หนังสือพิมพ์ไทยเสรี ฉบับที่ 160

Page 1

ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนกั น นกยายน า ร 2560 ณ์

ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่

w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1

ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ประจำ�เดือนกันยายน 2560 ราคา 10 บาท

“ตัก๊ กีแ้ ลมป์”หลอดไฟซ่อมได้ แสงสบายตา ประหยัดค่าไฟ พร้อมเปิดตัวลุยตลาดทัว่ โลก

มอบเครื่องประดิษฐ์กลีบดอกไม้จันทน์ ; บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด ร่วมกับ บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด โดย นายโชคชัย คุณวาสี ประธานบริหาร บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด พร้อมคณะ นำ�เครื่องประดิษฐ์กลีบดอกไม้จันทน์ มอบให้กับ โรงเรียนบ้านหว้าเหล่าโพนทอง ประชานุกลู โดยมี คณะครู นักเรียน และชาวชุมชนเข้าร่วมรับมอบ ณ โรงเรียนบ้านหว้าเหล่าโพนทอง ประชานุกูล อ.เมือง จ.ขอนแก่น

่ ง เดี ย วในประเทศไทย เซ็ น ทรั ล ลิ ตี้ ลุ ก ยึ ด พื้ น ที่ อุ ด รธานี “โฟกัสแอด”รุกปรับธุรกิจ หนึ “ตั๊กกี้แลมป์” หลอดไฟฟ้า

กรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียน ภาคอีสาน ; นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธาน สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เป็นประธานการประชุมประจำ�ปี คณะกรรมการพิจารณา เรื่องร้องเรียนภายในองค์กร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมี พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ ประธานกรรมการฯ พร้อมคณะกรรมการ ผูท้ รงคุณวุฒิ และสือ่ มวลชนจังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมประชุมและสังเกตการณ์ ณ ห้องกรีนบี โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น

สื่อโฆษณา ผลิตนวัตกรรม LED ซ่อมได้ ลดปริมาณ เชื่อมโยงค้าปลีก-ส่งอีสานตอนบน สานยุทธ์ศาสตร์ ปั้นอุดรธานี เป็นศูนย์กลางการ ขยะเป็ น พิ ษ หลั ง ทดลองใช้ เทคโนโลยีแบบใหม่ยกระดับ งานมาแล้วกว่าหนึง่ ปี พร้อม ค้าปลีก-ส่ง อีสานเหนือ เปิด “ท็อปส์ ซูเปอร์ ” หนองหาน บนถนนเศรษฐกิจเส้นใหม่ ให้ ทั ด เที ย มระดั บ สากล แล้วทีจ่ ะเปิดตัวให้ได้ทดลอง สโตร์ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างเศรษฐกิจท้องถิน่ และ

โฟกัสแอด ปรับธุรกิจสื่อโฆษณา ใช้งาน และเตรียมแผนขยาย ให้สินค้า OTOP เข้าไปวางขายได้ อ่านต่อหน้า 11 ให้เข้าถึงความต้องการของทุก ฐานไปทั่วโลก อ่านต่อหน้า 11 เครือข่าย นสพ.ภาคอีสาน เดินหน้ากำ�กับดูแลกันเอง กลุ่มลูกค้า พร้อมพัฒนาสินค้า ธุ ร กิ จ อสั ง หาอุ ด รฯ ลดความแออั ด สะดวกมากยิ ง ่ ขึ น ้ สิ ้ น เปลื ้ อ งให้ ส ามารถสร้ า งรายได้ เลือก“พิสษิ ฐ์”นัง่ ประธานพิจารณาเรือ่ งร้องเรียนคนแรก ปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมของ ไตรมาส 2 เริม่ โงหัวขึน้ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่ง คณะกรรมการพิ จ ารณาเรื่ อ งร้ อ งเรี ย นภายใน สมาคมอสังหาฯอุดรธานี ออกมาแจง ไตรมาส ที่ 1 ยกเลิกกรอกใบ ตม.6 เข้าออกประเทศ ผู บ ้ ริ โ ภคที เ ่ ปลี ย ่ นไป โดยเฉพาะ 2 ของปีนี้ ธุรกิจอสังหาาฯ เริ่มโงหัวขึ้น บ้าน แก้ปัญหาความแออัด และลดความล่าช้า ส่ง องค์กร ภาคอีสาน จัดประชุมประจำ�ปี เลือก ลดลงจากหลักพันเหลือเพียงหลัก “พิสิษฐ์” เป็นประธานฯคนแรก “ชวรงค์” ได้ สือ่ ดิจติ อลออนไลน์ ทีส่ ามารถเข้า ติร้อดยมือบ้เริาม่ นทาวน์ เฮ้าส์ มีการโอนกรรมสิทธิ์ ผลให้การเดินทางเข้า-ออกได้สะดวก และ มาชี้แนะแนวทางดำ�เนินงานและตอบข้อข้องใจ ถึงทุกกลุ่ม ทุกชนชั้น และทุก เพิ่มมากขึ้น ขณะที่บ้านหรูราคากว่า 5 ล้าน รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่ประสิทธิภาพในการ อ่านต่อหน้า 11 อ่านต่อหน้า 11 ขึ้นไป ก็ขายได้เรื่อยๆ อ่านต่อหน้า 11 ทำ�งานยังคงเดิม บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการฯ อ่านต่อหน้า 11 เพศทุกวัย

ยกเลิ ก กรอกใบตม.6


หน้า 2

ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ประจำ�เดือนกันยายน 2560

โรงแรมพูลแมน ขอนแก่นฯ คว้ารางวัลการแข่งขันแกะสลัก นครขอนแก่นลงนาม MOU ติดตั้งกล้อง ผักผลไม้ผสานงานดอกไม้สดและใบตอง ประจำ�ปี 2560 CCTV ป้องกันอุบตั เิ หตุในเมืองขอนแก่น พร้อมแล้วสำ�หรับการก้าวสู่ เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ “ขอนแก่นมหานคร” อย่างภาคภูมิใจ

โรงแรมพู ล แมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เข้าร่วมการแข่งขันแกะ สลั ก ผั ก -ผลไม้ ผสานงานดอกไม้ สดและใบตอง ครั้งที่ ๑๙ ในหัวข้อ “เฉลิมทศวรรษพระราชปณิธานสาน ฝันศิลป์ นวมินทรามหาราชินีจักรี พิภพ” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ เพือ่ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาส ที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 85 พรรษา ณ โรงแรม แกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน โดยผลของการแข่ ง ขั น ครั้ ง นี้ ที ม ของ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่นฯ คว้ารางวัลชมเชย จาก ผูเ้ ข้าร่วมมืออาชีพกว่า 25 ทีม ซึง่ คอนเซปท์ในการ ออกแบบคือการนำ�พระราชปณิธาน และโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริของสมเด็จพระนาง

นสพ.ภาคอิสาน

เจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ มาสือ่ สารผ่านผลงานแกะ สลักผักผลไม้ผสานงานดอกไม้สดและใบตอง โดย การร่วมมือของตัวแทนพนักงานทุกฝ่ายของโรง แรมฯ ทั้งแผนกออกแบบ พ่อครัว แม่บ้าน ซึ่งเป็น อีกหนึ่งในความภาคภูมิใจของทางพนักงานและผู้ บริหารโรงแรมฯ ทุกคน

• ต่อจากหน้า 11 กำ�กับดูแลกันเอง ส่วนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ก็จะถูก

รับผลกระทบจากการเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ สมาชิกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่วันนี้ มีทั้งหมด 7 ฉบับ นอกจากนี้ยังสามารถหยิบยก ปัญหาด้านจริยธรรมของหนังสือพิมพ์สมาชิก ขึ้น มาพิจารณาในคณะกรรมการได้ ส่วนที่มีคำ�ถามว่า ถ้าไม่ได้เป็นสมาชิกเราจะตรวจสอบได้อย่างไรนั้น ซึ่งเรื่องนี้นายชวรงค์ กล่าวว่า แม้เราจะ เข้ า ไปตรวจสอบไม่ ไ ด้ แต่ เ ราสามารถรวบรวม เรื่องที่อาจจะมีผู้ร้องเรียนผ่านมาทางเรา ส่งไปยัง หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นได้ เพื่อให้เขาได้ชี้แจงให้ผู้ ร้องเรียนทราบ แต่ในอนาคตหากมีสภาวิชาชีพ สื่อมวลชนแห่งชาติเกิดขึ้น การดำ�เนินการก็อาจจะ ใช้ระบบ 2 สภา ซึ่งถือว่าเป็นประเทศเดียวในโลก ที่จะใช้ระบบนี้ คือ หนังสือพิมพ์ที่เป็นสมาชิกสภา การหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ก็จะถูกกำ�กับดูแลโดย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ตามแนวทางการ

กำ�กับดูแลโดยสภาสือ่ มวลชนแห่งชาติ ซึง่ อาจมีบท ลงโทษทางอาญา จากนั้ น ได้ เ ข้ า สู่ ร ะเบี ย บวาระการเลื อ ก ประธานคณะกรรมการ โดยที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ ให้ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ เป็นประธานกรรมการฯ โดยมี ผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด เป็นรองประธาน และนายปฏิวัติ เฉลิมชาติ เป็นเลขานุการ นอกจาก นี้ ที่ ป ระชุ ม ยั ง ได้ กำ � หนดแผนการดำ � เนิ น งาน ในปี นี้ โดยจะมี ก ารจั ด สั ม มนา จั ด อบรมเพื่ อ ให้ หนังสือพิมพ์ทั้งที่เป็นสมาชิก และไม่เป็นสมาชิก เพื่ อ ให้ ก ารดำ � เนิ น การของหนั ง สื อ พิ ม พ์ ใ นส่ ว น ภูมิภาคเป็นไปตามหลักจริยธรรมวิชาชีพ เพื่อเพิ่ม องค์ความรู้ให้กับสมาชิกในโอกาสต่อไป ส่วนราย ละเอียดการดำ�เนินการนั้น คณะกรรมการฯ จะไป วางแผน และจัดการประชุมกันอีกครั้ง

นครขอนแก่นจับมือ ม.ขอนแก่น ลง นาม MOU พัฒนาเป็นเทศบาลดิจทิ ลั

เทศบาลนครขอนแก่ น ลงนามข้ อ ตกลงความร่ ว มมื อ มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น ภายใต้ โครงการพั ฒ นาเทศบาลนคร ขอนแก่ น สู่ เ ทศบาลดิ จิ ทั ล เพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพการให้ บ ริ ก าร ประชาชนและการบริหารจัดการ องค์กร สนองตอบนโยบายของ รัฐบาลตามแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันที่ 4 ก.ย.60 ที่ห้องประชุมสารสิน อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น รศ.ดร. กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัย ขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น ได้ทำ�พิธีลงนามข้อตกลงความร่วม มือ ภายใต้โครงการพัฒนาเทศบาลนครขอนแก่น สู่เทศบาลดิจิทัล ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการ ให้บริการประชาชนและการบริหารจัดการองค์กร ให้มีการใช้เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับนโยบาย ของรัฐบาลตามแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ การให้บริการประชาชนด้วยเทคโนโลยีด้านดิจิทัล ซึ่ ง สอดรั บ กั บ ภารกิ จ ด้ า นวิ ช าการของภาควิ ช า วิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มข. การ บริการด้านความรู้ งานวิจัย บริการให้คำ�ปรึกษา จึงได้ร่วมมือกันพัฒนาดิจิทัล ในการประยุกต์ใช้ ให้ถูกต้องเหมาะสมและคุ้มค่าอย่างมีประสิทธิผล และประสิทธิภาพ โดยมี ท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่น คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มข. คณบดีวิทยาลัยการ ปกครองส่วนท้องถิ่น มข. สมาชิกสภาเทศบาล นครขอนแก่น หัวหน้าส่วนราชการ และพนักงาน เทศบาล ร่วมเป็นสักขีพยาน นายธี ร ะศั ก ดิ์ กล่ า วว่ า เทศบาลนคร ขอนแก่ น พร้ อ มจะขั บ เคลื่ อ นภายใต้ วิ สั ย ทั ศ น์ “พั ฒ นาสู่ ส ากล สร้ า งสั ง คมแห่ ง ความสุ ข ” ซึ่ ง เป็นการเพิม่ ประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน และการบริ ห ารจั ด การองค์ ก ร ให้ มี ก ารใช้ เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ตามแผนพั ฒ นาดิ จิ ทั ล เพื่ อ เศรษฐกิ จ และสั ง คม

พ.ศ. 2559 ที่รัฐบาลประกาศบังคับใช้ในในการ ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ด้วยการให้บริการ ประชาชนด้วยเทคโนโลยีด้านดิจิทัล การดำ � เนิ น การให้ เ กิ ด ความยั่ ง ยื น นั้ น ต้องอาศัยหน่วยงานภาคีเครือข่ายในการร่วมกัน ขั บ เคลื่ อ น ทั้ ง นี้ จั ง หวั ด ขอนแก่ น มี ค วามโชคดี ที่มีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งมีคณาจารย์ผู้มาก ด้ ว ยความรู้ ค วามสามารถ และมี ค วามยิ น ดี ใ ห้ ความช่วยเหลือ สนับสนุน ถ่ายทอด ความรู้และ ประสบการณ์ในการช่วยขับเคลื่อนเทศบาลนคร ขอนแก่นให้สู่จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งนับเป็นก้าวที่ สำ�คัญของเทศบาลนครขอนแก่นที่จะพัฒนาไปสู่ เทศบาลดิจิทัลอย่างแท้จริง นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวต่อว่า สำ�หรับการประยุกต์ใช้ถูกต้อง เหมาะสมและคุ้ม ค่าอย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องมีการลงนามข้อ ตกลงความร่วมมือในโครงการพัฒนาเทศบาลนคร ขอนแก่นสู่เทศบาลดิจิทัลระหว่าง ม.ขอนแก่น และเทศบาลนครขอนแก่นในวันนี้ สำ�หรับการ ประยุกต์ใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสมและคุ้มค่าอย่างมี ประสิทธิผลและประสิทธิภาพ สิง่ ทีส่ �ำ คัญทีส่ ดุ เพือ่ ให้เกิดความสะดวกสบายในการติดต่อราชการ เพิม่ ช่องทางสือ่ สารกับประชาชนในทุกช่องทาง การรับ เรือ่ งร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ฯลฯ ซึ่งสอดคล้องกับ การที่รัฐบาลกำ�ลังประกาศนโยบายรัฐบาลดิจิทัล เทศบาลนครขอนแก่น จึงต้องพัฒนาระบบการให้ บริการประชาชนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

กำ � จั ด ขยะครบวงจร ; นายพงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ชกพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่น เป็นประธาน เปิ ด โครงการ “เสริ ม สร้ า งศั ก ยภาพชุ ม ชน จัดการขยะมูลฝอยแบบ ค ร บ ว ง จ ร ” ป ร ะ จำ � ปีงบประมาณ 2560 โดย มี หน่ ว ยงาน คณะครู นักเรียน ร่วมโครงการ ณ หอประชุมโรงเรียนบ้านไผ่ศึกษา อำ�เภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2560

เทศบาลนคร ขอนแก่ น จั บ มื อ ตำ � รวจ ภู ธ รจั ง หวั ด ขอนแก่ น ลง นาม MOU ติ ด ตั้ ง กล้ อ ง CCTV ป้ อ งกั น อุ บั ติ เ หตุ ทีท่ างแยกในเมืองขอนแก่น ที่ เ กิ ด อุ บั ติ เ หตุ บ่ อ ยครั้ ง จากการขับฝ่าสัญญาณไฟ แดง และยังใช้ป้องกันเหตุ อาชญากรรมได้ด้วย เมื่ อ วั น ที่ 7 ก.ย.60 ที่ ห้ อ งมงกุ ฎ เงิ น โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น นายสุวพงษ์ กิติภัทย์ พิบูลย์ รอง ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ประธานมูลนิธิเพื่อความปลอดภัย ทางถนน, พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผช.ผบ. ตร., พล.ต.ต.ฐากู ร นั ท ธี ศ รี รองผู้ บั ญ ชาการ ตำ�รวจภูธรภาค 4, รศ.ดร.ธเนศ เสถียรนาม คณะ วิศวกรรมศาสตร์ ม.ขอนแก่น และผศ.รุจชัย อึ้ง อารุณยะวี คณะวิศวกรรมศาสตร์ม.ขอนแก่น และ หัวหน้าส่วนราชการใน จ.ขอนแก่น ได้มาเป็น สักขีพยานพิธีลงนามความร่วมมือ “โครงการติด ตั้งกล้อง CCTVเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ทางแยก ในเมืองขอนแก่น ระหว่าง เทศบาลนครขอนแก่น โดยนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรีนคร ขอนแก่น และตำ�รวจภูธรจังหวัดขอนแก่น โดย พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น โดยมีเป้าหมาย การดำ�เนินงานป้องกันและ ลดอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดขอนแก่นตาม กรอบทศวรรษความปลอดภัยทางถนน และแผน ปฏิบัติการด้านความปลอดภัยทางถนนจังหวัด ขอนแก่น บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และ การเสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางถนนให้ลดลงเหลือ น้อยที่สุด สืบเนือ่ งจาก มูลนิธเิ พือ่ ความปลอดภัยทาง ถนนจังหวัดขอนแก่นได้มอบระบบกล้อง CCTV และอุปกรณ์ต่างๆ ของศูนย์ควบคุมสั่งการให้กับ เทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งได้รับการสนับสนุน งบประมาณจาก Michael Woodford, President ของ Safer road foundation ประเทศอังกฤษ ใน การดำ�เนินโครงการตรวจสอบสภาพการจราจร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุบริเวณทางแยกด้วยกล้อง วงจรปิดในเมืองขอนแก่น เพื่อการตรวจจับผู้ขับ รถฝ่าสัญญาณไฟแดงด้วยกล้องวงจรปิดอัตโนมัติ งบประมาณในการดำ � เนิ น การติ ด ตั้ ง ทั้ ง หมด 8,300,000บาท ในการใช้ประโยชน์ตรวจสอบ สภาพการจราจรและป้องกันอุบัติเหตุบริเวณทาง แยกที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง จำ�นวน 3 จุด คือ แยกประตูเมือง แยกประตูมอดินแดง และแยก เจริ ญ ศรี บ นถนนมิ ต รภาพในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่น จ า ก ส ถิ ติ ข้ อ มู ล ผู้ บ า ด เ จ็ บ ( จ า ก รพ.ขอนแก่นและเครือข่ายโรงพยาบาล) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 เป็นต้นมา จำ�นวนผู้บาดเจ็บจากอบุติ เหตุลดลงเป็นอย่างมาก รวมถึงผู้ขับรถไม่ปฎิบัติ ตามกฎจราจรมี จำ � นวนลดน้ อ ยลงไปด้ ว ย จาก ปี 2559 มีผู้ฝ่าไฟแดง ประมาณกว่า 700 คัน ณ ปัจจุบัน จำ�นวนผู้ฝ่าไฟแดง ลดลงเหลือเพียง 50 คัน จะเห็นได้ว่าคนขอนแก่นหันมาปฎิบัติตาม

กฎจราจรมากขึ้นและเห็นความสำ�คัญในการดูแล ชีวิตและทรัพย์สินโดยการขับรถตามกฎ ระเบียบ จราจรอย่างเคร่งครัด ทัง้ นีย้ งั ได้รบั ความร่วมมือจาก มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นผูเ้ ขียนโปรแกรมในการ ใช้งานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น เป็นการส่งเสริมการทำ�งานร่วมกันอย่างบู รณาการของทุกภาคส่วน จึงได้มีพิธีบันทึกความ เข้าใจลงนามความร่วมมือการดำ�เนิน “โครงการ ติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ทาง แยกในเมื อ งขอนแก่ น ” ระหว่ า ง เทศบาลนคร ขอนแก่น และตำ�รวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้ รับเกียรติจาก นายสุวพงษ์ กิติภัทย์พิบูลย์ รองผู้ว่า ราชการจังหวัดขอนแก่น และนายแพทย์วทิ ยา ชาติ บัญชาชัย ประธานแผนงานสนับสนุนการ ป้องกัน อุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด ประธานมูลนิธิเพื่อ ความปลอดภัยทางถนน ร่วมเป็นสักขีพยานในการ ลงนามในครั้งนี้ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่ น กล่ า วว่ า เป็ น ที่ น่ า ภาคภู มิ ใ จทั้ ง ประเทศไทยมีเพียง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ และจังหวัดขอนแก่น ที่ประกาศใช้การ ติดตั้งกล้องCCTV ในการลดอุบัติเหตุ ลดการเสีย ชีวิต ลดการสูญเสีย อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ในการ ใช้เป็นหลักฐานต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ตำ�รวจเพิ่ม ความรวดเร็ว ในการทำ�งานเป็นอย่างมากในการ สืบสวนคดีตา่ งๆ ทัง้ นีจ้ งั หวัดขอนแก่นนับวันความ เจริญเติบโตของเมืองมากขึน้ รถ ยานพาหนะ ผูค้ น ผูอ้ าศัย ผูป้ ระกอบการ จะทวีมากขึน้ เป็นเท่าตัว เพือ่ เป็นการเตรียมรับและป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นใน อนาคตข้างหน้า เพื่อลดการสูญเสีย การติดตั้งกล้องวงจรปิดCCTV เป็นหนึ่ง ช่ อ งทางที่ ส ามารถช่ ว ยเจ้ า หน้ า ที่ ป ฎิ บั ติ ง านได้ รวดเร็ว สะดวก และสามารถครอบคลุมไปถึงการ ลดอุบัติเหตุการเสียชีวิตของพี่น้องประชาชนบน ท้องถนนด้วยการขับรถไม่ประมาท ขับขี่ตามกฎ จราจร คาดหวังว่า ในอนาคตข้างหน้าคนขอนแก่น จะมีวินัยจราจรด้วยตนเอง และไม่ต้องพึ่งพากล้อง CCTV นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ประธานมูลนิธิ เพื่อความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า ความร่วม มือในครัง้ นีจ้ ะเป็นแนวทางร่วมทีด่ ที จี่ ะดำ�เนินการ ติดตั้งกล้องCCTV เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ทางแยก ในเมืองขอนแก่น จะสามารถลดอุบตั เิ หตุทางถนน อันเนื่องมาจากการฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรได้ อีก ทั้งสามารถประกันความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ ถนนเมื่อเข้าสู่ทางแยก ตลอดจนใช้ความสามารถ ของกล้องควบคุมสั่งการการจราจรในภาวะเร่ง ด่วน หรือติดขัด และยังสามารถใช้ประโยชน์ใน การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมได้ด้วย

