ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนสิ น งกหาคม า ร2560 ณ์
ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่
w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1
ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2560 ราคา 10 บาท
ซี.พี.แลนด์ ดันขอนแก่นสูร่ ะดับโลก พร้อมเปิดศูนย์ประชุมฯปลายปี 60 ตั้งเป้าKICEเป็นศูนย์ฯระดับนานาชาติ “สวาท”มองเศรษฐกิจ อี ส าน อนาคตเป็ น ระเบี ย งเศรษฐกิ จ ลุ่ ม แ ม่ นํ้ า โ ข ง
เยีย่ มชมความก้าวหน้าการก่อสร้าง KICE ; นายอภิชาต สินธุมา ผูอ้ �ำ นวยการภูมภิ าค ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำ�กัด (มหาชน) ให้การต้อนรับคณะผู้ร่วมกิจกรรม MICE CITY SUMMIT 2017 พร้อมพาเยี่ยมชมการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ และศักยภาพของ KICE (ไคซ์) โดยมี นายกฤษณ์ เลขะกะ ผูอ้ �ำ นวยการศูนย์ประชุมฯ KICE ร่วมให้การต้อนรับ และเป็นวิทยากรในการให้ ความรู้ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) อ.เมือง จ.ขอนแก่น
อีสานตอนบน โชว์ศกั ยภาพการค้าการ ลงทุน พร้อมสู่ยุคประเทศไทย 4.0
ศูนย์ประชุมฯ KICE คืบ หน้ากว่า 85% พร้อมเปิดให้ บริการในเดือนธันวาคม 2560 ตั้งเป้าให้เป็นศูนย์ประชุมและ กลุม่ จังหวัดอีสานตอนบน 1 จัดสัมมนา“เปิด แสดงสินค้าที่โดดเด่นระดับ ประตูอีสานตอนบน1 โอกาสของการค้าการ นานาชาติ แม้ จ ะอยู่ ร ะหว่ า ง ลงทุน มุง่ สูไ่ ทยแลนด์ 4.0”แสดงศักยภาพ รางวัลผูน้ �ำ ดีเด่นแห่งชุมชน ประจำ�ปี2560 ; ศ.ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ อดีตรัฐมนตรี ก่อสร้าง แต่มอี อร์กาไนเซอร์ให้ การค้า การลงทุน รองรับไทยแลนด์ 4.0 ประจำ�สำ�นักนายกรัฐมนตรี มอบรางวัลผูน้ �ำ ดีเด่นแห่งชุมชน ประจำ�ปี 2560 โดยมูลนิธิ หมอกระแสชนะวงศ์ ให้กับนายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น ในพิธีสถาปนา เชื่อมโยงเออีซี วิทยาลัยเทคโนโลยีพลพาณิชยการ ครบ 37 ปี เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2560 ณ ธรรมศาลา หลายจั ง หวั ด ในภาคอี ส านมี ความสนใจแล้วกว่า 20 ราย คุณหมอเพ็ญแข ชนะวงศ์ วิทยาลัยเทคโนโลยีพลพาณิชยการ อ.พล จ.ขอนแก่น อ่านต่อหน้า 11 ศักยภาพมาก แต่ที่ผ่านมายัง “Brother” รุกตลาดอีสาน เปิดตัว ไม่ได้มีการนำ�เอาสิ่งเหล่านั้น ขั บ เคลื่ อ นเมื อ งขอนแก่ น “โอเชี่ยน เรสซิเดนซ์”ปลุกตลาดอสังหา นวัตกรรมเครื่องพิมพ์ เรียลไทม์ ออกมาใช้อย่างเต็มที่ และ สู่การเป็นมหานครอย่างยั่งยืน ผุดคอนโดฯบนทำ�เลทอง รับ “สมาร์ทซิตี้” “Brother” ผู้นำ�ด้านตลาดเครื่องพิมพ์ รุกตลาด หากภาครัฐเข้ามาช่วยเติมเต็ม องค์กรเศรษฐกิจขอนแก่นและเครือข่าย โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ รุกตลาดอสังหาฯ เปิด อีสาน เปิดตัว ‘P-TOUCH CUBE’ สุดยอด ในส่วนที่ขาด เชื่อว่า “ระเบียง ประชุมประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน ตัวคอนโดหรู “โอเชี่ยน เรสซิเดนซ์ มิตรภาพนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ฉลากที่ออกแบบมาให้ใช้ เศรษฐกิ จ ลุ่ ม นํ้ า โขง” จะ ความมั่นคง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนา ขอนแก่น” มูลค่า 350 ล้านบาท บนถนน มิตรภาพ ใกล้สถานีรถไฟฟ้ารางเบา เน้นไลฟ์ งานร่วมกับสมาร์ทโฟน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และ เมื อ งขอนแก่ น ก้ า วสู ่ เ ป้ า หมายการเป็ น เทรนด์สำ�หรับคนรุ่นใหม่ รองรับการเติบโตทาง สามารถเดินหน้าสูเ่ ป้าหมายได้ มหานคร รองรับปัญหาที่จะเกิดจากการ สไตล์คนรุ่นใหม่ เจาะกลุ่มบุคลากรทางการ อ่านต่อหน้า 11 ธุรกิจให้แก่ตัวแทนจำ�หน่าย อย่างแน่นอน เจริญทางวัตถุสังคมเมือง แพทย์ โวมียอดจองแล้วกว่า 70% อ่านต่อหน้า 2
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 2
หน้า 2 ขับเคลือ่ นเมือง ขก • ต่อจากหน้า 11 เติบโตได้ โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2560 นี้ ตลาด
อสังหาฯ ในเมืองขอนแก่นน่าจะกลับมาคึกคักได้อกี โดยเฉพาะความต้องการด้านที่อยู่อาศัยที่จะให้ทั้ง ความเป็นส่วนตัว ให้ความสะดวก ปลอดภัย ไม่ไกล จากสถานทีท่ �ำ งาน ซึง่ เปรียบเสมือนบ้านหลังทีส่ อง และสามารถตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ชีวิต ประจำ�วันได้อย่างลงตัว อาทิ ทีอ่ ยูอ่ าศัย การเดินทาง สถานที่ทำ�งาน และแหล่งศูนย์รวมด้านสาธารณะ ประโยชน์เมือ่ ต้องการพักผ่อน นอกจากนี้ ยังมองว่า จังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์รวมแพทย์และพยาบาล นอกจากจะเป็ น จั ง หวั ด ที่ ผ ลิ ต บุ ค ลากรทางการ แพทย์แล้ว ยังมีแพทย์และพยาบาลที่ทำ�งานประจำ� ในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและโรงพยาบาลเอกชน หลายแห่ง ซึ่งได้รับความนิยมทั้งประชาชนทั่วไป และชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการ รวมถึงสถาน ศึกษาซึ่งทุกปีจะมีผู้ปกครองจากทั่วทุกภูมิภาคส่ง บุตร-หลานเข้ามาสอบและศึกษาในรัว้ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น ซึง่ เป็นกลุม่ เป้าหมายทีจ่ ะตอบโจทย์ความ ต้องการด้านอสังหาฯ ของโอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ ที่สำ�คัญในการเปิดตัว “โอเชี่ยน เรสซิเดนซ์ มิตรภาพ – ขอนแก่น” โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ ไรส์ เพราะมีความมั่นใจในศักยภาพเมืองขอนแก่น โดยเล็งเห็นถึงแนวโน้มการขยายตัวของตลาดที่อยู่ อาศัยซึง่ มีการลงทุนต่อเนือ่ งเพิม่ ขึน้ ทุกปี การพัฒนา เมืองภายใต้โครงการเมกะโปรเจกต์ตา่ งๆ ทัง้ ของภาค รัฐและภาคเอกชน อีกทั้งการเดินหน้าพัฒนาระบบ การศึกษา และเป็นศูนย์กลางของบริการทางการ แพทย์และการรักษาพยาบาล อีกทั้งโครงการ โอ เชีย่ นฯ ตัง้ อยูบ่ นถนนมิตรภาพ ซึง่ เป็นถนนสายหลัก ใกล้สถานีรถไฟฟ้ารางเบา ทีค่ าดว่าจะเปิดให้บริการ ปลายปี 62 อีกทั้งยังใกล้มหาวิทยาลัยขอนแก่น, โรง พยาบาล, สนามบินขอนแก่น และศูนย์การค้าเซ็น ทรัลพลาซา ขอนแก่น ซึง่ เป็นกลุม่ ลูกค้าเป้าหมายขอ งบริษัทฯ ที่เน้นนักศึกษา, บุคลากรแพทย์-พยาบาล และบุคลากรการศึกษาในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ดร.ธีระชัย พิพิธศุภผล กล่าวต่อว่า เชื่อมั่นว่าแนว โน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดขอนแก่นเริม่ มี ทิศทางทีด่ ขี นึ้ โดยเฉพาะมีปจั จัยบวกด้านการลงทุน โครงการเมกะโปรเจคของภาครัฐทีม่ แี ผนการพัฒนา เมือง ทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบกและทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็น ขอนแก่น ซิตี้บัส รถไฟทางคู่ เส้นทางช่วงชุมทางถนนจิระ– ขอนแก่น และรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) สายเหนือใต้ สำ�ราญ–ท่าพระ ซึ่งจะเป็นรถไฟฟ้ารางเบาสายแรก ของไทย และยังเป็นเมืองทีม่ กี ารพัฒนาต้นแบบ รวม ถึงการขยายสนามบินขอนแก่น เพื่อยกระดับเป็น สนามบินนานาชาติ การพัฒนาเมืองจะนำ�ไปสูค่ วาม ต้องการที่อยู่อาศัยในขอนแก่นเพิ่มมากขึ้น “โอเชีย่ น เรสซิเดนซ์ มิตรภาพ – ขอนแก่น” ใช้ มู ล ค่ า การลงทุ น กว่ า 350 ล้ า นบาท เป็ น คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น 223 ยูนิต มีการ ออกแบบดีไซน์ทผี่ สมผสานระหว่างสถาปัตยกรรม เครื่องสานท้องถิ่น และองค์ประกอบของบ้านไทย เส้นสายแบบที่ทันสมัยอย่างลงตัว บนพื้นที่ 2 ไร่ 23 ตารางวา ขนาดห้องพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 23.5 – 34.5 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 1.09 ล้านบาท ซึ่งหลัง การเปิดพรีเซลโครงการมีผลตอบรับจากลูกค้ากลุ่ม เป้าหมายที่ทำ�การจองแล้วกว่า 70% โดยโครงการ จะเริ่มการก่อสร้างในไตรมาสที่ 3 ปี 2560 นี้ คาดว่า จะแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ประมาณปลายปี 2561 ด้าน นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสทุ ธิ์ รักษาการผูช้ ว่ ย กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ Residential Business บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำ�กัด กล่าวเพิ่มเติม ว่า สำ�หรับโครงการ “โอเชีย่ น เรสซิเดนซ์ มิตรภาพขอนแก่น” นอกจากจะตั้งอยู่ในทำ�เลที่มีศักยภาพ แล้ว โครงการยังมอบสิ่งอำ�นวยความสะดวกส่วน กลางครบครัน อาทิ สระว่ายนํ้า Infinity Edge Pool, ฟิตเนส, Co-working space อีกทัง้ ยังร่มรืน่ ด้วยสวน ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น Sunken Zen Garden พร้อม อุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานทั้ง ระบบกล้องวงจรปิด, ระบบการ์ดเข้า-ออกโครงการ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตอบสนองความต้องการในแบบไลฟ์ สไตล์ของลูกค้า โครงการฯ เน้นการออกแบบสไตล์ Modern Design การจัดสัดส่วนภายในห้องทีค่ ดิ ถึงทุกฟังก์ชั่ นการใช้งานจริง พื้นที่ส่วนกลางสวย หรูหรา และ สิ่งอำ�นวยความสะดวกครบครัน เพื่อมอบความ สบายสูงสุดให้กับผู้อยู่อาศัย กับนิยามที่เติมเต็ม ทุกส่วนในการใช้ชีวิตประจำ�วัน สำ�หรับห้องชุด ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 23.5-34.5 ตารางเมตร ถูก ออกแบบมาให้ค�ำ นึงถึงประโยชน์การใช้งานทีค่ มุ้ ค่า มากที่สุดสำ�หรับผู้อยู่อาศัย โดยแบ่งห้องอย่างเป็น โอเชี่ยน เรสซิเดนซ์ • ต่อจากหน้า 1 สัดส่วน และมีดไี ซน์โปร่งสบาย จากความลงตัวของ ดร.ธีระชัย พิพิธศุภผล กรรมการผู้จัดการ โอเชีย่ น พรอพเพอร์ตี้ จึงทำ�ให้ลกู ค้าทีม่ คี วามพร้อม บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำ�กัด เปิดเผยว่า เล็งเห็นการคุม้ ทุนในอนาคต และสามารถตอบโจทย์ “ตระกูลอัสสกุล” ผู้ถือหุ้นใหญ่เครือไทยสมุทรฯ มี ได้ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิตคนเมืองยุคใหม่ ที่ดินอยู่ทั่วประเทศกว่าหมื่นไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในต่าง • ต่อจากหน้า 1 จังหวัด อาทิ จังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหิน เขาใหญ่ อีสานตอนบน พัทยา ภูเก็ต ขอนแก่น อุดรธานี นราธิวาส เชียงใหม่ ที่ โ รงแรมเซ็ น ทารา แอนด์ คอนเวน และบางส่วนในกรุงเทพฯ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพ เซ็นเตอร์ อ.เมืองอุดรธานี นายสนธิรัตน์ สนธิ อร์ตี้ เป็นหนึ่งในเครือไทยสมุทรประกันชีวิต โดย จิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยการกระทรวงพาณิชย์ เป็น บริษัทได้วางกลยุทธ์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ประธานเปิดการเสวนาในหัวข้อเรื่อง”เปิดประตู โดยตั้งเป้าปรับโครงสร้างรายได้เน้นอสังหาฯ ที่อยู่ สู่ อี ส านตอนบน 1 โอกาสทองของการค้ า การ อาศัยเพื่อขายและต้องการนำ�ที่ดินมาพัฒนาให้เกิด ลงทุน มุ่งสู่ไทยแลนด์ 4.0” โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ประโยชน์มากทีส่ ดุ โดยวางแผนพัฒนาโครงการบน เอกชน ประชาชน นักวิชาการ รวมไปถึงตัวแทน ทีด่ นิ ซึง่ มีอยูเ่ ดิมเป็นหลัก ในปี 2560 บริษทั เปิดตัว 4 ของสถานกงสุลประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โครงการในจังหวัดสุพรรณบุร-ี ขอนแก่น-ภูเก็ต โดย สาธารณรัฐสังคมเวียดนาม ประเทศ สปป.ลาว รวมมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 2,600 ล้านบาท ประจำ�ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้แทนจังหวัด จากการสำ�รวจความต้องการอสังหาฯ ใน สมาชิกของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่นพบว่าความต้องการทีอ่ ยูอ่ าศัยยังไม่ ตอนบน 1 ทั้ ง 5 จั ง หวั ด คื อ จั ง หวั ด อุ ด รธานี , อิม่ ตัว การลงทุนด้านอสังหาฯ ในแนวดิง่ ยังสามารถ หนองบัวลำ�ภู, เลย, หนองคาย และจังหวัดบึงกาฬ
ในส่ ว นของการกำ � หนดพื้ น ที่ ได้ มี ก าร ประชุมหารือร่วมกัน ระหว่างภาคเอกชน คณะ กรรมการจากหน่วยงานภาครัฐ หรือ กรอ.ขอนแก่น และการท่ า เรื อ แห่ ง ประเทศไทย โดยพิ จ ารณา เลือกให้สถานีรถไฟบ้านโนนพะยอม ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นพื้นที่จัดตั้งศูนย์รวมระบบ การขนส่งทางราง เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถานี รถไฟ และมีพื้นที่สำ�หรับดำ�เนินการขนส่งสินค้า ทางรางที่เชื่อมโยงไปในเส้นทางอื่นๆ ได้สะดวก และเป็นที่ตั้งของศูนย์นำ�เข้าและส่งออกสินค้าทาง ราง หรือ Inland Container Depot หรือ ICD โดยมี การประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้พื้นที่บ้าน โนนพะยอมเป็นสถานที่รวมสินค้าด้านการเกษตร ในกลุ่มจังหวัดภาคอีสาน อาทิ อ้อย มันสำ�ปะหลัง ข้าว โดยนำ�มารวมในจุดเดียว และดำ�เนินการด้าน ศุ ล กากรเสร็ จ สรรพ และครอบคลุ ม ก่ อ นขนส่ ง สินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ สู่ระบบขนส่งทางรางไป ยังท่าเรือแหลมฉบัง และส่งต่อไปยังจุดหมายปลาย ทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ นายกมลพงษ์ กล่าวต่อว่า โครงการลานขน ถ่ายตูค้ อนเทนเนอร์ (Container Yard) ของการรถไฟ ใช้เป็นจุดถ่ายตู้คอนเทนเนอร์จากรถยนต์สู่รถไฟ หรือจากรถไฟสูร่ ถยนต์ เพือ่ นำ�ส่งจุดหมายปลายทาง โดยมีเป้าหมายที่ ตำ�บลท่าพระ อำ�เภอเมือง จังหวัด ขอนแก่น ส่วนโครงการศูนย์กระจายสินค้า ของ กรมการขนส่งทางบก มีเป้าหมายที่ ตำ�บลบ้านแฮด อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น โครงการจุดจอดรถบรรทุก (Truck Rest Area) บริเวณสถานีตรวจสอบนํ้าหนัก โนนสูง (ขาเข้าจังหวัดนครราชสีมา) ทางหลวง หมายเลข 2 และยังมีโครงการขยายอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานขอนแก่น โครงการส่งเสริมด้านความ เป็นเมืองแห่งการประชุมและสัมมนา (Mice City) โดยการพัฒนาเส้นทางการท่องเทีย่ วเพือ่ รองรับคณะ ทีส่ ามารถใช้เวลาพักผ่อนแบบจำ�กัด เดินทางสะดวก ระยะทางไม่ไกล ใช้เวลาจำ�กัด โดยมีการพัฒนาเส้น ทางท่องเที่ยวแบบเชื่อโยง บ้านฝาง หินช้างสี เขื่อน อุบลรัตน์ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการเป็นเจ้าบ้านทีด่ ี และมีค่านิยมที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีโครงการส่งเสริมด้านการ เป็ น เมื อ งอั จ ฉริ ย ะ (Smart City) และโครงการ รถไฟฟ้ารางเบา (LRT) เพื่อแก้ปัญหาการจราจร และส่งเสริมให้เป็นเมืองมหานครขอนแก่น สำ�หรับ รถไฟฟ้ารางเบา ซึ่งผ่านการอนุมัติหลักการจาก รัฐบาล ขั้นตอนการทำ�รายงานวิเคราะห์ผลกระทบ ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในขั้นตอนต่อ ไป หากได้รับการอนุมัติ คาดว่าสามารถตอกเสา เข็มได้ปลายปี 2560 ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี ซึง่ ไม่เกินปี 2563 จะสามารถเปิดให้บริการได้ และถือเป็นจังหวัด แรกของประเทศไทย ที่จะมีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน นอกเหนือจากกรุงเทพมหานคร “โครงการขนส่ ง มวลชนรถไฟฟ้ า ระบบ รางเบา (LRT) ใช้รถรางเบาขนาดเล็ก ความกว้าง ประมาณ 2.60 เมตร ความจุ 180-200 คน จำ�นวน 3 ตู้โดยสาร ระยะแรกใช้เส้นทางจากเทศบาลตำ�บล สำ�ราญ ถึงเทศบาลตำ�บลท่าพระ ระยะทาง 26 ก.ม. เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทาง จังหวัดขอนแก่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ภาคเอกชน ที่มีแนวคิดจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ของจังหวัด ทำ�ให้มกี ารระดมทุน 200 ล้านบาท จาก 20 บริษัทในจังหวัดขอนแก่น จัดตั้งเป็น บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง (เคเคทีที) จำ�กัด เพื่อดำ�เนิน โครงการ หากโครงการขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าระบบ รางเบา ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลก็จะมีการระดม ทุนเพิ่ม จากภาคเอกชนในจังหวัดขอนแก่น และ นักลงทุนจากทั่วประเทศ โดยหลังจากเปิดดำ�เนิน การได้ 2 ปี ก็ จ ะนำ � โครงการเข้ า จดทะเบี ย นใน ตลาดหลักทรัพย์ ในลักษณะกองทุนโครงสร้างพื้น ฐานจังหวัดขอนแก่น” นายกมลพงษ์ กล่าว พ.อ.กาจบดินทร์ ยิ่งดอน รอง ผอ.รมน. จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนของการพัฒนาเมือง เพื่อให้มีการเจริญเติบโต และยังได้รับความร่วม มือในการดำ�เนินภารกิจทั้งจากทุกภาคส่วน ทำ�ให้ เกิดการขับเคลื่อนที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมรวม แต่ภายใต้โครงการบูรณาการ การรักษาความสงบ เรียบร้อย และความมั่นคงภายในจังหวัดขอนแก่น หากทำ�ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน อาจทำ�ให้ การขับเคลื่อนต้องหยุดชะงักไป ล้วนเกิดผลเสียต่อ การทำ�งาน จึงฝากให้ตรวจสอบ แก้ไข และมีการ ประสานความร่วมมือในทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิด การพัฒนาเมืองอย่างเป็นรูปธรรมที่ยั่งยืนต่อไปใน อนาคต
ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2560
เอไอเอสช่วยนํ้าท่วมที่สกลนคร นายอุดมศักดิ์ โสมคำ� ผู้ช่วย กรรมการผู้ อำ � นวยการส่ ว นงาน ปฏิ บั ติ ก ารภู มิ ภ าค-ภาคตะวั น ออก เฉียงเหนือ นำ�ผู้บริหารและพนักงาน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำ�กัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ให้ ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยนํ้าท่วม หนักในเขตจังหวัดสกลนคร โดยการ ตัง้ จุดบริการอาหาร เครือ่ งดืม่ รวมทัง้ อำ�นายความสะดวกด้านการสื่อสาร เปิดให้บริการโทรฟรี ชาร์จแบตเตอรี่มือถือฟรี ณ จุดบริการถนนสุขเกษม น อ ก จ า ก นี้ ยั ง ร่ ว ม กั บ ก อ ง พ ล พัฒนาที่ 2 กองทัพภาคที่ 2 และศูนย์กู้ชีพ-กู้ภัย
เทศบาลนครสกลนคร นำ�อาหาร เครื่องดื่ม และ สิง่ ของอุปโภคทีจ่ �ำ เป็น อาทิ เทียน และยากันยุง ไป มอบให้กบั ชุมชนทีย่ งั มีนาํ้ ท่วมสูง และไม่มไี ฟฟ้าใช้ ในอีกหลายพื้นที่ในจังหวัดสกลนคร
กฟผ.มอบถุ ง ยั ง ชี พ ช่ ว ยเหลื อ ผูป้ ระสบอุทกภัยจากพายุเซินกา ก ฟ ผ . ส่ ง ม อ บ ถุ ง ยังชีพ นํ้าดื่ม และยารักษา โรคให้กับจังหวัดสกลนคร เพื่ อ นำ � ไปช่ ว ยผู้ ป ระสบ อุ ท กภั ย จากพายุ เ ซิ น กา พร้ อ มระดมพนั ก งานจิ ต อาสา กฟผ.ลงพื้นที่ให้ความ ช่วยเหลือต่อเนื่อง วั น ที่ 1 สิ ง ห า ค ม 2560 นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัด สกลนคร ได้รับมอบถุงยังชีพ จำ�นวน 1,500 ถุง จาก กฟผ.โดย นายวรวิทย์ รวีนิภาพงศ์ ผู้อำ�นวย การโรงไฟฟ้าพลังนํา้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นาย บุญส่ง จีราระรืน่ ศักดิ์ ผูช้ ว่ ยผูอ้ �ำ นวยการฝ่ายปฏิบตั ิ การภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-บริหาร และนาย ไวฑูรย์ เกียรติเฉลิมคุณ ผู้ช่วยผู้อำ�นวยการโรงไฟ ฟ้านํา้ พอง เป็นผูแ้ ทน กฟผ.ส่งมอบสิง่ ของบรรเทา ทุกข์ดังกล่าว เพื่อนำ�ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจากอุทกภัยที่เกิด จากอิทธิพลของพายุเซินกา ณ ศาลากลางจังหวัด สกลนคร สำ � หรั บ การช่ ว ยเหลื อ ผู้ ป ระสบอุ ท กภั ย จากอิทธิพลของพายุเซินกาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน
กรกฎาคมมาจนถึงปัจจุบัน กฟผ.ได้ร่วมกับหน่วย งานที่ เ กี่ ย วข้ อ งทั้ ง ส่ ว นราชการ หน่ ว ยทหาร องค์การบริหารส่วนท้องถิน่ รวมถึงภาคส่วนต่างๆ โดยระดมพนักงานจิตอาสา กฟผ.มาช่วยกันจัดถุง ยังชีพรวมกว่า 2,200 ชุด นํา้ ดืม่ อีกกว่า 15,000 ขวด และยารักษาโรคอีกกว่า 400 ชุด รวมทั้งส่งเจ้าที่ ลงพื้นที่เพื่อไปร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนั้น กฟผ.ยังได้จัดส่งรถบรรทุก และเรื อ เข้ า ไปช่ ว ยในการลำ � เลี ย งขนส่ ง สิ่ ง ของ บรรเทาทุกข์ดังกล่าว ตลอดช่วยขนส่งข้าวสาร อาหารแห้งจากที่มีผู้นำ�มาสมทบ เพื่อนำ�ไปช่วย เหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุกทกภัยในพื้นที่ จ.สกลนคร จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม และ จ.ขอนแก่น
เข้าร่วมการเสวนาในครั้งนี้ นายชยาวุ ธ จั น ทร ผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด อุดรธานี กล่าวว่า ภาครัฐได้ให้ความสำ�คัญต่อการ ขับเคลื่อนด้านการพัฒนาต่างๆ ของกลุ่มจังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน นับตั้งแต่ท่าน รองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เคย เดินทางมาทำ�การเวิรค์ ช็อปกับกลุม่ จังหวัดฯมาแล้ว ในเรื่องการพัฒนา การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวชุมชน เนื่องจากว่าท่านได้มอง เห็นศักยภาพของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียง เหนือตอนบน 1 ในการเปิดประตูไปสู่การค้ากับ ประเทศเพือ่ นบ้าน มาจนถึงกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้ ให้ความสำ�คัญในหลายๆ กิจกรรมด้วยกัน เช่น การ เปิดตลาดเฉพาะสินค้า และอีกหลายโครงการ ซึ่ง กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 มี ศักยภาพและมีความพร้อมทีจ่ ะได้รบั การพัฒนาไป สู่การเปลี่ยนแปลงของภูมิภาคกลุ่มประเทศเพื่อน บ้าน โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงทีใ่ นกลุม่ จังหวัดฯ มีถึง 2 จังหวัดที่มีพื้นที่อยู่ในโครงการฯที่ รถไฟความเร็วสูงจะต้องผ่าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมต.พาณิชย์ กล่าวว่า กลุม่ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอน บน 1 ทั้ง 5 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำ�ภู และบึงกาฬ เป็นกลุ่มจังหวัดที่น่า จับตามอง และมีความน่าสนใจสำ�หรับผู้ประกอบ การและกลุ่ ม นั ก ลงทุ น เนื่ อ งจากมี ศั ก ยภาพสู ง ในด้านระบบการขนส่ง โลจิสติกส์ ทั้งความได้ เปรียบในด้านภูมิศาสตร์ที่ตั้ง ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อ กับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งยังสามารถก้าวข้ามไปยัง ประเทศปลายทางที่มีตลาดขนาดใหญ่ อย่างเช่น เวียดนาม และจีนอีกด้วย ดังนั้น ศักยภาพของกลุ่ม จังหวัดอีสานตอนบน 1 จึงคุ้มค่าสำ�หรับนักลงทุน กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 มีศักยภาพที่กล้าในการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ที่เปรียบเสมือนว่าเป็นนักมวยโนเนมภูธร ก้าวไป ชกบนเวที ใ นกรุ ง และสามารถสร้ า งชื่ อ เสี ย งให้ เป็นที่รู้จักของคนทั่ว ๆไปได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้ความสำ�คัญ กับงบประมาณที่ให้ลงมากับกลุ่มจังหวัดต่างๆทั้ง
18 กลุ่มจังหวัด เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพ ต่างๆ ทำ�ให้เกิดมีการเปลีย่ นแปลงจากพัฒนา ไม่ใช่ เป็นการพัฒนาจากส่วนกลาง หากว่าเรายังอยู่ในความคิดเดิมๆ จะไม่ สามารถปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงดัง กล่าวได้ เพราะมีหลายอย่างที่มีการเปลี่ยนแปลง แบบที่เราก็ยังคิดไม่ถึง จนที่สุดแล้วจะไม่สามารถ หยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงใดๆได้ มันจะเกิดขึ้นจน เราไม่ต้องหนีไปไหน โดยได้ยกตัวอย่างให้เห็นถึง ความเปลี่ยนแปลงของสังคมโซเซียลมีเดีย ที่จนมี การตั้งชื่อกันว่า”สังคมก้มหน้า” เพราะประชาชน ส่วนมากจะหันมาใช้การติดต่อกันด้วยไลน์ หรือ โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ นอกจากนีแ้ ล้ว การทีร่ ฐั บาลและกระทรวง พาณิชย์เห็นความสำ�คัญของพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาค ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 มีอาณาเขตทีต่ ดิ ต่อ กับประเทศเพือ่ นบ้านเป็นระยาวมากกว่า 500 ก.ม. จึงทำ�ให้เกิดโครงการฯดังกล่าวขึ้นมา เนื่องจากว่า ปัจจุบันนี้คำ�ว่าชายแดนถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความ สำ�คัญมาก เพราะว่าการเชื่อมโยงของแต่ละพื้นที่ เข้ า หากั น นั้ น เป็ น เรื่ อ งที่ มี ค วามสำ � คั ญ มากใน อนาคต การที่มีการจัดเสวนาฯในวันนี้ ก็เพื่อการ ทำ�ความเช้าใจให้ตรงกันว่า ความเข้มแข็ง การ เปลีย่ นแปลงต่อไปนี้ จะเกิดขึน้ ในส่วนของท้องถิน่ โดยเฉพาะจากกลุ่มจังหวัดทั้ง 18 กลุ่ม เพราะกลุ่ม จังหวัดจะรูด้ กี ว่าทุกคนว่า ในท้องถิน่ ต้องการอะไร เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ตรงกับความต้องการของ ท้องถิ่นเอง ซึ่งการจัดโครงการเสวนาฯที่จังหวัด อุดรธานี เป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ต้นแบบ ที่รัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ จะนำ�เอาไปเป็นต้นแบบใน การจัดการเสวนาฯ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพอื่นต่อไป ในอนาคต ซึ่งการจัดเสวนาฯครั้งนี้ก็ถือว่าสามารถที่ เชือ่ มโยงไปยังประเทศ AEC.โดยตรงเลย เพราะต่อ ไปจะต้องอยู่ร่วมกัน จะมาแยกอยู่ตามลำ�พังไม่ได้ เพราะหากว่าต่างคนต่างอยู่ ก็จะอยูไ่ ม่ได้ แต่หากว่า เรามาเชือ่ มโยงเข้าด้วย ก็จะสร้างความเข้มแข้งและ ต่อรองๆ กับประเทศอื่นๆ ได้ด้วย
ดำ�รงชีพ ให้กับพี่น้องชาวอำ�เภอท่าแร่ จ.สกลนคร ที่ประสบภัยนํ้าท่วม
มอบพี่ น้ อ งชาวท่ า แร่ ที่ ป ระสบภั ย นํ้ า ท่ ว ม ; นายถนอม ราโช เจ้าของ นํ้ า ดื่ ม ดอนเมื อ ง ร่ ว ม กับพี่น้องชาวตำ�บลโคก คอน และผู้ มี จิ ต กุ ศ ล ไปมอบสิ่ ง ของเครื่ อ ง อุปโภค-บริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ ง นํ้ า ดื่ ม ยา เวชภัณฑ์ พร้อมข้าวของ เครือ่ งใช้ทจี่ �ำ เป็นในการ
ดีแทค ร่วมถวายความจงรักภักดี เฉลิมพระเกียรติ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ในรัชกาลที่ ๙ พระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา เ นื่ อ ง ใ น โ อ ก า ส ม ห า ม ง ค ล เ ฉ ลิ ม พ ร ะ ช น ม พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิ ติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาล ที่ ๙ พระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา ๑๒ สิ ง หาคม ๒๕๖๐ คณะผู้ บริ ห ารและพนั ก งาน บริ ษั ท โทเทิ่ ล แอ็ ค เซ็ ส คอมมู นิ เ คชั่ น จำ�กัด (มหาชน) หรือดีแทค ได้ ร่ ว มถวายความจงรั ก ภั ก ดี ต่ อ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดยมี นายลาร์ส นอร์ ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, นายประเทศ ตัน กุ ร านั น ท์ รองประธานเจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห าร กลุ่ ม เทคโนโลยี, นายภารไดย ธีระธาดา รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มกิจการองค์กร และ นาง สาวนาฎฤดี อาจหาญวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร กลุ่มบุคคล, นายซเวเร่ เพ็ดเดอร์เซ็น รอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน และ นาย แอนดริว กวาลเซท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มดิจิทัล เป็นผู้แทนบริษัทฯ ทำ�พิธีเทิดพระ เกีย รติ ในพระอัจฉริย ภาพด้านต่างๆ พระราช กรณียกิจที่ได้ทรงบำ�เพ็ญเพื่อประโยชน์สุขของ พสกนิกร การพัฒนาประเทศไทยไปสู่ความเจริญ รุ่งเรืองอย่างยั่งยืน และโครงการตามพระราชดำ�ริ อีกหลายโครงการ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมเด็จพระนาง เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ได้ ทรงปฏิบัติภารกิจ นานัปการ ทั้งในฐานะ “พระผู้ เป็นทีพ่ งึ่ ของปวงชนชาวไทย”และในฐานะ “คูบ่ ญ ุ คูพ่ ระราชหฤทัย” ในพระบาทสมเด็จพระปรมินท รมหาภูมพิ ลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ พระองค์ได้ทรง บำ�เพ็ญพระราชกรณียกิจทีท่ รงคุณประโยชน์อย่าง ยิง่ แก่พสกนิกรชาวไทยโดยเฉพาะราษฎรยากจนไร่ ที่พึ่งพิง ทรงพระเมตตาต่อชนทุกชาติทุกศาสนา ทรงเห็นการณ์ไกล ทรงมีพระราชดำ�ริต่างๆใน
การช่วยเหลือราษฎรทุกพื้นที่ทุกภาค เปี่ยมล้นไป ด้วยพระมหากรุณาธิคุณต่ออาณาประชาราษฎร์ อย่างหาที่สุดมิได้ ทั้งนี้ก็เพื่อปวงราษฎร์ทุกชีวิต ที่ อ าศั ย อยู่ ใ ต้ ร่ ม พระบารมี จ ะได้ ร่ ม เย็ น เป็ น สุ ข ทั่วหน้า “ไม่มีวันไหนที่พระองค์จะไม่ทรงนึกถึง ประชาชนคนไทย” พสกนิกรล้วนได้ประจักษ์แล้ว ว่า พระองค์ทรงรักและเอือ้ อาทรต่อราษฎร ประดุจ ความรักของมารดา ที่มีต่อบุตรโดยแท้ ทำ�ให้ทุก วันที่ ๑๒ สิงหาคมของทุกปี เป็น “วันแม่แห่ง ชาติ” สืบมาจนถึงทุกวันนี้ ผู้บริหารและพนักงานดีแ ทค คื อ หนึ่ ง ในพสกนิ ก รชาวไทย ที่ น้ อ มรำ � ลึ ก ในพระ มหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้และพร้อมที่จะ น้อมนำ�โครงการในพระราชดำ�ริไปปฏิบัติ เพื่อ เป็นแนวทางในการทำ�ความดีให้กับแผ่นดินไทย ตลอดไป ขอพระองค์ทรงสถิตเป็นมิง่ ขวัญร่มเกล้า ของเหล่าพสกนิกร ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง สมบูรณ์ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทั้งนี้ คณะผู้บริหารและพนักงานดีแทค ได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลง สดุดีมหาราชา พร้อมลงนามถวายพระพรต่อหน้า พระบรมฉายาลักษณ์ ณ ดีแทคเฮ้าส์ จัตุรัสจามจุรี บรรยากาศเต็มไปด้วยความปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง
ลุกขึน้ มาเปลีย่ นแปลงชุมชนให้นา่ อยู่ สสส.ใช้ยุทธศาสตร์เมือง 3 ดี สื่อดี พื้นที่ ดี ภูมดิ ี ผ่านปฏิบตั กิ าร ปลุก-ใจ-เมือง Spark U ให้ เด็ก-เยาวชน และชุมชน สร้างพลังเชิงบวก ปลุก ปรับ เปลี่ยนเมืองให้น่าอยู่ ปลุ ก ให้ ทุ ก คนในชุ ม ชน ได้ ลุ ก ขึ้ น มา ค้นหาและเปลี่ยนแปลงชุมชนของตนเอง และมี ส่วนร่วมในการเปลี่ยนเมือง จังหวัดขอนแก่น ได้ด�ำ เนินการใน 3 พืน้ ที่ ประกอบด้วย ชุมชนสาวะถี ชุมชนท่าพระ และ ชุมชนศรีฐาน แต่ละพื้นที่ก็ทำ�กิจกรรมแตกต่าง กันออกไป ชุมชนสาวะถี ลุกขึ้นมาแก้ปัญหาขยะ ชุมชนท่าพระ ลุกมาขอสถานีรถไฟไปเป็นศูนย์ เรียนรู้ชุมชน ส่วน ชาวชุมชนศรีฐาน ลุกขึ้นมา สืบค้นเมืองเก่าบ้านเราศรีฐาน ทำ � ให้ เ กิ ด การเรี ย นรู้ และนำ � ไปสู่ ก าร ต่ อ ยอดในการปลุ ก พื้ น ที่ อื่ น ๆ ให้ ลุ ก ขึ้ น มา
เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ชุมชนของตนเองดีขึ้น มี พื้นที่สร้างสรรค์สำ�หรับทุกคน และทำ�ให้คนใน สังคมนั้นเป็นสุข Spark U ถือว่าเป็นโครงการที่ดี ที่เปิด โอกาสให้ทกุ ภาคส่วนได้ท�ำ งานร่วมกัน รวมไปถึง เป็นกิจกรรมดีๆ ที่เกิดขึ้นทำ�ให้ชุมชน ได้คิดค้น เปลีย่ นแปลงให้ชมุ ชนดีขน้ึ เพือ่ ประโยชน์กบั ท้อง ถิ่นอย่างยั่งยืน เปิดโอกาสให้เด็ก-เยาวชน ได้มีส่วนร่วม ในกระบวนการสื่ อ และพื้ น ที่ ส ร้ า งสรรค์ เกิ ด เป็นพลเมืองตื่นรู้ และปลุกใจของคนทั้งเมือง ให้ ลุ ก ขึ้ น มาทำ � ในสิ่ ง เดี ย วกั น จนนำ � ไปสู่ ก าร เปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า เรามาร่วมกันสร้างสรรค์พื้นที่สุขภาวะ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ครอบคลุมทั่วทั้ง ประเทศร่วมกัน
ทวงคื น ผื น ป่ า เอาผิ ด นายทุ น รุ ก ป่ า สงวน ; นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดี กรมป่าไม้ พร้อมคณะซึ่ง เป็นตัวแทนแก้ปัญหายึด คื น ผื น ป่ า ในภาคอี ส าน ได้ ร่ ว มประชุ ม เพื่ อ หา แนวทางแก้ ไ ขให้ ผู้ อ ยู่ อาศัยในเขตอุทยานแห่ง ชาติ และเขตรักษาพันธุส์ ตั ว์ปา่ ทีเ่ ดือดร้อนจากการทวงคืนผืนป่า ณ ห้องประชุมศาลาแก่นไพร สำ�นัก จัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น) พัฒนาอาชี พเพาะเห็ ด ; นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชก พงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการ อบรมพั ฒ นาอาชี พ ตาม แนวทางเศรษฐกิ จ พอ เพียง “การเพาะเห็ด” รุ่น ที่ 3 ให้เกษตรกรที่สนใจ ในพื้ น ที่ ตำ � บลห้ ว ยม่ ว ง อ.ภูผาม่าน เข้าร่วมโครงการรวมกว่า 200 คน ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำ�บลห้วยม่วง อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น เครือข่ายจิตอาสา อสม. ; นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พั น ธุ์ นายกเทศมนตรี น ค ร ข อ น แ ก่ น เ ป็ น ป ร ะ ธ า น ก า ร ป ร ะ ชุ ม อาสาสมั ค รสาธารณสุ ข ประจำ � หมู่ บ้ า น (อสม.) พร้อมมอบเกียรติบัตรให้ กับ อสม.โดยมี นพ.ชาตรี เมธาธราธิป สูติแพทย์ ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น พร้อมคณะผู้บริหารและส่วนงานที่เกี่ยวข้อง และ อสม.ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมนครเป็งจาล
ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ประจำ �เดือนสิงหาคม 2560 ประจำ�เดื
