๖๐ พรรณไม้มีคุณค่าจากป่าชุมชน เล่ม ๑

Page 1



ค�ำน�ำ ด้วยกรมป่าไม้ ร่วมกับ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จ�ำกัด (มหาชน) จัดท�ำ “โครงการ ๖๐ ป่าชุมชน อนุรกั ษ์พนั ธุกรรมพืชตามแนวพระราชด�ำริ เพือ่ ร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนือ่ งในโอกาสพระราชพิธมี หามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา ๒ เมษายน ๒๕๕๘” โดยมีวตั ถุประสงค์ เพือ่ ส่งเสริมและสนับสนุน กระบวนการมีสว่ นร่วมของชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ส�ำรวจและจัดท�ำฐานข้อมูล ทรัพยากรท้องถิ่น ตามกรอบแนวทางของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจาก พระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) อันจะน�ำไปสูก่ าร รักษาฐานทรัพยากรชีวภาพ ทรัพยากรกายภาพ และทรัพยากรวัฒนธรรมและภูมิปัญญา มีเป้าหมายด�ำเนินการในพืน้ ทีป่ ่าชุมชนที่ขึ้นทะเบียนกับกรมป่าไม้ จ�ำนวน ๖๐ แห่ง ด�ำเนิน กิจกรรมร่วมกับชุมชนในการปกปักพันธุกรรมพืชในพืน้ ทีป่ า่ ชุมชน รวม ๘๔,๗๙5 ไร่ และ ส�ำรวจเก็บรวบรวมพันธุกรรมพืชที่มีคุณค่า หายาก เป็นพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่น หรือบางชนิด ใกล้สญ ู พันธุ์ หรือเป็นพันธุไ์ ม้ทชี่ มุ ชนมีความต้องการอนุรกั ษ์และใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน เนือ่ งในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงมี พระชนมายุ 5 รอบ ในวันที่ 2 เมษายน 2558 กรมป่าไม้ จึงได้คดั เลือกพันธุไ์ ม้ทไี่ ด้จากการ ส�ำรวจเก็บรวบรวมพันธุกรรมพืชมาจัดท�ำหนังสือ “๖๐ พรรณไม้ มีคณ ุ ค่าจากป่าชุมชน” เพือ่ น้อมร�ำลึกในพระกรุณาธิคณ ุ และร่วมแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึง่ ทรงปฏิบตั พิ ระราชกรณีกจิ อันเป็นคุณปู การอย่างยิง่ ต่อประเทศชาติ และประชาชน โดยเฉพาะด้านการอนุรกั ษ์พนั ธุกรรมพืช กรมป่าไม้ หวังเป็นอย่างยิง่ ว่า หนังสือ “๖๐ พรรณไม้ มีคณ ุ ค่าจากป่าชุมชน” ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ส�ำหรับการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพืชพรรณไม้ และเป็นสื่อในการสร้าง จิตส�ำนึกด้านการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ให้หน่วยงาน ชุมชน เยาวชน เห็นคุณค่า ประโยชน์ ความสวยงาม อันจะก่อให้เกิดจิตส�ำนึกในการอนุรกั ษ์พนั ธุกรรมพืชต่อไป

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้


สารบัญ ค�ำแนะน�ำการใช้หนังสือ 4 ค�ำอธิบายสัญลักษณ์ 5 พรรณไม้ประเภท ไม้ต้น

กระบก กันเกรา ก่อข้าว ขันทองพยาบาท ไข่เน่า เคี่ยม แคสันติสุข จ�ำปีสิรินธร จ�ำไร จิกนม ฉนวน ชะมวง ซาด ตะคร้อ ตะเคียนทอง ตังหน ประ พะยอม พันจ�ำ พลับพลา มะพอก

6 8 10 12 14 16 18 20 22 24 26 28 30 32 34 36 38 40 42 44 46

ยมหิน ยวนผึ้ง ยางยูง ยางเสียน รักใหญ่ ลังแข ยางพลวง สาธร หลุมพอ

48 50 52 54 56 58 60 62 64

พรรณไม้ประเภท ไม้ต้นขนาดเล็ก

ขนุนลาว ค้อนหมา จันผา ช�ำมะเลียง ดิ๊กเดียม นมวัว เนียง เพกา มะดัน เม็ก

66 68 70 72 74 76 78 80 82 84


พรรณไม้ประเภท ไม้เถา

ก�ำแพงเจ็ดชัน้ จะค้าน เถาเอ็นอ่อน นมควาย สามสิบ หัวลิง

พรรณไม้ประเภท ไม้ล้มลุก

86 88 90 92 94 96

พรรณไม้ประเภท ไม้พุ่ม

ช้อยนางร�ำ ชะมัด ตะขาบบิน ปลาไหลเผือก มะขม มะงัว่ มะนาวไม่รโู้ ห่ หมักม่อ เหมือดแอ่

98 100 102 104 106 108 110 112 114

พรรณไม้ประเภท หมากหรือ ปาล์ม

ต๋าว ตาลโตนด

116 118

ค้างคาวด�ำ ว่านทรหด อีลอก

บรรณานุกรม ดัชนีชื่อไทย ดัชนีชื่อวิทยาศาสตร์ ค�ำขอบคุณ คณะผู้จัดท�ำ

120 122 124

126 ๑๒๘ 13๒ 13๕ 136


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

าอธิบบายสั ายสัญญ ลักลัษณ์ ค�ำคํอธิ กษณ์

ลักษณะวิสยั

ขยายพันธุ์

ความสูง (height)

เพาะเมล็ด (seed)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ปักชํากิ่งหรือเถา (cutting)

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tree, round shape)

ตอนกิ่ง (air layering)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง (layering)

ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape)

ติดตา (budding)

ไม้พุ่ม (shrub)

เสียบยอด (shoot grafting)

ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent)

ทาบกิ่ง (grafting)

ไม้เลื้อย (climber)

แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (sucker, stolon)

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture)

คุณค่าในการอนุรักษ์

4

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

สํ า หรั บ ห นั ง สื อ 6 0 พร ร ณ ไ ม้ มี คุ ณ ค่ า จ า ก ป่ า ชุ ม ช น ไ ด้ ร ว บ ร ว ม สํ า หรั บ ห นั งสื อ 6 0 พร ร ณ ไ ม้ พรรณไม้ มีค่าที่สําคัญจากป่าชุมชน 30 มี คุ ณ ค่ า จ า ก ป่ า ชุ ม ช น ไ ด้ ร ว บ ร ว ม แห่ ง ทั่ว ประเทศ จํ า นวน 60 ชนิ ด โดย พรรณไม้ มีค่าที่สําคัญจากป่าชุมชน 30 กล่าวถึงลักษณะทั่วไป ฤดูออกดอก ฤดู แห่ ง ทั่ว ประเทศ จํ า นวน 60 ชนิ ด โดย ออกผล การขยายพันธุ์ การใช้ประโยชน์ กล่าวถึงลักษณะทั่วไป ฤดูออกดอก ฤดู ออกผล การขยายพันธุ์ การใช้ประโยชน์

คําแนะนําการใช้หนังสือ คําาดัแนะนํ การใช้ ค�เรีำยแนะน� ำการใช้ หนันังงสืสืออ งลํ บ ตามชื ่ อาเรี ย กภาษาไทยตาม ด้วยชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ และชื่ออื่นๆ เรี ย งลํ า ดั บ ตามชื่ อ เรี ย กภาษาไทยตาม พร้ อ มกั บ สั ญ ลั ก ษณ์ แ สดงลั ก ษณะการ ด้วยชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ และชื่ออื่นๆ เจริ ญ เติ บ โตและการขยายพั น ธุ์ ต าม พร้ อ มกั บ สั ญ ลั ก ษณ์ แ สดงลั ก ษณะการ คําอธิบายสัญลักษณ์ในหน้า ดังตัวอย่าง เจริ ญ เติ บ โตและการขยายพั น ธุ์ ต าม คําอธิบายสัญลักษณ์ในหน้า ดังตัวอย่าง

ตัวอย่าง ตัวอย่าง ชื่อไทย ชื่อพัไทย นธุ์ไม้ สัชื่อญพัลันกธุษณ์ ์ไม้ • ลัน ต้กนสูษณ์ สูงง20-30 20-30 เมตร สั• ต้ ญ • ไม้ ทรงพุ่ม่มกลม กลม • ไม้ ตต้น้นทรงพุ • เพาะเมล็ • เพาะเมล็ ดด เมตร ต้นสูง 20-30 • เพาะเลี งเนื่้อม้อกลม • เพาะเลี ้ย้ยงเนื เยืเยื่อ ไม้ต้นทรงพุ • เป็ พรรณไม้ กล้สูญพันธุธุ์ ์ • เป็ นนพรรณไม้ เพาะเมล็ ด ใใกล้ • เป็ พรรณไม้ ฉพาะถิ • เป็ นนพรรณไม้ เพาะเลี ้ยงเนืเ้อเฉพาะถิ เยื่อ ่น พรรณไม้หหใกล้ ายาก • เป็ • เป็ นนพรรณไม้ ายาก สูญพันธุ์ • เป็ พรรณไม้มมเฉพาะถิ • เป็ นนพรรณไม้ ีคีค่า ่น • เป็ พรรณไม้ททหี่ชี่ชายาก • เป็ นนพรรณไม้ ุมชนมีความ วาม

อนงการอนุ การใช้ ต้ รรักักมษ์ษ์ีคเเพื่าพื่อการใช้ • อต้เป็งการอนุ พรรณไม้ ประโยชน์ • ประโยชน์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความ ต้องการอนุรักษ์เพื่อการใช้ ประโยชน์

5


(scandent) ไม้หัว หรือมีเหง้า ไม้เลื้อย (bulb, rhizome) (climber)

(grafting) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (tissue culture) (sucker, stolon)

คําอธิบายสัญลักษณ์

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุไม้ ณหค่ัวาหรืในการอนุ อมีเหง้า รักษ์

ญั ลักษณ์ คําอธิบายสัญลัเป็กนพรรณไม้ ษณ์คํ าทอธิ ลับกนายสั ษณะวิ ี่ขยายพั ธุ์ยาก สย

กระบก

(bulb, rhizome)

คุณค่าในการอนุรักษ์

ลักษณะวิสยั

ลักนใษณะวิ ั ธุ์ เป็นทพรรณไม้ กล้ เป็นพรรณไม้ ี่ขยายพั ธุ์ยสากูญพัสนย

ความสูง

ขยายพั (height) นธุ์

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture) ขยา เป็นพรรณไม้หายาก

ขยายพั เป็นหพรรณไม้ ีค่าธุ์ เป็นพรรณไม้ ายาก มน

ความสูง ความสูง ไม้ต้นแผ่เป็นเพาะเมล็ เพาะเมล็ด รัศมี ด เป็นมพรรณไม้ ุมชนมีคว เป็นพรรณไม้ ่น เป็นพรรณไม้ ีค่า ที่ช(seed) ใกล้สูญ35 พัเฉพาะถิ นm ธุ์ (height) (height) เป็นพรรณไม้ (seed)shape) (tree, umbrella อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโย ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ชํากิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้ นรัตศ้นมีทรงพุปั่มกกลม ปักชํากิ่งห เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องก เป็ น พรรณไม้ เ ฉพาะถิ น ่ (tree, umbrella shape) (cutting) (tree, round shape) (tree, umbrella shape) (cutting)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Irvingia malayana Oliv. ex A. W. Benn. อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กลม ตอนกิ ง ่ ชื่อวงศ์ : IRVINGIACEAE ต้นทรงกรวยคว่ํา ไม้ต้นทรงพุไม้่มกลม ตอนกิ่ง (tree, round shape) (air layering) (tree, conical round shape) (air layerin ชื่ออื่น : มะลื่น (นครราชสีมา, สุโขทัย), จะบก (ภาคกลาง), มะมื่น(tree,(ภาคเหนื อ) shape) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้ตน้ ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงได้ ถึง 35 เมตร ผลัดใบช่วงสั้นๆ ล�ำต้นเปลาตรง เรือนยอดแน่นทึบ และแผ่กว้าง โคนต้นที่อายุ มากมั ก เป็ น พู พ อน เปลือ กสีเ ทาอมน�้ำ ตาล เรียบ หรือแตกเป็นสะเก็ดเล็กๆ เปลือกชั้นใน สี ส ้ ม อ่ อ น กิ่ ง อ่ อ นมี ร อยหู ใ บที่ หลุดร่วงไป ชัดเจน

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้ มกิ่ง ไม้ต้นทรงพุ ่มกรวยแหลม ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (layering) (tree, spike shape) (tree, conical shape) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ติดตา ไม้พไข่ ุ่ม แ กมรู ป ขอบ ใบ : เป็ น เดี ่ ย วรู ป ไข่ หรื อ รู ป ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) (shrub) (tree, spike shape) กว้าง 2.5 - 9 เซนติเมตร ยาวเสีย8บยอด- 20 ไม้ขนาน พุ่ม ไม้พุ่มรอเลื้อย (shrub) (shoot grafting) เซนติเมตร ปลายเป็นไม้ติพ่งุ่มแหลม โคนสอบมน (scandent) (shrub) ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง หรื อ เบี ย ้ วเล็ ก น้ อ ย ขอบเรี ยบ แผ่ าย ไม้เลืน้อยใบหนาคล้ (scandent) (grafting) ไม้พุ่มรอเลื(climber) ้อย ้ยง ด้านล่แยกหน่ างเกลี ไม้แผ่ เลื้อน ย หนั ง ผิว ด้ า นบนเกลี อ หั้ย ว ลํงา หรือไหล (scandent) ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ า (climber) stolon) หรือมีขนประปราย ก้าไม้นใบยาว 0.5(sucker, - 1.5 เลื้อย (bulb, rhizome) ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (climber) เซนติเมตร เป็นร่องทางด้ านบน หูใบลั กษณะ

(bulb, rhizome)

คุณค่าในการอนุ(tissue รักษ์ culture)

อมีเหง้า เป็นกรวยยาวหุม้ ยอดอ่อไม้หนัว หรืปลายแหลมโค้ งเล็ก (bulb, rhizome) เป็นพรรณไม้ ี่ขยายพันธุ์ยาก น้อย ใบหลุดร่วงง่าย ทิ้งร่องรอยเป็ นทวงแหวน เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยากคุณค่าในการอนุรักษ์ เป็นพรรณไม้หายาก บนกิ่ง

คุณค่าในการอนุรักษ์

โน้มกิ่ง (layering) ติดตา (budding)

เสียบยอด (shoot gra ทาบกิ่ง (grafting)

แยกหน่อ ห (sucker, st

เพาะเลี้ยงเ (tissue cul

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันเป็ ธุ์ยนากพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณ

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณ เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันเป็ธุน์ พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

6

เป็นพรรณ อนุรักษ์เพ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านหนองบัวน้อย จังหวัดร้อยเอ็ด ดอก : เป็นแบบช่อแยกแขนง ออกตามซอก ใบหรือปลายกิ่ง ดอกขนาดเล็ก สีขาวอมเขียว หรื อ สี เ หลื อ งอ่ อ น กลี บ เลี้ ย งและกลี บ ดอก มีอย่างละ 5 กลีบ กลีบเลี้ยงกว้างประมาณ 0.5 มิ ล ลิ เ มตร ยาวประมาณ 1 มิ ล ลิ เ มตร โคนเชื่อมกัน กลีบดอก กว้างประมาณ 1.5 มิลลิเมตร ยาว 2 - 3 มิลลิเมตร ปลายกลีบ ดอกจะม้วนออก ดอกจะหลุดล่วงง่าย ออกดอก ระหว่าง เดือนมกราคม - มีนาคม ผล : เป็ น ผลสด ผนั ง ชั้ น ในแข็ ง ผลเป็ น รูปไข่หรือรูปรี กว้าง 3 - 4 เซนติเมตร ยาว 4-5 เซนติ เ มตร ผลมีสี เ ขีย ว เมื่อ ผลสุ ก สี เหลือง มีเมล็ดแข็ง 1 เมล็ด รูปไข่หรือรูปรีแกม

รูปไข่ ค่อนข้างแบน เนื้อในเมล็ดสีขาวและมี น�้ำมัน ติดผลช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - สิงหาคม การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เป็นไม้เนื้อแข็งและ หนั ก สามารถน� ำ มาใช้ ท� ำ เป็ น เครื่ อ งมื อ กสิกรรมต่างๆ เช่น ครก สาก เครือ่ งสีขา้ ว รวม ถึงสิง่ ปลูกสร้างทีอ่ ยูใ่ นร่ม และยังนิยมน�ำมาท�ำ ฟืนหรือถ่าน ให้ความร้อนสูง เนื้อในเมล็ดน�ำ มาคั่วสุกรับประทานได้ เนื้อในเมล็ด บ�ำรุง ไขข้อ กระดูก ไต แก้เส้นเอ็นพิการ

7


ไม้ห้อัวย หรือมีเหง้า ไม้พุ่มรอเลื (bulb, rhizome) (scandent)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ย คุณไม้ค่เลืา้อในการอนุ รักษ์

แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (sucker, stolon) เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก(tree, round shape)

คําอธิบายสัญลักษณ์ คําอธิบายสัญลักษณ์ (climber)

กันเกรา

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ทาบกิ่ง เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (grafting)(tissue culture) (tree, umbrella shape)

ลักษณะวิสยั

ไม้หัว หรือมีเหง้ า (bulb, rhizome)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา(tissue culture)

ลักษณะวิสยั ขยายพันธุ์ เป็นรพรรณไม้ คุณค่าในการอนุ ักษ์ ใกล้สูญพันธุ์ (tree, conical shape)

ความสูง (height)

ขยายพั เป็นพรรณไม้ มีค่านธุ์

ด ความสูง ไม้ต้นทรงพุเพาะเมล็ เพาะเมล ่มกรวยแหลม เป็นพรรณไม้ ายาก ที่ชุมชนมีควา เป็นหพรรณไม้ (seed) (seed) (tree, spike shape) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน

เป็นพรรณไม้ ที่ข15-25 ยายพัเฉพาะถิ นmธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ ่น (height)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

ปักชํากิ่งหรือเถา

ปักชํากิ่ง

ไม้พุ่ม เป็นพรรณไม้มีค่า พรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Fagraea fragrans Roxb. (tree, umbrellaเป็นshape) (cutting) (tree, umbrella shape) (cutting) (shrub) ชื่อวงศ์ : GENTIANACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มเป็ กลม ตอนกิ่ง องการ ่ง นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ไม้พุ่มรอเลื้อย เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้ตอนกิ อนุ ร ก ั ษ์ เ พื อ ่ การใช้ ป ระโยชน์ (tree, round shape) (air layering) (tree, round shape) (air laye ชื่ออื่น : ตำ�เสา,ทำ�เสา (ภาคใต้), มันปลา (ภาคเหนือ), ตาเตรา (ภาคตะวั(scandent) นออก) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา โน้มกิ่ง

ไม้เลื้อย ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (tree, conical shape) (tree, conical shape) (layering) (climber) : ่ม ดอกเป็ เมื่อติเริดตา่มบาน ต้น : กันเกราเป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงใหญ่ สูง ดอก ไม้ต้นทรงพุ กรวยแหลมนช่อ ตามซอกใบ ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้ ห ว ั หรือมี(budding) เหง้า spikeเมื shape) (tree,องอมแสด spike shape) กลี สขี าว อ่ บานเต็มทีส่ เี หลื บดอก 15-25 เมตร เป็นไม้โตช้า อายุยืน ต้นใหญ่ มี(tree, (bulb, rhizome) ไม้พุ่ม ่อมติดกันเป็นหลอดสั เสียบยอด ไม้พุ่ม ้น ปลายแยกออก เปลือกผิวล�ำต้นจะเป็นสีน�้ำตาลเข้ม แตกเป็น โคนเชื คุ(shrub) ณค่าในการอนุ(shoot รักษ์ grafting) (shrub) 5 แฉก ปลายแฉกแหลม มีเกสรตัวผู้ยาว ร่องลึก เรือนยอดเป็นรูปกรวยแหลมหรือรูป เป็ไม้พนุ่มรอเลื ้อย ทาบกิ่ง พุ่มรอเลื้อย ติ(scandent) ดกับกลีบดอก และมีเไม้(scandent) กสรตั ยยาวอี ก 1นธุ์ยาก เป็วนเมี พรรณไม้ ที่ขยายพั เจดีย์ (grafting) ว งเดืไม้อเลืนเมษายนถึ ง เดืออหันว ลํา หรือไหล ใบ : เป็นใบเดีย่ ว ออกเรียงตรงข้ามกัน ใบหนา อัไม้นเลื้อออกดอกในช่ ย แยกหน่ ้อย ใกล้สูญstolon) พันธุ์ (climber) เป็นพรรณไม้(sucker, ถุนายน แน่นที่ปลายกิ่ง ใบเป็นรูปรี สีเขียวเข้มเป็นมัน มิ(climber) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หัว หรือมีเหง้า ปลายใบและโคนใบแหลม ขอบใบและ แผ่นใบ ไม้หัว หรือมีเหง้า เป็นพรรณไม้(tissue เฉพาะถิ ่น (bulb, rhizome) culture) (bulb, rhizome) เรียบ เนื้อใบค่อนข้างเหนียว ใบกว้าง 4-6 คุณค่าในการอนุรักษ์ คุณค่าในการอนุรักษ์ เซนติเมตร และยาว 8-12 เซนติเมตร

8

โน้มกิ่ง (layering

ติดตา (budding

เสียบยอ (shoot g

ทาบกิ่ง (grafting

แยกหน่อ (sucker,

เพาะเลี้ย (tissue c

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุเป็์ยนากพรรณไม้หายาก

เป็นพรร

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันเป็ธุ์ นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรร

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ เป็นพรร อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ อนุรักษ์เ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านทุ่งหลวง จังหวัดตรัง ผล : เป็นผลเดีย่ วทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 6-8 มิลลิเมตร ผิวเรียบเป็นมัน มีติ่งแหลมๆ สั้นๆ อยู่ตรงปลายสุด ผลอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อ สุกจะเป็นสีแดงเลือดนก ติดผลในช่วงเดือน เมษายน - มิถุนายน และในผลมีเมล็ดเล็ก ๆ จ�ำนวนมาก สีนำ�้ ตาลไหม้ มีรูปทรงไม่แน่นอน ฝังอยู่ในเนื้อนุ่มๆ สีแดงเรียบ การขยายพั น ธุ ์ : โดยวิ ธี ก ารเพาะเมล็ ด การน�ำไปประโยชน์ : เนื้อไม้สีเหลือง เหนียว แข็งแรง ทนปลวกได้ดี เหมาะแก่การน�ำมาใช้ ก่อสร้าง เช่น การท�ำเสาเรือนเสารัว้ หมอนราง รถไฟ เสาสะพาน กระดานปูพื้น ผนัง เชิงชาย

วงกบประตู หน้าต่าง เครือ่ งมือทางการเกษตร เฟอร์นเิ จอร์ หรือน�ำไปใช้ในงานแกะสลักต่างๆ สรรพคุณทางสมุนไพร แก่น ช่วยบ�ำรุงไขมัน บ� ำรุ ง ธาตุ แก้ เ ลือ ดพิก าร แก้ ไ ข้ จั บ สั่ น แก้ อาการหืด ไอ แน่นหน้าอก อาการท้องมาน ขับ ลมในกระเพาะ รักษาริดสีดวง ช่วยบ�ำรุงม้าม แก้อาการปวดแสบปวดร้อนตามผิวหนังและ ร่างกาย กันเกราจากป่าชุมชนบ้านทุ่งหลวง จังหวัดตรัง เป็นพันธุ์ไม้ที่เหลืออยู่ในพื้นที่ป่า ชุมชน หาค่อนข้างยาก ชุมชนต้องการอนุรักษ์ เพื่อการใช้ประโยชน์

9


ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

คําอธิบายสัญ ลักษณ์ คํ าอธิบายสัญลักเป็ษณ์ นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

ก่อข้าว

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture)

ลักษณะวิสยั

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ความสูง (height) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ex Benth. (tree,Wall.) umbrella shape)

ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์ 25-30 m

10

ความสูง เพาะเมล็ด (height) (seed) เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Castanopsis inermis (Lindl. & Hook. ชื่อวงศ์ : FAGACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tree, shape) ชื่ออื่น : ก่อตาหมู (ตรัง), ก่อเหิม (นครพนม), ก่อเดื อยround(ภาคเหนื อ) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบ เปลือก ล�ำต้นสีนำ�้ ตาล ความสูง 25 - 30 เมตร กิ่ง มีช่องอากาศหนาแน่น ใบ : ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปใบหอก ปลายใบ แหลมคล้ายหาง โคนมนหรือเบีย้ ว ขอบใบเรียบ แผ่นใบด้านล่างมีนวล ดอก : แยกเพศร่วมต้น แยกช่อหรืออยู่บ น ช่อเดียวกัน ช่อดอกเพศผู้เป็นช่อเชิงลด ออก ตามซอกใบใกล้ปลายกิง่ มีขนสัน้ หนานุม่ ดอก ออกเป็นกระจุกบนก้านช่อดอก ช่อดอกเพศเมีย แบบช่อเชิงลด มีขนสั้นหนานุ่ม ดอกออกเป็น

เป็นพรรณไม้มีค่า

ไม้ต้นแผ่เป็นปัรัศกมีชํากิ่งหรือเถา f.(tree, umbrella(cutting) shape) ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง layering) (tree, round (air shape)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิํา่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ (tree, conical(layering) shape)

(bulb, rhizome)

(tissue culture) (bulb, rhizome)

กระจุกไม้คล้ ายดอกเพศผู งเดื่มติอกรวยแหลม ต้นทรงพุ ่มกรวยแหลม ้ ดอกจะออกช่ ดน ตา ไม้ตว ้นทรงพุ (tree, spike shape) (budding) (tree, spike shape) สิงหาคม - กันยายน ไม้พุ่ม อกแข็ง เมล็ดเดีย ผล : ผลเปลื ่ ว ส่วนทีไม้พม่ ุ่มเี ปลืเสีอยกบยอด (shrub) (shrub) (shoot grafting) แข็งสีนำ�้ ตาลทีอ่ ยูภ่ ายใต้เปลือกสีเขียว มีหนาม ไม้พุ่มรอเลื้อย ไม้พุ่มรอเลื้อทาบกิ ย ่ง มีกาบหุ(scandent) ้มคล้ายรูปไข่แบน ๆ กาบหุ้ม(scandent) ผลที่โ(grafting) คน ไม่เชื่อไม้มติ 5 อ หัว ลํา หรือไหล เลื้อดย กัน ผิวกาบมีขนเรียงเป็นไม้วง เลื้อย4 -แยกหน่ (climber) (sucker, (climber)1 ผล stolon) วง เกล็ดประดับเชือ่ มติดกัน แต่ละกาบมี หัว หรือเมื มีเหง้ หง้า ้ยงเนื้อเยื่อ รูปไข่แไม้บนๆ ่อาแก่จะหล่นใต้ต้น ไม้หัว หรือมีเเพาะเลี คุณค่าในการอนุรักษ์

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

พรรณไม้ หายาก เป็นพรรณไม้เป็ ที่ขนยายพั นธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

นพรรณไม้ เป็นพรรณไม้เป็ใกล้ สูญพันธุ์ มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้อง เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 จังหวัดนราธิวาส การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ผลทีแ่ ก่ เนือ้ ในเมล็ด ใช้รับประทานได้ โดยน�ำมาคั่ว รสชาติเหมือน เกาลัด รสชาติมัน หวานไม่จัด อร่อย ผู้ที่มี ปัญหาท้องอืดบ่อย ๆ อาหารไม่ย่อยไม่ควรกิน ไม้ใช้กอ่ สร้าง ด้านสมุนไพร รากใช้เป็นยารักษา แก้ปัสสาวะขัด ผล บ�ำรุงร่างกาย บ�ำรุงไต กล้ามเนื้อ ม้าม และกระเพาะอาหาร

ก่อข้าวจากป่าชุมชนบ้านจุฬาภรณ์ พัฒนา 12 จังหวัดนราธิวาส เป็นพรรณไม้ที่ ชุ ม ชนมี ค วามต้ อ งการอนุ รั ก ษ์ เพื่ อ การใช้ ประโยชน์ เป็นผลไม้ที่ชาวบ้านรู้จักกันดี และ นิยมน�ำมารับประทานกันมานานแล้ว โดยเป็น พันธุไ์ ม้ปา่ ทีพ่ บขึน้ อยูใ่ นป่าธรรมชาติ ก่อให้เกิด รายได้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่น ควรค่าแก่การ อนุรักษ์

11


คําอธิบายสัญลักษณ์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ คํ าอธิบายสั ไม้หัว ญ หรือลั มีเก หง้ษณ์ า

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

(bulb, rhizome)

ลักษณะวิสยั ขยายพันธุ์ ลักษณะวิ ยั คุณค่าสในการอนุ รักษ์

(tissue culture)

ขยาย

ความสู คําอธิ บายสั ญลังกษณ์ เพาะเมล็ดเป็นพรรณไม้หายาก งษณ์ คําอธิบายสัญความสู ลั ก เป็ น พรรณไม้ ท ี ข ่ ยายพั น ธุ ์ ย าก (height) (height) (seed)

ลักษณะวิสยั

ขันทองพยาบาท

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ปักชํากิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ลัshape) กษณะวิ ั ธุ์ (tree, ขยายพันธุ์ ขยายพั นธุ์ shape) นพรรณไม้ ใกล้สูญส พันย umbrella (tree,เป็umbrella (cutting) เป็นพรรณไม้มีค่า

ด ่ง ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ เพาะเมล ไม้ต้นทรงพุ่มกลม กลม ตอนกิ 7-13 m เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา นพรรณไม้ ่น (tree,เป็round shape)เฉพาะถิ (height) (seed) (tree, round(seed) shape) (air layering) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยช ่ง ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมีไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา ปักชํากิํา่งโน้ หรืมอกิเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่ ปักชํากิ่งห conical shape) (tree, umbrella (tree, shape) (tree, conical(cutting) shape)(layering) ความสูง (height)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Suregada multiflorum (A.Juss.) Baill. (tree, umbrella shape) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กลม ่ง ติดตา ้นทรงพุ่มตอนกิ กรวยแหลม ชื่อวงศ์ : EUPHORBIACEAE ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม (tree, spike shape) (budding) (tree, round shape) (air layering) (tree, spike shape) (tree, round shape) ชื่ออื่น : ฮ่อสะพานควาย ยางปลอก (แพร่,น่าน) ขันทองพยาบาทเครื อ (จั น ทบุ ร ี ) ไม้พุ่ม เสียบยอด ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (shrub) (tree, conical shape)

ไม้พุ่ม

โน้มกิ่ง

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (layering)(shoot grafting) (shrub) (tree, conical shape) ทาบกิ่ง

(cutting)

ตอนกิ่ง (air layer โน้มกิ่ง

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (layering ไม้พุ่มรอเลื้อย ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้พุ่มรอเลื้อติยดตา (grafting) (scandent) 5 9 คู ่ ก้ า นใบยาว 2 5 มิ ล ลิ เ มตร ผิ ว ใบ ต้น : เป็นไม้ยืนต้น สูง 7 - 13 เมตร ล�ำต้น (tree, spike shape) ไม้ต้นทรงพุ(scandent) ่มกรวยแหลม ติดตา (budding) ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (budding (tree, spike shape) ด้ า นล่ า งมี ต ่ อ มสี เ หลื อ ง และมี ข นรู ป ดาว หู ใ บ ตั้ ง ตรง เป็ น ทรงพุ ่ ม แน่ น ทึ บ ค่ อ นข้ า งกลม ไม้พุ่ม ไม้เลื้อย เสียบยอด (climber) (sucker, stolon) (shrub) (shoot grafting) (climber) ไม้ พ ม ่ ุ เสียบยอด ขนาด 2 มิ ล ลิ เ มตร แต่ ล ะคู ่ เ ชื ่ อ มกั น หลุ ด้ยงเนื้อเยื่อ กิ่งก้านอ่อนและห้อยลู่ลง ที่กิ่งจะมีขนรูปดาว ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี (shrub) (shoot gr เหง้า ่ง (tissue culture) (bulb, ร่วพุ่มงง่รอเลืาย้อย แต่ ทrhizome) ิ้งแผลเป็นวงไว้ ไม้หัว หรือมีทาบกิ เปลือกต้นเป็นสีน�้ำตาลแก่และแตกเป็นร่อง ไม้(scandent) (grafting) ไม้พุ่มรอเลื(bulb, ้อย rhizome) ทาบกิ่ง คุ ณ ค่ า ในการอนุ ร ก ั ษ์ ดอก : สี เ หลื อ งออกเป็ น ช่ อ สั ้ น ๆ ตรงข้ า มกั บ แบบตื้น ๆ ตามยาว เนื้อไม้เป็นสีขาว ไม้เลื้อย (grafting) คุ(scandent) ณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล (climber) (sucker, stolon) ใบ มี ก ลี บ เลี ย ้ ง 5 กลี บ ไม่ ม ก ี ลี บ ดอก ดอกตั ว ผู ้ เป็ น พรรณไม้ ห ายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ใบ : เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปขอบขนานแกม ไม้เลื้อย แยกหน่อ ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ าจ เพาะเลี ้ยงเนื เยื่อ เป็นพรรณไม้ ที่ขดยายพั นบ ธุ้อ์ยนาก (climber) (sucker, มี เ กสรตั ว ผู ้ ำ � นวนมาก มี ล ก ั ษณะนู น ติ อยู ่ รู ป หอก กว้ าง 3 - 8 เซนติเมตร ยาว 9 (bulb, rhizome) (tissue culture) เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เพาะเลี้ย อา ง ตอนปลาย - 22 เซนติเมตร เนื้อใบหนาทึบ เหนียว หลัง ฐานดอก ดอกตัวเมีย รังไม้ไข่หัวมหรืี 3อเป็มีเช่นหง้พรรณไม้ ใกล้สูญพันธุ์ คุณค่าในการอนุรักษ์ (bulb, rhizome) เป็นะมี พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้(tissue องการ cu เฉพาะถิต้่นนขันทองพยาบาทนี้จ 2 แฉก ใบเรียบลืน่ เป็นมัน ท้องใบเรียบสีออ่ นกว่า โคน จะแยกเป็เป็นนพรรณไม้ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ นผลิ พรรณไม้ าในการอนุ รนักพรรณไม้ ษ์น มัเป็กเฉพาะถิ นพรรณไม้ นธุ์ยากคุณวค่เมี วผูที่ขแ้ ยายพั ละดอกตั ยอยูต่ า่ เป็งต้ ด่นอกหายาก ใบรูปหัวใจ ปลายใบเป็นติ่งยาว ขอบใบจักฟัน เป็ดอกตั อนมีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม เลือ่ ย ไม่มขี น มีตอ่ มใสๆ ขนาดเล็ก เส้นแขนงใบ เป็ในเดื เป็นพรรณ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันเป็ธุ์ยนาก พรรณไม้มีค่า นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณ เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพัเป็ นธุน์ พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

12

เป็นพรรณ อนุรักษ์เพ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ผล : มีรปู ทรงกลมมีรอ่ ง แบ่งเป็น 3 พู เส้นผ่าน ศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร ผลเมือ่ ยังอ่อนสีเขียว และจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อผลสุก การขยายพั น ธุ ์ : โดยวิ ธี ก ารเพาะเมล็ ด หรื อ ใช้ วิ ธี ต อนกิ่ ง ต้ น ขั น ทองพยาบาท มั ก เจริญเติบโตได้ดีและมีให้พบเห็นทุกภาคของ ประเทศไทย

การน� ำ ไปใช้ ป ระโยชน์ : ด้ า นสมุ น ไพร ขันทองพยาบาทมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรได้ เช่น เปลือกใช้ปรุงยาบ�ำรุงเหงือกและฟัน หรือ เข้าเครือ่ งยาถ่ายและยารักษาโรคตับ ยากล่อม กระษัยราก แก้ลม แก้ประดงเปลือก รักษาโรค ผิวหนัง กลาก เกลื้อน เปลือกและเนื้อไม้ แก้ ลมพิษ แก้ประดง รักษากามโรค โรคเรือ้ น และ โรคมะเร็ง

13


(shrub)

(shoot grafting)

(scandent)

ทาบกิ่ง (grafting)

คํ าอธิบายสัไม้พญุ่มรอเลืลัก้อยษณ์

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ลักษณะวิสยั

ไข่เน่า

ไม้เลื้อย (climber)

ขยายพันธุ์

แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล

ษณ์ด(sucker, stolon) คําอธิบายสัญความสู ลักงษณ์ คําอธิบายสัญลักเพาะเมล็

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

(height) ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์ umbrella shape) คุณ(tree, ค่าในการอนุ รักษ์

ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มกลม 10-12 m เป็นพรรณไม้ (tree, round shape) ที่ขยายพันธุ์ยาก(height)

(seed) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture) ปักชํากิ่งหรือเถา ขยายพ (cutting)

เพาะเมล็ตอนกิ ด ่ง เป็นพรรณไม้หายาก (seed) (air layering)

่ง ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมีไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา ปักชํากิ่งโน้ หรืมอกิเถา เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, conical shape) (layering) (tree, umbrella shape) (cutting) (tree, umbrella shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vitex glabrata R. Br. ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้ต้นทรงพุ่มกลม เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ชื่อวงศ์ : LAMIACEAE (tree, spike shape) (tree, round shape) ชื่ออื่น : ขี้เห็น (เลย, อุบลราชธานี), คมขวาน,ฝรั่งโคกไม้พ(ภาคกลาง) ุ่ม

ติดตา ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง (budding) เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา layering) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน (tree, round(air shape) เสียบยอด ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา โน้มกิ่ง (shoot grafting) (shrub) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (tree, conical shape) (layering) (tree, conical shape) ทาบกิ่ง ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent) ด ผลที ล ะรุ ่ น ดอกเป็ (grafting) ไม้ต้นทรงพุ:่มกรวยแหลม ติดตา ดอก ดอกติ น ดอก ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล สมบูรณ์เพศผสมตั วเองหรือต่า(tree, งต้นspikeต่าshape) งดอกได้ (climber) ไม้พุ่ม เสียบยอด(sucker, stolon) ไม้ พ ม ่ ุ อยู ่ติดกันไม้เป็หัวนหรืช่อมีอเหง้ยาว ๆ ดอกนั้นจะเป็ นดอก (shrub) (shoot grafting) า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (shrub) (bulb, rhizome) (tissue culture) เล็ ๆ ้อมีย สี ม ่ ว งอมชมพู สี ข าวมี แ ดงเรื ไม้พก ุ่มรอเลื ทาบกิ่ง่ อ ๆ ไม้พุ่มรอเลื้อ(grafting) ย คุณค่าในการอนุ ักษ์ (scandent) ออกดอกช่ วงเดือรนมกราคม – กุ(scandent) มภาพันธ์ ดอก แยกหน่อเป็หันวพรรณไม้ ไหล มีไม้(climber) กเลืลิ้อย่นหอมเป็นผลแก่ ก็บนเกีธุ์ยาก่ยวช่วไม้งเดื ถุนายนลํา หรืหอายาก พรรณไม้ที่ขเยายพั เลื้อยอนมิ (sucker, stolon) (climber) –ไม้หกรกฎาคม ัว หรือมีเหง้เป็ า นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เพาะเลี้ยเป็งเนื ้อเยื่อ มีค่า นพรรณไม้ ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ า (bulb, rhizome) (tissue culture) (bulb, rhizome) เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ อายุ ยืนนับร้อยปี เจริญเติบโตได้ดีในที่แห้งแล้ง นิยมปลูกเป็นไม้ให้ร่มเงา เพราะไม่ผลัดใบ ล�ำต้นนั้นจะมีความสูง 10 - 12 เมตร ล�ำต้น จะเกลี้ยงเป็นสีหม่นและมีด่างเป็นดวงขาว ๆ ใบ : เป็นใบประกอบ มีขนาดไม่เท่ากัน ตรงโคน ใบจะเรียวเล็ก ปลายใบจะกว้างและมน ยาว 6 - 33 เซนติเมตร หลังใบมีสีเขียว ส่วนใต้ใบ สีเขียวอ่อน คล้ายใบงิ้ว คุณค่าในการอนุรักเป็ษ์นพรรณไม้เฉพาะถิ่น เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

คุณค่าในการอนุรักษ์

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

14

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง จังหวัดเพชรบุรี ผล : เริม่ ให้ผลผลิตเมือ่ อายุ 3 - 4 ปีหลังปลูก ผลอ่อนทีย่ งั ไม่สกุ จะมีสเี ขียว และแข็ง ผลทีส่ กุ แก่เต็มทีน่ นั้ สีจะเปลีย่ นเป็นสีดำ� เทา อ่อนนุม่ นิม่ ผิวมัน ผลโตประมาณ 1 - 1.5 เซนติเมตร และมีรสหวานอมเปรี้ยว กลิ่นเหม็น ผลนั้นจะ แก่ ใ นหน้ า ฝน ส่ ว นเมล็ ด โตขนาดเท่ า ปลาย นิ้วก้อย การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การ ตอนกิ่งก็สามารถท�ำได้

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เปลือกต้น ให้รสฝาด ใช้รักษาพิษตานซาง รากต้นไข่เน่า เป็นยา เจริญอาหาร แก้ทอ้ งเสีย และแก้โรคตานขโมย ขับไส้เดือน รักษาท้องร่วง แก้โรคพยาธิในเด็ก ที่มีอาการเบื่ออาหาร แก้ไข้ แก้โรคเบาหวาน เปลือกผล แก้โรคเกล็ดกระดี่ขึ้นนัยน์ตา โรค กระเพาะ หรือล�ำไส้อกั เสบของทารก และยังมี แคลเซียมแบบกระชายอีกด้วย บ�ำรุงไต ผล เมื่อสุกใช้รับประทานกับเกลือ สามารถรักษา โรคเบาหวาน และบ�ำรุงสมอง ช่วยระบบการ ขับถ่าย กินแล้วหัวดี

15


(shrub)

ลักษณะวิสยั

ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent) ไม้เลื้อย (climber)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ไม้หัว หรือมีแยกหน่ เหง้า อ หัว ลํา หรือไหล

คําอธิบายสัญลักษณ์

ไม้ต้นแผ่(bulb, เป็นรัศrhizome) มี (sucker, stolon) (tree, umbrella shape) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

คุณค่าในการอนุรักษ์

ลักษณะวิสยั

คุณค่าในการอนุรักษ์

(tissue culture)

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม เป็นพรรณไม้ (tree, round shape)ที่ขยายพันธุ์ยาก

ความสูง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ (height) (tree, conical shape)ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

่มกรวยแหลม ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงพุ นพรรณไม้ เป็นพรรณไม้เป็เฉพาะถิ ่น มีค่า (tree, spike (tree, umbrella shape)shape) ุ่ม ไม้ต้นทรงพุไม้่มพกลม (shrub) (tree, round shape)

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน

ไม้พุ่มรอเลื้อย

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (scandent) (tree, conical shape)

ไม้เลื้อย ยาว ส่วนโคนใบมน ใบกว้างประมาณ 2-5 ไม้ต้นทรงพุ(climber) ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) น เซนติเมตร และยาว 5 - 18 เซนติ เมตร ไม้หัว หรืแผ่ อมีเหง้า (bulb, rhizome) ไม้ พ ม ่ ุ ใบหนา หลังใบเรียบเป็นมัน ส่ ว นท้ อ งใบมี ข น (shrub) คุณค่กาในการอนุรักษ์ สี น�้ ำ ตาลปนสี เ หลื อ งเป็ น กระจุ รอเลื้อย ดอก : สีขาวมีกลิ่นหอมอ่อน ไม้(scandent) ๆพุ่มออกเป็ นช่อ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ยาวที่ปลายกิ่งและตามง่ามใบไม้ออกดอกช่ วง เลื้อย เป็ น พรรณไม้ ใกล้สูญพันธุ์ เดือนมกราคม - มีนาคม (climber)

ไม้หัว หรือมีเหง้า เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (bulb, rhizome)

คุณค่าในการอนุรักษ์ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

16

ขยาย

20-40 เป็นพรรณไม้ที่ขยายพั นธุm ์ยาก

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cotylelobium lanceolatum Craib ชื่อวงศ์ : DIPTEROCARPACEAE ชื่ออื่น : เคี่ยมขาว, เคี่ยมแดง ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เคี่ยมเป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สู ง 20 - 40 เมตร ขึ้นอยู่ตามป่าดงดิบ ใน ภาคใต้ เรือนยอด เป็นพุม่ ทึบลักษณะเป็นรูปเจ ดียต์ ำ�่ ๆ ล�ำต้นตรง เปลือกเรียบสีนำ�้ ตาลเข้ม มี รอยด่างสีเทาและเหลืองสลับ มีต่อมระบาย อากาศกระจายทั่วไป เปลือกในสีน�้ำตาลอ่อน มีชันใสตามล�ำต้นที่เกิดบาดแผลและจับเป็น ก้อนสีเหลืองเมื่อทิ้งไว้นานๆ ใบ : รูปไข่ ปลายใบสอบเรียวหรือหยักเป็นติ่ง

ไม้เลื้อย ทาบกิ่ง

ความสูง(climber) (grafting) (height)

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

เคี่ยม

(scandent) (shoot grafting)


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านทุ่งหลวง จังหวัดตรัง ผล : ผลกลม ขนาดเล็ ก มี เ ส้ น ผ่ า นศู น ย์ กลางประมาณ 0.7 เซนติเมตร มีขนนุม่ คล้าย ขนก�ำมะหยี่ สีนำ�้ ตาล มีปีก 5 ปีก แบ่งเป็นปีก ยาว 2 ปีก และปีกสั้นอีก 3 ปีก ลักษณะเป็น รูปหอก ยาวประมาณ 1 ใน 3 รองรับผลอยู่ และจะติดผลในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ด้านสมุนไพร เปลือก ใช้เป็นยาชะล้างบาดแผล ห้ามเลือด บาดแผลสด ใช้ใส่ในน�้ำตาลโตนดเพื่อป้องกันไม่ให้น�้ำตาล

บูด ชันใช้เป็นยาสมานแผลและแก้ท้องร่วง ประโยชน์จากเนื้อไม้ มีความละเอียด แข็ง เหนียว หนัก ทนทานมากใช้ในน�้ำทนทานดี ใช้ ท�ำไม้กระดาน เรือ สะพานท่าเรือ เสาเรือ อกไก่ล้อเกวียน กระเดื่อง ครก สาก ตัวถังรถ ท�ำหมอนรองรางรถไฟ หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่ต้องตากแดดตากฝน ต้องการความแข็งแรง มาก ๆ เปลือกต้น ใช้ทุบผสมกับชันใช้ส�ำหรับ ยาเรือ ชันเคี่ยมใช้ผสมในน�้ำยางทาไม้ น�้ำมัน ทาไม้ และน�้ำมันชักเงา

17


ต้นแผ่เป็นรัศคํ มี าอธิบายสัญลักษณ์ปักชํากิ่งหรือเถา คํ าอธิบายสัไม้(tree,ญ ลักษณ์ เหง้า ่ง umbrella shape) ไม้พุ่มรอเลื้อย (cutting) ไม้เลื้อย ไม้หัว หรือมีทาบกิ

(scandent)(climber) (shoot grafting)

(shrub)

(scandent) (grafting) (climber) (bulb, rhizome) ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ตอนกิ่ง ลั ก ษณะวิ ส ย ั ขยายพันธุ์ ลักษณะวิสยั (tree, round shape) ขยายพั น ธุ ์ ไม้เลื้อย คุไม้ ณหค่ัวาหรืในการอนุ รักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล อมีเหง้า แยกหน่ (air layering) (climber) (sucker, stolon) (bulb, rhizome) ความสู ง เพาะเมล็ ด ความสูง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา เพาะเมล็ดโน้มกิ่ง เป็ น พรรณไม้ ท ี ข ่ ยายพั น ธุ ์ยาก (height) (seed) ไม้หัว หรือมีเหง้า (seed) คุณ (height) (tree, conical shape) (layering) ค่าในการอนุรักษ์ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (bulb, rhizome) (tissue culture) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ปักชํากิ่งหรืติอดเถา ปักชํากิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นตรั้นศทรงพุ ่มกรวยแหลม ตา ขยายพันธุ์ ลัมีshape) กษณะวิ สยั (tree, ลักษณะวิสยั ขยายพั นรธุัก์ ษ์shape) เป็นทพรรณไม้ สูญพันธุ์ ี่ขยายพันใ(cutting) ธุกล้ ์ยาก umbrella (tree, umbrella (cutting) (budding)เป็นพรรณไม้ คุณค่าในการอนุ (tree, spike shape)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่ ชุมชนบายสัญลักษณ์คําอธิบายสัญลักษณ์ คําาอธิ

แคสันติสุข

ความสูง (height)

ด ่ง เสียบยอด เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ไม้ต้นทรงพุ กลม ตอนกิ ไม้่มพกลม ุ่ม10-15 m ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ นธุพรรณไม้ เป็นพรรณไม้(seed) ที่ขยายพั(air นธุlayering) ์ยาก เป็(seed) นพรรณไม้ ่น หายาก เป็ น พรรณไม้ ใกล้สูญเป็ พัเนฉพาะถิ ์ layering) (tree, round shape) (height) (tree, (shrub) (shoot grafting) round shape) (air

