หนังสือข่าวทหารอากาศ ฉบับเดือน มีนาคม 2555

Page 1

ป  ท ี ่ ๗ ๒ฉ บ ั บ ท ี ่ ๓เ ด ื อ นม ี น า ค ม๒ ๕ ๕ ๕


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ


พระมหากรุณาธิคุณ ด้านการศึกษา ธ สถิตในใจประชา

ตามรอย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงตระหนักว่าการศึกษาของ ประชาชนในชาติ เป็นรากฐานส�ำคัญในการพัฒนาประเทศ ดังพระราชด�ำรัสว่า “...ปัจจัยส�ำคัญที่สุดประการหนึ่ง ทั้งของชีวิตและส่วนรวมคือ การศึกษา ซึง่ เป็นรากฐาน ส่งเสริมความเจริญมั่นคง เกือบทุกอย่างในบุคคลและประเทศชาติ...” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาอุปถัมภ์ บ�ำรุงการศึกษาของชาตินานัปการตลอดมา เป็นต้นว่า ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๖ ได้พระราชทานทรัพย์สนับสนุน การสร้าง โรงเรียนส�ำหรับชาวเขาและเยาวชนไทยในถิ่น กันดารแถบชายแดนภาคเหนือ รวม ๑๐ โรง พระราชทาน นามว่า “โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์” ซึ่งมีผลต่อความ มั่นคงของประเทศด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากช่วยให้เด็กชาวเขา รู้ภาษาไทยและขนบธรรมเนียมไทย ส�ำนึกในความเป็นไทย และร่วมมือร่วมใจกับทางราชการ ในการพัฒนาท้องถิ่น ยกฐานะชุมชนของตนให้อยู่ดีกินดี มีมาตรฐาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกรุณาพระราชทานพระราชทรัพย์สนับสนุนการก่อสร้าง โรงเรียนร่มเกล้าฯ ที่กองทัพภาคที่ ๒ ริเริ่มขึ้นในบริเวณที่มีผู้ก่อการร้าย โรงเรียนดังกล่าวนี้ ภายหลังมี เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ เช่น โรงเรียนร่มเกล้าฯ อ�ำเภอหนองวัวซอ อุดรธานี โรงเรียนร่มเกล้าบ้านโคกเจริญ อ�ำเภอปากชม จังหวัดเลย โรงเรียนร่มเกล้าฯ อ�ำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เป็นต้น ในภาคกลาง โปรดฯ ให้จัดตั้ง โรงเรียนสงเคราะห์เด็กยากจน ขึ้นในวัด เริ่มที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๙ คือ โรงเรียนมัธยมศรีจันทร์ประดิษฐ์ และต่อมา โปรดฯ ให้สร้างเพิ่มขึ้นอีก เช่น โรงเรียน


วัดสันติการาม อ�ำเภอปากท่อ โรงเรียน วัดป่าไก่ อ�ำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี บุตรธิดาของผู้ป่วยโรคเรื้อน ก็ได้รับ พระมหากรุ ณ าแผ่ พ ระบารมี ป กเกล้ า ฯ โปรดฯ ให้แยกเด็กที่ปลอดจากเชื้อออก จากบิดามารดา จัดสร้าง “โรงเรียน ราชประชาสมาสัย” ขึ้นเพื่อให้การศึกษา และพระราชทานพระราชทรัพย์ไว้เป็น ทุนหมุนเวียนแก่โรงเรียนด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรง พระกรุ ณ าพระราชทานทุ น การศึ ก ษา ต่างๆ เป็นจำนวนมาก มูลนิธิช่วยนักเรียน ขาดแคลน ทุนการศึกษาชาวเขา ทุน การศึกษาแก่เยาวชนที่สูญเสียบิดามารดา จากภัยพิบัติต่างๆ เช่น วาตภัยที่แหลม ตะลุมพุก และต่อมาโปรดฯ ให้ก่อตั้งเป็น มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในการศึกษาระดับสูง ได้พระราชทาน ทุนเล่าเรียนหลวง ทุนภูมิพล และ ทุนอานันทมหิดล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาสร้างโรงเรียนจิตรลดา ขึ้นในสวนจิตรลดา เพื่อ ให้พระราชธิดา พระราชโอรส และบุตรหลานของข้าราชบริพารเข้ารับการศึกษา และได้พระราชทาน ที่ดินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้ก่อสร้างโรงเรียนราชวินิต ถนนสามเสน โรงเรียนราชวินิตมัธยม ที่นางเลิ้ง กรุงเทพฯ โรงเรียนไกลกังวลที่หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ โรงเรียน ภปร.ราชวิทยาลัย ที่สามพราน จังหวัดนครปฐม และได้พระราชทานพระราชทรัพย์ ส่วนพระองค์ เป็นทุนด�ำเนินงานจัดพิมพ์สารานุกรมไทย ส�ำหรับเยาวชนด้วย ในด้านการอาชีพของประชาชน โปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้ง ศูนย์ศึกษาฯ ขึ้น ๖ แห่ง ได้แก่ ศูนย์ศึกษา การพัฒนาห้วยทราย ภูพาน ห้วยฮ่องไคร้ อ่าวคุ้งกระเบน เขาหินซ้อน พิกุลทอง เพื่อให้การศึกษาการประกอบ


อาชีพเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ การจัดการกับผลผลิต และการรักษาสุขภาพอนามัย ให้ราษฎรน�ำไปใช้เป็น แบบอย่างในการประกอบอาชีพ ทั้งยังได้พระราชทานโครงการ “ทฤษฎีใหม่” ให้ครอบครัวเกษตรกร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาให้ก่อตั้ง “โครงการพระดาบส” ขึ้น เพื่อให้การ ศึกษาด้านวิชาชีพแก่เยาวชนยากจน ไม่มีโอกาสศึกษาในโรงเรียน โดยรับเด็กที่มีพื้นความรู้เพียงอ่านออก เขียนได้ เข้าเป็นนักเรียนของโครงการ สอนวิชาช่างไฟฟ้า ช่างวิทยุ ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างประปา ช่างเครื่องยนต์ ฯลฯ เพื่อให้มีอาชีพเลี้ยงตนและครอบครัว และสนองความต้องการช่างฝีมือในการพัฒนา อุตสาหกรรมด้วย ในด้านการศึกษานอกโรงเรียน เมื่อพุทธศักราช ๒๕๓๘ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้โรงเรียนไกลกังวล ที่หัวหิน ซึ่งเป็นโรงเรียนราษฎร์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็น แม่ข่าย น�ำสื่อการศึกษาทางไกล สายสามัญ ตั้งแต่ชั้นมัธยม ๑ ถึง ๖ ไปสู่โรงเรียนในชนบท ในจังหวัดต่างๆ รวมทั้ง โรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ โรงเรียนในแดนทุรกันดาร ทั่วประเทศ ประมาณสามหมื่นโรง พระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม ขอจงทรงพระเจริญ ขอขอบคุณ คุณหญิงกุลทรัพย์ เกาแม่นกิจ


ข่าวทหารอากาศ คณะผู้จัดทำหนังสือข่าวทหารอากาศ

หนังสือข่าวทหารอากาศ

เจ้าของ

ความเป็นมา หนังสือข่าวทหารอากาศ เป็นนิตยสารรายเดือนของ กองทัพอากาศ เริ่มดำเนินการเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๓ ขึ้นกับกรม ข่ า วทหารอากาศ มี น าวาอากาศเอก สกล รสานนท์ เป็ น บรรณาธิ ก ารคนแรก ดำเนิ น การโดยทุ น ของข้ า ราชการ ทหารอากาศ ต่อมาปี พ.ศ.๒๔๙๘ ได้โอนกิจการมาอยู่ในความ อำนวยการของกรมยุ ท ธศึ ก ษาทหารอากาศ ตามคำสั ่ ง ทอ. (เฉพาะ)ที่ ๕๘๐/๙๘ ลง ๒๓ ธ.ค.๒๔๙๘ มีเจ้ากรมยุทธศึกษา ทหารอากาศ เป็นผูอ้ ำนวยการ ตามคำสัง่ ทอ.(เฉพาะ) ที่ ๕/๙๙ ลง ๗ ม.ค.๒๔๙๙

กองทัพอากาศ

ทีป่ รึกษา พล.อ.อ.สมศักดิ์ วรฉัตร พล.อ.ท.ประพัตรา ตัณฑ์ไพโรจน์ พล.อ.ต.หญิง มาลี ดิษฐบรรจง พล.อ.ต.หญิง สุมาลี ฤทธิบตุ ร

ทีป่ รึกษากิตติมศักดิ์ พล.อ.ต.เผด็จ วงษ์ปิ่นแก้ว พล.อ.ต.เชิดพงศ์ เอี่ยมสมุทร น.อ.วสันต์ อยูป่ ระเสริฐ น.อ.ประสิทธิ์ ยิม้ เจริญ

พล.อ.ต.ยงยุทธ หาบุบผา พล.อ.ต.สุทธิพงษ์ อินทรียงค์ น.อ.เดชอุดม คงศรี น.อ.หญิง สุคนธ์ทพิ ย์ วัฒนามระ

ดำเนิ น กิ จ การหนั ง สื อ ข่ า วทหารอากาศ ให้ เ ป็ น ไป ตามนโยบายของกองทั พ อากาศ มี ผ ู ้ อ ำนวยการหนั ง สื อ ข่ า ว ทหารอากาศ (จก.ยศ.ทอ.) เป็นผูบ้ งั คับบัญชารับผิดชอบ

ผูอ้ ำนวยการ พล.อ.ท.ชนัท รัตนอุบล เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารอากาศ

วัตถุประสงค์/นโยบายกองทัพ ๑. เพือ่ เพิม่ พูนความรูใ้ นกิจการทัว่ ๆ ไป ๒. เพือ่ แลกเปลีย่ นแสดงความคิดเห็นในด้านการทหาร การเมือง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี อันจะเป็นประโยชน์ ต่อส่วนรวม ๓. เพือ่ เผยแพร่กจิ การกองทัพอากาศ

รองผู้อำนวยการ พล.อ.ต.ฌเณศ ชลิตภิรตั ิ เสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารอากาศ น.อ.ทวี กระออมแก้ว รองเสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารอากาศ ผูจ้ ดั การ ผูช้ ว่ ยผูจ้ ดั การ

น.อ.สหัสชัย มาระเนตร น.ท.ชาญยุทธ รัตนสาลี

กองบรรณาธิการ บรรณาธิการ พล.อ.ท.ชนัท รัตนอุบล ผู้ช่วยบรรณาธิการ น.อ.หญิง พัชรา ภัทรสุวรรณ น.อ.หญิง นภิศพร สังข์ทอง

ประจำกองบรรณาธิการ น.ท.หญิง กาญจณา แตงฉ่ำ น.ท.หญิง วรรณิภา ยีป่ ระชา น.ต.สินธพ ประดับญาติ

ภารกิจ

น.ท.นิพนธ์ ก่อสินค้า น.ท.หญิง อนงค์นาถ บุญจฑิตย์ พ.อ.อ.ชัยชนะ โสระสิงห์

นโยบายการดำเนินงานในปัจจุบัน ๑. เป็นสือ่ กลางในการแลกเปลีย่ น แสดงความคิดเห็น ทีเ่ ป็นประโยชน์ในการพัฒนากองทัพและส่วนรวม ๒. เรือ่ งทีน่ ำลงในหนังสือข่าวทหารอากาศ * ต้องไม่ขดั ต่อวัตถุประสงค์/นโยบาย กองทัพอากาศ ทีก่ ำหนด * ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อความมัน่ คงของชาติ บุคคล หรือส่วนรวม * ความยาวของเรือ่ งไม่ควรเกิน ๕ ตอน แต่ละตอน ไม่ควรเกิน ๕ หน้า * ต้องได้รบั การพิจารณาและเห็นชอบจากคณะ กรรมการพิจารณาเรือ่ งของสำนักงานหนังสือข่าวทหารอากาศ

กองจัดการ น.ท.พินจิ นุชน้อมบุญ น.ท.สมพร สิงห์โห ร.อ.หญิง สุมาลี สายะนันท์ พ.อ.อ.ประจวบ วีระชนม์ จ.อ.หญิง เศาวณี พ่านเผือก นาง พรทิพย์ ศรีวรพงษ์ สำนักงานหนังสือข่าวทหารอากาศ กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม.๑๐๒๑๐ โทร. ๐-๒๕๓๔-๔๔๗๑, ๐-๒๕๓๔-๔๒๔๑ Fax. ๐-๒๕๓๔-๔๔๗๑

กำหนดการเผยแพร่ นิตยสารรายเดือน พิมพ์ท่ี บริษทั ปรีชาธร อินเตอร์พริน้ จำกัด

๔/๕ ซอย รามอินทรา ๔๒ แยก ๘ แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. ๑๐๒๓๐ โทร.๐๒-๙๓๐๗๐๕๓-๕ แฟกซ์ ๐๒-๙๓๐๗๐๕๐ ค่าสมาชิกภายนอก ปีละ ๓๕๐ บาท (รวมค่าส่ง) สัง่ จ่าย ปณ. คลองถนน ๑๐๒๒๒

ความคิดเห็นของผูเ้ ขียนในหนังสือฉบับนีไ้ ม่มส ี ว่ นผูกพันกับทางราชการแต่ประการใด

ออกแบบปก : น.ต.สินธพ ประดับญาติ

http://www.rtaf.mi.th หรือ E-mail : rtafmag@gmail.com


ปีท่ี ๗๒ ฉบับที่ ๓ เดือน มีนาคม ๒๕๕๕

สารบัญ บทบรรณาธิการ

๕๙ การแก้ปญ ั หาวัยรุน่ ...ร.ท.สมนึก พุฒซ้อน ๖๒ เฉลย Crossword ...อ.วารุณี ๖๓ มุมกฎหมาย : การขอพระราชทานอภัยโทษ

๘ วันมาฆบูชา วันแห่งความรัก ๙ ๑๐ ๑๓ ๒๓ ๒๕ ๓๐ ๓๔ ๓๗ ๔๑ ๔๕ ๔๘ ๔๙ ๕๔

ทางพระพุทธศาสนา ...น.อ.เกษม พงษ์พนั ธ์ ภาพเก่าเล่าเรือ่ ง ...ครูตอ้ ...น.ท.พงศธร สัตย์เจริญ ครบรอบ ๑๐๐ ปี การบินของบุพการี ๖๖ มุมสุขภาพ : โรคลมแดด ทหารอากาศ ...พ.อ.อ.รัชต์ รัตนวิจารณ์ ...นายห่วงใย ยักษ์ไม่มีกระบอง ...พล.อ.ต.ปรีชา ประดับมุข ๖๙ ผู้หญิงกับบทบาทนักบิน วัตถุมงคลของชาว ทอ. : กองบิน ๕ ...Pharaoh ...น.อ.อภิชัย ศักดิ์สุภา (นนอ.๒๒) ๗๕ ภาษาไทยด้วยใจรัก : หนังสือออนไลน์ Google eBooks สำนวนเกีย่ วกับคำว่าน้ำ ...นวีร์ ...น.อ.สรรสิริ สิรสิ นั ตคุปต์ ๘๐ ครูภาษาพาที : Krispy Kreme (คริสปี้ ครีม) ๓๐ ปี กองบิน ๗ สุราษฎร์ธานี ...ปชส.บน.๗ ...Almond Cake สองสงครามที่กลัดหนอง ...น.อ.ปิยะพันธ์ ขันถม ๘๖ Test Tip Part 20 ...สายลม หมูบ่ นิ ผาดแผลง Blue Phoenix ...ท้าวทองไหล ๙๑ เวลา...การ์ตูน ...มิสกรีน AERO Update ...วิศวกร ชอ. ๙๓ นักท่องเทีย่ วยุคพัฒนา ...ว.ถังมณี Crossword ...อ.วารุณี ๙๖ นานาน่ารู้ : อาหาร ๓ ป. สำหรับคนวัยทอง เชื้อโรคร้ายที่กลายพันธุ์จากสัตว์มาสู่มนุษย์ ...บางแค ...พล.อ.อ.ยุทธพร ภู่ไพบูลย์ อุตสาหกรรมการทหารและกองทัพอินโดนีเซีย 2011 ๙๙ ขอบฟ้าคุณธรรม ...๑๒๖๑ ๑๐๒ วันแห่งความรักทางพระพุทธศาสนา ...เฟื่องลดา ...น.อ.เกษม พงษ์พนั ธ์ พูดจาประสาหมอพัตร : ริมฝัง่ แม่นำ้ ท่าจีน ๑๐๕ ในรัว้ สีเทา ...หมอพัตร

๑๐๐


สวัสดี สมาชิกข่าวทหารอากาศทุกท่าน วันที่ ๒ มีนาคม วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ได้เป็นที่ประจักษ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรง มีพระอัจฉริยะทางช่างอย่างแท้จริง เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๑๓ ในพิธีเปิดงานแนะน�ำแนวอาชีพและ แข่งขันฝีมือแห่งชาติ ครั้งที่ ๑ ณ สวนลุมพินี มีพระราชด�ำรัสเกี่ยวกับความเป็นช่างของคนไทย ดังนั้น เพื่อเป็นการ เฉลิมพระเกียรติ กระทรวงแรงงานจึงน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” และก�ำหนดให้วันที่ ๒ มีนาคม ของทุกปี เป็น “วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ” วันที่ ๗ มีนาคม วันมาฆบูชา ได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง ขอเชิญชาวฟ้าผู้เป็นพุทธศาสนิกชน น้อมร�ำลึกถึงค�ำสอนของพระพุทธองค์เพื่อน�ำมาประพฤติปฏิบัติ ซึ่งเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศอุดมการณ์ หลักการ วิธีการ ในการประกาศพุทธศาสนา และวันนี้เป็นวันที่มีเหตุการณ์ส�ำคัญเกิดขึ้น ๔ ประการ เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต ประกอบด้วย ๑. เป็นวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ หมายถึง ความส�ำคัญของพระพุทธศาสนา คือ การไม่ท�ำบาป ทั้งปวง การท�ำกุศลให้ถึงพร้อม การท�ำจิตใจให้ผ่องใส ๒. พระภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ๓. พระภิกษุเหล่านั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ได้อภิญญา ๖ ทุกรูป ๔. พระภิกษุเหล่านั้นล้วนเป็นเอหิภิกขุทุกรูป วันที่ ๘ มีนาคม เป็นวันสตรีสากล การก�ำเนิดของวันนี้ เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นในการจัดการแบ่งแยกและ การเหยียดเพศให้หมดไป และท�ำให้มีการยอมรับผู้หญิงมากขึ้น ท�ำให้ผู้หญิงในปัจจุบันมีบทบาทอย่างแพร่หลายต่อการ ขับเคลื่อนทางสังคม และบทบาทหนึี่งที่น่าสนใจอ่านได้จาก....เรื่อง ผู้หญิงกับบทบาทนักบิน ภาพจากปกฉบับนี้อ่านได้ จาก...เรื่อง หมู่บินผาดแผลง Blue Phoenix ซึ่งจะแสดงถึงศักยภาพและขีดความสามารถของหมู่บินผาดแผลงอย่าง น่าสนใจ....เรื่อง ยักษ์ไม่มีกระบอง สะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพในการบริหารงานของ ศปภ. ในเหตุการณ์มหาอุทกภัย ในช่วงวิกฤติอย่างน่ากังขา นอกจากนี้ยังมีเรื่องประจ�ำฉบับที่น่าติดตามอีกมากมาย เชิญพลิกอ่านตามอัทธยาศัย

บรรณาธิการ 



ข่าวทหารอากาศ ๙

มีนาคม ๒๕๕๕

ภาพเก่าเล่าเรื่อง

ครูต้อ

พลอากาศเอก เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลอากาศโท หลวงเทวฤทธิพันลึก จอมพลอากาศ ฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ พลอากาศเอก หลวงเชิดวุฒากาส อดีตรองผู้บัญชาการทหารอากาศ

เดินน�ำนายทหารและข้าราชการ รับการประพรมน�้ำพระพุทธมนต์ วันกองทัพอากาศ ๒๗ มีนาคม ๒๕๐๑ (ปัจจุบันก�ำหนดให้วันที่ ๒๗ มีนาคม เป็นวันที่ระลึกกองทัพอากาศ)


๑๐ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

พ.อ.อ.รัชต์ รัตนวิจารณ์ (ต่อจากฉบับที่แล้ว) ก�ำเนิดการบินในสยาม (ต่อ) ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๕๖ นายพันโท หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ ส�ำเร็จวิชาการบินหลักสูตร การบินไกลระยะทาง ๒๐๐ กิโลเมตร ของกองทัพบกฝรั่งเศส (ได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็น พันโท เมื่อ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๖) ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๕๖ นายพันโท หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ สอบการบินรูปทรงสามเหลี่ยมในระยะทาง ๓๐๐ กิโลเมตร และการ บินเพดานบินสูงในคราวเดียวกัน แต่ขณะท�ำการบินเครื่องยนต์เกิดขัดข้อง เนื่องจากก้านสูบขาด จ�ำต้องลงโดยความจ�ำเป็น และเมื่อแก้ไขแล้วจึง ได้วิ่งขึ้นไปใหม่ แต่ยังไม่ทันได้ระยะสูงก็ต้องเลี้ยวหลบยอดไม้ เครื่อง เสียการทรงตัวจึงแฉลบตกลงมาช�ำรุด นายพันโทหลวงศักดิ์ศัลยาวุธ ปลอดภัย การสอบจึงเลื่อนออกไปก่อน ๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๖ นายพันโท หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ ส�ำเร็จการศึกษาการบินตามหลักสูตรของกองทัพบกฝรั่งเศส ๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๖ นายพันตรี หลวงอาวุธสิขิกร ส�ำเร็จการศึกษาการบินตามหลักสูตรของสโมสรการบินฝรั่งเศส มิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๖ กระทรวงกลาโหมได้ท�ำการสั่งซื้อ เครื่องบินเพิ่มอีก ๓ เครื่องเป็นรุ่นที่สอง หลังจากที่ซื้อมาแล้วครั้งหนึ่ง ในปี พ.ศ.๒๔๕๕ รวมทั้งในครั้งนี้ได้มีการจัดซื้อเครื่องยนต์เปล่าอีก


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๑๑

หลายเครื่องเพื่อน�ำไปเป็นเครื่องยนต์ส�ำรองด้วย ในครั้งที่สองนี้มีการซื้อเครื่องบินประกอบด้วย ๑. นิเออร์ปอร์ต (Nieuport IVG) ชนิดปีกชั้นเดียวใช้เครื่องยนต์ โนม ๒๘ แรงม้า ๑ เครื่อง ๒. เบร์เกต์ ๓ (Breguet III) ชนิดปีกสองชั้นใช้เครื่องยนต์ซัมป์ซองคองตองอุนเน ๑๓๐ แรงม้า ๑ เครื่อง ๓. เบร์เกต์ ๓ (Breguet III) ชนิดปีกสองชั้นรุ่นใช้เครื่องยนต์โนม ๕๐ แรงม้า ๑ เครื่อง ในการจัดซื้อครั้งที่สองนี้ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ฝากกระทรวงกลาโหมซื้อ**เครื่องบินหนึ่งเครื่อง ซึ่งภายหลังได้น้อมเกล้าฯถวาย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ในวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๗) ซึ่งได้พระราชทานให้กระทรวงกลาโหมน�ำไปใช้ราชการในกิจการแผนกการบิน คือ ๑. เบร์เกต์ ๓ ชนิดปีกสองชั้นรุ่นใช้เครื่องยนต์โนม ๑๐๐ แรงม้า ๑ เครื่อง (** หมายเหตุของผู้รวบรวม….“บันทึกของกรมสารบรรณกองทัพอากาศในหนังสือ “ต�ำนานกองทัพอากาศ ประจ�ำปีพุทธศักราช ๒๔๕๔-๒๔๖๓” ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ของกองทัพอากาศ ระบุว่าจัดซื้อครั้งที่สองนั้น เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ฝากกระทรวงกลาโหมซื้อ มิได้ระบุว่าซื้อให้กระทรวงกลาโหม”)

สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๖ ๓ เดือนเศษ ภายหลังจากนายพันโท หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ, นายพันตรี หลวงอาวุธสิขิกร และนายร้อยเอก ทิพย์ เกตุทัต จบวิชาการบินแต่ยังอาศัยอยู่ใน ฝรั่งเศส เพื่อเดินทางไปดูงานการบิน และตรวจรับ เครื่องบินที่กระทรวงกลาโหมสั่งซื้อ ในวันนี้ได้ เดินทางออกจากฝรั่งเศส เพื่อกลับประเทศไทย โดยทั้งสามท่านจะแวะดูงานการบินในเยอรมนี รัสเซีย ไซบีเรีย และญี่ปุ่น

๑๒


๑๒ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

๑๕ กันยายน พ.ศ.๒๔๕๖ นายพันโท หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ, นายพันตรี หลวงอาวุธสิขิกรและ นายร้อยเอก ทิพย์ เกตุทัต แวะดูงานการบินรัสเซีย ที่กรุงเปโตรกราก นครหลวงของรัสเซีย และได้ไปดู เครื่องบินและอากาศนาวาที่กัตชินา ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๔๕๖ นายพันโท หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ,นายพันตรี หลวงอาวุธสิขิกรและ นายร้อยเอก ทิพย์ เกตุทัต แวะดูงานการบินที่สนามบินคอร์ปปุสนี

๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๖ นายพันโท หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ, นายพันตรี หลวงอาวุธสิขิกร และนายร้อยเอก ทิพย์ เกตุทัต เดินทางกลับถึงประเทศไทย ภายหลังทั้งสามท่านดูงานกิจการ ด้านการบิน ต่างๆ ผ่านทางประเทศเยอรมนี รัสเซีย ไซบีเรีย กรุงโตเกียว เซี่ยงไฮ้ และไซ่ง่อน


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ


ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ


ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

สภาวะโลกร้อนได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสภาพดินฟ้าอากาศเป็นอย่างมาก จนกระทั่ง เมื่อเดือน มิ.ย.๕๔ ประเทศไทยต้องเผชิญพายุโซนร้อนอย่างหนักหน่วงติดต่อกันถึง ๕ ลูก แต่ละลูกซัดกระหน�่ำเข้าสู่จังหวัดทางภาคเหนือ ตั้งแต่น่าน เชียงใหม่ เชียงราย ลงมาจนถึง พิษณุโลก พิจิตร และสุโขทัย มีผลท�ำให้เกิดฝนตกหนักตลอดในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.-ส.ค. ๕๔ ท�ำให้หลายจังหวัดเกิดสภาวะน�้ำท่วมหนักและมีน�้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มเข้าใส่บ้าน เรือนจนมีผู้เสียชีวิตเป็นจ�ำนวนมาก

สิ่งที่ประเทศและคนไทยต้องเผชิญร่วมกันในช่วงดังกล่าวก็คือ ปริมาณน�้ำฝนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ในแต่ละปีอยู่ที่ ๑,๗๘๑ ม.ม. ขณะที่ปกติมีฝนตกเฉลี่ยเพียง ๑,๓๗๔ ม.ม. เท่ากับสูงกว่าปกติถึง ร้อยละ ๔๐ ปริมาณนี้ยังสูงกว่าน�้ำฝนในปี ๒๕๕๓ ซึ่งเกิดน�้ำท่วมหนักใน ๓๙ จังหวัดทั่วประเทศด้วย นอกจากนี้ประเทศไทยซึ่งเคยถูกแค่หางพายุ แต่มาคราวนี้กลับต้องเผชิญพายุลูกใหม่ถึง ๕ ลูกเต็มๆ เริ่มตั้งแต่พายุโซนร้อน “ไหหม่า” ในเดือน มิ.ย.-ก.ค.๕๔ ตามด้วย “นกเต็น” ในปลายเดือน ก.ค. ต่อเนื่อง ถึงเดือน ส.ค.๕๔ ตามมาติดๆ ด้วยพายุโซนร้อน “ไห่ถาง” และ “เนสาด” ซึ่งซัดเข้าถล่มประเทศไทย พร้อมๆ กันในเดือน ก.ย.๕๔ เพียงเดือนเดียว จนไปปิดท้ายความวิปริตผิดเพศด้วยพายุโซนร้อนอีกลูกที่ชื่อ “นาลแก” ในเดือน ต.ค.๕๔


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๑๗

นอกจากนั้นยังมีร่องมรสุมอีก ๓ ร่องที่พัดเข้าสลับกับพายุโซนร้อน ท�ำให้มีฝนตกหนักเหนือเขื่อน ทุกเขื่อนของประเทศ ขณะที่ระดับน�้ำทะเลก็สูงกว่าระดับน�้ำทะเลที่เฉลี่ยในแต่ละปีถึง ๑๕ ซม. โดยเฉพาะ ในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาภาคกลาง ระดับน�้ำทะเลซึ่งทุกปีต้องลดกลับไปในเดือน ต.ค.ของแต่ละปี แต่ที่ผ่านมา น�้ำทะเลกลับเป็นตัวช่วยหนุนส่งอีกแรงให้สภาวะน�้ำท่วมวิกฤติหนักและยาวนาน ส่งผลให้การระบายน�้ำ จ�ำนวนมหาศาลที่มีอยู่เป็นทุนเดิมลงสู่ทะเลได้ยากล�ำบาก มีผลท�ำให้ตั้งแต่ ๔ ต.ค.๕๔ มวลน�้ำก้อนใหญ่ที่ ไหลเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือ ได้ไหลทะลักเข้าท่วม ๘ จังหวัดในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ตั้งแต่ อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท กระทั่งถึงพระนครศรีอยุธยา ซึ่งไม่เพียงแต่เข้าท่วม วัดวาอาราม เรือกสวน ไร่นา พื้นที่ทางการเกษตร ชุมชน และพื้นที่อันเป็นมรดกโลกแล้ว แต่ยังเข้าโจมตี นิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในจังหวัดต่างๆ อย่างหนัก มีผลท�ำให้นิคมอุตสาหกรรม ๗ แห่ง ต้องจมอยู่ ใต้บาดาล โดยมีนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครเป็นนิคมแรก เท่านั้นยังไม่พอ ปริมาณน�้ำจ�ำนวนมหาศาล ยังไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศถึง ๒๖ จังหวัด นอกจากนั้นยังเข้าท่วมพื้นที่กว่า ๓๐ เขตของ กทม. ศูนย์กลางเศรษฐกิจและความเจริญของประเทศ ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ ๗๐ ปี นับจากปี ๒๔๘๕ เป็นต้นมา ท�ำให้ประชาชนคนไทยกว่า ๒ ล้านครัวเรือน ร่วม ๕ ล้านคน กลายเป็นผู้อพยพต้องอาศัยที่พักพิงทั้ง หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ได้ร่วมกันจัดหาให้ และอีกกว่า ๖๕๐ คน ต้องสังเวยชีวิตไปกับอุทกภัยในครั้งนี้ • สถานการณ์ที่แท้จริงคืออะไร ? คงจะเป็นเรื่องยากเพราะการวิเคราะห์ถึงสาเหตุ ปัญหาและการแก้ไข จะต้องรู้ข้อเท็จจริงในทุกๆ ด้าน โดยไม่มีอคติ ผ่านการวิเคราะห์อย่างถูกต้อง และเข้าใจอย่างแท้จริง ความจริงข้อมูลมีอยู่เยอะมากแต่ต้อง กลั่นกรองเพราะมีทั้งข้อเท็จและข้อจริง แต่ปัญหาคือ ข้อมูลเหล่านี้เป็นการมองในแง่เดียวไม่รอบด้าน ท�ำให้ การตัดสินใจของผู้ที่มีอ�ำนาจขาดความรอบคอบและถูกต้องหรือไม่ จากการวิเคราะห์ของผู้เขียน ปัญหาน�้ำท่วมปีนี้ไม่น่าจะร้ายแรงมากไปกว่าปี ๒๕๓๘ และปี ๒๕๔๙ เพราะทั้งปริมาณฝนตก ปริมาณน�้ำหลากกว่าหนึ่งหมื่นล้าน ลบ.ม. ไม่แตกต่างกันมากนัก ที่แตกต่าง จากเดิม คือ พื้นที่รับน�้ำเปลี่ยนไป มีการสร้างนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น มีการสร้างคันป้องกันน�้ำท่วมเพื่อ แก้ปัญหาอุทกภัย ดังนั้นพื้นที่ระบายน�้ำจึงลดลง น�้ำจึงไหลเร็วและแรงขึ้น ปัญหาที่ส�ำคัญ คือ การบริหาร จัดการน�้ำที่ผิดพลาดอย่างมากมาตั้งแต่ต้นหรือไม่ เรื่องนี้เป็นความผิดของใครหรือไม่ เพราะคนที่ท�ำถ้ารู้ว่าผลจากการกระท�ำสิ่งนั้น จะได้รับผลอย่างนี้ คงไม่มีคนไหนใจร้ายใจด�ำท�ำลงไป ทั้งนี้เมื่อเริ่มมีฝนตก จากข้อมูลจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่รัฐสภา เมื่อ ๒๗ พ.ย.๕๔ มีรัฐมนตรีฯ บางท่าน ได้สั่งการให้ ผู้อ�ำนวยการเขื่อนเก็บกักน�้ำไว้ทั้งหมด เพราะ ห่วงกลัวจะไม่มีน�้ำพอใช้ในช่วงฤดูแล้ง ทั้งที่ ผู้อ�ำนวยการเขื่อนภูมิพล ได้ค้านว่าควรจะเก็บกักเพียงบางส่วน และให้ปริมาณน�้ำในเขื่อนใกล้เต็มเมื่อปลายฤดูฝนเพื่อสามารถบริหารจัดการน�้ำได้ โดยค�ำนึงถึงความ


