1
ธรรมะพ่ ท่าน : (๔๘๘) อาการไม่มีรสจะมีลักษณะอย่างไร น.๔ ฉบับทีอ่ ๔๖๖
สกู๊ปพิเศษ : ข้อคิดที่ได้จากงาน ว.บบบ. ครัง้ ที่ ๔ น.๙ ข่าวอโศก
ฉลองบุญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่’๕๙
ชาวอโศกสมัครสอบว.บบบ. เพื่อสวดมนต์และปฏิบัติธรรมข้ามปี ฉบับที่ ๔๖๖(๔๘๘) รวมปักษ์ มกราคม ๒๕๕๙
บันทึกสรุปงานฉลองหนาวฯ’๕๙
อ่านต่อหน้า
๕
อ่านต่อหน้า
๖
อ่านต่อหน้า
๘
2
รวมปักษ์ มกราคม ๒๕๕๙
“ช่วยเพิ่มภาระหรือแบ่งเบา” งานฉลองหนาวธรรมชาติ อ โศก ครั้งที่ ๑๒ ได้จบลงแล้วอีก๑ปี ท่ามกลาง อากาศหนาวเย็น และสายฝน ในวัน สุดท้ายของงาน ทำ�เอาผู้ร่วมงานหลาย คนรู้สึกทุลักทุเลพอสมควรในการเดิน ทางลงจากดอย แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี คณะทำ � งานหลายคนบอกว่ า งาน ฉลองหนาวฯปีนลี้ งตัวกว่าทุกปีทผี่ า่ นมา โดยเฉพาะผูม้ าช่วยงาน และผูม้ าร่วม งานต่างเข้าใจในนโยบายของทางชุมชน ภูผาฟ้านำ�เป็นอย่างดี ว่างานนี้เป็นการ มาพักผ่อนสังสรรค์ของชาวเรา ทางชุมชนมีคนน้อยก็เตรียมงานเท่าที่ ทำ�ได้ ทางชุ ม ชนมี ทุ น น้ อ ยก็ เ ตรี ย มงาน แบบลงแรงมากกว่าลงทุน ถ้าจำ�เป็นต้องใช้เงิน ก็ให้คุ้มค่าว่า สามารถเป็นประโยชน์ต่อชุมชน แม้งาน จบลงแล้ว เช่น การซื้อร่มใช้ในงาน ก็ สามารถเก็ บ ไว้ ใ ช้ ไ ด้ กั บ งานต่ า งๆของ ชุมชน ปีหน้าก็ไม่ต้องซื้อมาอีก เป็นต้น แน่นอนความคิดเห็นต่างๆก็อาจมี ข้อแย้งได้ทั้งสิ้น แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะผู้มาร่วมงานโดยเฉพาะผู้มาช่วย งานส่วนใหญ่ต่างเคารพในคณะทำ�งาน ที่ทางชุมชนได้มอบหมายให้ดำ�เนินงาน ตามนโยบายของชุมชน ดังนั้นจึงเป็นแง่คิดที่สำ�คัญว่า ญาติ ธรรมท่านใดที่มีใจเป็นกุศล ต้องการ ไปช่วยงานต่างๆของชาวอโศก ก็ควร สอบถามและเคารพในคณะทำ � งานที่ รับผิดชอบนโยบายของชุมชน เพื่อจะ ได้ไม่ทำ�อะไรให้เจ้าภาพในที่ต่างๆเกิด ความลำ�บากเพิ่มขึ้น แทนที่จะช่วยแบ่ง เบาภาระ! จริงไหม!
เมื่อคุณแม่ฟ้างายป่วย ภาพจาก www.healthybeautyroom.blogspot.com
เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ คุณแม่ฟ้างายป่วยมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เป็นความรู้ที่ยิ่งใหญ่ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ หลังจากเสร็จงานมหาปวารณาของปี’๕๘ ก็ได้ไปเยี่ยมเยียนและได้ไปนอนพักค้างด้วยหลายครั้ง เพื่อดูแล อย่างใกล้ชิด ได้รับฟังเหตุการณ์ที่ท่านเล่าให้ฟังแล้วอยากเล่าต่อค่ะ แม้จะจดจำ�ไม่ได้ทั้งหมดแต่จุดใหญ่ใจความ ก็คอื ใกล้รงุ่ ของวันทีเ่ กิดเหตุ ท่านมีอาการชาและอ่อนแรงของแขนขาข้างขวา ขยับได้ดแี ต่ลกุ ได้แบบอ่อนแรง จะล้ม ท่านเป็นผู้มีความรู้ดีและมีสติดีมากสังเกตอาการของตนได้ทัน และมีความรู้ว่ากำ�ลังจะเกิดอะไรกับตนเอง ในใจรู้สึกชื่นชมว่าท่านเป็นคนที่เฉลียวฉลาดมากค่ะ เนื่องจากเป็นเวลาใกล้รุ่งอยู่ ผู้คนในชุมชนยังไม่มีใครตื่น ทุกคนปิดโทรศัพท์ และคุณแม่ฟ้างายท่านอยู่บ้านคนเดียวเป็นปกติ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ท่านจะทำ�อย่างไร? ผู้เขียนเองก็มืดมนอนธการแน่นอน ถ้าเกิดเหตุการณ์ เช่นนี้กับตน ถ้าเป็นตัวท่านผู้อ่านละคะท่านจะทำ�อย่างไรดี จึงจะได้รับการรักษาที่รวดเร็วที่สุด จะรอให้ผู้คนมา พบแล้วช่วยเหลือรึ หรือจะรอจนผูค้ นตืน่ ขึน้ มาเปิดโทรศัพท์คยุ กับท่านได้ดี ซึง่ จะเป็นเวลาใดก็มอิ าจทราบได้ ? ? แต่นั่นไม่ใช่เรื่องอับจนปัญญาสำ�หรับคุณแม่ฟ้างายเลยค่ะ ท่านติดต่อไปที่เบอร์โทร ๑๖๖๙ แล้วแจ้งอาการ ของตนให้เขาทราบ พร้อมกับบอกแหล่งที่อยู่ ที่รถสามารถมารับท่านไปโรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงที เมือ่ ๑๖๖๙ ได้ประสานกัน ติดต่อกับโรงพยาบาลแม่แตงทีใ่ กล้ทส่ี ดุ ให้รบั ทราบ ไม่นานนักรถของโรงพยาบาล ก็ได้มารับท่านเข้ารับการรักษาทีโ่ รงพยาบาลแม่แตงอย่างเร่งด่วน ในขัน้ แรกแพทย์วนิ จิ ฉัยว่ามีอาการของเส้นเลือด ในสมองซีกซ้ายตีบเล็กน้อย ทำ�ให้เริ่มเกิดอาการ ถ้ายังเป็นไม่มากก็สามารถให้ยาขยายเส้นเลือดได้ทัน และ ป้องกันการเกิดเป็นอัมพฤกษ์อมั พาตได้ และถ้าไปให้ยาไม่ทนั ก็อาจจะลุกลามเป็นอัมพฤกษ์อมั พาตอย่างถาวรได้ ร.พ.แม่แตงได้สง่ คุณแม่ฟา้ งายไปยังโรงพยาบาลทีใ่ หญ่กว่า มีเครือ่ งมือทีท่ นั สมัยกว่า เพือ่ ทำ�การตรวจสมอง ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ จึงพบว่ามีการขาดอากาศหรือสมองขาดออกซิเจนอยู่เล็กน้อย จึงให้ยามารับประทาน และกลับมาสังเกตอาการต่อทีโ่ รงพยาบาลแม่แตง จนกระทัง่ ปลอดภัยแพทย์จงึ อนุญาตให้กลับบ้านได้ ขณะที่นอน พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก็มีญาติธรรมไปอยู่เฝ้าดูแล และหลังจากลับมาอยู่ที่บ้านก็มีญาติธรรมหมุนเวียน สับเปลี่ยนกันไปดูแลและส่งอาหารให้อยู่เสมอ จนอาการของคุณแม่ฟ้างายดีขึ้นมากแล้ว ผู้เขียนเองพอมีความ รู้เรื่องฝังเข็ม ก็ได้แวะเวียนไปช่วยฝังเข็มให้และได้ไปนอนเป็นเพือ่ นอยูห่ ลายครัง้ และเมือ่ ไม่นานมานีช้ ว่ งงานฉลอง หนาว ( ราวๆวันที่ ๒๒-๒๗ มกราคม ๕๙ ) ก็ได้มีญาติธรรมจากกรุงเทพฯมาเยี่ยมเยียนและร่วมกันทำ�อาหาร เพื่อสุขภาพให้ท่านรับประทาน ดูเป็นความอบอุ่นอย่างยิ่ง เป็นไปตามที่พ่อท่านได้ตั้งเจตนาไว้ว่าให้พวกเราเป็น สังคมที่พึ่งเกิด พึ่งแก่ พึ่งเจ็บ และพึ่งตายกัน ที่นำ�มาเล่าสู่กันฟังครั้งนี้ก็เพื่อให้เห็นถึงการพยายามช่วยเหลือตนเองของคุณแม่ฟ้างายในเบื้องต้นอย่าง ชาญฉลาด ด้วยการโทรศัพท์ไปแจ้งที่ ๑๖๖๙ ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนควรเรียนรู้และจดจำ�เผื่อว่าเกิด เหตุการณ์เช่นนี้กับตนหรือคนใกล้ชิด ท่านจะสามารถช่วยได้อย่างทันเวลา และอยากจะสื่อถึงสังคมบุญนิยมที่ เราพึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้จริงๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมีของท่านเองด้วยค่ะ ก็คงต้องสร้างบุญบารมีกัน ต่อไป และสิ่งที่ประทับใจที่สุดคือการได้ชื่นชมบารมีของพ่อท่าน ที่มีเหล่าสมณะและญาติธรรมให้การดูแลเอาใจ ใส่ท่านเป็นอย่างดี ดุจลูกๆที่กตัญญูได้กระทำ�ต่อบิดาอันเป็นที่เคารพรักและศรัทธาอย่างยิ่งของตน อนุโมทนากับทุกท่านจริงๆค่ะ (สื่ออาจผิดพลาดประการใดในรายละเอียด ก็เพราะสัญญาที่จำ�มาอาจไม่ เที่ยงค่ะ) กิ่งธรรม
ฉบับที่ ๔๖๖ (๔๘๘)
ข่าวอโศก
3
ภาพจาก www.samunpri.com
ผักแพวแดง
ผมไปเยี่ ย มศิ ษ ย์ เ ก่ า ศาลี อ โศกที่ อำ � เภอพบพระจั ง หวั ด ตากเมื่ อ พ.ศ. ๒๕๔๐ ไปพักที่หมู่บ้านคนม้ง เห็นเขาปลูกผักแพวแดงไว้หน้าบ้าน สอบถามเขาได้ความว่า เขาปลูกไว้สำ�หรับปรุงอาหารให้คนคลอดลูกใหม่ๆ กินเพื่อเพิ่มน้ำ�นม ผมจึงขอพันธุ์เขามาปลูกขยายที่ปฐมอโศก แล้วนำ�ไป เผยแพร่ทางรายการของท่านเสียงศีล ชาตวโร ทางสถานีวิทยุต่างๆ มีคน นำ�ไปดัดแปลงปรุงอาหารได้หลายชนิด เวลาใส่สีแดงสวย ใส่ต้มยำ�หรือต้ม จืด น้ำ�ต้มยำ� ต้มจืดก็มีสีแดงสวย ทางชมรมมังสวิรัติฯจังหวัดเชียงใหม่ไป ปรุงเป็นน้ำ�ผักปั่นที่เป็นที่นิยมดื่มกันมาก สรรพคุณในตำ�รายาสมุนไพรไทย มีรากรสเผ็ดร้อนแก้ลม แก้ธาตุพกิ าร ริดสีดวง แก้หดื แก้ไอ แก้ปวดท้อง จะมีอาการท้องขึ้นอืดเฟ้อจุกเสียด ขับลมผายลม แก้ท้องมาน กระเพาะ อาหารพิการ แก้ปวดเมื่อยตามข้อกระดูก ใบรสร้อน แก้รดิ สีดวงแห้ง แก้หดื ไอ บำ�รุงประสาท บำ�รุงเลือด ขับน้�ำ นม ใช้เป็นอาหารกินเป็นผักสด ผัด ต้มจืด ทำ�น้ำ�ปั่น การขยายพันธุ์ ปลูกด้วยเมล็ดจากดอกที่เหี่ยวแล้ว การปักชำ�ต้น ปลูกร่วมกับมะเขือ เทศช่วยป้องกันไส้เดือนฝอยให้มะเขือเทศ. ลุงดำ�
