สนามบิน / เทคโนโลยี / ความยั�งยืน / เอกลักษณ์
SMART AIRPORT Magazine AIRPORT / TECHNOLOGY / SUSTAINABILITY / IDENTITY
SMART AIRPORT
SMART AIRPORT
ชื�อโครงการ
SMART AIRPORT (โครงการศึกษาปรับปรุงอากาศ ยานขอนแก่นอาคารผูโ้ ดยสาร ภายในประเทศและภายนอกประ -เทศ )
ผูด้ าํ เนินงาน
ภูวกร จันทรสมบัติ
สาขาวิชา
ออกแบบภายใน
คณะ
ศิลปะและการออกแบบ
อาจารย์ท�ีปรึกษา
อาจารย์ เกรียงศักดิ� สุวรรณบูล
PROJECT BACKGROUND
สนามบิน คือ ศูนย์รวม ยานพาหนะที�ใช้ในการคมนาคมทางอากาศ ภายในมีส�งิ อํานวยความสะดวกมากมาย เพื�อต้อนรับนักท่องเที�ยวทัง� ภายในประเทศและภายนอกประเทศ นอกจากนีส� นามบินยังสามารถแสดงถึงภาพลักษณ์ ที�แตกต่างกันของแต่ละพืน� ที� การก่อสร้างและการออกแบบจึงเป็ นปั จจัยสําคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์อตุ สาหกรรมการท่องเที�ยว รวมถึงสะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนในพืน� ที�ได้เป็ นอย่างดี สนามบินขอนแก่นถือเป็ นสนามบินที�มีความสําคัญ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยมีประวัตคิ วามเป็ นมาและเอกลักษณ์ท�ีแตกต่างกันเฉพาะตัว ในปั จจุบนั สนามบินขอนแก่นประสบปั ญหา อาคารเก่าทรุดโทรม ขาดการบํารุงซ่อมแซม รวมถึงอาคารจอดรถที�ไม่เพียงพอสอดคล้องกับความต้องการ ของผูใ้ ช้บริการ นอกจากนีย� งั ประสบปั ญหาการจราจรที�ตดิ ขัดเนื�องจากความบกพร่องในการออกแบบระบบการจัดการที�ดี และมีประสิทธิภาพอีกด้วย จากการลงพืน� ที�เบือ� งต้นประกอบกับการศึกษาหาข้อมูลภูมิหลัง ทางผูจ้ ดั ทําจึงมีความสนใจในการปรับปรุง ออกแบบและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ให้แก่สนามบินขอนแก่นโดยเล็งเห็นถึงความสําคัญของสนามบิน และประโยชน์ท�ีคมุ้ ค่าจากการปรับปรุงซ่อมแซม ทัง� นีม� ีการวางแบบแผนเพื�อแก้ไขปั ญหาด้านโครงสร้างทัง� ในเชิงความสวยงามและการใช้งาน มุง่ เน้นการออกแบบพืน� ที�ใช้สอยให้เกิดคุณค่าและประโยนช์สงู สุด นอกจากนีย� งั สอดแทรกเอกลักษณ์ท�ีนา่ สนใจ อาทิ ลวดลายของผ้าไหมมัดหมี� ลงไปในงานออกแบบและยังเป็ น โครงการนําร่อง Smart Airport ให้แก่สนามบินขอนแก่น เพื�อส่งเสริมการสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที�ยว ยกระดับสนามบินสูค่ วามเป็ นนานาชาติ และสร้างความประทับใจให้แก่ผมู้ าเยือนเสมอ
EXPECTATIONS
ส่งเสริมรายได้ของผูป้ ระกอบการร้านค้า ทัง� ภายในและโดยรอบสนามบินจากปริมาณนักท่องเที�ยวที�เพิ�มสูงขึน� เพื�อขับเคลื�อนเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งเสริมสนามบินให้เป็ นศูนย์กลางการท่องเที�ยวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย นําเสนอภาพลักษณ์ท�ีมีความทันสมัย เข้าถึงง่ายและมีความนานาชาติเพื�อสร้างชื�อเสียงที�ดีให้กบั ประเทศดึงดูดนักลงทุนต่างชาติในอนาคต
