ ประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค มี หลายหน่วยงานรวมทั้งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ทำ� หน้าที่รับผิดชอบ การดำ�เนินการด้านต่างๆ ไม่เป็น เอกภาพ ต่างคนต่างทำ� ซํ้าซ้อนกันทั้งด้านภารกิจและ บทบาทหน้าที่การใช้กฎหมายบังคับ ส่งผลให้การ ดำ�เนินการของหน่วยงานภาครัฐเกี่ยวกับเรื่องราวการ ร้องทุกข์และการดำ�เนินการต่างๆ เป็นอย่างล่าช้า ขาด เอกภาพ ไม่สามารถรองรับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ประกอบกับกฎหมายการคุ้มครองผู้บริโภค ของไทยทีใ่ ช้บงั คับอยูน่ นั้ มีใช้มาตัง้ แต่ พ.ศ. 2522 เป็น ระยะเวลากว่า 30 ปี แล้ว ยังไม่เคยมีการแก้ไขปรับปรุง อะไร อย่างไรเลย ซึ่งขณะนี้ได้มีการยกร่างกฎหมาย การคุ้มครองผู้บริโภคใหม่ เพื่อทำ�การปรับปรุงแก้ไข กฎหมายเดิมทีม่ ใี ช้อยูใ่ ห้เป็นปัจจุบนั สามารถคุม้ ครอง ผู้บริโภคครอบคลุมทุกด้าน และเพื่อให้เป็นกฎหมาย ชองทุ ก คน ใช้ ค รอบคลุ ม ได้ ทั้ ง ในประเทศ กลุ่ ม ประเทศอาเซียนและของทั้งโลก และเป็นกฎหมายที่ เป็นของกลางที่ทุกคนจะสามารถยอมรับได้ สำ�หรับกฎหมายการคุ้มครองผู้บริโภคนั้น จะต้องประกอบกันขึ้นมาเป็น 4 ส่วนคือ 1.ผู้บริโภค 2.ผู้ ข ายหรื อ ผู้ ใ ห้ บ ริ ก าร 3.ด้ า นเศรษฐกิ จ และ 4.การเมือง ซึ่งทั้ง 4 ส่วนดังกล่าว จะต้องเดินหน้าไป
หมุนไปพร้อมๆกันทั้ง 4 ล้อ ไม่มีหน่วยงาน ภาคส่วน องค์กรใด ทีจ่ ะสามารถดำ�เนินการได้เองโดยตามลำ�พัง ได้ ทุกฝ่ายทุกกระบวนการ จะต้องพร้อมใจกันร่วมใจ กัน ดำ�เนินการไปพร้อมๆกัน ผู้บริโภคเอง ก็จะต้องมี ส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส หรือเห็นการกระทำ�ผิด ก็ต้องแจ้งและให้ข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนัน้ คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จึงได้จดั การ สัมมนาเพื่อระดมรับฟังปัญหา อุปสรรคของผู้บริโภค ผู้ประกอบการ รวมทั้งเป็นการให้ข้อมูล ให้ความ ช่วยเหลือผู้บริโภค ผู้ประกอบ ทั้งหน่วยงานของภาค รัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยการสัมมนาในรูป ลักษณะดังกล่าวนี ้ คณะกรรมาธิการวิสามัยฯ มีแผนที่ จะดำ�เนินการไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา ฯลฯ เป็นต้น โดยจะเป็นการบรรยาย ให้ความรู้ แลกเปลีย่ นรับฟังปัญหาอุปสรรค ประมวล เอาปัญหาอุปสรรคทั้งหมด นำ�เอาไปเป็นแนวทางใน การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายการคุม้ ครองผูบ้ ริโภคฉบับ ใหม่ ให้สอดคล้องเหมาะสม เป็นสากล เอื้ออำ�นวยต่อ ประชาชนในประเทศและกลุ่มประเทศอาเซียน
คค.อนุมัติงบ
• ต่อจากหน้า 1
