ธรรมะพ่ ท่าน :(๔๙๔) อารมณ์นิพพานเป็นเช่นไร น.๔ ฉบับที่ อ๔๗๒
1
สกู๊ปพิเศษ : ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของความอ่อนน้ มถ่อมตน น.๙ ข่าอวอโศก
พญาแร้งสัญจรอีสานใต้ ฉบับที่ ๔๗๒ (๔๙๔) รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๕๙
ไปเปิดอาคารโซล่าเซลล์ที่วังน้ำ�เขียว
อ่านต่อหน้า
๖-๗
พ่อครูทำ�พิธบ ี รรจุพระบรมสารีรก ิ ธาตุในองค์สมเด็จปูฯ่
เปิดน้ำ�ตกทะเลฟ้า ผูว้ า่ ฯตรังเปิดตลาดอาริยะ ณ ทะเลธรรม ในงานภราดรฯ
อ่านต่อหน้า
รายชื่อสมณะ-สิกขมาตุจำ�พรรษา ปี ๒๕๕๙
อ่านต่อหน้า
๕
๘
2
“มุมมองที่แตกต่าง” พ่อครูมองพลเอกประยุทธ์วา่ เป็น นายกรัฐมนตรีทด่ี ที ส่ี ดุ เท่าทีป่ ระเทศไทย เคยมีมา ซึ่งมุมมองอันนี้คงจะแตกต่าง จากความรู้สึกของปัญญาชนหรือเกจิฯ การเมืองทัง้ หลาย แต่พอ่ ครูมองทีเ่ นือ้ หา ที่ พ ลเอกประยุ ท ธ์ ทำ � ต่ า งจากนายก รัฐมนตรีคนอืน่ ๆทีพ่ ยายามทุม่ เททุกอย่าง ให้กบั บ้านเมือง แล้วก็ตอ้ งใช้ความกล้าหาญ เด็ดขาด ซึ่งต้องมีนำ�หนักมากเพียงพอ ถ้าอ่อนแรงไปก็คงจะไม่เกิดผล แต่ในมุมมองของปัญญาชนเหล่า นักวิชาการ ก็จะมองว่าเป็นนายกฯที่ ใช้ อ ารมณ์ โ กรธ เหมื อ นกั บ ดุ ดัน ขาด ภาวการณ์ เ ป็ น ผู้ นำ � ซึ่ ง ถ้ า เรามองถึ ง ปรากฏการณ์ในการสู้รบ มันก็ย่อมจะ มีบางครั้งที่เพลี่ยงพลำ�สะดุดตัวเองบ้าง หรือถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีบ้างหรือลูก น้องบริวารทำ�ให้เกิดความเสียหายบ้าง หากเราเอาจุดที่เพลี่ยงพลำ�ในระหว่าง การสูร้ บมาเป็นตัวตัดสินคน สังคมไทยก็ จะไม่มใี ครกล้าเปลืองเนือ้ เปลืองตัว เรา จึงมีแต่วรี บุรษุ ประเภทรูร้ กั ษาตัวรอดเป็น ยอดดี คอยตีกนิ คอยชุบมือเปิบผลงาน ของคนอืน่ ก็พอ แต่ ใ นมุ ม มองของพ่อครูก็จ ะมอง เนื้ อ หาสาระที่ เ ป็ น จุ ด สำ � คั ญ (main point)ว่า เขามีความตัง้ ใจและทุม่ เททำ� ประโยชน์ให้สังคมอย่างกล้าหาญและ ชาญฉลาด ก็จะเป็นมุมมองที่แตกต่าง จากนักวิชาการหรือปัญญาชนในสังคม ที่มองกัน แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เราจะ ประเมินคน คงต้องมองรอบถ้วน ไม่มอง อะไรทีจ่ ะให้ได้แต่สมใจตัวเราเอง ไม่เอา ตัวเองเป็นบรรทัดฐานว่าถ้าเป็นตัวเราเอง คงต้องทำ�อย่างนีท้ �ำ อย่างนัน้ แต่วา่ คนทีเ่ ขาเป็นนายกฯเขาต้องรับ ผิดชอบหลายเรือ่ งหลายอย่าง หลายด้าน อย่างเราเองไม่ได้รับผิดชอบอะไร เรา ก็ตัดสินอะไรเองได้ตามใจของเราอย่าง เดียว ซึ่งตรงนี้ก็คิดว่าจะทำ�ให้มุมมอง ของคนทีอ่ ยูใ่ นฐานะทีต่ อ้ งรับผิดชอบบ้าน เมือง กับคนทีแ่ ค่เป็นพลเมืองซึง่ ไม่ตอ้ ง รับผิดชอบอะไรมากมาย ก็นา่ จะเป็นมุม มองทีต่ า่ งกัน
จากสกูป๊ พิเศษของปัจฉาสมณะ ในนสพ.ข่าวอโศก ฉบับรวมปักษ์เมษายน ๒๕๕๙
รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๕๙
ระวัง!
๑๐ โรคที่มาพร้อมหน้าฝน เรื่อง กิ่งธรรม
ขณะนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ทำ�ให้สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เชื้อโรคหลายชนิดสามารถแพร่ ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว นำ�ไปสู่โรคภัยไข้เจ็บต่างๆตามมามากมาย เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่อยากเป็นโรคก็ ควรดูแลรักษาสุขภาพ เพื่อป้องกันโรคไม่ให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของ ๑๐ โรคร้ายที่มักระบาดในช่วงฤดู ฝน ดังต่อไปนี้ค่ะ ๑. กลุ่มโรคติดต่อทางน้ำ�และอาหาร ที่พบบ่อยคือ โรค
ท้องเดิน โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ตับอักเสบ เป็นต้น ซึ่งสาเหตุเกิดจากรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำ� ที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน รวมทั้งการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ หรือ ใช้น้ำ�ที่ไม่สะอาดและยังรวมถึงการรับประทานอาหารที่ปรุงไว้นาน ข้ามมื้อ หรือเกิน ๖ ชั่วโมง ๒. กลุ่มโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคหวัด ไข้ หวัดใหญ่ ซึง่ เกิดจากเชือ้ ไวรัสและแบคทีเรียในอากาศ แถมยังติดต่อ กันได้ง่ายเพียงแค่การไอ จาม หรือมือที่เปื้อนน้ำ�มูก น้ำ�ลาย เสมหะ ฉะนัน้ แล้ว เพือ่ ไม่ให้เชือ้ โรคแพร่กระจายสูผ่ อู้ นื่ ควรใช้ผา้ ปิดปากและ จมูกเมือ่ เวลาไอ จาม หรือจะสวมหน้ากากอนามัยก็เป็นวิธปี อ้ งกันที่ ดี ที่สำ�คัญอย่าลืมหมั่นล้างมือบ่อยๆ เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่เราอาจจะไป สัมผัสมา หรือป้องกันไม่ให้เราแพร่เชื้อโรคไปสู่คนอื่นและนอกจาก โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่แล้วยังมีโรคคออักเสบ หลอดลมอักเสบ และ โรคปอดบวมที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน ซึ่งโรคปอดบวมนี้ถือเป็นโรค อันตรายถึงชีวิต หากเกิดขึ้นกับเด็กอายุต่ำ�กว่า ๕ ปี หรือผู้สูงอายุ เพราะฉะนั้นหากพ่อแม่สังเกตว่าลูกหลานมีไข้ ไอ หายใจเร็วหรือ หอบเหนื่อย ต้องรีบพาไปพบแพทย์ทันทีและก็ได้ข่าวมาแล้วว่าเด็ก ของเราหอบหืดเข้าโรงพยาบาลกันแล้ว ๓. โรคเลปโตสไปโรซิส หรือ ไข้ฉี่หนู หลายคนเข้าใจ ผิดว่า โรคฉี่หนูมีพาหะคือ “หนู” เท่านั้น แต่จริงๆแล้วพาหะของโรค ฉี่หนู มีได้ทั้งสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข สุกร โค กระบือ รวมทั้งสัตว์ป่า และ สัตว์ที่มีฟันแทะทั้งหลาย โดยเชื้อเหล่านี้จะปะปนอยู่ในน้ำ� และสิ่ง แวดล้อมในทีท่ มี่ นี �้ำ ท่วมขัง หากใครสัมผัสถูกเชือ้ จะเข้าสูร่ า่ งกายผ่าน ทางบาดแผล รอยขีดข่วน เยื่อบุจมูก เยื่อบุตา เยื่อบุในช่องปากได้ ง่าย ๆ อาการเด่นๆของโรคนีค้ อื หลังได้รบั เชือ้ ประมาณ ๑-๒ อาทิตย์ จะมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะมักปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่อง และ โคนขาอย่างรุนแรงและตาแดง คอแข็ง สลับกับไข้ลด หากเป็นมาก อาจมีจุดเลือดออกที่เพดานปากหรือตามผิวหนัง จนกระทั่งตับวาย ไตวายได้เลยทีเดียว ถ้าพบอาการดังกล่าวต้อง รี บ พบ แพทย์ด่วน
๔. โรคน้ำ�กัดเท้า กลุ่มเสี่ยงต่อโรคนี้คือ คนที่ต้องเดินใน
แหล่งน้ำ� ลุยน้ำ�สกปรกนานๆ โดยเชื้อราจะทำ�ให้ผิวหนังซอกนิ้ว เท้าแดง ขอบนูนเป็นวงกลมและคัน แต่ถ้าเกาแผลจะแตกและมี น้ำ�เหลืองเยิ้มออกมา ๕. โรคไข้เลือดออก พาหะนำ�โรคไข้เลือดออกก็คือ “ยุง ลาย” ซึ่งหากได้รับเชื้อประมาณ ๕-๘ วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง (๓๘.๕-๔๑ องศาเซลเซียส) ติดต่อกัน ๒-๗ วัน หน้าแดง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก บางรายเบื่ออาหาร ปวดท้อง อาเจียน จากนั้นจะมีจุดแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามลำ�ตัว ในรายที่มีอาการรุนแรงจะ เกิดภาวะช็อกหลังไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ตัวเย็น ปากเขียว บางรายมี เลือดออกในกระเพาะอาหาร ถ่ายเป็นเลือด หากไม่ได้รบั การรักษา ที่ถูกต้องและทันเวลา ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ภายใน ๑๒-๒๔ ชั่วโมง * ข้อควรระวังคือ ห้ามทานยาแอสไพรินเด็ดขาด เพราะจะ ทำ�ให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น ๖. โรคมาลาเรีย เกิดจากเชื้อที่มากับ “ยุงก้นปล่อง” ผู้ป่วย จะมีอาการไข้สูง หนาวสั่นเป็นพักๆ ในเวลาเดิมๆ แต่หากไปพบ แพทย์ทันก็สามารถรักษาหายได้ด้วยการทานยาไม่กี่วัน แต่หากไป พบแพทย์ชา้ ผูป้ ว่ ยอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะมาลาเรียขึน้ สมอง ภาวะปอดบวมน้ำ� ภาวะไตวาย ซึ่งทำ�ให้เสียชีวิตได้ ๗. โรคไข้สมองอักเสบ เจ อี เกิดจากเชื้อไวรัส โดยมี “ยุงรำ�คาญ” ซึ่งแพร่พันธุ์ตามแหล่งน้ำ�ในทุ่งนาเป็นพาหะนำ�โรค โดยยุงรำ�คาญได้รับเชื้อมาจาก “หมู” และเมื่อมากัดคนก็จะปล่อย เชื้อเข้าสู่ร่างกายคนไปด้วย หากคนได้รับเชื้อแล้วมักจะไม่มีอาการ แสดงให้เห็น แต่ในบางรายอาจมีอาการไข้สงู ปวดศีรษะมาก คลืน่ ไส้ อาเจียน และอ่อนเพลีย บางรายที่มีอาการรุนแรง อาจไม่รู้สึกตัว และเสียชีวติ ได้ ขณะทีบ่ างรายหากหายป่วยแล้ว อาจมีความพิการ ทางสมอง สติปัญญาเสื่อม และเป็นอัมพาตได้ ๘. โรคเยื่อตาอักเสบ หรือ โรคตาแดง ซึ่งเกิดจากเชื้อ ไวรัส และติดต่อกันง่ายเพียงการสัมผัส หรือใช้ของส่วนตัวร่วมกัน รวมทัง้ การใช้น�้ำ ทีไ่ ม่สะอาดล้างหน้า อาบน้�ำ น้�ำ สกปรกกระเด็นเข้า ตา ก็ทำ�ให้เยื่อตาอักเสบ และตาแดงได้ ๙. อันตรายจากสัตว์มีพิษ ในช่วงน้�ำ ท่วมอาจมีสตั ว์มพี ษิ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง หนีน้ำ�ท่วมเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านเรือน ซึ่ง หากไม่ระวังก็อาจถูกสัตว์เหล่านี้กัด หรือต่อยได้ ๑๐. โรคอาหารเป็นพิษ จากเห็ดพิษ ในช่วงหน้าฝนทุก ปีจะเป็นช่วงทีม่ เี ห็ดพิษเกิดขึน้ เองตามธรรมชาติเป็นจำ�นวนมาก ซึง่ หากใครไปรับประทานเห็ดพิษเหล่านีเ้ ข้า อาจล้มป่วยด้วยโรคอาหาร เป็นพิษได้และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ นอกจากคำ�แนะนำ�ข้างต้นแล้ว เราก็ควรหมั่นรักษาสุขภาพ ร่างกายให้แข็งแรง และอบอุน่ อยูเ่ สมอ เพือ่ ให้รา่ งกายมีภมู ติ า้ นทาน ต่อเชื้อโรคต่างๆ ที่จะเข้าสู่ร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงความเปียกชื้น หลังอาบน้ำ�สระผมควรเช็ดตัวให้แห้งอยู่เสมอ.
