โครงการศึกกษาออฟฟิ ษาออฟฟิ ศแนวใหม่ โครงการศึ ศแนวใหม่ ศซิ น โดม สู ่ ก ารแก้ ป ั ญ หาออฟฟิ สู่การแก้ ปัญหาออฟฟิ ศซินโดม
โครงการศิลปนิพนธ์ วิทยาลัยการออกแบบ สาขาออกแบบภายใน มหาวิทยาลัยรังสิต
ชื�อโครงการ :
โครงการศึกษาออฟฟิ ศแนวใหม่สกู่ ารแก้ ปัญหาโรคออฟฟิ ศซินโดรม
ประเภทของโครงการ :
การออกแบบตกแต่งภายใน ( INTERIOR DESIGN )
ผู้ดําเนินโครงการ :
นางสาว เสาวธาร พรมท้ วม 5900826 นักศึกษาชันปี � ที� 4 สาขาออกแบบภายใน วิทยาลัยการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต
ที�ปรึกษาโครงการศิลปนิพนธ์ :
อาจารย์ อรรถกฤษณ์ อุทยั กาญจน์ ( อาจารย์ที�ปรึกษาหลัก )
PROJECT BACKGROUND BACKGROUND PROJECT ในปั จจุบนั คนสมัยนี �ใช้ ของเทคโนโลยีเป็ นอย่างมาก เช่นเดียวกับสํานักงานที�มีการใช้ เครื� องมือเทคโนโลยีอยูต่ ลอดเวลา ไม่วา่ จะเป็ น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ เป็ นต้ น ซึง� ส่งผลให้ คนในปั จจุบนั เคลื�อนไหวร่างกายกันน้ อยมากและใช้ เวลากับของ ใช้ พวกนี �แทบจะตลอดเวลา จนทําให้ สง่ ผลเสียกับด้ านร่างกายที�เห็นได้ ชดั คือ มีอาการต่างๆปวดเมื�อยร่างกายหลายจุด หรื อมีอาการต่างๆในร่างกายเกิดขึ �น หรื อที�เราเรี ยกกันว่าอาการของโรคออฟฟิ ศซินโดรมหรื อผู้ป่วยอาคาร ด้ วยการส่งผล การทํางานในระยะยาวให้ มีประสิทธิภาพเราควรคํานึงถึงความสําคัญกับการใช้ ชีวิตประจําวันมากขึ �น เพื�อสุขภาพที�ดี ต่อไปในอนาคต
OBJECTIVE ศึกษาเพื�อให้ ร้ ูจกั ปั ญหาในชีวิตประจําวัน ในการเป็ นโรคออฟฟิ ศ ซินโดรมว่าจะส่งผลยังไงกับชีวิตประจําวันของเราบ้ าง ศึกษาเพื�อให้ ร้ ูจกั การป้องกันและการรักษาอย่างถูกต้ อง เกี�ยวกับอาการออฟฟิ ศซินโดรม ศึกษาเพื�อให้ ได้ ร้ ูการจัดพื �นที�ทํางานได้ อย่างถูกวิธี เกี�ยวกับการป้องกัน อาการออฟฟิ ศซินโดรม
EXPECTATION ปรับการใช้ ชีวิตเกี�ยวกับอาการออฟฟิ ศซินโดรมได้ อย่างถูกต้ อง ได้ ร้ ูวิธีการดูแลตัวเองเกี�ยวกับอาการออฟฟิ ศซินโดรม เพื�อส่งผลในระยะยาว จัดการพื �นที�ทํางานให้ เหมาะสมกับอาการออฟฟิ ศซินโดรม และป้องกันไม่ให้ เกิดโรคได้ อย่างถูกวิธี
AREA OF STUDY ศึกษาเกี�ยวกับออฟฟิ ศแนวใหม่ ว่ามีการ จัดพื �นที�ภายในออฟฟิ ศอย่างไรบ้ าง ศึกษาเกี�ยวกับการเลือกใช้ วสั ดุที�ปลอดภัย เพื�อคํานึงถึงสภาพแวดล้ อมภาพในออฟฟิ ศ ศึกษาเกี�ยวกับเรื� องหลักของ ERGONOMICS เพื�อแก้ ไขปั ญหาเกี�ยวกับออฟฟิ ศซินโดรม
OFFICE ? OFFICE ? สื�อดิจิทลั และโซเชียลมีเดียได้ กลายมาเป็ นส่วนหนึง� ในการทํา งาน และการใช้ ชีวิตประจําวันของคนยุคนี ส่� งผลให้ คนทํางาน รุ่นใหม่ใช้ เวลาอยูก่ บั เครื� องมือสื�อสารต่างๆมากเกินความจํา เป็ นและเกิดความเครี ยดสูงซึง� ไลฟ์ สไตล์เหล่านี �อาจเพิม� ความ เสี�ยงในการเป็ นโรคออฟฟิ ศซินโดรม