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.59 ที่ห้องประชุมชั้น 3 ท่า อากาศยานขอนแก่น กรมท่าอากาศยาน ว่าที่ ร.ต.อัธ ยา ลาภมาก ผู้ อำ�นวยการท่ า อากาศยานจั ง หวั ด ขอนแก่น กรมท่าอากาศยาน พร้อมด้วยนายเข็ม ชาติ สมใจวงษ์ รองประธานหอการค้าขอนแก่น และผู้แทนจากกรมท่าอากาศยาน สำ�นักงานการบิน พลเรือน และผู้จัดการสายการบินที่เปิดให้บริการ ในเส้นทางการบินขอนแก่น ร่วมประชุมติดตาม ความคืบหน้าการสำ�รวจและออกแบบแผนดำ�เนิน การก่อสร้างท่าอากาศยานขอนแก่นระยะที่ 2 หลัง กระทรวงคมนาคมได้อนุมัติงบประมาณการศึกษา สำ�รวจออกแบบ และเตรียมแผนการก่อสร้างและ ปรับปรุงสนามบินขอนแก่น หลังมีอายุการใช้งาน มานานกว่า 20 ปี นายเข็ ม ชาติ สมใจวงษ์ รองประธาน หอการค้าจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า กระทรวง คมนาคมได้พิจารณางบประมาณในการปรับปรุง และก่อสร้างอาคารและสนามบินขอนแก่นเพื่อยก ระดับให้ได้มาตรฐานสากลที่จะสามารถรองรับเส้น ทางการบินระหว่างประเทศได้ ซึ่งยังอยู่ในช่วงของ การหารือและออกแบบ หากผ่านการพิจารณาด้าน โครงสร้างเรียบร้อยแล้ว จะสามารถส่งแบบงานได้ ภายในปลายปี 2559 นี้ และพร้อมลงมือก่อสร้างใน ปี 2561 ในเบื้ อ งต้ น ได้ ตั้ ง งบประมาณไว้ ที่ 500600 ล้านบาท เมื่อพิจารณาถึงปริมาณผู้โดยสาร ซึ่ง ปัจจุบันสนามบินขอนแก่น มีปริมาณผู้โดยสารปีละ 1 ล้าน 2 แสนคน และมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อ เนื่องกว่า 20% ต่อปี จึงเชื่อว่างบประมาณที่ตั้งไว้จะ สามารถรองรับการเติบโตของผู้โดยสารได้ราว 3-5 ปี ก็จะเกิดปัญหาความหนาแน่น และปริมาณการ ใช้สนามบินเต็มพื้นที่ให้บริการ ซึ่งไม่เพียงพอกับ อัตราการเติบโตของสนามบินขอนแก่นทีม่ แี นวโน้ม สูงขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงได้มี การพิจารณาเพิ่มวงเงินงบประมาณในการปรับโฉม สนามบินขอนแก่น ที่วงเงินเกือบ 2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่จะเกิดขึ้นใน อนาคต จากเดิ ม ที่ จั ง หวั ด ขอนแก่ น มี เ พี ย งสาย การบินไทยสมายล์ ทีเ่ ปิดให้บริการเฉพาะ ขอนแก่นสุวรรณภูมิ ได้มกี ารขยายเพิม่ เส้นทางการบินเส้นทาง ดอนเมือง-ขอนแก่น ไปและกลับ มีให้บริการ 3 สาย การบิน อาทิ นกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย และไทยสมา ยล์ และยังเพิ่มเส้นทางการบินระหว่างภูมิภาค อาทิ ขอนแก่น-เชียงใหม่ และ ขอนแก่น-หาดใหญ่ เฉลี่ย 16 เทีย่ วบินต่อวัน มีผโู้ ดยสารให้ความสนใจตอบรับ การเดินทางด้วยสายการบินเพิ่มสูงขึ้น 80-90% สูง เกินความคาดหมายที่ตั้งเป้าไว้ และในระยะสั้น อาจ มีการเพิ่มเที่ยวบินจากสายการบิน ไลออนแอร์ และ ไทยสมาย์ ที่จะเพิ่มเส้นทางการบินระหว่างภาคใต้ บินตรงถึงจังหวัดขอนแก่น เพือ่ รองรับนักท่องเทีย่ ว ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต นอกจากการยกระดับสนามบินขอนแก่น แล้ว ในพื้นที่เมืองขอนแก่นยังเตรียมระบบขนส่ง มวลชนสาธารณะเพือ่ รองรับการเดินทางขอนักท่อง
