นสพ.ข่าวอโศก รวมปักษ์พ.ค.-มิ.ย. ฉบับที่ 480:502

Page 1

ธรรมะพ่ อท่าน (๕๐๒) : มรรคผลของพุทธพิสูจน์ด้วย บวร น.๔ ฉบับที่ ๔๘๐

1

สดจากปัจฉา : สัญญาณที่ชาวอโศกต้องสำ�เหนี ข่ยากและสำ�นึ วอโศก ก! น.๙

พ่อครูฟื้นฟูสุขภาพที่จ.เชียงใหม่

พ่อครูแวะเยี่ยมเยียนและพักค้างที่ภูฟ้าผาธรรม ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง

อ่านต่อหน้า

๖-๗

พ่อครูส่งสัญญาณเหนื่อย! ฉบับที่ ๔๘๐ (๕๐๒) รวมปักษ์ พ.ค.-มิ.ย. ๒๕๖๐

เปิดตลาดนัดบุญนิยม

ให้ลูกๆขวนขวายไม่ประมาท

ในงานอโศกรำ�ลึก’๖๐

ณ ชุมชนสันติอโศก

ณ หมู่บ้านชุมชนราชธานีอโศก

อ่านต่อหน้า

อ่านต่อหน้า

ค่ายยุวพุทธทายาท ณ สีมาอโศก

อ่านต่อหน้า

ค่ายยุวพุทธทายาท ณ ภูผาฟ้าน้ำ�

ปฐมอโศก เปิดตลาดอาริยะ


2

รวมปักษ์ พฤษภาคม-มิถุนายน ๒๕๖๐

โรคหลอดเลือดสมอง (ตอนที่๒)

วิธียืดอายุพ่อท่าน ในช่วงเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐ ก็มีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ชาว อโศกคงจะได้จารึกอีก ๑ เหตุการณ์ นัน่ คือ ชาวอโศกในทีต่ า่ งๆ ได้ฝกึ ดำ�เนินชีวิตในชุมชนบวร โดยไม่มี พ่อท่านเป็นเวลาราว ๑ ปักษ์ เพราะ ทางคณะปัจฉาสมณะที่ดูแลสุขภาพ พ่อท่านได้มองเห็นการทำ�งานของ พ่อท่านที่ตรากตรำ�มาตลอด จึงได้ นิ ม นต์ พ่ อ ท่ า นเดิ น ทางไปพั ก ผ่ อ น ทางภาคเหนือ เพื่อฟื้นฟูสุขภาพใน วัย ๘๐ กว่าปี เพือ่ จะได้มสี ขุ ภาพแข็ง แรง ส่งผลให้อายุยืนยาวในการเผย แพร่ธรรมะต่อๆไป อีกทั้งลูกๆก็มีความตระหนักรู้ ว่า พ่อท่านจะมีอายุครบ ๘๓ ปี และ ย่างเข้าวัย ๘๔ ปี ในวันที่ ๕ มิ.ย. ๒๕๖๐ จึงได้มีความพยายามในการพัฒนา ตนเองให้ ดี ขึ้ น และช่ ว ยกั น สร้ า ง สังคมบวรให้แข็งแรงและยั่งยืนใน ขณะที่พ่อท่านยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็ช่วยให้ลูกอโศกทั้ง หลายไม่ประมาทในวัยว่า พ่อท่านจะ มีอายุยนื ยาวถึง ๑๕๑ ปี แล้วตัง้ อยูบ่ น ความประมาท แต่หากลูกๆแต่ละคนได้ลดละ กิเลส ลดละความเห็นแก่ตัว ลดละ อัตตาด้วยความไม่ประมาท อันเป็น ส่วนสำ�คัญที่จะทำ�ให้เกิดสังคมบวร ที่งดงาม ยั่งยืน ก็จะเป็นตัวยาวิเศษ ที่ จ ะช่ ว ยยื ด อายุ ข องพ่ อ ท่ า นให้ มี ชีวติ ยืนยาวนานยิง่ ๆขึน้ ยิง่ กว่าตัวยา ชนิดใดๆในโลก

เจริญธรรมค่ะ..ฉบับ นี้ยังเป็นเรื่องโรคหลอด เลือดสมองอยูน่ ะคะ อย่า เพิง่ เบือ่ ค่ะ น่าสนใจนะคะ ว่าอาการจะเป็นเช่นไร.. อาการของโรคหลอด เลื อ ดสมอง เมื่ อ สมอง ขาดเลื อ ดจะทำ � ให้ ส มอง ไม่สามารถทำ�งานได้ตาม ปกติ ซึง่ อาการแสดงต่างๆ จะมากหรื อ น้ อ ยขึ้ น กั บ ระดั บ ความรุ น แรงและ ตำ � แหน่ ง ของสมองที่ ถู ก ทำ�ลาย เช่น ชาหรืออ่อนแรงที่ใบหน้าและ/หรือบริเวณ แขนขาครึ่งซีกของร่างกาย พูดไม่ชดั ปากเบีย้ ว มุมปากตก น้ำ�ลายไหล กลืนลำ�บาก ปวดศีรษะ เวียนศีรษะทันทีทันใด ตามัว มองเห็นภาพซ้อน หรือเห็นครึ่งซีก หรือตาบอดข้าง เดียวทันทีทันใด เดินเซ ทรงตัวลำ�บาก อาการเหล่านี้มัก เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ในรายที่มีภาวะสมองขาดเลือดแบบ ชั่วคราว อาจมีอาการเตือนเหล่านี้เกิดขึ้นชั่วขณะแล้วหาย ไปเอง หรืออาจเกิดขึน้ ได้หลายครั้ง ก่อนจะมีอาการสมอง ขาดเลือดแบบถาวร ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบพบแพทย์ทนั ที เนือ่ งจากอาการของโรคหลอดเลือด สมองจัดเป็นอาการร้ายแรงและอาจเป็นอันตรายถึงแก่ ชีวิต หรือหากไม่ถึงชีวิตก็อาจทำ�ให้กลายเป็นโรคอัมพาต อัมพฤกษ์ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองและต้องใช้เวลาใน การรักษาฟื้นฟูสุขภาพต่อไป การตรวจวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมอง ในปัจจุบันมี วิธีการตรวจวินิจฉัยที่มีประสิทธิภาพและสามารถบ่งชี้ถึง

ตำ � แหน่ ง ของสมองและ หลอดเลื อ ดที่ ผิ ด ปกติ รวมถึ ง ภาวะและสาเหตุ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการ เป็นโรคหลอดเลือดสมอง ได้ เช่น การตรวจเลือดเพื่อดู ความเข้ ม ข้ น และความ สมบูรณ์ของเม็ดเลือด การตรวจระดับน้�ำ ตาล และระดับไขมันในเลือด การตรวจหาการ อักเสบของหลอดเลือด การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (electrocardiogram) เพื่อ ดูจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ การตรวจสมองด้ ว ยเครื่ อ งเอกซเรย์ ค อมพิ ว เตอร์ (computerized tomography) เพื่อดูว่าสมองมีภาวะขาด เลือดหรือภาวะเลือดออกในสมองหรือไม่ การตรวจอั ล ตราซาวนด์ ห ลอดเลื อ ดบริ เ วณคอ (carotid duplex scan) เพื่อดูขนาดและการไหลเวียน ของหลอดเลือดแดงบริเวณคอที่ไปเลี้ยงสมองด้วยคลื่น ความถี่สูง การตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (magnetic resonance imaging) เพื่อดูเนื้อสมอง หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดทีค่ อ เป็นวิธกี ารทีไ่ ม่เจ็บปวดและมีประสิทธิภาพสูง ค่อยๆเรียนรูไ้ ปนะคะ...เพราะยังมีตอนต่อไปค่ะ ตอน สุดท้ายสำ�คัญทีส่ ดุ คือการรักษาค่ะ ฉบับนีก้ จ็ �ำ กัดด้วยหน้า กระดาษจริงๆค่ะ ...กิ่งธรรม...


ฉบับที่ ๔๘๐ (๕๐๒)

เปิดตลาดนัดบุญนิยม ณ ชุมชนสันติอโศก

ข่าวอโศก

3

ในงานอโศกรำ�ลึก เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๐ มีพิธีเปิดตลาดนัดบุญนิยมสันตินาคร ซอย นวมินทร์ ๔๖ โดยพ่อครูสมณะโพธิรกั ษ์เป็นประธานในการเปิดตลาดนัดบุญนิยม แล้วเดินเยีย่ มชมบูธขาย สินค้าร้านค้าต่างๆ ภายในตลาดอย่างทัว่ ถึง เรียกว่าสร้างขวัญกำ�ลังใจให้แก่พอ่ ค้าแม่คา้ ได้เป็นอย่างดี ตลาดนัดบุญนิยมสันตินาครเป็นตลาดขายสินค้าและอาหาร โดยสินค้าจะต้องเป็นของดีมี คุณภาพ ราคาถูก เป็นอาหารมังสวิรัติไร้สารพิษ และสะอาดปราศจากผงชูรส นอกจากนีย้ งั ดำ�เนินการค้าบุญนิยมเป็นไปเพือ่ ฝึกฝนความพอเพียง ลดความโลภ ผลิตหรือคัดสรร สินค้าที่มีคุณภาพ ตามแนวทางการทำ�งานพาณิชย์บุญนิยมคือ ของดี ราคาถูก ซื่อสัตย์ มีน้ำ�ใจ หรือ ขายถูก ไม่ฉวยโอกาส ขยัน-อุตสาหะ ประณีต-ประหยัด ซื่อสัตย์-เสียสละ

ณ หมู่บ้านชุมชนราชธานีอโศก เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ได้มีการเปิดตลาดนัดบุญนิยม จำ�หน่ายอาหาร มังสวิรตั ิ ผักผลไม้ไร้สารพิษ และสินค้าอุปโภคบริโภคอืน่ ๆอีกมากมาย รวมทัง้ พันธุไ์ ม้ ต่างๆ ในราคาต่ำ�กว่าท้องตลาด จำ�หน่ายทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ณ อาคาร เฮือนสวน. ชุมชนราชธานีอโศก ท่านสมณะฟ้าไทกล่าวถึงที่มาของตลาดบุญนิยมว่า เกิดจากการดำ�ริของพ่อครูว่า “อาคารเฮือนสวน. สร้างมีพน้ื ทีถ่ งึ ๑๑ ไร่ เราจัดตลาดอาริยะแล้วมันน่าจะมีอะไรเพิม่ เติม มากกว่านี้ อาคารนีจ้ ะเป็นอาคารการศึกษา จึงให้ดา้ นล่างเป็นการศึกษาตลาดบุญนิยม” ทางคณะทำ�งานจึงประชุมร่วมกันว่าใครจะมาขายบ้าง ไม่วา่ จะเป็นชาวชุมชนและเครือแห ประชุมกันประมาณ ๒ ครั้ง รวม ๒ อาทิตย์ ก็เกิดตลาดขึ้น บางคนก็เกิดคำ�ถามว่าจะมี คนมาขายหรือเปล่า ปรากฏว่าวันแรกลูกค้ามาเยอะเกินคาด เพราะวันแรกเราขายขาดทุน ในวันถัดไปเราก็ขายราคาต่ำ�กว่าทุน อย่างเช่นอาหารมังสวิรัติก็ขายดี ลูกค้าบางรายมา เล่นน้ำ�ตกก็แวะมาซื้ออาหารมังสวิรัติไปทานที่บ้าน นโยบายตลาดบุญนิยมคือ พ่อค้าแม่ค้าที่จะมาขายต้องมีคุณธรรม ถือศีล ๕ ละอบายมุข สินค้าที่นำ�มาขายต้องไม่ใช่อบายมุข และขายต่ำ�กว่าราคาท้องตลาด เราก็ เชื่อมั่นว่าสินค้าของเรามีคุณภาพ ของดี ราคาถูก ซื่อสัตย์ มีน้ำ�ใจ ก็น่าจะขายได้ เมื่อมี คนมาซื้อแล้วเค้าก็ไปบอกต่อกันเอง จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของตลาดคือ ผู้ปลูกหรือผลิต สินค้านำ�สินค้าทีต่ นผลิตมาขายเอง เพราะเมือ่ เทียบกับตามตลาดแล้วนัน้ สินค้าทีต่ ลาด จะแพงเพราะต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง.


