ธรรมะพ่ ท่าน :(๕๐๖) ชาวอโศกเป็น “คนจนที่สุขสำ�ราญเบิกบานใจ” น.๔ ฉบับที่ อ๔๘๔
1
สกู๊ปพิเศษ : บาปสีขาว ที่ชาวอเทวนิยข่มไม่ รู้ได้ง่ายๆ น.๙ าวอโศก
ฉบับที่ ๔๘๔ (๕๐๖) รวมปักษ์ ธันวาคม ๒๕๖๐
“งานถึงสื่อถึงคน ๙ตามพ่อ”ครั้งที่๒ ดร.วิวัฒน์ รมว.เกษตรฯ ให้เกียรติร่วมเสวนา อ่านต่อหน้า
๘
ชาวอโศกจัดโรงบุญน้อมรำ�ลึก ๕ธันวาฯ
ไม่ต่ำ�กว่า ๙๙ โรงบุญในวันชาติ
ผู้ว่าฯเปิดตลาดประชารัฐที่อุทยานบุญนิยม
๑๐ ข่าวเด่นในรอบปี ๒๕๖๐
อ่านต่อหน้า
๖-๗
อ่านต่อหน้า
๕
2
รวมปักษ์ ธันวาคม ๒๕๖๐
ข่าวดี! อย.ห้ามใช้ไขมันทรานส์ ในอุตสาหกรรมอาหาร-เบเกอรี่
ปีใหม่ที่ดี ไม่มีตกต่ำ� ถึงปีใหม่อกี ปี อายุของเราก็มาก ขึ้นทุกปี อันแสดงถึงความเจริญเติบโต ของร่างกายที่เป็นไปตามกาล หากเราเป็นนักปฏิบตั ธิ รรม เรา ก็จะคำ�นึงถึงความเจริญเติบโตทาง จิตใจด้วย ความเจริญเติบโตทางร่างกาย ยังไงๆก็ต้องเดินสู่ความเสื่อมของ อวั ย วะต่ า งๆในร่ า งกาย สิ่ ง ที่ เรา สามารถทำ�ได้ดที สี่ ดุ คือ ชะลอความ เสือ่ ม อย่างน้อยก็รกั ษาสุขภาพทาง กายให้เจ็บป่วยน้อยลง นี้ก็คงเป็น เครื่องชี้วัดความเจริญทางร่างกาย ส่วนตัวชีว้ ดั ความเจริญทางด้าน จิตใจ ก็ดูได้จากการให้ความสำ�คัญ ในตัวเองลดลง ผูท้ ลี่ ดความสำ�คัญของตัวเองลง ได้ในแต่ละปี จะมีลกั ษณะน้อมรับคำ� ตำ�หนิ คำ�ชี้แนะจากผู้อื่นได้มากขึ้น รับใช้ ห รื อบริ การส่วนรวมมากขึ้น โดยมีความทุกข์ทางใจลดลง ก็หวังว่าปีใหม่นี้ เราก็คงจะได้ ชีวิต ใหม่ ที่ มี ค วามเจริญเติบโตทั้ง ทางร่างกายและจิตใจ กันถ้วนทั่ว ทุกตัวคน.
นักโภชนาการจัดให้ไขมันทรานส์เป็นอันตรายอันดับหนึ่ง ในบรรดามวลมหาประชาไขมันทั้งหลาย เนื่องจากร่างกาย ไม่สามารถย่อยไขมันทรานส์ได้ ทำ�ให้ร่างกายไม่สามารถนำ� ไขมันดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ได้ จึงไปอุดตันตามหลอดเลือด และเพิ่มการอักเสบของผนังเส้นเลือด และหากรับประทาน ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ อุดตันสูงถึง ๓ เท่า ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของ ประชากรเลยทีเดียว วงการอาหาร-เบเกอรี่ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ อย.-สาธารณสุข เตรียมออกประกาศ ห้าม ใช้ไขมันทรานส์ในอาหาร ลดความเสี่ยงโรคหัวใจหลอดเลือด หลังสหรัฐคุม เข้มสัง่ ห้ามใช้เด็ดขาดหลัง มิถุนายน ๖๑ แจงต้องเร่ง สกัด หวังปิดทางอาหารที่ มีส่วนผสมไขมันทรานส์ สู ง จากสหรั ฐ ทะลั ก เข้ า ไทย สถาบันโภชนาการ มหิดล ชี้ “โดนัท-พัฟ-เพส ทรี - เวเฟอร์ - มาร์ ก ารี น เนย” แจ็กพอตยกแผง ผู้ ผลิตป่วนถึงขัน้ ต้องรือ้ สูตร อย.ห้ า มใช้ ไ ขมั น ทรานส์ น . ส . ทิ พ ย์ ว ร ร ณ ปริญญาศิริ ผู้อำ�นวยการ สำ�นักอาหาร สำ�นักงาน คณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) กระทรวง สาธารณสุ ข กล่ า วว่ า อย.ได้จัดทำ�ร่างประกาศ กระทรวงสาธารณสุ ข
เรื่องกำ�หนดวัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร (ฉบับที่ ๓) อาศัยอำ�นาจตาม ความในมาตรา ๕ (๑) และมาตรา ๖ (๕) แห่งพระราชบัญญัติ อาหาร พ.ศ.๒๕๒๒ โดยให้เพิ่มความลงในข้อ ๒ ของประกาศ กระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๑๕๑ (พ.ศ.๒๕๓๖) เรื่องกำ�หนด วัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร ลงวันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๖ ในข้อ ๒.๑๓ “ห้ามใช้น�ำ้ มันทีผ่ า่ นกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (ไข มันทรานส์) “ยกเว้น” การใช้ในการผลิตอาหารเพื่อการส่งออก” การออกประกาศฉบับดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ผลวิจัยทาง วิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่า “ไขมันทรานส์ (trans fatty acids)” จากน้ำ�มัน ที่ผ่านกระบวนการเติม ไฮโด ร เจ นบา งส่ ว น (partially hydrogenated oil) จะเพิ่ม “ความเสี่ยง” ของการ เกิดโรคหัวใจและหลอด เลื อ ด ดั ง นั้ น อย.จึ ง ได้ จั ด ทำ � ร่ า งประกาศ กระทรวงสาธารณสุ ข ฉบั บ ดั ง กล่ า วขึ้ น โดย ขณะนีต้ วั ร่างอยูร่ ะหว่าง การเปิดรับฟังความคิด เห็นของผู้มีส่วนได้ส่วน เสีย ได้แก่ โรงงานผลิต วัตถุดิบอาหาร, โรงงาน ผลิตน้ำ�มันพืช, โรงงาน ผลิ ต นม-เนย-เบเกอรี่ และโดนั ท ฯลฯ ที่ ใช้ กระบวนการผลิ ต ที่ มี ไขมันทรานส์เกิดขึ้น จากหนังสือพิมพ์ ประชาชาติธุรกิจ ๒๑ ธ.ค. ๖๐
ฉบับที่ ๔๘๔ (๕๐๖)
ข่าวอโศก
ชื่อ : ดร.ปรารถนา พรประภา (ต้อม) เกิด : อังคารที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๑๘ ภูมิลำ�เนา : กทม. การศึกษา : ปริญญาเอก สาขาความ สัมพันธ์ระหว่างประเทศ Fletcher School of Law and Diplomacy, Tufts University เมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาจูเซ็ต ประเทศสหรัฐอเมริกา อาชีพเดิม : นักการทูต, นักเจรจาการค้า ระหว่างประเทศ
2 รู้จักชาวอโศกได้อย่างไร ?
คุณแม่วนิดาเป็นญาติธรรม พาตนและน้องชายมาร่วม กิจกรรมเป็นประจำ�ที่รร.พุทธธรรมวันอาทิตย์ ที่สันติอโศก ตั้งแต่อายุ ๘ ขวบ ได้กินมังสวิรัติและฝึกตรวจศีล ๕ อย่าง เคร่งครัด จึงมีพื้นฐานธรรมะ ด้วยความที่เป็นเด็กเรียน หนังสือดี จึงสอบเข้ามหาวิทยาลัย (คณะรัฐศาสตร์ ภาค ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ได้ตั้งแต่อายุ ๑๕ เมือ่ ผลการเรียนเทอมแรกออกมา สอบได้คะแนนสูงสุด คือได้เกรดเฉลีย่ เต็ม ๔.๐ คุณพ่อเลยตามใจ ซือ้ รถหรูราคาแพง กระเป๋า นาฬิกาแพงๆให้ใช้ และใช้ชวี ติ ฟุง้ เฟ้อหรูหราเรือ่ ยมา (ครั้งหนึ่งเคยขอคุณพ่อซื้อนาฬิกาแพง คุณพ่อก็อนุญาต แต่ แทนที่จะพาไปซื้อ กลับเอาเงินสดมาวางให้ดูเป็นตั้ง จนเห็น ว่าเงินจำ�นวนนี้มันเยอะเหมือนกัน รู้สึกเสียดาย สุดท้ายจึง ไม่ซื้อ) เนื่องจากเป็นคนเรียนเก่งมาตลอด จึงชอบการแข่งขัน และการเอาชนะ เมื่อเรียนจบปริญญาตรี นอกจากจะได้ คะแนนรวมเป็นที๑่ ของภาควิชาและคณะฯ แล้ว (เกียรตินิยม อันดับหนึ่ง เหรียญทอง) ยังได้รางวัลทุนภูมิพล สำ�หรับผู้ที่มี ผลการเรียนดีเยี่ยมของจุฬาฯ ในรุ่นนั้นด้วย ตอนเป็นเด็ก มีความเคร่งครัดในศีลสูง คงเพราะอยาก ได้คะแนนเช็คศีลเต็ม แต่ความเข้าใจในศีลยังไม่ลึกพอ รู้แต่ ว่าห้ามทำ�เพราะมันไม่ดี ก็จะไม่ทำ� จึงเป็นการปฏิบัติธรรม แบบการกดข่มเท่านั้น พอเรียนจบมหาวิทยาลัยก็ได้รับทุน รัฐบาลไทยให้ไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ต้อง ไปเรียนพุทธธรรมวันอาทิตย์และไม่ต้องเช็คศีลอีกต่อไป ก็
3
นั้นยังคิดว่า คนที่เชื่อว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้เพราะใช้เงินไม่ เป็นต่างหาก เนื่องจากใช้ชีวิตสุดโต่งมาก จึงเห็นว่าเงินซื้อ ทุกอย่างได้ ไม่เว้นแม้แต่ความสุข โตขึ้นมาไม่เคยรู้ว่าตัวเอง มีเงินเท่าไร เพราะมีคนคอยดูแลเรื่องเงินให้ตลอด แทบไม่มี บัญชีธนาคารในชือ่ ตนเอง เป็นคนไม่พกเงิน อยากได้อะไรจะ ใช้บตั รเครดิต โดยจะมีคนคอยจ่ายบิลให้ เรียกว่าเป็นผูใ้ ช้เงิน อย่างเดียว ไม่เคยเก็บหรือถือเงินเอง รู้แต่ว่าอยากได้อะไรก็ จะมีคนจัดการให้เสมอ แม้ลกึ ๆ ก็รวู้ า่ สิง่ ทีต่ นเองทำ�อยูม่ นั ไม่ ถูก แต่กต็ ดิ สบายและหลงความฟุง้ เฟ้อ เวลารูส้ กึ ผิดก็ลองไป ศึกษาธรรมจากวัดอื่นที่ง่ายกว่า มีไปหัดนั่งสมาธิบ้าง (แต่ไม่ สามารถนัง่ ได้เกินครึง่ ชัว่ โมงเลย) เพราะหวังว่าจะเจอทางลัด ในการเป็นคนดีโดยไม่ต้องทนลำ�บาก สำ�หรับชีวติ การทำ�งาน หลังเรียนจบปริญญาเอก มีภาระ ต้องทำ�งานชดใช้ทุนการศึกษาที่เรียนมารวม ๑๓ ปี ได้ตั้งใจ ไว้แล้วว่า ถ้าไม่คิดจะอยู่จนเกษียณ เมื่อหมดทุนจะลาออก ทันที เพือ่ เอาเวลาไปทำ�สิง่ อืน่ ทีด่ ที ชี่ อบมากกว่า แม้งานทีท่ �ำ จะเป็นการทุม่ เทเพือ่ ประเทศชาติและส่วนรวม แต่ระบบก็ยงั เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีในลาภยศสรรเสริญ ที่จะค่อยๆ เปลีย่ นจิตวิญญาณเราเป็นคนโลภโกรธหลง ดังนัน้ เมือ่ ทำ�งาน ใช้ทนุ ครบ ๑๓ ปี จึงลาออกทันที ก่อนทีเ่ ราจะกลายพันธุเ์ ป็น คนประเภทที่เราเคยไม่ชอบและไม่อยากเป็น เมื่อลาออกแล้ว ก็ตั้งใจว่าจะทำ�งานเพื่อส่วนรวมต่อไป มองงานมูลนิธิต่างๆ รวมทั้งงานที่สหประชาชาติที่ตรงกับ ประสบการณ์และความเชีย่ วชาญ ตอนนัน้ คิดว่าเป็นอาชีพทีด่ ี เพราะเงินเดือนสูงมาก สามารถเลีย้ งชีวติ ทีห่ รูหราของตัวเอง ต่อไปได้ แล้วยังได้ชว่ ยคนด้วย โชคยังดีทไี่ ม่ทนั ได้ไปทำ� มาฟัง พ่อท่านซะก่อนว่า “เลวที่สุดบนแผ่นดิน คือการหากินบน คำ�ว่าช่วยเขา” เกือบจะเข้าไปหลงในวังวนบาป คือไปทำ�งาน ช่วยคนทีไ่ ด้โลกธรรมเต็มที่ แล้วยังได้ใช้ชวี ติ หรู บนกองเงินที่ คนเขาบริจาค คงจะสร้างวิบากอีกยาวนานโดยไม่รู้ตัว เมือ่ จังหวะชีวติ เริม่ ลงตัว คือเทีย่ วรอบโลกอีกหลายรอบ จึงวนเวียนมาช่วยงานที่สันติอโศกบ้าง เพราะลึกๆก็รู้ว่าการ เสพสุขมันไม่ดี จนเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๙ ได้มีโอกาสเดิน ทางคนเดียวมาทดลองอยูบ่ า้ นราช และแปลกใจตัวเองว่า ไม่ เพียงแต่อยู่ได้ แต่ยังสนุก สุขสบายดีด้วย ก็เป็นจุดที่ทำ�ให้ ฉุกคิดว่า ยังมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าให้ชีวิตอยู่นะ
