นสพ.ข่าวอโศก พ.ค.59 ฉบับ 470 (492)

Page 1

ธรรมะพ่ ท่าน : (๔๙๒) กรรมฐานคือเวทนา น.๔ ฉบับทีอ่ ๔๗๐

1

สดจากปัจฉาสมณะ : จุดมุง่ หมาย...รัตนราชธานี ดินแดนธรรมชาติ เนรมิต น.๙ ข่าวอโศก

ชาวอโศกเวียนธรรมวิสาขฯ’๕๙

รอง ผวจ.ตรังร่วมอัญเชิญสมเด็จปู่ฯ

สู่ยอดเขาที่ทะเลธรรม

ฉบับที่ ๔๗๐(๔๙๒) รวมปักษ์ พฤษภาคม ๒๕๕๙

สขจ.สันติฯ ขาย ๑ บาท ชมร.ชม.เปิดตลาดอาริยะ แก่นอโศกสร้างบ้านดิน อ่านต่อหน้า

อ่านต่อหน้า ๖-๗

กิจกรรมฑูตสันติภาพ มาทัศนศึกษาดูงานที่ปฐมอโศก ค่ายยุวพุทธทายาท ครั้งที่ ๓ พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ� คุณอำ�นาจ หมายยอดกลาง เข้าพบและมอบของ ที่ระลึกแก่นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

พิธีมอบชุด

นักเรียนสัมมาสิกขา


2

รวมปักษ์ พฤษภาคม ๒๕๕๙

ภูมิปัญญาดั้งเดิม

“กามพาอัตตาระเบิด” เหตุใด นักปฏิบัติธรรมที่ กำ�ลังฝึกลดละกิเลส จึงรู้สึก ละอายใจแก่ตน เมือ่ ตนได้แสดง กิ ริ ย าวาจาออกมาทางกาม มากกว่า ตนได้แสดงกิรยิ าวาจา ออกมาทางอัตตา ทั้ ง นี้ ก็ เ พราะในเบื้ อ งต้ น เราจะเห็ น โทษภั ย ของกาม มากกว่า อัตตา เรามองเห็นว่า กาม เป็นของ หยาบ ตำ� ทราม กว่าอัตตา เราจึงปล่อย อัตตา ให้ แสดงออกมา อย่างรู้สึกผิด น้อยกว่า หรืออาจไม่รู้สึกผิด เลย โดยเข้าข้างตัวเองว่า แค่ เป็ น การแสดงออกทางทิ ฏ ฐิ เท่านั้น นี่ถ้าเขารู้ว่า กาม กับ อัตตา จะเสริมแก่กันและกัน เขาก็ จ ะสำ � รวมสั ง วรใน อัตตา ไม่แสดงทิฏฐิปกั มัน่ หรือ ระเบิ ด โทสะออกมาอย่ า งไร้ การควบคุม คนแสดงอั ต ตาออกมา อย่างหยาบใหญ่ มิใช่ไม่มีกาม แต่อาจเป็นการแสดงออกทาง กามอี ก ด้ า นหนึ่ ง ที่ อ าจมอง ได้ว่า เป็นภาวะของการกดข่ม กามหยาบ ที่ปะทุหรือระเบิด ออกมาทางอัตตาอย่างรุนแรง ฉะนั้นผู้เข้าใจโทษภัยของ กามและอัตตา ย่อมเกิดความ ละอายใจ ไม่ว่าจะแสดงออก ทางกามหรืออัตตา จริงไหม!. ภาพจาก www.doyouknow.in.th

พิชิตไข้หวัดใหญ่ได้ใน ๒ วัน

ภาพจาก www.ramblingsofamulti-tasker.blogspot.com

มู่บ้านชุมชนราชธานีอโศก ได้ จัดงานใหญ่ทุกปีคืองาน “เทศกาลกินเจ” ณ อุทยานบุญนิยม ซึ่งให้บริการตั้งแต่ ๐๖.๐๐-๑๙.๐๐น. ติดต่อกันเป็นเวลา ๑๑ วัน ครั้ง นั้น เป็ น ครั้ งแรกที่ ดิ ฉัน ได้ มี โ อกาสร่ ว ม บุญใหญ่ในปี ๒๕๕๖ มีประชาชนหลั่งไหล มาใช้บริการกันอย่างคับคั่ง ๔ วันก่อนจบ งาน ดิฉันเริ่มมีอาการเป็นไข้ รู้สึกครั่นเนื้อ ครั่นตัว อ่อนเพลียมากและเริ่มมีอาการ ไอ ซึ่งบ่งบอกถึงอาการติดเชื้อของทางเดิน หายใจส่วนบน จึงได้ปลีกตัวไปนอนพัก และกลับเข้าชุมชน คืนนั้นดิฉันมีไข้สูง ตัว ร้อนรุ่ม ปวดเมื่อยเนื้อตัวเป็นอันมาก มี เสมหะลักษณะใสๆตลอดคืน ดิฉนั รับประทาน อาหารมังสวิรัติมาร่วม ๒๕ ปี และหลาย ปีที่ผ่านมาไม่มีอาการป่วยที่ต้องใช้ยาแผน ปัจจุบันเลย การเจ็บป่วยครั้งนี้จึงตั้งใจที่จะ งดยาดังกล่าว จึงได้ดูแลตนเองตามอาการ เมื่อมีไข้สูงก็ดื่มน้ำ�มากๆ เช็ดตัวเพื่อระบาย ความร้อนและไออย่างถูกวิธี (คือการไอด้วย การหายใจเข้ า ให้ เ ต็ ม ที่ แ ล้ ว กลั้ น หายใจไว้ เล็กน้อยแล้วไอออกมาแรงๆ เพื่อขับเสมหะ ที่อยู่ลึกๆให้ออกมา) รุ่งเช้าอาการไข้ก็ลดลงและอาการไอก็ ห่างขึ้น แต่ยังมีอาการอ่อนเพลียมาก พัก ผ่ อ นได้ น้ อ ยและมี อ าการเบื่ อ อาหารไม่ อยากรับประทานอาหารเลย พอตกเวลาสายหน่อย คุณแม่ซึ่งเป็น ญาติ ธ รรมที่ มี จิ ต ใจดี ม ากท่ า นหนึ่ ง ได้ เข้ า

มาดูแลดิฉันประดุจแม่ดูแลลูก ท่านได้นำ� ข้าวต้มขาวน้ำ�ข้น (สูตรที่ท่านทำ�คือ ใช้ข้าว เจ้า ๑ ส่วนและข้าวเหนียว ๒ ส่วน) พร้อม แจ่วรสไม่เผ็ดและถั่วเขียวต้ม เท่านั้นยังไม่ พอ คุณแม่ยังกระวีกระวาดก่อเตาถ่าน ตั้ง กระทะเติมน้ำ�ลงกระทะเสร็จ ก็ได้ไปเก็บผัก บุ้ง ผักกาดนา และผักอื่นๆที่อยู่รอบบ้านมา ลวกให้รับประทานแบบสดๆ เมื่ อ ดิ ฉั น ตั ก ข้ า วต้ ม เข้ า ปากคำ � แรกก็ รู้สึกได้ทันทีว่าเป็นข้าวต้มที่วิเศษมาก สัมผัส ได้ถงึ ความนุม่ นวลแต่มนี �ำ้ หนัก ผักลวกก็มีรส หวานนิดๆ แบบธรรมชาติมากๆ ต้มถั่วเขียว ก็เปื่อยนุ่ม รับประทานได้คล่องคอดีมาก นั บ ว่ า เป็ น อาหารที่ เ ลิ ศ รสและทรงคุ ณ ค่ า ยิ่งนักในยามนั้น อาการที่ว่าเบื่ออาหารก็ อันตรธานหายไปสิ้น ดิฉันรับประทานเข้าไป ๒ ชามใหญ่ๆ รู้สึกเริ่มมีเรี่ยวแรงขึ้นมา คุ ณ แม่ ท่ า นนี้ ยั ง เมตตาเอาเตาถ่ า น สอดไว้ใต้แคร่ที่นั่ง บอกให้ดิฉันนอนย่างไฟ ให้ร่างกายอบอุ่น เลือดไหลเวียนได้ดี ดิฉัน นอนย่างอยูร่ าว ๑ ชัว่ โมง ก็รสู้ กึ เบาเนือ้ เบาตัว ผ่ อ นคลายอาการเมื่ อ ยลงได้ อ ย่ า งเห็ น ได้ ชัด ก่อนกลับคุณแม่ผเู้ อือ้ อารีทา่ นนี้ยังกำ�ชับ ดิฉนั ให้กลับมากินข้าวต้มและย่างไฟอีกรอบ วันนัน้ ช่วงบ่ายมีพส่ี าวทีใ่ จดีอกี ท่านหนึง่ ข้างบ้าน ก็ได้มาถามไถ่อาการและให้บริการ สมุนไพรฤทธิ์ร้อน เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบ กระเพรา ต้มให้ดฉิ นั อาบ โดยราดจากศีรษะ ลงมา ดิฉันได้รับบริการจากท่านทั้ง ๒ เป็น

เวลา ๒ วันเต็ม จนอาการดีขึ้นมากเกือบ เป็นปกติ จึงได้ไปช่วยงาน “เทศกาลกินเจ” ในวันสุดท้ายได้จนงานเสร็จสิ้น ดิฉันก็รู้สึก เป็นปกติ ดิ ฉั น ส รุ ป ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ค รั้ ง นี้ ว่ า ภูมิปัญญาดั้งเดิมตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ก็ สามารถเอาชนะไข้หวัดใหญ่ได้เพียง ๒ วัน เท่านั้น ไม่ต้องรับประทานยาแผนปัจจุบัน เนื่องจากยังไม่มียาแผนปัจจุบันขนาดใด ที่ ทำ�ลายเชื้อไวรัสได้ เพราะเชื้อนี้ก็จะกลาย พันธ์ุใหม่ออกไปเรื่อยๆ ปัจจุบันเราก้าวตาม หลังเชื้อโรคเสมอ สิ่งที่จะชนะเชื้อโรคได้คือ ระบบภูมิต้านทานของร่างกายที่ได้สร้างไว้ อย่างวิจิตรของเราต่างหากล่ะ ฉะนั้ น เมื่ อ ร่ า งกายได้ พ ลาดพลั้ ง เจ็ บ ป่วยลงคราใดก็ตาม เราต้องพยายามฟูมฟัก ร่างกายของเราให้ภูมิต้านทานโรค ของเรา กลับมาทำ�งานดังเดิมได้ เราก็จะชนะได้ทกุ โรค ค่ะวันนี้ตัว ผู้เขียนเองก็ได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้กับคุณพี่พยาบาลใบฟ้า (พี่ท่านเป็น ระดับอาจารย์พยาบาลค่ะ) ถึงประสบการณ์ ของท่านในการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ค่ะ ก็ คงจะมีอีกหลากหลายวิธีแต่นี่เป็นอีกวิธีที่ ท่านได้ผลสำ�เร็จ สิ่งที่ตัวผู้เขียนประทับใจ ที่สุดคือความเอื้ออาทรและการดูแลเอาใจ ใส่ซึ่งกันและกันของญาติในทางธรรมของ เราที่ได้ช่วยเหลือดูแลเอื้อเฟื้อต่อกันดังได้ กล่าวมาค่ะ กิ่งธรรม


ข่าวอโศก

ภาพจาก www.xn--72cfa1hey3b0dtji.com

พริ ก ขี ้ ห นู ส วน พริกขี้หนูหอม พริกขี้หนูนก พริกขี้หนูสวน พริกขี้หนู อู้ฮู้ เผ็ดจัง เคี้ยวลูกโดด ออกหูดัง ได้กลิน่ หอม อาหารไทย รสเด็ด เผ็ดก็ยอม ขี้มูกหลอม เสลดสลาย สบายดี ผมได้ยินคนปลูกพริก ที่ปลูกพริกเป็นแปลงหรือปลูกพริกอย่างเดียวเป็นไร่หรือ หลายไร่ มักจะบ่นว่าพริกเป็นโรคโดยเฉพาะโรคใบหงิกต้องฉีดสารเคมี ฆ่าแมลงฆ่า เชื้อราจนน่ากลัว แต่ผมปลูกพริกขี้หนูหอมมา ๓๐ ปี หลังจากได้รู้จักกับตาล้วนเมื่อปี ๒๕๓๕ ไม่พบปัญหาเรื่องโรคพริก ตาล้วนขณะนั้นอายุกว่า ๘๐ ปี ยังแข็งแรงทำ�สวนกับ ยาย ๒ คนในพื้นที่ ๖๐ ไร่ ที่อำ�เภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี สวนของตาล้วนมีผลผลิต มาขายทุกวัน โดยไม่ได้ปลูกอะไรเพิ่มเติมเลยมาเป็น ๑๐ ปีแล้ว ขนุนสุกหล่นลงมาก็งอก ขึ้นเอง พริกนกช่วยปลูก พริกขี้หนูหอมขึ้นเป็นสวน ผมเลยขอพันธุ์ตาล้วนมาปลูกที่ ไพศาลี ๓๐ ปี ก็ยังมีพริกอยู่โดยไม่ได้ปลูก ไม่ได้ดูแล ไม่เห็นเป็นโรคใบหงิก มีผเู้ ล่าให้ฟงั ว่า เมืองกาญจน์กม็ พี นั ธุพ์ ริกขีห้ นูหอมอยูม่ าก ขนาดคนเก็บพริกจะถอน ต้นพริกใส่กระสอบโยนขึน้ รถไฟไปถึงตลาดค่อยเก็บผลพริก โยนต้นพริกทิง้ ไป ขายพริกหมด ก็ไปเก็บมาขายใหม่ด้วยวิธีนี้ แต่พริกก็ไม่หมดป่า อาหารไทยหลายชนิดมีพริกเป็นส่วนประกอบเพราะคนไทยชอบกินอาหารรสเผ็ดร้อน พริกมีสรรพคุณทางยา คือ บรรเทาอาการไข้หวัด ละลายเสมหะ ขับเสมหะ ขยาย หลอดลม ช่วยผู้ป่วยโรคหอบหืดภูมิแพ้ เจริญอาหาร บำ�รุงธาตุ ละลายลิ่มเลือดป้องกัน โรคหัวใจ ยอดและใบอ่อนบำ�รุงประสาท บำ�รุงกระดูก ใบมีรสเผ็ดเล็กน้อยนำ�มาแกงเลียง แกงอ่อม ผลของพริกมีวติ ามินเอ วิตามินซี เหล็ก แคลเซียม นำ�มาเป็นเครื่องปรุงรสในอาหารไทยหลายชนิด เช่น ต้มยำ� ลาบ ยำ� เป็นต้น ข้อควรระวัง สำ�หรับผู้ที่มีอาการลำ�ไส้อักเสบ เป็นแผลในกระเพาะ และผู้ที่เป็น วัณโรคหรือริดสีดวงทวารไม่ควรรับประทานพริกขี้หนู การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดขึ้นได้ดีในที่ร่มรำ�ไร ดินชื้นสม่�ำ เสมอ พอผล แดงจะมีนกมากินแล้วช่วยเอาเมล็ดไปปลูกกระจายให้ทว่ั สวน หากเจ้าของสวนไม่ตดิ เรื่อง กลัวสวนรก ถากถางจนเปลีย่ นหมด พริกขึน้ มาก็พลอยถูกถางไปด้วย หญ้ารกไม่ใช่ปญ ั หา หลายคนคงเคยได้ยินคำ�กลอนที่ว่า เสือมีเพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินดีเพราะหญ้าบัง หญ้ายังเพราะดินดี