ผักแพวแดง สีโดดเด่น เป็นไม้สวย เป็นผักช่วย แก้อืดเฟ้อ เรอกลิ่นเหม็น บำ�รุงเลือด ลบฝ้า หน้าผ่องเพ็ญ ถ้าปลูกเป็น ก็ปลูก ได้จริง จริง (จริงไหมครับ)
4
รวมปักษ์ มกราคม ๒๕๕๙ หรือไปยึดว่าถ้าได้แตะตรงนี้แล้วมีรสชาติชื่นใจชอบใจ เช่น คนได้หอมแก้ม ได้เอาจมูกไปแตะแก้มก็รู้สึกชื่นใจ ทั้งๆที่มนั ไม่ได้มชี น่ื ใจเลย ก็เหมือนเอามือไปสัมผัสแตะต้อง คุณสมมุติ เองว่ามันได้ชน่ื ใจ แล้วก็แบ่งว่าเรือ่ งเพศผูห้ ญิงผูช้ ายก็ชน่ื ใจ แต่ถ้าได้แตะต้องเด็กๆ หรือได้หอม ได้ดมคนที่เรานับถือ สัมผัสเสียดสีเราก็ชน่ื ใจ ทีจ่ ริงก็เท่ากับเราเอามือไปแตะมือ เอา มือไปแตะผิวหนังตรงไหน เอามือไปแตะโต๊ะก็เหมือนกัน แตะแรงก็เจ็บแต่พอสมควร ก็สัมผัสเสียดสีเฉยๆ เท่านั้นเอง สรุปว่า อาการเกาตรงทีไ่ ม่มเี ชือ้ คันหรือเชือ้ เจ็บเข้า ตรงไหน ตรงนัน้ แหละคือสัมผัสทีเ่ ป็นอุเบกขา เป็นการรู้
ขณะที่ตากระทบรูปก็รู้จักรูป หูกระทบเสียงก็รู้จัก เสียง จมูกกระทบกลิน่ ก็รจู้ กั กลิน่ ลิน้ กระทบรสก็รจู้ กั รส กายสัมผัสก็รู้จักกายสัมผัส ปฏิฆสัมผัสโส แปลว่าการ ทีอ่ เุ บกขาทีก่ ลางๆไม่ดดู ไม่ผลักเป็นอย่างไร เช่น รูปธรรม คุณเกาผิวหนังที่ไม่มีเชื้อที่จะรู้สึกคันหรือรู้สึกเจ็บ ถ้าไป เกาถูกตรงที่เจ็บคุณก็ไม่ชอบ ถ้าไปเกาถูกที่มีเชื้อที่จะ คันก็ชอบ คุณเกาถูกที่คันคุณอร่อย คุณเกาไม่ถูกที่คันก็ เฉยๆ นี่เป็นรูปธรรมที่ยกตัวอย่างมาให้ฟัง สัมผัสเสียดสีผวิ กายของคุณส่วนใด ทีค่ ณ ุ ไปมีสมมุตไิ ว้
ชื่อเดิม : สมหมาย ทัศโน ชื่อที่พ่อครูตั้งให้ : เทียนดิน อายุ : ๖๕ ปี สถานภาพ : สมรส การศึกษา : ชั้นป.๖ ภูมิลำ�เนาเดิม : อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ชีวิตก่อนพบชาวอโศก เป็นลูกชาวนา ทำ�ทั้งนาทั้งสวน ชีวิตตั้งแต่เด็ก ลำ�บากมาก กำ�พร้าแม่ตั้งแต่เด็ก ยังไม่เข้าโรงเรียน ที่จริง เป็นคนมีอันจะกินในหมู่บ้านนั้น แต่พอแม่ตาย พ่อก็ ไม่อยู่ ให้ไปอยู่กับยาย พออยู่ไม่ได้ ยายก็เอามาส่งให้ อยู่กับย่า พวกเรามีกัน ๓ พี่น้อง พี่สาวชื่อสมจิตร แก่ กว่าดิฉัน ๑ ปี ส่วนน้องชายชื่อดังดี อ่อนกว่าดิฉัน ๕ ปี ชีวิตต้องอยู่กันอย่างลำ�บาก พี่สาวต้องลำ�บากเลี้ยงน้อง อยู่บ้านตัวเองเพียง ๓ คน ย่าคอยมาดูมาแล มาคอย ช่วยสอน ทัง้ เรือ่ งกินเรือ่ งอยูเ่ รือ่ งหลับเรือ่ งนอน นานๆที พ่อจะมาเยี่ยมสักครั้งหนึ่ง พ่อมีแม่ใหม่ แม่ก็ขี้เมา พอ จบป.๔ ไปเป็นลูกจ้างทำ�นา เขาให้ข้าว ๓๐ ถัง หลังจาก นั้นเคยไปอยู่ช่วยเลี้ยงลูกให้เจ้าของร้านขายเนื้อหมูและ ไปอยู่ทำ�นากับอา มีนา ๑๔๐ ไร่ ต้องไถนาด้วยควาย ไถนาทำ�นา ไถแต่ตอนกลางคืน อาไม่เคยจ้างใครเลย เรา ไม่มีหนี้ มีคติว่า “เขาก็คนเราก็คน เขาทำ�ได้เราก็ทำ�ได้”
สัมผัสเฉยว่าเป็นอย่างนี้ ไม่มีอะไรนี่คืออาการ อุเบกขา อทุกขมสุข ถ้าเรารู้ว่ามีอะไรกระทบมีความร้อนความเย็นกระทบ ถ้าร้อนเกินหรือเย็นเกินก็ไม่ไหว แต่ถ้าไปสมมุติว่าเย็นเท่านี้ ชอบ ให้เย็นเท่านี้ไม่ชอบ ร้อนเท่านี้จะชอบ ร้อนเท่านี้ก็ไม่ ชอบ เป็นสัญญายนิจจานิ ไปกำ�หนดหมาย ยึดเอาของใคร ของมันทัง้ สิน้ นีค่ อื ความโง่ คืออวิชชาของคนทีไ่ ปยึดไปตัง้ ไว้ เป็นสัญญายนิจจานิไปกำ�หนดหมาย ว่าเป็นเช่นนี้เช่นนี้ว่า เที่ยงแท้ แต่ถ้าคุณได้เท่านี้ก็ไม่เป็นไร น้อยลงไปได้ยิ่งดี คุณ
ก็จะเจริญ แต่ถ้ายิ่งมากยิ่งดี คุณก็เสื่อมเท่านั้นเอง แต่รสทีล่ น้ิ ก็เหมือนกัน เช่น พริกเม็ดนีม้ คี วามเผ็ดเท่านี้ คุณเองไปยึดเท่านี้ว่าจะต้องได้สัญญายนิจจานิ เท่านี้เท่านี้ ยังไม่พอ ต้องเผ็ดเท่านี้ คุณก็สร้างจิตของตนให้ทนได้ นี่คือ พลังงานของจิตทำ�ให้ทนได้เหมือนกับคนที่เรียนรู้พลังงาน จิตให้ฟันไม่เข้าได้จริงๆ ถ้าไม่มีเชื้อจะเข้าไปสัมผัสเสียดสีก็ไม่ชอบไม่ชัง แต่ถ้า มีเชื้ออยู่ มันก็จะเกิดอาการชอบอาการชังมากกว่านี้หรือ น้อยกว่านี้ก็ไม่พอ ใครจะกำ�หนดมาตรฐานเท่าใด ถ้ามันมากกว่านี้มันจะ เสียเปล่าเป็นพลังงานที่เกิน ถ้าน้อยกว่านี้หน่อยก็พอรับได้ ถ้าน้อยกว่านีก้ ไ็ ม่เกิดความพอดี เช่น ความร้อนน้อยเกินไป การ สัมผัสที่เบาไป ไม่เกิดพลังงานที่พอใช้ คนก็จะต้องกำ�หนด หมายทีพ่ อเหมาะ แล้วกันกระทบทางกาย กระทบทางเสียง กระทบทางลิน้ ก็ก�ำ หนดให้พอเหมาะได้อาศัย แต่ตอ้ งศึกษา ว่าจริงๆแล้วเราสามารถทำ�ให้เรารู้สึกเฉยต่อรส รู้สึกเฉยต่อ เสียง รู้สึกเฉยต่อลิ้น รู้สึกเฉยต่อการสัมผัสเสียดสี กระแทก สัมผัสเสียดสีได้ขนาดนี้ ถ้ากระแทกแรงขนาดนี้ก็เฉยๆ หนึ่ง อวัยวะไม่ร้องไม่เจ็บ สองก็ไม่ชัง ถ้ากระแทกไม่ถึงขีดที่ เรายึดไว้ไม่เต็มที่ก็ไม่พอใจก็เท่านั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปรส กลิ่นเสียงสัมผัสแตะต้อง กระแทกกระทบต่างๆเหมือนกัน หมดเป็นระดับเป็นอินทรีย์เป็นดีกรีของความแรงความเบา ความหนักความเบาเรียกว่าอินทรีย์... 581216 เทศน์ก่อนฉันศีรษะอโศก
รู้จักชาวอโศกได้อย่างไร และชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ? รู้จักชาวอโศกเมื่อปี ๒๕๓๒ โดยน้องชายพามา โดยที่เราเองไม่ได้ เลื่อมใสเลย ไม่เคยศึกษามาก่อนเลย ตอนนั้นดิฉันเองเปิดร้านเสริมสวย ที่ก.ท.ม แล้วน้องชายมาเยี่ยม เราคุยเรื่องธรรมะกัน แล้วน้องชายตอบ คำ�ถามดิฉันไม่ได้ จึงท้าดิฉันว่ากล้าไปที่สันติอโศกไหม ถามอะไรเขารู้หมด เลย น้องพูดอย่างนี้ ดิฉนั เลยต้องมาทีส่ นั ติอโศกเพือ่ ถามปัญหาทีน่ ้องตอบ ไม่ได้ แต่งตัวเสียเต็มที่เลย แต่พอเห็นคนที่สันติอโศกก็สะดุดการแต่งตัว และการทักทาย คำ�ว่าเจริญธรรม เน้นการกินอยู่อย่างเรียบง่าย ยังไม่เคย รู้เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เลยมีความเลื่อมใสชอบ ค่อยๆแกะ ค่อยๆถอด ค่อยๆล้างหน้าตาที่พอกมา รู้สึกอายมากเลย แล้วกลับมาถึงบ้านมาเขียน เลยว่า ข้าจะปลดปล่อยชีวิตสัตว์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จะไม่เบียดเบียน ชีวิตสัตว์อีกต่อไปตั้งแต่วันนี้ แล้วก็กินอาหารมังสวิรัติมาจนถึงวันนี้ มีการฝึกฝนปฏิบัติให้กับตนเองอย่างไร ? เคยฝึกออกจากความอยากมี อยากได้เงินมากๆ เคยเป็นทาสเงิน เมื่อก่อนจะไปไหนต้องคิดเสียดายรายได้ ที่มันจะต้องหดหายไป จะไป ไหนก็ไม่กล้าไป อันดับแรกคือออกจากการเป็นทาสเงิน ทำ�เสริมสวยราย ได้ดี ยิ่งเป็นวันเสาร์อาทิตย์ จะไปไหนไม่ได้เลย ดิฉันที่สุดพิสูจน์แล้วคำ� สอนที่ทางสันติอโศกสอนว่ายิ่งไม่เอายิ่งมี ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งจะเอา ไปวิ่งไล่ ตามเหมือนตามเงาตัวเอง ยิ่งไม่เอายิ่งมี ยิ่งไม่เอายิ่งจะได้ เป็นเรื่องจริง พิสูจน์แล้ว เลยตัดผมฟรีมาตลอดตั้งแต่ปี ๒๕๓๒ จนมาถึงทุกวันนี้ อยากจะฝากอะไรให้กับญาติธรรม หรือลูกหลานชาวอโศก ? อยากจะฝากว่า ความรวยไม่ใช่ความสุขทีแ่ ท้จริงเลย เหมือนวิง่ ไล่ตาม เงาตัวเอง มันไม่พอ แล้วมันไม่สุข มีแต่ความทุกข์ ไปที่ไหนๆก็หาสุขไม่มี คนรวยไม่มีมิตรแท้ หาความจริงใจจากใครในโลกใบนี้จะมีที่ไหนกัน ถ้าเรา เป็นคนพอรู้ รักคนที่ลำ�บากกว่าเรา รู้จักการให้โดยเฉพาะการให้อภัยคนที่ เขามืดอยู่ เรามาเอาศีลไปเป็นทรัพย์ติดตัว เราเอาไปได้แน่นอน ไม่มีใคร แย่งแบ่งไปจากเราได้เลย มาอยู่เมืองแห่งอริยะ มีแต่ได้เพื่อน.
