6007 นสพ.ข่าวอโศกรวมปักษ์ ก.ค.481/503

Page 1

1

ฉบับที่ ๔๘๑ ข่ากวอโศก ธรรมะพ่ อท่าน(๕๐๓) : จงช่วยกันลดกิเลส เพื่อให้พ่อครู “หายเหนื่อย” เถิด น.๔ สกู๊ปพิเศษ : อโศกรำ�ลึ เพื่อสำ�นึก น.๙

บวรชาวอโศกจัดงานส่งเสริมพุทธศาสนา

วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา’๖๐

อ่านต่อหน้า

๖-๗

การจัดงานครบรอบ ๒๕ ปี ฉบับที่ ๔๘๑ (๕๐๓) รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๖๐

ศิษย์เก่าสัมมาสิกขาภูผาฟ้าน้ำ�

รวมตัวทำ�นา

อ่านต่อหน้า

อ่านต่อหน้า

อ่านต่อหน้า

งานคื๕ นสู่เหย้าศิษย์เก่าหินผาฯครั้งที่ ๓

อ่านต่อหน้า

งานคืนสู่เหย้า เข้าคืนรัง นศ.ปธ.

ตลาดนัดสีเขียว


2

รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๖๐

โรคหลอดเลือดสมอง (ตอนที่๓)

ตบะอะไรไม่ล้มง่าย ในช่วงเข้าพรรษา ชาวเราก็นิยม กันตัง้ ตบะ และต้องเป็นตบะหรรษา ตบะทีเ่ ราตัง้ จะหรรษาได้อย่างไร? ได้โดยการรู้สึกยินดี หรือสร้าง ความยินดีให้เกิดได้ขณะบำ�เพ็ญตบะ แล้ ว เราจะเกิ ด ความยิ น ดี ไ ด้ อย่างไร? การทำ � อะไรก็ ต ามที่ เ ราเห็ น ประโยชน์ชัดเจน เราก็จะสามารถ เกิดความยินดี หรือสามารถสร้าง ความยินดีให้เกิดขึ้นได้ง่าย เมื่ อ เราสามารถสร้ า งความ ยินดีในตบะที่เรามองเห็นประโยชน์ ชัดเจน ตบะที่เราตั้งก็จะไม่ล้มง่าย และสามารถเดินสูเ่ ป้าหมายของการ บำ�เพ็ญตบะ แต่อย่างไรก็ตามถ้าเราไม่มั่นใจ ก็ให้ตั้งตบะในระยะเวลาเป็นช่วงๆ เช่น ๑ เดือน หรือ ๑ ปักษ์ หรือ ๑ สัปดาห์ หรือ ๓ วัน เป็นต้น หากบำ � เพ็ ญ ตามระยะเวลาที่ กำ�หนดไม่นาน ก็อาจมีกำ�ลังใจ หรือ มีพลังในการบำ�เพ็ญ และเมื่อรักษา ตบะได้ตามกำ�หนด ก็จะได้ทบทวน ว่ า ตบะที่ ตั้ ง จะเหมาะกั บ เราไหม หรือเปลี่ยนตบะอื่นให้เหมาะสมกับ อินทรีย์พละของตน ถ้าสงสัย หรือไม่รู้ว่าตบะอะไร จึงจะเหมาะกับกรรมฐานของเรา ก็ สามารถปรึกษานักบวช ผู้รู้ หรือผู้มี ประสพการณ์ เราก็จะได้ตั้งตบะที่เหมาะสม กับตัวตนของเรา อันเป็นตบะหรรษา นั่นเอง แต่ถ้าตั้งไม่เหมาะสม หรือไม่ ถูกเหมาะกับตนก็จะกลายเป็นตบะ นรกได้!

เจริญ ธรรมค่ ะ...ฉบับ นี้ เ ป็ นตอนสุ ด ท้ า ยของโรคหลอด เลือดสมองแล้วค่ะ น่าสนใจตรงที่เป็นเรื่องของการรักษาค่ะ… “การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง” การรักษาขึ้นกับสาเหตุ ของโรคหลอดเลือดสมองว่าเป็นหลอดเลือดสมองตีบหรือหลอด เลือดสมองแตก โดยจะมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน • หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน เป้าหมายของการรักษา คือทำ�ให้เลือดไหลเวียนได้อย่างปกติ โดยทางเลือกในการรักษามี หลายวิธี ในบางกรณีแพทย์อาจให้ยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งพบว่าจะ ได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการและอาการแสดงของโรคหลอดเลือดสมอง และรีบมาโรงพยาบาลภายในระยะเวลาไม่เกิน ๔.๕ ชั่วโมง • หลอดเลื อ ดสมองปริ แ ตกหรื อ ฉี ก ขาด เป้ า หมายของ การรักษาคือการควบคุมปริมาณเลือดที่ออกด้วยการรักษาระดับ ความดันโลหิต ในกรณีที่เลือดออกมากแพทย์อาจพิจารณาทำ�การ ผ่าตัดเพื่อป้องกันความเสียหายต่อสมอง ที่อาจเกิดขึ้นหากมีการ เปลี่ยนแปลงความดันโลหิต

การป้องกันเป็นการรักษาโรคหลอดเลือดสมองที่ดีที่สุด และควรป้องกันก่อนการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง คือ ต้องควบคุม ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งเสริมให้หลอดเลือดเกิดการตีบ อุดตัน หรือแตก เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ หรือขาดการออกกำ�ลังกาย เป็นต้น • ตรวจเช็กสุขภาพประจำ�ปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง ถ้าพบ ต้องรีบรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำ�เสมอ • ในกรณีที่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่ทำ�ให้หลอดเลือดตีบ อุด ตัน หรือแตก ต้องรักษาและรับประทานยาอย่างสม่ำ�เสมอตาม แผนการรักษาของแพทย์ ห้ามหยุดยาเอง และควรรีบพบแพทย์ ทันทีถ้ามีอาการผิดปกติ • ควบคุมระดับความดันโลหิต ไขมัน และน้ำ�ตาลในเลือด ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ • ควบคุมอาหารให้สมดุล หลีกเลีย่ งอาหารรสเค็ม หวาน มัน • ออกกำ�ลังกายสม่�ำ เสมอ อย่างน้อย ๓๐ นาทีตอ่ วัน ๓ ครัง้ ต่อสัปดาห์ และควบคุมน้ำ�หนักให้เหมาะสม • งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ • ถ้ามีอาการเตือนที่แสดงว่าเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ชัว่ คราว ควรรีบมาพบแพทย์ถงึ แม้วา่ อาการเหล่านัน้ จะหายได้เอง เป็นปกติ • ผู้ที่เป็นหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันแล้ว แพทย์จะ ให้การรักษาโดยใช้ยาเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ�ของโรคหลอด เลือดสมอง แต่การใช้ยาเหล่านี้จำ�เป็นต้องมีการติดตามผลและ ใช้ภายใต้คำ�แนะนำ�ของแพทย์อย่างเคร่งครัด • ยังมีทางเลือกอืน่ ทีน่ า่ สนใจมากควบคูไ่ ปกับการรักษากับ แพทย์แผนปัจจุบันคือการ “ฝังเข็ม” ค่ะ จากประสบการณ์การฝัง เข็มช่วยฟื้นฟูสุขภาพและช่วยรักษาอาการโรคหลอดเลือดสมอง ได้ดีมากค่ะ แต่ต้องอาศัยความอดทนของผู้ป่วยด้วยค่ะ ซึ่งความ อดทนก็เป็นข้อหนึ่งของการปฏิบัติธรรมเช่นกันนะคะ เป็นอีกทาง เลือกที่ไม่ควรมองข้ามจริงๆค่ะ. ...กิ่งธรรม...


ฉบับที่ ๔๘๑ (๕๐๓)

ข่าวอโศก

3

ตลาดนัดสีเขียว

...ต่อจากหน้า ๑...

งานคืนสู่เหย้า เข้าคืนรัง นศ.ปธ. สมาคมนักศึกษาผู้ปฏิบัติธรรม (นศ.ปธ.) ครั้งที่ ๑๔ ได้ จัดงานขึ้นระหว่างวันที่ ๒๔-๒๕ มิ.ย. ๒๕๖๐ ณ สวนบุญผัก พืช คลอง๑๓ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี วันเสาร์ท่ี ๒๔ มิ.ย. ๒๕๖๐ เวลา ๖.๐๐ น. ตักบาตรพ่อครู สมณะและสิกขมาตุ บริเวณริมบึง ๗.๐๐ น. ชมสวนชวนคุย กับพ่อครู ๘.๐๐น. กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ และ ๐๙.๐๐น. เอื้อ ไออุ่น อย่างอบอุ่น โดยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานนีม้ ผี รู้ ว่ ม งานทั้งสิ้น ๒๐๙ คน โดยมี นศ.ปธ. ๕๗ คน นักเรียนสัมมา สิกขา ๙๑ คน และญาติธรรม ๖๑ คน ความรูส้ กึ ผูท้ ไ่ี ด้มาร่วมงานคืนสูเ้ หย้า เข้าคืนรังในครัง้ นี้ สิกขมาตุทองพราย “ประทับใจการเทศน์ของพ่อครู “หมู่นี้ดี” ก็ให้เข้ามาอยู่ร่วมกับหมู่กลุ่มร่วมสร้าง “บวร” ให้ ในงานนี้ให้สติเตือนใจลูกๆว่า “อย่าประมาท” เมื่อรู้ชัดว่า ประเสริฐจริง เราก็เจริญหมูก่ ลุม่ ก็เจริญเป็นประโยชน์ทง้ั สอง ส่วน และประทับใจ นศ.ปธ. บางคนหายหน้าหายตาไปนาน แต่ปีนี้ก็มา มีการเปิดใจให้กันเป็นบรรยากาศที่อบอุ่น และ มีศิลปินมาขับกล่อมบทเพลง “โลกุตระ” ทั้งนำ�เพลงที่พ่อครู แต่งมาบรรเลงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เห็นความเหนียวแน่นของกลุม่ รบธ. ตัง้ แต่รนุ่ แรกถึงรุน่ ปัจจุบัน แม้ทุกคนจะมีภารกิจสวมหมวกหลายใบ แต่ก็สละ เวลามาพบกัน ให้กำ�ลังใจกันและกัน รับรู้สารทุกข์และสุข ของการดำ�เนินชีวิตของกันและกัน เป็นการช่วยกันทำ�บวร (สิ่งประเสริฐ) ให้แข็งแรงและยั่งยืน แม้ความไม่เที่ยงของ กิจกรรม วันและเวลาที่ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม กับสุขภาพ “พ่อครู” ประทับใจซาบซึ้งมิรู้ลืม วาระเทใจให้กัน ได้รับรู้สุขและ ทุกข์ของชีวิตแต่ละคน เรื่องเล่าคืนวันเสาร์ที่ ๒๔ มิถุนายน เป็นความประทับใจในความวิริยะอุตสาหะในความตั้งใจ มาพบกันของทุกคน กลุ่ม นศ.ปธ. ก็คงเป็นวันเกิดความ เปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณทีย่ งิ่ ใหญ่เช่นกัน ได้จดุ ประกาย “บวร” ในหัวใจทุกคน ให้ประกาย “บวร” สว่างไสวเพื่อให้คน สำ�คัญมารับช่วง บวร ให้สอ่ งประกายไปตลอดกาลนาน เชิญ ชวนทุกคน “คุณคือคนสำ�คัญ” ที่จะมาช่วยทำ�บวร (ความ ประเสริฐนี้) ให้ส่องสว่างไสวไปนานเท่านาน”

ชาวอโศกได้ส่งเสริมกสิกรรมไร้สารพิษ รวมทั้งมีการ รณรงค์ให้รับประทานผักพื้นบ้าน เช่น อ่อมแซ่บ ผักหวาน ผักก้านตรง ผักบุ้งไทย เพราะปลูกง่ายและดีต่อสุขภาพของ ผู้ปลูกและผู้บริโภค ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ “ตลาดนัดพืชผัก ผลไม้ไร้สารพิษวันอาทิตย์” โดยพ่อครูได้เมตตาตั้งชื่อให้ คน ทั่วไปเรียกสั้นๆว่า “ตลาดนัดสีเขียว” ที่เกิดขึ้นในปี๒๕๕๔ เพือ่ เป็นช่องทางการจำ�หน่ายผลผลิตไร้สารพิษของกสิกร ไม่ ใช้สารเคมีทุกขั้นตอน ตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว คณะกรรมการก่อ ตั้ง คือ คุณ ดินนา โคตรบุญอาริยะ คุณพลอยไพร และคุณตายแน่ มุ่งมาจน เดิมทีเปิดจำ�หน่าย ผลผลิตไร้สารพิษที่ร้านกู้ดินฟ้า๑ พ่อครูสงวนสิทธิ์ให้เฉพาะ ญาติธรรมนำ�ของมาขายได้ กติกาคือ “มาขายของต้องมาฟัง ธรรม” ต้องถือศีล๕ ทานมังสวิรัติ ละอบายมุข เปิดจำ�หน่าย เวลา ๕.๐๐-๙.๐๐ น. มีญาติธรรมและนักเรียนสัมมาสิกขา นำ�ผักมาจำ�หน่ายให้ผู้ที่มาฟังธรรมวันอาทิตย์ได้ซื้อไปรับ ประทาน เช่น ผักหวาน ผักก้านตรง ผักบุ้งไทย อ่อมแซ่บ หลังจากนัน้ ย้ายมาทีล่ านจอดรถพลังบุญ ซอย๔๘ แต่ ทำ�ให้การจราจรติดขัดเนื่องจากมีพ่อค้าแม่ค้ามาก ในปี ๒๕๕๓-๒๕๕๔ จึงย้ายมาทีซ่ อยนวมินทร์๔๖ หรือซอยกลาง และขยายเวลาเพิม่ ในวันเสาร์ดว้ ย เริม่ วันเสาร์ที่ ๒๙ ก.ค.๖๐ รวมเป็นสัปดาห์ละ ๒ วัน คือวันเสาร์และวันอาทิตย์ ส่วน ในวันปกติจะมีญาติธรรมนำ�ผลิตผลไร้สารพิษที่ปลูกเองมา จำ�หน่ายถึงมือผู้บริโภคโดยตรง และยังมีสินค้าแปรรูปต่างๆ ที่ไม่ใส่ผงชูรส ปลอดภัยจากสารปรุงแต่ง นั บ ว่ า การส่ ง เสริ ม กสิ ก รรมไร้ ส ารพิ ษ ของชาวอโศก ประสบความสำ�เร็จ ทั้งผู้ปลูกและผู้บริโภคมีมากขึ้น ภาครัฐ ยังส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ทำ�ให้ผู้คนเข้าใจแนวทางมากขึ้น


