หนังสือพิมพ์ไทยเสรี ฉบับที่ 167

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ทั นประจำ ส �ถเดืาอนเมษายน น ก า ร2561 ณ์

ติ ด ต า ม ข่ า ว ส า ร ไ ด้ ที่

w w w . t h a i s a e r e e .หน้ c oาm1

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ประจำ�เดือนเมษายน 2561 ราคา 10 บาท

ธุรกิจสระว่ายนํ้าโตต่อเนื่อง เจดีพลู ส์กางแผนบุกโรงเรียน เน้นคุณภาพ ราคาประหยัด ๒ ทศวรรษ สมาคมสือ่ มวลชนจังหวัดขอนแก่น ; ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผูช้ ว่ ยรัฐมนตรี ประจำ�นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน๒ ทศวรรษสมาคมสื่อมวลชนจังหวัด ขอนแก่น และมอบรางวัลให้กับสื่อมวลชนที่ปฏิบัติงานดีเด่นในสาขาต่างๆ จำ�นวน ๖ สาขา ในโอกาสครบรอบ ๒๐ ปีการก่อตั้งสมาคมฯ ณ ห้องออคิดบอลรูม โรงแรมพูล แมน ขอนแก่น ราชาออคิด จ.ขอนแก่น

คลืน่ มนุษย์ สงกรานต์ถนนข้าวเหนียว ;​ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย หัวหน้า ส่วนราชการ ภาครัฐ เอกชน นำ�นักท่องเทีย่ วในถนนข้าวเหนียวร่วมเล่นคลืน่ มนุษย์ไร้แอลกอฮอล์ ใน งานประเพณีสดุ ยอดสงกรานต์อสี าน เทศกาลดอกคูนเสียงแคนและถนนข้าวเหนียว ประจำ�ปี 2561 ณ บริเวณถนนข้าวเหนียวจังหวัดขอนแก่น ยอดผูเ้ ข้าร่วมงานในวันสุดท้ายส่งท้ายสงกรานต์ มีจ�ำ นวน 167,614 คน ซึง่ ยอดสะสมระหว่างวันที่ 13-15เมษายน 2560 รวมผูเ้ ข้าร่วมกิจกรรมถนนข้าวเหนียว ทั้งสิ้น 460,492 คน สร้างความประทับใจและความสนุกสนานให้กับผู้ที่เข้ามาร่วมกิจกรรม

.พูลส์ ขอนแก่น ชีธ้ รุ กิจ แห่ ซื้ อ ของฝากตลาดท่ า เสด็ จ ธุ ร กิ จ ค า ร์ แ ค ร์ เจ.ดี สระว่ า ยนํ้ า โตต่ อ เนื่ อ ง เงิ น สะพั ด หลายสิ บ ล้ า นบาท หนองคายรับทรัพย์ วาดแผนปี 2561 รุกเจาะ นักท่องเทีย่ วแวะซือ้ ของฝากคึกคัก ส่งท้ายหยุด ขอนแก่ น สวนทาง ตลาดโรงเรียน หวังลดความ ยาวสงกรานต์ก่อนเดินทางกลับ สร้างรายได้ กับพ่อค้าแม่ค้า คาดเงินสะพัดหลายสิบ ยอดหายกว่ า 50% สูญเสีย ให้เยาวชนเรียนรูว้ ธิ ี ล้ให้านบาท อาหาร ของประดับตกแต่ง และ

การว่ า ยนํ า ้ ที ถ ่ ก ู ต้ อ ง ตั ง ้ เป้ า ของเด็กเล่น ยังได้รับความนิยม คาร์แคร์หนองคาย โกยเงิน เข้ากระเป๋าอือ้ หลังประชาชน ยอดขายโต 12% ธุ ร กิ จ E-Commerce ปี 2018 มี โ อกาสปั ง เอกชนผนึกกำ�ลังภาครัฐ เสริมทักษะภาษา แห่นำ�รถมาล้างคราบแป้ง “ขายดี”เปิดพื้นที่ให้เกษตรกรไทย อุ ด รธานี ไ ม่ ต กเทรนด์ พ ร้ อ มปรั บ ตั ว แรงงานไทย ก่อนไปทำ�งานญีป่ นุ่ หลังสิ้นสุดสงกรานต์ ทำ� ซื้ อ -ขายผ่ า นออนไลน์ ธุรกิจ E-Commerce มาแรง คนไทยต้อง อ่านต่อหน้า 11

อ่านต่อหน้า 11

ผนึกกำ�ลัง 3 ฝ่าย เปิดตลาดแรงงานญี่ปุ่น เผย เด็ ก ล้ า งรถแทบไม่ ทั น Kaidee ประกาศแผนปี 2561 รุกหน้า เรียนรูก้ ารทำ�ธุรกิจซือ้ -ขาย บนโลกออนไลน์ อาชีพยอดนิยม งานก่อสร้าง งานผู้ดูแลผู้สูงอายุ ขอนแก่นสวนทางร้านคาร์ พั ฒ นาตลาดซื้ อ -ขายอสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ อีกมาก “สวาท” มองอาลีบาบาและแจ๊กหม่า ที่ ใ ช้ ง านง่ า ยที่ สุ ด และสร้ า งตลาด งานพ่อครัวแม่ครัว ผู้ที่จะไปทำ�งานต้องมีทักษะ FarmKaidee เพื่ อ เปิ ด โอกาสให้ เข้ามาลงทุนในไทยเป็นผลดีตอ่ นักธุรกิจราย แคร์ เ งี ย บสนิ ท ยอดหาย ภาษา เพราะญี่ปุ่นให้ความสำ�คัญในเรื่องภาษา เกษตรกรไทยมีพื้นที่ซื้อ-ขายออนไลน์ ย่อยของไทย ไม่ให้ไปกระจุกตัวอยูเ่ ฉพาะใน อ่านต่อหน้า 11 กว่า50% อ่านต่อหน้า 11 ภายในครึ่งปีแรกนี้ อ่านต่อหน้า 11 กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ อ่านต่อหน้า 11 ญี่ปุ่นมาก

หน้า 2

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ประจำ�เดือนเมษายน 2561

ตลาดแรงงานญีป่ นุ่ • ต่อจากหน้า 1 1 เตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในอีก

อาชีพ เช่นการก่อสร้างฯ ในขณะที่แรงงานงานไทยที่ เข้าไปทำ�งานในประเทศญีป่ นุ่ จะเป็นในลักษณะฝึกงาน 2 ปี ซึ่งในขณะนี้มีอยู่ประมาณ 7,000 คน ในขณะที่ แรงงานประเทศเวียดนามมีอยู่ประมาณ 80,000 คน การลงนามในบันทึกความร่วมมือฯครั้งนี้

เป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงวิธีการจัดส่งแรงงาน ไทยไปทำ�งานที่ประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นแรงงานที่มี ทักษะและมีคุณภาพ โดยการร่วมมือของภาครัฐ ได้ แ ก่ สถาบั น พั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน 18 อุ ด รธานี และภาคเอกชนคือ โรงเรียนพัฒนาอาชีพอุดรธานี และ บริษัท เอเซี่ยน อินเตอร์เซอร์วิส จำ�กัด เพื่อให้ แรงงานไทยสามารถเดินทางไปทำ�งานในประเทศ ญี่ปุ่นได้อย่างมีความมั่นใจ เดินทางไปทำ�งานโดยมี คุณภาพ และมีความสบายใจ

“สำ�หรับในช่วงนี้ ประเทศญี่ปุ่นต้องการ แรงงานประเภทงานก่อสร้างเป็นจำ�นวนมาก เพราะ

2 ปีขา้ งหน้า และอีกหลายสาขาอาชีพ เพราะแรงงาน ไทยเป็นที่นิยมของนายจ้างญี่ปุ่น มีนิสัยดี สู้งาน แต่ ยังขาดทักษะภาษาญี่ปุ่น ทำ�ให้เกิดปัญหา หนีงาน เพราะทำ�งานไม่ได้ เพราะไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น จึงจำ�เป็น ทีจ่ ะต้องมาปรับและเสริมทักษะให้กบั แรงงานไทย” นายธีระพลฯ กล่าว

ด้ า น น.ส.สมลั ก ษณ์ สุ ว รรณพรหมา ผอ.สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานอุดรธานี กล่าวเพิ่ม เติมว่า สถาบันฯให้ความสำ�คัญด้านมาตรฐานฝีมือ ตามนโยบายของกระทรวงแรงงาน ด้านเพิม่ ขีดความ สามารถของแรงงานไทยที่ไปทำ�งานต่างประเทศให้ มีสมรรถนะสูง ตอบสนองความต้องการของตลาด แรงงานในต่างประเทศ ซึ่งได้ร่วมลงนามความร่วม มือในครั้งนี้ด้วย เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำ� มี รายได้ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัด ที่มีคนไปทำ�งานต่างประเทศเป็นจำ�นวนมาก

ขอนแก่นนำ�ร่อง ประกวดธิดาแรงงาน วันแรงงานแห่งชาติ

ขอนแก่นแถลงข่าว จัดงาน วันแรงงานแห่งชาติ ประกวดธิดา แรงงาน - ขวัญใจแรงงาน ปี 2561ให้ เป็นโมเดลของประเทศ เน้นความ สำ � คั ญ ของผู้ ใ ช้ แ รงงานมากกว่ า ผู้ ประกอบการ

เมื่อวันที่ 20 เม.ย.61 นาย วั น พบ สุ บ รรณ สวั ส ดิ ก ารและ คุ้มครองแรงงาน จ.ขอนแก่น นายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ ประธานชมรมการจัดการงานบุคคล จ.ขอนแก่น และ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น นายชัณต์ฏณัย ขุลีทรัพย์ ประธานฝ่ายกิจกรรมชมรม การจัดการงานบุคคล จ.ขอนแก่น ได้เปิดแถลงข่าว วันแรงงานแห่งชาติจังหวัดขอนแก่น ประจำ�ปี 2561 การประกวดธิดา - ขวัญใจ ประจำ�ปี 2561 จัดโดย สำ�นักงานสวัสดิการและคุม้ ครองแรงงาน จ.ขอนแก่น ร่วมกับชมรมจัดการงานบุคคล จ.ขอนแก่น, เครือข่าย คุม้ ครองแรงงาน จ.ขอนแก่น และ สถานประกอบการ ทัง้ ภาครัฐและเอกชนในจังหวัดขอนแก่น ณ โรงแรมอ วานีขอนแก่น โอเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์

ทัง้ นี้ สืบเนือ่ งจากวันแรงงานแห่งชาติจงั หวัด ขอนแก่นปีนี้ กำ�หนดจัดขึ้นวันที่ 30 เมษายน 2561 ณ ฮอลล์ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า สาขา ขอนแก่น เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานได้มีกิจกรรมร่วมกัน และเป็นการร่วมมือร่วมใจกันทีด่ รี ะหว่างนายจ้างกับ ลูกจ้าง

นายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ กล่าวว่า วันแรงงาน แห่งชาติหรือวันกรรมกรสากล เป็นวันทีผ่ ใู้ ช้แรงงาน ทัว่ โลกร่วมกันจัดงาน เพือ่ ให้สงั คมตระหนักถึงความ

สำ�คัญของผู้ใช้แรงงานที่เป็นกำ�ลังสำ�คัญ ในการผลิต และสร้างความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจให้กับ ประเทศ ในส่วน จ.ขอนแก่น ได้มีการจัดวันแรงงาน แห่งชาติเป็นประจำ�ทุกปี โดยเฉพาะปีนี้ได้จัดขึ้น เพื่อความยิ่งใหญ่ของจังหวัด เพื่อให้ความสำ�คัญผู้ ใช้แรงงานในขอนแก่นมากที่สุด กระตุ้นให้นายจ้าง เห็นความสามัคคี พลังแรงงานในจังหวัด ปีนี้จึงมีเป้า หมายจัดให้ยิ่งใหญ่และเป็นตัวอย่างให้กับจังหวัดอื่น ในประเทศ เพื่อให้เห็นว่าผู้ใช้แรงงานมีความสำ�คัญ มากกว่าสถานประกอบการที่เป็นธุรกิจสร้างรายได้ ให้กับประเทศในปัจจุบัน

นายวันพบ กล่าวว่า ปีนี้ วันแรงงานแห่งชาติ จ.ขอนแก่น จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ขอนแก่นก้าวหน้า แรงงานก้าวไกล พร้อมใจขับเคลือ่ นไทยแลนด์ 4.0 โดย มีรูปแบบการจัดงานจะเป็นโมเดลให้กับจังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาค เพื่อต้องการกระตุ้นให้เห็นความสำ�คัญ ของผู้ใช้แรงงาน ซึ่งจะมีไฮไลน์ประกวดธิดาแรงงาน มีสาวสวยเป็นผู้สมัคร 17 คน และขวัญใจแรงงาน เป็นสาวประเภทสองสมัคร 7 คน จากสถานประกอบ การกว่า 30 แห่ง วันนีแ้ ถลงข่าว ผูส้ มัครทัง้ หมดได้เดิน โชว์ตัวต่อหน้าสื่อมวลชน อีกด้วย

มข. สอนการผลิตอาหาร สัตว์นํ้าต้นทุนตํ่า

สำ�นักบริการวิชาการ ร่วมกับคณะเกษตรศาสตร์ มข. จัด อบรมการผลิตอาหารสัตว์นํ้าต้นทุนตํ่า ให้เกษตรกรตำ�บลเมืองเพีย จ.ขอนแก่น เพื่อลดต้นทุนการผลิต และเพื่อความมั่นคงทางอาหาร ผศ.ดร.อรุณีพงษ์​ ศรีสถาพร​ อาจารย์ประจำ�ภาควิชาประมง​ คณะ เกษตรศาสตร์​ มหาวิทยาลัยขอนแก่น​ เป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้ และควบคุมกระบวนการผลิตอาหารสัตว์นํ้าต้นทุนตํ่า​ โดยใช้กากมัน สำ�ปะหลัง​ และกากนํ้าตาลเป็นวัตถุดิบหลัก​

พาณิชย์ ต่อยอดพัฒนาศักยภาพ ผู้ ป ระกอบการการค้ า ออนไลน์

กรมส่ ง เสริ ม การค้ า ระหว่างประเทศ กระทรวง พาณิชย์ จัดกิจกรรมต่อยอด พัฒนาศักยภาพผูป้ ระกอบการ การค้าออนไลน์ Smart Online SMEs Plus (S.O.S+) ส่งเสริม ผู้ ป ระกอบการค้ า ออนไลน์ ภาคอีสาน จับคู่ธุรกิจร่วมกับ พั น ธมิ ต รธุ ร กิ จ รายใหญ่ รุ ก ตลาดต่างประเทศ พร้อมเปิด เวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความ คิดเห็นระหว่างผู้แทนการค้าและผู้เชี่ยวชาญด้าน e-Commerce เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 ณ ห้อง ประชุม โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอน เวนชั่นเซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

นายคำ � นวณ สุ ว รรณดี พาณิ ช ย์ จั ง หวั ด ขอนแก่น เปิดเผยว่า การจัดอบรม และเปิดเวทีเสวนา Smart Online SMEs Plus(S.O.S+) นับเป็นโครงการ ดี ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวง พาณิชย์ ให้ความสำ�คัญในการขยายโอกาสทางการค้า ให้กบั ผูป้ ระกอบการส่วนภูมภิ าค เป็นการเปิดโอกาส ให้ผปู้ ระกอบการในท้องถิน่ ได้มโี อกาสเรียนรูก้ ารใช้ ประโยชน์จากสือ่ ออนไลน์ และยังสามารถขายสินค้า ผ่านช่องทางออนไลน์ไปต่างประเทศได้มากขึ้น

โดยเฉพาะกิ จ กรรมจั บ คู่ เ จรจาธุ ร กิ จ (Business Matching) ร่วมกับแพลตฟอร์มพันธมิตร e-Marketplace ชั้ น นำ � ระดั บ สากลอย่ า ง eBay (สหรัฐอเมริกา) ที่ให้ความสนใจสินค้าของไทยเป็น ทุนเดิมแล้ว อีกทั้ง สินค้าจากผู้ประกอบการในภาค

อีสานได้มีการพัฒนาคุณภาพในมีความหลากหลาย ประเภทสินค้าเพิ่มขึ้น อาทิ สินค้าประเภทขนม ขบเคี้ยว เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ของใช้ภายในบ้าน

พาณิ ช ย์ จั ง หวั ด ขอนแก่ น กล่ า วต่ อ ไปว่ า นอกจากกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบ การชั้นนำ�อย่าง eBay แล้ว ภายในงานมีการเสวนา ในหัวข้อ “เตรียมความพร้อมการค้าออนไลน์เพื่อ ส่ ง ออกไปตลาดอเมริ ก า โดยผู้ แ ทนจากกรมส่ ง เสริมการค้าระหว่างประเทศ และผู้เชี่ยวชาญด้าน e-Commerce จาก eBay และ DHL ภายในงานมี กิจกรรมคลินิกให้คำ�ปรึกษาด้านการค้าออนไลน์ บริการถ่ายภาพสินค้า และเขียนรายละเอียดสินค้า โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สำ�หรับผู้ประกอบการ ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ DITP Call Center 1169 โทรศัพท์ 0-2507-7825 หรือ ทางอีเมลcontact@thaitrade.com หรือทาง http:// www.facebook.com/thaiTraedotcom

แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เป็นประธานงานเลี้ยงต้อนรับคณะ จากนครด่งเหย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และคณะจากเมืองปากเซ สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว ในโอกาสที่คณะทั้ง 2 ประเทศ เดินทางมาเยือนประเทศไทย ในงานประเพณีสุดยอด สงกรานต์อสี าน เทศกาลดอกคูนเสียงแคนและถนนข้าวเหนียว เพือ่ แลกเปลีย่ นวัฒนธรรม ณ โรงแรม พูลแมน ขอนแก่น ราชาออคิด

“เห็บหมา หัวหงอก” ลืมบุญคุณนายเก่า

“เห็บหมา” พล่าน หลังโทรเสีย้ มให้ผมไปชน กับผู้ใหญ่ที่ผมเคารพรัก ดึงท่านเข้ามาเกี่ยว แถมไป ฟ้องว่าผมจะฟ้องท่านอีกต่างหาก .... เวรละสิ เพราะ ท่านสายตรงถึงผม เรื่องเลยแดง หนักกว่าเก่า

หลายคนได้อา่ นแล้วเกิดความสงสัยว่า “เห็บ หมา” ตัวนี้ หน้าตามันเป็นอย่างไร จะได้ระวังตัวไม่ เข้าใกล้

แต่ ก่ อ นก็ เ ป็ น แค่ เ ด็ ก ชงเหล้ า วิ่ ง ส่ ง หนังสือพิมพ์ วันดีคืนดี นายลาลับโลก ก็เลยไปขอ หัวหนังสือพิมพ์มาตั้งตนเป็นผู้สื่อข่าว ให้เมียเป็น เจ้าของ

