ธรรมะพ่ อท่า(๕๐๘) น : โอวาทจากพ่อครู...แด่ศิษย์เก่า น.๔ ฉบับที่ ๔๘๖
1
สกู๊ปพิเศษ : ๘๔ ปี ๔๘ พรรษา แห่งข่ความสำ�เร็ าวอโศกจ น.๙
ตลาดอาริยะครั้งที่ ๓๙
และตลาดน้ำ�อาริยะครั้งที่ ๑
ฉบับที่ ๔๘๖(๕๐๘) รวมปักษ์เม.ย.-พ.ค. ๒๕๖๑
อ่านต่อหน้า
๖-๗
งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ ๔๒ อ่านต่อหน้า
๘
พิธีรับกลดรุ่น “จนที่มีแบบ”
ค่ายยอส.
อ่านต่อหน้า
๕
ค่ายสร้าง“คนจน”สุขสำ�ราญฯ
2
รวมปักษ์ เมษายน-พฤษภาคม ๒๕๖๑
พัฒนาศีลเด่นยากเพราะอะไร? ทุ ก วั น นี้ การจั ด การศึ ก ษา คน ทั่วโลกเริ่มเข้าใจมากขึ้นแล้ว ว่าการ จัดการศึกษาที่ถูกทาง จะต้องจัดการ ศึกษาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต แต่นั่นแหละ เยาวชนที่เรียนจบ ระดับปริญญาตรีแล้วมีงานทำ� พึง่ ตัวเอง ได้น้อยกว่าคนที่เรียนจบแล้วตกงาน รั ฐ บาลจึ ง พยายามส่ ง เสริ ม การ เรี ย นในสายอาชี พ หรื อ อาชี ว ะ ซึ่ ง มี ต ลาดแรงงานรองรั บ คนจบสาย อาชีพเป็นจำ�นวนมากกว่าสายสามัญ เพื่ อ มิ ใ ห้ ก ารเรี ย นสูญเปล่าดัง กล่าว โดยเฉพาะงบประมาณในการจัดการ ศึกษา ที่ใช้ในแต่ละปีของกระทรวง ศึกษาธิการ ก็ถือว่ารัฐบาลให้งบด้าน นี้เป็นจำ�นวนมาก แต่ สำ � หรั บ ชาวอโศกแล้ ว จะมี ปรัชญาการศึกษา คือ ศีลเด่น เป็นงาน ชาญวิชา คือ เน้นคุณธรรมเป็นหลักสำ�คัญ แต่พอเวลามีการประชุมส่วนใหญ่ ก็มกั จะให้ความสำ�คัญ ไม่ดา้ นวิชาการ ก็ด้านเป็นงาน ทั้งนี้ก็อาจเป็นเพราะการพัฒนา ด้านงาน กับวิชาการนัน้ ดูจะง่ายกว่าศีล เด่น คงเพราะเป็นรูปธรรมที่คนทั่วไป ยอมรับได้ โดยเฉพาะคนภายนอกมัก จะวัดค่าการศึกษาเด็กว่าเจริญ ถ้าเก่ง วิชาการ ส่วนชาวเราภายในส่วนมาก ก็จะดูว่าเด็กๆ ทำ�งานได้ดีไหม รับผิด ชอบดีไหม ในทัศนะร้อยรู้ไม่สู้หนึ่งทำ� น้อยนักที่จะมองและพูดด้านศีล เด่น จนทุกวันนี้ก็มีเสียงวิจารณ์จาก สมณะและสิกขมาตุว่า เด็กนักเรียน ทุกวันนี้ ดูจะศีลด้อยลงกว่าเดิมมาก ในการประชุมครูของชาวอโศก ที่ เราเรียกกันว่าคุรนุ น้ั ก็ดจู ะเริม่ แม่นเป้า มากขึน้ คือ เน้นพฤติกรรมด้านศีลเด่น เป็นหลัก เพราะเด็กมีศลี เด่น ก็จะส่งผล ให้เกิดความเจริญ ด้านเป็นงาน กับ ชาญวิชา แต่ ถ้ า ไปเน้ น ด้ า นเป็ น งานหรื อ ชาญวิชา ก็จะคล้ายกับคนนับถือพุทธ ศาสนาส่ ว นใหญ่ ใ นโลก ที่ เ น้ น เรื่ อ ง สมาธิ กับปัญญา ส่วนศีลนั้นมีการพูด ถึงน้อยมาก หรือไม่พูดถึงเลย การ พัฒนาคุณธรรมจึงเป็นไปได้ยาก! ยิง่ ๆ ขึน้ จากเดิมทีย่ ากอยูแ่ ล้ว เพราะถ้าพูด ถึงศีลแล้ว ผู้ที่พูดก็จะต้องมีศีลด้วย จริงไหม? ลองสังเกตในทีป่ ระชุมครู แต่ละที่ก็จะเข้าใจมากขึ้นเอง ว่าเด็กมี ศีลด้อยหรือศีลเด่นเพราะเหตุใด
“โฮโมซีสทีน” อีกตัวการก่อให้เกิดโรค หัวใจขาดเลือดและอัมพาต ๒๕-๓๐ เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดพบมา จากปัจจัยแฝงทีเ่ รียกว่า “โฮโมซีสทีน” อีกตัวการก่อให้เกิดโรค หัวใจขาดเลือดและอัมพาต...ปัจจุบันอัตราการเสียชีวิตของ ประชากรโลก เกิดจากโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่มีไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ เป็นต้น แต่น่าแปลกที่พบว่าประมาณ ๒๕-๓๐ เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด มีไขมันในเลือดปกติ ความดันปกติ ไม่สูบบุหรี่ แสดงว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้จะต้องมีปัจจัย เสี่ยงชนิดอื่นอีก ซึ่งต่อมาวงการแพทย์ทั่วโลกได้ค้นพบปัจจัย เสีย่ งชนิดใหม่ทมี่ ชี อื่ ว่า “สารโฮโมซีสทีน” ซึง่ เป็นหนึง่ ในปัจจัย สำ�คัญที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดและอัมพาต สารโฮโมซีสทีน คืออะไร โฮโมซีสทีนหรือโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) เกิดจากการ เผาผลาญกรดอะมิโนจำ�เป็นในร่างกาย ที่มีชื่อว่า เมทไธโอนิน (Methionine) สารชนิดนี้พบมากในเนื้อสัตว์ ไข่ นม ชีส แป้งขาว อาหารบรรจุกระป๋อง และอาหารที่ผ่านกระบวนการดัดแปลงสูง ปกติร่างกายจะพยายามขจัด “สารโฮโมซีสทีน” ให้เป็น “สารซีส ทีน” แทน ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อหลอดเลือดและร่างกาย ส่วนอื่นๆ (การกำ�จัดโฮโมซิสทีนต้องใช้วิตามินบี๑๒) เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่รับประทานอาหารประเภทโปรตีนมากจนเกินไป ระดับ ของโฮโมซีสทีนในเลือดก็จะไม่สูง หรือถ้าเราไม่มีปัญหาเนื่องมา จากพันธุกรรมของครอบครัว ไม่มีความผิดปกติในเรื่องของการ ขาดวิ ต ามิ น ต่ า งๆ เช่ น วิตามิน บี๖ บี๑๒ และ กรดโฟลิก รวมถึงการไม่ ดื่ ม แอลกอฮอล์ กาแฟ มากไป ก็ จ ะไม่ ทำ � ให้ เกิ ด สารโฮโมซิ ส ที น ใน เลือดสูงขึ้น แต่อย่างไร ก็ตามโดยทั่วไปเราจะไม่ สามารถรู้ระดับของโฮโม ซีสทีนในเลือดได้ จนกว่า จะเจาะตรวจเลือดออก มาวิเคราะห์ดู อั น ตรายอย่ า งไร ถ้ามีสารโฮโมซีสทีนใน เลือดสูง สาเหตุ ที่ Homocysteine เพิ่มอัตราเสี่ยง ในการเกิ ด โรคเหล่ า นี้ เพราะ Homocysteine จะ ทำ�ให้ความหนืดของเกร็ด เลือดเพิม่ ขึน้ นอกจากนัน้
ยังพบว่า Homocysteine ที่เพิ่มขึ้นจะทำ�ให้หลอดเลือดขาดความ ยืดหยุน่ อีกด้วย ดังนัน้ ถ้าสารโฮโมซีสทีนมีสงู ขึน้ เกินกว่าระดับทีค่ วร จะเป็นก็จะทำ�ลายหลอดเลือด โดยเฉพาะหลอดเลือดขนาดเล็ก เช่น หลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดที่อยู่ในสมอง โดยจะมีผลทำ�ให้ หลอดเลือดทีก่ ล่าวถึงมีโอกาสตีบและอุดตันได้งา่ ยกว่าทีร่ ะดับของ โฮโมซีสทีนในเลือดปกติ เช่น กรณีทหี่ ลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน ทำ�ให้กล้ามเนือ้ หัวใจตายเป็นส่วนๆ หากหลอดเลือดสมองตีบ ก็จะ ก่อให้เกิดปัญหาสมองฝ่อหรือโรคอัลไซเมอร์ และปลายประสาท เสื่อม รวมถึงอาจทำ�ให้ผู้ป่วยเกิดอัมพฤกษ์ – อัมพาตได้ วิธีการป้องกันไม่ให้สารโฮโมซีสทีนมีค่าสูงขึ้น ๑. กินวิตามินบี๑๒ เป็นประจำ� หรือฉีดวิตามินบี๑๒ ในกรณีที่ กระเพาะและลำ�ไส้ดดู ซึมไม่ดี (เป็นโรคกระเพาะลำ�ไส้ หรือกระเพาะ ถูกตัดออกบางส่วน) ๒. กินอาการที่มีวิตามินบี๑๒ เป็นประจำ� เช่น กระปิเจ ปลาร้าเจ เต้าเจี้ยว มิโสะ เทมเป้ ฯลฯ ๓. ออกกำ�ลังกายเป็นประจำ�สม่�ำ เสมอ ดืม่ น้�ำ ให้เพียงพอ เพือ่ ขับสารโฮโมซีสทีนออกมาทางปัสสาวะ ๔. สำ�หรับผู้ที่เจาะเลือดแล้วมีค่า Homocysteine สูงกว่า ๑๕ ควรกินวิตามินบี๑๒ เป็นประจำ�ทุกวัน และควรได้รับการเลือดใน อีก ๓ เดือน หลังจากการกินวิตามินบี๑๒ ทุกวัน ๕. การทำ�การสวนล้างลำ�ไส้เป็นประจำ� อาจทำ�ให้แบคทีเรียที่ ในลำ�ไส้เปลี่ยนแปลง อาจเป็นเหตุให้ขาดบี๑๒ ได้ แต่ข้อมูลนี้เป็น เพียงการสันนิษฐานยังไม่ได้มีการวิจัยยืนยัน สำ�หรับผู้ป่วยภาวะ ขาดวิตามินบี๑๒ ทั่วไป ผู้ใหญ่ควรรับประทานวัน ละ ๒๕-๒,๐๐๐ ไมโครกรัม เด็ ก ควรรั บ ประทานวั น ละประมาณ ๐.๕-๓ ไมโครกรัม อายุ ๑๓ ปี ขึ้ น ไป ควรได้ รั บ วิ ต า มิ นบี๑๒ ประมาณ ๒.๔ ไมโครกรัม/วัน กรณีพวก เราที่ขาด ควรได้รับเสริม แบบผู้ที่มีภาวะขาดบี๑๒ คือ กินแบบสีแดง (๑๐๐ ไมโครกรัมต่อเม็ด) วันละ ๑-๒ เม็ดเป็นอย่างน้อย แต่ ถ้ า ขาดมากก็ กิ น มาก กิ น ได้ ม ากหลายเม็ ด ต่ อ วัน ในกรณีขาด แต่ผู้ไม่ ขาดกินวันละเม็ดก็เพียง พอ เพราะต้องการต่อวัน น้อยมาก.
