ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนธั น นกวาคม า ร 2559 ณ์
ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่
w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1
ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559 ราคา 10 บาท
เร่งเปิดใช้ทา่ เรือบ้านหม้อ ขนแร่แบร์ไรท์ขา้ มเข้าไทย ชาวบ้านหวัน่ กระทบชุมชน เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ; นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น พล.ต.ชาญ ชัย ว่านเครือ ผบ.มทบ.23 และ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพนั ธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ร่วม แถลงข่าวงาน “มหัศจรรย์พรรณไม้ ถวายอาลัยพ่อหลวง และงานรวมใจภักดิ์ รักนิรนั ดร ร่วม กันสวดมนต์ข้ามปี” ณ ห้องประชาสโมสร โรงแรมอวานีขอนแก่น โฮเทล แอนด์คอนแวนชั่น เซ็นเตอร์ ถนนประชาสโมสร อ.เมือง จ.ขอนแก่น
“สิทธารมย์”รุกโครงการ บ้านหรูเล็งปี60พร้อม ขึ้ น 2-3โครงการ
Esarn SME Lifestyle Fair 2016 ; นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี ประธานเปิดงาน Esarn SME Lifestyle Fair 2016 มหกรรมแสดงสินค้า เพื่อยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมสินค้าที่ใช้ในชีวิต ประจำ�วัน และกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค โดยมี นายอัศวิน คำ�แวง ผู้อำ�นวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เนทเวร์ค จำ�กัด และนักธุรกิจ ร่วมพิธี ณ ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้า เซ็นทรัล พลาซ่าอุดรธานี เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559
ศุ ล กากรหนองคาย เปิ ด เวที ทำ � ความเข้ า ใจกั บ ประชาชนใน พื้นที่ เพื่อเร่งเปิดใช้ท่าเทียบเรือ ในการนำ�เข้าแร่แบไรท์จาก สปป. ลาว เผย สปป.ลาว ห้ามรถบรรทุก แร่ ผ่านเขตเมือง แต่หน่วยงาน ไทยกลับตาลปัตรให้รถบรรทุกแร่ “สิ ท ธารมย์ ” เจ้ า ของ ผ่านเขตเมือง อ่านต่อหน้า 11
โครงการหมู่ บ้ า นจั ด สรรราย จี้ เ ร่ ง สร้ า งวงแหวน ใหญ่ เ มื อ งอุ ด รธานี ลุ ย ทำ � ตลาด ธุ ร กิ จ S M E s ค ร ว ญ เชิ ง รุ ก ในปี 2560-2564 รอบ 2 แก้รถติดอุดรฯ 2 เมื อ งอุ เศรษฐกิจปลายปียังริบรี่ วางแผนปีหน้าเริม่ ขึน้ โครงการ ดรฯวืถนนวงแหวนรอบ ด ถูกโยกงบประมาณไปสมทบงบ ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาต่อเนื่อง บวกกับ พร้ อ มกั น 2-3 โครงการ ศึกษามอเตอร์โคราช-หนองคายปีหน้า ภัยแล้งที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดการค้าและ ประธานหอการค้าอุดรฯ ชีเ้ สียโอกาสขยาย ผู้ประกอบการ SMEs เกือบทุกประเภทอยู่ สนองความต้ อ งการลู ก ค้ า ระ ความเจริญด้านโลจิสติกส์ เผยเป็นเรื่อง ในอาการทรุดหนัก ยอดขายหายเกือบ 70% ดับไฮเอ็น ตลกที่ไม่ขำ�มาหลายปีแล้ว หนักสุดในรอบ 3 ปี อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
อ่านต่อหน้า 11
คนจนปลื้มแห่เช็กยอด-ถอนเงิน สวัสดิการแห่งรัฐล้นธนาคาร ผู้ มี ร ายได้ น้ อ ยกว่ า พั น คน แห่ นำ � สมุ ด บัญชีและบัตรเอทีเอ็ม เข้าคิวเช็คยอดเงิน สวัสดิการแห่งรัฐจนล้นธนาคารออกมาถึง ถนน หลายคนสับสนมีบัญชี ธ.ก.ส.แต่ไป ขึ้นทะเบียนธนาคารอื่น อ่านต่อหน้า 11
นครขอนแก่นจัด2งานใหญ่ ถวายอาลั ย พ่ อ หลวง เทศบาลนครขอนแก่น ปรับรูปแบบ 2 งานใหญ่ ปลายปี 2559 งานมหัศจรรย์พนั ธุไ์ ม้ ถวายอาลัย พ่อหลวง และงานรวมใจภักดิ์ รักนิรันดร และ สวดมนต์ข้ามปี เพื่อร่วมรำ�ลึกและถวายความ อาลัยแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9
หน้า 2
ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559
ถวายอาลัยพ่อหลวง • ต่อจากหน้า 1 ลิปและลิลลี่ โซน 7 โอ่งมหัศจรรย์ โซนสีสันกังหัน
เทศบาลนครขอนแก่น ร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวการจัดงาน “มหัศจรรย์พรรณ ไม้ ถวายอาลัยพ่อหลวง และ งานรวมใจภักดิ์ รัก นิ รั น ดร ร่ ว มกั น สวดมนต์ ข้ า มปี ” กิ จ กรรมของ จังหวัดขอนแก่นในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี 2559 และ ต้อนรับ ปี 2560 โดยมี นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น พล.ต.ชาญชัย ว่านเครือ ผบ.มทบ. 23, พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ,นายสิทธิกุล ภูคำ�วงศ์ รอง นายก อบจ.ขอนแก่น ,นายเฉลิมชัย รุจวิ รารัตน์ ผูช้ ว่ ย ผอ.ททท.สำ�นักงาน ขอนแก่น และ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายก เทศมนตรีนครขอนแก่น ร่วมแถลงข่าว ณ ห้อง ประชาสโมสร โรงแรมอวานีขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนแวนชั่น เซ็นเตอร์ ถนนประชาสโมสร อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2559 นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่ า วว่ า จั ง หวั ด ขอนแก่ น ร่ ว มกั บ เทศบาลนคร ขอนแก่น กำ�หนดจัดงาน“มหัศจรรย์พรรณไม้ถวาย อาลัยพ่อหลวง และ งานรวมใจภักดิ์ รักนิรนั ดร์ ร่วม กันสวดมนต์ข้ามปี” ระหว่างวันที่ 17 ธ.ค. 2559 – 3 ม.ค. 2560 ณ บริเวณสวนสุขภาพ บึงทุ่งสร้าง และ งานรวมใจภักดิ์ รักนิรันดร ร่วมกันสวดมนต์ข้าม ปี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 ธ.ค. 2559 – 1 ม.ค. 2560 ณ บริเวณสวนสาธารณะประตูเมืองขอนแก่น และ ถนนศรีจนั ทร์ ช่วงแยกมิตรภาพจนถึงทางข้ามรถไฟ รวมไปถึงศาลหลักเมืองขอนแก่น โดยมี เ ทศบาลนครขอนแก่ น โดยการนำ � ของ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น เป็นแม่งานหลัก พร้อมด้วยเครือ ข่ายองค์กรต่างๆในจังหวัดขอนแก่นบูรณาการร่วม กันจัดขึ้นเพื่อ ผลักดันให้ขอนแก่นเป็นเมืองแห่ง ศูนย์กลาง เพือ่ รองรับการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ และสังคมในอนาคต ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ การสร้าง เมือง สร้างกิจกรรมดีๆ ให้เกิดขึ้นในเมืองขอนแก่น และเพื่ อ เป็ น การรำ � ลึ ก ถึ ง พระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วย นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่น กล่าวว่า งานมหัศจรรย์พรรณไม้ ถวายอาลัยพ่อหลวง กำ�หนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2560 บริเวณสวน สุขภาพ บึงทุ่งสร้าง พื้นที่ 65 ไร่ เพื่อให้ประชาชน ตระหนักถึงความสำ�คัญของพืน้ ทีส่ เี ขียว รวมทัง้ การ สร้างสุขภาวะที่ดีของร่างกาย จิตใจ และยังเป็นการ ผสมผสานความสวยงามตามธรรมชาติ ตกแต่ง ประดิษฐ์เรียงร้อยให้เข้ากันอย่างลงตัว โดยแบ่งเป็น โซนต่างๆ จำ�นวน 10 โซน อาทิ โซนนกยูงรำ�แพน คู่หอแคนหลวง โซนทุ่งดอกไม้ โซนซุ้มถวายอาลัย โซนป่าร้อนชื้น โซนสะพานแห่งความรัก โซนทิว
ลม โซนนิทรรศการถวายอาลัย โซนอาหารและ เครือ่ งดืม่ ร้านจำ�หน่ายดอกไม้ และพืน้ ทีส่ �ำ หรับจอด รถยนต์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย อาทิ ดนตรีในสวน กิจกรรม DIY การประกวดภาพถ่าย ในสวน ซึ่งจะเปิดรับผลงาน ตั้งแต่วันที่ 17 – 27 ธันวาคม 2559 ตัดสินวันที่ 28 – 29 ธันวาคม 2559 ประกาศผล วันที่ 30 ธันวาคม 2559 โดยแบ่งเป็น 3 หัวข้อ คือ มหัศจรรย์ความงามแห่งทุ่งดอกไม้, ความสุขในสวน, ภาพถ่ายไอเดียบรรเจิด และ การ ประกวดภาพวาดในสวน (ระดับอนุบาล ประถม มัธยม อุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป วันที่ 21 – 24 ธันวาคม 2559) สำ�หรับท่านที่สนใจกิจกรรม สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เยาวชนและครอบครัว เทศบาลนครขอนแก่น นายกเทศมนตรี น ครขอนแก่ น กล่ า วต่ อ ไปว่ า สำ�หรับงานรวมใจภักดิ์ รักนิรนั ดร ร่วมกันสวดมนต์ ข้ามปี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2559 ถึงวัน ที่ 1 มกราคม 2560 บริเวณสวนสาธารณะประตูเมือง และบริเวณถนนศรีจันทร์ ช่วงแยกถนนมิตรภาพ จนถึงศาลหลักเมืองขอนแก่น เพื่อร่วมกันส่งกำ�ลัง ใจให้กนั และกัน ส่งความเข้มแข็งในการก้าวผ่านเข้า สู่พุทธศักราชใหม่ โดยมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ กิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยร่วมกันสวด มนต์ข้ามปี ,การร่วมจุดเทียนแห่งสยาม ,การร่วม ร้องเพลงพรปีใหม่ และเพลงสรรเสริญพระบารมี, การแสดงดนตรี, การบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ จากศิลปินนักร้อง เบน ชลาทิศ, บุรนิ ทร์ บุญยวิสทุ ธิ์ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ถึง 1 มกราคม 2560 ณ บริเวณถนนศรีจันทร์ ช่วงแยกถนนมิตรภาพ จนถึง ทางข้ามรถไฟ สำ � หรั บ กิ จ กรรม Creative Park จั ด ขึ้ น บริ เ วณ สวนสาธารณะประตูเมือง ระหว่างวันที่ 25 - 31 ธันวาคม 2559 ภายใต้แนวคิด “นํํ้า ฟ้า ป่า เขา ตาม รอยพระบาทพ่อของเรา” โดยนำ�โครงการในพระ ราชดำ � ริ ข องพระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช มานำ�เสนอในรูปแบบที่ร่วมสมัย ผ่านเทคนิค Mapping Projection, กิจกรรมส่ง สคส. ส่งใจถึงพ่อ จำ�นวน 29,999 แผ่น และ การแสดงบัล เลต์เทิดพระเกียรติ “นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม ทำ�บุญตักบาตร เนื่อง ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2560 บริเวณ ศาลหลักเมืองขอนแก่น ซึ่งการจัดงานมหัศจรรย์ พรรณไม้ ถวายอาลัยพ่อหลวง และงานรวมใจภักดิ์ รักนิรันดร ร่วมกัน สวดมนต์ข้ามปี เป็นการจัดต่อ เนื่องตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม ถึงวันที่ 3 มกราคม 2560 เพื่ อ ร่ ว มรำ � ลึ ก และถวายความอาลั ย แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่๙ “นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าว มอบผ้ า ห่ ม กั น หนาว ; นาย สาธิ ต เซกั ล นายกสมาคมนั ก ธุรกิจอินเดีย-ไทย และกรรมการ ราชกรี ฑ าสโมสร พร้ อ มคณะ ม อ บ ผ้ า ห่ ม กั น ห น า ว แ ล ะ พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลเดช ให้กับประชาชน ต.ทุ่ง หลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ณ หอประชุ ม องค์ ก ารบริ ห าร ส่วนตำ�บลทุ่งหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
“ทรู” เทรนผู้ประกอบการ “ช้อปช่วยชาติ” ดีแทค
อีสานด้านไอที เสริมศักยภาพ อัดโปรโมชัน ่ สมาร์ทโฟน แข่งขันสู่ตลาดต่างประเทศ “ทรู” จัดสัมมนา “เปิดแนวคิด เพื่ อ พั ฒ นาธุ ร กิ จ แบบผู้ นำ � ” เสริ ม กลยุ ท ธ์ ด้ ว ยไอที ใ ห้ ผู้ ป ระกอบการ อีสาน หวังเสริมศักยภาพธุรกิจและ โอกาส ให้ธุรกิจท้องถิ่นแข่งขันได้ใน กลุ่มอาเซียนและต่างประเทศ เมื่อวันที่ 24 พ.ย.59 ที่โรงแร มอวานี ขอนแก่น แอนด์ คอนเวน ชั่ น เซ็ น เตอร์ อำ � เภอเมื อ ง จั ง หวั ด ขอนแก่น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำ�กัด (มหาชน) จัดสัมมนา “เปิดแนวคิด เพือ่ พัฒนา ธุรกิจแบบผู้นำ�” โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน สัมมนา จัดขึ้นเพื่อเพิ่มกลยุทธ์ด้านไอที ให้กับผู้ ประกอบการธุรกิจในภาคอีสาน ร่วมสัมมนากว่า 200 คน ภายในงานสัมมนาดังกล่าวได้อปั เดตความ ก้าวหน้าของเทคโนโลยีทลี่ าํํ้ สมัย อาทิ IoT (Internet of Things) นวัตกรรมที่ช่วยให้การทำ�งานสะดวก รวดเร็วขึ้น รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อขยายฐาน ลูกค้า เพิ่มโอกาสในการขาย สร้างมุมมองใหม่ต่อ การพัฒนาธุรกิจบริการสูก่ ารแข่งขันระดับอาเซียน โดยวิ ท ยากรจากสำ � นั ก งานส่ ง เสริ ม วิ ส าหกิ จ ขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่มาแนะนำ�กลยุทธ์ด้านไอที ดร.พรรณไทย ไทยชน รองผู้อำ�นวยการ ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและย่อม บริษัท ทรู
คอร์ปอเรชั่น จำ�กัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ธุรกิจมีการขยายออกไปทัว่ ทุกภูมภิ าคของประเทศ ไม่จำ�กัดเฉพาะในเมืองใหญ่หรือกรุงเทพฯ ทรูได้ ให้การสนับสนุนภาครัฐและท้องถิ่น ที่จะทำ�ให้ผู้ ประกอบการมีความเข้มแข็งมีโอกาสและศักยภาพ ในการแข่งขันกับผูป้ ระกอบการในต่างจังหวัด หรือ ในกลุ่มประเทศอาเซียน และต่างประเทศ ทรู มี สื่ อ ที่ ทั น สมั ย ไม่ แ พ้ ป ระเทศใดในโลก ทั้ ง สื่อโมบาย สื่อโทรทัศน์ สื่ออินเทอร์เน็ต โซเชียล เน็ตเวิร์ก ซึ่งปัจจัยสำ�คัญของการประกอบธุรกิจ ณ ปัจจุบัน คือสื่อและความรวดเร็วของการเข้าถึง ข้อมูล อีกประการคือ คอนเทนน์และแอพพลิเคชัน่ ที่สามารถนำ�มาลดต้นทุนการทำ�ธุรกิจและสื่อเข้า ถึงกลุม่ ลูกค้าเป้าหมายได้รถู้ งึ ผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งทรูมีสื่อที่พร้อมให้ผู้ประกอบการได้นำ�ไปปรับ ใช้กับธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้
รวมพลั ง ทำ � ความดี
ปลูกป่า ถวายพระราชกุศล นายสมชาย นาคราช ผู้ อำ � นวยการสำ � นั ก ปฏิ บั ติ การด้านเทคนิคลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์ วิ ส จำ � กั ด (มหาชน) หรื อ เอไอเอส นำ � คณะผู้ บริ ห าร และพนั ก งานเอ ไอเอสภาคตะวันออกเฉียง เหนื อ ร่ ว มกิ จ กรรมรวม พลั ง ทำ � ความดี ถวายพระ ราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านการปลูก ต้นไม้ จำ�นวน 890 ต้น กิจกรรมนี้ชาวเอไอเอสน้ อมนำ�แนวพระราชดำ�ริด้านการฟื้นฟูสภาพป่าและ การปลูกป่า เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและพัฒนา ทรัพยากรธรรมชาติให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึง่ การปลูกป่าในครัง้ นีไ้ ด้รบั การสนับสนุน พื้ น ที่ ป ลู ก ป่ า และข้ อ มู ล การปลู ก ป่ า ในฤดู แ ล้ ง ให้ต้นไม้สามารถเติบโตได้ จาก นายยรรยง กาง
การ ผู้ อำ � นวยการสำ � นั ก จั ด การทรั พ ยากรป่ า ไม้ ที่ 8 (นครราชสีมา) นายศราวุธ มหานิล ผู้อำ�นวย การศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนแห่งชาติที่ 206 ป่าสูง เนิน นายเอกชัย พรหมพันธ์ใจ นายกองค์การบริหาร ส่วนตำ�บลมะเกลือเก่า และนายสมศักดิ์ บัลลังก์ ผู้ใหญ่บ้านคำ�ไฮ หมู่ 15 ณ ป่าชุมชนเขาสามสิบส่า ง และเขาเขียว ป่าสูงเนิน บ้านคำ�ไฮ ตำ�บลมะเกลือ เก่า อำ�เภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา
เ ที่ ย ว ไ ท ย ใ น ยุ ค ดิ จิ ทั ล ; นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส จับ มือ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกันชวนคนไทยและชาวต่าง ชาติ สัมผัสสุดยอดประสบการณ์ แหล่งท่องเที่ยวเมืองไทยในทุก ฤดูกาลกับแคมเปญ “ภู หมอก ดอก ดอย หนาวนี้เที่ยวทั่วไทย กับเอไอเอส”
ส นั บ ส นุ น แ ข่ ง ก อ ล์ ฟ ส ม า ค ม สื่ อ ม ว ล ช น ข อ น แ ก่ น ; คุ ณ ณั ฏ ฐิ นี เกษสุ ว รรณ์ ผู้ จั ด การ ฝ่ายสื่อสารองค์กร โรงแรมพูลแมน ขอนแก่ น ราชา ออคิ ด มอบบั ต ร ห้องพัก และบัตรกำ�นัล สนับสนุน การแข่งขันกอล์ฟสมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น โดยมี พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมฯ เป็นผู้รับ มอบ ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น
สร้าง Khonkaen Branding ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายก เทศมนตรี น ครขอนแก่ น ร่ ว ม กับ นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รอง ผูอ้ �ำ นวยการ สายงานกลยุทธ์และ พัฒนาธุรกิจ นางจุฑา ธาราไชย ผู้ จัดการอาวุโส สำ�นักงานส่งเสริม การจัดประชุมและนิทรรศการ Mr. Gary Grimmer ผู้เชี่ยวชาญ ด้ า นการพั ฒ นาอุ ต สาหกรรม MICE บริษัท Gaining Edge ประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อคัดเลือกอัตลักษณ์จากการระดมความคิด
ผลกระทบจากโครงการรถไฟทางคู่ ; นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พั น ธุ์ นายก เทศมนตรีนครขอนแก่น ร่วมประชุม หารือกับ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พ อ ช.) เพือ่ แก้ไขปัญหาทีอ่ ยูอ่ าศัยให้ กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ รถไฟคู่ และรถไฟรางมาตรฐาน ใน ระดับจังหวัดขอนแก่น โดยมีชุมชน ในเขตเทศบาลฯ ที่ได้รับผลกระทบ ในการรือ้ ถอนบ้านทีอ่ ยูอ่ าศัยรวม 331 หลังคาเรือน ใน 8 ชุมชน