4

รวมปักษ์ พฤษภาคม-มิถุนายน ๒๕๖๐

มรรคผลของพุทธพิสูจน์ด้วย บวร พ่ อ ครู ว่ า ...งานที่ อ าตมาพาทำ � นอกจากงานพู ด (เทศนาธรรม) งานเขียนหนังสือธรรมะแล้ว งานที่เน้นหนัก แล้วก็สามารถคิดว่าประสบความสำ�เร็จ ทำ�งานศาสนามา ตั้งแต่ต้นจนจบ คือสามารถพาคนมาทำ�ได้ ทำ�ธรรมะ หรือ ปฏิบัติธรรมได้ จนเกิดเป็นมรรคเป็นผล จนมารวมตัวกันเป็นสังคม ชุมชนหมู่บ้าน เกิดความเป็นบวรจนถึงทุกวันนี้ นี่คือผล สำ�เร็จที่อาตมาพาทำ� คนอืน่ ใครๆเขาก็พดู ก็เขียนกันทัง้ นัน้ แต่อาตมาเห็นว่า (ขออภัยไม่ได้พูดข่ม) แต่พูดตามสภาวะปรากฏการณ์จริง คนอื่นๆไม่ว่าสำ�นักไหนก็ตาม ไม่เคยเห็นว่าสำ�นักไหนทำ� จนกระทั่งเกิดเป็นชุมชนหมู่บ้าน เท่าที่ดูแล้วมีบ้าง แต่ใน ประเทศไทยนี้ยังไม่ปรากฏเป็นเช่นนั้น ที่เป็นชุมชนหมู่บ้าน ก็ ไ ม่ รู้ น ะว่ า เขาจะเป็ น หมู่ บ้ า นขนาดไหน นึ ก ถึ ง หมู่ บ้านพลัม ของอาจารย์คนหนึ่ง อาจารย์ทางพุทธศาสนา หมูบ่ า้ นของท่านติชนัทฮันห์ พระชาวเวียดนาม และใช้ค�ำ พูด ว่า หมู่บ้านพลัม และคำ�ว่าหมู่บ้านนี้จะเหมือนกับหมู่บ้าน ชาวอโศกไหม

สมณะเดินดินว่า...ฟังว่าก็ไม่เหมือนชุมชนแบบพวกเรา พ่อครูว่า...ยิ่งอาตมาใช้ชุมชนหมู่บ้าน เขาก็เรียกหมู่ บ้านพลัม แต่หมู่บ้านอื่นๆไม่เห็นมี หมู่บ้านที่เป็นหมู่บ้าน ของศาสนาพุทธ หมู่บ้านอื่น ชุมชนอื่นก็ไม่ทราบแต่ความ หมายของอาตมาคือ มีบุคคลจริงๆ รวมกันอยู่เป็นหมู่บ้าน จริงๆเลย มีบ้านของแต่ละคนๆ เป็นบ้านของเขา เขาเอา ชีวิตของเขาเข้ามา แล้วก็มีบ้านอยู่ เหมือนบ้านข้างนอกที่ คนทั้งหลายก็มีอยู่ เป็นบ้านของตนเอง แล้วก็อยู่บ้านนี้ มี อาชีพ มีการกระทำ� มีการพูด มีการคิด ตามมรรคมีองค์ ๘

ชื่อเดิม : น.ส.ปิยมล หาญชนะ อายุ : ๔๔ ปี เป็นลูกคนโต มีพี่น้อง ๕ คน สถานภาพ : โสด ภูมลิ ำ�เนาเดิม: อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา การศึกษา : ป.๖ อาชีพ : เปิดร้านตัดเสื้อ ขายอาหาร มังสวิรัติ น้ำ�ผักปั่น และสินค้าเพื่อ สุขภาพ

2 ชี วิ ต ก่ อ นรู้ จั ก ชาวอโศกและ

รู้จักได้อย่างไร ?

รู้จักชาวอโศกตอนอายุ ๑๕-๑๖ ปี ได้ มาอยู่ที่กรุงเทพฯ มาทำ�งานรับจ้างตัดเสื้อ อยู่กับเถ้าแก่ และค่อยๆเก็บเงินสะสมจนได้ ไปเรียนต่อที่โรงเรียนเอกชนที่สอนตัดเสื้อจน จบหลักสูตร อยู่มาวันหนึ่งเถ้าแก่ก็พามาซื้อ ของที่สันติอโศก เลยได้มาซื้อหนังสือธรรมะ และเท็ปธรรมะกลับไปด้วย และได้ติดตามฟัง รายการวิทยุ “ทุกข์ปญ ั หาชีวติ ” ของท่านจันทร์ อย่างสม่ำ�เสมอ ก็ได้ฝึกลดละเลิกเนื้อสัตว์ลง ปกติกไ็ ม่คอ่ ยทานเนือ้ สัตว์อยูแ่ ล้ว เพราะเป็น เด็กบ้านนอกไม่ค่อยมีกิน จึงละเรื่องนี้ได้ง่าย พอปีพ.ศ.๒๕๓๙ ได้กลับมาอยู่บ้านที่ จ.นครราชสีมา มาเปิดร้านตัดเสื้อเป็นของ ตัวเองแต่ก็ทำ�ให้ห่างหายไปจากธรรมะเพราะ ไม่มีหนังสือธรรมะอ่าน ไม่ได้ฟังรายการวิทยุ จากท่านจันทร์เหมือนตอนอยูท่ กี่ รุงเทพฯ การ กินมังสวิรัติก็เลยเริ่มหลุดบ้าง ไปกินไข่ เริ่มไม่ มั่นคงในศีล

2 รู้จักอโศกแล้วชีวิตเปลี่ยนไป

อย่างไร ?

แล้วก็นำ�พาให้เกิดสัมมา สัมมาชีพ สัมมากัมมันตะ สัมมา วาจาสัมมาสังกัปปะ เป็นหมูบ่ า้ นทีอ่ าตมาได้น�ำ พาให้เกิด ๔ อย่างนีจ้ ริง เป็น หมู่บ้าน เจตนานำ�พาให้เป็นสัมมา ทั้งสอนพาทำ� บรรยาย เขียน มีชีวิตไปทั้งชีวิต หลายคนเอาชีวิตมาตายในหมู่บ้าน ชาวอโศกก็มีมากแล้ว โดยตายก็มีเผาให้เสร็จเรียบร้อย มี การพาทำ� ทำ�งานทำ�การให้เป็นสัมมา สัมมากัมมันตะ ข้อ ๑ ไม่ฆ่าสัตว์ หมู่บ้านชาวอโศกไม่ ฆ่าสัตว์กันทั้งหมู่บ้านสำ�เร็จ ข้อที่ ๒ ไม่เอาเงินของใคร พยายามที่สุดไม่เอาเงินของ ใครในฐานะเป็นการขโมยทั้งหมู่บ้าน ทำ�กันทั้งหมู่บ้านไม่ใช่ เป็นของแต่ละบ้าน ที่อื่นเขาก็ทำ�เป็นบ้าน ของเราพากันทำ� เป็นหมู่บ้านรวมเลย พ้นมิจฉากัมมันตะ ๓ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลัก ทรัพย์ ไม่ผิดผัวเขาเมียใคร สัมมาวาจา ไม่ให้ผิดมิจฉา ๔ สัมมาสังกัปปะ ให้ลดกาม พยาบาท รู้จักสังกัปปะ ๗ รู้จักตักกะ วิตักกะ สังกัปปะ จิตมีอัปปนา พยัปปนา เจตโส อ่านต่อหน้า

งานบุญทีส่ นามหลวงในทีมงานของชาวสีมา วัยรุ่นแต่ก็ไม่มีเรื่องความรัก ไม่อยากมีแฟน ไม่แต่งหน้า แต่งตัว เวลาไปวัดข้างนอก คนก็ อโศกด้วย 2 การปฏิบัติธรรมของตนเอง จะบอกว่า “ให้ขอพรสิ ขอให้เจอเนื้อคู่ ขอให้ หรือมีวิธีการฝึกฝนตนเองอย่างไร ? มีความรักที่สมหวัง” เราก็บอกเขาว่า “ไม่เอา ขอทำ�ไมล่ะ มีคู่มันเป็นทุกข์ เราไม่ขอหรอก” เข้าอุโบสถศีล...ได้เข้าร่วมค่ายอุโบสถ 2 ความมหัศจรรย์ของศีล... ศีลตั้งแต่จัดครั้งแรก และมาต่อเนื่องทั้งหมด เมือ่ ก่อนเป็นคนปากไว ชอบโต้ตอบ จึง ๑๔ ครั้ง จากค่ายทั้งหมด ๑๖ ครั้ง ทำ�ให้เรา ได้มาเจอมิตรดี สหายดี การถือศีลทำ�ได้ง่าย ทำ�ให้ถือศีลข้อ ๔ ได้ยาก บางทีชอบเพ้อเจ้อ ถ้าอยู่ในวัด อยู่บ้านจะทำ�ได้ยากกว่า และได้ เพราะเราประมาณไม่คอ่ ยถูก ไม่รบั ฟังคนอืน่ พาครอบครัวคุณพ่อ คุณแม่ น้องๆมาเข้าวัด พอมาถือศีลก็ทำ�ให้เป็นคนใจเย็นลง หยุด มาปฏิบตั ธิ รรมด้วยกัน ทำ�ให้ครอบครัวอบอุน่ โต้ตอบได้ สำ�รวมวาจามากขึ้น ปกติเป็นคนจริงจัง ซีเรียส ยึดดี พอมา มากขึ้น จากที่เมื่อก่อนจะไม่ค่อยฟังกัน ไม่ ยอมกัน มีขัดแย้งกันบ้าง ก็เปลี่ยนไปเป็นรับ ถือศีลแล้วก็เหมือนเปลีย่ นนิสยั ไปด้วย กลาย ฟังกันมากขึ้น มีความสามัคคีกัน เพราะมี เป็นคนเบิกบาน วางใจได้ อยูก่ บั ปัจจุบนั มาก ขึ้น จากที่ชอบฟุ้งซ่าน ชอบวางแผนอนาคต ทิฏฐิไปในทิศทางเดียวกัน อยากสดใส เบิกบาน จึงเป็นโสด... ไปเรื่อย ก็ปล่อยวางได้มากขึ้น ลดความยึด ประทับใจชาวอโศกตั้งแต่เมื่อครั้งตัวเองเป็น ลงเพราะยึดไปก็เป็นทุกข์ เริ่มมีความสุขจาก วัยรุน่ อายุ ๑๖-๑๗ ปีทไี่ ด้ไปทีส่ นั ติอโศก เห็น ความพอ พอใจในสิ่งที่เราทำ� ไม่อายถ้าจะ ญาติธรรมหน้าตาสดใส ยิ้มแย้มเบิกบาน ดู ทำ�อะไรไม่สำ�เร็จ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่ไม่ได้เลย สบายตา สบายใจ จึงอยากเป็นแบบนั้นบ้าง จะอายมาก เรียนจบแค่ ป.๖ ก็อาย เพราะมี จึงตั้งใจเป็นโสด และได้ฟังธรรมบ่อยๆ ซึ่ง โลกธรรมเยอะ พอมาถือศีลก็ละโลกธรรมได้ ช่วงนั้นท่านสมณะก็จะเน้นเรื่องให้ดำ�รงตน กลายเป็นมีความสุข เบาสบาย ไม่แบกกิเลส เป็นคนโสดตลอด จึงปฏิบัติมั่นคงในเรื่องนี้ หนักเหมือนเมื่อก่อน.

