ธรรมะพ่ อท่าน(๔๙๓) : รางวัลอาริยะ น.๔ ฉบับที่ ๔๗๑
1 สดจากปัจฉาสมณะ : ความมหัศจรรย์ของตลาดอาริ ข่าวอโศกยะ น.๙
ฉบับที่ ๔๗๑ (๔๙๓) รวมปักษ์ มิถนุ ายน ๒๕๕๙
อโศกรำ�ลึก’๕๙
๔๕ ปี สีหนาท
เพชรพุทธสุดยอดศิลป์
อ่านต่อหน้า
๖-๗
อ่านต่อหน้า ๖-๗
กิจกรรมไหว้ครูของสถาบันการศึกษาบุญนิยมของชาวอโศกทุกแห่ง
ทีมจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม จัดค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ ๑๕
ชาวชุมชนอโศกทัว่ ประเทศได้รวมพลังกันย้ายค่าย โทรศัพท์มือถือเป็นแคท
งานคืนสู่เหย้า นศ.ปธ. ครั้งที่ ๑๓
2
รวมปักษ์ มิถุนายน ๒๕๕๙
“การสร้างค่านิยมที่ดี ให้เด็กอโศก” งานอโศกรำ � ลึ ก ครั้ ง ที่ ๓ ๕ ซึ่ ง จัด ตั้ ง แต่ วั น ที่ ๕ - ๑๐ มิ.ย.๒๕๕๙ ได้จ บลงอี กปี ห นึ่ งของสันติอ โศก หลังจากว่างเว้นจากการจัดงานนี้ มาถึง ๗ ปี งานนี้ มี ก ารประกวดการทำ � อาหารเพือ่ สุขภาพของชาวมังสวิรตั ิ การแข่งขันตอบปัญหาชือ่ เกมส์ อโศกพันธุ์แท้ มี ก ารแสดงของชุ ม ชนต่ า งๆ และการประกวดแบบ ASOKE GOD TALENT ซึง่ เป็นการแสดงออกแบบ ศิลปะโลกุตรธรรม จากการประกวดครั้งนี้ในเรื่อง อาหารผู้ที่ได้รางวัลชนะเลิศ ตั้งแต่ อันดับ๑-๓ จะเน้นวัตถุดิบไร้สาร พิษ โดยเฉพาะผู้ชนะเลิศรางวัลที่๑ ของการประกวดอาหารมังสวิรตั ิ จะ ใช้วัตถุดิบทำ�อาหารที่ปลูกเอง เก็บ เอง ทำ�เองแบบไร้สารพิษ ส่วนการแสดงบนเวทีที่จัดเป็น ปีแรกคือ ASOKE GOD TALENT จะ เห็นการแสดงของแต่ละคนจะเน้น ไปในทางศิลปะโลกุตระ รายการ นี้น่าจะช่วยให้เด็กอโศกรุ่นหลังมี ค่ า นิ ย มไปในทางศิ ล ปะโลกุ ต ระ มากขึ้ น ที่ ค วรส่ ง เสริ ม สนั บ สนุ น อย่ า งให้ ค วามเข้ า ใจแก่ เ ยาวชน ให้ รู้ คุ ณ ค่ า ถึ ง การแสดงที่ สื่ อ ออก ไป เพื่ อ เน้ น ยำ � สาระสั จ จะ โดย เฉพาะเพลงธรรมะที่พ่อครู สมณะ โพธิรั ก ษ์ ไ ด้ แ ต่ ง ไว้ เพื่ อ เป็ น แบบ อย่ า งว่ า เพลงก็ ส ามารถสื่ อ สาระ สัจจะแบบโลกุตระได้ ก็ขึ้นอยู่กับ ผู้แต่งเพลงว่าจะแต่งแบบสร้างสรร หรือมอมเมาประชาชน จะเห็ น ได้ ว่ า การจั ด งานของ ชาวอโศกตามงานต่ า งๆก็ จ ะเป็ น แนวทาง เป็ น แบบอย่ า งที่ จ ะให้ ชุมชนบุญนิยมแต่ละแห่งได้นำ�ไป ใช้เป็นแนวทางสร้างสรร โดยเฉพาะ เยาวชนอโศกในแต่ละแห่ง แต่ละที่ เพื่อมิ ให้ เยาวชนของเราหลงใหล ไปกั บ ค่ า นิ ย มที่ ผิ ด ๆในสั ง คมยุ ค บริโภคนิยมในปัจจุบัน.
อาหารต้านหวัด...หน้าฝน เรื่อง กิ่งธรรม ภาพ www.wongnai.com
ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลง เข้าสู่หน้าฝนแล้วสภาพอากาศที่อับชื้นและเย็นลงเหมาะแก่การ เจริญเติบโตของเชื้อโรคโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่วัยทำ�งาน หรือผู้สูงอายุ ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ภูมิ ต้านทานในช่วงนี้ไม่แข็งแรงแล้วล่ะก็ เชื้อโรคจะเข้าประชิดตัวและทำ�ร้ายคุณได้ทันที ทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย แพร่ขยายและก่อโรคได้อย่างรวดเร็วดังนั้น หน้าฝนนี้ควรดูแลสุขภาพตนเองอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ร่างกาย สามารถปรับสภาพและมีภูมิต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศได้ จึงมีคำ�แนะนำ�เบื้องต้นเรื่องอาหารต้าน โรคหวัด...หน้าฝนมาฝากกันค่ะ จะกินอะไรดีหนอ.... ๑. อาหารรสเผ็ดทุกชนิด
เช่น ต้มยำ� แกงส้ม ผัดกะเพรา ยำ�รสแซบ เป็นต้น เนื่องจากที่มี พริกประเภทต่างๆ รวมทัง้ อาหาร ที่ มี พ ริ ก ไทยเป็ น ส่ ว นประกอบ จะช่ ว ยทำ � ให้ ห ายใจโล่ ง หายคั ด จมู ก นอกจาก นั้ น อาหารประเภท แกงเผ็ ด ยั ง ประกอบ ไปด้วนสมุนไพรไทย มากมายที่ช่วยเสริม ภูมิต้านทาน เช่น ใบ มะกรู ด ใบกะเพรา ใบโหระพา หั ว หอม ข่า ตะไคร้ เป็นต้น แต่ก็ อย่าให้เผ็ดหรือแซบจนเกิน ไปนะคะกระเพาะอาหารจะทน ไม่ไหวเอา เดี๋ยวจะเปลี่ยนจากหวัด มาเป็นโรคกระเพาะอาหาร ไม่คุ้มค่ะ
๒. น้ำ�ขิง
ขิงนอกจากจะช่วยลดอาการท้องอืดเฟ้อและช่วยย่อย อาหารแล้ว น้ำ�ขิงร้อนๆ ยังมีฤทธิ์ช่วยขับเหงื่อ แก้หวัด เย็น หรืออาการรู้สึกหนาวไข้ต่ำ�ๆ เมื่อเริ่มมี ฝนตกอากาศชืน้ และเกิดอาการเซือ่ งซึม เฉื่อยชา เริ่มเป็นหวัด รีบดื่มน้ำ�ขิงก็ จะช่วยลดอาการได้อย่างดี
๓. ชาร้อน
ชาร้ อ นทุ ก ชนิ ด มี ส ารโพลิ ฟีนนอล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ ช่ ว ยลดอาการติ ด เชื้ อ ทำ � ให้ เ ยื่ อ บุ โพรงจมูกชุ่มชื้น หายใจสะดวก ควรชง ชาในน้ำ�ร้อนตั้งทิ้งไว้ราว ๑ นาที จะดึง คุณสมบัติแก้หวัดได้ดีที่สุด
๔. น้ำ�ผักผลไม้
ผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น แครอท แคนตาลูป ผักใบเขียวจัด ส้ม ฝรั่ง องุ่น มะละกอสุก มีสารต่อต้าน อนุมูลอิสระ เช่น เบตาแคโรทีน (วิตามินเอ) วิตามินซี วิตามินอี ซึ่งช่วยกำ�จัดเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อ ควรเป็นผัก ผลไม้ไร้สารพิษจะดีที่สุด
๕. กระเทียม
กระเที ย มจะช่ ว ยป้ อ งกั น และรั ก ษาไข้ ห วั ด ได้ อ ย่ า งดี นั ก วิจัยชาวจีน ดร.เบนจามิน เลา แห่งมหาวิทยาลัยโลมาลินดาใน แคลิฟอร์เนีย ได้ศึกษายารักษาโรคตามแบบแพทย์ตะวันออกมา นาน ได้ทำ�การศึกษาแล้วพบว่า “กระเทียม” มีกำ�มะถันเป็นองค์ ประกอบ ซึง่ ออกฤทธิฆ์ า่ เชือ้ แบคทีเรียและไวรัสหวัดได้โดยตรง และ ยังช่วยกระตุ้นการทำ�งานของเซลล์เม็ดเลือดขาวได้
๖. โยเกิร์ต
โยเกิ ร์ ต ช่ ว ยเพิ่ ม การทำ � งานของเซลล์ เ ม็ ด เลือดขาว และช่วยเพิม่ การสร้างสารแอนติบอดี้ บางชนิดได้ การศึกษากับอาสาสมัครทั้งคน หนุ่มและคนสูงอายุ พบว่าการรับ ประทานโยเกิร์ตทุกวันเป็นเวลา ๑ ปี ช่วยลดอาการจากหวัดและภูมแิ พ้ ผูป้ ว่ ยหายเร็วขึน้ และร้อยละ ๒๕ เป็นหวัดน้อยลง เมื่อเทียบกับ กลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน
นอกจากนี้ ยั ง ต้ อ งปฏิ บั ติ ตั ว ให้ ถูกต้องดังนีค้ ะ่ รักษาร่างกายให้อบอุน่ อยูเ่ สมอ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่และดื่มน้ำ� สะอาด ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือคลุกคลีกับผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ช่วงที่รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอ ออกกำ�ลังกายเป็นประจำ� และระวัง อย่าให้ถูกยุงกัด หน้าฝนนี้หวังว่าทุกท่านคงดูแลสุขภาพให้แข็งแรงๆนะคะ.
ฉบับที่ ๔๗๑ (๔๙๓)
การปลูกพืชให้ดแู ลรักษาง่ายทีส่ ดุ ก็ตอ้ งพิจารณา พืชในท้องถิ่นก่อน ว่ามีพืชที่เคยขึ้นงอกงามเองใน ท้องถิน่ นัน้ มีพชื ชนิดไหนบ้าง แล้วเราจะเอาประโยชน์ จากพืชชนิดนั้นในแง่ใด เป็นอาหารเป็นยา เป็นไม้ ก่อสร้าง หรือถักทอเป็นเครือ่ งนุง่ ห่มคือเอาปัจจัย๔ ที่ จำ�เป็นในการดำ�รงชีวิตนั่นแหละเป็นหลัก พืชอาหาร ต้องปลูกก่อนเพราะจำ�เป็นที่สุด ผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม มักจะเล่าให้ลูกหลานฟังว่า เมื่อกลับมาปลูกอยู่ปลูกกิน แทนการปลูกขายที่ทำ�ให้ เป็นหนี้สินมากมายนั้น เริ่มต้นจากการปลูกผักบุ้งจีน ก่อน ๒๐ วันก็ได้กิน เหลือกินได้ขายเป็นรายได้ที่ได้จริง พืชที่เป็นเถาจะเติบโตเร็วแข็งแรง ผักบุ้งไทยกดจม น้ำ� ๒-๓ วันก็ได้ยอดอ่อนๆกินแล้ว เถาตำ�ลึงตัดมาชำ� ไม่ถึง ๓ เดือน ก็แตกยอดแตกใบเก็บกินได้ ปลูกครั้ง เดียวมีอายุยืนยาวให้เก็บกินได้นับ ๑๐ ปี แม้แห้งแล้ง ไม่มีน้ำ�หลายเดือนก็ไม่ตายง่ายๆเพราะสามารถเก็บน้ำ� ไว้ในเถาได้มาก ถ้าเป็นเถาตำ�ลึงพันธุ์ของพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ปลูก ครัง้ เดียวได้กนิ ใบตำ�ลึง ได้กนิ แตงกวา (ลูกอ่อนของตำ�ลึง) และได้กินมะเขือเทศ (ลูกตำ�ลึงสุก) สามอย่างเลย เลือกปลูกผักทีป่ ลูกง่าย โตเร็ว ทนแล้ง มีอายุยนื ยาว ไม่มีโรคแมลงรบกวนมาก เช่น ไชยา ผักปลัง ผักก้านตง มะยม มะกอกป่า ผักเชียงดา ผักคาวตอง ข่า ตะไคร้ ใบ มะกรูด มันปู มะม่วงหิมพานต์ ฯลฯ ไม้ผลในท้องถิ่น เช่น มะม่วง ขนุน ตะขบ หม่อน มะขวิด น้อยหน่า ไข่เน่า โทงเทง กล้วย หมากเม่า มะละกอ มะขามเทศ ฯลฯ ผักไม้ผลบางชนิดที่กล่าวมาอาจไม่อร่อยถูกใจเรา ก็ต้องไปศึกษาคุณค่าที่จะได้กับร่างกายเรา เช่น ตะขบ มี คุ ณ ค่ า ต่ อ น้ำ � หนั ก เท่ า ๆกั น มี ป ระโยชน์ ต่ อ ร่ า งกาย มากกว่าไม้ผลชนิดอื่นๆ ข้ อ ดี คื อ มี ผ ลตลอดปี ด กมาก จากงานวิ จั ย ยอด มะม่วงหิมพานต์มีสารที่เป็นประโยชน์ต่อสมองมากกว่า บลูเบอร์รี่ผลไม้ของฝรั่งเสียอีก ผักเชียงดาลดน้ำ�ตาลใน เลือดได้ จนญี่ปุ่นสนใจนำ�ไปศึกษาสกัดเป็นยา จำ�หน่าย
ข่าวอโศก