จากไลฟ์ สไตล์ข้างต้ น ส่งผลให้ มนุษย์ออฟฟิ ศยุคใหม่มีความ เครี ยดสูงเพราะต้ องทํางานติดต่อกันเป็ นเวลานาน ใช้ สายตา มาก มีเวลาพักผ่อนน้ อยไม่มีเวลาออกกําลังกาย ทานอาหาร ไม่ตรงเวลา หรื อทานอาหารที�ไม่ดีตอ่ สุขภาพซึง� หากปล่อยละ เลยหรื อไม่ได้ รับการป้องกันที�ทนั ทีมีความเสี�ยงสูงที�จะเป็ นโร คออฟฟิ ศซินโดรมเช่น โรคกรดไหลย้ อน นิ �วล็อค หมอนรอง สไตล์การทํางานของมนุษย์ออฟฟิ ศในปั จจุบนั นันได้ � เปลี�ยน กระดูกทับเส้ นประสาท กระเพาะปั สสาวะอักเสบ ฯลฯ ซึง� เรา แปลงไปจากเมื�อก่อน สาเหตุหลักมาจากการปรับตัวเข้ าสูโ่ ลก สามารถสร้ างความเสียหายต่อสุขภาพ ในระยะยาวและการ การทํางานในยุคดิจิตอลนี � ที��ใช้ ชีวิตประจําวันได้ ที�มีการเปลี�ยนแปลงอย่างรวดเร็วและคงปฏิเสธได้ ยากว่าสื�อ ดิจิตอลรวมถึงโซเชียลมีเดียต่างๆ คุณภาพชีวิตของคนวัยทํางาน ซึง� มีอายุระหว่าง 30 - 45 ปี ที� กลายมาเป็ นส่วนหนึง� ในการทํางานและการใช้ ชีวิตประจําวัน มักจะนัง� ทํางานติดโต๊ ะและต้ องพบกับความเครี ยดสูงทังจาก � ของคนยุคนี � ปั ญหาการทํางานและชีวิตส่วนตัว มีคะแนนสุขภาพและ ความเป็ นอยูโ่ ดยรวมที�ตํ�ากว่ากลุม่ คนช่วงอายุอื�นโดยเฉพาะ ซึง� ยุคดิจิตอลทําให้ การติดต่อสื�อสารและการจะเข้ าถึงข้ อมูล คะแนนด้ านการงานและคนกลุม่ นี � มีความเครี ยดที�คอ่ นข้ าง ต่างๆมีความง่ายและสะดวกรวดเร็วมากยิ�งขึ �นและทําให้ คน สูง ซึ �งมากกว่า 88% ของคนกลุม่ นี �มีความเครี ยดที�จะเกิดจาก สมัยสามารถใช้ ประโยชน์จากความสะดวกสบายดังกล่าวใน ความวิตกกังวลในเรื� องการทํางานหนักและการใช้ เวลากับ การทํางานแต่ความสะดวกสบายก็มาพร้ อมกับความกดดัน คนในครอบครัวที�ไม่เพียงพอ ดังนันเพื � �อเป็ นการป้องกันกับ และความคาดหวังที�ให้ ก้าวทันเทรนด์ตา่ งๆ ที�จะเกิดขึ �นบน ปั ญหาสุขภาพที�อาจเกิดขึ �นในอนาคตเนื�องจากไลฟ์ สไตล์ใน โลกไม่แปลกที�คนทํางานรุ่นใหม่จะมีชีวิตติดดิจิตอล และใช้ การทํางานที�จะเปลี�ยนไป กลุม่ คนวัยทํางานยุคใหม่จงึ ต้ องรู้ เวลาบนโลกออนไลน์ผา่ นเครื� องมือสื�อสารต่างๆ จนหลงลืม เท่าทันและต้ องหันกลับมาเตรี ยมตัววางแผนดูแลสุขภาพตน การให้ เวลากับครอบครัวและดูแลตัวเอง เองให้ สอดคล้ องกับไลฟ์ สไตล์ในการทํางานยุคนี �
https://www.bltbangkok.com/
THE THE D OF OF CO การงานที�รัดตัวอยูต่ ลอดเวลา อาจทําให้ ใครหลายๆคน ต้ องนัง� อยูห่ น้ าคอมพิวเตอร์ ตลอดทังวั � นโดยแทบจะไม่มีเวลาลุกไปไหน ทานข้ าวยังนัง� ทานหน้ าคอม พฤติกรรมแบบนี �จึงเป็ นการเพิ�มความเสี�ยงของโรคต่างๆ โดยที�เราอาจไม่ร้ ูตวั และหนึง� ในโรคนันคื � อ คอมพิวเตอร์ วิชนั� ซินโดรม
อาการคอมพิวเตอร์ วิชนั� ซินโดรม(Computer Vision Syndrome : CVS)หมายถึงอาการปวดตา แสบตา ตาพร่ามัว ตาแห้ งจนอาจไปถึงนํ �าตาไหล จากการจ้ องหน้ าจอคอมพิวเตอร์ เป็ นเวลานาน ระดับความรุนแรงของอาการจะเพิ�มมากขึ �นตามระยะเวลาที�ใช้ สายตาอยูห่ น้ าจอ นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สาเหตุของการเกิดอาการคอมพิวเตอร์ วิชนั� ซินโดรม อกจากการใช้ สาย ตากับหน้ าจอคอมพิวเตอร์ เป็ นเวลานานแล้ ว ยังเกิดมาจากตําแหน่งการจัดวางคอมพิวเตอร์ ที�ไม่เหมาะสม มีแสงสว่างหรื อแสงที�สะท้ อนจากจอคอมพิวเตอร์ ที�มากเกินไป ระยะห่างระหว่างดวงตากับจอคอมพิวเตอร์ ท่านัง� ทํางานที�ไม่เหมาะสม หรื ออาจเกิดมาจากความผิดปกติสายตาของผู้ใช้ คอมพิวเตอร์ หรื ออุปกรณ์ดิจิตอลเองที�ไม่ได้ รับการแก้ ไข สาเหตุของโรคคอมพิวเตอร์ วิชนั� ซินโดรม 1.