ฉบับที่ ๔๘๖ (๕๐๘)
ข่าวอโศก
ทำ�เพอร์มาคัลเจอร์แบบง่ายๆ
อีกทางเลือกในการกำ�จัดขยะจากกิง่ ไม้ ท่อนไม้ ในสวน หรือตามบ้านเรือนโดยที่ไม่ต้องเผาให้เกิด มลพิษ ไม่เป็นภาระของเทศบาลในการกำ�จัด การทำ� “เพอร์มาคัลเจอร์” (Permaculture) จึงเป็นทางออก ทีป่ ระหยัดเงิน ประหยัดแรงงาน และยังได้พนื้ ทีป่ ลูก ผักเพิ่มขึ้นอีกด้วย การทำ�เพอร์มาคัลเจอร์อย่างง่ายๆ ถ่ายทอดโดย คุณคำ�นึง นวลมณีย์ กสิกรอารมณ์ดี ที่ผันตนเองจาก นักการภารโรงมาเป็นกสิกร และได้ทดลองนวัตกรรม ใหม่ๆด้วยตัวเองหลายอย่าง เช่น ปลูกผักในล้อยาง การ ปลูกผักแบบไฮโดรโปรนึง ฯลฯ จนเป็นกสิกรตัวอย่าง ของจ.สงขลา และทำ�บ้านให้เป็นทีเ่ รียนรูเ้ กษตรพอเพียง มีคนมาดูงานการปลูกผักไร้สารพิษปีละหลายพันคน การทำ�เพอร์มาคัลเจอร์คือเกษตรที่ยั่งยืน หรือ เกษตรเพื่อสุขภาพเป็นการปลูกแบบพอมีพอกิน ดังที่
ในหลวงร.๙ ได้ตรัสแก่ปวงชนชาวไทย วัสดุที่ใช้ทำ�เพ อร์มาคัลเจอร์ก็เป็นสิ่งเหลือใช้ โดยไม่ต้องเผาทิ้งให้เกิด มลพิษ แต่เป็นการนำ�วัสดุมาใช้อย่างคุ้มค่า เช่น เศษอิฐ เศษหิน ท่อนไม้ กิง่ ไม้ เศษผักในครัวเรือน หรือเศษใบไม้ คุณคำ�นึงได้ให้มุมมองว่า “ทำ�ไมในกองขยะต้นไม้ ถึงขึน้ ได้ดี ทัง้ ทีเ่ ราไม่ได้ใส่ปยุ๋ สังเกตจาก “ปลวก” ทีร่ จู้ กั ทำ�เพอร์มาคัลเจอร์เป็นเจ้าแรกของโลก ต้นไม้ที่ขึ้นตรง จอมปลวกก็งอกงามดี” “ผมมีที่ดินแปลงหนึ่ง พื้นที่ ๓ ไร่ มีกิ่งไม้และเศษ ไม้ที่ตัดทิ้งไว้ ๔๐ กว่าตัน ถ้าเผา ๑ ตัน จะได้ขี้เถ้า ๕๐ กก. เอาไปใช้ปลูกได้ ๓ ปีก็หมด แต่ถ้าเอาไปฝังใช้เวลา ๑๕ ปี จึงตัดสินใจเลือกการทำ�เพอร์มาคัลเจอร์ใช้ปลูก พืชผักได้ถึง ๑๕ ปี จึงให้รถตักดินขุดหลุมลึก ๑ เมตร กว้าง ๔ เมตร ยาว ๑๐๐ กว่าเมตร เพื่อใช้ทำ�เพอร์มา คัลเจอร์กงิ่ ไม้ ๔๐ ตัน สำ�หรับปลูกไผ่ขา้ วหลามให้รม่ เงา”
ชมคลิปทาง Youtube บุญนิยมทีวี : เพอร์มาคัลเจอร์ (Permaculture) โดย อ.คำ�นึง นวลมณีย์
วิธีทำ� ชั้นล่างสุด ขุดหลุมลึก ๒๐ ซม. กว้าง๒ เมตร นำ� เศษอิฐหรือหินลงก่อนเพื่อเป็นฐาน โดยสลับก้อนเล็ก ใหญ่ให้เป็นโพรงเล็กๆให้อากาศถ่ายเทได้ ชั้นที่ ๒ วางขอนไม้ใหญ่ๆที่เป็นไม้เนื้อแข็งจะอยู่ ได้นาน อย่างไม้สน กถินเทพา ต้นมะพร้าว ถ้าใช้ไม้ที่ ผุเร็ว ดินก็จะยุบเร็ว ช่องว่างระหว่างท่อนไม้ใหญ่ใส่กิ่ง ไม้เล็กๆลงไป จนได้ความสูงประมาณ ๑.๕๐-๒ เมตร ชั้นที่ ๓ นำ�ใบไม้เศษวัชพืชต่างๆคลุม ชั้นที่ ๔ เอาดินกลบให้หนาประมาณ ๑ คืบ สามารถปลูกไม้ยนื ต้นและพืชผักต่างๆได้ ในปีแรก จะยังไม่ได้ผล แต่หลังจากปีที่ ๒-๓ จะเริม่ ได้ผลดี เพราะ ไม้จะเริม่ ผุเป็นปุย๋ อย่างดี และรากไม้จะแทงทะลุชนั้ หิน ลงไป เพอร์มาคัลเจอร์จะอยู่ได้ถึง ๑๐-๑๕ ปี นับว่าได้ ผลคุ้มค่าในการทำ�ขยะให้เป็นศูนย์แบบพึ่งตนเองได้.
3
4
รวมปักษ์ เมษายน-พฤษภาคม ๒๕๖๑
โอวาทจากพ่อครู...แด่ศิษย์เก่า พ่อครูว่า...เมื่อเราเข้ามาสู่กระแสแล้ว เราควรไปให้ ตลอด ขณะนี้นะ คน ๗ พันล้าน งานนี้มาฟังแค่นี้ คิดดูซิ ถึง ๗๐ คนไหม? ก็เห็นได้วา่ โลกมันก็รอ้ นขึน้ ไม่ใช่รอ้ นแค่อากาศ แต่ร้อนเรื่องของสังคม เรื่องของความเป็นอยู่โลกีย์ พวกเรา จะมีภูมิคุ้มกันอย่างหนึ่ง มีมิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อม ดี จิตวิญญาณเราเป็นประธาน ผู้ที่ได้เป็นอย่างนี้แล้วได้แล้ว อาตมาก็ขอสำ�ทับว่าอย่า ไปประมาท พระพุทธเจ้าบอกว่าอย่ายินดีในความเนิ่นช้า อย่าหลงระเริงยินดีในความเนิ่นช้า ปปัญจรามตา อาตมาพูดไปนี้ไม่ได้ประเหลาะหรือบังคับ ก็ให้รู้ด้วย ปั ญ ญาของตั ว เอง อะไรเห็ น ควรหรื อ ไม่ เ ห็ น ควร สั ง คม ประเทศชาติ หรื อ โลกต้ อ งการสั ง คมแบบนี้ เ พื่ อ กอบกู้ มนุษยชาติ ลัทธิใดๆก็กไู้ ม่ได้ กอบกูป้ ระเทศ กอบกูม้ วลมนุษยชาติ ไม่ได้ มีลทั ธินี้ ลัทธิของพุทธนีเ้ ท่านี้ โลกุตระนีท้ จี่ ะกอบกูช้ ว่ ย เหลือได้จริง บริสุทธิ์สะอาด ลัทธิอื่นใดไม่มีบริสุทธิ์สะอาด ไม่ได้จริงเหมือนเรา ถ้าพวกเราใช้ความเป็นจริงของตัวเอง ส่วนบารมีจะมาตอบแทนเราเอง เราไม่มีหน้าที่จัดสรร มันจะจัดสรรโดยสัจธรรมตามวิบากของแต่ละคน เพราะ ฉะนัน้ ก็เป็นหน้าทีข่ องสัจธรรม ไม่มหี น้าทีข่ องใครทีจ่ ะบันดาล มันจะจัดสรรไปตามหน้าที่สัจธรรม บวกลบคูณหารไปตาม สัจธรรมเท่านี้ๆ มันจะเป็นไปตามธรรมเลย สัจธรรมไม่มี เบีย้ ว ไม่มโี กง ไม่มหี ลอกลวง สัจธรรมนีต้ รง ๑๐๐% เป็นจริง ตามความเป็นจริง ก็ฝากไปคิด ฝากไปไตร่ตรอง หนึ่งเราอยากจะมาช่วย ส่วนกลางหรือไม่ ก็ของตัวเองเป็นผู้ตัดสินใจ โดยความ
ชื่อ : มนตรี ดวงทรง อายุ : ๖๘ ปี ภูมิลำ�เนา : จ.ลำ�ปาง การศึกษา : ป.๔ สถานภาพ : หย่าร้าง มีบุตร ๒ คน
ต้องการของสังคม ความต้องการของอาตมา ของหมูก่ ลุม่ เรา ไม่ต้องถามเลยว่าต้องการหรือไม่ ก็ต้องการแน่ เหลือแต่ พวกเราจะมา เราทำ�นีช้ ว่ ยโลกด้วย เราสัมพันธ์กบั มนุษยชาติ ทุกด้าน ทั้งด้านศาสน์ กษัตริย์ สังคม ประเทศชาติ เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหลักในปัจจุบัน ไม่ใช่แบบเลือกตัง้ มาแบบปฏิวตั ดิ ว้ ย แต่สงั คมประเทศสังคม โลกยอมรับ ที่ยอมรับไม่ใช่เพราะว่าพลเอกประยุทธ์ขู่ด้วย ปรมาณูหรืออาวุธหรือเศรษฐกิจความรวย แต่เป็นเรือ่ งสัจจะ การบริหารประเทศอย่างจริงใจ ต่างประเทศกำ�ลังมอง อีก หน่อยก็จะมาดูงานหรือมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้นๆ พวก นักศึกษา พวกที่ใส่ใจศึกษาสังคมจะมา ไม่ได้ล่อด้วยโลกๆ ล่อด้วยความดัง สวย เด่น กีฬา นางงามการละเล่น ไม่ใช่เลย แต่เป็นเรื่องลึกซึ้ง เรื่องความเป็นอยู่สุขของสังคมมนุษยชาติ เรือ่ งซือ่ สัตย์สจุ ริต มีน�้ำ ใจ นีค่ อื สัจจะของสังคมมนุษย์ ทีต่ อ้ ง ศึกษาให้ดี มนุษยชาติและโลกจะได้ประโยชน์ อยู่ภายนอกเลวกว่านี้ แต่มาอยู่ในนี้ต้องสังวรสำ�นึก ไม่ เชือ่ ก็ลองทำ�วิจยั ดู คนมาทีน่ จี่ ะสำ�นึกว่าชีวติ ดีเป็นแบบนี้ เป็น ความซับซ้อน เราให้การศึกษาอบรม ให้สง่ิ แวดล้อมทีด่ แี ล้วจะ ได้ ต้องมาบ่อยๆ มาอบรมโดยไม่รู้ตัว ได้ฝึกตนให้สังวร เขา ต้องมารู้อะไรเพิ่มเติม เพราะเราให้ด้วยเจตนาดี วันนีม้ ศี ษิ ย์เก่ามา นับยอดมา ๑๐๒ คน เกิน ๑๐๑ ก็ดแี ล้ว ตอนนี้ก็มีตัวแสดงเป็นเครื่องชี้ที่สำ�คัญ ดูจริงๆ แค่ ๙๕ นี้ก็ได้ เพราะลงบัญชีผิดก็ได้ ก็ไม่ว่า สรุปแล้วพวกเราศึกษาธรรมะก็จะเกิดการปัญญาซ้อน โดยอาตมาไม่ได้บอกชี้มาก แต่จะเกิดปัญญาด้วยตัวเอง จะ รูโ้ ลกียะกับโลกุตระ โลกียะทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ มวลมนุษยชาติ รำ�ลึกถึง สล่าปั๋น ดีไซน์เพื่อชีวิต สล่าปั๋น เป็นสล่า (ช่าง) แกะสลักฝีมือเยี่ยม เมื่อ ๓๐ ปี ที่แล้วมาได้แกะสลักที่ลานนาอโศก เพื่อนำ�ไม้ที่แกะสลักไป ติดที่ศาลางานปฐมอโศก ยังรำ�ลึกถึงลุงปัน๋ เสมอเมือ่ เห็นภาพนัน้ ขอให้ลงุ พักผ่อน ให้สบาย คงได้กลับมาร่วมงานกับพ่อครูอกี ยังจำ�ได้เมือ่ ก่อน เวลาพ่อครูมาลานนา จะเรียกลุงสล่า อย่างกันเองมากๆ พ่อ ครูเรียก ปั๋น ปั๋นมาดูตรงนี้หน่อย เช่นนี้เป็นต้น เวลาพ่อครู มาตรวจงานแกะ แล้วต้องการให้สล่าตกแต่งงานตรงไหน … ต้นกล้า (อ๋อย) ดีไซน์เพื่อชีวิต ลุงปัน๋ เป็นเด็กบ้านนอกทางภาคเหนือ พ่อแม่ท�ำ ไร่ท�ำ นา มีลูกหลายคน ในวัยเด็ก ปัน๋ มักใช้เวลาว่างจากการเรียนไปปักเบ็ดหาปลา แล้วนำ�ไปฝากญาติขายในตลาด ได้เงินมาก็แบ่งกันคนละครึง่ เงินที่หามาได้ปั๋นจะฝากย่าไว้โดยใส่ออมสินที่ทำ�จาก กระบอกไม้ไผ่ เมื่อเงินเต็ม ปั๋นก็จะผ่าออกแบ่งส่วนหนึ่งให้ ย่าไว้ใช้ภายในบ้าน ที่เหลือเอาไปซื้อชุดนักเรียนไว้ใส่เอง ซึ่ง ในสมัยนั้นเสื้อราคาตัวละ ๑๐ บาท ขณะนัน้ ปัน๋ อายุเพียง ๙ ขวบ กำ�ลังเรียน ป.๓ เนือ่ งจาก เป็นคนรักสะอาด ชอบความงามและความมีระเบียบ เมือ่ ได้ ใส่ชุดนักเรียนใหม่ไปโรงเรียนจึงมีความสุขมาก แต่ก็สุขได้ไม่ นาน เพราะเห็นเพื่อนร่วมชั้นที่ยากจนใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ มาโรงเรียน ปั๋นจึงเกิดความคิดว่าน่าจะหาเสื้อใหม่มาให้ เพื่อนๆ บ้าง แต่นั้นมาปั๋นจึงตั้งหน้าตั้งตาหาเงินเพื่อซื้อเสื้อ ใหม่ให้เพื่อน และได้บอกเรื่องนี้ให้ย่ารู้ ย่าก็สนับสนุนเพราะ ย่าเองก็เป็นคนใจบุญ ย่าสอนให้ปนั๋ ไปวัดทุกวันพระ และห้าม ปักเบ็ดในวันสำ�คัญทางศาสนา