จดทะเบียนลิขสิทธิ์ไปแล้ว อย่างนี้เป็นต้น ทำ � ความเข้ า ใจอี ก ว่ า รสอร่ อยไม่ มี ในโลก รสเปรี้ ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด ทุกชาติภาษารับได้ เข้าใจตรงกัน แต่ความ อร่อยขึน้ อยูก่ บั อุปาทาน ความคุน้ ชิน การถูกโฆษณากระตุน้ ฝรั่ง-ญี่ปุ่นไม่ชอบกลิ่นทุเรียนเลย แต่คนไทยบอกหอม อร่อย หากใครเคยดูคลิปสาวๆญี่ปุ่นกินทุเรียน แค่ได้กลิ่น ก็ทำ�ท่าจะอ้วกแล้ว บีบจมูกกิน พอเข้าปากบางคนก็อ้วก ออกมา ในญี่ปุ่นจึงมีกฎหมายห้ามพกพาหรือกินทุเรียนใน ที่สาธารณะเพราะเป็นการรบกวน ทำ�ให้คนอื่นทุกข์ทรมาน ผมรูจ้ กั ฝรัง่ คนหนึง่ ตอนมาจากอเมริกาใหม่ๆ กินทุเรียน ไม่ได้ เหม็น แต่เห็นคนไทยกินด้วยความเอร็ดอร่อย บ่อยๆ เข้าก็เริม่ ลองชิม ผ่านไปหลายปีกลายเป็นคนชอบทุเรียนและ กินทีละหลายลูก อะไรไม่ อ ร่ อ ยฝึ ก กิ น ได้ ค รั บ ผมเคยไม่ ช อบกิ น ผั ก คาวตองเพราะเหม็นคาว ฝึกกินไปไม่นานสร้างอุปาทาน ใหม่ว่าคาวผักไม่ใช่คาวปลา มีรสเปรี้ยวนิดๆ ต่อมาก็ชอบ กินเพราะรู้ว่ามีคุณค่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย บรรษัทข้ามชาติขายอาหารเป็นทีน่ ยิ มไปทัว่ โลก เขาจ้าง นักวิจยั ศึกษาก็รวู้ า่ การโฆษณา การทำ�ให้เกิดความเคยชินใน การกินสามารถทำ�ให้คนติดรสได้ เพิ่มยอดขายได้ เขาก็เลย ทุ่มโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งที่อาหารของเขาให้โทษต่อคน กินด้วยซ้ำ� แต่ก็ขายได้ ขายดีด้วย พืชผักและไม้ผลพื้นบ้านของไทย ส่วนใหญ่มีสรรพคุณ ทางยาด้วย เช่น สะเดาลดไข้ แก้เบาหวาน เจริญอาหาร ลูก หม่อนบำ�รุงไต กะเพราขับลมแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ กล้วย ช่วยในการขับถ่าย แก้โรคกระเพาะ มีสารเซโรโทนิน ทำ�ให้ หายจากซึมเศร้า ฯลฯ บางชนิดก็ปลูกไว้เพือ่ เป็นยารักษาโรค โดยตรง เช่น ฟ้าทะลายโจรแก้ไข้ เพชรสังฆาตรักษาริดสีดวง ทวาร บางชนิดก็ขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ลูกใต้ใบ ตาก แห้ง ชงเป็นชากินบำ�รุงตับ ต้องรู้จักคุณค่ารักษาไว้ไม่ถอน ถากถางทิ้งเสียหมด พืชที่เป็นไม้ก่อสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ผู้ใหญ่วิบูลย์ เคยแนะนำ�กระท้อนเพาะเมล็ด เพราะโตเร็ว ช่วงที่ยังไม่ตัด มาใช้งานก็มีลูกกินได้ ขายได้ แปรรูปเป็นกระท้อนดอง บาง ท้องถิน่ ทุเรียนพืน้ บ้าน เนือ้ ไม้กน็ �ำ มาทำ�ตู้ โต๊ะได้ดี ไม้ทตี่ อ้ ง
3
ใช้เวลาปลูกนาน กว่าจะใช้งานได้ เช่น ตะเคียน ไม้ยางนา เนื้อไม้ก็มีราคาสูง ยางตะเคียนก็นำ�มาทำ�ยารักษาแผล น้�ำ มันยางก็ขายได้ ไม้ทงั้ สองชนิดนีเ้ มือ่ มีใบกิง่ แห้งร่วงลง มาก็ทำ�ให้เกิดเห็ดระโงกในช่วงฤดูฝน เก็บกินเก็บขายได้ พืชบางอย่างเป็นไม้บังลมได้ดี กันลมพายุรุนแรงใน บางฤดู เช่น ไผ่ปลูกล้อมบ้านกันลมพายุ มีหน่อให้กิน เจาะเอาน้�ำ จากต้นไผ่มากินบำ�รุงสุขภาพ เวลาอากาศร้อน รดน้ำ�ไผ่บริเวณบ้าน ไผ่จะคายน้ำ�ออกทางใบทำ�ให้ชื้น เย็น ลดความร้อนในบริเวณบ้านเราได้ ลำ�ไผ่ใช้ทำ�เครื่อง จักสาน สร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยได้ ปลูกฝ้าย ปลูกกัญชง ไว้ทอผ้า ปลูกคราม ปลูกฮ่อม ไว้ย้อมผ้า พืชที่สามารถนำ�มาถักทออย่างอื่น เช่น ผัก ตบชวา กก กล้วย พืชบางชนิดเรานำ�มาทำ�กระดาษได้ เช่น ปอสา นำ�มาทำ�กระดาษสา บางชนิดนำ�มาทำ�สีผสม อาหาร เช่น อัญชัน ขมิ้น คำ�แสด ขนุน ฝาง กรรณิการ์ ดอกคำ�ฝอย ลูกพุด ใบเตยหอม พืชบางชนิดสามารถขึ้นได้งอกงามดีในน้ำ� ถ้าพื้นที่ ของเรามีลำ�คลอง มีหนองบึงหรือขุดบ่อน้ำ�ไว้ใช้ ปลูกพืช น้ำ�ไว้เป็นอาหารใช้สอยได้ ไม่เปลืองแรงงาน พลังงานใน การรดน้ำ� เช่น ปลูกผักบุ้ง ผักกระเฉด บอน ผักพาย บัว หลวงเป็นอาหาร กก แหย่ง (คลุม้ หรือเคล้า) ปลูกไว้ทอเสื่อ เรียนรู้คุณค่าประโยชน์ของพืช แล้วเลือกปลูกพืชที่ เราต้องการใช้ประโยชน์ โดยดูพืชพื้นบ้านในท้องถ่ินเป็น หลัก พืชนอกถิน่ ก็น�ำ มาปลูกทดลองได้ เผือ่ ว่าพืชสามารถ ปรับเข้ากับสิง่ แวดล้อมใหม่ได้ เช่น แอปเปิล้ เรากินผลแล้ว เก็บเมล็ดห่อกระดาษชุบน้�ำ ให้ชนื้ เก็บไว้ในตูเ้ ย็นช่องเก็บ ผักสด คอยดู ๒-๓ สัปดาห์จะเริ่มงอก ก็นำ�มาลงกระถาง ปลูก พอโตก็ลงแปลงปลูกได้ ไม่ตอ้ งถามว่ามันจะออกลูก ไหม ออกเมือ่ ไร สิง่ มีชวี ติ ทุกชนิดต้องการสืบพันธุ์ เมือ่ มัน ปรับตัวได้ถึงเวลา เมื่อนั้นเราจะได้ลิ้มชิมผลมัน โทงเทง ฝรัง่ เป็นพืชเมืองร้อนมาก่อน ฝรัง่ เอาไปปลูกจนกลายเป็น พืชเมืองหนาวไป ลิ้นจี่ค่อมที่มีสวนแถวสมุทรปราการก็ ไม่ใช่พืชท้องถิ่น แต่มาจากจีน มาจากเขตหนาว เราต้อง เชื่อมั่นในการปรับตัวของพืช เพื่อรับประโยชน์นำ�ไปเผย แพร่ต่อไปในอนาคต. ลุงดำ�
4
รวมปักษ์ มิถุนายน ๒๕๕๙
รางวัลอาริยะ
อาตมาจะได้แจกไป พูดไป ด้วยพร้อมๆ กันจะได้เกิดความเข้าใจ คือการแข่งขันก็ดี การแสดงออก พวกนีม้ นั เป็นเรือ่ งเปลือก มัน เป็นเรื่องผ่อน มันไม่ใช่เรื่องซีเรียส มันไม่ใช่ เรื่องอาชีพ มันเป็นเรื่องที่มีอะไรก็มาสมัคร เล่น เป็นเรื่องเล่นเป็นอะเมเจอร์ ไม่ได้เป็น งานประจำ�ที่จะหาเงินเอามาเลี้ยงชีวิตของ เรา สิง่ ทีเ่ ราแข่งขันก็ดี สิง่ ทีเ่ ราแข่งขัน สิง่ ทีเ่ รา มาแสดงดนตรีกต็ าม แม้ทสี่ ดุ ประกอบอาหาร เราก็ไม่ได้ท�ำ อาหารไปแข่งขันกับใคร อาหาร เป็นสิ่งที่เรียกว่าอาชีพ เพราะว่าอาหารเรา ต้องทำ�กินทุกวัน แล้วก็อาหารนีไ้ ม่ใช่วา่ เป็น งานอาชีพธรรมดา ใครๆก็ต้องทำ�อาหาร บ้านไหนก็ตอ้ งทำ�อาหาร มันเหนือกว่าอาชีพ ถ้าว่าไปแล้ว เราแข่งขันทำ�อาหาร เป็นการ แซมขึ้นมาเป็นอะเมเจอร์ เป็นเรื่องส่วนตัว ที่แสดงมี ซึ่งมีความสามารถพิเศษ talent ที่ ความสามารถพิเศษทีแ่ ต่ละคนพึงมีนะ เพราะ ฉะนั้นในเรื่องของการแสดงออกของเรามัน เป็นศิลปะขั้นโลกุตระ เช่น ของเราประกวด แข่งขันกันมา ประกวดแข่งขันผ่าฟืน แข่งขัน กันตำ�ข้าว อะไรพวกนี้ คนที่ได้รางวัลที่ ๑ จะ ได้ ๒๕ สตางค์ รางวัลที่ ๒ ได้ ๕๐ สตางค์ รางวัลที่ ๓ ได้บาทนึง อะไรอย่างนี้เป็นต้น
ซึง่ เราก็ท�ำ อยูแ่ ล้วมานานปี มาทีน่ เ่ี หมือนกัน รางวัลอะไรก็ดูสับสนกันไปตามเรื่อง สำ�คัญเรื่องศิลปะโลกุตระนี้ก็คือ เราจะ ต้องสำ�รวมใจ เราจะต้องอ่านใจ เราจะต้อง ทำ�ใจในใจ ไม่ตน่ื เต้น ไม่ดใี จ ไม่เสียใจ ไม่ชอ็ ก แน่นอน การแข่งขันของเราไม่ชอ็ กแน่นอน ไม่ เหมือนทางโลก สักวันจะมีเส้นสมองแตกตาย คาเวทีกันให้ดูสักที เพราะว่ามันเป็นเรื่อง ที่ผิดทางของการพัฒนาชีวิตที่จิตใจมนุษย์ การแข่งขันมันควรจะมีการพัฒนาชีวติ จิตใจ แต่ แข่งขันกันเพือ่ จะให้จติ ใจนัน้ เลวลง กิเลสหนาขึน้ กิเลสความต้องการ แข่งแพ้แข่งชนะกัน ชนะก็ ดีใจโลดแล่นสูงมาก ดีอกดีใจ ถ้าแพ้กแ็ พ้ เศร้า สร้อย โศก อกหัก เศร้า ทำ�งานอะไรไม่ไหว สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของสังคมที่อวิชา สังคมที่ผิดพลาด เราก็มากระทำ�สิ่งเหล่านี้ ขึ้ น มา ก็ เ พื่ อ ที่ จ ะให้ เ ห็ น ว่ า ควรจะเข้ า ใจ อย่างไรที่จะสัมมาทิฐิ ควรจะเข้าใจอย่างไร ทีจ่ ะเป็นการพัฒนาชีวติ และจิตใจ ความเป็น มนุษย์ที่สุดก็คือการพัฒนา เพราะฉะนั้นสิ่ง ที่เป็นโลกุตระ จึงเป็นศาสนาที่ให้คนมีชีวิต และจิตใจให้พฒ ั นา ทีเ่ จริญไปสูค่ วามไม่รกั ไม่ ชัง ไม่ผลักไม่ดูด เป็นเรื่องของการรู้จักสังคม รู้จักสมมุติ รู้จักปรมัตถ์ รู้จักสมมุตินี้ รู้จักคิด
ชีวิตก่อนรู้จักชาวอโศก ? ต้องการมีลาภ ยศ สรรเสริญ และต้องการ ชีวิตที่สุขสบาย กลัวความจนมากๆ ไม่ชอบ ให้ใครมาดูแคลน ก็เลยไปเรียนอาชีพช่าง เสริมสวยและช่างเย็บผ้า งกมาก เอาทั้ง ๒ อาชีพ กลางคืนเย็บผ้า กลางวันเสริมสวย กะว่าหาเงินไว้อยากได้บา้ น อยากได้รถ อยาก ไปเที่ยวต่างประเทศและหาไว้กินตอนแก่ รูจ้ กั อโศกได้อย่างไร และหลังรูจ้ กั แล้ว ชีวติ เปลีย่ นไปอย่างไร ? เพราะได้ ฟั ง เสี ย งทางวิ ท ยุ โ ดยท่ า น จันทร์ ก็เริ่มเข้าใจธรรมะตามลำ�ดับ และเริ่ม ชื่อเดิม : อำ�ไพ สุขสวัสดิ์ ชื่อที่พ่อครูตั้งให้ : ปีกแก้ว สิน้ ป่าโลกีย์ ลองไปทีส่ นั ติอโศก ได้ฟงั ธรรมะจากพ่อท่าน เลยเริ่มปฏิบัติด้วยการลดอาหารที่เป็นเนื้อ อายุ : ๕๘ ปี สัตว์ จากสัตว์ใหญ่ๆ ลดลงมาเรื่อยๆ และ การศึกษา : ประถม ๔ ฝึกถือศีล ๘ อย่างอ่อนๆ สถานภาพ : โสด จากที่เคยอยากได้เงินจากลูกค้ามากๆ ภูมลิ ำ�เนาเดิม : เกิดชายแดน-ตราด
อันนี้ดีอันนี้เด่น กรรมการหรือผู้รู้ก็ให้ตาม สังคม สังคมยุคนีเ้ ค้านิยมเช่นนี้ เพราะฉะนัน้ เขาเป็นกันเช่นนัน้ ไม่เทีย่ งแท้หรอก ถ้าเอาแต่ อย่างสมัยโน้น แต่งอย่างสมัยโน้น ปรับปรุง แต่อย่างสมัยโน้น มาประกวดสมัยนี้ ตกตัง้ แต่ เข้าแข่งเลยก็ได้ อย่างนีเ้ ป็นต้น มันต้องทันยุค ทันสมัย มันต้องเป็นไปตามสมัย เป็นต้น ทาง โลกก็จะปรุงแต่งไป หลงทิศหลงทางไปอย่าง งั้น สรุปแล้วจิตใจจะไม่ได้ประโยชน์ มีแต่จะ ย้ำ�มอมเมา ครอบงำ�จิตใจ หลงชนะ หลง ชนะ หลงชนะ สร้างอัตตา อัตตา อัตตา และ อัตตา สร้างอัตตาขึ้นๆ สุดท้ายก็มีแต่ความ ดีใจและเสียใจ อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ ทำ�ให้สังคม และมนุษยชาติเสื่อม ตกต่ำ� จะ มาต้องเสียเวลา แรงงาน ทุนรอน แข่งขัน เอาชนะ เอาชนะกันไป แล้วราคาก็แพงขึ้น แพงขึ้น เลยกลายเป็นงานการละเล่นลีลา บันเทิงพวกนี้ ซึ่งเป็นทั้งพวกที่จิตที่ไม่เข้าใจ พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า พวกขิฑฑาปโทสิกะ คือหลงเป็นเทวดา มโนปโทสิกะ พวกหลงการ เป็นเทวดา ซึ่งเป็นความเสื่อมที่แท้จริง หลง ระเริง ขิฑฑา คือตัวหลงระเริง ดีอกดีใจ ชืน่ อก ชืน่ ใจ มโนปโทสิกะคือการยึดติดในจิต แล้วก็ เป็นอัตตาตัวตน เอาชนะคะคาน และหลงใน กลับนึกสงสารเขา และไปบอกเขาว่าการเอา เงินทีจ่ ะต้องไว้ใช้ในครอบครัวมาทำ�ผม มันไม่ คุ้มเลย เก็บไว้ซ้ือนมให้ลูกเถอะ และตัวเอง ก็เห็นธรรมะที่ว่าอาชีพเสริมสวยเป็นอาชีพ ที่หลอกตัวเองและหลอกผู้อ่ืน เพื่อต้องการ เงิน ผลสุดท้ายก็คือเราเองกลับได้สุขภาพที่ ทรุด เพราะผลของเคมีที่อยู่ในเครื่องสำ�อาง ขณะเดียวกัน ตัวเองก็เลิกแต่งตัวสวยๆ และ งดอาหารมือ้ เย็น เมือ่ เข้าใจเรือ่ งการเสียสละ มากขึ้น ก็เริ่มตัดผมฟรีให้คนที่ไม่มีสตางค์ หรือเป็นคนแก่ การปฏิบัติธรรมของตนเองหรือมีวิธี การฝึกฝนตนเองอย่างไร ? มาศึกษากับชาวอโศกบ่อยขึ้น เข้าใจ มากขึ้น เลยเตรียมตัวอยากมาอยู่กับชาว อโศก เราก็ศึกษาว่าเขากินอยู่หลับนอนกัน ยังไง ก็ลองฝึกที่บ้านก่อน สุดท้ายก็ได้มา