ฉบับที่ ๔๗๒ (๔๙๔)
ข่าวอโศก
3
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด หรือตัดต้นมาชำ�ในดินโคลน การดูแลเหยียบให้จมโคลนจม น้�ำ บ้างเพือ่ กระตุน้ การแตกยอด หรือจะมัดติดกับหลักแล้วปักกดลงไปให้ทว่ มยอดกรณีทปี่ ลูก ในน้ำ�ลึก ใส่ปุ๋ยคอกหรือหว่านรำ�ข้าวในแปลงปลูกบ้าง หากไปซ้อื ผักบุง้ จากตลาดมายอดเหนียวไม่ออ่ นกรอบ ก็น�ำ มาถ่วงให้จมในโอ่งน้�ำ ๓-๔ วัน ยอดผักบุ้งก็จะยืดยาวอ่อนกรอบน่ากิน ผักบุง้ ขึน้ ได้ทกุ สภาพดิน มีน�้ำ ท่วมยอดก็ออ่ นงาม อยูบ่ นพืน้ ดินแห้งหน่อยยอดก็จะ เล็กเหนียวกว่าทีม่ นี �้ำ ท่วมถึง ขึน้ อยูบ่ นผิวน้�ำ ทีม่ นี �้ำ ลึกโดยรากไม่หยัง่ ถึงดินเลยก็งอกงามได้ การทำ�น้�ำ หมักจุลนิ ทรีย์ IMO เร่งการเจริญเติบโต นายฮาน คิว โช ชาวเกาหลี มาอบรม แนะนำ�ครัง้ แรกในเมืองไทย เขาบอกว่าต้องใช้พชื ทีเ่ จริญเติบโตมาหมัก เขาไม่ คุน้ เคยกับพืชผักในเมืองไทย แต่หลังจากเดินสำ�รวจใกล้ๆกับสถานทีอ่ บรมเขา ก็แนะนำ�ให้ใช้ยอดผักบุง้ ดีทสี่ ดุ เพราะเขาสังเกตลักษณะของยอดผักบุง้ ว่าน่าจะ มีฮอร์โมน ที่ทำ�ให้เจริญเติบโตได้เร็ว ประโยชน์ของผักบุ้งอีกอย่างก็น่าจะเป็นการนำ� มาใช้ทำ�จุลินทรีย์เร่งการเจริญเติบโตของพืชนะครับ เมือ่ ผมยังเป็นเด็กซุกซนปีนต้นไม้เล่น เวลาโดนบุง้ ทีอ่ ยูต่ ามใบไม้คนั แสบ ร้อน แม่จะให้ไปเด็ดใบผักบุง้ มาขยีท้ าบริเวณทีโ่ ดนพิษจากขนบุง้ อาการแสบร้อนก็จะเบาบาง และหายคันเร็วขึ้น ไม่แน่ใจว่าเป็นที่มาของชื่อผักบุ้งหรือเปล่า ตัวอย่างอาหารทีป่ รุงจากผักบุง้ ไทยทีผ่ มชอบทำ�กินบ่อยๆคือผักบุง้ ดองครับ เขา เรียกว่าผักบุ้งดองทั้งๆที่ไม่ได้ใช้เวลาหมักดองนานเลยครับ ใช้เวลาทำ�ไม่กี่นาทีก็กินได้แล้ว โดยนำ�ยอดผักบุง้ ทัง้ กำ�กระแทกกับฝ่ามือให้ช�้ำ บิดให้ขาดเป็นท่อนๆ ใส่ลงในน้�ำ มะขามเปียก ผสมเกลือเล็กน้อยขยำ� ให้ยางผักบุง้ ออก จิม้ น้�ำ พริกกินกับข้าวได้เลย บางทีกไ็ ม่ได้จมิ้ น้�ำ พริก รสเปรี้ยว เค็ม กินกับข้าวอร่อยแล้วครับ บ้านเกิดผมอยู่ริมคลองบางขาม อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี สมัยเด็กๆผักที่กินประจำ� ตลอดปีคือ ผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักชีล้อม และผักบุ้งร้วม* ส่วนผักตามฤดูกาลมีกินตอน ช่วงน้ำ�หลากล้นจากแม่น้ำ�เจ้าพระยาน้ำ� ฝนเข้าท่วมนา คือ โสน สายบัว ผักสันตะวา ช่วงนีก้ ม็ ผี กั บุง้ ทีข่ นึ้ ในท้องนาด้วย ยอดอ่อนของผักบุง้ ทีร่ ดี น้�ำ จะอ่อนกรอบน่ากินมาก (รีดน้ำ�หมายถึงน้ำ�ท่วมยอดผักบุ้ง ผักบุ้งจะรีบยืดยอดให้พ้นน้ำ�) การกินผักบุ้งบ่อยๆแต่ไม่ซ้ำ�รูปแบบคือ กินสด ต้ม ต้มใส่กากน้ำ�ข้าว (กากข้าว ที่ได้จากการหมักเหล้า ท้องถิ่นเรียกส่าเหล้า) จ้ิมกินกับน้ำ�พริก น้ำ�พริก ก็มีรสชาติต่างกัน เช่น น้ำ�พริกเผา น้ำ�พริกกะปิ น้ำ�พริกข่า น้ำ�พริก มะขามสด ฯลฯ นอกจากนีก้ น็ �ำ ไปผัดจืด ผัดเผ็ดแกงเทโพ แกงส้ม ผักบุ้งชนิดเดียวพอเปลี่ยนวิธีการปรุง ต่างรูป ต่างรส ต่างกลิ่นก็ ทำ�ให้กินได้ไม่เบื่อ ผักบุ้งมีวิตามินเอมาก ช่วยบำ�รุงสายตา เป็นผักฤทธิ์เย็น บรรเทา อาการร้อนใน ทัง้ ต้นต้มกินถอนพิษเบือ่ เมาจากสารหนู แก้โรคนอน ไม่หลับ โรคประสาท แก้อ่อนเพลีย อินโดนีเซียใช้รักษาอาการไข้ หวัด นอนไม่หลับ รากแก้ไอเรื้อรัง ช่วงฤดูหนาวผักบุ้งไทยไม่แตกยอดอ่อน เพราะเป็น ช่วงติดดอกออกผล เราสามารถเก็บผลอ่อนมาต้ม มาแกงกินได้อร่อย ไปอีกแบบ
4
รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๕๙
อารมณ์นิพพานเป็นเช่นไร ถ้าวันนีม้ คี นหอบเงินมาให้คณ ุ ๑๐ ล้านบาท คุณก็ไม่ ตกใจไม่เสียใจไม่รู้สึกวูบวาบไม่รู้สึกดีใจว่าคนเอาเงินมา ๑๐ ล้านให้เรา แน่นอนคนเอาเงินมาให้ ๑๐ ล้าน คงไม่มี คนเสียใจหรือโกรธ หรืออาจจะมีคนรวยเป็นแสนล้าน มี คนเอามาให้ ๑๐ ล้าน ก็โกรธ แต่ก็คงมีน้อย แต่ถ้าจิตใจ คนอยากได้ขนึ้ มาก็เป็นสัตว์นรก สัตว์นรกกับสัตว์สวรรค์ ก็เป็นตอนนี้แหละ เป็นตอนเป็นๆ ไม่ใช่ตอนตายไปแล้ว เป็นอย่างนั้นพูดไม่รู้เรื่องแล้ว ไม่เข้าใจแล้ว เช่นเขาเอาเงินมาให้ ๑๐ ล้าน กองมาให้คุณ จิตคุณก็ เฉยๆ ไม่มีความอยากได้ ไม่มีปัญหา นรกก็ไม่มีอยู่ในคน ไม่ได้ตกใจเลยว่ามาอย่างไร เขามาให้อย่างไร พูดคุยกัน เขา มาให้เพราะว่าพ่อของพ่อเขาเป็นหนี้คุณก็เลยเอาเงินมาใช้ หนี้ ใจคุณก็ไม่มีฟู ไม่มีแฟบ ไม่มีตื่นเต้น ไม่มีตกใจอะไร นี่ คือจิตใจทีม่ นี พิ พาน แม้ทสี่ ดุ คนจะมาปล้นเอาจากเราไปเท่า ไหร่ก็แล้วแต่ เขาเอา ๑๐ ล้านหนีไป มาปล้นแล้วก็ไม่บอก เรา ก็บอกว่าเขาเอาไปได้ เราก็จำ�นน ใจเราก็เฉยๆ มันก็เจอ วิบาก เราไม่ได้ไปทำ�อะไรมัน มันก็มาเอาไป ๑๐ ล้าน แล้วก็
ไม่บอกเราด้วย หรือเขามีปืนมาปล้น มาขู่ เราไม่ให้ เขาก็จะ ยิงตาย เราก็ต้องจำ�นน เขาเอาไป ใจเราก็ไม่ตื่นเต้นอะไร ก็ บอกตำ�รวจรายงานว่ามาปล้นเมือ่ ไหร่ หน้าตาอย่างไร ถ้าเรา ไม่ให้ มันก็จะยิง จิตใจเราไม่มีความตื่นเต้นตกใจ มีแต่ความ เฉยๆ ให้เรียบง่าย คนใดทำ�ได้ก็มีนิพพาน ไม่มีจิตที่ดูดผลัก หรือชอบหรือชัง นี่ไม่ใช่ตรรกะแต่เป็นสัจจะความจริงที่พูดให้ฟัง อาการ นิพพานไม่ใช่อาการลึกลับที่พูดกันไม่รู้เรื่องสักที อย่างที่ อาตมาพูดนี้เข้าใจกันไหม ทำ�ให้ได้ ข้อสำ�คัญคือทำ�ให้ใจเป็น อย่างนั้นให้ได้ ถ้ามีคนด่าเราอย่างนัน้ อย่างนีไ้ ด้ ยังหยาบคายด่าถึงพ่อ แม่ปู่ย่าตายาย เอาคำ�สารพัดมาพูด เราก็ฟัง จิตเราก็เฉย ไม่ ว่าด่าแรงหรือเบาอย่างไร เคยได้ยินหรือไม่อย่างไร ด่าแรง เบาเต็มที่ จนหาทีไ่ หนมาด่าไม่เคยได้ยนิ เสร็จแล้วก็แถมบอก ว่าเอ็งเป็นคนแรกที่ข้าด่าขนาดนี้นะ จิตใจเราฟังเขาด่าแล้วก็ เฉยๆ ไม่โกรธเคืองถือสาอะไร เราก็เข้าใจว่าเขาด่า เราก็ฟัง ว่าเขามีเหตุมผี ลในการด่าไหม หากมีเหตุผลพร้อมเราก็ฟงั เอา
ชีวิตก่อนรู้จักชาวอโศก ? เป็นลูกคนที่ ๘ ของครอบครัวคนจีน ที่ บ้านทำ�ธุรกิจสวนยางพารา และโรงงานแป้ง มันและสาคู ตัง้ แต่เล็กมาชีวติ ไม่ล�ำ บากอะไร ครอบครัวอบอุ่น รักกันดี เรียนหนังสืออยู่ ภาคใต้แค่ม.ต้น ก็ยา้ ยมาเรียนกรุงเทพฯ หลัง จากนัน้ ๑ ปี พ่อแม่กข็ ายกิจการทางโน้น แล้ว ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ พร้อมกับน้องคนเล็ก เพราะพวกพี่ๆ พอมาเรียนกรุงเทพฯ แล้ว ไม่มใี ครกลับคืนถิน่ เลย ส่วนตนเองรูส้ กึ อยาก แสวงหาสัจจะอยู่แล้ว พอเข้าม.จุฬาฯ ก็เข้า ชมรมพุทธศาสนา และได้มีโอกาสไปรักษา ศีล ๘ ที่สวนโมกข์ ๘ วันตอนซัมเมอร์ปีแรก รูจ้ กั อโศกได้อย่างไร และหลังรูจ้ กั แล้ว ชีวติ เปลีย่ นไปอย่างไร ? ตอนปี ๒๕๑๘ เรียนอยู่ปี ๔ รู้จักรุ่น น้อง ๒ คน คือ คุณวิจิตร(หมอฟากฟ้าหนึ่ง) และคุณวันดี เขาเล่าให้ฟังว่า เจอพระดีอยู่ ที่สันติอโศก จึงตามเขามาฟังธรรม ฟังแล้ว ชื่อเดิม : นางอรพิน ทิพย์เวศ รู้สึกว่า “ใช่เลย” ทำ�ให้เกิดศรัทธา ในคำ�สอน อายุ : ๖๔ ปี ของพ่อท่านและพระรูปอื่นๆ (ตอนนั้นยัง การศึกษา: ปริญญาตรี ทันตแพทย์ศาสตร์ เป็นพระอยู)่ ได้รแู้ นวทางในการปฏิบตั ิ ตัง้ แต่ สถานภาพ : สมรส เบือ้ งต้น ท่ามกลาง บัน้ ปลาย เป็นการต่อยอด ภูมลิ ำ�เนาเดิม : อ.สะเดา จ.สงขลา จากคำ�สอนของสวนโมกข์