หน้า 3
หน้า 4
ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2560
มอบเสื้อพระราชทาน ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานพิธีมอบเสื้อคอโปโลสีดำ� พระราชทาน เพื่อใช้ในกิจกรรมบำ�เพ็ญ สาธารณประโยชน์ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลวัน เฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ นายอำ�เภอ และองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมพิธี ณ ศาลาประชาคมจังหวัดขอนแก่น
บันทึกเทปถวายพระพรฯ ; พ.ท.พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสือ่ มวลชน จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย คณะกรรมการบริหาร ร่วมบันทึกเทปโทรทัศน์ ถวายพระพร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินนี าถ ในรัชกาลที่ 9 ณ ห้องแสดง สทท.11 ขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ถุงยังชีพพระราชทาน ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น อัญเชิญ ถุงยังชีพพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทร เทพยวรางกูร และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อคั รราช กุมารี มอบแก่ราษฎรทีป่ ระสบอุทกภัยในพืน้ ทีอ่ �ำ เภอพระยืน ณ หอประชุม เทศบาลตำ�บลบ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น
ส่งมอบดอกดารารัตน์ 7,999 ดอก ; คุณโฉมสุดา วโนทยาโรจน์ กรรมการ ผูจ้ ดั การบริษทั แฟรีพ่ ลาซ่า จำ�กัด และคณะพนักงานศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่ พลาซ่า ขอนแก่น, ตลาดต้นตาล ขอนแก่น และศูนย์คา้ ส่งอูฟ้ ู่ ขอนแก่น ส่ง มอบดอกดารารัตน์ จำ�นวน 7,999 ดอก เพือ่ ถวายในหลวง ร.9 ให้กบั จังหวัด ขอนแก่น โดยคุณศศิธร ปรีชาวิทย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น เป็น ผู้รับมอบที่ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า ขอนแก่น เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา
ร่วมใจประดิษฐ์ดอกไม้จนั ทน์ถวายพ่อหลวง ร.๙ ; นางปทุมทิพย์ สุภานันท์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านตำ�รวจ พร้อมคณะแม่บ้านตำ�รวจในสังกัด บช.ภ. 4 ร่วมกันประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์พระราชทาน เพื่อเตรียมแจกจ่ายให้แก่ ประชาชน และถวายในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ณ ห้องโถงสำ�นักงานตำ�รวจภูธร ภาค 4 ถนนกลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
นํ้าพระทัยพระราชทาน ; นายวีรชัย เพชรรัตน์ ผบ.เรือนจำ�กลางขอนแก่น เป็นตัวแทนมอบดอกไม้จันทน์ จำ�นวน 10,000 ดอก ที่ผู้ต้องขังหญิงได้ร่วม กันประดิษฐ์ให้กับ นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เนื่องในโอกาส เฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 12 ส.ค.2560 ณ เรือนจำ�กลางขอนแก่น
เผยแผ่พระพุทธศาสนาเขตลุ่มแม่นํ้าโขง ; นายภิญโญ ประกอบผล รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพพระนักเผยแผ่เขต ลุ่มแม่นํ้าโขง ครั้งที่ 5 ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการคือ พระนักเผยแผ่ประเทศไทย ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม จีน คณาจารย์ พระนักศึกษา และนักศึกษา ณ ศูนย์วทิ ยบริการสิรนิ ธร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ตรวจพื้นที่ประสบอุทกภัย ; พล.ต.อัครเดช บุญเทียม ผบ.มทบ.23 / ผู้ อำ�นวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 23 ตรวจพื้นที่ ประสบอุทกภัยในจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบายนํ้า ของเขื่อนลำ�ปาว เพื่อกำ�หนดแนวทางในการบูรณาการร่วมกับหน่วยงาน ส่วนราชการทีเ่ กีย่ วข้องในการช่วยเหลือประชาชน และเตรียมการบรรเทา ความเดือดร้อนให้กับประชาชน
สืบค้นเมืองเก่า บ้านเราศรีฐาน ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการ“สืบค้านเมืองเก่า บ้านเราศรีฐาน” ซึง่ ได้รบั การสนับสนุนจาก สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุข ภาพ (สสส.) เพื่อยกระดับชุมชนบ้านศรีฐาน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทาง วัฒนธรรมเชิงอนุรักษ์ สร้างจิตสำ�นึกรักท้องถิ่น พร้อมอนุรักษ์โบราณ วัตถุ โบราณสถานของชุมชนในท้องถิ่น ณ บริเวณลานวัดจอมศรี บ้านศรี ฐาน อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ปลูกต้นดอกดาวเรืองด้วยใจ ถวายพ่อของแผ่นดิน ; นายฉัตรชัย อุ่นเจริญ นายอำ�เภอเมืองขอนแก่น ร่วมกับข้าราชการ บุคลากร และประชาชนใน เขตอำ�เภอเมืองขอนแก่น ร่วมกันปลูกต้นดาวเรืองเพื่อให้ออกดอกและ บานสะพรั่ง ในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ ที่ทำ�การ อำ�เภอเมืองขอนแก่น
ปล่อยปลาเฉลิมพระเกียรติฯ ; นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานปล่อยพันธุ์ปลา เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสเฉลิม พระชนมพรรษา 85 พรรษา 12 สิงหาคม 2560 ณ แหล่งนํ้าหนองคู อ.เวียง เก่า จ.ขอนแก่น
หารือแนวทางความร่วมมือกับทูตแคนาดา ; นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานประชุมหารือแนวทาง ความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตแคนาดา ประจำ�ประเทศไทย ตาม โครงการขอนแก่น Smart City โดยมี เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต แคนาดา ประจำ�ประเทศไทย หัวหน้าส่วนราชการ ผูบ้ ริหารองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น อาจารย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น นักธุรกิจ และผู้เกี่ยวข้อง เข้า ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม สำ�นักงานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น
คนพิการใช้ชีวิตได้เท่าเทียมกับคนปกติ ; ดร.พงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น เป็นประธานพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วม เพื่อ การจัดสิ่งอำ�นวยความสะดวกสำ�หรับคนพิการและทุกคนในสังคม เข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้ในอาคารสาธารณะ จังหวัดขอนแก่น ท่ามกลางสักขี พยานจำ�นวนมาก ณ สถานีขนส่งโดยสาร อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
ปลูกต้นยางนา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ฯ ; นายชัยธวัช เนียม ศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานปลูกต้นยางนา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสวัน เฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา 28 กรกฎาคม 2560 ณ สวนสาธารณะ บึงทุ่งสร้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
แม่ดีเด่นจังหวัดขอนแก่น ประจำ�ปี 2560 ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ. ขอนแก่น เป็นประธานมอบเกียรติบตั รประกาศเกียรติคณ ุ แม่ดเี ด่นจังหวัด ขอนแก่น ประจำ�ปี 2560 เนื่องในโอกาส “วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9” ณ บริเวณ ศาลหลักเมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2560
มอบถุงยังชีพพระราชทาน ; พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสาวลี พระ วรราชาทินดั ดามาตุ นายกกิตติมศักดิต์ ลอดชีพ มูลนิธอิ าสาเพือ่ นพึง่ (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา องค์ประธานมูลนิธฯิ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชาวิทย์ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดขอนแก่น นำ�ถุงยังชีพพระราชทาน ไปมอบให้แก่ราษฎร ทีป่ ระสบอุทกภัย เพือ่ เป็นขวัญกำ�ลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนในเบือ้ ง ต้น ณ สนามหน้าองค์การบริหารส่วนตำ�บลบ้านขาม อ.นาํ้ พอง จ.ขอนแก่น
แก้ปัญหายาเสพติดระดับชาติ ; นายศิรินทร์ สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการสารเสพติดระดับชาติครั้งที่ 10 ภาย ใต้หัวข้อ “จากงานวิจัยสู่นโยบายยาเสพติดไทยและอาเซียน” เพื่อให้เกิด การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในประเทศและภูมิภาคอาเซียน ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออ คิด จ.ขอนแก่น
รับโล่ลูกและแม่ดีเด่น ; ณเดชน์ คูกิมิยะ พร้อม นางสุดารัตน์ คูกิมิยะ รับ โล่เกียรติคุณลูกดีเด่นและคุณแม่ดีเด่น ในวันแม่แห่งชาติ ประจำ�ปี 2560 เพือ่ เชิดชูเกียรติแก่ทงั้ คูท่ ปี่ ระพฤติตนต่อสังคมและครอบครัวด้วยดีมาโดย ตลอด ณ ห้องประชุมโรงเรียนพิศาลปุณณวิทยา บ้านเหล่านาดี ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น
สุดยอดของดีเมืองจันท์ สีสันตะวันออก ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ. ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน “สุดยอดของดีเมืองจันท์ สีสันตะวันออก ปี 2560” Eastern Fair 2017 ซึง่ จัดโดย กลุม่ จังหวัดภาคตะวันออก ประกอบ ด้วย จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด โดยสำ�นักงานพาณิชย์ทั้ง 4 จังหวัด ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม 2560 ณ ศูนย์การค้าเซ็น ทรัลพลาซาขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
3 สถาบัน วิ่ง ปั่น ปันนํ้าใจ ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานเปิดกิจกรรม “3 สถาบัน วิ่ง ปั่น ปันนํ้าใจ” ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมจัดขึน้ เพือ่ สร้างเสริมสุข ภาพ และรณรงค์รับบริจาคเงินเพื่อนำ�รายได้ ไปใช้สำ�หรับผู้ป่วยยากไร้ใน ภูมิภาค ณ บริเวณลานข้าวเหนียว ศูนย์การค้าเซนทรัล พลาซ่าขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ปลูกป่าอนุรักษ์ธรรมชาติ ; นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานเปิดโครงการปลูกป่าอนุรักษ์ธรรมชาติ เนื่องในโอกาส วันเฉลิม พระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยว รางกูร โดยมอบกล้าไม้ต้นคูน ต้นประดู่ และต้นยางนา ให้หน่วยงานและ ประชาชนร่วมปลูก ณ บริเวณพุทธมณฑลอีสานจังหวัดขอนแก่น
ธกส.แจกจริงมอบโชคบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค ; นายเกรียงไกร จาร โพธิ์ ผู้จัดการ ธกส.สาขาอำ�เภอเมืองหนองคาย เป็นประธานจับสลากและ มอบรางวัล“โครงการฝากบัญชีออมทรัพย์ทวีโชค” รอบครึง่ ปี ให้กบั ผูโ้ ชคดี ซึง่ ได้ฝากเงินกับธนาคารตัง้ แต่ 20,000 บาทขึน้ ไป ณ บริเวณด้านหน้า ธกส. สาขาอำ�เภอเมืองหนองคาย ถนนเจนจบเทศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย
นํ้าท่วมพ่ายนํ้าใจ ; นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำ�เภอนํ้าพอง พร้อมนายวิรัติ เย็นสบาย นายกเทศมนตรีตำ�บลกุดนํ้าใส และภาคเอกชนใน อ.นํ้าพอง ได้ นำ�ข้าวสารอาหารแห้ง ยารักษาโรค นํ้าดื่ม พร้อมเงินสด 41,000 บาท มอบ ให้กับ พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 เพื่อนำ�ไปช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัยในพื้นที่ภาคอีสาน ณ สำ�นักงานตำ�รวจภูธรภาค 4
เปิดที่ทำ�การ ตม.4 รองรับไทยแลนด์ 4.0 ; พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผู้บังคับการตำ�รวจตรวจคนเข้าเมือง 4 แถลงข่าวการย้ายที่ทำ�การ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 จาก จ.นครราชสีมา มาตั้งอยู่ภายใน ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 5 ขอนแก่น ถ.มิตรภาพ ต.สำ�ราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อความคล่องตัวและสะดวกในการติดต่อของนักท่องเที่ยว
หน้า 5
ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2560
9จังหวัดอีสานตอนบนแข่งฝีมอื แรงงานแห่งชาติมุง่ สูภ่ าคอุตสาหกรรมยุค ไทยแลนด์ 4.0 หนุนแรงงานไทยพร้อมพัฒนาฝีมอื สูม่ าตรฐานสากล
จั ด การแข่ ง ขั น จากกรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน และยังได้รับการสนับสนุน เงินรางวัล วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่อง มือสำ�หรับการแข่งขัน เพิ่มเติมจาก ทั้งภาครัฐ และเอกชน นอกจากนี้ยัง มีผู้เชี่ยวชาญจากสถานศึกษา สถาน ประกอบการต่างๆ ร่วมเป็นกรรมการ การตัดสินในการแข่งขันด้วย นายกิตติภพ แสงฤทธิ์ ผอ.สพร.6 ขอนแก่น กล่าวว่า การแข่งขันฝีมอื แรงงานแห่งชาติ ระดับภาค จัดขึ้นทุกๆ 2 ปี เพื่อคัดเลือกเยาวชนเข้าแข่งขันใน ระดับชาติในปี 2561 ซึ่งได้มีการจัดการแข่งขันฯ มาแล้ว 26 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 27 จากแนวคิดการ สนับสนุนช่างฝีมอื และปัญหาการขาดแคลน ซึง่ การ จัดแข่งขันฝีมือช่างครั้งนี้ จะเป็นวิธีการหนึ่งที่จะ ช่วยสนับสนุนกิจการต่างๆ ของสถาบันฝึกอาชีพทุก แห่ง มุ่งให้ครูและนักเรียนเน้นการฝึกฝีมือให้ดีขึ้น การแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 27 ระดับ ภาคตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ ได้ กำ � หนดสาขาการ แข่งขัน จำ�นวน 25 สาขา เป็นประเภทเยาวชน อายุระหว่าง 15 – 20 ปี จำ�นวน 24 สาขา แข่งขัน ร่วมกับภาคเอกชน คือ บริษัท สยามอุตสาหกรรม ยิปซั่ม (สระบุรี) จำ�กัด สาขาการติดตั้งผนังและฝ้า เพดานยิปซั่ม มีผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 359 คน ทั้งนี้สถานที่จัดการแข่งขันฝีมือแรงงานฯ แบ่ง เป็นจัดการแข่งขันภายใน สพร.6 ขอนแก่น จำ�นวน 21 สาขา ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพงษ์ภิญโญ 3 สาขา ได้แก่ สาขาเวปดีไซน์ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขากราฟิกดีไซน์ และโรงแรมเจริญธานี 1 สาขา ได้แก่ สาขาพนักงานบริการอาหารและเครือ่ ง
การไทย ไปลงทุนในต่างประเทศโดยใช้แรงงานไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจไทย และแรงงาน ฝีมือไทย ให้ยอมรับแก่นานาประเทศ การแข่งขัน ฝีมือแรงงานแห่งชาตินี้ จึงเป็นเครื่องมือที่จะช่วย ยกระดับ สถานศึกษา สถานฝึกอบรม ผู้ประกอบ การ สมาคมองค์กรวิชาชีพ เข้ามามีส่วนร่วมในการ พัฒนาศักยภาพของแรงงานไทยในอนาคตอย่าง แท้จริง ช่างฝีมือ เป็นผู้ผลิตและผู้ให้บริการต่างๆ แก่คนทุกระดับในสังคม ซึ่งมีความสำ�คัญต่อการ เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และมีความ สำ�คัญต่อการแข่งขันทางการค้ากับนานาชาติเป็น อย่างสูง โดยเฉพาะประเทศสมาชิกในภูมิภาค 10 ประเทศ การจัดงานแข่งขันฝีมือแรงงานในครั้ง นี้ นับว่าเป็นอีกมาตรการหนึ่งเพื่อเพิ่มทักษะและ ฝีมือของแรงงานไทย ให้ได้มาตรฐานเพื่อก้าวไปสู่ การแข่งขันฝีมือแรงงานทั้งในระดับภูมิภาค ระดับ ประชาคมอาเซียน และระดับโลก เพื่อให้เป็นที่ ยอมรับอย่างกว้างขวาง อันจะนำ�มาซึง่ ประสบการณ์ และความรู้ ตลอดจนเทคโนโลยีสมัยใหม่ ของเครือ่ ง มือ เครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ เป็นการสร้างโอกาสที่ ดีส�ำ หรับผูท้ จี่ ะศึกษาต่อหรือโอกาสในการได้รบั การ จ้างงาน สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการเตรียม ความพร้อมด้านแรงงาน เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน และเป็นการเตรียมความพร้อมของกำ�ลัง แรงงานทีจ่ ะเข้าสูภ่ าคอุตสาหกรรมยุคไทยแลนด์ 4.0 “อย่างไรก็ตามการเข้าสูป่ ระชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ยังเป็นความท้าทายครัง้ สำ�คัญสำ�หรับไทยเรา เช่นเดียวกันซึ่งหากไม่มีการเตรียมความพร้อมที่ดี อาจส่งผลกระทบต่อศักยภาพและขีดความสามารถ 26 อำ�เภอ ในจังหวัดขอนแก่น โดยการประสานงาน ผ่านนายอำ�เภอทุกอำ�เภอ และคณะกรรมการระดับ อำ�เภอเป็นผูพ้ จิ ารณาคัดเลือกคุณสมบัตขิ องผูเ้ ข้ารับ ทุน จะต้องเป็นนักเรียน และเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งมี ความประพฤติดี มุ่งมั่นตั้งใจศึกษาเล่าเรียน และมี ฐานะยากจน นางระเบียบรัตน์ กล่าวต่อว่า มูลนิธิฯ ได้ จัดพิธีมอบทุนการศึกษามาตั้งแต่ปี 2542 จนถึง ปัจจุบนั รวม 15 ครัง้ 1,917 ทุน เป็นเงิน 10,151,000 บาท นอกจากนี้ มู ล นิ ธิ ฯ ยั ง ได้ ดำ � เนิ น การเพื่ อ สาธารณประโยชน์ หรือร่วมกับองค์การการกุศล อื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์โดยส่วนรวม เป็นการ จัดกิจกรรมต่อเนื่องและไม่ดำ�เนินการเกี่ยวข้องกับ การเมืองแต่อย่างใด