ชอบทำ�ตัวเป็นขาใหญ่ เดินสายบอกหัวหน้า หน่วยงาน โดยเฉพาะ ผอ.โรงเรียนใหญ่ๆ ในเมือง ขอนแก่น ว่าสามารถนำ�ข่าวไปออกสื่อส่วนกลางได้ หลายสำ�นัก ที่แน่ๆ มีทีวีส่วนกลางแถวโคกสี ไปแจ้ง ลง ปจว.ไว้แล้ว หลังไปแอบอ้างชื่อหากิน ส่วนช่อง หลายสี ก็โทรไปเตือนแล้วเช่นกัน

หนังสือพิมพ์ส่วนกลาง ที่เคยลากสื่ออาวุโส สั ง ขารโรยลา ไปหารั บ ประทาน ก็ อ อกประกาศ ชัดเจนว่าไม่มีคนชื่อนี้เป็นผู้สื่อข่าว หลังปล่อยให้หา กินมานาน

หลังเลือกตัง้ ใหญ่สมาคมสือ่ มวลชนจังหวัด ขอนแก่น พยายามเข้าไปทำ�ตัวเป็น “ผูจ้ ดั การ” จัดคน ลงตำ�แหน่งต่างๆ ไม่พอ ส่งไลน์ไปหาผูใ้ หญ่ทา่ นหนึง่ ถามหาความเหมาะสมเรื่องสมาคมฯ มอบโล่ “สื่อ คุณธรรม”

หวังดิสเครดิตคณะกรรมการสมาคมฯ แต่ พอโดนสวนกลับ ร้อนตัว พล่านเป็นหมาถูกนํ้าร้อน โทรไปเสี้ยมทั้ง “พี่สุวรรณ” และ “โจ” ว่าจะถูกฟ้อง ทั้งที่ความจริงคนที่จะโดนฟ้องหมิ่นคือตัวมันนั้น แหละ

แค่นยี้ งั ไม่พอ โทรไปเสีย้ ม “คุณสุรชัย” ให้รอื้ หาเงินพันธบัตรสามแสน ว่าไปอยู่ที่ไหน ใครเอาไป

ยังสนุกไม่พอ ไปขุดออกมาว่า ทีส่ มาคมสือ่ ฯ จัดงานวันสถาปนาฯ ในวันที่ 9 เมษานั้น เป็นการจัด เอาใจอดีตนายกสมาคมฯ คนหนึ่ง

มึนเลยครับ ต้องไปเช็คประวัติว่าอดีตนายก ท่านใดเกิดวันที่ 9 เมษา โชคดีเจอ “คุณสุรชัย” ผูก้ อ่ ตัง้ สมาคมฯ ตำ�นานอีกท่านหนึง่ ทีร่ เู้ รือ่ งของสมาคมฯ ดี ทีส่ ดุ ท่านเฉลยว่า วันที่ 9 เมษา เป็นวันเกิดของ “นาย ถาวร บุตรชาดา” อดีตนายกฯ ซึง่ ปัจจุบนั ถึงแก่กรรม ไปนานแล้ว ยิ่งมึนหนักกว่าเดิม

เพราะในอดีตหลายคนทราบดีว่า “พี่ถาวร” เป็นอดีต หัวหน้าศูนย์ข่าวแนวหน้า ภาคอีสาน และ เป็นผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหัวหนึ่ง ถือได้ว่า เป็นผู้มีพระคุณกับ “เห็บหมา” มาก เพราะมันเรียก ว่า “พ่อ” ทุกคำ�

แต่พอวันนี้ “พีถ่ าวร” ไม่อยู่ แทนทีจ่ ะดีใจ ถ้า มีใครยกย่อง เอาวันเกิดคนทีม่ พี ระคุณ ให้มนั เกิดและ หากินในวงการสือ่ ฯขอนแก่น ได้มเี งินเลีย้ งลูก-เมียมา จนถึงทุกวันนี้

มาเป็นวันจัดงานวันสถาปนาฯ (ทั้งที่ความ จริงไม่ใช่) กลับนำ�เอามาเป็นประเด็นโจมตี ว่าจัดงาน เอาใจอดีตนายกฯ มันเอาสมองส่วนไหนมาคิด ... งง กับมันจริงๆ ไอ้เห็บหมา หัวหงอก

ยังไม่จบนะครับ เรื่องมันยาว ยังมีอีกที่ไป ออกข่าวโจมตีผู้บริหารคณะหนึ่ง ในมข. เพื่อหวัง เรี ย กค่ า ปิ ด ปาก ไปเรี ย กเงิ น กิ น เปล่ า ฝากเด็ ก เข้ า โรงเรียนชื่อดัง รวมทั้งเดินสายขอเงินหน่วยงาน ออกหนังสือพิมพ์ถวายพระพร และวันครบรอบปี ... หากินทุกทาง บัดซบจริงๆ เลย ฉบับหน้ามาเปิดโปง “เห็บหมา หัวหงอก” กันต่อครับ

อุปถัมภ์ ตำ�บลโสกนกเต็น อำ�เภอพล จังหวัดขอนแก่น

เ ปิ ด กี ฬ า ต้ า น ภั ย ย า เ ส พ ติ ด ; ด ร . พ ง ษ์ ศั ก ดิ์ ตั้ ง วานิ ช กพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่ น เป็ น ป ร ะ ธ า น เ ปิ ด ก า ร แข่ ง ขั น กี ฬ าต้ า นภั ย ยาเสพติด “ โสกนก เต็นเกมส์” ครั้งที่ 14 ณ สนามกีฬาโรงเรียน โสกนกเต็ น ประชา

หน้า 3

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ประจำ�เดือนเมษายน 2561

ซี . พี . แลนด์ เ ปิ ด KICE แถลงทิ ศ ทางธุ ร กิ จ

“36 ปี CP LAND มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน”

ซี . พี . แลนด์ เปิ ด ศู น ย์ ป ระชุ ม และแสดงสิ น ค้ า นานาชาติ ข อนแก่ น (KICE) แถลงทิศทางธุรกิจ “36 ปี CP LAND มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” โชว์ ศักยภาพศูนย์ฯ ที่ลงทุนกว่า 2,000 ล้าน บาท ระบบเครื่องเสียงมากกว่า 20 ล้าน บาท รองรับการจัดงานกิจกรรมขนาด ใหญ่ พร้อมปรับทัพผูบ้ ริหารสร้างความ แข็งแกร่ง และเปิดตัว 7 กลุ่มธุรกิจ

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2561 ที่ห้องประชุม ชัน้ 2 ศูนย์ประชุมแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสุนทร อรุณ านนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธาน คณะผู้บริหาร บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำ�กัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมแถลงข่าว 36 ปี CP LAND มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมปรับทัพ ผู้บริหารสร้างความแข็งแกร่ง ผสานกำ�ลังสร้าง การเติบโต เตรียมขยายตัวทางเศรษฐกิจ เข้าสู่ยุค 4.0 พร้อมเปิดตัว 7 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจที่พัก อาศัย 2.ธุรกิจอาคารสำ�นักงาน 3.ธุรกิจโรงแรม 4.ธุรกิจบริหารอาคาร 5.ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม 6.ธุรกิจพลังงาน 7.ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า นานาชาติ ขอนแก่น (KICE) ณ ศูนย์ประชุมและ แสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น (KICE)

นายสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้ จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำ�กัด (มหาชน) กล่าวถึง การก้าวเข้า สู่ปีที่ 36 ของบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำ�กัด (มหาชน) ที่พร้อมมุ่งมั่นสู่การเติบโต อย่างยั่งยืน ปรับทัพ ผู้บริหารสร้างความแข็งแกร่ง ผสานกำ�ลังสร้าง การเติบโต พัฒนาด้านนวัตกรรม เตรียมรับการ ขยายตัวทางเศรษฐกิจเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โดย ปรับโครงสร้างองค์กรจากเดิมสู่การเปลี่ยนแปลง ครั้งใหม่ การดำ�เนินงานที่ให้ความสำ�คัญกับการ ขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคบริการมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

และโครงการพั ฒ นาอุ ต สาหกรรมยุ ค 4.0 ได้ แ ก่ การดำ�เนินโครงการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัย บ้าน จัดสรร อาคารสำ�นักงาน โรงแรม ศูนย์ประชุมและ แสดงสินค้า นิคมอุตสาหกรรม และธุรกิจพลังงาน ในปีนี้ บริษทั ฯ ได้พนั ธมิตรร่วมทุนจากต่างประเทศ เป็นการสร้างความมัน่ คงให้กบั ผูม้ สี ว่ นได้เสีย ทัง้ ใน ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการสือ่ สารและนวัตกรรม ที่คาดว่าจะทำ�ให้บริษัทฯ ประสบความสำ�เร็จเป็น ไปตามเป้าหมาย พร้อมสรรหาและพัฒนาบุคลากร เพิ่ ม ศั ก ยภาพ ขี ด ความสามารถในการแข่ ง ขั น และส่ ง เสริ ม การเติ บ โตอย่ า งยั่ ง ยื น ขององค์ ก ร บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ระดั บ คุ ณ ภาพตามมาตรฐานสากล ซึ่ ง ให้ ค วาม ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย ของผู้ใช้บริการ พร้อม ทั้งการดูแลใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ พลังงาน มีการพัฒนาปรับปรุงการให้บริการ เพื่อ สนองตอบความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก ภายใต้ นโยบายคุณภาพ ISO 9001:2015 และยังคงเดินหน้า พัฒนาสังคมส่วนรวมโดยรอบพื้นที่โครงการ เพื่อ สนับสนุนความยั่งยืนของธุรกิจ จากประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กว่า 36 ปี วันนี้ บริษัทฯ ได้ขยายโครงการครอบคลุมพื้นที่ กว่า 30 จังหวัด โดยได้มีการปรับระบบบริหารงาน ของกลุ่มธุรกิจทั้ง 7 กลุ่มภายใต้บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำ�กัด (มหาชน)

นายสุนทร เปิดเผยต่อว่า แผนการลงทุนปี 2561 บริษัทจะใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้าน

บาท โดยจะเน้ น ไป ที่ ก ารพั ฒ นาพื้ น ที่ นิ ค มอุ ต สาหกรรม จ.ระยอง และเพิ่ ม การลงทุ น ในกลุ่ ม โรงแรมให้ ม ากขึ้ น เช่ น บุ รี รั ม ย์ เลย สมุ ท รปราการและ อาจจะมีการซื้อที่ดิน เพิ่ม จากปัจจุบันบริษัท ลงทุนพัฒนาโครงการ ครอบคลุ ม พื้ น ที่ 30 จังหวัด ครบทั้ง 7 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1.กลุ่ม ธุรกิจที่พักอาศัย ทั้งโครงการแนวราบและอาคาร ชุดพักอาศัย 30 จังหวัด จำ�นวน 8,000 ยูนิต 2.กลุ่ม ธุรกิจอาคารสำ�นักงาน พื้นที่กรุงเทพฯ 4 แห่ง และ ต่างจังหวัด 9 แห่ง พื้นที่เช่ารวมกว่า 250,000 ตร.ม.

3.กลุ่มธุรกิจโรงแรมเปิดบริการแล้ว 7 แห่ง ในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ, นครราชสีมา, นครพนม, เชียงราย, ตาก ส่งผลให้ในปี 2561-2562 จะมีโรงแรมทุกภูมิภาคทั่ว ประเทศกว่า 2,000 ห้อง

4.กลุ่มธุรกิจบริหารอาคาร ปัจจุบันมีลูกค้า รวม 500,000 ตร.ม. 5.กลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม บนทำ�เล อ.นิคมพัฒนา และ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เนื้อที่ 3,100 ไร่ 6.กลุ่มธุรกิจพลังงาน และ 7.ศูนย์ ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น หรือ ไคซ์ (KICE) เปิดบริการในปี 2561 บนพื้นที่ 62 ไร่ ประกอบด้วย พื้นที่จัดแสดงภายในอาคาร 15,000 ตร.ม. พื้นที่อเนกประสงค์ 10,000 ตร.ม. และบริการ พื้นที่จอดรถ 1,500 คัน มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าประเทศ CLMV และจีนตอนใต้ นายกฤษณ์ เลขะกะ ผู้อำ�นวยการศูนย์ประชุมและ แสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น เปิดเผยว่า บริษัท ซี . พี . แลนด์ จำ � กั ด (มหาชน) ได้ เ ปิ ด บริ ก ารศู น ย์ ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) ซึง่ เป็นศูนย์ประชุมมาตรฐานสากล แห่งเดียวในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้าน บาท ลงทุนระบบเครื่องเสียงมากกว่า 20 ล้านบาท

และระบบเครือข่ายรางนํ้า ไฟ นํ้าเสียทุก 9 ตาราง เมตร ซึ่ ง จะสร้ า งความสะดวกในการใช้ ส ถาน ที่ สามารถรองรับการจัดงานกิจกรรมขนาดใหญ่ ได้หลากหลายประเภท เช่น งานแสดงสินค้าและ นิทรรศการ งานแสดงดนตรี งานประชุม สัมมนา งานเลี้ยงสังสรรค์ ฯลฯ

ในปี 2561 ตั้ ง เป้ า รายได้ ศู น ย์ ป ระชุ ม ขอนแก่น 130 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการเช่า พื้นที่ 60%, อาหารและเครื่องดื่ม 30% และอาฟเต อร์อนิ คัม 10% หลังเปิดตัว 3 เดือน มีการเช่าจัดงาน ทั้งสิ้น 26 งาน มูลค่ายอดรายได้รวม 75 ล้านบาท ซึง่ ยอดจองปีนอี้ ยูท่ ี่ 65% คิดอัตราค่าเช่าตํา่ กว่าศูนย์ ประชุมในกรุงเทพฯประมาณ 15-18% และคาดว่า ลูกค้าต่างประเทศ และกลุ่ม CLMV จะเริ่มเข้ามา ติดต่อจัดงานภายในปีหน้า

ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น มีสิ่งอำ�นวยความสะดวก และมาตรฐาน ความปลอดภัยระดับสากล รวมทีมงานระดับมือ อาชีพใน การบริหารจัดการ ให้บริการทัดเทียม กั บ ศู น ย์ ป ระชุ ม ระดั บ โลก พร้ อ มเป็ น ผู้ นำ � ด้ า น เทคโนโลยี ส นั บ สนุ น ธุ ร กิ จ ไมซ์ (MICE) ซึ่ ง มี จังหวัดขอนแก่นเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค พร้อม รองรับความต้องการของผู้จัดงานออแกไนเซอร์ หน่ ว ยงานภาครั ฐ และเอกชนที่ ป ระสงค์ เ ข้ า ใช้ พื้นที่ ด้วยพื้นที่กว่า 62 ไร่ พื้นที่จัดแสดงภายใน อาคาร (Indoor Exhibition) 15,000 ตารางเมตร พืน้ ทีอ่ เนกประสงค์ (Outdoor) 10,000 ตารางเมตร และมีที่จอดรถบริการกว่า 1,500 คัน

“ศูนย์ประชุมฯ มีการจัดงานและแสดง สิ น ค้ า ตลอดทั้ ง ปี อาทิ งาน Thailand Best Shopping Fair งานบ้านและคอนโด 2018, งาน Home Pro Fair 2018, งาน Thailand IndustriTech Khonkaen 2018, งานอีสานอุตสาหกรรมแฟร์ ครั้งที่ 3, งาน Smart Industry for Smart City และ งาน Coffee & Bakery Fair ฯลฯ และงานประชุม สัมมนาขององค์กรชัน้ นำ�ระดับประเทศอีกจำ�นวน มาก” นายกฤษณ์ฯ กล่าว

ด้าน นายสุนทร เปิดเผยต่อว่า ด้วยการ ลงทุนขนาดใหญ่ดา้ นต่างๆ ของบริษทั ซี.พี.แลนด์

จำ�กัด (มหาชน) ดังกล่าว ในจังหวัดขอนแก่น และ จังหวัดหลักในภูมิภาค เป็นส่วนเสริมให้จังหวัด ขอนแก่นมีศักยภาพโดดเด่น เป็นศูนย์กลางในทุกๆ ด้าน การสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ ด้านคมนาคมขนส่ง ทั้ง ในรูปแบบระบบราง และการเปิดท่าอากาศยาน นานาชาติ รวมไปถึงการจัดระบบขนส่งมวลชน โครงการระบบรางของกลุ่มขอนแก่นพัฒนาเมือง การให้บริการรถสาธารณะในเมือง “สมาร์ทซิตบี้ สั ” ครอบคลุมพืน้ ทีท่ วั่ ปริมณฑล และเชือ่ มต่อโครงข่าย การเดินทางกับโหมดการเดินทางสำ�คัญ มีเส้นทาง เชื่อมต่อผ่านบริเวณโครงการศูนย์ประชุมฯ

บริ ษั ท ฯ มี โ ครงการจั ด สร้ า งโรงแรมใน บริเวณใกล้เคียง ส่งเสริมให้จงั หวัดขอนแก่น มีความ พร้อมเรื่องที่พักคุณภาพสูง รองรับผู้จัดงานประชุม จากทุกมุมโลก เป็นจุดหมายปลายทางของอุตสาห กรรมไมซ์ของไทย ทีจ่ ะต่อยอดโอกาสทางธุรกิจการ ค้าให้ผู้ประกอบการในภูมิภาคลุ่มนํ้าโขง ได้แก่ ไทย เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีนตอน ใต้ สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ผลักดันให้จังหวัดขอนแก่นเป็นหนึ่งในโครงการ เมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ท ซิตี้ เป็นการสานโอกาส ให้ SME เปิดตลาดสู่อินโดจีน และที่สำ�คัญเป็นการ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างการกระจายรายได้ให้กบั คนในท้องถิ่น

นอกจากนี้ ซี.พี.แลนด์ ยังได้จับมือกับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำ�กัด (มหาชน) ลงทุน ด้านเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย วางโครงข่าย ไฟเบอร์ออพติก อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงถึง 10 Gbps เพื่ อ ให้ บ ริ ก ารระบบ Wi-Fi ระบบ HD และโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีรองรับ 5G สามารถรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่ของระบบ Digital Solution ต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว ทั้งนี้ยังได้ร่วม กับ บริษัท ซี.พี.แรม จำ�กัด บริการผลิตภัณฑ์ อาหารพร้อมรับประทาน เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามา ใช้บริการภายในศูนย์ประชุมได้รับทั้งสินค้าและ บริการที่ดีที่สุด

“ด้านการพัฒนาบุคคลากร บริษัทฯ ได้ แต่งตัง้ ผูบ้ ริหารระดับสูงและผูอ้ �ำ นวยการภูมภิ าค รับผิดชอบดูแลพื้นที่โดยตรง เป็นการกระจาย อำ�นาจ ลดขั้นตอนกระบวนการทำ�งาน เพื่อความ คล่องตัว รวมทั้งได้จัดโครงการพนักงานคืนถิ่น ให้พนักงานที่มีภูมิลำ�เนาในแต่ละภูมิภาค ได้นำ� ประสบการณ์และองค์ความรูใ้ หม่ๆ จากส่วนกลาง กลับไปพัฒนาบ้านเกิด ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้าง ความสุข สร้างกำ�ลังใจและความใกล้ชดิ ครอบครัว ในปี 2561-2563 บริษัทฯ มุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ทุกจังหวัดที่มีศักยภาพเติบโต” นายสุนทร กล่าว

หน้า 4

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ประจำ�เดือนเมษายน 2561

รับกงสุลจีนประจำ�ขอนแก่นคนใหม่ ; นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายก เทศมนตรีนครขอนแก่น มอบของทีร่ ะลึกให้กบั ฯพณฯ เลีย่ ว จวี้ อวิน๋ (Mr. Liao Junyun) ในโอกาสเข้ารับตำ�แหน่ง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชน จีน ประจำ�จังหวัดขอนแก่น ณ สถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำ�จังหวัดขอนแก่น

เปิดถนนดอกคูน ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานพิธี เปิด “ถนนดอกคูณ” เพือ่ เสริมสร้างอัตลักษณ์ของจังหวัดขอนแก่น เป็นการ เริ่มต้นเข้าสู่ “ประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูนเสียงแคน และถนนข้าวเหนียว” ณ ถนนกัลปพฤกษ์ ข้างศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2561

ให้กำ�ลังใจนักกีฬาวอลเลย์บอล ; นายโชคชัย คุณวาสี ประธานบริหาร บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำ�กัด ให้โอวาทนักกีฬาวอลเลย์บอล “อะคาเดมี่ สโมสรขอนแก่นสตาร์ วีซี” พร้อมให้กำ�ลังใจ คณะผู้ฝึกสอน ก่อนเดินทาง ไปแข่งขันวอลเลย์บอล อะคาเดมีล่ กี รอบรองชนะเลิศ โดยมี คณะผูบ้ ริหาร พนักงาน บริษัท โตโยต้า แก่นนคร ร่วมให้กำ�ลังใจ ณ โชว์รูม บริษัท โตโย ต้า แก่นนคร จำ�กัด (สำ�นักงานใหญ่) ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

รดนํ้าขอพร ; พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่าย นสพ. วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน และนายสุวรรณ ไตรมาลัย ที่ปรึกษา นสพ. สยามรัฐ เข้ารดนํ้าขอพรนายชัชวาลล์ คงอุดม “ชัช เตาปูน” คอลัมนิสต์ อาวุโส อดีต สว.กทม. ในโอกาสวันสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย ณ บ้านพักย่านเตาปูน กทม.

