ปที่ ๗๙ ฉบับที่ ๑๒ เดือนธันวาคม ๒๕๖๒
วันดิน๕ ธโลก ันวาคม ขาวทหารอากาศ
AIR
ปที่ ๗๙ ฉบับที่ ๑๒ เดือนธันวาคม ๒๕๖๒
http://www.airforcemagazine.rtaf.mi.th
F
RCE
2
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมพ ิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพอแหงชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ วันที่ห้าธันวาคมอุดมผล ราชสมภพองค์ภูมิพลดลบันดาล พระทรงเป็นพ่อหลวงของปวงราษฎร์ ปวงประชาต่างจงรักและภักดี ต่างเทิดทูนวันพระราชสมภพ ชาวไทยต่างส�านึกระลึกพระคุณ พระคุณพ่อก่อเกิดก�าเนิดแท้ พ่อคือพระคือพรหมอุดมชัย เพื่อน�าทางสร้างสิ่งดีในชีวิต พ่อดุจร่มโพธิ์ทองของปฐพี ถึงวันพ่อเวียนมาในครานี้ มหาราชชาติสยามงามพระคุณ ขอคุณพระรัตนตรัยคุณไพศาล คุ้มครององค์มหาราชชาตินรินทร์
วันมงคลของไทยใจประสาน งามตระการมหาราชศรีชาติไทย ด้วยอ�านาจทศธรรมล�้าสดศรี สุขทวีเมื่อนึกถึงซึ้งพระคุณ น้อมนบเป็นวันพ่อก่อเกื้อหนุน พระการุณย์เป็นที่หนึ่งสุดซึ้งใจ พระคุณแผ่ไพศาลเกินขานไข พระคุณพ่อยิ่งใหญ่ในฤดี พ่อประสิทธิ์พรชัยในทุกที่ พ่อคือศักดิ์คือศรีมีพระคุณ พ่อเปรียบดุจดวงมณีที่เกื้อหนุน เป็นพ่อที่การุณย์บุญแผ่นดิน เทพประทานพรชัยดั่งใจถวิล สถิตถิ่นแดนใดสดใสเทอญ
ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมส�านึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ ทหารกองประจ�าการ และครอบครัวทหารอากาศ น.อ.เกษม พงษ์พันธ์ ประพันธ์
ข่าวทหารอากาศ
(ต่อจากฉบับที่แล้ว)
3
รวบรวมโดย พุทธรักษา
“ค�ำสอนประโยคเดียว” เมื่อนิตยสาร “สไตล์” ฉบับปี พ.ศ.๒๕๓๐ ได้ตั้งค�ำถามกับ ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล ถึง “ค�ำสอน” ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ประทับอยู่ในหัวใจ ดร.สุเมธฯ ซึ่งขณะนั้นด�ำรงต�ำแหน่งผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเลขานุการ ส�ำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่ อ ประสานงานโครงการอั น เนื่ อ งมาจากพระราชด� ำ ริ ตอบว่ า ค� ำ สอนประโยคเดี ย วก็ เ กิ น พอนั้ น คือพระราชด�ำรัสที่ว่า “มาอยู่กับฉันนั้น ฉันไม่มีอะไรจะให้ นอกจากความสุขที่จะมีร่วมกันในการท�ำ ประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น” “ดีใจที่สุด” ส�ำหรับผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์มืดมน พระบรมฉายาลักษณ์ไม่เพียงเป็นรูปเคารพบูชา แต่ยังเป็นเสมือน สัญลักษณ์ของความศรัทธาที่ช่วยให้มีแรงต่อสู้กับความทุกข์ต่อไปได้ ดังคุณยายละเมียด แสงเนียม วัย ๗๒ ปี ชาวจังหวัดชุมพร ผู้ที่เผชิญกับอุทกภัยภาคใต้ในปี พ.ศ.๒๕๔๐ น�้ำท่วมบ้านสูงมากจนอยู่อาศัยไม่ได้ “อยู่ ๆ น�้ำก็ท่วมมาเร็วมาก ยายต้องไปขออาศัยบ้านคนอื่นเขาอยู่ ต่อมาก็ขึ้นไปอยู่ชั้นบน ออกไปไหน ไม่ได้เลย พอดีที่บ้านนี้เขาปลูกมะละกอ ต้นมันสูงมาถึงหน้าต่างเราก็เอื้อมถึงพอดี เลยได้กินข้าวกับมะละกอ
4
ก็กินมาสามวัน มาเมื่อวานผู้ใหญ่บ้านมาบอก มูลนิธิในหลวงจะเอาของมาแจกยายคิดเลยว่า ไม่อดตายแล้ว ทุกครั้งที่คนไทยเดือดร้อน ในหลวงจะให้ความช่วยเหลือทุกครั้ง ของที่ยายได้มา ที่ดีใจที่สุด คือมีรูปของท่าน มาด้วย ที่บ้านเสียหายหมดแล้ว ยายจะเอารูปท่านไว้บูชา” ยายพูดแล้วก็ก้มลงกราบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรด้วยความจงรักสุดหัวใจ “ทุกข์บรรเทา” “การประทับอยูใ่ นบ้านเมือง” ดังพระราชด�ำรัสนัน้ ในเวลาต่อมาก็เป็นทีร่ กู้ นั ว่ามิได้หมายถึงการประทับ อยู่ในเมืองหลวงเท่านั้น แต่ยังเสด็จฯ เยี่ยมเยียนราษฎรของพระองค์จนแทบจะทั่วทุกตารางนิ้วที่พระบาท จะย่างไปถึงได้ ทรงวิทย์ แก้วศรี ผู้เรียบเรียงบทความ “บรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าผู้ทรงพระคุณธรรม อันประเสริฐ” บันทึกไว้ว่า วันที่ ๑๓ ก.ย.๒๔๙๗ ขณะที่ทรงมีพระชนมายุ ๒๖ พรรษา และทรงครองราชย์เป็นปีที่ ๘ ปรากฎว่า เกิดเหตุการณ์อัคคีภัยครั้งร้ายแรงขึ้นที่ อ�ำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงเสด็จพระราชด�ำเนินไปเยี่ยมเยือนราษฎรชาวบ้านโป่ง ผู้ประสบภัยในพื้นที่ ทรงทอดพระเนตรบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้และพระราชทานสิ่งของบรรเทาทุกข์ ทุ ก ข์ ใ นยามยากเพราะสิ้ น เนื้ อ ประดาตั ว จากภั ย เพลิ ง นั้ น มากล้ น แต่ เ มื่ อ ได้ รู ้ ว ่ า ยั ง มี ใ ครสั ก คน คอยเป็นก�ำลังใจ ทุกข์สาหัสแค่ไหนก็ยงั พอมีแรงกายลุกขึน้ สูต้ อ่ ได้ การเสด็จพระราชด�ำเนินเยีย่ มเยียนราษฎร ผู้ประสบภัยในครั้งนั้น นับได้ว่าเป็นการเสด็จพระราชด�ำเนินเยี่ยมราษฎรต่างจังหวัดเป็นครั้งแรกในรัชกาล
“๑๔๑ ตัน” เป็นที่รู้กันดีว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เริ่มเสด็จฯ พระราชทานปริญญาบัตรตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๓ และหลังจากนั้นบัณฑิตทุกคนก็เฝ้ารอที่จะได้รับ พระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์อย่างใจจดใจจ่อ ภาพถ่ายวันรับพระราชทานปริญญาบัตรกลายเป็นของล�้ำค่าที่ต้องประดับไว้ตามบ้านเรือน และเป็น สัญลักษณ์แห่งความส�ำเร็จของหนุ่มสาว และความภาคภูมิใจของบิดามารดา จน ๒๙ ปีต่อมา มีผู้ค�ำนวณให้ฉุกใจคิดกันว่าพระราชภารกิจในการพระราชทานปริญญาบัตรนั้นเป็น พระราชภารกิจทีห่ นักหน่วงไม่นอ้ ย หนังสือพิมพ์ลงว่าหากเสด็จฯ พระราชทานปริญญาบัตร ๔๙๐ ครัง้ ประทับ ครั้งละราว ๓ ชั่วโมง เท่ากับทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทานใบปริญญาบัตร ๔๗๐,๐๐๐ ครั้ง น�้ำหนักปริญญา บัตรฉบับละ ๓ ขีด รวมน�้ำหนักทั้งหมดที่พระราชทานมาแล้ว ๑๔๑ ตัน
ข าวทหารอากาศ
5
ไม่เพียงเท่านั้น ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ยังเล่าเสริมให้เห็น “ความละเอียดอ่อนในพระราชภารกิจ” ที่ไม่มีใครคาดถึงว่า “ไม่ได้พระราชทานเฉย ๆ ทรงทอดพระเนตรอยู่ตลอดเวลา โบว์หลุด อะไรหลุด พระองค์ทา่ นทรงผูกโบว์ใหม่ให้เรียบร้อย บางครัง้ เรียงเอกสารไว้หลายวันฝุน่ มันจับ พระองค์ทา่ นก็ทรงปัดออก” “สุขเปนป ๆ” ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้กราบบังคมทูลขอพระราชทานให้ทรงลดการเสด็จฯ พระราชทานปริญญาบัตรลงบ้าง โดยอาจงดเว้นการพระราชทานปริญญาบัตรในระดับปริญญาตรี คงไว้แต่เพียงระดับปริญญาโทขึ้นไป พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กลับมีพระราช กระแสรับสั่งตอบว่า พระองค์เองเสียเวลายื่นปริญญาบัตรให้บัณฑิตคนละ ๖ - ๗ วินาทีนั้น แต่ผู้ได้รับนั้น มีความสุขเป็นปี ๆ เปรียบกันไม่ได้เลย ที่ส�าคัญคือ ทรงเห็นว่าการพระราชทานปริญญาส�าหรับผู้ส�าเร็จ ปริ ญ ญาตรี นั้ น ส� า คั ญ เพราะบางคนอาจไม่ มี โ อกาสศึ ก ษาชั้ น ปริ ญ ญาโทและปริ ญ ญาเอก ดั ง นั้ น “จะพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตปริญญาตรีไปจนกว่าจะไม่มีแรง” “พระมหำกษัตริย์” เมื่อมีผู้สื่อข่าว bbc ขอพระราชทานสัมภาษณ์เพื่อประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Soul of Nation ในปี พ.ศ.๒๕๒๒ โดยได้กราบบังคมทูลถามถึงพระราชทัศนะเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของพระมหากษัตริย์ไทย พระองค์ได้พระราชทานค�าตอบว่า “การที่จะอธิบายว่าพระมหากษัตริย์ คืออะไรนั้น ดูเป็นปัญหาที่ยากพอสมควร โดยเฉพาะในกรณี ของข้าพเจ้า ซึ่งถูกเรียกโดยคนทั่วไปว่า พระมหากษัตริย์ แต่โดยหน้าที่ที่แท้จริงแล้ว ดูจะห่างไกลจาก หน้าทีท่ พี่ ระมหากษัตริยท์ เี่ คยรูจ้ กั หรือเข้าใจกันมาแต่กอ่ น หน้าทีข่ องข้าพเจ้าในปัจจุบนั นัน้ ก็คอื ท�าอะไร ก็ตามทีเ่ ป็นประโยชน์ ถ้าถามว่า ข้าพเจ้ามีแผนการอะไรบ้างในอนาคต ค�าตอบก็คอื ไม่มี เราไม่ทราบว่าอะไร จะเกิดขึน้ ในภายภาคหน้า แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เราก็จะเลือกท�าแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ซึ่งนั่น เป็นสิ่งที่เพียงพอแล้วส�าหรับเรา” ที่น�าเสนอมานี้เป็นเพียงเสี้ยวเล็ก ๆ จากพระมหากรุณาธิคุณแห่ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่จะตราตรึงไว้ในดวงใจตลอดกาล ธ สถิตย์ในดวงใจไทยนิรนั ดร์
6
องค พระภูมิพล ธ ผู ทรง เป นพลังแห งแผ นดิน
เรียบเรียงโดย พล.อ.ต.หญิง ดร.จิราภรณ์ ศรีศิล
ห้วงบรรยากาศในเดือนธันวาคม ทั้งชาวไทย และชาวโลก ต่างร�าลึกถึงคุณูปการขององค์พระบาท สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร พระผู้ทรงเป็นจอมปราชญ์ แห่งดิน ผู้เขียนขอกราบขอบพระคุณกองทัพอากาศ ที่ได้ให้พื้นที่เพื่อโอกาสมโนน้อมศิระกรานร�าลึกถึง พระองค์ท่าน ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของพวกเราทุกคน โดยเจตนารมณ์ของบทความนีจ้ ะได้แสดงให้เห็น ถึงการวิเคราะห์คณ ุ ปู การของดินในบริบทโลก ต่อจากนัน้ คือบริบทของคนไทยอันเนื่องมาจากค�าว่า “ทรงงาน หนักเพื่อลูก ๆ ทุกคน” ด้วยเหตุผลเชิงประจักษ์ ที่พสกนิกรชาวไทยได้ตราตรึง และประเด็นสุดท้าย จากบรรยากาศเกี่ยวเนื่องนบพระภูมิบาล พระผู้ทรง เป็นพลังแห่งแผ่นดินได้กล่าวถึงโอกาสทีก่ องทัพอากาศ น้อมส�านึกในพระมหากรุณาธิคุณสร้างพระมหาธาตุ นภเมทนีดล เพือ่ เป็นการถวายเทิดพระเกียรติถงึ พระองค์ทา่ น ซึ่งจะได้แลกเปลี่ยนทัศนะตามล�าดับต่อไปนี้ พลังแห่งดินคุณูปการในบริบทโลก กล่าวคือ องค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) ก�าหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ได้นยิ ามค�าว่า “ดิน” ตามเป้าหมายที ่ ๑๕ ระบุวา่ เป็นการปกป้อง ฟืน้ ฟู และ ส่งเสริมการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยัง่ ยืน การบริหาร จัดการป่าไม้ที่ยั่งยืน การต่อต้าน การแปรสภาพ
เป็นทะเลทราย หยุดยัง้ การเสือ่ มโทรมของดิน และฟืน้ ฟู สภาพดิน และหยุดยั้งการสูญเสียความหลากหลาย ทางชี ว ภาพด้ ว ยปรากฎการณ์ ต ามนิ ย ามนี้ ใ นการ ประชุมวิทยาศาสตร์ดา้ นทรัพยากรณ์ดนิ ของโลก ครัง้ ที ่ ๑๗ ณ กรุงเทพมหานคร พ.ศ.๒๕๔๕ นักวิทยาศาสตร์ ด้านทรัพยากรณ์ดินจากทั่วโลกมาร่วมประชุม และมี การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ของพระองค์ทา่ น และพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรดิน รวมถึง การจัดตัง้ โครงการพระราชด�าริในภูมภิ าคต่าง ๆ ของประเทศท� า ให้ ผู ้ เ ข้ า ร่ ว มประชุ ม ประจั ก ษ์ ถึ ง พระวิสัยทัศน์ในการบริหารทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน โดยทรงให้ความส�าคัญกับทรัพยากรดิน ทรงเป็น พระมหากษัตริย์ที่สนพระราชหฤทัยในวิทยาศาสตร์ ด้านทรัพยากรณ์ดิน ทั้งนี้ ผลส�าเร็จจากการบริหาร จัดการดินอย่างต่อเนื่องของพระองค์ เป็นที่ยอมรับ อย่างเป็นรูปธรรมทัง้ ในประเทศ และระดับนานาชาติ
ข่าวทหารอากาศ
ด้วยพระปรีชาสามารถทรงเป็นจอมปราชญ์แห่งดิน สหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ (The International Union of Soil Science) ร่วมกับองค์การอาหารและ การเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้ทูลเกล้าฯ สดุดีพระเกียรติคุณถวายรางวัลนักวิทยาศาสตร์ทาง ดินเพือ่ มนุษยธรรม (The humanitarian Soil Scientist) กล่าวสรุปได้ว่า “วันดินโลก (World Soil Day)” เป็นวันส�ำคัญที่นักปฐพีวิทยาทั่วโลก ๖๐,๐๐๐ คน มีการเฉลิมฉลองเป็นประจ�ำทุกปี ซึ่งนักปฐพีวิทยา ของไทยทุกคนภาคภูมิใจ เนื่องจากวงการปฐพีวิทยา นานาชาติ มีฉันทานุมัติเลือกวันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปี ซึง่ ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพ ของพระองค์ทา่ น เป็นวันดินโลก เป็นการเชิดชูพระอัจฉริยภาพด้าน การอนุรกั ษ์ และพัฒนาทรัพยากรดินของพระองค์ทา่ น เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณของพระองค์ จึงใช้วันนี้เป็น วันรณรงค์ให้ชาวโลกได้ตระหนักถึงความส�ำคัญของ ทรัพยากรดินที่มีต่อความอยู่รอดของมวลมนุษยชาติ และสภาพแวดล้อม และความจ�ำเป็นทีต่ อ้ งมีการจัดการ ทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน องค์พระภูมิพลจอมปราชญ์แห่งดิน พสกนิกร ชาวไทยตราตรึง “ทรงงานหนักเพื่อลูก ๆ ทุกคน” เป็ น ความภาคภู มิ ใ จที่ สุ ด อย่ า งหามิ ไ ด้ ที่ ไ ด้ เ กิ ด ในผืนแผ่นดินไทย ใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ท่าน ซึง่ ได้รบั การยกย่องว่า เป็นพระมหากษัตริยท์ ที่ รงงาน
7
หนักทีส่ ดุ ในโลก ด้วยพระอัจฉริยภาพหลักการทรงงาน ข้อที่ ๑๓ ใช้ธรรมชาติชว่ ยธรรมชาติซงึ่ การทรงงานหนัก ที่ว่านั้นมีความเชื่อมโยงในระดับสากลตามเป้าหมาย การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ ๑๕ ดังได้ อธิบายข้างต้น อีกทั้ง ยังสอดคล้องตามยุทธศาสตร์ หลักในการพัฒนาประเทศ โดยสาระของการพัฒนา ที่ยั่งยืนในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ ซึ่งยังคงยึดหลัก “ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพี ย ง” “การพั ฒ นาที่ ยั่ ง ยื น ” และ “คนเป็ น ศูนย์กลางการพัฒนา” พระปรีชาสามารถ จอมปราชญ์ดา้ น “ดิน” อาทิ ทรงปลูกหญ้าแฝกเพื่อเป็นต้นแบบในการแก้ปัญหา เรือ่ งดินแก่ราษฎร โดยผลพระราชกรณียกิจจ�ำนวนมาก ของพระองค์ท่านล้วนเป็นการพัฒนาทรัพยากรดิน อย่างต่อเนื่อง เป็นรูปธรรม ยังผลให้การพัฒนาที่ดิน การอนุรักษ์ดินและน�้ำ การปรับปรุงดินเสื่อมโทรม และดินทีม่ ปี ญ ั หา ด�ำเนินไปในทิศทางทีเ่ ป็นประโยชน์ อย่างยิง่ แก่เกษตรกรโดยทัว่ หน้าทรงเห็นว่า ดินเป็นปัจจัย พื้นฐานส�ำคัญในการสร้างสมดุลให้สภาพแวดล้อม จึงทรงให้ความส�ำคัญกับดินเช่นเดียวกับน�ำ ้ พระองค์ทา่ น ทรงริเริ่มโครงการพัฒนาที่ดินมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๑ เพือ่ พลิกฟืน้ ผืนดินทีเ่ สือ่ มโทรม ให้กลับมามีสภาพทีด่ ขี นึ้ สามารถใช้เพาะปลูกท�ำการเกษตรได้ โดยทรงพระราชทาน แนวพระราชด�ำริ ควบคู่ไปกับการจัดตั้งศูนย์พัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องดิน เป็นกรณีไป ตามสภาพปัญหาของพื้นที่นั้น ๆ ส�ำหรับ แนวพระราชด�ำริในการแก้ปญ ั หาเรือ่ งดินของพระองค์ ท่าน ได้แก่ ดินทราย : ต้องเพิ่มกันชนให้ดินให้รากพืชผ่าน ไปได้ ง ่ า ย โดยศู น ย์ ศึ ก ษาการพั ฒ นาเขาหิ น ซ้ อ น อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ อ�ำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ดินเป็นหิน กรวด และแห้งแล้ง : ต้องยึดดิน และช่ ว ยให้ ชื้ น หากหน้ า ดิ น ถู ก ชะล้ า งเหลื อ แต่ หิ น กรวด พื ช ไม่ ส ามารถเจริ ญ เติ บ โตได้ จึ ง สร้ า ง อ่างเก็บน�ำ้ ตามล�ำน�ำ้ หลัก ปรับปรุงดินโดยให้ปยุ๋ หมัก
8
ปุ๋ยพืชสด ปลูกพืชตระกูลถั่วแล้วไถกลบ ประกอบกับ การปลูกหญ้าแฝกขวางแนวลาดเท เพื่อป้องกัน ดินถูกชะล้าง พังทลาย โดยศูนย์ศึกษาการพัฒนา ห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชด�าริ อ�าเภอชะอ�า จังหวัดเพชรบุรี ดินถูกชะล้าง : ช่วยเหลือด้วยก�าแพงที่มีชีวิต ดินถูกชะล้าง ถูกกระแสน�้าและลม พัดพาเอาหน้าดิน ที่ มี แ ร่ ธ าตุ อ าหารต่ อ การเจริ ญ เติ บ โตของพื ช ไป หญ้าแฝกช่วยยึดดิน แก้ปัญหาหน้าดินถูกชะล้าง ใช้ก�าแพงที่มีชีวิต คือหญ้าแฝก โดยโครงการพัฒนา ดอยตุงจังหวัดเชียงราย ดินพรุ หรือ ดินเปรี้ยว : ต้องท�าให้ดินโกรธ โดยแกล้งดิน เป็นพืน้ ดินทีม่ สี ภาพน�า้ ขัง มีสภาพความ เป็นกรดอย่างรุนแรง ไม่สามารถท�าการเพาะปลูกได้ โดยการท�าให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไป เพื่อให้ดิน ปล่อยแร่ธาตุทเี่ ป็นกรดออกมา กลายเป็นดินทีม่ กี รดจัด เปรี้ยวจัด จากนั้นจึงใช้น�้าชะล้างดินควบคู่ไปกับปูน ซึง่ ทรงเรียกว่า “ระบบซักผา” โดยโครงการศูนย์ศกึ ษา พัฒนาพิกลุ ทองอันเนือ่ งมาจากพระราชด�าริ อ�าเภอเมือง จั ง หวั ด นราธิ ว าส และจั ด “พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ดิ น ” ขึ้ น เพื่อเป็นหนึ่งในแหล่งศึกษาเรียนรู้ในเรื่องดินที่ส�าคัญ ของเมื อ งไทย โดยเฉพาะเรื่ อ งราวเกี่ ย วกั บ ดิ น ในจังหวัดนราธิวาส ดิ น เค็ ม : ต้ อ งล้ า งความเค็ ม ออกคื อ มี เ กลื อ อยู่ในดินเป็นจ�านวนมากโดยโครงการแก้ไขปัญหา ดินเค็มบริเวณห้วยบ่อแดง อ�าเภอบ้านม่วง จังหวัด สกลนคร และ “พิพิธภัณฑ์ดิน” ศูนย์ฯ พิกุลทอง กองทั พ อากาศได้ น ้ อ มส� า นึ ก ถึ ง พระมหา กรุณาธิคุณนบพระภูมิบาลองค์พระภูมิพล สืบแต่ บรรยากาศทีท่ วั่ โลกต่างสรรเสริญ ทัว่ ไทยต่างร�าลึก ธ ผูท้ รงเป็นพลังแห่งแผ่นดินมีพระราชด�าริเป็นคุณปู การ ครอบคลุมการพัฒนาทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องดิน และความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่องโดยในห้วงเวลานั้น เมื่ อ ปี พ.ศ.๒๕๓๐ ณ วโรกาสพระชนม์ พ รรษา
อ้างอิง - https://sites.google.com › biaceconomy - www.ops.moe.go.th › ops2017
ครบ ๖๐ พรรษา ของพระองค์ท่าน กองทัพอากาศ พร้อมข้าราชการลูกจ้าง และครอบครัว รวมถึงประชาชน ทัว่ ไป ได้รว่ มใจสมานสามัคคี สร้างพระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล ซึ่งมีความหมายว่า เป็นก�าลังแห่งฟา เป็นสิริแห่งดิน น้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศล เพื่ อ เป็ น การเทิ ด พระเกี ย รติ แ ด่ พ ระองค์ ท ่ า น อย่างพร้อมเพรียงกัน อย่างไรก็ตาม ไม่วา่ ความยากล�าบากทีก่ องทัพอากาศ จัดสร้างพระมหาธาตุนภเมทนีดล ขึน้ ทีจ่ งั หวัดเชียงใหม่ บนดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย (เป็นส่วนหนึ่งของทิวเขาอินทนนท์ หรือทิวเขาถนน ธงชัยตะวันออก) ประกอบไปด้วย ภูเขาสูงสลับซับซ้อน ในการเทิดพระเกียรติครั้งนั้น จะยากล�าบากด้วย เรือ่ งของสภาพปัญหาคุณลักษณะของดินทีม่ คี วามชืน้ ตลอดทั้งปีความสูงของที่ดินความลาดชันของที่ดิน ทีก่ อ่ สร้าง เนือ่ งจากอยูท่ สี่ งู หรือสภาพหมอกทีก่ ดั กร่อน เซาะพื้ น ดิ น แม้ ว ่ า จะยากเข็ ญ เพี ย งใด ก็ มิ อ าจ เปรียบได้กับเพียงเศษเสี้ยวของพระราชกรณียกิจ ที่แสนหนักหน่วง ความเสียสละที่พระองค์ท่านทรง ตรากตร�า ทรงงานหนัก เพื่อปวงชนชาวไทยตลอด รัชสมัยของพระองค์ทั้งสิ้นทั้งปวง ดังได้วิเคราะห์ ข้างต้นนัน้ ย่อมเป็นทีป่ ระจักษ์แล้วถึงคุณปู การของดิน ในบริบทโลกเชื่อมโยงกับผลแห่งพระอัจฉริยภาพ จอมปราชญ์แห่งดิน รวมถึงฉันทานุมัติประกาศให้ วั น ที่ ๕ ธั น วาคมของทุ ก ปี เ ป็ น “วั น ดิ น โลก” และโอกาสส่วนร่วมที่กองทัพอากาศน้อมส�านึกใน พระมหากรุณาธิคุณสร้างพระมหาธาตุนภเมทนีดล เพื่ อ เป็ น การเทิ ด พระเกี ย รติ แด่ อ งค์ พ ระภู มิ พ ล ธ ผู้ทรงเป็นพลังแห่งแผ่นดิน แผ่ความร่มเย็นศิระ เพราะพระบริ บ าล ผลแห่ ง พระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ของพระองค์ ท ่ า นได้ ป กปั ก รั ก ษา วางรากฐาน ให้ปวงประชาเป็นสุขศานต์อย่างยั่งยืน ตราบเท่า เนาว์นาน
บทบรรณาธิการ สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ในช่วงเดือนธันวาคมนีท้ างตอนบนของประเทศไทย ได้เข้าสูฤ่ ดูหนาวแล้ว ในขณะเดียวกันอากาศในช่วงนี้ ก็จะแห้ง ลมแรง เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ รวมทั้ง มลพิษจาก ฝุ่น PM 2.5 อาจย้อนกลับมาก่อปัญหา ให้ พี่ น ้ อ งประชาชนได้ อี ก ครั้ ง แต่ อ ย่ า งไรก็ ต าม กองทัพอากาศก็ไม่นิ่งนอนใจได้เตรียมความพร้อม ในการช่วยเหลือประชาชนในทุก ๆ ด้านอยู่เสมอ เนื่องในวันที่ ๕ ธันวาคม ตรงกับวันคล้ายวัน พระราชสมภพของพระบาทสมเด็ จ พระบรม ชนกาธิ เ บศร มหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึง่ ตรงกับวันที ่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๐ สมเด็ จ พระศรี น คริ น ทราบรมราชชนนี เ คยมี รั บ สั่ ง กั บ พระบาทสมเด็ จ พระบรมชนกาธิ เ บศร มหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดชมหาราช บรมนาถบพิ ต ร ถึ ง ความหมายของพระนาม “ภู มิ พ ล” ไว้ ว ่ า “อันทีจ่ ริงเธอก็ชอื่ ภูมพิ ลทีแ่ ปลว่ำก�ำลังของแผ่นดิน แม่อยำกใหเธออยู่กับดิน” ดังนั้นพระองค์จึงทรง ตระหนักว่าสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มี จุ ด มุ ่ ง หมายว่ า อยากให้ พ ระองค์ ติ ด ดิ น และ อยากให้ท�างานให้แก่ประชาชนจึงได้ทุ่มเททรงงาน ด้านการพัฒนาดิน และแหล่งน�้า เพื่อประโยชน์สุข ของปวงชนชาวไทยมาโดยตลอด นอกจากนีอ้ งค์การสหประชาชาติ โดยทีป่ ระชุม สภาโลกแห่งปฐพีวิทยา (World Congress of Soil
ข าวทหารอากาศ
9
Science) ครั้งที่ ๑๗ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๕ ได้มีมติให้ วันที ่ ๕ ของทุกปีเป็น “วันดินโลก” (World Soil Day) เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติในพระวิริยะ อุตสาหะ ของพระองค์ ท ่ า นด้ า นการปกป้ อ งและพั ฒ นา ทรั พ ยากรดิ น อี ก ด้ ว ย เพื่ อ น้ อ มส� า นึ ก ในพระมหา กรุณาธิคณ ุ ด้านการจัดการทรัพยากรดินของประเทศ โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง การจั ด การดิ น ที่ มี ป ั ญ หาได้ พระราชทานพระราชด�าริมากมายหลายโครงการ เช่น โครงการ “แกลงดิน” ทีด่ า� เนินงานในพืน้ ทีป่ า่ พรุ ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจาก พระราชด�าริจงั หวัดนราธิวาส เพือ่ เป็นต้นแบบในการ แก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวโครงการ “หญาแฝก” ที่น�ามา ใช้ปลูกเพื่อป้องกันการพังทลายของดินในรูปแบบ ต่าง ๆ ซึง่ โครงการทีย่ กตัวอย่างมา มิเพียงแต่จะท�าให้ ทรัพยากรดินได้รบั การฟืน้ ฟูกลับฟืน้ คืนความอุดมสมบูรณ์ ยั ง ท� า ให้ ก ารปลู ก พื ช ได้ ผ ลอย่ า งยั่ ง ยื น รวมทั้ ง ทรัพยากรดินยังได้รับการอนุรักษ์และสร้างความ สมดุลให้แก่ระบบนิเวศเป็นอเนกประการ จึงนับได้วา่ เป็นพระมหากรุณาธิคณ ุ เป็นล้นพ้น ดังนัน้ คณะผูจ้ ดั ท�า หนั ง สื อ ข่ า วทหารอากาศ จึ ง ขอน� า เสนอภาพปก เป็นวันดินโลก (World Soil Day) ส�าหรับเรื่องเด่นในฉบับได้แก่ ผลงาน KM เรื่อง การน� า นวั ต กรรมการเรี ย นการสอนตามหลั ก การ CDIO สู่การปฏิบัติเพื่อความเป็นเลิศ : กรณีศึกษา Griffin UAV Team (รร.นนก.), Game of Drones, การต่อสู้ของสหรัฐฯ เพื่อครอบครองเทคโนโลยี 5G นอกจากนี้ ยั ง มี ค อลั ม น์ ป ระจ� า ที่ น ่ า สนใจในฉบั บ เชิญท่านพลิกอ่านได้ตามอัธยาศัยครับ
10
สารบัญ
ป ที่ ๗๙ ฉบั บ ที่ ๑๒ เดื อ นธั น วาคม ๒๕๖๒
๒ บทอาเศียรวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมพ ิ ลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพ อแห งชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ - น.อ.เกษม พงษ พันธ ๓ "ครองใจคน" หลากหลายเหตุผลที่คนไทย "รักในหลวง" - พุทธรักษา ๖ องค พระภูมิพล ธ ผู ทรงเป นพลังแห งแผ นดิน - พล.อ.ต.หญิง ดร.จิราภรณ ศรีศิล ๑๒ เรือพระราชพิธี - ร.อ.นรพงษ เอกหาญกมล ๑๕ KM : การนํานวัตกรรมการเรียนการสอนตามหลักการ CDIO สู การปฏิบัติ เพื่อความเป นเลิศ : กลุ ม Griffin UAV Team (รร.นนก.) ๒๑ วีรกรรม ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔ - พ.อ.อ.รัชต รัตนวิจารณ ๒๗ ไทยกับการส งเสริมความเชือ่ มโยงเพือ่ การพัฒนาในอาเซียน - กรมสารนิเทศ กระทรวงต างประเทศ ๒๙ ธรรมประทีป : ผู ดี - กอศ.ยศ.ทอ. ๓๐ มุมกฎหมาย : คําสัง่ พิทกั ษ ทรัพย ในคดีลม ละลาย คืออะไร - ร.อ.ชานุวฒ ั น แสงสุวรรณ ๓๒ Game of Drones - น.อ.วัชรพงษ กลีบม วง ๓๗ เวลาการ ตูน - มีสกรีน ๓๙ ครูภาษาพาที : คําศัพท และสํานวนในภาษาอังกฤษที่คนไทยมักใช กัน อย างผิด ๆ - Mr.Know It All ๔๔ เป ดปูม ๑๐๐ ป การบินของบุพการี กองทัพอากาศ - พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร ๕๑ มุมท องเที่ยว : หนาวนี้ที่…ผาฮี้ - หมวยอินเตอร ๕๖ การต อสู ของสหรัฐฯ เพื่อครอบครองเทคโนโลยี 5G - น.อ.สรรสิริ สิริสันตคุปต ๖๐ Red Eagle อินทรีแดงแผลงฤทธิ์ : IRON SOLDIERS ทหารเหล็ก มหากาฬ การดํารงชีพในป า ศาสตร วิชาบุคคลทําการรบเพื่อการดํารงชีพของ หน วยทหาร - น.ต.ภฤศพงศ ช อนแก ว ๖๓ LASER Weapons ปฐมบทแห งอาวุธยุคใหม - Rocket-7 ๖๘ เกร็ดเล็กเกร็ดน อย ประชาคมอาเซียน : ชุดประจําชาติของ สปป.ลาว - @Zilch ๖๙ แนวโน มตลาดและการวิจยั พัฒนาเครือ่ งบินขับไล ในภูมภิ าคเอเชีย - สทป. ๗๗ วิเคราะห กาํ ลังอํานาจแห งชาติราชอาณาจักรกัมพูชา - น.ต.สําเภา โพธิแ์ ก ว ๘๓ "วิ่งให จบ แบบไม เจ็บ" - น.ท.หญิง จิรภิญญา แก วก า ๘๗ ขอบฟ าคุณธรรม : …เป นผูม องเห็นภพภูมขิ องตนเองอยูเ สมอ… - 1261 ๙๑ ในรัว้ สีเทา ๙๗ สรุปสาระสําคัญจากการประชุมอาเซียนครัง้ ที่ ๓๕ - Bird's Eye View
๑๒
๑๕
๓๒
๖๓
ข าวทหารอากาศ
ข าวทหารอากาศ คณะผูจ้ ดั ท�าหนังสือข่าวทหารอากาศ เจ้าของ กองทัพอากาศ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ พล.อ.อ.ประพันธ ธูปะเตมีย พล.อ.อ.อมร แนวมาลี พล.อ.อ.ปอง มณีศิลป พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง พล.อ.อ.มานัต วงษวาทย
พล.อ.อ.ม.ร.ว.ศิริพงษ ทองใหญ่ พล.อ.อ.ธนนิตย เนียมทันต พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง พล.อ.อ.ชัยพฤกษ ดิษยะศริน
ที่ปรึกษา พล.อ.อ.ธงชัย แฉล้มเขตร พล.อ.อ.ศักดิ์พินิต พร้อมเทพ พล.อ.ต.สหัสชัย มาระเนตร
พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร พล.อ.ต.หญิง สุมาลี ฤทธิบุตร
ผู้อํานวยการ/บรรณาธิการ
พล.อ.ท.ตรีพล อ่องไพฑูรย เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ
รองผู้อํานวยการ
พล.อ.ต.ฐานัตถ จันทรอําไพ พล.อ.ต.สมพร แต้พานิช
พล.อ.ต.ธรรมรงคเดช เจริญสุข
ผู้ช่วยผู้อํานวยการ
