หนังสือพิมพ์ไทยเสรี ฉบับที่ 126

Page 1

ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนตุ น ลกาคม า ร2557 ณ์

ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่

w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1

ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ประจำ�เดือนตุลาคม 2557 ราคา 10 บาท

จัดระเบียบแท็กซีข่ อนแก่น ฉวยโอกาส ไม่กดมิเตอร์ ผิดซํา้ เกิน3ครัง้ ถอนใบขับขี่ คืนความสุขให้คนไทย ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น, พล.ต.วรทัต สุพัฒนานนท์ ผบ.มทบ.23 และนายอาณัติ ชวนะเกรียงไกร คลังจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน คืนความสุขให้คนไทยจากใจกระทรวงการคลัง ซึ่ง จะจัดในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2557 ณ ห้องดอกคูน โรงแรมเจริญธานี จ.ขอนแก่น

TOA ฉลอง50ปี เดินหน้า สานต่ อ ผู้ นำ � ธุ ร กิ จ สี ไ ทย TOA แบรนด์สี อันดับหนึ่งของเมืองไทยและตลาด อาเซียน ตอกยํ้า 50 ปีแห่งความสำ�เร็จอย่างยิ่งใหญ่ เดินหน้าสานต่อผูน้ �ำ ธุรกิจสีไทยและเออีซี พร้อมยกระดับ แบรนด์สู่ผู้นำ�นวัตกรรมสีเพื่อโลกสีเขียว

ปตท.ไม่เพิ่มปั้มNGV อ้างขายปลีกขาดทุน ไม่ให้เอกชนลงทุนอีก อุ ด รธานี ฝั น ค้ า ง ปตท.ไม่ เ ปิ ด สถานีบริการ NGV เพิ่ม อ้างเหตุ ขาดทุนสะสมเกือบ 1 แสนล้าน บาท จากทีต่ อ้ งขายก๊าซตํา่ กว่าราคา ต้นทุน ก.ก.ละกว่า 5 บาท จึง ชะลอการลงทุนสถานีบริการ รวม ทั้งไม่อนุญาตให้เอกชนเข้าลงทุน อีกด้วย อ่านต่อหน้า 11

จัดระเบียบรถแท็กซีม่ เิ ตอร์สนาม บินขอนแก่น หลังผู้โดยสารโวย ไม่มีรถโดยสารให้บริการ ทำ�ให้ แท๊กซีม่ เิ ตอร์ฉวยโอกาสเรียกร้อง ค่าโดยสารแบบเหมาจ่าย ไม่ยอม กดมิเตอร์ สร้างความเดือดร้อน ให้กบั นักท่องเทีย่ วและประชาชน เป็นอย่างมาก อ่านต่อหน้า 11

นักข่าวนํ้าดี ; ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธาน เปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำ�ปี 2557 สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่ง ประเทศไทย และแสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ตามรอยในหลวงสู่ความยั่งยืน” พร้อมมอบโล่เกียรติคุณ “นักข่าวนํ้าดี” ให้กับผู้สื่อข่าวที่มีผลงานและเป็นผู้ที่มี จรรยาบรรณของวิชาชีพสื่อมวลชน ณ โรงแรมเอบีน่า เฮาส์ ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2557

CLMVทิศทางลงทุนใหม่ ข อ ง แ บ ร น ด์ ไ ท ย CLMV ตลาดเป้าหมายของแบรนด์ไทย โอกาส ใหม่ใน AEC คาดจะมีศักยภาพสูงในการ ลงทุน นักลงทุนไทยให้ความสนใจ ใช้ความ ได้เปรียบทางศูนย์กลางการเชื่อมโยงเครือข่าย และมาตรฐานสินค้า ซึ่งเป็นที่ยอมรับมากกว่า กลุ่มประเทศในแถบเดียวกัน อ่านต่อหน้า 11

SMEsแบงก์เปิดตัวสินเชือ่ ใหม่ 9 เมนู คืนความสุข SMEs “โลว์คอสท์แอร์ไลน์” แข่งเดือด

SMEs แบงก์ สนองนโยบาย รัฐบาล เปิดตัวสินเชื่อใหม่ล่าสุด 9 เมนู กระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า ให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถ เข้าหาแหล่งเงินทุนได้อย่างทั่วถึง ยอมรับมี NPL สูงเกือบ 40 % ของยอดสินเชื่อ อ่านต่อหน้า 2

ไทย ไลออนส์ เปิดบินอุดรธานี ถวัลย์ เทียนทอง

ธุรกิจ “โลว์คอสท์แอร์ไลน์” แข่งเดือด สนาม บินอุดรธานีเนื้อหอม สายการบินน้องใหม่ “ไทย ไลออนส์ แอร์ไลน์” เปิดแนวรุกตลาด ภูธรด้วยเครือ่ งโบอิง้ 737-900 ER สัปดาห์ ละ 3 วัน ชูกลยุทธ์ตวั๋ ราคาถูก เจาะตลาดกลุม่ ข้าราชการและนักธุรกิจ อ่านต่อหน้า 11


หน้า 2 TOA ฉลอง 50 ปี

ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ประจำ�เดือนตุลาคม 2557 • ต่อจากหน้า 1 นางพรรณขนิตตาฯ กล่าวชีแ้ จงรายละเอียดของสิน

นายพงษ์เชิด จามีกรกุล กรรมการผู้จัดการ ใหญ่ บริษทั ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำ�กัด เปิด เผยว่า ตลาดสีในประเทศไทยโดยรวมมีกว่า 46,000 ล้านบาท ในประเทศไทยกว่า 49% เป็นตลาดสีทา อาคาร ที่ TOA ครองส่วนแบ่งเป็นผู้นำ�ตลาด รวม กว่า 48% หรือ หรือ 22,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่าน มาตลาดสี ภ ายในประเทศลดลงเนื่ อ งจากความ สับสนวุ่นวายของตลาดภายในประเทศ และความ ไม่ชดั เจนทางการเมือง แต่เชือ่ ว่าตลาดสีจะกลับมา ฟื้นตัวได้อย่างแน่นอน และผลรวม TOA จะมียอด ขายตามเป้าหมายกว่า 16,000 ล้านบาท “ปัจจุบนั TOA เป็นแบรนด์สที ไี่ ด้รบั ความ นิยมเป็นอันดับหนึ่งในตลาดอาเซียน ครอบคลุม รวม 7 ประเทศ คือ ประเทศไทย สปป.ลาว พม่า กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม โดยมี โรงงานผลิตอยูท่ ี่ สปป.ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม และประเทศไทย ส่วนที่อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นคลังสินค้าขนาดใหญ่ และเตรียมวางแผนที่ เปิดจะตลาดในอีก 3 ประเทศคือ บรูไน ฟิลิปปินส์ และสิงค์โปร์ โดยวางกลยุทธ์การบริหารจัดการกลุม่ ธุรกิจต่างประเทศ พร้อมส่งเสริมพัฒนาบุคลากรให้ มีความเชื่อมั่นในองค์กร TOA และพร้อมก้าวเดิน ไปในทิศทางเดียวกัน” นายพงษ์เชิด กล่าวและว่า การจั ด กิ จ กรรมขอบคุ ณ ลู ก ค้ า และร้ า นตั ว แทน จำ � หน่ า ยใน 4 หั ว เมื อ งหลั ก โดยเริ่ ม ที่ จั ง หวั ด ขอนแก่นเป็นแห่งแรก และต่อที่จังหวัดสุราษฏร์ ธานี เชียงใหม่ และทีก่ รุงเทพฯในเดือนพฤศจิกายน นี้ ซึง่ ถือเป็นการร่วมฉลองในโอกาสทีส่ ี TOA ครบ รอบ 50 ปี โดยเปิดตัวแคมเปญ “50 ปี TOA สีสัน ความสุข คู่ชีวิตคนไทย” เพื่อขอบคุณลูกค้า และ พันธมิตรที่ร่วมธุรกิจทั้งในและต่างประเทศที่ให้ ความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ ทำ�ให้ TOAก้าวสู่แบรน ด์สีอันดับหนึ่งอย่างมั่นคง ปูทางความพร้อมสู่เจ้า ตลาดอาเซียน ด้วยกลยุทธ์หลักที่เน้น พัฒนาการ รั บ รู้ แ บรนด์ ผ่ า นพั น ธมิ ต รทางธุ ร กิ จ ต่ อ ยอด นวั ต กรรมสิ น ค้ า และบริ ก าร สู่มาตรฐานสีเพื่อ ชีวิตและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งการสร้าง “TOA DNA” บู ร ณาการประสิ ท ธิ ภ าพบุ ค ลากร เพื่ อ การเติ บ โตอย่ า งไม่ ห ยุ ด ยั้ ง ควบคู่ ไปกั บ การ จั ด กิ จ กรรม ส่ ง มอบความสุ ข ให้ แ ก่ สั ง คม ทั่ ว ไทย พร้ อ มเปิ ด ตั ว บทเพลง Theme Song “เธอคือสีสันความสุข” ถ่ายทอดโดยศิลปินหนุ่ม มาดเท่ห์ เสียงนุ่ม “ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา” จากประสบการณ์ 50 ปี แบร์นดสี TOA วางแผนพัฒนาแบรนด์แบบครบวงจรเพื่อก้าวสู่ การเป็น Regional Brand ที่ตระหนักถึงผลกระ ทบต่อสังคมโดยรวม ใส่ใจในสุขภาพและความ ปลอดภั ย เพื่ อ ไม่ ใ ห้ เ กิ ด สารเคมี ต กค้ า งที่ เ ป็ น อั น ตรายต่ อ สิ่ ง แวดล้ อ ม จึ ง ได้พัฒนาศึกษาวิจัย ออกแบบสีทาอาคารทั้งภายนอกและภายใน ภาย ใต้นโยบาย “นวัตกรรมสี เพื่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม (Greenovation)” บนพืน้ ฐานเรือ่ งปลอดภัยจากสาร โลหะหนัก ปรอท ตะกัว่ เป็นหลัก ซึง่ TOA สามารถ ทำ�ได้สำ�เร็จเป็นรายแรกในไทย และยังเดินหน้า ขยายคุณค่าแห่งนวัตรกรรมสินค้าในกลุ่มต่างๆ อาทิ กลุ่มสีอุตสาหกรรม กลุ่มงานไม้ โดยปรับ จากนํ้ามันเป็นสูตรนํ้า (Water Base) โดยปัจจุบัน สินค้าที่พัฒนาสีเคลือบเงาสำ�หรับทาปูน ไม้ เหล็ก ซึ่งได้รับการพัฒนาให้เป็นสูตรนํ้า (Water Base Enamel) สำ�เร็จแล้วคือ สีซุปเปอร์ชิลด์ อะควา กลอส เป็นสีทไี่ ม่มกี ลิน่ ฉุน ปลอดสารระเหยทีเ่ ป็น พิษ (VOCs) ตํ่ากว่าสีเคลือบเงาทั่วๆ ไปถึง 10 เท่า และยังเป็นผลดีต่อสุขภาพ ให้ความทนทาน คุ้มค่า ช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย “การรักษาคุณภาพของสินค้า การตระหนัก ถึงผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อมและสังคม โดยเฉพาะ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ สี ท าอาคารที่ ป ลอดภั ย ต่ อ สุ ข ภาพผู้ บริโภคและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม TOA มีการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ในลักษณะ Greenovation และ พัฒนาด้านบริการ พร้อมร่วมศึกษาวิจัย ทำ�ให้รับรู้ ถึงความเปลีย่ นแปลงของตลาด และสามารถพัฒนา ผลิตภัณฑ์และสร้างการรับรู้ในแบรนด์ TOA ให้ ประทับใจในคุณภาพ และมั่นใจในนวัตกรรมใหม่ ของสินค้าที่ผู้บริโภคจะสัมผัสได้อย่างต่อเนื่อง” นายพงษ์เชิด กล่าวและว่า

SMEs แบงก์

• ต่อจากหน้า 1

นางพรรณขนิ ต ตา บุ ญ ครอง ประธาน กรรมการบริหาร ธนาคารพัฒนาวิสากิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SMEs แบงก์ เปิดเผยที่จังหวัดอุดรธานี ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ สินเชื่อใหม่ของทางธนาคาร 9 เมนู คืนความ สุ ข SMEs ในวงเงิ น 19,000 ล้ า นบาท จนถึ ง วั น ที่ 31 ธั น วาคม 2558 หรื อ จนหมดวงเงิ น ที่ กำ � หนดให้ ม า และผู้ ป ระกอบการวิ ส าหกิ จ ชุ ม ชนใดที่ เ ป็ น นิ ติ บุ ค คลสามารถยื่ น ขอกู้ ไ ด้ ตั้ ง แต่ บั ด นี้ และธนาคารจะอนุ มั ติ ไ ด้ ภ ายใน เวลา 2 สั ป ดาห์ หากว่ า เอกสารครบทุ ก อย่ า ง สามารถกู้ได้วงเงินสูงสุดถึง15 ล้านบาท ที่ผ่าน มานั้นทางธนาคาร SMEs แบงก์ ได้ทำ�การเปิด ตัวประชาสัมพันธ์สินเชื่อชนิดใหม่ทั้ง 9 ชนิดนี้ เกือบทั่วประเทศแล้ว โดยต่อไปก็จะเดินทางลงไป ทำ�การประชาสัมพันธ์ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและ นครศรีธรรมราช สำ � หรั บ งานเปิ ด ตั ว ผลิ ต ภั ณ ฑ์ สิ น เชื่ อ ใหม่ 9 เมนู คืนความสุข SMEs นี้ จัดที่จังหวัด อุดรธานี เป็นจังหวัดที่ 4 ใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ และเหตุผลทำ�ไมถึงมาเลือกจังหวัดอุดรธานี เพราะ เหตุที่ว่าจังหวัดนี้เป็นศูนย์กลางของการค้า การ ลงทุนและการบริการ มีการเจริญเติบโตทางด้าน เศรษฐกิจที่ดี

เชื่อชนิดใหม่ของ SMEsแบงก์ว่า ในกรณีดังกล่าว นี้ทางธนาคาร SMEs แบงก์ถือว่าเป็นพันธกิจของ ธนาคาร ในการทีจ่ ะเข้าไปให้การส่งเสริมการลงทุน ของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อมและ ได้ทำ�ต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว สำ�หรับ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ 9 เมนู คืนความสุข SMEs นี้ ทางคณะกรรมการบริหารของธนาคาร ดำ�เนิน การขึน้ มาเพือ่ ตอบสนองนโยบายของรัฐทีต่ อ้ งการ ให้ผู้ประกอบการ SMEs ทั้งรายใหม่ และรายเก่า สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน สามารถจะนำ�เงินทุน ที่กู้ไปจากธนาคารไปดำ�เนินธุรกิจต่อไปได้อย่าง ยั่งยืนมั่นคง ส่วนการทีผ่ ปู้ ระกอบการ SMEs จะสามารถ กู้ได้มากน้อยเท่าไหร่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจในแต่ละ ประเภททีไ่ ม่เหมือนกัน และขึน้ อยูก่ บั ศักยภาพของผู้ ประกอบการ หลักทรัพย์ทคี่ าํ้ ประกัน และสามารถที่ จะยืน่ ขอสินเชือ่ ได้ตามความประสงค์ของผูป้ ระกอบ การเอง ไปจนถึ ง สู ง สุ ด ไม่ เ กิ น รายละ 15 ล้ า น บาท ส่วนในการคํา้ ประกันเงินกูน้ นั้ ก็มที งั้ ให้บคุ คล คํ้าประกันหรืออาจจะให้ บสย.เข้ามาช่วยเหลือคํ้า ประกันให้ก็ได้ และธนาคารจะให้การอนุมัติวงเงิน สินเชื่อได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ดอกเบี้ย MLR เพราะว่า ธนาคาร SMEs แบงก์เป็นกิจการของรัฐ การผ่อน ชำ�ระก็ขึ้นอยู่ขนาดของกิจการ ตํ่าสุด 7 ปี สูงสุดไม่ เกิน 15 ปี อย่างไรก็ตามสำ�หรับสินเชื่อทั้ง 9 กรณี ดังกล่าวนั้น ทางธนาคารมุ่งเน้นไปที่ผู้ประการที่ เป็น SMEs หรือวิสาหกิจชุมชนที่เป็นนิติบุคคล ที่มี การจดทะเบียนแล้วเป็นหลัก นอกจากนี้แล้ว นางพรรณขนิตตาฯ ยัง ได้กล่าวถึงการดำ�เนินงานของธนาคารSMEs อีก ว่ า ในขณะนี้ ธ นาคารมี ลู ก ค้ า ที่ เ ป็ น ผู้ ป ระกอบ การ SMEs อยูท่ วั่ ประเทศประมาณกว่า 90,000 ราย และก็ มี ย อดสิ น เชื่ อ อยู่ ป ระมาณ 90,000 ล้ า น บาทเช่ น กั น และมี ห นี้ สิ น ที่ เ ป็ น NPL สะสม ประมาณ 38 % ซึ่งทางธนาคารก็ได้หาทางแก้ไข ปัญหาดังกล่าวอยู่ และธนาคารมีนโยบายที่จะไม่ ให้ลูกค้าของธนาคารที่กู้สินเชื่อธนาคารไปแล้วมี ปัญหาถูกจัดเข้าไปอยูใ่ นรายชือ่ ลูกค้าทีม่ ปี ญ ั หา แต่ พยายามที่จะเข้าไปช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มที่ ทั้ ง นี้ น างพรรณขนิ ต ตาฯ ได้ ย กตั ว อย่ า ง ของผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เช่น สินเชื่อ OTOP คืน ความสุขผู้ประกอบการโอทอป วิสาหกิจชุมชน กู้ ได้สูงสุด 1 ล้านบาท ปลอดเงินต้นสูงสุด 1 ปี และ สามารถใช้ บสย.คํ้าประกัน , สินเชื่อซื้อสถาน ประกอบการ StrongSMEs คื น ความสุ ข ให้ ผู้ ประกอบการ SMEs ทีอ่ ยากเป็นเจ้าของ โฮมออฟฟิศ ตึกแถว มินิแฟคตอรี่ กู้ได้สูงสุด 15 ล้านบาท ผ่อน นานสูงสุด 15 ปี ปลอดเงินต้นสูงสุด 15 เดือน ดอกเบี้ย MRR-1% ต่อปีในช่วง 3 ปีแรก สิ น เชื่ อ Productivity Improvement Loan ระยะที่ 2 คื น ความสุ ข ผู้ ป ระกอบ การ SMEs ที่ต้องการเพิ่มคุณภาพการผลิต และ ต้ อ งผ่ า นการเข้ า ร่ ว มโครงการด้ า นพั ฒ นาผลิ ต ภาพของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือหน่วยงาน พันธมิตร ให้กู้ 5 ล้านบาทต่อราย ปลอดชำ�ระ เงิ น ต้ น สู ง สุ ด 1 ปี ดอกเบี้ ย MRR ต่ อ ปี ต ลอด อายุโครงการ ,สินเชื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ วิ ส าหกิ จ ที่ ล งทุ น โครงการที่ ส นั บ สนุ น แผน ยุทธศาสตร์กระทรวงอุตสาหกรรมหรือหน่วยงาน พันธมิตร โดยคืนความสุข Green SMEs สนับสนุ นผูป้ ระกอบการทีท่ �ำ ธุรกิจเป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม เติบโตคูส่ งั คม เพิม่ ขีดความสามารถแข่งขัน พัฒนา เชื่อมโยง สู่ AEC กู้ได้สูงสุด 15 ล้านบาท สิ น เชื่ อ Smile Factoring เครดิ ต การค้ าสำ � หรั บ ลู ก หนี้ ก ารค้ า ที่ รั บ โอนสิ ท ธิ์ จ ากภาค รัฐ ช่วยด้านเงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง ธุ ร กิ จ ให้ ลู ก หนี้ ก ารค้ า กลุ่ ม หน่ ว ยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนแปรรูปจากระบบราชการ และบริษัทเอกชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย, สินเชื่อ Extra SMEs คืนความสุข เสริมสภาพคล่องให้กับลูกค้าเดิมของธนาคาร ที่ ต้องการเงินไปหมุนเวียนธุรกิจ ลงทุน ขยาย หรือ ปรับปรุงกิจการเพิม่ เติม สามารถกูเ้ พิม่ จากวงเงินเดิม สูงสุด 5 ล้านบาท ใช้เพียง บสย. คํา้ ประกัน ดอกเบีย้ พิเศษ MRR ต่อปีตลอดอายุโครงการไม่เกิน 5 ปี สิ น เ ชื่ อ H a p p y L o a n เ ติ ม เ ต็ ม ความสุขทางการเงิน กูไ้ ด้สงู สุด 120% ของมูลค่าคิด เป็นหลักประกัน ให้เงินทุนหมุนเวียน ลงทุน ขยาย ปรับปรุง พัฒนากิจการให้ดียิ่งขึ้น, สินเชื่อสำ�หรับ ลูกค้าชั้นดี Special SMEs คืนความสุข ให้เงินทุน และเสริมสภาพคล่อง ให้ลกู ค้าเก่าชัน้ ดีของธนาคาร ที่มีหลักประกัน โดยใช้หลักประกันเดิมในการขอ กู้ เพื่อต่อยอดธุรกิจ และสินเชื่อ Factoring เปลี่ยน ลูกหนี้การค้าภาคเอกชนให้เป็นเงินสด แก้ปัญหา ขาดเงินทุนหมุนเวียนจากทุนจม ช่วยธุรกิจเดินหน้า อย่างต่อเนื่อง