ส่งจาก บขส.3 เข้าสูต่ วั เมือง ก็ได้รบั การอนุมตั ใิ ห้เพิม่ เส้นทางจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองด้วยเช่นกัน และ ในภาคเอกชนเองยังได้มกี ารพูดคุยกับผูป้ ระกอบการ รถแท๊กซีม่ เิ ตอร์ให้เป็นเจ้าบ้านทีด่ รี องรับการเติบโต ของเมืองขอนแก่น ซึ่งได้รับความร่วมมือในระดับ หนึ่ง ในอนาคตหากรถโดยสารไฟฟ้าระบบรางเบา ซึง่ ผ่านการอนุมตั หิ ลักการ และเตรียมลงมือก่อสร้าง เมื่อเปิดให้บริการจะเป็นการเชื่อมโยงจากสนามบิน ขอนแก่นเข้าสูต่ วั เมือง ซึง่ จะทำ�ให้เมืองขอนแก่นได้ รับความสนใจทัง้ จากนักลงทุนและนักท่องเทีย่ วเพิม่ ขึ้นอีกอย่างแน่นอน “ถึงแม้ขอนแก่นจะเป็นศูนย์กลางทางการ ค้า การลงทุน และการศึกษาของภาคอีสาน รวม ทั้งเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำ�หรับนักท่องเที่ยวที่ เดินทางมาเพื่อสัมผัสวัฒนธรรม และขนบประเพณี วิ ถี แ บบดั้ ง เดิ ม อี ก ทั้ ง ขอนแก่ น ยั ง เป็ น เส้ น ทาง ระเบียงเศรษฐกิจที่สามารถเชื่อมต่อระหว่างภายใน ประเทศไทย สู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศพม่า เวี ย ดนาม และยั ง เป็ น เมื อ งศู น ย์ ก ลางการค้ าและ การขนส่ง เป็นประตูสภู่ มู ภิ าคอินโดจีนและประเทศ จีนตอนใต้ แต่ ขอนแก่นยังไม่ได้รับความสนใจจาก กลุม่ ประเทศอาเซียนในการขับเคลือ่ นเพือ่ ให้ประสบ ความสำ�เร็จในการเป็น “ขอนแก่นไมซ์ซติ ”ี้ “นายเข็ม ชาติ กล่าวและว่า ปัจจัยสำ�คัญของการขับเคลื่อนเพื่อก้าวสู่ ความสำ�เร็จ คือการรวมพลังและความร่วมมือทั้ง ภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งหอการค้าฯ สภาอุตสาห กรรมฯ จังหวัดขอนแก่น วัฒนธรรม พาณิชย์ เพื่อ รวมงานอีเว้นต่างๆ งานเอ็กซ์โปร งานประจำ�ปี หรืองานอื่นๆ ที่จังหวัดจัดเป็นประจำ�ทุกปี ให้มา รวมอยู่ในห้วงเวลาเดียวกัน สถานที่ไม่ใช่อุปสรรค์ ปัญหาที่สำ�คัญ แต่ให้เกิดเป็นพลังความยิ่งใหญ่ และ เป็นภาพชัดเจนที่กลุ่มนักท่องเที่ยว หรือนักลงทุน ธุรกิจจากประเทศเพื่อนบ้านที่เดินทางมาเที่ยวชม ความเป็ น “ศู น ย์ ก ลางไมซ์ ซิ ตี้ ” ระดั บ เมกะโปร เจค ที่จังหวัดขอนแก่นแล้ว อาจได้รับความร่วมมือ ระหว่างประเทศมากขึน้ ในขณะเดียวกัน หากจังหวัด ขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการปรับ รูปแบบ เพื่อให้ขอนแก่นเป็นไมซ์ซิตี้ และประสาน การบริหารจัดการให้รวมตัวอย่างเป็นรูปธรรม โดย