น.อ.นิโรจน จําปาแดง น.อ.ขจรฤทธิ์ แก้วอําไพ ผู้ช่วยบรรณาธิการ ผู้จัดการ
น.อ.นินาท มูลจนะบาตร น.อ.สมพร ร่มพยอม
น.อ.นิโรจน จําปาแดง น.อ.อภิรัตน รังสิมาการ น.อ.ปยะ พลนาวี
ประจําบรรณาธิการ
น.ท.หญิง สุภาวดี โคตรเวียง น.ท.หญิง รัชนก เกิดสุข พ.อ.อ.พันธกานต พูลผล พ.อ.อ.หญิง วาสนา รับสมบัติ น.ส.อุไรวรรณ บุญณรงค น.ส.รสสุคนธ บุญประเทือง
น.ท.หญิง มุตสิตา มาหะศักดิ์ พ.อ.อ.ธรรมวัฒน รัตนวิจารณ พ.อ.อ.ชัยชนะ โสระสิงห จ.อ.หญิง ศุภวัลย กระจ่างนฤมลกุล นางจันทรสม คํามา น.ส.ณัฐวดี ธํารงวงศถาวร
กองวารสารและสื่อสิ่งพิมพ (เพื่อพลาง) สํานักกิจการพลเรือนและประชาสัมพันธ กรมกิจการพลเรืิอนทหารอากาศ ถนน พหลโยธิน แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐ โทรศัพท ๐ ๒๕๓๔ ๔๔๗๑, ๐ ๒๕๓๔ ๔๒๔๑ โทรสาร ๐ ๒๕๓๔ ๔๔๗๑ ส่งบทความและภาพกิจกรรมได้ที่ rtafmag@gmail.com
หนังสือข่าวทหารอากาศ ความเปนมา หนังสือข่าวทหารอากาศ เปนนิตยสารรายเดือนของกองทัพอากาศ เริม่ ดําเนินการเมือ่ ป พ.ศ.๒๔๘๓ ขึน้ กับกรมข่าวทหารอากาศ โดย นาวาอากาศเอก สกล รสานนท เปนบรรณาธิการคนแรก ดําเนินการโดยทุนของข้าราชการทหารอากาศ พ.ศ.๒๔๙๘ ได้โอนกิจการมาอยูใ่ นความอํานวยการของกรมยุทธศึกษาทหาร อากาศ ตามคําสั่ง ทอ.(เฉพาะ) ที่ ๕๘๐/๙๘ ลง ๒๓ ธ.ค.๒๔๙๘ ๑ ม.ค.๒๕๕๓ ได้เข้าอยู่ในกิจการสวัสดิการกองทัพอากาศ กํากับดูแล โดยคณะอนุ ก รรมการบริ ห ารวารสารและสื่ อ สิ่ ง พิ ม พ ก องทั พ อากาศ ตามอนุมัติ ผบ.ทอ./ประธานกรรมการสวัสดิการกองทัพอากาศ เมื่อ ๒๘ ธ.ค. ๒๕๕๒ กําหนดให้ใช้ระเบียบคณะกรรมการสวัสดิการกองทัพอากาศ ว่าด้วยการ บริหารวารสารและสื่อสิ่งพิมพกองทัพอากาศ พ.ศ.๒๕๕๒ ๑ ม.ค.๒๕๖๑ ได้เข้ามาอยู่ในการกํากับดูแลของกรมกิจการพลเรือนทหาร อากาศ ตามคําสั่ง ทอ. (เฉพาะ) ที่ ๑๓๖/๖๐ ลง ๒๖ ก.ย.๒๕๖๐
ภารกิจ ดําเนินกิจการหนังสือข่าวทหารอากาศ ให้เปนไปตามนโยบายของผูบ้ ญั ชาการ ทหารอากาศ โดยมีผู้อํานวยการหนังสือข่าวทหารอากาศ (จก.กร.ทอ.) เปนผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ
วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อเพิ่มพูนความรู้ในกิจการทั่วไป ๒. เพือ่ แสดงความคิดเห็นด้านการทหาร การเมือง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา วิทยาศาสตร เทคโนโลยีและสิง่ แวดล้อม อันจะเปนประโยชนตอ่ ส่วนรวม ๓. เพื่อเผยแพร่กิจการของกองทัพอากาศ
การด�าเนินงาน ๑. เปนสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็นที่เปนประโยชนใน การพัฒนากองทัพอากาศและส่วนรวม ๒. เนื้อหาที่นํามาลงในหนังสือข่าวทหารอากาศ - ต้องไม่ขดั ต่อวัตถุประสงค/นโยบายของผูบ้ ญ ั ชาการทหารอากาศ - ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ บุคคล หรือ ส่วนรวม - ต้องได้รับการพิจารณาและเห็นชอบจากคณะผู้จัดทําหนังสือข่าว ทหารอากาศ
ก�าหนดการเผยแพร่ นิตยสารรายเดือน
พิมพที่ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จํากัด (มหาชน) ๓๐/๘๘ หมู่ ๑ ถ.เจษฎาวิถี ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ๗๔๐๐๐ โทรศัพท ๐ ๒๗๘๔ ๕๘๘๘ โทรสาร ๐ ๒๗๘๔ ๕๘๕๘
อ่านบทความเอกสารอิเล็กทรอนิกสได้ที่ www.airforcemagazine.rtaf.mi.th และ www.rtaf.mi.th บทความและความคิดเห็นของผู้เขียนในหนังสือฉบับนี้ ไม่มีส่วนผูกพันกับทางราชการแต่ประการใด ภาพบางส่วนในหนังสือ นํามาจาก www.google.com ออกแบบปก : น.ส.รสสุคนธ บุญประเทือง
11
12
เรือพระราชพิธี
The Royal Barges Of Thailand ร.อ.นรพงษ์ เอกหาญกมล
๏ ปะฐมะสุทินมินะมำสะมื้อ ศะศิวำ เรศเอย เตรียมเสด็จพยุหะยำตรำ เลียบแควน กรุงเทพอะมระรัตน์มะหำ นะคระจัก -รีพ่อ เผยพิศิษฏ์นิติรำชย์แมน ศิวะเมื้อเมืองเยือน ฯ ประวัตศิ าสตร์ของเรือหลวงส�าหรับการพระราชพิธี มีปรากฏหลักฐานจากศิลาจารึก และเอกสารบ่งบอกว่า ราชอาณาจักรสุโขทัย ในลุ่มน�้าภาคกลางตอนบนซึ่ง สถาปนาขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๘ และ ด�าเนินสืบต่อมาประมาณ ๒๐๐ ปี ปรากฏการใช้ กระบวนเรื อ หลวงเพื่ อ ต้ อ นรั บ พระภิ ก ษุ ที่ จ าริ ก กลับจากเกาะลังกาและมีการประกอบพระราชพิธี บางอย่างทีใ่ ช้เรือหลวง กล่าวได้วา่ มี “เรือพระราชพิธ”ี นับแต่บดั นัน้ ในสมัยราชอาณาจักรอยุธยา (พุทธศักราช ๑๘๙๓ ถึง ๒๓๑๐) ปรากฏหลักฐานการดัดแปลง เรือรบ มาเป็นเรือหลวงเพือ่ เป็นพระราชยานการเสด็จฯ ทางน�้า (พยุหยาตราชลมารค) และใช้ในพิธีกรรม ทางศาสนาโดยทั่ ว ไปแล้ ว การใช้ เ รื อ หลวงในสมั ย ราชอาณาจักรอยุธยาเพือ่ “การพยุหยาตราชลมารค” ซึ่ ง มี ค วามหมายว่ า การสั ญ จรทางน�้ า โดยใช้ เ รื อ เป็นพาหนะในภารกิจของพระเจ้าแผ่นดิน พร้อมด้วย ผู ้ ติ ด ตามเป็ น ขบวนจ� า นวนหนึ่ ง เช่ น นี้ เ ป็ น ไปตาม ราชประเพณี
พระราชพิธีหรือรัฐพิธีส�าคัญ ๓ กรณี ได้แก่ ๑. พระราชพิธีเสด็จพระราชด�าเนินไปนมัสการ พระพุ ท ธบาทที่ ส ระบุ รี ใ นรั ช กาลสมเด็ จ พระเจ้ า ทรงธรรม (พุทธศักราช ๒๑๕๓ - ๒๑๗๑) มีรับสั่งให้ น�าเอากิง่ ดอกเลาประดับเรือพระทีน่ งั่ ต่อมาภายหลัง พนักงานจึงเขียนลายกิ่งไม้ประดับไว้ที่หัวเรือ และ โปรดเกล้าฯ ให้เรียกเรือชนิดนัน้ ว่า “เรือพระทีน่ งั่ กิง่ ” ถือเป็นเรือชั้นสูงสุดในราชพิธีเสด็จฯ ไปนมัสการ พระพุทธบาทที่สระบุรีโดยชลมารค เริ่มขึ้นนับแต่ การพบรอยพระพุทธบาท ๒. พระราชพิธีเสด็จพระราชด�าเนินถวายผ้า พระกฐินปรากฏในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (พุทธศักราช ๒๑๗๓ - ๒๒๐๒) มีพระราชโองการโปรด เกล้าฯ ให้สร้างเรือหลวงเป็นการเสด็จพระราชด�าเนิน ทางเรือไปยังพระอารามหลวงเพื่อถวายผ้าพระกฐิน พร้อมเครื่องบริวารพระกฐินในช่วงการออกพรรษา ตามขนบประเพณีของพุทธศาสนิกชนฝ่ายเถรวาท ในประเทศไทย
ข าวทหารอากาศ
๓. พระราชพิ ธี เ นื่ อ งด้ ว ยพระบรมศพหรื อ พระศพในสมัยสมเด็จพระเพทราชา (พุทธศักราช ๒๒๓๑ - ๒๒๔๖) มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้จดั กระบวนเรื อ พระราชพิ ธี น� า พระบรมศพสมเด็ จ พระนารายณ์ ม หาราชจากเมื อ งลพบุ รี ก ลั บ มายั ง พระนครศรีอยุธยา เมื่อวิเคราะห์ตามความหมายของชื่อเรือหลวง กล่าวได้วา่ น่าจะตัง้ ให้สอดคล้องกับรูปลักษณ์ของเรือ ทัง้ การตกแต่งโขนเรือ ทีส่ ลักเป็นรูปหงส์ ครุฑ ราชสีห์ (ไกรสร) พระราชโองการในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทีท่ รงให้ชา่ งศิลปวาดภาพเรือพระราชพิธใี น “ริว้ กระบวน พยุหยาตราชลมารค” ไว้ที่ผนังพระอุโบสถวัดยม ในพระนครศรีอยุธยา นับเป็นคุณูปการที่ท�าให้ความรู้ เรื่องเรือพระราชพิธีในสมัยอยุธยาเป็นที่ประจักษ์ แม้ว่าภาพเขียนบนผนังนี้จะลบเลือนไปเกือบหมด แต่ได้มีการคัดลอกลงไว้ในสมุดไทยในปีพุทธศักราช ๒๔๔๐ และเก็ บ รั ก ษาไว้ ใ นหอสมุ ด แห่ ง ชาติ ที่ ก รุ ง เทพมหานคร จากสมุ ด ภาพริ้ ว กระบวน พยุหยาตราชลมารคนีท้ า� ให้ทราบถึงรูปลักษณ์ของเรือ ชื่อเรือ ตลอดจนชื่อบุคคลหรือขุนนางที่มีต�าแหน่ง ประจ�าอยูใ่ นเรือแต่ละล�า ปรากฏชือ่ เรือจ�านวน ๑๑๓ ชื่ออยู่ในสมุดไทยนี้ นับแต่นั้นมา ค�าว่า กระบวน พยุหยาตราชลมารค (กระบวน = แถวแนวตามแบบแผน พยุห = หมูก่ อง ยาตรา = การเดินทาง ชล = น�า้ มารค = วิถี/ทาง) เป็นที่ทราบกันดีว่า หมายถึงการเสด็จ พระราชด� า เนิ น ทางน�้ า ด้ ว ยเรื อ พระที่ นั่ ง ที่ มี เ รื อ ตามเสด็จฯ พร้อมพระราชวงศ์ ขุนนาง และข้าราช บริพารเป็นกระบวนยาวไปตามแม่น�้า เรือพระทีน่ งั่ สร้างด้วยไม้ แบ่งได้เป็น ๒ ประเภท ได้แก่ เรือไม้และเรือทอง เรือไม้เป็นเรือที่สร้างขึ้น จากไม้ที่ใช้สร้างเรือทั่วไป ส�าหรับใช้เป็นเรือพระที่นั่ง ในการเสด็จฯ ส่วนพระองค์หรือใช้สอยในพระราช ภารกิ จ ทั่ ว ไป ขณะที่ เ รื อ ทองสร้ า งขึ้ น จากไม้ ที่คัดเลือกเป็นพิเศษ และแกะสลักลวดลายตกแต่ง ลงรักปิดทอง เรือทองจึงใช้ในพระราชภารกิจทีส่ า� คัญ
13
หรือราชการส�าคัญ เช่น งานพระราชพิธี หรือรัฐพิธี เป็นต้น ระเบียบริว้ กระบวนเรือพระราชพิธยี งั ไม่ได้มกี าร ก�าหนดแบบแผนแน่นอน แต่จากข้อมูลการบันทึก พบว่า ในกรณีท่ีเป็นริ้วกระบวนพยุหยาตราใหญ่ ชลมารค ประกอบด้วยเรือจ�านวน ๒๖๘ ล�า มีพล ประจ�าเรือจ�านวน ๑๐,๐๐๐ คน ประกอบด้วย นายเรือ นายท้าย ฝีพาย คนถือธงท้าย พลสัญญาณ คนถือฉัตร และ/หรือถือบังสูรย์ พัดโบก พระกลด คนขานยาว หรื อ คนเห่ เ รื อ ส่ ว นริ้ ว กระบวนพยุ ห ยาตราน้ อ ย ชลมารค มีรวิ้ ขบวนทีม่ เี รือ และพลประจ�าเรือน้อยกว่า จนกระทั่งในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ ระเบียบริว้ กระบวนเรือพระราชพิธใี ห้ถอื เป็นระเบียบ ปฏิบัติ และได้ด�าเนินการจัดริ้วกระบวนพยุหยาตรา ตามแบบนี้ตลอดรัชกาล และจนถึงพระราชพิธีบรม ราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ (พุทธศักราช ๒๔๖๘) หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศ ไปสู ่ ร ะบอบประชาธิ ป ไตยอั น มี พ ระมหากษั ต ริ ย ์ ทรงเป็ นพระประมุ ข ในพุ ท ธศั ก ราช ๒๔๗๕ และ พระบาทสมเด็ จ พระปกเกล้ า เจ้ า อยู ่ หั ว ทรงสละ
14
ราชสมบัติในพุทธศักราช ๒๔๗๗ พระราชพิธีเสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐินประจ�าปีโดยกระบวนพยุหยาตรา ชลมารคขาดหายไปในช่ ว งสงครามโลกครั้ ง ที่ ๒ (พุ ท ธศั ก ราช ๒๕๘๒ - ๒๔๘๘) เรือพระราชพิ ธี ถูกระเบิดสงครามจากอากาศยานที่ถล่มกรุงเทพฯ ท�าลายเสียหายไปมาก ครั้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิ ต รเสด็ จ ขึ้ น ครองสิ ริ ร าชสมบั ติ แ ล้ ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะซ่อมแซมเรือ พระราชพิธเี พือ่ น�ามาใช้ในพระราชพิธเี สด็จพยุหยาตรา ชลมารคในวาระต่าง ๆ ตามแบบครัง้ โบราณเพือ่ ฟืน้ ฟู ราชประเพณีโบราณให้กลับฟื้นคืน ปัจจุบนั การจัดริว้ กระบวนเรือพระราชพิธใี นการ เสด็จพยุหยาตราชลมารคเป็นไปในแนวทางการจัด กระบวนทัพเรือโบราณตามที่ปรากฏหลักฐานสมัย กรุงศรีอยุธยาที่สืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น ริ้วกระบวนเรือพระราชพิธีประกอบด้วยเรือ ๕๒ ล�า จัดเรียงกันเป็นริ้วกระบวน ๕ ริ้ว โดยตอนกลางของ ริ้วกระบวนที่ ๓ หรือริ้วกระบวนกลาง ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง ๔ ล�า ได้แก่ อเนกชาติภุชงค์ นารายณ์ ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ สุพรรณหงส์ อนันตนาคราช เรียงตามล�าดับจากหลังไปหน้ากระบวน ระหว่างเรือ สุพรรณหงส์ และเรืออนันตนาคราช คัน่ ด้วยเรือเล็ก ๆ ล�าหนึ่งเรียก เรือแตงโม หรือ เรือกลองใน (หมายถึง ในกระบวน) เป็นเรือส�าหรับผูบ้ ญ ั ชาการกระบวนเรือฯ
หน้าริว้ กระบวนนีม้ ี เรืออีเหลือง ซึง่ ถือเป็น เรือกลองนอก มีปช่ี วาและกลองแขกส�าหรับบรรเลงน�าหน้า ตามด้วย เรือต�ารวจ ๒ ล�า ส่วนท้ายริว้ กระบวนมีเรือต�ารวจ ๑ ล�า ตามติด ปิดท้ายกระบวนด้วย เรือแซง ล�าเล็ก ๆ ส่วนกลางของริ้วกระบวนแถวที่ ๒ และ ๔ หรือริ้ว กระบวนที่ขนาบกระบวนเรือพระที่นั่ง ประกอบด้วย เรือ ๘ ล�า นับจากหลังไปหน้ากระบวนตามล�าดับ ดังนี้ เรือเอกชัยเหินหาว เรือเอกชัยหลาวทอง เรือครุฑ เหิ น เห็ จ เรื อ ครุ ฑ เตร็ จ ไตรจั ก ร เรื อ พาลี รั้ ง ทวี ป เรื อ สุ ค รี พ ครองเมื อ ง เรื อ กระบี่ ป ราบเมื อ งมาร เรื อ กระบี่ ร าญรอนราพณ์ เรื อ อสุ ร วายุ ภั ก ษ์ และเรืออสุรปักษี หน้ากระบวนเรือเหล่านี้มีเรือน�า ๑ คู่ คือ เรือเสือทะยานชล และเรือเสือค�ารณสินธุ์ และเรือ ๒ คู่น�าหน้าริ้วกระบวนทั้งหมด คือ เรือทอง ขวานฟ้า และเรือทองบ้าบิ่น ริ้วกระบวนนอกสุด หรือริว้ กระบวนที ่ ๑ และที ่ ๕ ประกอบด้วยเรือเล็ก ๆ ๒๒ ล�า เรียกว่า เรือดั้ง และเรือเล็ก ๆ อีก ๖ ล�า เรียกเรือแซง ริว้ กระบวนเรือพยุหยาตราทัง้ ๕ ริว้ นี ้ มีความยาว ประมาณ ๑,๒๘๐ เมตร ความกว้ า ง ๙๐ เมตร เรือทุกล�ามีฝีพายและผู้ท�าหน้าที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ฝีพาย นายเรือ นายท้าย คนถือธง พลสัญญาณ คนถือฉัตรบังสูรย์พดั โบกกลด และคนเห่เรือเป็นก�าลังพล ประจ�าเรือ รวม ๒,๒๑๑ นาย ล้วนแต่เป็นเจ้าหน้าที่ จากกองทัพเรือไทยทั้งสิ้น
อ้างอิง - https://www.m-culture.go.th/mculture_th60/download/pramuan_king.pdf - http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/royalbarges/index.php/th - https://www.phralan.in.th/coronation/vdo.php - https://www.facebook.com/royalbargesthailand/
ข าวทหารอากาศ
15
การนํานวัตกรรมการเรียนการสอนตามหลัก การ CDIO สู การปฏิบัติเพื่อความเป นเลิศ ผลงานกลุ่มกิจกรรมเสริมสร้างกองทัพอากาศ ให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ประจ�าป ๒๕๖๒ ประเภทเครื่องมือ KM รางวัล Excellent Award กลุ่ม Griffin UAV Team (รร.นนก.) ความก้าวหน้าด้านสารสนเทศท�าให้เทคโนโลยี ทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์มปี ระสิทธิภาพมากขึน้ เช่น การเชื่อมโยงส่งถ่ายข้อมูลซึ่งกันและกันได้ ท�าให้เกิด แนวคิ ด ของสงครามที่ ใ ช้ เ ครื อ ข่ า ยเป็ น ศู น ย์ ก ลาง (Network Centric Warfare) เป็นสิง่ ทีก่ องทัพอากาศ จ�าเป็นต้องมีในอนาคต โดยองค์ความรูด้ า้ นเทคโนโลยี หุ่นยนต์อัตโนมัติ ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอุปกรณ์ ตรวจจับ ซึ่งจะท�าหน้าที่ส่งข้อมูลของสถานการณ์ มายั ง ส่ ว นบั ญ ชาการได้ ดั ง นั้ น กองทั พ อากาศได้ เล็ ง เห็ น ถึ ง ความส� า คั ญ ของอากาศยานไร้ ค นขั บ ที่ ส ามารถท� า งานได้ ห ลายภารกิ จ โดยเฉพาะ การลาดตระเวนและตรวจการณ์ ดั ง นั้ น โรงเรี ย น นายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ซึง่ มีหน้าทีผ่ ลิต บุคลากรให้กับกองทัพอากาศ จึงมีการสร้างบุคลากร ด้ า นระบบอากาศยานไร้ ค นขั บ โดยเริ่ ม จากการ ถ่ายทอดวิชาการด้านหุ่นยนต์อัตโนมัติจากอาจารย์ ผูเ้ ชีย่ วชาญไปสูน่ กั เรียนนายเรืออากาศ โดยมีแนวคิด ในการน�าหลักการเรียนการสอนแบบ CDIO เป็น แนวคิดในการสอนหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ซงึ่ ได้รบั การพัฒนามาจาก MIT (Massachusetts Institute of Technology) ซึ่งถูกน�าไปใช้ในสถาบันการศึกษา ทางวิศวกรรมมากมายทัว่ โลกกว่า ๑๒๐ แห่ง โดยการ ตั้ ง ชุ ม ชนนั ก ปฏิ บั ติ ภ ายใน รร.นนก.และน� า แนว
การเรียนการสอนแบบ CDIO มุง่ เน้นผลลัพธ์การเรียน รู ้ (Learning Outcomes) ๔ ด้านหลัก ซึง่ นับเป็นหัวใจ ส�าคัญของวิชาชีพวิศวกรรม ได้แก่ Conceive สามารถ คิดวิเคราะห์และชี้ปัญหาในทางวิศวกรรมได้ Design สามารถออกแบบ และหาแนวทางแก้ ไ ขปั ญ หา ตามหลั ก วิ ศ วกรรมได้ Implement สามารถใช้ ความรู้ ประยุกต์ หรือ สร้างอุปกรณ์ต้นแบบเพื่อใช้ แก้ ป ั ญ หาได้ และ Operate สามารถพั ฒ นา และควบคุมระบบต่าง ๆ จนสามารถน�าไปใช้งานได้
บุคลากรและสถานทีส่ า� หรับการสอน นนอ.ด้วยหลักการ CDIO
16
เมื่ อ มี ก ารพั ฒ นาทั ก ษะและความรู ้ ด ้ า น อากาศยานไร้คนขับ และระบบหุ่นยนต์จากอาจารย์ ไปสู่นักเรียนนายเรืออากาศแล้ว และใช้หลักการ CDIO ในการสร้ า งทั ก ษะด้ า นระบบอากาศยาน ไร้คนขับให้กับนักเรียนนายเรืออากาศจนมีทักษะ เพียงพอแล้ว จึงมีการรวมทีม Griffin UAV และเข้า แข่งขันตามรายการต่าง ๆ และได้รับรางวัลเรื่อยมา จากการแข่ ง ขั น ระบบอากาศยานไร้ ค นขั บ ระดั บ อุดมศึกษา Autonomous Aerial Vehicle Challenge (AAVC) อีกทั้งการแข่งขันในรายการต่างประเทศ เพื่อน�าประสบการณ์ที่ได้มาพัฒนาทีมไปสู่ นนอ. รุ่นน้องต่อไปผ่านกระบวนการการจัดการความรู้ อย่างเป็นระบบ และได้สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน อากาศยานไร้คนขับระดับนานาชาติ โดยเลือกรายการ UAV Medical Express ซึ่งเป็นการแข่งขัน UAV ที่เป็นที่นิยม และเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ในปี พ.ศ.๒๕๖๑ โดยมีกติกาคือใช้ระบบอากาศยาน ที่ขึ้นลงในพื้นที่ที่จ�ากัดไปรับตัวอย่างเลือดของผู้ป่วย ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากฐานบินเป็นระยะทาง ๒๒.๕ กิโลเมตร และบินกลับมายังฐานบินจากการคัดเลือก ที ม ที่ ส มั ค รเข้ า แข่ ง ขั น จากทั่ ว โลกเหลื อ ๕๕ ที ม และคั ด เลื อ กเพื่ อ ที่ จ ะไปแข่ ง รอบสุ ด ท้ า ยที่ เ มื อ ง Dalby เครือรัฐออสเตรเลีย เหลือเพียง ๑๑ ทีม โดยทีม Griffin UAV จาก รร.นนก.สามารถเข้ารอบ และมาแข่ ง ในรอบสุ ด ท้ า ยโดยออกแบบระบบ อากาศยานแบบปีกตรึงขึ้นลงทางดิ่ง ที่มีสมรรถนะ ในการบินขึ้นลงในแนวดิ่งได้ และมีความสามารถบิน ไปได้ไกลเป็นระยะทาง ๒๒.๕ กม.จากสนามบิน ผลการแข่งขัน ทีม Griffin UAV จาก รร.นนก.สามารถ ท�าคะแนนรวมได้เป็นล�าดับที่ ๔ และได้รับรางวัล Airmanship Award โดยผ่ า นเกณฑ์ ตั ด สิ น จาก คณะกรรมการคื อ การท� า การบิ น อย่ า งมื อ อาชี พ (Professionalism) การมีทศั นะคติการบินทีด่ ี (Good Attitude) และมีความสามารถในกระบวนการตัดสินใจ (Decision Making Ability)
ความส�าเร็จของทีม Griffin UAV ดังกล่าวนั้น เป็นความส�าเร็จเนือ่ งจากมีการน�านวัตกรรมการเรียน การสอนตามหลักการ CDIO คือ การสอนที่มุ่งเน้น ผลลั พ ธ์ ก ารเรี ย นรู ้ โ ดยเหตุ ผ ลที่ ส นใจหลั ก การ ของ CDIO เนือ่ งจาก ในอดีตเทคโนโลยีเป็นตัวก�าหนด รู ป แบบสงคราม โดยมี พ ฤติ ก รรมของทหารที่ สอดคล้องตามรูปแบบการท�าสงคราม เมือ่ เทคโนโลยี เปลี่ยนรูปแบบสงครามเปลี่ยนพฤติกรรมของทหาร ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามไป การออกแบบการพั ฒ นาการเรี ย นการสอน ด้วย CDIO ของโรงเรียนนายเรืออากาศฯ มีการเตรียมพื้นฐานความรู้ทางทฤษฎี และการ ฝึกทักษะในการใช้เครื่องมือ ทั้ง Hardware และ Software เพื่ อ ให้ ไ ด้ output และ outcome ตามที่ต้องการ เริ่ ม กระบวนการขั้ น ที่ ๑ จากอาจารย์ ส อน ภาคทฤษฎีเกีย่ วกับการออกแบบโครงสร้างอากาศยาน จ�านวน ๑๐ ชม.โดยใช้ โ ปรแกรมจ� า ลองการบิ น X-Plane 9 ขั้ น ที่ ๒ สอนภาคทฤษฎี เ กี่ ย วกั บ เครื่ อ งวั ด ในอากาศยานและเครื่ อ งวั ด ที่ เ กี่ ย วข้ อ งในระบบ ควบคุมการบินอัตโนมัติจ�านวน ๑๐ ชม. ขั้นที่ ๓ ให้ นักเรียนนายเรืออากาศที่ผ่านการ พัฒนาทักษะและความรู้ด้านอากาศยานไร้คนขับ และระบบหุน่ ยนต์อย่างดีแล้ว จัดตั้ง ทีม Griffin UAV ตามความสมัครใจ และท�าการพัฒนา UAV ของตนเอง ขั้นที่ ๔ อาจารย์จะให้ทีม Griffin UAV เลือก เข้ า ร่ ว มการแข่ ง ขั น รายการต่ า ง ๆ ในการเข้ า สู ่ การแข่งขัน ทีม Griffin UAV จะน�าหลักการ CDIO มาใช้ ซึ่งอาจารย์ผู้รับผิดชอบจะเป็นพี่เลี้ยงให้กับทีม และยังมีรุ่นพี่ทีม Griffin UAV Generation ก่อน ๆ ท�าหน้าที่เป็น Coach ถ่ายทอดความรู้ให้กับทีม อย่างเข้มแข็ง ในการสอน ทีมอาจารย์จะสร้างกติกา การแข่งขันแบบใหม่ที่ใช้หลักการ CDIO ท�าให้เกิด การเรียนรู้ในสถานการณ์แบบจ�าลองยุทธ์
ข าวทหารอากาศ
17
การแข่งขันการจ�าลองสถานการณ์การรบโดยใช้ระบบอากาศยานไร้คนขับ
ตัวอย่างในการจัดการเรียนรู้แบบ CDIO นี้ คือ จะแบ่งนักเรียนนายเรืออากาศ ออกเป็น ๒ ทีม คือทีมสีแดงและทีมสีน�้าเงิน ซึ่งใช้รูปแบบการจ�าลอง การรบทางอากาศ โดยมี ก ารก� า หนดเป้ า หมาย การออกค� า สั่ ง ยุ ท ธการและการบิ น โจมตี เพื่ อ ให้ นักเรียนนายเรืออากาศ เข้าใจในภารกิจของกองทัพ อากาศซึ่งไม่มีประเทศใดเลยที่มีการน�ากระบวนการ CDIO มาใช้ในการเรียนด้านระบบ UAV ร่วมกับ ภารกิ จ ทางการทหาร จึ ง สรุ ป ได้ ว ่ า โรงเรี ย น นายเรืออากาศฯ เป็นแห่งแรกในการสร้างนวัตกรรมนี้
ที่ผ่านมา ทีม Griffin UAV ได้สมัครเข้าร่วม การแข่งขันในประเทศ และได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอยู่บ่อยครั้ง ต่อมาเมื่อทีม Griffin UAV มี ค วามเชี่ ย วชาญและแข็ ง แกร่ ง จึ ง ได้ เ ข้ า ร่ ว ม การแข่งขันในรายการ UAV Medical Express ซึ่งเป็นรายการที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับ ในระดับนานาชาติ ทีม Griffin UAV ได้นา� กระบวนการ CDIO มาใช้อย่างเต็มรูปแบบคือ Conceive รับทราบ ปั ญ หากติ ก าการแข่ ง ขั น น� า มาใช้ ใ นการออกแบบ ในกระบวนการ Design และน� า มาสร้ า งต้ น แบบ
การน�ากระบวนการ CDIO มาใช้ในการสร้างประสบการณ์จากการแข่งขัน
18
ในกระบวนการ Implement เป็นอากาศยานขึ้นลง ทางดิ่ง และน�าไปใช้ในการแข่งขันในกระบวนการ Operate ทีส่ นามแข่งขันประเทศออสเตรเลีย ทัง้ นีท้ มี Griffin UAV ประสบความส�าเร็จเพราะ มีขวัญและก�าลังใจที่ดี ได้รับงบประมาณสนับสนุน จากผู ้ บั ญ ชาการทหารอากาศที่ ผ ่ า นมาทุ ก ท่ า น ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรืออากาศฯ และอาจารย์ ผู้ใหญ่ของโรงเรียนนายเรืออากาศฯ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ท ่ า นยั ง ร่ ว มให้ แ นวคิ ด และค� า แนะน� า ทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ ทีม รวมทัง้ สอบถามถึงความคืบหน้า ด้วยความสนใจอยู่เสมอ ชุมชน Griffin UAV for Excellence ได้น�า ความส� า เร็ จ ของการพั ฒ นานวั ต กรรมการเรี ย น การสอนตามหลักการ CDIO ของทีม Griffin UAV มาวิเคราะห์พบแนวปฏิบัติในการสร้างนวัตกรรม ดังนี้คือ ๑. ทีม Griffin UAV ประกอบด้วย นักเรียน นายเรื อ อากาศหลายสาขาวิ ช ามารวมเป็ น กลุ ่ ม โดยในปัจจุบันมีทั้งหมด ๓ รุ่น มีการถ่ายทอดความรู้ จากรุ่นสู่รุ่นโดยใช้เอกสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ รวบรวมเป็นองค์ความรู้เก็บไว้เพื่อถ่ายทอดสู่รุ่นน้อง โดยองค์ ค วามรู ้ ใ นรุ ่ น ที่ ๑ เป็ น ความรู ้ เ กี่ ย วกั บ การประกอบอุปกรณ์เป็นระบบ UAV ทั้งแบบปีกตรึง และแบบขึ้นลงแนวดิ่งหลายใบพัด ถ่ายทอดมายัง รุ่นที่ ๒ ท�าให้มีขีดความสามารถมากขึ้นในการสร้าง ระบบ UAV แบบปีกตรึงขึ้นลงแนวดิ่งซึ่งเป็น UAV ที่ มี ค วามซั บ ซ้ อ นของระบบมากยิ่ ง ขึ้ น อี ก ทั้ ง เพิ่ ม ในส่วนของโปรแกรมประมวลผลภาพถ่ายที่ได้จาก UAV และในรุน่ ที ่ ๓ นัน้ เป็นการพัฒนาระบบประมวล ผลภาพขั้นสูงเป็นระบบ Artificial Intelligence หรือ AI ซึ่งท�าให้ UAV สามารถแยกความแตกต่าง ของเป้าหมายได้
๒. ความแตกต่ า งระหว่ า งการจั ด การเรี ย น การสอนแบบเดิ ม กั บ การเรี ย นการสอนตามหลั ก CDIO ส่ ง ผลต่ อ การเปลี่ ย นแปลงพฤติ ก รรมของ อาจารย์ คื อ จะต้ อ งพั ฒ นาความรู ้ ข องตนเอง อย่ า งต่ อ เนื่ อ ง ให้ เ ป็ น ที่ ย อมรั บ ในระดั บ กองทั พ ระดับชาติและนานาชาติ เพื่อเป็นผู้สนับสนุนข้อมูล ถ่ายทอดวิทยาการที่ทันสมัยให้แก่นักเรียนนายเรือ อากาศ ในรุ่นต่อ ๆ ไป รวมทั้งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับผูเ้ ชีย่ วชาญเพือ่ สร้างเครือข่ายให้เกิดขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของนักเรียนนายเรือ อากาศ คือ การมีความกระตือรือร้นและการใฝ่รู้ มากยิ่งขึ้น ๓. เกิ ด การสร้ า งความรู ้ เ ป็ น เกลี ย วความรู ้ ที่ต่อเนื่องจนสามารถอธิบายตามวงจร SECI Model ได้ดังนี้ - Socialization เริม่ จากมีการถ่ายโอนความรู้ จากอาจารย์ กั บ อาจารย์ อาจารย์ ที่ ป รึ ก ษาที ม สู ่ นักเรียนนายเรืออากาศ - Externalization ที ม ถ่ า ยโอนความรู ้ จากการที่อาจารย์คุยกันจนตกผลึกความรู้ และน�า ความรู้นั้นไปท�าการสอนผ่านสื่อต่าง ๆ - Combination ทีมได้สร้างการเรียนรู้ เรือ่ งใหม่ ๆ ให้ทนั กับการเปลีย่ นแปลง เช่น การเรียนรู้ การสร้างกติกาการแข่งขัน จากสื่อสู่สื่อเพื่อให้เกิด การกระจายความรู้อย่างแพร่หลาย - Internalization ทีมได้น�าความรู้ใหม่ ๆ ลงสูก่ ารปฏิบตั ติ ามแนวคิดของ CDIO พัฒนาการเรียน รูจ้ ากประสบการณ์ จนเกิดความช�านาญ และเชีย่ วชาญ ซึ่งท�าให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น เกิดเป็นสังคมฐานความรู้ใหม่ของกองทัพอากาศ จากที่กล่าวมาทั้งหมด ชุมชนนักปฏิบัติ Griffin UAV for Excellence ขอสรุปคุณภาพของผลงาน
ข าวทหารอากาศ
ที่สร้างขึ้นเป็น ๓ ลักษณะ ได้แก่ Quality Teaching, Quality Graduate และที่ส�าคัญคือ เกิด Quality Airmanship เพราะเมือ่ นักเรียนนายเรืออากาศส�าเร็จ การศึกษาเข้าเป็นก�าลังพลของกองทัพอากาศ สิง่ ทีไ่ ด้ รับการปลูกฝังไว้ทงั้ การสัง่ สมประสบการณ์และทักษะ จะท�าให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานและสิ่งประดิษฐ์ ใหม่ ๆ หรื อ สร้ า งงานนวั ต กรรมที่ เ กิ ด ประโยชน์ กับกองทัพอากาศต่อไปตอบสนองตามยุทธศาสตร์ และนโยบายผู้บัญชาการทหารอากาศ บรรลุตาม
19
วั ต ถุ ป ระสงค์ แ ละเป้ า หมายที่ ไ ด้ ตั้ ง ไว้ ก้ า วต่ อ ไป ชุ ม ชนนั ก ปฏิ บั ติ Griffin UAV for Excellence จะยั ง คงพั ฒ นานวั ต กรรมการเรี ย นการสอน ตามหลักการ CDIO อย่างต่อเนือ่ ง และได้รเิ ริม่ การน�า เทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในอุปกรณ์ทางการทหาร เป็นพืน้ ฐานสูร่ ะบบ Smart Weapon และเพือ่ เป็นการ เตรียมก�าลังพลคุณภาพให้กบั กองทัพอากาศ และเป็น นายทหารสั ญ ญาบั ต รได้ อ ย่ า งเต็ ม ภาคภู มิ เป็ น ที่ ภาคภูมิใจของ โรงเรียนนายเรืออากาศฯ
การถ่ายทอดความรู้ของทีม Griffin UAV
20
คุณค่าของผลงานการจัดการเรียนการสอนแบบ CDIO
ก้าวต่อไป ชุมชนนักปฏิบัติ Griffin UAV for Excellence จะยั ง คงพั ฒ นานวั ต กรรมการเรี ย น การสอนตามหลักการ CDIO อย่างต่อเนือ่ ง และได้รเิ ริม่ การน�าเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในอุปกรณ์ทางการทหาร เป็ น พื้ น ฐานสู ่ ร ะบบ Smart Weapon และเพื่ อ เป็นการเตรียมก�าลังพลคุณภาพให้กับกองทัพอากาศ และเป็นนายทหารสัญญาบัตรได้อย่างเต็มภาคภูมิ เป็นที่ภาคภูมิใจของ โรงเรียนนายเรืออากาศฯ