ประกวด Miss M-Reach 2018 ; นายกฤษณวรุณ ไชยนิจ ปลัดเทศบาลนคร ขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประกวด Miss M-Reach 2018 โดยมี คุณ ติณะวิชญ์ โตยิ่งยงกูล ผู้จัดการโครงการประกวด Miss M-Reach พร้อม คณะทำ�งานร่วมให้การต้อนรับ ณ สวนรัชดานุสรณ์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพือ่ รณรงค์ให้ประชาชน เยาวชน ได้เรียนรูแ้ ละเข้าใจในการป้องกันตนเอง จากการติดเชื้อ HIV

เปิดงาน “ศิวะราตรี ปูชะนียาลัย” ; นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ร่วมเปิดงาน “ศิวะราตรี ปู ชะนียาลัย” ปราสาทเปือยน้อย ประจำ�ปี 2561 เพือ่ สืบสานศิลปวัฒนธรรม ท้องถิน่ และกระตุน้ ให้เกิดการท่องเทีย่ ว โดยมี นายสัมภาษณ์ ศรีหงส์ นาย อำ�เภอเปือยน้อย หน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง ประชาชนและนักท่องเทีย่ ว ร่วมเปิด งาน ณ บริเวณปราสาทเปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น

เตรี ย มแผนป้ อ งกั น นํ้ า ท่ ว ม ; นายสมศั ก ดิ์ จั ง ตระกุ ล ผู้ ว่ า ราชการ จังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะ ลงพื้นที่สำ�รวจประตูนํ้า บริเวณศูนย์วิจัย ข้าวขอนแก่น เพื่อหาแนวทางเตรียมแผนป้องกันนํ้าท่วม และรองรับ สถานการณ์ในช่วงฤดูฝน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้น ณ ประตู ระบายนํ้า ศูนย์วิจัยข้าวขอนแก่น ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อ วันที่ 18 เมษายน 2561

ปาร์ตี้นางรำ� สังสรรค์ปีใหม่ไทย ; นายจุลนพ ทองโสภิต รองนายก เทศมนตรีนครขอนแก่น เป็นประธานงานปาร์ตนี้ างรำ� สังสรรค์ปใี หม่ไทย จัดโดยชมรมจิตอาสาจังหวัดขอนแก่น เพือ่ เป็นการขอบคุณ คณะแม่ไก่ ครู ฝึกสอนการรำ�จังหวัดขอนแก่น โดยมี คุณเกศรินทร์ ผดุงศิริ ประธานชมรม จิตอาสาจังหวัดขอนแก่น พร้อมสมาชิกชมรมจิตอาสาจังหวัดขอนแก่น ร่วมงานอย่างอบอุ่น ณ บริเวณสระนํ้า โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น

แสดงความยินดีกงสุลจีนท่านใหม่ ; มร.แสตนลี่ย์ ชาน ผู้จัดการใหญ่ และ คณะผู้บริหารโรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ร่วมให้การต้อนรับ และแสดงความยินดี เนื่องในโอกาส ฯพณฯ เหลี๋ยว จุ้นหยุ๋น (Mr. Liao Junyun) รับตำ�แหน่งกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำ�จังหวัด ขอนแก่น ณ แกรนด์ออคิดบอลรูม โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด

มอบทุนการศึกษา ; นายชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมโฆษะ เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรพนักงานของ โรงแรมโฆษะ ที่เรียนดี ประพฤติดี ประจำ�ปีการศึกษา 2561 เพื่อแบ่งเบา ภาระค่าใช้จ่าย และสร้างขวัญกำ�ลังใจให้กับพนักงาน โดยมีบุตรพนักงาน เข้ารับทุนการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึงระดับปริญญาตรี จำ�นวน 80 ทุน ณ โรงแรมโฆษะ เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2561

ปิดศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงสงกรานต์ 61 ; นายสม ศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานประชุมสรุปผลอุบัติเหตุช่วง สงกรานต์และทำ�การปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทาง ถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 โดยมีนายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รอง ผวจ.ขอนแก่น และคณะกรรมการศูนย์ฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ดอกคูน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น

เปิดตัว VOA SPACE ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธาน งานเปิดตัว “บริษัท VOA SPACE” แหล่งรวมพลของนักสร้างสรรค์แรง บันดาลใจ เพื่อความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์ ภายใต้แนวคิด “Aesthetics of the everyday เพราะสุนทรียภาพอยู่ในทุกวันของการใช้ชีวิต” โดยมี นักธุรกิจ ร่วมแสดงความยินดี กับ นายกิตติพงษ์ โพธิ์ธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ VOA SPACE ณ บริษัท VOA SPACE ถนนมะลิวัลย์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

๒ ทศวรรษ สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น

วันสตรีสากล ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคณ ุ ให้กบั ผูไ้ ด้รบั รางวัลในงาน “วันสตรีสากล” ประจำ�ปี 2561 ในโครงการ “ฮักแพง แบ่งปัน สร้างสรรค์ สตรีศรีขอนแก่น 4.0” โดยมีผู้แทนจากองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายสตรีจังหวัด ขอนแก่น เข้าร่วมงานกว่า 3,000 คน ณ ขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้

สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็น ประธานเปิดหน่วยแพทย์เคลือ่ นที่ พอ.สว. และโครงการหน่วย “บำ�บัดทุกข์ บำ�รุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน” ที่โรงเรียนบ้านกุดหมากเห็บ หมู่ ที่ 11 ต.โนนสะอาด อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น โดยมีหน่วยงาน ส่วนราชการ ออกบูธให้บริการประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพ ทุนการศึกษาและชุด นักเรียนให้กับผู้ยากไร้

สนับสนุนงานสงกรานต์ ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น และนาย ธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมหน่วยงานที่จัด กิจกรรม ร่วมรับป้ายสนับสนุนจากองค์กร หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน ที่ ร่วมสนับสนุนการจัดงาน สุดยอดสงกรานต์อีสานในเทศกาล “ดอกคูณ เสียงแคน ถนนข้าวเหนียว” ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ สวนรัชดานุสรณ์ ขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น

สานพลังเครือข่าย กำ�หนดกลไกการทำ�งาน ; ภก.หญิง กนกพร ธัญมณีสนิ กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำ�นักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เป็น ประธานการประชุมภาคีเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อกำ�หนดกลไกการ ทำ�งานร่วมกัน การจัดทำ�ข้อตกลงเงื่อนไขโฆษณา สำ�หรับผู้ประกอบการ ในเขตพื้นที่ 4 จังหวัด ภายใต้ โครงการพัฒนาองค์กรผู้บริโภคคุณภาพ จัด โดย สมาคมผู้บริโภคร้อยเอ็ด ณ โรงแรมอำ�นวยสุข ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

อำ�นวยความสะดวก ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผูว้ า่ ราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะ ตำ�รวจ ทหาร ลงพื้นที่เยี่ยมจุดบริการประชาชน และมอบ เหรียญหลวงพ่อกล้วยรุ่นแรก ให้กับผู้เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมให้ก�ำ ลังใจเจ้าหน้าทีใ่ นการปฏิบตั งิ าน ณ สถานีขนส่งแห่งที่ 3 จังหวัด ขอนแก่น จุดตรวจบ้านสำ�ราญ จุดบริการหน้าศูนย์คนไร้ที่พึ่งขอนแก่น เพื่ออำ�นายความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำ�เนาในเทศกาล สงกรานต์

ป้องปรามอาชญากรรม ; นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เข้าตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด ซึ่ง อาจมีการแอบแฝงมาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเป็นการป้องปราม อาชญากรรม และสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนที่เดินทางทั้งทาง รถยนต์ และขบวนรถไฟ ซึ่งผลการตรวจค้นอย่างไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ใด โดยมีการสุ่มตรวจค้นตลอด 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลสงกรานต์

สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น จัดงาน “๒ ทศวรรษ สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น” มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรสื่อมวลชน มอบโล่ สื่อมวลชนดีเด่น มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “สื่อคุณธรรม” ให้กับบุคคลและองค์กรต่างๆ ที่มีผลงานดีเด่น โดย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ� นายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีชว่ ยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตรัฐมนตรีประจำ�สำ�นักนายกรัฐมนตรี และอดีตปลัดสำ�นักนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธาน เปิดงาน และปาฐกถาพิเศษ เรือ่ ง “จริยธรรม ผูท้ �ำ หน้าทีส่ อื่ สารมวลชน” และได้รบั ความเมตตาจากท่านวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มอบโล่ประกาศ เกียรติคุณให้กับสื่อมวลชนดีเด่น ประจำ�ปี ๒๕๖๐ และสื่อคุณธรรม ประจำ�ปี ๒๕๖๑

หน้า 5

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ประจำ�เดือนเมษายน 2561

จิ ต อ า ส า ม ข . ร่ ว ม พ ลั ง ค ว า ม ร่ ว ม มื อ สสว.ติวเข้ม ธุรกิจ SMEs ตั้งเป้า บริ ก ารชาวชุ ม ชนติ ด รั้ ว มหาวิ ท ยาลั ย 3 ปี ก้ า ว สู่ ยุ ค 4 . 0 ทั้ ง ห ม ด

เมื่อวันที่ 21 เม.ย.61 รศ.ดร.กิตติชัย ไตร รัตนศิริชัย อธิการบดี ม.ขอนแก่น เป็นประธาน เปิดกิจกรรม “โครงการจิตอาสามหาวิทยาลัยเพื่อ ชุมชน” ณ ห้องประชุม โรงพยาบาลส่งเสริมสุข ภาพประจำ�ตำ�บลบ้านโนนม่วง และศาลาประชาคม ตลาดบ้านโนนม่วง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดย รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนา นั ก ศึ ก ษา และศิ ษ ย์ เ ก่ า สั ม พั น ธ์ มหาวิ ท ยาลั ย ขอนแก่น ดำ�เนินกิจกรรมในโครงการดังกล่าว ซึ่ง มีประชาชนที่มีบ้านพักอยู่อาศัยในเขตชุมชนบ้าน โนนม่วงที่ติดรั้วมหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้าร่วม โครงการตรวจคัดกรอง(อัลตร้าซาวน์) โรคพยาธิ ใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํ้าดี ตรวจคัดกรองโรคไต เรื้อรัง ตรวจและรักษาฟัน การบริหารร่างกายและ

การออกกำ�ลังกาย และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษ สุนัขบ้าสำ�หรับสัตว์เลี้ยง

ทั้งนี้ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ร่วมกับที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัย ราชภั ฏ ที่ ป ระชุ ม คณะกรรมการอธิ ก ารบดี มหาวิ ท ยาลั ย ราชมงคล และสมาคมสถาบั น อุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย และเครือข่าย อธิการบดี ได้มีมติร่วมกันให้กำ�หนดจัดโครงการ จิ ต อาสาพร้ อ มกั น ทั่ ว ประเทศในชุ ม ชนรอบ มหาวิทยาลัย ขึ้นในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ.2561 โดยเป็นการร่วมกันแสดงพลังความร่วมมือของ มหาวิทยาลัยภายใต้ความร่วมมือในการช่วยเหลือ สังคมและชุมชนรอบข้างที่รับผิดชอบ

ม.ขอนแก่น โดยฝ่ายวิจัยและการถ่ายทอด

เทคโนโลยี จึงได้กำ�หนดจัดกิจกรรมโครงการ จิ ต อาสามหาวิ ท ยาลั ย เพื่ อ ชุ ม ชน ขึ้ น ในวั น ที่ 21 เม.ย.นี้ ในสถานที่ดังกล่าว เพื่อเป็นการนำ� บุคลากร คณาจารย์ที่ดำ�เนินงานเกี่ยวกับโรค พยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อนํ้าดี การป้องกัน และชะลอโรคไตเรื้อรัง การตรวจรักษาฟันและ ช่องปาก การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และการออกกำ�ลังกายสำ�หรับผูส้ งู อายุ โดยมาให้ บริการและตรวจรักษาฟรี ตามวัตถุประสงค์ของ โครงการ และการแสดงพลังความร่วมมือร่วมใจ ของชาว ม.ขอนแก่น ภายใต้ความร่วมมือในการ ช่วยเหลือสังคม

รศ.เพี ย รศั ก ดิ์ ภั ก ดี กล่ า วว่ า บ้ า นโนน ม่วง หมู่ 3,12,19,23 และหมู่ 27 ตำ�บลศิลา เป็น ตำ � บลที่ ตั้ ง อยู่ ใ นเขตการปกครองของ อ.เมื อ ง ขอนแก่ น ประกอบไปด้ ว ยหมู่ บ้ า นทั้ ง หมด 28 หมู่บ้าน ซึ่งมีบ้านโนนม่วง จำ�นวน 5 หมู่บ้าน อยู่ รอบมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีประชาชนอยู่หนา แน่น อาชีพหลัก ทำ�นา ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ และ รับจ้างทั่วไป จึงเกิดโครงการจิตอาสามหาวิทยาลัย เพื่อชุมชนขึ้นมาในชุมชนหมู่บ้านโนนม่วงทั้ง 5 หมูบ่ า้ น ให้มบี ริการและตรวจรักษาฟรี เพือ่ ป้องกัน โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อนํ้าดี ,โรคไตเรื้อรัง ,ตรวจและรักษาฟัน นอกจากนีย้ งั ฉีควัคซีนป้องกัน โรคพิษสุนัขบ้า สำ�หรับสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

ส ส ว . เ ดิ น หน้ า ผลิ ต โค้ ช พร้ อ ม สร้างฐานข้อมูลกลาง เพื่ อ ให้ ก ารช่ ว ยเหลื อ โค้ ช -เอสเอ็ ม อี ทุ ก พื้ น ที่ ทั่ ว ประเทศ ใน การจัดกิจกรรม “Train the Coach” นำ � ร่ อ ง ภาคอี ส านที่ จั ง หวั ด ขอนแก่ น ตั้ ง เป้ า 3 ปี ธุรกิจเอสเอ็มอีไทย ก้าวสู่ยุค 4.0 ทั้งหมด โดยมี สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และ ผูป้ ระกอบการ เอสเอ็มอี เข้าร่วมรับฟัง ณ ห้องออคิด บอลรูม โรงแรม พูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด เมือ่ วันที่ 20 เมษายน 2561 นางสุทธิกานต์ มาสำ�ราญ ผูอ้ �ำ นวยการกลุม่ งาน ส่งเสริมและประสานเครือข่าย สำ�นักงานส่งเสริม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. กล่าว ว่า การฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการเร่งเครื่อง SMEs สู่ 4.0 Train the Coach ซึ่งสำ�นักงานส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ได้จัดขึ้นใน ระดับภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเน้นติว เข้มให้กับสถาบันการศึกษา,หน่วยงานภาครัฐ ภาค เอกชน รวมไปถึงผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ใน พื้นที่ 20 จังหวัดภาคอีสานรวมกว่า 200 คน เข้ารับ การฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ โดยเฉพาะ กลุ่มธุรกิจ

เอสเอ็มอีของไทย ยังคงต้องได้รบั การส่งเสริมเทคนิค รวมถึงการร่วมกันพัฒนารูปแบบ ร่วมกันหาช่อง ทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสินค้าเอสเอ็มอีของ ไทยนั้นไม่แพ้ชาติใดในโลก เพียงแต่ขาดช่องการใน การนำ�เสนอผลิตภัณฑ์ และช่องทางการตลาดที่จะ เข้าสูต่ ลาดสากลเพือ่ ให้เป็นทีร่ จู้ กั ในวงกว้างมากขึน้ การอบรมในครั้งนี้ เน้นกลุ่มที่ปรึกษา ทั้ง จากสถาบันการศึกษา,หน่วยงานภาครัฐ หรือภาค เอกชน ที่ มี ห น้ า ที่ ห ลั ก ในการพั ฒ นา สนั บ สนุ น ธุรกิจในระดับท้องถิ่น ให้เป็นไปตามความต้องการ ของตลาด และเป็นไปตามความต้องการของกลุ่ม ลูกค้า โดยนำ�นโยบายของรัฐบาลทีม่ งุ่ เน้นการพัฒนา ให้ประชาชนก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่เน้นระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้เกิดการเข้าถึง และ การนำ�เสนอผลิตภัณฑ์ได้ทั่วทั้งโลกตลอดทั้ง 24 ชม ดังนั้น จึงต้องขอความร่วมมือในการพัฒนาทีม