3 ภาพจาก www.www.hplus.co.th

ฉบับที่ ๔๗๐ (๔๙๒)

ถ้ามีหญ้าขึ้นสูงไม่ต้องถากไม่ต้องถาง เหยียบให้ราบหรือใช้ท่อนไม้กลมๆใหญ่ๆ กลิ้งทับ หรือจะใช้ยางรถยนต์เก่าๆ ลากรูดไปให้ต้นหญ้าหักพับราบเรียบทับกัน ปูทับ ด้วยฟางหญ้าแห้งหรือใบไม้แห้ง แล้วขุดหลุมปลูกพืชได้เลย ประหยัดแรงงาน หญ้าช่วย คลุมดินให้ชื้นไม่แห้งด้วย ถ้าจะเอาหญ้าที่ขึ้นรบกวนพืชที่ปลูกออก ก็ใช้วิธีถอนดีกว่า ถากด้วยจอบ เราจะได้ดูว่าพืชอะไรที่มีประโยชน์ขึ้นอยู่บนดินบ้าง จะได้เว้นไม่ต้องถอน หากถากพืชที่มีประโยชน์ เช่น พริก ผักกะสัง กระเพรา ฯลฯ อีกหลากหลาย ที่ขึ้นแซม ปนหญ้าอยู่ก็จะถูกถางไปด้วย พืชที่ขึ้นจากเมล็ดที่ร่วงหล่นตามธรรมชาติ เติบโตโดยที่เราไม่ได้ขุดย้ายทำ�แปลง ปลูกให้มักจะแข็งแรงไม่ค่อยมีโรคแมลงรบกวน หญ้าที่ทับกันไม่ได้รับแสงนานๆก็เริ่มเน่า เป็นอาหารของไส้เดือน ไส้เดือนมีที่อยู่สบายเพราะหน้าดินไม่ถูกแดดเผา มีอาหารคือ เศษหญ้าเน่าอุดมสมบูรณ์ไส้เดือนก็แข็งแรง ขึ้นชอนไชพื้นดินทำ�ให้ดินร่วนโปร่ง มีก๊าซ ออกซิเจนในดินเพิ่มขึ้น รากพืชก็แข็งแรง หาอาหารให้ต้นพืชได้มากขึ้น พืชก็จะงอกงาม โดยไม่ต้องพึ่งปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพงและทำ�ให้โครงสร้างของดินเสียหายในระยะยาว นี่ยัง เป็นเรื่องการปลูกพริกอยู่นะครับ พูดเรื่องปลูกพริกไม่พูดถึงดิน ถึงสิ่งแวดล้อมก็จะไม่ สมบูรณ์เพราะไม่มีอะไรในโลกอยู่โดยไม่สัมพันธ์กับสิ่งอื่นๆ. ลุงดำ�


4

รวมปักษ์ พฤษภาคม ๒๕๕๙

กรรมฐานคือเวทนา

ด่ า ว่ า ตำ � หนิ เ รามา... เสียงคำ�ด่า ด่าแรงเลย คุณ เราไม่ ต รวจตั ว เอง... คิดของคุณเอง ที่จริงคำ�นั้น แต่ เ รากลั บ ฉลาดด่ า เขากลับจนเขากลัว แล้วเราก็ยินดีที่เรา มันก็เป็นของมัน มันอาจแรง ได้ ช นะอี ก …อย่ า งนี้ ใ ครซวย...ก็ เราเอง เพราะตะโกนหรือไม่ตะโกนแรง แหละซวย...พ่อครู แต่ เ ป็ น คำ � หยาบคำ � ที่ ส ะเทื อ น พ่อครูว่า จิตเราที่ไปสุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ ทุกข์นี่แหละคือความวนอยู่สามอย่างนี้ เรา ก็รู้สึกเจ็บมาก สะเทือนมาก ต้องเรียนรู้ แล้วละ เรียนรู้ว่าได้อย่างไรจะสุข นั่นแหละ สุขทุกข์อยู่ที่นั่น ทุกข์ ชอบหรือไม่ชอบ มันเป็นไปตามจิตเรา หากเราไม่ไปสะดุ้งสะเทือนอะไร ถ้ามันแรง ถ้าเขาด่าเราในสิ่งไม่ถูกต้อง พอเรารับ จนเราต้องเดือดร้อน หรือมันแรงขนาดนี้เรา ฟังแล้ว ตรวจตนเองตรงกับตนเองพอดีเขา ไม่มีปัญหาอะไร เช่น เราได้ยินเสียง ด่าถูก เราก็ขอบคุณ รู้ว่าสิ่งที่เราทำ�นี้ไม่ดี ถูกเขาด่าเขาตำ�หนิ แต่ถ้าถือตัว แม้คุณทำ� ไม่ดีจริงก็ไม่ชอบใจ จะดีหรือชั่วก็ยึดเป็นตัว

ชื่อเดิม : นางสาวนาตยา ตันวรกุล ชื่อที่พ่อครูตั้งให้ : แรสีธรรม อายุ : ๕๕ ปี การศึกษา : ปริญญาตรี สถานภาพ : โสด ภูมลิ ำ�เนาเดิม : จ.ระยอง

กูของกูใครอย่าแตะ ทั้งที่เป็นความผิด เรา ผิดเขาก็ด่าให้ แต่เรายึดเป็นตัวเราของเรา เราไม่ชอบใจเราก็โกรธ รู้ทันเราก็เข้าใจให้ถูก มีปัญญารู้ความจริงตามความเป็นจริง เขา ว่าเราชั่ว ถ้าเราไม่ชั่วก็ไม่ชั่ว แต่ถ้าเรายังชั่ว ก็ต้องขอบคุณเขาที่ว่าเราชั่ว เราจะได้แก้ไข แต่ถ้าเขาว่าเราผิดๆ เราไม่ชั่ว ความผิด ความโง่ก็อยู่ที่เขา ความชั่วก็อยู่ที่เขา เราจะ ไปสะดุ้งสะเทือนอะไร ไม่ใช่หน้าด้านนะ แต่ เรารู้ว่าคุณด่าผิด เราก็บอกว่า ไปตรวจสอบ ใหม่ ตำ�หนิเราผิด บอกดีๆก็ได้ หรือบอกไม่ ดีก็ได้ ย้อนเขาเลย แบบเถียงก็ไม่ดี แต่ถ้าเรา มีหมัดเด็ดบอกเขาได้ว่าเขาว่าผิด ก็ดี แต่ถ้า เขาด่าว่าเรามาเสร็จแล้ว เราเองไม่ได้ตรวจ ตัวเอง เรามีแต่ฉลาด ด่าเขาไปแก้ตัวไปจน

เขากลัว เขาก็จะหยุด ก็ได้ แต่คุณนั่นแหละ ซวย คุณชนะเขา ชนะด้วยความผิด หลง ความผิดว่าถูกด้วย หลงว่าตนชนะด้วย ก็ หลงว่าเราถูก เขาด่าว่าตำ�หนิเรามา แต่เรา ก็ไม่ได้ตรวจตนเอง คุณก็จมอยู่กับความชั่ว นั่นไป ซวยอยู่ที่ใคร ระวัง ใครด่ามาว่ามา ตำ�หนิมา พระพุทธเจ้าจึงบอกว่านั่นแหละ คือผู้ชี้ขุมทรัพย์ เขาว่ามาด่ามา ต้องฟัง เขา ชี้ขุมทรัพย์ ถ้าถูกต้องแก้ไขไป ถ้าไม่ถูกต้อง อย่างไม่ลำ�เอียง ถ้าตรวจดีแล้วไม่ใช่ เราก็ เฉยหรือบอกเขาได้ว่าไม่มีในเรา เราไม่ใช่ อย่างนั้นก็ได้ เรื่องของความหมุนวนก็เรียนรู้เช่นนี้ ๕๙๐๕๑๑_พุทธศาสนาตามภูมิ กรรมฐานคือเวทนา ตอน๒

ชีวิตก่อนรู้จักชาวอโศก ? เป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น (เทศบาล นครระยอง) รูจ้ กั อโศกได้อย่างไร และหลังรูจ้ กั แล้ว ชีวติ เปลีย่ นไปอย่างไร ? รู้จักอโศกจากที่มีญาติธรรมจัดโรงบุญ ๕ ธ.ค. ที่จ.ระยอง หลังจากนั้นก็กินมังสวิรัติ มากขึ้น (เดิมกินอยู่แล้วประมาณ ๑ ปี) กิน เพิ่มจากสัปดาห์ละ ๕ วัน เป็นกินทุกวัน และเริม่ กำ�หนดมือ้ อาหาร จากทานหลายมื้อ เป็นเหลือ ๒ มื้อบ้าง มื้อเดียวบ้าง (และมี บางวันที่อาจจะกินมื้อเดียวยาวๆเพราะแพ้ กิเลส ไม่ยอมจบสักที) การปฏิบัติธรรมของตนเองหรือมีวิธี การฝึกฝนตนเองอย่างไร ? ฝึกลดความโกรธ ลดความหงุดหงิด

รำ�คาญ หมั่นอ่านใจตนเอง เมื่อตรวจเจอว่า มีอาการดังกล่าว ก็เรียนรู้ ฝึกดูกิริยาอาการ ที่เกิดขึ้น ฝึกจำ�กัดอารมณ์และกำ�จัดอารมณ์ นั้นๆ ให้หายไปจากใจเราให้เร็วขึ้น ก็ทำ�ได้ดี พอสมควร อยากจะฝากแง่คิดอะไรถึงเพื่อนนัก ปฏิบตั ธิ รรม ? ก็ต้องฟังคำ�ที่พ่อครูบอกสอน แล้ว พยายามทำ�ให้ได้ตามคำ�สอนนั้นมากที่สุด เช่น เรื่องขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีน้ำ�ใจ ต่อคนรอบข้าง ดูแลสิ่งของส่วนกลาง ไม่ทิ้ง ขว้าง เอาใจดู คอยดูแลเก็บรักษา และพยายามอยู่เป็นมวลหมู่กับอโศก ให้ได้ เพราะที่แห่งนี้เป็นสุข และดีกว่าสังคม ภายนอกอย่างเห็นๆ.


ฉบับที่ ๔๗๐ (๔๙๒) วันวิสาขบูชา

ข่าวอโศก

(ต่อจากหน้า๑)

พุทธสถาน สังฆสถาน อาวาสสถานของ ชาวอโศกทุกแห่งต่างจัดงานวันวิสาขบูชา โดยแต่ละที่ก็จะมีการรวมตัวกั น ของญาติ ธรรม หลายที่มีการทำ�บุญใส่บาตร ฟังธรรม ก่อนฉัน และในช่วงเย็นจะมีการจัดกิจกรรม เวียนธรรม โดยมีสมณะ สิกขมาตุขึ้นมา แสดงธรรมสลับกันไป สร้างความเบิกบาน ในธรรมแก่ญาติธรรมแต่ละท้องที่ ในปีนี้ทางบุญนิยมทีวีได้ถ่ายทอดสด รายการ “เวียนธรรมวันวิสาขบูชา” จาก๕ พุทธสถาน คือ สันติอโศก ปฐมอโศก ราชธานี อโศก ศีรษะอโศก ภูผาฟ้าน้ำ� แต่ในช่วง สุดท้ายมีเหตุขัดข้องด้านการส่งสัญญาณจึง ไม่สามารถถ่ายทอดรายการต่อได้ พุทธสถานสันติอโศก นอกจากจะมี กิจกรรมเวียนธรรมในช่วงเย็นแล้ว ที่สขจ.

อาวาสสถานทะเลธรรม วันวิสาขบูชา มีพธิ อี ญ ั เชิญพระพุทธรูปสมเด็จปูว่ ชิ ติ อวิชชา ขึน้ ประดิษฐาน ณ บนยอดภูเขา โดยกิจกรรม เริ่มตั้งแต่ ๐๘.๐๐ น. มีการทำ�บุญใส่บาตร นำ�โดยสมณะดินดี สันตจิตโต เวลา ๐๘.๔๕ น. สมณะดินดี สันตจิตโต นำ�สวดมนต์ และใน เวลา ๐๙.๐๙ น. ก็พร้อมใจกันดึงเชือกเพื่อ อัญเชิญสมเด็จปู่วิชิตอวิชชาประดิษฐานขึ้น บนฐานที่เตรียมทำ�ไว้รองรับจนสำ�เร็จ ใช้ เวลาประมาณ ๓๐ นาที ขบวนแถวยาวเหยียด ที่มีหมู่สมณะเป็นผู้นำ� และมีพี่น้องที่มาจาก ทั่ ว ภาคใต้ แ ละจากปฐมอโศกมารวมแรง รวมใจเป็ น ภาพประวั ติ ศ าสตร์ ข องชุ ม ชน ทะเลธรรม ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ ก็ได้มาร่วมพิธี ด้วย หลังจากอัญเชิญสมเด็จปู่วิชิตอวิชชา เรียบร้อยแล้ว ก็ปิดท้ายด้วยการแสดงธรรม

5

พุทธสถานราชธานีอโศก พิเศษปีนี้ คือ หลังจากที่สมณะ สิกขมาตุเวียนธรรม เรียบร้อยแล้ว พ่อครูก็เมตตาเทศน์กัณฑ์ พิเศษปิดท้ายรายการด้วย พุทธสถานศาลีอโศก วันวิสาขบูชา เป็นการรวมตัวกันชาวภาคเหนือตอนล่าง ภาค กลางตอนบนจากหลายจังหวัด เช่น พิจิตร กำ�แพงเพชร อุทัยธานี ลพบุรี กรุงเทพฯ นครสวรรค์ พากันมาเข้าวัดฟังธรรม ต่างนำ� ข้าวหม้อแกงหม้อมาทำ�บุญร่วมกัน งานนี้ก็ อิม่ กายด้วยอาหารบุญ อิม่ ใจด้วยการฟังธรรม พุทธสถานสันติอโศก นอกจากจะมี กิจกรรมเวียนธรรมในช่วงเย็นแล้ว ที่สขจ. (สถาบันขยะวิทยาด้วยหัวใจ) ร่วมปฏิบตั บิ ูชา วันวิสาขบูชา ด้วยการขายสินค้า ๑ บาท เป็น เวลา ๓ วัน คือวันศุกร์ที่ ๒๐ ถึงวันอาทิตย์ ที่ ๒๒ พ.ค. ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ -๑๖.๐๐ น.