ํา ้อย ไม้ต้นแผ่เป็ไม้ ่ง ทาบกิ่ง ไม้พุ่มรอเลื ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมีไม้ต้นทรงกรวยคว่ ปักชํากิํา่งโน้ หรืมอกิเถา มกิ่ง มีค่า นเป็รัตนศ้นพรรณไม้ มีทรงกรวยคว่ ปักชํากิ่งหรืเป็อโน้ นเถา พรรณไม้ ใกล้สูญพันธุ์ (tree, conical shape) (layering) (grafting)เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (layering) (tree, umbrella shape) (scandent) (tree, umbrella (tree,shape) conical(cutting) shape) (cutting)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Santisukia kerrii (Barnett & Sandwith) Brummitt ไม้่มเลืกรวยแหลม ้อย อไหล เป็ตินพรรณไม้ ่ง ติ่นดตา แยกหน่อ หัว ลํา หรืตอนกิ ทรงพุ่มตอนกิ ดตา ที่ชุมชนมีควา ชื่อวงศ์ : BIGNONIACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มกลมไม้(tree,ต้นทรงพุ น้นพรรณไม้ เกรวยแหลม ฉพาะถิ ไม้ต้นทรงพุไม้เป็่มตกลม ่ง spike shape) (budding) (sucker, stolon) (climber) อนุ(budding) รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน (tree, spike (air shape) (tree, round shape) layering) (tree, round shape) (air layering) ชื่ออื่น : แคผู้ (ขอนแก่น) ไม้พุ่ม ไม้หัว หรือมีเหง้า เสียบยอด เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้พุ่ม ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา โน้มกิ่ง (shoot grafting) (shrub) (bulb, rhizome) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tissue culture) โน้มกิ่ง (shrub) (layering) (tree, conical shape)

เสียบยอด (shoot grafting)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ shape) (layering) ้อย ทาบกิ่ง คุไม้ณพคุ่่มารอเลื ในการอนุ รักษ์(tree, conical ไม้พุ่มรอเลื้อติยดตา (grafting) ทาบกิ่ง ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม (scandent) ต้น : ไม้ต้น สูง 10 - 15 เมตร ผลัดใบ แตก ใบ : เป็ไม้นตใบประกอบแบบขนนกปลายคี ่ ออก ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ติ ด ตา (scandent) (grafting) (tree, spike shape) เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก (budding) หายาก ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัเป็วนลํพรรณไม้ า หรือไหล (tree, spike shape) (budding) กิ่งต�่ำระเกะระกะ เรือนยอดเป็นพุไม้่มพกลม โปร่ ง เป็นวงรอบกิ่งไม้วงละ 4ยบยอด ช่อ(sucker, ใบ ใบย่ อย 4 - 7 แยกหน่อ หัว ลํา หรือไ เลื้อย เสี (climber) stolon) ุ่ม (climber) ป(shoot เปลื อ กต้ น เป็ น สี น�้ ำ ตาลเทาเกื(shrub) อ บด� ำ เขต ่ ารูปใบหอกแกมรู ขอบขนาน 3.5 - (sucker, stolon) เป็้อนยาว มีค่า เสียบยอด grafting) นเหง้ พรรณไม้ ใกล้ไม้สพูญุ่มพันธุ์ ไม้หัว หรือเป็มีคู เพาะเลี้ยงเนื เยืพรรณไม้ ่อ (shrub) ไม้หัว หรือมีเหง้า (tissue culture) (shoot grafting) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (bulb, rhizome) ไม้พุ่มรอเลื้องยหวั ทาบกิ่ง กระจายพันธุ์และถิ่นก�ำเนิดพบในเขตจั ด 7.5 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนมนหรื อ กลม (tissue culture) เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมี ความต้ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ ไม้พุ่ม่นรอเลื(bulb, ้อย rhizome) ทาบกิ ่ง องการ (grafting) คุณค่าและ ในการอนุ รักษ์้ยว ขอบใบหยั ลพบุรี สระบุรี นครสวรรค์ อุท(scandent) ัยธานี เบี ก เป็ น ฟั น เลื อ ่ ยตื น คลื น ่ อนุ้นรักๆ ษ์เพืเป็ ่อการใช้ ประโยชน์ (grafting) คุ(scandent) ณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อย นบ พรรณไม้ ขอนแก่น ชอบขึ้นบนภูเขาหินปูน(climber) ที่แห้งในป่ า ห่ทาี่ขยายพั เป็นพรรณไม้ ง ๆนธุ์ยจัไม้ากกเลื้อมนหรื อเกือ(sucker, บเรีเป็ยstolon) สีเขีหยายากวสด เวลา ย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก (climber) (sucker, stolon) เบญจพรรณ หรือป่าละเมาะโปร่งไม้ระดั ใบดกจะให้ร่มเงาดีมาก หัว หรืบ อมีความ เหง้า เพาะเลี้ยเป็งเนื ้ อ เยื อ ่ นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ (bulb, rhizome) ไม้หัว หรือมีเหง้า (tissue culture) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ สูง 50 - 200 เมตร เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ คุณค่าในการอนุรักเป็ษ์นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (bulb, rhizome)

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้(tissue องการ culture) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

คุณค่าในการอนุเป็รนักพรรณไม้ ษ์ เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

18

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีค อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโ

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนเขาอ้ายโป้ด จังหวัดลพบุรี ดอก : ดอกใหญ่ ออกเป็นช่อ มีดอกย่อย จ�ำนวนมากแตกแขนงตามปลายกิ่ง กลีบดอก ติดกันคล้ายรูประฆัง สีขาวอมชมพู ขอบกลีบ ย่นมาก ผล : ผลเป็นฝักรูปทรงกระบอก โคนและปลาย แหลม ตามผนังมีตุ่มเล็กๆ หนาแน่น เมื่อแห้ง แตกออกเป็น 2 ซีก เมล็ดแบนและมีปีกบางๆ ออกดอกเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ การขยายพั น ธุ ์ : โดยวิ ธี ก ารเพาะเมล็ ด ตอนกิ่ง และเสียบยอด

การน� ำ ไปใช้ ป ระโยชน์ : แคสั น ติ สุ ข มี ลักษณะดอกที่สวยงาม สามารถน�ำมาปลูกใน บริเวณพื้นราบได้ แต่ชอบแห้งแล้ง ลักษณะ เนื้อไม้ไม่แข็ง ไม่เหมาะที่จะใช้ประโยชน์ด้าน เนือ้ ไม้ สถานภาพของ แคสันติสขุ ในตอนนีเ้ ป็น พืชถิ่นเดียว และพืชหายากที่ใกล้สูญพันธุ์ พบ ครั้งแรก ที่อ�ำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น เมื่อ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2474 โดยหมอคาร์ ชื่อสปีชีส์ ตั้งเป็นเกียรติแก่ผู้ค้นพบ ส่วนชื่อ สกุลตั้งเป็นเกียรติแก่ ศ.ดร. ธวัชชัย สันติสุข

19


(tree, spike shape)

(sucker, stolon) (grafting) (scandent)(climber) (shoot grafting) (grafting) คํา(shrub) อธิบ(scandent) ายสั(climber) ญ ลั ก ษณ์ (budding) ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หัว หรือมีเหง้า

ไม้พุ่ม (shrub)

ลักษณะวิสยั

ไม้พุ่มรอเลืไม้ ้อยเลื้อย ทาบกิ่ง แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล แยกหน่อ ไม้เลื้อย (tissue culture) (sucker, เสียบยอด (scandent)(climber)(bulb, rhizome) (grafting)(sucker, stolon) (climber) (bulb, rhizome)

ขยายพันธุ์

(shoot grafting)

ไม้เลื้อคุ ย ณไม้ค่หาัวในการอนุ หัว ลํา้ยหรื ในการอนุ รักษ์ อเพาะเลี ไม้หค่ัวาหรื อมีเหง้า แยกหน่ หรือมีเหง้า รักษ์ คุณ งเนือ้อไหล เยื่อ (climber)ความสู (bulb,งrhizome) ทาบกิ่ง (bulb, rhizome) (sucker, stolon) (tissue culture) เพาะเมล็ ด

เพาะเลี้ย (tissue cu เป็นพรรณไม้(grafting) ที่ขยายพันธุ์ยากเป็นพรรณไม้เพาะเลี ที่ขยายพั น(seed) ธุ้อ์ยเยืาก่อ เป็นพรรณไม้หายาก (height) ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ า ้ ย งเนื คุณค่าในการอนุรักษ์คุณค่าในการอนุรักษ์ (bulb, rhizome) (tissue culture)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณคํ ค่าาจากป่ มชน ญ ไม้พุ่มรอเลื้อย คํ อธิบาชุายสั ลักษณ์ าอธิบายสัญลักษณ์

(scandent)

ลักษณะวิสยั

ไม้เลื้อย (climber)

ลักคุษณะวิ สยั (tree, นธุธุ์ ์ยากสูญเป็พันน(cutting) ขยายพั นธุที่ข์ shape) ในกล้ธุ์ยสาก ูญเป็ พัstolon) นนธุพรรณไม้ ์ ขยายพั เป็นทพรรณไม้ ธุพรรณไม้ ์ เป็นหพรรณไม้ ายาก มีค่า เป็นพรรณ เป็รนักพรรณไม้ ยายพั(sucker, ี่ขยายพันใกล้ umbrella ณค่าในการอนุ ษ์เป็นพรรณไม้

จ�ำปีสิรินธร

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล

ปักชํากิ่งหรือเถา

ความสูง ไม้หัว หรือมีเหง้า (height) (bulb, rhizome)

ด ้ยงเนื้อเยื่อ ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง กลม เพาะเลี เป็ หายาก เป็นมพรรณไม้ ที่ชุมเป็ ชนมี ควา เป็นพรรณไม้ ี่ขยายพั นใธุกล้ ์ยาก เป็นพรรณไม้ ่นเป็นพรรณไม้ เป็นพรรณไม้ พรรณไม้ ีค่า นพรรณ เป็นทพรรณไม้ สูญเ(tissue พัฉพาะถิ นธุ์ culture) ใกล้สูญ(seed) พัเฉพาะถิ นนธุพรรณไม้ ์ ่นเป็น(air (height) (tree, round(seed) shape) layering)

ไม้คุตณ ้นแผ่ นรัศมี ค่าเป็ในการอนุ รักษ์ (tree, umbrella shape)

ปักชํากิํา่งหรือเถา ทรงกรวยคว่ ไม้เป็ ต้นนแผ่ เป็ไม้นเป็รัตศน้นใมีพรรณไม้ ปักชํากิ่งหรืเป็อนโน้เถา มมีคกิ่า่ง ที่ชุมชนมีความต้เป็อนงการ พรรณไม้ กล้สูญพัเนฉพาะถิ ธุ์ ่น พรรณไม้ พรรณ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นเป็นพรรณไม้ Noot. & Chalermglin (cutting) (tree, conical shape) (layering) (tree, umbrella shape) (cutting) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ อนุรักษ์เพ

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Magnolia sirindhorniae นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ ไม้ต้นทรงพุ่มเป็กลม ่ง เป็นพรรณไม้หายาก ้นเฉพาะถิ ทรงพุ่มตอนกิ ่นกรวยแหลม ชื่อวงศ์ : MAGNOLIACEAE ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม (tree, spike (air shape) (tree, round shape) layering) (tree, round shape) ชื่ออื่น : เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape)

ไม้พุ่ม

โน้มกิ่ง

เป็นพรรณไม้ติทดี่ชตา ุมชนมีความต้องการ ตอนกิ ่ง อนุรักษ์เพื่อ(budding) การใช้ประโยชน์ (air layering)

เสียบยอด

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (shrub) (layering) (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง (shoot grafting) (layering)

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้พุ่มรอเลื้อติยดตา เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ ทาบกิ่ง รอยแผลเป็ นของหู ก้านใบ ต้น : ไม้ต้นขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ สูง 20 เรียไม้บต้นทรงพุ อนุรักษ์เใพืบแนบโคน ่อการใช้ประโยชน์ติดตา ่มกรวยแหลม (scandent) (grafting) (budding) (tree, spike shape) (budding) ยาวสองในสาม ของความยาวของก้ า นใบ - 30 เมตร เปลือกโคนต้นสีไม้นพุ่ม�้ำตาลมีกลิ่นฉุน ไม้เลื้อย เสียบยอด แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (climber) (sucker, stolon) ไม้ พ ม ่ ุ เสี ย บยอด ดอก : เป็ น ดอกเดี ย ่ วออกที ซ ่ อกใบใกล้ ป ลาย เฉพาะตั ว เปลือ กแตกเป็ น(shrub) ร่ อ งลึก ตามยาว (shoot grafting) (shrub) ไม้หัว หรือมีเหง้า (shoot grafting) งเนื้อเยื่อ ไม้พุ่มบ รอเลื ่ง มrhizome) รูปทาบกิ กระสวย กาบหุม้ ดอกมี 1 แผ่เพาะเลี น ้ยculture) ล�ำต้นเปลาตรง กิ่งที่อยู่ในระดั สูง้อยมีเปลือกสี ยอด ดอกตู (bulb, (tissue ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง (scandent) ยวอ่อนและมี(grafting) ขนอ่อนๆ คลุมอยู่ (grafting) ก้านดอก ขาว กิ่งอ่อนมีสีเขียวอมน�้ำตาล มีช่องอากาศ สีเคุขี(scandent) ณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อย เซนติเ(sucker, มตร ดอกบานตั ง้ ขึน้ สีแยกหน่ ขาวนวล เป็นจุดหรือขีดนูนกระจาย (climber) ทรงพุ่มกลมโปร่ง ยาวไม้เลื1.8 stolon) ้อย อ หัว ลํา หรือไหล เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ ท-ี่ขยายพั นธุกลี ์ยาก บ เรียงเป็น(sucker, (climber) กลี บ ดอกมี 12 15 ชั น ้ ๆstolon) ละ เนื้อไม้และกิ่งเหนียว ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ rhizome) culture) หัว บ หรือกลี มีเหง้บ า ชั้น(tissue เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ นอกรู ปหอกแกมขอบขนาน ใบ : ใบรูปรี กว้าง 7 - 10(bulb,เซนติ เมตร ยาว 3 ไม้กลี เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ (bulb, rhizome) (tissue culture) คุ ณ ค่ า ในการอนุ ร ก ั ษ์ ผล : ผลเป็ น ช่ อ ยาว 4 6 เซนติ เ มตร มี ผ ล 14 - 20 เซนติเมตร โคนใบมนกลม หรือรูป อย 15เป็รนักพรรณไม้ -ษ์ 25เป็เฉพาะถิ ผล่น แต่ละผลเรียงติดอยู่บเป็นนพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้อง ลิ่ม ปลายใบมนทู่ถึงแหลม เป็ผินวพรรณไม้ ใบด้าทนบนมี ขนคุณค่ย่าในการอนุ นพรรณไม้หายาก ี่ขยายพันธุ์ยาก อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ ม ก ี ้ า นผลย่ อ ย ผลรู ป กลม เล็กน้อย สีเขียวอมเหลือง ผิวใบด้านล่างสีออ่ น แกนกลางผลและไม่ เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็ น พรรณไม้ ม ี ค ่ า เป็ น พรรณไม้ ใ กล้ ส ญ ู พั น ธุ ์ มี เ ส้ น ผ่ า นศู น ย์ ก ลาง 1 1.5 เซนติ เมตร ผิว กว่าและมีขน เนื้อใบหนา แข็งกรอบ ขอบใบ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

20

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนเขาอ้ายโป้ด จังหวัดลพบุรี ของผลมีช่องอากาศเป็นจุด ๆ สีขาว ผลอ่อนสี เขียว เมื่อแก่แล้วเปลี่ยนเป็นสีนำ�้ ตาลอ่อน ผล ย่อยแตกตามแนวยาว แต่ละผลมี 1 - 6 เมล็ด เมล็ดสีแดงเข้มรูปกลมรี ยาว 4 - 6 มิลลิเมตร การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การ ปักช�ำ การทาบกิ่ง การเสียบยอด การติดตา และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ดอกของจ�ำปี สิรนิ ธร มีกลิ่นหอมและสวยงาม อาจน�ำมาร้อยมาลัย เป็นยาสมุนไพร สกัดเป็นน�้ำมันหอมระเหย ลั ก ษณะเนื้ อ ไม้ ไ ม่ แ ข็ ง ไม่ เ หมาะที่ จ ะใช้ ประโยชน์ด้านเนื้อไม้

21


(climber)

(scandent) (sucker, stolon) ไม้เลื้อย เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (climber) (tissue culture)

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

ไม้หัว หรือมีเหง้า

คุณค่าในการอนุรักษ์

rhizome) คํ าอธิบายสัญลั(bulb, กษณ์ คําอธิบายสัญลักเป็ษณ์ เป็นพรรณไม้หายาก นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

จ�ำไร

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

สยั นธุ์ เป็นพรรณไม้เป็ทนี่ขพรรณไม้ ีค่า ขยาย เป็นพรรณไม้ใกล้สลัูญกพัษณะวิ นธุ์ ขยายพั ยายพันธุ์ยมาก

ความสูง เพาะเมล็ด สูญพันธุท์ ี่ชุมชนมีควา (seed)เป็นพรรณไม้เป็ในกล้พรรณไม้

10-15 m เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ ่น (height)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Baccaurea polyneura Hook. f. ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : PHYLLANTHACEAE round shape) ชื่ออื่น : มะไฟลิง (นราธิวาส), กะจำ�ปูลิง (ตรัง(tree, ,ยะลา), จำ�รี (ปัตตานี)

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน

กิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็นปัรักศมีชําเป็ นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (cutting) (tree, umbrella shape)

ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง (air layering) (tree, round shape) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา โน้มกิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (tree, conical shape) (layering) (tree, conical shape) ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ติดตา เวณ ดอก : เป็นช่อกระจะ ขนาดเล็ไม้กต้นทรงพุ ออกบริ ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) (tree, spike shape) กิ่งก้านขนาดใหญ่และบริเวณตอนบน สีขาว ไม้พุ่ม เสียบยอด ไม้พุ่ม เหลื (shrub)อง (shoot grafting) (shrub) ผล : ผลเดี ไม้พุ่มรอเลื ้อย ่ ย ว เป็ น ช่ อ ยาว รู ป ผลกลม ทาบกิ่ง แต่ ไม้พุ่มรอเลื้อ(grafting) ย (scandent) ลักษณะเป็นสันเล็กน้อย ปลายผลมี ต ิ่งแหลม (scandent) ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล สั(climber) ้นๆ ดูเหมือนมีรอยต่อ ท�ำให้แไม้ตกออกง่ าย มี เลื้อย (sucker, stolon) ขนาดเล็ กกว่ามะไฟเล็กน้อย ก้า(climber) นช่อทีต่ เพาะเลี ดิ ผลจะ ไม้หัว หรือมีเหง้า ้ยงเนื้อเยื่อ ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ า ยาวห้ อยทิ้งน�้ำหนักลงมาจากกิ่ง เพราะมั จะ (bulb, rhizome) (tissueกculture) (bulb, rhizome)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 10 - 15 เมตร เปลื อ กไม้ ไ ม่ เ รี ย บ มี ย าง สี น�้ ำ ตาลแกมเทา เป็นไม้ป่าในท้องถิ่นภาคใต้ ที่พบเห็นได้ยาก ในปัจจุบนั ผลมีลกั ษณะคล้ายมะไฟ หรือละไม แต่มีขนาดผลเล็กกว่า เป็นเหลี่ยมเล็กน้อย ใบ : ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ แผ่นใบเรียบรูปรี หรือรูปไข่ ผิวใบเรียบ ทัง้ สองด้าน ขอบใบเรียบ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมน เส้นใบแตกแบบ ออกดอกที ่ า้ นกิง่ แต่ละก้านช่อมีกา้ นขัว้ สัน้ ๆ ขนนก เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ใบอ่อนสีเขีคุยณวค่าในการอนุ รักษ์ก คุณาค่ยขวาในหนึ าในการอนุรักษ์่ ง ก้ า น ยึ ด ผลย่ อ ย สลั บ ไปมาซ้ อ่อน ใบแก่สีเขียวเข้ม เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

22

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้อนุ เฉพาะถิ ่น


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านอ่าวอ้ายยอ จังหวัดนครศรีธรรมราช ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีเหลือง เปลือกหุ้มผล บางและเปลือกด้านในแยกออกได้เป็นห้อง ๆ (locule) โดยมี เ มล็ ด ในแต่ ล ะห้ อ ง เมล็ ด ที่ สมบูรณ์ที่เจริญเต็มพื้นที่ ส่วนใหญ่จะมีสาม เมล็ด ในหนึ่งผล เยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงส้ม รส เปรี้ ย วอมหวาน มี ก ลิ่ น หอมเฉพาะผลจะ ทะยอยออกในเดือนเมษายน - กรกฎาคม

การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ผลอ่อนและยอด ใช้ แกงเลียงได้ ผลสุก ใช้รับประทานเป็นผลไม้ หากกินผลที่สุกแล้วในปริมาณมาก ๆ ท�ำให้ ระบายท้อง และในช่วงที่ผลแก่มีสีเขียว น�ำไป ปรุงอาหารได้ เพิ่มความเปรี้ยวของรสชาติใช้ แกงส้ม อาหารพืน้ บ้าน จ�ำไรจากป่าชุมชนบ้าน อ่ า วอ้ า ยยอ จั ง หวั ด นครศรี ธ รรมราช เป็ น พรรณไม้ใกล้สญ ู พันธุ์ และเป็นพันธุ์ไม้ทชี่ มุ ชน มีความต้องการอนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

23


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จิกนม

(scandent)

(climber) (scandent) (grafting)

ไม้เลื้อย (climber)

ไม้หัว หรือไม้มีเเลืหง้​้อาย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (bulb, rhizome) (climber) (sucker, stolon)

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

รักษ์ คุณค่าในการอนุ

คุณค่าในการอนุไม้รหักัว ษ์หรือมีเพาะเลี เหง้า ้ยงเนื้อเยื่อ

(tissue culture) ษณ์(bulb, rhizome) คําอธิบายสัญลักษณ์ คําอธิบายสัญลัเป็กนพรรณไม้ ที่ขยายพันธุ์ยาก

ลักษณะวิสยั ความสูง (height) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

คุณค่าในการอนุรักษ์

ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

นธุ์ เป็นพรรณไม้ กล้สูญเป็ พัทนี่ขธุพรรณไม้ ์ ขยายพั เป็นใพรรณไม้ ยายพั นธุห์ยายาก าก

ความสูง เพาะเมล็ด เพาะเ ่น ในกล้ เป็ พรรณไม้ เป็นเฉพาะถิ พรรณไม้ สูญพันธุม์ ีค่า (seed (seed)เป็นพรรณไม้

4-20 m เป็นพรรณไม้ ใกล้สูญ พันธุ์ (height)

ไม้ต้นแผ่เป็นปัรักศมีชํากิ่งหรือเถา

ปักชํา

นพรรณไม้ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น เป็นพรรณไม้เป็เฉพาะถิ ่น ที่ชุมชนมีความ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Barringtonia macrostachya (tree, umbrella(Jack) shape) Kurz (cutting) (tree, umbrella shape) (cuttin อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน ชื่อวงศ์ : LECYTHIDACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง ตอนก (tree, round shape) (air layering) (tree, round shape) (air la ชื่ออื่น : จิกนุ่ม (นครศรีธรรมราช), นมยาน (หนองคาย)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (layering) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (tree, conical shape) ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ดวตานยอดของ รงส่​่มติกรวยแหลม ต้น : เป็นไม้ต้น แตกกิ่งก้านสาขา ออกรอบ ดอก : ออกเป็นช่อยาวอยู ไม้ต้น่ตทรงพุ (tree, spike shape) (budding) (tree,แต่ spikeลshape) ต้น ช่อของดอกจะห้อยหัวลง ะช่อประกอบ ต้น ล�ำต้นสูง 4 - 20 เมตร ไม้พุ่ม เสียบยอด พุ่ม สีชมพู เข้ม สี ใบ : เป็ น ใบเดี่ ย ว ออกเรี ย งสลั บ กั น ไปตาม(shrub)ด้วยดอกเป็นจ�ำนวนมาก ไม้ดอกมี (shoot grafting) (shrub) แดงหรื กลี่งบ มีเกสร ข้อต้น ลักษณะใบเป็นรูปยาวรีปลายใบและไม้พุ่มรอเลื ้อย อสีเขียวขอบแดง มีอยู่ 4 ทาบกิ ไม้ พ ่ ุ ม รอเลื ้ อ ย เป็นจ�ำนวนมากอยู่ในดอก(scandent) (grafting) โคนใบแหลม ขอบใบมี จั ก เล็ ก ๆ ทั่ ว ทั้ ง ใบ(scandent) เลื้อยผล : ลั ก ษณะผล เป็ น รู ป มนรีแยกหน่ า หรือไหล มี เอส้หันว ลํตาม ใบกว้าง 2.5-3 นิ้ว ยาว 3-9 นิ้ว ก้านใบยาวไม้(climber) ไม้เลื้อย (sucker, stolon) ยาว 4 เส้น ผลมีสเี ขียว กว้(climber) าง 1 -เพาะเลี 1.5้ยงเนื นิว้ ้อเยืยาว 1-3 นิ้ว ไม้หัว หรือมีเหง้า ่อ ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ า 2 - 3.5 นิ้ว ภายในผลมีเมล็ดเป็(tissue นรูปculture) ไข่ (bulb, rhizome) (bulb, rhizome)

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

24

ติดตา (budd

เสียบ (shoo

ทาบก (graft

แยกห (suck

เพาะเ (tissu

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

โน้มก (layer

เป็นพ

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้อนุ เฉพาะถิ ่น

เป็นพ

เป็นพ อนุรัก


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านนิคมพัฒนา จังหวัดสงขลา การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ ป ระโยชน์ : สรรพคุ ณ ทาง สมุนไพร ใบ น�ำไปตากแห้ง แล้วน�ำมาต้มกับ น�้ำดื่ม ใช้รักษา แก้ปวดท้อง ราก น�ำมาล้างให้ สะอาด แล้วตากให้แห้ง น�ำมาบดเป็นผง ใช้ทา แก้ขกี้ ลากและแก้เจ็บตา การใช้งานด้านภูมทิ ศั น์

ลักษณะใบเป็นรูปยาวรี เหมาะส�ำหรับปลูก ให้ ร ่ ม เงาในสวนทั่วไป หรือปลูกริมทางเดิน และบริเวณศาลาได้ เหตุผลที่ป่าชุมชนบ้าน นิคมพัฒนาจังหวัดสงขลา ต้องการอนุรักษ์ จิกนมไว้เพราะเป็นพรรณไม้เ ฉพาะท้ อ งถิ่ น เป็ น พรรณไม้มีค่าและใกล้สูญพันธ์ุ

25


คําอธิบายสัญลัก(shoot ษณ์grafting)

(shrub)

ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ไม้เลื้อย (climber)

ลักษณะวิสยั

ญลังกษณ์ คําอธิบายสัญลักษณ์คําอธิบายสัความสู (height)

ไม้หัว หรือมีเหง้ า (bulb, rhizome)

ฉนวน

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

ความสูง (height)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture)

ขยายพ

ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ กลม ด เป็นพรรณไม้หายาก (height) (tree, round(seed) shape)

15-30นmธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพั

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

ปักชํากิํา่งเป็หรืนอพรรณไม้ เถา มีค่า ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่ (cutting) (tree, conical shape) (tree, umbrella shape)

่ง เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา ้นทรงพุ่มตอนกิ กรวยแหลม ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน (tree, spike (air shape) layering) (tree, round shape) ไม้พุ่ม

โน้มกิ่ง

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (shrub) (layering) (tree, conical shape)

พุ่มรอเลื้อติยดตา ่มกรวยแหลม อแยกแขนง ไม้ออกตาม ดอก ไม้: ต้นช่ทรงพุ อดอกแบบช่ ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม (scandent) (tree, spike shape) (budding) (tree, spike shape) ซอกใบใกล้ ป ลายกิ ง ่ ดอกย่ อ ยรู ป ดอกถั ว ่ กลี ไม้เลื้อย เสียบบยอด ไม้พุ่ม เลี้ยงสี(shrub) ม่วงแดงเชื่อมกันเป็นรูปไม้ถ้พุ่มวย (climber) กลีบดอก (shoot grafting) (shrub) ไม้หัว หรือมีเหง้า ทาบกิ่ง สีขาว ไม้5พุ่มรอเลื กลี้อบย ปลายกลีบสีเหลือง (bulb, ออกดอก rhizome) ไม้ พ ่ ุ ม รอเลื ้ อ ย (grafting) เดือนมี(scandent) นาคม – เมษายน (scandent) คุณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อย ผล : (climber) ผลเป็นฝักแบน รูปขอบขนาน ยาว 2.5 (sucker, stolon) ไม้เลื้อย เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก (climber) - 8 เซนติ ไม้หัว หรืเอมตร มีเหง้า ปลายและโคนฝักมน ผลแก่ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หรือมีถเหงุ้นาายน(tissue แห้งสี(bulb, ด�ำไม่rhizome) แตก ผลออกช่วงเดืไม้หอัวนมิ – culture) เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ (bulb, rhizome) คุกัณนค่ยายน าในการอนุรักษ์

คุณค่าในการอนุเป็รนักพรรณไม้ ษ์ เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

26

แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (sucker, stolon)

ลักษณะวิสคุยั ณค่าในการอนุรักษ์ลักษณะวิสยั (tree, ขยายพั นธุ์ umbrella shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dalbergia nigrescens Kurz (tree, umbrella shape) ไม้ต้นทรงพุ่มกลม เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ชื่อวงศ์ : FABACEAE (tree, round shape) ชื่ออื่น : ไฮปันชั้น (ลำ�ปาง), กระพี้โพรง (ราชบุรี), สนวน (ภาคกลาง) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ฉนวนเป็น ไม้ต้นผลัดใบ ขนาดกลาง สูง 15 - 30 เมตร ล�ำต้นเปลาตรง โคนต้นมี พูพอน เปลือกสีเทาอ่อน เรียบ มีสีขาวคาด ตามขวาง เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ ใบ : เป็นใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวปลาย คี่ เรียงแบบสลับ ใบย่อย 7 - 11 ใบ เรียงแบบ สลับ รูปไข่กลับ ยาว 1 - 2.5 เซนติเมตร กว้าง 0.5 - 1 เซนติเมตร ปลายมนหรือเว้า เล็กน้อย โคนใบมนหรือสอบขอบใบเรียบ ผิว ใบทั้งสองด้านเกลี้ยง

ทาบกิ่ง (grafting)

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้อง อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านโป่งกำ�แพง จังหวัดชัยนาท การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ต้นใช้เลี้ยงครั่ง เนื้อ ไม้ทำ� เยือ่ กระดาษ และมีศกั ยภาพในการสร้าง บ้านเรือน เผาถ่าน ด้านสมุนไพร เปลือกต้น ผสมล�ำต้นตาปู ตาเสือ ต้มน�ำ้ ดื่ม แก้คอพอก ด้ า นภู มิ ทั ศ น์ ต้ น ฉนวนมี ท รงพุ ่ ม รู ป ไข่ ใบ ละเอียดเล็ก เมือ่ มีดอกจะสวยงามมาก ผิวของ ฉนวนแปลก ถ้าปลูกในสวนจะเด่น และเป็นร่ม

เงาร่มรื่น ด้านความเชื่อ เชื่อว่าในหมู่บ้านใด มีต้นฉนวนจะท�ำให้เกิดความอยู่เย็นเป็นสุข เป็นศูนย์รวมของหมู่บ้าน ต้นฉนวนมีใบที่มี ขนาดเล็ก ท�ำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก จึงส่ง ผลให้อากาศบริเวณโคนต้นมีความชุ่มชื้น เป็น แหล่งเพาะเห็ดที่ดี และยังเป็นแหล่งที่อยู่ของ สัตว์ แมลงหลายชนิด ท�ำให้บริเวณใกล้เคียง เกิดความสมดุลของการอยู่ร่วมกัน

27


ลักษณะวิสยั

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

รัศมี คํ าอธิบายสัไม้ญต้นแผ่ลัเกป็นษณ์ คําอธิบายสัเป็ญนพรรณไม้ ลักษณ์ เป็นพรรณไม้หายาก ที่ขยายพันธุ์ยาก (tree, umbrella shape)

ชะมวง

ความสูง (height)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture)

ลักษณะวิสยั

ั เป็นพรรณไม้ใกล้สลัูญกพัษณะวิ นธุ์ สย

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ขยายพันธุ์ ขยายพ (tree, round shape) เป็นพรรณไม้มีค่า

ความสูง เพาะเมล็ ความสูง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา ด 10-30 m เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีคว เป็ น พรรณไม้ เ ฉพาะถิ น ่ (height) shape) (height) (tree, conical(seed) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี DC.(tree, umbrella shape)

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยช

กชํากิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงพุ่มปักรวยแหลม (tree, spike shape) (cutting) (tree, umbrella shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Garcinia cowa Roxb. ex ุ่ม ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : CLUSIACEAE ไม้ต้นทรงพุไม้่มพกลม (shrub) round shape) (tree, round ชื่ออื่น : มวงส้ม (นครศรีธรรมราช), หมากโมก (อุ(tree, ดรธานี ), กะมวง (ภาคใต้ ) shape)

ตอนกิ่ง (air layering)

ไม้พุ่มรอเลื้อโน้ ย ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา มกิ่ง (scandent) (layering) (tree, conical shape) ไม้เลื้อย ติดตา ดอก ไม้: ตสี้นทรงพุ เหลื่มอกรวยแหลม ง ชมพู หรือแดง ไม้ต้นดอกแยกเพศ ทรงพุ(climber) ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) shape) อยู่ต่างต้น ดอกเพศผู้ออกเป็น(tree, ช่อspike แบบกระจุ ไม้หัว หรือมีเหง้กา ไม้พุ่ม เสียบยอด กลีบเลี(shrub) ้ยง 4 กลีบ กลีบดอก ไม้4พุ่ม กลี(bulb, บ มีrhizome) เกสร (shoot grafting) (shrub) คุ ณ ค่ า ในการอนุ ร ักยษ์ เพศผูไม้​้จพ�ำุ่มนวนมาก รูปสี่เหลี่ยม ดอกเพศเมีทาบกิ รอเลื้อย ่ง ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent) (grafting) ออกเป็นดอกเดี่ยวปลายก้านเกสรแบนและ (scandent)เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ไม้ เ ลื ้ อ ย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล หยัก 4 - 8 เหลี่ยม ดอกบานเต็ ไม้เลืม ้อยที่กว้าง 0.8 (climber) (sucker, stolon) (climber) เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ - 1 เซนติเมตร ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หัว หรืดอมีเทรงกลม หง้า (tissue culture) ผล : (bulb, ผลสดแบบมี เนื้อหลายเมล็ rhizome) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (bulb, rhizome)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้ตน้ ขนาดกลาง สูง 10 - 30 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มรูปกรวยคว�่ำ พุ่ม ใบห้อยย้อยลง แตกกิง่ ชัน้ เดียว เปลือกเรียบสี น�้ำตาล แตกเป็นร่องลึกตามยาวของล�ำต้น ใบ : เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ใบรูปรีแกมรูปหอก กว้าง 2 - 3.5 เซนติเมตร ยาว 7 - 15 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบ ผิวใบด้านบน เกลีย้ ง มีจดุ และขีด มีร่องตามยาว 6 - 8 ร่อง เมื่อสุกสี เล็ก ๆ สีด�ำ ขอบใบเรียบ ใบอ่อนสีแดงอม คุแป้ ณค่นาในการอนุ รักษ์ ขนาดรัก3ษ์ - 4 เหลือง เส้นแขนงใบถีม่ าก ก้านใบยาว 1 - 1.5 เหลื อ งอมส้ ม ผลแห้ งคุสีณดค่�าำในการอนุ เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เซนติเมตร เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

28

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้อง เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนโนนใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ เซนติเมตร เมล็ดสีส้มขนาดใหญ่เป็นเหลีย่ ม มี 3 - 8 เมล็ดต่อผล การขยายพันธุ์ : โดยการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ด้านอาหาร ยอด อ่อน ใส่อาหารปรุงรส เช่น แกงต่าง ๆ ให้รส เปรีย้ ว หรือน�ำมาท�ำเป็นย�ำยอดชะมวง แกงหมู ชะมวง ผลแก่หรือสุก น�ำมาคั้นเอาน�้ำ ปรุงรส ท�ำเป็นน�ำ้ ผลไม้ ด้านสมุนไพร ใบและผล มีรส เปรี้ยว รับประทาน กัดเสมหะ แก้ธาตุพิการ ระบายท้อง ฟอกโลหิต แก้ไข้ ราก รสเปรี้ยว

แก้ไข้ตวั ร้อน จากการวิจยั ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) พบว่า สารสกัดจากใบชะมวงมีฤทธิ์ยับยั้งการขยาย ตัวของเซลล์มะเร็งปอด และมะเร็งเม็ดเลือด ขาวได้ดี แต่ยงั ต้องมีการศึกษาเพิม่ เติมเพือ่ การ รักษาที่ได้ผลมากขึ้น ชะมวงเป็นพรรณไม้ที่ชุมชนโนนใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ มีความต้องการอนุรักษ์เพื่อ การใช้ประโยชน์ในท้องถิ่นให้อยู่คู่กับท้องถิ่น ต่อไป

29


คําอธิบายสัญลักษณ์ คํ าอธิบายสัไม้เญ ลักษณ์ ลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (scandent)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

(climber)

ลักษณะวิสยั ไม้หัว หรือมีเหง้ลัา กษณะวิสยั ขยายพันธุ์

rhizome) (bulb,คํ าอธิบายสัความสู ญลังกษณ์ คําอธิบายสัญความสู ลักงษณ์ (height)

คุ(height) ณค่าในการอนุ รักษ์

ซาด

(grafting)

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

(sucker, stolon)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture) เพาะเมล็ด (seed)

ขยาย

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ปักชํากิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ลัshape) กษณะวิ สยั (tree, ขยายพั นธุ์ ขยายพั นธุ์ (cutting) เป็นพรรณไม้ หายาก เป็นพรรณไม้ ที่ขยายพันธุ์ยาก umbrella shape) (tree, umbrella

ด ่ง ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ เพาะเมล ไม้ต้นทรงพุ่มกลม กลม ตอนกิ 20-35 m เป็นพรรณไม้มีค่า (seed) เป็นshape) พรรณไม้ใกล้(height) สูญพันธุ์ (tree, round(seed) (tree, round shape) (air layering)

่ง ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมีไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่ ปักชํากิํา่งโน้ หรืมอกิเถา ปักชํากิ่ง เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความ เป็นพรรณไม้ เฉพาะถิ่น (tree, conical shape) (layering) (tree, umbrella shape) (cutting) (tree, conical shape) (tree, umbrella shape) อนุรักษ์เพื่อการใช้ป(cutting) ระโยชน

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Erythrophleum succirubrum Gagnep. ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ่ง ติดตา ้นทรงพุ่มตอนกิ กรวยแหลม ชื่อวงศ์ : FABACEAE ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม (tree, spike shape) (budding) (tree, spike (air shape) (tree, round shape) layering) (tree, round shape) ชื่ออื่น : คราก (ชุมพร), พันซาด (ภาคเหนือ), เตรีย (สุ ไม้พุ่มรินทร์) เสียบยอด ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (shrub) (tree, conical shape)

ไม้พุ่ม

โน้มกิ่ง

ตอนกิ่ง (air laye

(shoot grafting) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (shrub) (layering) (tree, conical shape) ทาบกิ่ง

โน้มกิ่ง

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรร

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรร

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรร อนุรักษ์เ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (layering ไม้พุ่มรอเลื้อย ไม้พุ่มรอเลื้อติยดตา (grafting) ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม (scandent) โคนใบสอบหรื อ ต้น : เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบเรือนยอด ข้าวหลามตัด ปลายใบมน ไม้ต้นทรงพุ ่มกรวยแหลม ติดตา (scandent) (tree, spike shape) (budding) ไม้เลื้อย แยกหน่ อ หัว ลํา หรือไหล (buddin (tree, spike shape) ้ยว ขอบใบเรี ยบ ใบมีขนาดกว้ -5 เป็นพุ่มกลม มีความสูงประมาณ 20 - 35 เบี ไม้เลื้อย างเสี2 (climber) ไม้พุ่ม ยบยอด(sucker, stolon) (climber) เสียบยอ 3ไม้พ-ุ่ม 10 เซนติ เมตร เปลือกล�ำต้นเป็นสีดำ� แตกเป็นร่องค่อน เซนติ (shrub) เ มตร (shootเ มตร grafting) ไม้หัวและยาว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (shrub) (shoot g ไม้หัว หรือมีเหง้า (tissue culture) ไม้พน ุ่มรอเลื ่ง ม ใบเป็้อยนสี(bulb,เขียrhizome) วสด ผิวท้องใบมี(bulb, ขนสัrhizome) น้ ๆทาบกิ ปกคลุ ข้างลึกตามยาวและตามขวางของล�ำต้น เนือ้ ไม้ แผ่ พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง (scandent) (grafting) คุณ:ค่าออกดอกเป็ ในการอนุรักษ์ นพุ่มไม้หรื อ ออกเป็ น ช่ อ ยาว ด้านในเป็นสีขาว และแก่นกลางไม้มีเนื้อแข็ง ดอก (grafting คุ(scandent) ณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อย เป็ น พรรณไม้ ห ายาก ใหญ่ ต ามซอกใบใกล้ จ� ำ นวน เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยๆาก ปลายกิ่ ง มี(sucker, เป็นสีนำ�้ ตาล (climber) stolon) ไม้เลื้อย แยกหน่อ เป็ น พรรณไม้ ท ี ข ่ ยายพั น ธุ ์ ย าก (climber) (sucker, ่ ซอกใบ มีดอกย่อยจ�ำเพาะเลี นวนมาก ใบ : ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชัน้ เรียง 1ไม้ห-ัว 3 หรือช่มีอ เหง้ต่าอหนึง ้ยเป็งเนื ้อเยื่อ นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ (bulb, (tissue culture) ไม้หัว หรือมีเหง้า ดอกเป็ เพาะเลี้ย ย rhizome) ดกั น แน่ น อยู ่ ต ามแกนดอก น สลับ มีชอ่ ใบด้านข้าง 2 - 3 คู่ ในช่อใบมีใบย่อย เบี เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ (bulb, rhizome) พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้(tissue องการ c นพรรณไม้ เฉพาะถิ่นหรือสีขาวปนเหลืองอ่เป็อนน คุณค่าในการอนุ สีเหลืองรักสีเป็ษ์เหลื องนวล ประมาณ 8 - 16 คู่ ออกเรียงสลับ ลักษณะ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ คุณง้ ค่ปีาในการอนุ รนักพรรณไม้ ษ์ เฉพาะถิ่นอม เป็ออกดอกพร้ ต ลอดทั โดยมั ก ของใบเป็นรูปไข่ รูปใบหอก รูปหัวใจ หรือรูป ออกดอกได้ เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

30

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านพรเจริญ จังหวัดนครพนม กับการผลิใบอ่อน เมือ่ มีดอกจะมีกลิน่ เหม็นหืน คล้ายกลิ่นซากเน่าตายแห้งของสัตว์ ผล : ผลมี ลั ก ษณะเป็ น ฝั ก รู ป ขอบขนาน หัวท้ายเรียว กว้าง 2 - 3.5 เซนติเมตร และ ยาว 10 – 20 เซนติเมตร มีเมล็ด 5 – 8 เมล็ด ต่อฝัก เมล็ดมีลักษณะกลมแบน การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ดและ ตอนกิ่ง

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เนือ้ ไม้ ท�ำเครือ่ งมือ ทางการเกษตร ใบและเมล็ด มีสารทีเ่ ป็นพิษรับ ประทานเข้ า ไปจะท� ำ ให้ เ กิ ด อาการมึ น เมา อาเจียน ถ้าเกินขนาดท�ำให้ตายได้ เนื้อไม้ เมื่อ ใช้เผาเป็นถ่านจะให้ไฟแรงได้ดี ด้านต�ำรายา ไทย ต้น แก้ไข้ เชือ่ มซึม เนือ้ ไม้ แก้ไข้ ไม้ซากมี พิษถึงตายได้ ถ้าจะน�ำไปปรุงยาต้องเผาให้เป็น ถ่านไม้แก้พิษไข้

31


ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture)

คําอธิบายสัญลักษณ์

คํานอธิ คําอธิบายสัเป็นญพรรณไม้ ลักทษณ์ ลับกายสั ษณะวิญ สยั ลักษณ์ ี่ขยายพั ธุ ์ ย าก

ตะคร้อ

ลักษณะวิสยั

ั เป็นพรรณไม้ใกล้สลัูญกพัษณะวิ นธุ์ สย

ความสูง

ขยายพั (height) นธุ์

เป็นพรรณไม้หายาก

น เป็นพรรณไม้มขยายพั ีค่า

ความสูง ความสูง ไม้ต้นแผ่เป็นเพาะเมล็ เ รัศมี ด 15-25 m เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีคว (height) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (seed)shape) (height) (tree, umbrella ( อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโย ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ชํากิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้ นรัตศ้นมีทรงพุปั่มกกลม ป (tree, umbrella shape) (cutting) (tree, round shape) (tree, umbrella shape) (

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Schleichera oleosa (Lour.) Oken. ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : SAPINDACEAE (tree, round shape) ชื่ออื่น : ค้อ (กาญจนบุรี), เคาะ (นครพนม, พิษณุโลก)

ตอนกิ่งํา ต้นทรงกรวยคว่ ไม้ต้นทรงพุไม้่มกลม (airshape) layering) conical (tree, round(tree, shape) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา โน้ มกิ่ง ไม้ต้นทรงพุ ่มกรวยแหลม ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (layering) (tree, conical shape) (tree, spike shape) (tree, conical shape) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ติดตา พๆุ่ม โคนใบ ใบมนหรื อหยักมีหางสั้นๆ หรืไม้อตติ้นทรงพุ ่งสัไม้​้น่มกรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) (shrub) (tree, spike shape) มนหรืไม้อพสอบและมั กเบีย้ ว ส่วนขอบใบเรียบเป็ น ุ่ม เสียบยอด ไม้พุ่มรอเลื้อย (shrub) (shoot ไม้พุ่มเมตร และยาว grafting) คลื่น ใบกว้าง 4.5-12 เซนติ (scandent) (shrub) ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง 8-25 เซนติเมตร แผ่นใบค่อนข้าไม้งหนาและ เลื้อย (grafting) (scandent) ไม้พุ่มรอเลื(climber) ้อย เรียบเป็ น คลื น ่ เล็ ก น้ อ ย ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (scandent) ไม้หัว หรือมี(sucker, เหง้า stolon) (climber) ดอก : ออกดอกเป็นช่อ ช่อไม้ดอกมี ความยาว เลื้อย (bulb, rhizome) ไม้หัว หรื อมีเหง้เามตร และช่อดอกมี เพาะเลี (climber)ลก 20-30 เซนติ ั ษณะเป็ น ้ยงเนื้อเยื่อ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 15-25 เมตร แตกกิ่งก้านต�่ำ เรือนยอดเป็นทรงพุ่มแผ่กว้าง กิ่ง ก้ า นมั ก คดงอ ล�ำต้นเป็นปุ่มปม เปลือ ก ล�ำต้นเป็นสีน�้ำตาลแดงหรือเป็นสีน�้ำตาลเทา เปลือกแตกเป็นสะเก็ดหนา ใบ : เป็นใบประกอบแบบขนนก ปลายใบออก เป็นคู่ออกเรียงเวียนสลับ ใบย่อยติดเรียงตรง (bulb, rhizome) คุณค่าในการอนุ(tissue รักษ์ culture) หัว หรือมีอ เหง้ยมี า ขนาด ข้ามหรืออาจเยื้องกันเล็กน้อยประมาณ 1-4 พวงแบบหางกระรอกห้อยลงไม้ดอกย่ คุณค่าในการอนุรักษ์ rhizome) เป็กลี นพรรณไม้ อนๆ บเลีท้ยี่ขยายพั ง นธุ์ยาก คู่ โดยใบคู่ปลายสุดของช่อใบจะมีขนาดใหญ่ เล็กเป็นสีขาวหรือสีเหลืองอ่(bulb, ในการอนุ ักษ์ เป็นพรรณไม้หายาก ที่ขยายพั นธุ์ยากคุณค่ บ รวมมี ข นาดเล็ กามาก มีแรฉกแหลม และยาวทีส่ ดุ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปรี ปลาย หรือเป็กลีนพรรณไม้

ต (

โ (

ต (

เ (

ท (

แ (

เ (

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันเป็ ธุ์ยนากพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันเป็ธุน์ พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องกเ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

32

เ อ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านสามสิบส่างและเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา 5 แฉก ดอกไม่มีกลีบดอก โดยจะออกดอก ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ผล : ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม มีขนาด ประมาณ 2-3 เซนติ เ มตร ปลายผลเป็ น จะงอยแหลมและแข็ง เปลือกผลหนาคล้าย แผ่นหนัง ผิวผลเกลี้ยงเป็นสีเขียวอมสีน�้ำตาล หรื อ เป็ น สี น�้ ำ ตาล ภายในผลมี เ มล็ ด 1-2 เมล็ด มีเนือ้ หุม้ เมล็ดใสสีเหลือง ลักษณะฉ�ำ่ น�ำ้

และมีรสเปรี้ยว โดยจะออกผลในช่วงเดือน มีนาคมถึงเดือนกรกฎาคม, การขยายพั น ธุ ์ : โดยวิ ธี ก ารเพาะเมล็ ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ด้านสมุนไพร ผลสุก หรือเนื้อหุ้มเมล็ดใสสีเหลืองและฉ�่ำน�้ำ มีรส เปรีย้ ว ใช้รบั ประทานเป็นผลไม้ได้ โดยจะนิยมรับ ประทานกันมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเนือ่ งจากเนือ้ ผลมีฤทธิเ์ ป็นยาระบาย การรับ ประทานมากเกินไปอาจท�ำให้ทอ้ งเสียได้