ผั ง เมื อ งรวมอุ ด รธานี ส่ อ แววล่ ม ภาคเอกชนดาหน้าค้านรวบรัดเกินไป

หลั ง ผ่ า นมา 10 ปี เ ต็ ม แล้ ว ผั ง เมื อ งรวม จังหวัดอุดรธานี ยังไม่สามารถเข็นออกมาใช้ได้ โยธา ธิการและผังเมืองจังหวัด จัดประชุมรับฟังข้อคิด เห็น ปรากฏว่าภาคเอกชนออกมาค้านว่ารวบรัดเกิน ไป แถม อปท.ส่วนท้องถิ่นหลายแห่งปฎิเสธไม่เคย เห็ น ประกาศให้ ป ระชาชนแสดงความคิ ด เห็ น แต่ ประการใด นายปรีชา บุญหล้า หัวหน้ากลุ่มงาน สำ�นัก งานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดอุดรธานี เปิดเผย ว่า กระทรวงมหาดไทยมีประกาศให้มกี ารจัดผังเมือง รวมจังหวัดต่างๆ ทัว่ ประเทศ เมือ่ ปี พ.ศ.2547 จังหวัด อุดรธานี เป็นจังหวัดหนึ่งในโครงการดังกล่าว และ ก็ ไ ด้ ดำ � เนิ น การตามขั้ น ตอนของประกาศฉบั บ ดั ง กล่าว แต่ก็มีปัญหาติดขั้นตอนต่างๆ ภาคเอกชน หลายภาคส่วนมีการแสดงความเห็นคัดค้าน เช่น การ ที่ข้อมูล ข้อเท็จจริงของฝ่ายเอกชน และราชการไม่ สอดคล้องกัน โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาจังหวัด ชุ ม ชนเมื อ งในปั จ จุ บั น ที่ ไ ด้ มี ก ารเปลี่ ย นแปลงไป และนโยบายของรัฐบาลในด้านการพัฒนาเม็กกะ โปรเจกส์ เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง การที่ ประเทศไทยจะต้องเข้าสูก่ ารเป็นประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน หรือ AEC ในปี พ.ศ.2558 ในการนีไ้ ด้มกี ารจัดการประชุมคณะทีป่ รึกษา ผังเมืองจังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 ที่ผ่านมาเพื่อพิจารณาต่อการที่กรมโยธาธิการและ ผังเมืองดำ�เนินการและจัดทำ�ผังเมืองรวมจังหวัด อุ ด รธานี ตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2547 ทั้งนี้ในส่วนของร่างผังเมืองรวมจังหวัด อุดรธานีอยู่ในขั้นตอนของปิดประกาศเชิญชวนให้ ประชาชนแสดงข้อคิดเห็นเพือ่ ให้ผงั เมืองรวมจังหวัด อุดรธานี มีความถูกต้อง ครอบคลุม ครบถ้วน ซึ่งผล ปรากฏว่า คณะกรรมการทีป่ รึกษาผังเมืองรวมจังหวัด อุดรธานี มีมติให้ถอนร่างผังเมืองรวมจังหวัดอุดรธานี ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้นได้มีเอกสารเผยแพร่ออกมาจาก กรมโยธาธิการและผังเมืองว่า จะดำ�เนินการวางและ จัดทำ�ผังเมืองรวมจังหวัดอุดรธานี โดยจะปิดประกาศ แผนทีแ่ สดงเขตท้องที่ ทีจ่ ะวางและจัดทำ�ผังเมืองรวม และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ศาลากลางจังหวัด ที่ทำ�การ บริหารส่วนจังหวัด อปท.ส่วนต่างๆ ในเขตผังเมือง รวม และในเขตสาธารณสถานในเขตผังเมืองรวม โดยจะมีการเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตของกรมโยธา ธิการและผังเมือง ตั้งแต่วันที่ 1-15 กันยายน 2557 เป็นต้นไป และจะจัดประชุมเพือ่ รับฟังข้อคิดเห็นของ ประชาชนของประชาชน ในวันที่ 17 กันยายน 2557 ด้าน นายสุริยัน เหล่าสุดอาภา รองประธาน สภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า สภา อุ ต สาหกรรมจั ง หวั ด อุ ด รธานี ได้ เ ชิ ญ เจ้ า หน้ า ที่ จาก สนง.โยธาธิการและผังเมืองอุดรธานี มาชี้แจง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมการจัดทำ� “ผังเมืองรวมจังหวัด อุดรธานี” หลังจากที่มีเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ผ่าน มา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ได้คัดค้าน ขอให้เลื่อนการจัดทำ�เวทีออกไป แต่นายสุทธินันท์ บุญมี รอง ผวจ.อุดรธานี และประธานที่ปรึกษา กรรมการที่ปรึกษาผังเมืองรวมจังหวัดอุดรธานี ขอ ให้ขยายเวลาเสนอความเห็นออกไปอีก 7 วัน ซึง่ ล่าสุด สภาอุตสาหกรรม จังหวัดอุดรธานี ได้มีความเห็น แย้งใน 3 ส่วน 7 ประเด็น ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด อุดรธานีแล้ว ประเด็นที่ 1 ที่ดินอุตสาหกรรมและคลัง สิ น ค้ า (สี นํ้ า เงิ น ) กำ � หนดให้ โ รงงานต้ อ งมี ที่ ว่ า ง โดยรอบแปลงที่ ดิ น เพื่ อ เป็ น แนวกั น ชนไม่ น้ อ ย กว่า 50 เมตร ทำ�ให้เกิดข้อจำ�กัดในการใช้ประโยชน์ ที่ดิน ซึ่งแนวคิดของคณะกรรมการ 4 ฝ่าย เห็นว่า พืน้ ทีแ่ นวกันชนต้องอยูร่ อบพืน้ ทีอ่ ตุ สาหกรรม ส่วน พื้นที่ในโรงงานต้องเป็นแนวเขตป้องกัน มีระยะ แล้วแต่อุตสาหกรรม ประเด็นที่ 2 พื้นที่ชนบทและ เกษตรกรรม (สีเขียวเข้ม) มีข้อห้ามจัดสรรที่ดินเพื่อ อุตสาหกรรม จะกระทบโอกาสพัฒนาพื้นที่รองรับ อุตสาหกรรมในอนาคต ที่ไม่จำ�เป็นต้องอยู่ในเขต อุตสาหกรรม โกดัง โรงงานแปรรูปการเกษตร ทีไ่ ม่มี ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประเด็ น ที่ 3 พื้ น ที่ อ นุ รั ก ษ์ ช นบทและ เกษตรกรรม (สีขาวแถบเขียวเข้ม) ที่กำ�หนดให้ ที่ดินประชาชนถือครองตามกฎหมาย เพื่อที่อยู่อาศัย เกษตรกรรม สาธารณูปโภค สาธารณะประโยชน์ เท่านัน้ ซึง่ ความจริงพืน้ ทีน่ จี้ �ำ เป็น ต้องมีอตุ สาหกรรม เกษตรต้นนํ้า ธุรกิจสนับสนุน เช่น โกดัง ไซโล ลาน ตาก และโรงซ่อม ประเด็นที่ 4 ข้อ13 กำ�หนดให้โร งงงานที่ตั้งอยู่ก่อน ขายโรงงานได้ไม่เกินแปลงที่ดิน ที่เจ้าของโรงงานถือครองก่อน ผังเมืองรวมจังหวัด มีผลบังคับใช้ ประเด็นที่ 5 ผังเมืองได้ตกหล่นพื้นที่

หมู่บ้านรวยสุข 428/17 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ออกแบบ/ผลิต

ป้ายไวนิล ป้ายโฆษณา ธงญี่ปุ่น สติ๊กเกอร์ นามบัตร

ใบปลิว การ์ด แผ่นพับ โปสเตอร์ สื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ติดต่อ ยิ้ม 0834170363 E-mail : smile7738@gmail.com

สั ม มนาความร่ ว มมื อ โครงการรถไฟจีน-ไทย ; ความร่ ว มมื อ โครงสร้ า ง พื้ น ฐ า น ร ะ ห ว่ า ง จี น ไทย ฯพณฯ หนิ ง ฟู่ ขุ ย เ อ ก อั ค ร ร า ช ทู ต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำ�ประเทศไทย นาย เวี่ย ฝู เกิน กงสุลใหญ่จีน ประจำ � จั ง หวั ด ขอนแก่ น นายชาติชาย ทิพย์สุนารี รองปลัดกระทรวงคมนาคม และ นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อมข้าราชการระดับสูงของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นักวิชาการ ตัวแทนจากสมาคมการค้า สภา อุตสาหกรรมต่างๆ กว่า 500 คน ร่วมรับฟังความคิดเห็น เวทีสัมมนาความร่วมมือโครงการรถไฟจีนไทย เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 ณ โรงแรมเซนทารา คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ขอนแก่น

ทรัพยากรหลัก อาทิ แหล่งแร่โพแทช, แหล่งก๊าซสิน ภูฮ่อม และแหล่งต้นนํ้าชุมชนต่างๆ อี ก ส่ ว น ข้ อ กำ � หนดบั ญ ชี ท้ า ยประกาศ กระทรวงอุตสาหกรรม เรือ่ งมาตรการคุม้ ครองความ ปลอดภัย มีความเห็นแย้งว่า เกี่ยวกับรายละเอียด อุตสาหกรรมต่อเนื่อง และส่วนหนึ่งคือ ผังสีที่มี ส่วนตกหล่นไม่ครอบคลุม และบางส่วนที่มีความ ขัดแย้งระหว่างหน่วยงานเดียวกัน และต่างหน่วย งาน อีกทั้งมีการทำ�งานซํ้าซ้อนระหว่างกรมโยธาธิ การและผังเมือง กับเทศบาล ยังไม่เป็นข้อมูลเดียวกัน และเป็นข้อมูลปัจจุบนั ไม่สอดคล้องกับนโยบายการ พัฒนาพื้นที่ จ.อุดรธานี ในปัจจุบัน เพื่อการพัฒนา จ.อุดรธานี ให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง สภา อุตสาหกรรมอุดรธานีจึงเสนอให้มีการแก้ไข นายสวาท ธี ร ะรั ต นนุ กู ล ชั ย ประธาน หอการค้าจังหวัดอุดรธานี กล่าวเปิดเผยในฐานะ ขององค์กรเอกชนได้แสดงการโต้แย้งและไม่เห็น ด้ ว ยกั บ การกระทำ � ดั ง กล่ า วของกรมโยธาธิ ก าร และผังเมืองว่าเป็นการรวบรัดเกินไป จะมาใช้เวลา เพียงไม่กี่วัน แล้วก็จะรวบรัดว่า เป็นการทำ�ประชา พิจารณ์แล้ว ประชาชนเห็นด้วยกับทางราชการ แล้ว ก็จะรวบรัดเอาไปประกาศเป็นผังเมืองรวมจังหวัด เลยไม่ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าคนที่ขีดเส้นว่าเป็นผังเมือง นัน้ นัง่ อยูใ่ นห้องแอร์ทกี่ รุงเทพฯ ไม่ได้รเู้ ห็นว่า พืน้ ที่ ตรงไหนเป็นอะไร และที่เป็นปัญหามานานเป็น 10 ปี ก็ดว้ ยเหตุผลดังกล่าว และยิง่ ไปกว่านัน้ ข้อมูลทีท่ าง กรมโยธาธิการและผังเมืองมีอยู่ในมือ ก็เป็นข้อมูล เก่าๆ ปัจจุบันนี้สภาพของเมืองอุดรธานีทั้งจังหวัด มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และความเจริญ เติบโตของบ้านเมือง ยกตัวอย่างเช่น ป่าไม้ในพื้นที่ ต่างๆ นั้น ก็เปลี่ยนแปลง บางพื้นที่เป็นป่าสงวน บางพื้นที่เป็นพื้นที่ สปก. บางพื้นที่กลายเป็นสวน ส้ม สวนยางพารา สวนปลูกพืชเศรษฐกิจหลักของ จังหวัดอุดรธานี บางพื้นที่เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม เป็นพื้นที่พาณิชย์ ที่อยู่อาศัย แต่ทางกรมโยธาธิการ และผังเมือง ก็ยังขีดว่าเป็นพื้นที่สีเขียว “ทั้งหมดนี้ จะต้องกลับทำ�การพูดคุย ทำ� ประชาพิจารณ์ และใช้ข้อมูลจริงในปัจจุบัน แล้วจึง ให้สำ�นักงานโยธาธิการและผังเมืองในแต่ละจังหวัด ทำ�แผนทีท่ เี่ ป็นเรียลไทม์และปัจจุบนั ทีส่ ดุ ไปให้กรม โยธาธิการและผังเมือง กำ�หนดออกมาว่าพืน้ ทีใ่ ด เป็น สีอะไร ถ้ายังทำ�อย่างปัจจุบันนี้ และดื้อประกาศออก มาเป็นผังเมืองรวม อนาคตจะเกิดการขัดแย้งระหว่าง ประชาชนกับส่วนราชการ และประชาชนกับนัก ธุรกิจ” นายสวาทฯ กล่าว นอกจากนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นหลายแห่ง ก็ ปฏิเสธว่ายังไม่เคยเห็นหนังสือที่จะให้ประชาชน ออกไปแสดงความคิ ด เห็ น หรื อ ตั ว ประกาศตั ว ผังเมืองรวมจังหวัดว่าพื้นที่ใด ทำ�ประโยชน์อะไร อย่างไร และที่ว่าจะใช้วิธีประกาศในอินเทอร์เน็ต แล้ว ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะคนไทยมีเพียงส่วนหนึ่ง ทีใ่ ช้อนิ เทอร์เน็ตเป็น หรือเป็นก็ไม่รเู้ รือ่ งด้วย ในการ ที่กรมโยธาธิการบอกให้เข้าไปดูในอินเทอร์เน็ต โดย เฉพาะหนังสือของทางราชการจากหน่วยงานหนึ่ง ไปยังอีกหน่วยงานหนึ่ง ทำ�ไมมันถึงช้าใช้เวลาเดิน ทางนานเหลือเกิน

นายธีระศักดิ์ ฑีฆา ยุ พั น ธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น พร้อมคณะ ผู้บริหารฯ ร่วมพิธีลงนาม ความร่ ว มมื อ ในการ “ลด ใช้กล่องโฟมบรรจุอาหาร” ในตลาดเทศบาล โดยมี ผู้ ประกอบการกลุ่ ม สมาชิ ก ตลาดโต้รุ่งร่วมจิตรจำ�นวน 16 ราย และตลาดโต้ รุ่ ง รื่นรมย์ จำ�นวน 54 ราย ร่วมพิธีลงนามลดใช้กล่อง โฟมบรรจุอาหารโดยใช้กล่อง “ไบโอชานอ้อย” เพื่อ รณรงค์ลดภาวะโลกร้อน และยังเป็นภาชนะบรรจุ อาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค ซึ่งเป็น หนึง่ ในโครงการคนขอนแก่นหัวใจไร้มลพิษ (KHON KAEN LOW CARBON CITY) นายธี ร ะศั ก ดิ์ กล่ า วว่ า ผู้ ป ระกอบการที่ เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องดำ�เนินการอย่างเข้มแข็ง จริงจัง และต้องเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำ�จากโฟมบรรจุ อาหารทุกประเภท และเปลีย่ นมาเป็นภาชนะทีไ่ ม่กอ่ ให้เกิดอันตรายแก่ผบู้ ริโภค ไม่เป็นปัญหาสิง่ แวดล้อม

เทศบาลนครขอนแก่นลงนามบันทึกความ ร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ 8 องค์กรเครือข่ายในการ ขับเคลื่อนการรณรงค์โรคมะเร็งเต้านม หลังพบผู้ ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมถึงปีละหนึ่งหมื่นห้าพันราย หรือเทียบเป็นสถิตสิ ตรีไทย 25 คน ป่วยเป็นมะเร็ง เต้านม 1 คน และยังมีแนวโน้มสูงขึน้ เรือ่ ยๆ ซึง่ เป็น ภัยเงียบใกล้ตวั สำ�หรับผูห้ ญิงทีค่ วรป้องกันก่อนภัย มาถึงตัว การตรวจพบมะเร็งในระยะแรกจะช่วย ให้การรักษามีโอกาสประสบความสำ�เร็จได้สูง นายจุลนพ ทองโสภิต รองนายกเทศมนตรี นครขอนแก่น เปิดเผยว่า เทศบาลนครขอนแก่น ได้ มีการรณรงค์ให้ตระหนักถึงภัยมะเร็งเต้านมเป็น ประจำ�อย่างต่อเนือ่ ง โดยเฉพาะปีนี้ ได้รบั ความร่วม มือกับเครือข่ายในการขับเคลื่อนการรณรงค์โรค มะเร็งเต้านม โดยทำ�พิธีลงนามบันทึกความร่วม มือ (MOU) กับ 8 องค์กรเครือข่ายในการขับเคลือ่ น การรณรงค์โรคมะเร็งเต้านม อาทิ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. นพ.วีระศักดิ์ อนุตรอังกูร รองผูอ้ �ำ นวยการฝ่ายการ แพทย์ โรงพยาบาลขอนแก่น นพ.เรืองกิตติ์ ศิรกิ าญ จนกูล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 6 ขอนแก่น นางวรินทร์ ณิชาภัทร์นารากุล ประธาน ชมรมรู้เท่าทันมัจจุราชสีชมพู นางยุพา โสภณ รัตน์ นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่ง ประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น นายสุรัตน์ พิพัฒน์ ไชยศิริ กรรมการผู้จัดการบริษัทขอนแก่นเคเบิ้ล เน็ตเวิร์ค และนายอภิชา กิตติสุวรรณ์ กรรมการ ผู้จัดการบริษัทโฟกัสแอดเวอร์ไทซิ่ง จำ�กัด ใน การร่วมมือขยายเครือข่ายส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟูโรคมะเร็งเต้านม และขอนแก่นรวมใจต้าน ภัยมะเร็งเต้านม สำ�หรับการจัดงานรณรงค์ต้านภัยมะเร็ง ครั้งที่ 6 ปี 2557 ได้ให้ความสำ�คัญกับสุขภาพของ ประชาชน โดยเฉพาะการส่งเสริมสุขภาพ และ

การเรี ย นรู้ แ ละป้ อ งกั น ไม่ ใ ห้ เกิดมะเร็งเต้านมด้วยตัวเอง ซึ่ง กำ�หนดจัดกิจกรรมในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 10.30 - 20.00 น. ณ ขอนแก่นฮฮลล์ ชั้น 5 ศูนย์การเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น นางวรินทร์ ณิชาภัทร์ นารากุ ล ประธานชมรมรู้ เ ท่ า ทันมัจจุราชสีชมพู เปิดเผยว่า มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งทีพ่ บได้บอ่ ยและเป็นสาเหตุ ของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ในผู้หญิง ส่วนผู้ชายมี โอกาสพบมะเร็งเต้านมได้เช่นกันแต่ไม่บอ่ ยนัก โดย ประมาณ 90% ของมะเร็งเต้านมเกิดจากต่อมนํา้ นม และท่อนํา้ นม จึงมีโอกาสมากทีจ่ ะพบการเกิดมะเร็ง ในเต้านมทั้งสองข้าง ทั้งในระยะแรกและหลังจาก การตรวจวินิจฉัย อย่างไรก็ดี การตรวจพบมะเร็งในระยะแรก จะช่วยให้การรักษามีโอกาสประสบความสำ�เร็จได้ สูงมาก ดังนั้น การร่วมมือขยายเครือข่ายส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟืน้ ฟูให้ทกุ คนได้ตระหนักถึงภัย ร้ายจากการเกิดโรคมะเร็งเต้านม จึงเป็นการป้องกัน ที่รู้เท่าทันมัจุราชที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด นางวรินทร์ กล่าวต่อว่า การจัดกิจกรรม ครั้งนี้ได้ให้ความสำ�คัญกับสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะการส่ ง เสริ ม สุ ข ภาพและการป้ อ งกั น สถานการณ์โรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงไทยมีอัตรา การป่วยเป็นมะเร็งเต้านมปีละหนึ่งหมื่นห้าพันราย หรือเทียบเป็นสถิติสตรีไทย 25 คน ป่วยเป็นมะเร็ง เต้านม 1 คน และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จึง เท่ากับว่า ผูห้ ญิงแทบทุกคนมีโอกาสและความเสีย่ ง ต่อเป็นมะเร็งเต้านมได้ทงั้ นัน้ ซึง่ เป็นภัยเงียบใกล้ตวั เทศบาลนครขอนแก่น ได้สนับสนุนการจัด ตั้งชมรมรู้เท่าทันมัจจุราชสีชมพูตั้งแต่ปี 2552 โดย

“ขอนแก่นหัวใจไร้มลพิษ” รณรงค์ ล ดใช้ ก ล่ อ งโฟม

ได้แก่ ภาชนะทีน่ �ำ กลับมาใช้ใหม่ ภาชนะทีย่ อ่ ยสลาย ได้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ ไบโอชานอ้อย ผู้ประกอบการจะต้องเข้าร่วมสร้างความ เข้าใจในกลุม่ ผูบ้ ริโภคถึงพิษภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์ จากโฟมบรรจุ อ าหาร รวมถึ ง การก่ อ ปั ญ หาสิ่ ง แวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมกันลด ภาวะโลกร้อน ร่วมรับผิดชอบที่มีต่อสังคมสู่รุ่นลูก หลาน และเป็นการกำ�จัดการใช้โฟมไม่ให้ขยายวง กว้างซึ่งเป็นต้นเหตุของสภาพอาการที่แปรปรวน สร้างความเสียหายแก่การดำ�รงชีวิตในอนาคต

รวมใจต้ า นภั ย มะเร็ ง เต้ า นม

ชมรมนี้ เกิดจากการรวมตัวจากผูป้ ว่ ยมะเร็งเต้านม และกลุม่ จิตอาสา ดำ�เนินการภายใต้วสิ ยั ทัศน์ การ เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ความรูแ้ ละป้องกัน เพือ่ หญิงไทยพ้นภัยมะเร็งเต้านม ซึ่งมีพันธกิจให้เป็น ศูนย์กลางการเผยแพร่ความรู้ การส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ทั้งด้านกาย จิต สังคม ปัญญาอย่างมีคุณภาพ และครอบคลุม รวม ทั้งการขยายเครือข่ายประสานความร่วมมือทุก ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อสาธารณประโยชน์ร่วม กับองค์กร ชมรม กลุ่มจิตอาสาอื่นๆ “โรคมะเร็งเต้านมในปัจจุบนั ยังไม่สามารถ หาสาเหตุของโรคที่แน่ชัดได้ จึงยังไม่มีวิธีป้องกัน โรค บอกได้แต่เพียงกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นโรค เพราะฉะนั้นการได้รับความรู้ ตระหนักรู้ การ ใส่ใจและมีความหวังสามารถป้องกันความรุนแรง ของโรคมะเร็งเต้านมได้ หรือถ้าพบในระยะเริ่ม ต้น สามารถรักษาให้หายได้ จึงขอเชิญชวนพี่น้อง ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมดีๆในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ เวลา 10.30-20.00 น. ณ ขอนแก่นฮฮลล์ ชัน้ 5 ศูนย์ การเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่นในงาน ขอนแก่น รวมใจต้านภัยมะเร็งเต้านม ครั้งที่ 6 ปี 2557 เพื่อ ขยายผลในการป้องการอย่างมีประสิทธิภาพต่อ ไป” ประธานชมรมรู้เท่าทันมัจจุราชสีชมพู กล่าว


หน้า 3

ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ลาคม 125 ประจำ�เดือนตุ นกัน ยายน2557 2557

ปลุกจริยธรรมสื่อท้องถิ่น

ในโลกของทุนนิยม คนทำ�สื่อจะต้อง ตั ด สิ น ใจระหว่ า งผลประโยชน์ ส่ ว นตนกั บ ผล ประโยชน์สว่ นรวม หลายครัง้ ทีเ่ กิดข่าวลือในทาง เสียหาย ข่าวที่ไม่เป็นจริง ที่สร้างผลกระทบต่อ สังคม ความรับผิดชอบในการตรวจสอบข้อเท็จ จริงก่อนรายงาน คือ “จริยธรรมสื่อ” ทุกวิชาชีพต้องมีจริยธรรมเป็นหลักในการ ดำ�เนินชีวิต เพื่อให้สังคมสงบสุข โดยเฉพาะอย่าง ยิ่ง สื่อมวลชน จำ�เป็นจะต้องมีจริยธรรม เป็นพื้น ฐาน คือไม่เอาเปรียบ ไม่เห็นแก่ตัว และทำ�เพื่อ ประโยชน์ส่วนรวม เพราะหน้าที่ของสื่อมวลชน มีผลกระทบอย่างสูงต่อสังคม จริยธรรมจริง ๆ ก็คือ จิตสำ�นึก ความรับ ผิดชอบ เป็นเรื่องของความสมัครใจที่จะร่วมมือ ร่วมใจกันปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ได้ วางไว้เป็นบรรทัดฐาน และจริยธรรมเป็นเพียงข้อ บังคับ ไม่ใช่กฎหมายแต่อย่างใด ไม่มีบทลงโทษ เหมือนกฎหมาย แต่สูงกว่ากฎหมาย หากกระทำ� ผิดจะถูกลงโทษด้วยความเลื่อมศรัทธาจากสังคม การควบคุ ม สื่ อ ให้ ทำ � หน้ า ที่ ต ามหลั ก จริยธรรมวิชาชีพ ไม่สามารถกำ�กับได้โดยวิธีใด