4

รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๖๐

จงช่วยกันลดกิเลส เพื่อให้พ่อครู “หายเหนื่อย” เถิด

อาตมาก็เกิดมาทำ�งานนี้ ตัง้ แต่รตู้ วั อายุ ๓๖ ทำ�มาจนถึง วันนี้ อาตมาเลิกทีจ่ ะไปหาลาภ ยศ หาสรรเสริญ หาความสุข โลกีย์ แม้หาอัตตามาบำ�เรอ สร้างอัตตาตัวเองอีก อาตมา ชัดเจนว่าไม่มีแล้ว ทำ�ได้แล้ว อาตมาอวดหรือบอกไปจน หมดแล้ว ไม่ได้มาอวดอีก ทีพ่ ดู นีพ้ ดู รายละเอียดของสัจธรรม มาถึ ง วั น นี้ ไ ด้ ผ ลพอสมควร ได้ รู้ ค วามจริ ง ว่ า สั ง คม

พุ ท ธศาสนาในเมืองไทย มีคนสนใจมีคนที่จะรับได้เท่านี้ เท่านี้ เท่านั้น! นอกนั้นก็ หนึ่ง ไม่แยแสเลย สอง แยแสเหมือนกัน แล้วก็ตดั สินว่า เฮ้อ! ไม่ใช่ อย่างนี้ ไม่ใช่พุทธ สาม รู้ว่าพุทธเหมือนกัน แต่คงเป็นพุทธที่แปลกๆ สี่ มีอะไรดีเหมือนกันเข้าท่า มีการสนใจเพิ่มขึ้นพอ สมควร ห้า ก็คอื พวกคุณเข้ามาเอา ก็มคี นอยูใ่ นประเทศได้เท่านี้ ซึ่งอาตมาเอง ขอบอกอีกครั้ง ซึ่งบอกไปแล้วไม่รู้กี่ร้อย กีพ่ ันครั้ง ศาสนาพุทธยืนยาวมาถึง ๒๖๐๐ ปีนี้ ณ ปัจจุบันนี้ มันได้เสื่อมสูญไปหมดแล้ว นอกจากเสื่อมสูญแล้วเพี้ยน ผิดไป พากันออกนอกลู่นอกทาง ปรุงแต่งคำ�สอนวิธีการลง ไปทับถมศาสนาพุทธอีกเยอะ จนยากมากเลย ที่จะชะล้าง ทำ�ความสะอาดสิ่งสกปรกที่มาห่อหุ้มศาสนาพุทธนี้ ลำ�บาก ลำ�บนจริงๆ แต่ไม่มีทางเลือกที่จะต้องทำ� พูดจริงๆ มาถึงปีนี้วันนี้อาตมารู้สึกเหนื่อย ธรรมดา ก็ไม่เคยเกิดอาการอย่างนี้ อาการเหนื่อยนี้ เห็นว่าไม่ดี

แน่ๆ นีเ่ ป็นความรูส้ กึ นะ ไม่ใช่เรือ่ งของร่างกายเหนือ่ ยนะ พลังงานทางจิต มันสุดเหนือ่ ย ถ้าเหนือ่ ยทีห่ นักหนาสาหัส กว่านี้มันจะเหนื่อยหน่าย ถ้าอาการถึงหน่ายแล้ว อาตมา ว่าไม่รอดๆๆ อาการน่าเป็นห่วงตายแน่ๆไม่ดี เพราะฉะนั้นก็เลยต้องบอกสิ่งเหล่านี้แก่พวกเรา ให้ พวกเรารับทราบว่าอาการของอาตมามันชักอาการน่า เป็นห่วง บอกให้พวกเรารู้ ทีนี้บอกไปแล้วจะเกิดผลดีได้ อย่างไร พวกคุณก็จะต้องขมีขมัน กระตือรือร้น ช่วยอาตมา คนละไม้คนละมือขึ้นมาอย่างแท้จริง ที่พูดนี่ก็พูดความ จริง พูดสัจธรรมออกไป ก็ไม่ใช่เชิงขอร้อง แต่จะบอกว่า ให้อาตมาใช้ค�ำ พูดนีไ้ ปแล้ว หมายถึงว่าอาตมาขอร้องก็ได้ อาตมาก็ไม่มีปัญหา ขอร้องว่า น่าจะช่วยอาตมาบ้าง เพราะอาตมาก็อายุ ยาววันยาวคืน อายุก็ยืนยาวไปตามการหมุนของโลก. พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำ�ลึก ครัง้ ที่ ๓๖ ณ สันติอโศก วันที่ ๕ มิถนุ ายน ๒๕๖๐

ชื่อเดิม : น.ส.กุหลาบ วงษ์ลุน อายุ : ๔๐ ปี มีพี่น้อง ๕ คน เป็นคน ที่ ๔ สถานภาพ : โสด ภูมลิ ำ�เนาเดิม: อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา การศึกษา : ปริญญาโท เอกภาษาไทย คณะมนุษย์ศาสตร์ ม.นเรศวร

2 ชี วิ ต ก่ อ นรู้ จั ก ชาวอโศกและ ความเครียดน้อยลง รู้จักได้อย่างไร ? 2 การปฏิบัติธรรมของตนเอง รู้จักเมื่อปี ๕๗ ด้วยการแนะนำ�ของช่าง หรือมีวิธีการฝึกฝนตนเองอย่างไร ? คม (คุณปิยมล หาญชนะ) เพราะเป็นเพื่อน เข้าค่ายอุโบสถศีล ๘… มีโอกาสได้เข้า บ้านกัน ช่างคมก็แนะนำ�ให้มาที่สีมาอโศก ร่วมค่ายถืออุโบสถศีล ๘ ทีส่ มี าอโศกครัง้ แรก ตนเองก็มาฟังธรรมวันเสาร์ - อาทิตย์ เมือ่ มาที่ และมาร่วมต่ออีก ๔ ครัง้ ด้วยกัน ได้ประโยชน์ สีมาอโศกก็รสู้ กึ ประทับใจในอัธยาศัยทีย่ มิ้ แย้ม มากจากการได้มาอยูใ่ นหมูม่ ติ รดี สหายดี เรา แจ่มใส เบิกบาน ทักทายกันด้วยคำ�ว่า “เจริญ ได้กำ�ลังใจในการต่อสู้กับกิเลสจากการฟัง ธรรม” ได้มาเห็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย กินง่ายอยู่ คนอื่น เวลาพบกลุ่มกับท่านสมณะ สนทนา ง่ายของชาวอโศก ธรรมกับท่าน เราก็ได้ฟังเพื่อนๆที่เขามีกิเลส 2 รู้จักอโศกแล้วชีวิตเปลี่ยนไป อะไรบ้าง เขาต่อสู้อย่างไร มีวิธีเอาชนะกิเลส อย่างไร บางเรื่องก็ตรงกับเราเลยนะ มีกิเลส อย่างไร ? หลั ง จากนั้ น ก็ ไ ด้ ม าฟั ง ธรรมอยู่ บ่ อ ยๆ ตัวเดียวกันเลย ก็เอาวิธีการของเขาหรือที่ เมือ่ มีกจิ กรรมต่างๆทีส่ มี าอโศกก็มาร่วมเสมอ ท่านสมณะให้สัมมาทิฏฐิไปปรับใช้กับตัวเอง เป็นโสดสบาย... ตั้งใจเป็นโสดเพราะ ทำ�ให้เราได้ฝึกถือศีล ๕ มาลดละเลิกเนื้อสัตว์ ลง บวกกับมีปัญหาด้านสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว เห็นทางพ่อแม่ของเราลำ�บาก ครอบครัวมีลกู เป็นคนเครียดอยู่บ่อยๆ จนปวดหัวมาก จึง หลายคน พ่อแม่ตอ้ งขยันมาก ทำ�งานไม่หยุด ได้มาร่วมค่ายแพทย์วิถีธรรม ก็นำ�สิ่งที่ได้รับ เห็นท่านเหนื่อยมาก เพื่อที่จะดูแลลูกให้ได้ ไปปฏิบัติต่อที่บ้าน มาทานอาหารมังสวิรัติก็ จึงคิดว่าเราไม่พร้อมที่จะเหนื่อยแบบนี้ ไม่ เห็นผลเลยว่า ทำ�ให้สุขภาพดีขึ้น แข็งแรงขึ้น พร้อมจะมีภาระ จึงอยูเ่ ป็นโสดดีกว่า สบายดี

และโชคดี ที่ เรามี ก ลุ่ ม เพื่ อ นที่ เ ป็ น โสดกั น หลายคน เหมือนมีมิตรดี อุปสรรคของการถือศีล... ศีลที่ทำ�ได้ ยากและไม่บริสุทธิ์อยู่ คือ ศีลข้อ ๑ เพราะ เป็นคนทำ�อาหารให้ทบี่ า้ นทาน ทีบ่ า้ นยังทาน เนื้อสัตว์อยู่ ทำ�ให้เราต้องมีส่วนร่วมในการ ฆ่าสัตว์อยู่ ถึงแม้เราไม่ได้ทานเนื้อสัตว์แล้ว แต่ก็ต้องให้คนอื่นฆ่าปลา ทุบหัวปลามาให้ เราก็ต้มน้ำ� ทำ�เครื่องแกงไว้ให้ แต่ก็ไม่ลงมือ

ฆ่าเอง เพียงแต่เตรียมเครื่องแกง ต้มปลาให้ ทำ�ให้ยงั รูส้ กึ เป็นอุปสรรคทีท่ �ำ ให้เรารักษาศีล ข้อ ๑ ให้บริสุทธิ์ได้ยาก 2 ความมหัศจรรย์ของศีล... เห็ น ความมหั ศ จรรย์ ข องศี ล ...จาก ประสบการณ์ ที่ ตั ว เองมี ปั ญ หาทั้ ง สุ ข ภาพ กาย และปัญหาทางใจที่เคยเป็นคนเครียด ปวดหัวบ่อย พอมาถือศีล แล้วทุกอย่างมันดี ขึ้น ทำ�ให้เรามั่นใจในการถือศีล ๕ ว่า ศีลนี่! ช่วยรักษาโรคทั้งทางกายและโรคทางใจ ศีล ทำ�ให้เรามองเห็นตนเอง จากที่เมื่อก่อนเรา เครียดเพราะยึด ชอบเพ่งโทษคนอื่น มอง แต่คนอื่นผิด ฉันถูก พอมาถือศีลก็มาลดตัว ยึดลง สำ�รวมสังวรระวังมากขึ้น มีสติรู้ตัวที่ จะไม่รีบโทษคนอื่น การถื อ ศี ล ช่ ว ยทำ � ให้ เรามั่ น คงในการ ครองตนเป็นโสด จากทีเ่ มือ่ ก่อนตอนไม่มศี ลี ก็ยังมีแกว่งๆอยู่บ้าง ยังไม่มั่นคง แต่เราต้อง เอาจริงเอาจัง ถือศีลให้เคร่ง เราถึงจะค้นพบ ความสุขทีแ่ ท้จริง ถ้าบางครัง้ ตัวเองไม่จริงจัง ก็ไม่ได้ผลอะไร เชื่อมั่นว่าถ้าเรารักษาศีล ศีล ก็จะคุ้มครองเรา.


ฉบับที่ ๔๘๑ (๕๐๓)

ข่าวอโศก

5

การจัดงานครบรอบ ๒๕ ปี

วันเสาร์อาทิตย์ที่ ๑๗ – ๑๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๐ ได้มีการจัดงานครบรอบ ๒๕ ปี โรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศก คืนสูเ่ หย้าชาวฟ้าขาว มีทงั้ สมณะ สิกขมาตุ คุรุ รวมทัง้ ศิษย์เก่า ทุกรุ่นมาร่วมงาน หลังจากที่ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำ�หน้าที่ของตัวเองและเมื่อถึงเวลาก็ กลับมารวมตัวกัน ทำ�กิจกรรมร่วมกัน สานสัมพันธ์พนี่ อ้ ง รำ�ลึกถึงความหลังกันอีกครัง้ สำ�หรับ คนที่มีครอบครัว ต่างพากันหอบลูกจูงหลานมาให้ปู่ย่าตายาย อาๆทั้งหลายได้รู้จักมักคุ้น โดยกิจกรรมเริม่ ตัง้ แต่เช้าวันเสาร์ที่ ๑๗ มิถนุ ายน มีการลงทะเบียน พร้อมรับของทีร่ ะลึก กิจกรรมทั้งสองวันเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทำ�กิจกรรมร่วมกัน เป็นการสานสัมพันธ์พี่ๆน้องๆ ลูกๆหลานๆ มีทงั้ รวมตัวกันพบปะพูดคุยกับคณะคุรุ พร้อมทัง้ รับโอวาทจากท่านสมณะและ สิกมาตุ กิจกรรมสันทนาการเพื่อสร้างความเป็นกันเอง สนุกสนาน อบอุ่น ประสาคนคุ้นเคย ช่วงบ่ายจัดกลุ่มจัดเตรียมอาหาร กินข้าวหาดในตอนเย็นวันเสาร์ พร้อมกันนี้มีการแสดงทั้ง จากคณะคุรแุ ละนักเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศกทุกรุน่ ปิดท้ายความประทับใจสำ�หรับรายการ วันแรกด้วยการรับพรจากสิกขมาตุรินฟ้า นิยมพุทธ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๘ มิถุนายน ร่วมกันใส่บาตรพ่อครู ท่านสมณะ ท่านสิกขมาตุ จาก นั้นถ่ายรูปร่วมกันบริเวณหน้าเสาธง รวมกันทีศ่ าลาวิหารเพือ่ ทำ�พิธสี �ำ คัญ พิธไี หว้ครู ทัง้ จากศิษย์ เก่าและปัจจุบันเพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และน้อมรำ�ลึกถึงพระคุณครูที่อบรม