ข าวทหารอากาศ
ÇÕáÃÃÁ
ø ¸Ñ¹ÇÒ¤Á òôøô พ.อ.อ.รัชต์ รัตนวิจารณ์
เหตุกำรณ์เมื่อวันที่ ๘ ธันวำคม พ.ศ.๒๔๘๔ ปฐมบทของสงครามมหาเอเชียบูรพาเริ่มขึ้นในตอน เช้าตรู่ เมื่อกองทัพญี่ปุ่นที่ตั้งฐานทัพอยู่ในอินโดจีน ฝรัง่ เศสบุกประเทศไทย โดยยกพลขึน้ บกตัง้ แต่จงั หวัด ประจวบคีรีขันธ์ลงไป ท�าการเคลื่อนพลทางบกและ ทางอากาศจากอิ น โดจี น ของฝรั่ ง เศส เข้ า ทาง อรั ญ ประเทศ ตลอดเช้ า ตรู ่ วั น นั้ น มี ก ารต่ อ สู ้ แ ละ ต่อต้านทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศจากทหาร และประชาชนคนไทย จนกระทัง่ มีคา� สัง่ ให้ทงั้ สองฝ่าย หยุดยิง รัฐบาลไทยซึง่ มี จอมพล ป.พิบลู สงคราม เป็น นายกรัฐมนตรี ประกาศยอมให้ญี่ปุ่นเคลื่อนพลผ่าน ประเทศไทยไปยังประเทศพม่า ในตอนสายของวันนัน้ กองทัพอากาศอังกฤษส่งเครือ่ งบินเข้ามาลาดตระเวน และโจมตีกองทัพญีป่ นุ่ ในภาคใต้ของไทยแต่ได้รบั การ ต่อต้านอย่างหนักจากกองทัพญี่ปุ่น ยอนกลับไปช่วงปลำยพฤศจิกำยน – ตนธันวำคม พ.ศ.๒๔๘๔ มี ก ารเคลื่ อ นไหวของก� า ลั ง ทหาร ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากฐานทัพญี่ปุ่น ในอินโดจีนฝรั่งเศส เมื่อกองทัพญี่ปุ่นส่งก�าลังพล มุ่งลงทางใต้ แบ่งก�าลังเป็นก�าลังทางบกผ่านเข้าทาง จังหวัดพระตะบอง เข้าชายแดนไทยทางอรัญประเทศ แต่กองก�าลังทางบกยังถือเป็นส่วนน้อย ก�าลังหลักคือ ทางเรือ เป็นขบวนเรือล�าเลียง มีเรือประจัญบาน เรือลาดตระเวน เรือพิฆาตคุ้มกัน และกองบินรบ คอยบิ น ตระเวนและคุ ้ ม กั น กองเรื อ ล� า เลี ย งพล ขบวนเรือล�าเลียงพร้อมเรือรบ คุ้มกันการเคลื่อนพล จากท่าเรือซังจา ทิศใต้ของเกาะไหหล�า ตั้งแต่วันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๔
21
22
PBY-5A Catalina
๖ ธันวำคม พ.ศ.๒๔๘๔ ช่วงบ่าย เครือ่ งบินทะเล PBY-5A Catalina ของกองทัพอากาศอังกฤษ ซึง่ บินขึน้ จากฐานทัพอากาศอังกฤษในสิงคโปร์ ลาดตระเวน เหนืออ่าวไทย พบเห็นกองเรือญี่ปุ่นก�าลังเคลื่อนพล มุ่งหน้าจากอินโดจีนลงใต้ จึงท�าการแจ้งรายงาน ให้ฐานทัพของตนทราบ พร้อมกับรายงานการพบมรสุม ในอ่าวไทยค่อนข้างแรง คลื่นสูง ๑ – ๒ เมตร มีเมฆ ลอยต�า่ และมีลมกรรโชกแรง ขณะท�าการลาดตระเวน และรายงานนัน้ เครือ่ งบินทะเลดังกล่าว ถูกเครือ่ งบิน ขั บ ไล่ ข องกองทั พ บกญี่ ปุ ่ น จากฐานทั พ อากาศ ตันซอนนุท ในไซ่ง่อน ๒ เครื่อง วิ่งขึ้นท�าการยิง เครือ่ งบินทะเลเครือ่ งนีต้ กในอ่าวไทย นับเป็นเครือ่ งบิน เครื่องแรกของสงครามมหาเอเชียบูรพาที่ถูกยิงตก ก่อนญีป่ นุ่ ประกาศสงครามกับพันธมิตรอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม การรายงานการเคลื่อนก�าลังของ กองเรื อ ญี่ ปุ ่ น ในครั้ ง นี้ ได้ แ จ้ ง ไปถึ ง แผ่ น ดิ น ใหญ่ ซึ่ ง ก� า ลั ง ทหารอั ง กฤษที่ อ ยู ่ ใ นมลายู และสิ ง คโปร์ รับทราบข่าวเช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้ทางสหรัฐฯ เอง ก็ทราบเรื่อง เนื่องจากขณะนั้นทางสหรัฐฯ ก็ก�าลัง เฝ้าติดตามข่าวสารการเคลื่อนก�าลังของฝ่ายญี่ปุ่น อยูเ่ ช่นกัน คลืน่ ลมในทะเลบริเวณอ่าวไทย ยังคงรุนแรง ต่อไป แต่ไม่ได้ท�าให้กองทัพเรือญี่ปุ่นสะทกสะท้าน แต่อย่างใด ยังคงเดินหน้าเข้ามาในอ่าวไทยไม่ละลด ทูตอังกฤษ ฯพณฯ เจ ครอสบี้ เตรียมแจ้งข่าวสาร ให้ทราบและให้ปอ้ งกันตัว แต่โทรเลขยังมาไม่ถงึ สยาม (ถึงในวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๔)
ขณะนัน้ จอมพล ป. พิบลู สงคราม นายกรัฐมนตรี ผู้น�าของไทย พร้อมด้วยคณะฯ และพลตรีหลวงวิชิต สงคราม เสนาธิการกองทัพบก และพลตรี หลวงเสรี เริ ง ฤทธิ์ อธิ บ ดี ก รมรถไฟ มี ภ ารกิ จ ต้ อ งออกจาก เมืองหลวงไปตรวจเยีย่ มทหารดูความพร้อมของก�าลังรบ และตรวจตราสถานการณ์บา้ นเมือง ณ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดพิบูลสงคราม และจังหวัดพระตะบอง โดยที่ ประชาชนชาวไทยและทางราชการฝ่ายไทยไม่มีใคร ทราบว่า ขณะนี้กองทัพญี่ปุ่นก�าลังมุ่งหน้าสวนทาง เข้ามาแล้ว และเนือ่ งจากเพิง่ เสร็จศึกมีชยั ชนะในกรณี พิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส จึงไม่เฉลียวใจเรื่องใด ๆ ทั้งหมด ประกอบกับพระนครในช่วงนั้นเป็นฤดูหนาว อากาศก�าลังเย็นสบายเป็นเวลาทีก่ า� ลังจัดงานกลางคืน งานใหญ่คือ “งานฉลองรัฐธรรมนูญ” (๑๐ ธันวาคม) ทีม่ กี ารจัดติดต่อกันยาวหลายวันหลายคืน นับเป็นงาน รืน่ เริงออกหน้าออกตาของชาวพระนคร ทีจ่ ะเดินเทีย่ ว กันได้ตงั้ แต่เช้าไปจนดึกดืน่ คนไทยขณะนัน้ ออกเทีย่ ว งานกันอย่างร่าเริงบันเทิงใจ
ข าวทหารอากาศ
๗ ธันวำคม พ.ศ.๒๔๘๔ เช้าวันอาทิตย์ ในระหว่างที่ ญี่ ปุ ่ น ยั ง มี ก ารเจรจาติ ด พั น กั น อยู ่ กั บ ฝ่ า ยอเมริ กั น ที่กรุงวอชิงตัน ทางฝ่ายกองทัพญี่ปุ่นก็วางแผนถล่ม เพิรล์ ฮาเบอร์เอาไว้ลกึ ล�า้ เอาการ เนือ่ งจากฝ่ายอเมริกนั มีการป้องกันอย่างเหนียวแน่นอยู่แล้ว ญี่ปุ่นจึงลงมือ ด้วยการซ่อนกองเรือบรรทุกเครือ่ งบินไว้ในกองเรือรบ ขนาดใหญ่ แล่ น ไปในมหาสมุ ท รลอยล� า เข้ า ใกล้ อ่ า วเพิ ร ์ ล ฮาเบอร์ ใ ห้ ไ ด้ ม ากที่ สุ ด เท่ า ที่ จ ะท� า ได้ แล้วจึงปล่อยเครื่องบินขับไล่ เครื่องบินด�าทิ้งระเบิด ขึ้นบินต�่าเพื่อหลบคลื่นเรดาร์ ฐานทั พ ของอเมริ ก าตรวจพบเครื่ อ งบิ น กว่ า ๔๐๐ เครื่อง ก�าลังบินเข้าใกล้เกาะแต่ไม่เฉลียวใจ คิดว่าเป็นเครือ่ งบินอเมริกนั ด้วยกันบินกลับมาจากจีน จึงไม่ได้เตรียมตัวรับมือแต่อย่างใด ว่ากันว่าเครือ่ งบินรบ ของกองทัพญี่ปุ่นบินอยู่เหนือหัว ในขณะที่ทหารเรือ อเมริกนั ก�าลังตกปลาเพลิดเพลินอยูด่ ว้ ยซ�า้ ไป เจ้าของ แผนการรบคือนายพลเรืออิโซโรกุ ยามาโมโต เขาดัดแปลง ระเบิดตอร์ปโิ ด ด้วยการใส่ไม้รปู ทรงคล้าย ๆ กล่องเข้าไป ทีใ่ บพัดจึงท�าให้สามารถทิง้ ในน�า้ ตืน้ ได้ภายในไม่กนี่ าที ที่ฝูงบินรบโจมตีแบบสายฟ้าแลบ อเมริกาสูญเสีย อย่างหนัก เสียทหาร ๒๔๐๘ นาย เรือรบ ๑๘ ล�า เครื่องบิน ๔๐๐ ล�า อีกสามชั่วโมงต่อมากองทัพญี่ปุ่น ก็บุกฟิลิปปินส์ ฮ่องกง มาเลเซีย และประเทศไทย ญี่ปุ่นได้ส่งกองบิน ไปทิ้งระเบิดเพิร์ลฮาร์เบอร์ (Pearl Harbor) เพือ่ ท�าลายฐานทัพเรือและก�าลังทางอากาศ ของสหรัฐฯ จากสถานการณ์ในครั้งนี้ รัฐบาลไทย
23
ได้ รั บ การแจ้ ง เตื อ นจากมิ ต รประเทศหลายชาติ แต่ในวันเดียวกันกับญี่ปุ่นไปทิ้งระเบิดเพิร์ลฮาร์เบอร์ ญี่ปุ่นซึ่งเตรียมการมาอย่างดี ได้ถือโอกาสส่งก�าลัง เข้ า ตามจุ ด ยุ ท ธศาสตร์ ที่ ส� า คั ญ ในเอเชี ย อาคเนย์ สงครามมหาเอเชี ย บู ร พา ซึ่ ง เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของ สงครามโลกครั้งที่ ๒ จึงได้อุบัติขึ้น ทำงด ำ นภู มิ ภ ำคเอเชี ย ตะวั น ออกเฉี ย งใต ในตอนเช้าตรู่ ๘ ธันวำคม พ.ศ.๒๔๘๔ กองทัพญี่ปุ่น ก็ บุ ก ประเทศไทยโดยยกพลขึ้ น บกตั้ ง แต่ จั ง หวั ด สมุ ท รปราการ ลงไปในทุ ก พื้ น ที่ ซึ่ ง มี ช ายฝั ่ ง ทะเล โดยท� า การเคลื่ อ นพลทางบกและทางอากาศจาก อินโดจีนเข้าทางอรัญประเทศ ตลอดเช้าตรู่วันนั้น มี ก ารต่ อ สู ้ แ ละต่ อ ต้ า น ทั้ ง ทางภาคพื้ น ดิ น และ ทางอากาศจากทหารและประชาชนคนไทยต่อกองทัพ ญี่ปุ่น จนกระทั้งมีค�าสั่งให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง การสู้รบด้านทางอรัญประเทศ เครื่องบินขับไล่ Ki-27 ของญี่ปุ่นกว่า ๒๕ เครื่อง จากฐานทัพญี่ปุ่น ในอินโดจีนได้บนิ เข้าโจมตีสนามบินวัฒนานคร จังหวัด ปราจีนบุร ี นักบินของกองทัพอากาศไทยน�าเครือ่ งบิน ขับไล่แบบ ๑๐ ( HAWK III ) จ�านวน ๓ เครือ่ ง ขึน้ สกัดกัน้ โดยมีนักบินที่สังกัดฝูงบิน ๔๓ (วัฒนานคร) แต่ก�าลัง เครือ่ งบินของฝ่ายไทยทีม่ นี อ้ ยกว่าไม่สามารถต่อสูก้ บั เครื่องบินขับไล่ของญี่ปุ่นที่มีมากมาย เครื่องบินทั้ง ๓ เครื่องของไทยถูกยิงตกหมดนักบินทั้งสามเสียชีวิต แม้จะเห็นว่าเครื่องบินของฝ่ายญี่ปุ่นอยู่เต็มฟ้าหรือ ครองอากาศเหนือวัฒนานครแล้วก็ตาม แต่นักบิน
24
ทั้ ง สามก็ พ ร้ อ มที่ จ ะบิ น ขึ้ น ต่ อ สู ้ อ ย่ า งกล้ า หาญ และเสียสละเป็นอย่างยิ่ง ส�าหรับรายชื่อวีรชนผู้เสียชีวิตประกอบด้วย ร.อ.ไชย สุนทรสิงห์ ผู้บังคับฝูงบินที่ ๔๓ กองบินน้อยที่ ๘๐ ร.อ.ชิน จิระมณีนัย ผูบ้ งั คับหมวดบินที ่ ๑ ฝูงบินที ่ ๔๓ กองบินน้อยที ่ ๘๐ ร.ต.สนิท โพธิเวชกุล ผูบ้ งั คับหมวดบินที ่ ๓ ฝูงบินที ่ ๔๓ กองบินน้อยที ่ ๘๐ ส่วนการรบทีอ่ า่ วมะนาว จังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ ในวันเดียวกันนี้ ขณะที่กองก�าลังทหารญี่ปุ่นเริ่มรุก ผ่านทางด้านอรัญประเทศ ในอ่าวไทยกองทหารญีป่ นุ่ จ�านวน ๒ กองพัน ประมาณ ๒,๐๐๐ คน ยกพลขึน้ บก ที่อ่าวประจวบ แล้วแยกก�าลังเข้ายึดสถานีต�ารวจ และสถานีรถไฟ ๑ กองพัน และอีก ๑ กองพัน บุกเข้ายึด กองบินน้อยที่ ๕ ทางด้านอ่าวมะนาว เวลาประมาณ ๐๔.๐๐-๐๕.๐๐ น.ขณะนั้ น เมื่ อ ยามตรวจการณ์ พบก�าลังข้าศึกในทะเลจึงแจ้งเตือนทุกหน่วยให้ทราบ น.ต.ประวาศ ชุมสาย ผบ.บน.๕ น�าก�าลังพล ๑๒๐ คน เข้าต่อสู้ขัดขวาง การสู้รบเป็นไปด้วยความรุนแรงมากบริเวณ สนามบินและกองรักษาการณ์ ฝ่ายไทยได้ตั้งปืนกล หนัก ๖ กระบอก ปืนกลเบา ๒ กระบอก เรียงราย รักษากองบินน้อยที่ ๕ และวางก�าลังทหารอากาศ ป้องกันข้าศึกไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่ทหารญี่ปุ่นขึ้นบกนั้น ทหารทั้งสองฝ่ายได้รบกันถึงขั้นตะลุมบอนหลายแห่ง ระหว่างการสูร้ บนัน้ นักบินของกองทัพอากาศไทย พ.อ.อ.พรม ชูวงศ์ ได้น�าเครื่องบินขับไล่ HAWK-III ขึ้นสกัดกั้น แต่ถูกเครื่องบินของข้าศึกที่ครองอากาศ อยู่ก่อนแล้วยิงได้รับความเสียหาย นักบินเสียชีวิต ส่ ว นอี ก สองคนคื อ จ.อ.จ� า เนี ย ร วารี ย ะกุ ล และ จ.อ.สถิตย์ โรหิตโยธิน พยามจะน�าเครื่องบินอีก ๒ เครือ่ ง ขึน้ สกัดกัน้ ก็ถกู ยิงเสียชีวติ เช่นกัน เครือ่ งบิน โจมตีแบบคอร์แซร์ ทีม่ ี ร.ท.จวน สุขเสริม เป็นนักบิน ถูกทหารญีป่ นุ ฟันด้วยดาบซามูไรได้รบั บาดเจ็บสาหัส พร้อมพลปืนหลัง คือ พลฯ สมพงษ์ แนวบรรทัด
อนุสาวรีย์วีรชนที่วัฒนานคร
ภาพถ่ายกองบินน้อยที่ ๕ เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๔๘๙
เช่นเดียวกับที่ จ.อ.พร เฉลิมสุข ที่พยายามจะน�า เครื่องขึ้นแต่ถูกทหารญี่ปุ่นฟันด้วยดาบอาการสาหัส มีเพียง ร.ท.แม้น ประสงค์ดี ที่สามารถน�า HAWK-III ติดระเบิด ๕๐๐ ปอนด์ ออกไปทิ้งใส่เรือข้าศึกแม้นว่า จะไม่ถูกเป้าหมายก็ตาม เครื่องบินเครื่องนี้พยายาม ทีจ่ ะบินต่อไปยังสนามบินต้นส�าโรง แต่นา�้ มันหมดต้อง ร่อนลงบนชายหาดหน้าพระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน ครัน้ เวลา ๐๖.๐๐ น. ทหารญีป่ นุ่ อีกกว่า ๑ กองพัน พร้อมปืนใหญ่และรถถัง ๑๐ คัน สามารถขึน้ บกอีกด้าน มาตีโอบล้อมเป็นก�าลังที ่ ๓ ฝ่าย ไทยต้องถอยไปรวมกัน อยู่ที่เขาล้อมหมวก
ข าวทหารอากาศ
ครั้นเวลา ๐๗.๐๐ น. เมื่อได้มีการพิจารณา ในคณะรั ฐ มนตรี แ ล้ ว จอมพล ป.พิ บู ล สงคราม นายกรั ฐ มนตรี แ ละผู ้ บั ญ ชาการทหารสู ง สุ ด ได้ มี ประกาศจากนายกรัฐมนตรี ยินยอมให้ญี่ปุ่นผ่าน ประเทศไทยได้ และให้การปฏิบตั กิ ารรบของทหารไทย และต�ารวจ ทีร่ บเพือ่ ต่อต้านกองทัพญีป่ นุ่ สิน้ สุดในวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๔ เพียงวันเดียว ซึง่ ตลอดทุกพืน้ ที่ ของการรบตั้งแต่ประจวบฯ ลงไปถึงชุมพร รวมทั้ง อรัญประเทศ มีรายงานเข้าไปยังรัฐบาลว่า มีก�าลัง ทหาร ต�ารวจและยุวชนทหารเสียชีวติ กว่า ๑,๐๐๐ คน หลังจากการรบต่อต้านญีป่ นุ่ ในวันเดียวสิน้ สุดลง ได้มีการท�าข้อตกลง โดย นายดิเรก ชัยนาม รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้รบั มอบหมายจากนายก รัฐมนตรีให้เป็นผู้แทน ทางรัฐบาลญี่ปุ่น นายเตอิจิ ทสุโบกามิ เอกอัคราชทูตญี่ปุ่นประจ�าประเทศไทย เป็นผูแ้ ทน ในวันที ่ ๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๔ โดยใน ข้อตกลงมีใจความว่า ๑. เพื่อเผชิญกับสถานการอันเร่งร้อนในเอเชีย ตะวันออก ประเทศไทยจะได้อนุญาตให้ประเทศญีป่ นุ่ น�ากองทหารญี่ปุ่นผ่านดินแดนไทย และจะให้ความ สะดวกที่จ�าเป็นทุกอย่าง เพื่อการผ่านดังกล่าวนั้น กั บ จะจั ด การโดยทั น ที เ พื่ อ การป้ อ งกั น มิ ใ ห้ มี ก าร ขัดแย้งอย่างใด ๆ เกิดขึ้นระหว่างกองทหารญี่ปุ่น กับกองทหารไทย
ทหารอากาศที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
25
๒. รายละเอียดในการจัดการในวรรคข้างต้นนัน้ จะได้ ต กลงกั น ระหว่ า งเจ้ า หน้ า ที่ ฝ ่ า ยทหารของ ประเทศทั้งสอง ๓. ประเทศญี่ปุ่นให้ประกันว่าเอกราช อธิปไตย และเกียรติยศของประเทศไทยจะได้รับความเคารพ ซึ่ ง ในวั น เดี ย วกั น นั้ น รั ฐ บาลได้ อ อกแถลงการณ์ ให้ประชาชนทราบเกี่ยวกับเรื่องญี่ปุ่นบุก ส�าหรับเหตุการณ์ การรบในวีรกรรมทีอ่ า่ วมะนาว ของกองบินน้อยที่ ๕ มีทหารอากาศเสียชีวิต ๓๙ คน ยุวชนทหารเสียชีวติ ๑ คน (ภายหลังมีเอกสารเพิม่ เติม ว่ามีนายต�ารวจเสียชีวิต ๑๕ คน) และสุภาพสตรี เสียชีวิต ๒ คน เสียเครื่องบิน ๔ เครื่อง ฝ่ายข้าศึก สูญเสีย ๔๐๐ คน และเรือยกพลขนาดเล็ก ๑ ล�า โดยรายชื่อผู้เสียชีวิตในวีรกรรมที่กองบินน้อยที่ ๕ จารึกไว้ ณ อนุสาวรีย ์ เพือ่ เป็นการเชิดชูเกียรติประวัติ แห่งการรบอันกล้าหาญของวีรบุรษุ กองบินน้อยที ่ ๕ ซึง่ ได้เสียสละชีวติ เพือ่ ปกป้องแผ่นดินไทย ทางราชการ ได้สร้างอนุสาวรีย์ขึ้นเรียกว่า “อนุสาวรีย์วีรกรรม ๘ ธ.ค.๒๔๘๔” ตั้ ง อยู ่ ณ กองบิ น ๕ จั ง หวั ด ประจวบคีรีขันธ์ โดยสร้างเสร็จเมื่อ ๖ พ.ย.๒๔๙๓ ตลอดคืนวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๔ ญี่ปุ่น ได้ส่งกองเรือยกพลขึ้นบกตามฝั่งทะเลในอ่าวไทย ตั้งแต่ บางปู จังหวัดสมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี เพื่อเป็นทางผ่านเข้ายึดพม่า และมลายูของอังกฤษ นอกจากนี้ ยังได้ส่งก�าลังพลโดยทางรถไฟเพื่อเข้าสู่ อ�าเภออรัญประเทศ จังหวัดปราจีนบุรี อีกแห่งหนึ่ง
26
ก� า ลั ง ของไทยที่ประจ�าอยู่ตามที่ต่าง ๆ ทั้งทหาร ต�ารวจ ยุวชนทหาร และพลเรือน ได้ต่อสู้ป้องกัน การรุกรานของญี่ปุ่นอย่างเต็มความสามารถ จนกระทั่ง วันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๔ เวลา ประมาณ ๑๐.๐๐ น.รัฐบาลไทยจึงสั่งให้ยุติการรบ และยินยอมให้กองทัพญีป่ นุ่ เดินทางผ่านประเทศไทย โดยญี่ปุ่นรับรองจะเคารพเอกราชและอธิปไตยของ ประเทศไทย ในระหว่างนีก้ องทัพญีป่ นุ่ เริม่ มีชยั ในการรบ หลายแห่ง รัฐบาลไทยจึงจ�าเป็นต้องท�าสัญญาทาง ทหารร่วมกับญี่ปุ่นในวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๔ หลังจากที่ไทยยินยอมลงนามในกติกาสัญญา พันธไมตรีกบั ญีป่ นุ่ เมือ่ วันที ่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๔ โดยมีการลงนามร่วมกันในข้อตกลงในกิจที่เกี่ยวกับ การยุทธร่วมกันระหว่างญีป่ นุ่ กับไทย เมือ่ วันที ่ ๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๕ ระหว่าง จอมพล ป.พิบลู สงคราม ผูบ้ ญั ชาการ ทหารสูงสุด กับ พลโท อีดะ แม่ทพั กองทัพที ่ ๑๕ ญีป่ นุ่ ในฐานะผู้บัญชาการทหารบกญี่ปุ่นในประเทศไทย พลเรื อ ตรี ซาคอง ผู ้ ช ่ ว ยทู ต ฝ่ า ยทหารเรื อ ญี่ ปุ ่ น ในฐานะผู้แทนจักรพรรดิญี่ปุ่น และอีก ๑๐ วัน ต่อมา ได้มีการลงนามเพิ่มเติมในรายละเอียดของข้อตกลง ที่เกี่ยวกับการยุทธ์ร่วมกัน ระหว่างญี่ปุ่นกับไทยอีก ฉบับหนึ่ง เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๕ ในที่สุด ประเทศไทยได้ ป ระกาศสงครามกั บ อั ง กฤษ และ สหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ เมือ่ วันที ่ ๒๔ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๕ นับว่าประเทศไทยได้เข้าสูส่ ถานะสงคราม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การปฏิบตั ติ ามสัญญาร่วมยุทธกับญีป่ นุ่ ดังกล่าว นายทหารชัน้ ผูใ้ หญ่หลายคน ได้พจิ ารณาเห็นพ้องกับ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ว่าญี่ปุ่น ไม่สามารถจะชนะสงครามต่อฝ่ายสัมพันธมิตร อันมี สหรัฐอเมริกา อังกฤษ จีน และเนเธอร์แลนด์ ซึง่ ขณะนัน้ ตั้งแนวล้อมญี่ปุ่นที่เรียกว่าแนว ABCD (A-America B-Britain C-China D-Dutch) ไว้อย่างหนาแน่นได้เลย ดังนั้น จอมพล ป.จึงมีแนวความคิดทางยุทธศาสตร์
ที่สงวนก�าลังกองทัพไทยไว้ไม่ให้ถูกญี่ปุ่นปลดอาวุธ และยึ ด ครองประเทศไทย เมื่ อ ญี่ ปุ ่ น เพลี่ ย งพล�้ า แล้วค่อยใช้กา� ลังทหารทีส่ งวนไว้น ี้ ส�าหรับขับไล่ทหาร ญี่ปุ่นให้ออกจากประเทศไทย จากแนวความคิดที่จะสงวนก�าลังกองทัพไว้นี้ จึงเกิดหนทางปฏิบัติที่จะแยกก�าลังกองทัพบกให้อยู่ ห่างไกลจากเส้นทางเดินทัพของญี่ปุ่น ด้วยการย้าย ก�าลังทางบกส่วนใหญ่ไปไว้ทางเหนือของประเทศ เพื่อไม่ให้ถูกญี่ปุ่นจู่โจมเข้าปลดอาวุธได้ เช่นเดียวกับ ก�าลังทหารของอินโดจีนฝรั่งเศส ในช่วงระยะเวลา ที่ผู้น�าประเทศไทย มีแนวความคิดและหนทางปฏิบัติ ดังกล่าว ฝ่ายญี่ปุ่นก็มีความหวาดระแวงไม่ไว้วางใจ ฝ่ายไทยทีอ่ าจจะขัดขวางการปฏิบตั ขิ องกองทัพญีป่ นุ่ ซึง่ มุง่ หน้าส่งก�าลังออกไปท�าสงครามด้านพม่า โดยเฉพาะ อย่างยิ่งส่วนหลังของกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งต้องอาศัยการ ส่งก�าลังบ�ารุงจากประเทศไทย และเพือ่ ทีจ่ ะให้ฝา่ ยไทย ได้รว่ มรับผิดชอบ ในการท�าสงครามตามข้อตกลงทีไ่ ด้ ท�าไว้ เมือ่ วันที ่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๔ กองทัพญีป่ นุ่ จึงขอร้องให้รัฐบาลไทยส่งทหารไปร่วมรบกับทหาร ญีป่ นุ่ ในประเทศพม่า โดยตกลงแบ่งมอบพืน้ ทีร่ บั ผิดชอบ ในการปฏิบัติการรบให้ฝ่ายไทยส่งก�าลังทหารเข้ายึด พืน้ ทีร่ ฐั ฉาน (สหรัฐไทยเดิม) ของพม่าเพือ่ ป้องกันปีกขวา ของกองทัพญีป่ นุ่ ทีม่ งุ่ เข้าสูพ่ ม่า จอมพล ป. พิบลู สงคราม ได้ยนิ ยอมตามข้อเสนอของญีป่ นุ่ เนือ่ งจากสอดคล้องกับ แนวความคิดในการที่จะน�าก�าลังทหารส่วนใหญ่ไป ปฏิบัติการทางภาคเหนือ ของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นผลดีตอ่ การป้องกันมิให้เกิดการกระทบกระทัง่ ระหว่างก�าลังทหารของไทยกับญี่ปุ่น และเพื่อหาทาง ติดต่อกับฝ่ายสัมพันธมิตรผ่านทางประเทศจีน ในกรณี ทีญ่ ปี่ น่ ุ เพลีย่ งพล�า้ ในการท�าสงคราม ดังนัน้ กองบัญชาการ ทหารสูงสุดจึงจัดตั้งกองทัพพายัพขึ้น เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๔ และมอบหน้าทีใ่ ห้เข้าไปปฏิบตั กิ าร ในดินแดนสหรัฐไทยเดิม ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของ ประเทศไทยต่อไป
อ้างอิง - ประวัติกองทัพอากาศ พ.ศ.๒๔๕๖ - ๒๕๒๖ - ประวัติกองทัพอากาศ สงครามโลกครั้งที่ ๒ พ.ศ.๒๔๘๔ - ๒๕๘๘
ข าวทหารอากาศ
27
ä·Â¡Ñº¡ÒÃÊ‹§àÊÃÔÁ ¤ÇÒÁàª×èÍÁâ§à¾×èÍ¡Òà ¾Ñ²¹Òã¹ÍÒà«Õ¹ กรมสารนิเทศ กระทรวงต่างประเทศ
อาเซียนก่อตัง้ มาแล้วกว่า ๕๐ ปี และได้พฒ ั นาเป็น “ประชาคมทางการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมและวัฒนธรรม” แต่การบูรณาการให้เป็น หนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริงตามที่ตั้งใจเป็นเรื่องที่มี ความท้าทายเพราะสมาชิกทั้ง ๑๐ ประเทศ มีความ หลากหลายทางการเมื อ ง วั ฒ นธรรม และระดั บ การพัฒนา ดังนัน้ อาเซียนจึงให้ความส�าคัญกับการเร่ง สร้างความเชือ่ มโยงทางกายภาพ เน้นเส้นทางคมนาคม ให้เป็นรูปเป็นร่างก่อน เพราะจะเป็นช่องทางอ�านวย ความสะดวกให้ชาวอาเซียนไปมาหาสู่และใกล้ชิดกัน มากขึ้ น โดยมี แ ผนแม่ บ ทว่ า ด้ ว ยความเชื่ อ มโยง ระหว่างกันในอาเซียน ปี ค.ศ.๒๐๒๕ หรือ MPAC 2025 เป็นกรอบด�าเนินการ ซึง่ ไทยเป็นผูเ้ สนอเมือ่ ปี พ.ศ.๒๕๕๒ และได้มบี ทบาทอย่างต่อเนือ่ ง ทัง้ ในระดับทวิภาคีกบั ประเทศเพือ่ นบ้าน ระดับอนุภมู ภิ าคผ่านกรอบยุทธศาสตร์ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง ( Ayeyawady –Chao Phraya – Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS ) และระดับภูมภิ าค อาเซียนตระหนักดีถงึ ประโยชน์ของการมีเครือข่าย คมนาคมที่เชื่อมโยงถึงกัน และการมีกฎระเบียบด้าน ศุลกากรที่สอดคล้องกัน เพราะความสะดวกรวดเร็ว ในการขนส่ ง สิ น ค้ า ข้ า มแดนจะช่ ว ยลดต้ น ทุ น ทางโลจิสติกส์ และเพิ่มปริมาณการค้าการลงทุน ระหว่างประเทศ ดังนัน้ เมือ่ วันที ่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๒
ไทยจึ ง ได้ เ ป็ น เจ้ า ภาพจั ด การประชุ ม ASEAN Connectivity Symposium ที่โรงแรม Centara Grand เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่าง ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ธนาคาร ในภูมภิ าค และองค์กรไม่แสวงหาผลก�าไร และให้เกิด การเร่งรัดความร่วมมือเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง ด้านกายภาพดังกล่าวมากขึ้น เมือ่ ปี พ.ศ.๒๕๖๐ ต้นทุนทางโลจิสติกส์ของไทย ซึง่ ประกอบด้วยค่าขนส่ง ค่าเก็บรักษา และค่าบริหาร จัดการ เท่ากับร้อยละ ๑๓.๖ ของ GDP สูงกว่าค่าเฉลีย่ ของโลกซึ่งอยู่ที่ร้อยละ ๑๑ การลดต้นทุนโลจิสติกส์ เพือ่ เพิม่ ขีดความสามารถในการแข่งขันจึงเป็นเป้าหมาย ส�าคัญของไทย และเกีย่ วข้องกับการสร้างความเชือ่ มโยง โดยตรง ตัวอย่างของเรื่องนี้คือ การที่ผู้น�า ACMECS เห็นชอบให้เร่งด�าเนินโครงการตามระเบียงเศรษฐกิจ ตะวันออก - ตะวันตก (East-West Economic Corridor : EWEC) เพื่อลดระยะเวลาในการเดินทาง และขนส่ ง สิ น ค้ า จากเมื อ งเมาะล� า ไยในเมี ย นมา ผ่านไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไปท่าเรือดานังในเวียดนาม จากที่ใช้เวลาเกือบ ๕ วัน เป็น ๓๐ กว่าชั่วโมงให้ได้ ความท้ า ทายที่ ห ลายประเทศประสบคื อ ความต่ อ เนื่ อ งของนโยบายและข้ อ จ� า กั ด ด้ า น งบประมาณ เพราะโครงสร้ า งพื้ น ฐานมั ก เป็ น
28
เมกะโปรเจกต์ที่ใช้งบประมาณสูงและต้องได้รับการ สนับสนุนเชิงนโยบาย ดังนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ทางการเมือง นโยบายอาจเปลี่ยนไปได้ และแม้ว่า จะมีความต่อเนื่องทางนโยบายแต่ประเทศส่วนใหญ่ มีข้อจ�ากัดเชิงงบประมาณ และไม่สามารถท�าหลาย โครงการไปพร้อมกันเพราะจะกระทบสถานะการคลัง ของประเทศ โครงสร้างพื้นฐานในอาเซียนเท่าที่มีอยู่ จึงยังไม่เพียงพอ เมื่อรัฐบาลไม่สามารถรับภาระเหล่านี้ไว้เพียง ฝ่ายเดียว ทางออกหนึ่งคือการชักชวนให้ภาคเอกชน มาร่วมลงทุนในรูปแบบหุน้ ส่วนระหว่างภาครัฐ - ภาค เอกชน หรือ Public-Private Partnership (PPP) โดยภาครัฐอาจตกลงให้ภาคเอกชนก่อสร้างโครงการ แล้วเป็นผู้จัดเก็บรายได้จากผู้ใช้บริการภายในระยะ เวลาหนึง่ หลังจากนัน้ ค่อยส่งมอบโครงการให้เป็นของรัฐ ซึ่งทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต้องพร้อมรับความเสี่ยง ทัง้ สองฝ่าย ข้อดีของ PPP คือ ภาคเอกชนมีเทคโนโลยี นวัตกรรม และความเชีย่ วชาญในด้านต่าง ๆ มากกว่า ภาครัฐ ท�าให้เกิดการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี ระหว่างกัน และยังเป็นการเพิม่ ประสิทธิภาพการลงทุน และการบริหารจัดการ ตัวอย่างความส�าเร็จของ PPP ในอาเซียน คือ โครงการรถไฟฟ้า BTS ของไทยเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๙ และโครงการ PPP for School Infrastructure Project (PSIP) ในฟิลิปปินส์ เพื่อก่อสร้างโรงเรียน ทั่วประเทศ โดยโครงการระยะที่ ๒ ในปี พ.ศ.๒๕๖๒ จะสามารถสร้างอาคารเรียนเพิ่มเติมได้ในโรงเรียน กว่า ๑,๙๐๐ แห่ง สมาชิกอาเซียนหลายประเทศให้ความส�าคัญ มากขึน้ กับ PPP และการสร้างโครงสร้างพืน้ ฐานอย่าง ยั่งยืน เพื่อเอื้อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่าง มีคณ ุ ภาพ โดยได้จดั ตัง้ กลไกหรือออกกฎหมายรองรับ
เช่น กัมพูชาได้จดั ตัง้ สภาโลจิสติกส์แห่งชาติ (National Logistics Council) ในปีนี้ เพื่อก�าหนดทิศทาง การแก้ ไ ขปั ญ หาโลจิ ส ติ ก ส์ ส่ ว นอิ น โดนี เ ซี ย มี ก ระบวนการคั ด เลื อ กโครงการจากรายชื่ อ ของ โครงการยุทธศาสตร์แห่งชาติ (National Strategic Projects) เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาเฉพาะโครงการ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างแท้จริง ส่วนไทย ล่าสุดได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติการร่วมลงทุน ระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.๒๕๖๒ และจัดตั้งคณะ กรรมการ PPP รวมทั้งท�าแผนยุทธศาสตร์ PPP ปี พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของ รั ฐ บาลไทยที่ จ ะท� า งานร่ ว มกั บ ภาคเอกชนในการ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและเชื่อมโยงเครือข่าย คมนาคมของประเทศกับภูมิภาค นอกจากความร่วมมือรูปแบบ PPP แล้ว รัฐบาล ยั ง มี ท างเลื อ กระดมทุ น ด้ ว ยการกู ้ เ งิ น ดอกเบี้ ย ต�่ า จากสถาบันการเงินด้านการพัฒนาในระดับภูมภิ าคด้วย เช่น ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่าง ประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan Bank for International Cooperation : JBIC) และธนาคารเพื่อการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank : AIIB) การสร้ า งความเชื่ อ มโยงเพื่ อ ให้ อ าเซี ย นเป็ น ประชาคมที่ไร้รอยต่ออย่างสมบูรณ์เป็นเป้าหมาย ระยะยาวที่ทุกประเทศต้องช่วยกัน เพราะเป็นผล ประโยชน์ของประชาชนในภูมภิ าคร่วมกันในระยะยาว โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนทั้งในอาเซียนและจาก ประเทศหุน้ ส่วนเพือ่ การพัฒนานอกภูมภิ าคได้มสี ว่ นร่วม ในเวทีที่เปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนความเห็น เรื่ อ งนี้ คื อ การประชุ ม ASEAN Connectivity Symposium ที่กล่าวถึงข้างต้น
ข าวทหารอากาศ
ธรรมประทีป
กอศ.ยศ.ทอ.
