รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ โครงการ สรางความปลอดภัยจราจรแบบมีสวนรวม ในพื้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล
โดย สมพงษ หลีเคราะห
กรกฎาคม 2555
รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีส่วนร่ วมในพืน้ ทีอ่ าํ เภอละงู จังหวัดสตูล” สั ญญาเลขที่ ACC3 54010
โดย สมพงษ์ หลีเคราะห์ ศูนย์ประสานงานวิจยั เพื่อท้องถิ่นจังหวัดสตูล
สนับสนุนโดย โครงการศูนย์วิชาการความปลอดภัยทางถนน (ระยะที่ 3) มูลนิธิสาธารณสุ ขแห่งชาติ(มสช.) สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริ มสุ ขภาพ (สสส.)
เนือ้ หา
สารบัญ
หน้ า
1. บทสรุ ปผูบ้ ริ หาร
ก
2. บทที่ 1 บทนํา
1
3. บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง
13
4. บทที่ 3 กระบวนการทํางาน
14
5. บทที่ 4 ผลที่เกิดขึ้น
38
6. บทที่ 5 สรุ ปและข้อเสนอแนะ
49
7. ภาคผนวก
57
บทสรุ ปผู้บริหาร โครงการสร้างความปลอดภัยจราจรแบบมีส่วนร่ วมในพื้นที่อาํ เภอละงู จังหวัดสตูล ภายใต้การ สนับสนุนจากมูลนิธิสาธารณะสุ ขแห่งชาติ เพื่อต้องการสร้างพื้นที่รูปธรรม พร้อมกับสร้างกระบวนการ เรี ยนรู้กบั พื้นที่ใกล้เคียงในการแก้ปัญหา นําไปสู่ กลไกในการสร้างความปลอดภัยทางถนนระดับอําเภอ และ จังหวัด สตูล หลังจากการดําเนินการที่ผา่ นมามีการ 1)จัดประชุมพื้นที่ระดับชุมชนเพื่อทําความเข้าใจโครงการ นําเสนอประสบการณ์การแก้ปัญหา หรื อพัฒนาชุมชนผ่านเครื่ องมืองานวิจยั เพื่อท้องถิ่น 2)ประสาน หน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่ วม 3)เวทีประสานและเชื่อมโยงภาคีเครื อข่ายคน ข้อมูล ความรู้ ด้านความปลอดภัยเป็ นการนําเสนอข้อมูลความปลอดภัยทางถนนในระดับชุมชน 4)การพัฒนาโจทย์วิจยั เพื่อ ท้องถิ่นในประเด็นความปลอดภัยทางถนน และ 5)ในระหว่างการประชุมระดับชุมชนได้ชกั ชวนแกนนํา ชุมชน เข้าหน้าที่เข้าร่ วมเพื่อสร้างการเรี ยนรู ้กระบวนการทํางาน 6)ประสานหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อ ศึกษาข้อมูล และกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัญหาของการเกิดอุบตั ิภยั บนท้องถนน 7)จัดเวที ประสานและเชื่อมโยงภาคีเครื อข่ายคน ข้อมูล ความรู ้ ด้านความปลอดภัยทางถนนเพื่อส่ งเสริ มและ สนับสนุนให้หน่วยงานและภาคีเกิดกระบวนการมีส่วนร่ วมในด้านความปลอดภัยทางถนน 8)สร้างการ เรี ยนรู ้โดยลงพื้นที่ชุมชนเพื่อสร้างการเรี ยนรู ้ให้กบั แกนนํา Change Agent ในด้านการสร้างวัฒนธรรมความ ปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ระดับชุมชนและจังหวัด 9)จัดเวทีพฒั นาศักยภาพแกนนําระดับชุมชนเพื่อสร้าง แนวคิดงานวิจยั ท้องถิ่นเพื่อพัฒนาศักยภาพแกนนําระดับชุมชนเพื่อสร้างแนวคิดงานวิจยั ท้องถิ่น 10)พัฒนา โจทย์วจิ ยั เพื่อท้องถิ่นเพื่อพัฒนาโจทย์วิจยั ประเด็นอุบตั ิเหตุทางถนนในชุมชนและเพื่อส่ งเสริ มกระบวนการ เรี ยนรู้การดําเนินงานวิจยั เพื่อท้องถิ่นในชุมชน 11)ติดตามสนับสนุนโครงการวิจยั เพื่อท้องถิ่นเพื่อติดตาม สนับสนุนโครงการวิจยั เพื่อท้องถิ่นเพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน 12) การพัฒนาศักยภาพการ ดําเนินงานวิจยั เพื่อท้องถิ่น การเก็บข้อมูลแบบมีส่วนร่ วม และการบันทึกข้อมูลเพื่อให้นกั วิจยั ได้เข้าใจวิธีการ เก็บและบันทึกข้อมูลและเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักวิจยั เพื่อท้องถิ่นในการเก็บและบันทึกข้อมูลให้สามารถ นําไปใช้ได้จริ ง 13)การพัฒนาศักยภาพการดําเนิ นงานวิจยั เพื่อท้องถิ่น การวิเคราะห์จุดเสี่ ยง เพื่อให้นกั วิจยั ได้ร่วมกันค้นหาสาเหตุ สภาพปั ญหา และผลกระทบของจุดเสี่ ยงแต่ละพื้นที่เพื่อวิเคราะห์จุดเสี่ ยงที่จะ ดําเนินการวิจยั ต่อไป 14)การพัฒนาศักยภาพการดําเนิ นงานวิจยั เพื่อท้องถิ่นศึกษาดูงานเพื่อให้นกั วิจยั ได้ เรี ยนรู ้และแลกเปลี่ยนกระบวนการทํางานกับพื้นที่ที่มีประสบการณ์ทาํ งานวิจยั ในการสร้างความปลอดภัย ทางถนน 0
0
ผลที่เกิดขึ้นโดยรวม ดังนี้ ได้ขอ้ มูลเกิดอุบตั ิเหตุในพื้นที่ในพื้นชุมชน เช่น จุดเสี่ ยงในพื้นที่ และ ถนนสายรอง สถิติอุบตั ิเหตุ และวิธีการที่ใช้แก้ไขปัญหา ในระดับจังหวัดและระดับชุมชน รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า ก
1) ได้แกนนํา อาสาสมัครในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในระดับชุมชน และ เครื อข่าย มีความเข้าใจแนวทางการสร้างความปลอดภัยทางถนน มีการพัฒนาทักษะ การพูด การเขียน การวางแผนงานมากขึ้น นํารู ปแบบจากการวางแผนการวิจยั ไปทดลองใช้แก้ปัญหา การจราจร ส่ งผลต่อความมัน่ ใจแนวทางการทํางานมากขึ้น ไม่กลัวที่จะแลกเปลี่ยนกับเจ้าหน้าที่ แกนนําไปช่วยสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาโครงการในพื้นที่ชุมชนอื่นๆ ได้เรี ยนรู ้วธิ ี การ แบบ วิจยั เปลี่ยนความคิด ความรู ้สึกของคนในชุมชนเกี่ยวกับอุบตั ิเหตุ การแก้ปัญหา ซึ่ งเมื่อก่อน คิดว่างานนี้เป็ นบทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชาวบ้านเป็ นผูเ้ ข้าไปมีส่วนร่ วม 2) ได้แนวทางการมีส่วนร่ วมในด้านความปลอดภัยทางถนน คนทํางาน หน่วยงาน องค์กร งานวิจยั โครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องของอุบตั ิเหตุ มีการประสานความร่ วมมือในการจัด กิจกรรม มีแนวทางการประสานงานทํางานร่ วมกัน เช่น การนําข้อมูลความมาแลกเปลี่ยน ร่ วมกัน เกิดการประสานงานระหว่างหน่วยงานและชุมชนเข้าร่ วมกิจกรรมสร้างความปลอดภัย ทางถนน 3) มีการพัฒนาโจทย์ จนเกิดโครงการวิจยั สร้างความปลอดภัยทางถนนในระดับชุมชน 3โครงการ คือ ในพื้นที่ เขตเทศบาลตําบลกําแพง ตําบลกําแพง บ้านโกตา หมู่ที่ 7 ต.กําแพง และบ้านคลอง นํ้าเค็ม ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล โครงการทั้ง 3 กําลังดําเนินงานศึกษาข้อมูล แผนงานที่ได้รับการ สนับสนุน ในระยะ 1 ปี ของการดําเนิ นงาน รู ปธรรมที่กล่าวมาข้างต้น มาจากวิธีการพัฒนาแกนนําโดยใช้ “กระบวนการวิจยั ” เป็ นการเริ่ มต้นการทํางาน “จากการสร้างคน และไปสร้างรู ปธรรมการสร้างความ ปลอดภัยทางถนนในระดับชุ มชน” สําหรับการดําเนินการต่อเนื่ องจะเป็ นการถอดความรู ้ที่ได้รับการสนับสนุนงานวิจยั และการสร้าง การมีส่วนร่ วมผ่านข้อมูล และแก้ปัญหาร่ วมกัน จนเป็ นแนวทางการสร้างความปลอดภัยทางถนนที่นาํ ไปใช้ ต่อภายใต้กระบวนการเดิม
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า ข
1
บทที่ 1 บทนํา 1
ความเป็ นมา ปั ญหาอุบตั ิเหตุการจราจรของประเทศไทย โดยเฉพาะการจราจรทางบกถือเป็ นปั ญหาสําคัญ ระดับชาติ เนื่ องจากได้ก่อให้เกิดความสู ญเสี ยทั้งชีวติ และทรัพย์สิน โดยคนไทยเสี ยชีวติ จากอุบตั ิเหตุจราจร 2 คน ต่อชัว่ โมงเวลาปกติ และ 4 คนต่อชัว่ โมง ในช่วงเทศกาลปี ใหม่ และสงกรานต์ โดยค่าเฉลี่ยของมูลค่า ความสู ญเสี ยต่อกรณี เสี ยชีวติ เนื่องจากอุบตั ิเหตุทางถนนของประเทศไทยประมาณ 4-5 ล้านบาท ซึ่ งยังไม่ได้ รวมค่าเสี ยหายด้านจิตใจที่ประเมินค่าไม่ได้ การจะทําให้อุบตั ิเหตุทางถนน และความสู ญเสี ยอันเกิดจากอุบตั ิเหตุเหล่านั้นลดลงได้จาํ เป็ นต้อง อาศัยความร่ วมมือจากทุกภาคส่ วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตั้งแต่ระดับชาติไปจนถึงระดับท้องถิ่น ชุมชน และประชาชนผูใ้ ช้รถใช้ถนน โดยในส่ วนของภาครัฐนั้น ได้จดั ตั้งศูนย์อาํ นวยการความปลอดภัยทางถนน เพื่อเป็ นหน่วยงานหลัก ซึ่ งมีองค์ประกอบครบทุกภาคส่ วน ทําหน้าที่บูรณาการด้านนโยบาย และประสาน การปฏิบตั ิงานในการแก้ไขปั ญหาอุบตั ิเหตุทางถนน ทั้งในช่วงปกติและในช่วงเทศกาลสําคัญ ซึ่ งเกิด อุบตั ิเหตุและความสู ญเสี ยสู งกว่าช่วงปกติ ได้แก่เทศกาลปี ใหม่และสงกรานต์ โดยได้กาํ หนดยุทธศาสตร์ เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางถนน ไว้ 5 ด้าน คือ การบังคับใช้กฎหมาย ด้านวิศวกรรมจราจร ด้านการให้ ความรู ้การประชาสัมพันธ์ และการมีส่วนร่ วม ด้านการบริ การทางการแพทย์ฉุกเฉิ น และด้านประเมินผล ระบบสารสนเทศและวิชาการ สํานักงานป้ องกันละบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูลร่ วมกับกองกํากับการตํารวจภูธรจังหวัดสตูล จัดทําโครงการ ศึกษาวิเคราะห์ขอ้ มูลอุบตั ิเหตุทางถนนจังหวัดสตูล ปี 2551-2552 ภายใต้การสนับสนุนการ ดําเนินงานโดยสํานักงานสนับสนุนการดําเนินการป้ องกันอุบตั ิเหตุจราจรในระดับจังหวัด สํานักงานกองทุน การสร้างเสริ มสุ ขภาพ (สสส.) เพื่อทําการศึกษาและวิเคราะห์ขอ้ มูลการเกิดอุบตั ิเหตุทางถนนของจังหวัด สตูล โดยเฉพาะอุบตั ิเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่ งสาเหตุของอุบตั ิเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผูข้ บั ขี่ขาด ความรู ้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการใช้รถใช้ถนน การไม่ปฏิบตั ิตามกฎจราจร และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัยขณะ ขับขี่ ทําให้เมื่อประสบเหตุ จึงก่อให้เกิดความสู ญเสี ย ในลักษณะที่รุนแรงมากขึ้น สถิติการเกิดอุบัติเหตุในพืน้ ที่ จังหวัดสตูลเทศกาลปี ใหม่ 1
1
1
1
1
1
ปี
การเกิดอุบัติเหตุ(ครั้ง)
ผู้บาดเจ็บ(คน)
ผู้เสี ยชีวติ (คน)
2553
21
20
4
2552
17
21
1
2551
16
21
1
2550
27
30
4
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 1
สถิติการเกิดอุบัติเหตุในพืน้ ที่ จังหวัดสตูลเทศกาลสงกรานต์ ปี
การเกิดอุบัติเหตุ(ครั้ง)
ผู้บาดเจ็บ(คน)
ผู้เสี ยชีวติ (คน)
2553
27
29
5
2552
22
22
2
2551
13
17
1
2550
13
15
1
2549
27
30
4
จังหวัดสตูลเป็ นมีสถานที่ท่องสําคัญรับนักท่องเที่ยวในประเทศไทย และจากทัว่ โลก เดินทางเข้า ตามสถานที่ต่างๆ เช่น เกาะตะรุ เตา เกาะอาดัง เกาะหลีเป๊ ะ เกาะราวี เกาะบุโหลน ถํ้าภูผาเพชร ถํ้าเจ็ดคต นํ้าตกวังสายทอง แหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวมีตวั อําเภอละงู จังหวัดสตูลเป็ นเส้นทางสู่ แหล่งท่องเที่ยว อีกทั้งเป้ นตลาดที่ คนเกือบทุกพื้นที่ในจังหวัดสตูล มาจับจ่ายซื้อของ โดยมีทางแยกที่เป็ นจุดคอขวดในการจราจร ดังนี้ 1. ทางหลวงแผ่นดิน สายละงู – ฉลุง เป็ นเส้นทางที่มีการสัญจรไปยัง อําเภอท่าแพ ตัวเมืองสตูล อําเภอ ควนโดน อําเภอควนกาหลง และอําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และเป็ นเส้นทางผ่านไปยังอําเภอ ทุ่งหว้า ต่อไปจังหวัดตรัง มีรถเกือบทุกประเภทวิง่ ผ่านถนนสายนี้ แยกต่างๆดังนี้ สามแยกไปตลาด ละงู สามแยกไปเขาขาว วังสายทอง สามแยกไปจังหวัดตรัง สี่ แยกคลองขุด 2. ทางหลวงชนบท สายบ้านโกตา – บ้านวังสายทอง เป็ นเส้นทางหลักที่ไปยังตําบลเขาขาว ตําบลนํ้า ผุด อําเภอละงู และไปอําเภอมะนัง มีการสถานที่ท่องเที่ยวหลัก เช่น ถํ้าภูผาเพชร ล่องแก่ง นํ้าตกวัง สายทอง 3. ถนนสายเข้าตลาดละงู (เส้นทางเข้าสู่ ตลาดละงู) สี่ แยกปากปิ ง สี่ แยกมหาจัน 4. ถนนสายละงู – ปาบารา สามแยกไปบากันโต๊ะทิด สามแยกเข้าบานเกาะยวน 1
1
1
1
1
การเกิดอุบตั ิเหตุบนถนนมีให้เห็นเป็ นประจํา ทั้งได้รับบาดเจ็บ หรื อเสี ยชีวติ อันเนื่ องจากไม่มี สัญญาณไฟจราจร การป้ องกันในการขับขี่ ลักษณะทางกายภาพของถนน อีกทั้งขณะนี้ มีกาํ ลังขยายช่องทาง การจราจร เป็ น 4 ช่องจราจรโดยที่ไม่มีเกาะกลางถนน อนาคตรถวิง่ ผ่านจะใช้ความเร็ วมากขึ้น การข้ามถนน ของผูเ้ ดินทาง และรถเมื่อจะข้ามบริ เวณทางแยก จะลําบากมาขึ้น อัตราการเกิดอุบตั ิเหตุจะมากขึ้นตามลําดับ การสร้างความปลอดภัยทางถนนในจุดดังกล่าวจําเป็ นต้องการสร้างการมีส่วนร่ วมจากหลายฝ่ ายเพื่อหา มาตรการป้ องกัน และแก้ไขปั ญหา 1
1
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 2
โครงการสร้างความปลอดภัยจราจรแบบมีส่วนร่ วมในพื้นที่อาํ เภอละงู จังหวัดสตูล ด้วยการสร้าง พื้นที่รูปธรรมพร้อมกับสร้างกระบวนการเรี ยนรู ้กบั พื้นที่ใกล้เคียงในการแก้ปัญหา นําไปสู่ กลไกในการ สร้างความปลอดภัยทางถนนระดับอําเภอ และจังหวัดต่อไป 1
1
วัตถุประสงค์ 1. เพื่อสนับสนุนให้ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และหน่วยงานระดับจังหวัด เข้ามามีส่วน ร่ วมในการกระบวนการเรี ยนรู ้ ด้านความปลอดภัยทางถนน 2. เพื่อแสวงหา และพัฒนาศักยภาพแกนนํา Change Agent ในด้านการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ทางถนนในพื้นที่ระดับชุมชนและจังหวัด 3. เพื่อหนุ นเสริ มให้เกิดโครงการวิจยั เพื่อท้องถิ่นด้านการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนให้ ได้อย่างน้อย 3 โครงการ 4. เพื่อค้นหาแนวทางในการสร้างความปลอดภัยทางถนนระดับพื้นที่ระดับชุมชน 5. เพื่อวิเคราะห์และสังเคราะห์ชุดความรู ้จากการดําเนินโครงการวิจยั เพื่อท้องถิ่นด้านการสร้าง วัฒนธรรมความปลอดภัยและขับเคลื่อนสู่ การสร้างกระบวนการนโยบายสาธารณะด้านความ ปลอดภัยทางถนน 1
1
กระบวนการทํางาน ระยะที่ 1 เน้นแสวงหาและพัฒนาศักยภาพแกนนํา Change Agent และพัฒนาให้เกิดโครงการวิจยั ที่สามารถ พัฒนาไปสู่ การเป็ นพื้นที่ตน้ แบบในด้านการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนน ในกระบวนการมี การประสานงาน สร้างความร่ วมมือระหว่างหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับพื้นที่และระดับจังหวัด มาขับเคลื่อนเรี ยนรู ้ร่วมกันในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนน โดยการลงพื้นที่ การจัดเวที แลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ และการเชื่อมโยงข้อมูล ระยะที่ 2 และ 3 เน้นการติดตามหนุนเสริ มโครงการวิจยั จากระยะที่ 1 อย่างต่อเนื่องให้สามารถยกระดับไปสู่ การเป็ น พื้นที่ตน้ แบบในด้านการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน พัฒนาแกนนํา Change Agent และกลไก การเชื่อมโยงเครื อข่ายความร่ วมมือระหว่างหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่ วนท้องถิ่น ภาค ประชาสังคมและองค์กรชุมชน ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ทั้งในระดับ จังหวัดและระดับชุมชน โดยการเชื่ อมโยงข้อมูลเป็ นเครื อข่ายการเรี ยนรู ้ในด้านวัฒนธรรมความปลอดภัย ทางถนน เพื่อเป็ นกลไกสําคัญที่จะผลักดันให้ประเด็นการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนไปสู่ นโยบายของตําบล อําเภอและจังหวัด รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 3
1
พืน้ ทีเ่ ป้าหมาย (พืน้ ทีเ่ สี่ ยง) 1. ทางหลวงแผ่นดิน สายละงู – ฉลุง 2. ทางหลวงชนบท สายบ้านโกตา – บ้านวังสายทอง 3. ถนนสายละงู – ปากบารา 1
1
1
1
กลุ่มเป้าหมาย 1. ชาวบ้าน ม.7 บ้านโกตา หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 ตลาดละงู ตําบลกําแพง อําเภอละงู 2. ชาวบ้าน ม.16 บ้านคลองนํ้าเค็ม ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล 3. ผูน้ าํ ในท้องถิ่นแต่ละหมู่บา้ น 4. หน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การบริ หารส่ วนตําบลกําแพง เทศบาลตําบลกําแพง องค์การ บริ การส่ วนตําบลละงู แขวงการทางสตูล สํานักงานทางหลวงชนบท สถานีตาํ รวจภูธร สาธารณสุ ข โรงพยาบาลละงู อื่นๆ 5. เครื อข่ายนักวิชาการและพี่เลี้ยง สอจร.ในระดับพื้นที่ 1
1
1
1
วิธีการดําเนินโครงการ 1. ประสานและเชื่อมโยงภาคีเครื อข่ายคน ข้อมูล ความรู ้ ด้านความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ 2. จัดเวทีพฒั นาศักยภาพแกนนําระดับชุมชนเพื่อสร้างแนวคิดงานวิจยั ท้องถิ่น 3. พัฒนาโจทย์วจิ ยั เพื่อท้องถิ่นในประเด็นความปลอดภัยทางถนน 4. ติดตามสนับสนุ นโครงการวิจยั เพื่อท้องถิ่นเพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน 5. การพัฒนาศักยภาพการดําเนิ นงานวิจยั เพื่อท้องถิ่นที่เชื่อมโยงประเด็นความปลอดภัยทางถนน เช่น การเก็บข้อมูลแบบมีส่วนร่ วม การวิเคราะห์จุดเสี่ ยง การถอดบทเรี ยน การศึกษาดูงานเรี ยนรู้ ประสบการณ์การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนถนนโดยการมีส่วนร่ วมของชุมชน เป็ นต้น 6. เชื่อมร้อยภาคีเครื อข่ายนักวิชาการ เครื อข่ายภาคประชาสังคม 7. เวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสรุ ปบทเรี ยนการดําเนิ นงานความปลอดภัยทางถนน 8. วิเคราะห์ขอ้ มูลจากผลการดําเนินงานเพื่อกําหนดแนวทางในการสร้างความปลอดภัยทางถนนระดับ พื้นที่ระดับจังหวัด และระดับชุมชน 9. สังเคราะห์ชุดความรู ้และจัดทําข้อเสนอเชิงนโยบายสู่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 4
แผนงานโครงการ วัตถุประสงค์ วิธีการ กิจกรรม 1. เพื่อสนับสนุนให้ 1. ศึกษาข้อมูลจากเอกสาร ผูร้ ู ้ 1. ลงพื้นที่ระดับชุมชน ชุมชน และหน่วยงาน และหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อ 2. ประสานหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ Mapping คน ข้อมูลความรู ้ องค์กรที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานระดับ และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง 3. จัดเวทีประสานและ จังหวัด เข้ามามีส่วน 2. นําเสนอข้อมูล และวิเคราะห์ เชื่อมโยงภาคีเครื อข่าย ร่ วมในการ คน ข้อมูล ความรู ้ ด้าน ข้อมูลร่ วมกันระหว่าง กระบวนการเรี ยนรู ้ ความปลอดภัยทาง หน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้อง ถนน ทั้งในระดับพื้นที่และระดับ ด้านความปลอดภัย จังหวัด ทางถนน 3. จัดเวทีทาํ ความเข้าใจโครงการ ร่ วมกับชุมชน 4. ประสานเชื่อมโยงให้กลุ่มคน ที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่ วม ในการทํากิจกรรมวิจยั ต่างๆ ในพื้นที่ 1
1
1
2. เพื่อแสวงหา และ พัฒนาศักยภาพแกน นํา Change Agent ใน ด้านการสร้าง วัฒนธรรมความ ปลอดภัยทางถนนใน พื้นที่ระดับชุมชนและ จังหวัด
1. ลงพื้นที่ แลกเปลี่ยนพูดคุย และเปิ ดเวทีกบั ชุมชน เป้ าหมาย หน่วยงานภาคีที่ เกี่ยวข้อง 2. จัดประชุมแลกเปลี่ยน เรี ยนรู้ และสรุ ปผลการ ดําเนินงานร่ วมกับกลุ่ม แกนนํา Change Agent
ผลทีค่ าดว่ าจะได้ รับ 1. ได้ขอ้ มูลเกิดลด อุบตั ิเหตุ 2. ได้แกนนํา อาสาสมัครในการ สร้างวัฒนธรรมความ ปลอดภัยทางถนนใน พื้นที่ 3. ได้แนวทางการมีส่วน ร่ วมในด้านความ ปลอดภัยทางถนน 4. ได้ชุดความรู้ คนทํางาน หน่วยงาน องค์กร งานวิจยั โครงการต่างๆที่ เกี่ยวข้องกับเรื่ องของ อุบตั ิเหตุ 1. จัดเวทีแลกแลกเปลี่ยน 1. เกิดแกนนํา Change เรี ยนรู้เครื อข่ายสร้าง Agent ในด้านการ ความปลอดภัยทางถนน สร้างวัฒนธรรม นักวิชาการ เครื อข่าย ความปลอดภัยทาง ภาคประชาสังคม ถนนในพื้นที่ระดับ ชุมชนและจังหวัด 2. ลงพื้นที่ชุมชนเพื่อสร้าง การเรี ยนรู ้ 2. เกิดการเรี ยนรู้ใน การสร้างวัฒนธรรม ความปลดภัยทาง ถนน
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 5
วัตถุประสงค์ 3. เพื่อหนุนเสริ มให้เกิด โครงการวิจยั เพื่อ ท้องถิ่นด้านการสร้าง วัฒนธรรมความ ปลอดภัยทางถนนให้ ได้อย่างน้อย 3 โครงการ
4 เพื่อค้นหาแนวทางใน การสร้างความ ปลอดภัยทางถนน ระดับพื้นที่ระดับ ชุมชนและระดับ จังหวัด
วิธีการ 1. สนับสนุนแกนนําChange Agent พัฒนา และติดตาม สนับสนุนโครงการวิจยั อย่างน้อย 4 โครงการต่อปี 2. พัฒนาและหนุนเสริ ม ศักยภาพทีมวิจยั
1. วิเคราะห์ขอ้ มูลการสร้าง
กิจกรรม ผลทีค่ าดว่ าจะได้ รับ 1. จัดเวทีพฒั นาศักยภาพ 1. แกนนําได้วธิ ี การ แกนนําระดับชุมชนเพื่อ การสร้างความ สร้างแนวคิดงานวิจยั ปลอดทางถนน ท้องถิ่น 2. เกิดโครงการวิจยั 3 โครงการ 2. พัฒนาโจทย์วจิ ยั เพื่อ 3. ได้รู้สถานการณ์การ ท้องถิ่น ดําเนินการ 3. ติดตามสนับสนุ น โครงการวิจยั เช่น โครงการวิจยั เพื่อ ผลที่เกิดขึ้น ปั ญหา ท้องถิ่น แนวทางการทํางาน 4. จัดอบรมการพัฒนา ศักยภาพการดําเนินงาน 4. แกนนํามีทกั ษะ ความรู ้ในการ วิจยั เพื่อท้องถิ่น เช่น ดําเนินงานด้าน การเก็บข้อมูลแบบมี ส่ วนร่ วม การวิเคราะห์ จุดเสี่ ยง การถอด บทเรี ยน การศึกษาดูงาน เรี ยนรู ้ประสบการณ์การ 6. การสร้างวัฒนธรรม สร้างวัฒนธรรมความ ความปลอดภัยบน ปลอดภัยบนถนนโดย ท้องถนน การมีส่วนร่ วมของชุมชน มีการแลกเปลี่ยน 5. เวทีแลกเปลี่ยน เรี ยนรู้การดําเนินงาน ประสบการณ์และสรุ ป ระหว่างพื้นที่ บทเรี ยนการดําเนินงาน 2. จัดเวทีวิเคราะห์ขอ้ มูล 1. ได้รูปแบบแนว
ความปลอดภัยทางถนนของ
จากผลการดําเนิ นงาน
ทางการสร้างความ
แต่ละพื้นที่
เพื่อกําหนดแนวทางใน
ปลอดภัยทางถนน
การสร้างความปลอดภัย
ระดับพื้นที่ระดับ
ทางถนน
ชุมชนและระดับ
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
จังหวัด หน้า 6
วัตถุประสงค์ 5 เพื่อสังเคราะห์ชุด ความรู ้จากการดําเนิ น โครงการวิจยั เพื่อ ท้องถิ่นด้านการสร้าง วัฒนธรรมความ ปลอดภัยและ ขับเคลื่อนสู่ การสร้าง กระบวนการนโยบาย สาธารณะด้านความ ปลอดภัยทางถนน
วิธีการ กิจกรรม ผลทีค่ าดว่ าจะได้ รับ 1. สังเคราะห์ชุดความรู ้จากการ 2. เวทีสังเคราะห์ชุดความรู ้ 1. เกิดชุดความรู ้จาก ดําเนินโครงการวิจยั เพื่อ และจัดทําข้อเสนอเชิง การดําเนิน ท้องถิ่นด้านการสร้างความ นโยบาย โครงการวิจยั เพื่อ ปลอดภัยทางถนน ท้องถิ่นด้านการ 3. นําเสนอเวทีองค์ความรู ้ สร้างวัฒนธรรม สู่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ความปลอดภัยและ ขับเคลื่อนสู่ การ สร้างกระบวนการ นโยบายสาธารณะ ด้านความปลอดภัย ทางถนน 2. ชุมชน ภาคี หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องมาร่ วมรับรู้ และขับเคลื่อนไปสู่ นโยบายสาธารณะ ด้านความปลอดภัย บนท้องถนน
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 7
ผลทีค่ าดว่าจะได้ รับ (Outputs) ระยะเวลา กิจกรรม ระยะที่ 1 1. ลงพื้นที่ระดับชุมชน กุมภาพันธ์ 2554 – มกราคม 2555 1
1
2. ประสานหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้อง 3. จัดเวทีประสานและเชื่อมโยงภาคีเครื อข่าย คน ข้อมูล ความรู ้ ด้านความปลอดภัยทาง ถนน 4. จัดเวทีแลกแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้เครื อข่าย สร้างความปลอดภัยทางถนน นักวิชาการ เครื อข่ายภาคประชาสังคม 5. สร้างการเรี ยนรู ้โดยลงพื้นที่ชุมชน 7. จัดเวทีพฒั นาศักยภาพแกนนําระดับชุมชน เพื่อสร้างแนวคิดงานวิจยั ท้องถิ่น 8. พัฒนาโจทย์วจิ ยั เพื่อท้องถิ่น
ผลทีค่ าดว่ าจะได้ รับ • ได้ขอ้ มูลเกิดลดอุบตั ิเหตุ • ได้แกนนํา อาสาสมัครในการสร้างวัฒนธรรม ความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ • ได้ขอ้ มูล แนวทางการมีส่วนร่ วมในด้านความ ปลอดภัยทางถนน • ได้ชุดความรู ้ คนทํางาน หน่วยงาน องค์กร งานวิจยั โครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องของ อุบตั ิเหตุ • เกิดแกนนํา Change Agent ในด้านการสร้าง วัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ ระดับชุมชนและจังหวัด • เกิดการเรี ยนรู ้ในการสร้างวัฒนธรรมความปลด ภัยทางถนน • แกนนําได้วธิ ี การการสร้างความปลอดทาง ถนน • เกิดโครงการวิจยั 3โครงการ 1
9. ติดตามสนับสนุ นโครงการวิจยั เพื่อท้องถิ่น • ได้รู้สถานการณ์การดําเนินการโครงการวิจยั เช่น ผลที่เกิดขึ้น ปั ญหา แนวทางการทํางาน 10. จัดอบรมการพัฒนาศักยภาพการ • แกนนํามีทกั ษะความรู ้ในการดําเนินงานการ ดําเนินงานวิจยั เพื่อท้องถิ่น เช่น การเก็บ เก็บข้อมูล และการวิเคราะห์ดา้ นการสร้าง ข้อมูลแบบมีส่วนร่ วม การวิเคราะห์จุด วัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนน เสี่ ยง 11. เวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสรุ ป • มีการแลกเปลี่ยนเรี ยนรู ้การดําเนินงานระหว่าง บทเรี ยนการดําเนินงานในพื้นที่ พื้นที่ ระยะที่ 2 1. จัดเวทีแลกแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้เครื อข่าย • เกิดแกนนํา Change Agent ในด้านการสร้าง กุมภาพันธ์ 2555 สร้างความปลอดภัยทางถนน นักวิชาการ วัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ – พฤษภาคม เครื อข่ายภาคประชาสังคม ระดับชุมชนและจังหวัด 2556 2. สร้างการเรี ยนรู ้โดยลงพื้นที่ชุมชน • เกิดการเรี ยนรู ้ในการสร้างวัฒนธรรมความ ปลอดภัยทางถนน รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 8
กิจกรรม 3. ติดตามสนับสนุ นโครงการวิจยั เพื่อ ท้องถิ่น 4. อบรมพัฒนาศักยภาพการดําเนินงานวิจยั เพื่อท้องถิ่น เช่น การถอดบทเรี ยน การศึกษาดูงานเรี ยนรู ้ประสบการณ์การ สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนถนน โดยการมีส่วนร่ วมของชุมชน และการ เขียนรายงาน ระยะที่ 2 5. เวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสรุ ป กุมภาพันธ์ 2555 บทเรี ยนการดําเนินงานในพื้นที่ – พฤษภาคม 6. จัดเวทีวิเคราะห์ขอ้ มูลจากผลการ 2556 ดําเนินงานเพื่อกําหนดแนวทางในการ 1
ระยะเวลา
1
สร้างความปลอดภัยทางถนนระดับชุมชน 7. เวทีสังเคราะห์ชุดความรู้และจัดทํา ข้อเสนอเชิงนโยบาย
8. นําเสนอเวทีองค์ความรู ้สู่หน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง
ผลทีค่ าดว่ าจะได้ รับ • ได้รู้สถานการณ์การดําเนินการโครงการวิจยั เช่น ผลที่เกิดขึ้น ปั ญหา แนวทางการทํางาน • แกนนํามีทกั ษะความรู ้ในการดําเนินงานด้าน การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้อง ถนน 1
• มีการแลกเปลี่ยนเรี ยนรู ้การดําเนินงานระหว่าง พื้นที่ • ได้รูปแบบแนวทางการสร้างความปลอดภัย ทางถนนระดับพื้นที่ระดับชุมชนและระดับ จังหวัด • เกิดชุดความรู ้จากการดําเนิ นโครงการวิจยั เพื่อ ท้องถิ่นด้านการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย และขับเคลื่อนสู่ การสร้างกระบวนการนโยบาย สาธารณะด้านความปลอดภัยทางถนน • ชุมชน ภาคีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่ วมรับรู้ และขับเคลื่อนไปสู่ นโยบายสาธารณะด้าน ความปลอดภัยบนท้องถนน
ระยะเวลาดําเนินการ ระยะที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 – มกราคม 2555 ระยะที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 – พฤษภาคม 2556 ประโยชน์ ทคี่ าดว่ าจะได้ รับจากโครงการ (Outcomes) 1. ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และหน่วยงานระดับจังหวัด เข้ามามีส่วนร่ วมในการ กระบวนการเรี ยนรู ้ ด้านความปลอดภัยทางถนน 1
1
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 9
2. ได้แกนนํา Change Agent ในด้านการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ระดับชุมชน และจังหวัด 3. เกิดโครงการวิจยั เพื่อท้องถิ่นด้านการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนให้ได้อย่างน้อย 3 โครงการ 4. ได้แนวทางในการสร้างความปลอดภัยทางถนนระดับพื้นที่ระดับชุมชน และจังหวัด 5. เกิดชุดความรู ้จากการดําเนิ นโครงการวิจยั เพื่อท้องถิ่นด้านการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยและ ขับเคลื่อนสู่ การสร้างกระบวนการนโยบายสาธารณะด้านความปลอดภัยทางถนน
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 10
กรอบการทํางาน
นโยบาย สาธารณะ Change Agent
กระบวนการวิจัยมีส่วนร่ วม ออกแบบ ศึกษา วิเคราะห์ /วางแผน ทดลอง สรุ ปผล
ชุ มชนวิจัย Node action
แลกเปลีย่ น เรียนรู้
หน่ วยงาน
ชุ ดความรู้
แนวทางสร้ างความปลอดภัยทาง ถนนระดับพืน้ ที่ ปั ญหาถูกแก้
ชุ มชนวิจัย ชุ มชนวิจัย
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 11
1
ตารางปฏิทนิ การปฏิบัติงานระยะที่ 1 (เดือนกุมภาพันธ์ 2554 – เดือนมกราคม 2555) ก.พ. มี.ค. เม.ย พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย.
กิจกรรม จัดประชุมพื้นที่ระดับชุมชน ประสานหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้อง เวทีประสานและเชื่ อมโยงภาคีขอ้ มูล ความรู ้ สร้างการเรี ยนรู ้โดยลงพื้นที่ชุมชน จัดเวทีพฒั นาศักยภาพแกนชุ มชนเพื่อสร้าง แนวคิดงานวิจยั ท้องถิ่น พัฒนาโจทย์วจิ ยั เพื่อท้องถิ่น 1
1
1
1
1
1
1
1
1
1
ต.ค.
1
พ.ย.
1
ธ.ค.
1
ม.ค.
