ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 �เดือนตุ “ครัประจำ ว โนนทั น ”ลาคม ต้ น ตำ2558 � รั บ อาหารอี ส าน
หน้า 1 ปลานํ้ า โขง สำ � รองโต๊ ะ ที่ 098-663-7813 / 081-2602751
ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 ประจำ�เดือนตุลาคม 2558 ราคา 10 บาท
ขานรับ“สมคิด”ฟืน้ เศรษฐกิจ ชีก้ ระตุน้ ศก.ควรทำ�เมือ่ จำ�เป็น สร้างSMEsให้เข้มแข็งอยูไ่ ด้ ยินดี นายกสมาคมฮากกา ขอนแก่น คนใหม่ ; นายหลี่ หมิง กัง กงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ,ผูน้ �ำ 23 องค์กรจีนขอนแก่น และนักธุรกิจในจังหวัดขอนแก่น พร้อมสมาชิกชาวฮากกาในพืน้ ทีจ่ งั หวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมแสดงความ ยินดีกบั นายสัญชัย ชินจตุรภัทร กรรมการผูจ้ ดั การ ห้างสรรพสินค้า เซ็นโทซ่า ขอนแก่น ในโอกาสรับตำ�แหน่ง นายกสมาคมฮากกา ขอนแก่น พร้อมกันนี้ยังได้จัดกิจกรรม เทศกาล “วันไหว้พระจันทร์” ณ โรงแรมเจริญธานี ขอนแก่น เมือ่ วันที่ 27 กันยายน 2558
แอร์เอเชียเปิด3เส้นทางบินใหม่ ดั น ท่ อ ง เ ที่ ย ว พั ท ย า เ ต็ ม ที่
แอร์เอเชียเปิด 3 เส้นทางบินใหม่ จากอู่ตะเภาสู่ มาเก๊า สิงคโปร์ และอุดรธานี หลังได้รับการตอบ รับอย่างดี จากเปิดบินอู่ตะเภา-หนานหนิง และ อู่ตะเภา-หนานชาง มั่นใจดึงตลาดจีนเที่ยวภาค อ่านต่อหน้า 2 ตะวันออกเพิ่มขึ้น
มหกรรม MONEY EXPO OSONTHANI 2015 ; ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายก รั ฐ มนตรี ฝ่ า ยเศรษฐกิ จ เป็ น ประธานเปิ ด งานมหกรรมการเงิ น Money Expo Udonthani 2015 ครัง้ ที ่ 3 โดยมีนายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี และผูบ้ ริหารจากสถาบันการเงิน บริษทั องค์กร ภาครัฐ และเอกชน ร่วมพิธี เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2558 ที่ห้องอุดรธานีฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี
DITPโรดโชว์ เ ฟ้ น หา อุ บั ติ เ ห ตุ ดี ไ ซน์ เ นอร์ ไ ทยโกอิ น เตอร์ ขอนแก่ น พุ่ ง ตั้งกล้องตรวจ จัเล็งบใช้กความเร็ ว ล้องจับความเร็วและ “แสนสิ ริ ” โอ่ ก ระแส นักธุรกิจเมืองหมอแคน ขานรับ แนวคิด“สมคิด”ฟืน้ ฟูเศรษฐกิจ ระดับล่าง หวั่นหากให้มากไป เกรงเกิดผลเสีย สร้างหนี้เพิ่ม ขึ้น กระตุ้นไปไม่คุ้มค่า ต้อง สร้างแรงจูงใจ ความเข้มแข็งให้ กับสินค้า SMEs มากขึ้น เพื่อ ให้ยืนระยะยาวได้ อ่านต่อหน้า 11
จันจิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์
ออกใบสัง่ อัตโนมัติ คุมความเร็ว ตอบรับล้น ยันพร้อม รถช่ ว งผ่ า นเมื อ ง 14 กม. ส่ ง มอบภายในปี นี้ ต้องไม่เกิน 60-80 กม./ชม. เปิดแล้ว“เดอะเบส ไฮท์ –มิตรภาพ หลั ง อุ บั ติ เ หตุ บ นถนนใน ขอนแก่น” คอนโดมิเนียมสูงที่สุดใน จ.ขอนแก่นสูงขึ้น เฉลี่ยวัน เมืองขอนแก่น มูลค่ากว่า 2,100 ล้าน ชูจดุ เด่นทำ�เลทอง ติดห้างเซ็นทรัล ละ 100 ราย เตือนตั้งแต่ 1 บาท วทัศน์ได้ทวั่ เมืองขอนแก่น มัน่ ใจ พฤศจิกายนนี้ ตรวจจับปรับ มองทิ พร้ อ มโอนและส่ ง มอบห้ อ งได้ ค รบ อ่านต่อหน้า 11 จริงทุกราย ภายในปีนี้แน่นอน อ่านต่อหน้า 2
กรมส่งเสริมฯ มั่นใจอุตสาหกรรม แฟชั่นไทยยังไม่วิกฤต เดินสาย โรดโชว์ ช วนนั ก ออกแบบและผู้ ประกอบการ เข้าร่วมงาน ‘BIFF &BIL 2016’ โชว์ศักยภาพเครื่อง นุ่งห่ม เครื่องหนังไทย ตั้งเป้ า มู ล ค่ า ซื้ อ ขายในงาน ไม่ ตํ่ า กว่ า 2,000 ล้านบาท อ่านต่อหน้า 11
มั น นี่ เ อ็ ก ซ์ โ ปอุ ด รสุ ด คึ ก สวนกระแสศก.ที่ ซ บเซา เงิ น สะพั ด กว่ า 11,000ล. สถาบั น การเงิ น บริ ษั ท ประกั น บล.บลจ.แห่ สร้ า งกู๊ ด วิ ว เปิ ด บู ท จั ด โปรโมชั่ น ลดแลกแจก แถม ในงาน Money Expo Udonthani 2015 เม็ดเงินสะพัดทัว่ ภาคอีสานบนกว่า 11,000 ล้านบาท สินเชื่อSMEsพุ่งทะลุ 5,000 ล้านบาท แซงสินเชื่อบ้านเป็นครั้งแรก อ่านต่อหน้า 11 อ่านต่อหน้า 11
หน้า 2
ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 ประจำ�เดือนตุลาคม 2558
อุบัติเหตุขอนแก่น • ต่อจากหน้า 11 ที่ติดกับเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น นอกจากนี้ยัง ตรวจจับปรับจริงแน่ นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำ�นวยการศูนย์ ความร่วมมือขององค์การอนามัยโลก (WHO) ด้าน การป้องกันอุบัติเหตุ เปิดเผยว่า โครงการเขตขับขี่ ปลอดภัย 14 กิโลเมตร โดยการควบคุมความเร็ว รถด้วยกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติบนถนน มิตรภาพ ในเขตเมืองขอนแก่น ขณะนี้คืบหน้ามาก อุปกรณ์กล้องตรวจจับพร้อมระบบควบคุมได้จัด ซื้อครบหมดแล้ว อยู่ระหว่างงานโครงสร้างติดตั้ง กล้อง ติดตัง้ ระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ภายในห้อง ควบคุม จัดทำ�ป้ายเตือนเขตตรวจจับความเร็ว และ แผนงานประชาสัมพันธ์ให้สงั คมรับทราบในวงกว้าง สาเหตุที่นำ�โครงการเขตขับขี่ปลอดภัย 14 กิโลเมตรฯ มาใช้นนั้ เพราะต้องการควบคุมความเร็ว รถยนต์ช่วงขับผ่านเขตเมืองขอนแก่น ให้รถทุกคัน ต้องลดความเร็วลงไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชัว่ โมง และ 80 กิโลเมตร/ชัว่ โมง เนือ่ งจากความเร็วรถยนต์มผี ล ต่อความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ และระดับความสูญเสีย ยิ่งใช้ความเร็วสูงจะเพิ่มความเสี่ยงและความเสีย หายต่อทรัพย์สินและชีวิต จึงต้องลดความเร็วเพื่อ ความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน โดยเฉพาะถนนมิ ต รภาพนั้ น เสี่ ย งเกิ ด อุ บั ติ เ หตุ ม าก มี ทั้ ง รถทางไกลที่ ต้ อ งการความ สะดวกรวดเร็ว ขับผ่านช่วงตัวเมืองที่ขยายตัวมาก แต่ ก็ มี ร ถท้ อ งถิ่ น ที่ ขั บ ช้ า มาสั ญ จรบนถนนเส้ น เดียวกัน จึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง กว่าถนนสายอื่น จำ�เป็นต้องควบคุมความเร็วรถ ลง ตามกฎหมายอัตราควบคุมความเร็วรถในเขต เมืองดังกล่าว “สถิตอิ บุ ตั เิ หตุบนท้องถนนใน จ.ขอนแก่น ณ ปัจจุบันสูงกว่าวันละ 100 รายแล้ว มีผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุเฉลี่ยสูงถึง 1.5 คน/วัน ขณะที่ภาพ รวมปัญหาอุบัติเหตุพบว่าประเทศไทยมีอัตราการ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกจากทั้งหมด 193 ประเทศทั่วโลก รองจาก ประเทศนามิเบีย โดยอัตราการเสียชีวิตอุบัติเหตุ ของไทยอยูท่ ี่ 44 รายต่อประชากร 100,000 คน ส่วน นามิเบียอยู่ที่ 45 ราย ที่สำ�คัญอุบัติเหตุเป็นสาเหตุ การเสียชีวิตของคนไทยมากกว่าโรคภัยไข้เจ็บอีก ด้วย” นพ.วิทยา กล่าว สำ � หรั บ การดำ � เนิ น งานตามโครงการดั ง กล่ า ว จะรณรงค์ ใ ห้ ร ถที่ ขั บ ผ่ า นถนนมิ ต รภาพ เขตเมืองขอนแก่น 14 กิโลเมตร ต้องลดความเร็ว ทัง้ หมด ติดตัง้ กล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ คุม ความเร็วไม่เกิน 60 และ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้ง มีระบบออกใบสั่งอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง โดย กล้องจะบันทึกภาพรถที่วิ่งเร็วเกินกำ�หนด บอก ลักษณะตัวรถ ทะเบียน สามารถใช้เป็นข้อมูลออก ใบสัง่ เจ้าของรถทีฝ่ า่ ฝืนได้ โดยจะตรวจจับปรับจริง ได้ตามเป้าหมายภายในวันที่ 1 พ.ย. 58 นี้ ซึง่ จะติดตัง้ กล้องตรวจจับความเร็วทัง้ หมด 12 ตำ�แหน่ง ตลอดระยะทาง 14 กิโลเมตร จากจุด ตัดถนนมิตรภาพกับทางเลี่ยงเมืองขอนแก่นด้าน ทิศเหนือ ไปจดจุดตัดทางเลีย่ งเมืองทิศใต้ ทัง้ นี้ เมือ่ เข้าสู่เขตควบคุมความเร็วรถจะมีป้ายเตือนผู้ขับขี่ ทราบเป็นระยะให้ลดความเร็วรถไม่เกินอัตราที่ กำ�หนด
แสนสิริ
• ต่อจากหน้า 2
นายอุ ทั ย อุ ทั ย แสงสุ ข รองกรรมการผู้ จั ด การอาวุ โ ส สายงานพั ฒ นาธุ ร กิ จ และพั ฒ นา โครงการ คอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำ�กัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการคอนโดมิเนียม “เดอะ เบส ไฮท์ - มิตรภาพ ขอนแก่น” ใช้งบประมาณ ในการสร้างกว่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ 100% พร้อมเข้าอยู่อาศัย และลงทุนปล่อยเช่า ซึ่ง ให้อัตราผลตอบแทนในการปล่อยเช่า 6-7% ทั้งนี้ โครงการได้ รั บ การตอบรั บ ที่ ดี ม าก ปิ ด การขาย อย่างรวดเร็ว จำ�นวนถึง 983 ยูนิต ภายในวันพรี เซลล์ โดยทีม่ าของความสำ�เร็จคือ จุดแข็งด้านทำ�เล
แวดล้อมด้วยสถานที่สำ�คัญต่างๆ มากมาย อาทิ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โรงพยาบาลขอนแก่น ราม เป็นต้น รวมทั้งการเดินทางสะดวกสบายด้วยเส้น ทางหลักทีส่ �ำ คัญบนถนนมิตรภาพ ซึง่ สามารถเดิน ทางเข้าสู่ตัวเมือง ศูนย์ราชการ สนามบิน หรือ ไป ยังจังหวัดใกล้เคียงได้อย่างสะดวกกรวดเร็ว ทำ�ให้ เดอะ เบส ประสบความสำ�เร็จปิดการขายได้อย่าง รวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ “โครงการเดอะ เบส ไฮท์ - มิ ต รภาพ ขอนแก่น สร้างเสร็จสมบูรณ์ โดยลูกค้ากว่า 90% ของจำ�นวนลูกค้าที่เข้ามาตรวจรับมอบห้องพัก อาศัยได้ลงนามรับมอบห้อง ซึ่งแสดงถึงความพึง พอใจและความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแสนสิริ จากความตั้งใจและใส่ใจในรายละเอียดของการ พัฒนาโครงการที่มีการออกแบบให้เหมาะกับการ ใช้สอยใน 2 รูปแบบ อาทิ ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้อง นํ้า พื้นที่ใช้สอย 29.00-31.50 ตร.ม. และขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องนํา้ พืน้ ทีใ่ ช้สอย 58.50-65.00 ตร.ม. และพร้อมในการส่งมอบโครงการที่สมบูรณ์แบบ จากแสนสิริ ให้กับลูกค้าแล้วตั้งแต่วันนี้ และมัน่ ใจ ว่าจะสามารถส่งมอบห้องได้ครบภายในปีนไี้ ด้อย่าง แน่นอน เพือ่ ให้ลกู ค้าได้เข้าอยูอ่ าศัยในโครงการทีม่ ี คุณภาพได้ทันตรงตามกำ�หนดเวลา เป็นแนวทาง หลักที่แสนสิริยึดมั่นและใส่ใจมาโดยตลอดในการ พัฒนาโครงการของแสนสิริทั่วประเทศ ส่งผลให้ ลูกค้าไว้วางใจและเชื่อมั่นในโครงการ อย่างไรก็ ดี ในปัจจุบันโครงการของแสนสิริที่เปิดขายอยู่ที่ ขอนแก่น มี 2 โครงการ คือ คอนโดมิเนียม เดอะ เบส เทพารักษ์-ขอนแก่น และบ้านเดีย่ ว บุราสิริ บึง หนองโคตร ซึง่ ได้รบั การตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อ เนื่องเช่นกัน” นายอุทัย กล่าว สำ � หรั บ สถานการณ์ ต ลาดที่ อ ยู่ อ าศั ย จั ง หวั ด ขอนแก่น นายอุทยั เปิดเผยว่า แม้ทผี่ า่ นมาเศรษฐกิจ ขอนแก่นจะชะลอตัวเพราะเกิดปัญหาด้านความ เชื่อมั่นจากการชะลอโครงการต่างๆ แต่ปัจจุบัน ได้ รั บ ปั จ จั ย บวก จากโครงการรถไฟรางคู่ สาย บ้านไผ่ - นครพนม ซึ่งเชื่อมต่อหลายจังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม-ร้ อ ยเอ็ ด -มุ ก ดาหาร-นครพนม มี กำ�หนดสร้างเสร็จในปี 2562 นับว่าเป็นปัจจัยบวก ที่จะมาช่วยด้านระบบโลจิสติกส์ ที่ช่วยขับเคลื่อน เศรษฐกิจขอนแก่นให้ดียิ่งขึ้น ประกอบกับการได้ รับปัจจัยบวกจากการสนับสนุนนโยบายกระตุ้น เศรษฐกิจของภาครัฐ ที่จะช่วยกระตุ้นการจับจ่าย ใช้สอยของประชาชน รวมถึงมาตรการส่งเสริม ภาคการท่องเที่ยว ที่เอื้อต่อโอกาสที่ชาวต่างชาติ จะเข้ามาซื้อโครงการ เพื่ออยู่อาศัยและลงทุนมาก ขึ้น จึงคาดว่าสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ของขอนแก่นโดยรวมมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้น ในอนาคต เดอะ เบส ไฮท์ - มิตรภาพ ขอนแก่น มีพนื้ ที่ ประมาณ 4 ไร่ ติดถนนมิตรภาพ เป็นคอนโดมิเนียม สูง 36 ชั้น มีอาคารจอดรถสูง 6 ชั้น โดยอาคาร ออกแบบให้มีเส้นสายแนวตั้ง และใช้โทนสีเทา ที่แสดงออกถึงความมุ่งมั่นและหนักแน่น พร้อม เปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับชีวิตด้วยการออกแบบ ห้องกระจกให้ยื่นออกมาจากตัวอาคาร ให้เห็นวิว สวยของเมืองขอนแก่นได้โดยรอบ พร้อมสิง่ อำ�นวย ความสะดวกครบครัน Lobby ขนาดใหญ่สูง 3 ชั้น โดดเด่นด้วย ส่วนพื้นและบันไดที่มีการใส่ใจในรายละเอียดด้วย การคัดสรรวัสดุพื้นหินอ่อนนำ �เข้าจากประเทศ อิตาลีมาตกแต่งได้อย่างปราณีตวิจิตรบรรจง สร้าง ความเรียบหรู และงดงาม พร้อมห้องสมุดภายใน สระว่ายนํ้าบนดาดฟ้าชั้น 35 พื้นที่พักผ่อนที่จัด เป็นสวนขนาดใหญ่ สนามฟุตซอล ห้องประชุม อเนกประสงค์ ห้องออกกำ�ลังกายพร้อมอุปกรณ์ มาตรฐาน อินเตอร์เน็ตไร้สาย สำ�หรับโถงต้อนรับ พร้อมเจ้าหน้าทีร่ กั ษาความปลอดภัย รวมทัง้ ระบบ โทรทัศน์วงจรปิด 24 ชั่วโมง และพื้นที่จอดรถ สำ�หรับผู้พักอาศัย
ดู ง า น ป ลู ก ห ม่ อ น เ ลี้ ย ง ไหม ; นาย ธเนตร จั น ทร์ เทศ ผอ.ศู น ย์ ห ม่ อ น ไ ห ม เฉลิมพระเกียรติ ส ม เ ด็ จ พ ร ะ นางเจ้ า สิ ริ กิ ติ์ พระบรม ราชิ นี น าถ ร่ ว ม แสดงความยินดี และให้การต้อนรับ คุณ กลมลี จันทะวง ผอ.บริษัท ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เชียงขวาง จำ�กัด สปป.ลาว ได้รบั รางวัลแมกไซไซ สาขาพัฒนาสังคมหม่อนไหมและทอผ้าไหม ในโอกาสนำ�คณะเดินทางมาดูงาน ไหมในพื้นที่ภาคอีสาน โดยมี นายศุภชัย กมลทิพย์ นักวิชาการให้คำ�แนะนำ� เมื่อเร็วๆ นี้
หมู่บ้านรวยสุข 428/17 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ออกแบบ/ผลิต
ป้ายไวนิล ป้ายโฆษณา ธงญี่ปุ่น สติ๊กเกอร์ นามบัตร
ใบปลิว การ์ด แผ่นพับ โปสเตอร์ สื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ติดต่อ ยิ้ม 0834170363 E-mail : smile7738@gmail.com
ดู แ ลหั ว ใจให้ แ ข็ ง แรง ในวั น หั ว ใจโลก มูลนิธิหัวใจดี ร่วมกับ แอ็บโซลูทเฮลธ์ ขอนแก่น จัดกิจกรรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพในรูป แบบมินิมาราธอน พร้อมเผยแพร่ความรู้ในการ รณรงค์ให้ประชาชนได้รจู้ กั การรักษาดูแลสุขภาพ หั ว ใจและโรคหลอดเลื อ ด เพื่ อ เป็ น ภู มิ คุ้ ม กั น อวัยวะภายในร่างกายให้แข็งแรงลดอัตราเสี่ยง ต่อการเป็นโรคภัยเนื่องในโอกาส “วันหัวใจโลก” โดยมี นายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รองผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานเสวนา “กิน อย่างไร ให้หวั ใจแข็งแรง” เมือ่ วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๘ ณ โรงแรมโฆษะ อ.เมือง จ.ขอนแก่น อาจารย์บุญมา ทวิภักดิ์ ประธานมูลนิธิ หัวใจดี เปิดเผยว่า สาเหตุการป่วยและการเสีย ชีวิตของประชากรไทยในอันดับต้นๆ พบว่ามี อัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลของ กระทรวงสาธารณสุข ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๕๔๒๕๕๖ พบว่าอัตราตายด้วยโรค หัวใจและหลอด เลือดต่อประชากร 100,000 คน มีผู้เสียชีวิตด้วย โรคหัวใจและหลอดเลือด จำ�นวน 54,530 คน เฉลี่ยเสียชีวิตวันละ ๑๕๐ คน หรือเฉลี่ยชั่วโมง ละ ๖ คน โดยสาเหตุของโรคนี้เกิดจาก วิถีชีวิต และพฤติกรรมการรับประทานทีไ่ ม่ถกู ต้องเหมาะ สม รับประทานอาหารไม่สมดุลกับความต้องการ ของร่างกาย รวมทัง้ การรับประทานอาหารทีม่ รี ส
หวาน มัน เค็ม รับประทานผักผลไม้น้อย และไม่ ออกกำ�ลังกาย รวมทัง้ ใช้เครือ่ งอำ�นวยความสะดวก มากขึ้น ทำ�ให้มีกิจกรรมทางกายน้อยลง การพัก ผ่อนไม่เพียงพอ ประกอบกับการสูบบุหรี่ และการ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงด้าน พฤติกรรมสุขภาพ ส่งผลให้เกิดภาวะนํ้าหนักเกิน พอดี ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นทีม่ า ของโรคเบาหวาน และนำ�ไปสู่การเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดที่เป็นปัญหาสาธารณสุขระดับ ประเทศ อาทิเช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอด เลือดสมองใหญ่ (อัมพฤกษ์ อัมพาต) ซึง่ เป็นสาเหตุ การป่วยและการเสียชีวิตในที่สุด สมาพั น ธ์ หั ว ใจโลก (World Heart Federation) กำ�หนดวันรณรงค์ “หัวใจโลก” พร้อม กันในวันที ่ ๒๙ กันยายน ของทุกปี เพือ่ ให้เกิดการ มีสว่ นร่วมในทุกภูมภิ าคทัว่ โลก เพือ่ ก้าวสูก่ ารเป็น สากล อีกทั้งให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลใน การดูแลสุขภาพหัวใจทั้งของตนเองและบุคคลใน ครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน ซึ่งการมีสุขภาพ หัวใจทีด่ แี ละแข็งแรง สามารถเริม่ ต้นได้จาก ทีบ่ า้ น ซึ่งในวันหัวใจโลกได้ชูประเด็นในเรื่องบ้านที่ดีต่อ สุขภาพหัวใจ โดยการปรับเปลี่ยนให้เป็นบ้านที่มี สุขภาพของหัวใจที่แข็งแรง ซึ่งการเปลี่ยนแปลง เพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรค หัวใจและหลอดเลือดของคุณและครอบครัวได้
ดีแทค เปิดตัวโปรโมชัน่ ใหม่ ก ร ะ ตุ้ น ต ล า ด ส่ ง ท้ า ย ปี ลู ก ค้ า เ ปิ ด เ บ อ ร์ ใ ห ม่ แ ฮ ป ปี้ โดยเฉพาะเลื อ กรั บ สิ ท ธิ์ สุ ด คุ้ ม “ โ ท ร ฟรี400นาที หรือ เล่น เน็ ต ฟรี 4 GB” หวั ง กระตุ้นตลาดพรีเพด ส่งท้ายปี แ ฮ ป ปี้ ห วั ง ข ย า ย ฐ า น ลู ก ค้ า ทั่ ว ประเทศ พร้ อ ม กระตุ้ น ตลาดพรี เ พดให้ คึ ก คั ก ในช่ ว งไตรมาส สุดท้าย ตอกยํ้าวิสัยทัศน์ดีแทค “Internet for all”เ ปิดตัวโปรโมชัน่ ใหม่ลา่ สุดให้ลกู ค้าทีเ่ ปิดเบอร์ใหม่ เลือกรับโทรฟรี400นาที หรือ เล่นเน็ตฟรี4GB เพือ่ ตอบโจทย์ ก ารใช้ ง านและเข้ า ถึ ง ความต้ อ งการ อิ น เทอร์ เ น็ ต ของลู ก ค้ า ในปั จ จุ บั น ให้ ลู ก ค้ า ได้ สัมผัสประสบการณ์ทเี่ หนือกว่ากับเทคโนโลยี4G| 3G บนดีแทค รายเดียวในประเทศ ที่มี 3 โครงข่าย อัจฉริยะ ซึ่งประกอบไปด้วย 3 คลื่นความถี่ ได้แก่ คลื่น 1800 MHz, 850 MHz และ 2100 MHz ที่ ทำ�ให้ลูกค้าสามารถติดต่อสื่อสารได้ดียิ่งขึ้นด้วย ความคมชัดของสัญญาณที่มีประสิทธิภาพการใช้ งานที่เพิ่มมากขึ้น คุยได้ชัดกว่า เล่นอินเทอร์เน็ต บนมือถือได้อย่างต่อเนือ่ งแรงเต็มสปีด คุม้ ค่าสุดๆ