โดยสมณะกรรมกร กุสโล ได้กล่าวคำ�ความ ของพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ที่ได้เมตตาเขียน ด้วยลายมือของท่าน เพือ่ อธิบายความหมาย ของสมเด็จปู่วิชิตอวิชชาโดยสังเขปว่า “วิชิต อวิชชา” แปลได้ว่า ผู้กำ�จัดสิ่งร้ายหรือความ เลวร้ายนัน้ ๆได้ดว้ ย “วิชชา” ผูจ้ ะกำ�จัดความ เลวร้ายนั้นได้ จงต้องเป็นผู้หลุดพ้นอวิชชา เป็นผูม้ ี “วิชชา” สัมมาทิฏฐิจริงแท้และในช่วง บ่ายเป็นรายการเสวนาธรรม ให้พน่ี อ้ งมาร่วม กันพูดคุยเปิดใจกัน สำ�หรับการเวียนธรรมของชุมชนทะเล ธรรม ปีนี้พิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมาเพราะมี สมณะมาร่วมเวียนธรรมถึง ๖ รูป มีพระ อาคันตุกะ ๓ รูป และมีสิกขมาตุ ๑ รูป ญาติ ธรรมมาร่วมบรรยากาศกันอย่างคึกคัก รวม แล้วประมาณ ๖๐ ชีวิต

พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ� เพื่อเป็นการปฏิบัติบูชาเนื่องในวันวิสาขบูชา ชาวชุมชน ญาติธรรมชาวเหนือ พีน่ อ้ งจากสีมาอโศก จิตอาสาแพทย์วถิ ธี รรม ศิษย์เก่า และนักเรียน สัมมาสิกขา รวมถึงพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยบรรพชนรุ่นบุกเบิกของชมร.เชียงใหม่ และทีมงาน ชมร.เชียงใหม่ ได้ร่วมใจกันจัดตลาดอาริยะ ครั้งที่ ๔ ที่ชมร.เชียงใหม่ กิจกรรมเริ่มตั้งแต่ ๐๖.๐๐-๑๔.๐๐ น. มีการตักบาตรท่านสมณะ ๗ รูป นำ�โดย สมณะบินบน ถิรจิตโต หลังจากนั้นมีการฟังเทศน์ก่อนฉัน ในงานนี้จำ�หน่ายอาหารและเครื่องดื่มบาทเดียว ส่วนข้าวราดกับข้าวอย่างเดียว ยังทานฟรี ๐ บาทตามปกติและจำ�หน่ายสินค้าราคาต่ำ�กว่าทุน ที่แผนกสินค้าอุปโภค กว่า ๑,๐๐๐ รายการ, แผนกพืชผักไร้สารพิษและสินค้ากสิกรรม จากคกร.ชม., แผนก ข้าวไร้สารพิษซื้อ ๕ ลิตรแจกฟรี ๑ ลิตร ร้านสขจ.ภูผาฟ้าน้ำ� จำ�หน่ายสินค้าราคาพิเศษ ชิ้นละ ๑ บาทและยังมีสมาชิกเอาของมา บริจาคให้อย่างต่อเนื่อง เหมือนเป็นการแจก จ่าย แบ่งปันกันใช้ เป็นวันแห่งการให้ ในช่วงเย็นมีกิจกรรมเวียนธรรมที่ภูผาฟ้าน้ำ�ห้อง ๓ (ลานนาอโศก) มีญาติธรรม มาร่วมฟังธรรมกันอย่างอบอุ่น อาวาสสถานแก่นอโศก มีการทำ�วัตร เช้าต้อนรับวันวิสาขบูชา นำ�โดยสมณะคำ� จริง วจีคุตโต ซึ่งท่านได้เมตตาแวะมาโปรด ก่อนเดินทางกลับไปสังฆสถานหินผาฟ้าน้ำ� เพื่อเวียนธรรมในตอนเย็น ซึ่งกิจกรรมของ ชาวแก่นอโศกวันนี้ ก็ได้ฮอมแฮงช่วยกัน สร้างกุฏดิ นิ กันกว่า ๔๐ คน เพือ่ ถวายพ่อ ครูได้พกั ในช่วงทัวร์พญาแร้งภาคอีสานราว ปลายเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นการร่วมแรงร่วมใจ เป็นหนึ่งเดียวกัน (เอกีภาวะ)


6

รวมปักษ์ พฤษภาคม ๒๕๕๙

สันติภาพและผูส้ นใจจำ�นวน ๒๕ คน มาทัศนศึกษาดูงานที่ ชมชนปฐมอโศก ภายใต้ชื่อโครงการ กิจกรรมทูตสันติภาพ สัญจร ครั้งที่ ๑๖ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับชุมชนที่ได้น้อมนำ� ระบบเศรษฐกิจพอเพียงมาบริหารจัดการชุมชน ได้อย่าง เข้มแข็ง เป็นสังคมทีม่ งุ่ พัฒนาคนทัง้ ทางด้านกาย สติปญ ั ญา บอกเล่าข่าวอโศกเดือนพฤษภาคม (ต่อจากหน้า ๑) และจิตวิญญาณ เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. ได้เข้าพบท่าน สมณะเสียงศีล ชาตวโร เพือ่ สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เช่น เรื่องการศึกษา ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชน ญาติธรรมพบนายกฯ • วันพุธที่ ๒๕ พ.ค. คุณอำ�นาจ หมายยอดกลาง จากนั้นก็เดินเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆภายในชุมชน ซึ่งทุกคน ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่ง ต่างก็ประทับใจในวิถชี วี ติ แบบพอเพียงนี้ หลายท่านก็บอกว่า มาปฏิบัติหน้าที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำ�และการแก้ ถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาอีกและสนใจจะใช้ชีวิตแบบนี้บ้างค่ะ ปัญหาภัยแล้ง ณ โครงการส่งน้ำ�บำ�รุงรักษาลำ�พระเพลิง พุทธสถานสีมาอโศก จ.นครราชสีมา • เกิดพุทธธรรมสีมาฯ...วันเสาร์ที่ ๗ พ.ค. กิจกรรม คุ ณ อำ � นาจ หมายยอดกลาง เป็น หนึ่ง ในบุค คล ถือศีล เข้าวัดฟังธรรม มีผู้มาร่วมใส่บาตรฟังธรรมจำ�นวน ต้ น แบบที่ มี ค วามชำ � นาญในด้ า นการด้ า นการจั ด การ ๙๙ คน ในวันนีม้ กี จิ กรรมพิเศษ คือ ฝึกเด็กพุทธธรรมซึง่ ห่าง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านการทำ�กสิกรรม หายมานานหลายปี จากการทีผ่ ปู้ กครองมาร่วมเข้าวัดฟังธรรม ไร้สารพิษ จากหนังสือ SMART FARMER รู้ไว้...ทำ�ได้จริง ต่างพาลูกหลานมาด้วย จึงมีการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เป็นคัมภีร์ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ทางด้านกรมประชาสัมพันธ์ ได้จดั ทำ�ขึน้ ซึง่ ในการเข้าพบท่านนายกฯครัง้ นี้ ได้มอบกระเช้า ผักผลไม้ไร้สารพิษจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ และได้ พู ด คุ ย ขออนุ ญ าตจั ด ตั้ ง โครงการก่ อ สร้ า งโรงผลิต กระแสไฟฟ้าขนาดเล็กจากชุมชน เพือ่ นำ�เงินทุนจากโครงการ ดังกล่าวมาสนับสนุนเกษตรกรในการปลูกผักอินทรีย์

พุทธสถานปฐมอโศก

• สัมมนาคุรทุ ป่ี ฐมอโศก...วันที่ ๑๐ พ.ค. มีการประชุม สัมมนาการศึกษาประจำ�ปี โดยมีหมู่สมณะ สิกขมาตุ คณะ กรรมการสถานศึกษาและคณะคุรุ ได้มีการประชุมสัมมนาที่ ห้องประชุมศาลางาน มีสมณะบินบน ถิรจิตโต เป็นประธาน ในการประชุม โดยมีแนวนโยบายหลักคือ ศีลเด่น เป็นงาน ชาญ วิชา และทบทวนข้อบกพร่องในการทำ�งานของแต่ละท่าน ตลอดปีรวมถึงร่วมพิจารณาการผิดระเบียบของนักเรียน ฯลฯ ในปีการศึกษานีม้ โี ครงการใหม่ๆเกิดขึน้ ถึง ๓๙ โครงการ

• สส.ฐ.จัดค่าย...วันที่ ๑๕-๑๗ พ.ค. การเปิดภาคเรียน ทางโรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศก ก็ได้มีการจัดให้มีการ เข้าค่ายของนักเรียนและผู้ปกครองโดยเฉพาะผู้ปกครอง ของนักเรียนชัน้ ม.๑ โดยภายในค่ายกิจกรรมเริม่ ตัง้ แต่เช้าตรู่ ด้วยการทำ�วัตรเช้า ใส่บาตรร่วมกัน เรียนรู้การทำ�อาหาร มังสวิรตั แิ ละกิจกรรมอืน่ ๆ เพือ่ ให้ผปู้ กครองรับทราบวิถชี ีวิต กฎระเบียบและรับทราบปรัชญาของโรงเรียนคือ ศีลเด่น เป็นงาน ชาญวิชา ในวันแรกมีพธิ รี บั ชุดนักเรียนใหม่ทง้ั ม.๑ และ ม.๔ • ทูตสันติภาพมาเยี่ยม...วันพฤหัสบดีท่ี ๒๖ พ.ค. คณะทูตสันติภาพ จากมูลนิธิสหพันธ์สันติภาพสากล ประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่อยู่ในฐานะ ที่ ปรึกษาของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งองค์การ สหประชาชาติ ที่มุ่งมั่นในการเสริมสร้างเสรีภาพ สันติภาพ ความสามัคคีและความสุขในสังคมอย่างยั่งยืน นำ�โดย พลเอกเทอดศักดิ์ มารมย์ ประธานมูลนิธิ พร้อมด้วยคณะทูต

• จัดค่ายสุขภาพ...วันที่ ๑๒-๑๓ พ.ค. มีกจิ กรรมเปิด ค่ายฝึกอบรม โครงการสุขภาพดี วิถธี รรม วิถไี ทย โดยทีมงาน แพทย์วถิ ธี รรมจิตอาสาหมอเขียวร่วมกับพุทธสถานสีมาอโศก ให้ กับกลุ่มผู้สูงอายุ ต.ตลาด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา จำ�นวน ๘๐ คน ในการเรียนรูด้ แู ลสุขภาพตนเองด้วยยา ๙ เม็ด

• ดูงานภูผาฯ...วันที่ ๑๖ – ๒๑ พ.ค. ทางโรงเรียน สัมมาสิกขาสีมาอโศก นำ�โดยสมณะดินทอง นครวโร ได้นำ� คณะคุรุและนักเรียนจำ�นวน ๑๘ คน เดินทางไปศึกษาดูงาน ที่พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ� จ.เชียงใหม่ ห้องเรียนที่ ๓ ลานนา อโศก เพื่อเรียนรูก้ ารศึกษานอกกล่อง การศึกษาเชิงบูรณาการ โดยเฉพาะการศึกษาแบบแม่ไก่ลูกไก่ โดยมีสมณะบินบน ถิรจิตโต ได้ให้ประโยชน์ทง้ั นักเรียนและคุรทุ ต่ี อ้ งดูแลนักเรียน ให้เข้าใจถึงหัวใจหลักของการศึกษา และความสำ�คัญทางจิต วิญญาณในระบบแม่ไก่ลูกไก่

พุทธสถานราชธานีอโศก

• พิธรี บั มอบชุดนักเรียนสัมมาสิกขาฯ...นักเรียน ม.๑ ราชธานีอโศก หลังจากผ่านกระบวนการเข้าค่ายดูตัวตั้งแต่ วันที่ ๑ เม.ย. จนถึง วันที่ ๑๘ เม.ย. นักเรียนเตรียมสัมมา สิกขาชั้น ม.๑ จากผู้มาสมัคร ๔๓ คน เหลือผู้ที่ได้เข้าพิธี รับชุดนักเรียนสัมมาสิกขาฯ จำ�นวน ๒๗ คน ผู้ปกครองมา มอบตัวและเข้าร่วมพิธีรับมอบชุดสัมมาสิกขาราชธานีอโศก ในเช้าวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙

• ม.ราชภัฏมหาสารคามมาศึกษา...ระหว่างวันที่ ๙-๑๑ พ.ค. ๒๕๕๙ บ้านราชจัดค่ายคุณธรรมให้แก่นักศึกษา ม.ราชภัฏมหาสารคาม คณะอาจารย์และนักศึกษาคณะ ครุศาสตร์ สาขาการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาสารคาม เดินทางมาเข้าค่ายคุณธรรมจริยธรรม ใน โครงการพัฒนาอาจารย์ในสาขา และโครงการอบรมคุณธรรม จริยธรรมนักศึกษา มีคณะอาจารย์ จำ�นวน ๕ คน นักศึกษา จำ�นวน ๓๖ คน ใช้ชีวิตปฏิบัติธรรม สัมมาอาริยมรรค ตาม วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง ที่หมู่บ้านราชธานีอโศก

• เกี่ยวข้าวที่นาคำ�ยอด...ตั้งแต่วันที่ ๒ พ.ค. ชาว บ้านราชร่วมใจเกี่ยวข้าวนาปลังที่นาคำ�ยอด ชาวบ้านราช หลายฐานะทั้งนักบวช คนวัด นิสิตมหาวิชชารามนาวาบุญ นิยม (วนบ.) ชาวชุมชน และนักเรียนนักศึกษา ร่วมใจโฮม แฮงช่วยกันเกี่ยวข้าวนาปลังสิบกว่าไร่ ภายใน ๗ วันเสร็จ รวมถึงสีข้าวด้วย • เทศบาลมาดูความเสียหายจากพายุ...วันที่ ๒ พ.ค. เจ้าหน้าที่ ๒ ท่าน จากเทศบาล ต.บุ่งไหม อ.วารินชำ�ราบ จ.อุบลราชธานี เข้ามาสำ�รวจประเมินความเสียหายของ บุคคลหรือสิ่งปลูกสร้างในหมูบ่ า้ นชุมชนราชธานีอโศก โดยมี ผูใ้ หญ่บา้ นคุณขวัญหินแก้ว รักพงษ์อโศก ให้การต้อนรับและ พาไปชมบริเวณที่เกิดความเสียหาย ซึ่งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้ใหญ่บ้านพาเจ้าหน้าที่ไปที่เฮือนศูนย์สูญ ดูหลังคา ระเบียง ชั้น ๒, ๓ และชั้น ๔ ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นแผ่นปูน แต่ละแผ่นหนัก ๓ กิโลกรัม ถูกพายุพัดเสียหายแตกกระจาย


ฉบับที่ ๔๗๐ (๔๙๒)

ข่าวอโศก

ต่อมาเจ้าหน้าที่มาที่บ้านศิษย์เก่า ติดกับสวนทำ�กิน สำ�รวจ อาวาสสถานดอยรายปลายฟ้า จ.เชียงราย ความเสียหายเป็นหลังคาสังกะสีที่ปลิวหลุดออกไป ที่แล้ว • “โครงการปลูกต้นไม้ใต้ร่มธรรม”...ชาวอาวาส ส่งเรือ่ งแจ้งความเสียหายทีเ่ กิดขึน้ ไปทางจังหวัด เพือ่ ประกาศ สถานได้จดั กิจกรรมในการปลูกต้นไม้กว่า ๑๐๐ ต้น เนือ่ งใน เขตภัยพิบัติ และให้ความช่วยเหลือต่อไป วันพืชมงคล ต้นไม้ที่นำ�มาปลูก เช่น ต้นอโวคาโด ต้นอโศก ฯลฯ นำ�โดยสมณะถ่องแท้ วินยธโร และท่านสมณะอีก ๔ รูป ชาวชุมชน ญาติธรรม และเด็กนักเรียนสัมมาสิกขาศีรษะ อโศก ร่วมกิจกรรมราว ๕๐ คน เพือ่ เฉลิมพระเกียรติพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัตคิ รบ ๗๐ ปี และฉลอง ๔๕ พรรษา เส้นทางสัมมาอริยมรรคของพ่อครู สมณะโพธิรักษ์