ฉบับที่ ๔๖๖ (๔๘๘)
ข่าวอโศก
5
บันทึกสรุปงานฉลองหนาวฯ’๕๙ (ต่อจากหน้า ๑) จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ ม.ค. ๒๕๕๙ ณ พุทธสถาน ภูผาฟ้าน้ำ� ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยมีจุดมุ่งหมาย เพือ่ ให้ชาวอโศกได้มาพักผ่อน หลังจากตรากตรำ�งานหนักมา ตลอดปี เป็นเขตปลอดถือสา เป็นวันสบายๆที่หลายคนมี โอกาสมาพบปะสังสรรค์กัน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การปฏิบัติธรรม ก่อนวันงานปัจฉาสมณะ นำ�โดยสมณะเดินดิน ติกขวีโร ได้ไปเยี่ยมเยียนชาวชุมชนดอยรายปลายฟ้า จ.เชียงราย แทนพ่อครู เมื่อวันที่ ๒๐-๒๑ มกราคม หลังจากนั้นในวันที่ ๒๑-๒๒ ม.ค. ท่านอาจารย์สอง สมณะผืนฟ้า อนุตตโรและ สมณะเพาะพุทธ จันทเสธโฐ ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนชาว ชุมชนฮอมบุญอโศก จ.แพร่ แทนพ่อครูที่พักฟื้นสุขภาพที่ ธุลีฟ้ารีสอร์ท จ.เชียงใหม่ ส่วนชาวภูผาฟ้าน้�ำ มีการเตรียมงานและสถานทีป่ ระมาณ ๑ สัปดาห์ โดยญาติธรรม ชาวชุมชน นักเรียนสัมมาสิกขา และชาวปกาเกอะญอจากหย่ อ มบ้ า นหั ว เลามาร่ ว มเป็ น เจ้าภาพช่วยเตรียมงานและช่วยเก็บงานด้วย แม้ว่าอากาศ จะหนาวเย็นประมาณ ๒-๕ องศาเซลเซียส แต่ทุกคนก็ร่วม แรงกายแรงใจกันตั้งแต่เช้าถึงค่ำ� จนสำ�เร็จไปได้ด้วยดี ในวันเสาร์ที่ ๒๓ มกราคม เป็นวันแรกของงาน ท่าน สมณะ สิกขมาตุ ญาติธรรมและนักเรียนสัมมาสิกขาจาก พุทธสถานต่างๆ และชาวบ้านทัง้ ใกล้ไกลมาร่วมงานกันอย่าง อบอุ่น ซึ่งหลายคนได้เตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาอย่างดี เพื่อที่จะมาสู้ความหนาวเย็น แต่ปรากฎว่าในช่วงวันแรก ของงานสภาพอากาศก็อุ่นขึ้นมาทันที ประมาณ ๑๐-๑๓ องศาเซลเซียส กิจกรรมในงานฉลองหนาวเริม่ ตัง้ แต่เช้า มีการฮอมแฮง ทำ�แนวกันไฟ เพือ่ ป้องกันไฟป่าและยังช่วยคลายความหนาว มีพทุ ธประเพณีการบิณฑบาตยามเช้า โดยมีทา่ นสมณะ เดินดิน ติกขวีโร ซึ่งเป็นปัจฉาสมณะของพ่อครู ที่เดินทาง มาเป็นประธานในงานฉลองหนาวครั้งนี้ นำ�สมณะ พระ อาคันตุกะ และสิกขมาตุออกเดินบิณฑบาต จากศาลาซาวปี๋ ไปรอบๆชุมชน มีญาติธรรมและชาวบ้านใกล้เรือนเคียงมา ร่วมใส่บาตรกันอย่างอบอุ่น หลังจากนั้นมีการแสดงธรรม ก่อนฉันและเปิดงานโดยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ที่แม้จะยัง ต้องพักดูแลสุขภาพที่ธุลีฟ้ารีสอร์ท แต่ก็เมตตาลูกหลาน
โทรมาให้ธรรมะเปิดงานฉลองหนาว หลังจากฟังธรรมเสร็จก็รับประทานอาหารร่วมกันที่ โรงบุญมังสวิรัติบริเวณป่าสัก ญาติธรรมหลายท่านได้น�ำ อาหารมาร่วมบุญแจกถึง ๒๐ โรงบุญ ทั้งก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน น้ำ�เงี้ยว ข้าวเหนียวส้มตำ� ข้าวนุกงา ถั่วเน่าแผ่นและอีก หลากหลายเมนู แจกตั้งแต่เช้าถึงเย็น ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการ ให้ในงานฉลองหนาว อีกไฮไลท์หนึ่งของงาน คือการแข่งขันกีฬาอาริยะ การ แข่งขันมี ๓ ประเภท คือ เก็บผัก-หาฟืน-ฟื้นวัฒนธรรม ตำ�ข้าว สร้างความสนุกสนานที่ไม่ต้องสิ้นเปลือง สร้างสรรค์ ประโยชน์ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชน โดยผู้ชนะเลิศที่ ๑ จะได้รางวัลทวนกระแสเป็นเหรียญ ๑ สลึงหรือเหรียญทอง ส่วนที่ ๒ ได้ ๑ บาทหรือเหรียญเงิน และที่ ๓ ได้ ๕ บาท หรือเหรียญทองแดง เป็นสัญลักษณ์ว่าคนเก่งจะไม่กอบโกย แต่ต้องเสียสละให้กับคนที่เก่งน้อยกว่า ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศที่ ๑ ของกีฬาตำ�ข้าวคือทีม พ่อบ้านหัวเลา เป็นผู้แข่งขันชาวปกาเกอะญอ ส่วนกีฬา หาฟืนคือทีมเสี่ยวเฮาและเก็บผักป่าคือทีมอิสระ ทั้ง ๒ ทีมนี้ เป็นทีมผสมระหว่างชาวเราและชาวเขาร่วมกัน นับว่าเป็นการ พัฒนาของการแข่งขัน ที่ก่อให้เกิดความสามัคคี ในช่วงบ่ายมีการจัดตลาดอาริยะภูผาฟ้าน้ำ� จัดขึ้น ๒ วัน ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านทั้งใกล้ไกลเดินทางมาร่วม งานวันละประมาณ ๕๐๐ คน ต่อแถวยาวเหยียดเพื่อมา ซื้อสินค้าต่ำ�กว่าทุน มีทั้งน้ำ�มันพืช น้ำ�ตาลทราย วุ้นเส้น ไม้กวาด เครื่องมือทางการเกษตร ปุ๋ยอินทรีย์จากปฐมอโศก ทุน ๑๐๐บ. ขาย ๗๐บ. และสินค้าจัดรวมเป็นชุด ต้นทุน ๒๒๐บ. ขาย ๑๑๐บ. ฯลฯ ซึ่งเป็นสินค้าที่จำ�เป็นในครัวเรือน
ต่างๆ เพือ่ มุง่ ช่วยชาวบ้านให้ได้สมั ผัสกับกำ�ไรของชาวบุญนิยม การขาดทุนคือกำ�ไร ที่ได้เสียสละและแบ่งปัน ปีนม้ี กี จิ กรรมพิเศษคือ สอยดาว ๑ บาท โดยกลุม่ ธุลบี ุญ รายได้ทุกบาททุกสตางค์นำ�ไปสมทบทุนสร้างรีสอร์ทภูฟ้า ผาธรรมของส่วนกลาง ซึ่งอยู่ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ กิจกรรมภาคค่ำ�จัดที่เวทีธรรมชาติ มีกองไฟเล็กใหญ่ ให้ปิ้งบุก ปิ้งมัน ผิงไฟแก้หนาว พร้อมกับชมการแสดงแบบ พี่ๆน้องๆ ที่มาร่วมสนุกกัน ทั้งร้องเพลง ฟ้อนรำ� เน้นความ เรียบง่ายค่ะ และในค่ำ�คืนวันที่ ๒ ของงาน มีพิธีมอบรางวัล การแข่งขันกีฬาอาริยะ โดยท่านสมณะบินบน ถิรจิตโต และ ต่อด้วยการแสดงธรรมใน “รายการเอื้อไออุ่น” โดยท่าน สมณะและสิกขมาตุ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพักผ่อน ในช่วงเช้าของวันที่ ๒๕ มกราคม ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ของงาน จบลงด้วยสายฝนโปรยปราย ท่ามกลางอุณหภูมิ ที่ลดต่ำ�ลงเรื่อยๆ ยังความหนาวเหน็บให้ได้ฉลองหนาวกัน อย่างคาดไม่ถึง แต่ก็อบอุ่นด้วยมิตรภาพและความเป็นพี่ เป็นน้องของชาวเราและชาวเขาที่ได้มาร่วมงาน มีผู้มาลง ทะเบียนทั้งหมด ๑,๓๕๔ คน และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่การ มาเยือนภาคเหนือของพ่อครูในช่วงงานฉลองหนาวครั้งนี้ สุขภาพของพ่อครูฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งพ่อครูให้คะแนนตัวเอง ว่าดีขึ้นถึง ๙๙.๕% ยังความยินดีมาสู่ญาติธรรมโดยทั่วกัน ด้วยเหตุนี้ ในวันที่ ๒๖ ม.ค.พ่อครูได้มาบิณฑบาตที่ ชมร.เชียงใหม่ มีการแสดงธรรมก่อนฉันถึง ๒ ชั่วโมงเต็ม และฉันอาหาร มีท่านสมณะมาร่วม ๑๗ รูป สิกขมาตุ ๒ รูป มีผู้มาร่วมงานประมาณ ๑๕๐ คน ทำ�ให้ชมร.เชียงใหม่ดูคับ แคบแต่อบอุน่ ขึน้ มาในทันที เป็นการปิดท้ายให้กบั งานฉลอง หนาวอย่างสมบูรณ์ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น.
6
รวมปักษ์ มกราคม ๒๕๕๙
ฉลองบุญส่งท้ายปีเก่า เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๘ – วันอาทิตย์ ที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๙ บรรดาบัณฑิตบุญนิยมและผู้สนใจ ใฝ่ธรรม ได้มาเข้าสนามสอบสัมมาทิฏฐิของการปฏิบัติ ธรรม เพื่อรับเข็มพระธรรม (หรือไม่รับก็ตามเพราะ คุณสมบัติไม่พอ แต่สมัครสอบแบบสมทบได้) ของ วิชชาลัยบรรดาบัณฑิตบุญนิยม (ว.บบบ.) ในวันอาทิตย์ท่ี ๒๗ ธ.ค. ๕๘ สมณะและสิกขมาตุ ประจำ�กลุม่ ผูส้ มัครว.บบบ. จำ�นวน ๒๐ กลุม่ มารับลงทะเบียน ทั้งช่วงเช้าและบ่าย ช่วงค่ำ� สมณะเดินดินสัมภาษณ์ผู้สมัครสอบว.บบบ.ที่ อ่านหนังสือ “ยอดนิยายของโลก ทีไ่ ขความเป็นมนุษย์” ได้จบ ในวันที่ ๒๘ เป็นวันแรกของงาน เวลา ๙.๐๐ น.พ่อครู สมณะโพธิรักษ์เทศน์เปิดงานสอบ “ว.บบบ.” และนำ�ผู้สมัคร สอบกล่าวคำ�ปฏิญญา ช่วงบ่ายก็ไปทำ�งานของชุมชนในหน่วยงานต่างๆ แยก กันเป็นกลุ่ม ภาคค่ำ� ก็มารับการอบรมธรรมจากพ่อครูอีกครั้ง ตลอดงานมีการทำ�วัตรเช้าและรายการอบรมธรรมภาคค่ำ� ช่ ว งหลั ง ทำ � วั ต รเช้ า กั บ หลั ง รั บ ประทานอาหารก็ จ ะ
(ต่อจากหน้า ๑)
รวมกลุ่มไปช่วยงานตามจุดต่างๆในหมู่บ้าน ในการฟังธรรมเรียกการบำ�เพ็ญธรรม จะมีใบบำ�เพ็ญ ธรรม เขียนสรุปธรรมะที่ได้จากการฟังธรรม ในการทำ�งานเรียกการบำ�เพ็ญคุณ จะมีใบบำ�เพ็ญคุณ ให้เขียนสรุปส่ง การบำ�เพ็ญธรรมกับบำ�เพ็ญคุณ ทางสมณะและสิกขมาตุ ประจำ�กลุ่มจะมีการให้คะแนนในแต่ละวัน ในวันที่ ๓๑ ธ.ค. ๕๘ และ ๑ ม.ค. ๕๙ มีการตักบาตร ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ วันสุดท้ายของงานคือ ๓ ม.ค. ๕๙ จะไม่มกี ารทำ�วัตรเช้า แต่จะเป็นการสอบข้อเขียน ตั้งแต่ ๕.๐๐-๘.๐๐ น. ก่อนถึงเวลาสอบ มีรายชือ่ ผูม้ สี ทิ ธิส์ อบจำ�นวน ๗๒๒ คน วันที่ ๑-๒ ม.ค. ๕๙ จะมีการแสดงธรรมก่อนฉัน และ มีรายการพิเศษช่วงบ่ายคือ ๑ ม.ค. ๕๙ สิกขมาตุผาแก้ว ชาวหินฟ้า สัมภาษณ์ ปฏิบัติกร ชุด “ไฉนความลำ�บากกุศลธรรมจึงเจริญยิ่งนัก” ๒ ม.ค. ๕๙ สมณะเดินดินสัมภาษณ์ปฏิบัติกร ชุด “๓ อาชีพกู้มนุษยชาติ” ส่วนวันที่ ๓ ม.ค. ๕๙ เป็นการเฉลยข้อสอบช่วงก่อนฉัน
ต่อไปนี้เป็นความรู้สึกของผู้สอบ ว.บบบ. คุณปล้องหญ้า โคตรบรม “งานนี้ตั้งใจอ่านหนังสือ “ยอดนิยายของโลกที่ไขความ เป็นมนุษย์” ให้จบ แม้จะอ่านแบบผ่านๆ ก็ถือว่าได้ฝึกฝน ตนเองให้รู้ความสำ�คัญในความสำ�คัญ ได้รู้ว่าเรายังมีความ ขี้เกียจอยู่มาก ยังมีภพที่ติดสบาย ยังต้องฝืนอยู่มาก งานนี้ทำ�ให้เราได้ชัดเจนว่าการสอบว.บบบ. เป็นการวัด ภูมใิ นการปฏิบตั ธิ รรมของเรา ว่าเราทำ�ได้ถกู ต้องถูกตรงไหม การปฏิบัติธรรมของเรามีพัฒนาดีขึ้นหรือแย่ลงหรือย่ำ�อยู่ กับที่ และประทับใจในความเป็นผู้นำ�ทางจิตวิญญาณของ พ่อครูที่มีวิธีทำ�ให้คนมารวมกันเป็นพลังแห่งการทำ�ความดี ลดละกิเลส แบบไม่บังคับ” คุณดั่งเดือน นาวาบุญนิยม นิสิต วนบ. “ตั้งใจเข้าเรียน ว.บบบ เพราะเป็นการพัฒนาตัวเอง ได้ร่วมขบวนการกลุ่ม มันจะทำ�ให้เราได้ฝึกด้วย ก็อ่าน หนังสือบ้าง เพิ่งได้ครึ่งเล่มแล้วก็ฟังธรรมะ อยากรู้ว่าเรา เข้าใจธรรมะขนาดไหน ที่สอบก็ตื่นเต้น ทำ�ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอเพียงได้อ่านข้อสอบทำ�ให้รู้ว่า เรามีปริยัติแค่ไหน เข้าใจ ธรรมะที่จะนำ�มาใช้ได้แค่ไหน จุดสำ�คัญที่อยากจะสอบคือ อยากรู้หัวข้อธรรม รู้แล้วเราเข้าใจแค่ไหนที่จะเอามาใช้ สอบได้ ไม่ได้ไม่คิด คิดแต่ว่าได้สอบก็มีความสุขแล้ว”