สั่งสอนวิชาความรู้ต่างๆ พร้อมทั้งให้ความรักและความอบอุ่นเสมอมา ปิดท้ายด้วยความ เมตตาจากพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ เอื้อไออุ่น และร่วมกันถ่ายรูปกับพ่อครู ซึ่งบรรยากาศเต็ม ไปด้วยความอบอุ่น ซาบซึ้ง ประทับใจกันถ้วนหน้า การจัดงานครบรอบนี้ มีทุกๆ ๕ ปี แต่หลังจากที่มีการประชุมร่วมกันของทุกฝ่ายมีมติ ร่วมกันว่า จะให้มีการจัดงานทุก ๓ ปี เนื่องจากท่านสมณะ สิกขมาตุ รวมทั้งคุรุทั้งหลายต่าง มีอายุที่มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามพี่ๆศิษย์เก่าก็จะพยายามหากิจกรรมอื่นๆ มาทำ�ร่วมกับ น้องๆร่วมกับชาวชุมชนอยู่เสมอ ความรู้สึกของศิษย์เก่าที่ได้มาร่วมงาน น.ส.พุทธลักษณ์ ไทยทัตกุล : ได้เห็นเพื่อนพี่น้องศิษย์เก่าที่มาร่วมงาน ช่วยงานกัน อย่างขยันขันแข็ง พบปะพูดคุยกันสนุกสนาน การแสดงมีสาระและได้ย้อนกลับไปเหมือน บรรยากาศเก่าๆ แต่สนุกสนานเพราะผู้แสดงอายุเพิ่มกว่าเก่ามาก ได้เห็นความเป็นพี่ ที่พี่ๆ รุน่ ใหญ่ๆเสียสละมาแสดงให้นอ้ งๆได้ฮากันตลอดรายการ ประทับใจการแสดงของคุรุ เหมือน กลับไปนั่งในห้องเรียนอาจารย์อุทินอีกครั้ง ประทับใจพิธีไหว้ครู ศิษย์เก่าและคุรุนั่งกันเต็ม ศาลาเหมือนบรรยากาศไหว้ครูเมื่อก่อนนี้ แม้แต่น้องๆสัมมาสิกขาก็ยังอยากให้นักเรียน สัมมาสิกขามีจำ�นวนมากและนั่งเต็มศาลาวิหารเหมือนอย่างพิธีไหว้ครูครั้งนี้

งานคืนสูเ่ หย้าศิษย์เก่าหินผาฯครัง้ ที่ ๓

เมื่อวันที่ ๑๕-๑๖ กรกฎาคม ที่ผ่านมา กลุ่มศิษย์เก่า รร.สัมมาสิกขาหินผาฟ้าน้ำ� จำ�นวน ๒๐ คนได้นัดพบรวมตัว กัน มาพบปะกันที่บวรหินผาฟ้าน้ำ� ภายใต้ชื่องานว่า “คืนสู่ เหย้าศิษย์เก่าตุ้มโฮม บวรหินผาฟ้าน้ำ� ครั้งที่ ๓ ” โดยการ ประสานงานของคุรุม่านพร ขวัญสำ�ราญ ศิษย์เก่ารร.หินผาฟ้าน้�ำ ทีร่ วมตัวกันมาครัง้ นี้ ได้รว่ มทำ� กิจกรรมที่เคยทำ�กันเมื่อครั้งยังเป็นเด็กนักเรียนสัมมาสิกขา หินผาฟ้าน้ำ� เริ่มด้วยการเข้าแถวเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสาใน ตอนเช้า จากนั้นรับมอบเสื้อสัญลักษณ์ศิษย์เก่า จากท่าน สมณะแก่นผา สารุปโป หลังจากได้รบั มอบเสือ้ ศิษย์เก่าแล้ว ศิษย์เก่าได้ชว่ ยกัน ทำ�กิจกรรมกตัญญูสถานที่ ด้วยการทำ� ๕ส บริเวณสถานที่ บวรหินผาฟ้าน้�ำ ถึงเวลาแสดงธรรมก่อนฉัน กลุม่ ศิษย์เก่าได้ เข้าร่วมฟังธรรมจากสมณะโดยพร้อมเพรียงกัน หลังฉันกลุ่มศิษย์เก่าได้เล่าประสบการณ์หลังจากจบ จากรร.สัมมาสิกขาหินผาฟ้าน้ำ� ออกไปใช้ชีวิตนอกบวรของ แต่ละคนแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ในภาคบ่าย ภายหลังจากการประชุมเปิดใจแลกเปลีย่ น ประสบการณ์กนั แล้ว กลุม่ ศิษย์เก่าก็ได้ท�ำ กิจกรรม ๕ส จนถึง

เวลาภาคค่ำ� ได้มารวมตัวกันที่ลานฟ้าม่วน เพื่อทำ�พิธีกราบ ไหว้ครูและผู้ใหญ่ในบวร ทำ�พิธีกราบไหว้ครูและผู้ใหญ่ในบวรแล้ว กลุ่มศิษย์เก่า ก็ได้ร่วมกันแสดงดนตรีโปงลางประกอบการฟ้อนรำ�ร่วมกับ ศิษย์ปัจจุบันและต่อด้วยการแสดงดนตรีและขับร้องเพลง ในช่วงเวลาของการทำ�วัตรเช้า สมณะแก่นผา สารุปโป ได้ให้ศิษย์เก่าแต่ละคนเปิดใจถึงเป้าหมายชีวิตของแต่ละคน แล้วธรรมวิจยั ให้ศษิ ย์เก่าได้เห็นถึงสาเหตุและหนทางการแก้ ปัญหาชีวิต และนำ�แนวทางการเลือกดำ�เนินชีวิตตามแบบ เศรษฐกิจบุญนิยมที่บวรหินผาฟ้าน้ำ� ความรู้สึกของผู้ที่ได้มาร่วมงาน... ทรงพล สูงรันต์ ศิษย์เก่ารุน่ ๒ “ภูมใิ จมากทีเ่ ห็นน้องๆ เพือ่ นๆ พีๆ ่ มารวมตัวกัน ในครัง้ นีแ้ ล้วก็ได้มาพบปะกับญาติ ผู้ใหญ่ในชุมชนและท่านสมณะ เป็นการมาเติมพลังใหม่ใน ครั้งนี้ ทุกคนที่กลับไปก็อาจจะหมดไฟบ้าง แต่มาครั้งนี้เป็น ความรูส้ กึ ทีว่ า่ ประทับใจเพือ่ นๆ พีๆ ่ น้องๆ ทุกคนมากครับ” น.ส.อาริสา ถานะ (อุ๊) “ก็เป็นศิษย์เก่าของสัมมาสิกขา หินผาฟ้าน้�ำ ค่ะ ทีม่ าร่วมงานนี้ ก็รสู้ กึ อบอุน่ ประทับใจ รูส้ กึ เป็น กันเอง เหมือนได้กลับมาบ้านอีกครั้ง กลับมาครอบครัวอีก

ครั้ง ได้มาเจอเพื่อนเก่าๆ รื้อฟื้นความทรงจำ�เก่าๆ มีความ สุขมากค่ะ สนุกมากค่ะ และก็อยากมาร่วมอย่างนี้ทุกปีค่ะ” คุรุม่านพร ขวัญสำ�ราญ “การมาคืนสู่เหย้าครั้งนี้เนี่ย เป็นครั้งที่ ๓ โดยเฉพาะครั้งแรกนี่เราจะให้โอกาส เพียงแต่ เชิญเขามา มาเป็นเจ้าภาพในการแจกอาหาร ในงานรวมๆ แล้วก็ประชุมพูดคุยกันบ้าง ครั้งที่ ๒ ก็ให้เขามาช่วย มาช่วย ในส่วนที่เขาจะช่วยได้ นอกจากจะเป็นเจ้าภาพแจกอาหาร แล้ว แต่ครั้งนี้มันเป็นอะไรที่เขาจัดขึ้นเอง โดยเฉพาะมันเป็น ช่วงที่เราจะต้องช่วยกัน เพิ่มพลัง ยกกำ�ลัง ให้กลุ่มของเราให้ บวรของเรา คือเราให้ความสำ�คัญเขาหมด ทุกเรือ่ งโยนให้เขา หมดเป็นของของเขาเอง เขาก็คิดขึ้นเอง ความรู้สึกของดิฉัน ก็เห็นว่า มันเป็นความสำ�เร็จระดับหนึ่งสำ�หรับเขา งานนี้เรา ให้เขาเพียวๆ ให้ความสำ�คัญเขาสุดๆ เขาก็ได้แสดงออก ได้ เต็มที่ เขาก็มารวมกันได้พอสมควรค่ะ”


6

รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๖๐

บวรชาวอโศกจัดงานส่งเสริมพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา’๖๐

ต่อจากหน้า ๑

วันอาสาฬหบูชา เป็นวันเพ็ญเดือน ๘ ปีนี้ตรงกับ วันเสาร์ที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ทุกบวรของชาวอโศกจัด กิจกรรมเพื่อสืบทอดพระธรรมวินัย และวันเข้าพรรษา ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๐ หมู่สงฆ์ได้ อธิษฐานพรรษาประจำ�ปีที่จะอยู่ประจำ�อาวาส ไม่ไป ค้างแรมทีไ่ หนหากไม่จ�ำ เป็น งานนีม้ กี ารถ่ายทอดสดการ เวียนธรรมของแต่ละบวรสลับกันไป

สีมาอโศก

มีผู้ร่วมกิจกรรมเข้าวัดฟังธรรมวันอาสาฬหบูชา ๒๓๐ คน ร่วมพุทธประเพณีใส่บาตรและฟังธรรมจากท่านสมณะ หลังจากนั้นได้ปฏิบัติบูชาด้วยการรวมพลังลงแขกถางหญ้า ทำ�แปลงผักบุง้ ไว้ตอ้ นรับค่ายแพทย์วถิ ธี รรม ซึง่ จะจัดในวันที่ ๒๗ ก.ค.ถึง ๔ ส.ค.๖๐ และตอนเย็นท่านสมณะเวียนธรรม

ราชธานีอโศก

กิจกรรมจัดอย่างเรียบง่าย ณ เฮือนศูนย์สญ ู ชาววัด ชาวชุมชนและนักเรียนมาฟังเทศน์ก่อนฉัน โดยสมณะ เดินดิน ติกขวีโร และในเวลา ๑๕.๐๐น. พ่อครูพร้อมท่าน สมณะร่วมปาฏิโมกข์ ภาคค่ำ�มีกิจกรรมเวียนธรรมและ การแสดงธรรมจากพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ในวันเข้าพรรษาชาวบ้านราชฯมารวมตัวฟังธรรม ในรายการ “วิถีอาริยธรรม” โดยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ในเวลา ๑๕.๐๐น. พ่อครูและหมู่สมณะที่ลงอารามจำ� พรรษา ร่วมกันอธิษฐานพรรษา และกำ�หนดเขตพุทธ สีมาที่แพโบสถ์ ในภาคค่ำ�มีการตั้งตบะของชาวชุมชน และนักเรียนสัมมาสิกขาที่ตั้งใจปฏิบัติในช่วงเข้าพรรษา ในระยะ ๓ เดือนนี้

ศีรษะอโศก

ณ บวรศีรษะอโศก ชาวชุมชน ญาติธรรม นักเรียน นักศึกษาวิทยาลัยสัมมาสิกขาศีรษะอโศก มาร่วมกันทำ� กิจกรรมในวันสำ�คัญทางพระพุทธศาสนา ในวันที่ ๘ ก.ค. ๖๐ ช่วงเช้าท่านสมณะแสดงธรรมเกี่ยวกับที่มาของวัน อาสาฬหบูชา ช่วงเย็นร่วมกิจกรรมเวียนธรรม การตัง้ ตบะ หรรษาวันอาสาฬหบูชาของแต่ละคนมีหลากหลาย เช่น ไม่กินจุบจิบ กินมื้อเดียว พูดคำ�หยาบให้น้อยลง ฯลฯ


ฉบับที่ ๔๘๑ (๕๐๓) ปฐมอโศก

ชาวชุ ม ชนและญาติ ธ รรมมาร่ ว มกั น ใส่ บ าตรวั น อาสาฬหบูชากันอย่างคึกคัก มีรายการสัมมนาพิเศษเกีย่ วกับ สุขภาพ โดยคุณนฤมล หรือคุณหมอเปีย นักกายภาพบำ�บัด ด้านระบบประสาทและสมอง จากรพ.โพธารามมาให้ความรู้ โดยมีสมณะคมลึก เมตตจิตโต และคุณไก่ ผู้ป่วยที่เคยป่วย เป็นอัมพฤกษ์มาเป็นแขกรับเชิญ ภาคค่�ำ มีการเวียนธรรม ณ ศาลาวิหาร โดยท่านสมณะ สิกขมาตุ ได้ให้หลักธรรรมและข้อคิดต่างๆ เพื่อให้ญาติโยม นำ�ไปปฎิบตั ิ หลังจากนัน้ มีการให้ความรูเ้ รือ่ งสุขภาพแบบองค์ รวม โดยคุณหมอวัชระ ก้อนแก้ว ผูเ้ ชี่ยวชาญเรื่องอายุรกรรม โรคหัวใจจากรพ.โพธาราม ในเช้าวันเข้าพรรษามีการแสดงธรรมก่อนฉัน โดยสมณะ ตรงมั่น อุชุจาโร และมีกิจกรรมภาคค่ำ�ที่ชาวปฐมอโศก ต่างมาร่วมตั้งตบะธรรม ปิดท้ายด้วยการให้โอวาทจากท่าน สมณะดาวดิน

ข่าวอโศก สันติอโศก

กิจกรรมวันอาสาฬหบูชาจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ช่วง เช้าชาวบวรสันติอโศกและญาติธรรมร่วมกันใส่บาตร เวลา ๑๘.๐๐น. มีกิจกรรมเวียนธรรม ณ ศาลาฟังธรรม มีผู้มาร่วม กิจกรรมจำ�นวนมาก