ศิ ล ป หั ต ถ ก ร ร ม นั ก เ รี ย น ; นายพงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ชกพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่น เป็นประธาน เปิดงานศิลปหัตถกรรม นักเรียน ครัง้ ที่ 67 ปีการ ศึ ก ษา 2560 เขตพื้ น ที่ การศึกษา ระดับประถม ศึ ก ษาขอนแก่ น เขต1 โดยมี ดร.จิรพงษ์ ไชย ยศ รองผู้อำ�นวยการสำ�นักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 คณะผู้บริหาร คณะ ครู และนักเรียน เข้าร่วมพิธี ณ โรงเรียนสนามบิน อ.เมือง จ.ขอนแก่น เอไอเอส สนั บ สนุ น ผู้ ป่ ว ย อุ บั ติ เ ห ตุ แ ละ ฉุ ก เฉิ น โรงพยาบาล มหาราชนครราชสีมา ; นายสมชาย นาคราช ผู้ อำ � นวยการ สำ � นั ก ปฏิ บั ติ ก ารด้ า น เ ท ค นิ ค ภ า ค ต ะ วั น อ อ ก เ ฉี ย ง เ ห นื อ บริ ษั ท แอดวานซ์ อิ น โฟร์ เซอร์ วิ ส จำ � กั ด (มหาชน) หรือเอไอเอส นำ�ผู้บริหารมอบนํ้าดื่ม จำ�นวน 12,000 ขวด สนับสนุนกิจกรรม “เดิน วิ่ง ปั่น มหากุศล เพื่อผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา” โดยมีนายแพทย์ สุรัตน์ ส่งวิรฬุ ห์ ผูช้ ว่ ยผูอ้ �ำ นวยการ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ด้านบริหารทรัพยากร พร้อมด้วยคณะ แพทย์ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นตัวแทนรับมอบ ณ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และอีกหนึ่งช่องทางที่เอไอเอสให้การสนับสนุนผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ด้วยการทำ�บุญผ่านมือถือ ขอเชิญชวนลูกค้า และคนไทยร่วมบริจาคเงินเพื่อผู้ป่วย อุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาโดยสามารถบริจาคด้วยวิธีการง่ายๆ เพียง กด*948*9455*100# และโทรออก ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2562 โดยการกด 1 ครั้งเท่ากับ บริจาค 100 บาท (รวม VAT)

ต้องยอมรับว่าวันนี้ “ขอนแก่น” ถูกยก ให้เป็นจังหวัดต้นแบบของไทย โดยผสมผสาน การทำ�งานร่วมกันได้อย่างลงตัว ทั้งหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน และประชาชนชาว ขอนแก่น ทำ�ให้มที ศิ ทางการพัฒนาทีเ่ ป็นไปอย่าง มีระบบ ปัจจัยสำ�คัญที่ทำ�ให้ขอนแก่นพัฒนาต่อ เนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากการสร้างแผน ยุทธศาสตร์การพัฒนาที่มีความเด่นชัด และการ สร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติตามแผน และ เติบโตอย่างชาญฉลาด “ขอนแก่น” เป็นจังหวัดเศรษฐกิจและ ศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ใน ภูมิภาค และได้กลายมาเป็นจุดหมายที่สำ�คัญใน ยุทธศาสตร์แนวพืน้ ทีเ่ ศรษฐกิจตะวันออก-ตะวัน ตก (EWEC) ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงประเทศไทย เข้ากับประเทศเพื่อนบ้านอีก 4 ประเทศ คือ จีน เวียดนาม ลาว และพม่า โดยใช้ เ ส้ น ทางผ่ า นจั ง หวั ด ขอนแก่ น ในฐานะศูนย์กลางทางการค้า การลงทุน และ การขนส่ง และยังเป็นจุดหมายปลายทางหลัก สำ�หรับธุรกิจการจัดประชุมและนิทรรศการใน ภูมิภาคอินโดจีนและตอนใต้ของประเทศจีน “ขอนแก่น” มีศักยภาพในการรองรับผู้ที่ เดินทางลงทุนทำ�ธุรกิจในพื้นที่จำ�นวนมาก พรั่ง

พร้อมไปด้วยสิ่งอำ�นวยความสะดวกที่เปี่ยมไป ด้วยคุณภาพ ปรับแต่งได้ตามความต้องการ และ ให้ความคุ้มค่าแก่ผู้ลงทุน ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์ กลางไมซ์ในภูมิภาคเท่านั้น ขอนแก่นยังไต่ระดับ ขึ้นไปถึงระดับสากลอีกด้วย ปลายปี 2560 นี้ ขอนแก่นจะเปิด “ศูนย์ ประชุ ม และแสดงสิ น ค้ า นานาชาติ จั ง หวั ด ขอนแก่น หรือ KICE” ทีบ่ ริษทั ซี.พี.แลนด์ จำ�กัด (มหาชน) เข้ามาลงทุนเป็นแห่งแรกในภาคอีสาน เพื่อรองรับการเป็น KHONKAEN MICE CITY 1 ใน 5 ของประเทศไทย เป็ น สถานที่ ๆ เหมาะสมกั บ การจั ด งานแสดง สินค้า งานประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ รวมถึง งานแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินระดับนานาชาติ ได้เป็นอย่างดี สามารถจุผู้ชมได้กว่า 10, 000 คน พื้นภายในโถงนิทรรศการบางส่วน ยังสามารถ รับนํ้าหนักได้สูงสุดถึง 2.5 ตัน/ตารางเมตร และ สามารถจอดรถได้กว่า 2,000 คัน วันนี้ “ขอนแก่น” ได้ระดับขึ้นไปถึงระดับสากล เป็นสื่อกลางในการผสานโอกาสการติดต่อธุรกิจ ในหมู่ผู้เข้าร่วมงานนานาชาติ ที่จัดขึ้นท่ามกลาง กลิน่ อายวัฒนธรรมทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ การต้อนรับ อย่างดีเยี่ยม เปี่ยมด้วยไมตรีจิต และเทศกาลที่ สนุกสนานมากมาย พร้อมแล้วทีจ่ ะก้าวสูก่ ารเป็น “ขอนแก่นมหานคร” อย่างเต็มตัว

ลูกค้าดีแทค และ “เคทีซี พราว” เป็น เจ้ า ของ iPhone ได้ ง่ า ยมากขึ้ น

ดี แ ทคร่ ว มกั บ เคที ซี จั ด โปรโมชั่ น พิ เ ศษสุ ด ! ให้ ลู ก ค้ า ได้ เป็ น เจ้ า ของ iPhone ได้ ง่ า ยมาก ขึ้นอีก ด้วยการจัดสินเชื่อพร้อม ใช้ ดอกเบี้ย 0% ตลอด24 เดือน ผ่ า นบั ต ร “เคที ซี พราว” (KTC PROUD) เพี ย งลู ก ค้ า ชำ � ระ เหมาจ่ า ย เริ่ ม ต้ น เพี ย งเดื อ น ละ 990 บาท ได้ iPhone 6 32GB พร้อมใช้เน็ตไม่อั้น โทรไม่อั้น นาน 24 เดือน นางสาวปริ ศ นา รั ต นสุ ว รรณศรี ผู้ อำ�นวยการอาวุโส สายงานการตลาด ธุรกิจโพสต์ เพด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรื อ ดี แ ทค และนายวุ ธิ นั น ท์ ​ สุ วิ ม ล​ พันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด-ธุรกิจร้านค้า “เคที ซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำ�กัด (มหาชน) ร่วม กั น จั ด โปรโมชั น สุ ด พิ เ ศษที่ แ รกให้ ลู ก ค้ า ได้ เ ป็ น เจ้าของสมาร์ทโฟนที่ใครๆ ก็อยากได้ เริ่มเปิดตัว ด้วย iPhone 6 32GB และiPhone 6s Plus 32GB ง่ายๆ เพียงแบ่งชำ�ระ KTC FLEXI 0% นาน 24 เดือน ผ่านบัตร “เคทีซี พราว” พร้อมใช้แพ็กเกจ GO No Limit ในราคาเบาๆ แบบเหมาจ่ายเริม่ ต้นเพียงเดือน ละ 990 บาท พิเศษ! พร้อมข้อเสนอ จ่าย 0 บาท ในวันที่ซื้อเครื่อง ได้เป็นทั้งเจ้าของเครื่อง และ ได้ใช้แพ็กเกจเน็ตไม่อั้น โทรไม่อั้น ตลอดระยะ เวลา 24 เดือน เพี ย งผ่ อ นชำ � ระเดื อ นละ 990 บาท ได้ iPhone 6 ความจุ 32GB พร้อมแพ็กเกจ GO No Limit 499 บาท เพียงผ่อนชำ�ระเดือนละ 1,299 บาท

ได้ iPhone 6s Plus ความจุ 32GB พร้อมแพ็กเกจ GO No Limit 499 บาท แบ่งชำ�ระ “KTC FLEXI” 0 % นาน 24 เดือน ผ่านบัตร “เคทีซี พราว” พร้อม สัมผัสดีแทค Super 4G เล่นเน็ต ลื่นสุด แพ็ ก เกจ GO No Limit 499 ให้ คุ ณ เล่ น เน็ ต ได้ ไ ม่ อั้ น ไม่ ล ดสปี ด (ความเร็ ว 1 Mbps) พร้อมโทรฟรีใน เครือข่ายฟรี 24 ชม. ทั้งนี้ ลู ก ค้ า สามารถเลื อ กแพ็ ก เกจ Super Non-Stop 499 ได้เน็ตที่ความเร็วสูงสุด10GB โทรทุกเครือ ข่าย 200 นาที หรือแพ็กเกจรายเดือนสุดคุม้ อะไรก็ได้ ตั้งแต่ 499 บาทขึ้นไป (โดยส่วนต่าง และค่าบริการ เกินแพ็กเกจ จะถูกเรียกเก็บเพิ่มเติมจากค่าบริการ รายเดือน) โปรโมชั่นพิเศษนี้ สำ�หรับลูกค้าเปิดเบอร์ ใหม่ ย้ายค่ายเบอร์เดิม เปลี่ยนจากเติมเงินเป็นดี แทครายเดือน และลูกค้าดีแทครายเดือนปัจจุบัน ที่มีแพ็กเกจตามเงื่อนไขที่กำ�หนด เริ่มตั้งแต่วัน นี้ ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ที่ศูนย์บริการดีแทคที่ ร่วมรายการ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ www.dtac.co.th

ชูตลาดสีเขียวริมบึงแก่นนคร เป็น ตลาดต้องชมแห่งที่ 2 ของขอนแก่น

กระทรวงพาณิชย์ คัดเลือก ตลาดสีเขียวขอนแก่น ริมบึงแก่นนคร เป็นตลาดต้องชมแห่งที่ 2 ของจังหวัด ขอนแก่น 149 ของประเทศไทย ภาย ใต้ชื่อ “ตลาดต้องชม ตลาดสีเขียว ขอนแก่น” โครงการตลาดชุมชนเพื่อ ธุรกิจท้องถิน่ ตามนโยบายของรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2560 ที่ ตลาดสีเขียวขอนแก่น ริมบึงแก่นนคร นางวิไลวรรณ ทัพวงศ์ศรี ที่ปรึกษาการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิด “ตลาด ต้ อ งชม ตลาดสี เ ขี ย วขอนแก่ น ” ตามโครงการ ตลาดชุมชนเพื่อธุรกิจท้องถิ่น โดยมี นายชัยธวัช เนียมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, นาย คำ�นวณ สุวรรณดี พาณิชย์จงั หวัดขอนแก่น, นายธีร ะศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ผู้ ประกอบการ และชาวชุมชนเทศบาลนครขอนแก่น เข้าร่วมพิธีเป็นจำ�นวนมาก สืบเนือ่ งจากกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการ ค้าภายในได้ดำ�เนินโครงการตลาดชุมชนเพื่อธุรกิจ ท้องถิน่ ภายใต้ชอื่ “ตลาดต้องชม” ตามนโยบายของ รัฐบาล ตามนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจที่ให้ความสำ�คัญกับการสร้างความเข้ม แข็งทางเศรษฐกิจให้เติบโตจากภายในประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จึงใช้ กลยุทธ์ในการผลักดันเศรษฐกิจชุมชน หรือ Local

Economy ให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมาย ระหว่างปี 2559 – 2561 ต้องเปิดตลาดต้องชมให้ ได้ทั่วประเทศ 231 แห่ง ซึ่ง ณ วันนี้ตลาดต้องชม “ตลาดสีเขียวขอนแก่น” ของจังหวัดขอนแก่น เป็น ตลาดต้องชมแห่งที่ 149 ของประเทศไทย โดยมีกิจกรรมมากมาย อาทิ กิจกรรมและ นิทรรศการสวนผักคนเมือง เปลี่ยน ปลูก ปรุงการ ให้ความรู้เรื่องพิษภัยสารเคมีและสารเคมีที่ตกค้าง ในพืชผัก ผลไม้ สาธิตการทำ�อาหารสไตล์ฟิวชั่น โดยใช้วัตถุดิบจากพืชผักพื้นบ้านที่มีในท้องถิ่น โซนตลาดปลอดสารที่รวบรวมเกษตรกรรายย่อย ที่นำ�ผลผลิต สดใหม่ ไร้สารเคมี จากแปลงมาส่ง ตรงถึงมือผูบ้ ริโภค ราคาย่อมเยา และกิจกรรมอืน่ ๆ ในงานอี ก มากมายมาร่ ว มกั น สร้ า งพื้ น ที่ อ าหาร ปลอดภัย และช่วยกันสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย เพือ่ สร้างสายพานอาหารทีด่ ตี อ่ ผูค้ น และสุขภาพที่ ดีอย่างยั่งยืน


ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ประจำ�เดือนกันยายน 2560

หน้า 3


หน้า 4

ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ประจำ�เดือนกันยายน 2560

หน่วยทันตกรรมพระราชทาน สนองแนว พระราชดำ�ริ “คืนสุขภาพฟันที่ดีสู่ชุมชน”

กว่า 26 ปี “คืนสุขภาพฟันดีสชู่ มุ ชน” หน่วยทันตกรรมพระราชทาน เคลื่ อ นที่ คณะทั น ตแพทย์ ได้ ส นองพระราชดำ � ริ ใ นพระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 ออกไปรักษาฟันประชาชนอีสานในพืน้ ทีห่ า่ งไกล กว่าปีละ 3,000 ราย เมื่ อ ปี พ.ศ.2513 พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ล อดุลยเดชบรมนาถบพิตรได้มีรับสั่งถามศาสตราจารย์ พันโท สี สิริสิงห ทันตแพทย์ประจำ�พระองค์ ภายหลังถวายการทำ�พระทนต์วา่ เวลาพระองค์ มีปญ ั หาเกีย่ วกับฟันก็มที นั ตแพทย์ดแู ลรักษา แล้วราษฎรทีอ่ ยูห่ า่ งไกลจะมี ทันตแพทย์ช่วยรักษาหรือไม่ทำ�ให้ทรงทราบว่าประชาชนในเขตพื้นที่ห่าง ไกลไม่มีทันตแพทย์ให้การรักษา ทรงรับสั่งว่า “การจะให้ราษฎรที่ยากจน ที่มีปัญหาเรื่องฟัน หยุดการทำ�นา ทำ�ไร่ เดินทางไปหาหมอนั้น เป็นสิ่งที่ ยากยิ่ง ในทางตรงกันข้ามหากเป็นการให้บริการเคลื่อนที่ไปสู่ประชาชน ก็ จะเป็นการแก้ปัญหาได้ทางหนึ่ง”พระราชดำ�รัสในครั้งนั้น นับเป็นจุดเริ่ม ต้น งานทันตกรรมเคลื่อนที่ หรืองานทันตกรรมชนบท เป็นครั้งแรกใน ประเทศไทย(จากหนังสือ 40ปี หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) กว่า 26 ปี ที่คณาจารย์ ทันตแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยทันตแพทย์ เจ้ า หน้ า ที่ และนั ก ศึ ก ษา หน่ ว ยทั น ตกรรมพระราชทาน คณะทั น ต แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้สนองพระราชดำ�ริในพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ด้วยความมีจิตอาสาให้การรักษาดูแล สุขภาพช่องปากราษฎรภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากกว่า 3,000 รายต่อปี ให้มีสุขภาพฟันที่ดี ด้วยสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2560 เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่หน่วยทันตกรรม พระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 คณะทันต แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ออกหน่วยให้บริการทางทันตกรรม ให้กับประชาชนในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยไม่คิดมูลค่า ณ อบต. ค่ายบกหวาน อำ�เภอเมือง จังหวัดหนองคาย โดยการนำ�ของ อ.ดร.ทพ.ไชย วุฒิ พฤกษ์งามพันธ์ ประธานหน่วยทันตกรรมพระราชทาน พร้อมทีม ทันตแพทย์ พยาบาล และทันตบุคลากร กว่า 60 คน ร่วมเดินทาง บรรทุก เครื่องมือ วัสดุภัณฑ์ทางทันตแพทย์ ด้วยระยะทางกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตร เพือ่ ตรวจรักษาสุขภาพช่องปาก ประกอบด้วย การถอนฟัน การอุดฟัน การ ขูดหินปูน และการเคลือบฟลูออไรด์ซงึ่ มีประชาชนเข้ารับบริการถึง441 คน อ.ดร.ทพ.ไชยวุฒิ พฤกษ์งามพันธ์ กล่าวว่า “หน่วยทันตกรรม พระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ออกปฎิบัติงานบริการ ทันตกรรมเคลื่อนที่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลตลอดปี โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งในปีนี้เป็นปีที่ชาวไทยทั้งประเทศมีความทุกข์โศกจากพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเสด็จสูส่ วรรคาลัย หน่วยทันตกรรมพระราชทานฯ จึงเปลีย่ นความเศร้าเป็นความตัง้ มัน่ ในการ ปฏิบตั งิ านบริการทันตกรรมให้มากยิง่ ขึน้ เพือ่ แก้ไขปัญหาโรคในช่องปากให้ แก่ประชาชน น้อมถวายเป็นพระราชกุศล อันเป็นปัญหาทางสาธารณสุข ที่พระองค์ท่านให้ความสำ�คัญ เนื่องจากประชาชนในประเทศไทยเป็นโรค ฟันผุและโรคเหงือกจำ�นวนมาก หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที โรคจะลุกลามและสูญเสียฟันในทีส่ ดุ หากเกิดในเด็กจะส่งผลต่อพัฒนาการ สุขภาพ การสบฟัน และการเรียน ถือเป็นสถานการปัญหาในระดับสูง หาก เกิดปัญหาโรคฟันผุและปริทนั ต์อกั เสบในผูใ้ หญ่สขุ ภาพฟันจะยิง่ เสือ่ มถอย เมือ่ แก่ตวั ลง เป็นอุปสรรคต่อการดำ�เนินกิจกรรมในชีวติ ประจำ�วัน และการ งานอาชีพ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต หน่วยทันตกรรมพระราชทานไม่เพียงแต่ ออกหน่วยให้บริการตรวจรักษา แต่ยงั สร้างความเข้มแข็งให้ชมุ ชน โดยการ ให้ความรูเ้ พือ่ เฝ้าระวังโรคทางทันตกรรม หวังให้ประชาชนในท้องถิน่ ห่าง ไกลและผู้ด้อยโอกาสได้มีความรู้ จะได้มีสุขภาพปากและฟันที่ดี” นางสาวชุลีพร สุปัญญา พยาบาลชำ�นาญการ หัวหน้างานบริการ รักษาพยาบาล กล่าวว่า “ทีมทันตแพทย์ และทันตบุคลากร ได้ขนเครื่อง มือ และอุปกรณ์สำ�หรับการตรวจรักษาสุขภาพช่องปากแบบออกหน่วย นอกพื้นที่พร้อมติดตั้งเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ตอนเย็นเมื่อวาน นอกจากนั้น ยังมีทันตบุคลากรจิตอาสาที่เกษียณอายุราชการแล้วยังร่วมออกหน่วยให้

จุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล ; คณะพนักงาน พร้อมด้วยแขกผูเ้ ข้าพัก และลูกค้าผู้เข้าใช้บริการห้องอาหารของโรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินนี าถ ในรัชกาลที่ ๙ เนือ่ งในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ ๘๕ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ ทีบ่ ริเวณด้านหน้า โรงแรมพูลแมน ขอนแก่นฯ เพือ่ น้อมรำ�ลึกถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ อันพ้นประเสริฐ ทีท่ รงมี ต่อปวงประชาชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้