อย่างน้อย ผู้ที่ไม่ค่อยได้มาก็ดูโทรทัศน์ ฟังธรรม ได้ยิน ข่าว พวกเราให้สัญญาณว่าเราควรช่วย หมู่ต้องการ ก็จะมี ปฏิภาณระลึกตัวเอง ก็จะได้ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน เราจะสร้างสิง่ ทีม่ นุษย์ตอ้ งกิน อาศัย เลีย้ งชีวติ พืชพันธุ์ ธัญญาหาร จะสร้างได้มากกว่านี้ เลี้ยงโลกอื่นได้มากกว่านี้ เรามีสิ่งเพียงพอ เราไม่เอาสิ่งที่สร้างได้กอบโกยแลกเปลี่ยน ค้าขายให้เรารวย นีพ่ ดู อย่างมีหลักฐานตรวจสอบได้นะ เราจะ ช่วยโลกอนุเคราะห์โลกด้วยสิง่ เหล่านีด้ ว้ ยของจำ�เป็น ไม่ตอ้ ง เอาแรงงาน แคลอรี่ไปคิดค้นอาวุธร้ายแรง เสียเวลาเต้นดีด เตะลูกบอลเพื่อจะเป็นแชมป์เปี้ยน ไปชกมวยเป็นนักแสดง ดาราใหญ่เหมือนนายโป๊บ เบลล่า อะไรอย่างนี้ มีอายุต่อไปจะเห็นว่าพวกเรามีมวลมากขึ้นในอนาคต ตอนนี้มีเท่านี้ก็จริง แต่ที่อื่นสร้างแบบนี้ไม่ได้ แม้แต่ทาง ศาสนาก็ต้องสร้างแบบนี้ แล้วมีคณะไหนที่สร้างได้แบบนี้ คณะธรรมกายสร้างได้มากกว่า แต่มันเหมือนอย่างนี้ไหม ก็ ไม่เหมือน อย่างเขานั้นไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ควรจะเป็น ธรรมะทีอ่ าตมาพูดแค่นี้ เข้าใจซาบซึง้ และเป็นเหตุปจั จัย ให้ตัวเองพัฒนาได้ จะมีไหมหนอ ...ไปทำ� ...ไม่ถาม ก็ให้แต่ละคนให้คำ�ตอบกับตัวเอง ถามแต่เพียงว่า ควร มีไหม...ควร พ่อครูสมณะโพธิรกั ษ์ ให้โอวาทปิดประชุมสมาคมศิษย์เก่าสัมมาสิกขา ทีบ่ า้ นราชฯ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๑
เมื่อได้เสื้อใหม่แล้ว ปั๋นยังคิดต่อว่าจะเอาไปให้เพื่อน อย่างไร ถ้าบอกว่าตนให้ เพือ่ นคงอายและไม่กล้ารับไว้ ปัน๋ จึง ไปหาใบตองมาห่อเสื้อให้เรียบร้อย แทนใส่ถุงเหมือนสมัยนี้ แล้วเอาไปให้เพื่อน โดยบอกว่ากำ�นันฝากมาให้ เพื่อนที่ได้ เสื้อใหม่ก็ดีใจมาก ปั๋นทำ�อย่างนี้เรื่อยมาจนจบ ป.๔ หาเงินซื้อเสื้อใหม่ให้ เพือ่ นได้หลายคน นับเป็นความภูมใิ จของเด็กชายตัวเล็กๆ ที่ ได้ทำ�สิ่งที่ยิ่งใหญ่และไม่ธรรมดา เพราะเป็นการกระทำ�ที่ไม่ หวังผลตอบแทนหรือคำ�ชมเชยใดๆ ความสุขที่เห็นเพื่อนๆ ได้ใส่เสื้อใหม่เช่นเดียวกับตนนั้นคือรางวัลที่แท้จริง เมือ่ ปัน๋ จบป.๔ ก็ตามพีส่ าวไปอยูใ่ นเมือง ทำ�งานก่อสร้าง อยู่ปีเดียวก็มาเรียนแกะสลักไม้ เพราะเคยเห็นคนแกะสลัก พระพุทธรูปไม้ที่มีใบหน้ายิ้มละไม แล้วรู้สึกทึ่งและแปลก ใจมากว่า ทำ�ไมช่างไม้ถึงได้เก่งกาจเสียเหลือเกิน ทำ�ให้ไม้ เป็นท่อนยิ้มได้ ปั๋นไปนั่งเฝ้าดูเขาแกะอยู่ ๗-๘ วัน อยากจับสิ่ว อยาก เรียนรู้ และขอเขาทำ� เขาก็ไม่ให้ จนเพื่อนคนหนึ่งซึ่งมีพี่ชาย เป็นช่างแกะสลักรู้เข้า จึงชวนไปเรียนกับพี่ชายเขาอยู่ ๑ ปี พอแกะสลักเลี้ยงชีพได้ ปั๋นแกะสลักได้ทุกอย่าง แล้วแต่ใคร จะจ้างให้ทำ�อะไร แต่ที่ถนัดและชอบมากคือแกะรูปช้างป่า และชาวเขา ขณะทำ�งานรับจ้างอยู่นั้น ก็ได้รู้จักสำ�นักปฏิบัติธรรม แห่งหนึ่ง ซึ่งต้องการให้ปั๋นทำ�งานให้ โดยให้ค่าแรง ๒๐๐ บาท แต่ปั๋นขอเพียง ๑๕๐ บาท ทั้งที่ไม่อยากคิดเงิน เพราะ เป็นงานศาสนา แต่ปั๋นมีครอบครัวแล้วในตอนนั้น และมีลูก ต้องส่งเสีย ๒ คน ช่วงอยูว่ ดั นีเ้ องทีป่ นั๋ เริม่ ใกล้ชดิ ศาสนา เข้าใจหลักปฏิบตั ิ ให้ลด ละ เลิก อบายมุขต่างๆ และหันมาฝึกใช้ชีวิตสมถะ
ฉบับที่ ๔๘๖ (๕๐๘)
ข่าวอโศก
5
งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครัง้ ที่ ๔๒ งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ ๔๒ จัด ขึ้ น ที่ บ วรราชธานี อ โศก ต.บุ่ ง ไหม อ.วาริ น ชำ � ราบ จ.อุบลราชธานี ระหว่างวันที่ ๕-๑๑ เมษายน ๒๕๖๑ เพื่อ ปลุกคนให้เป็นพระ มาฝึกลดละ กินน้อย ใช้นอ้ ย และขยัน ให้มาก ด้วยการปฏิบัติศีล ๘ เป็นเบื้องต้น ในปีนี้พ่อครูสมณะโพธิรักษ์เน้นอธิบายธรรมะเกี่ยวกับ การเพิม่ สัมประสิทธิ์ ในรายการทำ�วัตรเช้าพ่อครูแสดงธรรมะ หัวข้อ “ศีลเป็นตัวกำ�หนดสมาธิ” เน้นการปฎิบัติธรรมเป็น ลำ�ดับ ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา ด้วยการ ปฏิบัติธรรมแบบ ลืมตา เมื่อกระทบสัมผัสกับคน สัตว์ สิ่งของ ที่สัมผัสวิโมกข์ ๘ ด้วยกาย หลังรายการทำ�วัตรเช้ามีการประชุมต่างๆ เช่น ประชุม การศึกษาบุญนิยม พาณิชย์บุญนิยม และประชุมเตรียมงาน ตลาดอาริยะ เพือ่ นำ�เสนอและหาทิศทางในการพัฒนาสังคม ของอโศกในทุกโอกาส ก่อนที่จะกินอาหารกาย ก็ได้กินอาหารใจกันก่อน มี รายการธรรมะก่อนฉัน ที่ท่านสมณะ ท่านสิกขมาตุเกจิ ได้ แสดงธรรมให้ผู้มาร่วมงานได้รับฟัง หลังทานข้าวแล้ว มีการพบท่านสมณะ ท่านสิกขมาตุ ตามอัธยาศัย ซึ่งผู้มาร่วมงานสามารถเลือกได้โดยอิสระว่า จะพบนั ก บวชเพื่ อ สนทนาธรรม หรื อ ฟั ง ธรรมกั บ สมณะ
หรือสิกขมาตุรูปใด ณ จุดใด เพื่อหาหนทางในการดับทุกข์ และเติมเต็มสัมมาทิฏฐิ ช่วงบ่ายมีการบูรณาการ ศีลเต็ม เข้มงาน สืบสานวิชชา เป็นการลงงานในจุดต่างๆ ของบวรราชธานีอโศก ส่วนใหญ่ จะเป็นงานด้านกสิกรรม เพือ่ สร้างอาหารไร้สารพิษ และช่วย กันเตรียมงานตลาดอาริยะครั้งที่ ๓๙ ทำ�ให้ผู้ร่วมงานได้เห็น ความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณธัญญาหารไร้สารพิษ ด้านอาหารในงานปลุกเสกฯปีนตี้ อ่ ยอดจากงานพุทธาฯ ทีเ่ น้นเครือ่ งปรุงทีไ่ ม่มผี งชูรสและบริวารของผงชูรส ใช้เครือ่ ง ปรุงทีท่ �ำ เองในชุมชน หมักจากถัว่ มีทงั้ นัตโตะจากศีรษะอโศก มิโซะจากวังน้ำ�เขียว มีเต้าเจี้ยวจากบ้านราช ซึ่งเป็นแหล่ง วิตามินบี๑๒ ตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีข้าวอินทรีย์ที่ ปลอดภัยต่อสุขภาพ พืชผักส่วนใหญ่ทเี่ ป็นวัตถุดบิ ในการทำ�อาหารได้มาจาก ชาวศีรษะอโศก ชาวศรีโคตรบูรณ์ และชาวบ้านราช ทีช่ ว่ ยกัน ปลูกก่อนเริ่มงานหลายเดือน ปลูกทั้งแตงโม แตงไทย และ แตงกวาไร้สารพิษกว่า ๓๐ ตัน รวมทั้งพืชผักอีกหลายชนิด รายการภาคค่ำ� มีรายการสัมภาษณ์ปฏิบัติกรชุด “บน เส้นทางของสัมมาทิฏฐิ” “การเพิ่มสัมประสิทธิ์ให้กับชีวิต” “สุขภาพดีไม่มีขาย” “มหันตภัยในขยะ” และรายการพิเศษ “๒ นาทีทองของเกจิ”
ช่วงทำ�วัตรเช้า ๒ วันสุดท้าย พ่อครูเมตตาตอบปัญหา ชาวอโศกสูญเสียท่านสมณะ ๑ รูป ในวันเปิดงาน วัน ที่ ๕ เม.ย.๖๑ คือ หลวงพ่อถนอมคูณ คุณกิตตโณ ท่าน มรณภาพด้วยโรคไตวาย ทั้งนี้ท่านได้รับการรักษาและฟอก ไตมาเป็นเวลากว่า ๑๔ ปี พอใกล้จบงานปลุกเสกฯ ในวันที่ ๙ เม.ย. ๖๑ ได้สญ ู เสีย พระอาคันตุกะไปอีก ๑ รูป คือ หลวงพ่อทิพย์ ทิวากโร ฟักเกตุ ท่านเป็นหลวงลุงของท่านสมณะถักบุญ อาจิตปุญโญ และ เป็นพี่ชายของพ่อนิทัศน์ ฟักเกตุ ท่านมรณภาพเมื่อเวลา ๙.๓๐ น. ที่กุฏิหน้าแพโบสถ์ การมรณภาพของท่านเป็นการ เสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วน เกิดขึ้นขณะนั่งคุยกับท่าน สมณะฟ้ารู้ สมณะเลื่อนลิ่ว แล้วล้มฟุบลงไป เมื่อจบงานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธแล้ว ก็ต่อด้วย งานตลาดอาริยะครั้งที่ ๓๙ และตลาดน้ำ� ครั้งที่ ๑ เป็นงานที่ ชาวอโศกได้บ�ำ เพ็ญทัง้ ประโยชน์ตนประโยชน์ทา่ น ดัง่ โอวาท ประชุมของท่านสมณะเดินดิน ติกขวีโร ความว่า “งานที่เรา ทำ�จะเป็นสะพานเชื่อมสิ่งที่พ่อครูกำ�ลังทำ�กับข้างนอก ฉะนั้น ให้เราทำ�ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ให้พลังแห่ง ความดีงามของพวกเราส่องแสงทอประกายให้มนุษยชาติ สืบต่อไป”.