อัตตามานะสูงขึ้นๆ เป็นโทษ ขิฑฑาสิกะคือ เป็นโทษ มโนสิกะคือจิตเป็นโทษ ถ้าอวิชชา ก็จะเป็นโทษ อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งเป็นสัจจะ ที่อาตมาจำ�เป็นต้องต้านโทษไว้ ต้องทวน กระแสไว้ แต่เราก็ต้องคอยจัดการกับองค์ ประกอบของสิ่งที่จะต้องแสดงออก อย่างนี้ ยากมากเลย ว่าจะทำ�อย่างไรให้คนเกิดลดละ ให้คนเกิดเห็นแล้วไม่ยดึ มัน่ ถือมัน่ ไม่มงุ่ มัน่ ที่ จะสร้างกิเลสทีจ่ ะเอาชนะคะคานกัน หลงติด ดีใจ เสียใจอะไรกันมากเกินไป มันก็เป็นสิ่งที่ จะต้องช่วยสังคมเค้าด้วยในจุดนี้ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำ�คัญมากเลย ที่เรา ต้องช่วยกันมาศึกษา ศึกษาความจริงอันนี้ แล้วก็ต้องรีบเปลี่ยนแปลงคน อย่าให้ไปจิต เสื่อม จิตนั้นหน่ะ หลงไปเป็นจิตขิฑฑาปโท สิกะ มโนปโทสิกะ แล้วหลงไปเป็นความ เจริ ญ เทวดา หลงไปเป็ น เทวดา เหมื อ น เทวดา ๖ ชั้นที่อาตมาเทศน์ไปแล้วเช้านี้ คือ ความเสือ่ มของมนุษยชาติ แต่คนหลงว่าเป็น ความเจริญ เป็นความน่าได้นา่ มี ซึง่ เป็นเรือ่ ง ซับซ้อนมากนะ เรื่องนี้ก็เช่นกัน สิ่งที่โลกเค้า หลงเช่นทุกวันนี้ เช่นเดียวกันกับความหลง เทวดา ๖ ชั้น ที่จริงจิตวิญญาณจะต้องเป็น พรหม แต่คนไม่เข้าใจ มีอวิชชาให้ความรู้ โดยเฉพาะพุทธศาสนาก็ไม่เข้าใจแล้ว พูดเป็น ภาษาก็ไม่เข้าใจแล้ว พูดเป็นภาษาก็อธิบาย ไม่ออก แล้วก็พิสูจน์กันไม่ได้ ไม่เกิดผลทาง ศาสนา ไม่เกิดผลทางธรรมเลย นอกจากไม่ เกิดผลแล้ว ยิ่งทำ�ให้จิตมีกิเลสทับถม สะสม มากขึ้นๆ เรื่อยๆ ก็เป็นเรื่องที่น่าสงสาร น่า เวทนา น่าสมเพช ดังนั้นจึงต้องขอให้ฟังดีๆ ฟังแล้วเอาไปพิจารณา เอาไปแก้ไขปรับปรุง แล้วก็เอาไปตั้งหลักใหม่ ถ้าตั้งจิตไว้ผิด ดังที่ มันเป็น หลงเพลิดไปอย่างทุกวันนี้ ที่อาตมา กล่าวไปแล้วนั้น การตั้งจิตไว้ผิดนี้ เป็นความ เสียหายมากในสังคมมนุษยชาติ. พ่อครูให้โอวาทหลังมอบรางวัล ในงานอโศกรำ�ลึก ๘ มิ.ย.๕๙ อยู่วัดไม่ต้องอยากได้เงิน เพราะเราเลี้ยงไม่ ยากแล้ว อยู่กับใครก็ได้ กินยังไงก็ได้ เห็นหมู่ กลุ่มนี้พึ่งได้ ไม่กลัวแล้วว่าแก่ไปใครจะเลี้ยง สำ�คัญที่สุดคือ เราพึ่งใจของเราเองได้ มีเงิน หรือไม่มีก็ไม่น่ากลัวแล้ว แม้กระนั้นก็ไม่ใช่ เรื่องง่ายเลยกับการที่เราต้องออกจากนิสัย เดิมๆ พอเจอผัสสะหรือคือกิเลสของเราก็มี น้ำ�ตาแต่ก็สู้ มาอยู่วัดช่วยงานห้องจักร ช่วง นั้นพอดีสมณะชาวอโศกเปลี่ยนผ้าจากการ นุ่งห่มขาวมาเป็นสีกรัก เลยเข้าไปช่วยเย็บ บริขารจนทุกวันนี้ อยากจะฝากแง่คิดอะไรถึงเพื่อนนัก ปฏิบตั ธิ รรม ? ต้องศึกษาฟังธรรมะทีเ่ ป็นสัมมาทิฐจิ าก สัตบุรษุ คือพ่อครู สมณะ สิกขมาตุ ให้ชดั แจ้ง แก่ใจเรา แม้จะมีน้ำ�ตานองหน้าบ้าง ก็ไม่คิด จะเลิก เพราะถ้าเลิกก็ยิ่งทำ�ให้เสียเวลาชีวิต.
ฉบับที่ ๔๗๑ (๔๙๓)
บอกเล่าข่าวอโศกเดือนมิ.ย.๕๙
ข่าวอโศก
5
(ต่อจากหน้า๑)
ศาลีอโศก จ.นครสวรรค์ และในวันที่ ๒๒ มิ.ย. พล.ต.จำ�ลอง ศรีเมือง ได้เดินทางไปทีส่ �ำ นักงาน CAT เทเลคอม เพือ่ ติดต่อ ขอย้ายค่ายจากดีแทคเปลี่ยนมาเป็น CAT เทเลคอม การย้ายค่ายมา CAT นี้ถือว่าเป็นการช่วยรัฐบาลอย่าง หนึ่งเพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ไม่ไหลไปสู่ต่างชาติหรือ ทีมจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม จัดค่ายพระไตรปิฎก นายทุน แถมยังโทรหากันฟรีในเครือข่าย CAT อีกด้วย ครั้งที่ ๑๕...ที่สวนป่านาบุญ ๓ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๗ มิ.ย. ๕๙ และในวันอาทิตย์ที่ ๑๒ มิ.ย. มีการปฐมนิเทศนักศึกษาของสถาบันวิชชาราม ระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก รุ่นที่๑ โดยได้รับ ความเมตตาจากพ่อครู สมณะโพธิรักษ์ ปฐมนิเทศ และ มีศจ.ดร.ระพี สาคริก เป็นที่ปรึกษาสถาบันวิชชาราม โครงการกสิกรรมไร้สารพิษ อ.วังน้�ำ เขียว จ.นครราชสีมา ได้มกี ารติดตัง้ แผงโซล่าเซลล์ จำ�นวน ๙๖ แผง บนอาคารศูนย์ การเรียนรู้แห่งใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมพัฒนา งานตลาดอาริยะที่เนินพอกิน จ.กาญจนบุรี...วันที่ พลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กองอำ�นวยการรักษา ความมัน่ คงแห่งราชอาณาจักรและสถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณ ๒๐ มิ.ย. โดยมีการจำ�หน่ายสินค้าราคาต่ำ�กว่าทุน พลตรี จำ�ลอง ศรีเมือง ก็มาร่วมงานนี้ด้วย ทหารราชกระบัง
ศิลปินชาวอโศก วงฆราวาสทั้ง๘คนไปร่วมแสดง คอนเสิรต์ “ราชดำ�เนินเดินตามรอยพ่อ”...ทีห่ อประชุมกรม ประชาสัมพันธ์ เพือ่ ขับเคลือ่ นและนำ�เสนอบทเพลงเกีย่ วกับ เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มีศิลปินหลากหลายมาร่วมกิจกรรม สำ�หรับ วงฆราวาสได้ขบั กล่อมบทเพลงความพอเพียง ชีวติ คนทำ�นา หนุ่มสาวใต้แสงดาว ไปเถอะไป นอกจากนี้ยังมีดร.วิวัฒน์ ศัลยกำ�ธร ประธานมูลนิธกิ สิกรรมธรรมชาติ และศจ.ดร.ระพี สาคริก มาร่วมงานด้วย
ตลาดอาริยะ ครัง้ ที่ ๕ ทีช่ มร.เชียงใหม่...จัดในวันศุกร์ ที่ ๒๔ มิ.ย. ภายในงานมีกิจกรรมใส่บาตร ฟังธรรม จำ�หน่าย อาหารบาทเดียว และสินค้าราคาต่ำ�กว่าทุน พิ เ ศษในงานตลาดอาริ ย ะ มี บู ท ของแคทเทเลคอม มาบริการย้ายค่ายใหม่เบอร์เดิม
ปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีกขยายผลไปเรื่อยๆ... จากกระแสต้ า นนายทุ น ผู้ ส นั บ สนุ น ธรรมกาย จึ ง มี ก าร แสดงออกถึงการไม่เห็นด้วย ชาวชุมชนอโศกทั่วประเทศได้ รวมพลังกันย้ายค่ายโทรศัพท์มือถือ จากดีแทคเปลี่ยนไปใช้ ค่าย CAT เทเลคอมแทน โดยเหตุผลสำ�คัญคือ กรณีที่นาย บุญชัย เบญจรงคกุล ผู้บริหารเครือดีแทค ออกมาปลุกระดม มวลชน ลูกศิษย์ให้ออกมาปกป้องพระธัมมชโย ทางกลุม่ ชาว อโศกเห็นว่า เมือ่ แนวคิดของผูบ้ ริหารดีแทคออกโรงมาปกป้อง คนทำ�ผิดกฎหมายบ้านเมืองแบบนี้แล้ว จึงมีแนวคิดที่จะไม่ สนับสนุนและได้พร้อมใจกันย้ายเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ จากดีแทคไปค่าย CAT เทเลคอมแทน เพราะอย่างน้อยก็ เป็นกิจการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐ วันที่ ๒๐ มิ.ย. ที่ชุมชนราชธานีอโศก จ.อุบลราชธานี นำ�ร่อง เชิญเจ้าหน้าที่จาก CAT เทเลคอม มาบริการย้าย ค่ายเบอร์เดิม และวันที่ ๒๒ มิ.ย. ที่สันติอโศก กรุงเทพฯ, ศีรษะอโศก จ.ศีรษะเกษ, วันที่ ๒๔ มิ.ย. ที่ชมร.เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่, วันที่ ๒๗ มิ.ย. ที่ชุมชนปฐมอโศก จ.นครปฐม นอกจากนี้ยังมีชุมชนสีมาอโศก จ.นครราชสีมา, ชุมชน
กิจกรรมไหว้ครู...ซึ่งเป็นยัญพิธีของสถาบันการศึกษา บุญนิยมของชาวอโศกทุกแห่งให้ความสำ�คัญและจัดกิจกรรม ต่อเนือ่ งมาทุกปี โดยแต่ละทีจ่ ะจัดกิจกรรมในช่วงเดือน มิ.ย. แต่ละที่ล้วนจัดพิธีเรียบง่าย แต่เน้นเนื้อหาสาระของการที่ ศิษย์ได้แสดงออกถึงความกตัญญูต่อผู้ให้การอบรม รวมถึง การขอขมา ที่บางครั้งเหล่าศิษย์ได้ทำ�ผิดพลาดบกพร่องไป โดยสื่อสารออกมาในรูปแบบของพานไหว้ครู ที่เต็มไปด้วย ความคิดสร้างสรรค์ตามแบบศิลปะโลกุตระ
งานคืนสูเ่ หย้า นศ.ปธ. ครัง้ ที่ ๑๓...ณ สวนบุญผักพืช จ.ปทุ ม ธานี กิ จ กรรมเริ่ ม ตั้ ง แต่ เช้ า วั น เสาร์ ที่ ๒๕ มิ . ย. หลังบิณฑบาต มีรายการ “ชมสวนชวนคุย” โดยพ่อครูสมณะ โพธิรักษ์ พาลูกๆเดินชมรอบๆสวนบุญผักพืช มีอาแซมดิน อาพลอยไพร เป็นมัคคุเทศน์แนะนำ�สวนบุญฯ บนพื้นที่กว่า ๙๒ ไร่ ซึ่งแต่เดิมเป็นท้องทุ่งนาโล่งๆ แต่ตอนนี้กลายเป็น ป่ายางต้นย่อมๆไปแล้ว หลังเทศน์เอื้อไออุ่นโดยพ่อครู สมณะโพธิรักษ์ ก็มี รายการจับฉลากให้ผู้ที่มาในงานนี้รับภาพวาดรูปเหมือน พ่อครู...ซึง่ วาดโดยฝีมอื ของญาติธรรม ภายหลังจากจับฉลาก ให้ภาพแก่ผู้ร่วมงาน พ่อครูและสมณะสิกขมาตุได้ฉันที่ศาลา ระหว่างนั้นมีเกมส์ประมูลของแบบพิเศษที่ชาวนศ.ปธ. คิ ด ขึ้ น มา เพื่ อ นำ � รายได้ ไ ปสมทบทุ น การจั ด การที่ ส วน บุญผักพืชต่อไป
6
อโศกรำ�ลึก’๕๙