ผู้ดี ความเป็นผูด้ ี ย่อมเป็นทีน่ ยิ มของชนทัว่ ไปถึงแม้จะ เป็นคนเหมือนกัน แต่ก็ยังมีพิเศษกว่ากันอีกเป็นชั้น ๆ คือ เป็นผู้ดี เป็นไพร่ ถ้าจะมีค�าถามว่าอะไรเล่าที่ท�าให้ คนเป็นคนดี ยศ ทรัยพ์ ความมั่งมี ชาติตระกูลหรือ ที่ ท� า ให้ เ ป็ น คนดี ก็ ข อตอบว่ า ไม่ ใ ช่ แล้ ว ถ้ า ไม่ ใ ช่ แล้วอะไรเล่า ก็ตอบว่า คุณธรรมความดีท่ีบุคคลนั้น ๆ ประพฤติปฏิบัติเท่านั้นที่ท�าให้คนเป็นผู้ดี นอกจากนี้ ไม่มีอะไรเลยที่จะท�าให้คนเป็นผู้ดี คุณความดีนั้น เป็นคุณธรรมที่ส�าคัญ เป็นที่นิยม ของปราชญ์ทั้งมวล คนที่มียศถาบรรดาศักดิ์สูง ยังต้อง เคารพอ่อนน้อมต่อผู้มีคุณความดี เพราะฉะนั้นผู้ที่มี คุณธรรมความดี จึงเป็นคนส�าคัญคนหนึ่งที่เป็นที่นิยม นับถือของคนทั่วไป ผูด้ นี นั้ ในทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวไว้วา่ จะต้อง มีคุณธรรมประจ�าตัว คือต้องไม่ข่มเหงรังแกผู้ต�่ากว่า อ่อนแอกว่า ไม่ถอื ตัวทะนงตัว ไม่ดหู มิน่ ผูอ้ นื่ มีความเคารพ กันตามสถานะ เป็นคนกล้าหาญ สง่า ต้องเป็นคนสุภาพ
29
เรี ย บร้ อ ย อดกลั้ น อารมณ์ ที่ ไ ม่ ดี ต ่ า ง ๆ ที่ คุ ก คาม เอือ้ เฟือ้ รักษาความสุจริตย์ และรักษาชือ่ เสียงเกียรติยศ เป็นต้น ผูใ้ ดประกอบด้วยคุณสมบัตดิ งั ทีก่ ล่าวมานี้ ผูน้ นั้ ชือ่ ว่าเป็นผู้ดีโดยแท้จริง ผู้ดีนี้ย่อมเป็นที่นิยมนับถือของ ชนทัว่ ไป ท่านทีเ่ คารพ คนเราควรทีจ่ ะมาสร้างคุณธรรม คุุณลักษณะของความเป็นผู้ดี ให้เกิดมีขึ้นในตัวของเรา ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เผื่อเราจะเป็นที่นิยมนับถือของคนทั่วไป บ้าง เพราะ คนจะดีมิใช่ดี ตรงที่ทรัพย์ มิใช่นับพงษ์พรรณ ชันษา คนจะดีดีด้วย การงาน นานา อีกวิชา ศีลธรรม น�าให้ดี อันคนสวย รวยทรัพย์ นับมิได้ หากแม้นไร้ มารยาท อันงามสม ชาติผู้ดี มีศีลธรรม ตามนิยม วิชาคม ขาดธรรมไซร้ ใครว่าดี
30
คําสั่งพิทักษ ทรัพย ในคดีล มละลาย คืออะไร ร.อ.ชานุวัฒน์ แสงสุวรรณ รรก.นายทหารพระธรรมนูญ บน.๑
เรามักจะได้ยนิ ค�าว่า “พิทกั ษ์ทรัพย์” อยูบ่ อ่ ย ๆ ในคดีที่เกี่ยวกับการฟ้องล้มละลาย ซึ่งคงมีหลายคน ทีย่ งั ไม่เข้าใจว่าความหมายของค�าสัง่ พิทกั ษ์ทรัพย์นนั้ คืออะไรกันแน่ เหมือนกับค�าสัง่ ล้มละลายหรือไม่ และ เมื่ อ ถู ก ศาลสั่ ง พิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ แ ล้ ว จะมี ผ ลในทาง กฎหมายอย่างไรบ้าง พิทักษ์ทรัพย์ คืออะไร การพิทักษ์ทรัพย์ เป็นค�าสั่งของศาลล้มละลาย ที่ตัดสินให้ทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ภายใต้การดูแล ของเจ้าพนักงานพิทกั ษ์ทรัพย์ โดยลูกหนีจ้ ะไม่สามารถ ท� า อะไรกั บ ทรั พ ย์ สิ น นั้ น ๆ ได้ เ ลย ไม่ ว ่ า จะเป็ น การขาย จ�านอง ถ่ายโอน เพือ่ เป็นการพิทกั ษ์ทรัพย์สนิ เหล่ า นั้ น ให้ เ จ้ า หนี้ นั่ น เอง โดยการพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการล้มละลาย แต่ไม่ได้ หมายความว่าคนทีถ่ กู ตัดสินพิทกั ษ์ทรัพย์จะล้มละลาย ทันที เพราะยังสามารถไกล่เกลี่ย และจัดการเรื่อง คดี ค วามกั บ เจ้ า หนี้ ใ ห้ จ บลงด้ ว ยดี ไ ด้ ซึ่ ง ค� า สั่ ง พิทักษ์ทรัพย์แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ดังนี้
๑. ค�าสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว เป็นค�าสั่งที่จะ เกิดขึ้นในช่วงระหว่างพิจารณาค�าฟ้อง โดยเจ้าหนี้ สามารถขอให้ ศ าลพิ ทัก ษ์ ท รั พ ย์ ลู ก หนี้ ชั่ วคราวได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกหนี้โยกย้าย ถ่ายโอนทรัพย์สิน ไปไว้ที่อื่น ๒. ค� า สั่ ง พิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ เ ด็ ด ขาด จะเกิ ด ขึ้ น ก็ ต ่ อ เมื่ อ ศาลวิ นิ จ ฉั ย ชี้ ข าดแล้ ว ว่ า ลู ก หนี้ มี ห นี้ สิ น ล้นพ้นตัว เป็นค�าสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เข้ารวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้โดยเด็ดขาด อันมีผล เหมือนเป็นค�าพิพากษา แต่จะยังไม่ถือว่าเป็นบุคคล ล้ ม ละลาย เพราะสามารถขอเจรจากั บ เจ้ า หนี้ เพื่ อ ประนอมหนี้ ก ่ อ นได้ ภ ายในก� า หนด ๗ วั น อย่างไรก็ดี หากมีค�าสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว จะไม่สามารถถอนฟ้องคดีได้ และเจ้าหนี้ทั้งหลาย ต้ อ งมายื่ น ค� า ขอรั บ ช� า ระหนี้ ใ นคดี ล ้ ม ละลาย ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายใน ๒ เดือน นับจาก วันที่มีค�าสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ เพื่อที่ลูกหนี้จะได้ ทราบว่าตนเองมีหนีส้ นิ เท่าไร จะต้องจัดการกับหนีส้ นิ
ข่าวทหารอากาศ
ดังกล่าวอย่างไร เช่น อาจจะยื่นค�ำขอประนอมหนี้ ตามจ� ำ นวนที่ คิ ด ว่ า จะสามารถช� ำ ระแก่ เ จ้ า หนี้ ไ ด้ หรือหากไม่สามารถจะประนอมหนี้ได้ ก็ต้องตกเป็น บุคคลล้มละลายโดยค�ำพิพากษาของศาล ลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์จะเป็นอย่างไร แม้ ค� ำ สั่ ง พิ ทั ก ษ์ จ ะยั ง ไม่ ถื อ ว่ า เป็ น บุ ค คล ล้มละลาย แต่มีผลกระทบต่อลูกหนี้ ดังนี้ ๑. บรรดาทรัพย์สินต่าง ๆ ของลูกหนี้จะตกอยู่ ในการควบคุมของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่เพียง ผู้เดียว ๒. ห้ามลูกหนีก้ ระท�ำการใด ๆ เกีย่ วกับทรัพย์สนิ หรือกิจการของตน เว้นแต่จะได้รับค�ำสั่งจากศาล ๓. ภายใน ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ลูกหนี้ทราบ ค� ำ สั่ ง พิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ลู ก หนี้ ต ้ อ งไปสาบานตั ว ต่ อ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และยื่นค�ำชี้แจงเกี่ยวกับ กิจการและทรัพย์สิน ๔. จะต้องประชุมเจรจากับเจ้าหนี้ทุกครั้งที่มี นัดหมาย ๕. กรณี ต ้ อ งการเดิ น ทางออกนอกประเทศ ต้องขออนุญาตจากศาลหรือเจ้าพนักงานพิทกั ษ์ทรัพย์ ให้ถูกต้องก่อน อย่างไรก็ตาม หากท้ายที่สุดแล้วผลการตัดสิน คดีหรือไกล่เกลี่ยจบสิ้น และพบว่ามีทรัพย์สินเหลือ ที่ ลู ก หนี้ ต ้ อ งได้ รั บ คื น เจ้ า พนั ก งานพิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย์ ก็จะท�ำหน้าทีจ่ ดั การคืนทรัพย์สนิ เหล่านัน้ ให้กบั ลูกหนี้ เมื่อศาลมีค�ำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
31
กรณีขา้ ราชการจะต้องออกจากราชการหรือไม่ เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าถ้าเป็นบุคคลล้มละลาย จะขาดคุณสมบัตขิ องการเป็นข้าราชการ และถูกสัง่ ให้ ออกจากราชการหรื อ ปลดออกจากราชการทั น ที แต่ทงั้ นี้ หากยังอยูใ่ นขัน้ ตอนทีศ่ าลมีคำ� สัง่ พิทกั ษ์ทรัพย์ ลูกหนีท้ เี่ ป็นข้าราชการจะยังไม่ขาดคุณสมบัตกิ ารเป็น ข้าราชการจนถึงขั้นต้องให้ออกจากราชการ และยัง สามารถรับราชการต่อไปได้ตามปกติ จนกว่าจะมี ค�ำพิพากษาจากศาลล้มละลายให้ลกู หนีต้ กเป็นบุคคล ล้มละลายเท่านั้น ลูกหนี้ต้องท�ำอย่างไรเมื่อศาลมีค�ำสั่งพิทักษ์ ทรัพย์ ทางออกทีด่ ที สี่ ดุ เมือ่ ลูกหนีถ้ กู ค�ำสัง่ พิทกั ษ์ทรัพย์ แล้ ว นั่ น ก็ คื อ การเข้ า ไปเจรจากั บ เจ้ า หนี้ เ พื่ อ ขอ ประนอมหนี้ภายในก�ำหนด ๗ วัน และอย่าเพิกเฉย ละเลยต่ อ การนั ด ประนี ป ระนอมหนี้ โดยเฉพาะ การไม่มี ไม่ หนี ไม่ จ่ า ย เพราะจะน� ำไปสู ่ก ารถู ก ยึ ด ทรั พ ย์ ข ายทอดตลาด และถู ก ศาลพิ พ ากษา ให้ตกเป็นบุคคลล้มละลายในทีส่ ดุ และต้องถูกให้ออก จากราชการหรื อ ปลดออกจากราชการเนื่ อ งจาก ขาดคุณสมบัติของการเป็นข้าราชการทันที ตามที่ ก ล่ า วมานี้ เ ป็ น ข้ อ มู ล เบื้ อ งต้ น ของการ พิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งหากใครไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ก่อนจะก่อหนี้ ขอจงคิดให้ดี ๆ ด้วยว่าเรามีความ สามารถหาเงินมาคืนให้แก่เจ้าหนี้ได้หรือไม่เพียงใด จะได้ ไ ม่ เ ป็ น ต้ น เหตุ จ นกลายเป็ น คดี ฟ ้ อ งร้ อ ง แบบที่มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ
32
Game of Drones
(¡Ã³Õà˵ءÒó â¨ÁµÕâç¡ÅÑè¹¹íéÒÁѹ㹫ÒÍØ´ÔÍÒÃÐàºÕÂ)
เมื่ อ เดื อ น กั น ยายน พ.ศ.๒๕๖๒ ที่ ผ ่ า นมา ได้เกิดเหตุการณ์ที่เขย่าวงการทหารและเศรษฐกิจ ของโลกครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ตามที่มีการรายงานข่าว ในสือ่ ต่าง ๆ กรณีโรงกลัน่ น�า้ มัน ๒ แห่งของซาอุดอิ าระเบีย ถูกโจมตีดว้ ยโดรนแบบคามิกาเซ่ซงึ่ สร้างความเสียหาย ต่อการผลิตน�้ามันของโลกถึงร้อยละ ๕ รวมทั้ง ท�าให้ เกิดค�าถามต่อระบบป้องกันภัยทางอากาศทีซ่ าอุดอิ าระเบีย มีประจ�าการซึ่งล้วนแต่เป็นระบบที่มีความทันสมัย แต่เหตุใดจึงไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากโดรน และจรวดร่อนได้ ภายหลังการโจมตีโรงกลั่นน�้ามันทั้ง ๒ แห่ง ไม่นานก็มกี ลุม่ กบฏฮูธทิ อี่ อกมาแสดงความรับผิดชอบ ว่าเป็นผู้ใช้ฝูงโดรนคามิกาเซ่ในการโจมตี ซึ่งท�าให้ กระแสโลกในตอนนั้นมุ่งความสนใจมาที่กลุ่มกบฏฮูธิ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และโดรนที่ใช้เป็นแบบไหน ส� า หรั บ กลุ ่ ม กบฎฮู ธิ น้ั น เป็ น กลุ ่ ม ต่ อ ต้ า นรั ฐ บาล ประเทศเยเมนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๗ ช่วงเดียวกับ การเกิดเหตุการณ์อาหรับสปริง โดยกลุ่มฮูธิได้ขับไล่ ประธานาธิ บ ดี ข องเยเมนและเข้ า ควบคุ ม พื้ น ที่ โดยส่วนใหญ่ของเยเมน แต่ถกู กลุม่ อาหรับ ๑๐ ประเทศ ที่น�าโดยซาอุดิอาระเบีย เปิดการโจมตีทางอากาศ เพื่ อ หยุ ด ยั้ ง การเข้ า ยึ ด ครองพื้ น ที่ ข องกลุ ่ ม ฮู ธิ
น.อ.วัชรพงษ์ กลีบม่วง
อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลายเป็นชนวนความแค้นระหว่าง กลุ ่ ม ฮู ธิ กั บ ซาอุ ดิ อ าระเบี ย บพร้ อ มชาติ พั น ธมิ ต ร ที่เข้าร่วม โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มฮูธิได้มี การพั ฒ นาอาวุ ธ ยุ ท โธปกรณ์ อ ย่ า งก้ า วกระโดด โดยเฉพาะอาวุธน�าวิถีพื้นสู่พื้น และโดรนแบบต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดถูกน�ามาใช้ในการโจมตีเป้าหมายที่อยู่ใน ประเทศซาอุดิอาระเบียโดยในปี พ.ศ.๒๕๖๒ มีการ โจมตีจากกลุ่มกบฎฮูธิถึง ๗ ครั้งซึ่งเหตุการณ์ที่สร้าง ความเสี ย หายอย่ า งมากให้ กั บ ซาอุ ดิ อ าระเบี ย คื อ การโจมตีขบวนพาเหรดของทหารที่เมือง Al-Anad และล่ า สุ ด คื อ เหตุ ก ารณ์ ที่ โ รงกลั่ น น�้ า มั น ที่ เ มื อ ง Abqaua และเมือง khurais ซึ่งได้รับความเสียหาย อย่างหนักจนต้องหยุดการผลิตน�้ามัน
ข าวทหารอากาศ
การพัฒนาโดรนของกลุม่ กบฎฮูธ ิ ซึง่ หลายประเทศ เชือ่ ว่ามีอหิ ร่านคอยให้การสนับสนุนทัง้ เรือ่ งเทคโนโลยี ผู้เชี่ยวชาญ จึงท�าให้การพัฒนาโดรนเป็นไปอย่าง ก้าวกระโดด ในส่วนของโดรนประเภทเครื่องบิน (นอกจากโดรนแบบเครื่องบินแล้ว กลุ่มกบฏฮูธิยังมี โดรนแบบเรือติดระเบิดส�าหรับใช้โจมตีเรือที่เป็น เป้าหมาย) ที่กลุ่มกบฏฮูธิได้มีการเปิดเผยสามารถ แบ่งได้ ๓ ประเภทคือ โดรนส�าหรับการลาดตระเวน โดรนโจมตีแบบคามิกาเซ่ และโดรนติดอาวุธ เริม่ ต้นทีโ่ ดรนส�าหรับการลาดตระเวน มีภารกิจหลัก ในการระบุต�าแหน่งเป้าหมายภาคพื้นก่อนใช้อาวุธ น�าวิถีพื้นสู่พื้นหรือปืนใหญ่ยิงโจมตี รวมทั้งใช้เรดาร์ ในการส�ารวจภูมิประเทศในพื้นที่การรบ โดยโดรน ลาดตระเวนมี ๓ แบบ คือ HUDHUD มีความยาว ๑๕๐ ซม. ปีกกางสุด ๑๙๐ ซม. บินได้นาน ๙๐ นาที ระยะบินไกลสุด ๓๐ กม. ขั บ เคลื่ อ นด้ ว ยเครื่ อ งยนต์ ใ บพั ด ติ ด ตั้ ง ด้ า นหน้ า ของตัวเครือ่ ง ใช้การพุง่ ด้วยมือในการน�าเครือ่ งขึน้ บิน Raqib มี ค วามยาว ๑๐๐ ซม. ปี ก กางสุ ด ๑๔๐ ซม. บินได้นาน ๙๐ นาที ระยะบินไกลสุด ๑๕ กม. ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แบบใบพัดติดตั้ง ด้านท้ายของเครือ่ ง ใช้การพุง่ ด้วยมือในการน�าเครือ่ ง ขึ้นบิน
33
Rased โดรนแบบปีกทรงสามเหลีย่ ม มีความยาว ๑๐๐ ซม. ปีกกางสุด ๒๒๐ ซม. บินได้นาน ๑๒๐ นาที ระยะบินไกลสุด ๓๕ กม.ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ แบบใบพั ด ที่ ด ้ า นท้ า ยของเครื่ อ ง ใช้ เ ครื่ อ งยิ ง ในการน�าเครื่องขึ้นบิน ในส่วนของโดรนโจมตีแบบคามิกาเซ่ ใช้หลักการ บรรจุหัวรบเข้าไปในตัวของโดรนเมื่อพุ่งชนเป้าหมาย จะเกิดการระเบิดขึ้น โดยแบ่งเป็น ๒ แบบ ตามระยะ ปฏิบัติการคือ แบบระยะปานกลาง Qasef-1 และ Qasef-2k แบบระยะไกล Sumad-3 Qasef-1 มีความยาว ๒๕๐ ซม. ปีกกางสุด ๓๐๐ ซม. บินได้นาน ๑๒๐ นาที ระยะบินไกลสุด ๑๕๐ กม. ติดตัง้ หัวรบแบบระเบิดแรงสูงหนัก ๓๐ กก. ขั บ เคลื่ อ นด้ ว ยเครื่ อ งยนต์ แ บบใบพั ด ติ ด ตั้ ง ทางด้านท้ายของตัวเครื่อง ส�าหรับ Qasef-2 เป็นรุ่น ทีพ่ ฒ ั นาต่อมาจาก Qasef-1 ส่วนทีไ่ ด้รบั การปรับปรุง คือ ส่วนหัวรบที่สามารถให้ผลท�าลายแบบสะเก็ด ระเบิด โดยจะระเบิดเหนือเป้าหมายระยะ ๒๐ ม. เพือ่ ใช้ทา� ลายเป้าหมายเป็นบริเวณกว้าง เช่นอากาศยาน บนลานจอด ก� า ลั ง ทหารบนพื้ น โดย Qasef-2
34
ถู ก ใช้ ง านครั้ ง แรกในการโจมตี ข บวนสวนสนาม ของทหาร ที่ เ มื อ ง Al-Anadซาอุ ดี อ าระเบี ย เมื่อ มกราคม ๒๕๖๒ ท�าให้มีทหารเสียชีวิต ๖ คน Sumad-3 เป็นโดรนที่คาดว่าถูกใช้ในการโจมตี โรงกลั่นน�้ามันที่ผ่านมาเนื่องจากมีระยะปฏิบัติการ ที่ไกลมาก ส�าหรับ Sumad-3 หรือในบางสื่อเรียก Samad-3 บินได้นาน ๒๔ ชม. ระยะบินไกลสุด ๑,๗๐๐ กม. (มีการติดตั้งถังเชื้อเพลิงภายนอกแบบ แนบกับล�าตัวไว้ด้านบนของตัวเครื่องเพื่อเพิ่มระยะ ในการบิน) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ใบพัดติดตั้ง ไว้ทางท้ายของตัวเครือ่ ง สามารถระเบิดตัวเองเมือ่ ถึง เป้าหมายหมายด้วยการตั้งเวลา หรือใช้การบังคับ จากระยะไกล ส�าหรับรูปแบบการโจมตีของโดรนแบบคามิกาเซ่ จะใช้การบินในระดับต�่าเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ จากเรดาร์ หลังจากนัน้ จะท�าการค้นหาเป้าหมาย และ
ระบุเป้าหมาย จากนั้นจะท�าการระเบิดตัวเองเหนือ เป้ า หมายเพื่ อ ท� า ลายเป้ า หมายเป็ น บริ เ วณกว้ า ง หรือพุ่งเข้าชนเพื่อท�าลายเป้าหมายที่เป็นสิ่งก่อสร้าง อาคาร ต่าง ๆ ในส่ ว นของโดรนติ ด อาวุ ธ ของกลุ ่ ม กบฏฮู ธิ มี ShahedS-129 ซึ่งได้รับมาจากอิหร่าน เป็นโดรน ที่ มี รู ป ร่ า งคล้ า ยกั บ โดรนของค่ า ยผู ้ ผ ลิ ต สหรั ฐ ฯ
ข าวทหารอากาศ
เช่น MQ-9 Reaper มีความยาว ๘ ม. ปีกกางสุด ๑๖ ม. ความสูง ๓.๑ ม. ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ใบพัดติดตัง้ ไว้ทางท้ายของตัวเครือ่ ง มีนา�้ หนักบรรทุก ๔๐๐ กก. ความเร็ว ๑๕๐ กม/ชม. รัศมีปฏิบัติการ ๑,๗๐๐ กม. บินได้นาน ๒๔ ชม. เพดานบินสูงสุด ๒๔,๐๐๐ ฟุต สามารถติดตัง้ ลูกระเบิดน�าวิถ ี Sadid-345 ใต้ปีกได้จ�านวน ๔ ลูก ส�าหรับ Sadid-345 มีน�้าหนัก ๓๔ กก. ความยาว ๑๖๙ ซม. ปีกบังคับทิศทางกางสุด ๑๕.๒ ซม. ติดตัง้ หัวรบแบบสะเก็ดระเบิด มีระยะปล่อย ไกลสุด ๖ กม. รัศมีการท�าลาย ๓๐ ม. ในส่วนของ ระบบน� า วิ ถี แ บ่ ง เป็ น ๓ แบบ คื อ น�าวิถีด้วยรังสี อินฟราเรด น�าวิถีด้วยเลเซอร์ และ Visual light แม้ว่ากลุ่มกบฎฮูธิจะได้ออกมาแถลงว่าเป็น ผูร้ บั ผิดชอบในการโจมตีโรงกลัน่ น�า้ มันทัง้ สองแห่งของ ซาอุดิอาระเบีย แต่ทั้งสหรัฐฯ และซาอุดิอาระเบีย
35
กลั บ หั น ไปที่ อิ ห ร่ า นแล้ ว แถลงว่ า เหตุ ก ารณ์ ค รั้ ง นี้ เกิดจากฝีมือของอิหร่าน ซึ่งต่อมาภายหลังก็ได้มีการ แสดงหลักฐานต่าง ๆ ทัง้ ซากของจรวดร่อน และโดรน แบบคามิกาเซ่ที่เข้าโจมตีโรงกลั่นน�้ามันเพื่อยืนยันว่า เป็นอาวุธและโดรนของอิหร่าน โดยการโจมตีโรงกลัน่ ทั้งสองแห่งใช้จรวดร่อน ๗ นัด และโดรน ๑๘ ล�า โดยโดรนเหล่านี้มีทรงปีกแบบสามเหลี่ยม และบรรจุ หัวรบภายในล�าตัว ระยะบินไกลสุดราว ๘๐๐ กม. ตามทีม่ กี ารรายงานผ่านสือ่ ต่าง ๆ การโจมตีโดยโดรน ครั้ ง นี้ เ ป็ น การโจมตี ใ นลั ก ษณะที่ เ ป็ น ฝู ง โดรน คือการบินมาพร้อมกันเป็นจ�านวนมาก และบินทีค่ วามสูง ประมาณ ๒๕๐ ม. เพื่อหลบหลีกการตรวจจับของ เรดาร์ ท�าให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศไม่สามารถ ตรวจจั บ ได้ จ ากระยะไกลจึ ง ยากต่ อ การป้ อ งกั น หรือยิงโดรนทั้งหมดให้ตกก่อนที่จะพุ่งชนเป้าหมาย
36
เหตุการณโจมตีโรงกลัน่ นํา้ มันในซาอุดอิ าระเบีย โดยฝูงโดรนที่ไมไดมีเทคโนโลยีซับซอนและชิ้นสวน ที่ ใ ช ใ นการผลิ ต โดยส ว นใหญ ก็ มี ข ายในเวบไซต ซึ่งหาซื้อไดงาย ทั้งเครื่องยนต ระบบควบคุมตาง ๆ ทําใหเกิดกระแสวิพากษวิจารณตาง ๆ ทั้งการสรุปวา ใครคือผูที่อยูเบื้องหลังการผูโจมตีในครั้งนี้ระหวาง อิหราน กับกลุมกบฏฮูธิ และขอคําถามวาระบบ
ปองกันภัยทางอากาศอยาง Patriot ทําไมจึงไม สามารถจัดการฝูงโดรนเหลานัน้ ได นอกจากนัน้ ยังทํา ใหหลายๆ ประเทศทั่วโลกตองหันกลับมาพิจารณา ทบทวนการปองกันโดรนของตัวเองวายุทธวิธีและ ยุทโธปกรณตาง ๆ ที่มีอยูนั้นมีขีดความสามารถที่จะ รับมือโดรนเหลานั้นไดหรือไม
อางอิง - Attack on Saudi oil plant, https://www.dailymail.co.uk - Features And Capabilities Of Samad-1, Samad-3 Drones, https://www.yemenextra.net - Houthi rebel drone kills several at Saudi coalition military parade,https://www.france24.com - Saudi offers 'proof' of Iran's role in oil attack and urges US response, https://www.theguardian.com - Suicide Drones Houthi Strategic Weapon, https://abaadstudies.org - US believes attack on Saudi Arabia came from southwest Iran, https://gulfnews.com
ข าวทหารอากาศ
37
มีสกรีน ANDY CAPP
ภาพที่ ๑ - นี่คุณ ฉันคิดว่าเราคงไม่ได้รับเชิญไปบ้านพวกเขาอีกแล้วนะ ภาพที่ ๒ - ผมเพียงแต่จะกล่าวชมเธอเท่านั้นนะ ภาพที่ ๓ - “แก้มย้อยสวยดี” มันไม่ใช่ค�าชมนะคุณ! (ใครได้ฟังก็ต้องโกรธ) to guess to try
- คิด (to think) ออกเสียงว่า “เกซ” - พยายามท�าหรือพยายามให้ได้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง (to make an effort to do or to get sth.) Ex. I always try to solve all the problems. (ฉันพยายามแก้ไข ปัญหาทั้งหมดเป็นประจ�า) Jowls (n.) - แก้มที่หย่อนย้อยของผู้สูงวัย ออกเสียง “จาวลส์” We won’t be invited… - ประโยคปฏิเสธของ future tense ในรูป passive voice คือ ประธานไม่ถกู กระท�า won’t (will not) +be+v3 To pay someone a compliment - เป็นส�านวน (idm.) แปลว่า ค�าพูดไพเราะ เพื่อชมเชย ยกย่องสิง่ ทีบ่ คุ คลนัน้ กระท�า (to admire sth. someone has done จะใช้กริยา to compliment ก็ได้ Ex. She complimented me on my English. (เธอพูด ชมภาษาอังกฤษของฉัน) compliment ออกเสียงว่า “ค้อมเผล่อะเมิน่ ท” ตัวอย่างประโยคเมือ่ ใช้เป็นค�านาม (n.) Ex. Thank you for your compliments. (ขอบคุณ ส�าหรับค�าชมของคุณ)
38
PEANUTS
ภาพที่ ๑ ภาพที่ ๒ ภาพที่ ๓ ภาพที่ ๔
-
สนู้ปป อาทิตย์นี้มันเลวร้ายส�าหรับฉันนะ เธอจะท�าอะไรได้ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะสิ้นหวัง ? จวบ!! นั่นเป็นค�าแนะน�าที่ดีอ่ะ!
This has been a bad week… bad (adj.) to seem Hopeless (adj.) Smak (n.) Advice
- ประโยคนี้ใช้กริยาในรูป present perfect tense เพราะแสดง ความต่อเนือ่ งของเหตุการณ์วา่ เริม่ มาตัง้ แต่ตน้ สัปดาห์จนถึงปัจจุบนั ก็ยังเป็นอยู่ - ไม่ด,ี เลว อาจใช้คา� อืน่ ๆ แทน ซึง่ เจาะจงกว่าได้ เช่น unpleasant, awful หรือ terrible เป็นต้น - ดูเหมือนว่า (appear) กริยานี้อาจตามด้วยค�าคุณศัพท์ (adj.) หรือ ใช้ to be ด้วยก็ได้ Ex. He seems (to be) very happy. (เขาดู เหมือนมีความสุขมาก และ The books seems to be guite interesting. (หนังสือเล่มนี้ดูเหมือนน่าสนใจทีเดียว) - สิ้นหวัง ที่จะดีขึ้นหรือส�าเร็จได้ (There is no hope that it will get better or succeed.) Ex. John is admitted in the hospital and his condition is hopeless. (จอห์นป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล และอยู่ในสภาวะที่สิ้นหวัง) - จูบเสียงดัง (a loud kiss - smack) - ค�าแนะน�า (a suggestion)
ข าวทหารอากาศ
39
ครูภาษาพาที Mr.Know It All
¤íÒÈѾ· áÅÐÊíҹǹã¹ÀÒÉÒÍѧ¡ÄÉ ·Õ褹ä·ÂÁѡ㪌¡Ñ¹Í‹ҧ¼Ô´ æ
๑.เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย (Penny wise and pound foolish) จะแกล้งโง่หรือโง่ดว้ ยความตัง้ ใจก็ไม่อาจทราบได้ แน่งน้อยแม่บ้านป้ายแดงทราบข่าวมาจากเพื่อนบ้าน ว่ า ผั ก ผลไม้ ที่ ห ้ า งสรรพสิ น ค้ า แห่ ง หนึ่ ง ราคาถู ก เนื่ อ งจากเจ้ า ของสวนมาขายเองอยู ่ ม าวั น หนึ่ ง แน่งน้อยนึกอยากทานสลัดผักขึ้นมา แต่เนื่องจาก ห้ า งสรรพสิ น ค้ า นี้ อ ยู ่ ไ กลจากบ้ า นของเธอหลาย กิโลเมตร เธอจึงต้องขับรถไปซื้อผักที่ห้างสรรพสินค้า ดังกล่าว แน่งน้อยหมดเงินไปกับค่าผักสดราว ๆ ๕๐ บาท แต่กลับเสียเงินค่าน�้ามันรถไปถึง ๔๐๐ บาท กรณีของแน่งน้อยตรงกับส�านวนทีว่ า่ เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายเป็นส�านวนไทย ที่ ต รงกั บ ส� า นวนในภาษาอั ง กฤษที่ ว ่ า penny wiseand pound foolish เงิ น เพนนี ห ากจะเที ย บกั บ เงิ น ไทยแล้ ว ก็ คื อ เหรียญสลึง ในขณะที่เงินปอนด์เทียบได้กับเงินบาท ของบ้านเรานัน่ เอง ดังนัน้ ส�านวนนีห้ ากจะแปลตามตัว อั ก ษรแล้ ว จะได้ ค วามหมายว่ า ฉลาดเงิ น สลึ ง แต่ โ ง่ เ งิ น บาท กรณี ข องแน่ ง น้ อ ยน่ า จะอธิ บ าย ได้เป็นอย่างดี คือเรือ่ งโง่ ๆ ฉลาดดีนกั แต่ทเี รือ่ งทีค่ วร ฉลาด กลับโง่ ตัวอย่างการใช้ส�านวน Driving to the mall for such vegetables is penny wise and pound foolish.
40
การขั บ รถไปที่ ห ้ า งสรรพสิ น ค้ า เพื่ อ ซื้ อ ผั ก เหล่านั้นเป็นการเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย Don't be penny wise and pound foolish. The cheap gas will ruin your car's engine in the long run. อย่าประหยัดแบบไม่เข้าท่าเติมน�้ามันราคาถูก จะท�าลายเครื่องยนต์ในระยะยาว ๒.ของกล้วย ๆ ของหมู ๆ (Kid’s stuff) kid เป็นค�านาม หมายถึงเด็กเล็ก ในขณะที ่ stuff หมายถึงสิ่งของต่าง ๆ เมื่อแปลตามตัวอักษรแล้ว จะหมายถึ ง สิ่ ง ของของเด็ ก เล็ ก ท� า ให้ บ างท่ า น อาจนึ ก ไปว่ า ส� า นวนนี้ น ่ า จะหมายถึ ง ของเด็ ก เล่ น แต่ความหมายที่แท้จริงคือง่ายมาก ของกล้วย ๆ หรือของหมู ๆ ส�านวนนี้ใช้กล่าวถึงบางสิ่งบางอย่าง ที่ท�าได้อย่างง่ายมาก ท�าหน้าที่คล้ายค�าคุณศัพท์ ตัวอย่างการใช้ส�านวน Don’t worry, pal. The exam is kid’s stuff. You can do it easily.
อย่ากังวลไปเลยพรรคพวก ข้อสอบง่ายมาก หรือข้อสอบหมูมากนายท�าได้สบาย ๆ อยู่แล้ว The English examination today is kid’s stuff. I’m sure that I’ll get 100 out of 100. การสอบภาษาอังกฤษวันนี้เป็นของกล้วย ๆ ฉันมั่นใจว่า ฉันจะได้ ๑๐๐ คะแนนเต็ม ๓.พายเรือในอ่าง(In circles) ณ บริ ษั ท ฟลายไฮทราเวลมิ ส เตอร์ ส มิ ธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทก�าลังอยู่ในช่วง กลั ด กลุ ้ ม อย่ า งหนั ก เนื่ อ งจากสภาวะเศรษฐกิ จ ที่ฝืดเคือง ประกอบกับความไม่สงบของบ้านเมือง ท�าให้รายได้ของบริษัทหดหาย จนถึงขั้นต้องปลด พนักงานบางคนออกไปเพื่อลดค่าใช้จ่ายของบริษัท ให้น้อยลง มิสเตอร์สมิธก�าลังปรึกษากับแน่งน้อย รองผู้จัดการถึงพนักงานบางคนที่เข้าข่ายต้องถูกปลด “How about KhunSomsak?” “คุณสมศักดิ์เป็นไงคะ” แน่งน้อยถาม “Well.”