AREA OF STUDIES
พืน� ที�ภายในและโดยรอบสนามบนิขอนแก่น รวมถึงศูนย์ราชการ มหาวิทยาลัย และสถานที�ทอ่ งเที�ยวที�สาํ คัญภายในจังหวัดขอนแก่น
OBJECTIVES
สร้างเอกลกัษณ์ให้แก่สนามบนิขอนแก่นโดย นําเสนอภูมิปัญญา และวิถีชีวิตของจงัหวดัขอนแก่นผสมสานลงในงานออกแบบ เพื�อดึงดูดนักท่องเที�ยว ทัง� ภายในประเทศและทวีปทุกมุมโลก เพิ�ม function การใช้งานที�รองรับความต้องการของผ้ใูชบ้ ริการที�เพิ�มขึน� มากกว่า 5 ล้านคนต่อปี โดยเป็ นโครงการนําร่อง Smart Airport ที�สะดวกสบายและทันสมัย ยกระดับสนามบินให้มีความเป็ นนานาชาติ ปรับปรุงระบบการออกแบบขนสง่ผโ้ ดู ยสาร แก้ไขทางเข้าออกรอบอาคาร ซึง� ปั จจุบนั มีความหนาแนน่ของการจราจร ส่งผลกระทบเป็ นวงกว้างให้แก่ผใ้ ูชบ้ ริการสนามบินและผ้สู ญ ั จรในพืน� ที�
EXISTING PROBLEMS
EXISTING PROBLEMS
STTATISTICS
ขอนแก่นเป็ นจังหวัดใหญ่ในภาคอีสาน โดยมีแนวโน้มที�จะมีผโู้ ดยสารเติมโต จาก 1 ล้านกว่าคน มาเป็ น 2 ถึง 3 ล้านคนต่อปี นอกจากนีข� อนแก่นยังเป็ นจุดตัดเชื�อมต่อหลายจังหวะในภาคอีสาน และติดชายแดนแม่นา�ํ โขง พร้อมกับมีนกั ลงทุนในประเทศและต่างประเทศ จํานวนมากนอกจากนีย� งั เป็ น ศุนย์กลางของการศึกษา และ การแพทย์ในภาคอีสานอีกด้วย ในปั จจุบนั สนามบินขอนแก่นมีผโู้ ดยสารเข้าใช้งานมากกว่า 3500 คน ต่อวัน และมีเที�ยวบินต่อ วันมากถึง 36 เที�ยวบิน และเฉลี�ยจะทําการบินในทุกๆ 45 นาที อาคารหลังปั จจุบนั ไม่สามารถรองรับ ผูโ้ ดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ตัวอาคารเก่าทรุดโทรมขาดการซ่อมแซม การออกแบบไม่ส�อื ถึง เอกลักษณ์ความสวยงาม ความเป็ นจังหวัดขอนแก่น
จาการกศึกษาพบว่าสนามบินประกอบด้วยทางวิ�งผิวแอสฟั ลท์ตกิ ขนาด 3,050 x 45 เมตร ลานจอดเครือ� งบิน ขนาด 300 x 145 เมตร จอด B747 ได้ 2 ลํา และB737 2 ลํา ในเวลาเดียวกัน อาคารที�พกั ผูโ้ ดยสารจํานวน ขนาด 14,500 ตารางเมตร รองรับผูโ้ ดยสารได้ 1,000 คน/ชั�วโมง และอาคารจอดรถยนต์อดรถได้ 450 คัน ทางสนามบินมีแผนดําเนินการก่อสร้างเพิ�มเติม โดยได้เริม� ดําเนินการแล้ว เมื�อทําการก่อสร้างอาคารที�พกั ผูโ้ ดยสารหลังใหม่แล้ว จะมีพืน� ที�ใช้สอยประมาณ 40,000 ตารางเมตร รองรับผูโ้ ดยสารได้ 2,000 คน/ชั�วโมง หรือประมาณ 4 ล้านคน/ปี อาคารจอดรถยนต์ใหม่ 7 ชัน�
STTATISTICS
16,000 2560 2000 2552
ผู้โดยสาร
เครือ� งบิน
400,000 2552 2,000,000 2560
11 ลํา 5 ลํา
ผู้โดยสาร
เครือ� งบิน
s
1000 คน / ชม. 2000 คน / ชม.
3000 คน / ชม.