ฉบับที่ ๔๖๖ (๔๘๘)
คุณดาวเย็น ชาวหินฟ้า นิสิต วนบ. และแม่ฐานงาน “คิดว่าขบวนการว.บบบ เป็นขบวนการทีพ่ อ่ ครูและสมณะ จะนำ�พาให้ลูกๆ ได้มีการเพิ่มเติมในการสร้างจิตวิญญาณ ตัวเองให้แข็งแรง เข้มแข็งมีภูมิธรรมเพิ่มขึ้น เป็นการตรวจ เช็คตัวเองในรอบปีว่าได้ถึงไหน การสอบก็ถือว่าเป็นการ ให้เราได้รู้ตัวเองว่าปฏิบัติได้แค่ไหน มีความตั้งใจค่ะ แต่ก็ อ่านหนังสือได้น้อย งานเยอะก็ใช้วิธีสอบถามเพื่อนๆ และ สมณะ ติวกันบ้าง ใจพร้อมที่จะไปกับขบวนการ ส่วนในงาน ฐานก็เตรียมงานไว้รองรับนิสิตที่จะมาบำ�เพ็ญคุณ เป็นการ เสริมขบวนการสร้างความสามัคคีของกลุ่ม ที่จะได้ทั้งการ งาน ได้ทั้งศีลเต็ม เข้มงาน สืบสานวิชชา จะเป็นส่วนที่ รองรับซึ่งกันและกัน นิสิตว.บบบ.ชาวบ้านราชส่วนใหญ่เป็น แม่ฐาน ก็ได้เตรียมตัวเพื่อรับพี่น้องว.บบบ.ที่จะมาร่วมงาน ในฐาน” สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน อโศกตระกูล “ปีนี้มีความพิเศษและวิเศษ พิเศษก็คือปีนี้ครบ ๔๕ พรรษาของพ่อครูฯ ในฐานะของเราทีเ่ ป็นลูกๆ ทีศ่ กึ ษาธรรมะ ของพระพุทธเจ้าที่ถ่ายทอดโดยพ่อครูมาเป็นเวลานาน เราก็ จะได้มาสรุปประเด็น ขมวดและก็ตอบคำ�ถามสิง่ ทีศ่ ึกษามาว่า ตรงไหม เราได้วัดผลประเมินผล หรือเป็นการสอบไล่ประจำ� ปีของการศึกษาด้านปรมัตถ์ด้านโลกุตระของเรา คนที่ตั้งใจ มาจะเป็นปีที่พิเศษมาก เราได้มากราบครูบาอาจารย์ ได้พบ
ข่าวอโศก
ครูบาอาจารย์และเรียนธรรมะกับครูบาอาจารย์ช่วงทำ�วัตร เช้าและทำ�วัตรเย็นทุกวัน และที่วิเศษยิ่งกว่านั้นก็คือ ด้าน จิตใจของเรา เรามาเจอมิตรดีสหายดีมีเพื่อนที่ปฏิบัติธรรม จำ�นวนมาก เมื่อเราได้มาร่วมกันแล้ว พลังของธรรมะ พลัง ของจิตวิญญาณที่จะเปลี่ยนแปลงในการชำ�ระกิเลส ในการ พัฒนาตัวเองก็จะมีก�ำ ลังเพิม่ ขึน้ การออกข้อสอบจะสอบได้ สอบตกก็ได้มีโอกาสอ่านใจในครั้งนี้แหละ ว่าพอถึงเวลาจะ สอบทำ�ไมมันถึงอึดอัด ทำ�ไมมันร้อน ทำ�ไมไม่สบายใจ หรือ ข้อสอบที่ยากทำ�ไมเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เราจะได้อ่าน สภาวะจิตสภาวะธรรม นี่ก็หมายถึงมีธัมมวิจัย ก็มีความ เจริญในธรรมขึ้นในขณะที่สอบ ทุกคนที่ได้มาสอบก็ได้แล้ว คือได้สอบและได้สอบใจตัวเอง อ่านใจในใจว่า ใจที่มาสอบ มันมีอาการต่างจากใจที่ฟังธรรมปกติอย่างไร ใจที่บันทึก ธรรมปกติกับใจที่บันทึกสู่การสอบมันเป็นอย่างไร เห็น อารมณ์ที่แตกต่าง เห็นความรู้สึกที่แตกต่าง” สมณะถักร้อย ธัมมธโร “น่าชื่นชมญาติธรรมจากทั่วสารทิศต่างสละเวลาของ ตนมาร่วมกิจกรรม หากนับตัง้ แต่วนั ลงทะเบียนจนถึงวันสอบ ใช้เวลาถึง ๘ วัน ยังไม่นับระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางซึ่ง หากอยูไ่ กลก็ตอ้ งใช้เวลานานถึง ๑๐ ชัว่ โมงก็มี จึงไม่ใช่เรือ่ งง่าย ที่คนหลายคนมาร่วมกิจกรรมถึง ๘ วัน ทั้งๆที่หลายคนมี งานประจำ� รวมทัง้ ทีเ่ ป็นข้าราชการซึง่ ต้องลางานมา บางคน
7
เป็นผู้สูงวัยเพียงแค่เดินทางไกลอย่างนี้ได้ก็เป็นสิ่งที่น่าทึ่ง แล้ว น่าประทับใจที่ยังมีระบบการศึกษาที่มีค่าต่างของอายุ มากขนาดนี้ ผู้สมัครสอบว.บบบ.มีตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ ยัง เป็นเด็กประถมศึกษา จนถึงอายุกว่า ๘๐ ขึ้นไป ต่างก็ยัง ขวนขวายเพิ่มพูนความรู้ทางธรรม และมาอยู่ร่วมประพฤติ ปฏิบัติอยู่ในกรอบของศีล ต้องตื่นมาฟังธรรมตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง แล้วยังเข้ากลุ่มทำ�งานตากแดดร้อนๆ หรือฐานงานอื่นๆทั้ง ที่อยู่กับขยะ โรงปุ๋ย หรือแม้แต่งานเกษตร น่าประทับใจที่หลายๆคนพากเพียรอ่านหนังสือ ยอด นิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์จบหลายรอบ ทั้งๆที่มี เกือบ ๔๐๐ หน้า และแม้สมณะเองหลายรูปก็ยังอ่านไม่จบ ซึ่งภาษาในหนังสือก็ไม่ใช่เข้าใจง่ายนัก บางคนยังเด็กมากก็ คงให้ผู้ปกครองอ่านให้ฟัง ที่น่าทึ่งก็คือมีผู้ที่สายตาใช้การไม่ ได้แล้ว ไปไหนมาไหนต้องอาศัยคนจูง แต่ก็ยังมาสมัครสอบ และอาศัยตัวช่วย อ่านข้อสอบให้ฟัง สิ่งต่างๆเหล่านี้ถือเป็นมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของธรรม ฤทธิ์ในยุคกาลนี้ แทนที่จะไปสนุกสนานหรือสำ�มะเลเทเมา ฉลองเทศกาลต้อนรับปีใหม่ในที่ต่างๆ แล้วตามมาด้วย อุบัติเหตุหรือคดีอาชญากรรมต่างๆ แต่กลับมีจิตสำ�นึกที่จะ มาร่วมบำ�เพ็ญตน สั่งสมบุญสร้างกุศลให้แก่ตน เพื่อสั่งสม อาริยทรัพย์ให้แก่ตน”
8
รวมปักษ์ มกราคม ๒๕๕๙
พ.ศ. ๒๕๓๖ เลื่อนฐานะเป็นผู้เตรียมบวช (กรัก) พ.ศ. ๒๕๓๘ และได้เลื่อนฐานะเป็นสิกขมาตุในปีพ.ศ. ๒๕๕๙ ไฟไหม้กองไม้ไผ่ที่นาโม บ้านราชฯ เมื่อประมาณ ๒๒ นาฬิกาของวันที่ ๓๐ ม.ค. ๒๕๕๙ มีผู้แจ้งว่าได้เกิดเหตุไฟไหม้ต้นไม้อยู่ที่บ้านอาไว้ใจตรงมา ทางนาโม ชุมชนราชธานีอโศก มีเสียงไม้ไผ่ระเบิดและไฟ เดือนมกราคม ๒๕๕๙ (ต่อจากหน้า ๑) กำ�ลังไหม้ต้นไม้ ท่ า นสมณะถั ก บุ ญ ได้ ป ระสานงานไปยั ง นิ สิ ต ปวส. หมู่บ้านชุมชนราชธานีอโศก วิทยาลัยอาชีวศึกษาสัมมาสิกขาวิชชารามให้นำ�เครื่องฉีดน้�ำ ค่ายวิถีธรรมพึ่งตนที่บ้านราช “การปรับสมดุลชีวิต ดับเพลิงมาทำ�การดับเพลิงที่กำ�ลังลุกไหม้ แม้ทีมนิสิตปวส. จะเจออุปสรรคในการดับไฟอยู่บ้าง แต่ก็ได้ใช้ความชำ�นาญ ให้เข้ากับความสนใจตัวเอง” ชาวบ้านราช คณะคุรุ นักเรียน นักศึกษา ได้ร่วมเรียนรู้ ในวิชาช่างช่วยแก้วิกฤติไฟไหม้กองไม้ไผ่ที่นาโม หมู่บ้าน การดูแลสุขภาพกับทีมแพทย์วถิ ธี รรม ทีมงานจิตอาสาแพทย์ ชุมชนราชธานีอโศกได้สำ�เร็จก่อนเกิดเหตุรุนแรง วิถีธรรมทีมใหญ่ นำ�ทีมโดย ดร. ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว) พุทธสถานสันติอโศก มาจัดกิจกรรมคอร์สสุขภาพในวันที่ ๖-๑๐ ม.ค. ๒๕๕๙ การ เข้าคอร์สสุขภาพครั้งนี้ ทีมแม่ครัวโรงครัว “ เฮือนหญังกิน” ยกครัวให้ทีมงานปรุงอาหารตามสูตรปรับสมดุลกินกันทั้ง ชมร.สันติอโศก งดให้บริการถุงพลาสติก ชุมชนตลอด ๕ วัน จุดเด่นกิจกรรมครั้งนี้คือ “ยืนหยัดแต่ ตั้งแต่วันที่ ๑ ม.ค. ๒๕๕๙ เป็นต้นไป ชมรมมังสวิรัติ ยืดหยุ่น” แห่งประเทศไทยสาขาหน้าสันติอโศก ได้งดบริการถุงพลาสติก พิธีอุปสมบทสมณะรูปที่ ๙๓ และบรรพชาสิกขมาตุ สำ�หรับใส่อาหาร เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน รูปที่ ๒๓ ณ พุทธสถานราชธานีอโศก
เมื่อวันที่ ๑๑ ม.ค. ๒๕๕๙ ที่แพโบสถ์ พุทธสถาน ราชธานีอโศก หมู่บ้านราชธานีอโศก อ.วารินชำ�ราบ จ.อุบลราชธานี มีพธิ อี ปุ สมบทสามเณรอุดม อาสาสะนาเป็น สมณะอุตตโม โดยมีสมณะเดินดิน ติกขวีโร เป็นอุปัชฌาย์ เริม่ เวลาประมาณ ๘.๑๓ น. มีสมณะร่วมพิธี ๒๐ รูป สิกขมาตุ ๑๐ รูป และญาติธรรมร่วมอนุโมทนาประมาณ ๑๐๐ คน สมณะอุดม อุตตโม เดิมชื่อนายอุดม อาสาสะนา เกิด วันที่ ๑๐ ต.ค. ๒๕๐๖ มารดาชือ่ นางทองดี อาสาสะนา บิดา ชื่อ นายกัน อาสาสะนะ เป็นคนจังหวัดขอนแก่นที่อพยพ ครอบครัวไปอยู่จังหวัดเชียงราย ได้เลื่อนฐานะเป็นผู้เตรียม บวช (ปะ) เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๖ เลื่อนฐานะเป็นนาคเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๗ เลื่อนฐานะเป็นสามเณร พ.ศ. ๒๕๕๘ และได้บวช เป็นสมณะในพ.ศ. ๒๕๕๙ หลังจากบวชสมณะเป็นพิธบี รรพชาสิกขมาตุฟา้ คุณคูณ อโศกตระกูล ซึ่งฐานะเดิมเป็นคุณกรักฟ้าคุณคูณ คุณกรักฟ้าคุณคูณ เดิมชื่อ น.ส.น้ำ�เย็น อโศกตระกูล เกิดวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๗ มารดาชื่อ นางแหวน บิดาชื่อ นายน้อย เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ รู้จักชาวอโศก ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ เลื่อนฐานะเป็นผู้เตรียมบวช (ปะ)
โดยก่อนเริม่ โครงการงดใช้ถงุ พลาสติกนัน้ ได้มกี าร รณรงค์และประชาสัมพันธ์เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติกอย่าง ต่อเนือ่ ง และทางชมร.ได้มบี ริการจำ�หน่ายปิน่ โตและบรรจุภัณฑ์ เพื่อสิ่งแวดล้อม (ไบโอชานอ้อย) ในราคาเท่าทุน นอกจากนี้ ยังมีบริการภาชนะสำ�หรับให้ลูกค้ายืมอีกด้วย สำ�หรับการจำ�หน่ายอาหารเพือ่ ใส่บาตรนัน้ ทางชมร.ก็มี บริการปิน่ โตให้ยมื สำ�หรับใส่บาตร และอาหารห่อใบตองบริการ ชาวชุ ม ชนสั น ติ อ โศกและนั ก เรี ย นสั ม มาสิ ก ขาฯ ร่วมกันทำ�กิจกรรม ๕ส. ทาวน์เฮาส์ ซอยกลาง (หน้า พุทธสถานฯ)
วันจันทร์ที่ ๑๘ ม.ค. ๒๕๕๙ หลังร่วมกันสวดมนต์ ทำ�วัตรเช้าแล้ว ชาวชุมชนสันติอโศกและนักเรียนสัมมาสิกขา สันติอโศกได้ “ลงแขก” ทำ�กิจกรรม๕ส. บริเวณทาวน์เฮาส์ ซอย กลาง (นวมินทร์ ๔๖) หรือที่เรียกกันว่าซอยใส่บาตร ตาม “โครงการปฏิบัติบูชา ๔๕ พรรษา เส้นทางสัมมาอาริยมรรค พ่อครูสมณะโพธิรักษ์” ระหว่างวันที่ ๑๗ – ๒๐ ม.ค. ๒๕๕๙ ซึ่งนับเป็นกิจกรรมที่๒ กิจกรรมนี้เริ่มวันอาทิตย์ที่ ๑๗ ม.ค. ๒๕๕๙ เวลา ๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. มีการทบทวนธรรมและตั้ง ตบะเพื่อปฏิบัติบูชา โดยสมณะซาบซึ้ง สิริเตโช เป็นประธาน