ข าวทหารอากาศ
“อืม” มิสเตอร์สมิธถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “Somsak has been working with us for months, but mostly is just running around in circles.” ก่ อ นที่ จ ะรู ้ ว ่ า สิ่ ง ที่ มิ ส เตอร์ ส มิ ธ พู ด เกี่ ย วกั บ สมศักดิ์ว่าอย่างไรนั้น เรามาท�าความเข้าใจเกี่ยวกับ ส�านวน in circlesกันก่อนดีกว่า in circles เป็นส�านวนหมายถึงไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่มีอะไรคืบหน้า ไปไม่ถึงไหน หรือวนเวียนอยู่กับที่ ไม่กระเตือ้ งไปไหน ซึง่ ตรงกับส�านวนไทยทีว่ า่ พายเรือ ในอ่ า งนั่ น เอง ส� า นวนนี้ ใ ช้ ก ล่ า วถึ ง อะไรก็ ต ามที่ ไม่พัฒนาหรือก้าวหน้าไปถึงไหน หรือย�่าอยู่กับที่ ไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลย เป็นต้นดังนั้นสิ่งที่มิสเตอร์ สมิธพูดเกี่ยวกับสมศักดิ์จึงหมายถึง “สมศักดิ์ท�างาน ให้กับเรามาหลายเดือนแล้ว แต่ผลงานของเขาก็ ไม่คืบหน้าไปถึงไหน” ดังนั้น แม้จะไม่พูดอะไรต่อไป เราก็ ค งเดาได้ว่าอนาคตด้านการงานของสมศั ก ดิ์ กับบริษัทนี้จะเป็นเช่นไรใช่ไหมครับ
41
ตัวอย่างการใช้ส�านวน The suspect talked in circles, so the police threatened to send him to jail. ผู้ต้องหาให้การวกวน เจ้าหน้าที่ต�ารวจจึงขู่ว่า จะจับเขาเข้าคุก The teacher knew that Jim did not prepare for the presentation because he kept talkingin circles and did not really answer the question. ครู รู ้ ว ่ า จิ ม ไม่ ไ ด้ เ ตรี ย มความพร้ อ มมาก่ อ น การน� า เสนอเพราะเขาพู ด วกไปวนมาและไม่ ไ ด้ ตอบค�าถามที่ตั้งไว้ ๔. จ้างให้ก็ไม่ทีทาง(That’ll be the day.) แอมเบอร์ ส าวสวยวั ย ยี่ สิ บ แปดเดิ น เฉิ ด ฉาย เข้ า มาในร้ า นอาหารซึ่ ง เป็ น ที่ ป ระจ� า ที่ เ ธอ ได้ นั ด หมายกลุ ่ ม เพื่ อ นสาวสวยให้ ม านั่ ง คุ ย กั น หลังจากที่ใช้เวลาไม่กี่นาทีในการรวมพลสาวสวย
42
จนได้สมาชิกครบองค์ประชุมแอมเบอร์จึงเริ่มต้น จี บ ปากจี บ คอเล่ า เรื่ อ งของตั ว เองให้ เ พื่ อ น ๆ ฟั ง ตามประสาสาวสวยผู้น�าของกลุ่ม “John called me last night.” จอห์นโทรหาฉันเมื่อคืนนี้ “John, the guy wemet at the bar last week?” จอห์ น คนที่ พ วกเราพบที่ บ าร์ เ มื่ อ อาทิ ต ย์ ที่แล้วใช่ไหม “Nope.Another John, the restaurant owner.” เปล่าจอห์นอีกคนเจ้าของร้านอาหารไงล่ะ “He asked me to marry him.” เขาขอฉันแต่งงาน “But that’ll be the day.” ก่ อ นที่ เ ราจะไปท� า ความเข้ า ใจว่ า แอมเบอร์ พู ด อะไรในตอนสุ ด ท้ า ยนั้ น เรามาท� า ความรู ้ จั ก กับส�านวน “That’ll be the day.” กันก่อนดีกว่า “That’ll be the day.” หากจะแปลตามตัว อักษรแล้ว จะหมายถึง นั่นจะเป็นวันนั้นซึ่งอาจท�าให้
เราเข้าใจว่าแอมเบอร์ตอบตกลงแต่งงานกับจอห์น หนุ ่ ม เจ้ า ของร้ า นอาหารที่ เ ข้ า มาจี บ เธอแต่ ความจริ ง แล้ ว ความหมายกลั บ ตรงข้ า มกั น อย่างสิ้นเชิง That’ll be the day. เป็นส�านวนหมายถึง ไม่มที างทีจ่ ะเกิดขึน้ อย่างแน่นอน ไม่มคี วามเป็นไปได้ ที่ จ ะเกิ ด สิ่ ง นั้ น ขึ้ น เลย หรื อ ไม่ มี วั น ที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น อย่างแน่นอน ดังนั้น สิ่งที่แอมเบอร์พูดกับเพื่อนสาว ของเธอก็คือ เขาขอฉันแต่งงานแต่ไม่มีวันเสียหรอก หรือไม่มีวันที่เธอจะแต่งงานกับเขานั้นเอง ตัวอย่างการใช้ส�านวน Lisa says she’s going to lose her weight. ลิซ่าบอกว่าจะลดน�้าหนัก That’ll be the day! คงจะมีวันนั้นหรอกนะ Do you think I will win the lottery? เธอคิดว่า ฉันจะถูกลอตเตอรี่หรือเปล่า That’ll be the day! จ้างให้ก็ไม่มีทางหรอก
ข าวทหารอากาศ
๕.เอามะพร้าวห้าวไปขายสวน(Carry coals to Newcastle) เป็นหนึ่งในส�านวนไทยที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ หมายถึ ง ท� า อะไรที่ ไ ม่ จ� า เป็ น หรื อ ไม่ ค วรท� า หรื อ น�าอะไรไปยังที่ที่เขามีสิ่งนั้นอยู่แล้ว เปรียบได้กับ การน�ามะพร้าวไปขายยังสวนมะพร้าว ซึ่งมีมะพร้าว อยู่มากมาย ซึ่งตรงกับส�านวนภาษาอังกฤษที่ว่า to carry coals to Newcastle To carry coals to Newcastle หากแปลตรงตัวก็คอื แบกหรือน�าถ่านหิน ไปยั ง เมื อ งนิ ว คาสเซิ ล โดยที่ ม าของส� า นวนนี้ มาจากในสมัยก่อนเมืองนิวคาสเซิลเป็นแหล่งผลิต ถ่านหินที่ส�าคัญของอังกฤษ ดังนั้น การน�าถ่านหิน
43
ไปขายยั ง เมื อ งดั ง กล่ า วจึ ง เป็ น การกระท� า ที่ เปล่าประโยชน์ เพราะอย่างไรก็ขายไม่ได้ ไม่ตา่ งอะไร จากการน�ามะพร้าวห้าวไปขายสวนของไทยนั่นเอง ตัวอย่างการใช้ส�านวน Teaching David Beckham how to play football is like carrying coals to Newcastle. การสอนเดวิดเบคแฮมให้เล่นฟุตบอล ไม่ตา่ งอะไรจาก การน�ามะพร้าวห้าวไปขายสวน Exporting wine to Australia seems like carrying coals to Newcastle.การส่งออกไวน์ ไปขายที่ออสเตรเลียก็เหมือนกับเอามะพร้าวห้าว ไปขายสวน
อ้างอิง - https://www.collinsdictionary.com - https://www.ef.co.th/useful-english/english-idioms/ - https://www.scholarship.in.th/100-idiom-english/ - https://www.siuk-thailand.com/study-guide/english-phrase-idiom/ - https://wallstreetenglish.in.th
44
เปดปูม ๑๐๐ ป การบิน ของบุพการี กองทัพอากาศ พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร
(ต่อจากฉบับที่แล้ว)
วันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๑ พระบาทสมเด็จ พระปกเกล้ า เจ้ า อยู ่ หั ว ได้ เ สด็ จ ฯ เยี่ ย มโรงงาน กรมอากาศยาน ที่ ต� า บลบางซื่ อ ในการนี้ ไ ด้ ท รง ทอดพระเนตรบริเวณโรงงานโดยทัว่ ไป รวมทัง้ อาคาร สถานที่ต่าง ๆ ตลอดจนห้องทดลองและการทดลอง โลหะ รวมทั้งรับฟังการรายงานความก้าวหน้าของ การสร้างเครือ่ งบินขึน้ ใช้ในราชการของกรมอากาศยาน ในวันที ่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๘ พระบาทสมเด็จ พระปกเกล้ า เจ้ า อยู ่ หั ว ได้ ท รงมี พ ระราชด� า รั ส
ในวโรกาสที่ทรงได้รับพระยศเป็นจอมพลทหารบก และทหารเรือ ซึ่งมีใจความส�าคัญตอนหนึ่งที่ทรง กล่าวถึงกิจการบินไว้ว่า “สําหรับการปองกันพระราชอาณาเขตสยาม ขาพเจาเห็นวาจะตองใชทหารบก ทหารเรือ ทําการ กลมเกลียวกันที่สุดจึงจะได นอกจากนั้นยังมีกําลัง ทีเ่ กิดขึน้ ใหมอกี อยางหนึง่ คือ กําลังทางอากาศ ซึง่ ตอไป ภายหนาจะเป็นกําลังสําคัญที่สุดอยางหนึ่ง เมื่อได เพงเล็งถึงการเป็นไปในตางประเทศแลว จะเห็นได โดยชัดวากําลังทางอากาศของเราเวลานี้เจริญขึ้น เป็นอันมาก เพราะนอกจากจะเป็นประโยชน์ที่จะได ทางทหาร ยังจะเป็นประโยชน์ในทางอื่น ๆ เชน พาณิชยการอีกดวย ขาพเจาเห็นวากําลังทั้งสามนี้ จะตองทําการรวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในยาม สงครามจึงจะเป็นประโยชน์ดีที่สุด เชน อากาศยาน จะตองชวยเหลือทั้งทหารบก ทหารเรือทั้ง ๒ อยาง และทหารบก ทหารเรื อ ก็ ต อ งทํ า การต อ เนื่ อ งกั น เมื่อกําลังทั้งสามนี้สามารถทําการรวมกันไดดีแลว ก็หวังวาจะเป็นที่ยําเกรงของชาติอื่น ๆ” กิ จ การบิ น ในรั ช สมั ย ของพระองค์ ยั ง คงมี ความเจริญก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ที่ส�าคัญได้แก่ - ความก้ า วหน้ า ของการไปรษณี ย ์ อ ากาศ และการบินโดยสาร - ความก้ า วหน้ า ในการจั ด ส่ ว นราชการ ของกรมอากาศยาน
ข าวทหารอากาศ
45
การใช้เครื่องบินเพื่อรับ-ส่งผู้โดยสาร
- การออกแบบและสร้างเครื่องบินขึ้นใช้เอง ได้เป็นผลส�าเร็จเป็นครั้งแรก ได้แก่ เครื่องบินบริพัตร และเครื่องบินประชาธิปก - การเริ่มจัดหาเครื่องบินที่ทันสมัยเข้าประจ�า การมากขึ้น - การฝึกบินเดินทางในเวลากลางคืนเป็นครัง้ แรก - การบินเดินทางไปต่างประเทศระยะไกล - การฝึกร่วมกับกองทัพเรือเป็นครั้งแรก หลังจากที่กิจการบินเริ่มมีความเจริญเติบโตขึ้น และมีบุคลากรที่เกี่ยวข้องทางด้านการบินมากขึ้น การเรียนการสอนทางด้านการบินก็ได้มกี ารพัฒนาขึน้ เป็นล�าดับ ทัง้ นีว้ ชิ าการบินและวิชาการรบ นับว่าเป็น ที่ส�าคัญยิ่งของนักบิน ในเดือนมกราคม พ.ศ.๒๔๖๘ นายพันตรี หลวงอมรศักดาวุธ (ชิต รวดเร็ว) ได้เขียน
ค�าแนะน�าหลักการบินขับไล่ขึ้นใช้เป็นหลักส�าหรับ สอนและศึกษาของครูและศิษย์การบิน ในขณะที่ นายพลตรี พระยาเฉลิมอากาศ เจ้ากรมอากาศยาน ได้เขียนค�าแนะน�าวิธีรบของนักบินขับไล่เพิ่มเติมขึ้น เพื่อใช้เป็นหลักส�าหรับศึกษาควบคู่ไปกับต�าราของ นายพันตรี หลวงอมรศักดาวุธ วั น ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๘ ได้ มี ก าร เปลี่ยนแปลงการเดินไปรษณีย์อากาศจากจังหวัด นครราชสีมาไปยังจังหวัดร้อยเอ็ด อุบลราชธานี อุดรธานี และหนองคาย โดยเพิม่ เครือ่ งบินเป็น ๒ เครือ่ ง และเพือ่ เป็นการอ�านวยความสะดวกแก่ขา้ ราชการและประชาชน ในมณฑลภาคอีสานทีม่ อี ปุ การคุณบ�ารุงก�าลังทางอากาศ เป็นอย่างดีตลอดมา จึงให้ลดค่าโดยสารเครื่องบินลง เพื่อเป็นการตอบแทนด้วย วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๙ นายพลตรี พระยาเฉลิมอากาศ เจ้ากรมอากาศยาน ได้มีหนังสือ กราบบังคมทูลถวายพระพร จอมพล สมเด็จพระเจ้า บรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนคร สวรรค์วรพินติ เสนาธิการทหารบก เนือ่ งในวันคล้าย วันประสูติ พร้อมทั้งรายงานความก้าวหน้าทางด้าน กิจการบินของกรมอากาศยาน ซึง่ มีขอ้ ความตอนหนึง่ ว่า
46
บุพการีทหารอากาศให้การต้อนรับเครื่องบินแบบ Vimy ของอังกฤษ มี นายร้อยเอก รอส สมิท และนาย ร้อยเอก เคธ สมิท เปนนักบิน และช่างเครื่องอีก ๒ คน แวะเยือนดอนเมือง และสงขลา เมื่อวันที่ ๑-๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖๒ ระหว่างบินเดินทางจากอังกฤษไปออสเตรเลีย นายร้อยเอก รอส สมิท ระบุว่า สนามบินดอนเมือง เปนสนามบินที่ดีที่สุดตั้งแต่บินจากยุโรปออกมา
“การตอนรับนักบินแขกเมือง ซึ่งทําการบิน รอบโลกบาง บินทางไกลขามทวีปบาง และการรับรอง นายทหารชาวต า งประเทศซึ่ ง มาขอดู กิ จ การของ กรมอากาศยานเป็นกิจทีไ่ ดทาํ เสมอ ๆ ทุกป แมในรอบ ขวบปที่แลวมานี้ ก็มีหลายราย เชน ไดจัดการรับรอง นักบินชาติเยอรมัน เดนมาร์ก สเปน เป็นอาทิ นอกจากนี้ ยังไดชวยเหลือซอมแซมเครื่องบิน ของชาติ เ ดนมาร์ ก ที่ ชํ า รุ ด เสี ย หายให ส ามารถบิ น เดิ น ทางต อ ไปได โดยมิ ไ ด คิ ด ราคาค า ซ อ มหรื อ คาปวยการแตอยางใด เป็นอันไดประกาศอัธยาศัย ไมตรี แ ละทดแทนบุ ค คลของเขาที่ มี อ ยู แ ก เ รา มาแตเดิมเพิม่ ความชอบพอสนิทสนมยิง่ ขึน้ และบัดนี้ เครื่องบินเดนมาร์กที่ซอมดวยฝมือไทยนั้น ไดกลับถึง ประเทศเดนมาร์กเรียบรอยแลว นับวาเป็นครั้งแรก ที่ประกาศความสามารถของไทย”
ชาวต่างประเทศเริ่มบินเดินทางมาประเทศไทย และเยี่ยมชมกิจการของกรมอากาศยานมากขึ้น
ข าวทหารอากาศ
วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๙ เกิดอุบัติเหตุ เครื่ อ งบิ น ชนกั น เป็ น ครั้ ง แรกในประเทศไทย โดยนายเรือโท ทองพูน ชืน่ สุวรรณ กับสิบตรี ทองเจือ อ่างแก้ว ศิษย์การบินชั้นมัธยม กองบินใหญ่ที่ ๑ ต�าบลโคกกะเทียม น�าเครือ่ งบินนิเออปอรต์ขนึ้ ท�าการ ฝึกบิน และเกิดชนกันที่ความสูงประมาณ ๘๐๐ เมตร เครื่องของนายเรือโท ทองพูน ตกลงกระแทกพื้น นักบินเสียชีวิตทันที ส่วนเครื่องของสิบตรี ทองเจือ เกิดอาการควงเป็นวงกว้าง จนถึงประมาณยอดไม้ นักบินได้กระโดดออกจากเครือ่ งได้รบั บาดเจ็บเล็กน้อย ในปี พ.ศ.๒๔๖๙ กรมอากาศยาน ได้ประกาศ รั บ นั ก เรี ย นในจุ ฬ าลงกรณ์ ม หาวิ ท ยาลั ย แผนก วิ ศ วกรรมศาสตร์ ที่ ไ ด้ รั บ ประกาศนี ย บั ต รทาง วิศวกรรมแล้ว (มิใช่ผู้ที่ได้รับปริญญาแล้ว) เข้ารับ ราชการในกรมอากาศยาน ด้วยความมุ่งหมายจะให้ เป็นนายช่างผู้ช่วยของกรมอากาศยาน วันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๙ ได้มีแจ้งความ ส� า หรั บ ทหารบกให้ ก รมอากาศยานซึ่ ง แต่ เ ดิ ม
นายพันโท พระอมรศักดาวุธ (ชิต รวดเร็ว)
47
ขึน้ ตรงต่อเสนาธิการทหารบก เปลีย่ นเป็นกรมขึน้ ตรง ต่อเสนาบดีกระทรวงกลาโหม ต่ อ มาในวั น ที่ ๑๗ กุ ม ภาพั น ธ์ พ.ศ.๒๔๖๙ กระทรวงกลาโหมได้ อ อกค� า สั่ ง ให้ แ ก้ ค� า ว่ า “เหลาทหารอากาศยาน” เป็น “เหลาทหารอากาศ” ในหนังสือซึ่งเป็นระเบียบแบบแผนของกระทรวง กลาโหมทุกแห่ง ในปี พ.ศ.๒๔๗๐ เพื่อเป็นการพัฒนาความรู้ ทางการบิน นายพลตรี พระยาเฉลิมอากาศ จึงมีด�าริ ที่ จ ะส่ ง นายทหารของกรมอากาศยานไปศึ ก ษา วิชาการบินชั้นสูงที่สหรัฐอเมริกา จ�านวน ๒ นาย ตามทีไ่ ด้เคยท�าความตกลงกับทางสหรัฐฯ ไว้แล้ว ทัง้ นี้ เพื่อให้นายทหารที่ไปเข้ารับการศึกษาได้น�าความรู้ มาพิ จ ารณาจั ด วิ ธี ด� า เนิ น การก� า ลั ง ทางอากาศ ให้ดียิ่งขึ้น และให้กลับมาวางรากฐานจัดตั้งโรงเรียน ชั้นสูงของกรมอากาศยานขึ้นอีกชั้นหนึ่ง นอกเหนือ ไปจากโรงเรียนชัน้ ปฐมและมัธยมทีด่ า� เนินการอยูแ่ ล้ว ทั้งนี้ได้พิจารณาคัดเลือกให้ นายพันตรี หลวงอมร
นายพันโท พระเทเวศร์อ�านวยฤทธิ์ (ประเสริฐ อินทุเศรษฐ)
48
นายพันโท หลวงเวชยันตรังสฤษฏ์
ศักดาวุธ และนายพันตรี หลวงเทเวศร์อ�านวยฤทธิ์ เป็นผู้ไปเข้ารับการศึกษา แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า มีผู้เรียนส�าเร็จกลับมาเพียงคนเดียวคือ นายพันโท พระเทเวศร์อ�านวยฤทธิ์ (ได้รับพระราชทานยศและ บรรดาศักดิ์สูงขึ้นระหว่างศึกษา) เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๔ ส่วน นายพันโทพระอมรศักดาวุธ (ได้รบั พระราชทาน ยศและบรรดาศักดิส์ งู ขึน้ ระหว่างศึกษา) ได้ถงึ แก่กรรม เนือ่ งด้วยเครือ่ งบินชนกันในอากาศในขณะท�าการบิน สวนสนามทีฐ่ านทัพอากาศแลงก์เลย์ มลรัฐเวอร์จเิ นีย เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๓
นายร้อยเอก จ่าง นิตินันท์
วั น ที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๐ นายพั น โท หลวงเวชยันตรังสฤษฏ์ (ต่อมาคือ พลอากาศโท มุนี มหาสันทนะ เวชยันตรังสฤษฏ์ ผูบ้ ญั ชาการทหารอากาศ คนแรก) ได้ออกแบบสร้างเครือ่ งบินแบบใหม่ได้สา� เร็จ และน�าขึ้นทดลองบินโดย นายร้อยเอก จ่าง นิตินันท์ เสร็จการทดลองในวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๐ ใช้การได้เรียบร้อย เครื่องบินแบบใหม่นี้ต่อมาได้รับ พระราชทานชือ่ ว่า “เครือ่ งบินบริพตั ร” ถือเป็นเครือ่ งบิน แบบแรกที่ออกแบบและสร้างเองโดยคนไทย
เครื่องบินบริพัตร (Paribatra)
ข าวทหารอากาศ
นาย ชาร์ล ว็อง แด็ง บอร์น
49
วันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๑ นาย ชาร์ล ว็อง แด็ง บอร์น นักบินที่เคยน�าเครื่องบินมาแสดง ทีป่ ระเทศไทยเป็นครัง้ แรกเมือ่ ปี พ.ศ.๒๔๕๓ เดินทาง มาเยี่ยมกรมอากาศยานในฐานะแขกของ นายพลตรี พระยาเฉลิมอากาศ เจ้ากรมอากาศยาน ทั้งนี้บุพการี ทหารอากาศทั้ง ๓ ท่านได้ให้การต้อนรับด้วยความ ยินดียิ่ง ในปี พ.ศ.๒๔๗๑ กรมอากาศยานได้ สั่ ง ซื้ อ เครื่องบินฝึกแบบที่ ๓ (บ.ฝ.๓ ) รวม ๔ เครื่อง จากสหรัฐอเมริกา วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๑ นายพันตรี หลวงเทวั ญ อ� า นวยเดช ผู ้ บั ง คั บ กองบิ น น้ อ ยที่ ๑ ของกองบินใหญ่ที่ ๒ เป็นนักบินและ นายร้อยโท เฉลิม มหาเดชน์ เป็นผู้โดยสาร ได้น�าเครื่องบิน เบรเกต์แบบ ๑๔ ขึ้นจากสนามบินดอนเมืองเวลา ๑๙.๒๐ นาฬิกา มุง่ ตรงไปในพระนครเพือ่ ท�าการฝึกบิน เดินทางระยะใกล้ในเวลากลางคืน และเพือ่ จะเผยแพร่
เครื่องบินฝกแบบที่ ๓ (PT-1)
50
ความนิยมในการบิน และได้น�ากลับมาลงสนามบิน ดอนเมือง เวลา ๒๐.๐๓ นาฬิกา โดยเรียบร้อยนับเป็น การบินเดินทางในเวลากลางคืนเข้าไปในพระนคร เป็นครั้งแรก จากนั้นในวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๑ นายพันตรี หลวงเทวัญอ�านวยเดช เป็นนักบิน โดยมี นายร้อยเอก มนต์ สิงหเสนีย์ และ นายร้อยโท เฉลิม มหาเดชน์ เป็นผู้โดยสาร ได้น�าเครื่องบิน เบรเกต์แบบ ๑๔ ขึ้นจากสนามบินดอนเมืองเวลา ๒๐.๒๕ น. มุ่งตรงไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อท�าการฝึกบินเดินทางระยะใกล้ในเวลากลางคืน และได้บนิ กลับมาลงสนามบินดอนเมือง เวลา ๒๑.๔๐ นาฬิกา โดยเรียบร้อย นายพันตรี หลวงเทวัญอ�านวยเดช
นายร้อยเอก มนต์ สิงหเสนีย์
นายร้อยโท เฉลิม มหาเดชน์ (อ่านต่อฉบับหน้า)
ข าวทหารอากาศ
มุมท องเที่ยว
หนาวนี้ที่…ผาฮี้
หมวยอินเตอร์
เ
มื่ อ เข้ า สู ่ ฤ ดู ฝ น ความสดชื่ น จากป่ า เขา ที่เขียวชอุ่มนั้น ถือว่าเป็นการชาร์จพลังงาน ให้กับร่างกายได้อย่างดีทีเดียว วันนี้ผู้เขียนจะพา ผู้อ่านไปยัง สถานที่ที่นับว่าอุดมสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่ง ของจังหวัดเชียงราย นั่นคือ ดอยผาฮี้ ดอยผาฮี้ เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขา เผ่ า อาข่ า ตั้งอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนไทยพม่ า ในอ�าเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย บ้านแต่ละหลัง ปลู ก เรี ย งรายลดหลั่ น กั น ไปตามไหล่ เ ขาแทรกตั ว ท่ า มกลางภู เ ขาและป่ า ไม้ อั น เขี ย วขจี ซึ่ ง นอกจาก วิวทิวทัศน์ทสี่ วยงามแล้ว บ้านผาฮีย้ งั ขึน้ ชือ่ เรือ่ งกาแฟ อีกด้วยชื่อเสียงที่หลายคนรู้จักนั่นก็คือ “กาแฟผาฮี้” กาแฟอาราบิกา้ ชัน้ ดีทสี่ ง่ ออกไปทัว่ โลก ฉะนัน้ บนดอยผาฮี้ จึงเต็มไปด้วยร้านกาแฟหลากหลายร้านเลยทีเดียว การเดินทางไปยังหมูบ้านผาฮี้นั้น สามารถ ใช้เส้นทางได้ ๒ เส้นทาง เส้นทางที่ ๑ ขึ้นไปทางดอยผาหมี/บ้านผาหมี ใช้ เ ส้ น ทางไป อ� า เภอแม่ ส ายและเลี้ ย วซ้ า ยตรง ร้านจันกะผัก (นับระยะทางจากปากทางดอยตุงไปถึง ร้านจันกะผัก ประมาณ ๑๕ กิโลเมตร) ถนนลาดยาง เส้นทางนี้ไปถึงหมู่บ้านผาหมี ประมาณ ๕ กิโลเมตร และจากบ้านผาหมีขนึ้ ไปดอยผาฮี ้ ระยะทางประมาณ ๑๗ กิโลเมตร ถนนจะเป็นทางขึ้นเขาสูงชันและค่อน ข้างแคบมาก ๆ
51
52
เส้ น ทางที่ ๒ ขึ้ น ไปทางดอยตุ ง ระยะทาง ปากทางดอยตุง – ดอยช้างมูบ ประมาณ ๑๘ กิโลเมตร จากดอยช้างมูบไปหมูบ่ า้ นผาฮี้ ประมาณ ๓ กิโลเมตร ถนนลาดยางโดยส่ ว นใหญ่ จ ะเลื อ กใช้ เ ส้ น ทางนี้ เพราะจะขับรถง่ายกว่า ทางไม่ชันมากด้วยความที่ ผู้เขียนไม่เคยไป ไม่ชินกับเส้นทาง จึงได้ตัดสินใจ เลือกเส้นทางที่ ๒ ในการเดินทางเพื่อความปลอดภัย และยังสามารถแวะดอยช้างมูบได้อีกด้วย ผูเ้ ขียนได้ออกเดินทางจากในตัวเมือง ช่วงสาย ๆ ประมาณ ๑๐ โมง โดยเลือกเส้นทางขึน้ ไปทางดอยตุง ตามป้ายเลี้ยวซ้ายขึ้นดอยตุง และไปดอยช้างมูบ พอขึน้ มาถึงดอยตุงแล้ว เราก็ขบั รถไปทางดอยช้างมูบ ตามป้าย จะเจอป้ายไปยังดอยผาฮี้ ขับตามเส้นทาง ไปอีกประมาณ ๓ กิโลเมตร ก็มาถึงฐานปฏิบัติการ ดอยช้างมูบ ซึง่ เป็นหน่วยก�ำลังป้องกันชายแดน ไทย-พม่า ตั้ ง อยู ่ ชิ ด แนวเขตชายแดนไทยพม่ า ซึ่ ง เทื อ กเขา ทางฝัง่ ประเทศพม่านี้ เมือ่ มองจากจุดชมวิวดอยช้างมูบ
ข าวทหารอากาศ
จะเห็นได้เลยว่ามีความอุดมสมบูรณ์มาก ๆ ภูเขาทุกลูก ยังคงเขียวขจีไม่มีรอยแหว่งของป่าไม้แต่อย่างใด หลังจากเราถ่ายรูปเสร็จ เราก็ออกเดินทางต่อไป ยั ง ดอยผาฮี้ โดยที่ จ ะมี ด ่ า นตรวจสอบก่ อ นผ่ า น โดยเจ้ า หน้ า ที่ ท หาร เราก็ ส ามารถแจ้ ง ได้ เ ลยว่ า ได้มาพักที่ดอยผาฮี้ เจ้าหน้าที่ทหารก็จะให้แสดง บั ต รประชาชนเพื่ อ ความปลอดภั ย หลั ง จากนั้ น เราก็ ขั บ ตามทางมาเรื่อย ๆ ก็จ ะพบหมู ่ บ้ า นผาฮี้ ผู้เขียนเดินทางมาถึงช่วงเวลาประมาณบ่าย ๒ โมง อากาศไม่ ร ้ อ น มี ล มพั ด เย็ น สบายมาก โดยที่ พั ก ของเรานั้นชื่อว่า ผาฮี้โฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์เล็ก ๆ ทีต่ งั้ อยูด่ า้ นล่างของบริเวณร้านกาแฟผาฮี ้ โดยห้องพัก ออกแบบได้สวยงามลงตัว เข้ากับความเป็นพื้นบ้าน ในระหว่างรอทานอาหารเย็นผูเ้ ขียนได้ออกมาเดินเล่น รอบ ๆ หมู ่ บ ้ า น โดยที่ ห มู ่ บ ้ า นแต่ ล ะจุ ด ที่ ส� า คั ญ จะมีป้ายบอกทางไปชิงช้าป้ายที่เห็นวิวเขาด้านหลัง ฝั่งพม่า ลานสาวกอด ฯลฯ
53
หลังจากเดินเล่นถ่ายรูป ก็ถงึ เวลาของอาหารเย็น ซึง่ เป็นอาหารพืน้ เมืองชาวอาข่า ขันโตกไม้ ใช้ตะเกียบ ในการรับประทานอาหาร ทานเสร็จก็เข้าพักผ่อน เพื่อตอนเช้าจะได้เตรียมตัวตื่นมาสัมผัสบรรยากาศ ช่วงหมอกกัน
54
เช้าวันรุ่งขึ้น ผู้เขียนตื่นตั้งแต่ ๕.๓๐ นาฬิกา เพราะพระอาทิ ต ย์ ขึ้ น เร็ ว เปิ ด หน้ า ต่ า งดู ก็ พ บว่ า เริ่ ม มี ห มอกแล้ ว จึ ง รี บ แต่ ง ตั ว ออกมานั่ ง ชม พระอาทิตย์ขนึ้ พร้อมกับชมทะเลหมอก ทีห่ น้าระเบียง ห้องพัก พอเริ่มสว่างก็เดินขึ้นไปด้านบนของที่พัก ซึ่งเป็นร้านกาแฟ โดยที่พักจะจัดเป็น ชุดดิปกาแฟ ให้ฟรี เพื่อให้เราท�ำกาแฟสด ๆ ทานเองจากฝีมือเรา ซึ่งเป็นกาแฟที่คนในหมู่บ้านปลูกขึ้นเอง กลิ่นหอม และรสชาติ ดี เ ลยที เ ดี ย ว หลั ง จากพระอาทิ ต ย์ ขึ้ น ส่องสว่างแล้ว หมอกก็ค่อย ๆ จางลง โดยอากาศที่นี่ จะเย็ น สบายตลอดทั้ ง วั น ผู ้ เ ขี ย นก็ ท านข้ า วเช้ า โดยที่พักจัดไว้ให้คือ โจ๊ก นั่นเอง หลั ง จากทานอาหารเช้ า เสร็ จ ก็ เ ตรี ย มตั ว เดินทางกลับ โดยขากลับนั้น เราอยากลองเส้นทาง ผาหมี โดยพี่เจ้าของที่พักแนะน�ำว่าข้างทางจะสวย เห็ น วิ ว ของภู เ ขาตามทาง เราจึ ง ตั ด สิ น ใจลองดู เส้นทาง แคบ ชัน โค้งเยอะ ตามทีไ่ ด้กล่าวไว้ขา้ งต้นจริง ถ้าผูข้ บั ไม่ชนิ เส้นทาง หรือว่าขับเร็วก็อาจเกิดอันตรายได้
ข าวทหารอากาศ
55
หมู่บ้านผาฮี้ นับเป็นสถานที่พักผ่อนที่สัมผัสได้ ถึงธรรมชาติอย่างแท้จริง ทั้งวัฒนธรรม การเป็นอยู่ การใช้ชีวิต ของคนในหมู่บ้านที่ยังคงไว้วิถีดั้งเดิม วิวทิวทัศน์ภูเขาสลับซับซ้อนกัน ย�้าให้พวกเราเห็นว่า “ธรรมชาติ สวยงามเสมอ” เราควรช่วยกันรักษา ธรรมชาติให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน เพื่อลูกหลาน รุ่นหลังก็ยังจะได้เห็นสิ่งสวย ๆ งาม ๆ ที่ธรรมชาติ รังสรรค์ให้กบั เราแบบนีต้ ลอดไป ส�าหรับนักท่องเทีย่ ว ที่ ต ้ อ งการจะขึ้ น ไปชมวิ ว สวย ๆ ต้ อ งระมั ด ระวั ง เรื่องการขับรถบนเขาด้วย เพราะถนนลาดยางก็จริง แต่ช�ารุดทรุดโทรมมาก บางจุดก็แคบ ชัน โค้งหักศอก ก็มีต้องค่อย ๆ ขับ ค่อย ๆ ไป ควรเช็คสภาพรถ ให้พร้อมกับการขึ้นเขาสูงก่อนเดินทางด้วยทุกครั้ง แล้ ว จะสนุ ก กั บ การเดิ น ทาง จะตื่ น ตาตื่ น ใจ กั บ วิ ว ตลอดเส้ น ทาง นั บ เป็ น ความสุ ข ทางใจ ที่ผู้เขียนได้รับจากธรรมชาติตลอดริมทางของจริง เลยละค่ะ อ้างอิง - http://paikondieow.com/phahee-homestay/ - https://www.khunnung.com/เทีย่ วบ้านผาฮี-้ ดอยผาฮี/้
56
การต อสู ของสหรัฐฯ เพื่อครอบครองเทคโนโลยี 5G (The U.S. fights over 5G Technology Dominance)
ในการต่อสู้เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี 5G ระหว่าง สหรัฐฯ และจีนนั้น หนึ่งในบริษัทที่ได้น�าเทคโนโลยี ที่ ถู ก พั ฒ นาขึ้ น มาจั ด แสดงให้ ผู ้ ใ ช้ ทั่ ว โลก ได้ เ ห็ น ในความพร้อมของการน�าเทคโนโลยี 5G ไปใช้งาน คือ หัวเว่ย (Huawei) เป็นบริษัทจากประเทศจีน ให้บริการทาง โทรคมนาคมและการสื่อสาร ถือเป็น บริษัทผู้น�าทางด้านอุปกรณ์เครือข่ายมีผลิตภัณฑ์ ครอบคลุมในทุกระดับของการสือ่ สารไร้สาย ในยุคที ่ ๕ เรียกว่า เทคโนโลยี 5G เมือ่ มองเทคโนโลยี 4G ปัจจุบนั มี ค วามเร็ ว ในการดาวน์ โ หลดประมาณ 1 Gbps เป็นเครือข่ายที่มีอยู่เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับผู้คนด้วย เทคโนโลยี 5G ความเร็วในการดาวน์โหลดจะเพิ่มขึ้น เป็น 20 Gbps สามารถเชื่อมต่อเซ็นเซอร์ หุ่นยนต์ และยานยนต์อิสระ ผ่าน AI (ปัญญาประดิษฐ์) ช่วยให้ อุปกรณ์ตา่ ง ๆ ท�างานได้โดยอัตโนมัต ิ (Autonomous Thing) ที่ส�าคัญ เครือข่าย 5G สามารถปรับปรุง การสือ่ สารในสนามรบด้วยการรับ-ส่งข้อมูลทีร่ วดเร็ว ท�าให้มเี สถียรภาพทีม่ ากขึน้ เนือ่ งจากการน�าศักยภาพ
น.อ. สรรสิริ สิริสันตคุปต์
อินเทอร์เน็ตของสิ่งต่าง ๆ Internet of Thing : IOT และปัญญาประดิษฐ์มาใช้ ซึ่งในอนาคตการสื่อสาร จะมีบทบาทที่ส�าคัญต่อการปฏิบัติ งานทางทหาร ในสนามรบ และ 5G จะกลายเป็นรากฐานส�าคัญ ของเทคโนโลยี ท างทหารที่ ช าติ ม หาอ� า นาจอย่ า ง สหรัฐอเมริกา มีความเห็นร่วมกันในการต่อสู้และ ท� า การพั ฒ นาเทคโนโลยี 5G ของสหรั ฐ อเมริ ก า เพื่อให้ได้เครือข่าย 5G ที่มีประสิทธิภาพและมีความ ปลอดภัยมาครอบครอง โดยบทความในฉบับมีมมุ มอง และรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
ข่าวทหารอากาศ
ท�ำไม 5G Huawei เป็นปัญหาด้านความมัน่ คง ของสหรัฐฯ โลกปั จ จุ บั น มี ก ารสมั ค รเป็ น สมาชิ ก อุ ป กรณ์ ไฮเทคพกพา (สมาร์ ท โฟนและแท็ บ เล็ ต ) เกื อ บ ๖ พันล้านราย อุปกรณ์สมาร์ทโฟนได้กลายเป็น แพลตฟอร์มหลักทางเทคโนโลยีของผู้บริโภคส�ำหรับ การสือ่ สารและการใช้อนิ เทอร์เน็ตทัว่ โลก ณ ปัจจุบนั จี น อยู ่ ใ นระดั บ แนวหน้ า ของนวั ต กรรมระดั บ โลก อย่างเทคโนโลยี 5G ซึง่ ประเทศจีนมีแนวโน้มทีจ่ ะเป็น ตลาดแรกที่ ไ ด้ เ ปิ ด ให้ บ ริ ก าร 5G ในเชิ ง พาณิ ช ย์ ด้วยขนาดของประเทศจีนที่มีความสามารถในการ ลดต้นทุนและยังช่วยให้เทคโนโลยี 5G นั้นสามารถ เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว อาทิเช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ได้เลือกบริษัท Huawei จากประเทศจีน ส� ำ หรั บ การสร้ า งเครื อ ข่ า ย 5G เมื่ อ ปลายเดื อ น กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อันถือเป็นความพ่ายแพ้ทาง เทคโนโลยีครัง้ ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา อีกทัง้ สหรัฐฯ เอง ไม่ได้เห็นด้วยกับบางประเทศในยุโรปทีม่ กี ารพูดคุยกัน มากมายเกีย่ วกับภัยคุกคามทีส่ หรัฐฯ ได้พบเห็นจากจีน อาทิ การขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและการเข้ามา
57
บนเครื อ ข่ า ย ความกั ง วลที่ ม าจากสหรั ฐ ฯ คื อ จีนจะเป็นผูน้ ำ� โลกทางเทคโนโลยี 5G ก่อนทีจ่ ะได้เห็น iPhone 5G ที่บริษัทใหญ่ ๆ ใน Silicon Valley ไม่ได้ก�ำหนด แต่ท�ำโดยบริษัท Huawei จากประเทศ จี น สามารถลดต้ น ทุ น และส่ ง ออกความรู ้ นี้ ไ ปยั ง ต่ า งประเทศ ถื อ เป็ น ปั ญ หาด้ า นความมั่ น คงของ สหรัฐฯ อันมาจากแผน Made in China 2025 ที่ จ ะน� ำ โลกไปสู ่ เ ทคโนโลยี ขั้ น สู ง จ� ำ นวนมาก ซึง่ เทคโนโลยี 5G นัน้ เป็นเพียงแค่เรือ่ งเดียวประกอบ กับสมาร์ทโฟนและสถานีฐานนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการสื่ อ สารระดั บ โลก และรั ฐ บาลสหรั ฐ ฯ ไม่ต้องการให้บริษัทของจีนมีโอกาสเบี่ยงเบนหรือ ติดตามปริมาณข้อมูลที่ไหลผ่านบนเครือข่ายไร้สาย 5G ที่ ส� ำ คั ญ เทคโนโลยี 5G ถื อ เป็ น กลยุ ท ธ์ ที่น�ำไปสู่การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ปั ญ ญาประดิ ษ ฐ์ (AI) การเชื่ อ มต่ อ บนเครื อ ข่ า ย 5G นั้น จะช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลจากเครื่องหนึ่ง ไปสูอ่ กี เครือ่ งหนึง่ เพิม่ ขึน้ และเร็วขึน้ ท�ำให้กระบวนการ ต่าง ๆ สามารถท�ำงานได้โดยอัตโนมัติ (Autonomous Thing) ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่มากขึ้นในเชิงพาณิชย์
58
ความต้องการของสหรัฐฯ บนเครือข่าย 5G คุณ Ellen M. Lord ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวง กลาโหมสหรั ฐ ฯ ด้ า นการจั ด หา และการพั ฒ นา อย่างยั่งยืน ได้กล่าว ณ Atlantic Council เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ค.ศ.๒๐๑๙ เพื่อหารือในความพยายาม ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DoD) อันเกี่ยวกับ การพั ฒ นาเทคโนโลยี 5G ของสหรั ฐ อเมริ ก า ซึ่งจะท�ำให้เกิดความมั่นใจได้ว่าเมื่อ 5G ถูกน�ำมาใช้ จะมีความปลอดภัยที่เพียงพอ ส�ำหรับการรับ-ส่ง ข้อมูลระหว่างบุคลากรทางทหารของสหรัฐฯ และ บุคลากรทางทหารของชาติพันธมิตร โดยจะไม่ถูก ขัดขวางจากฝ่ายตรงข้ามนั่นหมายความว่าสหรัฐฯ และชาติ พั น ธมิ ต ร ต้ อ งเป็ น ผู ้ น� ำ ในการพั ฒ นา เทคโนโลยีการสือ่ สารไร้สายในยุคที่ ๕ (5G) เมือ่ พูดถึง เครือข่าย 5G ทีจ่ ะน�ำไปสูก่ ารใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี อื่น ๆ อาทิ อินเทอร์เน็ตของสิ่งต่าง (IOT) สิ่งที่ กระทรวงกลาโหมสหรั ฐ ฯ ต้ อ งท� ำ คื อ ตรวจสอบ ให้ แ น่ ใ จว่ า ข้ อมูลสามารถส่งผ่านในสนามรบได้ ดี อย่างไร และที่ส�ำคัญเมื่อ น�ำ 5G มาใช้จะท�ำให้เกิด
ความปลอดภัยได้อย่างไร ถ้าให้เปรียบการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยี 5G จะเหมือนกับ การสร้างบ้านใหม่ เจ้าของบ้านใหม่อยากจะรู้ว่า ใครก็ตามที่สร้างบ้านใหม่ให้ได้ติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบสือ่ สาร หรือแม้กระทัง่ ติดตัง้ ประตูและหน้าต่าง ให้ ค งจะไม่ มี เ จตนาที่ ส ร้ า งขึ้ น มาเพื่ อ ให้ พ วกเขา ได้แอบกลับเข้าไปในบ้านหลังนัน้ เมือ่ เจ้าของบ้านใหม่ ได้ย้ายเข้ามาอยู่ และนั่นคือ ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ต้องการบนเครือข่าย 5G รวมถึ ง การสื่ อ สารซึ่ ง จะมี บ ทบาทส� ำ คั ญ ส� ำ หรั บ สนามรบในอนาคต ข้อมูลจะต้องเชื่อมต่อระหว่าง ทหารในที่ตั้งและทหารนอกที่ตั้ง จากเรือรบในทะเล และใต้ ท ะเล และระหว่ า งเครื่ อ งบิ น ได้ เ ร็ ว กว่ า ฝ่ายตรงข้าม ถ้าสหรัฐฯ และชาติพนั ธมิตร ไม่สามารถ ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายในยุค 5G ได้ ก็จะมี ช่องว่างหรือความล่าช้าในการสื่อสาร ที่อาจท�ำให้ ทุกอย่างที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรท�ำมานั้น คงไม่มี ประสิ ท ธิ ภ าพ สหรั ฐ ฯ เองคงจะไม่ อ นุ ญ าตให้ สิ่งเหล่านั้นได้เกิดขึ้น จึงจ�ำเป็นที่ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้
ข่าวทหารอากาศ
เครือข่าย 5G มาครอบครอง ในมุมมองของเทคโนโลยี นั้ น 5G เป็ น โอกาสที่ ยิ่ ง ใหญ่ แต่ ใ นอี ก มุ ม ก็ เ ป็ น ภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน ข้อคิดที่ฝากไว้ ในช่วงที่จีนเปิดตัวสมาร์ทโฟน Huawei รุ่นใหม่ ซึ่ ง ได้ รั บ การออกแบบให้ท�ำงานบนเครือ ข่ า ย 5G สหรั ฐ อเมริก าในเวลาเดียวกันได้เ ดินหน้ า คั ด ค้ า น บริ ษั ท Huawei ของจี น ในการจ� ำ หน่ า ยอุ ป กรณ์
59
บนเครือข่าย 5G ให้แก่ผู้ใช้งานทั่วโลก น�ำมาซึ่ง การสั่ ง แบนไม่ ใ ห้ น� ำ อุ ป กรณ์ ข องหั ว เว่ ย เข้ า มาใช้ ในประเทศ รวมถึงเรียกร้องให้พนั ธมิตรทัว่ โลกร่วมกัน แบนด้วย สิง่ ส�ำคัญก็คอื สหรัฐฯ จะใช้เวลานานแค่ไหน แก้ไขการขาดความสามารถในการแข่งขัน และแก้ไข ในความล่าช้าทางเทคโนโลยีซึ่งเป็นปัญหาของตัวเอง ถื อ เป็ น บทเรี ย นที่ ท รงคุ ณ ค่ า มอบให้ แ ด่ ผู ้ บ ริ ห าร ที่รับผิดชอบ
รูปภาพจาก - http://www.cioworldmagazine.com/sansiri-sirisantakupt-us-fights-over-5g-technology/ - https://www.ft.com/content/339c74d8-61ff-11e9-b285-3acd5d43599e
60
RED
EAGLE
อินทรีแดง แผลงฤทธิ์ น.ต.ภฤศพงศ์ ช้อนแก้ว
IRON SOLDIERS ทหารเหล็ก มหากาฬ การดํารงชีพในป า ศาสตร วิชาบุคคลทําการรบ เพื่อการดํารงชีพของหน วยทหาร (ต่อจากฉบับที่แล้ว)