ทางการแข่งขันของไทยในภูมิภาคโดยเฉพาะอย่าง ยิง่ การขาดความพร้อมทางด้านภาษาการ ขาดความ เข้าใจ/ความตระหนักถึงผลกระทบและความจำ�เป็น ของการเตรียมความพร้อมเข้าสูป่ ระชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนตลอดจนการไม่รู้จักเพื่อนบ้านและการเข้า มาทำ�งานของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่คาด ว่าจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตไทยเราจึงจำ�เป็นต้องมี การเตรียมพร้อมปรับตัวด้วยการตัง้ เป้าหมายพัฒนา ตนเองอย่างมีวิสัยทัศน์สร้างสรรค์นวัตกรรมและ ปฏิวตั กิ ารพัฒนาเพือ่ ก้าวสูค่ วามเป็นเลิศด้วยการมุง่ มั่น” ผวจ.ขอนแก่น กล่าว สำ�หรับการจัดงานแข่งขันฝีมอื แรงงานแห่ง ชาติในครั้งนี้ เพื่อจูงใจและสนับสนุนให้แรงงาน ไทย มีความพร้อมที่จะพัฒนาฝีมือของตนเองให้ได้ มาตรฐานที่กำ�หนดไว้และทัดเทียมกับมาตรฐาน สากล พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงฝีมือใน การเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานทั้งในระดับ ชาติ แ ละนานาชาติ และเป็ น การเน้ น ให้ เ ยาวชน และประชาชนทั่วไป เห็นความสำ�คัญของการเป็น แรงงานฝีมืออีกด้วย
ยื้อชีวิตผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้าดี “CASCAP” แก้ปัญหาผ่าตัดล่าช้า ลด ความแออัดห้องผ่าตัด ตั้งเป้าผ่าตัดผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้าดี 500 ราย
สิ้นไปจากประเทศไทย ทำ�ให้ประชาชนห่างไกลจาก โรคนี้ตลอดไป ด้านคุณอารยา ภู่พานิช รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกิจกรรมเพื่อสังคม ภาพลักษณ์และ สื่อสารองค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำ�กัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำ�กัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำ�คัญของปัญหาการเข้าถึงการ บริการการดูแลรักษาที่ยังประสบปัญหาความล่าช้า จึงทำ�ให้ผปู้ ว่ ยโรคนีเ้ พิม่ มากขึน้ ซึง่ ถือเป็นปัญหาใหญ่ ของประเทศไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำ�กัด (มหาชน) จึ ง ยิ น ดี ใ ห้ ก ารสนั บ สนุ น งบประมาณสำ � หรั บ การ ผ่าตัดรายละ 30,000 บาท และยินดีสนับสนุน ให้ ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และ ระดมทุนเพื่อใช้ในโครงการนี้ในทุกๆช่องทางด้วย ความยินดียิ่ง ร ศ . น พ . ณ ร ง ค์ ขั น ตี แ ก้ ว หั ว ห น้ า โครงการCASCAP กล่าวเสริมว่า โครงการ “การ ส่งเสริมการเข้าถึงบริการผ่าตัดมะเร็งท่อนํ้าดีของ ประชาชน เพื่ อ รำ � ลึ ก ในพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมทั้งถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนาง เจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 85 พรรษา” นี้ เป็นโครงการที่ร่วม
ดืม่ ผูช้ นะการแข่งขัน (ประเภทเดีย่ ว) รางวัลที่ 1,2,3 จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท 6,000 บาท 3,000 บาท ประเภททีม 20,000 บาท 6,000 บาท ตามลำ�ดับ พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ และผู้ชนะเลิศในแต่ละ สาขาจะได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันฝีมอื แรงงานระดับ ชาติ ต่อไป “การแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เพือ่ สนับสนุนให้ แรงงานไทยมีความพร้อมทีจ่ ะพัฒนาฝีมอื ของตนเอง สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 6 ขอนแก่น ให้ได้มาตรฐานที่กำ�หนดไว้ทัดเทียมกับมาตรฐาน สถาบั น พั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน 18 อุ ด รธานี และ สากล เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้แสดงฝีมือเข้า สำ�นักงานพัฒนาฝีมอื แรงงานจังหวัดในเครือข่ายอีก ร่วมการแข่งขันฝีมอื แรงงานในระดับภาคและระดับ 7 จังหวัด จัดงานแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้ง ชาติ แต่สงิ่ ทีส่ �ำ คัญเพือ่ เน้นให้เยาวชนและประชาชน ที่ 27 ระดับภาค คัดเลือกเยาวชนที่มีความสามารถ ทัว่ ไปเห็นความสำ�คัญของการเป็นกำ�ลังแรงงานฝีมอื เป็นตัวแทนภาคอีสานตอนบน เข้าไปแข่งขันระดับ ยกฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมของกำ�ลังแรงงาน ชาติ เพือ่ รองรับการก้าวเข้าสูย่ คุ ไทยแลนด์ 4.0 ทีจ่ ะ ฝีมือ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและ ยกระดับแรงงานไทยจากผูม้ รี ายได้ปานกลาง ให้เป็น เอกชน ในการพัฒนาทักษะฝีมือของแรงงานให้ทัน ผู้มีรายได้สูง ต่อวิทยาการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ” นายกิตติภพ เมื่อเร็วๆนี้ นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ. กล่าว ขอนแก่น ประธานพิธีเปิดการแข่งขันฝีมือแรงงาน นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น แห่งชาติ ครั้งที่ 27 ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า การแข่งขันฝีมือแรงงานในครั้งนี้ เป็นการ ตอนบน โดยมีนายกิตติภพ แสงฤทธิ์ ผู้อำ�นวยการ สร้างแรงกระตุน้ ให้แรงงานไทยเกิดการตืน่ ตัว สนใจ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 6 ขอนแก่น, นายไกร ทีจ่ ะพัฒนาหาความรู้ เพิม่ ความสามารถให้ตนเองได้ สิทธิ์ ศรีสำ�ราญ ผู้อำ�นวยการสถาบันพัฒนาฝีมือ มีศักยภาพ ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล รองรับการ แรงงาน 18 อุดรธานี และผู้อำ�นวยการสำ�นักงาน ก้ าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่จะยกระดับแรงงานใน พัฒนาฝีมอื แรงงานจังหวัดในเครือข่ายอีก 7 จังหวัด ประเทศไทยจากผู้มีรายได้ปานกลาง ให้เป็นผู้มีราย ประกอบด้วย สนง.พัฒนาฝีมือแรงงานกาฬสินธุ์ ได้สูง อีกทั้งเป็นการจัดเตรียมแรงงาน เพื่อรองรับ สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำ�ภู มหาสารคาม การลงทุนจากต่างประเทศ และรับมือกับผลกระ เลย และ จ.บึงกาฬ รวม 9 จังหวัด เข้าร่วมพิธเี ปิดการ ทบจากแรงงานต่ า งชาติ ที่ เ ข้ า มาค้ า แรงงานใน แข่งขันระหว่างวันที่ 19 – 20 ก.ค. 2560 ณ สถาบัน ประเทศไทย รวมทั้งการส่งเสริมให้สถานประกอบ พัฒนาฝีมือแรงงาน 6 ขอนแก่น ได้รับงบประมาณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2560 นางระเบี ย บรั ต น์ พงษ์ พ านิ ช ประธาน มูลนิธิเพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่น ครบ 200 ปี พ.ศ.2540 กล่าวว่า การมอบทุนการศึกษาฯ เพื่อ ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาของเด็กนักเรียน ของเยาวชนที่มีภูมิลำ�เนาอยู่ในจังหวัดขอนแก่น มู ล นิ ธิ เ พื่ อ ซึง่ มีฐานะยากจน ให้มโี อกาสศึกษาต่อจนถึงระดับ ก า ร ศึ ก ษ า จั ง ห วั ด อุดมศึกษาอย่างต่อเนือ่ ง สำ�หรับปี 2560 นี้ เป็นการ ขอนแก่ น ครบ 200 มอบทุนการศึกษา ครั้งที่ 15 จำ�นวน 147 ทุน เป็น ปี พ.ศ.2540 มอบทุน เงินทั้งสิ้น 1,076,000 บาท การศึกษาให้สามเณร สำ�หรับผู้ที่เข้ารับทุนการศึกษาประกอบ นักเรียน และเยาวชน ไปด้ ว ย ภิ ก ษุ สามเณร จากมหาวิ ท ยาลั ย มหา ทีม่ ฐี านะยากจน ให้ได้ จุ ฬ าลงกรณ์ ร าชวิ ท ยาลั ย วิ ท ยาเขตอี ส าน และ รับการศึกษาต่อเนื่อง มหาวิ ท ยาลั ย มหามกุ ฏ ราชวิ ท ยาลั ย วิ ท ยาเขต จนถึงระดับอุดมศึกษา ประจำ�ปี 2560 ครั้งที่ 15 ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เมื่อ ขอนแก่น และนักเรียน นักศึกษาจากสถานศึกษาใน
“ระเบียบรัตน์”มอบทุนการศึกษา
ให้เยาวชนขอนแก่นกว่า 1 ล้านบาท
กระทรวงสาธารณสุข จับมือ มข.และ ภาคีเครือข่าย โดยมูลนิธิสำ�นักงานทรัพย์สินส่วน พระมหากษั ต ริ ย์ , ธนาคารไทยพาณิ ช ย์ จำ � กั ด (มหาชน), มู ล นิ ธิ ส ยามกั ม มาจล, โครงการ CASCAP} สถาบันวิจยั มะเร็งท่อนํา้ ดี และมูลนิธมิ ะ เร็งท่อนาํ้ ดี ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ทางวิชาการ (MOU) โครงการ “ ส่งเสริมการเข้าถึง บริการผ่าตัดมะเร็งท่อนํา้ ดีของประชาชน เพือ่ รำ�ลึก ในพระมหากรุณาธิคณุ ของพระบาทสมเด็จพระปรมิ นทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พร้อมทั้งถวายเป็นพระ ราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินนี าถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา เมือ่ วันที่ 2 สิงหาคม 2560 เวลา 18.00 น. ทีโ่ รงแรมอ วานีขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดขอนแก่น นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวง สาธารณสุข เป็นประธานและร่วมลงนามบันทึก ข้อตกลงความร่วมมือ โดยมี รศ.ดร.เกรียงไกร กิจ เจริญ รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและชุมชน
สัมพันธ์ มข., คุณพิชญา รัตนพล ผู้จัดการมูลนิธิ สำ�นักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์, คุณอารย า ภู่พานิช รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกิจกรรม เพื่อสังคม ภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำ�กัด (มหาชน), ศ.ดร.พวงรัตน์ ยงวณิชย์ ประธานมูลนิธมิ ะเร็งท่อนํา้ ดี, รศ.นพ.ณรงค์ ขันตีแก้ว หัวหน้าโครงการCASCAP และผู้แทนโรงพยาบาล ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมพิธีและร่วมลง นามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) โครงการ “การส่ ง เสริ ม การเข้ า ถึ ง บริ ก าร ผ่าตัดมะเร็งท่อนํ้าดีของประชาชน เพื่อรำ�ลึกในพระ มหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรม หาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมทั้งถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินนี าถ ในรัชกาล ที่ 9 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา” เนื่องจาก ตระหนักถึงปัญหาการเข้าถึงบริการการดูแลรักษาโดย เฉพาะการผ่าตัดรักษามะเร็งท่อนํ้าดี ที่ยังล่าช้าและมี ความเหลื่อมลํ้าอันเนื่องมาจากความแออัดของการ
ใช้งานห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวง สาธารณสุข โดยตั้งเป้าให้การสนับสนุนแก่ผู้ป่วยมะ เร็งท่อนํ้าดี 500 ราย รศ.ดร.เกรียงไกร กิจเจริญ รองอธิการบดี ฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและชุมชนสัมพันธ์ มหาวิทยาลัย ขอนแก่ น กล่ า วว่ า มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น โดย โครงการแก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็ง ท่อนํา้ ดีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (CASCAP) ร่วม กับธนาคารไทยพาณิชย์ จำ�กัด (มหาชน) และมูลนิธิ มะเร็งท่อนํ้าดี ในการสนับสนุนงบประมาณสำ�หรับ การผ่าตัด หวังผลหายขาด ให้แก่ทีมผ่าตัด โดยมีการ บันทึกและส่งข้อมูลการผ่าตัดในแบบฟอร์มการเก็บ ข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้าดี และนำ�ข้อมูลเข้าสู่ระบบ Isan Cohort ของโครงการ CASCAP เพือ่ ติดตามและ ดูแลผู้ป่วยต่อไป ด้ า น นพ.โสภณ เมฆธน ปลั ด กระทรวง สาธารณสุ ข กล่ า วว่ า กระทรวงสาธารณสุ ข จะ สนับสนุนให้มีการใช้ทรัพยากรด้านการผ่าตัดรักษา
มะเร็งท่อนํ้าดี เช่น ห้องผ่าตัด เครื่องมือ บุคลากร เพื่ อ เพิ่ ม การให้ บ ริ ก ารรั ก ษาผ่ า ตั ด มะเร็ ง ท่ อ นํ้ า ดี ทั้ ง ในเวลาและนอกเวลาทำ � การของราชการ ใน ปีงบประมาณ 2560 - 2561 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการผ่าตัดและการบริการรักษา ทำ�ให้ชว่ ยลดความ เหลือ่ มลํา้ อันเนือ่ งมาจากความแออัดของการใช้งาน ห้องผ่าตัดและการรักษาโรคดังกล่าว ด้าน คุณพิชญา รัตนพล ผู้จัดการมูลนิธิ สำ�นักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํ้าดี และได้มีส่วน ร่วมในการให้การช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้าได้มี โอกาสได้เข้าถึงการผ่าตัดมากขึ้น มูลนิธิสำ�นักงาน ทรั พ ย์ สิ น ส่ ว นพระมหากษั ต ริ ย์ ยิ น ดี ใ ห้ ก าร สนับสนุนโครงการทัง้ ด้านการรณรงค์ให้ความรูเ้ รือ่ ง โรคพยาธิใบไม้ตบั และมะเร็งท่อนาํ้ ดี และสนับสนุน ทุกกิจกรรมที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้ าดี ทำ�ให้โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํ้าดี หมด
พั ฒ น า สิ น ค้ า ด้ ว ย น วั ต ก ร ร ม ใ ห ม่ ; น า ย น ริ น ท ร์ พ สุ น ธราธรรม ผู้เชี่ยวชาญฯ ด้ า น ท รั พ ย์ สิ น ท า ง ปั ญ ญา กรมทรั พ ย์ สิ น ทางปั ญ ญา กระทรวง พาณิ ช ย์ พร้ อ มคณะ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คัดเลือกผู้ประกอบการ ที่ ส่ ง ผลงานเข้ า ร่ ว ม ประกวดในโครงการ “Intellectual Property Innovation Competition 2017” ในระดับภูมิภาค ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ณ ห้องประชุมวารี 3 โรงแรมมันตราวารี อ.เมือง จ.ขอนแก่น กับมูลนิธิมะเร็งท่อนํ้าดี โดย ศ.ดร.พวงรัตน์ ยง วณิชย์ ประธานมูลนิธิมะเร็งท่อนํ้าดี ผลักดันให้ เกิดขึ้น โดยตลอดระยะเวลา 4 ปี ในการดำ�เนิน โครงการCASCAP เพื่อตรวจอัลตราซาวด์คัดกรอง ผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้าดี ในกิจกรรม “วาระแห่งชาติ ขจัดพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํ้าดี กับมูลนิธิมะ เร็งท่อนํ้าดีสัญจร” มาแล้วทั่วภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคตะวันออก กว่า 64 ครั้ง เมื่อพบผู้ป่วยที่เป็น มะเร็งท่อนํา้ ดีกจ็ ะส่งต่อผูป้ ว่ ยให้ได้รบั การรักษาตาม สิทธิ์ที่ผู้ป่วยมี โดยมูลนิธิมะเร็งท่อนํ้าดีก็จะเข้ามา ช่วยในการสนับสนุนงบประมาณในการช่วยเหลือ ผู้ป่วยที่ยากไร้ และสนับสนุนงบประมาณในการจัด ซือ้ เครือ่ งมือแพทย์และเวชภัณฑ์แก่โรงพยาบาลเครือ ข่ายเป็นประจำ�ทุกปี และยังให้ความรู้กระตุ้นเตือน ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงภัยของพยาธิใบไม้ตับที่ เป็นสาเหตุของมะเร็งท่อนํ้าดี ซึ่งการ MOU ครั้งนี้ถือเป็นอีกแรงกำ�ลัง สำ�คัญที่ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำ�คัญของ ปั ญ หาการเข้ า ถึ ง การบริ ก ารการดู แ ลรั ก ษาที่ ยั ง ประสบปัญหาความล่าช้าจึงทำ�ให้ผู้ป่วยโรคนี้เพิ่ม มากขึน้ ทุกภาคส่วนจึงเข้ามาช่วยสนับสนุนโครงการ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการขจัดพยาธิใบไม้ตบั และ มะเร็งท่อนํ้าดีให้หมดไปจากประเทศไทย
หน้า 6
ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2560
ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2560
หน้า 7
หน้า 8
ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2560
