ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ก รประจำ า �บเดือแนตุทลาคม บ ฝ่2560 าพ
ระบาท
ข อ ร่ ว ม น้ อ ม ส่ ง เ ส ด็ จ สู่ ส ว ร ร คหน้ า ลัา ย1
ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ประจำ�เดือนตุลาคม 2560 ราคา 10 บาท
ธุรกิจเลีย้ งโคเนือ้ โตขึน้ ทุกปี มีเท่าไหร่ ตลาดกว้านซือ้ หมด ปีหน้าจัดประกวด “บราห์มนั ”
โคบาลรุ่นใหม่ยกระดับโคเนื้อ พัฒนาสายพันธุ์ “อเมริกนั บารห์ มัน” ให้มีคุณภาพ เป็นธุรกิจที่ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน มีอัตรา การเติบโตเพิม่ สูงขึน้ ทุกปี เตรียม งานใหญ่ประกวดอเมริกันบราห์ ปัญญา เลิศไธสง มันนานาชาติ ปลายเดือนเมษาปีหน้า คาดเงิน อ่านต่อหน้า 11 สะพัดกว่า 200 ล.บาท
บั ต รคนจนกระตุ้ น ยอดขาย ซี พี อ อลล์ ส ร้ า งนั ก ธุ ร กิ จ โชห่วยพบปัญหาความไม่พร้อม รุน่ ใหม่ ส่งเรียนฟรีจนจบปวช. พี ออลล์ คั ด นั ก เรี ย น ม.3 เข้ า โครงการ ร้ า น ธ ง ฟ้ า สิ น ค้ า น้ อ ย ซีBusiness for Young Program ผลิตแรงงาน เครื่ อ งรู ด บั ต รไม่ ก ระจาย กึ่งทักษะป้อนตลาดแรงงาน ให้ทุนเรียนระดับ
รอคิวรูดบัตรคนจน ; ประชาชนรอคิวใช้บตั รบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ซือ้ สินค้าร้านธง ฟ้าประชารัฐ กันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่จะซื้อสินค้าที่จำ�เป็น อาทิ ข้าวสาร นํ้ามันพืช และเครื่องปรุง รส ส่งผลให้ร้านโชห่วยในชุมชน ยอดขายเพิ่มเกือบ10เท่า สินค้าที่ต้องการหมดในเวลาอันรวดเร็ว
ประชาชนแห่ใช้บัตรคนจนซื้อสินค้าคึกคัก ปวช.-ปริญญาตรี กว่า 31 ล้านบาท อ่านต่อหน้า 11 พบปั ญ หาเครื่ อ งรู ด บั ต รยั ง ติ ด ตั้ ง ได้ ไ ม่ ผูว้ า่ าฯขอนแก่นประกาศทำ�เพือ่ บ้านเกิด เปิดตัว “คุณทองโบราณ” สุนขั ยุคบ้าน สนามบินอุดรเข้มติดกล้องวงจรปิด ครอบคลุม เสียเวลา แถมสินค้าทีต่ อ้ งการหมด ชีอ้ ย่าเอานักการเมืองหน้าเดิมเข้ามาอีก เชียง Mascot ประจำ�จังหวัดอุดรธานี ดันรถไฟรางคู่ และ CY ไปพร้อมกัน นักธุรกิจขอนแก่นไม่ถอดใจ เชือ่ เศรษฐกิจ ก่อนถึงคิว กำ�ชับร้านค้าให้ ปีหน้าจะดีขึ้น แม้ไม่ขึ้นสุดแต่จะพอได้ อุดรธานีนำ�เอาฟอสซิลสุนัขอายุกว่า 3000 ปี “อาคม” เผลอปาก ปตท.ไม่ น่ า เข้ า มายุ่ ง กั บ ปฏิบตั ติ ามกฎอย่างเคร่งครัด ขยับ เหตุปีนี้ดิ่งเหวสุดๆแล้ว ด้านผู้ว่าฯ สนามบิน จับมือ รฟท.กับผู้ลงทุนโครงการ ขอนแก่นคนใหม่ ประกาศต้องทำ�เพือ่ บ้าน “คุ ณ ทองโบราณ” ชื่ อ พระราชทาน ร.9 มา หากพบทำ�ผิดจะถอดรายชื่อ เกิดให้ดที สี่ ดุ ชีเ้ ลือกตัง้ ใหม่อย่าเอานักการ เป็นมาสคอด (Mascot) ประจำ�จังหวัด เพื่อ นิ ค มอุ ต สาหกรรมอุ ด รธานี แก้ ปั ญ หา เมืองหน้าเดิมเข้ามาอีก ระบุขอนแก่นเป็น ใช้ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และเสริมภาพ โครงการ CY หยอดคำ�หวานอีกไม่นานชาวภาค ออก และดำ � เนิ น คดี ต าม จุดกระจายสินค้า จะโตแบบเอาไม่อยู่ ใคร อ่านต่อหน้า 2 อีสานได้สัมผัสรถไฟรางคู่ อ่านต่อหน้า 2 กฎหมายต่อไป อ่านต่อหน้า 11 สุวณี สุขประวิทย์ มีที่ดินอย่าขาย อ่านต่อหน้า 11 ลักษณ์ของจังหวัด
หน้า 2 ซี พี ออลล์
ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ประจำ�เดือนตุลาคม 2560
ให้กับนักเรียนในระดับมัธยม 3 เพื่อเป็นการเตรียม ตัวในการวางแผนการทำ�ศึกษาในระดับสูงขึ้นไป ว่า จะเลือกเรียนในระดับอาชีวศึกษาเพื่อเข้าสู่ตลาด แรงงาน หรือเลือกที่จะเรียนในระดับปริญญา โดย ศึกษาธิการจังหวัดอุดรธานี และ บริษัท ซีพี ออลล์ จำ�กัด (มหาชน) คัดเลือกนักเรียนทีเ่ รียนอยูใ่ นระดับ ชั้น ม.3 ที่มีใจรักในงานบริการ เข้าร่วมโครงการดัง กล่าว นายวัฒนะ เผือกประเสริฐ รองผู้จัดการ ทั่วไป บริษัท ซีพี ออลล์ จำ�กัด (มหาชน) ที่มีหน้าที่ รับผิดชอบศูนย์การเรียนปัญญาภิวฒ ั น์ ทัว่ ประเทศที่ มีอยู่ 20 ศูนย์ฯ มีนกั เรียนทีก่ �ำ ลังเรียนอยูใ่ นศูนย์ฯดัง กล่าวประมาณ 4000 คน กล่าวว่า โครงการ Business For Yong Program เป็นโครงการที่จะสามารถตอบ สนองนโยบายของรัฐบาลในการที่จะให้การการ สนับสนุนภาคเอกชน ประชาชน เข้ามามีส่วนร่วม ในการขับเคลื่อน พัฒนาแรงงานกึ่งทักษะ เพื่อตอบ สนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมทุกภาค ส่วน โครงการดั ง กล่ า วเป็ น ความร่ ว มมื อ กั น ระหว่างภาคประชารัฐ เอกชน เพื่อช่วยเหลือตาม บันทึก MOU ที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนาม ในอันที่จะ ร่วมกันในการที่จะเป็นเครือข่ายพันธมิตรเพื่อการ ศึกษาและการมีงานทำ� โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้ให้ทุน การศึกษาแก่นักเรียนที่จบการศึกษาในระดับ ม.3 ที่ มีใจรักงานการบริการ และต้องการเรียนต่อในสาย อาชีพ ระดับ ปวช.ถึงระดับปริญญาตรีในสาขาต่อ เนื่อง เพื่อพัฒนาให้เชี่ยวชาญในธุรกิจการค้าปลีก ในร้านสะดวกซื้อ รู้จักการปฏิบัติงานจริงในสถาน ประกอบการ มีรายได้ในระหว่างการเรียน และ รับรองว่าเมื่อจบการศึกษาแล้วจะมีงานทำ� โดยมุ่ง หวังว่าจะให้โอกาสแก่เยาวชนมีโอกาสในการศึกษา เท่าเทียมกัน ทั้ ง นี้ เ ป้ า หมายและวั ต ถุ ป ระสงค์ ข อง โครงการ Business For Yong Program เพื่อสร้าง ความพร้ อ มให้ แ ก่ นั ก เรี ย นในการตั ด สิ น ใจเรี ย น สายอาชีพ และพร้อมเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของ ประเทศชาติ ส่งเสริมให้นักเรียนได้มีองค์ความรู้ เกี่ยวกับการเป็นนักธุรกิจ และมีทักษะการทำ�งาน ด้ า นสายอาชี พ โดยมี บริ ษั ท ซี พี ออลล์ จำ � กั ด (มหาชน) เป็นผู้จัดทำ�หลักสูตรอบรมระยะสั้น “บริษัท ซีพี ออลล์ จำ�กัด (มหาชน) พร้อม ที่จะให้การสนับสนุนแก่นักเรียนดังกล่าว ซึ่งถือว่า เป็นรุน่ นำ�ร่องของประเทศอย่างต่อเนือ่ ง โดยเฉพาะ ทุนเรียนในระดับ ปวช.ด้วยการให้เด็กนักเรียนทีผ่ า่ น การอบรม ตามโครงการดังกล่าว ไปแสดงต่อทางบ ริษัทฯ บริษัทก็จะให้การส่งเสริมทุนการเรียนฟรี จนจบ ปวช.และหากว่าต้องการที่จะเรียนในระดับ ปริ ญ ญาตรี ใ นสาขาต่ อ เนื่ อ ง บริ ษั ท ก็ จ ะให้ ก าร สนับสนุนเงินทุนการเรียน 70% พร้อมกันนีบ้ ริษทั ฯ ได้มอบทุนการศึกษาให่แก่สถานศึกษาระดับ ปวช. ถึงปริญญาตรี จำ�นวน 100 ทุน จำ�นวน 31 ล้านบาท” นายวัฒนะฯ กล่าว
คุณทองโบราณ
ของรัฐบาลด้วย น.ส.เบญจพร สาพรม หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ สถานแห่งชาติบ้านเชียง กล่าวถึงประวัติความเป็น มาของ คุณทองโบราณว่า เมื่อปี พ.ศ.2546 ได้มีการ ขุดค้นโบราณคดีบ้านเชียง ครั้งที่ 2 และได้ขุดพบ โครงกระดูกสุนขั มีอายุมากกว่า 3 พันปี อยูใ่ นสภาพ สมบูรณ์เต็มตัวฝังอยู่เคียงข้างกับโครงกระดูกคน บ่งบอกว่าชาวบ้านเชียงในอดีตได้เลี้ยงสุนัขไว้เป็น เพื่อนหรือใช้งานแล้ว ต่ อ มา พญ.คุ ณ หญิ ง อั ม พร สุ ค นธมาน พร้อมด้วย นสพ.นพกฤษณ์ จันทิก ได้นำ�ความขึ้น กราบบั ง คมทู ล พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรม หาภูมิพลอดุลยเดช และนำ�ตัวอย่าง“กราม”ไปให้ ทอดพระเนตร ซึ่งทรงตรัสให้นำ�กลับไปเก็บรักษา ไว้ และพระราชทานนามว่า “คุณทองโบราณ” ซึ่ง ขณะนี้โครงกระดูกสุนัข”คุณทองโบราณ” ก็ยังเก็บ รักษาเอาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี และเปิดให้ประชาชน นัก ท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้เข้าชม และศึกษา
• ต่อจากหน้า 11
• ต่อจากหน้า 1
นายสิธิชัย จินดาหลวง รอง ผวจ.อุดรธานี กล่ า วว่ า อุ ด รธานี เ ป็ น จั ง หวั ด ใหญ่ และเป็ น ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในด้านการท่อง เที่ยว เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงไปพื้นที่ใกล้เคียงและ ประเทศในลุม่ อนุภมู ภิ าคแม่นาํ้ โขง :GMS ได้ ควรที่ จะมีสญ ั ลักษณ์หรือโลโก้ประจำ�จังหวัดเพือ่ การท่อง เที่ยว ซึ่งมีมติให้ใช้ ฟอสซิลสุนัขโบราณที่มีการขุด พบในบริเวณแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง และได้รับ พระราชทานนามจาก พระบาทสมเด็จพระปรมินท รมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 ว่า “คุณทอง โบราณ” ซึง่ ทางจังหวัดอุดรธานี เห็นถึงความสำ�คัญ ของฟอสซิลสุนัข คุณทองโบราณ จึงได้ดัดแปลง ให้มาเป็นมาสคอตประจำ�จังหวัดอุดรธานี เพื่อเป็น ตัวแทนการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของจังหวัด ภายใต้โครงการเที่ยวสบายใจ ไปเที่ยวสบายดี “คุณทองโบราณ” จะได้รบั การออกแบบเพิม่ เติมในอริบทต่างๆ จากผู้ออกแบบเดิม นำ�ไปใช้ต่อย อดของการท่องเที่ยว และสินค้าที่ระลึก เบื้องต้นได้ จัดทำ�ตุ๊กตา, กระปุ๊กออมสิน, หมวกแก๊ป, เสื้อยืด และสมุดบันทึก มาเป็นตัวอย่างบางส่วน โดยกำ�ลัง ร่างระเบียบกติกา ให้หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน มาขอนำ�ไปใช้ประโยชน์เร็วๆนี้ นางสรกมล สุขศาสตร์ รักษาการหัวหน้า ท่ อ งเที่ ย วและกี ฬ าจั ง หวั ด อุ ด รธานี กล่ า วว่ า สำ�นักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุดรธานี ได้ดำ�เนินการจัดการประกวดออกแบบมาสคอด ดังกล่าว จนสามารถได้แบบมาสคอด ซึ่งเป็นผล งานของ นายอนิรุทธ์ เอมอิ่ม โดยให้ชื่อว่า คุณทอง โบราณ ความหมายของสัญลักษณ์ของมาสคอด (Mascot) ดังกล่าว เป็นสุนัขพันธุ์ไทย ผ้ามัดหมี่ ย้อมคราบ ไหบ้านเชียง แนวคิดในการออกแบบ นำ�เอาลักษณะแบบจำ�ลองมาตัดทอนให้น่ารัก เป็น มิตร สำ�หรับเป็นตัวแทนเผยแพร่ภาพลักษณ์ และ ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี พัน คอด้วยผ้ามัดหมี่ย้อมคราม แทนหัตถกรรมทอผ้าที่ เป็นที่รู้จัก สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดอุดรธานี ไห บ้านเชียง แทนแหล่งวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของ จังหวัดอุดรธานี ทัง้ นีม้ าสคอดคุณทองโบราณ ทีไ่ ด้รบั การคัด เลือกให้เป็นสัญลักษณ์จะใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำ� จังหวัดอุดรธานี เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัด อุดรธานี ให้เป็นทีร่ จู้ กั มากขึน้ เพือ่ ส่งเสริมการตลาด เผยแพร่ภาพลักษณ์ ชื่อเสียงของจังหวัดอุดรธานี และเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของ จังหวัด นอกจากนี้ก็เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นนโยบายสำ�คัญ
สนามบินอุดร
• ต่อจากหน้า 1
น า ย อ า ค ม เ ติ ม พิ ท ย า ไ พ สิ ฐ ร ม ว . คมนาคม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น เพื่อตรวจโครง ข่ายคมนาคมใน 2 จังหวัดดังกล่าว ในการตรวจ เยีย่ มท่าอากาศยานนานาชาติอดุ รธานี รมว.คมนาคม ได้สอบถามการบริหารจัดการร้านจำ�หน่ายสินค้า ภายในอาคารผู้โดยสารทั้ง 2 อาคาร ว่ามีการจัดการ บริหารอย่างไร นายมารุต ยิ่งคงดี ผู้ช่วยผู้อำ�นวย การท่าอากาศยานนานาชาติอดุ รธานี ชีแ้ จงว่า ปตท. ได้รับสัมปทานร้านจำ�หน่ายสินค้าภายในอาคาร ผู้โดยสารแห่งใหม่ เป็นเวลา 3 ปี ส่วนอาคารผู้ โดยสารหลังเก่า ยังอยู่ในสัญญาระหว่างกรมการท่า อากาศยานกับร้าน/ผู้ค้า ซึ่งนายอาคมฯ ได้ออกปาก ว่า ปตท.ไม่น่าเข้ามายุ่งกับสนามบินเลย จากนั้น ได้ไปตรวจเยี่ยมการปรับปรุงการ เช็คอินผูโ้ ดยสาร และระบบลำ�เลียงกระเป๋าสัมภาระ ด้ ว ยสายพานแบบอั ต โนมั ติ ของท่ า อากาศยาน นานาชาติ อุ ด รธานี โดยระบบเช็ ค อิ น แบบใหม่ และระบบลำ�เลียงกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสาร แบบใหม่ที่กำ�ลังทำ�การติดตั้งให้กับท่าอากาศยาน นานาชาติอดุ รธานี จะเริม่ เปิดใช้อย่างไม่เป็นทางการ หรือทดลองใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ทัง้ สองอาคาร จะเปลี่ยนแปลงการเช็คอินจากแบบเดิม ไปใช้การ เช็คอินแบบ Check-in In Line ด้วยระบบ Explosive Detection System (EDS) และระบบลำ�เลียงกระเป๋า สัมภาระผู้โดยสารเพื่ออำ�นวยความสะดวกสบาย และรวดเร็วให้กับผู้โดยสาร สำ�หรับกระบวนการ เช็คอินแบบใหม่นี้จะใช้เวลาทั้งระบบประมาณครั้ง ละ 3-5 นาที ก็เรียบร้อย หากว่าไม่มปี ญ ั หาทีก่ ระเป๋า สัมภาระของผู้โดยสาร นายมารุตฯ กล่าวให้ความเชือ่ มัน่ ของความ ปลอดภัยด้านทรัพย์สินของผู้โดยสารว่า ในห้วง ทดลองการใช้งาน 15 วันแรก จะมีเจ้าหน้าที่คอย ให้การดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อคอยช่วยเหลือแก้ไข ความขัดข้อง ส่วนความปลอดภัยของทรัพย์สนิ ของ ผู้โดยสารแต่ละอาคาร จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลการ ลำ�เลียงกระเป๋าสัมภาระอย่างเข้มงวด ที่สำ�คัญคือ ในแต่ละพืน้ ทีข่ องระบบการลำ�เลียงกระเป๋าสัมภาระ ผู้โดยสาร จะมีการติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ตามจุด ต่างๆประมาณ 10 ตัว จึงรับรองความปลอดภัย ทรัพย์ได้อย่างแน่นอน ต่อมา นายอาคมฯพร้อมคณะเดินทางไป ตรวจดูความก้าวโครงการก่อสร้างคอนเทนเนอร์ ยาร์ด ที่บริเวณที่ว่างประมาณ 18 ไร่ ของสถานี รถไฟหนองตะไก้ ต.โนนสู ง อ.เมื อ งอุ ด รธานี สอบถามความก้ า วหน้ า ของโครงการก่ อ สร้ า ง คอนเทนเนอร์ ยาร์ด และส่วนต่อขยายรางรถไฟ ไปจ่ อ พื้ น ที่ ข องนิ ค มอุ ต สาหกรรม และโรงงาน แปรรูปแร่โปแตซ ของโครงการเหมืองแร่โปแต ซอุดรธานี จากนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รอง ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย สายธุรกิจการ เดินรถ และได้มีการพูดคุยกับ นายสวาท ธีระรัตน นุกูลชัย กรรมการหอการค้าไทย และตัวแทนของ บริษัท เมืองอุตสาหกรรม จำ�กัด เจ้าของโครงการ นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและ แนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน นายสวาทฯ และผูแ้ ทนของบริษทั ฯผูล้ งทุน ชี้ แ จงว่ า โครงการดั ง กล่ า วนี้ เ ป็ น การลงทุ น ของ เอกชนฝ่ายเดียว และเป็นของนักธุรกิจในพืน้ ที่ ขณะ นี้ได้มีการลงทุนไปแล้วประมาณ 2000 ล้านบาท และมีสงิ่ ทีจ่ ะต้องลงทุนอีกประมาณ 1200 ล้านบาท ทั้งนี้โดยฝ่ายเอกชนผู้ลงทุนต้องการได้ความชัดเจน ของ รฟท.ในการทำ�คอนเทนเนอร์ยาร์ดหรือ CY. ส่ ว นฝ่ า ยเอกชนผู้ ล งทุ น โครงการ ได้ แ บ่ ง พื้ น ที่ โครงการเอาไว้สว่ นหนึง่ เพือ่ จัดทำ�เป็นศูนย์รวมและ กระจายสินค้า (DY) ออกไปจากนิคมอุตสาหกรรม ดังกล่าว โดยมีงบลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท นายอาคมฯ ได้กล่าวถึงกรณีการลงทุนที่ ว่าฝ่ายเอกชนเป็นลงทุนฝ่ายเดียวนั้น น่าจะไม่ใช่ เพราะโครงการนิคมฯทุกแห่งอยู่ภายใต้การกำ�กับ ดูแลของการนิคมแห่งประเทศไทย ดังนั้นการนิคม แห่งประเทศไทย จะต้องมีส่วนร่วมด้วย ซึ่งจะเป็น ในลักษณะของเฟรนด์ชายส์ ซึง่ จะต้องอยูภ่ ายใต้ขอ้ กำ�หนดของการนิคมแห่งประเทศไทย โดยทางการ นิคมจะเข้าไปตั้งสถานที่ทำ�งานภายในโครงการทุก แห่ง พร้อมกันนี้ นายอาคมฯ กล่าวถึงโครงการ คอนเทนเนอร์ ยาร์ด ที่บริเวณที่ดินของการรถไฟที่ สถานีหนองตะไก้ เพื่อรองรับในอนาคตให้เป็นจุด เปลี่ยนขนถ่ายสินค้าจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน ไปยังท่าเรือนาํ้ ลึกทีภ่ าคตะวันออกโดยตรง
น้อมสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ เ ป็ น ล้ น พ้ น อั น ห า ที่ สุ ด มิ ไ ด้ เนื่ อ งในวั น ที่ ๑๓ ตุ ล าคม ๒๕๖๐ เป็ น วั น คล้ า ยวั น สวรรคต ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรม หาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ คณะ ผู้ บ ริ ห ารและพนั ก งานดี แ ทคทั่ ว ประเทศ นำ�โดย คุณบุญชัย เบญจรงค กุล ประธานกรรมการบริษัท และนา ยลาร์ส นอรลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่ บริหารบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอม มูนิเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) หรือดีแทค ร่วมจัดพิธี บำ�เพ็ญพระราชกุศล ถวายภัตตาหารเพล แด่พระ ภิกษุสงฆ์ จากวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร จำ�นวน ๑๐ รูป เพื่อน้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ธ ผูส้ ถิตในดวงใจไทยนิรนั ตร์ ด้วยสำ�นึก ในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ทั้ ง นี้ คณะผู้ บ ริ ห ารและพนั ก งานดี แ ทค ได้ร่วมยืนสงบนิ่ง น้อมถวายอาลัย หน้าพระบรม ฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ณ ดีแทคเฮ้าส์ ด้วย สำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุด
มิได้ ทีพ่ ระองค์ได้พระราชทานบำ�บัดทุกข์ บำ�รุงสุข แก่ประชาชนชาวไทย ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี ทีท่ รง ครองสิริราชสมบัติ ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อม ศิระกราน กราบแทบพระยุคลบาทเทิดพระราช เกียรติคณ ุ พระผูเ้ ป็นแบบอย่างอันประเสริฐ ธ ยังคง สถิตในใจไทยทั่วหล้าตราบนิจนิรันดร์ นอกจากนี้ คณะผู้บริหารและพนักงานดี แทคทั่วประเทศ ยังได้ร่วมประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ นำ�ไปถวายให้กับวัดพระรามเก้า เพื่อน้อมถวายใน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาล ที่ ๙ ซึ่งมีกำ�หนดในวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ นี้
น้อมเกล้าถวายความอาลัย ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย “แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่าง ใกล้ ชิ ด จนสุ ด ความสามารถ แต่ พ ระอาการ ประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำ�ดับ ถึง วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาล ศิรริ าช ด้วยพระอาการสงบ สิรพิ ระชนมพรรษาปี ที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี” สำ�นักพระราชวังออกประกาศ พระบาท สมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิ ตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินท ราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต ถือเป็นความวิปโยคยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ ผู้นำ�ประเทศต่าง ๆ ได้ร่วมแสดงความ เสียใจกับข่าวการเสด็จสวรรคตและยกย่องพระ ราชกรณียกิจตลอดช่วง 70 ปี แห่งการครองราชย์ ของพระองค์
ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลมา ถวายสักการะมุง่ หน้ามายังพระบรมหาราชวังด้วย วิธีการแตกต่างกัน ทั้งเดิน วิ่ง และปั่นจักรยาน เพือ่ แสดงความอาลัยถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทั้งนี้ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมามีประชาชนเข้าเฝ้าถวาย สักการะพระบรมศพแล้วกว่า 11 ล้านคน ช่วงเวลานีอ้ ยูใ่ นช่วงเวลาของการนับถอย หลังไปสูก่ ารส่งเสด็จ ในหลวงรัชกาลที่ 9 สูส่ รวง สวรรค์ในวันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคมที่จะถึงนี้ กราบแทบฝ่าพระบาท ขอร่วมน้อมส่งเสด็จสู่ สวรรคาลัย ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อม กระหม่อมระลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุด มิได้ ข้าพระพุทธเจ้า พันโท พิสิษฐ์ ชาญเจริญ พร้อมคณะกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ไทย เสรี
ดี แ ทค ขอเชิ ญ ร่ ว มแสดงความอาลั ย เอไอเอสมอบดอกไม้จันทน์ ผ่านเว็บเพจ “เสด็จสู่ฟ้าเสวยสวรรค์” จำ�นวน 8,999 ดอก ให้กับจังหวัดนครราชสีมา ดี แ ทค ขอเชิ ญ ร่ ว มแสดง ความอาลั ย ถวายแด่ พ ระบาท สมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ล อดุ ล ยเดช รั ช กาลที่ ๙“เสด็ จ สู่ ฟ้ า เสวยสวรรค์ ” พร้ อ มเชิ ญ ชม ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ “King Rama 9 Forever” และ ภ า พ ย น ต ร์ ส า ร ค ดี “ T h e Journey บันทึกทางไกล...ถึงพ่อ” นายลาร์ ส นอร์ ลิ่ ง ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บริ ห าร บริ ษั ท โทเทิ่ ล แอ็ ค เซ็ ส คอมมู นิ เ คชั่ น จำ�กัด (มหาชน) หรือดีแทค น้อมสำ�นึกในพระ มหากรุ ณ าธิ คุ ณ เป็ น ล้ น พ้ น หาที่ สุ ด มิ ไ ด้ ข อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรี นฤบดินทร สยามิ นทราธิราช บรมนาถบพิตร “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” และเพื่อเทิดพระราชเกียรติคุณพระผู้เป็นแบบ อย่างอันประเสริฐ ดีแทคจึงจัดทำ�เว็บเพจ “เสด็จสู่ ฟ้าเสวยสวรรค์”เชิญชวนให้ประชาชนชาวไทยร่วม แสดงความอาลัย ผ่าน ๓ ช่องทาง ได้แก่ ๑.www. kingrama9forever.com ๒.หน้าเว็บไซด์ www. dtac.co.th ๓.หน้าfacebook dtac ด้วยการเข้าไปเลื อกพระบรมฉายาลักษณ์ จำ�นวน ๙ แบบ และลงชื่อ นามสกุล เพื่อน้อมถวายอาลัย ตั้งแต่วันที่ ๙ – ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ โดยจะรวบรวมนำ�ส่งให้กับสำ�นัก พระราชวังในลำ�ดับต่อไป พร้ อ มกั น นี้ ดี แ ทคยั ง จั ด ทำ � ภาพยนตร์ เฉลิมพระเกียรติ “King Rama 9 Forever” เพื่อน้อ มถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินท รมหาภูมิพลอดุลยเดช “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” ออก อากาศผ่านช่องทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ และ สถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ ๑๓ – ๒๕ ตุลาคม นีโ้ ดยได้น�ำ การแสดงหุน่ เงาของเด็กนักเรียน ชั้นอนุบาล ๓ โรงเรียนทอสี ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรง บันดาลใจ ความมุ่งมั่น และความจงรักภักดี และ ด้วยสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหา ที่สุดมิได้ ที่พระองค์ได้พระราชทานบำ�บัดทุกข์ บำ�รุงสุข แก่ประชาชนชาวไทย ตลอดระยะเวลา ๗๐
ปี ทีท่ รงครองสิรริ าชสมบัต ิ ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอ น้อมศิระกราน กราบแทบพระยุคลบาทเทิดพระราช เกียรติคุณพระผู้เป็นแบบอย่างอันประเสริฐตราบ นานเท่านาน ธ ยังคงสถิตในใจไทยทัว่ หล้าตราบนิจ นิรันดร์ ทั้งนี้ ดีแทคยังได้ร่วมสนับสนุนการเชิญ ชวนพี่ น้ อ งชาวไทยชมภาพยนตร์ ส ารคดี “The Journey บันทึกทางไกล...ถึงพ่อ” ตามรอยเสด็จ พระราชดำ�เนินจากโลซานน์ถึงกรุงเทพฯ ระยะทาง ๙๑๘๘ กิโลเมตร การเดินทางเพื่อตามหาความทรง จำ�อันมีค่า จัดทำ�โดย “โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศ วงศ์สกุล” ด้วยน้อมสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ และน้อมรำ�ลึกถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรม หาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ผ่านเรื่อง ราวเมื่อครั้งเสด็จประทับ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๖ จนกระทั่ง พระองค์เสด็จนิวัติพระนครในปี พ.ศ.๒๔๙๔ เพื่อ เสด็จขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการ “บันทึกทาง ไกล...ถึงพ่อ” รวบรวมการเดินทางของพระองค์ ใน ปี พ.ศ.๒๔๗๖ – ๒๔๙๔ ผ่านพระราชหัตถเลขา และไปรษณี ย บั ต ร รวมถึ ง ภาพถ่ า ยฝี พ ระหั ต ถ์ วีดีทัศน์พระราชทานสัมภาษณ์ และการสัมภาษณ์ บุคคลสำ�คัญที่เคยถวายงานพระองค์ โดยจะนำ�ฉาย วันที่ ๑๒ –๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ ณ โรงภาพยนตร์ใน เครือ เอสเอฟ ทุกสาขาทัว่ ประเทศ (๑๒ ตุลาคม และ ๑๕ ตุลาคมนี้ ฉายที่โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ในเขตกรุงเทพฯ และ ๑๓ – ๑๔ ตุลาคม ฉายที่โรง ภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ทั่วประเทศ )
บริ ษั ท โทรคมนาคม ภู ฏ านดู ง านเอไอเอสอี สาน ; นายอุ ด มศั ก ดิ์ โสมคำ� ผู้ช่วยกรรมการ ผู้ อำ � นวยการส่ ว นงาน ปฏิบัติการภูมิภาค ภาค ตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ บมจ.แอดวานซ์ อิ น โฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอ เอส และคณะผู้บริหาร ทุ ก ฝ่ า ยของเอไอเอส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้การต้อนรับผู้บริหารด้านเครือข่ายจาก บริษัท Tashi Infocomm จำ�กัด ราชอาณาจักรภูฏาน ที่เข้ารับฟังบรรยายและดูงานด้านวิศวกรรมของเอไอเอส ซึ่งเป็นบริษัทด้าน โทรคมนาคมที่มีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และได้รับรางวัลจากหน่วยงาน องค์กรทั้งภายในประเทศ และระดับนานาชาติ เพื่อนำ�ไปปรับใช้ที่ราชอาณาจักรภูฏาน เชือ่ ว่าการขนส่งทางรถไฟจะมีจ�ำ นวนมากขึน้ เพราะ มีต้นทุนที่ถูกกว่าการขนส่งในระบบอื่นๆ ขณะนี้ก็ มีการใช้พนื้ ทีข่ องโครงการ CY เป็นทีข่ นถ่ายสินค้า บางชนิดบ้างแล้วและจะมีการขยายพืน้ ทีอ่ อกไปให้ เต็มรูปแบบตามที่ได้มีการศึกษาเอาไว้แล้ว ด้านภาคเอกชนทีม่ กี ารลงทุนโครงการนิคม อุตสาหกรรมและมีโครงการที่จะทำ�ศูนย์ DC ซึ่ง ทราบว่าทางเอกชนได้มกี ารจัดพืน้ ทีส่ ว่ นหนึง่ เอาไว้ งบประมาณเป็นของเอกชนเอง ก็จะเป็นการเสริม ต่อกันทั้งในส่วนของ รฟท.และส่วนของเอกชน เพราะในบริเวณคอนเทนเนอร์ ยาร์ด ทีส่ ถานีหนอง ตะไก้นี้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนถ่ายสินค้าอยู่แล้ว ทั้งโครงการเหมืองแร่โปแตซ นิคมอุตสาหกรรม อุดรธานี และยังมีสินค้าจากจังหวัดต่างๆ ของภาค
อีสานตอนบน จะเป็นการขนถ่ายทัง้ ของในโครงการ นิคมอุตสาหกรรมและนอกโครงการ ก็ไม่น่าที่จะมี ปัญหาแต่อย่างใด เนือ่ งจากว่า รฟท.ก็ได้ท�ำ การศึกษาโครงการ ต่อขยายรางจากบริเวณคอนเทนเนอร์ ยาร์ดเข้าไปจ่อ กับพื้นที่ของเอกชนระยะทาง 1.8 ก.ม. ซึ่งเป็นการ ลงทุนของการรถไฟเอง เป็นส่วนหนึ่งในแผนงาน ของโครงการรถไฟรางคู่ ทีค่ าดว่าจะเริม่ ลงมือดำ�เนิน งานในปี พ.ศ.2561 และเสร็จพร้อมกับโครงการดัง กล่าวด้วย โดยจะทำ�การเสนอโครงการรวมกันไป ทั้งรถไฟรางคู่และ CY ไปพร้อมกันเลย ส่วนศูนย์ DC ในโครงการนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ทราบ ว่าเพิ่งลงมือกันเมื่อปี 2559 จึงต้องบูรณาการทำ�การ ศึกษากันอีกรอบหนึ่ง
น า ย อุ ด ม ศั ก ดิ์ โสมคำ � ผู้ ช่ ว ยกรรมการผู้ อำ�นวยการส่วนงานปฏิบัติ การภู มิ ภ าค-ภาคตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ บริ ษั ท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำ�กัด (มหาชน) หรือเอไอ เอส พร้ อ มด้ ว ยผู้ บ ริ ห าร และพนักงานเอไอเอส ภาค ตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ นำ � ดอกไม้จันทน์ จำ�นวน 8,999 ดอก มอบให้กับ พระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมิ นายมุรธาธีร ์ รักชาติเจริญ รองผูว้ า่ ราชการจังหวัด นทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ศาลากลางจังหวัด นครราชสี ม า เพื่ อ ใช้ ใ นงานพระราชพิ ธี ถ วาย นครราชสีมา
รวมพลังร่วมใจ จัดดอกดาวเรืองถวายความอาลัย
เอไอเอส ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ โดยนายอุดม ศักดิ์ โสมคำ� ผู้ช่วยกรรมการ ผู้อำ�นวยการส่วนงานปฏิบัติ การภูมิภาค-ภาคตะวันออก เฉี ย งเหนื อ พร้ อ มด้ ว ยผู้ บริ ห าร และพนั ก งานเอไอ เอส รวมพลังนำ�ดอกดาวเรือง กว่าห้าพันต้น ที่พนักงานเอ ไอเอสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือร่วมแรงร่วมใจ ปลูก มาตกแต่งให้บานในช่วงเดือนตุลาคม 2560 ซึ่ ง เป็ น ช่ ว งพระราชพิ ธี ถ วายพระเพลิ ง พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช เพื่อร่วมแสดงพลังแห่งความ จงรั ก ภั ก ดี ถวายความอาลั ย และรำ � ลึ ก ถึ ง พระ มหากรุณธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของ พระบาท
สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระ ผู้ ส ถิ ต ย์ ใ นดวงใจพสกนิ ก รชาวไทยตราบนิ รั น ดร์ และความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณหา ที่สุดมิได้ ณ บริเวณด้านหน้าสำ�นักปฏิบัติการ ภูมภิ าค-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เอไอเอส จังหวัด นครราชสีมา
ป ร ะ ส บ ผ ล สำ � เ ร็ จ เ กิ น ค า ด เกษตรกรชื่นชมโครงการ 9101
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2560 ที่ ศ าลาประชาคม จั ง ห วั ด ข อ น แ ก่ น น า ย สมศั ก ดิ์ จั ง ตระกุ ล ผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด ขอนแก่ น เป็นประธานแถลงข่าวการ ดำ�เนินโครงการ 9101 ของ จังหวัดขอนแก่น หลังดำ�เนิน การเสร็ จ สิ้ น มาแล้ ว ตั้ ง แต่ เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดย มี พล.ต.กาจบดินทร์ ยิง่ ดอน ผู้อำ�นวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดที่ 9 (ขอนแก่น) พร้อมด้วย พ.อ.สมบูรณ์ ณ หนองคาย เสนาธิการ มทบ.23 และ ว่าที่ ร.ท.วรวุฒิ ขอดจัน ทึก เกษตรจังหวัดขอนแก่น ร่วมแถลงข่าว ว่าที่ ร.ท.วรวุฒิ ขอดจันทึก เกษตรจังหวัด ขอนแก่น กล่าวว่า โครงการ 9101ได้รับความ ชื่นชมจากเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากโครง การฯ นอกจากจะทำ�ให้เศรษฐกิจภายในจังหวัด มีการหมุนเวียนแล้ว ประชาชนยังได้นำ�โครงการ ไปต่ อ ยอดขยายผล ทำ � ประโยชน์ ใ ห้ กั บ สิ น ค้ า การเกษตรมีลักษณะเด่นพิเศษขึ้นมา สำ � นั ก งานเกษตรจั ง หวั ด ขอนแก่ น ได้ รายงานผลการดำ�เนินการให้จังหวัดรับทราบแล้ว โดยเป็นที่น่าพอใจและต้องดำ�เนินโครงการนี้ต่อ อีก เพราะเป็นโครงการที่เกษตรกรได้ประโยชน์ โดยตรง สนองนโยบายของรัฐบาลได้เป็นอย่าง ดี เป็นประโยชน์กับเกษตรกร จนสามารถนำ�มา พัฒนาสินค้าให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพได้
นายสมศั ก ดิ์ จั ง ตระกุ ล ผวจ.ขอนแก่ น กล่ า วว่ า โครงการ 9101 ในส่ ว นของจั ง หวั ด ขอนแก่น มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เนื่องจาก ให้เกษตรกรคิดเอง ทำ�เอง และตรวจสอบกันเอง โดยภาคราชการไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในวงจรใดๆ นอกจากให้ความรู้ และประคับประคองโครงการ รวมทั้งมีระบบในการลงไปตรวจสอบดูแลเพื่อให้ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ทัง้ นีจ้ งั หวัดขอนแก่นมีจ�ำ นวน 248 ชุมชน 335 โครงการ งบประมาณ 618,972,478 บาท สำ�หรับโครงการ 9101 ให้ชุมชนเป็นผู้กำ�หนด โครงการพัฒนาผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของ ชุมชนและให้บริหารจัดการโครงการด้วยตนเอง ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำ�ให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง และพึ่งพาตนเองได้ ร่วมคิด ร่วมวิเคราะห์ และนำ�ไปปฏิบตั จิ ริง จนเกิด ผลอย่างเป็นรูปธรรม ทำ�ให้ภาคการเกษตร มีความ มั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนต่อไป
หน้า 3
ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ลาคม 160 ประจำ�เดือนตุ นกัน ยายน2560 2560
ติวเข้มชาวนายุค 4.0 ทำ�นาแปลงใหญ่แก้ปัญหา ขอนแก่ น ส่ ง เสริ ม โอกาสทางการค้ า และ ความยากจน สิ้นธันวา 60 ปลดหนี้ให้เป็นสูญ การลงทุ น ผ่ า นนวั ต กรรมและการจั ด การ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.60 เวลา 09.30 น. ที่โรงแรม โฆษะ ถนนศรีจันทร์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น นายเมธี จันทร์จารุภรณ์ ประธานสถาบันประชาชน เพือ่ การสาธารณสุขมูลฐาน เป็นประธานเปิดโครงการ สั ม มนา ทางเลื อ กทางรอด “ชาวนาบอกชาวนา ปรับตัวอย่างไรในยุค 4.0” โดยมี นายระวี รุ่งเรือง ผู้ ประสานงานองค์กรชาวนาเพื่อการปลดหนี้ ร่วมกับ กรมประชาสัมพันธ์ และเครือข่ายองค์กรชาวนาเพื่อ นำ�ไปสู่แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดำ�เนินการจัด ให้มีการเสวนา เรื่อง “ทางเลือกทางรอดชาวนาบอก ชาวนาปรับตัวอย่างไรในยุค 4.0” ซึง่ มี ผศ.ไกรเลิศ ทวี กุล อาจารย์ประจำ�ภาควิชาส่งเสริมการเกษตร คณะ เกษตรศาสตร์ ม.ขอนแก่น ทำ�หน้าทีพ่ ธิ กี ร นายทองคำ� แจ่มใส ปราชญ์ชาวบ้าน ต.จันดุม อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ บุคคลต้นแบบด้านการจัดการชีวิตและชุมชน, การ สร้างคน สร้างความรู้ : กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต บ้านม่วงหวาน-โคกเจริญและผูน้ �ำ ชาวนาภูมภิ าคต่างๆ ซึ่งมีเกษตรกรทำ�นาใน 12 จังหวัดภาคอีสานเข้าร่วม สัมมนาประมาณ 100 - 150 คน สืบเนื่องจาก ข้าวเป็นอาหารหลักของคน ไทยและเป็ น พื ช เศรษฐกิ จ ที่ สำ � คั ญ ของประเทศ อาชีพทำ�นาจึงมีความสำ�คัญกับประเทศไทยและ ผู ก พั น กั บ วิ ถี ชี วิ ต และวั ฒ นธรรมของไทยมาแต่ โบราณ ชาวนาจึงถือเป็นกระดูสันหลังของชาติ รั ฐ บาลมี ค วามมุ่ ง มั่ น ในการยกระดั บ รายได้ แ ละ คุ ณ ภาพชี วิ ต ของพี่ น้ อ งชาวนาไทยให้ ดี ขึ้ น จึ ง ได้ ส่ ง เสริ ม และสนั บ สนุ น ให้ เ กษตรกรชาวนา ไทยเปลี่ยนแปลงการทำ�การเกษตรแบบดั้งเดิมสู่ การเกษตรสมัยใหม่ เพือ่ ก้าวสูย่ คุ ไทยแลนด์ 4.0 ด้วย การสร้างนวัตกรรมใหม่เกี่ยวกับการเกษตร และใช้ แนวทางประชารัฐ เพือ่ ให้ประเทศไทยมีความมัน่ คง ทางอาหาร และมีศกั ยภาพเป็นผูน้ �ำ ข้าวในตลาดโลก นายระวี รุง่ เรือง นายกสมาคมเครือข่ายชาวนา ไทย กล่าวว่า ชาวนาต้องรวมกลุ่มกันให้เข้มแข็งเป็น เอกภาพ ภาครัฐต้องให้ชาวนามีส่วนร่วมในระดับ นโยบายและการบริหารจัดการ โครงการนาแปลงใหญ่ เพื่อการปลดหนี้เป็นสูญเป็นทางออกที่ดี รวมกลุ่ม กันในรูปแบบวิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์ “ตั้งเป้าว่า โครงการปลดหนีเ้ ป็นสูญจะกระจายให้ได้ถงึ ล้านไร่ ขอ ให้ ธ.ก.ส. หรือรัฐบาลช่วยพักดอกเบีย้ ในช่วง 5 ปี ส่วน ชาวนาจะบริหารเรื่องปลดหนี้สินกันเอง โดยวางแผน ว่า 5 ปี จะดำ�เนินการโครงการนี้ให้สำ�เร็จ ด้านนายเมธี จันทร์จารุภรณ์ ประธานสถาบัน ประชาชนเพื่ อ การสาธารณสุ ข มู ล ฐาน กล่ า วว่ า
ชาวนาต้องรวมตัวให้เข้มแข็ง ลดการพึ่งพาภาครัฐ กำ�หนด ทิศทางของตนเอง ปลดหนี้ให้ เป็นสูญนอกจากนี้ชาวนาต้อง แบ่งการผลิตเป็น 2 หลัก คือ ใช้ หลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยกิน ข้าวที่ตัวเองปลูก และอีกหลัก หนึ่งคือ การทำ�นาแปลงใหญ่ โดยลดต้นทุนการผลิต ทำ�ให้ ปริมาณและคุณภาพควบคุมได้ ตั้งเป้าสำ�เร็จ “เกษตรกรเข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้เป็นชาวนา โดยอาชีพที่ประสบปัญหามากมาย และมีหนี้สิน มากจนแก้ปัญหาไม่ได้ เกษตรกรจึงได้มีเวทีสัมมนา ทางเลือกทางรอดในประเด็น ชาวนาบอกชาวนา ปรับตัวอย่างไรในยุค 4.0 โดยเฉพาะหนี้ของชาวนา ที่ต้องแก้ไขให้เป็นสูญ ดังนั้นชาวนาต้องตัดสินใจ ของเขาเองไม่ให้เป็นหนี้อีก ภาครัฐต้องมาช่วยจัด ระบบเรื่องการทำ�นาของเกษตรกรทำ�นาใหม่ โดย ให้ท�ำ นาแปลงใหญ่ ซึง่ มีการทดลองทำ�นาแปลงใหญ่ แก้ปญ ั หาหนีส้ นิ เกษตรกรทำ�นาใน 7 พืน้ ที่ ทีเ่ ป็นนา แปลงใหญ่ในภาคอีสาน คือ จ.สุรนิ ทร์ ขอนแก่น และ จ.นครราชสีมา ภาคเหนือ จ.สุโขทัย จ.นครสวรรค์ ภาคกลาง จ.เพชรบุรี และ จ.นครปฐม โดยมีพ้ืนที่ ประมาณ 30,000 ไร่ โดยจะทดลองทำ�นาแปลงใหญ่ ให้เห็นว่าสามารถแก้ปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกร ที่ร่วมในโครงการได้ในเดือนธันวาคม 2560 ซึ่งจะ เกิดนาแปลงใหญ่ ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ พร้อมกับใช้ประโยชน์กับนาแปลงใหญ่ได้อย่างต่อ เนือ่ ง รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีให้ กับเกษตรกรทีร่ ่วมโครงการทำ�นาแปลงใหญ่ให้มาก
เทคโนโลยีอย่างยัง่ ยืนในอนุภมู ภิ าคลุม่ นาํ้ โขง
ที่สุด” นายเมธี จันทร์จารุภรณ์ กล่าว อย่างไรก็ตาม การสัมมนาทางเลือกทางรอด “ชาวนาบอกชาวนาปรับตัวอย่างไรในยุค 4.0” ได้ สรุปทางออกของชาวนาไทย ว่า ชาวนาต้องปรับตัว ให้เข้มแข็งจะสามารถยืนอยู่ได้ โดยยกระดับชาวนา รายย่อยให้ก้าวทันกับบริบทการเปลี่ยนแปลงของ ตลาดการค้า และสร้างมั่นคงในอาชีพ ทั้งการสร้าง วิธีการจัดการใหม่ พันธุ์จำ�เพาะ วิธีการผลิตจำ�เพาะ สร้างผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น นอกจากนี้ต้องยกระดับ การผลิตของเกษตรกรให้ได้มาตรฐานและมีความ ปลอดภัย ยกระดับทุ่งนาเป็นแหล่งพลังงานสีเขียว และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ นอกจากนี้ชาวนาจะต้องรวมกลุ่มกันผลัก ดั น โครงการปลดหนี้ เ ป็ น สู ญ ให้ บ ริ ห ารจั ด การ กันเอง โดยรัฐเป็นฝ่ายสนับสนุนให้เกิดความเข้ม แข็ง และมีการเชือ่ มโยงเครือข่ายช่วยเหลือกัน หน่วย งานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ ธ.ก.ส.ต้องมีการปรับ บทบาทใหม่ไม่คิดแต่จะให้ชาวนากู้เป็นหนี้อย่าง เดียว แต่ต้องช่วยปลดล็อคหนี้ให้ได้และต้องตั้งธง ที่ทำ�อย่างไรไม่ให้เป็นหนี้อีก