33


ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture)

คําอธิบายสัญลักษณ์

คํานอธิ บายสัญั ลักษณ์ คําอธิบายสัเป็นญพรรณไม้ ลักทษณ์ ี่ขยายพั ธุ์ยากลักษณะวิสย

ตะเคียนทอง

ลักษณะวิสยั

ั เป็นพรรณไม้ใกล้สลัูญกพัษณะวิ นธุ์ สย

ความสูง

ขยายพั (height) นธุ์

เป็นพรรณไม้หายาก

น เป็นพรรณไม้มขยายพั ีค่า

ความสูง ความสูง ไม้ต้นแผ่เป็นเพาะเมล็ เ รัศมี ด 20-40 m เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีคว (height) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (seed)shape) (height) (tree, umbrella ( อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโย ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ชํากิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้ นรัตศ้นมีทรงพุปั่มกกลม ป (tree, umbrella shape) (cutting) (tree, round shape) (tree, umbrella shape) (

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hopea odorata Roxb. ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : DIPTEROCARPACEAE (tree, round shape) ชื่ออื่น : โกกี้ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่), จืองา (นราธิวไม้าส) ต้นทรงกรวยคว่ํา

ตอนกิ่งํา ต้นทรงกรวยคว่ ไม้ต้นทรงพุไม้่มกลม (airshape) layering) conical (tree, round(tree, shape) โน้ มกิ่ง ไม้ต้นทรงพุ ่มกรวยแหลม ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (layering) (tree, conical shape) (tree, spike shape) (tree, conical shape) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ติดตา ไม้ช่พอุ่ม ยาว ๆ ดอก(tree, : สีspike ขาว มี ข นาดเล็ ก ออกเป็ น ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม shape) (budding) (shrub) (tree, spike shape) ตามง่ไม้าพมใบและปลายกิ ่ง มีกลิ่นหอมก้านช่ อ ุ่ม เสียบยอด ไม้พุ่มรอเลื้อย (shrub) (shoot ดอก ก้านดอกและกลีบเลี้ยไม้งพุ่มมีขนนุ ่ม กลีบ grafting) (scandent) (shrub) ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง ดอกและกลี บ เลี ย ้ งมี อ ย่ า งละ 5 กลีไม้บเลืโคนกลี บ ้อย (grafting) (scandent) ไม้พุ่มรอเลื(climber) ้อย เชื่อมติ ไม้เด ลื้อกั ยน แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (scandent) ไม้หัว หรือมี(sucker, เหง้า stolon) (climber) ผล : กลมหรื อ รู ป ไข่ เ กลี้ ยไม้ง ปลายมนเป็ เลื้อย (bulb, rhizome)น ไม้หัว หรือมีเหง้า (climber) ติ่ ง คล้ า ยหนามแหลม ขนาดเส้ น ผ่เพาะเลี า น ้ยงเนื้อเยื่อ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้ต้นไม่ผลัดใบขนาดใหญ่ ล�ำต้น เปลาตรง สูง 20 - 40 เมตร เรือนยอดเป็น ทรงพุ่มกลม เปลือกหนาสีน�้ำตาลด�ำแตกเป็น สะเก็ด กะพี้สีนำ�้ ตาลอ่อน แก่นสีนำ�้ ตาลแดง ใบ : เป็ น ใบเดี่ ย วรู ป ไข่ แ กมรู ป หอกหรื อ รูปดาบ ขนาด 3 – 6 x 10 - 15 เซนติเมตร เนื้อใบค่อนข้างหนาปลายใบเรียว โคนใบมน (bulb, rhizome) คุณค่าในการอนุ(tissue รักษ์ culture) ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ า ป้ า นและเบี้ ย ว หลั ง ใบมี ตุ ่ ม คอมเมเซี ย ศู น ย์ ก ลาง 0.6 เซนติ เ มตร ปี ก ยาว 1 คู ่ คุณค่าในการอนุรักษ์ (bulb, rhizome)พรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เกลีย้ ง ๆ อยูต่ ามง่ามแขนงใบ เส้นแขนงใบมี 9 รูปใบพาย ปลายปีกกว้างค่อย ๆ เรีเป็ยนวสอบมา ษ์ กสัเป็น เป็นพรรณไม้ ธุ์ยากคุณค่าในการอนุ ทางโคนปี ก เส้ที่ขนยายพั ปีกนตามยาวมี 7 เส้รนัก ปี ้ นพรรณไม้ มี หายาก - 13 คู่ ปลายโค้งแต่ไม่จรดกัน เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ความยาวไม่ เ กิ น ความยาวตั ว ผล เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันเป็ ธุ์ยนากพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ต (

โ (

ต (

เ (

ท (

แ (

เ (

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันเป็ธุน์ พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องกเ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

34

เ อ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านวังศิลาดิเรกสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการผลิตกล้าจาก เมล็ ด แต่ ป ั ญ หาในการผลิต กล้ า จากเมล็ ด ตะเคียนทอง เมล็ดไม้ตะเคียนทองเป็นเมล็ดที่ สู ญ เสี ย ความงอกไว มี ค วามยุ ่ ง ยากในการ รั ก ษาเมล็ ด สื บ เนื่ อ งจากเมล็ ด มี ค วามชื้ น สูง ซึ่งพร้อมที่จะงอกทันทีเมื่ออยู่ในสภาวะสิ่ง แวดล้อมทีเ่ หมาะสมนอกจากนีไ้ ม้ตะเคียนทอง จะให้เมล็ด 2 - 3 ปีต่อครั้ง แต่ละครั้งก็ให้ เมล็ดไม่มาก

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : จัดเป็นไม้ที่มีคุณค่า ทางเศรษฐกิจชนิดหนึง่ ของประเทศไทย เนือ้ ไม้ ใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน สะพาน หมอนรองรางรถไฟ ตั ว ถั ง รถ เรื อ นต่ า งๆ เครื่องเรือน เปลือก น�ำฝาดใช้ต้มกับเกลือ อม ป้องกันฟันหลุด แก่น ใช้ผสมกับยารักษาทาง เลือดลม ยาง ใช้ผสมน�้ำมันทารักษาบาดแผล ชั น ใช้ ผ สมน�้ ำ มั น ทาไม้ ยาแนวเรือ และท� ำ น�้ำมันชักเงา

35


(climber) (grafting) คําอธิบายสัญลั(scandent) กษณ์ ไม้หัว หรือมีเหง้า

(scandent)

ไม้เลื้อย (climber)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ลักษณะวิสยั

ขยายพันธ

คุณ ในการอนุ รักษ์ ้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หค่ัวาหรื อมีเหง้า เพาะเลี

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome) ความสูง

ญลักษณ์(bulb, rhizome) (tissue culture) คําอธิบายสัญลักษณ์คําอธิบายสั(height) เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

คุณค่า ในการอนุรักษ์

ตังหน

แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อย (sucker, stolon) (climber) (bulb, rhizome)

ลักษณะวิสยั ความสูง (height) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

คุณค่าในการอนุรักษ์

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

ลักเป็ษณะวิ สยัที่ขยายพั ขยายพั ขยายพั เป็นทพรรณไม้ สูญพันนธุหธุ์​์ ายาก นพรรณไม้ นธุ์ยumbrella าก นธุ์ shape) เป็นพรรณไม้ ี่ขยายพัเป็นในกล้ ธุพรรณไม้ ์ยาก (tree, 20 m

ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ กลม ด

เป็นพรรณไม้ ใกล้สูญพันธุ์ (height)

ปักชํากิํา่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่

ปัก (cu

เพาะเมล็ด ตอ

นพรรณไม้ มีค่า เป็นพรรณไม้เป็เฉพาะถิ ่น(seed)

(tree, round(seed) shape)เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เพา (se

(air

ปักชํากิ่งหรือโน้เถาม

เฉพาะถิ่น เป็นพรรณไม้เฉพาะถิเป็ ่น นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Calophyllum calaba (tree, L. umbrella shape) เป็นพรรณไม้ (tree,shape) conical(cutting) shape) (lay (tree, umbrella อนุรักษ์เพื่อ(cutting) การใช้ประโยชน ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ่ง ้นทรงพุ่มตอนกิ กรวยแหลม ชื่อวงศ์ : CALOPHYLLACEAE ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม ตอนกิ่ง ติด (tree, spike (air shape) (bu (tree, round shape) layering) (tree,ดround shape) (air layering) ชื่ออื่น : ตันหนใบเล็ก (นราธิวาส), พะอูง (หนองคาย), พังหันเกล็ แรด (จันทบุรี)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

ไม้พุ่ม

โน้มกิ่ง

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (shrub) (layering) (tree, conical shape)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้พุ่มรอเลื้อติยดตา ่มกรวยแหลม กลางใบมี ขน เส้นแขนงใบขนานตรงถี ่จ�ำนวน ต้น : เป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงใหญ่สูงได้ถึงไม้ต้นทรงพุ ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่มกรวยแหลม (scandent) (tree, spike shape) (budding) (tree, spike1shape) เซนติเมตร 20 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลมไม้พุ่ม มากไม่ชดั เจน ก้านใบยาว ไม้เลื้อย1.8 เสียบยอด ไม้พุ่ม (climber) (shoot grafting) ค่อนข้างทึบ เปลือกสีนำ�้ ตาลปนเทา แตกเป็น(shrub)มีขนสีน�้ำตาล (shrub) ไม้หัว หรือมีเหง้า ้อย : สีขาวมีกลิ่นหอมเย็ ทาบกิ่งนช่อแบบ ดอก น ออกเป็ ร่อง เป็นสะเก็ดทัว่ ล�ำต้น กิง่ ก้านมีขนสีนำ�้ ตาลไม้พุ่มรอเลื (bulb, rhizome) ไม้ พ ่ ุ ม รอเลื ้ อ ย (grafting) ช่อกระจะ ตามซอกใบและตามกิ ่งที่ใบหลุดไป ตังหนจะขึ้นในป่าเบญจพรรณหรือป่าดิบชื้น (scandent) (scandent) คุณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อย 2.5 เซนติ เมตร ใบ : เป็นใบเดีย่ ว เรียงตรงข้าม ใบรูปไข่หรือรูป(climber)แล้ว ช่อดอกยาว 1.5 (sucker, stolon)มี 5 ไม้เลื้อย เป็ น พรรณไม้ ท ี ข ่ ยายพั นธุ์ยาก ง 4 กลีบ รูปเพาะเลี ขอบขนานลู กลมมน กว้าง 3 - 6 เซนติเมตร ยาว 4.5 - 8ไม้หัว หรื- อ10 มีเหง้าดอก กลีบเลี้ย(climber) ้ยงเนื้อเยื่อ ่ rhizome) (tissue หัว ม หรืีก อมีลีเหง้บาดอก มีขนทั้งสองด้านไม้ไม่ มีเculture) กสรเพศ เซนติเมตร ปลายใบแหลม หรือเว้าเข้า โคนใบ(bulb, ลง เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ (bulb, rhizome) ค่าในการอนุ ักษ์ ผูจ้ ำ� รนวนมาก สีขาว เกสรเพศเมียสีเหลือง โคน มน ขอบใบเรียบ แผ่นใบหน ผิวใบด้คุาณนบนสี คุณวค่มมี าในการอนุ ษ์บ 2เฉพาะถิ เป็รนัก พรรณไม้ ก้านที่ขยายพั ช่อดอกร่ ใบประดั ใบ่น มีขนสี เขียวเข้ม เป็นมัน ด้านล่างสีเขียวอ่อน เส้นเป็นพรรณไม้ เป็นพรรณไม้หายาก นธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

36

เสีย

โน้มกิ่ง (sh (layering)

ทา

ติดตา (gr (budding)

แย

เสียบยอด (su (shoot grafting) เพา

ทาบกิ่ง (tis (grafting)

แยกหน่อ หัว ลํา เป็น (sucker, stolon)

เพาะเลี้ยงเนื้อเย เป็น (tissue culture)

เป็น อน

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หา

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ช อนุรักษ์เพื่อการ

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านนิคมพัฒนา จังหวัดสงขลา น�้ ำ ตาลทั้ ง 2 ด้ า น ดอกบานเต็ ม ที่ ก ว้ า ง ประมาณ 8 มิลลิเมตร ระยะการเป็นดอก เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน ผล : ผลสดเมล็ดเดียว สีเขียว ค่อนข้างกลม ขนาด 0.8 - 1.1 เซนติเมตร ผลสุกสีเหลือง เมื่ อ แห้ ง เป็ น สี น�้ ำ ตาลแดง ปลายผลเป็ น ติ่งแหลม ก้านผลยาว 0.5 - 1 เซนติเมตร ผลออกช่วงเดือนธันวาคม - เมษายน การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ชัน ใช้ยาครุและ เรือ เนื้อไม้ใช้ในการก่อสร้าง การใช้งานด้าน ภูมทิ ศั น์ พุม่ ใบมันสวยงามและดอกหอม ปลูก ให้ร่มเงาในสวนทั่วไปได้ ผล มีรสเปรี้ยวรับ ประทานได้ ตังหนเป็นพรรณไม้เฉพาะท้องถิ่น เป็นพรรณไม้มีค่า และเป็นพรรณไม้ใกล้สูญ พันธุ์ที่ชุมชนบ้านนิคมพัฒนาจังหวัดสงขลา ต้องการอนุรักษ์ไว้

37


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

(climber)

(climber) (sucker, stolon)

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

ไม้หัว หรือมีเพาะเลี เหง้า ้ยงเนื้อเยื่อ (bulb, rhizome) (tissue culture)

คุณค่าในการอนุรักษ์

ประ

คุณค่าในการอนุรักษ์

คํ าอธิบายสัญลักษณ์เป็นพรรณไม้หายาก คําอธิบายสัญลักเป็ษณ์ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

สยั นธุ์ เป็นพรรณไม้เป็ใกล้ นพรรณไม้ สูญพันธุม์ ีค่า ขยาย เป็นพรรณไม้ใกล้สลัูญกพัษณะวิ นธุ์ ขยายพั

ความสูง เพาะเมล็ด นพรรณไม้ ่น ที่ชุมชนมีควา (seed)เป็นพรรณไม้เป็เฉพาะถิ

20-40 m เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ ่น (height)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Elateriospermum tapos Blume ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : EUPHORBIACEAE (tree, round shape) ชื่ออื่น : ปีระ (มาเลเซีย-ยะลา)

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน

ไม้ต้นแผ่เป็นปัรักศมีชํากิ่งหรือเถา (cutting) (tree, umbrella shape)

ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง (air layering) (tree, round shape) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา โน้มกิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (tree, conical shape) (layering) (tree, conical shape) ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ดตา แดง คลื่นเล็กน้อย เมื่อแตกใบอ่อนจะมี สีช่มติกรวยแหลม มพู ไม้ต้นทรงพุ (tree, spike shape) (budding) spike shape) ใบแก่สีเหลืองอมเขียวหรือสีน(tree, �้ำตาล เป็นไม้ ไม้พุ่ม เสียบยอด ุ่ม มภาพันธ์ผลั ดใบตลอดปี จะผลัดในช่วงเดืไม้อพนกุ (shrub) (shoot grafting) (shrub) มีไม้นพาคม นประจะไม่ทาบกิ ปรากฏ ุ่มรอเลื้อการแตกยอดของต้ ย ่ง ไม้พุ่มรอเลื้อ(grafting) ย (scandent) เป็นช่วงที่แน่นอนตายตัว และความถี ่ในการ (scandent) ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล งอกของใบอ่ อนต่อปีนั้นจะขึ้นไม้อยู ปริมาณ เลื้อย่กับ(sucker, (climber) stolon) (climber) แสงคื อ ภายใต้แสงจ้า ประจะมีการแตกยอด ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้ ห ว ั หรื อ มี เหง้า culture) อ่(bulb, อนมากกว่ rhizome) าแสงน้อย (tissue (bulb, rhizome)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ประเป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ เปลือกมียาง เหนียว ล�ำต้นตรง สูงประมาณ 20 - 40 เมตร มีถนิ่ ก�ำเนิดอยูภ่ าคใต้ของประเทศไทย มาเลเซีย และยังพบอยู่ในแถบหมู่เกาะสุมาตรา ต้นประ จะเจริญ เติบ โตได้ ดีใ นดิน ที่มีธ าตุ อ าหารสู ง ปริมาณน�้ำในดินต�่ำ ต้นประมีวงจรชีวิตเกี่ยว พันกับฤดูกาลและภูมิอากาศ ใบ : ใบเดี่ยวเรียงสลับกันใบเป็นรูปรี โคนใบ ดอก : รออกดอกที ่ปลายกิ่งเป็นช่อสีขาวนวล มนกิ่งแหลม ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็ คุณนค่าในการอนุ ักษ์ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

38

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้อนุ เฉพาะถิ ่น


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

พันธุ์ไม้จากป่าชุมชนบ้านอ่าวอ้ายยอ จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือสีครีม ดอกแยกเพศ ดอกตัวผู้มกี ลีบเลีย้ ง 4 - 6 กลี บ ดอกตั ว เมี ย รั ง ไข่ มี สี ช มพู อ ่ อ น ออกดอกเดือนมีนาคมถึงเมษายน หลังจาก ออกดอก ต้นประจะแตกยอดพร้อมกันท�ำให้มี ใบอ่อนสีแดงเกิดขึ้นสังเกตเห็นได้ชัด และเมื่อ สังเกตที่ป่าประจะเห็นป่าเป็นสีแดงสดทั้งป่า ผล : เป็นผลในเดือนเมษายน - พฤษภาคม ผล มี เ ปลื อ กข้ า วลั ก ษณะเป็ น พู มี 3 พู ผลอ่ อ น สีเขียว เมื่อแก่เป็นสีด�ำปนน�ำ้ ตาล ภายในมี 3 เมล็ด ผลแก่จะแตก เมล็ดจะกระเด็นไปได้ไกล

เมล็ดมีเปลือกแข็งหุ้มสีนำ�้ ตาลผิวมัน เนื้อข้าง ในเป็นสีขาวนวล คล้ายลูกยางพารา การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : การต้มท�ำให้สกุ แล้ว น�ำไปดองในน�้ำเกลือ เก็บไว้บริโภคได้นาน ลูก ประดองแกะเปลือกออกน�ำไปประกอบอาหาร ได้หลายอย่าง เช่น แกงส้ม แกงพุงปลา ต้ม กะทิ หรือเหนาะข้าวหรือขนมจีน ให้รสชาติ เปรี้ยวมันอร่อยมาก ลูกประสดน�ำไปปิ้งท�ำน�้ำ พริกลูกประเก็บไว้ได้นาน

39


คําอธิบไม้หายสั ญลักษณ์ คํ าอธิบายสัญลัไม้กพษณ์ ไม้ ุ่มรอเลื ้อยเลื้อย ัว หรือมีเหง้า ไม้เลื้อย (climber) (shrub) (scandent)

ลักษณะวิสยั

(scandent)(climber)(bulb, rhizome)

ลักษณะวิสยั

ไม้เลื้อยคุณไม้ค่หาัว ในการอนุ รักษ์ นธุ์ หรือมีเหง้า ขยายพั (climber) (bulb, rhizome) ความสูง

(sucker, stolon) (scandent) (shoot grafting) (grafting) ้ยงเนื ้อเยื่อ ทาบกิ่ง แยกหน่อ เพาะเลี หัว ลํา หรื อไหล (tissue culture) (climber) (grafting)(sucker, stolon)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่ ชุมชนบายสัญลักษณ์คําอธิบายสัญลักษณ์ คํ าาอธิ

พะยอม

ลักษณะวิสยั

ขยายพันธุ์

หัว ลํา้ยหรื ไม้หัว หรือมีแยกหน่ เหง้า อ เพาะเลี งเนือ้อไหล เยื่อ (sucker, stolon) (bulb, rhizome) (tissue culture) เพาะเมล็ ด ความสูง เพาะเมล็ด เป็ น พรรณไม้ หายาก เป็ น พรรณไม้ ท ี ข ่ ยายพั น ธุ ์ ย าก (height) (seed) ไม้ณ หัวค่หรื อมีเหง้า รักษ์ คุ (height) (seed) คุณ ค่าในการอนุเพาะเลี รักษ์ ้ยงเนื้อเยื่อ าในการอนุ (bulb, rhizome) (tissue culture) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ปักชํากิ่งหรือเถา ปักชํากิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ลัshape) กษณะวิสเป็ยั นพรรณไม้ ขยายพั นธุ์ าก เป็(cutting) ขยายพั นธุธุ์ ์ยshape) นหพรรณไม้ เป็ นพรรณไม้ สาก ูญพั(cutting) นธุ์ เป็นพรรณไม้ ายาก มีค่า ทumbrella ี่ขยายพัในกล้ ที่ขยายพัเป็นธุน์ยพรรณไม้ (tree, umbrella คุณค่าในการอนุ รักษ์(tree,

ความสูง (height)

ด ่ง ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ไม้ต้นทรงพุ่มกลม กลม ตอนกิ 15-20 นมพรรณไม้ ที่ชุมชนมีควา เป็นmพรรณไม้ ี่ขยายพั นธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ เพัฉพาะถิ ีค่า เป็ทนพรรณไม้ สูญ(seed) นธุ์ ่น(air layering) เป็นพรรณไม้เป็ในกล้พรรณไม้ สูญ(seed) พัเป็นนธุหพรรณไม้ ์ ายากเป็(air (tree, round shape) (height) (tree,ใกล้ round shape) layering) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน ่ง ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมีไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่ ปักชํากิ่งโน้ หรืมอกิเถา มกิ่ง ปั่นเป็กนชํมพรรณไม้ ากิีค่ง่าหรือโน้เถา นพรรณไม้ เป็นพรรณไม้ กล้สูญพันเฉพาะถิ ธุ์ ่น ํา ที่ชุมชนมีความต้องการ เป็นใพรรณไม้ เป็นพรรณไม้เป็เฉพาะถิ (tree, conical shape) (layering) (tree, umbrella shape) (cutting) (tree, conical shape) (layering) (tree, umbrella shape) (cutting) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ติ ด ตา ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ่ง ไม้่มต่นกลม ้นทรงพุ่มตอนกิ กรวยแหลม ตา องการ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีติคดวามต้ เป็นพรรณไม้ ฉพาะถิ ไม้ต้นเทรงพุ ตอนกิ่ง (tree, spike shape) (budding) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Shorea roxburghii G. Don ชื่อวงศ์ : DIPTEROCARPACEAE (tree, spike (air shape) (tree, round shape) layering) (tree, round shape) ชื่ออื่น : กะยอม (เชียงใหม่), แคน (เลย), ไม้พุ่มพะยอมทอง (ปราจีนบุรี, สุเสีรยาษฎร์ บยอด ธานี) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (shrub) (tree, conical shape)

ไม้พุ่ม

โน้มกิ่ง

(budding)

(air layering)

เสียบยอด

(shoot grafting) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (shrub) (layering) (tree, conical shape) ทาบกิ่ง

โน้มกิ่ง (shoot grafting) (layering)

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้พุ่มรอเลื้อย พุ่มรอเลื้อติยดตา (grafting) ทาบกิ่ง ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม (scandent) ชั ด เจน ใบมีคไม้วามยาว 12-18 เซนติเมตร ต้ น : เป็ น ไม้ ต ้ น ขนาดกลางถึ ง ขนาดใหญ่ ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ติ ด ตา (scandent) (grafting) (tree, spike shape) (budding) ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (budding) (tree, spike shape) และกว้าง 6-8 ผลัดใบสูง 15 -20 เมตร เส้นผ่าไม้นศู นย์กลาง ไม้เลืเซนติ ้อย เสีเยมตร แยกหน่อ หัว ลํา หรือไ (climber) พุ่ม บยอด(sucker, stolon) (climber) (sucker, stolon) ไม้ พ ม ่ ุ เสี ย บยอด : ออกดอกเป็น(shoot ช่อgrafting) ใหญ่ ของล�ำต้นอาจยาวถึง 300 เซนติ(shrub) เมตร เปลืไม้อหกัว หรือมีดอก เหง้า เพาะเลี้ยงเนืออกดอกตาม ้อเยื่อ (shrub) (shoot grafting) ไม้หัว หรือมีเหง้า (tissue culture) ้ยงเนื้อเยื่อ ไม้พุ่มนรอเลื ย (bulb, rhizome) ทาบกิ ส่วนยอดของต้(bulb, น ดอกมี สเี ่งหลืองอ่อนและมีกลิน่ เพาะเลี ต้นมีสีน�้ำตาลหรือสีเทาเข้ม แตกเป็ ร่อ้องตาม rhizome) (tissue culture) ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง (scandent) (grafting) คุ ณ ค่ า ในการอนุ ร ก ั ษ์ กลีบ 3 กลีบ กลีบดอกเรียบโค้ ง ยาวและเป็นสะเก็ดหนา เนื้อไม้มีสีเหลืองถึงสี หอม ดอกมี (grafting) คุ(scandent) ณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อย เป็มตร นพรรณไม้โคนกลี หายาก บดอก น้อนธุย์ยไม้ากเยาว 4-6 เซนติ เป็นพรรณไม้เล็ ที่ขก ยายพั น�้ำตาล ลักษณะของต้นเป็นทรงพุ(climber) ่มกลม แตก (sucker, เstolon) ลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล เป็ น พรรณไม้ ท ี ข ่ ยายพั น ธุ ์ ย าก (climber) (sucker, ติดกับก้านดอกมีลกั ษณะกลม ออกดอกพร้ อม stolon)เป็นพรรณไม้หายาก กิ่งก้านสาขา จ�ำนวนมาก ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยเป็งเนื ้ อ เยื อ ่ นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ rhizome) ้ยง กันเกือบทั ไม้หัว้งหรื า (tissue culture) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ต้อนเป็มีเนหง้ออกดอกในช่ วงเดือนธันวาคม ใบ : ลักษณะของใบเป็นรูปมนรี(bulb, ผิวใบเกลี เป็นพรรณไม้มีค่า พรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ (bulb, rhizome) (tissue culture) เป็ น พรรณไม้ ท ี ่ ช ม ุ ชนมี ค วามต้ อ งการ เป็ น พรรณไม้ เ ฉพาะถิ น ่ คุ ณ ค่ า ในการอนุ ร ก ั ษ์ เป็นมัน โคนใบสอบมน ปลายใบแหลม ขอบ - กุมภาพันธ์ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีค คุณค่าในการอนุเป็รนักพรรณไม้ ษ์ เฉพาะถิ่น เรียบเป็นคลื่น ด้านหลังใบจะมีเส้เป็นนใบมองเห็ น เป็นพรรณไม้หายาก พรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโ เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

40

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านหนองยาง จังหวัดพิษณุโลก ผล : ผลมีปีก ลักษณะเป็นทรงไข่และกระสวย ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ซ่อนตัวอยู่ใน กระพุ้ง โคนปีกมีปีก 5 ปีก ประกอบด้วยปีก ยาวรู ป ขอบขนาน 3 ปีก ยาวประมาณ 8 เซนติเมตร มีเส้นตามยาวของปีกประมาณ 10 เส้น และปีกสั้นมี 2 ปีก มีความยาวไม่เกิน 3 เซนติเมตร ในผลมีเมล็ดหนึ่งเมล็ด ออกผล ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ดและ การตอนกิ่ง

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ไม้พะยอม มีสเี หลือง อ่อนถึงสีน�้ำตาล สามารถน�ำมาใช้ในการก่อ สร้างทั่วๆไปได้ ดอก ใช้ผสมเป็นยาแก้ไข้ เป็น ยาหอมไว้แก้ลม เปลือกต้น ใช้กินแทนหมาก ช่วยแก้ล�ำไส้อักเสบ และมีสารแทนนิน มากใช้ เป็ น ยาฝาดสมานแผลในล� ำ ไส้ ดอกอ่ อ น สามารถน�ำมารับประทานสด ลวกไว้จมิ้ กินกับ น�ำ้ พริก น�ำมาผัดกับไข่ ชุบไข่ทอด รับประทาน เป็นน�้ำซุปร้อนๆ และน�ำมาแกงส้มก็ได้เช่นกัน

41


่ง (shrub) คําอธิบายสัญลักตอนกิ ษณ์

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ไม้ ห ว ั หรื อมีเหง้า (tree, round shape) (bulb, rhizome) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา ลักษณะวิสยั ณค่าshape) ในการอนุรักษ์ (tree,คุconical ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม เป็ น พรรณไม้ ท ี ข ่ ยายพั นธุ์ยาก (height) (tree, spike shape)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน คํ าอธิบายสัญลักษณ์คําอธิบายสัญลักษณ์

พันจ�ำ

ลักษณะวิสยั

ไม้พุ่ม (shrub)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

้ยงเนื้อเยื่อ (air layering) ไม้พุ่มรอเลื้อเพาะเลี ย (tissue culture) (scandent) โน้มกิ่ง ขยายพันธุ์ ไม้เลื้อย (layering) (climber) เพาะ ติดตา เป็ นาพรรณไม้หายาก (seed ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ (budding) (bulb, rhizome)

เสียบยอด ลัเป็กนษณะวิ ยั สูญ(tree, ขยายพั นธุ์ shape) พรรณไม้สใกล้ พันธุ์ umbrella

ปักชํา

ขยายพั นธุ์ มีค่า (cutti เป็นพรรณไม้ คุณ(shoot ค่าในการอนุ grafting) รักษ์

ด ่ง เพาะเมล็ด ตอนก กลม ทาบกิ ไม้พุ่มรอเลื้อย 40 m ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ พรรณไม้ เป็นพรรณไม้เป็ทนี่ขยายพั นธุ์ยทากี่ชุมชนมีควา เป็นพรรณไม้ เฉพาะถิ่น (seed) (height) (seed) (tree, round shape) (air la (scandent) (grafting) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยช ไม้ต้นแผ่เป็นรัไม้ศมีเลื้อย ปักชํากิํา่งแยกหน่ หรือเถาอ หัว ลํา หรือไหล ปักชํากิ่งหรือโน้ ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่ เถามก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ (tree, umbrella shape) (cutting) (climber) (sucker, stolon) (tree, conical shape) (laye (tree, umbrella shape) (cutting) ความสูง (height)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vatica odorata (Griff.) Symington ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ไม้หัว หรือมีเหง้า ชื่อวงศ์ : DIPTEROCARPACEAE (tree, round shape) (bulb, rhizome) ชื่ออื่น : ซีดง (หนองคาย), ยางหนู (แพร่), สักเขา (ตรัง) ไม้ตคุ้นณ ทรงกรวยคว่ ํา รักษ์ ค่าในการอนุ (tree, conical shape)

ตอนกิ่ง เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

้นทรงพุ่มกรวยแหลม เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นตอนกิ่ง ติดตา ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม layering) (tissue culture) (tree, spike (air shape) (budd (tree, round shape) (air layering) ไม้พุ่ม

โน้มกิ่ง

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (layering) (shrub) (tree, conical shape) นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ไม้ต้นทรงพุ่มเป็ กรวยแหลม ติดตา เป็นพรรณไม้หายาก

เสียบ

โน้มกิ่ง (shoo (layering)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบก เกลี้ยง ยกเว้นเส้นไม้กลางใบ เส้น(budding) แขนงใบ 9 – ต้ น : พั น จ� ำ เป็ น ไม้ ต ้ น สู ง ได้ ถึ ง 40 เมตร ต้นทรงพุ(scandent) ่มกรวยแหลม ติดตา (tree, spike shape) (graft เป็ น พรรณไม้ ม ี ค ่ า (tree, spike shape) (budding) เป็ น พรรณไม้ ใ กล้ ส ญ ู พั น ธุ ์ เรือนยอดเป็นทรงพุม่ สูง ถึงค่อนข้างกลม ล�ำต้ไม้นพุ่ม 15 คู่ เส้นร่างแหเด่นชัดไม้ก้เลืา้อยนใบยาว เสียบยอด1 – 1.5 แยกห (shrub) เซนติเมตร มีขน ไม้พุ่ม (climber) (shoot grafting) (suck เสี ย บยอด เปลาตรง เปลือกเรียบ สีนำ�้ ตาลเทาถึงสีเทาคล�ำ้ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (shrub) (shoot grafting) ไม้พุ่มรอเลื้อย ไม้หัว หรือมีทาบกิ เหง้า ่ง อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เพาะ ดอก : ดอกเล็ก สีขาวนวลถึ งrhizome) เหลื องอ่อน ออก มักตกชันสีขาวขุน่ ถึงเหลืองอ่อนตามรอยแตก (scandent) (grafting) (bulb, ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง (tissu ่งและตามง่ าม กิง่ อ่อน และช่อดอก มีขนนุม่ สีนำ�้ ตาลแดงหนา ไม้เลื้อย เป็ น ช่ อ แยกแขนงตามปลายกิ (grafting) คุ(scandent) ณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล (climber) (sucker, stolon) อ นพฤศจิ ก ายน – แน่ น มี ก ารกระจายพั น ธุ ์ ใ นป่ า ดิ บ ที่ ลุ ่ ม ต�่ ำ ใกล้ ย อด ดอกจะบานเดื ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา ห เป็นพ ไม้หัว หรืมี อมีนเหง้ า เพาะเลี ้ ย งเนื ้ อ เยื อ ่ เป็ น พรรณไม้ ท ี ข ่ ยายพั น ธุ ์ ย าก (climber) (sucker, stolon) าคม ดอกบานพร้อมกันทัง้ ช่อและออกดอก ทั่วทุกภาคของประเทศ (bulb, rhizome) (tissue culture) หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ใบ : ใบเดีย่ วเรียงสลับ แผ่นใบรูปรี รูปไข่ถงึ รูป เต็มต้นอยู่ได้ 2 สัปไม้ดาห์ เป็นพ เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ คุณค่าในการอนุรักษ์ (bulb, rhizome) (tissue culture) ขอบขนาน กว้าง 2.5 – 5.5 เซนติเมตร ยาว ผล : ผลค่อนข้างกลม ปลายเป็นติง่ แหลม เส้น นเซนติ พรรณไม้ เป็นพ ณค่าในการอนุ ษ์ เป็เฉพาะถิ เป็นพรรณไม้ ี่ขยายพั ่น หเายาก ผ่ าทนศู นนย์ธุ์ยกากคุลาง 0.5 เป็–รนักพรรณไม้ 0.7 มตร 7 - 16 เซนติเมตร ปลายใบมนเป็นติ่งแหลม อนุรัก มีปใีกกล้ยาว 2 ปี ก ปี ก สั น ้ 3 ปี ก โคนปี ก เชื อ ่ มติ ด ถึงเรียวแหลม โคนใบมน ถึงสอบรูปลิ่ม ผิวเป็ใบนพรรณไม้ เป็นพรรณไม้หายา เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันเป็ธุ์ยนาก พรรณไม้มีค่า สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพัเป็ นธุน์ พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

42

เป็นพรรณไม้ที่ชุม อนุรักษ์เพื่อการใช


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนโคกป่าซี จังหวัดกาฬสินธุ์ กันเป็นกระทง ผลแก่เดือนธันวาคม – เมษายน การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด และ วิธีการทาบกิ่ง การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ด้านสมุนไพร แก่น ใช้ผสมกับแก่นมะเดือ่ ปล้อง แก่นกะบก และแก่น มะพอก ต้มดื่มแก้ไอ ด้านอื่น ๆ เนื้อไม้ ใช้ท�ำ กระดานพับ ตง เสา และสิง่ ปลูกสร้างทัว่ ไป ต้น

ทีล่ ม้ ตาย (ขอน) ปล่อยทิง้ ไว้จะเกิดเห็ดบด เห็ด ขอนขาว จ�ำนวนมาก ชันหรือขี้ซี น�ำมาบด ต�ำ หรือป่นให้ละเอียด ผสมกับน�ำ้ มันพืชใช้ยาเรือ หรือสิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือนเพื่อป้องกัน การรั่วไหลของน�้ำ เช่น ข้อง หรือคุถัง ตะกร้า ที่สานด้วยไม้ไผ่ หรือใช้ทาหรือยารอยรั่วของ เรือ

43


คําอธิบายสัญลักเพาะเลี ษณ์้ยงเนื้อเยื่อ

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

(tissue culture)

ลักษณะวิสยั

คํานอธิ บายสัความสู ญลังกษณ์ เป็นพรรณไม้หายาก คําอธิบายสัเป็ญนพรรณไม้ ลักษณ์ ที่ขยายพั ธุ์ยาก (height)

พลับพลา

ลักษณะวิสยั

ั เป็นพรรณไม้ใกล้สลัูญกพัษณะวิ นธุ์ สย

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี เป็นพรรณไม้มีคขยายพ ่า ขยายพั นธุ์ shape) (tree, umbrella

ความสูง 20 m (height) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ กลม ด เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา (height) (tree, round(seed) shape)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ปักชํากิํา่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่ (tree,shape) conical(cutting) shape) (tree, umbrella

(tree, conical shape)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (layering) (shrub) (tree, conical shape)

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยช

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Microcos tomentosa Sm. ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ่ง ้นทรงพุ่มตอนกิ กรวยแหลม ชื่อวงศ์ : TILIACEAE ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม (tree, round shape) (air layering) (tree, spike shape) (tree, round ชื่ออื่น : กะปกกะปู (ภาคเหนือ), คอมส้ม, ก้อมส้มไม้ต(ภาคตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ )shape) โน้มกิ่ง ้นทรงกรวยคว่ํา ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้ต้น สูงได้ถึง 20 เมตร เรือนยอด เป็นพุ่ม กลมทึบ เปลือกสีนำ�้ ตาลปนเทา แตก ล่อนเป็นสะเก็ดบางๆ มีลำ� ต้นใหญ่ใบครึม้ และ ดอกยังชูช่อคล้ายฉัตรสีเหลืองทองปกคลุมอยู่ ทั่วบริเวณ พลับพลาขึ้นในป่าเบญจพรรณป่า ผสมผลัดใบ ป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น ใบ : เป็นใบเดีย่ วเรียงสลับ รูปไข่กลับ มีขนสาก ทั่วไป ปลายใบหยักคอดเป็นติ่งสั้นหรือเว้า

ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม

ไม้พุ่ม

ติดตา

ไม้พุ่มรอเลื้อย แหว่ง(tree, เป็นspike ริ้วโคนใบมนหลั งใบและท้ งใบมี(budding) ขน ไม้ต้นทรงพุ(scandent) ่มอกรวยแหลม shape) (tree, spike รูปดาวสี �้ ตาลปกคลุม ขอบใบจั กฟัไม้shape) นเลื้อเลืย อ่ ยถึ ง ไม้พุ่มนำ เสียบยอด (shrub) (shoot grafting) ไม้พุ่ม (climber) เรียบ บิด ๆ (shrub) ไม้หัว หรือมีทาบกิ ้อย เหง้า ่ง ดอก ไม้(scandent) : พมีุ่มสรอเลืเี หลื องออกตามง่ามใบและปลายกิ ง่ (grafting) (bulb, rhizome) ไม้พุ่มรอเลื้อย กลีบเลี ย่างละ 5 กลี บ ไม้เลื้ ย้องย และกลี บ ดอกมี อคุ(scandent) ณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล (climber) ้มีจ�ำนวนมากและล้อมรอบรังไข่(sucker, stolon) เกสรเพศผู ไม้เลื้อย ไม้หัว หรือมีเหง้า ้ยงเนื เยื่อ พรรณไม้เพาะเลี ที่ขยายพั นธุ้อ์ยาก ผล : (bulb, มีรูปrhizome) ร่างกลมหรือรูปไข่ก(climber) ลับ ผิเป็วนของผลมี (tissue culture) ขนทัว่ ไป ออกเป็นช่อเมือ่ สดสีเไม้ขีหยัว วหรือเป็มีมีเนหง้เพรรณไม้ นืาอ้ เมล็ใกล้ดสูญพันธุ์

คุณค่าในการอนุรักษ์

(bulb, rhizome)

นพรรณไม้ ษ์ เป็เฉพาะถิ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยากคุณค่าในการอนุ เป็รนัก พรรณไม้ ่น หายาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันเป็ธุ์ยนาก พรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพัเป็ นธุน์ พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องก อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

44


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร เดี่ยว เมื่อแก่มีจะสีเหลือง พอสุกจะมีสีม่วงด�ำ ผิวมีขนรูปดาวหรือเกลี้ยงขนาดผลกว้าง 0.5 - 1 เซนติเมตร ยาว 1 - 1.5 เซนติเมตร ออกดอกเดือนเมษายน - พฤษภาคม และติด ผลตั้งแต่เดือนมิถุนายน - ธันวาคม การขยายพันธุ์ : โดยวิธกี ารเพาะกล้าจากเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ด้านสมุนไพร ผลแก่ กินได้ และน�ำมาท�ำเป็นกระสุนปืนเล่นกันเรียกว่า

เล่ น ฉั บ โผง เส้ น ใยจากเปลื อ กใช้ ท� ำ เชื อ ก หยาบๆ คนโบราณ ใช้แก่นของพลับพลามา ผสมกับแก่นของโมกหลวง ล�ำต้นก�ำแพงเจ็ด ชั้น ล�ำต้นสบู่ขาว ล�ำต้นพลองเหมือด แก่น จ�ำปา และล�ำต้นค�ำรอก ต้มน�้ำดื่ม แก้หอบหืด เนื้อ ไม้ ใช้ ท� ำ เสา ด้ า มเครื่อ งมือ การเกษตร ไม้ถือ

45


(scandent) ไม้เลื้อย (climber)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

มะพอก

ไม้หัว หรือมีเหง้า

rhizome) กษณ์ คําอธิบายสัญลักษณ์ คํ าอธิบายสัญลั(bulb,

ลักษณะวิสยั

ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์

ความสูง (height) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Parinari anamense Hance (tree, umbrella shape) ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : CHRYSOBALANACEAE (tree, round shape) ชื่ออื่น : จั๊ด (ลำ�ปาง), หมักมอก (ภาคเหนือ) ประดงเลื อด (ราชบุรี) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความ สูงประมาณ 10-30 เมตร ล�ำต้นมีลักษณะ เปลาตรง ปลายกิ่งมักลู่ลง ตามกิ่งอ่อนมีขนสี เทาหรือสีนำ�้ ตาล เปลือกต้นหนาเป็นสีนำ�้ ตาล ปนเทา เปลือกเรียบ แตกเป็นสะเก็ดถี่ หรือ แตกเป็นร่องลึก ลอกหลุดได้ ใบ : ใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ เป็นรูปรีหรือรูป ไข่ ปลายใบมนหยักคอดและมีตงิ่ แหลมโคนใบ แหลมหรือมน ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาด กว้ า ง 4-6 เซนติ เ มตร และยาว 6-15

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

10-30 m

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

ความสูง เพาะเมล็ด (height) (seed)เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ อเถา ไม้ต้นแผ่เป็นปัรัศกมีชําเป็กิ่งนหรื พรรณไม้เฉพาะถิ่น (cutting) (tree, umbrella shape)

ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง (air layering) (tree, round shape) โน้มกิ่ง

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (layering) (tree, conical shape)

ต้นทรงพุ ดงตา เซนติเไม้มตร เนื่ม้อกรวยแหลม ใบหนา หลังใบเป็นสีไม้เขีตย้นทรงพุ ว ท้่มติอกรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) ใบเหลืไม้อพบขาวเด่ นชัดและมีขนละเอีย(tree, ดด้าspike นล่shape) าง ุ่ม เสียบยอด ไม้พุ่ม และ สีขาวแกมน� (shrub) ้ำตาล หลังใบอ่อนมีขนสาก (shoot grafting) (shrub) ุ่มรอเลืก้อยๆ 2 ต่อม ทาบกิ่ง มักมีตไม้่อพมเล็ ไม้ พ ่ ุ ม รอเลื ้ อ ย ดอก (scandent) : ออกดอกเป็นช่อ ออกตาม(scandent) ปลายกิ(grafting) ่ง ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล ยาวประมาณ าว stolon) (climber) 20 เซนติเมตรดอกเป็ ไม้เลื้อนยสีข(sucker, (climber) ขนาดเล็ บดอกมี ไม้หก ัว หรืดอกมี อมีเหง้า กลิ่นหอมอ่อนๆ กลี เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ rhizome) ไม้หัว หรือมีอ เ(tissue หง้นา culture) 5 กลี(bulb, บ ออกดอกในช่ ว งประมาณเดื (bulb, rhizome) คุมกราคม ณค่าในการอนุ รักอษ์นเมษายน ถึงเดื เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้อ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

46


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านจาน จังหวัดบุรีรัมย์ ผล : ผลสดมีลกั ษณะเป็นรูปทรงค่อนข้างกลม กลมรีเหมือนไข่ หรือเป็นรูปกระสวย มีขนาด กว้าง 3 - 4 เซนติเมตร และยาว 3 - 5 เซนติเมตร ผลเป็นสีนำ�้ ตาลมีจุดประสีขาว ผิว ผลหยาบไม่เรียบ ผิวฉ�่ำน�ำ้ เนื้อชุ่มบาง ชั้นในมี ขนหนาแน่น เนื้อในแข็ง เมล็ดเดี่ยวโตลักษณะ แข็ง ออกเป็นช่อ 3 – 15 ผล ผลจะแก่ในช่วง ประมาณเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เนือ้ ผลสุกมีรสหวาน ใช้รบั ประทานได้ เนือ้ ข้างในเมล็ดมีรสมันคล้าย ถั่วใช้รับประทาน เมล็ดน�ำมาสกัดเอาน�้ำมันใช้ ท�ำเป็นน�ำ้ มันหมึกพิมพ์และน�ำ้ มันหล่อลืน่ และ น�ำมาใช้ทาเครื่องเขินให้เป็นเงา เนื้อไม้ น�ำมา ใช้ในงานก่อสร้าง ท�ำฝา ท�ำกระดานได้ มะพอก จากป่าชุมชนบ้านจาน จังหวัดบุรรี มั ย์ เป็นพันธุ์ ไม้ใกล้สูญพันธุ์

47


(scandent) ไม้หัว หรือมีเหง้า ไม้เลื้อย (bulb, rhizome) (climber)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ความสูง (height)

คุณค่ไม้าหในการอนุ ัว หรือมีเหง้า รักษ์

(grafting)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (tissue culture) (sucker, stolon)

ขยาย

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

รัศมี (tissue culture) คํ าอธิบายสัไม้ญต้นแผ่ลัเกป็นษณ์ คําอธิบายสัญ(bulb,ลักเป็rhizome) ษณ์ เป็นพรรณไม้หายาก นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก (tree, umbrella shape)

ยมหิน

ลักษณะวิสยั

คุณค่าในการอนุรัก ษ์

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

ลักษณะวิ สยั เป็นพรรณไม้ ใกล้ เป็นพรรณไม้ ที่ขยายพั นธุส์ยูญากพันธุ์

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์ เป็นหพรรณไม้ ายาก มีค่า (tree, round shape)เป็นพรรณไม้

เพาะเมล็ ความสูง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา ด

เพาะเมล

กชํากิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงพุ่มปักรวยแหลม

ปักชํากิ่ง

15-25 m เป็นมพรรณไม้ ที่ชุมชนมีควา เป็นพรรณไม้ เฉพาะถิ ่น ีค่า เป็นพรรณไม้ ใกล้สูญ พันธุ์ (height) (tree, conical(seed) shape)เป็นพรรณไม้ (seed) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยช

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chukrasia tabularis A. Juss. (tree, shape) spike (cutting) shape) (tree, umbrella shape) (tree, umbrella อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ (cutting) ไม้ พ ม ่ ุ ชื่อวงศ์ : MELIACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ตอนกิ่ง ตอนกิ่ง (shrub) (air layering) (tree, round shape) (tree, round shape) (air laye ชื่ออื่น : ฝักดาบ (จันทบุรี), เสียดกา (ปราจีนบุรี), เสียดค่าง (สุราษฎร์ธานี)

ไม้พุ่มรอเลื้อโน้ ย ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา มกิ่ง (scandent) (layering) (tree, conical shape) เลื้อย ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ปลายใบแหลม โคนใบมนหรื อไม้(climber) ส่ติดวตานขอบ ไม้ต้นทรงพุ ่มกลม กรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) ใบเรี ยบ หลังใบเรียบเป็น(tree, มันspikeท้ไม้อshape) ขานอ่อน หัวงใบมี หรือมีเหง้ ไม้พุ่ม เสี ยบยอด rhizome) พุ่ม (bulb, ปลายแหลม นุ(shrub) ่ม 2 ชนิด ชนิดแรกเป็นไม้ขนยาว (shoot grafting) (shrub) คุ ณ ค่ า ในการอนุ ร ักษ์ อ่ไม้อพุ่มนนุ รอเลื่ม้อยส่วนอีกชนิดจะมีจ�ำนวนน้อยกว่ ทาบกิา่งและ ไม้พุ่มรอเลื้อย สั(scandent) น้ กว่า มีลกั ษณะปลายขนมนแข็ งกว่า(grafting) ชนิดแรง (scandent)เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ้อย อ หัว ลํา หรือไหล ขึไม้น้ เลืปกคลุ มด้านหลังใบเป็ไม้นเลืจ�้อยำนวนมากแยกหน่ ก้านใบ (climber) (sucker, stolon) ยาว 2 - 8 มิลลิเมตร (climber) เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หัว หรือมีเหง้า ่งอ่(tissue ดอก : ออกดอกเป็นช่อไม้ตามซอกกิ อนหรื อ (bulb, rhizome) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิculture) ่น (bulb, rhizome)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เป็นไม้ ผลัดใบแต่ผลิใบใหม่เร็ว เรือนยอดเป็นทรงพุ่ม รูปกรวยต�ำ่ มีความสูงของต้น 15 - 25 เมตร ล�ำต้นเปลาตรง มีพูพอนที่โคนต้น เปลือกต้น เป็ น สี น�้ ำ ตาลคล�้ ำ สี เ ทา หรื อ สี เ ทาปนด� ำ เปลือกต้นแตกเป็นร่องลึกตามยาวของล�ำต้น ใบ : ใบประกอบแบบขนนกออกเยื้องกันเล็ก น้อย ก้านใบยาว 30 - 60 เซนติเมตร มีใบ ตามปลายยอด ย่อย 6 - 20 คู่ จัดเรียงตัวกันแบบสลับ รูปคุณไข่ค่าในการอนุ รักษ์ มีความยาวประมาณ 10 - 30