๑๘ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

ปลอดภัยของเขื่อนด้วย ผลก็คือหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ทุกเขื่อนมีน�้ำเกือบเต็ม เมื่อมีพายุใหญ่พาน�้ำฝน มา เขื่อนก็ไม่สามารถรับน�้ำเพิ่มได้ แถมต้องเร่งระบายน�้ำออกเพื่อป้องกันเขื่อนพัง ยิ่งเป็นการซ�้ำเติม ประชาชนด้านท้ายน�้ำให้แย่ลงไปอีก จึงท�ำให้สงสัยว่าค�ำสั่งของรัฐมนตรีฯ ที่ได้สั่งการไปแล้วนั้นได้รับข้อมูล เพียงพอครบถ้วนแล้วหรือไม่ จากข้อมูลสถิติภูมิอากาศของประเทศไทยในรอบ ๓๐ ปี พบว่าภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ฤดูฝนจะเริ่มจากเดือน พ.ค.-ต.ค. ส่วนภาคใต้ ฤดูฝนจะนานกว่า ๒ เดือน โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออก (เช่น จังหวัดสุราษฎร์ธานี) ฤดูฝนจะเริ่มจากเดือน พ.ค.-ธ.ค. ส่วนภาคใต้ ฝั่งตะวันตก (เช่น จังหวัดกระบี่) ฤดูฝนจะเริ่มจากเดือน เม.ย.-พ.ย. การบริหารจัดการน�้ำในเขื่อนซึ่งต้อง ปล่อยน�้ำให้ท้ายเขื่อนใช้ตลอดทั้งปีตามความจ�ำเป็นและตามปริมาณที่เก็บกักไว้ ดังนั้นจึงต้องเริ่มเก็บกักน�้ำเมื่อ เข้าสู่ฤดูฝน และต้องประมาณการณ์ว่าน�้ำจะเต็มเขื่อนหรือเกือบเต็มเขื่อน เมื่อสิ้นฤดูฝนซึ่งขึ้นกับปริมาณ ฝนที่ตกในปีนั้นว่ามีมากหรือมีน้อย ถ้ามีน้อยบางปีน�้ำในเขื่อนหลังฤดูฝนอาจจะเหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่ง เช่น เมื่อ ๑ พ.ย.๕๓ เขื่อนแก่งกระจานมีความจุน�้ำเพียงร้อยละ ๔๔ ของระดับน�้ำเก็บกักของอ่าง แม้ยืดฤดูฝน จนถึง ๑ ธ.ค.๕๓ และ ๑ ม.ค.๕๔ ตัวเลขก็ยังต�่ำกว่าร้อยละ ๔๔ ขณะที่เขื่อนอุบลรัตน์ มีความจุน�้ำร้อยละ ๑๑๗ ส่วนเขื่อนภูมิพลซึ่งเป็นเขื่อนที่ใช้อ้างอิงเพราะอยู่ในภาคเหนือ และมีบทบาทอย่างมากต่อการเกิดปัญหา อุทกภัยในภาคกลางและ กทม. มีความจุน�้ำร้อยละ ๖๓ ผลการประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น�้ำของเขื่อนภูมิพล (ความจุเก็บกักน�้ำที่ระดับน�้ำสูงสุดและที่ ระดับน�้ำเก็บกักของอ่าง ต่างก็เท่ากับ ๑๓,๔๖๒ ล้าน ลบ.ม.) คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดนี้เริ่มปฏิบัติงาน เมื่อ ๙ ส.ค.๕๔ เริ่มรับผิดชอบนโยบายการบริหารจัดการน�้ำในอ่างเก็บน�้ำของเขื่อนทั่วประเทศ ซึ่งไม่อาจ จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้ และจากข้อมูลจากศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น�้ำ กรมชลประทาน (๑๔๖๐) http://water.rid.go.th/flood/flood/res_table.htm ซึ่งมีข้อมูลอ่างเก็บน�้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ย้อนหลังมากกว่า ๑ ปี โดยบอกเป็นรายวัน ได้พิสูจน์ความจริงว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหนและอยู่ในความรับผิดชอบ ของใคร นักการเมืองไทยไม่ต้องการรู้ข้อมูลและความจริงทั้งหมดหรือไม่ หรือว่าสนใจแต่ข้อมูลจากนักวิชาการ เพื่อ เอาข้อมูลบางส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตน ดังนั้นเมื่อไม่รู้ความจริงทั้งหมด จึงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ หรือแก้ปัญหาได้แบบไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เหมือนลิงแก้แห ยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่ง สุดท้ายก็พันตัวเองจนแก้ไม่หลุด จากข้อมูล จะพบว่า เมื่อรัฐบาลเข้าบริหารประเทศใหม่ๆ เมื่อ ๑๐ ส.ค.๕๔ ปริมาณน�้ำในอ่างเก็บน�้ำ เขื่อนใหญ่ๆ ทั้ง ๑๐ แห่ง ที่มีน�้ำจุน้อยที่สุดร้อยละ ๓๗ (เขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) เขื่อนภูมิพล มีน�้ำจุ ร้อยละ ๗๐ ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ มีน�้ำจุมากที่สุดร้อยละ ๘๖ ซึ่งถ้ารัฐมนตรีที่รับผิดชอบ สนใจในภาระหน้าที่ ของตน จะต้องตระหนักว่าปี ๒๕๕๔ มีน�้ำเก็บกักมากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (๑๐ ส.ค.๕๓) เขื่อนที่มีน�้ำจุน้อยที่สุดร้อยละ ๑๐ (เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) เขื่อนภูมิพลมีน�้ำจุร้อยละ ๓๑ เขื่อนที่มีน�้ำจุมากที่สุด ร้อยละ ๗๒ (เขื่อนศรีนครินทร์) ดังนั้นการเก็บกักน�้ำจะต้องท�ำด้วยความระมัดระวัง ใน ๑๐ ส.ค.๕๔ มีน�้ำ ไหลเข้าอ่าง ๖๑.๘๓ ล้าน ลบ.ม. ปล่อยให้น�้ำไหลออกเพียง ๕.๐๐ ล้าน ลบ.ม. และใน ๑ ก.ย.๕๔ เขื่อนภูมิพล


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๑๙

มีน�้ำจุร้อยละ ๗๘ และใน ๑ ต.ค.๕๔ เขื่อนภูมิพล มีน�้ำจุร้อยละ ๙๓ ดังนั้นเมื่อมีพายุเข้าจึงต้องเร่งระบาย น�้ำ เพื่อไม่ให้เขื่อนพัง เฉพาะช่วง ๖ ต.ค.-๑๒ ต.ค.๕๔ มีน�้ำไหลเข้าอ่าง ๙๗๙.๑๕ ล้าน ลบ.ม. และได้ ปล่อยระบายน�้ำจากเขื่อน ปริมาตรรวม ๖๘๕.๓๗ ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน�้ำขนาดนี้เกือบเท่ากับน�้ำในเขื่อน ป่าสักชลสิทธิ์ที่ระดับน�้ำเก็บกัก ๗๘๕ ล้าน ลบ.ม. แตก เมื่อไหลรวมกับปริมาณน�้ำหลาก จึงไม่น่าสงสัยเลยว่า ท�ำไมคันป้องกันน�้ำท่วมของเทศบาลและนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ จึงพังพินาศหมด และจริงหรือไม่ที่มีรัฐ มนตรีฯ บางท่านได้สั่งป้องกันพื้นที่ฐานเสียงของตนโดยปิดประตูน�้ำไม่ให้ระบายน�้ำเข้าท่วมท้องนาซึ่ง ก�ำลัง เก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งถ้าปล่อยให้ระบายเข้าบ้างบางส่วนโดยเก็บเกี่ยวข้าวได้ก็จะช่วยลดระดับน�้ำได้บ้าง แม้จะเล็กน้อยก็ตาม เพราะอย่างน้อยก็เป็นการบรรเทาหรือลดปริมาณน�้ำหลากลงได้ • สุดท้ายประชาชนเป็นแพะ ตามค�ำสั่งส�ำนักนายกฯ ที่ ๑๙๓/๕๔ ลง ๘ ต.ค.๕๔ เรื่องแต่งตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัย” (ศปภ.) โดยอาศัยอ�ำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ม.๑๑ (๓) และ (๙) เป็น หัวเรือใหญ่เข้าช่วยเหลือ ทั้งการบริหารจัดการน�้ำ แก้วิกฤติ และงบฟื้นฟูเยียวยา รัฐบาลคิดถูกแล้วที่ตั้ง ศปภ. เพื่อประสานงานรวมศูนย์และแก้ปัญหารวดเร็วเด็ดขาด แต่การแต่งตั้ง ผู้อ�ำนวยการศูนย์ปฏิบัติ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ผอ.ศปภ.) ได้แต่งตั้งผู้ที่มีความรู้และดูแลแก้ไขปัญหาน�้ำท่วมโดยตรง หรือไม่ จึงเป็นค�ำถามคาใจคนทั้งประเทศว่า ท�ำไมรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยซึ่งดูแลกรมการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร จึงไม่ได้รับการแต่งตั้ง หรืออาจจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ดูแล กรมชลประทานซึ่งเกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องน�้ำ หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องน�้ำและไม่มีส่วนได้ส่วนเสียก็ยังได้ ดังนั้น จึงเหมือนการแต่งตั้งยักษ์ที่ไม่มีกระบอง ไม่มีอ�ำนาจในการสั่งการอธิบดีต่างๆ ได้โดยตรง รวมทั้ง การแต่งตั้งฝ่ายการเมืองเข้ามาท�ำงานในคณะกรรมการหลายชุด แทนที่จะใช้ผู้มีประสบการณ์ ผลก็คือ การปฏิบัติการเป็นไปแบบไม่มีทิศทาง ต่างคนต่างใหญ่ ต่างคนต่างเก่ง ไม่กล้าตัดสินใจ แก้แต่ปัญหา เฉพาะหน้า มีแต่คนเสนอหน้าออกทีวีแถลงข่าวทั้งที่ไม่รู้เรื่องวิธีการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ไม่รู้เสียด้วยว่า วิธีไหนจะดีที่สุดส�ำหรับสถานการณ์ขณะนั้นโดยเกิดผลกระทบน้อยที่สุด แม้แต่การบริหารจัดการที่ไม่เป็น เอกภาพ ไม่มีการแจ้งข้อมูลต่อประชาขนอย่างเป็นระบบเพื่อรับมือกับสถานการณ์น�้ำท่วมครั้งนี้ จึงท�ำให้ กลุ่ม Thaiflood ต้องขอแยกตัวจาก ศปภ. พร้อมเตือนว่า “ภัยธรรมชาติเมื่อบวกกับการบริหารจัดการที่ ไม่เป็นระบบก็จะกลายเป็นภัยพิบัติ” นอกจากนี้ สมาชิกบ้านเลขที่ ๑๑๑ เข้ามามีบทบาทใน ศปภ. เกินกว่า ต�ำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีมากขึ้นทุกวัน จึงท�ำให้แนวทางในการแก้ปัญหาของรัฐบาลนั้นถูกมอง ว่าล้มเหลวหรือหลงทาง ขณะที่นักวิชาการอิสระและนักวิชาการจากต่างประเทศที่บ้านเลขที่ ๑๑๑ น�ำมาช่วย งานใน ศปภ.นั้น ดูจะได้รับความสนใจมากกว่าความเห็นของนักวิชาการที่เป็นข้าราชการประจ�ำ จึงท�ำให้


๒๐ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

นักวิชาการที่เป็นข้าราชการประจ�ำเหล่านี้ในระยะหลังเริ่มที่จะไม่เอาด้วยกับ ศปภ. ความเป็นจริง ศปภ.ต้องมีการระดมพลังสมองและร่วมตัดสินใจ ไม่ใช่การตัดสินใจโดยอาศัย สามัญส�ำนึก ผลก็คือ ต่างคนต่างท�ำ ดังนั้นทุกหน่วยงานต่างก็ต้องเอาตัวรอด โดยการปกป้องพื้นที่ ของตัวเอง เกรงว่าน�้ำจะท่วมนิคมอุตสาหกรรม ท�ำให้ทุกเทศบาล และ กทม. ต่างก็สร้างคันป้องกันน�้ำ ท่วมของตนให้สูงกว่าเดิม ปริมาณน�้ำหลากกว่าหนึ่งหมื่นล้าน ลบ.ม. ที่ไหลบ่าจากนครสวรรค์ ขณะที่ แม่น�้ำเจ้าพระยาระบายได้ไม่เกิน ๓,๕๐๐ ลบ.ม.ต่อวินาที หรือ ๓๐๒.๔ ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เมื่อน�้ำถูกบีบ เพราะมีคันป้องกันน�้ำท่วมขวางไว้ก็จะยกระดับน�้ำให้สูงขึ้นและไหลแรงขึ้น ผลก็คือพนังดินกั้นน�้ำของแม่น�้ำ เจ้าพระยาซึ่งมีน�้ำท่วมสูงมากกว่า ๓ ม. เกิดพังทลายเพราะน�้ำไหลมาแรงและเร็วจากการที่ระดับน�้ำสูงขึ้น แต่เมื่อยักษ์ที่ไม่มีกระบอง ทุกฝ่ายต่างก็ต้องป้องกันพื้นที่ตัวเอง โดยไม่ยอมให้น�้ำเข้าท่วมพื้นที่ของตน ผลก็คือ ประตูน�้ำ คันป้องกันน�้ำท่วมพังติดต่อกันแบบโดมิโน่ (domino) เริ่มตั้งแต่นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และ กทม. ถ้ายักษ์มีกระบอง และกล้าตัดสินใจให้เปิด-ปิดประตูน�้ำและช่องทางระบายน�้ำแบบควบคุมได้และ ลดความเสียหายไม่ให้น�้ำท่วมสูงจนเกินกว่าผู้ได้รับความเสียหายจะรับได้ และรีบเร่งด�ำเนินมาตรการเยียวยา ผู้ได้รับความเสียหายในฐานะผู้เสียสละและกล้ารับผิดชอบกับความเสียหายและความผิดพลาดที่อาจจะ เกิดขึ้น ปัญหาอุทกภัยคงไม่ร้ายแรงอย่างนี้ จะเป็นไปได้หรือไม่ที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ ไม่ทราบจะเชื่อ ที่ปรึกษาคนไหน หรือมีมากจนไม่รู้จะเชื่อใคร เพราะแต่ละคนก็บอกกันคนละอย่างตามความคิดของตน จึงขาดการบูรณาการที่จะสรุปหาความคิดที่ดีที่สุดส�ำหรับสภาพการณ์ปัจจุบัน ตลอดจนต้องฟังผู้ที่มอง แต่ผลประโยชน์ของตนเอง จึงลังเลและไม่กล้าตัดสินใจจะเปิด-ปิดประตูน�้ำ ถ้ามีคนค้านก็ไม่กล้าท�ำ ดังนั้น จึงแก้ไขโดยไม่กล้าตัดสินใจท�ำอะไรเลย จนเกิดเรื่องน�้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมแบบต่อเนื่อง แม้แต่ สนามบินดอนเมือง ที่ตั้งของ ศปภ.ก็ยังจมบาดาลไปด้วย และมีข่าวว่าเกิดเรื่อง สส.น�ำชาวบ้านมาท�ำลาย คันป้องกันน�้ำท่วมเทศบาลเมืองปากเกร็ด เพื่อน�้ำจะได้ไม่ท่วมดอนเมือง และตามข่าวหนังสือพิมพ์และทีวี ว่ามีคนบางคนบางกลุ่มฉวยโอกาสใส่รูปและชื่อของตนลงบน “ถุงยังชีพ” และติดป้ายโฆษณาหาเสียงบนรถ ที่ขนของไปช่วยผู้ประสบอุทกภัย มีการกล่าวหาว่า น�ำ “ถุงยังชีพ” ไปแจกเฉพาะกลุ่มของตน พวกกลุ่มอื่น และฝ่ายตรงข้ามไม่แจก จนต้องมาแย่งเอาของบริจาคไปแจกเองเพื่อให้ถึงมือของพวกตน ท�ำให้อดคิด ไม่ได้ว่ายักษ์ไม่มีกระบองจริงๆ และยังท�ำให้คนไทยทั้งประเทศรู้สึกว่า การที่รัฐมนตรียุติธรรมที่มานั่งเป็น ผอ.ศปภ.นั้น ไม่ค่อยสวยสดงดงามเท่าไหร่ ทั้งแง่การบริหารจัดการ ตลอดจนความ “โปร่งใส” ในการ บริหารงบประมาณ โดยเฉพาะจัดซื้อสิ่งของอุปโภคบริโภคหลายรายการ จากการบริหารงานของ ศปภ. โดยยักษ์ที่ไม่มีกระบอง รวมทั้งมีคนหลายพรรคหลายพวกที่ ปฏิบัติงานใน ศปภ. เหมือนมวยทะเล ๓ เส้า ได้เกิดปัญหาหลายๆ อย่างตามมา ต่อมา ศปภ. จึงได้ มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการท�ำงานเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาที่มีการเปลี่ยนแปลงไป กอปร กับมวลน�้ำก้อนใหญ่เข้ามาถึงในเขต กทม. และจะต้องผันน�้ำลงสู่อ่าวไทยโดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้น�้ำท่วม


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๒๑

กทม. นายกรัฐมนตรีจึงได้ใช้อ�ำนาจเด็ดขาดในการสั่งเปิด-ปิดประตูน�้ำ โดยอาศัยมาตรา ๓๑ แห่ง พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปี ๒๕๕๐ โดยให้ทุกหน่วยงานขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อการท�ำงานที่ เป็นเอกภาพ มีการตั้ง ศปภ.ส่วนหน้าที่ กทม. และมอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยดูแล ท�ำหน้าที่ ประสานงาน การปฏิบัติตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีและผู้ว่า กทม. และยังแต่งตั้งคณะท�ำงานบริหาร จัดการระบายน�้ำในพื้นที่ที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง และมอบหมายให้รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็น ประธานคณะท�ำงาน เพื่อเสนอความคิดเห็น ให้ค�ำปรึกษาและให้ค�ำแนะน�ำต่อนายกรัฐมนตรีในการ สั่งการหน่วยงานของรัฐเรื่องการบริหารจัดการระบายน�้ำในพื้นที่สาธารณภัยร้ายแรง ที่จริงหากนายกรัฐมนตรี ใช้อ�ำนาจเด็ดขาดตั้งแต่ต้น ปัญหาอุทกภัยคงจะไม่ร้ายแรงและยุ่งยากอย่างนี้ แต่อย่างน้อยก็ยังได้ท�ำ ดังนักปราชญ์ ขงเบ้ง เคยกล่าวว่า “ท�ำแล้วเสียใจ ดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ท�ำ” แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ยังคง ปรากฏว่ า มี ข ่ า วปั ญ หาความ ขัดแย้งระหว่าง ศปภ. และ กทม. เป็นระยะ เริ่มตั้งแต่ช่วง ที่น�้ำทะลักเข้าเขต กทม.ในช่วง แรกๆ ก็ไม่ชัดเจนว่าประชาชน ใน กทม. ควรฟังค�ำเตือนเรื่อง สถานการณ์น�้ำจากใคร ระหว่าง ศปภ.หรือทาง กทม. เพราะ กทม.มั ก จะเตื อ นว่ า ระดั บ น�้ ำ วิกฤติมากกว่าที่ทาง ศปภ.เตือน เป็นต้น สุดท้ายประชาชนก็เป็น แพะจากอุทกภัยครั้งนี้ • บทส่งท้าย จากพายุโซนร้อน “ไหหม่า” สลับกับร่องมรสุมอีก ๓ ร่อง ต่อเนื่องมาจนถึง “นาลแก” จนได้ บทสรุปที่ทุกคนหลีกไม่พ้น คือ “มหาอุทกภัย” ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้มิได้เกิดจากภัยธรรมชาติเพียง อย่างเดียวเท่านั้น ระบบการบริหารของภาครัฐ การประสานงานระหว่างข้าราชการประจ�ำกับข้าราชการ การเมือง ตลอดจนข้อมูลพื้นฐานและสถิติ ล้วนเป็นสาเหตุที่ส�ำคัญทั้งสิ้น ที่ท�ำให้เกิดสภาวะ “ยักษ์ไม่มี กระบอง” หมายถึงบทสะท้อนประสิทธิภาพในการบริหารงานของ ศปภ.ที่ตั้งขึ้นเพื่อรวมอ�ำนาจในการ บริหารจัดการน�้ำ แก้วิกฤติและช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ในทางตรงกันข้าม การท�ำงานของ ศปภ.ในช่วง วิกฤตินี้ กลับสร้างข้อกังขาในหลายด้าน อาทิ ความเหมาะสมในการแต่งตั้ง ผอ.ศปภ.ซึ่งดูเหมือนว่าไม่มี


ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

อ�ำนาจในการสั่งการได้โดยตรง ตลอดจนบทบาทของสมาชิกบ้านเลขที่ ๑๑๑ รวมถึงบทบาทภาวะผู้น�ำที่ขาด ข้อมูลพื้นฐานที่ถูกต้องชัดเจน ขาดการบูรณาการ ความเด็ดขาดในการตัดสินใจ รวมทั้งการแทรกแซง ของนักการเมืองที่แสวงหาผลประโยชน์ของตนเองและหมู่คณะบนความทุกข์ของประชาชนผลสรุปคือ ความหายนะของประชาชน ดังค�ำเตือนของกลุ่มนักวิชาการที่กล่าวว่า “ภัยธรรมชาติเมื่อบวกกับการ บริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบก็จะกลายเป็นภัยพิบัติ เหมือนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้” ในวิกฤติน�้ำท่วมครั้งนี้ สิ่งที่ประชาชนต้องการ คือ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของหน่วยงานที่แก้ไขปัญหา และปัญหาที่เกิด ขึ้นนี้ จะต้องมีการบริหารจัดการองค์กรเพื่อมิให้เกิดขึ้นได้อีกในอนาคต ดั่งมีพระราชด�ำรัสของในหลวงที่ ทรงตรัสเมื่อปี ๒๕๓๓ ซึ่งอาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ได้เคยให้สัมภาษณ์และอ้างไว้เมื่อ ๑๓ ต.ค.๕๔ ว่า “ไม่มีใครต้องการให้เกิดภัยธรรมชาติ แต่เมื่อเกิดแล้วเราต้องเข้าใจภัยธรรมชาติ และให้ภัยธรรมชาติเป็นครูที่จะสอนเรา ซึ่งผู้ปฏิบัติหรือผู้มีหน้าที่โดยตรงต้องน�ำไปแปลว่าจะท�ำอย่างไร การแก้ไขเรื่องน�้ำจะเดาส่งแบบหมอดูไม่ได้ กรมชลประทาน ในฐานะนักเทคนิค จะต้องมีบทบาทในการให้ความรู้ความเข้าใจกับนักการเมืองไม่ให้ถูกครอบง�ำได้ โดยนักการเมืองที่เป็น รัฐบาล จะต้องเป็นฝ่ายอ�ำนวยการมีบทบาทในการประสานเพื่อให้อ�ำนวยความสะดวกให้คล่องตัว” ข้อมูลจาก : - ข้อมูลจากศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น�้ำ กรมชลประทาน (๑๔๖๐) http://water.rid.go.th/flood/flood/res_table.htm - จดหมายถึงเพื่อน, เรื่อง “อุทกภัยร้ายแรงของไทย ปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ ”, พิพัฒน์. - ข้อมูลจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภา, ๒๗ พ.ย.๕๔. - ค�ำให้สัมภาษณ์และอ้างไว้ของ อ.ปราโมทย์ ไม้กลัด, เมื่อ ๑๓ ต.ค.๕๔.


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๒๓

น.อ.อภิชัย ศักดิ์สุภา (นนอ.๒๒)

(ต่อจากฉบับที่แล้ว)

กองบิน ๕ (เพิ่มเติม)

รุ่นที่ ๔ เหรียญ “หลวงพ่อยิด” สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๖ ในสมัย น.อ.ประเสริฐ ฟักทอง (ยศขณะนั้น) ด�ำรงต�ำแหน่ง ผบ.บน.๕๓ฯ เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างบันไดขึ้นเขาล้อมหมวก โดยสร้างเป็นเหรียญชนิด เนื้อทองแดงและเนื้อทองแดงรมด�ำ รวมจ�ำนวน ๒,๐๐๐ เหรียญ ลักษณะของเหรียญ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อยิด ครึ่งองค์ โดยมีตัวหนังสือ “พระครูนิยุตธรรมสุนทร (หลวงพ่อยิด)” อยู่ข้างล่างของเหรียญ ส่วนด้านหลังของ เหรียญมีสัญลักษณ์ กองบิน ๕๓ฯ อยู่ตรงกลาง โดยข้างบนมียันต์อุณาโลม ๔ ตัว และข้างล่างมีตัวเลข “๒๕๓๖” เหรียญรุ่นนี้หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปลุกเสกเดี่ยวตลอด ๑ ไตรมาส


๒๔ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

รุ่นที่ ๕ เหรียญ “หลวงพ่อพวน วรมังคโล” วัดมงคลรัตน์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๗ ในสมัย น.อ.ประเสริฐ ฟักทอง (ยศในขณะนั้น) ด�ำรงต�ำแหน่ง ผบ.บน.๕๓ฯ เมื่อครั้งน�ำข้าราชการ บน.๕๓ฯ จ�ำนวน ๒ คันรถบัส ไปร่วมท�ำบุญทอดผ้าป่าที่วัดมงคลรัตน์ โดยสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง จ�ำนวน ๖๐๐ เหรียญ ลักษณะของเหรียญด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อพวนครึ่งองค์ โดยมีตัวหนังสือ “พระครูมงคลวราภรณ์ (พวง)” อยู่ข้างล่างของเหรียญ ส่วนด้านหลังของเหรียญมีสัญลักษณ์ บน.๕๓ฯ อยู่ตรงกลาง และมีตัวหนังสือ “วัดมงคลรัตน์ จ.สุรินทร์” อยู่ข้างล่างของเหรียญ เหรียญรุ่นนี้หลวงพ่อพวนได้อธิษฐานจิตเดี่ยว ที่วัดมงคลรัตน์ ให้เป็นกรณี พิเศษ


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๒๕

น.อ. สรรสิริ สิริสันตคุปต์ sansiri_2@yahoo.com www.facebook.com/sansiri.s ถ้ า พู ด ถึ ง การก� ำ เนิ ด ขึ้ น ของหนั ง สื อ ที่ ผ ่ า นมา เป็นเวลา ๕๐๐ ปีนั้น หลายท่านคงทราบว่าหนังสือ มีวงรอบในการจัดท�ำ โดยมีผู้เกี่ยวข้องอันประกอบ ด้วยผู้เขียน, ส�ำนักพิมพ์และผู้อ่าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ท�ำให้ เราได้มีหนังสือเป็นเล่มในแบบต่างๆ มาอ่านเป็น จ�ำนวนมาก ในช่วงเวลา ๑๐ ปีที่ผ่าน ได้มีการจัดท�ำ หนังสือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือที่นิยมเรียกกัน ว่า “หนังสือออนไลน์” (eBooks) ข้อดีที่ได้รับจาก การใช้หนังสือออนไลน์คือ ไม่ต้องใช้กระดาษใน การพิมพ์หนังสือท�ำให้การใช้กระดาษน้อยลง และ ที่ส�ำคัญผู้ใช้สามารถอ่านหนังสือได้หลายเล่มทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ ด้วยเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (eBook Reader) ที่มีขนาดเล็กและราคานั้น ถูกลงสามารถพกพาไปได้ทุกที่ โดยผู้น�ำในตลาดหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จนถึงขณะนี้ได้แก่ Amazon ซึ่งเป็น รายแรกที่มาพร้อมกับเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ Kindle ในปี 2007 และตามมาด้วย Apple ในต้นปี 2010 สามารถอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วยแท็บเล็บยอดนิยม iPad ในปลายปี 2010 Google เปิดให้ บริการหนังสือออนไลน์ (Google eBooks) ท�ำให้ผู้ใช้สามารถซื้อ, จัดเก็บและอ่านหนังสือในแบบออนไลน์ ได้ โดย Google ประกาศมีหนังสือให้ดาวน์โหลดฟรีในระบบประมาณ ๒.๘ ล้านเรื่อง เป็นหนังสือในเครือ ส�ำนักพิมพ์ชื่อดัง สิ่งที่น่าสนใจท�ำให้วงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สั่นสะเทือนคือ Google eBooks นั้นมีจุดแข็ง ในการใช้ระบบเปิดประกอบกับเป็นร้านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่ร้านหนึ่งบนอินเทอร์เน็ต ซึ่ง คาดว่าน่าจะมีบทบาทอย่างมากในธุรกิจหนังสือออนไลน์ในอนาคต โดยบทความในฉบับนี้มีมุมมองและ รายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้


๒๖ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

เป้าหมาย Google eBooks

เป้าหมายของ Google eBooks นั้น คุณ James Crawford ผู้อ�ำนวยการฝ่ายวิศวกรรมทีมงาน Google eBooks ได้กล่าวว่า “เป็นความคิดริเริ่มของผู้ก่อตั้ง Google เกี่ยวกับหนังสือออนไลน์ของ Google ที่เกิดขึ้นในปี 2004 ตามความเชื่อที่ว่า ข้อมูลในหนังสือที่มีอยู่ทั่วโลกนั้น ควรที่จะสามารถเข้าถึงได้ด้วย การออนไลน์” ตั้งแต่นั้น Google ท�ำการสแกนหนังสือ ๑๕ ล้านเล่มให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์จาก ส�ำนักพิมพ์ ๓๕,๐๐๐ แห่ง มากกว่า ๔๐ ห้องสมุดและจากมากกว่า ๑๐๐ ประเทศ หนังสือเหล่านั้นอยูใ่ น รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์สามารถค้นหาได้ที่eBookstore ในส่วนของการวิจัย ปลายปี 2010 Google ได้ออก มาประกาศเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับแนวคิดของ Google eBooks หลักๆ คือการขายหนังสือออนไลน์และท�ำให้ Google เป็นหนึ่งในห้องสมุดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ประกอบกับการสร้างชั้นหนังสือออนไลน์ที่ผู้ใช้ สามารถจัดเก็บหนังสือหลายเล่มที่ซื้อจาก Google eBooks หรือบริการอื่นๆ โดยหนังสือเหล่านั้นสามารถ อ่านได้จากเว็บบราวเซอร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ค, เน็ตบุ๊ค, แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟนไปจนถึงเครื่อง อ่าน eBooks ท�ำให้ผู้ใช้นั้นสามารถซื้อ, จัดเก็บและอ่าน Google eBooks ได้ และนั่นหมายความว่าผู้ใช้ ทั่วโลกสามารถเข้าถึง eBooks เล่มโปรดได้เช่นเดียวกับการเปิดอ่านอีเมลบน Gmail ซึ่งท�ำได้ทุกที่ที่มี คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๒๗

ระบบเปิด Google eBooks

ระบบเปิด Google eBooks นั้นผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดหนังสือไปอ่านบนอุปกรณ์ไหนก็ได้และ เมื่อไรก็ได้ ท�ำให้ผู้ใช้ที่ใช้อุปกรณ์บนระบบปฏิบัติการ Android, ระบบปฏิบัติการ iOSของ Apple หรือ เครื่องอ่าน eBooks ในแบบอื่นๆ อาทิ เช่น Sony ก็สามารถน�ำไฟล์ Google eBooks มาเปิดอ่านได้ หรือ ใครที่มีหลากหลายอุปกรณ์ เมื่อเปลี่ยนเครื่องใช้งาน อาทิ เช่น iPad มาเป็น Smartphone ก็ยังสามารถ คลิกอ่านต่อได้จากจุดเดิม ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ Google eBooks นั้น ใช้การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) ผู้ใช้สามารถเข้าไปใช้ทรัพยากรเหล่านี้ได้ ผลท�ำให้อุปกรณ์พกพาที่หลากหลาย สามารถดาวน์โหลดเพื่อเรียกอ่านได้จากทุกที่ทุกเวลาอย่างต่อเนื่อง คุณ James McQuivey นักวิเคราะห์ จาก Forresterกล่าวว่า “นักวิเคราะห์หลายคนมีความเชื่อเหมือนกันว่า Google eBooks นั้นจะได้รับ ความ นิยมและท�ำยอดขายในตลาดหนังสือออนไลน์ได้เป็นอย่างมาก” และเช่นกันนักวิเคราะห์จาก Gartner คุณ Allen Weiner กล่าวว่า “ระบบเปิด Google eBooks เป็นการน�ำการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ มาใช้อย่างเต็มที่ส�ำหรับการเผยแพร่หนังสือออนไลน์ให้กับส�ำนักพิมพ์ต่างๆ โดย Google สามารถน�ำ ข้อมูลในหนังสือจากส�ำนักพิมพ์ที่มีอยู่ขึ้นไปเก็บไว้ ผลท�ำให้ผู้ใช้สามารถซื้อ, จัดเก็บและอ่าน Google eBooks ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รอคอย ถึงแม้จะไม่มีใครทราบว่า Google จัดท�ำได้อย่างไร จากสิ่งนี้แสดงให้เห็น ว่า Google ได้ยกระดับตัวเองไปเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานส�ำหรับการเผยแพร่หนังสือออนไลน์ให้ กับส�ำนักพิมพ์ ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพมาก” โดยคู่แข่งรายใหญ่ของ Google eBooks คือ Amazon ที่มีเครื่อง อ่านยอดนิยมอย่าง Kindle และมียอดหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ในระบบวางจ�ำหน่ายอยู่เป็นจ�ำนวนมากไม่ แพ้ Google ในตอนนี้ โดยสิ่งแตกต่างก็คือ Amazon ใช้ระบบปิดด้วยเครื่องอ่าน Kindle ที่ไม่สามารถใช้ อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จาก Google eBooks รวมทั้งผู้ให้บริการรายอื่นๆ ได้