ที่ปรึกษา หรือที่เราจะเรียกว่า “โค้ช” เพื่อให้เป็น ที่ปรึกษาด้านธุรกิจและด้านเทคโนโลยี โดยตั้งเป้า หมายว่าในช่วง 3 ปี ต่อจากนี้ สสว. จะผลิตโค้ชทั่ว ทัง้ ประเทศมากกว่า 2,200 ราย เพือ่ เป็นกลไกในการ ดำ�เนินงานด้านการพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้ก้าวเดินไปพร้อมกัน ทั่วทั้งประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการสร้างระบบฐานข้อมูล โค้ช ทั้งที่เป็นในส่วนของสถาบันการศึกษา หน่วย งานราชการ และภาคเอกขน โดยเน้นที่หอการค้า และสภาอุตสาหกรรม ซึง่ จะกลายเป็นศูนย์กลางใน เรือ่ งของการให้ค�ำ ปรึกษา และจับคูช่ ว่ ยเหลือธุรกิจ เอสเอ็มอีของแต่ละพืน้ ทีไ่ ด้โดยตรง ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการจองโรงแรม ศูนย์ระบบฐานข้อมูล สามารถไปเลือกใช้บริการผ่านอะโกด้า ซึ่งนั่นก็คือ แนวทางที่ สสว. ต้องทำ�คือผูป้ ระกอบการเอสเอ็มอี จะมาเลือกโค้ช หรือทีมทีป่ รึกษา ได้ดว้ ยตัวเองโดยที่ สสว.จะทำ�หน้าที่เป้นคนกลาง เป็นคนติวเข้มและ จัดระบบของทีมที่ปรึกษาให้ตรงกับความต้องการ ของผู้ประกอบการแต่ละราย และแต่ละผลิตภัณฑ์ นางสุทธิกานต์ กล่าวต่ออีกว่า การจัดการฝึก อบรมเชิงปฎิบัติในครั้งนี้ จะทำ�การแบ่งกลุ่มโค้ชที่ เข้าร่วมโครงการออกเป็น 3 กลุม่ กลุม่ แรก เป็นกลุม่ ที่ปรึกษา หรือพี่เลี้ยงธุรกิจทั่วไป ที่จะเน้นเรื่องของ การช่วยแก้ไขปัญหาทางธุรกิจ และปูพื้นฐานเอส เอ็มอีสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ต่อมาคือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ทางเทคโนโลยี นวัตรกรรม หรือเทคนิคเฉพาะทาง สุดท้ายคือ กลุ่มผู้บริหารระดับสูง จากภาครัฐและ ภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและแรงกระตุ้นให้กับผู้ ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย ให้สามารถเปิดช่อง ทางการตลาดที่เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า ได้อย่างครอบคลุมเพิ่มมากยิ่งขึ้น

รมว.ศึกษาธิการ ชู มข.เป็นโมเดลปฎิรปู การศึกษา สอดรับ THAILAND 4.0 เตือนอย่านำ�เนือ้ โคกระบือทีถ่ กู สุนัขบ้ากัดมาประกอบอาหาร

รมว.ศึกษาธิการ ไฟเขียว หนุน มข.เป็น ต้นแบบปฎิรูปการศึกษา สอดรับประเทศไทย 4.0 เตรียมขยายผลทัว่ ประเทศ วางแผนทิศทางแก้ไขให้ ชัดเจน ทำ�ในสิ่งที่ทำ�ได้ ไม่ใช่คิดแผนงานกันแบบ ลอยๆ แต่จับต้องไม่ได้

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2561 ที่ศูนย์ประชุม และแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) นพ.ธีร ะเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เป็น ประธานเปิดงาน Smart Learning Expo ครั้งที่ 1 จัดโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) พร้อมบรรยาย พิเศษ “การปฏิรูปการศึกษา การปฏิรูปการเรียนรู้ เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์ THAILAND 4.0” ตอนหนึ่งว่า การปฎิรูปการศึกษาจะประสบความสำ�เร็จได้ต้อง อาศัยหลายองค์ประกอบ และต้องสร้างให้เกิดความ ร่วมมือในทุกภาคส่วน ไม่ใช่ตา่ งคนต่างทำ� ต้องต่อย อดและพัฒนาของเก่าที่มีอยู่ด้วย ซึ่งการปฏิรูปการ ศึกษานัน้ จะมีววิ ฒ ั นาการในแต่ละช่วง เพราะฉะนัน้ การปฎิรปู การศึกษา ไม่ใช่มองแต่เรือ่ งโครงสร้างแต่ ควรเป็นการนำ�ข้อผิดพลาดของการศึกษาว่าอยูต่ รง จุดไหนแล้วมาช่วยกันแก้ไข วางแผนทิศทางแก้ไขให้ ชัดเจน ทำ�ในสิ่งที่ทำ�ได้ ไม่ใช่คิดแผนงานกันแบบ ลอยๆเหมือนนามธรรมแต่จับต้องไม่ได้

ซึ่งที่สำ�คัญเมื่อปฎิรูปการศึกษาแล้ว เราจะ ต้องมีการวัดและประเมินผลด้วยว่าสิ่งที่เราดำ�เนิน การมาถูกทิศทางจนสามารถยกระดับคุณภาพการ ศึกษาได้หรือไม่ ทั้งนี้ที่ผ่านมาการปฎิรูปการศึกษา ของโลกก็เกิดวิกฤตเช่นกัน แต่การแก้ปัญหาของ ประเทศต่างๆจะต้องนำ�หน่วยงานภายนอกเข้ามา ช่วยกระตุน้ โดยเฉพาะโครงการประเมินผลนักเรียน ร่วมกับนานาชาติ (PISA) มาช่วยวัดทักษะและจัด ลำ�ดับคุณภาพการศึกษาของแต่ละโรงเรียนให้ ซึ่ง ศธ.ก็มีการทำ�เช่นนั้นควบคู่ไปกับการปฎิรูปการ ศึกษาจากภายในศธ.ไปด้วย เพราะการปฎิรูปการ ศึกษาจะต้องทำ�ให้ประชาชนเห็นการเปลี่ยนแปลง ว่าลูกหลานเข้าสู่ระบบการเรียนแล้วมีความสุขใน ห้องเรียนหรือไม่

“ที่ ผ่ า นมาการปฎิ รู ป การศึ ก ษาของเรามี แต่โครงการต่างๆ และคำ�สั่งที่มาจากส่วนกลาง ดัง นั้นเราจะใช้ขอนแก่นเป็นโมเดลสำ�คัญของการปฎิ รูปการศึกษา เพราะมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัด โครงการ KKU Smart Learning ขึ้น ซึ่งถือโครงการ

พั ฒ นาสมรรถนะนั ก เรี ย นด้ ว ยนวั ต กรรมและ เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการจัดห้องเรียนเทคโนโลยี เนือ้ หาหลักสูตรแบบออนไลน์ คูม่ อื การจัดการเรียน สำ�หรับครู นำ�ร่องระดับมัธยมศึกษาใน 3 วิชา ได้แก่ วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ซึง่ ผมขอให้เพิ่มวิชาภาษาไทยเข้าไปด้วย ทั้งนี้ผมจะ ให้มีการขยายโครงการนี้ไปยังโรงเรียนมัธยมศึกษา ระดับอื่นๆ ที่ด้อยโอกาส และในอนาคตจะต้องยก ระดับไปทุกระดับชั้น ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ซึ่ง มหาวิทยาลัยอื่นๆ ควรนำ�ไปศึกษา เพื่อพัฒนาให้ เหมาะสมตามสภาพของโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ ด้วย ซึ่งถือว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นแบบอย่าง ของการปฎิรูปการศึกษามี่เป็นรูปธรรม เพราะนี่คือ ศาสตร์แห่งการยกระดับคุณภาพการศึกษาที่หลาย คณะในมหาวิทยาลัยช่วยกันทำ� ดังนั้นเราไม่จำ�เป็น จะต้องยึดติดกับคณะศึกษาศาตร์เพียงอย่างเดียว” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว

ด้ า น รศ.ดร.กิ ต ติ ชั ย ไตรรั ต นศิ ริ ชั ย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า มข. โดย ฝ่ายวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยี และโครงการ พัฒนาสมรรถนะนักเรียนระดับมัธยมศึกษาด้วย นวัตกรรม KKU Smart Learning ได้จัดงาน Smart Learning Expo ครั้งที่ 1 มหกรรมการเรียนรู้แบบ สมาร์ท ครัง้ แรกของประเทศไทย ซึง่ โครงการ KKU Smart Learning เริ่มต้นในปี 2560 เน้นการถ่ายทอด นวัตกรรมการเรียนการสอนที่เกิดจากการวิจัยของ อาจารย์ มข.สู่การใช้จริงในพื้นที่ ซึ่งเน้นการพัฒนา ความรู้นักเรียนในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และส่งเสริมทักษะนวัตกรรมและการ เรียนรู้ ทักษะด้านสื่อ สารสนเทศและเทคโนโลยี รวมทั้งทักษะด้านชีวิตและอาชีพ

ทัง้ นี้ หลักสำ�คัญของ KKU Smart Learning คือ ในการนำ�ไปสู่สมรรถนะที่คาดหวัง ผู้เรียนจะ ต้องได้รับความรู้ในเนื้อหาของหลักสูตรในระดับ ชั้นที่เรียน ได้รับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้โดย ผ่ า นกระบวนการเรี ย นการสอนที่ ส่ ง เสริ ม การ คิ ด วิ เ คราะห์ การเรี ย นรู้ ด้ ว ยตนเองผ่ า นสื่ อ และ เทคโนโลยี และชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสม สอดคล้องกับเนื้อหา และสอดคล้องกับโปรแกรม การวัดสมรรถนะของพิซา่ ซึง่ เป็นจุดเด่นของ KKU Smart Learning ที่ช่วยให้ก้าวข้ามข้อจำ�กัดในด้าน

การเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ ห้อง ปฏิบัติการ ห้องทดลอง โดย สร้างสภาพแวดล้อมการเรียน รู้แบบเสมือนจริง

รศ.ดร.กิตติชัย กล่าว ต่อไปว่า ปัจจุบัน มข.กำ�หนด ดำ � เนิ น การโครงการ KKU Smart Learning ระยะเวลา 3 ปี โดยในปีแรก ปีการศึกษา 2560 มีเป้าหมายดำ�เนินงานเป็นชั้น ม.1 ใน 45 โรงเรียน เขตจังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ มีครูเข้าร่วมโครงการ 270 คน และนักเรียนจำ�นวน 6,000 คน ปีการศึกษา 2561 ขยายโครงการครบคลุม 20 จังหวัดภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ โดยมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ 195 โรงเรียน นักเรียน 31,200 คน และจนครบเป้า หมายโครงการจะมีครูเข้าร่วมโครงการ 4,050 คน นักเรียน 81,000 คน

นอกจากนี้ ภายในงานยั ง จั ด ให้ มี ก ารลง นามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการดำ�เนิน โครงการระหว่างระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย รศ.ดร.กิ ต ติ ชั ย ไตรรั ต นศิ ริ ชั ย อธิ ก ารบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กับกระทรวงศึกษาธิการ โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ร่วมกับผู้อำ�นวยการสำ�นักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 19-33 รวม 15 เขตพืน้ ทีก่ ารศึกษา และผูอ้ �ำ นวย

การโรงเรียนกว่า 150 โรงเรียนทั่วภาคตะวันออก เฉียงเหนือ

พร้อมจัดนิทรรศการนำ�เสนอแนวคิด วิธกี าร จัดการเรียนรู้ และนวัตกรรม KKU Smart Learning สาธิตการจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรม KKU Smart Learning วิ ช าวิ ท ยาศาสตร์ คณิ ต ศาสตร์ และ ภาษาอังกฤษ นิทรรศการเพื่อแนะนำ�บริการ ผล งานการวิจัยและนวัตกรรมของฝ่ายบริการความรู้ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สํานักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ การ Showcase ในการจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรม KKU Smart Learning ปีการศึกษา 2560 จากครูทเี่ ข้าร่วมโครงการ ระยะที่ 1 กว่า 45 โรงเรียนในเขตกลุ่มจังหวัดร้อย แก่ น สารสิ น ธุ์ พร้ อ มการปฐมนิ เ ทศการเข้ า ร่ ว ม โครงการระยะ 2 -3 ในปีการศึกษา 2561 อีกด้วย

จักรยานทางไกลนานาชาติ เ ฉ ลิ ม พ ร ะ เ กี ย ร ติ ฯ ; นายสมศั ก ดิ์ จั ง ตระกู ล ผวจ.ขอนแก่ น และนาง อารี ย์ ว รรรณ บุ ต รรั ต นะ ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาขอนแก่ น พร้ อ ม ผู้ บ ริ ห า ร ส ม า ค ม กี ฬ า จักรยานแห่งประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดี และ มอบป้ายรางวัล Best Asean of the Stage รางวัลชนะเลิศอาเซียนประจำ�สเตจ การแข่งขัน ”จักรยาน ทางไกลนานาชาติ” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจริญ พระชนมพรรษา 63 พรรษา สเตจที่ 1 ณ ถนนรอบบึงแก่นนคร หน้าลานนํ้าพุ สวนสาธารณะ 200 ปี อำ�เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2561

เ ตื อ น ช า ว บ้ า น ป้ อ งกั น โรคพิ ษ สุ นั ข บ้ า หวั่ น นำ � เนื้ อ โคกระบื อ ที่ มี ป ระวั ติ ถู ก สุ นั ข บ้ า กั ด มาประกอบอาหาร ผู้ ว่ า ฯ ขอนแก่ น ขอให้ ค นเลี้ ย ง สุ นั ข /แมว สั ง เกตอาการ สัตว์เลีย้ งต้องฉีดวัคซีนสมํา่ เสมอแม้ว่าช่วงนี้ปลอดภัย แล้วก็ตาม

เมื่อวันที่ 18 เม.ย.

61 นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ตามที่ จ.ขอนแก่น มี ก ารรายงานการตรวจพบสุ นั ข ติ ด เชื้ อ โรค พิ ษ สุ นั ข บ้ า และมี ผู้ สั ม ผั ส หลายคน ในพื้ น ที่ อ.แวงน้อย อ.แวงใหญ่ และ อ.เมืองขอนแก่น ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2561 ที่ผ่าน มา จากสถานการณ์ดังกล่าว จังหวัดขอนแก่นได้ ดำ�เนินการป้องกันควบคุม ค้นหา ผูส้ มั ผัสโรคตาม มาตรการร่วมกับเครือข่าย ประกอบด้วย ปศุสัตว์ อำ�เภอ ท้องถิ่น เครือข่าย อสม.รวมถึงการเตรียม ความพร้อมด้านการแพทย์ ทัง้ ยังเร่งประสานงาน ให้มีการประชาสัมพันธ์ และค้นหา ติดตามผู้ที่มี ประวัติสัมผัสโรคทุกรายให้มารับวัคซีน รวมทั้ง กำ�ชับ อสม.ให้เคาะประตูบา้ น เพือ่ เร่งระดมค้นหา และติดตามผูถ้ กู กัดหรือสัมผัสโรคมารับวัคซีนให้ ครบทุกราย

โดยสถานการณ์ดงั กล่าวได้สงบลงแล้ว แต่ สิง่ หนึง่ ทีน่ า่ เป็นห่วงคือการติดเชือ้ โรคพิษสุนขั บ้า จากการรับประทานเนือ้ โคกระบือทีต่ ดิ เชือ้ โรคพิษ สุนัขบ้าจากการถูกสุนัขกัด แล้วโคกระบือได้ตาย ลง โดยเจ้าของอาจเสียดาย ด้วยความรู้เท่าไม่ถึง การณ์อาจนำ�เนือ้ โคกระบือมาปรุงเป็นอาหาร โดย อาจจะเข้าใจว่าปรุงสุกด้วยความร้อนจะไม่เป็น อะไร เพราะแม้แต่ตามหลักการจะระบุว่าต้องนำ� เนือ้ ไปผ่านความร้อนให้สกุ ด้วยอุณหภูมิ 80 องศา เซลเซียสขึ้นไป เป็นเวลานาน 5 - 10 นาทีก็ตาม

แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เสี่ยงติดเชื้อพิษสุนัขบ้า

เนื่องจากหากไปสัมผัสถูกเนื้อสดๆ ก่อนที่จะนำ� มาปรุงสุกก็ย่อมมีความเสี่ยงติดเชื้อได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามในพื้นที่เสี่ยงและในพื้นที่ใกล้เคียง ทีพ่ บสุนขั ติดเชือ้ โรคพิษสุนขั บ้า ควรมีมาตรการ ควบคุมป้องกัน เช่น การแยกสัตว์ออกจากกัน ไม่เลี้ยงปะปน ที่สำ�คัญผู้เลี้ยงต้องสังเกตว่า โคก ระบือของตัวเองมีอาการผิดปกติ หรือ หากพบ ตายผิดปกติต้องรีบแจ้งแจ้งทางปศุสัตว์ในพื้นที่ เพือ่ เข้าไปควบคุมป้องกันโรค ห้ามนำ�เนือ้ มาปรุง เป็นอาหารหรือห้ามจำ�หน่ายจ่ายแจกเด็ดขาด

ด้ า น นายสมศั ก ดิ์ จั ง ตระกุ ล ผวจ. ขอนแก่น ได้กล่าวถึงมาตรการควบคุมโรคพิษ สุนัขบ้าในจังหวัดขอนแก่น ว่า ทางจังหวัดได้ ควบคุมโรคโรคพิษสุนัขบ้าด้วยการสั่ งการให้ หน่วยงานที่รับผิดชอบดำ�เนินการฉีดวัคซีนให้ กับสุนัขและแมวในพื้นที่กลุ่มเสี่ยง รวมถึงให้ อสม.ประจำ�หมู่บ้าน ตำ�บล เดินเคาะประตูบ้าน ทุกหลังเพื่อสอบถามถึงการสัมผัสกับสุนัข และ แจ้งเตือนว่าหากถูกสุนขั และแมวข่วนหรือกัดให้ รีบไปฉีดวัคซีนโดยด่วน เพือ่ ป้องกันไม่ให้ตดิ เชือ้ โรคพิษสุนัขบ้า ขอให้ประชาชนมีความสบายใจ ได้ว่าทางจังหวัดได้มีมาตรการที่เข้มงวดป้องกัน โรคพิษสุนัขบ้า กระทั่ง สถานการณ์ในจังหวัดได้ เข้าสู่สภาพปกติแล้ว แต่ประชาชนต้องเฝ้าระวัง ตลอดเวลา โดยนำ�สุนัข/แมว และสัตว์เลี้ยงลูก ด้วยนม ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนขั บ้าอย่าง สมํ่าเสมอ

หน้า 6

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ประจำ�เดือนเมษายน 2561

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ประจำ�เดือนเมษายน 2561

หน้า 7

หน้า 8

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ประจำ�เดือนเมษายน 2561

โตโยต้าแก่นนคร ร่วมรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุ

นายธีรนันท์ กิ่งแก้วเจริญชัย ผู้อำ�นวย ฝ่ายบริการหลังการจำ�หน่าย บริษัท โตโยต้าแก่น นคร จำ�กัด พร้อมพนักงานบริษัทฯ นำ�นํ้าดื่ม บรรจุขวดมอบให้กับ เจ้าหน้าที่ตำ�รวจ, ทหาร ตำ�รวจ และอาสาสมัคร ณ.จุดตรวจหลักในพื้นที่ สภ.หนองเรือ จุดตรวจเทศบาลพระยืน เพื่อเป็น กำ � ลั ง ใจในการอำ � นวยความสะดวก และร่ ว ม รณรงค์ ป้ อ งกั น และลดอุ บั ติ เ หตุ ท างถนนช่ ว ง เทศกาลสงกรานต์ ปี 2561