เริม่ หันมาลองกินเนือ้ สัตว์ทลี ะอย่าง จากสัตว์เล็กจนใหญ่ขนึ้ เพราะรูส้ กึ อิสระกับการหาของกินทีง่ า่ ยและไม่ตอ้ งทำ�ตัวแตก ต่างจากคนอื่น หลั งจากเรี ยนจบและทำ � งานในประเทศหลายปี ใน ตำ�แหน่งนักเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มีโอกาสได้ไป ทำ�งานในต่างประเทศ ๕ ปี คือ ที่นครเจนีวา ประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ เมือ่ ทำ�งานในต่างประเทศมาก ก็มชี วี ติ ทีห่ า่ ง วัดขึ้นเรื่อยๆ ได้กราบพ่อท่านปีละเพียงไม่กี่หนเท่านั้น ทั้งๆ ที่รู้ถูกรู้ผิด แต่ชีวิตที่ประสบความสำ�เร็จ ไร้อุปสรรค อยากได้ อยากมีอยากเป็นอะไรทางโลกียะ ก็ดจู ะได้ดงั ใจไปหมด จึงลืม การสังวรศีล ใช้ชีวิตไปในทางโลกีย์อย่างเต็มที่ หันมากินเนื้อ สัตว์ทุกชนิด ผิดศีลแทบจะทุกข้อ เวลาไปกราบพ่อท่าน ก็มักถามท่านว่า ทำ�ไมธรรมะที่ พ่อท่านสอนถึงได้ยากขนาดนี้ วัดอืน่ ๆสอนแค่เข้าวัด สวดมนต์ ใส่บาตร นัง่ สมาธิ ก็เป็นคนดีได้แล้ว ทำ�ไมคำ�สอนของพ่อท่าน ต้องลดละเลิกทุกอย่างทีส่ บายออกไปให้หมด เข็นเขาขึน้ ครก เพื่อจะแสวงหาทางที่ไม่ทุกข์ไม่สุข แต่หนทางไปสู่จุดหมาย นัน้ มันช่างแสนทุกข์ เพราะต้องสละสุขออกหมด เพือ่ อะไรกัน พ่อท่านมักหัวเราะอย่างเมตตา แล้วบอกว่ามันจะปฏิบตั ยิ าก อะไร ต้องเห็นทุกข์ก่อนก็จะทำ�ง่าย พอเรียนท่านว่า ก็เห็น ทุกข์อยู่ ไม่เห็นจะบรรลุอะไรเลย ท่านตอบว่า แค่รทู้ กุ ข์นะสิ แต่ยังไม่ได้เห็นทุกข์ 2 แล้วชีวิตเปลี่ยนไปได้อย่างไร ? ก็จะเห็นทุกข์ได้ยังไง ในเมื่อไม่เคยคิดว่าชีวิตเป็นทุกข์ หลัง จากมาร่วมงานพุทธาภิเษกฯ เดือ นกุม ภาพันธ์ เพราะไม่เคยผิดหวังกับอะไรหนัก ชีวิตก็แสนดี ทุกข์ก็ด้วย เรื่องปวดหัว ปวดท้อง ไม่ได้ดังใจทั่วไป ไม่เห็นจะเดือดเนื้อ ปี’๖๐ ตั้งใจศึกษาธรรมะและฟังธรรมด้วยความสนใจตื่นรู้ ...อ่านต่อหน้า ๔ ร้อนใจอะไรมากมาย อยากได้อะไรก็ได้ไปซะทุกอย่าง ตอน
4
รวมปักษ์ ธันวาคม ๒๕๖๐
ชาวอโศกเป็น “คนจนที่สุขสำ�ราญเบิกบานใจ” ทำ�ตนให้เป็น“คนจน” สำ�เร็จจริง จึงจบปัญหาชีวิต เพราะ มี“ปัญญา”เข้าใจใน“ความจน”ว่า ไม่ใช่“ปัญหา”ของการดำ�รง ชีวิตอยู่อย่างประเสริฐ หรืออย่าง“อาริยะ” ที่จะดำ�เนินชีวิต หรือมีชีวิตอยู่กับการเป็น“คนจน” ด้วยความสุขสำ�ราญเบิก บานใจไปจนตาย ชนิดทีม่ “ี ปัญญา”อย่างลึกซึง้ เข้าใจ“ตนเอง” เข้าใจ“ความเป็นคน” และเข้าใจ“ความจน” ว่า “ความจน” ไม่ใช่ “ปัญหา” ของชีวิต “ความจน” ไม่ใช่ความทุกข์ยากลำ�บากอะไรเลย “ความจน” เป็นเรื่องดีในความเป็นคน เพราะคนที่ทำ� “ความจน” ให้ตนเองอย่างมี “ปัญญา” (มิใช่ฉลาดเฉลียวอย่างเฉโกนะ)นั้น รู้แจ้งรู้จริงว่า เป็น“คนจน ชาวอโศกคือ คนไทยกลุ่มหนึ่ง และน่าจะเป็นกลุ่ม อย่างมีปัญญาแท้” นี้ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีเศรษฐกิจ เดียวเท่านั้นที่เข้าใจความเป็น “คนจน” กันดีที่สุด และได้ สูงสุดจริงๆ ยิ่งถึงขั้น “สาธารณโภคี” ก็ยิ่งยอดเยี่ยมสุด จึง
เขาคือใคร
ต่อจากหน้า ๒
เหมือนนัง่ อยูใ่ นห้องเรียน เริม่ เข้าใจทางออก จากทุกข์โดยมรรคมีองค์๘ จากการฟังพ่อท่าน บรรยายมหาจัตตารีสกสูตรทั้งสัปดาห์ สิ่ง ต่ า งๆที่ เ คยสงสั ย ก็ ก ระจ่ า งขึ้ น เกิ ด ความ เข้าใจในการเวียนว่ายตายเกิดและความวน ในวัฏฏะ ซึ่งเกิดขึ้นจากสูงสุด จนต่ำ�สุด กลับ ไปมาเป็นวงจรนับล้านๆชาติ เสพมานับชาติ ไม่ถว้ น และชาตินมี้ พี ระโพธิสตั ว์มาสอนแนะ ทางออกจากวงวนนี้ ถ้ายังจะหลงเสพอยู่ แล้ว จะต้องไปวนอีกนานชัว่ กัปกัลป์เท่าไหร่ จึงจะ พบพระโพธิสตั ว์ทจี่ ะมาสอนเราแบบนีอ้ กี ครัง้ คิดได้ดังนั้นก็ตั้งใจมั่นว่าจะหาทางออกจาก วงวนแห่งวัฏฏสงสารนี้ให้จงได้
2 การปฏิบัติธรรมของตนเอง หรือมีวิธีการฝึกฝนตนเองอย่างไร ? หลังจากนั้นก็เริ่มกลับมาปฏิบัติธรรม อย่างตั้งใจ ศึกษาอย่างถ่องแท้ เริ่มใหม่จาก กรอบของศีล๕ กลับมากินมังสวิรัติ และลด
การบริโภคที่ฟุ่มเฟือยลงตามลำ�ดับ เลิกแต่ง หน้า ลดการแต่งตัว จำ�หน่ายจ่ายแจกสมบัติ ของมีค่าออกไป ตั้งแต่กระเป๋าแพงที่สะสม ไว้มากๆ ก็เอาออกจนตู้โล่ง แม้จะต้องเสีย น้�ำ ตาด้วยความเสียดาย แต่พอสละของทีร่ กั ที่สุดออกไปได้ทีละชิ้น ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น ความสุขทีไ่ ด้ของแพงๆ ทัง้ เสือ้ ผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ นอกจากความสวยหรูแล้ว ยังมีเรื่องโลกธรรมเข้ามาเสริมเกียรติ ให้เรา รู้สึกว่าเหนือคนอื่น แต่สมบัติเหล่านี้ถูกเก็บ ใส่ตู้นิรภัยที่ธนาคาร ไม่ได้เอามาใช้ มีอยู่ก็ เหมือนไม่มี เพราะแทบไม่ได้นึกถึงมัน ไม่ได้ อาศัยมันในการดำ�เนินชีวิตอีกต่อไป เดี๋ยวนี้ พอไปเดินห้างก็ตั้งใจไม่ซื้อของเพิ่ม แต่งตัว เรียบขึ้น แม้ไม่ถึงกับมอซอ แต่ก็ไม่ต้องเด่น ไม่ต้องหรูเหมือนเก่า การปฏิบัติธรรมคือ หยิบสักกายะกิเลส ใหญ่ที่จะโผล่มาให้เราเห็น เมื่อมีผัสสะมา กระทบออกไปทีละอย่าง ที่สำ�คัญที่สุดคือ การฟังธรรมโดยไม่มีขาดเลยแม้แต่วันเดียว
เป็น“คนจน”ได้สำ�เร็จตามศาสตร์พระราชา ตามคำ�ตรัสของ พระเจ้าอยู่หัว ร.๙ ที่จริงยิ่ง เพราะตรงตาม“ความรู”้ และ“ความจริง”อันสูงส่ง ยิง่ ใหญ่ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทีว่ า่ “คนชัน้ สูง”นัน้ จะมาเป็น“คน มักน้อย (อัปปิจฉะ) มีน้อยๆก็พอ (สันโดษหรือสันตุฏฐิ) เป็น คนไม่สะสมสมบัติ(อปจยะ)อีกแล้ว เป็นต้น “คนจน”ที่อยู่ในสังคมที่ดำ�เนินชีวิตกันถึงขั้น“สาธารณ โภคี”นัน้ เป็นคนประสบผลสำ�เร็จของชีวติ แล้ว เพราะเป็นคน มีชวี ติ ดำ�เนินไปถึงทีส่ ดุ ของ“เศรษฐศาสตร์”สูงสุดเท่าทีม่ นุษย์ และสังคมมนุษย์จะพึงมีได้เป็นได้จริงแล้ว ไม่มีขั้นอื่นใดที่จะ สูงสุดของ“เศรษฐศาสตร์”ไปมากกว่าขัน้ “สาธารณโภคี”นีแ่ ล้ว จึงชื่อว่าเป็นสังคมหรือ“คนชั้นสูง”แท้จริง พ่อครูสมณะโพธิรกั ษ์.
เมื่อรู้ปริยัติมากแล้ว ต้องฝึกเจโตสมถะเพื่อ เพิม่ อินทรียพ์ ละ ฝึกอ่านจิตว่าแต่ละช่วงเวลา จิตคิดอะไรวิ่งไปไหนบ้าง อยากได้อะไร มี อกุศลจิตอย่างไร ผิดศีลหรือไม่ โดยไม่ต้อง หยุดความคิด แต่ผูกความคิดไว้ด้วยสายที่ ปล่อยให้มนั ยาว ปล่อยให้มนั วิง่ ไป ถ้ามีอกุศล จิตเกิดก็รู้ว่าเพราะอะไร ตามอ่าน ตามด่า กิเลส ใช้ปญ ั ญาวิเคราะห์วจิ ยั ถึงเหตุรากเหง้า ของอกุศลจิตและโทษภัยของมัน เห็นความ ไม่เที่ยงไม่จริงของกิเลส แล้วพยายามล้าง ตามลำ�ดับ เมื่อก่อนเรารู้กิเลสแต่รู้เพียงเพื่อ ตามสนองมัน จนมันใหญ่ขนึ้ เรือ่ ยๆ แต่ตอน นีห้ นั กลับเรียนรูก้ เิ ลสเพือ่ ทำ�การล้างมันแทน
2 เป้าหมายในระยะสัน้ คืออะไร ?
ทำ�ทีละวัน ทำ�เป็นวันๆ มาอยู่ในหมู่ มิตรดี คบสัตบุรุษให้บริบูรณ์ ฟังสัทธรรมให้ มากขึน้ เรือ่ ยๆ รักษาความสมดุลระหว่างชีวติ ทางโลก ในขณะทีเ่ พิม่ เวลาให้โลกโลกุตรธรรม เน้นการฝึกให้มีปิติในการปฏิบัติธรรมเพื่อ สร้ า งฉั น ทะ และฝึ ก การอยู่ กั บ ปั จ จุ บั น
มากกว่าความต้องการอยากเห็นผลสำ�เร็จ
2 อยากฝากอะไรถึงเพื่อนนัก ปฏิบัติธรรม?
