คำอธิษฐานบวชใจ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
บัดนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายตัวเป็นลูกของพระพุทธเจ้า ใจของข้า พระพุทธเจ้าได้ตายจากโลก เป็นธรรมอันบริสุทธิ์แล้ว ขออธิษฐานบวชใจ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงจำไว้ว่า ข้าพระพุทธเจ้าได้บวชใจตลอดไปแล้ว
คำอธิษฐานก่อนฟังและอ่านธรรม ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมเอาธรรมอันบริสุทธิ์ออกจากธาตุอันบริสุทธิ์ ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ มายังธาตุอันบริสุทธิ์ของข้าพระพุทธเจ้า แล้วเผื่อ แผ่ไปยังธาตุอันบริสุทธิ์ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้รู้ธรรม เห็นธรรม รู้แจ้ง ธรรม ธรรมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับใจ ใจเป็นธรรม เป็นธรรมธาตุ หรือเป็น หนึ่งเดียวกับธรรมชาติ พ้นทุกข์โดยถาวรสิ้นเชิงตั้งแต่ปัจจุบันนี้เป็นต้นไป ด้วยเทอญ
คำถอนอธิษฐาน นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ถ้าหากในชาติหนึ่งชาติใดจนถึงในชาติปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าได้เคย อธิษฐาน สาบาน ให้คำมั่นสัญญา หรือปรารถนาสิ่งใดๆ ดังต่อไปนี้ เช่น ข้าพเจ้าเคยปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ คู่บารมี หรือ ผู้ติดตามร่วมสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ ปรารถนาเป็นพระปัจเจก พระพุทธเจ้า พระเอตทัคคะสาวก ปรารถนาการบรรลุมรรคผลนิพพาน เฉพาะต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ปรารถนาการท่องเที่ยวอยู่ในวัฏสงสาร หรือปรารถนาว่าจะเกิดตามติดกัน จะผูกพันกันกับผู้หนึ่งผู้ใดไปทุกชาติ ด้วยความรักหรือด้วยความอาฆาต แค้นเกลียดชัง หรือปรารถนาสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะทำให้หลงผิดติดอยู่ใน เดรัจฉานวิชชา หรือความปรารถนาอื่นใดนอกจากนี้ ทั้งที่รู้ตัวก็ดี ไม่รู้ตัว ก็ดี ที่ตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ที่จำได้ก็ดี จำไม่ได้ก็ดี อันเป็นอุปสรรค ขัดขวางไม่ให้ข้าพเจ้า สิ้นกิเลสตัณหา บรรลุถึงซึ่งพระนิพพานในปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐาน ถอดถอนคำอธิษฐาน คำมั่นสัญญา คำสาบาน หรือความปรารถนาทั้งหมดเหล่านั้น ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ด้วยพุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ และความ เมตตาอันไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ จากพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พระคุณบิดามารดา พระคุณครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณ และบุญบารมี ที่ข้าพเจ้าที่ทำมาแล้วทุกภพทุกชาติ จงรวมกันเป็นตบะ เดชะ พละ ปัจจัย ดลบันดาลให้ถอดถอนคืนหรือลบล้างมิจฉาทิฏฐิ คำอธิษฐาน คำมั่น สัญญา คำสาบาน หรือความปรารถนาเหล่านั้นได้เสียทั้งหมด และขอให้ เกิดสติ สมาธิ ปัญญา เป็นสัมมาทิฏฐิ สิ้นกิเลสทั้งหมดในปัจจุบันนี้เดี๋ยวนี้ ด้วยเทอญ
คำถอนอธิษฐานสาปแช่ง ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐาน ถอนคำสาป ถอนคำแช่ง ถอนคำสาบาน ที่ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้น ถึงพร้อมแล้วด้วยกิเลส ด้วยตัณหา ด้วยอุปาทาน ด้วย ราคะ ด้วยโทสะ ด้วยโมหะ ด้วยมานะ ด้วยมิจฉาทิฏฐิ ที่เป็นไปเพื่อความ พยาบาทเบียดเบียน สร้างเวรสร้างกรรม ไม่ประกอบด้วยธรรม ไม่ประกอบด้วยวินัย ไม่ประกอบด้วยกุศล ไม่ประกอบด้วยปัญญา ไม่ประกอบด้วยบารมี ที่ข้าพเจ้าได้อธิษฐานไว้ สาปไว้ แช่งไว้ สาบานไว้ ในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี เสียทั้งหมด ทั้งสิ้น ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