6
รวมปักษ์ เมษายน-พฤษภาคม ๒๕๖๑
ตลาดอาริยะครั้งที่ ๓๙ และตลาดน้ำ�อาริยะครั้งที่ ๑ ต่อจากหน้า ๑
ในแผ่นดินนี้จะมีสักกี่ตลาด ที่เป็นตลาดที่มีแต่การ “ให้” และ “เสียสละ” ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ หมู่บ้านชุมชนราชธานี อโศก จ.อุบลราชธานี มีการจัดตลาดอาริยะ ครั้งที่๓๙ และ ตลาดน้ำ�อาริยะเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ เมษายน ๒๕๖๑ นอกจากประชาชนทั่ ว ไปจะได้ จั บ จ่ า ยซื้ อ สิ น ค้ า คุณภาพดี ราคาถูก ต่ำ�กว่าทุนแล้ว ยังได้เห็นรอยยิ้มและ เสียงหัวเราะ จากทุกเพศทุกวัย นับเป็นปรากฎการณ์ที่ไร้ ความทุกข์ มีแต่ความสุข เล่นสงกรานต์อย่างสนุกสุขได้เพราะ สถานที่แห่งนี้เป็นหมู่บ้านนักปฏิบัติธรรมถือศีล ๕ จนถึงศีล วินัยของนักบวช มีครบพุทธบริษัท ๔ (นักบวชชาย นักบวช หญิง อุบาสก อุบาสิกา) เป็นสังคมบวร ที่ไม่มีอบายมุข ไม่มี เหล้า ไม่มีบุหรี่ ไม่มีของมึนเมาและน้ำ�อัดลมทุกชนิด อาหารเป็นอาหารมังสวิรตั ไิ ร้สารพิษ พืชผักเก็บสดจาก สวนนำ�มาปรุงอาหาร ขายจานละบาทเดียว ซึ่งในยุคสมัยนี้ ไม่รู้ว่าจะไปหาได้จาก ณ ที่แห่งใดเลย ปีนี้มีประชาชนจำ�นวนมากบอกว่า ทำ�ไมปีนี้คนมา เยอะจัง เพราะเห็นได้จากเฮือนบวรบนพื้นที่ ๑๑ ไร่กว่าๆ ยังแน่นขนัดไปด้วยผูค้ น จนอาคารบวรขนาดใหญ่ดเู ล็กลงไป
อาจจะเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจหรืออาจเป็นเพราะ ข่าวสารทีก่ ระจายไปอย่างทัว่ ถึง ทัง้ ทางทีวแี ละทางออนไลน์ หรือปากต่อปากก็เป็นได้ ตัวเลขคร่าวๆจากฝ่ายจราจรแจ้งว่า ในวันที่ ๑๓ เม.ย. ซึ่งเป็นวันแรกของการจัดงานตลาดอาริยะ คาดว่ามีรถที่มา ร่วมงานมากถึง ๖,๐๐๐-๘,๐๐๐ คัน เพราะรถติดยาวเหยียด ตั้งแต่บ้านราชจนถึงโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ตลาดน้ำ � อาริ ยะครั้ งที่ ๑ นี้ ในยามเช้ า สื บสานพุ ท ธ ประเพณีการบิณฑบาต ด้วยการที่ท่านสมณะท่านสิกขมาตุ บิณฑบาตทางเรือ ญาติธรรมและเด็กๆผู้มาร่วมงานได้รอ ใส่บาตรอยู่ริมน้ำ� มีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายก๋วยเตี๋ยว เรือ ขายขนมไทยๆและขายผักผลไม้ไร้สารพิษ เป็นการคืนชีวิต ให้แม่น้ำ�อย่างง่ายงาม ในช่วงเย็นวันที่ ๑๔ เมษายน มีพิธีรดน้ำ�ดำ�หัวผู้อายุ ยาวของชาวอโศก ตั้งแต่ ๗๐ ปีขึ้นไป ถึงวัย ๙๒ ปี ท่าน เหล่านี้เป็นนักรบของชาวอโศก ที่บุกเบิกมาตั้งแต่ยุคที่ชาว อโศกยังไม่มีอะไรเลย กระทั่งมาสู่ยุคที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งพืชพรรณธัญญาหารและภูมิปัญญาแห่งการพึ่งตน จน เป็นที่พึ่งให้ผู้อื่น
ลูกหลานชาวอโศกได้แสดงความกตัญญูในพิธีรดน้ำ�ดำ�หัวผู้อายุยาว ในวัย ๗๐ - ๙๒ ปี
น้�ำ ใสไหลเย็นจากแม่น�ำ้ มูนหมุนเวียนเป็นแก่ง เป็นน้�ำ ตก ๕ แห่ง ได้แก่ น้ำ�ตกผาแหงน น้ำ�ตกแมนน้ำ�ริน น้ำ�ตกหินน้ำ� ไหลและแก่งไทบ้าน พิเศษสุดๆปีนี้มีน้ำ�โตน เป็นสายน้ำ�ที่ ตกลงมาจากชั้นบนของน้ำ�ตกผาแหงน มีความสูงประมาณ ๒๕ เมตร ซึง่ ผาแหงน ณ จุดชมวิว มีความสูง ๒๘ เมตร ผูใ้ หญ่ มานั่งมานอนให้น้ำ�ตกนวดให้ เด็กๆได้เล่นอย่างสนุกสนาน ทุกเพศทุกวัยสามารถมาใช้บริการได้ฟรี...ฟรี เป็นความกรุณาของพระโพธิสตั ว์ พ่อครูสมณะโพธิรกั ษ์ ที่เนรมิตอิฐ ดิน หิน ปูน ทราย น้ำ� ไฟ ให้เป็นระบบนิเวศน์ ที่ เอือ้ ประโยชน์ตอ่ มวลมนุษยชาติ โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ สร้างระบบนิเวศน์ที่เหมือนธรรมชาติ แต่อยู่เหนือธรรมชาติ ราชธานีอโศกจึงเป็นหมู่บ้านคนจนมหัศจรรย์ ที่เป็น หมู่ บ้ า นที่ ช าวชุ ม ชนทุ ก คนไม่ เ ป็ น หนี้ ใ ครสั ก บาท พึ่ ง พา ตนเองได้ ทำ�อยู่ทำ�กินจนพอ ส่วนเหลือก็สะพัด แจกจ่ายสู่ สังคม ถือเป็นการให้ของขวัญแก่ประชาชนในเทศกาลปีใหม่ ไทย ให้มาเล่นน้�ำ ใสๆ มากินอาหารไร้สารพิษ ทัง้ ร่างกายและ จิตวิญญาณ ได้ซมึ ซับวิถชี วี ติ ตามศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจ พอเพียง “แบบคนจน” ขาดทุนของเราคือกำ�ไร มีจริง สัมผัสได้ จริง ในสังคมบุญนิยมบวรราชธานีอโศก แผ่นดินพุทธแห่งนี.้
ฉบับที่ ๔๘๖ (๕๐๘)
ข่าวอโศก
7
บริเวณแก่งไทบ้าน มีท่านสมณะ สิกขมาตุ บิณฑบาตทางเรือ ในบรรยากาศย้อนยุคแบบไทยๆ มีผู้มาร่วมใส่บาตรอย่างเนืองแน่น
ท่านผู้ว่าฯอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิ ฑูร ให้เกียรติ มาเปิดงาน และเยี่ยมชมร้านค้าต่างๆ ในตลาดอาริยะ
“น้ำ�โตน” สูง ๒๕ เมตร ไหลลงมาจากผาแหงน เปิดเป็นครั้งแรก ต้อนรับงาน ตลาดอาริยะ ให้เด็กๆเล่นกันอย่างชุ่มฉ่ำ�ตลอดงาน คลายความร้อนได้เป็นอย่างดี
สินค้าที่จำ�เป็นในชีวิตประจำ�วันอย่างกระติ๊บข้าวเหนียว และเครื่องจักสาน ขายราคาขาดทุน ให้ประชาชนได้เลือกซื้อไว้ใช้ในครัวเรือน
8
รวมปักษ์ เมษายน-พฤษภาคม ๒๕๖๑ พิธีรับกลดรุ่น “จนที่มีแบบ”
ต่อจากหน้า ๑
ค่ายสร้าง “คนจน” สุขสำ�ราญเบิกบานใจ ค่ายนี้จัดขึ้น ๓ วัน ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙ มี.ค.๖๑ โดยมีนักเรียนชั้นม.๖ และปวช.๓ จำ�นวน ๓๓ คน จากทุก พุทธสถานมาเข้าค่าย มีทงั้ การบำ�เพ็ญธรรมและบำ�เพ็ญคุณ เพื่อเตรียมงานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธและงานตลาด อาริยะที่กำ�ลังจะจัดขึ้น พ่ อ ครู ใ ห้ ชื่ อ รุ่ น นี้ ว่ า รุ่ น “จนที่ มี แ บบ” คื อ คนจน มหัศจรรย์ ที่กล้าจน จนแบบมีศีล ๕ ละอบายมุข ตามแบบ อย่างวิถีชีวิตชาวอโศก ที่ไม่ตกเป็นทาสของบริโภคนิยมแต่ นิยมความเรียบง่าย มักน้อยสันโดษ กิจกรรมต่างๆก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย มีคุรุเป็นผู้ดูแล เริม่ ตัง้ แต่ตี ๕ ได้รว่ มกันสวดมนต์ท�ำ วัตรเช้าและฟังธรรมจาก ท่านสมณะ ทั้งตอนเช้าและตอนค่ำ� สร้างสัมมาทิฏฐิ โดยมี ศีล๕ เป็นกรอบปฏิบัติในการบำ�เพ็ญธรรม หลังจากนั้นนักเรียนจะได้บำ�เพ็ญคุณทั้งตอนเช้าและ บ่ายค่ะ ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติบูชาแด่พ่อครู ร่วมกันทำ�ความ ดีที่สอดคล้องกับความต้องการของวิถีชุมชน ก่อนที่จะจบ การศึกษา
เมือ่ วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๑ มีพธิ รี บั กลด ของนักเรียน สัมมาสิกขารุ่น “จนที่มีแบบ” จากทุกโรงเรียนของชาวอโศก ผู้เข้ารับกลดทั้งหมด ๓๖ คน โดยแยกเป็น นักเรียนสัมมา สิกขา ชั้น ม.๖ จำ�นวน ๑๗ คน ปวช.ปี ๓ จำ�นวน ๑๖ คน และปวส. จำ�นวน ๓ คน หลังเสร็จพิธนี กั เรียนถ่ายรูปร่วมกับคุรุ ท่านสมณะ และ พ่อครู สมณะโพธิรักษ์ จากนั้นมีกิจกรรมต้อนรับน้องๆเข้าสู่ สมาคมศิษย์เก่าสัมมาสิกขาโดยมีพๆ ี่ ศิษย์เก่ามาร่วมต้อนรับ น้องจำ�นวนมาก และเมื่อเสร็จกิจกรรมของทางส่วนกลางแล้ว แต่ละ โรงเรี ย นจะมี กิ จ กรรมเฉพาะสำ � หรั บ พี่ ๆ ที่ จ บในปี นี้ บรรยากาศของพี่น้องสัมมาสิกขาเป็นไปด้วยความอบอุ่น และความรู้สึกที่ไม่อยากจากลา