๒๘ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

มุมมอง Google eBooks

สิ่งหนึ่งที่ได้มองเห็นคือ การแข่งขันกันในธุรกิจหนังสือออนไลน์เป็นความร้อนแรงที่เกิดขึ้น หลังจาก Google ได้น�ำ Google eBooks และ Google eBookstore ออกสู่ตลาด จริงๆ แล้วGoogle คงไม่ใช่ คนแปลกหน้าในธุรกิจหนังสือออนไลน์ เห็นได้จากการมีหนังสือให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดฟรีในระบบประมาณ ๒.๘ ล้านเรื่อง ล้วนเป็น หนังสือในเครือส�ำนักพิมพ์ ชื่อดัง อาทิ เช่นMcGrawHill and Wiley, Random House and Penguin และ Oxford University Press โดยเน้นความส�ำคัญกับการ ท� ำ ธุ ร กิ จ หนั ง สื อ ออนไลน์ มากกว่าให้ความส�ำคัญกับ เครื่องอ่าน eBooks อาทิ Google จะจ่าย ๕๒% จาก ราคาที่ขายให้กับส�ำนักพิมพ์ ถ้าหนังสือออนไลน์นั้นสามารถขายได้ผ่านร้านของ Google ซึ่งการจ่าย ๕๒% ให้กับส�ำนักพิมพ์ ถือเป็นการ จ่ายในราคาที่สูงมากในธุรกิจหนังสือออนไลน์ ประกอบกับ Google ยังท�ำงานร่วมกับเว็บสังคมออนไลน์ (Social network) ส�ำหรับคนรักหนังสือในชื่อ “Goodreads” ซึ่งการมีส่วนร่วมของ Google ท�ำผู้ใช้ใน Goodreads สามารถรับข้อเสนอแนะหนังสือออนไลน์ที่น่าสนใจจากเพื่อน ในเว็บสังคมออนไลน์ และ ถ้าต้องการก็สามารถคลิกผ่านไปซื้อหนังสือออนไลน์ได้ ซึ่งแตกต่างจาก Amazon ที่ให้ความส�ำคัญอย่างมาก กับเครื่องอ่าน eBooks ในชื่อ Kindle ที่ได้เปิดตัวรุ่นใหม่แล้วในชื่อ “Kindle Fire” ข้อดีของระบบเปิด Google eBooks ที่โดดเด่นนั้น ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดหนังสือออนไลน์ไปอ่านบนอุปกรณ์ไหนก็ได้ และ อ่านเมื่อไรก็ได้ (Buy anywhere, Read anywhere) ท�ำให้ผู้ใช้อุปกรณ์บนระบบปฏิบัติการ Android, ระบบ ปฏิบัติการ iOS ของ Apple หรือเครื่องอ่าน eBooks อื่นๆ สามารถน�ำไฟล์ Google eBooks มาเปิดอ่านได้ หรืออาจกล่าวเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นคือ สามารถเปิดอ่าน Google eBooks ได้บนอุปกรณ์ที่ผู้ใช้มีอยู่แล้ว ซึ่ง ถือเป็นข้อดีส�ำหรับผู้เริ่มอ่านหนังสือออนไลน์ ในข้อจ�ำกัดนั้นผู้ใช้ไม่สามารถดาวน์ โหลด eBooks ที่ไม่มี ระบบ DRM (Digital Rights Management เป็นระบบที่ผู้ใช้ต้องพิสูจน์ตัวตนกับเซิร์ฟเวอร์ว่า ยังเป็นผู้ใช้ ที่ถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็ไม่สามารถอ่านไฟล์เหล่านี้ได้) จาก Google เพื่อน�ำไปอ่านบนอุปกรณ์ ต่างๆ ที่ทาง Google ไม่สนับสนุน อาทิ Kindle ของ Amazon ประกอบกับผู้ใช้สามารถอ่าน eBooks


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๒๙

ในขณะออฟไลน์ได้เฉพาะเวลาที่ใช้แอพพลิเคชั่นบนมือถือของ Google และต้องใช้เครื่องอ่านหนังสือ ออนไลน์ที่สนับสนุนแพลตฟอร์ม eBooks ของ Adobe เท่านั้น โดยในขณะที่เขียนผู้ใช้ในสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย สามารถเข้าถึง Google eBookstore ได้ที่ http://books.google.com/ebooks แต่ส�ำหรับ บ้านเราคงต้องรออีกสักหน่อย เพราะระบบยังไม่ได้เชื่อมต่อกับส�ำนักพิมพ์บ้านเรา

ตัวอย่าง eBooks ของ หอสมุด ทอ.

ข้อคิดที่ฝากไว้

หนังสือออนไลน์ Google eBooks นั้นให้ความสนใจไปที่การขายหนังสือออนไลน์ บวกกับการ ให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้ในการเข้าถึงหนังสือออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆที่ เรียกว่า Cloud-Based Model of Consumption ท�ำให้ผู้ใช้สามารถอ่านได้จากบราวเซอร์บนคอมพิวเตอร์ แอพพลิเคชั่นบนมือถือทั้ง Android และ iOS ตลอดจนสามารถถ่ายโอนไปอ่านบนเครื่องอ่าน eBooks ที่ ท�ำงานด้วยระบบ Adobe สิ่งเหล่านี้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้ ซึ่ง Google eBooks จะได้รับความนิยม จากผู้ใช้มากน้อยขนาดไหนคงต้องติดตามกันต่อไป…..อย่างน้อยก็เป็นตัวเลือกที่ดีให้แก่ผู้ใช้นอกเหนือ จาก Amazon และ Apple


๓๐ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

ปชส.บน.๗

น.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.บน.๗

น.อ.ธัชชัย อัจฉริยาการุณ รอง ผบ.บน.๗ (๑)

น.อ.สมใจ ชัยวงศ์ รอง ผบ.บน.๗ (๒)

น.อ.นิทัศน์ ยูประพัฒน์ เสธ.บน.๗

นับตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นต้นมา กองบิน ๗ ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งในเรื่องระบบ สิ่งอ�ำนวยความสะดวก ระบบการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนอาคารสถานที่ต่างๆ เพื่อเตรียมการรองรับ โครงการจัดซื้อเครื่องบิน GRIPEN 39 C/D และเครื่องบิน SAAB 340 AEW/B เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๓ เครื่องบิน SAAB 340 AEW และ SAAB 340 B เดินทางถึงกองบิน ๗ สุราษฎร์ธานี และ เครื่องบิน Gripen 39 C/D จ้านวน ๖ เครื่อง ก็ได้เดินทางถึงกองบิน ๗ เมื่อคืนวันอังคารที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๔ ซึ่งต่อมากองทัพอากาศได้จัดให้มีพิธีบรรจุเข้าประจ�ำการ อากาศยานทั้งสองแบบ เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๔ จึงท�ำให้ปัจจุบันกองบิน ๗ มีโครงสร้างก�ำลังรบ ๒ ฝูงบิน ได้แก่ ฝูงบิน ๗๐๑ มีเครื่องบินบรรจุ ๒ แบบ ได้แก่ Gripen 39C/D (บข.๒๐/ก) และ F-5B/E ส่วนฝูงบิน ๗๐๒ มีอากาศยาน บรรจุ คือ SAAB 340 AEW/B (บค.๑ และ บล.๑๗)


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๓๑

กองบิน ๗ มุ่งสู่การ พัฒนาไปสู่การเป็น กองบิน ต้ น แบบที่ ใ ช้ เ ครื อ ข่ า ยเป็ น ศู น ย์ ก ลางหรื อ ที่ เ รี ย กว่ า Network Centric Air Base หรือ NCAB ตามที่กองทัพ อากาศก�ำหนด เพื่อรองรับ วิ สั ย ทั ศ น์ ก ารเป็ น กองทั พ อากาศชั้ น น� ำ ในภู มิ ภ าค อาเซียน หรือ One of the Best Air Forces in Asian กองบิน ๗ มีความพร้อมที่จะ พัฒนาก�ำลังพลและอุปกรณ์ ให้มีขีดความสามารถพร้อมที่จะรองรับระบบป้องกันภัยทางอากาศใหม่ Gripen Integrated Air Defense System

การมุ่งไปสู่การเป็นกองบินต้นแบบที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางนั้น เป็นความท้าทายอันจะต้องมี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบ ที่ต้องใช้งบประมาณ ใช้เวลา และที่ส�ำคัญต้องใช้ทรัพยากรบุคคล ที่มีคุณภาพเพื่อการสอดคล้องอย่างลงตัว และการที่จะเตรียมบุคลากรที่เหมาะสมส�ำหรับกองทัพอากาศ


๓๒ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

ดิจิตอล ต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตการท�ำงานของก�ำลังพลทั้งองคาพยพ ให้สามารถด�ำรงขีดความสามารถคู่กับ เทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยสามารถใช้ประโยชน์จากระบบและเครื่องมือดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพและ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อความมั่นคงของชาติ

เพื่อให้การไปสู่การเป็น Network Centric Air Base อย่างเป็นรูปธรรม นอกเหนือจากงานต้อง ด�ำเนินการตามภารกิจ และนโยบายที่กองทัพอากาศก�ำหนดแล้ว กองบิน ๗ ได้วางแผนด�ำเนินการในปี พ.ศ.๒๕๕๕ เบื้องต้นโดยแบ่งเป็น ด้านต่างๆ ดังนี้ คือ ด้านยุทธการและการฝึก ได้จัดท�ำระบบเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างฝ่ายยุทธการ ฝูงบิน ๗๐๑ กับ Flight Line ฝูงบิน ๗๐๑ ทั้งนี้เพื่อให้ข้อมูลการจัดบินมีความทันสมัยตลอดเวลา รวมทั้งศึกษาระบบ เชื่อมโยงข้อมูลเป้าหมายอากาศยานบนจอเรดาร์ จาก ASR ไปยังอาคาร ศปรภ.กองบิน ๗ เพื่อให้การ ป้องกันภัยทางอากาศด้วยอาวุธต่อสู้อากาศยานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


ข่าวทหารอากาศ ๓๓

มีนาคม ๒๕๕๕

ด้านการรักษาความปลอดภัย กองบิน ๗ ได้จัดคณะกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัย ของกองบิน ๗ เพื่อตรวจส�ำรวจ ปรับปรุงแก้ไข อุปกรณ์ด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของกองบิน ๗ ให้สามารถบูรณาการ การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มขีดความสามารถ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการประชาสัมพันธ์ กองบิน ๗ ได้จัดให้มีการปรับปรุง Website ของหน่วยงานและกิจการต่างๆ ของกองบิน ให้มีความทันสมัย รวดเร็ว เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านการพัฒนาบุคลากร กองบิน ๗ ให้ความส�ำคัญในเรื่ององค์ความรู้ และการบริหาร จัดการความรู้ เกี่ยวกับระบบ Network Centric รวมทั้งภาษาอังกฤษ และคอมพิวเตอร์ เพื่อเป็นพื้นฐานส�ำคัญ ให้แก่บุคลากร โดยมุ่งเน้นให้ก�ำลังพลทุกคน มีความรู้ ความเข้าใจ ในขอบเขตของงาน ในความรับผิดชอบ และสามารถเชื่อมโยงงานไปสู่ความเป็น Network Centric Air Base ได้อย่างมีความรู้ ความเข้าใจ สร้างความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะก้าวไปพร้อมๆ กันทุกคน เนื่องในโอกาสครบรอบ ๓๐ ปีของการสถาปนากองบิน ๗ ในปี ๒๕๕๕ นี้ กองบิน ๗ ได้ก�ำหนด ให้มีกิจกรรมต่างๆ อาทิเช่น การจัดท�ำหนังสือประวัติ ๓๐ ปี กองบิน ๗, การเปิดใช้สนามกอล์ฟม่วงเรียง ขนาดมาตรฐาน ๙ หลุม อย่างเป็นทางการ, การจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อเป็นที่ระลึก, การแข่งขันกีฬา เชื่อมความสามัคคี เช่น การแข่งขันฟุตบอล เปตอง การวิ่งมินิมาราธอน เป็นต้น ส�ำหรับการจัดงานวัน คล้ายวันสถาปนา ครบรอบ ๓๐ ปี กองบิน ๗ สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๕ นี้ ได้ก�ำหนด ให้มีพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในกองบิน ๗ การท�ำบุญทั้งพิธีทางศาสนาพุทธ พิธีทางศาสนาอิสลามเพื่อ อุทิศส่วนกุศลให้แก่ก�ำลังพลที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อเป็นสิ​ิริมงคลแก่ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการอยู่ การจัดงานเลี้ยงเพื่อบ�ำรุงขวัญ ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ ทหารกองประจ�ำการ และครอบครัว ชาวกองบิน ๗ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ส�ำคัญ คือ การจัดแสดงการบินและตั้งแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ประจ�ำการ ณ กองบิน ๗ ให้แก่ ข้าราชการ ครอบครัว ตลอดจนส่วนราชการและประชาชนรวมทั้ง สื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและใกล้เคียง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เสริมสร้างภาพลักษณ์ และความเข้าใจอันดี ในภารกิจของกองทัพอากาศที่ได้มอบหมายให้กองบิน ๗ รับผิดชอบในยุคปัจจุบัน ให้สมกับค�ำกล่าวที่ว่า “กองบิน ๗ ฐานบินรบหลักของชาวปักษ์ใต้”

เรา...จะพิทักษ์ท้องนภาแดนใต้ เรา...จะคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เรา กองบิน ๗ พร้อมเสมอเพื่อพี่น้องประชาชน


ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

สองสงครามที่กลัดหนอง The Two Wars of the Air Force

น.อ.ปิยะพันธ์ ขันถม แม้ว่าสงครามในอิรักจะสงบไปแล้ว แต่สหรัฐฯ ยังมีอีกสองสงครามที่ยังไม่ยุติ ศึกแรกคือการยุทธ ในอาฟกานิสถานที่ยังยืดเยื้อกันอยู่ ศึกที่สองเป็นศึกภายในที่น่ากลัวกว่า นั่นคือเรื่องค่าใช้จ่ายในการสงคราม ที่มหาศาล กองทัพอากาศสหรัฐฯ ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายอย่างมาก ส�ำหรับก�ำลังทางอากาศที่ประจ�ำการอยู่ ทั่วโลก รวมถึงต้องด�ำรงสภาพของเครื่องบินที่ใกล้ปลดประจ�ำการและนานาสรรพาวุธในคลังแสงอีก เป็นจ�ำนวนมาก เนื่องจากต้องรักษาบทบาทอันส�ำคัญทางการทหารในทุกภูมิภาคทั่วโลกที่สหรัฐฯ มีส่วน เกี่ยวข้อง ไม่ว่าผลของสงครามในอาฟกานิสถานจะเป็นอย่างไร ด้วยดุลย์ของอ�ำนาจทางทหารของสหรัฐฯ ทั่วโลก ทอ.สหรัฐฯ จ�ำเป็นต้องรักษาขีดความสามารถในการควบคุมน่านฟ้าหรือครองอากาศ อวกาศและ Cyber Space เพราะมันเป็นเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพที่ดีอย่างหนึ่งในการต่อสู้กับศัตรูที่เป็นรัฐบาล และกลุ่มก่อการร้ายที่มาพร้อมเทคโนโลยี การครองห้วงอวกาศและ Cyber Space อย่างเด็ดขาดนั้น ปรากฏผลเป็นอย่างดีมาแล้วใน Operations Desert Storm,Allied Force และ Enduring Freedom การด�ำรงไว้ซึ่งขีดความสามารถของก�ำลังทางอากาศของ ทอ.สหรัฐฯ มันเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากส�ำหรับ เพนตากอน ท�ำให้ ทอ.สหรัฐฯ จ�ำเป็นต้องปรับสภาพก�ำลังทางอากาศลงไปให้เหมาะสมสอดคล้องกับ ความต้องการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๓๕

ท่ามกลางสถานการณ์ด้านงบประมาณดังกล่าว ทอ.สหรัฐฯ มีแนวความคิดเรื่องการพัฒนาและ จัดหา บ.โจมตี/ทิ้งระเบิดระยะไกล (LRS : Long Range Strike) ให้มีอายุการใช้งานได้ถึง ๓๐ ปี ตาม แนวความคิดนี้ ทอ.สหรัฐฯ จะลดค่าใช้จ่ายส�ำหรับก�ำลังทางอากาศที่มีอยู่ทุกภูมิภาคของโลก และจะ น�ำเสนอต่อเพนตากอนในปีงบประมาณ ค.ศ.2012 การปฏิบัติการร่วมกันของ ทอ., ทร.และก�ำลังอากาศ/นาวีของสหรัฐฯ(AirSea Battle) ท�ำให้ ขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางอากาศทดแทนกันได้ ทรัพยากรทางทหารใช้การบริหารแบบใช้ร่วม กันได้ (POOLING) เนื่องจากมันจะเป็นต้นทุนด้านความมั่นคงที่มีมูลค่ามาก ในการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ หากแต่ละเหล่าทัพแยกการปฏิบัติ ด้วยวิธีการดังกล่าว ท�ำให้การควบคุมน่านฟ้า ห้วงอวกาศและ Cyber Space ของ ทอ., ทร.สหรัฐฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้นเป็นทวี


๓๖ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

โครงการพัฒนาชั้นยอดต่างๆ ถูกกลั่นกรองและจัดล�ำดับอย่างรอบคอบ กระบวนการส่งก�ำลังให้ ได้ซึ่งพัสดุ(Acquisition System) ถูกปรับปรุงขนานใหญ่และเป็นไปด้วยความรวดเร็วเนื่องจากมีหน่วย ติดตามการส่งก�ำลังคือ RCO(Rapid Capabilities Office) การศึกษาถึงวิธีการเก็บรักษาและซ่อมแซม พัสดุให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น และอีกหลายโครงการที่อยู่ในล�ำดับที่ต้องปฏิบัติเพื่อลดค่าใช้จ่าย การปรับสภาพของกองทัพสหรัฐฯ เป็นการปรับเข้าสู่จุดสมดุลย์อันใหม่ เพื่อลดค่าใช้จ่ายทางการ ทหาร ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ท�ำให้ศักยภาพความเป็นผู้น�ำด้านการทหารของโลกสูญเสียไป งบประมาณ ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังเป็นสัดส่วนที่สูงในอันดับต้นๆของชาติ เพื่อปกป้องความเป็นผู้น�ำด้าน เศรษฐกิจ อันเป็นผลประโยชน์ของชาติที่มีอยู่ทั่วโลก “แม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่ล�ำบาก แต่เราก็จะฝ่าฟันมันไป และจะท�ำทุกวิถีทางที่จ�ำเป็น เพื่อบรรลุ ภารกิจ” ค�ำกล่าวของ USAF Chief of Staff Gen.Norton A.Schwartz. กล่าวไว้ในที่ประชุมใหญ่ The Air Force Association’s annual Air and Space Conference.September 2010,WASHINGTON DC.


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ

ท้าวทองไหล ในโอกาสที่ ปี ๒๕๕๕ จะเป็นปีที่ ครบรอบ ๑๐๐ ปีของการบินบุพการีทหารอากาศ ซึ่งในปี ๒๕๕๕ นี้ กองทัพอากาศ ได้จัดกิจกรรมมากมายเกี่ยวกับโอกาสส�ำคัญ เพื่อเป็นการแสดงถึงศักยภาพและความสามารถ ของคนไทยในการปฏิบัติการบิน นับตั้งแต่ นายพันตรี หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ ซึ่งเป็นคนไทยคนแรก และ ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บุพการีทหารอากาศ” เริ่มท�ำการบินครั้งแรกเมื่อ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๕๕ จากนั้นได้ก่อตั้งกิจการการบินทั้งทางทหาร และเชิงพาณิชย์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เจริญรุ่งเรืองจนเป็น ที่ประจักษ์ ในโอกาสครบศตวรรษที่ส�ำคัญนี้ กองทัพอากาศ จึงได้จัดตั้ง หมู่บินผาดแผลง “Blue Phoenix” ขึ้น เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง “ครบรอบ ๑๐๐ ปีของการบินบุพการีทหารอากาศ” แม้ว่าในอดีตตั้งแต่ปี ๒๔๙๕ เป็นต้นมา จะมีการแสดงการบินหมู่บินผาดแผลงของกองบินต่างๆ มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ หมู่บินผาดแผลง “Blue Phoenix” นับเป็นหมู่บินผาดแผลงอย่างเป็นทางการหมู่แรกของกองทัพอากาศไทย “Blue Phoenix” คือ นกที่มีความยิ่งใหญ่ และเป็นอมตะไม่มีวันตาย เปรียบดั่ง กองทัพอากาศไทย และกิจการด้านการบิน ที่จะอยู่คู่ประเทศไทย ตลอดกาล เริ่มต้นปฐมบทของหมู่บินผาดแผลง “Blue Phoenix” ของกองทัพอากาศ จะ ใช้เครื่องบินฝึกแบบที่ ๑๙ (PC-9) ผลิต


๓๘ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

และออกแบบโดย บริษัท พิลาตุส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จ�ำนวน ๕ เครื่อง (ส�ำรอง ๑ เครื่อง) จากโรงเรียนการบิน มาท�ำการแสดงการบิน เครื่องบิน แบบนี้ นับเป็นเครื่องบินฝึกใบพัดขั้นสูงที่มีความทันสมัย และมีประจ�ำการ ในหลายกองทัพอากาศทั่วโลก โดยประจ�ำการในกองทัพอากาศไทย มา ตั้งแต่ปี ๒๕๓๔ ซึ่งได้รับการออกแบบท�ำสีเป็นพิเศษ ล�ำตัวเป็นสีน�้ำเงิน วาด ลวดลายนกฟีนิกซ์ใต้ล�ำตัว ซึ่งเป็นภาพชนะเลิศจากการออกแบบของ “คุณ ธีระยุทธ แซ่โหล” และเครื่องหมายพิเศษของหมู่บิน ซึ่งเป็นผลงานชนะ เลิศที่ออกแบบโดย “เรืออากาศเอกหญิง อรฉัตร กล�่ำเจริญ” โดยเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๕ หมู่ บินผาดแผลง “Blue Phoenix” ได้ท�ำการแสดง เปิดตัวเป็นครั้งแรก (๔ เครื่อง) ในงานวันเด็ก แห่งชาติกองทัพอากาศ ประจ�ำปี ๒๕๕๕ ณ บริเวณอาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานดอนเมือง และเมื่อวันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๕ เปิด ตัวหมู่สมบูรณ์แบบ ๕ เครื่อง ครั้งแรกในงาน “การสาธิตการใช้ก�ำลังทางอากาศ” โดยมี นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมชม ณ สนามใช้อาวุธทางอากาศ ชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี อนึ่งในวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๕ กองทัพอากาศ จะจัด พิธีแถลงข่าวการจัดงาน “ครบรอบ ๑๐๐ ปี ของการบิน บุพการีทหารอากาศ” ณ โรงเรียนการบิน โดยในงานจะมี การแสดงของหมู่บินผาดแผลง “Blue Phoenix” ก่อนจะ ท�ำการออกแสดงในทุกกองบินทั่วประเทศ “Blue Phoenix” จะท�ำการบินผาดแผลงโดยนักบินของ กองทัพอากาศ ที่มีประสบการณ์สูง โดยเฉพาะกับเครื่องบิน เฉพาะแบบที่ท�ำการแสดงในครั้งนี้ นับเป็นนักบินในระดับ ครูการบินอาวุโสในแถวหน้าของกองทัพอากาศ เลยก็ว่าได้ ส�ำหรับสมาชิก “Blue Phoenix Team 2012” ประกอบด้วย ๑. นาวาอากาศโท คมกฤช หอตระกูล “Blue Phoenix 1” ต�ำแหน่ง ผู้บังคับฝูงฝึกบินขั้น ปลาย กองฝึกการบิน โรงเรียนการบิน ศิษย์การบินรุ่น น.๙๔ มีชั่วโมงบินรวม ๔,๓๑๔.๕ ชั่วโมง ชั่วโมง


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๓๙

บินกับ PC-9 ๓,๗๗๐.๓ ชั่วโมง เคยท�ำการบินกับเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๙/ก (F-16 A/B) ๒. นาวาอากาศโท จารุต สุขประเสริฐ “Blue Phoenix 2” ต�ำแหน่ง ผู้ช่วยนายทหารยุทธการและ การฝึก โรงเรียนการบิน ศิษย์การบินรุ่น น.๙๘ มีชั่วโมงบินรวม ๒,๐๗๕.๖ ชั่วโมง ชั่วโมงบินกับ PC-9 ๑,๓๓๖.๗ ชั่วโมง เคยท�ำการบินกับเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่ ๑ (L-39) ๓. นาวาอากาศโท ปริญญา บรูณสมภพ “Blue Phoenix 3” ต�ำแหน่ง ผู้ช่วยนายทหารยุทธการ และการฝึก กองฝึกการบิน โรงเรียนการบิน ศิษย์การบินรุ่น น.๑๐๐ มีชั่วโมงบินรวม ๒,๘๓๐.๔ ชั่วโมง ชั่วโมงบินกับ PC-9 ๒,๑๒๑.๕ ชั่วโมง เคยท�ำการบิน กับเครื่องบินโจมตีแบบที่ ๕ (OV-10C) ๔. นาวาอากาศโท ศักพน ชัยมงคล “Blue Phoenix 4” ต�ำแหน่งนายทหารกิจการศึกษา กองการศึกษา โรงเรียนการบิน ศิษย์การบินรุ่น น.๑๐๐ มีชั่วโมงบินรวม ๒,๗๗๒ ชั่วโมง ชั่วโมง บินกับ PC-9 ๑,๒๑๔.๔ ชั่วโมง เคยท�ำการบินกับ เฮลิคอปเตอร์แบบที่ ๔ ก (S-58T) ๕. นาวาอากาศโท วรสิทธิ์ เสียงเสนาะ “Blue Phoenix 5” ต�ำแหน่งนายทหารมาตรฐาน โรงเรียนการบิน ศิษย์การบินรุ่น น.๑๐๔ มีชั่วโมงบิน รวม ๓,๖๒๓.๑ ชั่วโมง ชั่วโมงบินกับ PC-9 ๒,๘๒๓ ชั่วโมง เคยท�ำการบินกับเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่ ๑ (L-39) ๖. นาวาอากาศโท เจริญชัย อุทธา “Blue Phoenix 6” ต�ำแหน่งหัวหน้าแผนกวิชาการ กองการ ศึกษา โรงเรียนการบิน ศิษย์การบินรุ่น น.๑๐๓ มีชั่วโมงบินรวม ๓,๕๙๕.๓ ชั่วโมง ชั่วโมงบินกับ PC-9 ๓,๐๐๔.๙ ชั่วโมง เคยท�ำการบินกับเครื่องบินโจมตีแบบที่ ๕ (OV-10C)


ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

ขอขอบคุณ : ภาพจาก http://www.thaiarmedforce.com/


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๔๑

Sikorsky เตรียมส่ง S-97 RAIDER ให้กองทัพสหรัฐฯ ประเมินค่า NASA ได้ท�ำการทดลองการเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ ทดสอบ Kaman K-MAX UAVเฮลิคอปเตอร์ในอัฟกานิสถาน Sikorsky เตรียมส่ง S-97 RAIDER ให้กองทัพสหรัฐฯ ประเมินค่า Sikorsky Aircraft Corp. ได้คัดเลือก 35 บริษัทเข้าร่วมงานในการประกอบเฮลิคอปเตอร์ต้นแบบ แบบ S-97 RAIDERTM จ�ำนวน 2 ล�ำ ส�ำหรับการประเมินค่าโดยกองทัพสหรัฐอเมริกา โครงการ RAIDER ที่ ลงทุนเองโดยบริษัท Sikorsky และบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมทีม จะแสดงให้เห็นการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีของเฮลิคอปเตอร์ต้นแบบ X2TM ในทางทหาร ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ต้นแบบ X2TM นั้นได้พิสูจน์ความ สามารถของมันแล้วเมื่อปี 2010 ด้วยความสามารถในการบินเดินทางด้วยความเร็วที่สูงกว่าเฮลิคอปเตอร์ แบบปกติถึง 2 เท่า Sikorsky ได้ประกาศรายชื่อทีม ผู้ผลิตชิ้นส่วนในระหว่างงาน Aviation Symposium and Exposition ที่ร่วม กับกองทัพสหรัฐอเมริกา ที่จัดขึ้นที่ National Harbor, MD. โดยคัดเลือก ผู้ผลิตชิ้นส่วนจากความสามารถและ ความพร้อมทุกด้านในการผลิตสินค้า และเทคโนโลยี ท างด้ า นอากาศยาน โดยที่ความสมบูรณ์แบบของผลิตภัณฑ์จะช่วยให้ Sikorsky สามารถที่จะสาธิตประสิทธิภาพทางด้าน การบินและประสิทธิภาพทางด้านอากาศพลศาสตร์ของเฮลิคอปเตอร์แบบ RAIDER ในสภาพจ�ำลองของ สิ่งแวดล้อมทางทหารในปี 2014 ได้ และที่ส�ำคัญที่สุดก็คือการน�ำเทคโนโลยีของเฮลิคอปเตอร์ต้นแบบ X2 มาสู่การใช้งานให้กับลูกค้าในอนาคตได้อย่างรวดเร็วและในราคาที่ซื้อได้ ทีมผู้ผลิตชิ้นส่วนของ RAIDER นั้นส่วนใหญ่เป็นบริษัทในสหรัฐอเมริกา มาจากทั้งหมด 20 รัฐ โครงการ RAIDER นั้นเป็นโครงการที่ต่อจากโครงการเฮลิคอปเตอร์ต้นแบบสาธิต X2 TECHNOLOGYTM ที่ประสบความส�ำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อเดือนกันยายน 2010 เฮลิคอปเตอร์ต้นแบบ X2 ได้


๔๒ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

ประสบความส�ำเร็จในการบินด้วยความเร็วมากกว่า 250 น็อต (287 ไมล์ต่อชั่วโมง) ซึ่งเป็นความเร็วที่ สูงกว่าความเร็วเฉลี่ยของเฮลิคอปเตอร์ธรรมดาถึงสองเท่าตัว ทางสมาคมการบินแห่งชาติได้มอบรางวัล Robert J. Collier Trophy ให้กับ Sikorsky ส�ำหรับความส�ำเร็จนั้น และศักยภาพของเทคโนโลยีเครื่องบิน ปีกหมุนส�ำหรับอนาคต บริษัท Sikorsky จะลงทุนเองประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าของโครงการ RAIDER โดยอีก 25 เปอร์เซ็นต์นั้นร่วมลงทุนโดยผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ได้รับการคัดเลือก S-97 RAIDER นั้นติดตั้งเครื่องยนต์เดี่ยวเหมือนกับเฮลิคอปเตอร์ต้นแบบสาธิตแบบ X2 โดยมี ใบพัดประธานหมุนสวนทางกันโดยใช้แกนใบพัดร่วมแกนกัน และมีใบพัดขับเพื่อที่จะท�ำความเร็วในการ เดินทางถึง 220 น็อต (253 ไมล์ต่อชั่วโมง) โดยที่ความเร็วสูงสุดถึง 240 น็อต (276 ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือสูงกว่า S-97 RAIDER ต้นแบบจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมากมายเหนือเฮลิคอปเตอร์แบบปกติในด้าน ความสามารถในท่าทางการบิน ระยะทางบิน ระยะเวลาในการบินอยู่ในอากาศ ความสูง และประสิทธิภาพ ในการบินลอยนิ่งนอกเหนือจากความโดดเด่นทางด้านความเร็ว คุณลักษณะเหล่านี้ของเฮลิคอปเตอร์แบบ RAIDER สามารถเปลี่ยนแนวทางการต่อสู้ด้วยเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ได้เป็นอย่างดี ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ แบบ RAIDER จะแสดงให้เห็น คุ ณ ลั ก ษณะที่ ส� ำ คั ญ ของ เทคโนโลยี X2 ทั้งด้านตัว เครื่ อ งบิ น และคุ ณ ลั ก ษณะ ทางด้านการบิน RAIDER ใน รู ป แบบของเฮลิ ค อปเตอร์ ทางยุทธวิธีขนาดเบา จะท�ำให้ บริษัท Sikorsky สามารถ เสนอเครื่องบินเข้าร่วมแข่งขัน ในโครงการ Armed Aerial Scout helicopter ส�ำหรับ กองทัพบกสหรัฐได้ ขณะนี้กองทัพบกสหรัฐก�ำลังมองหาเฮลิคอปเตอร์ใหม่ เพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์แบบ OH-58D Kiowa Warrior ด้วยน�้ำหนักรวมสูงสุดประมาณ 11,000 ปอนด์ เฮลิคอปเตอร์ RAIDER จะสามารถท�ำการบิน ปฏิบัติการได้อย่างเต็มขีดความสามารถที่ความเร็วและความสูงที่มากกว่าสองเท่าขีดความสามารถของ เฮลิคอปเตอร์ทางยุทธวิธีขนาดเบาที่มีอยู่ในปัจจุบัน