กระเสริม ต.ท่ากระเสริม อ.นํ้าพอง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560
กระสอบทรายกั้ น นํ้ า ลำ�นํ้าพอง ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมคณะ เยี่ยมผู้ประ สบภัยนํ้าท่วม และโรง นํา้ ตาลขอนแก่น ได้มอบ กระสอบเพือ่ ทำ�เป็นกระ สอบทรายเสริ ม กั้ น นํ้ า ลำ � นํ้ า พอง หลั ง จากที่ เขื่ อ นอุ บ ลรั ต น์ ไ ด้ เ พิ่ ม การระบายนํ้า ณ บ้านท่า
โครงการพัฒนาความ ร่ ว มมื อ ทางเศรษฐกิ จ ในอนุ ภูมิภาคลุ่มแม่นํ้าโขง(Greater Mekong subregional-GMS) หรือ หกเหลี่ยมเศรษฐกิจ เป็น ความร่วมมือของ 6 ประเทศ คื อ ไทย พม่ า สปป.ลาว กั ม พู ช า จี น (ยู น นาน) และ เวียดนาม เริ่มโครงการตั้งแต่ ปี พ.ศ.2535 โดยรัฐบาลไทย ได้ ข อความช่ ว ยเหลื อ ทาง วิ ช าการจากธนาคารพั ฒ นา เอเชี ย ซึ่ ง เป็ น ผู้ ส นั บ สนุ น หลัก มีพื้นที่รวมกันประมาณ 2 ล้าน 3 แสน ตารางกิโลเมตร หรือประมาณพื้นที่ยุโรปตะวัน ตก มีประชากรรวมกันประมาณ 250 ล้านคน และ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ อีกทัง้ ยัง เป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือว่าเป็นระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่นํ้า โขง จัง หวั ด ขอนแก่ น เป็ น ศูน ย์ กลางการจั ด ประชุมและงานแสดงสินค้าระดับสากลรองรับ การขยายตั ว ทางเศรษฐกิ จ ของอาเซี ย นก้ า วสู่ การเป็ น ไมค์ ซิ ตี้ และกำ � ลั ง พั ฒ นาเมื อ งให้ น่ า อยู่และเป็นต้นแบบของการพัฒนาและบริหาร จังหวัดอย่างบูรณาการ พร้อมกับพัฒนาให้เป็น ศูนย์กลางของอนุภาคลุ่มแม่นํ้าโขง (GMS) ทั้ง ด้านเศรษฐกิจ การคมนาคม และทรัพยากรมนุษย์ เพื่อมุ่งสู่การเป็นมหานครแห่งอาเซียน นอกจาก นี้ ข อนแก่ น ได้ กำ � หนดจุ ด ยื น ทางยุ ท ธศาสตร์ ของจังหวัด คือ การพัฒนาเศรษฐกิจให้มีความ มั่นคง และมีความสามารถทางการแข่งขัน มุ่ง พัฒนาเมืองเป็นศูนย์กลางบริการทางเศรษฐกิจ ของอาเซียนในด้านศูนย์การค้า การลงทุน และ บริ ก าร ศู น ย์ ก ลางคมนาคมขนส่ ง และโลจิ ส ติ กส์ ศู น ย์ ก ลางทางการแพทย์ แ ละสาธารณสุ ข ศูนย์กลางทางการศึกษา ศูนย์กลางประชุมและ ท่องเที่ยวและศูนย์อุตสาหกรรมสีเขียว
เมื่อวันที่ 25 – 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ณ ห้อง ประชุ ม โรงแรมพู ล แมน ราชาออร์ คิ ด อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น สถาบั น ความร่ ว มมื อ เพื่ อ พั ฒ นา เศรษฐกิจลุ่มแม่นํ้าโขง ในความร่วมมือและการ สนับสนุน โดย นายคำ�นวณ สุวรรณดี ผู้อำ�นวย การสำ � นั ก งานพาณิ ช ย์ จั ง หวั ด ขอนแก่ น ได้ จั ด งานการประชุ ม สั ม มนาวิ ช าการ KhonKaen Business Forum 2017 เพื่อมุ่งเน้นการเสริมสร้าง ศักยภาพทางธุรกิจ และรับทราบแนวโน้มการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงเทคโนโลยี และแนวทาง การตลาดสู่ ร ะดั บ โลกภายใต้ ก รอบไทยแลนด์ 4.0 เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายธุรกิจระหว่างผู้ ประกอบการ โอท็อป / SMEs / lnnovativeSMEs / Startup และเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐให้เข้ม แข็ ง และสามารถนำ � เทคโนโลยี ม าปรั บ ใช้ ใ น ธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพภายใต้กรอบ ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งมี ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก นัก ธุรกิจ นักลงทุน ของจังหวัดบนเส้นทางระเบียง เศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก เจ้าหน้าที่ภาค รัฐ และผู้ประกอบการค้า การลงทุน ที่เกี่ยวข้อง ในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่นํ้าโขง จาก 5 ประเทศ ได้แก่ จีน พม่า ลาว เวียดนาม และกัมพูชมากกว่า 130 ท่าน นายคำ � นวณ สุ ว รรณดี ผู้ อำ � นวยการ สำ � นั ก งานพาณิ ช ย์ จั ง หวั ด ขอนแก่ น กล่ า วว่ า สถาบั น ความร่ ว มมื อ เพื่ อ พั ฒ นาเศรษฐกิ จ ลุ่ ม
แม่ นํ้ า โขง เรื่ อ ง “การ ส่ ง เสริ ม โอกาสทางการ ค้ า และการลงทุ น ผ่ า น นวัตกรรมและการจัดการ เทคโนโลยี อ ย่ า งยั่ ง ยื น ในอนุ ภู มิ ภ าคลุ่ ม แม่ นํ้ า โขงที่ จ.ขอนแก่ น โดย เฉพาะผู้ ป ระกอบการที่ เป็ น SMEsให้ ส ามารถ ไปลงทุ น ประกอบการ ในอนุ ภู มิ ภ าคลุ่ ม นํ้ า โขง และสามารถแข่ ง ขั น กั บ ประเทศ จี น พม่ า ลาว เวียดนามและกัมพูชา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดัง นั้นผู้ประกอบการดังกล่าวจะต้องมารับรู้ข้อมูล ข่าวสาร เช่น อุตสาหกรรม 4.0 ในประเทศไทย, เอสเอ็ ม อี 4.0 กั บ อี ค อมเมิ ร์ ส , นวั ต กรรมสิ่ ง แวดล้อมในประเทศเศรษฐกิจลุ่มนํ้าโขง แนวทาง การทำ�ธุรกิจในประเทศในอาเซียน การเข้าถึง แหล่ ง เงิ น ทุ น และการพั ฒ นาอย่ า งยั่ ง ยื น ด้ ว ย เทคโนโลยีและนวัตกรรม “ผู้ประกอบการที่ต้องการไปลงทุนธุรกิจ SMEs ในประเทศอนุภมู ภิ าคลุม่ แม่นํา้ โขง จะต้อง ทราบถึงภูมิประเทศ วัฒนธรรม ประเพณี พร้อม สภาพแวดล้อมของเขา พร้อมกับทำ�ให้ตนเอง มี ค วามเข็ ม แข้ ง ที่ ไ ปประกอบการในประเทศ นั้นสามารถแข่งขันกับเขาได้ โดยไม่ต้องพึ่งพา ราชการมากนัก” นายคำ�นวณ กล่าว สุดท้าย สภาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนา เศรษฐกิจลุ่มนํ้าโขง จะให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถตระหนักถึงโอกาสทางธุรกิจ และเข้าใจ ในความร่ ว มมื อ ทางธุ ร กิ จ ระหว่ า งประเทศ สอดคล้ อ งกั บ การเข้ า สู่ ป ระชาคมเศรษฐกิ จ อาเซียน เออีซี เกิดเครือข่ายและความร่วมมือทาง ธุรกิจในระยะยาวระหว่างผู้ประกอบการที่เป็น นักธรกิจ นักลงทุนผู้ประกอบการโอท็อปและ SMEs
หน้า 4
ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ประจำ�เดือนตุลาคม 2560
ครบรอบ ๑ ปี วันสวรรคต รัชกาลที่ ๙ ; นายโชคชัย คุณวาสี ประธาน บริหาร บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด จัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ และสวด คาถา “ปรมินทมหาภูมพิ ละอตุลยะเตชะมหาราชัสสะ ปัตติทานคาถา” เพือ่ ทรงบำ�เพ็ญพระราชกุศลครบรอบ ๑ ปี วันสวรรคต ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และคาถาถวายพระราชกุศล โดยมีส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และ ประชาชน เข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุมชั้น ๔ สำ�นักงานใหญ่ บริษัท โตโย ต้าแก่นนคร จำ�กัด เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๐
ร่วมเป็นเจ้าภาพบำ�เพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ; คุณชาติชาย โฆษะวิสทุ ธิ์ ประธานกรรมการบริหาร โฆษะกรุป๊ พร้อมด้วยพนักงานและ ผูบ้ ริหาร ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำ�เพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมรำ�ลึกในพระ มหากรุณธิคุณและถวายเป็นพระราชกุศล ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
บ ร ร พ ช า อุ ป ส ม บ ท ห มู่ ; คุณชูศักดิ์ สิงห์สัตย์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโฆษะ พร้อมคณะ ร่วมพิธี บรรพชาอุปสมบทหมู่ เพื่อบำ�เพ็ญ กุศลถวายเป็นพระราชกุศล พระบาท สมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ล อดุลยเดช จักรีนฤบดินทร สยามมิ นทราธิราช บรมราชบพิตร เนื่อง ในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยมี คุณธนัท โฆษะวิสุทธิ์ ผู้ช่วย ประธานกรรมการบริหาร โรงแรม โฆษะ เป็นผู้แทนโรงแรมโฆษะ เข้า ร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทใน ครั้งนี้ ณ วัดป่าแสงอรุณ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2560
อุปสมบทหมู่ถวายพระราชกุศล ; นายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานพิธีปลงผมอุปสมบทหมู่ถวายพระราชกุศล พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จำ�นวน 189 รูป ณ วัด ป่าแสงอรุณ ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น เพือ่ ให้วดั หน่วยงานราชการและ ประชาชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมบำ�เพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศลใน วันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560
เปิดงานมหกรรมการเงินอุดรธานี ครั้งที่ 5 ; นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการ เงินอุดรธานี ครั้งที่ 5 มี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้กล่าวต้อนรับ โดยมีนักธุรกิจ นักการเงิน หัวหน้าส่วนราชการ ภาค รัฐ และผู้นำ�ภาคเอกชนจากจังหวัดอุดรธานี เข้าร่วมงานเป็นจำ�นวนมาก เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2560 ณ ห้องอุดรธานีฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า อุดรธานี งานมหกรรมการเงิ น อุ ด รธานี ครั้ ง ที่ 5 MONEY EXPO UDONTHANI 2017 เป็นงานมหกรรมการเงิน การลงทุนครบวงจรที่ ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จัดโดยวารสารการ เงินธนาคาร ในระหว่างวันที่ 6-8 ต.ค.2560 คาดว่าจะมีผู้สนใจในจังหวัด อุดรธานีและภาคอีสานตอนบน รวมไปถึงจากประเทศ สปป.ลาวกว่า 200,000 คน เข้าร่วมในงานดังกล่าว และจะมียอดธุรกรรมเกิดขึ้นในงาน ดังกล่าว กว่า 35,000 ล้านบาท
KKBS แสดงมุ ทิ ต าจิ ต ; รศ.ดร.เพ็ ญ ศรี เจริ ญ วานิ ช คณบดี ค ณะ บริหารธุรกิจและการบัญชี มข. จัดพิธแี สดงมุทติ าจิต ให้กบั รศ.ดร.นิตพิ ล ภูตะโชติ และ ผศ.ดร.ศิรริ กั ษ์ ขาวไชยมหา ในโอกาสเกษียณอายุราชการ เพือ่ เชิดชูเกียรติภายใต้ชอื่ งาน “โฮมฮักมัน่ สุขสันต์วนั เกษียณ” ณ ห้องประชุม คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มข.
แข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน ; นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน “การแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน” ครั้งที่ 67 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา โดยมี นายชนาธิป สำ�เริง ผอ.สพป. ขอนแก่น เขต 4 พร้อมคณะให้การต้อนรับ ณ สนง. สพป. ขก. เขต 4 อ.นํ้า พอง จ.ขอนแก่น
ตักบาตรถวายพระราชกุศล ; ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานในพิธที �ำ บุญตักบาตรและบำ�เพ็ญกุศลเพือ่ ถวายพระราชกุศลครบ รอบ 1 ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยมีข้าราชการ ทหาร ตำ�รวจ ผู้บริหารองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่น ร่วมในพิธี ณ บริเวณ ศาลหลักเมืองขอนแก่น
ประเพณีลอยประทีปบูชา พุทธกตัญญู ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายก เทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดประธานเปิดงานประเพณีออกพรรษา ลอย ประทีปบูชา พุทธกตัญญู เพื่ออนุรักษ์สืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และการฟื้นฟูวิถีอีสาน ณ ลานหน้าโฮงมูนมัง สวน สาธารณะ 200 ปี บึงแก่นนคร อ.เมือง จ.ขอนแก่น
เยี่ยมชมโรงงานผลิตเส้นไหม ; นายฐานุพงษ์ ธัญชัยเลิศฐากุล ประธาน กรรมการผูจ้ ดั การ หจก.ทิพย์พฒ ั นาไหมไทย ให้การต้อนรับ นางแก้วสายใจ ไชยสอน พร้อมคณะจาก สปป ลาว เดินทางมาดูงานการผลิตเครือ่ งสาวไหม และผลิตเส้นไหม ที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันก่อน
ส่งอาม่าสู่สรวงสวรรค์ ; นายชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการ บริหาร บริษทั ในเครือโฆษะกรุป๊ และ พ.ท.พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคม สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น พร้อมกรรมการบริหารสมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น ร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพ อาม่า แจเกียว แซ่ตัน คุณ แม่ของคุณเสาวลักษ์ คงภัคพูน ผู้สื่อข่าวประจำ�จังหวัดขอนแก่น ณ ศาลา วัดศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
พิธีบำ�เพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ; ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ. ขอนแก่น เป็นประธานพิธีบำ�เพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วัน สวรรคต ครบรอบ 1 ปี โดยมีหวั หน้าส่วนราชการ ผูบ้ ริหารองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมพิธีเป็นจำ�นวน มาก ณ วัดศรีจันทร์ พระอารามหลวง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น
งานเลี้ย งเพื่อแสดงความขอบคุณ ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุ พั นธุ์ นายก เทศมนตรีนครขอนแก่น เป็นประธานกล่าวอวยพรและร่วมแสดงความ ยินดี ในงานเลี้ยงเพื่อแสดงความขอบคุณ ระหว่าง นายพุฒิพัฒน์ และ พญ.จุฑามาศ จิรัสย์ชำ�นะ ณ ห้องศรีจันทร์บอลรูม โรงแรมเจริญธานี โดย มี พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น และ แขกผู้มีเกียรติร่วมแสดงความยินดีเป็นจำ�นวนมาก
แสดงความยินดีผวู้ า่ ฯขอนแก่น ; นายสุนทร จงประกอบแก้ว นายกสมาคม ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม จ.ขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการ จาก อ.ชุมแพ และ อ.พล เข้าแสดงความยินดีกับ ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น ในโอกาสเดินทางมารับตำ�แหน่งใหม่ ณ ห้องทำ�งานศาลา กลางจังหวัดขอนแก่น
น้องอิ่มท้องพี่อิ่มใจ ; ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า ขอนแก่น ร่วมกับ สโมสรพงษ์-ซิว จัดกิจกรรมน้องอิม่ ท้องพีอ่ มิ่ ใจ เลีย้ งอาหารกลางวันพร้อม มอบทุนการศึกษามูลค่า 5,000 บาท ให้กับสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิจกรรมจัดขึ้นที่เวทีชั้น 2 เมื่อ วัน เสาร์ ที่ 23 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา
นักเรียนทั่วภาคอีสานแห่ติวเข้ม “แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ฟิตสมอง พิชิต TCAS”
สังสรรค์วันไหว้พระจันทร์ ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น และ นายหลี่หมิง กัง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำ�จังหวัด ขอนแก่น ร่วมงานสังสรรค์ “วันไหว้พระจันทร์” ของชาวไทยเชือ้ สายจีนฮา กกา โดยมี นายสัญชัย ชินจตุรภัทร์ นายกสมาคมฮากกา จังหวัดขอนแก่น พร้อมชาวไทยเชื้อสายจีนฮากกาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วม ให้การต้อนรับ ณ หอประชุมโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย อ.เมือง จ.ขอนแก่น
นักเรียนทั่วอีสาน ร่วมติวเข้ม สอบเข้ามหาวิทยาลัย กับโครงการ “แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ฟิตสมอง พิชิต TCAS” ล้นขอนแก่นฮอลล์ เผยยอด ลงทะเบียนทั้งภาคอีสานกว่า 20,500 คน เมื่อวันที่ 18 ต.ค.60 ที่ขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลา ซา ขอนแก่น บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำ�กัด พร้อมหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรม “แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ฟิตสมอง พิชิต TCAS” ครั้ง ที่ 29 โครงการติวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ให้กับนักเรียนพื้นที่ภาคอีสาน โดย ไม่เสียค่าใช้จ่าย มี หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงาน และนายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้การสนับสนุน และ สีฐานเฟสติวัล “บุญสมมา บูชานํ้า” ; นายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ. นักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ในภาคอีสาน ร่วมกิจกรรมมากกว่า 5,000 คน ขอนแก่น พร้อมด้วย รศ.ดร.กิตติชยั ไตรรัตนศิรชิ ยั อธิการบดีมหาวิทยาลัย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีชว่ ยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “แบรนด์ ขอนแก่น, นายสิทธิกุล ภูคำ�วงศ์ รอง นายก อบจ.ขอนแก่น, นายชัชวาล ซัมเมอร์แคมป์” เกิดจากความร่วมมือของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ พรอมรธรรม รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น และ นางภาวนา ประ บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำ�กัด ที่จัดกิจกรรมสัญจรมอบโอกาส จิตต์ ผู้ช่วย ผอ.ททท.สำ�นักงานขอนแก่น ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน สีฐาน ทางการศึกษาให้กบั เยาวชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการแบรนด์ซมั เฟสติวัล “บุญสมมา บูชานํ้า Sithan KKU Festival 2017” ระหว่างวันที่ 1 - เมอร์แคมป์นบั ได้วา่ มีสว่ นช่วยสนับสนุนงานของทางกระทรวงศึกษาธิการอีก 3 พฤศจิกายน 2560 ณ บึงสีฐาน ม.ขอนแก่น โดยผสานแนวคิดวัฒนธรรม ทางหนึง่ เพราะมีสว่ นสร้างคุณประโยชน์ตอ่ เยาวชนไทย ทีร่ วบรวมคณาจารย์ ดั้งเดิมของชาวอีสาน กับวัฒนธรรมยุคใหม่ ก่อให้เกิดวัฒนธรรมร่วมสมัย ติวเตอร์ระดับประเทศมาช่วยติวเข้มให้นกั เรียนเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทีห่ ลากหลาย ต่อยอดภูมปิ ญ ั ญา พร้อมยกระดับการจัดงานลอยกระทงจาก พร้อมจัดทำ�ชุดหนังสือสรุปเนื้อหาข้อสอบ และสาระบันเทิงด้านการศึกษาที่ ภูมิภาคสู่ระดับสากล ส่งเสริมความเป็น Event City ของจังหวัดขอนแก่น เป็นประโยชน์ ณ ห้องประชุมคุ้มสีฐาน (ริมบึงสีฐาน) มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ ดร.ดำ�รงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายบริหาร 11 ตุลาคม 2560 กิจการภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประธานคณะกรรมการดำ�เนินการ โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ กล่าวว่า กิจกรรมสัญจรภาคตะวันออกเฉียง
เหนือจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 ตุลาคม ติวสด ณ ขอนแก่นฮอลล์ เซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น และติวผ่านอินเตอร์เนตที่ http://www.facebook.com/ BRANDSWorldThailand ได้รับความสนใจนักเรียนในภาคอีสาน เข้าร่วม เรียนกับโครงการนี้กว่า 20,500 คน ปีนเี้ พิม่ ความเข้มข้นของเนือ้ หาขึน้ ในทุกปี พร้อมพัฒนาเทคนิคการจำ� แม่นคิดเร็ว วิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ� ถูกต้อง จากสุดยอดอาจารย์ ติวชื่อดังระดับประเทศ ที่เตรียมสรุปเนื้อหาอัดแน่น พร้อมเก็งแนวข้อสอบ ใหม่ลา่ สุดแม่นยำ� และอธิบายคำ�ตอบแต่ละข้อให้เข้าใจง่าย พร้อมแจกหนังสือ แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ คู่มือเตรียมสอบครบทุกวิชาฟรี เผยเป็นความภาค ภูมิใจของผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ คือ ม.เกษตรศาสตร์ แบรนด์ซุปไก่สกัด และ พันธมิตร ที่ร่วมกันสานฝันให้นักเรียนได้เรียนต่อในมหาวิทยาลัย ไม่เสียค่า ใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ฯ ปี 2560 เป็นครั้งที่ 29 มีนักเรียนสมัครเข้า ร่วมโครงการตลอด 29 ปีแล้วรวมกว่า 1,143,258 คน โดยในปีนี้มีนักเรียน ร่วมสมัครเข้าร่วมโครงการจากทั่วประเทศกว่า 120,000 คน สำ�หรับนักเรียน 80,000 คนแรกจะได้รบั หนังสือแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์คมู่ อื เตรียมสอบจำ�นวน 1 ชุด 7 วิชาประกอบด้วยคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา ภาษาไทย สังคมศึกษา ที่เหลือสามารถดาวน์โหลดหนังสือเรียนฟรีที่ www. brandssummercam.com สำ�หรับโครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ สัญจรภาคอีสาน จังหวัด ขอนแก่นปีนี้มีติวเตอร์ชื่อดังหลายคนมาร่วมติว อาทิ ภาษาอังกฤษ อ.อริสรา ธนาปกิจ (ครูพี่แนน) , สังคมศึกษา อ.ชัย ลาภเพิ่มทวี, เคมี อ.กฤตน์ ชื่นเป็น นิจ, ฟิสิกส์ อ.อภิชัย ใจจิตร (ครูพี่ฟิวส์), คณิตศาสตร์ อ.ภาคภูมิ อร่ามวารีกุล (พี่แท็ป), ภาษาไทย อ.นิทัศน์ ยศธสาร (ครูแจ็กกี้) และชีววิทยา อ.อำ�พล ขวัญ พัก (ครูกาแฟ) โครงการแบรนด์ ซั ม เมอร์ แ คมป์ เกิ ด ขึ้ น โดยความร่ ว มมื อ ของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บริษทั แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำ�กัด ผูผ้ ลิต แบรนด์ซุปไก่สกัด ภายใต้เจตนารมณ์ที่ต้องการส่งเสริมเยาวชนในด้านการ ศึกษา นับเป็นโครงการแรกๆ ของเมืองไทยที่จัดติวเข้มให้นักเรียนได้เตรียม พร้อมในการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ เท่าเทียมกันในการติวเข้มเพิ่มพลังสมองกับติวเตอร์ชื่อดังระดับประเทศของ เมืองไทยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นพร้อมกันนี้ยังจัดให้มีสัญจร 4 ภาค 4 จังหวัด เพื่อเปิดโอกาสให้น้องๆได้ร่วมติวเข้ม ฟิตพลังสมองไปกับโครงการ อีกด้วย
หน้า 5
ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ประจำ�เดือนตุลาคม 2560
“กล้ ว ยหอมทองไทย” เนื้ อ หอม
สิ น ค้ า เ ก ษ ต ร เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ที่ น่ า ส น ใ จ
อุ ด รธานี แหล่ ง ผลิ ต กล้ ว ยหอมทอง คุ ณ ภาพ เพื่ อ การส่ ง ออก มีก ารปลูก ต้น กล้วย หอมทองมากว่า 20 ปี มากกว่า 2000 ไร่ โดยมี ตลาดหลั ก อยู่ ที่ ป ระเทศญี่ ปุ่ น แต่ ปั จ จุ บั น ร้ า น สะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ก็เป็นตลาดหลักอีก ตลาดหนึง่ จังหวัดอุดรธานี จึงจัดสรรงบประมาณ ตามแผนฯ ส่งเสริมปลูกกล้วยหอมทองให้เป็น เกษตรแปลงใหญ่ แ ละการผลิ ต แบบครบวงจร สร้ า งโรงงานคั ด แยกและพั ฒ นาเกษตรกร ให้ สามารถผลิตกล้วยหอมทองได้อย่างมีมาตรฐาน คุณภาพ เพื่อการส่งออกอย่างแท้จริง เพื่อเป็นการ ส่งเสริมตามนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์ พัฒนาการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สินค้าเกษตร ให้สอดคล้องกับความต้องการของ ตลาดและภาคอุตสาหกรรม กล้วยหอมทองพืชเกษตรเศรษฐกิจตัวใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน หลายคนจะพูดว่าเป็นภาคที่มีความยากจนกว่าทุก ภาคของประเทศ และพืชที่สำ�คัญของภาค ทุกคน จะนึกถึงข้าวหอมมะลิ จากทุง่ รวงทองของ”ทุง่ กุลา ร้องไห้”ของภาคอีสานกลาง หรือทุกวันนีห้ ลายคน อาจนึกถึงสวนยางพารา ที่ปลูกกันมาก โดยเฉพาะ ในจังหวัดอุดรธานี หนองคาย และจังหวัดในภาค ตะวันออกเฉียงตอนบน 1 นอกจากนี้ ผลไม้นานา
ชนิดทีเ่ ป็นผลไม้ประจำ�ภาคตะวันออก และภาคใต้ เช่น ทุเรียน เงาะ สละ หรือ สะตอ ก็สามารถปลูก ได้ในหลายพื้นที่ของภาคอีสาน รสชาติก็ไม่ค่อย แตกต่างกันมากนัก แต่ก็สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็น ผลไม้ของภาคอีสาน ที่ กำ � ลั ง กลายเป็ น พื ช เศรษฐกิ จ ที่ ห น่ ว ย ราชการที่เกี่ยวข้องกำ�ลังให้ความสนใจ บางหน่วย จัดเข้าไปอยู่ในแผนการส่งเสริม หรือ เป็นยุทธ์ ศาสตร์ที่ให้ความสำ�คัญอยู่ในอันดับต้นๆคือ”การ ส่งเสริมปลูกกล้วยหอมทอง” ในพื้นที่ภาคอีสาน หลายจั ง หวั ด มี ก ารให้ ก ารส่ ง เสริ ม ปลู ก กล้ ว ย หอม จังหวัดอย่างจริงจังแล้ว 7 จังหวัด คือจังหวัด อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำ�ภู เลย สกลนคร ศรีสะเกษ และจังหวัดบุรีรัมย์ ความเป็นมาของกล้วยหอมทองในภาค อีสานตอนบน นายจั ก ริ น ทร์ โพธิ์ เ พิ่ ม ประธานกลุ่ ม วิสาหกิจชุมชนกล้วยหอมทอง จ.อุดรธานี เปิดเผย ว่าการปลูกกล้วยหอมทองในจังหวัดอุดรธานี มีมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 หรือ เมื่อ 23 ปีที่แล้ว ในพื้นที่ อำ�เภอสร้างคอม จ.อุดรธานี ในพืน้ ที่ 3 ไร่ และนำ�ไป วางขายตามตลาดริมทางจนกลายเป็นทีร่ จู้ กั และได้ มีการขยายพืน้ ทีป่ ลูกไปตามอำ�เภอและในพืน้ ทีใ่ กล้ เคียง กระทั่งปี 2552 สำ�นักงานเกษตรได้เข้ามาส่ง เสริมให้มีการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขึ้น และได้ มีโอกาสส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น โดยผ่าน บริษัท แพน แปซิฟิค จำ�กัด และขณะนี้ได้มีแผนการขยาย
ตลาดต่างประเทศไปที่ประเทศจีน เกาหลี ขณะนี้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ต่างได้มีการ ขยายเครือข่ายไปยังพื้นทีต่างๆ เพื่อร่วมกันปลูก และผลิ ต กล้ ว ยหอมทองที่ ไ ด้ ม าตรฐานกำ � หนด ของตลาดในประเทศและต่างประเทศ จากครัง้ แรก คือ จังหวัดอุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำ�ภู เลย สกลนคร ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ จนขณะนี้มีหลาย จังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองและมีผลผลิต มากขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับตลาด สำ�หรับตลาด ในประเทศ ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ทีเ่ ป็นตลาดหลักอีกแห่งรองลงมาตลาดต่างประเทศ สำ�หรับจังหวัดอุดรธานีและกลุ่มจังหวัด อี ส านตอนบน 1มี ก ารวางแผนการปลู ก ให้ กั บ สมาชิ ก เครื อ ข่ า ย การปลู ก ในแต่ ล ะจุ ด ของการ ปลูกจะต้องมีพื้นที่ปลูกกล้วยรวมกันอยู่ที่5,00010,000 หน่อ หรือประมาณ 15-25 ไร่ หรือ350400หน่อต่อไร่ ส่วนระยะเวลาการเก็บผลผลิตจะ อยู่ที่ประมาณ 9-10 เดือน ซึ่งตลอดเวลาที่กล้วย หอมทองออกเครือจนเก็บผลผลิตได้ ต้องดูแลอย่าง ใกล้ชิด การเก็บกล้วยหอมทองต้องกะเวลาที่กล้วย จะสุกประมาณ 80% เมื่อเดินทางถึงประเทศปลาย ทาง ส่วนการบ่มให้สกุ เต็มทีเ่ ป็นเรือ่ งผูร้ บั ปลายทาง นํ้าหนักต่อลูกจะต้องไม่ตํ่ากว่า 120 กรัม/ลูก และที่ สำ�คัญการดูแลกล้วยหอมทอง จะต้องไม่ใช้สารเคมี ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นายจักรินทร์ฯ กล่าวเพิม่ เติมว่า พืน้ ทีอ่ สี าน ได้เปรียบตรงทีเ่ ป็นพืน้ ทีใ่ หม่ในการปลูกกล้วย การ
สะสมของโรค-แมลงยังน้อย ระบบนิเวศน์และ สภาพแวดล้อมยังสมบูรณ์ ขณะที่ในพื้นที่ที่กล้วย มานานการเจริญเติบโตจะสู้พื้นที่ใหม่ไม่ได้ กล้วย ปลูกซํ้าที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค การให้ผลผลิตก็ไม่ ค่อยดี อีสานได้เปรียบในเรื่องของการจัดการที่ง่าย ต้นทุนค่าปุ๋ยและสารเคมีน้อยกว่าเขตอื่น แต่พื้นที่ ของภาคอีสานก็เสียเปรียบตรงทีห่ าพืน้ ทีป่ ลูกกล้วย หอมทองค่อนข้างยากเนือ่ งจากพืน้ ทีส่ ว่ นใหญ่แห้ง แล้ง การลงทุนในเรือ่ งของระบบนาํ้ ก็อาจจะสูงกว่า พืน้ ทีอ่ นื่ การวางแผนการผลิตต้องสัมพันธ์กบั พืน้ ที่ การปลูกกล้วย ควรใช้ระยะปลูก 2x2 เมตร พื้นที่ 1ไร่ ปลูกได้ 350-400 หน่อ หน่อที่นำ�มาปลูก ต้องเป็นหน่อจากต้นที่มีอายุอายุ 1 ปีขึ้นไปจึงจะ เป็นหน่อที่สมบูรณ์ ราคาหน่อกล้วยที่ขายขึ้นอยู่ กับความต้องการ การให้นํ้าที่นี่มีทั้งปล่อยไปตาม ร่องสวน และใช้นํ้าหยด โดยลงทุนค่านํ้าหยดไร่ ละ 3,000 บาท ที่สามารถควบคุมการให้นํ้า และ ควบคุมความชื้นได้ การให้ปุ๋ยจะให้ครั้งแรกช่วง รองพืน้ ก่อนปลูกครัง้ หนึง่ เมือ่ ต้นกล้วยอายุ 1เดือน เริ่มให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 100-150 กรัม/ต้น อายุ 3-4เดือน ให้สูตรเดิม อัตรา 200-300 กรัม/ต้น อายุ 5 เดือน ให้ 20-15-20 อัตรา 200-300 กรัม/ต้น เมื่อกล้วยอายุ 4 เดือนจะแต่งหน่อที่แตก ออกมารอบต้นออก หลังจากนั้นจะคอยแต่งหน่อ ทุก 10-15 วันครั้ง ส่วนใบกล้วย ควรเก็บใบไว้ให้ มากที่สุด ตัดแต่งเฉพาะใบที่เสื่อมสภาพ หมดอายุ ออก โดยจะไว้ใบต่อต้นประมาณ 10 ใบ ซึ่งถือว่าดี
“ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ” ผ่านมาตรฐานสากล JCI พร้อมเป็นศูนย์กลางทางการ แพทย์ ด้ า นโรคหั ว ใจและหลอดเลื อ ด ชั้ น นำ � ของประเทศ และนานาชาติ ศู น ย์ หั ว ใ จ สิ ริ กิ ติ์ ฯ เ ปิ ด ป้ า ย J C I หลังผ่านการรับรองคุณภาพ สถานพยาบาลระดับ สากล ก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด ชั้นนำ�ของประเทศ และนานาชาติ เมื่ อ วั น ที่ 29 กั น ยายน 2560 ที่ อ าคาร ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คณะ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รศ.ดร.กิตติ ชั ย ไตรรั ต นศิ ริ ชั ย อธิ ก ารบดี ม หาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น เป็ น ประธานเปิ ด ป้ า ยสั ญ ลั ก ษณ์ JCI ในโอกาสที่ ศู น ย์ หั ว ใจสิ ริ กิ ติ์ ฯ ได้ ผ่ า นการ รับรองคุณภาพ สถานพยาบาลระดับสากลจาก The Joint Commission International Accreditation ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกันนี้ได้กล่าวแสดง ความยินดีกับ รศ.วราภรณ์ เชื้ออินทร์ ผู้อำ�นวยการ ศูนย์หวั ใจสิรกิ ติ ฯิ์ คณะผูบ้ ริหาร และบุคลากรศูนย์ หัวใจสิริกิติ์ฯ ท่ามกลางความยินดีเป็นอย่างยิ่ง โดยมี รศ.ชาญชัย พานทองวิรยิ ะกุล คณบดี คณะแพทยศาสตร์ มข. พร้อมคณะผู้บริหารคณะ แพทยศาสตร์ มข., คณะผู้ บ ริ ห ารจากบั ณ ฑิ ต วิทยาลัย มข., คณะผู้บริหารจากคณะเทคนิคการ แพทย์ มข. มาร่วมเป็นเกียรติและแสดงความยินดี เนื่ อ งในโอกาสที่ ศู น ย์ หัว ใจสิ ริ กิ ติ์ฯ ได้ ผ่า นการ รับรองคุณภาพสถานพยาบาลระดับสากล จาก JCI ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รบั การรับรองระหว่างวัน ที่ 26 สิงหาคม 2560 – 25 สิงหาคม 2563
รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ มีความมุ่งมั่น และเน้นการพัฒนาระบบคุณภาพ บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคหัวใจหลอดเลือด และทรวงอก มาอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านการรับรอง คุณภาพสถานพยาบาลระดับสากล ระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม 2560 – 25 สิงหาคม 2563 จาก The Joint Commission International Accreditation ประเทศ สหรัฐอเมริกา ด้วยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ความสามัคคีจากบุคลากรทุกท่านที่ช่วยเป็นแรงขับ เคลื่อนสำ�คัญ เพื่อพัฒนาคุณภาพระบบบริการของ ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ สู่มาตรฐานระดับสากล (Joint Commission International:JCI) และเป็นศูนย์กลาง ทางการแพทย์ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด ตาม วิสัยทัศน์ พันธกิจและปณิธานที่ตั้งมั่น “ขอขอบคุ ณ คณบดี ค ณะแพทยศาสตร์ ผู้ อำ � นวยการศู น ย์ หั ว ใจสิ ริ กิ ติ์ ฯ ผู้ บ ริ ห ารคณะ แพทยศาสตร์ ผู้ บ ริ ห ารศู น ย์ หั ว ใจสิ ริ กิ ติ์ ฯ และ
บุคลากรศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ ทุกท่าน ที่ร่วมสร้าง และส่งต่อสิ่งดีงามสำ�หรับผู้ป่วย ตลอดจนสร้าง ชื่อเสียง ให้ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น เป็ น ที่ ย อมรั บ ในระดั บ ประเทศ และนานาชาติ โดยขอให้ทุกท่านร่วมธำ�รง รักษาการบริการที่มีคุณภาพและความปลอดภัยใน การดูแลผู้ป่วยต่อไป” รศ.วราภรณ์ เชือ้ อินทร์ ผูอ้ �ำ นวยการศูนย์หวั ใจ สิริกิติ์ฯ กล่าวว่า ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ ได้กำ�หนดนโยบาย เพื่อพัฒนาระบบบริการโรงพยาบาลของศูนย์หัวใจสิ ริกิติ์ฯ เข้าสู่มาตรฐานระดับสากล(Joint Commission International:JCI) โดยได้ดำ�เนินโครงการพัฒนางาน บริการโรงพยาบาลตามมาตรฐานระดับนานาชาติ มาตรฐานสถานพยาบาลระดับสากล จากการดำ�เนิน งานทุกด้าน ความร่วมมือร่วมใจจากผูบ้ ริหาร บุคลากร และผูเ้ กีย่ วข้องทุกฝ่ายทีท่ มุ่ เท เสียสละ ทัง้ แรงกายและ แรงใจ รวมทั้งครอบครัวของบุคลากรทุกท่าน เพื่อให้ โรงพยาบาลมีคุณภาพการรักษาและการบริการที่ได้ มาตรฐานระดับชาติ นานาชาติ ตอบสนองต่อวิสยั ทัศน์ ของหน่วยงานทีจ่ ะเป็นโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยระดับ สากล มุ่งเน้นการผ่านการรับรองการพัฒนาคุณภาพ โรงพยาบาลตามมาตรฐานทางการแพทย์ที่ได้รับการ ยอมรับในนานาชาติ มาตรฐาน JCI อยูใ่ นการกำ�กับดูแลของ The Joint Commission ซึง่ เป็นสถาบันของสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เป็นองค์กรอิสระ ที่ไม่หวังผลกำ�ไร ตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่ง
เสริมการพัฒนาคุณภาพ และความปลอดภัยในการ ดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยให้กับสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ด้วยการตรวจประเมินอย่าง ละเอียดถี่ถ้วน ตลอดจนให้การรับรองมาตรฐาน คุ ณ ภาพแก่ ส ถานพยาบาลที่ มี คุ ณ สมบั ติ เ ป็ น ไป ตามข้อกำ�หนด การตรวจประเมินของ The Joint Commission เพือ่ พิจารณารับรองสถานพยาบาลตาม มาตรฐาน JCI นั้น ครอบคลุมทั้งการบริหารจัดการ องค์กร ทิศทางและภาวะผูน้ � ำ ระบบโครงสร้างความ ปลอดภัยทางกายภาพ ระบบการรองรับภาวะฉุกเฉิน ระบบการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ ระบบการ สื่อสารและสารสนเทศ ระบบการบริหารจัดการ ทรัพยากรบุคคล ระบบคุณภาพและความปลอดภัย ผู้ป่วย รวมไปถึงการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพ การดูแลรักษาตั้งแต่ผู้ป่วยเข้ามาในโรงพยาบาล จน กระทั่งผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล โดยคำ�นึงถึงสิทธิผู้ป่วย การให้ข้อมูลเกี่ยว กับโรคและอาการที่เป็น ตลอดจนการปฏิบัติที่ถูก ต้องเพื่อให้กระบวนการดูแลรักษาเกิดผลลัพธ์ที่ให้ ประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมี สถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI ทั่ว ประเทศ จำ�นวน 61 แห่ง การที่ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ คณะแพทยศาสตร์ มข. ได้รับการรับรอง มาตรฐานในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าศูนย์ หั ว ใจสิ ริ กิ ติ์ ฯ เป็ น โรงพยาบาลที่ มี ม าตรฐาน ให้ บริการในระดับนานาชาติ
ทีส่ ดุ และกล้วยจะเริม่ ออกปลีเมือ่ อายุ 6 เดือน หลัง จากกล้วยแทงลูกสุดปลีแล้ว จะตัดปลีออก และ หลังตัดปลีไม่เกิน 15 วัน จะนุ่งโสร่งคือการหุ้ม เครือด้วยถุงพลาสติกสีฟา้ (เอธีลนี โพลีน)แบบเปิด ด้านปลายด้านล่าง โดยหุม้ ทัง้ เครือ และหุม้ ทุกเครือ เพื่อให้ผิวกล้วยสวย และป้องกันแมลงทำ�ลายหวี กล้วย ส่วนการตัดใบธงคือใบตองกล้วยที่อยู่เหนือ เครือหวีกล้วย ตัดเมื่อใบธงหักก่อนที่จะเสียดสีกับ ผิวกล้วยทำ�ให้เกิดความเสียหาย หลังตัดปลีออกไปประมาณ 60-70 วัน ก็ จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ ถ้านับอายุตั้งแต่เริ่มปลูกก็ ประมาณ 9-10 เดือนหรือประมาณ 1 ปี การปลูก กล้วยเพื่อส่งออกจะไม่มีการใช้สารเคมีหรือหลีก เลี่ยงการใช้สารเคมีให้มากที่สุด ประกอบกับที่นี่ เป็นพื้นที่ใหม่จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค-แมลง ก็ ไม่ค่อยมีการใช้สารเคมีกันอยู่แล้ว วันนีก้ ล้วยหอมทองในอีสานกลายเป็นพืช เศรษฐกิจใหม่ที่สร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกรใน พืน้ ที่ และได้รบั ความสนใจอย่างมากจากเกษตรกร เนื่องจากผลตอบแทนสูงกว่าพืชเดิมที่ชาวบ้าน ปลูกกันมานานจนกลายเป็นวิถีชีวิต ผู้ใดสนใจจะปลูกกล้วยหอมทอง สามารถ
สอบถามรายละเอี ย ดเพิ่ ม เติ ม ได้ ที่ นายจั ก ริ นทร์ โพธิ์เพิ่ม 159 ม.2 ต.บ้านโคก อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี โทร.084-9522789 ตลาดและการรับซื้อ ในส่วนของตลาดรับซือ้ สำ�หรับกล้วยหอม ทองของจังหวัดอุดรธานีเน้นตลาดต่างประเทศเป็น หลักคือ ประเทศญี่ปุ่น จีน และเกาหลี โดยมีความ ต้องการประมาณ 10 ตัน/สัปดาห์ ซึง่ ขณะทางกลุม่ วิสาหกิจฯได้รับงบประมาณ CEOจำ�นวน 14 ล้าน เศษ เอาไปจัดสร้างโรงงานคัดแยกมาตรฐาน 1 หลัง งบ 8.4 ล้านบาท ทีเ่ หลือนำ�เอาไปสนับสนุนสมาชิก ในการพัฒนาประสิทธิภาพการปลูก การผลิต การ ขนส่งบรรจุตู้คอนเทนเนอร์ที่โรงงานคัดแยก ที่ อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี วันนีก้ ล้วยหอมทองในอีสานกลายเป็นพืช เศรษฐกิจใหม่ที่สร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกรใน พืน้ ที่ และได้รบั ความสนใจอย่างมากจากเกษตรกร เนื่องจากผลตอบแทนสูงกว่าพืชเดิมที่ชาวบ้าน ปลูกกันมานานจนกลายเป็นวิถีชีวิต ข้อมูล นายจักรินทร์ โพธิเ์ พิม่ กลุม่ วิสาหกิจ กล้วยหอมทอง จ.อุดรธานี