ติดตามสนับสนุ นโครงการวิจยั เพื่อท้องถิ่น การพัฒนาศักยภาพการดําเนิ นงานวิจยั เพื่อ ท้องถิ่น • การเก็บข้อมูลแบบมีส่วนร่ วม และ การบันทึกข้อมูล • การวิเคราะห์จุดเสี่ ยง • การศึกษาดูงานเรี ยนรู ้ประสบการณ์ เวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสรุ ป บทเรี ยนการดําเนินงานในพื้นที่ การจัดทํารายงาน รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 12
30
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยทีเ่ กี่ยวข้ อง จากการดําเนินงานในช่วงแรกของระยะที่ 1 พบว่า จากการรวบรวมข้อมูล ประสานค้นหาพัฒนา แกนนําและโครงการวิจยั ดังนี้ 1. ข้ อมูลการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในจังหวัดสตูล ตาราง 1 สถิติอุบตั ิเหตุการจราจรทางบกและความเสี ยหายในจังหวัดสตูล สถิติอุบตั ิเหตุการจราจร จํานวนอุบตั ิเหตุ จํานวนคนตาย/บาดเจ็บ 1. ตาย 2. บาดเจ็บ ทรัพย์สินเสี ยหาย
ปี 2550 748 888 56 832 10,317,900
ปี 2551 606 841 56 785 9,626,500
1) สํานักงานสถิติ จ.สตูล 2) สํานักงานป้ องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สตูล ตาราง 2 สถิติอุบตั ิเหตุการจราจรทางบกและความเสี ยหายใน เขตอําเภอละงู
ปี 2553 613 789 63 724 3,599,915
แหล่งข้อมูล
รายการ/ ปี
จํานวน (ครั้ง) 162 153 98 129
ปี 2550 ปี 2551 ปี 2552 ปี 2553
ผูเ้ สี ยชีวติ (คน) 24 8 5
ผูบ้ าดเจ็บ (คน) 221 176 128
มูลค่าความเสี ยหาย ( บาท) 2,275,100 2,056,200 979,900
มาตรการ 3ม. 2ข ไม่สวมหมวกนิรภัย 85% 85.9% 87% 88%
ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 90.7% 85% 81% 84%
แหล่งข้อมูล 1) ตํารวจภูธร จ.สตูล (หมวดงานจราจร) ตารางที่ 3 สถิติขอ้ มูลอุบตั ิเหตุจราจรทางบกอําเภอละงู รายการ / ปี ปี 2551 ปี 2552 ปี 2553 ปี 2554 (8 เดือน)
ผูบ้ าดเจ็บ (ราย) 1,187 1,257 1,051 911
แหล่งข้อมูล
เสี ยชีวติ (ราย) 16 7 14 5
เมาสุรา 27.9% 20.4% 20.5% 19.2%
1) โรงพยาบาลละงู
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 13
บทที่ 3 วิธีการดําเนินงาน โครงการสร้างความปลอดภัยจราจรแบบมีส่วนร่ วมในพื้นที่อาํ เภอละงู จังหวัดสตูล มีเป้ าหมายเพื่อ สร้างพื้นที่รูปธรรมพร้อมกับสร้างกระบวนการเรี ยนรู ้กบั พื้นที่ใกล้เคียงในการแก้ปัญหาความปลอดภัยทาง ถนน นําไปสู่ กลไกในการสร้างความปลอดภัยทางถนนระดับอําเภอ และจังหวัด ศูนย์ประสานงานวิจยั เพื่อ ท้องถิ่น จังหวัดสตูล คุณสมพงษ์ หลีเคราะห์ หัวหน้าโครงการ คุณจักรกริ ช ติงหวัง เจ้าหน้าที่โครงการ คุณ วิรัช โอมณี ที่ปรึ กษา และผูใ้ หญ่บา้ นบ้านโกตา ตําบลกําแพง อําเภอละงู จังหวัดสตูล ทําหน้าที่หวั หอก สําคัญในการประสาน และผูม้ ีประสบการณ์ในการทําวิจยั เพื่อท้องถิ่น พ.ต.ท.บุญเลิศ ตรัสศิริ สว.สส.สภ. ละงู จังหวัดสตูล คุณอาเสส หนูวงค์ รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตําบลกําแพง อําเภอละงู จังหวัดสตูล ต่อไปนี้ขอเรี ยกกว่า “คณะทํางาน” มีกระบวนการทํางานดังนี้ 1
1. จัดประชุ มพืน้ ทีร่ ะดับชุ มชน ในโครงการได้กาํ หนดพื้นที่การดําเนินงาน ไว้ 3 พื้นที่ คือ บ้านโกตาขององค์การบริ หารส่ วนตําบล กําแพง เขตเทศบาลตําบลกําแพงของเทศบาลตําบลกําแพง และบ้านคลองขุดขององค์การบริ หารส่ วนตําบล ละงู เพื่อคาดหวังใช้เป็ นพื้นที่รูปธรรมในการสร้างความปลอดภัยทางถนน ทํางานร่ วมท้องถิ่น และ หน่วยงานรัฐอื่นๆ เช่น ตํารวจ โรงพยาบาล สํานักงานป้ องกันและบรรเทาสาธารณะภัย เมื่อคณะทํางานโครงการได้นดั หมายผูน้ าํ พื้นที่ใน 3 ชุมชน เพื่อทําความเข้าใจ โครงการทั้งหมดมี การตกลงเข้าร่ วมกระบวนการทํางาน ท่ามกลางความสงสัย งงกับสิ่ งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนซึ่ งมี 2 คือ หนึ่ ง งานวิจยั เพื่อท้องถิ่น ที่ชาวบ้านเป็ นผูว้ ิจยั เอง “จริ งหรื อที่ชาวบ้านทําได้” สอง การสร้างความปลอดภัยทาง ถนนเดิมเป็ นหน้าที่ของหน่วยงาน ตํารวจ ท้องถิ่น “อยูๆ่ ให้ชาวบ้านลุกขึ้นทําเอง” ซึ่งเปลี่ยนหน้ามือเป็ นหลัง มือ ด้วยความตั้งใจของผูน้ าํ ที่อยากทํางาน เพื่อแก้ปัญหาที่เป็ นอยู่ ก็ตกลงรับปากให้มีการจัดประชุมเพื่อ ทําความเข้าใจในระดับชุมชนทั้ง 3 ชุมชน มีการพนัดหมายแกนนําจัดขึ้น ชุมชนละ 2 ครั้ง เนื่ องจากครั้งแรก เป็ นการทําความเข้าใจแกนนําชุมชนที่ผนู ้ าํ สามารถประสานได้ เมื่อนัดครั้งที่ที่สองผูเ้ ข้าร่ วมมีจาํ นวนเพิ่มขึ้น โดยคณะทํางานได้จดั ทําเอกสารข้อมูลการวิจยั เพื่อท้องถิ่น ประสบการณ์การทําวิจยั เพื่อท้องถิ่น สํานักงาน กองทุนสนับสนุนการวิจยั (สกว.) ข้อมูลองค์กรการสนับสนุนการทํางาน ศูนย์วชิ าการสร้างความปลอดภัย ทางถนน (ศวปถ.) และสํานักงานกองทุนสนับสร้างเสริ มสุ ขภาพ (สสส.) ข้อมูลอุบตั ิเหตุบนถนนในประเทศ ไทย และตีวงให้แคบลงมาจังหวัดสตูล และอําเภอละงู เอกสารที่แจกกสร้างความมึนงงให้กบั ผูเ้ ข้าร่ วมพอสมควร เนื่ องจากการประชุมที่ผา่ นมา “เอกสาร ประกอบกรประชุมไม่ค่อยมี มีแต่การบอกเล่าทําความเข้าใจเพียงอย่างเดียว” และไม่ชินกับการอ่านเอกสาร 1
1
1
1
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 14
อีกทั้งการประชุมใช้เวลากลางคืน สองทุ่ม (20.00น.) หลายคนสายตามองไม่ค่อยเห็น ไม่มีแว่นตา (ไม่รู้วา่ มี เอกสาร) คณะทํางานบอกในที่ประชุม “คราวหลังให้นาํ แว่นตามาด้วย มีเอกสารสรุ ปการพูดคุยแจกทุกครั้ง” นอกเหนื อจากเอกสาร แล้วคณะทํางานได้ทาํ ความเข้าใจโดยการเขียนชาร์ ต เพื่อทําความเข้าใจ และ เติมเต็มจากเอกสารในเรื่ อง ความสําเร็ จของชุมชนที่นาํ กระบวนการวิจยั ไปใช้แก้ปัญหา และพัฒนาชุมชน การพัฒนาคนทํางานภายใต้การวิจยั ที่นกั วิจยั ชาวบ้าน ต้องเขียน ต้องพูด สุ ดท้ายสามารถทํารายงานวิจยั ฉบับ สมบูรณ์โครงการวิจยั ที่เป็ นเรื่ องยาก แม้แต่ครู ยงั กลัว จากงานวิจยั เข้าเรื่ องความปลอดภัยทางถนน ให้ขอ้ มูลการเกิดอุบตั ิในระดับต่างๆ และชวน วิเคราะห์การแก้ปัญหาที่ผา่ นมา “ทําโดยใครบ้าง และทําอย่างไร” และสุ ดท้ายผลการแก้ปัญหาเป็ นอย่างไร จึงเป็ นที่มา ที่ให้เจ้าของพื้นที่ ผูท้ ี่กบั ปั ญหา หรื อใกล้ปัญหามากที่สุด มาคิดแก้ปัญหาโดยใช้ กระบวนการวิจยั ใช้ชาร์ ตกระบวนการวิจยั อธิ บายกระบวนการทํางาน จากโจทย์วจิ ยั ได้ขอ้ มูล สู่ การ วิเคราะห์หาแนวทาง ต่อด้วยการวางแผน ทดลองทําและสรุ ปผลการวิจยั ต่อมาการนําผลงานขับเคลื่อนให้เกิดภาคปฏิบตั ิจริ งกับหน่วยงานท้องถิ่น หน่วยงานรัฐ และทํา ความเข้าใจกรอบการทํางานแบบวิจยั งบประมาณให้ การสนับสนุน และบทบาทคณะทํางาน (พี่เลี้ยง) และ นักวิจยั ที่ทาํ งานร่ วมกัน เงื่อนไขและข้อจํากัดในการทํางาน เช่น เวลาการในการทํางาน การนัดประชุม การ แลลกเปลี่ยนระหว่างชุมชน หลังจากบอกเล่าทั้งหมด ให้มีการแลกเปลี่ยน ซักถาม เช่น การแก้ปัญหาที่ผา่ นมาใช้วิธีการจับผูไ้ ม่ สวมหมวกนิรภัย และปรับแค่น้ นั ผูข้ บั ขี่ไม่ถึงเขตพื้นที่การจับแล้วปรับ (เขตเทศบาล) ไม่สวมหมวก วางใน ตะกร้าด้านหน้ารถ เท่าที่มีการจับแล้วปรับน่าจะไม่มีคนที่ไม่สวมหมวกนิรภัยในขณะขับขี่ บางครั้งเจ้าหน้าที่ ตํารวจก็เกิดอาการเบื่อกับสิ่ งที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แล้วยิง่ ขณะนี้บงั คับการสวมหมวกนิรภัยทั้งคนขับ และ คนที่ซอ้ นท้าย บางส่ วนเล่าถึงอุบตั ิเหตุที่เกิดขึ้นจากสาเหตุโครงสร้างของถนน การขับรถเร็ วในที่ชุมชน ไม่ ปฏิบตั ิตามกฎจราจร และผลกระทบที่เกิดขึ้นบริ เวณชุมชน เด็กๆตัวเล็กๆขับรถซ้อนกัน 3-4 คน พ่อแม่ไม่มี การตักเตือน ก่อนการประชุมเลิกได้สะท้อนความรู ้ที่ได้รับ ความรู ้สึกที่เกิดขึ้นจากการประชุม ส่ วนใหญ่การ ประชุมที่ผา่ นมาเป็ นแจ้งให้ทราบ ผูป้ ระชุมแค่รับรู ้ รู ้สึกว่ามึนงง ไม่เข้าใจในการทํางาน และให้คิดด้วย ไม่ ค่อยได้ใช้ความคิด และไม่แน่ใจกับแก้ปัญหา เช่น ขบรถเร็ วทําอย่างไร เนื่ องจากเป็ นที่นิสัยคน และแต่ละคน มีนิสัยไม่เหมือนกันอีก น่าจะยากในการแก้ปัญหานี้ และอื่นๆ 1
1
1
1
1
1
2. ประสานหน่ วยงานองค์ กรทีเ่ กีย่ วข้ อง การประสานงานหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความปลอดภัยทางถนน ในเบื้องต้น คณะทํางานได้ติดต่อขอเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อเรี ยนรู ้การสร้างความปลดภัยทางถนน และข้อมูลที่มีของ หน่วยงานนั้นๆพร้อมทั้งการทําความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการมีหน่วยงานที่เข้าไปประสานดังนี้ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 15
หน่วยงานระดับจังหวัด มีสํานักงานป้ องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดสตูล สํานักงานสถิติ จังหวัด สํานักงานสาธารณสุ ขจังหวัดสตูล และหน่วยงานระดับอําเภอละงู มีตาํ รวจภูธรอําเภอละงู โรงพยาบาลละงู หลังจากการมีลงพื้นที่ชุมชน ทางแกนนําชุมชนนําแนวคิดโครงการไปประสานกับท้องถิ่น เช่น คุณ สักรี ยา แดงนุย้ แกนนําในเขตเทศบาลตําบลกําแพงนําข้อมูลและวิธีการพูดคุยไปวางแผนการแก้ปัญหา อุบตั ิเหตุบนถนน และประสานงานกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตําบลกําแพงในการแก้ปัญหา ซึ่ งเป็ นเหตุผลหนึ่งที่ตอ้ งมีการสร้างรู ปธรรมก่อนการประสานงานให้หน่วยงานเข้าใจวิธีการทํางาน ซึ่งก่อนหน้านั้นต้องทําความเข้าใจกับพื้นที่ (ชุมชน) และชุมชนกับคณะทํางานทํางานร่ วมกันในการ ประสานงานส่ วนคณะทํางานซึ่ งมีการจัดอบรมพัฒนาศักยภาพแกนนําร่ วมและได้รู้จกั กับ สอจร.จังหวัด สตูล คุณไพศาล ขุนศรี สํานักงานป้ องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล และพ.ต.ท.บุญเลิศ ตรัสศิริ สถานีตาํ รวจภูธรละงู จ.สตูล ต่อมาได้มีการประสานงานพูดคุยเรื่ อยๆ ดังนี้ 1. คณะทํางานเข้าร่ วมการเสนอแนะการแก้ปัญหาการเกิดอุบตั ิเหตุระหว่างการก่อสร้างถนน สาย 416 ฉลุง – ละงู เพื่อให้ทางบริ ษทั ผูร้ ับเหมาดําเนิ นการติดตั้งสัญญาณไฟ การเพิ่มไหล่ทาง ร่ วมกับ พ.ต.ท.บุญเลิศ ตรัสศิริ สถานีตาํ รวจภูธรละงู จ.สตูล 2. ประสานผ่านทางคุณไพศาล ขุนศรี สํานักงานป้ องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล การออกแบบวางแผนจัดเวทีนาํ เสนอโครงการ และประสานเชื่อมโยงภาคี เข้าร่ วมเวที 3. พ.ต.ท.บุญเลิศ ตรัสศิริ สถานีตาํ รวจภูธรละงู จ.สตูล ประสานงานส่ งตัวแทนชุมชนเข้าร่ วม ประชุมโครงการรักษาความปลอดภัยบนท้องถนน กองกํากับการตํารวจภูธรภาค 9 ใน 4 จังหวัด คือ พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ในจังหวัดสตูลมีพ้ืนที่ดาํ เนิ นการ เขตเทศบาลเมืองสตูล เทศบาลตําบลกําแพง บ้านโกตา หมู่ที่ 7 ตําบลกําแพง และบ้านคลองขุด หมู่ที่ 9 ตําบลละงู 4. คุณไพศาล ขุนศรี สํานักงานป้ องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูลประสานงานส่ ง ตัวแทนชุมชน และคณะทํางานเข้าร่ วมเวทีการสร้างความปลอดภัยทางถนน ณ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยา เขตสงขลา เป็ นการประชุมร่ วมกันระหว่างจังหวัดสตูล และสงขลา เข้าร่ วมแลกเปลี่ยนประชุมเครื อข่ายการ สร้างความปลอดภัยทางถนน 3 พื้นที่(อาทิตย์ที่ 2 ของทุกเดือน) ชุมชนบ้านคลองนํ้าเค็ม ม.16 ต.ละงู ชุมชน บ้านโกตา ม. 7 ต.กําแพง ชุ มชนในเขตเทศบาลตําบลกําแพง และเข้าร่ วมฝึ กอบรม “การวิเคราะห์จุดเสี่ ยง” นักวิจยั ในชุมชน ในวันที่ 24 - 25 มีนาคม 2555 ณ บารารี สอร์ ท ต.ปากนํ้า อ.ละงู จ.สตูล 5. คุณไพรํา จุย้ ชุม หัวหน้าขนส่ งจังหวัดสตูล สาขาละงู เข้าร่ วมแลกเปลี่ยนประชุมเครื อข่าย การสร้างความปลอดภัยทางถนน 3 พื้นที่(อาทิตย์ที่ 2 ของทุกเดือน) ชุมชนบ้านคลองนํ้าเค็ม ม.16 ต.ละงู ชุมชนบ้านโกตา ม. 7 ต.กําแพง ชุมชนในเขตเทศบาลตําบลกําแพง รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 16
3. เวทีประสานและเชื่ อมโยงภาคี ข้ อมูล ความรู้ เวทีนาํ เสนอโครงการสร้างความปลอดภัยทางถนนโดยชุ มชน ในแผนการดําเนินงานโครงการ ได้วางกิจกรรมในช่วงต้นของโครงการ เพื่อต้องการประสานความร่ วมมือกับหน่วยงาน ข้อมูลเพื่อหาแนว ทางการขบเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้มีรูปธรรมมากขึ้น จึงต้องจัดเวทีทาํ ความเข้าใจ และพัฒนา โจทย์วจิ ยั ชุมชน และข้อมูลชุ มชน และแนวทางการดําเนิ นงานมานําเสนอให้กบั ภาคีที่เกี่ยวข้องได้เข้าใจมาก ขึ้น จึงจัดเวทีข้ ึนในวันที่ 22 กันยายน 2544 ณ ห้องประชุมธรรมมาภิบาลตําบลกําแพง อําเภอละงู จังหวัด สตูลเริ่ มเวลา 13.30 น. ดําเนิ นรายการโดย คุณพิเชษฐ์ เบญจมาศ กล่าวความเป็ นมาของโครงการสร้างความ ปลอดภัยทางถนน ปั ญหาอุบตั ิเหตุทางจราจรในประเทศไทยเป็ นจํานวนสู ง ในช่วงปี 2554-2563 สหประชาชาติได้ประกาศให้เป็ นปี ทศวรรษแห่งการลงมือปฏิบตั ิเพื่อลดการเกิดอุบตั ิเหตุทางถนน ต่อด้วย แจ้งกําหนดการ ดังนี้ ลําดับที่ ๑ ชมวิดีทศั น์ อุบุติเหตุมิใช่เวรกรรม ลําดับที่ ๒ ชี้ แจงวัตถุประสงค์ นําเสนอกระบวนการทํางานวิจยั เพื่อท้องถิ่นจังหวัดสตูลกับการ สร้างความปลอดภัยทางถนน โดย คุณสมพงษ์ หลีเคราะห์ ผูป้ ระสานงานศูนย์ประสานงานวิจยั เพื่อท้องถิ่น จังหวัดสตูล ลําดับที่ ๓ สถานการณ์อุบตั ิเหตุจราจรและความปลอดภัยทางถนนในเมืองไทย โดย นพ.ธนะ พงศ์ จินวงษ์ ผูจ้ ดั การศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ. ) ลําดับที่ ๔ นําเสนอโครงการสร้างความปลอดภัยทางถนน ๓ ชุมชน ( ม.๑๖ บ้านคลองนํ้าเค็ม, ม. ๗ บ้านโกตา, และชุมชนในเขตเทศบาลตําบลกําแพง) โดย แกนนําในชุมชน ลําดับที่ ๕ ร่ วมแลกเปลี่ยนประเด็น มุมมองความปลอดภัยทางถนน ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง/ ร่ วมวางแผน กําหนดทิศทางการขับเคลื่อนเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน คาดหวังการทํางานอยู่ ๒ ประเด็น คือ การนําชุมชนมาดันปัญหา และช่วยกันคิดทําให้เกิดการ แก้ปัญหาในท้องที่และทําให้เกิดการคิดต่อว่า นอกจากชุมชนทํากันเองแล้วจะมีองค์กร(ภาครัฐ) เข้ามาร่ วม ขับเคลื่อนร่ วมกันตั้งแต่ตน้ คือ การเอาสหสาขามาร่ วมวิเคราะห์สาเหตุปัญหาร่ วมกัน” คุณสมพงษ์ ว่า “ โครงการยังไม่เสร็ จ เหมือนเห็นร่ วมแต่ไม่เห็นรู ปธรรม แต่ประเด็นของ งานวิจยั ในครั้งนี้ มี ๒ ประเด็น คือ การแก้ไขปั ญหาความปลอดภัยทางถนน และการสร้างคน(แกนนําแห่ง ความเปลี่ยนแปลง)” อ.สมบัติ ว่า “ การดําเนิ นงานต่อ คือ ใช้ขอ้ มูลที่มีอยูแ่ ก้ปัญหา ควรมีพ้ืนที่กลาง เพื่อให้เกิดการ พูดคุยร่ วมกัน อย่างสมํ่าเสมอ ต้องสร้างคน ที่จะส่ งผลต่อการเปลี่ยนแปลง ( Change Agent) นอกจากนี้ ต้องนําวัฒนธรรมในพื้นที่ มาร่ วมกันวิเคราะห์ เป็ นการนําวัฒนธรรมกับวิถีชุมชน ว่าด้วยเรื่ องของความปลอดภัยทางถนน เพื่อวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนของคนที่น้ ี และเรื่ องที่ 1
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
1
หน้า 17
น่าสนใจคือ เราไม่ใช่แก้ปัญหาแค่จุดเสี่ ยง แต่ตอ้ งสร้าง วิธีคิด หรื อ ทัศนะคติ ต่อการใช้รถใช้ถนน ซึ่ งนั้น เป็ น พฤติกรรม แบบไม่มีตวั เลข” มุมคิดจากเวที“ คิดใหญ่ ทําเล็ก เคลือ่ นใหญ่ ” 4. สร้ างการเรียนรู้ โดยลงพืน้ ทีช่ ุ มชน การจัดเวทีทาํ ความเข้าใจ การพัฒนาโจทย์วจิ ยั ทางโครงการได้ชกั ชวนคณะทํางานร่ วมลงพื้นที่ ชุมชน มีเป้ าหมายเพื่อหาแนวทางการร่ วมกันทํางาน การสร้างความเข้าใจถึงกระบวนการทํางาน การสร้าง การมีส่วนร่ วม ลักษณะการทําร่ วมกัน สามารถช่วยอะไรได้ ก็ทาํ ไป ดังนี้ 1. ก่อนลงชุมชน เริ่ มต้นด้วยการวางแผน สิ่ งที่จะพูดคุยในวันนี้ ความต้องการ วิธีการ เครื่ องมือ และบทบาทหน้าที่ 2. ดําเนินการตามที่ตกลงไว้ 3. สรุ ปการทํางานให้เห็นว่าผลที่ได้เป็ นอย่างไร การแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามีอะไรบ้าง วิธีการที่ ได้ผล นําไปสู่ การไปใช้ครั้งต่อไป ในกาลงพื้นที่มีการชวนแกนนํา แกนนําบ้านโกตา คุณวิรัช โอมณี บ้านคลองนํ้าเค็ม คุณดลอา หวาบ มณี โชค และเขตเทศบาล คุณสักกาเรี ย แดงนุย้ ไปเรี ยนรู ้ในชุมชนเพื่อน และจัดเวทีแลกเปลี่ยน 3 ชุมชน เพื่อต้องการสร้างเครื อข่าย 5. พัฒนาโจทย์ วจิ ัยเพือ่ ท้ องถิ่น การพัฒนาโจทย์วจิ ยั เริ่ มต้นการวิเคราะห์จุดเสี่ ยงในชุมชน ใช้แผนที่ชุมชนเป็ นเครื่ องมือเพื่อ ระบุจุดเสี่ ยง และให้คณะทํางานได้รู้จกั พื้นที่ จากจุดเสี่ ยงในแผนที่ได้รับคําอธิ บานเพิ่มเติม ถึงความเสี่ ยงที่ เกิดขึ้น เกิดเหตุมาน้อยแค่ไหน ผลกระทบเป็ นอย่างไร ในระหว่างการพูดคุยมีหลานท่านพยายามหาวิธีการเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากกระบวน วิจยั ยํ้าว่า “เราต้องมีขอ้ มูล เพื่อการตัดสิ นใจอนาคต” และมีบางคนพึ่งเข้าร่ วม สงสัย “ทําไมเราต้องทําเอง” น่าจะเป็ นหน้าที่ของหน่วยงาน ทางคณะทํางาน จึงชวนคิดต่อ ถึงเหตุผลที่มาทําเรื่ องความปลอดภัยทางถนน เริ่ มต้น ดังนี้ ชวนดูแผนที่ และจุดเสี่ ยงในชุมชน ถามว่า “เรา” ตัวเราเอง ยกตัวอย่างคนในที่ประชุม “ผ่านจุด เสี่ ยง วันละกี่ครั้ง” คําตอบที่ได้รับ คนในชุมชนผ่านจุดเสี่ ยงมากกว่าคนนอกชุมชน “คนกรุ งเทพ หรื อสงขลา มีโอกาสน้อยที่จะผ่านจุดเสี่ ยง” ในเมื่อคนชุมชนผ่ายจุดเสี่ ยงมากที่สุด ความเสี่ ยงที่จะเกิดขึ้นก็จะมากตามไป ด้วย ฉะนั้นการแก้ปัญหา ก็ไม่ควรให้คนกรุ งเทพ หรื อคนสงขลามาแก้ น่าจะเป็ นหน้าที่คนในชุมชน และคน ที่อยูใ่ กล้จุดเสี่ ยง หรื อผ่านจุดเสี่ ยง เป็ นผูม้ าหาทางออกของปั ญหา รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 18
ผ่านจากหน้าที่ของใคร ข้อสงสัยถูกคลี่คลาย การมีส่วนร่ วมการพูดคุยมากขึ้น มาต่อด้วย ขั้นตอนการพัฒนาโจทย์วจิ ยั โดยคณะทํางานได้อธิ บายกรอบโครงการวิจยั ทั้งหมด ระหว่างการอธิ บาย เห็น สี หน้าผูเ้ ข้าร่ วม เริ่ มไม่มนั่ ใจ ในการเขียนโครงการ ที่ผา่ นมาผูน้ าํ เขียนให้ ผูร้ ู ้เขียนให้ แต่คราวนี้เขียนเอง น่าจะทําไม่ได้ คณะทํางานชวนคุยเรื่ องการเขียนโครงการ “การเขียนโครงการวิจยั เป็ นการออกแบบว่าการ ดําเนินทั้งหมดของโครงการเป็ นอย่างไร ฉะนั้นผูจ้ ดั โครงการ ต้องเขียนเอง จะมีความเข้าใจถี่ถว้ นในขั้นการ ปฏิบตั ิงานจริ ง และขั้นการออกแบบเขียนโครงการ สิ่ งที่จะทําดังต่อไปนี้ คณะทํางานจะทําหน้าที่คอย กระตุน้ คิด ทําร่ วมกัน ทีละหัวข้อ จนหมดประเด็น ให้ถือเป็ นกระบวนการเรี ยนรู้ทาํ ไปรู้ไป โดยมีข้นั ตอน ดังต่อไปนี้ 1. จัดทําข้อสงสัย (คําถาม) ในเรื่ อง “การสร้างความปลอดภัยทางถนนในชุมชน” ใช้วธิ ี การ ระดมความคิดเห็น บอกที่ละคน จนทุกคนหมดความสงสัย ข้อสงสัยทั้งหมดทําการประมวลประเด็น เหมือนกันคล้ายกัน เป็ นหัวข้อหลัก ข้อย่อยอธิบายหัวข้อหลัก 2. จากคําถามทั้งหมดมาจดทําวัตถุประสงค์โครงการ โดยวิธีการเอาหัวข้อหลักมาทดลองเขียน และเพิ่มเติม แต่งคําให้สวยงาม 3. จากวัตถุประสงค์ ระดมความคิดต่อ จัดทําคําถามหลักของการวิจยั และชื่อโครงการ โดน นําคําหลักในวัตถุประสงค์ มาจัดแต่เป็ นคําถามและชื่อโครงการ 4. นําคําถามที่ผา่ นการสรุ ป ระดมความคิดเพื่อหาแหล่งข้อมูล วิธีการที่ใช้หาข้อมูล และ เครื่ องมืออุปกรณ์ที่จาํ เป็ นต้องใช้ โดยใช้รูแบบของตารางจนครบถ้วนทุกคําถาม ตาราง 1 คําถามวิจยั (ข้อสงสัย) 1. 2.
แหล่งข้อมูล
วิธีการ
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
อุปกรณ์/เครื่ องมือ
หน้า 19
5. ปรับเปลี่ยนรู ปแบบตารางคําถามข้อที่ 4 โดยนําวิธีการหาข้อมูลที่เหมือนกันของแต่ละ คําถาม ตามด้วยคําถามที่ตอ้ งตอบ เช่น “การใช้แบบสอบถาม ต้องไปคําถามอะไรบ้าง” ตามด้วยแหล่งข้อมูล และเครื่ องมืออุปกรณ์ จนหมดวิธีการหาข้อมูลที่เวทีประชุมระดมในข้อที่ 4 จะเห็นรู ปแบบแผนกิจกรรม ทั้งหมดของโครงการวิจยั ตาราง 2 วิธีการ คําถามวิจยั (ข้อสงสัย) แหล่งข้อมูล อุปกรณ์/เครื่ องมือ 1. 2. 6. นํารายละเอียดในตารางข้อที่ 5 มาเขียนแผนกิจกรรม ดังตาราง ตาราง 3 กิจกรรม วัตถุประสงค์ ขั้นตอนการ กลุ่มเป้ าหมาย/ ผลที่คาดว่าจะ ดําเนินงาน สถานที่/ระยะเวลา ได้รับ
งบประมาณ
7. นํารายละเอียดการคุยทั้งหมดมาเขียนเป็ นเอกสารเชิงหลักการโครงการวิจยั ดังนี้ 1. ชื่อโครงการวิจยั 2. ความเป็ นมาและความสําคัญ 3. วัตถุประสงค์ 4. คําถามวิจยั (ข้อสงสัย) 5. วิธีการศึกษา 6. ขอบเขตการศึกษา 7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8. แผนกิจกรรมและงบประมาณ 9. ประวัติและรายชื่ อทีมวิจยั 8. นํารายละเอียดทั้งหมดมาตรวจสอบกันอีกครั้ง จากขั้นตอนวิธีการระดมความคิดเห็น ซึ่งใช้เวลาในการชวนคิด ชวนคุยค่อนข้างเยอะ พอสมควร ขณะที่เขียนรายงาน ยังอยูใ่ นช่วงของการเขียนแผนงานโครงการ เนื่ องกลุ่มที่เข้าร่ วมเป็ นคนกลุ่ม ใหม่ ไม่ได้ผา่ นกรบวนการพัฒนาคนมาก่อน การพัฒนาโจทย์ โครงการ จึงเป็ นกกระบวนการเรี ยนรู ้ของทีม และวัดใจคนทํางานจริ ง ซึ่ งที่ผา่ นมีคนที่เข้าร่ วมประชุมเยอะ ภายใต้กระบวนการ มีคนเก่งเยอะที่เข้ามา แต่ ไม่มีเวลาที่ตอ้ งมาพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ในทีมวิเคราะห์การทํางานอนาคตว่ากลุ่มคนเหล่านี้ “เขาสามารถ ช่วยงานเป็ นครั้งคราวได้ แต่มาทําแบบต่อเนื่ องยาวนาน เป็ นคณะทํางานโครงการ ผูอ้ ยูร่ ่ วมตลอดเป็ นนักวิจยั ระหว่างกระบวนเห็นพัฒนาการผูเ้ ข้าร่ วม สามารถคิดเร็ วขึ้นกว่าช่วงเริ่ มต้น เนื่องจากขาด โอกาสในการคิดมานาน เป็ นผูป้ ฏิบตั ิตามมาตลอด หลายคนถือสมุดปากกา กระเป๋ าเอกสารมาประชุม หลัง รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 20
เสร็ จสิ้ นการประชุม 1 ครั้ง ประชุมครั้งต่อไปมีเอกสารสรุ ปการประชุมครั้งที่แล้วไปแจก เพื่อทบทวน ความจํา ไม่ตอ้ งย้อนกลับไปคิดใหม่ ระหว่างการพูดทําความเข้าใจโครงการกับพื้นที่ มีชุมชนบ้านคลองขุด หมู่ที่ 9 ตําบลละงู อําเภอละงู ได้ลงจัดประชุม 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 ทางผูใ้ หญ่บา้ นขอถอนตัว เนื่ องมีปัญหาเรื่ องทีมทํางาน ขอดูไป ก่อน มีโอกาสขอเป็ นพื้นที่ขยายผล ทางคณะทํางานจึงประสานไปยังชุมชนใกล้เคียง บ้านคลองนํ้าเค็ม หมู่ที่ 13 ตําบลละงู อําเภอละงู เป็ นพื้นที่อยูถ่ นนสานเดียวกันตามเป้ าหมายโครงการ ตารางสรุปผลการลงพืน้ ที่ พืน้ ที่ ว. ด.ป. คลองนํ้าเค็ม 30 มิถุนายน หมู่ที่ 16 ตําบล 11 กรกฎาคม ละงู 15 กรกฎาคม 25 กรกฎาคม 3 ตุลาคม 6 ตุลาคม 12 ตุลาคม 13 ตุลาคม 21 ตุลาคม 28 ตุลาคม 28 พฤศจิกายน 29 พฤศจิกายน 2 ธันวาคม 6 ธันวาคม 9 ธันวาคม 11 ธันวาคม โกตา หมู่ที่ 7 24 มิถุนายน ตําบลกําแพง 29 มิถุนายน 26 กรกฎาคม 22 พฤศจิกายน 23 พฤศจิกายน 24 พฤศจิกายน
ประเด็น/ เรื่อง นําเสนอโครงการ นําเสนอโครงการ การออกแบบการเขียนโครงการ พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั นําเสนอโครงการ นําเสนอโครงการ การออกแบบการเขียนโครงการ(วิจยั ) พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หมายเหตุ
หน้า 21
25 พฤศจิกายน 28 พฤศจิกายน 29 พฤศจิกายน 6 ธันวาคม 7 ธันวาคม เขตเทศบาล 24 มิถุนายน ตําบลกําแพง 6 กรกฎาคม 13 กรกฎาคม 20 กรกฎาคม 27 กรกฎาคม 22 ตุลาคม 22 พฤศจิกายน 24 พฤศจิกายน 28 พฤศจิกายน 29 พฤศจิกายน คลองขุด หมู่ที่ 22 มิถุนายน 9 ตําบลละงู 30 มิถุนายน
พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั นําเสนอโครงการ นําเสนอโครงการ การออกแบบการเขียนโครงการ(วิจยั ) การออกแบบการเขียนโครงการ(วิจยั ) พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั พัฒนาโจทย์งานวิจยั นําเสนอโครงการ
ขอหยุดการดําเนิน โครงการ
นําเสนอโครงการ