วันจันทร์ที่ ๑๘ ม.ค. ๒๕๕๙ จึงรวมพลทำ� ๕ส. ทาวน์เฮาส์เป็นผลให้ “ทาวน์เฮาส์” และถนนซอยกลางโล่ง สะอาดตาขึ้นทันที “ทาวน์เฮาส์” ดังกล่าวซึ่งเกือบทุกหลังเป็นร้านค้า ได้ ย้ายออกไปหลังหมดสัญญาเช่า จาก “มูลนิธธิ รรมสันติ” แล้ว ตั้งแต่ ๓๑ ธ.ค. ๒๕๕๘ โดยส่วนใหญ่ไปเปิดร้านใหม่ในซอย นวมินทร์ ๔๒ (ซอยวัดสุวรรณประสิทธิ์), ซอยนวมินทร์ ๔๔ (ซอยด้านบริษัท ฟ้าอภัย จำ�กัด), ซอยนวมินทร์ ๔๘ (ซอย ด้าน บจ.พลังบุญ) และซอยนวมินทร์ ๕๐ เป็นต้น กิจกรรม ๕ส. ครั้งนี้ เป็นการเตรียมสถานที่ไว้ให้ ญาติธรรมมาพักค้างและเตรียมการสำ�หรับ “งานประจำ�ปี” ในเดือนมิถุนายน คือ งานโฮมไทวัง ครั้งที่ ๒๑, งานบัณฑิต ศิษย์เก่า ครั้งที่ ๘, งานอโศกรำ�ลึก บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ครั้งที่ ๓๕ , งานคืนสู่เหย้าเข้าคืนรัง นศ.ปธ. ครั้งที่ ๑๓ ซึ่ง ปี ๒๕๕๙ นี้ ชาวสันติอโศกมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มี โอกาสกลับมาจัดงานดังกล่าวที ่ “พุทธสถานสันติอโศก” อีกครัง้ ๑๑ ข่าวเด่นในรอบปี ๒๕๕๘
(ต่อจากหน้า ๑)
อาหารหลากหลายเมนูเพื่อจัดโรงบุญ และมีขบวนแห่ต่างๆ จากนั้นเป็นพิธีกราบแม่โพสพ แล้วเข้าสู่กิจกรรมกีฬาอาริยะ คือ แข่งขันการนวดข้าว และแข่งขันการเป่าปี่ตอซังข้าว การแข่งขันนวดข้าวเป็นทีมสร้างความสนุกสนานและเกิด สาระคือได้เมล็ดข้าวไปพร้อมๆกัน
๑๑. สันติอโศกจัดงานคืนสู่เหย้าศิษย์เก่า ครบรอบ ๒๕ ปีกับ ๓๕ ปี มี ๒ งาน คือ ๑. ชุมนุมศิษย์เก่าสัมมาสิกขาสันติอโศก เนื่องในโอกาสครบรอบ ๒๕ ปีของการก่อตั้งโรงเรียน สัมมาสิกขา สันติอโศก (สส.สอ.) ในวันที่ ๓๑ พ.ค.๕๘ ใช้ชอ่ื งานว่า “ก้าวสู่ปีที่ ๒๕ สัมมาสิกขา สันติอโศก” ๒. ชุมนุมศิษย์เก่าพุทธธรรม ในโอกาสที่ โรงเรี ย นพุ ท ธธรรมวันอาทิตย์สันติอโศก ได้ก่อตั้งมาถึง ๓๕ ปี จากปีพ.ศ.๒๕๒๓ ใช้ชื่องานว่า “คืนสู่ เหย้า...พุทธธรรม ครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่ ๔ มิ.ย. ๕๘ เพื่อเป็น ปิตุบูชาพ่อครูที่จะครบรอบการบวช ๔๕ พรรษานี้ ในวันที่ ๗ พ.ย. ๕๘
ฉบับที่ ๔๖๖ (๔๘๘)
ข่าวอโศก
9
ข้อคิดที่ได้จากงาน ว.บบบ. ครั้งที่ ๔
ต้องถือว่าการจัดงาน ว.บบบ. เป็น เสมื อ นกั บ การจั ด งานฉลองปี ใ หม่ แ บบ ทวนกระแสที่ลงตัวที่สุด แล้วก็ถือว่าเป็น งานที่เดินมรรคมีองค์ ๘ แบบเคร่งครัด ที่สุดของชาวอโศกก็ได้ แล้วก็ยังเป็นงาน ที่มีผู้เข้ามาร่วมบำ�เพ็ญประพฤติปฏิบัติ ฝึกฝนกัน มีตั้งแต่ระดับเด็กอนุบาลไป จนกระทั่งผู้สูงอายุระดับ ๙๐ ปี ความรู้ ตั้ ง แต่ ร ะดั บ ประถมไปจนถึ ง ด็ อ กเตอร์ ต้องถือว่าเป็นงาน “เคออส” (chaos) ที่ มหัศจรรย์มากทีเดียว แล้วก็ยังเห็นถึง ความมีน้ำ�ใจ ความเป็นสาธารณโภคี ทั้ง เด็ ก ทั้ ง ผู้ ใ หญ่ มี ค วามเอื้ อ อาทรเผื่ อ แผ่ ดูแลซึ่งกันและกันได้อย่างอบอุ่น จนฐานงานต่างๆ ให้ข้อสรุปตรงกันว่า ถ้าจะให้ดที กุ กลุม่ ก็ควรทีจ่ ะมีทง้ั เด็กทัง้ ผูใ้ หญ่ นี่แหละคละเคล้ากันไป เพราะเด็กๆเขาจะ มีแรงมากเป็นตัวขับเคลื่อนเพราะพลังเขา เหลือเฟือ แต่ผู้ใหญ่ก็เป็นผู้มีประสบการณ์ อ่านงานออกทำ�ให้งานสามารถบรรลุสำ�เร็จ ตามเป้าหมายได้ โดยเฉพาะเจ้าของสวนต่างๆ ที่บ้านราชฯ ต่างก็ประทับใจไปตามๆกัน เพราะส่วนใหญ่แล้วก็เป็นผูอ้ ายุมาก แรงขับ เคลื่อนที่จะใส่ปุ๋ย หรืองานหนักๆที่จะทำ�ให้ สวนเขาเกิดความสมบูรณ์เฉพาะกำ�ลังตัวเขา เองไม่มีแรงทำ�แล้ว แต่ก็อาศัยงานนี้ที่ทุกคน มีความกระตือรือร้น พร้อมที่จะเข้าไปช่วย ผลักดันทำ�ให้สวนต่างๆเรียบร้อย ตามเป้า หมาย เป็นที่พอใจของเจ้าของสวนทุกสวน งานนี้ น อกจากพวกเราจะถื อ ว่ า เป็ น งานที่มาสอบใหญ่ เพื่อเพิ่มอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ที่พระพุทธเจ้าบอกว่า หลักสูตร ที่มีอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา นี่แหละเป็น หลักสูตรที่ดีที่สุดในโลก (สิกขานุตตริยะ) ไม่มีหลักสูตรอื่นดียิ่งกว่านี้อีกแล้ว เมื่อ ประโยชน์ตนได้ครบบริบูรณ์แล้ว ก็ยังถือว่า ได้มาช่วยกันสร้างแผ่นดินพุทธ ซึ่งพระ โพธิสัตว์ท่านได้ดำ�ริไว้ว่า ถ้าบ้านราชฯมีคน เป็นพันเมื่อไหร่ ชุมชนของเราจะมีความ ยิ่งใหญ่มาก ปีนี้เฉพาะผู้ร่วมงานทั้งหมดก็ ตกเฉียดพันอยู่แล้ว แค่ผู้สมัครสอบก็มีถึง ๗๒๒ คน (ข้อมูลสุดท้าย) มีเวลามาอยู่กัน ถึง ๗ วัน มันเหมือนกับพวกเรามาช่วยกัน ขยับเขยื้อน โลกของบุญนิยมให้ทอแสงจรัส เจิดจ้าขึ้นมา ถ้าใครดูขา่ วคุณชัด อุบลจินดา เพียงแค่ เขาทำ�ความดีเพียงแป๊บเดียว และก็ไม่ใช่ ความดีที่ไปหวังผลสิ่งตอบแทนใดๆ ก็เป็นที่ ประทับใจกันไปทั้งประเทศ แต่พวกเราที่มา
ทวนกระแสทำ�ความดีกัน ทำ�กันวันแล้ววัน เล่า คืนแล้วคืนเล่า และก็มีเป้าหมายชัดเจน ว่าไม่ได้หวังสิง่ ผลตอบแทนใดๆ มันก็นา่ จะ เรียกว่า ทำ�ให้โลกของบุญนิยม มีความ สว่างไสวชัดเจนได้ยิ่งไปกว่านั้น ๒. มางาน ว.บบบ. จะได้อะไร? สิง่ ทีพ่ วกเราจะได้ไปก็คอื ...ถ้าเสร็จงานปุ๊บ เราก็เสร็จกันเลยหรือเลิกกันเลย ก็คงไม่ได้ อะไรติดตัวไป งานนี้มันเหมือนกับเรามาเข้า ห้องแลปหรือมาเข้าห้องทดลอง ที่เราได้เข้า มาฝึกฝนกันอย่างเอาจริงเอาจัง ชีวิตของ เราหลายๆอย่ า งที่ เราอาจจะไม่ เ คยได้ ทำ � มาก่อน เช่น การใส่ใจในการฟังธรรม การ ใส่ใจผู้คนรอบข้าง ที่จะมีน้ำ�ใจ มีความเอื้อ อาทรต่อกัน การที่เราแต่ละคนพยายามเก็บ ใจของตัวเอง เก็บความต้องการของตัวเอง เก็บทิฏฐิของตัวเอง ทำ�อะไรก็แล้วแต่หมู่ กลุ่มจะตกลงกัน หรือตามที่เจ้าของฐานงาน เขาจะพาเราทำ� สิ่งเหล่านี้เราจะเห็นว่า มัน เป็นการขับเคลื่อนที่มีพลังมาก เราจะเห็นถึง ความอบอุ่นความเจริญก้าวหน้า การเติบโต ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ดั ง นั้ น ถ้ า เราเอาสิ่ ง ที่ ดี ง ามที่ เ ราได้ ฝึกฝนกันอย่างหนัก อย่างตั้งใจในช่วง ๗ วัน ๗ คืน สามารถเอากลับไปใช้ในชุมชน ในครอบครัวของเราแต่ละที่ได้ด้วย เช่น มี ความตั้งใจ มีความใส่ใจในการฟังธรรม เหมือนกับเราอยู่ในสนามสอบอยู่เสมอ มี ความใส่ใจ มีความเอื้ออาทรต่อคนรอบข้าง เหมือนอย่างที่เราปฏิบัติในช่วง ๗ วัน ๗ คืน นีไ้ ด้ดว้ ย หรือเป็นผูท้ พ่ี ยายามทีจ่ ะเก็บใจของ ตนเอง ไม่เอาแต่ใจตัวเองได้ด้วย มันก็จะ ทำ�ให้งานนี้ถือว่าประสบความสำ�เร็จเข้าเป้า ปีแรกๆ เราอาจจะมาเพราะว่าอยาก จะได้เข็ม อยากจะสอบผ่าน แต่ดูพวกเราก็ ไม่เห็นมีใครติดเข็มโชว์อะไรกันเลย สุดท้าย ได้เข็มมาก็เอาไปคืนพ่อท่าน เราก็จะได้เห็น ถึงว่า เมื่อผ่านๆไปแต่ละปีมานี่ จิตใจพวก เราก็รสู้ กึ ว่ามีความลงตัวมากขึน้ ความสับสน วุน่ วายในปีแรกๆก็หมดไป มีแต่ความเบิกบาน แจ่มใส ความวิตกกังวลใจก็ลดลงและทีส่ �ำ คัญ ก็คอื ในช่วงปีที่แล้วก็ดี ปีนี้ก็ดี ผลของการ สอบกลายเป็ น ว่ า พวกที่ อ ยู่ ส ายชาญกลั บ ได้ ค ะแนนท็ อ ปเป็ น อั ศ จรรย์ ม ากกว่ า สาย วิชญ์ ทั้งที่สายชาญไม่ค่อยมีทักษะในเรื่อง การสอบในเรื่องการเดาเท่าไหร่ แต่คะแนน กลับไปตกอยูท่ ค่ี นทำ�งานหนัก คนทีเ่ อาภาระ ต่อหมู่กลุ่มมาก ส่วนคนที่จะพยายามเก็ง ข้อสอบกัน ทุ่มเทกับการอ่านหนังสืออย่าง มากแต่กจิ กรรมส่วนรวมมีนอ้ ย กลับได้คะแนน น้อยกว่าพวกสายชาญ อันนี้แสดงว่าการสอบของเรา ข้อสอบ ที่ได้ออกกันมา เป็นการเน้นความเข้าใจ มากกว่าเน้นความจำ� ความรู้ ก็ถอื ว่าประสบ
ผลในการออกข้อสอบ เราต้องการให้เป็น ข้อสอบที่เพิ่มพูนสัมมาทิฏฐิ เพิ่มพูนสัมมา ปฏิบัติ ไม่อยากจะให้เป็นเพียงแค่ว่า รู้ได้ จำ�ได้ ตอบได้แต่ภาษา แต่ว่าไม่ได้เกี่ยวกับ สัมมาทิฏฐิ ไม่ได้เกีย่ วกับสัมมาปฏิบตั ิ ดังนั้น เมื่ อ เราเห็ น ผลประโยชน์ ที่ เ กิ ด ขึ้ น อย่ า งนี้ แล้ว เรากลับไปบ้านเราก็ควรเอาสิ่งที่ทำ�ได้ ให้มี อาเสวนา- ภาวนา- มีพหุลีกัมมัง เอา ไปทำ�ให้มากยิ่งๆ ขึ้น นอกจากเราจะมีสอบปลายปีแล้ว เรา ยังมีสอบประจำ�ภาค สอบต้นปีที่ศาลีอโศก สอบกลางปีที่บ้านราชในงานปลุกเสก แม้แต่ กิจกรรมในตลาดอาริยะถ้าเรามีความขยัน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งวัตถุประสงค์ของพ่อครู ที่ต้องการพัฒนายกระดับจิตวิญญาณของ พวกเราขึ้น เข้าสู่ความเป็นอาริยะ ก็คงจะ บรรลุวัตถุประสงค์ แม้พ่อครูจะยอมลงทุน ในครั้งนี้จะเป็นกี่ล้านก็ตาม แต่พ่อครูมอง ว่าการได้อาริยะเพิ่มขึ้นมาแม้คนสองคนจะ ลงทุนกี่ล้านท่านก็มั่นใจว่าคุ้มแสนคุ้ม ๓. ขอฝากข้อคิดประจำ�ปี ๒๕๕๙ ซึ่ง เป็นดั่งพรปีใหม่ ในโอวาทตอนหนึ่งช่วง ทำ�วัตรเช้า ๑ ม.ค. ๒๕๕๙ “จากกากเดนแห่งอวิชชา สูแ่ ท่งธรรมธาตุ อันสูงค่าในสากลจักรวาล” ...ในโลกใบหนึง่ ๆมีสตั ว์โลกเกิดมาในโลก อยู่ในจักรวาลนี้ ซึ่งโลกลูกนี้เกิดมากี่ล้าน ล้านล้านปี จนกระทั่งมีความเป็นชีวะในโลก ใบนี้จนถึงกระทั่งถึงทุกวันนี้ ก็มีวิวัฒนาการ มาอย่างยาวนาน ก็มีคนหรือมนุษย์นี่แหละ ที่เป็นสิ่งที่พัฒนาการจากพลังงานต่างๆมา จนในตัวพลังงานเองที่เป็นนามธรรม คือ “จิตวิญญาณ” ได้ศึกษารู้จักกระทั่งพบ ความรู้ของพระพุทธเจ้า แล้วสามารถที่จะ เปลี่ยนแปลงความรู้ เปลี่ยนแปลงจิตใจ เปลี่ยนแปลงธาตุที่บงการร่างนี้ที่ได้มา ให้มี กรรมกิรยิ าให้ทรงไว้ซง่ึ คุณค่าสูงสุด ให้มีความ รู้ มีแบบทฤษฎีทป่ี ฏิบตั ใิ ห้บรรลุได้ เป็นผูบ้ รรลุ สูงสุดในความเป็นที่สุดของธาตุท่เี ป็นสังขาร องค์รวมที่สังเคราะห์กันอยู่ ที่จับตัวรวมกัน เป็นพลังงานในตัวมันเอง (เช่น ธาตุดนิ ธาตุ หิน ธาตุเพชร) มันก็จบั ตัวรวมกัน รวมแล้วก็ เป็นร่างกายทั้งหมด เป็นตัวก้อนตัวแท่งของ ร่างกายมนุษย์ ในโลกลูกหนึ่งๆก็มีคนนี่แหละที่เป็นจิต นิยาม ที่มันสังขารปรุงแต่งกันเป็นดิน เป็น ลม เป็นไฟ ซึ่งเริ่มมีตั้งแต่อากาศจนพัฒนา ขึ้นมาเป็นธาตุวิญญาณมีธรรมะ ๒ มีอากาศ และวิญญาณ เป็นธรรมะ ๒ คือมีช่องว่าง กับมีสง่ิ หนึง่ จนกระทัง่ วิวฒ ั นาการมาเป็นชีวะ เป็นจุดแรกมันเป็นเซลล์แล้วก็เป็นสอง สิ่งเรียกว่ารูปกับนามที่สังเคราะห์รวมตัวกัน ขึ้นมา จนกระทั่งเป็นร่างกาย เป็นแท่งก้อน ของสั ต ว์ โ ลกของมนุ ษ ย์ แ ละวิ วั ฒ นาการ