ประกาศความพร้อม 2 งานยักษ์ ร่ ว ม ขั บ เ ค ลื่ อ น “ สั ง ค ม อี ส าน สู่ สั ง คมรั ก การอ่ า น ขานรับไทยแลนด์ 4.0 บริ ษั ท อิ ม แพ็ ค เอ็ ก ซิ บิ ชั่ น ร่ ว มกั บ สเฟี ย ร์ เอ็ ก ซิ บิ ท ส์ (สิงคโปร์) เดินเครื่องลงพื้นที่ภาค อีสาน ประกาศความพร้อมจัดงาน “BMAM & GBR Expo Asia 2017” หรื อ “งานแสดงเทคโนโลยี เ พื่ อ ผู้ บริหารจัดการอาคาร ก่อสร้าง และ ต่อเติมอาคารเขียวแบบครบวงจร” ครั้ ง ที่ 10 และการจั ด นิ ท รรศการ และการประชุ ม กรี น เอ็ น เนอร์ จี แ ละอาคารชุ ด (GBR Expo Asia 2017) ครั้งที่ 7 ภายใต้คอน เซ็ปต์ “Internet of Things Meets FM” ซึ่งเป็นการ รวมตัวของเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุด และ การบริหารจัดการอาคาร ขานรับนโยบายแห่ง ชาติประเทศไทย 4.0 โดยมี นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น นางสาวพรพรรณ บุลเนอ ร์ ผู้อำ�นวยการอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ บริษทั อิมแพ็ค เอ็กซิบชิ นั่ แมนจเม้นท์ จำ�กัด และ นายชานนท์ เอกรัตนากุล ผูจ้ ดั การโครงการ บริษทั อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมนจเม้นท์ จำ�กัด ร่วมเปิด งาน ณ ห้องคอนแวนชั่น โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนแวนชั่น เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การที่ บริษัท อิมแพ็ค และ สเฟียร์ เอ็ก ซิบิทส์ (สิงคโปร์) เตรียมจัดงานแสดงเทคโนโลยี เพื่อผู้บริหารจัดการอาคาร ก่อสร้าง และต่อเติม อาคารเขียวแบบครบวงจร ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดง สินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กรุ ง เทพมหานคร พร้ อ มลงพื้ น ที่ ภ าคอี ส านที่ จังหวัดขอนแก่น เพือ่ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะร่วมแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น ทัศนะคติในภาพรวมของการบริหาร ทรัพยากรอาคาร ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้จะมา พร้อมธีม “Internet of Things Meets FM” เป็นการ รวมตัวของเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ลา่ สุดทีจ่ ะนำ� เสนอแนวความคิดประเทศไทย 4.0 สำ�หรับการ บริหารจัดการทรัพยากร นับเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ผู้ประกอบการไม่ควรพลาดการจัดงานในครั้งนี้ นางสาวพรพรรณ บุลเนอร์ ผู้อำ�นวยการ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิ ชั่น แมเนจเมนท์ จำ�กัด กล่าวว่า ปัจจุบัน Internet of Things (IoT) หรือเทคโนโลยีที่ใช้อินเตอร์เน็ต เป็นตัวกลางเชือ่ มโยงอุปกรณ์ และเครือ่ งมือต่างๆ เพือ่ สัง่ การและควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ผา่ นทาง อินเตอร์เน็ต ถือเป็นโซลูชั่นใหม่ที่ผู้ประกอบการ ธุรกิจทุกประเภทกำ�ลังจับตามอง เช่นเดียวกับ กลุ่มธุรกิจบริหารอาคารที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว มาช่วยให้ผู้บริหารจัดการอาคาร สามารถควบคุม การใช้พลังงาน และลดต้นทุนในการบริหารอาคาร ได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งดูแลการรักษาความ ปลอดภัยภายในอาคารด้วย Internet of Things (IoT) จึงเป็นเทคโนโลยี ที่ทุกอุตสาหกรรมจะต้องก้าวให้ทัน เพื่อเข้าสู่ยุค แห่งการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีรองรับ นโยบายแห่งชาติประเทศไทย 4.0 โดยนิทรรศการ และการประชุ ม นานาชาติ ด้ า นการบำ � รุ ง รั ก ษา และบริหารจัดการสิ่งอำ�นวยความสะดวกอาคาร (BMAM Expo Asia 2017) ครั้งที่ 10 และการจัด นิทรรศการและการประชุมกรีนเอ็นเนอร์จีและ อาคารชุด (GBR Expo Asia 2017) ครั้งที่ 7 ซึ่งมี กำ�หนดจัดงานระหว่างวันที่ วันที่ 20-22 กันยายน
2560 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Internet of Things Meets FM” ซึ่งจะเป็นการรวมตัว ของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเพื่อการ บริหารจัดการอาคาร และมีความเชื่อมั่นว่า จะได้ รับความสนใจจากบริษัททั้งในและต่างประเทศ เข้าร่วมจัดงานแสดง และมีผู้ประกอบการจาก หลากหลายประเทศทัว่ โลกเข้าร่วมเจรจาธุรกิจใน การจัดงาน BMAM & GBR Expo Asia 2017 ใน ครั้งนี้ ด้าน นายชานนท์ เอกรัตนากุล ผู้จัดการ โครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิช่ัน แมนจเม้น ท์ จำ � กั ด กล่ า วเพิ่ ม เติ ม ว่ า “BMAM & GBR Expo Asia 2017” ได้รวบรวมผู้ประกอบการที่ เกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำ�หรับระบบ บริหารจัดการภายในอาคาร การก่อสร้างและ ต่ อ เติ ม อาคารประหยั ด พลั ง งานไว้ อ ย่ า งครบ ครัน พร้อมนำ�เสนอเทคโนโลยี 4.0 โดยบริษัท ผู้นำ�อุตสาหกรรม อาทิ ดิจิตอลโฟกัส ซี.ไอ.กรุ๊ป Winnie’s Gadget โซเด็กซ์โซ่ และอีกกว่า100 บริษทั นอกจากนี้ ในงานยังมีโซน Smart Security & IOT เพื่อสาธิตวิธีการเชื่อมต่ออุปกรณ์รักษา ความปลอดภั ย กั บ ระบบอิ น เตอร์ เ น็ ต ในยุ ค Internet of Things และยังมีโซนพิเศษ “Smart Building to Smart City Showcase” ที่จะแสดง ให้เห็นถึงนวัตกรรมการออกแบบเมืองอัจฉริยะ “Thailand Smart Cities” สอดคล้องกับนโยบาย เศรษฐกิจของรัฐบาล และในสังคมดิจทิ ลั (Digital Economy) เพื่อเพิ่มศักยภาพประเทศไทยสู่ระดับ สากล นอกจากแสดงสิ น ค้ า การเจรจาธุ ร กิ จ แล้ ว ภายในงานยั ง มี ก ารสั ม มนา Facilities Management Conference ที่ เ หมาะสำ � หรั บ ผู้ บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรม จากผู้เชี่ยวชาญ ในวงการ ที่ จ ะมาให้ ข้ อ มู ล ทิ ศ ทางและแนว โน้มในอนาคตของการบริหารจัดการอาคารใน ประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน รวมถึงสัมมนา พิเศษ Thailand Green Building Conference สัมมนาด้านอาคารเขียวไทย เทคโนโลยีและวิธกี าร แก้ปญ ั หาของการก่อสร้างและต่อเติมอาคารเขียว รวมไปถึงวิธีการลดต้นทุนในการบริหารงาน นายชานนท์ กล่าวต่อไปว่า จากความ สำ�เร็จในการจัดงาน BMAM & GBR Expo Asia ในปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 152 บริษัท โดยมีบริษัทที่ดำ�เนินการในประเทศไทย รวมถึง 91 บริษัท บริษัทจากต่างประเทศอีก 61 บริษัท มีพื้นที่จัดงานแสดงสินค้าและนวัตกรรม กว่า 6,750 ตารางเมตร มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 7,000 คน จาก 36 ประเทศทัว่ โลก อาทิ เกาหลี จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่าอินเดีย อิตาลี เยอรมัน เดนมาร์ก ออสเตรเลีย เป็นต้น เชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้จะประสบผล สำ�เร็จเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2560 ที่ สนามกีฬาเวสสุวัณ นายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรี นครอุดรธานี ร่วมกับ นางเพียง ใจ แสงวิจิตร ผู้บัญชาการเรือนจำ� กลางอุดรธานี ทำ�การเปิดโครงการ ขุ ด ลอกท่ อ ระบายนํ้ า ภายในเขต เทศบาลนครอุ ด รธานี ประจำ � ปี 2560 เพือ่ เพิม่ ประสิทธิภาพระบาย นํ้า โดยใช้กำ�ลังพลผู้ต้องขัง เรือนจำ�กลางอุดรธานี ร่วมกับกองอนามัยและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนคร อุ ด รธานี ในการดำ � เนิ น การฯ ซึ่ ง เทศบาลนคร อุดรธานี ทำ�สัญญาว่าจ้างเรือนจำ�กลางอุดรธานี เป็น ผู้ดำ�เนินการโครงการฯ เป็นระยะ 4 เดือนตั้งแต่ วัน ที่ 1 ส.ค.- พ.ย.2560 เป็นระยะทางยาว 46,061 เมตร ในถนนเส้นทางๆ 23 สาย นายดาวเรือง หากันได้ ผอ.กองช่างฯ กล่าว ว่า ในช่วงหน้าฝนเขตเทศบาลนครอุดรธานี มีปญ ั หา นํ้าท่วมขังในบางพื้นที่ เหตุมาจากท่อระบายนํ้าฯมี เศษวัสดุ ขยะต่างๆอุดตันเป็นจำ�นวนมาก สร้างความ เดือดร้อนและเกิดความเสียหายต่อประชาชนและ ราชการ เทศบาลฯจึงได้จัดทำ�โครงการขุดลอกท่อ ระบายนาํ้ ในเขตเทศบาลนครอุดรธานีประจำ�ปี 2560 ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ โดยเรือนจำ�กลางอุดรธานี ใน ถนนสายหลัก 23 สาย ระยะทาง 46,061 เมตรหรือ ประมาณ 46 ก.ม. นายอิ ท ธิ พ นธ์ ตรี วั ฒ นสุ ว รรณ นายก เทศมนตรีนครอุดรธานี กล่าวว่า โครงการขุดลอก ท่อระบายนํ้าภายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ปี
2560 เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายนํ้า และ ป้องกันนาํ้ ท่วมเมือง เป็นการดำ�เนินการร่วมกับของ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคือ เทศบาล นครอุดรธานี กับ เรือนจำ�กลางอุดรธานี ทีผ่ า่ นมาใน ช่วงหลายปีทผี่ า่ นมา ทางเทศบาลนครอุดรธานี และ เรือนจำ�กลางอุดรธานี ก็ได้มีการร่วมมือกันดำ�เนิน การโครงการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องทุกปี นางเพียงใจฯ กล่าวว่า เรือนจำ�กลางอุดรธานี นอกจากที่จะทำ�หน้าที่ในการควบคุมผู้ต้องขังแล้ว ยังมีหน้าที่ในการให้บริการสังคมสาธารณะอีกด้วย ซึ่งในครั้งนี้เรือนจำ�กลางอุดรธานีร่วมกับเทศบาล นครอุดรธานี ทำ�การบริการสังคมทำ�โครงการขุด ลอกท่อระบายนํ้าในเขตเทศบาลนครอุดรธานี เป็น ระยะเวลา 4 เดือน โดยการใช้ผู้ต้องขังที่มีโทษจำ�ขัง เหลือไม่เกิน 2 ปีจ�ำ นวน 30 คน ในการดำ�เนินการดัง กล่าว ซึง่ นอกจากทีจ่ ะทำ�หน้าทีบ่ ริการสังคมแล้ว ผู้ต้องขังดังกล่าว ยังได้รับผลตอบแทนลดวันจำ�ขัง ตามระเบียบ และยังได้รับค่าจ้างในการทำ�หน้าที่ดัง กล่าวอีกด้วย
เทศบาลนครฯจ้างผู้ต้องขังขุดลอก ท่อระบายนํ้า ป้องกันนํ้าท่วมเมือง
ขอนแก่น เตรียมจัดงาน “มหกรรมหนังสือภาคอีสาน ครั้ง ที่ 5” โดยความร่วมมือจากสำ�นัก พิมพ์กว่า 120 สำ�นัก จัดโปรโม ชั่นส่วนลดพิเศษ เพื่อร่วมกันขับ เคลื่อน “สังคมอีสาน สู่สังคมรัก การอ่าน” โดยมี นายชัยธวัช เนียม ศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น, นายสิทธิ กุ ล ภู คำ � วงศ์ รอง นายก อบจ. ขอนแก่น, รศ.ดร.เกรียงไกร กิจ เจริญ รองอธิการบดีฝา่ ยศิลปวัฒนธรรมและชุมชน สัมพันธ์ มข., นางสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้ จัดพิมพ์และผูจ้ ดั จำ�หน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย, นายชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผอ.ททท.สำ�นักงาน ขอนแก่น และนายธวัชชัย รื่นรมย์สิริ รองนายก เทศมนตรีนครขอนแก่น ร่วมแถลงข่าวเตรียมความ พร้อมในการจัดงาน ณ ห้องประชุมสิริคุณากร3 ตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า การจัดงานมหกรรมหนังสือภาคอีสาน เพือ่ ปลูกฝังและพัฒนาการศึกษาเรียนรู้ แก่เยาวชน และประชาชนภาคอีสานแล้ว ยังแสดงถึงศักยภาพ และความพร้อมของจังหวัดขอนแก่น ในการเป็น MICE CITY ซึง่ มีความพร้อมอย่างเต็มทีต่ อ่ การจัด ประชุมขนาดใหญ่ และการจัดงานแสดงสินค้าทั้ง ในระดับภูมภิ าค และระดับประเทศ รองรับการเป็น ศูนย์กลางด้านการศึกษาและเศรษฐกิจในภูมิภาค อีกทัง้ ยังเป็นการ “สร้างสังคมอีสาน สูส่ งั คมรักการ อ่าน” และจะช่วยในการปลูกฝัง พัฒนาการเรียนรู้ ให้กับเยาวชนและประชาชนภาคอีสานอีกด้วย นายธวัชชัย รืน่ รมย์สริ ิ รองนายกเทศมนตรี นครขอนแก่น กล่าวถึงการขานรับนโยบายของ จังหวัด โดยผลักดันขอนแก่นเป็นมหานครแห่ง MICE ซึ่งเทศบาลนครขอนแก่น นำ�กิจกรรมการ ประกวดแข่งขันการอ่าน ฟัง และสรุปใจความ สำ � คั ญ เพื่ อ ทำ � ความเข้ า ใจ ทั้ ง นี้ เพื่ อ ให้ น้ อ งๆ เยาวชนได้ใส่ใจและทำ�ความเข้าใจในเนื้อหา สาระ สำ � คั ญ ของหนั ง สื อ ที่ อ่ า น เพื่ อ ร่ ว มกั น กำ � ลั ง ขั บ เคลื่อน “สังคมอีสาน สู่สังคมรักการอ่าน” และยัง เป็นการกระตุน้ ให้เกิดทักษะเพิม่ ขึน้ นอกจากนี้ ยัง ทำ�ป้ายประชาสัมพันธ์การจัดงานมหกรรมหนังสือ ติดทุกมุมเมืองขอนแก่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวและ ประชาชนโดยทัว่ ไปได้รบั ทราบข่าวสารการจัดงาน อย่างทัว่ ถึง นอกจากนี้ ยังได้จดั เตรียมรถบริการรับส่งประชาชน นักเรียน และนักท่องเทีย่ วทีต่ อ้ งการ
ร.ต.อ.หญิง ทิพวรรณ แก้วมาลา
รอง สว.ฝอ.ศพฐ.4 หญิงแกร่งใจเกินร้อย มุ่งมั่นทำ�งาน ตามคติพจน์‘รู้หน้าที่ ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน “สวั ส ดี ค่ ะ ” หนั ง สื อ พิ ม พ์ ไ ทยเสรี ขอ ต้อนรับทุกท่านเข้าสู่คอลัมน์ “สายตรงโรงพัก” ฉบับประจำ�เดือนสิงหาคมพุทธศักราช 2560 เราขอ แนะนำ�ท่านผูอ้ า่ นให้รจู้ กั กับคนในแวดวงสีกากี คือ “ตำ�รวจ” หรือ “ผูพ้ ทิ กั ษ์สนั ติราษฎร์” ในพืน้ ทีภ่ าค อีสานเช่นเคยค่ะ โดยในฉบับนี้เราขอแนะนำ�ท่าน ผู้อ่านให้รู้จักกับ ร.ต.อ.หญิง ทิพวรรณ แก้วมาลา รองสารวัตร ฝ่ายอำ�นวยการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ตัวอย่างของผูห้ ญิงแกร่งใจเกินร้อย มุง่ มัน่ ทำ�งาน ในทุกบทบาทหน้าที่อย่างดีที่สุด ตามคติพจน์ “รู้ หน้าที่ ซือ่ สัตย์ ขยัน อดทน” เพือ่ ประเทศชาติและ ครอบครัวอันเป็นที่รัก ร.ต.อ.หญิ ง ทิ พ วรรณ แก้ ว มาลา รอง สว.ฝอ.ศพฐ.4 เป็นคน อ.ชนบท จ.ขอนแก่นโดย กำ�เนิด จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาจาก โรงเรียนชุมชนบ้านชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนชนบทศึกษา อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ปี 2538 สอบบรรจุเป็นข้าราชการตำ�รวจ ตำ�แหน่งลูกแถว กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ(สตช.) จากนั้น ขอย้าย กลับมาทำ�งานรับใช้บ้านเกิดที่วิทยาการเขต 23 (ปัจจุบันคือ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4) ในตำ�แหน่ง ผบ.หมู่งานตรวจสถานที่เกิดเหตุ จนกระทั่งในปี 2555 ได้รับการเลื่อนฐานะเป็นนายตำ�รวจสัญญา บัตรในตำ�แหน่ง รอง สว.ฝอ.ศพฐ.4 จนถึงปัจจุบนั ปี 2560 มีคติพจน์ “รู้หน้าที่ ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน” ผู้กอง ทิพวรรณฯ เป็นตำ�รวจหญิงที่มีความมุ่ง มั่นในการทำ�งาน และยังมีอุปนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อ แผ่ แ ก่ เ พื่ อ นร่ ว มงานมี นํ้ า ใจโอบอ้ อ มอารี เป็ น มิตรกับทุกๆ คน จนเป็นที่รักของเพื่อนๆ ตำ�รวจ ทุกคน โดยมีความขยันอดทนและชอบทำ�อาชีพ เสริมเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวโดยไม่กลัวความ
ลำ�บาก ไม่ว่าจะ เป็ น การทอผ้ า ไหม เนื่ อ งจาก เกิดที่ อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เป็น อำ�เภอที่มีชื่อเสียงในเรื่องผ้าไหมมัดหมี่ที่สวยงาม ระดับประเทศ จึงนำ�ผ้าไหมไปวางจำ�หน่ายให้กับ ลูกค้าที่มาท่องเที่ยวใน อ.ชนบท และในช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ หลังจาก ว่างเว้นจากงานประจำ�ในหน้าที่ผู้กอง ทิพวรรณฯ ก็จะหารายได้เสริม โดยการวิ่งรถสูบสิ่งปฏิกูล(รถ ดูดส้วม) ในเขต อ.เมืองขอนแก่น กับลูกน้องที่ สนใจหารายได้เสริมเลี้ยงครอบครัวเช่นกัน โดย ไม่รู้สึกอับอาย เมื่อมีใครรู้ว่ามียศเป็น ร.ต.อ.หญิง ด้ ว ยเห็ น ว่ า เป็ น อาชี พ สุ จ ริ ต และมี ค วามสุ ข ใน การทำ�งานในทุกบทบาทหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อ ประเทศชาติและครอบครัวอันเป็นที่รัก ในโอกาสที่ได้มาเยือนคอลัมน์สายตรง โรงพัก ร.ต.อ.หญิง ทิพวรรณ ได้กล่าวฝากถึง เพื่อนๆ ตำ�รวจด้วยกัน และตำ�รวจรุ่นน้องที่อยาก จะประสบความสำ�เร็จในทุกบทบาทหน้าทีเ่ ช่นกัน ว่า“ตำ�รวจมีหน้าที่ บำ�บัดทุกข์ บำ�รุงสุขแก่พี่น้อง ประชาชนจะทำ�หน้าทีอ่ ะไรก็แล้วแต่ ทุกหน้าทีส่ งิ่ สำ�คัญที่สุดคือเราต้องมีความภาคภูมิใจในหน้าที่ ของเรา คนเราไม่วา่ จะมีต�ำ แหน่งอะไร ต้องรูห้ น้าที่ ตัวเอง และมีความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน ขอให้มุ่ง มั่นทุ่มเททำ�งานในทุกบทบาทหน้าที่อย่างดีที่สุด แล้วจะพบกับความสำ�เร็จอย่างแน่นอนค่ะ” สำ�หรับคอลัมน์สายตรงโรงพักฉบับนีต้ อ้ ง ขอลาท่านผู้อ่านไปก่อน ไว้พบกันใหม่ฉบับหน้า เดือนกันยายน 2560 นะคะ “สวัสดีค่ะ”