ผ ล ง า น แ พ ท ย์ แผนไทย ; นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์ นายแพทย์ สสจ.หนองคาย เป็นประธานเปิด การประชุมชี้แจง การพัฒนาระบบ ข้อมูล การตรวจ ส อ บ คุ ณ ภ า พ ข้ อ มู ล ผ ล ง า น บริการแพทย์แผนไทย เขตสุขภาพที่ 8 โดยมีคุณจรัสศรี อาจศิริ หัวหน้างานแพทย์แผนไทย กล่าว รายงาน ณ ห้องประชุมชื่น ระวิวรรณ โรงพยาบาลหนองคาย
อปท.ยุค Digita ; นายชัยธวัช เนียม ศิ ริ ร อ ง ผ ว จ . ขอนแก่ น เป็ น ประธานเปิดงาน สั ม ม น า “ ก า ร บริหารงาน อปท. ยุค Digital” เพื่อ รองรั บ นโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 โดยมี นายสุรชัย อนุตระกูลชัย ผู้จัดการฝ่ายขายและบริการลูกค้าภูมิภาคที่ 2.1 บริษัท ทีโอที จำ�กัด (มหาชน) พร้อมด้วยพนักงานในส่วนขององค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ภาคอีสานเข้าร่วมงาน สัมมนา ณ โรงแรมเจริญธานี จ.ขอนแก่น
ดีแทค ร่วมแคมเปญ “ช้อป ช่ ว ยชาติ ” พร้ อ มลดหย่ อ นภาษี สูงสุดถึง 15,000 บาท อัดโปรโมชั่น สมาร์ทโฟน ลดสูงสุด 10,000 บาท ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน พร้อม รับฟรีเน็ต 4G 48GB บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอม มูนเิ คชัน่ จำ�กัด (มหาชน) หรือ ดีแทค สนองนโยบายกระตุน้ เศรษฐกิจ มอบ สิ ท ธิ ป ระโยชน์ แ บบเต็ ม ขั้ น ให้ ลู ก ค้าดีแทคลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 15,000 บาท ใน โครงการ “ช้อปช่วยชาติ” กับโปรโมชั่นลดราคา สมาร์ทโฟนแบรนด์ดังทุกรุ่นสูงสุด 10,000 บาท ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน พร้อมรับฟรีเน็ต 4G 48GB และสามารถรับใบกำ�กับภาษีได้ทันที ณ จุด ขาย โดยสามารถพบกับสมาร์ทโฟน ราคาพิเศษ หลากหลายรุ่น อาทิ iPhone SE เริ่มต้นเพียง 6,400 บาท เมื่อ สมัครแพ็กเกจรายเดือนเริ่มต้น 699 บาท พร้อม ชำ�ระค่าบริการรายเดือนล่วงหน้าตามที่กำ�หนด iPhone 7 (128GB) ลดสูงสุด 9,500 บาท เมือ่ สมัคร หรือมีแพ็กเกจรายเดือนเริ่มต้น 899 บาท พร้อม ชำ�ระค่าบริการรายเดือนล่วงหน้าตามที่กำ�หนด หรือสมัครแพ็กเกจรายเดือนเริ่มต้น 1,299 บาท พร้ อ มรั บ สิ ท ธิ์ U P ใช้ ค รบปี รั บ เครื่ อ งใหม่ ฟ รี มูลค่า 26,500 บาท หรือรับส่วนลด13,250 บาท Samsung Galaxy S7, S7 Edge, Note 5
(64GB), A9 Pro รบั ส่วนลดสูงสุด 8,500 บาท Huawei Mate 9, P9, P9 Plus รับส่วนลดสูงสุด 8,500 บาท Sony Xperia X Performance, XA Ultra, X Compact รับส่วนลดสูงสุด 10,500 บาท โปรโมชัน่ ผ่อนชำ�ระจากบัตรเครติตชัน้ นำ�สามารถ เลือกผ่อนชำ�ระ0% นานสูงสุด 24 เดือน หรือเลือก ผ่อนชำ�ระ 0% นาน 20 เดือน และรับเครดิตเงิน คืนสูงสุด 5% พิเศษ! สำ�หรับช่วง “ช้อปช่วยชาติ” ลูกค้า ที่ ซื้ อ เครื่ อ งพร้ อ มเปิ ด เบอร์ ใ หม่ กั บ ดี แ ทค รั บ เน็ต 4G เพิ่มฟรี 48GB เมื่อสมัครแพ็กเกจราย เดือน Super NON-STOP,เต็ม MAX หรือ Tablet NON-STOP ตั้ ง แต่ 599 บาทเป็ น ต้ น ไป ร่ ว ม ช้ อ ป ช่ ว ย ช า ติ กั บ ดี แ ท ค ตั้ ง แ ต่ วั น นี้ - 31 ธันวาคม 2559 ที่ศูนย์บริการดีแทคทุก สาขาทั่วประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www. dtac.co.th หรือโทร 1678
หน้า 3
ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559
ปลูกจิตสำ�นึก สร้างวินัยจราจร อุบัติเหตุทางจราจร เป็นเหตุของความสูญ เสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ปรากฏเห็นแทบทุกวัน สาเหตุมาจากการขับรถด้วยความเร็วสูง หรือต้อง มาจบชีวิตเพราะความไม่พอใจของคู่กรณีที่จอดรถ ขวางทางเข้าออก ความสูญเสียที่เกิดขึ้นนี้ เป็นผลจากปัญหา คนไทยขาดวินยั จราจรและมารยาททีจ่ ะใช้ถนนร่วม กัน สาเหตุสว่ นเกิดขึน้ มาจากการขับรถเร็วเกินอัตรา ที่กฎหมาย ขับรถตัดหน้า หรือขับรถตามหลังรถ คันอืน่ ในระยะกระชัน้ ชิด ขับแซงอย่างผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนสัญญาณ /เครือ่ งหมายจราจร และ ขับรถขณะ เมาสุรา ถ้ามองอย่างผิวเผินจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจเห็นเป็นเรื่องความขัดแย้งหรือความไม่พอใจ ส่วนตัวหรือความประมาทในการใช้รถใช้ถนน แต่ ถ้าพิจารณาให้ถี่ถ้วน จะเห็นว่าความอดทนของผู้ ขับขีเ่ ริม่ น้อยลงและเกิดโทสะมากจนเป็นเหตุนำ�ไป สู่การฆ่าและทำ�ร้ายกัน อะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริง และยิ่งต้องตั้ง คำ�ถามให้มาก เพราะไทยเป็นประเทศที่ขนานนาม ว่าเป็นเมืองพุทธ คนในประเทศส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาพุทธ เกิดอะไรขึ้นกับสังคมชาวพุทธของเรา การให้อภัยกันยังมีอยู่หรือไม่ การไม่เบียดเบียนกัน และการให้ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันของเราหาย ไปไหน
สาเหตุของอุบัติเหตุ มักมาจากเรื่องของ สภาพร่างกายไม่พร้อม ง่วงนอน ประมาทด้วยฤทธิ์ จากการดื่มสุรา หรือสารเสพติดต่างๆ นอกจากนี้ ความบกพร่องของจิตใจและอารมณ์ กลุ้มใจ วิตก กังวล หงุดหงิด ฉุนเฉียว รวมถึงการขาดความรู้ ความชำ�นาญ ในเรื่องของรถที่ใช้ขับ ไม่รู้กฎจราจร และไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือข้อบังคับ จากสาเหตุของสภาพผิวจราจรเป็นหลุม เป็นบ่อ มีเครื่องกีดขวางมากๆ หรือถนนที่แคบ ถนนที่ลื่น มีส่วนทำ�ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ สภาพ แสงสว่างบนถนนหรือไม่มไี ฟส่องสัญญาณทางแยก ถนนมืดไม่มีไฟฟ้าทำ�ให้มองไม่เห็นทาง สาเหตุจากการบังคับใช้กฎหมาย ขาดการ ประชาสัมพันธ์ให้ทกุ คนทราบกฎระเบียบข้อบังคับ และบทลงโทษ หรือค่าปรับน้อยไปยังไม่เหมาะสม ทำ�ให้มีการฝ่าฝืนกฎจราจรอยู่เสมอ ใบอนุญาตขับขี่ยานยนต์ มิได้กำ�หนดอายุ สู ง สุ ด ของผู้ ขั บ ขี่ รวมทั้ ง การศึ ก ษาขั้ น ตํ่ า ของผู้ ขับขี่ ก็อาจทำ�ให้เกิดการผิดกฎจราจรและทำ�ให้เกิด อุบัติเหตุได้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จราจรก็ยังจับกุมไม่ จริงจัง ไม่เข้มงวดในการดำ�เนินคดี หรือจับกุมผู้ กระทำ�ผิด อะลุ่มอล่วยมากเกินไปไหม เป็นสาเหตุ ให้ผู้ขับรถ หรือใช้รถใช้ถนนอย่างเสรี ตามอำ�เภอ ใจซึ่งมักทำ�ให้เกิดอุบัติเหตุ
การเงินยุคใหม่...คนไทยยุคดิจิตอล ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดตัว บริการรับโอนเงินแบบใหม่ในชื่อ “พร้อมเพย์ หรือ PromptPay”เป็นบริการทีจ่ ะช่วยให้ประชาชน และ ภาคธุรกิจ สามารถโอนเงินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ลดค่าธรรมเนียมส่วนต่าง โดยใช้หมายเลขโทรศัพท์ และ/หรือ เลขที่บัตรประจำ�ตัวประชาชน แทน การระบุเลขที่บัญชีเงินฝากของผู้รับเงิน เพิ่มความ สะดวกสบาย พร้อมเปิดให้บริการไตรมาสแรกของ ปี 2560 เมือ่ วันที่ 14 ธันวาคม 2559 ทีห่ อ้ งฉัททันต์ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น ธนาคารแห่ ง ประเทศไทย และสมาคมธนาคาร ไทย ร่วมกันชี้แจงเกี่ยวกับบริการพร้อมเพย์แก่
ก อ ง ทุ น ห ลั ก ป ร ะ กั น สุ ข ภ า พ ; นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พันธุ์ นายกเทศมนตรี น ค ร ข อ น แ ก่ น น.ส.ศิ ริ กั ล ยา โพธิ์ จั น ทร์ ผอ.สำ � นั ก การ สาธารณสุ ข และสิ่ ง แวดล้ อ ม และนายสุ เวทย์ จิตภักดีบดินทร์ ทันตแพทย์ ชำ�นาญการพิเศษ ร่วมเสวนา “บทบาทกองทุนหลักประกันสุขภาพ ระดับท้องถิ่น หรือ พื้นที่กับการพัฒนาสุขภาพของประชาชน” ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชาออคิด จ.ขอนแก่น พ ลั ง ค ว า ม ดี ; นายพงษ์ ศั ก ดิ์ ปรี ช า วิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานเปิ ด โครงการ “เปลี่ ย นความโทมนั ส ให้ เ ป็ น พลั ง ความดี ” ถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระ ปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ล อดุ ล ยเดช โดยหน่ ว ย งานด้านการแพทย์จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดกิจกรรมเพื่อสืบสานปณิธาน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ณ วัดหัวนาคำ� ต.หัวนาคำ� อ.กระนวน จ.ขอนแก่น เ มื อ ง ป ล อ ด ภั ย ; น า ย ม น ต รี สิ ง ห ปุ ณ ณ ภั ท ร ร อ ง นายกเทศมนตรี น คร ขอนแก่น ,ร.ต.ท.อรชุน โพธิ์เหลือง รอง สวป. สภ.เมืองขอนแก่น และ นายสุวิทย์ สืบสารคาม รองประธานหอการค้า จังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะ ลงพื้นที่มอบเงินสนับสนุนให้กับห้างร้านที่เข้าร่วมโครงการติดตั้งกล้อง วงจรปิด (CCTV) 1,000 จุด ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น
สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น โดยมีวิทยากรได้แก่ นายบัญชา มนูญกุลชัย ผู้อำ�นวยการอาวุโส ฝ่าย เทคโนโลยีทางการเงิน ธปท. ,นายณพงศ์ธวัช โพธิ กิจ ผู้อำ�นวยการ ฝ่ายนโยบายระบบการชำ�ระเงิน ธปท. ,นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหาร จัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย นาย สีหนาท ลํ่าซำ� ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทย พาณิชย์ และ นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผูอ้ �ำ นวยการ ตอนหนึ่งในการสัมมนา วิทยากรได้กล่าว อาวุโส สำ�นักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ธปท. เป็นผู้ดำ�เนินรายการ มีสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ว่า บริการ “พร้อมเพย์” จะช่วยลดการใช้เงินสด เพิ่ม ความรวดเร็ว และตรวจสอบการทำ�ธุรกรรมทางการ และผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังประมาณ 80 คน เงินย้อนหลังได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านช่องทางหลาก
หลายของธนาคาร ซึ่งหัวใจสำ�คัญของ บริการพร้อม เพย์ จะเป็นเรือ่ งง่ายทีจ่ ะมีการโอนเงินเข้ามาให้เราโดย ไม่จ�ำ เป็นต้องจำ�เลขทีบ่ ญั ชีเงินฝาก หรือ ธนาคารไหน บริการพร้อมเพย์จะช่วยเพิม่ ความสะดวกด้วยการจัด ให้มรี ะบบกลาง ทีเ่ ชือ่ มบัญชีเงินฝากของทุกธนาคาร เข้ากับหมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือ หมายเลขบัตร ประจำ�ตัวประชาชน ต่อไป หากจะโอนเงินให้ใครก็ สามารถใช้ 2 หมายเลขนี้ในการอ้างอิงได้ ในระยะ แรกจะเป็นบริการโอนเงินระหว่างบุคคลทั่วไปก่อน สำ�หรับนิติบุคคลจะเปิดให้บริการในช่วงต่อไป พร้อมเพย์ ใช้สำ�หรับการโอนเงิน ซึ่งผู้ที่จะใช้บริการ
ป รั บ ป รุ ง ภู มิ ทั ศ น์ บึ ง แ ก่ น น ค ร ; นายธวัชชัย รืน่ รมย์สริ ิ รองนายกเทศมนตรี นครขอนแก่น พร้อม ค ณ ะ ผู้ บ ริ ห า ร เ ท ศ บาลนครฯ คณะเจ้ า หน้าที่เทศบาลฯ และ ชาวชุ ม ชน ร่ ว มพิ ธี บวงสรวงศาลเจ้ า แม่ สองนาง บึงแก่นนคร เพือ่ ดำ�เนินโครงการก่อสร้างปรับปรุงตลิง่ ทางเดิน ทางวิง่ และปรับปรุงภูมทิ ศั น์ ภายในสวนสาธารณะบึงแก่นนคร มอบเครือ่ งเล่นกลางแจ้ง ; น า ย สิ ท ธิ กุ ล ภู คำ � วงศ์ รอง นายก อบจ. ขอนแก่น มอบเครือ่ งเล่น กลางแจ้งให้ศูนย์พัฒนา เด็กเล็กบ้านโนนเหลื่อม โดยมี นายไพฑูรย์ ผิวผาง นายกเทศมนตรี ตำ � บล เปือยน้อย พร้อมคณะฯผู้ ปกครองและเด็กนักเรียน ร่วมให้การต้อนรับ ณ บริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านโนนเหลื่อม ต.เปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ ส ร้ า ง ทำ � อารยสถาปั ต ย์ ; คุณกอบกาญจน์ วัฒน วรางกูร รมว.ท่องเที่ยว และกีฬา มอบประกาศ เ กี ย ร ติ คุ ณ ย ก ย่ อ ง “ศูนย์บริการคนพิการ จังหวัดขอนแก่น” เป็น สถานที่อารยสถาปัตย์ แห่งปี 2559 ประเภท “ตึกอาคาร Friendly Design” โดยมี นายจุลนพ ทองโสภิต รองนายกเทศมนตรีนคร ขอนแก่น เป็นตัวแทนรับประกาศ ในงาน “มหกรรมอารยสถาปัตย์ 2016” ณ ฮอลล์ 6 อิมแพ็ค เมืองทอง ธานี กรุงเทพมหานคร ต้องลงทะเบียน เพื่อผูกบัญชีเงินฝากธนาคารกับ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ และ หมายเลขบัตรประจำ� ตัวประชาชนก่อน โดยเลือกบัญชีเงินฝากธนาคาร ที่ท่านชอบ และต้องการจะใช้เป็นบัญชีหลักในการ รับเงิน โดยเตรียม สมุดบัญชีหรือเลขที่บัญชีเงินฝาก ธนาคาร บัตรประจำ�ตัวประชาชน และโทรศัพท์มือ ถือ ที่ต้องการลงทะเบียน และ แจ้งลงทะเบียนกับ ธนาคาร โดยสามารถใช้ช่องทาง อาทิเช่น ATM, Internet Banking หรือ Mobile Banking หรือ ไป ที่ทำ�การธนาคารที่เปิดบัญชี ซึ่งต่อไป ในส่วนของ ภาครัฐจะสามารถรับเงินคืนภาษี หรือสวัสดิการ
ต่างๆ ผ่านช่องทาง พร้อมเพย์ ที่ใช้หมายเลขบัตร ประจำ�ตัวประชาชน เท่านั้น สำ�หรับค่าธรรมเนียมการโอนเงินด้วย พร้อมเพย์ มี อัตราให้บริการดังนี้ การโอนเงินไม่เกิน 5,000 บาท จะไม่เสียค่าธรรมเนียม ส่วนวงเงิน 5,000 – 30,000 บาท/รายการ คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 2 บาทต่อ รายการ วงเงิน 30,000 – 100,000 บาท/รายการ คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 5 บาทต่อรายการ โอนเงิน 100,000 บาท ขึ้นไป คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 10 บาทต่อรายการ ทุกรายการสามารถโอนได้ไม่จำ�กัด จำ�นวนครั้ง
หน้า 4
ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559
ด้วยสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ ; นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณหา ที่สุดมิได้ ผลงานภาพวาด โดยพระอาจารย์ธีรพันธ์ ลอไพบูลย์นิทรรศการ เปิดให้ชมทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ล็อบบี้โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น
สุดยอดนักเทศน์วเิ ศษนักพูด ; พระเทพกิตติรงั ษี ทีป่ รึกษาเจ้าคณะจังหวัด ขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการอบรมสุดยอดนักเทศน์วิเศษนักพูด จังหวัดขอนแก่น ประจำ�ปีงบประมาณ 2560 โดยมี นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมจัด โครงการ ณ ห้องประชุมอาคารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) วัดธาตุ พระอารามหลวง เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2559
ต้อนรับ เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ; คุณชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธาน กรรมการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหาร โรงแรมโฆษะ ให้การต้อนรับ นา ยอะฮ์มัด รุซดี เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำ�ประเทศไทย ในโอกาส เข้าพักที่โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น
ปัน่ ไปกราบพ่อ ; นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น พร้อมคณะ ร่วม ให้การต้อนรับคณะนักปั่นจักรยาน จากหนองบัวลำ�ภู ที่ทำ�กิจกรรม “ปั่น จักรยานส่งใจ อาลัยพ่อหลวง” โดยปั่นจักรยานเพื่อไปกราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ห้างดูโฮม สาขา ขอนแก่น
สนับสนุนแข่งกอล์ฟสมาคมสื่อมวลชนขอนแก่น ; คุณชาติชาย โฆษะ วิ สุ ท ธิ์ ประธานกรรมการบริ ห าร โรงแรมโฆษะ มอบบั ต รห้ อ งพั ก Statesman suite และ Executive suite สนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟสมาค มสือ่ มวลชนจังหวัดขอนแก่น โดยมี พ.ท.พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมฯ เป็นผู้รับมอบ ณ โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น
ต้อนรับ รมต.สำ�นักนายกรัฐมนตรี ; คุณภูวศิษฐ์ วีระปัญญาวัฒน์ ประธาน เจ้าหน้าทีฝ่ า่ ยปฏิบตั กิ าร พร้อมด้วยผูบ้ ริหารโรงแรมโฆษะ ขอนแก่น ให้การ ต้อนรับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำ�สำ�นักนายกรัฐมนตรี ในโอกาส มาบรรยายพิเศษในโครงการฝึกอบรมวิทยากรแกนนำ�ระดับอำ�เภอฯ โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ
บำ�บัดทุกข์ บำ�รุงสุข สร้างรอยยิม้ ; นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธาน เปิดโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ “หน่วยบำ�บัดทุกข์ บำ�รุงสุข สร้างรอยยิม้ ” และเยีย่ มให้ก�ำ ลังใจหน่วยแพทย์เคลือ่ นที่ พอ.สว. ณ โรงเรียน บ้านหนองบัวทวิคามบำ�รุง ต.โสกนกเต็น อ.พล จ.ขอนแก่น
แลกเปลีย่ นข้อคิดเห็น ; นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน ร่วมให้การต้อนรับ นายปีเตอร์ เฮย์ มอยด์ อัครราชทูตที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำ� ประเทศไทย ในโอกาสเข้าแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น การเป็นเมืองศูนย์กลาง อินโดจีน ณ ห้องแก่นขวัญ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น