วิธีหนึ่ง แม้กระทั่งการออกใบประกอบวิชาชีพ เพราะสื่อมวลชนมีอิสระในการนำ�เสนอข้อมูล ข่าวสาร ตามสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนใน ระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่การควบคุมสื่อมวลชนนั้นจะทำ�ได้ 3 ระดับ ขั้นต้นคือ จริยธรรมหรือจรรยาบรรณ คือ การควบคุมด้วยตนเอง ขั้นที่สองคือ ด้านสังคม เช่น มีการเสนอข่าวหรือนำ�รูปภาพทีไ่ ม่เหมาะสม ใช้วาจาไม่สุภาพ ก็ควรงดให้การสนับสนุน อันนี้ ถือว่าเป็นการควบคุมทางสังคม การควบคุมทาง สังคมอีกอย่างหนึ่งคือที่ทำ�กันในทางบวกคือการ ให้รางวัล เช่น ข่าวยอดเยี่ยม ข่าวดีเด่น และการ ควบคุมระดับทีส่ ามคือ ความผิดทางกฎหมาย เช่น หมิ่นประมาท ปั จ จุ บั น สั ง คมไทยยั ง มี บ ทบาทในการ ตรวจสอบสือ่ น้อยลง ทำ�อย่างไรจะให้สอื่ ของไทย กลัวการทำ�ผิดต่อสังคม กลัวการลงโทษจากสังคม วิธหี นึง่ คือกระตุน้ ให้คน หรือองค์กร ไม่เกรงกลัว อิทธิพลของสื่อ กล้าในการที่จะเข้ามาตรวจสอบ การทำ�งานของสื่อ …

กระติบไฟฟ้า คว้ารางวัล

สเปเชี่ยล อวอร์ท

นายวนิ ช แสง สุวรรณ ผู้อำ�นวยการโรง ไฟฟ้ า พลั ง นํ้ า ภาคตะวั น ออกเฉียงเหนือ นำ�เยาวชน นั ก เรี ย นจากโรงเรี ย น อุบลรัตน์พิทยาคม อำ�เภอ อุบลรัตน์ เข้าพบนายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น เพื่อนำ� ผลงานที่เยาวชนกลุ่มนี้ได้ นำ�สิ่งประดิษฐ์จากการคิดค้นไปประกวดในเวที ระดับนานาชาติและระดับโลกทีก่ รุงไทเป ประเทศ ไต้หวัน ระหว่างวันที่ 18 - 21 กันยายนทีผ่ า่ นมา โดย ใช้ชื่อผลงานว่า กระติบไฟฟ้า สามารถคว้ารางวัล สเปเชี่ยล อวอร์ท มาได้ นอกจากนั้นทีมคิดค้นทีมนี้ ยังได้รางวัล จากการไปประกวดอีก 4 รางวัลจากประเทศต่างๆ ด้วย โดยเด็กเยาวชนชุดนีเ้ ป็นเยาวชนจากโครงการ Move World Together เคลื่อนโลกไปด้วยกัน ซึ่ง ทางการไฟฟ้ า ฝ่ า ยผลิ ต แห่ ง ประเทศไทยเป็ น ผู้ สนับสนุนโครงการ

สมาคมสื่อมวลชน จั ง ห วั ด ข อ น แ ก่ น ร่ ว มกั บ สถาบั น อิ ศ รา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่ง ประเทศไทย จัดทำ�โครงการพัฒนาศักยภาพสื่อ ท้องถิน่ ในประเด็น“บทบาทสือ่ มวลชนกับการต่อ ต้านการคอร์รปั ชัน่ ” เพือ่ ให้สอื่ ท้องถิน่ ได้ตระหนัก รู้ ปรับเปลีย่ นทัศนคติ ปรับตัวและวางบทบาทการ ทำ�หน้าที่ในฐานะสื่อที่คอยตรวจสอบสังคม หรือ แม้กระทั่งการทำ �งานของสื่อเอง เพื่อท้ายที่สุด

บทบาทสือ่ มวลชนกับการต่อต้านการคอร์รปั ชัน่ แล้ว สังคมจะได้มองปัญหาคอร์รัปชั่นเป็นเรื่อง ใกล้ตัว เป็นเรื่องของส่วนรวมที่ทุกฝ่ายได้รับผลก ระทบ อันจะนำ�ไปสู่การสร้างจิตสำ�นึกสาธารณะ และแก้ไขปัญหาร่วมกัน เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2557 ที่ห้อง COLA 210 วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัย ขอนแก่น นายเยีย่ มสุรยิ า พาลุสขุ อดีตผูว้ า่ ราชการ จั ง หวั ด พั ง งา และกรรมการป้ อ งกั น และปราบ ปรามการทุ จ ริ ต ประจำ � จั ง หวั ด ขอนแก่ น เป็ น ประธานเปิดการเสวนา “บทบาทสื่อมวลชนกับ การต่อต้านคอรัปชั่น” โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้ ว ย นายประสงค์ เลิ ศ รั ต นวิ สุ ท ธิ์ ผู้

สำ�หรับผลงานกระติบไฟฟ้า มีคุณสมบัติพิเศษใน การนึ่งประกอบอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพใช้ เวลาน้อย ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม ไม่ยุ่งยากสำ�หรับการทำ�อาหาร เหมือนการนึ่งข้าว เหนียว ไม่เกิดมลภาวะ และใช้ง่าย เป็นพื้นฐานใน ชีวิตประจำ�วันของคนทั่วไปเป็นแนวความคิดของ เยาวชนรุน่ ใหม่ทมี่ แี นวคิดนอกกรอบรับผิดชอบและ สร้างสรรค์เพือ่ แก้ไขปัญหาพลังงานและสิง่ แวดล้อม เอสซี จี เปเปอร์ ตอกยํ้ า หนึ่ ง ในเป้ า อย่างยั่งยืน และผลักดันให้เกิดนักประดิษฐ์น้อยขึ้น หมายความเป็นเพื่อนคู่คิดเกษตรกรไทย ชี้ไม้ยูคา ในประเทศไทย ลิปตัสยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีค่ามีความต้องการ ในตลาดสูง และเป็นโอกาสดีในการสร้างรายได้ ชวนเกษตรกรร่วมปลูกยูคาลิปตัส “ลงทุนน้อย ปลูกง่าย ขายได้ทั้งปี” คุ้มค่าและสร้างรายได้ต่อ เนื่องและยั่งยืน นายรุ่ ง โรจน์ รั ง สิ โ ยภาส กรรมการผู้ จัดการใหญ่ เอสซีจี เปเปอร์ กล่าวว่า“ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจกับการนำ�ไม้ยูคา ลิปตัสซึ่งเป็นไม้อุตสาหกรรมมาเป็นทรัพยากร หมุนเวียนทีส่ ามารถนำ�มาใช้ประโยชน์ได้มหาศาล

ปกติธรรมดาเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในสังคมไทย “ซึ่งความคิดเช่นนี้ เป็นอันตรายต่อความ มัน่ คงของประเทศทีค่ นไทยทุกคนจะต้องตระหนัก และต้ อ งเข้ า มาร่ ว มมื อ กั น ในการแก้ ไ ขปั ญ หา “สือ่ มวลชน” ในฐานะผูท้ ที่ �ำ หน้าทีต่ รวจสอบและ นำ�เสนอข้อเท็จจริงให้สงั คมได้รบั ทราบ โดยเฉพาะ สื่อท้องถิ่นเป็นสื่อที่ใกล้ชิดกับชุมชน จึงควรที่จะ เข้าใจถึงสภาพปัญหา ความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก การทุจริต เรียนรูถ้ งึ วิธเี ชิงลึก ต่อยอดขยายผล เพือ่ เป็นกระบอกเสียงสะท้อนปัญหาดังกล่าวให้สงั คม ได้รับทราบ และตระหนักถึงความสำ�คัญของการ ต่อต้านคอรัปชั่น” นายกสมาคมสื่อมวลชน กล่าว และว่า สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่ น ตระหนักถึงความสำ�คัญของผลกระทบจากปัญหา ดังกล่าว จึงได้ร่วมกับ สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนา สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย จัดเสวนา “บทบาท สื่อมวลชนกับการต่อต้านคอรัปชั่น” โดยวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อร่วมกันหาแนวทางและเป็นการ แสดงจุ ด ยื น ของสื่ อ มวลชนท้ อ งถิ่ น ในการ

ร่วมแก้ไขและขจัด ปั ญ หาพร้ อ มกั บ การขับเคลื่อนและ ขยายเครื อ ข่ า ยใน การต่ อ ต้ า นการ ทุ จ ริ ต ค อ รั ป ชั่ น เพือ่ เกิดแรงกระตุน้ ให้ทุกภาคส่วนลุก ขึ้นมารวมพลังกัน ต่อสู้กับปัญหาการคอรัปชั่นให้หมดสิ้นไปจาก แผ่นดินไทย และขอเป็นกำ�ลังใจให้ “สื่อยุคใหม่ ต้องกล้าคิด กล้าทำ� และกล้านำ�เสนอ”

ทีมข่าวไทยเสรี...รายงาน

เอสซีจี เปเปอร์ ชวนปลูกยูคาฯ ลงทุนน้อย ปลูกง่ายขายได้ทงั้ ปี

เตรียมพร้อมช่วยพีน่ อ้ งประสบภัย

คุณฉัตรชัย พรหม เลิ ศ อธิ บ ดี ก รมป้ อ งกั น และบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย และ คุณชาคริต ดิเรกวัฒน ชัย รองกรรมการผู้จัดการ แผนกกิจการสาธารณะ เท สโก้ โลตัส ร่วมลงนามใน ข้อตกลงความร่วมมือใน โครงการ “ถุงบรรเทาทุกข์ ๑๐,๐๐๐ ชุด เพื่อพี่น้องที่ ประสบภัย” รวมมูลค่ากว่า ๓ ล้านบาท โดยเทส สาธารณภัย ในพื้นที่ประสบสาธารณภัยส่งต่อให้ถึง โก้ โลตัส ได้จัดเตรียมถุงบรรเทาทุกข์ไว้ที่สาขาทั่ว มือประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือได้อย่างทัน ประเทศ เพือ่ มอบให้หน่วยงานป้องกันและบรรเทา ท่วงทีภายใน ๒๔ ชั่วโมง

กำ�จัดคอรัปชัน่ ..ก้าวแรกของการปฎิรปู 8 องค์กรเศรษฐกิจ จั ง หวั ด ขอนแก่ น ร่ ว มจั ด เสวนา “กำ � จั ด คอรั ป ชั่ น .. ก้ า วแรกของการปฎิ รู ป ” เพื่ อ ให้ เ กิ ด การตื่ น ตั ว และ ป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น ในองค์ ก รทั้ ง ภาครั ฐ และ ภาคเอกชน โดยวิ ท ยกกร ผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ อาทิ นาย วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายกล้าณรงค์ จันทึก อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่ ง ชาติ และสมาชิ ก สภานิ ติ บั ญ ญั ติ แ ห่ ง ชาติ นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานกรรมการส่งเสริม คุณธรรมจริยธรรมและธรรมาภิบาลสภาพัฒนา เมือง และดำ�เนินรายการโดย นายวสันต์ ภัยหลีก ลี้ ผูอ้ �ำ นวยการสถาบันต่อต้านการทุจริตคอรัปชัน่ แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายวิ ฑู ร ย์ กมลนฤเมธ ประธาน กิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า เพื่อร่วมรณงค์และป้องกันการทุจริต คอรัปชัน่ ให้ลดลงในสังคมไทย 8 องค์กรเศรษฐกิจ อาทิ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น หอการค้า จั ง หวั ด ขอนแก่ น ธนาคารแห่ ง ประเทศไทย สำ�นักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมส่ง

อำ�นวยการสถาบันอิศราฯ ,นายวสันต์ ภัยหลีก ลี้ ผู้ อำ � นวยการสถาบั น ต่ อ ต้ า นคอร์ รั ป ชั่ น แห่ ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ,รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ คณบดีวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายโชคชัย คุณวาสี กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด มี นายเจริญลักษณ์ เพ็ชรประดับ บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์อีสานบิซวีค เป็นผู้ดำ�เนินรายการ พันตรี พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคม สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า สาเหตุ ของการคอรัปชั่นในปัจจุบันต่างจากอดีตที่ผ่านมา เพราะโครงสร้างของสังคมไทยเป็นระบบอุปถัมภ์ มากขึ้น และยังมีสังคมแบบวัตถุนิยม อีกทั้งมีการ คอรัปชั่นเชิงนโยบายเกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อการ บริหารราชการแผ่นดิน และเป็นปัญหาที่ทำ�ลาย สังคมไทย ดังนั้น ปัญหาคอรัปชั่นจึงเป็นปัญหา ใหญ่ของประเทศ ที่ฝังรากลึกอย่างยาวนานอยู่ใน สังคมไทย และเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไข ซึ่งเป็นต้น เหตุให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา และที่สำ�คัญปัญหา การคอรัปชั่นในปัจจุบันกลับถูกมองว่าเป็นเรื่อง

เสริ ม ผู้ ป ระกอบการวิ ส าหกิ จ ขนาดกลางและ ขนาดย่อมไทยจังหวัดขอนแก่น ชมรมธนาคาร จังหวัดขอนแก่น สมาคมศิษย์เก่า MBA สมาคม ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น และคณะ วิ ท ยาการจั ด การมหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น ร่ ว ม กั บ กลุ่ ม อาทรเสวนาและสถาบั น ต่ อ ต้ า นการ คอรั ป ชั่ น มหาวิ ท ยาลั ย ธรรมศาสตร์ จึ ง ได้ จั ด เสวนาในครั้งนี้ เพื่อให้สังคมไทยได้ตระหนักถึง ความเสียหายจากการทุจริตคอรัปชั่น ทั้งหน่วย งานและองค์กร และเพื่อให้ร่วมกันป้องกันการ ทุจริตให้หมดไปจากสังคมไทย โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นัก ธุรกิจ พ่อค้า และประชาชน ให้ความสนใจเข้าร่วม รับฟังอย่างเนืองแน่น ณ ห้องมงกุฎเพชร โรงแรม โฆษะ ขอนแก่น เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2557

ทั้งในแง่การสร้างคุณค่าและความสมดุลตลอด วงจรการใช้ไม้ซึ่งมีมูลค่ารวมตั้งแต่ต้นนํ้าถึงปลาย นํ้าสูงถึง 100,000 ล้านบาท และในแง่การนำ�มา เป็นทรัพยากรทดแทนทรัพยากรเดิมที่กำ�ลังจะ หมดไป ยูคาลิปตัสจึงเป็นสิ่งที่มีความจำ�เป็นต่อ การดำ�รงชีวิต และช่วยสร้างความเจริญเติบโตให้ กับเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก” “ในภาพรวมของปี 2557 ตลาดไม้ยูคาลิปตัสมี มูลค่ารวมประมาณ 17,000 ล้านบาท ใช้ในประเทศ ประมาณ 60% และส่งออก 40% มีอตั ราการเติบโต ประมาณ 5% และตลาดยังมีความต้องการไม้สูง

กว่าปริมาณที่ผลิตได้ไปอีกถึง5 ปีข้างหน้า ปัจจุบัน เอสซีจี เปเปอร์ ซื้อไม้ประมาณ 2,700,000 ตันต่อ ปีโดยใช้ในประเทศ 2,300,000 ตันต่อปี และส่ง ออก 400,000 ตันต่อปี และมีแนวโน้มการใช้สูง ขึ้นนอกจากการใช้ไม้เพื่อผลิตเยื่อกระดาษ เอสซีจี เปเปอร์ ยังมุ่งสร้างประโยชน์จากไม้ยูคาลิปตัสให้ เกิดคุณค่าสูงสุดและใช้ให้ได้ทุกส่วน บริษัทฯ จึง ลงทุนและขยายกิจการไปสูธ่ รุ กิจใหม่ๆ ทีเ่ กีย่ วเนือ่ ง กับการเพิ่มมูลค่าไม้ยูคาลิปตัสที่ได้ดำ�เนินการแล้ว ในปีนี้ ได้แก่ ธุรกิจกระบะไม้(Wood Pallet) ด้วย การนำ�ไม้ทอ่ นใหญ่มาผ่านกระบวนการแปรรูปทีม่ ี มาตรฐาน จนได้เป็นกระบะไม้คณ ุ ภาพสูง แข็งแรง สามารถรับนํา้ หนักได้มาก ธุรกิจเชือ้ เพลิงไม้อดั เม็ด (Wood Pellet)เป็นการผลิตเชือ้ เพลิงจากเปลือกไม้ยู คาลิปตัสซึ่งเป็นเศษเหลือใช้จากกระบวนการผลิต มาอัดเป็นเม็ด นำ�ไปเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลซึ่งให้ค่า ความร้อนสูงเพื่อทดแทนพลังงานอื่นๆ และธุรกิจ พลังงานขนาดเล็กเพือ่ ชุมชนจากการนำ�กิง่ ไม้ปลาย ไม้และเศษไม้ทเี่ หลือใช้จากการแปรรูปมาผลิตเป็น พลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในชุมชน” “นอกจากนี้ เอสซีจี เปเปอร์ ยังลงทุนพัฒนา สายพันธุ์ยูคาลิปตัสและนำ�เสนอบริการใหม่ๆการ ขยายเครือข่ายความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด แก่เกษตรกรเครือข่ายที่ปัจจุบันมีอยู่ถึง 100,000 รายรวมทั้งเกษตรกรรายใหม่ๆนอกจากนี้ ยังมี โปรแกรมส่ ง เสริ ม การปลู ก อย่ า งต่ อ เนื่ อ งที่ จ ะ ทำ�ให้เกษตรกรเกิดความมั่นใจและมาร่วมปลูกยู คาลิปตัสกับเอสซีจี เปเปอร์” รุ่งโรจน์กล่าว นายจุ ม พฏ ตั ณ มณี กรรมการผู้ จั ด การ บริษัทสยามฟอเรสทรี จำ�กัด ในเอสซีจี เปเปอร์ กล่าวว่า “บริษัทสยามฟอเรสทรี จำ�กัด ในเอสซี จี เปเปอร์ ผู้ดำ�เนินธุรกิจวิจัยพัฒนาพันธุ์ต้นยูคา ลิปตัส ตลอดจนส่งเสริมการปลูกและรับซื้อไม้ ได้ เล็งเห็นโอกาสทางการตลาดของยูคาลิปตัสที่ยังเติ บโตและมีตลาดรับซื้อที่ชัดเจน จากการเป็นเพื่อน คู่คิดเกษตรกรไทย บริษัทฯ จึงเสนอทางเลือก ให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มด้วยการมาร่วมปลูกยูคา ลิปตัสกับเอสซีจีเปเปอร์ ผ่านโปรแกรมส่งเสริม การปลูก “ลงทุนน้อย ปลูกง่าย ขายได้ทั้งปี” ที่ รับรองความคุ้มค่า และมีอนาคตแน่นอนจากราย

ได้ที่ต่อเนื่องและยั่งยืน ด้านลงทุนน้อยเกษตรกร ที่ปลูกยูคาลิปตัสกับเอส ซี จี เปเปอร์ ไม่ จำ � เป็ น ต้ อ งมี แ ปลงที่ ดิ น หรื อ เงินทุนจำ�นวนมาก เพียง แค่มีพื้นที่ริมคันนา หรือ ริมคลอง ก็สามารถปลูก ยู ค าลิ ป ตั ส ของเอสซี จี เปเปอร์ได้ ทั้งยังสามารถ ปลูกควบคู่กับพืชเศรษฐ กิจอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้เสริมได้ด้วยโดยการลงทุน ปลูกครัง้ แรกกับเอสซีจี เปเปอร์ ใช้เงินทุนน้อยมาก ประมาณ500-2,000 บาทต่อไร่เท่านั้น ไม่ต้องใช้ แรงงานคนเพื่อดูแลเท่าพืชอื่นๆ เพราะสายพันธุ์ ของเอสซีจี เปเปอร์ ผ่านการพัฒนามาแล้วทำ�ให้ ภายใน 4 ปีก็สามารถตัดขายได้ราคาต้นละ 60-80 บาท และหลังจากตัดแล้วยูคาลิปตัสสามารถแตก หน่อใหม่ในรอบที่ 2 และ 3 ได้เอง จึงถือว่าคุ้มค่า เมื่อเทียบกับเงินทุนและเวลาที่ใช้ในการปลูก ยิ่ง ไปกว่านั้น ทุกจุดการรับซื้อยูคาลิปตัสของเอสซีจี เปเปอร์ จ่ายค่าไม้ให้กับเกษตรกรเป็นเงินสดทันที ทำ�ให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนและวางแผน การเงินได้ดียิ่งขึ้น ด้านการปลูกง่ายเอสซีจี เปเปอร์พฒ ั นาสาย พันธุท์ เี่ หมาะสมกับพืน้ ทีใ่ นประเทศไทยมากถึง 10 สายพันธุ์ สามารถครอบคลุมชนิดดินได้เกือบทั้ง ประเทศเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้น และยังลดปัญหา เรื่องพืชและแมลงศัตรูพืชซึ่งสร้างปัญหาให้กับ เกษตรกรเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังได้ผลผลิตทั้งนํ้า หนักและจำ�นวนผลผลิตที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้เอส ซีจี เปเปอร์ ยังมีบริการแนะนำ�วิธีการปลูกอย่างมี ประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีความรู้และ ได้ผลผลิตที่น่าพอใจมากยิ่งขึ้น สุ ด ท้ า ยในด้ า นขายได้ ทั้ ง ปี เกษตรกร สามารถเลือกขายได้ทงั้ ปี ไม่ขนึ้ กับฤดูกาลหรือช่วง เวลาขาย และสามารถขายให้กับเอสซีจี เปเปอร์ ได้ ทั้งต้นเพราะทุกส่วนสามารถนำ�ไปใช้ประโยชน์ได้ ทั้งหมด นอกจากนี้ เอสซีจี เปเปอร์ ยังเพิ่มความ

สะดวกสบายให้เกษตรกรโดยการสร้างเครือข่าย และเพิ่มช่องทางในการรับซื้อไม้ ซึ่งมีกระจาย ตามจุดต่างๆ มากถึง 250 จุดทั่วประเทศ ที่ช่วย อำ�นวยความสะดวกให้เกษตรกรไม่ต้องลำ�บาก ในการขนส่งไม้เพื่อนำ�มาขาย ด้ ว ยความใส่ ใ จและเข้ า ใจถึ ง ปั ญ หาที่ เกษตรกรผู้ปลูกยูคาลิปตัสต้องพบอยู่ในปัจจุบัน การเป็นเพื่อนคู่คิดเกษตรกรไทยจึงเป็นหนึ่งใน เป้าหมายของเอสซีจี เปเปอร์ ที่ จ ะช่ ว ยชี้ ช่ อ ง ทางและหาทางออกให้กับเกษตรกรให้มีรายได้ที่ ยั่งยืน ด้วยการร่วมปลูกยูคาลิปตัสในโปรแกรม “ลงทุนน้อย ปลูกง่าย ขายได้ทั้งปี”ประกอบกับ บริการเฉพาะที่นำ�เสนอพิเศษให้กับเกษตรกรจะ ช่วยตอบโจทย์ให้กับเกษตรกรมีรายได้และสร้าง มูลค่าจากทีด่ นิ ได้มากยิง่ ขึน้ โดยเกษตรกรทีส่ นใจ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์อีสาน โทร.043-433-355 ศูนย์ตะวันตกและเหนือ โทร.034-615-040 หรือ http://paper.scg.co.th