8. นําเสนอโครงการ ณ มูลนิธิสาธารณสุ ขแห่ งชาติ ก่อนนําเสนอวันนําเสนอได้มีการทบทวนโครงการในแต่ละพื้นที่ โดยมีการเตรี ยมข้อมูลในรู ปแบบ power point ชวนดูและเพิ่มเติมข้อมูล พร้อมกับการทดลองลองนําเสนอ ในช่วงการเดินทางทางทีมพี่เลี้ยง เลือกที่จะเดินทางโดยรถตู ้ ระหว่างการเดินทางได้มีการชวนคุยเรื่ องของถนน ในบางช่วงของการเดินทางมี อุบตั ิเหตุของผูส้ ัญจร มีการชวนคุยวิเคราะห์เหตุที่เกิด ในช่วงของการนําเสนอโครงการได้ดาํ เนินตามแผนนําเสนอแบบเล่าเรื่ อง และได้ขอ้ มูลเพิ่มเติมจาก ผูท้ รงคุณวุฒิ สิ่ งที่แกนนําภาคภูมิใจการนําเสนอครั้งนี้ ผูน้ าํ เสนอเป็ นครั้งแรกในการนําเสนอโครงการ ก่อน การนําเสนอตื่นเต้นมากพอสมควร แต่เมื่อเสนอแล้วเสร็ จเกิดความมัน่ ใจในการนําเสนอครั้งต่อไป ซึ่ งพี่เลี้ยง ชวนถอดบทเรี ยนในรถระหว่างเดินทางกลับ เป็ นผลมาจากการที่ทุกคนได้ร่วมทํางานจริ ง เอกสารทุกอย่างม ส่ วนร่ วม และผ่านการฝึ กมาก่อนเกิดความมัน่ ใจมากขึ้น 1
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 22
ต่อด้วยการชวนคุยและเสนอแนะของพื้นที่มหาสารคามในประเด็นแลกเปลี่ยนบทบาทของนักวิจยั กับที่ปรึ กษาโครงการ ช่วงเดินทางกลับระหว่างทางทีมพี่เลี้ยงได้ชวนคุยความรู ้สึกในช่วงระหว่างการเดินทางและในช่วง การนําเสนอโครงการ ความรู ้ที่ได้รับ 1
1
9. เวทีแลกเปลีย่ นการทําวิจัย (เดือนละครั้ง) ทางโครงการฯ ได้ดาํ เนินการจัดเวทีประชุมเครื อข่ายนักวิจยั ทั้ง 3 ชุมชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนจาก สํานักงานป้ องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล คุณไพศาล ขุนศรี แลดะหน่วยงานอื่นเพื่อ เพื่อติดตามการดําเนิ นงานโครงการ และวางแผนการทํางานต่อเนื่ อง ของโครงการย่อย 3 พื้นที่ การประชุมครั้งแรกได้จดั ขึ้นหลังจากนําเสนอโครงการ และมีการปรับแก้ขอ้ เสนอโครงการเพื่อทํา ความเข้าใจโครงการ หลังจากการมีการปรับ ก่อนช่วงเวทีได้มีการพูดคุยในระดับพื้นที่ เตรี ยมประเด็น(การ ดําเนินงานและแผนงานของโครงการ) และแจ้งผูเ้ ข้าร่ วม เช่น ตัวแทน ปภ.สตูล ทีมพี่เลี้ยงให้แนะตัว พร้อม กับเล่าการดําเนิ นงานของโครงการของทีมพี่เลี้ยง ระดับพื้นที่ที่ผา่ นมาพอสังเขป จากนั้นให้แบ่งกลุ่มชุมชน ไปวางแผนการดําเนิ นงาน ในระดับหมู่บา้ น และแผนการทํางานร่ วมกันในระดับเครื อข่าย 3 ชุมชน และมา นําเสนอเล่าสู่ กนั ฟัง ในแต่ละพื้นที่พร้อมกับการแลกเปลี่ยนร่ วมกัน สื่ งที่ได้จากการจัดเวทีครั้งนี้ ได้แผนการทํางานระดับชุ มชน เช่น การประชุมทีมระดับชุมชน 3 ชุมชน การประชุมเครื อข่าย เดือนละครั้ง และที่ประชุ มกําหนดให้วนั ประชุมเครื อข่ายนักวิจยั เป็ นทุกวัน อาทิตย์ที 2 ของเดือน โดยการเชิ ญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่ วมประชุม เช่น ปภ. สํานักงานขนส่ ง ตํารวจ โรงพยาบาล เพื่อต้องการสื่ อสารข้อมูล และการสร้างความสัมพันธ์ ครั้งที่ 2 หลังจากที่ชุมชนกลับไปทํากิจกรรมของแต่ละชุ มชน เช่น ประชุมทีมระดับชุมชนเพื่อวาง แผนการเก็บข้อมูล ประชุมสรุ ปการดําเนินงานแต่ละครั้ง และการทดลองฝึ กเก็บข้อมูล และบันทึกข้อมูล บริ เวณจุดเสี่ ยง การประชุมคราวนี้ได้เชิญ หัวหน้าขนส่ งละงูคุณไพรํา จุย้ ชุม เข้าร่ วมแลกเปลี่ยน ส่ วนคุณ ไพศาล ขุณศรี และ พตท.บุญเลิศ ตรัสสิ ริ ติดภารกิจ โดยทีมวิจยั แต่ละชุมชนนําเสนอ ผลการเก็บข้อมูล ในประเด็น วิธีการทํางาน ตั้งแต่การเตรี ยมงาน ขั้นการทํางาน และสรุ ปงาน ข้อมูลองค์ความรู ้ที่ได้ บทเรี ยนปั ญหาอุปสรรคที่พบ ทางทีมพี่เลี้ยงได้เตรี ยม เครื่ องมือการนําเสนอนําผลสรุ ปจากการประชุมในชุมชนให้ก่อนล่วงหน้า เป้ าหมายการจัดเวทีครั้งนี้ตอ้ งการนําข้อมูลมาแลกเปลี่ยน ระหว่างชุมชน และหน่วยงาน เพื่อ ประโยชน์การปรับใช้ และประสานงานร่ วมกันระหว่างหน่วยงานในอนาคต กระบวนการนําเสนอต้องการ ฝึ กให้แกนนําเสนอข้อมูล หลังการนําเสนอแล้วเสร็ จ มีการแลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหาจุดเสี่ ยง เพื่อสร้างความปลอดภัย ทางถนน ซึ่ งได้รับคําแนะนําจากหัวหน้าขนส่ งถึงแนวทางการทํางาน เช่น บ้านโกตาสํารวจปริ มาณรถ ผูข้ บั ขี่รถในชุมชนเพื่อดูสถานการณ์ แต่เจอผูข้ บั ขี่ที่เป็ นเด็กเป็ นส่ วนใหญ่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ซึ่ งเด็กที่มีอายุครบ 1
1
1
1
1
1
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 23
15 ปี สามารถทําใบอนุญาตขับขี่รถจักยานยนต์ได้ ทีมวิจยั ชุมชนไม่รู้ขอ้ มูลนี้มาก่อน เข้าใจว่าการทําใบ อนุญาติขบั ขี่ตอนอายุครบ 18 ปี และสังเกตเห็นพฤติกรรม เช่น การไม่สวมหมวก ผูข้ บั ขี่ไม่ให้สัญญาณไฟขณะขับขี่ นํามาวิเคราะห์ และหลังจากนั้นทีมวิจยั ชุมชนได้เชิ ญหัวหน้าขนส่ งลงพื้นที่เข้าร่ วมประชุม และทํากิจกรรมในชุมชน เพื่อ สร้างความเข้าใจให้กบั ชาวบ้านในเรื่ องความปลอดภัยทางถนน 1
10. อบรมการเก็บ และบันทึกข้ อมูล จากที่ Node ได้จดั วางกิจกรรม การเก็บและบันทึกข้อมูล ถือเป็ นภารกิจสําคัญของกระบวนการวิจยั เพื่อท้องถิ่น ที่พี่นอ้ งชาวบ้านในชุมชนต้องปฏิบตั ิ ภาระที่ไม่อยูก่ บั ความเคยชิน ตามธรรมชาติของเขาเลย เมื่อโครงการรับอนุมตั ิสิ่งที่ตอ้ งทําเรื่ องแรกคือ การเก็บข้อมูล การอบรมจึงเป็ นหน้าที่ของพี่เลี้ยงทําอย่างไร การทํางานมีประสิ ทธิ ภาพมากที่สุด ลงเก็บข้อมูล ต้องได้ขอ้ มูลกลับมา ไม่รู้สึกเสี ยเวลา โครงการวิจยั ย่อย 3 โครงการ อยากรู ้ปริ มาณรถ พฤติกรรม ภูมิศาสตร์ ตามจุดเสี่ ยงต่างๆในชุมชนที่ กําหนดไว้ก่อน ภายใต้เงื่อนไขของชุมชนทั้ง 3 ทีมประกอบอาชีพเป็ นส่ วนใหญ่ การประชุมที่ตอ้ งใช้ เวลานานๆ ทําให้เขาเสี ยโอกาสในการประกอบอาชีพ ทาง Node จึงปรับวิธีการจากการจัดฝึ กอบรม แบบต่อเนื่ อง 2 วัน มาจัดกระบวนการเรี ยนรู้. ใช้เวลาในการพูดคุยในระดับเครื อข่ายคนเยอะๆไม่มาก เน้น การทํากิจกรรม และประชุมในพื้นที่ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1. จัดประชุ มระดับเครือข่ ายเพื่อทําความเข้ าใจในการเก็บข้ อมูล มีขอ้ มูลอะไรบ้างที่ตอ้ งเก็บ ใช้วธิ ี อะไร และใช้วกี ารประชุมระดับชุมชนเพื่อวางแผนลงรายละเอียดอีกครั้ง 2. การจัดประชุ มระดับชุ มชนเพือ่ วางแผนเก็บข้ อมูล สร้ างเครื่องมือบันทึกข้ อมูล เริ่ มด้วยการเล่าเรื่ องสถานการณ์พ้นื ที่ในเครื อข่ายการขยับงาน ต่อด้วยการการประชุมวางแผนระดับ ชุมชน คือ ข้อมูลที่ตอ้ งการ วิธีการเก็บ เครื่ องมือเก็บข้อมูล และบทบาทของทีม จํานวนคน และการนัดหมาย เวลา 3. ลงปฏิบัติการเก็บข้ อมูล 1. บ้านโกตา การนับปริ มาณรถ พฤติกรรม บริ เวณจุดเสี่ ยง “สามแยกเขาขาว” เก็บข้อมูลโดย การสัมภาษณ์ตามครัวเรื อน เรื่ อง ปริ มาณการใช้รถ ประเภทรถ ช่วงอายุของผูข้ บั ขี่ ของคน ในชุมชน และการสํารวจจุดเสี่ ยงในชุมชน 2. เทศบาลตําบลกําแพง การนับปริ มาณรถ พฤติกรรม บริ เวณจุดเสี่ ยง “สี่ แยกมหาจัน” การ สํารวจจุดเสี่ ยงในชุมชน 3. บ้านคลองนํ้าเค็ม การนับปริ มาณรถ พฤติกรรม บริ เวณจุดเสี่ ยง “หน้าโรงเรี ยนบ้านคลอง นํ้าเค็ม” การสํารวจจุดเสี่ ยงในชุมชน รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 24
4. การประชุ มสรุ ปข้ อมูลระดับชุ มชน เมื่อมีการทํากิจกรรมลงเก็บข้อมูลทีมวิจยั และพี่เลี้ยงได้มีการประชุมสรุ ปข้อมูลที่ได้ เพื่อเป็ น แนวทางการทํางานในการทํางานเก็บข้อมูลครั้งต่อไป สิ่ งที่ตอ้ งสรุ ปให้ได้ในครั้งนั้น ดังนี้ 1. การเล่าสถานการณ์พ้นื ที่ในเครื อข่ายกับการขยับงาน(เล่าสู่ กนั ฟัง) เพื่อเป็ นแนวทางในการขยับ งานหรื อออกงานในพื้นที่ 2. ข้อมูลที่ตอ้ งการในวันนั้น เช่น ปริ มาณรถที่เข้าออกจากแยกต่างๆ ประเภทรถ พฤติกรรม 3. ความรู ้ที่ได้ บทเรี ยนที่เกิดขึ้นจากการทํางาน ความรู ้สึกให้ทีมทํางาน เช่น “บางเรื่ องที่ไม่ น่าสนใจ กลับมาเป็ นปั ญหาความปลอดภัยทางถนน” 5. เวทีนําเสนอข้ อมูล บทเรี ยน จากที่นดั หมายก่อนล่วงหน้าในช่วงวางแผนกันให้มีการมานําเสนอผลของแต่ละชุมชนซึ่ง เริ่ มต้น ตั้งแต่การวางแผน การทํางานจริ ง ความรู ้ บทเรี ยน ความรู ้สึก นําไปสู่ สิ่งที่จะดําเนินการในอนาคต การนําเสนอบทเรี ยน ได้ใช้เวทีการประชุมเครื อข่ายนักวิจยั เป็ นเวทีนาํ เสนอ มีท้ งั นักวิจยั และเจ้าหน้าที่ หน่วยงานเข้าร่ วม สิ่ งที่ได้นกั วิจยั ได้รับรู ้ขอ้ มูลชุมชนอื่น หน่วยงานเริ่ มสนใจวิธีการทํางานของนักวิจยั ใน ชุมชน เบื้องต้นไม่เข้าใจว่าชุ มชนทําอะไร แต่เมื่อเห็นข้อมูล จากข้อมูลวิเคราะห์เป็ นแนวทางแก้ปัญหาเริ่ ม วิธีการแก้ปัญหาที่หลากหลายมากขึ้น แตกต่างจากเดิม คือ การรณรงค์ การบังขับใช้กฎหมาย แต่ในด้านการ สร้างความตระหนักไม่ปรากฏให้เห็น ถ้ามี ใช้วธิ ี การเกณฑ์เข้าห้องฝึ กอบรม กลุ่มเป้ าหมายหลักเป็ นนักเรี ยน
11 เวทีฝึกอบการวิเคราะห์ จุดเสี่ ยง
การดําเนิ นการโครงการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล โดย ผ่านกระบวนการวิจยั เพื่อท้องถิ่น มีพ้ืนที่ดาํ เนินการ บ้านโกตา บ้านนคลองนํ้าเค็ม และในเขตเทศบาลตําบล กําแพง อ.ละงู จ.สตูล ภายใต้การสนับสนุนของศูนย์วชิ าการความปลอดภัยทางถนน(ศวปถ.) มูลนิธิ สาธารณะโดสุ ขแห่งชาติ (มสช.) ชุมชนวิจยั ดังกล่าวได้เริ่ มดําเนิ นสํารวจจุดเสี่ ยงในชุมชน เพื่อนํามา วิเคราะห์ ทางศูนย์ประสานงานในฐานะองค์กรพี่เลี้ยงสนับสนุนกระบวนการจึงจัดฝึ กอบรม “การวิเคราะห์ จุดเสี่ ยง” ให้กบั นักวิจยั ในชุมชน ในวันที่ 24 - 25 มีนาคม 2555 ณ บารารี สอร์ ท ต.ปากนํ้า อ.ละงู จ.สตูล ในช่วงเช้าของวันเสาร์ ที่ 24 มีนาคม2555 ทางทีมวิทยากรที่ประกอบไปด้วย อ.วิชุดา พรธิ ภา ทีมโหนดพี่เลี้ยง สมพงษ์ จักรกริ ช และทีมวิจยั พื้นที่ในเขตเทศบาลตําบลกําแพง ร่ วมพาลงพื้นที่จุดที่ 1 บริ เวณหน้าตลาดสดละงู บริ เวณตลาดอยูด่ า้ นขวามือตามถนนไปทาง จ.ตรัง ซึ่ งตรงกับตลาดนัด สภาพถนน รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 25
เป็ นสี่ เลนมีเกาะกลาง เป็ นที่กลับรถบริ เวณ2 จุด คือบริ เวณตรงกับทางเข้าในตลาดสด และทางออกของ ตลาด ในวันดังกล่าวทางด้านตลาดจะมีร้านค้า รถจักยานยนต์ ตั้งเรี ยงราย ปิ ดทางช่องจราจร ทําให้การ สัญจรติดขัด จุดที่ 2 บริ เวณ 4 แยกปากปิ ง สายรองถนนแคบและมีสิบล้อวิง่ เข้าออก การจอดรถที่บดบัง ทางเข้าออก
ต่อด้วยพื้นที่บา้ นโกตาบริ เวณถนนสายหลัก 416 ที่มีทางแยกอยู่ 2 ช่วง ไปยัง อ.มะนัง อ.ทุ่ง หว้า ตัวตลาดละงู และออกไปยังตัวเมืองสตูล สภาพถนนกําลังก่อสร้างเป็ น 4 เลน มีเกาะกลาง ความ เสี่ ยงที่พบคือ รถที่วงิ่ มาจากถนนสายรองเพื่อรอ การจอดรถซ้อนกัน ความเข้าใจของผูส้ ัญจรกับถนนไม่ สอดคล้องกัน ทัศนคติ
พื้นที่บา้ นคลองนํ้าเค็มสภาพถนนเป็ นทางตรงเป็ นเนินกึ่งทางโค้งสองข้างถนนเป็ นชุมชน กับโรงเรี ยน เดิมถนนเป็ นสองเลน ปั จจุบนั กําลังก่อสร้างเป็ น 4 เลน สิ่ งที่พบเห็นผูส้ ัญจรขับรถเร็ ว จุด เสี่ ยงอยูต่ รงทางแยกที่เชื่ อมต่อกับถนนสายหลัก และบริ เวณทางเข้าออกของโรงเรี ยนที่อยูใ่ กล้กบั ทางเนิน โค้ง
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 26
12 ศึกษาดูงานการสร้ างความปลอดภัยทางถนน ในการดําเนิ นโครงการได้วางแผนการพัฒนาศักยภาพนักวิจยั ด้วยวิธีการศึกษาดูงานพื้นที่ที่มี ประสบการณ์สร้างความปลอดภัยทางถนน แต่การดําเนินการในช่วงแรกเป็ นการค้นหาแกนนํา เพื่อ ดําเนินการโครงการวิจยั เกรงว่าการศึกษาดูงานช่วงเวลานี้ไม่เหมาะ คิดว่าแกนนํายังไม่เข้าใจ กระบวนการวิจยั เกรงว่าอาจจะไม่ใช่ทีมวิจยั ตัวจริ ง คิดว่ากระบวนการพัฒนาโครงการเป็ นขั้นตอนพิสูจน์ แกนนําในการทํางาน ความเอาจริ งเอาจัง หลังจากพัฒนาโครงการแล้วเสร็ จ ซึ่ งเห็นตัวคนที่เป็ นแกนนําใน ระดับพื้นที่ชดั เจนเป็ นช่วงที่เหมาะสมกว่า เวทีประชุมเครื อข่ายนักวิจยั เป็ นเวทีหาข้อสรุ ปในการศึกษาดูงานได้กาํ หนดวัน ส่ วนสถานที่ ศึกษาดูงานประสานผ่านคุณพรธิ พา ธรรมรักชัย ช่วยประสานงานภายใต้เป้ าหมายการ คือ หนึ่งต้องศึกษาดู งานพื้นที่ที่มีประสบการณ์ การสร้างความปลอดภัยทางถนน สองแลกเปลี่ยนวิธีการทํางานดําเนินความ ปลอดภัยทางถนนผ่านวิธีการวิจยั และสุ ดท้ายต้องการถอดบทเรี ยนการทํางานของทีมวิจยั อยากเห็น พัฒนาการ 1 ปี ที่ทาํ งานร่ วมกับโหนด จากความต้องการจึงมีการเลือกพื้นที่ และกําหนดวัน ระหว่างวันที่ 23 – 28 เมษายน 2555 โดย พื้นที่แรก แลกเปลี่ยนการทํางานวิจยั ร่ วมกับทีมจังหวัดสมุทรสงคราม ชุมชนความปลอดภัยทางถนน ที่บา้ น ดอนนา และบ้านมะกอก จังหวัดมหาสารคาม และการทํางานของหน่วยงาน ที่ อําเภอเขาสวนกวาง จังหวัด ขอนแก่นเริ่ มตั้งแต่การ ทั้ง 3 พื้นที่มีความต่างในการทํางาน เช่น ที่ชุมชนบ้านดอนนา และบ้านมะกอก เป็ นประเด็น การ จัดการจุดเสี่ ยงที่โดยชุมชน มีนกั วิชาการจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็ นพี่เลี้ยง ส่ วนอําเภอเขาสวนกวาง ดําเนินการโดยผ่านสถานีตาํ รวจภูธร อําเภอเขาสวนกวาง โดยผูก้ าํ กับอานนท์ เป็ นผูข้ บั เคลื่อน ร่ วมกับผูน้ าํ กํานัน ผูใ้ หญ่บา้ น และองค์การบริ การส่ วนตําบล ให้พ้นื ที่กบั เยาวชนที่หลงผิด มาเข้าค่ายทําสิ่ งดีๆโดยมี ผูใ้ หญ่ช่วยดูแล สนับสนุนการทํางาน ส่ วนพื้นที่สมุทรสงครามเป็ นพื้นที่เริ่ มดําเนินได้แลกเปลี่ยนวิธีการ ทํางานของนักวิจยั ด้วยกัน และในวันทุดท้ายในการเดินทางทางโครงการได้กาํ หนดให้ทีมวิจยั ทั้ง 3 เพื่อแลกเปลี่ยน สรุ ป 1
1
1
1
1
1
1
1
1
1
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 27
บทเรี ยนการทํางาน ในฐานะ ที่ร่วมกันมา “ตั้งแต่วนั แรก จนถึงวันนี้ ใช้เวลา 1 ปี จากการทํางานร่ วมกันสิ่ งที่ เห็น ที่ได้ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อะไรบ้างอย่างไร ใช้วธิ ี การให้ทีมวิจยั แต่ละคนบอกเล่าในสิ่ งที่ตวั เอง ได้รับ สิ่ งที่เกิดขึ้นกับทีมที่ได้ศึกษางาน คือ องค์ความรู ้ในการจัดการความปลอดภัยทางถนน โดย วิธีการดําเนินการโดยชุมชน การสร้างความสัมพันธ์ภายในทีม และระหว่างทีม เห็นการเปลี่ยนแปลงของ สมาชิกทีมวิจยั ที่สารภาพออกมา และการยืนยันโดยเพื่อนร่ วมทีม และที่สาํ คัญการนําประสบการณ์ของกัน และกันมาปรับใช้ เช่น วิธีการประชุม การประสานงาน 1
1
1
13 เข้ าร่ วมประชุ มศูนย์ อาํ นวยการความปลอดภัยทางถนน จ.สตูล จากที่ได้ดาํ เนินโครงการ ทางโหนดมีโอกาสเข้าร่ วมประชุ มศูนย์อาํ นวยการความปลอดภัยทาง ถนนจังหวัดสตูล มีหน่วยงานในพื้นที่จงั หวัด และเครื อข่ายจังหวัดสงขลาเข้าร่ วมผลการดําเนิ นงานของแต่ ละหน่วยงาน ในช่วงสุ ดท้ายของการประชุมเนื่องจากไม่ได้วางกําหนดการไว้ก่อนล่วงหน้าทางผูป้ ระสาน คุณสมพงษ์ หลีเคราะห์ นําเสนอผลการดําเนินงาน ซึ่ งรู ปแบบงานที่มีความแตกต่างหน่วยงานอื่นๆใน จังหวัด ซึ่ งทางคุณไพศาล ขุนศรี เจ้าภาพงานได้บอกการประชุมครั้งต่อไปจะจัดวาระนําเสนอ และให้ทีม วิจยั ระดับชุมชยเข้าร่ วมนําเสนอด้วยตัวเอง เพื่อเป็ นการเชื่ อมประสานระหว่างหน่วยงาน ที่มีเจ้าหน้าที่ รับผิดชอบโดยตรง เช่น แขวงการทาง สํานักงานทางหลวงชนบท โรงพยาบาล อําเภอ และหน่วยงานอื่นๆ 1
1
1
14 การติดตามสนับสนุน 1
ตารางสรุ ปการลงติดตาม สนับสนุน พืน้ ทีค่ ลองนํา้ เค็ม ว. ด.ป. ประเด็น/ เรื่อง 5 มกราคม เตรี ยมนําเสนอ โครงการ 19 กุมภาพันธ์ ประชุมเครื อข่าย 3 พื้นที่
ผลทีเ่ กิดขึน้ เกิดการย้อนทวนการดําเนินงานในช่วงพัฒนาโจทย์ เกิด ความมัน่ ใจในการนําเสนอโครงการ 1. ทีมวิจยั ได้ยอ้ นทวนโครงการที่ได้นาํ เสนอและสิ่ งที่ควร ปรับปรุ ง 2. ทีมวิจยั ได้ร่วมแลกเปลี่ยน ออกแบบการขยับงานร่ วมกัน การนัดหมายประชุมเป็ นวาระในระดับเครื อข่าย ในวันอาทิตย์ ที่2ของทุกเดือน และวาระการพูดคุย การเตรี ยมงาน สรุ ปงานใน ระดับพื้นที่ อาทิตย์ละ 1 ครั้ง (บ้านคลองนํ้าเค็ม กําให้ทุกวัน ศุกร์ เวลา 14.00 น. เป็ นต้นไป )
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 28
22 กุมภาพันธ์
26 กุมภาพันธ์
2 มีนาคม
9 มีนาคม
18 มีนาคม
ติดตาม ขยับงานตาม 1. ได้ทบทวนแผนงานโครงการวิจยั การวางบทบาทหน้าที่ใน แผนงาน รู ปแบบเป็ นคณะทํางานเช่น คนประสาน คนจดบันทึก การเงิน ประชาสัมพันธ์ และออกแบบการดําเนิ นงานตามแผนงาน เช่น การทดลองนับรถ การเลือกวันนับรถโดยเลือกการวันที่มีการ สัญจรของรถที่หนาแน่น (วันจันทร์ วันอาทิตย์) ติดตาม ขยับงาน 1. ทบทวน ทดลองนับรถและบันทึกลงในแบบตารางแยกตาม ออกแบบการนับรถ ประเภทรถ ของผูส้ ัญจร สาย416 (24 ชม.) ติดตาม สรุ ปการ 1. ทีมวิจยั มีความสุ ข สุ ขตรงที่ได้อยูร่ ่ วมกัน ได้ช่วยเหลือกัน ดําเนินงานการนับรถ ดูแลกัน ได้พดู คุยกันมากขึ้น ครั้งที่ 1 2. ได้เทคนิคการนับรถ เช่น การจัดวางเอกสารในการบันทึก (โดยแบ่งหมวดประเภทรถที่สัญจรบ่อยมาอยูใ่ นพวกเดียวกัน) การมองรถในระยะล่วงหน้า สลับกับมีคนช่วยบอก 3. ได้ขอ้ มูลผูส้ ัญจรตลอด 24 ชัว่ โมง ในวันจันทร์ จํานวนผู้ สัญจร 9,392 คัน 4. ปัญหาที่พบ คือ การนับรถจะมัว่ ในช่วง 1 ชัว่ โมงแรก ถนน กําลังก่อสร้าง “เกิดฝุ่ นละออก” “เสี่ ยงกับการเกิดเหตุ ผูส้ ัญจร ขับขี่เร็ ว” ทีมงานเหนื่อยกับการนัง่ อยูก่ บั ที่ 24 ชัว่ โมง การตั้ง คําถามของคนในชุมชน “คนบ้า!” “การแก้ไขปั ญหาทําไม่ได้!” ในทางกลับกันทางทีมวิจยั นึกไว้ในใจว่าเราทําเพื่อลูกหลาน คน ในชุมชน “สักวันหนึ่ง เขา..จะเข้าใจ”พร้อมกับปั ญหาที่ถูกแก้ ด้วยคนบ้า.. 5. ออกแบบการสํารวจจุดเสี่ ยง เช่น สภาพจุดเสี่ ยงเป็ นอย่างไร ภูมิทศั พฤติกรรมผูส้ ัญจร พร้อมกันกําหนดวันสํารวจ ติดตาม สรุ ปการ 1. มีความสุ ขที่ทาํ งานร่ วมกันอย่างเป็ นทีม ดําเนินงานการนับรถ 2. ได้ขอ้ มูลผูส้ ัญจรตลอด 24 ชัว่ โมง ในวันอาทิตย์ จํานวนผู้ ครั้งที่ 2 และวางแผน สัญจร 8,758 คัน การสํารวจจุดเสี่ ยง พฤติกรรมของผูส้ ัญจรส่ วนใหญ่ ขับรถเร็ ว รถจักรยานยนต์ไม่ สวมหมวกนิรภัย(หมวกอยูใ่ นตะกร้ารถ) เกือบ 100 % ติดตาม ประชุมสรุ ป ทีมวิจยั ได้ทวนข้อมูลที่สาํ รวจและเพิ่มเติมข้อมูลในแต่ละจุด การดําเนิ นงานการ เสี่ ยง ได้ขอ้ มูลจุดเสี่ ยง รวม 3 จุดเสี่ ยง ดังนี้
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 29
สํารวจจุดเสี่ ยง
21 มีนาคม
ติดตาม การสํารวจ ข้อมูลและการ สัมภาษณ์ญาติผู ้ ประสบเหตุ
จุดที่ 1 บริ เวณสามแยกทางเข้ามัสยิด 1. ได้ขอ้ มูลการสํารวจ สภาพตรงสามแยกที่เชื่อมติดกับถนน สายหลักชํารุ ด และมีตน้ ไม้ข้ ึนบดบังการมองเห็น 2. พฤติกรรมผูส้ ัญจรออกจากซอยเลี้ยวขวาย้อนสวนกับผูส้ ัญจร ถนนสายหลัก 3. มีการเกิดอุบตั ิเหตุรถชนกันบ่อยครั้งในช่วงเลี้ยวรถที่เกิดจาก ไม่ให้สัญญาณไฟ และขับรถเร็ ว 4. แนวทางแก้ไขปั ญหา มีป้ายบอกลดความเร็ ว ลูกระนาด ไฟ กระพริ บ ให้มีเกาะกลางถนน จุดที่ 2 บริ เวณทางตรงในซอยเข้ามัสยิด 1. สภาพถนนแคบ(ประมาณ 2 เมตร) มีบา้ นเรื อนที่เรี ยงรายต่อ กัน มีตน้ ไม้บดบัง(ลํ้าเข้ามาบนถนน) บนถนนมีเส้นเชือกวาง ขวางถนน(เส้นลดความเร็ ว) 2. เด็กๆขี่รถจักรยาน วิง่ เล่นบนถนน จุดที่ 3 บริ เวณสามแยกมัสยิด 1. สภาพถนนเป็ นทางแยก ถนนแคบ ตรงแยกมีสิ่งบดบังการ มองเห็น ป้ ายโครงการสร้างถนน กําแพงมัสยิด และตรงแยกมี คูน้ าํ ทําให้ช่วงแยกมีพ้ืนที่นอ้ ยลง พร้อมกันนั้นมีกิ่งต้นมะนาว 2. มีการเกิดอุบตั ิเหตุรถชนกันบ่อยครั้ง แนวทางแก้ไขปั ญหา จุดที่ 3 - เอาป้ ายโครงการออก/ ปรับตัดกิ่งต้นมะนาว - ติดกระจกมองเห็น - จัดทําวงเวียน - จัดทําลูกระนาด (ลดความเร็ วของรถ) - จัดทําเส้นแบ่งเลน เส้นรอรถ ได้ขอ้ มูลจากการลงพื้นที่สาํ รวจจุดเสี่ ยง จุดที่ 9 บริ เวณทาง แยกป้ อมยาม ชรบ. ,จุดที่ 10 บริ เวณทางเข้าโรงเรี ยนบ้านคลอง นํ้าเค็ม, จุดที่ 11 บริ เวณสามแยกทางเข้าอําเภอละงู และได้ขอ้ มูลจากการสัมภาษณ์ภรรยาผูเ้ สี ยชีวติ จากการ ประสบอุติเหตุ “นางรอฟี หย๊ะ” เล่าให้ฟังว่า หลังจากสามี“ชู แหม” กลับจากกรี ดยาง เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00 น. ของ วันพฤหัสบดี ที่ 20 พ.ศ. 2544 ได้ออกรถจากบ้านเพื่อไปซื้ อ
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 30
23 มีนาคม
อาหารเช้า พอมาถึงที่เกิดเหตุ(บริ เวณสามแยกป้ อม ชรบ.) ฝั่ง ถนนสายหลักตรงไปตัวตลาดละงู มีรถกระบะวิง่ มาจากสตูล เพื่อไปขายผักที่ตลาดละงู(คนขับอยูใ่ นอาการเมา) เข้าวิง่ ชนรถ ของ “ชูแหม” ทางด้านหลัง ทําให้ศรี ษะกระแทกกับแฮนรถเข้า อย่างจัง ทําให้ “ชูแหม” เสี ยชีวติ ทันที จากอุบตั ิเหตุดงั กล่าวทางประกันช่วยเป็ นเงิน 80,000 บาท และคู่กรณี ช่วยเป็ นค่าเสี ยหาย 15,000 บาท “นางรอฟี หย๊ะ”เล่าต่อ ว่า เดิมทีมีอาชีพรับจ้าง(ตัดยาง)และมี สามีเป็ นหัวหน้าครอบครัว 2ปี กับการตั้งหลัก กับเหตุดงั กล่าว ตนเองในช่วงแรกคิดที่จะฆ่าตัวตาย เพราะทําใจไม่ได้กบั เหตุที่ เกิดอย่างฉับพลันของสามีที่เสี ยไปอีกทั้งยังมีลูก อยู่ 4 คน ในขณะนั้น คนโตเรี ยนอยู่ ป.1 คนเล็กสุ ดอยูศ่ ูนย์พฒั นาเด็กเล็ก แต่ความคิดที่จะฆ่าตัวตายก็ได้หายไปเพราะรู ้วา่ ยังมีลูก(ลูกคือ กําลังใจ) และต้องต่อสู่ กบั โชคชะตาที่ตอ้ งเป็ นเสาหลักของ ครอบครัว ปั จจุบนั ก็ดาํ เนินชี วติ ตามปกติ ข้อสังเกตจากเหตุการณ์ดงั กล่าว 1. ความเร็ วของรถขายผัก 2. คนขับอยูใ่ นอาการเมา 3. ผูเ้ สี ยชีวติ ไม่สวมหมวกนิรภัย ติดตาม ประชุมสรุ ป ทีมวิจยั ได้ทวนข้อมูลที่สาํ รวจและเพิ่มเติมข้อมูลในแต่ละจุด การดําเนิ นงานการ เสี่ ยง ได้ขอ้ มูลจุดเสี่ ยง รวม 6 จุดเสี่ ยง ดังนี้ สํารวจจุดเสี่ ยง และ จุดที่ 4 บริ เวณสามแยกหลังมัสยิด วางแผนให้ทีม 1. ถนนเป็ นทางแคบ มีกาํ แพงมัสยิดบดบังการมองเห็น มี วิทยากรอบรม ต้นไม้ใหญ่ข้ ึนอยูบ่ ริ เวณโค้งใน วิเคราะห์จุด นักวิจยั 2. พฤติกรรมผูส้ ัญจรขับรถเร็ ว(เด็ก) ในพื้นที่ กําหนดจุด 3. มีการเกิดอุบตั ิเหตุรถชนกัน เสี่ ยงเพื่อมาเป็ นส่ วน 4. แนวทางการแก้ไขปั ญหา ติดตั้งกระจกการมองเห็นในทาง หนึ่งของการ แยก จัดทําลูกระนาด (ลดความเร็ วของรถ) ฝึ กอบรมฯ จุดที่ 5 บริ เวณทางโค้งบ้านก๊ะหลาด 1. สภาพถนนเป็ นโค้งเป็ นรู ปตัวเอส มีหญ้าขึ้นทําให้บดบังการ มองเห็น (มีการเกิดอุบตั ิเหตุรถชนกัน รถจักรยานยนต์หลุด โค้ง)
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 31
30 มีนาคม
ติดตาม สรุ ปการ ดําเนินงานการ สํารวจจุดเสี่ ยง
2. พฤติกรรมผูส้ ัญจร ขับขี่เร็ ว 3. แนวทางแก้ จัดทําลูกระนาดเพื่อลดความเร็ วของรถ และพัฒนาสิ่ งกีดขวางการมองเห็น(ตัดหญ้า) จุดที่ 6 บริ เวณทางโค้ง 1. สภาพถนนเป็ นทางโค้งรู ปตะขอเกี่ยว ถนนเป็ นทางแคบ ถนนสู งกว่าระดับบ้านประมาณ 1 เมตร มีเสาไฟ2ต้น อยู่ บริ เวณทางโค้งส่ วนในซึ่ งมีความเสี่ ยงมากโดยเฉพาะช่วง กลางคืน และไม่มีไฟสําหรับการมองเห็น(มีการเกิดอุบตั ิเหตุ รถสามล้อ หลุดโค้ง) 2. แนวทางแก้ไขปั ญหา ปรับให้มีไฟฟ้ าเพื่อสําหรับการมองเห็น ติดสติกเกอร์ สาํ รับการมองเห็น/ระบายสี ตรงเสาไฟฟ้ า และทํา ลูกระนานเพื่อลดความเร็ วของรถ จุดที่ 7 บริ เวณทางโค้ง(บังมะก๊อน) 1. สภาพถนนเป็ นทางโค้งต่อกันสองโค้ง ถนนแคบ 2. พฤติกรรมผูส้ ัญจร ขับขี่รถเร็ ว 3. แนวทางแก้ไขปัญหา จัดทําลูกระนาด จุดที่ 8 บริ เวณทางแยกเชื่ อมกับถนนสายหลัก 1. ถนนเป็ นทางแยกที่เชื่อมติดกับถนนสายหลัก 2. จุดบริ เวณดังกล่าวมีความเสี่ ยงของผูส้ ัญจรที่ออกจากถนน สายรอง และผูท้ ี่สัญจรเข้าทางแยก เนื่องจากถนนสายหลักมีการ สัญจรของผูข้ บั ขี่ที่เร็ ว 3. แนวทางแก้ไขปั ญหา จัดทําป้ ายลดความเร็ ว จัดทําลูกระนาด บริ เวณถนนสายหลักก่อนถึงทางแยกเข้าถนนสายรอง ทีมวิจยั ได้ทวนข้อมูลที่สาํ รวจและเพิ่มเติมข้อมูลในแต่ละจุด เสี่ ยง ได้ขอ้ มูลจุดเสี่ ยง รวม 3 จุดเสี่ ยง ดังนี้ จุดที่ 9 บริ เวณทางแยกป้ อมยาม ชรบ. 1. สภาพเป็ นแยกเนินโค้งที่สายรองเชื่ อมติดกับถนนสายหลัก (เป็ นเส้นทางขาเข้าของผูป้ กครอง รับ-ส่ ง บุตรหลานใน โรงเรี ยนบ้านคลองนํ้าเค็ม) 2. ในบริ เวณทางแยกดังกล่าวจากสภาพของถนนที่เป็ นเนิ นโค้ง ทําให้การมองลดน้อยลงบวกกับความเร็ วที่วงิ่ ตรงทําให้เกิด ความเสี่ ยง (บริ เวณจุดดังกล่าวมีการเกิดอุบตั ิเหตุบ่อยครั้ง) และ
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 32
บ่อยครั้งที่มีการเสี ยชีวติ คนนอกพื้นที่ คนในชุมชน และเด็ก นักเรี ยน 3. แนวทางแก้ไขปัญหา จัดทําป้ ายลดความเร็ ว ทําลูกระนาด และปิ ดเส้นทางขาเข้าให้ใช้ทางเดียว ให้ไปใช้ในสามแยกจุดที่ 10( สามแยกป้ อม ชรบ.)