โน้มกิ่ง (layering

ติดตา (buddin

เสียบยอ (shoot g

ทาบกิ่ง (grafting

แยกหน่อ (sucker,

เพาะเลี้ย (tissue c

คุณค่าในการอนุรักษ์

48

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรร

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรร

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ เป็นพรร เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ อนุรักษ์เ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านพระพุทธบาทน้อย จังหวัดสระบุรี เซนติเมตร ดอกยมหินมีขนาดเล็กและมีกลิ่น หอม เป็ ด อกชนิ ด มี เ พศเดี ย วและดอกแบบ สมบูรณ์เพศ มีใบประดับ กลีบดอกมี 4 - 5 กลีบ แยกจากกันอย่างอิสระ โดยจะมีความยาว มากกว่ากลีบเลี้ยง มีรูปร่างเป็นแผ่นยาวแคบ ปลายมน เป็นสีเขียวอ่อนหรือสีเหลืองปนสีมว่ ง มี ข นสั้ น ๆ ขึ้ น ปกคลุ ม อยู ่ ทั่ ว ทั้ ง กลี บ ดอก ออกดอกในช่ ว งเดื อ นพฤศจิ ก ายนถึ ง เดื อ น ภุมภาพันธ์ ผล : ผลออกเป็นพวง ลักษณะของผลเป็นรูป ทรงรีหรือรูปไข่ เปลือกแข็งสีนำ�้ ตาล ปลายผล

เป็ น ติ่ ง แหลม ผลมี ข นาดยาว 2.5 - 5 เซนติเมตร เมือ่ สุกจะเปลีย่ นสีดำ� เมือ่ แห้งหรือ แก่จะแตก ผลจะมีเมล็ดอยู่ 60 - 100 เมล็ด การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เปลือก จากเนื้อไม้ ใช้ผสมกับเป็นยาปรุงแก้ไข้เปลี่ยนฤดู หนาวๆ ร้อนๆ ไข้จับสั่น ใช้เป็นยาสมานแผล ผลสุกใช้ รับประทานได้ แปรรูปเป็นไม้ทมี่ คี ณ ุ ค่าเศรษฐกิจ

49


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ยวนผึ้ง

คํ าอธิบายสัญลักษณ์ คํ าอธิบายสัญลักษณ์

ลักษณะวิสยั

ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์

ความสูง (height) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Koompassia excelsa (Becc.) Taub.(tree, umbrella shape) ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : FABACEAE (tree, round shape) ชื่ออื่น : ตอแล (ปัตตานี)

50 m

ความสูง เพาะเมล็ด (height) (seed) ไม้ต้นแผ่เป็นรัปัศกมีชํากิ่งหรือเถา (cutting) (tree, umbrella shape) ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง (air layering) (tree, round shape)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิํา่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ (tree, conical(layering) shape) ไม้ต้นวทรงพุ ติดตา น้อย มีเกสรตั ผู้ 5่มกรวยแหลม อัน ค่อนข้างสั้น ออกดอก ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) (tree, spike shape) ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ไม้พุ่ม เสียบยอด ไม้ พุ่ม ผล : ฝักแบนรู ป บรรทั ด กว้ า ง 1 เซนติ เ มตร (shrub) (shoot grafting) (shrub) ยาว 2-3 เซนติ เมตร ไม้พุ่มรอเลื ้อย ผลแก่เดือนกรกฎาคม- ทาบกิ่ง ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent) สิ ง หาคม ตามสภาพนิ เ วศวิ ท ยา ขึ้ น กระจั ด (grafting) (scandent) ลื้อย าดิบชืน กระจายอยูไม้ต่ เามป่ ้ ชอบพืน้ ทีค่ อ่ นข้ไม้างชุ ่ แยกหน่อ หัว ลํา หรือไห เลื้อยม (climber) (sucker, stolon) (climber) ชื้นตามหุบเขา ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หง้า culture) การขยายพั(bulb, นธุrhizome) ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด ไม้หัว หรือมีเ(tissue (bulb, rhizome)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูงถึง 50 เมตร ล�ำต้น เปลาตรง สูงชะลูด เปลือกเรียบ สีขาวนวล โคนต้นเป็นพูพอนสูง ใบ : เป็นใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว หูใบ เล็ ก มาก ยาว 2-4 มิ ล ลิ เ มตร ใบย่ อ ย มี 7-11 ใบ เรียงสลับเล็กน้อย ใบมน กว้าง 1-2 เซนติเมตร ยาว 3-5 เซนติเมตร หลังใบ เกลี้ยง ท้องใบมีขนนุ่มๆ ปกคลุมบางๆ ประโยชน์ ดอก : ดอกมีขนาดเล็กจ�ำนวนมาก กลิ่นหอม การน� คุณำค่ไปใช้ าในการอนุ รักษ์ : ใช้เป็นไม้ก่อสร้าง ณค่าในการอนุ ก จึง รักษ์ มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอก อย่างละ 5 กลีบ ภายใน เนือ่ งจากเนือ้ ไม้ไม่แข็งแกร่งคุมากนั พรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ่ในร่มหรือใช้ท�ำเฟอร์นิเจอร์เป็นพรรณไม้ ซึ่ง เป็ที่ขนยายพั กลีบดอกสีขาว มีขนาดยาวกว่ากลีบเลี้ยงเล็ก เหมาะที่จะอยู นธุ์ยาก

50

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีค รักษ์่นเพื่อการใช้ประโย เป็นพรรณไม้เอนุ ฉพาะถิ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี จะมีระยะเวลาใช้งานได้ทนทานกว่าที่จะน�ำไป ใช้เป็นไม้ก่อสร้างภายนอกอาคาร และเป็นต้น ไม้ที่ดึงดูดให้ผึ้งมาท�ำรังอาศัยอยู่เป็นจ�ำนวน มากในแต่ละต้น เนือ่ งจากดอกมีกลิน่ หอมตรง กั บ ความต้ อ งการของผึ้ ง จึ ง มั ก พบว่ า มี ผึ้ ง หลวงมาเกาะท�ำรังอยู่เป็นประจ�ำ ตั้งแต่ 1550 รัง บางต้นมีมากกว่า 100 รัง ต้นยวนผึ้ง จึงเป็นต้นไม้ที่สร้างรายได้ให้กับผู้ที่เก็บหาน�้ำ ผึ้งขาย เป็นไม้หายาก ใกล้สูญพันธุ์ ประโยชน์

ทีไ่ ด้จากน�ำ้ ผึง้ นัน้ มีมากกว่าการตัดไม้มาเพือ่ ใช้ ประโยชน์ด้านเนื้อไม้ ดังนั้นจึงควรอนุรักษ์ต้น ยวนผึ้งเอาไว้เพื่อเป็นแหล่งอาศัยของผึ้งหลวง ต่อไป ยวนผึง้ จากการส�ำรวจบริเวณชายป่า พบว่า ทั่วอ�ำเภอสวนผึ้งมียวนผึ้งอยู่ประมาณ 7 ต้น ซึง่ ทางจังหวัดราชบุรเี ห็นถึงความส�ำคัญ ได้มีการสนับสนุนงบประมาณเพื่อการเพาะ ขยายพันธุ์ยวนผึ้ง ในพื้นที่ป่าให้เพิ่มมากขึ้น

51


(shrub)

(scandent)(climber)

(climber) (shoot grafting) (grafting)(sucker, stolon) เยื่อ ไม้หัว หรือมีทาบกิ เหง้า ่ง แยกหน่อเพาะเลี หัว ลํา้ยงเนื หรือ้อไหล (tissue culture) (bulb, rhizome) (grafting)(sucker, stolon)

ไม้พุ่มรอเลืไม้ ้อยเลื้อย ไม้หัว หรือมีเหง้า (scandent) (climber) (bulb, rhizome)

ไม้เลื้อย คุ หัว ลํา้ยหรื ไม้ณ หัวค่หรื อมีเหง้า รักษ์คุณค่าในการอนุแยกหน่ งเนือ้อไหล เยื่อ าในการอนุ รักษ์ อเพาะเลี

(tissue culture) ๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน าอธิบายสัญลักษณ์(sucker, stolon) คํ าอธิบายสัญลัก(climber) ษณ์ (bulb, คํrhizome)

ยางยูง

ลักษณะวิสยั

ที่ขยายพันธุ์ยากเป็นพรรณไม้เพาะเลี ที่ขยายพั นธุ้อ์ยเยืาก่อเป็นพรรณไม้หายาก ไม้ หัวค่หรื อมีเหง้า เป็รนักพรรณไม้ ้ยงเนื คุณ าในการอนุ ษ์ (bulb, rhizome) (tissue culture)

ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์

ขยายพันธุ์

สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ใกล้สูญเป็ พันธุพรรณไม้ ์ เป็นพรรณไม้ หายาก มีค่า ี่ขยายพันใธุกล้ ์ยาก คุณค่าในการอนุเป็รนักพรรณไม้ ษ์ เป็ทนพรรณไม้ ความสูง ความสูง เพาะเมล็ด เพาะเมล็ด 45นmธุ์ยาก นพรรณไม้ หายาก เป็นพรรณไม้ ี่ชุมชนมีความต เป็นพรรณไม้ ยายพั เป็นใพรรณไม้ เป็ มีค่า ท(seed) ่น นพรรณไม้ เป็ทนี่ขพรรณไม้ กล้ส(height) ูญพัเนฉพาะถิ ธุ์ ่น(seed)เป็นพรรณไม้เป็เฉพาะถิ (height) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ปักชํากิ่งหรือเถาเป็นพรรณไม้มีค่า ชํากิ่งอหรื อเ เป็นพรรณไม้ สูญพันเฉพาะถิ ธุ์ ไม้่นต้นแผ่เป็นรัศมี เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีปัคกวามต้ งการ เป็นใกล้ พรรณไม้ (tree, umbrella shape) (cutting) (tree, umbrella shape) (cutting) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dipterocarpus grandiflorus (Blanco) Blanco ชื่อวงศ์ : DIPTEROCARPACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มกลม เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง (tree, round shape) (air layering) ชื่ออื่น : ยางมันหมู (ตรัง), ยางหัวแหวน (นครศรีธรรมราช) (tree, round shape)

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ ตอนกิ่ง อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (layering) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (tree, conical shape) ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ติดช่ตาอยาวเหนือรอย ต้น : ไม้ต้น สูงถึง 45 เมตร ไม่ผลัดใบหรือ ดอก : สีชมพู ออกรวมเป็ ไม้ต้นทรงพุน ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) (tree,โคนกลี spike shape)บเลีย ้ งเป็นครีบ ผลัดใบแต่ผลิใบใหม่ไว ล�ำต้นเปลาตรง เปลือก แผลใบหรือตามง่ามใบ ไม้พุ่ม เสียบยอด ไม้พุ่ม บดอกเกยซ้อนเวียน หนา เรียบหรือแตกเป็นแผ่นโต ๆ ห้อยลง(shrub) สีเทา ยาว 5 ครีบ ส่วนโคนกลี (shoot grafting) (shrub) นผลระหว่ างเดือน หรือเหลืองอ่อน เปลือกในสีน�้ำตาลอมแดง ง่ ้อย กันเป็นรูปกังหัน ออกดอกเป็ทาบกิ ไม้พุ่มกิ รอเลื ่ง ไม้พุ่มรอเลื้อ(grafting) ย (scandent) มกราคม – พฤศจิกายน อ่อนเกลี้ยง หรือมีขนสีน�้ำตาลอมแดง ตาม (scandent) ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล เมตร มีครีบยาวตาม ธรรมชาติ จะพบตามป่าดิบชืน้ ทางภาคใต้(climber) และ ผล : รูปรี ยาวถึง 8 เซนติ ไม้เลื้อย (sucker, stolon) าว ยาวถึ ง 22 เซนติเมตร เคยมีรายงานว่าพบทางภาคตะวันออกเฉี ยง ยาว ผล 5 ครีบ ปีกคูย่ (climber) ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หป ัว หรื ซ้ออมี(tissue นเหง้าส่วculture) นกลีบสั้น 3 (bulb, rhizome)ทรงรูปหอกกลับแกมรู เหนือบ้าง (bulb, rhizome)

ใบ : ใบเดี่ยว รูปไข่ ปลายใบทู่ โคนใบมนกว้ าง รักกลี คุณค่าในการอนุ ษ์ บ ยาวไม่เกิน 2 เซนติเมตร ในการอนุ รักษ์ ธีการเพาะเมล็ ด การ หรือหยักเว้าเข้าเล็กน้อย แผ่นใบหนา เกลี้ยง การขยายพันคุธุณ์ :ค่าโดยวิ เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ปลูกควรปลูกในที่ชุ่มเป็ชืน้นพรรณไม้ และมี ร่มเงาพอควร ก้านใบยาวและงอเป็นข้อศอก ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

52

(air layering)

โน้มกิ่ง (layering) ติดตา (budding)

เสียบยอด (shoot grafting ทาบกิ่ง (grafting)

แยกหน่อ หัว ล (sucker, stolon

เพาะเลี้ยงเนื้อ (tissue culture

เป็นพรรณไม้ห

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้อนุ เฉพาะถิ ่น

เป็นพรรณไม้ม

เป็นพรรณไม้ท อนุรักษ์เพื่อกา


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านสระแก้ว จังหวัดสุราษฎร์ธานี การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ล�ำต้น ใช้ในการ ก่อสร้างอาคารบ้านเรือนและการก่อสร้าง ทั่ ว ไป เมื่ อ อาบน�้ ำ ยาถู ก ต้ อ งจะทนทานขึ้ น น�้ำมันที่ได้จากการเจาะต้นใช้ทาไม้ยาแนวเรือ ทาเครื่องจักสาน ท�ำไต้ ใช้เติมเครื่องยนต์แทน น�ำ้ มันขีโ้ ล้ สรรพคุณทางยา เปลือกต้น รสฝาด เฝื่อนขม ต้มดื่มแก้ตับอักเสบ บ�ำรุงร่างกาย ฟอกโลหิต ใช้ทา ถู นวด แก้ปวดตามข้อ เมล็ด ใบ รสฝาดร้อน ต้มใส่เกลืออมแก้ปวดฟัน ฟัน

โยกคลอน น�้ำมันยาง รสร้อนเมาขื่น ทาแผล เน่าเปื่อย แผลมีหนอง ยางยู ง จากป่ า ชุ ม ชนบ้ า นสระแก้ ว จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพรรณไม้มคี ่าหายาก เป็นพรรณไม้เฉพาะท้องถิ่น ขึ้นอยู่ในป่าดงดิบ ตามธรรมชาติ เป็นไม้เดิมในป่าชุมชน และ ชุมชนมีความต้องการอนุรักษ์ไว้ให้อยู่คู่กับป่า ชุมชน

53


(scandent) (climber) ไม้เลื้อย ไม้หัว หรือมีเหง้า (climber) (bulb, rhizome) ไม้ หัวค่หรืาในการอนุ อมีเหง้า รักษ์ คุณ

(sucker, stolon) (scandent)(climber) (grafting) งเนือ้อไหล เยื่อ เหง้า อเพาะเลี หัว ลํา้ยหรื ไม้เลื้อย ไม้หัว หรือมีแยกหน่ (tissue culture) (bulb, rhizome) (sucker, stolon) (climber)

คุณ ในการอนุ รักษ์ ้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หค่ัวาหรื อมีเหง้า เพาะเลี

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชนคํ าอธิบายสัญลักษณ์(bulb, rhizome) rhizome) คํ าอธิบายสัญลั(bulb, กษณ์

ยางเสียน

(tissue culture)

เป็นนธุพรรณไม้ ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพั ์ยาก หายาก เป็รนักพรรณไม้ คุณค่าในการอนุ ษ์ คุณค่าในการอนุรักษ์

ลักษณะวิสยั ความสูง (height) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

ขยายพั ลักเป็ษณะวิ สนธุใยั กล้์ยากสูญนพันธุธุ์ ์ เป็นพรรณไม้ นนพรรณไม้ เป็นทพรรณไม้ สูญเป็พัขยายพั หธุ์ายาก มนีคธุ่า ์ เป็นพรรณไม้ ทนี่ขพรรณไม้ ยายพั ี่ขยายพัเป็นในกล้ ธุพรรณไม้ ์ยาก ความสูง เพาะเมล็ด

เพาะเมล็ด

ไม้ต้นแผ่เป็นปัรักศชํมีากิ่งหรือเถา

ปักชํากิ่งหรือเ

40 เป็นm พรรณไม้ นธุพรรณไม้ มีค่า ที่ชุมชนมีความต เป็นพรรณไม้ เป็นพรรณไม้ ใกล้ สูญ(height) พันเฉพาะถิ ธุ์ ่น(seed)เป็นพรรณไม้ ใกล้สูญเป็ พัเฉพาะถิ ์ เป็่นนพรรณไม้ (seed) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น เป็นพรรณไม้เฉพาะถิเป็ ่น นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dipterocarpus gracilis Blume (tree, umbrella shape) (cutting) (tree, umbrella shape) (cutting) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : DIPTEROCARPACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง ตอนกิ่ง (tree, round shape) (air layering) (tree, round shape) (air layering) ชื่ออื่น : ยางกล่อง (ตรัง), ยางตัง (ชุมพร), ยางวาด (นครศรีธรรมราช)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (layering) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (tree, conical shape) ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ดตา นเป็่มตินกรวยแหลม ช่อสัน้ ตามปลาย ต้น : ไม้ตน้ สูงถึง 40 เมตร ล�ำต้นเปลาตรง ไม่ ดอก : สีชมพู ออกรวมกั ไม้ต้นทรงพุ (tree, spike shape) (budding) spike shape) ่ง โคนกลีบเลี้ยง ผลัดใบหรือผลัดใบแต่ผลิใบใหม่ไว ล�ำต้นตรง กิ่งและตามง่ามใบใกล้(tree,ปลายกิ ไม้พุ่ม เสียบยอด ไม้พุ่ม น ส่วนโคน เปลือกหนา สีเทาหรือน�้ำตาลอมเทา ค่อนข้ าง เรียบ แต่มีขนสีน�้ำตาลแดงหนาแน่ (shrub) (shoot grafting) (shrub) นรู่งปกังหัน เรียบและแตกเป็นสะเก็ด เปลือกในสีน�้ำไม้ตาล พุ่มรอเลื้อยกลีบดอกเกยซ้อนเวียนกันเป็ ทาบกิ ไม้ พ ่ ุ ม รอเลื ้ อ ย (scandent) ผล : กลม เกลี้ยง โต มักมี(grafting) คราบขาวจับ เส้น อมแดง กิง่ อ่อนและหูใบ มีขนสีนำ�้ ตาลแดงหนา (scandent) ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล 2 เซนติเมตร เกลี้ยง แน่น โคนต้นเป็นพูพอน เนื้อไม้มีสีเหลือง (climber) ตาม ผ่านศูนย์กลางประมาณ ไม้เลื้อย (sucker, stolon) (climber) ไม่มขี น และมักมีจดุ ประปราย ปีกคูย่ าวรูปช้อน ธรรมชาติจะพบตามป่าดิบชืน้ และป่าดิบแล้ไม้งหใน ัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หัว หรือมี(tissue เหง้า culture) ค่อนข้างเรียว สีน�้ำตาลแกมแดง ไม่เกิน 14 (bulb, rhizome) ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ (bulb, rhizome)

้ 3 กลีบ ยาวประมาณ ใบ : ใบเดี่ยว รูปรีหรือรูปไข่ ปลายใบเป็ นติ่ง รเซนติ คุณค่าในการอนุ ักษ์ เมตร ส่วนกลีบสัน ณค่าในการอนุรักษ์ แหลมสั้น ๆ โคนใบมนหรือสอบเล็กน้อย แผ่น ครึ่งหนึ่งของตัวคุผล เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ใบหนา เกลี้ยง ยกเว้นตามเส้นกลางใบ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

54

โน้มกิ่ง (layering) ติดตา (budding)

เสียบยอด (shoot graftin ทาบกิ่ง (grafting)

แยกหน่อ หัว (sucker, stolo

เพาะเลี้ยงเนื้อ (tissue culture

เป็นพรรณไม้ห

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้อนุ เฉพาะถิ ่น

เป็นพรรณไม้ม

เป็นพรรณไม้ท อนุรักษ์เพื่อกา


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านสระแก้ว จังหวัดสุราษฎร์ธานี การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เป็นพืชเศรษฐกิจ เนือ้ ไม้นำ� มาใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน และเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ยางเสียน จากป่าชุมชนบ้านสระแก้ว จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพรรณไม้มีค่าใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้

เฉพาะถิ่นขึ้นอยู่ในป่าดั้งเดิมตามธรรมชาติ เป็ น พั น ธุ ์ ไ ม้ เ ดิ ม ของป่ า ชุ ม ชนบ้ า นสระแก้ ว ชุมชนมีความต้องการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ชนิดนี้ไว้ ในป่าชุมชน

55


(scandent) (climber) ไม้เลื้อย ไม้หัว หรือมีเหง้า (climber) (bulb, rhizome) ไม้ หัวค่หรืาในการอนุ อมีเหง้า รักษ์ คุณ

(sucker, stolon) (scandent)(climber) (grafting) งเนือ้อไหล เยื่อ เหง้า อเพาะเลี หัว ลํา้ยหรื ไม้เลื้อย ไม้หัว หรือมีแยกหน่ (tissue culture) (bulb, rhizome) (sucker, stolon) (climber)

คุณ ในการอนุ รักษ์ ้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หค่ัวาหรื อมีเหง้า เพาะเลี

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชนคํ าอธิบายสัญลักษณ์(bulb, rhizome) rhizome) คํ าอธิบายสัญลั(bulb, กษณ์

รักใหญ่

(tissue culture)

เป็นนธุพรรณไม้ ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพั ์ยาก หายาก เป็รนักพรรณไม้ คุณค่าในการอนุ ษ์ คุณค่าในการอนุรักษ์

ลักษณะวิสยั ความสูง (height) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

ขยายพั ลักเป็ษณะวิ สนธุใยั กล้์ยากสูญนพันธุธุ์ ์ เป็นพรรณไม้ นนพรรณไม้ เป็นทพรรณไม้ สูญเป็พัขยายพั หธุ์ายาก มนีคธุ่า ์ เป็นพรรณไม้ ทนี่ขพรรณไม้ ยายพั ี่ขยายพัเป็นในกล้ ธุพรรณไม้ ์ยาก ความสูง เพาะเมล็ด

เพาะเมล็ด

ไม้ต้นแผ่เป็นปัรักศชํมีากิ่งหรือเถา

ปักชํากิ่งหรือเ

15-25 m เป็นใกล้ พรรณไม้ นธุพรรณไม้ มีค่า ที่ชุมชนมีความต เป็นพรรณไม้ เป็นพรรณไม้ สูญ พันเฉพาะถิ ธุ์ ่น(seed) เป็นพรรณไม้ ใกล้สูญเป็ พัเฉพาะถิ ์ เป็่นนพรรณไม้ (height) (seed) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

่น เป็นพรรณไม้เฉพาะถิเป็ ่น นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gluta usitata (Wall.) Dingshape) Hou เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ(tree, (tree, umbrella (cutting) umbrella shape) (cutting) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ ชื่อวงศ์ : ANACARDIACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง ตอนกิ่ง (tree, round shape) (air layering) (tree, round shape) (air layering) ชื่ออื่น : ซู (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ซู้ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (layering) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (tree, conical shape) ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ดตา 3.5่มติกรวยแหลม – 12 เซนติเมตร ต้น : เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดกลางถึงใหญ่ เล็กน้อย ใบมีความกว้ไม้าตง้นทรงพุ (tree, spike shape) (budding) (tree, spike shape)ออกเวียนสลับ เมตร ความสูง 15- 25 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่ม และยาว 20 – 30 เซนติ ไม้พุ่ม เสียบยอด ไม้พุ่ม ใบมีgrafting) ขนสีน�้ำตาล กลม ล�ำต้นเปลาตรง เปลือกสีน�้ำตาลปนเทา (shrub) กั น เป็ น กลุ ่ ม ที่ป ลายของกิ่ง(shoot (shrub) แตกเป็นร่องและล่อนเป็นสะเก็ด ไม้รกั ใหญ่ไม้พพุ่มบรอเลื้อยปนเทาทั้งสองด้าน ทาบกิ่ง ไม้ พ ่ ุ ม รอเลื ้ อ ย (grafting) รณ์เพศออกเป็น ขึ้น ตามธรรมชาติใ นพื้น ที่ป ่ า ผลั ด ใบหรื(scandent) อ กึ่ง ดอก : มีสีขาว เป็นดอกสมบู (scandent) ไม้เลื้อย ช่อใหญ่ตามง่ามใบ กลีบดอกมี แยกหน่อ5หัวกลี ลํา หรื บอไหลกลีบ ผลัดใบทัว่ ทุกภาคของประเทศไทยในภาคเหนื อ ไม้ เ ลื ้ อ ย (climber) (sucker, stolon) (climber) ดอกเมื อ ่ เป็ น ผลจะขยายใหญ่ ขึ้นเป็นปีกสีแดง ของไทยพบขึ้นในพื้นที่ที่สูงจากระดับน�ำ้ ทะเล ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หัว หรือมี(tissue เหง้า culture) อน 350 – 1,240 เมตร ในป่าธรรมชาติ (bulb, rhizome)รองรั บ ผล ระยะออกดอกประมาณเดื (bulb, rhizome)

ใบ : เป็นใบเดี่ยว รูปไข่กลับหรือรูปคุขอบขนาน ณค่าในการอนุรพฤศจิ ักษ์ กายน - ธันวาคม คุณค่าในการอนุรักษ์ แกมรูปรี ปลายใบแหลมหรือกลม โคนใบมน เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก หรื อ เป็ น รู ป ลิ่ ม ขอบใบเรี ย บหรื อ เป็ น คลื่ น เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

56

โน้มกิ่ง (layering) ติดตา (budding)

เสียบยอด (shoot graftin ทาบกิ่ง (grafting)

แยกหน่อ หัว (sucker, stolo

เพาะเลี้ยงเนื้อ (tissue culture

เป็นพรรณไม้ห

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้อนุ เฉพาะถิ ่น

เป็นพรรณไม้ม

เป็นพรรณไม้ท อนุรักษ์เพื่อกา


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านตลาดขี้เหล็ก จังหวัดเชียงใหม่ ผล : ผลแห้งแบบมีปีก ลักษณะผลกลมแข็ง ขนาด 1-2.5 เซนติเมตร มีปีกสีแดงเรื่อๆ รูป ขอบขนาน 5 ปีก ระยะเวลาการติดผล เดือน มกราคม - มีนาคม การขยายพันธุ์ : การสืบพันธุ์ตามธรรมชาติ ของไม้ รั ก ใหญ่ อาศั ย ลมเป็ น ตั ว ช่ ว ยใน การแพร่กระจายของผล ปีก 5 ปีก ทีต่ ดิ อยูก่ บั ผลช่วยในการน�ำพาให้เมล็ดไม้ไปได้ไกล

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ยางรักได้ถกู น�ำมาใช้ ในงานช่างของไทย คือ งานช่างสิบหมู่ (ช่างรัก) และการท�ำเครื่องเขิน ใบและราก ใช้เป็นยา พอกแผล เปลือกเป็นยาบ�ำรุงก�ำลัง ขับเหงื่อ ต้มเป็นยารักษาโรคเรือ้ น เปลือกราก ใช้เป็นยา รักษาโรคผิวหนัง ขับพยาธิล�ำไส้ แต่นอกจาก ประโยชน์แล้วน�้ำยางของรักใหญ่ มีสารพิษ Phenol ซึ่งออกฤทธิ์ระคายเคืองต่อผิวหนัง ท�ำให้ผวิ หนังอักเสบและมีอาการคันมาก ท�ำให้ เกิดอาการบวมแดง พองเป็นตุ่มน�้ำใส

57


ไม้่มตกลม ้นทรงกรวยคว่ํา ไม้ต้นทรงพุ (tree,shape) conical shape) (tree, round

(climber) ปักชํากิ่งหรืตอนกิ อเถา ่ง ไม้หัว หรือมีเหง้า (cutting) (air layering) (bulb, rhizome) ตอนกิ่ง โน้มกิ่ง คุณ(layering) ค่าในการอนุรักษ์ (air layering)

(tree,shape) spike shape) (tree, conical

(layering) (budding)

ลักษณะวิสยั

ไม้่มพกรวยแหลม ุ่ม ไม้ต้นทรงพุ ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์ (tree, spike shape) (shrub)

ติดตา เสียบยอด ขยายพั เป็นพรรณไม้ ใกล้สูญนพัธุ นธุ์ ์ (budding) (shoot grafting)

ไม้ต้นแผ่เไม้ ป็นตรั้นศทรงพุ มี ่มกลม (tree, (tree, umbrella round shape)shape)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ลังแข

คํ าอธิบายสัญลักโน้ษณ์ คํ าอธิบายสัญไม้ลัต้นกทรงกรวยคว่ ษณ์ ไม้ต้นทรงพุ ํา ่มกรวยแหลม มกิ่ง ติดตา เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ความสูง (height)

ไม้พุ่ม ไม้พุ่มรอเลื้อย (shrub) (scandent)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศไม้มีพุ่มรอเลืไม้​้อเลืย้อย

10-15 m

(scandent) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Baccaurea macrocarpa (Miq.) (tree, umbrella shape)Müll. (climber) Arg ไม้เลื้อย ไม้หัว หรือมีเหง้า ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : PHYLLANTHACEAE (climber) (tree, round shape) (bulb, rhizome) ชื่ออื่น : ลำ�แข, มะแค้ (ปัตตานี) ไม้หัว หรือมีเหง้า

ความสูง เพาะเมล็เสีดยบยอด ทาบกิ่ง เพาะเมล เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น(seed) (height) (seed) (shoot grafting) (grafting)

่ง แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล ปักชํากิ่ง หรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็นปัรักศมีชํากิ่งทาบกิ (grafting) (sucker, stolon) (cutting) (tree, umbrella shape) (cutting)

แยกหน่อ หัเพาะเลี ว ลํา หรื้ยงเนื อไหล ้อเยื่อ ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง (sucker, stolon) ตอนกิ่ง (tissue culture) layering) (tree, round(air shape) (air laye เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ คุ ณ ค่ า ในการอนุ ร ก ั ษ์ ไม้ต้นทรงกรวยคว่ โน้มกิ่ง (tissue culture) (bulb,ํา rhizome) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา โน้มกิ่ง (tree, conical shape) (layering) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (layering เป็นพรรณไม้หายาก คุณค่าในการอนุ ักษ์ ที่ขยายพันธุ์ยาก(tree, conical shape) เป็นรพรรณไม้ ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ติ ด ตา ดผลตั้งแต่ ต้น : เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ เนื้อไม้แข็งเหนียว อมเขียว ก้านดอกยาว ออกดอกติ ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ติดตา (tree, spike shape) (budding) เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้มีค่า spike shape)่ง (budding เป็นพรรณไม้ ูญพันธุ์ (tree, ้นดิใกล้นสไปจนถึ งปลายกิ ล�ำต้นสีน�้ำตาล ความสูงประมาณ 10-15 โคนต้น จากพื ไม้พุ่ม เสียบยอด ไม้ที พุ่ม่จะมีขนาดเส้ เสียบยอ มีขเป็นาดใหญ่ นผ่เป็ามนีคนพรรณไม้ เป็นพรรณไม้ ่า เมตร พบขึ้นอยู่ในป่าธรรมชาติที่เป็นป่าดิบชื(shrub) ้น ผลเป็:นพรรณไม้ ใกล้สูญพันธุ์ โตเต็ม (shoot grafting) ที่ชุมชนมีความต้องการ นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (shrub) (shoot g รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ ผล ของภาคใต้ โดยทั่วไปพบเห็นได้ง่ายในพื้นไม้ทีพุ่ม่ รอเลืศู้อนย ย์ ก ลางประมาณ 4 – 5 เซนติ ทาบกิ่ง เ มตร อนุ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ ทาบกิ่ง เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ไม้พุ่มรอเลื้อ(grafting) ย บเลี้ยงติดอยูอนุ่ รก้ักษ์าเพืนผล ่อการใช้ประโยชน์ ภาคใต้ตอนล่าง เช่น จังหวัดยะลา และนราธิว(scandent) าส กลม เปลือกหนา มีกลี(scandent) (grafting ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล ยาว ผลดิบมีสีชมพูอมม่ไม้วงเลื้อมีย ขน(sucker, เมื่อstolon) แก่กลาย ใบ : เป็นรูปไข่ หรือรูปรีแกมขอบขนาน ปลาย แยกหน่อ (climber) (climber) (sucker, นสีน�้ำตาลอมเหลือง เปลือกผลหนาคล้ าย ใบแหลมรูปลิ่มออกเรียงสลับ ใบสีเขียวเข้ไม้มหัว หรืเป็ อมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หัว หรืองมี(tissue เแขมี หง้า culture) เพาะเลี้ย เปลือกกระท้อน เนื้อของผลลั สีขาวนวล (bulb, rhizome) ใบเกลี้ยง (bulb, rhizome) (tissue c

ดอก : มีดอกออกเป็นกลุ่มตามกิ่งหรื ต้น คล้รักาษ์ยปุยเมฆ รสชาติหวานอมเปรี้ยว จะออก คุณอค่ล�าำในการอนุ ณค่าในการอนุอรักนสิ ษ์ ง หาคม – ดอกแยกเพศอยู่คนละต้น กลีบดอกสีเหลือง ผลปีละ 1 ครั้ง คุประมาณเดื เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

58

เป็นพรร

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้อนุ เฉพาะถิ ่น

เป็นพรร

เป็นพรร อนุรักษ์เ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 จังหวัดนราธิวาส กันยายนของทุกปี ต้นที่มีขนาดใหญ่อาจให้ ผลผลิตสูง 800 – 1,000 กิโลกรัม การขยายพันธุ์ : โดยวิธกี ารเพาะเมล็ด เสียบ ยอด ทาบกิ่ ง การเพาะเมล็ ด ส่ ว นใหญ่ จ ะ เป็ น ต้ น ตั ว ผู ้ ม ากกว่ า ต้ น ตั ว เมีย จึง มั ก นิย ม ขยายพันธุ์โดยการเสียบยอด ทาบกิง่ จะให้ผล เมื่อมีอายุประมาณ 4-5 ปี

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ผล ใช้รับประทาน ส่วนเปลือกของผลใช้แกง เช่น แกงส้ม ด้านสมุนไพร : ผลใช้เป็นยารักษาลดความดัน ยาระบาย ลั ง แขจากป่ า ชุ ม ชนบ้ า นจุ ฬ าภรณ์ พัฒนา 12 จังหวัดนราธิวาส เป็นพรรณไม้ เฉพาะถิ่น และเป็นพันธุ์ไม้หายากที่เสี่ยงสูญ พันธุ์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์พันธุกรรมพืช

59


(shrub) คําอธิบายสัญลั(scandent) กษณ์

(shrub)

(shoot grafting)

ย ่ง ไม้เลื้อย ไม้พุ่มรอเลื้อทาบกิ (scandent) (grafting) (climber)

้อย ไม้พุ่มรอเลื

(scandent)

ลักษณะวิสยั

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน คํ าอธิบายสัญลักษณ์คําอธิบายสัความสู ญลังกษณ์ (height)

ยางพลวง

ลักษณะวิสยั

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

ขยายพันธ

้อยา แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล ไม้หัว หรือไม้มีเเลืหง้ (climber) (bulb, rhizome) (sucker, stolon) เพ

ไม้เลื้อย (climber)

ไม้หัว หรือมีเพาะเลี คุณค่าในการอนุ รักษ์ เหง้า ้ยงเนื้อเยื่อ

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

(bulb, rhizome) (tissue culture)

ลักษณะวิสยั ขยายพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพัขยายพั นธุ์ คุณค่าในการอนุรนักธุ์ษ์ยาก คุณค่าในการอนุรักษ์ (tree, umbrella shape)

ความสูง (height) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

(se

ปัก (cu

ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ เพาะเมล็ด ตอ กลม ด ายาก เป็นพรรณไม้ ยายพั ธุห์ยาก ใกล้สูญเป็พัทนนี่ขธุพรรณไม้ ์ น(seed) (height) (tree, round(seed) shape)เป็นพรรณไม้ (ai

10-30 m เป็นพรรณไม้ ที่ขยายพันธุ์ยาก

ปักชํากิํา่งหรือเถา ไม้ต้นทรงกรวยคว่ โน พรรณไม้ เป็นเพรรณไม้ สูญพัปันกธุม์ชํีคา่ากิ่งหรือเถ เป็นพรรณไม้ ฉพาะถิเป็ ่นในกล้ (cutting) (tree, conical shape) (tree, umbrella shape) (cutting) (la

ไม้ตใ้นกล้แผ่สเูญป็นพัรันศธุมี์ เป็นพรรณไม้

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dipterocarpus tuberculatus Roxb. ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ่ง ้นทรงพุ่มตอนกิ กรวยแหลม นพรรณไม้ ที่ชุม่งชนมีคติวาด เป็นพรรณไม้ ชื่อวงศ์ : DIPTEROCARPACEAE เป็นพรรณไม้เป็เฉพาะถิ ่นตอนกิ ไม้ตเฉพาะถิ ้นทรงพุไม้่น่มตกลม (tree, round shape) (air layering) อนุ ร ก ั ษ์ เ พื อ ่ การใช้ ประโยชน (tree, spike shape) (bu (tree, round shape) (air layering) ชื่ออื่น : กุง (ปราจีนบุรี, อุบลราชธานี), ควง (พิ ษ ณุ โ ลก, สุ โ ขทั ย ) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา โน้มกิ่ง (tree, conical shape)

ไม้พุ่ม

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (layering) (shrub) (tree, conical shape)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้พุ่มรอเลื้อติยดตา ย บหรื อ เป็ น คลื น ่ บ้ งเล็ก(budding) น้อย ก้านใบ ต้น : ไม้ต้นขนาดกลางถึงใหญ่ สูง 10 - 30(tree, ขอบใบเรี ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่มากรวยแหลม spike shape) (scandent) มตรspikeไม้shape) เมตร ผลัดใบ ล�ำต้นเปลาตรง เรือนยอดเป็นไม้พุ่ม ยาว 3 - 30 เซนติเ(tree, เลื้อย เสียบยอด (shrub) (shoot grafting) พุ่ม า(climber) มใบ ตอนปลายกิ ่ง พุม่ กลม เปลือกหนาสีนำ�้ ตาลปนเทาอ่อน แตก ดอก : ออกเป็นช่อไม้ตามง่ (shrub) ไม้หัว หรือมีทาบกิ ไม้พุ่มรอเลื้อย เหง้า ่ง มีกาบหุ้มช่อดอกรูปขอบขนานแคบ ๆ หนึ่ง เป็ น ร่ อ งลึ ก ไปตามยาวของล� ำ ต้ น กิ่ ง อ่ อ น(scandent) (grafting) ไม้พุ่มรอเลื(bulb, ้อย rhizome) กลีบเลี้ยงโคนเชื ่อมติดกัน ปลายแยก 5 เกลี้ยงหรือเกือบเกลี้ยง มีรอยแผลใบเห็นชัด ไม้เลื้อกาบ ย คุ(scandent) ณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล (sucker, stolon) ใบ : เดี่ยว เรียงเวียนสลับ ใบรูปไข่กว้างขนาด(climber)แฉก กลีบดอกมี 5ไม้กลี เลื้อยบ ปลายกลีบบิดตาม ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี ้ยงเนื เยื่อ ที่ขยายพั นธุ้อ์ยาก เข็ มนาฬิกาเหมือนกั(climber) งหัน เป็ก่นอพรรณไม้ นออกดอกจะทิ ้ง 15 - 28 X 15 - 40 เซนติเ มตร โคน(bulb, rhizome) (tissue culture) ไม้หัว หรื เหง้า -ชมพูเข้ม ขอบ สีอชเป็มีมพู ใบแผ่กว้าง แล้วหยักเว้า ปลายใบสอบทู ่ เนื้อ ใบหมดหรือเกือบหมด นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ คุณค่าในการอนุรักษ์ (bulb, rhizome) ใบหนาเกลี้ยงหรืออาจมีขนกระจายห่างๆบ้าง กลีบ สีขาวออกดอกเดือนธันวาคมถึงเมษายน นพรรณไม้ ษ์ เป็เฉพาะถิ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยากคุณค่าในการอนุ เป็รนัก พรรณไม้ ่น หายาก

ทา

ติดตา (gr (budding)

แย เสียบยอด (su

(shoot grafting) เพ

ทาบกิ่ง (tis (grafting)

แยกหน่อ หัว ล เป็น (sucker, stolon)

เพาะเลี้ยงเนื้อเย เป็น (tissue culture)

เป็น อน

เป็นพรรณไม้หา

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันเป็ธุ์ยนาก พรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้มีค เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพัเป็ นธุน์ พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

60

เสีย

โน้มกิ่ง (sh (layering)

เป็นพรรณไม้ที่ช อนุรักษ์เพื่อการ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านจาน จังหวัดบุรีรัมย์ ผล : เป็นรูปกรวย มีสนั ด้านข้างผล 5 สัน และ พองโตเป็นติ่ง 5 ติ่งตรงที่ติดกับโคนปีก มีปีก ยาว 2 ปีก ยาว 10 - 15 เซนติเมตร มีเส้น ปีกตามยาว 3 เส้น ผลแก่ประมาณ มกราคม – พฤษภาคม การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เนื้อไม้ใช้ในการท�ำ สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ภายในร่ม เช่น เครื่องบน รอด ตง คาน พื้น ฝา ท�ำเครื่องมือทางการ เกษตร หูกทอผ้า ปาร์เก้ และเป็นไม้ปูพื้น การ

ใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร น�ำ้ มัน ใช้ทาแผล ภายนอก ใบ เผาให้เป็นเถ้าผสมกับน�้ำปูนใส แก้ บิดและถ่ายเป็นมูกเลือก ราก น�ำมาต้มแล้วดืม่ แก้ตับอักเสบการใช้ประโยชน์ทางด้านอื่น ๆ ชันใช้ทาไม้ ยาเรือ หรือยาเครือ่ งจักสาน ท�ำไต้ ใบแห้ง ใช้มุงหลังคา ฝากั้นห้อง และห่อของ พลวงเป็นพันธุ์ไม้เด่น และเป็นพันธุ์ไม้ ใกล้สญ ู พันธุ์ ในพืน้ ทีป่ า่ ชุมชนบ้านจาน จังหวัด บุรีรัมย์ และป็นพันธุ์ไม้ที่มีการขยายพันธุ์ยาก

61


คําอธิบายสัญลักเพาะเลี ษณ์้ยงเนื้อเยื่อ

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

(tissue culture)

ลักษณะวิสยั

คํานอธิ บายสัความสู ญลังกษณ์ เป็นพรรณไม้หายาก คําอธิบายสัเป็ญนพรรณไม้ ลักษณ์ ที่ขยายพั ธุ ์ ย าก (height)

สาธร

ลักษณะวิสยั

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Millettia leucantha Kurz ชื่อวงศ์ : FABACEAE ชื่ออื่น : ขะเจ๊าะ (ลำ�ปาง), สะท้อน (สระบุรี)

กพัษณะวิ ั เป็นพรรณไม้ใกล้สลัูญ นธุ์ สย

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ่า ขยายพั นธุ์ shape)เป็นพรรณไม้มีคขยายพ (tree, umbrella

ความสูง ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ กลม ด 18-20 m เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา (height) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (height) (tree, round(seed) shape)

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยช

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ปักชํากิํา่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่ (tree,shape) conical(cutting) shape) (tree, umbrella

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tree, round shape)

้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม layering) (tree, spike (air shape) (tree, round shape)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

ตอนกิ่ง

ไม้พุ่ม

โน้มกิ่ง

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (layering) (shrub) (tree, conical shape)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้พุ่มรอเลื้อติยดตา โคนใบมน ด้านล่างใบสีไม้อตอ่ ้นทรงพุ นกว่ าด้านบน ต้น : ไม้ต้นขนาดกลาง ผลัดใบ สูง 18-20 แหลม(tree, ่มกรวยแหลม spike shape) (budding) (scandent) (tree, spike shape) เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ ค่อนข้างกลมหรือ ใบแก่ไม้เกลี พุ่ม ้ยง ใบและยอดอ่อนมีขนยาวอ่ เสีย่ม บยอด ไม้เลื้อยอนนิ (shrub) (shoot grafting) ุ่ม (climber) ทรงกระบอก เปลือกสีเทาเรียบหรือแตกเป็น ดอก : ออกดอกเป็นช่อตามง่ไม้าพมใบและปลาย (shrub) ไม้หัว หรือมีทาบกิ ุ่มรอเลื้อย เหง้า ่ง ขพาว รูปดอกถั่ว ช่อยาวประมาณ 20 สะเก็ดเล็ก ๆ ตื้น ๆ เนื้อไม้สีขาวอมน�้ำตาล กิ่ง สีไม้(scandent) (grafting) (bulb, rhizome) ไม้พุ่มรอเลื้อย เซนติไม้เมตร บ กลีบเลี้ยง 4 อ หัว ลํา หรือไหล แก่นสีนำ�้ ตาลอมด�ำ เลื้อย กลีบดอก 5 กลี คุ(scandent) ณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ (sucker, ดกันเป็นหลอดสั้น ออกดอกช่ ว งเดื อ น stolon) ใบ : เป็นใบประกอบแบบขนนกเรียงสลับ ใบ กลีบติ(climber) ไม้เลื้อย ไม้หัว หรือมีเหง้า ้ยงเนื เยื่อ ที่ขยายพั นธุ้อ์ยาก (climber) เป็นพรรณไม้เพาะเลี ย่อยติดเป็นคูต่ รงกันข้าม 3-5 คู่ ปลายสุดเป็น มีนาคม-พฤษภาคม (bulb, rhizome) (tissue culture) ไม้หัว หรือมีเหง้า ายฝัก ใบเดี่ ย ว แผ่ น ใบย่ อ ยรู ป รี ก ว้ า ง 3-5.5 ผล : ผลเป็นฝักแบน รูปขอบขนานคล้ เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ คุณค่าในการอนุรักษ์ (bulb, rhizome) เซนติเมตร ยาว 5-12 เซนติเมตร ปลาย มีด มีเปลือกแข็ง กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร นพรรณไม้ ษ์ เป็เฉพาะถิ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยากคุณค่าในการอนุ เป็รนัก พรรณไม้ ่น หายาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันเป็ธุ์ยนาก พรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพัเป็ นธุน์ พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องก อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

62


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ยาว 4-10 เซนติเมตร เมื่อฝักแก่จะแตกออก เป็น 2 ซีก ในหนึ่งฝักมี 1-3 เมล็ด เมล็ดสี น�้ ำ ตาล รู ป ร่ า งแบน เส้ น ผ่ า นศู น ย์ ก ลาง ประมาณ 1.3 เซนติเมตร ฝักแก่ช่วงเดือน พฤษภาคม – สิงหาคม การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เนื้อไม้และแก่นมี ลักษณะสวยงามมักน�ำมาใช้ในงานก่อสร้าง ท�ำ เสา ท�ำฝาบ้าน ท�ำกระดานพื้น ท�ำเครื่องเรือน และด้ามเครือ่ งมือเครือ่ งใช้ตา่ ง ๆ ยอดอ่อน ใช้ รับประทาน สามารถน�ำมาประกอบอาหารได้ หลากหลายรูปแบบ เช่น แกงส้ม แกงเลียง ผัด

น�ำ้ มันหอย หรือน�ำมาต้ม ลวก รับประทานเป็น ผักร่วมกับน�้ำพริกเปลือกไม้ บรรเทาอาการ ปวดฟัน โดยน�ำเอาส่วนเปลือกประมาณ 2-3 ชิน้ ต้มกับน�ำ้ ครึง่ หม้อ แล้วเติมเกลือตัวผูล้ งไป ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เคี่ยวให้ข้นจนเหลือน�้ำ 1/3 ของน�้ำที่มีอยู่เดิม จากนั้นทิ้งไว้ให้น�้ำเย็น แล้วน�ำมาอม จะรู้สึกชาที่ปากช่วยบรรเทา อาการปวดฟันได้ สาธร เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความ ต้ อ งการอนุ รั ก ษ์ เพื่อ การใช้ ป ระโยชน์ ด ้ า น สมุนไพร

63


(shrub)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

(grafting) (shoot grafting)

ไม้พุ่มรอเลืไม้ ้อยเลื้อย (scandent) (climber)

ทาบกิ่ง แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (grafting)(sucker, stolon)

ไม้เลื้อย ไม้หัว หรือมีเหง้า (climber) (bulb, rhizome)

แยกหน่อเพาะเลี หัว ลํา้ยหรื งเนือ้อไหล เยื่อ (sucker, stolon) (tissue culture)