ค่ายยอส. บนแผ่นดินพุทธ ณ บวรราชธานีอโศก จ.อุบลราชธานี ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อปลูกคุณธรรม สร้างเยาวชนให้มี สัมมาทิฏฐิ โดยการจัดค่ายยุวชนอโศกสัมพันธ์หรือค่ายยอส. จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๓๐ มีนาคมถึง ๓ เมษายน ๒๕๖๑ เพื่อ ให้พี่น้องสัมมาสิกขาได้มาสัมพันธ์กันอย่างมีสัมมาทิฏฐิ อยู่ร่วมกันอย่างพร้อมเพรียงและสามัคคีกัน จนเป็นน้ำ�หนึ่ง ใจเดียวกัน ซึง่ การเข้าค่ายนัน้ นักเรียนทุกระดับชัน้ จากทุกพุทธสถาน จะได้มาเข้าค่ายร่วมกัน โดยมีคุรุ พี่เลี้ยงชั้นม.๖และปวช.๓ คอยดูแลอย่างใกล้ชดิ เป็นมิตรดีทคี่ อยดูแลและขัดเกลา โดย มีศีล๕ เป็นกรอบในการฝึกฝนตนเอง ในการเข้าค่ายนั้นจะมีทั้งกิจกรรมบำ�เพ็ญธรรมและ บำ�เพ็ญคุณ เช่น ทำ�วัตรเช้า พบสมณะ สันทนาการ ลงฐาน งานต่างๆ เพื่อเตรียมงานปลุกเสกฯและงานตลาดอาริยะ ทำ�ให้ค่ายนี้เต็มไปด้วยความผูกพันธ์ มิตรภาพ เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ได้ความรู้จากการทำ�งาน และยังได้แลกเปลี่ยน ประสบการณ์กันด้วย ตลอดระยะเวลา ๕ วันของการจัดค่าย เป็นเพียงจุดเริม่ ต้น เล็กๆ ของทางเดินสู่ความเป็นอาริยะ ตามหลักมรรคองค์ ๘ ที่จะพาตนพ้นทุกข์ไปตามลำ�ดับ ผ่านการทำ�งานนอกสู่การ ทำ�งานภายในใจ คือ การเอาชนะความโลภ โกรธ หลงในใจ ตนเองได้ และสัมผัสความสุขของวิถีชีวิตที่เรียบง่าย
ฉบับที่ ๔๘๖ (๕๐๘)
ข่าวอโศก
9
๘๔ ปี ๔๘ พรรษา แห่งความสำ�เร็จ
ในวาระครบรอบ ๘๔ ปี และ ๔๘ พรรษา ในการ ทำ�งานเผยแพร่ศาสนามา พ่อครูประเมินว่า ท่านสำ�เร็จ แล้ว นอนตายตาหลับได้แล้ว ส่วนพวกเราชาวอโศกซึ่ง เป็นลูกๆของพระโพธิสัตว์ก็ควรได้ทวนตัวเองด้วยเช่น กันว่า ชีวิตของเราเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่ง ในความ สำ�เร็จของพ่อครูได้หรือไม่? หากเรามีชีวิตและทิศทาง อย่างที่พ่อครูต้องการ นั่นก็คือความเป็นลูกกตัญญูที่ได้ ปฏิบัติบูชา ตามธรรมสมควรแก่ธรรมแล้ว ทิศทางของ ชีวิตที่พ่อครูอยากให้ลูกๆเป็นกันนั้นเป็นฉันใด โปรด ติดตามได้ ณ บัดนี้ :ทุกวันนีอ้ าตมาว่า ได้ท�ำ งานเป็นผลสำ�เร็จแล้ว ลงตัวแล้ว ชาวอโศกมีเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์แบบคนจน แบบขาดทุน ของเราคือกำ�ไรของเรา หรือเรียกว่าเศรษฐกิจพอเพียง ทำ�ได้ สำ�เร็จแล้ว เป็นจริงแล้ว และก็เป็นไปโดยไม่ยากไม่ลำ�บาก โดยมีผู้มาปฏิบัติตามกับส่วนผู้เป็นแกนหลักชาวอโศก ที่ ปฏิบัติได้เป็นอัตโนมัติ จนเป็นศีลที่แปลว่าปกติ ธรรมดา ไม่ ได้ยากเย็นฝืดฝืน นับว่าเป็นความสำ�เร็จแล้ว ที่ชาวอโศกได้ ปฏิบัติตามคำ�สอนพระพุทธเจ้าหรือตามพระราชดำ�รัส ของ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นผลได้ผลจริง โดยตัวพวกเราก็ได้โดย ไม่ยาก ได้โดยไม่ลำ�บาก โดยเป็นไปได้ดี อาตมาว่าอาตมาได้ทำ�งานที่เป็นงานที่จะ “ต้อง” ทำ�! เป็นงานที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรทำ� ไม่มีอะไรดีกว่างานช่วย คนให้เข้าใจสัจธรรม แล้วคนจะได้เปลี่ยนชีวิตมาเป็นชีวิต อย่างนี้ได้ นี่เป็นงานที่ดีที่สุดในโลก ไม่มีงานอะไรดีกว่านี้ หรอก นี่เป็นความรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อมั่นของอาตมา เป็นอย่างนี้ อาตมาจึงเลือกงานนี้ เป็นคนอย่างนี้ ผู้ที่เห็น ตามทำ�ความเข้าใจตามก็ได้ผล เกิดคนชนิดนี้ขึ้นมาในสังคม โลก โดยเฉพาะคนไทย ก็เป็นคนที่ประสบความสำ�เร็จก่อน อาตมาขอยืนยันว่า มันเป็นความตั้งใจและเป็นความ มัน่ ใจ ทีจ่ ะต้องเอาความรูก้ บั ความจริงนีม้ าประกาศเป็นงาน สำ�คัญ เป็นหน้าที่ของมนุษยชาติที่ยิ่งใหญ่ อาตมาก็มั่นใจ ตลอดมาว่าได้ท�ำ งานนีม้ าเป็นงานที่ยงิ่ ใหญ่ งานที่ไปหาเงิน หาทองได้ลาภยศสรรเสริญนัน้ อาตมาว่าอาตมาผ่านมาไม่รู้ จักกีช่ าติ มาชาตินอี้ าตมาถูกครอบงำ�แบบลิงลมอมข้าวพอง เสียเวลาทางโลก ๓๖ ปี เมือ่ รูต้ วั แล้วก็ไม่เอาแล้ว รูต้ วั ว่าต้อง ออกมาทำ�งานก็มาทำ�งานนี้ เป็นงานทีด่ ที สี่ ดุ แล้วก็พากันทำ� จนเป็นไปได้ และก็จะพากันทำ�ต่อไป สิง่ เหล่านีโ้ ลกเข้าใจยาก สังคมโลกไม่มโี ลกุตระ ศาสนา ไหนก็ไม่มโี ลกุตระนอกจากศาสนาพุทธ มีศาสนาพุทธศาสนา
เดียวทีเ่ ป็นโลกุตระ จึงจำ�เป็นต้องเป็นหลักให้แก่โลก ยิง่ อยูใ่ น ยุคของทุนนิยม ก็เป็นยุคสมัยทีก่ เิ ลสมันหนา กิเลสมันรุนแรง เป็นโลกียะจัดจ้านมาก ยิง่ จำ�เป็นทีต่ อ้ งสถาปนาความรูท้ เี่ ป็น โลกุตรธรรมลงไปให้แก่มนุษยชาติ เป็นความต้องการ เป็น demand ทีส่ งู มากตอนนี้ ราคา หรือค่าสูงมาก ใครเอาชีวิตมา supply อันนี้ supply ให้กับ demand ที่สำ�คัญยิ่งของมนุษย์โลก จึงเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด แต่คนไม่เข้าใจ เศรษฐศาสตร์แบบโลกที่เขาทำ�นั้นเป็นโลกีย์ เขาแก้ ปัญหาเศรษฐกิจกันแบบโลกีย์ ซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เลย มันเป็นการเปลี่ยนสมบัติผลัดกันชมเท่านั้นเอง หรือ เป็นการแย่งชิงสมบัติผลัดกันชม ทุกคนจะต้องไปรวย จะ ต้องได้ลาภยศสรรเสริญโลกียสุขทัง้ นัน้ ใครแย่งได้ดว้ ยความ เก่งกาจสามารถใดๆ เมื่อเขาแย่งได้สำ�เร็จก็ได้เสวยโลกียสุข คนอื่นอยากได้ด้วยก็เข้ามาแย่ง มาต่อสู้กันใหม่ จนได้ไปอีก ก็เป็นวิบากบาป อกุศลไปเรื่อยๆ ไม่มีวิบากบุญ มีแต่วิบาก บาปอกุศล อย่างดีก็แค่กุศลโลกีย์ เขาก็ได้แค่นั้น ศาสนาพุทธสอนเรื่องบุญ สอนเรื่องรู้การกำ�จัดตัวโง่ที่ เป็นจิตอวิชชา บุญมีหน้าทีก่ �ำ จัดกิเลสหรือตัวโง่นี้ กำ�จัดแล้ว ถึงเป็นโลกุตระเป็นอาริยะ ซึ่งสังคมควรได้ความเจริญทางนี้ ที่เรียกว่า ศิวิไลซ์แบบโลกุตระ จะจบดอกเตอร์ทางโลกียม์ ากีใ่ บก็อยูใ่ นวงวนแก้ปญ ั หา ไม่จบ แก้ได้แค่สมบัติผลัดกันชม ส่วนโลกุตระนั้นไม่ไปแย่ง สมบัติใคร เพราะมุ่งหมายมาเป็นคนจน ใครอยากรวยก็ให้ รวยให้เข็ด แล้วมาเป็นคนจนแบบนี้ จะเป็นความสุขความ สบาย จริงหรือไม่? ผู้ที่เข้าใจแล้วก็มาปฏิบัติ จนได้ฐานของความจริงอันนี้ บรรลุธรรมอันนี้ จะรู้เองตอบเองได้ว่า เราก็เป็นคนจน เรา ก็ไม่เห็นทุกข์ร้อนอะไร ดีไม่ดีสุขสำ�ราญเบิกบานใจด้วยซ้ำ� ...จริงไหม? (มีเสียงตอบว่า)...จริง! นีพ่ ดู เอาใจอาตมาหรือเปล่า ทำ�ไมไม่เหมือนคนข้างนอกที่เขาไม่รู้สึกอย่างนี้ สรุปอีกที อาตมาเห็นว่า เป็นมนุษย์ไม่วา่ ชาติไหนก็ไม่มี อะไรดีเท่ากับทำ�ให้มนุษย์รจู้ กั สัจธรรมทีเ่ ป็นโลกุตรธรรมของ พระพุทธเจ้า ไม่มีอะไรดีกว่านี้ ถ้าได้อันนี้แล้ว เขาก็ไปประพฤติ เอาไปใช้ในชีวิต มันก็ เกิดการเจริญดี ไม่เบียดเบียน ไม่ท�ำ ร้ายกัน มีแต่ท�ำ ประโยชน์ คุณค่าให้แก่สงั คม อาตมาว่าอาตมาทำ�งานประสบผลสำ�เร็จ ทำ�งานมาเกือบ ๕๐ ปีก็สำ�เร็จ ใครจะเห็นด้วยไม่เห็นด้วย อาตมาไม่มีปัญหา อาตมาไม่ได้ทำ�อย่างเพ้อพกไป อาตมา ก็ภูมิใจที่เป็นคนทำ�ประโยชน์ให้แก่สังคมมนุษยชาติ แก่โลก ด้วยซ้ำ�ไป แต่โลกุตรธรรมนั้นไม่แพร่หลายให้รู้กันได้ง่ายๆ ทั่วโลกเป็นศาสนาเทวนิยมแบบโลกีย์ เข้าใจโลกุตระ ไม่ได้ แล้วศาสนาโลกุตระนีไ้ ม่กลัวคนจะมาแย่ง อยากให้นะ แต่ สัจจะนั้นยัดเยียดไม่ได้ ศาสนาพระพุทธเจ้าให้เขาเกิดความ ยินดีพอใจแล้วตัง้ ใจมาเอาเอง ขนาดมีความยินดีพอใจตัง้ ใจ มาเอาเองก็ยังไม่ง่าย หากไปยัดเยียดไม่มีทางจะได้เป็นผล ตามทีพ่ ระพุทธเจ้าตรัสไว้ในมูลสูตรก็ดี ในสุรยิ เปยยาล ๗ ก็ดี มันมีคำ�ว่า “ฉันทะ” อยู่ ต้องมีตัวยินดีเป็นตัวตั้ง อย่างมูลสูตร มีฉนั ทะเป็นมูลกา มีความยินดีเป็นต้นเค้า ในธรรมะพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ยินดีแล้วสูญเปล่า คนทุกวันนี้ แม้แต่ชาวพุทธ ๙๕% ในประเทศไทย ไม่ได้ยินดีจะมาเอา เท่าไหร่ มียินดีมาเอานิดเดียวนี่แหละ และมีบ้างที่ยินดีจะ