ภูผาฟ้าน้ำ�

หินผาฟ้าน้ำ�

ผู้ใหญ่ในชุมชนและเด็กนักเรียนต่างมาร่วมกันตั้งตบะ บำ�เพ็ญคุณ บำ�เพ็ญธรรม และร่วมกันชมการถ่ายทอดสด พิธีเวียนธรรมทางบุญนิยมทีวี

วันอาสาฬหบูชาในปีนมี้ กี ารฉลองศาลาใหม่ทลี่ านนา อโศก ซึง่ พ่อครูตงั้ ชือ่ ว่า “ศาลาทำ�ธรรม” มีกจิ กรรมทำ�วัตร เช้า นำ�โดยสมณะบินบน ถิรจิตโตและสมณะ ๔ รูป มีการ ใส่บาตรและฟังเทศน์กอ่ นฉัน ช่วงค่�ำ มีการเวียนธรรมฉลอง ศาลาใหม่ ญาติธรรมมาร่วมฟังธรรมอย่างสงบ

7

ทะเลธรรม

วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษามีกิจกรรมใส่ บาตร มีท่านสมณะจำ�นวน ๔ รูป นำ�โดยสมณะผืนฟ้า อนุตตโร ชาวชุมชนและญาติธรรมร่วมใส่บาตร และใน วันเข้าพรรษา มีญาติธรรมมาร่วมฟังธรรมก่อนฉันเป็น จำ�นวนมาก

ในวันเข้าพรรษา ๙ ก.ค.๖๐ มีการทำ�วัตรเช้าและ ใส่บาตร ซึ่งมีกิจกรรมพิเศษ คือ พิธีรับชุดของนักเรียน ชัน้ ม.๑และม.๔ ทีส่ อบผ่านเกณฑ์ สมณะบินบน ถิรจิตโต เป็นประธานในพิธี มีตัวแทนผู้ปกครองอ่านโอวาทจาก ผู้ปกครองทางบ้านให้นักเรียนฟัง ตัวแทนรุ่นพี่และคุรุ กล่าวต้อนรับนักเรียนใหม่ ปิดท้ายโดยสมณะบินบนนำ� ปฏิญาณตนและให้โอวาท บรรยากาศเป็นไปด้วยความ ซาบซึ้ง ประทับใจ


8

รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๖๐

ศิษย์เก่าสัมมาสิกขาภูผาฟ้าน้ำ�

รวมตัวทำ�นา

ต่อจากหน้า

กิจกรรมเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๐ ศิษย์เก่าที่จบการศึกษาจากโรงเรียนสัมมาสิกขา ภูผาฟ้าน้ำ�(สส.ภ.) จ.เชียงใหม่ ได้มีการนัดหมายรวมตัว โดยพร้อมเพรียงกันที่ชมร.เชียงใหม่ โดยบางส่วนก็เดิน ทางไกลมาจากกรุงเทพฯ ๑ คันรถตู้ โดยมีท่านสมณะ ลานศิลป์ วชิโร ซึ่งเคยเป็นท่านสมณะฝ่ายการศึกษาของ สส.ภ. เดินทางมาพร้อมด้วย บางส่วนก็เดินทางมาจาก ต่างจังหวัด บางส่วนก็อยู่ที่เชียงใหม่อยู่แล้ว จึงเดินทาง มาสมทบกันจำ�นวนเกือบ ๓๐ ชีวิต เมื่อมาถึงที่ชมร.เชียงใหม่ได้พักรับประทานอาหารร่วม กัน โดยมีบรรยากาศเก่าๆเมือ่ ครัง้ เป็นเด็กนักเรียนสัมมาสิกขา คือการนัง่ หลังตรง ล้อมวงกินข้าว และพิจารณาอาหารพร้อมกัน หลั ง จากรั บ ประทานอาหารเสร็ จ แล้ ว ที ม ศิ ษ ย์ เ ก่ า สส.ภ.ก็เตรียมออกเดินทางขึน้ ดอย เป็นระยะทางกว่า ๘๐ กม. ด้วยรถ ๖ ล้อ “จ้าวดอย” ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ ๒ ชัว่ โมง เพือ่ ขึน้ มาช่วยกันทำ�นาให้กบั ชุมชนภูผาฟ้าน้�ำ บ้านหลัง เก่าทีแ่ สนอบอุน่ ทีเ่ คยอยูร่ ว่ มกันมา ทีด่ อยแพงค่า ภูผาฟ้าน้�ำ โดยเมื่อมาถึง ทีมศิษย์เก่าทั้งชาย-หญิง ก็มากราบ ผู้ใหญ่ชาวชุมชนเพื่อขอช่วยงาน โดยมีแม่ทองธรรม เจน ชัย ผู้ประสานงานชุมชนภูผาฟ้าน้ำ� เป็นแม่ฐาน แบ่งงานให้ ศิษย์เก่า เมื่อได้รับงานแล้วต่างร่วมใจกันลงงานทันที โดย ฝ่ายชายแบ่งไปไถนา เตรียมแปลง ฝ่ายหญิงช่วยเพาะต้น กล้าเพื่อเตรียมกล้าข้าว ในช่ ว งเย็ น ศิ ษ ย์ เ ก่ า มี กิ จ กรรมพบปะพู ด คุ ย ถามไถ่ วิ ถี ชี วิ ต ของแต่ ล ะคนที่ ไ ด้ ไ ปเผชิ ญ โลกภายนอกว่ า เป็ น อย่างไรบ้าง และมีการพูดคุยเล่าเรื่องถึงอดีตเมื่อครั้งเคย เป็นเด็กสัมมาสิกขาภูผาฟ้าน้ำ� ว่าแต่ละคนมีวีรกรรมหรือ ความประทับใจอะไรให้จดจำ�บ้าง บรรยากาศเป็นไปอย่าง ธรรมชาติ อย่างครอบครัว อย่างพี่น้อง ที่มีเสียงหัวเราะ มี ความอบอุ่น และใบหน้าที่เปื้อนด้วยรอยยิ้มของทุกคน เช้าวันที่ ๒๘ มิถนุ ายน ๒๕๖๐ ศิษย์เก่าสส.ภ.นัดหมาย กันตืน่ นอนในเวลา ๐๔.๐๐ น. เพือ่ ร่วมกันทำ�วัตรเช้าในเวลา ๐๔.๓๐ น. ณ เฮือนญะกิ๋น โดยมีท่านสมณะ ๕ รูป นำ�โดย ท่านอ.๒ สมณะผืนฟ้า อนุตตโร และฟังธรรมะจากท่านสมณะ แต่ละรูป จนถึงเวลา ๐๖.๐๐ น. ต่อด้วยกิจกรรมใส่บาตรท่านสมณะ และลงฐานงาน ภาคเช้า โดยทีมศิษย์เก่าฝ่ายชายไปไถนาต่อ ส่วนฝ่ายหญิง ถางหญ้าแปลงดอกไม้จีนและทำ�อาหาร ภาคบ่ายเป็นกิจกรรมพบท่านสมณะและคุรุ เพื่อให้ โอวาทก่อนจาก ซึง่ คุรทุ มี่ าร่วมงานครัง้ นีจ้ �ำ นวนกว่า ๑๐ ท่าน

ได้ให้แง่คิด และฝากให้ลูกหลานมั่นคงในวิถีสัมมาสิกขาแม้ อยู่ในโลกภายนอก ปิดท้ายด้วยกิจกรรมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกัน ก่อนที่ จะเดินทางลงจากดอย และแยกย้ายกลับภูมิลำ�เนา ความรู้สึกของผู้มาร่วมบรรยากาศ สมณะลานศิลป์ วชิโร : อาตมาอดีตก็เคยเป็นสมณะ ฝ่ายการศึกษาทีน่ ี่ ก็คนุ้ หน้าคุน้ ตาหลายคน ทีเ่ คยดูแลมาสมัย เป็นนักเรียน อาตมาก็เป็นเหมือนคุรคุ นหนึง่ ทีว่ นั นีไ้ ด้เห็นลูกศิษย์ เห็นลูกหลานได้กลับมาบ้าน ก็ยนิ ดีมาก อาตมาก็เดินทางมา พร้อมทีมศิษย์เก่าฯที่มาร่วมกันที่สันติอโศกเลย ทุ่งดินมา นิมนต์แม้งานจะยุง่ ๆแต่กย็ นิ ดีอย่างยิง่ ทีจ่ ะได้มาเจอพวกเรา อีกทั้งศิษย์เก่ายังรวมตัวกันมาช่วยงานที่เป็นความ ต้องการของชุมชนด้วย งานทำ�นานี่เหนื่อยนะ และต้อง ทำ�แข่งกับเวลา เพราะทำ�ได้แค่ช่วงหน้าฝน บนดอยฝน ก็ตกทั้งวัน พวกเราก็ลุยงานกันเต็มที่ ตากฝนเปียกปอน แต่ด้วยพลังหนุ่มสาวทำ�ให้งานมันดูสนุกสนาน ครึกครื้น พรึ่บพรับ แป๊บเดียวงานก็สำ�เร็จ แม่ทองธรรม เจนชัย (ผู้ประสานงานชุมชนภูผาฟ้า น้ำ�) : แม่เห็นศิษย์เก่ากลับมาก็ประทับใจ จริงๆแค่ลูกหลาน กลับมาบ้านเรากันเฉยๆแม่ก็ดีใจแล้ว แต่นี่เห็นลูกหลาน ขวนขวาย อยากช่วยงาน มาถึงวันแรกเดินทางกันไกลมา ทั้งคืน เดินทางขึ้นดอยอีก ซึ่งไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงได้ แม่ นึกว่าจะให้พักผ่อนกันก่อน แต่ศิษย์เก่าเค้ามีไฟและมีใจ มาก มาถึงวางกระเป๋ากันได้ ก็มาขอช่วยงานเลย ยังไม่ทัน ไปที่พักกันเลย บนดอยตอนนี้ก็มีกันอยู่ไม่กี่คน แม่ก็เหมือนช่วยเฝ้า บ้าน รอลูกหลานกลับมา เห็นหนุ่มสาวมากันมันมีพลังมาก ทำ�ให้บนดอยสดชื่น คึกคัก มีเสียงหัวเราะ มีเสียงพูดคุยกัน สนุกสนาน งานเพาะต้นกล้าปกติแม่กบั คนบนดอยใช้เวลาทำ� กัน ๓ วัน ปวดหลังกันมากจนน้ำ�ตาจะไหล แต่เด็กๆใช้เวลา ทำ�กันเพียง ๓ ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว แม่เห็นบรรยากาศของความสนุกสนาน สาวๆศิษย์เก่า ก็สวยๆขาวๆกันหลายคน แต่ก็ลุยโคลน ลงนากันเต็มที่ ไม่ กลัวเลอะ กลัวเปื้อน ฝ่ายชายก็ลุยงานพร้อมน้องๆสัมมา สิกขาฝ่ายชาย น้องๆเขาก็มีรุ่นพี่เป็นตัวอย่าง เห็นพี่ๆลุย งาน น้องๆก็ลุยตาม ซึ่งแม่เห็นแล้วน้ำ�ตาจะไหล มันซาบซึ้ง มันดีใจ ที่ได้เห็นลูกหลานกลับมาบ้านอีกครั้ง คุรุดีบุญ เอื่ยมสุข (คุรุสส.ภ.) : ครูก็ดีใจที่ได้เห็นลูก ศิษย์กลับมา แม้สุขภาพครูจะไม่ค่อยดีนะ แต่พอได้รู้ข่าวว่า ศิษย์เก่าจะมารวมตัวกัน ครูก็อยู่เฉยไม่ได้ ต้องมาหา อย่าง

น้อยก็มาดูแลเรือ่ งอาหารการกินของพวกเรา ให้ได้กนิ อิม่ จะ ได้มีพลัง มีแรงช่วยงานชุมชนอย่างที่พวกเราตั้งใจ แม้จะไปอยูโ่ ลกข้างนอก ก็อยากให้ทกุ คนพยายามกลับ มาเยี่ยมโรงเรียน มาคบคุ้น มาหาน้องๆสัมมาสิกขาบ้าง เพราะน้องๆก็คิดถึงรุ่นพี่ เห็นรุ่นพี่ศิษย์เก่ามาน้องๆก็จะได้ มีกำ�ลังใจในการฝึกตัวเอง รวมทั้งครูก็ดีใจ คุรุกระจาย บุญยัง (คุรุสส.ภ.) : ตอนรู้ข่าวพวกเรา จะมารวมตัวกัน ครูก็อยู่เชียงราย มีธุระติดพันหลายอย่าง ใจอยากมาเจอพวกเรา แต่ก็ทำ�ใจไว้ก่อนเคลียร์ธุระให้เสร็จ ก่อนจนป้ารัตน์ (คุรุหนึ่งในธรรม บุญยัง) เห็นข่าวคราวพวก เราโพสต์ตามโซเชียล ไปทำ�นากันสนุกสนาน คนนู่นก็โพสต์ คนนีก่ โ็ พสต์ จนป้ารัตน์กอ็ ดไม่ได้ รีบเก็บข้าวเก็บของ บอกครู กระจายเราไปหาลูกหาหลานเรากันเถอะ ครูกร็ บี ขับรถบึง่ มา เลยจากเชียงราย ด้วยความคิดถึงพวกเรา และเอาสับปะรด มา ๑๐๐ กก. มาฝากพวกเราให้ได้กินกัน ครูก็อยากฝากว่า อย่าไปหลงโลกจนกลับมาไม่ได้นะ ครูก็เคยผ่านมาหมดแล้ว ชีวิตวัยรุ่น ทำ�มาหากิน หาเงินหา ทอง ซื้อบ้าน ซื้อรถ สุดท้ายแล้วชีวิตเราก็ไม่ได้ต้องการอะไร ไปมากกว่าตรงนี้ คือการมาหาสัจธรรม มาเข้าวัดฟังธรรม มากล่อมเกลาจิตวิญญาณให้พ้นทุกข์ ก็อยากให้พวกเราตื่น รู้เร็วๆ จะได้ไม่เสียเวลา นายทุ่งดิน แดงด้วง (ศิษย์เก่า สส.ภ.รุ่น ๖) : แรกเริ่ม จากที่ท่านอ.๑ (สมณะบินบน ถิรจิตโต) ถามผมว่าจะมาช่วย กันทำ�นาบนดอยมัย้ ? เพราะผมเคยปวารณากับท่านไว้วา่ จะ มาช่วยทีว่ ดั ทำ�นา จึงเริม่ วางแผนชักชวนเพือ่ นฝูง จากคนใกล้ ตัวก่อน แล้วเค้าก็ไปชวนๆกันต่อ ซึ่งตอนแรกผมไม่ได้คาดการณ์มาก่อนว่าจะมีศิษย์เก่า มาร่วมกันเยอะขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่าจะมากันแค่ไม่กคี่ น มี ผมกับโก๊ะก๊ะก็ขบั รถมอเตอร์ไซต์กนั มา ต่อมาเมือ่ คนเยอะขึน้ ก็เปลีย่ นจะเอารถเก๋งส่วนตัวกันมา ต่อมามีเพือ่ นๆอยากมา กันเยอะขึน้ อีก ก็เพิม่ รถอีกเป็น ๒ คันก็ยงั ไม่พอ พีแ่ ก่นคมก็เสนอ ว่าให้ยืมรถตู้ของสันติฯไปมั้ย ผมก็รีบยกมือไหว้อนุโมทนา สาธุท่วมหัวเลยครับ ๕๕ เมื่อได้มาที่ภูผาฯครั้งนี้ผมรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน ที่ นี่เป็นอีกครอบครัวที่เราเคยอยู่ เคยเรียน เคยเล่นมาตั้งแต่ เด็กๆ เมือ่ โตแล้ว มีอาชีพ มีงานทำ� พึง่ ตัวเองได้แล้ว ก็อยาก กลับมาช่วยงานที่วัด มาตอบแทนพระคุณท่านสมณะ คุรุที่ อบรมสั่งสอนจนเรามีวันนี้ครับ อีกอย่างได้กลับมาเจอเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ บรรยากาศ เก่าๆมันก็กลับมา ยังอบอุ่นเหมือนเดิม ...อ่านต่อหน้า๑๐