หน้า 4

ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ประจำ�เดือนตุลาคม 2557

ส่งมอบตำ�แหน่ง “ผบ.มทบ.23” คนใหม่ ; พล.ต.ภัทรพล รักษนคร รองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ทำ�การส่งมอบหน้าที่แก่ พล.ต.วรทัต สุพัฒนานนท์ ผบ.มทบ.23 คนใหม่ โดยมีคณะข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง และชมรมแม่ บ้าน มทบ.23 ร่วมพิธี อย่างสมเกียรติ ณ ลานอเนกประสงค์ ค่ายศรีพชั ริน ทร มทบ.23 อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2557

ส่งมอบหน้าที่ ผบ.ตร.ภ.4 ; พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำ�รวจแห่งชาติ ได้ส่งมอบหน้าที่ ให้กับ พล.ต.ต.บุญเลิศ ใจ ประดิษฐ์ ผู้บัญชาการตำ�รวจภูธรภาค 4 คนใหม่ โดยมีข้าราชการตำ�รวจ ในสังกัดภาค 4 เข้าร่วมพิธี ณ ลานฝึกพรหมพิทกั ษ์ ตำ�รวจภูธรภาค 4 เมือ่ วันที่ 1 ตุลาคม 2557

Food and Hotelex 2014 ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น และ Mr.Greg Wallis ทูตพาณิชย์ออสเตรเลีย ร่วมเปิดงาน “Food and Hotelex 2014” มหกรรมอาหารและบริการครั้งแรกของภาค อีสาน ประกาศศักยภาพของธุรกิจอาหารและบริการของประเทศไทย ก้าวสู่ระดับสากล ระหว่างวันที่ 2-5 ตุลาคม 2557 ณ ขอนแก่นฮอลชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น

ประกวดภาพยนตร์สารคดีสั้น ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการประกวดภาพยนตร์สารคดีสั้น “มนต์เสน่หจ์ ากเมืองขอน สูม่ หานครแห่งอาเซียน” ถวายพระธรรมวิสทุ ธา จารย์ เจ้าอาวาสวัดหนองแวงพระอารามหลวง เมือ่ วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๗ ณ วัดหนองแวงพระอารามหลวง

One Stop Service ; นายพลชัย กุลประกอบลาภ ผูจ้ ดั การ การไฟฟ้าส่วน ภูมิภาคจังหวัดขอนแก่น 2 (มะลิวัลย์) และ นายพิภพ บัวดิษฐ์ ผู้อำ�นวย การ ห้างสรรพสินค้าเทสโกโลตัส เอ็กตร้า สาขาโนนม่วง ขอนแก่น ร่วมเปิด ให้บริการเคาเตอร์ เซอร์วทิ เพือ่ ขยายพืน้ ทีบ่ ริการให้ประชาชนได้รบั ความ สะดวกมากยิง่ ขึน้ ณ จุดบริการสาขาเทสโก้ โลตัส เอ็กตร้า ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2557

ขอนแก่น TRANSFORM ”เด้อ“ ; ดร.ณรงค์ชยั อัครเศรณี รัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดการสัมมนาขุมทอง 4 พร้อมปาฐกถา พิเศษ ในงาน “ขอนแก่น TRANSFORM” เด้อ ศูนย์ข้อมูลเศรษฐกิจ การ ค้า การลงทุน จังหวัดขอนแก่น ณ ห้องแกรนด์พาวิลเลีย่ น โรงแรมราชาวดี รีสอร์ทแอนด์ โฮเต็ล จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2557

กีฬาตำ�รวจขอนแก่นต้านยาเสพติด ; ดร.พงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น เป็นประธานปิดและมอบรางวัล ในการแข่งขันกีฬา “ตำ�รวจขอนแก่น ต้านภัยยาเสพติด ครัง้ ที่ 7” เพือ่ ให้ขา้ ราชการตำ�รวจและ บุคลากร ได้เห็นถึงความสำ�คัญของการดูแลสุขภาพ และเป็นการสร้าง ความสามัคคีระหว่างหน่วยงาน เมือ่ วันที่ 17 กันยายน 2557 ทีส่ นามกีฬา องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น

ขอนแก่น ดินแดนแห่งเสียงแคน ดอกคูน ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น มอบต้นคูน เพื่อขับเคลื่อนระเบียบวาระจังหวัด “ขอนแก่น ดินแดนแห่งเสียงแคน ดอกคูน” ปลูกตามเส้นทางท่องเที่ยว 111 กม. โดย นายชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมโฆษะ สนับสนุนต้นคูนเฉลิมพระเกียรติ 9,999 ต้น ณ สวนมะพร้าว โรงแรมโฆษะ

Grand Opening “V Wish Hotel” ; นายกำ�ธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น มอบดอกไม้แสดงความยินดีกับ นายกวีทัศน์ ศรีสุรพล ประธานกรรมการบริหาร โรงแรม วีวชิ พร้อมเป็นประธานเปิดงาน Grand Opening “V Wish Hotel” โดยมีหัวหน้าหน่วยงาน ส่วนราชการ และนัก ธุรกิจในจังหวัดขอนแก่นเข้าร่วมแสดงความยินดี ณ ลานหน้าโรงแรม V Wish Hotel

ต้อนรับเอกอัครราชทูต 2 ประเทศ ; นายวิวัฒ เมธีวรรณกิจ รอง ผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด ขอนแก่ น พร้ อ มหั ว หน้ า หน่ ว ยงานภาครั ฐ ภาค เอกชน นักธุรกิจจังหวัดขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ นายฟิลิป คาลเวิร์ต เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำ �ประเทศไทย และ นายมาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำ�ประเทศไทย พร้อมคณะฯ ในโอกาสเข้า ปรึกษาแลกเปลี่ยนการบริหารงาน และแนวทางเศรษฐกิจ ณ ห้องรับรอง พงษ์พานิช เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557

เชิดชูเกียรติผเู้ กษียณอายุราชการ ; ดร.วรโชติ พัฒน์ด�ำ รงจิตร ประธาน คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 เป็น ประธานเปิดโครงการเสริมสร้างคุณภาพและคุณค่าชีวิตและมอบเกียรติ บัตรเชิดชูเกียรติผู้เกษียณอายุราชการ ประจำ�ปี 2557 จัดโดย สำ�นักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 ณ ห้องราชพฤกษ์ โรงแรมเซ็นทารา ขอนแก่น เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2557

ต้อนรับคณะทูตจีน ; คุณจุฑามาส สุขประสบโชค ผูอ้ ำ�นวยการฝ่ายขาย และการตลาด ให้การต้อนรับ ฯพณฯ หนิง ฟูข่ ยุ่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐ ประชาชนจีนประจำ�ประเทศไทย ในโอกาสที่ท่านเอกอัครราชทูตฯ และ คณะ เดินทางมายังจังหวัดขอนแก่น และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ตามคำ�เชิญของ นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธ์ อดีต ส.ว.ขอนแก่น ณ ห้องอาหารจีนลองหยุน โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด

ต้อนรับทูตสวีเดนประจำ�ประเทศไทย ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ. ขอนแก่น พร้อมหัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และนักธุรกิจจังหวัด ขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ H.E.Mr.Klas Molin เอกอัครราชทูตสวีเดน ประจำ�ประเทศไทย ในโอกาสเดินทางมาหารือเรื่องเศรษฐกิจ การค้าและ การลงทุน ของจังหวัดขอนแก่น ณ ห้องรับรองพงษ์พานิช ศาลากลาง จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2557

เปิดตัวสำ�นักงานแห่งใหม่ ; ดร.พงษ์ศกั ดิ์ ตัง้ วานิชกพงษ์ นายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น มอบแจกันดอกไม้ร่วมแสดงความยินดีกับ นางกัญญา มาสีพิทักษ์ ในโอกาสเปิดสำ�นักงาน บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวติ (ประเทศไทย) สำ�นักงานตัวแทนแห่งแรกในจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา

Australian A la carte Food Festival ; Mr.Greg Wallis ทูตพาณิชย์ ออสเตรเลีย เป็นประธานเปิดงาน “Australian A la carte Food Festival“ เทศกาลแนะนำ�ความเป็นเลิศในการทานอาหารออสเตรเลีย โดยมี นาย กำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และนักธุรกิจ ร่วมงานอย่างอบอุน่ ณ โรงแรม เซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ ขอนแก่น วันที่ 2 ตุลาคม 2557

ความจำ�เป็นของโครงข่ายมือถือยุค 3G ; นายอนันต์ นิลมานนท์ นายก สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการ เสวนา “ความจำ�เป็นของโครงข่ายมือถือยุค 3G เพื่อพัฒนาท้องถิ่น” โดย มี นายพิชัย สุวรรณกิจบริหาร ผู้อำ�นวยการสำ�นักขับเคลื่อนภารกิจพิเศษ สำ�นักงาน กสทช. และนายวันชัย กาญจนศิริ เหรัญญิกหอการค้าจังหวัด ขอนแก่น เป็นวิทยากร ณ ห้องออคิดบอลรูม โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด

แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ; นายสมิง ยิ้มศิริ ประธานหอการค้าจังหวัด ขอนแก่น พร้อมนางปราณี ธีรภานุ ประธานกิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัด ขอนแก่น และคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดขอนแก่น ให้การต้อนรับ ดร.อ๊อด พงสะหวัน ประธานคณะกรรมการบริหารกลุ่ม บริษัท พงสะห วัน กรุ๊ป จาก สปป.ลาว พร้อมคณะผู้บริหารฯ ณ ห้องประชุมคุวานันท์ หอการค้าจังหวัดขอนแก่น

แสดงมุทิตาจิต ครูผู้สร้าง ; พันตรี พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคม สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการบริหารฯ มอบของที่ ระลึกให้กับ รศ.ดร. อำ�นวย คำ�ตื้อ ผู้อำ�นวยการศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในงานแสดงมุทติ าจิต เกษียณอายุราชการ ณ ห้อง ดอกคูณ ชั้น 4 โรงแรมเจริญธานี ขอนแก่น


หน้า 5

ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ประจำ�เดือนตุลาคม 2557

“ครูของข้อย” ครูพนั ธุใ์ หม่ ไทย-ลาว ฝีมอื ชาวขอนแก่น อย่างไรถึงเรียกว่า “ให้นมลูกอย่างถูกต้อง” โดย รศ.ทพญ.เข็มพร กิจสหวงศ์

คุณพ่อคุณแม่คงเคยเห็นเด็กเล็กๆ ทีฟ่ นั ผุ ปวดฟัน ร้องไห้โยเย อักเสบ เป็นไข้ แก้มบวม เป็น หนอง ทานข้าวไม่ได้ นํ้าหนักลดกันแล้ว และคุณ พ่อคุณแม่ คงไม่อยากให้ลูกเป็นเช่นนั้น สาเหตุ ส่วนหนึ่งมาจากคุณพ่อคุณแม่บางท่านมักจะให้ นมเด็กก่อนนอน หรือให้เด็กหลับคาขวดนมหรือ ให้นมหวาน หรือเครือ่ งดืม่ ทีม่ รี สหวานซึง่ เป็นวิธี การที่ผิด สำ�หรับวิธใี ห้นมเด็กอย่างถูกต้องนัน้ มีดงั ต่อไปนีค้ อื ข้อหนึง่ คือ ไม่ควรให้นมเด็กเวลานอน ข้อสองคือ ไม่ควรให้นมที่มีรสหวาน ข้อสามคือ ไม่ควรให้เด็กดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวาน หรือนํ้า ผลไม้จากขวดนม ข้อสี่คือ ให้เด็กดื่มหรือดูดนํ้า ตาม 1-2 ช้อนชา หลังดูดนมทุกครั้ง นอกจากนีค้ ณ ุ พ่อคุณแม่ควรฝึกให้เด็กดืม่ นมจากถ้วย เมือ่ เด็กอายุได้ 6-10 เดือน และเลิกดูด นมจากขวด เมื่ออายุ 12-18 เดือน เมื่อเด็กอายุเกิน

1 ขวบ นมจะเป็นเพียงอาหารเสริมเท่านั้น โดยมี ข้าวเป็นอาหารหลัก ดังนัน้ เมือ่ จะให้ลกู เลิกนมขวด คุณพ่อคุณ แม่จะต้องตัง้ ใจ และอดทนอย่างมาก แรกๆ ลูกจะ โยเย และร้องหานมขวด แต่เมื่อไม่ได้จริงๆ ลูกก็ จะเลิกโยเย แต่นอกเหนือจากความตั้งใจของคุณ พ่อคุณแม่แล้ว การเลิกดูดนมจากขวดนั้น ยังต้อง อาศัยความตัง้ ใจของคุณพ่อคุณแม่แล้ว การเลิกดูด นมจากขวดนัน้ ยังต้องอาศัยความตัง้ ใจและเข้าใจ ของทุกคนในครอบครัว เช่น คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย อีกด้วย “การให้ น มลู ก อย่ า งถู ก ต้ อ งสามารถ ป้องกันโรคฟันผุในเด็กได้” หากท่านมีข้อสงสัย เขียนมาหาเราได้ที่ หน่วยประชาสัมพันธ์ คณะ ทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 40002 หรือ โทร.0-432-2405 ต่อ 11188 เราจะรอให้ บริการทุกสาย พบกันใหม่ฉบับหน้าสวัสดีค่ะ

ประชุ ม ใหญ่ ส หกรณ์ ออมทรัพย์ ; นายวรโชติ พัฒน์ดำ�รงจิตร กรรมการ ผูจ้ ดั การโรงแรมเจริญธานี ขอนแก่น เป็นประธานเปิด “การประชุ ม ใหญ่ ส ามั ญ ประจำ�ปี 2556” สหกรณ์ ออมทรัพย์พนักงานเจริญ ธานี จำ � กั ด โดยมี น าย สุ ร ชั ย อิ ง สถิ ต ธนวั น ต์ ผู้ อำ � นวยการกลุ่ ม ส่ ง เสริ ม สหกรณ์ ร่วมการประชุมในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2557 ณ ห้องกลางเมือง ชั้น 1 โรงแรมเจริญ ธานี ขอนแก่น

งานมหกรรมแห่งไหม เทิดไท้องค์ราชินี ไหมมัดหมี่ขอนแก่นสู่สากล เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 ที่ ขอน แก่ น ฮอลล์ ศู น ย์ ก ารค้ า เซ็ น ทรั ล พลาซ่ า ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่นจัดแถลงข่าว การ จัดงาน มหกรรมแห่งไหม เทิดไท้ องค์ราชินี ไหมมัดหมี่ขอนแก่นสู่สากล (Khon kaen Silk Festival 2014) จัดขึ้นในระหว่างวัน ที่ 20-21 กันยายน 2557 ที่ ขอนแก่นฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น อ.เมือง ขอนแก่น โดยมีนางปราณี ธีระภานุ ประธาน กิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดขอนแก่น พร้อม คณะกรรมการหอการค้าจังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมงาน นายยรรยง วิ ไ ลพงษ์ หั ว หน้ า สำ � นั ก งาน จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่นมอบ หมายให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับหลายหน่วย งานทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดขอนแก่น ร่วม กันบูรณาการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่นี้ให้สำ�เร็จ โดยมี วัตถุประสงค์เพือ่ เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ เพือ่ เผยแพร่เอกลักษณ์ผา้ ไหมมัด หมีข่ องขอนแก่น และ อนุรกั ษ์วฒั นธรรมผ้าไหมไทย ปลุกจิตสำ�นึกในการใช้ผ้าไหม ไปสู่สากล ร่วมกัน พัฒนามาตรฐานคุณภาพผ้าไหม รวมทั้งการส่งเสริม การตลาดผ้าไหม สู่ตลาดอาเซียนตลาดยุโรปและ ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผ้าไหมของจังหวัดขอนแก่น อย่างกว้างขวางสู่สากล รวมทั้งเพื่อกระตุ้นการปลูก หม่อนเลี้ยงไหมในจังหวัดขอนแก่น ให้ผู้ผลิตและผู้ ประกอบการได้พบปะเจรจาธุรกิจด้านหม่อนไหม นายภูมภิ กั ดิ์ พิทกั ษ์เขือ่ นขันธ์ ผูอ้ �ำ นวยการก องบริหารงานวิจัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะผู้ บริหารโครงการเปิดเผยเพิม่ เติมว่ากิจกรรมในงานจะ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน หลักๆ คือ การแสดงนิทรรศการ เกี่ยวกับผ้าไหมซึ่งจะมีกลุ่มผู้ผลิต และผู้ประกอบ

หอภาพยนตร์อีสาน มข.ร่วมกับ สถาบัน วิ จิ ต รศิ ล ป์ แ ห่ ง ชาติ สปป.ลาว แถลงข่ า วเปิ ด ตั ว ภาพยนตร์ “ครูของข้อย” ซึ่งใช้นักแสดงทั้งไทย และลาว เพื่อเชิดชูบูชา ส่งเสริมอาชีพครู คงไว้ซึ่ง วัฒนธรรมอันดีงามของ 2 ประเทศ ให้เกิดกิจกรรม ร่วมกันของบุคลากรจากไทยและลาว ผ่านการแลก เปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการผลิตภาพยนตร์ โดยจัด ฉายครั้งแรกเนื่องในวันครูแห่งชาติของลาว เมื่อวันที่ 25 ก.ย.57 ที่ห้องประชุมชั้น 4 อาคารสำ�นักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ� รองอธิการบดีฝ่ายชุมชน สัมพันธ์และสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะผู้ กำ � กั บ ภาพยนตร์ พร้ อ มด้ ว ยนายไมสิ ง จันบุดดี ผอ.สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งชาติ กรมวิจิตร ศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สปป. ลาว และนายคำ�เพ่า วันนะวง หัวหน้าแผนกรมฮูป เงา(ภาพยนตร์และละคร)กรมวิจิตรศิลป์ สปป.ลาว ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ ‘ครูของข้อย’ หรือ ครูของข้าพเจ้า โดย หอภาพยนตร์ อี ส าน มหาวิ ท ยาลั ย

ขอนแก่ น ร่ ว มกั บ สถาบั น วิ จิ ต รศิ ล ป์ แ ห่ ง ชาติ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จัดสร้างขึน้ ด้วยทุนของสถาบันวิจยั มข. เพือ่ เก็บรวบรวมข้อมูล อนุรักษ์และส่งเสริมกระบวนการผลิตภาพยนตร์ที่ เกี่ยวข้องกับศิลปวัฒนธรรมทั้งของภาคอีสาน และ กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในแถบลุ่มนํ้าโขง ในมิติของ วิชาการ รศ.ดร.นิ ย ม เปิ ด เผยว่ า ภาพยนตร์ เ รื่ อ ง

“‘ครูของข้อย” สื่อถึงความสัมพันธ์ที่มีร่วมกันมา อย่างยาวนานระหว่าง 2 ฝั่งโขง แต่ยังคงไม่มีผลการ ดำ�เนินงานทีเ่ ป็นรูปธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น กับ สถาบันวิจติ รศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรมและการท่อง เที่ยว สปป.ลาว จึงร่วมกันผลิตภาพยนตร์ผ่านเรื่อง ราวของตัวละครจากนักแสดงหน้าใหม่ นั บ เป็ น การเริ่ ม ต้ น ของการสร้ า งความร่ ว มมื อ ระหว่างประเทศในลุม่ นํา้ โขง อีกทัง้ เป็นการสะท้อน อัตลักษณ์ในความเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ให้เกิดความ ร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ระหว่างสถาบันการศึกษา กั บ ชุ ม ชนในมิ ติ ข องศิ ล ปะและวั ฒ นธรรม และ เพื่อเป็นการเชิดชูบูชาส่งเสริมอาชีพครู ให้คงไว้ซึ่ง วัฒนธรรมอันดีงามของประเทศไทย และ สปป. ลาว โดยใช้นักแสดงทั้ง 2 ประเทศ ในบทภาพยนตร์ เรื่ อ ง “ครู ข องข้ อ ย” เป็ น เรื่ อ งราวของคำ � สั ญ ญา อุดมการณ์ และความรักของครูลาวคนหนึ่ง ที่ทำ�ให้ การศึกษาเดินหน้าควบคูไ่ ปกับการรูจ้ กั รากเหง้าและ วัฒนธรรมของตนเอง ซึ่งนักแสดงเป็นนักศึกษาจากประเทศไทย จำ�นวน 10 คน นักศึกษาจาก สปป.ลาว 10 คน อาจารย์จากประเทศไทย อี ก 10 คน อาจารย์ จ าก สปป.ลาว จำ�นวน 10 คน ประชาชนทัว่ ไปจาก สปป. ลาว จำ�นวน 50 คน รศ.ดร.นิยม กล่าว ต่อว่า สำ�หรับดารานำ�ฝ่าย ชาย คือ นายจันทะสอน ทะวี ชั ย ผู้ ป ระกาศข่ า ว สถานีโทรภาพ แห่ง สปป.ลาว รับบทเป็น “คำ�ปุ่น” และดารานำ�ฝ่ายหญิง คือ อดีตนางงามไหมขอนแก่น รับบทเป็น “สุกพิลา” ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดจากคำ� สัญญาในวัยเด็ก สู่อุดมการณ์ของการเป็นครู โดยทิ้ง ความรัก ทิง้ อนาคต และชีวติ ทีส่ ขุ สบายในเมืองหลวง เดินทางกลับบ้านเกิด เมื่อพบความเปลี่ยนแปลงยิ่ง เป็นแรงบันดาลให้มุมานะฝ่าฟันอุปสรรค์จนพบกับ คำ�ตอบที่สูงค่า และเป็นสิ่งที่กำ�ลังตามหาอยู่ ซึ่งเป็น

ภาพยนตร์ ที่ ถ่ า ยทอด เรื่องราวของคำ�สัญญา อุดมการณ์ และความ รักของครูลาวคนหนึ่ง ที่ ทำ � ให้ ก ารศึ ก ษาเดิ น หน้ า ควบคู่ ไ ปกั บ การ รู้ จั ก ร า ก เ ห ง้ า แ ล ะ วัฒนธรรมของตนเอง “ครู ข องข้ อ ย” เป็ น ภาพยนตร์ ที่ ส ร้ า งขึ้ น เพื่อพัฒนาและบูชาพระคุณของคุณครู โดยเฉพาะใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่หลายคน มองว่า “ครู” เป็นอาชีพที่มีเงินเดือนน้อย จึงไม่ให้ ความสนใจจากนักศึกษามากนัก สถานทีถ่ า่ ยทำ�ภาพยนตร์ อยูใ่ นประเทศลาว ทั้งหมด โดยเฉพาะที่เมืองหาดทรายฟอง นครหลวง เวียงจันทน์ ใช้งบประมาณในการจัดสร้างภาพยนตร์ เรื่องนี้ทั้งหมดรวมกว่า 1 ล้านบาท เป็นงบประมาณ สนับสนุนจากสถาบันวิจัย มข.จำ�นวน 470,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมฉลองเนื่องในโอกาส ครบวาระ 50 ปี และเพื่อให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ� ในการสร้างความรู้ ให้เกิดประโยชน์กับท้องถิ่นของ ภาคอีสาน และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โดยทีมงาน ทุกคนเป็นการอาสาโดยเฉพาะนักศึกษาไทย ลาว คณาจารย์ ข้าราชการ ประชาชนชาวไทยและ สปป. ลาว ทีไ่ ด้รว่ มกันถ่ายทอดเรือ่ งราวคำ�สัญญาในวัยเด็ก สู่อุดมการณ์การเป็น “ครูคำ�ปุ่น” “เด็กชายที่สูญเสียเพื่อนรักในวัยเรียน ซึ่งได้ สัญญากันว่าเมื่อโตขึ้นจะกลับมาเป็นครูสอนเด็กๆ ในหมู่บ้าน เมื่อคำ�ปุ่น สำ�เร็จการศึกษาแล้วเขาได้ทิ้ง ทั้งความรักที่มีกับ สุกพิลา และอนาคตที่สุขสบาย ของชีวิตในเมืองหลวง เพื่อเดินทางกลับบ้านเกิดที่ เมืองหาดทรายฟองและทำ�ตามคำ�สัญญาที่ให้ไว้ แต่ เมือ่ กลับมาถึงหมูบ่ า้ น ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างทีค่ ดิ แต่นนั่ กลับเป็นแรงผลักดันให้เขาฟันฝ่าอุปสรรคจน ได้คำ�ตอบที่มีค่าซึ่งเป็นสิ่งที่คำ�ปุ่นค้นหา ภาพยนตร์ เรื่อง ครูของข้อย ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของคำ�สัญญา