ได้โลกุตระแต่ไปแสวงหาในทางผิด เทีย่ วหลงไปเชือ่ อาจารย์ สำ�นักทีส่ อนกันผิดๆเยอะ พากเพียรอยูอ่ ย่างมิจฉาทิฐอิ ย่าง น่าสงสาร มีพวกเรานีแ่ หละทีส่ ามารถรูจ้ กั โลกุตระ แล้วเอาได้ มีสัมมาทิฏฐิ สัมมาปฏิบัติ สัมมาปฏิเวธได้อย่างนี้ มีผลขึ้น มายืนยันตามหลักเกณฑ์ที่เป็นวรรณะ ๙ สาราณียธรรม ๖ พุทธพจน์ ๗ นี่คือสิ่งที่ประเสริฐสุดในความเกิดเป็นมนุษย์ที่จะต้อง เป็นต้องทำ� อาตมาพยายามจะสืบทอดถ่ายทอดให้เด็กทีพ่ อ จะมาได้ หมุนเวียนเอาไป ทีจ่ ะได้คนมาเป็นหลักก็ไม่งา่ ยเลย มีน้อยแต่ก็เอาเถอะ มันได้ ได้น้อยเท่าไหร่ก็เอา เพราะมัน จริงและประเสริฐอาตมาเอาของจริง ไม่หว่ งในปริมาณ หาก ได้ปริมาณมากก็ดแี ต่มนั ไม่ได้กไ็ ม่เป็นไร หากได้มากแต่ไม่มี คุณภาพมันก็เสีย อาตมาเน้นคุณภาพ ส่วนปริมาณนั้นน้อย ไม่เป็นไร น้อยแต่มันเต็มร้อยในโลกุตระก็เอา อาตมาเห็นความเจริญของสิ่งที่เป็นโลกุตรธรรมของ พระพุทธเจ้า ก็เลยมีกำ�ลังใจที่จะพยายามต่ออายุขัยให้มนั ยาวไปอีก เพื่อจะช่วยแนะนำ� นำ�พาให้มันได้มากขึ้นไปอีก และพวกเราก็ยนิ ดีดว้ ย หากไม่ยนิ ดี อาตมาก็คงจะหยุด ก็คงจะ ขอลาตาย แต่พวกเรายังยินดีอยู่ อาตมาก็เลยยังคงพากเพียร อุตสาหะ จนทุ ก วั น นี้ อ าตมาก็ ว่ า สามารถมี พ ลั ง งานจิ ต ที่ มี สัมประสิทธิ์ เป็นพลังงานที่จะทำ�ให้ต่ออายุขัย ทำ�ให้เกิด พลังงานในจิตนำ�พาให้ชีวิตเจริญขึ้นไปได้ จนขยายขึ้นเป็น รูปธรรม นามธรรมด้วย เรียกว่า ๘ อ. ๘ อ. เป็นการต่อให้อายุยืน และก็มี... ๑. อิทธิบาท เป็นตัวหลักเลย ๒. อารมณ์ คือเวทนา การศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าอยู่ ทีอ่ ารมณ์นเี้ ป็นต้นทาง ศาสนาพุทธนีม้ หี วั ใจคือว่าอริยสัจ ๔ คือทุกข์ ทุกข์กค็ อื เวทนา ทุกข์เกิดทีเ่ วทนา ทุกข์ไม่ได้เกิดทีอ่ นื่ เกิดในเวทนาเจตสิก เพราะฉะนั้นการศึกษาศาสนาพุทธจึง ต้องเจาะลงที่เวทนา แล้วก็ทำ�เวทนานี้แหละให้พ้นทุกข์ การ พ้นทุกข์ก็คือ จิตไม่ทุกข์ไม่สุข เป็นอทุกขมสุขหรืออุเบกขา ทำ�จิตให้อเุ บกขาได้กเ็ ป็นฐานนิพพาน สัง่ สมสภาพอุเบกขาได้ ที่พระพุทธเจ้าใช้ศัพท์ว่า “เนกขัมมสิตอุเบกขาเวทนา” ใน มโนปวิจาร ๑๘ ที่เป็นเคหสิตะกับเนกขัมมะ อย่างละ ๑๘ หากเข้าใจเวทนาแล้วทำ�ได้ มีวิธีการมีความสามารถ ทำ�ใจในใจของเรา มนสิการหรือมนสิกโรติ ทำ�ใจในใจของ เราให้ เ กิ ด เนกขั ม มสิ ต อุ เ บกขานี้ ไ ด้ จนสมบู ร ณ์ แ บบเลย กิเลสกี่ตัวก็ทำ�หมด เป็นอุเบกขาหมดเลยก็เป็นพระอรหันต์ ศาสนาพุทธ จำ�ไว้ง่ายๆอย่างที่อาตมาพูดตามสภาวธรรม ที่ง่ายๆชัดๆ ซึง่ ธรรมะพระพุทธเจ้ามีอยูใ่ นพระไตรปิฎกเป็นหลักฐาน อ้างอิงยืนยันได้ เอามาใช้ศึกษาตาม ทำ�ความเข้าใจตามให้ ชัดเจน เกิดเป็นสัมมาทิฏฐิและปฏิบัติจริง ถ้าตราบใดยังมีผู้ สัมมาทิฎฐิ ปฏิบตั ดิ ปี ฏิบตั ชิ อบอยู่ โลกไม่วา่ งจากพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไม่ใช่ตรัสไว้เฉยๆ เป็นเรื่องจริง ทุกวันนีอ้ าตมาก็มนั่ ใจว่า คนของเราเป็นอรหันต์ได้ แม้ อรหันต์จะย่อยลงมาเป็นอรหันต์ของโสดาบัน อรหันต์ของ สกิทาคามี อรหันต์ของอนาคามี อรหันต์ในอรหันต์ ถ้าเข้าใจ แล้ว ทุกวันนี้พวกเรามีจริง รายงานจากกองงานปัจฉาพ่อครู
10 รักษาศีล๕วันวิสาขบูชา (ต่อจากหน้า ๑๒)
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เปิดโอกาสให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำ�คณะเข้าพบก่อนการ ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดแสดงนิทรรศการเนื่องในวัน สำ�คัญทางพระพุทธศาสนาวันวิสาขบูชา พุทธศักราช ๒๕๖๑ ทั้ ง นี้ นายกรั ฐ มนตรี ได้ร่วมเขียนข้อ ความปณิธาน ทำ�ความดี สืบสานพระพุทธศาสนา เนื่องในวันวิสาขบูชา ว่า พุทธศาสนาน้อมนำ�ชีวิต สร้างคุณธรรม จริยธรรม ประเทศ สงบสุข ประชาชนปลอดภัย ครอบครัวยั่งยืน พร้อมขอให้ทุก คนได้น้อมนำ�แก่นแท้ของศาสนา ไปสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะ การรักษาศีล ๕ นอกจากนี้ ยังขอให้หน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง ให้ความรูแ้ ละ ปลูกฝังเยาวชน ในเรือ่ งของการโตไปไม่โกง ให้เด็กได้รวู้ า่ การ โกง หมายถึงอะไร เพราะการโกงไม่ใช่เรื่องของการโกงเงิน หรือทรัพย์สินอย่างเดียว แต่การโกงเวลาหรืออื่นๆ เป็นสิ่ง ที่เด็กต้องเข้าใจด้วย ที่มา : MGR online
แต่งไทยเล่นสงกรานต์ (ต่อจากหน้า ๑๒)
รวมปักษ์ เมษายน-พฤษภาคม ๒๕๖๑ รมช.เกษตรฯ
(ต่อจากหน้า ๑๒)
พื้นที่ลุ่มน้ำ�น่าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นจุดสาธิต เรือ่ งการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชา ประกอบ ด้วย ฐานการเรียนรู้ ๔ ฐาน ได้แก่ ฐานที่ ๑ ฐานคนรักษ์ป่า : ปลูกป่า ๓ อย่างเพื่อประโยชน์ ๔ อย่าง ฐานที่ ๒ ฐานคน รักษ์น�้ำ : การทำ�คลองไส้ไก่กระจายน้�ำ และหนองน้�ำ ฐานที่ ๓ ฐานคนรักษ์พระแม่ธรณี : การสาธิตการผลิตปุย๋ หมัก น้�ำ หมัก ชีวภาพจากเชือ้ จุลนิ ทรีย์ และการผลิตปุย๋ อินทรียค์ ณ ุ ภาพสูง เพือ่ ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร และฐานที่ ๔ ฐานพึง่ พา ตนเอง : การผลิตน้ำ�ยาเอนกประสงค์ สบู่ แชมพู ใช้เองเพื่อ ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน กิจกรรมในครัง้ นีเ้ ป็นส่วนหนึง่ ในการน้อมนำ�เอาศาสตร์ พระราชา ในพระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้จนเกิดประโยชน์ จนเกิดผลสำ�เร็จ ตามที่กระทรวง เกษตรและสหกรณ์มีนโยบายขับเคลื่อนศาสตร์พระราชา ใน พื้นที่ ๕ ลุ่มน้ำ�ของประเทศไทย ได้แก่ ลุ่มน้ำ�ปิง ลุ่มน้ำ�น่าน ลุ่มน้ำ�ยม ลุ่มน้ำ�ป่าสัก และลุ่มน้ำ�ปราจีน (ลุ่มน้ำ�ย่อยห้วย โสมง) เพือ่ แก้ไขปัญหาทีด่ นิ ทำ�กินให้เกษตรกร ลดการทำ�ลาย สภาพแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวติ สร้างรายได้ และมีความ มัน่ คงในทีด่ นิ ทำ�กินอย่างยัง่ ยืน โดยให้นอ้ มนำ�ศาสตร์พระราชา ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรม นาถบพิตร หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎี ใหม่ มาบูรณาการในรูปแบบประชารัฐ โดยเน้นการอนุรักษ์ ดินและน้ำ� การเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ� และบริหารจัดการพื้นที่ ให้สอดคล้องกับสภาพภูมิสังคมแต่ละพื้นที่ สำ�หรับการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วย ศาสตร์พระราชา ในพื้นที่ลุ่มน้ำ�น่าน เป็นหลักการบริหาร จัดการน้ำ�ให้มีน้ำ�ใช้ตลอดปี การใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน การ จัดงานรณรงค์เพื่อขยายผลการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วย ศาสตร์พระราชาพื้นที่ลุ่มน้ำ�น่าน สร้างการรับรู้เกี่ยวกับวัน ดินโลกและความสำ�คัญของทรัพยากรดินและเป็นการสร้าง ความตระหนักแก่เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ในการนำ� แนวทางหรือทฤษฎีสู่การปฏิบัติในพื้นที่ให้เห็นผลอย่างเป็น รูปธรรม สามารถนำ�ไปปรับประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ ๑๒ พ.ค. ๖๑