คลื่นธรรมะไปถึง...จนปี’๕๕ มาเปิด โทรทัศน์ที่บ้าน ซึ่งได้ติดตั้งดาวเทียมไว้ ก็ บังเอิญเจอช่อง FMTV (ในขณะนั้น) ก็ดีใจที่ ได้กลับมาฟังธรรมะของชาวอโศกอีกครั้ง ก็ ติดตามชมตลอด จนมารูว้ า่ มีชมุ ชนชาวอโศก อยู่ที่ จ.นครราชสีมา จึงไปวัดที่สีมาอโศก พอไปถึงก็เจอท่านสมณะดินทอง นคร วโร ท่านก็ถามว่า “ได้กินมังสวิรัติมั้ย?” รู้สึก อายมากทีต่ วั เองยังทานเนือ้ สัตว์อยู่ เมือ่ กลับ ไปบ้านจึงตั้งใจใหม่ กลับมากินมังสวิรัติเลย พอทำ�ได้แล้วก็ค่อยๆเพิ่มอธิศีลให้กับตัวเอง ไม่ทานไข่และขนมที่มีไข่ ไม่ทานนม หลังจากนั้นก็ได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมกับ ทางวัดอย่างสม่ำ�เสมอ ไปช่วยงานที่วัด ไป ฟังธรรมวันเสาร์-อาทิตย์ ถ้าช่วงไหนวัดมี งานสำ�คัญก็จะปิดร้านไปช่วยเลย ได้ไปเข้า ค่ายสุขภาพกับแพทย์วิถีธรรม และเป็นจิต อาสาแพทย์วิถีธรรม และได้มีโอกาสไปช่วย เรือ่ ยมา จนชาวบ้านก็หาว่า “บ้า” เพราะเป็น


ฉบับที่ ๔๘๐ (๕๐๒)

ข่าวอโศก ค่ายยุวพุทธทายาท ณ ภูผาฟ้าน้ำ�

...ต่อจากหน้า ๑... ค่ายยุวพุทธทายาท ณ พุทธสถานสีมาอโศก เมื่อวันที่ ๒๕-๒๙ เมษายน มีการจัดอบรมค่ายยุวพุทธ ทายาท ครั้งที่ ๙ มีเด็กเข้าอบรม ๔๐ คน ชาย ๒๔ คน หญิง ๑๖ คน จุดประสงค์ในการจัดอบรมครั้งนี้คือ ๑.ฝึกความ อดทน ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ เสียสละ กตัญญู ๒.ฝึกความ อ่อนน้อมถ่อมตน ใช้ชีวิตเรียบง่าย ๓.เสริมสร้างความรู้และ ประสบการณ์ในการต่อสู้ชีวิต จนกระทั่งพึ่งตนจนเป็นที่พึ่ง ต่อผู้อื่นได้ กิจวัตรประจำ�วันคือการทำ�วัตรเช้าและฟังธรรมจาก สมณะ ลงฐานงานศึกษาเรียนรู้สัมมาอาชีพ ช่วงเย็นมีการ ฉายวีดิทัศน์เรื่อง “ชีวิตร่ำ�ไห้” และ “โทษภัยของยาบ้า” หลัง จากนั้นได้แบ่งกลุ่มพบสมณะ สนทนาธรรม ถามตอบปัญหา เกี่ยวกับธรรมะ การเข้าค่ายพุทธทายาทครั้งนี้เด็กๆสามารถ ฝึกฝนเรียนรู้เรื่องการปฏิบัติธรรมะ การสังวรศีล การปฏิบัติ ศีล ๕ การสำ�รวมอินทรีย์ มักน้อย สันโดษ ไม่สวมรองเท้า ไม่สะสมกักเก็บอาหาร ตลอดค่าย

จัดขึ้นเป็นครั้งที่ ๔ ระหว่างวันที่ ๒-๖ พ.ค. มีเด็ก เข้าค่ายทั้งสิ้น ๔๔ คน เปิดค่ายวันแรกที่ห้องเรียนที่ ๓ ภูผาฟ้าน้ำ� ลานนาอโศก ปฐมนิเทศโดยสมณะโพธิสิทธิ์ โพธิสิทโธ ในวันที่ ๒-๓ ของค่ายเดินทางมาทำ� ๕ส. ที่ ห้องเรียนที่ ๑ บนดอยแพงค่า เด็กๆ ได้มีโอกาสต้อนรับ พ่อครูดว้ ย วันที่ ๔-๕ ของค่าย ทำ�กิจกรรมทีห่ อ้ งเรียนที่ ๒ บ้านสีข้าว และปิดค่ายที่ลานนาอโศก โดยสมณะบินบน ถิรจิตโต กิจกรรมภายในค่ายมีการลงฐานงานตามความ ต้องการของชุมชน โดยมีคติเตือนใจคือไม่ถือสา ไม่หา เรื่อง ไม่โยนความผิด

5

ปฐมอโศก เปิดตลาดอาริยะ วันจันทร์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ชาวเนินพอกิน ชาว ชุมชนปฐมอโศก น.ร.สัมมาสิกขาปฐมอโศก และญาติธรรม ได้ร่วมกันจัดงานตลาดอริยะครั้งที่ ๕ ที่เนินพอกิน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ชาวบ้านให้ความสนใจมาร่วมกันจับจ่ายซือ้ ของ กันมาก ส่วนใหญ่ทราบข่าวจากการบอกต่อกัน ก่อนเปิดตลาดมีการแสดงธรรมจากท่านสมณะเสียงศีล ชาตวโร กล่าวเปิดงานโดยคุณฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร อดีต สส.อำ�เภอท่าม่วง ซึ่งตลาดสินค้าเปิดเวลา ๐๙.๐๐ น. สินค้า เริ่มหมดประมาณ ๑๒.๐๐ น. สินค้าทีน่ �ำ มาจำ�หน่ายเป็นสินค้าทีจ่ �ำ เป็นและเหมาะสมต่อ การดำ�รงชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ สินค้าอุปกรณ์การเกษตร จอบ เสียม มีด เป็นที่ต้องการมากและขายหมดในเวลา รวดเร็ว สินค้าอื่นๆก็เป็นสินค้าที่จำ�เป็นต่อชีวิตประจำ�วัน อาทิ น้�ำ มันพืช น้�ำ ตาล ข้าวสาร ฯลฯ นโยบายในการคัดเลือก สินค้ามาจำ�หน่ายมีดงั นี้ ๑.สินค้าทีจ่ �ำ เป็น ๒.ของดีมคี ณ ุ ภาพ ๓.ทำ�ตามกำ�ลังที่มี คุณทิวเมฆ นาวาบุญนิยม ผู้ประสานงานหลักและ ประธานชุมชนปฐมอโศก ได้มกี ารประสานไปหลายหน่วยงาน อาทิเช่น ทีมแพทย์วิถีธรรม นักเรียนร.ร.บ้านช่องไม้รัตน์ มา ร่วมด้วยช่วยกันในการจัดตลาดอาริยะ งานนี้บริการด้าน อาหารมังสวิรัติฟรี การจัดตลาดอาริยะหรือโรงบุญอาหารมังสวิรัติครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้คำ�สอนของพ่อ ทั้งพ่อทางจิตวิญญาณที่สอน ให้เป็นผูใ้ ห้ รวมทัง้ คำ�สอนของพ่อของแผ่นดินทีว่ า่ “Our lost is our gain.”


6

รวมปักษ์ พฤษภาคม-มิถุนายน ๒๕๖๐

พ่อครูฟื้นฟูสุขภาพ ที่จ.เชียงใหม่ ในวัยย่างเข้า ๘๔ ปี ท่ีจะครบ ๗ รอบนักษัตรอีกไม่ กีว่ นั สุขภาพของพ่อครู ทีต่ รากตรำ�ทำ�งานหนักเพือ่ กอบกู้ บวรพุทธศาสนามาตลอด ๔๗ ปีนั้น แม้จะดูแข็งแรงกว่า คนวัยเดียวกัน แต่ก็ปฏิเสธถึงความทรุดโทรมลงไม่ได้ ยิ่งเมือ่ พ่อครูเปรยว่าปีนจี้ ะหนัก อยู-่ ไม่อยูก่ ไ็ ม่รไู้ ด้ ทำ�ให้ ลูกๆทุกคนเห็นตรงกันว่าอยากให้พอ่ ครูได้พกั บ้าง จึงเป็น ทีม่ าให้พอ่ ครูเดินทางมาฟืน้ ฟูสขุ ภาพทีจ่ .เชียงใหม่ครัง้ นี้ โดยพ่อครูได้เดินทางมาพักที่ภูฟ้าผาธรรม จ.เชียงใหม่ ในคืนแรกคือคืนวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๐ และในวันที่ ๓ ถึงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ก็ได้พักอยู่ที่บวรภูผาฟ้าน้ำ� และใน วันที่ ๑๘ ถึงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ก็ได้มาพักอยู่ที่ ธุลีฟ้า รีสอร์ทธรรมชาติของคุณจุ้ย (นิวัช) จากนั้นจึงเดินทาง กลับราชธานีอโศก การมาฟื้นฟูสุขภาพครั้งนี้ของพ่อครูไม่ได้มีกำ�หนดการ แน่นอนตายตัว และก็ไม่ได้บอกให้ลูกๆทราบกันโดยทั่วไป เพราะอยากให้พอ่ ครูได้พกั ผ่อนเต็มที่ ซึง่ น่าประทับใจทีล่ กู ๆ ทุกคนต่างยินดีอาราธนาพ่อครูให้พักอยู่นานๆ ไม่ได้มีเรื่อง มารบกวนพ่อครูให้ต้องแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด และก็เป็น ระยะเวลาหนึ่งที่ทำ�ให้ลูกๆได้ฝึกฝนร่วมมือกัน ยังบวรพุทธ ศาสนานี้ให้สืบต่อไปได้ แม้จะไม่มีพ่อครูอยู่ด้วย เป็นการฝึก อยู่กับความอภิมหาบรมอนิจจังอย่างหนึ่ง ชาวญาติธรรมเชียงใหม่ แม้จะรูข้ า่ วอย่างกะทันหัน แต่ก็ ไม่ได้ขาดหกตกหล่นเรือ่ งการต้อนรับขับสู้ ต่างพากันมาอำ�นวย ความสะดวกในเรื่องปัจจัย๔ กับพ่อครูและคณะปัจฉาฯได้

ต่อจากหน้า ๑

กิโลกรัม แต่ต่อมาภายหลังก็ลดลงเท่ากับตอนก่อนมา แต่สิ่งที่ฟื้นคืนมาได้ คืออตีตังสญาณหรือสัญญาใน อดีตที่พ่อครูระลึกได้เรื่องรากของภาษาบาลี จนดำ�ริและทำ� หนังสือ “อักขรนิทสั สน์” ขึน้ มา พ่อครูกไ็ ด้ใช้เวลาทีม่ าพักนี้ เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอีกเล่มหนึ่ง ที่จะเป็นการใช้ภาษา ไทยมาบรรยายความหมายรากฐานของอักขระบาลีอย่าง เป็นสภาวธรรมที่เป็นสมังคีธรรม วันเสาร์ที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๐ วันนี้เป็นวันกำ�หนด กลับจากการพักฟื้นฟูสุขภาพที่จังหวัดเชียงใหม่ พ่อครูได้มา บิณฑบาตพร้อมกับสมณะและสิกขมาตุที่ชมร.เชียงใหม่ ใน เวลา ๐๘.๐๐ น. และเมื่อถึงเวลา ๐๘.๔๐ น. พ่อครูจึงได้มา อย่างครบพร้อม อบอุ่นคุ้นเคย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา เทศนาก่อนฉันทีช่ มร.เชียงใหม่ ก่อนจะเดินทางกลับราชธานี ทำ�หน้าที่อย่างเป็นภราดรภาพ อโศกในบ่ายวันที่ ๒๐ นี้โดยสวัสดิภาพ ในวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ตรงกับวันวิสาขบูชา ในเดือนมิถนุ ายนจะเป็นเดือนครบรอบ ๘๔ ปีของพ่อครู พ่อครูได้ร่วมแสดงธรรมในการเวียนธรรมที่ศาลาซาวปี๋ บวร และมีกิจกรรมที่พ่อครูต้องเดินทางและไปร่วมด้วยหลาย ภูผาฟ้าน้ำ�อีกด้วย ชาวภาคเหนือและชาวอโศกมาร่วมฟัง กิจกรรม ซึง่ ก็ตอ้ งใช้ตน้ ทุนสุขภาพทีด่ พี อจึงจะไม่ปว่ ยได้ การ ธรรมกันเกินร้อยคน เป็นครั้งพิเศษที่พ่อครูได้แสดงธรรม มาฟื้นฟูสุขภาพของพ่อครูครั้งนี้ ก็ต้องขอบคุณพวกลูกๆ วิสาขบูชาที่ภูผาฟ้าน้ำ� ทุกคนทีช่ ว่ ยกันลดอัตตาและเอาภาระงานศาสนากันมากขึ้น โดยองค์รวมสุขภาพของพ่อครูดีขึ้น เพราะได้พักผ่อน ไม่มีเรื่องราวข่าวคราวที่ทำ�ให้พ่อครูต้องเพิ่มภาระ มีแต่เบา เต็มทีแ่ ละมีการออกกำ�ลังกาย โดยการเดินสลับกับโยคะ เท่า ภาระมากขึ้ น และไม่ ยึ ด ติ ด ว่ า จะต้ อ งมี พ่ อ ครู อ ยู่ กั บ เรา ที่อากาศจะเอื้ออำ�นวย พ่อครูมีกำ�ลังในการเดินดีขึ้น เพราะ ตลอดไป สามารถทำ�ใจอยู่กับอภิมหาบรมอนิจจังได้เสมอๆ ต้องเดินขึ้นเขาลงเขาอยู่แทบทุกวัน อาการที่เหมือนจะเป็น ซึ่งจะเป็นเหตุปัจจัยหนึ่งที่จะทำ�ให้พ่อครูมีชีวิตยืนยาวเพื่อ หวัดก่อนหน้านี้ ก็มาหายสนิทตอนอยู่บนดอยแพงค่า (ภูผา ช่วยกอบกูบ้ วรพุทธศาสนานีใ้ ห้ยนื ยาวไปจนครบจบพุทธกาล ฟ้าน้�ำ ) เรือ่ งน้�ำ หนักตัวช่วงแรกทีม่ าน้�ำ หนักขึน้ ประมาณ ๑-๒ ของพระสมณโคดม.