(ต่อจากหน้า ๑) แต่ก็ยังมาให้เห็นหน้ากัน พ่อครูได้มอบของที่ระลึกและแจก หนังสือศิลปะโลกุตระในเพชรพุทธเล่ม ๑ ให้กบั ทุกคนอีกด้วย บนเวทีมีการแสดงของศิลปินนักร้องนักแสดง เช่น วง งานอโศกรำ�ลึกและบูชาพระบรมสารีรกิ ธาตุ ครัง้ ที่ ๓๕ จัดขึน้ ระหว่างวันที่ ๕-๑๐ มิถนุ ายน ๒๕๕๙ ณ พุทธสถาน ภูไทน้อย, คุณนันทวัน เมฆใหญ่, คุณวงศ์จันทร์ ไพโรจน์, สันติอโศก ภายหลังจากได้ไปจัดงานในที่ชุมนุมทางการ คุณทิพวรรณ ปิ่นพิบาลและศิลปินชาวอโศก เวลา ๑๔.๓๐ น. มีรายการบรรพชนชาวอโศก ดำ�เนิน เมื อ งและไปจั ด งานที่ บ้ า นราชฯตั้ ง แต่ ปี ๒๕๕๔ ถึ ง ปี ๒๕๕๗ ปีนเี้ หตุปจั จัยพร้อม ชาวสันตินาครและชาวอโศก รายการโดยคุณทองแก้ว สัมภาษณ์ คุณเย็นฟ้า ประมาณ อายุ จึงได้จดั งานอโศกรำ�ลึกและบูชาพระบรมสารีรกิ ธาตุครัง้ ๙๓ ปี, คุณอำ�นาจ หมายยอดกลาง, คุณวิไล ดีรัตนา อายุ ที่ ๓๕ ขึ้นที่สันติอโศก เป็นการฉลองครบรอบ ๗๐ ปี ๙๒ ปี, คุณฝั่งบุญ ชาวหินฟ้า, คุณขวัญรัก นาวาบุญนิยม, ครองราชย์ของในหลวง ฉลอง ๔๕ ปีการอุปสมบทของ คุณงามอรุณ สุขเกษม, คุณมิ่งหมาย มุ่งมาจน, คุณกรุณา พ่อครูขนึ้ โดยพ่อครูได้ให้ชอื่ ของงานนีว้ า่ งานอโศกรำ�ลึก อโศกตระกูล, คุณจันทร์เพ็ญ จากศีรษะอโศก อายุ ๗๖ ปี, คุณแม่อ้วน ใจกลาง(ชุติมามาส), คุณจงกล สุคันธนาค, คุณ ๔๕ ปีสีหนาทเพชรพุทธสุดยอดศิลป์ เร่ิมงานในเช้าวันที่ ๕ มิถุนายน ด้วยการบิณฑบาตโดย สุพรรณา แซ่เตียว, คุณอารมณ์ มหาปิยศิลป์ ทั้งหมดล้วน พ่อครูและหมู่นักบวช มีญาติธรรมและศรัทธาสาธุชนร่วม เป็นบรรพชนผู้ร่วมสร้างหมู่กลุ่มชาวอโศก ต่อด้วยรายการ ใส่บาตรไม่ขาดสายตลอดซอยกลางและซอยนวมินทร์ ๔๔ ซิทคอม สานใจรัก เนื่องจากฝนได้ตกลงมาอย่างหนักในช่วงเย็น จึงทำ�ให้ เวลา ๐๙.๐๐ น.ท่านสมณะเดินดินและสมณะเพาะ พุทธ เทศนาเกริ่นนำ�ที่ลานหน้าน้ำ�ตกสันติอโศก ก่อนที่พ่อ เลือ่ นเวลารายการ ๑๐ ข่าวเด่นชาวอโศกออกไปฉายในเวลา ครูจะมาเทศนาเปิดงานอย่างเป็นทางการ ภายหลังเทศนา ๑๘.๔๕ น. ดำ�เนินรายการโดย สมณะบินบน ถิรจิตโต และ บนเวทีมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ขณะที่คณะเพื่อน สมณะแสนดิน ภูมิพุทโธ วันจันทร์ที่ ๖ มิถุนายน เริ่มด้วยทำ�วัตรเช้าและฟัง วิทยาลัยเพาะช่างของพ่อครูร่วม ๒๐ ท่าน ได้มาสนทนากับ พ่อครูทหี่ น้าเวที เป็นบรรยากาศทีอ่ บอุน่ มาก เพือ่ นๆของพ่อ ธรรมเทศนา ๔๕ ปีสีหนาทเพชรพุทธสุดยอดศิลป์ โดยพ่อ ครูอยู่ในวัยอายุเกิน ๘๐ ปีกันทุกคน บางท่านก็นั่งรถเข็นมา ครูสมณะโพธิรักษ์
รวมปักษ์ มิถุนายน ๒๕๕๙
ก่ อ นฉั น มี ก ารเทศนาโดย สม.สั จ ฉิ ก ตา ตั้ ง เผ่ า และ สม.รินฟ้า นาวาบุญนิยม จากนั้นบนเวทีมีการแสดงดนตรี จากวงฆราวาส มีการรำ�กระบอง เต้นรีววิ เพลงต่างแต่สามัคคี จากสัมมาสิกขาสันติอโศก มีการแสดงจากชุมชนศาลีอโศก ราชธานีอโศก ปฐมอโศก ศีรษะอโศก และปิดท้ายรายการ ภาคบ่ายด้วยละครจากสันติอโศก รายการภาคค่�ำ ของวันที่ ๖ นี้ เป็นการสัมภาษณ์ปฏิบตั กิ ร สัมภาษณ์ คุณสมยศ ทองพระไชยนาม ดำ�เนินรายการโดย อ.รัศมี กฤษณมิศ เรื่องชีวิตที่ไร้ขยะและสัมภาษณ์คุณบุญรุ้ง สีดำ� โดยส.เดินดิน ติกขวีโร เรื่องจุลินทรีย์จ้าวเจ๋ง วันที่ ๗ มิถุนายน ช่วงเช้าเป็นการฟังธรรมเทศนาจาก พ่อครู และก่อนฉันเป็นธรรมเทศนาจากทีมปัจฉาพ่อครู ภาค บ่ายวันนี้มีรายการพิเศษที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของชาวอโศก คือรายการ Asoke God Talent เป็นการแข่งขันประกวดความ สามารถพิเศษแบบไม่จำ�กัดชนิดการแสดง เพื่อสื่อถึงศิลปะ โลกุตระ รายการนี้มีผู้ผ่านเข้ารอบคัดเลือกได้เข้ามาแสดง บนเวทีเพื่อแข่งขันรอบต่อไปทั้งหมด ๑๔ ทีม โดยบ่ายวันนี้ จะให้แต่ละทีมแสดงบนเวที เพื่อให้คณะกรรมการให้คะแนน ตัดสินคัดเลือกให้เข้ารอบต่อไป ปรากฏว่าวันนี้มีทีมเข้ารอบ ต่อไปทั้งหมด ๗ ทีมด้วยกัน ในภาคค่�ำ วันนีม้ อี .ปานเทพ พัวพงษ์พนั ธ์และนพ.วีรพงศ์ ชัยภัค นักมังสวิรตั ิ มาให้ความรูเ้ รือ่ งมหันตภัยในโลกบริโภคนิยม
ฉบับที่ ๔๗๑ (๔๙๓)
วันที่ ๘ มิถุนายน ช่วงเช้าฟังธรรมเทศนาจากพ่อครู และมีเทศน์ก่อนฉันโดย ส.ถ่องแท้ วินยธโร และส.เพาะพุทธ จันทเสฏโฐ บนเวทีมดี นตรีจากวงฆราวาส วงหยดน้�ำ และวันนีม้ กี าร แข่งขันเกมส์อโศกพันธุ์แท้ มีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด ๘ ทีม ได้ผู้ ชนะเลิศคือทีมจากหินผาฟ้าน้ำ� ในช่วงบ่ายมีรายการ Asoke God Talent มีผู้เข้ารอบ รองชนะเลิศ ๗ ทีมออกมาแสดงเพื่อคัดทีมเข้ารองชิงชนะ เลิศทั้งหมด ๓ ทีมด้วยกัน และในที่สุดแล้วก็ได้ทีมที่ชนะเลิศ คือ ทีม ๑๑ อรหันต์ จากสันติอโศก ด้วยการแสดงผสมผสาน ในเพลงต่างแต่สามัคคี ส่วนผู้ได้ที่ ๒ คือ ด.ญ.ปัณณิกา อุ่นแพทย์ จากราชธานีอโศกที่ขับรองเพลงใยฟ้าเศร้า และที่ ๓ คือ ดช.สิทธิเดช เดชคำ�รณ จากสส.ฐ. ม.๓ ผู้แต่งและร้อง เพลงเส้นทางบุญนิยม นอกจากนั้ น ยั ง มี ก ารประกวดร้ อ ยแก้ ว ประเภท ประชาชนทั่วไป มีผู้ได้ที่ ๑ คือนายทนสู้ อุปชาใต้ ที่ ๒ คือ น.ส.ใบฟ้า นาวาบุญนิยม ที่ ๓ คือคุณเกื้อดิน สุวรรณ ส่วนประเภทเยาวชน ม.ต้นได้รางวัลคือ ด.ญ.เอริก้า เปี่ยมทอง โดยผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดได้ไปรับรางวัลจากพ่อครู สมณะโพธิรักษ์ในช่วงบ่าย รายการภาคค่�ำ เรือ่ ง “ความยิง่ เล็กแต่ยง่ิ ใหญ่ของในหลวง” โดยอ.วิวัฒน์ ศัลยกำ�ธร และพลเอก อภิชาติ เทียบศรไชย
ข่าวอโศก
ดำ�เนินรายการโดย คุณได้ฤกษ์ หมื่นนาอาน วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ วันนี้เป็นวันครบรอบการ ครองราชย์ ๗๐ ปีของในหลวง ประชาชนชาวไทยพร้อมใจ ทำ�กุศลและใส่เสือ้ เหลืองและเสือ้ สีฟา้ ถวายพระพรแด่ในหลวง ของปวงชนชาวไทย บรรยากาศของงานอโศกรำ�ลึกตั้งแต่ ทำ � วั ต รเช้ า จนทุ ก กิ จ กรรม ล้ ว นเหลื อ งเรื อ งรองไปทั่ ว ทั้ ง สันติอโศก ประหนึ่งชุมนุมเทวดา (ผู้มีจิตใจดีงามสูงส่ง) อันมี รัศมีเรืองรอง รายการก่อนฉันมีการเวียนธรรมโดยสมณะสิก ขมาตุ บนเวทีภาคบ่ายยังมีดนตรีจากวงฆราวาส และศิลปิน อีกมากมาย และในงานอโศกรำ�ลึก มีการจัดโรงบุญมังสวิรัติ ทั้งหมดถึง ๑๙๐ โรงบุญ ช่วงเย็นมีการจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล แด่ในหลวง เนื่องในวโรกาสครบรอบเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ซึ่ง เป็นการครองราชย์ทยี่ าวนานทีส่ ดุ ในโลกปัจจุบนั และยังทรง ทศพิธราชธรรมมาตลอดรัชกาล จากนัน้ มีพธิ บี ชู าพระบรมสารีรกิ ธาตุ ทีพ่ ระวิหารพันปีฯ เวลา ๑๗.๓๐ น. พ่อครู สมณะโพธิรกั ษ์น�ำ หมูส่ มณะ สิกขมาตุ และญาติธรรมเดินธรรมยาตราสั้นๆจากใต้โบสถ์สันติอโศก ไปสู่พระวิหารฯแล้วเดินสู่ชั้นบนสุด พ่อครูเทศนาก่อนพา บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นยัญพิธีสำ�คัญของชาวอโศก ทีจ่ ะได้ตงั้ มโนปณิธานในการกตัญญูตอ่ พุทธศาสนาไปตราบ จนกว่าจะปรินิพพาน
7
หลังพิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ เป็นรายการสำ�คัญที่ เป็นไฮไลท์ของงานเลยคือ รายการ Light and Sound มีวดี ทิ ศั น์ ประกอบแสงสีเสียง แสดงให้ดทู ชี่ นั้ ล่างพระวิหารฯ สือ่ ถึง๔๕ ปีเส้นทางสัมมาอาริยมรรคของพ่อครู ทีด่ �ำ เนินนาวาบุญนิยม พาลูกๆว่ายข้ามโอฆสงสารอย่างยากลำ�บาก ฝ่าฝันอุปสรรค นานา แต่นาวาบุญนิยมลำ�นีย้ งั มัน่ คงและยังคงปณิธานฟืน้ ฟู และสืบสานพุทธศาสนาต่อไป วันที่ ๑๐ มิถนุ ายน วันสุดท้ายของงาน พ่อครูยงั มาเทศนา ทำ�วัตรเช้าให้พวกลูกๆฟังอีกกัณฑ์ และก่อนฉันมีการสรุปงาน อโศกรำ�ลึกอีกด้วย พ่อครูได้สรุปผลการจัดงานอโศกรำ�ลึกปีนี้ไว้ว่า...ปีนี้มี อัตราการก้าวหน้าของพฤติกรรมพวกเราและคนข้างนอก มี ทั้งแก่นสาร อนุโลมปฏิโลม เชื่อมกับโลกีย์อย่างได้สัดส่วน พอเหมาะ เราแสดงเราใช้ศิลปะในการเหยาะเติมความเป็น โลกีย์ ความเป็นโลกธรรมบ้าง แต่เราต้องไม่ให้เสียความ ยืนหยัดยืนยันความจริงอย่างประมาณให้ได้สัดส่วนพอดีใน มหาปเทส ๔ คนไหนที่พบแล้วในสิ่งที่ดี ให้ตรวจสอบว่าที่นี่จริงไหม เปรียบเทียบกับทั้งโลกเลยว่ามีกลุ่มไหน คณะไหน ทฤษฎี ไหนที่ดีที่สุดเท่าที่ปัญญาตนเองตัดสิน แล้วมาอยู่กับหมู่ที่ดี ที่สุด แล้วเราก็ต้องพากเพียร ตั้งตนบนความลำ�บาก ให้กุศล ธรรมเจริญ อย่าประมาท...จบ
8
รวมปักษ์ มิถุนายน ๒๕๕๙
เสนอโลกใช้เศรษฐกิจพอเพียง ในภาวะเศรษฐกิจวิกฤตไปทั่วโลก ประเทศไทยก็มีข้อเสนอในการใช้ “เศรษฐกิจ พอเพียง” แก้วิกฤต โดย ๑๓ นักคิดระดับโลกเห็นด้วย ประเด็นนี้ ดีแทคและโตโยต้า ร่วมกับสำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สถาบันการจัดการเพื่อชนบทและ สังคม และสถาบันไทยพัฒน์ จัดงานเปิดบทสัมภาษณ์ “เศรษฐกิจพอเพียงในทัศนะ โลก” ซึ่งเป็นผลจากการที่โครงการจัดทำ�แผนที่เดินทาง (Road Map) และการสร้าง เครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงระหว่างประเทศ ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ ผู้อำ�นวยการสถาบันไทยพัฒน์ กล่าวว่า เป็นครั้ง แรกที่มีการสัมภาษณ์นักคิด นักวิชาการ และผู้มีชื่อเสียงระดับโลกถึง ๑๓ คน และ รวบรวมเป็นบทความไว้ที่เดียวกัน จำ�นวน ๑๒ บทความ เป็นการยื่นข้อเสนอแนวคิด เศรษฐกิจพอเพียงให้แก่โลก เช่น ศ.ดร.วูล์ฟกัง ซัคส์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมคน สำ�คัญของประเทศเยอรมนี สนใจการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่าง มาก และมองว่าน่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึง่ สำ�หรับทุกชาติในเวลานี้ ทัง้ มีแนวคิดผลัก ดันเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นที่รู้จักในเยอรมนี รวมถึง ศ.ดร.อมาตยา เซน ศาสตราจารย์ชาวอินเดีย เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ ปี ๑๙๙๘ มองว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นการใช้สงิ่ ต่างๆ ที่จำ�เป็นต่อการดำ�รงชีพ และใช้โอกาสให้พอเพียงกับชีวิตที่ดี ซึ่งไม่ได้หมายถึงความ ไม่ตอ้ งการ แต่ตอ้ งรูจ้ กั ใช้ชวี ติ ให้ดพี อ อย่าให้ความสำ�คัญกับเรือ่ งของรายได้และความ ร่ำ�รวย แต่ให้มองที่คุณค่าของชีวิตมนุษย์ ด้านนายจิกมี ทินเลย์ นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศภูฏาน ให้ทรรศนะว่า หาก ประเทศไทยกำ�หนดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นวาระระดับชาติ และดำ�เนินตาม แนวทางนี้อย่างจริงจัง “ผมว่าประเทศไทยสามารถสร้างโลกใบใหม่จากหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง สร้างชีวิตที่ยั่งยืน และสุดท้ายจะไม่หยุดเพียงแค่ในประเทศ แต่จะ เป็นหลักการและแนวปฏิบัติของโลก ซึ่งหากทำ�ได้สำ�เร็จ ไทยก็คือผู้นำ�” ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย รองผู้อำ�นวยการ สกว. กล่าวว่า ประเทศไทยโชคดีมาก ด้วยพระปรีชาญาณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทีไ่ ด้ทรงสร้างปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงขึ้น และบอกด้วยว่า ต้องมุ่งเข้าหาความพอประมาณ มีเหตุผล และความมี ภูมิคุ้มกัน ขณะเดียวกันเป้าหมายนี้ยังเป็นทั้งวิธีการและวิธีคิดด้วย แล้วเราต้องคิด ต่อว่าจะทำ�อย่างไร เราต้องการการถกเถียงในระดับโลกเพื่อตกผลึกว่า วิธีคิดแบบ ไหน ความรู้แบบไหน ที่จะผลักดันความก้าวหน้าของโลกศตวรรษใหม่ เพราะโลกมา สดจากปัจฉาฯ