6 เมษายน
ติดตาม สรุ ปการ ดําเนินงานการ สํารวจจุดเสี่ ยง
จุดที่ 10 บริ เวณทางเข้าโรงเรี ยน 1. สภาพเป็ นทางที่มีถนนสายรองเชื่อมติดกับถนนสายหลัก (เป็ นเส้นทางขาออกของผูป้ กครองส่ งบุตรหลานในโรงเรี ยน บ้านคลองนํ้าเค็ม) 2. บริ เวณจุดดังกล่าวมีการเกิดอุบตั ิเหตุบ่อยครั้ง และบ่อยครั้งที่ มีการเสี ยชีวติ ทั้งนักเรี ยน และคนในชุมชน 3. แนวทางแก้ไขปัญหา จัดทําป้ ายลดความเร็ ว ทําลูกระนาด และจัดให้มีอาสาสมัครคอยระวัง(จัดการจราจรหน้าโรงเรี ยน) ในช่วงที่มีการรับ-ส่ ง นักเรี ยน จุดที่ 11 บริ เวณสามแยกทางเข้าอําเภอละงู ชวนดู VDO ชุดอบรมวิเคราะห์จุดเสี่ ยงในวันที่ 24-25 มี.ค. 55 ในช่วงของบทสรุ ปโดย “คุณสมพงษ์” ประเด็น บริ บทความต่าง ของแต่ละพื้นที่ ต่อด้วย “พี่ไพศาล ปภ.สตูล” ประเด็น ระบบ กลไกในการนําเสนอข้อมูลกับแนวทางแก้ไขปั ญหาในระดับ หน่วยหน่วยงาน และเพิ่มเติมข้อคิด โดย อ.สมบัติ ประเด็น พัง เมืองกับเส้นทางที่มีการขยายตัวของเมืองมีผลกับคนในพื้นที่ อย่างไร! ทบทวนข้อมูลจากที่ได้สํารวจจุดเสี่ ยงและร่ วมแลกเปลี่ยน ร่ วมกัน ตามประเด็นดังนี้ 1. ในถนนสายหลัก(ที่กาํ ลังก่อสร้าง ในแบบแปลนไม่มีเกาะกลางถนน)ทําให้เกิดความเสี่ ยงแก่คน ในชุมชน ผูส้ ัญจรทัว่ ไป โดยเฉพาะลูกหลาน(เด็กนักเรี ยน)ที่มี การข้ามไป-มา กับโรงเรี ยน ในที่ประชุมเสนอแนวคิด คือ จัด เวทีนาํ เสนอข้อมูลความเสี่ ยงในถนนสายหลักให้มีเกาะกลาง ถนน พร้อมกันนั้นให้คณะครู โรงเรี ยนบ้านคลองนํ้าเค็มมาเป็ น ส่ วนหนึ่งของการนําเสนอ และพร้อมกันนั้นให้ทางคณะครู จัดระบบการรับ-ส่ งนักเรี ยน
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 33
2. ถนนสายรองที่มีการกํากับดูแลขององค์การบริ หารส่ วน ท้องถิ่นตําบลละงูอยูแ่ ล้วนั้น ให้มีการเสนอรู ปแบบในเชิงงาน ข้อมูลในแต่ละจุดเสี่ ยง(6 จุดเสี่ ยง) เพื่อนําไปสู่ การแก้ไขปั ญหา ในแต่ละจุดเสี่ ยง ภารกิจทีมวิจยั คือ ไปศึกษาข้อมูลด้าน โครงการปรับปรุ งถนนในแต่ละช่วงปี ว่าเป็ นอยูอ่ ย่างไร พื้นที่บา้ นโกตา ว. ด.ป. ประเด็น/ เรื่อง 5 มกราคม 19 กุมภาพันธ์
25 กุมภาพันธ์
เตรี ยมนําเสนอ โครงการ ประชุมเครื อข่าย 3 พื้นที่
ผลทีเ่ กิดขึน้ มีการย้อนทวนข้อมูล และจัดลําดับการนําเสนอของโครงการ
1. ได้ร่วมแลกเปลี่ยน ออกแบบการขยับงานร่ วมกัน การนัด หมายประชุมเป็ นวาระในระดับเครื อข่าย ในวันอาทิตย์ ที่2ของ ทุกเดือน และวาระการพูดคุย การเตรี ยมงาน สรุ ปงานในระดับ พื้นที่ อาทิตย์ละ 1 ครั้ง (บ้านโกตา กําให้ทุกวันเสาร์ เวลา 20.00 น. เป็ นต้นไป ) ติดตาม ขยับงานตาม ได้ร่วมกันพุดคุยและเล่าความรู ้สึกในช่วงการเดินทางและ แผนงาน ในช่วงการนําเสนอโครงการโดยมีประเด็นเพิ่มเติมของอาจารย์ สมบัติ ที่พดู ถึงมิติของศาสนาอิสลาม ในบทบทบัญญัติกล่าวอยู่ หรื อเปล่าอย่างไร หรื อวิถีความเป็ นอยู่ ที่สอดคล้องกันอย่างไร จากประเด็นดังกล่าวทําให้ทีมวิจยั ได้คุยต่อกันกับรู ปแบบของ งานวิจยั ที่สามารถนําไปสู่ การแก้ไขปั ญหาตามบริ บทที่เป็ นอยู่ ต่อด้วยกับการเล่าในการประชุมเครื อข่ายสร้างความปลอดภัย ทางถนน 3 พื้นที่ เกี่ยวกับการขยับงานตามแผนงานโครงการ และได้นดั หมายประชุมเป็ นวาระในระดับเครื อข่าย ในวัน อาทิตย์ ที่2ของทุกเดือน และวาระการพูดคุย การเตรี ยมงาน สรุ ปงานในระดับพื้นที่ อาทิตย์ละ 1 ครั้ง (ชุมชนบ้านโกตา กําหนดให้ทุกวันเสาร์ เวลา 20.00 น. เป็ นต้นไป ) และออกแบบการทดลองนับรถการสํารวจ สภาพถนน พฤติกรรมของผูส้ ัญจร ประเภทรถที่สัญจร การสัมภาษณ์ ผู้ อยูใ่ นบริ เวณจุดเสี่ ยง ผูป้ ระสบเหตุ ผูเ้ ห็นเหตุการณ์ ข้อมูลเชิง
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 34
3 มีนาคม
10 มีนาคม
17 มีนาคม
20 มีนาคม
สถิติ ขอข้อมูลจากหน่วยงาน และได้กาํ หนดให้วนั ที่ 3 มี.ค.55 เวลา 09.00 น. เป็ นต้นไป ให้มารวมตัวที่ป้อมยาม ชรบ. อุปกรณ์ สมุด ปากกา กล้องถ่ายรู ปและประชุมสรุ ปงาน ใน เวลา 20.00 น. ณ กลุ่มออมทรัพย์บา้ นโกตา ติดตาม สรุ ปการ ได้ทราบถึงความรู ้สึก ทีมวิจยั ตกใจกับข้อมูลปริ มาณการ ทดลองนับรถ สัญจรที่มีมาก พร้อมกับกันในแค่คิดว่านับไปทําไม(จํานวนรถ) ทบทวนการออกแบบและได้ขอ้ มูล(ทดลองนับ ใช้เวลา 5 ชม.) หรื อพฤติกรรมผูส้ ัญจร (ขาเข้า)ระหว่าง สตูล-เขาขาว-ตลาดละงู 3,593 คัน ระหว่าง(ขาออก) ตลาดละงู-เขาขาว-สตูล 2,828 คัน รวมผูส้ ัญจรผ่านชุมชน 6,421 คัน ปั ญหาคือทัศนคติของผู ้ สัญจรกับการใช้ถนนในทางแยก หรื อพฤติกรรมของการให้ สัญญาณไฟ จากข้อมูลการสัญจรและพฤติกรรมของผูใ้ ช้รถ กับถนน ติดตาม ประชุมสรุ ป ได้ร่วมแลกเปลี่ยนการทํางานกับปั ญหาที่พบคือ ในการ ข้อมูลผูใ้ ช้รถใน ทํางานของทีมวิจยั กับการมีส่วนร่ วม เช่น การประชุม การการ ชุมชน นับรถ หรื อการสํารวจข้อมูลผูใ้ ช้รถ มีการดําเนินงานอยูไ่ ม่กี่ คน จากปั ญหาดังกล่าวจึงหาแนวทางในการทํางานร่ วมกัน อย่างเช่น ต้องไปพูดคุยกับคนที่ไม่เข้าร่ วมว่ามีปัญหาอะไรบ้าง อย่างไร จากการลงพื้นที่สาํ รวจข้อมูลและแบ่งกันรับผิดชอบเป็ นโซน ข้อมูลยังไม่เสร็ จ ในที่ประชุมจึงเสนอให้ยดื เวลาออกไปอีก และกําหนดให้ในวันที่ 16 มีนาคม 55 โดยมีขอ้ เสนอว่าให้แต่ ละคนที่รับผิดชอบนั้นสรุ ปออกเป็ นตัวเลข เพื่อเป็ นการไม่ เสี ยเวลาในช่วงประชุมครั้งต่อไป ติดตาม ประชุมสรุ ป ได้ขอ้ มูลการสํารวจของผูใ้ ช้รถในชุมชน สมาชิก 25 ครัว ขับขี่ ข้อมูลผูใ้ ช้รถใน รถเป็ น 192 คน แยกช่วงอายุ ชั้นประถม 12 คน มัธยม 17 คน ผูใ้ หญ่ 163 คน มีใบขับขี่รถ 95 คน และไม่มีใบขับขี่รถ 97 คน ชุมชน จํานวนรถ 172 คัน แยกเป็ นประเภทรถ รถกระบะ 17 คัน รถ เก๋ ง 12 คัน รถจักรยานยนต์ 127 คัน อื่นๆ 16 คัน ติดตาม การ ไม่ได้ดาํ เนินงานตามแผนงาน เนื่ องจากสมาชิกทีมวิจยั ติด ดําเนินงานทดลอง ภารกิจส่ วนตัว และเลื่อนให้เป็ นวันที่ 24 มี.ค. เป็ นวันสํารวจ นับรถ พร้อมกับทีมวิทยากรอบรมวิเคราะห์จุดเสี ยง
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 35
พืน้ ทีเ่ ขตเทศบาลตําบลกําแพง ว. ด.ป. ประเด็น/ เรื่อง 5 มกราคม เตรี ยมนําเสนอ โครงการ 19 กุมภาพันธ์ ประชุมเครื อข่าย 3 พื้นที่ 1
24 กุมภาพันธ์
5 มีนาคม
9 มีนาคม
16 มีนาคม
ผลทีเ่ กิดขึน้ มีการย้อนทวนข้อมูล และจัดลําดับการนําเสนอของโครงการ
ได้ร่วมแลกเปลี่ยน ออกแบบการขยับงานร่ วมกัน การนัด หมายประชุมเป็ นวาระในระดับเครื อข่าย ในวันอาทิตย์ ที่2ของ ทุกเดือน และวาระการพูดคุย การเตรี ยมงาน สรุ ปงานในระดับ พื้นที่ อาทิตย์ละ 1 ครั้ง (ในเขตเทศบาลตําบลกําแพง กําให้ทุก วันศุกร์ เวลา 20.00 น. เป็ นต้นไป ) ติดตาม ขยับงานตาม ได้ร่วมแลกเปลี่ยน ออกแบบงานโดยการเขียนแผนที่จุดเสี่ ยง แผนงาน และกําหนดจุดนับรถร่ วมกัน แจ้งการเวทีอบรมการวิเคราะห์จุดเสี่ ยงในเดือนมีนาคม 2555 ซึ่ งข้อมูลการทดลองนับรถสามารถนํามาในในช่วงเวทีฝึกอบรม วิเคราะห์จุดเสี่ ยง ติดตาม ประชุม ได้ทบทวนออกแบบงานโดยการเขียนแผนที่จุดเสี่ ยงและ ออกแบบการทดลอง กําหนดจุดนับรถร่ วมกัน นับรถของผูส้ ัญจร ได้รูปแบบการทดลองนับรถ เช่น มีการแยกประเภทของรถ รถจักรยานยนต์ รถกระบะ+รถเก๋ ง รถบรรทุก และพฤติกรรม ของผูส้ ัญจร เตรี ยม ทดลองนับ ได้ทราบถึงความรู ้สึกของทีมวิจยั ในช่วงนับรถ กับคําถามขอ รถ ผูท้ ี่สัญจรว่า “บ้า” แต่บางคนเข้ามาถาม ก็เห็นด้วยกับการนับรถ และเป็ นกําลังใจ และทีมวิจยั ตกใจกับข้อมูลของผูส้ ัญจรที่มี จํานวนมาก ได้ทบทวนการดําเนิ นงานในช่วงเตรี ยม เป็ นไปตามแผนที่วาง ไว้ ได้ขอ้ มูลผูส้ ัญจร และพฤติกรรมผูส้ ัญจรอย่างเห็นได้ชดั คือ วันดังกล่าวมีการเกิดอุบตั ิเหตุ 1 ครั้ง เหตุเกิดจากปั จจัย 2 ปั จจัย คือ บริ เวณสี่ แยกมหาจันทร์ มีการเปิ ดไฟกระพริ บ(ไฟระวัง) และอีกอย่างคือ พฤติกรรมของผูป้ ระสบเหตุคือการไม่ให้ สัญญาณไฟในช่วงเลี้ยว ประชุมเตรี ยมเวที ได้ทบทวนข้อมูลของผูส้ ัญจรในแต่ละประเภทรถ และ
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 36
ฝึ กอบรมการ วิเคราะห์จุดเสี่ ยง 30 มีนาคม
6 เมษายน
พฤติกรรม ข้อมูลดังกล่าวสามารถนําไปใช้ในเวทีฝึกอบรม พร้อมกันนั้นได้ออกแบบการสํารวจ แบ่งทีมและนัดหมายการ สํารวจจุดเสี่ ยงเพื่อนําไปใช้ในเวทีดงั กล่าว ติดตาม ขยับงานตาม ได้ทบทวนการฝึ กอบรมการวิเคราะห์จุดเสี่ ยง เกิดความมัน่ ใจ แผนงาน กับงานข้อมูลที่สามารถนําไปใช้ได้แก้ปัญหาได้ ได้ประเด็นเพิ่ม จากการชวนพูดประเด็นการจัดการพื้นที่บน ถนนกับพ่อค้าแม่คา้ พฤติกรรมการจอดรถ หน้าตลาดสดละงู (ในช่วงวันตลาดนัด) ติดตาม ประชุม ได้ทบทวนการดําเนิ นงาน เตรี ยมศึกษาดูงาน
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 37
บทที่ 4 ผลการดําเนินงาน 1. เกิดโครงการวิจัยสร้ างความปลอดภัยทางถนน ในการสร้างรู ปธรรมพื้นที่สร้างความปลอดภัยทางถนนโครงการมีพ้ืนที่ได้วางเป้ ามาย 3 พื้นที่ มีการแนะนําทําความเข้าใจ ใช้วธิ ี การเลือกพื้นที่ภายใต้เงื่อนไขดังนี้ 1. เป็ นพื้นที่อยูบ่ ริ เวณถนนสายละงู 416 ฉลุง – ละงู มีการเชื่อมโดยถนนผ่านชุมชน 2. เป็ นพื้นที่มีปัญหาการจราจร และเกิดอุบตั ิเหตุบ่อย จากเงื่อนไขข้างต้นซึ่ งเล็งเห็นว่าพื้นที่ในเขตเทศบาลตําบลกําแพง ในความรับผิดชอบของ เทศบาลตําบลกําแพง บ้านโกตาในเขตองค์การบริ หารส่ วนตําบลกําแพง และบ้านคลองขุด ในเขตองค์การ บริ หารส่ วนตําบลละงู และเปลี่ยนมาเป็ นบ้านคลองนํ้าเค็มเป็ นหมู่บา้ นที่อยูถ่ ดั มาอีก เนื่องจากแกนนําขอ ถอนตัว อนาคตการเชื่ อม หรื อส่ งต่อกับท้องถิ่น สภาพปั ญหาของของแต่ละพื้นที่ คือ เขตเทศบาลตําบลกําแพง เป็ นชุมชนเมือง ศูนย์รวม การจราจรของอําเภอละงู ไม่มีป้ายบอก ไม่มีกระจก มีสัญญาณไฟแต่ไม่สามารถใช้งาน เนื่องรถจะติดมาก เมื่อใช้สัญญาณไฟ มีป้ายโฆษณาปิ ดบังป้ ายสัญลักษณ์ การสัญจรของรถมีมากในชัว่ โมงเร่ งด่วน ขับรถ ประมาท ผูข้ บั ขี่ขาดวินยั ในการขับขี่เช่น ไม่ให้สัญญาณไฟในขณะเลี้ยวหรื อจอด จอดรถลํ้าเส้น ผูข้ บั ขี่ขาด มารยาทขณะใช้เส้นทางร่ วม หรื อทางแยก หมู่บา้ นโกตามีลกั ษณะเป็ นกึ่งชานเมือง มีถนนทางหลวงแผ่นดิน สาย 416 ซึ่ งเป็ นทางสัญจร สายหลักเพื่อผ่านไปยังสถานที่ดงั ต่อไปนี้ สายไปอําเภอทุ่งหว้าและจังหวัดตรัง, สายสายไปเขตเทศบาล ตําบลกําแพงและท่าเรื อปากบารา, สายไปตําบลฉลุง อําเภอเมืองสตูลและอําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา, สายไปอําเภอมะนังและร่ วมถนนสาธารณะในหมู่บา้ น, มีประเภทรถที่วงิ่ ผ่านในช่วงเวลาเร่ งด่วนประกอบ ไปด้วย รถบรรทุก รถโดยสารประจําทาง รถรับส่ งนักเรี ยน รถส่ วนบุคคล มีการเกิดอุบตั ิเหตุ อัน เนื่องมาจากสาเหตุสภาพถนนชํารุ ด ถนนแคบ ไม่มีป้ายสัญลักษณ์และสัญญาณไฟ สิ่ งกีดขวางและการ สัญจรของรถมีมากในชัว่ โมงเร่ งด่วน ขับรถประมาท ผูข้ บั ขี่ขาดวินยั ในการขับขี่เช่น ไม่ให้สัญญาณไฟ ในขณะเลี้ยวหรื อจอด จอดรถลํ้าเส้น ผูข้ บั ขี่ขาดมารยาทขณะใช้เส้นทางร่ วม หรื อทางแยก บ้านคลองนํ้าเค็ม เป็ นชุมชนนอกเมืองการสัญจรของผูใ้ ช้ถนนสายหลักเข้าสู่ เมืองสตูล จังหวัด สงขลา จังหวัดพัทลุง จังหวัดตรัง และจังหวัดอื่นๆ ประกอบไปด้วย รถโดยสารประจําทาง รถบัส ตรังสตูล, รถทัวร์ สตูล-ภูเก็ต-กทม. รถตูโ้ ดยสาร ละงู-สตูล, ละงู-หาดใหญ่, รถสองแถว ละงู-สตูล, รถรับส่ ง นักเรี ยน ละงู-สตูล, รถบรรทุกรับจ้าง, รถส่ วนบุคคลที่เดินทางไปทํางานเส้นทางจากละงู – ตัวเมืองสตูล, รถบริ การรับส่ งนักท่องเที่ยว ไปยังอําเภอมะนัง และท่าเรื อปากบารา รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 38
การสัญจรของผูใ้ ช้รถบนถนนเส้นหลักผ่านชุมชนบ้านคลองนํ้าเค็มทําให้เกิดอุบตั ิเหตุบ่อยครั้ง ผูป้ ระสบอุบตั ิเหตุส่วนใหญ่เป็ นคนนอกพื้นที่ ที่ไม่ชาํ นาญเส้นทาง ในช่วงทางโค้งกึ่งทางตรงทําให้ผสู ้ ัญจร ขับรถเร็ ว ถนนเป็ นทางแคบ ถนนลื่นไม่มีป้ายบอก ไม่มีไฟให้แสงสว่าง ไม่มีทางม้าลายระหว่างชุมชนกับ โรงเรี ยนบ้านคลองนํ้าเค็ม ยิง่ ในพื้นที่ของโรงเรี ยนอยูบ่ ริ เวณทางโค้งทําให้เกิดความเสี่ ยงแก่เด็กนักเรี ยน/ ผูป้ กครองที่เดินทางเพื่อรับส่ งในช่วงเช้า-บ่ายเป็ นอย่างมาก อีกประการหนึ่งคือ ผูส้ ัญจรขาดวินยั ในการขับ ขี่และละเลยความปลอดภัย เช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถด้วยความเร็ ว ช่วงแซงหรื อจอดรถไม่ให้ สัญญาณไฟตามกฎจราจร อีกทั้งขณะนี้ ถนนสาย 416 กําลังขยายถนนเป็ น 4 ช่องทางจราจร คาดว่าอนาคตความเร็ วรถที่ วิง่ ผ่านชุมชน โดยเฉพาะบ้านโกตา และบ้านคลองนํ้าเค็ม มีจุดทางร่ วม ทางแยกเป็ นพื้นที่ทวีความรุ นแรงขึ้น กว่าเดิม จากพื้นที่ดงั กล่าวเริ่ มมีการพูดคุยทําความเข้าใจโครงการและพัฒนาโครงการวิธีและขั้น (รายละเอียดอยูส่ ่ วนที่ 2) จนเกิดโครงการวิจยั ดังนี้ 1. โครงการศึกษาแนวทางสร้างความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่บา้ นคลองนํ้าเค็ม หมู่ที่ 16 ตําบลละงู อําเภอละงู จังหวัดสตูล 2. โครงการสร้างความปลอดภัยทางถนนโดยการมีส่วนร่ วมในเขตเทศบาลตําบลกําแพง อําเภอละงู จังหวัดสตูล 3. โครงการศึกษาแนวทางสร้างความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่บา้ นโกตา ม.7 ต.กําแพง อําเภอละงู จงหวัดสตูล (รายละเอียดโครงการในภาคผนวก) 2. สรุ ปผลการดําเนินการโครงการวิจัย • โครงการศึกษาแนวทางสร้ างความปลอดภัยทางถนนในพืน้ ทีบ่ ้ านคลองนํา้ เค็ม หมู่ที่ 16 ตําบลละงู อําเภอละงู จังหวัดสตูล การดําเนิ นงานอยูใ่ นช่วงเริ่ มต้น กับวางแผนจัดทีมทํางาน ก่อนหน้านั้นทีมเข้ร่วม กิจกรรมการพัฒนาศักยภาพนักวิจยั เช่น การอบรมเก็บและบันทึกข้อมูลแบบมีส่วนร่ วม การวิเคราะห์จุด เสี่ ยง ในส่ วนกิจกรรมโครงการย่อยในพื้นที่ มีการสํารวจจุดเสี่ ยง การสํารวจปริ มารรถที่วงิ่ ผ่านชุมชนที่มา ของความเสี่ ยง และการประชุมทีมเพื่อวางแผนการทํางาน ประชุมสรุ ปผลการทํางาน สภาพที่พบในการศึกษา คือ ชุมชนมีถนนสาย 416 ผ่านชุมชน รถวิง่ เร็ วมา ยิง่ ใน ชัว่ โมงเร่ งด่วนในช่วงเช้า และเย็น อีกทั้งอยูใ่ นช่วงของการขยายถนนจาก 2 ช่องทางจราจรเป็ น 4 ช่องทาง รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 39
จราจร เมื่อทีมไปตรวจสอยขอข้อมูล แบบแลนการก่อสร้างถนนจากบริ ษทั ผูร้ ับเหมา อยูใ่ นชุมชน แบบถนน ในพื้นที่เป็ นถนนใช้รูปแบบเกาะกลางสี อาจจะส่ งผลกระทบต่อวิถีชีวติ ของคนในชุมชนในการข้ามถนนไป มาระหว่างสองฝั่ง เช่น การไป-กรี ดยาง เด็กข้ามถนนไปโรงเรี ยน สิ่ งที่น่ากลัวที่สุดคือ หน้าโรงเรี ยนเป็ นทาง โค้ง ขึ้นเนิน ขอบถนนที่สร้างใหม่อยูต่ ิดรั้ว หรื อประตูโรงเรี ยน นอกจากนั้นจุดเสี่ ยงอื่นๆในชุมชนมีการลงสํารวจ ชุมชน
มีการนําเชือกที่ใช้ผกู สมอเรื อประมงขยาดใหญ่มาวางพาด
ได้เห็นวิธีการแก้ปัญหาของคน ขวางถนนเพื่อลดความเร็ วของรถ
เนื่องจากเป็ นถนนซอยมีขนาดกว้างประมาณ 5 เมตร บ้านอยูต่ ิดถนน แนวทางการดําเนิ นอนาคต คือ จากศึกษาดูงานที่จงั หวัดสมุทรสงคราม ได้รับข้อมูล การแก้ หรื อปรับถนนที่อยูใ่ นระหว่างการก่อสร้างให้รีบดําเนินการก่อนที่ผรู ้ ับเหมาจะส่ งมอบงาน ถ้าส่ ง มอบไปแล้วการดําเนินแก้ไขนอกแบบต้องรอถึง 2 ปี ว่าจะแก้ไขได้ เป็ นเงื่อนไขกฎหมาย ถ้าหากต้องการแก้ แกไขในระหว่าง 2 ปี ต้องเสนอผ่านมติคณะรัฐมนตรี มองเป็ นเรื่ องยาก ดังนั้นในเมื่อชุมชนต้องการที่จะให้มีการก่อสร้างถนนที่มีเกาะกลาง ดําเนินการต้องศึกษาข้อมูลการใช้ถนนของคนในชุมชน
เช่น
การข้ามถนนไปมา
ระหว่างนี้การ ในการดําเนิน
ชีวติ ประจําวัน คือ การประกอบอาชีพ ไปปฏิบตั ิภารกิจทางศาสนา ไปโรงเรี ยนมีปริ มาณมาก น้อย อย่างไร จัดประชุมประชาคมหมู่บา้ นจัดทําข้อเสนอประสานงานต่อไปยังแขวงการทาง
และเข้าที่ประชุมศูนย์
อํานวยการความปลอดภัยทางถนน เพื่อดําเนิ นแก้ไข และการศึกษาข้อมูลจุดเสี่ ยง การแก้ปัญหาจุดเสี่ ยงอื่น ในชุมชน โดยคนในชุมชน ร่ วมหน่วยงาน บทเรี ยนที่ได้ คือ เมื่อก่อนชาวบ้านมองแต่การขอถนนให้ตดั ผ่านชุมชนอย่างเดียว จะ โค้ง อันตรายแค่ไหนไม่คาํ นึ ง จึงเป็ นสิ่ งที่ตอ้ งคิดอนาคตจะสร้างถนนคราใดต้องดูระบบความปลอดภัย และ ปั ญหาอื่นๆที่จะตามมา เช่นนํ้าท่วม หรื ออื่นๆ 2. โครงการสร้ างความปลอดภัยทางถนนโดยการมีส่วนร่ วมในเขตเทศบาลตําบลกําแพง อําเภอละงู จังหวัดสตูล เขตเทศบาลตําบลกําแพงเป็ นชุมชนเมืองที่ได้รับการสนับโครงการ มีการดําเนิ นการ เก็บข้อมูลปริ มาณรถ ตามจุดเสี่ ยงที่กาํ หนดไว้ในการอบรมการเก็บและบันทึกข้อมูล ก่อนเริ่ มงานได้ประชุม วางแผนการทํางานโดยทีมวิจยั และคณะทํางานกําหนดพื้นที่ เพื่อเป็ นการทดลองเก็บข้อมูล เพื่อเป็ นแนว รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 40
ทางการทํางาน สร้างเครื่ องมือเก็บข้อมูล และทําอย่างไรการทํากิจกรรมนับปริ มารรถ และพฤติกรรม ครอบคลุมมากที่สุด จุดที่ใช้ในการทดลองการนับปริ มาณรถ และพฤติกรรมของผูใ้ ช้รถ บริ เวณสี่ แยกไฟ แดง ทีมวิจยั ชุมชนใช้เวลา 5 ชัว่ โมงในการทํางาน มานัง่ สรุ ปบทเรี ยนการทํางาน ทั้งข้อมูลที่ได้ บทเรี ยนใน การทํางานครั้งต่อไป เช่น การสร้างเครื่ องมือเก็บบันทึกให้ละเอียดมากขึ้น ข้อมูลเพื่อดูปริ มาณการเข้าออก จากแยกต่างๆ เพื่อนําไปสู่ การจัดการวางแผนการจราจรภายในเขตเทศบาล ซึ่ งในบางจุดเสี่ ยงในขณะที่ทีมฝึ กอบรมวิเคราะห์จุดเสี่ ยง ลงพื้นที่เพื่อสํารวจจุดเสี่ ยง บริ เวณสี่ แยกปากปิ ง อุบตั ิเหตุเกิดขึ้นบ่อย เห็นปริ มารรถเยอะ มีรถบรรทุกจอดรอเลี้ยว ถ้าสามารถสํารวจ ข้อมูลปริ มาณรถเข้าออกได้นาํ ไปสู่ การวางแผนการเดินรถ เช่น ถ้าหากปริ มาณรถบรรทุก 100 คัน ต่อวัน จอดรอเลี้ยวคันละประมาณ 3 นาที่ เท่ากับว่า ต้องสู ญเสี ยเวลาทั้งหมด 300 นาที เท่ากับ 5 ชัว่ โมงที่รถจอด แน่น่ิงที่สี่แยก ส่ งผลต่อระบบไฟแดงที่มี แต่ไม่สามารถเปิ ดใช้ได้ ฉนั้นการเก็บข้อมูลปริ มารรถสามารถ นําไปใช้ในการวางแผนการจราจร สู่ ความปลอดภัยทางถนน นอกจากจุดเสี่ ยงข้างต้นทางทีมได้ประชุมเพื่อลงสํารวจจุดเสี่ ยงในเขต แต่เมื่อถึงวันนัด หมายภายในทีมเกิดอุบตั ิเหตุเสี ยชีวติ ทําให้ตอ้ งยกเลิกกิจกรรมวันนั้นไป ละทางทีมวิจยั วางแผนที่เก็บข้อมูล ระบบการตลาดนัดละงู ถึงเรื่ องเงื่อนไขการให้สัมปทานตลาด ว่ามีมาตรการป้ องกันหรื อความปลอดภัยทาง ถนน ซึ่ งต้องประสานงานกับเทศบาลฯ 3. โครงการศึกษาแนวทางสร้ างความปลอดภัยทางถนนในพืน้ ทีบ่ ้ านโกตา ม.7 ต.กําแพง อําเภอละงู จงหวัดสตูล บ้านโกตาเริ่ มต้นด้วยการประชุมทีมอธิ บานภาระกิจการทํางานวิจยั บทบาทของ นักวิจยั ทุกคนได้รับสมุดบันทึกข้อมูล กําหนดทุกวันเสาร์ แรกของเดือน เวลา 20.00 น.เป็ นวันประชุมทีม ใช้ สถานที่กลลุ่มออมทรัพย์เป็ นที่ประชุม ในการประชุมเครื อข่ายนักวิจยั มีการบอกเล่าภารกิจนักวิจยั สิ่ งที่ทีมต้องเตรี ยม ไม่วา่ อุปกรณ์การประชุม กระดาษ ปากกา อาหารว่างระหว่างการประชุม เป็ นหน้าที่ของทีม การจ่ายเงิน ระบบ บัญชีการเงิน และเอกสารมีคนรับผิดชอบ การประชุมนัดแรกสนุกเครื่ องมืออุปกรณ์ที่ทุกคนได้รับ หลายคนเข้าร่ วมประชุมไม่ เคยมีสมุดปากกา แต่คราวนี้มีให้ และทุกคนทําหน้าที่จด เริ่ มต้น พี่เลี้ยงคุณสมพงษ์ หลีเคราะห์ ฝึ กวิธีการจด บันทึกลงสมุดมีประเด็นอย่างไร รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 41
การทํางานเก็บข้อมูลเบื้องต้นทางโครงการโหนดให้มีการฝึ กอบรมการเก็บและบันทึก ข้อมูล โดยใช้วธิ ี การเชิงปฏิบตั ิการ จากโจทย์ที่ได้รับที่ประชุมวางแผนใช้การศึกษาข้อมูลปริ มาณรถไป พร้อมกับการฝึ กเก็บและบันทึกข้อมูลไปคราวเดียวกัน ทีมมีการวางแผนจัดแบ่งหน้าที่การทํางาน สร้าง เครื่ องมือในการบันทึกข้อมูล นัดหายเวลาทํางาน วันเริ่ มเก็บข้อมูล สิ่ งที่เป็ นน่าสงสัย ของผูผ้ า่ นไปผ่านมา ว่าคนกลุ่มนี้มานัง่ ทําอะไร เนื่องจากเป็ นทางแยก รถผ่านไป – มา เยอกมาก มีคาํ ถาม “เขากําลังทําอะไร” จากวิศวกรคุมงานก่อสร้าง ถนน จากรถสายตรวจตํารวจภูธรอําเภอละงู จนโทรศัพท์สอบถามผูใ้ หญ่บา้ น ซึ่ งเป็ นหัวทีมวิจยั และกลุ่ม ชาวบ้านในพื้นที่มาถาม และพูดคุย บางคนช่วยนับปริ มาณ สิ่ งที่ได้จากการทํางาน มีความตกใจข้อมูลตัวเลขรถผ่านไปมา ตั้งคําถาม ว่า “นึกไม่ถึง จะมาถึงขนาดนี้” ด้านพฤติกรรมการขับขี่ คือ ไม่ให้สัญญาณไฟในการขับขี่ รถที่กาํ ลังรอจะเลี้ยงไม่สามารถ เดาออกได้เขาจะไปไหนกันแน่ วิเคราะห์วา่ จึงเป็ นที่มาของอุบตั ิเหตุที่เกิดขึ้น สิ่ งที่ได้รู้ต่อ คือ การก่อสร้างถนนใหม่ ไม่มีทางแยกเข้าบ้านตา เนื่ องจากมีทางแยก 2 แยกใกล้กนั จะใช้ระบบทางกลับรถ (U-Turn) เป็ นสิ่ งที่ทีมต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม และสร้างการมีส่วนร่ วมกับ ชุมชนในแก้ปัญหาชุมชน ข้อมูลที่วา่ นั้น ต้องไปดูปริ มาณรถเข้าออกในเส้นทางแยกเขาขาวมีปริ มาณเท่าไหร่ ถ้าไม่ทางแยก ให้รถเดินแบบต้องกลับรถจะเป้ นอย่างไรบ้าง ต่อมาทีมได้ทาํ แบบสอบถามข้อมูลการใช้รถของคนในชุมชน เช่น ปริ มาณรถ ผูข้ บั ขี่ ช่างอายุต่าง จากการสรุ ปข้อมูล พบว่า “เด็กอายุต่าํ กว่า 18 ปี ขับรถจักยานยนต์ได้ และไม่มีใบขับขี่ จากความรู ้ท้ งั หมดนั้นเป็ นโจทย์ที่ตอ้ งคิดต่อ เช่น คนขับรถไม่ให้สัญญาณไฟเป็ นที่มา ของอุบตั ิเหตุ น่าจะเริ่ มต้นการรณรงค์การให้สัญญาณไฟ เมื่อผูข้ บั ขี่ให้สัญญาณไฟ เท่ากับว่ามีการวางแผน เมื่อมีการวางแผนการจะเลี้ยว จะต้องดู ทําให้เขาเกิดความปลอดภัย ส่ วนข้อม๔ลเด็กขับรถ ต้องระดม ความคิดจะทําอย่างไรกับเด็ก และทางแยกเขาขาวใช้วธิ ี การเปิ ดประชุมประชาคม โดยเชิ ญหน่วยงาน รับผิดชอบให้ขอ้ มูลเพิ่มเติม และหาทางออกร่ วมกัน 3. เกิดแกนนําสร้ างความปลอดภัยทางถนน 1. แกนนําชุ มชนโดยทีมวิจัยเป็ นแกนหลักในการขับเคลือ่ นในการสร้ างรูปธรรมในพืน้ ที่ แกนนําสร้างความปลอดภัยทางถนน เริ่ มต้นจากการประสานผูน้ าํ ทางการ เช่น ผูใ้ หญ่บา้ น สมาชิก อบต. และสมาชิกสภาเทศบาล ผูช้ ่วยผูใ้ หญ่บา้ น ขึ้นอยูก่ บั พื้นที่ที่มีความสัมพันธ์อยู่ เพื่อ ชักชวนเข้าร่ วมโครงการสร้างความปลอดภัยทางถนน ตามวิธีดงั นี้ • ใช้วธิ ี การประชุมทําความเข้าใจ โดยนําแสนอข้อมูลการเกิดอุบตั ิเหตุ ผลกระทบที่ ได้รับจากอุบตั ิเหตุ การแก้ปัญหาของหน่วยงานรับผิดชอบ และผลการแก้ไขปั ญหา รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 42
• ชวนวิเคราะห์การเกิดอุบตั ิเหตุโดยการวาดแผนที่จุดเสี่ ยง ในแต่ละพื้นที่ • วิเคราะห์ความเสี่ ยงที่เกิดขึ้น ใครมีความเสี่ ยงมากที่สุด ระหว่างคนในชุมชน และ นอกชุมชน • นําเสนอประสบการณ์การวิจยั เพื่อท้องถิ่นในการแก้ปัญหาชุมชนที่ผา่ นมา ชวนคิดต่อถ้าถึงการนําวิธีการแก้ปัญหาแบบงานวิจยั
และ
มาใช้กบั การสร้างความปลอดภัยทางถนนในระดับ
ชุมชน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น • เริ่ มต้นกระบวนการพัฒนาโจทย์วจิ ยั ในพื้นที่ 3 ชุมชนผ่านกระบวนการระดม ความคิดออกแบบงานวิจยั (รายละเอียดอยูส่ ่ วนที่ 2) ในขั้นตอนนี้เป็ นการพัฒนาศักยภาพแกนนําในชุมชน เช่น การระดมความคิด ทักษะการเขียน การพูดและนําเสนอในที่สาธารณะ 2. แกนนําในระดับเครือข่ าย มีที่มาจาก 2 กลุ่ม คือ 1. ตัวแทนจากชุ มชน 3 ชุ มชน ซึ่ งผ่านการพูดคุยในชุมชน และเป็ นบุคคลที่มีที่ความสามารถ มีแนวคิดในด้านกระบวนการสร้างความปลอดภัยทางถนน 2. จากหน่ วยงาน เช่ น จากสํา นัก งานป้ องกันและบรรเทาสาธารณะภัย สถานี ตาํ รวจภูธ ร องค์กรปกครองส่ วนท้องถิ่น โรงพยาบาล โดยการประสานงานเข้าร่ วมประชุมการนําเสนอข้อมูลโครงการ การประชุ มพัฒนาโจทย์โครงการวิจยั และที่ผ่านมามีคุณไพศาล ขุนศรี เจ้าหน้าที่สํานักงานป้ องกันและ บรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดสตูล พตท.บุญเลิศ ตรัศศิริ สารวัตรสื บสวน สภ.ละงู เข้าร่ วมประชุมหารื อเพื่อ จัดเวทีนาํ เสนอโครงการสร้ างความปลอดภัยทางถนน และรับหน้าที่ประสานงานหน่ วยงานเข้าร่ วม เชิ ญ แกนนํา 3 ชุมชนเข้าร่ วมประชุมสัมมนา การสร้างความปลอดภัยทางถนน (รายละเอียดในบทที่ 2)
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 43
ผลการค้ นหาและพัฒนาแกนนําชุ มชนเขตเทศบาลตําบลกําแพง ชื่ อ –สกุล บทบาท/หน้ าที่ นายสักกาเรี ย แดงนุย้ สมาชิกสภาเทศบาลตําบลกําแพง นายมนูญ ราเย็น ผูช้ ่วยผูใ้ หญ่บา้ น ม.3 นายภูเมศ ไฉนวงษ์ ผูช้ ่วยผูใ้ หญ่บา้ น ม.3 นายจําลอง สลักคํา ตัวแทนชุมชนนาโต๊ะพ่อ นายอรุ ณ หยีราเหม อาสาสมัครป้ องกันภัยฝ่ ายพลเรื อน
• • •
• •
จ่าสิ บเอกทวี สว่างเพชร นายทศพล จิระศิริมาศ นายวินิจ หลงหา นายเล็ก ชูสกุล นายธาดา แท่นเอียด นายอําหรน ทิ้งปากนํ้า นายเกียรติ ราเย็น นายอดุลย์ ชํานาญ แกนนําชุ มชนบ้ านโกตา ชื่ อ –สกุล นายวิรัช โอมณี นายเลาะ โซะติก นายตาบ หวันหมาน นายสมจิตร มินเด็น นายยรรจง สง่า นายสุ รศักดิ์ เตี้ยเล็ก นายวีระยุธ หลงหัน นายยุโซ๊ะ สันเจริ ญ
อาสาสมัครป้ องกันภัยฝ่ ายพลเรื อน ผูใ้ หญ่บา้ น ม.3 ตัวแทนชุมชนบ้านออกพัฒนา สมาชิกสภาเทศบาลตําบลกําแพง อาสาสมัครป้ องกันภัยฝ่ ายพลเรื อน อาสาสมัครป้ องกันภัยฝ่ ายพลเรื อน ตัวแทนชุมชนซอย 6 ตัวแทนชุมชนนาโต๊ะพ่อ
•
บทบาท/หน้ าที่ ผูใ้ หญ่บา้ น ผูช้ ่วยผูใ้ หญ่บา้ นฝ่ ายปกครอง กรรมการ/ผูจ้ ดั การร้านค้าชุมชน กรรมการ/ผูจ้ ดั การร้านค้าชุมชน กรรมการกองทุนหมู่บา้ น คนในชุมชน ผูช้ ่วยผูใ้ หญ่บา้ นฝ่ ายปกครอง ที่ปรึ กษาร้านค้าชุมชน
• • •
•
การเปลีย่ นแปลง เข้าใจกระบวนการทํางานความ ปลอดภัยทางถนน เรี ยนรู ้วธิ ี การวิจยั ท้องถิ่น เกิดทักษะ การบันทึกประชุม การ เขียนกระดาน การพูดและ นําเสนอข้อมูล เกิดทักษะการวิเคราะห์จุดเสี่ ยง เกิดความมัน่ ใจกับ กระบวนการวิจยั การใช้ขอ้ มูลกับ การแก้ไขปัญหา กําลังเรี ยนรู ้กระบวนการสร้าง ความปลอดภัยทางถนน
การเปลีย่ นแปลง เข้าใจกระบวนการทํางานความ ปลอดภัยทางถนน เรี ยนรู ้วธิ ี การวิจยั ท้องถิ่น เกิดทักษะ การบันทึกประชุม การเขียนกระดาน การพูด นําเสนอข้อมูล เกิดทักษะการวิเคราะห์จุดเสี่ ยง
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 44
นายวิรัตน์ ปานแขวง
ผูช้ ่วยผูใ้ หญ่บา้ นฝ่ ายรักษาความสงบ
• เกิดความมัน่ ใจกับ กระบวนการวิจยั การใช้ขอ้ มูล กับการแก้ไขปั ญหา
แกนนําชุ มชนบ้ านคลองนํา้ เค็ม ชื่ อ –สกุล บทบาท/หน้ าที่ นายดนอาหวาบ มณี โชค อดีตผูใ้ หญ่บา้ น นายม่ากน สาเล่หมัน ประธานอาสาสมัครสาธารณสุ ขหมู่บา้ น นายยูอดั โต๊ะฝา สมาชิกเกษตรกรประจําหมู่บา้ น นางสาววันดี อิดทิ้ง อาสาสมัครสาธารณสุ ขหมู่บา้ น นายธนกฤต อโนทัย กรรมการมัสยิด นายสยาม ตันประดิษฐ์ ผูช้ ่วยผูใ้ หญ่บา้ น (ฝ่ ายรักษาความ ปลอดภัย) นายบริ พนั ธ์ แซ่หลี อาสาสมัครสาธารณสุ ขหมู่บา้ น