กับโปรโมชัน่ ทีใ่ ห้ลกู ค้าเปิดเบอร์ใหม่สามารถกด เลือกรับสิทธิ์ โทรเบอร์ดีแทค 400 นาที ฟรี! กด รับสิทธิ์ โทร*103*889# จะได้รบั สิทธิโ์ ทรเบอร์ดี แทคฟรี 100 นาที ใช้ได้นาน 7 วัน เมือ่ เติมเงินครบ 150 บาทต่อเดือน (รับสิทธิ์นานสูงสุด 4 เดือน) หรือ เล่นอินเทอร์เน็ต 4 GB ฟรี! กดรับสิทธิ์ โทร*103*888# จะได้รับสิทธิประโยชน์ใช้งาน อินเทอร์เน็ตฟรี 1GB ใช้ได้นาน 7 วัน เมื่อเติม เงินครบ 150 บาทต่อเดือน (รับสิทธิ์นานสูงสุด 4 เดือน) ลูกค้าที่เปิดเบอร์ใหม่สามารถเลือกรับ สิทธิโ์ ทรฟรี400นาที หรือ สิทธิเ์ ล่นเน็ตฟรี4GB นี้ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 31ธันวาคม 2558 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac. co.th
เครือข่าย บก.นสพ.๔ ภาค รวมพลังปฏิรปู สือ่ เปิดสภาวิชาชีพสือ่ มวลชนภูมภิ าคแห่งชาติ เครื อ ข่ า ยบรรณาธิ ก ารหนั ง สื อ พิ ม พ์ ๔ ภาคทั่วประเทศ เตรียมเปิดตัวองค์กร “สภา วิชาชีพสื่อมวลชนภูมิภาคแห่งชาติ” ภายใต้ชื่องาน “ร่วมเจตนารมณ์ สนภช.”ศ.ดร.จรัส, อลงกรณ์, ไพบูลย์ และผอ.นสพ.สงขลา ร่วมอภิปรายหัวข้อ “นักหนังสือพิมพ์ควรหวังอะไรในรัฐธรรมนูญ ใหม่ ” ๑๘ ตุ ล าคมนี้ ณ คณะนิ เ ทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หวังเป็นแนวทางปฏิรูป สื่อให้สอดคล้องกับบริบทสังคมไทยและยกระดับ จริยธรรมของหนังสือพิมพ์ภูมิภาค เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๘ นายสุนทร จันทร์รังสี ผู้บุกเบิกหนังสือพิมพ์โคราชคนอีสาน ในฐานะประธานสภาวิ ช าชี พ นั ก หนั ง สื อ พิ ม พ์ ภูมิภาคแห่งชาติ(สนภช.) เปิดเผยว่า ท่ามกลาง กระแสปฏิรปู ประเทศ การปฏิรปู สือ่ ก็เป็นเป้าหมาย หนึง่ เพราะสือ่ มีสว่ นสำ�คัญอย่างยิง่ ต่อความเป็นไป และอนาคตของชาติ ดังนั้น การร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ และการจัดทำ�กฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึ ง ต้ อ งเปิ ด เวที ใ ห้ อ งค์ ก รและคนทำ � สื่ อ นั่ น คื อ เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะ ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้ รวมตัวกันภายใต้องค์กร “เครือข่ายบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ ๔ ภาค” ประกอบด้วย ภาคเหนือ, ภาคอีสาน, ภาคใต้, ภาคกลางและภาคตะวันออก ดำ�เนินการมาเป็นเวลากว่า ๑๐ ปีแล้ว ล่าสุดจึงมี มติร่วมกันขับเคลื่อนสนับสนุนการปฏิรูปสื่อครั้ง นี้ ภายใต้ชอื่ องค์กร “สภาวิชาชีพสือ่ มวลชนภูมภิ าค แห่งชาติ (สนภช.)” “ทั้ ง นี้ สภาวิ ช าชี พ สื่ อ มวลชนภู มิ ภ าค แห่ ง ชาติ หรื อ สนภช. ได้ ก่ อ ตั ว ขึ้ น เมื่ อ เดื อ น มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๘ หลังจากได้กำ�หนดไว้ใน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับทีผ่ า่ นมาเพือ่ จะให้ได้แนวทาง ปฏิ รู ป สื่ อ ที่ ส อดคล้ อ งกั บ บริ บ ทสั ง คมไทยและ สอดคล้องกับสถานภาพของหนังสือพิมพ์ภูมิภาค
อั น จะเกิ ด ประโยชน์ สู ง สุ ด ภายใต้ น โยบายของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยมุ่งส่ง เสริมและควบคุมจริยธรรม ภายใต้การแนะนำ�ของ รศ.จุมพล รอดคำ�ดี อดีตประธานคณะกรรมาธิการ การปฏิ รู ป สื่ อ สารมวลชนและเทคโนโลยี สภา ปฏิรูปแห่งชาติ” นายสุ น ทร กล่ า วถึ ง การจั ด งานเปิ ด ตั ว สภาวิชาชีพสื่อมวลชนภูมิภาคแห่งชาติ (สนภช.) ว่า สนภช.ผ่านการประชุมในภูมิภาคต่างๆ ทั่ว ประเทศ รวม ๙ ครั้ง ผ่านความเห็นชอบในการ กำ�หนดธรรมนูญและระเบียบข้อบังคับจึงกำ�หนด จะเปิดตัวองค์กรให้สาธารณชนได้รับทราบเป็น ทางการในวั น อาทิ ต ย์ ที่ ๑๘ ตุ ล าคม ๒๕๕๘ ระหว่างเวลา ๑๓.๓๐-๑๖.๓๐ น. ณ ห้องประชุม ชัน้ ๑๑ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่ ง เป็ น วั น พระราชสมภพของพระบาทสมเด็ จ พระจอมเกล้ า เจ้ า อยู่ หั ว พระบรมราชบิ ด าแห่ ง นิเทศศาสตร์ โดยให้ชื่องานนี้ว่า “ร่วมเจตนารมณ์ สนภช.” พร้ อ มทั้ ง การอภิ ป รายในหั ว ข้ อ “นั ก หนังสือพิมพ์ควรหวังอะไรในรัฐธรรมนูญใหม่” นำ�โดย ศ.ดร.จรัสสุวรรณมาลา อดีตสมาชิกสภา ร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ๒๕๕๐ อดีตกรรมาธิการ ยกร่างรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๘ และอดีตคณบดีคณะ รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สรรหา และ อดี ต สมาชิ ก สภาปฏิ รู ป แห่ ง ชาติ (สปช.), นาย อลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคนที่ ๑ สภาขับ เคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และนายภูว สิษฐ์ สุกใส ผูอ้ �ำ นวยการหนังสือพิมพ์ภาคใต้ โฟกัส โดยมีนายเจริญลักษณ์ เพชรประดับ ผู้อำ�นวยการ หนังสือพิมพ์อสี านบิซวีค จ.ขอนแก่น เป็นผูด้ �ำ เนิน รายการ จึงขอเชิญชวนนิสิต/นักศึกษา สื่อมวลชน และประชาชนทีส่ นใจเข้าร่วมงานพร้อมรับฟังการ อภิปรายตามวันและเวลาดังกล่าว
อาทิ การคัดเลือก อ า ห า ร ที่ ดี ต่ อ สุขภาพหัวใจมา เก็บไว้ที่บ้าน ลด บริ โ ภคอาหาร สำ � เร็ จ รู ป ที่ มั ก จะมี ส่ ว นประ กอบของนํ้าตาล เกลือ และไขมัน ในปริ ม าณ หั น มารั บ ประทาน ผักสด ผลไม้สด สลับขนมหวาน เตรี ย มอาหารเพื่ อ สุ ข ภาพในการรั บ ประทานที่ โรงเรียนหรือเป็นอาหารกลางวันในที่ท�ำ งาน การ ห้ามสูบบุหรี่ในบ้านเพื่อผลดีต่อสุขภาพของทุก คนในครอบครัวด้วยการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การปั่นจักรยาน เล่นบอล หรือการเดินเล่นในสวน การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ของตนเอง การเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำ�ปี เพื่อประเมินภาวะสุขภาพและระดับความเสี่ยง ประธานมูลนิธิหัวใจดี กล่าวต่อไปว่า การ จัดกิจกรรมเนื่องในโอกาส World Heart Day วัน หัวใจโลกที่จังหวัดขอนแก่น นอกจากการแข่งขัน เดิน-วิ่ง มินิมาราธอนเพื่อสุขภาพหัวใจดี๊ดีแล้ว ยัง
มีเสวนาเพื่อสุขภาพเรื่อง “กินอย่างไร ให้หัวใจ แข็งแรง” จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แอ็บโซลูท เฮลธ์ กรุ๊ป นายแพทย์วิทย์ สมบัติวรพัฒน์ หรือการ เสวนาเรื่อง “ทำ�อย่างไรให้หัวใจดี๊ดี” โดยนาย แพทย์ฉัตรชัย ศรีบัณฑิต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน การแพทย์บรู ณาการ CEO Absolute Health Group ร่วมกับดารานักแสดง คุณจิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะ นันท์ และยังมีความรู้เรื่องสัญญาณเตือนภัยเกี่ยว กับโรคหัวใจจาก นายแพทย์กิตต์ เชื้อเพชรโสภณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แอ็บโซลูท เฮลธ์ กรุ๊ป และยัง ได้สังสรรค์เสวนาสุขภาพ Health Hingh แบบ สนุกสนานกับ คุณอาภาพร นครสวรรค์ อีกด้วย
ตลาดเบอร์เสริมชีวิต “รุ่งเรือง มั่งคั่ง”
เอไอเอส ครอง ผู้ นำ � ตลาดเบอร์ เ สริ ม ชีวิต ยอดขายพุ่งกว่าแสน เบอร์ ล่าสุด! เปิดตัวเบอร์ ในหมวดใหม่ “รุ่ ง เรื อ ง มั่ ง คั่ ง ”เอาใจลู ก ค้ า ที่ ชื่ น ชอบเลขเสริมชีวิต เอไอเอส ตอกยํ้ า ผู้นำ�ด้านเบอร์เสริมชีวิต ที่ ครองใจลูกค้า ด้วยยอดขาย อันดับ 1 รวมกว่าแสนเบอร์ ล่าสุด! เปิดตัวเบอร์ เสริมชีวิตหมวดใหม่ “รุ่งเรือง มั่งคั่ง” ที่คัดสรร เป็นพิเศษโดย “แมน แมทจิเชียน” นักออกแบบ ตัวเลขอันดับ 1 ของเมืองไทย เอาใจลูกค้าเอไอ เอส รายเดือน ที่กำ�ลังมองหาเบอร์มือถือที่ช่วยส่ง เสริมความรุ่งเรือง ด้านการเงิน ธุรกิจ การค้า การ ลงทุน รวมทั้งยังเสริมพลังบวกครบทุกด้านของ ชีวิต และนอกจากนี้ ยังมีเบอร์เสริมชีวิตหมวด ต่างๆ ให้ลูกค้าเลือกตามใจชอบ ทั้งหมวดรํ่ารวย
รักรุง่ , งานเด่นปัญญาดี และสุขภาพดีงานเด่น ซึง่ ได้รับความนิยมจากลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ ส นใจสามารถเป็ น เจ้ า ของซิ ม เบอร์เสริมชีวิต “รุ่งเรือง มั่งคั่ง” ได้ที่เอไอเอส ช็ อ ป, ร้ า นเทเลวิ ซ และตั ว แทนจำ � หน่ า ยทั่ ว ประเทศ ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธ.ค. 58 ดูรายละเอียด เพิ่ ม เติ ม ได้ ที่ www.ais.co.th/3g-postpaid/ luckynumber
อุดรฯ คิก๊ ออฟต่อยอดกองทุน หมู่ บ้ า น 1505 กองทุ น เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2558 ที่ สำ�นักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดอุดรธานี นายณรงค์ พลละเอี ย ด รองผู้ ว่ า ราชการจังหวัด รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็น ประธานในพิธี สนับสนุนสินเชื่อ กองทุ น หมู่ บ้ า นและชุ ม ชนเมื อ ง ภายใต้ ม าตรการส่ ง เสริ ม ความ เป็นอยู่ระดับหมู่บ้านของรัฐบาล จำ�นวน 60,000 ล้านบาท โดยมี นายโกเมนทร์ โคตรศรีวงศ์ ผอ.ธ.ก.ส.สำ�นักงาน จังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้า หน้าที่ ธ.ก.ส.ทั้ง 22 สาขา ของจังหวัดอุดรธานี และประธานกองทุนหมู่บ้านร่วมในพิธี น า ย โ ก เ ม น ท ร์ โ ค ต ร ศ รี ว ง ศ์ ผอ.ธ.ก.ส.อุดรธานี กล่าวว่า ตามมติของ ครม. เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ได้เห็นชอบมาตรการ ส่งเสริมความเป็นอยูข่ องประชาชนผูม้ รี ายได้นอ้ ย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของ รัฐบาล เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ และเพื่ อ เป็ น การยกระดั บ คุ ณ ภาพชี วิ ต ของ ประชาชน กระจายการลงทุนลงไปในพื้นที่ และ ให้เกิดการพัฒนาท้องถิ่นและภูมิภาคอย่างทั่วถึง ได้ ม อบหมายให้ ธ นาคาร ธ.ก.ส.และ ธนาคารออมสิน เป็นหน่วยงานหลักในการดำ�เนิน มาตรการดังกล่าว ด้วยการสนับสนุนสินเชือ่ ให้กบั กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่มีการดำ�เนิน งานอยู่ในระดับ เอ และ บี กองทุนละ 1 ล้านบาท เป็นเงินงบประมาณ 60,000 ล้านบาททั่วประเทศ โดยให้การสนับสนุนกู้ได้รายละไม่เกิน 30,000 บาท ปลอดดอกเบี้ยเป็นเวลา 2 ปี ระยะชำ�ระคืน เวลา 7 ปี โดยในปีที่ 3-7 ทางธนาคารจะคิดดอกเบีย้ ในอัตราเท่ากับต้นทุนทางการเงิน (Financing Cost) บวกด้วยร้อยละ 1 ต่อปี สำ�หรับในจังหวัดอุดรธานี มีกองทุนฯที่ มีการดำ�เนินงานที่อยู่ในระดับ เอ.และ บี. จำ�นวน 1505 กองทุน ซึ่งเป็นของ ธ.ก.ส.จำ�นวน 759 กองทุน และอยู่ในความรับผิดชอบของ ธนาคาร ออมสินจำ�นวน 746 กองทุน ซึง่ สมาชิกกองทุนทีม่ ี
ภาระผูกพันหรือหนีส้ นิ อยูก่ บั กองทุน ไม่สามารถ ที่จะขอกู้เพื่อนำ�เอาไปใช้หนี้กองทุนเดิมที่มีอยู่ได้ นายณรงค์ พลละเอียด รักษาราชการแทน ผูว้ า่ ราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า โครงการดัง กล่าวนั้นถือว่าเป็นโครงการที่สร้างโอกาสทาง เศรษฐกิจให้แก่ประชาชนในระดับหมู่บ้านทั่ว ประเทศ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนหมุนเวียน เพิ่มเติมในการประกอบอาชีพ การใช้จ่ายในกรณี จำ�เป็นเพื่อการดำ�รงชีพ แก้ไขหนี้สินนอกระบบ เป็นการเพิ่มอำ�นาจทางการซื้อในภาคชนบท ขอให้กองทุนฯทุกแห่ง โดยเฉพาะคณะ กรรมการกองทุนฯ มีการตรวจสอบการดำ�เนิน งานของผู้รับผิดชอบในกองทุนฯแต่ละแห่งว่า มี การดำ�เนินการโปร่งใส ยุติธรรม และเป็นไปตาม วัตถุประสงค์ของรัฐบาลหรือไม่ และกล่าวเตือน อีกว่า มาตรการดังกล่าวของรัฐบาลถือว่าเป็น มาตรการทีต่ อ้ งการช่วยเหลือประชาชนทีฐ่ านราก ของประเทศอย่างแท้จริง จึงขอให้มีการพิจารณา ให้กู้แต่ในรายที่จะนำ�เอาไปใช้ประโยชน์เพื่อการ ค้าขาย ในท้องถิ่นอย่างแท้จริง และขอให้คณะ กรรมการกองทุนฯมีการติดตามดูแลเงินที่ให้กู้ ไป อย่าให้เกิดการทุจริตโดยเด็ดขาด หลังจากนัน้ ได้ท�ำ การมอบป้ายสนับสนุน สินเชื่อฯและปล่อยเงินให้กับตัวแทนของกอง ทุนๆละ 1 ล้านบาท จำ�นวน 12 แห่ง และได้ นำ� นายสุนันท์ อุตมะ ประธานกองทุนหมู่บ้าน ศรีเชียงใหม่ ต.นาดี อ.เมืองอุดรธานี ไปทำ�การ ทดลองกดดูยอดเงินของกองทุนฯว่ามียอดอยู่ จำ�นวนเท่าใด
หน้า 3
ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 ประจำ�เดือนตุลาคม 2558
วิกฤตหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
คงปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไปว่า เราได้ก้าวเข้า สู่ยุคนิยมสังคมออนไลน์แล้ว เพราะสื่อออนไลน์ มีความรวดเร็วและตอบสนองความต้องการของ คนรุน่ ใหม่ได้แบบตอบโจทย์ รวมทัง้ ไม่มคี า่ ใช้จา่ ย ในการซื้อหา ไม่จำ�เป็นต้องดูโฆษณา ส่ ง ผ ล ใ ห้ สื่ อ สิ่ ง พิ ม พ์ โ ด ย เ ฉ พ า ะ หนังสือพิมพ์ต้องทำ�งานหนักเพิ่มขึ้น เพราะนอกจากจะต้องขับเคี่ยวระหว่าง หนั ง สื อ พิ ม พ์ ด้ ว ยกั น แล้ ว ยั ง ต้ อ งขั บ เคี่ ย วกั บ อุตสาหกรรมสื่ออื่นๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ และ อินเทอร์เน็ต ฯลฯ หนั ง สื อ พิ ม พ์ ที่ จ ะยื น หยั ด ต้ า นกระแส เศรษฐกิ จ อยู่ ไ ด้ และได้ รั บ ความนิ ย ม จึ ง ต้ อ ง สะท้อนความเป็นสากล มีความรอบด้าน ลึกซึ้ง เป็นกลาง และเสนอข่าวแบบเจาะลึก ในขณะที่ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เกิดมา จากจิตสำ�นึกของคนท้องถิ่นที่มุ่งแสวงหาความ ถูกต้องในฐานะทีเ่ ป็นส่วนหนึง่ ของสังคมท้องถิน่ นัน้ เพือ่ ใช้เป็นสือ่ กลางในการถ่ายทอดเหตุการณ์ ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในรูปแบบข่าว บทความ ที่วิจารณ์เหตุการณ์หรือปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ คนในท้องถิน่ ได้รบั รู้ และรวมไปถึงการมีสว่ นร่วม ในการแก้ปัญหาหรือเสนอความคิดเพื่อเป็นการ พัฒนาท้องถิ่น ปัญหาและอุปสรรคทีเ่ ป็นตัวชีข้ าด ในการ ที่จะทำ�ให้หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นยังคงอยู่ได้หรือ
ไม่นั้นขึ้นอยู่กับรายได้หลัก 2 อย่างคือ รายได้จาก การจำ�หน่ายหนังสือพิมพ์ และรายได้จากการลง โฆษณาจากบริษัทห้างร้านที่จะให้การสนับสนุน มากหรือน้อยเพียงใด ก็ขนึ้ อยูก่ บั ความเชือ่ มั่นที่มีต่อหนังสือพิมพ์นั้นๆ ซึ่ ง ปั ญ หาของหนั ง สื อ พิ ม พ์ ท้ อ งถิ่ น จำ�นวนมากก็คือ รายได้หลักไม่เป็นไปอย่างที่ ต้องการ จึงต้องมีการสร้างความสัมพันธ์กบั แหล่ง ที่สามารถให้การสนับสนุนได้ มีบ่อยครั้งที่มัก แสดงการเอาอกเอาใจแหล่งที่ให้การสนับสนุน อย่างผิดปกติ หรื อ ทำ � ให้ เ กิ ด สงครามการลดราคา โฆษณาลง เพื่อเป็นการเอาชนะหนังสือพิมพ์คู่ แข่ง ส่งผลให้คุณภาพของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เปลี่ยนไปเป็นหนังสือโฆษณา ที่มีพื้นที่โฆษณา มากกว่าพื้นที่ข่าวสาร หรือเป็นเพียงแค่หนังสือ รวมภาพกิจกรรมผู้มีอุปการะคุณ คนทำ�หนังสือพิมพ์ทอ้ งถิน่ ตัวจริง จะต้องทำ�ด้วย ใจรักเป็นอันดับแรก และด้ ว ยเงิ น ทุ น เริ่ ม ต้ น ไม่ ม ากนั ก แต่ เมื่ อ มี ก ารแข่ ง ขั น ค่ อ นข้ า งสู ง ทั้ ง ยั ง ต้ อ งผลิ ต หนังสือพิมพ์ให้ได้คุณภาพ และมาตรฐานดี มี ระดับ จึงจะเป็นที่ยอมรับของคนในท้องถิ่น และ ยืนหยัดเลีย้ งดูตวั เองได้ จึงนับว่าเป็นเรือ่ งทีล่ �ำ บาก ทีจ่ ะประคองตัวให้อยูร่ อดได้ในสภาวการณ์เช่นที่ เป็นอยู่ทุกวันนี้
ปัจจุบันมะเร็ง เต้านมขึน้ ชือ่ ว่าเป็น มัจจุราชอันดับหนึง่ ทีค่ ร่า ชีวิตผู้หญิงไทย เพื่อให้ผู้หญิงตระหนักถึงพิษภัย ของโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ ตรงของ นางวรินทร์พร ณิชาภัทร์นารากุล สมาชิก สภาเทศบาลนครขอนแก่น ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ สูญเสียอวัยวะที่บ่งบอกถึงความเป็นสตรี สูญเสีย ความมั่นใจจากผลข้างเคียงที่ได้รับการรักษาที่มี ผลต่อร่างกายและจิตใจ สูญเสียเงินทองจากการ รักษา จึงตั้งชมรมรู้เท่าทันมัจจุราชสีชมพู ตั้งแต่
ข อ น แ ก่ น ร ว ม ใ จ ต้านภัยมะเร็งเต้านม
ปี 2552 เป็นต้นมา เพื่อแลก เปลี่ยนประสบการณ์ สร้าง องค์ความรู้ รวมถึงช่วยเหลือ ผู้ป่วยให้มีโอกาสได้รับการ รักษาอย่างทันท่วงที เมื่ อ วั น ที่ 7 ตุ ล าคม 2558 ที่ห้องประชุมนครเป็ง จาล เทศบาลนครขอนแก่น นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พั น ธุ์ น า ย ก เ ท ศ ม น ต รี น ค ร ขอนแก่ น เป็ น ประธานใน การการแถลงข่าวขอนแก่น รวมใจต้านภัยมะเร็งเต้านม ครั้งที่ 7 ร่วมกับ นางวรินทร์พร ณิชาภัทร์นารา กุล ประธานชมรมรู้เท่าทันมัจจุราชสีชมพู พร้อม กันนีย้ งั ได้มกี ารลงนามบันทึกความร่วมมือในการ ดำ�เนินงานของชมรมรู้เท่าทันมัจจุราชสีชมพู กับ ภาคีเครือข่าย 9 องค์กร ท่ามกลางสักขีพยานกว่า 200 คน โดยเทศบาลนครขอนแก่นร่วมกับภาคี เครื อ ข่ า ย 9 องค์ ก ร ที่ ไ ด้ เ ข้ า มาเป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ในการรณรงค์ ใ ห้ ค วามรู้ เ กี่ ย วกั บ มะเร็ ง เต้ า นม ได้แก่ เทศบาลนครขอนแก่น คณะแพทยศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น ชมรมมั จ จุ ร าชสี ช มพู นพ.เสกสรร สุวรรณแพง ผู้อำ�นวยการศูนย์รังสี รักษา โรงพยาบาลขอนแก่น นพ.ประสิทธิ์ สัจจ พงษ์ ผู้อำ�นวยการศูนย์อนามัยที่ 6 ขอนแก่น นาง ยุภา โสภณรัตน์ นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและ วิชาชีพแห่งประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น คณบดี คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย นายสุ รัตน์ พิพฒ ั น์ไชยศิริ กรรมการผูจ้ ดั การบริษทั ขอน แก่นเคเบิล้ เน็ตเวิรค์ จำ�กัด นายอภิชา กิตติสวุ รรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟกัสแอดเวอไทซิ่ง จำ�กัด ร่วมลงนามความร่วมมือเครือข่ายขอนแก่น