ผู้ใช้ คอมพิวเตอร์ ไม่คอ่ ยกะพริ บตา ปกติแล้ วเราทุกคนจะต้ องกะพริ บตาอยูเ่ สมอ เป็ นการเกลี�ยนํ �าตาให้ คลุมผิวตาให้ ทวั� ๆ โดยมีอตั ราการกะพริ บ 20 ครัง� ต่อนาที หากเราอ่านหนังสือหรื อนัง� จ้ องคอมพิวเตอร์ อัตราการกะพริ บจะลดลง โดยเฉพาะการที�จะจ้ องคอมพิวเตอร์ การกะพริ บตาจะลดลงกว่าร้ อยละ 60 ทําให้ ผิวตาแห้ ง ก่อให้ เกิดอาการแสบตา ตาแห้ ง รู้สกึ ฝื ดๆ ในตา 2.แสงจ้ า และแสงสะท้ อนจากจอคอมพิวเตอร์ ทําให้ ตาเมื�อยล้ า ทังแสงจ้ � าและแสงสะท้ อนมายังจอภาพ อาจเกิดจากแสงสว่างไม่พอเหมาะ มีไฟส่องเข้ าหน้ าหรื อหลังจอภาพโดยตรง หรื อแม้ แต่แสงสว่างจากหน้ าต่างปะทะหน้ าจอภาพโดยตรง ก่อให้ เกิดแสงจ้ าและแสงสะท้ อนเข้ าตาผู้ใช้ ทําให้ เมื�อยล้ าตาง่าย 3.การออกแบบและการจัดภาพระยะทํางานที�หา่ งจากจอภาพให้ เหมาะสมควรจัดจอภาพให้ อยูใ่ นระยะพอเหมาะที�ตามองสบาย ไม่ต้องเพ่ง โดยเฉลี�ยระยะจากตาถึงจอภาพควรเป็ น 0.45 ถึง 0.50 เมตร ตาอยูส่ งู กว่าจอภาพ โดยเฉพาะผู้ที�ใช้ แว่นสายตาที�มองทังระยะใกล้ � และไกล จะต้ องตังจอภาพให้ � ตํ�ากว่าระดับตา เพื�อจะได้ มองตรงกับเลนส์แว่นตาที�ใช้ มองใกล้
DANGER ANGER COMPUTER OMPUTER
วิธีปอ้ งกันอาการคอมพิวเตอร์ วิชนั� ซินโดรม 1.วางหน้ าจอคอมพิวเตอร์ ให้ หา่ งจากดวงตาประมาณ 20-28 นิ �ว และควรให้ จดุ กึง� กลางกึง� กลางของหน้ าจออยูต่ ํ�ากว่าระดับสายตาในแนวราบประมาณ4-5นิ �ว 2.ปรับแสงสว่างหน้ าจอให้ พอเหมาะและไม่สว่างเกินไปอาจใช้ กระจกกันแสงสะท้ อนติดที�หน้ าจอและเพื�อลดแสงสะท้ อน เข้ าดวงตา 3.ควรพักการใช้ สายตาเป็ นระยะ โดยใช้ “สูตรการพักสายตา 20 – 20 - 20” คือละสายตาจากหน้ าจอคอมพิวเตอร์ ทกุ ๆ 20 นาทีแล้ วมองไปที�วตั ถุที�อยูไ่ กลอย่างน้ อย20ฟุตนานประมาณ20วินาที 4.ขณะทํางานหน้ าจอ ควรกะพริ บตาให้ บอ่ ยขึ �น เพื�อเพิ�มความชุม่ ชื �นให้ ผิวดวงตา 5.สําหรับผู้ที�มีสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสัน� ยาว หรื อเอียง ควรตรวจและแก้ ไขความผิดปกติสายตา โดยที�ใส่แว่นตาหรื อ คอนแทคเลนส์ เพื�อให้ สามารถมองเห็นภาพที�หน้ าจอได้ อย่างชัดเจน 6.ลดการเพ่งมองที�หน้ าจอ ป้องกันอาการปวดตาหรื อแสบตาได้
http://www.todayhealth.org
DANGER DANGER FROM FROM EQUIPMENT EQUIPMENT
อุปกรณ์ตา่ งๆเป็ นส่วนประกอบสําคัญของการทํางาน ที�จะตอบสนองความสะดวกสบายให้ แก่เรา เช่นเดียว กับออฟฟิ ศที�ต้องมีอปุ กรณ์ในที�ทํางานอย่าง อันได้ แก่ โต๊ ะ / เก้ าอี �ทํางานเป็ นต้ น
โต๊ ะ / เก้ าอี � ควรมีขนาดมาตราฐานที�ดี สามารถปรั บ ระดับ ความสูง หรื อ ปรั บ ตามสรี ระได้ เพื�อจะช่วยให้ ร่างกายของ พนัก งานออฟฟิ ศไม่ มี ก ารปวดเมื� อ ย จนไม่สามารถเกิดโรคได้ ในที�สดุ
เพราะงันอุ � ปกรณ์จงึ มีสว่ นสําคัญต่อการทํางานมาก เพื�อให้ สขุ ภาพร่างกายของพนักงานไม่เจ็บป่ วยจนทํา ให้ เกิดโรค โต๊ ะ / เก้ าอี � ควรถูกต้ องตามหลักมาตฐาน
DANGER DANGER OF SITTING OF SITTING
พฤติกรรมการ นัง� ทํางานแบบผิดๆ อาจส่งผลให้ เกิดปั ญหาด้ านสุขภาพตามมาการนัง� ทํา งานจากที�โต๊ ะคง ไม่ใช่สงิ� พึงปรารถนาอีกต่อไป หากได้ รับรู้ข้อเท็จจริ ง ของอาการเจ็บป่ วยที�เกิดจากวิถีการทํางานของคนรุ่ นใหม่ที�แตกต่างไป ไม่วา่ จะเป็ นหน้ าที�รับผิดชอบที�ต้องนัง� พิมพ์งานหน้ าเ ครื� องคอมพิวเตอร์ หรื อภาพลักษณ์ทนั สมัยของหนุม่ สาววัยทํางานรุ่นใ หม่