เพื่อนนักปฏิบัติธรรมที่ยังไม่เข้ากระแส อาจจะยังไม่เข้าใจ ว่าจะจนหรือรวยดี จะจน ไหวมั้ย จึงอยากให้เริ่มจากการสำ�รวจตัวเอง ก่อนว่า เรามีความไม่พออยูเ่ ยอะแค่ไหน? ถ้า ยังไม่พอ เราก็จะรูส้ กึ จน อยากได้มากกว่าทีม่ ี อยูต่ ลอด เพราะไม่วา่ จะรวยแค่ไหน ก็จะต้อง มีของที่ราคาแพงกว่าเงินที่เรามีเสมอ ไม่มีที่ สิน้ สุด ถ้าเราไม่จ�ำ กัดความอยาก คิดว่ายังไม่ รวยพอ ก็จะไม่มีวันรวย เพราะความไม่พอ ส่วนคนที่มีน้อยกว่าแต่มีความพอ ยังรู้สึก รวยกว่าได้เพราะความรู้จักพอ อยากให้มอง ว่าเรายังสามารถจำ�กัดความอยากให้เล็กลงๆ ได้อกี มัย้ หยุดความอยากได้เพิม่ บ้างมัย้ ดังที่ ในหลวงรัชกาลที๙ ่ สอนให้พอเพียง ทุกอย่าง ต้องเป็นไปตามลำ�ดับขั้น ท้ายที่สุด พอที่สุด คือเหลือ ๐ จึงสุขสมบูรณ์อย่างยั่งยืน.
ฉบับที่ ๔๘๔ (๕๐๖)
ข่าวอโศก
5
ชาวอโศกจัดโรงบุญน้อมรำ�ลึก ๕ ธันวาฯ ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์ ๕ ธันวาคม นอกจากจะ เป็นวันดินโลก วันชาติ และยังเป็นวันพ่อแห่งชาติอีกด้วย ชาวอโศกจึงรวมใจจัด “โรงบุญ ๕ ธันวา” ทัว่ ประเทศ จาก บวรชาวอโศกทั้ง ๘ แห่ง ร่วมกับเครือแหทั่วประเทศ ร่วม จัดโรงบุญกว่า ๑๔๓ โรงบุญ, ในเขตกรุงเทพฯ ๓๙ โรงบุญ, ภาคอีสาน ๓๓ โรงบุญ, ภาคเหนือ ๕๒ โรงบุญ, ภาคกลาง ๑๔ โรงบุญ, ภาคตะวันออก ๑ โรงบุญ และภาคใต้ ๔ โรงบุญ
บวรสันติอโศก กทม. วันที่ ๒ ธ.ค.๖๐ มี ๒ โรงบุญ บวรสีมาอโศก วันที่ ๔–๑๐ ธ.ค. มีโรงบุญจำ�นวน ๙ ของ บจ.พลังบุญและทีมแพทย์วิถีธรรม โรงบุญ โดยมีชาวชุมชน ญาติธรรม ศิษย์เก่าร่วมกันจัด วันอาทิตย์ที่ ๓ ธ.ค.๖๐ รร.สัมมาสิกขาสันติอโศก ร่วม กับญาติธรรม และสมาชิกตลาดนัดไร้สารพิษได้เปิดโรงบุญ แจกอาหาร เครื่องดื่ม ผัก ผลไม้ไร้สารพิษ เกษตรกรได้มา แจกโดยตรง วันที่ ๕ ธ.ค.๖๐ ชมร.สันติอโศกร่วมกับร้านค้าในตลาด บุญนิยม ญาติธรรม กลุม่ อุโบสถศีลจัดโรงบุญ มีเวทีชาวบ้าน ตลอดงานทั้ง ๓ วัน มีการรณรงค์ให้นำ�ภาชนะส่วนตัวมา รับบริการ
บวรราชธานี อ โศก จ.อุ บ ลราชธานี มี ก ารขายปุ๋ ย อินทรีย์ตรางอกงามในราคาตลาดอาริยะ ที่โรงปุ๋ยพลังชีวิต ตั้งแต่วันที่ ๓–๕ ธ.ค.๖๐ วั น ที่ ๔ ธ.ค.๖๐ ชาวชุมชนร่วมกับร.ร.สัมมาสิกขา ราชธานีอโศกและญาติธรรม ได้จดั โรงบุญแจกอาหารมังสวิรตั ิ ที่ รพ.วารินชำ�ราบ จ.อุบลฯ วั น ที่ ๕ ธ.ค.๖๐ ที่ อุ ท ยานบุ ญ นิ ย มได้ จั ด ให้ มี ก าร เปิดตลาดประชารัฐคุณธรรม กรีนมาร์เก็ต แห่งแรกของ จ.อุบลราชธานี และเป็นแห่งที่ ๔ ของประเทศ โดยมีการจัด โรงบุญแจกอาหารและเครื่องดื่มฟรี ในช่วงเช้าพ่อครูนำ�หมู่ สมณะออกบิณฑบาตบริเวณหน้าอุทยานบุญนิยม หลังจาก นั้นพ่อครูได้แสดงธรรม การจั ด งานครั้ ง นี้ เ ป็ น การประสานความร่ ว มมื อ จาก หลายภาคส่วน อาทิ ประธานหอการค้าจังหวัด, เจ้าของห้าง ยงสงวน โดยท่านผูว้ า่ ราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑรู ย์ เป็นประธานเปิดตลาดประชารัฐ และแขกผูม้ เี กียรติมา เยี่ยมชมตลาดประชารัฐ วันที่ ๖ ธ.ค.๖๐ ได้จัดโรงบุญที่โรงเรียนลือคำ� หาญ อ.วารินชำ�ราบ นอกจากนี้ข่ายแห “สวนส่างฝัน” จัดโรงบุญ มหากุศลที่ตลาดวิชิตสิน จ.อำ�นาจเจริญ
บวรภูผาฟ้าน้�ำ วันที่ ๕ ธ.ค. มีการจัดโรงบุญที่ชมร. เชียงใหม่ ภายใต้ชื่องาน “น้อมเกล้าฯถวายความอาลัยด้วย ใจภักดี โรงบุญ ๕ ธันวา” ด้วยความร่วมมือจากหลายองค์กร อาทิ ชาวชุมชน รร.สัมมาสิกขาภูผาฟ้าน้ำ� ญาติธรรมชาว เหนือ เกษตรกรในเครือข่ายคกร.เชียงใหม่ ลูกค้าของชมร. เชียงใหม่ และสขจ.ภูผาฟ้าน้ำ� ร่วมเป็นเจ้าภาพเปิดโรงบุญ ๑๘ โรงบุญ โดยมีกิจกรรมใส่บาตรอาหารมังสวิรัติ และฟัง เทศน์ก่อนฉัน อาหารเครื่องดื่มแจกฟรีตลอดงาน ร้านดิน อุ้มดาว (สขจ.ภูผาฟ้าน้ำ�) จำ�หน่ายสินค้าทุกชิ้นราคา ๑ บาท นอกจากนี้ยังมีการจัดโรงบุญที่เพชรผาภูมิ และมีการจัดโรง บุญบนดอยแพงค่าอีก ๑ โรงบุญ
บวรปฐมอโศก มีการจัดโรงบุญฯ ที่โรงปุ๋ยพลังแผ่นดิน จำ�นวน ๓ โรงบุญ แจก ๓ วัน และทีห่ น้าร้านศาลาค้า ๒ แจก ๒ วัน โดยเฉพาะวันที่ ๕ ธ.ค. มีการจัดโรงบุญทีร่ า้ นปฐมบุญ นิยม ร้านมรป. หน้าร้านดินอุม้ ดาว หน้าร้านหิง่ ห้อย หน้าร้าน รังผึ้ง และมีจัดโรงบุญที่แดนอโศก และที่สนามหลวงอีกด้วย ทีท่ งุ่ นาแรงรักแรงฝัน ได้จดั โรงบุญแจกอาหารทีต่ ลาดท่าม่วง และตลาดสดบ้านไร่ จ.อุทัยธานี วันที่ ๖ ธ.ค. ได้จัดโรงบุญที่ นอกจากนีก้ ม็ สี งั ฆสถาน จ.เพชรบุรี และที่ริมชายหาดชะอำ� อาวาสสถานและชุ ม ชน หลายแห่ง ร่วมกันจัดโรงบุญ เช่น สังฆสถานทะเลธรรม แม้ จ ะอยู่ ใ นบรรยากาศที่ ยังมีน�้ำ ท่วมในพืน้ ที่ แต่ชาว ทะเลธรรมก็ฝ่าน้ำ�ท่วม จัดโรงบุญมังสวิรัติ ๕ ธันวามหากุศล ทั้งสิ้น ๓ วัน คือวันที่ ๑ ธ.ค. จัดที่ตลาดสด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง วันที่ ๕ ธ.ค. จัดที่ชุมชนทะเลธรรม และวันที่ ๗ ธ.ค. จัดทีต่ ลาดสด อ.นาโยง จ.ตรัง เป็นบรรยากาศทีผ่ คู้ นลุยน้�ำ มา รับประทานอาหารกัน และยังรักษาวัฒนธรรมของโรงบุญฯ คือ ผู้ให้ไหว้ผู้รับ อาวาสสถานแก่นอโศก จ.ขอนแก่น จัดงาน “โรงบุญ มหากุศล ๕ ธันวามหาราช” ณ ศาลาโฮมแก่น (โรงสีพลังธรรม) บวรศาลีอโศก มีการจัดโรงบุญ ๓ แห่ง คือ หลังจากเสร็จกิจกรรมโรงบุญยังมีการจำ�หน่ายสินค้าราคาถูก ๑.โรงบุญที่บวรศาลีอโศก จัดที่หน้าร้านใจฟ้า อาทิปุ๋ยอินทรีย์ เสื้อผ้า เป็นต้น ๒.โรงบุญที่บ้านกำ�นันประสิทธิ์ นาคตระกูล อาวาสสถานดินหนองแดนเหนือ จ.อุดรธานี จัดโรง บวรศีรษะอโศก วันที่ ๕ ธ.ค.๖๐ มีการจัดกิจกรรม “ก้าว ๓.โรงบุญของคุณริว้ ธรรม คำ�เขียว จัดโรงบุญที่ โรงเรียน บุญวันที่ ๔ ธ.ค. ที่ร.พ.ส่งเสริมสุขภาพ จ.อุดรธานี ตามพ่อ ร.๙” จัดโรงบุญแจกอาหารทีร่ า้ นมังสวิรตั ศิ รี ษะอโศก บ้านโคกสามัคคี อาวาสสถานเลไลย์อโศก จ.เลย จัดโรงบุญและจัดงาน และที่ร้านหนึ่งน้ำ�ใจ มีการจำ�หน่ายสินค้าเท่าทุนทุกรายการ บวรหินผาฟ้าน้�ำ จัดโรงบุญหน้าโรงรับจำ�นำ� อ.แก้งคร้อ ตลาดอาริยะครั้งที่ ๑ มีเวทีชาวบ้านและกิจกรรมสอยดาวอีกด้วย จ.ชัยภูมิ
6
๑๐
รวมปักษ์ ธันวาคม ๒๕๖๐
ข่าวเด่นในรอบปี ๒๕๖๐
๑. โรงบุญกับการสวรรคตครบรอบ ๑ ปี ฉบับที่ ๔๘๓ (๕๐๕) รวมปักษ์ ต.ค.-พ.ย. ๒๕๖๐
ชาวอโศกน้ อ มส่ ง เสด็ จ สู่ ส วรรคาลั ย ทุ ก ชุ ม ชนร่ ว ม กับพสกนิกรชาวไทย ขอน้อมรำ�ลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เริ่มในวันอาทิตย์ที่ ๑๖ ต.ค. ๕๙ ชาว อโศกได้เคลื่อนขบวนจัดโรงบุญ ที่ท้องสนามหลวง แจก อาหารให้ แขกของพระราชาที่ เ ดิ น ทางมากราบสั ก การะ พระบรมศพ ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนรับใช้ ในความสูญเสียยังมีความเกิดใหม่ของปรากฏการณ์คอื ระเบิดแห่งความรัก หรือ Bomb of Love ที่แสดงออกมาใน รูปแบบของการแบ่งปัน การเสียสละตามคำ�สอนของพ่อ ทีว่ า่ ขาดทุนของเรานั่นคือกำ�ไรของเรา “Our loss is Our gain” อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จนกระทั่งในช่วงสุดท้าย ในงานพระราชพิธีถวายพระ เพลิงพระบรมศพในหลวงร.๙ วันที่ ๒๕–๒๖ ต.ค.๖๐ กองทัพ ธรรมร่วมกับแพทย์วิถีธรรมตั้งครัวที่วัดเทพธิดาราม จัดโรง บุญแจกอาหารเจ ๒๔ ชั่วโมงตลอด ๒ วัน โดยผลัดเปลี่ยน กันเป็น ๓ ผลัด ผลัดละ ๘ ชั่วโมง และสิ้นสุดการจัดโรงบุญ บริการอาหารแก่พนี่ อ้ งประชาชนผูเ้ ป็นแขกของพระราชาใน วันที่ ๒๗ ต.ค. ๖๐ รวมเวลา ๑ ปี ๑๐วัน
ต่อจากหน้า ๑
๓.