การท�าอาหาร ส�าหรับการท�าอาหารจริง ๆ แล้ว มีความจ�าเป็นเป็นอย่างมากที่ต้องมีอุปกรณ์พวกนี้ ได้แก่ หม้อสนาม ไฟแช็คหรือไม้ขดี ไฟ แอลกอฮอล์แห้ง มีดพร้าดี ๆ ซักเล่ม เพียงเท่านี้ก็สามารถท�าอาหาร อร่อย ๆ ได้ไม่ยาก ขาดแต่ก็วัตถุดิบที่ต้องหามาใช้ ในการท�าอาหาร รวมถึงเชื้อเพลิงที่ใช้ในการหุงต้ม ได้แก่ กิ่งไม้ เศษใบไม้ เศษหญ้าแห้ง ท่อนไม้ กระดาษ เป็นต้น ในการท�าอาหารอย่างแรกเราต้องรู้จักการใช้ หม้อสนามให้ได้เสียก่อน หม้อสนาม มีลักษณะเป็น รูปทรงโค้งรีคล้ายรูปไตซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้
หม้อสนามในการหุงข้าวหรือบางครั้งอาจใช้ทอดก็ได้ ความสูงของหม้อประมาณ ๕ นิว้ ประกอบด้วย ๓ ส่วน คือ ส่วนที่เป็นหม้อ ส่วนที่เป็นหูหิ้ว และส่วนที่เป็น ฝาปิด ท�าด้วยโลหะทนความร้อน มีความจุราว ๑.๖ ลิตร โดยภายในจะมีขีดบอก ๒ ขีด ขีดล่างคือข้าว ขีดบน คือ น�้า วิธีการหุงข้าวอาจใช้วิธีการขุดดินท�าฐานเตา หรื อ น� า หิ น มาวางซ้ อ นกั น เพื่ อ ท� า เป็ น เหมื อ นเตา หรืออีกวิธีหนึ่งใช้กิ่งไม้แข็ง ๆ ตัดท�าเป็นง่าม ๒ อัน ปักซ้ายกับขวาคร่อมกองไฟไว้ จากนัน้ หาท่อนไม้ใหญ่ หน่อยท�าคาน ๑ ด้าม แล้วเอาหูหวิ้ ของหม้อร้อยไปกับคาน
การหุงข้าวโดยใช้หม้อสนามหลายใบหุงในคราวเดียว
ข่าวทหารอากาศ
ตั้งไว้เหนือกองไฟ อาจจะใช้มากกว่า ๑ หม้อก็ได้ เพือ่ ให้ได้ขา้ วหลายหม้อในคราวเดียวต่อมาฝาหม้อข้าว สามารถน�ำมาเป็นภาชนะใช้รองทอดอาหารแทน กระทะ โดยเฉพาะหากได้ทอดไข่ด้วยแล้วจะยิ่งท�ำให้ อาหารมื้อนั้นได้รับความอร่อยเพิ่มมากขึ้น ต่อมาเมนูยอดฮิตทีไ่ ม่วา่ จะไปเทีย่ วป่าไหนป่านัน้ ต้ อ งมี นั่ น คือ เมนู ไ ก่ ย ่ า ง (ไม่ใช่ไก่ย่างในต� ำ นาน อาหลอง) ส�ำหรับการท�ำเมนูนี้ ถ้าให้ดีควรหาไม้ไผ่ ล� ำ ใหญ่ ๆ ก� ำ ลั ง เหมาะมื อ ความยาวประมาณ ๒ – ๓ ฟุต มาผ่าแบ่งซีกตามยาวเป็น ๔ ซี่ โดยถ่างออก เป็นคู่เพื่อใช้หนีบชิ้นไก่ แล้วใช้ไม้ซี่เล็ก ๆ ขนาดยาว ประมาณความกว้างของชิ้นเนื้อไก่ ดันเพื่อกางไม้ไผ่ ให้ถ่างออกจะท�ำให้สามารถย่างไก่ได้อย่างดี ในการ ย่างให้ค่อย ๆ อังไฟไปเรื่อย ๆ ประมาณ ๒๐ นาที ไม่ต้องรีบเร่งไฟให้แรงมิฉะนั้นอาจจะไหม้ จากนั้น เราก็จะได้ไก่ยา่ งระดับต�ำนานอันมีกลิน่ หอมน่าชวนชิม หรื อ กรรมวิ ธี ก ารท� ำ อาหารประเภทต้ ม บ้ า ง อาทิเช่น ไข่ต้ม เราสามารถใช้ถุงพลาสติกในการ หุงต้มได้ โดยการใส่ไข่ ๔ – ๕ ฟอง ลงไปในถุงพลาสติก จากนัน้ เทน�ำ้ ใส่ลงไปจนท่วมไข่ แล้วรัดปากถุงให้แน่น เล็กน้อย น�ำมาผูกกับไม้คานที่เตรียมไว้ให้ลอยอัง อยูเ่ หนือกองไฟประมาณ ๑ ฟุต ส�ำหรับกองไฟจะต้อง ไม่ให้ไฟลุกโชนมากแค่ให้พอร้อนระอุ ไข่จะค่อย ๆ สุก จนกลายเป็ น ไข่ ต ้ ม ในที่ สุ ด ขั้ น ตอนการท� ำ นี้ ผู ้ ท� ำ อย่าได้รบี ใจร้อนเร่งไฟเป็นอันขาดมิฉะนัน้ ถุงพลาสติก จะหลอมละลาย ต้องใจเย็น ๆ เท่านั้น นอกจากนี้ เรายังสามารถท�ำมันเผาได้ โดยพยายามใช้กองไฟ ทีไ่ ม่รอ้ นมาก เนือ่ งจาก ถ้าร้อนระอุมากจะท�ำให้หวั มัน ไหม้ได้ น�ำหัวมันหมกใส่เข้าไปในใต้กองเถ้า ระหว่างนัน้ ค่อย ๆ เขีย่ ออกมาซักทีเพือ่ ดูวา่ มันใกล้สกุ แล้วหรือยัง รอประมาณ ๑๕ นาที ให้ความร้อนได้แทรกเข้าไป ถึงเนื้อด้านใน เราก็จะได้หัวมันที่แสนหวานจนแทบ ไม่อยากแบ่งให้ใครทานเลย
เมนูไก่ย่างในต�ำนาน
การต้มไข่ไก่และข้าวด้วยถุงพลาสติก
61
62
มันเผา
จะเห็นได้ว่า การด�ำรงชีพในป่าเป็นเรื่องไม่ยาก เป็นศาสตร์ที่น่าท้าทายและน่าสนุก ทั้งด้านการฝึก ทางทหารและการน� ำ ไปใช้ ใ นชี วิ ต ประจ� ำ วั น ของ พลเรือน พื้นฐานปัจจัย ๔ คือสิ่งส�ำคัญที่ผู้ด�ำรงชีพ ในป่าจะต้องมองให้ครอบคลุมทุกด้าน เพียงแต่พวกเขา เหล่านั้นจะต้องเข้าใจธรรมชาติและสภาพแวดล้อม ที่เราจะเข้าไปอยู่เสียก่อน ซึ่งจะท�ำให้การด�ำรงชีวิต ในป่าเป็นเรือ่ งทีน่ า่ ผจญภัย ทัง้ นี้ ในปัจจุบนั เราสามารถ จั ด หาอุ ป กรณ์ ที่ ช ่ ว ยในการด� ำ รงชี วิ ต ในป่ า ได้ อย่ า งมากมาย ตั้ ง แต่ อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ ใ นการนอน ยารักษาโรค ชุดปฐมพยาบาล (first aid kit : อุปกรณ์ ปฐมพยาบาลเวชกิจฉุกเฉิน) เสื้อผ้าชุดคลุมกันฝน กันแดด กันแมลงสัตว์กัดต่อยต่าง ๆ รวมถึง อาหาร การกินทีม่ กี ารพัฒนาเปลีย่ นแปลงไปมาก จากสมัยก่อน ในสนามรบทหารต้องท�ำการรบหลายวันต่อเนื่อง
ดั ง นั้ น พวกเขาจึ ง ต้ อ งเตรี ย มอาหารแห้ ง ไปทาน เพียงอย่างเดียวจึงจะสามารถด�ำรงชีวติ อยูไ่ ด้ ยุคต่อมา อาหารจึงได้ถูกพัฒนาเป็นอาหารกระป๋อง แต่ด้วย น�้ำหนักที่มากท�ำให้ นักวิจัยคิดค้นอาหารส�ำเร็จรูป พร้อมทานขึ้นมา โดยเป็นอาหารที่ถูกบรรจุอยู่ในถุง สุ ญ ญากาศหรื อ ที่ เ รี ย กว่ า MRE (Meal Ready to Eat) เป็นผลิตภัณฑ์อาหารส�ำเร็จรูปทีว่ งการทหาร เกือบทั่วโลกนิยมใช้ในการทานเมื่อต้องไปอยู่ในพื้นที่ การรบเป็ น เวลานาน โดยไม่ ต ้ อ งเอาหม้ อ สนาม หรื อ อุ ป กรณ์ ท� ำ อาหารไปด้ ว ย ซึ่ ง ปั จ จุ บั น MRE นี้สามารถหาซื้อได้ง่ายในท้องตลาดและมีด้วยกัน หลายเมนู อ าหารให้ เ ลื อ กจากหลายประเทศ การยังชีพในป่าจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด และเป็นเรื่องที่น่าท้าทายส�ำหรับนักผจญภัยทุกคน ทั่วโลก
Laser Weapons
ข าวทหารอากาศ
ปฐมบทแห งอาวุธยุคใหม
เมื่อเอ่ยถึงภาพยนตร์อย่าง Star War ท�าให้เรา เห็นเทคโนโลยียุคอวกาศในจินตนาการของผู้สร้าง ภาพยนตร์โดยเฉพาะปืนเลเซอร์ หรือ ดาบเลเซอร์ ที่ยังคงติดตาตรึงใจแฟน ๆ Star War ถึงขั้นที่อยากให้ มีอาวุธเหล่านี้ออกมาใช้ได้จริง ซึ่งเมื่อ ๓๐ กว่าปีก่อน เรื่ อ งอาวุ ธ เลเซอร์ อาจดู เ ป็ น สิ่ ง เพ้ อ ฝั น ในโลก จินตนาการหรือโลกของภาพยนตร์เท่านัน้ แต่ปจั จุบนั ในวงการทหารทั่วโลกก็ได้มีการวิจัยและพัฒนาอาวุธ เลเซอร์ที่สามารถใช้งานได้จริง เพื่อเข้าประจ�าการ ในกองทั พ ของตนเพื่ อ ทดแทนและปิ ด จุ ด อ่ อ น ของอาวุธยุทโธปกรณ์บางชนิดทีม่ ใี ช้งานอยูใ่ นปัจจุบนั รวมทัง้ ลดต้นทุนในการจัดซือ้ อาวุธจ�านวนมากเพราะ การยิงเลเซอร์ในหนึ่งครั้งมีต้นทุนเพียงไม่กี่สิบบาท ขณะที่การใช้กระสุนหรืออาวุธน�าวิถียิงในแต่ละครั้ง ต้ น ทุ น จะสู ง ตั้ ง แต่ ห ลั ก หมื่ น ไปจนถึ ง หลั ก แสน เลยทีเดียว ส�าหรับความก้าวหน้าในการวิจัยและพัฒนา อาวุ ธ เลเซอร์ ข องประเทศต่ า ง ๆ ในช่ ว งหลายปี ที่ ผ ่ า นมามีตั้งแต่อยู่ในขั้นการทดสอบ จนกระทั่ ง เตรียมเข้าสู่สายการผลิตเริ่มต้นจากกองทัพเรือจีน ที่ มี ก ารแสดงอาวุ ธ เลเซอร์ ส� า หรั บ ป้ อ งกั น ภั ย ทางอากาศเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๖๒ มีระบบ
63
Rocket-7
อาวุธเลเซอร์ของกองทัพเรือจีน
น�าวิถีด้วยเรดาร์และรังสีอินฟราเรด ซึ่งคาดว่าจะ น� า มาทดแทนอาวุ ธ น� า วิ ถี พื้ น สู ่ อ ากาศ HHQ-10 จึงมีความเป็นไปได้ที่อาวุธเลเซอร์นี้จะมีรัศมีการยิง ไกลสุดราว ๕ กิโลเมตร นอกจากนั้นแล้วจีนยังได้มี การผลิ ต อาวุ ธ เลเซอร์ แ บบติ ด ตั้ ง บนรถบรรทุ ก หลังการทดสอบยิงอากาศยานไร้คนขับ ได้ส�าเร็จ ที่ระยะประมาณ ๓๐๐ เมตร
64
(ซ้าย) อาวุธเลเซอร์ติดตั้งบนรถยานเกราะของตุรกี (ขวา) ผลการยิงเลเซอร์ทะลุแผ่นโลหะ หนา ๒๒ มม.ที่ระยะ ๕๐๐ เมตร
เมื่ อ เดื อ นพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๒ ทางด้ า น ประเทศตุรกี ได้มีการระดมบริษัทผู้ผลิตอาวุธชั้นน�า ของประเทศร่วมกับสถาบันวิจยั ของประเทศจับมือกัน เพื่อพัฒนาระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วยเลเซอร์ โดยส่วนหนึ่งเป็นการต่อยอด จากโครงการเลเซอร์ พลั ง งานสู ง ซึ่ ง ตั ว อาวุ ธ เลเซอร์ มี พ ลั ง งานขนาด ๒๐ กิโลวัตต์ สามารถใช้ต่อต้าน จรวด อาวุธน�าวิถี และกระสุ น ปื น ใหญ่ ไ ด้ ส� า หรั บ ระบบป้ อ งกั น ภั ย ทางอากาศจะพัฒนาเพื่อใช้งานทั้งบนเรือและบนบก รัศมีการป้องกันราว ๓ กิโลเมตร ติดตั้งอาวุธเลเซอร์ พลังงานขนาด ๒๐ - ๖๐ กิโลวัตต์ พร้อมระบบติดตาม เป้ า หมาย และส่ ว นควบคุ ม บั ญ ชาการและล่ า สุ ด ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๒ ได้มีการทดสอบอาวุธเลเซอร์ แบบติ ด ตั้ ง บนรถเป็ น ผลส� า เร็ จ และจะเป็ น อาวุ ธ เลเซอร์รุ่นแรกที่ใช้งานในกองทัพตุรกี ซึ่ง ARMOL นอกจากจะใช้เลเซอร์ในการท�าลายเป้าหมายแล้ว ตัวระบบยังสามารถถ่ายภาพความละเอียดสูง ซึ่งจะ เป็นประโยชน์ต่อการรวบรวมข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ ได้อีกด้วย ส�าหรับประเทศน้องใหม่ของวงการผลิตอาวุธ ยุ ท โธปกรณ์ อ ย่ า งเกาหลี ใ ต้ เมื่ อ เดื อ นกั น ยายน พ.ศ.๒๕๖๒ ทีผ่ า่ นมา ได้มคี วามเคลือ่ นไหวในการทีจ่ ะ ลงทุนพัฒนาอาวุธเลเซอร์ส�าหรับป้องกันอากาศยาน ไร้คนขับขนาดเล็ก ระยะสัน้ โดยคาดว่าจะพร้อมเข้าสู่ สายการผลิตราวปี ๖๖
อาวุธเลเซอร์ที่ก�าลังจะพัฒนาของเกาหลีใต้
อาวุธเลเซอร์ตดิ ตัง้ บนรถบรรทุกออกแบบโดยบริษทั Dynetics
ด้ า นบริ ษั ท ผู ้ ผ ลิ ต อาวุ ธยั ก ษ์ ใหญ่ ข องสหรั ฐ ฯ เช่น Lockheed Martin ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๒ ก็อยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบอาวุธ เลเซอร์ของ กองทัพบกสหรัฐฯ ให้มีพลังงานสูงขึ้น ราว ๒๕๐-๓๐๐ กิโลวัตต์ โดยจะน�าอาวุธเลเซอร์ขนาด ๑๐๐ กิโลวัตต์ติดตั้งบนรถบรรทุกซึ่งเป็นตัวทดลอง ที่ ทบ.สหรัฐฯ จ้างให้บริษัท Dynetics สร้างขึ้นมา พัฒนาต่อยอดโดยอาวุธเลเซอร์นี้สามารถใช้ในการ ต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ จรวด กระสุนปืนใหญ่
ข าวทหารอากาศ
และกระสุนปืนครก นอกจากนัน้ แล้วบริษทั Northrop Grumman และ Raytheon ยังได้แข่งขันกันในการ พัฒนาอาวุธเลเซอร์ขนาด ๕๐ กิโลวัตต์ เพื่อติดตั้ง กับรถยานเกราะStryker ให้กับ ทบ.สหรัฐฯ โดยใน เบื้ อ งต้ น จะเป็ น การสร้ า งตั ว ต้ น แบบออกมาเพื่ อ คัดเลือกว่าบริษัทใดจะได้รับสิทธิในการผลิตให้กับ ทบ.สหรัฐฯ โดยอาวุธเลเซอร์จะถูกติดตั้งที่ด้านท้าย ของ Stryker การพัฒนาพลังงานของอาวุธเลเซอร์ ให้สูงขึ้นนั้น เพื่อให้สามารถท�าลายเป้าหมายได้อย่าง รวดเร็ว เพราะการใช้เลเซอร์ยงิ ท�าลายเป้าหมายได้นนั้ ต้ อ งส่ อ งเลเซอร์ ที่ เ ป้ า หมายในช่วงเวลาหนึ่งอย่าง ต่อเนื่องเพื่อให้เป้าหมายถูกเผาไหม้ด้วยพลังงานของ เลเซอร์ ดังนั้นถ้าพลังงานของเลเซอร์สูงก็จะใช้เวลา ในการส่องเป้าหมายน้อยลง ส�าหรับอิสราเอลซึง่ ขึน้ ชือ่ ในเรือ่ งการป้องกันภัย ทางอากาศโดยเฉพาะ IRON DOME ทีม่ บี ทบาทส�าคัญ ในการป้องกันภัยทางอากาศให้กับอิสราเอล แม้ว่า IRON DOME จะมีขีดสมรรถนะที่สูงในการป้องกัน แต่ ยั ง คงมี จุ ด อ่ อ นที่ ไ ม่ ส ามารถป้ อ งกั น เป้ า หมาย ที่เล็ดรอดเข้ามาในระดับต�่าได้ ซึ่งอิสราเอลได้น�า เทคโนโลยีอาวุธเลเซอร์มาช่วยในการปิดจุดอ่อนนี้
65
โดยพัฒนา IRON BEAM อาวุธเลเซอร์ เพื่อใช้ในการ ป้องกัน จรวด กระสุนปืนใหญ่ และกระสุนปืนครก มี ร ะยะยิ ง ไกลสุ ด ๗ กิ โ ลเมตร เริ่ ม พั ฒ นาเมื่ อ ปี พ.ศ.๒๕๕๒ และเปิดตัวในงาน Singapore Airshow เมื่อปี ๕๗ แต่ปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่ามีการน�าเข้า ใช้งานในกองทัพแล้วหรือไม่ นอกจากนี้ ยั ง มี อ าวุ ธ เลเซอร์ ที่ มี ป ระจ� า การ ในปัจจุบันแล้ว เช่น XN-1 LaWS (Laser Weapon System) ซึ่งพัฒนาโดย ทร.สหรัฐฯ ถูกน�ามาติดตั้ง บนเรือรบตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๗ ใช้ในการต่อต้าน อากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กหรือโดรน และเรือโจมตี ขนาดเล็ก
ระบบปนใหญ่ต่อสู้อากาศ PhalanxCIWS ทร.สหรัฐฯ
IRON BEAM ของอิสราเอล
66
XN-1 LaWS ทร.สหรัฐฯ
ตัวอาวุธมีพลังงานขนาด ๓๐ กิโลวัตต์ ใช้ระบบ น�าวิถีด้วยเรดาร์ของระบบปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน Phalanx CIWS (Close-In Weapon System) ที่ติดตั้งอยู่บนเรือรบ ในการโจมตีเป้าหมายประเภท อากาศยานไร้คนขับ จะใช้การยิงเลเซอร์ไปท�าลาย เซนเซอร์ เครื่ องยนต์ขับเคลื่อน หรือวัตถุร ะเบิด ที่ ติ ด ตั้ ง มาด้ ว ย ในกรณี ที่ เ ป็ น เรื อ โจมตี ข นาดเล็ ก จะใช้ ก ารยิ ง เลเซอร์ ท� า ลายเครื่ อ งยนต์ ข องเรื อ เพือ่ ไม่ให้สามารถเคลือ่ นทีไ่ ด้ ซึง่ การยิงท�าลายใช้เวลา เพียง ๒-๓ วินาที นอกจากนั้นยังสามารถใช้โจมตี เฮลิคอปเตอร์ที่ติดตั้งอาวุธโดยใช้เลเซอร์ยิงท�าลาย ตัวอาวุธเพื่อให้ระเบิดและท�าลายเฮลิคอปเตอร์เอง หรือใช้การยิงเลเซอร์ไปยังอุปกรณ์ของเฮลิคอปเตอร์ เพื่อท�าให้เสียการควบคุมและตกลงพื้นในที่สุด อาวุ ธ เลเซอร์ นั บ ว่ า เป็ น อาวุ ธ ยุ ค ใหม่ ที่ ก� า ลั ง เริ่ ม พั ฒ นาและใช้ ง านจริ ง แม้ ว ่ า ในช่ ว งแรกนี้
ขีดสมรรถนะต่าง ๆ อาจจะยังไม่เทียบเท่าอาวุธน�าวิถี หรือปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานในปัจจุบัน แต่เมื่อเทียบ ในเรื่องของต้นทุนค่าใช้จ่ายในการใช้งานหรือการยิง ในแต่ละครั้งแล้ว อาวุธเลเซอร์นั้นมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า หลายร้ อ ยเท่ า และอาจเป็ นเหตุ ผ ลที่ ท� า ให้ ห ลาย ประเทศหันมาพัฒนาอาวุธเลเซอร์ของตัวเองอย่าง จริ ง จั ง ในการพั ฒ นาอาวุ ธ เลเซอร์ ยั ง คงมี ไ ปอย่ า ง ต่ อ เนื่ อ งเพื่ อ ให้ ส ามารถรั บ มื อ กั บ ภั ย คุ ก คาม เช่ น อากาศยานไร้ ค นขั บ โดรน เฮลิ ค อปเตอร์ หรือแม้กระทั่งเครื่องบินรบ รวมทั้งการพัฒนาให้มี ระยะยิงทีไ่ กลขึน้ ส�าหรับการป้องกันทีไ่ กลขึน้ พลังงาน ของเลเซอร์ที่สูงขึ้นเพื่อให้สามารถยิงเป้าหมายแล้ว สามารถท�าลายได้ภายในเสีย้ ววินาที และอาจมีการพัฒนา อาวุธเลเซอร์ติดตั้งกับเครื่องบินรบ หรือ อากาศยาน ไร้คนขับเพื่อทดแทนอาวุธน�าวิถี หรือปืนใหญ่อากาศ ที่มีใช้งานในปัจจุบันก็เป็นได้
อ้างอิง - Chinese navy trials laser weapon, www.janes.com - Turkey to develop air defence laser system, www.janes.com - South Korea to develop laser-based anti-aircraft weapon,www.janes.com - Turkish laser weapon passes acceptance tests, www.janes.com - AUSA 2019: Lockheed Martin weighs options for achieving a 250-300 kW air-defence laser, www.janes.com - Dynetics to build 100 kW laser for US Army, www.janes.com - Iron Beam, https://missiledefenseadvocacy.org - AN/SEQ-3 (XN-1) Laser Weapon System (LAWS), https://www.globalsecurity.org
ข่าวทหารอากาศ
67
68
ASEAN Community Little Tidbits เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยประชาคมอาเซียน @Zilch
National Costume of Lao PDR ชุดประจ�าชาติของ สปป.ลาว
Sinh and Sarong
Laotian traditional costume for the women is Sinh. It is a traditional tube skirt made of silk. Sinh is a little bit similar to Thai or Cambodian Traditional skirt. It consists of 3 main parts: Hua Sinh, the waistband part; Phuen Sinh, the body of the skirt which is usually empty and does not have much decoration and; Tin Sinh, the lower border which contains golden threads decoration. When Laotian woman wears Sinh, on top, she will havea shawl with the same decoration crossing over her body.Loin cloth is the traditional costume for Laotian man.
ซิ่น และ โสร่ง
ชุดประจ�ำชำติของสำธำรณรัประชำธิปไตย ประชำชนลำว (สปป.ลำว) ส�ำหรับผู้หญิงคือ ซิ่นทอไหมทรงสอบ มีลักษณะคล้ำยผ้ำถุงของ ไทยและกัมพูชำ ซิ่นประกอบด้วย ๓ ส่วนหลัก ได้แก่ หัวซิน่ เป็นแถบผ้ำตรงเอว พืน้ ซิน่ เป็นส่วน หลักของผ้ำซิ่น มักเป็นสีเดียวกันทั้งหมดอำจมี ลวดลำยบ้ำงเพียงเล็กน้อยและตีนซิ่น เป็นส่วน ล่ำงสุดของซิ่นที่ตกแต่งด้วยดิ้นสีทอง สตรีลำว มักนุ่งซิ่นพร้อมกับสไบหรือผ้ำเบี่ยง ซึ่งมักมีสี หรือลวดลำยคล้ำยคลึงกับซิน่ ส่วนชุดประจ�ำชำติ ของสำธำรณรั ฐ ประชำธิ ป ไตยประชำชนลำว (สปป.ลำว) ส�ำหรับผู้ชำยคือ โจงกระเบน
ข้อมูลและรูปภาพ : http://www.golaos.tours/laotian-traditional-costumes/, https://th.wikipedia.org/wiki/ซิน่ รูปเพิ่มเติมจาก : http://vieweveryday.blogspot.com/2014/02/asean-traditional-dress.html
ข าวทหารอากาศ
69
สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) กระทรวงกลาโหม
Defence Technology Institute (Public Organisation) Ministry of Defence, The Kingdom of Thailand
รอบรู้เทคโนโลยีป้องกันประเทศ
แนวโน้มตลาดและการวิจยั พัฒนาเครือ่ งบินขับไล่ในภูมภ ิ าคเอเชีย จากสถานการณ์ท่าทีที่คุกคามของเกาหลีเหนือ และความขัดแย้งเรื่องหมู่เกาะ Spratly ระหว่างจีน และอีกหลาย ๆ ประเทศคูก่ รณีในภูมภิ าคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเทศต่าง ๆ ในภูมภิ าค เอเชียนี้ได้เริ่มด�าเนินการปรับปรุงเพิ่มพูนศักยภาพ ทางการทหารและมีการแข่งขันสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์ (Armed Race) ขึน้ อย่างเงียบ ๆ เพือ่ รองรับกับความ ไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดความขัดแย้งหรือถูกคุกคาม จากประเทศทีม่ ผี ลประโยชน์ขดั กัน ประเทศอย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวันที่ได้ริเริ่มโครงการพัฒนา เครือ่ งบินขับไล่ของตนเองมาเป็นเวลาหลายปีแล้วนัน้ ได้รบั การสนับสนุนจากชาติตะวันตกเสียเป็นส่วนใหญ่ และถึงแม้ว่าจะมีความพยายามผลักดันสร้างตลาด เครื่ อ งบิ น ขับไล่ในภูมิภาคเอเชีย เพื่อให้ ประเทศ พันธมิตรในภูมภิ าคเดียวกันสนับสนุนและจัดซือ้ จัดหา เครื่องบินขับไล่ที่ผลิตภายในภูมิภาคเอเชียมาใช้ ก็ยัง ไม่ประสบความส�าเร็จเท่าทีค่ วร เนือ่ งจากประเทศส่วนใหญ่ ในภูมิภาคเอเชียนั้นมีความคุ้นชินและมีความเชื่อถือ ต่อศักยภาพของเทคโนโลยีที่มาจากสหรัฐอเมริกา หรือประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปมากกว่า สิงคโปร์เป็นอีกประเทศหนึง่ ทีก่ า� ลังเปลีย่ นแปลง ในวาระครบรอบ ๕๐ ปีของกองทัพอากาศให้มี ความทันสมัยโดยการรับเข้าเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม อาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ ของกองทัพอากาศสิงคโปร์ ทัง้ นีก้ องทัพของสิงคโปร์กา� ลังปรับเปลีย่ นตนเองให้มี ศั ก ยภาพในการปฏิ บั ติ ก ารร่ ว มกั น เป็ น เครื อ ข่ า ย (Networked Fighting Force) และกองทัพอากาศ สิงคโปร์ก็เป็นส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้ กองทัพอากาศสิงคโปร์ได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ หลากหลายภารกิจ (หรือเรียกว่า เครือ่ งบินขับไล่โจมตี อเนกประสงค์) F-15SG Strike Eagle Multirole Fighters จ�านวน ๔๐ เครื่อง จาก Boeing (สิงคโปร์ จัดหาเฮลิคอปเตอร์ AH-64D Apache ติดอาวุธจาก
Boeing ด้วยเช่นกัน) นอกจากนี้สิงคโปร์ยังจัดหา เครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 52/52+ Fighting Falcons จาก Lockheed Martin อีกด้วย นอกจากกองทัพอากาศสิงคโปร์แล้วก็ยังมี ประเทศอืน่ ๆ ทีพ่ ยายามพัฒนาตนเอง โดยเฉพาะประเทศ ทีม่ สี ว่ นร่วมในกรณีพพิ าทกับจีนในพืน้ ทีอ่ นิ โด-แปซิฟกิ ก็ มี ค วามต้ อ งการที่ จ ะพั ฒ นาศั ก ยภาพทั พ ฟ้ า ของ ตนเองด้วย โดยเฉพาะอย่างยิง่ การเพิม่ จ�านวนเครือ่ งบิน ขับไล่สา� หรับปฏิบตั ภิ ารกิจทางทะเล (เครือ่ งบินโจมตี ทางทะเล: Maritime Strike Fighters)
70
ยกตัวอย่างประเทศจีนที่เร่งระดมสรรพก�าลัง ทางการปกป้องพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งโดยจีน ได้ผลิตและใช้งานเครือ่ งบินขับไล่ J-6 และ J-7 ซึง่ เป็น เครือ่ งบินทีไ่ ด้รบั การคัดลอกแบบพัฒนามาจากเครือ่ งบิน ขับไล่ MiG-19 และ MiG-21 ของรัสเซีย ในส่วนของ เครือ่ งบินขับไล่ซงึ่ ขึน้ บินจากเรือบรรทุกเครือ่ งบินนัน้ จีนก็ครอบครอง J-15 Flying Shark ซึ่งผ่านการติดตั้ง และท�าการยิงทดสอบ YJ-83 Anti-ship Cruise Missile มาแล้ว ด้วยศักยภาพทางเทคโนโลยี ด้านเครื่องบินขับไล่ของจีนในขณะนี้ซึ่งสามารถผลิต เพือ่ ใช้งานได้เองท�าให้จนี ได้เปรียบประเทศอืน่ ๆ ในภูมภิ าค เดี ย วกั น ที่ ยั ง ต้ อ งพึ่ ง พายุ ท โธปกรณ์ ต ่ า งชาติ จ าก ประเทศมหาอ�านาจตะวันตกทีม่ รี ะดับความก้าวหน้า ทางเทคโนโลยีที่สูงกว่า
เครื่องบินขับไล่ J-6
ในงาน Airshow China 2019 ทีจ่ ดั ขึน้ ระหว่าง ๑๒-๑๔ ก.ค.๖๒ ประเทศจีนแสดงให้โลกได้เห็นว่า จีนมีความก้าวหน้าและศักยภาพด้านเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมการผลิตเครือ่ งบินจนสามารถไล่ตาม ประเทศมหาอ�านาจตะวันตกได้อย่างสูสี เครื่องบิน ที่ถูกน�ามาแสดงในงานดังกล่าว เช่น เครื่องบินขับไล่ J-20 (Multi-role) เป็นเครื่องบิน 5th Generation แบบที่นั่งเดียว สองเครื่องยนต์มีคุณสมบัติล่องหน Stealth เรดาร์ตรวจจับยาก และระบบเรดาร์เป็นแบบ Active Electronically Scanned Array (AESA) ตรวจจับได้ไกล จับเป้าหมายหลายวัตถุพร้อม ๆ กัน และถูกแจมสัญญาณได้ยาก ทั้งนี้ ปัจจุบันมีจ�านวน เครื่องไม่มาก เนื่องจากเพิ่งเริ่มเปิดตัวต่อสาธารณชน เมือ่ ก.ค.๖๐ และในการแสดงบินโชว์ในงานก็มกี ารบิน เพียง ๔ เครื่อง เครื่องบินขับไล่ J-10B (Multi-role) เป็นเครือ่ งบินขับไล่ทนี่ า่ สนใจอีกแบบโดยเป็นเครือ่ งบิน แบบทีน่ งั่ เดียว เครือ่ งยนต์เดียว คุณสมบัตเิ ด่นคือ 3D Thrust-Vectoring Control (TVC) ในการปรับบังคับทิศทางของไอพ่นที่ nozzle เพือ่ ควบคุมท่าทาง การบินได้อย่างคล่องแคล่ว ก็ถูกน�ามาปรากฏตัว ต่อสาธารณชนครัง้ แรก บินโชว์ในวันที่ ๖ พ.ย.๖๒ ซึง่ เป็น วันเปิดงาน เพื่อยืนยันว่า จีนประสบความส�าเร็จ ในเทคโนโลยีนี้แล้ว
เครื่องบินขับไล่ J-20
เครื่องบินขับไล่ J-7
เครื่องบินขับไล่ J-10B
ข าวทหารอากาศ
71
ทำงด้ำนเศรษฐกิจ เนือ่ งจำกงบประมำณทีน่ อ้ ยอยูแ่ ล้ว ของเหล่ำทัพของประเทศต่ำง ๆ ได้รบั ลดทอนลงอย่ำงมำก ซึง่ ย้อนแย้งกับควำมจ�ำเป็นทีต่ อ้ งวิจยั พัฒนำและรับเอำ เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ำมำประจ�ำกำร (ตัวอย่ำงเช่น ญีป่ นุ่ มีโครงกำรวิจยั พัฒนำเครือ่ งบินขับไล่ F-3 ซึง่ วำงแผน ไว้วำ่ จะผลิตและเริม่ เข้ำประจ�ำกำรได้ในช่วงต้นทศวรรษ เครื่องบินล�ำเลียง Y-20 2030s แต่จำกรำยงำนเมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๐ ระบุว่ำมี กำรตัดสินใจในปี พ.ศ.๒๕๖๓ อีกครัง้ ว่ำจะเดินหน้ำต่อ หรือล้มเลิกโครงกำรแล้วไปจัดหำเครือ่ งบินขับไล่ F-35 โดยให้อุตสำหกรรมภำยในประเทศได้มีส่วนร่วม ในกำรผลิต) อีกปัญหำหนึง่ ทีเ่ ห็นได้ชดั คือปัญหำเรือ่ ง ช่องว่ำงทำงเทคโนโลยี (Technology Gap) ในปัจจุบนั เหล่ำประเทศทีพ่ ยำยำมพัฒนำเทคโนโลยีของตนยังต้อง เครื่องบินทะเล AG600 พึง่ พำกำรถ่ำยทอดเทคโนโลยีจำกประเทศทีพ่ ฒ ั นำไป ก่อนหน้ำแล้วอย่ำงหลีกเลี่ยงไม่ได้ หำกไม่ได้รับกำร ในส่วนของเครื่องบินล�ำเลียงจีนได้ผลิต ถ่ำยทอดเทคโนโลยีที่เหมำะสมและเพียงพอกำรจะ เครื่องบินล�ำเลียง Y-20 ที่มีรูปร่ำงคล้ำยเครื่องบิน ก้ำวกระโดดไปพัฒนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ก็จะประสบ ล�ำเลียง C-17 ของสหรัฐอเมริกำ แต่มีขนำดเล็กกว่ำ ปัญหำโครงกำรวิจัยและพัฒนำมีควำมล่ำช้ำ เล็กน้อย คือมีนำ�้ หนักบรรทุก ๖๖ ตัน เทียบกับ ๗๗ ตัน ของ C-17 ปัจจุบัน ยังมีจ�ำนวนเครื่องไม่มำกนัก เนื่องจำกเพิ่งเริ่มเข้ำประจ�ำกำรเมื่อปี ๕๙ ทั้งนี้ จีนหวังว่ำ Y-20 จะช่วยเสริมขีดควำมสำมำรถ เชิงยุทธศำสตร์ ด้วยกำรขนส่งระยะไกลนอกจำกนี้ เครือ่ งบินทะเลทีข่ นำดใหญ่ทสี่ ดุ ในโลก ซึง่ เป็นของจีน เช่นกัน คือ เครื่องบินทะเล AG600 ซึ่งใช้ช่วยเหลือ กูภ้ ยั และส�ำรวจทรัพยำกรทำงทะเล ดับไฟป่ำ สำมำรถ บรรทุกได้ ๑๒ ตัน หรือก�ำลังพล ๕๐ คน โดยเริ่ม เที่ยวบินครั้งแรกเมื่อ ๒๐ ต.ค.๖๑ ที่ผ่ำนมำ เครื่องบินขับไล่ส�ำหรับกำรฝึก T-50 กำรแข่ ง ขั น ในกำรพั ฒ นำเทคโนโลยี แ ละ อุตสำหกรรมป้องกันประเทศในภูมิภำคเอเชียเริ่มมี ควำมเข้มข้นขึ้นเป็นล�ำดับ แม้ว่ำญี่ปุ่นและเกำหลีใต้ จะยังประสบปัญหำในกำรหำตลำดส่งออกเครือ่ งบินรบ ที่ท้ังสองประเทศผลิตขึ้นเอง แต่ควำมพยำยำม และควำมส�ำเร็จเล็กน้อยทีป่ ระกอบรวมกันเป็นรูปเป็นร่ำง ก็มีให้เห็นอยู่ (ดังเช่น เครื่องบินขับไล่ F-2 ของญี่ปุ่น Ching-kuoLight Fighter ของไต้หวัน และ T-50 FA-50 ของเกำหลีใต้ เป็นต้น) ปัญหำที่ประเทศ ในภูมิภำคเอเชียประสบอยู่ซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อควำม พยำยำมในกำรวิจยั และพัฒนำเครือ่ งบินขับไล่ขนึ้ ใช้เอง เครื่องบินขับไล่ส�ำหรับกำรฝึก FA-50 และจ�ำหน่ำยในภูมภิ ำคนัน้ สืบเนือ่ งมำจำกปัญหำหลัก
72
ประเทศที่ประจ�ำกำร T-50/FA-50
T-50 (จ�ำนวนเครื่อง)
FA-50 (จ�ำนวนเครื่อง)
เกาหลีใต้
๑๒
๘๐
อินโดนีเซีย
๑๖
-
อิรัก
-
๒๔
ฟิลิปปินส์
-
๑๒ (สั่งซื้อเพิ่มอีก ๑๒)
ไทย
๔ (สั่งซื้อเพิ่มอีก ๘)
-
นอกเหนือจากความล่าช้าในการวิจัยและ พัฒนา แนวโน้มความต้องการเครือ่ งบินขับไล่ให้ตรงตาม ลักษณะงานที่จะใช้เมื่อเข้าประจ�าการ และคุณภาพ บวกความน่าเชือ่ ถือในสินค้าเครือ่ งบินขับไล่ทผี่ ลิตโดย KAI (Korea Aerospace Industries) ท�าให้ประเทศ ทีเ่ ป็นลูกค้าเครือ่ งบินขับไล่สา� หรับการฝึกอย่าง T-50/ FA-50 ยังคงมีเพียงประเทศไทย อินโดนีเซีย อิรกั และ ฟิลิปปินส์ ที่ได้รับการส่งมอบ T-50 มาเป็นจ�านวน หนึง่ แล้ว ส่วนประเทศอืน่ ๆ ทีม่ คี วามเป็นไปได้วา่ จะเป็น ลูกค้าในอนาคตของ KAI ได้แก่ สเปน อาร์เจนติน่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวียดนาม ไต้หวัน ปากีสถาน โคลัมเบีย อาเซอร์ไบจาน บรูไน และเปรู การวิจัยร่วมกันระหว่างประเทศในภูมิภาค เอเชียก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่อาจท�าให้โครงการสร้าง เครือ่ งบินขับไล่ของเอเชียประสบความส�าเร็จในขณะนี้ เกาหลีใต้นา� โดย KAI มีโครงการพัฒนาเครือ่ งบินขับไล่ หลากหลายภารกิจ KF-X ร่วมกับบริษัทของรัฐบาล อินโดนีเซีย (PT Dirgantara Indonesia) แต่โครงการ
ก็มีความล่าช้าเพราะประสบปัญหาหลายประการ ซึ่งหนึ่งในปัญหาก็คือการไม่สามารถจ่ายเงินงวดงาน ในการด�าเนินโครงการได้ตามก�าหนดเวลาของทาง ฝ่ายอินโดนีเซีย ทัง้ นี้ นักการเมืองเกาหลีใต้ได้เปิดเผยเมือ่ พ.ย.๒๕๖๐ ว่าในเดือนก่อนหน้านัน้ อินโดนีเซียค้างจ่าย เป็นจ�านวนเงิน ๑๒๔.๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อ ไม่นานมานี้เจ้าหน้าที่ทหารอินโดนีเซียเปิดเผยต่อสื่อ ภายในประเทศว่ายังคงค้างจ่ายเงินโครงการพัฒนา เครือ่ งบินขับไล่ KF-X อยูอ่ กี ๑๔๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามอินโดนีเซียยังมีความกระตือรือร้นที่จะ เดินหน้าโครงการวิจยั พัฒนาเครือ่ งบินขับไล่ KF-X ต่อไป ถึงแม้ว่าขอบข่ายงานที่เข้าร่วมกับ KAI ของเกาหลีใต้ อาจจะต้องถูกลดขนาดลงในขณะเดียวกันอินโดนีเซีย ก็ได้ดา� เนินการสืบค้นข้อมูลราคาส�าหรับการจัดหา F-16 (จาก Lockheed Martin)และ Eurofighter Typhoon เพื่อหาโอกาสและความเป็นไปได้ในการจัดหาตัวเลือกใด ตัวเลือกหนึ่งเพื่อน�าเข้าประจ�าการในกองทัพอากาศ อินโดนีเซีย
ข่าวทหารอากาศ
73
F-35
ความไม่พร้อมในการผลิตเครื่องบินขับไล่ เพื่อขายให้แก่ลูกค้าภายในภูมิภาคเอเชียของ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ท�าให้รองประธานอาวุโสของ สถาบัน Lexington นาย Daniel Goure ได้ให้ความเห็นว่า เครื่องบินขับไล่ F-35 จะช่วยสร้างสถาปัตยกรรม ด้านความมัน่ คงทางทหารให้กบั ประเทศในภูมภิ าคเอเชีย แปซิฟกิ ได้ดกี ว่า ความพยายามทีจ่ ะท�าการวิจยั พัฒนา ขึ้ น เองหรื อ อุ ด หนุ น สิ น ค้ า เครื่ อ งบิ น ขั บ ไล่ ภ ายใน ภูมิภาค ทั้งนี้เขาให้เหตุผลว่าเครื่องบินขับไล่ F-35 สามารถติดตัง้ ได้ทงั้ ขีปนาวุธความเร็วสูงหรืออาวุธน�าวิถี ด้วยเลเซอร์ การน�าเครือ่ งบินขับไล่ F-35 เข้าประจ�าการ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะช่วยให้เกิดความทันสมัย ก้ า วทั น เทคโนโลยี เ ครื่ อ งบิ น ขั บ ไล่ ยุ ค ใหม่ ทั้ ง นี้ ออสเตรเลีย ญีป่ นุ่ และเกาหลีใต้ได้ประกาศแผนทีจ่ ะ ท�าการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A เป็นจ�านวน ๑๐๐, ๔๒ และ ๔๐ เครื่อง ตามล�าดับ เพื่อเข้าประจ�าการ ในเหล่าทัพของตน นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่า ภายในระยะ ๑๐ ปีข้างหน้า สิงคโปร์ก็จะเข้าร่วมเป็น ประเทศที่น�าเครื่องบินขับไล่ F-35 เข้าประจ�าการใน กองทัพอากาศของตน
จากการแสดงแสนยานุภาพทางอากาศในงาน Singapore Airshow 2019 และการวิเคราะห์ขา้ งต้น ของนาย Daniel Goure ท�าให้เห็นข้อมูลทางสถิติว่า เอเชียมีสัดส่วนเป็นตลาดส่งออกให้กับบริษัทผู้ผลิต เครื่องบินรบถึงร้อยละ ๒๔ ของปริมาณการส่งออก ทั่วโลกและตลาดการส่งออกเครื่องบินรบในเอเชียมี ขนาดใหญ่ เ ป็ น อั น ดั บ สองรองจากกลุ ่ ม ประเทศ ตะวันออกกลาง ในระยะเวลา ๑๐ ปีทผี่ า่ นมา เครือ่ งบิน ขับไล่โจมตีอเนกประสงค์จากกลุ่มประเทศตะวันตก จ�านวน ๑๒๘ เครื่อง มูลค่า ๙,๒๐๐ ล้านดอลลาร์ สหรัฐได้ถกู ส่งออกขายให้กบั ประเทศในภูมภิ าคเอเชีย และออสเตรเลีย ในขณะที่สินค้าเครื่องบินรบจากจีน และรัสเซียมีพื้นที่ส่วนแบ่งการตลาดน้อยมาก ในภูมิภาคเดียวกันและทั่วโลก (เครื่องบินรบของจีน ซึ่งคัดลอกแบบและพัฒนาต่อมาจากเทคโนโลยีของ รัสเซียยังมีจา� นวนลูกค้าอยูน่ อ้ ยแต่กม็ ตี วั อย่างอยูบ่ า้ ง เช่น การส่งออก FTC-2000 Mountain Eagle ซึง่ เป็น เครื่องบินฝึกและโจมตีท่ีพัฒนาและผลิตโดยบริษัท Guizhou Aircraft Industry Corporation: GAIC ให้แก่ซดู าน การเจรจาซือ้ ขาย J-31 Stealth Fighter
74
ให้กับปากีสถาน การตกลงใจของจีนที่จะส่งออก เครื่องบินขับไล่โจมตีอเนกประสงค์ J-10 จ�านวน ๑๕๐ เครื่องให้กับอิหร่าน เป็นต้น) หากกล่าวโดยสรุปจะเห็นได้ว่าแนวโน้มตลาด เครือ่ งบินขับไล่ในภูมภิ าคเอเชียยังคงมีความต้องการ ทีจ่ ะซือ้ สินค้าจากสหรัฐอเมริกาหรือกลุม่ สหภาพยุโรป มากกว่าการจัดหาจากประเทศที่วิจัยพัฒนาขึ้นเอง ภายในภูมภิ าคเดียวกัน โดยมีปจั จัยหลายอย่างทีบ่ งั คับ ให้เป็นเช่นนั้น ได้แก่ ๑) การวิจัยและพัฒนาขึ้นเองต้องใช้เวลา ยาวนานและงบประมาณที่สูงมาก ๒) ช่องว่างทางเทคโนโลยี (Technology Gap) ที่มีอยู่ท�าให้แม้แต่ประเทศที่ต้องการวิจัยและ พั ฒ นาเครื่ อ งบิ น ขั บ ไล่ ข้ึ น ใช้ เ องอย่ า งญี่ ปุ ่ น และ เกาหลีใต้ยังจ�าเป็นต้องสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 มาเข้าประจ�าการ ๓) ประเทศส่วนมากในภูมิภาคเอเชียยังคง ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีเก่าที่เคยจัดหาจากประเทศ ตะวันตกอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่งเนื่องจากแรงกดดัน ของงบประมาณทีจ่ า� กัดซึง่ บีบบังคับให้ยงั คงต้องรีดเร้น จ�านวนชั่วโมงบินจากเครื่องบินขับไล่ที่มีอยู่ให้ได้มาก ที่สุดเสียก่อนที่จะท�าการจัดหาใหม่อีกครั้ง ๔) มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ทางสหรัฐ อเมริกาจะใช้นโยบายคว�า่ บาตร (Sanctions) ต่อประเทศ ทีเ่ คยเป็นลูกค้าเทคโนโลยียทุ โธปกรณ์จากสหรัฐหาก ประเทศในภูมิภาคเอเชียจะจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ จากจีนหรือรัสเซีย (ประเทศที่ได้รับค�าขู่จากสหรัฐ อเมริกา ได้แก่ อินโดนีเซีย อินเดีย และเวียดนาม)
อ้างอิง
1. 2. 3. 4. 5. 6.