EXISITING AND NEW
รถยนต์
ภูมิทศั น์
600 คัน 1160 คัน
ปรับปรุงภูมิทศั น์โดยรอบ
ZONING
CONVEYOR BELT
LUGGAGE
WC. SHOP WAITING HALL SHOP
SHOP
ENTRANCE
SHOP
SHOP
ZONING
WAITING ROOM
LOUNGE
WAITING HALL
IMMIGRATION
X-RAY WC. SHOP
WAITING WAITING
CHECK-IN
WAITING
WAITING SHOP
IMFORMATION
ENTRANCE
TICKET SALE
DOMESITIC , INTERN
NEW PLAN
NATIONAL BAGGATE
1st floor
NEW PLAN
2nd floor
DOMESITIC , INTERN AIRPORT LINK
SHOPING M
NEW ZONING
NATIONAL BAGGATE GRADEN
MALL 1st floor
DOMESITIC , SHOPING M
SHOPI
NEW ZONING
MALL INTER
ING MALL 2nd floor
SHOP
ENTRANCE
SHOP
x
PROGRAMING
SHOP
x
SHOP
x
จํานวนความหนานเน้นปริมาณคน น้อย ปานกลาง มาก
PROGRAMING
PROGRAMING
x
PROBLEMS
PROBLEMS
PROBLEMS
สิ�งที�ผโู้ ดยสารพอใจน้อยที�สดุ บริเวณจุดตรวจค้นในสนามบิน เข้าแถวรอ - Waiting in line
31%
การถอดรองเท้า เข็มขัด เสือ� นอก - Taking off shoes and layers
20%
การเก็บรวบรวมสัมภาระส่วนตัวเข้ากระเป๋ า - Reassembling belongings
15%
เจ้าหน้าที�ตรวจค้นร่างกาย - Getting patted down by TSA
9%
การคัดแยกของเหลว - Having to pull apart luggage and separate liquids
9%
การเข้าเครือ� งตรวจจับโลหะแบบเต็มตัว - Full-body scan
6%
ขณะผูโ้ ดยสารต่อแถวเป็ นเวลานานความไม่พอใจที�พบ ความไม่พร้อมของผูโ้ ดยสาร - Unprepared travelers
34%
จุดตรวจเปิ ดน้อยเกินไป - Too few open checkpoints
29%
เจ้าหน้าที�ไม่เพียงพอ - Too few TSA agents working at a checkpoint
15%
ความล่าช้าในการปฏิบตั ขิ องเจ้าหน้าที� - Slow work pace TSA agents
14%
แถวพิเศษไม่เปิ ดรับผูโ้ ดยสารคนอื�น ๆ - Staff dedicated to TSA Pre not taking other passengers
ปั จจัยจากผูโ้ ดยสารท่านอื�น
ความไม่พร้อม ณ จุดตรวจค้น - Being unprepared
30%
การนํากระเป๋ ากับสัมภาระมามากเกินไป - Bringing too much baggage
14%
ปล่อยให้เด็กวิ�งเล่น - Letting small children run around
11%
การคุยโทรศัพท์เสียงดังรบกวน - Holding loud cell phone conversation
10%
พยายามลัดคิว - Trying to cut the line
10%
ไม่รูก้ ฎระเบียบ - Not knowing security rules
8%
8%
PROBLEMS
มีการคาดการณ์ไว้วา่ ระหว่างปี 2014-2034 ในทวีปเอเชียจะมีผโู้ ดยสารถึง 1,753 ล้านคน ซึง� เพิ�มขึน� 4.9% ซึง� มากที�สดุ ในโลก อาจทําให้เกิดปั ญหาเนื�องจากจํานวนของสนามบินมีอยูจ่ าํ กัด ดังนัน� อาจแก้ปัญหาได้โดยการเพิ�มปริมาณการรองรับผูโ้ ดยสารของสนามบิน และยกระดับประสิทธิภาพของการทํางานภายในสนามบิน