(ต่อจากหน้า ๙)
โลกธรรม หมดจากโลกียะทัง้ หลาย เป้าหมาย ของเรายิ่งให้มากเท่าไหร่เราก็ยิ่งเล็กลงน้อย ลง ยิ่งอ่อนน้อมถ่อมตน ให้หมดเพื่อที่จะ ได้หมดตัวหมดตน อันนี้เป็นสิ่งที่เราควรจะ ต้องสำ�นึกและควรปฏิบัติให้ถึงเป้าหมายนี้ ซึ่งในงานนี้มีการชี้ขุมทรัพย์มาว่า พวกเราใช้ วาจาไม่สภุ าพ ตัดห้วน แสดงความยโสโอหัง อาจจะขายเหนื่อยไป แล้วก็รู้สึกว่าเรายึดดี คืออยากจะให้ประชาชนทำ�ตามระเบียบกฎ เกณฑ์ที่เราออกแบบเอาไว้ งานนี้ดูเหมือนว่าคนของเราที่มีปัญหา มากก็คือคนที่มักจะคิดออกกฎระเบียบเพื่อ เปลีย่ นแปลงวิถชี วี ติ ของชาวบ้านเขา ทัง้ ๆ ที่ เราควรจะได้ตระหนักว่า เราทำ�งานนีเ้ พือ่ เรา จะลดตัวลดตน มาเป็นผู้รับใช้ คอยอำ�นวย ความสะดวก มาช่วยเหลือเขา เพื่อให้เขาได้ ตามที่เขาต้องการ ไม่ใช่จะไปเปลี่ยนแปลง แก้ไขให้เขาเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ตามที่ เราคิด อย่างนัน้ เราจะกลายเป็นจอมบงการ
มากกว่ า ที่ จ ะเป็ น ผู้ ค อยตอบสนองความ ต้องการหรือช่วยเหลือเขา ๓. พวกพ่อค้าแม่ค้าตลาดอาริยะ จะ ต้องลงรายละเอียดการทำ�งานกันให้มากขึ้น ข้อบกพร่องของงานนี้ ส่วนหนึ่งพวกเรามา สักแต่ว่ามาช่วย แต่ไม่ได้เข้ามารับผิดชอบ ดังนั้นความรั่วไหลผิดพลาดก็จะเกิดขึ้นไม่ใช่ น้อย อย่างปีนี้พวกเราที่ขายหอมกระเทียม เงินขาดหายไปเกือบแสนบาท ซึ่งในแวดวง ของพวกเราเชื่อกันว่าไม่มีใครโกงกันอยู่แล้ว แต่ค วามบกพร่ องนี้ มั น ก็ น่ า เกิ ด จากเราได้ สินค้ามา โดยไม่ได้ตรวจทานให้ดี ไม่ได้ตรวจ สอบให้ชัดเจน พอขายไปแล้วเงินมันก็ขาด หายไปเยอะ หรือสินค้าบางตัวพวกเราก็สัก แต่ว่าเข้าไปช่วยเฉยๆ สุดท้ายนับเงินก็นับ กันคร่าวๆ แล้วก็ไม่รวู้ า่ เงินทีแ่ ท้จริงมีเท่าไหร่ พอเอาไปส่งเงินก็หายไปเป็นแสนอีก ตรงนีด้ ู สาเหตุแล้วก็นา่ จะมาจากเห็นว่าเงินมันเยอะ เลยขีเ้ กียจนับ ใช้แบบกะคร่าวๆไป แล้วก็รสู้ กึ ว่าเงินน่าจะมีสักประมาณเท่านี้ แต่เมื่อนับจริงๆ ไม่ถึงที่กะเอาไว้ ก็เลย
ถึงทางตันแล้ว ซึ่งเศรษฐกิจพอเพียงคือคำ�ตอบ และคงมีการยืนยันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอ่าน บทสัมภาษณ์นักคิดทั้ง ๑๓ คน ที่เว็บไซต์ www.trf.or.th สำ�หรับ “แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง” เน้นที่ความพอเพียงกับคุณธรรมอันประกอบด้วย ความซือ่ สัตย์ ขยัน อดทน เอือ้ เฟือ้ เผือ่ แผ่ แบ่งปัน ซึง่ เป็นสองสิง่ ทีส่ �ำ คัญ แต่คนไม่คอ่ ยพูดถึง จากมติชนรายวัน วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ปีที่ ๓๑ ฉบับที่ ๑๑๑๘๕
ไม่รู้ว่าเงินมันหายไปเพราะอะไร เพราะว่า พวกเราแต่ละคนไม่ได้ตั้งใจว่าจะเข้ามารับ ผิดชอบ เข้ามาเพราะว่าถูกขอร้องให้เข้ามา ช่วย ก็เลยช่วยไปตามประสา ซึ่งตรงนี้ถ้าเรา ทำ�งานกว้างขวางไประดับชาติก็จะอันตราย มาก เพราะว่าเรามาทำ�งานโดยไม่ได้คดิ ทีจ่ ะ มารับผิดชอบให้จริงจังอะไร ทัง้ หมดนีเ้ ป็นข้อ ที่ควรน่าจะแก้ไข แต่ อย่ า งไรก็ ดี ประโยชน์โดยตรงของ งานนี้ก็คือ พวกเราแต่ละคนได้ลดตัวลดตน ได้ถอดตัวถอดตนไม่ยึดมั่นในความคิดของ แต่ละคน จึงทำ�ให้งานราบรืน่ เรียบร้อยลงตัว การประสานสัมพันธ์ต่างร่วมไม้ร่วมมือกัน ทุกคนก็จะรู้สึกว่างานมันง่ายขึ้น แม้งานมัน หนักแต่งานมันก็ง่ายขึ้น เหนื่อยแต่แรงกาย แต่ใจเราสบายกันขึ้น เพราะทุกคนไม่ได้ปัก ยึดความคิดของตนเอง พยายามทำ�งานแล้ว ก็หารือกัน เอาเหตุผลที่คิดว่าจะดีที่สุดในที่ ประชุมมาเป็นมติของที่ประชุม แล้ ว เราก็ ไ ด้ เ ห็ น ว่ า แม้ ง านนี้ มั น ไม่ ไ ด้ เป็นไปอย่างที่เราคิดเลย ทั้งๆที่ต้ังใจกันว่า
จะมีอาคารใหญ่ขนาดพื้นที่สิบกว่าไร่ให้เรา จัดงานอย่างโอ่โถง ไม่ต้องกางเต็นท์ กางซา แลน แต่สุดท้ายวิมานในฝันก็พังทลายต้อง เข้ามาจัดในชุมชนราชธานีอโศก สุดท้ายก็ กลายเป็น Accident good luck การจัดงาน ครั้ ง นี้ เ ลยกลายเป็ น การทำ � บุ ญ ใหญ่ บ้ า น ราชเมืองเรือ ทุกซอกทุกมุม ทำ� ๕ส. อย่าง สะอาดเนี้ยบ ก็เหมือนเปิดหมู่บ้านชุมชน ราชธานีอโศกให้ประชาชนได้เข้ามาดู มา สัมผัสซอกนัน้ มุมนี้ ซึง่ ขนาดปีนแี้ ม่น�้ำ ลำ�ธาร เรายังไม่มีน้ำ�ไหล ถ้าปีหน้ามีน้ำ�ใสไหลเย็น เห็นตัวปลาด้วย ก็นา่ จะทำ�ให้ชมุ ชนราชธานี อโศกน่ารื่นรมย์มากขึ้นไปกว่าเก่า บทเรียนครั้งนี้ก็ทำ�ให้เห็นว่า แม้มีบาง สิ่งที่มันทำ�ให้ไม่ได้อย่างใจของเรา แต่สิ่ง ที่เกิดขึ้นโดยความสมานสามัคคี มันกลับ กลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เกินคาดเกินคิด ดังนั้น สิ่งที่ชาวอโศกประจักษ์กันมาตลอดก็คือว่า Everything happens for the best สิ่งที่เกิด ขึน้ สิง่ นัน้ คือสิง่ ทีด่ ที สี่ ดุ เพราะสิง่ นัน้ นัน่ คือ พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้านั่นเอง.
ฉบับที่ ๔๗๑ (๔๙๓)
ข่าวอโศก
9
ความมหัศจรรย์ของตลาดอาริยะ พ่อครูบอกว่าการทีช่ าวบ้าน เขาเฮละ โลมากันเป็นเรือนหมื่นเรือนแสน โดยที่ เราก็ไม่ได้มีประชาสัมพันธ์อะไรออกไป มากมาย แต่มันเป็นเรือ่ งทีใ่ จของเขาคอย ที่ จ ะมารั บ บริ ก ารจากพวกเรา สิ่ ง นี้ มั น แสดงให้เห็นถึง “จิตวิญญาณ” ของเขา ทีต่ งั้ ใจรอคอยจะได้สงิ่ เหล่านี้ มันเป็นเรือ่ ง ที่เข้าถึงจิตวิญญาณแล้ว และก็จะเห็นได้ ว่าเมื่อเขามาแล้ว เขาก็จะให้ความร่วมไม้ ร่วมมือกับเราเป็นอย่างดี พยายามปรับตัว ของเขาให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของเรา เราจะไม่เห็นคนเมามาเกะกะระราน ในงานนี้ แม้แต่คนที่ยังอดสูบบุหรี่ไม่ได้ ก็ จะกะมิดกะเมี้ยนหลบๆ ซ่อนๆเอา แต่ก็จะ เห็นน้อยมาก หรือแม้แต่กระทั่งมิจฉาชีพ ปี นีแ้ ทบจะไม่ได้ยนิ เรือ่ งร้องเรียนว่ามีมจิ ฉาชีพ มาล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋า หรือมาขโมยข้าว ขโมยของ นอกจากไม่มีแล้ว โทรศัพท์หายก็ มีการประกาศให้มารับคืน กระเป๋าเงินหายก็ มีการประกาศให้มารับคืน สิง่ เหล่านีก้ ไ็ ด้เห็น ถึงจิตวิญญาณของประชาชนที่มีการพัฒนา ที่สำ�คัญที่สุดก็คือว่า เขาให้ความร่วมมือกับ เราทีจ่ ะไม่มาทำ�สิง่ สกปรกเลอะเทอะ เพราะ คนหลายหมื่นขนาดนี้ขยะเต็มไปหมดแล้ว และเขาร้อนมากต้องการดื่มน้ำ�มาก แล้วเรา ก็ขายถุงน้ำ�แข็งให้อยู่หลายจุด ต้องเข้าแถว ยาวกว่าจะซื้อได้ แค่ถุงน้ำ�แข็งถ้าไม่จัดการ ให้ดี มันก็จะเป็นขยะเกลือ่ นรกเลอะไปหมด แต่นี่ก็เรียบร้อยดี ก็ได้เห็นถึงความตั้งใจของ ประชาชนที่ตั้งใจไม่ทำ�สิ่งสกปรกให้เกิดขึ้น ภาพรวมทั้งหมดนี้ของงานก็ดูว่าเป็นสิ่งที่น่า พอใจอย่างยิ่งกับผู้คนที่เข้ามาซื้อของ แล้ว เขาก็มีพัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณของ มนุษยชาติด้วย แล้ ว ประโยชน์ ที่ ช าวอโศกจะได้ รั บ คืออะไร? เรื่องตลาดอาริยะเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ เหลือเชื่อ เพราะชาวอโศกยิ่งจน และไม่ได้ สะสม เงินก็มีน้อย แต่ทำ�ไมถึงขยันขาดทุน เหลื อ เกิ น ซึ่ ง มั น ไม่ ส อดคล้ อ งกั บ ภาวะ เศรษฐกิจ หรือวิถชี วี ิตคนจนอย่างเรา แต่มัน ก็เป็นการพิสจู น์สจั จะอันยิง่ ใหญ่ของในหลวง ที่ท่านตรัสไว้ว่า “ขาดทุนของเราคือกำ�ไร ของเรา” มันจะเป็นการพิสูจน์สัจจะตัวนี้ ยิ่งเราจนเราก็ยิ่งกล้าขาดทุนได้ มันก็จะเป็น เรื่องเหลือเชื่อว่าเราจะอยู่กันได้อย่างไร??? ทิ ศ ทางในการพั ฒ นาของชาวอโศก พ่ อ ครู เ คยให้ โ ศลกไว้ ว่ า “เลิ ก ละ ขยั น กล้าจน ทนเสียดสี หนีสะสม นิยมสร้างสรร