สำ�หรับพายุฤดูร้อนที่พัดเฮือนศูนย์สูญ เกิดในวัน พฤหัสบดีที่ ๒๘ เม.ย. ๒๕๕๙ ประมาณ ๑๘.๓๐ น. ขณะ ที่พ่อครูเทศนา พุทธศาสนาตามภูมิที่บ้านราชฯ บรรยากาศ ขณะนัน้ พายุฤดูรอ้ นได้พดั มาอย่างแรง ข้าวของปลิวเกลื่อน ตู้กระจกที่ใส่อาหาร ตกลงมาแตกกระจาย ไฟฟ้าในศาลาดับ แต่วา่ ไฟสำ�รองทีจ่ า่ ยให้กบั กล้องและสวิทชิง่ ยังทำ�งานอยู่ แม้ว่า เสียงในศาลาดับแต่พ่อครูและลูกๆก็บอกว่าไม่ยอมแพ้ พ่อ ครูเทศนาต่อ โดยเสียงสดไม่ออกลำ�โพงในศาลา ลูกๆก็ลุก มานั่งฟังหน้าพ่อครูใกล้ๆ เพื่อให้พ่อครูใช้เสียงน้อยลง แม้ เสียงในศาลาไม่ออกแต่เสียงออกอากาศก็ยังออกได้ดี พ่อครูเลยเทศนาต่อไปอีกสัก ๑๐ นาที จากนั้นไฟฟ้าก็กลับ มาให้ความสว่างและให้เสียงออกจากลำ�โพงได้อีกครั้ง พ่อ ครูจึงได้เทศนาต่อจนจบรายการ ไม่มีเวลาใดที่ไม่ควรเปิดเผยธรรมะ ทุกวินาทีจึงเป็น วินาทีแห่งธรรมะ วินาทีแห่งบุญแท้ๆ ของเหล่านักปฏิบัติ ธรรมที่ตามฟังธรรมพ่อครูอย่างใกล้ชิด จะไม่ยอมเสียเวลา แม้นดิ แม้นอ้ ยในการไม่ตง้ั ใจฟังพ่อครู… เพราะเวลาทีพ่ อ่ ครู จะได้เทศนาธรรมนั้นมีจำ�กัด และเวลาที่ลูกๆแต่ละคนจะได้ ฟังธรรมก็ยิ่งจำ�กัดอีก…

7

โดยมีเกณฑ์ถอื ศีล ๕ ละอบายมุข ทานมังสวิรตั ิ ชัน้ ม.๑ และม.๔ มีทั้งหมด ๙ คน นักเรียนชาย ๔ คน หญิง ๕ คน ในงานมี การเปิดใจจากผู้ปกครองและพิธีรับศีลจากท่านอ.๑ (สมณะ บินบน ถิรจิตโต)

พุทธสถานสันติอโศก

• พิธมี อบชุดสส.สอ.วันที่ ๑๗ พ.ค. เป็นการเปิดภาค เรียน ของนักเรียนสัมมาสิกขาสันติอโศก โดยปีนี้มีนักเรียน ชัน้ ม.๑ ทีผ่ า่ นการดูตวั ทัง้ สิน้ ๑๘ คน (ชาย ๑๐ หญิง ๘ คน) ในช่วงเช้ามีพธิ มี อบชุดสำ�หรับนักเรียนใหม่ โดยสมณะลานบุญ วชิโร ได้กล่าวให้โอวาท ก่อนที่จะมอบชุดสัมมาสิกขา

• จัดค่า่ ยสุขภาพฯ...วันที่ ๗-๘ พ.ค. ทีมแพทย์วถิ ธี รรม พุทธสถานศีรษะอโศก ได้จัดอบรมสุขภาพวิถีธรรม มีผู้สนใจเข้าร่วมการอบรมทั้ง • จัดค่ายยุวพุทธกสิกรรม...วันอังคารที่ ๑๗ พ.ค. เป็น จาก จ.เชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง ประมาณ ๗๐ คน วันเปิดเทอมวันแรก ซึ่งนักเรียนสัมมาสิกขาศีรษะอโศกและ นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวะศึกษาสัมมาสิกขาศีรษะอโศกเข้าค่าย ยุวพุทธกสิกรรม ซึ่งมีเป้าหมายคือ สร้างอาหาร ประสาน น้ำ�ใจ จุดไฟคุณธรรม ส่วนสโลแกนของค่าย คือ ตรงต่อเวลา รักษาหน้าที่ มีไมตรีจิต รู้คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นอุดมการณ์ การเข้าค่ายตั้งแต่วันที่ ๑๘-๑๙ พ.ค. • พ่อครูมาเยี่ยม...วันพุธที่ ๑๘ พ.ค. พ่อครูสมณะ โพธิรักษ์ มาเยี่ยมชุมชนศีรษะอโศก ก่อนการแสดงธรรม พ่อ ครูได้เมตตาเดินบิณฑบาตโปรดชาวชุมชน ในช่วงเย็นพ่อครู ได้เป็นประธานในการประชุมและเอื้อไออุ่นให้แก่ชาวศีรษะ พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ� อโศก ซึ่งก่อนจะประชุมนั้นพ่อครูได้เมตตาปฐมนิเทศเปิด • จัดค่ายยุวพุทธฯ...ค่ายยุวพุทธทายาท ครั้งที่ ๓ ค่ายยุวพุทธกสิกรรมของนักเรียนสัมมาสิกขาศีรษะอโศก จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๔ - ๑๐ พ.ค. ณ ภูผาฟ้าน้ำ� ห้องเรียน ๓ ชุมชนทะเลธรรม มีนักเรียนเข้าร่วมจำ�นวน ๓๕ คน • มีการอบรม ๑ ไร่แก้จน...วันที่ ๑๑-๑๒ พ.ค. โดยอ.กมล กิจกรรมเริ่มตั้งแต่การสวดมนต์ทำ�วัตรเช้า พบสมณะ พรหมมาก จากชุมชนสีมาอโศก มีผู้เข้าร่วมอบรมกว่า ๓๐ บำ�เพ็ญคุณ กิจกรรมสันทนาการโลกุตระ และบูรณาการขั้น คน ในเรื่องการจัดการพืช ดิน และระบบน้ำ� เป็นการฝึก พื้นฐานทั้ง ๘ สาระวิชา โดยมีพี่ศิษย์เก่าสัมมาสิกขาภูผา อบรมทีม่ กี ารลงมือทำ�จริง โดยมีการฝึกเลีย้ งจุลนิ ทรียจ์ าวปลวก ฟ้าน้ำ� ร่วมจัดกิจกรรมต่างๆ สืบทอดงานสู่รุ่นน้อง ตาม จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงและการจัดระบบน้ำ� คติธรรมในค่ายยุวพุทธที่ว่าพึ่งตน •ปลูกพืชไร่...ชาวชุมชนร่วมใจกันทำ�กสิกรรมเพือ่ เตรียม งานภราดรภาพ ได้ร่วมกันปลูกข้าวโพด ฟักทองและแตงโม

• จัดตลาดอาริยะ...วันที่ ๒๒ พ.ค. มีการจัดงาน ตลาดอาริยะครัง้ ที่ ๗ จำ�หน่ายสินค้าต่�ำ กว่าทุน และร่วมทาน อาหารจานละ ๑ บาท.

• ทำ�พิธีมอบชุดสส.ภ. ในวันเสาร์ที่ ๑๔ พ.ค. ได้จัด พิธีมอบชุดนักเรียนสัมมาสิกขาภูผาฟ้าน้ำ� หลังจากการดูตัว นักเรียนเตรียมม.๑ ปีนี้มีนักเรียนที่สามารถผ่านการคัดเลือก


8 สดจากปัจฉาฯ

รวมปักษ์ พฤษภาคม ๒๕๕๙ (ต่อจากหน้า ๙)

และทำ�ธรรมชาติได้มากกว่า ที่สันติอโศกก็ ดี ปฐมอโศกก็ดี มันทำ�ไม่ได้ดเี ท่าบ้านราชฯ บ้านราชฯจะทำ�ได้ดมี าก จึงจะเป็นโมเดลของ โลก เป็นเมืองดินแดนธรรมชาติเนรมิต ต้อง ใช้คำ�ว่าเนรมิตเพราะเราสร้าง ไม่ใช่พระเจ้า มาสร้าง เราสร้างด้วยน้ำ�มือของพวกเรา ลงทุนลงแรงไปเลย แพงเท่าไหร่เราก็ทำ� ทำ� เต็มที่เลย นี่แหละเป็นรากแกนของดินแดน ธรรมชาติ แต่เราจำ�เป็นต้องเนรมิตมันจึง จำ�เป็นต้องลงทุน และเราก็ทำ�ให้เหมาะสม กับที่เราจะอยู่กัน เราสร้างเอาเอง วางแผน วางผัง ทำ�อะไรไปตามสิง่ ทีค่ วรจะเป็น ค่อยๆ เป็นไป จะเป็นดินแดนธรรมชาติเนรมิตที่จะ ยืนยันเลยว่า ที่นี่แหละเป็นดินแดนเจริญ เป็นแดนศิวิไลซ์ ไม่ใช่ในเมืองป่าคอนกรีต ที่ นี่จะเป็นแหล่งการศึกษา แหล่งการสื่อสาร มีทั้งการพาณิชย์ แม้แต่ที่สุดทางการเมืองที่จะเป็นระบบ บริ ห ารแบบประชาธิ ป ไตยแบบเยี่ ย มยอด ที่สุด ที่เราจะค่อยๆปรับปรุง พวกเราบริหาร กันด้วยคณะ ซึ่งจะเป็นคณะที่ถ่ายทอดจาก คำ�สอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเราก็จะตั้งคณะ ขึ้นมา ถ้าทำ�ได้ถึงขนาดที่ว่าคณะอย่างนั้นๆ จะต้องใช้คนเท่าไหร่ อย่างพระพุทธเจ้าท่าน บอกว่าจะต้องใช้ ๔ คนขึน้ ไป อย่างต่�ำ ๔ ถ้า กิจการหรือว่าสังฆกรรมก็คือการกระทำ� ทำ� กิจการ สิง่ ทีจ่ ะต้องทำ�ท่านเรียกว่า กิจจาธิกรณ์ คือเป็นอธิกรณ์ของการงาน หรือกิจของการ งาน มันไม่ใช่กิจที่จะต้องพิพากษาที่จะต้อง ตัดสิน แต่เป็นกิจที่จะต้องทำ�ของสังคม ด้วย วิธีการทำ�กิจจาธิกรณ์ กิจนี้จะต้องใช้สงฆ์ ๔ กิจนี้จะต้องใช้ ๕ กิจนี้จะต้องใช้ ๑๐ กิจนี้จะ ต้องใช้ ๒๐ ขึ้นไป เราก็จะมีคณะบริหารกัน เป็นคณะกรรมการนี่แหละ กรรมการที่ตั้งก็เปลี่ยนไปได้ ไม่ต้องตั้ง ตายตัว จนกระทั่งเป็นผู้ยึดอำ�นาจ เหมือน

กับเถรสมาคม คณะที่ยึดอำ�นาจตลอดกาล ไม่ใช่ มันน่าจะเปลี่ยนไปเป็นคณะหมุนเวียน กัน เป็นคณะผู้คนหลายๆคณะ แล้วพวกเรา นีเ่ ป็นบุญนิยมทีไ่ ม่ไปแย่งตำ�แหน่ง ไม่ไปแย่ง หน้าที่ ไม่แย่งยศแย่งศักดิ์ แย่งลาภอะไร กันด้วย มันก็ยิ่งไม่มีปัญหา คนทำ�งานตาม ความสามารถ ตามหน้าที่ที่เหมาะที่ควร ก็ ผลัดเปลี่ยนกันทำ�ไป ฝึกฝนกันไป ทำ�งาน กันไปจนกว่าจะแก่จะตาย ก็อยูก่ นั อย่างเป็น ระบบ เป็นระบบสังคมใหม่ ระบบบุ ญ นิ ย มเป็ น ระบบสั ง คมใหม่ ที่ มั น ไม่ มี สั ง คมใดจะเจริ ญ เท่ า นี้ อี ก แล้ ว เจริญเกินกว่านี้อีกไม่ได้ ทำ�ให้เป็นสังคม สมบู ร ณ์ แ บบแล้ ว จะเป็ น สั ง คมเจริ ญ ถึ ง ที่ สุดในโลก ระบบบุญนิยมนี่ ถ้าจะบอกว่า เป็นระบบคอมมูนฯ ก็เป็นคอมมูนฯที่มี อิสระเสรี คุณจะออกไปเมื่อไหร่ จะเข้ามา เมื่อไหร่ก็เป็นสิทธิของคุณ ถ้าจะบอกเป็น ประชาธิปไตยก็เสียภาษา ๑๐๐% จะมาสูเ้ รา เหรอ ประชาธิปไตยไหนจะมาสู้ได้ แล้วมี อิสรเสรีภาพ มีภราดรภาพ มีสันติภาพ มี สมรรถภาพและมีบูรณภาพ เราอยู่ต่อไปแล้วจะรู้ว่าอยู่ไปสร้างสรร ชีวิตจิตวิญญาณให้มีอิสรเสรีภาพที่ยิ่งใหญ่ ดิ น แดนที่ เราจะสร้ า งนี้ เ ป็ น ดิ น แดนเจริญ ศิวิไลซ์ เทียบกับในเมืองที่เป็นแดนคอนกรีต ที่ ธ รรมชาติ ห ายไปเรื่ อ ยๆมี ส ะพานเส้ น ก๋วยเตี๋ยวมีถนนใต้ดินอีก แล้วเขาหลงว่าอัน นั้นเจริญ คุณอยากอยู่อย่างนั้นก็อยู่กนั ไป อาตมาว่าอาตมาจะไปเมืองกรุง ทีส่ ันติฯบ้าง แต่ทุกวันนี้ก็น้อยลง อีกหน่อยก็จะน้อยกว่า นี้ จะมาอยู่ที่บ้านราชฯเป็นหลัก ทำ�โมเดล บ้านราชฯนี้ให้ดี ให้เข้าใจกัน เราค่อยทำ� ไปเรื่อยๆ รุ่นหลังก็ค่อยมีฝีมือขึ้นมา ตอน นี้คนทำ�ก่อนก็นำ�ร่องไปทำ�ภูเขาน้ำ�ตก จะ มีผลาญหิน มีน้ำ�มีแก่ง เราจะใช้ไฟฟ้าจาก พระอาทิตย์ไม่หมดไปหรอก จบ.