ฉบับที่ ๔๘๐ (๕๐๒)

ข่าวอโศก

7


8

รวมปักษ์ พฤษภาคม-มิถุนายน ๒๕๖๐ มรรคผลของพุทธพิสจู น์ดว้ ยบวร (ต่อจากหน้า ๔)

งานอโศกรำ�ลึก

(ต่อจากหน้า ๑)

ในปีนถ้ี อื เป็นการจัดงานอโศกรำ�ลึก ครัง้ ที่ ๓๖ และบูชา พระบรมสารีรกิ ธาตุ ณ พุทธสถานสันติอโศก กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๕-๑๐ มิถนุ ายน ๒๕๖๐ โดยมีการจัดค่ายเตรียม งานอโศกรำ�ลึกของนักเรียนสัมมาสิกขาชั้นม.๕ และปวช.๒ จากทุกสถาบันของชาวอโศก ชื่อค่าย “ขอทำ�ดีเพื่อพ่อ” ระหว่างวันที่ ๓๑ พ.ค.ถึง ๔ มิ.ย.๖๐ ในเช้าวันจันทร์ที่ ๕ มิถนุ ายน ๒๕๖๐ เป็นพุทธประเพณี บิณฑบาต นำ�โดยพ่อครู สมณะโพธิรักษ์ มีญาติธรรมมารอ ใส่บาตรที่ซอยนวมินทร์ ๔๖ หรือซอยกลางเป็นจำ�นวนมาก หลังจากนั้นมีพิธีน้อมกตัญญูบูชาพ่อครูด้วยการปฏิญาณ ตนสืบสานงานพระพุทธศาสนาต่อหน้าพ่อครู นำ�โดยสมณะ เดินดิน ติกขวีโร ต่อด้วยการแสดงธรรมของพ่อครู ท่านบอก ว่า “มาถึงวันนีเ้ ริม่ รูส้ กึ เหนือ่ ยเป็นอาการเหนือ่ ยทางจิตไม่ใช่ ทางร่างกาย อาตมาบอกให้พวกเราทราบว่าอาตมาว่าอาการ อาตมาเริ่มน่าเป็นห่วง จงเร่งพากเพียรเถิดลูกอโศกเหลือ เวลาอีกไม่มากแล้ว” จากนั้นพ่อครูเป็นประธานพิธีเปิดตลาดนัดบุญนิยม สันตินาคร ซอยนวมินทร์ ๔๖ และเดินเยีย่ มชมบูธขายสินค้า ร้านค้าต่างๆ อย่างทั่วถึง

ช่วงเช้าทุกๆวันจะมีการทำ�วัตรเช้า ในหัวข้อ “๔๗ ปี ชีวติ บวร” ต่อด้วยพุทธประเพณีบณ ิ ฑบาตและธรรมะก่อนฉัน โดยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ นับว่าเป็นการเติมเต็มปัญญารับ ธรรมะพร้อมแสงอรุณรุ่ง กิจกรรมภายในงานมีรายการเสวนาต่างๆที่น่าสนใจ อาทิ ๔๐ ปี ที่ ต้ อ งรำ �ลึ ก , รายการพลั ง ความรั ก เพื่ อ พ่ อ , สัมภาษณ์บรรพชนอโศก, เสวนาโพธิสัตว์พลี, ถามตอบตาม รอยโพธิสัตว์, การแสดงจากบวรต่างๆของชาวอโศก, และ บทเพลงอันไพเราะจากศิลปินรับเชิญอีกหลายท่าน, ชมข่าว เด่นรอบปีชาวอโศก ซึง่ ถือเป็นงานทีม่ กี ารแสดงของบวรหรือ ชุมชนต่างๆของชาวอโศกมากที่สุด ทำ�ให้บรรยากาศเป็นไป อย่างคึกคักอบอุ่นตลอดทั้งวัน งานอโศกรำ�ลึกครั้งที่ ๓๖ และบูชาพระบรมสารีริกธาตุ เป็นเสมือนงานเชื่อมสัมพันธ์ของชาวอโศก เป็นงานแสดง ความกตัญญูกตเวทีพอ่ ครูสมณะโพธิรกั ษ์ ทีม่ อี ายุครบ ๘๓ปี และย่างเข้าสู่ ๗ รอบนักษัตร จึงถือว่าเป็นวันผนึกคุณธรรม สำ�คัญของชาวอโศกทั้งมวลที่จะตั้งใจปฏิบัติให้เป็นจริงตาม ความหมายของวันอโศกรำ�ลึก ๑๗ ประการ ได้แก่ วัน ส่วนตัว วันเงียบ วันอิ่ม วันเล็กๆน้อยๆ วันอบอุ่น วันอิสระ วันสะอาด วันสูญ วันให้ วันง่ายง่าย วันสดชื่น วันรวมแก่น วันจริงใจ วันรัก วันลึก วันกตัญญู วันระลึกถึงพระคุณของ บรรพชน.

อภินโิ รปนา มีวจีสงั ขารทีเ่ ป็นอาริยะ มีกายวิญญัติ วจีวญ ิ ญัติ ทีเ่ ป็นอาริยะ เป็นฌานเป็นสมาธิ ตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า ซึ่งก็ไปติงไปติผู้ปฏิบัติผิด อาตมาไปติ ว งการศาสนาพุ ท ธที่ เ ป็ น ที่ รู้ กั น ว่ า การ ปฏิบัติฌานสมาธิต้องไปนั่งหลับตาสะกดจิตทั้งนั้น เชื่อกัน อย่างนี้และทำ�กันอย่างนี้ ไม่ได้พาทำ�การปฏิบัติฌาน ด้วย การมีศีล สมาธิ และเกิดปัญญาตามบารมีแต่ละคน เริ่มตั้งแต่มีศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ อยู่ในชุมชนชาวอโศก ทุกคนปฏิบัติศีล ๕ เป็นอย่างน้อย แล้วก็เน้นว่าถ้าจะมาอยู่ ในอารามต้องถือศีล ๘ ตอนนีห้ มูบ่ า้ นเราลงตัวแล้วมีคนศีล ๕ ศีล ๘ รวมตัวกัน มีศีล ๑๐ จนมากกว่าศีล ๑๐ เป็นจุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล ส่วนภิกษุก็ถือวินัยด้วย มีจารีตประเพณีการทบทวนโอวาท ปาฏิโมกข์ คำ�สอนพระพุทธเจ้า ไม่ได้มีแค่วินัยแต่คำ�สอน พระพุทธเจ้า มีทั้งธรรมะและวินัย คือปาติโมกข์ คือเพื่อให้ เกิดการขัดเกลาเป็น Action reaction คือการกระทบสัมผัส แล้วขัดเกลาสู่วิโมกข์ สู่การหลุดพ้น นั่นคือโอวาทปาติโมกข์ อาตมาพาพวกเราทำ�จนเกิด เป็นหมู่บ้านทำ�กันทั้งหมู่บ้าน ปฏิบัติศีลสมาธิทั้งหมู่บ้าน แต่ ไม่ใช่นั่งหลับตาสมาธิสะกด ศาสนาพุทธทุกวันนี้ไม่รู้จักบุญเลย รู้จักแต่ทาน แล้ว เป็นการทานที่เป็นบาป ทานแล้วไม่รู้ว่าสัมมาทิฏฐิหรือไม่ อัตถิทินนังคืออย่างไรไม่เข้าใจ มีแต่นัตถิทินนังคือทำ�กัน อย่างกว้างขวาง เช่น การกรวดน้ำ�อุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ตาย เป็นปัจจัยให้ได้สวรรค์วิมาน แล้วให้ได้นิพพานด้วย แต่เขา ไม่รวู้ า่ นิพพานคืออย่างไร หลงสวรรค์อยูก่ ไ็ ม่ได้นพิ พานหรอก ในทานสูตรบอกว่าทานแล้วอย่าสาเปกโข (มีจติ หวังต่อ) ยิง่ มีจติ ผูกพันให้รวยเพิม่ ยิง่ เป็นจิตทีส่ ง่ั สมสันนิธเิ ปกโข ยิ่งแย่ แล้วก็เอาต่อในชาติหน้าอีก แล้วเขาก็ปลื้มใจในความมิจฉาทิฏฐิของตัวเอง ตกซ้ำ� นรกอเวจีของตนเองที่ได้อย่างเต็มๆแล้วก็ปลื้มใจอีก ปลื้ม เป็นตัวที่ ๖ ของทานในทานสูตร คือปรนิมมิตวสวัตดี... แล้วไม่รู้ทั้งในสำ�นักใหญ่ในส่วนกลางว่านี้คือมิจฉา ส่ง เสริมยกย่องเชิดชูบชู า แล้วมีตา่ งประเทศมาให้รางวัลอีก เป็น ความรู้ที่ตื้นเขิน ไม่ได้เป็นปรมัตถ์ ไม่เป็นสมาธิของศาสนา พุทธ มันเป็นโลกีย์ สร้างรูปแบบมาหลอกชาวโลก เหมือน เป็ น ผู้ ที่ มี ค วามรู้ ศ าสนามาก แต่ มั น ออกนอกรี ต ศาสนา พระพุทธเจ้าไปไกลลิบ ถึงวินาทีนี้ อาตมาทำ�งานศาสนามาสรุปว่า อาตมา ทำ�งานประสบผลสำ�เร็จตั้งแต่เกิดสภาพเป็นบวร เกิดสภาพ ชุมชนที่มีบ้านวัดโรงเรียนพร้อมพรั่ง ยืนยันมรรคผล อ้างอิง ไปแล้ว เป็นความภาคภูมิใจของอาตมาที่ได้รู้ตัวว่าอาตมา ทำ�งานศาสนาก็ทิ้งทางโลกมาอย่างเด็ดขาด ออกบวชตั้งแต่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๓ จนถึงทุกวันนี้ ยังยืนยันมัน่ คงแข็งแรง ภาคภูมใิ จทีไ่ ด้ท�ำ งานศาสนามา อายุปนู นีเ้ หนือ่ ยไหมเหนือ่ ย เหนื่อยก็พัก ไม่เหนื่อยก็เพียร เห็นผลไม่สูญเปล่า คนที่ตาไม่ดีก็ไม่รู้ว่าอาตมาพาทำ�นั้นมีภูมิปัญญา มี มรรคผลบรรลุธรรมอย่างแท้จริง ไม่ได้อวดดี แต่พดู สัจจะจริงๆ ใครกล้าพูดอย่างอาสภิวาจา อย่างอาตมานีไ้ ด้บา้ ง สำ�นักไหน กล้าพูดอย่างนี้ ไม่ได้พาทำ�อย่างสำ�นักอื่น บวชกันมากมาย แต่ที่นี่บวชยากด้วย แต่ไม่ต้องบวชแม้จะเป็นฆราวาสก็มี ภูมิธรรมเป็นโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ได้. พ่อครูแสดงธรรมในรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ทีบ่ า้ นราชฯ วันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐


ฉบับที่ ๔๘๐ (๕๐๒)