พร้อมประชาสัมพันธ์ผู้ใช้รถใช้ถนนทุก ท่านทีม่ ปี ญ ั หา หรือต้องการตรวจเช็คความพร้อม ของสภาพรถยนต์ก่อนเดินทาง สามารถเข้าใช้ บริการได้ที่ บริษัท โตโยต้าแก่นนคร ทั้ง 4 สาขา

สำ�นักงานใหญ่ (ข้างบิ๊ก ซี) สาขาบ้านดอน สาขา หนองเรือ สาขามัญจาคีรี พร้ อ มโปรโมชั่ น พิ เ ศษ ตลอดเดื อ น เมษายน 2561 กับรายการ เช็ครถ ปลอดภัย มั่นใจ ก่อนเดิน ทางฟรี “บริการเช็คสภาพ รถยนต์ 24 รายการ” รับ ส่วนลด 1,000 บาท เมื่อ เปลี่ยน ยาง 4 เส้น และ สามารถผ่อนชำ�ระ 0% นาน 10 เดือน หรือ รับ บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร 043-333444 ส่วนลด สำ�หรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ สูงสุด 400

หนองคายเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ร่ ม ร่ อ นสานสั ม พั น ธ์ อ าเซี ย น ครั้ ง ที่ 2

เมื่อวันที่ 23 เม.ย.61 ที่ห้องประชุมพระ ใส ศาลากลางจังหวัดหนองคาย อ.เมืองหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.หนองคาย และ น.อ.วีระ ยุทธ ดิษยะศริน นายกสมาคมกีฬาทางอากาศและ การบินแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ ร่ ว มเป็ น ประธานการประชุ ม เตรี ย มจั ด การ แข่งขันร่มร่อนสานสัมพันธ์อาเซียน ครั้งที่ 2 “2 Paragliding ASEAN Friendships Open 2018” ที่ จังหวัดหนองคาย ระหว่างวันที่ 21-27 พ.ค.61 ณ สนามกีฬาทางอากาศชัว่ คราว ผาตากเสือ้ อ.สังคม จ.หนองคาย ซึง่ จะทำ�การแข่งขันร่มร่อน ประเภท บินลงเป้าแม่นยำ� และประเภทบินเดินทาง

ในการประชุมในครั้งนี้ สมาคมกีฬาทาง อากาศและการบินแห่งประเทศไทย ในพระบรม

ราชูปถัมป์ ได้ขอสนับสนุนจากจังหวัด หนองคายในด้านกำ�ลังเจ้าหน้าที่ ตำ�รวจ จราจร อปพร. และอาสาสมั ค รต่ า งๆ อำ�นวยความสะดวกระหว่างการจัดการ แข่งขัน ,ขอสนับสนุนรถพยาบาลเคลือ่ นที่ จำ�นวน 1 คัน พร้อมพยาบาลประจำ�รถ , รถกู้ภัย จำ�นวน 1 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ ,รถ สุขาเคลื่อนที่ จำ�นวน 1 คัน ,นํ้าดื่ม จำ�นวน 1,000 ขวด ,ขอให้นำ�นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทัว่ ไปเข้าร่วมในพิธเี ปิดและปิด, การประชาสัมพันธ์ในการจัดงาน ,การเตรียมการ แสดงพื้นเมืองศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านในพิธีเปิด ,สนับสนุนเต็นท์และเสาธงสำ�หรับติดธงประเทศ/ จังหวัดบนเวที พร้อมทั้งจัดตั้งจุดปล่อยสัญญาณ

WIFI ภายในสนาม

ซึง่ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดหนองคาย จะได้สงั่ การให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำ�เนินการให้แล้ว เสร็จก่อนการแข่งขันอย่างแน่นอน

พาณิชย์จงั หวัดขอนแก่น จัด WORKSHOP ติวเข้ม ผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มจังหวัดภาค อี ส านกลาง เพื่ อ เสริ ม ศั ก ยภาพให้ ก้ า วขึ้ น สู่ ผู้ ประกอบการ Smart Changes for SME 4.0 และ ยกระดับเป็นผูป้ ระกอบการการค้าระหว่างประเทศ อย่างมืออาชีพ ณ โรงแรมอวานีขอนแก่นโฮเทล แอนด์คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2561

นายสมศั ก ดิ์ จั ง ตระกุ ล ผู้ ว่ า ราชการ จังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงการฝึกอบรมในครั้งนี้ ว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ทั่วประเทศ กว่า 2.6 ล้านราย คิดเป็นอัตราจ้างงานร้อยละ 78 ในจำ�นวนนี้เป็น SMEs ที่ดำ�เนินธุรกิจระหว่าง ประเทศประมาณ 28,000 ราย ผู้ประกอบการ SMEs ในส่วนภูมิภาคมีจำ�นวนกว่า 2.6 ล้านราย ที่ยังขาดความรู้ ขาดทักษะ ประสบการณ์ และ การพัฒนาให้เป็นผู้ประกอบการการค้าระหว่าง ประเทศอย่างมืออาชีพ ขาดโอกาสทีจ่ ะสามารถเข้า ถึงการส่งเสริมของภาครัฐอย่างเป็นระบบ และขาด การพัฒนาต่อยอดการประกอบธุรกิจ

สำ � หรั บ กลุ่ ม จั ง หวั ด อี ส านตอนกลาง คือ จ.ร้อยเอ็ด จ.ขอนแก่น จ.มหาสารคาม และ จ.กาฬสินธุ์ กระทรวงพาณิชย์ มีแผนยุทธศาสตร์ พัฒนากลุ่มจังหวัด 4 ปี (ปี 2557-ปี 2560) ภายใต้ วิสัยทัศน์เพิ่มผลิตภาพพืชเศรษฐกิจหลัก (ข้าว อ้อย มันสำ�ปะหลัง) อุตสาหกรรม การค้า การ บริการ การท่องเที่ยว และการลงทุนสู่สากล ซึ่ง มี เ ป้ า หมายหลั ก ในการพั ฒ นากลุ่ ม 3 ประการ อาทิ การเพิ่มคุณภาพการผลิตพืชเศรษฐกิจหลัก

ให้ได้มาตรฐาน การ เพิ่ม มูลค่าการค้า การลงทุน การแปรรูปพืชเศรษฐกิจ และ การพัฒนาการท่อง เที่ ย วกลุ่ ม จั ง หวั ด สู่ ก าร ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดย กลุ่ ม จั ง หวั ด ภาคอี ส าน ตอนกลาง หรื อ กลุ่ ม “ร้ อ ยแก่ น สารสิ น ธุ์ ” มี ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ มี ชื่ อ เสี ย ง เป็นที่รู้จัก เช่น ผ้าไหม ข้าวหอมมะลิ สินค้าเกษตร แปรรูป และสินค้า OTOP ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่ หลาย

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่อว่า เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการ ส่งเสริม ยกระดับขีดความสามารถการประกอบ ธุรกิจ ผูป้ ระกอบการ OTOP และ SMEs ในภูมภิ าค ในด้านการค้าระหว่างประเทศ สำ�นักงานพาณิชย์ จังหวัดขอนแก่น กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้โครงการ งบประมาณตามแผนบูรณาการ สร้างความเข้ม แข็งและยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจในประเทศ มีแผน งานจัดโครงการสัมมนาสร้างเสริม และพัฒนา องค์ความรู้ในการประกอบธุรกิจการค้าระหว่าง ประเทศให้แก่ผู้ประกอบการ ด้วยการอบรมแบบ Knowledge Training ควบคูก่ บั การฝึกปฏิบตั พิ ร้อม ให้คำ�ปรึกษาเชิงลึกรายบริษัทธุรกิจ (Workshop & Coaching) Smart Changes for SME 4.0

ด้าน นายคำ�นวณ สุวรรณดี พาณิชย์จงั หวัด ขอนแก่น กล่าวเพิม่ เติมว่า การจัดจัด WORKSHOP ติวเข้มผู้ประกอบการ SMEs ในครั้งนี้ พาณิชย์

จังหวัดขอนแก่น มุ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้ประกอบ การในกลุ่ ม จั ง หวั ด ภาคตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ ตอนกลาง ได้พัฒนาองค์ความรู้ และสามารถเข้า สู่กระบวนการค้าระหว่างประเทศได้อย่างยั่งยืน และเป็นมาตรฐานสากล ด้วยวิธีการดำ�เนินงาน โดยผ่านการถ่ายทอดประสบการณ์ของวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการค้าระหว่างประเทศ ที่ต่างมี ประสบการณ์จริงด้วยการเป็นผู้ส่งออกเอง และ สามารถใช้ เ ทคนิ ค ด้ า นการตลาด วิ ธี ก ารสร้ า ง กลยุทธ์ดา้ นการวางแผน จัดทำ�แผนธุรกิจ และการ เสริมสร้างทักษะในการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ ที่ จะนำ�มาซึ่งความสามารถในการบริหารจัดการได้ อย่างเป็นมาตรฐานสากลต่อไป

สำ�หรับโครงการ “Smart Changes for SME 4.0” เป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการกับ หลักสูตรกลยุทธ์การตลาดเพือ่ การส่งออกอย่างมือ อาชีพ โดยการจัดต่อเนือ่ งพร้อมนำ�เสนอแผนธุรกิจ “Pitching” โดยผูช้ นะเลิศในการนำ�เสนอแผนธุรกิจ จะได้ไปศึกษาดูงานที่ประเทศมาเลเซีย จำ�นวน 3 วัน 2 คืน อีกด้วย

รองผูว้ า่ ฯ หนองคาย ลงพืน้ ทีฟ่ งั เสียงประชาชน พาณิชย์ขอนแก่น ติวเข้มผูป้ ระกอบการ ที่เดือดร้อน จากปัญหาท่าทรายแม่นํ้าโขง S M E s ย ก ร ะ ดั บ เ ป็ น มื อ อ า ชี พ

เมื่ อ วั น ที่ 20 เมษายน 2561 ที่ อ าคาร เอนกประสงค์ อ งค์ ก ารบริ ห ารส่วนตำ�บลผาตั้ง บ.ผาตั้ง ม.1 อ.สังคม จ.หนองคาย นายสุชาติ ทีคะ สุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นางสาว ศิริกัลยา กิจรักษา นายอำ�เภอสังคม, นายนนท พัฒน์ กิจรักษา ปลัดอำ�เภอหัวหน้าฝ่ายบริหาร งานปกครองอำ�เภอสังคม พร้อมด้วยหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมปรึกษาหารือแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนจากการดูดทรายในพืน้ ที่ หมู่ 1 บ้าน ผาตั้ง และ หมู่ 2 บ้านปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 1 ต.ผาตั้ง เดินทางมาร่วมรับฟังพร้อมสะท้อนปัญหาความ เดือดร้อนให้ทางคณะฯ ได้รับทราบจำ�นวนมาก

นายสุชาติ ทีคะสุข รองผูว้ า่ ราชการจังหวัด หนองคาย กล่ า วว่ า การลงพื้ น ที่ ใ นครั้ ง นี้ เ พื่ อ ติดตามปัญหาความเดือดร้อนของพีน่ อ้ งประชาชน ทั้ง 2 หมู่บ้าน ทั้งสาเหตุของการปิดท่าทรายทั้ง 4 ท่า ว่ามีความผิดอย่างไรบ้าง ปัญหาการทับถม ของกองทรายทับลำ�ห้วยฮัดนัน้ ขณะนีไ้ ด้ให้ อบต. ผาตั้ง แจ้งความดำ�เนินคดีกับผู้ประกอบการแล้ว ปัญหาตลิ่งพังนั้น ขณะนี้กรมเจ้าท่าได้สั่งระงับ การดูดทรายเป็นระยะเวลา 15 วันแล้ว ปัญหาฝุ่น ละอองอยู่ในระหว่างการเก็บตัวอย่างมวลอากาศ และรอการแปรผล ด้านการประมงพบว่า พื้นที่บ้านปากโสม ม.2 ไม่ พบมีการทำ�ประมงเพราะนํ้าโขงไหลแรง ส่วน บ้านผาตั้ง หมู่ 1 พบว่ามีการทำ�ประมงใกล้อ่าง ปลาบึก เพราะกระแสนํา้ ไหลปานกลาง แต่อย่างไร ก็ตามประมงจังหวัดหนองคาย ก็ได้ออกหนังสือ ประชาสัมพันธ์ในการห้ามเปลี่ยนแปลงพื้นที่จับ สัตว์นํ้าแล้ว ปัญหาการขนส่ง เช่น รถบรรทุกนํ้า หนักเกิน รถบรรทุกทรายเปียกไม่คลุมผ้าใบ คณะ กรรมการตรวจท่าทราย จะได้เชิญผู้ประกอบการ มาทำ� MOU ร่วมกัน เพือ่ แก้ปญ ั หาโดยไม่ให้มผี ลก ระทบต่อประชาชน

ด้าน นายคํ้า ดวงจันทร์ อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่ บ้านบ้านผาตั้ง กล่าวภายหลังสะท้อนปัญหาให้ คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายฟังว่า กรณี ข้อพิพาทระหว่างประชาชนชาวบ้านผาตั้ง ม.1 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย กับผู้ประกอบการ ดู ด ทราย ทั้ ง เรื่ อ งปั ญ หาฝุ่ น ละลอง การจราจร การเกษตร การประมงในแม่นํ้าโขง และการท่อง เที่ยว นั้น เรื่องทั้งหมดมันไม่ถูกตั้งแต่ตอนเริ่มต้น ประชาคมแล้ว คือวันที่ 27 ก.ย.60 นั้น เป็นการ ประชาคมเรื่อง “ขออนุญาตตั้งโรงงานประเภทที่ 3” คือ โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับหิน กรวด

ทราย หรือดิน สำ�หรับ ใช้ในการก่อสร้างอย่าง ใดอย่างหนึง่ หรือหลาย อย่าง

ทั้ ง นี้ ใ น วั น ประชุ ม ดั ง กล่ า วได้ มี ชาวบ้ า นไปประชุ ม จำ�นวนมาก เพราะให้ ความสนใจในเรื่ อ ง การจัดสรรที่ดินทำ�กิน ในที่สาธารณะ แต่เมื่อ ประชุ ม เสร็ จ ได้ มี ม ติ ในที่ประชุมเพื่อขออนุญาตให้มีการตั้งโรงงานดูด ทรายในพืน้ ที่ ซึง่ ไม่เกีย่ วกับประเด็นทีเ่ รียกประชุม เลย และในทีป่ ระชุมผูน้ �ำ หมูบ่ า้ นก็ได้จดั พรรคพวก คนของตนเข้าไปนัง่ ในทีป่ ระชุมจนเต็มห้องประชุม โดยมีขอ้ แม้วา่ ถ้าใครมาประชุมจะได้รบั การจัดสรร ที่ดินในที่สาธารณะให้ และรับเบี้ยประชุมคนละ 200 บาท ส่วนชาวบ้านที่ไม่ทราบเรื่องนั้นได้เดิน ทางเข้ามาประชุมสมทบในภายหลังแต่ก็เข้าห้อง ประชุมไม่ได้

นายคํ้า กล่าวต่อว่า เมื่อประชุมเสร็จ ผู้นำ� หมู่บ้านได้ขอมติในที่ประชุมเพื่อขอตั้งโรงงานดูด ทราย ปรากฏว่ามีคนยกมือเห็นด้วย 56 คน และ ถามว่ามีใครคัดค้านบ้า กลุ่มพวกตนจึงเบียดห้อง ประชุมเข้าไปยกมือคัดค้านได้จำ�นวน 26 คน กลุ่ม พวกตนจึงแย้งว่า ทำ�ไมประชุมอย่างหนึง่ แต่ให้เห็น ชอบอีกอย่างหนึ่ง การจะให้มีการจัดตั้งโรงงานดูด ทรายในพื้นที่ ผู้นำ�หมู่บ้านต้องอธิบายและสรุปถึง ผลดี ผลเสียของการจัดตั้งโรงงานก่อนที่จะมีการ ทำ�ประชาคม ไม่ใช่จะมาสรุปเอาง่ายๆ แบบนี้ แต่ ผูน้ �ำ หมูบ่ า้ นก็ไม่ได้พดู อะไรต่อ กลับบ่ายเบีย่ งไปว่า ผูป้ ระกอบการจะมาสร้างเมรุเผาศพภายในหมูบ่ า้ น ให้ในราคา 100,000 บาท และถ้าหากมีใครเสียชีวติ ในพืน้ ทีจ่ ะให้คา่ ปลงศพรายละ 2,000 บาท เมือ่ กลุม่ ของพวกตนคัดค้านไปอย่างนี้ ผู้นำ�หมู่บ้านกลับ บอกว่าไม่เกี่ยวกัน เดี๋ยวจะให้กรรมการหมู่บ้านไป รับเงินกับผูป้ ระกอบการมาดำ�เนินการสร้างเมรุเผา ศพต่อไป พร้อมกับปิดการประชุมทันที

ดังนั้นพวกตนคิดว่าการทำ�ประชาคมใน ครัง้ นีไ้ ม่โปร่งใส เมือ่ ตรวจสอบรายชือ่ คนทีม่ าร่วม ประชุมกลับพบว่ามีการเซ็นชือ่ ซํา้ กันถึง 3 ที่ รายชือ่ คนประเทศลาวก็มี มีรายชื่อพระก็มี จึงได้เดินทาง ไปปรึกษากับอุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย พร้อม กับคำ�แนะนำ�ว่าให้ทางผูไ้ ม่เห็นด้วยจัดทำ�ประชาคม ใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งก็ได้ไปจัดทำ�ประชาคมที่

บ้านของประธานกองทุนหมูบ่ า้ น ปรากฏว่ามีเสียง ไม่เห็นด้วยในการก่อตัง้ โรงงานดูดทรายในหมูบ่ า้ น ผาตั้ง จำ�นวน 58 เสียง ซึ่งชนะเสียงที่เห็นด้วย 2 เสียง แล้วนำ�ส่งอุตสาหกรรมจังหวัดเพื่อพิจารณา แต่ไม่นานผู้ประกอบการก็ได้ขนเครื่องจักรกลมา ดำ�เนินการในพืน้ ที่ พวกตนได้เดินทางไปร้องเรียน ไปยังส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่เรื่องก็เงียบหายไป นายคํ้า กล่าวต่อว่า ต่อมาพวกตนได้เห็นเอกสาร จากทางอำ�เภอสังคมว่า “การจัดตัง้ โรงงานดูดทราย ผ่านมติแล้ว” โดยผู้นำ�หมู่บ้านอ้างว่า การขอจัดตั้ง โรงงานดูดทรายนั้น มีผู้คัดค้าน 58 คน มีผู้เข้าร่วม ประชุม 126 คน มีมติให้ผ่าน ก็แสดงว่าผู้เข้าร่วม ประชุมทั้งเห็นด้วยและคัดค้านจะต้องเข้าประชุม พร้อมกันทั้งหมด ทั้งที่มติในตอนออกเสียงครั้ง แรกมีเสียงคัดค้านและเห็นด้วยเพียง 82 คนเท่านัน้ แสดงว่าผูน้ �ำ หมูบ่ า้ นแสดงเอกสารทีเ่ ป็นเท็จ ปลอม แปลงเอกสาร จึงได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชน จนมี การดำ�เนินการจากหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องทัง้ การปิด ท่าทรายและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง

“ชาวบ้ า นผาตั้ ง หมู่ 1 ขอขอบคุ ณ ทุ ก หน่วยงานที่ลงมาแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน และ ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่นำ�เสนอข่าวอย่างต่อ เนื่อง ทำ�ให้คนในสังคมทั่วไปเห็นปัญหาการดูด ทรายเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง สักที และต้องการให้ทางคณะกรรมการพิจารณา ดูดทรายระดับอำ�เภอ ระดับจังหวัด เอาผิดกับผู้ที่ ทำ�ประชาคมที่ไม่ถูกต้องด้วย เพราะสร้างปัญหา ความแตกแยกแก่ชุมชน ซึ่งพวกตนก็จะแจ้งความ ดำ�เนินคดีเอาผิดผูน้ �ำ ชุมชนให้ได้เช่นเดียวกัน” นาย คํ้า กล่าว

จากนั้นคณะรอง ผวจ.หนองคาย ได้เดิน ทางไปทีบ่ า้ นปากโสม ม.2 ต.ผาตัง้ อ.สังคม เพือ่ ไป รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ ต่อไป

สหกรณ์หนองคาย พิจารณาเงินกู้ 3 สหกรณ์ฯ 8 ล้านบ.