ไม้ หัวค่หรื อมีเหง้า รักษ์ คุณ าในการอนุ (bulb, rhizome)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture)

คําอธิบายสัญลักษณ์ คําอธิบายสัญลักษณ์

หลุมพอ

(scandent)

ลักษณะวิสยั

ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์

ขยาย

เป็นพรรณไม้หายาก คุณค่าในการอนุเป็รนักพรรณไม้ ษ์ ที่ขยายพันธุ์ยาก ความสูง ความสูง เพาะเมล็ด 25-40 m เป็นพรรณไม้ หายาก มีค่า เป็ น พรรณไม้ ท ี ข ่ ยายพั น ธุ ์ ย าก เป็นพรรณไม้ เป็ น พรรณไม้ ใ กล้ ส ญ ู พั น ธุ ์ (height) (height) (seed)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี เป็นพรรณไม้ สูญพันเฉพาะถิ ธุ์ ่น เป็นใกล้ พรรณไม้ (tree, umbrella shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Intsia palembanica Miq. ไม้ต้นทรงพุ่มเป็กลม นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ชื่อวงศ์ : FABACEAE (tree, round shape) ชื่ออื่น : สะหลุมพอ (ปราจีนบุรี), มือเบา (ปัตตานี)

อเถา มีค่า ไม้ต้นแผ่เป็นปัรักศมีชํากิ่งเป็หรืนพรรณไม้ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความ (cutting) (tree, umbrella shape) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน

ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่งเป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ layering) (tree, round(air shape) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา โน้มกิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (tree, conical shape) (layering) (tree, conical shape) ่มกรวยแหลม ติดตา ใบไม้ต:้นทรงพุ ออกเป็ นช่อ มีใบย่อย 4 คูไม้่ ลัต้นกทรงพุ ษณะใบรู ่มกรวยแหลมป (tree, spike shape) (budding) spike shape) หอกแกมรูปไข่ กว้าง 5 เซนติ(tree, เมตร ยาว 9 ไม้พุ่ม เสียบยอด ไม้พุ่ม เซนติ ๆ ตรง (shrub) เ มตร ปลายสอบแหลมเว้ า ตื้ น (shoot grafting) (shrub) ปลายสุ ไม้พุ่มรอเลืด ้อยเล็กน้อย โคนกลม เนื้อเกลี้ยงเป็ ทาบกิน ่ง มัน ไม้พุ่มรอเลื้อ(grafting) ย (scandent) ดอก : สีเหลืองอ่อน ออกบนช่อ(scandent) สีเขียวอ่อนอม ไม้เลื้อย อ หัว ลํา หรือไหล เทา ยาว 5 – 10 เซนติเมตร ไม้เลื้อย แยกหน่ (climber) (sucker, stolon) ผล : เป็นฝัก กว้าง 6 – 8 เซนติ(climber) เมตร ยาว 15 ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้ ห ว ั หรื อ มี เหง้กาษณะ (bulb, rhizome) culture) – 40 เซนติเมตร เมล็ด รูปกลมแบน ลั(tissue (bulb, rhizome)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : หลุมพอเป็นไม้ต้น ผลัดใบขนาดใหญ่ สูง 25 – 40 เมตร โคนต้นมักจะเป็นพูพอน สูงใหญ่ ล�ำต้นเปลาตรง เปลือกเรียบ หรือตก สะเก็ดเป็นแผ่นกลมบาง ๆ มีสตี ่าง ๆ กัน ทีพ่ บ บ่อย ๆ มักจะออกสีชมพูอมน�ำ้ ตาล หรือเทา อมชมพู ลักษณะเนื้อไม้สีแดงอมน�้ำตาล เป็น มันเลื่อม เสี้ยนตรง เนื้อหยาบ แข็ง เหนียวแข็ง แรง และทนทานมาก เพรียงไม่ค่อยกิน ไสกบ คล้ายลูกรสะบ้ ตบแต่งไม่ค่อยยาก ขัดชักเงาได้ดี หลุมพอพบ คุณค่าในการอนุ ักษ์ า เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 ค่าในการอนุ รักษ์ เมตร และ ขึ้นอยู่ในป่าดงดิบชื้น ตามที่ราบทางภาคใต้ เซนติเมตร ความยาวเฉลีคุย่ ณ 5 เซนติ เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ้ ำ หนั กของ และตะวันออกเฉียงใต้ ที่สูงระดับน�้ำทะเลถึง ความหนาเฉลี่ย 0.8 เซนติเมตร น� เป็นพรรณไม้ที่ขยายพั นธุ์ยาก เมล็ ดแห้งใเฉลี ่ พัเมล็ ดมีค่า 800 เมตร เป็กเมล็ นพรรณไม้ เป็นพรรณไม้ กล้สูญย นธุ์ ดละ 13 กรัม เปลือ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

64

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้อนุ เฉพาะถิ ่น


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านวังศิลาดิเรกสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี แข็งหนามาก ผิวด้านนอกเรียบเกลี้ยงเป็นมัน ดูดซึมน�้ำยากมาก การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ไม้หลุมพอเป็นไม้ที่ มีคณ ุ ค่าทางเศรษฐกิจสูงชนิดหนึง่ ของประเทศ ไทย และเป็นไม้ทตี่ ลาดมีความต้องการมาก มี การน� ำ ไม้ ห ลุ ม พอมาใช้ ป ระโยชน์ ใ นการ ก่ อ สร้ า งอาคารบ้ า นเรื อ น ท� ำ สะพาน เสา

หมอนรองรางรถไฟ เกวียน เครื่องเรือน เป็น ไม้ที่สวยงาม เหมาะส�ำหรับท�ำเครื่องเรือน ท�ำ พื้น รอด ตง ขื่อ อกไก่ ไม้บุผนังที่สวยงาม ท�ำ ลูกประสัก โครงเรือใบเดินทะเล แจว พาย กรรเชียง เสากระโดงเรือ ไถ คราด ครก สาก กระเดือ่ ง พันสีขาว ตัวถังรถ ด้ามเครือ่ งมือ ท�ำ หูก ด้ามหอก และกังหันน�้ำ

65


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

(shoot grafting) ปักชํากิ่งหรืตอนกิ อเถา ่ง (air layering) ทาบกิ่ง (cutting) (grafting) ตอนกิ่ง โน้มกิ่ง (layering) แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (air layering) (sucker, stolon) โน้มกิ่ง ติดตา (layering) (budding)เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture) ติดตา เสียบยอด ขยายพันธุ์ (budding) (shoot grafting)

คํ าอธิบายสัญลักษณ์ คําอธิบายสัญลักษณ์

ขนุนลาว

(shrub) ไม้ต้นแผ่เไม้ ป็นตรั้นศทรงพุ มี ่มกลม (tree, round ไม้shape) พุ่มรอเลื้อย (tree, umbrella shape) (scandent) ไม้่มตกลม ้นทรงกรวยคว่ํา ไม้ต้นทรงพุ (tree,shape) conical ไม้เลืshape) ้อย (tree, round (climber) ไม้ต้นทรงพุ ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา ่มกรวยแหลม หัว หรือมีเหง้า (tree,shape) spikeไม้shape) (tree, conical (bulb, rhizome) ไม้่มพกรวยแหลม ุ่ม ไม้ต้นทรงพุ ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์ คุ(shrub) ณshape) ค่าในการอนุรักษ์ (tree, spike

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

เพาะเมล ไม้พุ่ม ไม้พุ่มรอเลื้อย 5-6 m ความสูง เพาะเมล็เสีดยบยอด ทาบกิ่ง เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก (seed) (height) (seed) (shrub) (scandent) (shoot grafting) (grafting)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศไม้มีพุ่มรอเลืไม้​้อเลืย้อย

่ง แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล ปักชํากิ่ง หรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็นปัรักศมีชํากิ่งทาบกิ เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ (grafting) (sucker, stolon) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Annona muricata L.(tree, umbrella(scandent) shape)(climber) (cutting) (tree, umbrella shape) (cutting) ไม้ เ ลื ้ อ ย แยกหน่ อ หั ว ลํ า หรื อ ไหล ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ า เพาะเลี ้ ย งเนื ้ อ เยื อ ่ ควา ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : ANNONACEAE เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ ไม้ต่น้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง (sucker, stolon) เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมี ตอนกิ ่ง (climber) (tissue culture) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน (tree, round shape) (bulb, rhizome) (air layering) (tree, round shape) (air laye ชื่ออื่น : ทุเรียนเทศ, ทำ�เรียนแขก, หมากเขียบหลด, ไม้หัว หรือมีมะทุ เหง้า เรียน เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

คุณ ค่าในการอนุรักษ์ ไม้ต้นทรงกรวยคว่ (bulb,ํา rhizome) (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง (tissue culture) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา โน้มกิ่ง (layering) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (layering เป็นพรรณไม้หายาก คุณค่าในการอนุ ักษ์ ที่ขยายพันธุ์ยาก(tree, conical shape) เป็นรพรรณไม้ ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ติ ด ตา หนามนิ ม่ ทีเ่ ปลือก ต้น : เป็นไม้ต้นขนาดเล็กกิ่งก้านค่อนข้างมาก ผล : ผลมีสเี ขียวรูปกลมรีไม้ตมี้นทรงพุ ่มกรวยแหลม ติดตา (tree, spike shape) (budding) เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็ น พรรณไม้ ม ี ค ่ า (tree, spike shape) (budding เป็ น พรรณไม้ ใ กล้ ส ญ ู พั น ธุ ์ ผล เส้นผ่านศูนย์กลาง 10 - 20 เซนติเมตร ล�ำต้นมีขนาดสูง ประมาณ 5 - 6 เมตร ไม้พุ่ม เสียบยอด ไม้พุ่ม มีนำ บยอ เมตร �้ หนัgrafting) 0.5เป็มนีคพรรณไม้ -่า ที่ชุมชนมีความต้เสีอยงการ เป็กนพรรณไม้ ใบ : ใบเป็นใบเดีย่ ว ค่อนข้างหนา ใบเรียงสลั(shrub) บ ยาวเป็น15 พรรณไม้-ใกล้30 สูญพันธุเซนติ ์ (shoot เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (shrub) (shoot g ยน้่งอยโหน่อนุง รสีักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ กันไปในระนาบเดียวกับกิ่ง ใบมีรูปร่างรี ผิวไม้ใบพุ่มรอเลื3.0 ้อย กิโลกรัม ภายในมีเนื้อคล้าทาบกิ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ ทาบกิ่ง เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ไม้ พ ่ ุ ม รอเลื ้ อ ย (grafting) ก น้ อ ย เนืรัก้อษ์เจะไม่ เป็นมัน เมื่อฉีกใบจะได้กลิ่นเหม็นเขียวฉุนจั(scandent) ด ขาว มีรสเปรี้ยว รสหวานเล็ อนุ พื่อการใช้ประโยชน์ (scandent) (grafting ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล แยกแต่ละเมล็ดเป็นหนึไม้่งเตาเหมื อนน้อยหน่า ดอก : ดอกเป็นดอกเดี่ยวขนาดใหญ่ห้อยลง ลื้อย (sucker, stolon) แยกหน่อ (climber) (climber) (sucker, บมีรสอมเปรี้ยว และมีรเพาะเลี สมัน้ยเล็ กน้อย อยูร่ วมกัน 3 - 4 ดอก กลีบเป็น รูปสามเหลีย่ไม้มหัว หรือถ้มีาเหง้ผลดิ า งเนื้อเยื่อ หัว หรือมี(tissue เำหง้าหุ ้ ม เพาะเลี้ย เมล็ด : เมล็ดแก่มีสีน�้ำไม้ตาลด� ด้วยเนื้อ culture) หนาแข็ง จ�ำนวน 6 กลีบ เรียงเป็น 2 ชั้นๆ (bulb, ละ rhizome) (bulb, rhizome) (tissue c

สีรขักาวษ์ 3 กลีบ มีสีเหลืองแกมเขียว ออกดอกตลอด คุณค่าในการอนุ ทัง้ ปี มีกลิน่ หอมอมเปรีย้ วจะส่งกลิน่ หอมตัง้ แต่ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ช่วงบ่าย เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

66

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรร

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้อนุ เฉพาะถิ ่น

เป็นพรร

เป็นพรร อนุรักษ์เ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านเด่นพัฒนา จังหวัดน่าน การขยายพันธุ์ : การเพาะเมล็ดท�ำได้โดย การน�ำเมล็ดมาเพาะ เมล็ดจะงอกภายใน 7 วั น แต่ ต ้ น กล้ า จะโตช้ า และออกดอกเมื่ อ มีอายุไม่ต�่ำกว่า 3 ปี จึงนิยมขยายพันธุ์ด้วย การเสียบยอด และทาบกิ่ง การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ด้านสมุนไพร : ทุเรียนเทศนิยมน�ำมาประกอบ เป็ น อาหาร ในประเทศไทยน�ำ ผลแก่ ม ารั บ ประทาน ในภาคใต้ นิ ย มน� ำ ผลอ่ อ นมาท� ำ แกงส้มและเชื่อม ในประเทศฟิลิปปินส์และ

อินโดนีเซีย นิยมน�ำผลอ่อนทีเ่ มล็ดยังไม่แข็งมา รับประทานเป็นผัก ผลแก่น�ำมาท�ำขนมหวาน เช่น น�ำเนื้อมาผสมในไอศกรีม เครื่องดื่มนม ผสมผลไม้รวม เยลลี่ น�้ำผลไม้ ในประเทศ มาเลเซีย มีการท�ำน�้ำทุเรียนเทศอัดกระป๋อง ซึ่งได้รับความนิยมมาก เนื่องจากทุเรียนเทศ ประกอบด้วย แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินซี น�ำ้ ตาลและกรดอินทรียอ์ กี หลายชนิด

67


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

(shoot grafting)

ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent)

ทาบกิ่ง (grafting)

ไม้เลื้อย (climber)

แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (sucker, stolon)

คําอธิบายสัญลักษณ์ คําอธิบายสัญลักษณ์

ค้อนหมา

(shrub)

ลักษณะวิสยั

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

คุณค่าในการอนุรักษ์

ความสูง (height)

ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์

4-8 m เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acronychia pendunculata (L.)(tree,Miq. umbrella shape) ชื่อวงศ์ : RUTACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มกลม เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (tree, round shape) ชื่ออื่น : กะอวม (เชียงใหม่), ทองฟ้า (ประจวบคีรีขันธ์), ชุ่มฉ�่ำ (เลย)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture)

ความสูง เพาะเมล็ด เป็นพรรณไม้หายาก (height) (seed) เถา ไม้ต้นแผ่เป็นรัปัศกมีชํากิ่งเป็หรืนอพรรณไม้ มีค่า (cutting) (tree, umbrella shape)

ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน (air layering) (tree, round shape)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิํา่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ (tree, conical(layering) shape) ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ติ ดตา จะปรากฏต่อมน�ำ้ มันโปร่งแสงกระจัไม้ดตกระจาย ้นทรงพุ่มกรวยแหลม (budding) (tree, spike shape) ทั่วไป (tree, spike shape) ไม้พุ่ม เสียบยอด ดอก (shrub) : ส่วนมากมีดอกจ�ำนวนมากไม้พุ่มช่อดอก (shoot grafting) (shrub) ออกตามง่ ามใบใกล้ ปลายกิ่ง แตกแขนงเล็ทาบกิ ก ่ง ไม้พุ่มรอเลื ้อย ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent) ก สีขาวอมเหลือง ก้านดอกยาว (grafting) น้อย ดอกเล็ (scandent) ้อย เซนติเมตร กลีบเลี้ยงขนาดเล็ แยกหน่ 0.2 -ไม้เลื1.2 ก อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อย (climber) (sucker, stolon) (climber) ยาว 0.6 - 1.5 มิลลิเมตร กลีบดอกสี ขาว รูป ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หัว หรื หง้ ใบหอก(bulb,ยาว 0.4 - 1.2 เซนติเมตร พัอบมีเ(tissue งอา culture) rhizome) (bulb, rhizome)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 4 - 8 เมตร แตกกิ่ง ต�่ำระเกะระกะใกล้โคนต้น ใบ : ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปรีแกมรูปขอบ ขนาน หรื อ รู ป ไข่ ก ลั บ ยาว 3. 5- 25 เซนติเมตร โคนใบแหลม เรียวสอบ หรือกลม ปลายใบแหลม แหลมยาว มน หรือกลม ขอบ เรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนา ก้านใบยาว 0.5 5 เซนติเมตร แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้ม ด้าน ดอก 4 กลี ล่างสีจางกว่า เมื่อส่องแผ่นใบดูกับแสงสว่าง คุกลี ณค่บาในการอนุ รักบ ษ์ รูปใบหอกกลับแยกกัน เกสร คุณค่าในการอนุรักษ์

68

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้อง รักษ์่นเพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้เอนุ ฉพาะถิ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านคูขาด จังหวัดอุบลราชธานี เพศผู้ 8 อัน สั้นกว่าหรือยาวเท่า ๆ กลีบดอก โคนก้านชูอับเรณูแผ่กว้าง มีขน จานฐานดอก สีเหลืองอ่อน รังไข่สว่ นมากมีขนทัว่ ไปหรือมีขน เฉพาะปลายรังไข่ ก้านเกสรเพศเมียส่วนมาก มีขนที่โคน ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่ม ผล : ผลเชื่อ มติด กั น เกือ บกลม เส้ น ผ่ า น ศูนย์กลาง 0.7 - 1.2 เซนติเมตร ส่วนบนมัก มี 4 สัน ปลายผลมีติ่งเล็กน้อย บางครั้งปลาย ผลแยกกันเล็กน้อย ผนังชั้นในแข็ง เมล็ดยาว 3 - 7 มิลลิเมตร การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ราก แช่น�้ำกินแก้ตุ่ม อีสุกอีใส ร้อนใน ต้น แช่นำ�้ กินแก้ท้องผูกท้อง ร่วง แก้ซาง ตานขโมยเด็ก ใบ แช่นำ�้ กินแก้โรค หนองใน แก้โรคผิดกระบูน (ผิดกรรมของผู้ หญิง) ค้ อ นหมาจากป่ า ชุ ม ชนบ้ า นคู ข าด จังหวัดอุบลราชธานี เป็นพื้นสมุนไพรหายาก ในพื้นถิ่น สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน โดย หมอยาพืน้ บ้านจะได้มาจากการเก็บหาจากใน ป่ า ยั ง ไม่ นิ ย มน� ำ มาขยายพั น ธุ ์ เพื่อ การใช้ ประโยชน์ในครัวเรือนอย่างกว้างขวางมากนัก

69


(sucker, stolon) คําอธิบายสัญลักษณ์(shoot grafting) ไม้ห้อยัว หรือมีเหง้า ไม้พุ่มรอเลื ทาบกิ่ง เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (bulb, rhizome) (scandent) (grafting)(tissue culture) คําอธิบายสั ญลักษณ์ ลักษณะวิสยั ขยายพันธุ์ (shrub) (climber)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ไม้เค่ลืา้อยในการอนุรักษ์ คุณ

บายสัความสู ญลังกขยายพั ษณ์ นธุ์ คําอธิบายสั ญลัสกยั ษณ์คําเป็อธิ ลักษณะวิ (height) นพรรณไม้ที่ขยายพั นธุ์ยาก (climber)

จันผา

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

เพาะเ

เป็น้อพรรณไม้ เพาะเลี้ยงเนื เยื่อ หายาก (seed (tissue culture) เพาะเมล็ด

ไม้หัว หรือมีเหง้า

แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (sucker, stolon)

ความสูง(bulb, rhizome) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ลักเป็ษณะวิ สยั ขยายพั (seed) นรพรรณไม้ ูญพันธุumbrella ์ นธุ์ shape) คุณ(height) ค่าในการอนุ ักษ์ ใกล้ส(tree,

ขยายพั นธุ์ มีค่า เป็นพรรณไม้

ปักชํา (cuttin

ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ เพาะเมล็ด ตอนก ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี กลม ปัดกชํากิ่งหรือเถา 1.5-4 mที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ ายาก ที่ชุมชนมีควา เป็นหพรรณไม้ เป็นพรรณไม้ เป็ นพรรณไม้ เฉพาะถิ ่น round(seed) (tree, umbrella shape) (height) (seed) (air la (tree, shape) (cutting)

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมีไม้ต้นทรงพุ่มกลม ปักชํากิํา่งตอนกิ หรือเถา ่ง เป็นพรรณไม้มีค่าปักชํากิ่งหรือโน้ ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ต้นพัแผ่ เถามก เป็นพรรณไม้ใกล้ไม้ สูญ นธุเ์ ป็นรัศมี (tree, umbrella shape) (tree,shape) conical(cutting) shape)(air layering) (layer (tree, round shape) (tree, umbrella (cutting)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dracaena cochinchincusis (Lour.) S.C. Chen ไม้ต้นทรงพุ่มกลมไม้ต้นทรงกรวยคว่ ่ง โน้มกิ่ง เป็นพรรณไม้ที่ชุมตอนกิ ้นทรงพุ่มตอนกิ กรวยแหลม ดตา ชนมีความต้ ชื่อวงศ์ : ASPARAGACEAE เป็นพรรณไม้ ํา เฉพาะถิ ไม้ต้น่นทรงพุไม้่มตกลม ่ง อติงการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ (budd (tree, spike (air shape) (tree, round shape) layering) (tree, conical shape) (tree, round (layering) shape) (air layering) ชื่ออื่น : ลักกะจันทน์ (ภาคกลาง) จันทร์แดง (ภาคกลาง, สุราษฎร์ธานี ) ไม้พุ่ม ไม้ต้นทรงกรวยคว่ไม้ําต้นทรงพุ่มกรวยแหลม โน้มกิ่ง ติดตา ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (shrub) (layering)(budding) (tree, conical shape) (tree, spike shape)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (tree, conical shape) ไม้พุ่มรอเลื้อติยดตา เสียบยอด ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ไม้ พ ม ่ ุ ยวแหลม โคนใบ ต้น : เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก ไม่ผลัดใบ รูปทรงไม่ รูปแถบยาวแคบ ปลายใบเรี ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่มกรวยแหลม (scandent) (tree, spike shape) (budding)(shoot grafting) (shrub) ต้น spike ส่ไม้วshape) นขอบใบเรี แน่นอน มีความสูง ของต้น 1.5-4 เมตร ต้ไม้นพุ่ม แผ่เป็นกาบหุ้มล้า(tree, เลื้อย เสียบยอดยบ ใบมี ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง (climber)และยาว ไม้พุ่ม เมตร าง 4-5 เซนติ 45-80 โตเต็มทีอ่ าจมีความสูงถึง 17 เมตร เรือนยอด (shrub) ขนาดกว้ (shoot grafting) (scandent) (grafting) (shrub) ไม้หัว หรือมีเหง้า ้อย ไม้เมตร ทาบกิ่ง แยกหน่อดหักั เป็นรูปทรงไข่ มีเรือนยอดได้ถงึ 100 ยอด เมืไม้อ่ พุ่มรอเลืเซนติ เลื้อย เนื้อใบหนากรอบ โคนใบจะติ ว ลํบ า หรือไหล ไม้พุ่มรอเลื(bulb, ้อย rhizome) (scandent) (grafting)(sucker, stolon) (climber) ล�ำต้น ไม่มีก้านใบ และมัก ต้นโตขึ้นจะแผ่กว้าง ล�ำต้นตั้งตรง เปลือกต้น ล�ำต้นหรือโอบคลุม(scandent) ักษ์ อเพาะเลี ไม้เลื้อย หัว ลํ้ยางเนืหรื้ออเยืไหล ไม้หัว หรือมีเหง้า คุณค่าในการอนุรแยกหน่ ่อ ใบเหลื อ เพี ย งยอดเป็ น พุ ่ ม เป็นสีนำ�้ ตาลหรือสีนำ�้ ตาลอมสีเทา ไม่มกี งิ่ ก้า(climber) น จะทิ้ง(bulb, (sucker, (tissue stolon)culture) ไม้เลื้อย rhizome) เป็นพรรณไม้ ที่ขยายพันธุ์ยาก นพวงใหญ่ ตเพาะเลี ามซอกใบและ ใบจะออกตามล้าต้น ชอบดินปนทรายหรือหิไม้นหัว หรืดอก อมีเหง้า : ออกดอกเป็(climber) ้ยงเนื้อเยื่อ คุณค่าในการอนุรักษ์ (bulb, rhizome) (tissue culture) หรือมีเหง้ ปลายยอด แต่ละช่ไม้หอัวจะมี คาวามยาวประมาณ ที่มีการระบายน�ำ้ ดี เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้หก ายาก ี่ขยายพันธุเ(bulb, ์ยมตร าก rhizome) ค่าในการอนุ รักษ์เป็นพรรณไม้ทเซนติ มีดอกย่อยขนาดเล็ ใบ : ใบเดี่ยวออกเรียงสลับกันถี่ๆ ทีคุ่ปณลายกิ ่ง 45-100 คุณค่าในการอนุเป็รนักพรรณไม้ ษ์ นดอก เฉพาะถิ่นดอกเป็น และมี จ�ำนวนมากมายหลายพั ลักษณะของใบเป็นรูปยาวรีขอบขนาน หรือเป็เป็นนพรรณไม้ เป็นพรรณไม้ หายากมีค่า ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้

เสียบ

โน้มกิ่ง (shoo (layering)

ทาบก

ติดตา (graft (budding)

แยกห

เสียบยอด (suck (shoot grafting) เพาะเ

ทาบกิ่ง (tissu (grafting)

แยกหน่อ หัว ลํา ห เป็นพ (sucker, stolon)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เป็นพ (tissue culture)

เป็นพ อนุรัก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ใกล้เป็สนูญพรรณไม้ พันธุ์ เฉพาะถิ่น เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ มีค่า ที่ชุมชนมีความต้องการ เป็นพรรณไม้

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

70

เป็นพรรณไม้หายา

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้ที่ชุมช อนุรักษ์เพื่อการใช


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านพระพุทธบาทน้อย จังหวัดสระบุรี สีขาวนวล หรือขาวครีม หรือเขียวอมเหลือง ดอกมีกลิ่นหอม ตรงกลางดอกมีจุดสีแดงสด กลี บ ดอกมี 6 กลี บ ดอกมี ข นาด 0.7-1 เซนติ เ มตร โดยจะออกดอกในช่ ว งเดื อ น กรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม ผล : ออกเป็นช่อพวงโต เป็นรูปทรงกลมขนาด เล็กอยู่รวมกันเป็นพวง ผลมีขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ผิวผลเรียบ ผลอ่อนเป็นสีเขียวอม สีน�้ำตาล ส่วนผลแก่เป็นสีแดงคล�ำ้ ภายในผล มีเมล็ดเดียว โดยผลจะแก่ในช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนกันยายน การขยายพันธุ์ : โดยการเพาะเมล็ดหรือปักช�ำ

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ด้านสมุนไพร แก่นมี รสขมเย็น สรรพคุณช่วยบ�ำรุงหัวใจ แก้อาการ ไออันเกิดจากซางและดี เมล็ดใช้รักษาดีซ่าน ช่วยแก้อาจมไม่ปกติ ทัง้ ต้นช่วยแก้อาการปวด ศีรษะ ช่วยแก้ซาง อาการกระสับกระส่าย ช่วย รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยแก้ดีพิการ ช่วยแก้บาดแผล รักษาบาดแผล แก่นใช้ฝนทา ช่วยแก้อาการฟกบวม ฟกช�้ำ ฝี บวม

71


ลักษณะวิสยั

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

รัศมี คํ าอธิบายสัไม้ญต้นแผ่ลัเกป็นษณ์ คําอธิบายสัเป็ญนพรรณไม้ ลักษณ์ เป็นพรรณไม้หายาก ที่ขยายพันธุ์ยาก (tree, umbrella shape)

ช�ำมะเลียง

ลักษณะวิสยั

ั เป็นพรรณไม้ใกล้สลัูญกพัษณะวิ นธุ์ สย

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lepisanthes fruticosa ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : SAPINDACEAE round shape) ชื่ออื่น : โคมเรียง (ตราด), พูเวียง (นครราชสีมา),(tree, มะเถ้ า (ภาคเหนือ)

72

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ขยายพันธุ์ ขยายพ (tree, round shape) เป็นพรรณไม้มีค่า

ความสูง เพาะเมล็ ความสูง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา ด 2-10 m เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา เป็ น พรรณไม้ เ ฉพาะถิ น ่ (height) shape) (height) (tree, conical(seed) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (Roxb.)(tree,Leenh. umbrella shape)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 2-10 เมตร ไม่ผลัด ใบ เรือนยอดแบบทรงกระบอกหรือสามเหลีย่ ม คว�่ำลง แตกกิ่งก้านแนบล�ำต้น เปลือกเรียบสี น�้ำตาลเทา ใบ : ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงเวียน สลับ ใบย่อยรูปไข่ รูปไข่แกมรูปขอบขนาน หรือ รู ป ใบหอกแคบ เรี ย งตรงข้ า ม กว้ า ง 2-3 เซนติเมตร ยาว 7-21 เซนติเมตร ปลายใบ มนถึงเรียวแหลม โคนใบแหลมหรือคล้ายรูป หัวใจ ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาเป็นมัน เส้น แขนงใบข้างละ 10-12 เส้น

ความสูง (height)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture)

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยช

กชํากิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงพุ่มปักรวยแหลม (tree, spike shape) (cutting) (tree, umbrella shape) ุ่ม ตอนกิ่ง ไม้ต้นทรงพุไม้่มพกลม (shrub) (air layering) (tree, round shape)

ไม้พุ่มรอเลื้อโน้ ย ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา มกิ่ง (scandent) (layering) (tree, conical shape) ไม้เลื้อย ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ติดตา ดอก : สีแดงหรือชมพูปนม่วงออกเป็ ช่อแบบ ไม้ต้นทรงพุ(climber) ่มน กรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) (tree, spike shape) ช่อกระจุ กเดีย่ ว หรือช่อแยกแขนงที ซ่ ไม้อกใบตาม หัว หรือมีเหง้า ไม้พุ่ม เสียบยอด (bulb, กิ่ง หรื(shrub) อล�ำต้น กลีบเลี้ยง 4 -ไม้พ5ุ่ม กลี บrhizome) สีแ(shoot ดง grafting) (shrub) คุณค่าในการอนุรอักนษ์ ปนม่วไม้งเข้ ม กลี พุ่มรอเลื ้อย บดอก 5 กลีบ ออกดอก เดืทาบกิ ่ง ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent) (grafting) พฤศจิกายน ถึงธันวาคม (scandent)เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล ผล : ไม้ผลออกเป็ นช่อๆ ประมาณ ไม้เลื้อย10-20 ผล (climber) (sucker, stolon) (climber) ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม รูปเป็ไข่นพรรณไม้ หรือรูใกล้ปสูญพันธุ์ ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หน ัว หรื เหง้า 2-3 ไข่ถงึ รู(bulb, ปรีปrhizome) อ้ ม มีขนาดเส้นผ่านศู ย์กอเป็มีลาง นพรรณไม้(tissue เฉพาะถิculture) ่น (bulb, rhizome)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

เมตร ผิรักวษ์ผลเรียบเป็นมัน ผลสดเป็นสี คุเซนติ ณค่าในการอนุ ค่าในการอนุ เขียวอมม่วงแดง เมื่อสุคุกณแล้ วจะเปลีร่ยักษ์นเป็นสี

ที่ขยายพันธุ์ยาก ม่ ว งด�เป็นำพรรณไม้ เนื้ อ ผลฉ� ่ ำ น�้ ำ มี ร สหวานมี เ มล็เป็นดพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้อง เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านบุญแจ่ม จังหวัดแพร่ ประมาณ 1-2 เมล็ด ลักษณะของเมล็ดเป็น รูปทรงกลมหรือ รูปไข่ ปนขอบขนาน ผิวเรียบ เป็นสีด�ำ มีขนาดกว้าง 1 - 1.5 เซนติเมตร และยาว 2-2.5 เซนติเมตร โดยจะติดผลใน ช่วงเดือนมิถนุ ายนถึงเดือนธันวาคม และผลจะ แก่ในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ การขยายพันธุ์ : โดยการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ราก มีรสเบือ่ จืดและ

ขมเล็กน้อย ใช้เป็นยาแก้ไข้ ไข้กาฬ ไข้พิษ ไข้ สันนิบาต ช่วยแก้อาการร้อนในแก้อาการท้อง ผูก ใบอ่อน ยอดอ่อน น�ำมาประกอบอาหาร ประเภทแกงผั ด หรื อ น� ำ มาลวกจิ้ ม กิ น กั บ น�้ ำ พริ ก ผลสดสามารถน� ำ มาท� ำ เป็ น “น�้ ำ ช�ำมะเลียง” ได้ และสีม่วงจากผลน�ำมาท�ำสี ผสมอาหารได้

73


(climber) ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ดิ๊กเดียม

คุณค่าในการอนุรักษ์

ษณ์ คําอธิบายสัญลักษณ์ คํ าอธิบายสัญลัเป็กนพรรณไม้ ที่ขยายพันธุ์ยาก

ลักษณะวิสยั

ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์

ความสูง (height) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

7-13 m

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ความสูง เพาะเมล็ด (height) (seed)เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ไม้ต้นแผ่เป็นปัรักศมีชํากิ่งหรือเถา

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ceriscoides turgida (Roxb.) Tirveng. (tree, umbrella shape) (cutting) (tree, umbrella shape) ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : RUBIACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง (tree, round shape) (air layering) round shape) ชื่ออื่น : กระเบียน (ราชบุรี, อุตรดิตถ์), มะกอกพราน (กาญจนบุรี), หมุยขาว(tree, (นครราชสี มา) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (layering) (tree, conical shape) ไม้ต้นน ทรงพุ กรวยแหลม ่ยม 1 คู่ อยู่ตรงข้ามกั ติดน ตา ก้านใบเป็ รูป่มสามเหลี ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) (tree, spike shape)้ ดอก : ดอกแยกเพศ ก้านดอกสั้น ดอกเพศผู ไม้พุ่ม เสียบยอด ออกเป็(shrub) นกระจุก มีกลิ่นหอม กลีบเลีไม้​้ยพุ่มงติดกั(shoot น grafting) (shrub) เป็นหลอด ปากหลอดกว้ างกว่าโคน ปลายตัทาบกิ ด ่ง ไม้พุ่มรอเลื ้อย ไม้พุ่มรอเลื้อ(grafting) ย (scandent) กลี บ ดอกสี ข าวอมเหลื อ งติ ด กั น เป็(scandent) น หลอด ไม้เลื้อย ปลายแยกเป็ น 5 กลีบ เกสรเพศผู้ 5ไม้เลือั้อนย ไม่แยกหน่ มี อ หัว ลํา หรือไหล (climber) (sucker, stolon) ก้านชูอไม้บั หัวเรณู อับเรณูรปู ยาวเรียวติด(climber) อยูภ่ ายใน หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้ ห ว ั หรื อ มี เาหง้มา culture) หลอดดอก ดอกเพศเมียออกเดี่ยวๆ ตามง่(tissue (bulb, rhizome) (bulb, rhizome)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ไม้ตน้ ขนาดเล็ก ผลัดใบ สูง 7-13 เมตร กิ่งก้านแข็งแรง เปลือกสีเทาแกมน�้ำตาล หรือ น�้ำตาลหม่นล่อนออกเป็นแผ่นบางๆ ใบ : ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก รูปไข่ กลับกลมหรือรี ปลายมนหรือแหลมเป็นติง่ สัน โคนสอบแคบเรียวลงไปจนถึงก้านใบ ขอบ เรียบหรือเป็นคลืน่ เล็กน้อย เส้นแขนงใบข้างละ 4-6 เส้น แผ่นใบเกลี้ยงทั้ง 2 ด้าน หรือด้าน มีกลิ่น กลี ล่างอาจมี ขนนุ่ม ก้านใบสั้นมาก หูใบระหว่าง คุใบ ณค่ไม่ าในการอนุ รักษ์บเลี้ยงติดกันเป็นรูประฆังยาว เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

74

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้อง รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้อนุ เฉพาะถิ ่น


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านบุญแจ่ม จังหวัดแพร่ 0.8-2 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกเหมือนกับดอกเพศผู้ รังไข่มีออวุล จ�ำนวนมาก ผล : ผลรู ป ไข่ ห รื อ กลม ยาว 2.5-7.5 เซนติเมตร ค่อนข้างแข็ง เมล็ดแบน ติดผล จ�ำนวนมาก การขยายพันธุ์ : โดยการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ใบ มีรสฝาด ใช้ต�ำ พอกรักษาแผลสด ดอก ใช้ขยี้ ทาแก้ก ลาก เกลื้ อ น และใช้ เ ป็ น ยาฆ่ า พยาธิ ราก

ใช้แก้อาหารไม่ย่อยในเด็ก และใช้เป็นยาแก้ เสมหะเป็นพิษ เปลือก ช่วยแก้ริดสีดวง เมล็ด น�้ำมันในเมล็ดน�ำมาทาเป็นยารักษา โรคเรื้อน เนื้อไม้ เนื้อไม้มีสีนวลอมเหลืองละเอียด เสี้ยน ค่อนข้างตรงมีความแข็งพอประมาณ สามารถ น�ำมาใช้ทำ� เป็นเครือ่ งเรือน เครือ่ งมือ เครือ่ งใช้ เครื่องกลึง และงานแกะสลัก ดิ๊กเดียมจากป่า ชุมชนบ้านบุญแจ่ม จังหวัดแพร่ เป็นพรรณไม้ เฉพาะท้องถิ่น

75


(shrub)

(shoot grafting)

(scandent)

ทาบกิ่ง (grafting)

คํ าอธิบายสัไม้พญุ่มรอเลืลัก้อยษณ์

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ลักษณะวิสยั

นมวัว

ไม้เลื้อย (climber)

ขยายพันธุ์

แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล

ษณ์ด(sucker, stolon) คําอธิบายสัญความสู ลักงษณ์ คําอธิบายสัญลักเพาะเมล็

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

(height) ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์ umbrella shape) คุณ(tree, ค่าในการอนุ รักษ์

ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มกลม 7m เป็นพรรณไม้ (tree, round shape) ที่ขยายพันธุ์ยาก(height)

(seed) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture) ปักชํากิ่งหรือเถา ขยายพ (cutting)

เพาะเมล็ตอนกิ ด ่ง เป็นพรรณไม้หายาก (seed) (air layering)

่ง ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมีไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา ปักชํากิ่งโน้ หรืมอกิเถา เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, conical shape) (layering) (tree, umbrella shape) (cutting) (tree, umbrella shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Scleropyrum pentandrum (Dennest.) Mabb. ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ติดตา ไม้ต้นทรงพุ่มกลม เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ชื่อวงศ์ : SANTALACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง (budding) เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา (tree, spike shape) (tree, round shape) layering) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน round shape) ชื่ออื่น : มะไฟแรด, เหมือดคน (ภาคตะวันออกเฉี ยงใต้) ไม้ขีพห้ ุ่ม นอน, เคาะหนาม(tree,(เชี ย(airงใหม) เสียบยอด ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (shrub) (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง (shoot grafting) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (layering) (tree, conical shape) ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง (scandent) (grafting) ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ติ ด ตา เกือบเกลี้ยง ที่เส้นกลางใบมีรไม้่อตงเล็ ้นทรงพุก่มตามยาว กรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) เลื้อย (tree, spike shape) แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล ก้านใบมีขไม้(climber) นนุ ่ม ไม่มีหูใบ ไม้พุ่ม เสียบยอด(sucker, stolon) ไม้ พ ม ่ ุ ดอก ำต้น (shoot และซอก (shrub) : ดอกช่ grafting) ไม้หัว อ หรืเชิ อมีเงหง้ลดออกจากล� า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (shrub) (bulb, rhizome) (tissue culture) ใบ อดอกอั ดแน่นรูปทรงกระบอก ทาบกิ ช่อ่งดอก ไม้พุ่มช่ รอเลื ้อย รอเลื้อ(grafting) ย คุณค่าในการอนุ รักษ์รณ์เพศอยูไม้่รพ่วุ่มมต้ (scandent) แยกเพศหรื อสมบู น (scandent) ดอกมี ไม้เลื้อย แยกหน่อเป็หันวพรรณไม้ ไหล นพรรณไม้ ที่ขยายพั ์ยาก บ ซ้อนเหลื่อมกัน ขนาดเล็ กเป็กลี บรวม 5นธุกลี สีลํา หรืหอายาก ไม้เลื้อย (sucker, stolon) (climber) เขี ยวแกมเหลื อง ช่อดอกเพศผู(climber) เ้ ป็นแบบช่ อหาง ไม้หัว หรือมีเหง้เป็ า นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เพาะเลี้ยเป็งเนื ้อเยื่อ มีค่า นพรรณไม้ ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ า (bulb, rhizome) (tissue culture) กระรอกออกรวมกั นเป็นกลุ่ม มักออกจาก (bulb, rhizome) เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 7 เมตร ตามล�ำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมแข็ง ขึ้น รวมกันเป็นกลุม่ ๆ กระจายทัว่ ล�ำต้น ล�ำต้นและ กิ่งอ่อนมีสีเขียว ล�ำต้นที่แก่จะแตกเป็นร่องลึก เปลือกล�ำต้น และเปลือกใน สีน�้ำตาลอ่อน กิ่ง อ่อนมีขนนุ่ม ใบ : เป็นใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปรีแกมรูป ไข่หรือรูปขอบขนาน กว้างได้ถึง 5 เซนติเมตร ล�ำต้น ดอกมี กลิน่ เฉพาะถิ เหม็น่น มีกา้ นดอกย่อยสัน้ มาก ยาวได้ถึง 18 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคน คุณค่าในการอนุ รักเป็ษ์นพรรณไม้ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ คุณค่าดอกมี ในการอนุ รักษ์ ขนาดใหญ่ ใบเรียวแหลม ขอบใบเรียบ ใบแก่แผ่นใบหนา ดอกเพศเมียไม่มีก้านดอก เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก อ กระจะ รังนธุไข่์ยาก คล้ายแผ่นหนัง หลังใบเรียบ เป็นมัน ท้องใบผิว กว่าดอกเพศผู้ เป็นช่อดอกแบบช่ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพั เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

76

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านคูขาด จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ต�่ำกว่าวงกลีบ ในดอกที่สมบูรณ์เพศมักมี เกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน ผล : ผลสดเมล็ดในแข็ง ทรงลูกแพร์หรือรูปไข่ ขนาด 1.3-2.6 เซนติเมตร เมล็ดมี 1-3 เมล็ด รูปทรงกลม การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด หรือ การตอนกิ่ง การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ผลกินได้ ใบแช่น�้ำ อาบหรือทาตัว แก้โรคคันคาย แก้โรคตุ่มคัน ใบกับแก่นต้มกินแก้โรคท้องผูก รากต้มกินแก้

ปวดท้อง เจ็บท้อง แก้โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต แก้ซาง ตานขโมย เป็นยาบ�ำรุงน�้ำนม ท�ำให้ มดลูกเข้าอู่เร็วในสตรีหลังคลอด เป็นยาอายุ วัฒนะได้ทงั้ ชายและหญิง โดยน�ำมาแก่นมาต้ม กินเป็นยาเดี่ยว หรือผสมกับยาอื่นเป็นต�ำรับ เช่น ตาไก้ ช้างน้าว ตานกกด เป็นยาบ�ำรุง ร่างกายหลังเจ็บป่วย แก้กษัย ปวดเมื่อยตาม ตัว แก้ท้องบวม ปัสสาวะขุ่นข้น รักษาไข้ที่ไม่มี เหงื่อออก รักษาฝีในท้อง

77


คําอธิบายสัญลัไม้กหัวษณ์ หรือมีเหง้า

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

เนียง

ลักษณะวิสยั

คุณค่าในการอนุรักษ์

ญลังกษณ์เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก คําอธิบายสัญลักษณ์คําอธิบายสัความสู (height)

ลักษณะวิสยั

ลักษณะวิสยั (tree, ขยายพั นธุ์ เป็นพรรณไม้ใกล้สูญขยายพ พันธุ์ umbrella shape)

ความสูง (height) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Archidendron jiringa (Jack) I. C. Nielsen ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : FABACEAE (tree, round shape) ชื่ออื่น : ชะเนียง (จันทบุรี), ขางแดง (ลพบุรี), พะเนียง (ปัตตานี) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ไม้ต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 10 - 15 เมตร เปลือกล�ำต้นสีเทาหรือน�้ำตาลปนเทา เรือนยอดเป็นพุม่ กลมใหญ่แน่นทึบ คลุมล�ำต้น ไว้เป็นส่วนใหญ่ ใบ : เป็นช่อแบบขนนก 2 ชั้นแตกแขนง เรียง ตรงข้าม แต่ละช่อมีใบย่อย 2 - 4 คู่ ใบย่อย ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมนและเบี้ยวเล็ก น้อย หลังใบเกลี้ยงยอดอ่อนมีสีแดง ดอก : เป็ น ช่ อ กลมเล็ ก มี 3 - 6 ดอก ดอกสีขาว ขนาดเล็ก กลีบดอกมี 5 กลีบ ขนาด เล็ ก มาก โคนดอกติ ด กั น เป็ น หลอดยาว 2 เซนติเมตร

(bulb, rhizome)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

10-15 m

ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ กลม ด เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (height) (tree, round(seed) shape) ปักชํากิํา่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่ (tree,shape) conical(cutting) shape) (tree, umbrella ่ง ้นทรงพุ่มตอนกิ กรวยแหลม ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม (tree, spike (air shape) layering) (tree, round shape) ไม้พุ่ม

ไม้พุ่มรอเลื้อติยดตา กรวยแหลมนเกลียวไปทางเดี ผล : ไม้เป็ต้นนทรงพุ ฝัก่มแบนเป็ ยวกัน ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่มกรวยแหลม (scandent) (tree, spike shape) (budding) (tree, spike shape) คล้ า ยรู ป เกื อ กม้ า ผิ ว สี น ้ � ำ ตาลคล� ้ ำ หรื อ ไม้เลื้อย เสียสีบยอด ไม้พุ่ม (climber) ไม้พุ่ม เมล็ น�้ำตาลอมม่ ดต่อฝั(shoot ก grafting) (shrub) วง มีเมล็ดไม่เกิน 10 (shrub) ไม้หัว หรือมีเหง้า ไม้พน ุ่มรอเลื ย นย์กลาง 4 – 5 เซนติเมตร ทาบกิ่ง ขนาดเส้ ผ่า้อนศู (bulb, rhizome) ไม้ พ ่ ุ ม รอเลื ้ อ ย (scandent) คล้ายฝาหอยแครง 2 ฝาประกบกั น ฝัก(grafting) แก่ (scandent) คุณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อย เดือนพฤษภาคม – สิ ง หาคม (climber) (sucker, stolon) ไม้เลื้อย เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก (climber) การขยายพั ธุา์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หัว หรือมีนเหง้ rhizome) หง้า (tissue culture) การน�(bulb, ำไปใช้ ประโยชน์ : ผลอ่ไม้อหนัว หรืรัอบเป็มีเนประทาน พรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ (bulb, rhizome) คุเป็ ณค่นาผัในการอนุ ร ก ั ษ์ กสดร่วมกับน�้ำพริก หรือร่วมกับอาหาร ษ์ เฉพาะถิ เป็รนัก พรรณไม้ รสเผ็ เป็ดนและขนมจี น น�คุำณลูค่กาในการอนุ เนี ย งไปดองรั บ ่น เป็นพรรณไม้หายาก พรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

78

โน้มกิ่ง

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (shrub) (layering) (tree, conical shape)

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้อง อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านแม่หาร จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประทานเป็นผัก ลูกเนียงถ้ากินมากเกินไปจะ ท�ำให้ปัสสาวะไม่ออก หรือปัสสาวะไม่สะดวก ปัสสาวะขุ่นขาวเป็นสีนำ�้ นม อาจมีอาการปวด ท้อง คลื่นไส้ และอาเจียนอย่างรุนแรง ถ้าเกิด อาการมากระบบไตจะล้มเหลว และเสียชีวิต ในที่สุด โดยสารที่ก่อให้เกิดอาการพิษในลูก เนียง คือ กรดเจ็งโคลิค ในลูกเนียง 1 กรัม จะ มีกรดเจ็งโคลิคประมาณ 93% ผู้แพ้เมื่อรับ ประทานไปแล้วมักจะเกิดอาการภายใน 2 –

14 ชั่วโมง การลดพิษแบบชาวบ้าน ท�ำง่าย ๆ ๒ วิธี คือ 1. เอาลูกเนียงมาผ่าแล้วแผ่เป็นแผ่ นบางๆ ตากแดดก่อนรับประทาน 2. เอาลูกเนียงฝังทรายจนกระทั่งมี หน่อ ตัดหน่อทิง้ แล้วจึงรับประทาน เปลือกหุม้ เมล็ด ช่วยแก้โรคเบาหวาน ใบ น�ำมาพองแก้ โรคผิวหนัง

79


(climber)

(sucker, stolon)

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture)

คุณค่าในการอนุรักษ์

คําอธิบายสัญลักษณ์ ๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คํ าอธิบายสัขยายพั ญลักนธุษณ์ คําอธิบลัายสั ญสลัยั กษณ์ กษณะวิ ์ เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เพกา

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

ความสูง สยั นธุ์ (height) เป็นพรรณไม้ใกล้ลัสกูญษณะวิ พันธุ์ ขยายพั

เพาะเมล็ด (seed) เป็นพรรณไม้มีค่า

ขยาย

ความสูง เพาะเมล็ดปักชํากิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี 3-12 m เป็นพรรณไม้ (tree, umbrella shape)เฉพาะถิ่น (height) (seed) (cutting) เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต

ไม้ต้นแผ่เป็นรัไม้ศมีต้นทรงพุ่มกลม (tree, umbrella shape) (tree, round shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Oroxylum indicum (L.) Benth. ex Kurz ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : BIGNONIACEAE ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, round shape) shape) ชื่ออื่น : มะลิดไม้ (ภาคเหนือ), ลิ้นฟ้า (เลย), ดุแก (แม่(tree, ฮ่อconical งสอน)

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

อเถา่ง ตอนกิ ไม้ต้นแผ่เป็ปันรักศชํมีากิ่งหรื (cutting) (air (tree, umbrella shape) layering)

ไม้ต้นทรงพุตอนกิ ่มกลม่ง โน้มกิ่ง (air layering) (layering) (tree, round shape) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ โน้มกิ่ง ติดตา ไม้ต้นําทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (tree, conical(tree, shape)spike shape) (layering)(budding) (tree, conical shape) ไม้ พ ม ่ ุ ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ติดตา เสียบยอด ดอก : ดอกช่อแบบกระจะ ก้ไม้าตนช่ อดอกยาว ้นทรงพุ ่มกรวยแหลม (shrub) (tree, spike shape) (budding)(shoot grafting) (tree, spike shape) สมบูรณ์เพศ สมมาตรด้านข้างกลีบเลี ้ยง 5 ไม้พุ่มรอเลื้อย ไม้พุ่ม เสียบยอดทาบกิ่ง ไม้พุ่ม กลี(shrub) บ เชื่อมติ(scandent) ดกันเป็นรูประฆัง ปลายกลี แยก (grafting) (shootบgrafting) (shrub) เป็นไม้รูพปุ่มรอเลื ปากเปิ บ่ง เนื ้อ อ หัว ลํา หรือไหล แยกหน่ ้อยไม้เลื้อยด ส่วนที่อยู่บนมี 2 กลี ทาบกิ ไม้พุ่มรอเลื(grafting) ้อย (climber) (sucker, stolon) (scandent) กลีบพับย่น สีแดงเลือดหมู (scandent) เยื่อ ้อย ไม้หัว หรือมีเหง้า แยกหน่อ เพาะเลี หัว ลํา้ยหรื ผลไม้(climber) :เลืเป็ นฝั(bulb, กแบนขนาดใหญ่ รูปไม้ดาบ ปลายฝั ก งเนือ้อไหล เลื้อย (sucker, stolon) rhizome) (tissue culture) แหลม ตรงกลางขอบมี รอยโป่ง(climber) เล็กน้อเพาะเลี ยคล้ าย ไม้หคุัวณหรืค่อามีในการอนุ เหง้า ้ยงเนื้อเยื่อ รักษ์ ไม้หัว หรืาอมี(tissue เหง้า่เหนื ฝัก(bulb, หางนกยู อยู อ rhizome) งฝรั่ง มักออกห้อยระย้ culture) (bulb, rhizome) เป็ น พรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 3-12 เมตร แตก กิ่งก้านน้อย พบตามป่าเบญจพรรณ และป่า ชื้นทั่วไป มีถิ่นก�ำเนิดในอินเดีย และ เอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ใบ : ใบประกอบแบบขนนกสามชั้นปลายคี่ ขนาดใหญ่ เรียงตรงข้าม รวมกันอยู่บริเวณ ปลายกิง่ ใบย่อยรูปไข่หรือรูปไข่แกมวงรี กว้าง 4-8 เซนติเมตร ยาว 6-12 เซนติเมตร เส้น อนยอดรักเมืษ์ ่อฝักแก่ รอบข้างของฝักจะปริ ใบแบบตาข่าย สีของผิวใบด้านบนเข้มกว่าผิวคุณค่เรืาในการอนุ ในการอนุ แตก ปล่ อ ยเมล็ ด ที่ อ ยูคุณ่ ขค่้ าางในฝั ก รจ�ักำษ์นวน ใบด้านล่าง เป็นพรรณไม้ พรรณไม้ กล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ หายาก มีค่า เป็นพรรณไม้ทเป็ี่ขนยายพั นธุ์ยใาก มากมาย ล่องลอยไปกับลม เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

80

นพรรณไม้ ่น เป็นพรรณไม้เป็ใกล้ สูญพันธุเฉพาะถิ ์

เป็นพรรณไม้ เป็นพรรณไม้ มีค่า ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้อนุเฉพาะถิ ่น


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง จังหวัดเพชรบุรี การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ดและ ช�ำกิ่ง การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ยอดอ่อนและดอก สามารถน�ำมาประกอบอาหารได้ ฝักอ่อน น�ำ ไปเผาไฟน�ำมาเป็นเครื่องเคียงได้ สรรพคุณ ตามต� ำ ราไทย พบว่ า มี ก ารใช้ เ พกาตั้ ง แต่ เปลือกต้น ราก ฝัก ใบ และเมล็ด ใช้รักษาโรค ต่างๆ ได้ เช่น เปลือกต้น มีสรรพคุณ แก้โรค บิด ท้องร่วง รากของต้นเพกาใช้เป็นยาบ�ำรุง ธาตุ เจริ ญ อาหาร รวมไปถึ ง การใช้ เ ป็ น

สมุนไพรร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ก็สามารถ รั ก ษาโรคต่ า งๆได้ อี ก มากมาย ข้ อ มู ล ทาง วิทยาศาสตร์การแพทย์พบว่า สารสกัดฟลาโว นอยด์ ที่ได้จากเปลือกต้นเพกา มีฤทธิ์ช่วยลด การอักเสบ การแพ้ เมล็ดเพกาเป็นหนึ่งใน สมุนไพรที่ก�ำหนดเพื่อใช้บรรเทาอาการไอ ขับ เสมหะ เพกาจากป่ า ชุ ม ชนบ้ า นโค้ ง ตาบาง จังหวัดเพชรบุรี เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนอนุรักษ์ ไว้ เ พื่ อ การใช้ ป ระโยชน์ ด ้ ว ยการเป็ น แหล่ ง อาหาร

81


คําอธิบายสัญลักเพาะเลี ษณ์้ยงเนื้อเยื่อ

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

(tissue culture)

ลักษณะวิสยั

คํานอธิ บายสัความสู ญลังกษณ์ เป็นพรรณไม้หายาก คําอธิบายสัเป็ญนพรรณไม้ ลักษณ์ ที่ขยายพั ธุ์ยาก (height)

มะดัน

ลักษณะวิสยั

ั เป็นพรรณไม้ใกล้สลัูญกพัษณะวิ นธุ์ สย

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี เป็นพรรณไม้มีคขยายพ ่า ขยายพั นธุ์ shape) (tree, umbrella

ความสูง ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ กลม ด 7-10 m เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา (height) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (height) (tree, round(seed) shape) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Garcinia schomburgkiana Pierre ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : CLUSIACEAE (tree, round shape) ชื่ออื่น : ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา

(tree, conical shape)

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน

ปักชํากิํา่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่ (tree,shape) conical(cutting) shape) (tree, umbrella ตอนกิ่ง

้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม layering) (tree, spike (air shape) (tree, round shape) ไม้พุ่ม

โน้มกิ่ง

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (layering) (shrub) (tree, conical shape)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้พุ่มรอเลื้อติยดตา ้ ดอกสี มต้นกลี ้ยงมี(budding) 4 ต้น : เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูงขนาด 7-10 ดอกเพศผู ทรงพุบ ่มเลี กรวยแหลม (tree, spike shape) เหลืองอมส้ไม้ (scandent) (tree, spike shape) 4 ไม้กลี รี เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่ม เปลือกต้นเรียบสี กลีบ ไม้ค่พอุ่ม นข้างกลม กลีบดอกมี ยบยอด เลื้อยบ รูเสีป (shrub) (shoot (climber) ไม้พุ่ม ดอกเพศผู แกมรูปไข่ ปลายกลีบดอกมน ้มี grafting) น�้ำตาลอมด�ำ (shrub) ไม้หัว หรือมีทาบกิ ไม้พุ่มรอเลื้อย เหง้า ่ง ้ 10 12 อั น ใบ : เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปขอบขนาน เกสรเพศผู (scandent) (grafting) (bulb, rhizome) ไม้พุ่มรอเลื้อย บสีเขียวเป็นมัน อ หัว ลํา หรือไหล กว้าง 2.5 เซนติเมตร ยาว 9 เซนติเมตร ปลาย ผล :ไม้รูเลืป้อยรีปลายแหลม ผิวเรีคุย(scandent) ณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ (sucker, stolon) รสเปรี้ยว เมล็ดมี 3 - 4ไม้เลืเมล็ ด ติ ด กั น ใบและโคนใบแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ ลื่น มี(climber) ้อย ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี ้ยงเนื เยื่อ ที่ขยายพั นธุ้อ์ยาก (climber) เป็นพรรณไม้ น ธุ ์ : โดยวิ ธ ก ี ารเพาะเมล็ ด ลืน่ สีเขียวเข้ม ก้านใบยาว 0.5 - 1 เซนติเมตร การขยายพั (bulb, rhizome) (tissue culture) า สเปรี ้ยว ดอก : ออกดอกเดี่ยวหรือเป็นกระจุก 3 -6 การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ใบอ่ไม้หอัวนหรือมีเป็มีเนรหง้พรรณไม้ ใกล้สูญพันธุ์ คุณค่าในการอนุรักษ์ (bulb, rhizome) ดอก ตามซอกใบ มีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและ น�ำมาใช้เป็นผัก หรือประกอบอาหารได้หลาย นพรรณไม้ ษ์ เป็เฉพาะถิ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยากคุณค่าในการอนุ เป็รนัก พรรณไม้ ่น หายาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันเป็ธุ์ยนาก พรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพัเป็ นธุน์ พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องก อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

82


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนป่าโนนใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ ชนิด เช่น ต้มส้มแกง หรือย�ำใบมะดันอ่อน ผล มีรสเปรี้ยวมากนิยมรับประทานสด โดยจิ้ม เกลือ กะปิ หรือน�ำ้ ปลาหวาน ใช้แต่งรสอาหาร ให้เปรีย้ วแทนมะนาวได้ดี น�ำมาท�ำน�ำ้ พริกกะปิ อาหารประเภทย�ำต่าง ๆ หลนต่าง ๆ กินแกล้ม ข้าวคลุกกะปิ นอกจากนีย้ งั มีการน�ำมาแปรรูป ได้หลายแบบ เช่น แช่อมิ่ ดองเค็ม เชือ่ ม เป็นต้น ด้านสมุนไพร ราก มีรสเปรีย้ ว แก้เบาหวาน แก้ ไข้หวัด แก้ไข้ทับระดู ขับฟอกโลหิต กัดเสมหะ ในล�ำคอ แก้กระษัย แก้ระดูเสียเป็นยาระบาย

อ่อน ๆ เปลือกต้น แก้ไข้ทับระดู แก้โลหิตระดู ใบ มีรสเปรี้ยว แก้หวัด แก้ไอ แก้กระษัย แก้ เสมหะพิการ แก้น�้ำลายเหนียว กัดเสมหะ แก้ ประจ�ำเดือนพิการ แก้ระดูเสีย ขับฟอกโลหิต เป็นยาระบายอ่อน แก้โลหิตพิการ ขับปัสสาวะ ผล มีรสเปรีย้ ว กัดเสมหะ ฟอกโลหิต แก้ไอ แก้ ประจ�ำเดือนพิการ ด้านอื่น ๆ ไม้มะดัน น�ำมา ท�ำสีย้อมผ้า และก่อสร้างต่างๆ ใช้ท�ำเครื่อง เรือน และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ

83


คําอธิบายสัญลักเพาะเลี ษณ์้ยงเนื้อเยื่อ

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

ลักษณะวิสยั

(tissue culture)

คํานอธิ บายสัความสู ญลังกษณ์ เป็นพรรณไม้หายาก คําอธิบายสัเป็ญนพรรณไม้ ลักษณ์ ที่ขยายพั ธุ์ยาก (height)

เม็ก

ลักษณะวิสยั

กพัษณะวิ ั เป็นพรรณไม้ใกล้สลัูญ นธุ์ สย

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ่า ขยายพั นธุ์ shape)เป็นพรรณไม้มีคขยายพ (tree, umbrella

ความสูง ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ กลม ด 5-10 m เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา (height) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (height) (tree, round(seed) shape)

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยช

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ปักชํากิํา่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่ (tree,shape) conical(cutting) shape) (tree, umbrella

(tree, conical shape)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (layering) (shrub) (tree, conical shape)

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันเป็ธุ์ยนาก พรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพัเป็ นธุน์ พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องก

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Syzygium gratum (Wight) S. N. Mitra ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ่ง ้นทรงพุ่มตอนกิ กรวยแหลม ชื่อวงศ์ : MYRTACEAE ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม (tree, round shape) (air layering) (tree, spike shape) (tree, round shape) ชื่ออื่น : ไคร้เม็ด (เชียงใหม่), เม็ดชุน (นครศรีธรรมราช), เสม็ ด (สกลนคร) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา โน้มกิ่ง ไม้พุ่ม

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้พุ่มรอเลื้อติยดตา ้น ด้spike านล่shape) างแผ่นใบสีขาวอมชมพู ก้านใบ ต้น : เป็นไม้ต้นขนาดเล็กสูง ๕ - ๑๐ เมตร มากขึ(tree, ไม้ต้นทรงพุ(scandent) ่มกรวยแหลม (budding) (tree, spike shape) ยาว ๓ ๕ มิ ล ลิ เ มตร ใบมี ก ลิ น ่ หอม ล�ำต้นกลม ผิวเกลี้ยงสีนำ�้ ตาลแดง เปลือกติด ไม้พุ่ม ไม้เลื้อย เสียบยอด (shrub) พุ่ม มี(climber) เพศผู้แ(shoot ละ grafting) แน่นกับเนื้อไม้ไม่สามารถลอกออกได้ กิ่งก้าน ดอก : เป็นดอกไม่สมบูรณ์เไม้พศ (shrub) ไม้หัว หรือมีทาบกิ รอเลื้อย เหง้า ่ง ยพุ่มอยู ่บนต้นเดียวกัน บางครั้ง(bulb, อาจพบว่ า ทรงพุ่มมักแตกกิ่งออกเป็นคู่ๆ กระจายทั่วไป เพศเมีไม้(scandent) (grafting) rhizome) ไม้พุ่มรอเลื้อย กลุ่มหรือเป็นแยกหน่ ช่อ ใบ : เป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามกัน เป็นรูปไข่ เกิดบนช่ ไม้เลื้ออ ย เดียวกัน ดอกเป็นคุ(scandent) ณค่าในการอนุรักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล (sucker, stolon) ามใบ ขนาดเล็กสีขาว ไม้เลื้อย หรือรูปหอก กว้าง ๓.๕ - ๕ เซนติเมตร ยาว ตามง่(climber) ไม้เป็ หัว น หรืแบบ อมีเหง้า Drupe มีรูปกลมแป้ ้ยงเนื เยื่อ ทบี่ขสี ยายพั นธุ้อ์ยาก (climber) เป็นนพรรณไม้ ผลดิเพาะเลี ๘.๕ - ๑๐ เซนติเมตร ปลายใบแหลม ขอบใบ ผล :(bulb, rhizome) (tissue culture) ไม้หัว หรือมีเหง้เามล็ด ๑ เรียบ โคนใบแหลมหรือมน เส้นขอบใบเห็นชัด เขียว เมื่อผลสุกเป็นสีขาว ภายในผลมี เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ คุณค่าในการอนุรักษ์ (bulb, rhizome) เมล็ ด ต่ อ ผลเมล็ ด สี น ำ ้ � ตาล ผลสุ ก รั บ ประทานได้ เนื้อใบบางใบอ่อนสีน�้ำตาลอ่อนหรือม่วงอม นพรรณไม้ ษ์ เป็เฉพาะถิ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยากคุณค่าในการอนุ เป็รนัก พรรณไม้ ่น หายาก แดง และจะเปลี่ ย นเป็ น สี เ ขี ย วเข้ ม เมื่ อ อายุ

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

84


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านโนนหินผึ้ง จังหวัดปราจีนบุรี การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ยอดอ่อนใบอ่อน ใช้ รับประทาน หรือลวกน�ำ้ ร้อนเป็นผักจิม้ น�ำ้ พริก ราก ต้มน�ำ้ กินเป็นยาลดไข้ แก้ไอเป็นเลือด กิน ผงราก เพื่อช่วยให้อาเจียน ต้น ต้มกินแก้บิด ใช้เข้าเครื่องยาส�ำหรับสตรีกินเพื่อช่วยในการ คลอดบุตร ใบ ต�ำพอกแก้บาดแผลอักเสบ ส่วน ของเปลือกและล�ำต้น มี Tannin เปลือกต้น ต้ม ร่วมกับเปลือกกระโดนใช้ย้อมแห ซึ่งให้สีชมพู

ผักเม็ก (เสม็ด) เป็นพรรณไม้กนิ ได้จาก ป่าชุมชนโนนหินผึง้ จังหวัดปราจีนบุรี ชาวบ้าน รอบป่าชุมชนโนนหินผึ้งส่วนใหญ่นิยมน�ำยอด อ่ อ นและใบอ่ อ นของผั ก เม็ ก จากป่ า มารั บ ประทานกับน�้ำพริก ลาบ และท�ำย�ำผักเม็ก การขยายพันธุผ์ กั เม็กเพือ่ ส่งเสริมให้ชมุ ชนรอบ ป่าและพืน้ ทีใ่ กล้เคียงน�ำไปปลูกเป็นพืชผักสวน ครัว เป็นการช่วยลดการพึ่งพิงป่า ช่วยรักษา และเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของป่าชุมชนได้ มากยิ่งขึ้น

85


ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (shoot grafting) (grafting) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา โน้มกิ่ง (tree, round shape) อไหล ไม้พุ่มรอเลืไม้ ้อยเลื้อย ทาบกิ่ง แยกหน่อ หัว ลํา หรื(layerin (tree, conical shape) (scandent) (climber) (grafting)(sucker, stolon) ไม้ ต ้ น ทรงกรวยคว่ า ํ ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ติดตา conical shape)แยกหน่อเพาะเลี ไม้เลื้อย ไม้หัว หรือมีเหง้า(tree, spike(tree, หัว ลํา้ยหรื งเนือ้อไหล เยื่อ (buddin shape) (climber) (bulb, rhizome) (sucker, stolon) (tissue culture) ไม้พุ่ม ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม เสียบย ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ า เพาะเลี ้ ย งเนื ้อเยื่อ (tree, spike shape) (shoot คุณค่าในการอนุรักษ์(shrub) (bulb, rhizome) (tissue culture) ไม้พุ่มรอเลืไม้ ้อยพุ่ม ทาบกิ่ง ลักษณะวิสยั ขยายพั นธุ์ เป็นพรรณไม้หายาก นธุ์ยาก (shrub) คุณค่าในการอนุเป็รนักพรรณไม้ ษ์ ที่ขยายพั (scandent) (graftin (shrub)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ก�ำแพงเจ็ดชั้น

(scandent)

คําอธิบายสัญลักษณ์ ความสูง (height)

ด ย ไม้เลื้อย ไม้พุ่มรอเลื้อเพาะเมล็ แยกหน หายาก มีค่า เป็นพรรณไม้ ยายพันธุใกล้ ์ยาก เป็นพรรณไม้ เป็ทนี่ขพรรณไม้ สูญพันธุ์ (scandent) (seed) เป็นพรรณไม้ (climber) (sucke

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

ลื้อาย ไม้หัว หรือไม้ มีเหง้

ปักชํากิ่งเป็หรืนอพรรณไม้ เถา มีค่า

เพาะเล

เป็นพรรณไม้ สูญพันเฉพาะถิ ธุ์ ่น เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความ เป็นใกล้ พรรณไม้ (bulb, rhizome) (tissue (climber) (cutting) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Salacia chinensis L. (tree, umbrella shape) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน เหง้า ่ง เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ คุณค่​่น าในการอนุไม้รหักัวษ์หรือมีตอนกิ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : CELASTRACEAE (bulb, rhizome) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ (tree, round shape) ชื่ออื่น : ตะลุ่มนก (ราชบุรี), ตาไก้ (พิษณุโลก), สามชั้น (เลย) เป็นพรรณไม้ที่ขยายพัน(airธุ์ยากlayering) เป็นพร

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้เถาหรือไม้พุ่มรอเลื้อย เนื้อแข็ง มี ความสูงของต้นประมาณ 2 - 6 เมตร เปลือก ต้นเรียบมีสีเทานวล ด้านในเนื้อไม้มีวงปีเป็นสี น�้ำตาลแดงเข้มจ�ำนวนหลายชั้นเห็นได้ชัดเจน เรียงซ้อนกันอยู่ประมาณ 7 - 9 ชั้น สามารถ พบได้ทวั่ ทุกภาคของประเทศ ตามป่าชายหาด ป่ า ดิ บ ริ ม แหล่ ง น�้ ำ หรื อ ที่ โ ล่ ง และป่ า เบญจพรรณ ที่มีระดับความสูงถึง 600 เมตร

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

คุณค่าในการอนุรโน้ักมษ์กิ่ง

(layering)

เป็นพรรณไม้ กล้สูญพันทธุี่ข์ ยายพันธุ์ยาก เป็นใพรรณไม้

ใบ : เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก เป็นพรรณไม้ พันธุ์ ลั ก ษณะของแผ่ น ใบเป็ น รู ป วงรี ห รื อใกล้รู ปสูญวงรี ไม้พุ่ม เสียบยอด กว้ าง หรือรูปวงรีแกมใบหอกหรือรูป(shoot ไข่ หรื อ (shrub) grafting) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น รูไม้ปพไข่ หัว้อกลั ุ่มรอเลื ย บ ใบกว้าง ปลายใบแหลมหรื ทาบกิอ ่ง มน (scandent) (grafting) ส่วนโคนสอบ ขอบเป็นหยักหยาบๆ แผ่นใบ ้อย อ หัว ลํา หรือไหล ค่ไม้อเลืนข้ างหนา หลังใบเรียบเป็นมันมีสีเแยกหน่ ขียวเข้ ม (climber) (sucker, stolon) ส่ไม้วหนท้ องใบเรียบ เนื้อใบกรอบ ผิวด้านบนและ ัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ด้(bulb, านล่rhizome) างของใบค่อนข้างหนาและเป็นมั(tissue น culture) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape)

ติดตา (budding) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพร

เป็นพร อนุรักษ

คุณค่าในการอนุรักษ์

86

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านต้นต้อง จังหวัดลำ�ปาง ดอก : ออกดอกเป็นช่อ แบบเป็นกระจุกหรือ ช่อแยกเป็นแขนงสัน้ ๆ ตามซอกใบ หรือกิง่ ก้าน ดอกมี ข นาดเล็ ก มี สี เ หลื อ งหรื อ สี เ ขี ย วอม เหลือง มี 3 - 6 ดอก ในแต่ละช่อ กลีบดอกมี ลักษณะเป็นรูปไข่กว้างหรือรูปรี ออกดอกใน ช่วงเดือนมกราคม - เดือนมีนาคม ผล : มีลักษณะค่อนข้างกลม เป็นรูปกระสวย กว้ า งหรื อ รู ป รี ผิ ว เกลี้ ย ง มี ข นาดเส้ น ผ่ า น ศูนย์กลางประมาณ 1 – 2 เซนติเมตร ผลอ่อน จะมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดง หรื อ สี แ ดงอมส้ ม และภายในผลมี เ มล็ ด 1 เมล็ด ลักษณะกลมมีขนาดใกล้เคียงกับผล

การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ต้น ช่วยแก้เสมหะ เถา ช่วยบ�ำรุงหัวใจ ราก ช่วยรักษาโรคตา ฟอก โลหิต แก้โลหิตเป็นพิษท�ำให้ร้อน แก้โลหิตจาง หรือจะใช้รากน�ำมาต้มหรือดองสุราดื่ม ก็มี สรรพคุณช่วยดับพิษร้อนของโลหิตเช่นกัน การ ศึกษาทางเภสัชวิทยา สารสกัดจากต้นและราก ก�ำแพงเจ็ดชั้น มีฤทธิ์ต้านเบาหวาน และสาร สกัดจากใบ มีฤทธิต์ า้ นเชือ้ แบคทีเรีย และเชือ้ รา

87


(climber) ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

คําอธิบายสัญเป็นพรรณไม้ ลักษณ์ ที่ขยายพันธุ์ยาก

จะค้าน

ลักษณะวิสยั

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ความสูง (height) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

(sucker, stolon) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape)

ไม้พุ่ม (shrub)

เป็นพรรณไม้หายาก

ไม้ขยายพั พุ่มรอเลื้อนยธุ์ (scandent)

เป็นพรรณไม้มีค่า

ไม้เลื้อย เพาะเมล็ด เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต (climber) (seed) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ กชําากิ่งหรือเถา ไม้หัว หรือมีปัเหง้ (bulb, rhizome) (cutting)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Piper chantaranothaii Suwanph.(tree,&umbrella D. A.shape) Simpson คุณค่าในการอนุรตอนกิ ักษ์่ง ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : PIPERACEAE (tree, round shape) (air layering) ชื่ออื่น : สะค้าน, มังเหาเจ๊าะ (ม้ง), ตะค้านเล็ก, ตะค้านหยวก (กะเหรีย่ งแดง) เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : จะค้านเป็นไม้เถาเนื้อแข็ง ขนาดกลาง มี ข้อปล้อง เนือ้ ไม้เป็นเส้นยาว หน้าตัดตามขวาง มีลาย เป็นเส้นรัศมี เปลือกค่อนข้างอ่อน เนื้อ ไม้สีขาว ใบ : ใบเดี่ยวรูปใบหอกกว้างคล้ายใบพริกไทย แต่แคบกว่า ปลายใบแหลม ใบมีสีเขียวเข้ม ดอก : ออกดอกเป็นช่อยาวเล็ก สีครีมดอก ย่ อ ยอั ด กั น แน่ น คล้ า ยดอกพริ ก ไทยหรื อ ดอกดีปลี

88

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง (layering)

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ผล : ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีแดงคล�้ำ ติดตา (budding) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น การขยายพั น ธุ ์ : โดยวิ ธี ก ารเพาะเมล็ ด ไม้พุ่ม เสียบยอด การใช้ประโยชน์ : ด้านสมุนไพร รากรสเผ็(shootด grafting) (shrub) ร้อน แก้ไไม้ขอั นประกอบไปด้ วยหืด แก้หืด ทาบกิ ขับ่ง พุ่มรอเลื ้อย (scandent) (grafting) เหงือ่ แก้ลมอันเกิดจากกองธาตุพกิ าร เถา ขับ ไม้เลื้อย ลมในล�ำไส้ ท�ำให้ผายลมและเรอ แก้จุกเสีแยกหน่ ยด อ หัว ลํา หรือไหล (climber) (sucker, stolon) แก้วาโยธาตุ 6 ประการ แก้ เ สมหะและเลื อด ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ให้ปรุงรวมกั ยาธาตุ แก้ธาตุพิการ บ�ำรุงธาตุ (bulb, บ rhizome) (tissue culture) แก้คุทณ้อค่งเสี ย แก้ปรักวดท้ าในการอนุ ษ์ อง เจริญอาหาร ใบ รส เผ็ดร้อน แก้ลมในกองเสมหะ แก้ลมในกอง ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape)

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องกา อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านแม่บง จังหวัดเชียงราย โลหิต ขับลมในล�ำไส้ แก้แน่นในอก ขับเสมหะ คุมก�ำเนิดจุกเสียด แก้ธาตุพิการ ดอก รสเผ็ด ร้อน แก้ลมอันมีพิษ ได้แก่ ลมอัมพฤกษ์ ลม ปัตคาด (ลมเกี่ยวกับเส้นแถบท้องน้อยและ หน้าขา) ที่เกิดจากพิษกรรดึก (ท้องผูก ถ่าย เป็นก้อนคล้ายขี้แพะ) ผล รสเผ็ดร้อนเล็กน้อย แก้ลมอันแน่นในอก บ�ำรุงธาตุทงั้ ห้า บ�ำรุงธาตุ แก้ท้องเสีย แก้ธาตุพกิ าร แก้ปวด ท้องแน่นจุก เสียด ขับผายลม สะค้านในสมัยก่อนเวลาชาว

บ้านเข้าป่า จะใช้มดี ถากเปลือกสะค้าน แล้วขูด เนื้อไม้มาต้มกินเพื่อขับเหงื่อ ช่วยให้ร่างกาย กระปรี้กระเปร่า แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ท�ำให้มแี รงเดินป่าได้ไกลๆ เครือล�ำต้น สับเป็น แว่ น เล็ ก ๆ ใช้ เ ป็ น ส่ ว นประกอบในการปรุ ง อาหาร ช่วยเพิ่มรสเผ็ด ดับกลิ่นคาว ใช้กินกับ อาหารเป็นเครื่องเคียง จะค้านจากป่าชุมชน บ้านแม่บง จังหวัดเชียงราย เป็นพรรณไม้ที่ ชุ ม ชนมี ค วามต้ อ งการอนุ รั ก ษ์ เ พื่ อ การใช้ ประโยชน์ด้านสมุนไพร

89


(scandent) ไม้เลื้อย (climber)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

เถาเอ็นอ่อน

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

คุณค่าในการอนุรักษ์

คําอธิบายสัญลักษณ์ ลักษณะวิสยั

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

(grafting) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (sucker, stolon) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture) ไม้พุ่ม (shrub)

ไม้ขยายพั พุ่มรอเลื้อนยธุ์ (scandent)

เป็นพรรณไม้หายาก

ความสูง (height) เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ไม้เลื้อย เพาะเมล็ด เป็นพรรณไม้มีค่า (climber) (seed)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

กชําากิ่งหรือเถา ไม้หัว หรือมีปัเหง้

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (bulb, rhizome) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cryptolepis dubia (Burm. f.) M.(tree, R. umbrella Almeida shape) (cutting) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน คุณค่าในการอนุรตอนกิ ักษ์่ง ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tree, round shape) (air layering) ชื่ออื่น : เครือเขาเอ็น (เชียงใหม่), พรมทัต (จันทบุรี), หมอนตีนเป็ด (สุราษฎร์เป็ธนพรรณไม้ านี) ที่ขยายพันธุ์ยาก

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เถาเนื้อแข็ง ล�ำต้นกลม เปลือกเถาเรียบ หนาเป็นสีน�้ำตาลอมสีด�ำหรือเป็นสีแดงเข้ม และมีลายประตลอดเถา ยาวประมาณ 4 - 5 เมตร ก้านเล็ก มีสีเทาอมเขียวและไม่มีขน ปกคลุม เมื่อเถาแก่เปลือกจะหลุดลอกออก เป็นแผ่นๆ มียางสีขาวข้นทั้งต้น ใบ : เป็นใบเดีย่ ว ออกเรียงตรงข้ามกัน ลักษณะ ของใบเป็นรูปรีหรือรูปไข่ ปลายใบมนมีหางสัน้ โคนใบสอบ ส่วนขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้าง หนา หลังใบเรียบเป็นมันและลื่น ท้องใบเรียบ

90

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง (layering)

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ติดตา เป็นสีเขียวนวล ใบอ่อนมีขนปกคลุม ส่วนใบแก่ (budding)่น เป็นพรรณไม้ ไม่ มี ข น เส้ น แขนงใบจะเป็ น เส้ น ตรงไม่ โ ค้เฉพาะถิ ง ไม้พุ่ม เสียบยอด ใบหนึ่งจะมี (shrub)30 คู่ ส่วนก้านใบสั้น ยาว 0.5 (shoot grafting) - 1 เซนติไม้เพมตร ุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง (scandent) ดอก : ออกดอกเป็ นช่อตามซอกใบ ดอกย่(grafting) อย ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล เป็นสีเหลืองอ่อนหรือเป็นสีขาวอมเหลือง ดอก (climber) (sucker, stolon) มีกลีบดอก 5 กลี บ โคนกลี บ ดอกเชื อ ่ มติ ด กัน ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ส่วนกลีบ(bulb, เลี้ยrhizome) งดอกเป็นสีเขียวมี 5 กลีบ (tissue culture) ผลคุณ: ค่ออกผลเป็ าในการอนุรักนษ์ฝัก ลักษณะของฝักเป็นรูป ทรงกระสวย กลมยาว ยาวประมาณ 6.5 ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape)

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องกา อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านพรเจริญ จังหวัดนครพนม 10 เซนติเมตร และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ฝักประมาณ 1 - 2 เซนติเมตร ฝักมีเนื้อแข็ง โคนผลติดกัน ปลายผลแหลม ผิวผลเป็นมันลืน่ พอแก่แล้วจะแตกอ้าออก ภายในผลมีเมล็ดสี น�้ำตาล มีขนปุยสีขาวติดอยู่และปลิวไปตาม ลมได้ การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เถา สามารถใช้ต้ม รับประทานเป็นยาแก้เมือ่ ย ท�ำให้เส้นเอ็นหย่อน จิตใจชุ่มชื่น เป็นยาบ�ำรุงเส้นเอ็นในร่างกายให้ แข็ ง แรง แก้ เ ส้ น เอ็ น พิ ก าร ใบ ใช้ โ ขลกให้ ละเอียด ห่อผ้าท�ำลูกประคบ ประคบตามเส้น เอ็นที่ปวดเสียวและตึงเมื่อยขบ ท�ำให้เส้นยืด หย่อนดี เมล็ด มีรสขมเมา เป็นยาขับลมใน ล�ำไส้และในกระเพาะอาหาร ท�ำให้ผายและเรอ ช่วยแก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง

91


(climber) ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

คําอธิบายสัญเป็นพรรณไม้ ลักษณ์ ที่ขยายพันธุ์ยาก

นมควาย

ลักษณะวิสยั

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ความสูง (height) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Uvaria hahnii (Finet & Gagnep.)(tree,Bân umbrella shape) ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : ANNONACEAE (tree, round shape) ชื่ออื่น : ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : จัดเป็นไม้เถาเลื้อยพาดพันกับต้นไม้อื่น ไปได้ไกลประมาณ 5 เมตร เปลือกล�ำต้นเป็น สี ม ่ ว งอมเทา เนื้ อ ไม้ แ ข็ ง กิ่ ง และยอดอ่ อ น ปกคลุมไปด้วยขนละเอียด สีน�้ำตาลแดงหนา แน่น แต่ถ้าแก่ไปผิวจะเกลี้ยงและไม่มีขน ใบ : ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกันไปตาม ข้อต้น ลักษณะของใบเป็นรูปรี รูปยาวรี รูปรี แกมรูปขอบขนาน หรือรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ปลายใบแหลมหรือเรียวแหลมและเป็นติง่ โคน ใบมนหรือเว้าเป็นรูปหัวใจ ส่วนขอบใบเรียบ ใบ

92

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

(sucker, stolon) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape)

ไม้พุ่ม (shrub)

เป็นพรรณไม้หายาก

ไม้ขยายพั พุ่มรอเลื้อนยธุ์ (scandent)

เป็นพรรณไม้มีค่า

ไม้เลื้อย เพาะเมล็ด เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต (climber) (seed) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ กชําากิ่งหรือเถา ไม้หัว หรือมีปัเหง้ (bulb, rhizome) (cutting)

คุณค่าในการอนุรตอนกิ ักษ์่ง

(air layering)

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

โน้มกิ่ง (layering)

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ติดตา มีขนาดกว้าง 3-6 เซนติเมตร และยาว 7-15 (budding) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น เซนติเมตร แผ่นใบบางคล้ายกระดาษ หลังใบ ไม้พุ่ม เสียบยอด มี ข นรู ป ดาวแข็ (shrub) ง ส่ ว นท้ อ งใบมี ก ้ า นใบยาว (shoot grafting) ประมาณไม้0.5 เมตร มีขนหนาแน่น ทาบกิ่ง พุ่มรอเลืเซนติ ้อย (scandent) ดอก : ออกดอกเป็นช่อสัน้ ตรงข้ามกับใบหรื(grafting) อ ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล เหนือซอกใบ ดอกเป็นดอกเดี่ยวหรือออกเป็(sucker, น stolon) (climber) ช่อกระจุกไม้ห2-3 ดอก มีใบประดับ 1 ใบ ส่เพาะเลี วน ้ยงเนื้อเยื่อ ัว หรือมีเหง้า กลี บ เลี้ ย(bulb, งดอกมี า ย culture) rhizome) 3 กลี บ ลั ก ษณะคล้(tissue กระดาษและมี ม ส่ ว นกลี บ ดอกมี คุณค่าในการอนุรขักนปกคลุ ษ์ 6-8 กลีบ ดอกจะเป็นสีแดงสดแล้วจะเปลี่ยน ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape)

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องกา อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านห้วยลึก จังหวัดชลบุรี เป็นสีแดงเลือดนกภายหลัง กลีบดอกเป็นรูปรี แกมรูปไข่กลับ มีขนทั้งสองด้าน ผล : ผลออกเป็นกลุ่ม แต่ละช่อผลมีผลย่อย 4-20 ผล ลักษณะกลมรี รูปรี รูปรีแกมรูป ขอบขนาน หรือเป็นรูปทรงกระบอก ผิวผลย่น และมีขนสีน�้ำตาลสั้นๆ ขึ้นปกคลุม ผลอ่ อ น เป็นสีเขียว เมื่อสุกเต็มที่แล้วจะเป็นสีแดงสด เนื้อข้างในผลเป็นสีขาว ในแต่ละผล จะมีเมล็ด จ�ำนวนมาก จะติดผลในช่วงเดือนมิถุนายนถึง เดือนกรกฎาคม

การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะ เมล็ด การน�ำไปประโยชน์ : ผล แก่นและราก น�ำมา ต้มรวมกันกับน�้ำดื่มเป็นยาแก้โรคต่างๆ ต้น นมควายเป็นไม้หายาก ให้ดอกสวยงาม จึง เหมาะแก่การน�ำมาปลูกเป็นไม้ประดับ

93


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

สามสิบ

(climber) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา ไม้หัว หรือมีเหง้า (tree, conical shape) (bulb, rhizome) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม คุณspike ค่าในการอนุ (tree, shape) รักษ์

(sucker, stolon) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา โน้มกิ่ง (tree, conical shape)(layering) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ติดตา (tree, spike shape) (budding)

(shrub)

(shrub)

ลักษณะวิสยั

ไม้พุ่มรอเลื้อย ไม้พุ่มรอเลื้อย เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ขยายพันธุ์ (scandent) (scandent)

คํ าอธิบายสัไม้ญพุ่มลักษณ์ ไม้พุ่ม เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เสียบยอด เป็นพรรณไม้หายาก (shoot grafting) ทาบกิ่ง เป็นพรรณไม้มีค่า (grafting)

ความสูง ไม้เลื้อย ด อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อย เพาะเมล็แยกหน่ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต (height) (climber) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (climber) (seed) (sucker, stolon) ไม้ต้นแผ่เป็นไม้รัหศัวมีหรือมีเหง้า (bulb,shape) rhizome) (tree, umbrella

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เพาะเลี กชําากิ่งหรื อเถา้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หัว หรือมีปัเหง้ (bulb, rhizome) (cutting) (tissue culture)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Asparagus racemosus Willd. คุณ าในการอนุ คุณค่าในการอนุรตอนกิ ักษ์่ง ชื่อวงศ์ : ASPARAGACEAE ไม้ ต้นค่ทรงพุ ่มกลม รักษ์ (tree, round shape) (air layering) ชื่ออื่น : จั่นดิน, จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ), ผักชีช้าง (หนองคาย) เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพัเป็นนธุพรรณไม้ ์ยาก หายาก ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape) เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

โน้มกิ่ง (layering)เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่ ม กรวยแหลม ติดตาอนชืน ้ ต้น : เป็นไม้เถา เนื้อแข็ง ล�ำต้นสีเขียว เลื้อย ขนาดโต กว่าเถามาก พบตามป่าในเขตร้ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ (tree, spikeเป็shape) (budding) นพรรณไม้เฉพาะถิ่น เป็ น พรรณไม้ เ ฉพาะถิ น ่ พันต้นไม้อื่นด้วยหนาม (หนามเปลี่ยนมาจาก ป่าเขตร้อนแห้งแล้ง ป่าผลัดใบ ป่าโปร่งหรื อนุรักอษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ ไม้พุ่ม เสียบยอด นปูน ใบเกล็ดบริเวณข้อ) เลื้อยยาว 1.5-4 เมตร เขาหิ(shrub) (shoot grafting) นใบเดี น ฝอยๆ แตกแขนงเป็นเถาห่างๆ ล�ำต้นเป็นสีเขียวหรือ ใบ ไม้: พเป็ ุ่มรอเลื ้อย ่ยว แข็ง ออกรอบข้อเป็ทาบกิ ่ง คล้ า ยหางกระรอก หรือ ออกเรี(grafting) ยงสลั บ สีขาวแกมเหลือง เถามีขนาดเล็กเรียว กลม เล็ ก(scandent) ไม้ เ ลื ้ อ ย แยกหน่ กระจุก 3-4 ใบ ใบสีเขียวดก ใบเป็อนหัรูว ปลํา หรือไหล เรียบ ลืน่ และเป็นมัน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง เป็น(climber) (sucker, stolon) ก ปลายใบแหลม เป็ น รู ป เคี ยว โคน 2-5 มิลลิเมตร เถาอ่อนเป็นเหลี่ยม ตามข้อ เข็มไม้ขนาดเล็ หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ มีขนาดกว้าง 0.5-1 มิลลิเมตร และ เถามีหนามแหลม หนามมีลักษณะโค้งกลับ ใบแหลม (bulb, rhizome) (tissue culture) 10-36 ยาว 1-4 มิลลิเมตร มีเหง้าและรากอยู่ใต้ดินคุณค่ยาว าในการอนุ รักษ์ มิลลิเมตร แผ่นมักโค้ง สันเป็น ออกเป็นกระจุกคล้ายกระสวย ออกเป็นพวง สามเหลี่ยม มี 3 สัน มีหนามที่ซอกกระจุกใบ เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก คล้ายรากกระชาย อวบน�ำ้ เป็นเส้นกลมยาว มี

94


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านโป่งกำ�แพง จังหวัดชัยนาท ดอก : ออกที่ปลายกิ่งหรือซอกใบ แบบช่อ กระจะ ยาว 2-4 เซนติเมตร ดอกย่อย สีขาว ขนาดเล็ก มีกลิ่นหอม มี 12-17 ดอก กลีบ รวม มี 6 กลีบ เชื่อมกันเป็นหลอดรูปดอกเข็ม ปลายแยกเป็ น แฉก กลี บ ดอกบางและย่ น ออกดอกช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน ผล : เป็นผลสด ค่อนข้างกลม หรือเป็นพู 3 พู ผิวผลเรียบเป็นมัน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 มิลลิเมตร ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุกสีแดง

หรือสีม่วงแดง ภายในผลมีเมล็ดสีด� ำ 2-6 เมล็ด เปลือกหุ้มแข็งแต่เปราะ ออกผลช่วง เดือนเมษายน-กรกฎาคม การขยายพันธุ์ : โดยเมล็ด และเหง้า การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ผลอ่อน ราก ยอด น�ำมาท�ำอาหารได้ ต้นหรือรากน�ำมาต้มดื่ม รักษาได้หลายโรค รากยังสามารถน�ำมาทุบ หรือขูดกับน�้ำ ท�ำเป็นน�้ำสบู่ส�ำหรับซักเสื้อผ้า

95


(shrub) ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ไม้เลื้อย (climber)

คําอธิบายสัญลักษณ์

หัวลิง

ลักษณะวิสยั

คุณค่าในการอนุรักษ์

ความสูง (height)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sarcolobus globosus Wall. ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE ชื่ออื่น : บาตูบือแลกาเม็ง (มาเลย์-นราธิวาส) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ไม้เถา ล�ำต้นอยู่เหนือดิน เปลือกล�ำต้น เป็นสีน�้ำตาล ผิวขรุขระ ไม่มยี าง เป็นพรรณไม้ กลางแจ้งที่ชอบอากาศค่อนข้างชุ่มชื้น ใบ : ใบเป็นใบเดีย่ ว ใบมีลกั ษณะเป็นรูปไข่ หรือ เป็นรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบมน ใบ มีขนาดยาว 1.2 - 2.5 เซนติเมตร แผ่นใบเป็น สีเขียว ใต้ท้องใบมีเส้นใบ 5 - 7 คู่ เห็นได้ชัด ดอก : ดอกออกเป็นช่อ ตามซอกใบ ช่อดอก ยาว 6 - 13 มิลลิเมตร ลักษณะของดอกมี กลีบเลีย้ ง อย่างละ 5 กลีบ โคนกลีบดอกเชือ่ ม

96

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

ไม้ต้นแผ่เป็นรัเป็ ศมีนพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ (tree, umbrella shape)

(shoot grafting) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape) ทาบกิ่ง (grafting) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (sucker, stolon) ไม้พุ่ม เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (shrub) (tissue culture) ไม้ขยายพั พุ่มรอเลื้อน ย ธุ์ (scandent)

ไม้เลื้อย (climber)

เพาะเมล็ด (seed) เป็นพรรณไม้หายาก

เถา มีค่า ไม้หัว หรือมีเปัหง้กาชํากิ่งเป็หรืนอพรรณไม้ (bulb, rhizome) (cutting)

ักษ์ ่ง เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น คุณค่าในการอนุรตอนกิ ไม้ต้นทรงพุ่มกลม อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน (tree, round shape) (air layering) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

โน้มกิ่ง (layering)

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ดตา ติดกัน มีสีม่วงภายในกลีบมีเกสรทั้งตัวผู้แติละ (budding) เป็นพรรณไม้ เฉพาะถิ่น ตัวเมียเชื่อมติดอยู่ ดอกเมื่อบานเต็ มที่จะโต ไม้พุ่ม เสียบยอด ประมาณ (shrub)1 เซนติเมตร ดอกไม่มีกลิ่น (shoot grafting) ผล : ไม้เป็พุ่มนรอเลื ผลเดี รูป ่ง ้อย ่ยว ลักษณะของผลเป็นฝักทาบกิ (scandent) (grafting) กลมมน เปลือกฝักเป็นสีน�้ำตาล ผักมีขนาด ไม้เลื้อย กว้างยาวประมาณ 4 นิ้ว ผลอ่อนเป็นสีเขีแยกหน่ ยว อ หัว ลํา หรือไหล (climber) (sucker, stolon) แล้วเปลี ่ ย นเป็ น สี น ้ � ำ ตาล เมื ่ อ แก่ แ ล้ ว จะแตก ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ กลางพู(bulb,ภายในฝั ด culture) rhizome) กมีเมล็ด ลักษณะของเมล็ (tissue ปไข่แบนรักษ์ยาวประมาณ 18 มิลลิเมตร คุเป็ ณค่นารูในการอนุ มีขอบหนาเป็นสีน�้ำตาลแก่ ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape)

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้อง อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านคูขาด จังหวัดอุบลราชธานี การขยายพันธุ์ : โดยการใช้เมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ราก แช่นำ�้ กินแก้ตาน ขโมยเด็ก ราก ต้มกินเป็นยาสมานแผล ต้น แช่ น�้ำกินแก้ผดผื่นคัน ต้มน�ำ้ กินเป็นยาระบายแก้ ท้องผูก ใบ แช่นำ�้ อาบแก้โรคปวดข้อ โรคเก๊าท์ ใบและผลต้มรวมกันแก้อาการตกขาวในผูห้ ญิง ใบสดน�ำมาต�ำผสมกับผลมะเยาให้ละเอียด แล้วน�ำมาใช้เป็นยาแก้โรคปวดข้อหรือแก้ไข้สา่

หัวลิงจากป่าชุมชนบ้านคูขาด จังหวัด อุบลราชธานี เป็นพืชสมุนไพรหายากในพืน้ ถิน่ โดยหมอยาพื้นบ้านจะได้มาจากการเก็บหา จากในป่า ยังไม่นิยมน�ำมาขยายพันธุ์เพื่อการ ใช้ประโยชน์ในครัวเรือนอย่างกว้างขวางมากนัก

97


(scandent) (climber)

(sucker, stolon)

ไม้เลื้อย ไม้หัว หรือมีเหง้า (climber) (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ไม้ หัวค่หรืาในการอนุ อมีเหง้า รักษ์ คุณ

งเนือ้อไหล เยื่อ แยกหน่อเพาะเลี หัว ลํา้ยหรื

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (sucker, (tissue stolon) culture) (tree, round shape) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

ํา (tissue culture) คํ าอธิบายสัญ(bulb,ลักrhizome) ษณ์คํ าอธิบายสัไม้(tree,ตญ้นทรงกรวยคว่ ลัconicalกษณ์ shape)

ช้อยนางร�ำ

(tree, umbrella shape)(grafting)

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม

ลัยายพั กษณะวิ สยั ขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์ เป็นพรรณไม้ เป็ทนี่ขพรรณไม้ หายาก มีค่า เป็นพรรณไม้ นธุใกล้ ์ยากสูญพันธุ์ (tree, spike shape) เป็นพรรณไม้ ความสูง ไม้พุ่ม

0.9 m เป็นใกล้ พรรณไม้ ่น เป็นพรรณไม้ สูญพันเฉพาะถิ ธุ์ (height) (shrub)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี พรรณไม้เฉพาะถิ่น (Houtt.) H.เป็นshape) Ohashi (tree, umbrella