บริการประชาชน และร่วมทำ�งานเพื่อสังคมชุมชนมาโดยตลอด โดยไม่เบิก ค่าใช้จา่ ย และในครัง้ นีไ้ ด้เดินทางด้วยรถยนต์สว่ นตัวมาล่วงหน้า ตระเตรียม พื้นที่กระทั่งติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ของหน่วยทันตกรรมเรียบร้อย ทำ�ให้การออกหน่วยทันตกรรมเป็นไปด้วยความสะดวก ราบรื่น ในปีนี้ ยัง เป็นปีทที่ นั ตบุคลากรทุกคนปาดนาํ้ ตา มุง่ มัน่ ปฏิบตั หิ น้าทีถ่ วายงานด้วยน้อม สำ�นึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ เป็นล้นพ้น ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” กว่า 26 ปี ที่คณาจารย์ ทันตแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยทันตแพทย์ เจ้า หน้าที่ และนักศึกษา หน่วยทันตกรรมพระราชทาน คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ออกหน่วยให้บริการดูแลสุขภาพช่องปากราษฎร ผู้อยู่ห่างไกลสนองพระราชดำ�ริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ยึดมั่นดำ�เนินภารกิจเพื่อแก้ปัญหาโรคช่องปากของชาวชุมชนด้วยความ ใส่ใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตอาสาเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมอีกโครงการหนึ่งภาย ใต้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ไม่ทิ้งอุดมการณ์ และยังยืนหยัดในการร่วมขับ เคลื่อนพันธกิจให้บริการดูแลสุขภาพช่องปากและช่วยเหลือสังคมต่อไป

ติดตามผลการดำ�เนินงานด้านแรงงาน ; พล.อ.ศิรชิ ยั ดิษฐกุล รมว.แรงงาน เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำ�เนินงานด้านแรงงาน พร้อมรับ ฟังปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง โดยมี นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี และหัวหน้าส่วนราชการ สังกัดกระทรวงแรงงานจาก 5 จังหวัด เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ณ ห้อง ประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี

รางวั ล พระราชทานโรงพยาบาลส่ ง เสริ ม สุ ข ภาพ ; นพ.โสภณ เมฆ ธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ “ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย” ประจำ�ปี 2560 พร้อมมอบรางวัล พระราชทานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพดีเด่นระดับประเทศ โดยมีบคุ คลา กรจากหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง เข้าร่วม งาน ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น

มอบทุนการศึกษา เกษตรพัฒนาขอนแก่น ; นายอดิเรก หงส์พูนพิพัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการบริหาร สภา อุตสาหกรรมขอนแก่น ร่วมงาน มอบทุนการศึกษาประจำ�ปี 2560 ในโอกาส วันคล้ายวันเกิดของ คุณสมิหลา หยกอุบล ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำ�ทุกปีเมื่อ วันที่ 9 กันยายน 2560 ณ บริษัท โรงงานพัฒนาการเกษตรขอนแก่น จำ�กัด

เสริมความรู้ผู้ประกอบการ ; นายคำ�นวณ สุวรรณดี พาณิชย์จังหวัด ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานสัมมนาโครงการ “ร้อยแก่นสารสินธุ์ สัมมนา Digital Marketing 4.0” ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้าง Cluster เพือ่ ให้ผปู้ ระกอบการกลุม่ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง กลุม่ จังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ มีความรูค้ วามสามารถทำ�การค้าทางตลาด Online มากขึ้น และนำ�ไปใช้ในธุรกิจของตนเองได้ ณ โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮ เทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์

เปิดศูนย์เรียนรู้ ลดใช้พลังงาน การจัดการขยะ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

สพฐ. จับมือ กฟผ. เปิด “ศูนย์การเรียนรู้ ลดใช้พลังงาน การจัดการ ขยะ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” ระดับภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนองนโยบาย “ประเทศไทย ไร้ขยะ” สู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน “Zero Waste School” เพือ่ ส่งเสริมสนับสนุนให้มแี หล่งเรียนรูด้ า้ นการลดใช้พลังงาน การ จัดการขยะ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นและชุมชน พร้อมทั้งสร้าง ความตระหนักให้เด็กและเยาวชนเป็นต้นแบบในการลดใช้พลังงาน โดยมี หน่วยงานการศึกษา ทุกภาคส่วน ร่วมกิจกรรมเปิด ณ สำ�นักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560 นายณรงค์ แผ้วพลสง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า การเปิดศูนย์การเรียนรู้ ลดใช้พลังงาน การจัดการ ขยะ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ระดับภูมิภาค สืบเนื่องมาจาก ที่สำ�นักงาน คณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน (สพฐ.) โดยสำ�นักพัฒนานวัตกรรมการ จัดการศึกษา ได้ท�ำ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง ประเทศไทย กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานการศึกษา เพือ่ สนองนโยบาย “ประเทศไทย ไร้ขยะ” สู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน “Zero Waste School” โดยมีเป้า หมายพัฒนาโรงเรียนต้นแบบสิ่งแวดล้อม จำ�นวน 15,000 โรง ให้สามารถ ลดปริมาณขยะในสถานศึกษาได้มากทีส่ ดุ และสร้างจิตสำ�นึกการนำ�ขยะมา ใช้ประโยชน์ เป็นการปลูกฝังวินัยให้กับเยาวชน นอกจากนี้ สำ�นักงานคณะกรรมการขั้นพื้นฐาน ยังได้จัดสรรงบ ประมาณให้กับ สำ�นักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 ในปีงบประมาณ 2560 จำ�นวนเงิน 3,629,000 บาท เพื่อให้เป็นเขตพื้นที่ นำ�ร่องในการดำ�เนินโครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ลดใช้พลังงาน การจัดการ ขยะและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อีกทั้งบุคลากรที่เข้มแข็ง จะเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจและสร้างจิตสำ�นึกให้เยาวชนได้ตระหนักถึงประโยชน์ในระยะ ยาวของการลดใช้พลังงาน และการจัดการขยะให้เหลือน้อยที่สุด ให้เป็น ไปตามนโยบาย “Zero Waste School” และหวังว่า สำ�นักงานเขตพื้นที่การ ศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 จะเป็นต้นแบบและขยายผลสูภ่ าคตะวัน ออกเฉียงเหนือในโอกาสต่อไป ด้านนายศุภสิน ภูศรีโสม ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 กล่าวว่า เพื่อ ลดคาร์บอน (Carbon Emission) ในระดับโลก และในภูมิภาคอาเซียนให้

ต้อนรับ VIP สปป.ลาว ; มร.แสตนลี่ย์ ชาน ผู้จัดการใหญ่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ให้การต้อนรับ ท่านนาง ดร.แก้วสายใจ ไซยะสอน ภริยาอดีตประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายพลโท จูมมาลี ไซยะสอน และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนจังหวัด ขอนแก่น เพื่อเยี่ยมชมศูนย์การผลิตผ้าไหม และอุตสาหกรรมไหมของ จังหวัด เมื่อเร็วๆ นี้

ต้อนรับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ; คณะผู้จัดงาน และ ผู้บริหารโรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด โดย มร.แสตนลี่ย์ ชาน ร่วมให้การต้อนรับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ศึกษาธิการ ในโอกาสที่เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดและบรรยาย พิเศษ เรื่อง “คุณธรรมจริยธรรมและการดำ�รงตน เพื่อสืบสานพระราช ปณิธาน เดินตามรอยพระยุคลบาท” ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เมื่อเร็วๆนี้

ได้อย่างน้อย 20-30% ในระยะเวลา 20 ปี รัฐบาลได้กำ�หนดนโยบายให้ทุก หน่วย บูรณาการด้านการจัดการขยะ สพฐ.จึงร่วมกับหน่วยการศึกษาทุก ภาคส่วนในภูมิภาค เปิด “ศูนย์การเรียนรู้ ลดใช้พลังงาน การจัดการขยะ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” ทั้งนี้ ภายในศูนย์การเรียน จะมีฐานการเรียนรู้ที่พร้อมให้บริการ ด้านสาระความรู้ การลดใช้พลังงาน การจัดการขยะ และการอนุรักษ์สิ่ง แวดล้อม จำ�นวน 10 ฐาน ได้แก่ ฐานศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน, ฐานโลกไร้ตะวันสะกิดคิด พิชิตลดโลกร้อน, รู้นํ้าใช้ รู้ใช้นํ้า, พลังงานเพื่อ ชีวิต, ห้องเรียนสีเขียว, บ้านประหยัดพลังงาน, เส้นทางชีวิตผลิตภัณฑ์ : LCA, Zero Waste, ความหลากหลายทางชีวภาพ และอาชีพที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม ซึ่งแบ่งเป็น 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ และ หลักสูตรค่ายเยาวชน (Day Camp) โดยความร่วมมือจากนักวิชาจาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น สำ�นักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ขอนแก่น รวมถึงหน่วยงานความร่วมมือทุกภาคส่วนในจังหวัดขอนแก่น ร่วมพัฒนาวิทยากร นักเรียนและครู เพือ่ พัฒนาศูนย์การเรียนรูส้ กู่ ารเป็นต้น แบบของการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า พร้อมทั้ง สร้างวัฒนธรรมองค์กรให้จัดการขยะตามรูปแบบของโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

โรดโชว์ ไทยแลนด์ ไลท์ตงิ้ แฟร์ ; นายปิยนิ ตลับนาค ปลัดจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานเสวนา Smart City. Safe City. เทคโนโลยีพัฒนาเมือง อัจฉริยะ ขับเคลื่อนประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 จัดโดย กฟภ. ร่วมกับ เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต และดิ เอ็กซ์ซิบิส เป็นการเตรียมความพร้อมในการจัดงาน “Thailand Lighting Fair 2017” ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ

ฉลองครบรอบ 72 ปี วันชาติเวียดนาม ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ. ขอนแก่น ร่วมแสดงความยินดีกับ ฯพณฯ เหงียน หาย บั่ง เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำ�ประเทศไทย ในโอกาสเฉลิมฉลอง การจัดงาน “ครบรอบ 72 ปี วันชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม” ณ โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ จ.ขอนแก่น

“สรร-สร้าง ย่านสร้างสรรค์” พื้นที่ของคนเมืองขอนแก่น

เทศบาลนครขอนแก่น นำ�เสนอพื้นที่กลางเมืองขอนแก่น เพื่อให้ เกิดเป็นพื้นที่ของคนเมืองขอนแก่น “สรร-สร้าง ย่านสร้างสรรค์” โดยนำ� เสนอผลงานสร้างสรรค์ 3 ด้าน ทัง้ จราจรสร้างสรรค์ พืน้ ทีส่ ร้างสรรค์ และ เศรษฐกิจสังคมสร้างสรรค์ รองรับการเป็น SMART DAY SMART CITY โดยมี นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน นายธีระ ศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นายอดุลย์ คาํ้ ชู ผูอ้ �ำ นายการ อาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำ�นักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นาย เข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น นายสุรพล ทวีแสง สกุลไทย ทีป่ รึกษากิตติมศักดิห์ อการค้าจังหวัดขอนแก่น นางโฉมสุดา วโน ทยาโรจน์ ผูบ้ ริหารตลาดต้นตาล และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมกิจกรรม ณ บริเวณลานหน้าธนาคารแห่งประเทศไทย สำ�นักงานภาคตะวันออกเฉียง เหนือ (แห่งเดิม) ถนนกลางเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมือ่ วันที่ 26 สิงหาคม 2560 นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า การจัดงาน “SMART DAY SMART CITY ฟื้นใจเมือง สรร-สร้าง ย่าน สร้างสรรค์” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเสริมสร้างบทบาทของทุกภาค ส่วนในการพัฒนาเมืองขอนแก่นอย่างสร้างสรรค์ “SMART CITY” โดย มีกิจกรรมต่างๆ อาทิ การนำ�เสนอผลงานสร้างสรรค์ 3 ด้าน ทั้ง จราจร สร้างสรรค์ พื้นที่สร้างสรรค์ และเศรษฐกิจสังคมสร้างสรรค์ กิจกรรมปูม เมือง (การนำ�รูปเก่ามาเล่าเรือ่ งตำ�นานเมืองขอนแก่นในอดีตจากประชาชน เวทีเสวนาหัวข้อ “พื้นใจเมือง สรร-สร้าง ย่านสร้างสรรค์” การแสดงผลงาน Street Art การถ่ายทอดบทกลอนลำ�รณรงค์ วินัยจราจร พร้อมทั้งมีการมอบรางวัลการประกวดต่างๆ ซึ่งนอกจากที่

เทศบาลนครขอนแก่นเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบโครงการดังกล่าวแล้ว ยังได้รับ การสนับสนุนจากบริษัท ช.ทวี จำ�กัด (มหาชน) โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล รศ.ดร.รวี หาญเผชิญ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มข. บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง (KKTT) และตลาดต้นตาล และยังได้รับความร่วมมือ จากกลุ่มอาสาสมัคร Smart City กลุ่มสภาเมืองขอนแก่น สถาบันการศึกษา พี่น้องชุมชน และประชาชนชาวขอนแก่น ที่ได้แนวคิด ร่วมแสดงความคิด เห็น และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน จนเกิดกิจกรรมที่ดีให้เกิดขึ้นกับเมือง ขอนแก่น โดยเทศบาลนครขอนแก่น คาดหวังว่า กิจกรรมนี้จะเป็นแนวทาง ที่ร่วมสร้างสรรค์ให้เมืองขอนแก่น เจริญเติบโตไปในทิศทางที่ถูกต้อง


หน้า 5

ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ประจำ�เดือนกันยายน 2560

ขอนแก่นรวมใจ ร่วมรักษ์นํ้า The Journey ตั้ ง ต้ น สู่ ก ารบริ ห ารจั ด การนํ้ า อย่ า งยั่ ง ยื น

เอสซีจีผสานพลังชุมชนคนขอนแก่นร่วม กิจกรรม“รักษ์นํ้า The Journeyสานต่อที่พ่อทำ� สร้าง ฝายทั่วไทย” ณ จังหวัดขอนแก่น ส่งมอบองค์ความรู้ ด้านการบริหารจัดการนํ้าและการสร้างฝายชะลอนํ้า ให้กับชุมชน เพื่อขยายผลในพื้นที่ตนเองอย่างเหมาะ สม สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างยั่งยืน กิจกรรม “รักษ์นํ้า The Journey สานต่อที่ พ่อทำ� สร้างฝายทั่วไทย” เป็นการสืบสานพระราช ปณิธานการบริหารจัดการนาํ้ อย่างยัง่ ยืนของพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายหลัง จากทีไ่ ด้น�ำ ตัวแทนชุมชนและเยาวชนคนรุน่ ใหม่ของ จังหวัดขอนแก่น กาญจนบุรี และนครศรีธรรมราช ไปศึกษาเรียนรู้ชุมชนที่ประสบความสำ�เร็จจากการ สร้างฝายชะลอนํ้าที่จังหวัดลำ�ปางและแนวทางการ สร้างฝายชะลอนํา้ ตามแนวพระราชดำ�ริจากศูนย์การ ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระ ราชดำ�ริ เพือ่ ให้มคี วามรูแ้ ล้วนำ�กลับมาดำ�เนินการต่อ

ในพื้นที่บ้านเกิดตัวเอง เมื่ อ วั น ที่ 14 กั น ยายน 2560 ที่ โ รงเรี ย น เทศบาลบ้ า นคำ � ใหญ่ ปั น นํ้ า ใจ ตำ � บลม่ ว งหวาน อำ�เภอนํ้าพอง จังหวัดขอนแก่น นายสุเมธ ตันติเวช กุล เลขาธิการมูลนิธชิ ยั พัฒนา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วน ราชการ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกัน จัดโครงการ “รักษ์นํ้า The journey สานต่อที่พ่อทำ� สร้างฝายทัว่ ไทย” สืบสานพระราชปณิธานการบริหาร จัดการนาํ้ อย่างยัง่ ยืน ของพระบาทสมเด็จพระปรมินท รมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ของตำ�บลม่วงหวาน อำ�เภอนํ้าพอง จะอาศัยนํ้าตามฤดูกาลประกอบอาชีพ การเกษตร ในช่วงฤดูแล้งซึ่งมีนํ้าไม่เพียงพอที่จะ ทำ�การเกษตร ชาวบ้านต้องอพยพออกไปขายแรงงาน ยังต่างถิน่ ทุกภาคส่วนจึงเห็นว่าการสร้างฝายชะลอนํ้ า เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ซึ่งเป็นที่ราบสูงมากที่สุด เนือ่ งจากฝายชะลอนาํ้ จะช่วยทำ�ให้พนื้ ดินชุม่ ชิน้ และ กักเก็บนาํ้ บางส่วนให้อยูใ่ นพืน้ ทีไ่ ด้นานทีส่ ดุ เมือ่ มีนาํ้ ชาวบ้านก็สามารถทีจ่ ะทำ�การเกษตรได้ตลอดทัง้ ปี ส่ง ผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยที่

ไม่ต้องอพยพไปขายแรงงานยังต่างถิ่น จากการร่วม เดินทางไปกับ “รักษ์นํ้า The Journey”ตัวแทนชุมชน จึงได้รบั ความรูค้ วามเข้าใจและจุดประกายการทำ�ฝาย ชะลอนํ้าเป็นครั้งแรก นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล กรรมการผู้จัดการ ใหญ่ เอสซีจี แพคเกจจิง้ กล่าวถึงแนวคิดการสร้างฝาย ชะลอนํ้าตามแนวพระราชดำ�ริว่า นับเป็นจุดเริ่มต้น ของการบริหารจัดการนํ้าของชุมชนในหลายๆ พื้นที่ เพราะฝายชะลอนํ้าทำ�ให้พื้นดินชุ่มชื้นและกักเก็บนํ้า บางส่วนให้อยูใ่ นพืน้ ทีไ่ ด้นานทีส่ ดุ เมือ่ มีนาํ้ และสามา รถเก็บนาํ้ ไว้ได้ ก็ท�ำ ให้เพาะปลูกได้ผลผลิตดีขนึ้ มีราย ได้เพิ่มขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามมา เหมือนอย่าง ชุมชนต้นแบบในจังหวัดลำ�ปางทีเ่ อสซีจไี ด้พาไปเรียน รู้ “สำ�หรับกิจกรรมที่ตำ�บลม่วงหวานในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมพลังสร้างฝายชะลอนํ้ า เพื่อฟื้นคืนความชุ่มชื้นให้ป่าต้นนํ้าของชุมชน ซึ่ง จากนี้ทางชุมชนก็ได้ร่วมกันวางแผนที่จะจัดทำ�แก้ม ลิง และเชือ่ มต่อระบบนํา้ เพือ่ ให้มนี าํ้ ใช้ท�ำ การเกษตร อย่างพอเพียงในอนาคตอีกด้วยซึ่งตรงตามแนวทาง

พระราชดำ�ริ “หานํา้ ให้ได้” “เก็บนํา้ ไว้ใช้” และ “ใช้นาํ้ ให้เป็น” นายธนวงษ์ กล่าว นายประสาท จันทรวิเศษ ผู้ช่วยกำ�นัน หมู่ 2 บ้านสระกุด ต.ม่วงหวาน เล่าว่า เดิมทีเมื่อพูดถึง ฝาย ชาวบ้านส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเป็นฝายกักเก็บนํ้า ไว้ใช้ ต่างคนต่างสร้างฝายกันเองตามภูมิปัญญาชาว บ้าน พอได้ไปเรียนรู้กับทางเอสซีจี จึงเกิดความเข้าใจ “ฝายชะลอนํ้า” รวมถึงเห็นประโยชน์ของการสร้าง ฝายชะลอนํ้า ซึ่งเป็นอีกแนวทางของการอนุรักษ์นํ้า ทีส่ ามารถช่วยชะลอนาํ้ และเก็บกักความชืน้ คืนความ สมบูรณ์ให้นํ้าใต้ดิน “พอไปเห็นพื้นที่จังหวัดลำ�ปาง ที่เคยเป็นเขา หัวโล้นแห้งแล้งสามารถกลับเป็นพืน้ ทีส่ เี ขียวได้ ทำ�ให้ มีความหวังอยากให้ปา่ บ้านเรามีความอุดมสมบูรณ์ มี ความชุ่มชื้นแบบเขาบ้าง ชาวบ้านจะได้ไปหาของป่า และมีรายได้เสริมครั้งนี้เป็นครั้งแรกใน ต.ม่วงหวาน ที่ชาวบ้านจะร่วมกันสร้างฝายชะลอนํ้าในพื้นที่ และ จากนี้ผมก็จะรวมพลังชุมชนหาแนวร่วมต่อไป” นายพิชาญ ทิพวงษ์ ผู้ประสานงานลุ่มนํ้า ชี คณะกรรมการบริหารจัดการนํ้าชุมชนป่า ภูถํ้า ภู

ผ้าป่ามหากุศลเพื่อสมทบกองทุน มข.เปิดตัว “สถาบันวิจัยมะเร็งท่อนํ้าดี” บมือปัญหาอนุภูมิภาคลุ่มนํ้าโขงนักวิจัย มข.ค้น ของศู น ย์ เ ฉลิ ม พระเกี ย รติ ฯ รัพบยี นเป้าหมายในการรักษาโรคมะเร็งท่อนํ้าดี