การนอนกัดฟัน
ผศ.ดร.ทพ.อชิรวุธ สุพรรณเภสัช รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา ศิษย์เก่าและชุมชนสัมพันธ์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สวัสดีครับ พบกันอีกครัง้ กับ “ก้าวทันโลก กับโรงพยาบาลทันตกรรม” คอลัมน์ดๆี เพือ่ สุขภาพ ช่องปากและฟัน วันนี้เรามารู้จักกับเรื่องการนอน กัดฟัน กันนะครับ อย่างไร ถึงเรียกว่าการกัดฟัน การนอนกัดฟัน หมายถึง การกัดเน้นหรือ เคีย้ วระหว่างฟันกับฟัน ซึง่ ไม่ใช่การบดเคีย้ วอาหาร ตามปกติ เกิดขึ้นได้ในขณะนอนหลับอาจเกิดขึ้น โดยมีเสียงให้ได้ยิน หรือไม่มีเสียงก็ได้ ลักษณะอาการ 1.ฟันสึก เป็นรอยมันวาว 2.ฟันโยก เนื่องจากมีแรงกดที่ฟันมากกว่า ปกติ 3.ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า มัก จะรู้สึกปวดเมื่อยหรือตึงหลังจากตื่นนอนใหม่ๆ บริเวณแก้ม หน้าหูและต้นคอ 4.กล้ามเนือ้ บดเคีย้ ว โดยเฉพาะบริเวณแก้ม มีขนาดใหญ่ขึ้น 5.อาจมีเสียงคลิก๊ ทีบ่ ริเวณข้อต่อขากรรไกร เวลาอ้าหรือหุบปาก 6.ฟันหัก ฟันแตก 7.มีปุ่มกระดูกด้านในของขากรรไกร โดย เฉพาะขากรรไกรล่าง สาเหตุของการนอนกัดฟัน
1.ปัญหาทางด้านจิตใจ ได้แก่ ความเครียด อาจเป็นผลมาจาก ความกลัว ความวิตกกังวล หรือความผิดหวัง 2.ปัญหาจากฟัน เนือ่ งจากมีการสบฟันที่ ไม่สัมพันธ์กัน อาจเป็นผลมาจาก 2.1.ฟันซ้อนเก ผิดตำ�แหน่ง 2.2.ฟันโยก หรือเป็นโรคปริทันต์ 2.3.ฟั น ล้ ม เอี ย ง หรื อ ยื่ น ยาวลงมา เนื่องจากถอนฟันไปแล้วไม่ได้ใส่ฟันปลอม 2.4.ฟันปลอม ซึง่ มีการสบฟันไม่สมั พันธ์ กับฟันธรรมชาติ จะรักษาอย่างไร ควรรี บ มาพบทั น ตแพทย์ เพื่ อ รั บ การ รักษาทีเ่ หมาะสม เช่น ใส่เฝือกสบฟัน (มีลกั ษณะ เป็นแผ่นพลาสติกผิดเรียบสวมกับฟันบน ช่วย กระจายแรงเมือ่ กัดกับฟันล่าง) หรือการรักษาวิธี อื่น เพื่อลดความเจ็บปวดต่อไป “การนอนกัดฟัน” ก่อให้เกิดความเจ็บ ปวดและเสียหายต่อฟันได้ ควรเข้ารับการรักษา กับทันตแพทย์อย่างต่อเนื่องนะครับ พบกันใหม่ ฉบับหน้า สวัสดีครับ
หน้า 6
ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ประจำ�เดือนตุลาคม 2560
ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ประจำ�เดือนตุลาคม 2560
หน้า 7
หน้า 8
ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ประจำ�เดือนตุลาคม 2560
จิตอาสาหนองคาย พร้อมทำ�ดีเพือ่ พ่อด้วยใจ สาย ฝนกรุ๊ปมอบเวชภัณฑ์ยาถวายเป็นพระราชกุศล ภาครั ฐ – เอกชน และ ประชาชนชาวหนองคาย ร่วมกัน ทำ�ดีเพือ่ พ่อ ลงทะเบียนเป็นจิตอาสา เฉพาะกิจกว่า 30,000 คน จิตอาสา ด้านการแพทย์ติวเข้ม ด้านสายฝน กรุ๊ ป โปรเกอร์ ประกั น ภั ย มอบ เวชภัณฑ์ยา ถวายเป็นพระราชกุศล ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 ที่ห้องประชุมพระใส ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัด หนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.หนองคาย, พระครูภาวนาธรรมโฆสิตเลขานุการเจ้าคณะ จังหวัดหนองคาย เป็นประธานร่วมประชุมคณะ อนุกรรมการจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ในงาน พระราชพิธถี วายพระเพลิงพระบรมศพพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรม นาถพิตร จั ง หวั ด หนองคายได้ แ ต่ ง ตั้ ง คณะ กรรมการอำ�นวยการและคณะอนุกรรมการจัด พิธีถวายดอกไม้จันทน์ระดับจังหวัดขึ้น เพื่อทำ� หน้ า ที่ ใ นการอำ � นวยการและดำ � เนิ น การเกี่ ย ว กับพิธีถวายดอกไม้จันทน์ของประชาชน พร้อม ทั้งมอบหมายให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่ เกีย่ วข้องดำ�เนินการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย งดงาม และสมพระเกียรติ สำ � หรั บ จั ง หวั ด หนองคายมี ผู้ ม าลง ทะเบียนจิตอาสาเฉพาะกิจ รวมทั้งสิ้น 30,042 คน แยกเป็นงานดอกไม้จันทน์ 6,230 คน, งาน ประชาสัมพันธ์ 1,659 คน, งานโยธา 2,549 คน, งานขนส่งฯ 1,003 คน, งานบริการประชาชน 12,564 คน, งานแพทย์ 2,632 คน, งานรักษาความ ปลอดภัย 2,527 คน และงานจราจร 878 คน เมื่อวันที่ 18 ต.ค.60 นายสุชาติ ทีคะสุข รอง ผวจ.หนองคาย ได้นำ�จิตอาสาเฉพาะกิจ กว่า 2,000 คน ในพื้นที่อำ�เภอเมืองหนองคาย มาร่วม กันบำ�เพ็ญสาธารณประโยชน์ บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ทำ�ความสะอาดบริเวณโดยรอบของพระเมรุมาศ จำ�ลอง และบริเวณวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมือง เก็บกวาดทำ�ความสะอาด ให้สวยงาม เพือ่ ให้สมพระเกียรติ ด้านจิตอาสาสมัครเฉพาะกิจ “ด้านการ แพทย์” นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิด กิ จ กรรมการสาธิ ต และการฝึ ก อบรมจิ ต อาสา สมั ค รเฉพาะกิ จ “ด้ า นการแพทย์ ” และการ ประชุมวางแผนเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ และสาธารณสุข (ส่วนภูมิภาค) โดยกระทรวง สาธารณสุข ได้สั่งการให้หน่วยงานสาธารณสุข ทุกระดับ เป็นหน่วยงานฝึกอบรมจิตอาสาสมัคร เฉพาะกิจ “ด้านการแพทย์” และวางแผนเตรียม ความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขใน พื้นที่ ณ พระเมรุมาศจำ�ลองและซุ้มถวายดอกไม้ จันทน์ ประจำ�แต่ละจังหวัด สสจ.หนองคาย ร่วมกับ โรงพยาบาล หนองคาย และหน่วยงานสาธารณสุขทุกระดับ จึ ง จั ด การสาธิ ต และฝึ ก อบรมจิ ต อาสาสมั ค ร เฉพาะกิจ “ด้านการแพทย์”เพื่อเป็นการสานต่อ พระราชดำ�ริ โครงการจิตอาสา “เราทำ�ความดี
ด้วยหัวใจ” เพือ่ น้อมรำ�ลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ และถวายเป็นพระราชกุศล อันจะทำ�ให้จิตอาสา สมัครเฉพาะกิจมีความรูใ้ นเรือ่ งการปฐมพยาบาล เบื้องต้น และการช่วยฟื้นคืนชีพ โดยมีคณะผู้ บริหาร เจ้าหน้าที่ และจิตอาสาสมัครเฉพาะกิจ จากโรงพยาบาล, สำ�นักงานสาธารณสุขอำ�เภอ และสำ�นักงานสาธารณสุขจังหวัด เข้าร่วมอบรม ทั้งสิ้น 70 คน ด้าน นายศรัณศักดิ์ ศรีเครือเนตร นาย อำ�เภอท่าบ่อ และนายกกิ่งกาชาดอำ�เภอท่าบ่อ นำ�คณะกรรมการ สมาชิกกิ่งกาชาดอำ�เภอท่าบ่อ ร่วมกับเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาลโรงพยาบาล สมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ออกหน่วยรับบริจาค โลหิต/อวัยวะ/ดวงตา เพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่เจ็บป่วย และผู้พิการที่ต้องการเปลี่ยนอวัยวะ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปร มินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 18 ต.ค.60 ณ องค์การบริหารส่วนตำ�บลบ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ทั้งนี้ เพื่อนำ�โลหิตที่ได้จากการบริจาค ไปสำ�รองไว้ที่ธนาคารเลือด เพื่อนำ�ไปช่วยเหลือ ผู้เจ็บป่วยที่ต้องการโลหิต รักษาอาการเจ็บป่วย พร้อมกันนี้ยัง เปิดรับบริจาคดวงตาและอวัยวะ เพือ่ นำ�ไปช่วยเหลือผูท้ ตี่ อ้ งการเปลีย่ นถ่ายอวัยวะ ให้สามารถมองเห็นและกลับมาใช้ชีวิตในสังคม ไม่เป็นภาระของครอบครัว โดยมีผู้บริจาคโลหิต จำ�นวน 30 ราย ได้โลหิต 12,000 ซีซี คุณกมลฉัตร นนทะสินธุ์ ประธานบริษทั สายฝนกรุ๊ป โบรกเกอร์ ประกันภัย จำ�กัด, นาง สาวมุจจรินทร์ ทัศดรกุลพัฒน์ กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั สายฝนกรุป๊ โบรกเกอร์ ประกันภัย จำ�กัด, นางสาวไอริสา ศรีบุญนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้ จัดการ บริษัท สายฝนกรุ๊ป โบรคเกอร์ ประกัน ภัย จำ�กัด และคุณวิรชา ชัยเมือง ผู้จัดการ บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำ�กัด (มหาชน) ได้ร่วม มอบยาเวชภั ณ ฑ์ ใ ห้ ส มาคมกู้ ภั ย ร่ ว มใจท่ า บ่ อ โดยมี น.ส.ทัศนีวรรน บุญชื่น เจ้าหน้าที่อาสา กู้ภัยร่วมใจท่าบ่อ เป็นตัวแทนนายกสมาคมกู้ภัย ร่วมใจท่าบ่อ รับมอบ คุณกมลฉัตร กล่าวว่า ยาเวชภัณฑ์ทมี่ อบ ในครัง้ นีเ้ พือ่ ให้สมาคมกูภ้ ยั ร่วมใจท่าบ่อ ได้น�ำ ไป ช่วยเหลือผูป้ ระสบอุบตั เิ หตุในกรณีตา่ งๆ หวังว่า บริษัท สายฝนกรุ๊ป โปรเกอร์ ประกันภัย จำ�กัด จะเป็นส่วนหนึ่งในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แก่ประชาชนที่ได้รับอุบัติเหตุ อีกทั้งเพื่อถวาย เป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินท รมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สวรรคต ครบ 1 ปี อีกด้วย
หนองคายทุ่มงบจัดการขยะ ปี 62 กว่า 76 ล.บาท
เ มื่ อ วั น ที่ 17 ตุ ล าคม 2560 ที่ ห้ อ ง ป ร ะ ชุ ม สำ � นั ก งานส่ ง เสริ ม การปกครองท้ อ ง ถิ่ น ชั้ น 2 ศาลา กลางจั ง หวั ด นาย จิรศักดิ์ ศรีคชา รอง ผู้ว่าราชการจังหวัด ห น อ ง ค า ย เ ป็ น ประธานการประชุม คณะกรรมการจัดการสิง่ ปฏิกลู และมูลฝอยจังหวัด หนองคาย ตามแผนปฏิบัติการ “ประเทศไทย ไร้ ขยะ” ตามแนวทาง “ประชารัฐ” การประชุมในครัง้ นีเ้ พือ่ พิจารณาโครงการ ในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ เพือ่ ดำ�เนิน โครงการในการจั ด การสิ่ ง ปฏิ กู ล และมู ล ฝอย ประจำ�ปี 2562 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำ�นวน 9 แห่ง จำ�นวน 15 โครงการ งบประมาณ 76,135,555 บาท แยกเป็นแผนงานจัดหาครุภัณฑ์ จำ�นวน 8 โครงการ งบประมาณ 28,500,000 บาท, แผนงานก่อสร้าง จำ�นวน 6 โครงการ งบประมาณ
44,635,555 บาท และแผนงานเพิ่มประสิทธิภาพ จำ � นวน 1 โครงการงบประมาณ 3,000,000 บาท รวมทั้งสิ้น 15 โครงการ เงินงบประมาณ 76,135,555 บาท ทั้งนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้เสนอคำ�ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อ ดำ�เนินโครงการในการจัดการสิง่ ปฏิกลู และมูลฝอย ประจำ�ปีงบประมาณ 2562 ภายหลังระยะเวลาที่ กฎหมายกำ�หนด (1 ต.ค.60) จำ�นวน 2 แห่ง 5 โครงการ งบประมาณ 43,170,000 บาท
ชาวนาหนองคาย สบายใจ มี ต ลาดรั บ ซื้ อ ข้ า วแน่ น อน
ห น อ ง ค า ย จั ด พิ ธี ล ง นามบันทึกข้อตกลงการซื้อ-ขาย ผลผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ ระหว่าง โรงสีข้าวกับกลุ่มเกษตรกร สร้าง ความมั่ น ใจมี ต ลาดรองรั บ ที่ แน่นอน เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2560 เวลา 10.00 น. ที่ ห้ อ งประชุ ม ปทุมเทวาภิบาล ชั้น 4 ศาลากลาง จังหวัด นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธี ลงนามบันทึกข้อตกลงการซื้อขายผลผลิตข้าวนา แปลงใหญ่ประจำ�ปี 2560 / 2561 ซึ่งจัดขึ้นโดย สำ�นักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย และสำ�นักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคาย นายอำ � ไพ ประเสริ ฐ สั ง ข์ เกษตรและ สหกรณ์ จ.หนองคาย กล่าวว่า การทำ�บันทึกข้อ ตกลงดังกล่าว เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทั้งการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ รวมทั้งการสร้างผลิตผลทางการเกษตรผลผลิต (ข้าว) ให้มีคุณภาพได้มาตรฐานตามความต้องการ ของตลาด มี ก ารผลิ ต ร่ ว มกั น เป็ น กลุ่ ม มี ก าร เชื่อมโยงกับตลาดเพื่อบริหารจัดการที่เกิดสมดุล ระหว่ า งอุ ป สงค์ แ ละอุ ป ทานของสิ น ค้ า เกษตร ตลอดจนเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องสินค้าล้นตลาด และราคาสินค้า เกษตรตกตํ่า เพื่อสนับสนุนให้ เกษตรกรมีการรวมกลุ่มและบริหารจัดการร่วม กัน เกิดการรวมการผลิตและรวมการจำ�หน่ายโดย มีตลาดรองรับที่แน่นอน ทำ�ให้เกษตรกรสามารถ
ลดต้นทุนการผลิต และมีผลผลิตต่อหน่วยเพิ่ม ขึ้น รวมทั้งเกิดผลผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ภายใต้การบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ และ เอกชน ประกอบกับกระทรวงพาณิชย์ได้มีการ ประชุมหารือกับสมาคมผูส้ ง่ ออกข้าวไทย, สมาคม โรงสีข้าวไทย,สมาคมค้าข้าวไทย และหน่วยงานที่ เกีย่ วข้อง เพือ่ หาแนวทางในการเชือ่ มโยงการตลาด และรับซื้อผลผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ปี 2560/2561 โดยมี ก ารจั บ คู่ ก ลุ่ ม เกษตรกรนาแปลง ใหญ่กับโรงสีหรือผู้ประกอบการค้าข้าว เพื่อลง นามบันทึกข้อตกลงหรือ MOU ความร่วมมือการ ซื้อ - ขายผลผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ ซึ่งในปี 2561 นี้ จ.หนองคาย มีข้าวนาแปลงใหญ่ จำ�นวน 13 แห่งเกษตรกร 646 ราย พื้นที่ 4,781 ไร่ เข้าร่วม โครงการ และมีการจัดทำ�บันทึกข้อตกลงทั้งหมด 13 ฉบับ โดยมีผู้เข้าร่วมลงนามประกอบไปด้วยผู้ ประกอบการ 6 แห่ง ได้แก่ โรงสีไฟธนาชัยสินเจริญ จำ�กัด อ.เมืองหนองคาย, บริษทั โรงสีขา้ วศรีรงุ่ เรือง พระอาทิตย์ จำ�กัด อ.โพธิ์ตาก, โรงสีข้าวบุญสนอง
พ.ต.ท.นนภูริช เดชธนดุล
รอง ผกก.จร. สภ.เมืองขอนแก่น นายตำ�รวจมืออาชีพ ผู้พร้อมจะทำ�งานเพื่อ สร้างความผาสุกแก่ประชาชน “สวั ส ดี ค่ ะ ”หนั ง สื อ พิ ม พ์ ไ ทยเสรี ขอ ต้ อ นรั บ ทุ ก ท่ า นเข้ า สู่ ค อลั ม น์ “สายตรงโรง พั ก ”ฉบั บ ประจำ � เดื อ นตุ ล าคมพุ ท ธศั ก ราช 2560 ฉบับนี้เราขอแนะนำ�ท่านผู้อ่านให้รู้จักกับ คนในแวดวงสีกากี คือ“ตำ�รวจ”หรือ “ผู้พิทักษ์ สันติราษฎร์”ในพืน้ ทีภ่ าคอีสานเช่นเคยค่ะโดยใน เดือนนีเ้ ราขอแนะนำ�ท่านให้รจู้ กั กับ พ.ต.ท.นนภู ริช เดชธนดุล รองผู้กำ�กับการ ฝ่ายจราจร สถานี ตำ�รวจภูธรเมืองขอนแก่น นายตำ�รวจหนุ่มมือ อาชีพที่พร้อมจะทำ�งานเพื่อประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความผาสุกแก่ประชาชนในพื้นที่อย่าง แท้จริงค่ะ พ.ต.ท.นนภูริช เดชธนดุล รอง ผกก.จร. สภ.เมืองขอนแก่น ปัจจุบันอายุ 38 ปี โดยรับ ราชการตำ�รวจร่วม 14 ปี จบการศึกษา ปริญญา ตรี รั ฐ ประศาสนศาสตร์ บั ณ ฑิ ต โรงเรี ย นนาย ร้อยตำ�รวจสามพราน รุ่นที่ 56 และปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง เส้ น ทางการทำ � งานอาชี พ ตำ � รวจ เริ่ ม เข้ า รั บ ราชการ ตำ�แหน่ง รองสารวัตรฯ(รอง สว.) ช่วย ราชการ พงส.สภ.อ.เมืองระนอง (ปัจจุบันเรียก สภ.เมืองระนอง) จากนั้นไปเป็นผู้บังคับหมวด ร้ อ ย ตชด.236 จ.นครพนม ต่ อ ด้ ว ยตำ � แหน่ ง สารวั ต รอำ � นวยการ (สว.อก.) สภ.เชี ย งยื น จ.มหาสารคาม , สารวั ต รสื บ สวนสอบสวน (สว.สส.) ตำ�รวจภูธรภาค 4, สารวัตรสืบสวน (สว.สส.) สภ.เมืองขอนแก่น , กระทั่งปี 2558
ดำ � รงตำ � แหน่ ง สว.กก.สส.ภ.จว. มหาสารคาม ล่ า สุ ด ปี 2560 จนถึ ง ปั จ จุ บั น ดำ � รงตำ � แหน่ ง รอง ผกก.จร. สภ.เมืองขอนแก่น โดยมีวสิ ยั ทัศน์: เสียสละอุทศิ ตนด้วยจิตบริการ ขจัดภัยพาล เพื่อความผาสุก แก่ประชาชน ในโอกาสที่ได้มาเยือนคอลัมน์สายตรง โรงพัก น.ส.พ.ไทยเสรีอีกครั้ง พ.ต.ท.นนภูริช เดชธนดุล ได้กล่าวฝากถึงผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง หลาย โดยเฉพาะในส่วนของงานจราจร สภ.เมือง ขอนแก่นว่า “การเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ดี ต้องทำ�งานเพื่อ “บำ�บัดทุกข์ บำ�รุงสุข” ให้แก่พี่ น้องประชาชนในพืน้ ทีร่ บั ผิดชอบอย่างเต็มกำ�ลัง ความสามารถเท่าที่จะสามารถกระทำ�ได้โดยถือ เป็นเกียรติและศักดิ์ศรีของตำ�รวจ ขอฝากถึงผู้ ใต้บังคับบัญชาทั้งหลายให้ยึดหลักการนี้ไว้ใน หัวใจอย่างมั่นคงเพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม และประเทศชาติบ้านเมืองของเราเพื่อจะได้ร่วม กันสร้างความผาสุกแก่ประชาชนในพื้นที่อย่าง ยั่งยืนสืบไป” สำ�หรับคอลัมน์สายตรงโรงพักฉบับนี้ ต้องขอลาท่านผู้อ่านไปก่อน ไว้พบกันใหม่ฉบับ หน้าเดือนพฤศจิกายนนะคะ“สวัสดีค่ะ”
จำ�กัด อ.ท่าบ่อ, สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาด ลูกค้า ธ.ก.ส.หนองคาย จำ�กัด อ.เมือง, โรงสีข้าว ไทยง้วนเฮง จำ�กัด อ.โพนพิสยั , สหกรณ์การเกษตร ท่าบ่อ จำ�กัด อ.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ กับกลุ่มเกษตรกร นาแปลงใหญ่ จำ�นวน 5 แปลง ได้แก่ กลุม่ เกษตรกร นาแปลงใหญ่ อำ�เภอสระใคร, กลุ่มเกษตรกรนา แปลงใหญ่ ตำ�บลหนองนาง อำ�เภอท่าบ่อ, กลุ่ม เกษตรกรนาแปลงใหญ่ ตำ�บลนาํ้ โมง อำ�เภอท่าบ่อ, กลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ อำ�เภอโพธิ์ตาก และ กลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ อำ�เภอโพนพิสัย ซึ่งการตกลงจะซื้อจะขายกันล่วงหน้า ว่าด้วยการ รับซือ้ ข้าวกับกลุม่ เกษตรกรดังกล่าว กลุม่ เกษตรกร ผูป้ ลูกข้าวนาแปลงใหญ่จะได้ราคาสูงกว่าราคาท้อง ตลาดทั่วไป ณ จำ�นวน 200 บาท: ตัน และในปีการ ผลิตนี้เกษตรกรจะจัดจำ�หน่ายข้าวให้แก่โรงสีและ ผู้ประกอบการประมาณ 1,276 ตัน วันนี้ (9 ต.ค. 60) เวลา 10.00 น. ที่ห้อง ประชุ ม เทวาภิ บ าล ชั้ น 4 ศาลากลางจั ง หวั ด หนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผูว้ า่ ราชการจังหวัด หนองคาย เป็นประธานพิธลี งนามบันทึกข้อตกลง การซื้อขายผลผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ ระหว่างกลุ่ม เกษตรกรผู้ผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ กับผู้ประกอบ การโรงสีข้าว/สหกรณ์ ที่รับซื้อข้าว เพื่อให้ผลผลิต ข้าวของกลุ่มเกษตรกรมีตลาดรองรับที่แน่นอน พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการซื้อขายผลผลิตข้าว
