หนังสือข่าวทหารอากาศ ฉบับเดือน พฤษภาคม 2555

ป  ท ี ่ ๗ ๒ฉ บ ั บ ท ี ่ ๕เ ด ื อ นพ ฤ ษ ภ า ค ม๒ ๕ ๕ ๕

ป  ท ี ่ ๗ ๒ฉ บ ั บ ท ี ่ ๕เ ด ื อ นพ ฤ ษ ภ า ค ม๒ ๕ ๕ ๕

พระราชดำ�รัส “...ขอให้ท่านทั้งหลายเชื่อเถิดว่า ข้าพเจ้ามีความห่วงใยและตั้งใจ ที่จะช่วยทำ�นุบำ�รุงความสุขความเจริญ ให้แก่อาณาประชาราษฎร์ชาวไทย โดยจริงใจอยู่เสมอ...”

พระราชดำ�รัส ๗ พฤษภาคม ๒๔๙๓

อาเศียรพาท วันฉัตรมงคล ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕

ห้าพฤษภาคมอุดมรัตน์ ชาวไทยทั่วทุกคนบนปถพี

องค์สมเด็จนวมินทร์ปิ่นสวัสดิ์ พระทรงเป็นพ่อหลวงปวงชาวไทย

พระราชกิจทุกทิศประสิทธิ์ผล ทั้งหลายพันโครงการงานทั้งปวง

พระบารมีทั้งนั้นสุดสรรเสริญ ไทยทั้งปวงร่มเย็นเป็นสุขใจ

ลุสมัยคล้ายปีที่บรรจบ ศูนย์รวมสุขสมบัติมหัศจรรย์

ขอพระรัตนตรัยคุณไพศาล ครองนพปฎลเศวตฉัตรสวัสดิ์ดล

ขอพระองค์ดำ�รงมั่นคงสวัสดิ ิ์ ปวงทวยเทพทุกทิศประสิทธิ์ชัย

พรมงคลแห่งฉัตรจรัสศรี จงบรรเจิดเลิศรัตน์ยิ่งฉัตรทอง

ศุภรัตน์ฉัตรมงคลดลราศี สุดสง่าราศีมีมงคล

เป็นวันฉัตรมงคลวิมลศรี ต่างภักดีมหาราชศรีชาติไทย บรมกษัตริย์ไทยเทิดเลิศสมัย ครองจิตใจประชาชนคนทั้งปวง ปวงชนเทิดพระบารมีที่ใหญ่หลวง ใจทุกดวงตระหนักในหลักไทย ยิ่งใหญ่เกินจดจารสุดขานไข พระคุณในทสธรรมเป็นสำ�คัญ ต่างเคารพรักยิ่งเป็นมิ่งขวัญ ธรรมจัดสรรเจิดจรัสฉัตรวิมล อภิบาลมหาราชชาติมีผล พรมงคลทุกทิศประสิทธิ์ชัย พร้อมนพปฎลเศวตฉัตรจรัสไสว ส่งผลให้ชาติบ้านเมืองสุดเรืองรอง พระบารมีองค์กษัตริย์ฉัตรทั้งผอง ฉัตรทั้งผองเรืองจำ�รัสฉัตรมงคล สรรพ์พรที่อภิบาลบันดาลผล สัมฤทธิ์ผลแด่พระองค์ทรงพระเจริญ.

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้จัดทำ�หนังสือข่าวทหารอากาศ (น.อ.เกษม พงษ์พันธ์ ประพันธ์)

ฉัตรมงคล พชร

ในปัจจุบัน วันที่ ๕ พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันมหามงคลอีกวันหนึ่งของประเทศไทย เนื่องด้วยเป็น วันคล้ายวันบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์รัชกาล ปัจจุบัน ซึ่งเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๙ เมื่อเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ แล้ว ยังมีพระราชภารกิจด้านการศึกษาซึ่งยังไม่สำ�เร็จลุล่วง จึงได้เสด็จพระราชดำ�เนินกลับไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้ทรงเปลี่ยนวิชาที่ทรงศึกษาเป็นวิชานิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ซึ่งเป็นประโยชน์ ต่อการปกครองประเทศ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำ�เนินนิวัตประเทศไทยเมื่อพุทธศักราช ๒๔๙๓ ทรง ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร พระคู่หมั้น เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ แล้วได้ทรงประกอบพระราชพิธบี รมราชาภิเษก เพือ่ ความเป็นพระมหากษัตริยอ์ ย่างสมบูรณ์ ตามโบราณขัตติยราชประเพณี เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ ซึ่งตามโบราณราชประเพณีนั้น ในรัชกาลก่อนๆ ได้มีการบำ�เพ็ญพระราชกุศลถวายสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า และประกอบพระราชพิธี ฉลองสิริราชสมบัติ ซึ่งเรียกว่า วันฉัตรมงคล

พระราชพิธีฉัตรมงคล เริ่มมีขึ้นเป็นครั้งแรกในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่ง แต่เดิม เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับเครื่องสิริราชูปโภค ได้ร่วมกันบำ�เพ็ญกุศลฉลองเครื่องราชูปโภคกัน มาก่อน เพือ่ ให้เป็นสิรมิ งคลแก่หน้าทีข่ องตน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั จึงมีพระราชดำ�ริวา่ สมควร มีพระราชพิธสี มโภชพระมหาเศวตฉัตร โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กระทำ�ในวันทีเ่ จ้าพนักงานเคยสมโภช เครื่องราชูปโภค ดังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระนิพนธ์อธิบายไว้ในหนังสือเรื่อง พระราชพิธีสิบสองเดือน ว่า

“ครั้นมาในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติในวันพฤหัสบดี เดือน ๖ ขึ้น ๑๕ ค่ำ� ปีกุน ตรีศก จุลศักราช ๑๒๑๓ จึงทรงพระราชดำ�ริว่า วันบรมราชาภิเษกนั้น เป็น มหามงคลชัย ซึ่งประเทศทั้งปวงที่มีพระเจ้าแผ่นดินปกครอง ย่อมนับถือวันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาล แต่ ในกรุงสยามนี้เฉยๆ อยู่ มิได้มีการนักขัตฤกษ์อันใด ครั้งนี้กาลบรมราชาภิเษกของพระองค์ เฉพาะตรงกับสมัยที่ เจ้าพนักงานเคยสมโภชเครือ่ งราชูปโภคแต่เดิมมา ควรทีจ่ ะมีการสมโภชพระมหาเศวตฉัตรให้เป็นสวัสดิมงคล แก่ราชสมบัติ จึงได้ทรงพระราชดำ�ริจัดการพระราชกุศล ซึ่งพระราชทานชื่อว่า ฉัตรมงคล นี้ขึ้น”

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลปัจจุบนั ก็ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ผูท้ รงพระคุณอันประเสริฐยิง่ ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทัง้ ชาติ นับแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ บรมราชาภิเษก แล้ว ได้ทรงพระวิริยอุตสาหะทรงงานอย่างหนัก เสด็จพระราชดำ�เนินไปทรงเยี่ยมเยืยนราษฎรทั่วทุกภูมิภาค เมือ่ ทรงประจักษ์วา่ ราษฎรในชนบทโดยเฉพาะในที่ห่างไกลทุรกันดารประสบความทุกข์ยากลำ�เค็ญในการดำ�รง ชีวิต ด้วยน้ำ�พระราชหฤทัยเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาและทรงยึดมั่นในพระปฐมบรมราชโองการอันเป็นพระราช สัตยาธิษฐาน เมื่อทรงบรมราชาภิเษกที่ว่า

“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงงานหนัก ด้วยพระวิริยอุตสาหะและด้วยพระอัจฉริยภาพ เพื่อขจัดทุกข์ผดุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ ทรงพัฒนา น้ำ� ดิน สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ป่าไม้ โปรดฯ ให้สร้างเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ� พระราชทานความรู้ด้าน การประกอบอาชีพอันเหมาะสม โดยโปรดฯ ให้ก่อสร้างศูนย์ศึกษาการพัฒนาขึ้น ๖ แห่ง ในภูมิภาคต่างๆ เพื่อ เป็นแหล่งเรียนรูใ้ นการประกอบอาชีพของราษฎร ทรงพัฒนาการศึกษา โปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงเรียนในชนบท จำ�นวนมาก พระราชทานทุนการศึกษาทัง้ ระดับต่�ำ และระดับสูง เพือ่ สร้างทรัพยากรบุคคลเป็นพลังในการพัฒนา ประเทศ พระราชทานแพทย์หลวงเพื่อรักษาราษฎรที่เจ็บป่วย ทรงค้นคิดประดิษฐ์สิ่งที่อำ�นวยประโยชน์ ในการแก้ปัญหาและการพัฒนาประเทศ เช่น ฝนหลวง กังหันน้ำ�ชัยพัฒนา เกษตรทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง หญ้าแฝก พลังน้ำ� พลังลม พลังงานทดแทน เช่น แก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล การพัฒนาชาวเขา การฟื้นฟูป่า การฟื้นฟู ศิลปาชีพ ฯลฯ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ได้พระราชทานโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชดำ�ริมากกว่า ๓,๐๐๐ โครงการ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็ได้พระราชทานโครงการนับร้อยโครงการ เพื่อขจัดทุกข์ผดุงสุข แก่พสกนิกรทั่วประเทศให้มีการพัฒนาที่ยั่งยืน และยกระดับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น

พระราชกรณียกิจและพระเกียรติคุณเป็นที่ประจักษ์แผ่ไพศาลไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นที่ แซ่ซอ้ งสรรเสริญอย่างกว้างขวาง ทรงเป็นศูนย์รวมใจของชาวไทย ดังปรากฏว่าในพระราชพิธฉี ลองสิรริ าชสมบัติ ครบ ๖๐ ปี เมื่อ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ ได้มีมหัศจรรย์แห่งความจงรักภักดี ปวงชนชาวไทยหลายแสนคนพร้อมใจ กันใส่เสื้อเหลืองมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรเนืองแน่นลานพระบรมรูปทรงม้า และตลอดถนน ราชดำ�เนิน

เนือ่ งในพระราชพิธฉี ตั รมงคล พุทธศักราช ๒๕๕๕ นี้ บุคลากรกองทัพอากาศขออำ�นาจสรรพสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิ์ โปรดอภิบาลรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชจักรีวงศ์ให้ทรงพระเจริญ สถิตเสถียรสถาพร ในไอศูรย์สริ ริ าชสมบัติ อริราชศัตรูจงพินาศพ่ายแพ้พระบรมเดชานุภาพ สถิตเป็นพระมิง่ ขวัญปกเกล้าปวงชนชาวไทย ผู้จงรักภักดีตราบกาลนาน เทอญ ขอขอบคุณ คุณหญิงกุลทรัพย์ เกษแม่นกิจ

ข่าวทหารอากาศ คณะผู้จัดทำ�หนังสือข่าวทหารอากาศ เจ้าของ

กองทัพอากาศ

ที่ปรึกษา

พล.อ.อ.สมศักดิ์ วรฉัตร พล.อ.ต.หญิง มาลี ดิษฐบรรจง

พล.อ.ท.ประพัตรา ตัณฑ์ไพโรจน์ พล.อ.ต.หญิง สุมาลี ฤทธิบุตร

ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์

พล.อ.ต.เผด็จ วงษ์ปิ่นแก้ว พล.อ.ต.เชิดพงศ์ เอี่ยมสมุทร น.อ.วสันต์ อยู่ประเสริฐ น.อ.ประสิทธิ์ ยิ้มเจริญ

พล.อ.ต.ยงยุทธ หาบุบผา พล.อ.ต.สุทธิพงษ์ อินทรียงค์ น.อ.เดชอุดม คงศรี น.อ.หญิง สุคนธ์ทิพย์ วัฒนามระ

ผู้อำ�นวยการ

พล.อ.ท.ชนัท รัตนอุบล เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารอากาศ

รองผู้อำ�นวยการ

พล.อ.ต.ฌเณศ ชลิตภิรัติ เสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารอากาศ น.อ.ทวี กระออมแก้ว รองเสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารอากาศ ผู้จัดการ ผู้ช่วยผู้จัดการ

น.อ.สหัสชัย มาระเนตร น.ท.ชาญยุทธ รัตนสาลี

บรรณาธิการ ผู้ช่วยบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ พล.อ.ท.ชนัท รัตนอุบล น.อ.หญิง พัชรา ภัทรสุวรรณ น.อ.หญิง นภิศพร สังข์ทอง

ประจำ�กองบรรณาธิการ น.ท.หญิง กาญจณา แตงฉ่ำ� น.ท.นิพนธ์ ก่อสินค้า น.ท.หญิง วรรณิภา ยี่ประชา น.ท.หญิง อนงค์นาถ บุญจฑิตย์ น.ต.สินธพ ประดับญาติ พ.อ.อ.ชัยชนะ โสระสิงห์

หนังสือข่าวทหารอากาศ ความเป็นมา

หนังสือข่าวทหารอากาศ เป็นนิตยสารรายเดือนของกองทัพ อากาศ เริ่มดำ�เนินการเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๓ ขึ้นกับกรมข่าวทหารอากาศ มีนาวาอากาศเอก สกล รสานนท์ เป็นบรรณาธิการคนแรก ดำ�เนินการ โดยทุนของข้าราชการทหารอากาศ ต่อมาปี พ.ศ.๒๔๙๘ ได้โอนกิจการ มาอยู่ในความอำ�นวยการของกรมยุทธศึกษาทหารอากาศ ตามคำ�สั่ง ทอ. (เฉพาะ)ที่ ๕๘๐/๙๘ ลง ๒๓ ธ.ค.๒๔๙๘ มีเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารอากาศ เป็นผู้อำ�นวยการ ตามคำ�สั่ง ทอ.(เฉพาะ)ที่ ๕/๙๙ ลง ๗ ม.ค.๒๔๙๙

ปี พ.ศ.๒๕๕๒ ได้เข้าอยู่ในกิจการสวัสดิการกองทัพอากาศ กำ�กับดูแลโดยคณะอนุกรรมการบริหารวารสารและสื่อสิ่งพิมพ์กองทัพ อากาศ ภารกิจ

ดำ�เนินกิจการหนังสือข่าวทหารอากาศ ให้เป็นไปตามนโยบาย ของกองทัพอากาศ มีผู้อำ�นวยการหนังสือข่าวทหารอากาศ(จก.ยศ.ทอ.) เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ วัตถุประสงค์/นโยบายกองทัพ

๑. เพื่อเพิ่มพูนความรู้ในกิจการทั่วๆ ไป

๒. เพือ่ แลกเปลีย่ นแสดงความคิดเห็นในด้านการทหาร การเมือง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี อันจะเป็นประโยชน์ ต่อส่วนรวม

๓. เพื่อเผยแพร่กิจการกองทัพอากาศ นโยบายการดำ�เนินงานในปัจจุบัน

๑.เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็น ที่เป็น ประโยชน์ในการพัฒนากองทัพและส่วนรวม

๒. เรื่องที่นำ�ลงในหนังสือข่าวทหารอากาศ

- ต้องไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์/นโยบาย กองทัพอากาศที่ กำ�หนด

- ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ บุคคล หรือส่วนรวม

- ต้องได้รับการพิจารณาและเห็นชอบจากคณะกรรมการ พิจารณาเรื่องของสำ�นักงานหนังสือข่าวทหารอากาศ

กองจัดการ กำ�หนดการเผยแพร่ น.ท.พินิจ นุชน้อมบุญ น.ท.สมพร สิงห์โห

นิตยสารรายเดือน ร.อ.หญิง สุมาลี สายะนันท์ พ.อ.อ.ประจวบ วีระชนม์ จ.อ.หญิง เศาวณี พ่านเผือก นาง พรทิพย์ ศรีวรพงษ์ สำ�นักงานหนังสือข่าวทหารอากาศ พิมพ์ที่ บริษัท ปรีชาธร อินเตอร์พริ้น จำ�กัด กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ ๔/๕ ซอย รามอินทรา ๔๒ แยก ๘ แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. ๑๐๒๑๐ แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. ๑๐๒๓๐ โทร. ๐-๒๕๓๔-๔๔๗๑, ๐-๒๕๓๔-๔๒๔๑ Fax. ๐-๒๕๓๔-๔๔๗๑ โทร. ๐๒-๙๓๐-๗๐๕๓-๔ แฟกซ์ ๐๒-๙๓๐๗๐๕๐ ค่าสมาชิกภายนอกปีละ ๓๕๐ บาท (รวมค่าส่ง) สั่งจ่าย ปณ.คลองถนน ๑๐๒๒๐ ความคิดเห็นของผู้เขียนในหนังสือฉบับนี้ ไม่มีส่วนผูกพันกับทางราชการแต่ประการใด ออกแบบปก : น.ต.สินธพ ประดับญาติ

http://www.rtaf.mi.th หรือ E-mail : rtafmag@gmail.com

ปีที่ ๗๒ ฉบับที่ ๕ เดือน พฤษภาคม ๒๕๕๕

สารบัญ

๘ ๑๓ ๑๘ ๒๔ ๒๕ ๓๐ ๓๓ ๓๕ ๔๐ ๔๔

บทบรรณาธิการ ร่วมนับถอยหลังครบรอบ ๑๐๐ ปี การบิน ของบุพการี ทอ. ...พ.อ.อ.รัชต์ รัตนวิจารณ์ กิจการอวกาศของกองทัพอากาศ เพื่อความมั่นคง ...ปชส.ศวอ.ทอ. พร้อมหรือยัง...สงครามไซเบอร์ ...น.อ.สรรสิริ สิริสันตคุปต์ เฉลยปริศนาอักษรไขว้ ฉบับเดือน ก.พ.๕๕ ...มีน เครื่องบินขับไล่ เอฟ-5 เอ็ม ...พ.อ.อ.จำ�นงค์ ศรีโพธิ์ ๙๐ ปี กรมช่างอากาศ ...ปชส.ชอ. ๓ ปี สำ�นักงานนิรภัยทหารอากาศ ...ปชส.สนภ.ทอ. วิกฤตการณ์น้ำ�...โอกาส...และแผนการรบ ...น.ท.พงษ์ชาติ พันธุ์ศรี มลพิษหมอกควัน ...พล.อ.ต.ปรีชา ประดับมุข ภาพเก่าเล่าเรื่อง ...น.อ.ศักดิ์พินิต พร้อมเทพ

๔๙ วิเคราะห์การขายเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ...พล.อ.ต.คณิต เหลื่อมเจริญ ๕๔ CROSSWORD ...อ.วารุณี ๕๗ ศึกเกาหลี ๖๐ ปี ยังไม่มีสันติ ...น.อ.จิโรตม์ มณีรัตน์ ๖๒ ครูภาษาพาที : Test Tip 22 ...Paulaner Dunkel ๖๗ เวลา...การ์ตูน ...มิสกรีน ๖๙ AERO Update ...วิศวกร ชอ. ๗๔ ภาษาไทยด้วยใจรัก : ชาว ทอ. ก็สนใจภาษาไทยนะ ...นวีร์ ๗๗ มุมสุขภาพ : มะเร็งท่อน้ำ�ดี ...นายห่วงใย ๘๐ วัตถุมงคลของชาว ทอ. ...น.อ.อภิชัย ศักดิ์สุภา ๘๒ มุมกฎหมาย : เหตุฟ้องหย่าเพราะภรรยาฟ้องนาย ...ร.ต. ชานุวัฒน์ แสงสุวรรณ ๘๕ ขอบฟ้าคุณธรรม ...1261 ๘๙ ในรั้วสีเทา

สวัสดีครับ สมาชิกข่าวทหารอากาศทุกท่าน

“ขอให้ท่านทั้งหลายเชื่อเถิดว่า ข้าพเจ้ามีความห่วงใยและตั้งใจที่จะช่วยทำ�นุบำ�รุงความสุขความเจริญ ให้แก่ อาณาประชาราษฎร์ชาวไทยโดยจริงใจอยู่เสมอ”

พระราชดำ�รัส ๗ พฤษภาคม ๒๔๙๓

วันที่ ๕ พฤษภาคม “วันฉัตรมงคล” เป็นวันพระราชพิธบี รมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงรับเฉลิม พระบรมนามาภิไธยว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” เสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์สิริราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ และ ทรงสถาปนาเฉลิมพระยศ สมเด็จพระราชินี เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินี และเมือ่ ครัง้ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกผนวชตามโบราณราชประเพณี ได้ทรงพระกรุณาแต่งตั้ง สมเด็จพระบรมราชินี เป็นผูส้ �ำ เร็จราชการแทนพระองค์ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรม ราชินีนาถ จากวันเวลาที่ผ่านมา....จนถึงทุกวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรง พระคุณอันประเสริฐยิ่ง มีพระหฤทัยมุ่งมั่นที่จะบำ�บัดทุกข์บำ�รุงสุข แก่อาณาประชาราษฎร์ของพระองค์ ดัง พระราชดำ�รัสข้างต้น

วันที่ ๙ พฤษภาคม “วันพืชมงคล” เป็นพระราชพิธีเก่าแต่โบราณ เพื่อระลึกถึงความสำ�คัญและ เสริมสร้างขวัญกำ�ลังใจแก่เกษตรกรของชาติ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำ�คัญกับเกษตรกร มาโดยตลอด ทรงแนะนำ�หญ้าแฝกมาปลูกเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำ� และเป็นการป้องกันการพังทลายของหน้าดิน แก้ปัญหาทั้งการขาดแคลนที่ดินทำ�กินสำ�หรับเกษตรกร รวมถึงทรงริเริ่ม ตั้งศูนย์ศึกษาและการพัฒนาอันเนื่อง มาจากพระราชดำ�ริขึ้นตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อแก้ปัญหาดิน การฝึกอบรมเกษตรกร จึงทำ�ให้ “สหภาพ วิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ” ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล “นักวิทยาศาสตร์ดนิ เพือ่ มนุษยธรรม” แด่ “ในหลวง” เป็นพระองค์แรกของโลก (๑๖ เม.ย.๕๕)

ภาพจากปกฉบับนี้...เรื่อง “เครื่องบินขับไล่ เอฟ-5M” ซึ่งจะทำ�ให้ทราบถึงกระบวนการปรับปรุงและ พัฒนาให้มีความทันสมัย เพิ่มขีดความสามารถทางการรบสูงสุดของประเทศต่างๆ .....เรื่อง “ศึกเกาหลี ๖๐ ปี ยังไม่มีสันติ” ซึ่งสะท้อนให้เห็นมูลเหตุว่า ทำ�ไมจึงเป็นเช่นนั้น และอีกหลายเรื่องในฉบับล้วนน่าสนใจ เชิญพลิกอ่าน ตามอัธยาศัย บรรณาธิการ 

8 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ร่วมนับถอยหลัง ครบรอบ ๑๐๐ ปี การบินของบุพการีทหารอากาศ พ.ศ.๒๕๕๕ พ.อ.อ.รัชต์ รัตนวิจารณ์