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2560 ที่หอประชุม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น นางระเบียบ รั ต น์ พงษ์ พ านิ ช ประธานคณะทำ � งานศู น ย์ เฉลิมพระเกียรติเพือ่ ช่วยเหลือผูป้ ว่ ยโรคเอดส์และ ผู้ติดเชื้อ HIV จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานทอด ผ้าป่ามหากุศลเพื่อสมทบกองทุนของศูนย์เฉลิม พระเกียรติฯ โดยปีนี้ ได้ยอดเงินสมทบผ้าป่ามหา กุศลจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาค เอกชน เป็นเงิน 130,710.-บาท ซึ่งศูนย์เฉลิมพระ เกียรติฯ จะได้นำ�รายได้ให้ความช่วยเหลือสมาชิก และครอบครัวในด้านต่างๆ ต่อไป นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ประธาน คณะทำ�งานศูนย์เฉลิมพระเกียรติเพื่อช่วยเหลือผู้ ป่วยโรคเอดส์และผู้ติดเชื้อ HIV จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ศูนย์เฉลิมพระเกียรติเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย โรคเอดส์และผูต้ ดิ เชือ้ HIV จังหวัดขอนแก่น ได้จดั ตัง้ ขึน้ ตามโครงการ กาชาดจังหวัดขอนแก่นร่วมใจ ต้านภัยเอดส์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหา มงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 โดยจัดตั้งทั้ง 26 อำ�เภอ ในพื้นที่จังหวัด ขอนแก่น ปัจจุบัน ศูนย์ฯ มีสมาชิกสะสมกว่า 3,900 คน และมีสมาชิกซึ่งป่วยและติดเชื้อ HIV จำ�นวน 2,560 คน สำ�หรับสมาชิกในอำ�เภอเมืองขอนแก่น มีจำ�นวน 330 คน อำ�เภอบ้านไผ่มีสมาชิก 138 คน อำ�เภอพลมีสมาชิก 157 คน อำ�เภอชุมแพมีสมาชิก 289 คน อำ�เภอหนองสองห้องมีสมาชิก 86 คน อำ�เภอหนองเรือมีสมาชิก 154 คน อำ�เภอภูเวียง มีสมาชิก 49 คน อำ�เภอสีชมพูมีสมาชิก 232 คน อำ�เภอนํ้าพองมีสมาชิก 168 คน อำ�เภอกระนวน มีสมาชิก 110 คน อำ�เภอมัญจาคีรีมีสมาชิก 135 คน อำ�เภอชนบทมีสมาชิก 61 คน อำ�เภอบ้านฝาง

มีสมาชิก 57 คน อำ�เภอเขาสวนกวางมีสมาชิก 59 คน อำ�เภอพระยืนมีสมาชิก 48 คน อำ�เภออุบลรัตน์ มีสมาชิก 44 คน อำ�เภอแวงน้อยมีสมาชิก 79 คน อำ�เภอแวงใหญ่มีสมาชิก 72 คน อำ�เภอเปือยน้อย มีสมาชิก 31 คน อำ�เภอโนนศิลามีสมาชิก 44 คน อำ�เภอโคกโพธิ์ชัยมีสมาชิก 31 คน อำ�เภอซำ�สูงมี สมาชิก 35 คน อำ�เภอบ้านแฮดมีสมาชิก 59 คน อำ�เภอหนองนาคำ�มีสมาชิก 24 คน อำ�เภอเวียงเก่ามี สมาชิก 32 คน และ อำ�เภอภูผาม่านมีสมาชิก 36 คน “สำ�หรับการให้ความช่วยเหลือสมาชิกและ ครอบครัวในด้านต่างๆ ตัง้ แต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบนั ได้มีการมอบทุนการศึกษาให้แก่สมาชิกและบุตร สมาชิก เป็นเงิน 52,906,800.-บาท สงเคราะห์เบี้ย ยังชีพ จำ�นวนเงิน 3,241,172.-บาท สงเคราะห์ค่าทำ� ศพกรณีสมาชิกเสียชีวติ จำ�นวนเงิน 3,732,500.-บาท ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลจำ�นวนเงิน 2,274,149.บาท ช่วยเหลือค่าพาหนะเพื่อการเข้าร่วมกิจกรรม กลุ่ม จำ�นวนเงิน 2,747,178.-บาท ส่งเสริมอาชีพ แก่สมาชิกและครอบครัว จำ�นวน 1,587,135.-บาท สงเคราะห์เครื่องอุปโภค บริโภค จำ�นวน 196,000.บาท รวมให้ความช่วยเหลือสมาชิกสมาชิกในทุก ด้าน เป็นเงิน 66,684,934.-บาท”

เมื่ อ วั น ที่ 3 ก.ย. 60 ที่ห้องประชุมเอราวัณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด รศ.นพ.ชาญ ชั ย พานทองวิ ริ ย ะกุ ล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ กรรมการอำ � นวยการ สถาบั น วิ จั ย มะเร็ ง ท่ อ นํ้ าดี พร้ อ มด้ ว ย รศ.นพ. ณรงค์ ขันตีแก้ว ผู้อำ�นวย การสถาบั น วิ จั ย มะเร็ ง ท่ อ นํ้ า ดี ร่ ว มแถลงเปิ ด ตั ว สถาบั น วิ จั ย มะเร็ ง ท่ อ นํ้ า ดี เพื่ อ แก้ ไ ขปั ญ หา สาธารณสุข สุขภาวะของประชาชนในภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และอนุภูมิภาคลุ่มนํ้า โขง พร้อมแจง นอกจากวิจัยหาทางแก้ไขปัญหา โรงพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งอย่างได้ผลจริงจังอย่าง ประสบความสำ�เร็จแล้ว ยังตั้งศูนย์ความเป็นเลิศมะ เร็งท่อนํ้าดี (Cholangiocarcinoma Excellent Center) ศูนย์กลางที่มีความเป็นเลิศทางการรักษาโรคมะเร็ง ท่อนํ้าดีที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อสนับสนุนการดำ�เนิน งานของสถาบันวิจัยมะเร็งท่อนํ้าดี เมื่อปี พ.ศ.2546 มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ก่อตั้ง ศูนย์วิจัยพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํ้าดี ขึ้น เพื่อ เป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาที่มีความเป็นเลิศ ทางวิชาการในด้านพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํ้ าดีในภาคพื้นเอเชียและโอเชียเนีย แก้ไขปัญหาโรค พยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํ้าดีอย่างจริงจังและ มีผลงานที่ประสบความสำ�เร็จเป็นอย่างมาก ต่อมา มหาวิทยาลัยให้ยุบเลิกศูนย์วิจัยพยาธิใบไม้ตับและ มะเร็งท่อนํ้าดี และประกาศจัดตั้งสถาบันวิจัยมะเร็ง ท่อนํ้าดี ขึ้นมาแทน รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล กล่าวว่า คณะ แพทยศาสตร์ มข. ได้จัดตั้ง ศูนย์ความเป็นเลิศมะเร็ง

ท่อนํ้าดี (Cholangiocarcinoma Excellent Center) ขึ้นมาสนับสนุนการดำ�เนินงานของสถาบันวิจัยมะ เร็งท่อนํ้าดี โดยศูนย์ความเป็นเลิศที่ก่อตั้งขึ้นจะทำ� หน้าที่ศูนย์กลางที่มีความเป็นเลิศทางการรักษาโรค มะเร็งท่อนํ้าดีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจัดให้มีหอผู้ ป่วยขนาด 19 เตียง มีห้องผ่าตัด 1 ห้อง มีเตียง ICU 2 เตียง พร้อมบุคลากรและเครื่องมือเพื่อสำ�หรับรักษา ผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อนํ้าดีโดยเฉพาะ และเป็นศูนย์ฝึก อบรมบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ท่อนํ้าดี ถือว่าเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของโลกที่มี ห้องผ่าตัดและหอผู้ป่วยสำ�หรับโรคมะเร็งท่อนํ้าดี โดยเฉพาะ และในอนาคตก็จะเปิดแผนกผู้ป่วยนอก เฉพาะสำ�หรับผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้าดีอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยมะ เร็งท่อนาํ้ ดีอย่างครบวงจรมากทีส่ ดุ พร้อมสร้างเครือ ข่ายบริหารจัดการโรคมะเร็งท่อนํา้ ดี คือ โรงพยาบาล ศูนย์และโรงพยาบาลประจำ�จังหวัดกว่า 10 แห่งใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมบูรณาการ การรักษา โรคมะเร็งท่อนํ้าดี ทั้งแบบให้หายขาด และการรักษา แบบประคับประคอง มุ่งเน้นลดอัตราการตาย การ เจ็บป่วยจากการผ่าตัด ผลของการดำ�เนินการจะทำ�ให้ ประชาชนสามารถเข้าสู่การรักษาโรคมะเร็งท่อนํ้าดี อย่างทัว่ ถึงและในมาตรฐานทีใ่ กล้เคียงกันในทุกพืน้ ที่

กระแตมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์เสริม ว่า พื้นที่อีสานส่วนใหญ่มีปัญหานํ้าแล้ง และปัญหา นํ้าหลาก ต้องวางแผนการบริหารจัดการนํ้าเป็นภาพ รวมต้องศึกษาภูมิประเทศ เข้าใจปัญหา โดยพื้นที่ ตำ�บลม่วงหวานควรเริ่มต้นจากทำ�ฝายชะลอนํ้า หรือ ฝายชะลอความชุม่ ชืน้ สูก่ ารบริหารจัดการนาํ้ ในพืน้ ที่ อย่างยั่งยืน “สิ่งที่สำ�คัญต้องทำ�ให้ชุมชนเห็นภาพรวม ร่วมกัน รู้ว่าเขาทำ�แล้วได้อะไร ให้ความรู้ความเข้าใจ เขา เชื่อว่าองค์ความรู้และประสบการณ์จากมูลนิธิ

อุทกพัฒน์ ในการทำ�ผังนาํ้ การสำ�รวจเส้นทางนาํ้ และ วิเคราะห์ตัวเลขการใช้นํ้าจะช่วยเหลือให้ต่อยอดไปสู่ การพัฒนาการบริหารจัดการนาํ้ อย่างยัง่ ยืนในอนาคต” นายพิชาญ กล่าวเสริม การเดินทางของ “รักษ์นํ้า The Journey” ยัง ไม่จบเพียงเท่านี้ แต่เป็นเพียงจุดเริม่ ต้นเล็กๆ ทีเ่ อสซีจี สนับสนุนจุดประกายชุมชนต่างๆ ในประเทศไทย ส่ง เสริมสร้างความรูค้ วามสามารถในการบริหารจัดการ ทรัพยากรในชุมชน เสริมความเข้มแข็ง สู่การพัฒนา คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนต่อไป

วิธีการใช้ไหมขัดฟัน สวั ส ดี ค รั บ พบกั น อี ก ครั้ ง กั บ “ก้ า ว ทั น โลก กั บ โรงพยาบาลทั น ตกรรม” คอลั ม น์ ดี ๆ เพื่ อ สุ ข ภาพช่ อ งปากและฟั น วั น นี้ เ รามา รู้ จั ก กั บ เรื่ อ งวิ ธี ก ารใช้ ไ หมขั ด ฟั น กั น นะครั บ วิ ธี ก า ร ใ ช้ ไ ห ม ขั ด ฟั น นั้ น ไม่ ย ากอย่ า งที่ คิ ด นะครั บ เริ่ ม ต้ น จาก ขั้ น ตอนที่ 1 ทำ � ความสะอาดซอกฟั น ซึ่ ง แปรงสีฟันเข้าไปไม่ถึง โดยใช้ไหมขัดฟันความ ยาวประมาณ 18 นิว้ พันรอบปลายนิว้ กลางทัง้ สอง ข้าง สำ�หรับฟันบนให้นิ้วหัวแม่มือดึงไหมขัดฟัน ให้ตึง ความยาวของไหมระหว่างนิ้วทั้งสองข้าง ประมาณ 1-2 นิ้ว ขั้นตอนที่ 2 ทำ�ลักษณะเดียวกันกับขั้น ตอนที่ 1 สำ�หรับฟันล่าง ดึงไหมขัดฟันให้ตึงด้วย นิว้ ชีท้ งั้ สองข้าง ความยาวของไหม ระหว่างนิว้ ทัง้ สองประมาณ 1-2 นิ้ว ขั้นตอนที่ 3 เคลื่อนไหมไปมาเบาๆ เข้า ระหว่างซอกฟัน แล้วโค้งไหมโอบรอบฟันเพื่อ ทำ�ความสะอาด โดยเคลื่อนขึ้นลง รศ.นพ.ณรงค์ ขั น ตี แ ก้ ว ผู้ อำ � นวยการ สถาบันวิจัยมะเร็งท่อนํ้าดี กล่าวว่า สำ�หรับมะเร็ง ท่อนาํ้ ดีคอื มะเร็งทีเ่ กิดจากเซลล์เยือ่ บุของท่อทางเดิน นํ้าดีทั้งท่อนํ้าดีภายในและภายนอกตับ มะเร็งท่อนํ้ าดีพบมากที่สุดในภาคอีสาน โดยเฉพาะที่จังหวัด ขอนแก่นมีผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้าดีมากที่สุดในโลกคือ 134.5 ต่อประชากร 100,000 คนในชาย และ 43.0 ต่อ ประชากร 100,000 คนในหญิง อายุระหว่าง 35-64 ปี เกิดในผูช้ ายมากกว่าผูห้ ญิงในสัดส่วนคือ 3 ต่อ 1 โดย เฉลี่ยแต่ละปีมีคนในพื้นที่ภาคอีสานเสียชีวิตด้วยมะ เร็งท่อนาํ้ ดีสงู ถึงประมาณ 20,000 คน/ปี มะเร็งท่อนาํ้ ดีจงึ เป็นภัยเงียบทีเ่ ป็นปัญหาทางสาธารณสุขทีส่ �ำ คัญ ของภาคอีสานมาหลายทศวรรษ “นั ก วิ จั ย ม.ขอนแก่ น โดยความร่ ว มมื อ ในระดั บ นานาชาติ ใ นโครงการ ICGC ร่ ว มกั บ สถาบั น วิ จั ย จากประเทศสิ ง คโปร์ ญี่ ปุ่ น และ สหรัฐอเมริกา ได้รายงานการศึกษาความผิดปกติ ระดับพันธุกรรมในผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้าดี จำ�นวน 489

ผศ.ดร.ทพ.อชิรวุธ สุพรรณเภสัช รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา ศิษย์เก่าและชุมชนสัมพันธ์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ขั้ น ตอนที่ 4 เคลื่ อ นไหมไปมาเบาๆ เข้ า ระหว่างซอกฟัน แล้วโค้งไหมโอบรอบฟัน เพื่อ ทำ�ความสะอาดโดยเคลื่อนขึ้นลง โดยฟันล่างจะ ใช้นิ้วในการนำ�ไหมเข้าระหว่างซอกฟัน ทำ�ความ สะอาดซอกฟันด้วยไหมขัดฟันให้สะอาดทุกซี่ทั้ง ฟันบนและล่าง “การใช้ ไ หมขั ด ฟั น อย่ า งถู ก วิ ธี ” ช่ ว ยลด ความเสี่ยงของการเกิดฟันผุเรามาใช้ไหมขัดฟันกัน นะครับ พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีครับ ตัวอย่างจาก 10 ประเทศ ซึง่ นับเป็นโครงการวิจยั ทีม่ ี การรวบรวมตัวอย่างผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้าดีที่มีสาเหตุ การเกิดโรคที่แตกต่างกันมากที่สุดในปัจจุบัน อัน ประกอบด้วยผู้ป่วยที่มีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อ พยาธิใบไม้ในตับจากประเทศไทย (150 ตัวอย่าง) และ กลุม่ ผูป้ ว่ ยจากประเทศอืน่ ๆ ทีไ่ ม่มคี วามสัมพันธ์กบั การติดเชือ้ พยาธิใบไม้ในตับ (339 ตัวอย่าง) ความผิด ปกติทางพันธุกรรมทีต่ รวจพบทำ�ให้ทมี วิจยั สามารถ จัดจำ�แนกผู้ป่วยมะเร็งท่อนํ้าดีออกเป็นกลุ่มๆ ซึ่ง บ่งชี้แนวทางการรักษาให้จำ�เพาะโดยยาที่ออกฤทธิ์ แบบมุ่งเป้าได้นำ�ไปสู่การพัฒนาแนวทางการรักษา แบบมุ่งเป้าในโรคมะเร็งท่อนํ้าดี โดยนักวิจัยได้จัด จำ�แนกกลุม่ ผูป้ ว่ ยมะเร็งท่อนาํ้ ดีโดยอาศัยข้อมูลความ ผิ ด ปกติ ใ นระดั บ พั น ธุ ก รรมและแสดงให้ เ ห็ น ถึ ง แนวทางการรักษาโรคมะเร็งท่อนาํ้ ดีทจี่ �ำ เพาะต่อกลุม่ ผู้ป่วย นำ�ไปสู่การพัฒนาการรักษาที่มีประสิทธิภาพ มากขึ้น” รศ.นพ.ณรงค์ ขันตีแก้ว กล่าว


หน้า 6

ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ประจำ�เดือนกันยายน 2560


ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ประจำ�เดือนกันยายน 2560

หน้า 7


หน้า 8

ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ประจำ�เดือนกันยายน 2560

ตร.ภาค 4 ประชุ ม สั ญ จรพร้ อ ม คณะทันตแพทย์จัดพิธีไหว้ครู มอบประกาศเกียรติคุณตำ�รวจทำ�ดี “ศิษย์น้อมบังคมก้มกราบ รำ�ลึกพระคุณครู” เมื่ อ วั น ที่ 9 ส.ค.2560 ที่ ห้องประชุมโรงแรมนภาลัย อ.เมือง อุดรธานี พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผู้บัญชาการตำ�รวจภูธรภาค 4 เป็น ประธานในการประชุ ม สั ญ จรเจ้ า หน้าที่ตำ�รวจระดับผู้บริหารได้แก่ รองผูบ้ ญ ั ชาการ ผูบ้ งั คับการาตำ�รวจ ภูธรจังหวัด รอง ผบก. และหัวหน้า สถานีใน ภาค 4 จำ�นวน 12 จังหวัด 252 สถานี ประมาณ 300 คน เพื่อที่ให้รับทราบ ข้อควรปฏิบัติในฐานะของเจ้าหน้าที่ตำ�รวจเพื่อ พิทักษ์ความกินดี อยู่ดีของประชาชน และเพื่อ มอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับเจ้าหน้าที่จาก ตำ�รวจภูธรจังหวัดต่างๆ ในสังกัด ตำ�รวจภูธรภาค 4 ก่อนที่เริ่มการประชุม พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผู้บัญชาการตำ�รวจภูธรภาค 4 เป็น ประธานในการมอบใบประกาศเกียรติคุณให้เจ้า หน้าที่ระดับต่างๆที่มีผลงานดีเด่นและปฏิบัติ หน้ า ที่ เ พื่ อ ประชาชนโดยความเสี ย สละ เช่ น พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี ทำ�หน้าที่ปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม ยาเสพติดดีเด่น โครงการป้องกันยาเสพติดใน ชนบท ข้าราชการตำ�รวจงานสอบสวนสืบสวน ดีเด่น ร.ต.อ.อรรคพล ยี่เถาะ สว.สส.สภ.เมือง อุดรธานี ร.ต.อ.บรรจง พสโคตร รอง สว.สส.ฯ ร.ต.อ.วิเชียร คล้อยดี รอง สวป.ฯ ร.ต.ท.บรรเทิง ทัพโยธา รอง สว.สส.