สมเด็จพระเทพฯ

(ต่อจากหน้า ๑๒)

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำ�เนินไปทรงเป็น ประธานในการเปิด “ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ชุมชนสายยาว เฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. คณะผู้บริหาร ฝพช. ฝอล. สนจ.บุรีรัมย์ พนักงานและเกษตรกรโครงการเกษตรอินทรีย์ จาก สมาพันธ์เกษตรอินทรีย์แห่งประเทศไทยร่วมรับเสด็จฯ พร้อมเข้าร่วมพิธีพระราชทานเข็มที่ ระลึกให้แก่บคุ คลทีท่ �ำ คุณประโยชน์ให้กบั ชุมชนและประชาชนทัว่ ไป เมือ่ วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ณ ศูนย์เรียนรูเ้ ศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ชุมชนสายยาวฯ ต.ถลุงเหล็ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ศูนย์เรียนรูช้ มุ ชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียงชุมชนสายยาว เฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นศูนย์เรียนรู้ฯ ที่ธนาคารสนับสนุน ให้จัดตั้งขึ้น โดยเป็นชุมชนที่เข้มแข็งจากรากฐานของสายสัมพันธ์ระหว่าง หมู่บ้าน ๕ แห่ง ประกอบด้วย บ้านโนนศิลา บ้านสำ�ราญราษฎร์ บ้านเสม็ดราษฎร์ บ้านหนองเครือ และบ้าน โนนสำ�ราญ มีจดุ เด่นหลายประการ โดยเฉพาะการมีปราชญ์ผรู้ อู้ ยูห่ ลากหลายสาขาอาชีพ ที่ มีองค์ความรู้และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ประกอบกับเป็นชุมชนที่มีความเป็นน้ำ�หนึ่ง ใจเดียวกัน สามารถทำ�งานอย่างมีส่วนร่วมได้และที่สำ�คัญคือเป็นชุมชนที่มีคุณธรรม ยึด หลักการดำ�เนินชีวิตบนพื้นฐานของความพอเพียง ภายในงานนีม้ เี กษตรกรผูท้ �ำ เกษตรอินทรียซ์ ง่ึ เป็นญาติธรรมชาวอโศก เข้ารับพระราชทาน เข็มที่ระลึก เพื่อเป็นกำ�ลังใจในการทำ�เกษตรอินทรีย์ต่อไป มีถึง ๓ ท่านด้วยกันคือ คุณมะลิ หมายยอดกลาง, คุณแห่งไท กมลรัตน์, คุณอุทัย สุทธิประภา

พระไม่รบั เงิน

(ต่อจากหน้า ๑๐)

พระนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้เผยแผ่ธรรมะทางสื่อต่างๆโดยได้บรรพชาเป็น สามเณรเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๒๕ ร่ำ�เรียนศึกษาทางธรรมจนจบนักธรรมชั้นโท และได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ขณะที่ ดร.สมชาย สุรชาตรี โฆษกสำ�นักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวผ่าน “เดลินิวส์ ออนไลน์” ว่า พระไตรปิฏกไม่ได้ห้ามนำ�เงินใส่บาตร แต่ขณะเวลาพระสงฆ์ออกบิณฑบาต จะต้องรับข้าวปลาอาหารที่ญาติโยมนำ�มาทำ�บุญ ซึ่งสมัยก่อนไม่มีห่อใส่ถุงพลาสติก ถุง แกงเช่นทุกวันนี้ เพราะโดยส่วนมากจะเป็นข้าวสวย ของทอด หรือแกงต่างๆ ใส่รวมกันลง ในบาตร จึงดูไม่เหมาะสมมากกว่าหากจะนำ�เหรียญ นำ�ธนบัตรใส่ลงไปในบาตร อีกทั้งพระ สงฆ์จะต้องใช้บาตรฉันข้าว ซึ่งหากประชาชนมีจิตกุศลต้องการทำ�บุญเป็นเงินทอง ทำ�ให้ เหมาะสมโดยการนำ�เงินจะใส่ซองหรือไม่ก็ตาม หย่อนลงในถุงย่ามก็ได้ “ถ้าบาตรเปล่าๆ ที่ไม่ได้นำ�ไปบิณฑบาตก็ใส่ได้ แต่บาตรที่พระสงฆ์ฉันข้าว ก็จะดูไม่ เหมาะสม เงินปะปนข้าวไปหมด และในสมัยพุทธกาลยังไม่มเี งินธนบัตร เรือ่ งนีจ้ งึ ไม่เกิดขึ้น เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปก็ต้องปรับให้เหมาะสม ประชาชนก็ยังได้บุญได้กุศลเช่นเดิม” โฆษก สำ�นักงานพระพุทธฯ ระบุ. ขอบคุณภาพ :Poochit Praisrisuk ข่าวจากเดลินิวส์


ฉบับที่ ๔๗๐ (๔๙๒)

ขอพูดถึงหมูบ่ า้ นของเรา กิจการทีจ่ ะ เป็นหลักของเราทีน่ ่ี คือ ทำ�อยูท่ �ำ กิน ทำ�นา ทำ�สวน ทำ�ไร่ ตอนนี้ที่ของเราก็ปรับหมด ไปไม่ใช่น้อยๆนะ ที่ลงทุนไป จะเรียกว่า เอาทองคำ�ปูลงไปบนแผ่นดินก็ได้ เราก็ จะทำ�ทั้งเป็นนา มีสวน มีไร่ เรายังไม่มี สวนเลยนะ สวนไม้ต้น ไม้ผลต่างๆ ที่เรา ควรจะเป็นจะมีอยู่ใกล้ๆนี้ สวนที่จะทำ� ไม่ห่างนัก แต่ถ้าอยู่ใกล้ๆ ก็น่าจะดี แต่ เอาเถอะเรื่องสวนไม่ค่อยกระไร แต่เรา จะต้องทำ�ไร่ พวกพืชไร่ที่เราจะต้องทำ� กิน อย่างริมแม่น้ำ�มูน เราทำ�เป็นฤดูกาล เพราะว่าผักพวกนี้เราทำ�กิน พืชผักพวกนี้ ต้องทำ�อยู่ตลอดเวลา ทำ�ไปแล้วก็เปลี่ยน ไป แต่ว่าเราทำ�ได้เฉพาะหน้าแล้ง หน้า น้ำ�มามันก็ท่วม ข้างบนจะมีที่เหมาะๆที่เราจะทำ�เป็นไร่ ซึง่ ตอนนีท้ ไ่ี หนๆเราก็จะจัดให้ “น้อย๑๐๐ไร่” ทำ�นา ก็เลยจะมีนาเป็นหลัก ทีจ่ ริงก็ดี นั่นคือ ทีบ่ า้ นราชฯ เราจะมีสง่ิ เหล่านีเ้ ป็นหน้าเป็นตา มีข้าวที่เราปลูกเอง พืชพันธุ์ธัญญาหารเรา ก็ทำ�กันเอง อย่างนี้มันเป็นการพัฒนามาก เลย มีอยู่มีกินพร้อม ช่วยกันทำ�ไร่-ทำ�นาทำ�สวนแบบนีแ้ หละ ใครจะไปเจริญแบบไหน อย่างยิ่งๆ ใหญ่ๆ อย่างก้าวหน้า อย่างที่ ในหลวงได้ตรัสไว้ แต่มันถอยหลังอย่างน่า กลัว เพราะเป็นความก้าวหน้าที่หลงงมงาย ไปกับสังคมสมัยใหม่ สังคมสมัยโบราณนั้น เป็นสังคมทำ�ไร่ ทำ�นา ทำ�สวน ทำ�กสิกรรม แล้วก็มีอยู่มีกิน โดยเฉพาะเมืองไทยเป็นเมืองในโซนอบอุ่น หรือโซนร้อนมีน้ำ� มีแดด มีดิน ไม่มีหิมะที่ จะมาวุน่ วายอะไรเลย ทีท่ น่ี �ำ้ ไม่ทว่ มก็ท�ำ ไปทั้ง ปี อย่างที่เราก็เอาเถอะน้ำ�ท่วมก็ไม่มีปัญหา อะไร เราก็ทำ�ตามควร อย่างที่เราสู้มา จน หมดปัญหาทีเ่ รามาอยูก่ นั เพราะฉะนัน้ เรา ก็จะปรับให้เกิดความเจริญที่เหมาะสม อาตมาว่าเราจะเจริญแบบนีแ้ หละ ทำ�นา ทำ�สวน ทำ�ไร่ มีพืชพันธุ์ธัญญาหารอย่าง สมบูรณ์อบอุ่นเลย มีอยู่มีกิน ยิ่งเราทำ�ได้ ดีๆ ได้ปริมาณมากพอ จนเหลือไปขายให้ ตลาด พืชพันธุ์ธัญญาหารของเราก็ขาย ดิบขายดี ไม่ต้องอะไรแค่น้ำ�ปั่นผัก ก็เก็บ ผักพืชกันไม่ทัน ตอนนี้เอาไปช่วยกันปั่นให้ สนุกสนานเลย มันเป็นสิ่งประเสริฐทั้งคน ที่เขารับ แม้แต่แค่น้ำ�ผักปั่นโอ้โห...ดีอกดีใจ เพราะเป็นสิ่งช่วยให้สุขภาพเขาดีขึ้น ธุรกิจของเราก็แค่นี้แหละ พาณิชย์ของ เราก็แบบแค่นี้ ไม่ต้องไปเอาดีเอาเด่นเอา ดังแบบมนุษย์ธุรกิจ เป็นมนุษย์เงินเดือน

ข่าวอโศก

โอ้โหกิจการพาณิชย์นี่เขายิ่งใหญ่นะ กิจการ พาณิ ช ย์ ธุ ร กิ จ เขาหาเงิ น หาทองมหาศาล มากมายเลย เราจะไม่เอาเรื่องของการเงิน เป็นหลักว่าเป็นความเจริญ ความเจริญของ พวกเราจะเป็น ๑. ดินแดนที่อยู่ของเราน่าอยู่ ๒. งานอาชีพของเราในชีวติ จะเป็นงาน อาชีพที่มีอยู่มีกิน ทำ�อยู่ทำ�กินอุดมสมบูรณ์ เป็นหลัก งานอื่นๆ ที่จำ�เป็นก็ทำ�บ้าง เช่น งานค้าขาย งานธุรกิจ งานสื่อสาร งานการ ศึกษา แม้แต่งานการเมืองเราก็มบี า้ ง แต่ความ อยู่รอด การอยู่กันจริงๆ คือ เรื่องของทำ� อยู่ทำ�กิน และการทำ�อยู่ทำ�กินนี้ทุกวันนี้เรา พออยู่พอกินแล้ว แต่เราจะทำ�อยู่ทำ�กินเพื่อ ช่วยคนอื่นเขาด้วย สินค้าของเราจะเป็นพืชพันธ์ธุ ัญญาหาร ขายกันให้ขึ้นชื่อเลยว่า พืชพันธุ์ธัญญาหาร ของเรา ของดี ราคาถูก ซื่อสัตย์ มีน้ำ�ใจ ขายสด งดเชื่อ ตามหลักนี้เลย แล้วจะเจริญ ไปทั่วโลกเลยถ้ามีเพียงพอ ถ้าเราสามารถ จนถึงขั้นที่จะส่งต่างประเทศได้เหมือนจีน เขาทำ� แล้วเราจะไม่ขายร่�ำ รวยด้วย ขายอย่าง ขาดทุนของเราคือกำ�ไรของเรา แบบบุญนิยมนี่ รับรองว่าเราจะเจริญ เจริญยิ่งกว่าคนร่ำ�รวย เราไม่รวยอย่างไปเอาเปรียบเขา แต่เราจะ รวยอย่างขาดทุนของเราคือกำ�ไรของเรา งบดุลแต่ละปีเราจะขาดทุนเท่านั้นล้าน เท่านีล้ า้ น ขาดทุนยิง่ ขึน้ ๆ ปีนห้ี า้ ล้าน ปีหน้า สิบล้าน ปีหน้าร้อยล้าน ปีหน้าขาดทุนพันล้าน ให้แก่สังคม นี่คือความเจริญของเรา ฟังแล้ว ตลกไหม? นี่คือโลกุตระ ไม่มีใครคิดหรอก ในโลก นี่ต้องวางแผนอย่างอาตมาพูดนี่ จะ พาคุณขาดทุนให้ยับเยินอย่างนี้แหละ คือ การก้าวหน้าไม่ใช่น่ากลัว คือการก้าวหน้า ทีน่ า่ ทำ�อย่างยิง่ น่าทำ�ให้ได้ ถ้าทำ�ได้จะวิเศษ ขนาดไหน คิดดู คุณลองใช้ปัญญาของคุณ ถ้าคุณฉลาด ถ้าเราทำ�ได้มนั จะสุดยอดเลย ....แต่อาตมาเห็นว่ามันยังไกลอยู่ แต่เราก็ ต้องเริม่ กันอย่างนีแ้ หละ เพราะฉะนัน้ อาตมา ถึงกระเสือกกระสนอยู่ให้ได้ถึง ๑๕๑ ปี เพื่อ ทีจ่ ะทำ�สิง่ ประเสริฐซึง่ เป็นโลกุตระ เราจะเริ่ม เปิดโลกโลกุตระ โดยจับคำ�ว่าศิลปะโลกุตระ มาเป็นตัวขยายความให้รวู้ า่ โลกุตระคืออะไร โลกุตระนีแ่ หละคือบุญนิยม ถ้าทำ�ได้ก็จะ หมายความว่าเราจะต้องชำ�ระกิเลสให้ได้จึง จะทำ�ได้ โดยต้องมีแก่นแกนของมนุษย์หรือ ว่ามวลประชาชนมากพอ ซึ่งมวลประชาชน ของเราชาวอโศกที่จะเป็นโลกุตรบุคคลหรือ เป็นอาริยบุคคลที่แท้จริงยังไม่มากพอ เมื่อ ไม่มากพอมันก็ทำ�ไม่ได้ ถ้ามวลมันมากพอ