มาตรวจสอบตนเองว่า มันด่าถูกเลยนะ บอกเหตุผลดีด้วย เราก็ยงิ่ ได้ประโยชน์ใหญ่ คนนีร้ รู้ อบฉลาด เราไม่เคยบอกใคร มาแอบรูไ้ ด้ดว้ ย ฉลาดจริง ด่าได้ถกู จิตเราก็ไม่โกรธ ขอบคุณ ด้วยทีบ่ อกความชัว่ เลวของเรา คุณก็เอามาพูดด่าออกมา เรา ก็ขอบคุณเขา ด้วยใจไม่โกรธไม่ถือสา ถ้าเราแก้ไขได้ก็แก้ไข เสีย ถือว่าเขาด่าเราถูก แต่ถ้าเขาด่าไม่ถูก แต่ก่อนเราเป็น แต่ตอนนี้เราไม่เป็น จริงแล้ว เราเลิกมา สามปี ห้าปีแล้ว เลิกด่าได้แล้ว มันผิดคน เราก็บอกได้ เพราะการด่าผิดตัวนี้เป็นบาปนะ เราก็ใจเฉยๆ ได้ คนมีจติ ใจเช่นนีเ้ ป็นจิตใจทีม่ นี พิ พาน พอเข้าใจไหม เข้าใจ และทำ�ให้ได้ นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ สอนนิพพานจริงๆ เข้าใจใช่ ไหม แล้วเชื่อว่าทำ�ได้เป็นจริงไหม นิพพานไม่ใช่เรื่องลึกลับ ไปนั่งหลับตาทำ�เอา แต่นี่เจอแล้วนิพพาน แต่ยังเอาไม่ได้ เท่านั้นแหละ เอามาทำ�ให้ใจเราเป็นไม่ได้เท่านั้น ก็ทำ�ให้ได้ สิ ขอยืนยันว่าสอนนิพพานนะ ไม่ได้สอนตื้นๆนะ... พ่อครูเทศน์ที่สีมาอโศก (พญาแร้งสัญจรอีสานใต้) วันที่ ๒๓ ก.ค. ๒๕๕๙
การปฏิบัติธรรมของตนเองหรือมีวิธี การฝึกฝนตนเองอย่างไร ? ปี ๒๕๑๙ เริม่ ปฏิบตั ลิ ดละเรือ่ งการกินอยู่ ใช้ชวี ติ มักน้อย สันโดษลง เรือ่ งแรกทีป่ ฏิบตั ไิ ด้ ก่อนเพื่อนคือ การแต่งตัว สามารถออกจาก บ้านได้โดยไม่ตอ้ งทาปากและผัดหน้าทาแป้ง แต่สามารถแต่งตัวเชยๆ ถูกๆ ถ้าเป็นเมื่อ ก่อนจะขาดความเชื่อมั่นในตนเอง แต่พอรู้ สัจจะแล้ว ชีวติ เบาสบายและประหยัดมาก ปี ๒๕๒๐ เริ่มทานเจ ที่บ้านพ่อต่อต้าน จึงต้อง ทำ�อาหารไปทานเองที่คณะ สมัยก่อนร้าน
อาหารเจมีน้อย ต้องทำ�ถั่วลิสงทอดใส่เนย และเกลือ กินกับข้าวและแตงกวาเป็นประจำ� อยากจะฝากแง่คิดอะไรถึงเพื่อนนัก ปฏิบตั ธิ รรม ? ชีวิตนี้สั้นนัก วันเวลาที่จะได้อยู่บนโลก นี้ของทุกคนเหลือน้อยลงทุกวัน ดังนั้นจงรีบ ทำ�ความดี ลดกิเลส อยูก่ บั ปัจจุบนั อย่าให้จติ จมอยู่กับอดีตและเพ้ออยู่กับอนาคต ชีวิตก็ จะไม่เครียด ไม่กงั วล และสามารถสร้างความ ดีได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เพราะไม่สูญ เสียพลังงานไปกับเรื่องในอดีตและอนาคต.
ฉบับที่ ๔๗๒ (๔๙๔) งานภราดรภาพซาบซึ้งใจ
ข่าวอโศก
5
(ต่อจากหน้า ๑)
งานภราดรภาพซาบซึง้ ใจ ครัง้ ที่ ๑๔ ทีส่ งั ฆสถานทะเล ธรรม จ.ตรัง ตัง้ แต่วนั ที่ ๘-๑๐ ก.ค. ๒๕๕๙ เป็นงานประจำ� ปีของชาวอโศกทีภ่ าคใต้ โดยจะหมุนเวียนกันจัดระหว่าง ที่สังฆสถานทะเลธรรม ที่ธรรมชาติอโศกและที่ชเลขวัญ ซึ่งปีนี้ถึงวาระเวียนมาจัดที่สังฆสถานทะเลธรรม จ.ตรัง วันศุกร์ที่ ๘ ก.ค. พ่อครูเดินทางมาถึงสังฆสถานทะเล ธรรมในเวลา ๐๙.๒๐น. ไปกราบพระพุทธาภิธรรมนิมิตที่ ศาลาศรีตรังธรรมฤทธิ์ จากนัน้ จึงไปกราบสมเด็จปูว่ ชิ ติ อวิชชา ที่ตั้งอยู่บนภูเขา ในช่วงก่อนฉัน ๐๙.๐๐ น. ที่เวทีหน้าน้ำ�ตก ก็มีรายการ เสวนา พลิกชีวติ ๑๘๐ องศา ดำ�เนินรายการโดยท่านสมณะ นาไท อิสสรชโน สัมภาษณ์ปฏิบัติกรญาติธรรม มีคุณอนุกูล ทองมี, คุณชัยวัฒน์ บุษบง, คุณพีระพัฒน์, คุณพีรนุช ตาปสนันท์ คุณอนันท์ ศิรินุพงศ์ บอกเล่าประสบการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตจิต วิญญาณให้เจริญขึ้นได้เมื่อได้พบธรรมะจากพ่อครู ช่วงบ่ายมีรายการ ตลาดวิชชาพาพ้นทุกข์ จะแบ่งผูม้ า ร่วมงานไปเรียนรู้ตลาดวิชชา คือฐานงานต่างๆ ที่มีทั้งหมด ๑๐ ฐานงานตามสมัครใจ ได้วชิ าความรูเ้ อาไปประกอบอาชีพ หรือต่อยอดอาชีพได้ต่อไป ภาคค่�ำ เป็นรายการเอือ้ ไออุน่ โดยพ่อครูสมณะโพธิรกั ษ์ วันเสาร์ที่ ๙ ก.ค. เริ่มต้นเช้าของวันด้วยการบิณฑบาต รับอรุณ โดยพ่อครูน�ำ นักบวช จำ�นวน ๑๓ รูปออกบิณฑบาต ภายในชุมชนซึ่งมีญาติธรรม และประชาชนเป็นจำ�นวนมาก ร่วมใส่บาตร รายการก่อนฉันวันนี้ พ่อครูเทศนาเรือ่ ง คนจนมหัศจรรย์ คือผูก้ อบกูส้ งั คมให้ไปรอด ภายหลังจากพ่อครูเทศนาเสร็จ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายเดชรัฐ สิมศิริ ได้ให้เกียรติ มาเป็นประธานเปิดตลาดอาริยะครั้งที่ ๘ ที่ทะเลธรรม โดย ท่านผวจ.ได้มากราบนมัสการพ่อครูและบอกกับพ่อครูว่า พ่อครูเป็นผู้แต่งเพลงชื่นรัก ที่เป็นเพลงที่สมัยที่เป็นนักเรียน ท่านผู้ว่าฯได้ใช้เพลงนี้ฝึกร้องจนเป็นเพลงแรกเลย ได้มาเจอ ตัวจริงวันนี้ก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก ท่านผู้ว่าฯกล่าวเปิดตลาดอาริยะเสร็จก็ได้ขึ้นไปร้อง เพลงชื่นรัก และวันนี้ทางวิทยุอสมท.ก็ได้มาถ่ายทอดสด การจัดงานในวันนี้ด้วย โดยเชิญท่านผู้ว่าฯออกรายการวิทยุ กระจายเสียงแห่งประเทศไทยอีกด้วย จากนัน้ ท่านผูว้ า่ ฯก็ได้เดินชมตลาดอาริยะ ได้ไปลงดำ�นา ทีแ่ ปลงนาสาธิตทีเ่ ป็นนาโยน ได้ไปรับประทานอาหารมังสวิรตั ิ ได้ไปเลือกซื้อสินค้าในราคาต่ำ�กว่าทุนในตลาดอาริยะ เป็น บรรยากาศตลาดอาริยะทีอ่ บอุน่ เป็นกันเอง เป็นกุศลอย่างยิง่ ตลาดอาริยะมีบรรยากาศที่คึกคักมาก มีประชาชนมา ร่วมเลือกซือ้ สินค้าเป็นจำ�นวนมาก บนเวทีกม็ ศี ลิ ปินชาวอโศก มีวงฆราวาส ให้สาระบันเทิง มีเวทีบาทเดียวทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ ของตลาดอาริยะสร้างบรรยากาศที่ครึกครื้นอย่างยิ่ง รายการภาคค่�ำ วันนีเ้ ป็นรายการ วิสชั นาเพชรพุทธสุด ยอดศิลป์ โดยพ่อครูสมณะโพธิรกั ษ์ ได้เมตตามาตอบปัญหา ให้ชาวใต้คลายสงสัย
เช้าวันที่ ๑๐ ก.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงาน มีการ สวดมนต์ท�ำ วัตรเช้าและธรรมะรับอรุณ โดยสมณะ สิกขมาตุ จาก นั้น ๐๗.๓๐ น. พ่อครูนำ�หมู่สมณะ สิกขมาตุออกบิณฑบาต ในชุมชน พิธีบรรจุพระบรมมาสารีริกธาตุ สมเด็จปู่วิชิตอวิชชา ที่ สังฆสถานทะเลธรรม เวลา ๐๘.๓๐ น. พ่อครูได้นำ�หมู่สมณะสิกขมาตุและ ญาติธรรมเดินธรรมยาตราจากบริเวณหน้าศาลาศรีตรังธรรม ฤทธิ์ ไปสู่น้ำ�ตกทะเลฟ้า คือที่ตั้งของสมเด็จปู่วิชิตอวิชชา ที่ ได้ไปประดิษฐานทีย่ อดของภูเขาทีเ่ ป็นทีต่ งั้ ของน้�ำ ตกทะเลฟ้า จากนั้นพ่อครูได้นำ�พระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้เตรียม ไว้เข้าบรรจุที่พระนลาฏของพระพุทธรูปปางสมเด็จปู่วิชิต อวิชชา เสร็จแล้วพากราบสมเด็จปูฯ่ แล้วเดินลงมาเพือ่ เทศนา ในรายการวิถอี าริยธรรมร่วมกับท่านสมณะเดินดิน ติกขวีโรใน เวลา ๐๙.๐๐ น. รายการสุดท้ายของงานนี้เป็นรายการ “ทำ�ดีเพื่อพ่อไม่ ต้องรอชาติหน้า” เป็นการให้บรรดาลูกๆมาพูดถึงเรื่องที่จะ ปฏิบัติบูชาพ่อครูกัน ก่อนที่ท้ายสุดของงานจะเป็นพรก่อน จากโดยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ พ่อครูว่า...ที่บอกว่าจะทำ�ดีเพื่อพ่อ ที่จริงก็ทำ�เพื่อตัว เอง แต่ก็ดีที่มีสิ่งที่ตั้งให้เป็นเป้าหมาย ให้มีพลังทำ�อะไรให้ดี อาตมาพูดเป็นแผ่นเสียงตกร่อง ว่าเกิดมาเป็นคนก็วนเวียน กับวิบากบาป กุศล อกุศล แล้วเราก็ไม่รจู้ กั ก็เลยต่อวิบาก กุศล อกุศลไปเรื่อย ไม่จบ ผู้ที่ยังไม่เบื่อก็นึกว่าน่ามีน่าสนุกตลอด เวลา ผู้ที่ไม่เห็นว่าควรหยุดก็แล้วไป แต่พวกเรานี่มาที่นี่เพื่อ จะจบใช่ไหม แล้วมาเหลาะแหละอยู่ทำ�ไม?...