เข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ด้าน นางสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้ จัดพิมพ์และผูจ้ ดั จำ�หน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่ า วว่ า ในการจั ด งาน “มหกรรม หนังสือภาคอีสาน” ในครั้งนี้จะได้พบกับสำ�นัก พิมพ์รวม 120 สำ�นักพิมพ์ ที่พร้อมใจนำ�หนังสือ ดีที่น่าศึกษา และน่าอ่านมากว่า 300 บูท พร้อมลด ราคา 20-80% เพื่อให้ทุกท่านสามารถเป็นเจ้าของ หนังสือที่ตนเองชื่นชอบ และยังมีส่วนลดพิเศษ อีก 50% นอกจากยังได้พบกับนักเขียนรางวัลซีไรต์ คนล่าสุด ซึ่งเป็นกิจกรรมบนเวทีกลาง พร้อมการ แสดงของนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ การประกวด แข่งขันชิงทุนการศึกษารวม 4 รายการ ชิงเงินรางวัล กว่า 70,000 บาท นายชาญยุ ท ธ เศวตสุ ว รรณ ผอ.ททท. สำ�นักงานขอนแก่น กล่าวว่า การจัดงานมหกรรม หนั ง สื อ ภาคอี ส าน เป็ น การแสดงถึ ง ศั ก ยภาพ และความพร้อมของจังหวัดขอนแก่น ในการเป็น MICE CITY เชื่อว่า การจัดงานอย่างต่อเนื่องของ จังหวัดขอนแก่น จะทำ�ให้เกิดตืน่ ตัวในกลุม่ เยาวชน นักเรียนและนักศึกษา และเป็นการสร้างสังคมรัก การอ่านเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต “มหกรรมหนังสือภาคอีสาน ครั้งที่ 5” มี การแบ่งพื้นที่โซนต่างๆ ในการจัดกิจกรรม อาทิ โซนที่ 1 จัดเป็นนิทรรศการการเรียนรู้ นิทรรศการ หนังสือที่ระลึก โซนที่ 2 เป็นการจำ�หน่ายหนังสือ เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน จากสำ�นักพิมพ์ กว่า 300 บูธ โซนกิจกรรมบนเวที กลาง ซึ่งจะมีทั้งการพบปะนักเขียน การแสดง ของนักเรียนจากโรงเรียนในพืน้ ทีจ่ งั หวัดขอนแก่น การประกวดแข่งขันชิงทุนการศึกษาเงินรางวัล กว่า 70,000 บาท และโซนพื้นที่สำ�หรับการอบรม สั ม มนา Workshop ซึ่ ง จั ด บริ เ วณชั้ น ล่ า งของ ศูนย์ประชุมกาญจนาฯ โดยเปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 09.00 - 20.00 น. ระหว่างวันที่ 16 - 22 สิงหาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก ชมรมแม่บ้านตำ�รวจภูธรภาค4 มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นัก ธุรกิจ และสถานศึกษาในจังหวัดขอนแก่น จัดโครงการ “เยาวชนพิทักษ์ไทย รุ่นที่4” เพื่ อ ปลุ ก จิ ต สำ � นึ ก ให้ เ ด็ ก และเยาวชน มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระ มหากษัตริย์ และมีวินัย รู้รักสามัคคี และ รู้จักเสียสละ เพื่อประโยชน์สุขต่อส่วน การฝึกอบรมเยาวชนพิทักษ์ไทยในครั้งนี้ รวม เป็นการเตรียมความพร้อมที่ก้าวสู่การเป็นนัก ระทบต่อภาคเกษตร หลังพื้นที่เกษตร 19 จังหวัด บริหารประเทศชาติในอนาคต เพื่อปลุกจิตสำ�นึกให้เด็กและเยาวชนมีความจงรัก ภาคอีสานถูกนํ้าท่วมหนัก ที่ศาลาประชาคมจังหวัดขอนแก่น อ.เมือง ภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีวินัย ขณะเดี ย วกั น ยั ง มี ปั จ จั ย บวกคื อ การค้ า จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผู้บัญชาการ รู้รักสามัคคี และรู้จักเสียสละ เพื่อประโยชน์สุข ชายแดนของภาคอีสาน ขยายตัวดีต่อเนื่อง ทั้งการ ตำ�รวจภูธรภาค 4 เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม ต่อส่วนรวม อันเป็นการเตรียมความพร้อมในการ ส่งออกและนำ�เข้า โดย สปป.ลาว, เวียดนาม และ “เยาวชนพิทักษ์ไทย รุ่นที่ 4” โดยมี นางวันทณี เป็นพลเมืองที่ดีของชาติต่อไปในอนาคต นอกจาก จีนตอนใต้ ยังคงเป็นคู่ค้าที่สำ�คัญของไทย ที่มีการ ปานรักษา ประธานชมรมแม่บ้านตำ�รวจภูธรภาค นี้ ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมจาก สั่งซื้อสินค้าจากไทยในสัดส่วนที่ขยายตัวต่อเนื่อง 4 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ สังกัดตำ�รวจภูธรจังหวัด องค์กรทัง้ ในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน ทีเ่ ล็งเห็น ในกลุ่ ม มอเตอร์ ไ ฟฟ้ า , วงจรพิ ม พ์ , ผลไม้ แ ละ ขอนแก่น และสมาชิกชมรมแม่บ้านตำ�รวจตำ�รวจ ความสำ�คัญของเด็กและเยาวชน จึงพร้อมให้การ คอมพิวเตอร์ ขณะที่ออเดอร์ยางพาราจากประเทศ ภูธรภาค4 ผู้อำ�นวยการโรงเรียน พร้อมคณะครู สนั บ สนุ น ซึ่ ง เป็ น ส่ ว นสำ � คั ญ ที่ จ ะทำ � ให้ ก ารฝึ ก จีนมีการชะลอตัวลง เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อ นักเรียนจากโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น โรงเรียน อบรมฯ สำ�เร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ภาพรวมเศรษฐกิจอีสาน สนามบิน โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาขอนแก่น และ โดยเฉพาะคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและมีความ นายสมชาย กล่าวต่อว่า จากอิทธิพลพายุ โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้า ชำ�นาญที่ได้รับการสนับสนุนจากกองบัญชาการ เซินกา ทำ�ให้เกิดนํ้าท่วมหนักที่จังหวัดสกลนคร ร่วมกิจกรรมการฝึกอบรมเยาวชนในครั้งนี้ จำ�นวน ตำ � รวจนครบาล และหน่ ว ยงานจากหลายฝ่ า ย และขยายตัวครอบคลุมไปกว่า 19 จังหวัดอีสาน 411 คน ทำ�ให้เยาวชนที่ฝึกอบรมได้รับประโยชน์อย่างเต็ม ได้รับผลกระทบ ซึ่งผลกระทบที่เห็นเด่นชัดคือ พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 เปิด ประสิทธิภาพ ภาคเกษตรกรรม ได้รับผลกระทบรุนแรง เบื้องต้น เผยว่า โครงการเยาวชนพิทักษ์ไทย เป็นโครงการที่ ผู้บัญชาการตำ�รวจภูธรภาค 4 กล่าวทิ้งท้าย ประชาชนกว่า 70,000 ครัวเรือน หรือ 2 แสนกว่า สมาคมแม่บ้านตำ�รวจดำ�เนินการ โดยความร่วมมือ ว่า เป็นโอกาสดีของเยาวชนไทยที่มีโอกาสเข้ามา คนเดือดร้อน นาข้าวถูกนํา้ ท่วมถึง 2-3 ล้านไร่ หรือ จากคณะกรรมการดำ�เนินงานจาก ตำ�รวจภูธรภาค4 ศึกษาเรียนรู้ ขอให้เยาวชนทุกท่านเก็บเกี่ยวความ ร้อยละ 12 ของพืน้ ทีป่ ลูกข้าวทัง้ หมดในอีสาน ขณะ ชมรมแม่บา้ นตำ�รวจภูธรภาค 4 ภาครัฐ-เอกชน คณะ รู้ทั้งภาควิชาการและภาคปฏิบัติจากคณะวิทยากร ทีภ่ าคปศุสตั ว์กเ็ สียหายหนักเช่นกัน ประเมินความ ครู-อาจารย์จากโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น โรงเรียน และนำ�ไปต่อยอดให้เพิม่ พูนความรู้ ตามกำ�ลังความ เสียหายเฉพาะภาคเกษตรกรรมมีมูลค่ากว่า 7,000- สนามบิน โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาขอนแก่น โรงเรียน สามารถ สติปัญญาและสมรรถภาพของตน อันจะ 10,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลานาข้าวถูกนํ้า มหาไถ่ศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ร่วมกัน นำ�มาซึ่งความเป็นระเบียบเรียบร้อยต่อสังคมโดย ท่วม และการพร่องนํ้าออกจากพื้นที่ ขณะที่ความ จัดการอบรมจำ�นวน 4 วัน ระหว่างวันที่ 11 – 14 ส่วนรวม และจะเป็นปัจจัยหนึง่ ในการส่งเสริมสร้าง เสียหายต่อทรัพย์สิน บ้านเรือนที่ถูกนํ้าท่วม ยังไม่ กรกฎาคม 2560 ความมั่นคงของชาติสืบต่อไป สามารถประเมินได้ สถานการณ์นํ้าท่วมในภาคอีสาน เป็นอีก หนึ่งปัจจัยที่ทำ�ให้ภาครวมทางเศรษฐกิจชะลอตัว ลงแต่คงมีไม่มากนัก เพราะในขณะนี้หลายหน่วย งานเร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือและฟื้นฟู ด้วยการ กำ�หนดมาตรการต่างๆให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึง่ รัฐบาลได้เน้นยาํ้ และกำ�ชับให้หน่วยงานทีร่ บั ผิด ชอบโดยตรงได้เข้าไปให้การช่วยเหลือโดยเร่งด่วน ทีส่ ดุ ในทุกมิติ ทำ�ให้การกระตุน้ เศรษฐกิจในระดับ ภูมภิ าคทีน่ อกเหนือจากงบประมาณทีจ่ ดั สรรลงมา ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว ยังคงมีในเรื่อง ของการดำ�เนินการโครงการทีเ่ ป็นไปอย่างต่อเนือ่ ง การซ่อมแซมพืน้ ทีท่ ปี่ ระสบภัย การจ้างงานให้เกิด ขึ้นในชุมชน ขณะเดียวกันการที่คนไทยทุกคนนั้น ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผูป้ ระสบภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิวส์เน็ตเวิรค์ ประกอบไป ได้ให้การช่วยเหลือด้วยการจัดส่งสิ่งของบรรเทา ด้ ว ย ที ว ส ี ปริงนิวส์ 19 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ สปริงนิวส์เรดิโอ มูลนิธสิ ปริงนิวส์อาสา สำ�นักข่าว ทุกข์ไปให้กับผู้ประสบภัยก็เป็นอีกหนึ่งแนวทาง การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค จากการซื้อ ทีนวิ ส์ ร่วมกันนำ�สิง่ ของข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมีก่ งึ่ สำ�เร็จ ยารักษาโรค และนํา้ ดืม่ บรรทุกรถยนต์ กองบินที่ 23 อุดรธานี เพื่อนำ�ไปช่วยเหลือพี่น้องชาวอำ�เภออากาศอำ�นวย จ.สกลนคร ที่ได้รับความ สินค้าเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ด้วยเช่นกัน เดือดร้อนจากนํ้าท่วมครั้งใหญ่ ในรอบ 40 ปี
“เยาวชนพิทกั ษ์ไทย” เตรียมความพร้อม ก้ า วสู่ ก ารเป็ น นั ก บริ ห ารในอนาคต
ธปท.อีสานแจง ศก.ไตรมาส 2 ของปีปรับ ตัวดีขึ้น ลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลง นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้อำ�นวยการ อาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำ�นักงาน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมผู้บริหาร แถลง ข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไตรมาสที่ 2 ปี 2560 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 ที่ ห้องประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย สำ�นักงาน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสมชาย เปิ ด เผยว่ า ภาพรวมทาง เศรษฐกิ จ ในระดั บ ภู มิ ภ าคภาคตะวั น ออกเฉี ย ง เหนื อ มี ก ารขยายตั ว อย่ า งต่ อ เนื่ อ งตั้ ง แต่ ช่ ว ง ไตรมาสที่ 2 ของปี ต่อเนื่องเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ดูได้ จากการอุปโภคและบริโภคของกลุ่มภาคเอกชน ที่ปรับตัวดีขึ้น ตามการขยายตัวของรายได้ภาค การเกษตร เนื่องจากไตรมาสที่ 3 ของปี เป็นการ เข้าสูช่ ว่ งฤดูการทำ�นาปี และยังคงเป็นช่วงเก็บเกีย่ ว ผลผลิตทางการเกษตรในประเภทต่างๆ นอกจาก นี้ ยั ง คงมี สั ด ส่ ว นการเพิ่ ม ปริ ม าณการผลิ ต ภาค ปศุสัตว์ โดยเฉพาะไก่เนื้อที่ขยายตัวตามกำ�ลังการ ส่งออก สำ�หรับภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มธุรกิจ เอกชนนั้นชะลอตัวลงเนื่องจากเข้าสู่ช่วงหน้าฝน แนวโน้มเศรษฐกิจอีสานไตรมาส 3 ปัจจัย ทีส่ ง่ ผลบวกคือ มาตรการกระตุน้ ของภาครัฐทีจ่ ะมี เม็ดเงินไหลเข้าภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ โครงการประชารัฐ ที่มีการสนับสนุนงบประมาณ ในการดำ�เนินการเพือ่ ยกระดับศักยภาพหมูบ่ า้ น ทัง้ โครงการสร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนให้กับ เศรษฐกิจภายในประเทศของกลุม่ จังหวัด, โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ, โครงการหมูบ่ า้ นละ 200,000 บาท เป็นสิง่ ทีส่ ามารถกระตุน้ การจับจ่ายได้อย่างดี ซึ่งต้องดูถึงการเบิกจ่ายจะล่าช้าหรือไม่ อีกทั้งในไตรมาสที่ 2 ต่อเนื่องถึงไตรมาส ที่ 3 นั้น เข้าสู่ช่วงใกล้ปิดงบประมาณประจำ�ปี ของหน่วยงานภาครัฐ ทำ�ให้การเร่งรัดเบิก-จ่ายใน โครงการของรัฐนัน้ มีอย่างต่อเนือ่ ง อย่างไรก็ดภี าค อีสาน ยังคงมีเสถียรภาพภาพรวมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ที่ร้อยละ 0.02 ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสที่ผ่านมาอย่าง มาก ขณะทีอ่ ตั ราการว่างงานปรับลดน้อยลง เพราะ แรงงานส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่ภาคการเกษตร และที่ สำ�คัญคือการลงทุนโครงการสร้างพื้นฐานของรัฐ เช่น การสร้างรถไฟทางคู่เข้ามาในภาคอีสาน จะ กระตุ้นให้ภาคเอกชนเกิดการลงทุนตามพื้นที่ของ โครงการด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทีน่ า่ ห่วงคือผลก
นิวส์เน็ตเวิร์คซับนํ้าตาชาวสกลนคร
หน้า 9
ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2560 ง า น ม ห า กุ ศ ล 1 2 สิงหา เพือ่ แม่แผ่เมตตา ; นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พั น ธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่ น เป็ น ประธานเปิ ด งานมหา กุศล 12 สิงหา เพื่อแม่ แผ่เมตตา ครั้งที่ 6 เพื่อ ถวายเป็ น ราชกุ ศ ลแด่ สมเด็ จ พระนางเจ้ า สิริกิติ์ พระบรมราชราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 12 สิงหาคม 2560 จัดโดยชมรมสามัคคี 44 ฝ่ายประทับทรง ,สมาคมปึงเถ่ากง-ม่าขอนแก่น, คณะ กรรมการจัดงานประจำ�ปี 2560 และเทศบาลนครขอนแก่น ณ บริเวณศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า ขอนแก่น กงสุ ล ใหญ่ จี น เยื อ น หนองคาย ; นายหลี่ หมิ ง กั ง กงสุ ล ใหญ่ สาธารณรัฐประชาชน จี น ป ร ะ จำ � จั ง ห วั ด ขอนแก่น พร้อมคณะฯ เยี่ ย มคารวะ นายสุ ช า ติ น พ ว ร ร ณ ผ ว จ . หนองคาย ในโอกาส เดินทางมาติดตามสถานการณ์ดา้ นการผ่านแดนของนักท่องเทีย่ วจีน และการท่องเทีย่ ว ณ ห้องรับรอง พลตรีกรมหลวงประจักษศิลปาคม ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย ศู น ย์ โ ตโยต้ า แก่ น นคร สาขาบ้านดอน อาคาร เพื่ อ ทุ ก คน ; นายธี ร นันท์ กิ่งแก้วเจริญชัย ผู้ จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนา องค์ ก รและทรั พ ย์ ก ร มนุษย์ บริษัท โตโยต้า แก่นนคร จำ�กัด ให้การ ต้อนรับ นายศุภชีพ ดิษ เทศ นายกสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมศูนย์บริการโตโยต้า แก่นนคร สาขาบ้านดอน ซึ่งสร้างเป็นอาคารเขียวแห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัดขอนแก่น เป็น อาคารเขียวระดับแพลทินัมแห่งที่ 3 ในประเทศ และเป็นอาคารเพื่อทุกคน (Universal Design) ณ โชว์รูมศูนย์บริการ โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด สาขาบ้านดอน ถนนกสิกรทุ่งสร้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ปลุกใจเมือง ภาคอีสาน ; น า ย พิ สุ ท ธิ์ อ นุ ต ร อังกูร นายกเทศมนตรี ตำ � บลท่ า พระ พร้ อ ม ด้ ว ยนางวาสนา จั ตุ ภั ก ดิ์ ประธานชุ ม ชน ศรี ฐ าน เทศบาลนคร ขอนแก่ น ร่ ว มบั น ทึ ก เทปโทรทั ศ น์ ร ายการ มองอีสานผ่าน NBT ตอนการจัดงานนิทรรศการ “ปลุกใจเมือง ภาคอีสาน” โดยมีคุณเจริญ เพ็งมูล ทำ�หน้าที่พิธีกรดำ�เนินรายการ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ขอนแก่น
กลุม่ ร้อยแก่นสารสินธุย์ กระดับมาตรฐานโอท็อป ย ก ร ะ ดั บ คุ ณ ภ า พ มาตรฐาน OTOP ให้มีมูลค่าเพิ่ม มากขึ้น เพิ่มช่องทางการจำ�หน่าย ให้สามารถแข่งขันทั้งในและต่าง ประเทศได้ เมื่อเร็วๆนี้ ที่โรงแรม อวา นี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอน แวนชั่ น เซ็ น เตอร์ จ.ขอนแก่ น นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ. ขอนแก่น เป็นประธานเปิดเวทีแสดงผลงานและส่ง มอบผลิตภัณฑ์ตน้ แบบร้อยแก่นสารสินธุ์ โครงการ พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์กลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนา (กลุม่ D) กิจกรรมที่ 2 การพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ จัดโดยกรมการพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทย โดยมี นางจิรภา เชื้อดวงผุย หัวหน้ากลุ่มงานส่ง เสริมการพัฒนาชุมชน สพจ.ขอนแก่น เป็นผู้กล่าว รายงาน ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย หัวหน้า กลุ่ม/ฝ่าย พัฒนาการอำ�เภอ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน
และกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการOTOP จากร้อยแก่น สารสินธุ์ และผู้สนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 400 คน จาก 4 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และ จ.กาฬสินธุ์ นอกจากจะยกระดั บ คุ ณ ภาพมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ OTOP ให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยัง เพิ่ ม ช่ อ งทางการจำ � หน่ า ยผลิ ต ภั ณ ฑ์ ใ ห้ ส ามารถ แข่งขันทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศได้ ซึ่ง
มีผลิตภัณฑ์หลายประเภทประกอบไปด้วยประเภท เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ของตกแต่ง ของทีร่ ะลึก และสมุนไพรทีไ่ ม่ใช่อาหาร การพัฒนา ยกระดั บ สิ น ค้ า ครั้ ง นี้ มี ทั้ ง หมด 686 ผลิ ต ภั ณ ฑ์ จังหวัดขอนแก่น 234 ผลิตภัณฑ์ จังหวัดร้อยเอ็ด 147 ผลิตภัณฑ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ 199 ผลิตภัณฑ์ และจังหวัดมหาสารคาม 106 ผลิตภัณฑ์ เป็นผล การดำ�เนินงานที่เป็นรูปธรรม สามารถสร้างงาน เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพ ของชีวติ ของประชาชนในท้องถิน่ ตามนโยบายของ รัฐบาลทีม่ งุ่ สร้างความมัน่ คง มัง่ คัง่ และยัง่ ยืนได้เป็น อย่างดี โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดจ้างคณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็น ที่ปรึกษาดำ�เนินโครงการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ กลุม่ ปรับตัวสูก่ ารพัฒนา (กลุม่ D ) กิจกรรมย่อยที่ 2 การพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ ประเภทเครือ่ งดืม่ ผ้า และเครื่องแต่งกาย ของใช้ของตกแต่ง ของที่ระลึก
สมุนไพรทีไ่ ม่ใช่อาหาร เป็นระยะเวลา 90 วัน และได้ มีการเปิดตัวโครงการเมือ่ วันที่ 25 เมษายน 2560 โดย มีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ กว่า 300 คน ที่โรงแรม อวานี จังหวัดขอนแก่น คณะทำ�งาน ภายใต้ความร่วมมือจากมหาวิทยาลัย ในเครือข่าย ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ในการพัฒนา รูปแบบผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อยกระดับคุณภาพ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ OTOP ในกลุ่ม D ให้มีมูลค่า เพิ่มมากขึ้น เพิ่มช่องทางการจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์ให้ สามารถแข่งขันทางการตลาดทัง้ ในและต่างประเทศ ได้ ทั้งนี้ การจัดเวทีแสดงผลงาน จะเป็นเวที สำ�คัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์โครงการหนึ่ง ตำ�บลหนึ่งผลิตภัณฑ์ OTOP ให้มีผลการดำ�เนิน งานที่เป็นรูปธรรม สามารถสร้างงาน เพิ่มมูลค่า ผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพของชีวิต คุณภาพชีวติ ของประชาชนในท้องถิน่ ได้เป็นอย่างดี