อาจารย์ ดร.คีรินท์ เมฆโหรา อาจารย์ประจําคณะกายภาพบํา บัดและวิทยาศาสตร์ การเคลือ� นไหวประยุกต์มหาวิทยาลัยมหิดล เล่าถึงสาเหตุของอาการดังกล่าวว่า “สาเหตุหลักของอาการมา จากการที�ผ้ ปู ่ วยนัง� ทํางานในท่าหลังโค้ งติดต่อกันนานถึง4 ชัว� โมงแล้ วก้ มตัวลงกะทันหัน “โดยท่าหลังโค้ งนันเป็ � นท่าที�ทําให้ ด้านหลังของหมอนรองกระ ดูกยืด เมื�อยืดอยูน่ านๆ ย่อมส่งผลให้ สภาพความยืดหยุน่ ของเนื �อเยื�อด้ านหลังของหมอ น ร อ ง ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง ล ด ล ง แ ล ะ เ กิ ด ก า ร ยึ ด ตั ว “ดังนัน� พอผู้ป่วยก้ มจึงเกิดแรงกระชากเส้ นใยของหมอนรองกระ ดูกในแนวเฉียงตามลักษณะการหมุนตัว ทําให้ หมอนรองกระดูกปลิ �นออกมาทับเส้ นประสาทได้
การป้องกันไม่ให้ เกิดอาการนี �ทําได้ งา่ ย คือผู้ทํางานจะต้ องระมัด ระวังและเตือนตัวเองอยูต่ ลอดว่า เมื�อนัง� ทํางานควรนัง� ในท่าหลังตรงถ้ าเมื�อยอาจพิงพนักได้ “หากรู้ตวั เองว่านัง� อยูใ่ นท่าเดิมเป็ นเวลานานแล้ วควรลุกขึ �น เปลี�ยนอิริยาบถบ้ าง หรื อหากต้ องเคลื�อนไหวร่างกาย ให้ ตงสติ ั� ขยับตัวไปมาก่อน โดยเฉพาะถ้ าต้ องก้ มตัวหยิบของ ควรลุกขึ �น จากเก้ าอี �และเก็บของด้ วยท่างอเข่าและหลังตรง
https://goodlifeupdate.com/
DAN DAN ENV ENV
NGER OF GER OF VIRONMENTAL IRONMENTAL อันตรายจากสภาพแวดล้ อมในการทํางาน แบ่งได้ 4 ด้ าน ดังนี � 1. อันตรายจากสภาพแวดล้ อมทางเคมี (Chemical Environmental Hazards) เกิดจากการสารเคมีมาใช้ ในการทํางาน หรื อมีสารเคมีที�เป็ นอันตรายเกิดขึ �นจากขบวนการผลิตของงาน รวมทังวั � ตถุพลอยได้ จากการผลิต เช่น - กลุม่ สารเคมีที�เป็ นพิษ ก๊ าซพิษ สารประกอบไฮโดรคาร์ บอน ตัวทําละลาย - ฝุ่ นละอองที�ทําให้ เกิดโรคปอด - สารเคมีที�ก่อมะเร็ ง 2. อันตรายจากสภาพแวดล้ อมทางกายภาพ (Physical Environmental Hazards) สิง� แวดล้ อมทางกายภาพที�ก่อให้ เกิดอันตรายต่อผู้ประกอบอาชีพนัน� จะอยูใ่ นลักษณะของการได้ รับหรื อสัมผัสกับสภาพแวดล้ อมในลักษณะที�ไม่พอดีหรื อผิดจากปกติธรรมดา อันตรายทางด้ านกายภาพ ได้ แก่ - เสียง (Noise) - แสงสว่าง (Lighting) - ความสัน� สะเทือน (Vibration) - อุณหภูมิที�ผิดปกติ (Abnormal temperature) - ความดันบรรยากาศที�ผิดปกติ (Abnormal pressure) - รังสี (Radiation) 3. อันตรายจากสภาพแวดล้ อมทางชีวภาพ (Biological Environmental Hazards) เกิดจากการทํางานที�ต้องเสี�ยงต่อการสัมผัสและได้ รับอันตรายจากสารทางด้ านชีวภาพ (Biohazardous agents) แล้ วสารชีวภาพนันทํ � าให้ เกิดความผิดปกติของร่างกาย หรื อมีอาการเจ็บป่ วยเกิดขึ �น เช่น - เชื �อจุลนิ ทรี ย์ตา่ งๆ - ฝุ่ นละอองจากส่วนของพืชหรื อสัตว์ - การติดเชื �อจากสัตว์หรื อแมลง - การถูกทําร้ ายจากสัตว์หรื อแมลง 4. อันตรายจากสภาพแวดล้ อมทางด้ านการยศาสตร์ (Ergonomics) เป็ นอันตรายที�เกิดจากการใช้ ทา่ ทางทํางานที�ไม่เหมาะสม วิธีการปฏิบตั งิ านที�ไม่ถกู ต้ อง การปฏิบตั งิ านที�ซํ �าซาก และความไม่สมั พันธ์กนั ระหว่างคนกับงานที�ทํา