เมื่ อ วั น ที่ 23 เมษายน 2561 ที่ ห้ อ ง ประชุ ม สำ � นั ก งานสหกรณ์จัง หวัด หนองคาย ถนนมิตรภาพหนองคาย - อุดรธานี นายจิร ศักดิ์ ศรีคชา รอง ผวจ.หนองคาย เป็นประธาน การประชุ ม คณะกรรมการพิ จ ารณากองทุ น พัฒนาสหกรณ์ระดับจังหวัด หรือ กพจ. จังหวัด หนองคาย ครั้งที่ 2/2561

นายณรงค์ คงมั่ น สหกรณ์ จั ง หวั ด หนองคาย กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ จั ด สรรเงิ น กองทุ น พั ฒ นาสหกรณ์ ประจำ � ปี ง บประมาณ 2561 ให้ จั ง หวั ด หนองคาย ประกอบด้วยโครงการปกติ จำ�นวน 15,000,000 บาท และโครงการพิ เ ศษเพื่ อ ให้ เ กษตรกร สามารถเข้าถึงแหล่งทุนอีกจำ�นวน 700,000 บาท และเมือ่ วันที่ 22 ม.ค.61 ทีผ่ า่ นมา คณะกรรมการ กองทุนระดับจังหวัดได้พิจารณาอนุมัติเงินกู้ยืม ให้แก่ 2 แห่ง ได้แก่สหกรณ์กองทุนสวนยาง หนองบัวเงิน จำ�กัด อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย วงเงิน กู้ 2,000,000 บาท และสหกรณ์การเกษตร อ่าง เก็บนาํ้ ห้วยบังพวน จำ�กัด อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

วงเงินกู้ 1,500,000 บ า ท ร ว ม เ ป็ น เงิ น 3,500,000 บาท คงเหลือเงิน จั ด สรรโครงการ ป ก ติ จำ � น ว น 11,500,000 บาท

จ า ก นั้ น ได้ พิ จ ารณาการ ให้ เ งิ น กู้ ก องทุ น พั ฒ นาสหกรณ์ แก่ ส หกรณ์ ที่ ข อ กู้ จำ � นวน 3 แห่ ง ได้ แ ก่ สหกรณ์ ก ารเกษตรเซิ ม จำ�กัด อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย วงเงินขอกู้จำ�นวน 2,000,000 บาท, สหกรณ์ผู้ใช้นํ้าสถานีสูบนํ้าฝาย ห้วยบังพวน จำ�กัด อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย วงเงินขอกู้ จำ�นวน 1,000,000 บาท และสหกรณ์ ผู้ใช้นํ้าสถานีสูบนํ้าด้วยไฟฟ้าบ้านซอย 12 จำ�กัด อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย วงเงินขอกู้ จำ�นวน 500,000 บาท

ซึ่ ง สหกรณ์ ทั้ ง 3 แห่ ง ได้ ข อกู้ เ งิ น จาก กองทุนพัฒนาสหกรณ์จังหวัดหนองคาย เพื่อนำ� ไปให้สมาชิกสหกรณ์กู้ยืมไปประกอบอาชีพด้าน การเกษตร ด้านคณะกรรมการพิจารณากองทุนฯ จะได้ศกึ ษาในเรือ่ งการบริหารจัดการ, ผลประกอบ การ และการบริ ห ารจั ด การกองทุ น ของแต่ ล ะ สหกรณ์ เพื่อประกอบการพิจารณา ตามลำ�ดับต่อ ไป

ทิศทางพัฒนาอุดรธานี 4 ปี พ.ศ.2561-2565

พ่อเมืองอุดรธานี แจงรายละเอียดแนวทาง การพัฒนาจังหวัดระยะ 4 ปี พ.ศ.2561-2565 มุม มองของราชการมีความเหมาะสมดีแล้ว ยอมรับว่า อาจมีการเห็นต่าง ต้องบูรณาการในการทำ�งานเพื่อ บรรลุเป้าหมายทีเ่ ราอยากเห็นอุดรธานีกบั 6 ประเด็น ยุทธศาสตร์ 8 ศักยภาพ 5 ความท้าทาย 24 โครงการ เพือ่ การเปลีย่ นแปลง

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด อุดรธานี เปิดเผยถึงแผนการพัฒนาจังหวัดอุดรธานี 4 ปี พ.ศ.2561-2565 ว่ า เพื่ อ ให้ ทุ ก ภาคส่ ว นได้ ยึดถือแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน กลุ่ม งานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด ได้จัดทำ�เอกสารบทสรุปทิศทางการพัฒนาจังหวัด อุดรธานีสำ�หรับผู้บริหาร อุดรธานีปี 2565 ที่เรา อยากเห็นอุดรธานีกบั 8 ศักยภาพ 5 ความท้าทาย 24 โครงการเพือ่ การเปลีย่ นแปลง (24 For Change) เพือ่ สำ�หรับผู้บริหารทุกภาคส่วนได้ยึดถือเอาไว้ในการ ปฏิบตั งิ าน

เพือ่ เป็นการสือ่ สารให้ทกุ ฝ่าย ผูร้ บั ผิดชอบ ผู้ ท่ี เ กี่ ย วข้ อ ง มี ค วามเข้ า ใจทิ ศ ทางของแผนการ พัฒนาจังหวัด การบริหารราชการจังหวัด ทัง้ ในส่วน ภูมภิ าคและส่วนกลาง ส่วนท้องถิน่ ส่วนหน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ หน่วยงาน-องค์กรเอกชน องค์กรภาค ประชาชน ทีอ่ ยูใ่ นพืน้ ที่ เป็นไปตามเจตนารมณ์ และ มีการบูรณาการทำ�งานกันอย่างมีประสิทธิภาพ และ เพือ่ ใช้สอ่ื สารทิศทางแผนงานการการพัฒนาจังหวัด ไปยังผูล้ งทุนทัง้ จากในและต่างประเทศได้อกี ด้วย สำ�หรับเอกสารบทสรุปทิศทางการพัฒนาจังหวัด อุดรธานีสำ�หรับผู้บริหาร(Executive Summary) อุ ด รธานี ปี 2565 ที่ เ ราอยากเห็ น อุ ด รธานี กั บ 8 ศั ก ยภาพ 5 ความท้ า ทาย 24 โครงการเพื่ อ การ เปลี่ยนแปลง (24 For Change) ดังกล่าวนั้น แบ่ง ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 ประกอบด้วยศักยภาพ ของจังหวัดอุดรธานี และความท้าทายต่อการพัฒนา ส่วนที ่ 2 เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดอุดรธานี ปี 2561-2565

นายวัฒนาฯ ผวจ.อุดรธานี กล่าวต่อไปอีก ว่า ในส่วนศักยภาพของจังหวัดอุดรธานี มีอยู่ 8 ด้าน ประกอบด้วย 1.การมีท่ีต้ังของเมืองอุดรธานีท่ีเป็น จุดยุทธศาสตร์ทางด้านความมัน่ คงในอนุภาคลุม่ นํา้

โขงและคาบสมุทรอินโดจีน และการที่ถูกจัดเข้าไป อยู่ในเส้นแนวทางตามยุทธศาสตร์ One Belt One Road ของจีนเป็นแนว Coridor ตามแผนพัฒนาระบบ รถไฟรางคูข่ องรัฐบาลไทย และแนวเส้นทางโครงการ พัฒนารถไฟความเร็วสูง จีน-ไทย

2. การเป็นที่ต้ังสนามบินขนาดใหญ่ท่ีได้รับ การก่อสร้างโดยกองทัพสหรัฐ เพื่อใช้ทางการทหาร และปัจจุบันได้รับการยกระดับเป็นท่าอากาศยาน นานาชาติอดุ รธานี ทีม่ สี ายการบินหลายสายใช้บริการ วันละ 60 เทีย่ วบิน และมีผโู้ ดยสารในปีทแ่ี ล้ว(2560) มากกว่า 2 ล้านคน มีเป้าหมายชัดเจนว่าในปี 2565 จะพัฒนาให้มีผู้โดยสาร 7 ล้านคน จะมีการก่อสร้าง อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 3 ขยายลานจอดเครื่องบิน เป็น 11 หลุมจอด

3.การถู ก กำ � หนดให้ เ ป็ น ศู น ย์ ก ลาง ด้ า น การค้ า การลงทุ น การบริ ก าร และเป็ น ประตู สู่ กลุ่มประเทศ GMS ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน เป็นจังหวัดที่มีอัตราการเติบโตทางด้าน เศรษฐกิจทีม่ ี GPP เฉลีย่ 4.5 ต่อปี ติดต่อกันมาหลาย ปี เป็นที่ต้ังของศูนย์รวม-กระจาย สินค้าไปยังกลุ่ม ประเทศ GMS ทีส่ �ำ คัญ เป็นพืน้ ที่ ทีเ่ ป็นศูนย์กลางการ เดินทางท่องเทีย่ วของชาวต่างชาติ

4.การเป็นศูนย์กลางตลาดสินค้าการเกษตร ซึ่งเป็นที่ต้งั ของตลาดการเกษตรที่ใหญ่ท่สี ุดของภาค อีสาน พืน้ ทีข่ นาดใหญ่กว่า 97 ไร่ มีสนิ ค้าการเกษตร ทั้งในและจากประเทศจีน กลุ่มประเทศ GMS เข้าออก มากกว่า 1000 คัน/วัน มูลค่าซื้อ-ขายกว่า 120 ล้านบาท/วัน

5. มีศักยภาพการก้าวเข้าสู่การเป็นเมืองของ การจั ด การประชุ ม สั ม มนาและแสดงนิ ท รรศการ หรือ MICE City ที่สามารถเชื่อมโยงไปยังกลุ่มประเ ทศ CLMV และ GMS

6.การที่เป็นเมืองต้นกำ�เนิดแหล่งอารยธรรม 5000 ปี ซึง่ ถือว่าเป็นศักยภาพทีส่ �ำ คัญ คือการเป็นต้น กำ�เนิดของแหล่งอารธรรมของมนุษย์ตง้ั แต่ยคุ หินใหม่ เมือ่ 5000 ปีทแ่ี ล้ว ซึง่ แสดงให้เห็นถึงว่าเป็นแหล่งร่อง รอยทางประวัตศิ าสตร์ อารยธรรมของมนุษย์ในอดีต ทีไ่ ด้เปรียบและมีคณ ุ ค่าของจังหวัดอุดรธานี

7.การเป็นเมืองศูนย์กลางของผ้าทอมือของ อนุภาคลุม่ แม่นา้ํ โขง (GMS) ซึง่ เมืองอุดรธานี ได้ชอ่ื

ว่ า เป็ น แหล่ ง ขาย ผ้ า ทอมื อ ที่ ใ หญ่ ที่สุดของประเทศ และของอนุภาคลุม่ แม่นา้ํ โขงด้วย และ เป็นแหล่งจำ�หน่าย ผ้ า ทอมื อ ที่ ม าจาก ประเทศอนุภาคลุม่ แม่น้ําโขงคือ ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมาร์และจีนตอนใต้ และ 8.การเป็นเมืองแห่งธรรมะ เพราะเป็นจังหวัดที่มี วัดตัง้ อยูเ่ ป็นอันดับ 3 ของประเทศ และเป็นจังหวัด ที่มีพระเกจิอาจารย์ท่ีเป็นที่เคารพของประชาชน พุทธศาสนิกชน เช่น หลวงปูม่ น่ั หลวงปูฝ่ น่ั หลวง ปู่ขาว และ หลวงตาบัว ฯลฯ มีสถานปฏิบัติธรรม หลายแห่ง เช่น วัดป่าภูก้อน วัดป่าบ้านตาด วัดป่า ภูผาแดง ฯลฯ

ส่ ว นความท้ า ทายต่ อ การพั ฒ นาจั ง หวั ด อุดรธานีมอี ยู่ 5 ด้าน คือ ความท้าทายด้านความเห ลื่อมล้าํ และปัญหาความยากจน, ความท้าทายด้าน ขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการรักษา ส่วนแบ่งการตลาดของภาคธุรกิจในพื้นที่,ความ ท้าทายด้านการพัฒนามนุษย์และการยกระดับการ ศึกษา, ความท้าทายด้านการรักษาความสมบูรณ์ของ ทรัพยากรป่าไม้ การจัดการขยะมูลฝอยของเสียและ มลภาวะ และความท้าทายด้านความปลอดภัยชีวิต และทรัพย์สนิ ของประชาชนและนักท่องเทีย่ ว

ส่วนที่ 2 ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด อุดรธานี ปี 2561-2565 ซึง่ ยุทธศาสตร์ดงั กล่าว มุง่ สู่ การเป็นเมืองน่าอยู่ ศูนย์การค้า การลงทุนอนุภาคลุม่ แม่นา้ํ โขง ด้วย 6 ประเด็นยุทธศาสตร์ 24 โครงการ หลักเพื่อการเปลี่ยนแปลง หรือ 24 For Change ซึ่ งเพื่อการขับเคลื่อนให้สู่เป้าประสงค์ท่ีวางไว้ท้ังห มด 6 ยุทธศาสตร์ ดังกล่าว โดยในแต่ละยุทธศาสตร์ ประกอบไปด้วย 4 กลยุทธ์ และในแต่ละกลยุทธ์ จะมี 4 โครงหลัก จึงเป็นที่มาของโครงการหลัก 24 โครงการเพื่อการเปลี่ยนแปลง หรือ 24 For Change ดังกล่าว ซึง่ ผวจ.อุดรธานี ได้เปรียบเทียบ ยุทธศาสตร์ดงั กล่าวว่าเป็น ต้นไม้ 6 กระถาง มีดอก ไม้ 24 ดอก

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ประจำ�เดือนเมษายน 2561

หน้า 9

หน้า 10

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ประจำ�เดือนเมษายน 2561

หน้า 11

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ประจำ�เดือนเมษายน 2561 ธุรกิจสระว่ายนํ้า

• ต่อจากหน้า 1 ความสูญเสียชีวิตจากการจมนํ้าแล้ว ยังนับเป็นการ อี- คอมเมิร์ซ

นายอดิ เ รก หงส์ พู น พิ พั ฒ น์ กรรมการผู้ จัดการห้างหุ้นส่วนจำ�กัด สหชัยอลูมินั่ม-อัลลอย และกรรมการผู้จัดการ เจ.ดี.พูลส์ ขอนแก่น เปิดเผย ว่า ปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวทางธุรกิจมีการปรับตัว ให้เข้ากับยุคดิจิตอลที่มีเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท ในการใช้ชีวิติประจำ�วันของประชาชนมากขึ้น โดย เฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวอย่างต่อ เนื่ อ ง ธุ ร กิ จ หลายประเภทต้ อ งปรั บ ตั ว ปรั บ ลด ปริมาณ หรือปิดตัว เพื่อให้กิจการสามารถเดินต่อได้ โดยไม่ส่งผลกระทบมากนัก และเพื่อให้สอดคล้อง กับพฤติกรรมการปรับตัวของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากเดิม

ในส่ ว นของ อลู มิ นั่ ม -อั ล ลอย ที่ เ ปิ ด ให้ บริการมายาวนานกว่า 35 ปี ด้วยประสบการณ์ และ ด้วยความชำ�นาญ จากหลักสูตรสายงานช่างอลูมิ เนียม จึงเปิดร้านกระจกอลูมิเนียมทั่วไป และด้วย ความเป็นคนทีไ่ ม่หยุดนิง่ จึงขยายงานออกไปเรือ่ ยๆ ย้อนหลังไปเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา อัลลอยเป็นธุรกิจ ใหม่ทยี่ งั ไม่เป็นทีร่ จู้ กั แต่ดว้ ยความสวยงามและโดด เด่น จึงเชื่อว่า อัลลอย จะกลายเป็นที่นิยมของตลาด เพราะนอกจากให้ความสวยงามแล้ว ยังมีอายุการ ใช้งานยาวนาน จึงได้นำ�ธุรกิจอัลลอยเข้ามาในภาค อีสาน โดยมีการพัฒนาธุรกิจเพิ่มเป็น อัลลอยสแตน เลส เหล็กดัดอิตาลี พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ เป็นที่มาของ หจก. สหชัยอลูมินั่ม-อัลลอย นับเป็น ธุรกิจทีก่ �ำ ลังอิม่ ตัว เพราะมีผลประกอบการไปเรือ่ ยๆ ไม่สามารถขยายตลาดได้ในปัจจุบัน

นายอดิเรก กล่าวต่อว่า ในกลุม่ สินค้าทีห่ ลาก หลายของธุรกิจอัลลอย ยังมีแผนกก่อสร้างสระว่าย นํ้าแบบคอนกรีต มีโครงสร้างพื้นและผนังของสระ เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด ข้อดี คือแข็งแรง ทนทาน และออกแบบสระได้หลากหลายรูปแบบ ส่วนสระว่ายนํ้าสำ�เร็จรูป สามารถนำ�มาติดตั้งได้ ทันที ราคาถูกกว่า และติดตั้งรวดเร็วกว่าสระว่ายนํ้า โครงสร้างคอนกรีต โดยเฉพาะตราสินค้าของ “เจ. ดี.พูลส์” เป็นสระว่ายนํ้านวัตกรรมระดับสากลที่ได้ รับความนิยมจากผู้บริโภคที่นิยมให้มีสระว่ายนํ้าใน บ้านส่วนตัว โดยเฉพาะกลุม่ ลูกค้าชาวต่างชาติ ซึง่ ถือ เป็นกลุม่ หลักของสระว่ายนาํ้ ทีท่ �ำ ให้อตั ราการเติบโต ของธุรกิจสระว่ายนํ้าขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ภาพรวมตลาดสระว่ายนาํ้ ในปี 2561 นีจ้ ะฟืน้ ตัวจากช่วงที่ผ่านมา จากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโต ต่อเนือ่ ง สนับสนุนให้ภาคธุรกิจโรงแรม บริการและ ภาคอสังหาริมทรัพย์มคี วามต้องการสระว่ายนํา้ เพิม่ ขึน้ อย่างไรก็ตาม มองว่าการแข่งขันในปีนไี้ ม่รนุ แรง เนื่องจากบริษัทเน้นการพัฒนาคุณภาพ และราคาที่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค สวนทางกับผู้เล่นที่ เน้นการลดต้นทุน หรือใช้วสั ดุราคาประหยัดเพือ่ ตัด ราคาขายคู่แข่ง