สวรรค์-นิพพาน” ซึ่งปฏิบัติการครึ่งแรกที่มี การเลิกละ ขยัน กล้าจน ทนเสียดสี ดูเหมือน พวกเราก็จะผ่านกันมาได้อย่างสบาย พอมี ความขยัน มีความกล้าจน และทนเสียดสีได้ เราก็จะได้เห็นถึงความมั่นคง เป็นปึกแผ่น ของแต่ละชุมชนเกิดขึ้นมา ขั้นตอนต่อไป ถ้าเราติดแป้นไม่พัฒนา ต่อเราก็จะเสื่อม เราก็จะเป็นคนสะสม แล้ว ก็มีฐานบัลลังก์ที่สุขสบาย ฐานที่ต้องพัฒนา กันต่อก็คอื หนีสะสม-นิยมสร้างสรร-สวรรค์นิพพาน เมื่อเราเริ่มจะมีบัลลังก์มีแป้นอยู่ สบายแล้ว เราต้องตั้งตนอยู่บนความลำ�บาก กันอีก เสียสละกันให้มากขึ้นไปอีกจนสำ�เร็จ เรียกว่า จนอย่างจนสำ�เร็จ คือเป็นคนจนจริงๆ จนได้ส�ำ เร็จจริงๆ หนีสะสมด้วยการให้ออกไป อย่างตลาดอาริยะ นับวันๆดูเหมือน ทุนที่เราใช้ก็ค่อนข้างจะน้อยลง ปีที่แล้วเรา มีเงินขาดทุนประมาณ ๖-๗ ล้าน แต่ปีนี้ ลงขันกันรวบรวมได้ประมาณ ๔ ล้าน ดังนั้น นับวันเงินทุนมันก็จะร่อยหรอลงไป เราจะ ต้องอาศัย “ความประณีต-ประหยัด” ซึ่ง เป็นหลักการของนิยมสร้างสรรค์ โดยเราจะ ต้องมาคิดสร้างสรรค์กันมากขึ้น แล้วก็ให้มี ประณีตประหยัดกันมากขึน้ ก็มผี เู้ สนอว่าเป้า หมายของงานตลาดอาริยะ น่าจะเป็นเรื่อง ของการให้ความช่วยเหลือคนยากจน คนที่ เขาลำ�บากเดือดร้อนเป็นสำ�คัญ ดั ง นั้ น สิ น ค้ า ของเราที่ นำ � มาขายใน ตลาด ควรจะมุ่งเน้นสินค้าที่โดนใจคนจน หรือว่าเป็นขวัญใจคนจนเป็นหลัก สินค้าบาง ตัว อย่างถ้วยเซรามิคก็ได้รบั ความนิยมมาก แต่เราก็ดวู า่ เป็นพวกพ่อค้าแม่คา้ มากว้านซือ้ กัน เราอาจจะเอามาขายบ้าง ให้ถือว่าเป็น สีสันในงาน แต่สินค้าที่คนจนมาซื้อไปจริงๆ เลยก็คือ ไม้กวาด กระติ๊บข้าว น้ำ�มัน น้ำ�ตาล หม้อ เตา ที่คนจนเขาใช้กัน ซึ่งเราจะต้องหา ซื้อสินค้าเหล่านี้มาให้มากพอ แล้วให้ได้เป็น ของดีด้วย เช่น หม้อตราจระเข้ ไม้กวาดก็ ไม่ใช่ไปกว้านซื้อมา ราคาถูกๆ บางๆ ถ้า เราสามารถเข้าไปหาแหล่งทุนได้เลย และ ก็สั่งเอาให้ได้คุณภาพด้วย เพื่อมาบริการพี่ น้องของเรา ถ้าเราได้จากแหล่งผลิตโดยตรงเลย มัน ก็จะได้ของดีราคาถูกขึน้ มา แล้วก็จะสามารถ มาช่วยพีน่ อ้ งทีเ่ ขายากจนได้อกี ด้วย ซึง่ ตรงนี้ เราก็จะต้องมีการลงรายละเอียดให้มันเป็น
เรื่องของการนิยมสร้างสรรค์ สิ่งเหล่านี้คือ ทรัพย์แท้ทชี่ าวอโศกจะได้ อย่างทีพ่ อ่ ครูบอก ว่า ทรัพย์แท้ คือ ความขยัน-สมรรถนะความมีปัญญา-และความเสียสละ ตรงนี้ มันมีคณ ุ ค่ายิง่ กว่ามีเงินเป็นร้อยล้านพันล้าน มีเงินเป็นร้อยล้านพันล้านแต่ไม่มที รัพย์แท้ ๔ ตัวนี่มีเท่าไหร่ก็เจ๊งหมด แม้ไม่มีเงินร้อยล้านพันล้าน แต่มีความ ขยันมีสมรรถนะ มีปัญญาและมีการเสียสละ แม้มีน้อยก็ทำ�ให้ดูเหมือนมีมากได้ ตัวอย่าง เช่น เรามีเงินร้อยบาท เราอาจจะมาขายของ ในตลาดอาริยะสามารถช่วยคนได้เป็น๑๐๐ เป็นต้นว่าเราขายไม้กวาดเพียงขาดทุนด้าม ละบาท แค่นี้ก็ถูกมากแล้วหละ เพราะว่า จริงๆ แค่เราขายราคาเท่าทุน โดยไม่บวกค่า ขนส่ง ไม่บวกค่าบริหารจัดการ มันก็ถูกมาก แล้ว อย่างต่างจังหวัดเขาเอากระทกรกมาส่ง ขายหน้าสันติอโศก เขาบอกว่าซือ้ มาจากสวน แถวปราจีนบุรีประมาณกิโลละ ๕ บาท แต่ มาขายสันติอโศกคิดค่าขนส่งบวกค่าบริหาร จัดการจาก ๕ บาท พอมาขายหน้าสันติอโศก รวมเบ็ดเสร็จขึ้นมาเป็น ๑๕ บาท เพราะฉะนั้น เพียงเราขายเท่าทุน ๕ บาท มันก็ถูกมากกว่าตลาดตั้งหลายเท่าตัว หรือเราลดได้กิโลละ ๑ บาทหรือชิ้นละ ๑ บาท มันก็จะถูกมากอยู่แล้วหละ ยิ่งขาดทุน ไปอีกก็ยิ่งจะช่วยคนได้มาก ดังนั้นเราจะเห็น ได้ว่า ถ้าเรามีความขยัน มีสรรถนะ มีปัญญา แม้เงินร้อยเดียวก็สามารถทีจ่ ะช่วยคนได้เป็น ร้อยคน และก็ชว่ ยได้ดว้ ยสินค้าของดีราคาถูก อีกด้วย ถ้าแต่ละคนช่วยลงรายละเอียดไปหา แหล่งต้นทุนผลิต แล้วก็ให้ได้ของดีด้วย สิ่ง เหล่านี้ก็คือทรัพย์ของชาวอโศกโดยตรงเลย ยิ่งเรามีสมรรถนะ มีความขยัน มีปัญญาที่ จะสร้างสรรค์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดได้มาก เท่าไหร่ ก็จะทำ�ให้ ยิ่งจนก็ยิ่งอุดมสมบูรณ์ ยิ่งจนก็ยิ่งสามารถแจกจ่ายเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สู่สังคมออกไปในวงกว้างได้ ก็จะทำ�ให้ชาว อโศกได้รับการเชื่อถือศรัทธา ซึ่งเราจะเคย ได้ยินภาษิตจีนบอกว่า มีศัตรู ๑ คนก็มากไป มีมิตร ๑๐๐ ก็น้อยไป สิ่งที่จะเป็นความมั่นคงของชีวิต ที่ดี ที่สุดก็คือ เรามีมิตรดีสหายดี มีคนที่เราได้ ช่วยเหลือเขาไว้มาก อย่างงานนี้เราจะเห็น ได้วา่ พวกเราบางคนเห็นแล้วน้�ำ ตาซึมเลยนะ ประชาชนทีเ่ ขามา หอบลูกจูงหลาน บางคนก็
ท้อง บางคนก็อมุ้ เด็กเล็ก บางคนก็เป็นผูเ้ ฒ่า ผู้แก่อายุ ๘๐-๙๐ เข้ามาเบียดเสียดซื้อข้าว ซื้อของหอบกันพะรุงพะรังกลับไป เราเห็น แล้วก็รู้สึกว่าน่าสงสาร น่าเห็นใจที่เขามากัน อย่างยากลำ�บาก กว่าจะได้ขา้ วได้ของเครือ่ ง กินเครื่องใช้กลับไป สิ่งที่ควรจะแก้ไขในงานนี้ ๑. มีการเสนอว่า น่าจะขายสินค้าเพียง แค่สองวันให้เต็มที่ไปเลย พ่อครูเห็นว่าถ้า ขายสองวันมันจะเหนื่อยมากทั้งคนซื้อคน ขายประชาชนก็จะมาแออัดยัดเยียด อย่าง โรงปุ๋ยพวกเรานี่แหละตายก่อน ถ้าคนมา แออัดยัดเยียด ๒ วัน และสินค้าหลายอย่าง คนก็จะยื้อแย่งยัดทะนาน คนขายก็จะตาย คนซื้อก็จะตาย ดังนั้น ๓ วันเผื่อเหลือเผื่อ ขาดไว้ดีแล้ว และที่สำ�คัญก็คือ ถ้าเรายิ่งขาย น้อยวันพวกเราก็จะปล่อยสินค้าให้หมดเร็วๆ ซึ่งมันก็จะกลายเป็นให้พวกฉวยโอกาสที่จะ มาเวียนเทียน มากว้านซื้อ เข้าทางพวกนี้ แต่ ถ้ า เราค่ อ ยๆ ขายกั น ไป เราก็ จ ะ ค่อยๆ ใช้ปฏิภาณไหวพริบ ดูออกว่าคนนี้ เวียนเข้ามาหลายรอบแล้ว ก็จะได้หาทาง หยุดบ้าง สกัดกั้นได้บ้าง ก็จะไม่ทำ�ให้คน โลภเขาได้สมโลภของเขาเกินไป ดังนั้นเรา คงจะต้องยืนหยัดยืนยันที่จะขาย ๓ วันให้ ได้ เ หมื อ นเดิ ม เป็ น แต่ เ พี ย งว่ า อั ต ราส่ ว น ๕๐ : ๓๐ : ๒๐ นี่ พ่อให้แม่ให้คงต้องใช้มหา ปเทสยืดหยุน่ ด้วยว่า บางทีเขาเหมารถกันมา ไกลๆ เลย แต่ได้เวลาปิดของเราพอดี ถ้าเรา พิจารณาดูว่า ชาวบ้านเขาไม่ได้มากว้านซื้อ หรอก เขามีความจำ�เป็น อันไหนที่เราพอจะ ยืดหยุ่นได้ เพราะว่าไม่ใช่เป็นประเด็นที่เขา จะมาฉวยประโยชน์อะไร แต่ก็จำ�เป็นเดือด ร้อนจริงๆ ก็ต้องใช้หลักมหาปเทสที่ควรให้ ความช่ ว ยเหลื อ เพราะเราตั้ ง เป้ า เพื่ อ ช่ ว ย เหลืออยู่แล้ว ๒. เราทำ�สิ่งเหล่านี้เพื่อช่วยเหลือคน ที่ ย ากจนเดื อ ดร้ อ นและให้ เขาเกิ ด ความ ภาคภูมิใจว่า พวกเราเหมือนกับมาเป็นผู้รับ ใช้ ไม่ได้มาหวังสิ่งตอบแทน ไม่ได้หวังผล ประโยชน์อื่นใดซ่อนแฝง ดังนั้นโดยสัจจะ ของการให้ พ่อครูเคยบอกไว้ว่า “ให้หมด ถึงจะได้หมด” ให้หมดก็คือ ให้แบบไม่ถือ เนื้อถือตัว ให้แบบไม่ลำ�เลิกบุญคุณ ให้แบบ อ่อนน้อมถ่อมตน เราก็จะได้หมดอัตตา หมด (อ่านต่อหน้า๘)
10 สมเด็จพระราชินนี าถเอลิซาเบธที่ ๒
รวมปักษ์ มิถุนายน ๒๕๕๙ (ต่อจากหน้า ๑๒)
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง แห่งสหราชอาณาจักร ทรงส่งพระราชสาส์นมา ถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๔ ธ.ค. สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำ�ประเทศไทย ได้เผยแพร่พระราข สาส์นทีส่ มเด็จพระราชีนนี าถเอลิซาเบธทีส่ อง แห่งสหราชอาณาจักร ทรงส่งมาถวายพระพร ชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช เนือ่ งในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ พระราชสาส์นมีใจความว่า “หม่อมฉันขอถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๘๘ พรรษา ของฝ่าพระบาท ความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหราชอาณาจักรและประเทศไทย และ ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ นับวันจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หลังจากกว่า ๔๐๐ ปีแห่ง มิตรภาพ หม่อมฉันขอถวายพระพรชัยมงคลให้ฝา่ พระบาททรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และ ทรงพระเกษมสำ�ราญ” เอลิซาเบธ Her Majesty Queen Elizabeth II has sent the following birthday message to His Majesty King Bhumibol Adulyadej. “I have great pleasure sending Your Majesty my warmest congratulations on the occasion of your 88th Birthday. After over 400 years of friendship, the special relationship between our people and countries continues to grow stronger. I send you my best wishes for good health and happiness.” Elizabeth R. (โดย www.mgronline.com) นายกฯ วอนศิษย์ธรรมกาย (ต่อจากหน้า ๑๒) นายกฯ วอนศิษย์ธรรมกายยึดหลักพระพุทธเจ้าไตร่ตรองสิ่งใดถูกหรือผิด พล.ต.สรรเสริ ญ แก้ ว กำ � เนิ ด โฆษกประจำ � สำ � นั ก นายกรั ฐ มนตรี กล่ า วถึ ง กรณี ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย รวมตัวไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวพระธัมมชโย เจ้าอาวาสว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอให้ทุกฝ่ายยึดหลักคำ�สอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือ การรับฟังเหตุและผลซึ่ง กันและกัน ไม่วู่วาม ต้องรู้จักใคร่ครวญอย่างมีสติว่าสิ่งใดถูกหรือผิด เพื่อร่วมกันหาทางออก ของปัญหาให้ดีที่สุด พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีเข้าใจดีถึงความเลื่อมใสศรัทธาของคณะ ศิษย์ที่มีต่อพระธัมมชโย แต่อยากให้เปิดใจกว้างอย่างพินิจพิเคราะห์ในเรื่องของกฎหมาย บ้านเมืองด้วย ทุกสังคมในโลกล้วนมีกฎกติกา และอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเรียบร้อยภายใต้ การปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างเท่าเทียมกัน ส่วนกรณีมีบุคคลที่มีชื่อเสียงประกาศเชิญชวนให้ศิษยานุศิษย์ออกมาร่วมปฏิบัติธรรม แผ่เมตตาทีว่ ดั พระธรรมกายให้มากทีส่ ดุ เพือ่ เรียกคืนความยุตธิ รรมให้พระธัมมชโยพ้นมลทิน อาจถูกสังคมมองได้วา่ เป็นการปลุกระดมมวลชนทีม่ นี ยั แอบแฝง เมือ่ มีคนออกมาจำ�นวนมาก อาจเกิดการกระทบกระทั่งกับประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดขึ้น จึงขอ เรียกร้องให้ยุติการดำ�เนินการดังกล่าว (โดย www.mgronline.com ๑๙ มิ.ย.๕๙) แดงอุตรดิตถ์หนั หลังให้แกนนำ�นปช.