พ่ อ ครู ส่ ง สั ญ ญาณเหนื่ อ ย! ให้ ลู ก ขวนขวายไม่ประมาท ในงานอโศกรำ�ลึก’๖๐
ฉบับที่ ๔๘๐ (๕๐๒) รวมปักษ์ พ.ค.-มิ.ย. ๒๕๖๐ ในปี นี้ ถื อ เป็ น การจั ด งานอโศกรำ � ลึ ก ครั้ ง ที่ ๓๖ และบู ช าพระบรมสารี ริ ก ธาตุ ณ พุ ท ธสถานสั น ติ อ โศก กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๕-๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๐ พ่อครูได้แสดงธรรมส่งสัญญาณว่า “มาถึงวันนี้เริ่มรู้สึก เหนื่อยเป็นอาการเหนื่อยทางจิตไม่ใช่ทางร่างกาย อาตมา บอกให้พวกเราทราบว่าอาตมาว่าอาการอาตมาเริ่มน่าเป็น ห่วง จงเร่งพากเพียรเถิดลูกอโศกเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว” จากนั้นพ่อครูเป็นประธานพิธีเปิดตลาดนัดบุญนิยม สันตินาคร ซอยนวมินทร์ ๔๖
๔. จัดพุทธาภิเษกฯ ที่ปฐมอโศก เป็นครั้งแรก ฉบับที่ ๔๗๘ (๕๐๐) รวมปักษ์ มีนาคม ๒๕๖๐
๒.
อุบัติเหตุทางรถยนต์กับการสูญเสีย ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวอโศก
ฉบับที่ ๔๗๙ (๕๐๑) รวมปักษ์ เมษายน ๒๕๖๐ เมือ่ วันจันทร์ที่ ๑๗ เม.ย.๖๐ ได้เกิดอุบตั เิ หตุทางรถยนต์ ของชาวสังฆสถานทะเลธรรม จ.ตรัง เมือ่ รถตูท้ กี่ �ำ ลังเดินทาง กลับจากอุบลราชธานี ได้เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง บน ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ส่งผลให้มผี บู้ าดเจ็บอีก ๘ คนและมี ผู้เสียชีวิต ๔ ราย คือ ท่านสมณะดินดี สันตจิตโต หรือหลวง พ่อดำ�, คุณตัง้ มัน่ บุญสัมฤทธิอ์ โศก, คุณฉลองรัฐ พิสทุ ธิก์ วิน และนางวิไล ภัทรพิทักษ์
งาน “พุทธาภิเษก สุดยอดปาฏิหาริย์” ครั้งที่๔๑ จัดที่ ปฐมอโศกเป็นครั้งแรก เนื่องจากญาติธรรมบางส่วนต้องไป แจกอาหารที่โรงบุญฯ ณ ท้องสนามหลวง เริ่มวันแรกในวันมาฆบูชา พ่อครูได้แสดงธรรมกัณฑ์ พิเศษ เรื่อง “ธรรมะมาฆบูชา” การจัดงานในครัง้ นีจ้ งึ เป็นรอบใหม่ของงานพุทธาภิเษกฯ ในการขึ้นรอบปีที่สี่สิบ-หนึ่ง มีหลายๆอย่างที่เป็นหนึ่ง เป็น ครัง้ แรก เช่น จัดทีป่ ฐมอโศกเป็นครัง้ แรก และเป็นชุมชนแรก ของชาวอโศก ๒.เป็นครัง้ แรกทีว่ นั มาฆบูชาตรงกับวันแรกของ งาน และงานวันนี้ก็เป็นวันที่ “หนึ่งหนึ่ง” กุมภาพันธ์ และ เป็นครั้งแรกของการจัดงานพุทธาภิเษกฯ ในรัชสมัยรัชกาล ที่ ๑๐ และยังเป็นครั้งแรกของสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๒๐ อีกด้วย
๕.
อัญเชิญพระพุทธรูปปางปรองดอง รวมพลังลากเรือไฟฌาน ในงานปลุกเสกฯ ครั้งที่ ๔๑
ฉบับที่ ๔๗๙ (๕๐๑) รวมปักษ์ เมษายน ๒๕๖๐ พิธีอัญเชิญพระพุทธรูปปางปรองดองและร่วมลากเรือ ไฟฌาน ในงานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ ๔๑ จัดขึ้น ระหว่างวันที่ ๕ - ๑๑ เม.ย. ๖๐ ที่พุทธสถานราชธานีอโศก มีสิ่งพิเศษที่เป็นสิ่งใหม่เกิดขึ้นถึงสามประการคือ ๑. มีการสนทนาธรรมเป็นกลุ่มกับสมณะ สิกขมาตุเกจิิ ๒. ได้มกี ารอัญเชิญพระพุทธรูปปางที่ ๓ ของชาวอโศก ชื่อว่า ปางสมานัตตาหรือปางปรองดอง ๓. ลากเรือไฟฌาน ซึ่งเป็นเรือที่ถูกไฟไหม้ส่วนหัวไป ๖ เมตร จากทั้งหมด ๒๖ เมตร โดยใช้แรงงานคนลากไปถึง “เนินเขาว่า”
๖. พ่อครูฟื้นฟูสุขภาพที่เชียงใหม่ ๒ ครั้ง
และทำ � พิ ธี บ รรจุ พ ระบรมสารี ริ ก ธาตุ ที่ อุณาโลมสมเด็จปู่วิชิตอวิชชา ที่ดอยรายฯ
ฉบับที่ ๔๘๐ (๕๐๒) รวมปักษ์ พ.ค.-มิ.ย. ๒๕๖๐ ฉบับที่ ๔๘๓ (๕๐๕) รวมปักษ์ ต.ค.-พ.ย. ๒๕๖๐ ในวัยย่างเข้า ๘๔ ปี ท่จี ะครบ ๗ รอบนักษัตรของพ่อครู ที่ตรากตรำ�ทำ�งานหนักเพื่อกอบกู้บวรพุทธศาสนามาตลอด ๔๗ ปีนั้น แม้จะดูแข็งแรงกว่าคนวัยเดียวกัน แต่ก็ปฏิเสธ ถึงความทรุดโทรมลงไม่ได้ ยิ่งเมื่อพ่อครูเปรยว่าปีนี้จะหนัก อยู-่ ไม่อยูก่ ไ็ ม่รไู้ ด้ ทำ�ให้ลกู ๆทุกคนเห็นตรงกันว่าอยากให้พอ่ ครูได้พักบ้าง จึงเป็นที่มาให้พ่อครูเดินทางมาฟื้นฟูสุขภาพที่ จ.เชียงใหม่ อย่างไม่มีกำ�หนดการแน่นอนตายตัว ระหว่าง วันที่ ๒ -๒๐พ.ค. ๒๕๖๐ โดยได้พกั ทีธ่ รรมสถานภูฟา้ ผาธรรม บวรภูผาฟ้าน้ำ� ธุลีฟ้ารีสอร์ท และชมร.เชียงใหม่ ลูกๆต่างลดอัตตาและเอาภาระงานศาสนากันมากขึ้น ไม่มีข่าวคราวที่ทำ�ให้พ่อครูต้องเพิ่มภาระ มีแต่เบาภาระ
ฉบับที่ ๔๘๔ (๕๐๖)
มากขึ้น และไม่ยึดติดว่าจะต้องมีพ่อครูอยู่กับเราตลอดไป สามารถทำ�ใจอยู่กับอภิมหาบรมอนิจจังได้เสมอๆ ซึ่งจะ เป็นเหตุปัจจัยหนึ่งที่จะทำ�ให้พ่อครูมีชีวิตยืนยาว เพื่อช่วย กอบกู้บวรพุทธศาสนานี้ให้ยืนยาวไปจนครบจบพุทธกาล ของพระสมณโคดม ในการเดินทางขึ้นเหนือครั้งที่๒ ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๗ พ.ย.๖๐ พ่อครูได้รับกิจนิมนต์มาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จปู่วิชิตอวิชชา ณ อาวาสสถานดอยรายปลายฟ้า จ.เชียงราย และเมตตามาเยี่ยมเยียนให้กำ�ลังใจญาติธรรม ทางภาคเหนือ โดยมาแวะที่ จ.เชียงใหม่ การเดินทางมาของพ่อครูครั้งนี้ ไปเบา มาเบา ไม่เป็น ภาระใคร ไม่ได้เป็นไปเพือ่ บำ�เรอตน แต่มาเพือ่ เป็นผูใ้ ห้ และ ได้มาประกาศความจนทีเ่ ป็นประโยชน์แก่ผอู้ น่ื เป็นแบบอย่าง ให้เราได้ฝึกฝนตนให้เบา ก็จะช่วยคนได้อีกมาก
ข่าวอโศก
หมู่บ้านมีสภาพเป็นเกาะ ตกอยู่ในสภาพน้ำ�ล้อมรอบ รถไม่ สามารถเข้าออกได้ ต้องสัญจรทางเรือเพียงอย่างเดียว โดยสรุปการเป็นจิตอาสาของกลุ่มลูกหลานพ่อท่าน ช่วยน้ำ�ท่วมนี้ ทำ�โดยจิตสำ�นึกที่ทุกคนได้รับการปลูกฝังให้มี ความเสียสละ เมือ่ เกิดวิกฤตของชาติบา้ นเมืองก็มารวมกลุม่ กันเอง โดยมีผู้ใหญ่หลายท่านให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีที่เราจำ�ได้ว่า นี่คือการทำ�งานการเมือง ภาคประชาชนทีไ่ ม่มงุ่ ตำ�แหน่งใดๆ และพร้อมทีจ่ ะช่วยเหลือ พีน่ อ้ งผูป้ ระสบภัยสืบต่อไปในอนาคต เหมือนกับทีพ่ อ่ ท่านได้ สอนพวกเราเสมอว่า ไม่รอ ไม่หวัง แต่เราทำ�
๘. โรงบุญน้อมรำ�ลึกร.๙ จากช่วงเทศกาล กินเจ สู่ช่วง ๑ ปี ของการสวรรคต
ฉบับที่ ๔๘๓ (๕๐๕) รวมปักษ์ ต.ค.-พ.ย. ๒๕๖๐
๗.
กองทัพธรรมซับขวัญชาวใต้และลูก หลานพ่อท่านรวมตัว ช่วยผูป้ ระสบอุทกภัย ฉบับที่ ๔๗๗ (๔๙๙) รวมปักษ์ ม.ค.-ก.พ. ๒๕๖๐ ฉบับที่ ๔๘๒ (๕๐๔) รวมปักษ์ ส.ค.-ก.ย. ๒๕๖๐ เนื่ อ งจากทางภาคใต้ ป ระสพอุ ท กภั ย น้ำ � ท่ ว ม ๑๒ จังหวัดภาคใต้ เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๔ ม.ค. ๖๐ ถึงวันพุธที่ ๑๘ ม.ค. ๖๐ กองทัพธรรมจึงเดินทางลงใต้เพื่อซับขวัญชาวใต้ โดยมีสมณะ ๗ รูป พระอาคันตุกะ ๒ รูป นำ�โดยสมณะ ดินดี สันตจิตโต มี ญ าติ ธ รรมจากสั น ติ อ โศก ปฐมอโศก ทะเลธรรม ภูผาฟ้าน้ำ� นักเรียน สส.ภ. และ สส.ฐ. ประมาณ ๕๐ คน ไปซั บ ขวั ญ ชาวใต้ จุ ด แรกที่ บ้ า นคลองลอย ต.ร่ อ นทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้ได้รับความเสียหาย ๕๐๐ กว่าครอบครัว นำ�ถุงยังชีพไปแจก ๕๒๒ ถุง ซึง่ มีขา้ วสาร อาหารแห้ง บะหมี่ น้ำ� ฯลฯ และได้ไปมอบถุงยังชีพยังฐาน ตชด. เพื่อให้ไปแจกชาวบ้านต่อ นอกจากนี้ ใ นช่ ว งที่ ภ าคอี ส านประสบอุ ท กภั ย อย่ า ง หนัก ชาวอโศกคนรุ่นใหม่ได้รวมกลุ่ม “ลูกหลานพ่อท่าน ช่วยน้ำ�ท่วม” เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ไล่ลงมาจาก จ.สกลนคร จ.นครพนม จนกระทั่ง จ.ร้อยเอ็ด เริ่มตั้งแต่วันที่ ๒-๑๐ ส.ค.๖๐ เป็นเวลา ๙ วัน โดยแพ็คข้าวของและออก เดินสายนำ�ถุงยังชีพไปมอบให้กับชาวบ้านตามจุดต่างๆ ที่
ชาวอโศกน้ อ มส่ ง เสด็ จ สู่ ส วรรคาลั ย ทุ ก ชุ ม ชนร่ ว ม กับพสกนิกรชาวไทย ขอน้อมรำ�ลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เริ่มในวันอาทิตย์ที่ ๑๖ ต.ค. ๕๙ ชาว อโศกได้เคลื่อนขบวนจัดโรงบุญ ที่ท้องสนามหลวง แจก อาหารให้ แขกของพระราชาที่ เ ดิ น ทางมากราบสั ก การะ พระบรมศพ ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนรับใช้ ในความสูญเสียยังมีความเกิดใหม่ของปรากฏการณ์ ระเบิดแห่งความรัก หรือ Bomb of Love ที่แสดงออกมาใน รูปแบบของการแบ่งปัน การเสียสละตามคำ�สอนของพ่อ ทีว่ า่ ขาดทุนของเรานั่นคือกำ�ไรของเรา “Our loss is Our gain” อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จนกระทั่งในช่วงสุดท้าย ในงานพระราชพิธีถวายพระ เพลิงพระบรมศพในหลวงร.๙ วันที่ ๒๕–๒๖ ต.ค.๖๐ กองทัพ ธรรมร่วมกับแพทย์วิถีธรรมตั้งครัวที่วัดเทพธิดาราม จัดโรง บุญแจกอาหารเจ ๒๔ ชั่วโมงตลอด ๒ วัน โดยผลัดเปลี่ยน กันเป็น ๓ ผลัด ผลัดละ ๘ ชั่วโมง และสิ้นสุดการจัดโรงบุญ บริการอาหารแก่พนี่ อ้ งประชาชนผูเ้ ป็นแขกของพระราชาใน วันที่ ๒๗ ต.ค. ๖๐ รวมเวลา ๑ ปี ๑๐วัน เทศกาลกินเจ หลายที่แจกฟรีถวายอาลัย เทศกาลกิ น เจที่ บ วรศาลี อ โศกยั ง คงจั ด โรงบุ ญ แจก อาหารเจฟรีอีกเช่นเคย เป็นการแจกเพื่อน้อมถวายอาลัย ในหลวง ร.๙ ที่พ่อหลวงทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่าง ทรงให้ ความรักความห่วงใยต่อประชาชนของพระองค์อย่างทั่ว ถ้วนทั้งแผ่นดิน หลายคนมี่ตั้งใจเป็นผู้ให้เพื่อสืบสานพระ ราชดำ�รัสของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่ตรัสว่า “ขาดทุนของ เราคือกำ�ไรของเรา”
7
๙.