• • •
• •
• นายสมนึก ลิพงั นางตีหยาด อุศมา นายอดินนั ท์ หวันสู นางสุ ปราณี มารามาศ นายหัสบลเลาะ สันมาแอ
ชุดรักษาความปลอดภัยประจําหมู่บา้ น อาสาสมัครสาธารณสุ ขหมู่บา้ น กรรมการกองทุนหมู่บา้ น กรรมการกองทุนหมู่บา้ น สมาชิกสภาองค์การบริ หารส่ วนตําบลละงู
• •
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
การเปลีย่ นแปลง เข้าใจกระบวนการทํางาน ความปลอดภัยทางถนน เรี ยนรู ้วธิ ี การวิจยั ท้องถิ่น เกิดทักษะ การบันทึก ประชุม การเขียน กระดาน การพูดและนําเสนอ ข้อมูล เกิดความมัน่ ใจกับ กระบวนการวิจยั การใช้ ข้อมูลกับการแก้ไขปั ญหา เกิดทักษะการวิเคราะห์ จุดเสี่ ยง เรี ยนรู ้กระบวนการวิจยั เข้าใจกระบวนการทํางาน ความปลอดภัยทางถนน
หน้า 45
แกนนําเครือข่ าย ชื่ อ –สกุล นายไพศาล ขุนศรี
หน่ วยงาน สํานักงาน ปภ. จ.สตูล
พตท.บุญเลิศ ตรัสศิริ
สารวัตรสื บสวน สภ.ละงู
นางไพรํา จุย้ ชุม นายอาเสด หนูวงศ์
หัวหน้าขนส่ งละงู รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตําบลกําแพง
นายสักกาเรี ย แดงนุย้
สมาชิกสภาเทศบาลตําบล กําแพง ผูใ้ หญ่บา้ นโกตา อดีตผูใ้ หญ่บา้ นคลอง นํ้าเค็ม
นายวิรัช โอมณี นายดนอาหวาบ มณี โชค
• เรี ยนรู ้กระบวนการวิจยั • เข้าใจกระบวนการทํางานความปลอดภัย ทางถนน • การติดต่อประสานงานหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัยทางถนน • เติมเต็มงานข้อมูลแก่ทีมวิจยั และ แนวทางการแก้ไขปั ญหาในระบบกลไก ของแต่ละหน่วยงาน • เรี ยนรู ้กระบวนการวิจยั • เข้าใจกระบวนการทํางานความปลอดภัย ทางถนน • เรี ยนรู ้กระบวนการวิจยั • เรี ยนรู ้กระบวนการวิจยั • เข้าใจกระบวนการทํางานความปลอดภัย ทางถนน • เป็ นที่ปรึ กษา และเข้าร่ วมประชุมในการ พัฒนาโจทย์วจิ ยั • เข้าใจกระบวนการทํางานความปลอดภัย ทางถนน • เรี ยนรู ้วธิ ี การวิจยั ท้องถิ่น • เกิดทักษะ การบันทึกประชุม การเขียน กระดาน การพูดและนําเสนอข้อมูล • ติดต่อประสานงานกับองค์กรรัฐ และ แกนนําในชุมชน • เกิดทักษะการวิเคราะห์จุดเสี่ ยง • เกิดความมัน่ ใจกับกระบวนการวิจยั การ ใช้ขอ้ มูลกับการแก้ไขปั ญหา • เกิดทักษะการนําเสนอ และดําเนินงาน การประชุม
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 46
4. กระบวนการทํางานสร้ างความปลอดภัยทางถนน กระบวนการพัฒนาแกนนําใช้วธิ ี การดังนี้ 1. ให้ขอ้ มูล สถานการณ์อุบตั ิเหตุในพื้นที่ วิธีการทํางานแบบวิจยั สามารถนํามากับการสร้าง ความปลอดภัยทางถนน 2. กระตุน้ ตั้งคําถามชวนคิด วิเคราะห์ เรื่ องอุบตั ิเหตุ เช่นอุบตั ิเหตุ และความปลอดภัยเป็ น หน้าที่ของใคร .ใช้วธิ ี อะไรแก้ปัญหา ตัวเองกับการดูแลความปลอดภัยทางถนนเป็ นอย่างไร 3. ระดมความคิด ข้อมูลพื้นที่ จุดเสี่ ยง โดยการวาดแผนที่ชุมชน 4. ใช้เครื่ องมือในการออกแบบตามกระบวนการ
ความรู ้อะไรบ้างที่สามรถนําเราไปสู่ การ
แก้ปัญหาความรู ้ที่ได้ไปใช้แก้ปัญหาอย่างไร โดยยํ้าเสมอว่า “เราคิดให้ละเอียดก่อนลงมือทําจริ ง” 5. พัฒนาทักษะแกนนําไประหว่างทาง ด้านการวางแผน การคิด การเขียน พูด โดยให้มีการ จดบันทึก การขึ้นเขียนชาร์ ต นําการประชุม การะดมความคิดเห็นก่อนเริ่ มประชุมชวนทบทวนคราวที่แล้ว ด้วยการนําเสนอ การให้ทาํ จัดทําประเด็นเพื่อนําเสนอในเวที :ซึ่ งทักษะเหล่านี้ตอ้ งจริ งขณะทําวิจยั 6. การใช้ขอ้ มูลเพื่อขับเคลื่อน (เอาผลสรุ ปจากการ อบรมการวิเคราะห์จุดเสี่ ยง และการเก็บ และบันทึกข้อมูล ) จากบริ บทของแต่ละชุมชนที่แตกต่างกัน ชุมชนบ้านคลองนํ้าเค็มเป็ นพื้นที่ชานเมืองที่มี สภาพถนนเป็ นทางตรง ข้อมูลที่ทดลองนับรถ (24 ชม.) หรื อพฤติกรรมผูส้ ัญจร ระหว่าง สตูล-ละงู 4,857 คัน ระหว่าง ละงู-สตูล 4,535 คัน รวมผูส้ ัญจรผ่านชุมชน 9,392 คัน จากข้อมูลของผูส้ ัญจรปั ญหาหลักคือ พฤติกรรมการขับรถที่ใช้ความเร็ วสู งพร้อมกันนั้นกับ ปั จจุบนั ที่มีการขยายของถนนจาก 2 เลน มาเป็ น 4 เลน มีเกาะกลางสี (กระเทย) ในเวทีได้เสนอแนวทางใน การแก้ไขปั ญหาโจทย์หลักคือ ความเสี่ ยงของเกาะกลางสี (กระเทย) ที่คาดว่าจะก่อให้เกิดความเสี่ ยงกับผู้ สัญจร คนในชุมชน หรื อเด็กนักเรี ยนที่ตอ้ งข้ามถนนทุกวัน ข้อมูลดังกล่าวมีเพียงพอแล้วหรื อไม่! ถ้ามีการ ขอให้ปรับเปลี่ยนเกาะกลางที่มีวตั ถุ หรื อต้องมีขอ้ มูลอย่างอื่นมาประกอบ เช่น จํานวนนักเรี ยนที่ขา้ มแต่ละ วัน หรื อความคิดเห็นคนในชุมชน แต่ในส่ วนของการประสานงานในระดับหน่วยงาน โดยมี พี่ไพศาล (เจ้าหน้าที่ ปภ.สตูล)ช่วยประสาน พื้นที่ชุมชนบ้านโกตาที่มีขอ้ มูลของผูส้ ัญจร(ทดลองนับ ใช้เวลา 5 ชม.) หรื อพฤติกรรมผู้ สัญจร (ขาเข้า)ระหว่าง สตูล-เขาขาว-ตลาดละงู 3,593 คัน ระหว่าง (ขาออก) ตลาดละงู-เขาขาว-สตูล 2,828 คัน รวมผูส้ ัญจรผ่านชุมชน 6,421 คัน พฤติกรรมของการให้สัญญาณไฟ
ปั ญหาคือทัศนคติของผูส้ ัญจรกับการใช้ถนนในทางแยก หรื อ
จากข้อมูลการสัญจรและพฤติกรรมของผูใ้ ช้รถกับถนน ข้อมูลดังกล่าว
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 47
สามารถนํามาวิเคราะห์และออกแบบการปรับเปลี่ยนทัศนคติ/พฤติกรรมได้อย่างไร หรื อการออกแบบของ ถนนที่เกี่ยวกับการจัดการวางแผนพังเมืองที่มีผลกับกับผูใ้ ช้ถนน
หรื อนําไปสู่ การแก้ไขปั ญหาเรื่ องภัยทาง
ธรรมชาติได้ดว้ ย(นํ้าท้วม) พื้นที่ในเขตเทศบาลตําบลกําแพงเป็ นชุมชนเมืองและเป็ นที่เมืองของการค้าขาย ของคนใน อ.ละงู และอําเภอใกล้เคียง มีขอ้ มูลพฤติกรรม การผูส้ ัญจรบริ เวณ 4 แยกมหาจันทร์ (ตั้งแต่เวลา 07.30-10.30 น.) เข้า-ออก ระหว่าง สตูล-ตลาดละงู-ตรัง จํานวน 3,667 คัน และการสัญจรระหว่าง ตลาดละงู-ตรัง-สตูล จํานวน 2,216 คัน รวมผูส้ ัญจร 5,883 คัน ตัวสัญญาณไฟแดงกระพริ บตลอด พฤติกรรมส่ วนใหญ่ไม่ให้ สัญญาณไฟ (ช่วงเวลาดังกล่าวเกิดอุบตั ิเหตุ 1 ครั้ง ระหว่างรถจักรยานยนต์ดว้ ยกัน เหตุ เพราะไม่ให้ สัญญาณไฟเลี้ยว) ขับขี่เร็ ว
อีกทั้งมีรถบรรทุกสิ บล้อวิง่ ผ่าน ทําให้การสัญจรติดขัดและมีความเสี่ ยงที่
ก่อให้เกิดอุบตั ิเหตุ จากกรณี ปัญหาในเขตเทศบาลควรมีขอ้ มูลเชิงประจักร เช่น ข้อมูลของผูส้ ัญจร พฤติกรรม การสัญจร ที่สามารถนําไปการการแก้ไขปั ญหา การปรับเปลี่ยนการสัญจรของรถบรรทุก การจัดระเบียบ การตั้งร้านของพ่อค้าแม่คา้ ในช่วงวันตลาดนัด เป็ นต้น 5. การนําความรู้ ทไี่ ด้ จากการพูดคุยไปทดลองปฏิบัติ หลังจากการประชุมในวันที่ 6 ก.ค. 54 ที่ผา่ นมาเป็ นผลให้คุณสักกาเรี ย แดงนุย้ ได้นาํ วิธีการไป ทดลองแก้ปัญหาการจราจรทางเข้าโรงเรี ยนนิดาร์ ในเขตเทศบาลตําบลกําแพง มีจุดเสี่ ยง (สามแยกซอย 5,7 ) การสัญจรรถของรถรับส่ งนักเรี ยน ในช่วงเวลา 07.00 - 08.30 น. และช่วงบ่ายเวลา 15.30 – 16.30 น. สภาพ เป็ นซอยแคบ ทําให้เกิดรถติดขัดมาก ผูส้ ัญจรทางเข้า-ออก ใช้อยูท่ างเดียวคือซอย 5 เสนอแนวทางให้กบั คณะอาจารย์ควรที่จะใช้เส้นทางของรถรับส่ งนักเรี ยนให้กาํ หนดเข้าทาง เดียว คือ ซอย 5 (ขาเข้า) และตอนขาออกให้ออกทาง ซอย 7 จากนําเสนอแนวทางาดังกล่าว ทางคณะครู เห็น ด้วยกับการเสนอแนะ จึงได้ประกาศเสี ยงตามสายให้ผรู ้ ับส่ งนักเรี ยนเข้าออกตามที่กาํ หนด และได้จดั ป้ าย สัญลักษณ์เขียนข้อความ รถวิง่ ทางเดียวในชัว่ โมงเร่ งด่วน โดยใช้ฟิวเจอร์บอร์ ดผูกติดไว้กบั ป้ ายสัญญาณ หยุดตรวจไว้ตรงสามแยกป้ อมยามบริ เวณแยกใน ที่เชื่อมต่อกันระหว่างซอย 7 กับ ซอย 5 มีคณะทํางานที่อยู่ ปากซอยช่วยบอกกล่าวกับผูข้ บั ขี่ หลังนั้นหนึ่งวันเริ่ มเห็นการสัญจรดีข้ ึน พอวันที่สองยิง่ เริ่ มเห็นความชัดเจนขึ้น คือการสัญจร รถในซอยมีความคล้องตัวขึ้นและมีความปลอดภัยมากขึ้นตามลําดับ ต่อมามีการประสานงานกับเทศบาล ตําบลกําแพง เพื่อจัดทําระเบียบดังกล่าว และจัดทําป้ ายถาวร รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 48
บทที่ 5 สรุ ปและเสนอแนะ การดําเนิ นงานโครงการสร้างความปลอดภัยจราจรแบบมีส่วนร่ วมในพื้นที่อาํ เภอละงู จังหวัดสตูล ในช่วงระยะเวลา ปี เดือน ตั้งแต่เดือน เมษายน – มีนาคม 2554 ในช่วงเริ่ มต้นการทํางาน การทํางานจะให้ นํ้าหนักในการศึกษาข้อมูล การประสานงาน พื้นที่ชุมชนเป้ าหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างการมีส่วน ร่ วม โดยมีบา้ นโกตาหมู่ที่ 7 ต.กําแพง อ.ละงู เขตเทศบาลตําบลกําแพง ต.กําแพง อ.ละงู และบ้านคลอง นํ้าเค็ม ต.ละงู อ.ละงู สาเหตุที่เลือกพื้นที่ดงั กล่าว ใช้ถนนสาย 416 (ละงู –สตูล) เป็ นตัวเชื่อมพื้นที่ และแต่ละ พื้นทีมีบริ บทที่แตกต่างกัน โดยมีเขตเทศบาลเป็ นชุมชนเมืองเป็ นจุดศูนย์รวม บ้านโกตาเป็ นจุดเชื่อมต่อออก จากเมืองเรี ยกว่าชานเมือง และบ้านคลองนํ้าเค็ม เป็ นชุมชนชนบท อีกทั้งพื้นที่อยูภ่ ายใต้การดูแลขององค์การ บริ หารส่ วนท้องถิ่น คือ เทศบาลตําบลกําแพง องค์การบริ หารส่ วนตําบลกําแพง และองค์การบริ หารส่ วน ตําบลละงู ตามลําดับ เพื่อประสานงานในอนาคต ในเบื้องต้นเป็ นการค้นหาแกนนํา ผูน้ าํ ในระดับชุมชน เริ่ มชักชวนเรี ยนรู ้การสร้างความปลอดภัย ทางถนนแกนนําชุมชน ใช้วธิ ี การดังนี้ 1. จัดประชุมกลุ่มระดับชุมชนนําเสนอข้อมูลโครงการ การเกิดอุบตั ิเหตุผลกระทบที่เกิดขึ้น จัดทํา ข้อมูลเอกสารแจกกลุ่มเป้ าหมาย 2. ประชุมกลุ่มย่อยพื้นที่วเิ คราะห์สถานการณ์ในพื้นที่ การเกิดอุบตั ิเหตุ การแก้ปัญหาที่ผา่ นมา ใครเสี่ ยงที่สุด น่าจะเป็ นผูท้ ี่รู้ขอ้ มูลมากที่สุด ที่จะเป็ นคนแก้ปัญหา 3. นําวิธีการแก้ปัญหาโดยใช้ฐานข้อมูล ที่ขา้ วของข้อมูล หรื อชุมชนเป็ นการทํางาน โดยวิธีการ วิจยั เพื่อท้องถิ่น ยกตัวอย่างพื้นที่ในจังหวัดสตูล 4. สร้างการเรี ยนรู ้โดยการจัดกระบวนการเรี ยนรู้เป็ นรายชุมชน ในเวทีพฒั นาโจทย์วจิ ยั และ โครงการวิจยั ตามลําดับ 5. เข้าร่ วมเวทีสร้างความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัดเพื่อเรี ยนรู ้การทํางานของหน่วยงาน เมื่อโครงการวิจยั ระดับชุมชนดําเนิ นการมีการพัฒนาศักยภาพในด้านเก็บข้อมูล การวิเคราะห์จุด เสี่ ยง การเรี ยนรู ้ประสบการณ์จากต่างพื้นที่ เพื่อนําวิธีการสร้างรู ปธรรมพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมัน่ กับ องค์กรและหน่วยงานในพื้นที่ สรุ ปดังนี้ 1. มีการสนับสนุนให้ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และหน่วยงานระดับจังหวัด เข้ามามี ส่ วนร่ วมในการกระบวนการเรี ยนรู ้ ประสานทางเจ้าหน้าที่ และผูม้ ีส่วนเกี่ยวข้องมาร่ วมพูดคุย แลกเปลี่ยน ข้อมูลความปลอดภัยทางถนน ทั้งในมิติของชุมชน และในส่ วนของหน่วยงาน เกิดการประสานงานเข้าร่ วม ประชุมการสร้างความปลอดทางถนนตามบทบาทของหน่วยงาน 1
1
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 49
2. มีการพัฒนาศักยภาพแกนนําชุมชนในพื้นที่นาํ ไปสู่ การเป็ นผูน้ าํ (Change Agent) ในด้านการสร้าง วัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ระดับชุมชนและจังหวัดใช้วธิ ี การวิจยั ในการพัฒนาโครงการทีม ชุมชนพัฒนาทักษะในด้านการพูด การเขียน การเขียน การเข้าร่ วมประชุมกับหน่วยงานในด้านความ ปลอดภัยทางถนน การวิเคราะห์จุดเสี่ ยง การเก็บและบันทึกข้อมูล และการเรี ยนรู ้ประสบการณ์บทเรี ยนจาก ต่างพื้นที่ 3. มีการพัฒนาโครงการวิจยั เพื่อท้องถิ่นด้านการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนจํานวน 3 โครงการ บ้านโกตา หมู่ที่ 7 กําแพง อําเภอละงู บ้านคลองนํ้าเค็ม ตําบลละงู อําเภอละงู และชุมชนในเขต เทศบาลตําบลกําแพง ขณะนี้การดําเนิ นโครงการ 4. ในพื้นที่โครงการวิจยั เริ่ มเห็นข้อมูลที่จะนําไปสู่ การสร้างการมีส่วนร่ วม เพื่อสร้างความปลอดภัย ทางถนน กรณี บา้ นคลองนํ้าเค็ม ที่ตอ้ งดึงข้อมูลการข้ามถนนของคนทั้งสองฝั่ง และนํามาวางแผน กรณี บา้ น โกตานําข้อมูลเด็กขับรถจักยานยนต์ มาวางแผนต่อเนื่อง กรณี เขตเทศบาลปริ มาณในจุดเสี่ ยงนําไปสู่ การ จัดการจราจร และมีการนําประเด็นวิธีการสร้างความปลอดภัยทางถนนไปทดลองทําจริ ง กรณี เขตเทศบาล ตําบลกําแพง ทําให้คนในทีมเริ่ มเห็นความสําเร็ จในอนาคต 4.1 ตารางเปรี ยบเทียบผลผลิต (output) กิจกรรม ผลผลิต(output) ทีต่ ้ องการ 1)จัดประชุมพื้นที่ 1)ได้ขอ้ มูลเกิดอุบตั ิเหตุ . ระดับชุมชน ในพื้นที่ 2)ได้แกนนํา อาสาสมัคร ในการสร้างวัฒนธรรม ความปลอดภัยทางถนน ในพื้นที่
2)ประสาน หน่วยงานองค์กรที่ เกี่ยวข้อง
ผลผลิต(output) ทีเ่ กิดขึน้ จริง - ชุมชนความเข้าใจ แนวทางการสร้าง ความปลอดภัยทาง ถนน - ได้แกนนํา อาสาสมัครในการ สร้างวัฒนธรรมความ ปลอดภัยทางถนนใน พื้นที่ 1)ได้ขอ้ มูล แนวทางการ - ได้ขอ้ มูลการเกิด มีส่วนร่ วมในด้านความ อุบตั ิเหตุของแต่ละ ปลอดภัยทางถนน หน่วยงาน - มีการประสานความ ร่ วมมือในการจด กิจกรรมสร้างความ
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
ผลลัพธ์ (outcome) ทีเ่ กิดขึน้ จริง - คณะทํางานได้เข้าใจ ความคิด ความรู ้สึก ของคนในชุมชน เกี่ยวกับอุบตั ิเหตุ การ แก้ปัญหา และ ผลกระทบที่เกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่หน่วยงานลง พูดคุยปั ญหากบชุมชน ซึ่ งเมื่อก่อนคิดว่างานนี้ เป็ นบทบาทของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชาวบ้านเป็ นผูเ้ ข้าไปมี หน้า 50
กิจกรรม
ผลผลิต(output) ทีต่ ้ องการ
3) เวทีประสานและ เชื่อมโยงภาคี เครื อข่ายคน ข้อมูล ความรู ้ ด้านความ ปลอดภัย
1)ได้ชุดความรู้ คนทํางาน หน่วยงาน องค์กร งานวิจยั โครงการต่างๆที่ เกี่ยวข้องกับเรื่ องของ อุบตั ิเหตุ
4)สร้างการเรี ยนรู ้ โดยลงพื้นที่ชุมชน
1)เกิดการเรี ยนรู ้ในการ สร้างวัฒนธรรมความ ปลอดภัยทางถนน
ผลผลิต(output) ทีเ่ กิดขึน้ จริง ปลอดภัยทางถนน - ได้ขอ้ มูล ความรู ้ ด้านความปลอดภัย ทางถนนเช่น จุดเสี่ ยง ในพื้นที่ และถนนสาย รอง สถิติอุบตั ิเหตุ และวิธีการที่ใช้แก้ไข ปั ญหา ในระดับ จังหวัดและระดับ ชุมชน -ได้พบปะ แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกับ ตัวแทนหน่วยงาน องค์กรแต่ละองค์กร ในพื้นที่ทาํ งาน
ผลลัพธ์ (outcome) ทีเ่ กิดขึน้ จริง ส่ วนร่ วม - ทําให้ทีม ประสานงานเข้าใจ บทบาทภารกิจของ งานความปลอดภัยทาง ถนนและการแก้ปัญหา การเกิดอุบตั ิเหตุของ แต่ละหน่วยงานมาก ขึ้น - สามารถประสานให้ เกิดการแลกเปลี่ยน เรี ยนรู ้กลไกการ ทํางานร่ วมกันได้ผา่ น หน่วยงานและองค์กร - แนวทางการ ประสานงานทํางาน ร่ วมกัน เช่น การนํา ข้อมูลความมา แลกเปลี่ยนร่ วมกัน
- แกนนํา และที่ ปรึ กษาได้เข้าใจ กระบวนการทํางาน
- เกิดการประสานงาน ระหว่างหน่วยงานและ ชุมชนเข้าร่ วมกิจกรรม สร้างความปลอดภัย ทางถนน - แกนไปช่วย สนับสนุนกิจกรรม พัฒนาโครงการใน พื้นที่ชุมชนอื่นๆ
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 51
กิจกรรม 5) การพัฒนาโจทย์ วิจยั เพื่อท้องถิ่นใน ประเด็นความ ปลอดภัยทางถนน
ผลผลิต(output) ทีต่ ้ องการ 1)เกิดโครงการวิจยั 3 โครงการ
อบรมการเก็บและ บันทึกข้อมูล
แกนนํามีทกั ษะความรู ้ ในการดําเนินงานการ เก็บข้อมูล
อบรมการวิเคราะห์ จุดเสี่ ยง
แกนนําได้เรี ยนวิธีการ วิเคราะห์ในด้านการ สร้างวัฒนธรรมความ ปลอดภัยบนท้องถนน
ผลผลิต(output) ทีเ่ กิดขึน้ จริง - ได้แกนนําชุมชน ทํางานวิจยั สร้างความ ปลอดภัยทางถนน - ได้โจทย์วิจยั สร้าง ความปลอดภัยทาง ถนน กําลังกําลัง พัฒนาเป็ น โครงการวิจยั -
ผลลัพธ์ (outcome) ทีเ่ กิดขึน้ จริง - แกนนําได้เรี ยนรู้ วิธีการ แบบวิจยั - แกนนําชุมชนมีการ พัฒนาทักษะ การพูด การเขียน การวางแผน งานมากขึ้น - แกนนํารู ปแบบจาก การวางแผนพัฒนา ไป ทดลองใช้แก้ปัญหา การจราจร - แกนนําชุมชนมีความ มัน่ ใจ ในแนวทางการ ทํางาน ไม่กลัวที่จะ แลกเปลี่ยนกับ เจ้าหน้าที่ ได้เรี ยนรู ้ทกั ษะวิธีการ มีความมัน่ ใจการ เก็บข้อมูล และการ ทํางานมากขึ้นจาก บันทึกข้อมูล เทคนิค วิธีการที่ได้ ได้เครื่ องมือการเก็บ ข้อมูล ได้แนวทางการ สามารถนําแนวทางมา วิเคราะห์จุดเสี่ ยง และ วิเคราะห์กบั พื้นที่จุด ข้อมูลประสบการณ์ เสี่ ยงในชุมชน วิเคราะห์ในพื้นที่อื่นๆ
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 52
กิจกรรม ศึกษาดูงานเรี ยนรู ้ ประสบการณ์
เวทีแลกเปลี่ยน ประสบการณ์และ สรุ ปบทเรี ยนการ ดําเนินงานในพื้นที่ ติดตามสนับสนุ น โครงการวิจยั เพื่อ ท้องถิ่น
ผลผลิต(output) ทีต่ ้ องการ แกนนําได้เรี ยนรู้ ประสบการณ์พ้ืนที่สร้าง ความปลอดภัยทางถนน มาเป็ นแนวทางในพื้นที่ มีการแลกเปลี่ยนเรี ยนรู ้ การดําเนิ นงานระหว่าง พื้นที่
ผลผลิต(output) ทีเ่ กิดขึน้ จริง แกนนําได้เห็น แนวทาง วิธีการ ของ พื้นที่การสร้างความ ปลอดภัยทางถนน - มีการแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ของแต่ ละพื้นที่ - เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นกับทีมวิจยั ได้รู้สถานการณ์การ - แต่ละชุมชนเกิดการ ดําเนินการโครงการวิจยั ปฏิบตั ิงานตามแผนที่ เช่น ผลที่เกิดขึ้น ปั ญหา วางไว้ แนวทางการทํางาน - มีการแก้ปัญหาที่ เกิดขึ้นระหว่างการ ดําเนินการ
ผลลัพธ์ (outcome) ทีเ่ กิดขึน้ จริง ทีมวิจยั แต่ละพื้นที่ได้ รู ้จกั และเข้าใจการ ทํางานของกันและกัน ได้ฝึกการนําเสนอ ข้อมูลของชุมชน
ทีมิวจิ ยั มีความเข้า สร้างการเรี ยนรู ้ กระบวนการ
4.2 ปัญหา อุปสรรค 1. การพัฒนาโจทย์วจิ ยั ทําคนใหม่ และเป็ นชาวบ้านใหม่ ต้องทําความเข้าใจ และใช้ กระบวนการมีส่วนร่ วมจึงต้องใช้เวลา 2. ในช่วงเดือนสิ งหาคมในพื้นที่เป็ นช่วงเดือนถือศีลอด พื้นที่ของดการประชุม และต่อมาเกิดนํ้า ท่วมใน 2 ชุมชน แกนนําส่ วนใหญ่ เป็ นอาสาสมัครทํางาน การพัฒนาโจทย์ จัดเวทีตอ้ งล่าช้า และเมื่อเริ่ มพูดคุยต่อ บางส่ วนเริ่ มลืม ต่อความคิดเดิมไม่ค่อยติด 3. การจัดทีมงานวิจยั ในบางพื้นที่ เช่น เขตเทศบาลหลายคนไม่เคยชินกับทํางานลงรายละเอียด การประชุมแบบต่อเนื่อง นิยมชมชอบกับระบบผูน้ าํ คิดให้ ทําให้ จึงต่อมีการเพิ่มทีม 4. การประสานหน่วยงานเข้าร่ วมกระบวนการ ยังไม่ครอบคลุมหน่วยงาน เนื่ องจาก เป็ นงาน สร้างการเรี ยนรู ้ก่อนทํางาน ธรรมชาติโดยทัว่ ไปอยากเห็นรู ปธรรมในกรแก้ปัญหา หน่วยงาน ที่เข้ามาจึงเป็ นความชอบโดยส่ วนตัวเป็ นต้นทุน จึงสามารถเข้ามาเรี ยนรู ้กบั พี่นอ้ งชุมชน 4.3 แนวทางการแก้ ไขปั ญหา 1. ใช้การพัฒนาโครงการแบบจัดเวทีรวม 3 พื้นที่ แทนที่การลงเป็ นรายพื้นที่ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 53
2. ปรับแผนการดําเนินงานจากระยะที่ 1 มาดําเนินการต่อ เช่น การพัฒนาศักยภาพก่อนการดําเนิน โครงการวิจยั 3. ดําเนินการวางแผนร่ วมกันระหว่างทีมประสานงานและนักวิจยั ในการในโครงการในการ ทํางานร่ วมกันเพิม่ ขึ้น 4. เพิ่มทีมทํางานใช้วธิ ี การทํางานและมองตัวคน ซึ่ งบางครั้งคนที่มองว่า 4.4 ข้ อค้ นพบระหว่ างการประสานงาน/ดําเนินงาน 1. ชวนวิเคราะห์ความเสี่ ยงของที่เกิดขึ้น และผลกระทบที่เกิดขึ้นระหว่างคนในพื้นที่กบั นอกพื้นที่ นําไปสู่ ความสําคัญในการแก้ปัญหาความปลอดภัยทางถนน 2. การสร้างการเรี ยนรู ้ที่ไม่ใช่เพียงการฝึ กอบรม แต่ใช้วธิ ี แบบจัดกระบวนการต่อเนื่ อง เช่น วิธีการเก็บ และบันทึกข้อมูล 4.5 เทคนิคและวิธีการที่นํามาใช้ 1. ให้ชุมชนมาเป็ นเจ้าภาพในงานกิจกรรม โครงการทําหน้าที่สนับสนุน แลกเปลี่ยนความรู ้สึก ของผูเ้ ข้าร่ วม เช่น หน่วยงานมาช่วยสนับสนุนชุมชนตามบทบาทของหน่วยงาน คนใน ชุมชนรู ้สึกภูมิใจในการเป็ นเจ้าภาพ มากว่าการเป็ นผูเ้ ข้าร่ วม เสริ มการทําตามหน้าที่ของ หน่วยงาน 2. การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของแต่ละบุคคล มาทําความเข้าใจ 3. การสร้างบรรยากาศในการพูดคุยแบบเป็ นกันเอง ให้ทีมรู ้สึกเรี ยนรู ้ และสามารถทําได้ท้ งั ที่ เป็ นวิธีการที่ยาก 4. การสรุ ปบทเรี ยนหลังจากการทํากิจกรรมเพื่อถอดความรู ้ที่ได้ การพัฒนาที่เกิดขึ้นกับตัวเอง 5. เทคนิคการชวนทีมวิจยั สรุ ปและเขียนรายงานกิจกรรมดังนี้ 1. เริ่ มต้นจากการวางประเด็นในการสรุ ปทํางาน เช่น เป้ าหมายการทํางาน วิธีการ ดําเนินงาน ข้อมูลความรู ้ ผลสื บเนื่อง บทเรี ยน ปั ญหาอุปสรรค 2. ระดมความคิดภายทีมวิจยั ตามประเด็น และบันทึกข้อมูล โดยใช้ใช้แผนที่ความคิด ( Mind Map) เมื่อระดมครบประเด็นจัดลําดับหัวข้อก่อนหลัง
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 54
3. อธิ บายรายละเอียด (เล่า) ทีละประเด็น และเขียนบันทึกต่อเนื่ อง (เขียนตามที่เล่า) และตรวจสอบอีกครั้ง ถ้าหากเวลาไม่พอในการเขียนใช้วิธีการแบ่งประเด็นไปเขียน ตามข้อ 3 นํากลับมารวมกัน และตรวจสอบ 6. ชักชวนแกนนําไปร่ วมแลกเปลี่ยนในการประชุมสัมมนาในงานความปลอดภัยทางถนนใน ระดับต่าง ๆ สามารถกระตุน้ ความสนใจของแกนนําได้เป็ นอย่างดี 4.6 ปัจจัยเงื่อนไขของการดําเนินโครงการ 1. การพัฒนาโครงการต้องอาศัยเวลาที่ต่อเนื่อง 2. การนํานักวิจยั เพื่อท้องถิ่นเข้าร่ วมแลกเปลี่ยนเรี ยนรู ้ สามารถสร้างความมัน่ ใจในการทํางาน 3. แกนนําหน่วยงานที่เข้าร่ วมงาน สอจร. มีเป็ นกันเองกับแกนนําชุมชนสามารถประสานงาน เข้าร่ วมกิจกรรม แบบตัวต่อตัวได้ ไม่มีตอ้ งมีระเบียบทางราชการ 4. รู ปแบบการประสานงานแบบไม่เป็ นทางการ เน้นความสัมพันธ์ระหว่างกันมาก่อน แล้วต่อ ยอดเรื่ องงานภารกิจ การดําเนินงานในระยะต่ อไป จากการดําเนินงานในระยะที่ 1 ซึ่ งใช้ระยะเวลา ตั้งแต่ช่วงเดือน พฤษภาคม 2554 – เมษายน 2555 ในกระบวนการทํางานส่ วนใหญ่เป็ นช่วงการศึกษาข้อมูลและเรี ยนรู ้เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่ องการสร้าง วัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนรวมถึงการทําความรู ้จกั หน่วยงานและคนทํางานด้านความปลอดภัยทาง ถนน รวมทั้งการพัฒนาโจทย์วจิ ยั จัดทําข้อเสนอโครงการ จัดเวทีเชื่อประสานข้อมูลความรู้ การศึกษาดูงาน กิจกรรมพัฒนาศักยภาพแกนชุมชนในด้านงานวิจยั เพื่อท้องถิ่น เช่น การเก็บและบันทึกข้อมูล การวิเคราะห์ จุดเสี่ ยง การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการถอดบทเรี ยน การดําเนิ นการในระยะต่อไป เป็ นการติดตามการดําเนินการตามแผนงานโครงการวิจยั ทั้ง 3 ชุมชน เช่น การศึกษาขอมูลจุดเสี่ ยง พฤติกรรมการขับขี่ สภาพปั ญหา วิถีการใช้รถ และถนนของคนในชุมชน โดย ชุมชนมีส่วนร่ วม นําข้อมูลวิเคราะห์วางแผนแก้ปัญหา ทดลองทํา และสรุ ปผลการทํางาน จากการศึกษาข้อมูลของชุมชน เบื้องต้น คือ ในการศึกษาข้อมูลการใช้รถ และถนนของคนในชุมชน พบว่า มีเด็กจํานวนมาก ที่ขบั รถ อนาคตสิ่ งที่ทีมวิจยั ชุมชน (แกนนํา) ทําอย่างไรกับเด็กกลุ่มดังกล่าว เพื่อ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่ วนวิธีการ ใช้กลุ่มพ่อแม่ ครู เยาวชน เด็ก มาร่ วมกิจกรรมตั้งแต่งานข้อมูล ดังคําบอก เล่าของทีม ในช่วงการศึกษาปริ มาณรถตามจุดเสี่ ยง คือ “นัง่ ดูเพื่อนสะท้อนตัวเอง” เป็ นวิธีการทีใช้ได้ผลกับ แกนนํา เรี ยกว่า “การพาทํา ทําแล้วสรุ ปบทเรี ยน ได้บทเรี ยนทําต่อ” และแกนนําสามารถนําวิธีการนี้ไปใช้ต่อ กับกลุ่มเป้ าหมาย อาจะเป็ นวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และเป็ นการสร้างวัฒนธรรมในอนาคต รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 55
เป็ นการเน้นสร้างรู ปธรรมของพื้นที่ชุมชนในการสร้างความปลอดภัยทางถนน ในพื้นที่ ชุมชนเมือง ชุมชนกึ่งเมือง และชนบท โดยผ่านข้อมูลที่ได้การวิจยั มาสร้างการเรี ยนรู ้ สู่ การหาวิธีแก้ปัญหาโดยชุมชน เป็ นศูนย์กลาง หน่วยงานองค์ให้การสนับสนุน ร่ วมผลักดันให้เกิดแผนงานของหน่วยงานสนับสนุนการ ทํางานของชุมชน ภายใต้การดําเนินงานดังกล่าวบทบาทพี่เลี้ยงพัฒนาศักยภาพของแกนนําให้มีความสามารถใน วิธีการดําเนิ นการวิจยั ของชุมชนที่มีอยู่ เช่น การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ขอ้ มูล การนําเสนอข้อมูล นอกจากนั้นสังเคราะห์วธิ ี การทํางานในการพัฒนาศักยภาพแกนนํา 1
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 56
ภาคผนวก
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 57
รายงานการฝึ กอบรมการเก็บและบันทึกข้ อมูล ระหว่ างวันที่ 24 ก.พ - 30 มี.ค. 2555
ภาคผนวก 1
การประชุมเครื อข่ายนักวิจยั 3 ชุมชน ทีมวิจยั ได้นดั ประชุมที่ทาํ การชมรมชาวประมงพื้นบ้าน จ. สตูล เพื่อมาวางแผนการทดลองการเก็บข้อมูลปริ มาณ พฤติกรรมผูข้ บั ขี่ ในจุดเสี่ ยง ณ ผูน้ าํ การประชุม คุณ สมพงษ์ หลีเคราะห์ ได้เริ่ มการพูดคุยถึงแนวทางการทํางานการฝึ กเก็บและบันทึกข้อมูลในครั้งนี้ “เดิมอบรม การเก็บและบันทึกข้อมูลกําหนดให้มีการอบรม 2 วัน แต่เนื่ องจากทีมวิจยั ชุมชนทั้ง 3 ติดภาระกันเยอะจึงมี การปรับเปลี่ยนใช้วธิ ี การ แบบจัดกระบวนการ ในรู ปแบบดังนี้ 1. จัดประชุมเครื อข่ายนักวิจยั เพื่อทําความเข้าใจรู ปแบบ 2. จัดประชุมเพื่อเตรี ยมวางแผนรู ปแบบการเก็บและบันทึกข้อมูลระดับชุมชน เช่น ประเด็นข้อมูล เครื่ องมือ การบันทึก การจัดแบ่งหน้าที่ กําหนดวันเวลาทํางาน 3. ลงปฏิบตั ิการเก็บข้อมูล 4. จัดประชุมระดับเพื่อสรุ ปข้อมูล นําข้อมูลวางรู ปแบบการนําข้อมูลมาเขียน และสรุ ปบทเรี ยนการ ทํางานระดับชุมชน 5. จัดประชุมระดับเครื อข่ายเพื่อนําเสนอข้อมูล แลกเปลี่ยนการทํางาน บทเรี ยน บ้ านโกตา ทีมวิจยั บ้านโกตาได้มีการประชุมเตรี ยมทดลองการนับรถ ณ กลุ่มออมทรัพย์บา้ นโกตา ในช่วงการ ดําเนินงานประชุมเตรี ยมเพื่อทดลองนับรถพื้นที่บา้ นโกตา “สมพงษ์” ชวนคุยเกี่ยวกับการนับรถประกอบไป ด้วยการสัญจรของรถ เส้นทางการสัญจร พฤติกรรม โดยใช้วธิ ี ระดมจากทีมวิจยั เช่น การสัญจรของรถ ตามจุดเสี่ ยงบนถนนสายหลักและสายรอง พฤติกรรมของผูส้ ัญจร ประเภทรถผูส้ ัญจร รถจักรยานยนต์ รถกระบะ รถเก๋ ง รถตู ้ รถ 6 ล้อ รถ 10 ล้อ รถ 18 ล้อ รถ 2 แถว รถตูโ้ ดยสาร รถบัส รถทัวร์ หลังจากนั้นได้มีการออกแบบการนับรถ กําหนดให้นบั รถ (ขาเข้า) ระหว่าง สตูล-เขาขาว-ตลาดละงู (ขาออก) ระหว่าง ตลาดละงู-เขาขาว -สตูล โดยมีการแบ่งทีมรับผิดชอบร่ วมกัน พร้อมกับการเตรี ยม อุปกรณ์ สมุด(เขียนเป็ นตารางแยกประเภทรถ) ปากกา ชุมอุปกรณ์ร่ม กล้องถ่ายรู ป ทีมจัดหาอาหารว่าง ต่อด้วยการกําหนดนัดพบบริ เวณสามแยกทางเข้าบ้าโตกาให้ในวันเสาร์ ที่ 3 มีนาคม 2555 เวลา 08.00 น. เป็ น ต้นไป หลังจากนั้นทีมวิจยั ได้กาํ หนดให้ในวันเดียวกัน ช่วงคํ่า เวลา 20.00 น. ให้มีการประชุมสรุ ปการ ดําเนินงาน จากประเด็นดังกล่าว ทีมได้มากําหนดรู ปแบบการเก็บข้อมูล เครื่ องมือ แบ่งหน้าที่ ใช้ สามแยก เขาขาวเป็ นพื้นที่ดาํ เนินการ ในวันเสาร์ ที่ 3 มีนาคม 55 เวลา 08.30- 13.30 น.