กว๋องสิวสัมพันธ์ ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธาน กล่ า วต้ อ นรั บ นายศั ก ดิ์ ด า หอรุ่ ง เรื อ ง นายกสมาคมกว่ า งสิ ว แห่ ง ประเทศไทย กลุ่มชมรมกว๋องสิว และชาวกว่างสิวจากทั่วประเทศ ในงาน เลี้ยงต้อนรับ “กว๋องสิวสัมพันธ์ ครั้งที่ 16” โดยมี นายหลี่ หมิง กัง กงสุล ใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำ�จังหวัดขอนแก่น และกลุ่มผู้นำ� 24 องค์กรจีนจังหวัดขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องศรีจันทร์บอลรูม โรงแรมเจริญธานี จ.ขอนแก่น
ต้อนรับ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำ�ประเทศไทย ; มร.แสตนลี่ย์ ชาน ผู้ จัดการใหญ่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด และคณะผู้บริหาร โรงแรม ร่วมต้อนรับ ฯพณฯ นายชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำ�ประเทศไทย พร้อมคณะ ในโอกาสเดินทางมาปฏิบัติภารกิจใน จังหวัดขอนแก่น และมหาสารคาม โดยได้เข้าพำ�นัก และร่วมงานเลี้ยงมื้อ คํ่า ณ โรงแรม พูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เมื่อเร็วๆนี้
มอบทุนมูลนิธิคุวานันท์ ครั้งที่ 39
นายปิยนิ ตลับนาค ปลัดจังหวัดขอนแก่น และนายจิรวุฒิ คุวานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บ.โค้วยูฮ่ ะมอเตอร์ จำ�กัด ในฐานะ ประธาน มูลนิธิคุวานันท์ เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษามูลนิธิคุวานันท์ ครั้งที่ 39 ประจำ�ปี 2559 โดยมี นายประยูร อังสนันท์ รองประธานกรรมกา รบริหารฯ นายสุวิทย์ คุวานันท์ กรรมการบริหารฯและแขกผู้มีเกียรติ ร่วมมอบทุนจำ�นวนทั้งสิ้น 301 ทุน ให้แก่พระภิกษุ สามเณร เยาวชนและ เด็กพิการ ผู้ที่เรียนดี มีความประพฤติดี แต่ขาดทุนทรัพย์ พร้อมกันนี้ ยังมอบรถยนต์เพือ่ ใช้ในสาธารณะประโยชน์ให้กบั โรงพยาบาลขอนแก่น ,วัดป่าภูตขาม หรือวัดดงเค็ง และ มูลนิธพิ ระบรม ธาตุ ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ณ โชว์รมู บริษทั โค้วยูฮ่ ะมอเตอร์ จำ�กัด สำ�นักงานใหญ่ ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมือ่ วันที่ 15 ธันวาคม 2559
รำ�ลึกถึง จอมพลสฤษดิ์ ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อม ด้วยข้าราชการทหาร ตำ�รวจ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในจังหวัดขอนแก่น ร่วมพิธวี างพวงมาลารำ�ลึกถึง จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี ทีส่ ร้างคุณงามความดีให้กบั ประเทศและชาวอีสาน ณ อนุสาวรีย์ ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ สวนรัชดานุสรณ์ จ.ขอนแก่น
อุทิศส่วนกุศลแด่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ; นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ. ขอนแก่น รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิรยิ ะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. ร่วมทำ�บุญอุทิศส่วนกุศลแด่ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ณ ห้องเก็บสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 7 อาคารเรียนรวมคณะ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สนับสนุนการจัดแข่งกอล์ฟ ; นายบุญส่ง จีราระรื่นศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำ�นวย การฝ่ายปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-บริหาร พร้อมผู้แทน โรงไฟ ฟ้าพลังนํํ้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และโรงไฟฟ้านํํ้าพอง ในนาม กฟผ. มอบเงินสนับสนุนการจัดการแข่งกอล์ฟการกุศล สมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น ประจำ�ปี 2559 โดยมี พ.ท.พิสษิ ฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคม สื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น เป็นผู้แทนรับมอบ ณ สมาคมสื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น อาคารหอการค้าจังหวัดขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น
อิ่มท้อง อิ่มใจ ข้าวไทขอนแก่น ; นายพงษ์ศักดิ์ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน “อิ่มท้อง อิ่มใจ ข้าวไทขอนแก่น” โดยความร่วมมือ ระหว่างจังหวัดขอนแก่น และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่าขอนแก่น เพื่อ เปิดพื้นที่ให้เกษตรกร นำ�ข้าวสารมาจำ�หน่ายแก่ผู้บริโภคได้โดยตรง ณ ชั้น 5 บริเวณหน้าขอนแก่นฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น
คณะ วปอ รุน่ 59 เยือนขอนแก่น ; มร.แสตนลีย่ ์ ชาน ผูจ้ ดั การใหญ่ โรงแรม พูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด และคณะผู้บริหารโรงแรม ร่วมให้การ ต้อนรับ พลโท ไชยอนันต์ จันทคณานุรักษ์ ผู้อำ�นวยการวิทยาลัยป้องกัน ราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ คณะอาจารย์และนักศึกษา หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ) รุน่ ที่ 59 ซึง่ เดินทางดูกจิ การและ ศึกษาภูมิประเทศในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเข้าพำ�นักและจัด ประชุมที่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เมื่อเร็วๆ นี้
ตามรอยพระบาท พ่อแห่งแผ่นดิน ; นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน “นิทรรศการ ตามรอยพระบาท พ่อแห่งแผ่นดิน” เพือ่ น้อมรำ�ลึกถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ อันล้นพ้นทีพ่ ระบาทสมเด็จพระปรมินท รมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มีตอ่ ปวงชนชาวไทยทุกหมูเ่ หล่า ณ บริเวณลานโปร โมชั่นชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น
หน้า 5
ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559
รากฟันผุ
สวั ส ดี ค รั บ พบกั น อี ก ครั้ ง กั บ คอลั ม น์ ก้าวทันโลก กับโรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันต แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วันนี้เรามา รู้จักกับ “รากฟันผุ” กันนะครับ รากฟัน เป็นส่วนประกอบหนึ่งของฟันที่ สามารถผุได้ โดยปกติรากฟันจะเป็นส่วนที่ยึดฟัน ให้ตดิ กับกระดูกขากรรไกร แต่จะผุได้ในบางท่านที่ มีเหงือกร่นจากโรคเหงือกหรือโรคปริทันต์ ที่เรียก ว่าโรครำ�มะนาด พอมีเหงือกร่น รากฟันจะมีส่วน เว้า/โค้งทำ�ให้ทำ�ความสะอาดยากและเกิดฟันผุได้ โดยลักษณะการผุจะเกิดขึ้นเหมือนกับบริเวณตัว ฟัน แต่เนื่องจากรากฟันไม่มีเคลือบฟันหุ้มเหมือน ตัวฟัน ทำ�ให้เกิดการผุกร่อนได้ง่ายกว่าส่วนตัวฟัน
สำ�หรับการรักษานั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของ โรคนั้น คือถ้ารอยผุยังไม่ทะลุประสาทฟันก็รักษา ด้วยการอุดฟัน หรือถ้าผุจนทะลุโพรงประสาทฟัน ก็ต้องทำ�การรักษารากฟัน โดยวัสดุอุดฟันที่ใช้อุด รากฟั น จะคล้ า ยกั บ วั ส ดุ อุ ด ฟั น ที่ มี สี เ หมื อ นฟั น แต่เป็นชนิดที่ปลดปล่อยฟลูออไรด์ได้ เพื่อหวังผล ป้องกันฟันผุซาํํ้ หลังจากนัน้ ให้ท�ำ ความสะอาดโดย การแปรงซอกฟันให้สะอาดและใช้นํํ้ายาบ้วนปาก ตามอย่างสมํ่าเสมอ “รากฟั น ผุ ต้ อ งเร่ ง แก้ ไ ข” สอบถามราย ละเอียดได้ที่ โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันต แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โทร.0-43202405 ต่อ 45198 ในวันและเวลาราชการ
ช่วยเธอ ช่วยฉัน ปันความปลอดภัย
มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น จัดกิจกรรม Safety on campus:“Safe me ( SYSM) Road Safety Club” “ช่ ว ยเธอ ช่ ว ยฉั น ปั น ความปลอดภัย” เพื่อเปลี่ยนแปลง พฤติ ก รรมการใช้ ร ถใช้ ถ นน อย่ า งถู ก ต้ อ งและปลอดภั ย โดย มี นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่า ราชการจั ง หวั ด ขอนแก่ น กล่ า ว ปาฐกถาพิ เ ศษ เรื่ อ ง “ วิ นั ย กั บ ความปลอดภัยจราจร” ณ ลานกิจกรรมวิทยาลัยการ ปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝา่ ยพัฒนา นักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่ า วในโอกาสเป็ น ประธานเปิ ด งาน Safety on campus:- “Safe me ( SYSM) Road Safety Club” “ช่วยเธอ ช่วยฉัน ปันความปลอดภัย” ว่า ปัจจุบัน การเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน มีอัตรา สูง ขึ้น และทำ�ให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน เป็นจำ�นวนมาก ส่งผลเสียต่อทรัพยากรที่สำ�คัญของ ประเทศ คือ ทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะหากเกิดขึ้น กับนักศึกษา ซึ่งจะเป็นกำ�ลังที่สำ�คัญในการพัฒนา
ประเทศชาติต่อไปในอนาคต “ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เล็งเห็นถึง ความสำ�คัญ และผลักดันการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้วางมาตรการที่เหมาะสม เพื่อผลักดันให้เกิด เป็นรูปธรรมในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ อีก ทั้ง เป็นการสร้างวินัยจราจร และความมีนํํ้าใจ มี มารยาทในการขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เพื่อให้ นักศึกษา และบุคลากร ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกิจกรรมและรณรงค์ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ สร้างจิตสำ�นึกในเรื่องวินัยจราจร พร้อมทั้งดำ�เนิน การกวดขันวินัยจราจรอย่างต่อเนื่องและจริงจัง” รศ.เพียรศักดิ์ กล่าว
สือ่ เป็นโรงเรียนของสังคม ; รศ.จุมพล รอดคำ�ดี ประธานคณะกรรมการนโยบาย องค์การกระจายเสียง และแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เป็นประธานประชุมแผนการดำ�เนินงานระยะที่ 2 โครงการ สื่อเป็นโรงเรียนของสังคม เพื่อกำ�หนดทิศทางการทำ�งานและเชื่อมต่อเพื่อขับเคลื่อนการทำ�งาน ใน การสร้างพื้นที่ต้นแบบ การจัดเวทีเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย Train The Trainers อย่าง ต่อเนื่อง น้ อ งอิ่ ม ท้ อ งแฟรี่ อิ่ ม ใจครั้ ง ที่ 47 ; โอกาสครบรอบ 50 ปี ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า ขอนแก่ น จั ด กิ จ กรรมดี ๆ เพื่อสังคม “น้องอิ่มท้องแฟ รี่อิ่มใจ ครั้งที่ 47”นำ�น้องๆ ผู้ ด้ อ ยโอกาสจากโรงเรี ย น ศึ ก ษาคนตาบอด จั ง หวั ด ขอนแก่ น มารั บ ประทาน อาหารที่ร้านเชสเตอร์กริล พร้อมทั้งมอบทุนการศึกษามูลค่า 5,000 บาท เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา
มข.คิ ด ค้ น นวั ต กรรม ปลาดิ บ ปลอดภั ย หวังลดป่วย-ตายจากโรคมะเร็งท่อนํํ้าดี เป็นที่ทราบกันดีว่าพยาธิใบไม้ตับเป็น ปัจจัยเสี่ยงที่สำ�คัญของโรคมะเร็งท่อนํํ้าดี การ ติ ด เชื้ อ พยาธิ ใ บไม้ ตั บ มาจากการบริ โ ภคปลา วงศ์ตะเพียน ที่ปรุงไม่สุก โดยอาหารที่ทำ�ให้มี ความเสี่ยงมากที่สุด คือ ก้อยปลา ปลาส้ม และ ปลาร้า ซึ่งเมื่อวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2559 มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้จัดการประชุมวิชาการ ประจำ�ปี 2559 โครงการแก้ไขปัญหาโรคพยาธิ ใบไม้ตบั และมะเร็งท่อนํํา้ ดีในภาคตะวันออกเฉียง เหนือ(CASCAP) และมหกรรม สร้างสุ(ก)ใน สังคม : คนและปลาปลอดพยาธิ อาหารปลอดภัย ณ ห้องประชุมมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ จังหวัด ขอนแก่น รศ.ดร.สพ.ญ.ธิดารัตน์ บุญมาศ อาจารย์ ประจำ�ภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นทีมวิจัยโครงการ แก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํํ้ าดี (Cholangiocarcinoma Screening and Care Program :CASCAP ) ได้แถลงผลการวิจัยใน เรื่องของปลาปลอดพยาธิ อาหารปลอดภัย โดย กล่าวว่า การแพร่ระบาดของพยาธิใบไม้ตบั ส่งผล ต่อการเกิดโรคมะเร็งท่อนํํ้าดี การตัดวงจรพยาธิ ใบไม้ตับ ถือว่าไม่ใช่เรื่องยากเกินไป หากทุกคน ร่วมมือกัน โดยเริ่มจาก แหล่งปลา ซึ่งมีที่มาจาก 2 แหล่ง คือ ปลาที่มาจากแหล่งนํํ้าธรรมชาติ จะ มีความยากเกินไปทีจ่ ะควบคุม เพราะปลาจากแห ล่งนํํ้าธรรมชาติ มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนกับ อุจจาระที่อาจมีการลักลอบปล่อย หรือ เทลงใน แหล่งนํํ้า ซึ่งเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการมีตัวอ่อนพยาธิ ส่วนปลาที่มาจากบ่อเลี้ยง จากการศึกษา วิจัยของทีมพบว่า ปลาในบ่อเลี้ยงมีการติดเชื้อ พยาธิ เกิดจากการสูบนํํ้าจากแหล่งนํํ้าธรรมชาติ และอีกลักษณะคือการเลี้ยงปลาใต้ฐานของโรง เลี้ยงไก่ หรือ สุกร เพื่อให้ปลากินเศษมูลสัตว์ วิธี การแก้ไขในส่วนนี้ไม่ได้มีความยุ่งยากซับซ้อน แต่อย่างใด ทางทีมวิจัยพบว่าการตัดวงจรของ ตัวอ่อนพยาธิ สามารถทำ�ได้ด้วยการพักนํํ้าก่อน เข้าสูบ่ อ่ เลีย้ งปลา เป็นเวลา 48 ชัว่ โมงหรือมากว่า จะส่งผลดีและสามารถตัดวงจรตัวอ่อนพยาธิได้ จากนัน้ เมือ่ ปลาไปสูล่ �ำ ดับขัน้ ตอนในการแปรรูป เป็นอาหาร โดยเฉพาะในปลาส้ม หากมีกรรมวิธี ในการแปรรูปไม่เหมาะสม จะมีความเสี่ยงต่อ การติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งอดีตที่ผ่านมาพบ ความเข้าใจที่ผิด ๆของชาวบ้าน เช่นการบีบพริก มะนาว เพือ่ ฆ่าเชือ้ พยาธิ หรือแม้กระทัง่ การทาน เหล้าขาวเพือ่ ฆ่าตัวอ่อนของพยาธินนั้ ทางทีมวิจยั พบว่าไม่เป็นความจริง แต่กลับส่งผลให้ตวั อ่อนข องพยาธิมีการเจริญแตกตัวได้ดี เมื่อกินปลาดิบที่ มีเชื้อพยาธิร่วมกับเหล้าขาวมีตัวอ่อนของพยาธิ ใบไม้ตับ นั้นยังมีความสามารถในการติดเชื้อได้ รศ.ดร.สพ.ญ. ธิดารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีการหมักปลาส้ม ให้มีระยะปลอดภัยต้องใช้ เวลาการหมักมากกว่า 3 วัน แม้จะมีพยาธิที่ยังมี ชีวิตอยู่ แต่จะหมดความสามารถในการติดเชื้อ สู่คน แต่ระยะเวลาการหมักจะขึ้นอยู่กับขนาด ของปลาด้วย ส่วนปลาร้าที่หมัก ควรจะมีระยะ
เวลามากกว่า 1 สัปดาห์ขนึ้ ไป ในช่วงฤดูรอ้ น หาก หมักปลาร้าในฤดูหนาว ต้องใช้เวลาหมักมากกว่า 1 เดือน จึงจะทำ�ให้ตัวอ่อนของพยาธิใบไม้ตับไม่มี ความสามารถในการติดเชื้อ ผู้บริโภคที่ซื้อปลาส้ม หรือปลาร้าจากตลาดมารับประทาน แนะนำ�ว่า ให้นำ�มาปรุงสุก ไม่ควรรับประทานแบบดิบ ๆ เนื่องจากเราไม่ทราบกรรมวิธีการหมักว่าถูกวิธี และปลอดภัยจากพยาธิใบไม้ตับหรือไม่ จากผลการศึ ก ษาของที ม วิ จั ย ที่ ผ่ า นมา ทำ�ให้ทราบว่าขนาดปลาทีแ่ ตกต่างกัน ต้องใช้เวลา ในการหมักที่ต่างกัน อีกทั้งการทำ�ให้สุกโดยการ ต้ม การทำ�ให้สกุ โดยการใช้ไมโครเวฟการทำ�อาหาร ให้ปลอดจากพยาธิใบไม้ตบั นัน้ ทางทีด่ ที สี่ ดุ คือการ ปรุงสุก เพราะเมื่อผ่านกระบวนการปรุงสุกแล้ว พยาธิจะถูกกำ�จัดและตายลงในที่สุด ซึ่งการปรุง สุกนั้นทำ�ได้หลายวิธี ตั้งแต่การอบด้วยไมโครเวฟ ระดับความร้อน 800-850 องศาเซลเซียส หรือหาก ต้มก็ให้ต้มในนํํ้าเดือด ใช้เวลา 5 นาที และการแช่ แข็งปลาในอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์การศึกษา พยาธิใบไม้ตับในปลามามากกว่า 10 ปี ของทีม วิจัยยังพบว่าการขนส่งปลาจากจังหวัดต่าง ๆทั่ว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว และกัมพูชา ทำ�ให้มีการเก็บปลาแบบแช่แข็ง เพื่อไม่ให้ปลาเน่าระหว่างขนส่ง ทำ�ให้พบว่าตัว อ่อนของพยาธิใบไม้ตับไม่มีความสามารถในการ ติดเชือ้ ได้ ซึง่ เป็นทีม่ าของการนำ�ปลาวงศ์ตะเพียน มาทดสอบอย่างจริงจัง และนำ�มาประยุกต์ใช้ใน ปลาส้ม เพื่อให้เกิดการนำ�ไปใช้ได้อย่างจริงจัง หลักสำ�คัญในการลดปริมาณการติดเชื้อ พยาธินั้น คือ การตัดวงจรจาก 3 ระบบ คือ จาก แหล่งผลิต ที่ต้องช่วยกันพักนํํ้าก่อนเข้าสู่บ่อเลี้ยง ไม่เลีย้ งปลาใต้โรงเลีย้ งไก่ หรือโรงเลีย้ งสุกร เพือ่ ลด ความเสีย่ ง ในส่วนของการแปรรูปหากจำ�เป็นต้อง ใช้ปลาสด ก็ควรผ่านกระบวนการแช่ดว้ ยความเย็น เพือ่ ลดความเสีย่ งของพยาธิ และส่วนสุดท้ายคือ ผู้ บริโภคเอง ควรสังเกตปลาก่อนการเลือกซื้อ และ เมื่อจะรับประทานก็ควรปรุงให้สุกเสียก่อน เพียง เท่านี้ก็สามารถที่จะป้องกันและลดความเสี่ยงโรค พยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํํ้าดี ด้วยการ สร้าง สุ(ก)ในสังคม กับนวัตกรรมคน ปลาปลอดพยาธิ อาหารปลอดภัย รศ.ดร.สพ.ญ. ธิดารัตน์ บุญมาศ กล่าวทิ้งท้าย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญ รองปลัด กระทรวงสาธารณสุข แถลงนโยบายและแผนการ ดำ � เนิ น งานโครงการรณรงค์ กำ � จั ด ปั ญ หาโรค พยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํํ้าดีถวายเป็นพระ ราชกุศลฯ ประจำ�ปี 2560 โดยกล่าวว่า ปัญหา โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํํ้าดี ที่เกิดขึ้น ทำ�ให้กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับเครือข่ายที่ เกีย่ วข้อง กำ�หนดนโยบายโครงการแก้ไขปัญหาดัง กล่าว และคณะรัฐมนตรีได้มีความเห็นชอบแผน ยุทธศาสตร์ทศวรรษการแก้ไขปัญหาพยาธิใบไม้ ตับและมะเร็งท่อนํํ้าดี ซึ่งเริ่มตั้งแต่ ปี 2559 ต่อไป อีก 10 ปีข้างหน้า ให้เป็น ทศวรรษในการกำ�จัด โรคพยาธิใบไม้ตบั และมะเร็งท่อนํํา้ ดี โดยให้สภาพ