นาแปลงใหญ่ครั้งนี้ มีบันทึกข้อตกลงทั้งหมด 13 ฉบับ โดยมีผู้เข้าร่วมในการลงนามประกอบด้วย ผู้ประกอบการจำ�นวน 6 แห่ง ได้แก่ โรงสีไฟธนา สินเจริญ , บริษัท โรงสีข้าวศรีรุ่งเรือง พระอาทิตย์ จำ � กั ด , โรงสี ข้ า วบุ ญ สนอง จำ � กั ด , สหกรณ์ การเกษตรเพื่อตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.หนองคาย , โรง สีข้าวไทยง้วนเฮง จำ�กัด และสหกรณ์การเกษตร ท่าบ่อ และกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ จำ�นวน 5 แปลง ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่อำ�เภอ สระใคร , กลุม่ เกษตรกรนาแปลงใหญ่ต�ำ บลหนอง นาง อำ�เภอท่าบ่อ , กลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ ตำ�บลนาํ้ โมง อำ�เภอท่าบ่อ , กลุม่ เกษตรกรนาแปลง ใหญ่อำ�เภอโพธิ์ตาก และกลุ่มเกษตรกรนาแปลง ใหญ่อ�ำ เภอโพนพิสยั ซึง่ การตกลงซือ้ ขายล่วงหน้า ในครั้งนี้เกษตรกรจะได้ราคาสูงกว่าตลาดทั่วไป ณ เวลาซื้อขาย จำ�นวน 200 บาท/ตัน สำ�หรับจังหวัดหนองคายมีการดำ�เนินงาน โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ รวมทั้งสิ้น 22 แปลง มีเกษตรกรเข้าร่วม จำ�นวน 1,357 ราย พื้นที่รวม 6,143 ไร่ โดยแบ่งเป็นแปลง ใหญ่ปี 2559 จำ�นวน 3 แปลง เกษตรกรรวม 416 ราย พื้นที่ 4,993 ไร่ แปลงใหญ่ปี 2560 จำ�นวน 6 แปลง เกษตรกร จำ�นวน 295 ราย พื้นที่ 504 ไร่ และแปลงใหญ่ปี 2561 จำ�นวน 13 แปลง เกษตรกร จำ�นวน 646 ราย พื้นที่ 4,781 ไร่
เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน
ภารกิจตรวจเยี่ยม ; พล.ท.ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัย บ้านนาเพียง ต.สำ�ราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมตรวจเยี่ยมการก่อสร้างพระเมรุมาศจำ�ลอง และ มาตรการรักษาความปลอดภัย ณ วัดป่าแสงอรุณ ต.พระลับ อ.เมือง โดยมี พล.ต.อัครเดช บุญเทียม ผบ.มทบ.23 ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2560
ปล่อยแถวประชาชนจิตอาสาเฉพาะกิจ ; พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รรท. ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น และ พล.ต.อัคร เดช บุญเทียม ผบ.มทบ.23 ร่วมปล่อยแถวประชาชนจิตอาสาเฉพาะกิจ พระ ราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ณ กองบัญชาการตำ�รวจภูธรภาค 4 เมื่อวันที่ 17 ต.ค.60
หน้า 9
ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ประจำ�เดือนตุลาคม 2560
คาราวานจีน สานสัมพันธ์ ล้าน หาชมยาก“ภาพถ่ายเพือ่ พ่อหลวงจารึกไว้บนแผ่นดินขอนแก่น” ช้ า งแม่ โ ขง ไทย-จี น 2017 คาราวานรถยนต์จาก จีน สร้างความสัมพันธ์ไทย– จีน เจาะตลาดนักท่องเที่ยว คุณภาพจากจีน ให้เดินทาง มาท่องเที่ยวในประเทศไทย อย่างต่อเนือ่ ง คาดสิน้ ปี 2560 จะมีนกั ท่องเทีย่ วจีนเดินทาง มาประเทศไทย 9.3 ล้านคน เมื่ อ วั น ที่ 12 ตุ ล าคม พ.ศ. 2560 ที่ โ รงแรมพู ล แมน ขอนแก่น ราชาออคิด นาย สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่ า วต้ อ นรั บ คณะคาราวานจี น สานสั ม พั น ธ์ วั ฒ นธรรมและการท่ อ งเที่ ย วล้ า นช้ า งแม่ โ ขง ไทย- จีน 2017 โดยมี นายหลี่ หมิง กัง กงสุล ใหญ่ ส าธารณรั ฐ ประชาชนจี น ประจำ � จั ง หวั ด ขอนแก่น, นายสมชาย ชมพูน้อย ผู้อำ�นวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, นายสิทธิกุล ภู คำ�วงศ์ รอง นายก อบจ.ขอนแก่น, นายชัชวาล พร อมรธรรม รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น และ นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัด ขอนแก่น ร่วมเป็นเกียรติ นายสมชาย ชมพู น้ อ ย ผู้ อำ � นวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า คณะ คาราวานฯ มีรถยนต์ 13 คัน ผู้ร่วมเดินทาง 40 คน เส้นทางเมืองหนิงโป สาธารณรัฐประชาชน จีนและประเทศไทย เชื่อมโยงไปยังสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักร กัมพูชา โดยได้เดินทางมาจาก เมืองหนิงโป มณฑล เจ้าเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่าน สปป. ลาว เข้าสู่ประเทศไทยที่ด่านชายแดน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเส้นทางคาราวานแบ่งเป็น 2 ช่วง คื อ ช่ ว งที่ 1 เชี ย งราย-พะเยา-แพร่-พิษณุโ ลกเพชรบูรณ์-ขอนแก่น-นครราชสีมา-กรุงเทพฯ-
ฉะเชิงเทรา-สระแก้ว จากนั้นขบวนคาราวานเดิน ทางไปยังประเทศกัมพูชา ในวันที่ 17 ตุลาคม 2560 และช่วงที่ 2 เดินทางกลับมายังประเทศไทย ที่ด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ผ่านเส้นทาง ปราจีนบุร-ี นครราชสีมา-อุดรธานี-หนองคาย แล้ว ข้ามสะพานมิตรภาพกลับไปยัง สปป.ลาว เพื่อ เดินทางกลับไปยังเมืองหนิงโป มณฑลเจ้าเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในการเดินทางคาราวานฯครั้งนี้ เพื่อส่ง เสริมและกระตุ้นการเดินทางกลุ่มนักท่องเที่ยว คุ ณ ภาพจากตลาดจี น ให้ เ ดิ น ทางมาท่ อ งเที่ ย ว ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง สร้างการรับรู้ว่า ประเทศไทยมีสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ที่มีความพร้อมสำ�หรับการท่องเที่ยวคุณภาพจาก ประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นการเสริม สร้า งความ สัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวให้มี ความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น “คาดว่าการจัดคาราวานครั้งนี้ สามารถ เพิ่มจำ�นวนนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มคุณภาพและ กระตุ้ น ให้ เ กิ ด การเดิ น ทางมาประเทศไทยเพิ่ ม มากขึ้น ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปี 2560 จะมีนักท่อง เที่ยวจีนเดินทางมาประเทศไทย 9.3 ล้านคน” ผอ.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าว
กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ นายวิ ท ยา ศิ ริ ชาติ ว าปี ประธาน กรรมการตรวจ สอบ บริ ษั ท โตโยต้ า แก่ น นคร จำ � กั ด เป็ น ประธานมอบโล่รางวัล และทุนการศึกษา ใน พิ ธี ปิ ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟุ ต บอลโตโยต้ า แก่ น นคร 7 เอฟเอ คั พ 2017 ปี ที่ 3 รุ่ น อายุ ไม่เกิน 11ปี โดยทีมชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียน อนุบาลขอนแก่น A ทีมรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 โรงเรียนโคกกลาง โนนคูณโนนศิลา ทีมรองชนะ เลิศ อันดับที่ 2 โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น B ทีม รองชนะเลิศ อันดับที่ 3 โรงเรียนบ้านกง ประชา นุกลู รางวัล นักกีฬายอดเยีย่ ม ด.ช.จิระเมศร์ ส่วย สม โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น (ทีม A) โดยมี นาย
จัดแสดงนิทรรศการ “ภาพถ่ายเพื่อพ่อ หลวง จารึกไว้บนแผ่นดินขอนแก่น”ถวายความ อาลัยในหลวง ร.๙ ภาพแต่ละภาพ ล้วนแสดงถึง ความจงรักภักดีของชาวขอนแก่นที่มีต่อพระองค์ ท่าน เมื่อวันที่ 12 ต.ค.60 เวลา 16.00 น. นาย สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.อ.สมบูรณ์ ณ หนองคาย เสนาธิการ มทบ.23, นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัด ขอนแก่น, นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา นายก สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ขอนแก่น, คุณนิสา ชาภู่พวง ผจก.ทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น, หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนใน จ.ขอนแก่น ได้มาเยี่ยมชมนิทรรศการ “ภาพถ่าย เพื่อพ่อหลวง จารึกไว้บนแผ่นดินขอนแก่น” ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สาขา ขอนแก่น ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 14 ตุลาคม 2560 คุณนิสา ชาภู่พวง ผจก.ทั่วไป ศูนย์การค้า เซ็ น ทรั ล พลาซา ขอนแก่ น กล่ า วว่ า งาน นิทรรศการ “ภาพถ่ายเพื่อพ่อหลวง จารึกไว้บน
ศึ ก ษาของจริ ง โครงสร้ า งอาคาร
จ.ขอนแก่นมีต่อ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย เดช รัชกาลที่ 9 ทั้งสิ้น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ. ขอนแก่น กล่าวว่า การจัด นิทรรศการในครัง้ นีเ้ ป็นการ รวบรวมภาพถ่ า ยของชาว ขอนแก่นที่ได้ร่วมกิจกรรม ที่ น้ อ มรำ � ลึ ก ถึ ง พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย เดช รัชกาลที่ 9 และกิจกรรมการถวายความอาลัย ที่ จ.ขอนแก่น ร่วมจัดกิจกรรมในรอบ 1 ปี ของ การสวรรคตที่ได้สร้างความเสียใจแก่พสกนิกรชาว ไทยทั้งประเทศ และในการจัดนิทรรศการในครั้ง นี้ เป็นการน้อมสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหา ที่สุดมิได้ของชาวขอนแก่น งานนิ ท รรศการ “ภาพถ่ า ยเพื่ อ พ่ อ หลวง จารึกบนแผ่นดินขอนแก่น” นอกจากจะเป็นการ นำ�ภาพถ่ายของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระ
ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 มาจัด แสดงให้ชมแล้ว ในวันที่ 13 ตุลาคม 2560 เวลา 08.30 น.ยังมีพิธีบำ�เพ็ญกุศล ตักบาตรพระสงฆ์ จำ�นวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และ ในวันที่ 18 ตุลาคม ร่วมศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลา ซา ขอนแก่น ร่วมกับ เกษตรจังหวัดขอนแก่น ส่ง มอบดอกดาวเรืองให้กบั ประชาชนเพือ่ นำ�ไปปลูก ให้เหลืองอร่ามทั่วแผ่นดินพ่อ จำ�นวน 999 ต้น
“แอร์เอเชีย” ติวเข้มเอเย่นต์ขายตั๋วภาคอีสาน ปลื้มยอดผู้โดยสารอีสานพุ่ง 90% ทุกไฟลท์ แอร์เอเชีย ติว เข้มเอเยนต์ทั่วภาค อีสาน รับไตรมาส สุ ด ท้ า ย ข อ ง ปี “สันติสุข” ระบุ 3 ไตรมาสแรกของปี ยอดผู้โดยสารเส้น ทางอีสานสูงกว่าร้อยละ 90 ทุกเที่ยวบิน เล็งขยาย เส้นทางเชื่อมโยงหัวเมืองภาคใต้เพิ่ม หยอดคำ�หวาน เตรียมใช้ขอนแก่นเป็นฮับการบินภูมิภาค เมื่อวันที่ 6 ต.ค.60 ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรง แรมอวานี ขอนแก่น แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ นายสันติสขุ คล่องใช้ยา ผูอ้ �ำ นวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เป็นประธานเปิดกิจกรรม
“พิชติ ยอดขาย กับการตลาด 4.0” ในระดับภูมภิ าค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีผแู้ ทนจำ�หน่ายตัว๋ โดยสารเครื่องบินเข้าร่วมกว่า 200 คน นายสันติสขุ คล่องใช้ยา ผูอ้ �ำ นวยการฝ่าย การพาณิชย์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า 9 เดือนปี 2560 ที่ผ่านมาไทยแอร์เอเชีย ได้รับความ ไว้วางใจจากผู้โดยสารในพื้นที่ 20 จังหวัดภาค อีสานใช้บริการอย่างต่อเนื่อง มีจำ�นวนผู้โดยสาร มากถึงกว่าร้อยละ 90 ของแต่ละเที่ยวบิน โดย เฉพาะในกลุ่มข้าราชการ ภาคธุรกิจเอกชนและ นักท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งการเดินทางของ คนในครอบครัว ที่ไทยแอร์เอเชียถือเป็นสายการ บินลำ�ดับแรกที่คนอีสานนึกถึง ปัจจุบันสายการบินไทยแอร์เอเชียเปิด
น า ย ไ ข่ เ จี ย ว เ สี่ ย ว ตอร์ ปิ โ ด ; นายอนุ ช า โพธิ ส ม ผู้ จั ด การโรง ภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนี เพล็กซ์ โลตัสขอนแก่น ให้การต้อนรับดารานัก แสดง ก้อง ห้วยไร่ พร้อม ทีมนักแสดงภาพยนตร์ เรื่อง “นายไข่เจียว เสี่ยว ตอปิ โ ด” ภาพยนตร์ คอมมิดี้ โรแมนติค ของ สหมงคลฟิลม์ อินเตอร์เนชัน่ แนล ณ ลานหน้าโรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนเี พล็กซ์ ห้างสรรพสินค้าโลตัส ขอนแก่น ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ธีระนันท์ กิ่งแก้วเจริญชัย ผอ.ฝ่ายพัฒนาองค์กร บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด, นายพงศกร นาม โพธิ์ ผจก.ธนชาติประกันภัย สาขาขอนแก่น และ นายสุทธิศักดิ์ คำ�คม ตัวแทน บริษัท วิริยะประกัน ภัย จำ�กัด (มหาชน) ร่วมแสดงความยินดี ณ สนาม กีฬากลาง อบจ. ขอนแก่น เร่งพัฒนาศักยภาพ SMEs ไทย สร้างความ เข้มแข็งจากเศรษฐกิจภายใน มุง่ ขับเคลือ่ นเศรษฐกิจ ตามนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 เปลี่ยนโครงสร้าง อุตสาหกรรมจาก เพิ่มมูลค่า มาเป็น สร้างมูลค่า ดร.อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง คลินิก เอส เอ็ ม อี ครั้ ง ที่ 8 ที่ จั ง หวั ด อุ ด รธานี ถื อ ว่ า น า ย พ ง ษ์ เป็ น ครั้ ง สุ ด ท้ า ยของโครงการจั ด การสั ม มนา ศั ก ดิ์ ป รี ช า วิ ท ย์ คลินิก SMEs สัญจรแนวประชารัฐ ที่จัดในจังหวัด ผวจ.ขอนแก่ น เป็ น นำ�ร่องทัว่ ประเทศทีก่ �ำ หนดเอาไว้ 8 จังหวัด และการ ป ร ะ ธ า น ป ล่ อ ย ชิ้ น จัดการสัมมนาฯในหัวข้อเรือ่ งดังกล่าวนัน้ เป็นความ ส่ ว นเรื อ หลวงตรั ง ร่วมมือกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวง (OPV2) จากขอนแก่น อุตสาหกรรม สำ�นักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาด สู่ราชนาวีมหิดลอดุลย กลางและขนาดย่อม ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาด เดช กรมอู่ ท หารเรื อ กลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และหน่วย อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อ งานเครือข่ายการพัฒนา SMEs สนับสนุนการสร้างเรือ โ ด ย มี เ ป้ า ป ร ะ ส ง ค์ เ ร่ ง เ ส ริ ม ค ว า ม ตรวจการณ์ไกลฝัง่ โดย แกร่ง SMEs ไทย ให้ครอบคลุมทุกมิติ อย่างสมดุล มี นายสุรพล ทวีแสง ตามแนวประชารั ฐ ซึ่ ง สอดรั บ กั บ นโยบายของ สกุ ล ไทย กรรมการ รัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นการพัฒนาให้ทั่วถึงในทุก บริหาร บริษัท รวมทวี ขอนแก่น จำ�กัด, นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย” สภาอุตสากรรมจังหวัดขอนแก่น และหอการค้า ภูมิภาค รวมทั้งการที่นายกรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรี ทีไ่ ด้น�ำ คณะรัฐมนตรีประชุมนอกสถานทีอ่ ย่างเป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ช.ทวี ดอลล่า จังหวัดขอนแก่น ร่วมเป็นเกียรติ ทางการ (ครม.สัญจร) ครั้งที่จังหวัดนครราชสีมา เชีย่ น จำ�กัด (มหาชน) และคณะกรรมการบริหาร ที่ ผ่ า นมา ได้ มี ก ารสั่ ง การให้ ส ร้ า งความเข้ ม แข็ ง จากเศรษฐกิจภายใน (Local Economy) ด้วยการ เร่ ง พั ฒ นา SMEs และเศรษฐกิ จ ท้ อ งถิ่ น ให้ เ ข้ ม แข็ง มุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบาย โครงการ อุตสาหกรรม 4.0 Metro Condo โดยผลั ก ดั น เปลี่ ย นโครงสร้ า งเศรษฐกิ จ และ M-Society อุ ต สาหกรรมจาก”เพิ่ ม มู ล ค่ า ”ไปสู่ กี่ ก าร”สร้ า ง ฟิ ต เ น ส ข อ น แ ก่ น มู ล ค่ า ” สำ � หรั บ ครั้ ง นี้ มี เ ป้ า หมายลงพื้ น ที่ ต้ อ น รั บ อ า จ า ร ย์ จั ง หวั ด อุ ด รธานี ซึ่ ง มี อุ ต สาหกรรมเป้ า หมาย และนั ก ศึ ก ษาคณะ คื อ อุ ต สาหกรรมแปรรู ป ยางพาราขั้ น ปลาย สถาปัตยกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรมการแปรรูปสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม ม ห า วิ ท ย า ลั ย สนับสนุนการผลิต/ศูนย์กระจายสินค้า ทั้งนี้เพื่อ มหาสารคาม โดยได้ให้ ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยตํ่า สำ�หรับนำ� ความรู้และแนวความ ไปเสริมสภาพคล่อง และต่อยอดธุรกิจ ส่งผลให้ผู้ คิ ด ด้ า นการออกแบบ ประกอบการ มีขดี ความสามารถในการแข่งขันทีส่ งู โครงสร้างอาคาร งาน ขึ้น ระบบ รวมถึงงาน บริการต่างๆ ที่ได้ส่งมอบความสุขให้กับลูกบ้านของโครงการ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้ให้การช่วย 2560 เหลือ SMEs ด้วยเครือ่ งมือทีจ่ ะช่วยต่อยอดทางธุรกิจ
อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนขอนแก่น
แผ่นดินขอนแก่น” จัดโดย ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลา ซา ขอนแก่น ร่วมกับ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและ โรงแรม จังหวัดขอนแก่น, เกษตรจังหวัดขอนแก่น, บริษัท ไมซ์ เมเนจเมนต์ จำ�กัด รวมถึงหน่วยงาน ราชการและเอกชนมากมาย เพื่อน้อมรำ�ลึกถึงพระ มหากรุณาธิคณ ุ อันล้นพ้นที่ พระบาทสมเด็จพระปร มินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อปวงชนชาวไทย ทุกหมู่เหล่า ผ่านผลงานนิทรรศการภาพถ่ายเพื่อ เทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช ที่หาชมได้ยาก โดยช่างภาพฝีมือดี ของจังหวัดขอนแก่น ได้ร่วมกันบันทึกเหตุการณ์ ต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับพระองค์ในโอกาสสำ�คัญ นำ� มาจัดแสดงให้ประชาชน ได้รว่ มชืน่ ชม เพราะแต่ละ ภาพที่นำ�มาจัดแสดงได้ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี จากกลุ่มโฟโต้แก๊ง และบรรดาช่างภาพมืออาชีพ สำ�หรับงานนิทรรศการ “ภาพถ่ายเพื่อพ่อ หลวง จารึกบนแผ่นดินขอนแก่น” จัดขึ้นมาครั้ง นี้ โดยมีวัตถุประสงค์เดียวกัน เพื่อน้อมรำ�ลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่หาชมยาก โดยภาพแต่ละภาพล้วนแสดงถึงความจงรักภักดีที่
ทำ�การบินในเส้นทางเชื่อมระหว่างภูมิภาคครบ ทุ ก ภู มิ ภ าคของไทย และในเดื อ นธั น วาคมนี้ บริษทั เตรียมเปิดเส้นทางการบินเชือ่ มภาคอีสาน กับภาคใต้ ส่วนจะเป็นปลายทางจังหวัดใดนัน้ จะ แถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง สำ � หรั บ กิ จ กรรมกลยุ ท ธ์ พิ ชิ ต ยอดขาย กับการตลาด 4.0 ที่ไทยแอร์เอเชียได้เชิญผู้แทน จำ � หน่ า ยบั ต รที่ นั่ ง โดยสารรวมไปถึ ง ผู้ ใ ห้ ก าร สนับสนุนสายการบิน มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ก็ เพื่อร่วมกันพัฒนาการขายเพื่อเข้าสู่การแข่งขัน ในยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้าน การตลาด เสริมฮวงจุ้ย และการค้าขายรํ่ารวย คือ อ.คฑา ชิญบัณชร มาร่วมถ่ายทอดความรู้และ เพิม่ กลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบใหม่ ทีไ่ ทยแอร์
เอเชียตัง้ ใจพัฒนาธุรกิจไปพร้อมๆกับเอเย่นต์ทกุ ราย นายสันติสุข กล่าวต่ออีกว่า ไทยแอร์เอเชีย กั บ คนอี ส านเราจะอยู่ เ คี ย งคู่ กั น และเดิ น ไปด้ ว ย กัน ด้วยเส้นทางการบินและเที่ยวบิน ที่บริษัทฯได้ บริหารจัดการตามความต้องการของแต่ละพื้นที่ ทำ�ให้วันนี้มีการขยายเส้นทางการบินครอบคลุมใน ระดับภูมภิ าคและเชือ่ ต่อภูมภิ าคเพิม่ มากยิง่ ขึน้ ขณะ ที่ขอนแก่น เป็นจังหวัดที่ไทยแอร์เอเชียเปิดทำ�การ บินมากกว่าทุกจังหวัดคือ 7 เทีย่ วบินต่อวัน แยกเป็น เส้นทางบินดอนเมือง-ขอนแก่น 5 เทีย่ วบิน เส้นทาง บินขอนแก่น-เชียงใหม่ 1 เทีย่ วบิน และ เส้นทางบิน ขอนแก่น-หาดใหญ่ 1 เที่ยวบิน ต่อวัน