ฉบับที่ ๔๘๑ (๕๐๓)

สมณะบินบน ถิรจิตโต เปิดใจ

งานอโศกรำ�ลึกปีนี้เป็นปีแรกที่อาตมามีความรู้สึกว่า พ่อท่านไม่สดชืน่ เหมือนหลายๆปีทผี่ า่ นมา พอเห็นพ่อท่าน เป็นอย่างนั้น เวลาฉันก็รู้สึกว่าฉันลำ�บากกว่าเดิม เหมือน ตอนเห็นพวกเราถูกจับตอนทีช่ มุ นุมเหมือนกัน เห็นแล้วก็ฉนั ไม่คอ่ ยจะลงเท่าไหร่ แล้วก็พอ่ ท่านก็พดู หลายครัง้ ว่าเหนือ่ ย ว่าเมื่อย เป็นอย่างนี้ จนเมื่อวานเป็นรายการที่พวกเรา พยายามที่จะอาราธนาพ่อท่าน อาตมาก็รู้สึกซาบซึ้งตั้งแต่ เดินไปแล้ว อาตมาคิดว่ายัญพิธกี ม็ ผี ล ตอนลงมาก็เห็นความ ตั้งใจของพวกเรา ก็มีความซาบซึ้ง เทวดาก็มาทำ�ซาวด์เสียง ฟนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่าประกอบ แบบราคาถ้าซือ้ ด้วยเงินไม่ได้ เลยนะ มีไอน้ำ�เข้ามาให้เห็นชัดเจน ตอนที่พวกเราพูดถึงฟ้า ฟ้าก็รับรองไปด้วย อาตมานัง่ ก็น�ำ้ ตาไหลไปบ้าง ด้วยความซาบซึง้ ถึงความ จริงใจของลูกๆ ทีแ่ ม้มกี เิ ลสอยูน่ ะ แต่กพ็ ยายามทีอ่ ยากจะให้ พ่อท่านได้อยู่ และลูกๆ พยายามทีจ่ ะพัฒนาปรับปรุงตัวเอง ให้ดีขึ้น ถ้าถามว่าคนมาเยอะไหม บางคนก็บอกว่าไม่เยอะ แต่ถา้ ไปถามคนตึกขาวตึกนวล บอกว่าเยอะแน่นอน เพราะ ขาแทบจะเกยกันตั้งแต่วันแรกเลย และปกติงานพวกเราจะ มีแค่สองวันวันที่ ๙ ที่ ๑๐ คนก็จะมาเยอะ แต่ตอนนี้งาน อโศกรำ�ลึกเราชักจะหลายวันแล้ว คนก็จะมาทั้งช่วงจังหวะ งาน ช่วงวันที่ ๕ ครั้งหนึ่ง แล้วก็วันที่ ๙ อีกครั้งหนึ่ง ส่วน วันที่ ๑๐ เป็นวันเงียบ วันง่ายๆ วันเล็กๆน้อยๆ วันอิ่ม วัน ลึก ฯลฯ ซึ่งเป็นวันอิสระของแต่ละคนไป ก็มองดูว่างานครั้งนี้ก็ไม่เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา ใน ความรู้สึกส่วนตัว เวลาพ่อท่านบิณฑบาตเหมือนเดินไป เฉยๆ แต่วา่ จะมีชวี ติ ชีวาหน่อยตอนแสดงธรรม แต่กส็ ะท้อน ใจในบางอย่าง ในแต่ละครัง้ ทีพ่ อ่ ท่านพูด จะพูดครัง้ แรกหรือ ครัง้ สองก็ตาม ยิง่ มาประชุมคุรดุ ว้ ยนะ คุรขุ อนิมนต์ให้โอวาท พ่อท่านบอกไม่มีโอวาทจะให้แล้ว รู้สึกมันเต็มแล้ว ดูพวก เราก็เต็ม คนข้างนอกก็เต็ม อาตมาก็สมควรตายได้แล้วนะ พวกเราก็นิ่งอึ้งไปเลย และก็มีพวกเราบางคนบอกตายไม่ได้ นะ พ่อท่านบอกมันห้ามได้อย่างไงความตาย อาตมาก็เลยนึกถึงพุทธกาลว่าตอนที่พระพุทธเจ้าได้ ปรินิพพาน ท่านตอนนั้นอายุ ๘๐ นะ แต่ตอนนี้อายุ ๘๓ พ่อท่านก็เหมือนจะปลงๆ นีน่ ะ พวกเราก็ยงั สะเทือนขนาดนี้ นะความรูส้ กึ แล้วถ้ายิง่ ตอนพระพุทธเจ้าปรินพิ านตอนอายุ ๘๐ นีจ่ ะขนาดไหน ก็เลยไม่สงสัยทีม่ เี ทวดามากลิง้ เกลือกดิน แล้วก็สยายผม ร้องห่มร้องไห้อะไรประมาณนั้น ก็เลยเข้าใจ อาตมาก็นึกถึงตัวเองว่า อาตมาจะร้องไห้หรือเปล่าน้อ ถึง ตอนนั้นจะควบคุมน้ำ�ตาได้หรือเปล่าน้อ ในวันนั้น แต่ก็คิด ว่าทุกอย่างมันก็เป็นไปตามธรรม หน้าที่เราคือไม่ใช่หน้าที่ห่วงคนอื่น แต่หน้าที่ที่เรา ห่วงตนเองที่จะทำ�ตามที่พ่อสอนให้มากที่สุด อาตมาว่า อันนีเ้ ป็นจุดทีจ่ ะช่วย เป็นสิง่ ทีอ่ โศกพึงรำ�ลึกในเรือ่ งของ จิตวิญญาณ โดยเฉพาะการพัฒนาตนเองเป็นหลัก ไม่ใช่ ว่ามุ่งหางานเพื่อหาเงิน จนกระทั่งไม่ใส่ใจลูกหลานและ ไม่ใส่ใจในจิตวิญญาณของตนเอง ตรงจุดนั้น อาตมาว่าปีนี้เป็นปีที่เป็นจุดที่จะตราตรึงไว้ในชีวิตของ อาตมาทีไ่ ด้บวชมา และก็ได้มาพบสิง่ ทีไ่ ม่นกึ ว่าปีนจี้ ะมีความ รู้สึกแบบนี้เกิดขึ้น หรือเจอเหตุการณ์อย่างนี้ มานึกอีกทีพ่อ ท่านก็ ๘๐ กว่าแล้วนะ จะ ๙๐ เหรอ หรือจะ ๑๐๐ เหรอ แล้วถ้าพ่อท่านอยูถ่ งึ ๘๐, ๙๐, ๑๐๐ แต่เราก็ไม่เปลีย่ นแปลง อะไรเลย พ่อท่านจะอยู่เพื่ออะไรหละ??

ข่าวอโศก

เพราะพ่อท่านอยู่ก็เพื่ออยู่ดูความสำ�เร็จของลูกๆ แต่ละคนมากกว่า สมณะฟ้าไท...สิ่งหนึ่งที่อาตมาสะดุดใจในงานนี้ อาตมาพูดในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ มีครูบาอาจารย์ที่ สอนเรามานาน อาตมาบวชมา ๓๐ ปี บวชมาตั้งแต่ ๒๕๒๙ ปัจจุบันก็เป็นครูสอนเด็กอยู่เป็นประจำ� ก็ไม่เคยพูดคำ�นี้กับ เด็กๆ แต่เราได้ยินครูบาอาจารย์พูดกับเราว่า...ขอร้อง คือ มีความรู้สึกว่า เรามีปัญหาในตัวเรา ทำ�ไมต้องขอร้องเรามา ฟังธรรม ทำ�ไมต้องขอร้องเรามาช่วยเหลืองานด้วย ความจริงฐานะเราเป็นลูกศิษย์ เราน่าจะขวนขวายใน การมาฟังสิ่งที่ดีที่สุดในโลกที่ท่านจะมอบให้ หรือเราควรจะ ช่วยเหลืองานของครูบาอาจารย์อย่างเต็มที่ ไม่ตอ้ งขอร้อง มี อะไรทีต่ อ้ งขวนขวายก็ตอ้ งรีบขวนขวายช่วยเหลือ แต่ค�ำ นีไ้ ด้ พูดฟังซ้ำ�มาในงานนี้สองครั้ง ก็ไม่อยากให้มีครั้งที่ ๓ มันเป็นความรูส้ กึ ของคนทีเ่ คยเป็นครู แล้วก็ยงั เป็นครูอยู่ แล้วก็ได้ฟงั ครูบาอาจารย์พดู กับเราแบบนีอ้ ยู่ เราต้องมาตรวจ สอบตัวเราเอง ว่าเราบกพร่องในสิง่ ตรงไหนทีเ่ ราจะต้องแก้ไข อย่างยิง่ แล้วท่านก็มอี ายุทยี่ าววันยาวคืน แล้วกำ�ลังท่านก็ลด ถอยน้อยลง ในความรู้สึกของเรา แม้ตัวพ่อครูเองจะบอกว่าท่านไม่ได้ถอยลง ท่านก็ยัง แข็งแรง แต่ในความรูส้ กึ ว่าท่านก็ลดน้อยถอยลง เรายังขีเ้ กียจ อยู่ มันก็เป็นสิ่งที่เราน่าจะได้ปรับปรุงแก้ไข เมื่อวานท่าน บอกว่าท่านเมือ่ ยแต่ไม่ทอ้ เมือ่ ยเพราะว่า ท่านใช้ค�ำ ว่าเมือ่ ย เพราะเมื่อยใจ ทำ�สิ่งนี้ยากฉิบหาย ฟังแล้วได้เห็นว่าตัวเรานี้ มันโคตรยากเลย ท่านก็บอกประเด็นด้วยว่า ทีม่ นั ยากเพราะคนมัน “ยึด” มีอุปาทาน ๔ ครบ ท่านเขียนไว้ในถอดรหัสนิพพาน อัตตา อนัตตา นิรัตตา เขียนไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ท่านให้คำ�จำ�กัด ความอุปาทานไว้ว่า “อุปาทานตัวนี้มีความหมายว่า การ ยึดถือด้วยอวิชชา การอาศัยด้วยอวิชชา การเกาะอยู่ติด ด้วยอวิชชา ฯลฯ เป็นต้น หรือหากเจาะลึกขึน้ ไปอีกก็หมายถึง ลักษณะจิตของผู้อวิชชาก็คือ ยังเหลือเชื้ออวิชชา ยังหลง สะสมเสบียงเพือ่ ตน ยังติดยังแอบเสพอาหารทีเ่ กิดก่อตัวตน ยังมีภพเป็นแดนวิมานเครื่องอาศัยที่ตนอาศัยอยู่ ยังไม่เป็น อนัตตานั่นเอง” อุปาทาน ๔ อย่างคือ ๑.กามุปาทาน ๒. ทิฏฐุปาทาน ๓.สีลพัตตุปาทาน ๔.อัตตวาทุปาทาน ซึง่ ท่านก็บอกว่าคนทุก วันนี้ยึดติดในเรื่องกาม ลาภ ยศ สรรเสริญมาก ในความรู้สึก ของอาตมา ตามความเห็นส่วนตัวนะ ว่าถ้าเราเป็นครู เราจะ รูส้ กึ เหนือ่ ยทีส่ ดุ ก็คอื ลูกศิษย์ทมี่ าอยูใ่ กล้ชดิ กับเรามากแต่ไม่ ลดกิเลส สอนแล้วสอนอีกก็ยังเฉยอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งช้าแล้วก็บอกยาก ลักษณะนี้มันทำ�ให้รู้สึกว่าครูบา อาจารย์ต้องเหนื่อยเพราะเราด้วยที่เราไม่ลดกิเลส เรายัง ยึดถือ ไม่มคี วามเพียร ไม่ตงั้ ใจทีจ่ ะลดละกิเลส พ่อท่านก็เห็น เราอยู่ทุกวัน ทุกเวลา ท่านเห็นเราท่านก็รู้จักเราอยู่เสมอๆ ยิง่ กว่าเรารูจ้ กั ตัวเราเองเสียอีก เพราะบางทีเราก็ไม่รจู้ กั ตัวเอง ในสิ่งที่เราแสดงออกมา ท่านก็รู้จักรายละเอียดของเรามาก โดยเฉพาะเราใกล้ชิดกับท่านอยู่เสมอๆ ในประเด็นนี้อาตมาก็รู้สึกสะท้อนใจตัวเอง ว่าเราจะ ต้องฝึกฝนตัวเราเองให้มาก พากเพียรตัวเองให้มากขึน้ ในสิง่ ทีเ่ รายังค้างคา ในสิง่ ทีเ่ รายังเหลือกิเลสอยู่ อาตมารูส้ กึ ว่าทำ� อย่างนีแ้ หละเป็นการช่วยเหลือพ่อครู ถ้าเราได้ลดความเห็น แก่ตวั ลงมากเท่าไหร่ ลดความเป็นตัวตนเรามากได้เท่าไหร่ ก็ ยิ่งจะช่วยเหลือท่านได้มากเท่านั้น

9

สมณะเดินดิน...จะช่วยกันต่ออายุพอ่ ครูได้อย่างไร?