ม อ บ สื่ อ ก า ร ส อ น ; นายหลี่ หมิง กัง กงสุล ใ ห ญ่ ส า ธ า ร ณ รั ฐ ประชาชนจี น ประจำ � ประเทศไทย ณ จังหวัด ข อ น แ ก่ น เ ยี่ ย ม ช ม การจั ด การสอนภาษา จี น กลางและมอบสื่ อ สนับสนุนทางการสอน ให้กับ คุณอรทัย สันติ เมทนีดล ผอ.โรงเรียนเมทนีดล สอนการเรียนสามภาษา มีคณะครู-นักเรียนไทยและต่างชาติร่วม ให้การต้อนรับ
ของปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ทาง กระทรวงสาธารณสุขจึงได้กำ�หนดยุทธศาสตร์ ไว้ 5 ด้าน คือ 1.ยุทธศาสตร์ทางด้านนโยบาย ต้องเข้ม แข็งและเข้มข้น ในการควบคุมกำ�กับโรคพยาธิ ใบไม้ตบั และมะเร็งท่อนํํา้ ดี ในการกำ�จัดโรค ภายใน 10 ปี 2.ยุทธศาสตร์ทางด้านมาตรการเชิงป้อง กัน โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํํ้าดี ในพื้นที่ ที่มีอัตราการเสี่ยงต่อโรคสูง 3.ยุทธศาสตร์ทางด้านการวินิจฉัย การ ดูแลรักษา การส่งต่อ ผูป้ ว่ ยให้มปี ระสิทธิภาพ และ คุณภาพ 4.ยุทธศาสตร์ทางด้านสภาพแวดล้อมทีก่ อ่ ให้เกิดโรค โดยปลาต้องติดเชื้อน้อยลง ปลาปลอด พยาธิ สภาพแวดล้อมต่าง ๆที่ก่อให้เกิดโรคดีขึ้น 5.ยุทธศาสตร์ทางด้านงานวิจัย ที่จะต้อง นำ�ความรู้ต่าง ๆที่เกิดจากงานวิจัย มาพัฒนา ใน เชิงนวัตกรรม ก่อให้เกิดผลต่อดีตอ่ ผูป้ ว่ ย โรคพยาธิ ใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํํ้าดี จากยุทธศาสตร์ที่กระทรวงสาธารณสุข ได้วางแนวทางแล้วสามารถที่จะแปรออกมาเป็น มาตรการที่เป็นรูปธรรมในการจัดการโรคพยาธิ ใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํํ้าดี ได้แก่ มาตรการที่ 1 ปลาต้องปลอดพยาธิใบไม้ ตับ โดยให้ทางกรมอนามัยเข้ามาจัดการเรื่องการ ป้องกันการแพร่กระจายของไข่พยาธิใบไม้ตับจาก อุจจาระของคนและสัตว์รังโรคไม่ให้ไหลลงสู่แห ล่งนํํ้า และต้องจัดการสภาพแวดล้อมรอบๆ แหล่ง นํํ้าให้สะอาดเพื่อเป็นการตัดวงจรของพยาธิใบไม้ ตับทำ�ให้ปลาในแหล่งนํํ้าปลอดพยาธิใบไม้ตับ มาตรการที่ 2 คนต้องปลอดพยาธิใบไม้ตบั โดยกรมควบคุมโรคเข้ามาจัดการโดยการรณรงค์ ให้ความรู้เพื่อให้ประชาชนลดละเลิกการบริโภค เนื้อปลาดิบและทำ�การออกตรวจหาพยาธิในพื้นที่ ต่างๆ โดยการตรวจอุจจาระและปัสสาวะเพื่อหาผู้ ที่ติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับและจ่ายยาถ่ายพยาธิใบไม้ ตับ พร้อมทัง้ ให้ค�ำ แนะนำ�เพือ่ ไม่ให้ประชาชนกลับ มาติดโรคพยาธิใบไม้ตับซํํ้าอีก มาตรการที่ 3 ตับต้องปลอดมะเร็งท่อนํํ้าดี โดยกรมการแพทย์สถาบันมะเร็ง โครงการแก้ไข ปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตบั และมะเร็งท่อนํํา้ ดีในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ (CASCAP) และมูลนิธิมะ
เร็งท่อนํํา้ ดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นทำ�การตรวจคัด กรองกลุม่ เสีย่ งโดยใช้เครือ่ งอัลตร้าซาวด์ตรวจหา รอยโรคมะเร็งท่อนํํา้ ดี นอกจากนัน้ ต้องสนับสนุน ให้มีการผลิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษาโรค มะเร็งท่อนํํ้าดีให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับผู้ป่วยที่ ผ่านการตรวจคัดกรองจำ�นวนมากต่อไป มาตรการที่ 4 หากพบผูป้ ว่ ยทีอ่ ยูใ่ นระยะ ลุกลามไม่สามารถรักษาให้หายได้ ศูนย์การุณรักษ์ จะต้องเข้ามาช่วยในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับ ประคอง (Palliative care) เพื่อให้ผู้ป่วยจากไป อย่างสงบไม่เจ็บปวดทรมาน อย่างมีศักดิ์ศรีของ ความเป็นมนุษย์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุ ข กล่ า ว เพิ่มเติมว่า มาตรการต่างๆในการจัดการปัญหา โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํํ้าดี ที่กล่าวมา ข้างต้นจำ�เป็นต้องอาศัยการบูรณาการการทำ�งาน ร่ ว มกั น ระหว่ า งหน่ ว ยงานที่ เ กี่ ย วข้ อ งต่ า ง ๆ หลายหน่วยงาน ซึ่งถือเป็นความท้าทายใหม่ของ กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการผลักดันให้โครงการนี้ประสบความสำ�เร็จ เพื่อให้คนไทยปลอดพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็ง ท่อนํํ้าดีต่อไป สำ�หรับทีม่ าของการจัดทำ�โครงการแก้ไข ปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํํ้าดี เกิด ขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุข ที่มีคนป่วยเป็น มะเร็งท่อนํํ้าดีมากกว่า 14,000 รายต่อปี และมี สาเหตุที่สำ�คัญคือการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับจาก การรับประทานปลาในวงศ์ปลาตะเพียนแบบสุก ๆดิบ ๆ มีประชาชนที่ติดเชื้อพยาธินี้กว่า 6 ล้าน คน และคนเหล่านี้จะป่วยเป็นมะเร็งท่อนํํ้าดี ปี ละ 1-2 หมื่นราย จากนั้นจะเสียชีวิตภายใน 1 ปี ซึง่ ปัญหานีไ้ ด้สร้างความเสียหายให้กบั ชาวอีสาน มากมาย ทั้งในแง่ของสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา และการพัฒนาประเทศ จนนำ�ไปสู่การประกาศ นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ในการจัด โครงการแก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะ เร็งท่อนํํ้าดี เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2559 และต่อ มาเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559 คณะรัฐมนตรีได้ มีความเห็นชอบ แผนยุทธศาสตร์ทศวรรษการ แก้ไขปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํํ้าดีขึ้น ในที่สุด
ตำ�แหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ณ สำ�นักงาน สพม.25 ขอนแก่น
แ ส ด ง ค ว า ม ยิ น ดี ; ด ร . ส า ยั ณ ห์ ผ า น้ อ ย ผ อ . เ ข ต พื้ น ที่ มั ธ ย ม ศึ ก ษ า เ ข ต 2 5 ขอนแก่ น ร่ ว มแสดง ความยิ น ดี ใ นโอกาส ที่ ดร.อาทิตย์ ฉัตรชัย พลรัตน์ คณบดีบัณฑิต วิ ท ย า ลั ย วิ ท ย า ลั ย บั ณ ฑิ ต เอเซี ย ได้ รั บ
หน้า 6
ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559
ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559
หน้า 7
หน้า 8
ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559
สืบสานพระราชปณิธาน 70,000 ฝาย เพือ่ น้อมรำ�ลึกถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย เดช ทีท่ รงพระราชทานแนวพระราชดำ�ริดา้ นการ บริหารจัดการนํํา้ อย่างยัง่ ยืน เพือ่ สืบสานพระราช ปณิธานด้านการบริหารจัดการนํํ้าให้ครบ 70,000 ฝาย รวมทัง้ แสดงเจตนารมณ์มงุ่ สืบทอดแนวพระ ราชดำ�ริด้านการบริหารจัดการนํํ้าอย่างยั่งยืน ให้ ครอบคลุมทัว่ ประเทศ บริษทั ฟินคิ ซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำ�กัด (มหาชน) ในเอสซีจี แพคเกจจิ้ง ได้ รับมอบหมายให้สร้างฝายชะลอนํํ้าจำ�นวน 100 ฝาย ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ภายใต้โครงการ “เอสซีจี รักษ์นํํ้าเพื่ออนาคต” พร้อมขยายผล และ ส่งเสริมให้ชมุ ชนแก้ไขปัญหานํํา้ แล้ง นํํา้ ท่วมด้วย ตนเอง พัฒนาเป็นชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ และร่วมสืบสานพระราชปณิธานเพื่ออนุรักษ์นํํ้า ไว้ใช้อย่างยั่งยืน นายรุ่ ง โรจน์ รั ง สิ โ ยภาส กรรมการผู้ จัดการใหญ่ บริษัท ฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำ�กัด (มหาชน) ในเอสซีจี แพคเกจจิ้ง เปิดเผย ว่า เอสซีจี ได้น้อมนำ�แนวพระราชดำ�ริด้านการ บริหารจัดการนํํ้าอย่างยั่งยืนมาดำ�เนินการ โดยจัด กิจกรรม “สืบสานพระราชปณิธาน 70,000 ฝาย
รวมพลังรักษ์นาํํ้ ทัว่ ไทย” รวมพลังเครือข่ายโครงการ เอสซีจี รักษ์นาํํ้ เพือ่ อนาคตทัว่ ประเทศ ร่วมกันสร้าง ฝายชะลอนํํ้าตามแนวพระราชดำ�ริที่เหมาะสมตาม ภูมิสังคมแต่ละภูมิภาคให้ครบ 70,000 ฝาย พร้อม กันในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี, สระบุรี, ลำ�ปาง, นครศรีธรรมราช, ระยอง และ จังหวัดขอนแก่น โดยประสานระดมพลังจากทุก ภาคส่วนทั่วประเทศ ร่วมสืบสานพระราชปณิธาน การบริหารจัดการนํํ้าเพื่อแก้ปัญหา นํํ้าแล้ง นํํ้าท่วม ในรูปแบบที่เหมาะสม รวมทั้งการต่อยอดไปสู่การ สร้างคุณภาพชีวติ ทีด่ ใี ห้เป็นชุมชนเข้มแข็ง สามารถ พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน สำ�หรับพื้นที่จังหวัดขอนแก่น “เอสซีจี” ได้ รับมอบหมายให้สร้างฝายชะลอนํํ้าจำ�นวน 100 ฝาย เพื่อฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรนํํ้า ช่วยสภาพแวดล้อม ให้กลับคืนสู่ความสมดุล และสร้างความชุ่มชื้นให้ ระบบนิเวศ ซึ่งจะช่วยให้ธรรมชาติมีความสมดุล ทำ�ให้คนและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ดำ�รงวิถีชีวิตได้อย่าง เป็นสุข และระบบบริหารจัดการนํํ้าดำ�เนินต่อไป ได้อย่างยั่งยืนตามธรรมชาติ ทั้งนี้ เอสซีจี แพคเกจ จิ้ง ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพในการสร้างฝายชะลอนํํ้า ในพื้นที่บ้านนาขาม หมู่ที่ 13 ตำ�บลพังทุย จังหวัด ขอนแก่น โดยร่วมกับจังหวัดขอนแก่น หน่วยงาน ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพืน้ ทีเ่ ข้าร่วมกิจกรรมสร้างฝายชะ ลอนํํ้างานสืบสานพระราชปณิธาร 70,000 ฝาย เพื่อ รำ�ลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ หอประชุม
โรงเรี ย นพั ง ทุ ย พั ฒ น ศึกษา บ้านพังทุย ตำ�บล พั ง ทุ ย อำ � เภอนํํ้ า พอง จั ง หวั ด ขอนแก่ น เมื่ อ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 โดยได้รับเกียรติ จาก นายพงษ์ศกั ดิ์ ปรีชา วิทย์ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิด โครงการ “รวมพลังรักษ์นํํ้าทั่วไทย” นายรุ่งโรจน์ กล่าว นายอาสา สารสิน ประธานกรรมการกิจการ สังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่ทรงครองแผ่นดินโดย ธรรม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุ ล ยเดชทรงให้ ค วามสนพระราชหฤทั ย เรื่ อ ง การบริหารจัดการนํํ้า ด้วยว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม ทั้งต้องประสบ กับปัญหาการขาดแคลนนํํ้าในฤดูแล้ง และพื้นที่ เกษตรกรรมเกิ ด นํํ้ า ท่ ว มในฤดู นํํ้ า หลาก จึ ง ทรง พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ ด้านการบริหารจัดการนํํา้ อาทิ โครงการฝายชะลอนํํ้ า โครงการพัฒนาแหล่งนํํ้า โครงการแก้มลิง เพื่อ บรรเทาความเดือดร้อนแก่ปวงชนชาวไทย ทำ�ให้ ประชาชนมี นํํ้ า อุ ป โภค บริ โ ภค ดำ � รงชี วิ ต อยู่ ไ ด้ อย่างยั่งยืนและเป็นสุข ดังพระราชดำ�รัสที่ว่า “นํํ้า คือชีวิต” ซึ่งตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษที่ผ่าน มา เอสซีจี ได้น้อมนำ�แนวพระราชดำ�ริในด้านการ บริหารจัดการนํํ้า ผ่านโครงการ “เอสซีจี รักษ์นํํ้า
รอง ผกก.สส. ภ.จว.ขอนแก่น
นายตำ�รวจต้นแบบให้รุ่นน้องเจริญรอยตาม เพื่ออนาคต” ด้วยการทำ�หน้าที่ของตนเองในการ ดูแลรักษานํํ้าในแต่ละพื้นที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้มีแห ล่งนํํ้าไว้ใช้อย่างยั่งยืน เอสซีจี มีความมุง่ มัน่ ทีจ่ ะสืบสานพระราช ปณิธาน น้อมนำ�แนวพระราชดำ�ริด้านการบริหาร จัดการนํํา้ อย่างจริงจังเพือ่ ให้ชมุ ชนมีความเข้มแข็ง ในการบริหารจัดการแหล่งนํํ้าได้ด้วยตนเองอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งจะนำ�ไปสู่การบริหารจัดการนํํ้าอย่าง ยั่งยืน และครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดย ดำ�เนินการตามแนวพระราชดำ�ริ ด้านการสร้าง ฝายชะลอนํํ้า ตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งสามารถสร้างฝาย ชะลอนํํ้าได้กว่า 69,000 ฝาย ทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อ ฟืน้ ฟูและอนุรกั ษ์ทรัพยากรนํํา้ ช่วยสภาพแวดล้อม กลั บ คื น สู่ ส มดุ ล และสร้ า งความชุ่ ม ชื้ น ให้ แ ก่ ระบบนิเวศที่ช่วยให้ธรรมชาติมีความสมดุล ช่วย แก้ปัญหานํํ้าแล้ง นํํ้าท่วมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเกิด ความสมบูรณ์ของผืนป่า ทำ�ให้เกิดการต่อยอดสู่ วิสาหกิจชุมชน และบางชุมชนสามารถพัฒนาเป็น “สถานีรักษ์นํํ้า” กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชุม ชนอืน่ ๆ ได้ศกึ ษาและนำ�ไปดำ�เนินการต่อในชุมชน ตนเองต่อไป
จีนลงนามสั่งซื้อยางพาราล็อตแรก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ที่ห้องประชุมนํํ้าโสม 3 โรงแรมเซ็นทารา อำ�เภอเมือง จังหวัดอุดรธานี นายสมพงษ์ หมั่นมา ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านดอนหอ จำ�กัด ลงนามข้อตกลงสัญญา MOU กับ Jihua Yueyang New Material Technology Co.,Ltd โดย Xiaoxia Deng General Manager ในการซื้อยางพาราอัดแห้ง โดยมี นายธนวรรธน์ เลิศสุคนธ์ อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี นายพยุงศักดิ์ อภิรัตนกุล ผู้ อำ�นวยการ การยางแห่งประเทศไทย จังหวัดอุดรธานี พ.ต.อ.ภา ตรวจเยี่ยม ; พล.ต.ต. จ ตุ พ ล ป า น รั ก ษ า ร ร ท . ผู้ บั ญ ช า ก า ร ตำ � รวจภู ธ รภาค 4 พ ร้ อ ม ค ณ ะ ต ร ว จ เยี่ ย มให้ กำ � ลั ง ใจการ ปฏิบัติหน้าที่ ทั้งมอบ นโยบายการปราบ ปรามสิ่งผิดกฎหมาย ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง โดยมี พ.ต.อ.วิสุทธิ์ เคร่งจริง ผกก.สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น และผู้ใต้บังคับ บัญชาให้การต้อนรับ อุ ป ส ม บ ท ห มู่ ตำ � รวจภู ธ รภาค 4 ; พ ล . ต . ต . จ ตุ พ ล ปานรั ก ษา รรท.ผู้ บั ญ ช า ก า ร ตำ � ร ว จ ภู ธ รภาค 4 พร้ อ ม ห น่ ว ย ง า น ภ า ค รั ฐ ภาคเอกชน และ ข้ า ราชการตำ � รวจ ร่วมพิธีอุปสมบทหมู่ ข้าราชการตำ�รวจภูธรภาค 4 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ณ วัดป่าแสงอรุณ ตำ�บลพระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ร ว ม ใ จ ใ ส่ บ า ต ร ทุ ก วั น พ ร ะ ; นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่ น นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พันธุ์ นายกเทศมนตรี น ค ร พ ร้ อ ม ช า ว จังหวัดขอนแก่นร่วม ทำ � บุ ญ ใส่ บ าตรพระ สงฆ์จ�ำ นวน 99 รูป “รวมใจใส่บาตรทุกวันพระแรกของเดือน” เพือ่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ บริเวณบริเวณศาลหลักเมืองขอนแก่น อบรมดับเพลิงและ ซ้อมอพยพหนีไฟ ; โรงแรมพู ล แมน ขอนแก่ น ราชา ออคิ ด จั ด อบรม และฝึ ก ซ้ อ มการ อพยพหนี ไ ฟตาม แ ผ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เพื่อความปลอดภัย ในการทำ�งาน เมื่อ เกิดเหตุเพลิงไหม้และการฝึกซ้อมในการอพยพหนีไฟ แก่คณะผูบ้ ริหาร บุคลากร รวมไปถึงพนักงาน โดยมีวิทยากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และวิทยาลัยการป้องกันและบรรเทาสารณภัยขอนแก่น เขต 6 วิทยาเขตขอนแก่น ให้ความรูใ้ นภาคทฤษฎี อาทิ แผนการดับเพลิงและวิธกี ารดับเพลิง แผนการ อพยพและวิธีการอพยพหนีไฟ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.ธนภณ เกษมแสง
นุวฒ ั น์ วิเศษเลิศ ผูก้ �ำ กับสืบสวนสอบสวน ภูธรจังหวัดอุดรธานี ร่วม เป็นสักขีพยาน ทั้งนี้ได้รับการประสานงานจากนายอนันต์ ฆัมภิรา นนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซแอมธุรกิจ เทรดดิ้ง จำ�กัด การลงนาม MOU ในครั้งนี้ Jihua Yueyang New Material Technology Co.,Ltd ได้มีการสั่งยางพารารอบแรก จำ�นวน 600 ตัน แล้วจะมีการสัง่ ยางพารา อย่างต่อเนือ่ ง ทัง้ นีบ้ ริษทั ในประเทศจีน ได้ รับสัมปทานผลิตสินค้าหลายประเภท ให้กับกองทัพในสาธารณรัฐ ประชาชนจีน และจะต้องใช้ยางพาราจำ�นวนมาก