เนื่องในโอกาสที่ปี พ.ศ.๒๕๕๕ (๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๕) “ครบรอบ ๑๐๐ ปี การบินของบุพการี ทหารอากาศ” พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. มีดำ�ริ จะจัดกิจกรรมเพื่อระลึกถึงเกียรติประวัติของบุพการี และบรรพบุรษุ ของทหารอากาศ โดยจะมีการจัดทำ�ของ ทีร่ ะลึก การจัดนิทรรศการทางการบิน การแสดงการบิน การจัดทำ�หนังสือที่ระลึก ชื่อ “๔ แผ่นดินราชวงศ์จักรี ๑๐๐ ปี การบินของบุพการี” ฯลฯ โดยมีเนือ้ หาเกีย่ วกับ วิวัฒนาการของกำ�ลังทางอากาศของไทย ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน พร้อมภาพถ่ายในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในแต่ละยุคสมัย ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ด้านการบินของไทยอย่างมาก มีขนาด ๘ หน้ายกพิเศษ(A4) ปกแข็ง จำ�นวน ๓๐๐ หน้า พิมพ์ ๔ สี ราคาเล่มละ ๕๐๐ บาท กำ�หนดแล้วเสร็จประมาณเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ ผู้สนใจสามารถสั่งจองได้ที่ น.ต.หญิง เพ็ญศิริ เสถียรโชค แผนกเผยแพร่ กองประชาสัมพันธ์ กรมกิจการ พลเรือนทหารอากาศ โทร. ๐ ๒๕๓๔ ๑๖๐๘

๑๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๕๔ กระทรวงกลาโหมออกคำ�สั่งที่ ๒๑๑/๒๑๗๑๕ เพื่อให้นายทหารสามนาย ซึ่งผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนโรงเรียนการบินและศึกษาวิชาการบินและการช่างอากาศ ในประเทศฝรั่งเศส โดย มีนายพลโท กรมหมื่นกำ�แพงเพ็ชร์อัครโยธิน ผู้รั้งจเรทหารช่าง เป็นผู้จัดส่งนายทหารเพื่อไปศึกษา ประกอบด้วย

นายพันตรี หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ (สุณี สุวรรณประทีป) ผู้บังคับการกองพันพิเศษ กองพลที่ ๕

นายร้อยเอก หลวงอาวุธสิขิกร (หลง สินศุข) ผู้รั้งผู้บังคับการกองพันพิเศษ กองพลที่ ๙

นายร้อยโท ทิพย์ เกตุทัต

ผู้บังคับกองร้อยที่ ๓ โรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยม

พฤษภาคม ๒๕๕๕

นายพันตรี หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ

ข่าวทหารอากาศ 9

นายร้อยเอก หลวงอาวุธสิขิกร

นายร้อยโท ทิพย์ เกตุทัต

บุพการีทหารอากาศ เข้ารับการศึกษาวิชาการบิน ณ ประเทศฝรั่งเศส

นายทหารทัง้ สามท่านออกเดินทางจากประเทศไทย เมือ่ วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๔ ถึงประเทศฝรัง่ เศส ในปลายเดือนมีนาคม จากนัน้ ได้เข้ารับการศึกษาภาษาฝรัง่ เศส และเข้ารับการตรวจร่างกายเพือ่ เข้ารับการศึกษา วิชาการบิน โดย นายร้อยเอกหลวงอาวุธสิขิกร และนายร้อยโททิพย์ เกตุทัต เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนการบิน ของบริษัทนิเออปอร์ต ส่วนนายพันตรี หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนการบินที่ตำ�บลวิลลา คูเบลย์

๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๕๕ นายพันตรี หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ ได้เริ่มการศึกษาและฝึกการบินหลักสูตร ของสโมสรการบินพลเรือนฝรัง่ เศส ด้วยเครือ่ งบินเบรเกต์ ชนิดปีก ๒ ชัน้ ทีส่ นามบินตำ�บลวิลลาคูเบลย์ ส่วน นายพันตรี หลวงอาวุธสิขิกร (ได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็น พันตรี เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๕) ได้เริ่มการศึกษาและฝึกการบินด้วยเครื่องบินนิเออปอร์ต ชนิดปีกชั้นเดียว ที่สนามบินตำ�บลมูร์เมอลอง เลอกรังด์

เมื่อสำ�เร็จการศึกษา และอยู่ดูงานแสดงการบิน ตลอดจนการตรวจรับเครื่องบินที่จัดซื้อเรียบร้อยแล้ว จึงออกเดินทางจากฝรั่งเศส กลับประเทศไทย จากนั้น นักบินทั้ง ๓ ท่าน ซึ่งต่อมา ได้รับการยกย่องให้เป็น

10 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

“บุพการีทหารอากาศ” จึงช่วยกันตั้ง “แผนกการบิน” ขึ้นอยู่ในบังคับบัญชาของ พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำ�แพงเพชร์ อัครโยธิน จเรช่างทหารบก โดยมีทตี่ งั้ อยูท่ สี่ นามบินชัว่ คราว สนามราชกรีฑาสโมสร ตำ�บล ปทุมวัน และจากนั้น ได้ย้ายมา ณ สนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ ซึ่งนับเป็นวันแรกใน ประวัติศาสตร์การบินของประเทศไทยที่มีเครื่องบินทำ�การบินมาลงสนามบินดอนเมือง เมื่อนายทหารบุพการี กองทัพอากาศทั้งสามท่าน ได้ทำ�การนำ�เครื่องบินสามเครื่อง มาลงที่ดอนเมือง โดย นายร้อยเอก ทิพย์ เกตุทัต นำ�เครื่องบินนิเออปอร์ต มาลงเป็นเครื่องแรก ถือเป็นการเปิดสนามบินดอนเมืองเป็นปฐมฤกษ์ และกิจการด้าน การบินของไทยก็ได้พัฒนาก้าวหน้าจนเป็น “กองทัพอากาศ” ในปัจจุบัน

เรื่องราวของ “๑๐๐ ปี การบินของบุพการี” ในโอกาสสำ�คัญที่ปี ๒๕๕๕ ครบรอบ ๑๐๐ ปี นั้น ผู้เขียน คงจะนำ�เสนอเรื่องราว อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของยุคที่ บุพการีทั้งสามท่านยังคงอยู่ในตำ�แหน่ง จนถึงปี ๒๔๗๖ ซึ่งเป็นการก่อตั้งและพัฒนาความเจริญก้าวหน้าด้านต่าง ๆ แต่ก่อนจะกลับไปถึงจุดนั้น ผู้เขียน ขออนุญาต กลับมานำ�เสนอประวัติของบุพการี ทั้งสามท่าน โดยย่อก่อน

พลอากาศโทพระยาเฉลิมอากาศ (สุนี สุวรรณ ประทีป) เกิดเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ.๒๔๓๐ ที่ตำ�บล บ้านไร่ อำ�เภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรของ หลวงอนุกลู ราชกิจ (ทอง สุวรรณประทีป) กับ นางอนุกลู ราชกิจ (หรุน่ สุวรรณประทีป) เข้าเรียนชัน้ ต้นทีโ่ รงเรียนวัดจักรวรรดิ ราชาวาส และโรงเรียนวัดมหาพฤฒาราม เริม่ เรียนภาษาอังกฤษ ทีโ่ รงเรียนสวนกุหลาบ จากนัน้ จึงเข้าโรงเรียนนายร้อยทหารบก เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๖ - พ.ศ.๒๔๔๘ กระทั่งจบออกมารับราชการ เป็นนายทหาร จนได้รับแต่งตั้งเป็น นายพันตรี หลวงศักดิ์ ศัลยาวุธ ดำ�รงตำ�แหน่งผู้บังคับกองพันพิเศษ กองพลที่ ๕ ได้รับการคัดเลือกให้ไปเรียนวิชาการบินในประเทศ ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๕๔

นายพันตรี หลวงศักดิศ์ ลั ยาวุธ เข้าเรียนทีโ่ รงเรียนการบิน วิลลาคูเบลย์ โดยฝึกกับเครือ่ งบินแบบเบรเกต์ ปีกสองชั้น จนสำ�เร็จวิชาการบินตามหลักสูตรสโมสรการบินของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๕ ได้บัตร นักบินหมายเลข ๑๐๙๐ จากนั้น ได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนการบินชั้นสูงของกองทัพบกฝรั่งเศส ขณะศึกษา การบินนั้น เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๕๖ นายพันโท หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ สอบการบินรูปทรงสามเหลี่ยม ในระยะทาง ๓๐๐ กิโลเมตร และการบินเพดานบินสูงในคราวเดียวกัน แต่ขณะทำ�การบินเครื่องยนต์เกิดขัดข้อง เนื่องจากก้านสูบขาด จำ�ต้องลงโดยความจำ�เป็น และเมื่อแก้ไขแล้วจึงได้วิ่งขึ้นไปใหม่ แต่ยังไม่ทันได้ระยะสูง ก็ต้องเลี้ยวหลบยอดไม้ เครื่องเสียการทรงตัวจึงแฉลบตกลงมาชำ�รุด นายพันโทหลวงศักดิ์ศัลยาวุธ ปลอดภัย การสอบจึงเลือ่ นออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม นายพันโท หลวงศักดิศ์ ลั ยาวุธ ก็ส�ำ เร็จการศึกษาการบินตามหลักสูตร ของกองทัพบกฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๖ และได้รับประกาศนียบัตรนักบินรบซึ่งเป็นชั้นสูงสุด ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๔๕๖

กลับถึงประเทศไทยในวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๕๖ ได้เข้ารับราชการใน กรมจเรทหารช่าง โดย

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 11

รับผิดชอบด้านการบิน ณ สนามม้าสระปทุม (ราชกรีฑาสโมสร)

พ.ศ.๒๔๕๗ กระทรวงกลาโหมจัดตั้งกองบินทหารบก มี นายพันโทพระเฉลิมอากาศเป็นผู้บังคับการ ท่านแรก

วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐ ประเทศไทยประกาศเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ ๑ ท่านได้เป็น ผูบ้ งั คับการกองทหารอาสานำ�กำ�ลังพล ๑,๒๕๐ นาย ตามคำ�สัง่ วันที่ ๑๙ มิถนุ ายน พ.ศ.๒๔๖๑ เดินทางไปราชการ สงครามในยุโรป ที่ประเทศฝรั่งเศส จนสิ้นสงครามด้วยชัยชนะร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร ได้รับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์ รามาธิบดีชั้นที่ ๓ กลับถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ.๒๔๖๒ และ ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลาในวันเดียวกัน

๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เป็นเจ้ากรมอากาศยานทหารบกท่านแรก

๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๓ ได้รับพระราชทานเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาเฉลิมอากาศ” ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๓ ได้รับพระราชทานยศเป็น “พลอากาศโท”

นาวาอากาศเอก พระยาเวหาสยานศิลปสิทธิ์ (หลง สินศุข) เกิดเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๓๐ ณ บ้านหน้าวัง บูรพาภิรมย์ กรุงเทพฯ เป็นบุตรของพระยาภาณุพันธุวรเดช (แย้ม) และคุณหญิงภาณุพันธ์ (เพียน) เริ่มเข้ารับการศึกษาที่ โรงเรียนอัสสัมชัญ และศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยทหารบก เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๕ จบหลักสูตรเป็นนายร้อยตรีเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๙ รับราชการจนได้รับการแต่งตั้งเป็น นายร้อยเอก หลวงอาวุธ สิขิกร รั้งตำ�แหน่งผู้บังคับกองพันพิเศษ กองพลที่ ๕ ก่อนได้ รับคัดเลือกไปศึกษาการบินที่ประเทศฝรั่งเศส นายร้อยเอก หลวงอาวุธ สิขิกร เริ่มฝึกบินด้วยเครื่องบินแบบ นิเออปอร์ต ปีกชั้นเดียว ณ โรงเรียนการบินที่ มูร์ เมอะลอง เลอะกรังด์ ครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๕ ในระหว่างการฝึกบินของ นายพันตรีหลวงอาวุธสิขิกรที่ประเทศฝรั่งเศส ปรากฏว่าเครื่องบินได้แฉลบตกลงใน ระยะสูงประมาณ ๑๕ เมตร นายพันตรีหลวงอาวุธสิขิกร ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วกลางมือขวาถูกหลอดแก้วสำ�หรับ ตรวจน้�ำ มันบาดขาดไปถึงโคนเล็บ ต้องพักรักษาตัวอยูห่ ลายวัน ก่อนย้ายไปเรียนทีว่ ลิ ลาคูเบลย์ สำ�เร็จวิชาการบิน ตามหลักสูตรของสโมสรการบินฝรั่งเศสเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๖ ได้ประกาศนียบัตรเป็นนักบินฝรั่งเศส หมายเลขนักบิน ๑๓๘๕ อีกทั้งได้เรียนรู้การซ่อมเครื่องบินด้วย

กลับถึงประเทศไทยในวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๕๖ และเข้ารับราชการในกรมจเรทหารช่าง โดย รับผิดชอบด้านการบิน ณ สนามม้าสระปทุม (ราชกรีฑาสโมสร)

พ.ศ.๒๔๕๗ กระทรวงกลาโหมจัดตั้งเป็นกองบินทหารบก โดยมีนายพันโท พระเฉลิมอากาศ เป็น ผู้บังคับการกองบิน พร้อมด้วย นายพันตรีหลวงอาวุธสิขิกร และ นายร้อยเอกหลวงทะยานพิฆาต เป็น ผู้ช่วยผู้บังคับการ ช่วยกันย้ายเครื่องบินจากสนามม้าสระปทุม (ราชกรีฑาสโมสร) เข้าสถานที่ตั้งใหม่ ณ ตำ�บล ดอนเมือง ในวันที่ ๘ มีนาคม

๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๔๖๑ ดำ�รงตำ�แหน่งผู้อำ�นวยการโรงงานของกรมอากาศยานทหารบกเป็นท่านแรก

12 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๗ เป็นนายพันเอกพระยาเวหาสยานศิลปสิทธิ์ และต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๕ รับตำ�แหน่ง เจ้ากรมอากาศยาน ต่อจาก นายพลตรีพระยาเฉลิมอากาศ เนื่องจากหลังเปลี่ยนแปลง การปกครอง ๒๔๗๕ มีการยกเลิกชั้นยศนายพลของกองทัพบก

๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๑ ได้รับพระราชทานยศและบรรดาศักดิ์เป็น “นาวาอากาศเอกพระยา เวหาสยานศิลปะสิทธิ์” เครื่องราชอิสริยาภรณ์รามาธิบดี ชั้นที่ ๓

นาวาอากาศเอก พระยาทะยานพิฆาต (ทิพย์ เกตุทัต) เกิดเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๓๑ ณ บ้านในคลองบางกอกใหญ่ ตึกหน้าวัดหงษาราม กรุงเทพฯ เป็นบุตรของพระยาเวียงในนฤบาล (เจ็ก) และ คุณหญิงเวียงในนฤบาล(แก้ว) เริม่ เข้ารับการศึกษาทีโ่ รงเรียนอัสสัมชัญ และศึกษาต่อทีโ่ รงเรียนนายร้อยทหารบก เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๖ และเป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้รับคัดเลือกให้ไปศึกษา การบินทีป่ ระเทศฝรัง่ เศส โดยขณะนัน้ มียศเป็น นายร้อยโททิพย์ เกตุทัต

นายร้อยโททิพย์ เกตุทัต เริ่มฝึกบินด้วยเครื่องบิน นิเออปอร์ต ณ โรงเรียนการบินที่มูร์ เมอะลอง เลอะกรังด์ กับ นายร้อยเอก หลวงอาวุธสิขิกร ระหว่างฝึกบิน นายร้อยโททิพย์ เกตุทตั ได้ประสบอุบตั เิ หตุเครือ่ งบินชนกันกลางอากาศกับเครือ่ งบิน ของมองซิเออโคลาโด โดยมี มองซิเออแยกแดลคาเซ เป็นผูโ้ ดยสาร ในระยะสูง ๓๑ เมตร เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๕๕ จนได้ รับบาดเจ็บสาหัส ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ณ เมืองแวร์ซายล์ เป็นเวลา ๓ เดือนเศษ โดยมีแผลที่ดั้งจมูก ๑ แห่ง หน้าผากสองแห่ง ที่หน้าใต้ตาข้างซ้าย ๑ แห่ง ใต้คาง ๑ แห่ง กระดูกตรงข้อมือซ้ายหัก ๑ ท่อน พักรักษาตัว และออกจากโรงพยาบาลในวันที่ ๒๙ เดือนเดียวกันเป็นเวลาถึง ๓ เดือนเศษ แต่ในที่สุดก็ฝึกสำ�เร็จวิชาการบิน เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ.๒๔๕๖ ได้รับบัตรนักบินฝรั่งเศสหมายเลข ๑๓๒๔

กลับถึงประเทศไทยในวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๕๖ และเข้ารับราชการใน กรมจเรทหารช่าง โดย รับผิดชอบด้านการบิน ณ สนามม้าสระปทุม (ราชกรีฑาสโมสร)

พ.ศ.๒๔๕๗ เป็นผู้ช่วยผู้บังคับการกองบินทหารบก ร่วมกับนายพันตรี หลวงอาวุธสิขิกร

๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๕๘ ได้รบั การยกย่องในประกาศกระทรวงกลาโหม จากงานประดิษฐ์ “หีบเครือ่ ง เขียนใบแจ้งเหตุแบบเกตุทัต พ.ศ.๒๔๕๘” สำ�หรับส่งข่าวจากเครื่องบินได้สำ�เร็จ

๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เป็นผู้บังคับการกองบิน กรมอากาศยานทหารบก ยศนายพันตรี และเป็น ผู้บังคับการกองบินทหารบก กองทหารอาสา ในคราวไปราชการสงครามโลกครั้งที่ ๑ ที่ประเทศฝรั่งเศส

๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๖ เป็นปลัดกรมอากาศยาน

๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๒ เป็นผู้อำ�นวยการกองโรงงานอากาศยาน อัตรานายพันเอก

๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๙ ได้รับพระราชทานยศและบรรดาศักดิ์เป็น “นายนาวาอากาศเอก พระยา ทะยานพิฆาต”

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 13

การเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน (Radical Change) ของกองทัพอากาศ โดยนำ�เอาเทคโนโลยีสมัยใหม (New Technology) เขามาสนธิกับองคกรและกำ�ลังพล (A Radical Change in the Organization and Employment of Military Force Mode Possible or Even Necessary by New Military Technology) เพื่อใหกองทัพมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและเปนไปตามวิสัยทัศน “กองทัพอากาศชั้นนำ�ในภูมิภาค(One of the Best Air Forces in ASEAN)” อีกทั้งเพื่อใหกองทัพอากาศดำ�เนินตามยุทธศาสตรระยะที่หนึ่ง (๒๕๕๑-๒๕๕๔) คือ “กองทัพอากาศดิจติ อลหรือ Digital Air Force” ตลอดจนใหเปนไปตามยุทธศาสตรที่ ๒ เสริมสรางสมรรถนะ และความพรอมในการปองกันประเทศ จนสามารถตอตานกับภัยคุกคามตางๆ ที่กำ�ลังเปลี่ยนแปลงไปได ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอยางยิ่งภัยคุกคามที่เรียกวา Asymmetrical Threats หรือภัยคุกคามที่เกิดจากการ เลือกใชประโยชนจากความแตกตางของทั้งสองฝาย โดยคนหาความไดเปรียบทั้งหมดจากจุดออนและจุดแข็ง ของฝายตรงขามมาใชประโยชนตอฝายตนเองใหไดมากที่สุด คือ พยายามหลีกเลี่ยงการกระทำ�ตอจุดแข็งของ ฝายตรงกันขาม ปจจุบันภัยคุกคามดังกลาวประกอบดวยภัยคุกคามจากการกอการราย(Terrorism) ภัยคุกคาม ทาง Cyber War ภัยคุกคามจากอาชญากรรมขามชาติ (Transnational Organization Crime) ภัยคุกคามจาก การแพรกระจายอาวุธนิวเคลียร (Proliferation of Nuclear Weapon) อาวุธเคมี (Chemical Weapon) และ อาวุธชีวภาพ (Biological Weapon) ไปจนกระทัง่ การเผยแพรข ปี นาวุธ (Ballistic Missile) จากภัยคุกคามตา งๆ ที่ไดเปลี่ยนรูปแบบใหมใหปรากฏเดนชัดขึ้นนั้น กองทัพอากาศมีความจำ�เปนตองปรับกระบวนทัศนและพัฒนา องคกรใหมใหสอดรับกับหลักนิยมพื้นฐานกำ�ลังทางอากาศโดยมุงพัฒนาปจจัยสำ�คัญอันเปนองคประกอบของ กระบวนการภายใน แลวทำ�การพัฒนาองคกรเหลานี้ใหมีประสิทธิภาพสูงพรอมที่จะรับกับภัยรูปแบบใหม

14 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ดังกลาว มิติหนึ่งที่มาพรอมกับเทคโนโลยีสมัยใหมและกองทัพอากาศใหความสำ�คัญที่จะใชประโยชนจากมิตินี้ เพื่อความมั่นคงของประเทศดวย คือ “มิติดานกิจการอวกาศ”

กิจการอวกาศ...องค์ประกอบใหม่ในยุคสงครามข่าวสาร

กิจการอวกาศ เปนองคประกอบหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่นำ�เทคโนโลยีสมัยใหมขั้นสูงมาใชในชวง ของยุคสงครามขาวสาร จะเห็นไดวาในอดีตที่ผานมาการเปลี่ยนผานของยุคตางๆ นั้น ไมไดเกิดขึ้นอยางทันที ทันใดแตอยูในทามกลางการเปลี่ยนแปลงที่สำ�คัญทางประวัติศาสตรดวย เริ่มตั้งแตยุคเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (Industrial Economic) ไปจนถึงยุคเศรษฐกิจขอมูลขาวสาร (Information Economy) หากมองยอนหลังไป จะเห็นวาการเกษตรกรรม (Agriculture) เปนหนทางยิ่งใหญที่ผูคนใชสรางคุณคาใหกับสังคม และเมื่อสามรอยปี ที่ผานมาเกิดการเปลี่ยนผานที่ยิ่งใหญกวาโดยอุตสาหกรรมเขามาแทนที่เกษตรกรรมและกลายเปนหนทางที่ดี ทีส่ ดุ ในการสรางคุณคาใหกบั สังคม และแลวการเปลีย่ นแปลงทำ�นองเดียวกันนีก้ เ็ กิดขึน้ อีกครัง้ จากอุตสาหกรรม การผลิตมาเปนการสรางสรรคความคิดและบริการที่เรียกวา “ยุคเศรษฐกิจขอมูลขาวสาร” ในยุคนี้การสราง ผลิตภัณฑที่เปนนามธรรม(Intangible Products) และขอมูลขาวสาร(Information) ทำ�ใหกิจกรรมที่เกี่ยวของ โตอยา งรวดเร็ว ในทำ�นองเดียวกันผลิตภัณฑทจี่ บั ตองไมไดและขอมูลขาวสารนีส้ ามารถใหความมัน่ คงปลอดภัยที่ ดีกวา ไดด ว ยเชน กัน ขอ มูลจากอวกาศสรา งความโปรง ใสมากขึน้ ในระหวา งกลุม ประเทศตา งๆ ในเรือ่ งทีเ่ กีย่ วขอ ง กับโปรแกรมพัฒนาอาวุธและกองกำ�ลังทหาร ถึงแมว า ประเทศเปา หมายหรือประเทศคูแ ขง เลือกทีจ่ ะไมใ หค วาม รวมมือก็ตาม เราทุกคนทราบกันดีวา หากกองกำ�ลังของสองประเทศทีม่ ยี ทุ โธปกรณแ ละขนาดเทา เทียมกันเขา สูร บกัน ประเทศที่เขาถึงขอมูลขาวสารที่ดีกวาและรวดเร็วยอมไดเปรียบ ยิ่งถาสามารถใชความไดเปรียบของเทคโนโลยี

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 15

ดานการสื่อสาร การประมวลผลและการแลกเปลี่ยนขอมูลขาวสาร ยอมสามารถปฏิบัติการทางยุทธการดวย ความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเหนือกวาฝายตรงขาม

กิจการอวกาศทำ�ใหเกิดการเปลี่ยนแปลงของสงครามดวยหรือไม?