http://toeytoey2608.blogspot.com/
ออฟฟิ ศซินโดรม (Office Syndrome) เป็ นกลุม่ อาการที�มกั จะเกิดขึ �นกับคนที�ทํางานใน ออฟฟิ ศ เนื�องจากลักษณะงานที�จะต้ องนัง� หน้ าคอมพิวเต อร์ หรื อทํางานอย่างใดอย่างหนึง� ด้ วย ท่าทางซํ �าๆ ต่อเนื�องเป็ นเวลานาน จนอาจส่งผลให้ เกิดโรคและความผิดปกติ ในระบบต่างๆของ ร่ากาย สาเหตุหลักของโรคออฟฟิ ศซินโดรม (Office Syndrome) คือ การใช้ งานกล้ ามเนื �อและข้ อต่อที�ผิดไปจากภาวะ ปกติ เกิดจากการทํางานในพื �นที�จํากัดและขาดการเค ลื�อนไหวของกล้ ามเนื �อและข้ อต่อ คือ 1. นัง� ไขว่ห้าง 2. นัง� หลังงอ หลังค่อม 3. นัง� เบาะเก้ าอี �ไม่เต็มก้ น 4. ยืนแอ่นพุง/ยืนหลังค่อม 5. สะพานกระเป๋ าหนักข้ างเดียว พฤติกรรมที�ก่อให้ เกิดโรคออฟฟิ ศซินโดรม (Office Syndrome) ได้ แก่ความเครี ยด ทานอาหารไม่ตรงเวลา ทํางานหนักเกินไป และไม่ออกกําลังกาย อาการที�พบได้ บอ่ ยในออฟฟิ ศซินโดรม 1. กล้ ามเนื�ออักเสบเรื อ� รัง (Myofascia pain Syndrome) 2. เอ็นกล้ ามเนื �ออักเสบ/ยกแขนไม่ขึ �น (Tendinitis) 3.อาการปวด/ชาร้ าวลงแขน ( Nerve tension/C-Spondylosis) 4. ยืนแอ่นพุง/ยืนหลังค่อม
BEHAVIOR BEHAVIOR กลุม่ อาการออฟฟิ ศซินโดรม ที�พบบ่อยมี 3 ระบบ ได้ แก่ 1. อาการทางระบบการมองเห็น อาการในกลุม่ นี �เกิดจากการมองจอคอมพิวเตอร์ นานๆ หรื อนัง� ทํางานอยูใ่ นตําแหน่งที�มีแสงไม่เหมาะสม 2. อาการทางระบบทางเดินหายใจ เกิดจากการนัง� ทํางานในห้ องปรับอากาศที�อากาศถ่ายเทไม่ส ะดวก หรื อห้ องที�มีมลภาวะจากหมึกเครื� องพิมพ์ หมึกเครื� องถ่ายเอกสาร เป็ นต้ น 3. อาการทางระบบกล้ ามเนื �อเป็ นอาการที�พบได้ บอ่ ยสุดส่วน ใหญ่มาด้ วยอาการปวด หรื อ อาการเมื�อยล้ า เนื�องจากรูปแบบการทํางานในปั จจุบนั อยูใ่ นพื �นที�จํากัด การนัง� ในรถ, นัง� บนโต๊ ะทํางาน และ ผูกติดอยูก่ บั จอคอมพิวเตอร์ เป็ นเวลานานๆทําให้ เกิดกลุม่ อา การ "ออฟฟิ ศซินโดรม" ผู้ป่วยที�เข้ าได้ กบั กลุม่ อาการนี �ในประเทศไทยพบเพิ�มขึ �นจาก ร้ อยละ 55 เป็ น ร้ อยละ 60 แต่ในประเทศพัฒนาพบมากถึงร้ อยละ 80 และมักพบในช่วงอายุวยั ทํางานคือ 16 - 44 ปี http://www.sikarin.com/ http://www.stcarlos.com/
ERGO ERG
ONOMICS GONOMICS การยศาสตร์ (ergonomics) เป็ นคําที�มาจากภาษากรี ก คือ "ergon"ที�หมายถึงงาน(work)และอีกคําหนึง� "nomos"ที�แปลว่า กฎการตามธรรมชาติ (NaturalLaws) เมื�อนํามารวมกันจะ กลายเป็ นคําว่า"ergonomics" หรื อ"laws of work" ที�อาจแปล ได้ วา่ กฎของงาน ซึง� เป็ นศาสตร์ หรื อวิชาการทังที � �เป็ นการปรับ เปลี�ยนสภาพงานให้ เหมาะสมกับผู้ปฏิบตั งิ าน หรื อเป็ นการที� ปรับปรุงสภาพการทํางานอย่างเป็ นระบบ อุปกรณ์เครื� องจักร เครื� องมือต่างๆที�มีขนาดไม่เหมาะสมกับ ขนาด สัดส่วนของร่างกายผู้ปฏิบตั งิ าน ลักษณะงานที�ทําด้ วย ท่าทางอิริยาบถที�ฝืนธรรมชาติ ได้ แก่งานที�ต้องมีการบิดโค้ ง งอของข้ อมือ งอแขน การงอศอก การจับ โดยเฉพาะนิ �วมือซํ �าๆ งานที�ต้องก้ มศีรษะ ก้ มหลัง บิดเอี �ยวตัว เอื �อมหรื อยกสิง� ของ ขึ �นสุดแขน ปั ญหาการยศาสตร์ ที�พบมากในสถานประกอบการ จากการ รวบรวมสถิติ การประสบอันตรายหรื อเจ็บป่ วยต่างๆเนื�องจาก การทํางาน สํานักงานกองทุนเงินทดแทน สํานักงานกองทุน ประกันสังคม กระทรวงแรงงาน จะพบว่าปั ญหาการยศาสตร์ นี �ก่อให้ เกิดผลกระทบ ต่อสุขภาพอนามัยของผู้ปฏิบตั งิ านใน สํานักงาน