อุดมการณ์ และความรัก ของครูลาวคนหนึ่ง เพื่อ ทำ�ให้การศึกษาเดินหน้าควบคู่ไปกับการรู้จักราก เหง้าและวัฒนธรรมของตนเอง” รศ.ดร.นิยม กล่าว ด้ า นนายไมสิ ง จั น บุ ด ดี ผู้ อำ � นวยการ สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม และการท่ อ งเที่ ย ว สาธารณรั ฐ ประชาธิ ป ไตย ประชาชนลาว กล่าวว่า “ครูของข้อย” นับเป็น ภาพยนตร์ประวัตศิ าสตร์ทมี่ กี ารนำ�เสนอขออนุมตั ิ จากรัฐบาล และผ่านการตรวจสอบจากกรมฮูป เงาให้เผยแพร่ในโรงภาพยนตร์ โดยคณะผู้สร้าง ทั้งสองประเทศได้ลงมติให้ใช้ฤกษ์วันครูแห่งชาติ สปป.ลาว ซึ่งตรงกับวันที่ 7 ตุลาคม 2557 เป็นวัน เผยแพร่ภาพยนตร์ ครูของข้อย รอบปฐมฤกษ์ ในส่ ว นของรายทั้ ง หมดจากการชม ภาพยนตร์ จะถู ก ส่ ง กลั บ มาที่ ม หาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่น เพื่อจัดสรรสำ�หรับการพัฒนาบุคลากร ครูทั้ง 2 ประเทศ การจัดทำ�ตำ�ราเรียนภาษาลาว และสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยในรูปแบบ ต่างๆ เพื่อพัฒนาวงการศึกษาให้กับ สปป.ลาว ทีมผู้สร้างภาพยนตร์ หวังให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น สื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มสาว สปป.ลาว รุ่นใหม่ ได้หันมาสนใจอาชีพครู ที่เป็นอาชีพสร้าง คน เป็นอาชีพที่มีเกียรติ ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่า คน สปป.ลาว ไม่นิยมรับราชการครูเท่าใดนัก

เปิดผลิตภัณฑ์สุขภาพ IP DAY ภาคอีสาน

การผ้ า ไหม ในจั ง หวั ด ขอนแก่ น หน่ ว ยงานภาค เอกชน,ภาคราชการมาร่วมออกบูธแสดงนิทรรศการ และการจำ�หน่ายผ้าไหม จำ�นวน 50 บูธ นอกนั้นก็จะ มีการแสดงแบบแฟชั่นโชว์ ผ้าไหม ของวัยรุ่นหนุ่ม สาว และดีไซต์เนอร์ระดับประเทศ เน้นการออกแบบ เสื้อผ้าไหมสำ�หรับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่สวมใส่ และส่วนที่ 3 จะเป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้น บ้านอีสาน และการสนทนาแลกเปลีย่ นประสบการณ์ ของผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับผ้าไหมจากหลายๆมุมมอง ในงานนี้ยังจะจัดให้มีการแสดงผ้าไหมราคา แพงที่สุด,เก่าที่สุด ผ้าไหมมัดหมี่ลายโบราณ, ผ้าไหม ของรักของหวงของผู้มีชื่อเสียง การแสดงและสาธิต การทำ�อาหารทีท่ �ำ จากตัวไหม, สินค้าผลิตภัณฑ์เครือ่ ง สำ�อางค์จากเส้นใยไหมการบริการออกแบบ เสือ้ –ผ้า ไหมจากดีไชค์เนอร์ชั้นนำ� และการส่งเสริมการท่อง เที่ยวตามเส้นทางสายไหม ตามรอยไดโนเสาร์ด้วย สำ�หรับพิธีเปิดงาน ในวันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2557 เวลา17.00 น.จะมีพิธีเปิดงาน และการเดินแฟชั่นผ้า ไหมจากนายแบบนางแบบกิตติมศักดิ์ นางแบบนาย แบบวัยทีน และจากดาราชั้นนำ�ของเมืองไทยหลาย คน ก็ขอเชิญชวนผูท้ สี่ นใจเกีย่ วกับเรือ่ งผ้าไหมไปร่วม งานได้

IP DAY ภาคอีสาน เป็นการจัดงาน ครัง้ แรกของระดับอุดมศึกษาจากสีม่ หาวิทยาลัย ในภาคอีสาน อาทิ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่ง เป็นมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยงให้กับ มหาวิทยาลัย มหาสารคาม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และ มหาวิทยาลัยนเศวร ซึ่งได้ผลิตผลงานวิจัยที่มี คุณภาพ ได้รับการจดทะเบียนทรัพย์สินทาง ปัญญา และสามารถนำ�ไปใช้งานได้จริง และ เพื่ อ เป็ น การเผยแพร่ ป ระชาสั ม พั น ธ์ ผ ลงาน สิ ท ธิ บั ต รอนุ สิ ท ธิ บั ต รให้ กั บ ผู้ ป ระกอบการ บริษทั และองค์กรภาคธุรกิจต่างๆ ได้น�ำ ผลิตภัณฑ์จาก ทรัพย์สินทางปัญญาของทั้งสี่มหาวิทยาลัย ซึ่งนับเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพ นำ�ไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิง พาณิชย์ต่อไป สำ�หรับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย รศ.วัชรี คุณกิตติ อาจารย์ประจำ�ภาควิชาเทคโนโลยีเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้แนะนำ� ผลิตภัณฑ์สมุนไพรลดอาการผมร่วง ผลิตภัณฑ์ไมโคร อิ มั ล ชั น บรรเทาอาการปวดและอั ก เสบ ที่ มี ส่ ว น ผสมของนํ้ามันไพลและสารสกัดจากพริก ในการเปิด นิทรรศการแนะนำ�ผลงานด้านที่มีศักยภาพในหมวด สุขภาพ ความงาม และครีมบำ�รุงผิวหน้าโปรตีนไหม ผสมอะโวคาโด จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ส่วนของอาหาร อาทิ โจ๊กกึ่งสำ�เร็จรูปที่มีสาร

สกัดจากใบหม่อนและผักแพวเป็นส่วนประกอบ จาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น สปาเก็ตตี้งา มหาวิทยาลัย อุบลราชธานี ชาชงเบอร์รี่จากผลหม่อน มะเม่า และ ตะขบป่า จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และยังมีอีก หลากหลายผลิตภัณฑ์ที่ทุกมหาวิทยาลัยได้ผลิตผล งานวิจยั และนำ�เข้าสูร่ ะบบการคุม้ ครองทรัพย์สนิ ทาง ปัญญาผ่านการจัดการของหน่วยทรัพย์สนิ ทางปัญญา แต่การนำ�ไปใช้ประโยชน์โดยภาคเอกชนยังไม่เป็นที่ แพร่หลายมากนัก “การจั ด นิ ท รรศการ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ สุ ข ภาพ IP DAY ภาคอีสาน ครั้งที่ 1 จึงเป็นการเปิดโลก ผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านสุขภาพ ความงาม และอาหาร ให้ เป็นทีร่ จู้ กั อย่างแพร่หลายมากขึน้ และเป็นผลิตภัณฑ์ ที่ให้ประโยชน์กับผู้บริโภคอย่างแท้จริง” รศ.วัชรีฯ กล่าว

พื้นที่รับผิดชอบ ณ ร้านวรวรรณ ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้

สุพัตรา ศุขโข...รายงาน

ช่วยเหลือสังคม ; นาย จรั ญ เสน่ ห า กรรมการ ผู้ จั ด การบริ ห ารร้ า นวร วรรณ ขอนแก่ น มอบ รถยนต์พร้อมอุปกรณ์ครบ ถ้ ว นให้ กั บ นายคงกะพั น อิ น ธิ แ สง ประธานชมรม อาสากู้ ภั ย อ.วาปี ป ทุ ม จ.มหาสารคาม ไว้ใช้ช่วย เหลื อ พี่ น้ อ งประชาชนที่ ประสพอุบัติเหตุต่างๆ ใน

เ ปิ ด ศู น ย์ ป ร ะ ส า น ง า น อ อ ทิ ส ติ ก ; นายประเสริฐ ลือชาธนา นนท์ รองผู้ ว่ า ราชการ จั ง หวั ด ขอนแก่ น เป็ น ป ร ะ ธ า น เ ปิ ด “ ศู น ย์ ประสานงาน ศูนย์บริการ บุ ค ค ล อ อ ทิ ส ติ ก ” ซึ่ ง ดำ�เนินงานในรูปแบบคณะ กรรมการจาก สหสาขา วิชาชีพที่มีจิตสาธารณะเป็นผู้ให้บริการ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพลังทางสังคม ที่จะร่วมผลักดันไป สู่สังคมสุขภาวะ โดยมี นายแพทย์วีระศักดิ์ อนุตรอังกูร รองผู้อำ�นวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาล ขอนแก่น ให้การต้อนรับ ณ โรงพยาบาลขอนแก่น เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2557


หน้า 6

ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ประจำ�เดือนตุลาคม 2557


ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ประจำ�เดือนตุลาคม 2557

หน้า 7


หน้า 8

ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ประจำ�เดือนตุลาคม 2557

“เอไอเอส อุ่นใจ ปี 6”

เทสโก้ โลตัส พร้อมรับ คูปองดิจิตอลทีวี ตอบแทนลูกค้าจากใจ แจกใหญ่ แจกจริง ทองล้านที่ 3

น า ง วิ ล า สิ นี พุ ท ธิ ก ารั น ต์ หั ว หน้ า ค ณ ะ ผู้ บ ริ ห า ร ด้ า น ลู ก ค้ า และบริ ก าร เอ ไอเอส มอบรางวั ล ใหญ่ “อุ่ น ใจทองคำ � มู ล ค่ า 1 , 0 0 0 , 0 0 0 บาท” เป็ น ล้ า นที่ 3 ของโครงการ “อุ่ น ใจ ปี 6 โชค 2 ชั้น ลุ้น ทอง แลกพอยท์” ให้ กับลูกค้าเอไอเอสผูโ้ ชค ดี คุณชูสิทธิ์ เวทยะวานิช ชาวจังหวัดกรุงเทพฯ พร้อมทั้งมอบรางวัลทองคำ�มูลค่า 10,000 บาท จำ � นวน 24 รางวั ล ให้ กั บ ผู้ โ ชคดี ป ระจำ � เดื อ น สิงหาคม 2557 อีกด้วย และยังมีอุ่นใจทองคำ� มูลค่า 1,000,000 บาท รอมอบให้อีก 8 รางวัล จนถึงสิ้นปี 2557 เลยทีเดียว ซึ่ง อุ่นใจปี 6 ฯ เป็นโครงการตอบแทน

และคืนกำ�ไรให้กบั ลูกค้าผูใ้ ช้บริการ AIS 3G 2100 ด้วยกติกาง่ายๆ เพียงกด *544# แล้วโทรออก (ฟรี) ทุกการใช้งานครบทุก 100 บาท ได้รับ 1 สิทธิ์ลุ้น ทอง และ 1 พอยท์แลกของรางวัล พิเศษ! สำ�หรับ ลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่, ย้ายค่าย, อัพเกรดเป็น AIS 3G 2100 รับเพิ่มทันที อีก 1 สิทธิ์ลุ้นทอง ร่วม โครงการได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2557

ตามที่ กสทช. ได้เริ่มแจกคูปองดิจิตอล ทีวีแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน 21 จังหวัดไปแล้ว นั้น เทสโก้ โลตัส ได้เตรียมความพร้อมรับคูปอง เพื่อใช้แลกซื้อหรือใช้เป็นส่วนลดซื้อกล่องรับ สัญญาณดิจิตอล (Digital Set Top Box) ตั้งแต่วัน ที่ 20 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป โดยในช่วงแรก คือตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2557 เทสโก้ โลตัส 74 สาขา ใน 21 จังหวัด พร้อม รับคูปองดิจิตอลทีวี และในช่วงที่สอง คือตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน จะเพิ่มจำ�นวนสาขารับคูปอง ดังกล่าวอีก 44 สาขา นอกจากนี้ เทสโก้ โลตัส ยัง อยูใ่ นระหว่างการดำ�เนินการเปิดจุดรับแลกคูปอง ที่เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส อีกด้วย ปัจจุบัน เทสโก้ โลตัส จำ�หน่ายกล่องรับ สัญญาณดิจติ อลทีวถี งึ 12 แบรนด์ ซึง่ ถือเป็นร้าน ค้าปลีกที่มีแบรนด์กล่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวี ให้ลูกค้าเลือกมากที่สุด นอกจากนี้ ยังจำ�หน่าย กล่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวีที่ราคาเริ่มต้นเพียง

690 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถใช้คูปองที่ได้รับจาก กสทช. แลกซื้อได้ทันทีโดยไม่ต้องเพิ่มเงิน ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม เป็นต้นไป เทสโก้ โลตัส ยังได้เตรียมโปรโมชัน่ พิเศษอีกมากมาย อาทิ ส่วนลดท้ายบิลเมื่อซื้อกล่องรับสัญญาณดิจิตอล และทีวีที่รองรับระบบดิจิตอล นอกจากนี้ ลูกค้า ยังสามารถสะสมแต้มคลับการ์ดจากการซือ้ สินค้า และแต้มนี้จะเปลี่ยนเป็นคูปองเงินสดส่งให้ลูกค้า เมื่อสิ้นไตรมาส น.ส. สลิ ล ลา สี ห พั น ธุ์ รองประธาน กรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าว ว่า “เราเชื่อว่าผู้บริโภคจะมาแลกคูปองดิจิตอลทีวี ที่เทสโก้ โลตัส เป็นจำ�นวนมาก เนื่องจากเทสโก้ โลตัส มีสาขาที่ตั้งอยู่ในทั้ง 21 จังหวัด ทำ�ให้ลูกค้า ได้รับความสะดวก นอกจากนี้ เทสโก้ โลตัส ยังมี สินค้าหลากหลายแบรนด์ หลากหลายรุน่ ให้ลกู ค้า ได้เลือกซื้อ พร้อมโปรโมชั่นอีกมากมายอีกด้วย”

ททท. ขอนแก่น จัด Fam Trip กระตุ น ้ ตลาดท่ อ งเที ย ่ วปี 58 ธนาคารจีนเตรียมรุก

เปิดสาขาขอนแก่น

เมื่ อ วั น ที่ 24 กั น ยายน 2557 ที่ ห้องประชุมคุวานันท์ สำ � นั ก งานหอการค้ า จังหวัดขอนแก่น นาย เซี่ย ฟูเกิ่น กงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาชน จี น ประจำ � จั ง หวั ด ขอนแก่น นำ� มิสเตอร์ จาง เหลย ผู้ จั ด การ ธนาคารแห่งประเทศ จี น ( ไ ท ย ) จำ � กั ด (มหาชน) พร้อมคณะ ผู้บริหาร เข้าพบปรึกษาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ด้านธุรกิจ การลงทุน เรือ่ งการขยายสาขาธนาคาร แห่งประเทศจีน ในประเทศไทย กับนักธุรกิจและ ผู้ประกอบการค้าจังหวัดขอนแก่น โดยมี นาย สมิง ยิ้มศิริ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น นายบูรพา เสรีโยธิน นายประยูร อังศนันท์ นาย ยงเกี ย รติ เหล่ า วิ โ รจนกุ ล นางปราณี ธี ร ภานุ นายสุรพล ทวีแสงสกุลไทย ประธานกิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการฯ และตัวแทนจาก 23 องค์กรจีน เข้าร่วมแลกเปลีย่ น ความคิดเห็น มิสเตอร์ จาง เหลย ผู้จัดการธนาคารแห่ง ประเทศจีน (ไทย) จำ�กัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่น เป็นพื้นที่ศูนย์กลางการรองรับ AEC เป็นเส้นทางการเชือ่ มโยงไปยังทัว่ ทุกภูมภิ าค ในประเทศและต่างประเทศอย่างเหมาะสม ดัง นั้น เมื่อเปิดอาเซียนในปี 2558 ที่จะถึง ขอนแก่น จึ ง เป็ น ศู น ย์ ก ลางของเส้ น ทางการคมนาคมที่ น่าจะเกิดการขยายตัวการลงทุนมากที่สุด และ เพื่ อ เป็ น การรองรั บ การเจริ ญ เติ บ โตของเมื อ ง ขอนแก่น นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศจีน ยัง เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมวางแผนการเชื่อมโยง ระบบการคมนาคมรถไฟฟ้าความเร็วสูง เส้นทาง ศึกษาจากประเทศจีนถึงกรุงเทพ ผ่านหนองคาย และขอนแก่น ต่อไปยังประเทศเพือ่ นบ้าน โดยจีน

มองขอนแก่นเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค เป็นจุด เชื่อมต่อไปได้หลายทาง และต่างประเทศก็ทยอย มาลงทุนที่ขอนแก่นหลายประเทศแล้ว ผู้จัดการธนาคารแห่งประเทศจีน กล่าว ต่อว่า ธนาคารแห่งประเทศจีน พร้อมรุกตลาดใน ภาคอีสาน ซึ่งเป็นภาคที่เชื่อมต่อสู่จีนได้ง่าย การ ตั้งธนาคารแห่งประเทศจีนในจังหวัดขอนแก่น เป็นอีกหนึง่ สาขา จะเป็นการอำ�นวยความสะดวก ให้กับนักลงทุนที่ต้องการขยายกิจการธุรกิจใน ประเทศไทยอีกด้วย เพือ่ ทีจ่ ะรองรับการขยายและ ปรับตัวเข้ากับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและ เตรียมความพร้อมรุกการตลาด ก่อนที่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนจะรวมกันอย่างเป็นทางการใน ปี 2558 ปัจจุบนั ขอนแก่นเป็นเมืองศูนย์กลางของ ภาคอีสานมีผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือ GDP เป็น อันดับ 2 ของภาค ในปี2555-2556 มีการขยายตัว ของธุรกิจและจีดีพี เพิ่มขึ้น 16.5 เปอร์เซ็นต์ เพิ่ม มูลค่าจาก 1.59 แสนล้าน เพิ่มเป็น 1.8 แสนล้าน บาท มีภาคอุตสาหกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก และภาคการเกษตร รองลงมา มีธนาคารพาณิชย์ สาขาจำ�นวน 113 แห่ง จาก 13 ธนาคาร มีธนาคาร ต่างชาติ 3 แห่ง มีสถาบันการเงิน 55 แห่ง ขณะนีม้ ี ยอดรวมเงินฝาก 87, 000ล้าน มีการบริการสินเชือ่ 161,000 ล้าน

ก ลุ่ ม จั ง ห วั ด ร้ อ ย แ ก่ น ส า ร สิ น ธุ์ เตรียมจัดกิจกรรมสร้าง ความเข้าใจและบูรณา การความร่วมมือ เพื่อ ส่งเสริมตลาดท่องเทีย่ ว ในพื้นที่ทั้ง 4 จังหวัด ให้ เ ป็ น ไปในทิ ศ ทาง เดี ย วกั น โดยเตรี ย ม จัด “Fam Trip” หวัง กระตุ้นตลาดการท่อง เที่ยวปี 58 นี้ นายนพรั ต น์ กอกหวาน ผอ.ททท. สำ�นักงานขอนแก่น เปิดเผยว่า ททท. สำ�นักงาน ขอนแก่น เตรียมกระตุน้ ตลาดการท่องเทีย่ วในเขต พื้นที่รับผิดชอบด้วยการจัด “Fam Trip” โดยเชิญ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนำ�เที่ยวจากกรุงเทพฯ และผู้ แ ทนกลุ่ ม นิ ค มอุ ต สาหกรรมจากภาค ตะวันออกรวมกว่า ๔๐ ราย เพื่อสำ�รวจศักยภาพ สินค้าทางการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัด “ร้อย แก่นสารสินธุ์” ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม และจังหวัดกาฬสินธุ์ เพือ่ เป็นข้อมูล ในการจัดทำ�โปรแกรมทัวร์นำ�เสนอขายให้กับนัก ท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายต่อไป พร้อมกันนี้ ยังจัดให้มกี จิ กรรมเจรจาธุรกิจ

การท่องเที่ยว (Trade Meet) ที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเปิดเวทีให้กับผู้ประกอบ การธุรกิจและชุมชนในพืน้ ที่ 4 จังหวัด ได้น�ำ เสนอ ศักยภาพทางการท่องเทีย่ ว การนำ�เสนอสินค้าจาก แหล่งชุมชนเชิงอนุรักษ์ การซื้อ-ขายธุรกิจ เพื่อ สร้างทางเลือกทีค่ มุ้ ค่าร่วมกับกลุม่ ผูป้ ระกอบการ จากกรุงเทพฯ และภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2557 “กิจกรรม Fam Trip จะช่วยกระตุ้นให้มี นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังพื้นที่กลุ่มจังหวัด “ร้ อ ยแก่ น สารสิ น ธุ์ ” มากยิ่ ง ขึ้ น โดยเฉพาะ ในฤดู ก าลท่ อ งเที่ ย วที่ ใ กล้ จ ะถึ ง นี้ “ ผอ.ททท. สำ�นักงานขอนแก่น กล่าว

มหกรรมอีสานบ้านและคอนโด พบกับ “มหกรรมอีสานบ้านและคอนโด” งานแสดงบ้านและคอนโดเพื่อที่อยู่อาศัยและการ ลงทุน ที่สุดแห่งความยิ่งใหญ่แห่งภาคอีสาน ที่คน รักบ้านไม่ควรพลาด บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำ�กัด ร่วมกับชมรมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จังหวัด ขอนแก่น, สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น, และ หอการค้าจังหวัดขอนแก่น จัดงานแสดงบ้านและ คอนโด เพื่อที่อยู่อาศัยและการลงทุนในภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ “มหกรรมอีสานบ้านและคอนโด : Modern Living in ASEAN Economic Community” ซึ่งเป็นโอกาสที่ผู้ขายและผู้ซื้อจะได้พบกันโดยตรง โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งใน