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Codariocalyx motorius ชื่อวงศ์ : FABACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่ออื่น : แพงแดง (ประจวบคีรีขันธ์), ว่านมีดพับ(tree,(ลำround �พูshape) น) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นพรรณไม้พมุ่ ขนาดเล็ก ล�ำต้นมีความ สูงประมาณ 90 เซนติเมตร ผิวของล�ำต้นมีสี น�้ำตาล พบมากทางเขาสูงภาคเหนือ ใบ : ใบประกอบใบย่อยรูปไข่ สีเขียว 3 ใบ ใบมีความยาว 2 - 7 เซนติเมตร กว้าง 1 - 3 เซนติเมตร ลายเส้นใบสีขาว ใบย่อยเล็ก 2 ใบ สามารถขยับได้เองตามธรรมชาติ หรือเมื่อได้ รับเสียง ดอก : รูปดอกถั่ว สีม่วงปน ขาว

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

คุณค่าในการอนุรัก ษ์

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

เพาะเมล็ด เพาะเม เป็นพรรณไม้ ความต มีค่า ที่ชุมชนมี(seed) (seed) เป็นพรรณไม้ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เถา ไม้ต้นแผ่เไม้ ป็นพรัุ่มศรอเลื มี ้อยปักชํากิ่งเป็หรืนอพรรณไม้ ปักชําก ที่ชุมชนมีความต้องการ (cutting) (scandent) (tree, umbrella shape) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ (cutting ไม้่มเลืกลม ้อย ตอนกิ่ง ไม้ต้นทรงพุ (climber) (tree, round shape) (air layering)

ตอนกิ่ง (air lay

ไม้หัว หรืําอมีเโน้ หง้มากิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ (bulb, rhizome) (tree, conical shape) (layering)

โน้มกิ่ง (layeri

ผลไม้ต:้นเป็ น่มฝักรวยแหลม ก จะมีลกั ษณะแบน กว้ างประมาณ คุไม้ณตค่้นาทรงพุ ในการอนุ รติักดษ์ตา ทรงพุ ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) (tree, spike shape)เซนติ 0.3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2.5 เมตร เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ไม้พุ่ม เสี ย บยอด เมล็ดลักษณะคล้ายเมล็ดถัไม้ว่พุ่มด�ำ ขนาดประมาณ (shrub) (shoot grafting) (shrub) หัวไม้ขีดไฟ สีด�ำ ในหนึ่งฝักมี 2เป็นพรรณไม้ - 6 เมล็ ใกล้สูญดพันธุ์ ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง ไม้พุ่มรอเลื้อย การขยายพั นธุ์ : โดยวิธ(scandent) ีการเพาะเมล็(grafting) ด (scandent) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น การน� นไพรแยกหน่ ต้นอแก้ ไม้เลื้อยำไปใช้ประโยชน์ :ไม้ด้เลืา้อนสมุ หัว ลํา หรือไหล ย (climber) (sucker, stolon) ฝีภายใน แก้ฝใี นท้อง ดับพิ(climber) ษร้อนภายใน ใบ แก้ ไม้หัว หรือมีเหง้า หรือมีเหง้า แก้เพาะเลี ไข้ตัวร้อน แก้ไข้พิษ ขับปัไม้หสัวสาวะ ไข้ร�ำ้ยงเนืเพ้อเยื่อ (bulb, rhizome) (tissue culture) ร�ำพัด แก้ไข้ประสาทพิก(bulb, าร rhizome) นอกจากนั้นยังมี คุณค่าในการอนุรักษ์ ในการอนุ รักษ์ง ปวดเอว สรรพคุณอื่นๆ ได้คุแณก่ค่าแก้ ปวดหลั พรรณไม้หายาก บ� ำเป็รุนพรรณไม้ ง หั ว ใจ ขั บนธุ์ยเหงื ห วั ด แก้เป็ตนกขาว ที่ขยายพั าก ่ อ แก้ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

98

ติดตา (buddi

เสียบย (shoot

ทาบกิ่ง (graftin

แยกหน (sucke

เพาะเล (tissue

เป็นพร

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ เป็นพร เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ อนุรักษ

เป็นพร


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านใหม่ป่าคา จังหวัดตาก ปัสสาวะขัด ช่วยให้เจริญอาหาร น�ำไปต้ม ดื่ม แทนน�้ำ เมื่อเริ่มจืดจึงเปลี่ยนใหม่ หรือน�ำไป ดองในเหล้าขาว ดื่มในแก้วเล็ก 1 แก้ว ก่อน อาหารเช้าเย็น ช่วยเจริญอาหาร หากต้องการ เก็บไว้สามารถน�ำไปตากให้แห้ง แล้วจึงน�ำมา อบถ่านอีกครั้งหนึ่ง ป้องกันการเกิดเชื้อรา สามารถเก็ บ รั ก ษาได้ น าน 3 ปี ใช้ เ ป็ น ไม้ ประดั บ เนื่ อ งจากใบอ่ อ นของช้ อ ยนางร� ำ

สามารถขยับเองได้ตามธรรมชาติ จะกระดิก ได้เป็นจังหวะถึงแม้ว่าเราจะจ้องดูอยู่โดยไม่ให้ มั น เคลื่ อ นไหวแต่ มั น ก็ ก ระดิ ก ได้ เ องตาม ธรรมชาติของมัน คล้ายเต้นร�ำ หรือเมื่อได้รับ เสียงจึงเป็นพรรณไม้ทนี่ า่ อัศจรรย์อกี ชนิดหนึง่ จึงน�ำมาปลูกไว้ในกระถางส�ำหรับดูเล่นในบ้านได้ ถิ่นที่อยู่ : พรรณไม้นี้มันขึ้นเองตามป่าชื้น ทั่วไป หรือจะปลูกไว้ตามบ้าน เพื่อไว้ดูเล่น

99


(climber)

(sucker, stolon)

(tree, umbrella shape)

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ชะมัด

คุณค่าในการอนุรักษ์

ํา คํ าอธิบายสัญลักษณ์คํ าอธิบายสัไม้(tree,ตญ้นทรงกรวยคว่ ลัconicalกษณ์ shape) เป็นพรรณไม้ที่ข ยายพันธุ์ยาก

ลักษณะวิสยั

ขยายพั นธุ์ ลักสูญษณะวิ ั (tree, เป็นพรรณไม้ใกล้ พันธุ์ สย spike shape) เป็นพรรณไม้มีค่า

ความสูง (height)

ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม

ความสูง ไม้พุ่ม

1.5-4 m เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ ่น (height) (shrub)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Clausena excavata Burm.f. ชื่อวงศ์ : RUTACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มกลม round shape) ชื่ออื่น : มุยใหญ่ (ภูเก็ต), สมัดใบใหญ่ (เพชรบูรณ์),(tree, สามเสื อ (ชลบุรี)

100

เป็นพรรณไม้หายาก

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้ น : เป็ น ไม้ พุ ่ ม แตกกิ่ ง ก้ า นสาขามาก สูง 1.5 - 4 เมตร เปลือกสีน�้ำตาล ผิวเรียบ กิ่งก้านมีขนสั้นๆ ที่บริเวณปลายกิ่ง ใบ : เป็นใบประกอบแบบขนนก เรียงแบบสลับ ใบย่อย 3-6 คู่ รูปรีหรือรูปหอกเห็นเป็นรูป สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ใบไม่หนา สีเขียวอ่อน กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 5-8 เซนติเมตร ปลายใบแหลมฐานใบเบีย้ วขอบใบเรียบมีซเี่ ล็ก น้อย ใบมีขนนุ่มสีนำ�้ ตาล ท้องใบมีขนบางๆ

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tissue culture) (tree, round shape)

ขยาย

เพาะเมล็ด (seed) เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

ไม้ต้นแผ่เไม้ ป็นพรัุ่มศรอเลื มี ้อยปักชํากิ่งหรือเถา (scandent) (tree, umbrella shape)(cutting) ไม้่มเลืกลม ้อย ตอนกิ่ง ไม้ต้นทรงพุ (climber) (tree, round shape) (air layering)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

ไม้หัว หรืําอมีเโน้ หง้มากิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ (bulb, rhizome) (tree, conical shape) (layering)

(bulb, rhizome)

(bulb, rhizome)

ดอก : ไม้ออกดอกช่ วงเดือนเมษายน-มิ ถุนายน คุไม้ณตค่้นาทรงพุ ในการอนุ รติักดษ์ตา ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) spikeนshape) ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งเป็นกระจุ(tree,กแน่ เป็นช่(budding) อ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ไม้พุ่ม เสี พุ่ม แบบแยกแขนง มีดอกย่อยจ�ำไม้นวนมาก กลีบยบยอด (shrub) (shoot grafting) (shrub) เลี้ยง 5ไม้กลี บ กลี บ ดอก 5 กลี บ สี ข าวปนเขี เป็นพรรณไม้ย ใกล้วสูญพันธุ์ พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง ไม้พุ่มรอเลื้อย เกสรเพศผู ้มี 10 อัน (scandent) (grafting) (scandent) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ผล : ผลกลมหรื อ รี ข นาดเล็ไม้กเลื้อผิย ว ใสฉ�่ ำ น�แยกหน่ ้ ำ อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อย (climber) (sucker, ผลอ่อนสีเขียวปนเหลือง ผลแก่(climber) สีส้มอมชมพู stolon) ไม้หัว หรือมีเหง้า ไม้หัว หรือมีเหง้ดา เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การขยายพั นธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ คุณค่าในการอนุรักษ์

(tissue culture)

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้อง เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนโนนหินผึ้ง จังหวัดปราจีนบุรี การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ต้น รสหอมร้อน ขับ ลมภายใน แก้ไอ ขับพยาธิไส้เดือน เปลือก มี กลิ่ น หอม แก้ โ ลหิ ต ในล� ำ คอและล� ำ ไส้ ใ ห้ กระจาย ใช้รมแก้รดิ สีดวงจมูก กระพีแ้ ละแก่น แก้โลหิตในล�ำไส้ ราก มีกลิ่นหอมรสร้อน มี สรรพคุณขับเลือดและหนองให้ตกพอง แผล ริด สีด วง และคุ ด ทะราด ขั บ พยาธิ แก้ โ รค ผิวหนัง แก้แน่นกระจายเลือดลม ใช้ฝนกับน�ำ้ ดื่ม แก้โรคงูสวัด ทั้งต้น ใช้ต้มน�้ำกลั้วปากแก้ ปวดฟัน ใบ มีกลิ่นหอมมีรสเผ็ดร้อนซ่า แก้ลม

อันผูกเป็นก้อนให้กระจาย กระจายเลือดลมให้ เดินสะดวก แก้ลมอัมพฤกษ์อมั พาต แก้ขดั ยอก เสียดแทง แก้ไข้ แก้หืดไอ ต�ำพอกประคบ แก้ ผื่นคัน ดอก แก้เสมหะให้ตก ผล มีรสเปรี้ยว ร้อน เป็นยาถ่าย ชะมั ด เป็ น พั น ธุ ์ ไ ม้ ส มุ น ไพร จากป่ า ชุมชนโนนหินผึง้ นิยมใช้ลำ� ต้นและใบของชะมัด มาเผารมควันเพื่อไล่แมลงตามเล้าไก่ ก้านใบ มารองในที่ส�ำหรับไก่ฟักไข่เพื่อก�ำจัดไร

101


(climber)

(sucker, stolon)

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

คุณค่าในการอนุรักษ์

(tree, umbrella shape)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

คําอธิบายสัญลักษณ์ ๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ตะขาบบิน

ลักษณะวิสยั

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tissue culture) (tree, round shape)

ตญ ้นทรงกรวยคว่ ํา คํ าอธิบายสัไม้(tree,ขยายพั ลัconicalกนษณ์ ธุshape) ์ เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ท ี่ขยายพันธุ์ยาก

ความสูง ด ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ กรวยแหลม ั (tree, spike (seed) กล้กสษณะวิ ูญพันธุ์ สย (height) เป็นพรรณไม้ใลั shape) เป็นพรรณไม้มีค่า

ความสูง ไม้พุ่ม ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี 1-2 m เป็นพรรณไม้ (tree, umbrella shape)เฉพาะถิ่น (height) (shrub)

ขยายพ

ปักชํากิ่งหรือเถา (cutting) เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tree, round shape)

ไม้ต้นแผ่เไม้ ป็นพรัุ่มศรอเลื มี ้อตอนกิ ย ่ง (air (scandent) (tree, umbrella shape) layering)

ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape)

ดตาา ไม้หัว หรืําอมีติเหง้ ไม้ต้นทรงกรวยคว่ (budding) (bulb, rhizome) (tree, conical shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Muehlenbeckia platyclada (F.Muell.) Meisn. ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา ชื่อวงศ์ : POLYGONACEAE ไม้่มเลืกลม ้อย โน้มกิ่ง ไม้ต้นทรงพุ (tree, conical shape) (climber) round shape) ชื่ออื่น : ตะขาบหิน (ภาคกลาง), เพว, เฟอ (กรุงเทพฯ), ว่านตะขาบ (เชี(tree, ยงใหม่ ) (layering) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้พุ่ม ล�ำต้นตั้งตรง สูง 1 - 2 เมตร ล�ำต้นแบน เป็นข้อ ๆ สีเขียว ตัง้ ตรง แตก กิ่งก้านมาก ต้นแก่โคนต้นเป็นสีน�้ำตาล ต้น อ่อนสีเขียว แบนเรียบ กว้างราวครึ่งนิ้ว เป็น ปล้องๆ พอล�ำต้นแก่เปลีย่ น เป็นสีนำ�้ ตาล และ กลมขึ้น ใบ : เป็นใบเดี่ยว มีขนาดเล็ก ลักษณะคล้าย ล�ำต้น มีใบน้อย หรือไม่มเี ลย ใบเรียงสลับ ร่วง ง่าย รูปใบหอก กว้าง 0.5 - 1.5 เซนติเมตร ยาว 2 - 5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบ สอบ หลังใบ และท้องใบเรียบ ขอบใบเรียบ เนื้อใบอ่อนนิ่ม ไม่มีก้านใบ

ไม้พุ่ม นช่อสั้นๆ เป็น ดอก : ออกเป็ กระจุ ก่มกรวยแหลม เล็กๆรเสีักยบยอด ทีษ์ ่ คุไม้ณ ในการอนุ ตค่้นาทรงพุ (shrub) (shoot grafting) shape) บริเวณข้อ ดอกตัวผู้และดอกตั(tree,วเมีspikeยอยู ่คนละ เป็นพรรณไม้ทาบกิ ที่ขยายพั ไม้พุ่มรอเลื้อย ่ง นธุ์ยาก พุ่ม ต้นกัน ดอกย่ อยมีขนาดเล็ก ก้ไม้านดอกสั ้น โคน (scandent) (grafting) (shrub) กลีบดอกติไม้ดเลืกั้อยน ก้านชูดอกสัน้ มาก กลี บรวมสี เป็นพรรณไม้ ใกล้สูญอ พัหันว ธุลํ์ า หรือไหล แยกหน่ ไม้พุ่มรอเลื้อย (climber) (sucker, stolon) ขาวแกมเขียว มี 5 กลีบ รูปไข่(scandent) เกสรตัวผู้ 7 เป็นพรรณไม้เพาะเลี เฉพาะถิ้ยงเนื ่น ้อเยื่อ ไม้หัว หรือมีเหง้า – 8 อัน (bulb, rhizome) ไม้เลื้อย (tissue culture) ผล : ผลสดมีเนื้อฉ�่ำน�้ำ ค่อนข้(climber) างกลม ผลอ่อน คุณค่าในการอนุรักษ์ ไม้หัว หรือขนาดเส้ มีเหง้า มีสีเขียว เมื่อสุกมีสีแดง มีรสหวาน น (bulb, rhizome) เป็ น พรรณไม้หายาก นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก 1 – 2 มิล ลิเ มตร ผ่านศูนย์กเป็ลางประมาณ าในการอนุ เมล็ดเดี่ยว สีเหลืองเป็นคุสัณนค่3 สัน รักษ์ เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ การขยายพันธุ์ : โดยใช้วิธีการปั กช�ำ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

102


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านหนองบัวน้อย จังหวัดร้อยเอ็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เนื่องจากเป็นไม้ที่ แตกกิ่งก้านมากมีสีเขียวเข้ม บางพื้นที่นิยมน�ำ มาปลูกเป็นไม้ประดับ และใช้ในการจัดแจกัน ดอกไม้ จัดพวงหรีด ตกแต่งซุม้ ประตูในงานพิธี ต่างๆ ด้านสมุนไพร ใช้ทั้งต้น มีรสหวานสุขุมมี สรรพคุณแก้รอ้ นใน ดับพิษต่าง ๆ พิษเลือด พิษ ร้อน พิษฝี แก้ฝใี นปอด แก้ไอเนือ่ งจากปอด แก้ เจ็บคอ เจ็บอก ใช้ภายนอกระงับปวด แก้โรค

ผิวหนังเจ็บ ผื่นคัน น�้ำเหลืองเสีย งูสวัด ฝี ตะมอย ต้นและใบสด ต�ำผสมเหล้า พอกหรือ คั้นน�้ำทา ปิดแผลบริเวณที่ถูกแมลงสัตว์มีพิษ กัดต่อย เพื่อถอนพิษและบรรเทาอาการปวด ถอนพิษแมงป่องและตะขาบ แก้ฟกบวม เคล็ด ขัดยอก ใบต�ำผสมเหล้าขาว คั้นน�ำ้ หยอดหูแก้ หูน�้ำหนวก

103


(scandent) (climber) ไม้เลื้อย ไม้หัว หรือมีเหง้า (climber) (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ไม้ หัวค่หรืาในการอนุ อมีเหง้า รักษ์ คุณ

คํ าอธิบายสัญ(bulb,ลักrhizome) ษณ์

ปลาไหลเผือก

(sucker, stolon)

(tree, umbrella shape)(grafting)

งเนือ้อไหล เยื่อ แยกหน่อเพาะเลี หัว ลํา้ยหรื

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (sucker, (tissue stolon) culture) (tree, round shape) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tissue culture) (tree, conical shape) เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

คุณค่าในการอนุรักษ์

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม

ขยายพันธุ์ เป็นพรรณไม้ เป็ทนี่ขพรรณไม้ หายาก มีค่า เป็นพรรณไม้ ยายพันธุใกล้ ์ยากสูญพันธุ์ (tree, spike shape) เป็นพรรณไม้ เป็นใกล้ พรรณไม้ เป็นพรรณไม้ สูญพันเฉพาะถิ ธุ์ ่น

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (tree, umbrella shape)

ไม้พุ่ม (shrub)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้พุ่ม ไม่ผลัดใบ เปลือกเรียบสี น�้ำตาลเทา พบขึ้นกระจายในป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้งและป่าดิบชืน้ ระดับความ สูงจากระดับน�ำ้ ทะเล ๗๐๐ เมตร ใบ : เป็นใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวปลาย คี่ เรี ย งเวี ย น ใบประกอบยาวได้ ก ว่ า 35 เซนติเมตร ใบย่อย 8-13 คู่ เรียงตรงข้ามหรือ เกือบตรงข้าม รูปใบหอกแกมรูปไข่กลับหรือ รูปขอบขนานแกมรูปไข่ เรียวยาว ใบย่อยเรียง

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เถา ไม้พุ่มรอเลื้อยปักชํากิ่งเป็หรืนอพรรณไม้ ที่ชุมชนมีความต้องการ (scandent) (cutting)อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eurycoma longifolia Jack ชื่อวงศ์ : SIMAROUBACEAE ไม้เลื้อย ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tree, roundตรึ shape) ชื่ออื่น : กรุงบาดาล (สุราษฎร์ธานี), คะนาง (ตราด), งบาดาล (ปัตตานี(climber) ) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

เพาะเมล็ด เป็นพรรณไม้ มีค่า ที่ชุมชนมีความต (seed) เป็นพรรณไม้

ตอนกิ่ง (air layering)

ไม้หัว หรือมีเโน้ หง้มากิ่ง (bulb, rhizome) (layering)

แบบตรงข้ าม กว้าง 1-3 เมตร คุณค่าเซนติ ในการอนุ รติักดษ์ตา ยาว ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) 5-10 เซนติเมตร เส้นแขนงใบข้างละ(budding) 8-12 เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ไม้พุ่ม เสียบยอด เส้น ปลายใบแหลม โคนใบเบี้ยว ขอบใบเรียบ (shrub) (shoot grafting) เส้ไม้นพใบเห็ น ไม่ ช ั ด เจน ปลายโค้ จรดกั นสูญเส้ เป็งนพรรณไม้ ใกล้ พันธุน์ ุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง กลางใบนู เว้นด้าน (scandent) นเล็กน้อย ด้านบนนูนเด่นชัด(grafting) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ล่าไม้งเลื้อไม่ ายแผ่ ย มีก้านใบย่อย แผ่นใบหนาคล้แยกหน่ อ หัน ว ลํา หรือไหล (climber) (sucker, stolon) หนัง ผิวใบเรียบเป็นมัน ผิวด้านบนเกลีย้ ง ด้าน หัว หรือมีเหง้า ้ยงเนื้อเยื่อ ล่ าไม้งมี ข นประปราย ก้ า นช่ อ ใบยาว เพาะเลี 7-15 (bulb, rhizome) (tissue culture) เซนติเมตร

คุณค่าในการอนุรักษ์

104

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านตลาดขี้เหล็ก จังหวัดเชียงใหม่ ดอก : ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงสีเขียวอมน�้ำตาล ปลายกลีบสีแดง อมเขียว กลีบดอกสีแดงอ่อนเกสรตัวผูแ้ ละตัว เมียมีสแี ดงอ่อนยืน่ ยาวกว่าดอก ออกดอกช่วง เดือนพฤศจิกายน – มกราคม ผล : เป็นผลเดี่ยวทรงกระบอกกลมสั้นออก เป็นพวง ผิวเรียบเมือ่ อ่อนผลสีเขียวและเมือ่ ผล แก่จะมีสีส้มจนถึงสีม่วงด�ำ การขยายพั น ธุ ์ : โดยวิ ธี ก ารเพาะเมล็ ด

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เปลือก แก้ไข้ท�ำให้ เลือดแข็งตัวโดยเฉพาะระหว่างคลอดบุตร ราก มีความเชื่อว่าช่วยบ� ำรุงพลังเพศ ต้มน�้ ำดื่ม แก้ไข ฝนน�้ำดื่มแก้ปวดท้อง น�ำไปเข้ายาบ�ำรุง ก�ำลัง น�ำรากผสมกับรากโลดทะนงแดงและ พญาไฟ ฝนน�้ำดื่น แก้ไข้ ใช้เลิกเหล้า รากรส ขม เบื่อ เมาเล็ ก น้ อ ย ถ่ า ยพิ ษ ต่ า งๆ ถ่ า ยฝี ในท้อง ถ่ายพิษไข้ พิษเสมหะ และโลหิต แก้ไข้ มาลาเรีย ตัดไข้ทุกชนิด แก้ลม แก้วัณโรค ระยะบวม ขับเหงื่อ ขับพยาธิ แก้ท้องผูก แก้ ต่อมทอมซิลอักเสบ แก้เจ็บคอ ความดันโลหิตสูง

105


(climber)

(tree, umbrella shape)

ไม้หัว หรือมีเหง้า

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (bulb, rhizome) (tree, round shape)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

มะขม

คุณค่าในการอนุรักษ์

ํา คํ าอธิบายสัญลักษณ์คํ าอธิบายสัไม้(tree,ตญ้นทรงกรวยคว่ ลัconicalกษณ์ shape)

ลักษณะวิสยั

ขยายพั นธุ์ ลักษณะวิสยั (tree, ขยายพ spike shape)เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ความสูง (height)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pittosporopsis kerrii Craib ชื่อวงศ์ : ICACINACEAE ชื่ออื่น : บ่าขม (ชนเผ่าปกาเกอะญอ) กะเหรี่ยง ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้พมุ่ ผลัดใบ ล�ำต้นสูงเต็มที่ 5 - 6 เมตร เปลื อ กเรี ย บสี น�้ ำ ตาล มี ช่องอากาศ กระจายทั่วไป มีกิ่งก้านขยาย เปลือกชั้นในสี ส้มอ่อน เปลือกบางมาก กระจายตามที่ร่มใน ป่าดิบชื้น ใบ : เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรี กว้าง 4 - 7 เซนติเมตร ยาว 10 - 21 เซนติเมตร ใบคล้าย ใบชา ปลายใบเรียวแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ ผิวใบเรียบเกลีย้ ง ด้านบนเขียวเข้ม เป็นมัน เมือ่

106

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม

5-6 m

ความสูง ไม้พุ่ม (height) (shrub)

เพาะเมล็ด (seed)เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ไม้ต้นแผ่เไม้ ป็นพรัุ่มศรอเลื มี ้อยปักชํากิ่งหรือเถา (scandent) (tree, umbrella shape)(cutting)

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tree, round shape)

ไม้่มเลืกลม ้อย ตอนกิ่ง ไม้ต้นทรงพุ (climber) (tree, round shape) (air layering)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

ไม้หัว หรืําอมีเโน้ หง้มากิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ (bulb, rhizome) (tree, conical shape) (layering)

แห้งเป็นไม้ตสี้นนทรงพุ �้ำตาลอ่ อน เส้นใบข้ งอยู ่ห่างกั คุไม้ณตค่้นาาทรงพุ ในการอนุ รติักดษ์นตา ่มกรวยแหลม ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) spikeแshape) ขอบใบหนาคล้ายเส้นใบ ยอดอ่(tree, อนสี ดง (budding) เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เสียบยอด ไม้พุ่ม ่ซอกใบและ ดอก : ไม้ช่พอุ่มดอกกระจุกกลม ออกที (shrub) (shoot grafting) (shrub) ปลายกิง่ โคนกลีบเลีย้ งเชือ่ มติดกัน เป็ปลายแยก นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง ไม้พุ่มรอเลื้อย 5 แฉก(scandent) กลีบดอก 5 กลีบ สีขาวหรื อ เขี ย วอ่ อน (grafting) (scandent) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ผล : สีเไม้ขีเลืย้อวสดเปลี ่ยนเป็นเหลืไม้อเลืง้อยด้านบนและ ย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (climber) (climber)กลีบเลี้ย(sucker, ด้านล่างแบนปลายมีติ่งเล็ก ฐานมี งที่ stolon) ไม้หัว หรือมีเหง้า ไม้หัว รู หรืป อมีทรงกลม เหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เจริญใหญ่ ขึ้นมารองรับ ผลสด (bulb, rhizome) (tissue culture) เมล็ดเดียว แข็ง ผิวเรียบ มีสีข(bulb, าว rhizome) ผลโตเต็มที่ คุณค่าในการอนุรักษ์

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องก เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านแม่บง จังหวัดเชียงราย จะหล่นลงดินตามธรรมชาติ จึงค่อยเก็บน�ำมา กะเทาะเปลือกเอาเมล็ดออก เมล็ดคล้ายๆลูก เกาลัด น�ำมาต้มยิ่งนานยิ่งดี รสชาติจะออก หอมมัน การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เมล็ด เอามาต้มกิน เนือ้ ข้างใน มีรสขม กินกับข้าวเหนียว หรือลาบ เมล็ด มีสรรพคุณเป็นยาระบาย ผล ต้มสุกแล้ว น�ำเนื้อในเมล็ดมารับประทานหรือกินกับข้าว มะขมเป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ที่ป่าชุมชนบ้าน แม่บง จังหวัดเชียงรายต้องการอนุรักษ์เอาไว้ เพื่อให้คงอยู่ในท้องถิ่นสืบต่อไป

107


(shrub)

(tree, umbrella shape)

ไม้พุ่มรอเลื้อย

(scandent) คํ าอธิบายสั ญลักษณ์

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

มะงั่ว

ไม้เลื้อย

ทาบกิ่ง (grafting)

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tree, round shape)

ํา ลัconicalกขยายพั ษณ์ คําอธิบายสั ญลัสยัก(climber) ษณ์คํ าอธิบายสัไม้(tree,ตญ้นทรงกรวยคว่ ลักษณะวิ shape) นธุ์

ลักษณะวิสยั

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, ความสูง rhizome)

(shoot grafting)

แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (sucker, stolon)

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพาะเมล็ด(tissue culture) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม

ลักษณะวิสยั ขยายพันธุ์

ขยายพันธุ์

(tree, spike shape) (seed) คุณ(height) ค่าในการอนุรักษ์ ความสูง เพาะเมล็ปัดกชํากิ่งหรือเถา ความสูง ไม้พุ่ม เพาะเมล ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี 3-10 mที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ (height) (tree, umbrella shape) (height) (shrub) (seed) (cutting) (seed)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศไม้ มี ต้นทรงพุ่มกลม

ตอนกิ ่ง เป็นพรรณไม้มีค่า ปักชํากิ่ง อเถา ไม้ต้นแผ่เไม้ ป็นพรัุ่มศรอเลื มี ้อยปักชํากิ่งหรื

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Citrus medica L. round shape) (tree, umbrella (tree, umbrella(tree, shape) (scandent) shape)(cutting) (air layering) (cutting) เป็ น พรรณไม้ ท ี ่ ช ม ุ ชนมี ควา เป็นพรรณไม้ ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา เฉพาะถิ ชื่อวงศ์ : RUTACEAE ไม้่มเลืกลม ้อย ตอนกิ่ง โน้มกิ่ง ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ไม้ต่น้นทรงพุ ตอนกิ ่ง อนุ ร ก ั ษ์ เ พื อ ่ การใช้ ป ระโยชน (tree, conical shape) (tree, round (layering) (climber) (tree, round shape) (air layering) shape) (air laye ชื่ออื่น : มะนาวควาย (ปัตตานี ยะลา), ส้มโอมะละกอ (เชียงใหม่)

ไม้ตํา้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ไม้หัว หรืําอมีเโน้ หง้มากิ่ง ติดตา ไม้ต้นทรงกรวยคว่ (tree, spike shape) (budding) (bulb, rhizome) (tree, conical shape) (tree, conical shape) (layering) ไม้พุ่ม ในการอนุ ไม้ต้น:ทรงพุ ่มกรวยแหลม ้นาทรงพุ ่มกรวยแหลม ผล ผลสดเปลื อกเป็นคุปุไม้ณ่มตค่ปมเล็ กน้อรยติักดษ์ตาเปลืเสี(shoot อยบยอด กgrafting) (shrub) (tree, spike shape) (tree, spike shape) (budding) หนา สีเหลืไม้อพุ่มงรอเลืกลิ้อย ่นหอม แต่ลเป็ะกลี บขนาดเล็ นพรรณไม้ ที่ขยายพันทาบกิ ธุ์ยก าก่ง ไม้พุ่ม เสียบยอด ไม้ พ ม ่ ุ (scandent) (grafting) รสออกเปรี ้ยว เมล็ดรูป(shrub) ไข่จ�ำนวนมาก สอง (shrub) (shootมีgrafting) เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพัแยกหน่ นธุ์ อ หัว ลํา หรือไหล พัไม้นพธุ​ุ่มรอเลื ์ คือ้อย พัไม้เลืน้อธุย ์ที่มีรสเปรีไม้​้ยพุ่มวรอเลืยอดและตาดอก ทาบกิ่ง ้อย (climber) (sucker, stolon) (grafting) สี(scandent) ชมพู เนื้อมีรสเปรี้ยว และพั เปรี้ยว (scandent)นธุ์ที่รสไม่ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หัว หรือมีเหง้า ไม้เลื้อย แยกหน่ อ(tissue หัย หรือไหล ยอดและตาดอกไม่ ้ รสไม่ เปรี ้ ว วลําculture) ้อย เนือ (bulb, rhizome) เป็นสีไม้ชเลืมพู (climber) (sucker, stolon) (climber)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้พุ่ม สูง 3-10 เมตร ตามล�ำต้น และกิง่ ก้านมีหนาม เปลือกต้นสีน�้ำตาลปนเทา ใบ : เป็นใบเดี่ยวออกสลับ ใบกลมมน ขอบใบ เรียบ แผ่นใบงอขึ้นเล็กน้อย สีเขียวเข้มเป็นมัน วาว ใบหนากว่าใบมะนาว มีจดุ น�้ำมัน มีบางใบ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ดอก : ดอกสีขาวออกเหลือง ลักษณะคล้าย การขยายพั นธุร์ ัก:ษ์ โดยวิธีการช�ำกิ่ง และวิธี คุณค่าในการอนุ ไม้หัว หรือมีเหง้า ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ดอกของมะนาวมีเมล็ดกลมขนาดโต เพาะเมล็ ด (bulb, rhizome) (tissue culture) เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ย(bulb, าก rhizome)

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้หายาก

โน้มกิ่ง (layering

ติดตา (budding

เสียบยอ (shoot g

ทาบกิ่ง (grafting

แยกหน่อ (sucker,

เพาะเลี้ย (tissue c

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็ น พรรณไม้ หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรร

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักมษ์ีคเพื่า ่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

108

เป็นพรร

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ เป็นพรร เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ อนุรักษ์เ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านเด่นพัฒนา จังหวัดน่าน การน� ำ ไปใช้ ป ระโยชน์ : ประโยชน์ ด ้ า น อาหาร ส่ ว นที่ ใ ช้ บ ริ โ ภค คื อ ใบอ่ อ น ใบแก่ ผลดิบ ผลแก่ การปรุงอาหาร ใบอ่อน น�ำมา ลวกหรือต้มรับประทานเป็นผักร่วมกับน�้ำพริก ลาบ ใบแก่ น�ำมาหั่นเป็นฝอย ใส่ลาบเพื่อดับ กลิ่ น คาวโดยเฉพาะปลาต่ า งๆ ผลแก่ ใช้ ประกอบอาหารให้รสเปรี้ยวแทนมะนาว มี สรรพคุณทางยา ผิวลูก รสปร่าหอม ใช้ท�ำยา หอมแก้ลมวิงเวียน หน้ามืดตาลาย แก้ทอ้ งขึ้น อืดเฟ้อ น�้ำในลูก รสเปรี้ยวอมหวาน กัดฟอก

เสมหะ แก้ไอ ฟอกโลหิต ใบรักษาโรคผิวหนัง โดยร่วมกับใบส้มต่างๆ ต้มอาบ ท�ำให้ผวิ เกลีย้ ง เกลา เบาเนือ้ เบาตัว มะงัว่ จากบ้านเด่นพัฒนา จังหวัดน่านเป็นพรรณไม้หายาก พบตามบ้าน เรือน สมัยก่อนนิยมปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ด้าน พืชอาหาร แต่ปัจจุบันหายากเพราะมีการใช้ มะนาวมาทดแทนมะงั่ว ดังนั้น จึงควรมีการ อนุรกั ษ์สายพันธุม์ ะงัว่ เพือ่ ไม่ให้สญ ู พันธุไ์ ปจาก ประเทศไทย

109


(climber)

(sucker, stolon)

(tree, umbrella shape)

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

มะนาวไม่รู้โห่

คุณค่าในการอนุรักษ์

ํา คํ าอธิบายสัญลักษณ์คํ าอธิบายสัไม้(tree,ตญ้นทรงกรวยคว่ ลัconicalกษณ์ shape) เป็นพรรณไม้ท ี่ขยายพันธุ์ยาก

ลักษณะวิสยั

ขยายพั นธุ์ ลักสูญษณะวิ ั (tree, เป็นพรรณไม้ใกล้ พันธุ์ สย spike shape) เป็นพรรณไม้มีค่า

ความสูง (height)

ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม

2-3 m เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ ่น

ความสูง ไม้พุ่ม (height) (shrub)

ขยายพ

เพาะเมล็ด (seed) เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

ไม้ต้นแผ่เไม้ ป็นพรัุ่มศรอเลื มี ้อยปักชํากิ่งหรือเถา (scandent) (tree, umbrella shape)(cutting)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Carissa carandas L. ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tree, round shape) ชื่ออื่น : หนามขี้แฮด (เชียงใหม่), หนามแดง (กรุงเทพฯ)

110

เป็นพรรณไม้หายาก

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้พุ่ม สูง 2 - 3 เมตร ทรงพุ่มกลม แตกกิ่งจ�ำนวนมาก ทุกส่วนมียางสีขาวเหมือน น�้ำ นม ล� ำต้ นและกิ่งก้านมีหนามแหลมยาว 2 - 5 เซนติเมตร ปลายหนามมีสีแดง ใบ : เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่กลับ ปลายใบมนหรือเว้าเข้าเล็กน้อย โคนใบกลม ผิวใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอก : เป็นดอกช่อสั้น ๆ ที่ปลายกิ่ง กลีบดอก สีขาว มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ มีขน โคนกลีบเชื่อม

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tissue culture) (tree, round shape)

ไม้่มเลืกลม ้อย ตอนกิ่ง ไม้ต้นทรงพุ (climber) (tree, round shape) (air layering) ไม้หัว หรืําอมีเโน้ หง้มากิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ (bulb, rhizome) (tree, conical shape) (layering)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

ติดกันเป็ หลอดยาวสี กมแดง ดอกมี ณ ในการอนุ รติักดษ์ตา ไม้ตน้นทรงพุ ่มกรวยแหลม ช มพู แคุไม้ ตค่้นาทรงพุ ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) spike shape) (budding) กลิ่นหอมอ่อน ๆ หอมตลอดวัน(tree,ออกดอกทั ้งปี เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ไม้พุ่ม เสี ไม้พุ่ม น เป็ น ช่ ยอบยอด ผล : เป็ น ผลเดี่ ย วออกรวมกั (shrub) (shoot grafting) (shrub) ผลรูปกลมรี มนรี หรื อ รู ป ไข่ ผลอ่ อ นมี ข ี าวอม เป็นส พรรณไม้ ใกล้สูญพันธุ์ ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง ไม้พุ่มรอเลื้อย ชมพู ผลดิ บมีนำ�้ ยางมาก ผลจะค่ อย ๆ เข้ม(grafting) ขึ้น (scandent) (scandent) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น เป็นสีแดง ่งสุกจึงกลายเป็ไม้เนลื้อสีย ด�ำ เมล็ดแยกหน่ มี อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อกระทั ย (climber) (sucker, 1 เมล็ด ติดอยูท่ สี่ ว่ นปลายรูปไต(climber) ยาว 2.5 - 3 stolon) ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หัว หรื มีเหง้างหุ้ม เซนติเมตร สีน�้ำตาลอมเทา มีเไม้ปลื ออกแข็ (bulb, rhizome) (tissue culture) (bulb, rhizome) การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ ด คุณค่าในการอนุรักษ์

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องก เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านแม่หาร จังหวัดแม่ฮ่องสอน การน� ำ ไปใช้ ป ระโยชน์ : ผล มี ส รรพคุ ณ ฆ่าเชื้อ ขับปัสสาวะ พอกดับพิษ แก้โรคลักปิด ลักเปิด เมล็ด แก้กลากเกลื้อน แก้เนื้อหนังชา ในโรคเรื้อน แก้โรคผิวหนัง แก้ตาปลา แก้เนื้อ งอก บ�ำรุงไขข้อ บ�ำรุงกระดูก บ�ำรุงเส้นเอ็น บ�ำรุงก�ำลัง บ�ำรุงผิวหนัง เปลือก แก้บิด ขับน�ำ้ เหลืองเสีย แก้ท้องเสีย แก้กามโรค ท�ำยาอม รักษาแผลในปาก แก้ปวดฟัน พอกดับพิษ ยอด อ่อน รักษาริดสีดวงทวาร ยาง ใช้ทาท�ำลาย

ตาปลา กัดท�ำลายเนื้อที่ด้านเป็นปุ่มโต แก้ เลือดออกตามไรฟัน รักษาหูด รักษาขี้กลาก แผลเนื้องอก โรคเท้าช้าง น�้ำมัน ใช้ฆ่าเชื้อ ทาถูนวดให้ร้อนแดง ยาชา รักษาโรคเรื้อน กัด หู ด แก้ บ าดแผลเน่ า เปื ่ อ ย มะนาวไม่ รู ้ โ ห่ สามารถน�ำใช้ประกอบอาการ หรือท�ำขนมได้ หลากหลายเมนู เช่น ผัดไทย เต้าหู้มะนาวโห่ น�้ำพริกเผามะนาวโห่ ฟรุ๊ตตี้ลืมหาว เป็นต้น

111


คําอธิบายสัญลักเพาะเลี ษณ์้ยงเนื้อเยื่อ

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

(tissue culture)

ลักษณะวิสยั

คํานอธิ บายสัความสู ญลังกษณ์ เป็นพรรณไม้หายาก คําอธิบายสัเป็ญนพรรณไม้ ลักษณ์ ที่ขยายพั ธุ์ยาก (height)

หมักม่อ

ลักษณะวิสยั

กพัษณะวิ ั เป็นพรรณไม้ใกล้สลัูญ นธุ์ สย

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี ่า ขยายพั นธุ์ shape)เป็นพรรณไม้มีคขยายพ (tree, umbrella

ความสูง ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ กลม ด 6-8 m เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา (height) เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (height) (tree, round(seed) shape) ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rothmannia wittii (Craib) Bremek. ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : RUBIACEAE (tree, round shape) ชื่ออื่น : ต้นขี้หมู (บุรีรัมย์), หม่อ, หม้อ ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยช

ปักชํากิํา่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่ (tree,shape) conical(cutting) shape) (tree, umbrella ตอนกิ่ง

้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม layering) (tree, spike (air shape) (tree, round shape) ไม้พุ่ม

โน้มกิ่ง

(tree, conical shape)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (layering) (shrub) (tree, conical shape)

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพัเป็ นธุน์ พรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องก

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ไม้พุ่มรอเลื้อติยดตา สี เ ขี ย วสด เวลามี ด อกจะทิ ้งไป ต้น : เป็นไม้พุ่ม สูง 6 – 8 เมตร พบขึ้นตาม โคนใบแหลม ไม้ ต ้ น ทรงพุ ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) (scandent) (tree, spike shape) ป่าเต็งรัง ป่าเบญพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าโป่ง ดอก ไม้:พุ่มเป็นช่อ ออกเป็นกระจุกที่ซไม้อกใบใกล้ เลื้อย เสียบยอด (shrub) ไม้พุ่ม (climber) ่อมติด(shoot กัน grafting) และป่าละเมาะ เปลือกสีนำ�้ ตาลอมด�ำ แตกกิ่ง ปลายยอด สีขาวนวล กลีบดอกเชื (shrub) ไม้หัว หรือมีทาบกิ ุ่มรอเลื้อย เหง้า ่ง ปพระฆั ง มีดอกย่อย 5- 12 (bulb, ดอกrhizome) ดอก ก้านสาขากว้าง กิง่ อ่อนมีขนอ่อนสีนำ�้ ตาลแดง เป็นรูไม้(scandent) (grafting) ไม้พุ่มรอเลื้อย ง ปลายแยกเป็ น 5 กลีบ และบาน อ หัว ลํา หรือไหล ปกคลุมหนาแน่น แตกกิ่งเป็นชั้นคล้ายกับฉัตร ย่อยรูไม้ปเลืระฆั ้อย คุ(scandent) ณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ (climber) (sucker, stolon) โค้งงอกลั บ โคนกลีบด้านในมีไม้แเลืต้​้อมย สีเขียว และ มีทรงพุ่มกลม โปร่ง ไม้หัว หรือมีเหง้า นพรรณไม้เพาะเลี (climber) มว่ ง ดอกบานคว�ำ่ ลง เมือ่ เป็บานมี เทส้ี่ขนยายพั้ยงเนืนธุ้อ์ยากเยื่อ ใบ : ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามเป็นคู่ ใบรูปขอบ แถบประสี (bulb, rhizome) (tissue culture) หรือมีเหง้เามตร มี ขนาน หรือรูปวงรีแกมขอบขนาน กว้าง 12 – ผ่านศูนย์กลางของดอก 3 – ไม้5หัว เซนติ เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ คุณค่าในการอนุรักษ์ (bulb, rhizome) 16 เซนติเมตร ใบอ่อนขนปกคลุมทั้งสองด้าน กลิ่นหอมอ่อนๆ ตอนกลางคืน ออกดอกช่วง นพรรณไม้ าในการอนุเป็รนักพรรณไม้ ษ์ เป็เฉพาะถิ ์ยากคุณนค่ธ์ ่น หายาก วาคมที่ขยายพั – กุมนธุภาพั ใบค่อนข้างนิม่ มีขนาดใหญ่ และเห็นเส้นแขนง เดือนธัเป็นนพรรณไม้ ใบชัดเจน หูใบอยูร่ ะหว่างก้านใน ปลายใบ และ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันเป็ธุ์ยนาก พรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

112


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านโคกป่าซี จังหวัดกาฬสินธุ์ ผล : ผลสดรู ป ทรงกลม ขนาด 3 – 4 เซนติเมตร เปลือกผลเรียบ แข็ง มีรอยตะเข็บ สีนำ�้ ตาลเป็นสันเล็กน้อย แบ่งครึง่ ลูก เนือ้ ผลมี รสหวานเล็กน้อย มีสีเขียวเข้ม เมื่อแก่มีสีด�ำ มี เมล็ดจ�ำนวนมาก การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด ปลูก ลงแปลงกลางแจ้งหรือในที่ร่มร�ำไร

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ด้านสมุนไพร แก่น หรื อ ราก ใช้ ต ้ ม ดื่ ม แก้ ไ ข้ ล� ำ ต้ น ผสมกั บ สมุนไพรอื่น ต้มน�้ำดื่มรักษากามโรค แก้ท้อง ผูก และใช้ปรุงยาต้มดื่มแก้ไข้ ถ่ายเส้นเอ็น แก้ อัมพฤกษ์อัมพาต เหน็บชา ถ่ายพิษในตับ ขับ ปัสสาวะ เนื้อในผล มีสีด�ำแฉะเล็กน้อย เป็น ลอนคล้ายขีห้ มูรบั ประทานได้ มีรสหวาน เป็น ยาแก้เจ็บคอ ผล ใช้ดองแล้วเป็นยาบ�ำรุงก�ำลัง ด้านอื่น ๆ เป็นไม้ประดับ มีดอกสวยงาม ผล กลมด�ำโดดเด่น

113


ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ไม้เลื้อย (climber)

ลักษณะวิสยั

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

คุณค่าในการอนุรักษ์

ความสูง (height)

ลักษณะวิขยายพั สยั นธุ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก3-7 m

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

พรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Memecylon edule Roxb. (tree, umbrellaเป็นshape) ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : MELASTOMATACEAE เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (tree, round shape) ชื่ออื่น : พลองกินลูก เหมือดพลองดำ� (ประจวบคีรีขันธ์), เหมียด (สุรินทร์)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ไม้พุ่ม สูง 3 – 7 เมตร ใบ : เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม แผ่นใบรูปไข่ กลับ กว้าง 3 – 4 เซนติเมตร ยาว 5 – 10 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบรูปลิ่ม ขอบ ใบเรียบ ใบมันเรียบ ก้านใบยาว 0.4 – 0.5 เซนติเมตร ดอก : ดอกสีน�้ำเงินอมม่วง ออกตามกิง่ และ ซอกใบ

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture)

ความสูง เพาะเมล็ด เป็นพรรณไม้หายาก (height) (seed) เถา ไม้ต้นแผ่เป็นรัปัศกมีชํากิ่งเป็หรืนอพรรณไม้ มีค่า (cutting) (tree, umbrella shape)

ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีควา อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน (air layering) (tree, round shape)

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิํา่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ (tree, conical(layering) shape) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ติดตา ผล : ผลออกเป็ นกระจุก ก้านผลย่อย ยาว ไม้ต้นทรงพุ0.3 ่มกรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) (tree, spike shape) - 0.5 เซนติเมตร ช่อผลยาว 1-2 เซนติ เมตร ไม้พุ่ม เสียบยอด ไม้พุ่ม นผ่าน ผลย่อ(shrub) ย 2 - 10 ลูก ผลสดรูปกลม เส้ (shoot grafting) (shrub) ศูนย์กไม้ลาง 0.5 พุ่มรอเลื้อย - 0.6 เซนติเมตร ทาบกิ่ง ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent) การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ ด (grafting) (scandent) ลื้อย ประโยชน์ : ด้านสมุนไพร ล�ำแยกหน่ อ หัว ลํา หรือไหล การน�ไม้ำเไปใช้ ไม้เลื้อย ต้น (climber) (sucker, stolon) ใช้ท�ำด้ามเสียม ท�ำให้ฟันและเหงือ(climber) กแข็งแรง ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ไม้หก ัว หรื หง้ ท� ำ เครื(bulb, ่ อ งมื อ ท� ำ นาและของเล่ น เด็ อีอสมีเ(tissue านา culture) rhizome) (bulb, rhizome)

คุณค่าในการอนุรักษ์

114

แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (sucker, stolon)

คําอธิบายสัญลักษณ์ คําอธิบายสัญลักษณ์

เหมือดแอ่

ทาบกิ่ง (grafting)

คุณค่าในการอนุรักษ์

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้อง รักษ์่นเพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้เอนุ ฉพาะถิ


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านพรเจริญ จังหวัดนครพนม ล�ำต้นของเหมือดแอ่ ตัดแล้วเอาไปเผาไฟ จะมี น�ำ้ เลีย้ งออกมาบริเวณรอยตัด แตะเอาน�ำ้ เลีย้ ง นั้นมาถูฟัน ท�ำให้เหงือกแข็งแรง เป็นสมุนไพร บ� ำ รุ ง เลื อ ด บ� ำ รุ ง น�้ ำ นม โดยผสมรวมกั บ เหมือดโลด ยาแก้ไข้ป่า แก่นน�ำมาย้อมไหม ให้ สีเหลือง ล�ำต้น มีแก่นแข็ง โค้งได้ส่วนชาวบ้าน นิ ย มน� ำ ไปท� ำ แอกวั ว แอกวั ว เป็ น เครื่อ งมือ ส� ำ หรั บ คล้ อ งคอวั ว ควายเมื่ อ ออกไปไถนา นอกจากนีย้ งั ทนทานต่อการผุกร่อนเมือ่ สัมผัส กับน�้ำ อีกอุปกรณ์หนึ่งที่ท�ำด้วยไม้เหมือดแอ่