อายุของสมณะคืออิทธิบาท ดังนั้นเราก็จะต้องช่วยกัน ทำ�ให้พอ่ ครูเกิดอิทธิบาททีจ่ ะช่วยเหลือพวกเราต่อได้อย่างไร แต่ตอนนี้พ่อครูรู้สึกว่าพวกเรา “เต็ม” กันแล้ว ข้างนอกเขาก็ เต็มของเขาแล้ว พ่อครูกเ็ ลยรูส้ กึ เหนือ่ ย ประกอบกับสังขารที่ เป็นเหมือนหัวรถจักรทีล่ ากโบกีพ้ นั ๆโบกีม้ าเป็นเวลาช้านาน ก็รู้สึกว่ามันเหมือนกับน่าจะพอได้แล้ว ดังนัน้ คำ�อาราธนาทีพ่ วกเราขอให้พอ่ ครูอยูไ่ ด้ถงึ ร้อยปี พันปี คงไม่มีน้ำ�หนักอะไรที่จะทำ�ให้พ่อครูยินดีขึ้นมาได้ เพราะคำ�อาราธนามันเป็นเพียงแค่ลมปากเฉยๆ ในภูมิของ อาตมาคิดว่า สิง่ ทีน่ า่ จะมีน�้ำ หนักมากกว่านัน้ ก็คอื การปฏิบตั ิ บูชาที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญว่า เป็นการบูชาที่สูงสุดยิ่งกว่า การบูชาใดๆ อาตมาคิดว่าเราสามารถบูชาพ่อครูได้ดว้ ยการ ปฏิบตั บิ ชู า นัน่ คือการเปลีย่ นแปลงตัวเอง เพราะความสำ�เร็จ ของลูกๆ คือความสำ�เร็จของพ่อครูดว้ ย เป็นความภาคภูมใิ จ ของพ่อครูดว้ ย ดังนัน้ ถ้าเราเปลีย่ นแปลงตัวเราเองได้ ในการ แก้ไขสักกายะของเรา ลดอัตตา ลดความเอาแต่ใจตัวของเรา เปลี่ยนจิตวิญญาณดวงใหม่ได้ ก็คงจะเป็นที่ทำ�ให้พ่อครู ไม่รู้สึกว่าพวกเราเต็มกันแล้ว ที่สำ�คัญก็คือต้องลดความขัดแย้งกัน อยากจะให้ชาว อโศกเน้นเรื่อง “เจโตปริญญาณ” การตามรู้กิเลส โลภะ โทสะ โมหะของตัวเอง ปัญหาความขัดแย้งกัน เกิดจากพวก เรา “ใช้เจโตอันธพาล” การไปเทีย่ วรูก้ เิ ลสของเพือ่ น แล้วไป หาทางจัดการกิเลสของเพื่อน โดยปล่อยให้กิเลสของตนเอง บงการกดหัวบีบคอเราอยู่อย่างไม่ลืมหูลืมตา อาตมาคิดว่าสิง่ ทีพ่ อ่ ครูนา่ จะเกิดฉันทะเกิดอิทธิบาทใน การทำ�งานขึน้ มา เพราะเห็น “ความสามัคคี-ความเป็นเอกี ภาวะ” ของพวกเรา พวกเราคงจะต้องฝึกอยูก่ นั แบบเหมือน พ่อครูจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่ต่างกัน พวกเราก็อยู่กันได้ต่อไป สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็เพราะว่า เราทุกคนพยายามเก็บความ เอาแต่ใจตัวของตัวเอง เก็บทิฏฐิของตัวเอง โดยทำ�งานกันเป็นระบบ “ขบวนการกลุ่ม” (ปัญหา เกิดจากขบวนการกู โดยเอากูเป็นหลัก) ต้องเอามติของ หมู่เป็นตัวประสานสัมพันธ์ เป็นตัวสามัคคีซึ่งกันและกัน ถ้า เราลดความเอาแต่ใจตัวหรือไม่ยดึ ทิฏฐิของเรา ความสามัคคี ความเป็นเอกีภาวะ ความพรั่งพร้อมก็จะเกิดขึ้น พ่อครูก็ จะรู้สึกมั่นใจว่าท่านอยู่หรือท่านไม่อยู่ หมู่กลุ่มก็เดินไปได้ เพราะมีระบบที่มั่นคงแข็งแรงแล้ว สิ่งสำ�คัญในงานนี้ท่ีพ่อครูเน้นก็คือ ความเจริญรุ่งเรือง ของ “บวร” ดังนัน้ ชาวบวรแต่ละทีค่ งจะต้องไปช่วยกัน คิดถึง เรื่องสร้างคน ทุกวันนี้มันเหมือนกับเราเผินๆ จนไม่มีเวลา ฟังธรรม แม้แต่รับผิดชอบวิญญาณตัวเราเองก็ไม่มี เพราะ มัวไปสร้างงาน มัวไปหาเงิน ให้น�ำ้ หนักของโลกธรรมมากกว่า น้�ำ หนักของโลกุตรธรรม คำ�ว่าบวร มันก็เลยกลายเป็นบ้างาน บ้าเงินไป เราอยู่ กับพ่อครูมาสี่สิบกว่าปี จะเห็นได้ว่างานที่พ่อครูทำ�ทั้งวันทั้ง คืนคืองานสร้างคนอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ดังนั้นถ้า ชุมชนแต่ละแห่ง คิดถึงเรื่องของการสร้างคนสร้างทายาท สร้างความอบอุ่นซึ่งกันและกัน ให้เป็นบวรที่อบอุ่น และ รุง่ เรืองขึน้ มา สิง่ นีก้ น็ า่ จะเป็นสิง่ ทีท่ �ำ ให้พอ่ ครูเกิดความยินดี ที่จะได้อยู่ช่วยลูกๆ กันต่อไป. รายงานจากกองงานปัจฉาพ่อครู


10 ร.๑๐ โปรดเกล้าฯ

รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๖๐ (ต่อจากหน้า ๑๒)

ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้จดั โครงการสัปดาห์จติ อาสา ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๐ โดยมีพระราชปณิธานที่จะให้ร่วม กันบำ�เพ็ญประโยชน์ในพืน้ ทีส่ าธารณประโยชน์ตา่ งๆ บริเวณ รอบพระราชวังดุสิต เป็นการทำ�ความดีถวายเป็นพระราช กุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในกิจกรรม “เราทำ�ความ ดี ด้วยหัวใจ” ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหาร รักษาพระองค์ ร่วมกับข้าราชบริพารในพระองค์ และหน่วย งานราชการในเขตพื้นที่ รวมทั้งประชาชนจิตอาสา ทำ�การ ขุดลอกคูคลอง เก็บขยะมูลฝอยสิ่งปฏิกูลและสิ่งที่กีดขวาง ทางระบายน้ำ� รวมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์ ทำ�ความสะอาด ใน บริเวณคลองส้มป่อย ชุมชนสุโขทัย ซอย ๙ แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีประชาชนในเขตพื้นที่เข้ามาร่วมเป็นจิตอาสา ใน การร่ ว มทำ � กิ จ กรรมต่ า งๆ รวมทั้ ง ร่ ว มสนั บ สนุ น การทำ � กิจกรรม เช่น การให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยความ เสียสละและความร่วมมือร่วมใจที่จะร่วมสืบสานพระราช ปณิธานในการช่วยดูแลชุมชนของตนให้สะอาด เรียบร้อย ถูกสุขลักษณะอนามัย อย่างยั่งยืนต่อไป (โดย MGR Online : ๒๓ มิ.ย.๖๐)

ศิษย์เก่าสส.ภ.รวมตัวทำ�นา (ต่อจากหน้า๘) ทำ�ให้ได้คิดถึงวีรกรรมต่างๆที่เราเคยทำ�มาสมัยเป็น นักเรียนสัมมาสิกขาด้วย พอเวลาผ่านไปมันก็เป็นความทรงจำ� ทีม่ คี ณ ุ ค่า ทำ�ให้เราพูดคุยกันอย่างมีความสุข สนุกสนานครับ นายปภัส ทรายคำ� (ปอนด์) ศิษย์เก่าสส.ภ. รุ่น ๓ : ผมก็จบไปนานหลายปีแล้วครับ เป็นรุน่ แรกๆของภูผาฯ เราก็ รูส้ กึ รักทีน่ ี่ เพราะเราเติบโตมาจากการเป็นเด็กดอย ได้มาทำ� นาก็มาย้อนอดีต สมัยเด็กๆเราก็เคยฝึกทำ�นา ฝึกพึ่งตนเอง จนทำ�ให้ทุกวันนี้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถทำ�มาหากิน พึ่งตนเองได้ครับ ทุกวันนี้ผมก็มีความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งที่ได้มาจาก สัมมาสิกขา นั่นคือการทานอาหารมังสวิรัติครับ ยังมั่นคง ตลอดไม่ เ คยตกหล่ น เพราะตั้ ง ใจไว้ ว่ า แม้ จ ะอยู่ ใ นโลก ภายนอก เราต้องมีอะไรยึดเหนีย่ วจิตใจซักอย่างหนึง่ ให้เป็น ความภาคภูมิใจในชีวิต ผมก็เลยเลือกที่จะภาคภูมิใจในสิ่งนี้ จะทานอาหารมังสวิรัติให้ได้ตลอดชีวิตครับ

พระราชทานข้าว

(ต่อจากหน้า ๑๒)

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานข้าวสาร จำ�นวน ๓๐ ตัน ให้กบั สำ�นักปลัดสำ�นักนายกรัฐมนตรี เพือ่ นำ�ไปใช้ในงานพระ ราชพิธี บำ�เพ็ญพระราชกุศล และงานพระราชพิธีถวายพระ เพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธรี บั มอบ ณ ห้องสีงาช้าง ภายในตึกไทยคูฟ่ า้ ทั้งนี้ นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ รองปลัดสำ�นักนายก รัฐมนตรี เปิดเผยว่า ข้าวสารดังกล่าว เป็นข้าวจากศูนย์ข้าว ชุมชนทัว่ ประเทศ ทีก่ รมการข้าวได้นอ้ มเกล้าน้อมกระหม่อม ถวาย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำ�เนินไปทรงเปิดงานวันข้าวและ ชาวนาแห่งชาติ ประจำ�ปี ๒๕๖๐ ณ กรมการข้าว เมื่อวันที่ ๓ มิถนุ ายน ทีผ่ า่ นมา เพือ่ นำ�ไปใช้ในงานพระราชพิธี บำ�เพ็ญ พระราชกุศล และงานพระราชพิธถี วายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกันนี้ รองปลัดสำ�นักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่ม เติมว่า นายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาให้สำ�นักงานปลัดสำ�นัก นายกรัฐมนตรี พิจารณาจัดข้าวสารพระราชทานดังกล่าว รวม กับข้าวสารที่ประชาชนนำ�มามอบผ่านสำ�นักงานปลัดสำ�นัก นายกรัฐมนตรี ก่อนหน้านี้ ประมาณ ๑๔๐ ตัน รวมทั้งสิ้น ประมาณ ๑๗๐ ตัน ไปใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพ โดยให้นำ�ไปปรุงอาหาร แล้วจัดสรรตามเต็นท์ อาหารพระราชทานของกองมหาดเล็ก และตามซุม้ ต่างๆ ทัง้ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (โดย MGR Online : ๒๓ มิ.ย.๖๐) น.ส.ฟ้าใกล้รุ่ง เลิศทรัพย์สุรีย์ (ยิ่ง) ศิษย์เก่า สส.ภ. รุ่น ๒ : ดีใจที่ได้เห็นน้องๆกลับมาบ้าน กลับมาช่วยงาน ชุมชน ซึ่งกิจกรรมแต่ละหลาย ทางหนูซึ่งเป็นผู้ประสานงาน ก็ไม่ได้วางแพลนอะไรมาก คือดูตามกำ�ลังของน้องๆเป็นหลัก มากกว่า อย่างเช่นการตื่นเช้ามาทำ�วัตร ก็เป็นข้อเสนอจาก น้องๆเอง ว่าอยากมาทำ�วัตร อยากมาฟังธรรม อยากใส่บาตร ท่านสมณะ เราก็มีหน้าที่ประสานงานนิมนต์ท่านสมณะให้ เพราะตอนแรกก็กลัวจะมีกิจกรรมหลายอย่างน้องๆซึ่งเดิน ทางมาไกล และลุยงานกันมาทั้งวัน อาจจะไม่ไหวหรืออยาก พักผ่อนรึเปล่า แต่ผดิ คาด น้องๆมีใจมาก ให้ใจกับชุมชนเต็ม ร้อย อยากทำ�กิจกรรม อยากมาช่วยงานจริงๆ แม้จะมีเวลา น้อย แต่ก็ขอทำ�เต็มที่ พอได้มาอยู่ร่วมกันในบรรยากาศบนดอยแพงค่า ภูผา ฟ้าน้ำ�บรรยากาศเก่าๆก็กลับมาให้ระลึกถึงอีกครั้ง ได้เห็น น้องๆล้อมวงกันเล่าเรือ่ งราวความหลัง บางคนก็นกึ ถึงว่าตรง นีเ้ ราเคยมาตำ�ข้าว มาฝึกฝัดข้าว กระทายข้าวกันนะ ตรงนีเ้ รา เคยมาปลูกต้นฝรั่งนะ ตอนนี้โตจนกินผลได้แล้ว ฯลฯ ก็เป็น บรรยากาศที่สนุกสนานแบบเรียบง่าย มีแต่เสียงหัวเราะกัน