การออกแบบที�เหมาะสมนัน� ย่อมทําให้ คนที�ทํางานด้ วยความ รู้สกึ ปราศจากความเครี ยดและ ความตื�นเต้ น ขณะเดียวกันก็ ยังทําให้ งานที�ทํานันมี � ประสิทธิภาพสูง ทําให้ เกิดการเพิ�มผล ผลิตขึ �นด้ วย การออกแบบงานและบริ เวณงานจําเป็ นจะต้ อง พิจารณาขนาดและลักษณะโครงสร้ างของร่างกายคนทีท� าํ งาน นี �มาใช้ ประกอบ สิง� ที�นกั ออกแบบต้ องคํานึงถึงอีกประการหนึง� ก็คือ ท่าทางการ ทํางาน จะต้ องนําปั จจัยต่างๆมาพิจารณาถึงข้ อดี-ข้ อเสียใน แง่ผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยที�อาจเกิดขึ �นและความสะดวก สบายในการปฏิบตั งิ านด้ วย การนัง� ทํางานนันอาจทํ � าให้ กล้ าม เนื �อหน้ าท้ อง หย่อนสมรรถภาพลงทําให้ มีอาการปวดหลังและ การนัง� ตัวงอนันจะก่ � อให้ เกิดปั ญหาต่ออวัยวะภายใน และโดย เฉพาะอย่างยิ�ง ระบบย่อยอาหารและปอด การออกแบบชุดโต๊ ะเก้ าอี � ที�สามารถปรับระดับความสูงหรื อ ระดับการเอนหลังของพนักพิงให้ เหมาะสมกับผู้นงั� ทําให้ ร้ ูสกึ สบายและไม่ก่อให้ เกิดปั ญหากับสรี ระและการทํางานอีก
http://pathumthani.labour.go.th/
การนําหลัก Ergonomics ปรับใช้ นนจะต้ ั � องคํานึงถึงประเด็นหลัก สําหรับการลดภาระและความเสี�ยงจากง านที�เกี�ยวข้ องภายใต้ 3 หัวข้ อ ดังนี � การปรับปรุงด้ านวิศวกรรม (Engineering Improvements) การปรับปรุงด้ านการบริ หาร (Administration Improvements) และการจัดหาปรับปรุงด้ านอุปกรณ์เครื� อ งมือป้องกันบุคคล (Personal Protective Equipment) Engineering Improvements มักเป็ นส่วนที�ประสบความสําเร็จและมีค่ าใช้ จา่ ยน้ อยที�สดุ หลายครัง� พบว่าตัวแรง งานเองเป็ นคนปรับแต่งให้ เกิดรูปแบบกา รทํางานที�สอดรับกับหลักสรี รศาสตร์ ขึ �นม า Administrative Improvements เป็ นการเปลีย� นการทํางานเพื�อฝึ กฝนพื �นฐ านงานต่างๆ เพื�อจะนํามาประยุกต์ใช้ อาจนํามา ใช้ งานส่วนบุคคลหรื อร่วมใช้ งานกับหน่ว ยงานอื�นๆ Personal Protective Equipment เป็ นการเตรี ยมความพร้ อมของเครื� องมือเ ครื� องใช้ สําหรับป้องกันอุบตั ิเหตุไม่คาดคิ ดต่างๆ ไม่วา่ จะเป็ นตัวผู้ปฏิบตั งิ านหรื อสิง� อื�นๆ ก็ตาม รูปแบบนี �ควรจะเป็ นการดํา เนินงานในลําดับสุดท้ าย ถ้ าหากจะไม่นบั อุปกรณ์เครื� องไม้ เครื� องมื อที�จําเป็ นต่อการป้องกันในการทํางาน
การปรับใช้ ตา่ งๆ นันจะเกิ � ดขึ �นได้ เมื�อมีการระบุสาเหตุของ ปั ญหาความเสี�ยงได้ อย่างถูกต้ อง โดย สามารถแบ่งออกเป็ น 4 ปั จจัยหลักได้ แก่ ปั จจัยด้ านกายภาพและปั จจัยด้ านสภาพ แวดล้ อมปั จจัยเฉพาะและปั จจัยด้ านการ บริ หารจัดการงาน 1. ปั จจัยด้ านกายภาพ มาจากการใช้ แรง ทัว� ไปในงาน การอยูใ่ นท่าเดิมนานๆ รวม ถึงการเคลื�อนไหวซํ �าๆ และการใช้ ทา่ ทาง การทํางานที�ผิดพลาด เช่น การยกของ ที�สงู เหนือหัวมากๆ ทําให้ เกิดการเกร็งตึง กล้ ามเนื �อ การเหยียบปั� มลมสมํ�าเสมอ การก้ มลงตํ�ากว่าระดับมากๆ เพื�อหยิบจับ ของหรื อ การดันของที�มีนํ �าหนักเกินตัว มากๆ 