ม.ขอนแก่ น ทุ่ ม งบกว่ า 40 ล้ า นบาทซื้ อ รถเมล์ อั จ ฉริ ย ะ ลดปริ ม าณรถ ป้ อ งกั น อุ บั ติ เ หตุ และประหยั ด ค่ า นํ้ า มั น ม.ขอนแก่นนำ�ทัพสือ่ มวลชนดูงานรถเมล์ อัจฉริยะใช้เชือ้ เพลิงก๊าซธรรมชาติไม่ให้เกิดมลพิษ ทางอากาศภายในมหาวิทยาลัย ลดอุบตั เิ หตุให้เป็น ศูนย์ ประหยัดค่าใช้จ่ายนํ้ามันเชื้อเพลิง เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 ส.ค.60ที่หน้า อาคารสิริคุณากร สำ�นักงานอธิการบดี อาคาร มหาวิทยาลัยขอนแก่น รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตน ศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้การ ต้อนรับ ดร.ทวารัฐ สูตบุตร ผอ.สนง.นโยบายและ แผนงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน พร้อมสื่อมวลชนจากส่วนกลางมาเยี่ยมชมความ ก้ า วหน้ า โครงการจากกองทุ น เพื่ อ ส่ ง เสริ ม การ อนุรักษ์พลังงาน จ.ขอนแก่น ภายใน ม.ขอนแก่น ซึ่ ง มี ส ถานที่ อ าคารประหยั ด พลั ง งานภายในม. ขอนแก่น, พลังงานทดแทน โรงผลิตก๊าซไบโอ มีเทนอัด(CBG)และรถเมล์อัจฉริยะใช้เชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ (CNG)และ ก๊าซไบโอมีเทนอัด (CBG) รศ.ดร.กิตติชัย กล่าวว่า เมื่อต้นปี พ.ศ. 2560 ม.ขอนแก่น ทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาท ได้ ดำ�เนินโครงการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์
พลังงาน จ.ขอนแก่น นำ�รถเมล์อัจฉริยะใหม่เอี่ยม 20 คัน ซึ่งเป็นรถโดยสารปรับอากาศ ใช้เชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ CNG (Compressed Natural Gas) และ ก๊ า ซไบโอมี เ ทนอั ด (CBG) จำ � นวน 1 คั น ข้ อ ดี คื อ เผาไหม้ ส มบู ร ณ์ ม ลพิ ษ ตํ่ า โดยเฉพาะ ปริมาณฝุ่นละออง (Particulate) และควันดำ� เรียก ว่า “สมาร์ทแคมปัส” โดยรถแต่ละคันสามารถ บรรจุ ผู้ โ ดยสารได้ 40 คน ภายในรถทุ ก คั น มี กล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยผู้โดยสาร มีจอ LED ระบุตำ�แหน่งรถ มีสถานีวิทยุกระจายเสียง มหาวิทยาลัยขอนแก่นFM.103 MHz เป็นช่องทาง กระจายข้อมูล ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์กิจกรรม ต่างๆ จากมหาวิทยาลัยนอกจากนี้ในรถทุกคันนำ� เทคโนโลยี GPS ติดรถทุกคันเพื่อความปลอดภัย พร้อมระบบ WIFI ผู้ใช้สามารถรู้ตำ�แหน่งรถผ่าน บน Application บนมือถือ เบือ้ งต้นได้จดั เส้นทางเดินรถขนส่งมวลชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น 5 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทาง สีส้ม แดง นํ้าเงิน เขียว และเหลือง ให้บริการช่วง เวลา 07.00-21.30 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ แต่ละเส้นทางจะวิ่งเป็นวงกลมไปกลับในเส้นทาง
เดิม ครอบคลุมคณะวิชาต่างๆ รวมทั้งส่วนบริการ ทีส่ �ำ คัญ ในอนาคตจะประสานผูป้ กครองนักศึกษา ใหม่ ไม่จำ�เป็นซื้อรถให้บุตรหลานที่เข้ามาเรียน หนังสือ เพราะมหาวิทยาลัยจะทำ�เส้นทางเชื่อม ต่อกันทุกสาย วิ่งผ่านทุกคณะ เพื่อลดปริมาณรถ ภายในมหาวิทยาลัย ป้องกันอุบตั เิ หตุ และไม่ให้เกิด มลพิษทางอากาศภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่นอีก ด้วย “มหาวิทยาลัยขอนแก่นในฐานะองค์กร ที่มีความห่วงใยต่อสังคมมาโดยตลอด จึงมีความ
พยายามในการบริหารจัดการทรัพยากรภายใน มหาวิทยาลัยอย่างคุม้ ค่า ภายใต้นโยบาย Green and Smart Campus และ Culture and care Community เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ลดมลพิษ และลดค่า ใช้จ่าย ภายใต้แนวคิด KKU Smart Transit เน้นรถ ขนส่งมวลชนทีท่ นั สมัยและใส่ใจสิง่ แวดล้อม มีจดุ เน้นสำ�คัญคือ ประหยัดพลังงาน สะดวก ปลอดภัย ไร้มลพิษ ลดอุบัติเหตุภายใน ม.ขอนแก่นให้เป็น ศูนย์ ” รศ.ดร.กิตติชัย กล่าว
หน้า 10
ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ประจำ�เดื ประจำ�เดือนสิงหาคม 2560
หน้า 11
ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2560 ซี.พี.แลนด์
• ต่อจากหน้า 1
ศู น ย์ ป ระชุ ม และแสดงสิ น ค้ า นานาชาติ ขอนแก่น (Khonkaen International Convention and Exposition Center) หรือ KICE (ไคซ์) บริหาร งานโดยบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำ�กัด (มหาชน) ปัจจุบัน การก่อสร้างมีความคืบหน้ากว่า 85% พร้อมเปิดให้ บริการในเดือนธันวาคม 2560 แม้วา่ จะยังอยูร่ ะหว่าง ก่อสร้าง แต่มีออร์กาไนเซอร์ให้ความสนใจลงบุ๊ค จองพื้นที่สำ�หรับจัดกิจกรรมในต้นปี 2561 มั่นใจว่า KICE จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้จังหวัดขอนแก่น เกิดการหมุนเวียนการเงินในทุกระดับชั้น นายอภิ ช าต สิ น ธุ ม า ผู้ อำ � นวยการภู มิ ภ าค ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำ�กัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ซี.พี.แลนด์ ตัดสินใจลงทุน สร้างศูนย์ประชุมฯ ในจังหวัดขอนแก่น ด้วยงบ ประมาณกว่า 1,800 ล้านบาท บนพื้นที่ 17 ไร่ ริม ถนนมิ ต รภาพ พื้ น ที่ ใ ช้ ส อยกว่ า 14,000 ตาราง เมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อไตรมาส 1 ปี 2558 สนอง นโยบาย MICE City ของรัฐบาล โดยมีเป้าหมาย ให้ ศู น ย์ ป ระชุ ม และแสดงสิ น ค้ า นานาชาติ ขอนแก่น (Khonkaen International Convention and Exposition Center) หรือ KICE (ไคซ์) เป็นศูนย์ ประชุมและแสดงสินค้า การจัดสัมมนา เพื่อรองรับ การจัดงานทุกรูปแบบ บริ ษั ท ในเครื อ ซี . พี . ได้ มี ก ารลงทุ น ใน ธุรกิจต่างๆ หลากหลายโครงการ ทำ�ตลาดในพื้นที่ ขอนแก่นมานานกว่า 23 ปี เนื่องจากเห็นศักยภาพ ของจังหวัดขอนแก่น ที่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยง และการเติบโตทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด ทำ�ให้ ขอนแก่นมีความโดดเด่นในการลงทุนทางธุรกิจ เกื อ บทุ ก ประเภท ซึ่ ง กลยุ ท ธ์ ข องซี พี แ ลนด์ จ ะมี การลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้มองว่าอยู่ในช่วง เศรษฐกิจขาขึ้นหรือขาลง โดยเฉพาะในภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์กลาง การลงทุนที่ ซี.พี.แลนด์ เข้ามาลงทุนด้วยมูลค่า กว่า 3,000 ล้านบาท นับเป็นการลงทุนมากที่สุด รองจากกรุงเทพฯ โดยเฉพาะโครงการที่กำ�ลังได้รับ ความสนใจมากที่สุด “ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า นานาชาติขอนแก่น หรือ ไคซ์” ซึง่ ใช้งบประมาณใน การก่อสร้างกว่า 1,800 ล้านบาท เป็นโครงการ ศูนย์ ประชุมระดับนานาชาติเพียงแห่งเดียวในพื้นที่ต่าง จังหวัด และมีความมั่นใจว่าการลงทุนศูนย์ KICE ในครัง้ นี้ จะทำ�ให้เศรษฐกิจในจังหวัดขอนแก่น และ ภูมิภาคเติบโต โดยเฉพาะตลาดคอนเวนชั่น เอ็กซิ บิชั่น หรือการจัดงานเอ็กซ์โป เนื่อง KICE มีการ ออกแบบโครงสร้างเพื่อรองรับอุตสาหกรรมหนัก และเป็ น แห่ ง เดี ย วในภู มิ ภ าคที่ มี ค วามเป็ น สากล สามารถรองรับการจัดงานระดับนานาชาติได้ “สำ�หรับความคืบหน้าโครงการ โดยเริ่ม ก่อสร้างตั้งแต่ต้นปี 2558 ขณะนี้อยู่ระหว่างการ ตกแต่งงานด้านสถาปัตย์ทไี่ ด้แรงบันดาลใจจากท้อง ถิ่น เช่น พระธาตุขามแก่น ลายผ้าไหม ต้นคูน และ เน้นความโอ่โถง เรียบหรู ก่อสร้างระบบหลังคา แบบ Long –Span ทำ�ให้อาคารแสดงสินค้า ขนาด 7,510 ตารางเมตร ของศูนย์ฯ ปราศจากเสากลาง จึง เหมาะสำ�หรับการจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรม เครื่องจักรหนัก งานประชุมสัมมนาประจำ�ปีขนาด ใหญ่ รวมถึงการจัดคอนเสิร์ตของนักร้องศิลปิน ระดับนานาชาติ และสามารถรองรับผู้เข้าร่วมงาน ได้กว่า 10,000 คน พื้นที่ภายในโถงนิทรรศการบาง ส่วน ยังรองรับนาํ้ หนักได้ถงึ 2.5 ตัน ต่อ ตารางเมตร มีพื้นที่ลานจอดรถมากกว่า 1,000 คัน รวมถึงทำ�เล ที่ตั้งบนถนนมิตรภาพ ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ทำ�ให้ KICE กลายมาเป็นสถานทีห่ นึง่ เดียว ซึง่ มีความโดด เด่นและเหมาะกับการจัดงานในระดับนานาชาติของ ภูมิภาค” นายอภิชาต กล่าวและว่า สำ � หรั บ ความพร้ อ มที่ จ ะรองรั บ การเปิ ด ใช้งาน KICE ในเดือนธันวาคม 2560 นี้ ได้เตรียม สถานที่จอดรถยนต์เพิ่มจากเดิม สำ�หรับผู้ที่จะเข้า ร่วมงานสามารถนำ�รถยนต์ไปจอดไว้ทบี่ ริเวณสถาน ขนส่งแห่งที่ 3 แล้วนัง่ สมาร์ทบัสเข้ามาที่ KICE เพือ่ หลีกเลี่ยงการจราจรที่แออัด นอกจากนี้ ยังประสาน ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ ประกอบการ และนักธุรกิจ ให้เข้ามาใช้พื้นที่ KICE เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และศักยภาพของ เมืองขอนแก่น โดยมีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการ อย่างเป็นทางการในปี 2561
ผู้อำ�นวยการภูมิภาคฯ ซี.พี.แลนด์กล่าวต่อ ไปว่า ปัจจุบนั มีออร์กาไนเซอร์ให้ความสนใจและลง บุค๊ จองพืน้ ทีส่ �ำ หรับการจัดงานในต้นปี 2561 รวม 6 กิจกรรม ซึง่ ส่วนใหญ่เป็นออร์กาไนเซอร์ในประเทศ 80% โดยเป็นงาน Consumer expo ที่เสมือนยกงาน จากกรุงเทพฯ มาไว้ที่ขอนแก่น เช่น Money Expo, Book Fair และเพือ่ เป็นการเสริมทัพให้เกิดการขยาย ตัวทางเศรษฐกิจเข้าสู่ยุค 4.0 ซี.พี.แลนด์จึงเปิดศูนย์ ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ KICE ให้เกิดการ เชื่อมต่อในธุรกิจ SMEs ก้าวสู่ตลาดอินโดจีน ซึ่งจะ ต่อยอดในการสร้างงาน สร้างอาชีพ และกระจายราย ได้ให้กับคนในท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย เพือ่ ให้กา้ วทันกับนวัตกรรมยุคดิจทิ ลั KICE ได้ประสานความร่วมมือกับ บริษัท ทรูบิสิเนส ใน เครือ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น วางโครงข่ายไฟเบอร์ ออพติค ระบบสื่อสารความเร็วสูงในโครงการศูนย์ ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น เพื่อให้ บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทัง้ แบบมีสาย แบบ ไร้สาย รวมทั้งออกแบบดิจิทัลโซลูชั่น ที่สามารถ ตอบสนองและรองรับการใช้งานทุกรูปแบบของ ศูนย์ประชุมฯ ทั้งนี้ เพื่อรองรับการจัดงานทุกรูป แบบ โดยเฉพาะผู้จัดงาน ออแกไนเซอร์ และหน่วย งานต่างๆ ทีเ่ ข้าใช้พนื้ ที่ รวมทัง้ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตของสังคมปัจจุบันที่มีการใช้สื่อสังคม ออนไลน์เป็นสื่อหลัก นับเป็นการยกระดับการให้ บริการและเพิ่มศักยภาพความพร้อมด้วยระบบสื่อ สารลํ้าสมัย ครบวงจรที่จะก้าวสู่ความเป็นอันดับ หนึ่งในภูมิภาคของประเทศ นายอภิชาต กล่าวต่อว่า ปัจจุบันขอนแก่น ยังไม่มีศูนย์ประชุมฯที่รองรับการจัดงานลักษณะ Trade Expo โดยพื้นที่จัดงานในขอนแก่นมีทั้งหมด 3 แห่งคือ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก ม.ขอนแก่น พื้นที่ประมาณ 2,500 ตารางเมตร ขอน แก่นฮอลล์ ในห้างเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น พื้นที่ ประมาณ 2,000 ตารางเมตร และโรงแรมเซ็นทารา ขอนแก่น พื้นที่ประมาณ 1,500 ตารางเมตร ขณะที่ KICE จะมีขนาดพื้นที่ฮอลล์ 7,510 ตารางเมตร รองรับบูธได้ถึง 420 บูธ พื้นที่เปิดโล่ง ไร้เสาสูง 15 เมตร สามารถรองรับรถบัสได้ พร้อมที่ จอดรถกว่า 1,000 คัน ออกแบบโดยสถาปนิก ดีไซน์ 103 การตกแต่งได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตย์กรรม ท้องถิ่น เช่น พระธาตุขามแก่น ลายผ้าไหม ต้นคูน และรับนํ้าหนักได้ถึง 2.5 ตัน / ตารางเมตร ทำ�ให้ รองรับการจัดแสดงสินค้าอุตสาหกรรมหนักได้ดี กว่า เชื่ อ ว่ า หลั ง เปิ ด บริ ก ารในเดื อ นธั น วาคม 2560 ช่วง 1-2 ปีแรกจะมีอัตราการเช่าพื้นที่ 40% ต่อปี ในปีที่ 3-4 จะมี 50% และปีที่ 5 เป็นต้นไปจะ มีอัตราเช่า 65% ซึ่งถือเป็นมาตรฐาน หรือคิดเป็น จำ�นวนงาน 24 ครั้ง/ปี ครั้งละ 10-15 วัน อัตราค่า เช่าพื้นที่ 120 บาท/ตร.ม./วัน และจะสร้างรายได้ปี ละ 180 ล้านบาทได้ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป วางแผน คืนทุนได้ใน 8 ปี ในช่วงแรกอาจเป็นศูนย์ประชุม ระดับท้องถิ่น ดึงดูดผู้ซื้อเข้าร่วมงานจากในจังหวัด ขอนแก่น 70-80% กับผู้ซื้อในภาคอีสาน และสปป. ลาวอีก 20-30% แต่อนาคตต้องการให้เป็นศูนย์ฯ ระดับนานาชาติ “ยังมีพื้นที่ว่างในบริเวณ KICE อีก 9 ไร่ ซึ่งสามารถขยายเฟส 2 ได้หากมีดีมานด์มากขึ้น ในอนาคต สำ�หรับการพัฒนาโรงแรมเพื่อรองรับผู้ เข้าร่วมประชุม ยังไม่อยู่ในแผนงาน แต่โรงแรมใน จังหวัดขอนแก่นที่มีทั้งหมด 5 พันห้องถือว่าเพียง พอต่อความต้องการอยู่แล้ว” นายอภิชาต กล่าว
สวาท
• ต่อจากหน้า 1
นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธาน คณะกรรมการกลุม่ ค้าชายแดนและค้าข้ามแดน สภา หอการค้าไทย และอดีตประธานหอการค้าจังหวัด อุดรธานี กล่าวถึงการมองถึงสภาวะเศรษฐกิจที่จะ เกิดขึน้ ในอนาคตข้างหน้าของภาคอีสานและจังหวัด อุดรธานี จะต้องมีการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยน ทุก ภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น ต้องบูรณาการ ความคิดเข้าหากันให้เป็นปั้นข้าวเหนียวเข้าด้วยกัน ให้เกิดความแข็งแกร่ง ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ� แบ่งกัน เค้นเอาศักยภาพที่ตนเองมีจุดเด่นออกมาสร้างเพิ่ม กายภาพและศักยภาพทีต่ นเองมีอยูแ่ ล้วประมาณ 40 % อย่ามาแย่งกันทำ�ในสิง่ ทีเ่ หมือนกัน ภาครัฐจะต้อง
ให้การช่วยเหลือเติมเต็มในส่วนทีข่ าดเหลือ และต้อง ตั้งกลุ่มเป็นระเบียงเศรษฐกิจลุ่มแม่นํ้าโขง ด้วยการ ร่วมมือกับทั้งในระดับจังหวัด และระดับประเทศ เพื่อนบ้านที่อยู่ตามแนวแม่นํ้าโขง ร่วมกันสร้าง ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจท้องถิ่น นายสวาทฯ กล่าวว่า สิ่งแรกที่ต้องกล่าว ถึงคือความเป็นมาของความคิด ซึ่งที่มาของความ คิ ด ดั ง กล่ า วนี้ เกิ ด ขึ้ น มาจากความคิ ด ของหลาย ฝ่ายที่พูดคุยกัน ในหลายๆระดับในแวดวงของการ ค้า เศรษฐกิจ การลงทุนและการพัฒนาท้ องถิ่น จากชุมชน หมู่บ้านจังหวัด และในระดับร่วมกัน หน่วยงานระหว่างประเทศ เชิงวิชาการ หลักการ ถึงเศรษฐกิจการค้า การลงทุน โดยมีการมองไปใน ระยะสั้น และยาวของพื้นที่ที่อยู่ติดริมแม่นํ้าโขงที่ เป็นแม่นํ้าสายหลักระหว่างประเทศหลายประเทศ หลายพื้นที่ในภูมิภาคลุ่มแม่นํ้าโขงนี้ โดยเฉพาะ การค้าผ่านแดนเมื่อหลายปีที่ผ่านมาที่ด่านศุลกากร จังหวัดหนองคาย มีมูลค่าการค้าระหว่างภาคอีสาน กั บ สปป.ลาวสู ง ที่ สุ ด แต่ ทุ ก วั น นี้ มี อั ต ราลดลง ด้วยสาเหตุหลายประการ เช่นการเจริญเติบโตด้าน เศรษฐกิจของในพื้นที่ต่างๆ ประกอบกับมาในยุครัฐบาลนี้ มีนโยบาย กระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากหรือ Local Economy เรือ่ งการท่องเทีย่ วในทุกระดับโดยเฉพาะ การท่องเทีย่ วท้องถิน่ จึงเกิดการพัฒนาเส้นทางตาม ริมแม่นํ้าโขงของภาคอีสานจากจังหวัดเลย จนถึง จังหวัดอุบลราชธานีระยะทางกว่า 800 ก.ม. ซึ่ง ตนเองก็ได้มโี อกาสเข้าไปเป็นคณะกรรมการคณะดัง กล่าวด้วย จึงได้นำ�แนวทางการคิด การพัฒนา ต่อย อดในเรือ่ งของการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิน่ เชือ่ มโยง ไปกับจังหวัดตามริมแม่นํ้าโขงและประเทศเพื่อน บ้าน ว่าน่าที่จะทำ�การล้อไปด้วยกันได้ไหม และได้ นำ�เอาแนวคิดนี้เข้าไปปรึกษาพูดกับผู้ใหญ่ในส่วน กลาง และเพือ่ นๆหอการค้าทีอ่ ยูใ่ นจังหวัดชายแดน และทีอ่ ยูใ่ นจังหวัดพืน้ ทีส่ ว่ นในหลายแห่ง ก็มคี วาม เห็นที่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะในเรื่องของการรวม ตัวตั้งเป็น”ระเบียงเศรษฐกิจลุ่มนํ้าโขง” จากรูปแบบของการพัฒนาปรับปรุง ลงทุน ในกิจการท่องเที่ยวท้องถิ่นที่เป็นการร่วมมือกันทั้ง ภาคเอกชน ประชาชน และภาครัฐ ตนจึงมองเห็น แนวปรัชญาการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นในพื้นที่ ต่างๆของภาคอีสาน สามารถที่จะนำ�เอาแนวทาง ดังกล่าว มาต่อยอดในการพัฒนาปรับปรุงเศรษฐกิจ ได้ โดยเฉพาะในพืน้ ทีภ่ าคอีสานนัน้ หลายๆจังหวัดมี กายภาพ ศักยภาพทีโ่ ดดเด่นมากไปหามากทีส่ ดุ แล้ว ประมาณ 40% แต่ปรากฏว่าทีผ่ า่ นๆมานัน้ ยังไม่ได้มี การนำ�เอาสิง่ เหล่านัน้ ทีม่ อี ยูแ่ ต่ละพืน้ ทีอ่ อกมาใช้กนั อย่างเต็มที่แต่ละพื้นที่มีศักยภาพ กายภาพที่ตนเอง มีเท่านั้นและยิ่งหากว่ามีภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเติม เต็มในส่วนที่ขาดเหลือ เชื่อว่า ระเบียงเศรษฐกิจลุ่ม นํ้าโขง และภาคอีสานสามารถที่จะเดินไปได้ด้วย ตนเอง จะสามารถเดินหน้าบรรลุสเู่ ป้าหมายได้อย่าง แน่นอน ซึ่งสิ่งที่จะต้องทำ�ในทันทีคือ เปลี่ยนแนว ความคิดต่อภาพลักษณ์ที่ภาคอีสานมีมาโดยตลอด ว่า “ภาคอีสานนั้นเป็นเพียงแค่ท้ายขบวนเท่านั้น ในด้านต่างๆ ให้กลับมาคิดใหม่ว่า ต้องทำ�ให้ภาค อีสานมาเป็นหัวขบวน” ซึง่ จะทำ�ให้ภาพลักษณ์ของ ภาคอีสานที่มีมาโดยตลลอด ก็จะเข้าไปมีส่วนร่วม กับกลุ่มประเทศลุ่มแม่นํ้าโขงหรือ GMSได้อย่างไร ก็จะผลส่งให้ภาคอีสานได้เข้าไปเป็นส่วนร่วมใน เวทีของกลุ่มประเทศลุ่มนํ้าโขง จึงเกิดความคิดว่า จะต้องมีการรวมตัวกันในกลุ่มจังหวัดภาคอีสาน เป็น”ระเบียงเศรษฐกิจลุ่มแม่นํ้าโขง” ดังกล่าว สิ่งต่อมาคนไทยจะต้องมีความคิดใหม่ อย่า คิดว่าตัวเองเป็นพี่ใหญ่ในกลุ่มประเทศลุ่มนํ้าโขง แล้วอยูเ่ ฉยๆ ต้องหันไปมองประเทศในกลุม่ ลุม่ แม่นํ้ าโขง หรือ GMS ที่ประกอบไปด้วย ประเทศ สปป. ลาว,เมียนมาร์, กัมพูชา และประเทศเวียดนาม หรือ ในชื่อใหม่คือ กลุ่มประเทศ CLMV ในยุคนี้ใหม่ เพราะประเทศกลุ่มนี้ในยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปเป็น อย่างมาก ล้วนแต่มีการเติบโตในทุกด้านที่ค่อนข้าง น่ากลัวมาก ในขณะที่ประเทศไทย คนไทย มัวแต่ มองดูอยู่เฉยๆ หรือ ไม่ขยับเขยื้อนอะไรเลย หรือ ทำ�ก็เพียงเล็กน้อยไม่มีการต่อเนื่อง ในวันข้างหน้า ก็จะเสียเปรียบหรือสายเกินแก้ จำ�เป็นอย่างยิ่งที่ทุก ฝ่าย ทุกระดับ จะต้องหันมาให้ความสำ�คัญในกรณี ดังกล่าว เพราะระยะเวลาของการแข่งขันไม่เคย