งานป้องกันปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่ ในสภาพเสี่ยงภัยอันตรายต่อชีวิต จนได้รับบาด เจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มี.ค.2560 ร.ต.ท.วิชัย มิตราช รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี งานด้าน จราจร จ.ส.ต.เจริญ จันทรรักษ์ ผบ.หมู่ จราจร สภ.เมืองอุดรธานี ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ด้วย ความเสียสละ เป็นทีย่ อมรับของสังคม ช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ที่ชาวต่างชาติ เมา ขับรถกระบะชนด้วยความประมาท เป็นเหตุ ให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ งานด้านสอบสวน พ.ต.ท.จำ�ลอง ทับสีแก้ว รอง ผกก.สอบสวน สภ.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เป็นผู้ปฏิบัติ หน้าที่ด้านการสอบสวนที่มีผลปฏิบัติงานดีเด่น และได้อุทิศเวลาส่วนตนในการดูแล เอาใจใส่ อำ�นวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เดินทาง เข้าพื้นที่ วังนาคินคำ�ชะโนด จากนัน้ ร่วมกับคณะทีป่ รึกษาของตำ�รวจภูธรภาค 4 ทำ�การมอบเครือ่ งอุปโภค บริโภค แก่ครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำ�รวจทั้ง 12 จังหวัด 252 สถานี

แพทย์จีนโชว์เทคโนโลยีลํ้าสมัย พิชิตมะเร็ง อ้างให้ผลรักษาดีกว่า มุง่ เป็นทางเลือกให้ผปู้ ว่ ย โรงพยาบาลมะเร็ ง สมั ย ใหม่กว่างโจวแสตมป์ฟอร์ด รุกจัด เสวนาที่จ.ขอนแก่น “เทคโนโลยี ลํ้าสมัย พิชิตภัยมะเร็งร้าย” เตือน ภั ย มะเร็ ง ร้ า ยให้ ค นต่ า งจั ง หวั ด สามารถรักษาได้ทันท่วงที พร้อม โชว์ น วั ต กรรมรั ก ษามะเร็ ง ที่ ไ ด้ ผลกว่า ผลข้างเคียงตาํ่ นำ�วิธรี กั ษา เฉพาะจุด ใช้ความเย็น ปลูกถ่าย เซลส์ภูมิกัน เป็นทางเลือกในการรักษามะเร็ง เมื่ อ วั น ที่ 9 ก.ย.60 ที่ ห้ อ งมงกุ ฎ พลอย ชั้น 16 โรงแรมโฆษะ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โรง พยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแสตมป์ฟอร์ด จัด เสวนา “เทคโนโลยีลํ้าสมัย พิชิตภัยมะเร็งร้าย” นำ� นวัตกรรมเทคโนโลยีมาปรับใช้รักษามะเร็ง โดยมี นายยงเกียรติ เหล่าวิโรจนกุล พลเมืองเกียรติยศนคร หนานหนิง เป็นประธานเปิดงานเสวนา พร้อมทีม ผู้บริหารของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว แสตมป์ฟอร์ด ให้ความรู้ โดยมีประชาชนในจังหวัด ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมรับฟังจำ�นวน มาก นายเห้อ ล่างปิง ผูจ้ ดั การใหญ่บริหาร แผนก นานาชาติ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแส ตมป์ฟอร์ด เปิดเผยว่า โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่ กว่างโจวแสตมป์ฟอร์ด เปิดสำ�นักงานในเมืองไทย มากว่า 6 ปีแล้ว มีผู้ป่วยมะเร็งเข้ามารักษาจำ�นวน มาก จากสถิติพบว่าผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทยมี แนวโน้มเพิม่ ขึน้ วัตถุประสงค์การจัดเสวนาในต่าง จังหวัด เพื่อมุ่งเตือนภัยมะเร็งกับผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ ป่วย และประชาชนทั่วไปในต่างจังหวัด ให้รู้เท่า ทันภัยร้ายโรคมะเร็ง ซึ่งต้องได้รับการตรวจรักษา ให้สามารถรักษามะเร็งได้ทันท่วงที ที่ น่ า ต ก ใ จ จ า ก ส ถิ ติ ข อ ง ก ร ะ ท ร ว ง สาธารณสุ ข ของไทย พบว่ า ผู้ป่วยที่ต รวจรัก ษา พบเป็นโรคมะเร็งนั้น เป็นมะเร็งระยะที่ 3-4 แล้ว โดยคนไทยส่วนใหญ่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว

มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำ�ไส้ ซึ่งโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแสตมป์ฟ อร์ดมีเทคโนโลยีที่สามารถรักษามะเร็งได้ผลดี ที่ ผ่านมามีผปู้ ว่ ยมะเร็งจากเมืองไทยเดินทางไปรักษา ที่กว่างโจ เดือนละประมาณ 30-40 คน สำ�หรับรูปแบบการรักษามะเร็ง แพทย์มัก ใช้วิธีรักษา 3 แบบ คือการผ่าตัด ทำ�คีโม และการ ฉายแสง แต่ระยะ 15 ปีที่ผ่านมา มีนวัตกรรมใหม่ ด้านการรักษามะเร็งที่แพทย์จีนใช้รักษาคือ การ รักษาแบบเฉพาะจุดบาดแผลเล็ก ใช้ความเย็น คีโม เฉพาะจุด ซึ่งให้ผลในการรักษาที่ชัดเจนกว่า มีผล ข้างเคียงน้อยกว่า และสามารถยืดอายุผู้ป่วยมะเร็ง ได้ยาวนานขึ้น อนึ่งโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว เป็นโรง พยาบาลในเครือบริษัท ป๋ออ้าย เมดิคอล เซอร์วิส กรุ๊ป ก่อตั้งนานกว่า 12 ปี มีเป้าหมายด้านรักษา มะเร็ ง เป็ น หลั ก ผ่ า นการรั บ รองคุ ณ ภาพสถาน พยาบาล JCI (The Joint Commission International) โดยมีความโดดเด่นด้านการรักษาแบบเฉพาะจุด บาดแผลเล็ก ผสมผสานระหว่างแพทย์จีนและ ตะวันตก พร้อมกับนำ�เทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย อาทิ ใช้คีโ มเฉพาะจุด รักษาด้ว ยความเย็น ปลูกถ่า ย เซลส์ภูมิคุ้มกัน เป็นต้น ที่ผ่านมามีคนไข้จากไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ กัมพูชา มาเลเซีย ซาอุดิอาระเบีย ญี่ปุ่น และไต้หวัน เข้ารับการรักษา อย่างต่อเนื่อง

ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ

รศ.ดร.เกรียงไกร กิจเจริญ รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและชุมชนสัมพันธ์ มข. เป็น ประธานลงนามความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ร่วมกับ นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนีไ้ ทย โดยมี รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี รศ.ดร.วินติ ชินสุวรรณ คณบดีวทิ ยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ รศ.ดร.กัลปพฤกษ์ ผิวทองงาม คณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย และ นางสาวศิรนิ ารถ อมรธรรม ผูอ้ �ำ นวยการอาวุโสฝ่ายวิจยั และวิเทศสัมพันธ์สมาคมตลาดตราสาร หนีไ้ ทย เพือ่ ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการในการเผยแพร่ แลกเปลีย่ นความรูข้ อ้ มูล และความช่วย เหลือด้านวิจัยและวิชาการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับตลาด ณ ห้องประชุม ชั้น 6 คณะบริหารธุรกิจและการ บัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560

“ปาเจรา จ ริ ย า โ ห น ติ คุ ณุ ต ต ร า นุ ส า ส ก า ” สิ้ น เสี ย งผู้ นำ � กล่ า ว บ ท ไ ห ว้ ค รู อั น ไพเราะ นั ก ศึ ก ษา ทันตแพทย์กว่า 400 คน พร้ อ มใจกั น ก ล่ า ว บ ท ไ ห ว้ ค รู รำ�ลึกพระคุณครูดัง กระหึ่ม ทั่ว ห้องประชุม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่ อ วั น ที่ 31 สิ ง หาคม 2560 ที่ ผ่ า นมา ณ ห้องประชุมนิธิภาวี ศรีสุข ชั้น 5 คณะทันต แพทยศาสตร์ จัดพิธีไหว้ครู ประจำ�ปีการศึกษา 2560 โดยมี รศ.ดร.ทพญ.วรานุช ปิติพัฒน์ คณบดี เป็นประธานในพิธี และกล่า วให้โอวาทภายใน งานมีการขับกล่อมบทเพลงศุภศรีจากนักศึกษา ทันตแพทย์ กล่าวคำ�สรรเสริญบูชาพระคุณครู การ ร้องเพลงประสานเสียงขับร้องเพลงพระคุณทีส่ าม การเจิมหนังสือเรียน ตัวแทนนักศึกษาทันต-แพทย์ แต่ละชัน้ ปี นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และผูช้ ว่ ย ทันตแพทย์ นำ�พานดอกไม้ขึ้นไหว้ครู รศ.ดร.ทพญ.วรานุช ปิตพิ ฒ ั น์ คณบดี กล่าว ว่า พิธีไหว้ครูเป็นวัฒนธรรมไทยอย่างหนึ่ง และ เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย เราที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และถือสืบทอดกันมา จนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นพิธีที่สำ�คัญแทบทุกสาขา อาชีพ และการไหว้ครูเป็นการแสดงออกถึงความ เคารพ และกตเวทีที่ลูกศิษย์มีต่อครูบาอาจารย์ ผู้ ที่จะถ่ายทอดความรู้ วิชาการให้กับลูกศิษย์ ครู หรืออาจารย์คือผู้เสียสละอย่างยิ่งใหญ่ และเปรียบ เสมือนเรือจ้าง โดยเฉพาะครูอาจารย์ของคณะทันต แพทยศาสตร์ของเรา เพราะครู อาจารย์ทุกท่านได้ เสียสละทั้งเวลา แรงกายและแรงใจ ทุ่มเทความรู้ ความสามารถที่มีอยู่ ให้กับการทำ�หน้าที่อย่างเต็ม กำ�ลังความสามารถ ถึงแม้ค่าตอบแทนจะน้อยนิด ก็ตาม แต่นนั่ ไม่ใช่เรือ่ งสำ�คัญ สิง่ สำ�คัญทีส่ ดุ ของครู คือ การได้ทำ�หน้าที่ถ่ายทอดความรู้ความสามารถ และประสบการณ์เพื่อให้ลูกศิษย์มีความรู้ ความ สามารถ และสำ�เร็จการศึกษาออกไปเป็นคุณหมอ หรือทันตแพทย์ที่เก่ง ดี มีคุณธรรม จริยธรรม และ สามารถนำ�ความรู้ไปประกอบสัมมาอาชีพ รับใช้ สังคม ประเทศชาติ และเป็นพลเมืองดีของสังคม ต่อไป ในฐานะทีเ่ ป็นครูคนหนึง่ จะขอกล่าวแทน ครู อาจารย์ทุกท่านว่า พร้อมที่จะทำ�หน้าที่ของครู ที่ดี จะทุ่มเทเพื่อถ่ายทอดความรู้วิชาการ อบรม

พ.ต.อ.พิชิต ดียา

รองผู้การฯ มหาสารคาม ส่งต่ออุดมคติตำ�รวจไปยังผู้ใต้บังคับ บัญชา..‘รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต’ “สวัสดีค่ะ” หนังสือพิมพ์ไทยเสรี ขอ ต้อนรับทุกท่านเข้าสู่คอลัมน์ “สายตรงโรงพัก” ฉบับประจำ�เดือนกันยายน พุทธศักราช 2560 เรา ขอแนะนำ�ท่านผู้อ่านให้รู้จักกับคนในแวดวงสี กากี คือ “ตำ�รวจ” หรือ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ในพื้นที่ภาคอีสานเช่นเคยค่ะ โดยในฉบับนี้เรา ขอแนะนำ�ท่านผู้อ่านให้รู้จักกับ พ.ต.อ.พิชิต ดียา นับเป็นนายตำ�รวจมืออาชีพผู้ห่วงใยในชีวิตและ ครอบครัวของผู้ใต้บงั คับบัญชามาโดยตลอด โดย ได้ส่งต่ออุดมคติตำ�รวจ รักษาความไม่ประมาท เสมอชีวิตให้ยึดถือปฎิบัติกัน พ.ต.อ.พิ ชิ ต ดี ย า รอง ผบก.ภ.จว. มหาสารคาม เกิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2512 เป็นคน จ.ชัยภูมโิ ดยกำ�เนิด สมรสกับนางดวงรัตน์ ดียา ปัจจุบันรับราชการครู โรงเรียนขอนแก่น วิทยายน มีบุตรด้วยกันสองคนโดยคนโตกำ�ลัง ศึกษาอยู่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ชั้นปีที่ 2 ส่วนคนเล็กเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จบการศึ ก ษา ระดั บ ชั้ น มั ธ ยมศึ ก ษาปี ที่ 1-5 โรงเรียนภูเขียว อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ไป ต่ อ ชั้ น มั ธ ยมศึ ก ษาปี ที่ 6 โรงเรี ย นสามเสน วิทยาลัย กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะเข้าโรงเรียน เตรียมทหาร รุ่นที่ 29 และจบ โรงเรียนนายร้อย ตำ�รวจรุ่นที่ 45 เริ่ ม ชี วิ ต รั บ ราชการ เมื่ อ ปี 2536 ใน ตำ � แหน่ ง ผบ.มว.ร้ อ ย ตชด.215 อ.นารอง จ.บุ รี รั ม ย์ ในปี 2541 ย้ า ยมาเป็ น รอง สวป. สภ.เมื อ งขอนแก่ น จ.ขอนแก่ น แล้ ว ขยั บ ขึ้ น เป็น สวป. สภ.นาดูน จ.มหาสารคาม ,สวป. สภ.พระยืน, สวป.สภ.กระนวน แล้วมาเป็น สวป. สภ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ก่อนจะขึ้นเป็น รอง ผกก.ป. สภ.เมืองนครพนม จ.นครพนม ใน

คุณธรรม จริยธรรมให้กบั ศิษย์ทกุ คนอย่างเท่าเทียม กัน และเต็มกำ�ลังความสามารถ จึงขอให้ศิษย์ทุก คน เป็นศิษย์ที่ดี พร้อมที่จะรับเอาความรู้ ความ ปรารถนาดีจากครูอย่างเต็มกำ�ลังเช่นกันสุดท้าย นี้ ขออำ�นวยอวยพรให้ศิษย์รักของครูทุกคน จง ประสบความสุข ความเจริญ สำ�เร็จผลสมดัง่ ทีต่ งั้ ใจ และมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง ตลอดไป นอกจากพิธีไหว้ครูแล้ว ยังได้มีการมอบ เกียรติบตั ร ทุนการศึกษา และรางวัลต่างๆ ประกอบ ด้วย รางวัลอาจารย์พเิ ศษผูอ้ ทุ ศิ ตนเพือ่ การเรียนการ สอน คณะทันตแพทยศาสตร์ ประจำ�ปีการศึกษา 2559 จำ�นวน 3 ท่าน คือ ทพญ.สมพิศ ธรรมรังรอง, อ.ทพ.วสุ ดีเสมอ และ ทพญ.อุไรวรรณ อมรไชย รางวัลนักศึกษาทันตแพทย์ทมี่ ผี ลการเรียน สูงสุดเป็นอันดับหนึง่ ของแต่ละชัน้ ปี ประจำ�ปีการ ศึกษา 2559 ได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติจากคณะ คือ ชัน้ ปีที่ 1 นางสาวสุภคั ศิริ วิมลศรีนาชัย ชัน้ ปีที่ 2 นายวชิรายุทธ ทองฝัน้ ชัน้ ปีที่ 3 นางสาวธัญภา กีฎา มระ ชั้นปีที่ 4 นางสาวกมลลักษณ์ ตุรงค์สมบูรณ์ ชั้นปีที่ 5 นางสาววิทิตา อัครเอกจิตต์และนางสาว วรินรดา พาณิชยพิเชฐ และ ชั้นปีที่ 6 นางสาวสิริ พร อนันตศิริจินดา รางวัลนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ได้รับรางวัล เชิดชูเกียรติจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น รางวัล “ผล การเรียนเฉลีย่ สะสมสูงสุด คณะทันตแพทยศาสตร์ ประจำ�ปีการศึกษา 2559 โดยมีเกรดเฉลี่ย 3.90 คือ นางสาววิทิตา อัครเอกจิตต์ นักศึกษาทันตแพทย์ ชั้นปีที่ 6 รางวัลคนดีของเพื่อน ผู้มีมนุษยสัมพันธ์ดี คอยช่วยเหลือเพื่อนและเป็นที่รักของเพื่อนในชั้น ปี คือ นายศุทธิพันธ์ ทุมดี รางวัลผู้มีนํ้าใจงาม ผู้ที่มี มนุษยสัมพันธ์ดี เป็นทีร่ กั ของพีๆ่ เจ้าหน้าทีใ่ นคณะ คือ นายสุพล คำ�แก้ว รางวัลเพื่อนดีเด่นจากสโมสร นักศึกษาคณะทันตแพทยศาสตร์ คือ นายธนโชติ กองสุภาพรรณ และ รางวัลการประกวดพานไหว้ ครู ประเภทสวยงาม ได้แก่ นักศึกษาทันตแพทย์ โรงไฟฟ้านํ้าพอง ได้ ชั้นปีที่ 5 ส่วนประเภทความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ รั บ รางวั ล อุ ต สาหกรรมสี นักศึกษาทันตแพทย์ ชั้นปีที่ 3 เขียว (Green Industry) ระดับ ที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว จาก กรมโรงงานอุ ต สาหกรรม กระทรวงอุ ต สาหกรรม ประจำ � ปี 2560 ตอกยํ้ า การ ดำ�เนินกิจการอย่างเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมอยู่ร่วม กับชุมชนอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2560 ที่ห้องมัฆวาน รังสรรค์ สโมสรทหารบก (วิภาวดี) กรุงเทพมหานคร นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีมอบใบรับรองอุตสาหกรรมสี เขียว (Green Industry) ประจำ�ปี 2560 จัดโดยกรม โรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดย นายไวฑูรย์ เกียรติเฉลิมคุณ ผู้ช่วยผู้อำ�นวยการโรง ไฟฟ้านํ้าพอง (ช.อฟพ.) เป็นผู้แทนโรงไฟฟ้านํ้า อีสาน โดยมีแนวโน้มที่จะมีผู้โดยสารเติบโตตลอด พอง รับมอบรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ เวลาจากล้านคนเศษมาเป็น 2 – 3 ล้านคน นอกจาก 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) ซึ่งหมายถึง นี้ขอนแก่นเป็นจุดตัดเชื่อมต่อหลายจังหวัดในภาค การที่ทุกคนในองค์กรมีความร่วมมือร่วมใจดำ�เนิน อีสาน และประเทศติดชายแดนแม่นํ้าโขง พร้อม งานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกด้านของ กั บ มี นั ก ลงทุ น จากส่ ว นกลางได้ เ ข้ า มาลงทุ น ใน การประกอบกิจการ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของ ขอนแก่นจำ�นวนมาก และยังเป็นศูนย์กลางของการ วัฒนธรรมองค์กร ศึกษา และการแพทย์ในภาคอีสานอีกด้วย กรมท่า นายไวฑูรย์ เกียรติเฉลิมคุณ ช.อฟพ. กล่าว อากาศยาน กระทรวงคมนาคม ได้รับการจัดสรร ว่า โรงไฟฟ้านํ้าพองยึดมั่นในการประกอบกิจการที่ งบประมาณจากรัฐบาลเพื่อศักยภาพในการรองรับ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เรามุ่งเน้นในเรื่องของการ ผูโ้ ดยสารให้ทนั กับการเจริญเติบโตของ จ.ขอนแก่น พัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำ�เนินงาน โดยงบประมาณปี 2561 จึ ง มี โ ครงการ และการบริหารจัดการสิง่ แวดล้อมอย่างต่อเนือ่ ง รวม พัฒนาท่าอากาศยานขอนแก่นด้วยเงินงบประมาณ ถึงตระหนักอยู่เสมอว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน 2,250 ล้านบาท เพื่อดำ�เนินโครงการสร้างอาคาร จึงใส่ใจเรือ่ งความรับผิดชอบต่อสังคม คำ�นึงถึงผลก ที่ พั ก ผู้ โ ดยสารหลั ง ใหม่ พร้ อ มอาคารจอดรถผู้ ระทบต่อผูม้ สี ว่ นได้สว่ นเสีย ป้องกันผลกระทบด้าน โดยสาร ส่วนปี 2562 จะดำ�เนินโครงการก่อสร้าง ลบที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ และรายงานผลการ ขยายลานจอดเครื่ อ งบิ น จำ � นวน 6 ลู่ ทั้ ง สอง โครงการจะดำ�เนินการเสร็จสิน้ ในปลายปี 2563 และ และกลับคือ 36 เที่ยวบิน เฉลี่ยการทำ�การบินในทุก ในปี 2564 ท่าอากาศยานขอนแก่น ก็จะดำ�เนินการ 45 นาที บริการประชาชนให้เกิดความสะดวกสบายในการ ขณะทีแ่ ผนการก่อสร้างและปรับปรุงอาคาร เดินทางมาที่ จ.ขอนแก่น ตามเป้าทีว่ างไว้ โดยจะรับ ผู้โดยสารลานจอดเครื่องบินรวมไปถึงสิ่งอำ�นวย ผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น คือ 2,000 คน / ชั่วโมง หรือ 2.5 ความสะดวกในด้านต่างๆนั้น กระทรวงคมนาคม ล้านคน/ปี ได้มีการอนุมัติงบประมาณในการศึกษาออกแบบ ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำ�นวยการท่า โดยขณะนี้บริษัทฯที่ถูกว่าจ้างได้มีการนำ�เสนอการ อากาศยานขอนแก่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันสนามบิน ออกแบบอาคารหรือเรียกว่าการก่อสร้างระยะที่ 2 ขอนแก่นมีจำ�นวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการทั้งขา จากเดิมที่มีอยู่คืออาคารทำ�การบิน 1 อาคารเท่านั้น เข้าและขาออกรวมกว่า 3,500 คน/วัน จากการเปิด รูปแบบใหม่จะเป็นอาคาร 3 อาคาร แยกเป็นอาคาร ให้บริการของสายการบินพาณิชย์ 5 สายการบิน จอดรถ 7 ชั้น อาคารสำ�นักงานและพิธีการบิน ซึ่ง ประกอบด้วย ไทยสมายล์ ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ จะเป็นอาคารตรงกลาง ความสูง 3 ชั้น และอาคารผู้ ไทยไลอ้อนแอร์ และกานต์แอร์ รวมไปถึงเที่ยวบิน โดยสารต่างประเทศ รวมทัง้ ทีต่ งั้ ของสำ�นักงานสาย แบบเช่าเหมาลำ�ครอบคลุมทุกเส้นทาง และเชื่อม การบิน และสำ�นักงานของกรมท่าอากาศยานประจำ� ต่อภูมิภาคของไทยทั้งหมด ทั้งจากสถานีต้นทางที่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งจะเป็นอาคารที่ตั้งอยู่ติดกัน สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง, สนาม “อาคารหลักที่ใช้ปฏิบัติการการบินนั้น จะ บินเชียงใหม่ และสนามบินหาดใหญ่ โดยมีเที่ยว มีความสูง 3 ชั้น เป็นอาคารเดิมที่ตั้งอยู่ แต่จะมีการ บินให้บริการมากถึง18 เที่ยวบิน/วัน ถ้านับรวมไป ขยายการก่อสร้างในระยะที่ 2 ออกไป โดยใช้บันได