“สวั ส ดี ค่ ะ ” หนั ง สื อ พิ ม พ์ ไ ทยเสรี ขอ ต้อนรับทุกท่านเข้าสู่คอลัมน์ “สายตรงโรงพัก” ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม พุทธศักราช 2559 โดย เราขอแนะนำ�ท่านให้รู้จักกับคนในแวดวงสีกากี คือ “ตำ�รวจ” หรือ “ผูพ้ ทิ กั ษ์สนั ติราษฎร์” ในพืน้ ที่ ภาคอีสานเช่นเคยค่ะ ในฉบับนี้เราขอแนะนำ�ท่าน ให้รจู้ กั กับ พ.ต.ท.ธนภณ เกษมแสง รอง ผกก.สส. ภ.จว.ขอนแก่น ผู้เป็นต้นแบบให้นายตำ�รวจรุ่น น้องถือเป็นแบบอย่างและเจริญรอยตามต่อไปค่ะ พ.ต.ท.ธนภณ เกษมแสง รอง ผกก.สส. ภ.จว. ขอนแก่นหรือ “รองเสือ” สมรสกับคุณมณศวร รณ เกษมแสง เจ้าหน้าที่การเงิน ธนาคารเพื่อ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) มีบุตร สาว 1 คน คือ ด.ญ.นิชานันท์ เกษมแสง เรียนอยู่ โรงเรียนอนุบาลชุมแพ จบการศึ ก ษา ระดั บ ปริ ญ ญาตรี จ าก โรงเรี ย นนายร้ อ ยตำ � รวจ รุ่ น ที่ 50 และระดั บ ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการ บริหารงานยุติธรรมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในเส้นทางสายตำ�รวจ “รองเสือ” บรรจุ รับราชการในปี 2540 ในตำ�แหน่ง รอง สว. ประจำ� โรงเรียนนายร้อยตำ�รวจ จากนั้นย้ายไปเป็น พงส. (สบ1) ฝ่ า ยปฏิ บั ติ ก ารพิ เ ศษ ปปป.ตร. ก่ อ นที่ จะเปลี่ยนสายงานไปเป็น รอง สว.ส.ทล.5 กก. 3 ปราจีนบุรี เมื่อปี 2542 ต่อมาในปี 2550 ชีวิต หักเหให้มาอยู่ภาคอีสาน ย้ายมาดำ�รงตำ�แหน่ง สวป. สภ.ภูผาม่าน จว.ขอนแก่น ,ปี 2552 สวป. สภ.กระนวน จว.ขอนแก่ น ,ปี 2554 สวป. สภ.วาริชภูมิ จว.สกลนคร ในปี 2556 จากสาย ปราบปรามขยั บ มาเป็ น สว.สส. สภ.แวงน้ อ ย จว.ขอนแก่น และในปี ปี 2557 มาดำ�รงตำ�แหน่ง รอง ผกก.สส. ภ.จว.ขอนแก่น จนถึงปัจจุบัน
จากผลการ ปฏิบตั งิ านทีท่ มุ่ เทเสีย สละมาอย่างต่อเนื่อง ส่ ง ผลให้ ใ นปี 2547 ได้ รั บ รางวั ล ปฏิ บั ติ หน้าที่ดีเด่น กองตำ�รวจทางหลวง และปี 2558 ได้ รับรางวัลปราบปรามดีเด่น กองตำ�รวจทางหลวง ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน “รองเสือ” ทีน่ ายตำ�รวจรุน่ น้องมักจะเรียก กันติดปากว่า “พี่เสือ” คลุกคลีกับสายงานตำ�รวจ ทางหลวงมาก่ อ น กั บ ความภาคภู มิ ใ จสู ง สุ ด ที่ ได้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมขบวนเสด็จทุกพระองค์ นำ� ความภาคภูมิใจสู่ครอบครัว และวงศ์ตระกูล จน กลายเป็น“นายตำ�รวจต้นแบบ”ให้รุ่นน้องโดย เฉพาะตำ�รวจทางหลวงถือเป็นแบบอย่างทีด่ ใี นการ ทำ�งาน ปัจจุบันเป็น หน.ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำ�รวจภูธรจังหวัดขอนแก่น โดยขณะนีอ้ ยูร่ ะหว่าง การอบรมหลักสูตรผู้กำ�กับการรุ่นที่109 วิทยาลัย การตำ�รวจ ในโอกาสมาเยื อ นคอลั ม น์ ส ายตรงโรง พัก พ.ต.ท.ธนภณ เกษมแสง ได้กล่าวถึงหลักใน การทำ�งานว่า “ผมยึดหลักการทำ�งาน 3 ทำ� คือ ทำ�งาน ทำ�บุญ และทำ�ใจ โดยมีปรัชญาครองตน ครองคน และครองงาน โดยการทำ�ให้ประชาชน รักและศรัทธาในอาชีพของตำ�รวจ ก็จะส่งผลให้ เราประสบความสำ�เร็จในอาชีพและเป็นตำ�รวจมือ อาชีพในที่สุดครับ” สำ�หรับคอลัมน์สายตรงโรงพักฉบับนีต้ อ้ ง ขอลาท่านผู้อ่านไปก่อน ไว้พบกันใหม่ฉบับเดือน มกราคมปีหน้านะคะ “สวัสดีปีใหม่ค่ะ”
เพ็ญศิริ นาคทน ...รายงาน
เปิดศูนย์ปฏิบัติการ เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ แด่ผู้พิการ แห่งที่ 12
ม อ บ บ้ า น ใ ห้ ผู้ ด้ อ ย โ อ ก า ส ; ดร.พงษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ชกพงษ์ นายก อบจ. ขอนแก่ น พ.อ.คณธั ช ชนะกาญจน์ เสนาธิการ มณฑลทหารบกที่ 23 ร่วมมอบบ้านโครงการ “ขอนแก่ น อาสาสร้ า ง – ซ่อมบ้านให้กับผู้ด้อย โอกาส” ให้กับนายชรินทร์ เหง่าทา เลขที่ 58 หมู่ที่ 15 บ้านโนนงาม ต.นาเพียง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในจังหวัดขอนแก่น ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นางสาวใจพร ศรีสกุล กรรมการผู้ จัดการ เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ เดิน หน้ามอบโอกาสทางด้านอาชีพให้แก่ ผู้พิการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิด “ศูนย์ ปฏิบัติการ เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ แด่ผพู้ กิ าร” แห่งที ่ 12 ขึน้ ณ มูลนิธธิ ดิ า เมตตาธรรม จ.เลย ซึ่งเป็นพนักงาน ผู้พิการทางร่างกาย ที่ให้บริการด้วย มาตรฐานในระดับเดียวกับพนักงาน ปกติ โดยมีการออกแบบการทำ�งานให้ เหมาะสมและสอดคล้องกับความสามารถของพนักงานผู้พิการทางร่างกาย อาทิ รับสายลูกค้า, โทร ติดต่อลูกค้าเพื่อแจ้งสิทธิพิเศษหรือข้อมูลต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้เอไอเอสยังนำ�เทคโนโลยีมาช่วย อำ�นวยความสะดวกในการปฏิบัติงานด้วย ปัจจุบันมีพนักงานเอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ผู้พิการจากศูนย์ปฏิบัติการที่เปิดให้บริการแล้ว รวมจำ�นวนทัง้ สิน้ 117 คน โดยเอไอเอสยังคงขยายสาขาของศูนย์ปฏิบตั กิ าร เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ แด่ผู้พิการอย่างต่อเนื่องต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sarnrak.net ค ว า ม ภ า ค ภู มิ ใ จ ข อ ง ค น ทำ � ง า น ; ดร.กฤษณวรุ ณ ไชย นิจ ปลัด เทศบาลนคร ขอนแก่ น เข้ า รั บ มอบ ใบประกาศเกี ย รติ คุ ณ สำ � นั ก ทะเบี ย นและ เข็ ม เชิ ด ชู เ กี ย รติ จาก นายพงษ์ ศั ก ดิ์ ปรี ช า วิทย์ ผวจ.ขอนแก่น ใน โอกาสที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 สำ�นักทะเบียนที่มีผลงานดีเด่น ประจำ�ปี พ.ศ.2559 ณ ศาลา กลางจังหวัดขอนแก่น อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ศูนย์ยุติธรรมชุมชน ; นายธี ร ะศั ก ดิ์ ฑี ฆ ายุ พันธุ์ นายกเทศมนตรี นครขอนแก่ น พร้ อ ม คณะผู้บริหาร มอบป้าย ศู น ย์ ยุ ติ ธ รรมชุ ม ชน ตำ � บลในเมื อ ง ให้ กั บ นายนริ น ทร์ พรหม สาขา ณ สกลนคร ยุ ติ ธ ร ร ม จั ง ห วั ด ขอนแก่น เพื่อรับเรื่อง ร้องเรียน รวมทั้งปัญหาความเดือนร้อนของชุมชน ณ สำ�นักสวัสดิการสังคม สำ�นักงานเทศบาล นครขอนแก่น
เ ที่ ย ว ศิ ล ป ะ พื้ น บ้ า น “ ฮู ป แ ต้ ม ” ; นางสาวพั ช นี สภา ผู้ อำ � น ว ย ก า ร ก ลุ่ ม ส่ ง เสริมศาสนา ศิลปะ และ วัฒนธรรม สำ�นักงาน วั ฒ น ธ ร ร ม จั ง ห วั ด ข อ น แ ก่ น นำ � ค ณ ะ สื่ อ ม ว ล ช น จั ง ห วั ด ขอนแก่ น สำ � รวจและ ศึกษาแหล่งท่องเทีย่ วศิลปะพืน้ บ้าน “ฮูปแต้ม” ในมิตศิ าสนา ทีย่ งั หลงเหลืออยูใ่ นเขตจังหวัดขอนแก่น 5 วัด เพื่อสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนในการขับเคลื่อนและกระตุ้นการท่องเที่ยว
เปิดศูนย์ฝึกวิชาชีพคน พิการ ; พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนา สังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ เป็นประธาน เปิ ด ศู น ย์ เ ทคโนโลยี อุ ป กรณ์ เ พื่ อ คนพิ ก าร (อาคารท่ อ นํํ้ า ไทย 53 ปี) เพื่อเป็นสถานที่ฝึก อบรมวิ ช าชี พ สำ � หรั บ ผู้พิการได้มีโอกาสเท่า เทียมในการพัฒนาคุณภาพชีวติ เช่นคนปกติทวั่ ไป ณ โรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่หนองคาย จ.หนองคาย
ร า ง วั ล ร า ย ง า น ความยั่ ง ยื น ดี เ ด่ น ; นางวิไล เคียงประดู่ ผู้ ช่วยกรรมการผู้อำ�นวย การอาวุ โ ส ส่ ว นงาน ประชาสั ม พั น ธ์ เอไอ เอส รับรางวัล “รายงาน ความยัง่ ยืนดีเด่น ประจำ� ปี 2559” ต่อเนื่องเป็นปี ที่ 2 ในฐานะองค์ ก ร ที่เผยแพร่ข้อมูลอย่างโปร่งใส ครบถ้วน และมีนโนบายการจัดทำ�รายงานด้านความยั่งยืน ที่เป็น ประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ลงทุนดีเด่น โดยมี นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการสมาคมบริษัทจดทะเบียน ไทย เป็นผู้มอบรางวัล ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ลงแขกเกี่ยวข้าวช่วยชาวนา ; น.อ.นิทัศน์ ยูประพัฒน์ ผู้บังคับการกองบินที่ 23 อุดรธานี พร้อมด้วย นายทหาร พลทหารอากาศ และนายทหารอากาศ กองทัพอากาศสิงคโปร์ที่มาฝึกบินอยู่ที่กองบินที่ 23 ลงพื้นที่ทุ่งนาชุมชนบ้านช้าง 2 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ของนายปัญญา สิมมา ช่วยเกี่ยว ข้าวในแปลงนาอย่างคล่องแคล่ว
หน้า 9
ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559
ติ ว เข้ ม พาณิ ช ย์ จั ง หวั ด สร้ า งการรั บ รู้ G r a n d O p e n i n g เ ม เ จ อ ร์ 4 ภารกิจสู่สังคม นำ�ร่อง 20 จว.อีสาน เฟอร์นิเจอร์ มอลล์ จ.สุพรรณบุรี นายอิทธิพงศ์ คุณากรบดินทร์ ผูต้ รวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ และการนำ� แผนประชาสัมพันธ์ไปสู่การปฏิบัติ ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความ สำ�คัญต่อการสร้างความเข้าใจและเพิ่มการรับรู้ของประชาชนต่อ บทบาทและหน้าที่การดูแลตามภารกิจของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่ง ประกอบด้วยการดูแลสินค้าเกษตร ค่าครองชีพ ผลักดันเศรษฐกิจ ฐานราก และการค้าชายแดน โดยพาณิชย์จังหวัดถือเป็นหน่วยงาน หน้าด่านแรกที่จะใกล้ชิดในพื้นที่ที่จะรับรู้ความต้องการและนำ�เสนอ เพือ่ ให้บรรลุตามภารกิจ โดยเฉพาะการให้ความรูเ้ พือ่ ให้ประชาชนได้รู้ สิทธิประโยชน์และข่าวสารเพือ่ ใช้ในชีวติ ประจำ�วัน แต่จากการสำ�รวจ ความเห็นพฤติกรรมรับสือ่ และการรับรูบ้ ทบาทของกระทรวงพาณิชย์ยงั พบว่าการรับรู้ยังน้อย จึงเป็นที่มาของการจัดการอบรมฯดังกล่าว เพื่อ ให้เกิดการตื่นตัว เข้าใจงานประชาสัมพันธ์ และถ่ายทอดผลงานของ พาณิชย์ต่อสาธารณชน และชุมชน ทั้งนี้ ในแผนการอบรมฯกำ�หนดจัด 5 ครั้ง เริ่มจากภาคอีสาน ระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2559 ที่จังหวัดขอนแก่น ครั้งต่อไป ภาคใต้ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่าง 10-11 ธันวาคม ภาคกลาง
ทีจ่ งั หวัดกาญจนบุรี 24-25 ธันวาคม ทีก่ รุงเทพฯ วันที่ 4 หรือ5 มกราคม 2560 และภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 7-8 มกราคม นาย อิทธิพงศ์ กล่าวต่อว่าพร้อมกันนี้ กระทรวงฯได้ด�ำ เนินงานยกระดับการ เชื่อมโยงการค้าภูมิภาคภายใต้พาณิชย์ภาค (Mini Moc)โดยแบ่งเป็น 7 กลุ่มจังหวัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และร่วมกันบูรณาการการแก้ไข ปัญหาต่างๆให้สำ�เร็จอย่างรวดเร็วและทันเหตุการณ์
สำ�หรับลูกค้าคนสำ�คัญ
อารยสถาปัตย์แห่งปี 2559
นายวิชัย เฟื่องทวีโชค ประธานกรรมการ บริษัท ณัฐมอเตอร์ จำ�กัด อุดรธานี ซื้อข้าวสารบรรจุถุงจำ�นวน 1000 ถุงๆละ 1 กก.จาก สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.อุดรธานี จำ�กัดเพื่อนำ� เอาไปเป็นของแถมสำ�หรับลูกค้าทีด่ าวน์รถจักรยานยนต์ จำ�นวน 1 พัน บาทต่อ 1 กก. แต่ไม่เกิน 15 กก. และมีแผนที่จะสั่งซื้ออีก 1000 กก.
คุณชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร โรงแรม โฆษะ รับมอบประกาศเกียรติคุณยกย่อง “โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น” เป็นสถานที่ “อารยสถาปัตย์แห่งปี 2559” ด้วยมีการส่งเสริม และ สร้างเพื่อให้คน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสภาพร่างกาย สามารถเข้าถึงและ ใช้ประโยชน์ ได้โดยปลอดภัย สะดวกทันสมัย เป็นธรรม ทั่วถึง เท่า เทียมกัน ด้วยนโยบายแนวคิด เป็นมิตรต่อคนทั้งมวล โดย นางกอบ กาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้มอบ
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2559 ว่าที่ร้อยตรีสุพีร์พัฒน์ จองพานิช ผู้ ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี และ นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธาน กรรมการบริหาร กลุ่มอินทัช ให้เกียรติมาเป็นประธานร่วมเปิดโชว์รูม บริษัท เมเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ มอลล์ (2014) สุพรรณบุรี อย่างเป็นทางการ โดยมี นายคัมภีร์ ฐานโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ มอลล์ (2014) จำ�กัด กล่าวรายงานต่อประธานในพิธี หลังจากนั้น ผู้ว่า ราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานในพิธี กล่าวแสดงความยินดีและทำ� พิธีเปิดโชว์รูมอย่างเป็นทางการ และเข้าชมสินค้าภายในโชว์รูม โดยมี นายอนันต์ นาคนิยม นายอำ�เภอบางปลาม้า นายดำ�รงค์กิตต์ บุญสงวน ศรี นายกเทศมนตรีต�ำ บลต้นคราม พร้อมผูน้ �ำ องค์กรในพืน้ ที่ เข้าร่วมงาน อย่างคับคั่ง นายสารทูล นิรมัยถาวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ มอลล์ จำ�กัด เปิดเผยว่า บริษัท เมเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ มอลล์ จำ�กัด เกิด ขึ้นจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อน 8 คนที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ เฟอร์นิเจอร์เหมือนกัน และได้มีความคิดที่จะขยายและพัฒนาตลาด เฟอร์ นิ เ จอร์ ข องบ้ า นเราให้ ดี แ ละเป็ น ที่ รู้ จั ก มากขึ้ น เพื่ อ ตอบสนอง และรองรับความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศและเพื่อนบ้าน โดย เริ่มก่อตั้งบริษัท เมเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ มอลล์ จำ�กัด แห่งแรกที่ จังหวัด นครราชสีมา บนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร เมื่อปี พ.ศ.2552 และเปิด ดำ�เนินกิจการ เมื่อปี พ.ศ.2554 และต่อมาในปี พ.ศ.2556 ได้ด�ำ เนิน การก่อตั้ง บริษัท เมเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ มอลล์ (2012) จำ�กัด ที่จังหวัด นครศรีธรรมราช บนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร และเปิดดำ�เนินกิจการ อย่างเป็นทางการเมือ่ วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2557 และทำ�การเปิด บริษทั เมเจอร์ เฟอร์นเิ จอร์ มอลล์ (2014) จำ�กัด ทีจ่ งั หวัด สุพรรณบุรี เป็นสาขา ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั เมเจอร์ เฟอร์นเิ จอร์ มอลล์ จำ�กัด เปิดเผยต่อว่า บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายและพัฒนาธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในเครือ บริษัทฯให้ได้ทั้งหมด 20 สาขา ทั่วประเทศ ในระยะเวลา 10 ปี และอาจ จะขยายต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย บริษทั เมเจอร์ เฟอร์นเิ จอร์ มอลล์ เกิดจากการรวมกลุม่ ของ 8 หุน้ ส่วน คือ นายคัมภีร์ ฐานโชติ, นายสารทูล นิรมัยถาวร ,นายโสภณ วุฒิ
เนตรเนติรักษ์ ,นายสุริยา จูมพรักษ์ ,นายประเสริฐ วัฒนดิลกเลิศ ,นาย ธนากร ละอองกุล ,นายบุญเริ่ม นนทิวัฒน์วณิช และนายสง่า ตรีพงษ์ กรุณา ซึ่งเปิดร้านจำ�หน่ายเฟอร์นิเจอร์ในพื้นที่ 10 จังหวัด 4 ภาคใน ประเทศไทย อาทิ อุดรธานี, ขอนแก่น, พิษณุโลก, นครสวรรค์, ราชบุรี, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชุมพร, ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี โดยแนวทางที่เป็นการเอื้อและอำ�นวยประโยชน์ให้กับผู้บริโภค มากที่สุด ทั้งยังเน้นเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์คลาสสิค และโมเดอร์น ที่ไม่ซํํ้า แบบกับร้านเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะมีที่เมเจอร์ฯ และใน เครือข่ายเท่านั้น เป็นการสั่งตรงจากโรงงาน ทำ�ให้ต้นทุนตํ่า ราคาหน้า ร้านจึงถูกกว่า มีบริการส่งถึงบ้านโดยไม่มีค่าขนส่ง และให้บริการหลัง การขาย โดยเน้นที่ความพึงพอใจของลูกค้า ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจร ที่มีสินค้า เฟอร์นิเจอร์คุณภาพดี ออกแบบทันสมัย ในราคาที่ถูกที่สุด จำ�หน่าย เฟอร์นิเจอร์ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก เฟอร์นิเจอร์ห้องครัว และ ของตกแต่งบ้านครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ชุดสำ�หรับห้องนอน เตียง ที่นอน โซฟา ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งเฟอร์นิเจอร์สำ�หรับห้อง นั่งเล่นและห้องรับแขก ชุดโซฟารับแขก ชุดโต๊ะรับแขก ตู้โชว์ ชั้นวาง ของ ชั้นวางTV ตู้วางTV เก้าอี้ ตู้โชว์ เฟอร์นิเจอร์สำ�หรับห้องครัว ชุด โต๊ะอาหาร เก้าอี้ ชั้นวางของ ชั้นเก็บชุดเครื่องครัว เฟอร์นิเจอร์สำ�หรับ อาคาร สำ�นักงานออฟฟิศ โต๊ะทำ�งาน โต๊ะคอมพิวเตอร์ เก้าอี้ทำ�งาน เก้าอี้สำ�นักงาน โต๊ะบัญชี เคาน์เตอร์สำ�นักงาน ชุดโต๊ะประชุมยาว โต๊ะ รับแขก