รวมใจต้านภัยมะเร็งเต้านม นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น กล่าวว่า เทศมนตรีนครขอนแก่น ตระหนั ก ถึ ง ภั ย ร้ า ยจากมะเร็ ง เต้ า นมที่ คุ ก คาม ชีวิตของผู้หญิงไทยจำ�นวนมากขึ้นทุกปี จึงได้จัด โครงการขอนแก่นรวมใจต้านภัยมะเร็งเต้านม มา อย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 เพื่อรณรงค์ สร้างการรับรู้เกี่ยวกับการป้องกันตนเองจากโรค มะเร็งเต้านม รวมถึงช่วยเหลือผูป้ ว่ ยให้มโี อกาสได้ รับการรักษาอย่างทันท่วงที ทั้งนี้ เป้าหมายในการลงนามข้อตกลงใน MOU เพื่อสนับสนุนช่องทางด่วนในการตรวจ วินิจฉัย รักษา สำ�หรับผู้ป่วยสมาชิกชมรมรู้เท่าทัน มัจจุราชสีชมพู ทีไ่ ด้รบั การส่งต่อจากชมรมรูเ้ ท่าทัน มัจจุราชสีชมพู และสนับสนุนด้านเทคนิควิชาการ บุคลากรทางการแพทย์ในการร่วมกิจกรรมรณรงค์ ต่อต้านภัยจากมะเร็งเต้านม รวมถึงการเพิ่มความ ครอบคลุมในการตรวจคัดกรอง เพื่อวินิจฉัยโรค มะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรก ตลอดทั้งภารกิจในการ ทำ�งานร่วมกับเครือข่ายทีม่ สี ว่ นเกีย่ วข้องกับสังคม โดยมีกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำ �ทุกปีในเดือน ตุลาคม ซึง่ เป็นเดือนแห่งการรณรงค์ปอ้ งกันมะเร็ง เต้านมระดับสากล กิ จ กรรมขอนแก่ น รวมใจ ต้านภัยมะเร็งเต้านม ครั้งที่ 7 ภาย ใต้แนวคิด WE AWARE CARE HOPE GIVE ระหว่างวันที่ 17-18 ตุลาคม 2558 เวลา 10.30-20.00 น. ณ ลานข้าวเหนียวศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น กิจกรรม ภายในงานที่ น่ า สนใจ คื อ การ ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ด้วย
โปรแกรมแมมโมแกรม ฟรี นิทรรศการให้ความ รู้ป้องกันมะเร็ง กิจกรรมทอล์คโชว์ ฯลฯ และชม นิมิคอนเสิร์ตของนักร้องคุณภาพ คุณตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย ในวันที่ 18 ตุลาคม 2558 เวลา 20.00 น. ณ ลานข้าวเหนียวศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น นางวรินทร์พร ณิชาภัทร์นารากุล สมาชิก สภาเทศบาลนครขอนแก่น กล่าวว่า ชมรมรูเ้ ท่าทัน มัจจุราชสีชมพู ตัง้ ขึน้ ตัง้ แต่ปี 2552 เป็นต้นมา โดย สาระสำ�คัญคือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงด้วย
ตนเอง และเป็นการสร้างองค์ความรู้ในการรักษา ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้อง ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ส่วนใหญ่ คือเหล่าบรรดาผู้หญิงด้อยโอกาส ยากจน และจาก ประสบการณ์ที่ได้จากการทำ�โครงการต่างๆ กับผู้ หญิงในชุมชนแออัด ทำ�ให้พบว่าส่วนใหญ่มีความ รู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านมน้อยมาก มะเร็งเต้านมเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของ สตรีไทย พบมากในสตรีอายุ 30-70 ปี และพบว่า ร้อยละ 80 เป็นมะเร็งเต้านมในระยะทีเ่ ป็นมากแล้ว
ทำ�ให้โอกาสมีชีวิตรอดน้อย ดังนั้น เพื่อลดสูญเสีย ชีวิตก่อนเวลาอันสมควร ตลอดจนการสูญเสียค่า ใช้จ่ายในการรักษาจำ�นวนมาก ทำ�ให้ต้องทำ�งาน เชิงรุกโดยการค้นหาก้อนผิดปกติที่เต้านมในระยะ เริ่มต้น การตรวจเต้านมด้วยตนเองจึงเป็นการเฝ้า ระวังและดูแลตนเองของสตรีทชี่ ว่ ยให้สามารถค้น พบความผิดปกติ ซึง่ จะนำ�ไปสูก่ ารวินจิ ฉัยขัน้ ตอน ต่อไป ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมรณรงค์ ขอนแก่นรวมใจต้านภัยมะเร็งเต้านม ครั้งที่ 7 เพื่อ
เป็นการสร้างความตระหนักในการดูแลตนเอง ถูกต้อง ให้สตรีกลุ่มเป้าหมายตรวจเต้านมด้วย ตนเองถู ก ต้ อ งต่ อ เนื่ อ ง สร้ า งระบบเฝ้ า ระวั ง มะเร็งเต้านมในสตรี และให้ความรู้ ในการปรับ เปลี่ยนพฤติกรรมตนเองให้ห่างไกลมะเร็ง และ ส่งเสริมภาพลักษณ์ในผู้ป่วยมะเร็งที่ผ่าตัดนม ให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น
ปรกชล ศุขโข...รายงาน
ลอยกระทง จั ด โ ซ น นิ่ ง ออกพรรษา สถานบริ ก าร ; ป ร ะ เ พ ณี น า ย ปิ ยิ น ต ลั บ ห นึ่ ง เ ดี ย ว นาค นายอำ � เภอ ที่ ข อ น แ ก่ น เมืองขอนแก่น เป็น ; น า ย กำ � ธ ร ประธานประชุ ม ถ า ว ร ส ถิ ต ย์ กำ�หนดเขตเพื่อตั้ง ผวจ.ขอนแก่ น สถานบริการในเขต น า ย ธี ร ะ พื้ น ที่ อำ � เภอเมื อ ง ศั ก ดิ์ ฑี ฆ า ยุ ขอนแก่น ปัจจุบัน พั น ธุ์ น า ย ก มีสถานบริการที่ถูกต้องตาม พรบ.สถานบริการ พ.ศ.2509 ในเขต อ.เมืองขอนแก่น 32 แห่ง อยู่ ในเขตโซนนิ่ง 18 แห่ง นอกเขต 14 แห่ง แต่มีสถานประกอบการ ร้านอาหารที่เปิดให้บริการคล้าย เทศมนตรีนครขอนแก่น นายสิทธิกุล ภูคำ�วงศ์ รองนายก อบจ.ขอนแก่น และนายนพรัตน์ กอก กับสถานบริการ ประมาณ 118 แห่ง อยูใ่ นโซนนิง่ 4 แห่ง นอกเขต 114 แห่ง ณ หอประชุมทีว่ า่ การ หวาน ผอ.ททท.ขอนแก่น ร่วมแถลงข่าวการจัดงานประเพณีออกพรรษา ลอยประทีปบูชา พุทธ กตัญญู ประจำ�ปี 2558 เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2558 ณ ห้องดอกคูณ ชั้น 4 โรงแรมเจริญธานี อำ�เภอเมือง ขอนแก่น
หน้า 4
ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 ประจำ�เดือนตุลาคม 2558
สมาคมสื่อมวลชนขอนแก่น ว า ง พ ว ง ม า ล า วั น ตำ � ร ว จ ; ร.ต.ต.ภั ส สะ บุ ญ ธรรม อุ ป นายกสมาคมสื่ อ มวลชน จั ง หวั ด ขอนแก่ น นำ � คณะ กรรมการบริ ห าร วางพวง มาลา เนื่ อ งในวั น ตำ� รวจและ วันอนุสรณ์แห่งความเสียสละ ประจำ � ปี 2558 ณ อนุ ส รณ์ แห่งความเสียสละ ถนนศูนย์ ราชการ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2558 ป ร ะ ชุ ม ก ร ร ม ก า ร บ ริ ห า ร สนภช. ; พ.ท.พิ สิ ษ ฐ์ ชาญ เจริ ญ เลขาธิ ก ารสภาวิ ช าชี พ นั ก หนั ง สื อ พิ ม พ์ ภู มิ ภ าคแห่ ง ชาติ ร่วมประชุมคณะกรรมการ สภาวิชาชีพฯ และที่ปรึกษาฯ เพื่ อ เปิ ด ตั ว สภาวิ ช าชี พ นั ก หนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งชาติ (สนภช.) อย่างเป็นทางการ และ ในโอกาสนี้ เครือข่าย บก.นสพ. ภาคอีสาน ได้มอบเงินให้นายสำ�เริง คำ�พะอุ อดีตนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการถูกฟ้อง หมิ่นประมาทจากการเสนอข่าว ณ ห้องประชุม โรงแรมประจักษ์ตราดีไซน์ อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2558 แสดงความยิ น ดี รองแม่ ทั พ ภาคที่ 2 ; พ.ท.พิ สิ ษ ฐ์ ชาญ เจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชน จั ง หวั ด ขอนแก่ น มอบแจกั น ดอกไม้แสดงความยินดีกับ พล ตรี นิรุทธ เกตุสิริ รองแม่ทัพ ภาคที่ 2 ในโอกาสเดินทางมา รั บ ตำ � แหน่ ง ใหม่ เมื่ อ วั น ที่ 5 ตุลาคม 2558 ณ โรงแรมสบาย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ต้อนรับ ผอ.สปข.1 กลับบ้าน หลั ง เก่ า ; พ.ท.พิ สิ ษ ฐ์ ชาญ เจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชน จั ง หวั ด ขอนแก่ น นำ � คณะ กรรมการบริหาร มอบแจกัน ดอกไม้ แ สดงความยิ น ดี กั บ นายสมพงษ์ ปัตตานี ผู้อำ�นวย การสำ�นักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น ในโอกาสเดินทาง กลั บ มารั บ ตำ � แหน่ ง ใหม่ ณ สำ � นั ก ประชาสั ม พั น ธ์ เ ขต 1 ขอนแก่น แ ล ก เ ป ลี่ ย น ข้ อ คิ ด เ ห็ น ; พ.ท.พิ สิ ษ ฐ์ ชาญเจริ ญ น า ย ก ส ม า ค ม สื่ อ ม ว ล ช น จังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะ กรรมการบริ ห ารสมาคมฯ เข้ า พบปรึ ก ษา แลกเปลี่ ย น ข้ อ คิ ด เห็ น กั บ รศ.ดร.กิ ต ติ ชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อม ขอรั บ การสนั บ สนุ น การจั ด กอล์ฟการกุศล เพื่อหารายได้ เป็นสวัสดิการให้กับสมาชิกสมาคมสื่อมวลชน ณ ห้องรับรอง ชั้น 6 อาคารสิริคุณากร มหาวิทยลัยขอนแก่น เมื่อ วันที่ 30 กันยายน 2558 แ ล ก เ ป ลี่ ย น ข้ อ คิ ด เ ห็ น ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายก สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่น เข้าพบ รศ.วราภรณ์ เชื้ อ อิ น ทร์ ผู้ อำ � นวยการศู น ย์ หั ว ใจสิ ริ กิ ติ์ ฯ มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่น เพือ่ แลกเปลีย่ นข้อคิด เห็นในการทำ�งาน ณ ศูนย์หวั ใจ สิ ริ กิ ติ์ ภาคตะวั น ออกเฉี ย ง เหนือ เมื่อเร็วๆ นี้ สี สั น สู่ อี ส า น แ ซ่ บ นั ว ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายก สมาคมสื่ อ มวลชนจั ง หวั ด ขอนแก่น ร่วมงาน Road Show ส่ ง เสริ ม การขาย ท่ อ งเที่ ย ว ภาคตะวันออก (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด) ณ โรงแรม เซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ขอนแก่น
ฉลองเปิดร้านใหม่ ; พ.ท.พิสษิ ฐ์ ช า ญ เ จ ริ ญ น า ย ก ส ม า ค ม สือ่ มวลชนจังหวัดขอนแก่น นำ� คณะกรรมการบริหาร มอบของ ทีร่ ะลึกแสดงความยินดีกบั คุณ ภาวดี แตงอ่อน และคุณสุรพงษ์ กิ่ ง แก้ ว ในโอกาสเปิ ด สวน อาหารขอนแก่นกุง้ เผา ๒๕๕๘ ถนนเลี่ ย งเมื อ ง - ศรี จั น ทร์ (โคราช-กาฬสินธุ์) เมื่อเร็วๆ นี้
มอบเฮื อ นกาชาดหลั ง ที่ 16 ; นางพิมพ์วิมล ถาวรสถิตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ขอนแก่น มอบเฮือนกาชาด หลังที่ 16 ประจำ�ปี 2558 ตามโครงการกาชาดใส่ใจให้ที่อยู่ เพื่อ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญ พระชนมายุ 60 พรรษา ในปี 2558 ให้แก่ นายไส นามศรี ณ บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 1 ต.ดอน ช้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ป้องกันทุจริตทุกรูปแบบ ; นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. เป็นสักขีพยานใน การลงนามบันทึกข้อตกลง ในการร่วมมือกันต่อต้านการทุจริตในวงการ อบจ. เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำ�บล และองค์การบริหารส่วนตำ�บลทั้ง 225 แห่งใน 26 อำ�เภอของ จังหวัดขอนแก่น ณ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ ขอนแก่น ขอนแก่น
อำ�ลาชีวิตรับราชการทหาร ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายทหารฝ่ายการสื่อสาร มทบ.23 รับมอบใบประกาศเกียรติคุณจาก พล.ต.ธรากฤต ทับทองสิทธ์ ผบ.มทบ.23 ในพิธีอำ�ลาชีวิต ราชการทหาร ของข้าราชการทีค่ รบเกษียณอายุราชการและลาออกจากราชการตามโครงการ เกษียณอายุราชการก่อนกำ�หนดของ กห. เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2558 ณ สโมสรนายทหาร ค่ายศรีพัชรินทร อ.เมือง จ.ขอนแก่น
รับโล่ประกาศการดูแลคุณภาพนํา้ ดีเด่น ; คุณบรรทม คชอาจ ผูจ้ ดั การฝ่ายวิศวกรรม เป็น ตัวแทน โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เข้ารับมอบโล่รางวัลระดับดีเด่น จากนายศิว โรจน์ มุ่งหมายผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในโอกาสที่โรงแรมฯ ได้จัดทำ�ระบบเฝ้า ระวังการปนเปือ้ นเชือ้ ลีเจียนเนลโลสิส โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเร็วๆ นี้
วันประมงแห่งชาติ ประจำ�ปี 2558 ; นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานพิธปี ล่อยพันธุส์ ตั ว์นาํ้ เนือ่ งในวันประมงแห่งชาติ ประจำ�ปี 2558 ณ เขตอนุรกั ษ์แหล่ง ปลาวางไข่ อ่างเก็บนํ้าเขื่อนอุบลรัตน์ ต.ขนวน อ.หนองนาคำ� จ.ขอนแก่น
เปิดหลักสูตร บสส.รุ่นที่ 6 นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำ�นวยการบริหารสถาบันอิศรา ให้การต้อนรับ นางสาววิมลพรรณ ปีตธวัชชัย ประธานกรรมการบริหารสถาบันอิศรา และ รศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผู้อำ�นวยการสำ�นักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. ในโอกาสเปิด หลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับสูง (บสส.) รุ่นที่ 6 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2558 ณ อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
มหกรรมคำ�แคนดินแดนเศรษฐกิจพอเพียง ; นายกำ�ธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานเปิดงาน “มหกรรมคำ�แคนดินแดนเศรษฐกิจพอเพียงและเครือข่ายพลังอีสานยัง่ ยืน” เพื่อแสดงออกถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวตำ�บลคำ�แคน และเครือข่าย 22 ตำ�บลในภาค อีสาน ณ สนามโรงเรียนคำ�แคนวิทยาคม ต.คำ�แคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
“ประชาธิปไตยในร่างรัฐธรรมนูญใหม่” ; ศ.กิตติคณ ุ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธาน คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ บรรยายหัวข้อ “ประชาธิปไตยในร่างรัฐธรรมนูญใหม่” ให้ กับผู้อบรมหลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับสูง (บสส.) รุ่นที่ 6 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2558 ณ อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ส่งมอบตำ�แหน่ง ประธานสภาฯ ; นายประยูร อังสนันท์ ประธานสภาโรงเรียน ฮั่วเคี้ยว วิทยาลัย ขอนแก่น พร้อมด้วยผู้นำ� ๒๓ องค์กรจีน จัดพิธีรับ-ส่งมอบตำ�แหน่ง ประธานสภา โรงเรียน ฮั่วเคี้ยววิทยาลัย ขอนแก่น สมัยที่ ๖ ให้กับ นายปกรณ์ ลีศิริกุล พร้อมมอบเกียรติ บัตรให้กับผู้ให้การสนับสนุนโรงเรียนฯ ณ ห้องประชุม โรงเรียน ฮั่วเคี้ยววิทยาลัย ขอนแก่น เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๘
อำ�ลาหน่วยทหาร ; ร.อ.ปรีชา แสนสีหา ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายการสื่อสาร มทบ.23 นำ�คณะ ข้าราชการ ฝ่ายการสื่อสาร มทบ.23 และ หมวดสื่อสาร มทบ.23 ร่วมแสดงความยินดีกับ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายทหารฝ่ายการสื่อสาร มทบ.23 ในโอกาสอำ�ลาชีวิตราชการทหาร เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2558 ณ ฝ่ายการสื่อสาร มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร อ.เมือง จ.ขอนแก่น
เตรียมตัวเข้าเรียน บสส.6 ; นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ผู้อำ�นวยการหลักสูตร พร้อมด้วย นางสาวอมรรัตน์ มหิทธิรกุ ข์ ผูจ้ ดั การหลักสูตร ให้การต้อนรับคณะผูเ้ ข้ารับการอบรมหลักสูตร ผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับสูง (บสส.) รุ่นที่ 6 จำ�นวน 54 ท่าน ในการสัมมนาเตรียมตัว ก่อนเข้ารับการอบรม ระหว่างวันที่ 3 - 4 ตุลาคม 2558 ณ โรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ท บางแสน จ.ชลบุรี โดยมี อาจารย์ชนะ ยาดี และนางอริญญา เถลิงศรี ร่วมเป็นวิทยากร
หน้า 5
ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 ประจำ�เดือนตุลาคม 2558
ทบทวนความรูส้ มู่ หาวิทยาลัย อีสานคึกคักรอคิวแต่เช้า การสึกกร่อนของฟัน ตอนที่ 2 อาการของการสึกกร่อนของฟันนั้น จะ เริ่มตรวจพบได้ เมื่อฟันกร่อนในระยะแรก คือผิว เคลือบฟันจะมีลกั ษณะด้านแต่เรียบ ความมันของ ฟันลดลง เมื่อฟันกร่อนมากขึ้นถึงชิ้นเนื้อฟัน ผู้ ป่วยจะรู้สึกเสียวฟันและถ้าเป็นซี่นั้นมีวัสดุอุด ฟันอยู่ด้วย จะพบลักษณะคล้ายขอบของวัสดุอุด ฟัน ยกสูงขึ้น เนื่องจากผิวเป็นรอบ ๆ วัสดุอุดถูก ทำ�ลายและกร่อนไป ข้อเสนอแนะสำ�หรับผูป้ ว่ ยมี ดังต่อไปนี้ 1. ให้ผู้ป่วยจำ�กัดอาหารและเครื่องดื่ม จำ � พวกมี ฤ ทธิ์ เ ป็ น กรด ให้ รั บ ประทานในมื้ อ อาหารและลดความถี่ของการรับประทาน 2. หลังมือ้ อาหาร ควรรับประทานอาหาร ที่ช่วยลดกรด เช่น เนย หรือนม เป็นต้น 3.หลีกเลี่ยง การรับประทานอาหารหรือ เครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด ระหว่างมื้อ หรือช่วง กลาง คืน 4.หลีกเลี่ยง การแปรงฟันทันทีภายหลัง
รับประทานหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด 5.หากอาเจียน ควรรีบบ้วนนํา้ ตามทันที และหลีก เลี่ยงการแปรงฟันในเวลาดังกล่าว และสุดท้ายในกรณีที่มีการสูญเสียฟัน มากต้องมีการบูรณะฟัน เพื่อให้ใช้งานได้ เพื่อ ความสวยงาม ป้องกันประสาทฟันและลดอาการ เสียวฟัน ในกรณีที่คุณแม่ที่มีลูกเป็นนักกีฬาว่าย นํ้ า ควรให้ ใ ส่ เ ฝื อ กสบฟั น ในขณะว่ า ยนํ้ า และ อมนํา้ ยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ทงั้ ก่อนและหลัง การว่ายนํา้ และหลีกเลีย่ งการแปรงฟันทันทีทขี่ นึ้ จากสระ สอบถามเพิ่มเติมที่ คลินิกวินิจฉัยโรค และช่ อ งปาก โรงพยาบาลทั น ตกรรม คณะ ทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โทร. 0-4320-2405 ต่อ 45189 ผลิตสื่อโดย หน่วยประชาสัมพันธ์ คณะ ทันตแพทยศาสตร์ มข.