(ต่อจากหน้า ๑๒)
แกนนำ�แดงอุตรดิตถ์ ประกาศหันหลังให้แกนนำ�นปช.ส่วนกลาง บอกขอทำ�มาหากินดี กว่า ระบุไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของความรุนแรงอีกแล้ว เผยที่ผ่านมาเคยมีปัญหาแต่ไม่มีคน ของเสื้อแดงเหลียวแล กลับเป็นฝ่ายตรงข้ามที่ยื่นมือช่วยเหลือ วันที่ 19 มิถนุ ายนนี้ แกนนำ�แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ส่วน กลาง จะเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติร่างรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ อย่างไร ก็ตามวันนี(้ 18 มิ.ย.) นายอำ�นาจ คงโต ซึง่ แกนนำ�กลุม่ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.) จ.อุตรดิตถ์ พูดถึงศูนย์ปราบโกงประชามติรา่ งรัฐธรรรมนูญ ของแกนนำ�นปช. ส่วนกลางว่า ก่อนเปิดศูนย์ปราบโกงลงประชามติ ก็มกี ารชักชวนเข้ามา แต่กย็ นื ยันคำ�เดิมว่า ไม่เข้าไปยุง่ เกีย่ วอะไรอีกแล้ว ขอทำ�มาหากินกับครอบครัวจะดีกว่า เพราะไม่ตอ้ งมีปญ ั หาอะไร กับใคร ไม่ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนเพราะถูกติดตามตัวจากหน่วยงานทางราชการ “ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาส่วนตัวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งเป็นคนเสื้อ แดงเหมือนกัน แต่กลับไม่มีการยื่นมือเข้ามาช่วยจาก นปช.และคนเสื้อแดงเลย แต่คนที่เข้า มาช่วยกลับคนฝ่ายตรงข้าม จนสามารถดำ�เนินชีวิตอยู่อย่างปกติได้ และตัดสินใจแล้วว่า จะ ไม่ร่วมกับ นปช.และคนเสื้อแดงอีกต่อไป” นายอำ�นาจ กล่าว แกนนำ�นปช.อุตรดิตถ์คนนี้ กล่าวด้วยว่าหลังการยึดอำ�นาจของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์ โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ นายกรัฐมนตรีแล้ว ตนจึงตัดสินใจ หันหลังและไม่เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่ม นปช.อุตรดิตถ์ หรือเวทีใดๆทันที เพราะคิดว่าก่อน หน้านี้ตนเคยเป็นส่วนหนึ่งในความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองจนนำ�ไปสู่การยึดอำ�นาจ ของทหาร มีแกนนำ�และสมาชิก นปช.อุตรดิตถ์หลายคนชักชวนให้กลับไปร่วมแนวทางและ อุดมการณ์เหมือนเดิม แต่ได้บอกปฏิเสธไปว่าไม่ขอร่วมอีกแล้ว. (โดยไทยโพสต์ ๑๘ มิ.ย.๕๙)
ขวัญชัยหนีคกุ
(ต่อจากหน้า ๑๒)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายวันที่ ๒๘ มิ.ย. ที่ห้องพิจารณาคดี ๔ ศาลจังหวัดอุดรธานี นายชยสร ตันทวีวงศ์ ผู้พิพากษา ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำ�พิพากษา คดีดำ�ที่ อ.๒๑๔๙/๕๑ คดีแดงที่ ๒๖๕๒/๕๔ ครั้งที่ ๒ ระหว่างนายเจริญ หมู่ขจรพันธุ์ อดีตแกนนำ�กลุ่มพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) อุดรธานี กับพวก ๗ คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายขวัญ ชัย สารคำ� หรือไพรพนา อดีตประธานชมรมคนรักอุดร ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า, ร่วมกัน ทำ�ร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ร่วมกันทำ�ร้ายร่างกายโดยไตร่ตรอง ไว้ก่อน และร่วมกันทำ�ลายทรัพย์สิน เหตุเกิดที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เขต เทศบาลนครอุดรธานี เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๑ ภายหลังศาลอ่านคำ�พิพากษาเสร็จ นายปิน่ ทักษิณ ทนายความนายขวัญชัยเปิดเผยว่า วันนี้ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำ�พิพากษาโดยออกหมายจับจำ�เลยไว้ เป็นการอ่านคำ�พิพากษาลับ หลังจำ�เลย โดยได้พพิ ากษาแก้ค�ำ พิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้เหลือจำ�คุก ๒ ปี โดยไม่รอลงอาญา และปรับเป็นเงิน ๓๕๐,๐๐๐ บาท และสัง่ ปรับนายประกันทีท่ �ำ สัญญาไว้จ�ำ นวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท เหตุทศี่ าลฎีกาลดโทษของศาลอุทธรณ์ลงเพราะเห็นว่าจำ�เลยมีความผิดจริง แต่ศาลชัน้ ต้นและศาลอุทธรณ์พจิ ารณาโทษสูงเกินไป ส่วนคดีการหลบหนีไม่มาฟังคำ�พิพากษาของนาย ขวัญชัยนั้นจะมีการนำ�มาประกอบพิจารณาโทษอีกครั้ง เพราะครั้งนี้ศาลฎีกาพิพากษาให้ได้ รับโทษไม่มากนัก หากนายประกันติดตามตัวจำ�เลยมาได้อาจมีการพิจารณาเรื่องของการ ปรับนายประกันอีกครั้ง ด้านนางอาภรณ์ สาราคำ� ภรรยานายขวัญชัย เปิดเผยว่า ขอขอบคุณที่ศาลเมตตาลด โทษให้เหลือจำ�คุกแค่ ๒ ปี ตนจะพยายามติดต่อกับทางนายขวัญชัยให้รับทราบว่าศาลท่าน ตัดสินเหลือจำ�คุกเพียง ๒ ปี วันนี้ตนยังไม่ได้คุยกับตัวนายขวัญชัย ทราบเพียงว่าไปอยู่ในที่ ทีป่ ลอดภัย เพราะยังได้โทรศัพท์มาออกอากาศสดทีส่ ถานวิทยุ เมือ่ วันที่ ๑๓ มิถนุ ายนทีผ่ า่ น มาซึ่งเป็นวันเกิดของนายขวัญชัย โดยขณะออกอากาศสด นายขวัญชัยได้ฝากบอกกับประชาชนว่ายังอยู่สบายและ ปลอดภัยดี ซึ่งโทรศัพท์ที่ใช้โทร.มาไม่ได้โชว์เบอร์ จึงติดต่อกลับไปไม่ได้ ไม่ทราบว่าขณะนี้ นายขวัญชัยหลบไปอยูท่ ไี่ หน เพราะวันนัน้ ตนก็ไม่ได้ฟงั รายการเพราะไปธุระทีก่ รุงเทพฯ แต่ มาทราบจากสมาชิกที่รับฟังทางคลื่น ๙๗.๕ เมกะเฮิรตซ์ และก็ไม่ทราบว่าพูดนานแค่ไหน “ถึงวันนี้เราก็ไม่ทราบว่าตัวแกไปอยู่ที่ไหน ทราบแต่ว่าอยู่ในที่ที่ปลอดภัย เรื่องที่ไม่มา ฟังคำ�พิพากษา คิดว่าตัวเขาเองคงพิจารณาเองแล้วว่าหากประเทศไทยมีประชาธิปไตยเมื่อ ไหร่ คิดว่าตัวนายขวัญชัยน่าจะกลับมารับโทษ เพราะช่วงนี้ยังถือว่ายังไม่มีประชาธิปไตย เมื่อคิดว่ายังไม่มีความยุติธรรมก็คงไปหาที่ปลอดภัยของตัวเอง เพราะขนาดตัวแกเองอยู่ที่ บ้านยังไม่ปลอดภัย ทำ�ให้เราคิดว่าที่ผ่านมาตัวแกเองถูกรังแกมากที่สุด” นางอาภรณ์กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนคดีท่ีถูกลอบยิงและศาลชั้นต้นยกฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดจะดำ�เนิน การอย่างไรต่อ นางอาภรณ์ให้ทางนายปิ่น ทนายความนายขวัญชัยตอบ โดยนายปิ่นตอบ ว่าเรือ่ งนีก้ จ็ ะดำ�เนินการตามขัน้ ตอนต่อตามระยะเวลาทีก่ �ำ หนดทีจ่ ะขอยืน่ อุทธรณ์และฎีกา คดีให้ถึงที่สุด ในฐานะเป็นโจทก์ร่วมที่เป็นผู้เสียหาย เพราะจุดนี้เองที่ทำ�ให้ตัวของนายขวัญ ชัยมีความรูส้ กึ ว่าตัวเองไม่ปลอดภัย ในฐานะทีเ่ ขาเป็นผูเ้ สียหายเขาได้รบั ผลอย่างหนึง่ แต่ใน ฐานะเป็นผูก้ ระทำ�มันกลับมีผลกระทบอีกอย่างหนึง่ นีค่ อื ความรูส้ กึ ของนายขวัญชัยทีเ่ ราต้อง พยายามทำ�ความเข้าใจกับเขา ส่วนเขาจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขณะที่นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ เปิดเผยถึงเรื่องคดีความคดีดังกล่าวว่า เป็นคดีที่ยืดยาว และยาวนานมาก ถือว่าวันนี้เป็นวันที่หมดเวรหมดกรรม การที่นายขวัญชัยหลบหนีไปนั้น ตนก็ไม่รู้ว่านายขวัญชัยคิดอย่างไร แต่รู้เพียงว่าคดีนี้มีอายุความ ๑๕ ปี ขอฝากไว้สำ�หรับ คนที่ติดตามคดีนี้ อยากให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์สำ�หรับทุกคน อย่าคิดแค่เพียงเอามัน อย่าคิด แค่เพียงรับใช้นักการเมือง “อยากให้ดูกรณีของนายขวัญชัยเป็นตัวอย่าง เมื่อคดีความถึงที่สุด นักการเมืองที่เขา รับใช้ยังไม่เคยหันกลับมาเหลียวแลสักคน ส่วนตัวแล้วได้อโหสิกรรมให้มาตั้งนานแล้ว” นาย เจริญกล่าว (โดย www.mgronline.com ๒๘ มิ.ย. ๕๙)
ภาพเมื่อ มกราคม ๕๗ จาก www.pracharkomnews.com
ฉบับที่ ๔๗๑ (๔๙๓)
เจริญธรรมสำ�นึกดี พบกับน.ส.พ.ข่าวอโศก ฉบับที่๔๗๑(๔๙๓) รวมปักษ์มิถุนายน ๒๕๕๙ v เก็บตกอโศกรำ�ลึก’๕๙ งานอโศกรำ�ลึกปีนี้ (พ.ศ.๒๕๕๙) เป็น ครั้งที่๓๕ ได้มาจัดที่พุทธสถานสันติอโศก เหมือนเดิม หลังจากว่างเว้นมา ๗ ปี ซึ่งบาง คราวก็ย้ายไปจัดกันที่กลางถนนในที่ชุมนุม ล่าสุดคือปี’๕๘ ก็จดั ทีพ่ ทุ ธสถานราชธานีอโศก มาปีนกี้ จ็ ดั กันทีส่ นั ติอโศก ก็ได้เห็นพลัง รวมของชาวสันติอโศก สังเกตได้จากการออก จากวิถีชีวิตปกติตามจุดต่างๆแห่งการงาน ก็มาร่วมกันซ้อมการแสดงละครธรรมะทุก ฐานะ แม้หลายคนอายุจะยาวมากขึ้น แต่ก็ ไม่เป็นอุปสรรคใดๆในการละวางการงานที่ ทำ�อยู่ประจำ�มาร่วมกันซ้อมการแสดง ใครที่ได้ดูการแสดงของชาวสันติอโศก ในช่วงเวลาสั้นๆแต่ก็เต็มไปด้วยสาระสัจจะ เป็นการละครฟอร์มยักษ์ ที่จิ้งหรีดคิดว่าคุ้ม ค่าต่อการลงทุน ญาติธรรมท่านใดที่ไม่ได้ดู ก็เปิดดูในยูทูปได้นะฮะ ใครไม่ได้ดูก็คงน่า เสียดายฮะ...จี๊ดๆๆ จิง้ หรีดเห็นบรรยากาศของงานก็ดคู กึ คัก แค่เฉพาะคนในชุมชนต่างๆของชาวอโศก ที่มาร่วมงาน ก็ทำ�ให้สันติอโศกแคบไปถนัด จากบรรยากาศงานปีนี้จิ้งหรีดก็รู้สึกว่าชาว เรามีจำ�นวนมากขึ้น แม้แต่แถวใส่บาตรในวันแรกของงาน (๕มิ.ย.) ก็ยาวกว่าทุกปีที่จิ้งหรีดได้มาร่วม งานอโศกรำ�ลึกที่สันติอโศก ทั้งหน้าเก่าหน้า ใหม่ รวมไปถึงมิตรร่วมต้านมารอย่างพธม. และกปปส.ก็มาพบปะกันมากหน้าหลายตา ยิ่งเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนชาวอโศก ก็ได้มาร่วมกันเป็นจำ�นวนมาก แค่ดจู ากสายตา ทีไ่ ม่ยาวมากของจิง้ หรีดเท่านัน้ นะฮะ...จีด๊ ๆๆ โรงบุญในงานอโศกรำ�ลึกปีนี้ก็มีไม่ต่ำ� กว่า ๗๐ โรงบุญ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ก็นบั ว่ามากกว่าทุกปีทผี่ า่ นมา เป็นการฉลอง การครองราชย์ของสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทีไ่ ด้ ครองราชย์มานานถึง ๗๐ ปี นานที่สุดกว่า กษัตริยท์ กุ พระองค์ในโลก ในวันที่ ๙ มิ.ย.๕๙ พ่อครูจงึ ให้ลกู ๆใส่เสือ้ เหลือง ซึง่ เป็นสีประจำ� พระองค์ เป็ น สั ญ ลั ก ษณ์ ที่ แ สดงถึ ง ความ เคารพเทิดทูนในคุณงามความดีของพระองค์ หลังจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงมี พระชนมมายุ ๘๘ พรรษา เมือ่ ปี’๕๘ ทีผ่ า่ นมา ชาวอโศกตัง้ ใจจัดโรงบุญให้ถงึ ๘๘๘ โรงบุญ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ก็ได้ครบจำ�นวน ตามความมุ่งมั่นของชาวอโศกทั่วประเทศ ฉะนั้ น ในปี พ .ศ.๒๕๕๙ ซึ่ ง สมเด็ จ