หน้า 10
ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559
เกษตรกรสำ�นึกรักบ้านเกิด ปี 59 เน้นทำ�เกษตรครบวงจร
ช า ว เ ข า เ ผ่ า อ า ข่ า จ า ก จังหวัดเชียงราย คว้ารางวัลชนะเลิศ เกษตรกรสำ�นึกรักบ้านเกิด ประจำ�ปี 2559 จัดโดย ดีแทค มูลนิธิร่วมด้วย ช่วยกันสำ�นึกรักบ้านเกิด และกรม ส่งเสริมการเกษตร สนับสนุนการทำ� เกษตรแบบครบวงจร เพื่อทางรอดที่ ยั่งยืนของเกษตรกรไทย นายบุ ญ ชั ย เบญจรงคกุ ล ประธาน กรรมการมูลนิธริ ว่ มด้วยช่วยกัน สำ�นึกรักบ้านเกิด กล่าวว่า มูลนิธฯิ ขอแสดงความยินดีกบั เกษตรกร ทั้ง 10 ท่าน ผู้เป็นต้นแบบของเกษตรกรที่พัฒนา ศักยภาพได้อย่างเต็มที่ แนวคิดเกษตรครบวงจร มี เกณฑ์และตัวชีว้ ดั ทีเ่ ข้มข้นเป็นพิเศษ โดยพิจารณา ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการทำ�เกษตร คือ การคิด วิเคราะห์ วางแผนการจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพ การเพาะปลูก เพิม่ จำ�นวนและคุณภาพของผลผลิต ลดต้นทุน ลดเวลา ลดการสูญเสียทรัพยากร ไปสู่ การจัดจำ�หน่ายถึงมือผู้บริโภค หรือเรียกว่า ‘จาก ต้นนํํา้ สูป่ ลายนํํา้ ’เป็นแนวทางให้เกษตรกรรุน่ ใหม่ นำ�ไปปรับใช้และสามารถเป็นที่พึ่งพาแก่เพื่อน เกษตรกรและชุมชนได้อย่างดีเยี่ยม นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่ง เสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร มีภารกิจสำ�คัญ ในการส่งเสริมให้เกษตรกรเป็นศูนย์กลางการ พัฒนา มุ่งเน้นให้ระบบการผลิตทางการเกษตร มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน สามารถจำ�หน่ายได้ใน ราคาที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรได้รับ ผลตอบแทนทีด่ ขี นึ้ พร้อมทัง้ ผลักดันให้เกษตรกร เป็น Smart Farmer ทำ�การผลิตทางการเกษตร ในลักษณะ Smart Agriculture นอกจากนี้ ยังมี การพัฒนา Young Smart Farmer ซึ่งเป็นอนาคต เกษตรกรรมไทยให้สามารถเชื่อมโยงภาคเกษตร เข้ากับนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ “ความร่วมมือกับดีแทค และมูลนิธิร่วม ด้วยช่วยกันสำ�นึกรักบ้านเกิด ในการจัดประกวด เกษตรกรสำ�นึกรักบ้านเกิด ก่อให้เกิดการพัฒนา และเชิดชูเกษตรกรต้นแบบทีม่ คี วามภาคภูมใิ จใน อาชีพ นอกจากนั้น ความร่วมมือกับดีแทคในการ ส่งเสริมการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร โดยการจัดอบรม ‘การเกษตรเชิงพาณิชย์’ ให้กับ เกษตรกรทั่ ว ประเทศยั ง บรรลุ ผ ลอย่ า งเป็ น รู ป ธรรม ส่งผลให้การพัฒนาภาคเกษตรไทยเกิดความ ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน” นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติม นายลาร์ ส นอร์ ลิ่ ง ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บริหาร บมจ.โทเทิ่ลแอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กล่าวว่า หนึ่งในเป้าหมายหลักของดีแทค คือ การนำ�เทคโนโลยีมาพัฒนาให้เกษตรกรไทย ก้าวไปสู่ความเป็น Smart Farmer เนื่องจากเรา เป็นประเทศที่มีฐานการผลิตเชิงเกษตรกรรม ที่ ผ่านมา ดีแทคได้ร่วมกับภาครัฐ สนับสนุนการ ทำ�การเกษตรโดยนำ�นวัตกรรมมาใช้ประโยชน์ ติ ด อาวุ ธ ให้ เ กษตรกรรุ่ น ใหม่ ที่ ต้ อ งการพั ฒ นา ศักยภาพ โดยได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร จัดอบรมหลักสูตรการเกษตรเชิงพาณิชย์ให้กับ Young Smart Farmer ที่กรมฯ เป็นผู้คัดเลือกจาก ทัว่ ประเทศไปแล้วกว่า 3,000 คนซึง่ สร้างช่องทาง ให้เกษตรกรรอดพ้นจากวงจรราคาสินค้าเกษตร ตกตํ่าได้ “ในอนาคตอันใกล้นี้ ดีแทควางโรดแมพ โดยมุ่ ง เน้ น การทำ � เกษตรแบบแม่ น ยำ � และ สนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเกษตร หรือ Agri Tech นำ�นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่มา ใช้ในการแก้ปัญหาสำ�คัญทางการเกษตร หรือ การสร้ า งธุ ร กิ จ ใหม่ ท างด้ า นการเกษตรโดยใช้ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (Internet of Things: IoT) ดีแทคยังมีแผนที่จะสนับสนุนให้ เกิดความร่วมมือระหว่าง Agri Tech กับ Smart Farmer ที่เหมาะสม เพื่อที่จะสามารถนำ�ความรู้
ทางการเกษตรทีม่ อี ยูผ่ สานกับเทคโนโลยีใหม่ทจี่ ะ ช่วยให้วทิ ยาการด้านการเกษตรของไทยกลายเป็น ผู้นำ�แนวหน้าของโลก ซึ่งจะเป็นการช่วยผลักดัน โมเดล “ประเทศไทย 4.0” ของรัฐบาล เปลีย่ นแปลง โครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ Value- Based Economy หรือเศรษฐกิจทีข่ บั เคลือ่ นด้วยนวัตกรรมในทีส่ ดุ ” นายลาร์ส กล่าวปิดท้าย ดี แ ทค ร่ ว มกั บ กรมส่ ง เสริ ม การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมูลนิธิร่วมด้วย ช่วยกันสำ�นึกรักบ้านเกิด จัดการประกวดเกษตรกร สำ�นึกรักบ้านเกิดต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 โดยปีนี้ ได้ น้อมนำ�พระราชดำ�ริเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง และการเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางใน การสรรหาเกษตรกรทีใ่ ช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี การเกษตร สร้างประโยชน์หรือผลเชิงบวกแก่การ ทำ�เกษตรกรรม สามารถวิเคราะห์และแก้ปญ ั หาได้ ครบทุกมิติ ซึ่งจะเป็นคุณประโยชน์ต่อการพัฒนา งานด้านการเกษตรของประเทศไทยให้มีความ เจริญก้าวหน้า สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ผลรางวัลชนะเลิศ เกษตรกรสำ�นึกรักบ้าน เกิด ประจำ�ปี 2559 ได้แก่ นายอายุ จือปา วัย 31 ปี ชาวเขาเผ่าอาข่าจากจังหวัดเชียงราย ผู้ตั้งปณิธาน น้อมนำ�แนวพระราชดำ�ริของพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ประจำ�วันให้เกิดผลประโยชน์มากทีส่ ดุ พร้อม แบ่งปันบทเรียนและถ่ายทอดประสบการณ์ความ สำ�เร็จเพื่อเป็นแบบอย่างแก่สาธารณะ นายอายุ เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์จากาแฟ คุณภาพดีแบรนด์‘อาข่า อ่ามา’ เกิดและเติบโต ในชนเผ่าอาข่า ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็ จ พระศรี น คริ น ทราบรมราชชนนี และ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย เดช พระราชทานทีอ่ ยู่ ทีท่ �ำ กิน ความรู้ และอนาคต ที่ดีให้ จากการริเริ่มปลูกพืชผัก ผลไม้เมืองหนาว ชา กาแฟ ที่เป็นพันธุ์พระราชทาน มาสู่การสร้าง เครือข่ายส่งเสริมให้ชาวบ้านผลิตกาแฟ พัฒนา สายพันธุ์ให้ดีขึ้น และมีส่วนผลักดันให้กาแฟจาก ชุมชนบ้านแม่จันใต้ผงาดขึ้นเวทีโลกได้อย่างไม่ อายใคร ปัจจุบันเขาดูแลกระบวนการผลิตตั้งแต่ ต้นนํํ้า จากวิธีการปลูก การใช้นํํ้า การตาก การเก็บ กลางนํํ้า คือ การแปรรูป และทำ�บรรจุภัณฑ์ ไปจน ถึงปลายนํํา้ คือ การจำ�หน่ายให้ผบู้ ริโภคโดยการทำ� ธุรกรรมการเงินผ่านระบบออนไลน์ รองชนะเลิศอันดับ 1 คือ นายพงษ์พัฒน์ แก้วพะเนาว์ จากจังหวัดมหาสารคาม เกษตรกร ผู้หยิบยกปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการทำ�ฟาร์มผักออร์แกนิก ‘แก้วพะเนาว์ ยัง สมาร์ทฟาร์เมอร์’ปฏิวัติแนวคิด ของคนรุ่นใหม่ที่หันหลังให้อาชีพเกษตรกร นำ� ประสบการณ์ของนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศ อิสราเอล เริ่มจากการปรับสภาพดิน บริหารจัดกา รนํํ้า และปรับระบบนิเวศจนสามารถปรับเปลี่ยน ทัศนคติของพ่อแม่และชาวบ้านทีเ่ คยมองว่าอาชีพ นี้ลำ�บาก รองชนะเลิศอันดับ 2 คือ นางสาวศิริวิมล กิตะพาณิชย์ จากจังหวัดเชียงราย ทำ�เกษตรครบ วงจรปลูกข้าวและผักอินทรีย์ ภายใต้แบรนด์‘ไร่ รื่นรมย์’ ใช้นวัตกรรมพลังงานทางเลือก จัดสรร พื้ น ที่ แ ละแปลงปลู ก อย่ า งเป็ น ระบบและมี กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ
เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ชวนน้องอ่าน
บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำ�กัด (มหาชน) ผู้ นำ � ตลาดพิ ซ ซ่ า ที่ มี ย อดขายมากที่ สุ ด ใน ประเทศไทย จัดโครงการ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ชวนน้องอ่าน” โดยมี นายภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผูจ้ ดั การทัว่ ไป เดอะพิซซ่า คอมปะนี ประเทศไทย ส่วนแฟรนไชส์ และฝ่ายปฏิบัติการ คุณโศรยา คณาสวัสดิ์ คุณธงชัย ธีระรัตนนุกูลชัย และคุณ อรุณชัย ชยั คณารักษ์กลู ผูบ้ ริหารธุรกิจแฟรนไชส์ จังหวัดขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ มร.จอห์น ไฮเน็ค ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำ�กัด (มหาชน) ณ ห้องประชุม
ราชพฤกษ์ ชั้น G โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เมื่อเร็วๆ นี้ มร.จอห์น ไฮเน็ค ประธานบริหารฝ่าย ปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำ�กัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ “เดอะ พิซซ่า คอม ปะนี ชวนน้องอ่าน” จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2545 ในปี 2559 นับเป็นปีที่ 14 โดยการสนับสนุนจาก สำ � นั ก งานคณะกรรมการการศึ ก ษาขั้ น พื้ น ฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมส่งเสริมนิสัย รักการอ่าน เพื่อพัฒนาทักษะ และความรู้เยาวชน ไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่ง ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่
เปิดธนาคารออมสิน ; นายสุ ชั ย บุ ต รสาระ รอง ผวจ.อุดรธานี เป็น ประธานเปิ ด ธนาคาร ออมสิน สาขายูดีทาวน์ อุ ด รธานี โดยมี นาย อิ ส ระ วงศ์ รุ่ ง รองผู้ อำ � นวยการธนาคาร ออมสิ น , คุ ณ ฉั น ทนา ทองดี ผู้จัดการธนาคาร ออมสิน สาขายูดีทาวน์ นายธนกร วีรชาติยานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุดรพลาซา จำ�กัด หัวหน้าส่วนราชการ และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมในงาน
ส ตี เ บ ล รุ ก ต ล า ด อี ส า น รองรั บ ผู้ บ ริ โ ภคตลาด AEC สตีเบล เอลทรอน บุก ตลาดอีสาน กระชับสัมพันธ์ดีล เลอร์ รุ ก ตลาดอี ส านทุ่ ม งบกว่ า 100 ล้าน อัดกิจกรรมและโปรโม ชั่ น เครื่ อ งทำ � นํํ้ า อุ่ น นํํ้ า ร้ อ น รั บ หน้าหนาว พร้อมเตรียมแผนขยาย ตลาดเปิดประตูสู่ประเทศเพื่อน บ้านในตลาดการค้า AEC อีกด้วย มร.โฮเกอร์ พัลลาร์ ผู้ จั ด การฝ่ า ยส่ ง ออก บริ ษั ท สตี เบล เอลทรอน เอเชีย จำ�กัด เปิดเผยว่า ที่ผ่าน มาตลาดเครื่องทำ�นํํ้าอุ่น-นํํ้าร้อน ในภาคอีสานมี อัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจตามหัวเมืองใหญ่ ในภาคอีสานมีแนวโน้มสูงขึ้น ผนวกกับจำ�นวน ความต้องการของลูกค้าผู้ประกอบการที่มีความ ต้องการลงทุนจำ�หน่ายสินค้าคุณภาพมากขึ้น และมีการกระจายความเจริญออกสู่จังหวัดโดย รอบ ทำ�ให้ยอดจำ�หน่ายเครื่องทำ�นํํ้าอุ่น-นํํ้าร้อน แบร์นด สตีเบล เอลทรอน ได้รับความนิยมเพิ่ม มากขึ้น ดังนั้น บริษัท สตีเบล เอลทรอน จึงไม่ ลังเลที่จะเพิ่มงบประมาณการลงทุนสร้างฐาน ลูกค้าในจังหวัดต่างๆ ของภาคอีสาน เพิ่มเติม ขึ้น ขอนแก่น นับเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการ เติบโตทางธุรกิจสูงมาก บริษัทจึงมุ่งเน้นที่จะ
สนับสนุนตลาดในภูมภิ าคอีสาน ไม่วา่ จะเป็นการ สร้างเครือข่ายทางการค้า การลงทุน ทางด้านการ ตลาด หรือการขยายช่องทางขายอื่นๆ มร.โรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเชีย จำ�กัด กล่าวว่า บริษัท ได้ มีกจิ กรรมในการคืนกำ�ไรสูส่ งั คม โดยในช่วงเดือน ตุลาคมที่ผ่านมา สตีเบล เอลทรอน ได้สานต่อ โครงการเพื่อสังคม “1 Reaction แทนเงิน 1 บาท” ปีที่ 2 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เชิญชวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ร่วมทำ�กุศลด้วยการสมทบทุนสร้างห้องเรียนใหม่ ให้แก่โรงเรียนในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีการระดม Reaction ได้กว่า 6,000 ไลค์ และสตีเบลได้สบทบ อีกเท่าตัว เพื่อสมทบทุนในการสร้างอาคารเรียน มูลค่ากว่าสองแสนบาท มอบให้โรงเรียนบ้านท่า งาม อ.บ้านด่านเม็ก จ.กาฬสินธุ์ และทำ�พิธสี ง่ มอบ เรียบร้อยแล้ว
สำ�คัญในการพัฒนาความรู้ ต่อยอดสู่อนาคตที่จะ เป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพ เป็นกำ�ลังสำ�คัญในการ ร่วมสร้างอนาคตของชาติต่อไป “จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียน ระดับประถมศึกษามีทักษะในการอ่าน ซึ่งได้การ ตอบรับจากโรงเรียนทั่วประเทศเป็นอย่างดี และ ยังมีนักเรียนและโรงเรียนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ เพิ่มขึ้นทุกปี สำ�หรับปี 2559 นี้ บริษัทฯ ได้ขยาย โครงการให้ครอบคลุมโรงเรียนทัว่ ประเทศมากขึน้ ถึง 59 จังหวัด ที่มีสาขา เดอะพิซซ่า คอมปะนี รวม ถึงจังหวัดขอนแก่น โดยมีจัดกิจกรรมส่งเสริมการ
อ่าน และกิจกรรม ที่มอบให้กับน้องๆ เยาวชน และยังคง สร้ า งกิ จ กรรมส่ ง เสริมเยาวชนอย่าง ต่ อ เนื่ อ ง ต่ อ ไป” มร.จอห์ น ไฮเน็ ค กล่าว
สายตรวจรถไฟโบราณ “อัศวินเพชรนาคา” ; นายประเสริ ฐ ลื อ ชา ธนานนท์ รอง ผวจ. เลย พล.ต.ต. สุทิพย์ ผลิ ตกุ ศ ลผบก.ภ.จว.เลย รั บ มอบรถไฟโบราณ “อัศวินเพชรนาคา” จาก นายเฉลิ ม เกี ย รติ โสม ทัพมอญ ผู้จัดการฝ่าย ขายและการตลาด ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำ�กัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เพื่อ ใช้บริการรับ-ส่งนักท่องเทีย่ ว พร้อมเป็นรถสำ�หรับสายตรวจของ สภ.เชียงคาน ทีอ่ �ำ นวยความสะดวก ดูแลชีวติ และทรัพย์สนิ ให้กบั นักท่องเทีย่ ว และประชาชนในพืน้ ที่ ณ สถานีต�ำ รวจภูธร เชียงคาน จ.เลย
พูลแมน ขอนแก่น จัด กิ จ กรรม “รำ � ลึ ก ถึ ง พ่ อ ” ; เพื่ อ ร่ ว มถวาย ความอาลั ย และความ จงรักภักดีอย่างหาที่สุด มิได้ เนื่องในโอกาสวัน คล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปร มินทรมหาภูมพิ ลอดุลย เดช รัชกาลที่ ๙ ปีที่ ๘๙ ในวันที่ ๕ ธันวาคม โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จัดกิจกรรม“รำ�ลึกถึงพ่อ” ณ ลานหน้า สำ�นักงานเทศบาลนครขอนแก่น โดยมีกจิ กรรมในงาน ได้แก่ การแสดงภาพวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ และการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙, การร่วมร้องเพลงเพื่อน้อมรำ�ลึกถึงพ่อของแผ่นดิน และการร่วมนับถอยหลังเปิดไฟแปรอักษรบนตัว อาคารรูปแคนของโรงแรม เป็นคำ�ว่า “พ่อ”
เรียนรู้ทางไกล ระบบสื่อสาระออนไลน์ สำ�นักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น สำ�นักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งชาติ (สวทช.) และเทศบาลนครขอนแก่น ร่วมกันขับเคลื่อนการศึกษาไทย เพื่อรู้เท่าทัน กระแสโลกาภิ วั ต น์ ที่ ก ารศึ ก ษาจะต้ อ งก้ า ว ทั น ควบคู่ กั บ เทคโนโลยี แ ละสามารถเข้ า ถึ ง ข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึง ตามโครงการพัฒนา ระบบสื่อสาระออนไลน์เพื่อการเรียนรู้ทางไกล
เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ และการสัมมนาวิชาการ “ก้าวใหม่ การ ศึกษาไทย การศึกษาแบบร่วมมือผสานใจ” ณ ห้องบอลรูม ออคิด 3 โรงแรมพลูแมนขอนแก่น เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ผศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดี ฝ่ายวิชาการและสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัย ขอนแก่น กล่าวในการเปิดงาน “คลังทรัพยากร การศึ ก ษาแบบเปิ ด (OER)” ว่ า ปั จ จุ บั น การ สื่อสารมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก ประชาชน ส่ ว นใหญ่ ใ ห้ ค วามสำ � คั ญ กั บ การสื่ อ สารแบบ ออนไลน์ รวมทั้ ง นิ สิ ต นั ก ศึ ก ษาแม้ แ ต่ เ ด็ ก นั ก เรี ย น ล้ ว นให้ ค วามสำ � คั ญ กั บ เทคโนโลยี ดิ จิ ต อล ทำ � ให้ ก ารใช้ สื่ อ ออนไลน์ ไ ด้ รั บ ความ สนใจอย่างแพร่หลายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น การ ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำ�ให้ทุกคนที่ใช้งานสื่อ ออนไลน์มักใช้งานโดยขาดการไตร่ตรองอย่าง รอบคอบ จึงจำ�เป็นต้องจัดการเรียนการสอนเพือ่ ให้นักศึกษาได้เรียนรู้และเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร อย่างทั่วถึง ถูกต้อง ไม่ตกเป็นเหยื่อที่แอบแฝงมา ในยุคโลกาภิวัตน์ การก้าวทันเทคโนโลยี และนำ�มาใช้ควบคูก่ บั การศึกษา ซึง่ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น ได้นำ�ร่อง โดยประสานความร่วมจาก หน่ ว ยงาน อาทิ สำ � นั ก หอสมุ ด มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่ น สำ � นั ก งานพั ฒ นาวิ ท ยาศาสตร์ แ ละ เทคโนโลยี แ ห่ ง ชาติ (สวทช.) และ เทศบาล นครขอนแก่ น เพื่ อ ให้ เ กิ ด การศึ ก ษาแบบเปิ ด ขั บ เคลื่ อ นขอนแก่ น เมื อ งดิ จิ ต อล (Digital) ร่ ว มพั ฒ นาคลั ง ทรั พ ยากรแบบเปิ ด (KKU OPR) ผ่านการสื่อสารระบบออนไลน์บนเครือ ข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อการเรียนรู้ทางไกล อีกทั้ง เป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระ
ชนมายุ 5 รอบ รศ.ดร.ผิวพรรณ มาลีวงษ์ รองอธิการบดี ฝ่ายวิจยั คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ความเป็น Medical Hub เห็นความสำ�คัญ เรื่ององค์ความรู้ที่หลากหลายมิติ ซึ่งสิ่งสำ�คัญ ควรที่จะได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขว้างเพื่อให้ ประชาชนหรือคนทั่วไปได้รับรู้อย่างทั่วถึง เพื่อ เป็นการให้ความรูก้ บั ประชาชนและผูท้ อี่ ยูห่ า่ งไกล แพทย์ พยาบาล รวมถึงโรงพยาบาลทีม่ คี วามพร้อม ด้านการรักษา ไม่วา่ จะเป็นเครือ่ งมืออุปกรณ์ทที่ นั สมัย ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงตอบสนอง ความต้ อ งการและต้ อ งการที่ จ ะถ่ า ยทอดองค์ ความรูต้ า่ งๆ ไว้ในการสือ่ สารแบบ Online เพือ่ ให้ ประชาชนได้เข้าถึง และสามารถศึกษาด้วยตนเอง ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้นำ�เอาทรัพยากร ที่มีอยู่เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต โดยคาดหวังว่า ประชาชนจะได้ศึกษา และสามารถปรับเปลี่ยน พฤติกรรมจนนำ�ไปสู่การดูแลตนเองได้ นายชั ช วาล พรอมรธรรม รองนายก เทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวถึงโครงการ คลัง ทรัพยากรการศึกษาแบบเปิด (OER) ว่า นับว่า
เป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างมากในปัจจุบัน สามารถใช้ ค ลั ง ความรู้ จ าก OER ผลั ก ดั น ให้ ขอนแก่นเป็นเมืองดิจิตอล (Digital) ซึ่งเทศบาล นครขอนแก่นมีนักเรียนในสังกัดเทศบาล รวม 11 โรงเรียน มีนักเรียนจำ�นวนกว่า 11,000 คน คณะครูในสังกัดกว่า 1,500 คน การพัฒนาสื่อ ออนไลน์เพื่อนำ�ไปใช้ในโรงเรียนเพื่อการเรียนรู้ ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดในการศึกษา ซึง่ นับ เป็นโอกาสทีด่ ใี นการขับเคลือ่ นปฎิรปู การศึกษา ของไทย เทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งจะร่วมเป็น ส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนวัตกรรมการศึกษา แบบ OER ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบร่วมมือ การ แบ่งปันความรู้โดยทุกคนเป็นเจ้าขององค์ความ รู้ในมิตินั้นๆ เป็นแนวคิดของการส่งเสริมการ เรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) โดยมี หัวใจสำ�คัญอยู่ที่การแบ่งปันแหล่งทรัพยากร ด้านการศึกษาทีม่ คี ณ ุ ภาพสูส่ งั คมโลก เพือ่ นำ�ไป ใช้ประโยชน์ทางด้านการศึกษาได้อย่างเสรี ซึ่ง จะนำ�พาเมืองขอนแก่นสู่ความเป็นเมือง Smart Society
หน้า 11
ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559 แร่แบไรท์
• ต่อจากหน้า 1 ตั้งคำ�ถามว่าแล้วชุมชนในประเทศไทย ทำ�ไมหน่วย สำ�หรับผู้ที่มีบัญชีอยู่แล้ว และเปลี่ยนสมุดใหม่ให้ ทำ�ให้กำ�ลังการใช้เงินในระดับล่างไม่คล่องตัวเท่าที่ ความสำ�คัญของลูกค้าที่จะต้องอยู่อาศัยในโครงการ หนองคาย และยังถือว่าเป็นเรื่องที่ตลกขำ�ไม่ออก ที่
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2559 ที่ห้องประชุม องค์การบริหารส่วนตำ�บลบ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายนิมิต แสงอำ�ไพ นายด่านศุลกากร หนองคาย เป็ น ประธานเปิ ด เวที ทำ � ความเข้ า ใจ ระหว่างผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ, บริษัทนำ�เข้า แร่แบไรท์, ผู้นำ�ท้องถิ่น และประชาชนที่อาศัยอยู่ ในเส้นทางทีร่ ถบรรทุกแร่ฯ ผ่าน โดยมี ฝ่ายปกครอง อำ�เภอศรีเชียงใหม่, กกล.รส.หนองคาย ,ตำ�รวจ สภ.ศรีเชียงใหม่ พร้อมหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องเข้าร่วม รับฟัง การเปิดเวทีทำ�ความเข้าใจครั้งนี้ ตัวแทน บริ ษั ท ศรี เ ชี ย งใหม่ เ ฟอร์ รี่ จำ � กั ด ซึ่ ง เป็ น ผู้ ไ ด้ รั บ อนุ ญ าตสร้ า งท่ า เที ย บเรื อ ตั้ ง อยู่ ที่ บ้ า นหม้ อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ได้ชี้แจงทำ�ความเข้าใจ แก่ผู้นำ�ชุมชนและประชาชน เพื่อเร่งผลักดันให้มี การเปิดใช้ท่าเทียบเรือในการนำ�เข้าแร่แบไรท์จาก สปป.ลาว จำ�นวนมาก โดยได้ชี้แจงหากกรณีที่รถ บรรทุกแร่ผ่านเส้นทางขนส่ง ทำ�ให้สภาพถนนเกิด ความเสียหายบริษัทฯ ก็จะดำ�เนินการซ่อมแซมให้ คืนสู่สภาพเดิม ส่วนการขนแร่เข้ามาในพื้นที่จะ ดำ�เนินการเป็นครั้งคราว ตามระเบียบของศุลกากร โดยจะนำ�มาพักไว้ในพื้นที่ที่เตรียมไว้ของท่าเทียบ เรือ จากนัน้ ก็จะให้หน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องเข้ามาตรวจ สอบว่าแร่มีสารปนเปื้อน หรือเป็นมลพิษต่อสิ่ง แวดล้อมหรือไม่ ก่อนที่จะมีการลำ�เลียงออกจากท่า เทียบเรือ สำ�หรับประชาชนทีเ่ ข้าร่วมส่วนใหญ่ยงั วิตก กังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะมี การเปิดเวทีทำ�ประชาพิจารณ์ในครั้งต่อไป ด้านนายนิมิต แสงอำ�ไพ นายด่านศุลกากร หนองคาย กล่าวว่า ศุลกากรต้องใช้เวลาในการ ตรวจสอบการนำ�เข้าแร่แบไรท์ ว่ามีการสัมปทาน กับทาง สปป.ลาว จริงหรือไม่ ชนิดแร่ต้องเสียภาษี อะไร ตัวแร่มีอันตรายหรือไม่ ซึ่งได้รับคำ�ตอบว่า ไม่มีอันตราย ไม่มีสารตะกั่ว, ไม่มีสารกัมมันตรังสี และไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ เมื่อได้รับอนุญาตให้มี การขนแร่เข้ามา หากมีการร้องเรียนจากประชาชน ทีไ่ ด้รบั ผลกระทบ ผูป้ ระกอบการไม่ด�ำ เนินการแก้ไข ศุลกากรก็จะไม่อนุญาตให้ดำ�เนินการในครั้งต่อไป ซึ่งการขนแร่ฯ ศุลกากรจะอนุญาตให้ขนเป็นครั้ง คราว ไม่ใช่เป็นการสัมปทาน ด้ า นชาวบ้ า นที่ เ ข้ า ร่ ว มรั บ ฟั ง เปิ ด เผย ว่า หน่วยงานรัฐได้แจ้งชาวบ้านว่าแร่แบไรท์ไม่มี อันตราย โดยอ้างผลการตรวจจากหน่วยงานหนึ่งที่ จังหวัดอุดรธานี ซึง่ ชาวบ้านไม่เห็นเอกสาร และไม่มี เจ้าหน้าทีจ่ ากหน่วยงานด้านสาธารณสุขหรือหน่วย งานที่เกี่ยวข้องลงมาชี้แจงกับประชาชนในพื้นที่ให้ เกิดความสบายใจ อีกทั้งในที่ประชุมมีเพียงผู้ใหญ่ บ้านสองคน ที่ถามหน่วยงานรัฐและตัวแทนบริษัท นำ�เข้าแร่ และตัวแทนบริษัทศรีเชียงใหม่เฟอร์รี่ จำ�กัด โดยไม่ได้ถามเกี่ยวกับผลกระทบ มีเพียงถาม หารถนํํา้ มาฉีดผิวถนนไม่ให้เกิดฝุน่ ซึง่ ไม่ใช่สงิ่ ทีช่ าว บ้านต้องการรู้ โดยทีไ่ ม่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้ถาม แต่อย่างใด ซึง่ ชาวบ้านในพืน้ ทีส่ ว่ นใหญ่ยงั ไม่รเู้ รือ่ ง กับการขนแร่จ�ำ นวนมหาศาลในพืน้ ที่ รวมทัง้ ทุกคน ต่างหวั่นผลกระทบที่จะตามมา “เมื่ อ นำ � เข้ า แร่ จำ � นวนมหาศาลเข้ า มาใน ประเทศไทยกองแร่จำ�นวนมากก็จะถูกกองรวมกัน ไว้ ปัญหาสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องการฟุ้งกระจายของ ฝุ่น ผลกระทบต่อชุมชน เมื่อเกิดขึ้นหน่วยงานไหน จะมารับผิดชอบชีวิตของชาวบ้าน ชาวบ้านไม่ได้ คัดค้านการพัฒนาแต่ควรทำ�ให้ถูกขั้นตอน มีหลาย หน่วยงานมาชี้แจงให้ประชาชนเกิดความสบายใจ” สำ�หรับการขนแร่แบไรท์จำ�นวนมหาศาล มาขึ้นที่ หมู่ 8 บ้านหม้อ ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ ก่อนหน้านี้บริษัทที่ดำ�เนินการขนแร่ได้ขนแร่ชนิด นี้ขึ้นที่ อ.ปากชม จ.เลย ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ สอบถามทราบว่าสาเหตุที่บริษัทขนแร่ไม่ขนขึ้น ในพื้นที่ อ.ปากชม เนื่องจากเกิดปัญหาเรื่องผล ประโยชน์ กั บ ผู้ บ ริ ห ารเมื อ งหมื่ น แขวงกำ � แพง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อ.ปากชม ทำ�ให้ตอ้ งมาขนขึน้ ในพืน้ ที่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และสาเหตุที่ต้องมาขนขึ้นในพื้นที่ อ.ศรีเชียงใหม่ เนื่องจาก สปป.ลาว ไม่ต้องการให้ รถบรรทุกแร่วิ่งผ่านชุมชนเมือง ทำ�ให้ชาวบ้านใน พืน้ ที่ อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ และ อ.เมืองหนองคาย
งานรัฐประเทศไทยถึงยอมให้รถบรรทุกแร่วิ่งผ่าน ชุมชนเมือง ซึง่ หากยังไม่มกี ารชีแ้ จงให้ประชนทัง้ ใน พืน้ ที่ อ.ศรีเชียงใหม่ และอำ�เภอต่างๆ ทีร่ ถบรรทุกแร่ วิ่งผ่าน ประชาชนจำ�นวนมากจะลงชื่อคัดค้านอย่าง แน่นอน รวมทัง้ ลงชือ่ ร้องเรียนไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้สั่งระงับการ ดำ�เนินการกรณีดังกล่าว เนื่องจากมีผลกระทบต่อ ประชาชนจำ�นวนมาก สำ � หรั บ การประชาคมในครั้ ง นี้ เ ป็ น ที่ น่ า สังเกตว่าเริ่มมีประชาชนเข้ามารับฟังมากขึ้น อีก ทั้งได้เปลี่ยนสถานที่จากจุดผ่อนปรนบ้านหม้อ มา ใช้ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำ�บลบ้านหม้อ เพือ่ ให้เกิดความน่าเชือ่ ถือว่าได้ท�ำ ประชาคมอย่างถูก ต้อง แต่ในความเป็นจริงการประชาคมทีผ่ า่ นมาชาว บ้านไม่เคยได้รับรู้เรื่องการขนแร่จำ�นวนมหาศาล ผ่านพื้นที่ มารู้เมื่อสื่อมวลชนได้นำ�เสนอข่าวอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้การตื่นตัวของประชาชนต่อ กรณีดังกล่าวไม่จำ�กัดอยู่แค่ในพื้นที่ อ.ศรีเชียงใหม่ แล้ว โดยเส้นทางที่รถขนแร่จะวิ่งผ่าน ชาวบ้านใน แต่ละชุมชนเตรียมออกมาคัดค้านอย่างแน่นอน
คนจนปลื้ม
• ต่อจากหน้า 1
หลั ง จากรั ฐ บาล พล.อ.ประยุ ท ธ์ จั น ทร์ โอชา อนุมัติมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้ น้อย ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่ง รัฐ สนับสนุนผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ทั้งปีไม่เกิน 100,000 บาท ไปเมื่อวันที่ 22 พ.ย.59 ที่ผ่านมานั้น โดยมีการวางเกณฑ์การช่วยเหลือ เป็นเงินที่โอนเข้า บัญชีธนาคาร ทีผ่ มู้ รี ายได้นอ้ ยไปลงทะเบียนไว้ทงั้ 3 แห่ง ดังนี้ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) และธนาคารกรุง ไทย การสนับสนุนจะเป็นเงินช่วยเหลือเพียงครั้ง เดียว ระหว่างวันที่ 1-30 ธันวาคม 2559 โดยผู้มีราย ได้ทงั้ ปีไม่เกิน 30,000 บาท จะได้รบั โอนเงินเข้าบัญชี 3,000 บาท ส่วนผูท้ มี่ รี ายได้ตงั้ แต่ 30,001 – 100,000 บาท จะได้รับโอนเงินเข้าบัญชี 1,500 บาท เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.59 บรรยากาศที่ธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาขอนแก่น ได้มีประชาชนที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ มีรายได้น้อย ทั้งในเขตอำ�เภอเมืองขอนแก่น และ อำ�เภอใกล้เคียง แห่นำ�สมุดบัญชีเงินฝาก และบัตร เอทีเอ็ม มาเข้าคิวรอปรับและกดเช็คยอดเงินโอน ช่วยเหลือตามโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ หรือที่ เรียกว่า “ลงทะเบียนคนจน” ที่ ธ.ก.ส.สาขาขอนแก่น เป็นแถวยาวเหยียดล้นออกมาถึงถนนหน้าธนาคาร ตั้งแต่ก่อนเปิดทำ�การ นายวิฑูรย์ พึ่งสาย ผู้จัดการธนาคารเพื่อ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาขอนแก่น หรื อ ธกส. เปิ ด เผยว่ า จำ � นวนประชาชนผู้ ที่ ล ง ทะเบียนรายได้น้อยเพื่อรับสวัสดิการของรัฐบาล รวม 2 สาขา มียอดผู้มาลงทะเบียนรวม 4,960 ราย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ในจำ�นวนนี้ ไม่ทราบว่ามีผู้ ผ่านเกณฑ์และได้รับสิทธิจำ�นวนกี่ราย ในงวดแรกรั ฐ บาลได้ ใ ห้ ค วามช่ ว ยเหลื อ โดยส่งรายชื่อสำ�หรับผู้ที่มีสิทธิรับเงินมาให้จำ�นวน 2,690 ราย เป็นเงินกว่าหกล้านบาท โดยมีเกษตรกร เดินทางมาเปิดบัญชี พร้อมรับเงินเมื่อธนาคารเปิด ทำ�การวันที่ 13 ธันวาคม 59 เพียงวันเดียวรวมกว่า 1,000 ราย ในจำ�นวนนี้ เป็นเกษตรกรทีม่ าจากหลาย จังหวัด ซึ่งรัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถ เบิกรับเงินที่สาขาใดก็ได้ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม เบิกเงินข้ามเขต ทำ�ให้มีเกษตรกรมาใช้บริการที่ ธกส. ขอนแก่น มากเป็นพิเศษ “ซึง่ หลังจากทีป่ รับเช็คยอดแล้วพบว่า มียอด เงินโอนเข้าในบัญชีทงั้ รายละ 1,500 บาท และ 3,000 บาท ส่วนใหญ่จะตัดสินใจถอนเป็นเงินสดทันทีจน ต้องรอคิวแน่นตู้เอทีเอ็ม และเคาน์เตอร์ ธนาคารจึง ได้จัดเจ้าหน้าที่ไปคอยให้บริการปรับสมุดที่บริเวณ หน้าตูเ้ อทีเอ็ม และตัง้ โต๊ะให้บริการเบิกถอนเงินด้าน นอกเพิม่ เติมอีกด้วย เพือ่ ให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว แก่ประชาชนทีม่ าใช้บริการ” นายวิฑรู ย์ กล่าวและว่า คาดว่าจะมีประชาชนมาปรับเช็คยอดเงินและถอน เงินตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งธนาคาร จะได้จัดเจ้าหน้าที่ คอยอำ�นวยความสะดวกเต็มที่ ซึ่งบางคนที่ยังไม่มี บัญชีของทาง ธ.ก.ส. ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยอำ�นวย ความสะดวกรับเปิดบัญชีใหม่ รวมไปถึงปรับสมุด
เป็นแบบดิจิทัล เพื่อความรวดเร็วในการเบิก ถอน นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ยัง พบประชาชนบางส่วนเกิดความสับสน เป็นลูกค้า ธ.ก.ส.และเปิดบัญชีของ ธ.ก.ส.อยู่แล้ว แต่ตอนลง ทะเบียนไปลงที่ธนาคารออมสินแต่ไม่ได้เปิดบัญชี ที่ออมสิน แต่กลับมาเช็กยอดเงินที่ ธ.ก.ส.จึงไม่พบ ยอดเงินโอนเข้าบัญชี เจ้าหน้าที่จึงแนะนำ�ให้ไปเปิด บัญชียังธนาคารที่ลงทะเบียน สำ�หรับผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่ง รัฐกับ ธ.ก.ส.แล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดบัญชีเงินฝากกับ ธนาคาร เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการรับ เงินสวัสดิการจากรัฐ ขอให้ติดต่อเปิดบัญชีได้ที่ ธ.ก.ส.สาขาที่สะดวกทั้ง 1,275 สาขาทั่วประเทศ ภายในวั น ที่ 27 ธ.ค.นี้ และธนาคารจะโอนเงิ น สวัสดิการดังกล่าวให้ภายในวันที่ 30 ธ.ค.2559 นายวิฑูรย์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ผู้ที่ลง ทะเบียนและถูกแจ้งว่าคุณสมบัตไิ ม่ถกู ต้องตามหลัก เกณฑ์นั้น ให้ยื่นแก้ไขข้อมูลภายในวันที่ 15 ธ.ค. 2559 ธนาคารจะแก้ไขข้อมูลแล้วเข้าสู่กระบวนการ ตรวจสอบจากกรมสรรพากร และกระทรวง มหาดไทยอีกครัง้ โดยในวันที่ 16 ธ.ค.2559 ธนาคาร จะส่งข้อมูลใหม่เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบต่อไป หากไม่พบข้อบกพร่อง กระทรวงการคลังจะส่งราย ชือ่ กลับมายังธนาคาร เพือ่ โอนเงินให้ภายใน 30 ธ.ค. 2559 ทัง้ นีผ้ ลู้ งทะเบียนสามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่ เว็บไซต์ www.epayment.go.th หรือเว็บไซต์ www. rd.go.th นางอุดม อายุ 59 ปี กล่าวว่า ตนมีอาชีพ ทำ�นาและเป็นลูกค้า ธ.ก.ส.มีบัญชีของ ธ.ก.ส.อยู่ แล้ว แต่ตอนไปลงทะเบียนเป็นผู้มีรายได้น้อย ได้ไป ลงทะเบียนที่ธนาคารออมสินแต่ไม่ได้เปิดบัญชีที่ ออมสิน เมือ่ มาปรับเช็กยอดเงินที่ ธ.ก.ส.ไม่พบยอด เงินโอนเข้าบัญชีเหมือนกันคนอื่น จึงไปสอบถาม ทางธนาคาร เจ้ า หน้ า ที่ แ นะนำ � ให้ ไ ปสอบถาม ธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ เพื่อขอเปิดบัญชีและรอรับ เงินโอนช่วยเหลือจากรัฐในรอบต่อไป ซึ่งจะได้รีบ ไปติดต่อเพราะเกรงจะเสียสิทธิรับการช่วยเหลือ