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 58
การทดลองเก็บข้อมูลปริ มาณรถ พฤติกรรม ใช้วธิ ี การนับปริ มาณรถไปยังเส้นทางต่างๆ แบ่งการนับ ออกเป็ น 3 ทีม โดยบันทึกข้อมูล และดูประเด็น ดังนี้ การสวมหมวกนิรภัย การให้สัญญาณ ความเร็ ว และ อื่นๆ นอกจากนั้นทีมบางส่ วนบันทึกภาพสภาพพื้นที่ การทํางาน และสลับเปลี่ยนคนพักการทํางาน
สรุปข้ อมูลปริมาณรถ ประเภทรถ เข้ า/คัน รถจักรยานยนต์ 1,570 รถกระบะ+เก๋ ง+ตู้ 1,765 รถ 6 ล้อ 72 รถ 10 ล้อ 100 รถ 18 ล้อ 10 รถ 2 แถว 13 รถตูโ้ ดยสาร 38 รถบัส 9 รถทัวร์ 16 รวม 3,593 พฤติกรรมผูส้ ัญจรรถกระบะ เก๋ ง จักรยานยนต์
ออก/คัน รวมจํานวน/คัน 1,280 2,850 1,363 3,128 57 129 65 165 11 21 11 24 25 63 10 19 6 22 2,828 6,421 60% ไม่ให้สัญญาณไฟรถมาจากตลาดเลี้ยวเข้า
เขาขาว 60% ไม่ให้สัญญาณไฟรถมาจากสตูลเลี้ยวเข้าเขาขาว 100% ให้สัญญาณไฟ รถจากเขาขาว-ตลาด รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 59
50% ไม่ให้สัญญาณไฟ/ถึงจุดเลี้ยวให้สัญญาณไฟ รถจากเขาขาว-สตูล ตีไฟตอข้นทางเลี้ยวรถจากเขาขาวสตูล-ตลาด จอดซ้อน ทําไห้บดบดบังการมองเห็น รถกระบะ รถ10 ล้อ ขับเร็ ว รถแซงช่วง3 แยก จอดรถ ผิดเลน สวนเลน(มาจากสตูลจอดทางขวา) การสวมหมวกนิรภัย มาจากเขาขาว สตูล ไปยังตลาด ไม่สวม หมวกนิรภัย(หมวกอยูใ่ นตะกร้ารถ) การขับขี่เด็กไม่เกิน 18 ปี ไม่สวมหมวกนิรภัย ซ้อน 3 มาจากตลาดสวม หมวกมากกว่าขาเข้าตลาด สรุปและถอดบทเรี ยน หลังจากเก็บข้อมูลทีมวิจยั ร่ วมกันสรุ ปข้อมูล ตามปริ มาณต่างๆ พฤติกรรมการขับขี่ สิ่ งแรกเลยที่ทีม วิจยั รู ้สึกสงสัย “ทําไมปริ มาณรวมถึงได้มากแบบนี้ และวันที่เก็บข้อมูลเป็ นวันหยุดเสาร์ โรงเรี ยนปิ ด ยังขาด ปริ มารรถรับ ส่ งนักเรี ยนไปยังโรงเรี ยนต่างๆ ประเด็นที่สอง การขับขี่รถไม่ให้สัญญาณไฟจราจรก่อนจะ เลี้ยวเข้าแยกต่างๆ วิเคราะห์ต่อว่า เป็ นที่มาของอุบตั ิเหตุที่เกิดขึ้น รถกําลังรอจะข้ามแยกไม่สามารถรู ้ได้วา่ จะ ไปไหน เกิดความลังเล จึงคิดต่อได้วา่ “น่าจะมีการรณรงค์การให้สัญญาณไฟเพื่อป้ องกันอุบตั ิเหตุ คนขับจะ ได้ระมัดระวังมากขึ้น ประเด็นอื่นๆ รถทางตรง เช่น จากละงูไปยังสตูล (ขาไป ขากลับ) รถใช้ความเร็ วมาก สมควร ทําอย่างไรให้รถวิง่ ช้าว่านี้เป็ นโจทย์ที่ตอ้ งคิดต่อ ในการทดลองเก็บข้อมูลครั้งนี้ทีมวิจยั ชุมชนเข้าใจการพัฒนาผ่านข้อมูลมากขึ้น จากการที่นาํ ข้อมูล มาวิเคราะห์ และเห็นทางออกในการแก้ปัญหา จากเมื่อก่อนคิดว่า คาดว่า แต่วนั นี้ เห็นข้อมูล เห็นทางออก และวิธีการแก้ปัญหา บ้ านคลองนํา้ เค็ม ในระดับพื้นที่ 3 ชุมชน มีการประชุมทีมหารื อกับการขยับงานตามแผนโครงการ ในรู ปแบบ โดยการย้อนทวนโครงการวิจยั หลังจากการพัฒนาโจทย์งานวิจยั ตามแผนงานในกิจกรรมการสํารวจจุดเสี่ ยง วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาข้อมูลการเกิดอุบตั ิเหตุและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น2. เพื่อศึกษาสภาพโดยรวมในแต่ ละจุดเสี่ ยง 3. เพื่อศึกษาข้อมูลผูใ้ ช้รถ วิธีดาํ เนินงาน 1. ประชุมวางแผน/ เตรี ยม2. สอบถาม แบบสอบถาม3. สํารวจ- สังเกต นับรถ บันทึก เขียน ถ่ายภาพ 4. สรุ ปผล (กําหนดวันนับรถ) ในที่ประชุมแลกเปลี่ยน ประเด็นการดําเนินงานในวัตถุประสงค์ในข้อที่ 3. เพื่อศึกษาข้อมูลผูใ้ ช้รถ และได้ออกแบบการสํารวจการ สัญจรของผูใ้ ช้รถตามถนนสายหลัก กับการสัญจรของรถ สตูล- ละงู(เข้า) ละงู-สตูล(ออก)
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 60
จากนั้นได้กาํ หนดให้มีการแยกประเภทของรถโดยการแลกเปลี่ยนระดมร่ วมกัน ดังนี้ รถโดยสาร ประจําทาง รถสองแถว รถรับส่ งนักเรี ยน รถตู ้ รถบัส รถทัวร์ รถโดยสารไม่ประจําทาง รถตู ้ รถบัส รถทัวร์ รถส่ วนบุคคล รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ รถสามล้อ รถกระบะ รถเก๋ ง รถบรรทุก รถ 18 ล้อ รถ 10 ล้อ รถ 6 ล้อ รถ 4 ล้อ พร้อมกันกําหนดวันเพื่อลงการนับรถในช่วงเวลาเร่ งด่วน วันปกติ และแบ่ง บทบาทที่ การเตรี ยมอุปกรณ์ ชุดโต๊ะเก้าอี่ ร่ ม แบ่งทีม การนับรถ การสัญจรของรถ ขาเข้า-ออก โดยในแต่ ละทีมมีหวั หน้าชุด 1 คน ชุ มชนลงทดลองเก็บข้ อมูล และสรุปผลข้ อมูล ก่อนลงปฏิบตั ิเตรี ยมอุปกรณ์ เช่น ร่ ม ชุดโต๊ะเก้าอี่ สมุดบันทึก/ตารางนับรถ ปากกา และแบ่งทีมต่อ ด้วยการทดลองนับรถโดยมีเอกสารตารางแยกประเภทรถ/ สมุดบันทึก และได้แบ่งทีมบันทึกการสัญจรของ รถ ขาเข้าเมือง สตูล-ละงู ขาออก ละงู-สตูล พร้อมกับการบันข้อมูลการพฤติกรรมของผูส้ ัญจร หลังจาก ทดลองนับรถในแต่ละพื้นที่ได้สรุ ปและแลกเปลี่ยน เช่น พื้นที่บา้ นคลองนํ้าเค็ม พฤติกรรมของผูส้ ัญจร ขับ รถเร็ ว ไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยว/แซง
ประชุ มสรุ ปผลการเก็บข้ อมูล หลังจากในแต่ละพื้นที่ลงมือปฏิบตั ิงาน(ทดลองนับรถ) ได้มีการประชุมสรุ ปข้อมูล ดังนี้ พื้นที่บา้ น คลองนํ้าเค็ม การทดลองนับรถครั้งที่ 1 จะเริ่ มโดยการชวนคุย “จักรกริ ช” ชวนคุยบรรยากาศการนับรถใน วันที่ 27 ก.พ.55 ที่ผา่ นมา “ธนกฤต” ว่า สนุกมากเพราะทีมวิจยั อยูร่ ่ วมหลายคน มีการพูดคุยกัน ช่วยกัน บันทึก “ดนอาหวาบ” ว่า ในตอนวางแผนแบ่งออกเป็ น 2 ทีม ทีมที่ 1 นําทีมโดย บังเลาะ นับรถระหว่าง รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 61
สตูล-ละงู(ขาเข้า) ทีมที่ 2 นําทีมโดย บังมาก๊อน นับรถระหว่าง ละงู-สตูล(ขาออก) โดยการนับแบ่งออกเป็ น 2 ช่วง ช่วงกลางวัน เช้า เวลา 06.00-12.00 น.(ช่วงเวลาเร่ งด่วน 06.00-07.30 น.) บ่าย เวลา 12.00-18.00 น. (ช่วงเวลาเร่ งด่วน 15.30-17.30 น.) และช่วงกลางคืน เวลา 18.00-00.00 น. เที่ยงคืน 00.00-06.00 น. “ดนอาหวาบ” ว่า ในช่วงแรกของการนับรถใช้วธิ ี ช่วยกันนับ ยุง่ ยากมาก(มัว่ ) เพราะต้องทําความเข้าใจ กับตารางนับรถที่มีการแยกประเภทของรถ แต่ประมาณ 1 ชัว่ โมง ผ่านไป ทางทีมวิจยั ก็สามารถบันทึกนับรถ ง่ายขึ้น คล่องขึ้น “วันดี” ว่า ผูท้ ี่สัญจร สงสัยว่า พวกนี้ทาํ อะไร! และผูท้ ี่เข้ามาถาม เช่น ตํารวจ ครู สมนึก (รร.บ้านคลองนํ้าเค็ม) และชาวบ้านในพื้นที่ ทางทีมได้อธิ บาย ว่า พวกเราเป็ นทีมวิจยั สร้างการความ ปลอดภัยทางถนน และนี้เป็ นการนับรถเพื่อหาข้อมูลของผูท้ ี่สัญจร “วันดี” เล่าต่อ ชาวบ้านในพื้นที่บาง คนบอกว่า ทุเรต มันทําอะไรไม่รู้ “บังหาบ”และทีมวิจยั ว่า สิ่ งที่พวกเราทําเป็ นสิ่ งที่ดี ณ ตอนนี้ เขายังไม่เห็น ค่า แต่สักวันหนึ่ง เขาจะได้รู้วา่ สิ่ งที่พวกเราทํามันยิง่ ใหญ่ เพราะเป็ นการช่วยเหลือคนของผูท้ ี่สัญจร ที่ สําคัญคือ เพื่อความปลอดภัยของคน อย่าไปสนใจ “บังหาบ”เน้นยํ้า จากข้อมูลที่นบั รถ มีการเขียนชาร์ ทเพื่อให้เห็นตัวเลข/ข้อมูลร่ วมกัน และทําเป็ นตารางประเภทของ รถที่สัญจร โดยแบ่งหน้าที่ คือ บังมาก๊อน รวบรวมจํานวนรถที่สัญจร และส่ งต่อให้ บังหาบ บอกยอดรวม ของประเภทรถ บังอ๊อด คอยลงตัวเลข ในกระดาษชาร์ ท “บังอาด”ช่วยย้อนทวนตัวเลขที่รวบรวมไว้ และ ให้ทีมช่วยกันดู
ข้ อมูลชนิด และปริมาณรถ บริเวณถนนสาย 416 วันจันทร์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 (24 ชม.) ประเภทรถ A.รถโดยสารประจําทาง 1. รถสองแถว 2. รถตู ้ 3. รถบัส 4. รถทัวร์ 5. รถรับส่ งนักเรี ยน B.รถโดยสารไม่ ประจําทาง 1. รถตู ้ 2. รถบัส
เข้ า/คัน
ออก/คัน
รวมจํานวน/คัน
12 55 14 13 -
20 46 13 10 -
34 101 27 23 -
62 -
48 3
110 3
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 62
3. รถทัวร์ C.รถส่ วนบุคคล 1. รถจักรยาน 2. รถจักรยานยนต์ 3. รถ 3 ล้อ 4. รถเก๋ ง 5. รถกระบะ D.รถบรรทุก 1. รถ 18 ล้อ 2. รถ 10 ล้อ 3. รถ 6 ล้อ 4. รถ 4 ล้อ E. รถอื่นๆ • ผูส้ ัญจร ระหว่าง สตูล-ละงู 4,723 คัน • ผูส้ ัญจร ระหว่าง ละงู- สตูล 4,035 คัน • รวมผูส้ ัญจรผ่านชุมชน 8,758 คัน
4
6
10
10 1,747 52 757 1,574
7 1,192 44 699 1,453
17 2,939 96 1,456 3,027
34 120 105 160 2
36 114 105 230 9
70 234 110 3,900 11
การสังเกตพฤติกรรมผูส้ ัญจร ไม่สวมหมวกนิรภัย 85% แซงไม่เปิ ดไฟสัญญาณ 90% ขับรถเร็ ว 95% รถบรรทุกการให้ไฟสัญญาณ 97% รถบรรทุกส่ วนบุคคล ขนดิน ทราย หิน หล่นบน ถนน “ไม่มีผา้ คลุม” และพฤติกรรมรถสองแถวจอดรับส่ งผูโ้ ดยสารอย่างฉับพลันช่วงเวลาเร่ งด่วน ในช่วง เช้า เวลา 06.30-7.30 น. และในช่วงบ่าย เวลา 15.30-17.30 น. ข้ อมูลปริมาณรถ วันอาทิตย์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2555(24 ชม.)ครั้งที่ 2 ประเภทรถ A.รถโดยสารประจําทาง 1. รถสองแถว 2. รถตู ้ 3. รถบัส 4. รถรับส่ งนักเรี ยน 5. รถทัวร์ B.รถโดยสารไม่ ประจําทาง
เข้ า/คัน
ออก/คัน 27 52 12 26 13
รวมจํานวน/คัน 28 44 10 33 6
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
55 96 22 59 19
หน้า 63
1. รถตู ้ 2. รถบัส 3. รถทัวร์ C.รถส่ วนบุคคล 1. รถจักรยาน 2. รถจักรยานยนต์ 3. รถ 3 ล้อ 4. รถเก๋ ง 5. รถกระบะ D.รถบรรทุก 1. รถ 18 ล้อ 2. รถ 10 ล้อ 3. รถ 6 ล้อ 4. รถ 4 ล้อ E. รถอื่นๆ • ผูส้ ัญจร ระหว่าง สตูล-ละงู 4,857 คัน • ผูส้ ัญจร ระหว่าง ละงู- สตูล 4,535 คัน • รวมผูส้ ัญจรผ่านชุมชน 9,392 คัน
47 4 4
44 11 1
91 15 5
7 1,463 66 601 1,899
6 1,380 50 669 1,630
13 2,843 116 1,270 3,529
33 252 163 182 6
25 187 167 236 5
58 439 330 418 11
การสังเกตพฤติกรรมผูส้ ัญจร ไม่สวมหมวกนิรภัย 85% แซงไม่เปิ ดไฟสัญญาณ 90% ขับรถเร็ ว 95% รถบรรทุกการให้ไฟสัญญาณ 97% รถบรรทุกส่ วนบุคคล ขนดิน ทราย หิ น หล่นบนถนน “ไม่ มีผา้ คลุม” และพฤติกรรมรถสองแถวจอดรับส่ งผูโ้ ดยสารอย่างฉับพลันช่วงเวลาเร่ งด่วน ในช่วงเช้า เวลา 06.30-7.30 น. และในช่วงบ่าย เวลา 15.30-17.30 น. “จักรกริ ช” ทวนการสรุ ปของข้อมูล ในกิจกรรมที่ 2 สํารวจจุดเสี่ ยงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น วิธีการของกิจกรรมดังกล่าว คือการสํารวจโดยการนับรถ “ดนอาหวาบ” เพิมเติม ว่า หลังจากที่ทีมวิจยั นับรถ เสร็ จแล้ว ที่ยงั ต้องสํารวจจุดเสี่ ยง รวม 10 จุด “บังอาด” ว่า แล้วพวกราต้องสํารวจอะไรที่จุดเสี่ ยง “เป็ ด” ว่า ประกอบไปด้วยคือ สภาพของถนนเป็ นอย่างไร เช่น เป็ นทางโค้ง ทางแยก เป็ นต้น “อดินนั ท์” เสริ มว่า ภูมิ ทัศเป็ นอย่างไร มีตน้ ไม้ปิดบังหรื อเปล่า เขตเทศบาลตําบลกําแพง พื้นที่ชุมชนในเขตเทศบาลตําบลกําแพงได้ประชุมเตรี ยม/วางแผน ณ ศูนย์นาคราชเครื อข่ายวิทยุ (เครื่ องแดง) “จักรกริ ช” ชวนคุยเกี่ยวกับการนับรถประกอบไปด้วยการสัญจรของรถ เส้นทางการสัญจร รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 64
พฤติกรรม โดยใช้วธิ ีระดมจากทีมวิจยั “ภูเมศ” เล่าว่า รู ปแบบการนับรถที่ตนได้ไปสังเกตการณ์การนับรถ ของทีมวิจยั บ้านโกตา ได้กาํ หนดจุดนับรถ ได้มีการออกแบบตาราง แยกประเภทของรถที่สัญจร และมีการ แบ่งทีมกันทํางาน(นับรถขาเข้า-ออก) “วิรัช” ชวนคุยและระดมความคิดเห็นเพื่อออกแบบการนับรถจากประเด็น ในระหว่างพูดคุย “จักร กริ ช” เขียนประเด็นลงในกระดาษชาร์ ท จนได้รูปแบบการนับรถ เช่น การกําหนดจุดนับรถ วัน เวลา อุปกรณ์ชุดโต๊ะ สมุด ปากกา กล้องถ่ายรู ป และจัดทีมนับรถแต่ละทีมจะมีผจู ้ ด ผูส้ ังเกต(คอยบอก)
จากวันที่ได้ร่วมกันนัดหมายและเตรี ยมการไว้ ในวันเสาร์ ที่ 3 มีนาคม 2555 เวลา 08.00น. ทางทีม วิจยั ได้ดาํ เนินงานตามแผนและเริ่ มนับรถผูท้ ี่สัญจร เวลา 08.30-12.30 น. และ เวลา 13.30-14.30 น. ในช่วง การนับรถได้มีผสู ้ นใจเข้ามาสอบถามการดําเนิ นงาน ทีมวิจยั ได้อธิ บายการนับรถของผูส้ ัญจรเพื่อมาเป็ น ข้อมูลในการวิเคราะห์จุดเสี่ ยงนําไปสู่ แนวทางแก้ไขปั ญหา มีทีมวิจยั ของเทศบาลเข้าร่ วมสังเกตการณ์ ใน ระหว่างการนับรถ“สมพงษ์” ชวนคุยสร้างบรรยากาศเพื่อเพิ่มความเข้าใจ โดยการชวนคุย ประเด็นพฤติกรรม ของผูส้ ัญจร ในช่วงของการทดลองนับรถพื้นที่ในเขตเทศบาลตําบลกําแพง วันที่ 7 มีนาคม 2555 ตามเวลาที่นดั หมาย และเริ่ มในเวลา 07.30-10.30 น. รถจักรยานยนต์ 3,554 คัน, รถ 4 ล้อ(รถสองแถว รถกระบะ รถเก๋ ง) 2,162 คัน, รถ 6 ล้อ 68 คัน, รถ 10 ล้อ 39 คัน, รถบัส 10 คัน, รถตูป้ ระจําทาง 44 คัน, รถทัวร์ 6 คัน รวม ผูส้ ัญจรทั้งหมด 5,883 คัน พฤติกรรมผูข้ บั ขี่ ในช่วงเวลา07.30-08.00 น. ประมาณ 5% ที่ไม่สวมหมวก และผูซ้ อ้ นท้าย 98% ที่ ไม่สวมหมวก, ในช่วงเลี้ยวรถ 10% ที่ไม่ให้ไฟสัญญาณ (รถจักรยานยนต์ รถ 4 ล้อ), ไม่สวมเข็มขัดนิรภัย 80% (รถยนต์), รถจักรยานยนต์ ไม่ข้ ึนขาตั้ง 5 คัน, คุยโทรศัพท์ในขณะขับขี่รถ 10% และมีพฤติกรรม ต่อเนื่องคือไม่เปิ ดสัญญาณไฟเลี้ยวในขณะเลี้ยวรถ, รถบรรทุก 100% ที่ให้สัญญาณไฟ, กรณี รถเก๋ ง ที่ไป ทางตรง จาก ตรัง-ตลาดละงู เปิ ดไฟฉุ กเฉิ น
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 65
ภาคผนวก 2
บันทึกการศึกษาดูงานการจัดการพืน้ ทีจ่ ุดเสี่ ยงและแนวทางการสร้ างความปลอดภัยทางถนน เพือ่ นําความรู้ มาปรับใช้ ในพืน้ ทีว่ จิ ัยจราจร อ.ละงู จ.สตูล ระหว่ างวันที่ 23-28 เมษายน 2555 บันทึกการศึกษาดูงาน แบ่งออกเป็ น 3 ส่ วน คือ ช่วงเตรี ยมการ , ช่วงดําเนินการศึกษาดูงาน, และช่วงสรุ ปผลการศึกษาดูงาน โดยมี 2 กิจกรรม คือ กิจกรรมศึกษาดูงาน และกิจกรรมถอดบทเรี ยน การศึกษาดูงานและการทํางานที่ผา่ นมาของนักวิจยั พื้นที่จราจรบ้านโกตา, บ้านคลองนํ้าเค็ม และพื้นที่ เทศบาลตําบลกําแพง ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1. ช่ วงเตรียมการ ได้มีการประชุมในเวทีเครื อข่ายทีมวิจยั 3 พื้นที่ ณ ชมรมประมงพื้นบ้าน จ.สตูล ในวันที่ 22 เมษายน 2555 โดยมีวธิ ี การ คือ “สมพงษ์ หลีเคราะห์” โดยการชวนคุยรู ปแบบการศึกษาดูงาน เช่น เพื่อศึกษาหา รู ปแบบในการจัดการลดความเสี่ ยงบนท้องถนนและนํามาเป็ นแนวทางการปรับใช้ในพื้นที่ ต่อด้วยการ นําเสนอยกร่ างกําหนดการ พร้อมกับการให้ขอ้ มูลในแต่ละพื้น เช่น พื้นที่ จ.สมุทรสงคาม(แพรกหนามแดง) มีการจัดการลดการเกิดอุบตั ิเหตุ จ.มหาสารคาม การจัดการจุดเสี่ ยงบนถนนสายรองกับความร่ วมมือใน ระดับแกนนําในชุมชนกับคนในชุมชน ต่อด้วยพื้นที่เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น กับการจัดการลดความเสี่ ยง โดยใช้กระบวนการประสานความร่ วมมือ ในระดับหน่วยงาน อบต. สถานีตาํ รวจ แกนนําในชุมชน ผูน้ าํ ศาสนา คนในชุมชน และเด็กแว้น เข้าร่ วมบริ หารจัดการทั้งระบบ เช่น การจัดการลดความเสี่ ยงบนถนน ความปลอดภัยของคนในชุมชน ยาเสพย์ติด หลังจากนั้น “สมพงษ์ หลีเคราะห์” ชวนคุยการบริ หารจัดการโดยมีทีมพี่เลี้ยงเป็ นคนจัดการหลัก เช่น งบประมาณ ที่พกั การประสานงานพื้นที่ดูงานส่ วนรถตูใ้ ห้พ้ืนที่จดั หาในทีมงานวิจยั ในส่ วนของ งบประมาณได้แบ่งออกเป็ น 2 ส่ วน คือ งบประมาณในโครงการของทีมพี่เลี้ยง และงบประมาณในแต่ละ โครงการ 3 พื้นที่ (ตามแผนกิจกรรม) งบประมาณของโครงการในระดับพื้นที่ยงั ไม่มีการโอน แต่ในตาม แผนกิจกรรมต้องขยับ เนื่ องจากทีมวิจยั ในช่วงของการปิ ดเทอมของนักเรี ยนจึงจําเป็ นที่จะต้องดําเนิ นงาน ก่อน “สมพงษ์ หลีเคราะห์” ว่า ทางทีมพี่เลี้ยงได้ทาํ การยืมเงินของกลุ่มออมทรัพย์บา้ นโกตา — หนึ่งใน พื้นที่วจิ ยั จราจร, ร่ วมกับงบของทีมพี่เลี้ยงที่มีอยูม่ าเป็ นงบประมาณเพื่อดําเนิ นงานในครั้งนี้ ต่อมาได้ชวยคุย ความพร้อมของทีมวิจยั ที่จะเดินทางในครั้งนี้พร้อมกับข้อเสนอแลกเปลี่ยนเพิม่ เติม
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 66
จากนั้น “จักรกริ ช ติงหวัง”ได้ติดตามการประชุมหารื อประเด็นศึกษาดูงานของแต่ละพื้นที่จากประเด็นที่มี การหารื อร่ วมกันในระดับเครื อข่าย พร้อมกับการแจ้งกําหนดการเพื่อศึกษาดูงาน อย่างเป็ นทางการ ให้ทาง โครงการวิจยั ดําเนินการจัดหารายชื่อผูเ้ ข้าร่ วมศึกษาดูงาน มีทีมวิจยั บางส่ วนติดภารกิจ ทางโครงการเลยชวน แกนนําในพื้นที่เข้าร่ วม แต่มีเงื่อนไข คือ คนที่จะไปครั้งนี้ตอ้ งเป็ นผูท้ ี่มีใจ และกลับมาขับเคลื่อนงานต่อ เมื่อถึงกําหนดวันส่ งรายชื่อ ปรากฏว่าทีมวิจยั หลายคนติดภารกิจ และผูท้ ี่จะมาแทนทีมภายใต้ เงื่อนไขดังกล่าวไม่สามารถทําได้ จึงสรุ ปยุบรวมการเดินทางระหว่างเขตเทศบาลและบ้านโกตาใช้รถคัน เดียวกัน อีกคันหนึ่งเป็ นบ้านคลองนํ้าเค็ม และทีมโหนด รวมจํานวนผูศ้ ึกษาดูงานจํานวน 31 คน 2. ช่ วงดําเนินการศึกษาดูงาน รถตูส้ ามคัน - คันแรกเป็ นนักวิจยั จากชุมชนบ้านคลองนํ้าเค็ม, คันที่สองเป็ นนักวิจยั จากชุมชนบ้าน โกตาและเทศบาลตําบลกําแพง, คันที่สามเป็ นทีมพี่เลี้ยงประเด็นความปลอดภัยทางถนน และทีมสกว.สตูล ที่มาช่วยในการจัดการศึกษาดูงานในครั้งนี้ 23 เมษายน 2555 รถเคลื่อนตัวเมื่อเวลาแปดนาฬิกา วันที่ 23 เมษายน 2555 โดยใช้รถตูห้ นึ่งคันนําขบวน เดินทางออก จากละงู เข้าจังหวัดตรัง มุ่งตรงสู่ ถนนเพชรเกษม ตามกําหนดการคืนนี้ จะแวะพักที่โรงแรมไฮเวย์สตาร์ อ.แม่กลอง จ.สมุทรสงคราม เวลาประมาณสองทุ่ม ทว่าการเดินทางด้วยขบวนรถสามคัน กําหนดการจึง เคลื่อน กว่าจะเข้าที่พกั เวลาก็ล่วงเลยมาถึงห้าทุ่ม แต่ทีมพี่ปัญญา โตกทอง -- อดีตนักวิจยั ชุมชนแพรก หนามแดง ยังตั้งตารอรับด้วยความเต็มใจ เห็นนํ้าใจเจ้าถิ่นเช่นนี้ ทีมวิจยั สตูลรู ้สึกตื้นตันเป็ นกําลัง 24 เมษายน 2555 อรุ ณรุ่ งมาเยือน ทีมวิจยั ออกเดินทางจากโรงแรม เข้าสู่ อาคารดําเนินการชุมชนบ้านแพรกหนามแดง อันเป็ นอาคารโรงเรี ยนเก่า ที่โดนยุบเพราะนักเรี ยนย้ายไปเรี ยนในเมือง ซึ่ งอยูใ่ นบริ เวณวัด บรรยากาศเงียบ สงบ ทีมวิจยั ประเด็นความปลอดภัยทางถนนพระราม 2 มารอรับพร้อมทีมวิจยั แพรกหนามแดง นําโดยพี่ ปั ญญา โตกทองเช่นเคย นอกจากนี้ยงั มีคุณชิษณุ วฒั น์ มณี ศรี ขาํ ผูป้ ระสานงานวิจยั สกว.สมุทรสงคราม , เจ้าหน้าที่บริ ษทั กลางคุม้ ครองผูป้ ระสบภัยทางถนน ร่ วมต้อนรับ หลังรับประทานอาหาร ทีมวิจยั ได้ร่วมแลกแปลี่ยนการทํางานวิจยั กับโครงการสร้างความปลอดภัย ทางถนนจังหวัดสมุทรสงคราม โดยการนําเสนอการทํางาน ผ่านกระบวนการวิจยั เพื่อท้องถิ่น ในการ จัดการนํ้าในพื้นที่แพรกหนามแดง ที่รอยร้าวเกิดขึ้นหลังการสร้างประตูเปิ ดปิ ดนํ้าในคลองโดยภาครัฐ ซึ่ ง ปราศจากความเข้าใจธรรมชาติของพื้นที่ ส่ งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านสองฝั่งประตู ยาวนาน กว่า 20 ปี งานวิจยั เพื่อท้องถิ่นจึงนํามาสู่ การพูดคุย เพื่อแก้ปัญหา สุ ดท้ายนํามาสู่ การออกแบบประตูหบั เผย จากภูมิปัญญาชุมชน ที่สามารถเปิ ดปิ ดตามการขึ้นลงของนํ้าเค็ม สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งอันยาวนาน รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 67
ลง หลังงานวิจยั ชิ้นนี้ ชาวบ้านได้รวมตัวและดําเนินกิจกรรมต่อมา ภายใต้วงปี ของประสบการณ์ และ จํานวนนักวิจยั ที่เพิ่มขึ้น หลังการบอกเล่าเรื่ องราวของแพรกหนามแดง คุณชิษณุ วฒั น์ ได้เล่าถึงที่มาที่ไป ของโครงการวิจยั เพื่อสร้างความปลอดภัยบนถนนพระราม 2 ที่เป็ นทางหลวงสายหลักเชื่อมโยงภาคกลางกับภาคใต้ของ ประเทศ มีการจัดการโดยการดึงภาคีภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ มาขับเคลื่อนร่ วมกับชาวบ้าน เช่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุ ข ผูจ้ ดั การฝ่ ายบุคคลโรงงานที่อยูใ่ นพื้นที่ อาสาสมัครสาธารณสุ ขมูลฐาน (อสม.) หน่วยงานสาธารณสุ ข แขวงการทาง บริ ษทั กลาง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญ�ู หลังการอธิ บาย คือช่วงของ การบอกเล่าการดําเนิ นงานวิจยั ในพื้นที่สตูล โดยตัวแทนของแต่ละพื้นที่ ก่อนร่ วมแลกเปลี่ยนซักถาม สิ่ งที่ เป็ นความคิดเห็น ระหว่างนักวิจยั ผลการแลกเปลี่ยน ทีมสตูลได้ความรู ้เกี่ยวกับ รู ปแบบการทํางานที่เชื่ อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่, บทเรี ยนการสร้างถนนของกรมทางหลวงที่ไม่สอดคล้องกับพื้นที่ การดําเนินการแก้ไข การก่อสร้างต้องดําเนินการก่อนผูร้ ับเหมาส่ งมอบงาน หากเลยเวลาต้อง 2 ปี เนื่องจากกฎหมายกําหนด หรื อ จะเปลี่ยนแปลงต้องเสนอผ่านคณะรัฐมนตรี ดูเป็ นเรื่ องยาก จนทําให้ทีมสตูลคิดที่จะมาเสนอต่อแขวงการทาง เป็ นโครงการกําลังก่อสร้างถนนอยู่ บ่ายโมง ทีมวิจยั ออกเดินทางจากแพรกหนามแดง มุ่งหน้าสู่ จงั หวัดมหาสารคาม พร้อมรอยยิม้ และ มิตรภาพ ที่ฉาบฉายอยูเ่ ต็มความรู ้สึกของทีมวิจยั .. 25 เมษายน 2555 ยามเช้ า หลังหลับนอนเต็มอิ่มในคืนวันที่ 24 เมษายน ณ ศูนย์ประชุมแก่งเลิงจาน พื้นที่วนอุทยานแก่งเลิง จาน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ทีมวิจยั มุ่งหน้าสู่ อาํ เภอกันทรวิชยั เพื่อศึกษาดูงานบ้านดอนนา และบ้าน มะกอก โดยมีทีมโหนดมหาสารคาม ซึ่ งเป็ นคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็ นแกนในการทํางาน โดยพื้นที่วจิ ยั ทั้งสองแห่ง อยูเ่ ยื้องกับมหาวิทยาลัย เป็ นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบด้านการจราจร เนื่ องจากการ ขยายตัวอย่างรวดเร็ วของพื้นที่ ซึ่ งสัมพัทธ์กบั การเข้ามาของนักศึกษา และผูป้ ระกอบการโดยรอบ มหาวิทยาลัย การเติบโตแบบก้าวกระโดด ขณะชุมชนยังมีวถิ ีแบบเดิม ส่ งผลให้ความหนาแน่นของ การจราจร ก่ออุบตั ิเหตุหลายครั้งหลายครา ทั้งนี้สาเหตุมาจากสภาพพื้นที่ และการขับขี่ของคน พื้นที่แรก -- บ้ านดอนนา มีผใู ้ หญ่บา้ นและพี่นอ้ งเจ้าของพื้นที่ให้การต้อนรับ โดยใช้วธิ ี การเดินดู สภาพจุดเสี่ ยง มีทีมวิทยากรพื้นที่ให้ขอ้ มูล สังเกตพื้นที่จุดเสี่ ยงในหมู่บา้ น เป็ นทางโค้งหักศอก มีจุดบัง สายตา ข้างทางมีตน้ ไม้ใหญ่ ทีมชาวบ้านแก้ปัญหาโดยการนําสี ขาวแดงมาทาทางโค้ง มีแผ่นซี ดีเลิกใช้ แขวนไว้กบั ต้นไม้ มีการนําไม้มาทาสี ขาวแดงทํารั้วบออกแนวถนน ทีมชาวบ้านเล่าว่า หลังการแก้ปัญหา ดังกล่าว สามารถลดปั ญหาอุบตั ิลงได้ หลังเดินดูพ้ืนที่ ทีมชาวบ้านพาทีมวิจยั มาที่วดั บ้านดอนนา เพื่อ แลกเปลี่ยนเรี ยนรู ้ ก่อนออกเดินทางสู่ พ้ืนที่บา้ นมะกอก ซึ่งเป็ นชุมชนวิจยั อีกแห่งหนึ่ง รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 68
พื้นที่ที่สอง – บ้ านมะกอก มีผใู ้ หญ่บา้ นและพี่นอ้ งเจ้าของพื้นที่ให้การต้อนรับ โดยใช้วธิ ี การเดินดู สภาพจุดเสี่ ยง มีทีมวิทยากรพื้นที่ให้ขอ้ มูล สังเกตพื้นที่จุดเสี่ ยงในหมู่บา้ น สภาพจุดเสี่ ยงคล้ายคลึงกับบ้าน ดอนนา แต่มีจุดเด่นคือ ตรงสามแยกระหว่างบ้าน-โรงเรี ยน-วัด มีตน้ ยางนาสู งใหญ่อยูก่ ลางแยก ทีม ชาวบ้านจึงเปลี่ยนต้นยางนา เป็ นศูนย์กลางวงเวียน มีการนําแผ่นซี ดีเลิกใช้มาแขวนไว้รอบต้น เป็ นการ อนุรักษ์ตน้ ยางนาไว้ ภายใต้แนวคิดภูมิปัญญา ในการจัดการความปลอดภัย หลังการดูพ้ืนที่ ทีมชาวบ้านพา ทีมวิจยั มาที่วดั บ้านมะกอก ใต้ลานโพธิ์ ร่มครึ้ ม มีเก้าอี้พลาสติกวางเรี ยงราย มีวทิ ยากรกล่าวต้อนรับ ช่วงนี้ ทีมโหนดมหาสารคาม ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความเป็ นมาของโครงการ ต่อด้วยทีมชาวบ้านมะกอก สุ ดท้ายมี การแบ่งกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนเรี ยนรู ้กบั ทีมชาวบ้านมะกอก และในแต่ละกลุ่มได้นาํ เสนอเรื่ องราว ที่ได้เรี ยนรู ้มาพร้อมกับแนวทางการนําไปปรับใช้ในพื้นที่ของทีม สองพื้นที่ขา้ งต้น ทีมวิจยั ได้เรี ยนรู ้เกี่ยวกับการจัดการจุดเสี่ ยงในหมู่บา้ น โดยภูมิปัญญาชุมชน เช่น การทาสี ขาวแดงเพื่อให้เห็นเด่นชัด, การนําแผ่นซี ดีเลิกใช้มาติดเพื่อสะท้อนสัญญาณไฟ ,การนําไม้มาทาสี บอกแนวเขตถนน นอกจากนี้ยงั ได้เห็นการสร้างความร่ วมมือระหว่างชุมชนกับสถาบันทางศาสนา หรื อวัด โดยมีเจ้าอาวาสเป็ นตัวแทนทางจิตวิญญาณ และใช้ลานวัดเป็ นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ นับเป็ นรู ปแบบการ ขับเคลื่อนที่น่าสนใจ ยามบ่ าย หลังรับประทานอาหารกลางวันที่บา้ นมะกอก ทีมวิจยั ได้เดินทางจากมหาสารคาม มุ่งหน้าสู่ อาํ เภอ เขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ ๓ ชัว่ โมง ระหว่างทางมีทีมงานอาสาสมัคร ตํารวจอําเภอเขาสวนกวางมารอรับ และนําขบวนเข้าสู่ พ้ืนที่ ทีมวิจยั มาสายกว่ากําหนด แต่ทางผูก้ าํ กับ อานนท์ ประเสริ ฐนามและทีมงานยังรอรับด้วยความตั้งใจ นับเป็ นมิตรภาพอันงาม เฉกเดียวกับทุกพื้นที่ที่ ผ่านมา การนําเสนอของพื้นที่เขาสวนกวาง ใช้รูปแบบการนําเสนอผ่านพาวเวอร์ พอยน์ท ภายในหอประชุม ของอบต.เขาสวนกวาง โดยมี “ผูก้ าํ กับอานนท์ ประเสริ ฐนาม” เป็ นผูด้ าํ เนินรายการ เบื้องต้นคุณสมพงษ์ หลีเคราะห์ ผูป้ ระสานงาน เล่าความเป็ นมาของทีมวิจยั แนะนําทีมผูเ้ ข้าร่ วมดูงาน เนื้ อหาการพูดคุยใน ช่วงแรก เป็ นการบอกเล่าที่มาที่ไปของโครงการความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่เขาสวนกวาง ที่สืบ เนื่องจากโครงการแก้ปัญหาวัยรุ่ นในพื้นที่ เช่น ยาเสพติด ขับรถซิ่ง และพฤติกรรมไม่เหมาะสมอื่นๆ โดย การนําเยาวชนที่ถูกจับมาเป็ นตํารวจอาสาสมัคร อันเป็ นรู ปแบบการนําพลังทางลบมาเป็ นพลังทางบวก ส่ วนเหตุผลที่ขยายงานมาสู่ การสร้างความปลอดภัยทางถนน มีเหตุผลจากสถิติการตายบนท้องถนนใน พื้นที่เขาสวนกวางมีมากกว่าการฆาตกรรม จึงร่ วมกับผูน้ าํ ในพื้นที่ เช่น ผูใ้ หญ่บา้ น กํานัน นายก อบต. ผูน้ าํ กลุ่ม พระสงฆ์ อสม. เคลื่อนงานเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีอาสาสมัครตํารวจช่วยในการขับเคลื่อนงาน ภายใต้ฐานคิด “One Stop Service” ที่ทุกอย่างต้องเบ็ดเสร็ จในครั้งเดียว ก่อนจะเปิ ดเวทีให้ทีมวิจยั แลกเปลี่ยนกับทีมชาวบ้านเขาสวนกวาง รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 69
การเรี ยนรู ้ที่สาํ คัญจากพื้นที่เขาสวนกวาง คือ รู ปแบบการทํางานที่ประสานภาคีชุมชนทุกกลุ่มเข้า มาร่ วมขับเคลื่อนประเด็นปั ญหาของชุมชน, และการทํางานกับเยาวชนกลุ่มเสี่ ยง โดยเฉพาะประเด็น เยาวชน ที่เห็นรู ปแบบการทํางาน ตั้งแต่การจัดการระบบยุติธรรมโดยชุมชน เช่น การเปิ ดโอกาสให้เยาวชน กลุ่มเสี่ ยงที่ถูกจับว่าจะเข้าร่ วมงานกับตํารวจในการพัฒนาชุมชน หรื อจะเข้าคุก โดยผูน้ าํ ชุมชนร่ วม ตัดสิ นใจ มิใช่การโนทุกอย่างสู่ ช้ นั ศาล เป็ นการเปิ ดโอกาสให้เยาวชนที่หลงผิดได้กลับเนื้อกลับตัวอีกครั้ง อีกอย่างคือ การสร้างความปลอดภัยทางถนนของเขาสวนกวาง เป็ นมากกว่าการดูแลการจราจรบนท้อง ถนน หากเป็ น หนึ่งในมาตรการกวดขัน และป้ องปรามอบายมุขที่ไหลเขามาในท้องถิ่นได้เป็ นอย่างดี การแลกเปลี่ยน เรี ยกความสนใจจากทีมวิจยั เป็ นอีกครั้งที่แรงบันดาลใจ ฉายโชนอยูใ่ นการ สนทนาขอนักวิจยั ระหว่างการนัง่ รถตูส้ ู่ ที่พกั ในเมืองขอนแก่น.. 3. ช่ วงสรุ ปผลการศึกษาดูงาน เช้า วันที่ 26 เมษายน 2555 ทีมวิจยั ออกเดินทางจากตัวเมืองขอนแก่น มุง่ หน้าสู่ อุทยานแห่งชาติภู เก้า ภูพานคํา อ.นํ้าพอง จ.ขอนแก่น เพื่อถอดบทเรี ยนการศึกษาดูงานและการทํางานที่ผา่ นมาของนักวิจยั พื้นที่จราจรบ้านโกตา, บ้านคลองนํ้าเค็ม และพื้นที่เทศบาลตําบลกําแพง มี คุณพรธิ ภา ธรรมรักษ์ชยั ผูด้ ูแลโครงการสร้างความปลอดภัยทางถนนจากศวปถ.มาร่ วมแลกเปลี่ยน บรรยากาศวันนี้ร้อนระอุ กอปรกับลักษณะพื้นที่อุทยานเป็ นภูเขาหิ น เมื่อปะทะกับเปลวแดดระอุ นักวิจยั ทุกคนจึงเหงื่อไหลเป็ นทาง แต่หยาดเหงื่อก็หาใช่อุปสรรคสําหรับการพูดคุยแต่อย่างใด แม้กอ้ น นํ้าแข็งห่อผ้าเช็ดหน้าจะวางโปะบนใบหน้า เพื่อระบายความร้อนตลอดเวลาก็ตาม การพูดคุยเริ่ มต้นในยามบ่าย โดยมีกติกาการเข้าร่ วมประชุ ม 3 ประการ คือ 1. ทุกคนมีส่วนร่ วมในกิจกรรม 2. ทุกคนมีส่วนร่ วมในการพูดคุย 3. เปิ ดอกพูดความจริ งด้วยเหตุและผลต่อกัน กติกาข้างต้น นักวิจยั ร่ วมกันกําหนด โดยมีคุณสมพงษ์ หลีเคราะห์ เป็ นผูด้ าํ เนิ นการถอดบทเรี ยน ในช่วงแรก ได้แบ่งกลุ่มนักวิจยั ออกเป็ น 3 กลุ่ม ตามพื้นที่ พร้อมกับการให้โจทย์ คือ - ความรู ้สึกในการมาดูงานในครั้งนี้? - ความรู ้ที่ได้รับจากการดูงาน? - แนวทางที่ได้รับกับการปรับใช้ในพื้นที่ของทีมวิจยั หลังจ่ายโจทย์ ให้พี่เลี้ยงเข้าร่ วมตามกลุ่ม เพื่อชวนคุย โดยให้เวลาหนึ่งชัว่ โมง ครบชัว่ โมง ผูด้ าํ เนินการถอดบทเรี ยน เรี ยกทุกกลุ่มมารวมตัวที่อาคารเช่นเดิม แล้วให้ออกมา นําเสนอรายกลุ่ม รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 70