ข่าวอโศก พระเจ้าอยู่หัวฯจะมีพระชนมายุครบ ๘๙ พรรษา จิง้ หรีดก็ขอบอกบุญกับชาวเรา และผู้ มีจติ ศรัทธาทุกท่านนะฮะ ว่าเราจะตัง้ โรงบุญ ให้ได้ถงึ ๘๙๐ โรงบุญ เพือ่ ถวายเป็นพระราช กุศล ใครได้ตั้งโรงบุญที่ใดนับแต่รู้ข่าวนี้ ก็ให้ แจ้งไปทีส่ นั ติอโศกเช่นเคย หรือจะแจ้งทีพ่ ทุ ธ สถานใกล้ๆในพืน้ ทีจ่ ดั ตัง้ โรงบุญของท่านก็ได้ แล้วทีต่ า่ งๆก็จะรวบรวมจำ�นวนโรงบุญไปให้ ทางสันติอโศกเองนะฮะ...จี๊ดๆๆ v เด็กอโศกยุคพัฒนา ถ้าใครได้ร่วมงานอโศกรำ�ลึก’๕๙ จะ มองเห็ น การพั ฒ นาหรื อ แนวทางในการ พั ฒ นาเด็ ก อโศก จากรายการที่ เ ยาวชน ของอโศก ใส่ใจในชีวประวัติของพ่อครูจาก หนังสือสัจจะชีวิตของสมณะโพธิรักษ์ ยิง่ ได้ชมรายการ “อโศกก็อดทาเลนท์” (ASOKE GOD TALENT) ก็ยิ่งจะเห็นภาพ ชั ด เจนของเด็ ก อโศกว่ า มี ค วามสามารถที่ แสดงออกมาในแนวทางศิลปะโลกุตระได้ อย่างน่าทึ่ง น่าประทับใจหลายชุด เป็นแบบ อย่างหรือ เป็น แนวทางให้ กั บเด็ ก อโศกรุ่ น ต่อๆไปว่าควรใส่ใจในศิลปะโลกุตระ มิใช่ หลงใหลไปกับศิลปะโลกียะที่ไม่สร้างคุณค่า ให้กับชีวิตหรือจิตวิญญาณ อย่างการแสดงที่ชนะเลิศในรายการนี้ เป็นกลุ่มเยาวชนชายที่เป็นนักเรียนม.ปลาย ของโรงเรียนสส.สอ.(สัมมาสิกขาสันติอโศก) แสดงท่าเต้นประกอบเพลง “ต่างแต่สามัคคี” แทนที่จะเป็นการเต้น หรือดีดกีต้าร์ร้องเต้น แบบโลกีย์ แม้กระทั่งเด็กผู้หญิงม.๓ และม.๑ จาก โรงเรียนสสธ.(สัมมาสิกขาราชธานีอโศก) ก็ สามารถร้องเพลง “ภูฟา้ ผาน้�ำ ” กับเพลง “ไย ฟ้าเศร้า” ซึง่ เป็นเพลงธรรมะทีแ่ ม้แต่ผใู้ หญ่ที่ ร้องเพลงเก่งยังร้องได้ไม่ง่าย หรื อ อย่ า งดช.อั่ ง เปา จากโรงเรี ย น สส.ฐ.ม.๓ (สั ม มาสิ ก ขาปฐมอโศก) ก็ ยั ง สามารถแต่งเนื้อร้อง ทำ�นองเอง ในเพลงชื่อ ว่า “เส้นทางบุญนิยม” ได้อย่างลึกซึ้งกินใจ ช่วยให้ผฟู้ งั เกิดแรงบันดาลใจในการทำ�ความ ดียิ่งๆขึ้นตามแบบอย่างของครูบาอาจารย์ เช่นพ่อครูทเี่ หน็ดเหนือ่ ยลำ�บากและขยันกว่า พวกเรามากๆ ยิ่งได้ฟังเยาวชนอโศกวง “เปิ่น เปิ่น” ที่ร้องเพลง “โอมเพี้ยง” ซึ่งเนื้อหาของเพลง เป็นการปลุกสำ�นึกเยาวชนหรือเด็กด้วยกันที่ เรียนอยูใ่ นชุมชนของชาวอโศกให้เกิดสำ�นึกดี มีความกตัญญูกตเวทีตอ่ ผูม้ พี ระคุณด้วยแล้ว ก็ยิ่งประทับใจที่กล้าใช้ความสามารถมาร้อง เพลงดีๆแบบนี้ เป็นศิลปะโลกุตระจริงๆ ใครอยากรู้ว่าเด็กอโศกจะเป็นอย่างที่ จิง้ หรีดเห็นหรือไม่ ก็สามารถติดต่อสอบถาม บุญนิยมทีวีเพื่อดูรายการที่บันทึกเอาไว้ก็ได้ นะฮะ...จี๊ดๆๆ v กล้าทำ�ดี... ในงานวันไหว้ครูที่สันติอโศก จิ้งหรีด แอบประทับใจกับพานและคำ�อธิบายพานที่ น้องๆ นักเรียนสัมมาสิกขาช่วยกันจัด ให้กับ คุรุ ความคิดสร้างสรรค์บรรเจิดมาก ที่สำ�คัญ น้องเอี่ยม สัมมาสิกขาม.๖ ถึงกับประกาศ
ในงานวันไหว้ครูว่า จะรับประทานอาหาร มังสวิรัติตลอดชีวิต นับเป็นเรื่องกล้าหาญ ทางจริยธรรมที่น่าสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง สำ�หรับลูกหม้อแฝดคนน้องคือ น้องอ่อง ก็ ไ ม่ น้ อ ยหน้ า ในงานอโศกรำ � ลึ ก ๔๕ ปี สีหนาทเพชรพุทธสุดยอดศิลป์ อน้องอ่องเข้า ร่วมกิจกรรมแข่งขันแฟนพันธ์แุ ท้อโศกรำ�ลึกฯ แม้จะเกิดอุบัติกับเพื่อนๆในทีม มีน้องอ่อง ลงแข่งขันอยู่คนเดียว ก็ไม่ถอดใจ ลงแข่งต่อ และมีผใู้ หญ่ใจดี ๒ ท่านจึงมานัง่ เป็นเพือ่ นให้ กำ�ลังใจ คือ อายูจากปฐมอโศก และอาแก่น กลัน่ บุญ จนทีมได้รบั รางวัลที่ ๒ ประทับใจใน สปิรติ ของน้องทีม่ คี วามตัง้ ใจทีจ่ ะตอบคำ�ถาม แฟนพันธ์ุแท้ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นชีวประวัติ ของพ่อครู จิง้ หรีดก็ขออนุโมทนาในการแกล้ว กล้าอาจหาญ ในการการทำ�ความดีของน้อง เรียกว่าบันลือสีหนาทเล็กๆ ตามแบบฉบับ ของลูกหลานพญาแร้งนะฮะ...จี๊ดๆๆ v ไหว้ครูแบบโลกุตระ ในช่วงเดือนมิ.ย. พุทธสถานก็จะมีการ จัดพิธีไหว้ครู จิ้งหรีดได้ไปร่วมบรรยากาศ ที่บ้านราชฯพอดี อดอมยิ้มและประทับใจ กับจินตนาการของน้องๆนักเรียน ที่ตั้งใจ ทำ�พานพร้อมอธิบายความหมายของพาน กันอย่างแบบว่า คิดได้ไง ลองฟังดูนะ...การ ทำ�พานปีนี้มีนักเรียนช่วยกันประดิษฐ์พาน จากดอกไม้และพืชสมุนไพรต่างๆ ที่หาได้ ในชุมชน เช่น นำ�บอระเพ็ดมาทำ�พานและ เปรียบกับความขมของบอระเพ็ดทีค่ นไม่ชอบ กินเพราะมีรสขม เหมือนกับบางอารมณ์ของ นักเรียนทีอ่ ดึ อัดขัดเคืองกับคุรเุ พราะถูกขัดใจ เหมือนกินยาขม แต่ความขมก็เป็นยาทีท่ �ำ ให้ หายจากโรค หรือว่านหางจระเข้ที่นักเรียน เปรียบว่าคุรุเหมือนว่านหางจระเข้ที่เป็นยา ช่วยบรรเทาความเจ็บป่วย นักศึกษาปวส. นำ�พวงมาลัยรถยนต์มาเปรียบดั่งชีวิตของ ศิษย์ที่ต้องมีคุรุคอยดูแลทิศทาง อันถูกต้อง ของชีวิตลูกศิษย์ ที่สันติอโศกก็ล้ำ� เอาตุ๊กตาโดเรมอนมา จัดพาน เพราะเปรียบโดเรมอนเป็นเหมือนคุรุ ผู้ สามารถเนรมิตทุกอย่าง เป็นทุกอย่างได้เพือ่ ศิษย์ จิ้งหรีดคิดว่าการจัดพานของนักเรียน สัมมาสิกขาคิดนอกกรอบจากโรงเรียนทัว่ ไป ที่ทำ�จากวัตถุดิบในชุมชน เป็ น พานคนจน พานศูนย์บาทที่มีความหมายอันประเมินค่า มิได้เพราะออกมาจากจิตวิญญาณหรือสติ ปัญญาของศิษย์ สาธุฮะ...จี๊ดๆๆ v เปิดใจลูก ก่ อ นถึ ง งานอโศกรำ � ลึ ก ที่ สั น ติ อ โศก จิ้ ง หรี ด ได้ มี โ อกาสฟั ง คุ ณ ปะฟ้ า นวลบอก เล่าถึงความประทับใจที่ได้เห็นพ่อครูทำ�งาน ด้านหนังสือว่า “ประทับใจพ่อครูมาก ครั้ง หนึ่งพ่อครูกำ�ลังเขียนหนังสือเรื่อง ป่ากับ ศาสนาพุทธ ซึ่งมีความหนาถึง ๒๐๐ – ๓๐๐ หน้า ตนเองช่วยพิมพ์ก็เห็นได้ว่ามีการแก้ไข ต้นฉบับโดยพ่อครูจะต้องมีการตรวจต้นฉบับ ซ้�ำ แล้วซ้�ำ อีกแน่นอน คุณปะก็เลยกราบเรียน ถามพ่อครูว่า พ่อครูอ่านทบทวนกี่รอบ อ่าน มากกว่า ๓๐ รอบไหมคะ พ่อครูตอบกลับมา ว่า มากกว่านั้น คุณปะก็เลยรู้สึกว่า พ่อครูมี
11
ความเพียรมาก ที่จะทำ�สิ่งที่ดีที่มีประโยชน์ ให้ ม วลมนุ ษ ยชาติ หนั ง สื อ ที่ พ่ อ ครู เขี ย น แต่ละเล่ม พ่อครูตั้งใจเขียนและตั้งใจจะมอบ สิ่งที่ดีที่สุดให้ทุกคน พ่อครูมีความตั้งใจและ พยายามมากในการทำ�หนังสือ” จิ้งหรีดฟังแล้วอดถามตัวเองต่อไม่ได้ ว่า แล้วเราล่ะ? มีความอดทนพยายามมาก แค่ไหนในการอ่านหนังสือที่พ่อครูใช้ความ เพียรในการเขียน เสร็จจากงานก็เลยตั้งใจว่า จะอ่านหนังสือทีพ่ อ่ ครูเขียนให้จบทุกเล่ม ให้ สมกับทีพ่ อ่ ครูได้บรรจงถ่ายทอดเนือ้ หาสัจจะ ผ่านตัวอักษรนะฮะ...จี๊ดๆๆ v สิ่งดีๆที่ผ่านมา จิ้งหรีดบินไปแถวชมร.เชียงใหม่ได้ไป พบเห็นสิง่ ดีๆของแผนกต่างๆทีเ่ ปิดโอกาสให้ ผู้ที่สนใจมาเรียนรู้การพึ่งตนเอง รวมถึงการ เรียนรู้เพื่อนำ�ไปประกอบอาชีพ เช่น แผนก น้�ำ ผักปัน่ ก็มกั มีจะจิตอาสาหมุนเวียนมาร่วม งานและเรียนรูก้ ารทำ�น้�ำ ผักปัน่ อยูเ่ สมอๆ โดย มีอาสาสมัคร ๐ บาทประจำ�แผนก คือ คุณ หนึ่งน้ำ�ค้าง ศิษย์เก่าศาลีอโศก คอยให้คำ� แนะนำ�และสอนเทคนิคการปัน่ น้�ำ ผักด้วยจิต ยินดี แผนกขนมต้มก็เช่นกัน มีอากิ่งธรรม ก็ เปิดโอกาสให้ผทู้ สี่ นใจสร้างอาชีพมาเรียนรูท้ ี่ ฐานงาน สำ�หรับแผนกสขจ.ภูผาฟ้าน้ำ�ก็มัก จะมีจิตอาสาซึ่งผันตัวเองจากลูกค้าที่มารับ ประทานอาหารและประทับใจกับการทำ�งาน เสียสละ จึงขอใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยมาช่วยงาน จิ้งหรีดแวะมาที่นี่ก็อดประทับใจลูกค้า ทีม่ าทานอาหารไม่ได้ เพราะเมือ่ รับประทาน อาหารเสร็จก็ช่วยเช็ดโต๊ะ เก็บจานชามของ ตนเองไปล้างที่จุดล้างจาน เมื่อเห็นแก้วล้น จากทีต่ ากแก้ว ก็ชว่ ยยกมาส่งทีแ่ ผนกน้�ำ เมือ่ เข้าห้องน้ำ�ก็ยังช่วยถูพื้นห้องน้ำ� จิ้งหรีดได้ เห็นสังคมอุดมคติที่มีจริง อบอุ่น ช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ก็ ขออนุโมทนาสาธุ...จี๊ดๆๆ
v มรณัสสติ นางจุรีย์ วุฒิกุลพานิช (แม่ของขลุ่ย ศิษย์เก่าสัมมาสิกขาศีรษะอโศก) อายุ ๕๔ ปี ญาติธรรมชาวเชียงใหม่ เสียชีวติ ด้วยโรค มะเร็งวันที่ ๗ มิ.ย. ฌาปนกิจวันที่ ๙ มิ.ย. ที่วัดข่วงสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
12
รวมปักษ์ มิถุนายน ๒๕๕๙
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่
ทรงมีพระราชสาส์นถวายพระพรในหลวง
๒
อ่านต่อหน้า
๑๐
ภาพจาก www.tnamcot.com
หนีคุกตามคาด!! ศาลฎีกาสั่งคุก “ขวัญชัย”
๒ ปีไม่รอลงอาญา ปรับอีก ๓.๕ แสน เมียอ้างพร้อมรับโทษเมื่อมีประชาธิปไตย
ฉบับที่ ๔๗๑ (๔๙๓) รวมปักษ์ มิถุนายน ๒๕๕๙
นายกฯ วอนศิษย์ธรรมกายยึดหลัก พระพุทธเจ้าไตร่ตรองสิ่งใดถูกหรือผิด
อุดรธานี - ฟ้ามีตา! ศาล ฎีกาพิพากษาลับหลัง จำ�คุก “ขวัญชัย” ๒ ปี ปรับ ๓๕๐,๐๐๐ บาท คดีพาเสื้อแดงรุมสกรัม พันธมิตรฯ ที่หนองประจักษ์ ด้านเมียเผยสามีไม่ได้หนีไป ไหน เพราะวันเกิด ๑๓ มิ.ย.ที่ ผ่านมายังโฟนอินเข้ารายการ วิทยุ แค่หลบอยูใ่ นทีป่ ลอดภัย แถต่ อ หากประเทศไทยมี ประชาธิปไตยเมื่อไหร่ คิดว่า น่าจะกลับมารับโทษ (อ่านต่อหน้า ๑๐)
แดงอุตรดิตถ์หันหลังให้แกนนำ�นปช. ภาพจาก www.oknation.net
ลัน่ ไม่อยากเป็นส่วนหนึง่ ของความรุนแรงอีก
อ่านต่อหน้า
๑๐
แกนนำ�แดงอุตรดิตถ์ ประกาศหันหลังให้แกนนำ�นปช.ส่วนกลาง บอกขอทำ�มาหากินดีกว่า ระบุไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของความรุนแรง อีกแล้ว เผยทีผ่ า่ นมาเคยมีปญ ั หาแต่ไม่มคี นของเสือ้ แดงเหลียวแล กลับ เป็นฝ่ายตรงข้ามที่ยื่นมือช่วยเหลือ (อ่านต่อหน้า ๑๐)