ตัดเงินเดือนครม.มาเลเซีย (ต่อจากหน้า ๑๒) พล.อ.ประยุ ท ธ์ จั น ทร์ โ อชา นายกรั ฐ มนตรี และ หัวหน้า คสช. กล่าวว่า อยากเห็นคนไทยเล่นน้�ำ สงกรานต์ อย่างสร้างสรรค์ ด้วยการสืบสานคุณค่าประเพณีที่งดงาม ตามแนวทาง “สงกรานต์วิถีไทย ใช้น้ำ�คุ้มค่า ชีวาปลอด ภ้ย” โดยแสดงความชื่นชมหลายพื้นที่ได้รณรงค์ให้มีการ แต่งกายชุดไทยออกไปเล่นน้ำ� ซึ่งนอกจากจะดูสวยงาม สะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยแล้ว ยังช่วยเพิ่มความ ปลอดภัย เพราะเป็นการแต่งกายที่ไม่โป๊ พร้อมกันนี้แนะนำ� ให้ประชาชนนำ�วัฒนธรรม หรือการแต่งกายประจำ�ถิน่ ทัง้ ภาค เหนือ กลาง อีสาน ใต้ มาประยุกต์ใช้กบั การแต่งกายเพือ่ เล่น น้ำ� หรือร่วมประเพณีสงกรานต์ นอกจากนี้ ขอความร่ ว มมื อ พี่ น้ อ งประชาชนให้ ใช้ อุปกรณ์ที่ปลอดภัยและประหยัดน้ำ� เช่น ขันขนาดเล็ก ไม่ใช้ ปืนฉีดน้�ำ แรงดันสูง เล่นน้�ำ อย่างสุภาพในพืน้ ทีท่ กี่ �ำ หนด หาก ใช้รถใช้ถนนต้องเมาไม่ขับและมีน้ำ�ใจให้แก่กัน รวมทั้งขอให้ ภาคเอกชน ผู้จัดกิจกรรม สถานบันเทิงกำ�หนดเวลาเปิดปิด กิจกรรม และงดจำ�หน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามเวลาที่ กฎหมายกำ�หนดด้วย โดย MGR Online วันที่ ๑๓ เม.ย.๖๑
สำ�นักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมือ่ วันที่ ๒๓ พ.ค. ว่าดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม คณะรัฐมนตรี เมื่อวันพุธ ว่าที่ประชุมมีมติเห็นพ้องให้ปรับ ลดเงินเดือนของรัฐมนตรีทุกคนรวมตัวเขาด้วย ๑๐% เพื่อ เป็นการร่วมบรรเทาภาระการเงินของประเทศ โดยดร.มหาเธร์ วัย ๙๒ ปี กล่าวด้วยว่า เขาเป็นผู้เสนอแนวคิดลดเงินเดือน เข้าสู่ที่ประชุมเอง ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกับในช่วงที่เขารับ ตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก เมื่อปี ๒๕๒๓
ผูน้ �ำ มาเลเซียกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลชุดปัจจุบนั จะพยายาม ทำ � ทุ ก วิ ถี ท างตามกระบวนการทางกฎหมาย เพื่ อ ลดหนี้ สาธารณะของประเทศ ทีใ่ นตอนนีส้ งู เกินกว่า ๑ ล้านล้านริงกิต (ราว ๘.๒ ล้านล้านบาท) คิดเป็น ๖๕% ของผลิตภัณฑ์มวล รวมในประเทศ ( จีดพี ี ) ซึง่ วิธกี ารของเขารวมถึงการยุบหน่วย งาน “ที่ไม่จำ�เป็น” ซึ่งส่วนใหญ่ก่อตั้งในสมัยรัฐบาลองนาย นาจิบ ราซัค เช่น คณะมนตรีนกั วิชาการแห่งชาติ (เอ็นพีเอ็น) และคณะกรรมาธิการการขนส่งสาธารณะทางบก (เอสพีเอดี) โดยให้ถ่ายโอนงานทั้งหมดกลับไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง คือกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงคมนาคม ตามลำ�ดับ โดย www.dailynews.co.th
ราชกิจจาฯห้ามทำ�ประชานิยม (ต่อจากหน้า ๑๒)
เมือ่ วันที่ ๒๐ เม.ย. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พระราชบัญญัตวิ นิ ยั การเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.๒๕๖๑ โดย มีผลบังคับใช้วันนี้ (๒๐ เม.ย.๒๕๖๑) โดยเนื้อหากฎหมาย มีทั้งหมด ๘๗ มาตรา ระบุเหตุผลในการออกกฎหมายว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้รัฐต้องรักษา วินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฐานะทางการ เงินการคลังของรัฐมีเสถียรภาพและมั่นคงอย่างยั่งยืนตาม กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ ซึ่งกฎหมายดัง กล่าวอย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับกรอบการดำ�เนิน การทางการคลังและงบประมาณของรัฐ การกำ�หนดวินัย ทางการคลัง ด้านรายได้และรายจ่าย ทั้งเงินงบประมาณ และเงินนอกงบประมาณ การบริหารทรัพย์สินของรัฐและ เงินคงคลัง และการบริหารหนี้สาธารณะ จึงจำ�เป็นต้องตรา พระราชบัญญัตินี้ สำ�หรับมาตราที่น่าสนใจได้แก่ มาตรา ๙ ระบุไว้ว่า “คณะรัฐมนตรีตอ้ งรักษาวินยั ในกิจการทีเ่ กีย่ วกับเงินแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัตินี้อย่างเคร่งครัดในการพิจารณาเรื่องที่ เกี่ยวกับนโยบายการคลัง การจัดทำ�งบประมาณ การจัดหา รายได้ การใช้จ่าย การบริหารการเงินการคลัง และการก่อ หนี้ คณะรัฐมนตรีตอ้ งพิจารณาประโยชน์ทรี่ ฐั หรือประชาชน จะได้รบั ความคุม้ ค่า และภาระการเงินการคลังทีเ่ กิดขึน้ แก่รฐั รวมถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงิน การคลังของรัฐอย่างรอบคอบ คณะรัฐมนตรีต้องไม่บริหาร ราชการแผ่นดินโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่อาจ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและ ประชาชนในระยะยาว” มาตรา ๑๐ ให้มีคณะกรรมการนโยบายการเงินการ คลังของรัฐ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รมว. การคลังเป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการคลัง, เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ (สศช.), ผู้อำ�นวยการสำ�นักงบประมาณ และผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ ให้ผู้อำ�นวยการ สำ�นักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นเลขานุการ และให้ สศค.ปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการของคณะกรรมการ อีกด้วย โดย www.dailynews.co.th
ฉบับที่ ๔๘๖ (๕๐๘)
เจริญธรรมสำ�นึกดี พบกับน.ส.พ.ข่าวอโศก ฉบับที่ ๔๘๖(๕๐๘) รวมปักษ์ เม.ย.-พ.ค.๒๕๖๑ v OH Wow!!! Land of Buddha
ขอโอกาสเล่าสู่กันฟังโดยย่อนะคะ ดิฉนั ได้มโี อกาสรูจ้ กั มิสเตอร์เปรม (เป็น ชาวออสเตรเลีย) บนรถโดยสารสองแถวหน้า สถานีรถไฟเมืองอุบลฯ ระหว่างนั่งรถสังเกต เห็นเขาดูแผนที่เป็นระยะๆ จึงเอ่ยถามเขา ว่าต้องการความช่วยเหลือไหม เขาตอบว่า มาอุบลเป็นครั้งแรกต้องการหาที่พัก จึงได้ แนะนำ�ที่พักไม่ไกลอุทยานบุญนิยมพร้อม กับชวนแวะลงทานข้าวที่อุทยานฯ เขาตอบ รับด้วยความยินดี ระหว่างทานอาหารก็ได้ พูดคุยกันและได้ชวนเขาไปบ้านราช แต่เขา เพียงขอชื่อและเบอร์โทรไว้ จากคำ�บอกเล่า : ชื่อ “Prem“ เป็นชื่อที่ อาจารย์สอนนั่งสมาธิ ชาวอินเดียตั้งให้ เขาเคยไปอยู่ที่อินเดียหลายเดือน!!! วันรุ่งขึ้น ๒ เมษายน ในตอนเช้าเขาได้ แวะไปทานอาหารที่อุทยานอีกครั้งหนึ่งและ ได้เล่าว่าอาหารมังสวิรัติที่นี่ทานแล้วสบาย ท้อง เบาสบายตัวดีมาก จึงเกิดความคิดว่า จะต้องมาให้ได้เห็นได้รู้ว่าชาวอโศกปลูกพืช
ข่าวอโศก ผัก/อยู่กิน/ใช้วิถีชีวิตกันอย่างไร/ยังไง ทีอ่ ทุ ยานฯมิสเตอร์เปรมถามหาข้าพเจ้า พี่แพงพรได้ยินจึงมีจิตอาสาพาเขาเข้ามาใน บ้านราช(และพาส่งกลับอุทยานฯด้วย) ถึง บ้านราชพี่แพงพรก็ชวนเขาทานข้าวที่เฮือน หยังกิน ระหว่างนัน้ พีแ่ พงพรก็ปลีกตัวมาตาม ข้าพเจ้าที่บ้าน(บ้านตั้งอยู่เฟส๑/๑ ริมบุ่ง/ริม มูน) ขณะนัน้ ข้าพเจ้ากำ�ลังย้าย-แนวเขตบ้าน ซึ่งใช้ท่อซีเมนต์วางเป็นแนวรั้วไว้… เมื่อได้ทราบเรื่องราวจากพี่แพงพร เรา ทัง้ สองคนจึงทำ�หน้าทีพ่ าเขาชมแผ่นดินพุทธ โดยใช้ ร ถของพี่ แ พงพรเป็ น พาหนะพาไป จนถึงเฮือนสุดชีวิต…ได้ขึ้นไปผาแหงนจนถึง ชัน้ บนสุดด้วยค่ะ…เขาให้น�้ำ หนักความสนใจ ในกสิกรรมไร้สารเคมี… ระหว่างชมบ้านราชฯ มิสเตอร์เปรม อุทาน Oh! WoW! หลายครัง้ เมือ่ ได้เห็น Land of Buddha เขากล่าวว่างามอะไรเช่นนี้ เขา รู้สึกอิสระเสรีและสัมผัสได้ถึงคำ�ว่า “แผ่นดิน พุทธ” เขากล่าวอีกว่า ไปที่ไหนๆมาก็งดงาม ไม่เท่าทีน่ แี่ ละก็ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะมี กลุม่ คนดีมธี รรมะในสถานทีด่ งี ามเข่นนีอ้ ยูใ่ น ประเทศไทย !!! “วันนี้เป็นวันเซอร์ไพรส์สำ�หรับฉัน ฉัน มีความสุขมาก” มิสเตอร์เปรมกล่าวย้ำ�ก่อน ลาจากกัน แผ่นดินพุทธของพระโพธิสัตว์ผู้เปี่ยม ประเสริฐด้วยความเมตตาสร้างไว้เพื่อมวล มนุษยชาติ เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนาให้ ยั่งยืนสืบไป เรื่องจาก...แหม่ม สวิส จิง้ หรีดก็ขอเอามาเล่าต่อ ขนาดเขาเป็น คนข้างนอก และเป็นต่างชาติด้วย ยังเห็น แบบนี้ แล้วชาวเราภายใน ที่ตั้งใจมาตายที่ แผ่นดินพุทธนี้ เห็นอย่างไรล่ะ...จี๊ดๆๆ