นักการทหารมองวาการเปลี่ยนผานในเรื่องการสงครามจากยุคตางๆ จนกระทั่งถึงยุคขอมูลขาวสารนี้ ทำ�ใหเ กิดการเปลีย่ นแปลงธรรมชาติของการขัดแยงเชนกัน การเปลีย่ นแปลงครัง้ นีส้ รางนัยสำ�คัญทีล่ กึ ซึง้ สำ�หรับ งานดานความมั่นคงของประเทศและอวกาศ แกนกลางของแนวคิดเรื่องความมั่นคงนั้นยืนอยูบนความสามารถ ในการใชประโยชนจากขาวสาร (หมายรวมถึง ขอมูล เนื้อหาสาระจากสติปญญา เทคโนโลยีที่จับตองไมได) การใชประโยชนของขาวสารและการสงขาวสาร กำ�ลังเปลี่ยนแปลงสังคมและกิจกรรมทางสังคม เศรษฐกิจ ซึ่ง การสะสม การเปลีย่ นแปลงและการใชป ระโยชนจ ากขา วสารจะสามารถสรา งความแข็งแกรง ใหก บั ประเทศนัน้ ๆ ในการปองกันภัยคุกคามใดๆตอความมั่นคง ความขัดแยงในอนาคตจะไปสรางความตองการที่จะพยายามมี เครื่องมือหรือยานตรวจจับสัญญาณจากอวกาศเพื่อการเฝาระวัง (Persistent Surveillance) การขาวและการ ลาดตระเวนตามเวลาจริง (Real Time Reconnaissance) ตอผลประโยชนของชาติ

กิจการดานการขาวเกิดการเปลี่ยนแปลงอันเปนผลมาจากอวกาศเชนกัน ผลกระทบหลักก็คือการสะสม ของขอมูลปริมาณขอมูลขาวสารที่ไหลไปสูผูที่ตัดสินใจในกิจการเพื่อความมั่นคงของประเทศจะมีปริมาณที่ มากขึ้นดวยตนทุนราคาต่ำ�จากการใชดาวเทียม การแพรกระจายของเทคโนโลยีอวกาศและความสามารถเดินทาง ไปในอวกาศเกิดขึน้ ในหลายประเทศ นัน่ หมายความวา การสะสมขา วสารเพือ่ การขา วจากอวกาศไมไ ดเ กิดเฉพาะ ประเทศมหาอำ�นาจอีกตอไป มีการขยายตัวอยางมากของโครงการดาวเทียมตางๆ อยางมากมาย แนวคิด ดังกลาวนี้ทำ�ใหตองทบทวนประเด็นของการที่จะตองทำ�ใหมีขอมูลขาวสารที่เหนือกวา การมีขอมูลขาวสารที่ เหนือกวาเกิดขึ้นไดดวยการบูรณาการทรัพยสินและบริการอวกาศเขาไปในการวางแผนและปฏิบัติการ รวมกับ การหาขาวดวยวิธีการตางๆ ทำ�ใหเกิดความจำ�เปนตองทบทวนกันใหมถึงแนวความคิดเรื่องของการจัดรูปแบบ องคกร(Organization) ยุทธศาสตร (Strategy) และยุทธวิธี (Tactics) หลายประเทศในโลกตระหนักดีถึง คุณคาของกิจการอวกาศเพื่อความมั่นคงของประเทศและพยายามใชจายเงินเพื่อโครงการอวกาศในดานความ มั่นคงปลอดภัยและเพื่อการมีอิทธิพลที่เหนือกวา

การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีทำ�ให้เกิด Platform ใหม่ และนำ�มาใช้ด้านกิจการอวกาศ

พัฒนาการดานเทคโนโลยีอวกาศสรางใหเกิดโอกาสใหมๆ เพื่อความไดเปรียบดานความมั่นคง ระบบ อวกาศเพือ่ ความมัน่ คงของประเทศไมไ ดจ �ำ กัดอยูเ พียงการสรางและใชงานดาวเทียมราคาแพงทีม่ ขี นาดใหญเพียง อยางเดียว ปจจุบนั นีเ้ ราสามารถใชประโยชนจากความไดเปรียบของเทคโนโลยีใหมๆ ในเรือ่ งของระบบตรวจจับ (Sensors) ดาวเทียมเสมือน (Pseudo Satellites) และเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology: IT) ระบบอวกาศจะมีอำ�นาจที่เขมแข็งจะตองบูรณาการรวมกับการกำ�หนดนโยบายและการปฏิบัติการทางทหาร ดวยเครื่องตรวจจับ(Sensors) ที่มีขนาดเล็ก รวมกับ Platform ชนิดใหมหรืออากาศยานไรนักบิน หรือ UAV ที่มี Software ควบคุมอัตโนมัติจะเปนตัวทำ�ใหการปฏิบัติการอวกาศเปลี่ยนรูปแบบไปและกาวกระโดดล้ำ�หนา ประเทศคูแขง

อากาศยานไรนักบิน(UAV : Unmanned Aerial Vehicle) สามารถใหประโยชนไดเชนเดียวกันกับ ประโยชนที่ไดจากอวกาศ UAV รุนใหมในปจจุบันสามารถที่จะปฏิบัติภารกิจไดเหมือนดาวเทียมเพราะสามารถ บรรทุกชุดสือ่ สารหรือระบบตรวจจับทีส่ นับสนุนระบบ Down Link ใหดาวเทียมในพืน้ ทีเ่ ฉพาะได ความสามารถ ที่เพิ่มขึ้นในการจัดการและวิเคราะหขอมูลที่รวบรวมจากอวกาศเปนการเปลี่ยนแปลงที่สำ�คัญอีกประการหนึ่ง สวนการปรับปรุง Software เพื่อการวิเคราะหในการประเมินผลทำ�ใหขอมูลจากอวกาศเกิดคุณคาขึ้นมาก และ ทำ�ใหนักวิเคราะหสามารถบูรณาการรวมกับขอมูลที่ไดจากแหลงตางๆ ไดดีขึ้น

การจัดองคกรอวกาศกับการพัฒนาหลักนิยมและสถาปตยกรรมอวกาศทหาร

การมาถึงกิจการอวกาศทางทหารอาจจะบงบอกถึงการไมมีความจำ�เปนที่จะตองสรางหรือดำ�เนินการ ระบบดาวเทียมเปนของตนเองเพื่อการใหไดมาซึ่งความไดเปรียบทางดานอวกาศ แตอยางไรก็ตาม เพียงแคการ เปนเจาของหรือเปนผูดำ�เนินการดาวเทียมไมเปนการเพียงพอสำ�หรับการใหไดมาซึ่งความไดเปรียบทางทหาร เพือ่ ใหไ ดม าซึง่ ผลประโยชนจากอวกาศอยางเต็มที่ จำ�เปนทีจ่ ะตองมีการปรับปรุงหลักนิยมและยุทธวิธ(ี Doctrine and Tactics) การเพิ่มประสิทธิภาพบุคลากรและประสิทธิภาพการสื่อสารจำ�เปนตองพัฒนาจากระบบพื้นฐาน สนับสนุน (Support Infrastructures) ดาวเทียมเพื่อใหบรรลุวัตถุประสงคทางทหาร

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 17

หลักนิยม(Doctrine) หลักนิยมตางๆ ตองไดรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อใหไดประโยชนจากกิจกรรมดาน อวกาศอยางเต็มที่ ในหลายๆประเทศสวนใหญไมไดนำ�อวกาศเขามารวมกับหลักนิยมทางทหาร สหรัฐอเมริกา เปนประเทศที่กาวหนาที่สุดในการนำ�อวกาศเขามารวมในวิธีการที่ใชจัดการกับการปฏิบัติการทางทหาร ถือวา การเปลีย่ นแปลงหลักนิยมเปน เหตุผลหนึง่ ของความไดเ ปรียบทางทหารของสหรัฐฯตอ การสงครามดัง้ เดิม โดยดู ไดจากมีการดำ�เนินการจัดองคกรของกองกำ�ลังทางทหารใหม(Reorganization) เพื่อใหอวกาศและบริการดาน อวกาศรวมเขากับการปฏิบัติการทางทหารอยางเต็มที่ ประโยชนนี้เกิดขึ้นไดจริง ซึ่งกองทัพอากาศไทย(ทอ.) จำ�เปน ตอ งมีการเปลีย่ นแปลงหลักนิยมอยางกวางขวางไมวา จะเปนการนำ�เทคโนโลยีใหมๆมาใชเตรียมการปฏิบตั ิ การยุทธการ (Mission Planning)หรือขณะปฏิบัติการยุทธการ (Operations) จนกระทั่งถึงการประเมินผล ปฏิบัติการยุทธการ (Operational Net Assessment) โดยใชระบบภูมิสารสนเทศ(Geographic Information System : GIS) ที่ทำ�งานเปนลักษณะสามมิติ (Three Dimensions : 3D) เพราะการบูรณาการของสัญญาณ ขาวสาร (ทุกมิติไมวาจะเปนดานการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยาและวิทยาศาสตรเทคโนโลยี) ที่ไดจากอวกาศกับภาพถายเปนงานที่สลับซับซอน จำ�นวนเจาหนาที่ปฏิบัติงานตองมีมากพอ สมรรถนะ ของการสื่อสารตองสูงขึ้น รวมถึง Software เพื่อการวิเคราะหภาพถายก็ตองมีความสามารถที่มากขึ้นในการ วิเคราะหข อ มูลอวกาศรวมกับขอมูลจากแหลงอืน่ ๆ ซึง่ พอจะสรุปไดวา การใชประโยชนทซี่ บั ซอนของการบริการ ดาวเทียมใหไดนนั้ มีความจำ�เปน ทีจ่ ะตอ งพัฒนาระบบพืน้ ฐานเพือ่ การสนับสนุนนักวิเคราะหข อ มูล ตลอดไปจน กระทั่งเจาหนาที่ปฏิบัติการเกี่ยวกับงานเพื่อความมั่นคง (Security Functions) จำ�เปนตองไดรับการจัดองคกร ใหมดวย

สถาปตยกรรมอวกาศเปนองคประกอบสุดทายสำ�หรับหลักนิยมและการจัดองคกรใหมของระบบ อวกาศเพื่อความมั่นคงของประเทศ ที่จำ�เปนตองกลาวถึงและทอดทิ้งเสียมิได เพราะสถาปตยกรรมอวกาศ ใชเปนเครื่องกำ�หนดโครงสราง อุปกรณเครื่องมือ วิธีการปฏิบัติงานและใชเปนแผนที่นำ�ทางในการลงทุนและ พัฒนาระบบอวกาศ สิง่ สำ�คัญทีส่ ดุ คือเปนตัวกำ�หนดฟสกิ สของปฏิบตั กิ ารในวงโคจรคือกำ�หนดรูปแบบของการ เคลือ่ นทีแ่ ละตำ�แหนงในวงโคจร สถาปตยกรรมอวกาศเปรียบเทียบไดก บั กรอบความคิดของคำ�สัง่ ยุทธการ (Air Tasking Order : ATO) ของกองทัพอากาศในดานยุทธการ สถาปตยกรรมที่สอดคลองกันยอมนำ�มาซึ่งความ ไดเ ปรียบทัง้ ในแงความสามารถในการดำ�เนินงานและตน ทุนแตก จ็ ะตอ งปฏิบตั ติ อ โครงการอวกาศอยา งเปน อิสระ และแยกการทำ�งานออกมาใหเห็นวาเปนมากกวาแคเพียงเปนสวนขยายของกิจกรรมภาคพื้นดิน ฉบับหน้าพบกับเรื่อง นวัตกรรมจากกองกิจการอวกาศ ศูนยวิจัยพัฒนาวิทยาศาสตรเทคโนโลยีการบินและอวกาศกองทัพอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

18 ข่าวทหารอากาศ

พร้อมหรือยัง?...

สงครามไซเบอร์

(Cyberwar : The need to prepare) น.อ.สรรสิริ สิริสันตคุปต์

sansiri_2@yahoo.com www.facebook.com/sansiri.s

บทความในฉบับที่แล้ว ผู้เขียนได้เขียนถึงการโจมตีบนโลกไซเบอร์ในเวลาที่ผ่านมา (Cyberattack) ที่มี ผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์และเครือข่ายของหน่วยงานทางทหารและหน่วยงานเอกชน จนทำ�ให้หลายหน่วยงาน ต้องออกมาร่วมมือ เพื่อต่อต้านการโจมตีบนโลกไซเบอร์ที่เกิดขึ้น ซึ่งถ้ามองกันให้ดีแล้ว จะเห็นว่าผลของการ โจมตีบนโลกไซเบอร์นั้นมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากการโจมตีบนโลกไซเบอร์นั้นนำ�ไปสู่การทำ�ลาย ความ เสียหาย หรือการล้มตาย ไปจนถึงจุดหนึ่งอาจนำ�ไปสู่การเกิดสงครามได้ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมในการทำ� สงครามไซเบอร์ (Cyberwar) ถือว่ามีความจำ�เป็น เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการ ถูกโจมตีบน โลกไซเบอร์ ตัวอย่างที่ดีอันหนึ่ง ดังเราจะเห็นได้จากการเตรียมความพร้อม ในอนาคตของ ทอ.สหรัฐฯ ที่ได้จัด ประชุมในหัวข้อ “อนาคตบนโลกไซเบอร์” (CyberFutures) เมื่อเดือน มี.ค.๕๔ ที่ผ่านมา โดยเชิญนายทหาร ระดับสูงของ ทอ.สหรัฐฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมพร้อมกับแสดงความคิดเห็นในภาพรวมว่าสหรัฐฯ จะ ต้องดำ�เนินการอะไรบ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำ�สงครามไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งถือเป็น

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 19

หนึ่งในภารกิจที่มีความเร่งด่วนของ ทอ.สหรัฐฯ ที่ต้องเตรียมความพร้อม ให้กับคอมพิวเตอร์และเครือข่ายทาง ทหาร รวมทั้งบุคลากรให้สามารถทำ�งานได้อย่างต่อเนื่องและเป็นปกติภายใต้การโจมตีที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งภารกิจ ดังกล่าวถือเป็นงานที่ยาก เนื่องจากมีบุคลากรจำ�นวนไม่มากนักที่เข้าใจหลักการและภาพรวมในการดำ�เนินงาน บนโลกไซเบอร์ที่มีมนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น (Man-Made) โดยบทความมีมุมมองและรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้ ความไม่พร้อมที่ผ่านมา

คุณ James Richberg ผู้ช่วยรองผู้อำ�นวยการข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ได้เป็นผู้ริเริ่มการรักษา ความปลอดภัยคอมพิวเตอร์และเครือข่ายแห่งชาติ (CNCI) ตั้งแต่ปี ค.ศ.2008 ในสมัยประธานาธิบดี George W. Bush โดยปัจจุบนั หน้าทีห่ ลักในการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์และเครือข่ายแห่งชาติคอื การรวบรวม นโยบายด้านการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์และเครือข่าย ตามคำ�แนะนำ�ของท่านประธานาธิบดีโอบาม่า อันประกอบด้วยการจัดตั้งหน่วยตอบโต้การโจมตี บนโลกไซเบอร์ และการสร้างความร่วมมือกับภาครัฐ และเอกชน ในการทำ�วิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่ ทันสมัยสำ�หรับตอบโต้เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น บนโลกไซเบอร์ ซึ่งคุณ James Richberg แสดง ความคิดเห็นว่า “ปัจจุบนั มีบคุ ลากรจำ�นวนไม่นอ้ ย ทีเ่ ข้าใจหลักการและปัญหาทีเ่ กิดขึน้ บนโลกไซเบอร์ แต่ในความเข้าใจยังขาดความสอดคล้องของความรู้ ทีจ่ ะนำ�มาเป็นแนวทางการแก้ปญ ั หาในภาพรวมบน โลกไซเบอร์ได้อย่างถูกต้อง เห็นได้จากโลกไซเบอร์ ทีม่ คี อมพิวเตอร์และเครือข่าย ซึง่ มนุษย์เป็นผูส้ ร้าง ขึน้ นัน้ มีการพัฒนาและเปลีย่ นแปลงอยูต่ ลอดเวลา คำ�ถามทีม่ กั ถูกถามเสมอในแวดวงคอมพิวเตอร์และ เครือข่ายของ ทอ.สหรัฐฯ ก็คอื ควรเป็นหน้าทีข่ องใคร ในการดูแลเครือข่ายและควรใช้วธิ ใี ดให้รอดพ้นจาก การถูกโจมตีบนโลกไซเบอร์ ซึง่ คำ�ถามนีย้ งั ไม่สามารถทีจ่ ะสรุปออกมาเป็นคำ�ตอบทีน่ �ำ มาใช้ในการดำ�เนินงานบน โลกไซเบอร์ได้” จากข้อมูลจะเห็นว่า การแก้ปญ ั หาบนโลกไซเบอร์ของหน่วยงานทางทหารและเอกชนทีผ่ า่ นมานัน้ เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (Whack-a-Mole) ด้วยการทุ่มงบประมาณจำ�นวนมาก เพื่อใช้แก้ไขข้อบกพร่องที่ เกิดขึน้ บนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึง่ ในแต่ละปีนนั้ ใช้งบประมาณมากกว่า ๒๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ผล ทีไ่ ด้รบั ยังไม่คมุ้ ค่าและไม่มปี ระสิทธิภาพเพียงพอ เห็นได้จากการโจมตีคอมพิวเตอร์และเครือข่ายทางทหารและ เอกชน ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงบประมาณที่ ทอ.สหรัฐฯ จะได้รับในปี ค.ศ.2012 สำ�หรับการแก้ปัญหา

20 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

บนโลกไซเบอร์เพียงอย่างเดียวเป็นเงิน ๔,๖๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเงินจำ�นวนนี้เท่ากับงบประมาณที่ใช้ซ่อม บำ�รุงเครื่องบินรบ F-35 Strike Fighter ซึ่งคุณ James Richberg ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า “นอกเหนือ จากความไม่พร้อมของบุคลากรแล้ว ในอีกสิ่งหนึ่งก็คือ มีความจำ�เป็นที่หน่วยงานทางทหาร ภาครัฐ และภาค เอกชน จะต้องใช้ตัวชี้วัด (Scorecard) เพื่อตรวจสอบความสำ�เร็จหรือล้มเหลวในการดำ�เนินงานบนโลกไซเบอร์ เช่น จำ�นวนของมัลแวร์ที่ถูกบล็อก (Malware Blocked) หรือร้อยละของการปฏิบัติตามการตรวจสอบ (Audit Compliance) แทนที่ผู้รับผิดชอบจะมีชีวิตอยู่กับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เข้ากันไม่ได้ หรือมีข้อบกพร่อง ทีไ่ ม่สามารถแก้ไขได้ (Zero Day) ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน จำ�เป็นต้องค้นหาประเภทของ ตัวชี้วัด เพื่อใช้ในการรับประกันประสิทธิภาพสำ�หรับการดำ�เนินงานบนโลกไซเบอร์ (Performance Warranty) เปรียบเทียบได้กับประสิทธิภาพที่คุณจะได้รับ เมื่อคุณตัดสินใจที่จะซื้อรถคันใหม่มาขับ” ความพร้อมในอนาคต

การเตรียมความพร้อมของสหรัฐฯ ในการทำ�สงครามบนโลกไซเบอร์ที่มีคอมพิวเตอร์และเครือข่ายนั้น (Cyberwar) ถือเป็นมิติใหม่ที่เกิดขึ้น นอกเหนือการเตรียมความพร้อมในการทำ�สงครามทางอากาศ บนบก ทางเรือ และห้วงอวกาศ ในแบบที่เคยทำ�มา ซึ่งผลที่ได้รับในการประชุม “อนาคตบนโลกไซเบอร์” มาจากการ แสดงความคิดเห็นของนายทหารระดับสูงของ ทอ.สหรัฐฯ และผู้เกี่ยวข้อง ข้อหนึ่งที่ถือว่าสำ�คัญกล่าวคือ “ทอ.สหรัฐฯ จะต้องจัดตั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความชำ�นาญ ในการทำ�งานบน โลกไซเบอร์” เหตุผลทีม่ าสนับสนุนคงจะเห็นได้ในช่วงปีทผี่ า่ นมา ทอ.สหรัฐฯ ได้ท�ำ การสแกนเครือข่ายทางทหาร

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 21

หลายพันครั้ง โดยผลจากการสแกนได้ตรวจพบ ๑๓๒ เหตุการณ์ที่น่าสงสัย (Suspicious Events) และยังตรวจ พบ ๑๐ มัลแวร์ที่ถูกบล็อก (Malware Blocked) ที่สำ�คัญพวกแฮกเกอร์ได้พยายามเข้าถึงเครือข่ายทางทหาร ด้วยวิธีที่ซับซ้อนและมีจำ�นวนที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการเข้าถึงเครือข่ายสามารถนำ�ไปใช้ประโยชน์ในภายหลัง เมือ่ มีความต้องการทีจ่ ะใช้ (Back Door) ในเวลาทีผ่ า่ นมา นายทหารระดับสูงหลายคนเห็นด้วยกับข้อบกพร่องที่ เกิดขึน้ บนโลกไซเบอร์ของ ทอ.สหรัฐฯ กล่าวคือบุคลากรจำ�นวนมากยังขาดความรูค้ วามเข้าใจในการดำ�เนินงานบน โลกไซเบอร์ ซึง่ ถือเป็นข้อบกพร่องของการสร้างความมัน่ คงและความเป็นปกติในการดำ�เนินงานบนโลกไซเบอร์ โดย พล.อ.ต.Ronnie D. Hawkins รองผู้อำ�นวยการสำ�นักงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ทอ.สหรัฐฯ (DISA) หนึ่งใน ผูร้ ว่ มประชุมฯ ได้แสดงความคิดเห็นว่า “ตราบใดทีย่ งั ไม่มกี ารฝึกอบรมอย่างจริงจังให้กบั บุคลากรในการดำ�เนินงาน บนโลกไซเบอร์ทมี่ คี อมพิวเตอร์และเครือข่าย ตราบนัน้ ข้อบกพร่องหรือช่องโหว่ยอ่ มเกิดขึน้ กับคอมพิวเตอร์และ เครือข่ายของ ทอ.สหรัฐฯ ดังนั้นการฝึกอบรมในการดำ�เนินงานบนโลกไซเบอร์ถือว่ามีความสำ�คัญในการเตรียม ความพร้อมสำ�หรับการทำ�สงครามไซเบอร์ เห็นควรทีจ่ ะเริม่ จากนายทหารระดับสูงลงไปสูบ่ คุ ลากรระดับล่างของ ทอ.สหรัฐฯ” ซึ่งในมุมมองสงครามไซเบอร์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ นั้น (DOD) ได้ให้ความสำ�คัญในการฝึก อบรมนักรบในมิติใหม่ที่เรียกว่า “นักรบไซเบอร์” (Cyber Warriors) ที่ได้กำ�หนดไว้ตามแผนต้องผ่านการฝึก อบรมให้มีความสามารถในการดำ�เนินงานบนโลกไซเบอร์ ทั้งทางด้านการโจมตีบนโลกไซเบอร์ (Cyberattack) และการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ (Cybersecurity) ไปพร้อมกัน โดยส่งบุคลากรที่เกี่ยวข้อง อาทิ บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์และเครือข่ายหรือบุคลากร ด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ไปฝึกอบรมในภาควิชาการ ที่หน่วยบัญชาการคอมพิวเตอร์และเครือข่าย (US Cyber Command) หลังจากจบภาควิชาการก็ส่งไป ฝึกงานที่สำ�นักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) หรือ สำ�นักงานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ (DISA) เมื่อจบจาก การฝึกงานถือว่าจบการฝึกอบรมฯ ผลบุคลากรเหล่านี้ จะได้รับความรู้ความเข้าใจในการดำ�เนินงานบนโลก ไซเบอร์ และพร้อมกลับไปทำ�งานด้วยความรูท้ ไี่ ด้รบั มา อย่างเต็มที่ คุณ Robert F. Brammer รองประธานฝ่าย เทคโนโลยีขนั้ สูง ของ Northrop Grumman หนึง่ ในผูร้ ว่ ม ประชุมฯ เห็นด้วยกับการฝึกอบรม “นักรบไซเบอร์” เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำ�สงครามไซเบอร์ กล่าวว่า “การสร้างนักรบไซเบอร์จะช่วยให้การรักษา ความปลอดภัยคอมพิวเตอร์และเครือข่ายของสหรัฐฯ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