พ.ต.ท.นนภูริช เดชธนดุล สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น

‘นายตำ�รวจหนุ่มไฟแรง’พร้อมอุทิศตน สร้างความผาสุกแก่ประชาชนในพื้นที่ “สวั ส ดี ค่ ะ ”หนั ง สื อ พิ ม พ์ ไ ทยเสรี ขอ ต้ อ นรั บ ทุ ก ท่ า นเข้ า สู่ ค อลั ม น์ “สายตรงโรง พั ก ”ฉบั บ ประจำ � เดื อ นตุ ล าคม พุ ท ธศั ก ราช 2557 ฉบับนี้เราขอแนะนำ�ท่านผู้อ่านให้รู้จักกับ คนในแวดวงสีกากี คือ“ตำ�รวจ”หรือ “ผู้พิทักษ์ สันติราษฎร์”ในพื้นที่ภาคอีสานเช่นเคยค่ะใน เดือนนีเ้ ราขอแนะนำ�ท่านให้รจู้ กั กับ พ.ต.ท.นนภู ริช เดชธนดุล สารวัตรสืบสวนสถานีต�ำ รวจภูธร เมืองขอนแก่น นายตำ�รวจหนุ่มไฟแรงฟิตเปรี๊ยะ พร้อมที่จะทำ�งานเพื่อประชาชนด้วยจิตใจมุ่งมั่น ที่จะอุทิศตนเพื่อสร้างความผาสุกแก่ประชาชน ในพื้นที่อย่างแท้จริงค่ะ พ.ต.ท.นนภูรชิ รับราชการตำ�รวจร่วม 11 ปี ปัจจุบันอายุ 35 ปี จบการศึกษาระดับปริญญา ั ฑิต โรงเรียนนายร้อย ตรีรฐั ประศาสนศาสตร์บณ ตำ�รวจสามพราน รุ่นที่ 56 และปริญญาโท ศิลปะ ศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำ�รวจ เริ่ ม เข้ า รั บ ราชการ เป็ น รองสารวั ต รฯ ช่ ว ย ราชการ พงส.สภ.อ.เมื อ งระนอง จากนั้ น ไป เป็น ผู้บังคับหมวด ร้อย ตชด.236 จ.นครพนม ,สารวัตรอำ�นวยการ สภ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ,สารวัตรสืบสวนสอบสวน ตำ�รวจภูธรภาค 4 และปัจจุบันเป็น สารวัตรสืบสวน (สว.สส.) สภ.เมืองขอนแก่น วิสยั ทัศน์; เสียสละอุทศิ ตนด้วยจิตบริการ ขจัดภัยพาล เพื่อความผาสุกแก่ประชาชน พ.ต.ท.นนภู ริ ช ฯ ผ่ า นการทำ � งานมา หลากหลายทั้งฝ่ายบู๊-ฝ่ายบุ๋น หลังจบการศึกษา จากโรงเรียนนายร้อยตำ�รวจ เริ่มเข้ารับราชการ เป็นรองสารวัตรฯ ช่วยราชการ พงส.สภ.อ.เมือง ระนอง จากนั้ น ไปเป็ น ผู้ บั ง คั บ หมวด ร้ อ ย ตชด.236 จ.นครพนม เป็นรั้วของชาติป้องกัน

เขตชายแดนของ ประเทศ ขยั บ ขึ้ น เป็น สารวัตรอำ�นวย การ สภ.เชี ย งยื น จ.มหาสารคาม ทำ � หน้าที่ประสานการ จัดการงานของตำ�รวจเป็นอย่างดี กระทั่งมาพลิกบทบาทเข้าสู่ฝ่ายบู๊อย่าง เต็มตัวในตำ�แหน่ง สารวัตรสืบสวนสอบสวน ตำ�รวจภูธรภาค 4 ด้วยมีความสามารถจับกุมคดีทงั้ ยาเสพติด คดีลกั -จี-้ ชิง-ปล้น สามารถจับคนร้ายที่ ก่อเหตุเข้าคุกได้เป็นจำ�นวนมาก กระทั่งเมื่อวันที่ 5 ก.พ.2557 ได้รับคำ�สั่งแต่งตั้งให้มารับตำ�แหน่ง ใหม่เป็น สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น อัน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่มีอยู่เต็มเปี่ยมเป็นที่ ประจักษ์ จนกระทัง่ ได้มาทำ�งานเพือ่ ประชาชนใน พื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น ในที่สุด สมดังวิสัยทัศน์ที่ ต้องการ“เสียสละอุทิศตนด้วยจิตบริการ ขจัดภัย พาล เพือ่ ความผาสุกแก่ประชาชน”อย่างแท้จริงค่ะ ในโอกาสที่ได้มาเยือนคอลัมน์สายตรง โรงพักพ.ต.ท.นนภูรชิ เดชธนดุลสว.สส.สภ.เมือง ขอนแก่น ได้กล่าวฝากถึงลูกน้อง-ผูใ้ ต้บงั คับบัญชา ด้วยว่า “การได้มาทำ�งานในหน้าที่ เพือ่ บำ�บัดทุกข์ บำ � รุ ง สุ ข ให้ แ ก่ ป ระชาชนอย่ า งเต็ ม กำ � ลั ง ความ สามารถ ถือเป็นเกียรติ-ศักดิ์ศรีของตำ�รวจ ผมได้ ยึดถือสิ่งนี้มาโดยตลอด และขอฝากให้ผู้ใต้บังคับ บัญชาทัง้ หลายได้ยดึ ในสิง่ นีไ้ ว้ดว้ ยจะเป็นการดีตอ่ ประเทศชาติบ้านเมืองเราเพื่อจะได้ร่วมกันสร้าง ความผาสุกแก่ประชาชนในพื้นที่สืบต่อไปชั่วรุ่น ลูกหลานเราครับ” สำ�หรับคอลัมน์สายตรงโรงพักฉบับนี้ต้องขอลา ท่านผู้อ่านไปก่อน ไว้พบกันใหม่ฉบับหน้าเดือน พฤศจิกายนนะคะ“สวัสดีค่ะ” เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน

สุดยอดนักชงกาแฟ ภาคอีสาน ; นางกิ่ง กมล เมตไตรยกุล รอง ผู้ จั ด การทั่ ว ไปฝ่ า ย การตลาด บริ ษั ท ใน เครืออโรม่ากรุ๊ป มอบ รางวัลให้แก่ผู้เข้าร่วม การแข่ ง ขั น โครงการ “ไทยแลนด์ อินดี้ บา ริสต้า แชมป์เปี้ยนชิพ ครั้งที่ 6” ประจำ�ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมได้สทิ ธิเ์ ป็นตัวแทน เข้าร่วมการแข่งขันในรอบแชมป์ ออฟ เดอะ แชมป์ ทีก่ รุงเทพฯ เพือ่ ชิงถ้วย ประทานพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พร้อมเงินรางวัลและเครื่องชงกาแฟรวมมูลค่า 600,000 บาท ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น

WACOAL BLOUSE ส่วนของบ้าน คอนโด และบ้านพักตากอากาศ ที่ผู้ IN HARAJUKU ซื้อสามารถเลือกซื้อบ้านให้ตรงตามความต้องการ PARTY ; ศูนย์สรรพ บนเนื้อที่การจัดงานกว่า 2,500 ตร.ม.ที่ยิ่งใหญ่ สิ น ค้ า แ ฟ รี่ พ ล า ซ่ า และทันสมัยทีส่ ดุ พร้อมพบกับกิจกรรมทีใ่ ห้ความ ร่ ว ม กั บ เ สื้ อ ผ้ า บันเทิงมากมาย อาทิ ปรึกษาดูฮวงจุย้ กิจกรรมเกีย่ ว แบรนด์ WACOAL กับบ้าน พร้อมรับของที่ระลึกสำ�หรับผู้เข้าชมงาน BLOUSE จัด กิจกรรม และผู้จองหรือซื้อบ้านฟรี WACOAL BLOUSE พบกัน 4-7 ธันวาคม 2557 เวลา 10.00 – IN HARAJUKU 20.00 น. ณ เซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น ฮอลล์ ชั้น 5 PARTY แฟชั่ น โชว์ จังหวัดขอนแก่น ศูนย์กลางการคมนาคมของภาค จากลู ก ค้ า VIP และ ตะวันออกเฉียงเหนือ สนใจจองพืน้ ทีห่ รือสอบถาม ร่ ว ม ส นุ ก รั บ ข อ ง ข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-640-8013 ต่อ 27 หรือ 28 สมนาคุณมากมาย ที่แผนกบูติคสตรี ชั้น 2 แฟรี่พลาซ่า เมื่อ วันที่ 4 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา


หน้า 9

ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ประจำ�เดือนตุลาคม 2557

SCG มอบทุนฟินคิ ซฯ เพอื่ ชุมชน ครัง้ ที่ 15 กว่า 8 แสนบาท

บริษัทฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำ�กัด (มหาชน) ในเอสซีจี เปเปอร์ผผู้ ลิตเยือ่ และกระดาษ คุณภาพมาตรฐานระดับโลก มอบทุนการศึกษา ให้แก่เยาวชนในชุมชนรอบโรงงาน ในโครงการ “ทุ น การศึ ก ษาฟิ นิ ค ซฯ เพื่ อ ชุ ม ชน” ครั้ ง ที่ 15 ประจำ�ปีการศึกษา 2557 เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2557 ที่ศูนย์ประชุม ฟินิคซฯ อำ�เภอนํ้าพอง จังหวัดขอนแก่น นายสุชัย บุตรสาระ นายอำ�เภอนํ้าพอง เป็นประธานมอบ ทุนการศึกษา ในโครงการ “ทุนการศึกษาฟินิคซฯ เพือ่ ชุมชน” ครัง้ ที่ 15 ประจำ�ปีการศึกษา 2557 โดย มีนายโสภณพงศ์ เหตานุรกั ษ์ นายอำ�เภออุบลรัตน์ พล.ต.อ.สมชาย ไชยเวช ทีป่ รึกษาบริษทั ฯ กำ�นัน ผูใ้ หญ่บา้ น ผูน้ �ำ ชุมชน และนักเรียน นักศึกษา ร่วม พิธีอย่างคับคั่ง โดยนายสุทธิพงษ์ ภูมิศรีสอาด ผู้อำ�นวยการโรงงาน บริษัท ฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำ�กัด (มหาชน) ในเอสซีจี เปเปอร์ ,นางนิภา ภรณ์ สิทธิศร ประธานคณะกรรมการทุนการศึกษาฯ และเจ้าหน้าที่ ร่วม ให้การต้อนรับ นายสุทธิพงษ์ ภูมิศรีสอาด ผู้อำ�นวยการโรงงาน บริษัท ฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำ�กัด (มหาชน) ในเอสซีจี เปเปอร์ เปิดเผยว่า เอสซีจี เปเปอร์ ผู้ผลิตเยื่อและกระดาษคุณภาพมาตรฐานระดับโลก เล็งเห็นความ สำ�คัญในการให้โอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน จึงได้จัดให้มีการมอบทุน การศึกษากับเยาวชนที่กำ�ลังศึกษาในชุมชนรอบโรงงาน อาทิ ตำ�บลโคก สูง อำ�เภออุบลรัตน์ ตำ�บลกุดนํา้ ใส ตำ�บลม่วงหวาน อำ�เภอนํา้ พอง จังหวัด ขอนแก่น อย่างต่อเนื่องมาตั้งแตปี 2543 เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษา แก่ นักเรียน นักศึกษา ผู้มีภูมิลำ�เนาอยู่ในชุมชนรอบโรงงาน ในตำ�บลโคกสูง อำ�เภออุบลรัตน์ ตำ�บลกุดนํา้ ใส และตำ�บลม่วงหวาน อำ�เภอนํา้ พอง จังหวัด ขอนแก่น สำ�หรับปี 2557 นี้ ได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษารวม 3 ประเภท คือ ทุนการศึกษาต่อเนื่อง ซึ่งมอบให้กับนักเรียนที่มีผลการเรียนเกรดเฉลี่ย ตั้งแต่ 2.5 ขึ้นไปจำ�นวน 67 ทุน ทุนสอบแข่งขัน เป็นทุนสำ�หรับนักเรียน ที่ผ่านการสอบแข่งขัน โดยข้อสอบจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น จำ�นวน 127 ทุน ซึง่ ทุนทัง้ สองประเภทจะแบ่งเป็น ระดับประถม ศึกษา ทุนละ 1,000 บาท จำ�นวน 62 ทุน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ทุนละ 3,000 บาท จำ�นวน 32 ทุน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทุนละ 3,500 บาท จำ�นวน 34 ทุน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ทุนละ 4,000 บาท จำ�นวน 19 ทุน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ทุนละ 5,000 บาท จำ�นวน 15 ทุน และระดับปริญญาตรี ทุนละ 6,000 บาท จำ�นวน 32 ทุน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มอบทุนเรียนดีแต่ยากจน ซึ่งจะผ่านการ พิจารณาจากกำ�นัน ผู้ใหญ่บ้าน และกรรมการในชุมชน จำ�นวน 3 ตำ�บล ได้แก่ ตำ�บลโคกสูง อำ�เภออุบลรัตน์ ตำ�บลกุดนํ้าใส และตำ�บลม่วงหวาน อำ�เภอนํ้า พอง ตำ�บลละ 50,000 บาท รวม 150,000 บาท และยังได้สนับสนุนเงินทุน การศึกษาให้กับบุตรสมาชิกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น โดยผ่านการ พิจารณาคัดเลือกจากสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น เป็นจำ�นวนเงิน 30,000 บาท นายสุทธิพงษ์ กล่าวในตอนท้ายว่า บริษัท ฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำ�กัด (มหาชน) ในเอสซีจี เปเปอร์ เป็นองค์กรธุรกิจที่มีความยึดมั่นในความ รับผิดชอบต่อสังคม และให้ความสำ�คัญกับการพัฒนาเยาวชน ซึ่งเป็นกำ�ลังที่ สำ�คัญของชาติต่อไปในอนาคต จึงสนับสนุนโครงการต่างๆ ทั้งด้านการศึกษา เสริมสร้างความสามารถพิเศษให้เกิดความชำ�นาญเฉพาะด้าน ปลูกฝังจิตสำ�นัก ให้เห็นความสำ�คัญของสิ่งแวดล้อมควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและ สนับสนุนกิจกรรมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หลังจากเสร็จพิธีมอบทุน เป็นการบรรยายธรรมเรื่อง ธรรมะเดลิเวอรี่ จูเนียร์ จากพระอาจารย์นวิ ฒ ั น์ มหาโชติ (ลูกศิษย์พระมหาสมปอง) วัดศรีสว่าง อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ในหัวข้อพระคุณของพ่อแม่ ทำ�ให้บรรยากาศภายใน ห้องประชุมเต็มไปด้วยนํา้ ตาและเสียงสะอืน้ ของแม่และลูก ดังระงมด้วยความ ตื้นตันใจ เป็นภาพประทับใจของผู้ร่วมพิธีเป็นอันมาก

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2557 ที่ร้านลาบเป็ด ศรีนวล นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่ น เป็ น ประธานการประชุ ม เตรี ย มจั ด งาน 161 ปี สดุดีสมเด็จพระปิยมหาราช 23 ตุลามหา กุศล ทำ�ดี ได้ดี ประจำ�ปี 2557 ปีที่ 16 หรือ (15+1) ซึ่ ง มี ก ารเปลี่ ย นแปลงสถานที่ จั ด งานจากตลาด จตุจักรมาที่ “ตลาดขอนแก่นจตุจักร” ตรงข้ามสำ�นัก ประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น ริมบึงแก่นนคร และ “ลานกีฬาต้านยาเสพติด บึงแก่นนคร” โดยมี นายพีร ศิลป์ ศรีศรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ขอนแก่น จตุจักร 1999 จำ�กัด นายวิฑิต ทองโสภิต ประธานการ จัดงานฯ พร้อมคณะกรรมการ การจัดงานร่วมประชุม ปรึกหา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการเตรียมงาน สำ�หรับงาน 161 ปี สดุดสี มเด็จพระปิยมหาราช ตุลามหากุศล ปี 2557 กำ�หนดจัดขึน้ สองแห่ง คือ ตลาด ขอนแก่นจตุจกั ร และเวทีกลางลานกีฬาต้านยาเสพติด บึงแก่นนคร ในวันที่ 23 ตุลาคม 2557 โดยเริม่ กิจกรรม

23 ตุลามหากุศล ทำ�ดี ได้ดี

ณลานกีฬาต้านยาเสพติดตั้งแต่เวลา 07.00 – 13.30 น.โดยมีกิจกรรมช่วงเช้าเป็นการทำ�บุญ ตักบาตร พิธี บวงสรวงและไหว้เจ้าพ่อ เจ้าแม่จามจุรี การรับบริจาค โลหิต บริการตัดผมฟรี การเปิดโรงทาน การแสดงบน เวที การแสดงเชิดสิงโต-มังกร การแสดงจากศิลปินชื่อ ดัง อาทิ ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, เพียวเพียว, อริส, สมบัติ เมทะ นี และ อรัญญา นามวงศ์ เป็นต้น

สำ�หรับประชาชนทั่วไปเฉพาะกรณีผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสในสังคมที่ต้องการรับมอบ ข้าวสารสามารถติดต่อขอรับบัตรได้ที่ ศูนย์ประสานงานตลาดขอนแก่นจตุจักร ตรงข้ามสำ�นัก ประชาสัมพันธ์ เขต 1 ขอนแก่น ริมบึงแก่นนคร ตัง้ วันที่ 14-18 ตุลาคม 2557 โดยมีการมอบข้าวสาร ให้กับผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม จำ�นวน 12,000 ถุงๆละ 5 กิโลกรัม ผู้สูงอายุอีก จำ�นวน 240 คน ผู้พิการ จำ�นวน 100 คน

รับมอบเกียรติบัตร ; คุณปุญญานุช เทียมเจริญสวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่าย ทรัพยากรบุคคล ตัวแทนจากโรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด Meet&Greet ; ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า จัดกิจกรรม Meet&Greet รับมอบเกียรติบัตรองค์กรที่ร่วมบริจาคอลูมิเนียมตามโครงการขาเทียม โดยมี คุณเล็ก ฝันเด่น และ คุณแอม สุธีร์ ให้เกียรติมาร่วมงานที่เคาน์เตอร์ พระราชทาน จากนายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ในงาน เครื่องสำ�อาง Pan costmetic ชั้น 2 ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า เมื่อวันที่ ขับเคลื่อน Roadmap การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย โดย 28 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา สำ�นักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10


หน้า 10

ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ประจำ�เดือนตุลาคม 2557

ผลงานวิจยั ระดับชาติและระดับนานาชาติ

วิ ท ยาลั ย บั ณ ฑิ ต เอเซี ย จั ด ประชุ ม วิชาการและเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและ ระดับนานาชาติ ครั้งที่ 2 ประจำ�ปี 2557 ใน หั ว ข้ อ เรื่ อ ง “นานาวิ ท ยาการและนวั ต กรรม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนสู่เอเซีย” เพื่อเผยแพร่ ความรู้ที่เกิดจากการวิจัยของนักศึกษาระดับ บัณฑิตศึกษา จากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และเอกชน ทั้ ง ในประเทศและต่ า งประเทศ เป็นการเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนความ รู้ ประสบการณ์ ระหว่างนักศึกษา คณาจารย์ และนักวิชาการ ให้เกิดการพัฒนาคุณภาพและ มาตรฐานวิทยานิพนธ์และการศึกษาอิสระ ให้ สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับ อุดมศึกษา ของสำ�นักงานคณะกรรมการการ อุดมศึกษากระทรวงศึกษาธิการ ดร.กษม ชนะวงศ์ อธิการบดี วิทยาลัย บัณฑิตเอเชีย เปิดเผยว่า เพื่อผลิตบัณฑิตให้มี คุณภาพ และคุณธรรมในสาขาวิชาทีส่ อดคล้อง ต่อความต้องการของตลาดแรงงานทั้งในระดับ ท้องถิ่น และระดับประเทศ ตามกระบวนการ เรียนรู้ที่ว่า “มุ่งใฝ่เรียน เพียรทำ�ดี รักศักดิ์ศรี มี ประชาธิปไตย” วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย จึงมุ่งมั่น ทีจ่ ะผลิตบัณฑิตตามอัตลักษณ์ครบทุกด้าน เก่ง ดี มีภาวะผู้นำ� การจัดประชุมวิชาการในครั้งนี้ จึงสอดคล้องต่อการนำ �ไปปรับประยุกต์และ พัฒนาขีดความสามารถของสถาบันให้สามารถ แข่งขันได้ในเวทีโลก โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในระดับ อาเซี ย น ซึ่ ง สถาบั น ได้ ทำ � ความร่ ว มมื อ ทาง วิชาการกับสถาบันนานาชาติ อาทิ ความร่วมมือ

กับ UB ในการจัดการเรียนการสอนระดับปริญญา โท หลักสูตรบริหารธุรกิจ (MBA) 2ปริญญาบัตร และหวังว่า ความสำ�เร็จของนักศึกษาระดับบัณฑิต ศึกษา รวมถึงการก้าวสู่การเป็น “มหาวิทยาลัย บัณฑิตเอเซีย” ในอนาคตอันใกล้ จะเป็นกำ�ลัง สำ � คั ญ ที่ ก่ อ ให้ เ กิ ด ประโยชน์ ต่ อ การสร้ า งและ พัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนสืบไป การนำ�เสนอผลงานวิจัยระดับชาติ และ ระดับนานาชาติ ครั้งที่ 2 ประจำ�ปี 2557 ในหัวข้อ เรื่ อ ง “นานาวิ ท ยาการและนวั ต กรรมเพื่ อ การ พัฒนาที่ยั่งยืนสู่เอเซีย” มีผู้ส่งบทความเข้าร่วม จำ�นวนทั้งสิ้น 332 บทความ จาก 65 สถาบัน เป็นบทความจากสถาบันการศึกษาในประเทศ จำ�นวน 298 บทความ และจากสถาบันการศึกษา ต่างประเทศอีก 32 บทความ อาทิ สาธารณรัฐ ประชาธิ ป ไตยประชาชนลาว สาธารณรั ฐ ฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ราช อาณาจักรกัมพูชา และประเทศญี่ปุ่น โดยมีผู้นำ� เสนอผลงานแบบบรรยายจำ�นวน 137 ท่าน และ แบบโปสเตอร์ จำ�นวน 195 ท่าน ในกลุ่มงานวิจัย 6 ด้านได้แก่ ด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์และ สังคมศาสตร์ บริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ ด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์กฎหมาย ทรัพย์สินทาง ปัญญาและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดร.กษม กล่ า วต่ อ ว่ า การจั ด ประชุ ม วิ ช าการ และเสนอผลงานวิ จั ย ระดั บ ชาติ แ ละ ระดั บ นานาชาติ ในครั้ ง นี้ ไ ด้ รั บ ความร่ ว มมื อ อย่างดีจาก มหาวิทยาลัยนครพนม, มหาวิทยาลัย

ร า ช ภั ฏ อุ ด ร ธ า นี , มหาวิ ท ยาลั ย มหา มกุ ฎ ราชวิ ท ยาลั ย วิ ท ย า เ ข ต อี ส า น , มหาวิทยาลัยราชธานี วิ ท ยาเขตอุ ด รธานี , มหาวิ ท ยาลั ย ภาค ต ะ วั น อ อ ก เ ฉี ย ง เ ห นื อ , ส ถ า บั น การจั ด การปั ญ ญา ภิ วั ฒ น์ , วิ ท ย า ลั ย การปกครองท้ อ งถิ่ น มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น , บั ณ ฑิ ต วิ ท ยาลั ย มหาวิ ท ยาลั ย ราชภั ฏ ร้ อ ยเอ็ ด สำ � นั ก วิ จั ย มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น และ คณะ ศึ ก ษาศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย มหาสารคาม และ ยังดีรับความร่วมมืออย่างดียิ่ง จากสถาบันการ ศึกษาต่างประเทศในฐานะ “เจ้าภาพร่วม” อาทิ University of Baguio (UB), Philippines, Nagasaki Wesleyan University, Japan, Fukuoka Jo Gakuin University, Japan, SavannakhetUniversity, Laos, National Chiao Tung University, Taiwan, Duytan University,Vietnam, Dague University, South Korea APEC Digital Opportunity Center (ADOC), Taiwan University of Fukui, Japan อีก ทัง้ ยังได้รบั ความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก สำ�นักงาน คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. ซึ่งถือเป็น องค์ ก รหลั ก ที่ มี บ ทบาทสำ � คั ญ ในการส่ ง เสริ ม กำ�หนดนโยบาย และยุทธศาสตร์การวิจัยของ ประเทศโดยตรง ศ.ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ ผูร้ บั ใบอนุญาต จัดตั้ง วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย กล่าวว่า จากความ เจริญของสังคม วิถีการดำ�รงชีวิตที่ซับซ้อนมาก ขึ้น โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย ความท้าทายที่สำ�คัญ ของภูมิภาคนี้ ได้แก่ ปัญหาความยากจน การส่ง เสริมคุณภาพการศึกษา การลดความเสี่ยงและ การเตรียมความพร้อมจากภัยพิบัติ การจัดการ ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ หัวใจสำ�คัญเพือ่ ให้ บรรลุเป้าหมายดังกล่าวต้องอาศัยการพัฒนาอย่าง ยัง่ ยืน เพือ่ ความอยูด่ มี สี ขุ ของประชาชนทุกคน ทัง้ ในปัจจุบันและอนาคต