มีคำ�ว่ารอหรือช้าอยู่ ต้องมีการเตรียมความพร้อม หรื อ ลงมื อ กระทำ � ในทุ ก ๆด้ า น ทั้ ง ๆที่ เ ราเองนั้ น หลายๆประเทศมองเราว่ามีความแข็งแกร่ง มีความ พร้ อ มในทุ ก ด้ า นมากกว่ า หลายประเทศในกลุ่ ม ประเทศอาเซียน ทำ�ให้เราไม่ได้หันกลับไปมองว่า ประเทศเหล่านัน้ เขามีการพัฒนาเติบโตในด้านความ แข็งแกร่งตามเรามาติดๆ จนบางอย่าง บางด้าน ได้ ก้าวข้ามเราไปแล้ว มองมาที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัด ที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านเฉพาะพื้นที่ ประเทศ สปป.ลาว, พม่า และให้มองแคบลงมาที่ ภาคอีสานตอนบน ที่มีพื้นติดต่อกับประเทศ สปป. ลาวจากจังหวัดเลย ไปจนถึงจังหวัดอุบลราชธานี ระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่ทั้งสอง ฝ่ า ยมี ค วามเหมื อ น ที่ มี ค วามเหมื อ นที่ เ ป็ น เนื้ อ เดียวกัน ทั้งภาษาพูด ประเพณีวัฒนธรรม รวมไป ถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน และเป็น พื้นที่ที่มีการค้าชายแดน การค้าผ่านแดนที่มีตัวเลข ที่สูงมาก เฉพาะที่ด่านศุลกากรจังหวัดหนองคาย ในหลายๆปีที่ผ่านได้ชื่อเป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าการค้า ชายแดน การค้าผ่านแดนรวมที่มีตัวเลขสูงที่สุด ซึ่ง เป็นปัจจัยที่สร้างรายได้ให้กับประเทศที่หลายๆฝ่าย จับตามองดู แต่ในความเปลีย่ นแปลงในหลายๆด้าน ก็ทำ�ให้มีหลายพื้นที่มาช่วยเป็นส่วนแบ่งไป เช่น ด่านศุลกากรนครพนม ด่านศุลกากรมุกดาหาร และ จังหวัดน้องใหม่ บึงกาฬ ก็มีตัวเลขการค้าชายแดน เพิ่มขึ้น หากแต่มองโดยภาพรวมแล้ว เศรษฐกิจการ ค้าชายแดน การค้าผ่านแดนของภาคอีสานตอนบน ก็ยังถือว่าเป็นพระเอกอยู่ นายสวาทฯ กล่ า วเพิ่ ม เติ ม อี ก ว่ า ความ สำ�คัญของระเบียงเศรษฐกิจลุ่มนํ้าโขง คือจะทำ�ให้ ภาคอีสาน เกิดการรวมตัวกันในหลายๆด้าน ทั้ง การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว เศรษฐกิจในท้อง ที่ ให้สามารถผลักดันเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งอยู่ใน เวทีแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศลุ่ม แม่นํ้าโขง นั่นคือคือความคิด และความต้องการที่ อยากจะให้เกิดขึ้น แต่หากต้องการที่จะให้เป็นรูป ธรรมได้นั้น ทุกจังหวัดของภาคอีสาน ต้องร่วม กันแสดงความมีศักยภาพ กายภาพของตนเองออก มา เพราะว่าภาคอีสานเรามีศักยภาพอยู่แล้ว แต่ไม่ ค่อยมีการนำ�เอาออกมาใช้ หรือเมื่อเอาออกมาใช้ก็ เป็นการแห่ตามกันไป เช่น ในพื้นที่ของภาคอีสาน มีการเกษตรเป็นหลัก โดยเฉพาะในภาคอีสานตอน บนสุดของภาค มีพืชเศรษฐกิจหลัก คือ ข้าว มัน สำ�ปะหลัง อ้อย ยางพารา ปีใดราคาพืชชนิดใดมี ราคา ก็พากันเปลี่ยนไปปลูกตามกัน จนทำ�ให้เกิด ผลกระทบด้านการตลาด สมควรที่จะมีการจัดการ บริหารพื้นที่การเพาะปลูกให้มีความเหมาะสมกับ พืน้ ทีน่ นั้ ๆ พืน้ ทีใ่ ดมีความเหมาะสมกับพืชชนิดใด ก็ จำ�กัดอยูเ่ ฉพาะพืชชนิดนัน้ ไม่ใช่ปไี หนพืชชนิดใดมี ราคา ก็แห่ปลูกกันจนล้นตลาด จนทำ�ให้ราคาตกตํ่า และยังเป็นการสร้างผลกระทบต่อตลาดอีกด้วย จะ ต้องมีการกำ�หนดกิจกรรม ในแต่ละพื้นที่ตามความ เหมาะสม และศักยภาพในแต่ละพืน้ ที ่ ทีไ่ ม่มเี หมือน กัน แต่อย่างไรก็ตามภาครัฐจะต้องมาช่วยเติม เต็มในส่วนที่เรายังขาดอยู่ เช่นจังหวัดไหน พื้นที่ ใด จะมีการลงทุนกิจการอะไร ไม่ว่าจะเป็นกิจการ สาธารณูปโภค สร้างโรงพยาบาล สร้างศูนย์สุขภาพ สร้างโรงแรม สร้างแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น ฯลฯ ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ นายสวาทฯ กล่าวแสดงความเชื่อมั่นใน พื้นที่ภาคอีสานและการรวมตัวเป็นระเบียงเศรษฐ กิจลุ่มนํ้าโขงโดยมีส่วนหนึ่งเป็นภาคอีสานว่า ใน ภาคอีสานเกือบทุกพื้นที่มีศักยภาพ กายภาพ ที่โดด เด่นอยูแ่ ล้วส่วนหนึง่ เช่น สนามบินจังหวัดอุดรธานี ขณะนี้ ไ ด้ มี ก ารพั ฒ นาด้ า นต่ า งๆ หรื อ แผนการ พัฒนาจังหวัดที่มีเป้าหมายที่จะให้เป็นพื้นที่การ ส่งออก หรือท่องเที่ยวก็มีการขับเคลื่อนออกมาใน หลายรูปแบบ ตัวกลุม่ จังหวัดภาคอีสานตอนบน 1 ที่ มี 5 จังหวัด ต่างก็มแี ผนในการพัฒนาในหลายๆ ด้าน อย่างไรก็ตามก็ยงั ขาดในด้านการสนับสนุนจากภาค รัฐในบางส่วนอยู่
Solutions ได้รับความสนใจจากชาวไอทีจังหวัด ขอนแก่นเป็นจำ�นวนมาก โดย ได้รับเกียรติจากผู้ บริหาร อาทิ นายโทโมยูกิ ฟูจิโมโตะ กรรมการผู้ จัดการ, นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้อำ�นวยการฝ่าย ขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำ�กัด ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ พร้อมทัง้ ยังมีวทิ ยากรพิเศษ ผศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิ ก ารบดี ฝ่ า ยวิ ช าการและสื่ อ สารองค์ ก ร มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ดร.ปริญญา หอมเอนก กู รู ด้ า นระบบความปลอดภั ย ทางไซเบอร์ ชื่ อ ดั ง ของเมืองไทย ได้ร่วมให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์แก่ ตัวแทนจำ�หน่ายทัว่ ภาคอีสาน ทีเ่ ข้าร่วมงาน เมือ่ วัน ที่ 3 สิงหาคม ทีผ่ า่ นมา ณ โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮ เทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดขอนแก่น โดยในงานครัง้ นีม้ กี ารบรรยายเกีย่ วกับเรือ่ ง ของโซลูชั่นและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับโลก ของดิจิตอล พร้อมทั้งยังมีการจัดแสดงบูธสาธิต ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วยโซลูชั่น 3 อย่างหลัก ได้แก่ โซลูชั่นด้านการพิมพ์และความปลอดภัย, โซลูชั่น การจัดการด้านลาเบลลิ่งที่ประยุกต์และอัพเดตต่อ โลกอนาคต, และโซลูชั่นเรื่องการสแกนนิ่งที่ช่วย ให้องค์กรสามารถจัดการเรื่องเอกสารให้เป็นไปได้ อย่างง่ายและสะดวกรวดเร็วมากขึ้น นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้อำ�นวยการฝ่าย ขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำ�กัด กล่าวว่า ปัจจุบัน บราเดอร์ ซึ่ง เป็นผูบ้ กุ เบิกตลาดเครือ่ งพิมพ์ฉลากในประเทศไทย มานานกว่า 15 ปี และเป็นเครื่องพิมพ์ฉลากที่รู้จัก อย่างแพร่หลาย โดยมีสินค้าที่สามารถรองรับการ ทำ�งานได้ทุกกลุ่ม อาทิ Personal Use นิยมใช้ใน กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป Office Use เป็นกลุ่มงานใน ออฟฟิศ และ Industrial Use สำ�หรับการใช้งานใน กลุ่มอุตสาหกรรม ปั จ จุ บั น อั ต ราการเติ บ โตของตลาด “เครือ่ งพิมพ์ฉลาก” เพิม่ มากขึน้ เนือ่ งจากใช้งานง่าย สะดวกสบาย และมีรูปแบบสวยงามน่าใช้ ซึ่ง “บรา เดอร์” ถือเป็นส่วนหนึง่ ทีส่ ง่ เสริมให้ความรูเ้ พือ่ ให้มี ความเหมาะสมกับการใช้งาน รวมถึงจุดเด่นทีส่ �ำ คัญ ของสินค้า คือเทปลามิเนต ที่มีคุณสมบัติทนทาน ต่อการใช้งาน และยังสามารถทนความร้อนได้สูง ถึง 150 องศาเซลเซียส ทนความเย็นได้ถึง -80 องศา เซลเซียส ทนต่อสารเคมี นํ้า ป้องกันรอยขีดข่วน และยึดเกาะกับพื้นผิวที่มีความโค้งได้ดีอีกด้วย นายธีรวุธ กล่าวต่อว่า ล่าสุด บริษัท บราเด อร์ คอมเมอร์เชี่ยล เปิดตัวสินค้าเครื่องพิมพ์ฉลาก P-TOUCH PT-P300BT หรือเรียกว่า P-TOUCH CUBE ซึ่งออกแบบให้เป็นเครื่องพิมพ์ฉลากแบบ พกพา เพื่อเจาะกลุ่มตลาดผู้ใช้งานทั่วไป โดยเน้น การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะ หรือคา แร็กเตอร์ตัวการ์ตูนต่างๆ เช่น เครื่องพิมพ์ฉลาก ขนาดเล็ก ลาย Hello Kitty, เครื่องพิมพ์ฉลากขนาด เล็ก ลาย Rilakkuma สำ�หรับเครื่องพิมพ์ฉลากรุ่น P-TOUCH CUBE ได้ ว างแผนขยายตลาดไปยั ง กลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน ด้วยจุดเด่นที่สามารถใช้งาน ร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ และมีดีไซน์ผลิตภัณฑ์ที่โดด เด่น ทันสมัย รวมถึงขยายช่องทางการจัดจำ�หน่าย ไปยังผู้จัดจำ�หน่ายสมาร์ทโฟน และด้วยดีไซน์ของ P-TOUCH CUBE ที่มีความทันสมัย บราเดอร์ จึง ได้เพิ่มช่องทางการจัดจำ�หน่ายไปยัง iStudio/iBeat by Copperwired และ Dotlife by Copperwired P-TOUCH CUBE สามารถใช้ ง านร่ ว ม กั บ สมาร์ ท โฟน พร้ อ มออกแบบการใช้ ง านให้ ตอบสนองไลฟ์ ส ไตล์ ข องกลุ่ ม คนรุ่ น ใหม่ เพี ย ง แค่ มี สมาร์ ท โฟนและแอพพลิ เ คชั่ น ‘Brother P-touch Design&Print’ ซึ่งรองรับทั้งระบบ IOS และ Android และเชื่อมต่อกับเครื่องพิมพ์ฉลาก P-TOUCH CUBE ผ่านสัญญาณ Bluetooth ผู้ใช้ งานก็สามารถออกแบบฉลากด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นที่มีทั้งแบบอักษร ขนาด กรอบ และสัญลักษณ์ตา่ งๆ ให้เลือกสร้างสรรค์ได้ตามไลฟ์ สไตล์และเหมาะสมกับรูปแบบงานทีน่ �ำ ไปใช้ พร้อม แสดงผลฉลากก่อนพิมพ์ได้ทั้งสี รูปแบบตัวอักษร และพื้นหลังเพื่อความถูกต้องก่อนสั่งพิมพ์ อีกทั้ง “Brother” • ต่อจากหน้า 1 สามารถบันทึกรูปแบบการพิมพ์ของผูใ้ ช้งานไว้ เพือ่ ความสะดวก ในการปรับเปลีย่ นแก้ไขจากดีไซน์เดิม “Brother” ประสบความสำ�เร็จด้วยดีกับ รวมทั้งออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด และด้วย งานสัมมนา The New Era of Digital for Business นํ้าหนักเพียง 380 กรัม จึงสามารถพกพาได้สะดวก
เหมาะกับการใช้งาน ทั้งที่บ้านและสำ�นักงาน ทั้งยัง พิมพ์ด้วยความเร็วสูงถึง 20 มิลลิเมตร/วินาที “ทั้ ง นี้ การใช้ ง านเครื่ อ งพิ ม พ์ ฉ ลาก P-TOUCH CUBE สามารถใช้งานได้หลากหลาย อาทิ พิ ม พ์ ฉ ลากเพื่ อ ใช้ แ ปะเอกสารในออฟฟิ ศ เครื่ อ งมื อ ช่ า งในบ้ า น ในสวน ที่ เ ก็ บ ของต่ า งๆ อุปกรณ์เครื่องครัว และสิ่งของเครื่องใช้สำ�หรับ ภายในบ้าน โดยเริ่มวางจำ�หน่ายในราคาเพียง 1,990 บาท” นายธีรวุธ กล่าว
ขับเคลื่อนเมือง ขก • ต่อจากหน้า 1 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2560 ที่ห้องประชุม กองอำ � นวยการรั ก ษาความมั่ น คงภายในจั ง หวั ด ขอนแก่น (กอ.รมน.ขอนแก่น) ชั้น 5 ศาลากลาง จังหวัดขอนแก่น โดยมี พ.อ.จตุรพงศ์ บกบน ผู้ ประสานภารกิ จ ศู น ย์ อำ � นวยการป้ อ งกั น และ ปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียง เหนือ (ศอ.ปส.ชอน.) เป็นประธานการประชุมหารือ ร่วมกับภาคเอกชน ในการขับเคลือ่ นเมืองขอนแก่น สู่การเป็นมหานครอย่างยั่งยืน โดยมี พ.อ.กาจบดิน ทร์ ยิง่ ดอน รอง ผอ.รมน.จว.ขอนแก่น, นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น, นาย อดิเรก หงส์พูนพิพัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยหน่วยงานด้านความ มั่นคง, องค์กรเศรษฐกิจจังหวัดขอนแก่นและเครือ ข่าย และภาคเอกชน เข้าร่วมประชุมหารือ เสนอ ความคืบหน้า ปัญหาและอุปสรรคของโครงการที่ ภาคเอกชน ร่วมกับภาครัฐ ได้ร่วมในการขับเคลื่อน เมืองขอนแก่น สู่การเป็นมหานครอย่างยั่งยืน นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้า จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ปัจจุบนั องค์กรเศรษฐกิจ จั ง หวั ด ขอนแก่ น และเครื อ ข่ า ย ประกอบด้ ว ย หอการค้ า จั ง หวั ด ฯ สภาอุ ต สาหกรรมจั ง หวั ด ฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำ�นักงานภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ชมรมธนาคารจังหวัดขอนแก่น สมาคม ส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อมไทยจังหวัดขอนแก่น สมาคมธุรกิจการ ท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น สมาคมศิษย์เก่า MBA มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะบริหารธุรกิจและบัญชี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง (KKTT) จำ�กัด มีการ ดำ�เนินโครงการต่างๆ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อน และ พัฒนาเมืองขอนแก่นให้ก้าวสู่เป้าหมาย การร่วมประชุมกับหน่วยงานความมั่นคง ในครั้งนี้ เพื่อนำ�เสนอความคืบหน้า ปัญหา และอุป สรรค์ของการจัดทำ�โครงการต่างๆ ที่ภาคเอกชนได้ ดำ�เนินการร่วมกับหน่วยงานส่วนราชการและภาค ประชาชน เพื่อให้การขับเคลื่อนพัฒนาเมืองก้าวสู่ เป้าหมายการเป็นมหานคร และยังเป็นการเตรียม พร้อมรองรับการแก้ปญ ั หาทีเ่ กิดจากการเจริญเติบโต ทางวัตถุสงั คมเมือง ซึง่ ปัจจุบนั ภาคเอกชนได้ด�ำ เนิน การผลักดันและขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อ ประชาชนโดยส่วนรวม อาทิ การเปิดเส้นทางรถ โดยสารสาธารณะ สมาร์ทบัสเพิ่ม โดยให้บริการ ระหว่าง บขส.3 ถึงสนามบินขอนแก่น การแก้ปญ ั หา แท็กซีไ่ ม่กดมิเตอร์ และยังมีอกี หลายโครงการทีภ่ าค เอกชนกำ�ลังดำ�เนินการ โดยมีคณะกรรมการผู้ร่วม ก่อตั้ง บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง หรือ KKTT จะ ได้นำ�เสนอต่อไป ด้ า น นายกมลพงษ์ สงวนตระกู ล คณะ กรรมการผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง กล่าวว่า โครงการทีภ่ าคเอกชนจังหวัดขอนแก่น ร่วม กันขับเคลื่อน อาทิ โครงการท่าเรือบก (Dry Port) โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึง่ จะเป็นศูนย์กลาง การขนส่งสินค้า ใช้รถไฟเป็นตัวเชือ่ มสินค้าจากภาค อีสานสูท่ า่ เรือแหลมฉบัง หรือออกไปประเทศเพือ่ น บ้าน และประเทศจีน ต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม พื้นที่ท่าเรือบกที่กำ�ลังจัดตั้งขึ้นในชื่อ “ศูนย์โลจิสติ กปาร์ค” ยังมีโรงงานอุตสาหกรรมด้านการเกษตร เพิม่ ขึน้ ซึง่ จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิม่ และลดต้นทุน การขนส่ง และยังเป็นผลดีตอ่ เกษตรกรภาคอีสาน ที่ จะสามารถแข่งขันกับกับประเทศเพื่อนบ้านได้ อ่านต่อหน้า 2
สนใจพื้นที่โฆษณา ติดต่อ คุณสุพัตรา thaisaeree@gmail.com thaisaeree@yahoo.com
หน้า 12
ปีที่ 15 ฉบับที่ 159 ประจำ�เดือนสิงหาคม 2560
ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา สุพัตรา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,
ประคอง หนู ร าช,พั น ธ์ ศั ก ดิ์ วี ร ะชั ย ,เสริ ม ศั ก ดิ์ ขาวโกมล สำ�นั ก งาน 76 ม.20 ถ.กสิ ก รทุ่ ง สร้ า ง ต.ศิ ล า อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น 40000 โทรศั พ ท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย ภัทรวินทร์ ลีปาน 92 หมู่ 1 ต.บ้าน ่ รึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอือ้ ดีไซน์ 08-3417-0363 ว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 43110 โทรศัพท์ 087-8627979 E-mail : pattarawin2519@hotmail.co.th ทีป