ศาลีอโศกจัดงานมหาปวารณาเป็น ครั้งแรก ฉบับที่ ๔๘๓ (๕๐๕) รวมปักษ์ ต.ค.-พ.ย. ๒๕๖๐ สำ�หรับงานของชาวอโศกครัง้ นีจ้ ดั ขึน้ เป็นครัง้ ที่ ๓๕ วัน ที่ ๔-๗ พ.ย.๖๐ ณ บวรศาลีอโศก จ.นครสวรรค์ ซึ่งเดิมทีจัด ที่บวรปฐมอโศกเป็นหลัก แต่ครั้งที่ ๓๕ นี้ ย้ายมาจัดที่บวร ศาลีอโศกเป็นครั้งแรก วันที่ ๔ พ.ย.๖๐ วันแรกของงาน หมู่สมณะเข้าร่วม ประชุมมหาปวารณา ๗๙ รูป และยังมีการประชุมมหา ปวารณาของหมูส่ กิ ขมาตุ ร่วมประชุมด้วยใจทีย่ นิ ยอมพร้อม ให้ว่ากล่าว ตักเตือนซึ่งกันและกัน หลังจากได้อยู่ร่วมกันมา ตลอดพรรษา และทางด้านฆราวาสก็มกี ารชีข้ มุ ทรัพย์เช่นกัน ซึ่งหัวใจของ “การปวารณา” นั้นคือสุดยอดวิชาของพุทธ เพราะการได้เห็นข้อบกพร่องของตน ซึง่ ผูอ้ นื่ ชีแ้ นะ คือความ หวังที่จะหมดกิเลส หมดความถือตัวถือตน พ่ อ ครู ใ ห้ โ ศลกมหาปวารณาในปี นี้ ว่ า “จนอย่ า งสุ ข สำ�ราญเบิกบานใจ” เพื่อสานต่อพระราชปณิธานเศรษฐกิจ พอเพียง นอกจากนี้ มี วั ฒ นธรรมการจั ด โรงบุ ญ แจกอาหาร มังสวิรัติฟรี ราว ๓๐ โรงบุญ บริการพี่ๆน้องๆอย่างเต็มอิ่ม ตลอดงาน
๑๐ .
เปิดอาคารสวน.๑๑ไร่ กลายเป็น อาคารบวร สู่ตลาดประชารัฐ ฉบับที่ ๔๗๙ (๕๐๑) รวมปักษ์ เมษายน ๒๕๖๐ งานตลาดอาริยะ สงกรานต์ปใี หม่ไทยปี ๒๕๖๐ นับเป็น ครั้งที่ ๓๘ ของงานตลาดอาริยะของชาวอโศก ปีนี้ได้จัดขึ้น ณ หมู่บ้านชุมชนราชธานีอโศก ต.บุ่งไหม อ.วารินชำ�ราบ จ.อุบลราชธานี ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ เม.ย.๖๐ เพื่อสืบสาน พระราชดำ�รัสในหลวง รัชกาลที่๙ โดยจำ�หน่ายสินค้าใน ตลาดอาริยะในราคาต่ำ�กว่าทุน ตลาดอาริยะแบ่งเป็น ๒ โซน คือที่อาคารบวรเป็น จุดหลักและที่เฮือนตลาด นับเป็นงานแรกที่ได้เปิดตัวใช้ ประโยชน์อาคารบวร ซึง่ เป็นอาคารใหญ่ทส่ี ดุ มีพน้ื ที่ ๑๑ ไร่ เพื่อเผยแพร่เศรษฐกิจพอเพียงและการค้าระบบบุญนิยม ซึ่งไม่หวังกำ�ไร ไม่ฉวยโอกาส และเป็นการให้ของขวัญแก่ ประชาชนในเทศกาลปีใหม่ไทย.
8
“งานถึงสื่อถึงคน ๙ตามพ่อ” ครั้งที่๒ รวมพี่รวมน้อง เชื่อมร้อย เรียนรู้ มุง่ สูแ่ นวทางในหลวงร.๙
งานถึงสื่อถึงคน ๙ ตามพ่อ จัดขึ้นในวันที่ ๙-๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ ที่ศูนย์ ศึกษาการพัฒนาของชาวบ้าน กสิกรรมไร้สารพิษ อันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ วังน้ำ�เขียว จ.นครราชสีมา โดยมีคนต้นเรื่องและแฟนรายการถึงสื่อถึงคนเป็น เจ้าภาพร่วมกัน เป็นงานเล็กๆของคนที่สืบสานศาสตร์พระราชา กิจกรรมในงานมีการเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พบปะสังสรรค์กัน อาทิ การ สาธิตการทำ�โซล่าเซลล์ สาธิตเผาขยะไร้ควันด้วยเตาชีวมวล มีตลาดนัดถนนคนเดิน จำ�หน่ายผลิตภัณฑ์จากคนต้นเรือ่ งและแฟนรายการในราคาบุญนิยม มีดนตรีเพือ่ ชีวติ จัดโรงบุญแจกอาหารมังสวิรตั สิ ดุ แซ่บ ภาคค่�ำ มีรอบกองไฟพบปะครูบาอาจารย์ และปราชญ์ของแผ่นดิน แฟนรายการและผู้ที่สนใจกว่า ๑,๐๐๐ คน เดินทางมา ร่วมงาน ทั้งจากกรุงเทพฯและต่างจังหวัด วันที่ ๑๐ ธ.ค. มีเวทีเสวนาในช่วงเช้า โดยสมณะเสียงศีล ชาตวโร ผู้ร่วม รายการ ๓ ท่านคือ สมณะถ่องแท้ วินยธโร, ดร.วิวฒ ั น์ ศัลยกำ�ธร (รมช.กระทรวง เกษตรฯ) และลุงอำ�นาจ หมายยอดกลาง โดย ดร.วิวัฒน์ ได้เล่าถึงแผนงานที่จะผลักดันไปสู่ประชาชนอย่างเร่งด่วน ที่สุดคือ ๑. เรื่องที่พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่างานเรายังไม่เสร็จนะ มีเยอะมากที่ต้องเร่ง ทำ�ประชุมร่วมกับ ๑๐ หน่วยงาน วางแผนให้อยู่เป็นร้อยเป็นพันปี ๒. มีอะไรที่ยังเติมไม่เต็มสมบูรณ์ ก็ทำ�ให้เติมเต็มสมบูรณ์ ๓. ถ้ามีอะไรทีต่ อ้ งปรับแต่งให้เหมาะสมกับภูมสิ งั คมก็ตอ้ งปรับแต่ง ซึง่ วันทีไ่ ป เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๑๐ ท่านรับสั่งว่าให้ทำ�ตามรัชกาลที่๙ ที่ท่านรับสั่ง มากมาย ศึกษาให้ลกึ ซึง้ แล้วเอาไปทำ� ประเทศเราจะรอดและประชาชนจะพ้นทุกข์ได้ ๔. เป็นเรื่องวิกฤติที่ชาวบ้านต้องเผชิญอย่างทุกข์เข็ญมากคือ เรื่องภัยน้ำ�ท่วม ถึง ๓ รอบ ต้องมีการจัดการน้ำ�ที่ดีป้องกันภัยแล้งที่กำ�ลังจะมาถึง บทบาทของราชการจะเปลีย่ นไป คือทำ�หน้าทีเ่ ป็นโปรโมเตอร์แล้วเอาคนเก่งๆ ขึน้ มาทำ�งาน ปลุกขุนนางให้ตน่ื มีจติ สำ�นึกเป็นเทวดาขุนนาง ตีนติดดินแต่บนิ เหนือฟ้า คือ ไม่ทิ้งความเป็นโบราณแต่ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำ�ให้โมเดิร์น พระเจ้าอยู่หัวตรัส Our lost is our gain ทานมีฤทธิ์ ยิ่งให้ไปยิ่งได้มา เราต้อง แจกผลผลิตให้ทั่วโลกได้ชิมความอร่อย หรือชวนเค้ามาทัวร์ที่สวนของเรา ถ้าเค้า ประทับใจ ชาวสวนปลูกอะไรก็จะขายได้หมด และยังสามารถตัง้ ราคาเองได้ แต่ตอ้ ง เป็นผลผลิตไร้สารพิษ และส่งเสริมให้เกษตรกรขายออนไลน์ส่งตรงถึงมือผู้บริโภค โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง คุณตายแน่ มุ่งมาจน (ผู้ผลิตรายการถึงสื่อถึงคน) กล่าวว่า ทุกคนคือไฮไลท์ ของงาน ได้มากระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่นขึ้น งานนี้ทำ�ด้วยงบ ๐บาท โดยไม่ ได้ของบประมาณจากทีอ่ นื่ เลย สมาชิกโครงการและผูม้ าร่วมงานก็น�ำ ผัก นำ�ข้าวสาร มาให้ท�ำ อาหาร สันติอโศกก็น�ำ วัตถุดบิ มาเสริม ทางปฐมอโศกก็เอาปุย๋ มาขาย ๑๖ ตัน รายได้มอบให้การจัดงาน รวมทั้งเครื่องเสียง เวที ทีมถ่ายทำ�ก็เป็นทีมงานชาวอโศก รูปแบบการจัดงานแบบนี้เกิดขึ้นมาได้ก็เริ่มต้นจากที่เราทำ�แบบคนจน ผู้หลักผู้ใหญ่ ก็เมตตามาด้วยใจ เป็นองค์รวมร่วมกัน เป็นองคาพยพของชาวอโศก มาทำ�งาน ร่วมกัน งานนีส้ �ำ เร็จลุลว่ งไปได้ดว้ ย ต้นทุนทางสังคมชาวอโศกและต้นทุนความเป็น ลูกหลานพ่อท่าน แม้ไม่ได้เน้นงบประมาณ ก็สำ�เร็จไปได้ด้วยดี หากเราไม่ได้เป็นลูก หลานชาวอโศกหรือลูกหลานพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ไม่สามารถจะทำ�งานแบบนี้ได้ งานนี้เรื่องจิตใจเรื่องร่างกายก็สบายๆนะ ทุกงานเหนื่อยเหมือนกันพักผ่อน ก็หาย เราไม่ได้คาดหวังกับคนอื่น แต่ทำ�ตามกำ�ลังให้เต็มที่ ไม่ได้ทำ�เพื่อประโยชน์ ส่วนตัวหรือครอบครัว ใครเห็นดีก็มาช่วยกันทำ� และงานนี้เราใช้สื่อเต็มที่ พลังการ สื่อสารอยู่ในมือคุณ ทั้งเฟซบุ๊กไลฟ์ พร้อมกับสัมภาษณ์บนเวทีไปด้วย ปกติพี่ทำ�ถึง สื่อถึงคนทางบุญนิยมทีวี เฟซบุ๊กไลฟ์ และลงแปลงทำ�ของจริง การสื่อสารที่ดีที่สุด คือการลงมือทำ� งานของพี่ขยับไปถึงการเชื่อมร้อยเครือข่ายตามจังหวัดต่างๆให้มี การรวมกลุ่มกัน งานนี้สนับสนุนให้คนทำ�ตามศาสตร์พระราชา แผ่นดินไทยจะได้ ประโยชน์ เป็นทางออกประเทศไทย.