คำขอขมา ข้าพเจ้าเห็นโทษและสำนึกในโทษบาปกรรมที่ได้ทำมาแล้ว ที่ทำให้ ตนเองและผู้อื่นเป็นทุกข์เดือดร้อนมามากแสนมาก หลายภพหลายชาติ จนถึงในชาติปัจจุบันนี้ กว่าจะรู้เดียงสาในชาตินี้ ก็ผิดศีลผิดธรรมมา มิใช่น้อย หากข้าพเจ้าเคยล่วงเกินตำหนิติเตียนต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ พระพุทธศาสนา บิดามารดา พ่อแม่ครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เจ้ากรรมนายเวรหรือผู้หนึ่งผู้ใด ด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งที่ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ทั้งที่รู้ตัวก็ดี ไม่รู้ตัวก็ดี บัดนี้ ข้าพเจ้าสำนึกผิดแล้วจากใจจริงๆ ขอกราบขอขมาต่อทุกท่าน ได้โปรดอดโทษแก่ข้าพเจ้า อย่าได้เป็นโทษบาปเวรกรรมแก่ข้าพเจ้า อีกเลย และในทางกลับกัน ถ้าท่านผู้ใดเคยล่วงเกินแก่ข้าพเจ้าทางกาย วาจา ใจ ข้าพเจ้าขอให้อโหสิกรรม ให้อภัยทั้งหมด ไม่ขอจองเวรจองกรรม อาฆาต พยาบาท เบียดเบียนกันอีกต่อไป
คำแผ่เมตตา อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ถึงสุข
นิททุกโข โหมิ จงเป็นผู้ไร้ทุกข์
อะเวโร โหมิ จงเป็นผู้ไม่มีเวร
อัพฺยาปัชโฌโหมิ จงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
อะนีโฆ โหมิ จงเป็นผู้ไม่มีทุกข์
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ จงรักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด
สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ถึงความสุข
สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร
สัพเพ สัตตา อัพฺยาปัชฌา โหนตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
สัพเพ สัตตา อะนีฆา โหนตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีทุกข์
สัพเพ สัตตา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงรักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด
สัพเพ สัตตา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงพ้นจากทุกข์ทั้งมวล
สัพเพ สัตตา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงอย่าได้พรากจากสมบัติอันตนได้แล้ว
สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะ ระณา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีกรรมเป็นของของตน, มีกรรมเป็นผู้ให้ผล, มีกรรม เป็นแดนเกิด, มีกรรมเป็นผู้ติดตาม, มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ยัง กัมมัง กะริสสันติ, กัลฺยาณัง วา ปาปะกัง วา, ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ จักทำกรรมอันใดไว้, เป็นบุญหรือเป็นบาป, จักต้องเป็นผู้ได้รับผลของ กรรมนั้นๆ สืบไป
คำแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล
สัพเพ สัตตา สะทา โหนตุ อะเวรา สุขะชีวิโน ขอสัตว์ทั้งหลาย อย่าได้มีเวรแก่กันและกัน จงเป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเถิด
กะตัง ปุญญัง ผะลัง มัยหัง สัพเพ ภาคี ภะวันตุเต
ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงได้เสวยผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญด้วยกาย วาจา ใจ แล้วนั้นเทอญ
คำแผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล พุทธัง เมตตัง จิตตัง มะมะ พุทธะ พุทธานุภาเวนะ ธัมมัง เมตตัง จิตตัง มะมะ ธัมมะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆัง เมตตัง จิตตัง มะมะ สังฆะ สังฆานุภาเวนะ ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะอยู่ภพภูมิใด ไม่ว่าจะอยู่โลกธาตุ ใด ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลเพียงใด ทุกทิศทุกทาง ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ก็ดี มิใช่มนุษย์ก็ดี ตลอดจนเทพ เทวดา อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ นาค ครุฑ มนุษย์ คนธรรพ์ สรรพสัตว์ทั้งหมด เจ้ากรรมนายเวร ที่เราได้เคยล่วงเกินทุกท่าน ทางกาย วาจา ใจ ทุกภพทุกชาติจนถึงใน ชาตินี้ ทั้งที่รู้ตัวก็ดี ไม่รู้ตัวก็ดี ประมาทพลั้งเผลอก็ดี ด้วยอวิชชาก็ดี ขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น และผู้ใดที่เคยล่วงเกินเรามาทั้งหมดทุกภพ ทุกชาติจนถึงในชาตินี้ ก็ขอให้อโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ถวายปัจจัยสี่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ตลอดจนได้สละชีวิตเลือดเนื้อของตนเอง เป็นทานเป็นอาหารมาทุกมื้อ ทุกภพทุกชาติจนถึงในชาตินี้ ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่รักใคร่และมีบุญคุณ เช่น บิดา มารดา สามี ภรรยา ลูก หลาน เหลน ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด ลุง ป้า น้า อา ญาติ พี่น้องทั้งหมด ข้าทาสบริวาร ผู้เคยร่วมสร้างกุศลผลบุญบารมีคุณงาม ความดีด้วยกันมาทั้งหมดทุกภพทุกชาติจนถึงในชาตินี้ ทุกจิตวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ก็ดี มิใช่มนุษย์ก็ดี ที่อาศัยอยู่ในที่นี้และบริเวณ ใกล้เคียงทั้งหมด ไม่ว่าจะอยู่บนฟ้า ใต้ดิน ในน้ำ ในอากาศ ในหุบเขา ในที่ใด ๆ ก็ตาม ขอให้ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลที่อุทิศให้ จงอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน อย่าได้ผูกพยาบาทอาฆาตจองเวรจองกรรม ซึ่งกันและกันอีกเลย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันอีกเลย จงรู้จักรักษา ตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น ขอให้พ้นจากทุคติภพ ให้พ้นจากทุคติภพ ให้ เกิดสติ สมาธิ ปัญญา เป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นวิชชา ดับมิจฉาทิฏฐิ อวิชชา
กิเลส ตัณหา อุปาทานทั้งหมดโดยถาวรสิ้นเชิงตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วย เทอญ
บทสวดมนต์ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา (๓ จบ)
พุทธัง เมตตังจิตตัง มะมะ พุทธะ พุทธานุภาเวนะ ธัมมัง เมตตังจิตตัง มะมะ ธัมมะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆัง เมตตังจิตตัง มะมะ สังฆะ สังฆานุภาเวนะ (๓ จบ)
เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง ผู้ฉลาดพึงเจริญเมตตาในสัตว์ทั้งปวง, ไม่มีประมาณในโลกทั้งสิ้น
อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง ทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำ และเบื้องขวาง, ไม่มีขอบเขต ไม่มีเวร ไม่มีศัตรู
ทุกขัปปัตตา จะ นิททุกขา ภะยัปปัตตา จะ นิพภะยา ขอสัตว์ทั้งหลายที่ประสบทุกข์ จงพ้นจากทุกข์, ที่ประสบภัย จงพ้นจากภัย
โสกัปปัตตา จะ นิสโสกา โหนตุ สัพเพปิ ปาณิโน และที่ประสบโศก จงพ้นจากความโศกเสียเถิด
สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย ให้ทุกข์ทั้งปวง โศกทั้งปวง โรคทั้งปวง ภัยทั้งปวง, เคราะห์หามยามร้าย และเสนียดจัญไรทั้งปวง จงสูญหายไป
สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเต ขอให้ทรัพย์ทั้งปวง ลาภทั้งปวง จงบังเกิดแก่ท่าน
รักขันตุ สุรักขันตุ ขออานุภาพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์, และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง จงมา ปกปักรักษาด้วยเถิด
สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ อัพยาปัชฌา โหนตุ อะนีฆา โหนตุ สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ
ยังกัญจิ กุสะลัง กัมมัง สัพเพหิ กะเตหิ กะตัง ปุญญังโน, อะนุโมทันตุ สุณั นตุ โภนโต เย เทวา อัสมิง ฐาเน อะธิ คะตา ทีฆายุกา สะทา โหนตุ สุขิตา โหนตุ ทุกขา ปะมุจจันตุ, มาตาปิตา สุขิตา โหนตุ ทุกขา ปะมุจจันตุ, สัพเพ ญาติกา สุขิตา โหนตุ ทุกขา ปะมุจจันตุ, สัพเพ อะยาติกา สุขิตา โหนตุ ทุกขา ปะมุจจันตุ, สัพเพ ปิสา สัพเพ ยักขา สัพเพ เปตา สุขิตา โหนตุ ทุก ขา ปะมุจจันตุ, สัพเพ อาจะริยุปัชฌายา สุขิตา โหนตุ ทุกขา ปะมุจจันตุ, สัพเพ นักขัตตา สุขิตา โหนตุ ทุกขา ปะมุจจันตุ, สัพเพ เทวา สุขิตา โหนตุ ทุกขา ปะมุจจันตุ, สัพเพ สัมปัตตีนัง สะมิชฌันตุ โว
พุทโธพระอะระหัง พุทธังรักษา ธัมโมพระอะระหัง ธัมมังรักษา สังโฆพระ อะระหัง สังฆังรักษา ทุกข์ โศก โรค ภัย เสนียดจัญไรใดๆ มีมา ความผิด ปกติธรรมชาติ ความไม่สมดุลธรรมชาติในธาตุทุกธาตุ ขันธ์ทุกขันธ์ สสาร พลังงาน และความว่างใดๆ มีมา ความผิดปกติธรรมชาติ ความไม่สมดุล ธรรมชาติในสติ สมาธิ ปัญญาใดๆ มีมา เซลล์เนื้องอก เซลล์เนื้อร้าย เซลล์ เนื้อที่ผิดปกติ เชื้อโรคร้าย สารพิษร้ายใดๆ มีมา มิจฉาทิฏฐิ นิวรณ์ ๕ กิเลส ตัณหา อุปาทาน อวิชชา และสังโยชน์ ๑๐ ใดๆ มีมา อนัตตา สูญเปล่า นะสูญ โมสูญ พุทสูญ ธาสูญ ยะสูญ สูญหายไปด้วย นะโมพุทธ ายะ ยะธา พุทโมนะ สัมปะจิตโต ปัจฉามิ (๓ จบ)