22 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

คงต้องใช้งบประมาณจำ�นวนมากในการฝึกอบรม แต่เป็นสิง่ ทีค่ มุ้ ค่าเพราะการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายของสหรัฐฯ ถูกบรรจุอยูใ่ นวาระต้นๆ ของการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (National Security)” คุณ James Richberg (CNCI) หนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมฯ ได้แสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจว่า “การกำ�หนดสิ่งที่ ถือว่าเป็นระดับทีเ่ หมาะสมของการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ ไม่ได้เป็นงานทีง่ า่ ย เพราะสิง่ ทีถ่ อื ว่าเป็น ความปลอดภัยเพียงพอในบริบทหนึ่ง อาจจะไม่เป็นที่ยอมรับในอีกบริบทหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันมีหลายตัวชี้วัด เพื่อ วัดความสำ�เร็จในการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์และเครือข่าย อาทิ งบประมาณที่ใช้, ชิ้นส่วนของมัลแวร์ ทีถ่ กู บล็อก หรือร้อยละของการปฏิบตั ติ ามการตรวจสอบ แต่มไี ม่กตี่ วั ทีน่ �ำ มาใช้ในการวัดความสำ�เร็จฯ ได้จริง ซึง่ กุญแจสำ�คัญในการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์และเครือข่าย นอกเหนือจากการสร้างนักรบไซเบอร์แล้วคือ ต้องมีการพูดคุยกันอย่างเปิดเผยบนมาตรฐานและกรอบการทำ�งานร่วมกัน รวมทัง้ การนำ�รูปแบบการรักษาความ ปลอดภัยบนโลกไซเบอร์มาใช้ เพื่อผลักดันบทบาทและความรับผิดชอบของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องบนโลกไซเบอร์” ซึ่งคุณ James Richberg ได้นำ�เสนอรูปแบบหนึ่งของการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ ประกอบด้วยการ ตรวจสอบ (Detection), การป้องกัน (Defense), การยืดหยุ่น (Resilience) และการกู้คืน (Recovery) โดยกำ�หนดความหมาย การตรวจสอบ คือการวางแนวกิจกรรมบนโลกไซเบอร์ อะไรที่เป็นอันตรายจะตก อยู่ภายใต้การตรวจสอบ, กำ�หนดความหมาย การป้องกัน คือการให้ความคุ้มครองของทุกอย่างบนโลกไซเบอร์ ตัง้ แต่คอมพิวเตอร์ตงั้ โต๊ะไปจนถึงเครือข่ายขององค์กร, กำ�หนดความหมาย การยืดหยุน่ คือการยอมให้เกิดความ สูญเสีย (ถ้าถูกโจมตี) ไม่เกินขอบเขตที่ได้กำ�หนดไว้ และกำ�หนดความหมาย การกู้คืน คือความสามารถในการ กู้คืน เพื่อที่จะทำ�งานได้อย่างต่อเนื่องภายใต้การโจมตีที่เกิดขึ้น ในความคิดรูปแบบฯ ที่ประสบความสำ�เร็จ ควร เข้าใจได้โดยง่ายจากบุคลากรที่ปฏิบัติงานบนโลกไซเบอร์ ซึ่งในความเข้าใจทำ�ให้เกิดความสอดคล้องของความรู้ ที่จะนำ�มาเป็นแนวทางการแก้ปัญหาในภาพรวมบนโลกไซเบอร์ และช่วยให้สามารถอธิบายหรือแม้กระทั่งการ กำ�หนดบทบาท และความรับผิดชอบทีเ่ กีย่ วข้องของบุคลากร, องค์กร และหน่วยงานรัฐบาล ในการเตรียมความ พร้อมสำ�หรับการทำ�สงครามไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 23

 ข้อคิดที่ฝากไว้ 

จะเห็นว่า การเตรียมความพร้อมสำ�หรับการทำ�สงครามไซเบอร์ของ ทอ.สหรัฐฯ นั้น ใช้หลักการใน การเตรียมความพร้อมฯ ที่สำ�คัญ ๔ ประการ อันประกอบด้วย การยอมรับในข้อบกพร่องที่ผ่านมา, การกำ�หนด มาตรฐาน, การสร้างผู้เชี่ยวชาญ และการนำ�รูปแบบการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์มาใช้ (Common Model) เพื่อผลักดันบทบาทและความรับผิดชอบของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการดำ�เนินงานบนโลกไซเบอร์ จาก ข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญในการทำ�งานบนโลกไซเบอร์ คุณ James Richberg ผู้ช่วยรองผู้อำ�นวยการข่าวกรอง แห่งชาติสหรัฐฯ ที่ได้ริเริ่มการเตรียมความพร้อมฯ ให้กับ ทอ.สหรัฐฯ ในส่วนมุมมองของผู้เขียนนั้น จะเห็นด้วย กับหลักการในการเตรียมความพร้อมฯ ๔ ประการ ด้วยเหตุผลครอบคลุมส่วนต่างๆ ในการเตรียมความพร้อมฯ และที่สำ�คัญน่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีแบบหนี่ง ในการเตรียมความพร้อมสำ�หรับการทำ�สงครามไซเบอร์ให้กับ หน่วยงานต่างๆ ได้ในอนาคต…..

พฤษภาคม ๒๕๕๕

24 ข่าวทหารอากาศ

เฉลยปริศนาอักษรไขว้ มีน

มีรางวัล

ประจำ�เดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

รายชื่อผู้โชคดี จากการจับฉลาก จำ�นวน ๓ ท่าน ดังนี้

๑. น.ท.จิรยุทธ แช่มวงษ์ สตน.ทอ. โทร. ๒ - ๐๘๗๓

๒. น.ท.หญิง ชุติมา กุลวัฒน์ กบ.ทอ. โทร. ๒ - ๑๙๐๗

๓. ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ประภัสสรพงศ์ บน.๒ โทร. ๕ - ๐๑๑๐

กรุณาติดต่อรับรางวัลๆ ละ ๓๐๐ บาท จาก สำ�นักงานหนังสือข่าวทหารอากาศ อาคารหอสมุดกองทัพอากาศ ภายใน มิ.ย.๕๕ โทร. ๒ - ๔๒๔๑

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 25

เอฟ–5 อี/เอฟ “ไทเกอร์ II” เป็นเครื่องบินขับไล่ไอพ่นยุคที่ 3 ได้รับการพัฒนามาจากรุ่น เอฟ–5 เอ/บี “ฟรีดอม ไฟเตอร์” บริษัท Northrop เปิดสายการผลิตเมื่อปี ค.ศ.1972 และปิดสายการผลิตเมื่อปี ค.ศ.1987 โรงงานการผลิตของ Northrop ทำ�การสร้างเครื่องบินขับไล่ เอฟ–5 อี ที่นั่งเดี่ยว จำ�นวน 792 เครื่อง เอฟ–5 เอฟ สองที่นั่ง จำ�นวน 140 เครื่อง และเครื่องบิน อาร์เอฟ–5 อี สำ�หรับปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนทางอากาศ จำ�นวน 12 เครื่อง นอกจากนี้ยังมีบริษัทอุตสาหกรรมการบินในต่างประเทศได้สิทธิบัตรไปทำ�การสร้างเครื่องบินให้กับ กองทัพอากาศประเทศของตน ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ จำ�นวน 91 เครื่อง เกาหลีใต้ จำ�นวน 68 เครื่อง และ ไต้หวัน จำ�นวน 308 เครื่อง

ปัจจุบันเครื่องบิน เอฟ–5 อี/เอฟ ยังคงมีประจำ�การอยู่ในกองทัพอากาศมากกว่า 20 ประทศทั่วโลก ฝูงบิน ขับไล่ ไทเกอร์ II ซึง่ เป็นทีย่ อมรับว่ามีการปรับปรุงและพัฒนาให้มคี วามทันสมัยมากทีส่ ดุ เพือ่ เพิม่ ขีดความ สามารถทางการรบสูงสุด มีอยู่ 3 ประเทศ คือ เอฟ–5 เอส/ที กองทัพอากาศสิงคโปร์ เอฟ–5 อี/เอฟ ไทเกอร์ III พลัส กองทัพอากาศชิลี และ เอฟ–5 อีเอ็ม/เอฟเอ็ม ของกองทัพอากาศบราซิล เครื่องบินขับไล่ เอฟ–5 อี/เอฟ ของกองทัพอากาศ 3 ประเทศ ได้รับการออกแบบแผนงานปรับปรุงจากบริษัทของอิสราเอล โดยมีแผนงาน ที่สำ�คัญ คือ เปลี่ยนระบบเรดาร์ควบคุมการยิง AN/APQ –159 ของเดิม เป็นระบบเรดาร์แบบใหม่ที่ทันสมัย มีขีดความสามารถสูงขึ้น และมีโหมดการทำ�งานมากขึ้น โดยกองทัพอากาศสิงคโปร์และกองทัพอากาศบราซิล เลือกติดตั้งเรดาร์ FIAR Grifo–F จากอิตาลี แต่กองทัพอากาศชิลีเลือกระบบเรดาร์ EL/M–2032 ของอิสราเอล ซึ่งการติดตั้งเรดาร์ควบคุมการยิงที่ทันสมัยทำ�ให้เครื่องบินขับไล่ เอฟ–5 อี/เอฟ ที่ได้รับการปรับปรุงของกองทัพ อากาศ 3 ประเทศ มีขีดความสามารถในการสู้รบทางอากาศด้วยจรวดนำ�วิถีอากาศ–สู่–อากาศ พิสัยปานกลาง โดย เอฟ–5 เอส/ที สามารถใช้จรวดนำ�วิถี เอไอเอ็ม–120 แอมแรม (AIM-120 AMRAAM ; Advanced Medium

Range Air-Air Missile) สำ�หรับเอฟ–5 อี ไทเกอร์ III พลัส และ เอฟ–5 เอ็ม เลือกใช้จรวดนำ�วิถี ดาร์บี้ (Derby) จากบริษัทผู้ผลิตประเทศอิสราเอล สำ�หรับการรบอากาศ–สู่–อากาศ ระยะใกล้ เครื่องบิน เอฟ–5 อี/เอฟ ได้ เปลี่ยนจากจรวดนำ�วิถี เอไอเอ็ม–9 ไซด์ไวน์เดอร์ (AIM-9 Sidewinder) มาใช้ ไพธอน 3 (Python III) ไพธอน 4 (Python IV) และ ไพธอน 5 (Python V) จากบริษัทผู้ผลิตในอิสราเอลเช่นกัน พร้อมกับมีการจัดซื้อหมวกบิน แบบ DASH (Display And Sight Helmet) มาใช้ร่วมกับจรวดนำ�วิถีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการรบในระยะ ประชิด นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงและพัฒนาห้องนักบินให้ทันสมัย ลดภาระการปฏิบัติงานของนักบิน เพิ่ม ขีดความสามารถในการรับรู้สถานการณ์ให้กับนักบิน เพิ่มความอยู่รอดในการสู้รบ และเพิ่มขีดความสามารถ ในการปฏิบัติภารกิจร่วมผ่านทางระเบบเครือข่ายกับกองกำ�ลังอื่นๆ

เมือ่ เปรียบเทียบแผนงานปรับปรุง เครือ่ งบินขับไล่ เอฟ–5 อี/เอฟ ของกองทัพ อากาศทั้ง 3 ประเทศ แผนงานปรับปรุง ของกองทัพอากาศบราซิล (Força Aérea Brasileira-FAB) มีความน่าสนใจมากทีส่ ดุ เพราะทำ�ให้เครื่องบินขับไล่ยุคปี 70 มีขดี ความสามารถในการปฏิบัติภารกิจสูงขึ้น อย่างมาก และสามารถต่อสูก้ บั ภัยคุกคาม ในยุคปัจจุบันได้ กองทัพอากาศบราซิล จะยังคงประจำ�การ เอฟ–5 เอ็ม ต่อไปอีก ห้องนักบิน เอฟ-5 ไม่น้อยกว่า 15 ปี ในขณะที่ เอฟ–5 เอส/ที และ เอฟ–5 ไทเกอร์ III พลัส จะถูกปลดประจำ�การในอนาคตอันใกล้นี้ โดยในปี พ.ศ.2552 กองทัพอากาศชิลี จัดซื้อเครื่องบินขับไล่ เอฟ–16 เอ็มแอลยู จำ�นวน 16 เครื่อง จากกองทัพอากาศในยุโรป มาประจำ�การทดแทน เอฟ–5 อี/เอฟ ไทเกอร์ III พลัส สำ�หรับกองทัพอากาศสิงคโปร์มแี ผนจะจัดซือ้ เอฟ–35 เพือ่ นำ�มาทดแทน เอฟ–5 เอส/ที และกำ�หนดจะปลดประจำ�การ เอฟ–5 เอส/ที ประมาณปี พ.ศ.2559

เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2517 กองทัพอากาศบราซิลได้จัดหาเครื่องบินขับไล่ เอฟ–5 อี จำ�นวน 36 เครื่อง และ เอฟ–5 บี แบบสองที่นั่ง จำ�นวน 6 เครื่อง จากบริษัทผู้ผลิต Northrop โดยใช้งบประมาณ 72 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ในปี พ.ศ.2531 ได้จัดซื้อเครื่องบิน เอฟ–5 อี 22 เครื่อง และ เอฟ–5 เอฟ จำ�นวน 4 เครื่อง จาก ฝูงบิน “ข้าศึกสมมติ (Aggressor)” กองทัพอากาศสหรัฐฯ เข้าประจำ�การเพิ่มเติม และปลดประจำ�การเครื่องบิน ขับไล่ เอฟ–5 บี 5 เครื่อง ในปี พ.ศ.2533

ในปี พ.ศ.2544 บริษัท Elbit Systems ประเทศอิสราเอล และบริษัท Embraer ประเทศบราซิล เริ่มงานโครงการปรับปรุงเครื่องบินขับไล่ เอฟ–5 อี/เอฟ จำ�นวน 46 เครื่อง ของกองทัพอากาศบราซิล ตาม สัญญาจ้างมูลค่า 230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้ระยะเวลาดำ�เนินการ 8 ปี และเปลี่ยนชื่อเครื่องบินที่ผ่านการ

ปรับปรุงแล้วเป็น เอฟ–อีเอ็ม สำ�หรับแบบที่นั่งเดี่ยว และ เอฟ–5 เอฟเอ็ม สำ�หรับเครื่องบินรุ่นสองที่นั่ง (M = Modernization) บ.เอฟ-5 อี ทอ.ชิลี

แผนงานปรับปรุงเครื่องบินขับไล่ เอฟ–5 อี/เอฟ ของกองทัพอากาศบราซิลใช้เทคโนโลยีระบบสื่อสาร อิเล็กทรอนิกส์เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4 โดยแผนงานที่สำ�คัญ ได้แก่

• ติดตั้งเรดาร์ FIAR WEAVE Grifo–F แทนระบบเรดาร์เก่า ระบบเรดาร์แบบใหม่มีโหมดการทำ�งานทั้ง อากาศ–สู–่ อากาศ (air–to-air) อากาศ–สู–่ พืน้ (air–to-ground) และต่อต้านเรือผิวน้� ำ (anti–ship) ระบบเรดาร์ สามารถต้านทานการดำ�เนินมาตรการทางสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ทัง้ การปิดกัน้ สัญญาณด้วยกลไก (mechanical blockages) หรือการลวง (deception)

• ปรับปรุงห้องนักบินให้ทันสมัย เป็นระบบ Glass Cockpit โดยการติดตั้งจอภาพ multifunctional color monitor จำ�นวน 3 จอ เพื่อแสดงข้อมูลทางยุทธวิธี และการทำ�งานของอุปกรณ์ต่างๆ บนจอภาพแทน เครื่องวัดประกอบการระบบอนาลอคแบบเก่า

• ติดตั้งระบบเก้าอี้นักบิน Martin Baker MK 10LF เป็นเก้าอี้สละอากาศยานแบบ jetisonable zero – zero นักบินสามารถสละเครื่องบินเมื่อมีเหตุจำ�เป็น แม้เครื่องบินจอดอยู่ที่พื้น

• ติดตั้งจอภาพตรงหน้านักบิน (Head Up Display : HUD) ติดตั้งอยู่ในระดับสายตานักบินเพื่อแสดง ข้อมูลที่สำ�คัญๆ ทำ�ให้นักบินไม่จำ�เป็นต้องก้มลงมองหาข้อมูลในจอภาพ

• หมวกบิน DASH ของบริษัท Elbit สำ�หรับนักบิน ซึ่งจะแสดงแนวเล็งสำ�หรับใช้อาวุธและข้อมูลทาง ยุทธวิธี นักบินสามารถใช้อาวุธนำ�วิถีอากาศ–สู่–อากาศ โดยทำ�การเล็งอาวุธผ่านจอภาพ

28 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

แผนงานปรับปรุง เอฟ-5 อีเอ็ม

• ติดตั้งระบบควบคุม HOTAS (Hands On Throttle and Stick) เพื่อลดภาระงานของนักบิน โดยที่ คันเร่งเครื่องยนต์และคันบังคับเครื่องบินมีสวิตซ์ควบคุมการทำ�งานของระบบที่สำ�คัญ นักบินไม่ต้องละมือจาก คันบังคับและคันเร่งเครือ่ งยนต์เพือ่ ไปปรับหรือควบคุมการทำ�งานของระบบที่ตดิ ตั้งอยูต่ ามบริเวณต่างๆ ภายใน ห้องนักบิน

• ห้องนักบินเป็นระบบ pressurized เพื่อเพิ่มความสบายขณะทำ�การบินปฏิบัติภารกิจ

• ติดตั้งคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง 2 ระบบ

• ติดตั้งระบบเดินอากาศ INS รุ่น Rockwell model H-764G มีระบบ GPS สำ�รอง

• ติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารดิจิตอล Digital Radios รุ่น V/UHF Rohde & Schwartz M3AR (Series 6000) ทำ�ให้นักบินสามารถรับ–ส่งการติดต่อสื่อสารด้วยเสียงและข้อมูล มีการป้องกันข้อมูลถูกดักรับหรือถูก ก่อกวนทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยการเข้ารหัส และการบีดอัดคลื่นความถี่สัญญาณ นักบินเครื่องบินขับไล่ เอฟ–5 เอ็ม สามารถถ่ายทอดข้อมูลทางการสื่อสารไปให้กับนักบิน เอฟ–5 เอ็ม เครื่องอื่นๆ เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือน ทางอากาศ อาร์–99 (เครื่องบินโดยสารไอพ่น อีเอ็มบี–145 ติดตั้งระบบเรดาร์ อิรีอาย) และสถานีควบคุม ภาคพื้นดิน

• ติดตั้งเครื่องแจ้งเตือนเมื่อถูกเรดาร์ตรวจพบ (Radar Warning Receiver; RWR) รุ่น Elisra 2000 เพื่อแจ้งเตือนให้นักบินทราบเมื่อถูกเรดาร์ตรวจจับได้

• อุปกรณ์ส�ำ หรับปล่อย chaff/flare เพือ่ ลวงจรวดนำ�วิถเี ข้าสูเ่ ป้าหมายด้วยเรดาร์และความร้อน ให้หนั เห ทิศทางออกไปเมื่อถูกยิง

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 29

• ติดตั้งระบบ On- Board Oxygen Generation System (OBOGS)

• ติดตัง้ ระบบบริหารการใช้เชือ้ เพลิง (Fuel Management System) แบบใหม่ และท่อรับการเติมเชือ้ เพลิง ในอากาศ เพื่อเพิ่มพิสัยบิน

แผนงานปรับปรุงดังกล่าว ทำ�ให้เครื่องบินขับไล่ เอฟ–5 เอ็ม มีขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจ ได้ในทุกสภาพกาลอากาศ สามารถปฏิบัติภารกิจได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ห้องนักบินของ เอฟ–5 เอ็ม เป็น ระบบ man-machine interface และสามารถใช้ร่วมกับระบบ Night Vision Goggles เมื่อทำ�การบินปฏิบัติ ภารกิจในเวลากลางคืน ระบบและอุปกรณ์ที่นำ�มาติดตั้งตามโครงการปรับปรุงนอกจากจะมีความทันสมัยและ มีประสิทธิภาพในการทำ�งานสูงขึ้น ยังมีน้ำ�หนักเบากว่าระบบเก่าที่ติดตั้งใช้งานอยู่เดิม

แผนงานปรับปรุงเครื่องบินขับไล่ เอฟ–5 เอ็ม เกือบทั้งหมดจะเป็นการปรับปรุงและเปลี่ยนเฉพาะ อุปกรณ์และระบบที่ติดตั้งอยู่ภายในลำ�ตัว สำ�หรับโครงสร้างแผนแบบเครื่องบินจะมีการเปลี่ยนแปลงกรวยหัว (nose cone) ใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม เพื่อติดตั้ง antenna ของระบบเรดาร์แบบใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และ ต้องถอดปืนใหญ่อากาศ เอ็ม 39เอ-2 ขนาด 20 มิลลิเมตร พร้อมกระสุนออก 1 กระบอก เพื่อให้มีพื้นที่บริเวณ ภายในส่วนหัวสำ�หรับติดตั้งอุปกรณ์ตามแผนงาน

เหตุผลทีก่ องทัพอากาศบราซิลเลือกระบบเรดาร์ FIAR Grifo F จากบริษทั ผูผ้ ลิตในประเทศอิตาลีแทนที่ จะเป็นระบบเรดาร์ Elta EL/M2032 ของอิสราเอล เพราะเคยเกิดข้อโต้แย้งในเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกินงบประมาณ กำ�หนดการในการพัฒนา และประสิทธิภาพในการทำ�งาน การติดตั้งเรดาร์ EL/M2032 เข้ากับเครื่องบิน ขับไล่ เอฟ – 5 อี/เอฟ กองทัพอากาศชิลี และกองทัพอากาศโมรอคโค พบว่า ต้องทำ�การดัดแปลงเครื่องบิน เป็นอย่างมากเพือ่ ให้สามารถรองรับระบบเรดาร์ กองทัพอากาศต้องการติดตัง้ antenna เรดาร์ทมี่ ขี นาดใหญ่ขนึ้ เพื่อให้มีมุมกวาดในการค้นหาเป้าหมายมากกว่า ±60 องศา (wider ±60 ° angle of sweep) เพื่อให้สามารถ ใช้ร่วมกับจรวดนำ�วิถีประเภท Beyond Visual Range (BVR) นอกจากนี้กองทัพอากาศบราซิลยังเคยทำ�การ บินทดสอบเครื่องบินขับไล่ เอฟ–5 เอส ของกองทัพอากาศสิงคโปร์ จึงน่าจะพึงพอใจประสิทธิภาพของเรดาร์ FIAR Grifo F มากกว่า

ประเด็นสำ�คัญอื่นๆ ที่ทำ�ให้กองทัพอากาศบราซิลตัดสินใจเลือกระบบเรดาร์จากบริษัทผู้ผลิตประเทศ อิตาลี เนื่องจากกองทัพอากาศบราซิลอยู่ระหว่างดำ�เนินโครงการปรับปรุงเครื่องบินโจมตีไอพ่น แบบ เอเอ็มเอ็กซ์ ซึง่ มีประจำ�การอยูใ่ นกองทัพอากาศอิตาลีเช่นเดียวกัน ดังนัน้ ในอนาคตบราซิลจึงคาดหวังว่ากองทัพอากาศอิตาลี อาจจะนำ�เครือ่ งบิน เอเอ็มเอ็กซ์ ทีม่ ปี ระจำ�การ จำ�นวน 70 เครือ่ ง มาทำ�การปรับปรุงโดยบริษทั ของบราซิล เพือ่ เป็นการแลกเปลี่ยนตอบแทน

Grifo – F เป็นเรดาร์ Doppler Radar สามารถตรวจจับเป้าหมายบินอยูท่ รี่ ะดับเพดานบินเดียวกันได้ที่ ระยะไกล 56 กิโลเมตร สำ�หรับเป้าหมายที่บินอยู่ระดับเพดานบินต่ำ�กว่าสามารถตรวจจับได้ไกล 37 กิโลเมตร และสามารถตรวจจับเป้าหมายในทะเลได้ที่ระยะไกล 110–148 กิโลเมตร (อ่านต่อฉบับหน้า)

พฤษภาคม ๒๕๕๕

30 ข่าวทหารอากาศ

๙๐ ปี

กรมช่างอากาศ

ปชส.ชอ.