แล้ ว มี ค วามเข้ า ใจทั้ ง ทฤษฎี ทั้ ง เข้ า ใจหลั ก เกณฑ์มากพออีกด้วย จึงจะขับเคลื่อน กิจการของเราให้เจริญก้าวหน้าได้ แต่คน เขาก็ยังไม่ค่อยเชื่อว่าเราทำ�ได้จริง เราทำ�ได้ อย่างไร เขายังไม่ค่อยละเอียด แต่คนก็ทึ่งทั้งนั้นแหละ เพราะมีคนรู้ ว่าอยู่ได้อย่างไร มาทำ�งานฟรีอยู่กินอย่างมี ระบบ พวกนีอ้ ยูร่ อดโดยไม่เป็นหนี้ พึง่ ตนเอง รอด ทำ�เกินกิน-เกินใช้ยิ่งขึ้นๆ นั่นแหละคือ ความเจริญ เกินกินเกินใช้แล้วแจก หรือว่า ขายอย่างถูก ขาดทุนของเราคือกำ�ไรของเรา ได้มากขึ้นๆ นั่นแหละคือความเจริญ ฟัง เข้าใจชัดขึน้ ไหม ซึง่ พวกเราพอเข้าใจแล้วหละ อาตมาสำ�ทับเข้าไปก็คงจะเข้าใจได้ดี เป็น แต่ เ พี ย งว่ า ประสิ ท ธิ ภ าพของเรากั บ มวล ประชาชนของเรามันยังไม่เพียงพอเท่านัน้ เอง ถ้ า มี ม วลพอและประสิ ท ธิ ภ าพพอ ประสิทธิภาพของพวกเราคือความสามารถ กับความขยัน ขอถามว่าความสามารถกับ ความขยันของเรามันจะเพิ่มขึ้นได้กว่านี้ได้ ไหม? ความขยันก็ยงั ไม่เต็มเกจ์ ยังทำ�ได้อีก สมรรถภาพเราจะเจริญกว่านี้ได้ไหม? (มี เสี ย งตอบว่ า ...“ได้ ! ”)...นั่ น แหละคื อ ความ เจริญ มวลมันไปบังคับไม่ได้ เพราะของเรา ไปประมูลไปเอาเงินจ้างเขาไม่ได้ ถึงมาได้ ก็ยากนะ เป็นสิ่งที่ยากเป็นงานที่ยาก แต่ว่า เป็นงานที่ดีที่สุด ที่ประเสริฐที่สุดแล้วใน มนุษยชาติ มันเป็นงานที่สูงกว่า noble prize อาตมาว่าร้อยเท่า เขาไม่มีปัญญาจะมาให้ รางวัล noble prize เราได้หรอก มันยิ่งใหญ่ ที่สุดเลย ขอพูดถึงเรื่องสถานที่บ้าง ขนาดนี้ใคร หลายๆคนก็คงจะคิดอยูว่ า่ ทำ�อะไรกันนักกัน หนา สร้างหิน สร้างลานหิน โขดหิน สร้าง ลำ�ธาร สร้างภูเขา จะสร้างไปทำ�ไม? หลาย คนยึดแล้วมองไปว่าเปลืองตังค​์ เสียตังค์ ทั้งๆที่คนในโลกที่เขามีสตางค์ เขาก็เอาไป สร้างสวน สร้างบรรยากาศของที่อยู่ที่บ้าน ที่เรือนของเขา แม้กระทั่งที่สุดไปสร้างเป็น รีสอร์ท เขาก็สร้างธรรมชาติพวกนี้แหละ ก็ขอบอกกับชาวอโศกว่า ทีอ่ าตมาตัง้ ใจ ทำ�ที่บ้านราชฯนี้ ให้เป็นดินแดนธรรมชาติ เนรมิต ซึ่งเรากำ�ลังทำ�งานเนรมิตธรรมชาติ ลงไปในดินแดนนี้ ขณะนี้ เพราะว่ายุคนี้แล้ว ธรรมชาติมันไม่มี เพราะฉะนั้นคนถึงนิยม รีสอร์ท ไปสร้างแม้แต่ในบ้านในเรือน คน รวยๆจะสร้างบ้านเขาก็แต่งสวน สิง่ แวดล้อม ประกอบในบ้านเขา ส่วนใครมีรสี อร์ททำ�เขาก็ ทำ� ก็เป็นการหาธรรมชาติให้แก่บ้านตนเอง มีที่น้อยๆก็ทำ�สวนน้อยๆ มีที่พอสมควร

9

ก็สร้างพอสมควร เขาสร้างธรรมชาติให้บา้ น ของเขาทุกคนทีฐ่ านะพอทำ� นอกจากคนไม่มี ปัญญาไม่มีฐานะ ก็จำ�นนอยู่ในกระต๊อบอยู่ ในบ้านเรือนอุดอู้อยู่ คนที่โง่ที่สุดก็ไปอยู่ในเมือง อยู่ในตึก คูหา ไม่มีธรรมชาติก็เอากระถางห้อย ปลูก บนหลังคา ปลูกบนดาดฟ้า และเขาก็เรียก ว่า ดงคอนกรีต เรียกดงคอนกรีตนั้นว่าเป็น เมืองทีธ่ รรมชาติเสียหมด ลมพัดมาก็หลงทิศ น้ำ�ตกมามากมายก็หลงทาง ไม่มีทางออก เน่าขัง ในเมืองนั่นแหละน้ำ�ท่วมเก่ง เดี๋ยวก็ ต้องระบายออก ไม่ระบายออกก็อยู่กันไม่ ได้ ต้องหมดเงินหมดทอง เทศบาลเขาก็ยุ่ง กันอยู่อย่างนั้น แล้วทุกคนก็เข้าใจว่าความ เจริญคือเมืองคอนกรีต ป่าคอนกรีต นั้นโง่ เป็นคนโง่ตกยุค แต่พวกเราเป็นคนฉลาดล้ำ�ยุค เพราะ ฉะนั้นที่นี่จะสร้างรัตนราชธานี ไม่ใช่รัตน โกสินทร์ จะเป็นดินแดนธรรมชาติเนรมิต ตอนนี้เรากำ�ลังเนรมิตธรรมชาติลงไปในดิน แดนนี้ เพราะฉะนั้นเราจะต้องลงทุนลงแรง ตอนนี้ก็มีคนอาสามาช่วยกันทำ� แม้แต่พวก คุณที่ช่วยกันปลูกต้นหมากรากไม้ ช่วยทำ� สวน ช่วยทำ�พืชพันธุ์ธัญญาหาร ล้วนแต่ เป็ น ธรรมชาติ ทั้ ง สิ้ น ที่ มั น จะรวมจะผนวก เข้าไปเป็นดินแดนธรรมชาติ ก็จะเป็นองค์ รวมของดินแดนธรรมชาติ ซึ่งอาตมาจะให้ มันเป็นสังคมที่หมุนเวียนธรรมชาติ แม้แต่ พลังงานอาตมาก็เซ็นสัญญากับพระอาทิตย์ แล้ว จะลงทุนทำ�โซล่าเซลล์ แล้วก็จะมีพลังงาน ของโซล่าเซลล์ แดดมันไม่หมดไปง่ายๆหรอก อาตมาไม่เชือ่ ว่าประเทศไทยจะหมดแดด เรา จะต้องเอามาใช้ พระอาทิตย์ท่านไม่คิดเงิน เราต้องเอาท่านมาใช้ให้ได้ ในเจตนารมณ์ ของอาตมาคิดว่ามันควรจะเป็น เป็นดินแดน ธรรมชาติเนรมิต ที่เราไม่ไปบุก ไม่ไปแย่ง ธรรมชาติที่ไหนเขา มาสร้างขึ้นด้วยน้ำ�มือ ทั้งหมดบนพื้นที่เน่าๆที่คนเขาทิ้งเขาหนี จน กระทั่งเดี๋ยวนี้ราคาขึ้นไม่ใช่น้อยๆแล้ว เรา ก็ จ ะสร้ า งขึ้ น มาให้ เ ป็ น ดิ น แดนธรรมชาติ เนรมิตนี้ให้ได้ เพราะฉะนั้น ลำ�ธาร ภูหิน ภูมิทัศน์ ต่างๆ นานา ที่เรากำ�ลังทำ�อยู่นี่ มันเป็นการ ลงทุน ที่จะลงทุนอีก ๑๐๐ ปี ๒๐๐ ปีข้างหน้า มันจะลงตัวแล้วมันจะเสร็จ เหมือนกับที่เรา ทำ�ที่ปฐมอโศกก็ดี ทุกวันนี้ก็เป็นธรรมชาติ แล้ว ลำ�ธาร น้ำ�ตก เราไม่ต้องไปทำ�อะไรมัน เลย แม้แต่สันติอโศกก็ตาม ก็ไปบูรณะมัน บ้างพอเป็นไป ที่นี่เราก็จะทำ�เพราะมันกว้าง (อ่านต่อหน้า๘)


10 เลิกเหมืองแร่ทองคำ�

รวมปักษ์ พฤษภาคม ๒๕๕๙ (ต่อจากหน้า ๑๒)

รัฐบาลเผด็จการตบหน้ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง มีมติเฉียบขาดยุติการสำ�รวจและ การทำ�เหมืองแร่ทองคำ�ทั้งหมดทั่วประเทศ หลังพบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม กระทบสุขภาพ ประชาชน เกิดความขัดแย้งในพื้นที่ โดยให้มีผลตั้งแต่สิ้นปี ๕๙ เป็นต้นไป “ประยุทธ์” สั่ง เร่งคืนสภาพพื้นที่ ชดเชยเยียวยาคนงานและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่บริษัททำ� เหมืองแร่ทองพล่าน! เตรียมหาช่องฟ้องร้อง นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการ ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารว่า ครม.มีมติให้ยุติการอนุญาตอาชญาบัตร พิเศษสำ�รวจแร่ทองคำ�และประทานบัตรทำ�เหมืองแร่ทองคำ� รวมถึงคำ�ขอต่ออายุประทาน บัตรด้วย โดยในกรณีของบริษัท อัคราฯ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพนักงาน และเพื่อเตรียมการเลิกประกอบกิจการ จึงเห็นควรให้ต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรม ไปจนถึงสิ้นปี ๒๕๕๙ จากเดิมจะหมดอายุในวันที่ ๑๓ พ.ค.นี้ เพื่อให้สามารถนำ�แร่ที่เหลือ อยู่ไปใช้ประโยชน์ได้ พร้อมทั้งให้บริษัท อัคราฯ เร่งดำ�เนินการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ที่ ผ่านการทำ�เหมืองให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต นอกจากนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนและบรรเทาปัญหาที่อาจจะเกิดขึน้ ภายหลังสิน้ สุดการประกอบกิจการเหมืองแร่และโลหกรรมของบริษทั อัครา รีซอร์สเซส จำ�กัด (มหาชน) ดังนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม กำ�กับ ดูแลการปิดเหมืองและฟืน้ ฟูพน้ื ที,่ กระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพประชาชนในพืน้ ทีอ่ ย่าง ต่อเนื่อง และกระทรวงแรงงาน ดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ นางอรรชกากล่าวว่า ส่วนการช่วยเหลือพนักงานของบริษทั อัคราฯ นอกจากกระทรวง อุตสาหกรรมจะประสานกับกระทรวงแรงงานให้ความช่วยเหลือแล้ว จะประสานผูว้ า่ ราชการ จังหวัดพิจิตรให้นำ�เงินกองทุนพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งมีเงินประมาณ ๔๕ ล้านบาทมาให้การช่วย เหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบด้วย “การที่มีมติดังกล่าวเพราะที่ผ่านมา ๔ กระทรวงที่เกี่ยวข้อง กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน ได้หารือร่วมกันถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้านต่างๆ สรุปว่าในปัจจุบันยังคงมีปัญหา เรือ่ งร้องเรียนและข้อขัดแย้งของประชาชนในพืน้ ที่ แม้จะยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่า ปัญหาเรื่องร้องเรียนและผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน เกิดจากการทำ�เหมืองแร่ทองคำ�ของบริษัท อัคราฯ หรือไม่ แต่เพื่อประโยชน์ของประชาชน เป็นส่วนรวม และแก้ปัญหาความแตกแยกของประชาชนในชุมชน ประกอบกับมีคำ�สั่งของ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับเหมืองแร่ทองคำ�ไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมและ สิงหาคม ๒๕๕๗ ว่าการดำ�เนินการจะต้องโปร่งใส ไม่สร้างมลพิษ ประชาชนไม่ต่อต้าน และยังไม่อนุมัติ จึงมีมติร่วมกันดังกล่าว” นางอรรชกากล่าว รมว.อุตสาหกรรมย้ำ�ว่า มีการตรวจสอบในทุกๆ ด้านดีแล้วก่อนการตัดสินใจ ทั้งนี้ ปัจจุบันในพื้นที่เหมืองทองอัคราฯ ยังคงมีปัญหาข้อขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงมี ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชนอีกด้วย โดยหากบริษัท อัคราฯ เตรียมยื่น ฟ้องศาลปกครองในการไม่ให้ต่ออายุเหมืองทอง กระทรวงก็พร้อมที่จะต่อสู้ด้วยข้อเท็จจริง ตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ที่ประชุมครม.ไม่ได้พิจารณาต่อใบอนุญาต โดย ได้สั่งการไปว่าภายในสิ้นปีนี้จะไม่มีการทำ�เหมืองแร่ทองอีกต่อไป และในระหว่างนี้จะต้อง แก้ปัญหาการปรับพื้นที่คืนสภาพ เตรียมหางานให้คนงานอีกกว่าพันคน สำ�หรับประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนก็จะได้รับการเยียวยา โดยให้กระทรวงสาธารณสุขไปดูแลรักษา ซึ่ง ยังไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร เพราะทุกพื้นที่มีมากมีน้อยอยู่ “แบบนี้ใครจะมาร่วมรับผิดชอบกับผม ไม่ใช่ว่าสั่งโครมๆ ว่าเลิกไม่เลิก สร้างกันมากี่ปี แล้วปัญหาเกิดมาจากใคร ต้องแก้แบบนี้ แต่สิ้นเดือนธันวาคมนี้จะต้องไม่มีเหมืองทองอีก ต่อไปจนกว่าจะชัดเจน เขามีการตรวจสอบ ๕ หน่วยงาน ๔ กระทรวง กรรมการ ๕ ฝ่ายลง ไป ซึ่งก็มีผล เดี๋ยวจะออกทีวีให้เขาดูก็ไปพิจารณาเอาเอง ใช้สติปัญญาคิดเอา จะให้ผมแก้ ปัญหาอะไรก็กรุณาคิดปัญหาอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่แก้อันนี้ไปเจออันโน้นอีก” นายกฯ กล่าว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้มันยังไม่ชัดเจน ถ้าท่านไม่เชื่อหน่วยงาน เครื่องไม้เครื่อง มือเหล่านี้แล้วจะเชื่อใคร ก็ไม่ต้องเชื่อใครหรืออย่างไร ใครจะพูดอะไรก็เชื่อตามคนพูด ซึ่ง ต้องฟังทั้งสองฝ่ายเพื่อมาช่วยกันคิด เรื่องผลประโยชน์ที่ผ่านมาก็ต้องดูว่ามี มีการส่งค่า ภาคหลวงเท่าไหร่ เกิดการจ้างงานอีกเท่าไหร่ ที่ผ่านมาพอเพียงหรือยังกับผลเสียที่เกิดขึ้น มา ทั้งเรื่องน้ำ� เรื่องดิน เรื่องสารหนัก บางค่าก็สูง บางค่าก็ต่ำ� เพราะฉะนั้นอยู่ที่ว่าเราจะทำ� อย่างไรกับมัน ก็ต้องให้เวลาเขาปรับสภาพตรงนี้ ที่จะให้กลับไปสู่ธรรมชาติเหมือนเดิม ซึ่ง ระหว่างนี้ต้องหางานให้คนงานอีกเป็นพันคน คนที่เสนอโน่นนี่มา จะรับคนงานไปดูแลให้ หรือไม่ คนเจ็บคนป่วยก็ดูแล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ยุติการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ สำ�รวจแร่ทองคำ�และประทานบัตรเหมืองทองคำ� รวมถึงการขอต่ออายุประทานบัตร และ การต่อใบอนุญาตประกอบโลหการให้บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำ�กัด ไปจนถึงสิ้นปี ๒๕๕๙ เท่านั้น ด้านบริษัท อัคราฯ ได้ออกแถลงการณ์ตามมา โดยมีเนื้อหาว่า ??” ตามที่มีคำ�แถลง จากท่านรัฐมนตรีอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ ๑๐ พ.ค. ๒๕๕๙ กรณีให้เหมืองแร่ทองคำ�ชาตรี ของ บริษทั อัครา รีซอร์สเซส จำ�กัด (มหาชน) หยุดดำ�เนินกิจการเหมืองภายในสิน้ ปี ๒๕๕๙ นี้ สร้างความประหลาดใจให้กับบริษัทฯ เป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงมีประทานบัตร ทีไ่ ด้รบั อนุญาตอยูจ่ นถึงปี ๒๕๗๑ ซึง่ บริษทั ฯ ได้วางแผนการทำ�เหมืองไว้แล้วจนถึงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่บริษัทฯ เริ่มดำ�เนินกิจการ ได้พิสูจน์ให้เห็นมา ตลอดว่ากิจการเหมืองแร่ทองคำ�ชาตรีนั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนโดยรอบเหมืองแร่ทองคำ�ชาตรีแต่อย่างใด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีส่วนช่วยสร้างให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจแก่ประเทศไทยทั้งใน ระดับท้องถิ่นและต่อประเทศไทยโดยรวม ขณะนี้ บริษทั ฯ ยังไม่ได้รบั เอกสารแจ้งเป็นลายลักษณ์อกั ษรใดๆ จากทางภาครัฐ ซึ่ง อย่างไรก็ตาม บริษทั ฯจะได้ท�ำ การหารือกับทีป่ รึกษาด้านกฎหมายเพือ่ พิจารณาช่องทางการ ดำ�เนินการต่างๆ ตามกฎหมายที่เราสามารถทำ�ได้ต่อไป? บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำ�กัด (มหาชน) ใคร่ขอใช้โอกาสนี้ เรียนย้ำ�กับสื่อมวลชนทุก ท่านอีกครั้งว่า บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย และข้อกำ�หนดทุกอย่างตามกฎหมายแห่ง ประเทศไทย ภายใต้การกำ�กับดูแลของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) อย่างเคร่งครัดเสมอมา” ทางด้าน นางอาภา หวังเกียรติ หัวหน้าหลักสูตรวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม วิทยาลัย วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์ถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ปิด เหมืองภายในสิ้นปี ๒๕๕๙ ว่า ประเด็นการพิจารณาน่าจะเป็นแค่กรณีของเหมืองทองของ บริษัท อัครา ไมนิ่ง รีสอร์สเซส เท่านั้น ไม่ได้แปลว่าจะปิดทั้งหมด แต่การพิจารณาของ ครม.ก็น่าสงสัยว่า การขยายเวลาให้เหมืองทองดำ�เนินการถึงสิ้นปีนั้น ให้เหมืองดำ�เนินการ ได้แค่ไหน จะมีการอนุญาตให้ทำ�ทั้งระเบิดภูเขา ถลุงแร่ และขนแร่เลยหรือเปล่า แต่ข้อเท็จ จริงคือเหมืองทองยอมรับว่ารายได้ระยะหลังไม่คุ้มค่า ดังนั้นมติ ครม.ครั้งนี้จึงไม่ได้ชัดเจน ว่าเหมืองจะไม่ส่งผลกระทบต่อไป ดังนั้น ถ้ารัฐบาลจริงใจต้องระงับร่าง พ.ร.บ.แร่ทันที จึง จะแสดงความมั่นใจให้ประชาชนได้ว่าประเทศไทยจะไม่มีเหมืองต่อไป “เรือ่ งทีน่ ายกฯ ให้สมั ภาษณ์วา่ จะเยียวยาประชาชน และจะเร่งรัดให้ฟน้ื ฟูสภาพแวดล้อม ทีไ่ ด้รบั ความเสียหายนัน้ คำ�ถามคือใครล่ะจะเป็นเจ้าภาพ แต่ทร่ี คู้ อื ภาระค่าใช้จา่ ยคงสูงมาก แค่บอ่ เก็บกากแร่อย่างเดียวก็แพงมาก ส่วนการรักษาดูแลสุขภาพประชาชนทีผ่ า่ นมาก็เรียกร้อง กันเสมอ แต่กลับดูแลได้ไม่ทว่ั ถึง แล้วครัง้ นีห้ ากรัฐบาลจะดูแลเยียวยาชาวบ้านทีเ่ จ็บป่วยจริง มันต้องหมายถึงร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วย” นางอาภากล่าว นายณัฐพล แก้วนวล ตัวแทนชาวบ้านที่ต่อต้านเหมืองทอง อำ�เภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์จากนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่ามั่นใจว่าจะฟื้นฟู เหมืองทองได้ และจะไม่มเี หมืองทองต่อไป ตนและเครือข่ายอยากให้รฐั บาลประกาศชัดเจน ว่าจะไม่มแี ผนสัมปทานอีกแล้ว และต้องประกาศพืน้ ทีค่ มุ้ ครองสิง่ แวดล้อม พืน้ ทีค่ วามมั่นคง ทางอาหาร เพื่อไม่ให้ธุรกิจที่ทำ�อุตสาหกรรมอันส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เกิดขึ้นในพื้นที่คุ้มครองดังกล่าวด้วย “ผมไม่เข้าใจความหมายของการขยายใบอนุญาต แต่ผมมองว่านี่เป็นเพียงบทยื้อ การทำ�งานของเหมืองเท่านั้น ส่วนตัวผมเชื่อว่ารัฐบาลจะเยียวยาคนป่วยไม่ได้ เพราะหาก รัฐบาลจริงใจที่ผ่านมาตั้ง ๑๕ ปี เขาถลุงทองไปตั้งเท่าไหร่แล้ว คนล้มป่วยตายตั้งเท่าไหร่ ไม่เห็นมีใครลงมาดู เพิ่งมาดูสองสามปีหลัง ผมอยากให้รัฐมีนโยบายที่ชัดเจนกว่านี้ คือสั่ง ปิดทันที ไม่ใช่สิ้นปี เพราะระยะเวลาที่เหลือหลายเดือน ผมไม่เชื่อว่าเขาจะหยุดระเบิดหิน ผมว่าเขาจะเร่งมือ เร่งรัดทำ�แร่เพิ่มเติมมากกว่า ทีนี้พิษก็จะหนักกว่าเดิม” นายณัฐพลกล่าว. ที่มา ไทยโพสต์ ๑๑ พ.ค. ๒๕๕๙ พระไม่รบั เงิน