รวมปักษ์ ธันวาคม ๒๕๖๐
ฉบับที่ ๔๘๔ (๕๐๖)
บาปสี ข าว ที่ชาวอเทวนิยมไม่รู้ได้ง่ายๆ
อาตมาดีใจทีต่ นู Bodyslam แสดงออก คือเอาชีวติ ของ ตัวเองเข้ามา “ให้” แสดงออกถึงการอดทน เหน็ดเหนื่อย โดยไม่ได้อะไร คนมาบริจาคเงิน บริจาคแล้วนายตูนไม่เอา มาเป็นของตน เอาไปทำ�ประโยชน์ส่วนรวม อย่างเป็นรูป ธรรม โดยเอาไปบริจาคช่วยโรงพยาบาลต่างๆ ก็เลยเกิด เป็นพฤติกรรมทางสังคมคือการ “ให้” มันเป็นระดับความดี งามที่ชัดเจน สมัยนี้มันเห็นแก่ตัวจัดจ้านแล้ว ไม่ค่อยเฉลี่ย ออกมาเลย แล้วองค์ประกอบที่ตูนให้ความช่วยเหลือ มัน เป็นเกี่ยวกับเรื่องชีวิต-ความตาย-สุขภาพของคน ตูนเองได้ เสียสละกำ�ลังกายของตัวเองอดทนมาก ใช้ร่างกายลำ�บาก ลำ�บน ทรมานทรกรรมเป็นรูปธรรมที่แสดงออกชัดเจนมาก และเมื่อมีสิ่งตอบแทน ก็ไม่เอาเข้าตัวเองอีก ก็เป็น สิ่งที่เห็นชัดเจน เป็นการให้ที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆที่ ชัด ซึ่งเป็นโลกียะธรรมดาว่า คนไม่เอา ไม่เห็นแก่ตัวนี้ มัน เป็นรูปธรรมที่ชัด แม้ใจจะมีกิเลสอยากได้ลึกซึ้งซับซ้อน หรือไม่?? ก็ไม่มีใครกล้าจะละลาบละล้วงเข้าไป เพราะมีรูป ธรรมภายนอกที่เสียสละชัดเจนมาก เหมาะสมกับยุคสมัย จึงเป็นที่ยอมรับของคนในประเทศไทย แม้แต่ต่างประเทศ เขาก็ปฏิเสธข่าวคราวนี้ไม่ได้ ปฏิเสธสัจจะความจริงที่ตูนทำ� อยู่ตรงนี้ไม่ได้ แต่คนที่ให้แล้วกดข่มจิตตัวเองได้ อ่านจิตไม่เป็น โดยเฉพาะไม่รจู้ กั ตัวกิเลสสักกายะ ยังไม่เข้าข่ายโลกุตระ ตัง้ แต่สงั โยชน์ตวั แรก ต้องรูส้ กั กายะ ต้องรูร้ ปู นามของตัว เองเป็นธรรมะ ๒ การให้ที่เข้าถึงโลกุตระนั้น คนให้ต้อง ให้แล้วกิเลสตนเองลดลงๆ จนไม่มกี เิ ลส การให้ทกุ ที ทุก ครั้ง ต้องกิเลสลดลง จนไม่มีกิเลส ดังนั้นนักปฏิบัติธรรมของชาวเรา แม้จะทุ่มเทสุดชีวิต อย่างตูน แต่เมื่อใดที่ลืมคิดถึงการลดกิเลส มุ่งแต่ความ สำ�เร็จของการงาน ก็ย่อมถือว่าอยู่นอกเขตเทศบาลโลกุตระ อย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่พ่อครูทุ่มเทสอนเรื่องโลกุตระอยู่ ทุกเมื่อเชื่อวัน สอนวิธีจัดการกับกิเลสทั้งขนาดใหญ่กลาง เล็กละเอียดถึงขั้นอรูปอย่างซ้ำ�แล้วซ้ำ�อีกตลอดมา เส้นทาง สายเอกเช่นนีพ้ ระพุทธองค์กท็ รงเตือนพวกเราอย่างสำ�คัญว่า มีทางนีท้ างเดียวเท่านัน้ แต่มารก็มกั จะพาให้หลงทางได้อยูเ่ สมอ สิ่งที่ทำ�ให้นักปฏิบัติธรรมหลงทางได้ง่ายๆ ก็เพราะเรา ไม่ได้โลภเพื่อตัวเอง เราไม่ได้เอาแต่ใจตัวเองหรือยึดเพื่อตัวเอง มันจึงเป็น ความโลภและความเอาแต่ใจตัวเองสีขาว ทีค่ นทุม่ เทกับการงาน จะรู้ตัวได้ยาก เพราะทำ�ให้กับหมู่กลุ่มแท้ๆ แต่ต้องเอาตาม
ที่ฉันกำ�หนดนะ ต้องให้ความสำ�คัญกับฉันนะ สุดท้ายเลย กลายเป็นตัวกูของกูแบบไม่รู้ตัว ทุกๆปีในงานอโศกรำ�ลึกทีผ่ า่ นมา สิง่ ทีพ่ วกเราจะได้ร�ำ ลึก ถึงก็คอื ความเสียสละแบบไม่มตี วั ตนของพ่อครู ท่านกำ�หนด ให้วนั อโศกรำ�ลึกเป็นวันที่ ๑๐ มิ.ย. แทนวันเกิดของท่าน และ พยายามไม่ให้ความสำ�คัญใดๆในวันเกิดของท่าน แต่ทกุ วันนี้ ชาวอโศกเริ่มจะให้ความสำ�คัญในวันเกิดซึ่งกันและกันขึ้นไป เรื่อยๆ น่าจะเป็นการเดินสวนทางกับพระโพธิสัตว์หรือไม่? ในการแสดงธรรมพ่อครูก็แสดงถึงการลดความสำ�คัญ ของตนเอง โดยการเอาข้อคิดเห็นที่ด่าว่าท่านมาอ่านออก อากาศทางทีวี อย่างรับฟังโดยมิได้ตีทิ้ง แต่นักปฏิบัติธรรม ที่ สำ � คั ญ ตนจะทนไม่ ไ ด้ แ ม้ เ ป็ น แค่ ค วามเห็ น ต่ า ง ยิ่ ง เป็ น ขุมทรัพย์ที่เป็นความปรารถนาดีของพวกเดียวกัน ยิ่งไม่รับ ฟัง แถมยังอุปนาหะ หาทางตอบโต้ เอาคืน เพื่อรักษากิเลส ของเราให้ยั่งยืนยาวนานต่อไป พระพุทธเจ้าให้เรามี “อภิณหปัจจเวกขณ์” ไว้ว่าวันคืน ล่วงไปๆ บัดนี้เรากำ�ลังทำ�อะไรอยู่ เรากำ�ลังคิดลดละกิเลส หรือมุ่งแต่ความสำ�เร็จของงาน เมื่อถูกตำ�หนิติเตียนเราหัน มามองตนลดละกิเลสในตนหรือไม่ เราพยายามลบความ สำ�คัญของตนเอง หรือเรียกร้องคนอื่นให้ความสำ�คัญกับสิ่ง ที่เราคิดเราทำ� จะทำ�อะไรก็แล้วแต่หมู่(ถอดตัวถอดตน) หรือ ผมเอาตามที่ฉันเห็นเท่านั้นฉันจึงจะทำ�ด้วย เส้นทางของพระโพธิสัตว์หรือเส้นทางของสัตว์ใต้ต้น โพธิ์ จึงอยูท่ นี่ บั วันๆ ตัวฉันก็ลดความสำ�คัญของตัวเองลงไป ได้เรือ่ ยๆ จนหมดตัวหมดตน แต่ถา้ ยิง่ นับวันๆ ตัวฉันความ เห็นของฉัน มีแต่สำ�คัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็น่าจะไม่สอดคล้อง กับความจริงที่ว่า “เมื่อชีวิตมีแต่สั้นเข้าๆ จึงต้องไม่ยอมให้ตัวกูของกู ยาวออก!” นักปฏิบัติธรรมจะมีงานน้อยลงได้อย่างไร? งานน้อยหรืองานมากก็คงขึ้นอยู่กับว่าเราทำ�ตัวตนให้ เล็กให้น้อยหรือทำ�ตัวตนให้ใหญ่โตมากน้อยแค่ไหน? ถ้าเราทำ�ตัวเราเล็กๆน้อยๆ งานของเราก็ย่อมจะทำ� อย่างเจียมเนือ้ เจียมตัวไม่มากมายอะไร ถ้ายิง่ ไม่มตี วั ตนเลย งานทีเ่ ราทำ�ออกไปก็จะไม่มคี วามยุง่ วุน่ วายหรือมีปญ ั หากับ ใครๆแต่อย่างใด ปัจจัยทีท่ �ำ ให้งานน้อยหรือมากจึงขึน้ อยูก่ บั ๑. มุ่งไปคิดจัดการแก้ไขคนอื่น มากกว่าตัวเอง ถ้ า ตื่ น เช้ า ขึ้ น มานั ก ปฏิ บัติ ธ รรมจึ งควรได้ ท บทวนว่ า ทุกๆวันทีเ่ ราตืน่ มาเราคิดถึงเรือ่ งใดก่อน ถ้าคิดถึงเรือ่ งทีจ่ ะไป บริหารจัดการคนอื่นก่อน อันนี้งานเราก็จะมากมาย เพราะ ว่าการเป็นนักปฏิบัติธรรม คำ�ว่าฌานก็ดี ญาณก็ดี มันจะ ต้องเกิดจากการเพ่งเผากิเลสในตน เกิดจากการขัดเกลาตน เป็นเบื้องต้น ปัญหาของกลุม่ ผูบ้ ริหารนัน้ ถ้าหากวันๆหนึง่ ก็ดเู หมือน จะคิดไปบริหารจัดการแต่กิเลสของคนอื่น ซึ่งไม่น่าจะเป็น ความถูกต้อง นักบริหารที่ดีควรจะคิดจัดการกิเลสของเรา ก่อน ไม่ใช่จะไปคิดจัดการพนักงาน โดยที่จริงแล้วพวกเรา ต่างก็เป็นนักปฏิบัติธรรมด้วยกัน ดังนั้นถ้าเป็นนักปฏิบัติธรรมแล้วคิดแต่จะไปบริหาร จัดการคนนัน้ คนนี้ ก็มแี ต่จะทำ�ให้ในใจเรายุง่ วุน่ วายและงาน
ข่าวอโศก
9
มากมาย โดยทีไ่ ม่มคี วามจำ�เป็นแต่อย่างใด แต่เพราะเราคิด ว่าเราใหญ่เราแน่ เราจึงคิดจะไปแก้คนอืน่ ยิง่ สำ�คัญตัวเองว่า เราคือผู้บริหาร ก็มุ่งจะไปคิดแต่จะแก้พนักงานอย่างไร? จะ วางระบบใหม่อย่างไร? โดยไม่แวบทีจ่ ะหันมาแก้ไขตัวเองเลย แม้แต่น้อย งานเราก็เลยมากมายจนมึน จนเส้นยึดไปทั้งตัว แต่ถ้าเราทำ�ตัวเองให้เป็นคนเล็กคนน้อย สำ�นึกความ เป็นเป็นผู้รับใช้ที่ดี เป็นผู้ที่จะคอยรับใช้ผู้อื่นอยู่เสมอๆ งาน เราก็จะไม่มากอะไรหรอก เพราะเป็นงานทำ�ตามทีค่ นอืน่ เขา บอก หรือทำ�ตามที่หมู่กลุ่มตกลงกันมาเท่านั้นเอง ๒. คิดทุ่มเทเพื่อให้คนอื่นทำ�งาน นี่ก็จะหนักมาก เพราะคนนั้นจะไม่ค่อยทำ�งานเท่าไหร่ จะเอาเวลาทั้งหมดไปคิด แล้วก็จะอินไปกับความคิดของ ตัวเอง แล้วก็พยายามเอาความคิดที่อินนี้ลงไปทำ�ให้คนอื่น พลอยลำ�บากเดือดร้อน นักปฏิบตั ธิ รรมประเภทนีก้ จ็ ะเป็นคนประเภททีง่ านมาก เหมือนกัน แต่เป็นงานมากทีค่ ดิ ให้คนอืน่ ทำ� โดยทีต่ วั เองไม่มี แรงจะทำ� เพราะเอาเวลาทัง้ หมดไปคิดๆๆ เสียส่วนใหญ่ ดัง นัน้ วันๆของผูท้ ที่ �ำ งานเช่นนี้ ก็จะมีงานเยอะอยูต่ ลอดเวลา ดี ไม่ดีก็จะทำ�ให้หมู่ยุ่งวุ่นวายตามไปด้วย คนที่งานมากอีกประเภทหนึ่งก็คือว่าคนที่จมกับ งาน คือตื่นมาก็คิดแต่เรื่องงานที่ตัวเองจะทำ� โดยเวลา พักผ่อนไม่พอ จนไม่มีเวลาออกกำ�ลังกาย ประเภทแรกอิน กับความคิด ประเภทที่สองอินกับงานที่ตัวเองรับผิดชอบ มากเกินไปก็ไม่ดี ประเภทแรกควรแก้ไขโดยการ เปลี่ยนจาก งานใช้สมองมาทำ�งานใช้แรงกายบ้าง อย่างน้อยก็แค่ท�ำ ความ สะอาด ถูพน้ื ล้างห้องน้ำ�บ้าง หัดถูพื้นบ้าง หัดยก หัดแบก บ้าง ก็นา่ จะทำ�ให้ชวี ติ สุขภาพแข็งแรงดีขนึ้ และมีความสมดุล ของชีวิตมากขึ้น เพราะถ้าเอาแต่ใช้หัวหรือใช้ปากหรือใช้นิ้วกดไลน์สั่ง มากๆ แต่อวัยวะส่วนอื่นของร่างกายไม่ค่อยได้ใช้ ย่อมเกิด โรคภัยอย่างหนึ่งอย่างใดกับตัวเองแน่นอน อย่างน้อยก็โรค หลงหัวไอ้เรืองจนรู้ดีไปทุกเรื่อง ทั้งๆที่ชีวิตจริงๆไม่ได้ทำ� อะไรเป็นสักเรื่อง ส่วนพวกอินกับงานจนไม่มเี วลาบริหารสุขภาพร่างกาย ของตัวเอง ก็ควรจะเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเลือกทำ�งาน บริการคนอื่นบ้าง ช่วยงานส่วนกลางบ้าง ก็จะทำ�ให้เราออก จากโลกที่เราไปอินอยู่กับงานนั้นๆ จนเป็น “กัมมรามตา” ความหลงจมไปกับงาน เพราะจริงๆแล้ว งานจริงๆที่แต่ละคนรับผิดชอบนั้น ทำ�เท่าไหร่ๆก็ไม่หมดอยูแ่ ล้ว งานมันจะหมดได้เพราะทำ�งาน โดยพยายามที่จะลดตัวตน พ่อครูให้คาถาอยู่สองประโยค คือ ทำ�งานอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนรับใช้ (พร้อมทีจ่ ะ รับฟังคนอื่น ดั่งเจ้านายของเรา) หรืออย่างในทานสูตร ทำ� ไปแล้ว ให้ไปแล้ว ก็ไม่หวัง ไม่ไปเรียกร้อง ไม่ได้อยากที่จะ ได้อะไรกลับคืนไปแทน (เจตนาแต่อย่าอยาก ความบริสุทธิ์ เท่านั้น ที่จะชนะทุกสิ่งทั้งโลกในที่สุด) ถ้าเป็นการทำ�งาน โดยไม่มีตัวตนที่จะไปยึด ไปหวัง ไปเรียกร้องอะไรต่างๆ เหล่านี้ งานนั้นก็จะเป็นงานที่เบา เพราะไม่ได้มีภพชาติไป ตั้งไว้แต่อย่างใด. รายงานจากกองงานปัจฉาพ่อครู