ปี 2551 โยกมา เป็ น รอง ผกก. จร. สภ.เมื อ ง ข อ น แ ก่ น จ.ขอนแก่ น แล้ ว ในปี 2553 ขึ้ น ชั้ น เป็ น ผกก.สภ.นาดู น จ.มหาสารคาม, ผกก. สภ.ร่องคำ� จ.กาฬสินธุ์, ผกก. สภ.หนองนาคำ� จ.ขอนแก่น,ผกก. สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น, ผกก. สภ.ภู ผ าม่ า น จ.ขอนแก่ น จากนั้ น ปี 2560 เลื่ อ นชั้ น เป็ น รองผู้ ก ารฯ ตำ � รวจภู ธ ร จว.มหาสารคาม จนถึงปัจจุบัน ในการทำ�งานยึดคติพจน์ : เชื่อมั่น เชื่อมือ เชื่อ ถือ และเชื่อใจ ในโอกาสที่มาเยือนคอลัมน์สายตรงโรง พัก “รองยักษ์” พ.ต.อ.พิชติ ดียา ได้กล่าวฝากถึงผู้ ใต้บงั คับบัญชา และเพือ่ นร่วมงาน ในสังกัด ภ.จว. มหาสารคามทั้งหลายว่า “ในการปฏิบัติหน้าที่ ของตำ�รวจมีความเสี่ยงในการทำ�งานอยู่ตลอด เวลา ไม่ว่าจะเป็นการจับกุมคนร้ายที่มีอาวุธ โดย เฉพาะคดียาเสพติดรายใหญ่ๆ สิ่งที่ผมเน้นยํ้า! กับผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่ตลอดเวลาคือ การรักษา ความไม่ประมาทเสมอชีวติ ซึง่ เป็นส่วนหนึง่ ของ อุดมคติตำ�รวจ เพราะตำ�รวจมีครอบครัวที่ต้อง ดูแล เวลาปฏิบตั หิ น้าทีต่ อ้ งไม่ประมาท หลายครัง้ ทีต่ �ำ รวจไปปฏิบตั หิ น้าทีแ่ ล้วพลาดพลัง้ ถูกคนร้าย ยิงต่อสูจ้ นเสียชีวติ ทำ�ให้ลกู ต้องกำ�พร้าพ่อ ภรรยา เป็นหม้าย การทำ�งานหากรักษาความไม่ประมาท เสมอชีวติ ได้กจ็ ะนำ�มาซึง่ ความปลอดภัย ลดความ สูญเสียเลือดเนื้อได้ครับ” สำ�หรับคอลัมน์สายตรงโรงพักฉบับนี้ ต้องขอลาท่านผู้อ่านไปก่อนไว้พบกันใหม่ฉบับ หน้าเดือนตุลาคม2560 นะคะ “สวัสดีค่ะ”

เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน

โรงไฟฟ้านํ้าพอง คว้ารางวัล อุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 4

กรมท่าอากาศยาน ทุ่มเงินกว่า2พันล้านบาท ปรับปรุงท่าอากาศยานขอนแก่นสูร่ ะดับนานาชาติ กรมท่าอากาศยาน ใช้งบ ประมาณ 2.2 พันล้านบาท ปรับปรุง สนามบินขอนแก่น ก่อสร้างอาคาร ที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ยกระดับ สู่ ส นามบิ น นานาชาติ รองรั บ ผู้ โดยสารมากถึง 2.5 ล้านคนต่อปี ให้ ทันกับการเติบโตของ จ.ขอนแก่น คาดแล้วเสร็จปลายปี 2563 เมื่ อ วั น ที่ 6 ก.ย.60 เวลา 10.30 น. ที่ท่าอากาศยานขอนแก่น ชั้น 3 นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน พร้อมด้วย นายเกียรติ ชัยเรืองยศ วิศวกรไฟฟ้า ชำ � นาญการพิ เ ศษ ปฏิ บั ติ ร าชการ ผอ.กองแผน งาน กรมท่ า อากาศยาน, ว่ า ที่ ร้ อ ยตรี อั ธ ยา ลาภ มาก ผอ.ท่าอากาศยานขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าว พัฒนาท่าอากาศยานขอนแก่น คือ ก่อสร้างอาคาร ที่พักผู้โดยสารหลังใหม่, ขยายลานจอดเครื่องบิน และโครงการแก้ไขข้อบกพร่องด้านการรักษาความ ปลอดภัย นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า ท่าอากาศยานขอนแก่น หรือ สนามบิน ขอนแก่น อยู่ห่างจากตัวเมืองขอนแก่นไปทางทิศ ตะวันตกประมาณ 8 กม. มีพื้นที่ทั้งหมด 1,113 ไร่ อาคารที่พักผู้โดยสารเป็นอาคารสูง 3 ชั้น พื้นที่ ใช้ ส อยทั้ ง หมด 14,000 ตารางเมตร ประกอบ ด้วย ขนาดทางวิ่ง 3,050×45 เมตร ขนาดลานจอด 300×145 เมตร และ 180×80 เมตร สามารถรองรับ เครื่องบินขนาด B747 ได้จำ�นวน 2 ลำ� ในเวลา เดียวกัน และ B737 ได้จำ�นวน 5 ลำ� ในเวลาเดียวกัน สามารถรองรั บ การจอดอากาศยานเที่ ย วบิ น ไม่ ประจำ� ฉุกเฉิน และ ค้างคืนได้ 6 ลำ� ส่วนอาคารทีพ่ กั ผู้โดยสารสามารถรองรับ ผู้โดยสารขาเข้า – ขาออก ในชั่วโมงคับคั่งได้ 1,000 คน/ชั่วโมง หรือ 2.4 ล้าน คน/ปี ลานจอดรถยนต์ สามารถจอดได้ 160 คัน ในปั จ จุ บั น ท่ า อากาศยานขอนแก่ น มี สายการบินให้บริการจำ�นวน 5 สายการบิน และ มีจำ�นวนเที่ยวบินวันละ 20 เที่ยวบิน/วัน โดยมี ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็นจำ�นวนมากซึ่งปี 2559 มีปริมาณผูโ้ ดยสารจำ�นวน 1,499,823 คน ซึง่ เพิม่ ขึน้ เกือบ 3 เท่าหากเทียบจากปีพ.ศ.2556 ที่มีปริมาณผู้ โดยสารจำ�นวน 593,210 คน นายดรุ ณ กล่ า วเพิ่ ม เติ ม ว่ า กรมท่ า อากาศยาน เห็นว่าขอนแก่นเป็นจังหวัดใหญ่ในภาค

ดำ�เนินกิจกรรมด้านสิง่ แวดล้อมเปิดเผยต่อสาธารณะ อยู่เสมอ การได้รับรางวัลในครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่ง ความภาคภูมิใจที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมองค์กรด้าน สิง่ แวดล้อมของพวกเราชาวโรงไฟฟ้านํา้ พอง และจะ รักษามาตรฐานนีไ้ ว้ เพือ่ ให้สามารถอยูร่ ว่ มกับชุมชน อย่างเกื้อหนุนและยั่งยืนต่อไป สำ�หรับโครงการอุตสาหกรรมสีเขียว หรือ โครงการกรีน อินดัสทรี (Green Industry : GI) จั ด ขึ้ น โดยกรมโรงงานอุ ต สาหกรรม กระทรวง อุตสาหกรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 เพื่อส่งเสริมภาค อุตสาหกรรมให้มกี ารประกอบกิจการทีเ่ ป็นมิตรกับ สิง่ แวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และสามารถ อยู่ร่วมกับสังคม ชุมชน และประชาชนอย่างยั่งยืน ประกอบด้วยขั้นตอนในการพัฒนา 5 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 ความมุ่งมั่นสีเขียว ระดับที่ 2 ปฏิบัติการสี เขียว ระดับที่ 3 ระบบสีเขียว ระดับที่ 4 วัฒนธรรมสี เขียว และระดับที่ 5 เครือข่ายสีเขียว ทั้งนี้ หน่วยงาน จากทีไ่ ด้รบั รางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ประจำ�ปี 2560 มีจ�ำ นวนทัง้ สิน้ 212 หน่วยงาน แบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ รางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 5 จำ�นวน 23 หน่วยงาน และรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 จำ�นวน 189 หน่วยงาน เลือ่ นทีม่ อี ยูใ่ นปัจจุบนั นัน้ เป็นกึง่ กลางของอาคารผู้ โดยสารใหม่ทั้งหมด และจะมีการเวนคืนพื้นที่ด้าน ข้าง ซึง่ ปัจจุบนั เป็นอาคารบ้านพักของเจ้าหน้าทีอ่ อก ไปทัง้ หมด ทัง้ นี้ 3 ชัน้ ทีใ่ ช้ในการปฏิบตั กิ ารบินและ อำ�นวยความสะดวกให้กบั ผูโ้ ดยสารนัน้ จะแยกเป็น ชัน้ ที่ 1เป็นอาคารผูโ้ ดยสารขาเข้า, ชัน้ ที่ 2 เป็นอาคาร ผู้โดยสารขาออก จุดนี้จะมีการก่อสร้างเคาน์เตอร์ เช็คอินทั้งหมด 24 จุด เพื่อให้บริการแก่สายการบิน พาณิชย์ได้ครบ และสมบูรณ์แบบที่สุด รวมทั้งการ เพิ่มที่พักผู้โดยสารหลังจากตรวจบัตรโดยสารไป แล้ว โดยจะสอดคล้องกับหลุมจอดเครื่องบินคือ 6 หลุมจอด และ 6 GATE” ว่าที่ ร.ต.อัธยา กล่าว นอกจากนี้ยังคงจะมีการเพิ่มที่ทำ�การของ ศุลกากร ตำ�รวจตรวจคนเข้าเมือง ตำ�รวจท่องเที่ยว และตำ�รวจท้องที่ ที่จะต้องมาปฏิบัติหน้าที่ทุกวัน ให้แยกออกเป็นสัดส่วนและสามารถให้บริการแก่ ผู้โดยสารได้อย่างสะดวกสบายและครอบคลุมที่สุด


หน้า 9

ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ประจำ�เดือนกันยายน 2560

“โครงการหลวง” ขนสินค้าคุณภาพจากดอย มาขายราคาต้นทุน ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น จัดงาน “โครงการหลวง” Royal Project @ Centralplaza Khonkaen” เพื่อตอกยํ้าความภาค ภู มิ ใ จในโครงการพระราชดำ � ริ ซึ่ ง ผลิ ต วั ต ถุ ดิ บ ที่ มี คุ ณ ภาพและ ได้ รั บ ความนิ ย มจากผู้ บ ริ โ ภคทั้ ง ในและต่ า งประเทศ โดยมี นาย พงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิด งาน คุ ณ นิ ส า ชาภู่ พ วง ผู้ จั ด การ ทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น ดร.ณรงค์ชัย พิพัฒน์ธน วงศ์ ผู้ อำ � นวยการฝ่ า ยการตลาด มูลนิธิโครงการหลวง หน่วยงานทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมงาน และเลือกซือ้ สินค้า ณ ลาน โปรโมชัน่ ชัน้ 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซาขอนแก่น เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2560 คุณนิสา ชาภู่พวง ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้า เซ็ น ทรั ล พลาซาขอนแก่ น เปิ ด เผยว่ า การจั ด งาน“โครงการหลวง” Royal Project @ Centralplaza Khonkaen เพื่อให้ชาวขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง

ได้เลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์โครงการหลวง ซึ่งเป็นหนึ่ง ในโครงการส่วนพระองค์ของ พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นอกจากการจำ�หน่าย สินค้าโครงการหลวงแล้ว ยังมีการโชว์ฝีมือการทำ� อาหารทีท่ �ำ จากผลิตผลจากโครงการหลวงเป็นผลิตผล ที่อยู่ใน 10 สินค้าดี อร่อยที่ไม่ควรพลาด ภายในงานจะมีผลิตผลการเกษตรมากมาย

พูลแมน ขอนแก่น ร่วม ส่งมอบดอกดารารัตน์ ; มร.แสตนลี่ ย์ ชาน ผู้ จั ด การใหญ่ โ รงแรมพู ล แมน ขอนแก่ น ราชา ออคิ ด ส่ ง มอบดอกไม้ จั น ท น์ ‘ ด อ ก ด า ร า รั ต น์ ’ จำ � นวน ๑,๒๐๐ ดอก แก่ นายฉัตรชัย อุ่น เจริญ นอภ.เมืองขอนแก่น เพื่อนำ�ไปมอบต่อสำ�นักพระราชวัง และกรุงเทพมหานคร สำ�หรับพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดชในวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ โดยดอกดารารัตน์จ�ำ นวน ๑,๒๐๐ ดอกนี้ ได้รบั ความร่วมมือจากผูบ้ ริหาร-พนักงานโรงแรมฯ จิตอาสา แขกผู้ เข้าพักและประชุมสัมมนาทีโ่ รงแรมฯ ได้รว่ มมือร่วมใจ ประดิษฐ์ขนึ้ เพือ่ ถวายในพระราชพิธี ภายใต้โครงการ ‘ร่วมใจประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙’ ระหว่างเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม ๒๕๖๐

และมีคุณภาพ ราคาต้นทุน โดยคัดเลือกสินค้าที่โด เด่น เป็นที่นิยมมาจำ�หน่าย อาทิ ลูกพลับพันธุ์ดี (P2) ออกผลตั้งแต่ช่วงเดือน มิถุนายน-กันยายน ของทุก ปี มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย ในปัจจุบันเป็นไม้ผล เศรษฐกิจที่สำ�คัญ เนื่องจากมีศักยภาพทางการตลาด และเหมาะสมสำ�หรับปลูกบนพื้นที่สูงมาก โดยใน ประเทศไทยได้รเิ ริม่ ปลูกต้นพลับมาตัง้ แต่ปี พ.ศ.2470 จนในปี พ.ศ. 2512 มูลนิธิโครงการหลวงได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำ�พลับพันธุ์ต่างๆ มาท ดลองปลูกทีส่ ถานีวจิ ยั ดอยปุย จ.เชียงใหม่ จนประสบ ความสำ�เร็จ สามารถปลูกเพื่อการค้าได้ “ในงานโครงการหลวง จะพบกับสุดยอดลูก พลับพันธุ์ดี (P2) และอโวคาโด พันธุ์ปีเตอร์สัน ของ โครงการหลวง นอกจากนี้ ยังจะได้ลิ้มรสผลิตภัณฑ์ ลูกพลับแปรรูป และยังมีผลิตผลทางการเกษตร อาทิ เห็ดหลินจืออบแห้ง พริกกระเหรี่ยงแห้ง ข้าวโพด หวานสีมว่ ง พีชลอยแก้ว และผักสดในโครงการหลวง จำ�หน่ายในราคาพิเศษ โดยเปิดให้เลือกซื้อในระหว่าง วันที่ 6-10 กันยายน 2560 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น” ผูจ้ ดั การทัว่ ไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซาขอนแก่น กล่าว ดร.ณรงค์ชัย พิพัฒน์ธนวงศ์ ผู้อำ�นวยการ ฝ่ายการตลาด มูลนิธิโครงการหลวง กล่าวว่า สำ�หรับ

มูลนิธโิ ครงการหลวง เป็นหนึง่ ในโครงการอันเนือ่ งมา จากพระราชดำ�ริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรม หาภูมพิ ลอดุลยเดช ซึง่ ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ ส่วนพระองค์ เพือ่ ให้โครงการหลวงได้เริม่ ดำ�เนินงาน ในปี พ.ศ.2512 โดยมีวัตถุประสงค์ในการช่วยชาว เขาเพื่อมนุษยธรรม ช่วยชาวไทย โดยลดการทำ�ลาย ทรัพยากรธรรมชาติ คือ ป่าไม้ และต้นนํา้ ลำ�ธาร กำ�จัด การปลูกฝิ่น รักษาดิน และใช้พื้นที่ให้ถูกต้อง และเพื่อให้ประชาชนที่อยู่อาศัยมีอาชีพเลี้ยง ครอบครัวอย่างยั่งยืนเป็นรูปธรรม คือ ให้ป่าอยู่ส่วน ที่เป็นป่า และทำ�ไร่ ทำ�สวน ในส่วนที่ควรเพาะปลูก โดยมีกำ�ลังสำ�คัญของโครงการ ได้แก่ อาสาสมัครจาก ป ร ะ ก ว ด ห นู น้ อ ย มหาวิทยาลัย และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ Fairy Kids 2017 ร่วมมือกันทำ�โครงการวิจัยและพัฒนาในหลายพื้นที่ ร อ บ ชิ ง ช น ะ เ ลิ ศ ; ต่อมา ในปี พ.ศ.2535 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรม ศู น ย์ ส รรพสิ น ค้ า แฟ หาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยก รี่ พ ลาซ่ า ขอนแก่ น ฐานะโครงการหลวงขึ้นเป็นมูลนิธิโครงการหลวง มี จัดการประกวดหนูนอ้ ย บทบาทเป็นองค์กรสาธารณะอย่างถาวร เพื่อบริหาร Fairy Kids 2017 รอบชิง จัดการงานของโครงการหลวง ภารกิจหลักของมูลนิธิ ชนะเลิศ เมื่อวัน เสาร์ ที่ ประกอบไปด้วยการวิจยั พัฒนา และการตลาด มูลนิธิ 2 กันยายน 2560 ที่ผ่าน โครงการหลวง ถือเป็นโครงการแรกที่ประสบ ความ มา ขอแสดงความยินดีกับ น้องยูโร ด.ช.จุลละกรรจ์ จุลละนันทน์ ผู้ชนะเลิศหนูน้อย Fairy Kids 2017 สำ�เร็จในการขจัดการปลูกฝิ่น โดยการเสนอแนวทาง รุ่น Kids 4 – 8 ปี และน้องไอซ์ ด.ญ.ภัทรวรรณ ประชุมพรชัย นันทน์ ผู้ชนะเลิศหนูน้อย Fairy Kids การพัฒนาทางเลือกให้กับประชาชนบนที่ราบสูง 2017 รุ่น Junior 9 – 12 ปี

เพื่อให้ผู้ที่สนใจ รวมถึงลูกค้าโตโยต้าได้ร่วมสัมผัส ประสบการณ์แห่งอนาคตไปด้วยกัน โดยเริ่มต้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 2 -10 กันยายน 2560 ภายในงานจะได้ พบนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์จากอดีตถึงปัจจุบนั ตลอดจนอนาคต พร้อมกับกิจกรรมเพื่อสังคมที่โต โยต้าพัฒนาขึ้นตลอดระยะเวลาการดำ�เนินธุรกิจใน ประเทศไทย ที่นำ�มาเพื่อมอบความสุขให้กับทุกท่าน ภายในงานแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน 1: สังคมแห่งความยัง่ ยืน (Sustainable Society) นำ�เสนอ ประวัติการดำ�เนินธุรกิจ รวมถึงหลักการสำ�คัญที่เป็น รากฐานทางธุรกิจของโตโยต้า ตลอดระยะเวลา 55 ปี ที่ผ่านมา โซนที่ 2: ขับเคลื่อนความสุขสู่โลกอนาคต (Mobility of Happiness) นอกจากนี้จะได้พบกับหุ่น ยนต์ คิโรโบะ มินิ (Kirobo mini) ที่สามารถเป็นเพื่อน ร่วมเดินทาง และสนทนากับมนุษย์ได้ พร้อมร่วม สัมผัสรถยนต์โตโยต้ารุน่ ล่าสุด “Yaris ATIV” ภายใน งาน พบกับ”สมการแห่งอนาคต”ที่งาน Toyota Expo ระหว่างวันที่ 2-10 กันยายนนี้ ที่เซ็นทรัลพลาซ่า จ.ขอนแก่น

เข้าร่วมรับฟังความคืบหน้าการก่อสร้างศูนย์ประชุม และแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดขอนแก่น หรือ KICE โดยมี นายสมเกียรติ เรือนทองดี รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำ�กัด (มหาชน) นาย กฤษณ์ เลขะกะ ผู้อำ�นวยการศูนย์ประชุมและแสดง สินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ และ มี นายอภิชาติ สินธุมา ผูอ้ �ำ นวยการภูมภิ าค ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำ�กัด (มหาชน) และ นายชวนิช สิริสิงหล ผู้จัดการศูนย์ประชุมและ แสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น นำ�คณะลงพื้นที่ สำ�รวจการก่อสร้าง เพื่อความมั่นใจในการเปิดบริการ ปลายปี 2560 ณ บริเวณศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า นานาชาติ ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวัน ที่ 19 กันยายน 2560 โครงการ ขอนแก่นอินเตอร์เนชั่นแนล คอน เวนชั่น แอนด์ เอ็กโปรซิชั่น หรือ KICE (Khonkaen International Convention & Exposition) เป็นหนึ่งใน โครงการศูนย์ประชุมสัมมนาระดับนานาชาติ รองรับ การเจริญเติบโตของมหานครขอนแก่นเมืองไมซ์ซิตี้ 1 ใน 5 ของประเทศไทย ที่บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำ�กัด