2. ปั จจัยด้ านสภาพแวดล้ อมไม่วา่ จะเป็ น อุณหภูมิ ความร้ อน ความเย็นภาพหลอก ตาที�เกิดจากข้ อจํากัดทางด้ านร่างกาย ระดับแสงไฟที�พอเพียง 3. ปั จจัยเฉพาะ สิง� เหล่านี �แปรเปลี�ยนไปตาม เพศ อายุ พฤติกรรม เงื�อนไขสุขภาพ ยกตัวอย่าง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไขข้ อ ซึง� จําเป็ นต้ องเลือกใช้ ในงานสําหรับแรง งานให้ เหมาะสม 4. ปั จจัยด้ านการบริ หารนัน� หมายถึงการ ออกแบบวิธีขนตอนการทํ ั� างานต่างๆการ บริ หารจัดการทุกขันตอน � รวมถึงตัวระบบ เช่น การทํางานที�ต้องอาศัยความเร็ว งานที�มีความซับซ้ อน งานที�จํากัดผู้ทํา
https://www.mmthailand.com/
VOLATILE VOLATILE ORGANIC ORGANIC COMPOUNDS COMPOUNDS
VOCs ย่อมาจาก Volatile Organic Compounds คือสารประกอบ อินทรี ย์ระเหยง่ายส่วนใหญ่มกั ใช้ เป็ นสารประกอบและสารตัวทํา ละลายในงานอุตสาหกรรมต่างๆเป็ นสารประกอบอินทรี ย์ที�อยู่ใน รู ปของเหลวที�มีองค์ประกอบของคาร์ บอนอินทรี ย์ซึ�งเป็ นอันตราย ต่ อ ร่ า งกายสารVOCsนี ส� ามารถเข้ า สู่ร่ า งกายได้ จ ากทางการ หายใจทางผิวหนังการสัมผัสและการสูดดมเข้ าไป VOCs เป็ นสารที�อยูใ่ กล้ ตวั ของเรามาก เช่น การสามารถพบได้ ในอุตสาหกรรมการผลิตของวัสดุก่อสร้ างมากมา ยเช่นสีทาอาคารยาแนวกระเบื �อง,กาวที�ใช้ ในการประกอบเฟอร์ นิเจ อร์ ตา่ งๆ เพราะฉนันควรให้ � ความสําคัญกับการพัฒนาคุณภาพอากาศและ องค์กรประกอบอื�นๆที�อาจส่งผลใดๆต่อสุขภาพของพนักงานด้ วย หลักคิดเรื� องคุณภาพอากาศภายในอาคารนันมี � หลายมิติเช่นเรื� อง เกี�ยวกับปริ มาณก๊ าซคาร์ บอนไดออกไซด์ในอากาศเชื �อราในอากาศ เป็ นต้ นอย่างไรก็ตามประเด็นสําคัญที�สดุ และอาจจะก่อให้ เกิดผล ร้ ายได้ ในระยะยาวคือเรื� องของสารพิษที�ใช้ กับวัสดุตกแต่งภายใน อาคาร VOCs พบมากในในวัสดุที�ใช้ ทาหรื อการพ่นภายในอาคารเป็ นส่วนใหญ่สา รดังกล่าวเป็ นสารที�อาจก่อให้ เกิดผลในแง่ลบต่อสุขภาพได้ ในระยะ ยาวสารสามารถคงตัวอยูใ่ นอากาศได้ เป็ นระยะเวลานานและสะส มอยูใ่ นสิง� แวดล้ อมรอบตัวทังในอากาศดิ � นและนํ �า มีผลร้ ายแรงต่อสิง� แวดล้ อมระบบนิเวศน์และสิง� มีชีวิต
กาวและ วัสดุยาแนว
งานฝ้า
งานผนัง
สีและนํ �า งานพื �นและ เฟอร์ นิเจอร์ ยาเคลือบ พื �นไม้ สําเร็ จ
บริษัท อินเตอร์เนชั�นแนลโพรเจคแอดมินิสเตรชั�น จํากัด (InterPAC) ก่อตัง� ขึน� ตัง� แต่ปี พ.ศ ���� โดยนายยอดเยี�ยม เทพธรานนท์ โดยในช่วงแรก บริษัทฯ ให้บริการงานออกแบบและ ที�ปรึกษาทางด้านการก่อสร้าง ภายใต้ปรัชญาในการทํางาน “ซื�อสัตย์ ทํางานหนัก รับผิด ชอบ และ ตอบแทนคืนสูส่ งั คม” ทําให้ InterPAC เติบโตขึน� อย่างต่อเนื�องจาก พนักงานเริม� ต้นเพียง � คน ปั จจุบนั มีพนักงาน ��� คน ที�มีความพร้อมและมีความสามารถในการให้ บริการวิชาชีพ สถาปั ตยกรรม และวิศวกรรม ได้อย่างครบวงจร InterPAC ก้าวเดินจากการให้บริการงานออกแบบสถาปั ตยกรรม ต่อเนื�อง มายัง การออกแบบวิศวกรรม ในปี พ.ศ. ���� InterPAC เริม� การให้บริการบริหารการ ก่อสร้าง ในปี พ.ศ. ���� หลังจากก่อตัง� มาแล้ว �� ปี InterPAC เติบโตขึน� อย่าง มั�นคงให้ บริการในรูปแบบอาคารอันหลากหลาย ก้าวเข้าสูก่ ารบริการวิชาชีพในการ บริหาร โครงการ ให้บริการทางด้านสถาปั ตยกรรมและวิศวกรรมครบวงจร