วิสัยทัศน์กรมช่างอากาศ เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบการซ่อม สร้างอากาศยาน ให้มีความปลอดภัย และเป็นมาตรฐานสากล การปฏิบัติงานที่สำ�คัญ

 การซ่อมบำ�รุงระดับโรงงาน ประกอบด้วย ๑๐ โครงการ แบ่งตาม บ. แบบ

๑. โครงการ Falcon Star ของ บ.ข.๑๙/ก (F16A/B) ทั้ง ๓ ฝูงบิน ทั้งหมด ๕๗ เครื่อง ๒. โครงการ TKT Rewiring ของ บ.ข.๑๙/ก (F16A/B) ทั้งหมด ๓๙ เครื่อง

๓. โครงการ PDM ของ บ.ขฝ.๑ (L-39) ทั้งหมด ๒๖ เครื่อง

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 31

๔. โครงการ 10 Yrs. Depot Insp. ของ บ.จ.๗ (Alpha Jet) จำ�นวน ๑๖ เครื่อง

๕. โครการ PDM + Avionics Upgrade (AUP) ของ บ.ล.๘ (C-130) จำ�นวน ๑๒ เครื่อง ๖. โครงการ PDM ปี ๕๔ ของ บ.ล.๘ (C-130) จำ�นวน ๔ เครื่อง

๗. โครงการ PDM ของ บ.ล.๒ ก (BT-67) จำ�นวน ๘ เครื่อง

๘. โครงการ P-Check ของ บ.ล.๕ (AVRO HS748) ปี ๕๔ จำ�นวน ๒ เครื่อง

32 ข่าวทหารอากาศ

๙. โครงการ PDM ของ (บ.จธ.๒ (AU-23A) จำ�นวน ๑๗ เครื่อง

พฤษภาคม ๒๕๕๕

๑๐. โครงการ PDM ของ ฮ.๖ (UH-1H) จำ�นวน ๑๗ เครื่อง

 งานซ่อมสร้าง / ดัดแปลง / ตกแต่งภายในให้กับอากาศยานแบบต่าง ๆ ของ ทอ. ๑. สร้าง Dolly ย. AI-25TL ของ บ.ขฝ.๑, สร้าง Tow Bar ของ บ.ข.๒๐, บ.จธ.๒ และ สร้างท่อ Hydraulic ของ บ.ข.๑๘ ข. ฯลฯ ๒. สร้าง Hinge, Male -Female, Access Door, Lower Assy. P/N 370113-2 สำ�หรับใช้งานกับ บ.ล.๘ ๓. ซ่อมถังเชื้อเพลิง และ Handle, Eject Seat ของ บ.ขฝ.๑, ๔. สร้าง Adapter Bleed Hydraulic Brake ของ บ.จ. ๗ ๕. สร้างเรือท้องแบน ให้ กร.ทอ. จำ�นวน ๒๒ ลำ� และเรือจากถังเชื้อเพลิง บข.ฝ.1 จำ�นวน ๒ ลำ� ๖. สร้าง บ.จำ�ลอง บ.ข.๑ NIEUPORT 2N และ BREGUET ๗. ดำ�เนินการดัดแปลง บ.ล.๙ เพื่อรองรับการติดตั้งกล้องสำ�หรับภารกิจถ่ายภาพ รวมจำ�นวน ๒ เครื่อง ๘. ดำ�เนินการดัดแปลงติดตั้งอุปกรณ์ Emergency Locating Transmitter (ELT) ให้กับ บ.ฝ.๑๔ ร่วมกับ สอ.ทอ.

กรมช่างอากาศ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนากิจการช่างอากาศ ระบบงานสร้าง งานซ่อมบำ�รุง และ งานส่งกำ�ลัง รวมทั้งพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถ ก้าวทันต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อตอบสนอง ยุทธศาสตร์กองทัพอากาศ One of the Best Air Forces in Asia

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 33

ปชส.สนภ.ทอ.

อานุภาพของกองทัพอากาศไทยจะมีมากน้อยเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับระดับความสามารถในการเตรียม กำ�ลังทางอากาศและการปฏิบตั กิ ารทางอากาศ ซึง่ การเตรียมกำ�ลังทางอากาศและขีดความสามารถในการปฏิบตั ิ ทางอากาศนั้น จะไม่ประสบผลสำ�เร็จได้เลย ถ้าหากการดำ�เนินงานด้านนิรภัยการบินและนิรภัยภาคพื้นอยู่ใน สภาวะล้มเหลว ซึง่ จะเป็นปัจจัยทีบ่ นั่ ทอนระดับความสามารถในการเตรียมกำ�ลังทางอากาศและการปฏิบตั กิ าร ทางอากาศอย่างรุนแรงที่สุด ดังนั้นการเตรียมกำ�ลังทางอากาศและการปฏิบัติการทางอากาศที่ทรงอานุภาพ ย่อมจะต้องดำ�เนินการควบคู่ไปกับการดำ�เนินการด้านนิรภัยการบินและภาคพื้นที่มีมาตรฐาน

ในขณะเทคโนโลยีทางด้านการบินและภาคพื้นได้วิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความ ต้องการของภารกิจ รวมทัง้ สภาวะแวดล้อมซึง่ มีความสลับซับซ้อนและเปลีย่ นแปลงไปอย่างรวดเร็ว มนุษย์ซงึ่ เป็น ผูใ้ ช้เทคโนโลยีและอยูภ่ ายใต้สภาวะแวดล้อมดังกล่าว จำ�เป็นต้องปรับตนให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและสภาวะ แวดล้อมทีเ่ ปลีย่ นแปลงไปมากน้อยเพียงใด จึงจะสามารถปฏิบตั ภิ ารกิจทีไ่ ด้รบั มอบหมายให้บรรลุผลสำ�เร็จและ เกิดความปลอดภัย แต่จากสถิติอุบัติเหตุทั้งด้านการบินและภาคพื้นของกองทัพอากาศที่ผ่านมา ยังคงมีสาเหตุ มาจากความผิดพลาดของมนุษย์ ทีไ่ ม่สามารถปรับตนให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและสภาวะแวดล้อม สำ�นักงาน นิรภัยทหารอากาศจึงได้ให้ความสำ�คัญกับวิทยาการ การป้องกันอุบตั เิ หตุและการสอบสวนทางด้านมนุษย์ปจั จัย

34 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

(Human Factor) รวมทั้งการเพิ่มความเข้มแข็งในการดำ�เนินงานด้านนิรภัยให้กับหน่วยขึ้นตรงกองทัพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยระดับกองบิน  ผลการปฏิบัติงานที่สำ�คัญ ในปีงบประมาณ ๕๔ ที่ผ่านมา

สำ�นักงานนิรภัยทหารอากาศในฐานะเป็นหัวหน้าสายวิทยาการนิรภัยและเป็นหน่วยงานฝ่ายอำ�นวยการ ด้านนิรภัยได้จัดให้มีการตรวจเยี่ยมฝ่ายอำ�นวยการนิรภัย ณ กองบินต่างๆ ฝูงบินอิสระปฏิบัติราชการสนามและ ฝูงบินอิสระปฏิบัติภารกิจพิเศษอย่างต่อเนื่อง จัดทำ�นโยบายนิรภัยการบิน ทอ. และนิรภัยภาคพื้น ทอ. ปี ๕๔ พร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าแผนงาน โครงการและกิจกรรมของหน่วยขึ้นตรงกองทัพอากาศ จัดการฝึกอบรม หลักสูตรด้านนิรภัยการบินและภาคพืน้ จัดชุดฝึกอบรมเคลือ่ นทีก่ ารบริหารทรัพยากรการบิน (Crew Resource Management : CRM) และมนุษย์ปัจจัยด้านการซ่อมบำ�รุง (Maintenance Human Factor : MHF) จัดการ ประชุมคณะกรรมการบริหารนิรภัยการบิน ทอ. และคณะกรรมการบริหารนิรภัยภาคพื้น ทอ. จัดประชุม เชิงปฏิบัติการนิรภัยการบินและนิรภัยภาคพื้น ตรวจมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินและภาคพื้นแจ้งเตือน และกระจายข่าวด้านนิรภัยการบินและภาคพื้น มอบรางวัลนิรภัย และดำ�เนินการสอบสวนอุบัติเหตุทั้งการบิน และภาคพื้น

 เป้าหมายในการดำ�เนินงาน ปี ๒๕๕๕

ในการจัดทำ�นโยบายนิรภัยการบินและนิรภัยภาคพื้นกองทัพอากาศปี ๒๕๕๕ กำ�หนดให้มีเป้าหมาย ในการดำ�เนินงานด้านนิรภัยการบิน คือ ไม่มอี ากาศยานอุบตั เิ หตุใหญ่ และเป้าหมายในการดำ�เนินงานด้านนิรภัย ภาคพื้น คือ ไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงในขณะปฏิบัติหน้าที่ และอัตราการเสียชีวิตไม่ควรเกิน ๐.๕๔ คนต่อกำ�ลังพล ๑,๐๐๐ คน (ไม่เกิน ๒๔ คน) ดังนั้น เพื่อให้เป้าหมายการดำ�เนินงานด้านนิรภัยเป็นไปได้จริง กำ�ลังพลทุกคน หน่วยงานทุกหน่วยจะต้องตระหนักรู้ถึงการปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานนิรภัยอย่างแท้จริง อยู่ตลอดเวลา!!!!!! ตามค่านิยมหลัก “สร้างจิตสำ�นึกนิรภัย ใส่ใจวิทยาการ ยึดถือมาตรฐาน พัฒนางานสู่สากล”

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 35

น.ท.พงษ์ชาติ พันธุ์ศรี

จากวิกฤติการณ์น�้ำ ท่วมทีเ่ กิดขึน้ ตลอดช่วงระยะประมาณ ๓ เดือนทีผ่ า่ นมา อาจกล่าวได้วา่ ภัยธรรมชาติ ทีเ่ กิดขึน้ กับประเทศไทยครัง้ นี้ เป็นภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติทกี่ อ่ ให้เกิดความสูญเสียให้กบั แผ่นดินอันเป็นทีร่ กั ของ ปวงชนชาวไทยอย่างเหลือคณานับ หรืออาจกล่าวได้วา่ ภัยพิบตั คิ รัง้ นีเ้ ป็นภัยพิบตั ทิ ใี่ หญ่หลวง และเป็นครัง้ ทีร่ า้ ยแรง ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย อย่างน้อยที่สุด ก็อาจกล่าวได้ว่า ในรอบ ๗๐ – ๙๐ ปี หรืออาจนับถึง ๑๐๐ ปีเลยทีเดียว หากท่านผู้อ่านได้ติดตามสถานการณ์น้ำ�ท่วม ๒๕๕๔ มาอย่างต่อเนื่อง หลายครั้งหลายครา ที่สถานีโทรทัศน์ได้นำ�เสนอข่าวสาร โดยการสัมภาษณ์ผู้สูงอายุหลายๆ ท่าน ซึ่งทุกท่านให้คำ�ตอบเหมือนกันว่า วิกฤติการณ์น้ำ�ท่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงและเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมาตลอดช่วงชีวิต ซึ่งโดยอายุเฉลี่ย ของผูส้ งู อายุเหล่านัน้ ต่างอยูท่ ปี่ ระมาณอายุ ๘๐ ปีขนึ้ ไปเกือบทัง้ สิ้น หรือแม้แต่ตัวอย่างทีใ่ กล้ตวั ผูเ้ ขียนมากทีส่ ดุ ก็ได้แก่ ตัวอย่างจากตัวผูเ้ ขียนเองนี่แหละครับ คุณแม่ของผู้เขียน ปัจจุบนั ท่านอายุ ๗๒ ปีแล้ว คุณลุงก็อายุ ๘๐ กว่าๆ ผู้เขียนได้เรียนถามท่านทั้งสองว่า นับตั้งแต่ท่านเกิดจนกระทั่งปัจจุบัน ท่านเคยพบภัยน้ำ�ท่วมที่รุนแรงขนาดนี้ ก่อนหรือไม่ แน่นอนครับ คำ�ตอบคือ ไม่ และครั้งนี้คือครั้งแรกในชีวิตของท่าน

คงปฏิเสธไม่ได้ครับว่า ความเสียหายทีเ่ กิดขึน้ และทีก่ �ำ ลังจะเกิดขึน้ ตามมาจากภัยพิบตั คิ รัง้ นี้ เป็นความ เสียหายอันใหญ่หลวง ทีส่ ง่ ผลกระทบทัง้ ทางตรงและทางอ้อมต่อความเป็นอยู่ และความเป็นไปของประเทศไทย ความสูญเสียทีเ่ กิดขึน้ ไม่วา่ จะเป็นภาครัฐหรือเอกชน ภาคเกษตรกรรมหรืออุตสาหกรรม ทัง้ รูปธรรมและนามธรรม ล้วนส่งผลต่อความมัน่ คงและพลังอำ�นาจแห่งชาติ ทัง้ ทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การทหาร และเทคโนโลยี

36 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ทั้งนี้ มีหลายสำ�นัก หลายสถาบันได้ประเมินผลความเสียหายในครั้งนี้ ซึ่งประมาณได้ถึงหลายๆ แสนล้านบาท หรือล้านๆ บาท หรือเทียบเท่าได้กับงบประมาณแผ่นดินเป็นปีๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ท่าน วิเคราะห์วา่ ความสูญเสียครัง้ นีไ้ ม่เพียงแต่ท�ำ ให้การก้าวไปข้างหน้าของประเทศไทยต้องหยุดชะงักอย่างเด็ดขาด แต่ยังทำ�ให้ประเทศอันเป็นที่รักของชาวไทย ต้องก้าวถอยหลังลงไปอีกประมาณหลายปีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เม็ดเงินที่จะต้องถูกนำ�มาใช้ในการฟื้นฟูเยียวยาประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นการบำ�รุงขวัญกำ�ลังใจประชาชน การชดเชยให้แก่บุคคลและองค์กรที่สูญเสีย การกอบกู้นิคมอุตสาหกรรมหลักที่ต้องจมอยู่ใต้บาดาล การเรียก ความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างประเทศ รวมถึงการวางแผนผังเมือง และประเทศ เพื่อที่จะรองรับสถานการณ์ ในลักษณะเดียวกันที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในภายหน้า ฯลฯ การปฏิบัติกิจกรรมทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ ไม่อาจจะ ปฏิเสธได้ว่าต้องใช้จำ�นวนเงินมหาศาล ซึ่งก็คงจะหลีกเลี่ยงการกู้ยืมไปไม่ได้ ซึ่งนั่นหมายถึงประเทศไทยจะต้อง เป็นหนี้ เมื่อประเทศเป็นหนี้ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ประชาชนในประเทศต้องเป็นหนี้ด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่า เมื่อ เป็นหนี้แล้ว ย่อมต้องทยอยใช้หนี้ไปอีกหลายสิบปี

อย่างไรก็ตาม ผู้อ่านทุกท่านคงจะ เคยได้ยนิ และคุน้ ชินกับวลีทองวลีหนึง่ ทีว่ า่ “พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส” หรือข้อความ ในทำ�นองที่ว่า ในวิกฤติการณ์ต่างๆ ไม่ว่า จะเลวร้าย หรือรุนแรงสักเพียงใดก็ตาม ในวิกฤตินั้น ย่อมมี “โอกาส” ที่จะนำ�ไปสู่ ความเจริญงอกงามที่ดีกว่าเสมอ ทั้งนี้ ก็ขึ้น อยูก่ บั มุมมอง ความรู้ ตลอดจนประสบการณ์ ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือองค์กรใด ภาพน้ำ�ท่วมกรุงเทพฯ ๒๕๕๔ องค์กรหนึ่ง ในการที่จะมองหาโอกาส หรือ จุดพลิกผันจากวิกฤตินั้นๆ นั่นเอง สำ�หรับวิกฤติการณ์จากมหาอุทกภัยครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ที่ มีมูลค่ามหาศาลสำ�หรับประเทศ และพี่น้องชาวไทยทั้งปวง ซึ่งหากลองมองในหลายๆ แง่หลายๆ มุมแล้ว อาจ เห็นได้ว่า มี “โอกาส” หรือจุดที่จะนำ�ไปสู่การพัฒนา และเปลี่ยนแปลงที่สำ�คัญในหลายๆ ด้าน อยู่ที่เพียงว่า เราจะยอมรับความจริง และเรียนรู้จากบทเรียนครั้งนี้อย่างจริงจัง และจริงใจเพียงใด หรือจะปล่อยให้เป็นเพียง วิกฤติการณ์ในความทรงจำ� ที่จะถูกนำ�ไปถ่ายทอด เล่าขานให้คนรุ่นหลังต่อไปเพียงเท่านั้น โดยที่ไม่ได้นำ�ไปสู่ ความเจริญงอกงามใดๆ หรือการก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่า จากบทเรียนครั้งสำ�คัญของมหาอุทกภัยครั้งนี้

ในมุมมองแรกนี้ หากลองมองในมุมของการเมือง และสังคมแล้ว จะเห็นว่า ตลอดช่วงระยะเวลาที่มวลน้ำ� มหาศาลเข้าถล่มกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร และจังหวัดต่างๆ ในเขตปริมณฑล ความขัดแย้งทางความคิด การแบ่ง สีแบ่งฝ่ายของกลุ่มคน กลับค่อยๆ จางหาย หรืออย่างน้อยที่สุดก็แทบจะไม่ได้ยินเรื่องดังกล่าวเลย แต่กลับถูก แทนที่ด้วยภาพแห่งความประทับใจที่เกิดจากน้ำ�ใจของผู้ให้ หลั่งรินสู่ใจของผู้รับ ภาพแห่งความรักสามัคคีของ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 37

ชาวบ้านที่ร่วมมือร่วมแรงในการช่วยเหลือผู้ที่ประสบชะตากรรมที่ทุกข์ยากกว่าตน ภาพแห่งการรวมใจที่จะ ปกป้องเคหะสถาน บ้านเรือน และพืน้ ทีท่ ตี่ วั เองอาศัย สิง่ ทีเ่ กิดขึน้ เหล่านี้ โดยส่วนตัวของผูเ้ ขียนแล้ว มองว่าเป็น “โอกาส” โอกาสทองเสียด้วย ในการที่ประเทศชาติจะยุติความขัดแย้งทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดิน เราลง ใช้ความรักสามัคคี น้ำ�ใจไมตรีที่สื่อออกมาถึงกันและกัน ความร่วมมือ ร่วมแรง และร่วมใจของคนในชาติ เป็นจุดเริม่ ต้นทีส่ ำ�คัญในการทีจ่ ะสร้างสรรค์ความเจริญงอกงามอย่างถาวร ในการปลูกฝัง สร้างเสริมแนวความคิด ที่ว่า หากคนไทยรักกัน ร่วมมือร่วมใจกันมากแค่ไหน ไม่ว่าอุปสรรคปัญหาที่หนักหนาสาหัสใดๆ ก็มิอาจจะขวางกั้น พลังแห่งความรัก ความสามัคคี ความศรัทธา และความดีงามไปได้

น้ำ�ท่วมอุตสาหกรรมโรจนะ ยังความเสียหายทางเศรษฐกิจ มูลค่ามหาศาล

หรือหากจะมองอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเป็นอีกด้านที่กล่าวได้ว่าเป็นด้านที่สูญเสียมากที่สุดจากวิกฤติการณ์ครั้งนี้ คงหนีไม่พน้ ด้านเศรษฐกิจ จากข้อมูลข่าวสารทีถ่ กู รายงานผ่านสือ่ ต่างๆ ทัง้ โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต แม้กระทั่ง Social Network ต่างๆ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของไทยในครั้งนี้จะมีผลกระทบ โดยตรงต่อการเจริญเติบโตของประเทศไทยไปอีกหลายปี ความเสียหายของนิคมอุตสาหกรรมหลักหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ, ไฮเทค, นวนคร ฯลฯ นำ�ไปสู่การขาดซึ่งสายโซ่การผลิต(Supply chain) ทีส่ �ำ คัญยิง่ ซึง่ ไม่เพียงส่งผลแค่ในประเทศเท่านั้น แต่ยงั ส่งผลกระทบไปถึงระดับภูมิภาค และในระดับนานาชาติ อีกด้วย จากความเสียหายทางเศรษฐกิจ และการทีส่ ายโซ่การผลิตต้องขาดสะบัน้ ลงในครัง้ นี้ จะมีผลทำ�ให้สงิ่ ของ เครื่องใช้ต่างๆ เครื่องอุปโภคบริโภค อาหาร ปัจจัยในการดำ�รงชีพที่จำ�เป็น อยู่ในสภาวะขาดแคลน ราคาสินค้า จะปรับตัวสูงขึน้ ในขณะทีร่ ฐั บาลก็ไม่อาจหลีกเลีย่ งการยืมเงินก้อนมหาศาล ซึง่ ท้ายทีส่ ดุ แล้ว ก็จะทำ�ให้ประเทศ ชาติ ก้าวสู่สภาวะข้าวยากหมากแพง ประชาชนเดือดร้อน และนำ�ไปสู่ปัญหาอาชญากรรมสารพัดชนิด