(ต่อจากหน้า ๑๒)

ตามที่มีปรากฏในพระไตรปิฏก รับแล้วต้องสละออก จึงจะพ้นอาบัติ ยกเว้นโยมจะไป ทำ�บุญถวายวัดเป็นส่วนกลาง แต่ครั้งนี้โยมถวายเป็นส่วนตัว จะบอกว่าอาตมารับก็แล้วกัน แล้วฝากโยมนำ�เงินนี้ ทำ�บุญต่อ แนะนำ�เอาไปเลี้ยงพ่อแม่ เงิน ๕๐๐ บาทนี้ คือเงินจากพระ นอกบ้าน ฝากไปถึงพระในบ้าน” ทั้งนี้ภายหลังคลิปถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ผู้คนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วย ว่า ไม่ทราบมาก่อนเช่นกันว่าการนำ�เงินใส่บาตรเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งชื่นชอบหลัก ธรรมคำ�สัง่ สอนของพระภิกษุรปู ดังกล่าวกันอย่างล้นหลาม พร้อมกับให้ขอ้ มูลด้วยว่า “ท่าน จันทร์” หรือชื่อเต็ม “สมณะเพาะพุทธ ฉายา จนฺทเสฏฺโฐ” (อ่านต่อหน้า๘)


ฉบับที่ ๔๗๐ (๔๙๒)

เจริญธรรมสำ�นึกดี พบกับน.ส.พ.ข่าวอโศก ฉบับที๔่ ๗๐(๔๙๒) รวมปักษ​์พฤษภาคม ๒๕๕๙ v พ่อครู อะไรก็ดีไปหมด...Everything happens for the best. วันนี้ ๑๐ พ.ค. ๕๙ พ่อครูพาปัจฉาฯ ตรวจดูงาน นั่งรถผ่านโรงจุลินทรีย์ ที่แต่ เดิมว่าจะทำ�การขัดพื้นให้เรียบเหมือนหิน อ่อน แต่วา่ ช่างทีท่ �ำ คิดราคาแพงมากไป เรา เลยไม่ทำ� พ่อครูเลยบอกว่า จะไปจ้างเขา ทำ � ไมก็ ซื้ อ เครื่ อ งขั ด หิ น มาให้ เ ด็ ก ฝึ ก หั ด ขัดดูสิ ...ปัจฉาฯที่ไปบอกว่า เด็กใช้เดี๋ยว เครื่ อ งก็ พั ง ....พ่ อ ครู ว่ า ...พั ง ก็ ดี จ ะได้ ใ ห้ เด็ ก แผนกช่ า งซ่ อ มแซมได้ ฝึ ก หั ด ซ่ อ มแซม เครื่องมือ ...ปัจฉาฯบอกว่า..ช่างซ่อมก็ไม่มี เวลาสุดท้ายก็พังอีก....พ่อครูว่า....พังก็ดีให้ สขจ.ไป...แล้วซื้อใหม่อีก...จะได้ใช้เงินที่มีผู้ บริจาคได้ทำ�ประโยชน์ต่อไป....ปัจฉาฯอึ้ง เลย...หัวเราะบอกพ่อครูว่า...พ่อครูนี่อะไรก็ ดีไปหมดนะครับ...ฮา!!! จากนั้นพ่อครูจึงได้ไปเยี่ยมชมชุมชน ชาวเรือริมมูน ที่มีสมาชิกตอนนี้เป็นฝ่าย ชาย ๗ ท่าน แต่ละท่าน อายุเกิน ๖๐ ทั้ง นั้น นำ�ทีมโดยปู่เถาว์ (แก่งธรรม) สยรักษ์... จะขอมาอาศัยเรืออยู่ริมมูน ทำ�กสิกรรมริม มูนและเฝ้าพื้นที่ ช่วยปลุกชีพลำ�น้ำ�มูนอีก ด้วย... ใครจะมาเป็นชาวเรือริมมูนก็เชิญได้ นะ... มีเรืออีกมากมายหลายลำ� เพราะทีน่ ่ี บ้านราชฯเมืองเรือฮะ...จี๊ดๆๆ v เลือดใหม่ ช่วงอากาศร้อนแล้งอย่างนี้ จิ้งหรีด หลบลมร้อนมาขึ้นเหนือ ซึ่งก็ยังร้อนอยู่ดี แต่ก็คุ้มเพราะเห็นบรรยากาศดีๆหลายเรื่อง แวะมาทีล่ านนาอโศก เห็นน้องๆนักเรียนทีม ลูกเจี๊ยบ ในฐานงานสร้างตนสร้างคน มี การเรี ย นรู้ บู ร ณาการการศึ ก ษาเพื่ อ ตอบ โจทย์วิถีชีวิตและชุมชน เช่น การฝึกเพาะ ถั่วงอก ช่วยงานภายในครัว และกรอกกาก น้ำ�ตาลเพื่อส่งจำ�หน่ายที่ชมร.เชียงใหม่ ฯลฯ เป็ น การเรี ย นรู้ ที่ ยึ ด หลั ก คุ ณ ธรรมเพื่ อ บ่ ม เพาะจิตวิญญาณอันดีงามให้แก่เยาวชน มี สำ�นึกกตัญญูรู้คุณ และตั้งใจศึกษาความพอ เพียงอย่างมีส่วนร่วมกับชุมชนที่ตนอาศัย อยู่ อันเป็นคุณค่าทั้งต่อตน และสังคมอย่าง แท้จริง จิ้งหรีดอุ่นใจเพราะอนาคตของอโศก ก็ฝากไว้กับทายาทเหล่านี้ หากเขาได้ฝึกเอา ภาระชุมชนตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อโตขึ้นเขาก็น่า จะพร้อมที่จะรับไม้ต่อในการเป็นเลือดอโศก เพื่อมวลมนุษยชาติต่อไป ...จี๊ดๆๆ

ข่าวอโศก v ถือศีลดีกว่า ถือสา... ช่วงนีจ้ ง้ิ หรีดบินโฉบไปชุมชนไหน ก็มีแต่ ข่าวการจัดค่ายส่งเสริมให้มกี ารรักษาศีล เห็น แล้วต้องส่งเสียงอนุโมทนาบุญดังๆ อย่างที่ สันติอโศก ล่าสุดจัดค่ายอุโบสถศีลและค่าย ธรรมะชาวอโศกเนือ่ งในวันวิสาขบูชา มีการ จัดค่ายอุโบสถศีล ครั้งที่ ๑๓๔ ในวันศุกร์ที่ ๒๐ ถึง วันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๙ มีชื่อค่ายว่า “ศีล ๘ หรรษา บูชาวิสาขะ” ที่ ป ฐมอโศกก็ มี ก ารจั ด ค่ า ยโครงการ ชวนคนเข้าวัด ชีวิตดีทีละก้าว ครั้งที่ ๑๘ ใน วันศุกร์ที่ ๒๐ ถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๒ พ.ค. มีผู้ เข้าร่วมโครงการประมาณ ๑๐ คน ส่วนทีพ่ ทุ ธสถานสีมาอโศก ได้มกี ารจัด ค่ายอุโบสถศีลครัง้ ที่ ๖ ประจำ�เดือนพ.ค. ใน วันที่ ๖-๘ พ.ค. ในครั้งนี้มีญาติธรรมทั้งใกล้ และไกลมาฝึกปฏิบตั ติ นถือศีล๘กันอย่างอบอุน่ ที่บ้านราชฯ ก็จัดโครงการปฏิบัติธรรม ค่ายสัมมาอาริยมรรค ครั้งที่ ๑๐ เพื่อชีวิต ที่ดีกว่า ในวันศุกร์ที่ ๗ ถึงวันอาทิตย์ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วม ค่ายทั้งหมด ๖๖ คน ปิ ด ท้ า ยด้ ว ยอาวาสสถานทะเลธรรม จัดค่ายอุโบสถครั้งที่ ๑๕ ในวันที่ ๑๙-๒๑ พ.ค. ร่วมฟังธรรม เสวนาธรรม เดินธรรม ยาตรา ใส่บาตร บำ�เพ็ญประโยชน์ จิง้ หรีดว่า ถ้าคนในสังคมล้วนมีศลี มาก ขึน้ สังคมจะผาสุก รวมถึงโลกก็จะสงบสุขลง ด้วย ไม่ต้องมีองค์กรเพือ่ สันติภาพ ถ้าทุกคนมี ศีล...จีด๊ ๆๆ v ร่วมใจเกี่ยวข้าว นาคำ�ยอด จิ้งหรีดโฉบมาบ้านราชฯ ช่วงต้นเดือน พ.ค. เห็นภาพประทับใจ อยากจะเล่าสู่กัน ฟังว่าชาวบ้านราชฯ หลายฐานะทั้งนักบวช คนวัด นิสิตมหาวิชชารามนาวาบุญนิยม (วนบ.) ชาวชุมชนและนักเรียนนักศึกษาร่วมใจ โฮมแฮงช่วยกันเกี่ยวข้าวนาปลังสิบกว่าไร่ ภายใน ๗ วันเสร็จ คุณร้อยหล้า ประวาฬ ผู้รับใช้นา เปิดใจถึงความรู้สึกว่า “ทีมงาน นาเริ่มหว่านกล้าช่วงเดือนมกราคมครับและ ดำ�ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงดำ�นาส่วนใหญ่ จะเป็นมืออาชีพทำ�นาเป็นหลัก แม่ผมมาจาก บ้านมาช่วยดำ�นาอยู่วัดนานเป็นเดือน ทำ� นาปลังยากกว่านาปีหลายเท่า ดินถมใหม่ และช่วงดำ�นาก็อากาศหนาวเย็น ดำ�นามือ ชาเลยทีเดียว ตอนเกี่ยวก็แดดร้อนเปรี้ยงๆ ลำ�บากมากกว่าจะได้เมล็ดข้าว ช่วงทีเ่ ราเกี่ยว ข้าวฝนตกใส่ข้าวอยู่หนึ่งวัน เราก็เอาข้าวมา ตากที่ถนนก่อนจะเก็บ ตอนเกี่ยวข้าวถึงคน ทำ�ไม่เป็นมาช่วย แม้เกิดปัญหานิดๆหน่อยๆ เราก็ตามเก็บได้ คนทำ�ไม่เป็นมาช่วยดีกว่า ทำ�เป็นแต่ไม่มาช่วย คิดอย่างนีก้ ส็ บายใจครับ ตอนสีข้าวผมหาที่ร่มๆ สำ�หรับสีข้าวเพราะ แดดร้อนมาก แต่มีมติว่าจะสีข้าวใกล้แปลง ผักเพื่อจะไม่ต้องขนฟางอีก เลยต้องสีข้าว กลางแดด ดีที่มีสมณะมือมั่นนำ� ถ้าเป็น ผมคงไม่มีใครมาช่วยเพราะแดดร้อนมากๆ เป็ น บารมี ข องท่ า นสมณะที่ นำ � ทำ � นาปลั ง ยากแต่ก็ต้องทำ�เพราะเรากินข้าว ไปซื้อข้าว