INTERPAC INTERPAC
TIME LINE เริ� มให้ บริ การวิชาชีพสถาปั ตยกรรมและวิศวกรรม ผู้นําในการใช้ โปรแกรม Computer- Aided Design (CAD) เริ� มให้ บริ การที�ปรึกษาบริ หารงานก่อสร้ าง “Construction Management Consultant” ผู้นําในงานอาคารสูง (High-rise Building)
2519
2525
2527
2535
เริ� มให้ บริ การงานอาคารขนาดใหญ่พิเศษซับซ้ อน
2537
วิกฤตเศรษฐกิจ
2540
ผู้นําในงานที�มีลกั ษณะเฉพาะทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีและอาคารประเภทโรงแรม (Hi-Technology Building and Hotel)
2542
เริ� มให้ บริ การที�ปรึกษาบริ หารโครงการ Project Management Consultant”
2545
เริ� มให้ บริ การงานอาคารโรงพยาบาล และอาคารสาธารณสุข Healthcare and Hospital Facilities
2553ปั จจุบนั
ขอบเขตการให้ บริ การ ออกแบบสถาปั ตยกรรม : ให้ บริ การในการออกแบบ สถาปั ตยกรรมตังแต่ � อาคารพักอาศัยส่วนบุคคลไป จนถึงอาคารสาธารณะขนาดใหญ่ทงของภาครั ั� ฐและ เอกชน โดยจะเริ� มการทํางานตังแต่ � การเสนอแนวคิด การพัฒนาแบบร่างจนถึงการเขียนแบบการก่อสร้ าง ออกแบบวิศวกรรม : ให้ บริ การการออกแบบทาง วิศวกรรมครบถ้ วนทุกระบบ ได้ แก่ วิศวกรรม โครงสร้ าง วิศวกรรมไฟฟ้าและสื�อสาร วิศวกรรมเครื� องกล ระบบสนับสนุน ระบบพิเศษต่างๆ เป็ นต้ น ที�ปรึกษาบริ หารโครงการ : ให้ บริ การในฐานะตัวแทน เจ้ าของโครงการ ดําเนินการบริ หารโครงการ ภายใต้ แนวความคิดสําคัญ คือ การควบคุม “ คุณภาพงบประมาณและระยะเวลา ” เพื�อให้ โครงการประสบ ความสําเร็จบรรลุวตั ถุประสงค์ ที�ปรึกษาบริ หารงานก่อสร้ าง : ให้ บริ การบริ หารงาน ก่อสร้ าง โดยมีสว่ นร่วมในการควบคุมคุณภาพตังแต่ � ขันตอนการออกแบบขั � นตอนการเตรี � ยมการก่อนการ ก่อสร้ าง การตรวจสอบสภาพอาคาร : ให้ บริ การตรวจสอบ วิเคราะห์สภาพอาคารทังในด้ � านความแข็งแรง งานวิศวกรรมระบบประกอบอาคาร การประเมินค่าทรัพย์สนิ : ให้ บริ การตรวจสอบประเมิน มูลค่าอาคารที�สร้ างค้ างด้ วยการประสานองค์ ความรู้ หลายด้ าน เพื�อให้ สามารถดําเนินการก่อสร้ างต่อได้
ORANIZATION ORANIZATION CHART CHART ปั จจุบนั InterPAC มีพนักงานประจํารวมทังสิ � �น 191 คน และมี มากกว่า 40% เป็ นพนักงานที�ทํางานร่วมกันมาไม่น้อยกว่า 10 ปี พนักงานของ InterPAC มีความรู้ความสามารถหลากหลายสาขาวิชา
ประธานบริ ษัท
หุ้นส่วน
หัวหน้ าประจําไซต์ 3 คน
รองประธานบริ ษัท
หัวหน้ าวิศวะกร
วิศวกรโครงสร้ าง 2 คน
หัวหน้ าออกแบบ
วิศวะกรไฟฟ้า 7 คน วิศวะกรเครื� องกล 7 คน ออกแบบ 30 คน
ฝ่ ายเอกสาร
ธุรการสํานักงาน 1 คน
ธุรการโครงการ 4 คน
SITE SITE INTERPAC SUAN KU LAR RESTURANT THE MINISTRY OF FINANCE
AREE BTS STATION SNAM PAO BTS STATION
SITE SITE
1
เป็ นอาคารสูง 4 ชัน�
5
ตัวตึกไม่ได้ รับการปรับปรุงมานาน
2
พื �นที�นงั� ทํางานแอร์ อดั
6
ยังมีพื �นที�ใช้ อาคารที�ยงั ไม่ถกู ใช้ สอยอยูเ่ ยอะ
3
ชัน� 4 ไม่ได้ ถกู ใช้ สอย
7
พนักงานทํางานไม่สะดวกในพื �นที�การใช้ งาน
4
มีการจัดระเบียบของใช้ ตา่ งๆยังไม่ดี
8
ลานจอดรดด้ านหลังสามารถจอดรถได้ หลายคัน
SITE
ZONING ZONING ORIGINAL ORIGINAL