6
รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เมฆาอโศก
พญาแร้งสัญจรอีสานใต้
(ต่อจากหน้า ๑)
เป็นเหมือนธรรมเนียมประจำ�ปี ที่ก่อนเข้าพรรษา พ่อครูและปัจฉาฯจะได้เดินทางไปเยือนอีสานใต้ ก่อน ที่จะมาเข้าพรรษาที่บ้านราชฯ แต่ปี ๒๕๕๙ นี้พิเศษ ที่ พ่อครูได้เดินทางสัตตาหกรณียะ ภายหลังจากอธิษฐาน พรรษา ๑ วัน เพือ่ เยีย่ มเยือนให้ก�ำ ลังใจญาติธรรมชุมชน ชาวอโศกในแถบอีสานใต้ พ่อครูและปัจฉาออกเดินทางตัง้ แต่เช้ามืดของวันที่ ๒๑ ก.ค. ๒๕๕๙ ไปเทศน์กอ่ นฉันทีอ่ าวาสสถานเมฆาอโศกและ พักฉันภัตตาหาร ก่อนจะออกเดินทางไปถึงอาวาสสถานวัง น้ำ�เขียว จ.นครราชสีมา ในเวลา ๑๖.๔๕ น. ภายหลังกราบ พระพุ ท ธาภิ ธ รรมนิ มิ ต แล้ ว พ่ อ ครู จึ ง ได้ เ ดิ น ดู ฝ ายน้ำ � ล้ น ที่เรียกว่าฝายมีชีวิต ที่ชาววังน้ำ�เขียวกำ�ลังจัดสร้างขึ้นใน บริเวณนั้น จากนั้นพ่อครูได้ร่วมรายการเอื้อไออุ่น สนทนา กับคนรุ่นเก่าชาวพลังธรรม เป็นการสนทนาประสาพ่อลูก อันอบอุ่นคุ้นเคยที่ศาลาฉัน แสงอรุณไม่มา สุริยาไม่มี รุง่ อรุณยามวสันตฤดูของวันที่ ๒๒ ก.ค.๒๕๕๙ พ่อครูผู้ เป็นมิตรดีทป่ี ระเสริฐได้น�ำ พาลูกๆเดินเท้าขึน้ สูศ่ าลาเห็นแจ้ง ที่อยู่บนยอดภูเขาที่วังน้ำ�เขียว แม้เส้นทางสูงชันแต่ไม่เป็น อุปสรรคต่อวัย ๘๒ ปีของพ่อครู พ่อครูได้พาลูกๆกราบพระ พุทธาภิธรรมนิมิตบนยอดเขาที่ศาลาเห็นแจ้ง และยังเปิด โอกาสให้ลูกๆซักถามข้อธรรมะอันละเอียดลึกซึ้ง เป็นการ เติมสัมมาทิฏฐิ อันเป็นข้อที่ ๕ ในแสงอรุณทั้ง ๗ เมื่อเดินขึ้นสู่จุดสูงสุดของยอดเขาก็จะได้เห็นแสงอรุณ อันเหลืองเรืองรองส่องประกาย ณ ปลายขอบฟ้าบูรพาทิศ สอดคล้องลงตัวในรูปนามของแสงอรุณทั้งเจ็ดที่จะนำ�พาให้ ผู้ ป ฏิ บั ติ ไ ด้ สั ม ผั ส กั บ พระอาทิ ต ย์ ที่ เ ปรี ย บเสมื อ นสั ม มา อาริยมรรคมีองค์แปด พ่อครูยงั ได้เน้นย้�ำ ให้พวกเราได้ตรวจ สอบมรรคผลของตนเอง และเร่งปฏิบัติให้ได้ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านอย่างตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ด้วยการ ทำ�ใจในใจอย่างแยบคายให้ถงึ การชำ�ระกิเลสจากจิตสันดาน ให้หมดจดอันคือ บุญที่แท้จริง
ภายหลั ง จากเดิ น ลงมาจากภู เขาพ่ อ ครู ไ ด้ นำ � สมณะ และสิกขมาตุออกบิณฑบาตหน้าอาวาสสถานวังน้ำ�เขียว มี ประชาชนรอใส่บาตรเป็นจำ�นวนมาก รายการเทศนาก่อนฉันวันนี้พ่อครูได้แสดงธรรมเรื่อง “แสงอรุณไม่มา สุริยาไม่มี” ที่อาคารต้นแบบโครงการศูนย์ เรียนรู้พลังงานแสงอาทิตย์ หน้าอาวาสสถานวังน้ำ�เขียว เป็นอาคารที่ใช้ระบบไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ทั้งหมด แผงโซล่า เซลล์เป็นแบบทันสมัย สามารถทำ�มุมเคลื่อนไปรับแสงจาก พระอาทิตย์ได้โดยอัตโนมัติ สร้างขึ้นเสร็จโดยงบประมาณ ของกองอำ � นวยการรั ก ษาความมั่ น คงภายใน ที่ ไ ด้ ส ร้ า ง ให้อาวาสสถานวังน้ำ�เขียวได้ใช้สอย เป็นตัวอย่างของการ พึ่งพาตนเองด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และหลังจากเทศนา มีพล.ต.อนุสรณ์ นุตสถิตย์ รอง ผอ.รมน.จังหวัดได้ให้เกียรติ มาเปิดอาคารพลังงานฯและได้กล่าวปาฐกถาให้องค์ความรู้ เรื่องพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงที่มีต่อปวงชนชาวไทย ท่านกล่าวได้น่าประทับใจมาก ในเวลาประมาณ ๑๓.๑๕ น.พ่อครูและคณะได้เดิน ทางออกจากอาวาสสถานวังน้�ำ เขียว ไปถึงพุทธสถานสีมาอโศก จ.นครราชสีมา เวลา ๑๔.๔๐ น. จากนัน้ พ่อครูได้กราบสมเด็จ ปูว่ ชิ ติ อวิชชาและพระพุทธาภิธรรมนิมติ ก่อนไปพักผ่อนทีก่ ฏุ ิ ทีพ่ กั ทีช่ าวสีมาอโศกและญาติธรรมร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึน้ มาใหม่เพือ่ ให้พอ่ ครูและปัจฉาฯได้พกั อาศัย โดยมีญาติธรรม จำ�นวนมากที่มารอรับพ่อครู ล้วนมีสีหน้าปีติยินดีอย่างมาก รายการภาคค่ำ�ที่สีมาอโศกวันนี้ มีรายการเวียนธรรม จากสมณะ สิกขมาตุที่ร่วมสัญจรในครั้งนี้ บรรยากาศอบอุ่น คุ้นเคย มีผู้ร่วมฟังธรรมเป็นจำ�นวนมาก รุ่ ง เช้ า วั น ที่ ๒๓ ก.ค. ๒๕๕๙ พ่ อ ครู นำ � หมู่ ส มณะ สิกขมาตุออกบิณฑบาตหน้าศาลาส่วนกลาง มีญาติธรรมและ ประชาชนรอใส่บาตรเป็นจำ�นวนมาก แถวยาวเหยียด อ้อม เมรุสุดชีวิต ๒ วนมาที่ศาลาอีกครั้งหนึ่ง ใช้เวลาบิณฑบาต ร่วม ๑ ชม.เลยทีเดียว จากนั้นเวลา ๐๙.๐๐ น.พ่อครูได้เทศนาก่อนฉัน โดย พ่อครูได้สอนเรื่องนิพพานที่มีความลึกซึ้ง เข้าใจได้ง่ายอย่าง น่าอัศจรรย์…
ฉบับที่ ๔๗๒ (๔๙๔) วังน้ำ�เขียว
ข่าวอโศก สีมาอโศก
7
8
รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๕๙
สมณะจำ�พรรษา ปี ๒๕๕๙ พุทธสถานราชธานีอโศก ๒๙ รูป
พุทธสถานสันติอโศก ๒๑ รูป
พุทธสถานปฐมอโศก ๑๑ รูป
พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ� ๑๒ รูป
๑. พ่อครูสมณะโพธิรกั ษ์ โพธิรกั ขิโต ๒. สมณะเดินดิน ติกขวีโร ๓. สมณะเด็ดขาด จิตตสันโต ๔. สมณะพอแล้ว สมาหิโต ๕. สมณะแดนเดิม พรหมจริโย ๖. สมณะกล้าดี เตชพหุชโน ๗. สมณะคิดถูก ทิฏฐุชุกัมโม ๘. สมณะฟ้าไท สมชาติโก ๙. สมณะเด่นตะวัน นรวีโร ๑๐. สมณะสมชาย ตันติปาโล ๑๑. สมณะคมคิด ทันตภาโว ๑๒. สมณะแก่นเกล้า สารกโร ๑๓. สมณะคำ�จริง วจีคุตโต ๑๔. สมณะถนอมคูณ คุณกิตตโณ ๑๕. สมณะดินไท ธานิโย ๑๖. สมณะหินกลั่น ปาสาณเลโข ๑๗. สมณะมือมั่น ปูรณกโร ๑๘. สมณะหินมั่น สีลาปากาโร ๑๙. สมณะหนักแน่น ขันติพโล ๒๐. สมณะข้าฟ้า ฐานรโต ๒๑. สมณะพันเมือง ภทันโต ๒๒. สมณะถักบุญ อาจิตปุญโญ ๒๓. สมณะใต้ดาว เหฏฐานักขัตโต ๒๔. สมณะขุนศึก อโยมโน ๒๕. สมณะด่วนดี สุชีโว ๒๖. สมณะเพียงพอ สันตุฏฐิธัมโม ๒๗. สมณะหินจริง วีรปาสาโณ ๒๘. สมณะแสนดิน ภูมิพุทโธ ๒๙. สมณะดินทน ธีรภัทโท
๑. สมณะสมณะพิสุทธิ์ พิสุทโธ ๒. สมณะเลื่อนลิ่ว อรณชีโว ๓. สมณะน่านฟ้า สุขฌาโน ๔. สมณะเมืองแก้ว ติสสวโร ๕. สมณะกอบชัย ธัมมาวุโธ ๖. สมณะขยะขยัน สรณีโย ๗. สมณะชนะผี ชิตมาโร ๘. สมณะณรงค์ จันทเสฏโฐ ๙. สมณะซาบซึ้ง สิริเตโช ๑๐. สมณะเบิกบาน ธัมมนิยโม ๑๑. สมณะคมลึก เมตตจิตโต ๑๒. สมณะกล้าจริง ตถภาโว ๑๓. สมณะลานศิลป์ วชิโร ๑๔. สมณะดงเย็น สีติภูโต ๑๕. สมณะชัดแจ้ง วิจักขโณ ๑๖. สมณะลั่นผา สุชาติโก ๑๗. สมณะธรรมทาบฟ้า รวิวัณโณ ๑๘. สมณะแก่นหล้า วัฑฒโน ๑๙. สมณะแด่ธรรม ธัมมรักขิโต ๒๐. สมณะธาตบุญ ธาตุปุญโญ ๒๑. สมณะถักร้อย ธัมมธโร
๑. สมณะกรรมกร กุสโล ๒. สมณะเสียงศีล ชาตวโร ๓. สมณะแน่วแน่ สีลวัณโณ ๔. สมณะฝุ่นฟ้า อัคคชโย ๕. สมณะนาทอง สิงคีวัณโณ ๖. สมณะดาวดิน ปฐวัตโต ๗. สมณะบินก้าว อิทธิภาโว ๘. สมณะตรงมั่น อุชุจาโร ๙. สมณะวิเชียร วิชโย ๑๐.สมณะเมฆฟ้า นภมังคโล ๑๑.สมณะขยันยอม วิริยธโร
๑. สมณะบินบน ถิรจิตโต ๒. สมณะผืนฟ้า อนุตตโร ๓. สมณะร่มเมือง ยุทธวโร ๔. สมณะโพธิสิทธิ์ โพธิสิทโธ ๕. สมณะฟ้ารู้ นโภคโต ๖. สมณะฮังดิน ภูมิคโต ๗. สมณะแม่นใจมั่น จิตตถาวโร ๘. สมณะค้ำ�ดิน ภูมิปูรโณ ๙. สมณะคมเย็น ถามวโร ๑๐. สมณะสู่บุญ ปุญญคโต ๑๑. สมณะพ้นพิษ วิสมุตโต ๑๒. สมณะอุดม อุตตโม
พุทธสถานศีรษะอโศก ๕ รูป ๑. สมณะถ่องแท้ วินยธโร ๒. สมณะดวงดี ฐิตปุญโญ ๓. สมณะผองไท รตนปุญโญ ๔. สมณะพอจริง สัจจาสโภ ๕. สมณะสอน โสปาโก พุทธสถานศาลีอโศก ๔ รูป ๑. สมณะลือคม ธัมมกิตติโก ๒. สมณะเน้นแก่น พลานีโก ๓. สมณะเลื่อนฟ้า สัจจเปโม ๔. สมณะจนแจ้ง อัสสกจาโร
พุทธสถานสีมาอโศก ๖ รูป ๑. สมณะสร้างไท ปณีโต ๒. สมณะแก่นผา สารุปโป ๓. สมณะฝนธรรม พุทธกุโล ๔. สมณะดินทอง นครวโร ๕. สมณะชุบดิน วิชชานันโต ๖. สมณะสยาม สัจจญาโณ สังฆสถานทะเลธรรม ๔ รูป ๑. สมณะดินดี สันตจิตโต ๒. สมณะนึกนบ ฉันทโส ๓. สมณะเทินธรรม จิรัสโส ๔. สมณะนาไท อิสสรชโน
สิกขมาตุจำ�พรรษา ปี ๒๕๕๙ พุทธสถานสันติอโศก
พุทธสถานปฐมอโศก
พุทธสถานราชธานีอโศก
๑. สิกขมาตุสัจฉิกตา ตั้งเผ่า ๒. สิกขมาตุหยาดพลี อโศกตระกูล ๓. สิกขมาตุบุญจริง พุทธพงษ์อโศก ๔. สิกขมาตุฝนเย็น อโศกตระกูล ๕. สิกขมาตุมาลินี โภคาพันธ์ ๖. สิกขมาตุใจขวัญ เบญจโศภิษฐ์ ๗. สิกขมาตุเทียนคำ�เพชร อโศกตระกูล