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๔๓

ห้องนักบินของ RAIDER จะเป็นแบบที่นั่งเคียงกันส�ำหรับนักบินสองคน ส�ำหรับภารกิจลาดตระเวน ติดอาวุธและโจมตีขนาดเบา เครื่องบินนี้สามารถติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณและติดตั้งอาวุธภายนอกได้ หลายแบบโดยยังมีความอ่อนตัวในการแบกเชื้อเพลิงและกระสุนเพิ่มเติมส�ำหรับภารกิจที่ต้องบินไกลๆ ส่วนในรูปแบบภารกิจที่ใช้งานเบา หรือการบินปฏิบัติการพิเศษ ห้องโดยสารของเฮลิคอปเตอร์นี้จะสามารถ บรรทุกทหารได้ 6 คน NASA ได้ท�ำการทดลองการเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ นักวิจัยด้านอากาศพลศาสตร์ของ NASA’s Dryden Flight Research Center ได้ท�ำการบินทดสอบ ในการทดสอบช่องอากาศเข้า (Inlet) ของเครื่องยนต์ไอพ่นที่ได้รับการออกแบบใหม่ในลักษณะที่เรียกว่า Channeled Center-Body Inlet Experiment (CCIE) การทดสอบดังกล่าวได้ติดตั้งกับเครื่องบิน F-15B ของ NASA Dryden ซึ่งเป็นเครื่องบินส�ำหรับ การทดสอบงานวิจัย ซึ่งนับได้เป็นเครื่องมือทดสอบที่มีนวัตกรรมและประหยัดงบประมาณในการบินทดสอบ หลักการของการขับเคลื่อนขั้นสูง วัตถุประสงค์หลักของการวิจัยในโครงการ CCIE คือ การก�ำหนดการไหลกระแสอากาศผ่านช่องอากาศ เข้าในการทดลองเพื่อท�ำการเปรียบเทียบกับกระแสอากาศที่ไหลผ่านช่องอากาศเข้าที่เป็นมาตรฐาน โดย ได้มีการวัดกระแสอากาศรอบโครงสร้าง Interchangeable Center สองส่วนที่ ติ ด ตั้ ง ในท่ อ ของช่ อ งอากาศเข้ า โดย โครงสร้างแบบนี้ได้รับการออกแบบ ที่จะท�ำให้การไหลของกระแสอากาศ ไหลผ่านโดยตรงและท�ำให้อากาศอัด ตัวเข้าไปในส่วนของเครื่องยนต์ ส่วนกลางของโครงสร้างแบบ ใหม่ มีลักษณะเป็นช่อง ในขณะที่แบบอื่น มีลักษณะเป็นแบบทั่วไปและมีรูปร่าง ราบเรียบ (Smooth Shape) โดยส่วน ช่องตามทางยาวของส่วนกลางของโครงสร้างจะเป็นส่วนจ�ำลองการไหลผ่านช่องอากาศเข้าท�ำให้ปริมาณ อากาศที่ไหลเข้าไปสู่ภายในเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลให้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการไหล ของกระแสอากาศในแต่ละความเร็ว กอปรกับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้เชื้อเพลิงอีกด้วย


๔๔ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

ทดสอบ Kaman K-MAX UAVเฮลิคอปเตอร์ในอัฟกานิสถาน กองทัพสหรัฐอเมริกา ก�ำลังทดสอบอากาศยานไร้นักบินแบบใหม่ล่าสุด คือ เฮลิคอปเตอร์ไร้นักบิน ที่จะท�ำการล�ำเลียงยุทธปัจจัยไปยังฐานหน้า ที่ห่างไกลที่มีการลอบวางระเบิดบนภาคพื้นหากเดินทาง ด้วยรถยนต์ ที่ผ่านมาอากาศยานไร้นักบินท�ำหน้าที่สังเกตการณ์และยังติดอาวุธโจมตีทางอากาศต่อผู้ก่อการร้าย ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ กองทัพสหรัฐ ฯ ในประเทศอัฟกานิสถาน อิรัก และบางที่ในตะวันออกกลาง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่จะมีการใช้เฮลิคอปเตอร์ไร้นักบินส�ำหรับภารกิจล�ำเลียงและสนับสนุนทางอากาศ โดยเฮลิคอปเตอร์ Kaman K-MAX 2 รุ่นที่ไร้นักบิน และทีมงานอีก 16 คน และ 8 นาวิกโยธินได้ ร่วมโครงการประเมินการท�ำงานของเฮลิคอปเตอร์ไร้นักบิน เป็นระยะเวลา 6 เดือน ที่ฐานทัพ Camp Dwyer ในเมือง Garmsir ของจังหวัด Helmand ที่อยู่ตอนใต้ของอัฟกานิสถาน โดยอากาศยานดังกล่าวได้บินภารกิจล�ำเลียงยุทธปัจจัยกว่า 20 ภารกิจ ตั้งแต่เที่ยวบินแรกในวันที่ 17 ของเดือนที่ผ่านมา นาวาโท Kyle O’Connor หัวหน้าผู้ดูแลโครงการนี้ ได้แจ้งว่า มีการล�ำเลียงยุทธปัจจัย กว่า 18 ตัน (18,000 kg) โดยเป็นอาหารพร้อมกินและชิ้นอะไหล่ส�ำหรับหน่วยฐานหน้า อัฟกานิสถานเป็นประเทศที่มีการวางระเบิดเยอะมาก และเป็นปัญหาอย่างยิ่งส�ำหรับการขนส่งและ ล�ำเลียงยุทธปัจจัยรวมทั้งยุทธภัณฑ์ไปยังฐานหน้า ทางภาคพื้น และทุกครั้งที่ล�ำเลียงทางอากาศ จะท�ำให้ ความเสี่ยงส�ำหรับทหารลดลง ทางนาวิกโยธินได้ปฏิบัติภารกิจล�ำเลียงดังกล่าว โดยทีมผู้ช�ำนาญได้บังคับเครื่องบินจ�ำนวน 2 ล�ำ ในขณะที่ computer ที่อยู่ในเฮลิคอปเตอร์ได้ท�ำการ upload แผนการบินและท�ำให้สามารถบินได้โดยไม่มี คนขับ อย่างไรก็ตามผู้ควบคุมที่ฐานบังคับการบินสามารถเข้าไปบังคับแทนได้ ถ้าจ�ำเป็น โดยอากาศยาน ไร้นักบิน K-MAX เป็นเฮลิคอปเตอร์ล่าสุด ที่เป็นเฮลิคอปเตอร์แบบ 2 ใบพัด เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการ บินอยู่กับที่ ท�ำให้สามารถส่งยุทธปัจจัยได้ในต�ำแหน่งที่แม่นย�ำ โดยได้ใช้งานครั้งแรกในแบบมีนักบิน เมื่อช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีแบบไร้นักบินออกมาในปี 2008 โดยสามารถบรรทุกน�้ำหนักได้ 6,855 ปอนด์ และมีค่าใช้จ่าย $1,100 ต่อชั่วโมงในการใช้งาน ซึ่งต�่ำกว่าเฮลิคอปเตอร์แบบมีนักบินมาก


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๔๕

อ.วารุณี


๔๖ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

Across

Down

1. A part of a gun which pulled to fire. 5. This soup is ........ salty that we can not have it. 7. An abbreviation for “hour” 9. Opposite of “yes” 10. Chusri loves to buy fresh fish instead of the ........ one. 12. If you ......... something, you use it. 14. Lately an airplane crashed, the pilot, many ................. and all passengers passed away. 15. This bowl of punch is ........... alcoholic so the children can have it. 18. An abbreviation for “Acquired Immune Deficiency Syndrome.” 20. Now the most popular business is ........., a place where people go to use facilities such as a pool and a sauna for having good health. 21. These days many workers are ............ of work because of bad economy. 22. Your clock doesn’t keep good time so you have to ........... it many times a day. 23. We don’t have any malfunction clocks that means .......... are better than yours. 26. A ............... is someone aged between thirteen and nineteen years old. 27. When you cook, you should put over an ........... to prevent your clothes which you wear getting dirty.

1. A farm vehicle used to pull farm machinery. 2. The bird flu is .............. disease and it can be caught by being near a person who is infected with it. 3. Please, don’t be upset with the past, the show must ......... on. 4. A deer with large antlers that lives in the northern areas of Europe. 5. The front parts of your legs between your knees and your ankles. 6. My daughter will ........ or cook only dinner for her husband. 7. Dan, D 2 B is very good singer, ....... always makes merit at Ban-Rajchawithee. 8. The protesters used to block the traffic at Din-Daeng ........... (abbreviation) 10. Now, the red shirt guys ............ or make an argument with the government in some political cases. 11. Mr.Tony usually buys lots of merchandise that have the gurantee which we have known as an abbreviation ............. . 12. An abbreviation for United States of America 13. My mom often gets ............. along the way home, so she has to ride a taxi. 17. Marasri is going to graduate Master Degree, so she is busy doing the ............ . 19. The same as No.34 Across 20. The same as No.5 Across


ข่าวทหารอากาศ ๔๗

มีนาคม ๒๕๕๕

Across

Down

30. Water is a kind of ........... . 32. John is ............ a professional writer, he is an amateur one. 34. ............ Mary’s car costly? 35. Right now I often ........... or blow my nose because of my cold. 36. We always hear the loud noise from the ............ room, or part of outside. 38. She is ........... a hurry so she has no time to talk with me. 39. The same as No.7 Across 40. Yesterday .......... my birthday. 41. The 2009 Flu ......... is a disease sweeping or spreading through America and Canada these days. 44. A .......... must come with a hammer. 46. Cat and .......... are the domestic animals. 47. To ......... means to have dinner. 48. As soon .............. i arrive home, I hurry to cook. 49. A ............. is a person who enjoys playing golf. 52. If you would like to share the idea, please send ........... (an abbreviation far short messages) to me. 53. While I walked .............. my house, I saw a poisonous snake. 54. The bad news .............. me or caused me upset.

24. I love to study with her because her explanation is clear or makes ................. . 25. A kind of bird with long legs and a long neck. 28. A number that comes first 29. The same as No.9 Across 30. She doesn’t have a boy-............ eventhough she is thirty-four years old. 31. Opposite of “exhale” 33. When I was young, my mom often ............ me the tales. 34. Thing, article 37. To write down something or put it in a computer 40. Opposite of “defeat” 41. Opposite of “west” 42. A wing of a building at right angles to the main structure. 43. A : What do you think which one is better between a pink shirt and the yellow one? B : Oh I have no ............ or opinion, it is up to you. 45. My daughter’s future gole or ................... is buying a house for rent. 48. A, ..........., the 50. That roof ............ a house is blue. 51. An abbreviation for “Frequency Modulation”

ดูเฉลยที่หน้า 62


๔๘ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

พล.อ.อ.ยุทธพร ภู่ไพบูลย์

ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมามนุษยชาติได้เผชิญกับโรคภัยไข้ เจ็บชนิดที่เป็นโรคระบาดขนาดใหญ่ ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนให้ล้ม ป่วยและตายเป็นจ�ำนวนมากหลายครั้งด้วยกันซึ่งในจ�ำนวน นี้ก็มีเชื้อโรคร้ายที่ส�ำคัญที่กลายพันธุ์จากสัตว์และระบาดมา สู่มนุษย์อย่างรวดเร็วและลุกลามขยาย เป็นวงกว้างอย่าง มากมาย ได้แก่ “เชื้อไวรัส (VIRUS)” ซึ่งมีเชื้อที่ส�ำคัญที่เกิด ตามถิ่นก�ำเนิดต่างๆ และมีวิวัฒนาการของการแพร่ระบาด ดังนี้ เชื้อ HIV เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เกิดใน “ลิง” จาก ทวีปอาฟริกา เมื่อ ๑๐๐ กว่าปีก่อน ต่อมาได้แพร่ระบาดใน “ชิมแปนซี” (CHIMPANZEE) เพราะชิมแปนซีไปกินเนื้อลิงที่ติดเชื้อ และต่อมาได้แพร่ระบาด มาสู่คน เพราะ คนไปล่าชิมแปนซี ที่ติดเชื้อมาเป็นอาหารเช่นเดียวกัน ท�ำให้ปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อไวรัส HIV ทั่วโลกเป็นจ�ำนวน นับล้านๆ คน เชื้อ SARS เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ที่เกิดใน “ค้างคาว” จากประเทศจีน ต่อมาได้แพร่ระบาดใน “ชะมด” (CIVET CAT) เพราะชะมดไปกินค้างคาวที่ติดเชื้อ และต่อมาได้ระบาดมาสู่คน เพราะคนไปกินชะมดที่ติดเชื้อ เช่นเดียวกัน จนปัจจุบัน เชื้อไวรัสชนิดนี้ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลกมากกว่า ๒๕ ประเทศแล้ว เชื้อ H1N1 เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ที่เกิดใน “หมู” จากประเทศเม็กซิโก เมื่อประมาณ ๔๐ กว่าปีก่อน ต่อมาได้แพร่ระบาดไปยังนกชนิดต่างๆ รวมทั้งสัตว์ปีกชนิดต่างๆ อีกด้วย และได้แพร่ระบาดมาสู่คนอย่างรวดเร็ว จนถึงปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อชนิดนี้แล้วทั่วโลก เป็นจ�ำนวนนับล้านๆ คนเช่นเดียวกัน 


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ

เฟื่องลดา

(ต่อจากฉบับที่แล้ว) การพัฒนาอุตสาหกรรมการทหารภายในประเทศของอินโดนีเซีย ปัจจุบันอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพอินโดนีเซียมากกว่าร้อยละ 20 มีอายุการใช้งานนาน กว่า 30 ปี รวมทั้งสถิติการเกิดปัญหาที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับอายุการใช้งานของยุทโธปกรณ์เกิดขึ้นอย่างต่อ เนื่อง ส�ำหรับอุบัติเหตุที่ส�ำคัญคือ เมื่อ เม.ย.52 บ.Fokker F-27 ประสบอุบัติเหตุตกท�ำให้มีผู้เสียชีวิต 24 คน และเมื่อ พ.ค.52 บ.L-100-30 ประสบอุบัติเหตุตก ท�ำให้มีผู้เสียชีวิต 97 คน อินโดนีเซียได้มีนโย บายยืดอายุการใช้งานยุทโธปกรณ์ที่มีประจ�ำการบางรายการ และการจัดซื้อทดแทน เพื่อเพิ่มศักยภาพ ของกองทัพให้มียุทโธปกรณ์ มีความพร้อมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ด้วยงบประมาณในการจัด ซื้อยุทโธปกรณ์ที่จ�ำกัด ประกอบกับการจัดซื้อยุทโธปกรณ์จากประเทศมหาอ�ำนาจ ต้องใช้งบประมาณ สูง อินโดนีเซียจึงให้ความส�ำคัญกับการพึ่งตนเองมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมการทหาร ภายในประเทศ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะท�ำให้กองทัพสามารถจัด ซื้อยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่ได้ โดยใช้งบประมาณของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด ล่าสุดได้ด�ำเนินนโยบาย รวมกิจการธุรกิจอุตสาหกรรมทางทหารให้อยู่ภายใต้การก�ำกับการดูแลของ Indonesian Military Business Management Body (BPBTNI) ภายในปี 2554


๕๐ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

บริษัทที่ด�ำเนินการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านการทหารภายในประเทศ

1. บริษัท PT Pindad

บริษัท PT Pindad เป็นบริษัทอุตสาหกรรมของรัฐบาลอินโดนีเซีย ด�ำเนินการออกแบบ พัฒนา สร้างและซ่อมบ�ำรุงทั้งยุทโธปกรณ์ทางทหารและพลเรือน ส�ำหรับกองทัพบก ก่อตั้งเมื่อปี 2351 ภายใต้ชื่อ Artillerie Constructie Winkel (ACW) ต่อมาปี 2493 บริษัทเนเธอร์แลนด์เข้ามาครอบครองกิจการแล้ว เปลี่ยนชื่อเป็น Pabrik Senjata dan Munisi (PSM) และเปลี่ยนเป็น PT Pindad ตามล�ำดับ มีส�ำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่เมือง Bandung บริษัทฯ เคยได้ รั บ รางวั ล ในการพั ฒ นา ปืนไรเฟิลแบบ Pindad SS1 และ SS2 ท�ำให้ ทบ.อิ น โดนี เ ซี ย ชนะการ แข่งขันการยิงปืนไรเฟิลใน กลุ่มประเทศอาเซียนเมื่อ ปี 2549 ยุทโธปกรณ์ ส�ำคัญที่ผลิต ได้แก่ Sidearms (Pindad P2 9X19 mm Pistol series), Assault Rifles (Pindad SS1,Pindad SS2), Machine Guns (Pindad SPR-1 7.62 mm bolt action sniper Rifle), Grenade Launchers (Pindad SPG-1 40 mm Grenade launcher series (for SS1 and SS2)) นอกจากนี้บริษัท PT Pindad ได้พัฒนารถสายพานล�ำเลียงแบบ APC-3 “Pansers” เปิดเผย ครั้งแรกเมื่อปี 2549 ได้ด�ำเนินการสร้างส�ำหรับ ทบ.อินโดนีเซีย 154 คัน ส่งมอบครบแล้วเมื่อปี 2553 ประเทศที่ให้ความสนใจจัดซื้อได้แก่ โอมาน มาเลเซีย บังคลาเทศ เนปาล ด้านความร่วมมือกับ ต่างประเทศล่าสุดเมื่อ มิ.ย.53 อินโดนีเซียได้ท�ำข้อตกลงเบื้องต้นด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมทางทหาร ร่วมกับตุรกี โดยบริษัท PT Pindad ร่วมกับบริษัท FNss Savunma Sistemleri ของตุรกีร่วมกันพัฒนายานยนต์ ทางทหาร จรวดน�ำวิถี ระบบเครื่องยนต์ และsoftware-defined radio system โดยระบบต่างๆ จะได้รับ การออกแบบและพัฒนาโดยบริษัทของตุรกี ส่วนการผลิตด�ำเนินการโดยบริษัท PT Pindad


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๕๑

2. บริษัท Indonesian Aerospace (IAe) หรือ PT Dirgantara Indonesia (PTDI)

บริษัท PTDI หรือ Industri Pesawat Terbang Nusantara (IPTN) ก่อตั้งเมื่อปี 2519 มีส�ำนักงาน ใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง Bandung ด�ำเนินการออกแบบ พัฒนา สร้างและซ่อมบ�ำรุงอากาศยานทั้งทางทหารและ เชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ยังได้ด�ำเนินการพัฒนาเกี่ยวกับระบบสื่อสารโทรคมนาคม อากาศยานส�ำคัญที่ได้รับลิขสิทธิ์ในการสร้าง ได้แก่ บ.CN-235, บ.NC 212 (CASA C.212), ฮ.NBO 105 (Bo 105), ฮ. NAS 330J, ฮ.NAS 332, ฮ.Bell 412 การผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน ได้แก่ บ.A330, บ.A340, บ.A380, บ.Boeing 737, บ.Boeing 757, บ.Boeing 767, บ.F-16, บ.Fokker F-100 การผลิตอาวุธ เช่น FFAR (Folding-Fin Aerial Rocket ) ที่ได้รับลิขสิทธิ์จากเบลเยี่ยม, SUT Torpedo, NDL-40 Ground to Ground Rocket Multi Launcher ปัจจุบันบริษัท PTDI มีชื่อเสียงในการพัฒนา บ.CN-235 MPA ท�ำให้เกาหลีใต้ให้ความสนใจจัดซื้อ จ�ำนวน 4 เครื่อง บริษัท PTDI ได้เริ่มโครงการ พัฒนา UAV แบบ PUNA (Pesawat Udara Nir-Awak) เมื่อ มี.ค.50 เป็น UAV ขนาดเล็ก ที่พัฒนาขึ้นส�ำหรับภารกิจเฝ้าตรวจ และ สนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงแห่งชาติ มี 3 รุ่นคือ รุ่น นน. 265 ปอนด์ พิสัยบิน 75 ไมล์ รุ่น นน. 55 ปอนด์ พิสัยบิน 31 ไมล์ และ รุ่น นน. 14 ปอนด์ พิสัยบิน 6 ไมล์ C-212 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการบินทดสอบ ล่าสุด บริษัท PTDI ได้เข้าร่วม โครงการพัฒนา บ.รบรุ่นใหม่แบบ KFX ร่วมกับบริษัท PUNA UAV Korea Aerospace Industries (KAI) ของเกาหลีใต้ โดย เมื่อ ก.ค.53 รมว.กห.ทั้งสองประเทศลงนามข้อตกลง ความเข้าใจเบื้องต้นในการขยายความร่วมมือทางทหาร อัตราส่วนการร่วมทุนเกาหลีใต้และอินโดนีเซีย 80:20 ทั้งนี้อินโดนีเซียมีโครงการจัดซื้อทั้งหมด 50 เครื่อง และ จะได้รับผลประโยชน์ในการถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมทั้งผล ประโยชน์จากการจ�ำหน่าย บ.ในอนาคต ด้านการพัฒนา อุตสาหกรรมทางทหารร่วมกับตุรกี บริษัท Turkish Aerospace Industries (TAI) และบริษัท PTDI มี


๕๒ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

โครงการพัฒนาระบบต่อต้านเรือด�ำน�้ำติดตั้งใน บ.ลาดตระเวนทางทะเล CN-235 ร่วมกัน รวมทั้งบริษัท TAI ยังได้ด�ำเนินการปรับปรุง บ.F-16 ให้กับอินโดนีเซียด้วย

3. บริษัท PT PAL

บริษัท PT PAL ด�ำเนินการออกแบบ สร้าง ซ่อมบ�ำรุง ทั้งเรือสินค้าและเรือที่ใช้ในภารกิจทาง ทหาร มีส�ำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง Surabaya บริษัท PT PAL มีประสบการณ์การต่อเรือมากว่า 40 ปี ได้ด�ำเนินการพัฒนาเรือหลายแบบ อาทิ เรือลาดตระเวนชั้น KAPAL ความยาว 28 เมตร และ ความยาว 75 เมตร, เรือ Motor Yacht ความยาว 28 เมตร เรือเชิงพาณิชย์ ได้แก่ เรือ STAR 50 DSBC ระวางขับ น�้ำ 50,000 DWT, เรือสินค้า (Cargo Vessel) ระวางขับน�้ำ 3500 DWT เรือ OHBC ระวางขับน�้ำ 45,000 DWT เรือ Container Vessel ระวางขับน�้ำ 4180 DWT, เรือบรรทุกน�้ำมันระวางขับน�้ำ 300,000 LTDW อีกทั้งได้พัฒนาเครื่องยนต์แบบต่างๆ ติดตั้งในเรือ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีส่วนร่วมในโครงการต่อเรือ Makassar-class Long Landing Platform Dock (LPD) กับบริษัท Daewoo International Corporation ของเกาหลีใต้ โดยเกาหลีใต้ด�ำเนินการสร้าง 2 ล�ำ และบริษัท PT PAL ด�ำเนินการสร้าง 2 ล�ำ โดย ทร.อินโดนีเซีย น�ำเรือ LPD มาใช้ในภารกิจส�ำคัญในประเทศ อาทิการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม นอกจาก นี้บริษัท PT PAL ยังมีโครงการต่อเรือบรรทุก ฮ.ขนาด 35,000 ตัน ความยาว 190 ม. เรือยกพลขึ้นบก (Landing Ship Tank: LST) จ�ำนวน 7 ล�ำ รวมทั้งต่อเรือคอร์เวตแบบ Sigma 10514-class ติดตั้งระบบ อาวุธจรวดน�ำวิถี Escort 105 M ให้กับ ทร.อินโดนีเซีย ล่าสุดเมื่อ ต.ค.54 บริษัท Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering จะท�ำสัญญากับ อินโดนีเซียภายในปี 2554 ในการสร้างเรือด�ำน�้ำโจมตี จ�ำนวน 3 ล�ำให้อินโดนีเซีย โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัท Howaldtswerke Deutsche Werft, Thyssen Krupp Marine Systems Group ของเยอรมัน


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๕๓

การพัฒนาอุตสาหกรรมการทหารของอินโดนีเซีย นอกจากจะมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการ ของประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังคงได้รับผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ร่วมด้วย แม้อินโดนีเซียจะพยายามเร่งพัฒนา อุตสาหกรรมการทหารของตนอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่ายังคงมีข้อจ�ำกัดคือ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียังไม่ได้ มาตรฐานตามความต้องการของกองทัพ อาจต้องอาศัยการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ร่วมกับการถ่ายทอดเทคโนโลยี จากประเทศตะวันตก เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ภาครัฐจะต้อง เข้าไปมีบทบาทส�ำคัญในการด�ำเนินการของบริษัท เอกสารอ้างอิง : - Asian Military Review, November 2010 - Jane’s Defence weekly, February 2, 2011 - Jane’s Defence weekly, May 11, 2011 - Jane’s All the World Air Force 2011 - Jane’s All the World Air Force 2011 - http://www.pal.co.id - http://www.indonesia-aerospace.com

- Asian Defence Journal, November 2008 - Jane’s Defence weekly, April 13, 2011 - Jane’s Defence weekly, June 8, 2011 - Military Balance 2011 - Military Technology, November 2011 - http://www.pindad.com


๕๔ ข่าวทหารอากาศ

พูดจาประสาหมอพัตร

มีนาคม ๒๕๕๕

หมอพัตร

ปลายเดือนตุลาคม ๒๕๕๔ หมอพัตร, เช่นเดียวกับผู้คนใน กทม. และปริมณฑล เกิดอาการ(?) กันทั่วหน้า เป็นอาการกระต่ายตื่นตูม (เพราะก�ำลังเป็นปีกระต่าย(หรือเถาะ)พอดี)กลัวน�้ำท่วมบ้าน แล้ว อพยพไปอยู่ในที่ซึ่งคิดว่าน�้ำท่วมไม่ถึง ชาวกรุงส่วนมากยังรักความสะดวกสบาย มักเลือกหนีไปอยู่ตามเมือง ตากอากาศใกล้ๆ เช่น บางแสน พัทยา ระยอง หรือไม่ก็ชะอ�ำ หัวหิน แต่ที่เผ่นไปไกลถึงเชียงใหม่ เชียงราย ก็มี หมอพัตรเองทนการรบเร้าของลูกหลานไม่ได้ ต้องยอมให้ลูกเขาพาใส่รถไปอยู่ชะอ�ำพักหนึ่ง ที่ผู้เขียนเลือกชะอ�ำเพราะสะดวกและไม่ไกล ถนนดี ไปง่าย คิดเสียว่าเหมือนกับไปตากอากาศ นอกฤดูกาล นั่งรถไปตามถนนพระราม ๒ ที่แต่ก่อนนี้เรียกว่าถนนธนบุรี-ปากท่อ พอเข้าเขตสมุทรสาคร ข้ามแม่น�้ำท่าจีน ก็อดไม่ได้ที่จะร�ำลึกถึงเมื่อ ๗๐ ปีที่แล้วที่หลบภัยทางอากาศ ที่เรียกกันง่ายๆ ว่าหนีหวอ มาอยู่ที่นครชัยศรีหลายครั้งหลายครา นานมาแล้ว นครชัยศรีเคยเป็นมณฑลนครชัยศรี ต่อมามีการจัด แบ่งเขตการปกครองใหม่ ลดฐานะลงมาเป็นอ�ำเภอขึ้นอยู่กับจังหวัดนครปฐม เดี๋ยวนี้ยังแบ่งไปเป็นอ�ำเภอ กระทุ่มแบน นครชัยศรีที่ผู้เขียนจะกล่าวถึงจึงเป็นกระทุ่มแบนในปัจจุบัน นครชัยศรีอยู่ริมฝั่งแม่น�้ำท่าจีน แม่น�้ำสายนี้ก็แปลกกว่าแม่น�้ำอื่น คือมีชื่อถึง ๔ ชื่อ ตอนต้นแม่น�้ำ แยกออกมาจากแม่น�้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาท เรียกว่าแม่น�้ำมะขามเฒ่า ไหลมาเรื่อยจนถึงสุพรรณบุรี ก็ได้ชื่อใหม่ว่าแม่น�้ำสุพรรณ ผ่านเมืองสุพรรณเข้าเขตนครชัยศรีกลายเป็นแม่น�้ำนครชัยศรี แล้วไหลคดเคี้ยว ผ่านที่ราบลุ่มมาออกทะเลลงอ่าวไทยที่จังหวัดสมุทรสาคร เรียกว่าแม่น�้ำท่าจีน ซึ่งเป็นชื่อที่รู้จักกันมากที่สุด เหตุที่เรียกว่าแม่น�้ำท่าจีน เข้าใจว่าสมัยก่อนนี้ คนจีนที่ล่องเรือส�ำเภามาจากเมืองจีนมาแวะขึ้นบก ที่นี่ แล้วตั้งหลักแหล่งท�ำมาหากินพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แม่น�้ำนี้จึงได้ ชื่อว่าแม่น�้ำท่าจีน


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๕๕

พื้นที่เมืองนครชัยศรีอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การท�ำเกษตรกรรม ปลูกอะไรก็งาม มีชื่อเสียงในเรื่องข้าวสารและผลไม้นานาชนิด ที่นี่ ข้าวสารขาวและคุณภาพสูง ผลไม้โดยเฉพาะส้มโอนครชัยศรี ขึ้นชื่อมาก รส หวานสนิท ส้มโอพันธุ์ทองดีเนื้อเป็นสีแดง พันธุ์ขาวพวงหัวเป็นจุก ส่วน ขาวแป้นขั้วเรียบ สาวนครชัยศรีผิวนวลงาม มารยาทดี ชาลี อินทรวิจิตร ศิลปินแห่งชาติ ได้ประพันธ์เพลงชื่นชมสาวที่นี่ ชื่อสาวนครชัยศรี หนุ่มต่างเมืองมานครชัยศรีมักติดใจทุกคน คุณตาของผู้เขียนเป็น คหบดีใหญ่ที่ย่านทรงวาด มีโรงสีหลายโรงทั้งในกรุงและต่างจังหวัด ตอนที่ท่านไปตรวจโรงสีที่นครชัยศรี เจอสาวนครชัยศรีก็ติดใจ สู่ขอตามประเพณีแล้วพามาร่วมชีวิตกันที่กรุงเทพฯ มีลูกหลานเป็นครอบครัวใหญ่ ปัจจุบันนี้ญาติพี่น้องของคุณยายก็ยังอยู่ที่นครชัยศรีอีกหลายราย นครชัยศรีจึงมีของดีอยู่มาก มีค�ำขวัญว่า “ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวสวย” บางคนยังต่อท้าย อีกว่า “ผ้าย้อมมะเกลืองาม” ญาติผู้ใหญ่ของคุณยายท่านหนึ่ง เมื่อก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ เล็กน้อยยังมีชีวิตอยู่ แก่มากแล้ว วันหนึ่งพวกเราไปเที่ยวกันจึงไปเยี่ยมท่านที่บ้านข้างวัดนางสาว ท่านดีใจมาก ขากลับน้าผู้ชายที่เป็น หัวหน้าคณะ เดินน�ำไปที่สะพานยาวที่ท�ำไว้เทียบเรือ เพราะตลิ่งตื้นเรือยนต์เทียบไม่ได้ คุณน้าเดินไปถึง ปลายสะพานยังไม่ยอมลงเรือ ยืนสูดอากาศบริสุทธิ์ บอกว่า อากาศดีจัง ผู้อื่นที่เดินตามมาต้องหยุดอยู่กับ ที่ คนสิบกว่าคนยืนบนสะพานท�ำให้สะพานทานน�้ำหนักไม่ไหว พังครืน ทุกคนตกน�้ำหมด ได้หัวเราะกัน เป็นที่ครื้นเครง เรื่องนี้ยังคงเล่าเป็นเรื่องตลกมาถึงทุกวันนี้ สมัยก่อนที่จะขุดคลองภาษีเจริญ การเดินทาง ไปนครชัยศรีล�ำบากมาก ต้องลัดเลาะไปตามคลอง เล็กคลองน้อย ต่อมามีการขุดคลองภาษีเจริญ การเดิ น ทางและขนส่ ง ระหว่ า งแม่ น�้ ำ ท่ า จี น กั บ เจ้าพระยาก็สะดวกขึ้น คลองภาษีเจริญตั้งต้นจาก คลองบางกอกใหญ่หรือคลองบางหลวงฝั่งธนบุรี ไปสิ้นสุดที่ต�ำบลดอนไก่ดี ระยะทาง ๒๕ กิโลเมตร มีประตูน�้ำเชื่อมต่อ ท่านผู้อ่านหลายท่านคงจะเคยได้ยินชื่อ “คลอง โคกขาม” คลองนี้ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ เพราะ เป็ น คลองที่ พั น ท้ า ยนรสิ ง ห์ ถื อ ท้ า ยเรื อ พระที่ นั่ ง ของสมเด็จพระเจ้าเสือ คลองเล็กและคดเคี้ยว เรือ