ทั้งนี้ เมื่อมองในมุมกลับกัน ในการที่เศรษฐกิจล่มสลายในครั้งนี้ หากเรามองในมุมของโอกาสสำ�หรับ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น ก็จะเห็นว่า มีธุรกิจหลายประเภทกำ�ลังจะถือกำ�เนิดขึ้นใหม่ ซึ่ง ผู้เขียนขอยอมรับต่อท่านผู้อ่านทุกท่านตามตรงว่า ในเชิงธุรกิจ หรือในฐานะของนักเศรษฐศาสตร์แล้ว ผู้เขียน

38 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕ ภาพน้ำ�ท่วมสนามบินดอนเมือง

มีภูมิความรู้ในด้านนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่สามารถเทียบได้โดยสิ้นเชิงกับนักคิดวิเคราะห์ นักบริหารธุรกิจ นักการตลาดที่เก่งกาจ และมีชื่อเสียงทั้งหลาย ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้น มองเห็น “โอกาส” ทาง เศรษฐกิจ และธุรกิจ สำ�หรับการก้าวเดินต่อไปของประเทศไทยอย่างทะลุปรุโปร่ง ธุรกิจตัวใด สินค้าชนิดใด จะกลายเป็นสินค้าหลัก ภายหลังจากทีป่ ระเทศของเราก้าวเข้าสูข่ นั้ ตอนฟืน้ ฟูเยียวยา หรือเมือ่ เกิดแผนการพัฒนา ในระยะยาวออกมาแล้ว ธุรกิจใดที่จะสามารถสนับสนุนแผนนี้ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งหากท่านผู้อ่านท่านใดสนใจแล้ว อดใจรออีกไม่นาน ผู้เขียนเชื่อมั่นเหลือเกินว่าจะมีจอมยุทธทางเศรษฐศาสตร์ทั้งหลาย ออกมาวิเคราะห์ และให้ คำ�แนะนำ�กันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว

คราวนี้ เราลองมามองในมุมของนักการทหาร ซึ่งเป็นจิตวิญญาณ และอาชีพของพวกเราโดยตรงบ้าง หากสมมติวา่ ในสภาวะวิกฤติการณ์น�้ำ ท่วมครัง้ นี้ เราเปรียบมวลน้�ำ มหึมานีเ้ ป็นข้าศึกศัตรู เราคงจะมองเห็นภาพ การเคลือ่ นทัพของข้าศึกจำ�นวนมหาศาลทีเ่ ข้าตีบา้ นเมืองของเรา เริม่ ไล่มาจากหัวเมืองทางเหนืออย่างเชียงใหม่ การเข้าตีเมืองหน้าด่านสำ�คัญต่างๆ ไล่เรียงลงมาตั้งแต่ นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี อยุธยา จนถึงหัวเมืองชั้นใน ในเขตปริมณฑล อย่าง ปทุมธานี นนทบุรี เข้าสูน่ ครปฐม และท้ายทีส่ ดุ แล้ว เราคงปฏิเสธไม่ได้วา่ เราเห็นภาพของ ข้าศึกล้อมรอบเมืองหลวงแห่งสยามประเทศ กรุงรัตนโกสินทร์ ไว้ทุกด้าน และค่อยๆ เข้าแทรกซึม โจมตี เจาะ ปราการที่ตั้งมั่น ลงทีละด่านๆ จนกระทั่ง การเข้าสู่ผลลัพธ์สุดท้ายของการเข้าตีของข้าศึกครั้งนี้ ที่ปรากฏเป็นที่ ชัดเจนว่าเมืองหลวงของเราถูกตีแตกไปหลายพื้นที่เช่นกัน

หรือหากจะลองมองให้ลึกลงไปอีกสักนิด หรือมองในมุมของการสงครามสมัยใหม่ ซึ่งเชื่อว่า การรบทั้ง ๓ มิติ ทั้งบนพื้นดิน พื้นน้ำ� และบนฟากฟ้า จะต้องบูรณาการกำ�ลังรบทั้งหมดเข้าด้วยกัน มีการวางแผน สอดประสาน เชื่อมโยง ภาพของการรบอย่างเป็นระบบทั้งหมด โดยให้ผู้บังคับบัญชาสามารถเห็นภาพดังกล่าวในเวลา หรือใกล้เคียง กับเวลาจริง (Real Time) มากที่สุด เพื่อให้การสั่งการถูกต้อง สมบูรณ์ และทันเวลา ก็อาจจะกล่าวในเชิงทีเล่นทีจริง ได้ว่า กองทัพน้ำ�เลือกที่จะเข้าโจมตีกำ�ลังทางอากาศ ที่เราเชื่อว่าทรงประสิทธิภาพ และเป็นกำ�ลังในการตัดสิน ชะตา (Cutting Edge) ของความเป็นไปในการรบ และส่งผลถึงการแพ้ชนะของสงครามได้ เป็นอันดับแรก ซึ่ง ในการวางแผนการยุทธ์ครั้งนี้ กองทัพน้ำ�ไม่ต้องคิดคำ�นวณถึงแผนการโจมตีว่า จะใช้อาวุธอะไร อย่างไร เพียงใด ต้องวางแผนกี่ DMPI คิดเป็นเที่ยวบินกี่เที่ยวบิน ต้องทำ�ลายทางวิ่ง ทางขับ หรือลานจอด หรือต้องการให้

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 39

ฝ่ายเราไม่สามารถใช้สนามบินได้นานเท่าใด ซึ่งแผนการยุทธ์ของกองทัพน้ำ�ในครั้งนี้ มิเพียงแต่ทำ�ให้เครื่องบิน ไม่สามารถปฏิบัติการได้โดยสมบูรณ์แบบ โดยเข้าทำ�ลายสนามบินโดยตรง ตัดทั้งทางวิ่ง, ทางขับ, ลานจอด, โรงเก็บ, หรือแม้กระทั่งอากาศยานในบางส่วนเท่านั้น แต่กองทัพน้ำ�ยังลดทอนประสิทธิภาพของระบบการ ควบคุมบังคับบัญชา, ระบบการติดต่อสื่อสาร, ระบบส่งกำ�ลังบำ�รุง ฯลฯ ได้อย่างชัดเจน

อาจจะมีผู้อ่านบางท่านมีความคิดเห็นในอีกมุมหนึ่งว่า เป็นเพราะกำ�ลังของข้าศึก คือ กองทัพน้ำ� ไม่ใช่ กำ�ลังรบของข้าศึกจริงๆ เราจึงไม่สามารถใช้ขีดความสามารถสูงสุดของกำ�ลังทางอากาศทีเ่ รามีอยูเ่ ข้าต่อกรได้ ต่างหาก ซึ่งผู้เขียนเห็นด้วยกับความคิดนี้เป็นอย่างยิ่ง แต่หากเราลองมองไปถึงการรบ หรือรูปแบบของสงคราม ในอนาคต ไม่วา่ จะ ๕ ปี, ๑๐ ปี, หรือกระทัง่ ๒๐ ปีกต็ าม มีนกั การทหาร และผูร้ ทู้ งั้ หลาย ทัง้ ใน และต่างประเทศ วิเคราะห์ไว้วา่ รูปแบบของการรบตามแบบ หรือทีเ่ รียกว่า Conventional Warfare นัน้ จะค่อยๆ น้อยลง แต่การ รบกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ในหลายๆ รูปแบบ จะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ รูปแบบ ของภัยคุกคามสมัยใหม่ จะเป็นภัยคุกคามที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ใครคือกำ�ลังฝ่ายตรงข้าม จะเข้าโจมตี สถานที่ ใด เมื่อไหร่ และอย่างไร ซึ่งภัยคุกคามในรูปแบบใหม่นี้ อาจเป็นได้ทั้งภัยจากผู้ก่อการร้าย, สงครามกลางเมือง, ปัญหาจากความยากจนข้นแค้น หรือความไม่เท่าเทียมในสังคม, หรือแม้กระทั่ง ภัยจากธรรมชาติ ดังที่ประเทศ ของเรากำ�ลังเผชิญอยูใ่ นขณะนี้ และถ้าเราไม่ปฏิเสธความจริง เราก็คงบอกตัวเองได้เช่นกันว่า สำ�หรับการประมือ กับกองทัพที่มีชื่อว่า “มหาอุทกภัย” ครั้งนี้ เราถูกกองทัพน้ำ�เข้าทำ�ลาย และสูญเสียอย่างใหญ่หลวงเช่นกัน ฉบับหน้าจะกล่าวถึงการตั้งรับ

40 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

มลพิษหมอกควัน

พล.อ.ต.ปรีชา ประดับมุข

คงจะยังไม่สายเกินไปที่จะพูดถึงปัญหามลพิษหมอกควันในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ซึ่งเป็น ปัญหาสำ�คัญและเกิดผลกระทบอย่างรุนแรงทุกปี ความรุนแรงของปัญหาโดยทั่วไปปรากฏชัดเจนในช่วงฤดูแล้ง (ธันวาคม-เมษายน) ของแต่ละปี ซึง่ จะเกิดความกดอากาศสูงจากประเทศจีนเข้ามาปกคลุมพืน้ ทีภ่ าคเหนือ ทำ�ให้ หมอกควันไม่สามารถลอยตัวขึ้นสูงได้ และมักพบการเพิ่มสูงขึ้นของปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก เนื่องจากความ แห้งแล้งส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของไฟป่า ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าว เกษตรกรจะทำ�การเผาวัชพืชหรือ เศษวัสดุเพื่อเตรียมพื้นที่สำ�หรับทำ�การเกษตรในช่วงฤดูฝนถัดไป ก่อให้เกิดสภาวะอากาศที่แห้งและนิ่ง ทำ�ให้ ฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นสามารถแขวนลอยอยู่ในบรรยากาศได้นาน ในห้วงเวลาดังกล่าวมีปริมาณฝนตกน้อยทำ�ให้ การชะล้างหมอกควันหรือฝุน่ ละอองทีแ่ ขวนลอยอยูใ่ นอากาศเป็นไปได้นอ้ ย หากย้อนไปเมือ่ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๐ ภาคเหนือตอนบนประสบปัญหาหมอกควันทีร่ นุ แรงมากและต่อเนือ่ งเรือ่ ยมาจนถึงปีนี้ โดยพบว่าระดับหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กได้สูงขึ้นอย่างมากต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา ๓ - ๔ สัปดาห์ แต่ในปี ๒๕๕๕ จะมากกว่า ๔ สัปดาห์ ปัญหานี้ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการ รวมถึงการจราจร ทั้งทางบกและ ทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผลต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่โดยตรง

กลายเป็นข่าวทีย่ อดฮิต ติดหูของประชาชน โดยเมือ่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๕ ทีม่ ี ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปตั ย์ ตัง้ กระทูส้ ดถามรัฐบาลในการแก้ปญ ั หาหมอกควันล่าช้า ส่งผลชาวบ้านป่วยจนผูกคอตาย หลังจากนัน้ ข่าวปัญหา หมอกควันก็ตดิ อันดับต้นๆ เป็นแรมเดือนไม่แพ้ขา่ วการเมือง แต่หากย้อนไปเมือ่ ต้นปีของทุกๆ ปี โดยเฉพาะตัง้ แต่ ปี พ.ศ.๒๕๕๐ เมื่อความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่นละอองจัดอยู่ในสถานการณ์วิกฤต สถานการณ์ในครั้งนั้นได้มี การระดมสรรพกำ�ลังเพื่อจัดการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้า อาทิเช่น กองทัพอากาศได้จัดเครื่องบินลำ�เลียง C-130 บรรทุกน้ำ�ขึ้นทำ�การบินโปรยละอองน้ำ� สร้างความชุ่มชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ในอากาศ เหนือท้องฟ้าภาคเหนือตอนบนจำ�นวนหลายเที่ยวบินติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน รวมทั้งใช้รูปแบบวิธีการแก้ไข ปัญหาอีกหลายประการ

ปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าในพืน้ ทีภ่ าคเหนือตอนบน เป็นปัญหาทีส่ ง่ ผลกระทบต่อประชาชนใน วงกว้าง และทุกภาคส่วนต้องการให้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยมีสาเหตุสำ�คัญจากปัญหามลพิษอากาศจาก ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า ๑๐ ไมครอน (Particulate Matter : PM10) ที่เกินเกณฑ์มาตรฐาน (ค่ามาตรฐานต้อง

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 41

ไม่เกิน ๑๒๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) โดยเฉพาะ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ของทุกปี (ในความเป็นจริง แล้ว ฝุ่นละอองไม่มีระดับที่ปลอดภัยแต่อย่างใด หากค่าปนเปื้อนในอากาศยิ่งสูงก็ยิ่งเป็นอันตรายมาก ดังนั้น การที่ค่าฝุ่นละอองต่ำ�กว่า ๑๒๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามมาตรฐานของประเทศไทย ไม่ได้หมายความว่า จะไม่เป็นอันตรายหรือไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน) และตามรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ NBT รายงานว่าเมื่อ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๕ ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ค่ามลพิษอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า ๑๐ ไมครอน มีค่าถึง ๔๓๗ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีค่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานของประเทศไทยเกือบ ๔ เท่า • อะไรคือสาเหตุ

ภาคเหนือตอนบนมีสภาพ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ภูเขา สลับซับซ้อน โดยมีชุมชนอาศัยอยู่ ในราบลุ่มแม่นำ้�ซึ่งมีภูเขาล้อมรอบ มี ลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ภูมอิ ากาศของ ภาคเหนือตอนบนในช่วงเดือนมกราคม ถึงสัปดาห์แรกของเดือนเมษายนมีความ กดอากาศสูงปกคลุม ทำ�ให้อากาศมี สภาพนิ่ง บางครั้งความกดอากาศสูง ทำ�ให้เกิดอุณหภูมผิ กผันจะทำ�ให้ผงฝุน่ ไม่มีโอกาสที่จะกระจายขึ้นไปตามแนวดิ่ง ขณะที่ลมสงบไม่สามารถพัดพาผงฝุ่นออกไป ผงฝุ่นจึงมีโอกาสสะสม ในแอ่งกระทะ ทำ�ให้เป็นอุปสรรคต่อการกระจายตัวของมลพิษหมอกควันที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสำ�คัญ ที่ก่อให้เกิดมลพิษหมอกควันเพิ่มขึ้นอีก ได้แก่

ไฟป่า : เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำ�ให้มีปริมาณหมอกควันเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำ� ของมนุษย์ ได้แก่ การที่คนจุดไฟเผาป่าเพื่อหาของป่า ล่าสัตว์ เผาไร่ โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน ของทุกปี และจะเห็นว่าการเกิดไฟป่าเป็นปัจจัยเสริมส่วนหนึ่งที่ทำ�ให้ความเข้มข้นของมลภาวะทางอากาศ เพิ่มมากขึ้น สำ�หรับสถานการณ์หมอกควันที่เกิดจากไฟป่าพบว่า มีเพียงร้อยละ ๑ เท่านั้น ส่วนอีกร้อยละ ๙๙ เกิดจากฝีมือมนุษย์

การเผา : เป็นสภาพข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่และเป็นวิถีชีวิตของคนในภาคเหนือที่มีมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน หลายคนกล่าวว่า การเผาสิ่งเหลือใช้ทางการเกษตร การเผาป่า การเผาขยะ การเผาบริเวณ ขอบข้างถนน ฯลฯ ในช่วงฤดูแล้ง ได้ก่อให้เกิดประเด็นทางสิ่งแวดล้อมที่สำ�คัญระดับประเทศ บางคนยังกล่าว ว่าแหล่งมลพิษทางอากาศที่เป็นจุด (Stationary Source) ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ การเผาในที่โล่ง การปิ้งย่าง อาหาร การเผาศพ อุตสาหกรรมต่างๆ เป็นต้น พื้นที่ภาคเหนือเป็นแอ่งกระทะ

42 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

สาเหตุอื่นๆ : เช่น มลพิษจากควันไอเสีย จากยานพาหนะประเภทต่างๆ มลพิษจากโรงงาน อุตสาหกรรมและการก่อสร้าง ฝุ่นละอองจากถนน เป็นต้น • ผลกระทบที่เกิดขึ้น

ด้านเศรษฐกิจและการท่องเทีย่ ว : สถานการณ์ หมอกควันที่รุนแรงในปี ๒๕๕๕ ส่งผลกระทบต่อ เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวพื้นที่ภาคเหนือทำ�ให้มี การยกเลิกเที่ยวบินและมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น

ของนักท่องเที่ยวทำ�ให้จำ�นวนนักท่องเที่ยวลดลง

ด้านสุขภาพอนามัย : ผลกระทบทางด้านสุขภาพจากมลพิษทางอากาศโดยทัว่ ไป ได้แก่ การรูส้ กึ ระคายเคือง หรือแสบตา ภาวการณ์หายใจไม่สะดวก โดยเฉพาะกับผู้ที่เป็นโรคหอบหืดมีความเสี่ยงที่จะมีอาการทรุดหนักถึง ขั้นเสียชีวิตได้ เนื่องจากขีดความสามารถในการทำ�งานของปอดลดลงอย่างรวดเร็ว และแม้ว่าจะไม่เสียชีวิตด้วย โรคหอบหืด แต่ในระยะยาวมักจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด

ด้านอื่นๆ : ปัญหามลพิษหมอกควันทำ�ให้หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ภาคเหนือ ต้องสูญเสียงบประมาณ ในการแก้ไขปัญหาเป็นจำ�นวนมาก ข่าวสารที่ปรากฏแก่สาธารณชนผ่านสื่อสารมวลชนในเรื่องดังกล่าว ก่อให้เกิด ความวิตกกังวล การขาดความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทำ�ให้ภาพลักษณ์ของพื้นที่ภาคเหนือถูกมองจากสังคม ภายนอกบางส่วนในด้านลบ รวมทัง้ เกิดการขัดแย้งทางความคิดและวิธปี ฏิบตั ใิ นการป้องกันแก้ไขปัญหาในระดับ พื้นที่หลายรูปแบบ • จะป้องกันอย่างไร ประชาชนต้องสวมหน้ากากเพื่อป้องกันมลพิษ

ด้านภูมปิ ระเทศและสภาพภูมอิ ากาศ : จำ�เป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาวิธีการเพิ่มความชื้น ในอากาศให้มีปริมาณเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ เกิดอากาศเย็นมีโอกาสเกิดฝนตกหรือมีลมพัด เพื่อถ่ายเทอากาศที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็กซึ่ง เกิดขึ้นในฤดูแล้งออกไปจากพื้นที่แอ่งกระทะ ดังจะเห็นได้ชัดเจนว่า บางปีปัญหาหมอกควัน จะลดลงโดยมีฝนหลงฤดูตกลงมาช่วยชะล้าง หรือบางกรณีมีพายุฤดูร้อนช่วยพัดพาหมอกควันให้ออกไปจากพื้นที่ การเพิ่มความชื้นในอากาศสามารถกระทำ� ได้หลายวิธี ได้แก่ การฟื้นฟู เพิ่มพื้นที่ป่าให้เกิดความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยการส่งเสริมการปลูกไม้ยืนต้น ลดการทำ�ไร่หมุนเวียนเลือ่ นลอย ลดการเพาะปลูกพืชไร่ไม้ลม้ ลุกทีม่ มี ลู ค่าทางเศรษฐกิจไม่คมุ้ ค่าหรือไม่เหมาะสม

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 43

กับพืน้ ที่ การปลูกไม้เศรษฐกิจโตเร็วในพืน้ ทีป่ า่ แทนการปลูกข้าวโพดและพืชไร่อนื่ ๆ รวมทัง้ ผลักดันให้มกี ฎหมาย ป่าชุมชน ลดการเผา รณรงค์ให้มกี ารสร้าง ซ่อมแซมฝายต้นน้�ำ ลำ�ธารหรือฝายแม้ว (Check Dam) ในพืน้ ทีต่ น้ น้�ำ ให้ทั่วถึง เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตตัวเมืองให้มากที่สุด

ความเชื่อและวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ : การสร้างความรู้ ความเข้าใจ จิตสำ�นึก ความตระหนัก ถึงความสำ�คัญของปัญหามลพิษหมอกควันให้กบั ทุกหมูบ่ า้ น ชุมชน โดยการอบรม สัมมนา ประชุมชีแ้ จง รณรงค์ ให้ความรู้ผ่านสื่อต่างๆ อย่างสม่ำ�เสมอ เช่น ป้ายประชาสัมพันธ์ วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น หอกระจาย ข่าวภายในหมู่บ้าน การประชาสัมพันธ์ผ่านอาสาสมัครต่างๆ เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำ�หมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และเครือข่ายอาสาสมัครพิทกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม หมู่บ้าน (ทสม.) การบรรจุเรื่องปัญหามลพิษหมอกควันและภาวะโลกร้อน รวมทั้งการลดปริมาณขยะและการ จัดการปัญหาขยะอย่างเหมาะสมไว้ในหลักสูตรการศึกษาของโรงเรียน เพื่อเป็นการปลูกฝัง ความรู้ ความเข้าใจ และจิตสานึกแก่นกั เรียนตัง้ แต่เยาว์วยั ตลอดจนการให้ความรู้ ความเข้าใจ กฎหมายทีเ่ กีย่ วข้องและรณรงค์เสริมสร้าง จิตสำ�นึกแก่ประชาชนทุกระดับ • บทสรุป

สถานการณ์มลพิษทางอากาศอันเนื่องมาจากหมอกควัน มีส่วนทำ�ให้สังคมภาคเหนือตอนบนมีความ ซับซ้อนเปราะบางมากขึ้น แม้ว่าจะทำ�ให้เกิดกลุ่มนักวิชาการที่ตระหนักถึงปัญหามลพิษทางอากาศ ที่พยายาม ส่งสัญญาณให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน เร่งร่วมมือกันเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีกลุ่มที่รณรงค์ ไม่ให้ปญ ั หาหมอกควันเกิดขึน้ โดยเน้นการยุตกิ ารเผาในทีโ่ ล่ง แต่ปญ ั หาหมอกควันก็ท�ำ ให้เกิดการแบ่งกลุม่ ตามวิธี การคิดหรือปฏิบัติ ได้แก่ กลุ่มที่ต่อต้านการเผาในที่โล่ง กลุ่มที่สนับสนุนการเผาแบบชิงเผาหรือเผาตามกำ�หนด กลุม่ ทีต่ อ้ งการดำ�รงวิถชี วี ติ ทางการเกษตรแบบดัง้ เดิมทีย่ งั เผาวัสดุการเกษตรต่อไปอยู่ กลุม่ ทีส่ นับสนุนการแปลง วัสดุการเกษตรให้เป็นปุ๋ย และกลุ่มที่แสวงหาทางเลือกอื่นๆ เป็นต้น

ความสำ�คัญหรือความรุนแรงของปัญหามลพิษหมอกควันข้างต้น น่าจะเป็นปัจจัยสำ�คัญในการกระตุ้น ผลักดัน ให้หน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบและมีส่วนเกี่ยวข้องได้คิด วิเคราะห์ วางแผน และใช้ศักยภาพ ทรัพยากร เครื่องมือต่างๆ เพื่อนำ�ไปสู่การแก้ไขและป้องกันปัญหาในรูปแบบ วิธีการต่างๆ อย่างหลากหลาย ทั้งในระดับนโยบาย และระดับปฏิบัติการในพื้นที่ หากทุกภาคส่วนช่วยกันอย่างจริงจัง ผู้เขียนหวังว่าในปีต่อๆ ไป ปัญหามลพิษหมอกควันจะต้องหมดไปหรือลดน้อยลงอย่างแน่นอน อ้างอิง :

- พงศ์เทพ วิวรรธนะเดช. การจัดการปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ. เชียงใหม่ : ม.ป.พ., ๒๕๕๐.