๑. สิกขมาตุบุญแท้ ปลาทอง ๒. สิกขมาตุพูนเพียร ชาวหินฟ้า ๓. สิกขมาตุพุทธพอนวล ชาวหินฟ้า ๔. สิกขมาตุมนทิพย์ เรืองศรี ๕. สิกขมาตุทองพราย ชาวหินฟ้า ๖. สิกขมาตุตรงธรรม ลีฬหรัตนรักษ์
๑. สิกขมาตุอ่านตน อโศกตระกูล ๒. สิกขมาตุรินฟ้า นิยมพุทธ ๓. สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน อโศกตระกูล ๔. สิกขมาตุต้นข้าว อโศกตระกูล ๕. สิกขมาตุสร้างฝันใหม่ อโศกตระกูล ๖. สิกขมาตุผาแก้ว ชาวหินฟ้า ๗. สิกขมาตุเป็นหญิง อโศกตระกูล ๘. สิกขมาตุแสงฝน อโศกตระกูล ๙. สิกขมาตุศิริพร วิภาษา
ฉบับที่ ๔๗๒ (๔๙๔)
ข่าวอโศก
9
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของ
ความอ่อนน้อมถ่อมตน
สมณะขุนศึกจำ�แนกสภาวะ ๓ นาย ที่ร้ายกาจ (นายดิ่ง-ดัน-ดี!) ภาวะของนายแรกคือ นายดิ่ง ไม่สดับ ภาวะของดิง่ ไม่สดับมันเป็นภาวะภพของฤาษี ภาวะที่ไม่เอาใคร เรียกว่ามีแต่กูอย่างเดียว หรือว่าเชือ่ หัวอ้ายเรือง (ส.เดินดินเสริม พ่อครู เรียกว่าคนรูเดียว) จะไปรูนร้ี เู ดียว ไม่มรี อู น่ื เลย เรียกว่าดิง่ ไม่สดับ มันเป็นจิตทีก่ ไู ม่เอากับมึง แล้วเว้ย อาตมาอ่านตัวเองมันเป็นเช่นนั้น จริงๆนะ ใครเป็นเหมือนอาตมาบ้าง นายที่ ๒ คือ นายดันไม่ระงับ ตัวปัญญา ที่จะเอาชนะ หรือว่าปัญญาที่หาเหตุผลเข้า ข้างตัวเอง ปัญญาที่พาดันทุรัง ไม่เชื่อใคร ก็ จริงๆนะ นายดันไม่ระงับ มันจะไม่ยอมเชื่อ ใครมันจะเอาแต่ตัวเอง สุดท้ายที่สุดแล้วมันก็จะเป็นนายดี ตี ไม่แตก คือ เหตุที่ตีไม่แตกนี่เพราะมันดีนะ มีภาวะยึดดี ตัวยึดดีนี่แหละเรียกว่าดีไม่มี เสน่ห์ ตัวเองดีแต่เอาดีไปข่มคนอื่น เพ่งโทษ คนอื่น เรียกว่า นายดีตีไม่แตก มันเป็นภาวะ ที่ โอ้!...อย่างนี้ไม่ใช่ อย่างนี้ไม่ใช่ ซึ่งกว่าจะ อ่านตัวเองได้สภาวะ ๓ สภาวะนี้ก็ทบทวน ตัวเอง มันเป็นภาวะที่เราต้องจับสักกายะ ตัวนีข้ องตัวเองให้ได้ ซึง่ ก็อยากแบ่งปันว่าใคร มีเหมือนอาตมาบ้างทั้ง ๓ นาย ก็พยายาม มาแก้ไข อาตมาก็จะพยายามแก้ไขในส่วนที่ เป็นดิง่ ไม่สดับ ดันไม่ระงับ และตัวดีตไี ม่แตก เหตุ สำ� คั ญ ที่ตัว ดี ตีไ ม่ แ ตกคื อ มั น ยึ ด ดี บางทีมนั ยึดสิง่ ทีถ่ กู ต้อง แต่มนั เกินไป แรงไป ไม่อนุโลมปฏิโลม อาตมามาบ้านราชใหม่ๆ ก็จะเห็นสภาวะขัดแย้งมากเลยนะ เพราะว่า เรายึดสายเถรวาท มาบ้านราชอะไรเป็นอะไร บอกไม่ถกู มันก็จบั สภาวะไม่ถกู เลยในช่วงนัน้ พอมาทบทวน จริงๆมันยึดดี สมณะเดินดิน : ในหลักของธรรมไป ยึดอะไรดี มันก็ไม่ได้ แม้แต่ได้นิพพานแล้ว ก็ต้องไม่ยึดติดในนิพพาน นี่พูดถึงหลักการ ตัวสูงสุด แม้แต่ตัวสูงสุดท่านก็ไม่ให้ยึด ไม่ ให้ ติ ด ถ้ า ไปยึ ด ไปติ ด เป็ น ปั ญ หาทั้ ง หมด แม้แต่ได้ปีติ ได้ปัสสัทธิ ไปยึดเมื่อไหร่ก็เป็น กิเลสเรียกว่า “วิปัสสนูปกิเลส” ทันที นี่พูด ถึงว่าแม้ได้สภาวะที่สูงแล้วไปยึดดี ติดดีก็จะ มีปัญหาในเรื่องดี ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความดี เล็กๆ น้อยๆ ถ้ า ใช้ สู ต รหลวงพ่ อ ถนอมคู น ก็ ถื อ ว่ า “นิวรณ์ ๕ ยังไม่หมดก็ยังบ้าทั้งนั้นแหละ!” อย่าไปหลงตัวเองมาก เราอย่าพยายามไป ตั้งราคาตัวเองให้มาก คราวนี้ดีจะตีแตกได้ อย่างไร คิดว่าถ้าเอาแต่ตัวเราเองจะตีตัวเรา
เองแตกไหม? อาตมาว่าไม่แตกหรอก มัน ซูเอี๋ยกัน กรรมการจะซูเอี๋ยมากเลย ดังนั้น ถ้าจะให้ตัวเราถล่มตัวเราเองเลย อาตมา รู้สึกว่าเราจะทบทวนจะพิจารณากิเลสของ เรา พิจารณาได้แว๊บเดียว แต่ถ้าไปพิจารณากิเลสของเพื่อน มัน จะไหลลื่นยาวนานทีเดียว มันไม่ยอมจากไป ง่ายๆเลย แต่พอจดจ่อจดจ้องกับกิเลสของ ตัวเอง มันจะไม่นานเท่าไหร่หรอก มันจะ ถล่มดีตวั เองทำ�ให้แตก มันจะยากมาก แต่ว่า คนที่จะถล่มเราได้ดี คือกัลยามิตร คือคนที่ อยู่รอบๆข้างๆเราจริงๆ เขาพร้อมให้บริการ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ขอให้เปิดไฟเขียวหน่อย เถอะ เขาจะช่วยจัดการบริการให้ฟรี ไม่คิด ค่าจ้างใดๆเลยนะ เป็นแต่เพียงขอให้เราอ่อนน้อมถ่อมตน ทีจ่ ะรับบริการ เมือ่ คืนพ่อครูกเ็ น้นว่า ศาสนา พุทธเป็นศาสนาของความอ่อนน้อมถ่อมตน ท่านบอกว่าท่านไม่เคยแสดงความยิ่งใหญ่ หรือแสดงอะไรเลย แต่ก่อนนี้ท่านเคยแสดง ธรรมเรื่อง เชิญมาคารวะพระโสดาบัน แล้ว ท่ า นก็ ป ระกาศตั ว เป็ น พระโสดาบั น ตอน ท่านพาพวกเราเดินจาริกไปโคราช เคยมีเจ้า คณะจังหวัดโคราชมาถามว่า เดินมาทำ�ไม? ตอบว่ามาเผยแพร่ธรรมะ เอาอะไรมาเผย แพร่ ? ตอบว่า ก็เอามรรคผลมาเผยแพร่ อ๋อ!..มีมรรคมีผลด้วยรึ ได้มรรคผลอะไร แค่ ไหน? ตอบว่า..โสดาฯ สกิทาฯ สำ�หรับท่าน ผมก็ผ่านแล้ว อ๋อได้โสดา สกิทาด้วยเหรอ จด จด จด เจ้าคณะจังหวัดตั้งข้อหาจะเอาปาราชิกเลย ความจริงพ่อครูประกาศโสดาฯ สกิทาฯนี่ จริงๆ ท่านถ่อมตนอย่างมากเลย ท่านมีแหวนเพชร เป็นตู้เซฟตั้งเยอะเลย เอามาให้ดูแค่วงเดียว เขาก็วูบวาบจะเป็นลมตายแล้ว ยังไม่ได้ควัก อะไรออกมาเลย สิง่ ทีพ่ อ่ ครูพดู ออกมาจริงๆ ท่านถ่อมตนมากทีเดียว ทั้งที่มีของดีๆอีก เยอะยังไม่ได้บอก แต่พวกเราก็ต้องระวังจะ ไปขยายอจินไตยของพ่อครูกันผิดๆ อย่าง
ท่านประกาศว่าเป็นโพธิสัตว์ระดับ ๗ มันก็ ไม่ได้หมายถึงว่าอีกเพียง ๒ ชาติกจ็ ะถึงระดับ ๙ อย่างเมือ่ คืนพ่อครูกบ็ อกว่าโพธิสตั ว์ระดับ ๗ นี่ มันไม่ได้หมายความว่าชาติหน้าก็เป็น โพธิสัตว์ระดับ ๘ นะ ใช่ไหม โพธิสัตว์ระดับ ๗ ไปหาโพธิสัตว์ระดับ ๘ นี่มันต้องใช้เวลา ไม่ต่ำ�กว่า ๑๐๐ ชาติเลยนะ กว่าที่จะบำ�เพ็ญ บารมีเป็นโพธิสัตว์ระดับ ๘ ทิศทางของพ่อครูนนั้ ท่านพยายามเน้น ว่า ท่านไม่ได้มาแสดงความกร่าง แสดงความ อวดดี หรือแสดงความเบ่ง ใหญ่โตอะไร แต่ ชีวติ จริงๆ ของท่านมันจะดูเข้าใจยากเหมือน กัน เพราะเวลาพ่อครูแสดงธรรมเหมือนกับ ตั้งปืนใหญ่จะถล่มให้พังกันไปข้างเลยนะ แต่ เวลาไม่ได้อยู่กับไมค์ ท่านจะเหมือนกับคนที่ ใจดีที่สุดเลย ไม่สนใจเรื่องผิดพลาดบกพร่อง ของใคร เป็นคนใจดีที่ให้โอกาสกับทุกๆ คน เป็นคนละอย่างกับตอนแสดงธรรม ที่อาตมายกเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อให้เห็นว่า การที่พ่อครูเน้นว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนา ของความอ่อนน้อมถ่อมตนนั้น อาตมาก็ อยากจะให้ตบะที่เราบำ�เพ็ญกัน ทำ�อย่างไร ทีเ่ ราจะไม่ลมื บำ�เพ็ญความเป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน เวลาพระไปบิณฑบาตท่านจะให้พร และจบที่ว่า อายุ วัณโณ สุขัง พลัง เนื้อหา เต็มๆ ก็คอื ว่า บุคคลผูม้ ปี กติออ่ นน้อมถ่อมตน กราบไหว้ตอ่ ผูใ้ หญ่เป็นนิจ ย่อมพบกับพรชัย สี่ประการคือ อายุ วัณโณ สุขัง พลัง ดั ง นั้ น สิ่ ง ที่ นั ก ปฏิ บั ติ ธ รรมควรจะได้ บำ�เพ็ญอย่างมากก็คือว่า บำ�เพ็ญความเป็น คนอ่อนน้อมถ่อมตน ความเป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตนดูได้ตรงไหน ไม่ใช่เจอสมณะก็กราบ เช้ า กราบเย็ น อาตมาว่ า ตรงนั้ น ยั ง ไม่ ใช่ ของจริงเท่าไหร่หรอก ของจริงต้องลองให้ ขุมทรัพย์ดูบ้าง จะรู้ว่าอ่อนนอกหรือแข็งใน ก็ดูกันตรงนี้แหละ? ลองมีคนมาชี้ขุมทรัพย์ เรา ลองมีคนมาตำ�หนิตเิ ตียนเรา ตอนนีก้ จ็ ะ รูไ้ ด้วา่ ใครแข็งใครอ่อน เมือ่ กีท้ ที่ า่ นขุนศึกพูด ถึงว่า ความดีทำ�อย่างไรเราจะตีแตก อย่างที่
ชมจากยูทูปได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=ojsTtNhFg9k&feature=youtu.be