F-22
F-35A
Gripen Stealth FS-2020
http://www.janes.com Asian Fighter Review, http://www.defensenews.com http://www.militaryfactory.com https://jakartaglobe.id/business/defense-ministry-wants-sukhoi-fighter-jets-despite-us-sanctions-risk/ https://foxtrotalpha.jalopnik.com/pakistan-looking-to-buy-chinas-j-31-stealth-fighter-1662152055 https://thediplomat.com/2015/08/will-iran-order-150-new-fighter-jets-from-china/
เทคนิคในการขับรถ ผ่านหมอกควัน
ข าวทหารอากาศ
75
ในช่วงนี้หลายพื้นที่คงได้รับผลกระทบจากหมอกควันไม่มากก็น้อย ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าไม่มีการใส่หน้ากากป้องกัน ก็สามารถส่งผลทางตรงกับระบบ ทางเดินหายใจได้มากเลยทีเดียว นอกจากจะส่งผลกระทบกับทางร่างกายแล้ว ยังจะท�าให้ทัศนวิสัยในการขับขี่บนท้องถนนแย่ลงอีกด้วย ส�านักงานนิรภัย ทหารอากาศ ขอแนะน�าวิธีขับขี่ผ่านหมอกควันอย่างปลอดภัย ดังนี้ ๑. ไม่ควรขับขี่รถด้วยความเร็ว เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี เท่าที่ควร อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถคันอื่น ๆ ได้ ๒. เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า ในการขับขี่ควรเว้นระยะให้ห่างจาก รถคันหน้าประมาณไม่นอ้ ยกว่า ๓ - ๔ ช่วงคันรถ แต่ทงั้ นีท้ งั้ นัน้ ก็ขนึ้ อยูก่ บั ความหนาแน่น ของหมอกควันด้วย ๓. ไม่ใช้ไฟฉุกเฉิน และงดใช้ไฟสูง ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฉุกเฉิน ในทุกกรณี ถ้าหากไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นข้างหน้า เพราะอาจท�าให้รถคันอื่น ๆ สับสนได้ ๔. ไม่ควรเปลีย่ นเลนกระทันหัน ก่อนทีเ่ ราจะเปลีย่ นเลน ควรเปิดไฟเลีย้ ว เพือ่ ส่งสัญญานบอกรถคันหลังก่อนล่วงหน้าประมาณ ไม่ตา�่ กว่า ๕๐ - ๑๐๐ เมตร เพื่อให้รถคันหลังชะลอความเร็ว ด้วยความปรารถนาดี จากส�านักงานนิรภัยทหารอากาศ
“วินัย”
เป็นหลักส�ำคัญที่สุดส�ำหรับทหาร ก�ำลังพลกองทัพอากาศ พึงละเว้นการกระท�ำผิดวินัยทหาร ๙ ข้อ (พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๖) ดื้อ ขัดขืน หลีกเลี่ยง หรือละเลย ไม่ปฏิบัติตามค�ำสั่ง ผู้บังคับบัญชาเหนือตน
กล่าวค�ำเท็จ
ไม่รักษาระเบียบ การเคารพระหว่าง ผู้ใหญ่ผู้น้อย
ใช้กิริยาวาจาไม่สมควร หรือประพฤติไม่สมควร
ไม่รักษามารยาทให้ถูกต้อง ตามแบบธรรมเนียม ของทหาร
ก่อให้แตกความสามัคคี ในคณะทหาร
ไม่ตักเตือน สั่งสอน หรือลงทัณฑ์ ผู้ใต้บังคับบัญชา ที่กระท�ำผิด ตามโทษานุโทษ เสพเครื่องดองของเมา จนถึงเสียกิริยา
เกียจคร้าน ละทิ้ง หรือเลินเล่อ ต่อหน้าที่ราชการ
กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ
ข าวทหารอากาศ
วิเคราะห์ก�าลังอ�านาจแห่งชาติ ราชอาณาจักรกัมพูชา
77
น.ต.ส�ำเภำ โพธิ์แก้ว
สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงและซับซ้อน มากขึ้นส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของโลกทั้งด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และการทหาร ท�าให้เกิดการช่วงชิง อิทธิพล และแสวงหาผลประโยชน์ให้ได้มาซึง่ ความมัน่ คง และพลังอ�านาจแห่งชาติ โดยเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ประเทศที่มีพลังอ�านาจมากกว่าย่อมมีอิทธิพลเหนือ ประเทศทีม่ พี ลังอ�านาจน้อยกว่า และสามารถบีบบังคับ ประเทศทีม่ พี ลังอ�านาจน้อยกว่าให้ปฏิบตั ติ ามในสิง่ ทีต่ น ต้องการได้ ด้วยเหตุนี้ราชอาณาจักรกัมพูชาซึ่งถูกจัด อยู่ในกลุ่มประเทศด้อยพัฒนาที่มีความยากจนมาก ประเทศหนึง่ ได้พยายามทุกวิถที างเพือ่ รักษาผลประโยชน์ และเสริมสร้างพลังอ�านาจแห่งชาติของตนให้เข้มแข็ง อยูเ่ สมอ โดยเฉพาะอย่างยิง่ การเสริมสร้างก�าลังกองทัพ ให้มีแสนยานุภาพเข้มแข็งเหนือกว่าประเทศคู่แข่ง หรือประเทศที่อาจเป็นศัตรูของตนได้ในอนาคต (Potential Enemy) หรือเป็นฝ่ายที่มีผลประโยชน์ แห่งชาติขัดกัน
นอกจากการเสริมสร้างก�าลังกองทัพหรือ ก�าลังทหาร (Military) กัมพูชายังให้ความสนใจ ในเรื่องอื่น ๆ อีกด้วย อาทิ การเสริมสร้างฐานะ ทางเศรษฐกิจ (Economy) การเมือง (Politics) สังคม จิตวิทยา (Social) โครงสร้างพืน้ ฐาน (Infrastructure) และด้านข้อมูลข่าวสาร (Information) หรือเราเรียกว่า PMESII ชึง่ เป็นองค์ประกอบทีส่ า� คัญในการรับประกัน ความมั่นคงแห่งชาติให้อยู่รอดปลอดภัย และให้ ประชาชนมีความผาสุก ทั้งนี้กัมพูชาเป็นประเทศ เพื่อนบ้านที่ต้องให้ความส�าคัญในการวิเคราะห์ก�าลัง อ�านาจแห่งชาติในทุกด้าน เนือ่ งจากการเปลีย่ นแปลง ของกัมพูชาอาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยทัง้ ทางตรง และทางอ้อม จากการเป็นประเทศทีม่ พี รมแดนติดกัน โดยสามารถวิเคราะห์ PMESII ของกัมพูชา ดังนี้ด้าน การเมือง (Political: P) เมื่อ วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๑ กัมพูชาจัดการเลือกตั้งทั่วไปสมัยที่ ๖ เพื่อเลือกสมาชิกสภาแห่งชาติ (ส.ส.) จ�านวน ๑๒๕ ที่นั่ง
78
ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian People’s Party: CPP) ของสมเด็จฯ ฮุน เซน ได้ทั้งหมด ๑๒๕ ที่นั่ง ทําให้กัมพูชาเข้าสู่ยุค การปกครองโดยพรรคการเมืองพรรคเดียว สําหรับ นโยบายการบริหารประเทศ มีเป้าหมายในการนําพา ประเทศให้หลุดพ้นจากสถานะประเทศด้อยพัฒนา ภายในปี ๒๕๖๓ เพื่อให้กัมพูชาก้าวไปสู่การพัฒนา และความเจริ ญ ก้าวหน้าที่มั่นคง รัฐบาลยัง คงใช้ นโยบายประชานิยม ส่งเสริมหลักธรรมาธิบาล รักษา ความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ปราบปรามการทุจริต พัฒนากองทัพให้ทันสมัย
และลดอัตราความยากจน อย่างไรก็ตาม ปรากฏความ เคลื่ อ นไหวของนายสม รั ง สี อดี ต หั ว หน้ า พรรค สงเคราะห์ชาติ (Cambodia National Rescue Party: CNRP) ซึ่งถูกยุบพรรคและลี้ภัยทางการเมือง อยู่ที่ฝรั่งเศสวิจารณ์การเลือกตั้งว่าเป็นความถดถอย ของประชาธิปไตย และกระตุน้ ให้ชาวกัมพูชาประท้วง ต่อต้านผลการเลือกตั้ง รวมถึงเรียกร้องให้ประชาคม ระหว่างประเทศปฏิเสธผลเลือกตั้ง ส่งผลให้สหภาพ ยุโรป (EU) และสหรัฐฯ ออกมาตรการควํ่าบาตร และออกคําสัง่ ห้าม เจ้าหน้าทีท่ รี่ ะดับสูงของรัฐบาลกัมพูชา เดินทางเข้าสหรัฐฯ เพือ่ กดดันรัฐบาลสมเด็จฯ ฮุน เซน
ข าวทหารอากาศ
ด้านการทหาร (Military: M) กองทัพแห่งชาติ กัมพูชากําหนดแผนปฏิบตั กิ ารด้านการทหารระยะ ๕ ปี (ปี ๒๕๕๖ - ๒๕๖๑) ด้วยการเสริมสร้าง และยกระดับ ภารกิจงานป้องกันประเทศ โดยเฉพาะบริเวณพรมแดน กัมพูชา - ไทย และ กัมพูชา - ลาว ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง มีการเตรียมกําลังหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ให้พร้อมปฏิบตั กิ าร โดยสมทบกับกําลังจากหน่วยต่าง ๆ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดแนว ชายแดนและภายในประเทศ สกัดกัน้ และปราบปราม การกระทําผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ส่งเสริมกําลังพล ให้เข้าร่วมการฝึกกับมิตรประเทศ ทีใ่ ห้ความช่วยเหลือ ทางทหาร เพื่อให้มีทักษะ ความรู้ และความชํานาญ เป็นกําลังพลรุน่ ใหม่ทมี่ คี ณ ุ ภาพ ตลอดจนการซ่อมบํารุง ยุ ท โธปกรณ์ ใ ห้ อ ยู ่ ใ นสภาพที่ พ ร้ อ มปฏิ บั ติ ง าน นอกจากนี้ กองทั พ แห่ ง ชาติ กั ม พู ช า ดํ า เนิ น การ ปรับปรุงโครงสร้างกองทัพและปรับลดกําลังพล ตามเงือ่ นไขของกลุม่ ประเทศผูใ้ ห้ความช่วยเหลือ และ ธนาคารโลก (World Bank) รวมทั้งเพิ่มขีดความ สามารถด้านยุทโธปกรณ์ และทรัพยากรบุคคล โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศเพื่อนบ้าน และมิตรประเทศมากขึน้ โดยเฉพาะความช่วยเหลือจาก
79
เวียดนาม จีน สหรัฐฯ รัฐเซีย และเกาหลีใต้ ที่ขยาย อิทธิพลเข้ามาในภูมิภาค ส่งผลให้กองทัพแห่งชาติ กัมพูชาสามารถแสวงประโยชน์ จากประเทศมหาอํานาจ ทําให้มียุทโธปกรณ์เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้จากสถานการณ์ ความขัดแย้งกับลาว กองทัพแห่งชาติกมั พูชาได้จดั ตัง้ พล.น้อย ร.๑๒๘ ตัง้ อยูท่ ี่ จังหวัดสตึงเตรง เพือ่ แก้ไขปัญหา กรณีเกิดข้อพิพาทกับลาวในอนาคต ส่วน ทอ.กัมพูชา ได้จัดส่งกําลังพลเข้ารับศึกษาหลักสูตรการบินที่จีน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการจัดหา บ.รบ เข้าประจําการในอนาคต
80
ด้านเศรษฐกิจ (Economic: E) กัมพูชากําหนด เป้าหมายที่จะนําพาประเทศให้หลุดพ้นจากสถานะ ประเทศด้อยพัฒนาภายในปี ๒๕๖๓ เพื่อให้กัมพูชา ก้าวไปสู่การพัฒนา และความเจริญก้าวหน้าที่มั่นคง และยั่งยืน โดยเป้าหมาย สําคัญคือเพิ่มสัดส่วนของ ภาคอุตสาหกรรมใน GDP ให้ได้ร้อยละ ๓๐ ภายในปี ๒๕๖๘ ปรับโครงสร้างการส่งออกให้มคี วามหลากหลาย มากขึน้ เพิม่ สัดส่วนการส่งออกสินค้าอืน่ นอกเหนือจาก เครือ่ งนุง่ ห่ม และสิง่ ทอ ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่ อ ให้ เ ป็ น ประเทศที่ มี ร ายได้ ป านกลางภายในปี ๒๕๗๓ ทั้งนี้ ในปี ๒๕๖๑ กัมพูชามี GDP จํานวน ๒๒.๒๕ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี ๒๕๖๒ คาดว่า อยู่ที่ ๒๔.๓๐ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีอัตรา
การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ ๖.๗๖ ลดลงจากปี ๒๕๖๐ ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ ๖.๙๔ เนื่องจาก ภาวะผันผวนของเศรษฐกิจโลก และผลกระทบจากการ ควํ่าบาตรทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (EU) และ สหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจกัมพูชายังคงได้รับ ความช่วยเหลือจากจีนในทุกด้าน ในส่วนของการ ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) ในปี ๒๕๖๒ (ต.ค.-มี.ค.๖๒) มีมูลค่าประมาณ ๑,๓๒๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ ๔๔,๒๓๓ ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ ๑๔ จากปี ๒๕๖๑ จํานวน ๑,๑๖๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยลงทุนในด้านการธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ การประกอบผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ข่าวทหารอากาศ
ด้านสังคม (Social: S) กัมพูชาเป็นประเทศ ขนาดเล็ก และถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา ประชากรร้อยละ ๗๕ มีฐานะยากจน รัฐบาลกัมพูชา จึงให้ความสําคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศ เพื่ อ มุ ่ ง ขจั ด ความยากจนยกระดั บ คุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทให้ดีขึ้น ปัจจุบันกัมพูชา ดําเนินการตามยุทธศาสตร์ลดความยากจนแห่งชาติ (National Poverty Reduction Strategy: NPRS) เพื่อให้กัมพูชาก้าวไปสู่การพัฒนา และความเจริญ
81
ก้าวหน้าที่มั่นคงและยั่งยืน ในส่วนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเขตแดนยังคงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต่อความรู้สึกของสังคมกัมพูชา ประกอบกับรัฐบาล ควบคุมสือ่ ทุกช่องทางให้ประชาชนรับข้อมูลด้านเดียว ซึ่งจะง่ายต่อการปกครอง และปลุกกระแสชาตินิยม กรณีเกิดปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคงภายใน และภายนอกประเทศ ทั้งนี้ ประชากรกัมพูชามีอัตราการรู้ หนังสืออยูใ่ นระดับปานกลางร้อยละ ๘๐.๕ มีประชากร ในวัยแรงงานรูห้ นังสือน้อยทีส่ ดุ ในอาเซียน อยูท่ รี่ อ้ ยละ ๗๙.๙
82
ด้านข้อมูลข่าวสาร (Information: I) กัมพูชา กํ า ลั ง อยู ่ ร ะหว่ า งการออกกฎหมายโทรคมนาคม กฎหมายอาชญากรรมไซเบอร์ กฎหมายพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ โดยการร่างกฎหมายยังอยู่ในขั้นตอน พิจารณา ส่วนนโยบายในอนาคตหลังจากที่สามารถ ผ่านกฎหมายได้แล้ว กัมพูชาจะจัดตั้งคณะกรรมการ ระดับชาติขึ้นมารับผิดชอบ และมีกฎหมายบังคับใช้ โดยตรง ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชาได้มีการประเมิน ภัยคุกคามด้านไซเบอร์ โดยเตรียมการป้องกันภัยคุกคาม ในระยะต่าง ๆ ได้แก่ ระยะสัน้ และปานกลาง โดยรัฐบาล กัมพูชาได้มอบหมายให้หน่วยงานทีร่ บั ผิดชอบ ทําหน้าที่ ในการตรวจสอบ รวบรวมข้อมูล และป้องกันการโจมตี ทางไซเบอร์ และในระยะยาวภายหลังจากการออก กฎหมายอาชญากรรม ไซเบอร์ และยกสถานะหน่วย ต่อต้านอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ “Cyber War Team” ให้อํานาจหน่วยงานของรัฐที่จะสืบสวน และใช้มาตรการต่าง ๆ ตามกฎหมาย เพื่อจัดการ การยัว่ ยุบนอินเทอร์เน็ต การดูหมิน่ การเหยียดเชือ้ ชาติ การดําเนินกิจกรรมทางสังคม รวมถึงการเฝ้าระวังและ การตอบโต้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจากสื่อสารมวลชน และโซเชียลมีเดีย
ด้านสาธารณูปโภคขัน้ พืน้ ฐาน (Infrastructure: I) กัมพูชากําหนดเป้าหมายทีจ่ ะนําพาประเทศให้หลุดพ้น จากสถานะประเทศด้อยพัฒนาภายในปี ๒๕๖๓ เพื่อให้กัมพูชาก้าวไปสู่การพัฒนา และความเจริญ ก้าวหน้าที่มั่นคงและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการขยาย ความร่วมมือทุกรูปแบบกับนานาประเทศทั้งใน และนอกภูมภิ าคอาเซียน จีนเป็นประเทศมหาอํานาจ ทีม่ กี ารลงทุน และความช่วยเหลือในทุกด้านต่อกัมพูชา ทัง้ ภาครัฐและเอกชน อาทิ โรงไฟฟ้าพลังนํา้ ทรัพยากร ธรรมชาติ การท่องเที่ยว เกษตรกรรม อุตสาหกรรม สิ่งทอ และโครงสร้างพื้นฐานที่สําคัญ เช่น สนามบิน ท่าเรือนํ้าลึก ถนน สะพาน รถไฟความเร็วสูง เป็นต้น ซึ่งความช่วยเหลือ และการลงทุนจากจีนคิดเป็น ๑ ใน ๓ ของความช่วยเหลือทั้งหมดที่กัมพูชาได้รับ ในปี ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สําคัญ ต่อกัมพูชาในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ กัมพูชา ต้องพึง่ พาจีนในทุกมิตใิ นการพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐาน เพื่อความเจริญก้าวหน้าที่มั่นคงและยั่งยืน
ข าวทหารอากาศ
83
“วิ่งให้จบ แบบไม่เจ็บ” น.ท.หญิง จิรภิญญา แก้วก่า
การวิ่ง จัดเป็นกิจกรรมสุขภาพยอดฮิต ที่ก�าลัง เป็นที่นิยมของทุกเพศทุกวัยในยุคนี้ โดยเฉพาะผู้ที่มี ไลฟ์สไตล์สายสุขภาพ เพราะนอกจากจะท�าให้สขุ ภาพ ร่างกายแข็งแรง ดูดขี นึ้ แล้ว ยังท�าให้เรามีพนื้ ทีท่ างสังคม เพิ่มขึ้นอีกด้วย ช่วงนี้เข้าหน้าหนาวแล้ว อากาศดี ๆ แบบนี้ เป็นช่วงทีเ่ หล่าบรรดานักวิง่ ย่อมไม่พลาดทีจ่ ะ ออกมาร่วมกิจกรรม และแน่นอนว่า ในทุก ๆ สนาม ย่อมมีการบาดเจ็บ วันนีจ้ งึ มีเกร็ดความรูท้ างกายภาพบ�าบัด ทีอ่ ยากน�ามาแบ่งปัน ส�าหรับอาการบาดเจ็บทีพ่ บได้บอ่ ย ในนักวิ่ง ๑. อาการปวดเข่าด้านหน้า จากภาวะผิว ใต้สะบ้าอักเสบ (Patellofemoral Pain Syndrome) หรือ Runner’Knee สามารถเกิดได้กบั ทุกเพศ ทุกวัย และพบว่าเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ของผูร้ กั การวิง่ ทัง้ หลาย สาเหตุ สาเหตุที่พบได้บ่อย เกิดจากการก้าวยาว เกินไปขณะวิ่ง (Overstride) คือการวิ่งลงน�้าหนัก ที่ส้นเท้าเต็มที่ ในขณะที่เข่าตึง ซึ่งส่งผลให้เกิดแรง กระแทกโดยตรงมาที่เข่า เนื่องจากมุมของขาไม่เอื้อ ให้กล้ามเนือ้ ท�างาน เพือ่ ช่วยในการรับแรงกระแทกได้เลย วิธีป้องกันและรักษา - เพิ่มรอบก้าวขาให้เร็วขึ้นเพื่อให้การก้าว สั้นลง จากงานวิจัยพบว่า การเพิ่มรอบขาให้สูงขึ้น ๑๐% สามารถลดแรงกระแทกที่เข่าลงได้ถึง ๓๐% ทีเดียว
- ฝึกงอล�าตัวไปข้างหน้า ขณะที่แผ่นหลัง ยังตรง แน่นอนว่าการงอล�าตัวไปด้านหน้า จะท�าให้ การก้าวยาว ยากขึ้นโดยอัตโนมัติ วิธีนี้สามารถลด Overstride ส่งผลให้แรงกระแทกทีเ่ ข่าลดลงได้อย่าง ชัดเจน - บริหารกล้ามเนื้อหน้าขา (Quadriceps) และกล้ามเนื้อสะโพกด้านข้าง (Gluteus Medius)
84
๒. อาการปวดเข่าด้านนอก จากภาวะ ๓. อาการปวดบริเวณหน้าแข้ง (Shin Iliotibial Band Syndrome (ITBS) Splints)
สาเหตุ เกิดจากการเสียดสีของแถบ ITB กับกระดูก บริเวณเข่าด้านข้าง ตัว ITB เองนั้น ตัวมันเองไม่ใช่ กล้ามเนื้อ แต่เป็นแถบเอ็นกล้ามเนื้อต้นขาด้านนอก ทีม่ จี ดุ เกาะอยูร่ ะหว่างสะโพก และเข่า โดยมีจดุ เกาะปลาย อยู่ที่ปุ่มด้านนอก ของกระดูกข้อเข่า บ่อยครั้งที่นักวิ่งพบอาการเจ็บที่ระยะเดิมเสมอ เช่น เริม่ เจ็บในระยะ ๕ กม. ทุกครัง้ ปัจจัยเสริมอาการ ได้แก่ วิ่งลงเนิน วิ่งเป็นระยะเวลานาน หรือเมื่อก้าว ขายาว ๆ มักพบว่าท่าวิ่งที่มีผลต่อการบาดเจ็บ คือ ท่าวิง่ ไขว้ขา (Cross over) จึงมักพบในผูห้ ญิงมากกว่า เนื่องจากตัวสรีระของผู้หญิงเอง วิธีป้องกันและรักษา - ฝึกออกก�าลังเพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อ สะโพกด้านข้าง (Gluteus medius) - ฝึกปรับท่าวิ่ง ไม่วิ่งไขว้ขา เช่น ฝึกวิ่ง คร่อมเส้น - การใช้อุปกรณ์พยุง (IT Band Support)
สาเหตุ อาการปวดบริเวณหน้าแข้ง พบได้บ่อยใน นักวิ่งที่เริ่มวิ่ง วิ่งเพิ่มระยะทางหรือระยะเวลาอย่าง รวดเร็ว หรือกลับมาวิ่งอีกครั้งหลังจากหยุดไปเป็น ระยะเวลานาน เกิดจากการ อักเสบของกล้ามเนือ้ หน้าแข้ง Tibialis Anterior และ Tibialis Posterior ซึ่งอยู่ ติดกับกระดูกหน้าแข้ง (Tibia) หรือ บางครั้ง พบว่า อาจเกิดจากการอักเสบของตัวกระดูกเอง อาการปวด จะมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อฝืนวิ่งต่อไป หากปล่อยไว้อาจ น�าไปสู่ภาวะ กระดูกหน้าแข้งร้าว (Tibial Stress Fracture) ซึง่ เป็นผลมาจาก แรงเครียดของกล้ามเนือ้ ท�ากับกระดูกหน้าแข้งซ�้า ๆ ปัจจัยเสริม - เกิดจากการก้าวยาว (Overstride) การวิ่ง ที่สปริงตัวขึ้นลงมาก ๆ (Bouncing) ซึ่งส่งผลให้ แรงกระแทกจากพื้นด้านล่าง สะท้อนมาที่บริเวณ หน้าแข้งมากขึ้น - กล้ามเนื้อหน้าแข้ง และกล้ามเนื้อน่อง ไม่แข็งแรง หรือท�างานไม่สมดุลกัน - ภาวะเท้าแบน หรือการเลือกรองเท้าวิ่ง ที่ไม่เหมาะสม วิธีป้องกัน และรักษา - ฝึกวิ่งอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรเร่ง ความเร็ว หรือเพิ่มระยะทางอย่างรวดเร็วจนเกินไป - ฝึกยืดเหยียดและเพิ่มความแข็งแรง กล้ามเนื้อขาส่วนล่างอย่างสม�่าเสมอ - สวมใส่รองเท้าที่พอดี และเหมาะสม แก่การวิ่ง หากมีปัญหาเท้าแบน ควรพบผู้เชี่ยวชาญ เพือ่ เลือกอุปกรณ์เสริมภายในรองเท้า หรือตัดรองเท้า พิเศษ ชนิดที่เหมาะกับเท้า
ข่าวทหารอากาศ
Shock wave รักษาอาการเจ็บปวดที่ฝ่าเท้า
อาการบาดเจ็บข้างต้น เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่พบได้บ่อย ทั้งในนักวิ่งทั้งมือสมัครเล่น และนักล่า รางวัล นอกจากนี้ อาการปวดส้นเท้า (Plantar Fasciitis) ปวดข้อพับเข่า (Hamstring Injury) เอ็นร้อยหวาย อักเสบ (Achilles Tendinitis) ก็สามารถพบได้บอ่ ย ครั้งในนักวิ่งเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อมีอาการบาดเจ็บ หรือปวด มากขึน้ ในขณะทีว่ งิ่ ควรหยุดพัก และประคบความเย็น บริเวณทีป่ วด ไม่ควรฝืนวิง่ ต่อไป หากอาการไม่ทเุ ลาลง ควรรีบไปพบแพทย์ทนั ที เพือ่ รับการตรวจ และรักษา ที่ถูกต้อง การรักษาทางกายภาพบ�าบัด เช่น การใช้ คลื่นเหนือเสียง (Ultrasound) หรือคลื่นกระแทก (Shock wave) รวมถึงเลเซอร์กา� ลังสูง (High Power Laser) สามารถช่วยลดอาการปวด และช่วยใน กระบวนการซ่อมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งเห็นผลได้ ชัดเจนตั้งแต่การรักษาในครั้งแรก และมักดีขึ้นกว่า ๘๐-๙๐% หลังการรักษาต่อเนื่อง ๓-๔ ครั้ง เมื่ออาการบาดเจ็บหายเป็นปกติ ควรเตรียม ร่างกายให้พร้อมที่จะกลับมาวิ่งอีกครั้ง โดยฝึกยืด เหยียดกล้ามเนื้ออย่างถูกต้อง พร้อมกับบริหารกล้าม เนื้อให้แข็งแรง ค่อย ๆ เพิ่มความเร็วหรือระยะทาง ทีละน้อย หลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทาให้เกิดการบาดเจ็บ เท่านี้ก็จะทาให้ การวิ่งของคุณจบ (แบบสวย ๆ) โดยไม่เจ็บ (อีก) ได้แล้วค่ะ
การใช้คลื่นเหนือเสียง (Ultrasound)
เลเซอร์ก�าลังสูง (High Power Laser)
85
86
ท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนวิ่ง
ท่ายืดเหยียดมีทั้งหมด ๖ ท่า ท�าแต่ละท่าค้างไว้ประมาณ ๑๐-๑๕ วินาทีต่อครั้ง
๑. ท่ายืดเหยียดหน้าขา พับเข่าด้านที่ต้องการยืดไปด้านหลังและใช้มือจับขาหรือข้อเท้าและค่อย ๆ ดึงฝ่าเท้าเข้ามาให้ใกล้กับสะโพก โดยพยายามให้เข่าทั้งสองข้างชิดกัน จนรู้สึก ตึงหน้าขา ท�าค้างไว้ และสลับข้าง ๒. ท่ายืดเหยียดสะโพกด้านหน้า ก้าวขาไปด้านหน้าหนึ่งก้าว โดยขาที่เราต้องการยืดเหยียดจะอยู่ด้านหลัง ให้ปลายเท้าทัง้ สองข้างชีต้ รง จากนัน้ ย่อตัวลงจนรูส้ กึ ตึงบริเวณหน้าขา ท�าค้างไว้ และสลับข้าง ๓. ท่ายืดเหยียดแฮมสตริง (Hamstring) ยืดขาทีต่ อ้ งการยืดเหยียดไปด้านหน้า เอามือทัง้ สองข้างเท้าสะโพกไว้ กระดกขา ทีอ่ ยูด่ า้ นหน้า และค่อยก้มตัวลงจนรูส้ กึ ตึงขาระหว่างทีก่ ม้ พยายามท�าให้หลังตรง ตลอดเวลา ท�าค้างไว้ และสลับข้าง ๔. ท่ายืดเหยียดน่อง ยืนหันหน้าเข้าผนัง ใช้แขนดันผนัง ก้าวขาเข้าหาผนังหนึ่งข้าง พร้อมงอเข่า และเหยียดขาด้านที่ต้องการยืดไปด้านหลังให้ตึง และออกแรงดันผนังไว้ เพื่อยืดกล้ามเนื้อน่อง ท�าค้างไว้ และสลับข้าง ๕. ท่ายืดเหยียด IT Band ไขว้ขาด้านทีต่ อ้ งการยืดไปด้านหลัง จากนัน้ ให้เอียงตัวไปด้านเดียวกับขาทีไ่ ขว้ ไปด้านหลัง และพยายามดันสะโพกมาด้านหน้า โดยกดฝ่าเท้าทั้งสองข้าง ให้ติดพื้นไว้ ท�าค้างไว้ และสลับข้าง ๖. ท่ายืดเหยียดต้นขาด้านใน นัง่ กับพืน้ โดยน�าฝ่าเท้าทัง้ สองข้างมาประกบกันด้านหน้า ใช้มอื จับเท้าทัง้ สองข้าง และก้มตัวมาข้างหน้า โดยให้ข้อศอกกดเข่าทั้งสองข้างให้กางออก จนรู้สึกตึง บริเวณต้นขาด้านใน และท�าค้างไว้ อ้างอิง: https://www.fitmesport.com/essential-stretches-runners
ขอบฟ้าคุณธรรม
ข่าวทหารอากาศ
รู้จักพอ ซื่ อตรง รับผิดชอบ คิดบวก .. มองไปข้างหน้า .. แก้ไขที่ตัวเรา
โดย 1261
......อยา่ เป็ ท�านคนดี ห้หมองมั ว อยมา่ ิขปลองตนอยู อ่ ยคนชัว่ ให ผู้มใองเห็ นภพภู ่เสมอ ... ... ้ลอยนวล หลังจากเกษียณอายุราชการแล้ว พอมีเวลาผูเ้ ขียน ก็มักจะวางแผนเดินทางไปโน่นมานี่อยู่บ่อย ๆ มีเรื่อง น่าแปลกอยูเ่ รือ่ งหนึง่ คือ สองสามปีมานีผ้ เู้ ขียนจัดเวลา เดินทางตรงกับช่วงออกพรรษาทุกทีเลย ปีนกี้ เ็ ช่นกันขับ รถไปแล้วถึงรูว้ า่ เป็นช่วงออกพรรษา เพราะเห็นผูค้ นไป ท�าบุญกันเยอะ และได้พบว่าบางวัดเขาจัดพิธีตักบาตรเทโว มีคนมากมาย มีเปรต มีนางฟ้า และตกแต่งสถานที่ ให้พระเดินมาจากที่สูง ลงมาเป็นสายยาวมาก เป็น ประเพณีทสี่ วยงามในช่วงออกพรรษา ซือ่ เต็ม ๆ คือการ ตักบาตรเทโวโรหณะ ก�าหนดไว้ในวันแรมหนึ่งค�่าเดือน สิบเอ็ด หลังออกพรรษาหนึง่ วัน เป็นความเชือ่ ว่า เป็นวันที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จกลับจาก สวรรค์ชั้นดาวดึงส์มายังโลกมนุษย์ หลังจาก เสด็ จ ไปโปรดพระมารดาที่ ส วรรค์ เ ป็ น เวลา หนึง่ พรรษา เหล่าเทพบุตร เทพธิดา นางฟ้า เทวดา เปรต อสูรกายและมนุษย์ ต่างก็ปลื้มปีติ จึงมา ร่วมกันใส่บาตรในวันนี้ ผู้เขียนนั่งมองอยู่ในรถ ไม่ได้ลงไปใส่บาตรกับเขาด้วย เพราะไม่ได้ เตรียมตัวมาและคนเยอะมาก จึงน�าไอแพดมา ค้นดูเรือ่ งราวของการตักบาตรเทโว จึงพอเข้าใจ อย่างที่เล่ามา ผู้เขียนคิดในใจว่า เป็นความ ฉลาดของคนโบราณจริง ๆ ทีจ่ ดั ให้มปี ระเพณีนี้ แม้ไม่ใช่เรือ่ งอะไรในพุทธศาสนาแต่กผ็ กู เรือ่ งให้ เกี่ยวข้องกันได้หมด เอาทั้งความเชื่อ ความคิด ศาสนาพราหมณ์ ทั้งไสยศาสตร์ มารวมกันได้ อย่ า งลงตั ว จากตั ก บาตรเทโวแล้ ว ก็ มี ง าน รับกฐินต่อเนือ่ งไปอีกไม่กวี่ นั ตามบ้านนอกบ้านนา พระก็ จ ะสึ ก กลั บ ไปท� า ไร่ ไ ถนากั น ตามปกติ
87
ประเพณีนจี้ ะเรียกว่าเป็นการฉลองการออกพรรษาก็ได้ เพราะหลังจากนีพ้ ระภิกษุทไ่ี ม่ลาสิกขา ก็สามารถไปค้าง แรมที่ไหน ๆ ได้ จนกว่าจะเข้าพรรษาใหม่ จะเรียกว่า เป็ น การสอบไล่ ข องพระบวชใหม่ ที่ เ ล่ า เรี ย นมา ทัง้ พรรษาก็ได้ เพราะในงานตักบาตรเทโวนัน้ มีตวั แสดง ครบทุกองค์ในงานนี้ เป็นการบอกให้พระและผูค้ นทีม่ า ร่วมงานระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า พระคุณของบิดา มารดา ให้มองเห็นสรรพสัตว์ที่ก่อเวรไว้อย่างไรก็จะได้ รับผลกรรมนั้น ๆ มี มนุษย์ เปรต นางฟ้า พญามาร เทวดา อิ น ทร์ พ รหม ในภพภู มิ ทั้ ง หลายให้ เ ลื อ กดู
88
เลือกคิดพิจารณา ผู้เขียนจึงตั้งใจว่าจะคุยกันเรื่องนี้ สักครั้งแม้จะเป็นเรื่องที่ยากสักหน่อย แต่ถ้ามีสิ่งนี้ อยู่ในใจผู้อ่านบ้างก็น่าจะท�าให้เกิดความเข้าใจในสิ่ง ที่พบเห็นในชีวิตประจ�าวันได้ดีขึ้น
ในเรื่องนี้มีศัพท์เทคนิคที่ต้องท�าความเข้าใจกัน หลายค�า เช่น ภพ ซึ่งหมายถึง ที่ที่ใจของเราไปเกาะอยู่ จะเป็น รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส หรือ ธรรมมารมย์ก็ได้ ภูมิ หมายถึงสภาวะของใจในขณะใดขณะหนึง่ ชาติ เป็น เรื่องเกี่ยวกับมิติของเวลาที่ใจอยู่กับภพภูมิหนึ่ง ๆ นรก สวรรค์ เป็นศัพท์เกีย่ วกับสถานที่ สมัยผูเ้ ขียนเด็ก ๆ ก็ได้ ยินว่า นรกอยูใ่ ต้ดนิ มีหลายขุม สวรรค์อยูบ่ นฟ้ามีหลาย ชัน้ เทวดา นางฟ้า มนุษย์ เปรต อสูรกาย เป็นศัพท์เกีย่ ว กับบุคคลตัวตน ให้เทวดา นางฟ้า ไปอยู่สวรรค์บนฟ้า มีหลายระดับ มนุษย์อยูบ่ นดิน เปรต อสูรกาย อยูใ่ นนรก มี ห ลายขุ ม แล้ ว ก็ เ อาศี ล ห้ า มา ประกอบ แต่งเรื่องราวในการท�าดี ท�าชัว่ เล่าให้เด็กฟัง ท�าให้เกิดความ เชื่ อ ที่ จ ะท� า ความดี มี ค วามกลั ว ที่ จ ะท� า ในสิ่ ง ที่ ไ ม่ ดี ในช่ ว งออก พรรษาก็ เ อาออกมาแสดงเป็ น ตัวละครให้เห็นกันจริง ๆ ในวัน ตักบาตรเทโว ก็นับเป็นอุบายที่ดี ในการอบรมบ่มนิสัยผู้คน แต่อีก