ต่างหน่วยงาน ต่างองค์กร ต่างจัดงานอีเว้นแบบ กระจาย เชื่อว่า นักลงทุนอาจให้ความสำ�คัญในการ ลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านในที่สุด ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำ�นวยการท่า อากาศยานขอนแก่น กล่าวว่า ปัจจุบันสนามบิน ขอนแก่น มีจำ�นวนผู้โดยสารมาใช้บริการทั้งขาเข้า และขาออก รวมกว่า 3,500 คนต่อวัน จากการเปิด ให้บริการของสายการบินพาณิชย์ 4 สายการบิน ประกอบด้วย ไทยสมายล์, ไทยแอร์เอเชีย, นกแอร์ และกานต์ แ อร์ รวมถึ ง เที่ ย วบิ น แบบเช่ า เหมาลำ� ครอบคลุมทุกเส้นทางและเชื่อมต่อภูมิภาคของไทย ทั้งหมด โดยมีเที่ยวบินให้บริการมากถึง 18 เที่ยว บินต่อวัน นับรวมไป-กลับ คือ 36 เทีย่ วบิน เฉลีย่ การ ทำ�การบินทุก 45 นาที ขณะทีแ่ ผนการก่อสร้างและปรับปรุงอาคาร ผูโ้ ดยสาร ลานจอดเครือ่ งบิน รวมถึงสิง่ อำ�นวยความ สะดวกด้านต่างๆ นั้น กระทรวงคมนาคมได้อนุมัติ งบประมาณศึกษาออกแบบ ขณะนี้บริษัทที่ถูกว่า จ้างได้นำ�เสนอการออกแบบอาคารหรือเรียกว่าการ ก่อสร้างระยะที่ 2 จากเดิมที่มีคืออาคารทำ�การบิน 1 อาคารเท่านั้น รูปแบบใหม่จะเป็นอาคาร 3 อาคาร แยกเป็น อาคารจอดรถ 7 ชั้น, อาคารสำ�นักงานและ พิธีการบิน ซึ่งจะเป็นอาคารตรงกลางความสูง 3 ชั้น และอาคารผู้โดยสารต่างประเทศ รวมทั้งที่ตั้งของ สำ�นักงานสายการบินและสำ�นักงานของกรมท่า อากาศยานประจำ� จ.ขอนแก่น “อาคารหลักที่ใช้ปฏิบัติการการบินมีความ สูง 3 ชั้น เป็นอาคารเดิมที่ตั้งอยู่ แต่จะขยายการ ก่อสร้างในระยะที่ 2 ออกไป โดยใช้บันไดเลื่อนที่ มีปัจจุบันเป็นจุดกึ่งกลางของอาคารผู้โดยสารใหม่ และจะเวนคืนพื้นที่ด้านข้าง ซึ่งปัจจุบันเป็นอาคาร บ้านพักของเจ้าหน้าที่ออกไปทั้งหมด ทั้งนี้อาคาร ทั้ง 3 ชั้นแยกเป็นชั้นที่ 1 เป็นอาคารผู้โดยสารขาเข้า, ชั้นที่ 2 เป็นอาคารผู้โดยสารขาออก จุดนี้จะก่อสร้าง
อ่านต่อหน้า 2
หน้า 12
ปีที่ 14 ฉบับที่ 146 ประจำ�เดือนกรกรกฎาคม 2559
ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา สุพัตรา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,
ประคอง หนู ร าช,พั น ธ์ ศั ก ดิ์ วี ร ะชั ย ,เสริ ม ศั ก ดิ์ ขาวโกมล สำ � นั ก งาน 76 ม.20 ถ.กสิ ก รทุ่ ง สร้ า ง ต.ศิ ล า อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น 40000 โทรศั พ ท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย ภัทรวินทร์ ลีปาน 92 หมู่ 1 ต.บ้าน ่ รึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอือ้ ดีไซน์ 08-3417-0363 ว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 43110 โทรศัพท์ 087-8627979 E-mail : pattarawin2519@hotmail.co.th ทีป