บอกแล้วว่าจะให้ตวั เราตีตวั เราแตก มันยาก มาก แต่เพื่อนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเรา งั้น เราก็ตอ้ งมีสญ ั ญาณของความอ่อนน้อมถ่อม ตน ก็น่าจะเป็นตัวที่ทำ�ให้ความดีตีแตกได้ ข้ อ ที่ ส องที่ อ ยากจะรณรงค์ อย่ า งที่ สัญญาณน้ำ�ตกผาแหงนเป็นสัญญาณบอก แล้วหละว่าต่อไปคนจะเริ่มมาแล้ว และพ่อ ครูก็มั่นใจว่าขนาดปฐมอโศก สันติอโศก เขา ไม่มีอะไรน่าดูเท่าของเรา ทุกวันนี้ยังถือว่า เป็นย่านเศรษฐกิจ ทั้งสันติอโศกและปฐม อโศก อาตมาว่าบ้านราชฯเรา ถ้าขึน้ โครงการ สักครึง่ หรือเต็ม อาตมาว่ายิง่ น่าจะมามากยิง่ กว่าสันติอโศกหรือปฐมอโศก ดังนั้นการฝึกความอ่อนน้อม ประเด็น ที่ ๒ อยากให้ ฝึ ก ให้ ค วามสำ � คั ญ เรื่ อ งของ ปฏิสนั ถาร ปฏิสนั ถารจัดอยูใ่ นหมวดคารวะ ๖ หากบอกว่าเป็นชาวพุทธต้องเคารพ ๖ อย่าง ๑.เคารพพระพุทธเจ้า ๒.พระธรรม ๓.พระ สงฆ์ ๔.เคารพการศึกษา ๕.เคารพความไม่ ประมาท และข้อสุดท้ายคือเคารพในการ ปฏิสันถาร พ่อครูเคยบอกว่า หมวดธรรม ข้อสุดท้ายจะสำ�คัญที่สุด ปฏิสันถารสำ�คัญ อย่างไร ต่อให้พระพุทธเจ้าดี พระธรรมดี พระสงฆ์ดี เป็นคนมีการศึกษาอบรมดี เป็น คนที่ดำ�รงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท แต่ ปฏิสนั ถารสุนขั ไม่รบั ประทาน ดีมาสีห่ า้ อย่าง ไปไม่ได้เลยนะ ไปไม่ออกเลย เคยมีผู้พิพากษาเป็นเพื่อนของสมณะ เรา แต่ก่อนเราอยู่แดนอโศก เรื่องปฏิสันถาร เราตัดทิ้งเลยนะ เราไม่เคยได้ต้อนรับแขกไม่ ได้สนใจใคร จะบรรลุธรรมกันอย่างเดียว เขาแนะนำ�พวกเราว่า เขามาเหมือนกับคน หิวน้�ำ มาเหลือเกิน แต่พอเขามาขอดืม่ น้�ำ จาก เรา เรากลับบอกว่าเอาน้ำ�ไปแดกซะ เขาว่า อย่างนัน้ เขาบอกว่ามันกินไม่ลงเลย นีเ่ ป็นคำ� ตำ�หนิมา เมืื่อสามสิบกว่าปีมาแล้ว ที่เราเริ่ม ต้นกันใหม่ๆ แต่อาตมาว่าทุกวันนี้เราไม่เป็น อย่างนั้นหรอก แต่อาตมาคิดถึงว่าเมื่อมีคน เขาเดินเข้ามา แล้วไม่รวู้ า่ เขาจะไปตรงไหน มา ตรงไหน อยากให้พวกเราทำ�หน้าทีป่ ฏิสันถาร หน่อย และให้มีใบหน้าปฏิสันถารหน่อย เมื่อมีคนเข้ามาสู่บ้านเรา ไม่อยากให้ ทำ�หน้าแบบไม่รู้จักมักจี่ ไม่สนใจ ไม่ยุ่ง ไม่ เกี่ยวกับคุณ ทำ�หน้าปฏิสันถารหน่อย แล้ว เราก็จะมีใบหน้าที่มีความสุข ทุกครั้งอาตมา เห็นเราต้อนรับแขกเราจะมีความสุขกันดี แต่ พอแขกกลับเราค่อยกลับมาอยู่กับภพความ ทุกข์ของเราต่อ อาตมาว่าการมีปฏิสันถาร ก็เป็นการฝึกความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่าง สำ�คัญอีกข้อหนึ่ง.
10 รัฐบาลชวนคนไทยเลิกดื่มช่วงเข้าพรรษา
รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๕๙ (ต่อจากหน้า ๑๒)
วันที่ ๑๖ ก.ค. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำ�เนิด โฆษกประจำ�สำ�นักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลขอเชิญชวนคนไทยลด ละ เลิกดื่มสุราในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา หรือวันงดดื่มสุรา แห่งชาติ พร้อมทั้งเอาจริงจังกับการแก้ปัญหาสุราผิดกฎหมาย ทั้งในด้านการจัดตั้งโรงงาน การชำ�ระภาษี และการทำ�ลายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะโรงงานผลิตสุราชุมชนที่ลักลอบผลิต และจำ�หน่ายสุราแบบไม่ติดแสตมป์ หรือสุรานอกระบบ ซึ่งเป็นสุราเถื่อนที่ไม่ได้มาตรฐาน และเป็นอันตรายต่อการบริโภค โดยนายกรัฐมนตรี เป็นห่วงสุขภาพนักดื่ม ซึ่งมักอาศัยวัน หยุดยาวเป็นข้ออ้างในการเฉลิมฉลองกับญาติพี่น้อง และส่วนหนึ่งนิยมดื่มสุราพื้นบ้านที่ ไม่มีมาตรฐาน ทำ�ให้ในแต่ละปีมผี เู้ สียชีวติ จากการดืม่ สุราประเภทนีจ้ �ำ นวนมาก โดยมีสาเหตุ มาจากสารเอทานอล เมทานอล สารฆ่าเชือ้ สารหนู หรือส่วนผสมอืน่ ทีช่ ว่ ยเร่งปฏิกริ ยิ าการ หมัก หรือเร่งความแรงของแอลกอฮอล์เข้าไปทำ�ลายอวัยวะภายใน นายกฯจึงได้สั่งการให้ กระทรวงมหาดไทยเป็นแกนหลัก สำ�รวจตรวจสอบโรงงานสุราในท้องถิ่น พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ข้อมูลเมื่อ ก.ค. ๕๘ พบว่า มีโรงงานผลิตสุราชุมชน ๒๒๐ แห่งจากทัง้ หมด ๒,๙๐๐ แห่งทัว่ ประเทศทีต่ อ้ งจับตาเป็นพิเศษ และส่วนใหญ่อยูใ่ นภาคเหนือ ซึง่ ทีผ่ า่ นมารัฐบาลได้มอบหมายให้ ผวจ.ทุกจังหวัด เป็นประธานแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสุรา กลัน่ ชุมชน โดยได้มกี ารตรวจสอบใบอนุญาตการผลิตสุรา คุณภาพสุรา มาตรฐานของโรงงาน สถานที่จำ�หน่าย ระยะเวลาจำ�หน่าย โดยมีภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมจนประสบความ สำ�เร็จ เช่น พะเยาโมเดล เพราะตัง้ แต่การตัง้ ศูนย์ปฏิบตั กิ ารแก้ไขปัญหาเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ จ.พะเยา ให้คำ�แนะนำ�ในการลด ละ เลิกการดื่มสุรา และทำ�ให้โรงงานสุราชุมชน มีจำ�นวน ลดลงเหลือ ๒๐๐ แห่ง ในปี ๒๕๕๘ จากเดิมที่มีถึง ๒๗๐ แห่งในปี’๔๗ นายกฯ ขอให้จงั หวัดอืน่ ๆ นำ�กรณีศกึ ษาดังกล่าวไปเป็นตัวอย่างในการแก้ไขปัญหา โดย เฉพาะการสร้างความร่วมมือจากประชาชนตามแนวทางประชารัฐ และการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเฉียบขาด เช่น การตรวจจับผู้ผลิตที่ไม่มีใบอนุญาต หลีกเลี่ยงภาษี หรือใช้กระบวนการ ผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน (โดย www.mgronline.com ๑๖ ก.ค. ๕๙) ”งดเหล้าครบพรรษา พักตับทั่วไทย
(ต่อจากหน้า ๑๒)
สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับ สำ�นักงานเครือข่าย องค์กรงดเหล้า (สคล.) จัดกิจกรรมเชิญชวนคนไทยร่วมงดเหล้าเข้าพรรษา ภายใต้แนวคิด “งดเหล้าครบพรรษา พักตับทั่วไทย” ด้านนายแพทย์บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำ�นวยการสำ�นักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยง หลัก สสส. เปิดเผยว่า ผลสำ�รวจของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) ต่องานรณรงค์งดเหล้าเข้า พรรษาปีที่ผ่านมา พบ ประชากร ๑๔.๘๘ ล้านคน หรือร้อยละ ๗๐.๙ งดและลดดื่มสุราใน ช่วงเข้าพรรษา ในจำ�นวนนี้ร้อยละ ๓๒.๓ งดดื่มได้ตลอดพรรษา ขณะที่ ๓๘๕ ชุมชนทั่ว ประเทศพร้อมใจจัดกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ส่งผลให้สุขภาพกาย สุขภาพจิตดีขึ้น ประเทศชาติประหยัดเงินได้มากถึง ๖.๔ หมื่นล้านบาท (โดย www.mgronline.com ๑๓ ก.ค. ๕๙)
โพลชี้วันอาสาฬหบูชา-ออกพรรษา
(ต่อจากหน้า ๑๒)
และร้อยละ 59.73 เข้าร่วมกิจกรรมวันออกพรรษา ส่วนกิจกรรมใดที่ประชาชนปฏิบัติ เป็นประจำ�ในวันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ร้อยละ 67.78 ตักบาตร ร้อยละ 48.33 เวียนเทียน ร้อยละ 40.01 ฟังเทศน์ฟังธรรม ร้อยละ 33.94 ถวายสังฆทาน และร้อยละ 33.67 สวดมนต์/นั่งสมาธิ นอกจากนี้ จากการสอบถามประชาชนคิดว่าการประพฤติตนแบบใดไม่เหมาะสม และ เกิดปัญหาสังคมในช่วงวันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ร้อยละ 85.49 ดื่มสุรา/เสพของมึนเมา ร้อยละ 81.65 จำ�หน่ายสุรา/ของมึนเมา ร้อยละ 69.75 เข้าร่วม กิจกรรมบันเทิงที่ไม่เหมาะสม เช่น โชว์วาบหวิว แต่งตัวโป๊เปลือย ร้อยละ 7.00 อื่นๆ เล่น การพนัน ทำ�ผิดศีล มีพฤติกรรมที่ไม่ดีไม่เหมาะสม พูดจาไม่ดี สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ส่วนกิจกรรมใดที่ต้องการให้ วธ.ดำ�เนินการในช่วงวันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และ วันออกพรรษา ได้แก่ จัดทำ�บุญตักบาตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์ฟังธรรม จัดกิจกรรมรณรงค์ เชิญชวนให้ประชาชนและเยาวชนเข้าร่วม เวียนเทียน หล่อเทียน แห่เทียน ถวายเทียน หลอดไฟ เชิญชวนให้ประชาชนแต่งกายชุดขาวในช่วงเทศกาล (โดย www.mgronline.com ๑๗ ก.ค. ๕๙) นร.เมืองลับแลพร้อมใจใส่ผ้าซิ่นมาเรียน
(ต่อจากหน้า ๑๒)