๕๖ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

พระที่นั่งจึงชนตลิ่งเป็นเหตุให้โขนเรือหัก แม้จะไม่ใช่ความผิดแต่พันท้ายนรสิงห์ก็ยึดกฎมณเฑียรบาลขอ ให้พระเจ้าเสือลงโทษตัดศีรษะ แม้จะได้รับพระกรุณายกโทษให้ก็ไม่ยอมรับ สุดท้ายจึงทรงให้ตัดศีรษะแล้ว สร้างศาลพันท้ายนรสิงห์ไว้ ณ บริเวณนั้น เจ้าฟ้ากุ้งได้ทรงนิพนธ์ถึงคลองโคกขามไว้ ดังนี้ โคกขามตอนโคกคล้าย สัณฐาณ ขามรุ่นริมธารสนาน สนุกนี้ พูนเพียงโคกฟ้าลาน แลโลก ลิ่วแม่ ถนัดหนึ่งโคกขามชี้ เช่นให้เรียมเห็น โคลงบทนี้จ�ำไม่ถนัดว่าอยู่ในกาพย์ห่อโคลงเห่เรือฉบับไหน แต่นักปราชญ์ราชบัณฑิตชื่นชมว่าส�ำนวน เปรียบเทียบ(?)เป็นยอด เปรียบเรื่องอะไรหมอพัตรไม่สันทัด ต้องถามผู้รู้เรื่องภาษาไทยลึกซึ้งอย่าง นวีร์ อาจพอตอบได้ เอาละ, มาคุยเรื่องแม่น�้ำท่าจีนต่อดีกว่า ตอนเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ใหม่ๆ ผู้เขียนอพยพทางอากาศไปพ�ำนักอยู่ที่โรงสีที่ริมแม่น�้ำท่าจีน แถวกระทุ่มแบน แต่เราเรียกว่านครชัยศรี ไปรวมๆ กันหลายครอบครัวโดยเรือตุ๊กตุ๊กของโรงสี จากคลอง บางหลวงเข้าคลองภาษีเจริญ เรือใช้ความเร็วมากไม่ได้เพราะคลองเล็กเกรงว่าคลื่นจากเรือจะไปกระแทก ตลิ่งพังและเรือแพที่จอดอยู่ ๒ ฝั่งคลองจะเสียหาย ใช้เวลากว่า ๔ ชั่วโมง ลอดสะพานข้ามคลองไปทั้งสิ้น ๖ สะพาน จึงถึงที่หมาย นั่งกันง่วงแล้วง่วงอีก ต้องเล่นไพ่อีแก่กินน�้ำฆ่าเวลา บ่นกันว่านครชัยศรีนี่ไกลจัง แต่ ตอนหลังสงครามมีถนนเพชรเกษมตัดลงไปถึงรู้ว่าใกล้นิดเดียว เพียง ๓๐ กม.เศษ รถเก๋งวิ่งชั่วโมงเดียวถึง พื้นที่ แถวนั้นจึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ที่อ้อมน้อยกระทุ่มแบนกลายเป็นเขตอุตสาหกรรม ถึงปี ๒๕๕๔ เกิดมหาอุทกภัยกระทุ่มแบนก็โดนเข้าหนักข้อทีเดียว นั่งรถผ่านถนนพระราม ๒ พอถึงสะพานข้ามแม่น�้ำท่าจีนก็อดคิดถึงแม่น�้ำท่าจีนสมัยหนีหวอไม่ได้ เราอพยพไปอยู่ที่โรงสีของตระกูล ที่กระทุ่มแบนมี ๒ โรง อยู่ห่างกันคนละคุ้งน�้ำ คุ้งน�้ำก็คือแม่น�้ำที่โค้ง เลี้ยวโค้งทีหนึ่งก็เรียกว่าหนึ่งคุ้งน�้ำ บางคุ้งก็สั้นบางคุ้งก็ยาว ชาวบ้านใช้เป็น เครื่องก�ำหนดว่าอยู่ใกล้ไกลกันเพียงใด สองคุ้งน�้ำหรือสามคุ้งน�้ำ มีอยู่คุ้งน�้ำหนึ่งยาวมาก เรียกกันว่า คุ้งข้าวเหนียวบูด มีต�ำนานว่า ชาวบ้านคนหนึ่งพายเรือมาดไปตามคุ้งน�้ำ พกข้าวเหนียวไปด้วย คิดว่าเมื่อ ผ่านคุ้งน�้ำนี้ไปก็จะกินข้าวเหนียวที่พกมา แต่คุ้งนี้ยาวมาก พอสุดคุ้งน�้ำหยิบห่อข้าวเหนียวขึ้นมากิน ก็พบว่า ข้าวเหนียวนั้นบูดเสียแล้ว ก็เลยเรียกคุ้งน�้ำนี้ว่าคุ้งข้าวเหนียวบูด ฟังดูไม่น่าเป็นไปได้ คุ้งน�้ำอะไรจะยาว ขนาดนั้น สงสัยว่าข้าวเหนียวห่อนั้นคงจะบูดมาตั้งแต่แกออกเรือแล้ว จ�ำได้ว่าในวันที่เดินทางไปถึงนครชัยศรี ผู้ใหญ่เขาขนเข้าของและจัดสถานที่กัน ผู้เขียนจึงเดินเล่น ไปถึงหน้าโรงสีริมฝั่งแม่น�้ำท่าจีน เพิ่งผ่านคลองภาษีเจริญมาหยกๆ มาพบแม่น�้ำเข้าก็รู้สึกว่ากว้างใหญ่ เหลือเกิน สองฝั่งแม่น�้ำส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ ไม่ค่อยมีบ้านเรือน มองดูเวิ้งว้างเงียบเหงา นานๆ มีเรือ


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๕๗

พายผ่านมาบ้าง เรือยนต์หายาก เรือพ่อค้าแม่ขายมีมาบ้าง เรือเจ๊กกาแฟบีบแตรเสียงปู๊นๆ ก๋วยเตี๋ยวเรือ มีผ่านมาเช้าบ่าย เป็นของขายที่เด็กชอบ ก๋วยเตี๋ยวเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูบะช่อกับหมูต้มหั่นเป็นแผ่นบาง บางเจ้า มีปลาหมึกแช่ด่างด้วย ราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ชามละ ๒ สตางค์ เจ้าที่อร่อยเรียกว่าเจ๊กตาโปน เพราะเจ๊ก คนขายตาเสียข้างหนึ่งงอกปูดออกมาคล้ายงวง สมัยนั้นที่ตลาดสี่แยกกระทุ่มแบน ริมคลองภาษีเจริญมีไฟฟ้าใช้แล้ว แต่ยังเดินสายไฟไปไม่ถึง โรงสี กลางคืนจึงต้องจุดตะเกียง เวลาโรงสีเดินเครื่องสีข้าวจึงจะมีไฟฟ้าใช้ การไม่มีไฟฟ้าใช้ก็ดีไปอย่างหนึ่ง เห็นดาวพราวฟ้า ทั่วคุ้งน�้ำเงียบ ได้ยินเสียงจักจั่นเรไร เสียแต่ยุงชุมเท่านั้น งูเงี้ยวเขี้ยวขอไม่ค่อยจะพบ มีแมลงอยู่ชนิดหนึ่งที่เห็นมากในเวลากลางคืน มีแสงวูบวาบที่ ก้น ก็หิ่งห้อยไงครับ หิ่งห้อยเป็นแมลงที่ชอบเกาะอยู่ตามโคนต้นล�ำพู ชาว บ้านบางคนเรียกทิ้งถ่วง แสงวูบวาบที่ก้นนั้นมีเฉพาะตัวผู้ เดี๋ยวนี้หิ่งห้อยมีเหลือน้อยลงทุกที เพราะต้นไม้ใหญ่ริมตลิ่ง และต้นล�ำพูถูกโค่นทิ้งมาก มาระยะหลังหิ่งห้อยมีคุณค่าทางการ ท่องเที่ยว นักทัศนาจรชอบมาดูหิ่งห้อยกัน นิยมมาท่องเที่ยว แบบโฮมสเตย์ ค้างคืนกับชาวบ้าน ค�่ำลงก็ลงเรือล่องตามริม ฝั่งดูหิ่งห้อย เมื่อหิ่งห้อยเหลือน้อยคนก็มาเที่ยวน้อยลง บาง แห่งไม่มีหิ่งห้อยเหลือต้องน�ำเข้าจากแหล่งอื่นมาปล่อยไว้ ตามต้นไม้ เล่ากันว่าที่ติดไฟราว หลอกว่าเป็นหิ่งห้อยก็มี เรือผีหลอก เป็นกรรมวิธีจับปลา อีกแบบหนึ่ง เอาเรือมาดล�ำยาว แจวไปเรื่อยๆ ช้าๆ ริมฝั่งน�้ำใน คืนเดือนมืด ล�ำเรือด้านหนึ่งติด ไม้กระดานแผ่นยาวเกือบตลอด ล�ำเรือ ไม้กระดานนี้ทาสีขาว ด้านหนึ่งปล่อยระน�้ำ อีกด้านหนึ่ง ของเรือติดแผงร่างแหให้สูงประมาณหลาหนึ่ง หัวเรือจุดตะเกียงส่งแสง วอมแวม แสงไฟสะท้อนสีขาวของแผ่นกระดานข้างเรือ ปลาเห็นเข้า ตกใจกระโดดขึ้นมาติดร่างแหแล้วตก กลับลงไปที่ท้องเรือ เป็นวิธีจับปลาอย่างง่ายๆ คล้ายกับว่าปลาที่ถึงฆาตจึงกระโดดขึ้นมาให้จับ สมุทรสาครอยู่ปากแม่น�้ำท่าจีน ตอนหน้าแล้งราวๆ เดือนสี่เดือนห้า น�้ำในแม่น�้ำจะเค็มใช้บริโภค ไม่ได้ ต้องเก็บน�้ำจืดไว้ใช้ในหน้าน�้ำเค็มแรกๆ ตอนหัวน�้ำขึ้นน�้ำยังจืดพอใช้อุปโภคบริโภคได้ ต้องคอยดัก เวลาน�้ำเริ่มขึ้นจะไม่ค่อยเค็ม เรียกว่าหัวน�้ำจืด


๕๘ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

สมัยสงครามฝรั่งมาทิ้งระเบิดเป็นพักๆ ถ้ามาถี่โรงเรียนก็ปิดสอน เด็กๆ ก็อพยพหนีหวอไปอยู่ ต่างจังหวัด พอฝรั่งเว้นการทิ้งระเบิด โรงเรียนในกรุงเปิดสอนก็กลับมาเรียนใหม่ ผู้เขียนเจอสภาพแบบนี้ ๓ ครั้ง แต่ถึง พ.ศ.๒๔๘๗ ฝรั่งทิ้งระเบิดมากขึ้น จะหนีหวอไปนครชัยศรีเหมือนเคยไม่ได้ เพราะคราวนี้ เป้าหมายการทิ้งระเบิดอยู่ที่สะพานรถไฟที่ใกล้นครชัยศรี จึงต้องหาที่หลบลูกระเบิดแห่งใหม่ เราก็เลยไม่ได้ ไปอยู่ที่นครชัยศรีอีก

วัดนางสาว ปีหลังๆ นี้ ผู้เขียนไปถวายสังฆทานแบบสัญจรหลายครั้ง โดยน�ำเครื่องสังฆทานใส่รถไปตามจังหวัด ใกล้ๆ ถวายสังฆทานให้แก่วัดที่ผ่านโดยไม่จ�ำเพาะเจาะจง มีอยู่คราวหนึ่ง ไปตามถนนเพชรเกษม ประมาณ ๓๐ กม. ก็เลี้ยวไปตามถนนเศรษฐกิจ ไปถึงวัดแห่งหนึ่งเกือบเพลแล้ว จึงแวะเข้าไปถวายสังฆทาน เป็นวัดที่ พัฒนาดี ชื่อ วัดนางสาว ผู้เขียนก็จ�ำได้ว่าเป็นวัดที่อยู่ตรงคุ้งน�้ำระหว่างโรงสี ๒ โรง ที่เคยไปอาศัยหลบอยู่ สมัยสงครามโลก รู้สึกยินดีมาก เดี๋ยวนี้สวยงาม ศาลาการเปรียญใหญ่ ที่ท่าน�้ำหน้าวัดเป็นเขตอภัยทาน ยืนที่ท่าน�้ำมองไปที่แม่น�้ำ รู้สึกว่าแม่น�้ำไม่กว้างเหมือนเมื่อสมัยผู้เขียนเป็นเด็ก มีสวะติดอยู่ริมตลิ่งมาก แต่สองฝั่งน�้ำยังไม่ค่อยมีบ้านเรือน แค่ขับรถผ่านสะพานข้ามแม่น�้ำท่าจีนยังเกิดความคิดค�ำนึงถึงเรื่องเก่าและย้อนรอยอดีตได้ถึง เพียงนี้ นี่แหละ ลักษณะของผู้สูงอายุละ


ข่าวทหารอากาศ ๕๙

มีนาคม ๒๕๕๕

ร.ท.สมนึก พุฒซอน

กว่าจะมาเป็นวัยรุ่นได้ ต้องเริ่มจากการเป็นเด็กมาก่อน การที่เด็กคนหนึ่งเกิดมาแล้วจะเติบโต เป็นคนดีของสังคมได้นั้น ในสมัยปู่ย่าตายายของเรา อาจจะดูไม่ยากเย็นนัก เพราะวิถีชีวิตสังคมไทยนั้น ไม่ยุ่งยากซับซ้อนเช่นปัจจุบัน จึงเป็นการง่ายที่จะท�ำให้คนในสังคมด�ำรงชีวิตไปตามครรลองของสิ่งแวดล้อม ที่เรียบง่าย ไม่เห็นแก่ตัว แต่มีการเอื้อเฟื้อ เกื้อกูลกัน ผิดกับสภาพสังคมปัจจุบันที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดีกัน รู้ทั้งรู้ว่าไม่ถูกไม่ควร ขอให้ได้ผลประโยชน์เถอะท�ำทั้งนั้นแหละ คิดดูซิครับ ยาเสพติดใครก็รู้พิษสงของมัน ดีอยู่แล้ว ยังค้าขายกันหน้าตาเฉย นี่แค่ตัวอย่างให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวของคนในสังคมในปัจจุบัน ยังมีอีกมากมายหลายอย่างที่เราๆ ท่านๆ ต่างก็รู้กันดีว่าได้เกิดขึ้นแล้วในสังคม วันนี้คงจะไม่เจาะลึกลง ไปในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง แต่จะพูด รวมๆ ไปถึงทุกปัญหาไม่ว่าจะเป็น ปัญหายาเสพติด ดังที่ได้เกริ่นไว้แล้ว ปัญหาการมั่วสุมกันท�ำสิ่ง ผิดกฎหมายผิดศีลธรรม ปัญหาอาชญากรรม ทุกรูปแบบ ปัญหาของสื่อลามกอนาจาร และ ปัญหาของการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร อันเป็นปัญหาส่วนใหญ่ของวัยรุ่นทั้งนั้น เหล่า นี้นับเป็นปัญหาลูกโซ่ทโี่ ยงถึงกันหมด หากจะ คิดแก้ คงต้องเริ่มต้น ที่ต้นตอของปัญหาว่ามา จากอะไรกันแน่ ก่อนที่จะเริ่มเรื่อง ก็ได้เกริ่นน�ำ ไว้แล้วว่า การที่คนจะมาเป็นวัยรุ่นได้นั้น ต้อง ผ่านวัยเด็กมาก่อน ฉะนั้นต้นตอของปัญหาน่า จะอยู่ที่เด็กว่าได้รับการเลี้ยงดูอบรมมาดีขนาด ไหน มีการส่งต่อสืบทอดการอบรมได้ดีเพียงใด


๖๐ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

และทุกฝ่ายให้ความร่วมมือกันเพียงใด เรามาเริ่มต้นแก้ปัญหากันโดยมองไปที่ สถาบันครอบครัว เป็นอันดับแรก อันว่าครอบครัว เป็น จุดเริ่มต้นของสังคมหน่วยที่เล็กที่สุด ใกล้ตัวเราที่สุด แต่เรามักจะมองข้ามเสมอ ทั้งๆ ที่รากเหง้าของปัญหา ทั้งหมดอยู่ที่ครอบครัวแท้ๆ ลองสังเกตดูเอาเถิด วัยรุ่นทั้งหลายที่ก่อปัญหาต่างๆ ไม่เว้นแต่ละวันนั้น หาก สืบสาวไปถึงต้นตอจะพบว่า มักเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่นตั้งแต่เด็ก ขาดการถูกอบรมสั่งสอน พ่อแม่ เลี้ยงดูด้วยเงิน คิดว่าเงินจะช่วยชดเชยสิ่งที่เด็กขาดไปได้ ไม่ว่าจะเป็นความอบอุ่น เวลาที่ต้องให้กับเขา ซึ่งมัน ทดแทนกันไม่ได้เลย คิดหรือว่า เด็กจะชอบอ่านนิทานเล่มแพงๆ ที่พิมพ์ด้วยสี่สีด้วยกระดาษอย่างดี มากกว่า ที่จะฟังจากปากของพ่อแม่ ท�ำไมพ่อแม่ จึงไม่หันมาให้ความส�ำคัญตรงนี้ ตอบง่ายนิดเดียวว่า เพราะต้อง ท�ำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งก็ถูกต้องค่ะ ไม่ว่าสมัยนี้หรือสมัยไหน การหาเลี้ยงปากท้องยังต้อง มาเป็นอันดับหนึ่งอยู่ แต่ทว่า ท�ำไมปัญหาเลวร้ายต่างๆ จึงเกิดขึ้นมากมายในขณะนี้ เมื่อมาวิเคราะห์ดูแล้ว น่าจะมีสาเหตุจากภาวะบริโภคนิยมในวัฒนธรรมตะวันตกมาก จนลืมหันมามองตัวเองว่า เหมาะสมแล้วหรือ วัฒนธรรมตะวันตกที่ว่าก็คือ การที่คู่สมรสมักจะชอบแยกครอบครัวออกไปอยู่ต่างหากใหม่ๆ ก็คงจะดีอยู่ หรอก ดูเป็นสัดเป็นส่วนดี ไม่ต้องมีคนอื่นมายุ่มย่ามนัก แต่พอมีลูกขึ้นมา เอาละสิ ต้องวิ่งหาคนช่วยเลี้ยง ให้วุ่นไปหมด หากเป็นสังคมสมัยก่อน คุณย่าคุณยายหรือพี่ป้าน้าอา คงช่วยแบ่งเบาภาระได้ไม่มีปัญหา อันใด การฝากเด็กไว้กับพี่เลี้ยง หรือแม้กระทั่งการหอบเขาไปฝากคนโน้นคนนี้เลี้ยงนั้น ตัวเด็กเองคงจะ สับสนว่าใครคือพ่อแม่กันแน่ กลางวันอยู่กับคนหนึ่ง กลางคืนอยู่กับอีกคนหนึ่ง หากคู่สมรสจะยังอยู่ รวมในครอบครัวเดิม เด็กก็จะรับรู้เองว่าคือครอบครัวของเขา แม้ว่ากลางวันจะถูกปล่อยให้อยู่กับคุณย่าคุณยาย บ้าง แต่กลางคืนคุณย่าคุณยาย ก็มิได้หายไปไหน ความอบอุ่นในใจจะเกิดขึ้นเสมอ แล้วเขาก็จะซึมซับเอา ความรู้สึกเอื้ออารี ความอ่อนโยนที่ใครๆ ในครอบครัวมีต่อเขา แล้ว เติบโตเป็นคนโดยสมบูรณ์ได้ไม่ยากนัก เลิกหลงตาม ทัศนนิยม แบบตะวันตกเสียทีเถิด มันไม่เหมาะกับอารยธรรมประเพณีของ ไทยเลย หากได้ท�ำต่อไป เราจะไม่ได้กลับมาเห็นภาพของเด็กถือ ตะกร้า อุ้มขันข้าวตอกดอกไม้เดินตามคุณย่าคุณยาย เข้าวัดอีก ก็ได้ ทีนี้ พอเด็กเจริญวัยจนต้องก้าวออกจากครอบครัว เพื่อสู่อีกสถาบันหนึ่งที่ใหญ่ขึ้นซึ่งก็คือโรงเรียน คงต้องปรับตัว บ้างเป็นธรรมดา ในเมื่อพื้นฐานทางครอบครัวดีอยู่แล้ว ไม่น่าจะ มีปัญหาอะไรนักหากทางโรงเรียนโดยเฉพาะครูจะให้การ เอาใจใส่ อบรมลูกศิษย์เชื่อมโยงกับครอบครัวได้ดี ในขณะที่ครอบครัวต้อง ดูแลบุตรหลานของตนเป็นปฐมอยู่แล้ว ไม่ได้ปล่อยภาระให้คุณครู โดยสิ้นเชิง ที่ต้องเน้นโรงเรียนด้วยก็เพราะ ช่วงเวลาที่เด็กอยู่กับ


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๖๑

คุณครู อยู่กับโรงเรียนก็นานพอๆ กับอยู่บ้าน ฉะนั้น จึงมองข้ามความส�ำคัญของโรงเรียนไปไม่ได้เช่นกัน ท�ำอย่างไรที่จะให้บ้านเชื่อมโยงกับโรงเรียนได้ น่าจะอยู่ที่การให้มีการพบปะกันระหว่างพ่อแม่ผู้ปกครอง กับคุณครู อย่างน้อยภาคเรียนละ ๒ ครั้ง หรือน่าจะบ่อยกว่านี้ก็ได้ เพื่อเปิดโอกาสให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ได้ทราบถึงพฤติกรรมของบุตรหลาน ในยามที่เขามิได้อยู่ในสายตาเรา มีสิ่งผิดปกติจะได้น�ำมาถกกันเพื่อ แก้ไขต่อไป เคยได้ยินเหมือนกันว่าเด็กบางคนจะเชื่อฟังคุณครูมากกว่าพ่อแม่เสียอีก ดังนั้นครูเป็นส่วน หนึ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาของวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี สุ ด ท้ า ยของการแก้ ป ั ญ หาคื อ ชุมชน ที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่าย ปกครองหรือฝ่ายดูแลความสงบเรียบร้อย จะต้องปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รักและห่วงใยลูกบ้านเหมือนคนในครอบครัว เดียวกัน ช่วยกันสอดส่องดูแล ทุกข์สุขของ ประชาชนทั้งในเชิงรุกและรับ เพื่อสร้าง ชุมชนให้เข้มแข็ง เพี ย งสามส่ ว นนี้ ค งพอจะเป็ น ปราการต้านสิ่งเลวร้ายอันเป็นตัวก่อปัญหา ในบ้านเมืองได้ วัยรุ่นมิใช่ตัวปัญหาเลย เขาเพียงแต่ถูกโยนบทผู้ร้าย มาให้แสดง เท่านั้น เรามาช่วยกันสร้างบทบาทที่ดีให้เขาได้แสดงกันดีไหมครับ


๖๒ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

อ.วารุณี

ประจ�ำเดือน มีนาคม ๒๕๕๕


ข่าวทหารอากาศ ๖๓

มีนาคม ๒๕๕๕

มุมกฎหมาย

ตอนที่ ๓

น.ท.พงศธร สัตย์เจริญ

หลักการของกฎหมายล้างมลทิน ๑. บังคับใช้กับผู้ซึ่งต้องโทษตามค�ำพิพากษาของศาลให้ลงโทษ หรือผู้ที่ถูกลงโทษทางวินัยตาม ค�ำสั่งของผู้มีอ�ำนาจลงโทษทางวินัยตามกฎหมาย รวมถึงผู้ที่ถูกลงโทษทางอาญาหรือทางวินัย ตามค�ำสั่ง ขององค์กรที่มีใช้อ�ำนาจรัฐาธิปัตย์ เช่น คณะปฏิวัติ ฯลฯ ผลของบทบัญญัติกฎหมายล้างมลทิน คือ ให้ถือว่า บุคคลดังกล่าวซึ่งถูกลงโทษและได้รับโทษจนพ้นโทษไปแล้วนั้น ไม่เคยต้องค�ำพิพากษาหรือค�ำสั่งลงโทษ เท่ากับไม่เคยมีมลทิน ทั้งนี้ กระบวนการออกค�ำสั่งลงโทษต้องครบขั้นตอนและมีผลบังคับแล้ว เช่น ค�ำสั่ง ศาลถึงที่สุดแล้วโดยไม่มีการอุทธรณ์ฎีกา หรือแม้จะครบขั้นตอนการออกค�ำสั่ง/ค�ำพิพากษา แต่ถ้าผู้ที่ถูก ลงโทษไม่ยอมรับโทษเพราะหลบหนี ไม่ว่าก่อนหรือในระหว่างถูกลงโทษ ย่อมมิใช่ผู้ที่อยู่ในข่ายของการ ล้างมลทินจะกล่าวอ้างขอรับผลของกฎหมายล้างมลทินไม่ได้ ในการออกกฎหมายล้างมลทินบางฉบับอาจมีข้อความบัญญัติขยายความค�ำนิยามผู้ซึ่งต้องโทษ อาญาหรือผู้ซึ่งถูกลงทัณฑ์ทางวินัยว่า “......ให้หมายความรวมถึงผู้ถูกลงโทษโดยค�ำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีผลเช่นเดียวกับการถูกลงโทษโดยค�ำพิพากษาหรือค�ำสั่งของศาล” และ “...ให้หมายความรวมถึงผู้ถูกลงโทษ หรือลงทัณฑ์โดยค�ำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งมีผลเช่นเดียวกับการถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัย ทั้งนี้ กฎหมายมุ่งหมายให้ใช้บังคับรวมถึงกรณีที่มีบุคคลถูกลงโทษโดยองค์กรที่กฎหมายยอมรับว่ามีอ�ำนาจ ลงโทษอาญา หรือมีอ�ำนาจลงทัณฑ์ทางวินัยแก่บุคคล เช่น องค์กรรัฐาธิปัตย์ซึ่งยึดอ�ำนาจการปกครองแผ่นดิน ได้ส�ำเร็จ ไม่ว่าจะขนานนามตนเองว่า “คณะปฏิวัต”ิ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” “คณะปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน” หรือชื่ออื่นๆ ข้อความขยายความค�ำนิยามที่กล่าวถึงนี้อาจไม่ต้องบัญญัติไว้ก็ได้ ถ้าก่อนหน้าวโรกาสที่จะออกกฎหมายล้างมลทินครั้งใดไม่มีเหตุการณ์ปฏิวัติ ....ฯลฯ เกิดขึ้น หรือมีแต่ ไม่มีการใช้อ�ำนาจลงโทษหรือลงทัณฑ์แก่บุคคลใด ๒. การล้างมลทินเพียงแต่ลบล้าง “มลทิน” อันเกิดจากค�ำพิพากษาหรือค�ำสั่งลงโทษนั้น ไม่ได้ ลบล้าง “การกระท�ำ” อันเป็นต้นเหตุให้มีการพิจารณาตัดสินลงโทษลงทัณฑ์ ดังนั้น หลังจากมีกฎหมาย


๖๔ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

ล้างมลทินออกใช้บังคับแล้ว ย่อมไม่มีผู้ใดอาจน�ำค�ำพิพากษาหรือค�ำสั่งที่เกี่ยวกับบุคคลผู้ถูกลบล้าง มลทินมากล่าวอ้างเป็น “มลทิน” ของบุคคลนั้น หรือประณามว่าเขามี “ความผิด” หรือเป็น “ผู้ไม่ บริสุทธิ์” ตามค�ำพิพากษาหรือค�ำสั่งลงโทษนั้นได้อีกต่อไป ในทางกลับกัน จะน�ำกฎหมายล้างมลทินมาอ้างว่าผู้ซึ่งถูกลบล้างมลทินไม่เคยกระท�ำผิดตาม ค�ำพิพากษาหรือค�ำสั่ง เพื่อเป็นข้อสนับสนุนว่าบุคคลผู้นั้นเป็น “ผู้บริสุทธิ”์ ก็ไม่ได้ แต่จะต้องดูและพิจารณา จาก “การกระท�ำ” และพฤติการณ์แวดล้อมการกระท�ำของเขา เพราะกฎหมายล้างมลทินเองก็บัญญัติเป็น การทั่วไป ไม่ได้เจาะจงเป็นรายกรณีและก็มิได้โต้แย้งหรือยกเลิกเพิกถอนค�ำพิพากษาหรือค�ำสั่งลงโทษ แต่อย่างใด ๓. ตามหลักตรรกศาสตร์ซึ่งว่าด้วยเหตุผลตามความเป็นจริง “การกระท�ำ” (รวมทั้ง “เจตนา” ที่แฝงอยู่กับการกระท�ำ) เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว ไม่มีใครอาจย้อนไปลบล้างเหตุการณ์นั้นได้ คนจะผิด หรือถูก ดีหรือชั่ว ย่อมดูและพิจารณาได้จากข้อเท็จจริงที่แสดงพฤติกรรมแห่งการกระท�ำและเจตนาของ เขาซึ่งเป็นเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา ข้อส�ำคัญจะต้องพิจารณาอย่าง “ยุติธรรม” คือ มีความเป็นกลาง โดยปราศจากอคติ ซึ่งเป็นหลักธรรมที่ท�ำให้บุคคลในสังคมสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้  การล้างมลทิน มีกรณีที่น่าศึกษาในเรื่องการล้างมลทินทางวินัย ตามพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภช กรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี (พ.ศ.๒๕๒๖) กฎหมายฉบับนี้นอกจากถือว่าบุคคลไม่เคยถูกลงโทษลงทัณฑ์ ทางวินัยแล้ว ยังบัญญัติว่าบรรดาผู้ที่ได้รับนิรโทษกรรมก่อนหรือในวันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ “ให้ถือว่าผู้นั้นมิได้กระท�ำผิดทางวินัย” ที่บัญญัติเช่นนี้เพราะกฎหมายฉบับนี้ออกมาต่อเนื่องกับการนิรโทษกรรม ที่เพิ่งมีมาก่อนหน้านี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวก็ได้บัญญัติต่อไปว่าการล้างมลทินตาม พระราชบัญญัตินี้ไม่ก่อให้เกิดสิทธิ แก่ผู้รับการล้างมลทินในอันที่จะเรียกร้องเอาสิทธิประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น จึงท�ำให้ผู้รับการล้างมลทินไม่ อาจหยิบยกบทบัญญัติในส่วนที่ให้ถือว่าบุคคล “มิได้กระท�ำผิดทางวินัย” มาอ้าง แสดงว่ากฎหมายฉบับ นี้มิได้วางหลักการให้มีการน�ำกฎหมายล้างมลทินมากล่าวอ้างว่าผู้ซึ่งถูกลบล้างมลทินไม่เคยกระท�ำผิด และขอเรียกคืนซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ได้สูญเสียไปโดยผลแห่งค�ำสั่งลงโทษ หรือกล่าวอ้างว่าผู้นั้น มีคุณสมบัติ ครบถ้วนที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างไรก็ดี การออกกฎหมายล้างมลทิน มีลักษณะเป็นการให้อภัยทาน เสมือนเป็นการชุบชีวิต ผู้ที่ถูกลงโทษให้เกิดขึ้นใหม่ เป็นคนที่มีสิทธิด�ำเนินชีวิตได้ในสังคมเฉกเช่นเดียวกับบุคคลทั้งหลาย ซึ่งไม่เคย ต้องโทษ ส�ำหรับผู้ที่เคยถูกถอดยศหรือถูกเรียกคืนเครื่องราชฯ หรือถูกตัดสิทธิรับเบี้ยหวัด บ�ำเหน็จบ�ำนาญ จะได้รับผลการชุบชีวิตถึงขนาดมีสิทธิขอพระราชทานยศคืน หรือขอรับเบี้ยหวัด บ�ำเหน็จบ�ำนาญหรือ