รำ�ลึกถึง สล่าปั๋น ดีไซน์เพื่อชีวิต (ต่อจากหน้า๔) – กินให้น้อยลง – ใช้ให้น้อยลง – เสียสละให้มากขึ้น ปั๋นอยากทำ�งานโดยไม่รับเงินอย่างเต็มตัว ติดแต่ยัง ต้องส่งลูกเรียน จึงแบ่งเวลาทำ�งานให้วัด และรับจ้างแกะ สลักหาเงินไปด้วย ขณะอยู่วัด ลุงปั๋นได้รู้จักนักศึกษาคนหนึ่งที่มาปฏิบัติ ธรรมที่วัด และชวนลุงไปช่วยสร้างโรงเรียนบนดอยให้เด็ก ชาวเขาเดือนหนึ่ง เพราะโรงเรียนที่ใกล้หมู่บ้านที่สุดอยู่ห่าง ออกไปเกือบสิบกิโลเมตร เด็กๆ ไม่สามารถเดินเท้าไปเรียน ได้ ถ้าไปโรงเรียน ก็ต้องค้างที่นั่นเลยเพราะเดินกลับไม่ทัน และไม่มหี นทางหรือพาหนะอืน่ นอกจากการเดินเท้าเท่านัน้ เมือ่ ไปถึงดอย ลุงปัน๋ ก็เห็นว่าชาวบ้านยากจนมาก ไม่มี อะไรเลย ไม่รจู้ กั การเพาะปลูก ความเป็นช่างผูม้ ใี จอารี ทำ�ให้ แต่แรกที่คิดจะสร้างโรงเรียนเล็กๆ ธรรมดาๆ เปลี่ยนเป็น สร้างให้ใหญ่ขึ้น และให้คงทนถาวร เนื่องจากได้เห็นไม้สัก จึงอยากทำ�ให้ดีๆ อยู่ได้นานๆ แต่เมื่อไม่มีงบจากทางการ จึงเริ่มขอเงินบริจาค มีนักศึกษา และญาติ พี่ น้ อ งหลายรายรวบรวมเงิ น ก้ อ น และบริ จ าค สมทบมาเรื่อยๆ จนสำ�เร็จ เป็นโรงเรียนที่ไม่เล็กนัก และ มั่นคงแข็งแรง เพราะได้รับการร่วมแรงร่วมใจจากชาวบ้าน และเด็กนักเรียน ชาวบ้านช่วยกันเลื่อยไม้ให้ถึง ๖ ครั้ง โดยไม่คิดค่าแรง
11
v มรณัสสติ หลวงพ่อถนอมคูณ คุณกิตตโณ บวช ๒๔ พรรษา อายุ ๖๔ ปี มรณภาพด้วยโรค ไต เม่ื่อวันที่ ๕ เม.ย.๖๑ ฌาปนกิจวันศุกร์ ที่ ๖ เม.ย.๖๑ ณ เฮือนสุดชีวิต บ้านราช หลวงลุงทิพย์ ฟักเกตุ (ทิวากโร) เป็น หลวงลุงของสมณะถักบุญ บวช ๖ พรรษา สิรอิ ายุ ๗๗ ปี มรณภาพเช้าวันที่ ๙เม.ย.๖๑ ขณะนัง่ คุยกับสมณะเลือ่ นลิว่ และสมณะฟ้า รู้ แล้วล้มฟุบลงไป คาดว่าอาจเกี่ยวกับโรค หัวใจ ฌาปนกิจ ณ เฮือนสุดชีวิต บ้านราช คุณพิภพ เจษฎาปกรณ์ อายุ ๗๐ ปี เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง วันที่ ๓๐ เม.ย.๖๑ ฌาปนกิจวันที่ ๔ พ.ค.๖๑ ณ เมรุสุดชีวิต บวรปฐมอโศก คุณมนตรี ดวงทรง (สล่าปั๋น) อายุ ๖๘ ปี เสียชีวติ วันที่ ๔ พ.ค.๖๑ ท่านได้อทุ ศิ ร่างกายให้ร.พ.มหาราช (สวนดอก) คุณยายทองจันทร์ เรืองศรีจันทร์ (คุณแม่ของคุณก้อนหิน หรือคุณอิสระภูมิ นาวาบุญนิยม) อายุ ๙๓ ปี เป็นผูบ้ ริจาคที่ดิน ผืนแรกเพือ่ สร้างวัดสลกบาตร เสียชีวติ เมือ่ วันที่ ๘ พ.ค.๖๑ ฌาปนกิจที่วัดสลกบาตร จ.กำ�แพงเพชร วันที่ ๑๓ พ.ค.๖๑ คุณภคาวิน ดวงจันทร์ อายุ ๓๕ ปี (คู่ชีวิตของน้องส้ม-ร่มธารธรรม ศิษย์เก่า สัมมาสิกขาปฐมอโศก) เสียชีวติ ด้วยอาการ หัวใจวายเมื่อวันที่ ๑๖ พ.ค. ๖๑ ฌาปนกิจ วันเสาร์ที่ ๑๙ พ.ค.๖๑ ที่บ้านแม่หลอด อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
แต่ทางลุงปั๋นและพวกก็หาอาหารของแห้งไปให้เป็นของ ตอบแทน เด็กๆ ตัง้ แต่ ๕ ขวบขึน้ ไป ก็มาช่วยขนทราย หิว้ กระป๋อง แบกน้ำ� ลุงปั๋นไม่เพียงสร้างอาคารไม้ แต่ยังทำ�โต๊ะนักเรียน ที่ เก็บจานชาม ช้อน แก้วน้�ำ ส่วนตัว โดยมีหมายเลขกำ�กับทุกช่อง ตรงกับชือ่ เด็กทีต่ ดิ ไว้เหนือหิง้ ทำ�ระบบล้างจานแบบประหยัดน้�ำ สร้างห้องน้�ำ ห้องส้วมไว้อย่างครบครันทุกอย่างสะอาด มีระเบียบ สวยงาม ตามนิสัยของลุงปั๋นผู้ก่อสร้าง ลุงใช้เวลาอยูเ่ กือบ ๔ ปี ทัง้ ทีแ่ ต่แรกกะจะมาเดือนเดียว แต่เมื่อต้องสร้างไป รอเงินบริจาคไป และโครงการขยาย ออกไป จึงใช้เวลานานขึ้น อีกทั้งการก่อสร้างบนป่าบนดอย ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะโรงเรียนอยู่ไกลและกันดาร หนทางก็ ย่ำ�แย่ ขนาดรถขับเคลื่อนสี่ล้อยังวิ่งไม่ได้ ค่าขนส่งก็แพงมาก ไม่ว่าจะปูน สังกะสี ต้องบวกค่าขนส่งอีกหลายเท่า ทำ�ให้ ต้องใช้เงินมากกว่าปรกติ แต่ในที่สุดโรงเรียนก็เสร็จด้วยงบ ประมาณ ๒ แสนบาทเศษ ระหว่างอยู่ที่นั่น ลุงเห็นชาวบ้านที่ยากจนได้แต่หาของ ป่าไปวันๆ กินข้าวเปล่ากับพริกตำ� ลุงปัน๋ รูส้ กึ สงสารชาวบ้าน มาก จึงสอนให้ปลูกกล้วย ปลูกผัก ทำ�เกษตรทีโ่ รงเรียน ให้เด็ก มีอาหารกิน เคยเพาะเห็ดหอมไว้กินกันเองด้วย น่าเสียดาย ว่าภายหลังไม่มีผู้สานต่อเพราะหนุ่มสาวลงจากดอยไปเรียน หนังสือทีข่ า้ งล่างกันหมด เหลือแต่เด็กเล็กซึง่ ไม่อาจดูแลการ เพาะเห็ดหอมได้ ลุงปัน๋ เป็นคนแข็งแรง วิง่ ขึน้ ลงเขาระยะทาง ๔ กิโลเมตร
ได้สบายๆ เพราะดูแลอาหารการกินดี เน้นยอดผักธรรมชาติ ผักป่า ข้าวกล้อง กล้วยน้�ำ ว้า ลุงบอกว่าอยากให้วนั ยาวกว่านี้ จะได้ทำ�ประโยชน์ให้ผู้อื่นได้มากๆ เมือ่ อาคารเรียนเสร็จ ก็สร้างโรงอาหารให้เด็ก ๗๐ คนต่อ เมือ่ ก่อนเด็กต้องใช้หอ้ งเรียนเป็นห้องอาหารด้วย แต่เนือ่ งจาก พื้นเป็นปูน หน้าหนาวจะหนาวมาก เพราะเด็กๆ ต้องนั่งพื้น ลุงจึงสร้างโรงอาหารต่อจากโรงเรียน โดยปูพื้นไม้ที่ชาวบ้าน ช่วยกันหามาให้ แต่ก็ต้องรอเงินบริจาคเพื่อซื้อสังกะสีมุง หลังคา และแท็งค์เก็บน้�ำ ฝน เพือ่ ให้เด็กมีน�้ำ ดืม่ กันตลอดทัง้ ปี แม้ลงุ ไม่มรี ายได้อะไรเลยและไม่อาจบริจาคเงิน แต่ลงุ ก็ บริจาคแรงงานอย่างเต็มที่ ทำ�ให้ทุกอย่างเป็นรูปเป็นร่างขึ้น มาได้ ลุงได้พิสูจน์คำ�สอนของครูบาอาจารย์ที่ว่า “คนเราไม่ จำ � เป็ น ต้ อ งมี เ งิ น ก็ อ ยู่ ไ ด้ ขอให้ ข ยั น ซื่อสัตย์ และทำ�แต่ความดี เราจะไม่อดตายเลย” ลุงปั๋นในวันนี้เป็นนักแกะสลักมือฉมัง สามารถแกะน้ำ� เป็นน้ำ� แกะเมฆเป็นเมฆ หากรับจ้างฝรั่ง ลุงคงได้เงินมาก แต่ลุงบอกว่า “เราเกิดมาจากดิน ตายแล้วก็ไปสู่ดิน ลุงตายตรง ไหนก็เผาตรงนั้น” ช่วงสุดท้ายของชีวติ สล่าปัน๋ ได้ไปช่วยงานส่วนกลางชาว อโศก แต่เกิดอุบัติเหตุ ทำ�ให้มีความพิการ ต้องนอนติดเตียง อยูห่ ลายเดือน จนเมือ่ คืนวันที่ ๔ พ.ค. ๒๕๖๑ สล่าปั๋น จึงได้ เสียชีวติ ลงอย่างสงบ…โดยสล่าปัน๋ ได้แสดงเจตนาอุทศิ ร่างให้ เป็นอาจารย์ใหญ่ให้นักศึกษาแพทย์… เรื่องโดย…อ.หญิง (รัศมี กฤษณมิศ)
12
รวมปักษ์ เมษายน-พฤษภาคม ๒๕๖๑
นายกฯเปิดโอกาส รมว.วธ.จัดนิทรรศการวันวิสาขฯ
พร้อมขอทุกคนรักษาศีล๕
ฉบับที่ ๔๘๖(๕๐๘) รวมปักษ์ เม.ย.-พ.ค. ๒๕๖๑
อ่านต่อหน้า
นายกชื่นชมคนไทย
แต่งชุดสงกรานต์
อ่านต่อหน้า
๑๐
สั่งตัดเงินเดือนครม.๑๐เปอร์เซนต์
แบ่งเบาภาระหนี้สินประเทศ มหาเธร์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียลดเงินเดือนของตัวเอง และ รัฐมนตรีทกุ คนลง ๑๐% เพือ่ ช่วยแบ่งเบาภาระหนีส้ นิ ของประเทศ และการยุบ “หน่วยงานไม่จ�ำ เป็น” ซึง่ จัดตัง้ ขึน้ ในสมัยรัฐบาลชุดทีแ่ ล้ว อ่านต่อหน้า
๑๐
๑๐
รมช.เกษตรฯ เปิดงานรณรงค์ขยายผล การพัฒนาระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชาฯ
นายวิวัฒน์ ศัลยกำ�ธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานรณรงค์เพื่อขยายผลการพัฒนา ระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชา อ่านต่อหน้า ๑๐
ราชกิจจาประกาศใช้แล้ว
กฎหมายห้ามทำ�ประชานิยม ราชกิจจาเผยแพร่ พ.ร.บ.วินยั การเงินการคลัง ระบุชดั เจน “มาตรา ๙ ห้ามครม.บริหารราชการแผ่นดินโดยมุง่ สร้างความนิยมทางการเมือง ทีอ่ าจ ก่อให้เกิดความเสียหายศก.ประเทศและปชช.ในระยะยาว” อ่านต่อหน้า
๑๐