ธาตุรู้ที่เรียกว่าวิญญาณมาเป็นปัญญา มา เป็นความรู้มาเป็นวิชชา แล้ววิชชานี่แหละ จะสร้างกรรม ธาตุทร่ี วมตัวกันเป็นธรรมะ แล้วปรุงแต่ง ตั้งแต่ ๒ อย่างขึ้นไป มีรูปกับนามมีสสารกับ พลังงานก็รวมกันเป็นธรรมะ ๒ สังเคราะห์ กันมาจนเกิดกรรมและเกิดพฤติกรรมๆของ โลกทุกวันนี้ ซึ่งมีตัวสัตว์หรือมนุษย์เป็น ตัวแปรของโลก โลกนีจ้ ะพังสลายไป หรือว่า โลกนี้จะอยู่สมดุลดีขึ้นเจริญขึ้น เป็นโลกที่มี รูปร่างของเปลือกโลก ให้คนได้อาศัยอยู่ใน เปลือกโลกนี้ ทั้งต้นหมากรากไม้ ภูเขา ทะเล มันก็ได้อาศัยอยู่ในเปลือกโลกนี้ คนก็ได้อาศัยยืนและเป็นตัวพฤติกรรม บนเปลือกโลกนี้ ตัวพฤติกรรมนี่แหละมัน เป็นตัวพลังงานที่สำ�คัญเป็นตัวทำ�ให้โลกนี้ เปลี่ยนแปลงเสื่อมหรือเจริญ ที่เรียกว่าโลก แตกหรือโลกประลัยกัลป์ มันก็เกิดขึ้นจาก พลังงานที่มันเจริญสูงสุดแล้วก็เสื่อมโดยตัว มันเอง แล้วก็เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป หมุนเวียน เป็นเช่นนั้นทุกอย่าง เมือ่ เกิดเป็นคน เป็นส่วนหนึง่ ของมหาจักร วาลของเอกภพนี้ เราก็เป็นส่วนหนึ่งของ สังขารของมหาจักรวาลนี้ ถ้าเราได้ศึกษา ได้เรียนรู้ถึงพลังงานที่มันขับเคลื่อนตัวเรานี้ เป็น self ตัวเรา มันขับเคลื่อนเป็นกรรม กิริยา มันทรงอยู่ก็เรียกว่าแท่งธรรมะ แต่ผู้ ใดทีย่ งั ไม่เป็นแท่งธรรมะทีเ่ ป็นธรรมชาติจริงๆ คือผู้ที่ไม่ได้ศึกษาจนจบกิจ ส่วนผู้ที่ศึกษา จนจบกิจแล้วก็เรียกว่าแท่งธรรมะนิยามที่ บริบูรณ์ แล้วก็มีกรรม มีพฤติกรรม ซึ่งเป็น หน่ ว ยของรู ป -นามหรื อ หน่ ว ยของสสาร พลังงานที่เรียกว่าธรรมะ ๒ ดีที่สุดในสากล มหาจักรวาล เราก็เป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณที่จะ ทำ�ให้มีการขับเคลื่อนไปเป็นพฤติกรรมและ ความรู้ ที่จะมีประโยชน์สูงสุดในมหาเอกภพ นี้ จนทำ�ให้เกิดความเจริญสูงสุดที่เรียกว่า ธรรมะ ที่พัฒนาได้สูงสุดตามความรู้ของ พระพุทธเจ้า ได้เป็นแท่งก้อนที่ปราศจาก โทษมีแต่คุณ นี่ก็คืออรหันต์ ....” จากอเวไนยสัตว์สู่เวไนยสัตว์ จากก้อน แท่งแห่งความโง่หรือกากเดนแห่งอวิชชาสู่ อรหันต์ในโสดาฯ..อรหันต์ในสกิทาฯ..อรหันต์ ในอนาคาฯ..และอรหันต์ในอรหันต์ ดังนั้น ชีวิตของพวกเราแต่ละคนที่ในอดีตต่างเป็น ดั่งสารกัมมันตภาพรังสีพิษแห่งอวิชชา ได้ แปรเปลี่ยนมาเป็นแท่งธรรมแห่งสัมมาทิฐิ ไปตามลำ�ดับจนกว่าจะได้เป็นแท่งธรรมธาตุ ที่บริบูรณ์ เพราะสิ้นอวิชชาได้...หรืออาจสิ้น ชีวิตก่อนก็ได้ หากแท่งธรรมทั้งหลายไม่เข้า มารวมพลั ง ช่ ว ยกั น สร้ า งสนามแม่ เ หล็ ก โลกุตตระ เพือ่ ความเจริญของวิชชาและจรณะ ที่สมบูรณ์
10 ๑๑ ข่าวเด่นในรอบปี ๒๕๕๘ (ต่อจากหน้า ๑๒) พระครูวิลาสกิจจาธร ซึ่งเป็นเจ้าคณะตำ�บลฯและ เจ้าอาวาสรูปที่ ๑๑ ของวัดหลวง ซึ่งตั้งอยู่ในอำ�เภอเมือง อุบลราชธานี ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนพ่อครูที่พุทธสถาน ราชธานีอโศก ช่วงงานตลาดอาริยะ คืนชีวิตแม่มูน ครั้งที่ ๓๖ แต่เป็นครั้งที่ ๒ ที่ใช้ชื่อนี้เมื่อวันที่ ๑๓ – ๑๕ เม.ย. ๕๘ ซึ่งทางฝั่งเมืองอุบลฯ ทางกรมเจ้าท่าฯ และองค์การ บริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราชธานีก็ให้การสนับสนุน ตลาดอาริยะทางฝั่งเมืองอุบลฯอีกแห่งหนึ่ง โดยใช้ชื่อว่า “ท่องเที่ยววิถีชาวอุบล ยลตลาดน้ำ�อาริยะ” ซึ่งจัดอยู่ที่แถว ริมแม่น�ำ้ มูน บริเวณท่าน้�ำ หลังตลาดเมืองอุบลฯ ซึง่ อยูไ่ ม่ไกล จากวัดหลวง พระครูวิลาสกิจจาธร เจ้าอาวาสวัดหลวง ยังได้ให้ชาว เราจัดพิธี “คารวะบูชาบรรพชนเมืองอุบลฯ” ที่วัดหลวง ใน ช่วงงานอโศกรำ�ลึกเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๕๘ โดยพ่อครูนำ� หมู่สมณะและสิกขมาตุยืนสงบนิ่ง นำ�ทำ�พิธีคารวะบูชาพระ ปทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำ�ผง) ซึ่งพ่อครูเป็นทายาทรุ่นที่ ๗ ของเจ้าคำ�ผง อีกทั้งในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ๕๘ ซึ่งตรงกับวัน สถาปนาท้าวคำ�ผงเป็นเจ้าคำ�ผง เจ้าเมืองอุบลฯ ทางจังหวัด ได้จดั งานฉลองเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย ครบรอบ ๒๒๓ ปี ของการก่อตั้งเมืองอุบลฯ ชาวเราก็ได้ร่วมกับวัดหลวงเปิด โรงบุญมังสวิรัติกับแจกปุ๋ยอินทรีย์ของชาวบ้านราชในงาน ฉลองเมืองอุบลฯครั้งนี้ที่วัดหลวงด้วย
รวมปักษ์ มกราคม ๒๕๕๙ สัมมนาคุรุชาวอโศก บูรณาการตอบโจทย์ชุมชน สังคม สืบทอดงานพระโพธิสัตว์ รวมปักษ์ธันวาคม ๔๖๕(๔๘๗)
ล้างพิษตับในชุมชนชาวอโศกทุกแห่ง ห้ามหมด!!! ส่วนใคร จะไปล้างส่วนตัวนั้นเป็นอิสระ
ในวันที่ ๒๔-๒๖ ธ.ค. ๕๘ โรงเรียนในเครือสัมมาสิกขาฯ จำ�นวน ๗ แห่งได้มาร่วมประชุมสัมมนาการศึกษาบุญนิยม ครั้งที่ ๒/๒๕๕๘ ที่หมู่บ้านชุมชนราชธานีอโศกต่อยอด การจัดกระบวนการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง (ลดเวลา เรียน เพิ่มเวลารู้) โดยอาจารย์จำ�รัส (ดั่งชัย) ช่วงชิง มาเป็น ปฏิบตั กิ ร ถ่ายทอดวิธกี ารเขียนแผนการจัดการเรียนรูผ้ า่ น ประสบการณ์จริง อิงวิถชี วี ติ ชุมชนและวิธกี ารสอนบูรณาการ
๙. พ่อครูพาบูชาดิน - น้ำ� - ลม - ไฟ รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม ในงานภราดรภาพที่ภาคใต้ ชาวทะเลธรรมจัดงานที่ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร มีการเปิดตลาดอาริยะที่โรงปุ๋ยควรธรรม สสฐ.ร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติ ปักษ์หลังกรกฎาคม ๕๘ ฉบับที่ ๔๖๐ (๔๘๒) ๗. โรงบุญเทิดพระเกียรติ ๕ ธันวามหาราช ถวายเป็นพระราชกุศลทั่วประเทศ ๘๘๘ แห่ง รวมปักษ์ธันวาคม ๕๘ ฉบับที่๔๖๕(๔๘๗)
เนื่องในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๘๘ พรรษา เมือ่ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ เหล่าพสกนิกรต่างก็พร้อมใจร่วมกัน จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ หมู่กลุ่มชาวอโศกพร้อมใจกัน แสดงออกถึงความจงรักภักดี โดยการจัดโรงบุญแจกอาหาร มังสวิรัติให้กับพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า รับประทานฟรี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในปีนม้ี เี ป้าหมายในเบือ้ งต้น จะจัดแจกให้ได้ไม่นอ้ ยกว่า ๘๘ โรงบุญ ทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งก็บรรลุเป้าหมาย ไปเรียบร้อยแล้ว และด้วยพลังความสามัคคีแห่งความจงรัก ๖. บ้านราชเริ่มปฏิรูปการศึกษา ภักดี โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ภาคเดียวก็สามารถจัดโรงบุญ รวมปักษ์กันยายน ๕๘ ฉบับที่ ๔๖๒(๔๘๔) แล้ว ไม่ต่ำ�กว่า ๘๘ โรงบุญ จึงเพิ่มเป้าหมายใหม่ไปที่ ๘๘๘ โรงบุญ และปีนี้ก็ยังมีความพิเศษคือเพิ่มการแจกเป็น เมื่อวันที่ ๑๗ – ๑๘ ก.ย. ๕๘ มีการสัมมนาคุรุของ ข้าวสาร น้ำ�มันพืช เสื้อผ้า ผ้าห่ม เสื้อกันหนาว หรือของใช้ โรงเรียนสัมมาสิกขาราชธานีอโศก (สส.ธ.) และเมื่อวันที่ อื่นๆที่จำ�เป็นต่อการดำ�รงชีพด้วย ๒๕ ก.ย. ๕๘ มีการสัมมนาคุรุวิทยาลัยอาชีวศึกษาสัมมา สิกขาวิชชาราม (ว.สว.) เพื่อให้เกิดรูปธรรมจริงในการศึกษา ๘. ข้อที่น่าสังเกตกรณีศึกษา การล้างพิษตับ แบบบูรณาการวิชาการลงสู่ฐานงาน เป็นการนำ�วิชาการสู่ กับมงคลตื่นข่าว การปฏิบตั คิ วบคูก่ นั ไป ซึง่ เป็นการศึกษาหรือการเรียนทีแ่ ท้จริง รวมปักษ์สิงหาคม ๕๘ ฉบับที่ ๔๖๑ (๔๘๓) อีกทั้งยังเป็นความพยายามที่จะให้สถาบันการศึกษา ทั้งสองแห่งมีแนวทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศีล การงาน พ่อครูให้งดล้างพิษตับในทุกชุมชนชาวอโศก (โอวาท และวิชาการ โดยเฉพาะด้านวิชาการหากสามารถหลอมรวม ประชุม ๙ องค์กรบุญนิยม ณ สันติอโศก ๓๐ ส.ค.๕๘) เป็นคณะเดียวกันได้ ก็จะมีทิศทางเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด พ่อครูให้โอวาทเกี่ยวกับเรื่องการจัดคอร์สสุขภาพใน เพื่อส่งเสริมทั้งด้านศีลธรรมและการงานอาชีพ ชุมชนชาวอโศก ในการประชุม ๙ องค์กรบุญนิยม ที่ชุมชน สันติอโศก ในวันที่ ๓๐ ส.ค. ๒๕๕๘ ว่า...มันเยอะนะเรื่อง คอร์สสุขภาพมีมากมาย แต่ที่กำ�ลังเป็นปัญหาตอนนี้ก็คือ ล้างพิษตับ เรื่องอื่นนั้นยังไม่กระไร เรื่องสุขภาพนั้นเรามี เยอะแยะ ๘ อ.ของเรานี่มีเยอะแยะ ประเด็นที่กำ�ลังเป็นเรื่องเป็นปัญหาตอนนี้ก็คือเรื่อง ล้างพิษตับ มันเกิดเรื่องที่คลางแคลงหรือชักฉงนสงสัยว่า น่าจะมีข้อไม่สมบูรณ์ จะเรียกถึงขั้นผิดพลาดก็ยังไม่ชัดเจน อาตมาก็เลยต้องกันไว้ดีกว่าแก้ เพราะว่าเป็นเรื่องของชีวิต ก็เลยไม่เอา ชุมชนชาวอโศกก็เลยคิดว่าหยุดเสียก่อน จะ