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๖๕

สิทธิประโยชน์ดังกล่าวได้ด้วยหรือไม่ จะต้องพิจารณาจากพระราชบัญญัติล้างมลทินฉบับนั้นว่า ได้บัญญัติ ให้ขอคืนได้ภายในเวลาที่ก�ำหนดหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาในการออกพระราชบัญญัติล้างมลทิน นอกจาก พระราชบัญญัติฉบับปี พ.ศ.๒๕๒๖ ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ในปี พ.ศ.๒๕๓๐ และ พ.ศ.๒๕๕๐ ยังได้บัญญัติไว้ ชัดเจนว่า การล้างมลทินไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้ได้รับการล้างมลทินที่จะเรียกร้องสิทธิหรือประโยชน์ใดๆ  เปรียบเทียบกับการอภัยโทษ การล้างมลทินกับการอภัยโทษต่างกัน เพราะการอภัยโทษเป็นพระบรมราชวินิจฉัยที่จะพระราชทาน ให้ในกรณีที่มีผู้ร้องขอ หรือเมื่อถึงโอกาสอันเหมาะสม เช่น ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระเจ้าอยู่หัว หรือสมเด็จพระบรมราชินี....ฯลฯ มีการออกพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวนักโทษที่ก�ำลังต้องโทษจ�ำคุกให้ พ้นโทษก่อนครบก�ำหนด หรือเมื่อมีการกราบทูลขอพระราชทาน อภัยโทษ ตามค�ำพิพากษาของศาลเนื่องจากศาลเองก็ได้ตัดสิน ลงโทษราษฎรในพระปรมาภิไธยฯ จึงย่อมมีพระบรมราชวินิจฉัย ให้อภัยเพื่อเป็นคุณแก่ราษฎรได้ ที่ผ่านมา พระราชบัญญัติล้างมลทินโทษได้ก�ำหนด ให้ล้างมลทินที่เกิดขึ้นแล้วแก่ผู้ต้องโทษ เนื่องจากบุคคลนั้น ถูกก�ำหนดในค�ำพิพากษาหรือค�ำสั่งให้ลง “โทษ” อาญา (บางฉบับขยายรวมถึงการ “กักกัน” ด้วย) และต่อมาเขาได้ ถูกบังคับ ถูกลงโทษตามก�ำหนดโทษในค�ำพิพากษาหรือค�ำสั่งนั้นครบถ้วนและพ้นโทษไปแล้ว เช่น ถูกจ�ำคุก จนพ้นโทษออกมาซึ่งก็ยังคงมีมลทินติดตัวมาด้วย และไม่มีใครอาจลบล้าง นอกเสียจากจะมีพระราชทานให้ ล้างมลทินนี้ออกไป ส�ำหรับข้าราชการและเจ้าพนักงานของรัฐ มีกฎหมายวินัยก�ำหนดโทษ ซึ่งยังผลให้เกิดมลทินติดตัว เช่น ถูกสั่งไล่ออกจากราชการ เป็นเสมือน “ตราบาป” ติดตัวตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ไม่อาจใช้ชีวิต ได้เหมือนคนทั่วไป หลักการล้างมลทินจึงเป็นพระบรมราชวินิจฉัยที่จะลบล้าง “ตราบาป” นั้นออกไปจาก กลุ่มบุคคลประเภทนี้ ท�ำนองเดียวกับการลบมลทินของราษฎรที่เคยรับโทษจ�ำคุกตามค�ำพิพากษาของศาล


๖๖ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

เป็นโรคที่เกิดจากการที่ร่างกาย ไม่สามารถระบายความร้อน ได้ทัน จนท�ำให้ความร้อนในร่างกาย สูงถึง ๔๑ องศาเซลเซียส ตามปกติ เมื่อร่างกายได้รับความร้อนจากสาเหตุต่างๆ เช่น การออกก�ำลังกาย การฝึกของทหารกลางแจ้ง ไข้จากสาเหตุต่างๆ อาการชัก หรือแม้แต่การ อยู่กลางแจ้ง เป็นต้น ร่างกาย จะมีกลไกในการก�ำจัดความร้อนที่ส�ำคัญ คือการมีเหงื่อออก เมื่อร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนเหล่านั้นได้ทัน จึงเกิดปัญหาขึ้น โรคนี้เป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และ ทันท่วงที มิฉะนั้นโรคอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

อาการเบื้องต้น ได้แก่ เมื่อยล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน วิตกกังวล สับสน ปวดศีรษะ อาการอาจรุนแรง ถึงเพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว ไตล้มเหลว มีการตายของเซลล์ตับ จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ปัจจัยที่เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะนี้ ได้แก่ การออกก�ำลังกายในสภาพอากาศที่ร้อนจัด กลางแจ้ง หรือมีความชื้นสูง อาการไข้ที่เกิดจากความเจ็บป่วยอื่นๆ การขาดน�้ำ ผู้ที่ดื่มเหล้ามาก สภาพร่างกายที่อ่อนเพลีย อดนอน ภาวะอ้วน สภาพร่างกายที่ไม่พร้อมส�ำหรับการออกก�ำลังกาย ผู้สูงอายุหรือผู้ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เป็นต้น

สัญญาณส�ำคัญของโรคลมแดด สัญญาณส�ำคัญของโรคลมแดด ก็คือ ไม่มีเหงื่อออก ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกกระหายน�้ำมาก วิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน ซึ่งต่างจากการเพลียจากแดดทั่วๆ ไป ที่จะพบว่ามีเหงื่อออกด้วย หากเกิดอาการดังกล่าวจะต้องหยุดพักทันที


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๖๗

การปฐมพยาบาลผู้ป่วยลมแดด การช่วยเหลือผู้ที่มีอาการเป็นลมแดดในรายที่อาการยังไม่มาก ควรให้ดื่มน�้ำเปล่ามากๆ ถ้ามีอาการมาก ให้นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ถอดเสื้อผ้าออก ใช้ผ้าชุบน�้ำที่อุณหภูมิห้อง เช็ดตัวย้อนรูขุมขน ร่วมกับการใช้พัดลมช่วยเป่าระบายความร้อน เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ต�่ำลง และรีบ น�ำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด


๖๘ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

การป้องกัน ๑. หลีกเลี่ยงการออกก�ำลังกายอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ในช่วงที่อากาศร้อนจัด ถ้าจะออก ก�ำลังกายกลางแจ้ง เลือกท�ำในช่วงเช้าหรือเย็น ๒. หากรู้ว่าต้องไปท�ำงานท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อน ก็ควรเตรียมตัวโดยออกก�ำลังกายกลางแจ้ง อย่างสม�่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ ๓ ครั้งๆ ละอย่างน้อย ๓๐ นาที เพื่อให้ร่างกายชินกับสภาพอากาศร้อน ดื่มน�้ำ ๑-๒ แก้ว ก่อนออกจากบ้านในวันที่มีอากาศร้อนจัด และหากต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนหรือ ออกก�ำลังกายกลางสภาพอากาศร้อน ควรดื่มน�้ำให้ได้ชั่วโมงละ ๑ ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน�้ำก็ตาม ๓. ในช่วงที่อากาศร้อน สวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งไม่หนา ระบายอากาศดี สีอ่อน สวมหมวกหรือถือร่มกันแดด ๔. ดื่มน�้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ก่อนออกก�ำลังกาย ๕. ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่คุ้นเคยกับอากาศร้อน อย่าเพิ่งออกก�ำลังกายหักโหมในที่ร้อน เมื่อไปประเทศ เมืองร้อน ให้ร่างกายมีการปรับตัวอย่างน้อย ๑-๒ สัปดาห์ ๖. ผู้ที่มีโรคหรือรับประทานยาที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ สมควรหลีกเลี่ยง การอยู่ในที่ๆ ร้อนจัด เป็นเวลานาน ๗. ผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุที่ ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยหรือ เด็กเล็ก ควรระมัดระวังเรื่อง อุณหภูมิอากาศ ไม่ให้ร้อน อบอ้าว และควรให้ได้รับสาร น�้ำอย่างเพียงพอ

ขอขอบคุณ กวป.พอ.


มีนาคม ๒๕๕๕

ผู้หญิง กับบทบาท นักบิน

ข่าวทหารอากาศ

Pharaoh

ผู้หญิงไทยมีบทบาทส�ำคัญมาตั้งแต่อดีต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา “ เช่น พระสุพรรณกัลยา มีบทบาทในการสร้างชาติไทย แม้แต่ในสมัย รัตนโกสินทร์ คุณหญิงจัน ภรรยาเจ้าเมืองถลาง และนางมุกน้องสาว ผู้หญิงไทย ได้มีบทบาทในการต่อสู้ท�ำสงครามเพื่อปกป้องบ้านเมือง ต่อสู้ต้านทาน มีบทบาทส�ำคัญ กองทัพพม่าเมื่อครั้งสงครามเก้าทัพในสมัยรัชกาลที่ ๑ หรือในสมัย ่ ๓ คุณหญิงโม ได้ใช้อุบายท�ำให้กองทัพของเจ้าอนุวงศ์ แห่ง มาตั้งแต่อดีต รัเวีชยกาลที งจันทน์บาดเจ็บล้มตายจ�ำนวนมากและแตกทัพหนีไป นอกจากนี้ ” ในสมัยรัชกาลที่ ๕ สมเด็จพระนางเจ้า เสาวภาผ่องศรี พระองค์ทรง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ส�ำเร็จราชการแผ่นดิน ในปัจจุบันมีผู้หญิงไทยจ�ำนวนมากได้มีบทบาททางการเมือง เช่น นายกรัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจุบัน รวมทั้งในหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในด้านสังคมและ วัฒนธรรม เป็นต้น บทบาทผู้หญิงกับกองทัพ จุดเริ่มต้นของการรับผู้หญิงเข้ารับราชการในกองทัพ เกิดขึ้นในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เมื่อครั้งประเทศไทยเผชิญกับภัยพิบัติจากสงครามโลกครั้งที่ ๒ ชาติบ้านเมืองต้องการก�ำลังทหารเพื่อป้องกัน ประเทศชาติ จอมพล ป.พิบูลสงคราม มีด�ำริว่า “การขยายก�ำลังทหารอยู่ที่ต้องให้ชาติไทยทั้งชาติเป็น ทหาร หมายความว่า คนไทยทุกคนไม่ว่าหญิงหรือชาย จักต้องได้รับการอบรมให้เป็นนักรบที่สามารถ เฉลียวฉลาดในวิทยาการและเข้มแข็งพอ พร้อมที่จะสละชีพเพื่อชาติเสมอ และเรื่องการอบรมให้คนไทยเป็น นักรบที่สามารถทั้งชายหญิงนี้ เป็นนิสัยที่อยู่ในจิตใจแต่บรรพบุรุษแล้ว จนไทยเราได้จารึกเกียรติประวัติ


๗๐ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

ของบรรดาท่านวีรชนทั้งชายหญิงไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติ” ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เอง จอมพล ป. พิบูลสงคราม จึงด�ำริให้จัดตั้งกองทหารหญิงขึ้น โดยมอบให้กรมยุทธศึกษาทหารบก วางหลักสูตรและ ให้การศึกษานักเรียนนายร้อยหญิงทหารบก เมื่อศึกษาครบก�ำหนดตามหลักสูตร นักเรียนนายร้อยหญิง ได้รับการบรรจุให้เข้ารับราชการในต�ำแหน่งผู้บังคับหมวดในกองทัพบก โดยให้ส�ำรองราชการมณฑล ทหารบกที่ ๑ รับยศเป็นว่าที่ร้อยตรีหญิง นอกจากนักเรียนนายร้อยหญิงดังกล่าวแล้ว กองทัพบกยังได้จัดตั้ง โรงเรียนนายสิบหญิง เปิดโอกาสให้หญิงไทยได้เข้ารับการศึกษาและฝึกเพื่อเข้ารับราชการเป็นนายสิบ ที่จะปฏิบัติงานในกองพันสุรนารีที่จัดตั้งขึ้นที่จังหวัดลพบุรีอีกด้วย ต่อมากองทัพบกมีนโยบายเปลี่ยนไป จึงไม่มีหลักสูตรดังกล่าว กองทัพอากาศ ปัจจุบันไม่มีการผลิต นักเรียนนายเรืออากาศหญิงและนักเรียน จ่าอากาศหญิง จะมีก็เพียงแต่นักเรียน พยาบาลหญิง แต่กองทัพเห็นว่าผู้หญิง ยังมีบทบาทและมีความจ�ำเป็นอยู่มาก โดย เฉพาะงานที่เกี่ยวกับภารกิจการสนับสนุน เช่น แพทย์ พยาบาล การเงิน การบัญชี การ ส่งก�ำลัง การศึกษา นักกฎหมาย และธุรการ เป็นต้น และเห็นว่าการที่กองทัพจะผลิตเอง คงจะไม่คุ้มค่า จึงได้เปิดรับสมัครแต่ละสาขา ตามความจ�ำเป็น หากเป็นผู้หญิง ก็จะบรรจุ เป็นนายทหารหญิง ประทวนหญิง และ ข้าราชการกลาโหมพลเรือนตามต�ำแหน่งที่ บรรจุ จะเห็นได้ว่าภารกิจหลักของกองทัพ เช่น การรบ และงานยุทธการ โดยเฉพาะ การเป็นนักบิน ผู้หญิงยังไม่ได้มีบทบาทใน การปฏิบัติภารกิจหลักนี้แต่อย่างใด ซึ่งจะ Nicole Malachowski แตกต่างกับกองทัพอากาศหลายประเทศที่ ผู้หญิงได้มีบทบาทในการปฏิบัติภารกิจหลักของกองทัพไม่แพ้ทหารชายก็มีเป็นจ�ำนวนมาก แต่อาจ มีเหตุผลโต้แย้งว่า ผู้หญิงไทยไม่สามารถท�ำอะไรหลายๆ อย่างได้ดังเช่นผู้ชาย แต่ก็เป็นเพราะผู้ชายไทย อะลุ้มอล่วยให้แก่ผู้หญิงเนื่องจากระบบอุปถัมภ์ และผู้ชายเองก็ปิดกั้นโดยคิดเอาเองว่าผู้หญิงคงท�ำไม่ได้ แต่ผู้หญิงก็มักโต้แย้งว่า หากจะให้ท�ำได้ก็ไม่น่าจะยากแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องฝึกฝนและให้โอกาสที่เท่าๆ กัน เหมือนกับที่ฝึกฝนและให้โอกาสกับผู้ชาย


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๗๑

บทบาทที่ท้าทาย หากยังจ�ำกันได้ เมื่อ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๒ ฝูงบินผาดแผลง Thunderbirds ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่มาท�ำการบินแสดง ณ บริเวณสนามบินดอนเมือง ก็มีนักบินหญิงเช่นกัน ซึ่ง นับว่าเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของฝูงบินผาดแผลง Thunderbirds ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่มีนักบินหญิง เข้าประจ�ำเป็นนักบินของฝูง เคียงบ่าเคียงไหล่กับนักบิน ความสามารถระดับโลกคนอื่นๆ ในการแสดงการบินผาดแผลง และถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลก คือ เรืออากาศเอก นิโคล มาลาโชวสกี๊ (Capt. Nicole Malachowski) เธอเป็นนักบิน ประจ�ำเครื่องบินรบสมรรถนะสูงที่มีประจ�ำการในกองทัพ อากาศสหรัฐฯ คือ เครื่องบินแบบ F-15 E มาก่อน หรือ ผู้อ่านหลายท่านอาจจะรู้จัก นาวาอากาศตรีหญิง แจ็กกี้ ปาร์กเกอร์ (Major Jackie Parker) นักบินหญิง F-16 คนแรกของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งเธอเริ่มท�ำการบินตั้งแต่ อายุ ๑๔ ปี โดยท�ำการบินมามากกว่า ๒๕ แบบเครื่องบิน เช่น F-111, F-4, C-141, KC-135, T-38 และ UH-60 Jackie Parker Blackhawk เป็นต้น ประเทศที่พัฒนาแล้วหรือก�ำลังพัฒนาหลายๆ ประเทศที่นักบินหญิงประจ�ำการในกองทัพ เช่น รัสเซีย ปากีสถาน แคนนาดา อิสราเอล สิงคโปร์ ฯลฯ ก็มีนักบินหญิงจ�ำนวนไม่น้อย คงจ�ำกันได้ว่าสมัย สงครามโลกครั้งที่ ๒ ผู้หญิงของรัสเซียเป็นเสืออากาศตั้งหลายคน นักบิน F-18 หญิงของแคนาดาก็เคย บินขึ้นสกัดกั้น Tu-95 ของรัสเซีย แม้แต่นักบินหญิง F-16C/D ของกองทัพอากาศสิงคโปร์ ก็มีการ เข้าร่วมการฝึกผสมพิชแบคที่ออสเตรเลีย ถึงแม้ว่ากองทัพอากาศไทยจะยังไม่มีนักบินหญิง แต่หากมาดู สายการบินพาณิชย์ในประเทศไทย เช่น บางกอกแอร์เวย์ นกแอร์ และแอร์เอเชีย ก็มีนักบินหญิงปฏิบัติงาน เป็นจ�ำนวนไม่น้อยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าบทบาทของผู้หญิงในต่างประเทศได้รับการยอมรับความเท่าเทียมกับผู้ชายมากกว่า ประเทศไทยมาก แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันก็ถือว่าผู้หญิงไทยได้รับการยอมรับมากขึ้นกว่าในอดีต แต่ก็ ยังมีบทบาทอยู่น้อยมากเนื่องจากการกีดขวางทางโครงสร้าง และอุปสรรคทางวัฒนธรรมหรือวัฒนธรรม องค์กร


ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

นายกรัฐมนตรี แตงชุดนักบินกองทัพอากาศ แรงบันดาลใจ จะเป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้หญิงจะเป็นนักบินของกองทัพอากาศ หลายคนคงจะสงสัยว่า อะไรคือ ความเป็นผู้หญิงไทย ? “ผู้หญิงไทยคือช้างเท้าหลัง”, “คือทาสในเรือนเบี้ย”, “คือความอ่อนหวาน” แล้ว แต่จะคิดกันไป ที่จริงมีความเป็นไปได้ที่จะมีนักบินหญิงในกองทัพแต่ไม่ทราบว่าเมื่อใด สมัยสงครามโลก ครั้งที่ ๒ รัสเซียก็มีนักบินหญิงกันแล้ว และในปัจจุบันประเทศที่พัฒนาแล้วหรือก�ำลังพัฒนาหลายๆ ประเทศ ก็มีนักบินหญิงประจ�ำการในกองทัพเช่นกัน เมื่อ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๕ ณ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศกองทัพอากาศ อ�ำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางมาชมการแสดงสาธิตการใช้ ก�ำลังทางอากาศ ในการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี โดยมี พลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรีสวมชุดนักบินเดินลงจากเฮลิคอปเตอร์ที่บิน มาจากกรุงเทพฯ อย่างสง่าผ่าเผย จุดนี้เองที่ท�ำให้ผู้หญิงหลายคนอยากสวมชุดนักบินเหมือนท่าน นายกรัฐมนตรี และอยากเป็นนักบินแบบผู้ชายอีกด้วย จะเป็นแรงบันดาลใจหรือไม่ หรือน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของกองทัพอากาศไทยที่จะเปิดโอกาสให้ มีนักบินหญิงและมีบทบาทในการปฏิบัติภารกิจเคียงบ่าเคียงไหล่กับนักบินชาย โดยอาจจะไม่จ�ำเป็น ที่จะก้าวกระโดดไปเป็นนักบินรบเหมือนกับกองทัพต่างประเทศในทันที อาจจะเป็นนักบินที่มีสมรรถนะ ต�่ำไปก่อนในขั้นต้น ซึ่งก็ไม่น่าจะท�ำให้ผู้หญิงมีข้อจ�ำกัดมากนักเพราะในปัจจุบันสายการบินพาณิชย์ใน ประเทศไทยก็มีนักบินหญิงเป็นจ�ำนวนไม่น้อย


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๗๓

เส้นทางแห่งความท้าทาย กองทัพอากาศมีสถาบันผลิตนักบินมาช้านาน ที่รู้จักกันในนามโรงเรียนการบินก�ำแพงแสน จังหวัด นครปฐม ซึ่งจะผลิตเฉพาะนักบินที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากโรงเรียนนายเรืออากาศซึ่งมีแต่ผู้ชาย เท่านั้น และเมื่อส�ำเร็จเป็นนักบินแล้วก็จะบรรจุเข้าตามฝูงบินต่างๆ ของกองทัพอากาศ ผู้เขียนเสียดาย จริงๆ ที่ไม่มีนักเรียนนายเรืออากาศหญิง ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ไม่มีนักบินหญิงในกองทัพอากาศ แต่ด้วยกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกที่แพร่หลายมายังประเทศไทยส่งผลให้ธุรกิจทางด้านการบิน พาณิชย์ภายในประเทศรุดหน้าอย่างรวดเร็ว จึงมีสถาบันที่ท�ำการฝึกบินให้กับผู้ที่สนใจจะเป็นนักบิน เกิดขึ้นหลายแห่งในประเทศไทย เช่น ศูนย์ฝึกการบิน สถาบันการบินพลเรือน (Civil Aviation Training Center : CACT) อ�ำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, บริษัท บางกอกเอวิเอชั่น เซ็นเตอร์ จ�ำกัด (Bangkok Aviation Center : BAC) เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และวิทยาลัยการบินนานาชาติ (International Aviation College : IAC) อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เป็นต้น ที่สามารถผลิตนักบินที่มี ประสิทธิภาพและมีมาตรฐานระดับสากลป้อนเข้าสู่เส้นตลาดทางการบินพาณิชย์ที่ก�ำลังแข่งขันกันอย่าง หนักอยู่ในขณะนี้ ทุกคนสามารถเข้าไปท�ำการฝึกบินได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยก่อนเข้ารับการฝึกบินจะต้อง ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ ตามมาตรฐานสากลเหมือนผู้ชาย จากสถาบันเวชศาสตร์การบิน กองทัพอากาศ หรือโรงพยาบาลกรุงเทพฯ เมื่อส�ำเร็จและผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานที่กรมการบิน พลเรือนก�ำหนดแล้ว จะได้รับใบอนุญาตขับเครื่องบิน (Commercial Pilot Licence : CPL) หรือใบอนุญาต นักบินพาณิชย์ตรี นั่นหมายความว่า นักบินประเภทนี้สามารถถือใบอนุญาตใบนี้ไปสมัครงานและท�ำการ บินตามสายการบินพาณิชย์ต่างๆ ได้ทั่วโลก


๗๔ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

Starsky คือนามเรียกขาน (Call Sign) ของหญิงไทยคนหนึ่งที่มีความไผ่ฝันที่อยากจะเป็นนักบิน ของกองทัพอากาศ แต่ด้วยเหตุผลข้างต้น ท�ำให้เธอไม่สามารถเป็นนักบินกองทัพอากาศได้ดังที่ตั้งใจไว้ แต่ความตั้งใจของเธอไม่มีที่สิ้นสุด หลังจากเธอส�ำเร็จการศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว จึง ได้เข้าไปเรียนฝึกบินที่บริษัท บางกอกเอวิเอชั่น เซ็นเตอร์ จ�ำกัด (Bangkok Aviation Center : BAC) โดย สามารถผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานที่กรมการบินพลเรือนก�ำหนด เธอได้รับใบอนุญาตขับเครื่องบิน (Commercial Pilot Licence - Aeroplane : CPL) หรือใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรี ฝันของเธอเป็นไปได้ จริงๆ ปัจจุบันเธอเป็นนักบินของสายการบินแอร์เอเชีย โดยบินกับเครื่องบิน AIRBUS A 320-200 ส่งท้าย ความคลี่คลายในเรื่องสถานภาพของผู้หญิงมีมาโดยล�ำดับ โดยเฉพาะหลังการเปลี่ยนแปลง การปกครอง พ.ศ.๒๔๗๕ ผู้หญิงได้รับสิทธิมากขึ้น ดังเห็นได้จากรัฐธรรมนูญฉบับลงวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๕ ได้ประกาศสิทธิเสมอภาคของบุคคลในกฎหมายทั้งชายและหญิง รัฐธรรมนูญนี้นับเป็น เครื่องชี้ชัดถึงสถานภาพของหญิงไทย ถึงแม้ว่า ณ วันนี้กองทัพอากาศไทยก็ยังไม่มีนักบินหญิงที่จะแสดง บทบาทในการปฏิบัติภารกิจเคียงบ่าเคียงไหล่กับนักบินชาย ผู้เขียนเห็นว่าในอนาคตนั้น ทุกคนไม่จ�ำกัด เพศและวัย ย่อมจะต้องมีส่วนร่วมในการปฏิบัติภารกิจด้วยกันทั้งสิ้น หากเป็นไปได้จึงมีความจ�ำเป็น ต้องปรับปรุงกฎระเบียบ วัฒนธรรมองค์กร ให้โอกาสผู้หญิงได้แสดงบทบาท พร้อมกับพัฒนาส่วนอื่นๆ ควบคู่กันไป จะเห็นได้ว่า การบินเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ แม้ว่าอาชีพนักบินเป็นอาชีพในฝันอันดับต้นๆ ของเด็กผู้ชายไทยส่วนใหญ่ก็จริง แต่ผู้เขียนจึงเห็นว่า การที่เด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่หลายคนมอง ว่า ผู้หญิงไทย “คือช้างเท้าหลัง”, “คือทาสในเรือนเบี้ย”, “คือความอ่อนหวาน” จะเดินทางตามความฝัน ของตัวเองมาแสดงบทบาทในการเป็นนักบิน ถึงแม้ว่าไม่ใช่นักบินรบเหมือนกับประเทศที่พัฒนาหรือ กำลังพัฒนาในหลายประเทศก็ตาม ก็คงไม่ใช่เป็นเรื่องของโชคชะตาหรือความบังเอิญแน่นอน แต่เป็น บทบาทความสามารถของผู้หญิงที่แฝงไว้ด้วยความท้าทายล้วนๆ

อ้างอิง : - บทบาทและสถานภาพของผู้หญิงไทยในประวัติศาสตร์, ดารารัตน์ เมตตาริกานนท์. - Online เข้าถึงได้จาก http://www.womeninaviation.com


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๗๕

นวีร์

“เดือนสิบเอ็ดน�้ำนอง เดือนสิบสองน�้ำทรง เดือนอ้ายเดือนยี่ น�้ำก็รี่ไหลลง” ถ้านับแบบไทยหรือจันทรคติ เดือนสิบเอ็ดคือเดือนตุลาคม คนไทยโบราณจะเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องน�้ำ ว่า พอถึงเดือนนี้ น�้ำจะต้อง “นอง” เป็นปกติ แต่เดือนสิบเอ็ด ปี ๒๕๕๔ น�้ำนองผิดปกติ คือเกินปกติ และนองท่วมไปในภูมิภาคและบริเวณที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เช่น นครราชสีมา ชัยภูมิ ซึ่งเป็นที่ราบสูง และ กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพอากาศ รวมถึงท่าอากาศยานดอนเมือง กระนั้นก็ตาม คนไทย ซึ่งโดยมากอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี เรียกน�้ำท่วมทุ่งว่า น�้ำนอง ปีมหาอุทกภัย ๒๕๕๔ ก็ยังเรียกอย่างน่ารัก ว่า น้องน�้ำ หรือพี่น�้ำ แต่พวกเราไม่อยากพบ สมัยก่อน เมื่อน�้ำหลากไหลพัดเอาปลานานาชนิดมาอยู่ในบริเวณนั้น นานๆ เข้าได้กินอาหารบริบูรณ์ ครั้นเมื่อถึงเดือนสิบสอง พระจันทร์แจ่มกระจ่างสวยงาม เราก็ขอบคุณน�้ำท่าและพระแม่คงคา ด้วย การลอยกระทง ส่วนปลานั้นก็อวบอ้วนหวานมัน พร้อมๆ กับข้าวที่ปลูกตอนเข้าพรรษา จึงเป็นที่มาของ ส�ำนวน “ข้าวเต็มนา ปลาเต็มหนอง” ครั้นถึงเดือนอ้ายเดือนยี่ ข้าวก็แก่พอเก็บได้ หนุ่มสมัยนั้นก็ขายข้าว เอาเงินมาแต่งงานได้ เข้ากับส�ำนวน ข้าวใหม่ปลามัน ซึ่งหมายถึง ความสุข ความดีงาม อะไรๆ ที่เป็นของใหม่ ก็ถือว่าดี และนิยมเรียกช่วงเวลาที่สามีภรรยาเพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ ว่า ระยะข้าวใหม่ปลามัน เนื่องมาจากน�้ำ ซึ่งมีความส�ำคัญและสัมพันธ์ต่อชีวิตของคนเราอย่างมาก จึงมีส�ำนวนเกี่ยวกับค�ำว่า น�้ำมากมาย ฉบับนี้ขอกล่าวเฉพาะส�ำนวนที่ขึ้นต้นด้วยค�ำว่า น�้ำ ดังนี้ น�้ำกลิ้งบนใบบอน หมายความว่า ใจไม่แน่นอน ส�ำนวนนี้มาจากหยดน�้ำที่อยู่บนใบบอน ซึ่ง มีลักษณะเลื่อนลื่นไม่ซับน�้ำ คุมตัวเป็นก้อนกลม กลิ้งไปมาได้ ค�ำว่าใจของเรานั้น มักมีค�ำว่าน�้ำอยู่ด้วย เช่น น�้ำใจ น�้ำใสใจจริง ฉะนั้น จึงเปรียบน�้ำใจที่ไม่แน่นอนกล่าวเป็นส�ำนวนว่า น�้ำกลิ้งบนใบบอน บางที ก็กล่าวว่า น�้ำกลิ้งบนใบบัว ส�ำนวนดังกล่าวทั้ง ๒ ส�ำนวน ใช้ได้กับคนทั่วไป แต่มักใช้ว่าผู้หญิง


๗๖ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

น�้ำเกลือน�้ำปลาร้าราดหัว หมายความว่า มีบุญคุณ ส�ำนวนนี้มาจากการที่โบราณนั้น เกลือและ ปลาร้าเป็นอาหารส�ำคัญที่ทุกบ้านมักมีไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกลือ ใครที่อาศัยอยู่ในบ้านผู้ใด ก็มักได้กิน เกลือและปลาร้า เจ้าของบ้านก็จะเป็นผู้มีบุญคุณ จะพูดว่าน�้ำเกลือน�้ำปลาร้าก็เป็นที่เข้าใจกัน ดังตัวอย่าง จากเรื่องปล่อยแก่ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ความว่า “อ้ายพวง มึงไม่รู้สึก ส�ำนึกตัว ไม่คิดถึงน�้ำเกลือน�้ำปลาร้า มาท�ำเจ้าชู้ในบ้าน จองหอง” น�้ำขึ้น หมายความว่า ก�ำลังอยู่ในระยะดีหรือก�ำลังชะตาขึ้น เรียกว่า ขาขึ้น ก็ได้ ถ้าน�้ำลด ก็หมายถึง ชะตาตก เรียกว่า ขาลง หรือน�้ำลง ก็ได้ น�้ำขึ้นปลากินมด น�้ำลดมดกินปลา หมายความว่า ยามชะตาขึ้น ท�ำกับเขาไม่ดีอย่างไร ยามชะตา ตก เขาก็ท�ำกับตัวไม่ดีอย่างนั้น ส�ำนวนนี้เปรียบได้กับเวลาน�้ำขึ้นปลาก็ว่ายร่าเริง ฮุบมดกินได้ แต่พอน�้ำลดแห้ง ปลาขาดน�้ำก็ต้องตาย มดก็กลับมาตอมกินปลา เป็นธรรมดา ต่างชาติก็มีส�ำนวนท�ำนองนี้ เช่น พม่า น�้ำขึ้นให้รีบตัก หมายความว่า ก�ำลังชะตาขึ้น จะต้องการอะไรหรือจะท�ำอะไรให้เป็นประโยชน์ แก่ตน ก็ให้รีบท�ำเสีย ส�ำนวนนี้มาจากเวลาน�้ำขึ้น ก็ให้รีบตักใส่ตุ่มไว้ ถ้าเพิกเฉย พอน�้ำแห้งก็ตักไม่ได้ ส�ำนวนนี้มีคล้ายๆ กันเกือบทุกชาติ เช่น ฮอลันดาว่า โชคลาภไม่ยืนคอยอยู่หน้าประตูใคร, เยอรมันว่า เมื่อโชคลาภมาเคาะประตูให้รีบเปิด, ฝรั่งเศสว่า โชคลาภเหมือนผู้หญิง วันนี้เฉยเมยเสียแล้ว อย่าหวังเลยว่า พรุ่งนี้จะได้เธอ, จีนว่า ถ้าโชคลาภยิ้มด้วย จะไม่ยิ้มตอบหรือ ถ้าโชคลาภไม่ยิ้มเล่า จะท�ำอย่างไร เป็นต้น น�้ำขุ่นไว้ใน น�้ำใสไว้นอก หมายความว่า มีความขุ่นเคืองโกรธแค้น ไม่พอใจอะไรให้เก็บไว้ในใจ นิ่งๆ และแสดงออกภายนอกให้เห็นว่าดีด้วยเสมอ น�้ำขุ่นออกไป น�้ำใสเข้ามา หมายความว่า อะไรที่ไม่ดีให้เอาออกไปจากตัว ท�ำแต่สิ่งดีให้ตัวเอง น�้ำเชี่ยวขวางเรือ หมายความว่า ขัดขวางเรื่องหรือเหตุการณ์ที่เป็นไปอย่างรุนแรง ซึ่งเมื่อท�ำแล้ว ก็เป็นอันตรายต่อตัวเอง ส�ำนวนนี้มาจากการที่น�้ำก�ำลังไหลเชี่ยว กระแสน�้ำพุ่งแรง ถ้าน�ำเรือพายหรือแจว ออกไปขวาง เรือก็ล่ม ดังโคลงกระทู้สุภาษิตว่า น�้ำ เหนือลงหลั่นล้น ไหลแรง เชี่ยว ปราดกระทบแทง ที่คุ้ง ขวาง นาเวศเอียงตะแคง คงล่ม ลงแฮ เรือ แตกตอกระทุ้ง โทษแท้อย่าท�ำ ส่วนในสุภาษิตพระร่วง มีความตอนหนึ่งว่า “สายน�้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ” ส�ำนวนนี้จึงเรียกว่า น�้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ ก็ได้ น�้ำตาเช็ดหัวเข่า หมายความว่า ร้องไห้ ส�ำนวนนี้มาจากลักษณะการร้องไห้ด้วยความชอกช�้ำ ระก�ำใจ คือนั่งกอดเข่าร้องไห้ เอาหัวเข่าเช็ดน�้ำตา จึงเรียกว่า น�้ำตาเช็ดหัวเข่า น�้ำตาเป็นเผาเต่า หมายความว่า ร้องไห้น�้ำตาไหลพราก ส�ำนวนนี้มาจากการเอาเต่ามาเผากิน เป็นอาหาร เวลาเผา น�้ำตาเต่าไหลพราก