ข่าวอโศก

9

สัญญาณที่ชาวอโศกต้องสำ�เหนียกและสำ�นึก! สัญญาณ ครั้งที่ ๑ พ่อครูไขความ เรื่องที่มีข่าวออกไป ว่าจะปลงอายุสงั ขารแล้ว ซึง่ มันเป็นเรือ่ งทีเ่ กิดขึน้ ในบ่ายวัน ที่ ๗ เม.ย.๖๐ ทางปัจฉาฯดินไท ได้บันทึกเอาไว้ว่า พ่อครูพูดว่า... “ปีนี้ ๖๐ คงได้อยู่เนาะ ปี’๖๐ โฮ้...มัน นานเกิน...โอ๊ยยย... อาตมาคือยังงี้ ปีนมี้ นั เป็นปีครบอีกรอบ นักษัตรหนึ่ง อาตมาใช้อิทธิบาทมา ๑ นักษัตรแล้ว ๗๒ มา ถึง ๘๔ แล้ว เพราะฉะนั้นปีนี้นี่หนัก ถ้าเกินปีนี้ไปก็จะดีขึ้น หน่อย ปีนี้จะหนัก อยู่ ไม่อยู่ ก็ไม่รู้ได้ ...ปี ๘๓-๘๔ นี้ล่ะ เพราะฉะนั้น ๘๔ นี้จะหนัก ต้องสู้ ขึ้นรอบใหม่ จะได้หรือ ไม่ได้ ก็ไม่รู้ ถ้าเข้ารอบใหม่ไม่ได้ก็ต้องจบ” สัญญาณ ครั้งที่ ๒ พ่อครูขอร้องลูกๆ ตอน เทศน์เปิด งานอโศกรำ�ลึก ครั้งที่ ๓๖ (๕ มิถุนายน ๒๕๖๐) พูดจริงๆ มาถึงปีนี้วันนี้อาตมารู้สึกเหนื่อย ธรรมดาก็ ไม่เคยเกิดอาการอย่างนี้ อาการเหนือ่ ยนี้ เห็นว่าไม่ดแี น่ๆ นี่ เป็นความรูส้ กึ นะ ไม่ใช่เรือ่ งของร่างกายเหนือ่ ยนะ พลังงาน ทางจิต มันสุดเหนื่อย ถ้าเหนื่อยที่หนักหนาสาหัสกว่านี้มัน จะเหนือ่ ยหน่าย ถ้าอาการถึงหน่ายแล้ว อาตมาว่าไม่รอดๆๆ อาการน่าเป็นห่วง ตายแน่ๆ ไม่ดี สัญญาณ ครัง้ ที่ ๓ ช่วงแสดงธรรมก่อนฉัน (๖ มิถนุ ายน ๒๕๖๐) สรุปแล้วอาตมาทำ�งานมาถึงวันนี้ ก็ขอบอกความจริง อย่างหนึ่ง อาตมาไม่เคยเกิดความรู้สึกอย่างนี้เลย ทำ�งาน มา ๔๗ ปี ปีนี้ย่างอายุ ๘๔ มันเป็นอาการที่เกิดเองคือ เหนื่อย ถามต่อว่าถึงขั้นท้อไหมก็ไม่ท้อ ถอยก็ไม่มี ยังไม่ถึง กับท้อ แต่เมื่อย มันเมื่อย เพราะอะไร เพราะตัวที่เมื่อยคือเมื่อยใจ คือมันทำ�ไมยากฉิบหายเลย ตัวนี้แหละที่ทำ�ให้อาตมารู้สึก เหนื่อย คือยากฉิบหาย เหตุที่มันยากคือคนยึดตัวตน ยึดทิฏฐิ คนมีอุปาทาน ๔ ครบ จึงยาก (อุปาทาน ๔ = ๑.กามุปาทาน กามคือ ความใคร่อยาก เขาได้ตามความใคร่อยากเขาถึงได้ยึดบัลลังก์นั้น เขาได้ บัลลังก์ลาภยศสรรเสริญโลกียสุข เต็มคราบของกามุปาทาน ๒.ทิฏฐุปาทาน ยึดถือความรู้ ความเห็น ลัทธิ จารีต ประเพณี การสั่งสอนของโบราณาจารย์ สืบทอดกันมาแต่ เดิมซึ่งมันผิด การยึดทิฏฐิเก่าที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ๓. สีลลัพพตุปาทาน ศาสนาพุทธนัน้ ศีลได้หมดไป มีแต่ วินัย สมาธิก็หมดไป มีแต่มิจฉาสมาธิการนั่งหลับตา ๔.อัตตวาทุปาทาน คือ ผูท้ ยี่ ดึ ถือได้แค่ค�ำ พูดเป็นอัตตา ยังไม่ได้ยึดตัวอัตตาจริง ยังไม่รู้จักตัวอัตตาจริง ได้แต่พยัญชนะภาษาคำ�พูดแต่ตวั จริงยังไกล ยังยึดไม่ถงึ ตัวอัตตา จึงหมดทางเลย คนที่มีอุปาทานยึดติดแค่อัตตวา ทุปาทาน) สัญญาณ ครั้งที่ ๔ พ่อครูบอก...ถ้าพวกเราเต็มแล้ว

พ่อครูก็ควรตายได้ (๘ มิถุนายน ๒๕๖๐) มาถึงวันนี้ปีนี้แล้ว อาตมารู้สึกว่าตนเองทำ�งานเต็มๆ แล้ว มันก็เลยรู้สึกว่าไม่เหมือนเมื่อก่อน ทำ�งานมีพลังที่ ไม่รู้สึกอย่างนี้ มันเหมือนรู้สึกว่าต้องให้ๆๆๆ ที่รู้สึกว่าเต็มก็คือ รับกันไปเต็มหมดแล้ว คนข้างนอก ก็เต็ม คนข้างในก็เต็ม ที่อาตมาให้ไปนี่ เต็มหมดแล้ว รู้สึก ว่ามาฟังก็อย่างนั้นแหละ มาพบก็ตามมารยาท ไม่ค่อยรู้สึก กระตือรือร้นอยากเข้ามาอะไรมากมายหรอก รู้สึกอย่างนั้น จริงๆ จะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงก็ไม่รู้นะ วัดตามภูมิอาตมา ตามมิเตอร์อาตมา มันก็เลยว่า คงเต็มแล้วนะ อาตมาคงควร ตายได้แล้วมั้ง...พวกเรารีบอุทานว่า ไม่ได้นะ พ่อครูว่า คุณพูดเป็นเล่นไป ไม่ตายไม่ได้ได้ไง?...... พ่อครูเปิดใจ “เหนือ่ ยยังไงๆก็ไม่ทอ้ !” (โอวาทปิดประชุม สถาบันบุญนิยม ๗ มิถุนายน ๒๕๖๐) ว่า... สังคมประเทศชาติหรือมนุษย์ยุคนี้ โอ้โฮ...มันยากเข็ญ จริงๆ จนอาตมาได้บ่นว่าอาตมาเหนื่อย เหนื่อยจริงๆเลย โอ้โฮ...ทำ�ไมมันยากจริงๆ มันน่าจะมีกระแสหลักๆ หรือ องค์กรหลักๆ ในสังคมประเทศชาติแสดงออกในการยินดี หรือว่ารองรับ ไม่ถึงมารับรองหรอก เพียงแค่ว่ายินดีๆ อะไรๆบ้าง ก็ยังไม่... ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำ�มีอะไรซ่อนแฝง หรือไปมีเล่ห์เหลี่ยม อะไรเพื่อจะเอาอะไรจากสังคม หาประโยชน์อะไรจากสังคม หรือว่ากันตรงๆ แม้แต่หาเสียง ทำ�เพื่อโฆษณาหาเสียงให้ อโศกเรา ก็ว่าเราไม่มีนะ เราก็ว่าเราไม่มีเชิงนั้นเลย อย่างนี้ เป็นต้น เราว่าเราบริสุทธิ์สะอาด ทำ�อะไรเพื่อมวลประชาชน เสียสละด้วยจริงใจ ทำ�ด้วยเกิดจากจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ ก็ เป็นการทำ�ให้ ทำ�เสียสละ ทำ�สร้างสรร เผื่อแผ่เกื้อกูลเป็น สังคหะ เป็นสังคหธรรมที่แท้จริง แต่มันก็ยากมากที่จะลด หย่อนความอาภัพของอาตมา พูดตรงๆเลย สิง่ ทีอ่ าตมาพาพวกเราทำ� พวกเราก็รบั รูร้ ว่ มด้วย อย่าง ที่เราทำ�มันอาภัพไปทั้งมวลชาวอโศก แต่อาตมาไม่ท้อนะ พวกเรามีใครท้อบ้าง ยกมือดีๆ ใครท้อ??? อ้าวแล้วกัน แก่นฟ้าท้อ โอ้โฮ้... “แก่น-ฟ้า” นั่นท้อแล้วนะ! แก่นฟ้าท้อ แล้วนี่ ตายๆๆ ทำ�ไมท้อ...ลองพูดดูซมิ นั เหตุมนี �ำ้ หนักอย่างไร คุณแก่นฟ้าว่า...คือพ่อครูบอกว่าเหนื่อยและท้อ ผมก็ เลยท้อตาม พ่อครูว่า...ไม่ได้ท้อ อาตมาไม่ได้ท้อ อาตมาเหนื่อย เหนื่อยนั้นเหนื่อยจริงๆ โอ้โหเหนื่อยลิ้นห้อยเลย เหนื่อย จริงๆ แต่อาตมาไม่ได้ท้อเลยนะ คุณแก่นฟ้าว่า...วันที่ ๕ ที่พ่อครูบอกท้อ ผมก็เลย... พ่อครูว่า...ไม่เคยพูด อาตมาไม่เคยบอกว่าอาตมาท้อ เลย ไม่เคย นี่อย่างนี้สอบตก ฟังเลคเชอร์อย่างนี้สอบตก... จริงๆแล้วมันเป็นสิ่งที่ดี อาตมามั่นใจว่าเราไม่ได้ทำ�สิ่งเลว ร้ายและไม่ได้ท�ำ สิง่ เสียหายอะไร แล้วก็ยงั มีพลังทุนรอน พลัง

แรงงาน พลังน้ำ�ใจ เรายังมีพอที่จะทำ�อยู่ อาตมาก็ทำ� อย่าง ที่พวกเราก็ร่วมไม้ร่วมมือกันอยู่นี่ ทำ� เพราะว่ามันไม่ใช่เป็นสิง่ เลวร้ายเลย มีสง่ิ ดี ดีสดุ ยอด เลยนะ อาตมาว่า เพราะงัน้ เราจะทำ�ไปอีก ถ้าทำ�ไปถึง ๑๐๐ ปีได้ก็ทำ� นี่เราพึ่งจะทำ�ได้ ๔๗ ปีเอง ก็ทำ�ต่อไป เหนื่อยนั้น เหนื่อยแน่นอน แต่มันไม่ใช่เรื่องที่น่าท้อ ที่ไม่ท้อเพราะอะไร เพราะอาตมาใช้ปัญญา ที่ไม่เคย เกิดท้อเพราะอาตมามีปญ ั ญา อาตมาไม่โง่ ถ้าโง่ทอ้ แน่ ทีว่ า่ อาตมามีปญ ั ญาก็เพราะว่าอาตมารูอ้ ยูแ่ ล้วด้วยความจริงเลย ด้วยความเฉลียวฉลาดหรือรอบรู้นี่แหละว่าสิ่งที่เราทำ� ไม่ใช่ สิ่งที่เสียหาย ไม่ใช่สิ่งที่ผิด ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี สำ�คัญก็คือ เป็นสิ่งที่เป็นดีมาน Demand เป็นความ ต้องการอย่างมากของสังคม คนอย่างนีเ้ ป็นดีมานของสังคม ตลอดกาล แล้วขณะนี้ยิ่งดีมานสูงด้วย ที่เราจะต้องผลิตต้อง สร้าง (ซัพพลาย) คนเหล่านี้ เพราะคนเสียสละ คนให้ คนมี กิเลสน้อย คนไม่ไปเอาเปรียบเขา หรือไปกอบโกยโลภมาก เอาประโยชน์จากผูอ้ นื่ มันเป็นเนือ้ หาสาระสำ�คัญของสังคม ทุกวันนี้เลย เพราะฉะนั้ น ที่ เราประพฤติ นี้ จึ ง เป็ น ดี ม าน (ความ ต้องการ) อันยิ่งใหญ่ ที่จะต้องการซัพพลาย (สร้างออกไป) อย่างยิ่งเพราะฉะนั้นอาตมาถึงเห็นด้วยปัญญา เห็นด้วย ความเข้าใจ ถ้าเราไม่ทำ�แล้วใครจะทำ� ไม่เห็นใครมาทำ�จริง ไม่เห็นใครมาทำ�ต่อเนื่อง ไม่เห็นใครจริงอย่างให้มันเป็นโล้ เป็นพายกันถึงอย่างที่เราทำ� ไม่ใช่วา่ อาตมามองแบบหลงตัวเองนะ เพราะสิง่ ท่เี ราทำ�นี่ ทำ�ไปจนกระทั่งถึงสัมมาอาชีพ สัมมากัมมันตะ สัมมาวาจา สัมมาสังกัปปะ เราทำ�ครบนะ จนถึงกลายเป็นอาชีพด้วย พา ให้เปลี่ยนแปลงอาชีพเลย สร้างสมาชิกสร้างกลุ่มหมู่ด้วย ก็ มาทำ�อันนี้กันด้วย เราทำ�กันจริงๆด้วยใช่ไหม เพราะฉะนัน้ อาตมารูด้ ว้ ยปัญญาว่า เราทำ�จริง เราทำ�สิง่ ที่ ดีและที่สำ�คัญมันได้ลดกิเลสตัวเองไหม? ได้ทำ�ดีไหม? นี่คือ สิ่งที่อาตมาเห็นว่าไม่ทำ�ไม่ได้หรอก ถึงมันไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่ แต่เมือ่ มีคนทำ�ก็ดแี ล้ว มันก็ได้มคี นขึน้ มาร่วมกันทำ�เพิม่ ๆขึน้ อาตมาว่ามันก็มีอัตราก้าวหน้าอยู่เหมือนกัน ที่ทำ�ไปก็ไม่ใช่ ว่าลดถอยเหลือน้อยจนกระทั่งไม่มีใครแล้ว มันมีอยู่นะ มี กระจายออกไปสูต่ ลาดกว้างขึน้ ทำ�อะไรต่ออะไรก็ได้อยู่ คนก็ ต้อนรับอยู่ คนเขาไม่ได้ปฏิเสธ แต่คนเขายังเห็นแก่ตัวกันอยู่ เขาก็ยงั มาร่วมไม่ได้ คนทีเ่ ขาร่วมได้กเ็ ออ...ดีๆ มันก็นอ้ ย ไม่รู้ จะทำ�อย่างไร เพราะว่าถึงยุคนี้ เป็นยุคทีค่ นเห็นแก่ตวั จัด เรา ทำ�ได้ขนาดนีก้ ด็ แี ล้ว เอาหละก็ตอ้ งขอบคุณพวกเรา ยังมาฟัง ยังมาร่วมช่วยกันคิด ช่วยกันทำ� นีเ่ รามาช่วยกันคิดช่วยกันทำ� เบีย้ เลีย้ งประชุมก็ไม่ได้ ไม่มรี ายได้อะไรทัง้ นัน้ แต่มาทำ�ด้วย ความเข้าใจด้วยปัญญาที่จริง ก็ต้องขอบคุณพวกเราจริงๆ รายงานจากกองงานปัจฉาพ่อครู