ร่วมสืบสานวัฒนธรรม ; นายวุฒิศักดิ์ พิชญกานต์ ผู้ จั ด การทั่ ว ไปโรงแรม เซ็ น ทาราคอนเวนชั น เซ็ น เตอร์ ขอนแก่ น นำ � ที ม ผู้ บ ริ ห า ร แ ล ะ พนั ก งาน ร่ ว มสื บ สาน วั ฒ นธรรมถวายเที ย น พรรษาพั ฒ นาชุ ม ชน ประจำ�ปี 2558 โดยถวาย ปัจจัย นํ้าดื่มและอาหาร แห้ง ที่สำ�นักสงฆ์แสงทองเวฬุวนาราม อ.พระยืน จ.ขอนแก่น โดยกลุ่มงานสภานิสิตร่วมกับองค์กร บริหารนิสิต สโมสรนิสิต วิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้ ม หั ศ จ ร ร ย์ ข อ ง ฝ า ก ข อ ง ที่ ร ะ ลึ ก ; นายประเสริฐ ลือชาธนา นนท์ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็ น ประธานเปิ ด งาน มหัศจรรย์ของฝากของ ที่ระลึกจังหวัดขอนแก่น โดยมีผู้ประกอบการที่ได้ รับการพัฒนาออกแบบ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ แ ละบรรจุ ภัณฑ์ ที่แสดงถึงอัตลักษณ์จังหวัดขอนแก่น ร่วมออกบูท ณ ลานโปรโมชัน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น เปิดงานเทศการอาหารเจ ; นายมนตรี สิงหปุณณ ภัทร รองนายกเทศมนตรี น ค ร ข อ น แ ก่ น เ ป็ น ประธานเปิ ด งานเทศ การอาหารเจ “9 เดย์อิน เจ” โดยมี สท.วริ น ทร์ พร ณิ ช าภั ท รนารากุ ล สมาชิกสภาเทศบาลนคร ขอนแก่น เข้าร่วมงานด้วย ในงานมีกิจกรรมเกี่ยวกับอาหารเจมากมาย ระหว่างวันที่ 13 – 21 ตุลาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 16.00 – 21.00 น. ณ ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าฮักส์มอลล์ โครงการน้ อ งอิ่ ม ท้ อ ง แฟรี่ อิ่ ม ใจครั้ ง ที่ 39 ; ศู น ย์ ส รรพสิ น ค้ า แฟรี่ พลาซ่า ขอนแก่นได้จัด โครงการดีๆ เพื่อเป็นการ คื น กำ � ไรให้ กั บ สั ง คม “โครงการน้องอิม่ ท้องแฟ รี่อิ่มใจครั้งที่ 38” เข้าสู่ปี ที่ 10 ของการจัดโครงการ โดยการนำ�น้องๆ ผู้ด้อยโอกาสจากโรงเรียนบ้านหนองหิน จังหวัดขอนแก่น กว่า 20 ชีวิต มาร่วมรับ ประทานอาหารจาก เชสเตอร์ กริลล์ และ DUNKIN DONUTS ในการนี้คุณณัฐภูมิ หงส์สวรรค์ ผู้ จัดการฝ่ายการตลาด ในนามตัวแทนของศูนย์สรรพสินค้า แฟรีพ่ ลาซ่า ขอนแก่น ได้มอบทุนการศึกษา มูลค่า 5,000 บาท กิจกรรมจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2558 ที่ศูนย์ประชุมเอนก ประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น คุณชมพูนุท โพธิ์ทองคำ� ผู้ช่วยผู้จัดการแผนก โฆษณาสือ่ สารองค์กร บริษทั สหพัฒนพิบลู จำ�กัด (มหาชน) ,ผศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดี ฝ่ า ยวิ ช าการและสื่ อ สารองค์ ก ร มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่น และนายนิกร จันพรม บรรณาธิการ เนชั่ น ที วี ร่ ว มเปิ ด โครงการทบทวนความรู้ สู่ มหาวิทยาลัยกับสหพัฒน์ ครั้งที่ 18 บรรยากาศการลงทะเบียนเป็นไปอย่าง คึกคัก เนื่องจากมีนักเรียนจากทั่วภาคอีสานมา นัง่ รอเข้าคิวเพือ่ ลงทะเบียนเข้าห้องประชุม ตัง้ แต่ เช้า ก่อนเวลา 06.00 น. โดยต่างนัง่ รอทีบ่ ริเวณด้าน นอกอาคารศูนย์ประชุม เนือ่ งจากอากาศค่อนข้าง เย็นสบายไม่มีฝนหรือแดดร้อนจัด จากนั้นเวลา 07.00 น .ก็ทยอย เข้าห้องประชุม สำ � หรั บ ปี นี้ มี นั ก เรี ย นลงทะเบี ย นทาง อินเตอร์เน็ตจำ�นวนมากกว่า13,000 คน และในวัน แรกนีม้ นี กั เรียนทีล่ งทะเบียนเพือ่ เข้าติวเข้มในวิชา ภาษาไทย ที่ ผศ.ดร.ธเนศ เวศร์ภาดา เป็นติวเตอร์ สำ�หรับวิชาแรกในวันนี้ จนล้นห้องประชุม ซึ่ง สามารถบรรจุคนได้กว่า 5,000 คน และยังมีการลง ทะเบียนผ่านระบบบอร์ดแบรนด์อกี 332 โรงเรียน จำ�นวนกว่า 60,000 คน น.ส.ชมพูนุท โพธิ์ทองคำ� ผู้ช่วยผู้จัดการ
แผนกโฆษณาสื่อสารองค์กร บริษัท สหพัฒน พิบลู จำ�กัด (มหาชน) กล่าวว่า จากทีไ่ ด้จดั โครงการ ด้านการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ทำ�ให้ทราบว่า ยัง มีเยาวชนอีกจำ�นวนมากที่ขาดโอกาสในการเรียน พิ เ ศษ ติ ว กั บ สถาบั น กวดวิ ช าดั ง ๆ โดยเฉพาะ นักเรียนต่างจังหวัด ที่จะต้องเตรียมตัวสอบเข้า มหาวิทยาลัยเช่นเดียวกัน โครงการนี้จึงเป็นการ เปิดโอกาสให้เกิดความเท่าเทียมกันทั้งในส่วน กลางหรือต่างจังหวัด ซึ่งจะมีนักเรียนจากต่าง จังหวัดมีโอกาสได้ติวจำ�นวนเพิ่มขึ้นทุกปี ด้ า น ผศ.ดร.เด่ น พงษ์ สุ ด ภั ก ดี รอง อธิ ก ารบดี ฝ่ า ยวิ ช าการและสื่ อ สารองค์ ก ร มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า เป็นปีที่18 แล้ว ที่ ม หาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น ได้ เ ป็ น ส่ ว นหนึ่ ง กั บ โครงการทบทวนความรู้ สู่ ม หาวิ ท ยาลั ย กั บ สห พัฒน์ ซึ่งการทบทวนเพิ่มพูนความรู้มีผลต่อการ สอบเข้ามหาวิทยาลัย ทำ�ให้นักเรียนมีการเตรียม พร้อม มีการทบทวนความรู้แนวข้อสอบใหม่กับ ติวเตอร์ โดยเฉพาะมีนักเรียนที่มาติวกับโครงการ นี้ และประสบความสำ�เร็จสอบเข้าเรียนต่อมหา วิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ จำ�นวนมาก “มข.รับตรงจะเน้นการสอบแกตรอบแรก การติวครั้งนี้มีผลต่อการสอบเข้ามาวิทยาลัยแต่ เนิ่นๆ โดยเฉพาะมข.ปีนี้จะเน้นการสอบแกต จะ
มีผลมาก ต่อการรับตรง ได้หลายครั้ง” ผศ.ดร.เด่ นพงษ์ กล่าว ด้าน น.ส.ภัทราพร ทิมดอน นักเรียนชัน้ ม. 6 โรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 จ.นครราชสีมา ซึ่งเดิน ทางมานั่งรอพร้อมกับเพื่อนๆ ตั้งแต่เช้าบอกว่า ตั้งใจเดินทางมาติวกับโครงการทบทวนความรู้สู่ มหาวิทยาลัยครัง้ นีเ้ พราะต้องการทบทวนความรูท้ ี่ จะสอบเรียนต่อมหาวิทยาลัยให้ได้ โดยเฉพาะคณะ วิศวกรรมศาสตร์ รูส้ กึ ดีใจทีม่ กี ารติวให้กบั นักเรียน แบบนี้ เพราะติวเตอร์ที่มาติวให้ เป็นที่รู้จักกันดี ในขณะที่ นายบรรพต มุงคุณโคตร นักเรียนชั้น ม. 5 โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จ.อุดรธานี บอกว่า เป็น
ปีแรกที่มาติวกับโครงการ ได้รับการแนะนำ�จาก รุ่นพี่ที่โรงเรียนที่เคยมาติว ซึ่งแต่ก่อนรุ่นพี่บอก ว่าติวกับมาม่า แม้วา่ จะยังไม่สอบเข้ามหาวิทยาลัย ในปีนี้ แต่เพือ่ จะได้มกี ารเตรียมตัวให้พร้อม จะได้ อ่านให้ตรง อยากรู้แนวข้อสอบ อยากลองฝึกทำ� ข้อสอบ จึงมาติวตั้งแต่ปีนี้ และในปีหน้าก็คงจะ มาอีก อาจจะมีแนวข้อสอบใหม่ๆมาอีก เพราะ ต้องการจะสอบเข้าเรียนแพทย์แผนไทยประยุกต์ ที่มหิดลและแม่ฟ้าหลวง รู้สึกดีใ จที่ มี ก ารเปิ ด ติวโครงการนี้ บางวิชาค่อนข้างจะโดนใจเพราะ ติวเตอร์ที่สอน เช่น พี่เอ๋ วิชาคณิตศาสตร์ จะติว โดนใจวัยรุ่นมาก
มข.สั ง เคราะห์ น าโนจากเถ้ า แกลบ สร้างแบตเตอรี่เพิ่มพลังงาน12เท่า
มข.เผยผลงานวิจัย สังเคราะห์นาโนจาก เถ้าแกลบ สามารถกักเก็บพลังงานได้มากกว่า คาร์ บ อน 12 เท่ า โดยงานวิ จั ย นี้ เป็ น หนึ่ ง ใน สามหั ว ข้ อ งานวิ จั ย หลั ก ของห้ อ งปฏิ บั ติ ก าร และวิจัยวัสดุขั้นสูงเพื่อกักเก็บพลังงาน ซึ่งขณะ นี้ ได้ดำ�เนินงานวิจัยใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การ สังเคราะห์วสั ดุโครงสร้างนาโนทีม่ คี ณ ุ สมบัตทิ าง ไฟฟ้าเคมีที่ดีและมีประสิทธิภาพสูง การศึกษา พฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงเฟสของวัสดุขณะใช้ งานด้วยเทคนิควิเคราะห์ขั้นสูง และการนำ�วัสดุ ธรรมชาติมาผลิตเป็นขัว้ ไฟฟ้าและส่วนประกอบ ของแบตเตอรี่เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตร เมือ่ วันที่ 5 ตุลาคม 2558 ทีห่ อ้ งประชุมสิริ คุณากร 4 อาคารสิริคุณากร สำ�นักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผศ.ดร.รัชฎา ตัง้ วงศ์ไชย ผู้ ช่วยอธิการบดีฝา่ ยการถ่ายทอดเทคโนโลยี พร้อม ด้วย ผศ.ดร.สมเกียรติ ศรีจารนัย คณบดีคณะ วิทยาศาสตร์ เป็นประธานการแถลงข่าว นักวิจัย มข.พบสื่อมวลชน ประจำ�เดือน ตุลาคม 2558 เรื่อง มข.สังเคราะห์นาโนซิลิกอนจากเถ้าแกลบ สร้างขัว้ แบตเตอรีท่ กี่ กั พลังงานได้มากขึน้ 12 เท่า โดย ผศ.ดร.นงลักษณ์ มีทอง และคณะนักวิจยั โดย มี คณะผู้บริหาร คณาจารย์ นักวิจัย บุคลากร และ สื่อมวลชนเข้าร่วมงานแถลงข่าวเป็นจำ�นวนมาก ผศ.ดร.นงลักษณ์ มีทอง อาจารย์ประจำ�ภาควิชา ฟิสกิ ส์ ผูร้ บั พระราชทาน “รางวัลนักวิทยาศาสตร์ รุ่ น ใหม่ ประจำ � ปี พ.ศ. 2558” จากมู ล นิ ธิ ส่ ง เสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรม
ราชู ป ถั ม ภ์ เผย ผ ล ง า น วิ จั ย ที่ สั ง เคราะห์ วั ส ดุ นาโน ทั้ ง นาโน ซิ ลิ ก อน นาโน ซิลิกา และนาโน ซิลิกอนคาร์ไบด์ ที่กำ�ลังอยู่ในขั้น ตอนของการ ศึ ก ษาวิ จั ย จาก เถ้ า แกลบ โดย วั ส ดุ น าโนที่ ไ ด้ สามารถนำ�ไปใช้แทนคาร์บอนซึง่ เป็นวัสดุส�ำ หรับ ทำ � ขั้ ว ไฟฟ้ า แอโนดหรื อ ขั้ ว ลบของแบตเตอรี่ ชนิดลิเทียมไอออน ที่สามารถกักเก็บพลังงานได้ มากกว่าคาร์บอน 12 เท่า โดยงานวิจัยนี้ เป็นหนึ่ง ในสามหั ว ข้ อ งานวิ จั ย หลั ก ของห้ อ งปฏิ บั ติ ก าร และวิจยั วัสดุขนั้ สูงเพือ่ กักเก็บพลังงาน (Advanced Energy Storage Materials Laboratory) งานวิจัยดังกล่าว เป็นเรื่องที่ทั่วโลกต่าง ให้ความสนใจ เพราะเทคโนโลยีของแบตเตอรี่จะ ต้องถูกพัฒนาเพื่อรองรับเทคโนโลยีที่ก้าวลํํ้าอื่นๆ อาทิ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ รถยนต์ ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้า 100% แม้กระทั่งโรงไฟฟ้า พลังแสงอาทิตย์ หรือโรงไฟฟ้าพลังงานลม เพื่อใช้ แบตเตอรี่ชนิดลิเทียมไอออนเป็นแหล่งจ่ายและ กักเก็บพลังงาน โดยแบตเตอรี่ชนิดลิเทียมไอออน เป็นตัวกักเก็บพลังงานไฟฟ้าทีม่ ขี นาดเล็ก นํํา้ หนัก เบา สามารถกักเก็บพลังงานได้สูงที่สุดเมื่อเทียบ กับแบตเตอรี่ประจุไฟใหม่อื่นๆ ที่มีจำ�หน่ายใน เชิงพาณิชย์ และมีระยะเวลาใช้งานก่อนจะประจุ ไฟใหม่ยาวนาน จึงมีความสำ�คัญต่อการพัฒนาใน หลายอุตสาหกรรม “วิธีการดำ�เนินการวิจัยของห้องแล็บของ เรา จะเริ่มจากการสังเคราะห์วัสดุ จากนั้นจะนำ� วัสดุมาขึ้นรูป สร้างเป็นแบตเตอร์รี่ และศึกษา พฤติกรรมของวัสดุโดยใช้หลักการทางเคมีและ ฟิสิกส์ เพื่ออธิบายหรือทำ�ความเข้าใจวัสดุนั้นๆ ในด้านต่างๆ อาทิ ประสิทธิภาพการใช้งาน ความ สามารถในการกั ก เก็ บ พลั ง งาน ความสามารถ
ในการให้กำ�ลัง ความปลอดภัยการใช้งานวัสดุ และการเปลี่ยนแปลงของวัสดุ เพื่อให้สามารถ ออกแบบแบตเตอรี่ ที่ เ หมาะสมกั บ การใช้ ง าน แต่ละประเภท” ผศ.ดร.นงลักษณ์ กล่าวและว่า โดยวัสดุทสี่ งั เคราะห์ขนึ้ มา มีทงั้ วัสดุทที่ วั่ โลกกำ�ลังให้ความสนใจ แต่ต้องนำ�เข้าสารตั้งต้น ที่มีราคาแพงจากต่างประเทศ และวัสดุที่สามารถ สังเคราะห์ขึ้นจากวัสดุธรรมชาติ โดยเฉพาะจาก
สิ่ ง เหลื อ ทิ้ ง ทางการเกษตรและอุ ต สาหกรรม เช่น แกลบ หรือเถ้าแกลบ ซึ่งสามารถนำ�มาเป็น วัตถุดบิ ในการสังเคราะห์นาโนซิลกิ อนและนาโน ซิลิกา สำ�หรับทำ�ขั้วไฟฟ้าในแบตเตอร์รี่ชนิด ลิเทียมไอออนได้ทมี่ มี ลู ค่าสูง ทัง้ ยังสามารถกำ�จัด ของเหลือทิ้ง และทำ�ให้กระบวนการเป็น Zero Waste เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย
พิพิธภัณฑ์สิรินธร คว้ารางวัล แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วยอดเยี่ ย ม นายนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำ�นวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท. ) สำ�นักงาน ขอนแก่น เปิดเผยว่า ททท. จัดพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ ๑๐ ประจำ�ปี ๒๕๕๘ (Thailand Tourism Awards 2015) เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๘ ที่ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารฟอรั่ม ๒ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เพื่อเชิดชูเกียรติ แก่หน่วยงานและธุรกิจในวงการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลจากการร่วมส่งผลงานเข้า ประกวด ตลอดจนเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยน องค์ความรู้ในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวไทย ซึ่งการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยนี้ มุ่งเน้นยกระดับคุณภาพการบริการและ การบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว ให้เข้าสู่มาตรฐานระดับสากลในโอกาสที่ประเทศไทยกำ�ลังก้าว เข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมทั้งเพื่อเป็นแนวทางสร้างสรรค์และส่งเสริม อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เกิดการพัฒนาและการแข่งขันในเชิงคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้ พิพธิ ภัณฑ์สริ นิ ธร จ.กาฬสินธุ์ พิพธิ ภัณฑ์ไดโนเสาร์ทสี่ มบูรณ์ทสี่ ดุ ในอาเซียน ซึง่ เป็นหนึง่ ในแหล่งท่องเทีย่ วหลักของเส้นทาง “ไดโนเสาร์สะออน ; ขอนแก่น – กาฬสินธุ”์ ได้รบั รางวัล ยอดเยี่ยม ประเภทแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ ในการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยใน ครั้งนี้ ผู้อำ�นวยการ ททท. สำ�นักงานขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า พิพิธภัณฑ์สิรินธร จ.กาฬสินธุ์ เป็น พิพธิ ภัณฑ์ทมี่ กี ารจัดแสดงเรือ่ งราวไดโนเสาร์ วิวฒ ั นาการโลกและสิง่ มีชวี ติ ตัง้ แต่ยคุ ดึกดำ�บรรพ์จนถึง ปัจจุบนั ซึง่ มีความสมบูรณ์และทันสมัยด้วยเทคโนโลยีการจัดแสดงอันน่าสนใจ อีกทัง้ ยังมีแหล่งขุดค้น ฟอสซิลไดโนเสาร์จริง ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเที่ยวชม และเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทาง “ไดโนเสาร์ สะออน ; ขอนแก่น – กาฬสินธุ์” เส้นทางท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้เรื่องไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดใน ประเทศไทย ซึง่ สามารถท่องเทีย่ วเชือ่ มโยงไปยังแหล่งท่องเทีย่ วใกล้เคียงอืน่ ๆ ใน จ.กาฬสินธุ์ ได้อย่าง คุ้มค่าและลงตัว เช่น วัดพุทธนิมิต (ภูค่าว) หมู่บ้านทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน วนอุทยานภูแฝก และ พระธาตุยาคู เป็นต้น หรือเชื่อมโยงกับแหล่งเรียนรู้เรื่องไดโนเสาร์ อีกหลายแห่งใน จ.ขอนแก่น และ ด้วยความโดดเด่นดังกล่าว พิพิธภัณฑ์สิรินธรจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้และนันทนาการที่ พร้อมส่งมอบความเต็มอิม่ ทัง้ ในแง่คณ ุ ค่าและความคุม้ ค่าจากการท่องเทีย่ วเยีย่ มชม โดยเฉพาะสำ�หรับ นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวและเยาวชน
หน้า 6
ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 ประจำ�เดือนตุลาคม 2558
ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 ประจำ�เดือนตุลาคม 2558
หน้า 7
หน้า 8
ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 ประจำ�เดือนตุลาคม 2558
ครบรอบ 33 ปี แห่งความมุง่ มัน่ ก่อตัง้ สมาคมกลุม่ ชาวไร่ออ้ ยนํา้ พอง พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ ชวีวัฒน์
พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิฯ หน.สภ.ย่อย มข. เน้นนโยบาย ประชาชนเป็นศูนย์กลาง “ปกป้องคุ้มครองคนดี”
สวัสดีคะ่ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสูค่ อลัมน์ “สายตรงโรงพัก”ฉบับประจำ�เดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 ฉบับนี้เราขอแนะนำ�ท่านผู้อ่านให้รู้จักกับ คนในแวดวงสีกากี คือ “ตำ�รวจ”หรือ “ผู้พิทักษ์ สันติราษฎร์”ในพื้นที่ภาคอีสานเช่นเคยค่ะ ใน เดื อ นนี้ เ ราขอแนะนำ � ให้ รู้ จั ก กั บ พ.ต.อ.บุ ญ ฤทธิ์ ชวีวัฒน์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองขอนแก่น ควบตำ�แหน่ง หน.สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่นค่ะ พร้อมเปิดใจถึงนโยบาย การทำ�งานทีเ่ น้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง ภายใต้ สโลแกน “ปกป้องคุ้มครองคนดี”พร้อมจะเป็น เพื่อนคอยรับใช้และบริการพี่น้องประชาชนใน พื้นที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นและพื้นที่ใกล้เคียง อย่างทั่วถึงกันค่ะ พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ ชวีวัฒน์ จบการศึกษา ระดั บ ปริ ญ ญาตรี นิ ติ ศ าสตร์ บั ณ ฑิ ต จาก มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง รุ่นที่ 9 และเนติบัณฑิต ไทย สมัยที่ 62 เข้ารับอบรมหลักสูตรสารวัตรรุ่น ที่ 39 ,หลักสูตรผูก้ �ำ กับการ รุน่ ที่ 57 และหลักสูตร ผู้มีคุณวุฒิ นบ.รบ. ประสบการณ์; ผ่านงานป้องกันปราบ ปราม งานสืบสวนและงานสอบสวน ครอบคลุม ทุกด้าน พ.ต.อ.บุ ญ ฤทธิ์ กล่ า วว่ า สภ.ย่ อ ย มข.เป็นจุดบริการย่อยที่รับแจ้งเหตุ-ร้องทุกข์แก่ ประชาชนในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ส่วนใหญ่จะ เป็นบุคลากรในมหาวิทยาลัย คณาจารย์ จำ�นวน 20,000 คน นักศึกษาจำ�นวน 30,000 คน รวมทั้ง ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัย ขอนแก่น และพื้นที่ใกล้เคียงรอบรั้วมหาวิทยา ลัยฯ ถึงกังสดาล ซอยจีเอฟ บ้านโนนม่วง ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น อีกจำ�นวน 20,000 คน รวมแล้ว มีประชากรที่อยู่ในเขตพื้นที่มหาวิทยาลัยฯ และ ใกล้เคียงจำ�นวนมากกว่า 70,000 คน
ก า ร ทำ � ง า น ใ น ส่วนของ หน.สภ. ย่ อ ย มข.นั้ น เน้ น นโยบายประชาชนเป็นศูนย์กลาง ภายใต้สโลแกน “ปกป้องคุ้มครองคนดี” พร้อมเป็นเพื่อนคอย รับใช้และบริการ งานมวลชนสัมพันธ์ ประสาน หน่วยงานทั้งภาครัฐ-เอกชนในพื้นที่ เพื่อสร้าง ความสัมพันธ์อันดีระหว่างตำ�รวจกับประชาชน ในพื้นที่ และได้ส่งเสริมสนับสนุนการแข่งกีฬา โดยร่วมเป็นนักกีฬาเทนนิสทีมตำ�รวจภูธรภาค 4 ในการคัดเลือกกีฬาภายในด้วย นอกจากนั้นยังได้เป็นอาจารย์พิเศษของ มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น รั บ ผิ ด ชอบสอนวิ ช า นิติเวชศาสตร์ร่วมกับพนักงานสอบสวนท่าน อื่นให้กับนักศึกษาแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รวมทัง้ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และมหาวิทยา ลัยอืน่ ๆ ในภาคอีสาน ทีร่ บั เชิญไปเป็นวิทยากรให้ ความรู้แก่นักศึกษามาโดยตลอด ในโอกาสที่ ม าเยื อ นคอลั ม น์ ส ายตรง โรงพัก พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ ชวีวัฒน์ ได้กล่าวฝากถึง ตำ�รวจประจำ� สภ.ย่อย มข.ทั้งหลายด้วยว่า “ขอ ให้พวกเราพึงระลึกอยูเ่ สมอว่า นอกจากเวลาส่วน ตัวอันน้อยนิด ระยะเวลาที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่คือ ความต้องการของคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และประชาชนภายใต้รั้ว “แก่นมอ” มหาวิทยา ลัยฯ แห่งนี้ ที่ยังรอการคุ้มครองความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สินจากพวกเราอยู่ จงพึงรับใช้ และบริการด้วยความเข้มแข็ง รวดเร็ว เต็มใจ ต่อ เนื่อง ด้วยรอยยิ้มที่มีมิตรไมตรีอยู่เสมอครับ” สำ�หรับคอลัมน์สายตรงโรงพักฉบับนี้ ต้องขอลาท่านผู้อ่านไปก่อน ไว้พบกันใหม่ฉบับ หน้าเดือนพฤศจิกายน 2558 นะคะ“สวัสดีค่ะ”
เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน มอบเครื่องแบบนักเรียน ; นายศิ ว าโรจน์ มุ่ ง หมาย ผล รอง ผวจ.ขอนแก่ น เป็ น ประธานมอบเครื่ อ ง แบบนักเรียน อุปกรณ์กีฬา กระเป๋ า นั ก เรี ย น และชุ ด เครื่ อ งเขี ย นพระราชทาน จ า ก มู ล นิ ธิ ร า ช ป ร ะ ช า นุ เ คราะห์ ในพระบรม ราชูปถัมภ์ ประจำ�ปี 2558 แก่ นั ก เรี ย นโรงเรี ย นราช ประชานุเคราะห์ 50 อ.บ้าน แฮด จ.ขอนแก่น
ธ.ก.ส.ขอนแก่ น มอบ สิ น เชื่ อ กองทุ น หมู่ บ้ า น เมื่ อ วั น ที่ 16 ก.ย. 2558 ที่ ห น้ า สำ � นั ก งาน ธนาคารเพื่ อ การเกษตร แ ล ะ ส ห ก ร ณ์ ห รื อ ธ.ก.ส.ขอนแก่ น พั น เอก สมบูรณ์ ณ หนองคาย รอง เสนาธิการมณฑลทหารบก ที่ 23 เป็นประธานพิธีเปิด โครงการสนับสนุนสินเชื่อ กองทุนหมู่บ้านและชุมชน เมื อ ง ภายใต้ ม าตรการส่ ง เสริมความเป็นอยู่ระดับหมู่บ้านของรัฐบาล โดยมี นายธนู โตสัจจะ ผูอ้ �ำ นวยการ ธ.ก.ส.ขอนแก่น และ หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดขอนแก่น ร่วมเป็น สักขีพยานและมอบป้ายเช็คเงินสด ให้กับกองทุน นำ�ร่องในจังหวัดขอนแก่น จากทั้ง 26 อำ�เภอ เป็นก องทุนหมู่บ้านระดับดีมากชั้น A น า ย ธ นู โ ต สั จ จ ะ ผู้ อำ � น ว ย ก า ร ธ.ก.ส.ขอนแก่ น กล่ า วว่ า จั ง หวั ด ขอนแก่ น มี กองทุ น หมู่ บ้ า นและชุ ม ชนเมื อ งชั้ น A และ B จำ�นวน 2,063 กองทุน ซึ่ง ธ.ก.ส.ขอนแก่น มีเป้า หมายสนับสนุนสินเชื่อให้กับกองทุนหมู่บ้านที่มี ผลงานดีจำ�นวน 1,042 กองทุน เป็นเงิน 1,042 ล้าน บาท โดยวันนี้จ่ายให้กับกองทุนนำ�ร่อง 60 กองทุน เป็นจำ�นวนเงิน 60 ล้านบาท เพือ่ เป็นการขับเคลือ่ น เศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยกระจายเงินลงทุนในพื้นที่ กระตุ้นเศรษฐกิจ ฐานรากให้มั่นคง ตามมติ ค ณะรั ฐ มนตรี ที่ ใ ห้ ธ.ก.ส. และ ธนาคารออมสิน สนับสนุนสินเชื่อกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง เป็นจำ�นวนเงิน 60,000 ล้านบาท โดยแยกเป็ น ธ.ก.ส. จำ � นวน 30,000 ล้ า นบาท และ ธนาคารออมสิน อีกจำ�นวน 30,000 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ของผู้มีรายได้น้อย ให้มี เงินทุนหมุนเวียนในระดับชุมชน โดยให้ธนาคาร
เมือ่ เร็วๆ นี้ ทีห่ อประชุมสมาคมกลุม่ ชาวไร่ อ้อยนํา้ พอง นายชัยวัฒน์ คำ�แก่นคูณ นายกสมาคม กลุ่มชาวไร่อ้อยนํ้าพอง จังหวัดขอนแก่น เปิดเผย ถึงความเป็นมาของสมาคมฯ ว่า ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 โดยมีชาวไร่ออ้ ยกลุม่ หนึง่ ทีม่ อี ดุ มการณ์ เดียวกัน มีความเห็นเดียวกันในการที่จะช่วยเป็น ปากเป็นเสียงแทนเกษตรกรชาวไร่อ้อย จึงได้รวม ตั ว กั น ขอจดทะเบี ย นตั้ ง สมาคมขึ้ น ภายใต้ ชื่ อ “สมาคมกลุม่ ชาวไร่ออ้ ยนํา้ พอง จังหวัดขอนแก่น” จนถึงปีนี้ สมาคมก้าวผ่านวันเวลามาครบ 33 ปี และ ใน 33 ปีที่ผ่านมา สมาคมได้ก้าวผ่านปัญหาและ อุปสรรคมามากหลาย ผ่านวันเวลาที่แสนยาก จน ก่อเกิดผลงานและความภาคภูมิใจ คณะกรรมการ บริหารจึงได้จัดงานเนื่องในโอกาสวาระครบรอบ “33 ปี ภายใต้ชื่อ “33 ปี แห่งความมุ่งมั่น” และ ประชุมใหญ่สามัญประจำ�ปี 2558 สมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยนํ้าพอง จังหวัด ขอนแก่น มีสมาชิกประมาณ 6,000 ครัวเรือน กระจั ด กระจายอยู่ ใ นพื้ น ที่ ต่ า งๆ ในจั ง หวั ด ขอนแก่น อุดรธานี มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ
และ จ.หนองบัวลำ�ภู จุดประสงค์ในการจัดประชุมใหญ่ทุกปี ก็ เพื่อให้พี่น้องชาวไร่อ้อยได้มีโอกาสพบปะ แลก เปลี่ยนความเห็นต่อกัน และสมาคมฯ จะได้แถลง ผลการดำ � เนิ น งานในรอบปี ที่ ผ่ า นมา ตลอดจน เรียนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาให้ความรู้ และวิเคราะห์ สถานการณ์อ้อย แนวโน้มราคาอ้อย, ตลอดจนรา คาตลาดนํ้าตาลทรายดิบในต่างประเทศ เพื่อพี่น้อง ชาวไร่อ้อย และจุดประสงค์อีกประการ คือ เพื่อให้ มวลสมาชิกได้รว่ มแสดงความยินดีกบั สมาคมเนือ่ ง ในวาระครบรอบ 33 ปี ด้วย นายชั ย วั ฒ น์ กล่ า วอี ก ว่ า สมาชิ ก ของ สมาคมส่ ง อ้ อ ยเข้ า หี บ ให้ กั บ โรงงานนํ้ า ตาล ขอนแก่นจำ�กัด มหาชน ปีละประมาณเกือบ 3 ล้าน ตัน ซึง่ สมาชิกชาวไร่ออ้ ยและโรงงานนํา้ ตาลมีความ สัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในเรื่องของการปลูกอ้อยต่อไร่ เพื่อลดต้นทุนการ ผลิต และลดสิ่งปนเปื้อนในการจัดส่งอ้อยเข้าสู่โร งงานนํ้าตาลเพื่อให้อ้อยมีคุณภาพ มีความหวาน ที่ดี ทำ�ให้ชาวไร่และโรงงานได้รับผลตอบแทนที่
ดีขึ้น ตลอดจนการรณรงค์ไม่ใช้ แรงงานเด็กในไร่อ้อย “มี ปั ญ หาที่ ต้ อ งคบคิ ด โดยเฉพาะนั บ จากนี้ ไ ป ไทย ต้ อ งเตรี ย มรั บ มื อ กั บ การเปิ ด AEC ในปลายปี 2558 และการ เปลี่ ย นแปลงที่ จ ะนำ � ไปสู่ ก าร ปรั บ โครงสร้ า งอุ ต สาหกรรม อ้อยและนํ้าตาลทราย โดยนำ�เอา ผลพลอยได้ต่างๆ เข้าสู่ในระบบ ของการแบ่งปัน ตลอดจนราคานํ้ าตาลทรายตลาดโลกมีแนวโน้ม ตํ่าลง โดยลำ�ดับ ทำ�ให้กังวลว่า ราคาอ้อยของชาวไร่ทจี่ ะได้รบั ในฤดูใหม่นี้ จะไม่คมุ้ กับต้นทุน ซึง่ จำ�เป็นจะต้องขอความอนุเคราะห์จาก ทางภาครัฐ หาแหล่งเงินมาช่วยเหลือส่วนที่ขาดไป ให้กบั ชาวไร่ออ้ ย เพือ่ ความอยูร่ อดของอาชีพชาวไร่ อ้อย และอุตสาหกรรมอ้อยโดยรวม” นายชัยวัฒน์ กล่าวและว่า ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกนํ้าตาลรายใหญ่
อันดับ 2 ของโลก ในแต่ละปีสร้างรายได้ให้กับ ประเทศปีละเป็นแสนล้าน สมาคมฯ ในฐานะทีเ่ ป็น ตัวแทนของชาวไร่ทงั้ มวล ก็ไม่ได้นงิ่ นอนใจพยายาม สะท้อนปัญหาต่างๆ ให้กบั หน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องได้ รับทราบ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไข ขจัดปัดเป่า ความเดือดร้อนที่จะตามมา
ขยายศักยภาพสนามบินอุดรธานีให้เป็นศูนย์บนิ ไปจุดหมายอืน่ สนามบินอุดรธานี พัฒนาต่อเนื่อง ปี 59 ขยายหลุมจอดเครื่องเป็น 11 หลุม รองรับการ เป็นศูนย์พกั เครือ่ งบินสูจ่ ดุ หมายต่างๆในภูมภิ าค วอนทุกภาคส่วนร่วมมือกันทำ�การตลาด ผลักดัน ให้สายการบินระหว่างประเทศมาใช้สนามบิน อุดรธานี เมื่อวันที่ 20 ก.ย2558 ที่อาคารผู้โดยสาร ระหว่ า งประเทศ ท่ า อากาศยานนานาชาติ อุดรธานี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธี เปิดใช้อาคารที่พักผู้โดยสารระหว่างประเทศ สนามบินนานาชาติอดุ รธานีทปี่ รับปรุงก่อสร้าง ต่อเติมเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมี นางปาริชาต คช รัตน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน นางอัมพวัน วรรณโก รองอธิบดี นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ ว่าราชการ รักษาราชการแทนผูว้ า่ ราชการจังหวัด อุดรธานี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียง นางปาริชาต คชรัตน์ อธิบดีกรมการ บินพลเรือน กล่าวถึงความเป็นมาของสนามบิน อุดรธานีว่า สนามบินนานาชาติอุดรธานีมีพื้นที่ 2000 ไร่ ประกาศเป็นสนามบินอนุญาตเมือ่ วันที่ 13 ธันวาคม 2479 ที่ผ่านมานี้รัฐบาลได้เน้นด้าน การส่งเสริม พัฒนาการขนส่งทางอากาศด้วย การพัฒนาสนามบินในสังกัดของกรมการบิน พลเรือนทั่วประเทศ 28 แห่ง อย่างต่อเนื่อง ให้ ได้มาตรฐานและมีศกั ยภาพการขนส่งทางอากาศ ของประเทศ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล กรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม จึงได้ใช้งบประมาณจำ �นวน 265.9 ล้านบาท ในการก่อสร้างปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสาร ระหว่างประเทศ โดยใช้อาคารที่พักผู้โดยสารใน ประเทศเดิม พร้อมสะพานเทียบเครื่องบิน 1 ชุด โดยตัวอาคารที่พักผู้โดยสารหลังนี้มีพื้นที่ 8536 ตร.ม.รองรับผู้ใช้บริการได้ 400 คน/ชั่วโมง และ รวมกับกับอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่แล้ว ทำ�ให้สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้ 1200 คน/ ชั่วโมง มีที่ตั้งอยู่ใกล้กับประเทศ สปป.ลาว จากการที่กรมการบินพลเรือน ทำ�การ ปรับปรุงก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารระหว่าง ประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี ครั้ง นี้ เพือ่ เป็นการรองรับความเจริญเติบโตเศรษฐกิจ ของจังหวัดอุดรธานีแบบก้าวกระโดด ความ เจริญเติบโตเศรษฐกิจของภูมิภาค การท่องเที่ยว
เดิ น ทางเชื่ อ มโยงไปกลุ่ ม ประเทศลุ่มแม่นํ้าโขง และ เพือ่ เป็นการรองรับการเปิด เป็ น ประชาคมเศรษฐกิ จ อาเซียน ในสิ้นปี 2558 นี้ ในปัจจุบันนี้ท่าอากาศยาน นานาชาติ อุ ด รธานี มี ส าย การบินต่างๆ จำ�นวน 6 สาย การบิน มีเที่ยวบินไป-กลับ จำ�นวน 48 เที่ยวบิน และมี แนวโน้มว่าจะมีสายการบินมาใช้บริการเพิม่ ขึน้ ใน อนาคต นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมต.คมนาคม กล่าวว่า อาคารที่พักผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่า อากาศยานอุดรธานี ที่เปิดให้บริการแก่ประชาชน ในวันนี้นั้น ถือว่าเป็นความร่วมมือ ร่วมใจของทุก ฝ่ายที่ช่วยกันผลักดัน ที่พร้อมส่งเสริมการขนส่ง ทางอากาศ ตามนโยบายของรัฐบาล สำ�หรับอาคารทีพ่ กั ผูโ้ ดยสารและตัวสนาม บินที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้นก็ เพื่อรองรับความเจริญเติบโตธุรกิจการบินของท่า อากาศยานนานาชาติอดุ รธานี โดยเฉพาะตัวอาคาร ที่พักผู้โดยสารระหว่างประเทศนั้น ไม่เพียงเพื่อ รองรับผู้ใช้บริการในจังหวัดอุดรธานีเท่านั้น แต่ ยังเอื้ออำ�นวยไปยังผู้โดยสารในจังหวัดใกล้เคียง และภาคอีสานตอนบนทั้งหมด รวมไปถึงพี่น้อง ประชาชนชาว สปป.ลาว ที่อยู่ห่างจากสนามบิน จังหวัดอุดรธานีเพียง 70 ก.ม.เท่านัน้ ให้ได้รบั ความ สะดวก รวดเร็วในการเดินทาง มี ร ายงานตั ว เลขความเจริ ญ เติ บ โตของ สนามบินจังหวัดอุดรธานีว่า ในปี 2556 มีผู้ใช้ บริการ 1.325 ล้านคน ปี 2557 จำ�นวน 1682 ล้านคน และในปี 2558 ถึงเดือนกรกฎาคม มีผู้มาใช้บริการ แล้วจำ�นวน 1.246 ล้านคน ซึง่ คาดว่าเมือ่ ถึงสิน้ ปีนี้ จะมีผู้มาใช้บริการสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา สำ � หรั บ การปรั บ ปรุ ง ท่ า อากาศยาน อุดรธานีให้มีความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่เดิน ทาง ทางอากาศนั้น ในปี 2559 จะมีการก่อสร้าง หลุมจอดเครื่องบินเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ 7 หลุม ให้เป็น 11 หลุม เพื่อรองรับสายการบินที่ต้องการ ใช้สนามบินอุดรธานี เป็นศูนย์พกั ค้างคืน และเป็น จุดเริ่มทำ�การบินไปยังจุดหมายต่างๆ นอกจากนี้แล้ว นายอาคม ก็กล่าวถึงกรณี ที่มีข่าวว่า ทอท.ขอรับโอนท่าอากาศยานในสังกัด
กรมการบินพลเรือนไปดูแลนั้น เป็นเรื่องที่เคยมี การพูดคุยกันมานานแล้ว แต่ไม่สามารถหาข้อยุติ ได้ เพราะ ทอท.ต้องการจะเอาเฉพาะท่าอากาศยาน ที่สามารถทำ�กำ�ไรได้ไปดูแลควบคุมกำ�กับ แต่กรม การบินพลเรือน เห็นว่าหาก ทอท.จะรับโอนท่า อากาศไปดูแล ก็ขอให้รับโอนไปทั้ง 28 แห่งเลย “ส่ ว นการที่ จ ะทำ � ให้ ท่ า อากาศยาน นานาชาติอุดรธานี มีสายการบินระหว่างประเทศ มาใช้เป็นจุดพักหรือจุดหมายของการทำ�การบิน ตรงนั้น ทุกฝ่ายนับตั้งแต่ จังหวัด ภาครัฐ และภาค เอกชน ต้องช่วยกันทำ�การตลาด ชักชวนให้สายการ บินต่างๆ มาใช้บริการสนามบิน ซึ่งก็จะต้องแสดง ความมีศกั ยภาพของความพร้อมให้สายการบินเห็น ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำ�คัญ” นายอาคมฯ กล่าว ด้านนายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ประธาน หอการค้าจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยถึงการปรับปรุง ก่ อ สร้ า งอาคารที่ พั ก ผู้ โ ดยสารระหว่ า งประเทศ สนามบินนานาชาติอดุ รธานีวา่ เกิดจากความเจริญ เติบโตของการใช้บริการสายการบินในการเดิน ทางระหว่างอุดรธานี-กรุงเทพฯที่เป็นไปอย่างก้าว กระโดด จังหวัดอุดรธานีและหอการค้าจังหวัด อุดรธานี จึงช่วยกันขับเคลื่อนให้เกิดการปรับปรุง ก่อสร้าง โดยผ่านมติที่ประชุม ครม.สัญจร ปี 2554 ที่จังหวัดอุดรธานี โดยขอให้กรมการบินพลเรือน เร่งรัดนำ�เงินงบประมาณปกติที่มีแผนการและงบ ประมาณอยู่แล้ว มาลงทุนในการพัฒนาปรับปรุง สนามบินนานาชาติอุดรธานี จากจุ ด ดั ง กล่ า วทำ � ให้ ท างกรมการบิ น พลเรื อ น ได้ ใ ห้ ค วามสำ � คั ญ ต่ อ โครงการพั ฒ นา ปรับปรุงสนามบินนานาชาติอดุ รธานี เป็นแผนเร่ง ด่วน จนสำ�เร็จเป็นรูปธรรมดั่งที่ปรากฏอยู่ขณะนี้ อย่างไรก็ตามก็ยังจะต้องมีการร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งในจังหวัดและในส่วนกลาง เพื่อทำ�การผลักดัน ให้เกิดความสมบูรณ์ของโครงการปรับปรุงสนาม
บินนานาชาติอุดรธานีต่อไปอีก คือ อาคารที่พัก ผู้โดยสารหลังที่ 3 ซึ่งได้เสนอขอให้กรมการบิน พลเรือนช่วยทำ�การศึกษาความเหมาะสมและ ความเป็นไปได้เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ สามารถหยิบขึ้นมาวางแผนการปรับปรุงต่อเติม ได้ทันที ทันต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคต โครงการต่ อ มาคื อ การก่ อ สร้ า งอาคาร ขนส่งสินค้า หรืออาคารคาร์โก้ เพราะเนื่องจากว่า จังหวัดอุดรธานี เป็นทีต่ งั้ ของโรงงานชิน้ ส่วนอิเล็ค ทรอนิค ชิน้ ส่วนคอมพิวเตอร์ ชิน้ ส่วนควบคุมยาน ยนต์ และอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิค จำ�เป็นที่จะ ต้องขนส่งด้วยความปลอดภัย รวดเร็ว จำ�เป็นที่ สนามบินฯจะต้องมีอาคารคาร์โก้ และปัญหาทีเ่ กิด อยูใ่ นขณะนีก้ ค็ อื สถานทีจ่ อดรถของผูใ้ ช้บริการคับ แคบไม่เพียงพอ จำ�เป็นอย่างยิ่งที่จะต้องก่อสร้าง อาคารที่จอดรถเอาไว้บริการแก่ผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ทางหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งจากสายการบินหลายสาย ที่จะทำ�การ บินจากสนามบินอุดรธานีไปยังจุดหมายต่างๆใน กลุ่มประเทศอาเซียน ที่ได้รับแจ้งแล้วก็ได้แก่ สาย การบิน ไทยไลอ้อนส์ แอร์ ที่จะทำ�การบินในเส้น ทาง อุดรธานี-สิงคโปร์ อุดรธานี-จีนตอนใต้ และ สายการบินนกแอร์ จะทำ�การบิน อุดรธานี-ฮานอย เป็นต้น ในส่วนของการผลักดันเชิญชวนให้สาย การบินมาใช้บริการสนามบินนานาชาติอุดรธานี นั้ น เป็ น เรื่ อ งที่ ทุ ก ภาคส่ ว นจะต้ อ งมาร่ ว มกั น ทำ�แผนการตลาดเสนอไปยังทุกภาคส่วน ไม่ว่า จะเป็นสายการบินทุกสายที่ทำ �การบินเข้ามายัง ประเทศไทย อีกส่วนหนึ่งจากการที่จังหวัดและ ภาคเอกชนอุดรธานี มีการพูดคุยกับสายการบิน ของกลุม่ ประเทศในลุม่ นํา้ โขงก็จะต้องมาเสนอแจ้ง กลับไปยังสายการบินเหล่านั้นใหม่อีกครั้ง พร้อม กับจะแจ้งไปยังประเทศต่างๆในอาเซียนอีกด้วย “ในขณะนี้สนามบินนานาชาติอุดรธานี มี ความพร้อมเกือบทุกด้านแล้ว มีอาคารผู้โดยสาร ระหว่างประเทศ สามารถที่จะทำ� CIQ จากสนาม บินอุดรธานี ไปได้ทุกจุดหมายทั่วโลก มีบุคลากร ทีเ่ กีย่ วข้องกับการบริการทุกสาขาแผนก ตัง้ แต่เริม่ เข้ามาใช้บริการสายการบินต่างๆ ไปจนถึงพิธีการ ทางศุลกากร ควบคุมการตรวจโรค ไปถึงเจ้าหน้าที่ นำ�ร่องเครื่องบินขึ้นลง สนามบิน” นายสวาทฯ กล่าว
เอไอเอส แฟมิลี่ วอล์ค แรลลี”่ ตอน ตำ�รวจขอนแก่น บูรณาการการ “สานรักผจญภัยแดนไดโนเสาร์” ทำ�งาน สร้างศรัทธาในองค์กร สนับสนุนสินเชื่อกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่ได้รับการจัดชั้นจากสำ�นักกองทุนหมู่บ้านและ ชุมชนแห่งชาติ ในระดับ ชั้น A และ B วงเงิน กองทุนละไม่เกิน 1 ล้านบาท ในระยะเวลา 7 ปี โดย คิดอัตราดอกเบีย้ ในอัตราผ่อนปรนปีที่ 1 และ 2 ร้อย ละ 0 ส่วนปีที่ 3 ถึงปีที่ 7 คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ เงินทุนธนาคาร บวกด้วยร้อยละ 1 ต่อปี ซึง่ ปัจจุบนั เท่ากับ 1.92+1 พั น เอก สมบู ร ณ์ ณ หนองคาย รอง เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 23 กล่าวว่า การ ดำ�เนินโครงการเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้การสนับสนุนโครงการนี้ผ่านธนาคาร 2 แห่ง คือ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. เพื่อช่วย เหลือประชาชน ในการแก้ปัญหา สร้างอาชีพเสริม เศรษฐกิจ เพื่อช่วยบรรเทาจากปัญหาสภาวะฝน แล้ง ที่สร้างปัญหาให้กับเกษตรกร มีเงินทุนใน ด้านการหันมาสู่เส้นทางธุรกิจชุมชน สร้างอาชีพ ให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้ บรรเทา ผ่อนคลายความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ จาก การทำ�นาและการเกษตรให้เกิดทางออกและทาง เลือกใหม่ ในการบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งเป็น ผลกระทบจากภัยแล้ง รัฐบาลมีห่วงใยใน 2 ปัญหา หลัก คือผลกระทบต่อผูม้ รี ายได้นอ้ ยและขาดแคลน ทุนทรัพย์ในการสร้างอาชีพเสริม ให้สามารถใช้
นางวิไล เคียง ป ร ะ ดู่ ผู้ ช่ ว ย ก ร ร ม ก า ร ผู้ อำ � น ว ย ก า ร อาวุ โ ส ส่ ว นงาน ประชาสั ม พั น ธ์ บริษัทแอด วานซ์ อิ น โฟร์ เซอร์ วิ ส จำ � กั ด (มหาชน) หรื อ เอไอเอส ชวนทุ ก ครอบครั ว ร่ ว มกิ จ กรรม การกุศล “เอไอเอส แฟมิลี่ วอล์ค แรลลี่” ครั้ง ที่ 16 ตอน “สานรักผจญภัยแดนไดโนเสาร์” ชิง ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพือ่ นำ�รายได้สมทบทุนมูลนิธิ อานั น ทมหิ ด ล โดยการแข่ ง ขั น จะจั ด ขึ้ น ในวั น ที ่ 28 พฤศจิกายน 2558 ณ โรงแรม ราชาวดี รีสอร์ท ทำ�ธุรกิจเพื่อการเลี้ยงชีพได้ต่อไป โดยไม่เดือดร้อน ซึ่งเป็นนโยบายบรรเทาทุกข์โดยรัฐบาลที่ทำ�ทั่ว ประเทศ สำ�หรับมาตรการสนับสนุนสินเชื่อให้กับ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองครั้งนี้ เพื่อสร้าง โอกาสทางเศรษฐกิ จ ให้ กั บ ประชาชนในระดั บ หมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน
แอนด์ โฮเทล จังหวัดขอนแก่น ซึง่ นอกจากทุกครอบครัวจะได้ใช้เวลาว่าง ในการทำ�กิจกรรมร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความ รักความผูกพันในครอบครัวผ่านเกมการแข่งขัน ที่สร้างสรรค์ ผสมผสานการนำ�เทคโนโลยียุค ดิจิทัลมาใช้ในฐานต่างๆ แล้ว ช่วงคํ่ายังเตรียม สนุกสนานกับงานเลี้ยง และประกาศผลผู้ชนะ การแข่งขัน พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตสุดมันส์ จาก ริท เรืองฤทธิ์ เดอะสตาร์ และรับของรางวัลภายใน งานมากมายรวมมูลค่ากว่า 120,000 บาท ครอบครัวที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วม กิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมีค่าสมัคร ครอบครัวละ 2,500 บาท / 3 คน (ไม่รวมห้องพัก) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-20294125-6 หรือ www.sarnrak.net และ facebook. com/sarnrak.ais และเพิม่ อำ�นาจการใช้จา่ ยของคนในชนบทเป็นการ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจ ฐานรากให้มคี วามมัน่ คง โดยรัฐบาลใช้วงเงินการก ระตุน้ เศรษฐกิจครัง้ นี้ 60,000 ล้านบาท มีระยะเวลา ดำ�เนินโครงการ 7 ปี โดยปีแรกและปีที่ 2 ธนาคาร คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 0 ต่อปี และปีที่ 3- 7 อัตรา ดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี
ตำ�รวจภูธรภาค 4 จัดงานวันตำ�รวจ ประจำ� ปี 2558 รำ�ลึกถึงผู้ก่อตั้ง กรมตำ�รวจ และอุทศิ ส่วน กุศลแด่ดวงวิญญาณของ ข้ า ราชการตำ � รวจที่ เ สี ย ชีวติ จากการปฏิบตั หิ น้าที่ ราชการ เ มื่ อ วั น ที่ 1 3 ต.ค.58 ที่อ นุสรณ์ แห่ ง ค ว า ม เ สี ย ส ล ะ ก อ ง บังคับการอำ�นวยการ ตำ�รวจภูธรภาค 4 จังหวัด ขอนแก่น พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผูบ้ ญ ั ชาการ ตำ � รวจภู ธ รภาค 4 เป็ น ประธานในพิ ธี ว างพวง มาลาอนุสรณ์แห่งความเสียสละ เพื่อสดุดีแด่เจ้า หน้ า ที่ ตำ � รวจที่ เ สี ย สละชี วิ ต ขณะปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ราชการและเป็นประธานในพิธีเนื่องในวันตำ�รวจ ประจำ�ปี 2558 ซึ่งตรงกับวันที่13ตุลาคม ของทุก ปี โดย หัวหน้าส่วนราชการ ตุลาการ ทหาร องค์กร ปกครองท้องถิ่น องค์กรต่างๆ และภาคเอกชน ใน จังหวัดขอนแก่น และข้าราชการตำ�รวจ จำ�นวน มากมาร่วมในพิธี และร่วมทำ�บุญตักบาตร ร่วม ถวายสังฆทาน เครื่องไทยธรรมแด่พระภิกษุสงฆ์ นอกจากนี้ จัดให้มีพิธีประกาศเกียรติคุณ
แก่ข้าราชการตำ�รวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น มอบ ประกาศเกี ย รติ คุ ณ แก่ อ าสาสมั ค รที่ ช่ ว ยเหลื อ งานตำ � รวจ ร่ว มกล่ าวคำ � สัตย์ ปฏิ ญ าณตนของ ข้ า ราชการตำ � รวจ และการอ่ า นสารของผู้ บัญชาการตำ�รวจแห่งชาติ พร้อมกล่าวชื่นชมการ ทำ�งานของตำ�รวจที่ได้บูรณาการร่วมกับหลาย หน่วยงาน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ที่ เกิดขึ้นในพื้นที่ ให้ยึดหลักนโยบายของรัฐบาล ควบคู่กับหลักนิติรัฐ กฎหมาย และความเป็น ธรรม ประชาชน สามารถเข้ามามีส่วนร่วมใน การทำ�งานเพื่อความโปร่งใส สามารถตรวจสอบ ได้ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ยอมรับ และเกิด ความศรัทธาในองค์กรตำ�รวจ
หน้า 9
ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 ประจำ�เดือนตุลาคม 2558
โตโยต้าแก่นนคร คว้า 4 รางวัล CSR-DIW 2015 แอร์เอเชีย รุกตลาดจีน เปิดบินตรงสู่ “เซีย่ งไฮ้”
บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด คว้ารางวัลจากโครงการส่งเสริม อุตสาหกรรมให้มีการพัฒนาด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility, Department of Industrial Works : CSR-DIW) จัด โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพือ่ ส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้พัฒนาด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้การพัฒนาและถ่ายทอด เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2558 ที่ ห้องประชุม Grand Diamond Ballroom เมืองทองธานี จ.นนทบุรี โดยได้รบั เกียรติจาก ดร.อรรชกา สีบญ ุ เรือง รัฐมนตรีวา่ การกระทรวง อุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นายอาทิตย์ วุฒคิ ะโร ปลัดกระทรวง
อุตสาหกรรม และ ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมคณะ ผูบ้ ริหารกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีผบู้ ริหาร และผูแ้ ทนจากสถานประกอบ การอุตสาหกรรมที่ได้รับรางวัลมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ในปี 2558 นี้ บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด ได้รับรางวัล CSR-DIW 2015 จำ�นวน 4 รางวัล ได้แก่ นายธีรนันท์ กิ่งแก้วเจริญชัย ผู้อำ�นวยการฝ่าย พัฒนาองค์กร, นายไพบูลย์ เลียงวิทยาคุณ ผู้อำ�นวยการฝ่ายบริการหลังการ ขาย, นายเสกสรรค์ สอนเพชร หัวหน้าแผนกตัวถัง และนายสุชาติ พิมหานาม หัวหน้าแผนกตัวถังและสี พร้อมด้วยพนักงาน บริษัท โตโยต้าแก่นคร จำ�กัด
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ จะหยุดบินใน 2 เส้นทางได้แก่ เส้นทาง อุดร-เชียงใหม่ ตัง้ แต่วนั ที่ 25 ต.ค.2558 และเส้นทางกรุงเทพฯ-อุดรธานีตงั้ แต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 น.ส.บุญธิดา แสงพาน นายสถานีสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ประจำ� จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดอย่างเป็นทางการจาก บริษัทใหญ่ที่กรุงเทพฯ ในเบื้องต้นได้รับทราบเพียงว่าเมื่อเช้าวันที่ 7 ต.ค. 2558 ได้มีการประชุม COMMERCIAL และได้แจ้งให้สถานีอุดรธานีว่า ทาง บริษทั บางกอกแอร์เวย์ จำ�กัด จะหยุดทำ�การบินใน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง เชียงใหม่-อุดรธานี-เชียงใหม่ ซึ่งสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ทำ�การบินอยู่ วันละ 2 เที่ยวบิน คือ ช่วงเช้าออกจากเชียงใหม่ เวลา 06.30 น.ถึงอุดรธานี เวลา 07.55 น. และออกจากอุดรธานีเวลา 08.35 น.ถึงเชียงใหม่เสลา 10.00 น. เที่ยวบ่ายออกจากเชียงใหม่เวลา 16.45น.ถึงอุดรธานีเวลา 18.10 น.ออก จากอุดรธานีเวลา 18.40 น.ถึงเชียงใหม่เวลา 20.00 น. ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป และเส้นทางกรุงเทพฯสุวรรณภูมิ-อุดรธานี ซึ่งทำ�การบินอยู่วันละ 3 เที่ยวบิน และก่อนหน้านั้นทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ก็ได้ประกาศ ยกเลิกไปแล้ว 1 เที่ยวบิน คือเที่ยวบินตอนกลางวัน คงเหลือเฉพาะเที่ยวบิน ตอนเช้า ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 06.10 น.ถึงอุดรธานีเวลา 07.15 น. ออก จากอุดรธานีเวลา 08.00 น.ถึงกรุงเทพฯ เวลา 09.05 น. และเทีย่ วบินตอนเย็น ออกจากกรุงเทพฯเวลา 18.55 น.ถึงอุดรธานีเวลา 20.00 น. ออกจากอุดรธานี เวลา 20.50 น.ถึงกรุงเทพฯ เวลา21.55 น. ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป
ทั้งนี้นายสถานีบางกอกแอร์เวย์ประจำ�จังหวัดอุดรธานี กล่าวทาง โทรศัพท์อกี ว่า ในส่วนของรายละเอียดอย่างเป็นทางการ รวมทัง้ เอกสารยืนยัน นัน้ ยังไม่ได้รบั แจ้งจากทางกรุงเทพฯ โดยหากว่าต้องการรายละเอียดนัน้ ขอให้ ติดต่อกับทางสำ�นักงานใหญ่ทกี่ รุงเทพฯ ฝ่ายสือ่ สารองค์กรสัมพันธ์ หมายเลข โทร. 02-2655678 สายการบินบางกอกแอร์เวย์ จำ�กัด เป็นการสายบินแรกในจำ�นวนสาย การบินทีม่ าใช้บริการสนามบินนานาชาติอดุ รธานี ร่วมกับหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง ต่างๆ เช่น กรมการบินพลเรือน หอการค้าจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดอุดรธานี ทำ�การผลักดันให้สายการบินบางกอกแอร์เวย์สามารถเปิดบริการ ตรวจเช็ค กระเป๋าสัมภาระเดินทางของผูโ้ ดยสารระหว่างประเทศได้เป็นสายการบินแรก หรือ CIQ โดยผู้โดยสารที่ต้องการที่จะเดินทางไปต่างประเทศ สามารถตรวจ เช็คกระเป๋าสัมภาระที่ช่องทางขาออกระหว่างประเทศได้เลย โดยไม่ต้องนำ� กระเป๋าสัมภาระไปตรวจเช็คที่สนามบินดอนเมือง หรือ สนามบินสุวรรณภูมิ สำ�หรับท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานีนั้น ในปัจจุบันนี้ มีสายการบินต่างๆ คือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์, สายการบินไทยไลอ้อนส์,สายการบินนก แอร์,สายการบินไทยสไมล์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทการบินไทย,สายการ บินแอร์เอเชีย มาใช้ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานีวันละ 26 เที่ยวบิน ไป-กลับ 52 เที่ยวบิน จึงเกิดการแข่งขันทำ�การตลาดในด้านราคาในเส้นทาง ระหว่างกรุงเทพฯ-อุดรธานี กันหลากหลายราคา บางสายการบินราคาหน้าตัว๋ อยู่ที่เพียง 545 บาท ในระหว่างวันอังคาร-วันพฤหัส และเมื่อจองตั๋วในระยะ ยาวก่อนที่ผู้โดยสารจะบิน ซึ่งราคาดังกล่าวยังตํ่ากว่าราคาตั๋วรถโดยสารปรับ อากาศ VIP จากอุดรธานี-กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ที่ 764 บาท
บางกอกแอร์ ห ยุ ด บิ น 2 เส้ น ทาง
“ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” ก้าวเข้าสู่ปีที่สอง เปิดเส้นทางใหม่บินตรง กรุงเทพ-เซี่ยงไฮ้ 1 ตุลานี้ พร้อมโปรพิเศษแทนคำ�ขอบคุณ เริ่มต้นเพียง 2,990 บาท ในชั้นประหยัด และชั้นธุรกิจที่ 9,990 บาท เริ่มเดินทางวันนี้ถึง 29 ตุลาคม 59 นายนัตดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์ เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่าไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ขอขอบคุณผู้โดยสารนับล้านที่ มอบความไว้วางใจเดินทางกับเราตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา และในโอกาสก้าว เข้าสู่ปีที่สองนี้ เรายังคงเดินหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง มั่นใจพร้อมเดินหน้า รุกตลาดจีนอย่างเต็มที่กับเส้นทางบินใหม่สู่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน พร้อม ชูจุดขายด้วยคอนเซป Experience the exotic China in a modern way หรือเซี่ยงไฮ้...ฮิป อาร์ต เรโทร โมเดิร์น ครบทุกรสในที่เดียว สามารถเที่ยวได้ ทุกเพศทุกวัยที่จะเข้ามาสร้างสีสันใหม่ๆ ให้กับนักเดินทางชาวไทยควบคู่ไป กับเส้นทางบินสู่ญี่ปุ่นและเกาหลี ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ในปี 2557 ทีผ่ า่ นมา มีนกั ท่องเทีย่ วชาวไทยเดินทางไปเยือนประเทศ จีนถึง 613,100 คนด้วยกัน โดยในครึง่ ปีแรกของปีนมี้ นี กั ท่องเทีย่ วชาวไทยไป เยือนประเทศจีนแล้วสูงถึง 309,000 คน หรือเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเปรียบเทียบ กับช่วงเดียวกันของปีกอ่ นหน้า ส่วนในปีนมี้ กี ารคาดการณ์กนั ว่าจะมีนกั ท่อง เที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทยสูงถึง 7 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งเป้า ไว้ในตอนแรกที่ 6 ล้านคน โดยในครึ่งปีแรกมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือน ประเทศไทยแล้วถึง 4 ล้านคนด้วยกัน โดยเฉพาะกลุม่ นักท่องเทีย่ วชาวจีนใน เมืองเซีย่ งไฮ้ และมณฑลโดยรอบ ทีถ่ อื เป็นพืน้ ทีเ่ ศรษฐกิจสำ�คัญของประเทศ จีนทีป่ ระชากรมีก�ำ ลังซือ้ และครองส่วนแบ่งกว่าครึง่ ของนักท่องเทีย่ วชาวจีน ที่นิยมเดินทางมายังประเทศไทย “ประเทศจีนถือได้ว่าเป็นตลาดที่มากไปด้วยจำ�นวนประชากร และ ศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในเชิงการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และ การลงทุน โดยที่ผ่านมากลุ่มสายการบินแอร์เอเชียมีเครือข่ายการบินที่เข้ม แข็งและครอบคลุมในตลาดจีน ซึ่งแบรนด์เป็นที่รู้จักและได้รับการตอบรับที่ ดีมาก ครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะเข้าสู่ตลาด จีนอย่างเต็มตัว ซึง่ เราก็ได้รบั การสนับสนุนและตอบรับทีด่ จี ากทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นอีกโอกาสใหม่ที่น่าจะเติบโตได้อย่างแน่นอน”นายนัตดา กล่าวเสริม ด้วยความร่วมมือระหว่างไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กับไทยแอร์เอเชียใน การให้บริการ Fly Thru นักท่องเที่ยวชาวไทยจากภูมิภาคต่างๆ ทั้ง เชียงใหม่
หาดใหญ่ กระบี่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี สามารถเดินทางต่อสู่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้อย่างสะดวกสบาย ผ่านการต่อเครือ่ งทีท่ า่ อากาศยานดอนเมือง เช็คอินครั้งเดียวที่ต้นทางและรับสัมภาระที่ปลายทางได้เลย ส่วนนักท่องเที่ยว จากประเทศจีนก็ยังสามารถใช้บริการ Fly Thru นี้เชื่อมต่อเข้าสู่จังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย หรือต่อเที่ยวบินสู่ต่างประเทศได้ทั้ง กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์ และเวียดนาม ได้เช่นกัน เพือ่ เป็นการเฉลิมฉลองเส้นทางบินใหม่ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จัดโปรโมชั่ นราคาประหยัด เริม่ ต้นที่ 2,990 บาทต่อเทีย่ วบิน ในชัน้ ประหยัด และชัน้ ธุรกิจ พรีเมีย่ มแฟลตเบดเริม่ ต้นที่ 9,990 บาท ผ่านทาง www.airasia.com สำ�หรับผู้ ถือบัตร BIG จองได้ผา่ น www.airasiabig.com และจองโปรโมชัน่ บัตรโดยสาร พร้อมทีพ่ กั ราคาพิเศษได้ที่ www.airasiago.com ตัง้ แต่วนั ที่ 1 ตุลาคมเป็นต้น ไปจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2558 และเริ่มเดินทางได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2559 ทั้งนี้ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ให้บริการสู่เมืองเซี่ยงไฮ้ ด้วย เครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 ลำ�ใหญ่ กว้างขวางสะดวกสบาย ประกอบไป ด้วยที่นั่งชั้นธุรกิจพรีเมี่ยมแฟลตเบดที่สามารถปรับเอนนอนได้ พร้อมบริการ โหลดสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องบินได้ 40 กิโลกรัม ที่นั่งชั้นประหยัด ที่นั่ง Hot Seat ที่มีพื้นที่วางขาที่กว้างยิ่งขึ้น และพื้นที่ Quiet Zone ที่อนุญาตให้เฉพาะ ผู้โดยสารที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปเท่านั้นใช้บริการ พร้อมสร้างประสบการณ์ เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองให้เป็นเรื่องสนุก และง่ายยิ่งขึ้น
ต้อนรับทีม นกแอร์สกายแองเจิ้ล มร.โอเล่ นีลเซ่น ผูจ้ ดั การใหญ่ ให้การ ต้อนรับทีมผู้เข้าประกวด “นกแอร์สกายแอง เจิ้ล” จากประเทศเมียนมาร์ ในโอกาสที่เดิน ทางมายังจังหวัดขอนแก่นเพือ่ ถ่ายทำ�รายการ และเก็บตัวสำ�หรับการประกวด เพื่อสรรหา สาวสวยมากความสามารถ เป็นตัวแทนของ สายการบินนกแอร์ จำ�กัด
หน้า 10
ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 ประจำ�เดือนตุลาคม 2558
เทสโก้ โลตัส คาดยอดขายเจ ปีนโี้ ต 10% สวนกระแสเศรษฐกิจ
เทสโก้ โลตัส เตรียมโปรโมชั่นสินค้า เจราคาพิ เ ศษเพื่ อ ช่ ว ยลู ก ค้ า ประหยั ด สำ� หรั บ เทศกาลกินเจปีนี้ ชูสินค้าอาหารสดกว่า 800 รายการที่ ป รั บ ราคาลงเท่ า กั บ ราคาขายส่ ง นอกจากนั้นยังจัดโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 และ ราคาพิเศษที่ลดลงสูงสุด 50% ครอบคลุมสินค้า เจทุกกลุ่ม โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 8-21 ตุลาคมนี้ นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ รองประธาน กรรมการ ฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าว ว่า ถึงแม้ว่าเทศกาลกินเจในปีนี้ จะมีจำ�นวนวัน กินเจน้อยกว่าปีที่แล้วคือ 14 วัน เทียบกับปีที่ แล้วที่มีการกินเจสองครั้งรวมกันเป็นจำ�นวน 22 วัน อย่างไรก็ตามคาดว่ายอดขายวันต่อวัน จะโตกว่าปีที่แล้วประมาณ 10% เนื่องจากการ ปรับลดราคาสินค้าอาหารสดของเทสโก้ โลตัส มากกว่า 800 รายการให้มีราคาเทียบเท่ากับ ราคาส่ง และโปรโมชั่นต่างๆ ที่จะช่วยลูกค้า ประหยัดในเทศกาลถือศีลกินเจปีนี้ โดยคาดว่า สภาพเศรษฐกิจไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการกิน เจของประชาชนแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นเรื่อง ของความศรัทธา เทศกาลถือศีลกินเจในปีนี้ เทสโก้ โลตัส ได้จัดเตรียมโปรโมชั่นสำ�หรับเทศกาลกินเจใน ปีนี้โดยครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้าได้แก่ กลุ่มผัก ผลไม้: การปรับลดราคาสินค้าอาหารสดลงอีก
กว่า 800 รายการ ทำ�ให้ราคาผักและผลไม้ทีเทส โก้ โลตัส เท่ากับราคาขายส่ง นอกจากนั้นแล้ว ยังมีโปรโมชั่นซื้อสินค้าสดชนิดใดก็ได้ราคา 300 บาทขึ้นไปต่อยอดบิล ทุกๆ วันอังคารและวันพุธ ลูกค้าจะได้รับคูปองเงินสดมูลค่า 50 บาททันที เพื่อใช้ซื้อสินค้าอะไรก็ได้ที่เทสโก้ โลตัส ในครั้ง ต่อไปโดยมียอดไม่ตํ่ากว่า 300 บาท กลุ่มอาหารปรุงสด: แผนกเดลิก้ามีการ ปรุงอาหารเจที่สะอาด อร่อย และหลากหลาย เพื่อให้บริการลูกค้าที่ไม่สะดวกในการทำ�อาหาร เจรับประทานเอง กลุ่มเบเกอรี่: ขนมเบเกอรี่เจที่ อบสดใหม่ ทุกวัน กลุ่มนํ้าพริก ขนมเจ ของแห้ง เจ ที่หลากหลายและครบครัน กลุ่มสินค้าเสื้อผ้า และเครือ่ งนุง่ ห่ม ทีม่ กี ารลดราคาเสือ้ ยืดสีขาว ชุด สีขาวสำ�หรับผูท้ ถี่ อื ศีลกินเจ สำ�หรับสินค้าสดจะ เน้นที่ราคาเทียบเท่าราคาส่ง ส่วนสินค้าอื่นๆ มี ทั้งโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ซื้อ 2 แถม 1 และลด ราคาสูงสุด 50% โดยจะเริ่มลดตั้งแต่วันที่ 8-21 ตุลาคมนี้ นอกจากนั้นแล้ว ยังมีโปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะที่ เ ทสโก้ โลตั ส เอ็ ก ซ์ เ พรสทุ ก สาขา เมื่อซื้อสินค้าในกลุ่มผักและสลัดครบ 50 บา ทรับสแตมป์เพิ่มทันที 10 ดวง และอาหารเจแช่ แข็งหลากหลายชนิดราคาเริม่ ต้นเพียงแค่ 27 บาท เท่านั้น