คือ ท�ำซี่ฟันของคราดนา เพื่อหว่านกล้าข้าว แก่นท�ำง่ามหนังสะติ๊ก ลูกดิบ ใช้ยิงบั้งโป๊ะ บั้ง โป๊ะ คือ ของเล่นเด็กอีสาน ท�ำด้วยไม้ไผ่เป็นล�ำ ขนาดรูของไม้ไผ่ตอ้ งพอดีกบั ลูกเหมือดแอ่ เมือ่ บรรจุลกู แรกเข้าไปจนสุด ใช้ไม้อกี ชิน้ หนึง่ เหลา กลมยาวและมีดา้ มจับดันลูกทีส่ องเข้าไปอย่าง แรง ลูกแรกจะถูกกระแทกด้วยแรงดันลมจาก ลูกที่สอง กระเด็นเสียงดัง โป๊ะ เด็ก ๆ เรียกบั้ง โป๊ะ ตามเสียง ที่ดัง

115


(climber)

(scandent) (sucker, stolon) ไม้เลื้อย เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (climber) (tissue culture)

ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คุณค่าในการอนุรักษ์

ไม้หัว หรือมีเหง้า

คุณค่าในการอนุรักษ์

rhizome) คํ าอธิบายสัญลั(bulb, กษณ์ คําอธิบายสัญลักเป็ษณ์ เป็นพรรณไม้หายาก นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

ต๋าว

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

สยั นธุ์ เป็นพรรณไม้เป็ทนี่ขพรรณไม้ ีค่า ขยาย เป็นพรรณไม้ใกล้สลัูญกพัษณะวิ นธุ์ ขยายพั ยายพันธุ์ยมาก

ความสูง เพาะเมล็ด สูญพันธุท์ ี่ชุมชนมีควา (seed)เป็นพรรณไม้เป็ในกล้พรรณไม้

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ6-15 ่น m (height)

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี (tree, umbrella shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Arenga pinnata (Wurmb) Merr. ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : ARECACEAE ชื่ออื่น : กาฉก (ชุมพร), เต่าเกียด (กาญจนบุร(tree, ี), round ลูกชิshape) ด (ภาคกลาง)

อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน

กิ่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็นปัรักศมีชําเป็ นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (cutting) (tree, umbrella shape)

ไม้ต้นทรงพุ่มตอนกิ กลม ่ง (air layering) (tree, round shape) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา โน้มกิ่ง ไม้ต้นทรงกรวยคว่ ํา (tree, conical shape) (layering) (tree, conical shape) ้นทรงพุ่มกรวยแหลม ติดวตานโคน รูไม้ปตขอบขนาน ปลายใบมนและแหลม ไม้ต้นทรงพุ่มส่กรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) ใบเป็นรูปเงี่ยงใบหอก ขอบเรี(tree, ยบspikeผิวshape) ใบหนา ไม้พุ่ม เสียบยอด ุ่ม ใบมีสข หลั งใบเป็นสีเขียวเข้มมันวาว ส่ไม้วพนใต้ ี าว (shrub) (shoot grafting) (shrub) นวล เมื้อ่อยใบแก่จะห้อยจนปิดคลุมล�ำต้ทาบกิ น ่ง ไม้พุ่มรอเลื ไม้พุ่มรอเลื้อ(grafting) ย (scandent) ดอก : ช่อดอกเชิงลดขนาดใหญ่(scandent) ออกตามซอก ไม้เลื้อย แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล ใบห้ อยยาวลงได้มากกว่า 2 เมตร ไม้เลื้อย (sucker, stolon) (climber) (climber) ผล : ผลกลุ่มรูปไข่สีเขียว ผลแก่ สีเหลืเพาะเลี องและ ไม้หัว หรือมีเหง้า ้ยงเนื้อเยื่อ ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ า rhizome) ด�(bulb, ำ เมล็ ดสีขาวขุ่น ลักษณะนิ่มและอ่อ(tissue น แต่culture) ละ (bulb, rhizome)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : ปาล์มล�ำต้นเดี่ยว ลักษณะล�ำต้นตรงสูง ชะลูด มีหลายขนาด 6 - 15 เมตร เส้นผ่าน ศูนย์กลางต้น 30 – 65 เซนติเมตร ล�ำต้นมี ขนาดใหญ่กว่าต้นตาล ล�ำต้นมีสนี ำ�้ ตาลเข้มจน เกือบด�ำ มีระบบรากเป็นแบบรากฝอย ราก จะเจริญออกจากใต้ดิน ใบ : ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกออกเรียง สลับกัน ก้านทางใบยาว 6 - 10 เมตร มีใบ ผลมี 2 ร-ักษ์3 เมล็ด ต้นต๋าวให้ผลช่วงอายุ 15 ย่อย 30 - 130 ใบ ใบมีลักษณะเช่นเดียวกัคุณบค่าในการอนุ คุณค่า้งในการอนุ รักษ์ ่สุด เดียว มากที ใบมะพร้าว แต่จะใหญ่และแข็งกว่า โดยใบเป็น - 20 ปี ส่วนใหญ่ให้ผลครั เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ไม่เกิน 4 ครั้ง เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

116

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ รักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เป็นพรรณไม้อนุ เฉพาะถิ ่น


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านตะเกราทอง จังหวัดระยอง การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด การน�ำไปใช้ประโยชน์ : หน่ออ่อนและเนือ้ ใน เมล็ดสามารถน�ำมารับประทานได้ เนือ้ ในเมล็ด หรือ ลูกชิด สามารถน�ำมารับประทานสด ๆ ได้ เลย หรือน�ำไปต้ม หรือน�ำมาเชื่อมกับน�้ำตาล รับประทานเป็นของหวานได้ ยอดอ่อน ใช้นึ่ง รับประทานเป็นผักจิ้มกับน�้ำพริก หรือน�ำไป

แกงได้ ล� ำ ต้ น สามารถน� ำ มาใช้ ท� ำ เป็ น เฟอร์นเิ จอร์ หรือใช้ทำ� เป็นอุปกรณ์การเกษตร ได้ ใบตาวแก่ สามารถน�ำมาใช้มุงหลังคา กั้น ฝาบ้าน ส่วนใบอ่อน น�ำมาใช้ท�ำเป็นมวนบุหรี่ ส่ ว นก้ า นใบ เมื่อ น� ำ มาเหลารวมกั น ท� ำ เป็ น ไม้กวาด เส้นใยจากล�ำต้น สามารถน�ำมาใช้ทำ� เป็นแปรงได้

117


stolon) คําอธิบายสัญลัก(grafting) ษณ์(sucker, เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

(climber) (scandent) ไม้เลื้อยไม้หัว หรือมีเหง้า (climber)(bulb, rhizome)

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ลักษณะวิสยั

คุณไม้ค่หาัว ในการอนุ หรือมีเหง้า รักษ์

คํ าอธิบายสัความสู ญลังกษณ์ คําอธิบายสัญ(bulb, ลักrhizome) ษณ์ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก(height)

ตาลโตนด

แยกหน่อ หัว ลํา หรือไหล (tissue culture) (sucker, stolon)

คุณค่าในการอนุรัก ษ์

ลักษณะวิสยั ความสูง (height)

ขยาย

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture) เป็นพรรณไม้หายาก

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี

ลักษณะวิ ันธุ์ (tree, ขยายพั ขยายพั นธุ์ เป็นพรรณไม้ เป็นหพรรณไม้ มีค่า นธุ์ เป็นพรรณไม้ ูญสพัย ายาก เป็นพรรณไม้ ที่ขยายพัในกล้ ธุ์ยสาก umbrella shape) ความสูง ไม้ต้นทรงพุ่มเพาะเมล็ กลม ด

เพาะเมล

m เป็นมพรรณไม้ ที่ชุมชนมีควา เป็นพรรณไม้ ่น เป็นพรรณไม้ ีค่า เป็นพรรณไม้ ใกล้25-40 สูญเพัฉพาะถิ นธุ์ (height) (seed) (tree, round(seed) shape) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน

ไม้ต้นแผ่เป็นรัศมี เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (tree, umbrella shape)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Borassus flabellifer L. ไม้ต้นทรงพุ่มกลม ชื่อวงศ์ : ARECACEAE (tree, round shape) ชื่ออื่น : ถาล (แม่ฮ่องสอน), ท้าง (เชียงใหม่)

ปักชํากิํา่งหรือเถา ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัตศ้นมีทรงกรวยคว่ ชํากิ่ง เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้ปัอกงการ (cutting) (tree, conical shape) (tree, umbrella shape) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ (cutting ่ง ้นทรงพุ่มตอนกิ กรวยแหลม ไม้ต้นทรงพุไม้่มตกลม (tree, spike (air shape) layering) (tree, round shape) ไม้พุ่ม

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (shrub) (layering) (tree, conical shape)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ พุ่มรอเลื้อติยดตา ไม้ต้นทรงพุ นจั่มกกรวยแหลม ลึกถึงครึ่งแผ่นไม้ใบต้นทรงพุ ส่วไม้(scandent) นก้ านใบหนามี ต้น : เป็นปาล์มต้นเดี่ยวที่มีความสูงชะลูด มี ใบเป็ ่ ม กรวยแหลม (tree, spike shape) (budding) (tree, spike shape) านทัง อ งเป็ น ทางยาว และขอบของก้ ้ สอง ล�ำต้นใหญ่และเนือ้ แข็งแรง มีลำ� ต้นขนาด 30- สีไม้เพหลื ไม้เลื้อย เสียบยอด ุ่ม (climber) ไม้พุ่มนเลื างจะมีหนามแข็งคล้ายฟั ่อยแข็(shoot งๆ สีgrafting) ด�ำ 60 เซนติเมตร มีความสูงของต้นได้ถึง 25- ข้(shrub) (shrub) ไม้หัว หรือมีเหง้า ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง ่ตามขอบก้านใบ(bulb, rhizome) 40 เมตร ล�ำต้นเป็นเสีย้ นสีดำ� และแข็งมาก ไส้ และคมมากอยู ไม้ พ ่ ุ ม รอเลื ้ อ ย (scandent) (grafting) อง ออกดอกเป็ นช่อ กลางของล�ำต้นจะอ่อน บริเวณโคนต้นจะมี ดอก : ดอกมีสขี าวอมเหลื (scandent) คุณค่าในการอนุรแยกหน่ ักษ์ อ หัว ลํา หรือไหล ไม้เลื้อย ช่(sucker, อดอกมี รากเป็นกลุ่มใหญ่ เจริญเติบโตได้ดใี นดินร่วน แบบช่ (climber) อ แยกแขนงระหว่ไม้าเลืงกาบใบ stolon) ้อย เป็ น พรรณไม้ ที่ขยายพันธุ์ยาก (climber) ดอกอยู ่อาละ 8-16 ดอก เมือ่ ดอกบานเต็ ่ ่อ ไม่ชอบอากาศเย็น ชอบแสงแดดจัด ไม้หัว หรือมี่ชเหง้ เพาะเลี้ยม งเนืที้อเยื (bulb, ค rhizome) (tissue culture) ไม้หัว5 หรือมีเซนติ เหง้า เมตร วามกว้างประมาณ ช่อ ใบ : ใบเป็นใบเดีย่ ว เรียงสลับกัน ลักษณะค่อน จะมี เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ (bulb, rhizome) คุณค่าในการอนุ รักษ์้ ส่ ว นใหญ่ จ ะรวมกั น เป็ น กลุ ่ ม ๆ ดอกเพศผู ข้างกลมคล้ายพัด แผ่นใบหนามีสีเขียว ปลาย

ตอนกิ่ง (air laye

โน้มกิ่ง (layerin

ติดตา (buddin

เสียบยอ (shoot g

ทาบกิ่ง (grafting

แยกหน (sucker,

เพาะเลี้ย (tissue c

คุณค่าในการอนุเป็รนักพรรณไม้ ษ์ เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

118

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรร

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรร

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรร อนุรักษ

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านหนองยาง จังหวัดพิษณุโลก คล้ายนิ้วมือ หรือเรียกว่า “นิ้วตาล” ส่วนช่อ ดอกเพศเมียก็คล้ายกับเพศผู้ แต่ลักษณะของ นิว้ จะเป็นปุม่ ปม โดยปุม่ ปมคือดอกทีต่ ดิ นิว้ ตาล ผล : ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว ผลติดกัน เป็นกลุ่มแน่น ลักษณะของผลเป็นทรงกลม หรือเป็นรูปทรงกระบอกสั้น มีสีน�้ำตาลถึงสี ม่วงเข้ม ปลายผลมีสเี หลือง ผิวผลเป็นมัน เมือ่ ผลสุกแล้วจะมีสีด�ำ ซึ่งในผลหนึ่งๆ จะมีเมล็ด ใหญ่และแข็งอยู่ 1-3 เมล็ด การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ล�ำต้น น�ำมาใช้ท�ำ เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ส�ำหรับ เครือ่ งตกแต่งบ้าน เปลือกตาล หรือส่วนทีเ่ ป็น “กะลา” นิยมน�ำไปใช้ท�ำเป็นเชื้อเพลิง ใบตาล ใบอ่อนน�ำมาใช้ในการจักสาน งานฝีมือ ส่วน ใบแก่ น� ำ มาไปใช้ ท� ำ หลั ง คากั น แดดกั น ฝน ผลตาล น�ำมารับประทานหรือใช้ท�ำเป็นขนม

119


ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม

๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา โน้มกิ่ง (scandent) (tree, spike shape) ไม้ ห ว ั หรื อ มี เ หง้ า (tree, conical shape) (layering)ไม้เลื้อย เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (bulb, rhizome) ไม้พุ่ม (tissue culture) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม ติดตา (climber) (shrub) ณค่าในการอนุรักษ์ (tree, spike คุ shape) (budding)ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome) ไม้ พ ่ ุ ม รอเลื ้ อ ย ไม้พุ่ม เสียบยอด เป็นพรรณไม้หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพั นธุ์ยาก (scandent) (shrub) คุ(shoot ณค่าgrafting) ในการอนุรักษ์

คํ าอธิบายสัญลักษณ์

ค้างคาวด�ำ

ลักษณะวิสยั

ไม้พุ่มรอเลื้อย (scandent)

ความสูง ไม้เลื้อย (height) (climber) ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัหศัวมีหรือมีเหง้า

ไม้เลื้อย

ขยายพั เป็นพรรณไม้ใกล้(climber) สูญพันธุ์ นธุ์

ทาบกิ่ง เป็นพรรณไม้มีค่า (grafting)เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

ด อ หัว ลํา หรือไหล ไม้หัว หรือมีเพาะเมล็ เหง้า แยกหน่

เสียบ (shoo

ทาบ (graf

แยก (suck

เพาะ

เป็นใกล้ พรรณไม้ วามต เป็นพรรณไม้ สูญพันทธุี่ช์ ุมชนมีค(tissu (sucker, stolon) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เพาะเลี อเถา้ยงเนื้อเยื่อ คุณค่าในการอนุปัรกักชํษ์ากิ่งหรื เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (cutting) (tissue culture)

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ ่น rhizome) (seed) (bulb,

(bulb, shape) rhizome) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tacca chantrieri Andr'e (tree, umbrella เป็นพรรณไม้ตอนกิ ที่ขยายพั คุไม้ณต้นค่ทรงพุ าในการอนุ ชื่อวงศ์ : DIOSCOREACEAE ่มกลม รักษ์ ่ง นธุ์ยาก roundรshape) (air layering) ชื่ออื่น : มังกรดำ� (เชียงใหม่), ว่านหัวฬา (จั(tree, นทบุ ี), ดีปลาช่อน (ตราด) หายาก เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญเป็พันนพรรณไม้ ธุ์

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

โน้มกิ่ง (layering)เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น ม่ว่มงแกมเขี ต้ น : ไม้ล้มลุกมีอายุหลายปี สูง 50-60 ไม้ตสี้นทรงพุ กรวยแหลม ยวถึงสีม่วงด�ำ คู่นติดอกรู ตา ปไข่ รูป (tree,ขอบขนานหรื spikeเป็นshape) (budding)เป็นพรรณไม้ท6ี่ชุมชนมีความต้องการ พรรณไม้เฉพาะถิอ่นรู ป ใบหอก ยาวประมาณ เซนติเมตร มีเหง้าหัว เจริญตามแนวราบใต้พนื้ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ ไม้พุ่ม เสียบยอด เซนติเมตร คู่ในรูปไข่หรือรูปไข่กลับยาว 7 ดิน ลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก (shrub) (shoot grafting) เซนติ เ มตร กลี บ ประดั บ เป็ น เส้ นมี 5 - 25 ใบ : ใบรูปหอกแกมรูปไข่ ขอบใบเรียบ ปลาย ไม้พ14 ุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง เส้น สีอ่อนกว่าแผ่นกลีบประดับ(grafting) ยาว 10 ใบเรียวแหลม โคนใบมนหรือเฉียง แผ่นใบสี (scandent) เดียวอ หั6ว ลํากลี เขียวเข้มกว่าท้องใบ ก้านใบสีเขียวคล�ำ้ ชูขนึ้ สูง ไม้เลื25 ้อย เซนติเมตร กลีบดอกมีชั้นแยกหน่ หรือบ ไหล (climber) (sucker, stolon) สีม่วงน�ำ้ ตาล โคนเชือ่ มติดกัน ก้านดอกยาว 2 เหนือพื้นดิน ยาวประมาณ 1 – 1.5 ฟุต ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ 3.5 เซนติเมตร ชูขนึ้ มาสูงจากกลางกอรั งไข่ ดอก : ช่อดอกเป็นแบบช่อกระจุก ดอกออก (bulb,-rhizome) (tissue culture) แน่ น เป็ น ช่ อ มี 1 - 3 ช่ อ ยาวได้ ถึ ง 70 ใต้วงกลีบ ดอกด้านในจะเป็นเส้นยาวคล้าย คุณค่าในการอนุรักษ์ เซนติเมตร แต่ละช่อมี 4 - 25 ดอก ลักษณะ ด้ายยื่นห้อยลงมา ดูแล้วคล้ายเส้นด้ายสีด�ำ เป็นพรรณไม้หายาก ดอกมีที่ขกยายพั ลิ่นนสาบหื ธุ์ยาก น คล้ายค้างคาวบิน กลีบประดับมี 2 คู่ ไร้ก้าน เป็นพรรณไม้

120

ติดต (bud

เป็นพ

เป็นพ

เป็นพ อนุร


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านห้วยลึก จังหวัดชลบุรี ผล : ลักษณะของผลเป็นทรงสามเหลี่ยมหรือ เป็นรูปกระสวย ผลมีสันเป็นคลื่น 6 สัน มีวง กลีบรวมที่ยังไม่ร่วงติด ส่วนเมล็ดมีลักษณะ เป็นรูปไต เมื่อแก่ไม่แตก ขนาดกว้าง 1 - 2.5 เซนติเมตร ยาว 2.5 - 5 เซนติเมตร การขยายพั น ธุ ์ : โดยการแยกเหง้ า หรื อ เพาะเมล็ด

การน�ำไปใช้ประโยชน์ : เหง้าใต้ดินต้มกับไก่ รับประทานเป็นยาบ�ำรุงก�ำลัง ต้มหรือดองสุรา แก้โรคความดันต�่ำ บ�ำรุงก�ำลังทางเพศ สตรีมี ครรภ์ ใช้ทั้งต้นน�ำมาต้มอาบรักษาอาการเม็ด ผื่นคันตามร่างกาย หรือผสมกับสมุนไพรชนิด อื่น ๆ แก้อาการเบื่อเมา

121


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ว่านทรหด

(climber) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา ัว หรือมีเหง้า (tree, conicalไม้หshape) (bulb, rhizome) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, shape) รักษ์ คุณค่spike าในการอนุ ไม้พุ่ม (shrub) เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

ไม้พุ่ม ติดตา (tissue culture) (shrub) (budding)

คําอธิบายสัไม้ญพุ่มรอเลื ลักเสี้อยษณ์ ยบยอด

เป็นพรรณไม้หายาก (scandent)(shoot grafting)

ไม้พุ่มรอเลื้อย ลักษณะวิสยั ไม้เลื้อย ทาบกิ่ง เป็นพรรณไม้มีค่า (climber) (grafting) (scandent) เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ ไม้เลื้อย 1-2 m เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ ่น (climber) ไม้หัว หรือมีเหง้า (bulb, rhizome)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Curcuma zanthorrhiza Roxb. คุณค่าในการอนุรักษ์ ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE ชื่ออื่น : ว่านพระยาหัวศึก, ว่านการบูรเลือด, ว่านชักมดลู กตัวเมีย เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นไม้ลม้ ลุก เหง้าใต้ดนิ มีลกั ษณะคล้าย ขิงหรือขมิ้น หัวนั้นจะกลมเกลี้ยงคล้าย ๆ กับ หัวเผือก และเนื้อในหัวนั้นก็จะมีสีขาว และมี รสต่างๆ กันไปถึง 5 รส ความสูงประมาณ 1 – 2 เมตร เป็นล�ำต้นเทียม ใบ : เหมือนขมิ้น ต่างกันเพียงร่องใบ ว่าน ทรหดนั้ น จะมี ร ่ อ งอยู ่ ต รงกลาง และเป็ น สีน�้ำตาล ดอก : ลักษณะดอกคล้าย ๆ กับดอกกระเจียว ขึ้ น กลางช่ อ ดอกมี สี ม ่ ว งชมพู เป็ น ช่ อ ชู ตั้ ง

(sucker, stolon) ไม้ต้นทรงพุโน้่มมกรวยแหลม กิ่ง (tree, spike(layering) shape)เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

ความสูง ไม้หัว หรือแยกหน่ มีเหง้าอ หัว ลํา หรือไหล เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต (height) (bulb, rhizome) (sucker, stolon) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์

คุไม้ณตค่้นแผ่ าในการอนุ รักษ์้ยงเนื้อเยื่อ เป็นรัศมี เพาะเลี (tissue culture) (tree, umbrella shape)

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

ไม้ต้นทรงพุ่มกลม (tree, round shape)เป็นใพรรณไม้ เป็นพรรณไม้ กล้สูญพัหนายาก ธุ์ ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา พรรณไม้่นมีค่า เป็นพรรณไม้ (tree, conical shape)เป็นเฉพาะถิ

สวยงาม โดยฤดูแล้งต้นจะยุบลงไป และโตอีก ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ ครั้งในฤดูฝเป็นนพรรณไม้เฉพาะถิ่น (tree, spike shape) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ ผล : หั ว มี ลั ก ษณะค่ อ นข้ าไม้พงกลมคล้ าย ุ่ม (shrub) ้น เนื้อในมี หัวเผือก กลมรีตามแนวตั้ง แขนงสั ไม้พุ่มรอเลื้อย สีขาวนวล (scandent) การขยายพันธุ์ : โดยการแตกหน่ อจากหัว ไม้เลื้อย เป็นต้นใหม่ เวลาปลูกให้ฝังหัวแต่เพียงมิดดิน (climber) รดน�้ำทุกวัน โตได้ดีในดินร่วนปนทราย ควรที่ ไม้หัว หรือมีเหง้า จะปลูกในกระถางที่ใหญ่ด้วย (bulb, เพราะว่ rhizome)ามันจะ ช่วยท�ำให้ได้หัวที่มีขนาดใหญ่ ใช้ทำ� ยาได้ หรือ คุณค่าในการอนุรักษ์ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

122

ขยาย


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านใหม่ป่าคา จังหวัดตาก ผู้ที่มีบริเวณบ้านก็ควรน�ำเอาไปปลูกลงในร่อง ก็จะยิ่งดีใหญ่ การน� ำ ไปใช้ ป ระโยชน์ : ด้ า นสมุ น ไพร สรรพคุณ รักษาอาการมดลูกทรุดตัว หรือ มดลูกต�่ำไม่เข้าที่ มีส่วนช่วยเสริมหรือขยาย หน้าอก ช่วยลดเลือนรอยเหีย่ วย่น ฝ้า และรอย ด�ำ ช่วยกระชับหน้าท้องที่หย่อนคล้อยหลัง คลอดบุตร ช่วยกระชับช่องคลอดภายในของ สตรี ช่วยลดอาการปวดประจ�ำเดือน ลดกลิ่น ปาก กลิน่ ตัว กลิน่ ภายในช่องคลอด ลดอาการ

ร้อนวูบวาบในสตรีวัยทอง แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ใช้หวั ว่านต�ำเป็นผงแล้วกินกับน�ำ้ ร้อน หรือว่าอาจจะผสมกับน�้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน ส�ำหรับผู้ที่เป็นริดสีดวง ว่านนี้เป็นว่านชนิด เดียวกับ ว่านชักมดลูก แต่เป็นว่านชักมดลูก ตัวผู้ ซึง่ มีตวั ยาดีกว่า แรงกว่าชนิดตัวเมีย และ ยังมีกลิ่นฉุนแรงกว่าชนิดหัวกลม ว่านทรหดจากป่าชุมชนบ้านใหม่ปา่ คา จังหวัดตาก ชุมชนมีความต้องการอนุรักษ์ไว้ เพื่อการใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพร

123


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

อีลอก

(climber) ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา หัว หรือมีเหง้า (tree, conical ไม้ shape) (bulb, rhizome) ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (tree, shape) รักษ์ คุณspike ค่าในการอนุ

คํ าอธิบายสัไม้ญพุ่ม ลักษณ์

ไม้ต้นทรงพุ่มกรวยแหลม (sucker, stolon) โน้มกิ่ง (tree, spike shape)

(layering) เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture) ติดตา (budding)

ไม้พุ่ม (shrub) ไม้พุ่มรอเลื้อย

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ย(scandent) าก

(shrub)

ลักษณะวิสยั

ไม้เลื้อย ไม้พุ่มรอเลื้อย ขยายพันธุ์ เป็ น พรรณไม้ ใ กล้ ส ญ ู พั น ธุ ์ (climber) (scandent)

เสียบยอด เป็นพรรณไม้หายาก (shoot grafting) ทาบกิ่ง เป็นพรรณไม้มีค่า (grafting)

ความสูง ไม้เลื้อย (height) (climber)

ด อ หัว ลํา หรือไหล ไม้หัว หรือมีเพาะเมล็ เหง้า แยกหน่ เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น (bulb, rhizome) (seed) (sucker, stolon) อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ เพาะเลี ไม้ต้นแผ่เป็ไม้นรัหศัวมีหรือมีเหง้า อเถา้ยงเนื้อเยื่อ คุณค่าในการอนุปัรกักชํษ์ากิ่งหรื (bulb, shape) rhizome) (tree, umbrella (cutting) (tissue culture)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amorphophallus sp. คุไม้ณต้นค่ทรงพุ าในการอนุ ชื่อวงศ์ : ARACEAE ่มกลม รักษ์ (tree, round shape) ชื่ออื่น : บุก, บุกเขา (ประจวบคีรีขันธ์), อีปุก (ภาคเหนื อ) ที่ขยายพันธุ์ยาก เป็นพรรณไม้ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น : เป็นพืชล้มลุกข้ามปี มีเหง้าในดิน ลักษณะ กลมผิวขรุขระ มีรากโดยรอบ ในฤดูฝนจะมี ก้านใบยาวเหนือดินลักษณะอวบน�้ำ ไม่มีแกน กลมขนาดเท่ า หั ว แม่ มื อ ยาว 50 - 120 เซนติเมตร มีลายสีเขียวน�ำ้ ตาลและด�ำทัง้ แบบ เป็นพื้นจุดด่างหรือแถบลายแตกต่างกันไป ใบ : เป็นใบเดีย่ ว แผ่ออกคล้ายส้ม หยักเว้าเป็น แฉกลึก

ไม้ต้นทรงกรวยคว่ํา (tree, conical shape)

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้ตอนกิ ที่ขยายพั ่ง นธุ์ยาก

(air layering)

หายาก เป็นพรรณไม้ใกล้สูญเป็พันนพรรณไม้ ธุ์

โน้มกิ่ง (layering)เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

ดอก : ก้่มกรวยแหลม านดอกยาวออกจากบริเวณเหง้ า ไม้ต้นทรงพุ ติดตา (tree, spikeเป็นshape) (budding)เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ พรรณไม้เฉพาะถิ่น ลักษณะคล้ายก้านใบมีดอกอยู่ตรงปลายก้อนุารักนษ์เพื่อการใช้ประโยชน์ พุ่ม ยบยอด รูปไม้(shrub) ดอกคล้ ายดอกหน้าวัวมีเกสรเป็นเสี(shoot แท่grafting) งอยู่ ตรงกลาง ไม้พุ่มรอเลื้อย ทาบกิ่ง ผล(scandent) : ลักษณะกลมขนาด 0.5 - 1.0 เซนติ เมตร (grafting) สีเขีไม้ยเลืวเรี 5 อ-หัว8ลํา หรือไหล ้อย ยงติดกันเป็นแท่งความยาวแยกหน่ (climber) (sucker, stolon) เซนติเมตร และมีกลีบเลี้ยงห่อด้านหลังผล ไม้หัว หรือมีเหง้า เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เมื่อ(bulb, สุกrhizome) มีสีส้มแดง (tissue culture)

คุณค่าในการอนุรักษ์

124

เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก

เป็นพรรณไม้หายาก

เป็นพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์

เป็นพรรณไม้มีค่า

เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่น

เป็นพรรณไม้ที่ชุมชนมีความต้องการ อนุรักษ์เพื่อการใช้ประโยชน์


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

จากป่าชุมชนบ้านสามสิบส่างและเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา การขยายพันธุ์ : โดยวิธีการเพาะเมล็ด ชอบ ดินร่วน ระบายน�ำ้ ได้ มีแสงแดดร�ำไร หรือขยาย พันธุด์ ว้ ยการแยกหัวมาปลูกในช่วงฤดูรอ้ นและ ฤดูฝน ส่วนในฤดูหนาวมักพักตัว การน�ำไปใช้ประโยชน์ : ก้านใบอ่อน ทีม่ ลี าย และเริ่มโผล่จากดินในฤดูฝน โดยลอกเปลือก ออกน�ำมาต้มจิ้มน�้ำพริกหรือใส่ในแกงต่าง ๆ

ส่วนหัวใต้ดนิ ต้องกินในฤดูหนาว โดยน�ำมาหัน่ เป็นชิ้นพอค�ำ ล้างให้สะอาดเพื่อไม่ให้คัน แล้ว ใส่ในแกงที่มีรสเปรี้ยวเพื่อท�ำลายแคลเซียม ออกชาเลตในหัว ด้านอาหาร สามารถน�ำมาใช้ ประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น แกงส้ม อีลอก สรรพคุณทางยา หัวใช้พอกกัดฝีหนอง

125


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

บรรณานุกรม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. ๒๕๕๗. สารานุกรมพืชในประเทศไทย : ค้อนหมา. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://web๓.dnp.go.th//botany/detail.aspx. ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. กิตติกานต์ น้อยพลี. ๒๕๕๗. ต้นฉนวน. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.biogang.net. ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. เต็ม สมิตินันทน์. ๒๕๕๗. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. โรงพิมพ์ส�ำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรุงเทพฯ. ๘๐๖ น. ป้ากระต่าย. ๒๕๕๑. ตะขาบหิน หรือแงกังเช่า. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.magnoliathailand.com. ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ปิยะ เฉลิมกลิ่น. ๒๕๕๓. ไม้ดอกหอม. บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จ�ำกัด (มหาชน) กรุงเทพฯ. ๓๕๑ น. พินิตย์ โนวะ. ๒๕๕๑. จันทน์ผา (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://www.gotoknow.org/posts/๑๘๔๕๔๘. ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ฟรินน์.คอม. ๒๕๕๗. สมุนไพร/ผลไม้. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://frynn.com. ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ภิรมย์วรุณ. ๒๕๕๖. กระเบียน. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://piromwaroon.blogspot.com. ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ไม่ระบุชื่อผู้แต่ง. ๒๕๕๓. ขันทองพยาบาท. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.pharmacy.mahidol.ac.th. ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ไม่ระบุชื่อผู้แต่ง. ๒๕๕๕. ว่านยารักษาโรค : ว่านทรหด. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.thaiarcheep.com. ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ไม่ระบุชื่อผู้แต่ง. ๒๕๕๗. ค้างคาวด�ำ. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.bloggang.com. ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ไม่ระบุชอื่ ผูแ้ ต่ง. ๒๕๕๗. ฝึกลูกสาวถ่ายภาพกับทริปเทีย่ วจันทบุร.ี (ออนไลน์). แหล่งทีม่ า : http://www.taklong.com. ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ไม่ระบุชอื่ ผูแ้ ต่ง. ๒๕๕๗. พลับพลา. (ออนไลน์). แหล่งทีม่ า : http://www.rspg.or.th/plants_data/plantdat/tiliacea. ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ไม่ระบุชื่อผู้แต่ง. ๒๕๕๗. ยวนผึ้ง. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://board.trekkingthai.com. ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ไม่ระบุชื่อผู้แต่ง. ๒๕๕๗. ยางยูง. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://paro๖.dnp.go.th. ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗.

126


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ไม่ระบุชื่อผู้แต่ง. ๒๕๕๗. สรรพคุณสมุนไพรก�ำแพงเจ็ดชั้น. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.bookmuey.com. ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ริวกริล. ๒๕๕๓. กระทู้ ส้มซ่า..ปลาแนม ซะเลย..พี่น้อง. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.djnarich.com. ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. สมคิด ทองสง. ๒๕๕๕. เมืองลุงสร้างสุข กินแกงเลียงหนังแคล้ว อาหาร"ชนชั้น". (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://www.gotoknow.org/posts/๔๙๙๓๕๔. ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ส�ำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๖ สงขลา. ๒๕๕๗. ตะเคียนทอง. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://paro๖.dnp.go.th. ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. สุดารัตน์ หอมหวน. ๒๕๕๓. นมวัว. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.phargarden.com. ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. หนุ่มลาวสาวขะแมร์. ๒๕๕๕. ผัก หมากไม้ อ้อมเฮียน : มะงั่ว. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.baanmaha.com. ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. หมอชาวบ้าน. ๒๕๓๓. เพกา. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : www.bloggang.com. ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. อพ.สธ.. ๒๕๕๗. จ�ำปีสริ นิ ธร. (ออนไลน์). แหล่งทีม่ า : http://www.rspg.or.th/plants_data. ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. แอมอร. ๒๕๕๗. ว่าน ไม้ประดับนามมงคล. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.panmai.com. ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. ฮันนี่พัฟฟี่. ๒๕๕๗. การเลี้ยงผึ้งในสวนป่าแบบธรรมชาติ. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.bloggang.com. ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. Alexander Del pi. ๒๕๕๕. ช้อยนางร�ำ. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.herb-health. ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. bigboo. ๒๕๕๕. ห้องครัวสยามฟิชชิ่ง : เลียงกระแท่ง (อีรอก). (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://siamfishing.com. ๙ ธันวาคม ๒๕๕๗. KITPOOH๒๒. ๒๕๕๖. ช้อยนางร�ำ @ บ้าน (ใบไม้เต้นได้ครับ). (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.bloggang.com. ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗. Lamon gress. ๒๕๕๗. สรรพคุณสมุนไพรไทย สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก. (ออนไลน์). แหล่งทีม่ า : http://xn--๑๒cb๘cnjfzemook๕fg๗hm๗c๘bl๕vc.blogspot.com. ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗.

127


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

INDEX ดัชนี ดัชนีชื่อไทย ก กะปกกะปู กะยอม กะอวม กระบก กระเบียน กระพี้โพรง กรุงบาดาล ก่อข้าว ก้อมส้ม ก่อเดือย ก่อเหิม กะจ�ำปูลิง กะมวง กันเกรา กาฉก ก�ำแพงเจ็ดชั้น กุง โกกี ้

128

44 40 68 6 74 26 104 10 44 10 10 22 28 8 116 86 60 34

ข ขนุนลาว ขะเจ๊าะ ขันทองพยาบาท ฃันทองพยาบาทเครือ ขางแดง ขี้เห็น ขี้หนอน ไข่เน่า ค คราก คมขวาน ควง คอมส้ม ค้อนหมา คะนาง ค้างคาวด�ำ เคาะ เคาะหนาม เคี่ยม เคี่ยมขาว

66 62 12 12 78 14 76 14 30 14 60 44 68 104 120 32 76 16 16

เคี่ยมแดง เครือเขาเอ็น แคสันติสุข แคน แคผู้ โคมเรียง ไคร้เม็ด จ จ๋วงเครือ จะค้าน จะบก จั๊ด จั่นดิน จันทร์แดง จันทร์ผา จืองา จ�ำปีสิรินธร จ�ำรี จ�ำไร จิกนม จิกนุ่ม

16 90 18 40 18 72 84 94 88 6 46 94 70 70 34 20 22 22 24 24


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ฉ ฉนวน ช ชุ่มฉ�่ำ ชะมวง ชะมัด ชะเนียง ช�ำมะเลียง ช้อยนางร�ำ ซ ซาด ซีดง ซู ซู้ ด ดิ๊กเดียม ดีปลาช่อน ดุแก

26 68 28 100 78 72 98 30 42 56 56 74 120 80

ต ต้นขี้หมู ต๋าว ตอแล ตาเตรา ตาไก้ ตรึงบาดาล ตะขาบบิน ตะค้านเล็ก ตะค้านหยวก ตะคร้อ ตะเคียนทอง ตะลุ่มนก ตังหน ตั้งหนใบเล็ก ตาลโตนด ต�ำเสา เต่าเกียด เตรีย

ถ 112 ถาล 116 เถาเอ็นอ่อน 50 8 ท 86 ท้าง 104 ทุเรียนเทศ 102 ทองฟ้า 88 น 88 นมควาย 32 นมยาน 34 นมวัว 86 เนียง 36 บ 36 บาตูบือแลกาเม็ง 118 บ่าขม 8 บุก 116 บุกเขา 30

118 90

118 66 68 92 24 76 78 96 106 124 124

129


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ป ปีระ ประ ประดงเลือด ปลาไหลเผือก ผ ผักชีช้าง ฝ ฝักดาบ ฝรั่งโคก พ พรมทัต พลองกินลูก พลับพลา พะเนียง พะยอม พะยอมทอง พะอูง พันซาด พันจ�ำ พังหันเกล็ดแรด

130

38 38 46 104 94 48 14 90 114 44 78 40 40 36 30 42 36

พูเวียง เพกา เพว เฟอ แพงแดง ม มะกอกพราน มะขม มะแค้ มะงั่ว มะดัน มะนาวไม่รู้โห่ มะนาวควาย มะพอก มะมื่น มะลิดไม้ มะไฟแรด มะไฟลิง มะเถ้า มะทุเรียน มันปลา

72 80 102 102 98 74 106 58 108 82 110 108 46 6 80 76 22 72 66 8

มังเหาเจ๊าะ มือเบา มุยใหญ่ เม็ก เม็ดชุน ย ยมหิน ยวนผึ้ง ยางกล่อง ยางตัง ยางปลอก ยางพลวง ยางมันหมู ยางยูง ยางเสียน ยางวาด ยางหัวแหวน ย่างหนู ร รักใหญ่ สามสิบ

88 64 100 84 84 48 50 54 54 12 60 52 52 54 54 52 42 56 94


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ล ลักกะจันทร์ ลังแข ลิ้นฟ้า ล�ำแข ว ว่านทรหด ว่านนกคุ่ม ว่านตะขาบ ว่านมีดพับ ว่านหัวฟ้า ส สนวน สมัดใบใหญ่ สะค้าน ส้มโอมะละกอ สะหลุมพอ สะท้อน สักเขา สาธร สามชั้น

70 58 80 58 122 122 102 98 120 26 100 88 108 64 62 42 62 86

สามเสือ เสียดกา เสียดค่าย เสม็ด ห หมักม่อ หมักหมอก หมากโมก หมากเขียบหลด หมุยขาว หมอนตีนเป็ด หม่อ หม้อ หนามขี้แฮด หนามแดง หลุมพอ หัวลิง เหมียด เหมือดคน เหมือดพลองด�ำ เหมือดแอ่

อ อีปุก อีลอก ฮ ฮ่อสะพานควาย 112 ไฮปันชั้น 46 28 66 74 90 112 112 110 110 64 96 114 76 114 114 100 48 48 84

124 124 12 26

131


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

INDEX ดัชชนีนี INDEX

ยาศาสตร์ ดัดัดัชชนีชชนีนีื่อชชวิื่อื่อทวิวิยาศาสตร์ ททยาศาสตร์ AA

Acronychia Acronychia pedunculata (L.) (L.) Miq. Miq. pedunculata Amorphophallus spp. spp. Amorphophallus Annona Annona muricata Linn. Linn. muricata Arenga Arenga pinnata (Wurmb) (Wurmb) Merr. Merr. pinnata Alocasia Alocasia cucullata (Lour.) (Lour.) G. G. Don Don cucullata Archidendron Archidendron jiringa (Jack) (Jack) I.C. I.C. Nielsen Nielsen jiringa Asparagus Asparagus racemosus Willd. Willd. racemosus

BB

Baccaurea Baccaurea polyneura Hook. Hook. FF polyneura macrophylla (Müll. (Müll. Arg.) Arg.) macrophylla Barringtonia Barringtonia macrostachya (Jack) (Jack) Kurz Kurz macrostachya Borassus Borassus flabellifer L.L. flabellifer

CC

Calophyllum Calophyllum calaba L.L. var var calaba

132

68 68 124 124 66 66 116 116 122 122 78 78 94 94

22 22 60 60 24 24 118 118

36 36

Castanopsis Castanopsis inermis (Lindl.) (Lindl.) Benth. Benth. && Hook. Hook. f.f. 88 inermis Carissa Carissa carandas L.L. 110 carandas 110 Ceriscoides Ceriscoides trugida (Roxb.) (Roxb.) Tirveng. Tirveng. 74 trugida 74 Chukrasia Chukrasia tabularis A. A. Juss. Juss. 48 tabularis 48 Citrus Citrus medica L.L. var. var. 108 medica 108 Clausena Clausena excavata Burm. Burm. f.f. 100 excavata 100 Codariocalyx Codariocalyx Motorius (Houtt.) (Houtt.) H. H. Ohashi Ohashi 98 Motorius 98 Cotylelobium Cotylelobium lanceolatum Craib Craib 16 lanceolatum 16 Cryptolepis Cryptolepis dubia (Burm. (Burm. F.) F.) M. M. R.R. Almeida Almeida 90 90 dubia

DD

Dalbergia Dalbergia nigrescens Kurz Kurz nigrescens Dipterocarpus Dipterocarpus gracilis Blume Blume gracilis grandiflorus (Blanco) (Blanco) grandiflorus tuberculatus Roxb. Roxb. tuberculatus Dracaena Dracaena

26 26 56 56 54 54 52 52


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

Loureiri Gagnep

malayana Oliv. ex A. W. Benn.

70

E

K

Elateriospermum Tapos Blume Erythrophleum Succirubrum Gagnep. Eurycoma longifolia Jack

Koompassia excelsa (Becc.) Taub.

38 30 104

F Fagraea Fragrans Roxb.

10

G Garcinia cowa Roxb. Ex Choisy schomburgkiana Pierre Gluta usitata (Wall.) Ding Hou

28 82 58

H Hopea odorata Roxb.

32

I palembanica Miq. Irvingia

64

50

L Lepisanthes fruticosa (Roxb.) Leenh.

72

M Magnolia sirindhorniae Noot. & Chalermglin 20 Memecylon edule Roxb. 114 Microcos tomentosa Sm. 44 Millettia leucantha Kurz var. 62 Muehlenbeckia platyclada (F. Muell.) Meisn. 102

O Oroxylum indicum (L.) Benth. Ex Kurz

Intsia

6

80

P

133


82 58

32

tomentosa Sm. Millettia leucantha Kurz var. ๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน Muehlenbeckia platyclada (F. Muell.) Meisn.

62 102

O

Oroxylum indicum (L.) Benth. Ex Kurz 64

44

80

Shorea

Parinari

P

Piper Parinari

anamensis Hance

46

chantaranothaii A. anamensis HanceSuwanph. & D.46 88 Piper Simpson Pittosporopsis chantaranothaii Suwanph. & D. A. kerrii Craib 106 Simpson 88 Pittosporopsis R kerrii Craib 106 Rothmannia R wittii (Craib) Bremek. 112 Rothmannia S wittii (Craib) Bremek. 112 Salacia S Chinensis L. 86 Santisukia Salacia kerrii (Barnett Chinensis L. & Sandwith) 86 Brummitt 18 Santisukia Sarcolobus kerrii (Barnett & Sandwith) globosus 96 Brummitt Wall. 18 Scleropyrum Sarcolobus pentandrum 76 globosus Wall.(Dennest.) Mabb. 96 Schleichera Scleropyrum oleosa (Lour.)(Dennest.) Merr. Mabb. 32 pentandrum 76 Schleichera oleosa (Lour.) Merr. 32

134

roxburghii G. Don Suregada Shorea roxburghii(A. G. Juss.) Don Baill. multiflora Suregada Syzygium gratum (Wight) S. N.Baill. multiflora (A. Juss.) Mitra var. Syzygium T gratum (Wight) S. N. Mitra var. Tacca T chantrieri Andre Tacca U chantrieri Andre Uvaria U hahnii (Finet & Gagnep.) Bân Uvaria V hahnii (Finet & Gagnep.) Bân Vatica V odorata (Griff.) Symington Vitex Vatica glabrata R. Br. Symington odorata (Griff.) Vitex glabrata R. Br.

40 40 12 12 84 84 120 120 92 92 42 14 42 14


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

ค�ำขอบคุณ คณะผูจ้ ดั ท�ำหนังสือ “60 พรรณไม้ มีคณ ุ ค่าจากป่าชุมชน” ขอขอบคุณ โครงการอนุรกั ษ์ พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ทีไ่ ด้อนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์โครงการ อพ.สธ. ส�ำหรับจัดพิมพ์ลงในหน้าปกหนังสือ ขอขอบคุณ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จ�ำกัด (มหาชน) ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณใน การด�ำเนินงาน “โครงการ ๖๐ ป่าชุมชน อนุรักษ์พันธุกรรมพืชตามแนวพระราชด�ำริ เพื่อร่วม เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา ๒ เมษายน ๒๕๕๘” ขอขอบคุณ คณะกรรมการป่าชุมชน ๓๐ หมู่บ้าน ที่เป็นผู้ให้ข้อมูล และมีส่วนร่วมใน การส�ำรวจ อนุรักษ์ และปกปักพันธุกรรมพืช ที่เป็นพรรณไม้มีคุณค่าจากป่าชุมชน เพื่อน�ำมา เป็นข้อมูลในการเผยแพร่ในหนังสือเล่มนี้ ขอขอบคุณ ส�ำนักงานหอพรรณไม้ ส�ำนักวิจยั การอนุรกั ษ์ปา่ ไม้และพันธุพ์ ชื กรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดลพบุรี ที่ให้การสนับสนุนรูปภาพพรรณไม้ส�ำหรับการจัดท�ำหนังสือ ขอขอบคุณ ส่วนจัดการป่าชุมชน ส�ำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1-13 ส�ำนักจัดการ ทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา ศูนย์ส่งเสริมวนศาสตร์ชุมชนที่ 1-12 ที่ให้การสนับสนุนข้อมูล และรูปภาพพรรณไม้ประกอบการจัดท�ำหนังสือ

กองบรรณาธิการ

135


๖๐ พรรณไม้ มีคุณค่าจากป่าชุมชน

คณะผู้จัดท�ำ จัดท�ำโดย ส�ำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้ 61 ถ.พหลโยธิน ลาดยาว จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 0 2561 4292-3 ต่อ 5066 www.forest.go.th ที่ปรึกษา นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ นายประลอง ด�ำรงค์ไทย นายพรชัย จุฑามาศ ดร. ปิยรัษฎ์ ปริญญาพงษ์ เจริญทรัพย์

อธิบดีกรมป่าไม้ รองอธิบดีกรมป่าไม้ รองผู้อ�ำนวยการ อพ.สธ. รองหัวหน้าส�ำนักงาน อพ.สธ. ฝ่ายวิชาการ เลขานุการคณะกรรมการ อพ.สธ.

บรรณาธิการ นางนันทนา บุณยานันต์

ผู้อ�ำนวยการส�ำนักจัดการป่าชุมชน

กองบรรณาธิการ นายประโยชน์ ก้านจันทร์ นางปริชาติ เจริญกรุง นางสาววิภาวี แก้วตาล นางสาวกุลกานต์ แก้วเก้า นางสาวฑิฆัมภรณ์ ตั้งพันธ์ นางสาวเนตรทิพย์ โพธิ์ทอง นางสาวน�้ำเพชร วชิรพันธ์วิชาญ

นักวิชาการป่าไม้ช�ำนาญการ นักวิชาการป่าไม้ช�ำนาญการ เจ้าหน้าที่ฝึกอบรม นักวิชาการป่าไม้ นักวิชาการป่าไม้ จ้างเหมาบริการงานด้านวิชาการป่าไม้ จ้างเหมาบริการเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป

สนับสนุนข้อมูล ส�ำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 - 13 ส�ำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา ศูนย์ส่งเสริมวนศาสตร์ชุมชนที่ 1 - 12 ศูนย์การเรียนรู้วนศาสตร์ชุมชน กรมป่าไม้ พิมพ์ครั้งที่ ๑ มีนาคม 255๘ พิมพ์ครั้งที่ ๒ กันยายน 255๘

136



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.