งกล่าวสู่ระดับภูมิภาค โตโยต้าชวนชาวอีสาน ร่วมค้นหาคำ�ตอบของ ขยายการจันายวุดกิฒจกรรมดั ิกร สุริยะฉันทนานนท์ กก.ผจก.ใหญ่ คืบหน้าก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น า มอเตอร์ จำ�กัด กล่าวว่า การจัดงานในครั้ง นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อม (มหาชน) เข้ า มาลงทุ น “สมการแห่งอนาคต” ในงาน Toyota Expo นีบ.โตโยต้ ้ ขยายการจัดงาน Toyota Expo สู่ระดับภูมิภาค หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และนักธุรกิจ เป็นแห่งแรกในภาคตะวัน

โตโยต้า จัดงาน Toyota Expo ภายใต้แนวคิด “The Future is Here ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมา ของโตโยต้ากับประเทศไทย ระยะเวลา 55 ปี การแสดง เทคโนโลยีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพือ่ ตอบสนองการใช้ ชีวิตในอนาคต เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2560 ที่ลานข้าวเหนียว ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น นายพงษ์ศักดิ์ ปรี ช าวิ ท ย์ ผวจ.ขอนแก่ น เป็ น ประธานเปิ ด งาน Toyota Expo ร่วมค้นหาคำ�ตอบของ”สมการแห่ง อนาคต”พบนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์จากอดีตถึง

ปัจจุบัน ตลอดจนโลกอนาคต โดยมี นายวุฒิกร สุริยะ ฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโต โยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด, ดร.พงษ์ศักดิ์ ตั้ง วานิชกพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น, นายกิตติ สงวน ตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทโตโยต้าขอนแก่น ผู้จำ�หน่ายโตโยต้า, นายโชคชัย คุณวาสี กรรมการผู้ จัดการ บริษัทโตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด, นายมนตรี ธีร ะกนก กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั โตโยต้า อมตะ จำ�กัด, ผู้บริหารและผู้แทนจำ�หน่ายฯ ร่วมงานอย่างคับคั่ง บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด จัดงาน “Toyota Expo” ขึ้น ภายใต้ แนวคิด “The Future is Here” เพื่อ ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของ โตโยต้ า กั บ ประเทศไทยมาตลอด ระยะเวลา 55 ปี ร วมถึ ง การแสดง เทคโนโลยีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อ ตอบสนองการใช้ชีวิตในอนาคตซึ่ง ได้รบั การตอบรับเป็นอย่างดีจากการ จัดขึ้นครั้งแรก ณ สยามพารากอน เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จึง

ออกเฉี ย งเหนื อ ที่ จั ง หวั ด ขอนแก่ น โดยจะเปิ ด ให้ บริการในเดือนธันวาคมปีนี้ สำ � หรั บ โครงการ KICE ของเป็นอาคาร ที่มี สถาปัตยกรรมทีโ่ อ่โถง และ เรียบหรู มีลวดลายผ้าไหม ตามศิลปวัฒนธรรมอีสาน ก่อสร้างด้วยระบบหลังคา แบบ Long –Span ทำ�ให้ อาคารแสดงสินค้า ขนาด 7,500 ตร.ม. ของศูนย์แสดง สิ น ค้ า ปราศจากเสากลาง เป็นสถานที่ๆ เหมาะสมกับการจัดงานแสดงสินค้า อุตสาหกรรมเครื่องจักรหนัก งานประชุมสัมมนา ประจำ�ปีขนาดใหญ่ รวมถึงเป็นสนามสอบที่รองรับ คนจำ�นวนมากไปจนถึงคอนเสิร์ตของนักร้องศิลปิน คนโปรดระดับนานาชาติได้เป็นอย่างดี และสามารถ จุผู้ชมได้กว่า 10, 000 คน ด้วยความสูงจากพื้น ถึง เพดาน 15 เมตร พื้นภายในโถงนิทรรศการบางส่วน

ยังสามารถรับนาํ้ หนักได้สงู สุดถึง 2.5 ตัน ต่อ ตาราง เมตร และด้วยพื้นที่ลานจอดรถกว้างขวางสามารถ จอดรถได้กว่า 2,000 คัน หากศูนย์แสดงสินค้าแห่ง นี้เปิดให้บริการจะเป็นศูนย์แสดงสินค้าขนาดใหญ่ ระดับนานาชาติแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ที่รองรับสู่การเป็นเมืองมหานครขอนแก่น อย่างแท้จริง


หน้า 10

ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ประจำ�เดือนกันยายน 2560


หน้า 11

ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ประจำ�เดือนกันยายน 2560 “ตั๊กกี้แลมป์”

• ต่อจากหน้า 1 ใหม่ได้โดยบริษทั ฯ จะนำ�หลอดไฟ Tukky Lamp เก่า นายอภิชา กล่าวต่อไปว่า สำ�หรับนวัตกรรมที่ โฟกัส การท่องเที่ยว เป็นศูนย์กลางการคมนาคม และ 44 เพือ่ แก้ปญั หาความล่าช้าในการผ่านเข้าเมืองและ ในเซ็กเมนต์ต่างเริ่มขยับตัวไปในทางที่ดีขึ้นโดย

นางธนวรรณ พิทยธาราธร รองประธาน บริหาร บริษัท ออล อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลจีล จำ�กัด เปิดเผยว่า Mr.Rene Pitayataratorn ประธาน บริ ห ารฯ เป็ น นั ก วิ จั ย และพั ฒ นาที่ ไ ด้ รั บ รางวั ล “นวัตกรรมยูเรก้า” ระดับโลกเมื่อปี พ.ศ. 25432544 เป็นผู้คิดค้น จีพีเอส ครั้งแรกเมื่อ 10 ปีที่ผ่าน มา ผ่านระบบมือถือ โดยมีผู้ที่ใช้ระบบจีพีเอส กว่า 80% ในประเทศออสเตรีย เมื่อต้องลงทุนในการ วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และมองฐานการผลิตที่ สามารถรองรับสินค้านวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่ มีการพัฒนารูปแบบใหม่ เชื่อว่าในประเทศไทย มี โรงงานอุตสาหกรรมการผลิตที่ได้รับความน่าเชื่อ ถือจากกลุ่มผู้บริโภคกว่า 75% ทั่วโลก จึงกลับมา เปิดโรงงาน “ออล อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลจีล” ที่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยา เมื่อ ปี พ.ศ.2547 และวิจัยพัฒนาระบบ จีพีเอส อย่าง ต่อเนื่องเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่แตกต่างจาก ประชากรแถบยุโรป แต่ประชาชนในโซนแถบเอเชีย และประชากรในประเทศไทยยังไม่ให้ความสนใจ นวัตกรรมลํ้าสมัยมากนัก จึงหันไปวิจัยและพัฒนา หลอดไฟฟ้า LED ซึง่ เน้นการประหยัดพลังงาน และ เป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม ซึง่ เป็นงานวิจยั ผลิตภัณฑ์ที่ ให้ความสำ�คัญด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นสินค้าที่ ได้รับความสนใจในระดับสากลทั่วโลก การพัฒนาหลอดไฟฟ้า LED ที่ใช้ภายใน บ้าน อาคาร สำ�นักงาน รวมถึงหลอดไฟฟ้าที่ให้แสง สว่างบนท้องถนน ล้วนมีอายุการใช้งานที่ไม่คงทน หลอดไฟที่ใช้งานทั่วไปบางรุ่นใช้งานได้ไม่คุ้มค่า และเมื่อหมดสภาพการใช้งานแล้ว หลอดไฟเหล่านี้ ล้วนสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และกลายเป็นขยะ อิเลคทริคทีเ่ ป็นอันตราย และนับวันจะมีปริมาณเพิม่ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีแนวคิดว่า หากมีหลอดไฟฟ้า ที่สามารถซ่อมได้ จะทำ�ให้ลดปริมาณขยะเป็นพิษ ลงได้มาก จึงได้ทำ�การวิจัยและทดลองหลอดไฟฟ้า ซ่อมได้ในชื่อ “ตั๊กกี้แลมป์” “Tukky Lamp” เมื่อ ปี 2557 และนำ�ไปใช้งานจริงในปี 2558 ทั้งภายใน อาคาร สำ�นักงาน บ้านที่อยู่อาศัย และสถานที่ต่างๆ รวม 1,000 หลอด เพื่อศึกษาระบบและปัญหาที่อาจ เกิดขึ้น หลังผ่านระบบตรวจสอบและกระบวนการ จากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาแล้วหนึ่งปี ซึ่ง ปัจจุบนั กระบวนการตรวจสอบ ยังไม่พบปัญหาและ ข้อบกพร่องจากหลอดไฟ “Tukky Lamp” จึงมีความ มั่นใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์สินค้าที่เป็นหนึ่งเดียว ในประเทศไทย เชื่อว่ายังไม่มีการผลิตสินค้า หลอด ไฟที่สามารถซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอให้กลับมา ใช้งานได้ดีเหมือนเดิมมาก่อน หลังผ่านการใช้งาน มาแล้วหนึ่งปี ปัจจุบัน “หลอดไฟ Tukky Lamp” มี ความพร้อมทีจ่ ะเปิดตัวให้ผบู้ ริโภคได้ทดลองใช้งาน ทัง้ ภายในประเทศ และเตรียมแผนขยายฐานให้เป็นที่ รูจ้ กั อย่างแพร่หลายในโซนเอเซีย ยุโรปทัว่ โลกต่อไป นางธนวรรณ กล่าวต่อว่า สำ�หรับคุณสมบัติ “หลอด ไฟ Tukky Lamp” เป็นหลอดไฟฟ้าที่ใช้ระบบแผง วงจรควบคุมการทำ�งาน มีอะไหล่สำ�หรับเปลี่ยน และซ่อมให้หลอดไฟกลับมาใช้งานได้ในราคาไม่ แพง เป็นหลอดไฟที่ไม่ปล่อยความร้อนเมื่อต้อง เปิดใช้งานในระยะเวลาที่ยาวนาน และยังสามารถ ใช้งานได้ทนทานนานกว่า 50,000 ชม.ให้แสงสว่าง ที่เย็นตา สวยงาม ไม่มีสารตะกั่วที่เป็นอันตรายต่อ สุขภาพของคนและสัตว์เลีย้ งภายในบ้าน เมือ่ เปรียบ เทียบการใช้งานระหว่างหลอดไฟธรรมดาทัว่ ไป กับ หลอดไฟ Tukky Lamp หลอดไฟธรรมดาทั่วไป กินไฟ 350.40 KW ต่อปี หลอดไฟ Tukky Lamp กินไฟ 17.52 KWต่อปี หลอดไฟธรรมดาทัว่ ไปจ่ายค่าไฟถึง 1,402 บาทต่อปี หลอดไฟ Tukky Lamp จ่ายค่าไฟเพียง 71 บาทต่อปี หลอดไฟธรรมดาทั่วไปมีอายุการใช้งาน 6,000 ชม หลอดไฟ Tukky Lamp มีอายุการใช้งาน 50,000 ชม ซึ่งมีความประหยัดไฟได้มากกว่าหลอดไฟธรรมดา ทัว่ ไปถึง 90% และเมือ่ หลอดไฟหมดอายุการใช้งาน แล้ว ในจำ�นวนประชากร 70 ล้านคน ระยะเวลา 5 ปี หลอดไฟธรรมดาทั่วไปจะเกิดเป็นขยะอิเลคทริค ถึง 7,350 ล้านตัน ในขณะที่หลอดไฟ Tukky Lamp จะเป็นขยะอิเลคทริคเพียง 2,100 ล้านตัน และที่ สำ�คัญสามารถนำ�หลอดไฟ Tukky Lamp มาแลก เป็นส่วนลดในการซือ้ หลอดไฟ Tukky Lamp หลอด

มาเปลี่ยนแผงวงจรควบคุมระบบเพื่อนำ�กลับมาใช้ เหมือนหลอดไฟใหม่ทั่วไปได้อีก นางธนวรรณ กล่ า วต่ อ ไปว่ า หลอดไฟ Tukky Lamp มีให้เลือกใช้งานได้ตรงตามความ ต้องการของงานรวม 3 รุ่น อาทิ รุ่น Standard มีให้ เลือกใช้งานได้ดังนี้ Tukky Standard Lamp ใช้แทน หลอดไฟธรรมดาทั่วไปในอาคารบ้าน สำ�หนักงาน Tukky Ranger Type Lamp ใช้งานกับแบตเตอรี่ ขนาดเล็ก Tukky Spot Light ใช้ส่องสว่างในพื้นที่ กว้ า ง Strip Lamp ใช้ แ ทนหลอดฟู อ อเรทเซ็ น ภายในอาคารบ้านเรือนทั่วไป Submarine Lamp ใช้ ส่องแสงสว่างใต้นํ้า Jewelry Lamp ใช้กับงานผลิต ภัณฑ์จิวเวลรี่โดยไม่ปล่อยความร้อนทำ�ลายผิวของ สินค้า ให้แสงสว่างที่สวยงาม ส่วนรุ่น ออโตเมติก ใช้เปิด-ปิดอัตโนมัติตามสภาพของอากาศ Tukky Emergeney Lamp เป็นหลอดไฟที่สามารถทำ�งาน ทั น ที ที่ เ กิ ด ระบบไฟฟ้ า ขั ด ข้ อ ง นอกจากนี้ ยั ง มี หลอดไฟ Tukky Lamp รุ่นที่ทำ�งานด้วยผ่านระบบ เซ็นเซอร์ สามารถเชื่อมต่อและทำ�งานผ่านระบบ มือถือ โดยเปิด-ปิดไฟฟ้าภายในบ้านและดูว่าไฟฟ้า ติดหรือไม่ผ่านมือถือ ดังนั้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ สามารถใช้มอื ถือเปิด-ปิดไฟภายในอาคารบ้านเรือน ได้เช่นเดียวกัน “กว่ า จะมาเป็ น หลอดไฟ Tukky Lamp ประธานบริหารฯ Mr.Rene Pitayataratorn เริ่ม ตั้งบริษัท ออล อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลจีล ที่กรุง เวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อปี 2544 ก่อนที่จะ ย้ายกลับบ้านที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อปี 2547 และ รวบรวมงานวิจัยต่างๆเข้าอยู่ในบริษัทเดียวกัน โดย มีกลุม่ คูค่ า้ ทีเ่ ป็นพันธมิตรกว่า 250 บริษทั ซึง่ มีความ เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ส่วนพนักงานในบริษัท 90% เป็นวิศวกรทีม่ คี วามสามารถและประสบการณ์ พร้อมที่จะร่วมกันพัฒนารูปแบบซอฟแวร์โดยใช้ Open Source เพื่อลดปัญหาด้านลิขสิทธิ์” นางธน วรรณ กล่าว

โฟกัสแอด

• ต่อจากหน้า 1

นายอภิชา กิตติสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษทั โฟกัสแอดเวอร์ไทซิง่ จำ�กัด หรือ FOCUSAD กล่าวว่า ทำ�ธุรกิจเกี่ยวกับสื่อโฆษณามานานกว่า 25 ปี ปัจจุบนั ธุรกิจด้านสือ่ โฆษณามีการปรับเปลีย่ นรูป แบบไปมาก ตั้งแต่ป้ายฟิวเจอร์บอร์ด รถแห่โฆษณา ป้ายไวนิลที่จำ�เป็นต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้ง รวมถึง ค่าใช้จา่ ยทีส่ งู ยากต่อการรักษาและอาจเป็นอันตราย ในช่วงที่มีภัยทางธรรมชาติ และไม่ได้รับความนิยม เท่าทีค่ วรในสังคมปัจจุบนั ทำ�ให้ตอ้ งมีการพัฒนารูป แบบสื่อโฆษณาให้ทันต่อเทคโนโลยีและนวัตกรรม ยุคใหม่ การพัฒนาสือ่ โฆษณาด้านเทคโนโลยี โฟกัส แอดฯ ได้มีการพัฒนาและปรับรูปแบบโฆษณาเป็น จอ LED Display, LED OUT DOOR, Software Manager, Appplication โดยความร่ ว มมื อ กั บ บริษัทพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ อาทิ บริษัท Exact ซึง่ เป็นบริษทั ทีร่ ว่ มกับ บริษทั ไอจ็อบ พัฒนา มีเดีย และ บริษทั ออกาไนซ์ จาก ประเทศสาธารณะ ประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยร่วมปรับธุรกิจด้าน สื่อโฆษณาให้มีความเป็นมืออาชีพในระดับสากล นอกจากนี้ โฟกัสแอดฯ ยังได้ MOU ร่วมกับ บริษัท TOT ด้วยแนวความคิดที่ต้องการพัฒนาตู้โทรศัพท์ สาธารณะให้มคี วามน่าสนใจ ในรูปแบบ TOT Smart Box นายอภิชา กล่าวและว่า จากการศึกษาค้นคว้าเทคโนโลยีทเี่ ข้าถึงและ ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด โฟกัส แอดฯ ได้คิดค้นและพัฒนาสินค้าเข้าร่วมโครงการ “คูปองนวัตกรรม” ซึง่ ทางสำ�นักงานนวัตกรรมแห่ง ชาติ NIA ได้คัดเลือกผู้ประกอบการ ที่มีความรู้ทาง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถนำ�สินค้ามาพัฒนาประยุกต์ให้ใช้ได้จริง ทั้งในระดับส่วนกลางและส่วนภูมิภาคผ่านเครือ ข่ายธุรกิจ เพื่อให้เกิดเป็นนวัตกรรมที่เหมาะสม มี ศักยภาพต่ออุตสาหกรรม และมีประสิทธิภาพต่อ ธุรกิจของผู้ประกอบการ โดย โฟกัสแอดฯ ได้รับ รางวัลพร้อมเงินสนับสนุนเพื่อพัฒนาสินค้าที่จะ ทำ�ให้เป็น “นวัตกรรม” ที่เกิดผลสำ�เร็จอย่างเป็น รูปธรรม โดยกำ�หนดกลยุทธ์การดำ�เนินงานสินค้า นวัตกรรมเทคโนโลยีแบบใหม่ภายในปี 2560 นี้

แอดฯ กำ�ลังพัฒนาเพื่อให้สามารถส่งถึงผู้บริโภค ภายในปีนี้ อาทิ Fo Eyes Ads (โฟ อายส์ แอด) เป็น สินค้าที่พัฒนาเพื่อการตรวจสอบการใช้พลังงาน ไฟฟ้า โดยมีคุณสมบัติในการตรวจวัดกระแสไฟฟ้า และกำ�ลังการใช้ไฟฟ้า ที่สามารถติดตั้งง่าย ใช้งาน สะดวก แสดงค่ากระแสไฟฟ้า กำ�ลังไฟฟ้า และ สถานการณ์ท�ำ งานแบบ Real-time ผ่านคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน Fo Eyes Ads จะแจ้งเตือนทันทีเมือ่ กระแสไฟฟ้าขัดข้อง ไม่มีกระแสไฟฟ้า หรือไฟฟ้า เกินกำ�หนด โดยสามารถวัดไฟได้ถึง 30, 60 และ 100 แอมแปร์ นอกจากนี้ สื่อโฆษณารูปแบบใหม่ ผ่านจอ โทรทัศน์ Foco TV Online ใช้ติดตั้งตามร้านค้า ร้าน อาหาร องค์กร หรือหน่วยงาน เพื่อประชาสัมพันธ์ กิจกรรมต่างๆ หรือใช้เป็นสื่อโฆษณาที่ประหยัดค่า ใช้จา่ ย สามารถเลือกลงโฆษณาได้ตรงกลุม่ เป้าหมาย มากที่สุด Foco TV Online ติดตั้งด้วยระบบ Foco Digital Signage ควบคุมจอโฆษณาผ่านหน้าเว็บ (wed management) ขนาดจอโฆษณา 40-55 นิว้ ภาพ สี คมชัดระดับ Full HD มี Template หลายหลายรูป แบบเพือ่ รองรับ รูปภาพ วีดโี อ และข้อความ สามารถ อัพเดต Content และตรวจสอบสถานะจอภาพผ่าน อินเตอร์เน็ตแบบ Realtime ซึ่งปัจจุบัน Foco TV Online ได้ตดิ ตัง้ ในพืน้ ทีจ่ งั หวัดขอนแก่นรวมแล้วก ว่า 20 จุด ต่อด้วยจังหวัดอุดรธานี นครราชสีมา และ เตรียมขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศรวม 500 จุด นายอภิชา กล่าวต่อว่า Fo Pass AD (ฟ พาส แอด) เป็นอีกหนึง่ นวัตกรรมที่ โฟกัสได้พฒ ั นาเพือ่ อำ�นวย ความสะดวกในการตรวจนั บ Fo Pass AD คื อ ระบบจัดการข้อมูลการเข้าออกของนักเรียน เพื่อ เก็บสถิติการมาโรงเรียน การขาดโรงเรียน และ ทำ�การแจ้งเตือนส่งถึงผูป้ กครองผ่านระบบข้อความ ทางแอพ Line ซึ่งระบบ Fo Pass AD ประกอบ ไปด้วย Raspberry Pi ใช้สำ�หรับประมวลในส่วน ของโปรแกรมการทำ�งานของระบบ กล้อง Digital สำ�หรับถ่ายภาพ และสแกน QR Code เครื่องอ่าน บัตรประจำ�ตัวประชาชน (Smart Card Reader ) จอแสดงผล LED ประเภท Touch Screen และ ยังมี Foco Digital Signage Player เครื่องควบคุม เทคโนโลยีการจัดการเซิฟเวอร์ของลูกค้า ผ่านเซิฟ เวอร์ Foco2 ที่จะแสดงผลบนจอ LED ทั้งภายใน และภายนอกอาคาร เพื่ อ ยกระดั บ และพั ฒ นาสื่ อ โฆษณาให้ ทัดเทียมระดับสากล โฟกัสแอดฯ จึงพัฒนาแนวคิด สูธ่ รุ กิจทีต่ รงตามพฤติกรรมของผูบ้ ริโภค โดยพัฒนา สินค้าที่มีความเหมือน สู่ความโดดเด่นที่แตกต่าง มี ความเหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของ สังคมปัจจุบัน