ด้ ว ยประสบการณ์ ก ารสร้ า งสระว่ า ยนํ้ า มากว่า 30 ปี ผลิตภัณฑ์สระว่ายนํ้า เจ.ดี.พูลส์ เป็น สิ น ค้ า ที่ มี ค วามมั่ น คง มี ก ารพั ฒ นาเทคโนโลยี นวั ต กรรมผลิ ต ภั ณ ฑ์ และเป็ น ยอมรั บ จากหลาย ประเทศทัว่ โลก มีการรับประกันสินค้า มีตวั แทนทัว่ ประเทศกว่า 20 สาขา โดยเฉพาะในภาคอีสาน ความ ต้องการของตลาดในกลุม่ ลูกค้าระดับกลางไปถึง-สูง และกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่มีภรรยาเป็นชาวอีสาน นับเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีสัดส่วนสูงมาก นอกจากนี้ ยัง ได้รบั ความสนใจจาก โครงการอสังหาริมทรัพย์ กลุม่ โรงแรม รีสอร์ต บ้านจัดสรร โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ ให้ความสำ�คัญต่อการดูแลสุขภาพ การออกกำ�ลังกาย การผ่อนคลาย การนวดตัวแบบวารีบ�ำ บัด ทำ�ให้ J.D. Pools มียอดการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 10% ทุกปี

กรรมการผู้ จั ด การ เจ.ดี . พู ล ส์ ขอนแก่ น กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบัน จะเห็นว่าในช่วงหน้าร้อน มักมีข่าวเด็ก เยาวชนจมนํ้าเสียชีวิตทุกปี และมีแนว โน้มการเสียชีวิตจากการจมนํ้าเพิ่มสูงขึ้น สาเหตุ หลักมาจากการทีไ่ ม่มกี ารเรียนรูก้ ารว่ายนํา้ ทีถ่ กู ต้อง การขาดทักษะ นับเป็นความสูญเสียกำ�ลังสำ�คัญและ อนาคตของชาติไปอย่างน่าเสียดาย และยังเป็นการ สูญเสียของครอบครัวอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ทำ�ให้เล็ง เห็นว่า หากมีการร่วมผลักดันให้โรงเรียนมีการสร้าง สระว่ายนํ้า เพื่อให้เด็กเยาวชนได้เรียนรู้วิธีการว่าย นํ้าที่ถูกต้อง เรียนรู้การช่วยเหลือผู้ตกนํ้า และมีการ ปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธีในเบื้องต้น นอกจากลด

เสริมสร้างความแข็งแรง และเป็นการออกกำ�ลังกาย ที่ดีที่สุดอีกด้วย

ในปี 2561 เจ.ดี.พูลส์ ขอนแก่น มีแผนการ เปิดตลาดสระว่ายนํ้าเพื่อนำ�เสนอให้โรงเรียน และ เทศบาลได้ทบทวนที่จะมีการสนับสนุนส่งเสริม และจัดสรรงบประมาณการก่อสร้างสระว่ายนํ้าใน โรงเรียน ให้เป็นโครงการฝึกอบรมการว่ายนํ้าให้แก่ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา เพื่อให้มีความรู้ความ ชำ�นาญ และได้เรียนรู้วิธีการว่ายนํ้าที่ถูกต้อง การ ปฐมพยาบาล และการช่วยเหลือผู้จมนํ้าในเบื้องต้น อย่างถูกวิธี อีกทั้งเป็นการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ มากที่สุด มีประโยชน์ที่สุด เชื่อว่าในอนาคต ทุก โรงเรียนควรจะต้องมีสระว่ายนํ้า เพื่อให้เกิดความ เป็นสากลมากขึ้น

“ปั จ จุ บั น การเลื อ กซื้ อ สระว่ า ยนํ้ า ของผู้ บริโภคจะสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ ชีวิต เท รนด์การดูแลสุขภาพ ขนาดของที่ดินของบ้าน และ ราคาสระว่ายนํ้า ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำ�ให้ เจ.ดี.พูลส์ ได้ศึกษาและนำ�นวัตกรรมมาพัฒนาสระว่ายนํ้ารุ่น ใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า ปัจจุบันตลาดสระ ว่ายนํ้ามียอดการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 10% โดยในปี 2561 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 12%” นาย อดิเรก กล่าว

ตลาดท่าเสด็จ

• ต่อจากหน้า 1

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 61 บรรยากาศวันสุดท้าย

ของวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ ตลาด ท่าเสด็จ หรือตลาดสินค้าอินโดจีน เขตเทศบาลเมือง หนองคาย ได้มีประชาชนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติได้ เดินทางมาเลือกซื้อสินค้าและของ ฝากกันเป็นจำ�นวนมาก โดยเฉพาะสินค้าประเภท อาหารและของเล่น เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เลือกซื้อกลับไปฝากบุตรหลานและญาติมิตร ทำ�ให้ บรรยากาศในตลาดท่าเสด็จปีนคี้ กึ คักเป็นพิเศษ คาด ว่าเงินสะพัดหลายสิบล้านบาท

ส่วนร้านอาหารที่อยู่ในตลาด ก็มีนักท่อง เที่ยวเข้าใช้บริการรับประทานอาหารกันตลอดทั้ง วันจนเต็มทุกโต๊ะ ทำ�ให้บรรยากาศในช่วงเทศกาล สงกรานต์ปีน้ี คึกคักเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำ�รวจ ก็ได้จัดกำ�ลังอำ�นวยความสะดวกและดูแลความ ปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว ได้พักผ่อนและจับจ่ายซื้อ สินค้าอย่างปลอดภัยที่สุด

นอกจากนักท่องเที่ยวจะจับจ่ายซื้อสินค้า และของที่ระลึกแล้วก่อนเดินทางกลับ ยังได้นิยม ถ่ายรูปกับป้าย “สุดเขตแดนทีเ่ มืองหนองคาย” ริมฝัง่ แม่นาํ้ โขงติดกับตลาดท่าเสด็จ ซึง่ เป็นป้ายพญานาค ขนาดใหญ่ที่ใครมาเที่ยวหนองคายจะต้องถ่ายรูป คู่ กับป้ายนี้ นอกจากนี้ยังนิยมถ่ายรูปกับตลาดย้อน ยุคที่จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปที่อยู่ในบริเวณ เดียวกันอีกด้วย

ส่วนที่ “สกายวอล์ค” วัดผาตากเสื้อ ต.ผา ตั้ ง อ.สั ง คม จ.หนองคาย ซึ่ ง เป็ น จุ ด ชมวิ ว พื้ น กระจกใสแห่งแรกของประเทศไทย ช่วงเทศกาล สงกรานต์มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อขึ้นไปชม ทัศนียภาพ 2 ฝัง่ โขงไทย-ลาวกันตัง้ แต่เช้าและตลอด ทั้งวัน ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ในช่วงเทศกาล สงกรานต์มี นั กท่ องเที่ยวจำ �นวนมากเดิ นทางไป สัมผัสอากาศเย็นสบาย รวมทัง้ ได้ถา่ ยรูปเป็นทีร่ ะลึก ขณะทีเ่ จ้าหน้าทีต่ อ้ งเพิม่ ความเข้มงวด โดยขอความ ร่วมมือกับนักท่องเที่ยวให้ขึ้นชมได้รอบละ 20 – 25 คน เพื่อความปลอดภัยและความเป็นระเบียบบน สกายวอล์ค นอกจากนีท้ างวัดยังได้อญ ั เชิญพระพุทธ รูป มาให้ประชาชนกราบสักการะและสรงนํ้า เพื่อ ความเป็นสิริมงคลในเทศกาลสงกรานต์ สำ�หรับสกายวอล์คแห่งนีไ้ ด้เปิดให้นกั ท่อง

เทีย่ วได้ขนึ้ ชมอย่างเป็นทางการเมือ่ วันที่ 6 เมษายน 2559 เปิดให้ชมตั้งแต่เวลา 09.30 – 16.30 น. มีนัก ท่องเที่ยวมาเที่ยวชมแล้วมากกว่า 9 แสนคน ซึ่ง นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในวันหยุด ยาวจะมีนักท่องเที่ยวมาไม่ตํ่ากว่าวันละ 1 หมื่นคน หลายคนที่ประทับใจหลังจากได้มาสัมผัสสกาย วอล์คแล้ว ก็ได้กลับมาเทีย่ วสกายวอล์คอีกครัง้ โดย เฉพาะผู้ที่มาสัมผัสสกายวอล์ค วันที่มีทะเลหมอก เกิดขึน้ ซึง่ มีความสวยงามเป็นอย่างมาก สกายวอล์ค ที่ยื่นออกไปในทะเลหมอก ยิ่งเพิ่มความสวยงาม มากยิ่งขึ้น

• ต่อจากหน้า 1 นวัตกรรมและเทคโนโลยีโดยใช้แนวทาง”สานพลัง แพลตฟอร์มของ Kaidee

นายสวาท ธี ร ะรั ต นนุ กู ล ชั ย กรรมการ ผู้ จั ด การ บริ ษั ท ประชารั ฐ สามั ค คี อุ ด รธานี (รัฐวิสาหกิจเพื่อสังคม) จำ�กัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ คนไทยยังต้องเรียนรู้ในการทำ�ธุรกิจการค้า-ขาย บน โลกออนไลน์ หรือ อี- คอมเมิร์ซ (E-Commerce)อีก มาก เพราะในอนาคตตลาดธุรกิจค้า-ขายประเภทดัง กล่าวจะมีบทบาททัว่ ไปมาก พร้อมกับมองว่าอาลีบา บาและแจ๊กหม่า เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นผล ดีต่อนักธุรกิจรายย่อยของไทย ไม่ได้ส่งผลกระทบ แต่อย่างใด เข้ามาเพื่อช่วยเหลือการพัฒนาระบบ การตลาด อี-คอมเมิร์ซ และตลาดดิจิทอลของไทย มากกว่า

นายสวาทฯ กล่าวอีกว่า จากการที่นายแจ๊ก หม่า เจ้าของอาลีบาบา ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าพ่อของการ ค้า-ขายในตลาด อี-คอมเมิร์ซ ตัดสินใจลงทุนใน หลายๆด้านในประเทศไทยนั้น แสดงว่าเขาจะต้อง มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยในด้านต่างๆมาก พอสมควร โดยเฉพาะประเด็นที่จะมีการขยายธุรกิจ การทำ�ค้า-ขายสินค้าในระบบ E-Commerce และ ตลาดดิจิทอลในประเทศไทย และจะเปิดโอกาสให้ พืชการเกษตรไทยสามารถไปวางขายในห้างสรรพ สินค้าเครือข่ายของอาลีบาบาในประเทศจีน ถือว่า เป็นเรื่องและโอกาสที่ดีสำ�หรับเกษตรกรไทยและ ผู้ค้ารายย่อยของไทย ที่จะรู้จักการทำ�การเกษตร ปลอดภัย และทำ�การตลาดอี-คอมเมิร์ซ และ ตลาด การค้าดิจิทอล

สำ�หรับประเทศไทยมีจุดเด่นในหลายด้าน เช่น การท่องเที่ยว เรื่องของอาหาร เรื่องของพืชผัก ผลไม้ ทีม่ ผี ลไม้ทมี่ ชี อื่ เสียงกระฉ่อนดังไปทัว่ โลกคือ ทุเรียน ซึ่งเป็นที่นิยมของคนจีน และตลาดผลไม้จีน ถือว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ดังนั้นจึง ถือได้วา่ ประเทศไทยจะต้องมีศกั ยภาพ ทีอ่ าลีบาบาให้ ความสนใจมากเป็นเป็นพิเศษไปมากกว่าการทีจ่ ะเข้า มาลงทุนในหลายๆโครงการทีเ่ ป็นข่าว อย่างไรก็ตาม นายสวาทฯ กล่าวว่าจะต้องยอมรับว่าประเทศไทย ยังไม่ค่อยมีความพร้อมในการทำ�ธุรกิจการค้า-ขาย ในตลาดอีคอมเมิรซ์ จะต้องมีการพัฒนาต่อไปอีกใน ระดับหนึ่ง

นายสวาทฯ กล่าวถึงการที่ประเทศไทยมี จุดเด่นในหลายด้านดังกล่าว และจังหวัดอุดรธานี มี ยุ ท ธศาสตร์ แ ละกลยุ ท ธ์ ก ารพั ฒ นาจั ง หวั ด ที่ เน้นถึงความมีศักยภาพทางการเกษตรกรรมเป็น หลัก ทำ�ให้จังหวัดและท้องถิ่น มีความพร้อม ส่วน ศักยภาพของจังหวัดอุดรธานีในเรื่องของพืชผักผล ไม้ พืชเศรษฐกิจ คือ ข้าว มันสำ�ปะหลัง อ้อยและ ยางพารา สินค้าโอท็อปและอืน่ ๆนัน้ มีความพร้อมใน ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องมีการพัฒนาให้ได้มาตรฐาน กำ � หนดความปลอดภั ย และเกษตรอิ น ทรี ย์ เพื่ อ ให้สามารถเข้าไปแข่งขันในตลาด อี-คอมเมิร์ซได้ ยอมรับว่าทุกอย่างยังไม่ได้มีความสมบูรณ์แบบร้อย เปอร์ซ็นต์ไปทุกอย่าง บางอย่างต้องทำ�การพัฒนา

“ต่อไปนีถ้ อื ว่าเป็นโอกาสทีด่ ี ทีพ่ ชื เศรษฐกิจ รวมถึงพืชผักผลไม้ ที่มีอยู่เป็นจำ�นวนมากมายใน ประเทศ จะสามารถมีตลาดรองรับได้มากขึ้น เราจะ ต้องมองร่วมกันว่าจะทำ�ให้อะไร อย่างไรจะสามารถ จัดการกับสินค้าการเกษตรของเราเข้าไปอยูใ่ นระบบ ตลาดอี-คอมเมิร์ซได้ ผมเห็นว่าตลาดอี-คอมเมิร์ซ เป็ น ตลาดที่ ไ ม่ มี ยั ก ษ์ แต่ เ ป็ น ตลาดของทุ ก คนที่ สามารถเข้าไปสู่ธุรกิจค้า-ขายได้ทุกคน นอกจากนี้ ตลาดจะไม่ได้กระจุกอยู่ในกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง ยังเห็น ว่าผู้ที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือผู้ประกอบ การรายใหญ่ๆมากกว่า”

จั ง หวั ด อุ ด รธานี น่ า ที่ จ ะได้ รั บ ผลดี ม าก เนื่องจากจังหวัดอุดรธานี มีพื้นที่การเกษตรกรรม มากถึง 4.8 ล้านไร่ แบ่งออกเป็นพืน้ ทีป่ ลูกข้าว 1.740 ล้านไร่ หรือร้อยละ36.18 มันสำ�ปะหลัง 3.1 แสนไร่ หรือร้อยละ 6.48 อ้อยโรงงาน 8.12 แสนไร่ หรือร้อย ละ 16.89 และยางพารา 5.31 แสนไร่ หรือร้อยละ 11.05 อื่นอีก 1.414 ล้านไร่ หรือร้อยละ 29.40 ได้แก่ พืชผักผลไม้ เช่น มะม่วงนํ้าดอกไม้ที่ อ.หนองวัวซอ ทีส่ ง่ ออกไปประเทศญีป่ นุ่ กล้วยหอมทองส่งประเทศ จีน และ ฯลฯ นอกจากนี้มีสินค้าโอท็อปที่ได้รับการ คัดเลือกให้การรับรอง(ดาว)แล้ว จำ�นวน 1281 ราย และกำ�ลังอยู่ในระหว่างการคัดสรรจำ�นวน 358 ราย ส่ ว นการเตรี ย มการความพร้ อ มให้ เ ป็ น ไปตาม นโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้าน

ประชารั ฐ ” เพื่ อ เพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพในการดำ �เนิ น การ จำ�หน่าย ซื้อ-ขาย ออนไลน์ หรือ อี-คอมเมิร์ซ์ ( E-Commerce) หรือการโครงการพัฒนาการผลิตพื ชผักผลไม้ อาหาร สูม่ าตรฐานเกษตรอินทรีย์ รวมทัง้ การดำ�เนินการโซนนิ่งพื้นที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ ของจังหวัดนั้น มีหน่วยงานที่เกี่ยวในจังหวัดทุก กระทรวงร่วมกันดำ�เนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบันการทำ�ธุรกิจต่าง ๆ ได้มีการเติบโต และเปลีย่ นแปลงไปอย่างรวดเร็ว การทีเ่ ราจะใช้หลัก การตลาดแบบเดิม ๆ คงจะไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว เรา จะเห็นได้วา่ ธุรกิจทีใ่ ช้หลักการตลาดแบบเดิม ๆ ส่วน มากจะล้มหายตายจากไปแล้ว ในยุคของเทคโนโลยีที่ เติบโตแบบก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว ใครที่ไม่เก่ง พอ ไม่รู้จักพัฒนาปรับตัวอยู่ตลอดเวลา พูดได้เลยว่า รอดยากจริง ๆ โดยเฉพาะคนที่ทำ�ธุรกิจเกี่ยวกับการ ซื้อขายสินค้าและบริการต่าง ๆ”

ซือ้ -ขายออนไลน์

• ต่อจากหน้า 1

นายทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร /เฮดโค้ช Kaidee เปิดเผยในโอกาสลงพื้นที่สำ�รวจ ตลาดออนไลน์ในจังหวัดขอนแก่นว่า ต้องยอมรับ ว่า ปัจจุบันประชาชนทุกเพศทุกวัย สามารถเข้า ถึ ง ใช้ ง านเชื่ อ มต่ อ อิ น เตอร์ เ น็ ต แบบไร้ ส ายผ่ า น คอมพิ ว เตอร์ หรื อ การใช้ ง านอิ น เตอร์ เ น็ ต ผ่ า น โทรศัพท์มือถือโดยตรง ทำ�ให้การซื้อ-ขายสินค้า ผ่านออนไลน์ได้รับความนิยม และมีอัตราการขยาย ตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง มีแนวโน้มที่สูงขึ้น จะเห็น ได้จากผลการดำ�เนินงานในปี 2560 ที่ผ่านมา มีผู้เข้า มาใช้แพลตฟอร์มของ Kaidee มากกว่า 35 ล้านคน มี การซือ้ -ขายกว่า 361 ล้านครัง้ เฉลีย่ เดือนละประมาณ 30 ล้านครั้ง