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๗๗

น�้ำตาลใกล้มด หมายความว่า ผู้หญิงที่อยู่ใกล้ผู้ชาย ผู้ชายมักจะเข้ามาเกี่ยวข้อง เกี้ยวพาราสี หรือ มาสร้างสัมพันธ์ด้วย เหมือนน�้ำตาลที่อยู่ใกล้มด มดย่อมตอมน�้ำตาล มีความในเรื่องเงาะป่า พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตอนหนึ่งว่า อันบุรุษสตรีนี่เหมือนมด มันเหลืออดจะไม่ชิมลิ้มหวานได้ น�้ำท่วมทุ่ง หมายความว่า พูดมากแต่ได้เนื้อความน้อย ส�ำนวนนี้ บางทีมีต่อว่า น�้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้ง โหรงเหรง เป็นการน�ำเอาธรรมชาติของประเทศไทยที่มีน�้ำในทุ่งนามากๆ ผักบุ้งมีน้อย มาเปรียบเทียบ กับค�ำพูดมากๆ แต่ได้ใจความน้อย ดังในเรื่องจดหมายจางวางหร�่ำ พระนิพนธ์ของ น.ม.ส. ตอนหนึ่งมีว่า “เพราะมีใจความมากในจ�ำนวนค�ำน้อย หาสู้ใช้หน้ากระดาษเป็นทุ่งที่น�้ำท่วมมีผักบุ้ง โหรงเหรงอย่างแต่ก่อนไม่” น�้ำท่วมปาก หมายความว่า พูดไม่ได้ คือไม่อาจจะสามารถพูดได้ เพราะความจ�ำเป็นอย่างใด อย่างหนึ่งบังคับ เช่น เป็นผู้น้อยต�่ำศักดิ์หรืออะไรก็ตามที่ท�ำให้ต้องสงบนิ่ง น�้ำน้อยแพ้ไฟ หมายความว่า อะไรที่น้อยย่อมแพ้ที่มากกว่า หรืออะไรที่มีก�ำลังหรืออ�ำนาจน้อย ย่อมแพ้อะไรที่มีก�ำลังหรืออ�ำนาจมากกว่า ส�ำนวนนี้มาจากน�้ำที่มีน้อยย่อมดับไฟไม่ได้ น�้ำนิ่งไหลลึก หมายความว่า คนที่หงิมๆ ไม่ค่อยพูดจา มักมีความคิดลึกซึ้ง ส�ำนวนนี้มาจากน�้ำที่ ดูผิวข้างบนนิ่ง แต่ลึกไปข้างใต้นั้นไม่นิ่งเหมือนผิวข้างบน น�้ำบ่ใสไฟบ่มอด หมายความว่า มีความเจริญรุ่งเรืองหนาแน่นครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คน ส�ำนวนนี้ เป็นส�ำนวนไทยเหนือ ดูตามค�ำเหมือนไม่ดี แต่ตรงกันข้าม เป็นความดีงาม มาจากการที่ในสมัยโบราณ ผู้คนเดินทางไปมาหากันหรือค้าขายกัน ต้องอาศัยที่ใดที่หนึ่งซึ่งมีน�้ำ เช่น บ่อน�้ำ เป็นที่พักแรม หยุดติดไฟ หุงหาอาหารกินกัน ที่นั้นถ้าเป็นเช่นนี้บ่อยครั้ง น�้ำก็ไม่มีเวลาใสเพราะคนใช้น�้ำบ่อย และไฟก็ไม่มีเวลามอด เพราะผู้คนต้องติดไฟหุงหาอาหารบ่อย เป็นพฤติกรรมของคนโบราณที่แสดงว่าท�ำเลที่นั้นมีคนมากครึกครื้น บ้านเมืองเจริญหนาแน่นเต็มไปด้วยผู้คน น�้ำบ่อทราย หมายความว่า ได้อยู่เสมอไม่ขาด ส�ำนวนนี้มาจากน�้ำที่ซึมเข้ามาในบ่อทราย ย่อมเป็นไป อยู่เสมอ ไม่ขาดน�้ำ ในค�ำท�ำขวัญบ่าวสาวหรือให้พรบ่าวสาวสมัยโบราณมีว่า “...ทั้งสอง ฟังค�ำจ�ำไว้ สมบัติของเจ้าอย่าให้รู้ขาดสาย ให้ไหลมาเทมา เหมือนน�้ำคงคา บ่อทราย อย่ารู้สิ้นรู้สุด...” น�้ำบ่อน้อย หมายความว่า น�้ำลาย ส�ำนวนนี้มาตามธรรมชาติ บางท่านว่ามาจากเรื่องรามเกียรติ์ เมื่อกล่าวถึงหนุมาน ตอนหนึ่งว่า “เอ็งเป็นทหารพระจักริศ เพลิงนิดเท่านี้ไม่ดับได้ น�้ำในบ่อน้อยจะไว้ใย เหตุใดไม่ดับอัคคี”


๗๘ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

น�้ำผักบุ้งไป น�้ำสายบัวมา หมายความว่า ต่างฝ่ายต่างมีน�้ำใจต่อกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ส�ำนวนนี้ มาจากการที่ให้แกงผักบุ้งเขาไป เขาก็ให้แกงสายบัวมา ต่างตอบแทนกันและกัน เป็นอย่างเดียวกับ “หมูไปไก่มา” ซึ่งเป็นส�ำนวนใหม่กว่าแต่ฟังจะออกข้างจีนๆ ไม่เป็นไทยๆ แต่ส�ำนวนจีนจริงๆ ก็มีท�ำนองนี้ว่า “เมื่อเอาวัวเขามาก็ต้องให้ม้าเขาไป” ส่วนส�ำนวนแขก(ชาติไหนไม่ทราบ) ก็มีว่า “มือที่ให้อยู่เหนือมือที่รับ” หมายความว่า ให้เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้ของผู้อื่น ยิ่งกว่าจะหวังผลจากผู้อื่น หรือหวังผลตอบแทน น�้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า หมายความว่า ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ส�ำนวนนี้มาจากสภาพธรรมชาติ ที่น�้ำจะเป็นคลองอยู่ได้ก็อาศัยที่มีเรือเดินขึ้นล่องซัดเกาะทะลายดินให้กระจายอยู่เสมอ ทั้งท�ำให้ต้นไม้ แผ่กิ่งก้านออกมา ถ้าไม่มีเรือเดิน ล�ำคลองก็อาจจะตื้นเขิน ต้นไม้ปกคลุม ไม่สามารถเป็นล�ำคลองอยู่ได้ ส่วนเสือนั้นต้องอาศัยอยู่ในป่า จึงเป็น น�้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ซึ่งยังมีส�ำนวนต่ออีกว่า ข้าพึ่งเจ้า บ่าวพึ่งนาย ในความหมายว่า ต่างพึ่งพาอาศัยกัน นอกจากนี้ยังมีส�ำนวนว่า ป่าพึ่งเสือ เรือพึ่งพาย หรือ เสือชุมเพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้ายัง หญ้ายังเพราะดินเย็น ในความหมายเดียวกันกับ น�้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า อีกด้วย (ป่าพึ่งเสือ คือ ป่าจะเป็นป่าอยู่ได้ก็เพราะมีเสือ มิฉะนั้น ป่าจะถูกท�ำลายหมด) อนึ่ง ในภาษิตอิศรญาณ มีค�ำกลอนว่า ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่า น�้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย เราก็จิตคิดดูเล่าเขาก็ใจ รักกันไว้ดีกว่าชังระวังการ น�้ำร้อนปลาเป็น น�้ำเย็นปลาตาย หมายความว่า คนที่มีนิสัยขวานผ่าซาก ตรงไปตรงมา ก็ยัง เป็นที่เข้าใจกันได้ ยังอยู่ได้ แต่ถ้าคนปากหวาน พูดจาให้หลงเชื่อตายใจ เป็นภัยอย่างยิ่ง อาจถึงตายได้ ถือเป็นลักษณะนิสัยของคนโดยเอาปลามาเปรียบ ส�ำนวนนี้จึงมาจากการจับปลาในสมัยโบราณ คือท�ำแพ ผักบุ้งไว้ในบ่อหรือล�ำคลอง ให้เป็นที่สบายๆ อยู่เย็นเป็นสุข ปลาก็มาอาศัย เจ้าของแพผักบุ้งก็จับปลา มาเป็นอาหารได้เสมอ จึงเป็นน�้ำเย็นปลาตาย ส่วนน�้ำร้อนปลาเป็นนั้น มาจากการที่ปลาว่ายท่องเที่ยว ไปตามแม่น�้ำล�ำคลองต่างๆ ไม่ยึดเอาที่หนึ่งที่ใดอาศัยให้อยู่เย็นเป็นสุข เท่ากับอยู่ในที่ร้อน แต่ก็อยู่ได้ โดยปลอดภัย น�้ำลดตอผุด หมายความว่า คราวชะตาตก ความชั่วร้าย ความทุจริต คดโกง ความไม่ดีต่างๆ ที่ท�ำไว้ ก็ปรากฏขึ้นให้เห็น สำนวนนี้มาจากเวลาน�้ำขึ้นเต็มฝั่ง ก็มองไม่เห็นตอที่อยู่ใต้น�้ำ พอน�้ำลดแห้งก็เห็นตอโผล่ขึ้นมา


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๗๙

น�้ำลอดใต้ทราย หมายความว่า ท�ำอย่างลี้ลับ ไม่มีใครเห็น ส�ำนวนนี้มาจากน�้ำที่ซึมไหลอยู่ใต้ ทราย ถ้าพื้นทรายข้างบนจะเห็นว่าแห้งผากไม่มีน�้ำ แต่ถ้าขุดลึกลงไป จะเห็นว่ามีน�้ำซึมอยู่ แสดงว่า น�้ำ ไหลซึมอยู่ข้างใต้พื้นทรายนั้น ไม่มีใครเห็น น�้ำลายไก่ หมายความว่า น้อยเหลือเกิน เช่นพูดว่า “เท่าน�้ำลายไก่” คือ มีน้อยเหลือเกิน ส�ำนวนนี้ มาจากน�้ำลายของไก่ ซึ่งมีน้อยจริงๆ น�้ำลายไหล หมายความว่า อยากได้ ส�ำนวนนี้มาจากการที่เห็นอาหารแล้วอยากกิน คือจะมี น�้ำลายไหลในปาก เมื่อเห็นอะไรอยากได้จึงพูดว่า น�้ำลายไหล น�้ำลึกหยั่งได้ น�้ำใจหยั่งยาก หมายความว่า จะคาดคิดว่าใจเขาจะคิดอย่างไรนั้นยากนัก ไม่เหมือน น�้ำลึกซึ่งสามารถหยั่งได้ ส�ำนวนนี้สามารถทราบความหมายได้ในตัวเองอยู่แล้ว น�้ำลูบท้อง หมายความว่า อดทนไปก่อน ส�ำนวนนี้มาจากการกินน�้ำให้น�้ำลงไปในท้อง เท่ากับ เป็นการลูบไล้ชโลมท้องที่หิวโหยให้เสื่อมคลายจากความหิว คือเมื่อไม่มีอาหารอะไรจะกินแก้หิวก็กินน�้ำไป ก่อน เพราะแต่ก่อนน�้ำหาง่ายไม่ต้องซื้อก็มีกิน (ไม่ได้แปลความว่า เอาน�้ำมาลูบที่ท้อง) วิธีกินที่แก้หิวนี้ พระ ภิกษุสงฆ์เคยปฏิบัติกันมานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระธุดงค์เวลาออกป่าไม่มีบ้านเรือนคน น�้ำสั่งฟ้า ปลาสั่งฝน หมายถึง การที่ต้องจากกันไป ส�ำนวนนี้มาจากน�้ำฝนที่ตกเป็นครั้งสุดท้าย สิ้นฤดูแล้วไม่ตกต่อไปอีก นั่นคือน�้ำสั่งฟ้า ส่วนปลาสั่งฝนนั้นคือเมื่อสิ้นฤดูฝน ฝนไม่ตกแล้วน�้ำก็ลดแห้ง ปลาก็จากที่อยู่ เช่น หนองบึงไป ส�ำนวนนี้บางทีก็เรียกว่า ฝนสั่งฟ้า ปลาสั่งหนอง น�้ำใสใจจริง หมายความว่า น�้ำใจที่บริสุทธิ์แท้จริง น�้ำหนึ่งใจเดียว หมายความว่า มีความคิดร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ส�ำนวนที่กล่าวมาแล้ว เป็นส�ำนวนที่ขึ้นต้นด้วย ค�ำว่าน�้ำ นอกจากนั้นยังมีส�ำนวนที่มีค�ำว่าน�้ำ แทรกอยู่ หรืออยู่ข้างท้ายอีกมากมาย เช่น ชักแม่น�้ำทั้งห้า ตักน�้ำ รดหัวสาก ตีท้ายน�้ำ กินน�้ำเห็นปลิง ไว้ถ้ามีโอกาส จะกล่าวถึงต่อไป หนังสืออ้างอิง : ส�ำนวนไทย ของ ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์)


๘๐ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

Almond Cake

การต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่เช้าจนค�่ำ ณ ชั้น G (ground floor) ศูนย์การค้าสยามพารากอนที่ร้าน คริสปี้ ครีม (Krispy Kreme) เพื่อรอซื้อโดนัทสัญชาติอเมริกัน เมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น. ของวันที่ ๒๘กันยายน ๒๕๕๓ เป็นที่ฮือฮาและพูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมือง ปรากฏการณ์เช่นนี้มิได้เพิ่งเคยเกิดในประเทศไทย แต่ ในหลายประเทศที่ คริสปี้ครีมเข้าไปเปิดสาขาก็เกิดเหตุการณ์อย่างเดียวกัน

หลายคนคงอยากรู้แล้วว่าคริสปี้ครีมนั้นมีอะไรดีถึงได้ท�ำให้คนไทยต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอซื้อ ได้ขนาดนั้น ดังนั้นเรามารู้จักผู้ก่อตั้งร้านคริสปี้ครีมและประวัติของร้านนี้กันดีกว่าค่ะ


ข่าวทหารอากาศ ๘๑

มีนาคม ๒๕๕๕

เวอร์นอน รูดอล์ฟ (Vernon Rudolph) คือผู้ก่อตั้งร้านคริสปี้ครีม ส�ำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองวินส ตัน -แซเลม รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา (Winston-Salem, North Carolina, the United States) เขาสนใจธุรกิจนี้เมื่อปี ค.ศ.๑๙๓๓ และได้ซื้อสูตรโดนัทแป้งยีสต์ (yeast-raised doughnut1) จากพ่อครัว (chef) ชาวฝรั่งเศสซึ่งยีสต์นี้ก็คือ แก่นแท้ (essence) ของความอร่อยที่ท�ำให้โดนัทของ คริสปี้ครีม อร่อยกว่าของเจ้าอื่น เขาเริ่มขายเมื่อวันที่ ๑๓ ก.ค.๑๙๓๗ โดยขายส่งให้แก่ร้านขายของช�ำในท้อง ถิ่น (local2 grocery stores) แต่ด้วยกลิ่นหอมน่ารับประทานของโดนัทนั้น ท�ำให้คนที่เดินผ่านไปมา (passers-by3) แถวนั้นถามว่าพวกเขาสามารถซื้อโดนัทร้อนๆได้หรือเปล่า เขาจึงตัดสินใจอย่างไม่ลังเล เจาะผนังด้านข้างของร้านเป็นช่องขายโดนัทให้ลูกค้าโดยตรงที่ทางเท้า (sidewalk4) และเริ่มขายโดนัท เคลือบน�้ำตาลสูตรดั้งเดิม (hot original5 glazed doughnuts6) ให้กับลูกค้าตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา Vernon Rudolph รถที่ใช้ส่งโดนัทคริสปี้ครีม (Krispy Kreme Delivery Truck)

ต่อมาเขาและวิศวกรของเขาได้ร่วมกันประดิษฐ์เครื่องผลิตโดนัท และพัฒนากระบวนการผลิตโดนัท แบบอัตโนมัติ ในช่วงปี ค.ศ.๑๙๖๐-๑๙๖๙ (1960s) เขาได้ขยายสาขาตามเมืองใหญ่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของประเทศสหรัฐอเมริกา และสิ่งหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของร้านคริสปี้ครีมคือหลังคากระเบื้องสีเขียวและ ป้ายของร้านที่ต่อมากลายเป็นเอกลักษณ์ของคริสปี้ครีม


๘๒ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

ในปี ค.ศ.๑๙๗๓ เวอร์นอนได้ถึงแก่กรรม ท�ำให้กิจการเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ จนถูกขายให้กับ Beatrice Foods Company ในปี ค.ศ.๑๙๗๖ แต่ในที่สุดเจ้าของเดิมได้รวมตัวกันซื้อคืนมาในปี ค.ศ.๑๙๘๒ และขยาย ความยิ่งใหญ่ของขนมมีรูตรงกลางไปทั่วอเมริกา แต่ความยิ่งใหญ่ไม่หยุดอยู่แค่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เริ่มขยาย ไปสู่ประเทศต่างๆ ตั้งแต่ปีค.ศ.๒๐๐๐ เช่น ประเทศแคนาดา ออสเตรเลีย อังกฤษ ญี่ปุ่น เม็กซิโก และอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก ณ ปัจจุบันนี้ คริสปี้ครีมมีอายุถึง ๗๘ ปีแล้ว เพื่อให้มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ร้านคริสปี้ครีมได้มีการส่งพนักงานไปอบรมและควบคุม คริสปี้ครีมให้ทุกสาขาในโลกคงความเป็นคริสปี้ครีม และที่ส�ำคัญเอกลักษณ์ของคริสปี้ครีมต้องเหมือนกันทั่วโลก ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างจากโดนัทอื่นคือผลิตมาเพื่อให้รับประทานในขณะที่ยังอุ่นอยู่

คริสปี้ครีมใช้กล่องสีขาวลายจุดสีเขียวเข้ม ข้างกล่องพิมพ์โลโก้สีแดงสดภายในกรอบคล้ายหมวก ตัวกล่อง ใช้กระดาษลูกฟูกเบาชนิดอาบไข และยังเน้นเอกลักษณ์ให้โดดเด่นด้วยตัว K สีแดงสด โดนัทของคริสปี้ครีมมีความหลากหลาย (varieties) เช่น

โดนัทเคลือบหน้าด้วยน�้ำตาลไอซิ่งช็อกโกแลต (chocolate7 iced8 glazed)

โดนัทเคลือบช็อกโกแลตโรยหน้าด้วยน�้ำตาลไอซิ่งหลากสี (chocolate iced sprinkles9)


มีนาคม ๒๕๕๕

โดนัทราดคาราเมลโรยหน้าด้วยช็อกโกแลตและอัลมอนด์บด (caramel almond crunch)

โดนัทสอดไส้ด้วยครีมคัสตาร์ดโรยหน้าด้วยช็อกโกแลตไอซิ่ง (chocolate iced custard filled10)

โดนัทแป้งเค้กราดด้วยครีมวนิลา (glazed vanilla11 creme cake)

ข่าวทหารอากาศ ๘๓

โดนัทคริสปี้ครีมหน้าเคลือบน�้ำตาล (original glazed) ราคาเริ่มต้นที่ 27 บาทต่อชิ้น หนึ่งโหลราคา 249 บาท และหน้าครีมที่แต่งด้วยน�้ำตาลปั้นและครีม หลากสี (assorted glazed) ราคาชิ้นละ 35 บาท หนึ่งโหล ราคา ๓๑๕ บาท เห็นคริสปี้ครีมขายดีเป็นเทน�้ำเทท่าอย่างนี้คง มีหลายคนที่สนใจอยากจะเป็นผู้ซื้อสิทธิประกอบการ (franchisee12) ร้านคริสปี้ครีมใช่ไหมคะ บริษัทคริสปี้ ครีม โดนัท (มหาชน) (Krispy Kreme Doughnut Corporation) ได้ก�ำหนดกฎเกณฑ์คร่าวๆ ดังนี้ คือ ผู้ที่สนใจ จะต้องมีประสบการณ์ด้านธุรกิจอาหารมาก่อน ข้อนี้ บางท่านอาจบอกว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ข้อถัดมาที่ ท�ำให้บางคนหงายหลังไปเลยก็คือ จ�ำนวนเงินทุนค่ะ เพราะก่อนอื่นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการได้รับสิทธิ ประกอบการ (Franchise13 Fee) เป็นจ�ำนวนเงินขั้นต�่ำ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมกับการการันตีว่าจะ สามารถด�ำเนินธุรกิจได้ 15 ปี การลงทุนในแต่ละสาขา ต้องใช้งบประมาณ 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ ยังต้องหัก 6.5% จากยอดขายให้กับบริษัทแม่ผู้ก่อตั้ง สุดท้ายต้องเปิดร้านให้ได้ไม่น้อยกว่าสิบสาขาค่ะ ด้วยเงื่อนไขที่ยากและสาหัสขนาดนี้ เราคงต้อง มาเอาใจช่วยกันค่ะว่าร้านคริสปี้ครีมจะมีแนวโน้มอยู่ต่อ ไปได้อย่างยั่งยืนหรือไม่

ค�ำอธิบายเพิ่มเติม ๑. doughnut ออกเสียงว่า /โดนัทฺ/ (ตัวหนาหมายถึงออกเสียงเน้นที่พยางค์นั้น) เป็นภาษา อังกฤษแบบอังกฤษ (British English: BrE) ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (American English: AmE) ใช้ donut เป็นค�ำนาม (noun) ภาษาไทยใช้ทับศัพท์ว่า “โดนัท” ๒. local ออกเสียงว่า /โลเคิลฺ/ เป็นค�ำคุณศัพท์ (adjective) หมายถึง ท้องถิ่น (belonging to or connected with the particular place or area that you are talking about or with the place where you live) ใช้วางหน้าค�ำนาม เช่น local news (ข่าวท้องถิ่นหรือข่าวภูมิภาค), local people (ประชาชนในท้อง ถิ่น) เป็นต้น


๘๔ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

๓. passer-by เป็นค�ำนาม (noun) หมายถึง ผู้สัญจรไปมา (a person who is going past somebody/something by chance, especially when something unexpected happens) รูปพหูพจน์ คือ passers-by ๔. sidewalk เป็นค�ำนาม (noun) และเป็นภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ถ้าเป็นภาษาอังกฤษแบบ อังกฤษจะใช้ค�ำว่า pavement มีความหมายเหมือนกัน คือ ทางเท้าหรือบาทวิถี (a flat part at the side of a road for people to walk on) ๕. original เป็นค�ำคุณศัพท์ (adjective) มีความหมายว่า แรกเริ่มหรือดั้งเดิม ใช้วางหน้าค�ำนาม เช่น original plan - original เป็นค�ำนาม (noun) หมายถึง ต้นฉบับหรือของจริง (the earliest form of something from which copies can be made) เช่น  This painting is a copy; the original is in New York. (ภาพวาดนี้เป็นภาพเลียนแบบ ภาพที่เป็นของจริงอยู่ในนิวยอร์ค)  Send out the photocopies and keep the original (ส่งส�ำเนาภาพถ่ายไปและเก็บภาพต้นฉบับไว้) ๖. hot original glazed doughnut ในข้อความนี้จะสังเกตได้ว่า ค�ำนามหลักคือ doughnut มีค�ำ คุณศัพท์ (adjective) วางขยายไว้ด้านหน้าเพื่อบ่งบอกความหมายเพิ่มเติม คือ hot (ร้อน), original (ดั้งเดิม) และ glazed มาจากค�ำกริยา glaze แปลว่า เคลือบให้เป็นเงา (ด้วยไข่หรือน�้ำตาลก็ได้) แต่เติม ed ที่ท้ายค�ำ เพื่อให้มีความหมายเป็น passive voice คือ ถูกกระท�ำ ในบริบทนี้ คือ ถูกเคลือบ (โดนัท คงเคลือบตัวเองไม่ได้แน่นอน) ศึกษาประโยคตัวอย่าง  Active Voice: Glaze the pie with beaten egg. เคลือบขนมพายด้วยไข่(ที่ตีให้เข้ากันดีแล้ว)  Passive Voice: The pie was glazed with beaten egg. ขนมพายถูกเคลือบด้วยไข่  Phrase (วลี) glazed pie พายที่ถูกเคลือบ (ด้วยน�้ำตาล) ๗. chocolate ออกเสียงว่า ช็อคเคฺลิทฺ เป็นค�ำนาม (noun) ๘. ice เป็นค�ำกริยา (verb) ในบริบทนี้แปลว่า เคลือบหรือโรยหน้าเค้กด้วยน�้ำตาลละเอียดเป็นผง เรียกว่าน�้ำตาลไอซิ่ง (to cover a cake, etc with icing) iced เป็นรูปกริยาช่องที่ ๓ เพื่อท�ำให้มีความหมาย เป็น passive voice คือ ถูกกระท�ำ ในบริบทนี้ คือ ถูกโรยด้วยน�้ำตาลไอซิ่ง เช่น iced bun (ขนมปังโรยหน้า ด้วยน�้ำตาลไอซิ่ง), iced cake (เค้กโรยหน้าด้วยน�้ำตาลไอซิ่ง), iced doughnut (โดนัทโรยหน้าด้วยน�้ำตาล ไอซิ่ง) เป็นต้น ๙. sprinkle เป็นค�ำกริยา (verb) หมายถึง โรยหรือโปรยบางสิ่งที่เป็นชิ้นเล็กๆ ลงบนบางอย่าง (to scatter small drops or pieces of something on something) มีความหมายภาษาไทยว่า มีการใช้ 2 แบบ คือ


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๘๕

๑) to sprinkle something on/ onto/ over something

๒) to sprinkle something with something

Jim sprinkles water on a dusty path. Jim sprinkles water onto a dusty path. Jim sprinkles water over a dusty path. จิมพรมน�้ำลงบนทางเดินที่เต็มไปด้วยฝุ่น

Jim sprinkles a dusty path with water. จิมพรมน�้ำลงบนทางเดินที่เต็มไปด้วยฝุ่น

Olive sprinkled pepper on her food. Olive sprinkled pepper onto her food. Olive sprinkled pepper over her food. โอลิฟโรยพริกไทยลงบนอาหารของเธอ

Olive sprinkled her food with pepper. โอลิฟโรยพริกไทยลงบนอาหารของเธอ

๑๐. fill เป็นค�ำกริยา (verb) หมายถึง ท�ำหรือเติมบางอย่างให้เต็ม (to make something full of something) ในบริบทนี้ fill เติม ed เป็นรูป passive voice คือ ถูกกระท�ำ ดังนั้น custard filled จึงหมายถึง การใส่ไส้คัสตาร์ดในขนมโดนัท หรือจะใช้ค�ำว่า filling ซึ่งเป็นค�ำนามที่มีความหมายในท�ำนองเดียวกันคือ อาหารที่ใส่ระหว่างแผ่นขนมปังหรือชั้นของขนมเค้ก (food put between slices of bread or layers of cake) เช่น a cake with jam filling ๑๑. vanilla ออกเสียงว่า เวฺอนิเลอ (ตัวหนาหมายถึงให้ออกเสียงเน้นที่พยางค์นั้น) เป็นค�ำนาม (noun) หมายถึง พืชไม้เลื้อยเมืองร้อนประเภทมีฝัก ใช้ส�ำหรับท�ำอาหาร และใช้เป็นค�ำคุณศัพท์ (adjective) ขยายค�ำนาม หมายถึง ประกอบด้วยวนิลา หรือมีรสวนิลา เช่น vanilla ice cream (ไอศกรีมรสวนิ ลา), vanilla cake (เค้กรสวนิลา) เป็นต้น ๑๒. franchisee ออกเสียงว่า แฟรนไชซี่ เป็นค�ำนาม (noun) หมายถึง ผู้รับสิทธิในการด�ำเนิน ธุรกิจตามระบบที่เจ้าของสิทธิได้จัดเตรียมไว้ รวมทั้งได้ใช้ชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้าเดียวกัน (A franchisee is an individual who purchases the right to use a company’s trademarked name and business model to do business.) ๑๓. franchise อ่านว่า แฟรนไชส์ เป็นค�ำนาม (noun) ที่มีรากศัพท์ภาษาฝรั่งเศส “Franchir” แปลว่า “สิทธิพิเศษ” หมายถึง ระบบธุรกิจที่ประกอบไปด้วยลักษณะส�ำคัญ ๓ ประการ คือ ๑) จะต้องมีเจ้าของสิทธิถ่ายทอดวิทยาการการท�ำธุรกิจทุกอย่างให้แก่ผู้รับสิทธิอย่างใกล้ชิด ๒) ผู้รับสิทธิจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการใช้ชื่อการค้าเป็นค่าธรรมเนียมเริ่มแรก (franchise fee) ๓) ผู้รับสิทธิจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นเปอร์เซ็นต์ (Royalty fee) ข้อมูลอ้างอิง : - http://krispykreme.com/about-us/history - http://en.wikipedia.org/wiki/Krispy_Kreme - http://www.thaifranchisecenter.com

- http://www.krispykreme.co.th - http://www.positioningmag.com/magazine/details.aspx?id=89550


๘๖ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

สายลม

วัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านหนังสือข่าวทหารอากาศทุกท่าน ดิฉันมาพบกับท่านผู้อ่านอีกครั้งนะคะ เป็นบทความ ที่ต่อเนื่องมาจาก Test Tip 19 เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ฝึกฝนและทบทวนภาษาอังกฤษด้วยตนเองแล้วยัง เป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้ารับการทดสอบภาษาอังกฤษที่ศูนย์ภาษาฯ ด้วย ท่านผู้อ่านลอง เริ่มท�ำแบบทดสอบได้เลยนะคะ ให้ท่านอ่านโจทย์และเลือกค�ำตอบที่คิดว่าถูกต้องจากตัวเลือก ๔ ตัวเลือกที่ให้มา 1. Kathy is going steady with Jim. What is she doing? a. flying with Jim b. writing to Jim c. watching Jim d. dating Jim 2. Mary asked the clerk if he had change for a quarter. What did Mary want? a. a new quarter b. four quarters c. three dimes and two nickels d. five nickels 3. John missed the first bus but he caught the next one. On which bus did John ride? a. the first bus b. the early bus c. the late bus d. the second bus 4. I hope I will have an opportunity to study French. What do I want? a. a French friend b. a chance to learn French c. a trip to France d. a French car 5. I’m looking for a berth. What am I looking for? a. my suitcase c. my pay check

b. my bed on the train d. my seat on the bus

เมื่อท�ำแบบฝึกหัดครบห้าข้อแล้ว เชิญตรวจค�ำตอบและอ่านค�ำอธิบายเพิ่มเติมได้เลยค่ะ


ข่าวทหารอากาศ ๘๗

มีนาคม ๒๕๕๕

1. Kathy is going steady with Jim. แคธี่ก�ำลังออกเดทกับจิม What is she doing? เธอก�ำลังท�ำอะไร a. flying with Jim ก�ำลังเดินทางโดยเครื่องบินกับจิม b. writing to Jim ก�ำลังเขียน (จดหมาย) ถึงจิม c. watching Jim ก�ำลังมองดูจิม d. dating Jim ก�ำลังออกเดทกับจิม ค�ำตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ d. dating Jim ก�ำลังออกเดทกับจิม ค�ำอธิบายเพิ่มเติม • going steady หรือ to go steady with someone หมายความว่า มีความสัมพันธ์ฉันคนรักกับ คนรักเพียง คนเดียวมาเป็นเวลานาน (to have a romantic relationship with one person for a long period of time.) • เมื่อคุณเริ่มคบกับใครสักคนและเริ่มออกเดทแต่ไม่อยากให้ความสัมพันธ์นั้นพัฒนาไปอย่างจริงจังเร็วนัก คุณอาจพูดได้ว่า I am seeing someone. หลังจากนั้นคุณจะเริ่มเลื่อนระดับความสัมพันธ์เป็นแบบคนรัก คุณอาจพูดได้ว่า I am dating someone. จนกระทั่งความสัมพันธ์พัฒนาไปถึงระดับ I am going steady with someone. ซึ่งหมายถึง เป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ 2. Mary asked the clerk if he had change for a quarter. แมรี่ถามพนักงานว่าเขามีเงินให้แลก ๒๕ เซนต์ไหม What did Mary want? แมรี่ต้องการอะไร a. a new quarter เหรียญ ๒๕ เซนต์เหรียญใหม่ b. four quarters เหรียญ ๒๕ เซนต์ ๔ เหรียญ c. three dimes and two nickels เหรียญ ๑๐ เซนต์ ๓ เหรียญ และ เหรียญ ๕ เซนต์ ๒ เหรียญ d. five nickels เหรียญ ๕ เซนต์ ๕ เหรียญ ค�ำตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ d. five nickels เหรียญ ๕ เซนต์ ๕ เหรียญ ค�ำอธิบายเพิ่มเติม เงินอเมริกัน