ทีมวิจยั พื้นที่บา้ นโกตา “ ตาบ หวันหมาน” กล่าวว่า ตนเองได้ความรู ้จากการศึกษาดูงานในครั้งนี้ มาก แต่บอกไม่ถูก.. “ ยรรจง สง่า ” กล่าวว่า รู ้สึกดีกบั การมาสึ กษาดูงานในครั้งนี้ เป้ าหมายเพื่อมาศึกษา วิธีการจัดการจุดเสี่ ยง ได้เรี ยนรู ้ในเรื่ องของการจัดการจุดเสี่ ยงในพื้นที่บา้ นมะกอกและบ้านดอนนาโดยใช้ อุปกรณ์ที่มีอยูใ่ นชุมชนมาปรับใช้ เช่น การนําเอาซี ดี มาทําเป็ นกระจกสะท้อนเพื่อการมองเห็นในจุดทาง แยก ทางโค้ง รวมไปถึงได้เห็นความร่ วมรู ้ของคนในชุมชนที่ประกอบไปได้ ผูใ้ หญ่บา้ น ผูช้ ่วยฯ อบต. ผูน้ าํ ศาสนา และคนในชุมชนที่มีความเป็ นอันหนึ่งอันเดียวกัน และประทับใจในตัวของผูก้ าํ กับอานนท์ นาม ประเสริ ฐ ที่สามารถเป็ นตัวนํา เป็ นผูป้ ระสานให้คนในชุมชน แกนนําในชุมชน/ ศาสนา อบต. ตํารวจใน พื้นที่ ที่สาํ คัญคือ เยาวชนที่มีพฤติกรรมไปในทางที่ไม่ดีปรับเปลี่ยนมาเป็ นคนดี และช่วยเหลือคนในชุมชน “ วิรัช โอมณี ” พูดเสริ มว่า ในประเทศนี้มีผกู ้ าํ กับที่เป็ นอย่างผูก้ าํ กับอานนท์ นามประเสริ ฐ มีนอ้ ย คนนักที่เป็ นเหมือนท่าน แต่มองไปแล้วการดําเนินงานของท่านก็ข้ ึนอยูก่ บั บริ บทในพื้นที่ดว้ ย เช่น ในพื้นที่ อําเภอละงูเป็ นที่รู้กนั ดีในเรื่ องของผลประโยชน์ที่มีอยูม่ หาศาล ท่านเองสมมุติมาอยูท่ ี่อาํ เภอละงู เชื่อว่าทํา ไม่ได้เหมืนอําเภอเขาส่ วนกวาง ทําได้แต่ให้เป็ นผลน้อยกว่าในพื้นที่เขาสวนกวาง แต่สิ่งที่ทาํ ได้ในพื้นที่ของ ทีมวิจยั ที่กาํ ลังขับเคลื่อนอยูข่ ยับจากทีมวิจยั ชุมชน เข้าสู่ หน่วยงานเพื่อมารับผิดชอบนําไปสู่ แนวทางแก้ไข ปั ญหา “ ยรรจง สง่า” กล่าวว่า แนวทางในการศึกษาดูงานในครั้งนี้ที่จะกลับมาปรับใช้ในพื้นที่บา้ นโกตา คือ รู ปแบบของการประชุมที่ตอ้ งดึงคนในชุมชนเข้ามาร่ วมโดยเริ่ มจากทีมวิจยั แกนนําในชุมชน ผูใ้ หญ่บา้ น ผูช้ ่วยฯ อบต. แกนนําศาสนา ต่อด้วยพื้นที่เทศบาลตําบลกําแพง “ สักกาเรี ย แดงนุย้ ” กล่าวว่า รู ้สึกดีกบั การมาศึกษาดูงานในที่ ความรู ้ รู ้สึกดีกบั การต้อนรับของแต่ละพื้นที่ที่ให้ความรู ้ร่วมไปถึงได้แลกเปลี่ยนร่ วมกัน เป้ าหมาย ที่มาดู งานในครั้งนี้ เพื่อศึกษารู ปแบบการจัดการจัดเสี่ ยงและนํามาปรับใช้ในพื้นที่เทศบาลตําบลกําแพง สิ่ งที่ได้ เรี ยนรู ้ คือความสามัคคีของคนในชุมชนที่มีความหลากหลายเข้าร่ วม ผูน้ าํ คนชรา วัยรุ่ น เยาวชน ผูห้ ญิงที่มี บทเทียบเท่าผูช้ าย หน่วยงานที่เข้าร่ วม ในพื้นที่แพรกหนามแดง ได้เห็นการจัดการถนนสายหลักพระราม 2 ( มอเตอร์ เวย์) รถวิง่ เร็ ว การเกิดอุบตั ิเหตุบ่อยครั้ง ได้เห็นการทํางานร่ วมกับทีมจังหวัด ในพื้นที่จงั หวัด มหาสารคาม บ้านดอนนา บ้านมะกอก ได้เห็นการผูน้ าํ ให้เห็นความสําคัญ ให้ความร่ วมมือ มีการกําหนด กฎกติการ่ วมกัน คิด ทํา และไปสู่ การปฏิบตั ิ การทําป้ ายจราจรตามจุดเสี่ ยง ในพื้ พื้นที่บา้ นคลองนํ้าเค็ม “ยูอดั โต๊ะฝา ” กล่าวว่า รู ้สึกดีกบั การมาในครั้งนี้ที่ได้ความรู ้และได้เที่ยว ชมเมืองในพื้นที่ต่างๆ(เปิ ดหูเปิ ดตา) เป้ าหมายที่มาเพื่อเรี ยนรู ้การจัดการจุดเสี่ ยง รู ปแบบการทํา และนํามา ปรับใช้ในพื้นที่บา้ นคลองนํ้าเค็ม ได้เห็นการดําเนิ นงานในพื้นที่พรากหนามแดงเกี่ยวกับการลดความเร็ ว ของรถ การประสานงานการทํางานร่ วมกับหน่วยงานในระดับจังหวัด เห็นความสามัคคีของทีมงานที่ มาร่ วมให้ขอ้ มูลและแลกเปลี่ยนร่ วมกัน ในพื้นที่บา้ นดอนนา บ้านมะกอก จ.มหาสารคาม ได้เห็นรู ปแบบ การจัดการจุดเสี่ ยงโดยใช้วสั ดุที่มีอยูใ่ นชุมชน เช่น ไม้ แผ่นซี ดี ยางล้อรถ ที่เหลือใช้ตามจุดเสี่ ยง เห็นถึง ความความสามัคคีของคนในชุมชนที่ให้ความสําคัญกับความปลอดภัยของผูท้ ี่สัญจรในชุมชนที่มีแกนนําใน ชุมชนเป็ นตัวหลักในการขับเลื่อนงาน ในพื้นที่อาํ เภอเขาสวนกวาง ประทับใจผูก้ าํ กับอานนท์ที่มีหวั ใจใน รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 71
งานพัฒนาเชิงระบบที่เห็นถึงความหลากหลายในพื้น แกนนําศาสนา กํานัน ผูใ้ หญ่บา้ น อปพร. ผูห้ ญิง ที่ สําคัญคือสามารถนําเด็กแว้น ที่สร้างแต่ปัญหาให้กบั คนในครอบครัวและชุมชน ปรับเปลี่ยนมาเป็ นเด็กดี สามารถช่วยเหลือคนในชุมชนและคนในสังคมยอมรับ แนวทางที่สามารถนํามาใช้ในพื้นที่บา้ นคลองนํ้าเค็ม การจัดการจุดในชุมชนเสี่ ยง จัดทํา เครื่ องหมายตามแยก ลูกระนาดเพื่อลดความเร็ วของรถ และการทําความเข้าใจกับคนในชุมชน การจัดทํา ข้อมูลตามจุดเสี่ ยง การสัญจร สภาพถนน คนข้ามถนน และดําเนินงานตามแผนงาน อาจารย์หรน หัสมา และอาจารย์หุดดีน อุสมา ที่ปรึ กษาโหนดนําเสนอแนวคิด ข้อคิด(แบบเสริ ม พลัง) ในการศึกษาดูงานในครั้งนี้พร้อมกับสิ่ งดีๆที่ได้รับนํามาปรับใช้ดงั นี้ อาจารย์ หรน หัสมา กล่าวว่า ปั จจัยความสําเร็ จในการทํางาน คือ เชื่อว่าเราทําได้ , ศรัทธา ในสิ่ งที่ทาํ ,ปฏิบตั ิตามสิ่ งที่ศรัทธา โดยการรู ้จกั ตน , รู ้จกั คนอื่น,รู ้จกั งาน และการทํางานเพื่อการ เปลี่ยนแปลง แต่อย่าฝื น ถ้าทําไม่ได้ อาจารย์ ฮุดดีน อุศมา กล่าวถึง ประเด็น Safety first ว่าเป็ นประเด็นระดับสหประชาชาติ และ กล่าวถึงการบูรณาการหน่วยงานในการทํางาน ของพื้นที่เขาสวนกวางว่าเป็ นรู ปแบบที่น่าเรี ยนรู ้ และ ยกระดับในพื้นที่ และการมาศึกษาดูงานครั้งนี้ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของนักวิจยั และทีมงานวิจยั โดยว่า สิ่ งที่เห็นชัดเจนคือ วิธีคิดและวัฒนธรรมในการทํางาน – ทุกคนเติบโตมีเหตุผลมากขึ้น แต่สิ่งสําคัญคือ การปฎิรูปตนเอง ส่ วน Team ต้องสามารถเปลี่ยนแปลง งานที่ทาํ สู่ ความสําเร็ จ โดยการมองมุมกว้าง อัน เป็ นการเปลี่ยนคนภายใต้วฒั นธรรมความเร็ ว ยกระดับการวิจยั ในการทํางาน เพื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่ เกี่ยวกับใช้รถอย่างปลอดภัย ช่วงสุ ดท้ายเป็ นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อการทํางานในรอบ 1 ปี ของนักวิจยั รายคน ภายใต้ โจทย์ที่วา่ “1ปี ของการวิจยั ความปลอดภัยทางถนนตนเองได้อะไรบ้าง” รายละเอียดการแลกเปลี่ยน พอ สรุ ปได้ดงั นี้ - เคยขับเคลื่อนมาก่อน แต่ขบั เคลื่อนกับหน่วยงานราชการส่ วนท้องถิ่นทําให้ไม่ลึกซึ้ ง ขาด เป้ าหมายที่ชดั เจนแต่งานแบบนี้ส่วนตนเองแต่ทีมก็ยงั เป็ นปั จจัยสําคัญในการทํางาน ตั้งใจให้การขับเคลื่อน เป็ นไป ในรอบปี ชุมชนกับความปลอดภัยเริ่ มสะเทือนจุดประกายการพึงตนเองของชุมชน แต่อยากเห็นการ กระตุน้ ประสาน ไปยังหน่วยงานรัฐในการทํางาน - เข้ามาโดยการชักชวนของ ผูช้ ่วยผูใ้ หญ่บา้ น สาเลาะห์ แรกๆการทํางานเริ่ มเข้าร่ วมตอนหลังเพื่อน ไม่วา่ งก็เลยมามากขึ้น จากการร่ วมงานทําให้เห็นชุมชนไม่ใช้ใจการเกิดอุบตั ิเหตุในหมู่บา้ น พอได้ศึกษาเห็น ข้อมูลและพฤติกรรมในชุมชนมากขึ้น เริ่ มมีการรณรงค์ ขณะนี้เห็นความเปลี่ยนแปลงหวังการรณรงค์ เช่น การใช้หมวกนิรภัยมากขึ้น ให้หน่วยงานสนับสนุนต่อไป - คาดหวังให้เพื่อนมาเต็มคันรถ พอเช้าเหลือ 3 คนความคาดหวังคล้ายล้มสลายลง ที่ผา่ นเห็นการเข้า มาของคนกลุ่มต่างได้ศึกษารวมกลุ่มแสดงความคิดเห็น(ตอนนี้ เราทําให้เหมือนกับของเขาไม่ได้ก่อน แต่ตอ้ ง ทําไปเรื่ อยๆ) รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 72
งานวิจยั ทําให้ใจเย็นขึ้น ใจร้อนหายไป ส่ งผลต่อครอบครัว เช่น ไม่โมโหเมีย และได้รู้ เปลี่ยนแปลงตนเองกับงานวิจยั เห็นและรู ้วา่ ในชีวติ ประจําวันมีสิ่งใดที่ตอ้ งงทํา - กล้าคิดกล้าพูดกับคนอื่นมากขึ้น กระตือรื อร้นในการทํางานทําให้งานสําเร็ จลุล่วงไปด้วยดี - งานวิจยั ทําให้แลมากกว่าเดิมในการขับรถ คิดลึก เช่น หลบมากต้นไม้ใหญ่กลายเป็ นคนช่าง สังเกตและสิ่ งแวดล้อมข้างทางมากขึ้น - คนกว่าจะสมบูรณ์ตอ้ งใช้เวลานาน เก็บข้อมูลยาวนานจึงสําเร็ จได้ จะเป็ นเครื่ องมือตัวแทน ชาวบ้านต่อไป - ได้รู้เรื องการแบ่งเวลา เช่นการนัดหมาย งานส่ วนตัว การประชุมทีมวิจยั และเรื่ องที่ทาํ ได้บุญ การ ขับรถกลับบ้าน เวลาทะเลาะกับเมีย ก็จะระมัดระวังมากขึ้น - ได้รู้ผหู ้ ลักผูใ้ หญ่ในสังคมเป็ นการแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ - เป็ นการมาครั้งแรก ทราบว่าเรื่ องนี้มีประโยชน์สาํ หรับผูใ้ ช้รถใช้ถนนต่อไป จะหางานมารวมกัน - พอทําก็ติดใจชอบ เราก็มีลูกหลานใช้ถนนขับรถไปมา ก็เลยทําและจะกลับไปทําในสิ่ งที่เห็น - ในเวลา4-5วันที่ผา่ นมางานวิจยั เริ่ มจากใครสุ ดท้ายอยูท่ ี่ตวั เราถึงทําไม่สาํ เร็ จขอให้มีความหวัง ตัวไม่ได้ทาํ งานนี้ก็จะไม่มีโอกาสเจอกับอาจารย์เก่งๆแบบนี้งานวิจยั ทําให้งานบัญชีกองทุน หมู่บา้ นมีความรอบคอบรู ้จกั คิดเขียน ได้พดู จากเดิมไม่กล้า กล้าแสดงออกมากขึ้นใช้ในชีวติ ได้ - ได้รู้จกั สมาชิกใหม่หลลายคนดีใจได้พดู ได้คิดแลกเปลี่ยน - ได้รู้จกั ทีมวิจยั ต่างหมู่บา้ น - ได้รูจกั ทีมวิจยั มีความสุ ข - ดีใจที่ได้ร่วมงานกับพงษ์เป็ นการมาด้วยใจสมัครใจ พยายามเปลี่ยนแปลงตนเองเปลี่ยนแปลง ชุมชน /หมู่บา้ น -ภูมิใจกับการศึกษาดูงานคิดถึงการดูงานที่ทรายขาว ที่เริ่ มเป็ นร้านค้าชุมชน ครั้งนี้น่าจะกลับไปทํา ได้เหมือนการดูงานที่ทนายขาว คุณพรธิ ภา ธรรมรักษ์ชยั ร่ วมแลกเปลี่ยนว่า วันนี้ ตนเองได้ความสุ ขคล้ายครอบครัวแห่งการสร้าง ความปลอดภัยภัยทางถนน ,การดูงานคือการจับจุดดีไปปรับใช้ในงานของตน ให้เริ่ มต้นโดยชุมชน และให้ ความเชื่อกับสิ่ งที่ทาํ อยู่ เชื่อว่าตนเองจากทําได้การเปลี่ยนแปลงตัวตน ไม่มีใครทํางานคนเดียวแล้วสําเร็ จ ไม่มีพ้ืนที่ใดดีที่สุด..เด่นที่สุด คุณสมพงษ์ หลีเคราะห์ ปิ ดเวทีถอดบทเรี ยนครั้งนี้วา่ “ความสําเร็ จอยูท่ ี่คนในชุมชน”
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 73
รายงานการประชุ มเครือข่ ายนักวิจัย ครั้งที่ 1 วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2555 ณ ชมรมชาวประมงพืน้ บ้ าน จ.สตูล
ภาคผนวก 3
การประชุมเครื อข่ายนักวิจยั 3 พื้นที่ เพื่อทําความเข้าใจโครงการสร้างความปลอดภัยจราจรแบบมี ส่ วนร่ วมในเขต อ.ละงู จ.สตูลและการขยับงาน ผูเ้ ข้าร่ วม ชุมชนบ้านคลองนํ้าเค็ม จํานวน 1 คน, ชุมชน บ้านโกตา จํานวน 5 คน, ชุมชนในเขตเทศบาล 3 คน, ปภ.สตูล 1 คน, Node. สตูล 4 คน เริ่ มการประชุม “สมพงษ์ หลีเคราะห์” เปิ ดคลิป การเกิดอุบตั ิเหตุ ในต่างประเทศ และชวนถามในที่ ประชุมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็ นอย่างไร รู ้สึกอย่างไร ต่อด้วยการกล่าวต้อนรับทีมวิจยั ที่เข้าร่ วม และ เจ้าหน้าที่ ปภ.สตูล พร้อมกับชี้แจงประเด็นการพูดคุย การดําเนินงานโครงการย่อย แผนการเก็บข้อมูล การ ประชุมโครงการย่อย การประชุมแลกเปลี่ยน การอบรมเรื่ องการวิเคราะห์จุดเสี่ ยง ความคืบหน้าของ โครงการที่มีการนําโครงการในแต่ละพื้นที่ “สมพงษ์ หลีเคราะห์” ย้อนทวนโครงการ ๓ พื้นที่ ที่มีการ นําไปเสนอโครงการฯ ในวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๕ ณ มูลนิธิสาถารณสุ ขแห่ง และให้ทีมวิจยั แต่ละพื้นที่ เล่าในสิ่ งที่นาํ เสนอ และข้อเสนอแนะจากผูท้ รงคุณวุฒิ เติมเต็มกระบวนงานข้อมูล “ไพศาล ขุนศรี เจ้าหน้าที่ ปภ.สตูล” ว่า งานข้อมูลเป็ นหัวใจหลัก ขับเคลื่อนงานที่ตอ้ งอาศัยกําลังกายและที่สาํ คัญคือ ใจที่ตอ้ งนํา ซึ่ งหวังผลว่างานที่ทีมวิจยั ของแต่ละพื้นที่ ดังกล่าวสามารถเป็ นต้นแบบให้กบั คนในพื้นที่อื่นต่อไป ในจุดเสี่ ยงควรมีรายละเอียดที่ให้เห็นชัดว่า ทําไม ถึงต้องเป็ นจุดเสี่ ยงเพื่อนําไปสู่ การหาแนวทางการแก้ไขปั ญหา ทวนเป้ าหมายโครงการ “สมพงษ์ หลีเคราะห์” ว่า เป้ าหมายของงานวิจยั ตามที่ทีมวิจยั เข้าใจกัน คือ การสร้างงานวิชาการสร้างความปลอดภัยทางถนน ต่อด้วย “ไพศาล ขุนศรี เจ้าหน้าที่ ปภ.สตูล” ว่า การ ที่มีขอ้ มูลในแต่ละจุดเสี่ ยงทีมวิจยั สามารถ เสนอข้อมูลให้กบั หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่ วมแก้ไขปั ญหาตาม บริ บทของหน่วยงานนั้นๆ ข้ อมูล ความรู้ทเี่ กิดขึน้ “สากาเรี ย แดงนุย้ ” ว่า ในเวทีนาํ เสนอโครงการกล่าวถึงมิติศาสนา ที่ เกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน เพิ่มเติมข้อมูล “สมพงษ์ หลีเคราะห์” ว่า ปกติแล้วในช่วงก่อนขึ้นรถ หรื อ ยานพาหนะทุกครั้ง ยังมีการขอ ดุอาห์(ขอพร) เพื่อที่ให้มีการตั้งสติ หรื อสมาธิ แต่ไม่ใช้เฉพาะในช่วงก่อนขึ้น
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 74
เท่านั้น ในช่วงที่กาํ ลังอยูบ่ นพาหนะก็ยงั ต้องระลึกอยูเ่ สมอ แม้กระทั้งตอนลงก็ยงั ต้องขอบคุณพระเจ้า(ดุอาห์ ลงจากรถ) ต่อด้วย ความเป็ นวิถีของคนในชุมชนที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามบริ บทของถนน เช่น เมื่อก่อน คน ที่อาศัยอยูร่ ่ วมกันระหว่างถนนที่มีการไปมาหาสู่ กนั ได้ แต่ปัจจุบนั คนที่อาศัยอยูร่ ่ วมกันระหว่างถนนไม่มี การไปมาหาสู่ กนั เพราะเหตุผล คือ กลัวรถชน และยิง่ ตอนนี้ มีการขยายถนน ความเสี่ ยงก็ยงิ่ เพิ่มขึ้น ในที่ ประชุมต่างเข้าใจมากยิง่ ขึ้นว่า งานวิจยั ดังกล่าว มีผลที่จะนําไปสู่ การลดความเสี่ ยงอันจะเกิดอุบตั ิเหตุในพื้น พื้นที่ของตนได้ ผลสื บเนื่อง “สมพงษ์ หลีเคราะห์” ชวนทบทวน แผนงานในตัวโครงการที่ผา่ นการอนุมตั ิแล้ว กับ การขยับงานตามแผนงานในแต่ละโครงการ ต่อด้วยการชวนออกแบบการยับงานในส่ วนของพื้นที่ ตาม แผนงานกิจกรรมในช่วงแรกที่มีการ สํารวจ สัมภาษณ์ ตามจุดเสี่ ยง และได้นาํ เสนอแนวทางการขยับงาน โดยมีวงประชุมในระดับพื้นที่อาทิตย์ละ 1 ครั้ง “ดนอาหวาบ มณี โชค” เสนอพื้นที่บา้ นคลองนํ้าเค็ม กําหนดให้ทุกวันศุกร์ เวลา 13.00 น. “วิรัช โอมณี ” เสนอ บ้านโกตา กําหนดให้ทุกวันเสาร์ เวลา 20.00 น. “สักกาเรี ย แดงนุย้ ”เสนอในเขตเทศบาลตําบลกําแพง กําหนดให้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.00 น. โดยรู ปแบบ ของการประชุมที่มีการออกแบบงาน สรุ ปงาน ต่อด้วยการประชุมในระดับเครื อข่าย 3 ชุมชน เดือนละครั้ง ทุกวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนเสนอให้มีเวทีแลกเปลี่ยน ปัญหาอุปสรรค และบทเรียน กระบวนการที่ใช้ในการประชุมแบ่งออกเป็ น3 ช่วง ก่อน ระหว่าง หลัง ในช่วงก่อนประชุมทาง ทีมพี่เลี้ยงได้ประสานงานทางโทรศัพท์ และลงพื้นที่พูดคุย ต่อด้วยการประสานมีการวางแผนการ ดําเนินงานประชุม กําหนดการ ในช่วงก่อนประชุมเครื อข่ายฯได้มีการแจ้งการประชุ มในระดับพื้นที่ แจ้ง กําหนดการ ทีมเข้าร่ วม สื่ อที่นาํ เสนอในช่วงวันดังกล่าวทางทีมวิจยั ไม่ได้เห็นสื่ อที่ทางพี่เลี้ยงเตรี ยมไว้ ในช่วงของการแลกเปลี่ยนระหว่างพื้นหรื อแสดงความคิดเห็นมีเฉพาะแกนนํา(หัวหน้าทีมวิจยั ) ที่มีการ แลกเปลี่ยน/ แสดงความ โดยการประสานงานก่อนประชุม “จักรกริ ช” ได้ใช้วธิ ี การพูดคุยทางโทรศัพท์
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 75
ภาคผนวก 4
รายงานการประชุ มเครือข่ ายนักวิจัย ครั้งที่ 2 วันอาทิตย์ ที่ 11 มีนาคม 2555 ณ ชมรมชาวประมงพืน้ บ้ าน จ.สตูล เวลา 13.03-14.45 น.
ประชุมเครื อข่ายนักวิจยั 3 พื้นที่ ผู้เข้ าร่ วม นักวิจยั 3 พื้นที่ หัวหน้าขนส่ ง ทีมพี่เลี้ยง เพื่อนําเสนอ การดําเนินงานของแต่ละพื้นที่ แลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ร่วมกันและการกําหนดแผนงานตามโครงการแต่ละพื้นที่ “สมพงษ์ หลีเคราะห์” กล่าวต้อนรับทีมวิจยั 3 พื้นที่ และหัวหน้าขนส่ งละงู(ไพรํา จุย้ ชุม) และให้ แนะตัวเอง ชื่อ ที่อยู่ บทบาทหน้าที่ในทีมวิจยั ต่อด้วยการเล่าความเป็ นมาของโครงการสร้างความปลอดภัย ทางถนนในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล ความสําคัญ เป้ าหมาย การดําเนิ นงานวิจยั วิธีการ การดําเนินงานใน 3พื้นที่ และการขยับงานในแต่ละพื้นที่โดยมีนาํ เสนอการดําเนินงานในพื้นที่ของตัวแทนทีมวิจยั โดยใช้ PowerPoint และมีเอกสารการนําเสนอประกอบ กําหนดการประชุมลงในกระดาษชาร์ ท พร้อมกันนั้นได้มีการ แลกเปลี่ยน ซักถาม จากกิจกรรมที่ดาํ เนิ นงานมา แผนงานในลําดับขั้นต่อไป ในการระหว่างการประชุมในแต่ละประเด็นได้มีการสรุ ปพร้อมกับลงรายละเอียด หลังจากที่มีการ ประชุมเครื อข่าย ทางทีมวิจยั (ตัวแทน)ได้แจ้งการประชุมในระดับเครื อข่ายให้แก่สมาชิกวิจยั ทราบพร้อมกับ การแลกเปลี่ยน ในช่วงการนําเสนอข้อมูลการดําเนินงานในแต่ละพื้นที่มีการซักถาม แลกเปลี่ยนร่ วมกัน จากข้อมูล ที่นาํ เสนอ(การทดลองนับรถผูส้ ัญจรในแต่ละพื้นที่)ในแต่ละพื้นที่เขตเทศบาลตําบลกําแพง นําเสนอโดย “มนูญ ราเย็นและ ภูเมศ ไฉนวงษ์ ” ใน วันพุธ ที่ 7 มีนาคม 2555 ตั้งแต่ เวลา 07.30- 10.30 น. ได้ขอ้ มูลผู ้ สัญจรรถสาย สตูล-ตลาดละงู (เข้า-ออก) รวม 3,667 คัน ระหว่าง ตลาดละงู-สตูล-ตรัง (เข้า-ออก) รวม 2,216 คัน รวมผูส้ ัญจรใช้เวลา 3 ชัว่ โมง 5,883 คัน มีการเกิดเหตุ 1 ครั้ง ระหว่างรถจักรยานยนต์ กับ รถจักรยานยนต์ สาเหตุที่เกิด คือการไม่ให้สัญญาณไฟ ในจุดเกิดเหตุดงั กล่าวเป็ นสี่ แยกมีระบบไฟแดง แต่ ในวันดังกล่าวสัญญาณไฟกระพริ บทําให้ผสู ้ ัญจรต่างต้องใช้ความระมัดรวังกันเอง พฤติกรรมของผูส้ ัญจรในช่วงเวลา07.30-08.00 น. ประมาณ 5% ที่ไม่สวมหมวก และผูซ้ อ้ นท้าย 98% ที่ไม่สวมหมวก, ในช่วงเลี้ยวรถ 10% ที่ไม่ให้ไฟสัญญาณ (รถจักรยานยนต์ รถ 4 ล้อ) ไม่สวมเข็มขัด นิรภัย 80% (รถยนต์), รถจักรยานยนต์ ไม่ข้ ึนขาตั้ง 5 คัน คุยโทรศัพท์ในขณะขับขี่รถ 10% และมีพฤติกรรม ต่อเนื่อง คือ ไม่เปิ ดไฟเลี้ยว ไม่สัญญาณไฟเลี้ยวในขณะเลี้ยวรถ รถบรรทุก 100% ที่ให้สัญญาณไฟ กรณี รถเก๋ ง ที่ไปทางตรง จาก ตรัง-ตลาดละงู เปิ ดไฟฉุกเฉิน สภาพรถ รถจักรยานยนต์ ไม่มีไฟเลี้ยว ไม่มีกระจก ปรับแต่งสภาพรถ ท่อ(เสี ยงดัง) ไฟสัญญาณ เปลี่ยนสี ล้อขนาดเล็ก พื้นที่บา้ นโกตานําเสนอการทดลองนับรถ “” เล่าว่า ในวันเสาร์ ที่ 3มีนาคม 2555 ณ สามแยกทางเข้า บ้านโกตา ได้มีการนับรถผูท้ ี่สัญจร ผูส้ ัญจร(เข้า) ระหว่าง สตูล-เขาขาว-ตลาด 3,593 คัน ผูส้ ัญจร(ออก) ระหว่าง ตลาด-สตูล-เขาขาว 2,828 คัน รวมผูส้ ัญจร 6,421 คันรถกระบะ เก๋ ง จักรยานยนต์ 60% รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 76
ไม่ให้สัญญาณไฟรถมาจากตลาดเลี้ยวเข้าเขาขาว 60% ไม่ให้สัญญาณไฟ รถมาจากสตูลเลี้ยวเข้าเขาขาว 100% ให้สัญญาณไฟ รถจากเขาขาว-ตลาด 50% ไม่ให้สัญญาณไฟ/ถึงจุดเลี้ยวให้สัญญาณไฟ รถจากเขาขาว-สตูล ตีไฟตอขึ้นทางเลี้ยว รถจากเขาขาว-สตูล-ตลาด จอดซ้อน ทําไห้บดบังการมองเห็น รถ กระบะ รถ10 ล้อ ขับเร็ ว รถแซงช่วง3 แยก จอดรถผิดเลน มาจากสตูล จอดทางขวา(สวนเลน ) การสวม หมวกนิรภัย มาจากเขาขาว สตูล ไปยังตลาด ไม่สวมหมวกนิรภัย(หมวกอยูใ่ นตะกร้ารถ)การขับขี่เด็กไม่เกิน 18 ปี ไม่สวมหมวกนิรภัย ซ้อน 3 คนสวย คนหล่อ ไม่สวมหมวกนิรภัย พื้นที่ชุมชนบ้านคลองนํ้าเค็ม นําเสนอโดย “ดนอาหวาบ มณี โชค” ว่า ทีมวิจยั ได้ร่วมกันนับรถผูท้ ี่ สัญจรรวม 2ครั้ง/ 24 ชัว่ โมง ครั้งที่ 1 วันจันทร์ที่ 27 ก.พ. 2555ผูส้ ัญจร ระหว่าง สตูล-ละงู 4,857 คัน ผู ้ สัญจร ระหว่าง ละงู- สตูล 4,535 คัน รวมผูส้ ัญจรผ่านชุ มชน 9,392 คัน ชัว่ โมงเร่ งด่วน ในช่วงเช้า เวลา 06.00-07.30 น. ชัว่ โมงเร่ งด่วน ในช่วงบ่าย เวลา14.20-19.30 น. และครั้งที่ 2 ในวันที่4 มีนาคม 2555 ผูส้ ัญจร ระหว่าง สตูล-ละงู 4,723 คัน ผูส้ ัญจร ระหว่าง ละงู- สตูล 4,035 คัน รวมผูส้ ัญจรผ่านชุมชน 8,758 คัน พฤติกรรมการใช้รถ ไม่สวมหมวกนิรภัย 85% แซงไม่เปิ ดไฟสัญญาณ 90% ขับรถเร็ ว 85% รถบรรทุกการให้ไฟสัญญาณ 97% รถบรรทุกส่ วนบุคคล ขนดิน ทราย หิน หล่นบนถนน ชัว่ โมง เร่ งด่วน ในช่วงเช้า เวลา 06.00-08.00 น. ชัว่ โมงเร่ งด่วน ในช่วงบ่าย เวลา 15.00-17.00 น จากการนําเสนอข้อมูล “สมพงษ์ หลีเคราะห์” ชวยคุย จากข้อมูลพื้นที่ได้ทดลองนับ ทําให้เห็นถึง การสัญจรที่ต่างกัน เช่น จํานวนรถ สถาพถนน พฤติกรรมของผูข้ บั ขี่ ในเขตชุ มชนเมืองพื้นที่ในเขต เทศบาลมีการสัญจรของรถที่มีจาํ นวนมากเนื่องจากเป็ นเขตของการค้าขาย กับพฤติกรรมของผูข้ บั ขี่(สวม หมวกนิรภัย 100%) ในชุมชนกึ่งเมืองบ้านโกตามีจาํ นวนการสัญจรของรถที่นอ้ ยลง แต่มีการสัญจรของรถ ขนาดใหญ่ข้ ึนอันเนื่ องจากพื้นที่บา้ นโกตา มีโรงงานนํ้าแข็ง และยังเป็ นเส้นทางที่เข้าไปสู่ เขตอําเภอมะนัง กับการท่องเที่ยว (ล่องเก่ง) ไปท่าเรื อปากบาราซึ่ งผ่านไปยังตลาดละงู และไปยัง จ.ตรัง พฤติกรรมก็ต่างกัน เช่น การสวมหมวกนิ รภัยประมาณ 50% กับพฤติกรรมผูส้ ัญจรการให้ไฟสัญญาณ การความเข้าใจของผู้ สัญจรกับถนนในทางแยก ทางตรง พื้นที่ชานเมืองบ้านคลองนํ้าเค็มกับจํานวนผูส้ ัญจนที่นอ้ ยกว่าพื้นที่ เมือง กึ้งชานเมือง พฤติกรรมผูส้ วมหมวกนิ รภัย (เกือบ 100% ที่ไม่สวมหมวก) พฤติกรรมผูส้ ัญจรที่ใช้ ความเร็ วสู ง เนื่องจากสภาพถนนเป็ นทางตรงกึ่งทางโค้ง กับความเสี่ ยงของคนในชุมชน เด็กนักเรี ยน เติมข้อมูล “ไพรํา จุย้ ชุม หัวหน้าขนส่ งละงู” พฤติกรรมของผูส้ ัญญจร การไม่สวมหมวกนิรภัย การไม่ให้สัญญาณ การจอดรถในที่หา้ มจอด และพฤติกรรมของเด็กที่ไม่มีใบขับขี่ จากพฤตกรรมดังกล่าว เป็ นปั ญหาที่แก้ได้ยากเพราะเกี่ยวกับพฤติกรรมของคน เป็ นเรื่ องยากที่จะปรับพฤติกรรม ในส่ วนของขนส่ ง ละงู ที่มีการสอบใบขับขี่จะเคร่ งครัดเกี่ยวกับพฤติกรรมของผูข้ บั ขี่ ความเข้าใจกับเครื่ องหมาย/สัญลักษณ์ หลังจากนี้ในทีมเครื อข่ายทีมวิจยั ให้ทางขนส่ งละงช่วยเหลือในเรื่ องของข้อมูล หรื อการเติมติมข้อมูลใน พื้นที่ขอให้มีการประสารมา ทางขนส่ งละงูจะให้ความร่ วมมือ ที่จะขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อความปลอดภัย ของผูช้ ีรถใช้ถนน เป็ นการดีที่มีทีมวิจยั ที่เป็ นแกรนําในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เริ่ มจากตนเอง คนใน ครอบครัว คนในชุมชน และผูใ้ ช้รถใช้ถนน รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 77
ผลสื บเนื่อง จากการนําเสนอข้อมูลทีมวิจยั ในแต่ละพื้นที่ “สมพงษ์ หลีเคราะห์” ชวนคุยการ ดําเนินงานต่อ ในแต่ละทีมได้นาํ เสนอแผนงานที่จะขยับต่อไป ในพื้นที่บา้ นคลองนํ้าเค็มจะมีการสํารวจจุด เสี่ ยง การสําภาษณ์ผทู้ ี่ประสบเหตุ ญาติ ผูเ้ ห็นเหตุการณ์ และจัดทําการสํารวจข้อมูลผูใ้ ช้รถในชุมชน พื้นที่ บ้านโกตาจะทําการนับรถผูท้ ี่สัญจร( 24ชัว่ โมง) การสํารวจจุดเสี่ ยง 7 จุดสี่ ยง เก็บข้อมูลผูใ้ ช้รถในชุมชน พื้นที่ในเขตเทศบาลทําการนับรถผูท้ ี่สัญจรในเขตเทศบาล (24 ชัว่ โมง) “สมพงษ์ หลีเคราะห์” แจ้งเวทีฝึกอบรมการวิเคราะห์จุดเสี่ ยง ในวันที่ 24-25 มีนาคม 2555 ณ บารา รี สอร์ ท ต.ปากนํ้า อ.ละงู จ.สตูล รู ปในการเวที ในช่วงแรกจะมีการนําทีมวิทยากรลงในแต่ละพื้นที่ของทีม วิจยั เพื่อดูสภาพไว้เป็ นข้อมูลประกอบในช่วงเวทีฝึกอบรมวิเคราะห์จุดเสี่ ยง พร้อมกันนั้นควรมีขอ้ มูลในแต่ ละจุดเสี่ ยง เช่น สภาพถนนเป็ นอย่างไร พฤติกรรมผูส้ ัญจรเป็ นอย่างไร ปัญหาอุปสรรค และบทเรียน กระบวนการที่ใช้ในการประชุมแบ่งออกเป็ น3 ช่วง ก่อน ระหว่าง หลัง ในช่วงก่อนประชุมทางทีมพี่เลี้ยงได้ ประสานงานกําหนดวันประชุม เวลา สถานที่ ประเด็น มีการ วางแผนการดําเนิ นงานประชุม กําหนดการ จัดทําสื่ อ(PowerPoint)ในแต่ละพื้นที่ ในช่วงก่อนประชุม เครื อข่ายฯได้มีการแจ้งการประชุมในระดับพื้นที่ แจ้งกําหนดการ ทีมเข้าร่ วม สื่ อที่นาํ เสนอในช่วงวัน ดังกล่าวทางทีมวิจยั ไม่ได้เห็นสื่ อที่ทางพี่เลี้ยงเตรี ยมไว้ ได้มาดูก่อนประชุมประมาณ 15 นาทีก่อนที่มีการ ประชุม ช่วงระหว่างการประชุม ผลจากการนําเสนอไม่สอคล้องกัน ระหว่างคนนําเสนอ กับสื่ อ แต่ในทีม วิจยั มีการเติมการเติมข้อมูลในสิ่ งที่นาํ เสนอ ในช่วงของการแลกเปลี่ยนระหว่างพื้นหรื อแสดงความคิดเห็นมีเฉพาะแกนนํา(หัวหน้าทีมวิจยั ) ที่มี การแลกเปลี่ยน/ แสดงความคิดเห็น และในส่ วนของเจ้าหน้าที่เข้าร่ วม(พี่ไพรํา จุย้ ชุม หัวหน้าขนส่ งละงู) โดยการประสานงานก่อนประชุม “จักรกริ ช” ได้ใช้วิธีการพูดคุยและเชิญเข้าร่ วมแต่ไม่มีสื่อ เอกสารที่ เกี่ยวข้องประกอบการประสานงาน (มีเฉพาะนามบัตร) ในช่วงของการนําเสนอข้อมูลในแต่ละพื้นที่จึงไม่ได้ แสดงความคิดเห็น ในการระหว่างการประชุมในแต่ละประเด็นได้มีการสรุ ปพร้อมกับลงรายละเอียด
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 78
ภาคผนวก 5
รายงานการอบรมวิเคราะห์ จุดเสี่ ยง ระหว่างวันที่ 24- 25 มีนาคม 2555 ณ ณ บารารีสอร์ ท ต.ปากนํา้ อ.ละงู จ.สตูล