10 อโศกรำ�ลึก

รวมปักษ์ พฤษภาคม-มิถุนายน ๒๕๖๐ (ต่อจากหน้า ๑๒)

ในประการแรก คือความเป็นนานาสังวาสระหว่าง สันติอโศกกับคณะสงฆ์อนื่ นัน้ เป็นเรือ่ งทีค่ ณะสงฆ์หรือสมณะ ของสันติอโศก รวมทั้งพุทธบริษัททั้งหลายยังคงมีฐานะเป็น พระสงฆ์หรือเป็นชาวพุทธในพระพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์ เป็นแต่ว่ามีความแตกต่างในความเป็นชาวพุทธด้วยกันใน บางประการ ดังเช่นการเน้นในศีล คือจุลศีล มัชฌิมศีล และมหาศีล อันเป็นบาทฐานของไตรสิกขา คือศีล สมาธิ ปัญญา ถือเอาการ เดินสายตรงเพื่อบรรลุถึงมรรคผลนิพพานและถือเอาการ ดำ�รงอยู่เพื่อประโยชน์ของชนหมู่มากในโลก แทนที่จะเอา ตัวรอดหรือแยกหมู่คณะ ดังนั้นชาวพุทธจึงพึงมีความสนิท ใจต่อคณะสงฆ์ของสันติอโศกว่าเป็นพระสงฆ์สาวกของพระ ศาสดาโดยนัยยะดังกล่าวนี้ และคณะสงฆ์ เ หล่ า นั้ น ล้ ว นประพฤติ พ รหมจรรย์ ตามพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงและบัญญัติเพื่อ ประโยชน์และความสุขของคนหมู่มากในโลก ประการทีส่ อง การดำ�รงอยูข่ องสันติอโศกเป็นแบบอย่าง และแบบแผนในการดำ�รงชีวติ ในวิถแี ห่งพระพุทธศาสนา คือ เป็นผูเ้ ลีย้ งง่าย เป็นผูไ้ ม่เป็นภาระแก่ใคร เป็นผูท้ มี่ แี ต่ให้ และ เป็นการปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่เห็น ประจักษ์อย่างแท้จริง การไม่แสวงหาโลกธรรมทั้งหลาย ไม่ว่าลาภ ยศ สุข สรรเสริญ การไม่แบกของหนักคือธุระ ภาระ และกิเลส อัน ก่อเกิดเป็นอาสวะรุมเร้าให้ติดยึดอยู่ในภพและชาติ เป็น แบบอย่างที่เห็นประจักษ์ แม้เมื่อโลกธรรมกระทบแล้วก็เป็น ที่ประจักษ์ว่าไม่หวั่นไหวแม้เสี้ยวธุลี มีจิตที่เกษมผ่องใส มี ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส อันเป็นผลโดยตรงของการปฏิบัติ มงคลข้อ ๓๘ ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสรรเสริญ

ศาลยกฟ้องแกนนำ�พธม.

ประการที่สาม เป้าหมายใหญ่ใจความในการประกาศ พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า ซึง่ ทรงประกาศเป็นครัง้ แรก เมื่อครั้งส่งพระอรหันตสาวกชุดแรกไปประกาศพระศาสนา ก็ดี ในการให้อุปสมบทก็ดี และในมากที่มากแห่ง มีความ แจ่มแจ้งชัดเจนเป็นอย่างเดียวว่าเป็นไปเพือ่ ประโยชน์สขุ ของ ชนหมู่มากในโลก ไม่ได้ถือเอามรรคผลและความหลุดพ้น เป็นประโยชน์แก่ตนหรือหมู่คณะเป็นการเฉพาะ แต่เผื่อแผ่ ประโยชน์และความสุขนั้นแก่คนส่วนใหญ่ในโลก ในกรณีวกิ ฤตทีเ่ กิดขึน้ ในบ้านเมืองหลายครัง้ แม้ในยาม ที่ประเทศชาติอยู่ในความเศร้าสลด อันเนื่องแต่การสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ชาวอโศกก็ได้ เป็นส่วนหนึง่ ทีไ่ ด้รว่ มทุกข์รว่ มสุข เคียงบ่า เคียงไหล่และเป็น ผูใ้ ห้แก่สงั คม แก่ประเทศชาติ อันเห็นประจักษ์ชดั แม้ทสี่ นาม หลวง ชาวสันติอโศกก็ได้จัดตั้งโรงบุญเพื่อจัดทำ�อาหารให้ บริการแก่ประชาชนทุกวัน วันละนับหมื่นๆชุด โดยไม่เคย เรี่ยไรหรือรับบริจาคจากผู้ใด ผลผลิตของชาวสันติอโศกจาก ทัว่ ประเทศได้หลัง่ ไหลเข้ามาเพือ่ อำ�นวยประโยชน์ให้แก่พน่ี อ้ ง ประชาชนโดยถ้วนหน้า ประการที่สี่ การสร้างสรรค์สังคมอารยะขึ้นในหลาย พื้นที่ของประเทศไทย ที่มีความเป็นบูรณาการระหว่างบ้าน วัด และโรงเรียน กำ�ลังเป็นแบบอย่างอันเจิดจ้าของสังคม ไทย ทีท่ �ำ ให้ผคู้ นในสังคมนัน้ เป็นผูม้ ศี ลี เป็นผูม้ คี วามเก่งกล้า สามารถในการงานและเชีย่ วชาญในสาขาวิชาต่างๆ แทนทีจ่ ะ เป็นสังคมหมาหางด้วน คือเรียนความรู้แต่ขาดคู่คุณธรรม ดังที่ท่านเจ้าคุณพุทธทาสได้กล่าวเอาไว้ การสร้างต้นแบบสังคมอารยะเพื่อให้คนทั้งหลายได้ชิม ลองสังคมยุคพระศรีอาริย์ว่าเป็นอย่างไร ได้ปรากฏเป็นจริง ขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ของประเทศไทย

(ต่อจากหน้า ๑๒)

ศาลแขวงดุสิตพิพากษายกฟ้อง ๑๐ แกนนำ�พันธมิตรฯ ชุมนุมไม่ผิด พ.ร.บ.มั่นคงฯ กรณีคัดค้านกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกปี ๕๓ วันที่ ๓๑ พ.ค. ๒๕๖๐ ศาลแขวงดุสิตมีคำ�พิพากษายกฟ้อง คดีที่ อ.๖๐๗/๒๕๔๘ ที่ พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง ๓ (ดุสติ ) เป็นโจทก์ยนื่ ฟ้อง พล.ต.จำ�ลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายประพันธ์ คูณมี, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, สมณะโพธิรักษ์, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายเทิดภูมิ ใจดี, นายพิภพ ธงไชย, นายรัชต์ยุตม์ หรืออมร ศิร โยธินภักดี, นายทศพล แก้วทิมา แกนนำ�พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ เป็นจำ�เลยที่ ๑-๑๐ ในความผิดฐานร่วมกันฝ่าฝืนประกาศ และข้อกำ�หนดห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่ หรือสถานที่ ที่กำ�หนด ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.๒๕๕๑ ซึ่งอัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ ๑๐ มี.ค. ๒๕๕๘ กรณีเมื่อวันที่ ๘ ก.พ.๒๕๕๔ กลุ่ม พธม. และกลุ่มที่ใช้ ชือ่ “เครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ” ได้ตงั้ เวทีชมุ นุมทีเ่ ชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึง่ แกนนำ�ได้สลับกันขึน้ เวทีปราศรัยโจมตีการบริหารประเทศของรัฐบาลกรณีความสัมพันธ์ ไทยกับกัมพูชา อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศให้ เป็นพื้นที่มีเหตุการณ์กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดย น.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ เปิดเผยว่า ศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจาก เห็นว่าการประกาศพืน้ ทีห่ า้ มตาม พ.ร.บ.ความมัน่ คงฯ ได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาใน วันที่ ๒ มี.ค.๒๕๕๔ หลังจากทีพ่ วกจำ�เลยร่วมกันชุมนุม ทางข้อกฎหมายจึงไม่อาจบังคับโทษได้

สังคมที่คนทั้งหลายมีศีล ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้ อื่น เป็นสังคมที่ผู้คนประพฤติปฏิบัติธรรมและมุ่งหน้าตรงสู่ มรรคผลนิพพาน ทั้งอำ�นวยประโยชน์ของสังคมอารยะนั้น ให้แก่เพื่อนมนุษย์และพี่น้องร่วมชาติด้วยกันกำ�ลังเจิดจ้าขึ้น ดุจดังรุง่ อรุณของสังคมพระศรีอาริยท์ สี่ ามารถเห็นด้วยตา จับ ต้องสัมผัสได้ตลอดเวลาในหลายที่หลายแห่ง เป็นสังคมทีม่ คี วามปลอดภัยสูงสุดสำ�หรับผูค้ นในสังคม นั้น และให้ความปลอดภัยแก่ผู้อื่นหรือสังคมอื่น ทั้งอำ�นวย ประโยชน์ให้แก่ประชาชนและสังคมอื่นๆ เป็นที่ประจักษ์ชัด วันเวลาเคลื่อนคล้อยไปอย่างรวดเร็ว สรรพสิ่งย่อม เป็นไปตามกฎแห่งพระไตรลักษณ์ พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ก็ เจริญอายุมาแล้วถึงรอบนักษัตรที่เจ็ด เกินกว่าพระชนมายุ ของพระบรมศาสดา แต่ บ รรดาชาวพุ ท ธแห่ ง สั น ติ อ โศก ก็ได้พร้อมเพรียงน้ำ�ใจกันอาราธนาให้ดำ�รงขันธ์ต่อไป เพื่อ ประกาศพระธรรมวินัยและเพื่อประโยชน์สุขของคนหมู่มาก ในโลกต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ชีวิตของคนคนหนึ่งเกิดมาแล้วก็ต้องตายด้วยกันทุกคน แต่คณ ุ ค่าของการตายต่างกัน บ้างก็ตายอย่างไร้คา่ ยิง่ กว่าหมา ข้างถนน ทีม่ แี ต่คนสาปแช่ง คนด่าไปถึงลูกหลาน แต่ชีวิตของ พ่อท่าน สมณะโพธิรักษ์นั้นคือชีวิตของพระพุทธสาวก ที่ไม่ ได้มีสิ่งไรๆเพื่อตน นอกจากมรรคผลที่บังเกิดขึ้นจากการ ประพฤติพรหมจรรย์ และพระธรรมอันได้ประกาศถ่ายทอด พระพุทธวจนเพือ่ ประโยชน์และความสุขของคนหมูม่ ากในโลก จึงขอนอบน้อมบูชาพระคุณของพ่อท่าน สมณะโพธิรกั ษ์ ไว้ในโอกาสนี้ และตั้งความปรารถนาให้การสร้างและพัฒนา สังคมอารยะของสันติอโศกเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ได้ก้าวรุดหน้าไปตลอดกาลนาน. โดย สิริอัญญา วันเสาร์ที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๐

ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กล่าวว่า คดีนี้กลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้อง แผ่นดินและกลุม่ พันธมิตรประชาชนเพือ่ ประชาธิปไตย (พธม.) ได้รว่ มชุมนุมเพือ่ ปกป้อง อธิปไตยของชาติ โดยคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกของ กัมพูชาเพียงฝ่ายเดียวและกรณีน�ำ คดีปราสาทเขาพระวิหารและพืน้ ทีโ่ ดยรอบไปตีความ ทีศ่ าลโลก รวมทัง้ การขึน้ ทะเบียนทะเบียนมรดกโลกเมือ่ ปี ๒๕๕๓-๒๕๕๔ ในช่วงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ พ.ศ.๒๕๕๑ พร้อมประกาศ พื้นที่ห้ามชุมนุม ซึ่งเราได้ต่อสู้คดีในหลายประเด็น หนึ่งในประเด็นสำ�คัญคือ การออก ประกาศที่เป็นโทษกับประชาชนจะต้องลงประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาก่อน แต่ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่รัฐได้เอาผิดกับประชาชนก่อนที่จะประกาศลงในพระราชกิจจา นุเบกษา กรณีดังกล่าวกฎหมายจึงไม่สามารถบังคับใช้ได้และผู้ถูกกล่าวหาทั้ง ๑๐ คน จึงไม่มีความผิด ดังนั้นศาลจึงพิพากษายกฟ้อง ซึ่งถือเป็นคดีแรกในรอบหลายปีที่ได้มี การพิสจู น์ตามกระบวนการยุตธิ รรม แล้วศาลพิพากษาว่าไม่มคี วามผิด เพราะเห็นว่ามี การกระทำ�ผิดขัน้ ตอนตามกฎหมาย ซึง่ เป็นอุธาหรณ์ของเจ้าหน้าทีต่ �ำ รวจว่าการจับกุม ลักษณะเช่นนี้เป็นการกระทำ�ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย “ที่จริงแล้วบทลงโทษในคดีนี้อาจจะไม่มาก เนื่องจากเป็นความผิดพ.ร.บ.ความ มัน่ คง แต่เราตัดสินใจต่อสูค้ ดีโดยใช้เวลาถึง ๖ ปีเต็ม เพือ่ หวังว่าสิง่ ทีไ่ ม่ถกู ต้องจะต้องถูก ต่อสู้ทางคดีความจากประชาชน เพื่อหวังจะสร้างบรรทัดฐานในเรื่องการชุมนุมกับการ บังคับใช้กฎหมายโดยมิชอบให้ได้รบั ความเป็นธรรมกับประชาชน” นายปานเทพ กล่าว (โดย MGR Online ๓๑ พ.ค. ๒๕๖๐)


ฉบับที่ ๔๘๐ (๕๐๒)

ข่าวอโศก ให้เป็นรูปใบโพธิ์อย่างสวยงาม ใบโพธิ์นี้มีให้ เขียนจนวันสุดท้ายของงาน จิง้ หรีดได้เห็นทัง้ เด็กๆชั้นประถม พี่ๆมัธยม ศิษย์เก่า ญาติ ธรรม คนวัด ผู้อายุยาว ทุกเพศทุกวัย แม้แต่ ท่านสมณะ สิกขมาตุ ทยอยกันมาเขียนไม่ เว้นแต่ละวัน มีคนเล่าให้จิ้งหรีดฟังด้วยว่า เมื่อพ่อครูเทศน์เสร็จก็จะเดินมาอ่านใบโพธิ์ ที่ลูกๆเขียน ซึ่งพ่อครูมีสีหน้ายิ้มแย้มขณะที่ อ่านใบโพธิ์แต่ละใบ ในวันสุดท้ายของงาน จิ้งหรีดได้เห็นนักเรียนมาช่วยกันเรียงใบโพธิ์ v เราบ้านเดียวกัน... ทีท่ กุ คนเขียนอย่างสวยงามใส่พาน เพือ่ นำ�ไป จิง้ หรีดได้ไปอยูร่ ว่ มบรรยากาศของศิษย์ ถวายพ่อครู จิ้งหรีดขอให้ทุกท่านทั้งที่เขียน เก่าในการซักซ้อมการร้องเพลง หลังจากพบ และไม่ได้เขียนร่วมกันปฏิบัติบูชาให้สมกับที่ หลวงปู่แล้ว ศิษย์เก่าพากันไปซักซ้อมร้อง ได้ตั้งจิตกันนะฮะ...จี๊ดๆๆ v ดีอย่างนี้ต้องยกนิ้วโป้งให้... เพลงพญาแร้ง หลายคนไม่มนั่ ใจนัก หลายคน จิ้งหรีดเดินผ่านซอย๔๔ ซึ่งเป็นซอยที่ จำ�เนือ้ ไม่ได้ แต่ดว้ ยความทีศ่ ษิ ย์เก่าได้ฝกึ ฝน เมือ่ อยูส่ มั มาสิกขาเรือ่ ยมา ในการซ้อมรวมกัน มีรถสัญจรไปมามากที่สุด ได้เห็นบรรยากาศ ครั้งแรกทุกคนรู้สึกทึ่งในตนเองว่าสามารถ ของทีมจราจรทั้งพี่ตัวโตๆและน้องๆชั้นม.๑ ร้องได้ดีเกิดคาด หลายคนเอ่ยปาก “ป้าด รวมถึงเด็กชั้นประถมที่มาช่วยงานจัดคิวรถ คือร้องดีแท้หว่า” อีกคนก็วา่ “เฮ้ยบ่ได้ยอเด้ เข้าออก ที่เรียกได้ว่าเล่นเก้าอี้ดนตรีกันเลย นี่ ร้องดีอีหลี” บ้างก็ว่า “เออจริงๆไม่น่าเชื่อ ทีเดียว โดยเฉพาะทางแคบวิ่งสวนทางกันไม่ ซ้อมครัง้ แรกร้องได้ขนาดนี้ ตอนแรกนึกว่าจะ ได้ แม้งานจะเหนื่อยแต่น้องๆดูสนุกสนาน ไม่รอดซะอีก” แล้วก็พากันหัวเราะ และแม้มี บางคนเล่นด้วยการพากษ์เหมือนการแข่งรถ เวลาซ้อมเพียงรอบครึ่ง ทางเวทีก็เรียกให้ไป แต่เป็นการพากษ์ว่ารถคันไหนจะเข้าจะออก จิง้ หรีดได้ยนิ พีบ่ างคนบ่นเหนือ่ ยหิวข้าว เข้าแถวยืนเตรียมตัว ก็เป็นพลังอันสำ�คัญที่ ช่วยส่งเสริมให้น้องๆสัมมาสิกขามีกำ�ลังใจ จึงมีพี่ๆศิษย์เก่าอาสาจะไปเอาอาหารมาให้ น้องคนนัน้ จึงตอบว่า “ผมทานแล้วแต่เหนือ่ ย และสามารถเปล่งเสียงได้ดังกว่าเดิม จากที่จิ้งหรีดได้ฟังจากผู้ใหญ่ที่ร่วมอยู่ เลยหิวครับ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาทานอีกมื้อ ในบรรยากาศบอกว่า น้องๆทีซ่ อ้ มมาเคยชิน นึงครับ ขอบคุณครับพี่” แล้วยกมือไหว้พี่คน กับการร้องเพลงเสียงธรรมดา เวลาเวทีบอก ที่ถาม รุ่นพี่ยกนิ้วโป้งให้สองข้างชื่นชมน้อง ให้เพิ่มเบอร์เสียงจาก ๕ เป็น ๗ ก็ดูเหมือน คนนั้น จิ้งหรีดเห็นแล้วประทับใจน้องๆที่ไม่ ไม่ดงั ขึน้ เท่าไหร่ แต่เมือ่ พีๆ ่ ศิษย์เก่าเข้ามายืน ยอมผิดศีลไปกินนอกมือ้ และรักษาหน้าทีข่ อง ร่วมซ้อมรอบสุดท้ายก็ช่วยให้น้องๆเกิดพลัง ตนเองนะฮะ...จี๊ดๆๆ v ถั่วงาพายายรอด... และเสียงของศิษย์เก่าดังมาก คำ�ความชัดเจน จิ้งหรีดได้ไปร่วมบรรยากาศการซ้อม ที่น่าประทับใจยิ่งไปกว่านั้นคือ พี่น้องศิษย์ เก่าจากแต่ละสถาบันซึ่งมีหลายรุ่น หลาย ร้องเพลงหลายครั้งเพื่อใช้ทำ�กิจกรรมในวัน คนคุ้นหน้าแต่ไม่รู้จักชื่อ บางคนไม่รู้จักคุ้น ที่ ๙ มิถุนายน ซึ่งแต่ละครั้งมีคนมาร่วมมาก เคย แต่เมื่อมาอยู่รวมกัน ทุกคนพูดคุยเล่น ขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนตั้งใจและพยายามทำ�ตาม ทักทายกัน ยิ้มแย้ม บ้างถ่ายภาพทั้งที่ไม่ได้ ที่ ผู้ กำ � กั บ บอก มี ก ารซ้ อ มร้ อ งเพลงหลาย คุ้นเคยแต่ก็มารวมกันเข้ากล้องซึ่งเป็นกล้อง ครั้งและเน้นว่าวันจริงเราจำ�ไม่ถือเนื้อร้อง ใครบ้างก็ไม่รู้ แต่ความรู้สึกคือหนึ่งเดียว เรา แบบที่ซ้อมกัน จิ้งหรีดเห็นความตั้งใจของ ทุกคนที่พยายามฝึกฝน ท่องเนื้อเพลง โดย ลูกพ่อเดียวกัน มีรุ่นน้องพูดแซวเพื่อนกันเองว่า “อุ้ย เฉพาะผู้อายุยาว เมื่อเลิกซ้อมกลับมาที่พัก ไปถ่ายรูปกับเอือ้ ยเผิน่ รูจ้ กั เอือ้ ยเขาบ่ ไปเข้า จิ้งหรีดได้ยินผู้อายุยาวคุยกันว่า “แม่ๆฉัน กล้องกับเอื้อยเขาไปเรื่อย” รุ่นพี่ที่อายุห่าง จะทำ�ยังไงดี ความจำ�มันไม่ดีเหมือนเด็กๆ กันกับรุ่นน้องเกินสิบปีเลยพูดว่า “เอ้าเป็น เขาแล้ว ท่องก็แล้ว ร้องก็แล้วตั้งหลายรอบ หยังหละ เฮาก็ลูกพ่อเดียวกันอยู่บ่ แม่นบ่ แล้ว ก็จำ�ไม่ได้” แล้วก็หันมาถามเด็กๆว่ามี เฮาอยู่คนละสถาบันก็จริง แต่จบแล้วเฮามี วิธีไหนช่วยให้ยายจำ�ได้บ้าง ก็มีเด็กๆช่วย บ้านหลังเดียวกันนะ” เป็นคำ�พูดที่จิ้งหรีด แนะหลายวิธี บ้างก็ว่าให้เอากระดาษไปติด ได้ยินแล้วประทับใจในความเป็นพี่เป็นน้อง ไว้ด้านหลังเพื่อนที่ยืนด้านหน้าก็เป็นอันว่า ของศิษย์เก่าและบรรยากาศที่ไม่แบ่งแยกนี้ ไม่ได้ถือเนื้อเพลง ยายคนที่ถามก็บอกว่า เออดีๆ ยายอีกคนก็บอกว่าเขาถ่ายทอดสด จริงๆ...จี๊ดๆๆ v พ่อครูยิ้มแย้มกับใบโพธิ์... กล้องก็มดี า้ นบนด้วยนะ เด็กบางคนก็แนะให้ ในงานอโศกรำ�ลึกครั้งนี้ จิ้งหรีดเห็นมี จดใส่มอื ไว้ ไม่ตอ้ งถือกระดาษ ยายก็หวั เราะ ใบโพธิ์กระดาษให้ลูกๆได้เขียนความตั้งใจที่ เพราะยายเป็นครู บอกว่านึกถึงตอนสอน จะทำ�ดีเพื่อถวายพ่อครู ซึ่งมีตั้งไว้ให้ตั้งแต่ นักเรียนแล้วเด็กจะโกงข้อสอบ แต่อันนี้ทำ� วันแรกของงาน มีต้นโพธิ์ที่อยู่ในกระถางตั้ง เพื่อพ่อครู ยายอีกคนก็เลยทักว่า “เวลาร้อง ไว้ใต้โบสถ์ให้แขวนใบโพธิ์ที่เขียนความตั้งใจ เขาบอกว่าจะปิดไฟนะ แล้วจะอ่านเห็นหรือ” แล้วและมีอาสาสมัครมาช่วยกันตัดกระดาษ เด็กอีกคนก็บอกเทคนิคช่วยจำ�ให้ยายจำ�ท่อน กิ จ กรรมนั้ น เห็ น ละอองน้ำ � มากมายปลิ ว ตามลมไปทั่วบริเวณ กระทบกับแสงไฟจาก สปอตไลท์ที่สาดส่อง ยิ่งทำ�ให้เกิดความรู้สึก ร่วมควบแน่นเข้าไปอีก จากนั้นฝนตกเบาลง ในจังหวะที่เหมาะสม เป็นไปตามที่ผู้กำ�กับ ได้เขียนไว้ในกิจกรรมครั้งนี้ ทำ�ให้บรรยากาศ ยิง่ กว่าสมจริง ก่อให้เกิดความซาบซึง้ ใจไปทัง้ บริเวณ หลายคนน้ำ�ตาซึมออกมาอย่างกลั้น ไว้ไม่อยู่ เป็นบรรยากาศสุดประทับใจในงาน อโศกรำ�ลึกครั้งนี้

เจริญธรรมสำ�นึกดี พบกับน.ส.พ.ข่าวอโศก ฉบับที่ ๔๘๐ (๕๐๒) รวมปักษ​พ์ .ค.-มิ.ย. ๒๕๖๐ v จิตอาสาที่สันติฯ...