จากปริมาณผูโ้ ดยสารที�เพิ�มมากขึน� ทุกปี แม้แต่สนามบินขนาดใหญ่ท�ีสดุ ในโลกจํานวน 100 สนามบิน เช่น สนามบินแอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือสนามบินปั กกิ�ง ประเทศจีน ยังต้องมีการขยับขยายทัง� ทางด้านพืน� ที�และการจัดการ เพื�อรองรับจํานวนนักท่องเที�ยวที�มากขึน� แต่เนื�องจากปั จจุบนั ทรัพยากรของโลกมีอยูอ่ ย่างจํากัดและด้วยข้อกัดของพืน� ที� ดังนัน� จึงไม่สามารถที�จะขยายขนาดของสนามบินออกไปได้มากนัก ดังนัน� จึงมีการนําเทคโนโลยีมาช่วย เพื�อช่วยอํานวยความสะดวก และเพื�อให้การเคลื�อนตัวของผูโ้ ดยสารเป็ นไปได้อย่างรวดเร็วขึน� มีหลักการดังนี �
PROBLEMS
1. การควบคุมปริมาณผูโ้ ดยสาร 2. เพิ�มปริมาณการใช้เทคโนโลยีดจิ ิตอล เพื�อช่วยให้สะดวกในการเดินทาง 3. การส่งข้อมูลให้แก่ผโู้ ดยสาร
ในปั จจุบนั ผูโ้ ดยสารต้องการรับรูข้ อ้ มูลต่างๆอย่างรวดเร็วไม่วา่ จะเป็ นในเรือ� ง เที�ยวบิน, ตําแหน่งกระเป๋ าสัมภาระ,หรือแม้แต่ระยะเวลาต่อเครือ� งหรือพักคอย เมื�อการเดินทางมีการเปลี�ยนแปลง เช่น เครือ� งบินดีเลย์ ซึง� ผูโ้ ดยสารส่วนใหญ่มกั ใช้ e-mail และ mobile application ในการรับข้อมูลข่าวสาร โดยใช้เพิ�มขึน� จากปี 2016 มากถึง 26-28% และสัดส่วนการใช้ sms ลดลงอย่างมาก ดังนัน� การเพิ�มจุดใช้งาน wi-fi on-board ภายในสนามบินจะทําให้ประสิทธิภาพในการรับส่งและเข้าถึงข้อมูลข่าวสารมีมากขึน� ในอดีตการเดินทางเพื�อทําธุรกิจยังไม่แพร่หลายมากนักแต่ปัจจุบนั เนื�องจากการเดินทางเชิงธุรกิจ เพิ�มจํานวนสูงมากขึน� จึงส่งผลดีตอ่ อุตสาหกรรมภายในประเทศดังต่อไปนี � 1. สายการบิน : มีการเพิ�มจํานวนของเที�ยวบินหลายระดับจึงต้องมีการจัดการและรับส่งข้อมูล อย่างรวดเร็ว 2. สนามบิน : สามารถประเมินจํานวนผูโ้ ดยสารผ่านจุดตรวจความปลอดภัยและจุด check-in ได้ และลดค่าใช้จา่ ยในการบริการ 3. รัฐบาล : เพิ�มประสิทธิภาพในการตรวจคนเข้าเมือง 4. ตัวแทนการท่องเที�ยว : การใช้ IT ในการแจ้งข่าวสารแก่ลกู ค้าแทนการใช้พนักงาน ซึง� ช่วยลด ค่าใช้จา่ ยในการบริการ 5. ผูป้ ระกอบการอื�นๆ : เพิ�มระดับการให้บริการและลดค่าใช้จา่ ยในการบริการ
SMART
SMART TECHNOLOGY
TECHNOLOGY
SMART TECHNOLOGY
เทคโนโลยีเช็คอินแบบด้วยตัวท่านเองเข้ามาแทนที�การเช็คอิน ด้วยพนักงาน ทําให้สะดวกสบายและรวดเร็วไม่ตอ้ งต่อแถวนาน เพราะการเช็คอินแบบใหม่สามารถรองรับผูโ้ ดยสายเช็คอินครัง� ละหลาย คน โดยเฉลี�ยนแล้วหนึง� เที�ยวบินจะมีพนักงานเช็คอิน 4-8 คน แบ่งออกเป็ นชัน� ธรรมดา 4-5 คน ชัน� ธุรกิจ 1-2 คน และ ชัน� หนึง� 1 คน การที�นาํ เทคโนโลยีเช็คอินแบบใหม่เข้ามา สามารถ เช็คอินได้มากกว่า 2-4 เท่า ขึน� อยูก่ บั ขนาดของพืน� ที�
เทคโนโลยีสาํ หรับการจัดการกระเป๋ าหรือโหลดกระเป๋ าขึน� เครือ� ง ต่อเนื�องมาโดยปกติแล้วพนักงานจะเป็ นผูค้ นโหลดกระเป๋ าให้ ผูโ้ ดยสารหลังจากนําเทคโนโลยีนีก� ารเช็คอินเปลี�ยนไปจึงต้องโหลดด้วย ตัวเอง การใช้งานของเครือ� ง ผูโ้ ดยสารนําหนังสือเดินทางเข้าเครือ� ง แล้วกดตามขัน� ตอนจากนัน� กระเป๋ าไปวางที�สายพาน ตรง ตัวเครือ� งจะทําการวัดค่านํา� หนัก แล้วโหลดกระเป๋ าให้อตั โนมัติ หากกระเป๋ ามีขนาดที�ใหญ่เกิดไประบบจะทําการตีกลับให้ อัตโนมัติ เทคโนโลยีท�ีนาํ มาใช้ในเครือ� งโหลดกระเป๋ าอัตโนมัติ ได้แรงบันดาลใจมาจาก เครือ� งเล่นเกม Nintendo wii , X-BOX โดยใช้ วีบาลานซ์บอร์ด (Wii Balance Board) เป็ นอุปกรณ์สาํ หรับทรงตัวซึง� มีเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื�อน ไหวของเท้าผูเ้ ล่นรวมไปถึงตรวจจับสมดุลของนํา� หนักเท้า ทัง� สองข้างด้วยเพื�อนําไปใช้ควบคุมการเล่นเกมที�ตอ้ งอาศัย การทรงตัวต่าง ๆ เช่นเกม WiiFit โดยนํากล้องและระบบเซ็นเซอร์ การขยับร่างกายขณะเล่น มาใช้สแกนกระเป๋ าและถ่ายภาพเป็ นสามมิติ เพื�อความเม่นยําในการจดจํากระเป๋ าและติดตามกระเป๋ า เพื�อป้องกันกระเป๋ าสูญหาย
SMART TECHNOLOGY
ขัน� ตอนการตรวจกระเป๋ าที� ถือขึน� เครือ� ง ปกติแล้วการ นํากระเป๋ าขึน� เครือ� งจะต้องทําการผ่านเครือ� งตรวจ โดยผูโ้ ดยสารเป็ นผูแ้ ยกกระเป๋ าของใช้ของ เหลวคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ออกจากระเป๋ า ทําให้เสียเวลายุง่ ยากการเก็บเข้าเก็บออก ทัง� ตอน ก่อนจะนําเข้าสแกน และ หลังสแกนเสร็จแล้ว เนื�องด้วย ที�ตอ้ งนําแยกออกมาเพราะ เครือ� ง X-ray ในปั จจุบนั ที�ใช้กนั ในสนามบินเป็ นการสแกนแนวตรง จากข้างบน ลงมาจึงไม่สามารถทําให้เห็นสิ�งของได้ชดั เจน เพราะ การสแกนเป็ นแนวเดียวจากข้างบน จะเห็นสิ�งของทับกัน ทําให้การตรวจแยกสิ�งของเป็ นไปได้ยาก และจําเป็ นต้องอาศัยเจ้าหน้าที� ที�มีประสบการณ์ แต่การนําเทคโนโลยีการสแกนแบบใหม่เข้ามา ช่วยลดเวลาทัง� หมดได้ เพราะว่าการสแกนสิ�งของแบบใหม่ เป็ นการสแกนแบบสามมิตทิ าํ ให้เจ้าหน้าที�สามารถเห็นสิ�งข องในแต่ละชัน� ได้เป็ นรูปภาพสามมิตแิ ละง่ายต่อการคัดแยก เทคโนโลยีใหม่นีไ� ด้แรงบัลดาลใจมาจาก CT scan ใน โรงพยาบาล การทํางานของCT scan ก็คือ การสแกนภาพ เพื�อนํามาสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์ โดยตัดวัตถุออกเป็ น สามส่วน คือ แนวตัง� แนวนอน และ แนวตัดตรง แล้วนํามาประมวลผลเกิดเป็ นภาพสามิติ
SMART TECHNOLOGY 5-8 min.
5-10 min.
15-30 min.
15-30 min.
30-1.20 hr.
5-10 min.
30-1.20 hr.
30-1.20 hr.