พันธมิตรไม่เข้าข่ายกบฏ (ต่อจากหน้า ๑๒) จากกรณีที่ศาลอาญาพิพากษาเมื่อวันที่ ๒๐ ก.ค. คดี การชุมนุมในลักษณะ “ดาวกระจาย” เพื่อขับไล่รัฐบาลนาย สมัคร สุนทรเวช เมื่อปี ๒๕๕๑ โดยมี พล.ต.จำ�ลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ พงษ์ ไพบูลย์, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสุริยะใส กตะศิลา, นาย ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือนายรัชต์ยุ ตม์ ศิรโยธินภักดี และนายเทิดภูมิ ใจดี เป็นจำ�เลยที่ ๑-๙ ใน ข้อหากบฎ และร่วมกันมัว่ สุมตัง้ แต่ ๑๐ คนขึน้ ไปให้เกิดความ วุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งศาลได้พิพากษายกฟ้องจำ�เลยที่ ๑-๖ เนื่องจากศาลเคยพิพากษาในคดีบุกรุกทำ�เนียบรัฐบาล ไปแล้ว สิทธินำ�คดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ส่วนจำ�เลยที่ ๗-๙ เห็นควรให้รอการกำ�หนดโทษไว้มีกำ�หนด ๒ ปี ที่น่าสนใจก็คือ ในคำ�พิพากษาระบุว่า “การชุมนุมของ กลุม่ พันธมิตรฯ ยังทำ�ให้ผเู้ ข้าร่วมชุมนุมและประชาชนทราบ ว่ารัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช อยู่ภายใต้การครอบงำ� และสั่งการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และทราบถึงการกระ ทำ�ของกลุ่มบุคคลในเครือข่ายระบอบทักษิณ รวมทั้งทราบ ถึงการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลทีไ่ ม่มคี ณ ุ ธรรมและ ธรรมาภิบาลในการบริหารราชการบ้านเมือง มีวาระซ่อนเร้น และเป็นการกระทำ�ที่ขัดผลประโยชน์หลายเรื่อง การชุมนุม ของกลุ่มพันธมิตรฯ และการกระทำ�ของจำ�เลยที่ ๗-๙ จึง ไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๖ อนึง่ ข้อมูลทีก่ ลุม่ พันธมิตรฯ ปราศรัยระหว่างการชุมนุม ปัจจุบันพบว่ามีมูลความจริงในหลายเรื่อง บางเรื่องมีการ ดำ�เนินคดีอาญาต่อกลุ่มบุคคลที่กระทำ�ทำ�ผิด และศาลได้ พิพากษาลงโทษแล้ว ข้อมูลบางเรือ่ งต้องถือว่าเป็นประโยชน์ และให้ความรู้แก่ประชาชน ทำ�ให้ประชาชนตื่นรู้ถึงสิทธิและ หน้าทีข่ องตนเองมากขึน้ สิง่ สำ�คัญทีส่ ดุ คือทำ�ให้ประชาชนมี ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เพิ่มมากขึ้น และ มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า เครือข่ายระบอบทักษิณมีกลุ่มที่ล่วง ละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่จริง การกระทำ�ของ พวกจำ�เลยถือว่าเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมและประโยชน์ ชาติในระดับหนึ่ง”

ไปมา โดยไม่ต้องมีอะไรมากมาย ไม่มีอบายมุข น้องๆก็กิน ง่าย อยู่ง่าย หลายคนบอกว่าตอนเป็นนักเรียนผมก็ลำ�บาก กว่านี้อีก ผมก็อยู่ได้ เรียกว่าน้องๆก็เลี้ยงง่ายบำ�รุงง่าย ไม่ อยากเป็นภาระของชุมชน คิดว่าครั้งหน้าคงจะได้มีกิจกรรมศิษย์เก่ามารวมตัวกัน แบบนี้อีกค่ะ คร่าวๆก็นัดกันที่สนามหลวง ในเวรทำ�อาหาร ของชาวภูผาฟ้าน้�ำ ศิษย์เก่าก็จะมาช่วยกันแบ่งเบาภาระผู้ใหญ่ ในการมาทำ�อาหารให้แขกของพระราชาทีม่ ากราบพระบรมศพ เพือ่ จะมารวมพลังคนหนุม่ สาวมาช่วยงานชุมชน ช่วยงาน ศาสนา เพื่อเป็นการปฏิบัติบูชาหลวงปู่สมณะโพธิรักษ์ ด้วย การมาฝึกฝนตนเอง มาขวนขวายฟังธรรม มาเสียสละ ฝึกลด กิเลสแม้เล็กแม้นอ้ ย ในฐานะลูกหลานชาวอโศกกันต่อไปค่ะ น.ส.ณั ฐ ณิ ช า กิ ต ติ ธ รรมคุ ณ (แพลน) ศิ ษ ย์ เ ก่ า สส.ภ.รุ่น ๙ : ก็ดีใจที่ได้มาร่วมกับพี่ๆน้องๆค่ะ แม้จะได้มา ช่วยงานกันเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็มีความหมายทำ�ให้ได้ มาย้อนระลึกความหลังกัน แม้หนูจะไม่ได้จบจากทีน่ ่ี อยูท่ น่ี ี่ถึง แค่ ม.๓ แต่ไปต่อที่ศีรษะฯ แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นศิษย์เก่า ภูผาฟ้าน้ำ�เสมอ.


ฉบับที่ ๔๘๑ (๕๐๓)

เจริญธรรมสำ�นึกดี พบกับน.ส.พ.ข่าวอโศก ฉบับที่ ๔๘๑ (๕๐๓) รวมปักษ​ก์ รกฎาคม ๒๕๖๐ v อบอุ่นใจ...ในชุมชนบวร

ที่ บ วรปฐมอโศก ต้ อ นรั บ เช้ า วั น ใหม่ ด้วยบรรยากาศ ที่อบอวลไปด้วยสายใยแห่ง ภราดรภาพ ทั้งอาน้ำ�ดิน (บ้านอารมณ์ดี) อากุศล อาเล็ก (บ้านภราดร) อาเหมือนแก้ว ป้าต้นบุญ ต่างเสียสละแรงกายแรงใจ ทำ� อาหารเสริมเพือ่ สุขภาพทีด่ ี เช่น น้�ำ ผักปัน่ ซุป ผัก ซุปถั่วงา ข้าวต้ม ฯลฯ ถวายท่านสมณะ ท่านสิกขมาตุ แล้วยังมีเผื่อแผ่ถึงพี่น้องญาติ ธรรมในชุมชนบวรให้ไปเลือกใช้บริการได้ตาม อัธยาศัย (ที่เหมาะสมกับสุขภาพ) สำ�หรับผู้ ป่วยหรือผูอ้ ายุยาวบางคน ทีไ่ ม่สะดวกในการ ไปรับอาหารเสริมด้วยตัวเองก็มบี ริการจัดส่ง ถึงทีพ่ กั ด้วยความยินดีอกี ด้วย เพียงแค่ได้เห็น ภาพความมีน้ำ�ใจ เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันแบบนี้ แม้จงิ้ หรีดจะยังไม่ได้ไปใช้บริการ ก็รสู้ กึ อบอุน่ อิ่มใจ อิ่มตื้อขึ้นมาแล้วหละฮะ...จี๊ดๆๆ v กว่าจะพบ...พระแท้ๆของพุทธ

พั น ธมิ ต รท่ า นหนึ่ ง มายื ม สื่ อ ธรรมะที่ แผนกธรรมโสต เล่าให้จงิ้ หรีดฟังว่า “ก่อนนัน้ เคยไปทำ�บุญทีว่ ดั แห่งหนึง่ ทีช่ อบเอาสวรรค์ มาหลอกขายแพงๆ ซึ่งเขาก็เคยหลงเชื่อ ตก เป็นเหยื่อ ถูกหลอกให้ซื้อสวรรค์วิมานลวง จนหมดทรั พ ย์ ใ นกระเป๋ า ไปด้ ว ยตั ว เลขไม่ น้อยกว่าเจ็ดหลัก นึกสงสัยว่าศาสนาพุทธ เป็นอย่างนี้หรือ...??? โชคดีได้ไปพบกับชาว อโศกที่ ง านชุ มนุ มทางการเมือ ง มีโอกาส ได้ฟังเทศน์จากพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ รู้สึก ประทับใจ จึงได้ติดตามมาซื้อสื่อธรรมะที่ ธรรมทัศน์สมาคม พร้อมกับนำ�ของเก่าทีไ่ ม่ ได้ใช้ ของใหม่ทเ่ี กินจำ�เป็นมาบริจาคทีส่ ถาบัน ขยะวิทยาด้วยหัวใจ (สขจ.) ปัจจุบันนี้พยายามรักษาศีล ๕ และฝึก กินมังสวิรตั ติ ามทีโ่ อกาสอำ�นวย พร้อมกับยืม สือ่ ธรรมะของชาวอโศกไปเปิดฟังทีบ่ า้ น เวลา ที่เพื่อนๆแวะเวียนมาพบปะพูดคุยก็พลอย ได้ฟังธรรมไปด้วย มีเพื่อนบางคนก็ขอยืมไป ฟังต่อที่บ้าน แม้จะยังปฏิบัติได้ไม่มากก็ขอ ฟังธรรมไว้ก่อนเพราะยังไม่เคยพบเห็นพระ ที่ปฏิบัติตามคำ�สอนของพระพุทธเจ้า โดย ประพฤติตนอยูใ่ นศีลในธรรม เป็นแบบอย่าง ของความมักน้อย สันโดษและทำ�งานเสียสละ เพือ่ เป็นประโยชน์ตอ่ สังคมแบบนี.้ ..” จีด๊ ๆๆ

ข่าวอโศก พระจูเลี่ยน พระสงฆ์ชาวแคนาดา มาปฏิบัติ ธรรมเป็นพระสายวัดป่าหลายสิบปี ทีอ่ .สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ท่านฉันมังสวิรัติ คนทั่วไปมัก รู้จักท่านเพราะรายการคนค้นคน ติดตาม ถ่ายทอดชีวิตของท่านให้รับชมกัน ท่านมัก แวะฉันอาหารที่ชมร.เชียงใหม่เสมอ ท่าน บอกว่าอาหารทีน่ ไี่ ร้สารพิษ ปรุงแต่งน้อย ฉัน แล้วสุขภาพดี และท่านประทับใจหลายอย่าง เนื่ อ งเพราะสถานที่ แ ห่ ง นี้ เ ผยแพร่ อ าหาร มังสวิรัติและล้วนช่วยคน ช่วยสังคม อาหาร ก็มี ๐ บาทก็ทานได้ ขายสินค้าดีราคาถูก แบ่ง ปันกัน ท่านจึงถามอาสาสมัครทีม่ าทำ�งานทีน่ ่ี ว่า ถ้าจะบริจาคเงินให้ทน่ี ไ่ี ด้ไหม อาสาสมัคร จึงแจ้งท่านว่า ทางเราไม่สามารถรับเงินจาก พระได้ หรือแม้แต่ญาติโยมก็รบั เงินไม่ได้หาก ยังไม่รู้จักพวกเรา (ชาวอโศก) ดีพอ คือต้อง ติดตามอ่านหนังสือหรือชมบุญนิยมทีวีมา พอสมควร จึงจะรับเงินมาช่วยกิจการได้ แต่ ชมร.เชียงใหม่ มีกจิ กรรมทีล่ กู ค้าสามารถแบ่ง ปันกันได้คอื การเหมาแจกอาหาร โดยเป็นการ จ่ายค่าอาหารหรือเครือ่ งดืม่ ล่วงหน้า ให้กบั ผู้ มารับประทานท่านอื่นๆ ซึ่งพระจูเลี่ยนท่าน ก็ยนิ ดีกบั กิจกรรมนี้ จึงให้โยมทีต่ ดิ ตามมากับ ท่านมอบเงิน ๕,๐๐๐ บาท เพื่อเหมาอาหาร แจกแบ่งปันสิ่งดีๆกับคนอื่น ทางร้านรับเงิน มาก็ดำ�เนินการเหมาข้าวราดแกง และน้ำ� สมุนไพร แจกเพื่อแบ่งปันต่อไป จิ้งหรีดเกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นนี่หละ พระ เอาเงินมาให้โยมเพราะเห็นว่าโยมทำ�ดี ควร ส่งเสริม พ่อครูเคยบอกว่าเราชาวอโศกจะทำ� ดีจนคนตาบอดเห็นได้ ชาวชมร.เชียงใหม่ก็ ทำ�ดีจนพระฝรัง่ เห็นได้ แสดงว่าใกล้เป้าหมาย เข้าไปทุกทีแล้วนะฮะ สาธุ...จี๊ดๆๆ v หน้าทีข ่ องคนดี...