เ ปิ ด โ ช ว์ รู ม อี ซู ซุ คอนเน็ ค ; นายพงษ์ ศั ก ดิ์ ปรี ช าวิ ท ย์ ผวจ. ขอนแก่น เป็นประธาน เปิ ด โชว์ รู ม “บริ ษั ท อี ซูซุ คอนเน็ค ขอนแก่น จำ�กัด”อย่างเป็นทางการ โดยมี นายจิ ร วุ ฒิ คุ ว า นันท์ ประธานกรรมการ บริ ห าร บริ ษั ท อี ซู ซุ คอนเน็ค ขอนแก่น จำ�กัด พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ และมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักธุรกิจ ร่วมแสดงความยินดี ณ โชว์รูมบริษัท อีซูซุ คอนเน็ค ขอนแก่น เลขที่ 323 หมู่ 8 ต.ท่าพระ อ.เมือง ขอนแก่น จ.ขอนแก่น
พัฒนาศักยภาพ SMEs เปลี่ยนโครงสร้างจากเพิ่มมูลค่า มาเป็นสร้างมูลค่า ให้กบั ผูป้ ระกอบการ SMEs ในทุกมิตอิ ย่างสมดุล ทัง้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาผู้ประกอบการให้ ก้าวสู่ Smart SMEs การเพิ่มผลิตภาพและมาตรฐาน การส่งเสริมการใช้ระบบดิจิทัล เพื่อเชื่อมโยงสู่โลก การค้าสมัยใหม่ รวมถึงการช่วยเหลือด้านมาตรการ การเงินในรูปแบบสินเชื่อกองทุนต่างๆ คือ กองทุน พัฒนา SMEs ตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้าน โครงการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan วงเงิน 15,000 ล้านบาท โครงการกองทุนพลิกฟื้นวิสาหกิจ ขนาดย่อม วงเงิน 1000 ล้านบาท และมาตรการฟื้นฟู วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม วงเงิน2000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินจำ�นวน 38,000 ล้านบาท รมว.อุตสาหกรรม กล่าวเปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ มีผู้ประกอบการทั่วประเทศขื่นคำ�ขอทั้ง 4 มาตรการ แล้ว (ข้อมูลเมือ่ วันที่ 24 ส.ค.60) 19,157 ราย รวมเป็น วงเงิน 35,590 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการ SMEs ใน 2 กลุม่ จังหวัดคือ กลุม่ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียง ตอนบบน 1 และกลุม่ จังหวัดภาคอีสานตอนกลาง ยืน่ คำ�ขอ 2497 ราย วงเงิน 4,200 ล้านบาท รมว.อุ ต สาหกรรม ได้ ก ล่ า วเพิ่ ม เติ ม ราย ละเอียดบางประเด็นว่า สำ�หรับโครงการสัมมนาเรือ่ ง คลินกิ SMES สัญจรแนวประชารัฐ ทีห่ ลายหน่วยงาน ทีเ่ กีย่ วข้องจัดการดำ�เนินมานีถ้ อื ว่าเป็นเรือ่ งใหม่ โดย รัฐบาลที่นำ�โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี ได้ให้ความมั่นใจว่า แนวทางการช่วยเหลือ แก่ ผู้ประกอบการ SMEs ของไทยจะสามารถพัฒนา และเพิม่ ศักยภาพในการทำ�ธุรกิจได้ และทุกหน่วยงาน จะสามารถเข้าถึงผูป้ ระกอบการ SMEs ได้อย่างทัว่ ถึง และครบทุกมิติ ด้วยมาตาการต่างๆ ที่จะสามารถเข้า ถึงผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง ส า เ ห ตุ เ พ ร า ะ ว่ า ก า ร ส นั บ ส นุ น ผู้ ป ร ะ ก อ บ การ SMEs ไทย มีอยู่ประมาณ 3 ล้านราย และมี ศั ก ยภาพมากพอในการที่ จ ะสามารถพั ฒ นาไปให้ มี คุ ณ ภาพในหลายๆด้ า น แต่ ปั จ จุ บั น โลกมี ก าร เปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆไปมาก โดยเฉพาะในด้าน การค้า จะต้องเปลี่ยนแปลงไปทำ�การค้าขายในระบบ ทีท่ นั สมัยมากขึน้ อย่ามาหวังแต่จะทำ�มาค้าขายอยูก่ บั ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการค้าขายทางดิจิทัล หรือ เครือ่ งไอ ที ดังนัน้ ถ้ายังมาทำ�การค้าขายในระบบ เดิมๆ ทำ�ให้ SMEs ไทยยังคงได้เปรียบอยู่ ขณะเดี ย วกั น ที่ เ รากำ � ลั ง เผชิ ญ กั บ ปั ญ หา
หลายๆด้าน ดังนั้นรัฐบาลร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และผู้ ป ระกอบการ SMEs ที่ จ ะร่ ว มกั น คว้ า เอา โอกาสดังกล่าวมาเร่งในการพัฒนา SMEs ให้กา้ วไป ข้างหน้า นี่คือสิ่งที่มาของรัฐบาลที่ได้นำ�เสนอ เพื่อ ให้ประเทศไทยก้าวไปเป็นประเทศไทย 4.0 นอกจากนีแ้ ล้วยังกล่าวอีกว่า สำ�หรับการจัด
การสัมมนาฯ คลินกิ SMEs สัญจร ในจังหวัดนำ�ร่อง 8 แห่งทีผ่ า่ นพ้นครบตามเป้าหมายไปแล้ว แต่หน่วย งานทั้ง 4 แห่ง จะร่วมมือกันจัดการสัมมนาฯสัญจร ต่อไปอีกให้กระจายการให้ความช่วยเหลือไปยัง ทุกจังหวัด และคาดว่าโครงการรุ่นใหม่จะสามารถ ลงมือดำ�เนินการได้ในเร็วๆนี้
ตั้ ง ศู น ย์ พั ก พิ ง สุ นั ข ไม่ มี เ จ้ า ของ “สั ต ว์ ป ลอดโรค คนปลอดภั ย ” เมื่ อ วั น ที่ 29 ก.ย.2560 ที่โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอน เวนเซ็นเตอร์ อ.เมืองอุดรธานี ได้ มีการลงนามในบันทึกความร่วม มือ”โครงการสัตว์ปลอดโรค คน ปลอดภัยจากโรคพิษสุนขั บ้า ตาม พรพะปณิธานของ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า จุ ฬ าภรณ์ ว ลั ย ลั ก ษณ์ อั ค รราช กุมารี” ระหว่างจังหวัดอุดรธานี มณฑลทหารบก ที่ 24 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืน ใหญ่ที่ 3, ปศุสตั ว์จงั หวัด สาธารณสุขจังหวัด ท่อง ถิ่นจังหวัด คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุดรธานี คณะสัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะสัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัด อุดรธานี กล่าวถึงโครงการโครงการสัตว์ปลอด โรค คนปลอดภั ย จากโรคพิ ษ สุ นั ข บ้ า ตามพร พะปณิธานของศาสตราจารย์ ดร.สมเจพระเจ้า ลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ซึ่ ง รั ฐ บาลได้ น้ อ มใส่ เ กล้ า ฯสนองพระปณิ ธ าน และนายกรัฐมนตรีได้มีคำ�สั่ง 214/2559 แต่งตั้ง กรรมการขับเคลื่อนโครงการสัตว์ปลอดโรค คน ปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้าตามพรพะปณิธาน ของศาสตราจารย์ ดร.สมเจพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า จุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โดยทรงมีพระ กรุณาธิคุณทรงรับเป็นประธานกรรมการ พร้อม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิรภิ าจุฑาภรณ์ ทรง ร่วมเป็นกรรมการ
นอกจากนีแ้ ล้ว นายชยาวุธฯกล่าวว่าสำ�หรับจังหวัด อุดรธานี ได้มีการจัดการบริหารป้องกัน กำ�จัดโรค พิษสุนัขบ้ามาโดยตลอด และไม่ได้มีเหตุการณ์โรค พิษสุนขั บ้าในจังหวัดอุดรธานีเป็นเวลาหลายปีแล้ว ตาทนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามเมื่อปี พ.ศ. 2559 มี เหตุการณ์แมวที่มีเชื้อพิษสุนัขบ้านเกิดที่ อำ�เภอ เพ็ญฯ 1 ราย ทัง้ นีโ้ ครงการโครงการสัตว์ปลอดโรค คน ปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพรพะปณิธาน ของศาสตราจารย์ ดร.สมเจพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า จุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ของจังหวัด อุดรธานี ได้มกี ารจัดตัง้ ศูนย์พกั พิงสุนขั ไม่มเี จ้าของ จำ�นวน 1 แห่ง ใช้พื้นที่เขตทหารกองพันทหารปืน ใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งขณะนี้การดำ�เนินงานมีผลก้าวหน้า ประมาณ 70 % แล้ว ตาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวัน ที่ 31 ตุลาคม 2560 และสามารถเปิดทำ�การได้ใน เดือนพฤศจิกายน 2560
หน้า 10
ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ประจำ�เดือนตุลาคม 2560
หน้า 11
ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ประจำ�เดือนตุลาคม 2560 ธุรกิจเลีย้ งโคเนือ้
• ต่อจากหน้า 1 เงินหมุนเวียนในท้องถิน่ นับเป็นการกระจายรายได้ ต่อ 3 เดือนต่อคน นอกจากนี้ ยังได้รับการลดค่าใช้ ประชารัฐ และติดตั้งเครื่องรูดบัตรทำ�ให้มีลูกค้าเข้า เกีย่ วข้อง ทำ�ให้ขอนแก่นมีความเข้มแข็ง และพึง่ พา มาก็ไปจ่ายหนี้นอกระบบ เงินไม่ได้มาหมุนเวียน
นายปัญญา เลิศไธสง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคทเทิ่ล เซอร์วิส จำ�กัด เปิดเผยว่า จาก สภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ผู้ที่ประกอบอาชีพประจำ� อาจมีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย จึงทำ�ให้จำ�เป็น ต้องมองหาอาชีพเสริม เพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ตนเองใช้เวลาว่างหลังเลิกงานประจำ�มาประกอบ อาชีพเสริม ทีเ่ รียกว่าทำ�แล้วมีความสุขนอกจากงาน ประจำ� ด้วยความชอบส่วนตัวในการเป็นเกษตรกร โดยเฉพาะการเลี้ยงโคเนื้อ จึงเริ่มทำ�ฟาร์มมาตั้งแต่ ปี 2540 พร้อมทำ�งานรับราชการควบคู่กันไป ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำ�ให้เห็นว่า เกษตรกรผูเ้ ลีย้ งโคมีการพัฒนาสายพันธุใ์ ห้เกิดความ เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยมากขึ้น และได้รับความ นิยมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการพัฒนาสายพันธุ์ โคเนือ้ ขึน้ มาหลายพันธุ์ อาทิ โคเนือ้ พันธุก์ �ำ แพงแสน โคพันธุ์ตาก โคพันธุ์กบินทร์บุรี โคพันธุ์ไทยแบล็ก จึงตัดสินใจลาออกจากงานมาประจำ� มาเปิดบริษัท เอสจี แคทเทิ่ล เซอร์วิส จำ�กัด อยู่ที่ 599/12 หมู่ที่ 13 ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น จำ�หน่าย อุปกรณ์ทางด้านงานปศุสัตว์ รวมไปถึงอุปกรณ์การ ผสมเทียม ครอบคลุมถึงนํ้าเชื้อพันธุกรรมสัตว์ ด้วย การนำ�เข้านํา้ เชือ้ โคเนือ้ สายพันธุย์ โุ รป นำ�มาผสมกับ โคแม่พนั ธุ์ เพือ่ ให้เกิดโคสายพันธุใ์ หม่ทโี่ ตเร็ว ให้เนือ้ คุณภาพดี เลี้ยงดูได้ดีในสภาพแวดล้อมแบบไทย “โคเนื้ อ สายพั น ธุ์ อเมริ กั น บราห์ มั น ” มี ทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ผสม ที่สามารถสร้างรายได้ ให้เกษตรกรสามารถคืนทุนภายใน 3-5 ปี โดยใช้ เป็นต้นสายในการผลิตโคพื้นฐานต่อไป หรือเป็น วัวต้นนํ้า ขายนํ้าเชื้อ ขายเป็นพ่อพันธุ์ หรือเข้าตลาด สวยงาม และตลาดเนื้อ นับเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรไทยได้อย่างมั่นคง เป็นพื้นฐานใน การพัฒนาสายพันธุ์โคเนื้อ ที่ได้รับความสนใจจาก เกษตรกรผู้เลี้ยงโคมากที่สุดทั้งในประเทศและต่าง ประเทศ อีกทัง้ มีอตั ราขยายการเลีย้ งโคเนือ้ สายพันธุ์ อเมริกนั บราห์มนั เพิม่ สูงขึน้ ทุกปี เชือ่ ว่า ตลาดโคเนือ้ อเมริกันบราห์มัน จะมีแนวโน้มความต้องการของ ตลาดสูงขึ้นต่อไปอีกอย่างแน่นอน นายปัญญา กล่าวต่อว่า การเลี้ยงโคเนื้อเป็น อาชีพตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำ�หรับเกษตรกรใน ปัจจุบัน เพราะความต้องการในการบริโภคเนื้อวัว ทั้งในประเทศและในการส่งออกยังคงมีเพิ่มมากขึ้น เรื่อยๆ มีตลาดรองรับเป็นกลุ่มผู้บริโภคจำ�นวนมาก รวมถึงทั้งภาครัฐบาลและหน่วยงานเอกชนก็มีนโย บายให้การสนับสนุนเกษตรกรผูเ้ ลีย้ งโคเนือ้ หนทาง สำ�หรับผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงโคเนื้อจึงนับว่าสดใส มาก การเลี้ยงโคเนื้อเป็นอาชีพที่ทำ�กำ�ไรให้กับ ผู้เลี้ยงได้ในระยะเวลาอันสั้น โคเนื้อตัวเมียใช้ระยะ เวลาขุนเพียง 2 เดือนก็สามารถนำ�ออกขายได้แล้ว หรือโคเนื้อบางตัวที่ขุนในเวลาไม่ถึง 2 เดือน แต่มี เนือ้ มาก มีหลังเต็ม โครงเต็ม พ่อค้าก็เต็มใจจะรับซือ้ เช่นกัน ในช่วงที่ความต้องการวัวเนื้อปริมาณมาก วัวเนือ้ ขาดตลาดเกษตรกรมีเท่าไหร่กถ็ กู รับซือ้ หมด เป็นอาชีพที่นับว่ามั่นคงให้ผลกำ�ไรที่แน่นอน จากปี ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้จากเลี้ยงโคเนื้ออเมริกัน บารห์มัน กว่า 16 ล้านบาท และเชื่อว่าปีนี้จะมีราย ได้เพิ่มสูงกว่าปีที่ผ่านอีกราว 20-30% นายปัญญา กล่าวต่อว่า ในปี 2561 สมาคม ส่งเสริมการเลี้ยงโคพันธุ์บราห์มัน และสมาคมผู้ บำ�รุงพันธุ์โคบราห์มัน แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมสือ่ มวลชนจังหวัดขอนแก่น และบริษทั เอส จี แคทเทิ่ล เซอร์วิส จำ�กัด ได้จัดโครงการประกวด โคพั น ธ์ อ เมริ กั น บราห์ มั น นานาชาติ ขอนแก่ น ครั้งที่ 1(1THKHONKEAN INTERNATIONAL BRAHMAN SHOW 2018) ระหว่างวันที่ 28-29 เมษายน 2561 ณ ศู น ย์ ป ระชุ ม และแสดงสิ น ค้ า นานาชาติขอนแก่น หรือ KICE เพื่อเปิดโอกาส ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อสายพันธุ์อเมริกันบราห์ มั น ได้ นำ � โคที่ มี ก ารพั ฒ นาพั น ธุ์ นำ � ออกมาแสดง ประกวด และเป็นการแลกเปลี่ยนธุรกิจ เพื่อให้เกิด การพั ฒ นา และสนั บ สนุ น วิ ส าหกิ จ เกี่ ย วกั บ การ เลี้ยงและปรับปรุงโคพันธุ์บราห์มัน อีกทั้งยังสร้าง โอกาสที่จะขยายธุรกิจสู่ระดับสากล และเปิดตลาด ในกลุม่ ประเทศเพือ่ นบ้านภูมภิ าคลุม่ นาํ้ โขง นอกจาก เป็นการแสดงถึงศักยภาพในการผลิตและพัฒนา พันธุ์โคในประเทศไทยแล้ว ยังทำ�ให้เกิดกระแสการ
ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นอีกด้วย ขอนแก่ น เป็ น จั ง หวั ด ที่ มี ศั ก ยภาพมาก ที่สุดในพื้นที่ภาคอีสาน นอกจากเป็นศูนย์กลาง ทางเศรษฐกิจแล้ว การเปิดตัวของ “ศูนย์ประชุม และแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น หรือ KICE” จะทำ�ให้เกิดการลงทุนเพิ่มมากขึ้น และเชื่อว่าจะได้ รับความสนใจในการจัดงานแสดงสินค้าในระดับ ประเทศอาเซียน ซึง่ การจัดประกวด โคพันธ์อเมริกนั บราห์มันนานาชาติ ขอนแก่น อินเตอร์เนชั่นแนล บราห์มันโชว์ ในครั้งนี้ นอกจากเปิดโอกาสให้ผู้ ประกอบการธุ ร กิ จ และเกษตรกรได้ พ บปะแลก เปลี่ยนกันแล้ว การจัดนิทรรศการให้ความรู้ในการ เลี้ยงโคสำ�หรับเกษตรกรมือใหม่ จะสร้างความรู้ และความเข้าใจให้กับเกษตรกรมากขึ้น และนำ�ไป สู่การพัฒนาสายพันธุ์โคให้กับกลุ่มเกษตรกรและผู้ ประกอบการเลีย้ งโคได้มกี ารพัฒนาให้เป็นทีต่ อ้ งการ ของตลาดเพิ่มมากขึ้นในอนาคต นายปัญญา กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากจะ เป็นการเปิดโอกาสให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคของไทย ได้นำ�โคที่ตนเองได้พัฒนาพันธุ์ขึ้นมาออกมาแสดง แล้ว ยังจะได้ทำ�การสร้างโอกาสและเปิดตลาดไป ยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้เชิญหน่วยงานของรัฐและ เอกชนจากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย จีน ออสเตรเลีย และประเทศ สหรัฐอเมริกามาร่วมงานด้วย เพื่อให้ได้รับทราบ ถึ ง ศั ก ยภาพในการผลิ ต และพั ฒ นาพั น ธุ์ โ คใน ประเทศไทยยังเป็นการสร้างความหลากหลายใน กิจกรรมท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่นอันจะก่อ ให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและกระจายราย ได้ในท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่นเพิ่มมากขึ้น “ตั้งเป้าว่า จะมีกลุ่มผู้เลี้ยงโคพันธุ์บราห์ มันและเกษตรกรผู้สนใจเลี้ยงโคเนื้อทั่วประเทศ ประมาณ 5,000 คน และนักท่องเที่ยวชาวไทยและ ชาวต่างประเทศ ผูส้ นใจกิจกรรมการแสดงและการ ประกวดโค เข้าร่วมชมงานประมาณ 100,000 คน ภายในงานมีการประกวดโคบราห์มนั พันธุแ์ ท้สแี ดง และสีเทา การเสวนาวิชาการเรื่องโคพันธุ์อเมริกัน บราห์มันพันธุ์แท้ นิทรรศการเกี่ยวเรื่องโคพันธุ์ อเมริกันบราห์มัน เปิดบูธให้ความรู้และจำ�หน่าย ผลิ ต ภั ณ ฑ์ เ กี่ ย วปศุ สั ต ว์ และบู ธ จำ � หน่ า ยสิ น ค้ า พื้นเมือง OTOP คาดว่าจะมีเงินสะพัดในจังหวัด ขอนแก่น ทัง้ จากการจำ�หน่ายโคพันธุบ์ ราห์มนั และ ค่าใช้จา่ ยในทุกธุรกิจทีเ่ กีย่ วข้องด้านการท่องเทีย่ วไม่ น้อยกว่า 200 ล้านบาท”
บัตรคนจน
• ต่อจากหน้า 1
คุณสุวณี สุขประวิทย์ คลังจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า สำ�หรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตร คนจน ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นมีผู้ลงทะเบียนรวม ทั้งหมด 452,065 ราย โดยแยกเป็น สำ�นักงานคลัง จังหวัดขอนแก่น มีประชาชนมาลงทะเบียนรวม 2,219 ราย ผ่านเกณฑ์ได้รับบัตร 1,773 ราย ธนาคาร ออมสินรวม 20 สาขา มีประชาชนมาลงทะเบียน รวม 79,002 ราย ผ่านเกณฑ์ได้รับบัตร 62,618 ราย ธนาคาร ธ.ก.ส. รวม 31 สาขา มีประชาชนมาลง ทะเบียนรวม 301,329 ราย ผ่านเกณฑ์ได้รับบัตร 234,456 ราย และธนาคารกรุงไทยรวม 25 สาขา มี ประชาชนมาลงทะเบียนรวม 69,215 ราย ผ่านเกณฑ์ ได้รับบัตร 56,537 ราย รวมพื้นที่จังหวัดขอนแก่นมี ประชาชนที่ผ่านสิทธิ์ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำ�นวน 355,389 คน จ่ายบัตรไปแล้ว 309,179 คน คิดเป็นร้อยละ 87 ยังเหลือผู้ที่ยังไม่มารับอีก 46,210 คน แนวทางการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตร คนจน จะแบ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้ตํ่ากว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้รับบัตรซึ่งมีจำ�นวนเงินในการซื้อ สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำ�เป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าประชา รัฐ และร้านค้าที่กระทรวงพาณิชย์กำ�หนดในวงเงิน 300 บาทต่อเดือน ส่วนผู้มีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้รับบัตรซึ่งมีจำ�นวนเงิน 200 บาท ต่อเดือน โดยการชำ�ระค่าสินค้าผ่านเครื่องชำ�ระเงิน อิเล็กทรอนิกส์ (EDC) หรือเครื่องรูดบัตรเท่านั้น และยังได้รบั วงเงินส่วนลดในการซือ้ ก๊าซหุงต้มจาก ร้านที่กระทรวงพลังงานกำ�หนดในวงเงิน 45 บาท