AVERVGE
AVERVGE
AVERVGE
AVERVGE
AVERVGE
AVERVGE
X
AVERVGE
AVERVGE
ตารางเปรียบเทียบระยะเวลาใช้งานแต่ละส่วนของสนามบิน
SMART TECHNOLOGY HUMAN
SMART TECHNOLOGY
การตรวจคนเข้าเมืองที�เดินทางเข้ามาและออกนอกราชอาณาจักร เปรียบเสมือนประตูของประเทศ ที�ชว่ ยคัดกรองคนเข้ามาในประเทศ โดยปั จจุบนั การตรวจคนเข้าเมืองใช้เจ้าหน้าที� ตม. เป็ นคนตรวจเช็ค พาสปอร์ต บุคคล ในการเดินทางเข้าและออก ข้อเสียในการใช้เจ้าหน้าที� คือ พนักงานสามารถมีอาการ ล้าหลัง จากการทํางานอย่างหนัก และ จากการมองภาพในพาสปอร์ตกับตัวบุคคลจริง ยังสามารถเกิดความการคลาดเคลื�อน ถึงแม้วา่ ในปั จจุบนั จะมีการตรวจเช็คใบหน้าพร้อมกับลายนิว� มือแล้วก็ตาม ข้อเสียของการตรวจเช็คลายนิว� มือคือ คุณจะต้องมีลายนิว� มือ อยูใ่ นฐานข้อมูลเสียก่อน ถึง จะสามารถตรวจเช็คได้ ปั จจุบนั ได้มีการทําการเก็บลายนิว� มือครัง� แรก ไว้ในฐานข้อมูลซึง� ใช้เวลานาน และเสียเวลาโดยไม่จาํ เป็ น การนําโทคโนโลยี ใหม่เข้ามาในการตรวจคนเข้าเมืองโดยใช้ การสแกนหน้าตา เพียงแค่เดินผ่าน ทําให้งา่ ยต่อการเดินทางและยังสะดวกรวดเร็ว โดยเทคโนโลยีนี � มาอุดช่องโหว่ ของลายนิว� มือ และการทํางานของเจ้าหน้าที� การทํางานของเครือ� งสแกนไปหน้านี � ทํางานด้วยการ ตรวจสอบใบหน้าด้วยจุด เอกลักษณ์ของคน กับรูปในพาสสปอร์ต ว่าตรงกันหรือไม่ และมีความแม่นยํามากกว่า การสแกนลายนิว� มือ การสแกนด้วยลายนิว� มือ สามารถมีความผิดพลาดได้ถงึ 1 ใน 50,000 แตกต่างจากการสแกนใบหน้า ถึง 1 ใน 1,000,000 และการสแกนด้วยใบหน้าสามารถนํามาใช้ในส่วนของการเช็คboarding pass ก่อนที�จะขึน� เครือ� ง ได้อีกด้วย
sil
lk
KHONKAEN MUDMEE
จากการศึกษาผ้าไหมมัดหมี� ขอนแก่นเป็ นจังหวัดแรกด้วยเป็ นเมืองที�มีประวัตศิ าสตร์ของการทอผ้ามัดหมี�ยาวนาน มากว่าปี 200และเป็ นมรดกทางวัฒนธรรมของการทอผ้ามัดหมี�จนได้รบั กรประกาศให้เป็ น เมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี� สร้างชื�อเสียงให้ประเทศไทยลือไกลไปทั�วโลก ความงดงามของผ้ามัดหมี�จงั หวัดขอนแก่นซึง� ได้รบั การประกาศจากสภาหัตถกรรมโลกให้ เป็ นเมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี�ประจําปี พ.ศ. 2561 นัน� ถือเป็ นความภาคภูมิใจของชาวขอนแก่น คํากล่าวที�วา่ “ยามว่างจากนา ผูห้ ญิงทอผ้า ผูช้ ายจักสาน” น่าจะสะท้อนถึงวิถีชีวิตชาวอีสานที�ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ดี หลังว่างจากงานทํานาก็ปลูกหม่อนเลีย� งไหมปลูกฝ้ายเพื�อนําเส้นไหมและฝ้ายมาทอผ้ามัดหมี� ใช้ในครัวเรือนตลอดจนสวมใส่ในงานประเพณีตา่ งๆและเก็บเป็ นมรดกให้ลกู หลานสตรีอีสาน จึงเรียนรูก้ ารทอผ้าจากรุน่ สูร่ ุน่ จากผูเ้ ป็ นแม่หรือยายแม้การทอผ้าคือวิถีท�ีทาํ กันมานาน ในหลายจังหวัด หากแต่แหล่งวัตถุดบิ จะอยูท่ �ีขอนแก่น ทําให้มีเกษตรกรผูป้ ลูก ช่างทอผ้า ฟอกผ้า ย้อมสี ตลอดจนร้านค้าไหมและผลิตภัณฑ์จากหม่อมไหมมากมาย รวมไปถึงผ้ามัดหมี�ท�ีมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว
KHONKAEN MUDMEE
ลวดลายผ้ามัดหมี�ขอนแก่นส่วนใหญ่ได้รบั แรงบันดาลใจมาจากสิ�งที�พบเห็นในชีวิตประจําวันอย่างพืช สัตว์ เครือ� งมือเครือ� งใช้ และความเชื�อทางศาสนา เช่น ลายกง ลายโคม ลายหมากจับ ลายดอกคูน ลายขอพระเทพ ลายขันหมากเบ็ง ลายนาคเกีย� ว จึงมีการจําแนกลายหมี�พืน� ฐานหรือแม่ลายได้ 7 ลาย คือ ลายหมี�ขอ้ ลายหมี�โคม ลายหมี�บกั จับ ลายหมี�กง ลายหมี�ดอกแก้ว ลายหมี�ขอ และลายหมี�ใบไผ่ โดยแม่แบบลายเหล่านีย� งั มีการต่อยอดนํามาออกแบบลวดลายให้รว่ มสมัยและสร้างสรรค์ลายใหม่ เพื�อตอบรับตลาดที�กว้างขึน� เรือ� ยๆลายแคน แก่นคูน เกิดจากงานประกวดการออกแบบของจังหวัดขอนแก่น ลายแคนแก่นคูนเป็ นลายสะท้อน 7 อัตลักษณ์ของเมืองขอนแก่น คือ ลายแคน สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์, ลายโคม การสืบทอดภูมิปัญญาวัฒนธรรม, ลายกง อาณาเขตที�ได้รบั การอารักขาให้เกิดความมั�นคงปลอดภัยตลอดไป และลายบักจับหรือหมากจับ คือความรัก ความสามัคคีของชาวขอนแก่น โดยที�มาของชื�อนัน� มาจาก แคน-เสียงแห่งมนต์เสน่หข์ องขอนแก่น. แก่น-มหานครขอนแก่น และหมายถึงแก่นแท้อนั เป็ นที�มาของลาย และคูน-ต้นไม้ของพระราชา ดอกไม้ประจําจังหวัดขอนแก่น ซึง� นับตัง� แต่เกิดลายผ้าประจําจังหวัดขึน� เมื�อปี ท�ีผา่ นมา ก็ได้กลายเป็ นลายยอดนิยมที�มีผคู้ นสั�งทอ
KHONKAEN MUDMEE
KHONKAEN MUDMEE ลวดลายผ้ามัดหมี�ขอนแก่นส่วนใหญ่ได้รบั แรงบันดาลใจมาจากสิ�งที�พบเห็นในชีวิตประจําวันอย่างพืช สัตว์ เครือ� งมือเครือ� งใช้ และความเชื�อทางศาสนา เช่น ลายกง ลายโคม ลายหมากจับ ลายดอกคูน ลายขอพระเทพ ลายขันหมากเบ็ง ลายนาคเกีย� ว จึงมีการจําแนกลายหมี�พืน� ฐานหรือแม่ลายได้ 7 ลาย คือ ลายหมี�ขอ้ ลายหมี�โคม ลายหมี�บกั จับ ลายหมี�กง ลายหมี�ดอกแก้ว ลายหมี�ขอ และลายหมี�ใบไผ่ โดยแม่แบบลายเหล่านีย� งั มีการต่อยอดนํามาออกแบบลวดลายให้รว่ มสมัยและสร้างสรรค์ลายใหม่ เพื�อตอบรับตลาดที�กว้างขึน� เรือ� ยๆ ลายแคน แก่นคูน เกิดจากงานประกวดการออกแบบของจังหวัดขอนแก่น ลายแคนแก่นคูนเป็ นลายสะท้อน 7 อัตลักษณ์ของเมืองขอนแก่น คือ ลายแคน สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์, ลายโคม การสืบทอดภูมิปัญญาวัฒนธรรม, ลายกง อาณาเขตที�ได้รบั การอารักขาให้เกิดความมั�นคงปลอดภัยตลอดไป และลายบักจับหรือหมากจับ คือความรัก ความสามัคคีของชาวขอนแก่น โดยที�มาของชื�อนัน� มาจาก แคน-เสียงแห่งมนต์เสน่หข์ องขอนแก่น. แก่น-มหานครขอนแก่น และหมายถึงแก่นแท้อนั เป็ นที�มาของลาย และคูน-ต้นไม้ของพระราชา ดอกไม้ประจําจังหวัดขอนแก่น