ธุรกิจ SMEsครวญ • ต่อจากหน้า 1 นายสั น ติ กระจ่ า งสรร ผู้ ป ระกอบธุ ร กิ จ จำ�หน่ายและให้เช่า เครื่องเล่นบ้านลม สไลเดอร์ กล่าวว่า ปกติในช่วงเทศกาลต่างๆ จะมีงานทุกวัน โดยเฉพาะ สงกรานต์ ออกพรรษา เข้าพรรษา ปีใหม่ งานมหกรรมสินค้าราคาถูก ตลาดนัดเปิดท้ายสถานที่ ต่างๆ รวมทั้งงานอีเว้นท์ งานวันเกิด ในช่วงปี 58 ที่ ผ่านมา ยอดจำ�หน่ายและให้เช่าเครื่องเล่นบ้านลมฯ และเครือ่ งเล่นต่างๆ ลดลงมากกว่าทุกปีทผี่ า่ นมาแล้ว แต่ในช่วงปี 59 ตั้งแต่ต้นปี มาจนถึงเดือนธันวาคม มี ยอดการออกงานที่ลูกค้าเช่า สไลเดอร์ ไม่เกิน 20 ราย ตลอดปี อีกทัง้ ยังไม่มงี านจองในช่วงเทศกาลต้อนรับ ปีใหม่ 2560 แต่อย่างใด นับเป็นช่วงที่งานลดลงไป เยอะมาก ราว 60-70% “ปกติในช่วงหลังเก็บเกี่ยว หรือช่วงเทศกาล งานต่ า งๆ เป็ น ช่ ว งที่ เ กษตรออกมาใช้ เ งิ น ทำ � ให้ กระแสการเงินมีการหมุนเวียน นับเป็นการกระตุ้น เศรษฐกิ จ ในระดั บ รากหญ้ า ประชาชนได้ ใ ช้ เ งิ น เกิดการหมุนเวียนของตลาดการค้า ทั้งประชาชน และเกษตรกรไม่มีภาวะความเครียดเพราะมองว่า เศรษฐกิจยังสามารถก้าวผ่านไปได้อย่างคล่องตัว โดย เฉพาะการที่ประชาชนกล้าใช้เงิน ทำ�ให้งานอีเว้นท์ หรือการจัดมหกรรมสินค้าเสริมความคล่องทางด้าน เศรษฐกิจไปในตัวด้วยเช่นกัน แต่กระแสเศรษฐกิจ ชะลอตัวทรุดลงมาตั้งแต่ต้นปี 59 ทั้งนี้ ยังไม่รวมที่ ไตรมาสท้ายของปี ทีป่ ระชาชนคนไทยทุกคนล้วนให้ ความถวายอาลัยแด่ “พ่อหลวง” และเชื่อว่าไม่มีใคร ที่จะมีแก่ใจในการจัดงานรื่นเริงอย่างแน่นอน” นาย สันติ กล่าวและว่า สำ�หรับเครื่องเล่น บ้านลมสไลเดอร์ เป็น เครื่องเล่นสำ�หรับเด็กที่ออกให้บริการตามงานต่างๆ ซึ่งมักเปิดให้บริการสร้างความรื่นเริงสนุกสนานให้ กับเด็ก เมือ่ เปิดเครือ่ งเล่นสไลเดอร์แต่ละครัง้ จะมีราย ได้ 2,000 – 2,500 บาทต่อคืน แต่ในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น เทศกาลงานต่างๆ ล้วนเงียบเหงา ไม่มีการใช้จ่ายเงิน เมื่อเปิดสไลเดอร์ รายได้จะอยู่ที่ 500 – 800 บาทต่อ คืน ประชาชนไม่ออกมาใช้เงิน หรือเป็นเพราะไม่มี กำ�ลังซื้อ หรืออาจเกิดจากภาวการณ์ชะลอตัวต่างๆ
ควร มองว่าเศรษฐกิจและการใช้เงินน่าจะมีความ คล่องตัวได้ในกลางปี 2560 นายสันติ กล่าว คุ ณ เรณู แก้ ว ลออ เจ้ า ของร้ า นจำ � หน่ า ย เสื้อผ้าสำ�เร็จรูปตลาดประตูนํํ้า กล่าวว่า ตลาดเสื้อผ้า แฟชั่น หรือธุรกิจเสื้อผ้าสำ�เร็จรูป อยู่ในช่วงตกตํ่ามา ราว 1-2 ปี ซึ่งน่าจะเกิดภาวะความเปลี่ยนแปลงทาง เศรษฐกิจและสังคม ที่มีความสำ�คัญในการส่งผลก ระทบต่อการดำ�รงชีพของประชาชนโดยส่วนรวม ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มีสาเหตุมาจาก การบริโภคทีเ่ ปลีย่ นไปของสังคม โดยเฉพาะการแชร์ ธุรกิจเสือ้ ผ้าสำ�เร็จรูปในตลาดมากขึน้ ถึงสองเท่า และ ยังมีการเปิดจำ�หน่ายแบบออนไลน์ ทีเ่ ข้าถึงกลุม่ ลูกค้า ได้มากขึ้น ทำ�ให้ร้านค้าต้องปิดตัวลงไปหลายราย ถึง แม้วา่ ในช่วงเดือนตุลาคมทีผ่ า่ นมา ธุรกิจเสือ้ ผ้ากลับ มาได้รับความนิยมจากประชาชนที่ต้องการชุดสีดำ� มากขึ้นก็จริง แต่เป็นความต้องการแบบกะทันหัน ทำ�ให้ผู้ผลิตไม่สามารถสนองตอบตามความต้องการ ของผูบ้ ริโภคได้ จึงทำ�ให้รา้ นค้าปลีกเสียโอกาสไปบ้าง “ปัจจุบนั ธุรกิจเสือ้ ผ้าเฉพาะสีด�ำ เท่านัน้ ทีย่ งั สามารถ จำ�หน่ายได้แบบเรือ่ ยๆ ในขณะทีเ่ สือ้ ผ้าแฟชัน่ และชุด สีสนั ต่างๆ ไม่ได้รบั ความสนใจจากประชาชน มองว่า ผู้ประกอบการร้านจำ�หน่ายเสื้อผ้าสำ�เร็จรูปค้าปลีก อาจต้องปิดตัวลงไปเพิ่มอีกหลายราย ซึ่งอาจปิดตัว ไปเลย หรืออาจเพียงหยุดชะลอกิจการเพื่อประคอง สถานการณ์ให้ผ่านปีนี้ไป ช่วงนี้ยังมีความหวังว่า เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตลาดเสื้อผ้าอาจ กลับมาคึกคักบ้าง เพราะตามความเชื่อที่ว่า ต้องใช้ เสือ้ ผ้าชุดใหม่ในวันขึน้ ปีใหม่ ซึง่ จะมีความคึกคักบ้าง ในตลาดเสื้อผ้าสำ�เร็จรูป” คุณเรณู กล่าว นายอเนก สังนิล ร้านจำ�หน่ายเครื่องสังฆ ภัณฑ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าประเทศไทย 2-3 ปีที่ ผ่านมา ไม่ใช่แค่ปี 58 ที่ภาวะทางเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงการแข่งขันทางธุรกิจการค้าก็ลดลงไปด้วย ใน ปี 59 มองว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังจะตกตํ่าลง อย่างต่อเนือ่ ง สาเหตุอาจมาจากรายได้ของประชาชน ลดลง ส่งผลกระทบในภาคการใช้จ่ายที่ไม่มีกำ�ลังซื้อ ของประชาชน ไม่ใช่แค่บริษัทเล็กๆ ที่ได้รับผลกระ ทบจากความชะลอตัวทางเศรษฐกิจเท่านั้น บริษัท ใหญ่ก็ได้รับผลตามไปด้วย “จากที่ผ่านมา ช่วงที่เกิดการชะลอตัวทาง เศรษฐกิจ ยังมีประชาชนหันหน้าเข้าวัดทำ�บุญ ถวาย สังฆทาน ในช่วงเทศกาลหรือวันพระ จากความ ศรัทธาและเป็นที่พึ่งทางใจ เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดการค้าด้านสังฆภัณฑ์ตื่นตัวได้ ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ปัจจุบัน ยอดจำ�หน่าย เครื่องสังฆภัณฑ์ รวมทั้งเครื่องทำ�บุญต่างๆ อยู่ใน ภาวะเงียบเหงา ลูกค้าทีเ่ ข้ามาซือ้ สินค้าบางตา ขณะที่ ลูกค้าประจำ�ก็ซอื้ น้อยลง ทำ�ให้ยอดขายลดลงมากกว่า เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงวันพระ หรือเทศกาลทำ�บุญ ที่ย้อนหลังไปเมื่อ 3 ปีก่อน แต่ทั้งนี้ ยังมีความหวัง ว่า เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ น่าจะมียอด การจำ�หน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์เพิ่มขึ้น หรือไม่ อาจ เงียบเหงายาวไปถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ของปี 2560 คงต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป” นายอเนก กล่าว
“สิทธารมย์”
• ต่อจากหน้า 1
บริษัท สิทธารมย์ ดีเวลล๊อปเม้นต์ จำ�กัด ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ ของจั ง หวั ด อุ ด รธานี ได้ มี ก ารเปิ ด ตั ว โครงการ สิ ท ธารมย์ พ าร์ ค ไลฟ์ เป็ น โครงการสิ ท ธารมย์ 2 ด้วยงบประมาณลงทุนอยู่ที่ 200 ล้านบาทเศษ ใน พื้นที่ประมาณ 9 ไร่เศษ จำ�นวน 42 ยูนิต แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 20 ยูนิต บ้านแฝดรูปแบบใหม่ 22 ยูนติ ราคาตัง้ แต่ 3.5-4.9 ล้านบาท ซึง่ ถือว่าเป็นราคา ตลาดของบ้านจัดสรรทั่วๆไป นายมนต์ชยั อรวงศ์ไพศาล ประธานบริหาร เจ้าหน้าที่บริษัท อดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จำ�กัด (มหาชน) กล่าวว่า สำ�หรับโครงการสิทธารมย์พาร์ค ไลฟ์นี้ เป็นโครงการต่อเนือ่ งมาจากโครงการหมูบ่ า้ น จัดสรรสิทธารมย์ โครงการแรก ทีไ่ ด้รบั การตอบรับ จากลูกค้าในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีด้วยดี ทางโครง การฯเน้นถึงสิ่งแวดล้อมและการเป็นส่วนตัว ด้วย การรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง “โครงการสิ ท ธารมย์ พ าร์ ค ไลฟ์ มี ก าร ออกแบบบ้านให้สามารถใช้สอยได้คุ้มค่า และได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากทางโครงการได้ให้
จึ ง ได้ อ อกแบบเพื่ อ การใช้ ส อยประโยชน์ อ ย่ า ง สมบูรณ์แบบ ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ” นายณัฐวัชร สวนสุจริต รองกรรมการผู้ จัดการ บริษทั สิทธารมย์ จำ�กัด เปิดเผยถึงการดำ�เนิน ธุรกิจหมู่บ้านจัดสรรสิทธารมย์ ในพื้นที่จังหวัด อุดรธานีว่า พื้นที่โครงการทั้งหมดประมาณ 108 ไร่ มีบ้านจัดสรรจำ�นวน 342 ยูนิต ตั้งอยู่ริมถนนเลี่ยง เมืองอุดรธานี ด้านทิศตะวันออก ซึง่ ถือว่าเป็นพืน้ ที่ ขนาดใหญ่ที่สุดในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ส่วน โครงการสิทธารมย์พาร์คไลฟ์ ทีเ่ ปิดตัวโครงการใหม่ นี้ ถือว่าเป็นโครงการที่ 2 ด้วยงบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาทเศษ จำ�นวน 42 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยว 20 ยูนิต และบ้านแฝดรูปแบบใหม่ ในพื้นที่ 40 ตร.ว. ที่ได้รับการออกแบบให้สามารถใช้สอยพื้นที่และ ตัวบ้านเหมือนกับบ้านเดี่ยว โดยมีพื้นที่ว่างรอบ บ้าน ไม่ได้ก่อสร้างให้ติดกันเหมือนบ้านแฝดทั่วไป เพื่อรองรับลูกค้าที่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีศักยภาพ ในระดับที่ไม่เกิน 3.5 ล้านบาท/ยูนิต เป็นคอนเซ็ป ของโครงการทีต่ อ้ งการให้ลกู ค้าได้รบั บ้านทีม่ คี วาม เพียบพร้อมสำ�หรับการใช้ประโยชน์ ได้ทั้งหลัง มี ความปลอดภัยจากการรักษาความปลอดภัยจาก พนักงานรักษาความปลอดภัย มีความร่มรื่นด้วย สวนต้นไม้ กำ�หนดที่จะสามารถปิดโครงการได้ใน ไตรมาสที่ 4 ของปี 2560 และเป็นโครงการที่ชะลอ โครงการมาตัง้ แต่ปี 2557 ทัง้ นีด้ ว้ ยเหตุผลทีว่ า่ สภาพ โดยรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้า (2560) มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากในปัจจุบัน นอกจากนี้ บริษัท อดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จำ�กัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท สิทธา รมย์ ดีเวลล๊อปเม้นต์ จำ�กัด ได้วางนโยบายการทำ� ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงรุกทั่วประเทศ เฉพาะที่ จังหวัดอุดรธานีนนั้ กำ�หนดตัง้ แต่ปี พ.ศ.2560-2564 นอกจากมีโครงการปัจจุบันนี้แล้ว ก็จะมีการขึ้น โครงการพร้อมกัน 2-3 โครงการ ในพืน้ ทีข่ องบริษทั ที่ถือครองอยู่แล้ว และที่จะจัดหาใหม่ โดยที่จะเป็น โครงการบ้านจัดสรรบ้านหรูในราคากว่า 10 ล้าน ขึน้ ไป โดยเน้นไปทีล่ กู ค้าทีม่ ศี กั ยภาพสูง หรือระดับ ไฮเอ็น เช่น แพทย์ นักบินสายการบินเอกชน พ่อค้า หรือฯลฯ โดยมีความมั่นใจว่าโครงการใหม่นี้จะ ทำ�ให้ลูกค้ามีความสนใจ เนื่องจากว่าทำ�เลอยู่ติด ถนนสายหลัก ห่างจากสิ่งอำ�นวยความสะดวกไม่ มากนัก และอยู่ในพื้นที่ไพรทเวทโซน
จีเ้ ร่งสร้างวงแหวน • ต่อจากหน้า 1 นายสวาท ธี ร ะรั ต นนุ กู ล ชั ย ประธาน หอการค้าจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยถึงกรณีโครงการ วงแหวนรอบ 2 อุดรธานี ที่โครงการล่าช้ามาเกือบ 10 ปี ว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่หอการค้าจังหวัด อุดรธานี ในฐานะภาคเอกชนได้นำ �เข้าเสนอต่อที่ ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎ อุดรธานี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ซึ่ง ครม.สัญจร ก็ให้ความเห็นชอบ โดยให้กรมทางหลวงจัดงบศึกษา ความเหมาะสม 40 ล้านบาท ซึ่งต่อมาจังหวัดอุดรธานีได้ตั้งคณะทำ�งาน ขึ้นมาเพื่อดำ�เนินโครงการให้เป็นไปตาม ครม.สัญจร ดังกล่าว โดยมีการทำ�การสำ�รวจแนวเขตทางอากาศ พร้อมกับมีการกำ�หนดแนวเขตสายทางว่าจะต้อง ผ่านหมู่บ้าน ตำ�บลใดบ้าง และกำ�หนดระยะห่าง จากวงแหวนเดิมในปัจจุบันโดยรอบรัศมีประมาณ 10 ก.ม.อย่างไรก็ตามก็ได้มีการปรับเปลี่ยนแนวเส้น ทางในบางจุด เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสภาพ ความเป็นจริง และเหมาะสมกับสภาพสิ่งแวดล้อม หอการค้ า จั ง หวั ด อุ ด รธานี ก็ ไ ด้ รั บ ทราบ ว่า ในปีนี้งบประมาณศึกษาความเหมาะสม 40 ล้าน บาท ก็ไม่ได้รับการพิจารณา โดยมีการอ้างว่าจะซํํ้า ซ้อนและติดกับโครงการทำ�การศึกษาความเหมาะ สมทางมอเตอร์เวย์ สายนครราชสีมา-หนองคาย ซึ่ง กรมทางหลวงได้มโี ครงการในการทำ�การศึกษาความ เหมาะสมแล้วในปีงบประมาณ 2560 “กรณีดังกล่าว ถือว่าเมืองอุดรธานี สูญเสีย โอกาสในระบบโลจิสติกส์และการขยายโครงการ การปรับปรุงพัฒนาระบบการขนส่ง ตามแผนพัฒนา จังหวัดอุดรธานี ดังที่เห็นได้จากในปัจจุบันนี้ความ หนาแน่นด้านการขนส่งจากรถบรรทุกขนาดต่างๆ มี ความหนาแน่นมาก โดยเฉพาะถนนเลีย่ งเมืองด้านทิศ ตะวันออก สีแ่ ยกเลีย่ งเมืองขอนแก่น-สีแ่ ยกเลีย่ งเมือง
โครงการวงแหวนรอบ 2 มีความล่าช้าเป็นเวลาหลาย ปี จนกระทั่งต้องหาทางระบายความแออัดโดยการ ผลักดันให้เกิดการขยายผิวถนนสาย 216 เลี่ยงเมือง ด้านทิศตะวันออก จากสี่แยกเลี่ยงเมืองขอนแก่น-สี่ แยกเลี่ยงเมืองหนองคาย จากเดิมเป็น 6 ช่องจราจร นอกจากนี้แล้วยังพยายามหาเส้นทางอีกหลายเส้น ทาง เพื่อทำ�เป็นทางลัด เพื่อหลีกเลี่ยงทางสายหลัก เช่น ทางหมายเลข 2410 (สี่แยกเลี่ยงเมือง สามพร้าวต.ดอนกลอย อ.หนองหาน-อ.กุมภวาปี-เชือ่ มกับถนน มิตรภาพ ที่ ต.พันดอน) เจ้าหน้าที่ สำ�นักงานแขวงการทางจังหวัด อุดรธานี เปิดเผยว่า สำ�หรับร่างแนวหมุดแนวถนน วงแหวนรอบที่ 2 ในปัจจุบนั นีน้ นั้ ไม่ได้เกิดขึน้ มาจาก การศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของที่ ปรึกษากรมทางหลวง แต่เกิดขึ้นมาจากแนวคิดของ บุคคลกลุม่ หนึง่ ในท้องถิน่ เอง และแนวหมุดทีป่ รากฏ อยูใ่ นร่างก็มกี ารคลาดเคลือ่ นจากจุดเดิมทีเ่ ป็นแนวคิด ของคณะกรรมการพิจารณาแนวเขตระดับจังหวัดทีม่ ี ผู้ว่าราชการเป็นประธานคณะทำ�งาน จึงอาจจะเป็น เหตุผลหนึ่งที่ไม่ผ่านการพิจารณาบรรจุงบประมาณ การศึกษาความเหมาะสมของกรมทางหลวงแผ่นดิน ทั้งที่ทางจังหวัดอุดรธานีได้เสนอของบประมาณมา เพื่อทำ�การศึกษาความเป็นไปได้จากกรมทางหลวง แผ่นดินหลายปีแล้ว นายอเนก สุวรรณภูเต ผูอ้ �ำ นวยการสำ�นักงาน แขวงการทางที่ 1 จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า สำ�หรับ งบประมาณการศึกษาความเหมาะสม โครงการถนน วงแหวนรอบ 2 ของจังหวัดอุดรธานี ได้รับทราบ จากกรมทางหลวงว่ า จะมี ก ารบรรจุ เ ข้ า อยู่ ใ นงบ ประมาณการศึกษาความเหมาะสมถนนมอเตอร์เวย์ นครราชสีมา-หนองคาย มีผลในปีงบประมาณ 2560 อย่างไรก็ตามกรมทางหลวงแผ่นดิน ได้จัดสรรเงิน งบประมาณตามแผนงาน/โครงการที่ตอบสนองต่อ ยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัดอุดรธานี จำ�นวน หลายโครงการด้วยกัน เช่น โครงสร้างพื้นฐานและโล จิสติกส์ สายหลักทีอ่ ยูใ่ นระหว่างการปรับปรุง และยัง ไม่ได้รบั การปรับปรุง ซึง่ ควรทีจ่ ะได้รบั การปรับปรุง/ พัฒนาให้มีศักยภาพในการขนส่ง และระบบโลจิสติ กส์ในอนุภูมิภาค และภูมิภาคอาเซียน โครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 216 ถนนวงแหวนด้ า นทิ ศ ตะวั น ออก ช่ ว งสี่ แ ยก เลี่ยงเมืองขอนแก่น-สี่แยกทางเลี่ยงเมืองหนองคาย งบประมาณ 400 ล้าน งบปี 2560 เป็น 6 ช่องจราจร โครงการขยายช่องทางจราจรขนาด 4 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 2410 สี่แยกเลี่ยงเมืองอุดรธานีชุมชนบ้านสามพร้าว-ม.ราชภัฏอุดรธานี 2- ต.ดอน กลอย เชื่อมกับทางหลวงแผ่นดินสาย สุ่มเส้า อ.เพ็ญอ.หนองหาน จังหวัดอุดรธานี ระยะทาง 17 ก.ม.งบ ประมาณ 400 ล้านบาท เป็นขยายผิวทางจราจรจากเดิม 2 ช่องทาง จราจร เป็นขนาดทาง 4 ช่องทางจราจร เพื่อรองรับ การขนส่ง การจราจรที่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยในการด้าน การค้า การลงทุน การขนส่ง เศรษฐกิจ สังคมและ การศึกษา โดยเป็นเส้นทางการระบายรถบรรทุก รถ เทลเล่อร์ รถบรรทุกคอนเทนเนอร์ จากขอนแก่นไป หนองคาย จากหนองคาย ไปขอนแก่น ได้อีกเส้นทาง หนึง่ นอกเหนือเส้นทางทีม่ อี ยูแ่ ล้ว แต่กม็ ปี ญั หาพืน้ ที่ ทางแคบ โดยเฉพาะทีบ่ ริเวณบ้านแมด บ้านสามพร้าว ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี มีพนื้ ทีถ่ นนกว้างเพียง 5 -7.50 ม.เท่านั้น โครงการก่อสร้างทางต่างระดับ จุดตัดทาง หลวงหมายเลข 2 กับถนนวงแหวนอุดรธานี ซึ่งกรม ทางหลวงแผ่นดินได้ท�ำ การศึกษาความเหมาะสม เมือ่ ปี 2555 โดยมีงบประมาณโครงการประมาณ 1,350 ล้านบาท ปัจจุบันนี้ ได้บริษัทรับเหมาก่อสร้างแล้ว คือ หจก.นภาก่อสร้าง ขณะนี้ได้ออกแบบโครงการ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับความเห็นชอบจาก ครม.ทั้งนี้ได้มีการประชุมเตรียมการลงมือก่อสร้าง กับหน่วยงานทุกหน่วยงานทีด่ แู ลสิง่ สาธารณูปโภคใน บริเวณโครงการและใกล้เคียง เพือ่ ให้ด�ำ เนินรือ้ ถอนสิง่ สาธารณูปโภคออกจากพืน้ ทีก่ อ่ สร้าง เพือ่ ทีจ่ ะได้มอบ พื้นที่ก่อสร้างให้กับ บริษัทรับเหมาก่อสร้างต่อไป
สนใจพื้นที่โฆษณา ติดต่อ คุณสุพัตรา thaisaeree@gmail.com thaisaeree@yahoo.com
หน้า 12
ปีที่ 14 ฉบับที่ 151 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559
ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.ท.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร, รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา สุพัตรา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,
ประคอง หนู ร าช,พั น ธ์ ศั ก ดิ์ วี ร ะชั ย ,เสริ ม ศั ก ดิ์ ขาวโกมล สำ � นั ก งาน 76 ม.20 ถ.กสิ ก รทุ่ ง สร้ า ง ต.ศิ ล า อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น 40000 โทรศั พ ท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย ภัทรวินทร์ ลีปาน 92 หมู่ 1 ต.บ้าน ่ รึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอือ้ ดีไซน์ 08-3417-0363 ว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 43110 โทรศัพท์ 087-8627979 E-mail : pattarawin2519@hotmail.co.th ทีป