๘ ก.ค.๕๙ ที่โรงเรียนวัดตลิ่งต่ำ� หรือโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๕ ตำ�บลทุ่งยั้ง อำ�เภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ แม้จะเป็นโรงเรียนขยายโอกาส เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ถึงมัธยม ต้น (ม.๓) มีนักเรียน ๒๖๐ คน และบุคลการการศึกษา ๒๐ คน แต่บรรยากาศทุกเช้าวันศุกร์ อบอวนไปด้วยความเป็นไทย ดูสวยงาม และสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ปกครองและประชาชนที่ พบเห็นเป็นอย่างยิง่ เนือ่ งทัง้ คณะครูและนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนหญิงระดับมัธยมศึกษา พร้อมใจใส่ผ้าซิ่นพื้นเมืองโบราณเมืองลับแล แทนกระโปรงอย่างพร้อมเพรียง ส่วนนักเรียน ชายและน้องๆระดับประถมศึกษา สวมเสือ้ ผ้าพืน้ เมืองลายลับแล ส่งเสริมความเป็นไทยและ อนุรกั ษ์ศลิ ปวัฒนธรรมพืน้ บ้าน อันเกิดจากภูมปิ ญ ั ญาของบรรพบุรษุ และร่วมสร้างความภาค ภูมิใจในความเป็นไทยให้กับเยาวชนเมืองลับแล นายชัชวาล เพชร์แบน ผอ.โรงเรียนไทยรัฐวิทยา๕ กล่าวว่า อำ�เภอลับแลเป็นอีกอำ�เภอ ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่มีชื่อเสียงเรื่องของผ้าพื้นเมืองที่ทอด้วยมือ ทั้งผ้ายกมุกและผ้าตีนจก ลับแล ราคาค่อนข้างสูงตั้งแต่ ๕,๐๐๐–๑๐๐,๐๐๐ บาท แต่ในความเป็นจริงลับแลยังมีผ้าซิ่น “ลายดำ�ปึก” เป็นลายโบราณยอมด้วยสีจากลูกมะเกลือ ทอด้วยเมือง ชีวิตประจำ�วันผู้เฒ่าผู้ แก่คนลับแลโบราณจะใส่ผ้าซิ่นลายดำ�ปึก แต่ปัจจุบันมีน้อยมาก ทางโรงเรียนจึงส่งเสริมและ ร่วมอนุรักษ์ลายผ้าซิ่นดังกล่าว และราคาไม่แพง ผืนละ ๔๐๐-๕๐๐ บาท ที่สำ�คัญเนื้อผ้านุ่ม ใส่แล้วสบาย เหมาะสำ�หรับคนทีก่ �ำ ลังหัดใส่ใหม่ๆ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ เริม่ รณรงค์ให้เยาวชน หญิงระดับชัน้ ม.ต้น ทุกคนใส่ผา้ ซิน่ มาเรียนทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ เป็นการใส่ผา้ ซิ่นแบบดั้งเดิม จริงๆ คือไม่ได้ใส่แบบสำ�เร็จ แต่จะนุง่ ป้ายคาดเข็มขัดเงิน เป็นการใส่ผา้ ซิน่ แบบโบราณจริงๆ ส่วน นักเรียนชายและนักเรียนระดับชั้นอื่นๆจะสวมเสื้อผ้าพื้นเมืองลับแลมาเรียน ระยะแรกเด็กๆอาจจะดูขดั ๆเขินๆ ปัจจุบนั ทุกคนบอกว่ารูส้ กึ ดีเพราะใส่หลายครัง้ และ มีเสียงชืน่ ชมจากคนในครอบครัว หรือคนในสังคมรอบข้างจึงค่อยรูส้ กึ ดี และชืน่ ชอบ เด็กบาง คนบอกไม่คิดมาก่อนมาใส่ผ้าซิ่นจะทำ�ให้มีคุณค่า ทางครูศรีเรือน ยิ้มศรีเจริญกิจ ครูเจ้าของ โครงการรักษ์วฒ ั นธรรมท้องถิน่ ยังได้ให้ความรูน้ กั เรียนเรือ่ งของการลายผ้าเมืองลับแล และ วิธีการใส่อย่างถูกต้อง รวมไปถึงการดูแลรักษาผ้าทอ นอกจากนี้โรงเรียนยังส่งเสริมให้เยาวชนเชิดชู สถาบันชาติ ศาสนกษัตริย์ ด้วยการให้ นักเรียนทุกคนขับเสภา เนื้อหาเกี่ยวกับที่มาความเป็นชาติไทย ควรรักและหวงแหนชาติ ศาสนกษัตริยแ์ ละความเป็นไทย ก่อนจะร้องเพลงชาติ จากนัน้ รุน่ พี่ ม.ต้นทัง้ ชายหญิง จะแบ่ง หน้าที่ในการ นำ�น้องๆ ร่วมสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย ด้วยการนำ�สอนและรำ�วงมาตรฐาน รำ�กล้องยาว และปิดท้ายด้วยความเป็นคนถิน่ เมืองลับแล ทีแ่ สดงออกผ่านการร่ายรำ� “ฟ้อน เมืองลับแล” โดยกิจกรรมดังกล่าวจะมีทุกๆเช้าตั้งแต่จันทร์-ศุกร์ ใช้เวลาประมาณ ๔๕ นาที ก่อนจะเข้าห้องเรียน นอกจากจะเป็นการปลูกฝังเรือ่ งของความเป็นไทยแล้ว ยังทำ�ให้เด็กกล้า แสดงออก เรียนรู้การทำ�งานเป็นกลุ่ม มีความรับปิดชอบ โดยปีการศึกษาหน้าจะให้นักเรียน หญิงทุกระดับชั้นใส่ผ้าซิ่นลายดำ�ปึกมาเรียนทุกวันศุกร์ (โดย คมชัดลึก)
ฉบับที่ ๔๗๒ (๔๙๔)
เจริญธรรมสำ�นึกดี พบกับน.ส.พ.ข่าวอโศก ฉบับที๔่ ๗๒(๔๙๔) รวมปักษ์กรกฎาคม ๒๕๕๙ v มะเร็งทำ�ให้มาพบกัน... บรรยากาศนี้ เ กิ ด ขึ้ น ที่ ช มร.เชี ย งใหม่ ป้ า บุ ญ ระบบ (อาสาสมั ค ร๐บาท) เล่ า ให้ จิ้งหรีดฟังว่า...มีเพื่อนครูที่เคยสอนโรงเรียน เดียวกับป้าบุญ ได้แวะมาทานอาหารทีช่ มร. ตอนแรกที่เห็นก็จำ�ชื่อเขาไม่ได้ ลืมเพราะไม่ เจอกันมานาน ๑๐ กว่าปี แต่เขาจำ�ชื่อป้า บุญได้ จึงไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบเรื่องสุขภาพ เขาบอกว่า...เขาเป็นมะเร็งที่ลูกมด (มดลูก) มีเพื่อนเป็นหมออยู่ที่รพ.สวนดอกแนะนำ� ให้ ม าทานอาหารที่ ร้ า นมั ง สวิ รั ติ ๐บาทนี้ จิ้งหรีดก็เป็นไกด์พาเดินดูแนะนำ�น้ำ�ผักปั่น น้ำ�สมุนไพร พร้อมสรรพคุณ ทานอาหาร ให้เป็นยา เขาตื่นเต้นเห็นอะไรก็น่าทานไป หมด ซื้ออะไรต่างๆมากมาย และนำ�ไปฝาก ลูกชายทีบ่ า้ นอีกด้วย เขาบอกว่าจะพยายาม มาให้ได้ทุกวัน สมัยอดีตเป็นครูอยู่ด้วยกันที่โรงเรียน แห่งนี้ จะมีแต่เพื่อนครูที่เป็นไฮโซ ใครๆก็ อยากมาสอนที่นี่ เด็กๆก็แย่งกันเข้ามาเรียน ตอนทีจ่ ง้ิ หรีดย้ายมาอยูใ่ หม่ๆ จะเห็นป้าบุญ มาแวะซื้ อ อาหารที่ ช มร.ไปทานและฝาก เพื่อนครู ก็มักจะถูกเขามองและถูกต่อว่า “ผอมขนาดนี้แล้ว ยังจะกินมังฯอีกหรือ?” ป้าบุญก็ได้แต่ยมิ้ ๆ...สอนอยูท่ นี่ ไี่ ด้ประมาณ ๗ ปี ก็ขอลาออก เป้าหมายก็เพือ่ มาช่วยงาน ชมร. ได้เห็นเพือ่ นครูหลายคนแวะมาซือ้ อาหาร บ้างก็บอกว่าเขาเป็นมะเร็ง บ้างก็บอกว่าครู คนนัน้ คนนีเ้ สียชีวติ แล้วเพราะเป็นมะเร็ง ก็มี อีกหลายคนทีป่ ว่ ย เพือ่ นครูมาเห็นก็มคี �ำ ถาม ว่า มาอยูท่ น่ี ห่ี รือ มีคา่ จ้างมัย้ ฯลฯ เมือ่ ถูกตั้ง คำ�ถามนัน้ ดี-ชอบ-ประทับใจ เข้าทางเลย...ที่ ทำ�ให้ปา้ บุญมีโอกาสสร้างกุศลอีกแล้ว ณ สนาม บุญแห่งนี้ ขอบคุณแต๊ๆเจ๊า สาธุ...จี๊ดๆๆ v น้ำ�ใจผู้ประสานงาน จิ้งหรีดได้บินมาเกาะที่ชมร.เชียงใหม่ แอบดูแต่ละฐานงานทำ�งานกันอย่างแข็งขัน และมีผู้ดูแลฐานงาน มีปัญหาอะไรก็แจ้งผู้ ประสานงาน (ทำ�งานแบบขบวนการกลุ่ม) ทำ�ให้จิ้งหรีดได้มีโอกาสเรียนรู้การทำ�งาน แบบขบวนการกลุ่มไปด้วย ผู้ประสานงานทำ�งานหนักและเสียสละ เวลาของตัวเองเพือ่ ทุกสิง่ ทุกอย่างในร้าน วัน นี้จิ้งหรีดยังได้รับความเมตตาจากผู้ประสาน งานช่วยทำ�แผลให้ด้วยฮะ! ทำ�ให้บินได้ดียิ่ง ขึ้น เมื่อวานนี้จิ้งหรีดเกาะอยู่ที่ต้นเสา เห็น สมาชิกของร้านได้นำ�ลำ�ไยพันธุ์อีดอ เปลือก
ข่าวอโศก แข็งจำ�นวน ๙.๔ กก.มาร่วมขายครึ่งราคา จากราคาท้องตลาดในวันพระด้วย เพราะ ตั้ ง ใจว่ า ถ้ า เอาพื ช ผั ก ที่ ส วนมาส่ ง ตรงกั บ วันพระจะลดราคาให้ครึ่งนึงเพื่อร่วมบุญกับ ทางร้านฮะ และทุกวันพระทางร้านจะขาย ของราคาเท่าทุน เช่น สินค้าคกร. ห้องของ แห้ง มีลูกค้ามาอุดหนุนกันดี มีแม่ค้าเกษตร อินทรีย์จากอ.แม่ทามาร่วมขายผักไร้สารพิษ ด้วย เห็นบรรยากาศแล้วจิ้งหรีดชื่นชม...สาธุ ด้วยฮะ...จี๊ดๆๆ v เราโน่ ฝรั่งเอาถ่าน ตอน ๑ เมื่อก่อนเข้าพรรษา กลางปี ๒๕๕๙ นี้ คุณสิริมา ศรสุวรรณ หรือคุณหายโง่ ญาติ ธรรมชาวอโศก พร้อมสามีชาวฟินแลนด์คือ คุณเราโน่ ได้มาพำ�นักทีบ่ า้ นราชเมืองเรือ ซึง่ คุณเราโน่ แม้จะอายุมากเลยวัยเกษียณ แต่ ขยันขันแข็ง ไปช่วยงานเผาถ่านทีเ่ ตาเผาถ่าน หน้าโรงปุ๋ยพลังชีวิตอยู่ประจำ� แถมขึ้นป้าย หน้าเตาเผาถ่านว่า “Factory of Happiness” แปลเป็นไทยว่า โรงงานแห่งความสุข พ่อครู ผ่านไปทีไร ก็เห็นเราโน่ เนือ้ ตัวมอมแมม คลุก ถ่านจนดำ�ไปหมดอยู่บ่อยๆ จนพ่อครูให้ชื่อ ว่า “ฝรั่งเอาถ่าน” คุณหายโง่ ได้เล่าเรื่องของ คุณเราโน่ ผ่านจดหมายถึงพ่อครู เมื่อ ๒๓ พ.ค. ๒๕๕๙ ซึง่ เป็นเรือ่ งทีน่ า่ อนุโมทนาและ น่าติดตามว่า… ๒๓ พ.ค. ๒๕๕๙ กราบนมัสการพ่อครูที่เคารพ เราโน่ (ชื่ อ ทางธรรม”ฝรั่ ง เอาถ่ า น”) แพทย์วินิจฉัยเมื่อวันที่๑๑เมษายน ศกนี้ว่า เป็นโรคไตระยะ ๓ มีการติดเชื้อ และมีนิ่วใน ถุงน้ำ�ดี(ตรวจที่รพ.ค่ายสรรพสิทธ์ ที่วาริน) เมื่อเช้านี้ได้ไปตรวจอุลตร้าซาวน์ พบว่าไต เป็นปกติ ไม่มกี ารติดเชือ้ เหลือแต่นว่ิ ในถุงน้�ำ ดี แพทย์แนะนำ�ให้ไปผ่าตัดที่รพ.สรรพสิทธิ์ที่ อุบลฯ เพราะมีแพทย์เฉพาะทาง เราโน่แจ้งว่าจะไปฟินแลนด์วันที่๒๙ที่ จะถึ ง นี้ เ ป็ น เวลา๑เดื อ นจึ ง กลั บ เมื อ งไทย แพทย์จะนัดผ่าตัดหลังจากกลับจากฟินแลนด์ ก็ได้ แพทย์ถามว่าทำ�ไมไม่ผ่าตัดที่ฟินแลนด์ ไม่มีประกันสังคมหรือ (คือหมายถึงต้องจ่าย ค่าผ่าตัดเองใช่ไหม) เราโน่ตอบว่าฟินแลนด์ มีรฐั สวัสดิการดีมาก แต่ทนี่ นั่ อาหารมังสวิรตั ิ หากิ น ยาก ที่ ร าชธานี อ โศกเรามี อ าหาร มังสวิรัติและผักปลอดสารพิษทำ�ให้ร่างกาย ฟื้นตัวได้เร็ว ดิฉันเสริมว่าเราอยู่ในแหล่งมีรากหญ้า และสมุนไพรที่มีประโยชน์ แพทย์พยักหน้า “ครับๆ” แล้วเขียนจดหมายน้อยถึงแพทย์ เฉพาะทางแนบไปกั บเอกสารที่ จ ะต้ องไป พบแพทย์ที่รพ.ใหญ่ในอุบล ไปแล้ววนรถ ๒ รอบไม่มีที่จอดรถ วัดใกล้ๆที่รับฝากรถติด ป้าย “เต็ม” จึงเลิกล้มเรื่องที่จะผ่าตัดเอานิ่ว ออก แล้วมาที่ราชธานีอโศก ขุดรากหญ้าคา รากหญ้าขัดมอน รากเตย มารวมกัน ต้มกิน ต่างน้ำ�ต่อไป จากประสบการณ์ ดิ ฉั น มั่ น ใจว่ า ราก หญ้าทั้งสามนี้รักษาโรคไตได้ผลดีมาก กรณี เราโน่ ๑๗ วัน ได้ผลการอักเสบติดเชื้อลดลง