เซ็นทรัลลิตี้ ท็อปส์ • ต่อจากหน้า 1 เซ็นทรัลลิตี้ ท็อปส์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ ชุมชน เปิด“ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์” หนองหาน บนพืน้ ที่ ริมถนนเศรษฐกิจเส้นใหม่เชื่อมโยงในภูมิภาคและ เขตเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านใกล้แหล่งท่องเที่ยว สำ�คัญ พร้อมสร้างงานสร้างอาชีพ สร้างเศรษฐกิจ ท้องถิ่น และส่งเสริมการตลาดให้กับสินค้าวิสาหกิจ OTOP เข้าไปวางขายในพื้นที่ในสาขาใหม่ได้ น.ส.ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำ�กัด ผู้ บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และท็อปส์ เปิดเผย ว่า จากแนวทางการดำ�เนินธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล (Central Group) ที่มีนโยบายเข้าไปพัฒนา ช่วย เหลือและสนับสนุนชุมชน (Centrality) เพื่อผลัก ดันด้านเศรษฐกิจ การจ้างงานในพื้นที่ และเฟ้นหา สินค้าของดีของเด่นในแต่ละชุมชนเข้ามาจำ�หน่าย ในศูนย์การค้า โดยมีโครงการส่งเสริมให้จังหวัด อุดรธานี เป็นศูนย์กลางการค้าปลีกและค้าส่ง ในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ โซนเหนือ อุดรธานี เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในเป็น ศูนย์กลางค้าปลีกและค้าส่ง ด้วยทำ�เลที่ตั้งที่เป็น ศูนย์กลางในโซนอีสานเหนือ และยังเป็นประตูสู่ ประเทศลุ่มแม่นํ้าโขง (Greater Mekong Subregion : GMS) ที่ประกอบด้วย ประเทศ สปป.ลาว เมีย นมาร์ กัมพูชา เวียดนาม ประเทศไทย หรือกลุ่ม ประเทศ CLMV บวกไทย และจีนตอนใต้ มีภาพ รวมของเศรษฐกิจสำ�คัญทัง้ ในด้านการค้าการลงทุน

การเกษตร เรียกได้ว่า มีศักยภาพในการผลิตผักและ ผลไม้ สามารถเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรในภาค อีสาน น.ส.ภัทรพรฯ กล่าวต่อไปอีกว่า บริษัทฯ มองเห็นศักยภาพของการเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค จึงเลือกอำ�เภอหนองหาน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 รอง จากอำ�เภอเมือง เปิด ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ หนองหาน ตั้งอยู่บน ถนนนิตโย ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นถนนเศรษฐกิจเส้นใหม่ ที่ใช้ สั ญ จรระหว่ า งอำ � เภอและจั ง หวั ด ใกล้ เ คี ย ง ใกล้ แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วสำ � คั ญ ในโซนอี ส านเหนื อ เช่ น หนองบัวแดง, พิพิธภัณฑ์บ้านเชียง และคำ�ชะโนด เป็นต้น อีกทัง้ มีศกั ยภาพในการรองรับนักท่องเทีย่ ว จากต่างประเทศ และสามารถเชื่อมโยงไปยังกลุ่ม ประเทศ GMS เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน ตอนใต้ ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ หนองหาน เปิดให้ บริการภายใต้สโลแกน “คุ้ม ครบ เพื่อคุณ” มีพื้นที่ ทั้งหมด 7,000 ตารางเมตร พื้นที่จอดรถยนต์ 200 คัน และมอเตอร์ไซค์อกี 300 คัน ตัวอาคารออกแบบ เป็นอาคารชั้นเดียว หลังคาสูงโปร่ง การก่อสร้าง ลดการใช้ ส ารที่ ก่ อ ให้ เ กิ ด มลพิ ษ ในอากาศ การ ออกแบบตกแต่งภายนอกได้แรงบันดาลใจมาจาก สถาปัตยกรรมรูปทรงบ้านเรือนในภาคอีสาน ใน โทนสีนํ้าตาล โดยคัดสรรสินค้าชั้นนำ� คุณภาพดี หลากหลายหมวดหมู่มาไว้ในที่เดียว อาทิ แผนกซู เปอร์มาร์เก็ต ผักสด ผลไม้ เนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ ของแห้ง วัตถุดบิ ในการปรุงอาหาร อาหารพร้อมรับ ประทาน สินค้าอุปโภคบริโภค เครือ่ งใช้ไฟฟ้า เครือ่ ง ครัวและเครือ่ งใช้ภายในบ้าน เครือ่ งสำ�อาง และอืน่ ๆ อีกมากมาย จำ�นวนร่วม 20,000 รายการ มาจำ�หน่าย ในราคาที่คุ้มค่า ให้ชาวหนองหานและใกล้เคียงมี โอกาสเลือกสรร หาซื้อเลือกซื้อสินค้า อย่างสะดวก สบาย ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง และยังมีร้านค้า ดังเปิดให้บริการ รวมทั้งแบ่งพื้นที่ให้บริการสินค้า ไอที ครบถ้วน บริ ษั ท ตั้ ง เป้ า ให้ ท็ อ ปส์ ซู เ ปอร์ ส โตร์ หนองหาน เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของคนใน ชุมชน เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ จึงจัดให้มีพื้นที่จัด กิจกรรมหรือลานม่วน เพื่อให้ชุมชน หน่วยงาน ภาครั ฐ สถานศึ ก ษาต่ า งๆ ในอำ � เภอหนองหาน หรืออำ�เภอใกล้เคียง ได้เข้ามาจัดกิจกรรม รวมถึง แบรนด์สินค้าต่างๆ ที่จะเข้ามาจัดกิจกรรมให้กับ ชาวหนองหาน อีกทั้งยังมีสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ ให้ครอบครัวได้เข้ามาใช้เวลาร่วมกัน “นอกจากเปิ ด สาขาให้ บ ริ ก ารกั บ ชาว หนองหานและใกล้เคียงแล้ว บริษัทฯยังมีนโยบาย สนั บ สนุ น การทำ � การตลาดสิ น ค้ า จากวิ ส าหกิ จ ชุมชน สินค้า OTOP ตามนโยบายการสร้างงาน สร้ า งอาชี พ สร้ า งรายได้ ตามนโยบายการสร้ า ง เศรษฐกิจท้องถิ่น หรือ Loal Economy ด้วยการ แบ่ ง พื้ น ที่ ข องสาขาส่ ว นหนึ่ ง ให้ ท้ อ งถิ่ น ชุ ม ชน สามารถนำ � เอาสิ น ค้ า เหล่ า นั้ น เข้ า ไปวางขายใน สาขาหนองหานได้ โดยผ่านโครงการ “ท็อปส์เพื่อ เกษตรกรไทย ร่วมใจประชารัฐ” การช่วยเหลือ ชุ ม ชนผ่ า นการบริ จ าค โดยร่ ว มกั บ โรงพยาบาล หนองหาน ตั้งกล่องรับบริจาคในสาขาเพื่อนำ�เงิน ไปสมทบทุนสร้างอาคารผู้ป่วยในและครุภัณฑ์การ แพทย์ และการเปิด ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ หนองหาน ในครั้งนี้ยังก่อให้เกิดการจ้างงานในชุมชนกว่า 200 อัตรา”

ยกเลิกใบตม.6

• ต่อจากหน้า 1

เมื่อวันที่ 16 ก.ย.60 ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการ ยกเลิกให้คนไทยที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ กรอก ใบ ตม. 6 พร้อมกันทุกด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่ว ประเทศ ทำ�ให้บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะพาน มิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อำ�เภอเมืองหนองคาย ค่อนข้างเป็นระเบียบเรียบร้อย จากเดิมปกติที่จะมี ประชาชนคนไทยทีใ่ ช้หนังสือเดินทาง ต้องยืนกรอก ใบ ตม.6 อยูด่ า้ นหน้าอาคารอำ�นวยการจำ�นวนมาก ก็ ไม่มีให้เห็นแล้ว คสช.มีมติเห็นชอบออกคำ�สั่ง ของ คสช. ที่ 42/2560 แก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 18 ยกเลิกการใช้ ตม.6 ทั้งด่านบก ด่านอากาศ และด่าน นํ้า พร้อมกันทุกด่านทั่วประเทศ ตามอำ�นาจมาตรา

อำ�นวยความสะดวกให้กบั บุคคลสัญชาติไทย โดยไม่ ต้องกรอกแบบรายการบุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาใน หรือออกไปนอกราชอาณาจักรไทย (ใบ ตม.6) โดย จะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 16 ก.ย. ที่ประชาชน ที่มีสัญชาติไทยที่จะเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักร ไทย ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มในใบตม.6 อีกต่อไป ซึ่ ง การยกเลิ ก กรอกใบ ตม.6 ช่ ว ยให้ ประชาชนไทยได้รบั บริการทีส่ ะดวก รวดเร็วมากขึน้ สามารถนำ�หนังสือเดินทางเข้าช่องตรวจอัตโนมัติ ได้ ทั น ที มี ร ะบบฐานข้ อ มู ล ทะเบี ย นราษฎร์ ข อง กระทรวงมหาดไทยและฐานข้อมูลหมายจับของ สำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ ไว้คอยตรวจสอบบุคคล ในระบบของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จึงไม่ต้อง กังวลเรื่องความปลอดภัยการหลบหนีออกนอก ประเทศของบุคคลทีม่ หี มายจับหรือกระทำ�ความผิด แต่อย่างใด สำ � หรั บ เจ้ า หน้ า ที่ ต รวจคนเข้ า เมื อ งเอง ก็ได้รับความสะดวก สามารถให้บริการได้รวดเร็ว มากขึ้ น แก้ ปั ญ หาความแออั ด และลดความ ล่ า ช้ า ในการเดิ น ทางเข้ า -ออกเมื อ ง โดยบุ ค คล ที่ มี สั ญ ชาติ ไ ทย ไม่ ว่ า จะเดิ น ผ่ า นทางช่ อ งตรวจ อนุญาตปกติ หรือผ่านเครื่องตรวจหนังสือเดินทาง อัตโนมัติ (Auto Gate) เพียงแค่ยื่นหนังสือเดินทาง เพื่อสแกนและตรวจลงตราก็ถือว่าผ่านการตรวจแ ล้ว เป็นการประหยัดเวลา และเพิม่ ความคล่องตัวให้ แก่ผเู้ ดินทาง และสำ�หรับในกรณีของชาวต่างชาติยงั คงต้องกรอกใบ ตม.6 เหมือนเดิม เพือ่ ประโยชน์ดา้ น ความมั่นคงและการท่องเที่ยวของประเทศ นายมนตรี แซ่เล้า อายุ 29 ปี นักท่องเที่ยว ชาวไทย กล่าวว่า ภายหลังที่มีการยกเลิก ตม.6 นั้น การเดินทางเข้าออกพรมแดนไทย-ลาว ทำ�ให้การ เดินทางเข้าประเทศลาว มีความสะดวก รวดเร็วขึ้น เวลาเดินทางเข้าไปทำ�ธุรกิจหรือไปท่องเทีย่ วที่ สปป. ลาว ที่ผ่านมาทำ�ให้เสียเวลาในการกรอกข้อมูล บาง คนกรอกผิดกรอกถูก ส่งผลให้เกิดความล่าช้า การก รอกข้อมูลต่างๆ แต่หลังจากยกเลิก ตม.6 ทำ�ให้การ เดินทางสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น เมื่อมีการเดิน ทางออกนอกราชอาณาจักรหรือเข้ามา คำ�สัง่ ของ คสช. ที่ 42/2560 แก้ไข พ.ร.บ.คน เข้าเมืองฯ มาตรา 18 ยกเลิกการใช้ ตม.6 ทั้งด่าน บก ด่านอากาศ และด่านนํ้า พร้อมกันทุกด่านทั่ว ประเทศ ช่วยลดความแออัดคับคั่งของผู้โดยสารที่ รอรับการตรวจของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง แต่ ประสิทธิภาพในการทำ�งานยังคงเดิม มีระบบฐาน ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกระทรวงมหาดไทยและ ฐานข้อมูลหมายจับของสำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ ไว้คอยตรวจสอบบุคคลในระบบของเจ้าหน้าทีต่ รวจ คนเข้าเมือง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยการ หลบหนีออกนอกประเทศของบุคคลที่มีหมายจับ หรือกระทำ�ความผิดแต่อย่างใด

ธุรกิจอสังหาฯ

• ต่อจากหน้า 1

พ.ท.วรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกสมาคม อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ จั ง หวั ด อุ ด รธานี นายณั ฐ วั ช ร สวนสุจริต กรรมการสมาคม และ นายศิริศักดิ์ ไชย มูล ประธานชมรมธนาคารจังหวัดอุดรธานี ร่วม กันแถลงข่าวเพื่อเตรียมพร้อมในการที่จะจัดงาน มหกรรมบ้ า นและคอนโดอุ ด รธานี ครั้ ง ที่ 2 ใน ระหว่างวันที่ 4-8 ตุลาคม 2560 ที่ลานโปรโมชั่น ขั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า อุดรธานี ภายใต้ คอนเซปที่ว่า Be Livable หรืออุดรเมืองน่าอยู่ โด ยคาดหมายว่าจะมีผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์ในจังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียงมาร่วมออ กบูธกว่า 50 บูธ และคาดว่าจะมีผู้ที่สนใจมาเที่ยว ในงานฯมากกว่า 3 หมื่นคน และจะมีมูลค่าในการ ซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ประมาณ 100 ล้าน บาท เนื่องจากว่าในช่วงเดียวกันนี้ ระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคม 2560 ทีจ่ งั หวัดอุดรธานี จะมีการจัดงาน มหกรรมการเงิน Money Expo 2017 ซึง่ จะทำ�ให้เกิด การส่งเสริมเกื้อหนุนต่อกันทั้งสองงานคือ ลูกค้า ทีม่ าเทีย่ วในงานมหกรรมการเงินหรือมายืน่ ขอกูเ้ งิน พร้อมกับสามารถมาเดินชมหาซื้อบ้านได้ในคราว เดียวกันเลย พ.ท.วรายุส์ฯ เปิดเผยถึงสภาวะของธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดอุดรธานีว่า นับตั้งแต่ ไตรมาส 2 ปี 2560 สภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

เฉพาะบ้านราคาไม่เกินหลังละ 2 ล้านบาท เนือ่ งจาก เกิดความต้องการจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้น มีการทยอย ทำ�การโอนบ้านจากโครงการให้กับผู้ซื้อมากขึ้น มี สภาพผิดกับในช่วงเดียวกันของปี 2559 ในระยะนี้ บ้านจัดสรรในจังหวัดอุดรธานีสามารถเดินหน้าไป ได้ในทุกเซ็กเม้นต์เลยทีเดียว สาเหตุหนึ่งคือลูกค้า สามารถกูเ้ งินจากสถาบันการเงินได้เป็นจำ�นวนมาก รายขึน้ โดยให้การเปรียบเทียบอัตราในช่วงทีผ่ า่ นมา ลูกค้าขอกู้ 10 ราย จะได้รบั อนุมตั กิ เู้ พียง 4-5 ราย แต่ ขณะนี้มีการอนุมัติให้กู้มากขึ้น เนื่องจากผู้ให้กู้รู้ถึง ศักยภาพของผู้กู้มากขึ้น ขณะนี้ ภ าพรวมของบ้ า นที่ ค้ า งมื อ อยู่ ที่ มี ตัวเลขล่าสุดเมื่อปลายปี 2559 อยู่ที่ 1900-2000 ยูนิต เหลืออยู่เพียง 1600 ยูนิต มูลค่าประมาณ 5000 ล้านบาทเศษ ซึ่งในช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมาหายไป มากกว่า 300 ยูนิต ก็แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์เริ่ม ขยับดีขนึ้ กว่าปี 2559 ถือว่าเป็นสัญญาณทีด่ ี คอนโด ที่มีอยู่ 6 โครงการ เคยติดมืออยู่ประมาณ 1000 กว่า ยูนิต ก็เหลือเพียง 700 ยูนิต มูลค่าประมาณ 1800 ล้านบาท ทำ�ให้เกิดความมั่นใจในการดำ�เนินงาน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบการมากขึ้น และในปีนี้ (2560) ก็คาดหมายว่าจะมีโครงการบ้าน จัดสรรเกิดขึน้ ใหม่ทงั้ ในชือ่ ของผูป้ ระกอบการท้อง ถิ่น และผู้ประกอบการจากส่วนกลาง อีกประมาณ 4-5 ราย ซึง่ จะมีบา้ นเพิม่ ขึน้ อีกประมาณ 3-400 หลัง ส่วนหนึ่งก็จะเข้าไปเพิ่มจำ�นวนบ้านที่ค้างการขาย หรือทีเ่ รียกว่า “สภาพชะลอตัว” อย่างไรก็ตามก็คาด ว่าปริมาณความต้องการที่อยู่อาศัยยังมีจำ�นวนเพิ่ม ขึ้นด้วยพร้อมกันดังกล่าว “สำ�หรับความต้องการบ้านที่อยู่อาศัยของ ผู้บริโภคภายในจังหวัดอุดรธานี มีความต้องการ อยู่ตลอด ผู้ประกอบการโครงการรายงานว่า จะมี ลูกค้าเดินเข้าไปในโครงการอยู่เรื่อยๆ เพราะทุกคน ก็อยากมีบ้านที่อยู่เพื่อครอบครัวด้วยกันทุกคน แต่ ลูกค้าดังกล่าวจะสามารถซื้อบ้านได้หรือไม่ ก็อยู่กับ สถานภาพของลูกค้าเองด้วย”

นสพ.ภาคอิสาน

• ต่อจากหน้า 1

เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2560 เวลา 09.00 น. ที่ห้อง กรีนบี โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น คณะกรรมการ พิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กร ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ (Ombudsman) ได้จัดการประชุม ประจำ�ปี โดยมี นายชวรงค์ ลิมป์ปทั มปาณี ประธาน สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เป็นประธานการ ประชุม ส่วนคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมประกอบ ด้วย พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ กรรมการ เจ้าของ/ บรรณาธิการ นสพ.ไทยเสรี จ.ขอนแก่น, นายกิตติ ศักดิ์ ชิณแสง กรรมการตัวแทนผู้ปฏิบัติงาน นสพ. อีสานบิซวีค จ.ขอนแก่น, ผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด ผูท้ รงคุณวุฒดิ า้ นสือ่ สารมวลชน มรภ.อุดรธานี และ นายปฏิวัติ เฉลิมชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านคุ้มครองผู้ บริโภค ซึ่งการประชุมครั้งนี้มี นายเสด็จ บุนนาค ผู้จัดการโครงการ นายสิทธิพร สาระพาณิชย์ อดีต ประธานสภาทนายความจังหวัดขอนแก่น ในฐานะ กรรมการจริ ย ธรรม สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น , กรรมการบริ ห ารสมาคมสื่ อ มวลชน จังหวัดขอนแก่น และสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมประชุมและสังเกตการณ์ ในการประชุมดังกล่าว ประธานสภาการ หนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้ชี้แจงเรื่อง ข้อบังคับว่า ด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ สภาการ หนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ.2559, ข้อบังคับสภา การหนั ง สื อ พิ ม พ์ แ ห่ ง ชาติ ว่ า ด้ ว ยวิ ธี พิ จ ารณา เรื่องร้องเรียน พ.ศ. 2559 และแนวปฏิบัติสภาการ หนังสือพิมพ์แห่งชาติ ให้กบั คณะกรรมการพิจารณา เรือ่ งร้องเรียนฯ ได้รบั ทราบเพือ่ เป็นแนวทางดำ�เนิน งาน พร้อมตอบข้อซักถาม ที่สงสัยทั้งในส่วนของ คณะกรรมการฯ และผู้สังเกตการณ์ นายชวรงค์ กล่าวเปิดการประชุมว่า หน้าที่ สำ�คัญของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียน ภายในองค์ ก รคื อ การรั บ เรื่ อ งร้ อ งเรี ย นจากผู้ ไ ด้ อ่านต่อหน้า 2

สนใจพื้นที่โฆษณา ติดต่อ คุณสุพัตรา thaisaeree@gmail.com thaisaeree@yahoo.com


หน้า 12

ปีที่ 15 ฉบับที่ 160 ประจำ�เดือนกันยายน 2560

ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา สุพัตรา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,

ประคอง หนู ร าช,พั น ธ์ ศั ก ดิ์ วี ร ะชั ย ,เสริ ม ศั ก ดิ์ ขาวโกมล สำ � นั ก งาน 76 ม.20 ถ.กสิ ก รทุ่ ง สร้ า ง ต.ศิ ล า อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น 40000 โทรศั พ ท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย ภัทรวินทร์ ลีปาน 92 หมู่ 1 ต.บ้าน ่ รึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอือ้ ดีไซน์ 08-3417-0363 ว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 43110 โทรศัพท์ 087-8627979 E-mail : pattarawin2519@hotmail.co.th ทีป


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.