การพั ฒ นาอย่ า งยั่ ง ยื น นั้ น ต้ อ งอาศั ย เทคโนโลยี วิธีการหรือแนวทางใหม่ๆ ช่ ว ยให้ เ กิ ด การพั ฒ นา จึ ง เกี่ ย วเนื่ อ ง กั บ การพั ฒ นาความรู้ (Knowledge) ทักษะ (skills) มุมมอง (perspectives) และค่านิยม (values) ของคนในสังคม ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม เพิ่ ม ขี ด ความสามารถในการแข่ ง ขั น พึ่งตนเองได้โดยไม่ทำ�ลายสิ่งแวดล้อม วิทยาลัยบัณฑิตเอเชียมีนโยบายในการ เป็ น สถาบั น อุ ด มศึ ก ษาแห่ ง คุ ณ ภาพ (Quality First) ยุทธศาสตร์ที่สำ�คัญ คือ การสร้างงานวิจัยและนวัตกรรม ที่มีคุณภาพและมีคุณค่าก่อให้เกิดการ พัฒนา การเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ และนานาชาติ เป็นการเปิดเวทีวิชาการ ในการเสนอผลงานวิจยั นวัตกรรม แลก เปลี่ยนเรียนรู้และสร้างความร่วมมือ ทางวิชาการ นำ�ไปสู่การประยุกต์ใช้ผล งานวิจยั และนวัตกรรมให้เกิดประโยชน์ ต่อประเทศ ชาติและสังคมโลกต่อไป ศ.ดร.นพ.กระแส กล่าวต่อว่า การเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและระดับนานาชาติ เป็นเวทีนำ�เสนอผล งานของนิสิต นักศึกษา คณาจารย์ นักวิชาการและนักวิจัย จากสถาบัน อุดมศึกษาและหน่วยงานที่สนใจของภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่าง ประเทศ เป็นการวิจยั นวัตกรรมเพือ่ การพัฒนาทีย่ งั่ ยืนสูเ่ อเซีย และสามารถ นำ�ผลงานวิจัยและความรู้ปรับประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนา สังคมต่อไปในอนาคต

Mc Fairy Super Model 2014 ; ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า ร่วมกับ Mc Jeans จัดกิจกรรมการประกวด Mc Fairy Super Model 2014 by Mc Jeans ในรอบเปิดโครงการพบกับแฟชั่นโชว์ new collection จาก Mc Jeans พบกับนางแบบและนายแบบ จาก Mc Fairy Super Model 2013 by Mc Jeans ที่ เวทีกลาง ตลาดต้นตาล เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา

รับรางวัลร้องเพลงฟรี ทีพ ่ ลู แมน ; ตามทีท่ างโรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จัดกิจกรรมทางเฟสบุ๊ค เพื่อมอบรางวัลบัตรกำ�นัลร้องเพลง ฟรี ที่สตูดิโอ 1 คาราโอเกะ ให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม 10 ท่าน 10 รางวัล ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทางโรงแรมฯ จัดเป็นประจำ�ทุกเดือน สำ�หรับผู้สนใจ ร่วมกิจกรรมสามารถสอบถาม และติดตามข้อมูลได้ที่ facebook : ullmanKhonKaenRajaOrchid

สนับสนุนงานประเพณีออกพรรษา

ฉลอง 69 ปี วันชาติเวียดนาม ; นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ว่า ราชการจังหวัดขอนแก่น ร่วมงานแสดงความยินดีกับ Mr. Nguyen Huu Dinh กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำ�จังหวัดขอนแก่น เนื่องในวันชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ โรงแรมพูลแมน ราชา ออคิด ขอนแก่น

นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผูว้ า่ ราชการจังหวัดขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นายนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำ�นวยการสำ�นักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำ�นักงานจังหวัดขอนแก่น นายสิทธิชัย วงษ์คำ�ภู รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ร่วมแถลงข่าวการจัดงานประเพณีออกพรรษา ลอยประทีปบูชา พุทธกตัญญู ประจำ�ปี 2557 เนื่องในการจัดเทศกาลงานประเพณีออกพรรษา ประจำ�ปี 2557 เพือ่ ย้อนรอยวัฒนธรรมอีสาน สืบสานตำ�นานท้องถิน่ ส่งเสริมการท่องเทีย่ วและกระตุน้ เศรษฐกิจของจังหวัด ภายใต้แนวคิด “ขอนแก่นเมืองรุง่ เรือง เมืองแห่งพุทธกตัญญู รูร้ กั สามัคคีสมานฉันท์ รังสรรค์วฒ ั นธรรมลํา้ ค่า ก้าวหน้ายุทธศาสตร์ Low Carbon” ถือเป็นหัวใจสำ�คัญสำ�หรับการจัดงาน พร้อม รับมอบสนับสนุนการจัดงานประเพณีออกพรรษาจาก บริษัท โตโยต้าขอนแก่น ผู้จำ�หน่ายโตโยต้า จำ�กัด บริษัท โค้วยู่ฮะมอเตอร์ จำ�กัด องค์การบริหาร ส่วนจังหวัดขอนแก่น และหน่ายงานภาครัฐ ภาคเอกชน ณ ลานสวนไห ริมบึงแก่นนคร อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2557

คาราวานสานสัมพันธ์ คนพันธุ์มิว ; บริษัท โค้วยู่ฮะมอเตอร์ จำ�กัด จัด กิจกรรม “โค้วยู่ฮะ คาราวานสานสัมพันธ์ คนพันธุ์มิว” เส้นทางขอนแก่นวั ด ป่ า บ้ า นตาด-ภู ฝ อยลม-สวนสั ต ว์ ข อนแก่ น เพื่ อ เป็ น การทดสอบ สมรรถนะและการประหยัดนํ้ามันของ อีซูซุมิว-เอ็กซ์ โดยมีผู้เข้าร่วมใน การทดสอบครั้งนี้เป็นจำ�นวนมาก สร้างความสนุกสนานและสร้างความ ประทับใจตลอดเส้นทาง ณ บริษทั โค้วยูฮ่ ะมอเตอร์ จำ�กัด สำ�นักงานใหญ่ ขอนแก่น เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา


หน้า 11

ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ประจำ�เดือนตุลาคม 2557 จัดระเบียบแท็กซี่

• ต่อจากหน้า 1 จะทำ�ให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถสาธารณะ ที่น่าสนใจ กลุ่มนักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ หาวิธีการจัดหาก๊าซธรรมชาติจากแหล่งผลิตมา บริการ NGV 496 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ทางภาค

สมาคมธุรกิจการท่องเทีย่ วจังหวัดขอนแก่น สมาคมคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ ขนส่งจังหวัดขอนแก่น และสนามบินขอนแก่น จัดระเบียบรถแท็กซี่มิเตอร์ในพื้นที่ เพื่อช่วยแก้ ปั ญหาและบรรเทาความเดื อ ดร้ อ นจากกรณี ที่มี ประชาชนยื่นหนังสือร้องเรียนเข้ามายังสมาคมผู้ บริโภคจังหวัดขอนแก่นอย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่รถ แท็กซี่มิเตอร์ คิดราคาเหมาจ่ายสูงเกินจริง และไม่ ยอมกดมิเตอร์ รวมทั้งรถโดยสารสาธารณะขนาด เล็กอย่างรถสองแถวไม่มีให้บริการอย่างเพียงพอ กับความต้องการของผู้โดยสาร โดยเฉพาะที่สนาม บินขอนแก่น ไม่มีรถโดยสารประจำ�ทางให้บริการ จึงทำ�ให้รถแท๊กซี่มิเตอร์ฉวยโอกาสเรียกร้องค่า โดยสารแบบเหมาจ่าย สร้างความเดือดร้อนให้กับ นักท่องเที่ยวและประชาชนที่จำ�เป็นต้องใช้บริการ รถโดยสารสาธารณะเป็นอย่างมาก นายกนก ศิ ริ พ าณิ ช กร ขนส่ ง จั ง หวั ด ขอนแก่น เปิดเผยว่า จากกรณีที่รถแท็กซี่ไม่กด มิเตอร์ และเรียกร้องราคาเหมาจ่ายโดยอ้างว่าไม่คุ้ม ต้นทุนต่อการให้บริการนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันพิจารณาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งผู้ ประกอบการและผูบ้ ริโภค โดยหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง ได้เรียกผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่เข้าร่วมปรึกษา หาแนวทางเพื่อช่วยเหลือ หากยึดราคาตามมิเตอร์ ซึ่งเป็นอัตราเรียกเก็บตั้งแต่ปี 2537 เป็นอัตราที่ ตํ่าเกินไป ทำ�ให้ผู้ประกอบการไม่สามารถดำ�เนิน กิจการได้ จำ�เป็นต้องกำ�หนดอัตราที่เหมาะสมเป็น ธรรมต่อทุกฝ่ายให้สามารถอยูร่ ว่ มกันได้ โดยเฉพาะ เมื่อเป็นประเทศอาเซี่ยน ซึ่งมีทั้งนักธุรกิจและนัก ท่องเทีย่ วเดินทางเข้ามาในพืน้ ที่ หากยังไม่ได้รบั การ แก้ไขอาจทำ�ให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์สว่ น รวมของจังหวัดขอนแก่นได้ ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้มีการพิจารณา อนุมัติ และประกาศปรับเพื่อกำ�หนดอัตราค่าจ้าง บรรทุกโดยสารและค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น สำ�หรับรถยนต์ รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน หรือ TAXIMETER ใหม่ รวม 3 จังหวัดคือ ขอนแก่น เชียงใหม่ และภูเก็ต มีอัตรากดมิเตอร์ที่ระยะทาง 2 กิโลเมตร แรก 40 บาท ระยะทางกิโลเมตรที่ 2 ขึ้นไปไม่เกิน 10 กิโลเมตรๆ ละ 6 บาท ระยะทางกิโลเมตรที่ 10 ขึ้ น ไป กิ โ ลเมตรละ 10 บาท ในกรณี ที่ ร ถติ ด ไม่ สามารถเคลื่อนรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กิโลเมตรต่อ ชั่วโมง อัตรานาทีละ 1 บาท ในกรณีการโทรศัพท์ เรียกรถแท๊กซี่ผ่านศูนย์บริการ หรือ Call Center คิด ค่าบริการเพิ่มอีก 20 บาทต่อครั้ง โดยจะมีผลบังคับ ใช้ทันทีที่ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาตรา เป็นกฎหมาย คาดว่าจะใช้ได้ปลายปี 2557 นี้ โดยเจ้า หน้าที่ยังต้องควบคุมการกดมิเตอร์ของรถแท็กซี่ ทุกคันอย่างเข้มงวด และกวดขันจับกุมอย่างจริงจัง ปัญหาแท็กซีไ่ ม่กดมิเตอร์นนั้ หากได้รบั การร้องเรียน จะลงโทษปรับครัง้ แรก 1,000 บาท หากกระทำ�ผิดซํา้ เกิน 3 ครั้ง จะเพิกถอนใบอนุญาตขับแท็กซี่มิเตอร์ ทันที ซึ่งเป็นมาตรการลงโทษที่ไม่ต้องการให้เกิด กับผูข้ บั รถแท๊กซีท่ กุ คัน อยากให้รสู้ กึ มีเกียรติในการ ประกอบอาชีพของตนเอง นายกนกกล่าว และว่า สำ�หรับการให้บริการรถแท็กซี่ซึ่งจอดตาม จุดรับ-ส่งต่างๆ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่นรวม 15-20 แห่ง โดยจะมีจุดจอดพักรถในสถานที่สำ�คัญ อาทิ โรงพยาบาลศรีนครินทร์, โรงพยาบาลขอนแก่น ราม, โรงพยาบาลขอนแก่น, โรงแรม, ศูนย์การค้า, สถานีขนส่งรถตู้ รวมทั้งหน่วยงานราชการ และ สำ�นักงานเอกชนต่างๆ แล้ว ยังเพิม่ จุดบริการหลักไว้ ทีท่ า่ อากาศยานนานาชาติขอนแก่น และสถานีขนส่ง ขอนแก่น แห่งที่ 3 ซึ่งถือเป็นพื้นที่ซึ่งมีผู้ใช้บริการ อย่างหนาแน่นและตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ว่ า ที่ ร.ต.อั ธ ยา ลาภมาก ผู้ อำ � นวยการ ท่าอากาศยานขอนแก่น เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ท่า อากาศยานจังหวัดขอนแก่น ได้มีการเพิ่มเที่ยวบิน ภายในประเทศเส้นทางบินกรุงเทพฯ-ขอนแก่น อีก 4 เทีย่ วบินต่อวัน รวมเส้นทางบินระหว่างขอนแก่น ไปจังหวัดต่างๆ และเส้นทางบินระหว่างขอนแก่น กับประเทศเพือ่ นบ้าน เชือ่ ว่าในปี 2558 จะมีปริมาณ ผู้โดยสารเดินทางเข้ามาที่จังหวัดขอนแก่นเพิ่มขึ้น มาก ซึ่งอาจทำ�ให้สถานที่อาคารจอดรถยนต์ส่วน บุคคลที่ผู้โดยสารนำ�มาจอดไว้ไม่เพียงพอกับความ ต้องการ ดังนั้น แท็กซี่มิเตอร์จึงมีบทบาทสำ�คัญที่

ลดปริ ม าณการนำ � รถยนต์ ส่ ว นบุ ค คลมาจอดไว้ ภายในอาคารของสนามบินฯ นอกจากนี้ แท๊กซี่ มิเตอร์ยงั มีบทบาทสำ�คัญทีจ่ ะเป็นหน้าตาให้กบั นัก ท่องเที่ยว นักธุรกิจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเกิด ความประทับใจในการเดินทางเข้ามาเยือนจังหวัด ขอนแก่นอีกด้วย “เพือ่ สร้างมาตรฐานการให้บริการรถรับจ้าง สาธารณะของจังหวัดขอนแก่นได้รบั ความปลอดภัย และนักท่องเทีย่ ว นักธุรกิจทีต่ อ้ งใช้รถแท็กซีม่ คี วาม มั่นใจในบริการ และเป็นไปตามหลักมาตรฐาน สากล จึงได้มหี น่วยงานกลางเข้ามาจัดวางระบบคิว และบันทึกหมายเลขรถแท็กซีม่ เิ ตอร์ทกุ คัน รวมถึง เส้นทางการให้บริการเช่นเดียวกับการให้บริการที่ สนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ เพือ่ สร้างความ ประทับใจให้กับผู้ที่มาเยือนเมืองขอนแก่นทุกคน” ว่าที่ ร.ต.อัธยา กล่าว ด้าน นายธนากร คำ�เมรี คนขับรถแท็กซี่ มิเตอร์ บริษัท อุดรกรุ๊ป (ขอนแก่น) เปิดเผยว่า การ ทีแ่ ท๊กซีม่ เิ ตอร์ตอ้ งเรียกร้องราคาเหมาจ่าย เนือ่ งจาก อัตรากำ�หนดการจัดเก็บจากมิเตอร์ 30 บาท ไม่คมุ้ กับ ต้นทุนแท้จริงของค่าครองชีพปัจจุบนั ซึง่ มีการปรับ ตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคานํ้ามัน ราคาแก๊ส LPG / NGV สินค้าอุปโภค สินค้าบริโภค อาหารจาน ด่วน และวัตถุดิบที่จำ�เป็นต้องใช้ในชีวิตประจำ�วัน ล้วนปรับราคาสูงขึน้ เกือบทัง้ หมด ในขณะทีร่ าคาค่า โดยสารรถแท็กซี่มิเตอร์ยังเป็นอัตราเดิมที่บังคับใช้ มาตั้งแต่ปี 2537 ซึ่งไม่สมดุลกับรายจ่าย โดยเฉพาะ เมือ่ ต้องให้บริการในเขตเทศบาลเมือง จึงไม่สามารถ เลี้ยงครอบครัวได้ จำ�เป็นต้องขอเป็นราคาเหมาจ่าย กับผู้โดยสารเพื่อให้สามารถอยู่ได้ สำ � หรั บ ปั ญ หาของคนขั บ แท็ ก ซี่ มิ เ ตอร์ นอกจากไม่คมุ้ กับค่าใช้จา่ ยแล้ว การกดมิเตอร์ยงั ไม่ คุ้มกับการหาเงินส่งค่าเช่ารถแท๊กซี่อีกวันละ 700 – 1,000 บาท จ่ายค่าแก๊ส วันละ 300 - 500 บาท/วัน และยังต้องเจอกับปัญหาแย่งผูโ้ ดยสารจากรถป้ายดำ� ทีแ่ ฝงตัวเข้ามารวมในกลุม่ ผูโ้ ดยสาร และเสนอราคา ค่าโดยสารเหมาจ่ายทีถ่ กู กว่า นับเป็นปัญหาทีย่ ากจะ แก้ไขจากหน่วยงานได้ ก่อนทีอ่ ตั ราค่าบริการแท็กซี่ ใหม่จะประกาศบังคับใช้ แท็กซีม่ เิ ตอร์ยงั ขอจัดเก็บ ค่าเซอร์วสิ ชาร์จ สำ�หรับผูโ้ ดยสารทีใ่ ช้บริการสนาม บินขอนแก่น จะเรียกเก็บค่าเซอร์วิสชาร์จ 50 บาท สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 3 เรียกเก็บค่าเซอร์วิส ชาร์จ 40 บาท และจ่ายค่าโดยสารจากมิเตอร์ตาม จริง ซึ่งเป็นราคาที่ผู้ขับรถแท็กซี่สามารถรับได้ และจะกดมิเตอร์ทกุ ครัง้ เมือ่ มีประกาศในราชกิจจา นุเบกษากำ�หนดราคาของรถแท็กซีม่ เิ ตอร์ใหม่ออก มาบังคับใช้ นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ นายกสมาคมธุรกิจ การท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เชื่อว่าการ ร่วมกันผลักดันให้มกี ารปรับราคาค่าบริการรถแท๊ก ซี่มิเตอร์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะสร้างความ เป็นธรรมให้กบั ผูข้ บั รถแท๊กซีม่ เิ ตอร์ และผูโ้ ดยสาร ที่จำ�เป็นต้องใช้รถสาธารณะให้สามารถอยู่ร่วมกัน ได้ และยังสร้างความอบอุ่น ความปลอดภัยให้กับ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนเมืองขอนแก่นอีกด้วย การปรับอัตราค่าโดยสารใหม่ จะช่วยลดปัญหา ของคนขั บ แท๊ ก ซี่ กั บ ประชาชนที่ ต้ อ งการใช้ ร ถ สาธารณะได้มาก นอกจากนี้ ขนส่งจังหวัดขอนแก่น ยังมี โครงการพัฒนาปรับปรุง แก้ปัญหารถโดยสารสอง แถว รถแท๊กซี่มิเตอร์ให้มีความเป็นระบบ ระเบียบ มากยิ่งขึ้น โดยทำ�แผ่นผับติดเบาะรถยนต์ว่า “พบ รถแท็กซีเ่ อาเปรียบผูโ้ ดยสาร” (ไม่กดมิเตอร์) แสดง กิริยาวาจาไม่สุภาพ แจ้งร้องเรียนได้ที่ศูนย์คุ้มครอง ผู้โดยสารรถสาธารณะ สำ�นักงานขนส่งจังหวัด ขอนแก่น โทร 043 - 379479 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ผู้โดยสารอาจจดชื่อคนขับ ทะเบียนรถแท็กซี่ ชื่อ บริษัท และจุดรับ-ส่ง ซึ่งจะมีป้ายชื่อคนขับระบุ ไว้อยู่แล้ว โดยแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน กรมการ ขนส่งทางบก 1584 หรือตำ�รวจท่องเที่ยว สายด่วน 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง

ประเทศในกลุ่ม CLMV ประกอบด้วย ประเทศ กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมาร์และเวียดนาม ซึ่งมี อัตราการการลงทุนจากต่างประเทศสูงขึ้นเกือบ เท่าตัว จากประมาณร้อยละ 7 ของ FDI ที่เข้ามาใน อาเซียนทั้งหมดเมื่อปี 2548 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 13 ในปี 2555 นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธาน คณะกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การที่ หอการค้าไทย ร่วมกับ สำ�นักงานส่งเสริมการจัด ประชุมและนิทรรศการ (องค์กรมหาชน) และ หอการค้าจังหวัดขอนแก่น จัดสัมมนา “CLMV ทิศทางการลงทุนใหม่ของแบรนด์ไทย” เป็นการ เสริมสร้างความรู้และประสบการณ์จากผู้บริหาร ระดับสูงของภาคธุรกิจที่ประสบความสำ�เร็จใน การสร้างและบริหารแบรนด์ของสินค้าจนเป็นที่ ยอมรับของตลาดทั้งในและต่างประเทศ การลงทุนใหม่ และบริหารแบรนด์สินค้า แบรนด์ไทยในตลาดการค้าอาเซียนและประเทศ เพื่อนบ้านต้องพัฒนาข้อได้เปรียบที่มีอยู่แล้วให้ เป็ น จุ ด แข็ ง เฉพาะการเป็ น ประเทศที่ ตั้ ง กลาง ระหว่างประเทศกลุ่ม CLMV โดยมีประเทศไทย จะเป็นโครงข่ายทางธุรกิจ การผลิตและการตลาด ที่จะเอื้อให้ประเทศไทยได้ขยับให้มีบทบาทมาก ขึ้นในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งไม่เพียงการสร้าง โอกาสทางธุรกิจเท่านัน้ ยังสามารถปรับแนวความ คิดในการรักษาตลาด และพึ่งพาการผลิตภายใน ประเทศสู่การขยายฐานตลาดออกไปยังประเทศ เพื่อนบ้าน โดยใช้ยุทธศาสตร์ของประเทศเป็นแรง ดึงบดูด สู่การเชื่องโยงตลาดการค้าในอาเซียน ซึ่ง จะทำ�ให้ประเทศมีก�ำ ลังและบทบาททางเศรษฐกิจ ในอาเซียนเพิ่มมากขึ้นด้วย นายชูเดช เตชะไพบูลย์ กล่าวว่า ผลของ การเปิดเสรีทางการค้าทั้งภายใต้กรอบความร่วม มือทางเศรษฐกิจในภูมภิ าคต่างๆ รวมทัง้ ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน ยังได้สง่ ผลทัง้ ในเชิงบวกและเชิง ลบต่อการขยายโอกาสการลงทุน รวมถึงการขยาย ตลาดสินค้าและบริการของไทยในกลุ่มประเทศ CLMV เป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ภายใต้ สถานการณ์สภาพแวดล้อมของการเปลี่ยนแปลง การขยายตัวอย่างต่อเนือ่ งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และธุรกิจของประเทศกลุ่ม CLMV จึงเป็นโอกาส ของจังหวัดขอนแก่น ที่จะใช้ความเป็นศูนย์กลาง การเชื่อมโยงโครงข่ายระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก และตะวันออก (East-West Economic Corridor) สร้างจุดแข็งพร้อมการขยายตลาดสินค้าและบริการ “กลยุทธในการสร้างและบริหารแบรนด์สนิ ค้าและ บริการทีป่ ระสบความสำ�เร็จ มีความจำ�เป็นอย่างยิง่ ทีผ่ ปู้ ระกอบการต้องศึกษา ปรับเปลีย่ นเพือ่ สอดรับ กับความต้องการตลาดการค้าสากล โดยใช้ความได้ เปรียบทางศูนย์กลางการเชื่อมโยงเครือข่าย และ ความได้เปรียบในมาตรฐานสินค้าซึง่ เป็นทีย่ อมรับ มากกว่ากลุ่มประเทศในแถบเดียวกัน ซึ่งธุรกิจ SME ต้องมีความคิดแตก คิดต่าง จากเดิม จึงจะ สามารถยืนได้ในตลาดการค้าสากลได้อย่างยั่งยืน” นายชูเดช กล่าว

ปตท.