มุมหนึ่งก็กลายเป็นเรื่องท�ามาหากินของพวกมิจฉาชีพ ที่เริ่มขู่ด้วยค�าว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ แล้วก็แต่งเรื่องราว ต่อไปอีกมากมาย พยายามแปลค�าศัพท์เหล่านีใ้ ห้ลกึ ลับ ซับซ้อน มีอภินิหาร มีเจ้าพ่อ เจ้าแม่ หลวงพ่อ หลวงปู่ ภพ ภู มิ อี ก มากมายหลายภพ หลายชาติ มี เ ครื อ ข่ า ยไปนรก ไปสวรรค์ อี ก ยื ด ยาว กลายเป็ น ความเชื่ อ ความกลั ว ผสมกั น มั่ ว ไปหมด เป็นอาชีพ เป็นการหลอกลวง เป็ น วิ ธี ก ารหาเงิ น สร้ า งวั ต ถุ สร้างสถานทีต่ า่ ง ๆ ด้วยความหวัง ในเรื่องหลอก ๆ เหล่านั้น ผู้เขียน จึงได้กล่าวว่า เรือ่ งนีย้ ากสักหน่อย โชคดี ต รงที่ พุ ท ธศาสนานั้ น เป็นวิทยาศาสตร์ สามารถอธิบาย ใ ห ้ เ ห็ น จ ริ ง ไ ด ้ ต า ม ห ลั ก วิ ท ยาศาสตร์ ไม่ ต ้ อ งบอกว่ า ไม่เชือ่ อย่าลบหลู่ ไม่เชือ่ ก็อธิบายแย้งกันได้เลย หลักการ ส�าคัญก็อยู่ตรงที่ว่า ศัพท์ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมา ข้างต้นนั้น เป็นการอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตัวของ เราเท่านั้น คือในตัวผู้เขียนหรือในตัวผู้อ่านเท่านั้น ไม่มี อะไรออกไปนอกตัวเราเลย และส่วนใหญ่ก็จะพูดถึง พฤติกรรมของใจเราเป็นส�าคัญ ผู้เขียนจึงตั้งชื่อเรื่องว่า เป็นผู้มองเห็นภพภูมิของตนเองอยู่เสมอ ๆ เมื่อก�าหนดขอบเขตของเรื่องได้แล้ว ว่าอยู่ในตัว ของเราเท่านั้น จึงไม่ยากอีกต่อไปที่จะพิสูจน์กันว่า สวรรค์อยูใ่ นอก นรกอยูใ่ นใจ เพราะถ้ามันอยูบ่ นฟ้าหรือ
ข่าวทหารอากาศ
ใต้ดิน ผู้เขียนก็ไม่รู้จะพาท่านผู้อ่านไปดูได้ยังไง เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็เริ่มจากการที่คนปกติทุกคน จะมี หู ตา จมูก ลิ้น ผิวกาย และใจ เป็นประตูรับรู้ สิ่งต่าง ๆ จากภายนอก รับรู้มาแล้วก็มีความรู้สึกชอบ บ้างไม่ชอบบ้าง จ�าได้บ้างไม่ได้บ้าง คิดโน่นคิดนี่ไปตาม เรื่อง คนก็ท�ามาหากินไปวัน ๆ ถ้าใจของเขาไม่ได้เกิด อารมณ์ความรูส้ กึ อะไรเป็นตัวตนขึน้ มาเลย อย่างนีภ้ พภูมิ ของเขาก็เป็นคน เป็นมนุษย์เดินดินกินข้าวแกง ถ้าเขา เป็นอย่างนีไ้ ปตลอดชีวติ จนตาย ร่างกายของเขาก็ได้เกิด มาชาติหนึ่ง คือออกจากท้องแม่มา อยู่ไปแปดสิบปี (สมมุติ) แล้วก็ตายไปถือเป็นหนึ่งชาติของร่างกาย แต่ เรื่ อ งมั น ไม่ ง ่ า ยอย่ า งนั้ น ในช่ ว งเวลาชาติ ห นึ่ ง ของ ร่างกายนี้ กลับมีภพชาติของจิตใจเกิดขึ้นมามากมาย เหลือคณานับ ตัวอย่างเช่น วันหนึง่ ท่านขับรถไปท�างาน ระหว่างทาง ตา ก็ไปเห็นคนถีบจักรยานเสือหมอบ คันหนึ่ง รู้สึกชอบมากจนอยากได้จักรยานอย่างนี้มาก ตรงอยากได้ นี่ แ หละได้ เ กิ ด บางอย่ า งขึ้ น ในใจ คื อ จักรยานกลายเป็นภพให้ใจไปเกาะและความรูส้ กึ อยาก ได้ที่เกิดขึ้นในใจ คือสถานภาพของจิตใจขณะนั้น ขณะที่ใจ อยากได้ นั้ น เราเรี ย กสถานภาพของใจว่ า เปรติ ภู มิ (สถานะภาพของใจที่อยากได้) อาจจะมีอาการตาเยิ้ม น�า้ ลายยืดเพราะอยากได้ ตาก็จอ้ งมองไม่กระพริบสมมุตวิ า่ เป็นเวลาสามนาที บังเอิญมีโทรศัพท์เข้ามาพอดี ท่าน ก็รับโทรศัพท์ เปรติภูมิก็หายไป แสดงว่าท่านเป็นเปรต ในภพขี่จักรยานชาติหนึ่งนานสามนาที หูเริ่มท�างาน ปรากฏว่าเพือ่ นโทรศัพท์มาบอกข่าวดีวา่ ท่านได้สองขัน้ ท่านดีใจสุด ๆ หัวใจพองโตในความก้าวหน้าของตัวเอง ใจของท่านไปอยู่ในภพของเงินเดือนและขั้นที่จะได้ เพิ่มสุขใจขับรถไปอย่างมีความสุข ท่านรู้สึกอารมณ์ดี ใจท่ า นมี ส ถานภาพเป็ น เทวดาภู มิ สภาพแวดล้ อ ม รอบตัวท่านตอนนัน้ คือสวรรค์ ขับรถไปยิม้ ไปได้สบิ นาที มีมอเตอร์ไซค์มาชนกระจกข้างรถดังโครม ! ท่านตกใจ และโมโหสุ ด ขี ด ชาติ ห นึ่ ง ของเทวดาภู มิ ข องท่ า น บนสวรรค์ยาวสิบนาทีจบไปแล้วสิ้นสุดลงแล้ว ท่านลงจากรถ มาดูกระจกข้างรถแถมด่าคนขับมอเตอร์ไซค์เสียงดัง ภพของใจท่านไปอยูท่ กี่ ระจกข้างรถกลัวมันจะเสียหาย
และโกรธคนขับมอเตอร์ไซค์ ใจท่านก�าลังอยู่ใน อสูร กายภูมิ หน้าท่านแดง ตาเขียว รุ่มร้อนไปทั้งตัว ท่าน ก�าลังอยูใ่ นนรก เมือ่ ดูกระจกข้างรถแล้วไม่เสียหายมาก จึ ง ขั บ รถต่ อ ไปได้ แ ต่ ใ จยั ง โมโหไม่ ห าย ใจยั ง อยู ่ กั บ ความเสียดายทีก่ ระจกและโกรธคนชน เวลาผ่านไปสิบห้า นาที ใจเย็นขึน้ มาหน่อยสบาย ๆ ขึน้ ใจท่านมีสภาพเป็น อสูรกายภูมอิ ยูใ่ นนรกสิบห้านาที ขึน้ มาจากนรกกลับมา เป็นมนุษย์เสียที ขับรถไปสบาย ๆ ได้ยสี่ บิ นาทีเลีย้ วเข้า ที่ท�างาน เห็น รปภ.นั่งหลับอยู่ในซุ้ม ภพของใจท่านไป อยูท่ ี่ รปภ.อีกแล้ว ใจของท่านกลับไปอยูท่ อี่ สูรกายภูมอิ กี ท่านกลับไปนรกอีกแล้วด้วยความโมโห รปภ. ผ่านไป สิบนาที มีคนมาคุยเรื่องจักรยานเพราะรู้ว่าท่านชอบ ใจของท่านกลับไปที่เปรตภูมิอยากได้จักรยานที่เห็น เมือ่ เช้าเป็นชาติทสี่ อง อยูใ่ นเปรตภูมไิ ม่กนี่ าที นึกถึงเรือ่ ง มอเตอร์ไซค์ชนกระจกข้างรถขึน้ มาอีก เล่าให้พรรคพวก ฟังด้วยความโกรธ ใจของท่านกลับไปสู่อสูรกายภูมิ เป็นชาติทสี่ องอีกเช่นกัน ....หากท่านผูอ้ า่ นฝึกดูใจของท่าน ตลอดทั้งวันท่านจะได้พบกับสิ่งเหล่านี้ ใจท่านจะอยู่ใน เทวดาภูมบิ า้ ง เปรตภูมบิ า้ ง อสูรกายภูมบิ า้ ง เป็นมนุษย์ ภูมบิ า้ ง อยูบ่ นสวรรค์บา้ ง อยูใ่ นนรกบ้าง เดินดินอยูบ่ า้ ง วันละไม่รู้กี่ชาติต่อกี่ชาติ เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง เรื่องเหล่านี้ กลับมาหาท่านหลายสิบหลายร้อยชาติ (ครัง้ ) และแต่ละ ชาติที่กลับมาก็สั้นยาวไม่เท่ากัน กว่าร่างกายของท่าน จะตายไป (หนึ่งชาติ) ใจของท่านเกิดดับในภพภูมิต่าง ๆ เป็นแสนเป็นล้านชาติ บางเรื่องเกิดดับเป็นสิบเป็นร้อย ชาติ (ครัง้ ) แต่นา่ เสียดายนักทีค่ นจ�านวนมากเกิดมาจน ตายไป ไม่ ไ ด้ สั ง เกตเห็ น สิ่ ง เหล่ า นี้ ใ นใจของตนเลย สักครั้งเดียว แค่นั้นไม่ว่ายังโดนเขาหลอกให้ท�าโน่นท�านี่ เสียเงินเสียทอง เพราะลงทุนเกี่ยวกับ ภพ ชาติ ของ ร่างกาย อยากจะไปเกิดเป็นอะไรต่อมิอะไรที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ก็ยังยอมเชื่อให้เขาหลอก หากท่านตั้งสติให้ดี ท�าใจ ให้มีสมาธิ คอยสังเกตดูใจของท่าน ท่านจะได้เห็นภพ ภูมิของตัวท่านตลอดเวลา ดังตัวอย่างที่ยกมาให้ดู ประโยชน์ของการมองเห็นภพภูมขิ องตนเองตลอด เวลา ๑ ท�าให้รู้สึกตัว การจะเห็นว่าขณะนี้ใจเราอยู่ใน
89
90
สภาวะใด เราต้องมีสติ มีความรู้ตัว จึงจะมองเห็นว่าใจ เราอารมณ์เราเป็นอย่างไร แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้สึกตัว เพลินไปกับใจในอารมณ์ต่าง ๆ ดีใจ เสียใจ โมโหโกรธ โดยอัตโนมัติ เหมือนคนไม่มีวิญญาณ ๒ ท�าให้ยั้งคิด หากท่านมองเห็นภพภูมิของตัวเอง อยู่เสมอ ๆ ท่านจะยั้งคิดว่าจะดีใจ เสียใจ โมโหโกรธ ไปอยู่ในนรกบ้าง สวรรค์บ้างไปท�าไม เมื่อวานก็เป็นอย่างนี้ วันก่อนโน้นก็เป็นอย่างนี้ สังเกตเมื่อไรก็เจอแต่เรื่อง เหล่านี้ มันเกิดขึน้ ตัง้ อยู่ ดับไป ทุกวัน ๆ ไม่มอี ะไรคงทน อยู่เลย ๓ ท�าให้พ้นทุกข์ เมื่อท่านเห็นความเปลี่ยนแปลง เหล่านี้เสมอ ๆ ท่านจะเกิดปัญญาเข้าใจ ว่าสิ่งต่าง ๆ เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีอะไรเป็นของท่านได้
ไม่มอี ะไรเป็นตัวต้นของท่าน ไม่มอี ะไรเป็นตัวท่านจริง ๆ เลย ท่านจะปล่อยวางได้ในที่สุด ท่านผูอ้ า่ นไม่ตอ้ งรอดู เปรต เทวดา นางฟ้า อสูรกาย ตอนงานตักบาตรเทโวปีละครั้งเลย ดูในใจของตัวเอง จะพบเห็นสิ่งเหล่านี้วันละหลายร้อยครั้ง และหากท่าน มองไปที่เพื่อนร่วมงานของท่าน ท่านก็จะพบสิ่งเหล่านี้ มากมายรอบ ๆ ตัวท่าน จงช่วยกันรักษาใจของตน อยู่ในมนุษย์ภูมิ ในภพคืองานที่ท่านก�าลังท�า สร้าง บรรยากาศให้รอบ ๆ ตัวของท่านเป็นสวรรค์ทกุ วัน ไม่ตอ้ ง ไปหาทีไ่ หน เพราะสวรรค์อยูใ่ นอกของท่านนีแ่ หละ แต่ ถ้าท่านขาดสติเมื่อใด นรกก็อาจจะเข้ามาอยู่ในใจของ ท่านแทน จงเฝ้ามองให้เห็นอยู่เสมอ ๆ เถิด
INSIDE THE AIR FORCE
ในรั้วสีเทา
91 ขาวทหารอากาศ
พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.พร้อมด้วย พญ.วิไลภรณ์ วงษ์วาทย์ นายกสมาคมแม่บ้าน ทอ.ร่วมพิธีอ�าลาส่งเสด็จ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรันซิส ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรคาทอลิก และแห่งสันตะส�านัก นครรัฐวาติกัน ในโอกาสเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทย ณ ท่าอากาศยานทหาร ๒ บน.๖ ดอนเมือง เมื่อวันที่ ๒๓ พ.ย.๖๒
พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.พร้อมคณะนายทหารชัน้ ผูใ้ หญ่ของ ทอ.เยือนกองทัพอากาศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ณ บก.ทอ.มาเลเซีย ประเทศสหพันธรัฐมาเลเซีย เมื่อวันที่ ๑๑ พ.ย.๖๒
พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.พร้อมด้วย พญ.วิไลภรณ์ วงษ์วาทย์ นายกสมาคมแม่บ้าน ทอ.และคณะ เดินทางเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และราชอาณาจักรกัมพูชา เนื่องในโอกาสเข้ารับต�าแหน่ง ผบ.ทอ.โดยมี พล.อ.อ.Soeung Samnang ผบ.ทอ.กัมพูชา และ พล.อ.ท.Rozzano Dosado Briguez ผบ.ทอ.ฟิลิปปินส์ ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ ๒๕ - ๒๖ พ.ย.๖๒
ในรั้วสีเทา
INSIDE THE AIR FORCE ขาวทหารอากาศ 92
พล.อ.อ.วีรพงษ์ นิลจินดา รอง ผบ.ทอ.เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี ทอ.โดยมีข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ ครอบครัว ทอ. และพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธี ณ วัดลาดสนุ่น อ.ลําลูกกา จว.ปทุมธานี เมื่อวันที่ ๗ พ.ย.๖๒
พล.อ.อ.เสนาะ พรรณพิกุล ปธ.คปษ.ทอ.ให้การต้อนรับคณะกรรมการงานกาชาดประจําปี ๒๕๖๒ ตรวจเยี่ยมงานนิทรรศการของ ทอ. ภายในงานกาชาด ณ ร้านกาชาด ทอ.สวนลุมพินี เมื่อวันที่ ๑๔ พ.ย.๖๒
พล.อ.อ.สิทธิชยั แก้วบัวดี ผช.ผบ.ทอ.ร่วมกิจกรรมในโครงการหน่วยจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดําริ ร่วมกับกําลังพลและประชาชน จิตอาสา พัฒนาคลองต้นแบบ คูนายกิมสาย ๑ เขตดอนเมือง เมื่อวันที่ ๑๙ พ.ย.๖๒
INSIDE THE AIR FORCE
ในรั้วสีเทา
93 ขาวทหารอากาศ
พล.อ.ท.ตรีพล อ่องไพฑูรย์ จก.กร.ทอ.เป็นประธานเปิดกรวยกระทงดอกไม้ และน�ากล่าวค�าปฏิญาณ “เราท�าความ ดี ด้วยหัวใจ” ในกิจกรรม โครงการหน่วยจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชด�าริ พัฒนาคลองต้นแบบ คูนายกิมสาย ๑ เขตดอนเมือง ณ ลานจอดรถร้านค้าสวัสดิการ ทอ. (ทุ่งสีกัน) เมื่อวันที่ ๑๙ พ.ย.๖๒
พล.อ.ท.เดชอุดม คงศรี จก.ยศ.ทอ.เป็นประธานพิธีปิดการศึกษาหลักสูตรนายทหารประทวนชั้นพันจ่าอากาศ รุ่นที่ ๔๒ ณ ห้องบรรยาย รร.นป.ยศ.ทอ. เมื่อวันที่ ๑๓ พ.ย.๖๒
พล.อ.ท.สุจินดา สุมามาลย์ จก.สพ.ทอ.เป็นประธานพิธีมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถในการใช้ปืนพก ณ หอประชุม สพ.ทอ. เมื่อวันที่ ๒๒ พ.ย.๖๒
ในรั้วสีเทา
INSIDE THE AIR FORCE ขาวทหารอากาศ 94
พล.อ.ต.เรืองวิทย์ ศรีนวลนัด จก.ชย.ทอ.พร้อมด้วย พล.อ.ต.ณรงค์ อินทชาติ รอง ผบ.รร.นนก.(สายงานบริหาร) และคณะกรรมการตรวจรับ พัสดุสัญญาจ้าง ตรวจติดตามความก้าวหน้า เร่งรัดงานก่อสร้าง รร.นนก.(แห่งใหม่) ณ รร.นนก. อ.มวกเหล็ก จว.สระบุรี เมื่อวันที่ ๑๒ พ.ย.๖๒
พล.อ.ต.สุระ ไชโย จก.พธ.ทอ.เป็นประธานในพิธเี ปิดการศึกษาหลักสูตร จนท.พัสดุ รุน่ ที่ ๔๕ ส�าหรับการเรียนรูผ้ า่ นสือ่ อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีผู้เข้ารับการศึกษาชั้นยศ จ.ต. - พ.อ.อ. จ�านวน ๘๐ คน ณ ห้องประชุม พธ.ทอ.๒ เมื่อวันที่ ๑๘ พ.ย.๖๒
พล.อ.ต.ธรรมนาย สุขแสง ผบ.ดม.พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ สน.ผบ.ดม.รับมอบอุปกรณ์ฝึกการต่อสู้ระยะประชิด จาก Mr.Shoji Yamauchi ที่ปรึกษาบริษัท ไทยโชรี่ จ�ากัด เพื่อใช้ในการฝึกโครงการฝึกอบรมต่อสู้ระยะประชิดทหารสารวัตร (ระดับปฏิ บัติการ) รุ่นที่ ๑ จ�านวน ๖ ชุด ณ บก.สน.ผบ.ดม. เมื่อวันที่ ๒๑ พ.ย.๖๒
INSIDE THE AIR FORCE
ในรั้วสีเทา
95 ขาวทหารอากาศ
น.อ.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย ผบ.บน.๑ ตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ พัน.อย.บน.๑ เพื่อเป็นขวัญและก�าลังใจให้แก่ทหารใหม่ ณ พัน.อย.บน.๑ จว.นครราชสีมา เมื่อวันที่ ๒๒ พ.ย.๖๒
น.อ.จุมพล จันทขัมมา ผบ.บน.๒/ผอ.ศบภ.บน.๒ ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมก�าลังพล อากาศยาน ยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์สื่อสาร และยานพาหนะ เพื่อเตรียมให้การช่วยเหลือประชาชนในกรณีเกิดภัยพิบัติ ณ ลานจอด ฝูง.๒๐๓ บน.๒ จว.ลพบุรี เมื่อวันที่ ๑๘ พ.ย.๖๒
น.อ.แมนสรวง สุวรรณ ผบ.บน.๗ เป็นประธานในการจัดกิจกรรมเปิดบ้านให้ผู้ปกครองเยี่ยมทหารกองประจ�าการ รุ่นปี ๒๕๖๒ ผลัดที่ ๒ ณ พัน.อย.บน.๗ จว.สุราษฏร์ธานี เมื่อวันที่ ๒๓ พ.ย.๖๒
ในรั้วสีเทา
INSIDE THE AIR FORCE ขาวทหารอากาศ 96
น.อ.วัชรพล นวลเป็นใย ผบ.บน.๒๑ น�ำข้ำรำชกำรและสมำชิกชมรมแม่บ้ำน ทอ.บน.๒๑ พร้อมทั้งชุดแพทย์ ออกหน่วยมิตรประชำ ให้ควำมช่วยเหลือประชำชน ณ องศ์กำรบริหำรส่วน ต.โพนเมือง อ.เหล่ำเสือโก้ก จว.อุบลรำชธำนี
น.อ.ชนาวีร์ กลิ่นมาลี ผบ.บน.๒๓ มอบเงินสนับสนุนจ�ำนวน ๑๐,๐๐๐ บำท ให้แก่ส�ำนักงำนเหล่ำกำชำด จว.อุดรธำนี เพื่อใช้ในกิจกรรม สำธำรณะกุศลของส�ำนักงำนเหล่ำกำชำด จว.อุดรธำนี ณ ส�ำนักงำนเหล่ำกำชำด จว.อุดรธำนี เมื่อวันที่ ๒๐ พ.ย.๖๒
น.อ.นรุธ ก�าเนิดนักตะ ผบ.บน.๔๑ เป็นประธำนกำรจัดกิจกรรมหน่วยมิตรประชำ บน.๔๑ ครั้งที่ ๒/๖๓ โดยมี หน.นขต.บน.๔๑ ข้ำรำชกำร บน.๔๑ และสมำชิกชมรมแม่บ้ำน ทอ.บน.๔๑ ร่วมกิจกรรม ณ รร.บ้ำนโป่งกุ่ม ต.ป่ำเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จว.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๒ พ.ย.๖๒
สรุปสาระส�าคัญ จากการประชุมอาเซียนครั้งที่ ๓๕
ข าวทหารอากาศ
97
เรียบเรียงโดย Bird’s Eye View จากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๕ ที่ผ่านมา โฆษกรัฐบาล ศจ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ แถลงสรุปการประชุม ฯ และการประชุมสุดยอด ที่เกี่ยวข้องไว้ดังนี้ ครั้งนี้เป็นบทสรุปของการด�ารง ต�าแหน่งประธานอาเซียนของไทยภายใต้แนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยัง่ ยืน” ซึง่ มุง่ เน้นเรือ่ งความเป็น หุ้นส่วน เพื่อสานต่อผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอด อาเซียน ครั้งที่ ๓๔ เมื่อเดือนมิถุนายนให้เกิดผล เป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ตอ่ ประชาชนอย่างแท้จริง ประเทศไทยเห็นความส�าคัญของหุ้นส่วน ในการขับเคลื่อนความยั่งยืนของอาเซียน จึงได้น�า ผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครัง้ ที่ ๓๔ ไปหารือกับ ผู้น�า G20 ที่นครโอซากา และได้น�าเสนอประเด็น ความร่วมมือที่ส�าคัญ ๔ ประการ คือการพัฒนาเมือง อัจฉริยะ การเข้าถึงแหล่งทุน การพัฒนาทุนมนุษย์ และการแก้ไขปัญหาขยะทะเล โดยกิจกรรมดังกล่าว มีประเทศ G20 เข้าร่วมสนับสนุนด้วย นอกจากนี้ ไทยได้ผลักดันประเด็นเหล่านีก้ บั ประเทศคูเ่ จรจาและ น�าไปหารือต่อในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์กในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อเป็นพื้นฐานส�าหรับการหารือระหว่างอาเซียน กับภาคีของอาเซียนในช่วงการประชุมสุดยอดครั้งนี้
ในการประชุมที่ผ่านมานี้ ผู้น�าจาก ๑๘ ประเทศ ทั่ ว โลก พร้ อ มด้ ว ยเลขาธิ ก ารสหประชาชาติ แ ละ กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้มาร่วมประชุมกันทีอ่ มิ แพ็ค เมืองทองธานี โดย นายกรั ฐ มนตรี ไ ทยได้ รั บ เกี ย รติ ใ ห้ ป ฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ประธานการประชุมระดับผู้น�าทั้ง ๙ การประชุม ทัง้ การประชุมระหว่างอาเซียนกันเองและกับประเทศ คู่เจรจาที่ส�าคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ อินเดีย และ สหประชาชาติ รวมทั้งมีการประชุมในกรอบอาเซียน บวกสาม การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก และ การประชุมสุดยอด Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP นอกจากนี้ ยังมี กิจกรรมพิเศษทีไ่ ทยได้จดั ขึน้ คือ งานเลีย้ งอาหารกลางวัน เพื่อหารือเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งที่ประชุมยินดี ต่ อ ข้ อ เสนอของไทยที่ จ ะจั ด การประชุ ม ระหว่ า ง อาเซียนกับภาคีภายนอกเพื่อสร้างหุ้นส่วนด้านการ พัฒนาที่ยั่งยืนในปี ๒๕๖๓ การประชุมทั้งหมดนี้ประสบผลส�าเร็จด้วยดี แสดงให้เห็นถึงบทบาทน�าและความเป็นแกนกลาง ของอาเซียนในโครงสร้างสถาปัตยกรรมภูมิภาคและ การเป็นสะพานเชือ่ มระหว่างประเทศต่าง ๆ ในสภาวะ ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขัน
98
และการเผชิญหน้าระหว่างมหาอ�านาจ และความ ตึงเครียดทางการค้า โดยมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ทีส่ านต่อข้อริเริม่ ของอาเซียนในปีทผ่ี า่ น ๆ มา ไม่วา่ จะเป็น ข้อริเริ่มความร่วมมือด้านเมืองอัจฉริยะกับจีน และ การเสริมสร้างความเชือ่ มโยงระหว่างอาเซียนกับญีป่ นุ่ จีน และประเทศอาเซียนบวกสาม ภายใต้แนวทางการ เชือ่ มโยงยุทธศาสตร์ความเชือ่ มโยงของอาเซียน ทีไ่ ทย ได้รเิ ริม่ ซึง่ ประเด็นนีไ้ ด้รบั การสนับสนุนจากประเทศต่าง ๆ และการสนับสนุนในเชิงวิชาการจากธนาคารโลกอีกด้วย ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ เราได้ต่อยอด การส่งเสริมความมั่นคงที่ยั่งยืนในภูมิภาค โดยผู้น�า อาเซี ย นได้ ห ารื อ เกี่ ย วกั บ การสานต่ อ มุ ม มองของ อาเซียนต่ออินโด-แปซิฟกิ ผ่านกิจกรรมและโครงการ ความร่วมมือในลักษณะ Win-Win บนพื้นฐานของ หลักการสาม M ได้แก่ ความไว้เนื้อเชื่อใจ (Mutual Trust) การเคารพซึ่งกันและกัน (Mutual Respect) และการมีผลประโยชน์ ร่วมกัน (Mutual Benefit) นอกจากนี้ยังได้หารือกันในประเด็นสถานการณ์ ในภูมภิ าค และเห็นความจ�าเป็นทีจ่ ะต้องรักษาพลวัต ในการหารือเพือ่ แก้ไขความท้าทายต่าง ๆ โดยสันติวธิ ี ในการประชุมครัง้ นี้ เรายังมุง่ มัน่ ทีจ่ ะร่วมกันรับมือกับ ภัยคุกคามความมัน่ คง โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติ ผ่านการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการบริหารจัดการ ชายแดนและการเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ เพื่อส่งเสริมพื้นที่ไซเบอร์ที่เปิดกว้าง ปลอดภัย และมี เสถียรภาพ ผู้น�าอาเซียนต่างเห็นว่า ความมั่นคงที่ยั่งยืน จะเกื้อกูลการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีพลวัต อาเซียน จึงมุ่งมั่นที่จะบรรลุผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจที่เป็น รูปธรรม ในการนี้สรุปผลการเจรจาความตกลง หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ Regional Comprehensive Economic Partnership (RCEP) คือ ความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค ทีเ่ ป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่าง ASEAN ๑๐ ประเทศ กับคูภ่ าคีทมี่ อี ยู่ ๖ ประเทศ คือ จีน ญีป่ นุ่ เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ RCEP ตามแถลงการณ์รว่ มของผูน้ า� เกีย่ วกับอาร์เซ็ป เป็นการ ผนึกก�าลังของกลุม่ ประเทศซึง่ มี GDP รวมกันร้อยละ ๓๒ ของโลก มีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก และมีมลู ค่าการค้ารวมกันสูงถึงร้อยละ ๓๐ ของการค้าโลก
รวมทัง้ การพัฒนาทุนมนุษย์เพือ่ ให้เราได้รบั ประโยชน์ อย่างเต็มที่จากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ ๔ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอาเซียนจะได้รับประโยชน์ จากการเชื่อมโยง ASEAN Single Window ได้ครบ ทั้ง ๑๐ ประเทศ การสรุปการเจรจาข้อตกลงยอมรับ ผลการตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ของอาเซียน ตลอดจนการริเริ่มการจัดตั้งเครือข่าย อาเซียนเพื่อต่อต้านการประมง ผู้น�าอาเซียนได้หารือ เพื่อร่วมมือกับภาคีภายนอกในการต่อยอดการสร้าง ความมัน่ คงของมนุษย์ทยี่ งั่ ยืน โดยเฉพาะในการแก้ไข ปัญหาขยะทะเล ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมอิ ากาศ การรับมือกับภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติ ปัญหา หมอกควันข้ามแดน การส่งเสริมสิทธิต่าง ๆ และ การศึกษาของเด็ก นอกจากนี้ยังได้ลงนาม MOU กับ ฟีฟ่า เพื่อพัฒนากีฬาฟุตบอลในอาเซียน ซึ่งจะช่วย สนับสนุนการเสนอตัวของประเทศสมาชิกอาเซียน ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก หรือฟีฟา่ เวิล์ดคัพในปี ๒๕๗๗ ด้วย ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้พบหารือกับผู้แทน ภาคประชาสังคม เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน โดยได้รับฟัง ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และช่วยส่งเสริมการมี ส่วนร่วมของภาคประชาสังคมเพื่อท�าให้อาเซียน เป็นประชาคมทีม่ ปี ระชาชนเป็นศูนย์กลาง และไม่ทงิ้ ใคร ไว้ข้างหลัง ผู้น�าประเทศต่าง ๆ ได้ร่วมกันสานต่อ เจตนารมณ์ของเอกสารวิสัยทัศน์ผู้น�าอาเซียนว่าด้วย ความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน โดยภาคีภายนอก ได้แสดงความพร้อมที่จะช่วยอาเซียนเสริมสร้าง ความยัง่ ยืนผ่านแผนงานการส่งเสริมข้อริเริม่ ความเกือ้ กูล ระหว่างวิสยั ทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ.๒๐๒๕ และ วาระการพัฒนาทีย่ งั่ ยืน ค.ศ.๒๐๓๐ ของสหประชาชาติ (Complementarities Roadmap) ซึ่งเป็นผลลัพธ์ จากการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ รวมทัง้ ผู ้ น� า การประชุ ม สุ ด ยอดเอเชี ย ตะวั น ออกได้ อ อก แถลงการณ์เพื่อยืนยันความเป็นหุ้นส่วนเพื่อ ความยัง่ ยืนอีกด้วย นอกจากนี้ ได้มขี อ้ เสนอในการร่วมมือ อย่างเป็นรูปธรรมจากผูน้ า� อาเซียน แขกของประธาน และองค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ จากงานเลี้ยง อาหารกลางวันเพือ่ หารือเรือ่ งการพัฒนาทีย่ งั่ ยืนด้วย
ข่าวทหารอากาศ
การประชุมสุดยอดครั้งนี้ ได้มีการเปิดตัว ศูนย์อาเซียนในประเทศไทยอีก ๓ ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการ พั ฒ นาที่ ยั่ ง ยื น ศู น ย์ อ าเซี ย นเพื่ อ ผู ้ สู ง วั ย อย่ า งมี ศักยภาพและนวัตกรรม และศูนย์ฝึกอบรมอาเซียน ด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม ซึ่งถือเป็น สิ่งที่ไทยมอบให้กับอาเซียนเพื่อเตรียมความพร้อม ส�าหรับอนาคต โดยจะรองรับประเด็นต่าง ๆ ที่มี ความส� า คั ญ ส� า หรั บ ประชาชน ไม่ ว ่ า จะเป็ น ด้ า น สังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม การรองรับ การเข้าสังคมสูงวัย และการส่งเสริมการพัฒนาทีย่ ง่ั ยืน ในภาพรวม นอกจากนี้ ผู้น�าอาเซียนได้มีข้อตัดสินใจ ร่วมกันให้จัดการประชุมสุดยอดอาเซียน-นิวซีแลนด์ ภายหลังการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๖ ที่เมืองดานัง เวียดนาม ในปี ๒๕๖๓ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณผู้น�า อาเซียนและภาคีภายนอกของอาเซียนที่ได้สนับสนุน ไทยอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขอบคุณพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนทุกฝ่ายทีช่ ว่ ยสนับสนุนการจัดการประชุม อ้างอิง
99
และกิจกรรมภายใต้การด�ารงต�าแหน่งประธานอาเซียน ของไทย ขอบคุณสือ่ มวลชนทุกท่านทีใ่ ห้ความร่วมมือ ติดตาม และเผยแพร่ขา่ วสารการประชุมและกิจกรรม ต่าง ๆ ให้สาธารณชนได้รับทราบ และที่ส�าคัญที่สุด ขอขอบคุณคนไทยทุกคนทีม่ สี ว่ นร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ที่ดีให้แก่อาเซียนตลอดทั้งปีนี้ เราตระหนักดีว่า เป้าหมายในหลาย ๆ ด้านไม่สามารถบรรลุผลได้ ภายในปีเดียว ซึ่งไทยได้สานต่อข้อริเริ่มที่ส�าคัญ จากปีกอ่ น ๆ ไม่วา่ จะเป็นการพัฒนาความเป็นหุน้ ส่วน กับโลกของฟิลปิ ปินส์ หรือการสร้างความเข้มแข็งและ นวัตกรรมของสิงคโปร์เพื่อขับเคลื่อน “วาระของ อาเซียน” เหล่านี้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ขอให้ คนไทยทุกคนภูมิใจว่า ปีนี้เราได้ช่วยวางรากฐาน เพื่อน�าไปสู่อาเซียนที่ย่ังยืนในทุกมิติและมั่นใจว่า เวียดนามจะด�ารงต�าแหน่งประธานอาเซียนต่อจากไทย ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ สุดท้ายนายกรัฐมนตรีได้อวยพรให้เวียดนาม ประสบความส�าเร็จในการด�ารงต�าแหน่งประธานอาเซียน ในปีหน้าเพื่อสร้างอาเซียนที่ยั่งยืนในทุกมิติต่อไป
- https://www.bbc.com/thai/thailand-50272110 - https://www.asean2019.go.th/th/news
พิธีบรรจุเข้าประจ�าการ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5TH) และอากาศยานไร้คนขับแบบ RTAF U1
กองทัพอากาศเคียงข้างประชาชน May The Air Force Be With You