ซึง� นับตัง� แต่เกิดลายผ้าประจําจังหวัดขึน� เมื�อปี ท�ีผา่ นมา ก็ได้กลายเป็ นลายยอดนิยมที�มีผคู้ นสั�งทอ ที�บา้ นหนองบัวน้อย อําเภอพล ชุมชนท่อเที�ยวโอทอป นวัตวิถี เป็ นศูนย์เรียนรูท้ �ีจะได้เห็นกระบวนการครบวงจรตัง� แต่การปลูกหม่อนเลีย� งไหม ต้มไหม สาวไหม จากนัน� นําเส้นไหมไปกรอ ปั� นตีเกลียว มัดทําใจไหม ฟอกย้อม ก่อนเข้าสูก่ รรมวิธีการทอที�ตอ้ งใช้เส้นไหม 2 ชุด คือเส้นไหมยืนกับเส้นไหมพุง่ โดยเส้นไหมพุง่ นีน� าํ มามัดลวดลายและย้อมสี ที�เรียกว่า “มัดหมี�” คือการประดิษฐ์ลวดลายให้เกิดบนผืนผ้า ด้วยการใช้เชือกมัดเส้นไหมส่วนที�ไม่ตอ้ งการให้ตดิ สีเวลาย้อมเป็ นเปลาะ ภายใต้ขนั� ตอนจากมัด-ย้อม-โอบ-ถม แล้วจึงแก้หมี� คือแก้เชือกที�มดั หมี�แต่ละลําออกหลังจากย้อมแต่ละครัง� ดังนัน� กว่าจะได้ผา้ มัดหมี�แต่ละผืน ช่างทอจึงต้องวางแผนการทออย่างละเอียดลออ เป็ นศาสตร์และศิลป์ ขัน� สูง สําหรับสีท�ีเป็ นเอกลักษณ์ดงั� เดิมของผ้ามัดหมี� ขอนแก่น คือสีมว่ ง สีแดง สีเขียว สีเม็ดมะขาม แต่เอกลักษณ์ของบ้านหนองบัวน้อยจะอยูท่ �ีชายผ้าถุงเป็ นสีกลีบบัว รวมถึงเป็ นแหล่งต้นกําเนิดลาย “ฮีต 12” ที�เล่าถึงจารีตประเพณีอีสานประจํา 12 เดือน โดยสอดแทรกวิถีชีวิตชาวหนองบัวน้อยลงไปในผืนผ้าทอ เช่นเดียวกับผ้ามัดหมี�ของหลายกลุม่ ในจังหวัดที�มีการติดสัญลักษณ์นกยูงเป็ นเครือ� งหมายรับรองคุณภาพ โดยทําคิวอาร์โค้ดให้สแกนข้อมูลสินค้า ย้อนกลับไปถึงแหล่งผลิต วัตถุดบิ พันธุไ์ หม และชื�อช่างทอผ้า อันบ่งบอกถึงสถานะ คุณค่า และความเป็ นเอกลักษณ์ของผ้าทอ ที�สง่ ให้จงั หวัดขอนแก่นเป็ นเมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี� จนลือไกลไปทั�วโลกในเวลานี �
SITE
1
3
2
เส้นถนนหลัก
1
ทางรถไฟ ( กําลังสร้างในอนาคต )
2
พืน� ที� ว่าง (ไม่มีบา้ นอาคาร) บ้านพักอากาศ
3 4
ถนนเลียบเมืองข ถนนมะลิวลั ย์ ( ถ
ถนนเข้าสนามบิน ถนนในตัวเมืองข
SITE LOCATION
5.5 km
ขอนแก่น ถนนเส้นหลักที�ใช้เดินทางเข้าสนามบิน ) น ขอนแก่น
4
ตัวเมืองขอนแก่น Bus Taxi Car
TEMERATURE AVERVGE
26.9 C 1,246.8
PRECIPITATION AMOUNTS
mm/year
CLIMATE ANALYSIS
N
SKETCH IDEAS
SKETCH IDEAS
SKETCH IDEAS
SKETCH IDEAS
SKETCH IDEAS
SKETCH IDEAS
SKETCH IDEAS
SKETCH IDEAS
ช่องแสง
อาคาร จอดรถอาคารใหม่ รถไฟฟ้า
SKETCH IDEAS ที�เดินบนสุด ออกแบบเป็ นสวน
ขาออก ขาเข้า
SKETCH IDEAS
ขาเข้า ขาออก ส่วนของพนักงาน
SKETCH IDEAS
ทางเข้าขาออก
ทางเข้าขาเข้า
SKETCH IDEAS
SKETCH IDEAS
เส้นสีแดง รถไฟเข้าสนามบิน
SKETCH IDEAS
เส้นสีเหลือง ทางรถยนต์ ขาเข้ากับขาออก
อาคารที�จอดรถ 2
SKETCH IDEAS
อาคารที�จอดรถ 1
ทิศลม
SKETCH IDEAS
ทิศทางแสงเข้า
รถไฟ ทางรถยนต์ ขาเข้ากับขาออก
เสารองรับ รถไฟ
SKETCH IDEAS
หลังคา ชัน� บนสุด หลังคากระจก ชัน� 3 ชัน� 2 ชัน� 1