ณ บวรสันติอโศก แม้จะเป็นสังคมเมือง แต่กอ็ ยูร่ วมกันเหมือนครอบครัวใหญ่ มีกนิ มี ใช้รว่ มกัน แบบสังคมสาธารณโภคีในแต่ละวัน หน่วยงานต่างๆ เช่น ชาวพลังบุญเอย ชาว ฟ้าอภัยเอย ชาวคนวัดเอย คณะคุร+ุ นักเรียน สส.สอ.เอย จะผลัดเปลีย่ นหมุนเวียนร่วมกัน ทำ�อาหารขึน้ ศาลา จิง้ หรีดเกาะทีต่ เู้ ย็น ทีค่ รัว กลาง (ชมร.หน้าสันติฯ) แอบเห็นอาปานปั้น อาเล็ก (สขจ.) ไปช่วยเกือบทุกวัน แบบไม่เกีย่ ง ว่าวันนี้เวรของคณะไหน ที่ประทับใจคือทั้ง สองท่านอาสาปอกเห็ด เด็ดผัก ด้วยอาการ อ่อนน้อม เบิกบาน แจ่มใส เป็นแบบอย่าง ที่ดี ที่จิ้งหรีดยังขาดแคลนอยู่ เห็นทีจิ้งหรีด จะต้องรีบเจริญรอยตามแล้วล่ะฮะ...จี๊ดๆๆ v เป็นไปตามธรรม (ชาติ)...

จิง้ หรีดมาร่วมงานอโศกรำ�ลึกครัง้ ที่ ๓๖ ได้มาสัมผัสบรรยากาศอันน่าประทับใจอย่าง ยิง่ ในวันที่ ๙ มิถนุ ายน ซึง่ เป็นวันทีช่ าวอโศก จะร่วมกันบูชาพระบรมสารีรกิ ธาตุ และในปีนี้ มีความแตกต่างจากทุกปีเพราะมีกิจกรรม ต่อเนื่องทั้งก่อนและหลังการบูชาพระบรม สารีริกธาตุ พิธีเริ่มประมาณ ๑๗.๓๐น. ท่าน สมณะ สิกขมาตุตั้งแถวที่ศาลาฟังธรรม โดย มีพ่อครูเดินนำ�แถวขึ้นบนพระวิหารและเดิน ผ่านลูกๆที่ตั้งแถวรอรับ เมื่อผ่านหน้าน้ำ�ตก ลูกสัมมาสิกขาและศิษย์เก่าสัมมาสิกขาจาก ทุกสถาบันร่วมกันขับร้องบทเพลงพญาแร้ง เพื่อส่งหลวงปู่และท่านสมณะ สิกขมาตุขึ้น บนพระวิหาร บรรยากาศเต็มไปด้วยความ ซาบซึ้งตราตรึงใจ กระแทกจิตวิญญาณของ เหล่านักปฏิบตั ธิ รรมทัง้ หลาย หลังจากทีพ่ อ่ ครูพาลูกๆปฏิญาณตนแล้ว มีกิจกรรมที่ลูกๆตั้งใจทำ�เพื่อแสดงออกถึง ความกตัญญูและอาราธนาพ่อครูให้อยู่กับ ลูกๆต่อไปอีก ซึ่งในขณะที่เริ่มการแสดงนั้น ในบทของการแสดงมีเสียงฝนตกฟ้าร้องซึ่ง อยู่ในซาวด์ที่ได้เตรียมการซักซ้อมกัน แต่ใน วันจริงฟ้าฝนเป็นใจ ลมพัดแรงตั้งแต่ช่วงที่ พ่อครูพาลูกๆปฏิญาณ จนผ้าครองของพ่อครู ปลิวสะบัด และเมื่อลูกๆเริ่มการแสดง ฝนก็ตกลง มาอย่างหนัก มีเสียงฟ้าร้องที่ไม่ได้มาจาก เครื่องเสียง แต่เป็นเสียงของฟ้าจริงๆ ยิ่ง ไปกว่านั้นแม้ฝนจะตกลงมาอย่างหนักแต่ บรรยากาศภายใต้ พ ระวิ ห ารในขณะที่ ทำ �

11

ที่ขึ้นต้นของแต่ละบท อย่างเพลงเส้นทาง นิพพาน มีประโยคขึ้นต้นว่าอะไรบ้าง เช่น เส้นทางสายนี้, เปรียบคุณพ่อนั้น, กราบพ่อ แทบเท้า, กราบสุดบูชา ถ้าจำ�คำ�ขึ้นต้นได้ก็ จะร้องต่อได้ ยายก็เลยตอบว่า “โอยไม่ไหว หรอก ทั้งเพลงเนี่ยจำ�ได้แค่เส้นทางสายนี้มุ่ง นำ�ชี้สู่นิพพาน ที่เหลือน่ะจำ�อะไรไม่ได้เลย” ยายอีกคนก็เลยบอกว่า “ไม่เป็นไร ยังไงก็ไป ยืนร่วมกันเป็นมวล แล้วเวลาร้องถ้าจำ�ไม่ได้ ก็ให้ร้องคำ�ว่า ถั่วงาๆๆๆๆไปเรื่อยๆละกัน” จิ้ ง หรี ด ประทั บ ใจในความช่ ว ยเหลื อ เกือ้ กูลกันของสังคมชาวอโศก ทุกคนมีความ ตัง้ ใจและพยายามทีจ่ ะช่วยกันทำ�ให้เกิดความ สมบูรณ์ แม้วา่ จะมีศกั ยภาพต่างกันแต่ทกุ คนมี หัวใจดวงเดียวกัน สาธุ สาธุ สาธุ...จีด๊ ๆๆ v แน่นมาก...

จิง้ หรีดได้ฟงั เทศน์กอ่ นฉันวันสรุปงานที่ ท่านสิกขมาตุพทุ ธพอนวล เล่าถึงสถานที่พัก ช่วงงานอโศกรำ�ลึก จิ้งหรีดมีโอกาสได้เห็น บรรยากาศของพีน่ อ้ งญาติธรรมทีม่ าร่วมงาน นอนรวมกันอยู่ที่ตึกขาวและตึกนวล ทุกชั้น ของตึกแน่นไปด้วยผู้คนยิ่งวันที่ ๕ และวันที่ ๙ ยิ่งแน่นมาก ไม่รู้จะเดินไปทางไหน บาง คนไม่รู้จะหันเท้าไปทางไหนดีเพราะมีแต่หัว คนนอนอยู่ ด้วยความเกรงใจคนนอนแม้คน ทีม่ านอนจะไม่ได้ถอื สา เพราะคนมาร่วมงาน แค่ขอให้มที นี่ อน ได้มาร่วมบรรยากาศในงาน อโศกรำ�ลึกครั้งนี้ หลายคนที่มีค นคุ้นเคยอยู่ใ นสถานที่ อืน่ ๆ แม้มาก่อน นอนมาหลายวันก็เสียสละ ย้ายทีพ่ กั ไปพักทีอ่ น่ื เพือ่ ให้พน่ี อ้ งญาติธรรม ทีเ่ พิง่ มาและไม่รจู้ ะไปพักทีไ่ หน ได้มที พี่ กั เพิม่ มากขึ้น เป็นบรรยากาศที่เกื้อกูลกัน แบ่งปัน กัน ช่วยเหลือกันน่าประทับใจอย่างยิง่ ...จีด๊ ๆๆ

v มรณัสสติ คุณแม่อุไร ภาคโชคดี ญาติธรรม (คุณแม่ของคุณสงกรานต์ ภาคโชคดี) เสีย ชีวิตเมื่อวันที่ ๒ พ.ค.๖๐ ฌาปนกิจวันที่ ๘ พ.ค.๖๐ ทีว่ ดั ชลประทานรังสฤษดิ์ จ.นนทบุรี นายชิน ฝ้ายเทศ หรือ นายชินกร ไกรลาศ อายุ ๗๑ ปี เสียชีวิตด้วยโรค มะเร็งลำ�ไส้ใหญ่ เมื่อวันที่ ๑๘ พ.ค.๖๐ พระราชทานน้ำ � หลวงอาบศพวั น ที่ ๑๙ พ.ค.๖๐ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน เก็บศพไว้บำ�เพ็ญกุศลเป็นเวลา ๑๐๐ วัน คุณสุพร ย่อนจะบก (ญาติธรรม) อายุ ๕๙ ปี เสียชีวิตด้วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง เมื่อวันที่ ๒๙ พ.ค.๖๐ ฌาปนกิจวันที่ ๓๑ พ.ค.๖๐ ที่เฮือนสุดชีวิต สีมาอโศก ตาแปลก คชสารทอง อายุ ๘๓ ปี เสียชีวติ เมือ่ วันที่ ๓ มิ.ย ๖๐ ตัง้ ศพบำ�เพ็ญ กุศลทีบ่ วรศาลีอโศก ฌาปนกิจวันอังคารที่ ๖ มิ.ย ๖๐


12

รวมปักษ์ พฤษภาคม-มิถุนายน ๒๕๖๐

อโศกรำ�ลึก (ครัง้ ที่ ๓๖ และงานบูชาพระบรมสารีรกิ ธาตุ)

ระหว่างวันที่ ๕-๑๐ มิถุนายน ปีนี้ ชาวอโศก กำ�ลังจัดงานฉลองอโศกรำ�ลึก ต่อเนือ่ งมาเป็นปีที่ ๓๖ แล้ว ในขณะที่การสถาปนาสันติอโศกขึ้นเป็น พุทธสถานสำ�คัญที่เป็นนานาสังวาสกับสงฆ์เหล่า อื่นในพระพุทธศาสนาได้ดำ�เนินมานานกว่านั้น และในห้วงเวลาเดียวกันนี้ก็เป็นการทำ�บุญ ครั้งใหญ่เนื่องในโอกาสพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ เจริญอายุครบ ๘๓ ปี ย่างเข้าปีท่ี ๘๔ หรือรอบ นักษัตรที่เจ็ด ในวาระเช่ น นี้ ช าวพุ ท ธควรมองสั น ติ อ โศก อย่างไร? และประเมินคุณปู การของสันติอโศกต่อ พุทธศาสนา ต่อประเทศชาติ และต่อประชาชน อย่างไร? ซึ่งในฐานะคนนอกสันติอโศกย่อมเห็น ว่าเป็นการอันสมควรที่จะได้ทำ�ความเข้าใจเรื่อง นี้ เพื่อประโยชน์ของการพระศาสนาและเพื่อน อ่านต่อหน้า ๑๐ มนุษย์ทั้งผอง

ศาลยกฟ้องแกนนำ� พธม.ไม่ผดิ พ.ร.บ.ความมัน่ คงฯ ฉบับที่ ๔๘๐ (๕๐๒) รวมปักษ์ พ.ค.-มิ.ย. ๒๕๖๐

ชุมนุมค้านเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก

อ่านต่อหน้า

๑๐

ภาพจากสำ�นักข่าวเจ้าพระยา


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.