10 กรุงเทพโพลล์
รวมปักษ์ ธันวาคม ๒๕๖๐ (ต่อจากหน้า ๑๒)
กรุ ง เทพโพลล์ เปิ ด เผยถึ ง ผลสำ � รวจที่ สุ ด แห่ ง ปี ๒๕๖๐ พบว่า ประชาชนร้อยละ ๙๒.๕ ติดตามและเกาะ ติดข่าว พระราชพิธถี วายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มากทีส่ ดุ ร้อยละ ๘๓.๕ ยกให้ ตูน บอดีส้ แลม เป็นบุคคล ที่สังคมไทยยกย่องมากที่สุด จากการวิ่งในโครงการก้าว คนละก้าวเพือ่ ๑๑ โรงพยาบาลทัว่ ประเทศ ร้อยละ ๓๓.๓ ยกให้นอ้ งเมย์ รัชนก อินทนนท์ เป็นบุคคลในวงการกีฬาทีม่ ี ผลงานโดดเด่น เป็นทีช่ น่ื ชอบมากทีส่ ดุ ขณะที่ ณเดช คูกมิ ยิ ะ และญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ เป็นดารา ชาย-หญิง ที่ มีผลงานโดดเด่นประชาชนชื่นชอบมากที่สุด โดย ผู้จัดการ ๒๓ ธ.ค. ๖๐
ปชช.หนุนศาสตร์พระราชา (ต่อจากหน้า ๑๒) ศู น ย์ สำ � รวจความคิ ด เห็ น สถาบั น บั ณ ฑิ ต พัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิดา้ โพล เปิดเผยผลสำ�รวจ ความคิ ด เห็ น ประชาชนจากทั่ ว ประเทศจำ � นวน ๑,๒๕๑คน เรือ่ ง “การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล” สำ�รวจการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ ประชาชนเห็นว่าทำ�แล้วจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ มากที่สุด ร้อยละ ๒๘.๗๐ ระบุ การแก้ปัญหาตาม แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง/ศาสตร์พระราชา ร้อยละ ๑๘.๓๑ ระบุ การลดค่าครองชีพ เช่น ค่าไฟฟ้าฟรี รถเมล์ฟรี ตรึงราคาก๊าซ/ราคาน้ำ�มัน ขณะที่ร้อยละ ๑๖.๙๕ ระบุ การแก้ไขปัญหาการว่างงานและพื้นที่ ทำ�กิน ร้อยละ ๑๒.๗๙ ระบุ การจัดการเลือกตั้ง เพื่อ สร้างภาพลักษณ์และความมั่นใจให้ต่างชาติเข้ามา ลงทุน ร้อยละ ๙.๖๗ ระบุ การกระจายงานและรายได้ ไม่ให้กระจุกอยูต่ ามหัวเมืองใหญ่ ร้อยละ ๕.๕๒ ระบุ การออกนโยบายสนับสนุนให้คนในประเทศใช้จ่าย มากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ร้อยละ ๓.๘๔ ระบุ การสนับสนุนการส่งออกและการลงทุนจากต่างชาติ และร้อยละ ๔.๒๔ ระบุ อื่นๆ ได้แก่ การแก้ปัญหา คอร์รปั ชัน การแก้ไขปัญหาด้านพืชผลทางการเกษตร สำ�หรับวิธีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาได้ ค่อนข้างดี ได้แก่ การแก้ปัญหาตามแนวทางเศรษกิจ พอเพียง/ศาสตร์พระราชา ส่วนวิธีการแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจของรัฐบาลที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า รัฐบาลแก้ไขปัญหาได้ยังไม่ค่อยดี ได้แก่ การออก นโยบายสนับสนุนให้คนในประเทศใช้จ่ายมากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การลดค่าครองชีพ เช่น ค่า ไฟฟ้าฟรี รถเมล์ฟรี ตรึงราคาก๊าซ/ราคาน้ำ�มัน การ แก้ไขปัญหาการว่างงาน และพืน้ ทีท่ �ำ กิน การกระจายงาน และรายได้ไม่ให้กระจุกอยูต่ ามหัวเมืองใหญ่ และการ สนับสนุนการส่งออกและการลงทุนจากต่างชาติ และ วิธีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ประชาชน ส่วนใหญ่เห็นว่า รัฐบาลแก้ไขปัญหาได้ไม่ดเี ลย ได้แก่ การจัดการเลือกตั้ง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ และความ มัน่ ใจให้ตา่ งชาติเข้ามาลงทุน และอืน่ ๆ ได้แก่ การแก้ ปัญหาคอร์รปั ชัน การแก้ไขปัญหาด้านพืชผลทางการ เกษตร โดย ผู้จัดการ ๓๐ ธ.ค. ๖๐
บางระกำ�โมเดล
(ต่อจากหน้า๑๒)
นายวิวัฒน์ ศัลยกำ�ธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก พบปะส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใน จ.พิษณุโลก เพื่อมอบนโยบายและตรวจติดตามผลความ ก้าวหน้าการขับเคลือ่ นโครงการบางระกำ�โมเดล ๖๐ พร้อม รับฟังบรรยายสรุปผลการขับเคลื่อนโครงการบางระกำ� โมเดล ๖๐ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการดำ�เนินงาน เพื่อร่วมกันวางแผนปรับปรุงและพัฒนาโครงการให้เกิด ประโยชน์สงู สุดแก่ประชาชน และเยีย่ มชมผลิตภัณฑ์สนิ ค้า เกษตรแปรรูปจากเกษตรกร กลุ่มอาชีพในสังกัดสหกรณ์ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ โดย ผู้จัดการ ๒๕ ธ.ค. ๖๐
นายกฯมอบคำ�ขวัญวันเด็ก (ต่อจากหน้า ๑๒) นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ปี ๒๕๖๑ ซึ่งตรง กับวันเสาร์ ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๑ นัน้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบคำ�ขวัญเนือ่ งในวันเด็กแห่งชาติ ประจำ�ปี ๒๕๖๑ ว่า รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี ทัง้ นี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากคำ�ขวัญดังกล่าวเพือ่ ต้องการ ให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้ตระหนักถึงความสำ�คัญของ ตนเองว่า เป็นทรัพยากรบุคคลทีม่ คี ณ ุ ค่าของประเทศ ขอให้ ตั้งใจใฝ่ศึกษาเล่าเรียน หมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งรู้จักการ ใช้สอ่ื เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบ ต่อสังคมส่วนรวม และเป็นคนดีของสังคม ตลอดจนเป็นผู้ที่ มีความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่ ผู้มีพระคุณ ครูอาจารย์ มีจิต สาธารณะ เพื่อการอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมอย่างมีความสุข และพร้อมจะเติบโตเป็นผูใ้ หญ่ทมี่ คี ณ ุ ภาพและคุณธรรมของ ประเทศชาติต่อไป โดย ผู้จัดการ ๒๒ ธ.ค. ๒๕๖๐
นายกฯมอบคำ�ขวัญวันครู (ต่อจากหน้า ๑๒) ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า ในโอกาสวันครู ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๖ มกราคมนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบคำ�ขวัญ เนื่องในโอกาสวันครู ครั้งที่ ๖๒ พ.ศ.๒๕๖๑ ว่า “ศิษย์ดี ก็ด้วยครูดี มีศรัทธา” โดย ผู้จัดการ ๒๗ ธ.ค. ๖๐
ฉบับที่ ๔๘๔ (๕๐๖)
ข่าวอโศก ทาง จะหาเข็มทิศและหางเสือเรือจากที่ไหน มานำ�ทางเราไปสู่จุดหมายปลายทางเล่า ในเมื่อบัดนี้ พ่อยังอยู่ แม้เมื่อยแม้ชรา แต่ยงั ก้าวเดินต่อไปอย่างมัน่ คง เราจงอย่าละ ความเพียร อย่าเสียเวลาเปล่าประโยชน์ไป กับเรื่องโลก เรื่องของคนอื่น จงเร่งสั่งสมรูป นามของเราให้พร้อมเดินตามพ่อให้ทนั ต่อไป อย่างไม่ประมาทกันเถอะ...จี๊ดๆๆ v ปฏิบต ั ธิ รรมสิ...แล้วจะสดใส
เจริญธรรมสำ�นึกดี พบกับน.ส.พ.ข่าวอโศก ฉบับที่ ๔๘๔ (๕๐๖) รวมปักษ์ธนั วาคม ๒๕๖๐ v จอกคลาสสิก
จิ้ ง หรี ด ได้ ไ ปร่ ว มงานทำ � บุ ญ ประจำ � ปี บ้ า นคุ ณ สู่ ส ายพุ ท ธและคุ ณ เต็ ม บุ ญ ที่ จ.อุทัยธานี ได้เห็นจอกที่ทำ�จากกระบอก ไม้ไผ่ ซึ่งแขวนไว้ตรงทางเข้างาน ให้ผู้ที่มา รับแจกอาหารได้เลือกและนำ�ไปใส่น้ำ�หวาน ภายในงาน เห็นแล้วน่าประทับใจมากนะฮะ ยิ่งได้เห็นเด็กนักเรียนที่มารับแจกอาหารใช้ จอกไม้ไผ่ แทนแก้วน้ำ� แทนถ้วยพลาสติก ที่ สำ�คัญได้กลับไปเป็นของทีร่ ะลึกกันคนละอัน จิ้งหรีดไปร่วมงานก็ได้มาเช่นกัน ซึ่งเหมือน ย้อนยุคกลับไปในอดีต ทำ�ให้เด็กๆได้รู้จักว่า กระบอกไม้ไผ่ในบ้านหรือในท้องถิ่นของตัว เองที่หาง่ายก็สามารถนำ�มาทำ�เป็นภาชนะ ใส่น้ำ�ได้และดูคลาสสิกกว่าแก้วน้ำ� กว่าถ้วย พลาสติกอีกนะฮะ...จี๊ดๆๆ