- ศูนย์วิจัยด้านมลภาวะและอนามัยสิ่งแวดล้อม สถาบันวิจัยสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ผลกระทบทางสุขภาพจากมลพิษอนุภาค ฝุ่นในอากาศ. เชียงใหม่ : ครองช่างพริ้นท์ติ้ง, ๒๕๕๒.

- นายชูชาติ กีฬาแปง หลักสูตร วปอ.๕๒, การจัดการปัญหามลพิษหมอกควัน : กรณีศึกษาจังหวัดเชียงใหม่.

เมื่อ F-5B มาถึงเมืองไทย 44 ข่าวทหารอากาศ

น.อ.ศักดิ์พินิต พร้อมเทพ

ในต้นเดือนเมษายน ๒๕๐๙ เรือบรรทุกเครือ่ งบิน USS Brenton ของสหรัฐฯ เข้าเทียบท่าเรือกรุงเทพฯ เมือ่ มองไปทาง ดาดฟ้าท้ายเรือ จะเห็นเครือ่ งบิน F-5B ๒ เครือ่ ง ทีส่ หรัฐฯ นำ�มาส่ง ให้กองทัพอากาศ เครือ่ งบินทัง้ ๒ เครือ่ งมีหมายเลข ๖๓-๘๔๓๘ และ ๖๓-๘๔๓๙ ซึง่ เป็นเครือ่ งบินในตระกูล F-5 เครือ่ งแรกและ เครื่องที่สองจากสายการผลิต

กองทัพอากาศนำ�เครื่องบิน F-5B เข้าประจำ�การใน กองบิน ๑ ฝูงบิน ๑๓ และกำ�หนดชื่อว่า บ.ฝข.๑๘ แต่ในเวลา ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น บ.ข.๑๘ ก การเข้าประจำ�การของ เครื่องบิน F-5 นับเป็นการนำ�กองทัพอากาศเข้าสู่ยุคความเร็ว เหนือเสียงอย่างแท้จริง

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ภาพเก่าเล่าเรื่อง

ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (National Archives at College Park, USA)

Saab 340 AEW

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 45

เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนแบบที่ ๑ (บ.ค.๑) Saab-340 AEW ผลิตโดย : บริษัท Saab-Scania Aktiebolag,

Aerospace Divisoin ประเทศสวีเดน ความยาวปีก : 21.44 เมตร ความยาวลำ�ตัว : 19.73 เมตร ความสูง : 6.97 เมตร น้ำ�หนัก : 13,155 กิโลกรัม เครื่องยนต์ : 2x GE General Electric CT7 -9B

1,870 แรงม้า ระบบใบพัด : Dowty Rotol/Hamiton sundstrand ความเร็วสูงสุด : 550 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วเดินทาง : 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง น้ำ�หนัก บรรทุกสูงสุด : 2,580 กิโลกรัม ระยะเวลาในการบิน ปฏิบัติการ : 5 - 7 ชั่วโมง น้ำ�หนักบินขึ้นสูงสุด : 12,927 กิโลกรัม (28,000 ปอนด์) รัศมีบินไกล : 1,310 ไมล์ทะเล เพดานบินปฏิบัติการ : 7,620 เมตร ระยะทางวิ่งขึ้น (Take-off) : 1,290 เมตร ระยะทางร่อนลง (Landing) : 1,035 เมตร ลูกเรือ : นักบิน 2 นาย พลประจำ�สถานีเรดาร์บนเครื่อง 3 นาย ระบบเรดาร์ปฏิบัติการ : Erieye/Ericsson Active

Electronically Scanned

Array รัศมีทำ�การของเรดาร์ : 450 กิโลเมตรในทุกทิศทาง

ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในส่วนบัญชาการ

พล.อ.ต.อนันตศักดิ์ อะดุงเดชจรูญ เลขานุการกองทัพอากาศ

พล.อ.ต.ยรรยง คันธสร จก.กพ.ทอ.

พล.อ.ต.ปัญญา ศรีสำ�ราญ จก.สบ.ทอ.

พล.อ.ต.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน จก.ขว.ทอ.

พล.อ.ต.อดิศักดิ์ เจิมวรรธนะ จก.กบ.ทอ.

พล.อ.ต.จอม รุ่งสว่าง จก.ยก.ทอ.

พล.อ.ต.อนิรุท กิตติรัต จก.กร.ทอ.

ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในส่วนบัญชาการ

พล.อ.ต.โสภณ สรรพนุเคราะห์ จก.ทสส.ทอ.

พล.อ.ต.วิสุรินทร์ มูลละ จก.กง.ทอ.

พล.อ.ท.วีรนันท์ หาญสวธา ปช.ทอ.

พล.อ.ต.สุรพันธ์ ประพฤติ จก.จร.ทอ.

พล.อ.ต.สมพล พูนทวีธรรม ผอ.สนภ.ทอ.

พล.อ.ต.ชาติชาย รอดบุญพา ผอ.สตน.ทอ.

พล.อ.ต.คเชนท์ โสมะนันทน์ ผอ.สธน.ทอ.

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 49

(ต่อจากฉบับที่แล้ว)  การวิพากษ์วิจารณ์บทความนี้จากผู้อ่านทางอินเตอร์เน็ต

หลังจากบทความนี้ถูกโพสต์ลงอินเตอร์เน็ตได้ ๑๔ ชั่วโมง ผู้เขียนสังเกตได้ว่ามีผู้เข้ามาอ่านกว่า ๑,๐๐๐ คน ผู้แสดงความคิดเห็นพอประมาณทั้งเชิงบวก และลบ(ส่วนใหญ่เป็นเชิงลบ) มียูสเซอร์เนมต่างๆ กัน ดังจะ ยกตัวอย่างมาให้ทราบพอเป็นสังเขป ดังนี้

Dude : รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพของโอบามาคือการขายอาวุธทั่วโลก???

Alan : การขายอาวุธอาจจะกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น อยากเห็นชาติอื่นซื้อรถยนต์ อุปกรณ์เครื่อง ใช้ในบ้าน ฯลฯ จากเราบ้าง? จะเป็นการดีที่เห็นการผลิตในสหรัฐฯ มากกว่าการเห็นว่า “ผลิตในจีน”

Bill : ทำ�ไมต้องขายอาวุธให้อิรัก ในเมื่ออิหร่านจะเข้ารุกรานอิรัก อิหร่านรอคอยวันที่สหรัฐฯ ถอนทัพ ออกไป และสหรัฐฯ ก็ทำ�แล้ว ศัตรูที่ชั่วร้ายที่สุดจะเข้าครอบครองอิรักและอาวุธของอเมริกัน…

NoVaGuy : นี่คือเหตุผลที่โอบามาได้รับรางวัลโนเบล? เขาคงจะขายอาวุธให้ชาติอื่นเพื่อให้ได้คะแนน เสียงอีกไหม? โนเบล=ไม่น่าเชื่อถือ, ตลกการเมือง

Popeye : ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพหวังว่าจะขายอาวุธ น่าขันเสียจริง…

Ron : เดาว่าเป็นการนำ�เงินกลับคืนจากที่เสียไป…

CKS : ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงรักษาเหรียญสันติภาพอยู่หรือ?

50 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

บทส่งท้าย

จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ผู้เขียนมีมุมมองเกี่ยวกับบทความเรื่อง “Analysis: U.S. fighter sales soar in time for campaign” เขียนโดย จิม วูฟ และแก้ไขโดย เลสลีย์ เกเวอร์ซ ดังนี้

ด้านการเมือง : การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้เข้ามาในปลายปี ๒๕๕๕ การขายอาวุธให้กับ ประเทศต่างๆ เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพนักงานบริษัท ความนิยมชมชอบจากพนักงาน ครอบครัว ของพนักงาน รวมทั้งญาติสนิทมิตรสหายของพนักงานจะบอกกันปากต่อปาก ผลลัพธ์เชิงบวกจะพุ่งเป้าไปที่ ผู้นำ�สหรัฐฯ อีกครั้งหนึ่งเมื่อมีการเลือกตั้งในสมัยที่ ๒ อาจกล่าวได้ว่าเป็นการทำ�ประชานิยมของโอบามาในหมู่ พนักงานบริษัทและอเมริกันชนก็ไม่ผิด กระนั้นก็ตามครั้งนี้มิใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ก็มีกระทำ�มาก่อนดังเช่นการ หาเสียงสมัยประธานาธิบดีบชุ ในปี ๒๕๓๕ หากพิจารณาเฉพาะด้านการเมืองภายในประเทศแต่เพียงอย่างเดียว จะส่งผลดีต่อการเลือกตั้งฯ แน่นอน สำ�หรับการเมืองระหว่างประเทศนั้นคงจะเป็นธรรมดาที่มีทั้งประเทศที่ เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย

ด้านเศรษฐกิจ : สหรัฐฯ มีปัจจัยการผลิตพร้อมสมบูรณ์ทั้ง๔ ด้านคือ ๑. ที่ดิน,โรงงานสร้างอาวุธฯ เป็น ของตนเอง ๒. แรงงาน ๓. ทุน และ ๔. ผู้ประกอบการ นอกจากนั้นภาครัฐคือรัฐบาลก็สนับสนุน ภาคเอกชน คือบริษัทผลิตอาวุธฯ ก็พร้อมทำ�การผลิต มีการกระจายการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องบินไปยังบริษัทย่อยซึ่ง มีที่ตงั้ อยู่ตามรัฐต่างๆ ทัว่ สหรัฐฯ ยิง่ ไปกว่านั้นสหรัฐฯ คงวิเคราะห์แล้วว่าจากอดีตทีผ่ ่านมา รวมทั้งอนาคตที่โลก กำ�ลังจะต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่ต้องการเยียวยาขนานใหญ่ ยุโรปเองหลายประเทศก็ย่ำ�แย่ สหรัฐฯ ก็ใช่ จะไว้วางใจค่าเงินของตนเอง ต้องเจรจากับจีนเพือ่ ให้ปรับค่าเงินหยวน ดังนัน้ เมือ่ มีโอกาสส่งออกสินค้า ต้องเร่งรีบ ดำ�เนินการเพือ่ ความอยูร่ อดของตนเอง แม้วา่ สินค้าจะเป็น “อาวุธ” ซึง่ ยามสงบนำ�ไว้ใช้ปอ้ งปราม ยามสงครามนำ�มา ประหัตประหารกัน และ “อาวุธ” แต่ละชิ้นมีราคาแพง หากขายได้ บริษัทผลิตอาวุธก็เข้มแข็ง เศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็แข็งแกร่ง คนสหรัฐฯ ก็มีงานทำ� จีดีพีก็พุ่งขึ้นสูงรวดเร็วทันใจ สรุปได้ว่าหากพิจารณาเฉพาะด้านเศรษฐกิจ อย่างเดียว จะส่งผลดีต่อการเลือกตั้งฯ แน่นอน

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 51

ด้านความมั่นคง : เมื่อสหรัฐฯ ต้องถอนทหารออกจากอิรัก หลังจากที่ส่งทหารเข้าไปปฏิบัติการอยู่ หลายปี หากอิรักไม่มีเครื่องมือทางทหารคือ “อาวุธ” แล้วไซร้ เสถียรภาพความมั่นคงในตะวันออกกลาง คงสั่นคลอนเป็นแน่ จึงต้องหยิบยื่นสิ่งประกันความมั่นคงให้กับประเทศที่ตนถอนทหารออกมา สำ�หรับซาอุฯ เศรษฐีน้ำ�มันนั้นมีบทเรียนจากสงครามอ่าวปี ๒๕๓๔ เมื่ออิรักบุกคูเวต ซาอุฯ ที่มีชายแดนติดกับอิรักและคูเวต จึงร้อนตัว ฉะนั้นการมีอาวุธที่ทันสมัยเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับผู้ซื้อและสหรัฐฯ ไต้หวันเอง ก็ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับตนเองด้านความมั่นคงหากจีนรุกราน ส่วนอิหร่านนั้นปัจจุบันกำ�ลังเสริมสร้าง แสนยานุภาพทางทหาร อาจจุดประกายความสั่นคลอนในตะวันออกกลาง ด้านโอมานประเทศร่ำ�รวยน้ำ�มัน ย่านตะวันออกกลางมีอ่าวโอมานคั่นอยู่กับอิหร่านก็ย่อมต้องการเครื่องมือไว้คุ้มกันอธิปไตยและบูรณาภาพแห่ง ดินแดนของตนเช่นกัน ซึ่งไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขได้

ด้านเทคโนโลยี : การขายอาวุธมิใช่การขายลิขสิทธิ์ อาวุธทุกชนิดที่สหรัฐฯ ขายให้กับประเทศต่างๆจะ มีข้อจำ�กัดเรื่องลิขสิทธิ์ สหรัฐฯ นับว่าเป็นจ้าวแห่งเรื่องลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ สหรัฐฯ จะเป็น ผู้นำ�ออกโรงเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เสมอ หากเป็น “อาวุธ” แล้วสหรัฐฯ จะไม่ยินยอมให้ละเมิดเช่นเดียวกันอย่าง แน่นอน หากประเทศใดซื้อเครื่องบิน F-15, F-16 แล้วไปปรับปรุงดัดแปลงติดอาวุธนิวเคลียร์คงไม่พลาดการ ขัดใจกับสหรัฐฯ แม้แต่การซ่อมแซมเครื่องบินก็ต้องกระทำ�โดยผู้แทนหรือบริษัทที่มีใบอนุญาต นั่นก็คือหากซื้อ อาวุธจากสหรัฐฯ (หรือจากประเทศใดๆ) สหรัฐฯ หรือประเทศนัน้ ๆ จะกุมชะตาเรือ่ งเทคโนโลยีไว้แต่เพียงผูเ้ ดียว เว้นเสียแต่วา่ ผูซ้ อื้ จะลอกเลียนแบบเทคโนโลยีแล้วนำ�ไปพัฒนาปรับปรุงขึน้ มาใหม่ นอกจากนัน้ การดำ�เนินธุรกิจ ด้านผลิตอาวุธยังเป็นการฝึกปรือ และพัฒนา ต่อยอดทักษะในการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอไม่ขาดตอน ดังนัน้ การขายเครือ่ งบินและอาวุธยุทธภัณฑ์ยอ่ มได้ใจอเมริกนั ชนในแวดวงเทคโนโลยีซงึ่ ทำ�รายได้ให้กบั ประเทศ อย่างมหาศาลแน่นอน

52 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ด้านการทหาร : การขายอาวุธให้กับประเทศใดประเทศหนึ่งได้ จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น สร้าง เครดิต ให้กบั กำ�ลังพลของประเทศตนเอง ความภาคภูมใิ จ ความเชือ่ มัน่ ขวัญ กำ�ลังใจ เป็นอำ�นาจกำ�ลังรบทีไ่ ม่มี ตัวตน และจำ�เป็นต้องมีอยู่ในหมู่ทหาร ดังที่เคล้าสวิตส์นักปรัชญาการทหารระดับโลกกล่าวไว้ว่า “อาวุธเปรียบ เสมือนด้ามดาบ แต่คมดาบทีแ่ ท้จริงอยูท่ ขี่ วัญ และกำ�ลังใจของทหาร” ปัจจุบนั มีหลายประเทศทีส่ ามารถผลิต “อาวุธ” ออกขายได้ แต่คุณภาพกับราคาจะเป็นตัวตัดสิน ในมุมมองของผู้เขียน สหรัฐฯ นับว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพล ทีส่ ดุ ทางการทหารอันดับต้นๆ ของโลก การขายเครือ่ งบิน F-15, F-16 แม้จะเป็นเครือ่ งใหม่รนุ่ ล่าสุดสหรัฐฯ ยอม ขายให้ได้เพราะสหรัฐฯ มีเครื่องบินแบบใหม่ที่ทดแทนเครื่องบิน F-15,F-16 แล้วนั่นเอง สำ�หรับประเทศทีเ่ ป็น ฝ่ายซื้อคงต้องคิดหนักถ้ามีข้อขัดแย้งกับประเทศผู้ผลิต ปัจจุบันสหรัฐฯ ส่ง “คน” และ “อาวุธ” ออกนอกประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพในทุกภูมิภาคของโลก หากส่งออกแต่เพียง “อาวุธ”อย่างเดียวจะได้เปรียบกว่าการนำ�ชีวิต “คน” ซึง่ เป็นลูกหลานสังคมอเมริกนั ชนไปเสีย่ งในสนามรบ ดังนัน้ การขายแต่เพียงเครือ่ งบินและอาวุธยุทธภัณฑ์ ย่อมได้ใจอเมริกันชนในแวดวงการทหารอย่างแน่นอน

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 53

ด้านสังคมจิตวิทยา : การขายเครื่องบิน และอาวุธยุทธภัณฑ์ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนในภาคประชาชน ทั้งของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ปี ๒๕๕๕ สหรัฐฯ มีประชากรประมาณ ๓๑๒ ล้านคนเศษ ข้อคิดเห็นที่เสรี หลากหลาย สลับซับซ้อนและแตกต่างกัน ต้องนำ�มาวิเคราะห์สังเคราะห์โดยละเอียด นอกเหนือจากนั้นยังมี ข้อคิดเห็นจากประเทศอื่นๆ ที่เป็นผู้ซื้อและไม่ใช่ผู้ซื้อ เช่น สมควรหรือไม่ที่ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แต่กลับมีพฤติกรรมสนับสนุนการค้าอาวุธ??? หรือหากอาวุธสหรัฐฯ ตกไปอยู่ในมือผู้ก่อการร้ายหรือศัตรูของ สหรัฐฯ จะทำ�อย่างไร??? การขายอาวุธของสหรัฐฯ ให้กับประเทศต่างๆ มีผลสะท้อนทั้งด้านบวก และด้านลบ ทั้งทางตรง และทางอ้อมในทุกด้านไม่ว่าจะเป็น การเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคง การทหาร เทคโนโลยี และ สังคมจิตวิทยา สังเกตได้จากข้อวิพากษ์วิจารณ์ของบทความดังกล่าวในอินเตอร์เน็ตดังที่ยกตัวอย่างให้ไว้ แต่ ข้อวิพากษ์ฯ ดังกล่าวเป็นเพียงประชากรส่วนน้อย ยังไม่เพียงพอต่อการนำ�ไปใช้อ้างอิงทางสถิติ และสรุปผล

จากข้อมูลดังกล่าวทัง้ หมดข้างต้นนี้ ผูเ้ ขียนมีขอ้ คิดเห็นว่าด้านสังคมจิตวิทยาคือสังคมอเมริกนั เองนัน่ แหละ จะเป็นตัวตัดสินทุกๆ ด้าน ในปลายปี ๒๕๕๕ ผลการเลือกตั้งฯ จะเป็นเช่นไรไว้คอยติดตามกัน

ท่านผูอ้ า่ นอาจมีขอ้ คิดเห็นด้านอืน่ ๆ นอกเหนือไปจากนีอ้ กี หรือมีความคิดเห็นแตกต่างไปจากนีก้ เ็ ป็นได้ อย่างไรก็ดีไม่ว่าใครจะซื้อจะขายอาวุธอะไรกับใคร ใครจะขายอาวุธอะไรแล้วได้ความนิยมชมชอบอย่างไร ใครจะขึ้นเป็นผู้นำ�สหรัฐฯ คนต่อไป จะเป็นคนเดิมหรือคนใหม่ จากพรรคเดิมหรือพรรคใหม่ ขออย่าให้โลกใบนี้ ต้องเดือดร้อนจากอาวุธที่นำ�ออกมาแก้ไขข้อขัดแย้งกันเลย ภัยพิบัติจากธรรมชาติปัจจุบันก็มากเกินพอแล้ว… สันติภาพจงบังเกิดแก่โลกใบนี้เทอญ… แหล่งอ้างอิง : 1. http://news.yahoo.com/analysis-u-fighter-sales-soar-time-campaign-221322593.html; “Analysis: U.S. fighter sales soar in time for campaign”, Reporting By Jim Wolf, editing by Leslie Gevirtz, Jan 02,2012, เข้าถึง ๒ ม.ค. ๕๕

2. http://blogs.reuters.com/jim-wolf/, เข้าถึง ๒ ม.ค. ๕๕

3. Wikipedia, the free encyclopedia

54 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ประจำ�เดือน พฤษภาคม 2555

CROSSWORD

ขออภัยและแก้ไขข้อความให้ถูกต้อง ในฉบับเดือน มี.ค.๕๕ หน้า ๔๖ Across ข้อ 14. “cashed” แก้เป็น “crashed” ขอบคุณค่ะ

อ.วารุณี

พฤษภาคม ๒๕๕๕

 Across 1. A device that most fire engins, ambulance and police cars have it.

3. Opposite of “answer” 7. All of his life, he has only John, to be his ............ or friend.

10. ............. is a part of a car or other vehicle which makes them move.

11. Would you like to watch TV. .......... listen to the radio?

12. An .......... is a picture of Christ, the Virgin Mary, or a saint painted on a wooden panel.

14. The two .............. have been joined in the Royal Ploughing Ceremony since they were young.

15. Negative answer 16. The government has sent a Tax-form ......... me since January.

18. The ................. writes the editorial on the Air Force magazine.

20. Once she cut her finger accidentally then she still has a ............... or a scar.

23. ........... have you been, Tom? 26. The same meaning as “nipple” 27. A : How ........ is it from here to Future Park?

B : 10 minutes by car.

29. Tony is a born .......... because he is always unsuccessful.

30. To put on means to ................ .

32. A : Do you .............. to fight with Somchit Jonggorhor, the champion boxer?

B : No, I don’t have enough courage to do so.

ข่าวทหารอากาศ 55

 Down 1. Oh! there are many insects here so they can ......... or prick your skin and then you feel sharp pain.