รายละเอียด 1 ดอลลาร์ (US dollar) มี 100 เซนต์ (cent) มีใช้ทั้งในรูปธนบัตรและเหรียญ


๘๘ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

เงินอเมริกัน

รายละเอียด เหรียญ 50 เซนต์ (half a dollar)

เหรียญ 25 เซนต์ (quarter)

เหรียญ 5 เซนต์ (nickel)

เหรียญ 1 เซนต์ (penny) มีสีทองแดง 3. John missed the first bus but he caught the next one. จอห์นพลาดรถโดยสารคันแรกแต่สามารถ ขึ้นรถคันต่อมาได้ On which bus did John ride? จอห์นโดยสารรถคันไหน a. the first bus รถโดยสารคันแรก b. the early bus รถโดยสารเที่ยวเช้า c. the late bus รถโดยสารเที่ยวสาย d. the second bus รถคันที่สอง ค�ำตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ d. the second bus รถคันที่สอง 4. I hope I will have an opportunity to study French. ฉันหวังว่าจะมีโอกาสที่จะได้เรียนภาษาฝรั่งเศส What do I want? ฉันต้องการอะไร a. a French friend เพื่อนชาวฝรั่งเศส b. a chance to learn French โอกาสในการเรียนภาษาฝรั่งเศส


ข่าวทหารอากาศ ๘๙

มีนาคม ๒๕๕๕

c. a trip to France การเดินทางไปประเทศฝรั่งเศส d. a French car รถฝรั่งเศส ค�ำตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ b. a chance to learn French โอกาสในการเรียนภาษาฝรั่งเศส ค�ำอธิบายเพิ่มเติม • French เป็นค�ำนาม (noun) หมายถึง ภาษาฝรั่งเศส • French เป็นค�ำคุณศัพท์ (adjective) หมายถึง ชาวฝรั่งเศส เกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส ค�ำนาม ประเทศ

ภาษา

ค�ำคุณศัพท์

France ประเทศฝรั่งเศส เช่น Have you ever been to France? คุณเคยไปเที่ยวประเทศฝรั่งเศสไหม

French ภาษาฝรั่งเศส เช่น He can speak French fluently. เขาสามารถพูดภาษาฝรั่งเศสได้ คล่องแคล่ว

French ชาวฝรั่งเศส, เกี่ยวกับ ประเทศฝรั่งเศส เช่น He is French. เขาเป็นชาวฝรั่งเศส Do you like French food? คุณชอบอาหารฝรั่งเศสไหม

China ประเทศจีน เช่น This car was made in China. รถยนต์คันนี้ผลิตในประเทศจีน

Chinese ภาษาจีน เช่น Can you speak Chinese? คุณพูดภาษาจีนได้ไหม

Chinese ชาวจีน, เกี่ยวกับประเทศจีน เช่น His mother is Chinese. คุณแม่ของเขาเป็นชาวจีน Chinese products are very cheap. สินค้าของประเทศจีนมีราคาถูกมาก

Italy ประเทศอิตาลี เช่น Sila will visit Italy, Germany and France next month. ศิลาจะไปเที่ยวประเทศอิตาลี เยอรมัน และฝรั่งเศสเดือนหน้า

Italian ภาษาอิตาลี เช่น I think Italian is a beautiful language. ฉันคิดว่าภาษาอิตาเลียนเป็นภาษาที่ ไพเราะ

Italian ชาวอิตาลี, เกี่ยวกับ ประเทศอิตาลี เช่น That Italian boy is an exchange student. เด็กชายชาวอิตาเลียนคนนั้น เป็นนักเรียน(โครงการ)แลกเปลี่ยน Can you recommend a good Italian restaurant in Bangkok? คุณแนะน�ำร้านอาหารอิตาเลียนดีๆสัก ร้านในกรุงเทพฯ ได้ไหม


๙๐ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

5. I’m looking for a berth. ฉันก�ำลังหาที่นอน What am I looking for? ฉันก�ำลังหาอะไร a. my suitcase กระเป๋าเสื้อผ้าของฉัน b. my bed on the train เตียงนอนของฉันบนรถไฟ c. my pay check เช็คเงินค่าจ้างของฉัน d. my seat on the bus ที่นั่งของฉันในรถโดยสาร ค�ำตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ b. my bed on the train เตียงนอนของฉันบนรถไฟ ค�ำอธิบายเพิ่มเติม • berth อ่านว่า เบอร์ธ เป็นค�ำนาม (noun) หมายถึงที่นอนในเรือหรือบนรถไฟ (a place to sleep on a ship or a train) หลังจากที่ได้ลองท�ำแบบทดสอบ ตรวจค�ำตอบและอ่านค�ำอธิบายเพิ่มเติม แล้ว ท่านผู้อ่านคงจะได้รับความรู้ภาษาอังกฤษ เพิ่มขึ้น ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความ ในคอลัมน์ Test Tip จะเป็นประโยชน์ต่อ ข้าราชการกองทัพอากาศ ติดตามคอลัมน์นี้ได้ ในฉบับหน้านะคะ สวัสดีค่ะ

ข้อมูลอ้างอิง : http://dictionary.cambridge.org/dictionary/ http://dict.longdo.com www.traipope.blogspot.com


ข่าวทหารอากาศ ๙๑

มีนาคม ๒๕๕๕

มิสกรีน BEETLE BAILEY

ภาพ 1 ภาพ 2 -

คุณไม่ควรจะเตะบีทเทิ่ลนะ ! ผมไม่เรียกมันว่าการเตะหรอก แล้วคุณเรียกมันว่าอะไรล่ะ ? เครื่องกระตุ้นให้ท�ำงานแบบครบชุดไง

Shouldn’t - should not เป็นกริยาช่วย (modal verb) ในรูปปฏิเสธ แปลว่า ไม่ควร ซึ่งใช้ในการ แนะน�ำว่าควรหรือไม่ควรท�ำอะไร เช่น You should drink a lot of water. (คุณควร ดื่มน�้ำมากๆ) และ He should not stay up so late. (เขาไม่ควรจะอยู่ดึกมาก) Stimulus (n.) - something that makes someone or something move or react (สิ​ิ่งกระตุ้นให้คนหรือสิ่งของเคลื่อนไหวหรือมีปฏิกริยา) Ex. The nutrient in the soil acts as a stimulus to make the plants grow. (สารอาหารในดินเป็นตัวกระตุ้นให้พืชเจริญเติบโต) ซึ่งอาจใช้ค�ำว่า stimulant ก็ได้ (something that encourages more of a particular activity) package (n.) - ในที่นี้ แปลว่า ความคิดหรือสิ่งบริการที่จัดให้เป็นชุด (a set of ideas or services that are offered all together) เช่น ต�ำราพร้อมอุปกรณ์ประกอบการสอน (package text materials) หรือ package tour ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เป็นต้น


๙๒ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

BLONDIE

ภาพ 1 ภาพ 2 ภาพ 3 -

จดหมายนี้บอกว่าคุณได้รับเลือกให้นั่งเรือยอทไปซิชิลี เพื่อรับรางวัลประสบความส�ำเร็จ ในชีวิต จากสมาคมเพ็พเพอโรนี่นานาชาติ เชียวละ! จริงๆ เหรอครับ ?!! ความจริง ไม่ใช่หรอกครับ ผมเพียงแต่ล้อเล่นน่ะ มันเป็นบิลค่าไฟฟ้าครับ เฮ้อ ในช่วงเวลาที่ยากล�ำบากเช่นเดี๋ยวนี้ ก็ดีเหมือนกันที่ได้เห็นรอยยิ้มบ้างเป็นครั้งคราว

You’ve been selected ..... - คุณได้รับเลือก เป็นประโยค present perfect tense ในรูป passive voice คือ ประธานถูกกระท�ำ yacht (n.) - เรือท่องเที่ยว ต้องออกเสียงว่า “ยอท” ไม่ใช่ “ยอชท์” lifetime (n.) - ช่วงชีวิตที่ด�ำรงอยู่, ตลอดชีวิต (the period of time during which someone is alive) achievement (n.) - ความส�ำเร็จที่ได้มาจากความมานะพยายาม (something important that you succeed in doing by your own efforts) ค�ำกริยาคือ to achieve Ex. The students achieved very good exam results. So we will celebrate their achievements. (นักเรียนประสบความส�ำเร็จด้วยผลการสอบ ดีมาก ดังนั้น เราจะฉลองความส�ำเร็จของพวกเขากัน) award (n.) - รางวัลที่อาจเป็นเงินหรือสิ่งของ ส�ำหรับความส�ำเร็จของบุคคลหนึ่ง (ออกเสียง ว่า “เออะว่อรด” บางครั้งก็ใช้ค�ำว่า prize เช่น Nobel Prize (รางวัลโนเบล) แต่ รางวัลนักแสดงของฮอลลีวู้ด ใช้ค�ำว่า Oscar Award และอื่นๆ จึงต้องสังเกตและ จดจ�ำไว้ใช้ pepperoni (n.) - ไส้กรอกอิตาเลียน มีรสชาติเข้ม (an Italian sausage with a strong taste) actually (adv.) - อันที่จริงแล้ว (really, in fact, as a matter of fact) kidding - V.ing ของ to kid แปลว่า ล้อเล่น (to joke) tough times - ช่วงเวลาที่ยากล�ำบาก (hard times หรือ difficult times) now and then (adv.) - บางครั้ง (sometimes, occasionally, from time to time)


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๙๓

นักท่องเที่ยวยุคพัฒนา

(Safety Tips for Travelers) เรียบเรียงโดย Manuel dos Santos แปล-เรียบเรียง ว.ถังมณี

ก่อนอื่นผู้เขียนต้องขอชี้แจงผู้อ่านก่อนว่างาน แปลชิ้นนี้ ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาที่จะชวนท่านผู้อ่าน ให้เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเพราะล� ำพังแค่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม น่าสนใจ ภายในประเทศ ของเราก็มีมากมายพอแล้ว หากแต่ว่าได้รับทราบ ข่าวสารจากสื่อต่างๆ ว่าในช่วงนี้เศรษฐกิจของไทย ดีขึ้นแล้ว รายได้จากการท่องเที่ยวที่เคยซบเซา ก็กลับมามีผลดีขึ้นจนเกือบจะเหมือนเดิม ท�ำให้อดคิด ไม่ได้ว่า “เมื่อมีชนชาติอื่นมาท่องเที่ยวในประเทศ ของเรา แน่นอนชนชาติเราที่มีฐานะดีพอสมควร คงจะ ต้องเดินทางออกไปประเทศอื่นๆ บ้าง ถ้าหากไม่ได้ ไปเพื่อการท่องเที่ยว ก็อาจไปด้วยเหตุจ�ำเป็น” เช่น เรื่องของธุรกิจการลงทุน การไปประชุม ไปดูงาน ตลอดจนธุระส่วนตัว หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่นานๆ จะ เดินทางสักครั้ง จ�ำเป็นจะต้องศึกษาสถานที่ที่ท่านจะเดินทางไป การเตรียมตัวทั้งก่อนเดินทางและเมื่อถึง จุดหมายปลายทาง ท่านสมาชิกหนังสือข่าวทหารอากาศคงได้อ่านบทความเรื่อง The Art of Travel โดย Sara ฉบับ มิ.ย. นี้แล้ว จัดว่าให้ประโยชน์ต่อผู้ที่ก�ำลังจะเดินทางเป็นอย่างมาก ถ้ายังไม่เพียงพอ ผู้เขียน ได้แปลบทความนี้ เพื่อท่านสมาชิกจะได้ล่วงรู้ถึงวิธีการท�ำงานของพวกมิจฉาชีพ แหล่งไหนที่เป็นภัยต่อ นักท่องเที่ยว เรามาดูพร้อมกันได้เลย การวางแผนหรือการเตรียมการในการเดินทาง (Planing) ระหว่างที่คุณเตรียมการในช่วงวันว่างหรือวันหยุดงานของคุณ คุณควรติดต่อประสานกับ บริษัทหรือตัวแทนการท่องเที่ยว สถานกงสุล ส�ำนักงานการท่องเที่ยว อ่านหนังสือที่ให้รายละเอียด เชิงแนะน�ำ ถ้าเป็นไปได้ควรค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางหรือสถานที่ที่คุณต้องการ เดินทางไป ถ้าจะเดินทางให้สบายใจไร้ข้อวิตกกังวลใดๆ คุณควรศึกษาหาความรู้เรื่องกฎหมายสุขภาพ


๙๔ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

เรื่องหนังสือเดินทางเข้าประเทศต่างๆ ตามความต้องการของคุณ ที่ส�ำคัญคุณต้องคิดหรือเตรียมการ แก้ไขปัญหาเรื่องสุขภาพ เรื่องอาชญากรรมไว้ล่วงหน้า ถ้าหากเกิดขึ้นกับคุณ การจัดสิ่งของ เสื้อผ้า เครื่องใช้ต่างๆ ลงในกระเป๋าเดินทาง (Packing) หากเป็นการเดินทางหรือท่องเที่ยวที่ไม่ยาวนานนัก ให้น�ำของที่มีค่าและจ�ำเป็นไปเพียง เล็กน้อย เตรียมที่ซ่อนของมีค่าเหล่านี้ไว้ให้เรียบร้อย เสื้อผ้าที่คุณจะใส่ในการเดินทางไม่ควรฉูดฉาด และแวววับ หรูมากไป หรือแต่งกายซอมซ่อเกินไป จนท�ำให้สังเกตได้ว่าคุณคือนักท่องเที่ยว หากจะสวมใส่ เครื่องประดับก็ควรสวมใส่เพียงเล็กน้อย พวกเพชรพลอยไม่ควรใส่ แม้กระทั่งพกพาไปด้วยก็ไม่ควร จะได้ ไม่เป็นภาระ

เอกสารต่างๆ เงินสด และบัตรเครดิต(Documents, cash and credit cards) สิ่งต่างๆ เหล่านี้ หากคุณต้องการเก็บไว้ในที่พัก ก็ควรใส่ไว้ในตู้นิรภัยที่มีกุญแจที่แน่นหนา ปลอดภัย แต่ถ้าคุณต้องการจะพกไปกับตัว คุณก็ควรซ่อนของดังกล่าวหลายๆ ที่ดีกว่าที่คุณจะเก็บซ่อน รวมไว้ที่เดียวในกระเป๋าใส่สตางค์ หรือกระเป๋าแบบถุงหน้าท้องของจิงโจ้ ซึ่งอยู่ใต้เสื้อที่คุณใส่ คุณควรจะถ่ายเอกสารที่ส�ำคัญๆ เช่น หนังสือเดินทางออกนอกประเทศ หรือหนังสือที่ อนุญาตให้คุณเข้าประเทศต่างๆ ตั๋วเครื่องบิน และบัตรเครดิต เก็บฉบับถ่ายเอกสารแต่ละอย่างไว้ที่บ้าน พร้อมพกพาไปด้วยอย่างละแผ่น เพื่อความสะดวกและปลอดภัยหากเกิดปัญหาเอกสารสูญหาย อย่าเก็บ ทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในที่เดียวกันหมดในขณะเดินทาง กระเป๋าเดินทาง (Baggage) อย่าทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้โดยไม่มีผู้เฝ้า จดจ�ำรายละเอียดลักษณะของกระเป๋าเดินทาง ของคุณไว้ให้แม่นย�ำ เขียนชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ติดไว้ทั้งข้างนอกและข้างในกระเป๋าเดินทางทุกใบ โดยเขียนบนแผ่นกระดาษส�ำหรับห้อยติดกระเป๋า โดยทั่วไปสายการบินต่างๆ จะแจกให้ท่าน การประกันสุขภาพ (Health Insurance) หากคุณมีประกันเดิมอยู่แล้ว แต่ไม่ครอบคลุมตัวคุณในช่วงเดินทาง คุณควรจะไปซื้อ ประกันสุขภาพชนิดช่วงสั้นๆ แบบกรณีฉุกเฉินส�ำหรับการเดินทางเท่านั้น โรงแรมต่างๆ (Hotels) เมื่อคุณเข้าไปยังห้องพักในโรงแรม คุณต้องตรวจดูความปลอดภัยอย่างละเอียด ถ้าจะให้ ปลอดภัยเป็นอย่างดี ด้านบนของบานประตูจะต้องมีช่องเล็กๆ เพื่อมองดูภายนอกห้องได้ หรือเราเรียก


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๙๕

ว่า “ช่องตาแมว” มีโซ่คล้องที่แข็งแรงและแน่นหนา มีกลอนประตูที่ติดอยู่ภายในห้อง เพื่อให้แน่ใจ กุญแจ ที่ติดกับบานประตูต้องใช้การได้ดีด้วย อย่าเปิดประตูออกนอกห้องโดยไม่ดูให้ดีว่ามีผู้ใดอยู่ข้างนอก และที่ส�ำคัญ อย่าลืมพกเลขที่ ของโรงแรม ชื่อโรงแรม ไว้กับตัวเมื่อออกไปไหนๆ เหล่านี้จะเป็นสิ่งช่วยคุณได้ในกรณีที่คุณหลงทาง พวกขโมย (Thieves) เพื่อเป็นการปกป้องตัวคุณเอง คุณต้องเป็นผู้ที่ช่างสังเกตทุกอย่างตลอดเวลา พวกขโมย จะท�ำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม อย่างน้อยมีตั้งแต่ ๓ คนขึ้นไป คนหนึ่งจะพยายามท�ำอะไรก็ได้ให้เบนความ สนใจของคุณไปจากทรัพย์สินของคุณ แล้วอีกคนก็ลงมือหาทางเอาทรัพย์สินของคุณไปให้ได้ โดยมีคนที่สาม คอยดูต้นทาง สถานที่ที่พวกขโมย พวกจี้ พวกปล้น จะลงมือด�ำเนินการของเขาก็คือ ตามตลาด สถานี รถไฟ สถานีรถประจ�ำทาง รถไฟใต้ดิน หรือที่ใดๆ ก็ได้ที่มีผู้คนแออัดยัดเยียด ฉะนั้นจึงควรระมัดระวัง เป็นพิเศษตามสถานที่ดังกล่าว ข้อควรจดจ�ำ (Remember) กฎเกณฑ์แรกที่จะช่วยให้การเดินทางของคุณปลอดภัยได้นั่นก็คือ จงใช้จิตส�ำนึกหรือ ไหวพริบทั่วๆ ไปของคุณเอง จงไว้วางใจและเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของคุณเอง หากคุณรู้สึกว่าสิ่งใดไม่ปลอดภัย มันก็ ไม่น่าจะปลอดภัย ท้ายที่สุดนี้ ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านที่ก�ำลังจะเดินทาง หรืออยู่ในระหว่าง การเดินทาง คงปลอดภัยและเป็นสุขกับการ เดินทางครั้งนี้ของท่านเป็นอย่างยิ่ง เพราะท่าน เป็นนักท่องเที่ยวที่เตรียมการเป็นอย่างดีคนหนึ่ง


๙๖ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

“วัยทอง” เป็นวัยที่เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคต่างๆ อย่างมาก

เพราะเป็นวัยที่มีอารมณ์แปรปรวนอยู่ตลอดเวลา จิตใจไม่ค่อยปกติ สมาธิก็ไม่ค่อยมี.....

บางแค

วัยทอง (ทั้งหญิง-ชาย) เป็นวัยที่เสี่ยงอย่างมากต่อการเป็นโรคแห่งความเสื่อมอย่างมะเร็ง ความดันโลหิตสูง และโรคกระดูกพรุน การกินดีอยู่ดีมาตั้งแต่เด็ก เป็นส่วนส�ำคัญในการป้องกันโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงอายุที่เรียก ว่า วัยทอง การกินอาหารที่จะให้ได้คุณค่าทางอาหารมากที่สุด โดยทั่วไปก็ควรกินตามหลัก ๓ ป. ซึ่งได้แก่  ป.๑ ประหยัด  ป.๒ ปลอดภัย  ป.๓ ประโยชน์ รับรองว่าหากใช้หลัก ๓ ป. นี้แล้ว คุณค่าทางอาหารย่อมอยู่ ในร่างกายของคุณอย่างไม่ไปไหนแน่นอน และหลัก ๓ ป. นั้น อาจจะ แยกเป็นประเภทอาหารต่างๆ ดังนี้ : ประเภทนม การดื่มนมมากๆ จะเพิ่มความแข็งแรงและสมบูรณ์ของกระดูก และฟัน เมื่ออายุมากอย่างช่วงวัยทองจะได้ไม่เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน หรือกระดูกเปราะบางได้


ข่าวทหารอากาศ ๙๗

มีนาคม ๒๕๕๕

ประเภทธัญพืช การกินธัญพืชโดยเฉพาะ ถั่วต่างๆ เหมาะส�ำหรับคุณสาวๆ ในช่วงวัยหมดประจ�ำเดือนมากๆ เพราะนอกจากจะมีใยอาหารมากแล้ว ยังช่วยลดคลอเลสเตอรอล และต่อต้าน มะเร็งได้ด้วยแต่ก็ควรเลือกที่ใหม่ สด ไม่มีเชื้อรา ประเภทแป้งและข้าว อาหารประเภทแป้งและข้าวนั้น ควรเลือกชนิดที่ไม่ขัดสี ซึ่งการขัดสีหรือขัดขาวนั้น จะท�ำให้วิตามิน และใยอาหารสูญเสียไป โดยเฉพาะวิตามิน B1 ที่สามารถป้องกันโรคเหน็บชานั่นเอง ประเภทเนื้อสัตว์ต่างๆ เนื้อสัตว์ที่แนะน�ำให้กินเพื่อสะสมสุขภาพดี ไปจนถึง วัยทอง คงจะต้องเป็นเนื้อปลา ทั้งปลาน�้ำจืด และปลาทะเล เพราะ เป็นโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ปลอดภัยไม่เสี่ยงต่อการสะสมของ ปริมาณไขมันต่างๆ ในร่างกาย และไม่ป่วยเป็นโรคอันตราย อย่างมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคสมองขาดเลือด

ประเภทผัก ผักนั้นจะเน้นในส่วนของผักใบเขียว ต่างๆ หรือผักสีเหลือง เพราะผักเหล่านี้จะมี เบตาแคโรทีนสูง และจะต้องปลอดภัยจาก สารพิษมากๆ ผักเหล่านี้สามารถป้องกัน โรคมะเร็งบางชนิด และริดสีดวงทวารได้ เป็นอย่างดี


๙๘ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

ประเภทผลไม้ ผลไม้จะให้คุณค่าในส่วนของใยอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ จะช่วยให้ระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ท�ำงานเป็นปกติ รู้สึกมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ ประเภทไขมัน ควรเป็นไขมันจากพืช เพื่อป้องกันคลอเลสเตอรอลสูง อันจะก่อให้เกิดโรคต่างๆ อย่างความดัน โลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน เป็นต้น แต่ไขมันเราจะขาดไม่ได้ เพราะร่างกายจะขาดความอบอุ่น แถมยัง ส่งผลให้ร่างกายได้รับวิตามินส่วนที่ละลายในไขมันไม่เต็มที่นั่นเอง

อาหาร ๓ ป. ส�ำหรับคนวัยทองดังกล่าว ผู้ที่เข้าวัยทองมีความจ�ำเป็นต้องรับประทานเพื่อ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ส�ำหรับผู้ที่ยังไม่ถึงวัยทอง ก็ควรจะรับประทานอาหารดังกล่าวข้างต้น ด้วย เพื่อจะเป็นการสะสมความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย เมื่อเราก้าวสู่วัยทองจะได้ไม่เกิดปัญหาสุขภาพกับ ตัวเรา


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๙๙

… ความกล้าหาญ (๑) … ผู้เขียนล�ำดับหัวข้อคุณธรรมในด้านต่างๆ ที่จะค่อยๆ ค้นคว้ามาเสนอต่อผู้ที่สนใจอ่าน เรื่องความ กล้าหาญนี้เป็นข้อต้นๆ ที่ผู้เขียนตั้งใจจะเขียน แต่ผู้เขียน ก็ยังไม่กล้าพอที่จะเปิดประเด็นนี้ขึ้นมา เพราะผู้เขียน ยอมรับว่า ถ้ามีเทอร์โมมิเตอร์วัดความกล้าหาญของ คนได้ คงได้เห็นความแตกต่างเรื่องความกล้าหาญ ของคน ที่แตกต่างกันชัดเจนนัก ยิ่งถ้าวัดได้เป็นเรื่องๆ คงหลากหลายมาก และถ้าพูดคุยกันตรงๆ ก็จะกระทบ จิตใจของคนในบางเรื่อง เพราะไม่มีใครยอมรับว่าตัวเอง ไม่กล้าพอ เพราะคุณธรรมเรื่องความกล้าหาญของคนแต่ละ คนนี่แหละ คือตัวตัดสินเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น หรือ ไม่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เราจะพบเห็นทุกๆ วันว่า คนโน้น คุยว่าเก่งอย่างนั้น คนนี้เก่งอย่างนี้ การพูดนั้นพูดได้ แต่ใครจะกล้าหาญพอที่พูดแล้วท�ำเองด้วย ส่วนใหญ่ เราจะเจอแต่พูดแล้วไม่กล้าท�ำ หรือพูดได้แต่ให้คนอื่น ท�ำเสียมากกว่า นอกจากนี้บางทีเรายังเอามาตรฐานความกล้าหาญไปรวมๆ กับความบ้าบิ่น ความเหี้ยมโหด ซึ่งเป็นลักษณะ ที่ใกล้เคียงกัน แต่มีความหมายเชิงลบมากกว่า ความกล้าหาญหมายถึงการกล้าแสดงความสามารถของตน


๑๐๐ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

ออกมา เพื่อรักษาประโยชน์ของส่วนรวมแม้จะ ต้องเสียสละความสุขส่วนตน เลือดเนื้อ และชีวิต ของตนก็ยอมได้ ความกล้าหาญเป็นเรื่องของการ ต่อสู้กับตัวเองไม่ใช่ต่อสู้กับผู้อื่น แต่ผลของการ ตัดสินใจหรือการกระท�ำที่กล้าหาญ อาจต้องมี การต่อสู้กับผู้อื่น หากเราศึกษาผลงานของบุคคลที่โลก ยกย่องว่า เต็มไปด้วยความกล้าหาญ เช่น มหาตมะ คานธี หรือ เมลสัน แมนเดล่า จะพบ ว่าบุคคลเหล่านี้เอาชีวิตของตนเป็นเดิมพัน เพื่อ ต่อสู้ให้ได้มาซึ่งเอกราชของชาติ ท่านเหล่านี้ จึงได้รับการยกย่องจากสังคมอย่างสูงสุด หรือ จากการรบในสงครามต่างๆ จะมีชื่อของผู้กล้าหาญ หรือ วีรบุรุษ อีกมากมาย ก่อนที่เราจะมาวิเคราะห์คนในสังคม ไทยของเราหรื อ ในกองทั พ อากาศของเรา เรามาท� ำ ความเข้ า ใจหลั ก การส� ำ คั ญ ของการ กระท�ำ ที่เรียกว่ากระท�ำอย่างกล้าหาญกันก่อน ความกล้าหาญเป็นขบวนการทางจิตใจที่ต้อง อาศัยความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง หลักส�ำคัญที่ผู้กล้าหาญจะต้องมีคือ การกระท�ำหรือการตัดสินใจที่พร้อมเผชิญ สิ่งต่างๆ ที่จะเกิดในอนาคตข้างหน้า ความกล้าหาญ คือ ขบวนการท�ำงานของจิตที่น�ำเอาสิ่งต่างๆ อย่างน้อย ๔ ด้าน มาวิเคราะห์และสังเคราะห์ผลดี ผลต่างระหว่างความกล้ากับผลที่ได้แล้วสามารถสลัดความกลัวออกไป ได้ตัวแปร ๔ ด้าน ที่คนจะน�ำมาประกอบการคิดโดยรู้ตัวหรือไม่ก็แล้วแต่ ประกอบด้วย ๑. Dissatisfaction คือความรู้สึกไม่พอใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่อย่างปกตินั้น น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง บางสิ่งบางอย่างให้ดีขึ้น ๒. Truth ความเข้าใจข้อเท็จจริงของสถานการณ์นั้นๆ ซึ่งประเด็นนี้เองที่ท�ำให้คนกล้าหาญต่างกัน เพราะ แต่ละคนมองปัญหาและข้อเท็จจริงต่างกัน ๓. Model คือตัวแบบ แนวคิด ยุทธศาสตร์ในใจของแต่ละคน ที่จะท�ำสิ่งหนึ่งสิ่งใดกับสถานการณ์นั้น เพื่อให้ได้ผลตามข้อแรก ประเด็นนี้ก็เป็นประเด็นที่คนแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ๔. Process คือวิธีการที่จะท�ำให้เกิดรูปธรรมของการปรับเปลี่ยนสถานการณ์ที่ต้องการ ก็เป็นขบวนการ ที่คนแต่ละคนมีไม่เท่ากัน เพราะคนมีความรู้และประสบการณ์ต่างกัน


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๑๐๑

ทั้ง ๔ องค์ประกอบนี้จะถูกประเมินร่วมกับพื้นฐานทางคุณธรรมและจริยธรรมในจิตใจของคนแต่ละคน ไม่ว่าเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ขบวนการนี้จะเกิดขึ้น ความแตกต่างของคนก็คือ เมื่อประเมินออกมาแล้วผลมันสูงกว่าความกลัวที่มี ต่อปัญหาและมีผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้าสูงกว่า ความกล้าหาญในการตัดสินตกลงใจก็จะเกิดขึ้น แต่ถ้า ต�่ำกว่า ทุกอย่างก็จะยุติลงไปเพราะความกลัวเป็นฝ่ายชนะ ตัวอย่างของความกล้าหาญ เช่น - กล้าหาญที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องอย่างมีเหตุผล - กล้าหาญที่จะเป็นผู้น�ำของการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น - กล้าหาญที่จะยอมรับความดี ความเก่งของผู้อื่น - กล้าหาญที่จะให้อภัยคนที่ผิดพลาด - กล้าหาญที่จะปรับเปลี่ยนความเคยชินที่ไม่ดีของตัวเอง - กล้าหาญที่จะปกป้องผลประโยชน์ชาติบ้านเมือง - กล้าหาญที่จะแสดงความจริงในเรื่องที่ต้องการความถูกต้องเป็นธรรม คนที่กล้าหาญ จึงไม่ใช่คนบ้าบิ่นหรือมุทะลุดุดัน และผลที่เกิดขึ้นหลังจากการตัดสินใจนั้นๆ เป็นสิ่งที่จะ มีองค์ประกอบอีกหลายด้าน ผลของความกล้าหาญก็ไม่จ�ำเป็นต้องส�ำเร็จเสมอไป ผู้ที่มีคุณธรรมด้านความ กล้าหาญ อาจจะกลายเป็นผู้ผิดพลาด เป็นผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมก็มีมากมาย เหมือนผู้ที่มีคุณธรรมด้านอื่นๆ แต่ “ความกล้าหาญเป็นบันไดที่คุณธรรมด้านอื่นๆ จะค่อยๆ ปีนป่ายขึ้นมาสู่การพัฒนาของสังคม” สังคมใด ที่ผู้คนขาดความกล้าหาญในเรื่องที่ถูกที่ควร ก็จะถูกคนที่เห็นแก่ตัว ดื้อด้าน เอารัดเอาเปรียบตลอดไป เรากลับมาดูที่กองทัพอากาศของเรา ความเป็นทหาร คือการอาสามาท�ำหน้าที่รักษาชาติ บ้านเมือง โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน การอบรมสั่งสอนและค่านิยม ในองค์กรจึงจ�ำเป็นที่จะต้องมีศักดิ์ศรี มีวินัย มีความรู้ มีความรักพวกพ้อง สิ่งเหล่านี้จ�ำเป็นต้องมีในสังคมของทหาร ไม่เช่นนั้นแล้วประเด็นแรกขององค์ประกอบในเรื่องความ กล้าหาญจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน ในเรื่องของการรักษาเอกราชของชาติบ้านเมือง เรื่องศักดิ์ศรีนั้นเป็นเรื่องที่ยอม กันไม่ได้ ถ้าทหารคนใด หมู่ใด ที่ยอมเสียศักดิ์ศรีในเรื่องของตนเอง ของเครื่องแบบที่สวมใส่ หน่วยงานที่สังกัด พวกพ้องที่ร่วมงาน คนเหล่านี้ย่อมหาความกล้าหาญในตัวเขาได้ยาก เราลองส�ำรวจตัวเราเองดีกว่า ว่าเรามีความ กล้าหาญเพียงใด โดยไม่ต้องวิจารณ์คนอื่น เพราะผู้กล้าหาญคือ วีรบุรุษ วีรสตรีของสังคม คุณธรรมข้อนี้จึงขาดหาย ไปไม่ได้จากสังคม 


๑๐๒ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕

วันแห่งความรัก ทางพระพุทธศาสนา น.อ.เกษม พงษ์พันธ์


มีนาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๑๐๓


๑๐๔ ข่าวทหารอากาศ

มีนาคม ๒๕๕๕









Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.