รางวัลไทยแลนด์ จู เนียร์ เชฟ แซมป์เปีย นส์ชพิ ; โรงแรมเซ็น ทาราคอนเวนชั น เซ็นเตอร์ ขอนแก่น ร่ ว ม แ ส ด ง ค ว า ม ยิ น ดี กั บ พนั ก งาน โรงแรมแผนกครั ว ทีค่ ว้ารางวัลจากการ แข่งขัน ไทยแลนด์ จู เนียร์ เชฟ แซมป์เปียนส์ชพิ ครัง้ ที่ 2 ประจำ�ปี 2558 จัดโดยสมาคมเชฟแห่งประเทศไทยและบริษทั เอ็กซ์ โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำ�กัด ในงาน FOOD and HOTELEX 2015 ณ ขอนแก่นฮอลล์ ศูนย์การค้า เซ็ลทรัลพลาซา จังหวัดขอนแก่น โดยได้รับรางวัลถึง 8 รายการ ม อ บ ร า ง วั ล กิจกรรมวันโอโซน โลก ; คุ ณ บรรทม คชอาจ ผูจ้ ดั การฝ่าย วิศวกรรม โรงแรม พูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ซึ่งเป็น ผู้ ดู แ ลและรั บ ผิ ด ชอบในการอนุรักษ์ พลั ง งานของทาง โรงแรมฯโดยตรง มอบรางวัลให้กับผู้โชคดีจากกิจกรรม “ขอ 3 คำ�” ให้กับโลกของเราทางโซเชี่ยลมีเดีย เนื่องในวัน โอโซนโลกที่ผ่านมา มอบรางวัลขอนแก่น เ มื อ ง ส ะ อ า ด ; น า ย กำ � ธ ร ถ า ว ร สถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เ ป็ น ป ร ะ ธ า น พิ ธี แสดงเจตนารมณ์ มุ่ ง สู่ จั ง หวั ด ปลอด ขยะ ขอนแก่นเมือง สะอาด “Khon Kaen : Zero Waste by the Year 2020” พร้อมมอบโล่รางวัล และเกียรติบัตรให้ผู้สนับสนุน และร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง ประกาศเจตนารมณ์มุ่งสู่จังหวัดขอนแก่นเมืองสะอาด เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 ณ ศาลาประชาคม จังหวัดขอนแก่น ส ร้ า ง ค ว า ม รู้ สึ ก ป ร ะ ทั บ ใ จ ; นายเข็ ม ชาติ สมใจ วงษ์ นายกสมาคม ธุ ร กิ จ การท่ อ งเที่ ย ว จังหวัดขอนแก่น ได้ เ ปิ ด อ บ ร ม ค น ขั บ รถ taxi 200 คน เรื่องมารยาทในการ ให้ บ ริ ก าร ข้ อ มู ล แหล่งท่องเที่ยว วินัย จราจร และข้อร้องเรียนจากผู้ใช้บริการ เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ณ โรงแรม ราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล จ.ขอนแก่น
เทศกาลงานวัด ; คุณคงรัตน์ วงศ์วุฒิพัฒน์ ผู้ จัดการสาขา บ้าน แอนด์ บียอนด์ ขอนแก่น มอบของที่ระลึกแก่ กล้วย อาร์สยาม ศิลปินชื่อ ดัง ทีม่ าร่วมสร้างความสนุกในเทศกาลเทีย่ วงาน วัด ตั้งแต่ 9 - 18 ต.ค.58 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 บ้าน แอนด์ บียอนด์ ขอนแก่น เมื่อเร็วๆนี้
หน้า 11
ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 ประจำ�เดือนตุลาคม 2558 ขานรับ “สมคิด” • ต่อจากหน้า 1 จากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ปัญหาความล่าช้าในการฟืน้ ตัวของเศรษฐกิจภายใน ประเทศ รวมถึงการหดตัวของการบริโภคภายใน ประเทศ ซึ่งถือเป็นช่วงระยะเวลาที่เกิดผลกระทบ กับประชาชนในระดับล่างเป็นวงกว้างและอยู่ใน ระดับตํ่าสุด ซึ่งหลังจากการปรับ ครม. โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ได้มอบหมายให้ นายสมคิด จาตุศรีพทิ กั ษ์ รองนายกรัฐมนตรี กำ�กับ ดูแลกระทรวงหลักทีเ่ กีย่ วข้องกับงานด้านเศรษฐกิจ เพื่อสร้างกระแสความเชื่อมั่นให้คืนกลับมา นายเข็ ม ชาติ สมใจวงษ์ รองประธาน หอการค้าจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า นโยบายของ คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่จะให้ความสำ�คัญ กับผู้ประกอบการ SMEs และท้องถิ่นค่อนข้าง มากทั้งด้านความช่วยเหลือสนับสนุนทางการเงิน ให้การสนับสนุนโครงการต่างๆ ให้แรงจูงใจ ส่ง เสริมธุรกิจท้องถิ่นให้แข็งแรงและยังให้แนวทาง ในการสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นกันเอง ไทยเที่ยว ไทย ใช้สินค้าไทย ลดการพึ่งพาสินค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่ก็มีข้อควรระวังคือ การสนับสนุนทางการเงินหรือสินเชื่อหากมีการ ให้ทมี่ ากไปอาจทำ�ให้เกิดผลเสียและเป็นภาวะเสีย่ ง ในอนาคต ซึง่ ภาวะถดถอยเศรษฐกิจในปัจจุบนั เกิด จากกำ�ลังซื้อที่ลดลง และเป็นภาวะเศรษฐกิจโลก เกิดการชลอตัวไม่เฉพาะในประเทศเท่านั้น หาก มีการสนับสนุนทางการเงินให้เกิดความคล่องตัว เท่ากับการส่งเสริมให้เป็นหนี้ในขณะที่สินค้ายัง ขายไม่ได้ เท่ากับเป็นการสร้างภาระหนี้สินในครัว เรือนให้เพิม่ ขึน้ ซึง่ ต้องระวังการให้ทเี่ หมาะสมด้วย แต่ควรสร้างดีมานด์ควบคู่ไปด้วย “ด้านแรงจูงใจที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจโดย เฉพาะการกระตุ้ น ด้ า นอสั ง หา ซึ่ ง ถื อ เป็ น การ กระตุ้นเศรษฐกิจที่แท้จริง แต่สำ�หรับเศรษฐกิจ พิเศษ น่าจะมีการทบทวน เพราะการทำ�เศรษฐกิจ พิเศษเป็นการขยายสินค้าไปตามแนวชายแดนซึ่ง ประเทศที่ติดชายแดนไทยล้วนมีตลาดอยู่แล้ว ไม่ ว่าจะเป็นท่าแขก เวียงจันทน์ สะหวันเขต หรือเขต แนวชายแดนอื่นๆ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจ ระหว่างไทยกับประเทศเพือ่ นบ้านแล้ว ต้องยอมรับ ว่าสู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าแรง งาน การยกเว้นภาษีซึ่งต่างประเทศจะให้ระยะยาว มากกว่าสิทธิประโยชน์ด้าน G.S.P. ส่งออกไป ยุโรป หรืออเมริกา ไทยก็ถูกตัดไปแล้ว ในขณะที่ ประเทศเพื่อนบ้านยังมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ครบ ทำ�ให้เกิดแรงจูงใจน้อยซึ่งเป็นการเสี่ยงที่ไม่คุ้ม และเชื่อว่านักลงทุนก็จะไม่ไปลงทุนอย่างแน่นอน แต่หากเป็นการส่งเสริมในการเป็นพื้นที่โลจิสติก เป็นเขตพื้นที่กระจายสินค้า หรือคลังสินค้า โดย การนำ�วัตถุดิบจากในประเทศไปผลิตที่ประเทศ เพื่อนบ้านแล้วนำ�มาบรรจุเป็นแพ็จเพื่อการส่งต่อ ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และกระตุ้นให้เป็นพื้นที่โลจิสติกเป็นการพัฒนา เศรษฐกิจที่ควบคู่กันน่าจะเหมาะสมมากกว่าการ สร้างพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษแข่งกับประเทศเพื่อน บ้าน” นายเข็มชาติ กล่าวและว่า สำ�หรับนโยบายกระตุน้ เศรษฐกิจ โดยมี นาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นผู้นำ�จะใช้แนวคิดแบบ ประชานิยมใช้การตลาดนำ� การสนับสนุนการเงิน เพื่อให้เกิดความแข็งแรงเป็นการกระตุ้นที่ดี แต่มี ความเป็นห่วงด้านความเหมาะสม ความพอดี หาก มีการสนับสนุนให้ธุรกิจมีความแข็งแรงแล้วควร สร้างดีมานด์ควบคู่ไปด้วย โดยผู้ประกอบการต้อง มีการพัฒนาต่อยอด สร้างแนวคิดแบบใหม่เพื่อเกิด แรงดึงดูดในตัวสินค้าให้มคี วามน่าสนใจเพิม่ มากขึน้ และท้องถิน่ ต้องช่วยกันสนับสนุนสินค้าเพือ่ ให้เกิด เศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งนอกจากเป็นการลดต้นทุน ในการขนส่งแล้วจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ กับสินค้า SMEs ให้ยืนอยู่ได้ในระยะยาวอีกด้วย “สำ�หรับนโยบายเศรษฐกิจมีการแก้ปัญหา ที่อยู่ใกล้ตัวของประชาชนมากขึ้นของรัฐบาลชุด นี้ น่าจะส่งผลในทางที่ดีขึ้น แต่อาจต้องใช้ระยะ เวลาอีกพอสมควร เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลก ยังไม่ฟื้นตัว ดังนั้น ไทยต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย การหันมามองและสนับสนุนสินค้าภายในประเทศ มากขึน้ พัฒนาต่อยอดสินค้า SMEs ให้ยนื อยูไ่ ด้ เชือ่
ว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะฟื้นตัวได้ในอีก 2-3 ปี” รอง ประธานหอการค้า กล่าว นายอดิ เ รก หงส์ พู น พิ พั ฒ น์ เลขาธิ ก าร สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การ ที่รัฐบาลแต่งตั้งให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่ง เป็นผู้ที่มีแนวความคิดแบบคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็น ผู้นำ�ทีมเศรษฐกิจ เชื่อว่าน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น กว่าที่ผ่านมา โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจของผู้ ประกอบการ SMEs ระดับกลางลงมาถึงระดับ รากหญ้าที่ซบเซามาเป็นเวลานาน หากได้รับการ ช่วยเหลือให้สามารถพยุงตัวอยู่ต่อไปได้จะทำ�ให้ เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นมาได้ เพราะการเกิดปัญหา หนี้ครัวเรือนสูงส่งผลสะท้อนต่อการขับเคลื่อน เศรษฐกิจอย่างหหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะการนำ� เสนอนโยบายสนับสนุนซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วน ในการดูแลกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และ SMEs รวมถึง มาตรการที่วางรากฐานเศรษฐกิจของประเทศใน อนาคตข้างหน้าจะเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนมี ความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่การที่รัฐบาลนำ� เงินเข้ามาสนับสนุน หากมากเกิ น ไปจะเป็ น ผลเสี ย ที่ ทำ � ให้ เ กษตรกร ไม่มีการพัฒนาผลผลิต การรอคอยความช่วยเหลือ จากหน่วยงานภาครัฐจะทำ�ให้อุตสาหกรรมภาค การเกษตรไม่มกี ารขับเคลือ่ น ซึง่ ภาคอีสานมีความ โดดเด่นในด้านผลผลิตสินค้าทางการเกษตรอยูแ่ ล้ว หากมีการพัฒนาให้ทำ�การเกษตรแบบเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมด้วยการลดใช้สารเคมี ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีซึ่ง ราคาแพง หันมาใช้ปุ๋ยธรรมชาติจากมูลสัตว์หรือ ปุย๋ ทีห่ มักขึน้ มาเองนอกจากเป็นการลดต้นทุนการ ผลิตแล้วยังได้ผลผลิตทีม่ คี ณ ุ ประโยชน์เพิม่ มากขึน้ ได้รับการยอมรับในตลาดการค้าโลกอีกด้วย เลขาธิการสภาอุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า นอกจากนโยบายการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่จะส่ง ผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นแล้ว ปัญหา จากสถาบันการเงินที่มีข้อจำ�กัดและไม่ปล่อยเงิน กู้ ใ ห้ กั บ ผู้ ป ระกอบการ ล้ ว นทำ � ให้ ข าดการขั บ เคลื่อนด้านเศรษฐกิจ ซึ่งสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ขอนแก่ น ได้ มี ก ารประสานความร่ ว มมื อ กั บ ธนาคารเพื่อการเกษตร หรือ ธกส. และ ธนาคาร พั ฒ นาวิ ส าหกิ จ ขนาดกลางและขนาดย่ อ มแห่ ง ประเทศไทย หรือ SME Bank เพื่อให้การช่วย เหลือเกษตรกรให้มีเกิดสภาพคล่องในการพัฒนา ธุรกิจ และในอนาคตยังต้องประสานความร่วมมือ กับธนาคารพาณิชย์เพือ่ สร้างความเข้มแข็งให้กบั ผู้ ประกอบการ SMEs และเกษตรกรเพื่อให้เกิดการ ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจต่อไป ด้านนายสถาพร บัวใหญ่ กรรมการผูจ้ ดั การ สถาพรจิวเวลรี่ และผูบ้ ริหารโครงการ Perfect Life By Sp Property กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจทีท่ รุดตัว จมดิ่งลงแบบไร้ทิศทางทำ�ให้นักธุรกิจนักลงทุน ต่างย้ายฐานการผลิตไปลงทุนในประเทศเพื่อน บ้านซึ่งมีปัจจัยน่าลงทุนมากกว่าทั้งค่าแรงและ ความเชื่อมั่น ทำ�ให้เราขาดโอกาสอีกทั้งเศรษฐกิจ ที่ชะลอตัวจนขาดแรงขับเคลื่อนจากการที่สถาบัน การเงินไม่ปล่อยกู้ โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์ จากที่ ผ่ า นมาลู ก ค้ า ซึ่ ง ทำ � สั ญ ญาเช่ า ซื้ อ อสั ง หา ผ่านสถาบันการเงินกว่า 80% ที่แบ็งค์ไม่ปล่อยกู้ ทั้งที่ลูกค้ามีกำ�ลังความสามารถในการผ่อนชำ�ระ หากปล่ อ ยให้ ข าดแรงขั บ เคลื่ อ นจะทำ� ให้ ค วาม สามารถของประเทศไทยถดถอย เพราะที่ผ่านมา ระบบเศรษฐกิจไทยพึ่งพิงส่งออกมากเกินไป เมื่อ เศรษฐกิจโลกชะลอตัวจึงส่งผลกระทบโดยตรงกับ ระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ นายสถาพร กล่าวต่อไปว่า เศรษฐกิจเป็น เรี่องของความเชื่อมั่น การที่รัฐบาลปรับ ครม. โดย ให้นายสมคิด มาเป็นผูน้ �ำ ทีมเศรษฐกิจ อีกทัง้ มีนโย บายให้การช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เน้นการบริหารระบบเศรษฐกิจภายในประเทศมาก ขึน้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจท้องถิน่ เศรษฐกิจพอเพียง ใช้กลไกกองทุนหมูบ่ า้ น พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ เชื่อมโยงกลุ่มอุตสาหกรรม และยังมีมาตรการอัด เงินกว่า 2.36 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การอัดฉีดเงินก้อนใหม่อีกกว่า 40,000 ล้านบาท ผ่านการใช้เงินงบประมาณและสถาบันการเงิน ภาครัฐ เพื่อนำ�ไปปล่อยกู้ให้กับกองทุนหมู่บ้าน แบบปลอดดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยตํ่า หรือมาตรการ อัดฉีดเงินออกสู่ระบบผ่านโครงการลงทุนขนาด
เล็ก รวมทั้งการผลักดันให้ภาคเอกชนขยายการ ลงทุนเพิ่ม ล้วนเป็นการกระตุ้นให้เศรษฐกิจเกิด สภาพคล่อง ซึ่งการช่วยเหลือให้เศรษฐกิจพื้นฐาน ในท้องถิน่ และภูมภิ าคขยับขับเคลือ่ นไปได้ จะช่วย ให้เศรษฐกิจในภาพรวมเริ่มขยับหมุนตามกลไกได้ ด้วยเช่นกัน “โดยปกติ ช่ ว งไตรมาสท้ า ยปลายปี เ ป็ น ช่ ว งที่ มี ก ารใช้ เ งิ น อยู่ แ ล้ ว ทั้ ง ส่ ง ออกหรื อ นำ � เข้ า โดยเฉพาะเมื่ อ เศรษฐกิ จ โลกซบเซา ถึ ง แม้ จะมี ปั ญ หาการส่ ง ออกบ้ า งแต่ จ ะเป็ น โอกาส ที่ จ ะนำ � สิ น ค้ า เข้ า ในราคาที่ ถู ก ลง แต่ อ ย่ า งไร ก็ ต าม หลั ง จากที่ เ ศรษฐกิ จ ชะลอตั ว มานาน เชื่ อ มั่ น ว่ า จากนี้ ไ ป ที ม บริ ห ารเศรษฐกิ จ ชุ ด นี้ จ ะช่ ว ยให้ เ ศรษฐกิ จ ภายในประเทศดี ก ว่ า ที่ ผ่ า นมาอย่ า งแน่ น อน” นายสถาพร กล่ า ว
DITPโรดโชว์
• ต่อจากหน้า 1
เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2558 กรมส่งเสริมการ ค้าระหว่างประเทศ เปิดโรดโชว์การจัดงานแสดง สิ น ค้ า แฟชั่ น และงานแสดงสิ น ค้ า เครื่ อ งหนั ง ปี 2559 หรือ Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leahter Fair 2016 (BIFF&BIL) เพือ่ เป็นการส่งเสริมผูป้ ระกอบการ ผู้ ผลิตของไทยและของอาเซียน ทีเ่ ป็นสินค้าประเภท สิ่งทอ เสื้อผ้าสำ�เร็จรูป ผ้าผืน เครื่องหนัง รองเท้า สินค้าแฟชั่นของดีไซน์เนอร์ของไทยให้มีความ ก้าวหน้าและก้าวไกล โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้น ในระหว่างวันที่ 9-13 มีนาคม 2559 ที่อาคารชา เลนเจอร์ 1.2-ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิม แพ็ค เมืองทองธานี นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวฒ ั น์รตั น์ รองอธิบดี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวง พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการจัดงาน BIFF&BIL ใน ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่เรียกว่า 360 องศา เลยทีเดียว โดยที่ผ่านๆมานั้นเป็นงานแสดงสินค้า ธรรมดา แต่ครั้งนี้ได้ยกระดับให้เป็นการแสดง สิ น ค้ า ระดั บ นานาชาติ ม ากยิ่ ง ขึ้ น เพื่ อ ต้ อ งการ ให้ Brand ของBIFF&BIL มีความชัดเจนโดยการ ว่าจ้างเอกชนให้มาทำ�การสร้าง Brand ของงาน อย่างต่อเนื่องในด้านการประชาสัมพันธ์ ความ เปลีย่ นแปลงรูปแบบของงานในปีนี้ คณะกรรมการ จัดงานฯได้เลียนรูปแบบมาจากทางประเทศยุโรป โดยจะมีการแบ่งพื้นที่การจัดงานออกเป็นโซนๆ ไป รวม 4 โซน ได้แก่ โซนเสื้อผ้าสำ�เร็จรูป โซน เครือ่ งหนัง โซนสินค้าเอกลักษณ์ทอ้ งถิน่ และโซน วัตถุดิบที่นำ�เอามาผลิต ซึ่งในแต่ละโซนนั้นจะมี การสาธิตการแสดง การผลิตสินค้าแต่ละอย่างตั้ง แต่ตน้ นํา้ กลางนํา้ ไปจนถึงปลายนํา้ และขบวนการ ส่งออกไปสู่ตลาดเลยทีเดียว โดยเน้นไปที่ทำ�แบบ ครบวงจร สร้างสรรค์ มุ่งสู่การเปิดเป็น AEC ใน ปลายปีนี้ นอกจากนี้เพื่อให้การจัดงานฯดังกล่าว มี ความสมบูรณ์แบบและบรรลุจุดประสงค์ตามที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศตั้งเอาไว้ ได้ วางกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ ด้วยการร่วมกับทีม งานครีเอทีฟทำ�การสือ่ สารแบรนด์ของงานออกไป ทางสือ่ ชนิดต่างๆ พร้อมๆ กับการเดินทางไปทำ�การ โรดโชว์ในรูปแบบของ Fashion Night Out ที่เป็นก ารจับคูธ่ รุ กิจในรูปแบบทีไ่ ม่เคยมีการจัดทำ�มาก่อน นางจันทิราฯ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมานั้นทาง ทีมงานครีเอทีฟและเจ้าหน้าทีข่ องกรมฯ ได้ท�ำ การ จัดกิจกรรมมาแล้วที่จังหวัดสงขลา ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย เมียนมาร์ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดอุดรธานี ด้วยเหตุผลว่าจังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดใหญ่ เป็นศูนย์กลางของผูป้ ระกอบการ สินค้าพื้นเมือง พร้อมกันนี้ยังเป็นเป้าหมายของก รมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการที่จะส่ง เสริมให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้าเสื้อผ้า ผ้าผืน เครื่องหนัง ที่เป็นที่รู้จักของลูกค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าญี่ปุ่น ที่ได้มีการสั่งซื้อสินค้าจาก จังหวัดอุดรธานีเป็นจำ�นวนมากในแต่ละปี “ เ ชื่ อ ว่ า ห ลั ง จ า ก ง า น แ ส ด ง สิ น ค้ า ร ะ ดั บ น า น า ช า ติ ค รั้ ง นี้ ผ่ า น ไ ป แ ล้ ว นั้ น จะกลายเป็น Fashion Gateway ของผูป้ ระกอบการ สินค้าแฟชั่น ดีไซน์เนอร์ ผู้ผลิตที่มีการสร้างสรรค์ หลากหลายมีคุณภาพ ทั้งในและต่างประเทศที่ มองหาสินค้าและวัตถุดิบที่มีความสร้างสรรค์ มี