ช่ ว งนี้ จิ้ ง หรี ด ยั ง เกาะติ ด สถานการณ์ ที่เชียงใหม่ ทีมทำ�งานคกร.เชียงใหม่เล่าให้ จิ้งหรีดฟังว่า ที่ผ่านมาช่วงฤดูแล้ง พืชผล ทางการเกษตรก็จะมีไม่มากเท่าไร เกษตร อิ น ทรี ย์ ใ นเครื อ ข่ า ยที่ ยั ง ต้ อ งพึ่ ง พาแหล่ ง น้ำ�ธรรมชาติก็จะมีผลผลิตน้อยเพราะขาด น้ำ� ทางคกร.ชม.จึงส่งเสริมให้มีการแปรรูป ผลผลิต เช่น ทำ�กล้วยตาก ทำ�แยม ทำ�ซอส ฯลฯ ด้านการตลาด ก็มเี กษตรกรอินทรียท์ ตี่ อ้ งการ ให้ทางคกร.ช่วยกระจายสินค้าให้ ทีมงานจึง ดำ�ริการตลาดในรูปแบบออนไลน์ จำ�หน่าย สินค้าการเกษตรอินทรีย์ผ่านเฟสบุ๊คซึ่งก็ได้ รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทัง้ ยังเคยจัดตลาด อาริยะจำ�หน่า ยไม้ ก วาด ทุ น ด้ า มละ ๒๔ บาท ขายในตลาดอาริยะออนไลน์ราคาด้าม ละ ๑๐ บาท ซึ่งช่องทางการตลาดออนไลน์ ของคกร.ชม.ก็มศี ษิ ย์เก่า (น้องฟ้าใกล้รงุ่ ) ช่วย ดูแล นอกจากนี้ทีมการศึกษาก็ช่วยจำ�หน่าย สินค้าเกษตรในตลาดอินทรีย์ทุกวันอาทิตย์ ที่สันติอโศก เพื่อช่วยสนับสนุนเกษตรกรที่ ผลิตสิง่ ดีๆให้พวกเราได้รบั ประทาน เขาจะได้ พึ่งตนเองได้ จะได้ผลิตสิ่งดีๆให้สังคมต่อไป v แปลกแต่จริง... จิ้ ง หรี ด อนุ โ มทนากั บ ที ม คกร.ชม.ที่ จิ้งหรีดบินโฉบไปที่ ชมร.เชียงใหม่ เห็น นอกจากจะทำ�ดีให้สังคม ก็ยังช่วยสนับสนุน ทีมงานกำ�ลังกุลกี จุ อต้อนรับพระสงฆ์ชาวต่าง คนทีท่ ำ�ดี ให้ท�ำ ดีได้ยนื ยาวต่อไปอีกด้วย สาธุ ชาติ มองดีๆก็รอ้ งอ๋อ เพราะพระสงฆ์รปู นีค้ อื ฮะ...จีด๊ ๆๆ

v ตามหาญาติ...

อีกหนึ่งบุญญาวุธที่พวกครูพาพวกเรา ทำ�เพื่อเผยแพร่ศาสนากับโรงบุญมังสวิรัติ ที่ พระแม่ธรณีบีบมวยผม สนามหลวง ทีมงาน อโศกและแพทย์วถิ ธี รรม ร่วมจัดโรงบุญอย่าง ต่อเนื่องยาวนานและยืนหยัดยืนยันส่งเสด็จ สู่สวรรคาลัยจนจบงาน บรรยากาศไม่มีโดด เดี่ยวเพราะพี่น้องประชาชนร่วมทั้งหน่วย ราชการกรมกองต่างๆล้วนร่วมมือกัน อาปานรุง้ เล่าให้จง้ิ หรีดฟังว่า ช่วงทีผ่ า่ นมา จะมีจิตอาสาจากกระทรวง กรมกองต่างๆ ผลัดเปลีย่ นหมุนเวียนกันมาช่วยครัวกองทัพ ธรรม ผลัดละ ๑๐ วัน โดยล่าสุดประทับใจทีม กองทัพเรือ ทีม่ าช่วยงานกันอย่างขยันขันแข็ง อยู่กับแม่ครัวตั้งแต่ตี ๔ ยาวจนถึงภาคค่ำ� สู้ ไม่ถอย มีใจอาสา พร้อมทำ�งานได้ทุกอย่าง แม้ครบกำ�หนด ๑๐ วันแล้ว บางท่านก็ยังอาสามาช่วยงานต่ออีก เพราะมีความสุขและอบอุน่ งานนีช้ วนมาทำ� ดีแล้วได้พี่ได้น้อง จิ้งหรีดว่าไม่แปลก เพราะ พวกเราล้วนมีพ่อคนเดียวกัน ต่างมาขอทำ�ดี เพื่อพ่อทั้งนั้น สาธุฮะ...จี๊ดๆๆ v ช่วยกันเก็บที่ศาลีฯ

จิ้งหรีดเกาะที่เสาโรงครัว มองไปที่โต๊ะ อาหาร เห็นมีผักพื้นบ้านสดๆ หลากหลาย ชนิดใส่ไว้เต็มถาดเบ้อเริม่ ดูแล้วมีสสี นั สดชืน่ ดีจัง ทราบข่าวว่า อาไพรศีล และคุณยายๆ ช่วยกันเก็บผักไร้สารพิษ ทีม่ อี ยูใ่ นบริเวณบวร ศาลีอโศกขึ้นศาลาทุกวัน ขอร่วมอนุโมทนา ที่ช่วยกันขวนขวาย หาอาหารที่สะอาด ปราศจากพิษภัย ถวาย นักบวชและเผือ่ แผ่ถงึ ญาติธรรมเช่นนี้ จิง้ หรีด ก็พลอยได้รับอานิสงส์ได้ลิ้มรสผักสดๆจาก ธรรมชาติอย่างสบายใจไปด้วยน่ะฮะ...จีด๊ ๆๆ v ถึงเวลารับใช้พระศาสนา

ทีช่ มร.สาขาหน้าสันติอโศก จิง้ หรีดเกาะ ทีต่ อู้ าหาร ได้ยนิ ป้าอ้วน (วิมล) ทีม่ าช่วยดูแล งานแผนกขายหน้าร้าน คุยกับจิตอาสาที่มา ร่วมบำ�เพ็ญบุญ (กำ�จัดกิเลส) บำ�เพ็ญกุศล (ทำ�ดี) ว่าตนเองใช้เวลาทำ�งานขายอาหาร มังสวิรัติ หาเงินหาทองมาหลายสิบปีแล้ว อายุก็เริ่มยาวไปทุกๆที ถึงเวลาที่จะต้องมา รับใช้พระศาสนา รับใช้พ่อครูและหมู่กลุ่ม มิตรดี สหายดี เพื่อตอบแทนพระคุณก่อนที่ จะไม่มีโอกาสได้ทำ� จิ้งหรีดเห็นป้าอ้วนคอย เดินดูความเรียบร้อยแต่ละแผนกและคอย ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยความอ่อนน้อม สุภาพ ยิม้ แย้ม รูส้ กึ ประทับใจ อย่างนีใ้ ช่มย๊ั ฮะ ที่เขาเรียกว่า ผู้นำ� คือ ผู้รับใช้ (พระศาสนา) แท้จริง...จี๊ดๆๆ v แอร์อน ุ่ +ไออุน่ ...

จิ้ ง หรี ด ได้ ไ ปร่ ว มบรรยากาศกั บ พี่ ๆ น้องๆศิษย์เก่าที่มารวมตัวกันในงานอโศก รำ�ลึกหลายคนมาช่วยงาน มาออกร้านแจก อาหารมังสวิรตั ฟิ รีให้กบั ทุกคน หลายคนช่วย งานสื่อบุญนิยม และช่วยงานอื่นๆตามที่ตน ถนัด ในวันที่ ๙ มิถุนายน เวลาประมาณ ๔ โมงเย็นศิษย์เก่าได้มกี ารรวมตัวกันพูดคุยและ เตรียมตัวไปพบหลวงปู่ ซึง่ ในครัง้ นีม้ ศี ษิ ย์เก่า ไปพบหลวงปู่จำ�นวน ๙๔ ชีวิต ทำ�ให้ห้อง

11

เสียงบนศาลาฟังธรรมแน่นขนัดไปด้วยศิษย์ เก่า ห้องแอร์ทเี่ ย็นฉ่�ำ ในตอนแรกเปลีย่ นเป็น อบอุ่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แม้ขนาดปรับลด อุณภูมแิ ล้วก็ยงั ไม่สามารถสูก้ บั จำ�นวนคนใน ห้องได้ เมื่อหลวงปู่ให้โอวาทแล้ว มีผู้ถามว่า ในจำ�นวนศิษย์เก่าทีม่ าพบหลวงปูค่ รัง้ นี้ มีผทู้ ี่ อยู่ประจำ�ช่วยงานวัดกี่คน มีผู้ยกมือนับได้ ๒๒ คน บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น ทั้งจิตใจและอากาศภายในห้องฮะ...จี๊ดๆๆ v เด็กอโศกใส่ใจสุขภาพ...

งานอโศกรำ � ลึ ก ปี นี้ มี ก ารจั ด โรงบุ ญ ตั้งแต่วันที่ ๕-๑๐ มิถุนายน มีการสับเปลี่ยน หมุนเวียนร้านทีน่ �ำ อาหารมาแจก เรียกได้วา่ กิน ทุกวันเปลี่ยนเกือบทุกวัน แต่ที่น่าประทับใจ คือในช่วงเช้าจะเห็นคิวผู้ที่มารับบริการน้ำ� ปัน่ ผักเป็นแถวยาว มีทงั้ เด็กและผูใ้ หญ่มารับ ประทานน้ำ�ปั่นผักก่อนจะไปทานของอร่อย จิง้ หรีดเห็นแล้วรูส้ กึ ว่าแม้แต่เด็กๆ และ นักเรียนก็สนใจและใส่ใจในสุขภาพไม่วิ่งแต่ ไปหาของอร่อยอย่างเดียวแต่รับประทาน อาหารเพือ่ ดูแลสุขภาพอีกด้วยนะฮะ...จีด๊ ๆๆ

v มรณัสสติ พ่อวิจารณ์ ชัยรัตน์ (โยมพ่อสมณะ เพียงพอ) เสียชีวติ เมือ่ วันที่ ๑๖ มิ.ย.๖๐ สิริ อายุ ๙๑ ปี ฌาปนกิจวันที่ ๒๒ มิ.ย ๖๐ ที่ วัดหนองรี จ.ลพบุรี พ่อปรีดา ไทยทัตกุล (ปู่ของหยกพุทธลักษณ์ ศิษย์เก่าปฐมอโศก) เสียชีวิต วันที่ ๑๙ มิ.ย. ๖๐ สิรอิ ายุ ๙๓ ปี ฌาปนกิจ วันที่ ๒๐ มิ.ย.๖๐ ที่เมรุปฐมอโศก (เฮือน สุดชีวิต) จ.นครปฐม แม่ฝุ่น ปาลี อายุ ๘๙ ปี (แม่ของอา บุญรุง่ (ใบโพธิ)์ ปาลี) ญาติธรรมชาวภูผาฟ้า น้�ำ เสียชีวติ ด้วยโรคชรา เมือ่ วันที่ ๒๔ มิ.ย. ๖๐ ฌาปนกิจวันที่ ๒๙ มิ.ย.๖๐ ณ สุสาน บ้านห้วยไซ ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำ�พูน คุณยายแรงฟ้า พูนทรัพย์มณี (ญาติ ธรรม) เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๒๖ มิ.ย.๖๐ สิริ อายุได้ ๘๗ ปี ฌาปนกิจวันที่ ๑ ก.ค.๖๐ ที่ วัดธาตุทองพระอารามหลวง กทม. อุบาสิกาถนอม ตี้นาสวน (คุณแม่ ของคุณน้อมสาธุ ญาติธรรม) เสียชีวิตด้วย โรคมะเร็งปลายลำ�ไส้ใหญ่ วันที่ ๒๖ มิ.ย.๖๐ สิริอายุ ๙๑ ปี ฌาปนกิจวันที่ ๒ ก.ค.๖๐ ที่วัดจันทาราม จ.ราชบุรี คุณยายจินตนา ดิษสุข (โยมแม่ของ สม.รินฟ้า) สิริอายุ ๙๙ ปี เสียชีวิตวันที่ ๙ ก.ค.๖๐ ฌาปนกิจวันที่ ๑๑ ก.ค.๖๐ ทีส่ สุ าน วัดป่าแพ่ง จ.เชียงใหม่ คุณแม่บุญถม สุริโย ญาติธรรมชาว ร้อยเอ็ดอโศก สิริอายุ ๗๗ ปี เสียชีวิตด้วย โรคชรา เมือ่ วันที่ ๗ ก.ค.๖๐ ฌาปนกิจวันที่ ๘ ก.ค.๖๐ ที่ชุมชนร้อยเอ็ดอโศก คุณสำ�ราญ วิสทุ ธิแพทย์ (คุณแม่ของ คุณพิมพรรณ วิสทุ ธิแพทย์) อายุ ๙๗ ปี เสีย ชีวติ ด้วยวัยชรา วันที่ ๒๓ ก.ค.๖๐ ฌาปนกิจ วันที่ ๓๐ ก.ค. ๖๐ ณ วัดไผ่ล้อม จ.ตราด


12

รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๖๐

ร.๑๐ โปรดเกล้าฯ ให้จัดกิจกรรม ”เราทำ�ความ ดี ด้วยหัวใจ”ถวายในหลวง ร.๙

ภาพจาก www.thairath.co.th

สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จดั โครงการสัปดาห์จติ อาสา “เราทำ�ความ ดี ด้วยหัวใจ” โดยมีพระราชปณิธาน ที่จะให้ร่วมกันบำ�เพ็ญประโยชน์ในพื้นที่สาธารณประโยชน์ต่างๆ รอบพระราชวังดุสิต เป็นพระราชกุศลถวายในหลวง ร.๙ อ่านต่อหน้า ๑๐

ฉบับที่ ๔๘๑ (๕๐๓) รวมปักษ์ กรกฎาคม ๒๕๖๐

“สมเด็จพระเทพฯ”พระราชทานข้าวสาร ๓๐ ตัน เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีบำ�เพ็ญพระราชกุศลฯ

อ่านต่อหน้า

๑๐

ย้อนดูคำ�พิพากษา ศาลชี้ชัด “พันธมิตรฯ”

ชุมนุมไม่เข้าข่ายกบฏ เป็นประโยชน์ให้ ปชช.ตื่นรู้

ย้อนอ่านคำ�พิพากษาคดีพันธมิตรฯ ชุมนุมดาวกระจายปี’๕๑ ศาลชี้การชุมนุมพันธมิตรฯ เป็นประโยชน์แก่สว่ นรวมและประโยชน์ชาติ ให้ประชาชนตืน่ รูส้ ทิ ธิหน้าที่ เห็นการบริหาร ประเทศไร้คณ ุ ธรรม-ธรรมาภิบาล มีวาระซ่อนเร้น ไม่เข้าข่ายกบฏ รวมทัง้ มีเหตุท�ำ ให้เชือ่ ระบอบทักษิณมีกลุ่มละเมิดสถาบันกษัตริย์อยู่จริง อ่านต่อหน้า ๑๐


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.