การดําเนิ นการโครงการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล โดยผ่าน กระบวนการวิจยั เพื่อท้องถิ่น มีพ้นื ที่ดาํ เนินการ บ้านโกตา บ้านนคลองนํ้าเค็ม และในเขตเทศบาลตําบล กําแพง อ.ละงู จ.สตูล ภายใต้การสนับสนุนของศูนย์วชิ าการความปลอดภัยทางถนน(ศวปถ.) มูลนิธิ สาธารณะโดสุ ขแห่งชาติ (มสช.) ชุมชนวิจยั ดังกล่าวได้เริ่ มดําเนิ นสํารวจจุดเสี่ ยงในชุมชน เพื่อนํามา วิเคราะห์ ทางศูนย์ประสานงานในฐานะองค์กรพี่เลี้ยงสนับสนุนกระบวนการจึงจัดฝึ กอบรม “การวิเคราะห์ จุดเสี่ ยง” ให้กบั นักวิจยั ในชุมชน ในวันที่ 24 - 25 มีนาคม 2555 ณ บารารี สอร์ ท ต.ปากนํ้า อ.ละงู จ.สตูล ผูเ้ ข้าร่ วมทีมวิจยั ในพื้นที่บา้ นคลองนํ้าเค็ม คน บ้านโกตา คน เทศบาลกําแพง คน ทีมวิทยากร ประกอบไปด้วย ผศ.ดร.วิชุดา เสถียรนาม จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามและผศ.ดร. ธเนศ เสถียรนาม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เป็ นวิทยากรหลักในการให้ความรู้ เกี่ยวกับเทคนิคและการวิเคราะห์ การแก้ปัญหาจุดเสี่ ยง นอกจากนี้ยงั มี อาจารย์สมบัติ คุณพรธิภา ธรรม รักษ์ชยั ผูป้ ระสานงานส่ วนกลาง คุณไพศาล ขุนศรี เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล (ปภ.) คุณสมพงษ์ หลีเคราะห์ คุณจักรกริ ช ติงหวัง ทีมโหนดพี่เลี้ยง จ.สตูล ที่คอยเป็ นกําลังใจ เสริ มแนวคิด ช่วยขยายความ เช้าของวันเสาร์ ที่ 24 มีนาคม 2555 กระบวนการการอบรมเริ่ มขึ้นโดยการพาทีมวิทยากรลงพื้นที่ วิจยั เพื่อศึกษาสถานการณ์สภาพแวดล้อมพื้นที่ โดยสํารวจ เก็บข้อมูล (จุดเสี่ ยง พฤติกรรมเสี่ ยง) พอสังเขป พื้นที่ในเขตเทศบาลตําบลกําแพง พื้นที่จุดที่ 1 บริ เวณหน้าตลาดสดละงู บริ เวณตลาดอยูด่ า้ นขวามือ ตามถนนไปทาง จ.ตรัง ซึ่ งตรงกับตลาดนัด สภาพถนนเป็ นสี่ เลนมีเกาะกลาง เป็ นที่กลับรถบริ เวณ 2 จุด คือ บริ เวณตรงกับทางเข้าในตลาดสด และทางออกของตลาด ในวันดังกล่าวทางด้านตลาดจะมีร้านค้า รถจัก ยานยนต์ วางเรี ยงราย ปิ ดทางช่องจราจร ทําให้การสัญจรติดขัด จุดที่ 2 บริ เวณ 4 แยกปากปิ ง สายรองถนน แคบและมีสิบล้อวิง่ เข้าออกการจอดรถที่บดบังทางเข้าออก เดินทางต่อไปพื้นที่บา้ นโกตาบริ เวณถนนสายหลัก 416 ที่มีทางแยกอยู่ 2 ช่วง ไปยัง อ.มะนัง อ.ทุ่ง หว้า ตัวตลาดละงู และออกไปยังตัวเมืองสตูล สภาพถนนกําลังก่อสร้างเป็ น 4 เลน มีเกาะกลาง ความเสี่ ยงที่ พบคือ รถที่วงิ่ มาจากถนนสายรองเพื่อรอข้ามแยก มีการจอดรถซ้อนกัน ความเข้าใจของผูส้ ัญจรกับถนนไม่ สอดคล้องกัน สภาพถนนเป็ นถนนสายหลักที่มีทางแยกไปยังบ้านโกตา แยกต่อกันถนนสายหลักเป็ นท่างแยกเข้า เขตเทศบาล บริ เวณก่อนถึงทางแยกบ้านโกตา (ขาออก) ไปยังตลาดตลาดละงูที่มีการจ่อปิ ดสองช่องทาง จราจร รถที่จ่อถ่าย(ชิดซ้าย)เพื่อที่จะออกไปยังสตูลต้องรอทําให้รถติด ยิง่ ในช่วงเวลาเร่ งด่วนมีรถยาวจนถึง รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 79
ทางโค้ง ซึ่ งทางโค้งดังกล่าวเป็ นทางแยกซึ่ งมีความเสี่ ยงอยูแ่ ล้ว หรื อกรณี การจอดรถสวนเลนของรถที่มา จากสตูลแล้วให้สัญญาณไฟเพื่อตีขวา แล้วจอด เป็ นต้น พื้นที่บา้ นคลองนํ้าเค็มสภาพถนนเป็ นทางตรงเป็ นเนินกึ่งทางโค้งสองข้างถนนเป็ นชุมชนกับ โรงเรี ยน เดิมถนนเป็ นสองเลน ปั จจุบนั กําลังก่อสร้างเป็ น 4 ช่องจราจร สิ่ งที่พบเห็นผูส้ ัญจรขับรถเร็ ว จุด เสี่ ยงอยูต่ รงทางแยกที่เชื่ อมต่อกับถนนสายหลัก และบริ เวณทางเข้าออกของโรงเรี ยนที่อยูใ่ กล้กบั ทางเนิน โค้ง หลังจากที่ได้ลงศึกษาพื้นที่แล้วก็กลับมายังห้องประชุมเพื่อเริ่ มกระบวนการขั้นต่อไป ซึ่ งเริ่ มให้ ชุมชนวิจยั วิจยั ได้เล่าถึงกระบวนการดําเนินงานในช่วงที่ผา่ นมาว่าได้ทาํ อะไร อย่างไร โดยสรุ ป ทั้ง 3 พื้นที่ วิจยั ได้ผา่ นการสํารวจจุดเสี่ ยง อบรมการเก็บและบันทึกข้อมูล ใช้วธิ ีการนับรถ ดูพฤติกรรมการใช้รถ ใช้ ถนน การสัญจรไปมาในแต่ละจุด และเปิ ดโอกาสให้ผเู ้ ข้าร่ วมทุกคนได้ซกั ถามแลกเปลี่ยน มีการเติมเต็มกัน ในแต่ละพื้นที่ อาจารย์วชิ ุ ดาได้นาํ เสนอสไลด์เกี่ยวกับงานวิจยั ของโครงการศึกษาและพัฒนาคู่มือการสํารวจและ วิเคราะห์ จุดเสี่ ยงเพื่ อความปลอดภัยทางถนน อย่ างมีส่วนร่ วม จังหวัดมหาสารคาม ที่ได้ผา่ นการการ ดําเนินงานแล้ว ในระหว่างการนําเสนอได้มีการแลกเปลี่ยนวิธีการวิเคราะห์จุดเสี่ ยง โดยผูป้ ระสานงาน และ ทีมวิจยั สรุ ปโดยรวม คือสาเหตุการเกิดอุบตั ิเหตุมาจาก 3 ประการ คือ ถนน คน และรถ จากนั้นอาจารย์ ได้แบ่งกลุ่มย่อย ให้โจทย์ให้แต่ละพื้นที่ ยกตัวอย่างพื้นที่เสี่ ยง 1 จุด แล้วให้วเิ คราะห์ ว่า จุดเสี่ ยงนี้มี 3 ปั จจัยหลัก เป็ นอย่างไรบ้าง เช่น คน ที่มาใช้รถ ใช้ถนนมีพฤติกรรมอย่างไร สภาพแวดล้อม ของถนนมีอะไรและเป็ นอย่างไร และรถที่ใช้อยูน่ ้ นั สภาพเป็ นอย่างไรกันบ้าง เช้าวันอาทิตย์เริ่ มโดยการฉายสไลด์เรื่ อง “กบ” ปี นเสาไฟฟ้ า ซึ่งก็ได้แนวคิดและเป็ นเป็ นการ เสริ มแรง เสริ มพลังเพื่อให้กา้ วเดินต่อไปอย่างมัน่ ใจว่าสิ่ งที่ทาํ มานั้นถูกต้องแล้วแม้วา่ มันจะเป็ นคนส่ วนน้อย ที่ลุกขึ้นมาทําถ้าเทียบกับคนหมู่มากที่เขาอยูแ่ บบสบายๆไม่รู้หนาวรู ้ร้อนสักเท่าไหร่ แล้วก็ได้ให้ 3 พื้นที่นาํ เสนอผลงานจากโจทย์เมื่อวาน และก็มีการเติมเต็มจากอาจารย์และคณะพี่ เลี้ยงพอสมควร บ้ านคลองนํา้ เค็ม จากบริ บทของแต่ละชุมชนที่แตกต่างกัน ชุมชนบ้านคลองนํ้าเค็มเป็ นพื้นที่ชานเมืองที่มีสภาพถนน เป็ นทางตรง ข้อมูลที่ทดลองนับรถ (24 ชม.) หรื อพฤติกรรมผูส้ ัญจร ระหว่าง สตูล-ละงู 4,857 คัน ระหว่าง ละงู-สตูล 4,535 คัน รวมผูส้ ัญจรผ่านชุมชน 9,392 คัน จากข้อมูลของผูส้ ัญจรปั ญหาหลักคือ พฤติกรรมการ ขับรถที่ใช้ความเร็ วสู งพร้อมกันนั้นกับปั จจุบนั ที่มีการขยายของถนนจาก 2 เลน มาเป็ น 4 เลน มีเกาะกลางสี (กระเทย) รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 80
ในเวทีได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปั ญหาโจทย์หลักคือ ความเสี่ ยงของเกาะกลางสี (กระเทย) ที่ คาดว่าจะก่อให้เกิดความเสี่ ยงกับผูส้ ัญจร คนในชุมชน หรื อเด็กนักเรี ยนที่ตอ้ งข้ามถนนทุกวัน ข้อมูลดังกล่าว มีเพียงพอแล้วหรื อไม่! ถ้ามีการขอให้ปรับเปลี่ยนเกาะกลางที่เป็ นวัสดุ หรื อต้องมีขอ้ มูลอย่างอื่นมาประกอบ เช่น จํานวนนักเรี ยนที่ขา้ มแต่ละวัน หรื อความคิดเห็นคนในชุมชน แต่ในส่ วนของการประสานงานในระดับ หน่วยงาน โดยมี พี่ไพศาล (จนท. ปภ.สตูล)ช่วยประสาน บ้ านโกตา พื้นที่ชุมชนบ้านโกตาที่มีขอ้ มูลของผูส้ ัญจร (ทดลองนับ ใช้เวลา 5ชม.) หรื อพฤติกรรมผูส้ ัญจร (ขา เข้า) ระหว่าง สตูล-เขาขาว-ตลาดละงู 3,593 คัน ระหว่าง (ขาออก) ตลาดละงู-เขาขาว-สตูล 2,828 คัน รวมผู ้ สัญจรผ่านชุมชน 6,421 คัน ปั ญหาคือทัศนคติของผูส้ ัญจรกับการใช้ถนนในทางแยก หรื อพฤติกรรมของการ ให้สัญญาณไฟ จากข้อมูลการสัญจรและพฤติกรรมของผูใ้ ช้รถกับถนน ข้อมูลดังกล่าวสามารถนํามาวิเคราะห์และ ออกแบบการปรับเปลี่ยนทัศนคติ/พฤติกรรมได้อย่างไร หรื อการออกแบบของถนนที่เกี่ยวกับการจัดการ วางแผนพังเมืองที่มีผลกับกับผูใ้ ช้ถนน หรื อนําไปสู่ การแก้ไขปั ญหาเรื่ องภัยทางธรรมชาติได้ดว้ ย (นํ้าท้วม) เขตเทศบาลตําบลกําแพง พื้นที่ในเขตเทศบาลตําบลกําแพงเป็ นชุมชนเมืองและเป็ นที่เมืองของการค้าขาย ของคนใน อ.ละงู และอําเภอใกล้เคียง มีขอ้ มูลพฤติกรรม การผูส้ ัญจรบริ เวณ 4 แยกมหาจันทร์ (ตั้งแต่เวลา 07.30-10.30 น.) เข้า-ออก ระหว่าง สตูล-ตลาดละงู-ตรัง จํานวน 3,667 คัน และการสัญจรระหว่าง ตลาดละงู-ตรัง-สตูล จํานวน 2,216 คัน รวมผูส้ ัญจร 5,883 คัน ตัวสัญญาณไฟแดงกระพริ บตลอด พฤติกรรมส่ วนใหญ่ไม่ให้ สัญญาณไฟ (ช่วงเวลาดังกล่าวเกิดอุบตั ิเหตุ 1 ครั้ง ระหว่างรถจักรยานยนต์ดว้ ยกัน เหตุ เพราะไม่ให้ สัญญาณไฟเลี้ยว) ขับขี่เร็ ว อีกทั้งมีรถบรรทุกสิ บล้อวิง่ ผ่าน ทําให้การสัญจรติดขัดและมีความเสี่ ยงที่ ก่อให้เกิดอุบตั ิเหตุ จากกรณี ปัญหาในเขตเทศบาลควรมีขอ้ มูลเชิงประจักษ์ เช่น ข้อมูลของผูส้ ัญจร พฤติกรรมการ สัญจร ที่สามารถนําไปการการแก้ไขปั ญหา การปรับเปลี่ยนการสัญจรของรถบรรทุก การจัดระเบียบการตั้ง ร้านของพ่อค้าแม่คา้ ในช่วงวันตลาดนัดเป็ นต้น ในการอบรมครั้งนี้ซ่ ึ งก็ได้สร้างความตระหนักจากคําพูดของหลายๆท่านที่ได้ให้ขอ้ คิด การสร้าง พลังของชุมชนที่เมื่อรวมตัวกันเพื่อทําอะไรสักอย่างหนึ่งมันมีคุณค่ามากนัก อย่างเช่น เรื่ องของของการสร้าง ความปลอดภัยบนท้องถนนที่เป็ นโจทย์ของชุมชน ซึ่ งไม่ตอ้ งรอให้มนั เกิดก่อนเพราะมันจะต้องสู ญเสี ย ซึ่ง มันไม่ใช่สิ่งที่ตอ้ งรอ สิ่ งที่เราทําคือเป็ นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ มันจึงเป็ นความยาก เมื่อคนอื่นที่จะเห็น ชาวบ้านมาทําแล้วเกิดคําถามจะทําได้หรื อ และบางเรื่ องที่ผา่ นมาถ้านายสั่งคงดีไปหมดแล้ว และอีกอย่าง คนเราเมื่อทําแล้วอาจจะอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดเป็ นรู ปธรรมที่เห็นเร็ วๆ บางครั้งมันต้องการเวลา รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 81
และต้องรอการพิสูจน์ เพียงแต่เราจะเดินหรื อจะหยุด บางทีปริ มาณของคนก็ไม่ได้บอกว่างานจะสําเร็ จลงได้ คนที่ทาํ งานลักษณะนี้อาจจะยังไม่ชินกับการทํางานที่แปลกใหม่ เราในฐานะคนทําก็ตอ้ งให้โอกาสตัวเอง บางครั้งเราก็ตอ้ งทําเป็ นคนหู หนวก ตาบอด เพราะเราเป็ นคนที่นี่ อย่าให้สนใจกับคนข้างนอกมาก เกินไป สิ่ งสําคัญก็คือคนในชุ มชน ทําอย่างไรให้คนในชุมชนเข้มแข็ง เหมือนเป็ นรู ปธรรมแต่มนั ก็จะเปลี่ยน ให้เป็ นรู ปธรรมได้ เราจะเห็นได้วา่ ถ้าคนอื่นมาทําสักวันเขาก็จะไป ปั ญหามันก็ไม่ได้ถูกแก้สักที แม้แก้ แล้วแต่ก็ยงั ไม่ตรงจุด ความรู ้ใหม่ให้กบั นักวิจยั พอสมควร เช่น ปั จจัยหลักที่ทาํ ให้เกิดอุบตั ิบนท้องถนนที่มาจาก คน สภาพแวดล้อมของถนน และรถ,การทําป้ ายสัญลักษณ์แบบง่ายๆที่สามารถทําได้เองและทําได้เลยโดยไม่ ต้องรอ,ราวทางโค้งที่เมื่อใส่ ผดิ ด้านจะทําให้เกิดอุบตั ิเหตุอย่างมาก,เสาที่ชนแล้วก็นาํ มาใช้ใหม่ ได้ แต่บา้ นเรา ชนแล้วพังทั้งรถทั้งคน ,เป็ นภาพถนนทุกที่ทุกแห่ง ไม่มีกฎระเบียบ การที่มีเจ้าหน้าที่สํารวจ ไม่ใช่แค่วา่ ต้อง เป็ นถนนใหญ่ ที่ตอ้ งควบคุมดูแล แค่เพียงทําอย่างไรให้ถนนไม่ให้พงั บ้านไม่ให้พงั แต่ตอ้ งมองที่วา่ มี กฎหมายควบคุมการสร้างถนน สมมุตว่ามีการสร้างถนนบุกเบิก ต้องดูแลว่าจะมีอนั ตรายไหม ในส่ วนของ การดําเนินงานต่อไปมีขอ้ เสนอแนะ ข้อคิดเห็น ดังนี้ 1. อยากเห็นข้อมูลเชิงปริ มาณของการวิจยั ครั้งเพื่อไปนําเสนอกับทางส่ วนบนได้วา่ สภาพของมัน เป็ นอย่างไร อะไรคือปั ญหาที่แท้จริ ง ถ้าจะแก้ไขควรจะเป็ นเช่นไร หากเรามีขอ้ มูลพร้อมคิดว่าการ ประสานงานคงเป็ นไปได้มาก และต้องไม่ชา้ ด้วย เวลาวิเคราะห์ตอ้ งให้เห็นคน รถ ถนน 2. พื้นที่โกตาการมีส่วนร่ วมในการออกแบบ ต้องโชว์เพื่อให้มีการส่ วนร่ วม นําไปสู่ การเป็ นผัง ชุมชน เพราะเรามีประสบการณ์จากการทํางานของหน่วยงานภาครัฐ การที่เรามีผงั ชุมชน คนข้างนอกก็จะได้ รู ้วา่ เราต้องการอะไร ที่ผา่ นมาเราเรี ยกร้องอยากเอาถนน แต่ลืมความปลอดภัย ความเสี่ ยงที่จะเกิดขึ้น 3. การวิเคราะห์ลงลึกจากปรากฏการณ์ที่เห็น ราคายางพาราดีข้ ึน ทําให้รถเพิ่มขึ้นหรื อเปล่า พอรถ มากขึ้น ถนนได้ขยายตัว ถ้าราคายางลดรถลงไหม อยากชวนคิด ปั ญหาเรื่ องเศรษฐกิจในพื้นที่เอง ถ้ารายได้ มาก เช่น มีเงิน เข้าห้างสรรพสิ นค้า (บิ๊กซี โลตัส) ถ้าไม่มีเงินก็จะอยูบ่ า้ น รู ปแบบการเดินทางเป็ นอย่างไร รายได้ไม่ดี ไม่ค่อยเดินทาง รายได้ดี เดินทางบ่อยขึ้น ไกลขึ้น ก็จะเชื่อมโยงกับการวิเคราะห์จุดเสี่ ยง รู ปแบบ การเดินทางที่สอดคล้องในชุ มชน เด็กต้องเดินทางไปโรงเรี ยน 6 วัน 5 วันมีผใู้ หญ่ไปด้วย แต่วนั ที่ 6 ไม่มี ผูใ้ หญ่ไปด้วย อันตรายมากกว่า อาจจะเป็ นตัวสะท้อนให้กบั ความคิดเราก็ได้ ในชุมชนเราวันเสาร์ น้ ีเกิดอุบตั ิ มากหรื อเปล่า การควบคุมไม่ได้ คือการออกแบบถนน ถ้าออกแบบดี เราก็เดินทางสะดวก ถ้าออกแบบถนน ไม่ดี ก็เดินทางไม่สะดวก เช่น ออกแบบยูเทินไกลไปแล้วคนไม่ใช้ ก็ไม่มีประโยชน์ ต้องมาดูวา่ มัน สอดคล้องกับการใช้ประโยชน์หรื อเปล่า 4. เรื่ องที่สาํ คัญพอถนนมันใหญ่ข้ ึน โกตา คลองนํ้าเค็ม เมืองจะขยายมาทางเส้นนี้ไหม ห้าง ร้านค้า หมู่บา้ นจัดสรร สตูลเป็ นเมืองท่องเที่ยว เศรษฐกิจดีข้ ึน เพราะฉะนั้นเราต้องมานัง่ คิดถ้าถนนเสร็ จแล้วจะทํา อย่างไร ที่สาํ คัญ การทําผังชุ มชนและรู ปแบบการเดินทางของคนในชุมชน พื้นที่เมื่อวาน เป็ นถนนขนาดเล็ก รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 82
ที่สวนกันไม่ได้ พอถนนใหญ่รถสองคันสวนกันได้ แล้วก็กระโดดเป็ น 416 เลย ผังชุ มชนของเราต้องดูที่ 416 เลยหรื อเปล่า ต้องมานัง่ ดูกนั ถึงพฤติกรรมว่าการขับขี่รถเป็ นอย่างไร 5. การดื่มเครื่ องดื่มแอลกอฮอล์ เมาแล้วขับมาจากนักท่องเที่ยวหรื อมาจากในชุมชน ถ้าเกิดจาก นักท่องเที่ยวต้องพึ่งตํารวจ ตั้งด่านจับ แต่ถา้ เกิดในชุมน ต้องมานัง่ คุยกัน สุ ดท้ายเราคุมไม่ได้ถนน ที่มนั กําลัง จะถูกขยายมากขึ้น เรารู ้จกั ถนนดีแล้วหรื อยัง ขนาด 2 เลน ควรใช้ความเร็ ว เรี ยนรู ้การป้ องกันตัวเอง 4 เลน ต้องใช้ความระมัดระวังแค่ไหน ในการทํางานวิจยั ต้องใช้จุดนี้ให้ชดั เจน การให้กาํ ใจจากคุณทิพ เชื่ อมัน่ ว่าข้อมูลคือข้อเท็จจริ ง อยากจะเห็นชุมชนทั้ง 3 พื้นที่ สร้างความสุ ข ด้วยชุมชนเอง ความสําเร็ จของที่นี่จะเป็ นแบบอย่างที่ดีให้กบั คนที่อื่นได้อย่างไร
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 83
ภาคผนวก 6
สรุ ปเวทีนําเสนอโครงการสร้ างความปลอดภัยทางถนนโดยชุ มชน วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๔ณ ห้องประชุมธรรมาภิบาลตําบลกําแพง อําเภอละงู จังหวัดสตูล
ผู้เข้ าร่ วมประชุ ม ๗๑ คน 1. สํานักงานป้ องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สตูล (ปภ.) 2. แขวงการทางท่าแพ 3. ตํารวจภูธร อ.ละงู จ.สตูล 4. โรงพยาบาลอําเภอละงู 5. เทศบาลตําบลกําแพง 6. องค์การบริ หารส่ วนตําบลละงู 7. บริ ษทั กลางคุม้ ครองผูป้ ระสบภัยจากรถจํากัด 8. ศูนย์วชิ าการความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) 9.โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น 10. ทีมประเมินผล (สสส.) 11. ชุมชนบ้านคลองนํ้าเค็ม ม.๑๖ ต.ละงู 12. ชุมชนบ้านโกตา ม.๗ ต.กําแพง 13. ชุมชนในเขตเทศบาลตําบลกําแพง 14. ศูนย์ประสานงานวิจยั เพื่อท้องถิ่น จ.สตูล เริ่ มเวลา ๑๓.๓๐ น. ดําเนินรายการโดย คุณพิเชรฐ์ เบญจมาศ กล่าวความเป็ นมาของโครงการสร้าง ปั ญหาอุบตั ิเหตุทางจราจรในประเทศไทยเป็ นจํานวนสู ง ในช่วงปี ๒๕๕๔ความปลอดภัยทางถนน ๒๕๖๓ สหประชาชาติได้ประกาศให้เป็ นปี ทศวรรษแห่งการลงมือปฏิบตั ิเพื่อลดการเกิดอุบตั ิเหตุทางถนน ต่อด้วย แจ้งกําหนดการ ดังนี้ ลําดับที่ ๑ ชมวิดีทศั น์ อุบุติเหตุมิใช่เวรกรรม ลําดับที่ ๒ ชี้แจงวัตถุประสงค์ นําเสนอกระบวนการทํางานวิจยั เพื่อท้องถิ่นจังหวัดสตูลกับการสร้างความ ปลอดภัยทางถนน โดย คุณสมพงษ์ หลีเคราะห์ (ผูป้ ระสานงานวิจยั เพื่อท้องถิ่นจังหวัดสตูล สกว. ) ลําดับที่ ๓ สถานการณ์อุบตั ิเหตุจราจรและความปลอดภัยทางถนนในเมืองไทย โดย นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ( ผูจ้ ดั การศูนย์วชิ าการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ศวปถ. ) ลําดับที่ ๔ นําเสนอโครงการสร้างความปลอดภัยทางถนน ๓ ชุมชน ( ม.๑๖ บ้านคลองนํ้าเค็ม, ม. ๗ บ้านโก ตา, และชุมชนในเขตเทศบาลตําบลกําแพง) โดย แกนนําในชุมชน 1
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
1
หน้า 84
ลําดับที่ ๕ ร่ วมแลกเปลี่ยนประเด็น มุมมองความปลอดภัยทางถนน ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง/ ร่ วมวางแผน กําหนดทิศทางการขับเคลื่อนเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน ประเด็นการพูดคุย • คุณสมพงษ์ หลีเคราะห์ ว่า “ การสนับสนุนพื้นที่ในการทํางานวิจยั ความปลอดภัยทางถนน ใน ฐานะเป็ นผูจ้ ดั กระบวนการทํางานวิจยั ของพื้นที่ มีความเชื่ อว่าคนในพื้นที่ ที่อยูก่ บั ปัญหา น่าจะ เป็ นผูท้ ี่แก้ไขปั ญหาที่ดีที่สุดและกระบวนการรวมไปถึงความร่ วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มี บทบาทหน้าที่ตามภาระกิจอยูแ่ ล้ว การแก้ไขปั ญหาจึงเป็ นเรื่ องของทุกฝ่ าย"
• นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ สิ่ งที่ตอ้ งทําคือ การมีส่วนร่ วมระหว่างภาคนโยบาย(รัฐ)กับชุ มชน “ความ ทุกข์ของคนหนึ่งคน จะกลายเป็ นความทุกข์ของคนในสังคม” สิ่ งสําคัญของอุบตั ิเหตุคือ เรื่ อง อุบตั ิเหตุเป็ นปั ญหาเชิงระบบมันคืออะไร! โจทย์ของชุมชน คือ รากของปั ญหาของเรื่ องนี้หากพบ รากของปั ญหา ก็สามารถแก้ไขปั ญหานั้นได้ “การเก็บข้อมูล เวลาการเกิดอุบตั ิเหตุ ต้องมองมิติอุบตั ิเหตุ ๒ ระยะ คือ ๑. ช่วงเกิดเหตุ ๒. เกิดเหตุแล้ว อะไรที่ทาํ ให้เขาตายและบางครั้งอุบตั ิเหตุเกิดจากคน(Human Error) ส่ วนจะรอดหรื อ ตายขึ้นอยูก่ บั ปัจจัยอื่น เช่น ถนน หรื อรถ “การทํางาน ๕ ส. สาระสนเทศ ส่ วนร่ วม สหสาขา สุ ด เสี่ ยง สุ ดคุม้ ” “บางครั้งการเกิดอุบตั ิเหตุก็ข้ ึนอยูก่ บั วิธีคิด เช่น เวลาเด็กเล่นปื น เรามักห้ามว่านั้นอันตราย แต่ พอเด็กขับมอเตอร์ ไซค์ เรามองว่าแน่...มองว่าเก่ง ซึ่ งผลจากงานวิจยั แรงพุง่ ของมอเตอร์ไซค์แรง กว่ากระสุ นปื นร้อยนัด เวลาชน” • นําเสนอ/ โครงการสร้างความปลอดภัยทางถนนโดยชุมชน เทศบาลตําบลกําแพง โดย คุณฮาเสส หนูวงศ์ กับคุณสากาเรี ย แดงนุย้
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 85
ออกแบบงานวิจัย • •
• • • • 6 กรกฏาคม 54 13 กรกฏาคม 54 20 กรกฏาคม 54 27 กรกฏาคม 54
ละงู – ทุ่งหว้า
จุดที่ 7 จุดที่ 6
จุดที่ 4
จุด ที่ 1
สี่ แยกไฟแดง
ละงู – ปากบารา
จุดที่ 10
N
จุด ที่ 3
จุดที่ 9 สี่แยกปากปิ ง จุดที่ 8
จุด ที่ 2
• • • •
สํารวจจุดเสี่ยง สัมภาษณ์ สอบถาม ข้อมูล (ชาวบ้านและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดประชุมระดมข้อมูล ศึกษาดูงาน ประชุมวางแผนหา แนวทาง ประชุมทําแผนปฏิบัติ การ ปฏิบัติตามแผนงาน สรุป/ถอดบทเรียน ประชุมสรุปงานทีมวิจัย นําเสนอผลงานวิจัย
ผลทีเกิดขึนระหว่างทาง
ถนนละงู - ฉลุง
ซอย 5 (จุดที่ 6)
ซอย 7 (จุดที่ 7) ในซอย
๑. คุณฮาเสส หนูวงศ์ (รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตําบลกําแพง) กล่าวถึง บริ บทของเทศบาล ตําบลกําแพงว่า “เทศบาลตําบลกําแพงเป็ นเทศบาลขนาดกลาง มีประชากรประมาณ ๕,๐๐๐ คน มี ประชากรแฝง ๕,๐๐๐ คน เช่นเดียวกัน เนื่องจากบริ บทพื้นที่เป็ นย่านการค้าและเป็ นเมืองท่องเที่ยว ตามแหล่งเกาะต่างๆ ที่มีชื่อเสี ยง เช่น เกาะตะรุ เตา เกาะอาดัง เกาะหลีเป๊ ะ เป็ นต้น การสัญจรทาง ถนนจึงหนาแน่นยิง่ ตามเทศกาลต่างๆ เช่น ฮารี รายอ ปี ใหม่ สงกรานต์ เป็ นช่วงเกิดอุบตั ิเหตุมาก ที่สุดและเป็ นลําดับต้นๆ ในจังหวัดสตูล คุณสากาเรี ย แดงนุย้ กล่าวถึง โครงการวิจยั สร้างความปลอดภัยทางถนนของเทศบาล ตําบลกําแพง เริ่ มจากทีมงานมานั้งพูดคุยกันเรื่ องการเกิดเหตุโดยมีคณะทํางาน สกว.สตูล ช่วยเติม เต็มข้อมูล/กระบวนการ จนทําให้เกิดแนวคิดที่จะร่ วมกันหาแนวทางลดอุบตั ิเหตุ มีการกําหนดจุด เสี่ ยงในเขตเทศบาลรวม ๑๐ จุด คุณสากาเรี ย แดงนุย้ เล่าต่อว่าหลังจากที่ร่วมกันหารื อกันแล้ว ได้มีการนําแนวทางไปปรับ ใช้กบั พื้นที่ เช่น ทางเข้าซอย ๕ ซึ่ งเป็ นเส้นทางที่แคบและเป็ นเส้นทางไปโรงเรี ยนสอนศาสนา ปรากฏการณ์ การสัญจรจึงติดขัดมาก จึงได้หาทางทีมในพื้นที่ นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ แลกเปลี่ยนกับชุมชนเทศบาลตําบลกําแพงว่า “การกําหนดจุดเสี่ ยง ทั้ง ๑๐ จุดเกิดจากอะไร.. ถ้าเราหาสาเหตุตรงนี้ได้เราก็สามารถแก้ปัญหาได้ เทศบาลมีเวทีคุยกัน หรื อเปล่า..เทศบาลลองหาแนวทางร่ วมกับชุมชน เป็ นการหาแนวทางแก้ไขปั ญหาเชิงโครงสร้าง และนอกเหนื อจากการแก้ไขปั ญหาจุดเสี่ ยงแล้ว เราจะทําให้ชาวบ้านหรื อคนในพื้นที่ ตื่นตัวกับเรื่ อง นี้ได้อย่างไร” รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 86
บังดล (ชาวบ้านในชุมชนเทศบาลตําบลกําแพง) เล่าว่า “ตนกับทีมได้ทาํ ป้ ายปั กไว้หน้าปาก ซอยทางเข้าโรงเรี ยนสอนศาสนา ซึ่งในวันเปิ ดเรี ยนช่วงเช้า ปริ มาณรถหนาแน่นมาก ทําให้เกิด อุบตั ิเหตุเป็ นประจํา และในช่วงบ่ายการจราจรก็หนาแน่นมาก ตนจึงได้นาํ แผ่นฟิ วเจอร์ บอร์ ด มา เขียนป้ ายแล้วติดเอาไว้ตามหน้าปากซอยทั้งขาเขา-ออก และสามแยกในซอยเพื่อบอกโดยมีขอ้ ความ คือ ในช่วงเวลาเร่ งด่วน ๐๗.๐๐-๐๘.๓๐น.และ ๑๕.๐๐-๑๖.๓๐น. มีขอ้ ความ ซอย๕ เดินรถทาง เดียว และหน้าซอย๗ ห้ามผ่าน ” จากสิ่ งที่ทาํ มา เห็นได้ชดั เลยว่าการสัญจรของรถ คล่องตัวมากขึ้น การเกิดอุบตั ิเหตุก็ลดลง นพ.ธนะพงศ์ จินวงศ์ แลกเปลี่ยน “การดําเนิ นงานดักล่าวเป็ นการสร้างความเคยชินให้กบั ผูส้ ัญจรไปมา” • นําเสนอ/ โครงการสร้างความปลอดภัยทางถนนโดยชุมชนบ้านคลองนํ้าเค็ม ม.๑๖ ต.ละงู โดย คุณดลอาหวาบ มณี โชค
กําหนดจุดเสี�ยง
การดําเนิ นงานที�ผา่ นมา ๑. ประชุมปรึกษาหารือประเด็นความปลอดภัยทางถนน ๔ ครัง� ช่วงที� ๑ ทําความเข้าใจ/ตระหนักความปลอดภัยทางถนน ช่วงที� ๒ แนะนํ าการดําเนินโครงการโดยใช้กระบวนการวิจยั ๕ ขัน� ตอน และออกแบบโครงการด้วยกระบวนการวิจยั
ช่วงที� ๓ ออกแบบโครงการตามกระบวนการวิจัย ช่วงศึกษาข้อมูล โดยการกําหนดจุดเสีย� งขึ�นจํานวน ๑๐ จุด และวางแผนกิจกรรมพร้อม ลงรายละเอียดของการดําเนินงาน
ศึกษา ข้อมูล สรุปผล
ทดลอง ทํา
สรุปและ วิ เคราะห์
หา แนวทาง วางแผน
เล่าถึงโครงการวิจยั การสร้างความปลอดภัยทาถนนของชาวบ้านคลองนํ้าเค็ม ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยน เพื่อสร้างตระหนัก ได้มีการกําหนดจุดเสี่ ยงรวม ๑๐ จุด มีการตั้งโจทย์ มีการวางแผนการดําเนินงานจึงเกิด การพัฒนาโจทย์งานวิจยั สร้างความปลอดภัยทางถนนในรู ปแบบของโครงการเพื่อหาแนวทางการในการ แก้ไขปั ญหา ในช่วงแรกของโครงการเป็ นการศึกษาข้อมูล ในจุดเสี่ ยง กลุ่มเป้ าหมาย คือ คนในชุมชน ผู ้ สัญจรรถทัว่ ไป รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อด้วยการเล่าถึง ตนเองกับทีมงานตัวแทนพื้นที่ดาํ เนินงานสร้างความปลอดภัยทางถนน ได้เขาออบรม เชิงปฏิบตั ิการ ณ กรุ งเทพฯ ที่ตนเองได้องค์ความรู ้มากขึ้น รวมไปถึงวิธีการเพื่อนํามาปรับใช้กบั คนในพื้นที่ เล่าต่อว่า ตอนแรกตกใจมาก เพราะผูท้ ี่เข้าร่ วมส่ วนใหญ่มาในนามตัวแทนของหน่วยงานอยูใ่ นระดับหัวหน้า รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 87
หรื อไม่ก็เป็ น อาจารย์ระดับ ดร. ทําให้ตนเองรู้สึกกลัว แต่ดว้ ยกระบวนที่ทีมวิทยากรดําเนินการ ทําให้ ตนเองมีความมัน่ ใจมากขึ้น เพราะส่ วนหนึ่ง ตนเองได้ดาํ เนินงานอยูใ่ นพื้นที่เองทําให้บางมุม ของการพูดคุย ทําให้ตนเองรู ้สึกว่าพูด(จากสภาพพื้นที่ปัญหา)ได้มากกว่า เป็ นต้น • นําเสนอ/ โครงการสร้างความปลอดภัยทางถนนโดยชุมชนบ้านโกตา ม.๗ ตําบลกําแพง โดย คุณ วิรัช โอมณี ๒. ในตัวของหมู่บ้านมีถนนที�สลับซับซ่อนมาก ทัศนียภาพสองข้างถนนบด บัง สภาพถนนที�ขรุขระและการใช้รถด้วยความเร็ว
การดําเนินงานที�ผา่ นมา
๑. ประชุมปรึกษาหารือประเด็ นความปลอดภัยทางถนน จํานวน ๓ ครั�ง ครั�งที� ๑ นําเสนอทําความเข้าใจโครงการ ครั�งที� ๒ แนะนําการดําเนินโครงการโดยใช้ กระบวนการวิจัย ๕ขั�นตอน และออกแบบโครงการด้วยกระบวนการวิจัย
ครั�งที� ๓ ออกแบบโครงการตามกระบวนการวิจัย ช่วงศึกษาข้อมูล โดย การกําหนดจุดเสี�ยงขึ�นจํานวน ๖ จุด และวางแผนกิจกรรมพร้อมลง รายละเอียดของการดําเนินงาน
ศึกษา ข้อมูล
สรุปผล
ทดลอง ทํา
สรุปและ วิเคราะห์
หา แนวทาง วางแผน
เล่าถึงโครงการวิจยั การสร้างความปลอดภัยทาถนนของชาวบ้านโกตา ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อ สร้างตระหนัก ได้มีการกําหนดจุดเสี่ ยงรวม ๖ จุด มีการตั้งโจทย์ มีการวางแผนการดําเนินงานจึงเกิดการ พัฒนาโจทย์งานวิจยั สร้างความปลอดภัยทางถนนในรู ปแบบของโครงการเพื่อหาแนวทางการในการแก้ไข ปั ญหา ในช่วงแรกของโครงการเป็ นการศึกษาข้อมูล ในจุดเสี่ ยง กลุ่มเป้ าหมาย คือ คนในชุมชน ผูส้ ัญจรรถ ทัว่ ไป รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คุณ วิรัช โอมณี กล่าวเพิ่มว่า “ปัจจุบนั การเกิดเหตุ มิใช้เกิดจากคน เพียงอย่างเดียว ยังมีในเรื่ อง สภาพแวดล้อม หรื อสภาพของถนน ที่คนสร้างถนนกับผูใ้ ช้ถนนไม่สอดคล้อง กัน แต่ปัญหาดังกล่าวไม่ได้ยิบยกมาเป็ นประเด็นสําคัญ” • ช่วงแลกเปลี่ยนระหว่างหน่วยงานที่เข้าร่ วมกับชุมชนทั้ง ๓ ชุมชน
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 88
- ปภ.สตูล (คุณไพศาล) ว่า “เรื่ องความปลอดภัยทางถนนนี้ สาํ คัญและต้องทํา อยากให้เกิดขึ้น เป็ นรู ปธรรม ในส่ วนของ ปภ.สตูล จะให้ความร่ วมมืออย่างเต็มที่เพียงให้มีการประสานงานมา ในนามขององค์กรหรื อ ในนามส่ วนตัวก็ได้ และยินดีเป็ นอย่างยิง่ ” - โรงพยาบาลละงู(พยาบาลวิชาชีพ) ว่า “แนะให้ใช้แนวทางแผนที่ผลลัพธ์ Outcomes mapping ในการวิเคราะห์และกําหนดแนวทางการแก้ปัญหาอุบตั ิเหตุร่วมกัน” - บริ ษทั กลางคุม้ ครองภัยจากรถ ว่า “ ประเด็นสหสาขา น่าจะสอดคล้องกันด้วย” - นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์
ส่ วนของท้องถิ่น ว่า “การประสานงานร่ วมกันระหว่างชุมชนกับเทศบาล โดยการกําหนด สําหรับข้อมูลสาระสนเทศ การสร้างความปลอดภัยทางถนนให้สอดรับกับ สหสาขา โดยถ้ากล่าว
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 89
ในเชิงรู ปธรรมคือการจัดเวทีสื่อสารร่ วมกันทุกเดือน ซึ่ งหนึ่งในแหล่งข้อมูลสารสนเทศที่น่าสนใจ คือ เครื อขายวิทยุมดแดง” - สถานีตาํ รวจภูธรละงู (สารวัต บุญเลิศ) ว่า “ การทํางานโดยไม่ใช้อาํ นาจหน้าที่ ลงไปทํา แต่ใช้ วิธีการหาความร่ วมมือระหว่างกันน่าจะเป็ นผลดีต่อทุกภาคส่ วนที่เกี่ยวข้อง” - คุณสมพงษ์ หลีเคราะห์ (ผูป้ ระสานงานวิจยั เพื่อท้องถิ่น จ.สตูล) ว่า “ตํารวจไม่ได้ใช้ปืนที่มีอยู่ มาใช้ในการทํางาน แต่ทาํ งานโดยไม่ใช้ปืนมาทํางาน” - อบต.ละงู ( คุณอุดม) ว่า “การประสานระหว่างผลลัพธ์กบั สหสาขา ชุมชนหน่วยงาน เป็ นสิ่ ง สําคัญ” - คุณ สมพงษ์ ว่า “ในส่ วนของวงหารื อระหว่างหน่วยงานกับชุมชน กําหนดให้มีการพูดคุย ร่ วมกัน/ ดูขอ้ มูล กําหนด ๒ เดือนครั้ง เพื่อเป็ นการหาแนวทางการแก้ไขปั ญหาความปลอดภัย ทางถนนร่ วมกัน” จบเวทีเวลา ๑๖.๓๐ น. ช่วง AAR หลังเลิกเวที
- เจ้าหน้าที่ ศวปถ. ว่า “ คุณหมอ ธนะพงศ์ คาดหวังการทํางานอยู่ ๒ ประเด็น คือ การนําชุมชน มาดันปั ญหา และช่วยกันคิดทําให้เกิดการแก้ปัญหาในท้องที่และทําให้เกิดการคิดต่อว่า นอกจากชุมชนทํากันเองแล้วจะมีองค์กร(ภาครัฐ) เข้ามาร่ วมขับเคลื่อนร่ วมกันตั้งแต่ตน้ คือ การ เอาสหสาขามาร่ วมวิเคราะห์สาเหตุปัญหาร่ วมกัน” - คุณสมพงษ์ ว่า “ โครงการยังไม่เสร็ จ เหมือนเห็นร่ วมแต่ไม่เห็นรู ป แต่ประเด็นของงานวิจยั ใน ครั้งนี้ มี ๒ ประเด็น คือ การแก้ไขปั ญหาความปลอดภัยทางถนน และการสร้างคน(แกนนําแห่ง ความเปลี่ยนแปลง)” - ดร.สมบัติ ว่า “ การดําเนินงานต่อ คือ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 90
๑. ใช้ขอ้ มูลที่มีอยูแ่ ก้ปัญหา ๒. ควรมีพ้ืนที่กลาง เพื่อให้เกิดการพูดคุยร่ วมกัน อย่างสมํ่าเสมอ ๓. ต้องสร้างคน ที่จะส่ งผลต่อการเปลี่ยนแปลง ( Change Agent) นอกจากนี้ ต้องนําวัฒนธรรมในพื้นที่ มาร่ วมกันวิเคราะห์ เป็ นการนําวัฒนธรรมกับวิถีชุมชนว่า ด้วยเรื่ องของความปลอดภัยทางถนน เพื่อวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนของคนที่น้ ี และเรื่ องที่ น่าสนใจคือ เราไม่ใช่แก้ปัญหาแค่จุดเสี่ ยง แต่ตอ้ งสร้าง วิธีคิด หรื อ ทัศนะคติ ต่อการใช้รถใช้ถนน ซึ่ ง นั้นเป็ น พฤติกรรม แบบไม่มีตวั เลข” “ คิดใหญ่ ทําเล็ก เคลือ่ นใหญ่ ” มุมคิดจากเวที
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 91
รายชื่ อคณะทํางาน 1. นายสมพงษ์ หลีเคราะห์ ท้องถิ่น จ.สตูล 2. นายจักรกริ ช ติงหวัง
ภาคผนวก 7
หัวหน้าโครงการ ผูป้ ระสานงานศูนย์ประสานงานวิจยั เพื่อ เจ้าหน้าที่โครงการ
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการ “สร้ างความปลอดภัยจราจรแบบมีสว่ นร่วมในพื ้นที่อําเภอละงู จังหวัดสตูล”
หน้า 92