งานภราดรภาพซาบซึ้งใจ จัดที่สวนธรรมชาติอโศก ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ในระหว่างวันที่ ๑๗-๑๙ ก.ค.๕๘ ซึ่งก็เป็นปีที่ครบรอบ ๒๕ ปีธรรมชาติอโศกพอดี พ่อครูเดินชมตลาดอาริยะ ที่ได้เปิดขายสินค้าราคา บุญนิยมให้แก่ประชาชน เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่ประชาชนยัง สนใจมาซื้อหาสินค้าจำ�เป็นต่อชีวิตในราคาบุญนิยมมากขึ้น กว่าปีที่ผ่านมา วัฒนธรรมสำ�คัญที่ต้องปฏิบัติทุกครั้งในการมาเยือน ธรรมชาติอโศกคือการประกอบยัญพิธีบูชา ดิน น้ำ� ลม ไฟ โดยพ่อครูได้เทศนาธรรมก่อน จากนั้นจึงได้พากล่าวคำ�บูชา ดิน น้ำ� ลม ไฟ ซึ่งเป็นยัญพิธีที่มีผลต่อจิตวิญญาณของผู้ ที่มาร่วมงานทุกคนเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อ สิ่งที่ก่อกำ�เนิด ให้รู้ถึงคุณค่าของดิน น้ำ� ลม ไฟ รู้คุณค่าของ ธรรมชาติ รู้คุณค่าของธรรมะที่อยู่เหนือธรรมชาติ ซึ่งเป็น ความมหัศจรรย์ทางจิตวิญญาณของดิน น้ำ� ลม ไฟ และ ธรรมชาติที่อยู่ร่วมกัน เกื้อกูลซึ่งกันและกัน
๑๐. มหกรรมบุญล้อมข้าวชาวบุญนิยม ครั้งที่ ๑ สืบสานวัฒนธรรมการลงแขกเกี่ยวข้าว รวมปักษ์พฤศจิกายน ๕๘ ฉบับที่ ๔๖๔(๔๘๖) ชาวอโศกร่วมกันสร้างตำ�นานแห่งความสุขบนเส้นทาง วิถชี วี ติ เศรษฐกิจพอเพียงของชาวนาบุญนิยม ไม่ใช้เงินจ้างรถ เกี่ยวข้าว รถสีข้าว ใช้พลังแรงงานสามัคคีสืบสานวัฒนธรรม โฮมแฮงช่วยกันเก็บเกี่ยวข้าวบนผืนนาข้าวไร้สารพิษ แล้ว ร่วมกันฉลองในงานมหกรรมบุญลอมข้าว ครัง้ ที่ ๑ ณ หมู่บ้าน ชุมชนราชธานีอโศก ในวันที่ ๒๕ พ.ย. ๒๕๕๘ หลั ง จากตั ก บาตรเสร็ จ มี ก ารโฮมแฮงเกี่ ย วข้ า วที่ น า โฮมแฮงห่อข้าวต้มมัด ขนมเทียน และช่วยกันจัดเตรียม
ฉบับที่ ๔๖๖ (๔๘๘)
ข่าวอโศก ที่ ๔ เพราะงดจัดสอบว.บบบ.ในช่วงที่ออก ชุมนุมช่วยชาติในปีใหม่’๕๗ ฮะ...จี๊ดๆๆ v สะเก็ดข่าวฉลองหนาวฯ’๕๙ จิ้งหรีดประทับใจในทีมงานชุดเดิม ก็ ยังมาช่วยเตรียมงานเหมือนเดิมโดยไม่เบื่อ หน่าย ดูน่าเลื่อมใส แถมปีนี้ยังมีทายาท รุ่นใหม่ ทั้งที่เป็นญาติธรรม และศิษย์เก่า สัมมาสิกขา
เจริญธรรมสำ�นึกดี พบกับน.ส.พ.ข่าวอโศก ฉบับที่ ๔๖๖ (๔๘๘) รวมปักษ์มกราคม ๒๕๕๙ v สะเก็ดข่าวว.บบบ. ...ก่อนเข้าสู่งานสอบว.บบบ. ๑ วัน ได้ มีการรวมพลคนอ่านหนังสือ “ยอดนิยาย ของโลก ที่ไขความเป็นมนุษย์” โดยให้มา พบท่านเดินดิน เพื่อจะได้เชิญขึ้นสัมภาษณ์ ในช่วงค่ำ� จิ้งหรีดได้รู้มาว่าผู้ที่อ่านหนังสือ “ยอดนิยายของโลก ที่ไขความเป็นมนุษย์” ได้จบ พอถึงเวลานัดหมายก็เข้ามาพบท่าน เดินดิน แต่ท่านเดินดินเห็นหน้าตาผู้ที่มา แล้ ว ก็ นึ ก ไม่ ถึ ง ว่ า จะเป็ น คนที่ อ่ า นหนั ง สื อ “ยอดนิยายของโลกฯ” จนจบ จึงคิดสงสัยว่า พวกเขาจะรวมตัวที่ศาลาด้วยกิจอันใด สุดท้ายท่านเดินดินก็ต้องรู้สึกงึดหรื อ อัศจรรย์ใจ เพราะผูท้ ม่ี าพบนัน้ ล้วนมีลักษณะ แกนเจโตที่คาดไม่ถึงว่าจะอ่านหนังสือได้ จบ หรือพูดง่ายๆก็คือหน้าตาของผู้ที่อ่าน หนังสือ “ยอดนิยายของโลก ที่ไขความเป็น มนุษย์” จบนั้นเป็นแบบหน้าตาไม่ให้เลย จริงๆ...จี๊ดๆๆ
...ใครคือกิ๊กกับนางกากี พ่อครูเตือนว่า พญาครุฑรูจ้ ะเอาตายเลยนะ จิง้ หรีดพูดถึงกิ๊ก กับนางกากี หลายคนอาจสงสัยว่าใครหนอ หรือกิ๊กกับนางกากีนั้นเป็นอย่างไร เรื่องนี้ผู้ มาว.บบบ.คงรู้กันโดยมาก ใครสงสัยก็ลอง ถามดูได้นะฮะ...จี๊ดๆๆ ...คนที่รู้จักยอมก่อน เมื่อตกลงกันไม่ ได้คอื ใคร พ่อครูบอกเขาคือผูช้ นะ ใครไม่เข้าใจ ทีพ่ อ่ ครูเทศน์อบรมชาวว.บบบ.ว่า ผูย้ อมคือ ผูช้ นะ ก็หาเวลาสอบถามสมณะและสิกขมาตุ ได้นะฮะ..จี๊ดๆๆ ...บรรยากาศการสอบว.บบบ. ยังขลังเช่น เดิม แต่ความรู้สึกกลับสบายกว่าเก่าเป็น ส่วนใหญ่ เพราะไม่ยึดว่าจะต้องสอบได้! ขอ แค่ได้สอบก็พอใจแล้ว ไม่ตั้งธงแล้วปักธงจน ดู เ อาจริ ง เอาจั ง กั บ สมมติ ม ากกว่ า ปรมั ต ถ์ แต่การสอบว.บบบ.ปีน้หี ลายคนมาเดินตาม พ่อครู คือไม่ปักธง แต่จะสับธงจนไม่เหลือ ธงให้หมองเศร้า เช่นในการสอบว.บบบ. ยุคแรกๆ การสอบว.บบบ.ครั้งนี้เป็นครั้ง
จิ้งหรีดเห็นพี่ติ๋วมากับคุณแม่ (แดง) ช่วยงานกันอย่างแข็งขัน พีต่ ว๋ิ กับเพือ่ นๆและ รุ่ น น้ อ งก็ ม าช่ ว ยเป็ น กรรมการการแข่ ง ขั น กีฬาอาริยะ ส่วนคุณแม่แดงก็ช่วยในด้าน อาหารเลี้ยงผู้มาร่วมงาน ส่วนศิษย์เก่าสส.ภ.ก็มาตั้งโรงบุญแจก อาหาร พี่ปุ๋ยศิษย์เก่ารุ่นเดียวกับพี่ติ๋ว ก็ร่วม กับสามี (คุณแน่แท้) นำ�กลุ่มธุลีบุญ ซึ่งเป็น บริษัทลูกของธุลีฟ้า มาจัดรายการสอยดาว ชาวบ้านมี ๑ บาทก็สามารถจับฉลากได้ของ คนละ ๑ ชิ้น ทุกชิ้นที่นำ�มาก็ราคาสูงกว่า ๑ บาทหลายเท่าตัว ใครจะเข้าคิวเวียนเทียน มาจับฉลากก็ไม่วา่ แถวยาวจากศาลาซาวปี๋ถึง หน้าตลาดอาริยะ ที่ในปีนี้แม่ใบหญ้ามอบ หมายความรับผิดชอบให้กับทายาทรุ่นใหม่ จิ้งหรีดคิดว่า แม่ใบหญ้าคงนอนตายตาหลับ แล้วฮะ...จี๊ดๆๆ สาธุ ครูนวลสวาท เป็นเจ้าหน้าทีฝ่ า่ ยทะเบียน รายงานว่าในวันแรกมีผมู้ าลงทะเบียน ๗๗๗ คน ฝ่ายแจกผ้าห่มก็บอกมีผมู้ าขอใช้บริการ ๑๑๑ คน แต่รวมตลอดงาน ๓ วัน (๒๓-๒๕ ม.ค.๕๙)มี ผู้ ม าลงทะเบี ย นร่ ว มงานฉลอง หนาวธรรมชาติอโศก ทั้งหมดเป็นจำ�นวน ๑,๓๕๔ คน นับว่ามีผมู้ าลงทะเบียนมากกว่า ทุกปี แม่ทองธรรม เจนชัย ผู้ประสานงาน ชุมชนบอกปีนี้มีชาวบ้านจาก ๔๑ หมู่บ้าน มาร่วมงาน มีผู้ใหญ่บ้านแม่เลากับห้วย พระเจ้ามาร่วมงาน ผู้ใหญ่บ้านห้วยพระเจ้า มากับแม่บ้านด้วยฮะ...จี๊ดๆๆ แต่ที่แม่ทองธรรม ปีนี้รู้สึกปลาบปลื้ม สุดๆก็คือ ได้มีโอกาสรายงานบรรยากาศ ฉลองหนาวให้พ่อครูฟัง ซึ่งทางปัจฉาสมณะ ต่อสายให้ จิ้งหรีดก็พลอยรู้สึกอนุโมทนาไป ด้วย...จี๊ดๆๆ คุณสนและคุณแหม่ม ๒ สามีภรรยา ที่ มีศรัทธามาฝึกเป็นอาสาสมัคร ๐ บาท ได้ ช่วยกันขัดถูพื้นร้านชมร.เชียงใหม่ ทำ�เสร็จ ไม่ทนั ไร ก็ได้ต้อนรับการมาของพระโพธิสัตว์ นับเป็นกุศลผลบุญที่ทั้ง ๒ สามีภรรยาได้ทำ� ไว้ในชาตินี้ฮะ จิ้งหรีดขออนุโมทนาด้วยฮะ ...จี๊ดๆๆ v บรรยากาศแผ่นดินพุทธ เกิดทีม “หินสร้างเมือง”
จิง้ หรีดได้ฟงั พ่อครูเล่าถึงบรรยากาศการ พัฒนาแผ่นดินพุทธที่บ้านราชเมืองเรือ จน เกิดทีมหินสร้างเมืองดังนี้ “...เราก่อสร้างรัตนราชธานีของเราต่อ ไป ตั้งแต่พื้นที่สิ่งแวดล้อมวัตถุสมบัติพวก เราก็ ม าได้ ที่ ต รงนี้ โ ดยที่ เราเองก็ มี ปั ญ ญา มีบารมี ทั้งนี้มาที่ที่น้ำ�ท่วมคนไม่เอาแล้ว มาบูรณะขึ้นก็ค่อยๆขึ้นไปในที่หมู่บ้านทั้ง หลายในโลกที่เกิดมา เรากำ�ลังสร้างภูมิฐานขึ้นเรื่อยๆทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ก็ช่วยกันไปเรื่อย จนกระทั่งตาย จากกันไป วันนี้ก็มีคนตายไป ๑ คน ผู้ตายก็ ตายไป ผู้อยู่ก็นำ�กันไป เอาไปฝังหรือเอาไป เผา เราก็กำ�ลังก่อร่างสร้างตัวตึก ด้วยความ จนนี่แหละ ภูเขาก็จะสร้าง แม่น้ำ�ก็จะสร้าง ต้นไม้ก็จะปลูก หาดทรายก็จะต้องมี ต้องทำ� โรงเรียนเราก็จะทำ�อะไรต่างๆ เราก็ทำ�ไป ตามประสาคนจน ทำ�ตามสุจริตไป ก็ได้ไป ตามลำ�ดับ ก็ควรเข้ามาช่วยกันเถอะ ผู้ใดที่ เห็นว่าควรจะมาช่วยกันสร้างเพราะจะสร้าง จริงๆ ตอนนี้ก็อยากได้แสงพระอาทิตย์เอา ไว้ใช้ หลายคนก็ยังไม่อินตาม ไม่ get ตาม เท่าไหร่ แต่ก็ไม่เท่าไหร่ก็จะทำ�ต่อไป พระ พระอาทิ ต ย์ นี้ ไ ม่ มี ใ ครจะมาแย่ ง สั ม ปทาน เพราะมันกว้างไม่มีขอบเขต ตอนนี้กำ�ลังก่อสร้างเฮือนสวน เป็น อาคารขนาด ๑๑ ไร่ที่จะเกิดขึ้น คนงานที่ ถูกเหมามาใช้แรงงานก็ใช้ฝมี อื กัน ก็คงหนาว ยั ง นึ ก อยู่ ว่ า เขาจะเป็ น อย่ า งไรก็ ไ ปดู ๆ กั น หน่อยจะได้เกื้อกูลกัน เขามาจากต่างจังหวัด มาไกล แม้เขาจะรับจ้างก็ตามก็ไปดูแล วานนีห้ ลังฉัน พ่อครูตรวจงานตามปกติ ลมหนาวพัดแรงทั้งวัน ที่ ๑๑ ไร่ ที่กำ�ลัง ขึ้นโครงเหล็กจะเป็นตึกใหญ่ที่จะเกิดขึ้นใน อนาคตอันใกล้นี้ มีคนงานที่ถูกเหมามาใช้ แรงงานไร้ฝีมือเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละนับสิบๆ คนเชื่อมเหล็กก็เชื่อมทั้งวัน ยกเคลื่อนย้าย ก็ทำ�ทั้งวัน ทาสี และอื่นๆ ก็ถูกมอบหมาย โดยหัวหน้างาน ดูจากการทำ�งานน่าจะเป็น ช่างฝีมอื ทีป่ ระกอบอาชีพอย่างนีม้ านานแล้ว อีกมุมหนึ่งที่กว้างใหญ่มีแปลงกสิกรรม ที่ กำ � ลั ง เริ่ ม เขี ย วขึ้ น มาตามที่ ไ ด้ ต กลงกั น ไว้ ว่ า จะให้ ทั น ตลาดอาริ ย ะที่ จ ะมาถึ ง ใน สงกรานต์ปีนี้ แต่มีจักรกลหนักตัวหนึ่ง สีส้ม มีภาพ สัญลักษณ์รูปหัวพญาแร้ง หน้าตาพญาแร้ง อารมณ์ดี เด็กหนุ่มในชุดสีน้ำ�เงินนั่งอยู่ใน ห้องกระจกของรถจักรกลหนัก คอยโยก คอยควบคุม กระเช้าสายสลิงที่ใช้ขนย้ายหิน ชิ่นใหญ่ที่แสนหนัก ลงจากรถเทเลอร์ ๒๒ ล้อ ก้อนแล้วก้อนเล่า เที่ยวแล้วเที่ยวเล่า เด็กๆชุดสีน้ำ�เงินเกือบ ๑๐ คนยืนทำ�งาน อยู่ ใ นพื้ น ที่ ติ ด ติ ด กั น กั บ ช่ า งที่ ม ารั บ เหมา สร้างตึกให้เรา ท่ามกลางแสงแดดเปรี้ยง ลม แรงๆอย่างเดียวกับผู้มารับจ้าง พอเห็นพ่อครูเดินมากับปัจฉาฯ พวก เขาก็พากันกราบพ่อครู สีหน้ายิม้ แย้มแจ่มใส ท่าทีของเด็กกลุ่มนี้ต่างกันมากมายกับกลุ่ม ของผู้มารับจ้าง แววตาที่มองมายังหลวงปู่ เปีย่ มไปด้วยความเคารพ ความรักและความ ศรัทธา เพราะทีน่ เ่ี ป็นของเขา เขาเป็นเจ้าของ