ไม่ต้องทานยาปฏิชีวนะ แต่ทั้งนี้ดิฉันคิดว่า มีกรรมดีเป็นองค์ประกอบสำ�คัญ เขาจิตดี ไม่มกี งั วล และช่วยงานสาธารณกุศลอย่างไม่ หวังผลใดๆ ขนาดจะไปโรงพยาบาลยังแวะดู เตาถ่านว่าวันนี้เปิดเตาได้หรือยัง เมื่อวานสมณะที่ประจำ�เตาไม่อยู่ เขา ก็ไปทำ�คนเดียว เราโน่ทานมังสวิรัติ (๙๙%) ตัง้ แต่ตน้ เดือนกุมภาพันธ์ ปี๒๕๕๗ เนือ่ งจาก ป่วย ขยับตัวไม่ได้ ปวดกระดูกมาก รักษา แนวทางแพทย์วิถีธรรม โดยหมอเขียวและ จิ ต อาสาแนะนำ�เป็นเวลา๗๑วันก็หายเป็น ปกติ จึงทานมังสวิรัติต่อเนื่องมาจนปัจุบัน และเลิกดื่มเหล้าเบียร์ แต่ก่อนดื่มเบียร์แทน น้ำ� (แกอ้างว่าน้ำ�เป็นบ้านของปลา home of fish เลยต้องดื่มเบียร์) เดี๋ยวนี้ถือศีลห้า ทานมังสวิรตั เิ พราะเห็นประโยชน์ในการดูแล สุขภาพกายและจิต จากน้�ำ หนัก ๑๑๕ กก. เมือ่ ๒๕๕๗ ค่อยๆลดเหลือ ๗๙ กก.ในวันนี้ ส่วน ยาลดความดัน เบาหวาน คลอเรสเตอรอล ซึ่งเคยใช้ประจำ�มา ๑๐ กว่าปี ก็เลิกตั้งแต่ เมษายน ๒๕๕๗ จนปัจบุ นั แข็งแรง สดใส แม้ จะมีนว่ิ ในถุงน้�ำ ดีกไ็ ม่มอี าการเจ็บป่วยอย่างใด ทำ�งานปกติ หากจะต้องมีการผ่าตัดเมื่อใดก็ ถือเป็นวิบากที่เลี่ยงไม่ได้ เราโน่เริ่มสนใจแนวทางพุทธที่พ่อครู สอน เขาขอให้ดิฉันสรุปที่พ่อครูเทศน์ ทุก ครัง้ กลับจากฟังธรรมจะถามว่า “เธอได้อะไร” ดิฉันอธิบายเรื่องสมาธิตามความเข้าใจที่มี เขาฟังแล้วบอกว่า สมาธิทไี่ ม่เกีย่ วข้องกับใคร เป็นดักแด้อยู่ในโคคูน (คือใยที่หุ้มตัวอ่อน) พอเป็นผีเสื้อก็บินชนโน่นชนนี่ ไปไหนไม่ถูก กราบขอบพระคุณพ่อครูที่เมตตาไม่ว่า ฝรั่ง มังคุด ท่านให้ความอบอุ่นทั้งสมณะ สิกขมาตุ ญาติธรรมทัง้ หลายก็มไี มตรี เมตตา กราบมาด้วยศรัทธาและเคารพอย่างสูง ...หายโง่... ได้อา่ นจดหมายของคุณหายโง่ แล้วก็ได้ เห็นถึงความมหัศจรรย์ของมิตรดี สหายดี สังคม สิ่งแวดล้อมดี อันเป็นข้อแรกของแสงอรุณ ทั้ง ๗ ที่จะนำ�ทางไปสู่มรรคมีองค์ ๘ ได้ อย่างสัมมาทิฏฐิ แม้คนต่างชาติ ต่างภาษา ต่างความเชื่อ ต่างศาสนา แต่เมื่อมาได้รับ แสงอรุณทั้ง ๗ อันสัมมาทิฏฐิ ก็ย่อมจะมอง เห็นมรรคมีองค์ ๘ อันเป็นแสงสว่างปลาย อุโมงค์กันได้แทบทุกคน...จี๊ดๆๆ v เป็นผู้ให้ จนหมดตัวหมดตน เมือ่ วันที่ ๑๕ ก.ค. จิง้ หรีดโฉบไปทีช่ มุ ชน ปฐมอโศกจึงได้มโี อกาสร่วมงานฌาปนกิจศพ อาม่าเง็กชุ้น แซ่อึ้ง ซึ่งเป็นดอกไม้งามของ ชาวปฐมอโศกมาหลายปี โดยอาม่าเง็กชุ้น เป็นคุณยายของท่านสมณะ แน่วแน่ สีลวัณ โณ และเป็นคุณแม่ของพระจุมพล หรืออดีต ท่านพลวิมตุ โต อาม่าเริ่มต้นรู้จักชาวอโศกก็ เพราะเคยมาถวายอาหารให้กบั พ่อครูในช่วง ที่ท่านจาริกมาที่จังหวัดนครปฐม ในช่วงที่ ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น ลูกชายคือพระจุมพล พยามยามชักชวนให้ปฏิบัติธรรมแบบชาว อโศก โดยกินอาหารมังสวิรตั อิ ยูน่ านหลายปี และเสียชีวติ ลงเมือ่ ปี ๒๕๑๙ ทางลูกๆหลาน
11
ก็จะนำ�ศพของท่านไปไว้ที่ฮวงซุ้ย ตามแบบ คนจีนที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งใน ระหว่างที่กำ�ลังหาสถานที่อยู่นั้น ก็ได้นำ�ศพ ไปไว้ที่แดนอโศกก่อน เป็นเวลาเดียวกับที่ อดีตท่านพลวิมตุ โตได้บวชกับชาวอโศกพอดี และลูกสาวของอาม่าก็ได้บริจาคที่จำ�นวน ๖ ไร่ เพื่อก่อตั้งชุมชนปฐมอโศกขึ้น ซึ่งที่ส่วนนี้ เป็นบริเวณเขตสมณะในปัจจุบันนี้ ลูกๆจึง ได้นำ�ศพท่า นมาเป็นดอกไม้ง ามที่นี่ เพื่อ เป็ น มรณานุสสติ คือให้ระลึกถึงความตาย สังขารนี้ไม่เที่ยง โดยใส่ไว้ในโรงแก้วและตั้ง ไว้ที่ศาลาหกเหลี่ยมบริเวณเขตสมณะตั้งแต่ นั้นเป็นต้นมา ต่อมามีเหตุการณ์พายุฝนทำ�ให้กิ่งไม้ หักลงมาถูกหลังคาศาลาแตก ทะลุมาถูกโลง กระจกแตก และกว่าจะซ่อมโลงกระจกซึ่งจะ ต้องมีการฉลุลายด้วย ก็ตอ้ งใช้เวลานานอีกทัง้ ยังหาช่างไม่ได้ด้วย ทางท่านสมณะแน่วแน่ สีลวัณโณ จึงได้ปรึกษากับทางญาติๆว่าน่าจะ ทำ�ตามประเพณีชาวพุทธ ด้วยการเผาจะดีกว่า เพราะสภาพศพของท่านมีสตั ว์มากัดแทะกิน ไปบางส่วนแล้ว เมื่อตกลงกันแล้วจึงได้มีการ ฌาปนกิจขึ้นที่เมรุปฐมอโศกฮะ จิ้งหรีดก็ซาบซึ้งและอนุโมทนากับลูก หลานของอาม่า และอาม่า ผูท้ เี่ ป็นผูใ้ ห้ตราบ ลมหายใจสุดท้ายจริงๆ...จี๊ดๆๆ v ขำ�ขัน...ใกล้วันลงประชามติร่าง รัฐธรรมนูญ ยิ่งใกล้โค้งสุดท้ายของวันลงประชามติ ร่ า งรั ฐ ธรรมนู ญ แล้ ว บรรยากาศในโลก ออนไลน์ก็เริ่มร้อนแรงฮะ มีคนเขาถามว่า ถ้ารับร่างรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร? ถ้าไม่รับ ร่างเป็นอย่างไร? แต่เขามาร้องอ๋อเมื่อได้ค�ำ อธิบายง่ายๆว่า “ร่างรัฐธรรมนูญ ก็เหมือน แตงโมนั่นแหละ เมื่อมีคนโยนมาให้เรา ถ้า เรารับมันก็ไม่หล่น แตงโมมันก็เป็นสีเขียว อยูอ่ ย่างนัน้ แต่ถา้ เราไม่รบั แตงโมมันก็หล่น แตก ก็จะเห็นสีแดงเต็มไปหมด อยากให้เขียว อยู่อย่างนี้ก็รับ เขียวจะได้เต็มเมืองต่อไป แต่ ถ้าอยากให้เต็มไปด้วยสีแดงก็อย่ารับ”...จีด๊ ๆๆ
v มรณัสสติ น.ส.บำ�รุง เชิดชูไทย (น้อย) อดีต นศ.กลุ่มรามบูชาธรรม เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๑๑ ก.ค.๕๙ อายุ ๕๑ ปี คุณแม่แฉล้ม ธรรมมา (แม่ของพี่ บุษบา ธรรมมา) เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๕๙ ฌาปนกิจที่วัดหนองตาด อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ยายจันทร์ รังษี ญาติธรรมฮอมบุญ อโศก อายุ ๘๒ ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๒๖ ก.ค.๕๙ ที่จ.น่าน รพ.มหาราชเชียงใหม่รบั ศพเป็นอาจารย์ใหญ่วันที่ ๒๗ ก.ค.๕๙ นายสมพล ศิริกากาญจน์ เป็นญาติ ธรรมเก่าแก่ อายุ ๘๑ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๒๖ ก.ค.๕๙ ทำ�พิธฌ ี าปนกิจทีว่ ดั ธาตุทองฯ กทม. เมื่อวันที่ ๓๑ ก.ค.๕๙
12
รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๕๙
รัฐบาลชวนคนไทยเลิกดืม่ ช่วงเข้าพรรษา ลัน่ ลุยฟันโรงต้มเหล้าเถือ่ น ฉบับที่ ๔๗๒ (๔๙๔) รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๕๙
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำ�เนิด โฆษกประจำ� สำ�นักนายกรัฐมนตรี เชิญชวนคนไทยลด ละ เลิก ดื่มสุราในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา วันงดดื่มสุรา แห่งชาติ ลั่นเอาจริงแก้ปัญหาเหล้าเถื่อน ชี้ ทำ� คนตายเพียบ พบตั้งอยู่แถวภาคเหนือ ชูพะเยา โมเดล แก้ปม อ่านต่อหน้า ๑๐
ภาพจาก www.komchadluek.net
สสส.จับมือ สคล.ชวนคนไทย
”งดเหล้าครบพรรษา พักตับทั่วไทย”
ภาพจาก www.thaihealth.or.th
นร.เมืองลับแลพร้อมใจใส่ผ้าซิ่นมาเรียน
ภาพจาก www.oknation.net
อ่านต่อหน้า
๑๐
วันออกพรรษา
๑๐
เ ย า ว ช น เ มื อ ง ลับแลพร้อมใจใส่ผ้า ซิ่ น พื้ น เมื อ งโบราณ ลับแลแทนกระโปรง มาเรียน ขณะที่รุ่นพี่ นำ�ขับเสภาเชิดชูชาติ ศาสนกษั ต ริ ย์ จั ด กิจกรรมสืบสานศิลป วั ฒ นธรรมไทยและ พื้นบ้าน อ่านต่อหน้า
โพลชี้วันอาสาฬหบูชา-
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยผลการ สำ�รวจความคิดเห็น ซึง่ วธ.ร่วมกับสวนดุสติ โพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำ�รวจความคิดเห็น ของเด็ ก เยาวชน ประชาชนทั่ ว ประเทศ จำ�นวน ๓,๐๒๙ คน เกี่ยวกับวันอาสาฬหบูชา วั น เข้ า พรรษา และวั น ออกพรรษา จาก สำ � รวจความคิ ด เห็ น กรณี ป ระชาชนคิ ด ว่ า จะเข้าร่วมกิจกรรมในวันสำ�คัญทางศาสนา วันใดบ้าง ร้อยละ ๖๑.๖๓ เข้าร่วมกิจกรรม วันอาสาฬหบูชา อ่านต่อหน้า ๑๐