กินมันไม่คมุ้ มันเสีย่ งกับยาฆ่าหญ้า สารเคมี” ส่วนสมณะมือมั่น ปูรณกโร เป็น สมณะอยู่ทีมการศึกษา เล่าให้จิ้งหรีดฟังว่า “อาตมาประทับใจวันศุกร์ที่ ๖ ที่ผู้ใหญ่และ เด็กนักเรียน-นักศึกษาทำ�กิจกรรมเกี่ยวข้าว ร่วมกัน ปกติวันจันทร์จะเป็นวันที่ผู้ใหญ่โฮม แฮง และวันศุกร์ก็จะมีแต่เด็กโฮมแฮง แต่วัน นี้เป็นวันที่อบอุ่นผู้ใหญ่ไปช่วยประมาณ ๕๐ คน เด็กก็มีประมาณ ๗๐-๘๐ คน พวกเรา ไปช่วยกันหมดทั้งนักบวชและญาติโยม และ ในวันที่ ๙ เป็นวันสีข้าว วันนั้นแดดร้อนมาก ถ้าเราไปสีข้าวในที่ร่ม งานก็จะไม่จบ เพราะ ต้องเสียเวลาขนฟางเข้าแปลงผักอีก เลยสี ข้าวใกล้ๆ แปลงผัก ซึ่งไม่มีร่มเลย พวกเรา ทำ�ตั้งแต่เจ็ดโมงกว่าๆ บ่ายโมงก็เสร็จแล้ว ช่วยกันเก็บงาน ทำ� ๕ส. ได้เห็นน้ำ�ใจที่ช่วย กันทำ�งาน บางคนก็กนิ ข้าวรองท้องก่อนไปทำ� บางคนทำ�งานเสร็จหมดแล้วค่อยไปกินข้าว” จิ้งหรีดก็ซาบซึ้งใจ ที่ข้าวไร้สารพิษของ พวกเราล้ ว นมี เ บื้ อ งหลั ง จากการเสี ย สละ แรงกาย แรงใจผลิตสิ่งดีมา เพราะฉะนั้นกิน ข้าวเคีย้ วทุกคำ� เราจดจำ�กินอย่างมีเป้าหมาย เพื่อการลดกิเลสฮะ...จี๊ดๆๆ v สร้างคน สร้างคุณธรรม ระหว่างวันที่ ๙-๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ บ้านราชฯจัดค่ายคุณธรรมให้แก่นักศึกษา ม.ราชภัฏมหาสารคาม คณะอาจารย์และ นักศึกษาคณะครุศาสตร์ สาขาการศึกษา ปฐมวัย ม.ราชภัฏมหาสารคาม เดินทาง มาเข้าค่ายคุณธรรมจริยธรรม ในโครงการ พัฒนาอาจารย์ในสาขา และโครงการอบรม คุณธรรมจริยธรรมนักศึกษา มีคณาจารย์ จำ�นวน ๕ คน นักศึกษาจำ�นวน ๓๖ คน ใช้ ชีวติ ปฏิบตั ธิ รรม สัมมาอาริยมรรค ตามวิถชี ีวิต เศรษฐกิจพอเพียงทีห่ มูบ่ า้ นชุมชนราชธานีอโศก จิ้ ง หรี ด ก็ ไ ปไถ่ ถ ามถึ ง ความรู้ สึ ก ของ ผู้ร่วมกิจกรรม น.ส.รัฐธิดา ไชยทองศรี นศ.เอกการศึกษาปฐมวัย ปี๑ “ก่อนมาก็ คิดว่าจะถือศีล๘ มานั่งสมาธิ ทำ�วัตรเช้าเย็น กินอาหารวันละมื้อ พอมาถึงก็แปลก ใจว่าทำ�ไมวัดเป็นอย่างนี้ ก็ถามแม่ที่มา ต้อนรับค่ะ ว่าเอาเงินมาจากไหน ไม่น่า เชื่อว่าหมู่บ้านคนจนมีการสร้างอะไรเยอะ แยะ มีโรงงานหลายโรง ก็ได้รบั คำ�ตอบว่าเป็น ระบบสาธารณโภคี เป็นเงินส่วนกลางที่ช่วย กันทำ�งาน คนที่นี่ทำ�งานฟรีเสียสละ มีน้ำ�ใจ พูดเพราะ มีความโอบอ้อมอารี หนูคิดว่า คนที่นี่มีความสุขเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดี ต่อกัน พอฝึกจากราชธานีอโศกแล้ว หนูจะ กินมังสวิรตั ใิ นวันเกิดค่ะ กลับบ้านก็จะลดละ การกินเนื้อสัตว์ และจะเสียสละทำ�งานส่วน รวมให้มาก จะลดความฟุ่มเฟือย” น.ส.ณัฐริกา ผ่องแผ้ว นศ.เอกการ ศึกษาปฐมวัย ปี๑ “รู้สึกได้เรียนรู้และรับ ประสบการณ์ที่ดีในชุมชนราชธานีอโศก มี ความประทับใจในการดำ�เนินชีวิตของคนใน ชุมชนที่เป็นผู้ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน” และอาจารย์สุชาดา หวังสิทธิเดช คณะครุศาสตร์ ม.ราชภัฏมหาสารคาม

11

“เป็นผู้รับผิดชอบโครงการค่ะ แต่ก่อนจะ พานักศึกษาไปปฏิบัตินั่งสมาธิ เดินจงกรม ที่วัดป่า ได้ฝึกคุณธรรมจริยธรรมใช้ในชีวิต ประจำ�วันได้จริงๆ ทุกที่ทุกฐานฝึกให้มีสติ ก็หวังว่าการอบรมครั้งนี้นักศึกษาจะมีความ รัก ความเมตตา ต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ ส่วนตัวก็จะนำ�ธรรมไปใช้ในชีวิตประจำ�วัน ขอปฏิบตั ติ นเป็นแบบอย่างทีด่ ี ก็หวังว่าจะ เติ ม เต็ ม ชี วิ ต ของตนเองก่ อ นที่ จ ะไปเติ ม เต็มชีวิตผู้อื่นค่ะ ก็จะนำ�เสนอทางคณะเพื่อ จะพานักศึกษาทั้ง ๔ ชั้นปี มารับน้องที่นี่ เป็นการรับน้องในแนวคุณธรรมจริยธรรมค่ะ” จิ้งหรีดว่านี่แหละคือการปฏิบัติธรรม แบบลืมตา ในชีวติ ประจำ�วันหละฮะ...จีด๊ ๆๆ v ป.เอก ดูงาน ป.๔ จิ้งหรีดแวะไปแถวปฐมอโศก ก็เห็นสิ่ง มหัศจรรย์เกิดขึ้นในวันที่ ๙ พ.ค. น.ศ.ป.เอก จากม.ศิลปากร มานำ�เสนอผลงานวิจยั ชุมชน ดูงาน นำ�โดย รศ.ดร. ศิริณา จิตจรัส และ ดร.นิรุธ วัฒโนภาส ได้นำ�น.ศ.ป.เอกสาขา การศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนามนุษย์ คณะศึกษาศาสตร์ ม.ศิลปากร จำ�นวน ๔ คน มานำ�เสนอผลงานวิจัยเกี่ยวกับชุมชน ปฐมอโศก ซึ่งนศ.ทั้ง ๔ ท่านนี้ได้มาศึกษา ในแง่มุมต่างๆของปฐมอโศก เช่น เรื่อง ชุมชนปฐมอโศกเป็นแหล่งเรียนรู้กสิกรรม ไร้สารพิษ เรื่องบทบาทของสมณะในการ ถ่ายทอดเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนปฐม อโศก รศ.ดร.ศิรณ ิ า บอกว่าทีเ่ ลือกมาวิจยั ที่ ปฐมอโศกก็เพราะมีสมณะและชาวชุมชน ที่ปฏิบัติถือศีลอย่างจริงจัง พร้อมทั้งมีองค์ ประกอบทีเ่ ป็นยุทธศาสตร์หลัก ทีจ่ ะเป็นปัจจัย ในการศึกษาของนักศึกษาครบพร้อม การมา นำ�เสนอผลงานวิจัยครั้งนี้ เพื่อให้สมณะและ ชาวชุมชนได้ช่วยกันวิเคราะห์แลกเปลี่ยน เรียนรู้ว่ามีข้อบกพร่องในเรื่องใดบ้าง จิ้ ง หรี ด เห็ น แล้ ว ว่ า โลกใบนี้ ไ ม่ ไ ด้ ข าด ความรู้ แต่สิ่งที่ขาดคือคนทำ�จริง เสียสละ จริงให้เห็นๆ สัมผัสได้มีจริงๆแล้วที่นี่ ที่หมู่ กลุ่มชาวอโศกนี่หละฮะ...จี๊ดๆๆ v จิ้งหรีดขอแก้คำ�ผิด... จิง้ หรีดขอให้ทา่ นช่วยแก้ไขคำ�ผิดในฉบับที่ แล้ว หน้า๑๒ จากคำ�ว่า สท้าน สเทือน แก้เป็น สะท้าน สะเทือน ขออภัยและขอขอบคุณ ล่วงหน้า สำ�หรับท่านใดที่เห็นคำ�ผิดกรุณา แจ้งมาทีห่ มายเลข ๐๘๘-๒๖๘๔๑๔๗...จี๊ดๆๆ

v มรณัสสติ คุณแม่วารี พิบลู ย์วรกุล (แม่ของ คุณนิดดา หงษ์วิวัฒน์) เสียชีวิตด้วยโรค ชรา วันที่ ๑๑ พ.ค. สิรอิ ายุ ๘๗ ปี ฌาปนกิจ เมื่อวันที่ ๑๒ พ.ค. ณ เมรุชุมชนปฐมอโศก คุณแม่อุบล เกษะโกมล (คุณแม่อา เพียรตรงหรืออาตุ้ย ชมร.หน้าสันติอโศก) เสียชีวติ ด้วยโรคชราด้วยวัย ๙๔ ปี วันที่ ๒๘ พ.ค. ๕๙ ฌาปนกิจวันที่ ๒ มิ.ย.๕๙ ณ วัดธาตุทองฯ


12

รวมปักษ์ พฤษภาคม ๒๕๕๙

สมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิด ’ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงฯ’บุรีรัมย์

คุณอุทัย สุทธิประภา, คุณมะลิ หมายยอดกลาง และคุณแห่งไท กมลรัตน์ ญาติธรรมชาวอโศกผู้ทำ�เกษตรอินทรีย์ เข้ารับพระราชทานเข็มที่ อ่านต่อหน้า ๘ ระลึก เพื่อเป็นกำ�ลังใจในการทำ�เกษตรอินทรีย์ต่อไป

เลิกเหมืองแร่ทองคำ� ฉบับที่ ๔๗๐ (๔๙๒) รวมปักษ์ พฤษภาคม ๒๕๕๙

พระไม่รับเงิน

ครม.เฉียบขาด ห้ามทำ�ทั่วไทย ฟื้นสภาพแวดล้อม(อ่านต่อหน้า ๑๐)

“บิ๊กตู่”แนะผู้ปกครองใช้หลัก ศก.พอเพียง

ปลูกสอนลูกหลานให้อดออม

เมือ่ วันที่ ๒๔ พ.ค. บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผูใ้ ช้เฟซบุก๊ “Poochit Praisrisuk” เผยแพร่คลิปความยาว ๒.๑๒ น. ระบุข้อความว่า “พระ อาจารย์ไม่รับเงิน แต่ยังสอนกลับด้วย” ปรากฏภาพพระภิกษุรูปหนึ่ง มีหญิง ๒ คน คาดว่าเป็นแม่ลูกกัน นำ�ธนบัตร ๕๐๐ บาท มาทำ�บุญใส่ บาตร โดยมีเสียงพระภิกษุด้วยว่า “จริงๆเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่า พระภิกษุจะรับเงินเอาไปเป็นของตน ถือเป็นอาบัตินิสสัคคียปาจิตตีย์ (อ่านต่อหน้า ๑๐)

๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๙ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำ�เนิด โฆษกประจำ�สำ�นักนายก รัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีแนะผูป้ กครองทีม่ ภี าระค่าใช้จา่ ยในช่วงเปิดเทอม นำ�หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ ความมีเหตุผล พอประมาณ และมีภูมิคุ้มกัน ภายใต้ความรู้และคุณธรรม มาเป็นหลักในการดำ�เนินชีวิต รวมถึงปลูกฝังบุตรหลาน ให้รจู้ กั อดออม เพือ่ เป็นต้นทุนในอนาคตทีม่ น่ั คง พร้อมย้�ำ ว่ารัฐบาลให้ความสำ�คัญกับ การช่วยเหลือผูม้ รี ายได้นอ้ ย จึงได้สง่ั การให้ส�ำ นักงานธนานุเคราะห์เตรียมเงินหมุนเวียน กว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาท รองรับความต้องการของประชาชน. (จาก www.manager.co.th)


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.