การเดินตามรอยเท้าพ่อนั้น ท้อไม่ได้ v
เมื่ อ เดื อ นที่ แ ล้ ว จิ้ ง หรี ด แอ่ ว เหนื อ อยู่ ร่วมสัปดาห์ เลยมีเรื่องเหนือๆ มาเล่าให้ฟัง ขณะเดินตามพ่อครูขึ้นภูผาฟ้าน้ำ�เป็นระยะ ทางร่วมกิโล มีป้าบางท่านความดันขึ้น บาง ท่านหอบหน้ามืด บางท่านปวดขา สรุปว่า ตามพ่อแทบไม่ทัน จิ้งหรีดเกิดสภาวะว่า ถ้าคิดผิวเผินแล้ว การเดินตามรอยเท้าพ่อนั้นแสนง่าย เหมือน แทบไม่ตอ้ งทำ�อะไร แค่กา้ วเท้าตามให้ทนั ก็พอ แต่แท้จริงแล้ว ในทางปฏิบัติ การก้าว เท้าตามพ่อนั้นไม่ได้ง่ายเลย เพราะพ่อเดิน อย่างมั่นคง สม่ำ�เสมอ แข็งแกร่ง แทบจะ ไม่มีพัก ไม่มีลดละความเพียร จิตใจยังเบิก บานเปี่ยมเมตตา แม้จะเดินผ่านขวากหนาม สักเท่าใด การเวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า แม้อายุ พ่ อ จะยาวขึ้ น แต่ พ่ อ ยั ง ยื น หยั ด ยื น ยั น ใน อุดมการณ์เดิมไม่มีเปลี่ยน การจะเดินตามรอยเท้าพ่อนัน้ นอกจาก จะต้องอาศัยรูป คือร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังต้องพัฒนานาม คือจิตวิญญาณให้เท่า ทั น ด้ ว ย มิ ฉ ะนั้ น คงหอบหมดแรง ท้ อ แท้ ถดถอยไปก่อน จนแม้ฝุ่นของพ่อ ก็อาจจะ ไม่ทันได้เห็น ถ้าเราผู้เป็นลูกยังประมาท เห็นว่าการ เดินตามรอยเท้าพ่อนั่นง่าย ไม่เร่งพัฒนา สร้างรูปนามทีแ่ ข็งแรงแล้ว วันทีต่ ามพ่อไม่ทนั จมอยู่ กั บ ความมื ด มนท่ า มกลางคลื่ น ลม มรสุมหนักของกลียคุ จะหาตะเกียงใดมาส่อง
แทบทุกวัน ในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับ ปี ใ หม่ ๒๕๖๑ พ่ อ ครู เ มื่ อ มี เวลาก็ จ ะพา ปัจฉาฯ ออกไปเดินเยี่ยมให้กำ�ลังใจลูกๆที่ เฮือนบวร ซึ่งเป็นอาคารเนื้อที่ ๑๑ ไร่ ซึ่งเป็น สถานที่จัดงานเพื่อฟ้าดิน ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๑ ณ บวรราชธานีอโศก โยมที่มาจากภายนอก ที่มาร่วมงาน หลายคน พอเจอพ่อครูก็มาขอถ่ายภาพร่วม กับพ่อครูกันไม่ขาดสาย แทบตลอดการเดิน รอบเฮือนบวรเลยทีเดียว มีโยมคนหนึง่ ขอถ่ายภาพกับพ่อครู แล้ว ก็บอกว่า ไม่น่าเชื่อว่าพ่อครูจะดูสดใส ดูไม่ แก่เลย ดูดีสดใสกว่าตอนอยู่ในจอทีวีเสียอีก พ่อครูมวี ธิ หี รือเคล็ดลับอย่างไรนีถ่ งึ ได้ดสู ดใส อ่อนกว่าวัย แม้ว่าจะอายุย่าง ๘๔ ปีแล้ว ก็ ไม่เหมือนคนทั่วไป พ่อครูยม้ิ ๆ แล้วตอบว่า...ปฏิบตั ธิ รรมสิ แล้วจะสดใส! วงเล็บไว้ดว้ ยว่า ต้องสัมมาทิฏฐิ คือต้อง ปฏิบตั ธิ รรมอย่างสัมมาทิฏฐิดว้ ยนัน่ เอง หาก ไม่สัมมาทิฏฐิแล้ว แทนที่การปฏิบัติธรรมจะ สดใส ก็จะกลายเป็นเศร้าหมองไป โดยรู้เท่า ไม่ถงึ การณ์นนั่ เอง แต่วา่ สัมมาทิฏฐิจะเกิดได้ ต้องมีปรโตโฆษะกับโยนิโสมนสิการ ปรโตโฆษะ ก็คือ การรับฟังเสียงอื่น คนอื่ น ความเห็ น อื่ น ทิ ฏ ฐิ อื่ น ที่ ต่ า งไป จากตนเองบ้ า ง…จึ ง จะนำ � ไปทำ � ใจในใจ ให้เปลี่ยนแปลงถึงจิตวิญญาณได้ (โยนิโส มนสิการ) นั่นเองฮะ...จี๊ดๆๆ v เดอะเมอซิงแก๊ส
จิง้ หรีดได้รว่ มบรรยากาศค่ายเตรียมงาน เพื่อฟ้าดินของนักเรียนชั้นม.๓ ที่บ้านราชฯ ในค่ายมีกจิ กรรมพิเศษของรุน่ พีท่ มี่ าดูแลน้อง ช่วยกันจัดกิจกรรม “เดอะเมอซิงแก๊ส” (มา จาก The Mask Singer) มีการถามตอบ เพื่อ ทายว่าคนที่อยู่ในชุดปิดหน้าปิดตาเป็นใคร กิจกรรมสนุกสนานมากเพราะผู้แสดงแต่ง ชุดหลากหลายและพยายามไม่ให้น้องๆรู้ว่า เป็นใคร แต่น้องๆหลายกลุ่มก็สามารถทาย ได้ถูกหลายคน และที่น่าประทับใจเป็นอย่าง มาก คือ ผูแ้ สดงทีไ่ ม่ได้มแี ต่เด็กๆ แต่มคี รุ รุ ว่ ม เล่นกิจกรรมด้วย มาแสดงเป็นหน้ากากต่างๆ
อย่างคุณยายทองธรรม หรืออาปีกฟ้า ซึ่งชุด ที่ใส่ก็พยายามแต่งให้มิดชิด เพื่อไม่ให้คนดูรู้ ว่าเป็นใคร ทำ�เอาหน้ากากรุน่ ใหญ่เกือบเป็น ลมเพราะหายใจไม่ออก แต่ถึงอย่างนั้น เพื่อ ความสนุกสนานของลูกหลาน คุรุก็ยังร่วม แสดงท่าทางอย่างไม่เก้อเขิน น่าประทับใจ อย่างมากเลยนะฮะ...จี๊ดๆๆ
v นิทรรศการมีชวี ต ิ ....
11
งานเพือ่ ฟ้าดินทีจ่ ดั ขึน้ ทีร่ าชธานีอโศกนัน้ ในครัง้ นี้มีกิจกรรมให้ความรู้หลายอย่างที่น่า สนใจ ส่วนมากเป็นกิจกรรมด้านการเกษตร เป็นหลัก แม้แต่การสาธิตต่างๆ ก็ยกอุปกรณ์ มาทำ�ให้ดกู นั ชัดๆ อย่างโครงการทำ�ขยะเป็น ศูนย์นั้น ก็นำ�เตามาเผาขยะให้ดูกันชัดๆใน อาคาร เรียกว่าเป็นนิทรรศการที่มีชีวิต ที่จับ v ลมแห่งธรรมดุจลมเย็น... จิ้ ง หรี ด ได้ มี โ อกาสเข้ า กลุ่ ม ว.บบบ. ต้องได้ ผู้สาธิตตั้งใจมาเผยแพร่ เพื่อให้นำ� แต่ละวันมีกิจกรรมต่างกัน จิ้งหรีดมีโอกาส ไปปฏิบัติได้อย่างแท้จริงเลยนะฮะ...จี๊ดๆๆ v กระบอกช่วยโลก ได้ไปลงฐานงานกสิกรรมในวันสุดท้าย ซึ่ง ในการจั ด งานเพื่ อ ฟ้ า ดิ น มี น้ำ �หวาน เป็นวันที่อากาศร้อน แดดแรง คนในกลุ่มมี นักเรียนกับผู้อายุยาวหลายท่าน งานภาค ขายตามจุดต่างๆ แต่มีอยู่ซุ้มหนึ่งที่ขายน้ำ� บ่ายที่ได้ทำ�คือ ขุดหลุมเพื่อปลูกต้นไม้ ทุก ใส่กระบอกไม้ไผ่แทนจอกน้ำ� ซึ่งสามารถหิ้ว คนตั้งใจทำ�กันเต็มที่ ทั้งขุด ทั้งขนต้นไม้ ขน ไปไหนมาไหนได้สะดวก และทำ�จากวัสดุ ปุ๋ย ขนฟาง ผ่านไป ๒ ชม. ทุกคนทำ�งานกัน ธรรมชาติ ไม่เป็นภัยกับสิ่งแวดล้อม เห็น เงียบๆเพราะเก็บแรงไว้ทำ�งาน จนมีเสียง แล้วน่าประทับใจที่พี่น้องชาวอโศก มีความ หนึ่งพูดขึ้นว่า “แหมวันนี้ฟ้าใสดีจริงๆไม่มี คิดสร้างสรรในการประดิษฐ์คิดค้นวัสดุจาก เมฆแม้แต่ก้อนเดียว” เมื่อได้ยินอย่างนั้น ธรรมชาติมาใช้ทำ�เป็นจอกใส่น้ำ�สมุนไพรได้ หลายคนหัวเราะ มีคนตอบกลับมาว่า “เขา อย่างน่ารัก สวยงาม มองดูคลาสสิคมากฮะ ให้รางวัลคนทำ�งานได้มองท้องฟ้าสวยๆ” ...จี๊ดๆๆ จากนั้นก็มีลมพัดมา จิ้งหรีดยืนพักจากการ ขุดหลุมอยู่ รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันใด ไม่น่าเชื่อ ว่าในขณะทีก่ ำ�ลังร้อนจากแดดอย่างมาก แต่ เมือ่ มีลมเย็นพัดโชยมาก็ชว่ ยให้ชมุ่ ชืน่ ได้มาก ขนาดนี้ เหมือนเวลาทีเ่ ราเจอผัสสะกำ�ลังร้อน รุ่ม แล้วได้ยินเสียงของหลวงปู่ หรือว่าเสียง ของท่านสมณะทีใ่ ห้สมั มาทิฏฐิ เมือ่ เราเข้าใจ เราก็จะสดชื่น เหมือนลมเย็นที่พัดผ่านมา นั่นเองนะฮะ...จี๊ดๆๆ
v มรณัสสติ คุณพ่อสงวน มั่นคงดี เสียชีวิตด้วย อาการหัวใจวาย วันที่ ๒๘ พ.ย.๖๐ สิรอิ ายุ ๘๔ปี ฌาปนกิจทีเ่ มรุสดุ ชีวติ ปฐมอโศก วัน ที่ ๒๙ พ.ย.๖๐ คุณแม่ยง้ เกียง กิตคิ ณ ุ เสียชีวติ วันที่ ๖ ธ.ค.๖๐ ฌาปนกิจวันที่๑๐ ธ.ค.๖๐ ที่วัด สันป่าสักวรอุไร จ.เชียงใหม่ คุณแม่บว๊ ย พงศ์พริ ยิ ะปัญญา (เป็น แม่ของอาหมู-พลอยแสงฟ้า) เสียชีวิตวันที่ ๑๒ ธ.ค.๖๐ สิริอายุ ๘๖ ปี ฌาปนกิจที่วัด น้ำ�ตกเขาโพทอง จ.ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ ๑๘ ธ.ค.๖๐ คุณเปรมมณี มหาปิยะศิลป์ (ลูกสาว ของคุณป้าอารมณ์) เสียชีวิตด้วยโรคลิ้น หัวใจรัว่ และน้�ำ ท่วมปอด วันที่ ๑๘ ธ.ค.๖๐ สิริอายุ ๕๑ ปี ฌาปนกิจวันที่ ๒๐ ธ.ค.๖๐ นางเบญจมาภรณ์ เจือประเสริฐ เสียชีวิตวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๐ พ่อใหญ่พันธ์ กันธิยา (พ่อของคุรุ ฝั่งบุญ) เสียชีวิตวันที่ ๓๑ ธ.ค.๖๐ สิริอายุ ๘๗ปี ฌาปนกิจวันที่ ๓ม.ค.๖๐ ณ เมรุสุด ชีวิต ราชธานีอโศก
12
รวมปักษ์ ธันวาคม ๒๕๖๐
กรุงเทพโพลล์เผยที่สุดแห่งปี’๖๐ ข่าวพระราชพิธีฯ ครองแชมป์ ๑๐ อ่านต่อหน้า
อ่านต่อหน้า
๑๐
ฉบับที่ ๔๘๔ (๕๐๖) รวมปักษ์ธันวาคม ๒๕๖๐
นายกฯ มอบคำ�ขวัญวันเด็ก
ปี’๖๑ “รู้คิด รู้เท่าทัน
สร้างสรรค์เทคโนโลยี” นิด้าโพลเผย ปชช.หนุนรัฐบาลยึดแนวทาง ๑๐ ”ศาสตร์พระราชา” แก้ปัญหาเศรษฐกิจ อ่านต่อหน้า
อ่านต่อหน้า
๑๐
นายกฯ มอบคำ�ขวัญวันครูปี’๖๑
“ศิษย์ดี ก็ด้วยครูดี มีศรัทธา
รมช.กษ.พร้อมคณะลงพื้นที่พิษณุโลก ติดตามการขับเคลื่อนโครงการบางระกำ�โมเดล
อ่านต่อหน้า
๑๐