นอกจากนี้ ยังมีรายการประกาศใหม่กว่า 12 ล้านประกาศ และสามารถปิดงานจากแพลตฟอร์ม ของ Kaidee กว่า 1.85 ล้านประกาศ รวมมูลค่า กว่า 1 แสนล้านบาท โดยเฉลี่ย ทุกวันมีของขายบน แพลตฟอร์ม Kaidee วันละ 5,065 รายการ และพบว่า การค้นหาคำ�ยอดนิยมจากผู้ใช้ ใน 5 อันดับแรก คือ PCX, MSX, Coach, Adidas และ บ้านเช่า ส่วนหมวด ยอดนิยมทีม่ ผี คู้ นเข้ามาใช้งานมากทีส่ ดุ 5 อันดับแรก ได้แก่ RodKaidee, MocyKaidee, อสังหาริมทรัพย์, มือถือ-แทบเล็ต และอะไหล่รถ อุปกรณ์ประดับยนต์ และทีเ่ หนือความคาดหมาย ยังมีการค้นหาคำ�ว่า “รถ ไถนา” และสินค้าเกษตร

นายทิวา ยอร์ค กล่าวต่อว่า ในส่วนตลาด MocyKaidee ที่เปิดตัวช่วงปลายปี 2560 นั้น มีผล ตอบรับจากผู้ใช้งานสูงเช่นเดียวกัน โดยในปีที่ผ่าน มามีผู้ใช้งานกว่า 42 ล้านครั้ง เฉลี่ยเดือนละ 3.6 ล้าน ครั้ง มีรถมอเตอร์ไซค์ลงขายกว่า 394,659 คัน และมี รถมอเตอร์ไซค์ขายได้ผ่านตลาด MocyKaidee กว่า 102,170 คัน เฉลี่ยเดือนละ 8,500 คัน รวมมูลค่า กว่า 3,600 ล้านบาท ส่วนแบรนด์ยอดนิยมก็ได้แก่ ฮอนด้า, คาวาซากิ, ยามาฮ่า, ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน และดู คาติ

ในหมวด “ตลาดอสังหาริมทรัพย์” ในแต่ละ เดือนมีคนไทยเข้ามาใช้งานกว่า 2.5 ล้านครั้ง มี รายการประกาศในปี 2560 ถึง 766,377 ประกาศ ซึ่ง ขายได้บน Kaidee ทัง้ หมด 23,538 รายการ รวมมูลค่า กว่า 5 หมืน่ ล้านบาท หมวดอสังหาฯ เป็นหมวดทีม่ ผี ู้ เข้ามาใช้งานเป็นอันดับ 3 ของแพลตฟอร์ม เป็นการ เติบโตแบบออร์แกนิค คือผู้ใช้งานเข้ามาใช้งานเอง ทั้งหมด

ในส่วนของตลาด RodKaidee หรือ รถยนต์ มือสอง ที่เปิดพื้นที่ให้มีการซื้อ-ขายบน Kaidee เมื่อ เดือนพฤษภาคม ปีที่ผ่านมานั้น มีผู้ใช้งานกว่า 60 ล้านครั้ง เฉลี่ย 5 ล้านครั้งต่อเดือน มีรถยนต์ลงขาย กว่า 800,190 คัน และมีรถที่ขายได้ที่นี่กว่า 132,752 คัน เฉลี่ยเดือนละ 11,000 คัน รวมมูลค่ากว่า 38,500 ล้านบาท ส่วนแบรนด์รถยอดนิยม ได้แก่ โตโยต้า, ฮอนด้า, อีซูซุ, นิสสัน และมิตซูบิชิ ตามลำ�ดับ

ทั้ ง นี้ รายได้ ข อง Kaidee มาจากบริ ก าร พิเศษ ทั้งเลื่อนประกาศ บริการ Top Ad ซึ่งผู้ใช้ งานสามารถเลื อ กใช้ บ ริ ก ารนี้ ไ ด้ ใ นทุ ก หมวดหมู่ และค่ า ลงประกาศ ในหมวดรถยนต์ และหมวด อสังหาริมทรัพย์ และโฆษณาดิสเพลย์ จากแบรนด์ ธุรกิจต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มี ความต้องการ หรือกำ�ลังตัดสินใจซือ้ -ขายสินค้า บน

นายทิวา ยอร์ค กล่าวต่อไปว่า ในปี 2561 Kaidee มีแผนการตลาดที่จะเดินหน้าเสริมทัพเข้า สู่การเป็น มาร์เก็ตเพลส เพื่อคนไทยอย่างเต็มรูป แบบ โดยให้ประชาชนทุกคน ทุกอาชีพ สามารถ เข้ามาซื้อ-ขายของบนออนไลน์ได้โดยไม่จำ�กัดว่าจะ ต้องเป็นพ่อค้า แม่ค้า เจ้าของกิจการ หรือนักธุรกิจ โดยการเปิดตลาดแนวดิ่งสำ�หรับคนไทย และเดิน หน้าอย่างเต็มตัวใน 3 ตลาดที่สำ�คัญ อาทิ ตลาด อสังหาริมทรัพย์ ทีจ่ ะมีบริการทีต่ อบโจทย์ลกู ค้ามาก ขึ้นในทุกๆ ประเภทของ อสังหาฯ ตลาดซื้อ-ขาย

สำ�หรับภาคเกษตรกรรมออนไลน์ ที่จะถูก ออกแบบให้ตอบโจทย์สำ�หรับเกษตรกรชาวไทย อย่างแท้จริง เพราะตลาดนี้เป็นตลาดที่ใหญ่ และ เป็ น บุ ค คลที่ มี ค วามสำ � คั ญ ต่ อ ประชาชนคนไทย ทั้งประเทศ แต่ความต้องการของเกษตรกร ยังไม่ ถูกตอบสนองเท่าที่ควร การเปิดตลาดออนไลน์ให้ เกษตรกรเข้าถึงบนแพลตฟอร์มของ Kaidee จึงมี ความสำ�คัญเช่นเดียวกัน ในส่วนตลาดอะไหล่รถ ประดับยนต์ ด้วยการใช้งานที่เพิ่มขึ้นจนกลายเป็น หมวดยอดนิยมหนึ่งในห้าอันดับ และยังได้รับผล จากการทีป่ ระเทศไทย เป็นประเทศทีผ่ ลิตอะไหล่รถ ทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ของอาเซียน ทำ�ให้ตลาดนีก้ ลายเป็นอีก 1 ตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

“เราเชื่อว่าการซื้อ-ขายของมือสองช่วยให้ ชีวิตคนไทยดีขึ้น ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา การใช้งาน สมาร์ทโฟนโตขึน้ เป็นอย่างมาก ผนวกกับการเติบโต ของบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงราคาไม่แพง จึง เป็นโอกาสที่จะทำ�ให้การใช้งานพื้นที่ซ้ือ-ขายของ มือสองออนไลน์เติบโตยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้เราจึง มุ่งมั่นพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อรองรับการใช้งานใน ทุกๆ แพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ Android จากการซื้อ-ขายสินค้าบนแพลตฟอร์มของ Kaidee จะสามารถขายได้อย่างรวดเร็วภายใน 3-5 วัน ดัง นั้น เชื่อว่าแผนการตลาดเชิงรุกของ Kaidee จะตอบ โจทย์ความต้องการของประชาชนทุกกลุม่ ทีเ่ ข้ามาใช้ บริการได้อย่างแน่นอน” เฮดโค้ช Kaidee กล่าว

ธุรกิจคาร์แคร์

• ต่อจากหน้า 1

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2561 ภายหลังจากที่ ประชาชนได้นำ�รถยนต์ออกตระเวนเล่นสาดนํ้าใน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ทผี่ า่ นมา เจ้าของรถต่างพากัน นำ�รถยนต์ของตนเองมาใช้บริการล้างอัดฉีด คราบ สกปรกออกจากรถกันเป็นจำ�นวนมาก ส่งผลให้ ธุรกิจรับล้างอัดฉีดรถยนต์ ภายในเขตเทศบาลเมือง ท่าบ่อและเทศบาลเมืองหนองคาย รวมทั้งอีกหลาย พื้นที่ของจังหวัด ในช่วงนี้คึกคักเป็นพิเศษ โดยมีรถ มาใช้บริการเพิ่มถึง 60-70 คันต่อวัน และสามารถ สร้างรายได้มากกว่า 10,000 บาทต่อวัน

นายสุชาติ สาชนะ อายุ 31 ปี เจ้าของร้าน สมบูรณ์ คาร์แคร์ ตั้งอยู่หลังวัดสว่างธรรมาวาส หมู่ 2 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ เผยว่า ในช่วงหลังเทศกาล สงกรานต์ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการล้างรถเพิ่มขึ้นเท่า ตัว จากช่วงปกติจะอยู่ที่วันละ 40-50 คัน ขณะนี้เพิ่ม เป็น 60-70 คัน โดยคิดค่าบริการล้างรถ ราคาคันละ 150 บาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถกระบะและรถเก๋ง ทัง้ นีพ้ นักงานในร้านทัง้ 4 คน ต้องทำ�งานอย่างหนัก ตั้งแต่ช่วงเวลา 08.30 - 19.00 น. และบางครั้งต้อง ได้จ้างคนมาช่วยล้างรถเพิ่ม เพื่อให้เสร็จตามความ ต้องการของเจ้าของรถ

โดยในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ประชาชนจะพากันเดินทางกลับไปทำ�งานยังจังหวัด ทีต่ นเองทำ�งาน และส่วนใหญ่ไม่มเี วลาทีพ่ อทีจ่ ะล้าง รถก่อนกลับ แต่ปีนี้มีวันหยุดต่อเนื่องหลังเทศกาล สงกรานต์อีกหลายวัน จึงทำ�ให้มีลูกค้า โดยเฉพาะ ผู้ที่ยังไม่เดินทางกลับก็จะทยอยนำ�รถยนต์เข้ามาใช้ บริการอย่างต่อเนื่อง

“ช่วงนี้ไม่ได้มีบริการอื่น เช่น เคลือบสี หรือ ล้างห้องเครื่อง เนื่องจากเฉพาะล้างรถอย่างเดียวก็ ไม่ทันแล้ว และคาดว่าจะมีลูกค้านำ�รถเข้ามาบริการ จำ�นวนมากเช่นนี้ไปอีกประมาณ 3-4 วัน ส่วนคำ� แนะนำ�สำ�หรับลูกค้านั้น คือช่วงเทศกาลสงกรานต์ อย่ า พยายามให้ ร ถยนต์ ถู ก ดิ น สอพองมากนั ก เนื่องจากดินสอพองจะมีกรดด่างสามารถกัดสีของ รถได้ ซึ่งจะทำ�ให้รถมีรอยด่าง และต้องเสียค่าขัดสี ไม่ตาํ่ กว่าคันละ 1,800 – 2,500 บาททีเดียว” นายสุชา ติ ฯ กล่าว

ด้าน นายณรงค์ บัวใหญ่รักษา ผู้จัดการ C.S.K. คาร์ แคร์ ตัง้ อยูใ่ นปัม๊ นํา้ มันเอสโซ่ ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ปกติชว่ งหลังเทศกาลสงกรานต์ ของทุกปี จำ�นวนลูกค้าทีน่ �ำ รถมาใช้บริการจะเพิม่ ขึน้ กว่าในช่วงอืน่ โดยเฉพาะรถบ้านจะมาใช้บริการมาก ขึ้นถึงเท่าตัว ปีที่ผ่านมาจะมีรถยนต์เข้ามาใช้บริการ เยอะมากวันละ 80-120 คันต่อวัน แต่ปีนี้ ปริมาณ ลูกค้าลดลงไปมากกว่า 50% น้อยลงจนน่าตกใจ อาจเป็นเพราะสภาพอากาศที่ไม่เอื้อ บางวันมีฝนตก บางวันมืดคลึ้มคล้ายฝนจะตก หรืออาจเป็นเพราะ เศรษฐกิจยังไม่ฟนื้ ตัว เลยทำ�ให้ลกู ค้าหายไปเยอะมาก “ในเรื่องของราคา ถึงแม้ว่าสินค้าอุปกรณ์ในการใช้ ปรับตัวขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่ราคาล้างรถยังเป็นราคา เดิม คือ รถเก๋งราคา 180 บาท รถปิคอัฟราคา 220 บาท รถตู้ รถ SUV ราคา 250 บาท แต่ถ้าเป็นรถ ที่เล่นสงกรานต์แล้วเจอแป้ง ไม่ว่าจะเป็นแป้งมัน ดินสอพอง หรือแป้งทุกชนิด แล้วปล่อยทิ้งไว้ 2-3 วัน หมดสงกรานต์แล้วค่อยมาล้าง ก็ต้องมีการขัด สีใหม่ เนื่องจากจะทำ�ให้รถเป็นคราบ รอยด่าง ค่า ใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นอีก 1,500 – 2,000 บาท ถ้าจะรักษา สีรถ ก่อนสงกรานต์แนะนำ�ให้นำ�รถมาเคลือบสีไว้ ก่อน เพื่อไม่เกิดปัญหาโดนสาดแป้งในช่วงเทศกาล สงกรานต์” นายณรงค์ กล่าว

ตลาดแรงงานญี่ปุ่น • ต่อจากหน้า 1

เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2561 ที่โรงเรียนพัฒนา อาชีพอุดรธานี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี มี พิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ว่าด้วย ความร่วมมือเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพแรงงาน ไทยด้านทักษะ ภาษา และวัฒนธรรมต่างประเทศ ระหว่าง สถาบันพัฒนาฝีมอื แรงงาน 18 อุดรธานี โดย น.ส.สมลักษณ์ สุวรรณพรหมา ผอ.สถาบันพัฒนา ฝีมือแรงงาน18 อุดรธานี, บริษัท เอเชียอินเตอร์ เซอร์วิส จำ�กัด โดย นายธีระพล ขุนเมือง อดีตอธิบดี กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และโรงเรียนพัฒนาอาชีพ อุดรธานี โดย น.ส.กัญญารัตน์ วัฒนสุขสิน ผู้รับใบ อนุญาต

นายธีระพล ขุนเมือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยนอินเตอร์เซอร์วิส จำ�กัด อดีตอธิบดี กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาด แรงงานในประเทศญี่ปุ่น มีความต้องการแรงงาน จากประเทศไทยเป็นจำ�นวนมาก ในหลายสาขาอาฃีพ อาทิเช่น งานก่อสร้าง งานในสถานประกอบการ ต่างๆ งานผู้ดูแลผู้สูงอายุ พ่อครัวแม่ครัว ฯลฯ และ เป็นประเทศตลาดแรงงานที่คนไทยให้ความสนใจ ต้ อ งการเดิ น ทางไปทำ � งานในประเทศนี้ กั น มาก เพราะมีรายได้สูง มีสวัสดิการที่ดี แต่ประเด็นสำ�คัญ ของประเทศญี่ปุ่น คือ เรื่องของภาษาญี่ปุ่น แม้ว่า คนงานจะทำ�งานเก่งแค่ไหน หากไม่มีทักษะภาษา ญีป่ นุ่ ก็ไม่สามารถเดินทางไปทำ�งานทีป่ ระเทศญีป่ นุ่ ได้ ดังนั้นบริษัท เอเซี่ยน อินเตอร์เซอร์วิส จำ�กัด จึง ร่วมกับโรงเรียนพัฒนาอาชีพอุดรธานี และสถาบัน พัฒนาฝีมือแรงงาน 18 อุดรธานี ทำ�การลงนามใน บันทึกความร่วมมมือ ว่าด้วยความร่วมมือเกี่ยวกับ การพัฒนาคุณภาพแรงงานไทยด้านทักษะ ภาษา และวัฒนธรรมต่างประเทศดังกล่าวขึ้น เพื่อร่วม กันพัฒนาทักษะ ศักยภาพ คุณภาพ ให้กับแรงงาน ไทย มีประสิทธิภาพ พร้อมที่จะเดินทางไปทำ�งานที่ ประเทศญี่ปุ่นตามที่นายจ้างต้องการ โดยเฉพาะใน ด้านภาษาญีป่ นุ่ ทีจ่ ะต้องผ่านข้อกำ�หนดของประเทศ ญี่ปุ่น เพราะประเทศญี่ปุ่นให้ความสำ�คัญในเรื่อง ภาษาญี่ปุ่นมาก และต้องมีการปรับวิธีการจัดส่ง แรงงานไทย ไปญี่ปุ่นใหม่ ให้เป็นแรงงานที่มีทักษะ โดยเฉพาะในด้านทักษะภาษาญี่ปุ่น

นายธีระพลฯ กล่าวเพิม่ เติมอีกว่า ในปัจจุบนั นีต้ ลาดแรงงานไทยในประเทศญีป่ นุ่ ได้สญ ู เสียตลาด แรงงาน ให้กับประเทศเพื่อนบ้านเช่น เวียดนาม ฟิลปิ ปินส์ ไปเป็นจำ�นวนมาก เนือ่ งมาจากว่าแรงงาน ไทยขาดทักษะเรื่องภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ และ ประเทศญี่ปุ่นเปิดตลาดแรงานให้กับหลายประเทศ เช่ น ในอาเซี่ ย นก็ เ ปิ ด โอกาสให้ กั บ แรงงานจาก ประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ในหลายสาขา อ่านต่อหน้า 2

สนใจพื้นที่โฆษณา ติดต่อ คุณสุพัตรา thaisaeree@gmail.com thaisaeree@yahoo.com

หน้า 12

ปีที่ 15 ฉบับที่ 167 ประจำ�เดือนเมษายน 2561

ที่ ป รึ ก ษา พล.ต.อ.ศั ก ดา เตชะเกรี ย งไกร,ธนพงษ์ คงศิ ล ป์ ท รั พ ย์ , รศ.ดร.ธี ร ะ ฤทธิ ร อด, ดร.อาทิ ต ย์ ฉั ต รชั ย พลรั ต น์ , ฉั ต ร ศรี พั น ธุ์ , สิ ท ธิ โ ชค บุ ญ โท, พ.อ.สมศั ก ดิ์ สงทามะดั น , พี ร ะ วี ร ะชั ย , ยงยุ ท ธ ขาวโกมล เจ้าของ/บรรณาธิการบริหาร พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ บรรณาธิการ/ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา สุพัตรา ศุขโข กองบรรณาธิการ อนุสรณ์ ศุขโข ,เพ็ญศิริ นาคทน,มณฑล ศุขโข,รณชิต ชาญเจริญ,นาฏยาภรณ์ ชาญเจริญ,

ประคอง หนู ร าช,พั น ธ์ ศั ก ดิ์ วี ร ะชั ย ,เสริ ม ศั ก ดิ์ ขาวโกมล สำ�นั ก งาน 76 ม.20 ถ.กสิ ก รทุ่ ง สร้ า ง ต.ศิ ล า อ.เมื อ ง จ.ขอนแก่ น 40000 โทรศั พ ท์ 08-9422-0228 โทรสาร 0-4324-4584 E-mail : Thaisaeree@gmail.com, Thaisaeree@yahoo.com ศูนย์อุดรธานี 152/3 ถ.อุดรดุษฏี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ 08-6864-0678 โทรสาร 0-4224-7905 E-mail: ps_veerachai@hotmail.com ศูนย์หนองคาย ภัทรวินทร์ ลีปาน 92 หมู่ 1 ต.บ้าน ่ รึกษากฎหมาย สังคม พุทธา สำ�นักงานทนายความประสพสุขธุรกิจและกฎหมาย ออกแบบ/กราฟฟิค เอือ้ ดีไซน์ 08-1262-3959 ว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 43110 โทรศัพท์ 087-8627979 E-mail : pattarawin2519@hotmail.co.th ทีป