11
เขาไม่ใช่แค่มาแล้วจากไปเมื่อหมด project เขาอยู่ที่นี่ เติบโตที่นี่ กิน-นอน-เล่น-เรียน และกำ�ลังฝึกทำ�งานอยู่ที่นี่ ประทับใจภาพนี้กับทีมลงหินปวช. ที่ ถูกประกาศเรียกให้มาลงหินอย่างต่อเนื่องนี้ พ่อครูว่า….หินมาแล้วทีมลงหินปวช. รีบมา เมือ่ เรือมันเชือกขาด เรือใหญ่ทมี อาชีวะ ปวช.ต่อเรือก็มาลงน้ำ�ช่วยกันดึงเรือเข้ า ฝั่ ง อันนี้เป็นเลือดเนื้อวิญญาณ ตอนนี้ก็รับ งานหนัก ทางกสิกรรมก็หนัก ทางด้านช่างก็ หนัก ทุกด้านก็น่ะ เพราะพวกเรานั้นขาดคน เพราะงานนั้นตกคน สถานที่นี้เป็นสถานที่ เจริญ สถานที่งานตกคนไม่ใช่คนตกงานเขา เห็นแล้วก็บอกว่า ให้กำ�ลังใจพวกเด็กปวช. ปวส. อยากให้อาตมาตั้งชื่อทีมกลุ่มนี้ว่า กลุ่มหินสร้างเมือง หินหนักๆนี้จะขนมาอีก หลายสิบเทเลอร์ คงเป็นร้อยเทเลอร์เลย ตั้งชื่อว่าพวกกลุ่มหินสร้างเมือง ไม่ ต้องเรียกว่าปวช. ปวส. ให้เรียกว่ากลุ่มหิน สร้างเมือง และไม่ใช่เมืองธรรมดานะ เมือง รัตนราชธานี เด็กอาชีวะนี่พวกเขาต้องใช้ แรงงานจะต้องมีพลังงานดีดดิน้ จะไม่ค่อย เรียบร้อยเท่าไหร่ แต่เรื่องงานเขาไม่หวั่น ตอนนี้ ก็ ช่ ว ยงานเขาก็ ต้ อ งลงน้ำ � เชื อ กเรื อ ขาดก็ต้องไปช่วยดึง หินก็ต้องช่วยแบก รถคันนั้นคันนี้ จะต้องเอารถเทลเลอร์ไป บ้าง รถแบคโฮไปบ้าง เอารถเกรดไปบ้าง เอารถอะไรบ้าง ก็ต้องไปช่วยกันทุกมุม คนอื่นก็ช่วยทุกด้านก็หนัก ที่ไม่ได้เอ่ยถึงก็ อย่าน้อยใจ นี่คืองานพวกเราที่กำ�ลังสร้าง ประวัติศาสตร์กัน มันเกิดจากจิตวิญญาณ ที่เข้าใจแล้วก็มาไม่ได้จ้างได้วาน อาตมา ซาบซึ้งสาธารณโภคีของพระพุทธเจ้าที่ทำ�ได้ ขนาดนี้ แม้มันจะยังดูเล็กแต่มันเป็นของจริง ขอยืนยันว่าเป็นของจริงของพระพุทธเจ้า ก็ ต้องช่วยกันพากเพียรสร้างสรรค์ต่อไป จบ...ยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องพูด ขอพูด ต่อไปจนถึง ๑๕๑ ปีก็แล้วกัน” ใครสนใจสร้างแผ่นดินพุทธก็ขอเชิญได้ เลยนะฮะ...จี๊ดๆๆ
v มรณัสสติ คุณแม่สำ�เภา จังคศิริ คุณแม่ของ อาตั๋ง (ฟังฝน จังคศิริ) เสียชีวิตด้วยโรค ชรา เมื่อวันที่ ๖ ก.พ. ๕๙ สิริอายุ ๑๐๑ ปี ศพตั้งที่วัดบ้านตะโก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ฌาปนกิจศพวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ ก.พ. ๕๙ คุณแม่กอง นาพงษ์ ชื่อพ่อครูตั้ง ให้ชอ่ื บัวลึก เกิดปี ๒๔๘๔ มรณะ ๖ ธ.ค. ๒๕๕๙ อายุ ๗๔ ปี เป็นแม่ของคุณ พลอยไพร ชาวหินฟ้า และคุณแก่นหยก นาคง (หนิง) แม่ ก องหกล้ ม เมื่ อ ปลายปี ที่ ผ่ า น มา จากนั้นก็มีระบบในร่างกายไม่ปกติ ลูกๆได้ดูแลอย่างใกล้ชิด ที่บ้านราชฯ จนเสียชีวิตด้วยโรคชรา พบกันใหม่ฉบับหน้า
12
รวมปักษ์ มกราคม ๒๕๕๙
๑๑ ข่าวเด่นในรอบปี ๒๕๕๘ ๑. พ่อครูประกาศภูมิอรหันต์ครั้งแรก คนนับพันร่วมงานพุทธาฯปี’๕๘
ทำ�พิธบี รรจุพระบรมสารีรกิ ธาตุสมเด็จปูฯ่ องค์แรก ครั้งแรกที่ใช้พืชผักไร้สารพิษล้วน ครั้งแรกที่ใช้น้ำ�มันมะพร้าวเท่านั้นทำ�อาหาร ครั้งแรกที่รวมพลคนชอบฟัง-เขียนธรรมะ รวมปักษ์มีนาคม ฉบับที่ ๔๕๕ (๔๗๗)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๕ ถึงวันอาทิตย์ที่ ๘ พ.ย. ๒๕๕๘ มีการจัดงานมหาปวารณา ครัง้ ที่ ๓๓ ณ พุทธสถานปฐมอโศก อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งในปีนี้มีความพิเศษกว่าทุกปีเพราะ เป็นการครบรอบ ๔๕ พรรษาของพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ที่ได้ อุปสมบทมาในวันที่ ๗ พ.ย. ซึง่ ในวันที่ ๗ พ.ย.นี้ พ่อครูได้ เดินนำ�ธรรมยาตราหลังบิณฑบาตแล้ว ไปยังสมเด็จปู่วิชิต อวิชชา ซึ่งเป็นหินทรายสลักอยู่หน้าชุมชนปฐมอโศก เพื่อ ทำ�พิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระพุทธรูปสมเด็จปู่ นี้ ที่ยังคงแกะสลักไม่เสร็จ ทีส่ �ำ คัญพิเศษในการประชุมมหาปวารณาครัง้ นี้ หมูส่ มณะ ได้มีมติยกสติวินัยให้กับพ่อครูด้วยมติเป็นเอกฉันท์
ในวันอาทิตย์ที่ ๑ มี.ค. ๕๘ พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ เทศน์เปิดงานพุทธาภิเษกฯและประกาศอรหันต์ในครั้งนี้ ด้วย หลังจากนัน้ นำ�กล่าวปฏิญาณถือศีล ๘ และในเช้าวันที่ ๔ มี.ค. ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชาได้มีพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๓. พ่อครูทวั ร์พญาแร้งภาคเหนือครัง้ แรก สมเด็จปู่วิชิตอวิชชาองค์แรกของชาวอโศก มีผู้ลงทะเบียน ร่วมฉลองหนาวฯครั้งที่ ๑๑ ตลอดงาน ๑,๐๕๗ คน ทำ�พิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ตลอดงานพุทธาภิเษกฯทางชุมชนศาลีอโศก รับรีสอร์ท “ภูฟ้าผาธรรม” ยังได้ใช้พืชผักไร้สารพิษเท่านั้นมาประกอบอาหารเลี้ยงผู้มา โปรดญาติธรรมภาคเหนือ ๗ แห่ง เข้าอบรมในงานพุทธาฯ และได้ใช้น้ำ�มันมะพร้าวเท่านั้นซึ่ง บุญนิยมทีวีถ่ายทอดสดทุกแห่ง เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าน้ำ�มันหลายชนิด ตามที่ ชาวบ้านหัวเลาร่วมเป็นเจ้าภาพ มีการวิจัยกันออกมาเพื่อสุขภาพของผู้ที่มาบำ�เพ็ญธรรมใน ปักษ์หลังมกราคม ฉบับที่ ๔๕๓(๔๗๕) ช่วงเทศกาลวันมาฆบูชาหรืองานพุทธาภิเษกครั้งนี้ด้วย งานนี้พ่อครูให้โศลกธรรมใหม่คือ ความบริสุทธิ์เท่านั้น ในวันที่ ๒๒ ม.ค.๕๘ พ่อครูได้มีโอกาสมาโปรดญาติ ที่จะชนะทุกสิ่งทั้งโลก...ในที่สุด ธรรมชาวเหนือ จุดแรกที่พ่อครูมาโปรดคือที่ชมร.เชียงใหม่ โดยบิณฑบาตและแสดงธรรม หลังฉันได้เดินทางไปลานนา อโศก และธุลีฟ้ารีสอร์ท ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่และ พักค้าง ๑ คืน ในเช้าวันที่ ๒๓ ม.ค. ได้เดินทางต่อไปยังสวน ชายดอย ที่บ้านพืชผัก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อมาทำ�พิธี บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ องค์พระพุทธาภิธรรมนิมิตที่ จุดอุณาโลม หลังเสร็จพิธีได้เดินทางไปยังพุทธสถานภูผา ฟ้าน้ำ� ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมงานฉลอง หนาวธรรมชาติอโศก ครั้งที่๑๑ หลังจากที่พ่อครูไม่ได้มา เป็นเวลาหลายปี เนื่องจากปัญหาสุขภาพและเหตุการณ์ ความไม่สงบทางการเมือง งานฉลองหนาวครั้งนี้ได้รับมิตรไมตรีที่แสนอบอุ่นจาก ทุกท่านที่มาร่วมงานและมาร่วมเป็นเจ้าภาพโดยเฉพาะชาว ๒. ๔๕ พรรษาของพ่อครู เขาบ้านหัวเลาที่มาร่วมเป็นเจ้าภาพกับชาวภูผาฟ้าน้ำ� ทั้ง บนเส้นทางสัมมาอาริยมรรค ช่วยเตรียมงานและเก็บงานในวันสุดท้าย เป็นบรรยากาศที่ ในงานมหาปวารณา ครั้งที่ ๓๓ อบอุ่น ด้วยความเป็นพี่เป็นน้อง ตั้งโรงบุญแจกอาหารฟรี หลังจบงานฉลองหนาวแล้ว ก่อนพ่อครูจะเดินทาง มีพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ต่อไปยังจ.เชียงราย ได้ตั้งชื่อที่ดินแถวบ้านผาลิ้น ต.ป่าแป๋ หมู่สมณะยกสติวินัย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากพุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ� รวมปักษ์ พฤศจิกายน ฉบับที่ ๔๖๔(๔๘๖) ๑๑-๑๒ กม. ซึง่ ญาติธรรม (คุณนิวชั ) ซือ้ ถวายจำ�นวน ๑๙ ไร่
ว่า “รีสอร์ทภูฟ้าผาธรรม” เป็นอีก ๑ แห่งที่พ่อครูได้ให้ทาง ชุมชนภูผาฟ้าน้ำ�ดูแล ต่อจากนั้นพ่อครูเดินทางไปชุมชนดอยรายปลายฟ้ า อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นเวลา ๒ คืน ด้วยมีปัญหาด้าน สุขภาพ จึงไม่ได้เดินทางไปชุมชนฮอมบุญอโศก อ.เด่นชัย จ.แพร่ ซึ่งเป็นจุดที่ ๗ แต่ก็ได้สมณะเดินดิน ติกขวีโร ซึ่งเป็น ปัจฉาสมณะ และคณะไปปฏิบัติหน้าที่แทนพ่อครู ณ จุดนี้ สถานที่ทั้ง ๗ แห่งดังกล่าว ทางทีมงานบุญนิยมทีวีได้ เดินทางไปช่วยถ่ายทอดสดทุกแห่ง
๔. สถาบันบุญนิยมมอบหยาดน้ำ�ใจทองคำ� เป็นกำ�ลังใจให้กับ อ.วิชา มหาคุณและคณะปปช. ตามแนวพระราชดำ�รัสให้ส่งเสริมคนดี ปักษ์หลังมกราคม ฉบับที่ ๔๕๓(๔๗๕) ก่อนที่สนช.จะมีการลงคะแนนถอดถอนอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ กรณีโครงการรับจำ�นำ�ข้าวนั้น พ่อครูได้เห็นอ.วิชา มหาคุณ ยืนหยัดต่อสูเ้ สียสละทำ�งานเพือ่ ปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชั่นอย่างเข้มแข็ง พ่อครูจึงได้ดำ�ริที่จะทำ�ยัญพิธีที่จะ เป็นการให้กำ�ลังใจและเชิดชูคนดี ที่ได้ต่อสู้เพื่อบ้านเมือง ซึ่งพ่อครูดำ�ริว่า ไม่ว่าการตัดสินถอดถอนอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์จะมีผลเป็นอย่างไรก็ตาม เราก็จะมอบหยาดน้ำ�ใจ ทองคำ�ทีเ่ ป็นสัญลักษณ์แห่งน้�ำ ใจ ใจจริงของชาวบุญนิยม มอบ เพือ่ เป็นกำ�ลังใจให้ อ.วิชา มหาคุณ ในการล้างทุจริตของชาติ ในกล่องที่ใส่หยาดน้ำ�ใจทองคำ�นั้น มีคำ�ความซึ่งเป็น พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้ น้อมนำ�มาสลักลงในกล่องไว้ว่า “ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคน ดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำ�ให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำ�ให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การ ทำ�ให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คน ดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มอี �ำ นาจ ไม่ให้ก่อ ความเดือนร้อนวุน่ วายได้” (พระบรมราโชวาท ๑๑ ธ.ค. ๒๕๑๒)
๕. สัมพันธ์วัดหลวง วัดประจำ�เมืองอุบลราชธานี