คุณภาพตามทีต่ อ้ งการ โดยอาศัยการสร้างเครือข่าย อุตสาหกรรมในอาเซียน และเป็นประโยชน์รว่ มกัน ตามความหมายของงาน BIFF&BIL” นางจันทิราฯ กล่าวต่อว่า ภาพรวมการส่ง ออกของไทยในครึ่งปีหลัง 2558 ยังไม่อยู่ในขั้น วิกฤต เพียงแต่อยู่ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกถดถอย ดังนั้นภาครัฐจึงมีนโยบายเร่งด่วน การกระตุ้นให้ เศรษฐกิจชุมชน หมุนเวียน เพือ่ ให้เศรษฐกิจฟืน้ ตัว และเดินหน้าอีกครัง้ ด้วยการเพิม่ ขีดความสามารถ ของ SME และผู้ประกอบการรายใหม่ Start up ทั้ง ทางบุคคลากร และการนำ�เทคโนโลยีมาปรับใช้ กับสินค้าหรืองาน ตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขายในงาน ‘BIFF&BIL 2016’ ระหว่างวันที่ 9-13 มีนาคม 2559 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1–2 ศูนย์แสดงสินค้าและการ ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ขยายตัวไม่ตํ่ากว่า 2,000 ล้านบาท นายยุ ท ธนา ศิ ล ป์ ส รรค์ วิ ช ช์ กรรมการ สมาคมอุ ต สาหกรรมเครื่ อ งนุ่ ง ห่ ม ไทย และ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ไทย กล่าวว่า ในแต่ละปีนั้นสินค้าเสื้อผ้าสำ�เร็จรูป ผ้าผืน เครือ่ งของไทยนัน้ สามารถส่งออกไปสูต่ ลาด ในต่างประเทศภายใต้แบรนด์ไทยได้เป็นกอบเป็น กำ�สร้างรายได้เข้าประเทศเป็นที่น่าพอใจของหลาย ฝ่าย เช่น เสื้อผ้าสำ�เร็จรูปนั้นตลาดหลักได้ประเทศ สหรัฐอเมริกาเพียงเจ้าเดียวปีละเกือบ 3 หมื่นล้าน บาท รองลงมาได้แก่ประเทศญีป่ นุ่ และโดยภาพรวม นั้นเฉพาะสินค้าเสื้อผ้าสำ�เร็จรูปนั้น ประเทศไทย สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ปีละประมาณ 9 หมื่นล้านบาท ส่วนประเทศอาเซียนได้แก่ ประเทศ สิ ง คโปร์ ผ้ า ผื น อี ก ปี ล ะประมาณ 1.1 แสนล้ า น บาท ซึ่งตลาดหลักๆ เป็นกลุ่มประเทศในอาเซียน โดยมีประเทศเวียดนามเป็นหลัก เมียนมาร์ กัมพูชา อินโดนีเซีย และ ฯลฯ ซึ่งยังไม่รวมเครื่องหนัง “จุดแข็งของผู้ผลิตและผู้ประกอบไทยคือ เป็นผูผ้ ลิตทีด่ ี ผลิตภัณฑ์สนิ ค้ามีคณ ุ ภาพดีสามารถ จัดส่งออกไปจำ�หน่ายได้เกือบทุกประเทศทั่วโลก นอกจากนี้แล้วก็ยังเป็นนักออกแบบที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของในและต่างประเทศ ดังที่จะเห็น ได้วา่ ผูอ้ อกแบบหรือดีไซน์เนอร์ไทย ถูกต่างชาติซอื้ ตัวไปออกแบบเสือ้ ผ้าสำ�เร็จรูป ทัง้ ในยุโรป อเมริกา สิงคโปร์ ฮ่องกง ทำ�ให้ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสำ�เร็จรูป ของไทยอยู่ในลักษณะที่ไม่มีการรวมตัวกันอย่าง เข้มแข็ง ตรงนี้คือโจทก์ที่สำ�คัญมาก “นอกจากนี้แล้วก็คาดหมายและมองแนว โน้มเทรนสำ�หรับเสื้อผ้าสำ�เร็จรูปที่เป็นที่ต้องการ ของตลาดในปีหน้า (2559) ว่า สำ�หรับตลาดเสื้อผ้า สำ�เร็จรูปของไทยในเอเชีย ตลาดหลักคือ ประเทศ ญี่ปุ่น รองลงมาคือเกาหลี ส่วนในอาเซียนได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง นั้น เครื่องนุ่งห่มหรือเสื้อผ้าสำ�เร็จรูปในปีต่อไป นั้น ตลาดต้องการเสื้อผ้าที่มีสีเป็นธรรมชาติ ไม่ ฉูดฉาด” นายยุทธนาฯ กล่าว
มันนี่เอ็กซ์โป
• ต่อจากหน้า 1
เมื่ อ วั น ที่ 9 ต.ค.2558 ที่ ห้ อ งอุ ด ร ธ า นี ฮ อ ล ล์ ศู น ย์ ก า ร ค้ า เ ซ็ น ท รั ล พ ล า ซ า อุ ด รธานี ม.ร.ว.ปรี ดิ ย าธร เทวกุ ล อดี ต รอง นายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นประธานเปิด งานมหกรรมการเงิน Money Expo Udonthani 2015 ครั้งที่ 3 โดยมีนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการ จังหวัดอุดรธานี นายสันติ วิรยิ ะรังสฤษฏ์ ประธาน กรรมการจัดงานฯ และเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหาร จากสถาบันการเงิน บริษัท องค์กรภาครัฐ และ เอกชนจำ�นวนมาก ร่วมพิธี ซึ่งงานมหกรรมการ เงิน Money Expo Udonthani 2015 ครั้งที่ 3 จัดขึ้น ในระหว่างวันที่ 9-11 ต.ค.2558 โดยวารสารการเงิน การธนาคาร ภายใต้แนวคิด Beautiful Asean ม.ร.ว.ปรี ดิ ย าธร เทวกุ ล อดี ต รองนายก รัฐมนตรี กล่าวว่า งานมหกรรมการเงิน Money Expo Udonthanj ครั้งที่ 3 เป็นงานที่เปิดโอกาสให้ ประชาชนในภาคอีสานตอนบน สามารถเข้าถึงแหล่ง เงิน และแหล่งทุนได้มากขึน้ รวมทัง้ ทำ�ให้ประชาชน ได้รับความรู้ในการทำ�ธุรกรรมการเงิน เป็นเรื่องที่ ดีต่อเศรษฐกิจของจังหวัดและภาคอีสานตอนบน ทัง้ หมด ทัง้ ยังเป็นการเสริมสร้างสภาพความเข้มแข็ง ให้ประชาชน และนักลงทุนได้เป็นอย่างดี การรวมตัวเกิดขึ้นของ AEC ในปลายปีนี้
นั้น นอกจากที่จะเพิ่มตลาดให้มีหลากหลายและ เพิ่มขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะเป็นการสร้างการแข่งขัน เพิ่มขึ้นมาด้วย และนี่คือโอกาสของนักลงทุนไทย ที่จะเข้าไปทำ�การแข่งขันในระดับต่างๆ ได้เป็น อย่างดี โดยจะต้องมีการเสริมสร้างความแข็งแรง ในการที่จะรับมือกับการแข่งขันในโอกาสต่อไป โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ขณะเดียวกันก็ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถ ได้รับความรู้เรื่องของการทำ�ธุรกรรมด้านการเงิน มากขึ้นทั้งของเอกชนและของรัฐ เพื่อจะได้น�ำ เอา ไปใช้จ่ายเป็นเงินทุนหรือใช้จ่ายในชีวิต “ขอขอบคุณสถาบันการเงินทัง้ ภาคเอกชน และภาครัฐ ที่มีความตั้งใจในการมาร่วมในงาน มหกรรมการเงิน Money Expo Udonthanj ครั้งที่ 3 ในระหว่างวันที่ 9 - 11 ต.ค.2558 ถือว่าท่านทุกคน คือบุคคลกลไกที่สำ�คัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของจังหวัดอุดรธานีและภาคอีสาน โดยเฉพาะชาว จังหวัดอุดรธานีนั้น ควรที่จะต้องหันมาให้ความ สำ�คัญต่อกิจกรรมดังกล่าวนีเ้ ป็นพิเศษ เพราะสิน้ ปี นีเ้ มือ่ มีการเปิด AEC แล้วนัน้ จังหวัดอุดรธานี และ ชาวจังหวัดอุดรธานี จะเป็นพื้นที่และเป็นผู้ที่จะได้ รับผลประโยชน์ทงั้ ด้านขาเข้าและขาออก คือการที่ ประเทศเพือ่ นบ้านจะเข้ามาค้าขายกับอุดรธานี และ ในทางกลับกันชาวอุดรธานีกจ็ ะต้องออกไปทำ�การ ค้าขายในประเทศเพื่อนบ้าน เช่นกัน” นายสั น ติ วิ ริ ย ะรั ง สฤษฎ์ ประธาน บรรณาธิ ก ารวารสาร “การเงิ น ธนาคาร” ประธานจัดงานมหกรรมการเงิน อุดรธานี ครั้ง ที่ 3 กล่าวว่า งานมหกรรมการเงิน Money Expo Udonthanj ครั้งที่ 3 นี้ มีธนาคาร สถาบันการเงิน องค์กรภาครัฐ และเอกชน ร่วม 27 แห่ง ได้จัด แคมเปญโปรโมชัน่ พิเศษให้กบั ประชาชนในจังหวัด อุดรธานี และภาคอีสานตอนบน ได้แก่ หนองคาย เลย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น สกลนคร หนองบัวลำ�ภู และนครพนม ซึ่งผู้ที่เข้าชมงานจะได้รับบริการ ทางการเงิ น อย่ า งครบวงจร ทั้ ง สิ น เชื่ อ เงิ น ฝาก สลากออมทรัพย์ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันวินาศภัย พร้อมแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษที่ สถาบันการเงินนำ�มาแข่งขันกันอย่างดุเดือด นอกจากนีแ้ ล้ว ยังเปิดโอกาสให้ผปู้ ระกอบ การ SMEs สามารถขอสินเชือ่ จากสถาบันการเงินที่ เข้าร่วมงานในโครงการสินเชือ่ ดอกเบีย้ ตํา่ เพือ่ เป็น เงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ซึ่ง เป็ น มาตรการช่ ว ยเหลื อ ทางเศรษฐกิ จ ฐานราก ของรัฐบาล โดยสนับสนุนสินเชื่อให้ผู้ประกอบ การ SMEs ในอัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปีภายในระยะ เวลาให้สินเชื่อนานถึง 7 ปี ในส่ ว นของการบริ ก ารทางการลงทุ น ตลาดหลักทรัพย์ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการ กองทุน มาเปิดสถานีการลงทุน เพื่อนำ�เสนอช่อง ทางการลงทุนอย่างครบวงจร ทั้งหุ้นอนุพันธ์ ทอง กองทุนรวม โดยมีที่ปรึกษาการวางแผนทางการ เงินมาให้ค�ำ แนะนำ�การลงทุนอย่างมีคณ ุ ภาพ พร้อม การสัมมนาจากนักธุรกิจหุ้น และวางแผนลงทุน ตามหุ้นตัวแรก โดยกูรูนักวางแผนการเงินที่จะมา แชร์แผนการเงินพร้อมปรับกลยุทธ์การลงทุนสู่ ความสำ�เร็จและ Workshop สอนให้มือใหม่สแกน หุ้นตัวแรกด้วยเครื่องมือดิจิตอล นายสันติ เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงิน Money Expo Udonthani ครั้งที่ 3 ทำ�สถิติใหม่ มี ยอดธุรกรรมการเงินสูงสุดในรอบ 3 ปี สวนกระแส เศรษฐกิ จ ที่ ซ บเซา ประชาชนและนั ก ธุ ร กิ จ ใน จังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง ขอสินเชื่อ และใช้บริการทางการเงินและการลงทุนในงาน อย่างมากมายตลอด 3 วัน จนทำ�สถิติใหม่สูงสุดใน รอบ 3 ปี มียอดธุรกรรมการเงินกว่า 11,297 ล้าน บาท จากยอดผูส้ มัครบริการในงานรวม 15,480 ราย “ยอดธุรกรรมการเงินทีเ่ กิดขึน้ ในงาน Money Expo Udonthani ครัง้ ที่ 3 ครัง้ นี้ ได้สร้างสถิตใิ หม่ในรอบ 3 ปี ส่งผลให้มีเม็ดเงินใหม่สะพัดในภาคอีสาน ตอนบนกว่า 11,297 ล้านบาท ถือเป็นยอดเงินที่ สูงมาก ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในช่วง นี้ จุดเด่นในงานครั้งนี้ก็คือ วงเงินสินเชื่อ SMEs ที่มาเป็นอันดับ 1 วงเงินรวมกว่า 5,022 ล้านบาท โดยมี SMEs ขนาดกลางมาขอกู้ในวงเงิน 200-300 ล้านบาท เพื่อรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ตํ่ากว่าปกติ ในงานครั้งนี้ด้วย เพื่อขยายธุรกิจรองรับการค้า
ชายแดนทีจ่ ะเพิม่ ขึน้ จากการรวมตัวของประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนในสิ้นเดือนธันวาคมนี้” นางสาวภาคนี วริ ยิ ะรังสฤษฎ์ รองประธาน จัดงาน เปิดเผยว่า สินเชื่อบ้านเป็นบริการทางการ เงินที่มีผู้ใช้บริการสูงเป็นอันดับ 2 รองจากสินเชื่อ SMEs มีวงเงินรวมกว่า 4,288 ล้านบาท ประชาชน ที่มาขอสินเชื่อบ้านในงานตั้งใจมาโดยเฉพาะ เพื่อ รับโปรโมชัน่ พิเศษดอกเบีย้ ตํา่ ทีเ่ ริม่ ต้น 0% รวมทัง้ การยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึง่ มีเฉพาะในงานนี้ เท่านั้น พร้อมอนุมัติสินเชื่อเบื้องต้นภายในงานใน วันเดียวกัน “ผู้เข้าชมงานยังให้ความสนใจลงทุนใน กองทุนรวม ลงทุนในประกันชีวิต ส่งผลให้ยอด ลงทุนในกองทุนรวมสูงเป็นอันดับสามวงเงินกว่า 605 ล้านบาท และเงินลงทุนประกันชีวิตสูงเป็น อันดับสี่ วงเงินกว่า 379 ล้านบาท สินเชื่อบุคคลมา เป็นอันดับ 5 วงเงินกว่า 354 ล้านบาท และมีผู้ขอ ทำ�บัตรเครดิตในงาน 4,495 ราย” สำ�หรับงานมหกรรมการเงินระดับภูมภิ าค ของวารสาร “การเงินธนาคาร” ในปี 2558 ยังเหลือ อีก 1 ครั้ง คือ งานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้ง ที่ 10 Money Expo Chiang Mai 2015 ระหว่างวัน ที่ 13-15 พฤศจิกายน 2558 ที่ห้องเชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จ.เชียงใหม่
อุบตั เิ หตุขอนแก่น • ต่อจากหน้า 1 เมื่ อ วั น ที่ 8 ตุ ล าคม พ.ศ. 2558 ที่ ห้ อ ง ประชุ ม พระธาตุ ข ามแก่ น ศาลากลางจั ง หวั ด ขอนแก่ น นายกำ � ธร ถาวรสถิ ต ย์ ผู้ ว่ า ราชการ จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานประชุมศูนย์อ�ำ นวย การความปลอดภั ย ทางถนนจั ง หวั ด ขอนแก่ น ปีงบประมาณ 2559 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่ เกี่ยวข้อง ผู้แทนจากอำ�เภอ และองค์กรภาคีเครือ ข่ายต่างๆ เข้าร่วมประชุม รับนโยบายการปฏิบัติ งานในปีงบประมาณ 2559 พร้อมชี้แจงผลการ ดำ�เนินงานในภาพรวมของศูนย์อำ�นวยการความ ปลอดภัยทางถนนจังหวัดขอนแก่น ผลการดำ�เนิน งานของหน่วยงาน 5 เสาหลัก และหน่วยงานอืน่ ๆ กำ�หนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติงานของศูนย์ฯ นายธี ร ยุ ท ธ์ จั น ทร์ ดิ ษ ฐวงษ์ หั ว หน้ า สำ�นักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ขอนแก่น ในฐานะเลขานุการ กล่าวว่า ปีนี้นโยบาย ของจั ง หวั ด ขอนแก่ น ให้ ทุ ก อำ � เภอ และองค์ ก ร ปกครองส่วนท้องถิน่ ทุกแห่ง จัดตัง้ ศูนย์ปฏิบตั กิ าร ความปลอดภัยทางถนนเพื่อขับเคลื่อนการดำ�เนิน งานด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนใน พืน้ ที่ โดยยึดกรอบแนวทางการปฏิบตั ติ ามนโยบาย รัฐบาลและแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน เพือ่ ร่วมกันป้องกันให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุ การบาด เจ็บและเสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นลดลง สำ � หรั บ โครงการเร่ ง ด่ ว นในช่ ว งนี้ คื อ โครงการขับขี่ปลอดภัยบนถนนมิตรภาพ ช่วง 14 กิโลเมตร เป็นถนนตัดผ่านเมืองขอนแก่น ที่มี 12 เลน มีรถยนต์ จักรยานยนต์ วิง่ ผ่านวันละแสนกว่า คัน มีทงั้ วิง่ เร็ว วิง่ ช้า เผยสถิตกิ ารเกิดอุบตั เิ หตุถงึ ปี ละ 500 ครั้ง มากกว่าวันละ 100 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ เฉลี่ยวันละ 2 ราย ผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 1.5 คน ยํํ้า ปัญหาอุบตั เิ หตุทอ้ งถนนเมืองไทยมีผเู้ สียชีวติ มาก เป็นอันดับ 2 ของโลก ปัจจุบนั จังหวัดขอนแก่นได้รบั งบประมาณ จากมู ล นิ ธิ ถ นนที่ ป ลอดภั ย กว่ า (Safe Roads Foundation) จากประเทศอังกฤษ สนับสนุนงบ ประมาณ 16.3 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องตรวจจับ ความเร็ว 6 ตัว ป้ายประชาสัมพันธ์ ป้ายเตือน ป้าย สัญญาณเตือนการเข้าสูพ่ นื้ ทีถ่ นนอันตราย เป็นระ ยะๆ มีทั้งจำ�กัดความเร็ว วิ่งไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ ชัว่ โมง และความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชัว่ โมง ใน บางช่วงจะติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ ถาวรตลอด 24 ชัว่ โมง เพือ่ จับความเร็วยานพาหนะ ที่วิ่งผ่านในช่วงถนนมิตรภาพ 14 กิโลเมตร จาก ทางเลี่ ย งด้ า นทิ ศ เหนื อ โรงงานอวนเดชา บ้ า น สำ�ราญจนถึง ทางเลี่ยงเมือง บขส.3 โดยหากตรวจ พบรถที่วิ่งเกินกำ�หนดจะมีจดหมายใบสั่งไปถึง บ้านทุกราย ตามหมายเลขทะเบียนรถ ให้มาจ่าย ค่าปรับ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 58 เป็นต้นไป จะมีการ
หน้า 12
ปีที่ 13 ฉบับที่ 137 ประจำ�เดือนตุลาคม 2558
มอบวารสารศาลแรงงานภาค 4 ; ท่านสุนนั ท์ วสาคารวะ อธิบดีผพู้ พิ ากษาศาลแรงงานภาค 4 (คนที่ 7 จากซ้าย) ท่านธีรารัตน์ สัมมา เลขานุการศาลแรงงาน ภาค 4 (คนที่ 6 จากซ้าย) และคณะ รับมอบวารสารศาลแรงงานภาค 4 จาก ดร.อรุณี ฉัตรไพฑูรย์ รองประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร/ ผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงานภาค 4 รุ่นที่ 1 (แถวหน้าคนที่ 5 จากขวา) และคณะ เนื่องในโอกาสให้การสนับสนุนจัดพิมพ์วารสารฯเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ณ ห้องประชุมใหญ่ชั้น 4 โรงพยาบาลเอกอุดร
เยี่ยมชมระบบบริหาร ; Mr.HoCheok Sun ที่ปรึกษาผู้บริหารระดับสูง กระทรวงต่างประเทศ ประเทศสิงคโปร์ (คนที่ 5 จากขวา) พร้อมด้วย Ms.NG SohEng, DirectorHuman Resource Directorate (คนที่ 4 จากขวา) และคณะ ให้เกียรติถ่ายภาพที่ระลึกกับ ดร.อรุณี ฉัตรไพฑูรย์ รองประธาน กรรมการบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร (คนที่ 4 จากซ้าย) และคณะ เนื่องในโอกาสเข้าเยี่ยมชมระบบบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2558 ณ ห้องประชุมใหญ่ชั้น 4 โรงพยาบาลเอกอุดร
เยี่ยมชมระบบบริหาร ; ดร.อรุณี ฉัตรไพฑูรย์ รองประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร (คนที่ 4 จากซ้าย) และคณะ รับมอบของที่ระลึก รับมอบเกียรติบัตร โครงการ”สุดยอดการติวเข้ามหาวิทยาลัย” ; ท่านณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี (แถวบนสุด คนที่ 8 จากซ้าย) จากน.พ.โทเบียส ไซฟาร์ท รองประธานอาวุโสฝ่ายลูกค้าองค์กรระดับภูมิภาค/หัวหน้ากลุ่มการแพทย์ บริษัท ซีเมนส์ จำ�กัด Healthcare sector (คนที่ 4 พร้อมด้วย คุณสวาท ธีรรัตนนุกูลชัย ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี (แถวบนสุด คนที่ 7 จากซ้าย) และคณะ ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพที่ระลึกกับ คุณ จากขวา) และคณะ เนือ่ งในโอกาสเข้าเยีย่ มชมระบบบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร เมือ่ วันที่ 11 กันยายน 2558 ณ ห้องประชุมใหญ่ชนั้ 4 โรงพยาบาลเอกอุดร พรรณอุษา ทรงสุจริต ผูจ้ ดั การต่างประเทศโรงพยาบาลเอกอุดร (ชุดฟ้า) และคณะ ในโครงการ”สุดยอดการติวเข้ามหาวิทยาลัย”ณ อุดรธานี ฮอลล์โรงแรม เซนทาราแอนด์คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ อุดรธานีเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2558
เยี่ยมชมระบบบริหาร ; ดร.อรุณี ฉัตรไพฑูรย์ รองประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร (คนที่ 5 จากขวา) และคณะ ให้เกียรติถ่ายภาพที่ระลึกกับ เยีย่ มชมระบบบริหาร ; ดร.อรุณ ี ฉัตรไพฑูรย์ รองประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร (ซ้ายสุด) มอบของทีร่ ะลึกแด่ ซิสเตอร์อดุ ม ศรีดารุณศิลป์ นพ.อิสระ เจียวิริยะปัญญา ผอ.รพ.มะเร็งอุดรธานี (คนที่ 2 จากซ้าย), ผศ.พญ.คำ�ทะวี เทบสุวัน ผอ.โรงพยาบาลนครหลวงแกรนด์ (คนที่ 4 จากซ้าย)พร้อม อธิการ/ผู้จัดการโรงเรียนเซนต์เมรี่ (คนที่ 2 จากซ้าย) และคณะ เนื่องในโอกาสเข้าเยี่ยมชมระบบบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2558 ด้วย นพ.ดาวอน เทบสุวัน หัวหน้าศูนย์มะเร็ง รพ.มิตรภาพ (คนที่ 3 จากซ้าย)พร้อมด้วย และคณะ เนื่องในโอกาสเข้าเยี่ยมชมระบบบริหารโรงพยาบาล เอกอุดร เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2558 ณ ห้องประชุมใหญ่ชั้น 4 โรงพยาบาลเอกอุดร
อบรม “อนุรกั ษ์พลังงาน” ; ดร.อรุณ ี ฉัตรไพฑูรย์ รองประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร (คนที่ 5 จากขวาแถวนัง่ ) พร้อมด้วย ผูจ้ ดั การ หัวหน้า ออกบูธตรวจสุขภาพธนาคารกรุงไทย ; คุณลลนา อุตรานุสรณ์ ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดบ้านห้วย (คนที่ 5 จากขวา) และคณะ ร่วมถ่ายภาพ แผนก และ พนักงานโรงพยาบาลเอกอุดร ร่วมถ่ายภาพที่ระลึกกับ อ.สมัคร จันทสาร ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (คนที่ 4 จากซ้ายแถวนั่ง) วิทยากร ที่ระลึกกับ อาจารย์นายแพทย์ณัฏฐพล เมธสุวรรณ แพทย์โรงพยาบาลเอกอุดร(คนที่ 4 จากขวา)และคณะ เนื่องในโอกาสที่โรงพยาบาลเอกอุดรออกหน่วย แพทย์เคลือ่ นที่ตรวจสุขภาพร่วมกับกรุงไทยแอกซ่า ณ ธนาคารกรุงไทย สาขา บ้านห้วย เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2558 อบรมอนุรักษ์พลังงานให้แก่พนักงานโรงพยาบาลเอกอุดร ณ ห้องประชุมใหญ่ชั้น 4 โรงพยาบาลเอกอุดร เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2558
ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา ปรกชล ศุขโข กองบรรณาธิการ เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,
ประคอง หนูราช,พันธ์ศักดิ์ วีระชัย,เสริมศักดิ์ ขาวโกมล สำ�นักงาน 76 ม.20 ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 โทรศัพท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย 78 หมู่ 4 ถนนเฉลิมพระเกียรติ์ ต.เมือง อ.เมือง จ.หนองคาย 43000 ที่ปรึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอื้อดีไซน์ 08-3417-0363