จ่ายในการเดินทางสำ�หรับรถโดยสารรถเมล์ ขสมก./ รถไฟฟ้า ทีม่ รี ะบบ e-Ticket จำ�นวนเงิน 500 บาท รถ โดยสาร บขส. จำ�นวน 500 บาท โดยสอบถามได้ทจี่ ดุ จำ�หน่ายบัตรโดยสารรถ บขส. และค่าโดยสารรถไฟ จำ�นวนเงิน 500 บาท ใช้บริการได้ที่จุดจำ�หน่ายบัตร โดยสารรถไฟทุกสถานี (รฟท.) คุณสุวณี กล่าวต่อว่า ในส่วนของการติดตั้ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ EDC เพื่อชำ�ระค่าสินค้าผ่าน บัตรสวัสดิการในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นซึ่งมีร้าน ค้าสมัครเข้าร่วมโครงการรวม 1,161 ร้านค้า และได้ รับการติดตัง้ เครือ่ งรูดบัตรเรียบร้อยแล้วจำ�นวน 227 ร้านค้า ณ วันที่ 17 ตุลาคม 2560 โดยร้านค้าทีม่ เี ครือ่ ง รูดบัตร ในอำ�เภอเมืองขอนแก่นมีจ�ำ นวน 26 ร้านค้า อ.กระนวน 14 ร้านค้า อ.ชุมแพ 15 ร้านค้า อ.บ้านไผ่ 16 ร้านค้า อ.หนองเรือ 14 ร้านค้า อ.นํ้าพอง 13 ร้าน ค้า อ.ภูเวียง 12 ร้านค้า อ.แวงน้อย 10 ร้านค้า อ.ซำ� สูง 10 ร้านค้า อ.ชนบท อ.บ้านฝาง อ.บ้านแฮด และ อ.พระยืน อำ�เภอละ 9 ร้านค้า อ.เปือยน้อย อ.เวียง เก่า อ.หนองนาคำ� และ อ.มัญจาคีรี อำ�เภอละ 5 ร้านค้า อ.พล 8 ร้านค้า อ.หนองสองห้อง 6 ร้าน ค้า อ.อุบลรัตน์ 6 ร้านค้า อ.สีชมพู 4 ร้านค้า อ.ภูผา ม่าน และ อ.โคกโพธิชัย อำ�เภอละ 3 ร้านค้า อ.เขา สวนกวาง 4 ร้านค้า และ อ.แวงใหญ่ 2 ร้านค้า โดย กระทรวงการคลังจะทยอยติดตัง้ เครือ่ งรูดบัตร ให้ได้ มากที่สุด ภายในเดือนตุลาคมนี้ และให้กับร้านค้าที่ เข้าร่วมโครงการครบทั้ง 18,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ร้านค้าต้องปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพือ่ ป้องกันการนำ�บัตรไปใช้ผดิ ประเภท หากตรวจสอบ พบ หรือได้รบั เรือ่ งร้องเรียนจากประชาชน จะตรวจ สอบ และหากพบร้านค้าทำ�ผิดวัตถุประสงค์จริง จะยึดเครื่องรูดบัตร พร้อมถอดรายชื่อออกจากการ เข้าร่วมเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ส่วนผู้ถือบัตร จะถูกระงับวงเงินในบัตรทันที และดำ�เนินคดีตาม กฎหมายต่อไป พร้ อ มขอความร่ ว มมื อ ร้ า นค้ า ที่ เ ข้ า ร่ ว ม โครงการ ทำ�ความเข้าใจกับประชาชนที่นำ�บัตร สวัสดิการแห่งรัฐมาซื้อสินค้าด้วยว่า ไม่จำ�เป็นต้อง ใช้เงินในบัตรให้หมดทันที แต่สามารถใช้ได้ตลอด ทั้งเดือน และวงเงินของบัตรเดือน ต.ค.นี้ รัฐบาลได้ ทบให้ไปใช้เดือน พ.ย.ได้ดว้ ย โดยไม่ตดั ทันทีเมือ่ สิน้ เดือน เพราะยังติดตั้งเครื่องรูดบัตรได้ไม่ครอบคลุม อาจทำ�ให้ประชาชนบางคนยังไม่ได้ใช้สทิ ธิซอื้ สินค้า “การให้ ค วามช่ ว ยเหลื อ ประชาชนผ่ า นบั ต ร สวัสดิการแห่งรัฐ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์และตรง กับความต้องการของประชาชนในการลดภาระค่า ใช้จ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคที่ต้องใช้ในชีวิตประจำ� วั น และมี ค วามจำ � เป็ น ต่ อ ทุ ก ครั ว เรื อ น รวมถึ ง ค่าพาหนะในการเดินทาง เมื่อจำ�เป็นที่ต้องใช้ ยัง สามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้อีกด้วย” คลังจังหวัดขอนแก่น กล่าว นางรุง่ ระวี ภัทรทวีวงศ์ กล่าวว่า เปิดร้านโช ห่วย “หน่อยมีกะตัง” ภายในชุมชนมานานกว่า 10 ปี ตั้งอยู่เลขที่ 171/57 ถนนประชาสโมสร ซอยธาร ทิพย์ 2 อ.เมือง จ.ขอนแก่น การเปิดร้านค้าในชุมชน ที่ผ่านมาจะขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ส่วนใหญ่จะขาย สินค้าชิ้นเล็กๆ หลังสมัครเข้าร่วมโครงการ ร้านธง ฟ้าประชารัฐ โดยทางกระทรวงพาณิชย์ได้มาสำ�รวจ ตรวจสอบสถานที่ และเมื่อผ่านเกณฑ์ที่กำ�หนด พร้อมได้ตดิ ตัง้ เครือ่ งรูดบัตรเพือ่ ชำ�ระค่าสินค้าบัตร สวัสดิการฯ ทำ�ให้การจำ�หน่ายสินค้าเปลี่ยนแปลง ไปมาก โดยมีประชาชนที่นำ�บัตรมาใช้ซื้อสินค้าวัน ละ 300-400 ราย จากเดิมที่ขายสินค้ารายได้วันละ 500-2,000 บาท ปัจจุบันมียอดการจำ�หน่ายสินค้า วันละ 30,000-50,000 บาทต่อวัน ประชาชนที่ นำ � บั ต รฯ มาใช้ ซื้ อ สิ น ค้ า มา จากหลายพื้นที่ หลายชุมชน เนื่องจากการติดตั้ง เครื่องรูดบัตรยังไม่ครอบคลุมทั่วถึง และผู้ใช้บัตร ยังไม่เข้าใจการใช้สิทธิทำ�ให้เกิดความล่าช้า และ การอำ�นวยความสะดวกไม่เพียงพอ โดยทางร้านจะ ให้รับบัตรคิว และยื่นบัตรทำ�การตรวจสิทธิ และ ให้เลือกซื้อสินค้าได้ โดยแบ่งช่วงเวลาในการเข้าใช้ บริการช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 08.00-11.00 น. และหยุด เติมสินค้าให้เต็ม เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ ของประชาชนในการเลือกซื้อสินค้าช่วงต่อไป โดย เปิดให้บริการอีกในเวลา 15.00-18.00 น. วันละ 2 รอบ ยอมรับว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการ ร้านธงฟ้า
มาใช้บริการมาก โดยส่วนใหญ่จะซือ้ สินค้าประเภท ข้าวสาร นํา้ มันพืช เครือ่ งปรุงรส และของใช้ทจี่ �ำ เป็น ต่างๆ เป็นการช่วยเหลือประชาชนในระดับชุมชน ได้ตรงตามความต้องการ ในระยะแรกอาจมีติดขัด บ้าง เนื่องจากยังไม่เข้าใจการใช้บริการมากนัก แต่ ต่อไป ปัญหาความล่าช้า และการเข้าถึงบริการจะดี ขึ้น นางอำ�พร ไกรวิจิต ประชาชนที่นำ�บัตร สวัสดิการแห่งรัฐ มารอใช้บริการ กล่าวว่า เป็น โครงการที่ดีมาก เพราะตรงกับความต้องการของ ทุกครัวเรือน สินค้าที่เราต้องใช้เป็นประจำ�อยู่แล้ว เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว ถึงแม้ว่าเงินจะไม่มากนัก แต่สามารถใช้ซื้อสินค้าที่ จำ�เป็นและยังใช้ได้ทงั้ ครอบครัว แต่ปญ ั หาในการใช้ บัตรที่ไม่กระจาย ทำ�ให้ต้องเสียเวลาในการเดินทาง เพื่อหาซื้อสินค้าจากร้านที่มีเครื่องรูดบัตรเท่านั้น และเมื่อมาแล้วยังต้องเสียเสียเวลารอคอยเกือบทั้ง วันกับการซื้อสินค้าผ่านบัตรเพียง 300 บาท อีกทั้ง การได้บัตรคิวท้ายๆ สินค้าที่ต้องการหมด ต้องเสีย เวลาเดินทางใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าโครงการ นี้ สามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ของประชาชนได้ นางสาววาสนา บุควัน พนักงานขายสินค้า Otop ภายในปั๊ม ปตท. กล่าวว่า เป็นคนหนึ่งที่ผ่าน สิทธ์และได้รบั บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปัจจุบนั อาศัย อยู่ที่หมู่บ้านหนองกุง อ.นํ้าพอง จ.ขอนแก่น ใน ชุมชนมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐ หนึ่งแห่ง ซึ่งมีสินค้าน้อยและไม่หลากหลาย แต่มี ประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำ�นวนมาก ส่วนใหญ่ มีทั้งคนในชุมชนและต่างชุมชนที่เดินทางมาเลือก ซื้อสินค้า โดยรับบัตรคิวและรอเรียกเข้าใช้บริการ จากร้านค้าในชุมชนเล็กๆ ต้องมารองรับประชาชน ที่เข้ามาใช้บริการวันละ 200-300 คน จึงเป็นบริการ ทีแ่ ปลกใหม่ในชุมชน ทำ�ให้ตอ้ งเสียเวลารอคอยและ ต้องต่อคิวยาว เช่นเดียวกับร้านธงฟ้าประชารัฐในชุมชน อื่นๆ ร้านค้าในโครงการฯ แต่ละแห่งมีประชาชน เข้ามาใช้บริการไม่ตํ่ากว่าวันละ 200-300 คนต่อวัน ตนเองเคยเข้าไปรอใช้บริการที่ร้าน 2 ครั้ง แต่ยังไม่ สามารถซื้อสินค้าที่ต้องการได้ เนื่องจากเมื่อถึงคิว เข้าไปเลือก แต่สินค้าที่ต้องการไม่มี ที่เหลือจะเป็น สินค้าอื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้ก็เลยเสียเวลาทิ้งไป โดยยังไม่ ได้ใช้บริการบัตรสวัสดิการ มองว่ายังเป็นปัญหาด้าน ความไม่พร้อมของร้านค้า และความไม่เข้าใจในการ ใช้บัตรฯของประชาชน ซึ่งหน่วยงานควรทำ�ความ เข้าใจกับประชาชนเพิ่มมากขึ้น นางสาววาสนา กล่ า วต่ อ ไปว่ า สำ � หรั บ นโยบายการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้ น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นโครงการที่ดี เพราะการใช้บัตรซื้อสินค้าที่จำ�เป็นโดยไม่ให้เป็น เงินสด จะช่วยให้เกิดการหมุนเงินของกระแสการ เงินในท้องถิ่นได้จริง แต่น่าจะมีการแยกตามโซน พื้นที่ซึ่งมีความต้องการไม่เหมือนกัน การใช้เกณฑ์ มาตรฐานเดียวกันจึงเป็นเรื่องที่ยังไม่ตรงกับโจทย์ ความต้องการของประชาชนเท่าที่ควร อย่างเช่น ค่าโดยสารรถเมล์-รถไฟฟ้า ที่ประชาชนในภูมิภาค ไม่ได้ใช้บริการ หรือค่ารถโดยสาร บขส. รถไฟ ที่ ประชาชนในต่างจังหวัดจะใช้บริการน้อยมาก หาก มีการปรับวงเงินสวัสดิการเพิ่มขึ้น ลดวงเงินค่าเดิน ทางสำ�หรับประชาชนในภูมิภาค หรือการหาแนว ทางอื่นๆ ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มี รายได้น้อย ให้ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริงน่า จะเหมาะกว่า
ผูว้ า่ ฯขอนแก่น
• ต่อจากหน้า 1
นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่น กล่าวในการบรรยายพิเศษแนวทางและ นโยบายของผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด ในการพั ฒ นา จั ง หวั ด และทิ ศ ทางการเจริ ญ เติ บ โตเศรษฐกิ จ ขอนแก่นและภาคอีสาน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่าน มาโดยมีนักธุรกิจ 8 องค์กรธุรกิจในขอนแก่น ภาค เอกชน รวมถึงผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น เข้าร่วมรับฟังกว่า 400 คน วัตถุประสงค์เพื่อ ร่วมกันขับเคลื่อนจังหวัดขอนแก่นไปพร้อมๆกัน ในทุกภาคส่วน ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของ คนขอนแก่น ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยงานที่
ตนเองได้ ร่วมคิด ร่วมวิเคราะห์ และนำ�ไปปฏิบตั จิ ริง จนเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ทำ�ให้ขอนแก่น มีความ มั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนต่อไป ผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด ขอนแก่ น กล่ า วว่ า ขอนแก่นมีเป้าหมายและทิศทางในการขับเคลื่อน อย่างชัดเจน เพราะองค์กรธุรกิจมีความเข้มแข็ง เป็น ตัวอย่างในระดับประเทศหลายด้าน ทัง้ เรือ่ งการเป็น สมาร์ทซิตี้ที่มีเป้าหมายชัดเจน มีการขับเคลื่อนทุก มิติ การมองทิศทางของจังหวัดขอนแก่น ขณะ นี้มองไปถึงอีก 5 ปี 20 ปี 50 ปีข้างหน้ากันแล้ว เป้าหมายอยู่ที่การก้าวพ้นไมซ์ซิตี้ ไปเป็นโกลบอล ซิตี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะขณะนี้เรา มีกงสุลใหญ่มาอยู่ที่ขอนแก่นหลายประเทศ ทั้ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว และเวียดนาม และ ยังมีกงสุลของประเทศฝรั่งเศสกับญี่ปุ่น จะมาอยู่ที่ ขอนแก่นในเร็วๆนี้ด้วย นั่นหมายถึงว่าศักยภาพใน พื้นที่ของขอนแก่นมีมาก นอกจากนี้ ป ระเทศจี น และอิ น เดี ย มอง ประเทศไทยเป็นจุดกระจายสินค้า และบังเอิญว่า มันมีจุดตัดที่จังหวัดขอนแก่นพอดี เรายังมีรถไฟ ความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ที่เอื้อต่อการขนส่งข้าม ประเทศ ดังนั้นในอีก 20 ปีข้างหน้าขอนแก่นจะโต แบบฉุดไม่อยู่ ใครมีที่ดินอย่าขาย เพราะถึงตอนนั้น ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล “ขอนแก่นนอกจากเป็นฮับด้านโลจิสติค แล้ว จะต้องเป็นดิจิตอลวัลเลย์ หมดยุคแล้วที่จะมา นั่งขัดหัวเทียน นักศึกษาเราต้องเป็นมากกว่านั้น ต้องเขียนโปรแกรมกันแล้ว“ ผวจ.ขอนแก่น กล่าว และว่า สิ่งที่น่ากังวลคือการควบคุมผังเมือง การ ควบคุมการก่อสร้าง การจัดรูปที่ดิน การจัดโซนนิ่ง ต่างๆ หลังปี 2561 ที่จะมีการเลือกตั้ง ผังเมืองอาจ ถูกเปลีย่ นแปลงพืน้ ทีก่ ารใช้ประโยชน์ หากมีนกั การ เมืองแบบเดิมๆเข้ามาอีก ลองนึกถึงก่อนปี 2557 ทุกคนส่ายหน้าบ้านเมืองถึงทางตัน มองไม่เห็นว่า จะไปทางไหน อย่าให้นักการเมืองมาฉุดไปเช่นนั้น อีก นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้า จังหวัดขอนแก่น ให้ความเห็นว่า จากการคาดการณ์ ด้วยสายตาและความรูส้ กึ จะพบว่า ร้านค้าหลายแห่ง ในขอนแก่นปิดตัวลง ขณะที่การค้าต่างๆดูซบเซา ลง แต่นั่นเป็นการคาดเดาด้วยสายตา ต่างกับข้อมูล ที่ปรากฏชัดจากตัวเลขการจัดเก็บภาษี และยอด จำ�หน่ายรถจักรยานยนต์ที่พบว่า มีตัวเลขสูงขึ้น ซึ่ง มีความเป็นไปได้ว่า ตลาดโตขึ้นแต่คนขายเยอะขึ้น ด้วย หรือตัวอย่างเช่น ร้านอาหาร เรารู้สึกว่าขายไม่ ดี แต่จริงๆคือ ร้านเปิดมากขึน้ มีการแชร์ตลาดกันไป สำ�หรับการคาดการณ์เศรษฐกิจปีหน้าในจังหวัด ขอนแก่น นายเข็มชาติ กล่าวว่า คิดว่าน่าจะดีขึ้น เพราะราคาพืชผลน่าจะดีขึ้น เศรษฐกิจโลกเติบโต ขึ้น บวกกับความรู้สึกเคยชินของคน ที่ผ่านช่วงแย่ มาได้ ก็จะทำ�ให้แข็งแกร่งขึ้น จะทำ�ให้เดินหน้าต่อ ไปได้ จากสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่มีการชะลอตัว ลง ทำ�ให้นกั ธุรกิจ พ่อค้า แม่คา้ ต่างต้องปรับตัวอย่าง หนัก คาดว่าปีหน้าน่าจะดีกว่าปีนี้อย่างแน่นอน ด้ า นนายวิ ฑู ร ย์ กมลนฤเมธ ประธาน กิตติมศักดิ ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าว ว่า วันนี้เศรษฐกิจขอนแก่นไม่ต่างจากทั้งประเทศ คือ อยู่ในลักษณะขาลง เห็นได้ชัดว่า ปกติขอนแก่น เป็นเมืองที่มีร้านอาหารเยอะที่สุดในอีสาน แต่ตอน นีเ้ ลิกกิจการเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นร้านทีเ่ ปิดใหม่ๆ ในระยะ 2-3 ปีนี้ ส่ ว นธุ ร กิ จ อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ แ นวดิ่ ง คื อ คอนโดมิเนียม ตอนนี้จบเลย ดิ่งมานานแล้ว เพราะ ไม่ใช่เทรนของคนขอนแก่น ด้านบ้านจัดสรรแนว ราบ ความต้องการของผู้บริโภคยังมี แต่ติดปัญหา คือ กู้ธนาคารไม่ผ่าน ธนาคารเข้มงวดในการปล่อย เงินกู้มาก ขออนุมัติไปร้อยราย อาจได้หลักสิบราย เท่านั้น จึงทำ�ให้ส่งผลกระทบต่อการขายบ้านอย่าง มาก โครงการส่วนใหญ่ชะลอตัว ไม่สร้างเพิ่ม “เรื่ อ งเศรษฐกิ จ ไม่ ดี เกิ ด ขึ้ น มานานแล้ ว ตัง้ แต่รฐั บาลทีแ่ ล้วซึมลึกมาเรือ่ ยๆ แม้ตอนนีร้ ฐั บาล พยายามทุ่มเงินมาข้างล่าง ให้เงินคนจน 3 พันบาท แต่อย่าลืมว่า คนไทยมีหนี้ครัวเรือนมาก เมื่อได้เงิน
ในตลาด ไซเคิลเศรษฐกิจเลยไม่หมุน ที่ประเทศ อื่นค้าทำ�สำ�เร็จเพราะไม่มีหนี้ครัวเรือน ผมมองว่า เศรษฐกิจปีหน้าจะดีขนึ้ เพราะทีผ่ า่ นมาแย่สดุ ๆแล้ว เป็นธรรมชาติเมื่อดิ่งลงสุดแล้วก็จะโงหัวขึ้น แต่คง ไม่พรวดพราด ปีหน้าจีดีพีของการส่งออกดีขึ้น พอ ต่างชาติดีขึ้น ออเดอร์ดีขึ้น การกีดกันทางการค้า เราดีขึ้น มีการเลือกตั้ง ต่างชาติเริ่มให้ความเชื่อถือ เงินเริ่มหมุนเวียน เกษตรปีหน้าจะดีขึ้น เพราะถ้า เศรษฐกิจดี การใช้ยางพาราจะมากขึ้น พืชผลปีหน้า จะดี ภาพรวมเศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย “ประธาน กิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น
ซี พี ออลล์
• ต่อจากหน้า 1
ที่ห้องประชุมธรรมสัตยศึกษากร สหกรณ์ ออมทรัพย์ครูอดุ รธานี อ.เมือง จ.อุดรธานี นายพัฒน ศักดิ์ สกุลพันธ์ ผู้แทนศึกษาธิการ ภาค 10 เป็นสักขี พยาน ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการเป็นเครือข่ายพันธมิตรเพื่อการศึกษาและ การมีงานทำ�ของโรงเรียนในสังกัด (Business for Young Program) ระหว่าง สำ�นักงานศึกษาธิการ จั ง หวั ด อุ ด รธานี โดยนายประกอบ จั น ทรทิ พ ย์ ศึกษาธิการจังหวัดอุดรธานี กับ บริษัทซีพี ออลล์ จำ�กัด (มหาชน) โดย นายวัฒนะ เผือกประเสริฐ รอง ผู้จัดการทั่วไป บ.ซีพีออลล์ฯ ในนามศูนย์การเรียน ปัญญาภิวัฒน์ อุดรธานี โดยมี เ ป้ า หมาย เพื่ อ ให้ มี ก ารร่ ว มมื อ กั น ของนั ก ธุ ร กิ จ รุ่ น ใหม่ ด้ ว ยการคั ด เลื อ ก นั ก เรี ย นในระดั บ ม.3 เข้ า อบรมหลั ก สู ต รระยะ สั้น กับศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์ อุดรธานี ที่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำ�กัด (มหาชน) จัดหลักสูตร อบรมระยะสั้ น Young Business Program: YBP ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับทักษะการเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ เน้นการ เรียนการสอน แบบ Leaning and Play ซึ่งจะส่งผล ให้นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ มีความรู้ ความเข้าใจ ในการเรียนสายอาชีพ สามารถวางแผนการเรียน และเส้นทางอาชีพในอนาคตได้ โ ด ย ก า ร คั ด เ ลื อ ก นั ก เ รี ย น ใ น ร ะ ดั บ มัธยมศึกษาปีที่ 3 เข้าร่วมในโครงการ จากโรงเรียน ในสังกัดสำ�นักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษา อุดรธานี เขต 1-4 และสำ�นักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 20 จำ�นวน 7 โรงเรียน รวม 250 คน แบ่งการอบรมออกเป็น 5 รุ่นๆละ 50 คน เข้ารับการ อบรมในสถานที่ประกอบการจริง หลักสูตรระยะ สัน้ 2 วัน โครงการจะเริม่ ต้นในวันที่ 22 กันยายน - 7 ตุลาคม 2560 นายประกอบ จั น ทรทิ พ ย์ ศึ ก ษาธิ ก าร จังหวัดอุดรธานี กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการ ความร่ ว มมื อ ระหว่ า งทั้ ง 2 หน่ ว ยงานดั ง กล่ า ว ว่ า ในปั จ จุ บั น นี้ ป ระเทศไทยต้ อ งการแรงงาน ในระดั บ กลางเพิ่ ม ขึ้ น เรื่ อ ยๆ โดยเฉพาะในภาค อุ ต สาหกรรม เฉพาะอย่ า งยิ่ ง แรงงานกึ่ ง ทั ก ษะ หรือกลุ่มอาชีวศึกษา ตามการเจริญเติบโตของภาค อุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีการผลิตชั้นสูง แต่ประเทศยังไม่สามารถผลิตแรงงานกึ่งทักษะให้ เพียงพอกับความต้องการของตลาดแรงงาน และ ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ ภาครัฐได้ประกาศนโยบายให้มคี วามร่วมมือ ภาครัฐ และภาคประชาคม เพื่อร่วมกันทำ�การแก้ไข ปัญหาดังกล่าว และร่วมกันพัฒนา โดยมีรฐั บาลเป็น คนคอยให้การสนับสนุน อำ�นวยความสะดวก เปิด ช่องทางให้เอกชน ประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมใน การดำ�เนินการในลักษณะ เอกชนนำ� ภาครัฐเป็นผู้ สนับสนุน อำ�นวยการ เพือ่ ให้เกิดการพัฒนาประเทศ อย่างยั่งยืน สำ�นักงานศึกษาธิการจังหวัดอุดรธานี เห็น ความสำ�คัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ดงั กล่าว จึงได้ร่วมกับ บริษัท CP ALL จำ�กัด (มหาชน) จัด หลักสูตรระยะสั้น”Business For Young Program: BYP ในรูปแบบของเครือข่ายพันธมิตรเพือ่ การศึกษ าและการมีงานทำ�ขึ้นมา เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจ อ่านต่อหน้า 2
สนใจพื้นที่โฆษณา ติดต่อ คุณสุพัตรา thaisaeree@gmail.com thaisaeree@yahoo.com
หน้า 12
ปีที่ 15 ฉบับที่ 161 ประจำ�เดือนตุลาคม 2560
ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา สุพัตรา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,
ประคอง หนู ร าช,พั น ธ์ ศั ก ดิ์ วี ร ะชั ย ,เสริ ม ศั ก ดิ์ ขาวโกมล สำ�นั ก งาน 76 ม.20 ถ.กสิ ก รทุ่ ง สร้ า ง ต.ศิ ล า อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น 40000 โทรศั พ ท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย ภัทรวินทร์ ลีปาน 92 หมู่ 1 ต.บ้าน ่ รึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอือ้ ดีไซน์ 08-3417-0363 ว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 43110 โทรศัพท์ 087-8627979 E-mail : pattarawin2519@hotmail.co.th ทีป