• ต่อจากหน้า 1

เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ห้องทุ่งศรีเมือง โรงแรมเซนทารา สำ � นั ก งานพลั ง งานจั ง หวั ด อุดรธานี จัดเวทีเสวนา “แนวทางการส่งเสริมให้ เกิดการขยายกิจการสถานีบริการก๊าซ NGV ใน พื้นที่ จ.อุดรธานี” เพื่อรองรับยุทธศาสตร์พัฒนา และแผนปฏิบัติการจังหวัด ที่มีการขยายตัวของ สังคม เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ในขณะที่แหล่ง ก๊าซ”สินภูฮ่อม” ก็ต้องอยู่ในพื้นที่ จ.อุดรธานี แต่ กลับมาสถานีบริการก๊าซเพียง 2 แห่ง ไม่สมดุล กับปริมาณรถที่มาใช้บริการ โดยมีหัวหน้าหน่วย ราชการพลังงานจังหวัดใกล้เคียง ผู้ประกอบการ สถานบริการนํา้ มัน-ก๊าซ และผูใ้ ช้รถพลังงาน NGV มาร่วมฟังราว 200 คน ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของ แหล่งก๊าซสินภูฮ่อมอยู่ที่เทือกเขาภูพาน แต่กลับ CLMV • ต่อจากหน้า 1 เดินท่อส่งก๊าซไปให้โรงผลิตไฟฟ้าที่ อ.นํ้าพอง บทบาททางเศรษฐกิจทีม่ คี วามโดดเด่นและ จ.ขอนแก่น ทำ�ให้ที่ผ่านมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เป็นทีน่ า่ จับตาในการเลือกลงทุนของกลุม่ ประเทศ เมือ่ มีการประชุมหรือเวทีเสวนาทีเ่ กีย่ วกับพลังงาน อาเซียน และมีการพัฒนาเปิดตลาดการลงทุนเป็น ก๊าซธรรมชาติ ก็จะเกิดการเรียกร้องให้ผทู้ เี่ กีย่ วข้อง

ให้ชาวจังหวัดอุดรธานีใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะ ในเรื่องของสถานีบริการ NGV ที่ ปตท.ไปลงทุน เอาเพียง 2 แห่ง ทั้งๆ ที่ ปตท.เองเคยเดินทางไป ประชาสัมพันธ์การลงทุนสถานีบริการว่า จะลงทุน ก่อสร้างสถานีบริการ 4 แห่ง แต่ก็ยังไม่มีวี่แวว ว่า ปตท.จะทำ�ตามคำ�บอก และแถมตัวแทนของ ปตท.ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการและผ่านเวทีเสวนา ว่า เนื่องจากปัญหาราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติ ปัจจุบันกำ�หนดที่ ก.ก.ละ 10.50 บาท ทั้งที่ต้นทุน การผลิตตก ก.ก.ละ 16 บาทเศษนั้น เป็นเหตุให้ ปตท.ประกาศนโยบายชะลอการลงทุนในเรื่องดัง กล่าว และยังแจ้งอีกว่าจะไม่อนุญาตให้เอกชน เข้า มาลงทุนอีกด้วย น า ย พิ นิ จ ช่ า ง ไ ม้ พ ลั ง ง า น จั ง ห วั ด อุดรธานี กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดอุดรธานี ได้มีน โยบายในการส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการด้าน พลังงาน การพัฒนาพลังงานทดแทนและการอนุรกั ษ์ พลังงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแช่งขัน ด้านการขนส่ง การค้า การลงทุน ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด 4 ปี พ.ศ. 2557-2560 ในช่ ว งเวลาที่ ผ่ า นมา ปรากฏว่ า รถยนต์ ประเภทต่างๆ ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ ได้หันมาติด ตั้งระบบใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV กันมากขึ้น แต่ใน พื้นที่ตัวจังหวัดอุดรธานี มีสถานีบริการที่ให้บริการ ก๊าซธรรมชาติ NGV อยู่เพียง 2 แห่งเท่านั้น ทำ�ให้ เกิ ด การขั ด ข้ อ งและปั ญ หาความสู ญ เสี ย ทางด้ า น เศรษฐกิ จ เพราะต้ อ งไปรอเข้ า คิ ว เพื่ อ เติ ม ก๊ า ซ ธรรมชาติ NGVครั้งละไม่น้อยกว่า 30 นาที ถึงกว่า 1-2 ชั่วโมง และจากการสำ�รวจความคิดเห็นต่อกรณี ความต้องการสถานีบริการ NGV ของชาวจังหวัด อุดรธานี ของสำ�นักงานสถิติจังหวัดอุดรธานี ก็พบ ว่ามีความต้องการสถานีบริการมากถึง 4 แห่งด้วยกัน นายวิศรุท ตั้งสุนทรขันท์ ผู้แทนกรมเชื้อ เพลิงพลังงาน กล่าวว่า อีสานพบก๊าซธรรมชาติ ครั้งแรก โดย บริษัท เอ็กซอลโมบิล จำ�กัด ที่แหล่ง นํ้าพองเมื่อปี 2530 แต่ก็ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล เพราะทำ�การขุดเจาะไปถึง 21 หลุม แต่พบเพียง 7 หลุมเท่านั้น และคาดจะมีสำ�รองก๊าซนำ�ขึ้นมาใช้ 120 ล้าน ลบ.ฟุตต่อวัน จึงลงทุนก่อสร้างโรงงาน ผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนขนาด 720 กิโลวัตต์ ขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกัน แต่ปรากฏว่าการคาด หมายและคำ�นวณผิดพลาด ทำ�ให้ก๊าซธรรมชาติ ในขณะนั้ น เอาขึ้ น มาใช้ ป ระโยชน์ ไ ด้ เ พี ย งไม่ กี่ ปี ปริมาณก๊าซธรรมชาติกล็ ดลงไปเรือ่ ยๆ จนทำ�ให้ เกิดปัญหาการจัดส่งก๊าซได้ไม่เต็มทีต่ ามทีค่ าดหมาย ต่อมา บริษัท เฮสส์ ไทยแลนด์ จำ�กัด มา ขุดเจาะพบก๊าซธรรมชาติ 3 หลุม ที่แหล่งสินภู ฮ่อม อ.หนองแสง จ.อุดรธานี และวางท่อส่งก๊าซ ไป อ.นํ้าพอง ทำ�การแยกก๊าซส่งเข้าโรงไฟฟ้านํ้า พอง ส่วนหนึ่งแยกเป็นก๊าซ NGV ใช้ในการขนส่ง จากนั้นได้ทำ�การเจาะสำ�รวจอีก 3 หลุม พบก๊าซ เพียงเล็กน้อย ก่อนเจรจาขายหุ้นให้ บริษัท ปตท. สผ.จำ�กัด มาดำ�เนินการต่อ โดยมีแผนในปีหน้า จะเจาะสำ �รวจหาก๊าซอีก ขณะที่ บริษัท อพิโก้ จำ�กัด เจาะสำ�รวจพบก๊าซที่ อ.หนองแสง และที่ อ.หนองกุงศรี กาฬสินธุ์ นายปุณณชัย ฟูตระกูล ผู้จัดการฝ่ายการ ตลาดก๊าซธรรมชาติสำ�หรับยานยนต์ บมจ.ปตท. ซึ่งเป็นตัวแทน ปตท. กล่าวว่า NGV มีการทดลอง ใช้มานาน จนมีการส่งเสริมให้ใช้ปี 2543- 2544 และได้รับความนิยมมากในกลางปี 2551 เมื่อรา คานํา้ มันขยับสูงขึน้ มาก ปตท.เปิดให้เอกชนเข้ามา ลงทุน แต่เพียง 5 ปีเท่านั้น ก็ต้องชะลอการลงทุน เพราะราคาขายปลีกไม่ปรับขึน้ จนถึงปัจจุบนั ราคา ลิตรละ 10.50 บ. ทั้งที่ต้นทุนอยู่ที่ 16 บาทเศษ จน ทำ�ให้ ปตท.มีการขาดทุนสะสมถึงปัจจุบันนี้เกือบ 1 แสนล้านบาท มี ร ถก๊ า ซ NGV ราว 452,000 คั น คิ ด เป็น 3 เปอร์เซ็นต์ของรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งส่วน ใหญ่เป็นรถเล็ก แต่ปริมาณการใช้ก๊าซภาคขนส่ง สูงสุดมากกว่า 52 % ของจำ�นวนพลังงานที่ใช้ ทั้ ง หมดทั้ ง ประเทศ ทำ � ให้ เ กิ ด ความต้ อ งการใช้ ก๊าซธรรมชาติ NGV มาก ในขณะที่ประเทศไทย สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติไม่เพียงพอกับความ ต้องการ ปั จ จุ บั น นี้ ทั้ ง ป ร ะ เ ท ศ มี ส ถ า นี

ตะวันออก, กรุงเทพและปริมณฑล สถานีส่งด้วย ท่อ 12 แห่ง ภาคอีสานมีอยู่เพียง 2 แห่ง ที่เหลือ ทำ�การขนส่งโดยรถบรรทุก ใน 54 จังหวัด ใช้ก๊าซ วันละ 8,800 ตันต่อวัน ในภาคอีสานมี 38 สถานี ใน 12 จังหวัด มีสถานีแม่ที่ อ.นํ้าพอง จ.ขอนแก่น ส่วนที่อุดรธานี มีสถานีบริการ 2 แห่ง ทั่วประเทศ มีความต้องการเปิดสถานีบริการเพิ่ม แต่ด้วยราคา ขายปลีกที่ต้องขาดทุน นโยบายขณะนี้คือไม่เพิ่ม สถานีบริการ ในตอนหนึ่งของการบรรยายให้ความรู้ ของตัวแทน ปตท.ได้กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ ของราคาก๊าซธรรมชาติที่มีต้นทุนสูง ก.ก.ละ กว่า 16 บาทแต่ขายปลีกในราคา ก.ก.ละ 10.50 บาท จึง ทำ�ให้ ปตท.ต้องชะลอส่งเสริมการลงทุนในเรื่อง ของสถานีบริการ และจะไม่อนุญาตให้เอกชนเข้า มาร่วมลงทุนในกรณีดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตามผู้มาร่วมรับฟังการประชุม เสวนาครั้งนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าของสถานีปั้มนํ้า มัน ได้สอบถามและแสดงความความคิดเห็นด้วย ว่า ขอให้ ปตท. พิจารณาทบทวนจัดลำ�ดับความ สำ�คัญอุดรธานีใหม่ ทั้งนี้เพราะจังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดแรกๆ ที่ ปตท.มาทำ�การชักชวนให้ เอกชนมีการลงทุนร่วมกับ ปตท.และปตท.เองเคย มาทำ�การแถลงข่าวกับผูป้ ระกอบการสถานีบริการ ว่า จะมีการลงทุนสถานีบริการจำ�นวน 4 แห่ง ใน ฐานะที่เป็นที่เป็นพื้นที่ของแหล่งทรัพยากรก๊าซ ธรรมชาติ และมี ค วามจำ � เป็ น ของยุ ท ธศาสตร์ ภูมภิ าค เป็นศูนย์กลางการคมนาคม ทางเครือ่ งบิน รถไฟ และโครงข่ายถนนเชื่อมโยงไปอีสานตอน บน และเชื่อมโยงไปยังประเทศในลุ่มแม่นํ้าโขง นายปุณญชัยฯ ก็กล่าวยํ้าว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ ทาง ปตท.ก็ยงั ยืนยันไม่ลงทุนก่อสร้างสถานีบริการ เอ็นจีวี.เพิ่ม และไม่อนุญาตให้เอกชนเข้ามาลงทุน ด้วย แต่ในอนาคตนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อาจจะมี การเปลี่ยนแปลงได้ นายมงคล ทัตตินาพานิช ผู้จัดการ บริษัท อุดรสยามปิโตรเลียม จำ�กัด เจ้าของสถานบริการ NGV บ้านข้าวสาร ถนนมิตรภาพ (ขาเข้าเมือง) ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า สถานี บริการเป็นขนาด 3 ตู้จ่าย 6 มือ มีสำ�รองก๊าซครั้ง ละ 3 ตันเศษ เป็นการลงทุนของ ปตท.ทั้งหมด มีผู้มาเข้าคิวใช้บริการจำ�นวนมาก ต้องให้บริการ ตลอด 24 ชม.ทั้งวันรวมกว่า 16 ตัน ทำ�ให้รถต้อง ไปรับก๊าซ NGV จากสถานีนํ้าพองหลายเที่ยว เรา เสนอแผนขอเปิดเพิม่ อีก 1 สถานี อยูต่ รงข้ามสถานี บริการเดิม เป็นรถฝั่งขาออกไป จ.ขอนแก่น ซึ่งจะ ต้องลงทุนไม่รวมค่าที่ดิน 30 ล้านบาท แม้เราจะ เสนอลงทุนเอง แต่ ปตท.ก็ตอบปฏิเสธมานานแล้ว

โลว์คอสท์แอร์ไลน์ • ต่อจากหน้า 1 นายถวั ล ย์ เที ย นทอง ผู้ อำ � นวยการฝ่ า ย วิศวกรรม ไทย ไลออนส์ แอร์ไลน์ เปิดเผยว่า สาย การบินไลออนส์ แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินโล คอสท์น้องใหม่ล่าสุด ได้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ รวมทั้งหมด 4 เส้นทางคือ ดอนเมือง-อุดรธานี, ดอนเมือง-กระบี่, ดอนเมือง-สุราษฎร์ธานี และ ดอนเมื อ ง-ภู เ ก็ ต โดยเปิ ด เที่ ย วบิ น ปฐมฤกษ์ ดอนเมือง-อุดรธานี ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้วยเครื่อง บินลำ�ใหม่โบอิ้ง 737-900 ER ขนาดความจุ 215 ที่ นัง่ มีผโู้ ดยสารทีโ่ ดยสารมากับเทีย่ วบินนีป้ ระมาณ 60% ของความจุ ใช้เวลาบิน 50 นาที โดยเส้นทางบินกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)อุดรธานี มีบริการ 2 เที่ยวบิน คือ เที่ยวแรกในช่วง เช้าตรู่ เวลา 05.55 น. เพื่อให้ข้าราชการในภาค อีสานตอนบนสามารถเดินทางมาทำ�งานได้ทนั เวลา ราชการ และเที่ยวบินที่ 2 เวลา 09.15 น. นักธุรกิจ ก็สามารถทำ�งานติดต่อกับหน่วยงานได้พอดี และ มีเวลามากพอต่อการปฏิบัติงาน สามารถเดินทาง กลับได้ในเทีย่ วบินตอนคํา่ ซึง่ จะทำ�การบินสัปดาห์ ละ 3 วัน ในวันจันทร์ พุธ และศุกร์ นอกจากนี้แล้วในวันที่ 3 ต.ค. 2557 ที่ จะถึงนี้ ก็จะทำ�การบินตรง กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ และกรุงเทพฯ-อุดรธานี ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737900 ER ขนาดที่นั่ง 215 ที่นั่งเช่นกัน ด้วยราคาโปร โมชัน่ เริม่ ต้นที่ 415 บาทต่อทีน่ งั่ และในวันเดียวกัน ก็ยังทำ�การบินใหม่ใน 4 รูท

นายถวั ล ย์ ฯ กล่ า วต่ อ ว่ า สำ � หรั บ สาย การบินไทย ไลออนส์ แอร์ไลน์ เป็นสายการบินโล คอสท์ที่มีการลงทุนร่วมกันระหว่าง บริษัท ไทย ไลออนส์ เมนทารี่ จำ�กัด ถือหุ้น 51 % อินโดนีเซีย 49 % ซึง่ บริษทั มีความมัน่ ใจต่อสถานการณ์ในภาพ รวมของประเทศไทยมาก และจะยังคงดำ�เนินธุรกิจ การบินในประเทศไทยต่อไป สำ�หรับจุดขายของไทย ไลออนส์ แอร์ไลน์ คือ ใช้กลยุทธ์อัตราค่าโดยสารถูกอย่างต่อเนื่องใน ทุกเส้นทาง เริม่ ต้นที่ 415 บาท และในอนาคตจะยัง ขายถูกอย่างต่อเนื่อง เพราะการใช้เครื่องบินขนาด ใหญ่ทำ�ให้ต้นทุนต่อที่นั่งค่อนข้างตํ่า นอกจากนี้ ยังให้โหลดกระเป๋านํา้ หนัก 15 กิโลกรัมฟรี นํา้ หนัก อุปกรณ์กฬี า 15 กิโลกรัมฟรี และไม่มคี า่ ธรรมเนียม การจอง ไม่วา่ จะเป็นการจองผ่านเว็บไซต์ หรือคอล เซ็นเตอร์ หรือเคาน์เตอร์บริการ ทั้งนี้เพื่อดึงดูดผู้ โดยสารให้ใช้บริการ เนือ่ งจากเป็นสายการบินน้อง ใหม่ เพิ่งเปิดตัวมาได้ประมาณ 8 เดือนเศษ “การที่บริษัทฯ ลงทุนเปิดสายการบินต้น ทุนตํ่าขึ้นมา เนื่องจากมองว่าวงการบินต้นทุนรา คาตํ่าหรือโลคอสท์ในปัจจุบัน ยังมีโอกาสให้กับ ผู้ใช้บริการได้อีกมาก ส่วนแผนการพัฒนาธุรกิจ การบินไปตามจุดหมายต่างๆ นั้น ที่ผ่านมาธุรกิจ ของบริษัทพัฒนาไปในทิศทางที่น่าพอใจ เติบโต ในอัตราที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามบริษัทจะยังไม่ เปิดเผยเส้นทางบินที่บริษัทมีแผนจะขยาย จนกว่า จะแน่ใจว่าเส้นทางนั้นจะให้ผลตอบแทนเป็นที่น่า พอใจ และสามารถดำ�เนินการได้จริง” ด้ า น นางอั ม พวั น วรรณโก ผอ.ท่ า อากาศยานอุ ด รธานี เปิ ด เผยว่ า กรมการบิ น พลเรือนได้ดำ�เนินการปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานอุดรธานี โดยใช้อาคารผูโ้ ดยสารหลัง เก่า ซึ่งได้ว่าจ้างบริษัท งามวงศ์วานการช่าง จำ�กัด ก่อสร้างและปรับปรุงในวงเงิน 265,000,000 บาท สัญญาเริ่มต้นวันที่ 8 เมษายน 2556 ถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2558 มีพนื้ ทีใ่ ช้สอย 8,536 ตารางเมตร แยกเป็นห้องผู้โดยสารขาเข้า 1,055 ตารางเมตร รับผู้โดยสารได้ราว 400 คน ห้องผู้โดยสารขาออก 1,095 ตารางเมตร รับผู้โดยสารราว 400 คน ขณะที่ ห้ อ งบริ เ วณเช็ ก อิ น 384 ตาราง เมตร รับผู้โดยสารได้ 250 คน มีสิ่งอำ�นวยความ สะดวก ประกอบด้วย สะพานเทียบเครื่องบิน 1 ชุด ลิฟต์โดยสาร 2 ชุด บันไดเลื่อน 3 ชุด สายพาน ขนสัมภาระ 2 ชุด มีขีดความสามารถในการรับผู้ โดยสารได้พร้อมกัน 1,000 คน ทั้งนี้ การก่อสร้างและปรับปรุงอาคารผู้ โดยสารหลังแรกเพื่อให้เป็นอาคารผู้โดยสารต่าง ประเทศ สัญญาเริ่มวันที่ 8 เมษายน 2556 สิ้นสุด สัญญาวันที่ 8 พฤศจิกายน 2558 ปัจจุบันมีความ ล่าช้า 19% ซึ่งเกิดจากการก่อสร้างส่วนฐานราก และขาดแคลนแรงงาน ทั้งนี้อาคารสองหลังจะขอ ต่อเติมทางเชื่อมทางเดินผู้โดยสาร 2 อาคารเข้าหา กัน นอกจากนีย้ งั มีแผนก่อสร้างลานจอดเครือ่ งบิน และลานจอดรถเพิ่มเติมอีก โดยที่ผ่านมามีเที่ยวบินจากต่างประเทศ แบบบินประจำ�และเช่าเหมาลำ�เข้ามาบ้าง ทำ�ให้ ช่วงหลายปีทผี่ า่ นมาเติบโตต่อเนือ่ ง จากปี 2551 มีผู้ โดยสาร 660,361 คน ปี 2554 เป็นต้นมามีผโู้ ดยสาร มากกว่า 1 ล้านคน ปี 2555 มี 1,184,449 คน ปี 2556 มี 1,325,105 คน คาดว่าปี 2557 จะมีเพิ่มขึ้นกว่า 15% หรือมีผู้โดยสาร 1,523,870 คน โดยขณะนี้มี เครื่องบินขึ้นลงท่าอากาศยานอุดรธานี 18 เที่ยว บินต่อวัน คาดว่าเมื่ออาคารผู้โดยสารก่อสร้างแล้ว เสร็จ จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีกปีละ 300,000 คน

สนใจพื้นที่โฆษณา ติดต่อ คุณสุพัตรา โทร. 08-1545-5594

E-mail :

thaisaeree@gmail.com thaisaeree@yahoo.com


หน้า 12

ปีที่ 12 ฉบับที่ 126 ประจำ�เดือนตุลาคม 2557

ที่ปรึกษา พล.ต.ท.ศักดา เตชะเกรียงไกร, ดร.สมเกียรติ แพทย์คุณ, รศ.ดร.ธีระ ฤทธิรอด, ดร.อาทิตย์ ฉัตรชัยพลรัตน์, ฉัตร ศรีพันธุ์, สิทธิโชค บุญโท, พ.อ.สมศักดิ์ สงทามะดัน, พีระ วีระชัย, ยงยุทธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ต.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา สุพัตรา ศุขโข กองบรรณาธิการ เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,

ประคอง หนูราช,พันธ์ศักดิ์ วีระชัย,เสริมศักดิ์ ขาวโกมล สำ�นักงาน 76 ม.20 ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 โทรศัพท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย 78 หมู่ 4 ถนนเฉลิมพระเกียรติ์ ต.เมือง อ.เมือง จ.หนองคาย 43000 ที่ปรึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอื้อดีไซน์ 08-3417-0363


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.