2. That naughty boy loves to take bird eggs from its ........... on a tree.

3. I had eye operation 6 months .............. .

4. A number that is between five and seven 5. A part of our lower organ used to hit someone normally in Thai boxing.

6. Thanom is very good son, he always ........... the money order to his parents.

7. If you ........... someone by chance, you see him unexpectedly.

8. The same as No.16 Across 9. liquid paper is also an ............ .

13. Having an outer layer, coat, or covering 17. ..........., the Royal plough ceremony lately is very interesting.

19. A small area in a desert where water and plants are found.

21. A large area of salty water that is part of an ocean or is surrounded by land.

22. The weather man forecast that the weather will be ......... or severe in Bangkok this afternoon.

24. One leg ......... that table is going to break.

25. A room in a hospital which have beds for many sick people.

28. A farm 29. We heard that there are many ............ or small animals that look like worm in some villages.

56 ข่าวทหารอากาศ

 Across 34. ........... are a pair of straps that go over someone’s shoulders and are fasten to the trousers at the front and back to prevent the trousers from falling.

38. Jim will do his homework as soon .......... he gets home.

39. .........., not only Jim but also his sister, Joe. 40. An area of land that is higher than the land which surrounds it.

44. An incident 47. Ex Priminister Tuksin is still an ............. guy or the rich man.

48. Therefore 49. A .......... is a bill or check for goods or services that you have received.

51. An abbreviation used before the woman’s name when you are speaking to her, you don’t expect she is married or not.

52. To ........... over means to get control of something 54. Lately there was a ......... or a crowd of people behaved violently at Din Daeng road.

56. Did you .......... that bad event on TV.?

57. A : How is your business?

B : It is .............. or no problem.

62. Last week we were rather broke so we sat down at a ............. or a small corner to have noodles.

63. To jot down, to write down 64. John bought a new car ............. his wife.

พฤษภาคม ๒๕๕๕

 Down 31. Now, we ........... electricity insted of candle to read.

33. An abbreviation for “road” 35. A measurment amount of medicine or drug 36. Many people are afraid of ghost although they have ........... seen it.

37. We have to study the last ............. or a particular subject tomorrow.

38. ......... what time will you have an interview?

41. A prefix added to words that begin with the letter “l” and have the opposite meaning.

42. Light, lit, ...........

43. An abbreviation for “Lieutenant” 45. The same as No.15 Across 46. His necklace is not made of the real gold so it is a ............ one.

49. A .......... is an activity or a piece of work 50. Danai had ............... promoted to be the manager.

51. The superlative form of “much and many” 53. ............ you want to buy a new house?

55. The same as No.8 Down 58. Please don’t blame ........... for designing the difficult crosswords for you all.

59. The same as No.24 Down 60. The same as No.8 Down 61. It takes me one .......... (abbreviation) or 60 minutes to finish the latest crossword. (เฉลยอยู่หน้า ๗๓)

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 57

ประเทศที่เกิดแบ่งแยกจากสงครามโลกครั้งที่ ๒ หรือหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ยุติลง ได้แก่ ประเทศ เยอรมนีตะวันตกและเยอรมนีตะวันออก และประเทศเวียดนามเหนือและประเทศเวียดนามใต้ที่เคยแบ่งกันที่ เส้นขนานที่ ๒๘ แต่ปัจจุบันประเทศที่กล่าวมาข้างต้นนี้สามารถรวมกันเป็นประเทศเดียวกันเหมือนก่อนเกิด สงครามโลกครั้งที่ ๒ ( ระหว่างปี พ.ศ.๒๔๘๓ – ๒๔๘๘) สำ�หรับประเทศเกาหลีเหนือกับประเทศเกาหลีใต้ ได้เกิด เป็น ๒ ประเทศดังกล่าวตัง้ แต่ปี พ.ศ.๒๔๘๘ คือเมือ่ สงครามโลกครัง้ ที่ ๒ ยุตลิ งเนือ่ งจากในขณะเกิดสงคราม ญีป่ นุ่ ได้เข้ารุกรานเกาหลีและสามารถยึดครองไว้ได้รวมถึงประเทศอืน่ ๆ ในเอเชีย เช่นเวียดนาม ลาว กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย พม่า และประเทศจีนบางส่วนเช่นแมนจูเรีย ยกเว้นประเทศไทยประเทศเดียว ที่ยอมเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่นในช่วงปลายสงครามจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี โดยญี่ปุ่นยกพล ขึ้นบกในภาคใต้ของประเทศไทยตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชและจ.ประจวบคีรีขันธ์ จนไทยไม่สามารถต้านทาน กำ�ลังรบของญี่ปุ่นได้ ทางรัฐบาลจึงยินยอมให้ญี่ปุ่นเคลื่อนกำ�ลังผ่านประเทศไทยเพื่อไปสู้รบกับอังกฤษในพม่า และอินเดียจึงได้เกิดทางรถไฟสาย “มรณะ” ในประเทศไทยใน จ.กาญจนบุรี ที่ญี่ปุ่นสร้างข้ามแม่น้ำ�แคว เพื่อ ทอดผ่านเข้าไปยังพม่าตามที่ทราบกันดีแล้ว จึงถือได้ว่าประเทศไทยเราได้รอดพ้นจากอิทธิพลของมหาอำ�นาจ ตะวันตกมา ๒ ครัง้ ทีส่ �ำ คัญคือ ครัง้ แรกในสมัยการล่าอาณานิคมของมหาอำ�นาจตะวันตก โดยพระปรีชาสามารถ

58 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ของพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ ๔ และรัชกาลที่ ๕ จึงรอดจากปากเหยี่ยวปากกามาได้และครั้งที่ ๒ คือ หลัง สงครามโลกครั้งที่ ๒ นี้เองหลังจากที่ญี่ปุ่นได้พ่ายแพ้แก่สัมพันธมิตร นำ�โดยสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และ พันธมิตรอื่นๆ เป็นผลให้ไทยเราต้องมีปัญหาเนื่องจากได้ตกลงร่วมรบกับญี่ปุ่นที่กล่าวแล้ว ประเทศสัมพันธมิตร ได้พยายามที่จะบังคับให้ไทยเราต้องแพ้สงคราม แต่มีกำ�ลังเสรีไทยคือนักเรียนนักศึกษาไทย จากสหรัฐฯ และ ประเทศยุโรป ได้ประกาศไม่ยอมรับว่าไทยได้ประกาศร่วมรบกับญีป่ นุ่ พร้อมได้สง่ กองกำ�ลังหน่วยใต้ดนิ เข้าร่วมรบกับฝ่ายสัมพันธมิตรในอินเดียและตอนเหนือของไทยร่วมกับกองกำ�ลังพันธมิตรในไทย ในทีส่ ดุ เมือ่ ไทย ตกทีน่ งั่ ลำ�บากจะต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงคราม และจะต้องสูญเสียอิสรภาพและค่าปฏิกรรมสงครามอย่างมหาศาล แต่ด้วยพระบารมีของพระสยามเทวาธิราช รวมถึงผลงานสำ�คัญของหน่วยเสรีไทยจึงทำ�ให้ไทยได้รอดพ้นจากเงื้อมมือ มัจจุราชทางตะวันตกเป็นครัง้ ที่ ๒ ถึงแม้จะถูกบังคับจากอังกฤษให้ไทยต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามด้วยข้าวเปลือก จำ�นวนหลายแสนตันแทน เป็นผลให้ไทยต้องประสบกับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ�ภายหลังเมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ สิ้นสุดลง ถือว่าเป็นยุคที่คนไทยทั่วประเทศต้องประสบกับปัญหาความอดอยากอย่างแสนสาหัส เกิดยุค “ข้าวยาก หมากแพง” ส่วนประเทศที่พยายามคัดค้านไม่ยอมให้ไทย รอดพ้นจากผู้แพ้สงครามที่สำ�คัญคือ ประเทศอังกฤษ กับประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง สำ�หรับฝรั่งเศสต้องการ บีบไทยเพื่อให้คืนดินแดนที่ไทยยึดจากฝรั่งเศสใน “สงครามอินโดจีน” พร้อมต้องการให้ไทยจ่ายค่า ปฏิกรรมสงครามให้ฝรั่งเศสเป็นจำ�นวนมากอีกด้วย ดังนั้นไทยจึงต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามพร้อมด้วย ดินแดนที่ยึดได้คืนให้แก่ฝรั่งเศสทั้งหมด (ได้แก่ดินแดน ที่ฝรั่งเศสยึดจากไทยในสมัยล่าอาณานิคม) สำ�หรับ ประเทศสหรัฐฯ และจีนนั้น มีหลักฐานยืนยันว่าได้ พยายามคัดค้านเพื่อช่วยเหลือไทยให้รอดพ้นจากตกเป็นผู้แพ้ในสงครามร่วมกับญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามจากการ เอาตัวรอดของไทยครั้งนี้ไทยเราได้รับสมญานามจากประเทศตะวันตกว่า “Siamese Talk” หมายถึงศรีธนญชัย นั้นเอง จะพูดถึงสงครามเกาหลีแต่เพี้ยนมาพูดถึงพฤติกรรมของประเทศมหาอำ�นาจผู้ชนะสงครามที่ได้กระทำ� ต่อไทย เพื่อเน้นให้ทราบว่าอารยประเทศตะวันตกนั้นไว้วางใจไม่ได้จนมาถึงปัจจุบัน  เบื้องหลังเบื้องลึกในสงครามเกาหลี

ได้กล่าวแล้วว่าประเทศเกาหลีถกู แบ่งแยกออกเป็น ๒ ประเทศคือเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ตามเส้นขนาน ที่ ๓๘ คือเหนือเส้นขนานนี้เป็นประเทศเกาหลีเหนือหรือเรียกชื่อเป็นทางราชการว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนเกาหลี (Democratic people s Republic of Korea: DPRK) ซึ่งปกครองโดยระบบสังคมนิยม

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 59

คอมมิวนิสต์ โดยได้รบั อิทธิพลจากอดีตสหภาพโซเวียตและจีน ส่วนใต้เส้นขนานเป็นสาธารณรัฐเกาหลีหรือทีท่ ราบ กันดีคือเกาหลีใต้ ซึ่งปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย ที่จัดได้ว่าสมบูรณ์แบบประเทศหนึ่งในเอเชียได้รับการ ค้ำ�ประกันความปลอดภัยจากศัตรูนอกประเทศจากสหรัฐฯ ปัจจุบันเกาหลีใต้ถือว่าเป็นประเทศที่มีความมั่นคง มัง่ คัง่ ทางเศรษฐกิจประเทศหนึง่ ของเอเชีย และเป็นประเทศทีข่ าวสะอาดมีการฉ้อราษฎร์บงั หลวงหรือคอรัปชัน่ น้อยที่สุดเช่นเดียวกับประเทศสิงคโปร์

เกาหลีเหนือ (North Korea) และเกาหลีใต้ (South Korea) ถูก แบ่งแยกตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๘๘ คือหลัง สงครามโลกครั้งที่ ๒ สงบลง (สาเหตุ การแบ่งแยกเคยเขียนไว้ในหนังสือ ข่าวทหารอากาศประจำ�เดือน สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๓ คอลัมน์เมื่อเกาหลีถูก กล่าวหาว่า “ค้าอาวุธสงคราม”) คือ เมื่ อ เกาหลี ถู ก ปลดปล่ อ ยจากการ ยึ ด ครองของญี่ ปุ่ น ในสงครามโลก ครัง้ ทีส่ อง เกาหลีถกู แบ่งแยกเป็น ๒ ประเทศ ปกครองโดย ๒ ระบบ เป็นต้นมา ทราบกันดีแล้วว่าในอดีตการปกครอง โดยระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์นั้นเป็นระบอบการ ปกครองที่ฝ่ายประชาธิปไตยถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจต่อ ระบอบประชาธิปไตยโดยเฉพาะสหรัฐฯ ได้แต่งแต้มให้ ระบอบคอมมิวนิสต์ให้เป็นยักษ์เป็นมารทีน่ า่ กลัวเป็นทีส่ ดุ ไม่เหมือนในปัจจุบนั เมือ่ ก่อนไทยเราถูกสหรัฐฯ จูงใจให้ ไทยกลายเป็นศัตรูกบั คอมมิวนิสต์อย่างเปิดเผยจึงเกิดการ ต่อสูก้ นั ขึน้ ระหว่างคนไทยทีน่ ยิ มลัทธิคอมมิวนิสต์มาโดย ตลอด เพิง่ จะมาสิน้ สุดลงเมือ่ สมัยรัฐบาลทีม่ พี ลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยประกาศนโยบาย ทีเ่ รียกว่า ๖๖/๒๓ คือให้คนไทยทีน่ ยิ มลัทธิคอมมิวนิสต์ ได้ออกจากป่ามาพัฒนาประเทศชาติ โดยรัฐบาลจะช่วยเหลือในการดำ�รงชีพและจะไม่เอาความผิด จนต่อมา ได้ประกาศยกเลิกกฎหมายว่าด้วยความผิดจากการกระทำ�เป็นคอมมิวนิสต์ จึงทำ�ให้ปจั จุบนั นีไ้ ด้มคี นประกาศตัว เป็นคอมมิวนิสต์อย่างชัดแจ้งโดยไม่มคี วามผิด สำ�หรับเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้กน็ า่ จะทำ�นองเดียวกัน จึงได้เกิด สงครามขึ้นเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๓ ปรากฏว่าในสงครามครั้งนี้ ฝ่ายเกาหลีเหนือได้บุกรุกเข้าไปใน

60 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

เกาหลีใต้กอ่ นโดยการสนับสนุนกำ�ลังจากจีน (สมัยนัน้ เรียกว่าจีนแดง) ฝ่ายเกาหลีใต้ได้รบั การสนับสนุนกำ�ลังจาก สหประชาชาติโดยสหรัฐฯ เป็นผูน้ �ำ ใหญ่ สำ�หรับไทยเราได้สง่ กำ�ลังเข้าร่วมรบกับสหประชาชาติดว้ ยและได้ท�ำ การ รุกรบผลัดได้เปรียบเสียเปรียบอยู่เป็นเวลา ๓ ปี ต้องสูญเสียกำ�ลังพลและยุทโธปกรณ์ไปอย่างมหาศาล ในที่สุด ทั้งสองเกาหลีได้เซ็นสัญญาหยุดยิงขึ้นเมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๙๖ โดยให้ยึดเส้นขนานที่ ๓๘ เป็นเส้น แบ่งเขตเช่นเดิม และจัดตั้งเขตปลอดทหารขึ้น (Korean Demilitarized Zone) อย่างไรก็ตามหลังจากการทำ� สัญญาหยุดยิงขึน้ แล้วความสงบสุขจากภัยสงครามทัง้ สองประเทศยังไม่ได้เกิดอย่างแท้จริงคือมีการกระทบกระทัง่ กันมาตลอดส่วนใหญ่เนื่องจากปัญหาเขตแดน โดยมากเกาหลีเหนือมักจะกล่าวหาว่าเกาหลีใต้ล่วงล้ำ�เขตแดน ของตนโดยเฉพาะเขตแดนทางน้�ำ บริเวณทะเลเหลือง ซึง่ ได้เกิดปัญหาสำ�คัญขึน้ อยูเ่ นืองๆ และยังมีเกาะแก่งต่างๆ ซึ่งทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ต่างอ้างกรรมสิทธิ์ของตน จึงมักมีคำ�กล่าวว่าถึงแม้สงครามเกาหลี ได้เซ็นสัญญา หยุดยิงกันมาแล้วถึงปัจจุบันนับเป็นเวลา ๖๐ ปี แต่สันติสุขอย่างเป็นทางการจริงๆ ยังไม่เกิดขึ้น (North Korea and South Korea have steel not officially made peace) หรืออาจกล่าวได้ว่าสงครามเกาหลียังไม่ได้ยุติ อย่างเป็นทางการนั้นเอง (The war has yet to officially end)

ดังนั้นความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้จึงเกิดขึ้นตลอดเวลาหลังจากปี พ.ศ. ๒๔๙๖ เป็นต้นมา โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่สหรัฐฯ ได้วางกำ�ลังทหารบกจำ�นวน ๒ กองพลทหารราบ ไว้ประจำ�ที่เกาหลีใต้ เพื่อค้ำ�ประกันความปลอดภัย โดยเฉพาะในเขตปลอดทหาร ซึ่งอยู่ใกล้กับเส้น เขตแดนเป็นเหตุให้เกาหลีเหนือไม่พอใจ จนเป็นเหตุ ให้เกิดความตึงเครียดนำ�ไปสูก่ ารปะทะกันในบริเวณ ชายแดนในปี พ.ศ.๒๔๙๙ การปะทะกันในครัง้ นีเ้ ป็น วิกฤติการณ์ที่เรียกว่า “Axe Murder Incident”

อย่างไรก็ตามการกระทบกระทั่งกันระหว่าง ๒ เกาหลี ได้เกิดขึ้นมาตลอดเวลา แต่ในช่วงปีที่แล้ว (พ.ศ.๒๕๕๓) ได้เกิดการปะทะกันระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ๒ ครั้งที่ถือว่ารุนแรงคือ เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๓ เรือรบเกาหลีใต้ชื่อ โชนัน ถูกกองกำ�ลังทหารเรือเกาหลีเหนือใช้ตอร์ปิโด ยิงจมลงขณะแล่น ลาดตระเวนทางทะเลบริเวณน่านน้ำ�ของตน ใกล้บริเวณน่านน้ำ�เกาหลีเหนือเป็นผลให้ลูกเรือ ๔๖ คนเสียชีวิต ทั้งหมด อย่างไรก็ตามการยิงเรือเกาหลีใต้จมลงครั้งนี้ ทางฝ่ายเกาหลีเหนือได้กล่าวปฏิเสธ แต่หลังจากได้กู้เรือ ขึ้นจากท้องทะเลได้แล้วปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าสาเหตุที่ทำ�ให้เรือเกาหลีใต้จมลงในครั้งนี้เนื่องจากถูกยิงด้วย ตอร์ปิโดเกาหลีเหนือนั่นเอง

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 61

และเมื่อ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้เกิดเหตุการณ์เกาหลีเหนือใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มบริเวณเกาะ ยองเปียง (Yeongpyeong) ซึง่ อยูใ่ นเขตประเทศเกาหลีใต้ ใกล้บริเวณน่านน้�ำ ของประเทศเกาหลีเหนือ การโจมตี ครั้งนี้เกาหลีเหนือมุ่งโจมตีทำ�ลายที่ตั้งทางทหารและบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของราษฎรเกาหลีใต้จนได้รับความ เสียหายและมีทหารและพลเรือนเสียชีวิต ๒ คน

มีนกั วิเคราะห์สถานการณ์กล่าวว่าปัจจัยสำ�คัญปัจจัยหนึง่ เป็นเหตุให้สถานการณ์การเมืองบนคาบสมุทร เกาหลีรอ้ นระอุขนึ้ อย่างรวดเร็ว จนหลายฝ่ายหวัน่ เกรงว่าจะเกิดสงครามเกาหลีรอบสองขึน้ นัน้ มาจากการเมือง ภายในของโสมแดงที่กำ�ลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจาก ประธานาธิบดี คิม จอง อิล เมื่อมีสุขภาพ ทรุดโทรมลงจากสารพัดโรคภัยรุมเร้า ได้ตัดสินใจแต่งตั้งนาย คิม จอง อัล ลูกชายคนที่ ๓ ขึ้นเป็นทายาท ทางการเมืองอย่างเป็นทางการ เป็นผลให้พายุทางการเมืองก่อตัวขึน้ อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และเพือ่ เป็นการ แก้ปัญหาภายในประเทศ ทำ�ให้นาย คิม จอง อิล เปิดศึกกับเกาหลีใต้เพื่อพิสูจน์ฝีมือของบุตรชายก็อาจเป็นได้ เช่นกัน

ลำ�ดับเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือ – เกาหลีใต้ที่สำ�คัญๆ ปี พ.ศ. ๒๔๙๓ เกาหลีเหนือใช้ก�ำ ลังบุกเข้าไปในเกาหลีใต้ จึงกลายเป็นสงครามเย็นตัวแทนเกิดขึน้ เป็นครัง้ แรก

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ ๒ สงบลง โดยสหประชาชาติและสหรัฐฯ สนับสนุนเกาหลีใต้ ส่วน

จีนและสหภาพโซเวียตในอดีต ( รัสเซียในปัจจุบัน ) สนับสนุนเกาหลีเหนือ ปี พ.ศ. ๒๔๙๖ การสู้รบสงบลงแต่มิได้มีการทำ�สัญญาสงบศึกเกิดขึ้นแต่อย่างใด ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ทหารเกาหลีเหนือ จำ�นวน ๒๑ คน ลอบเข้าเกาหลีใต้เพื่อลอบสังหารประธานาธิบดี และ

เกาหลีเหนือได้ยึดเรือสายลับของสหรัฐฯ พร้อมลูกเรือไว้เป็นเวลา ๑๑ เดือน ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ บ. รบเจ๊ตเกาหลีเหนือทำ�การยิง บ. สายลับสหรัฐฯ ตกพร้อมลูกเรือสหรัฐฯ เสียชีวิต ๓๑ คน ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ทหารเกาหลีเหนือสังหารทหารสหรัฐฯ ที่บริเวณเขตปลอดทหาร ๒ คน ปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้เกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างกองกำ�ลังทางเรือ บริเวณพื้นที่ขัดแย้งทางทะเล เป็นผลให้

ลูกเรือเกาหลีเหนือถูกสังหาร ๑๗ คน ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ เรือฟริเกตเกาหลีใต้ถูกยิงจมลงระหว่างปะทะกับกองกำ�ลังเกาหลีเหนือ ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้เกิดปะทะกันบริเวณเขตปลอดทหาร ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ทหารเกาหลีใต้ไล่ตามทหารเกาหลีเหนือ ๒ คน ที่ลักลอบข้ามพรมแดนเกาหลีใต้ ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้เกิดการปะทะกันทางทะเลอาณาเขตตอนใต้ เป็นผลให้เรือทั้งสองฝ่ายได้รับความเสียหาย ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ เมื่อเดือน มีนาคม ๒๕๕๓ เรือรบเกาหลีใต้ชื่อ โชนัน ได้จมลงสู่ทะเลพร้อมด้วยลูกเรือ ๔๖ คน เสียชีวติ ทัง้ หมดตอนแรกยังไม่ทราบสาเหตุ แต่เรือดังกล่าวปฏิบตั กิ ารในพืน้ ทีอ่ าณาเขต ระหว่าง

เกาหลีเหนือ – เกาหลีใต้ ปรากฏว่าหลังจากได้กู้เรือดังกล่าวขึ้นมาได้ มีปรากฏร่องรอยถูก

กระสุนตอร์ปิโด จากเรือรบเกาหลีเหนือ ทำ�ให้เกาหลีใต้ประท้วง แต่เกาหลีเหนือได้ปฏิเสธ

ตลอดมา จึงเป็นผลให้ เกิดความขัดแย้งยกระดับสูงขึ้นในปัจจุบัน ฉบับหน้าจะนำ�เสนอการเปรียบเทียบกำ�ลังรบ ของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้

พฤษภาคม ๒๕๕๕

62 ข่าวทหารอากาศ

Tes T ip 22

ครูภาษาพาที Paulaner Dunkel

สวัสดีคะ่ ท่านผูอ้ า่ นหนังสือข่าวทหารอากาศทุกท่าน ดิฉนั มาพบกับท่านผูอ้ า่ นอีกครัง้ นะคะ เป็นบทความ ที่ต่อเนื่องมาจาก Test Tip 21 เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ฝึกฝนและทบทวนภาษาอังกฤษด้วยตนเองแล้วยังเป็นการ เตรียมความพร้อมในการเข้ารับการทดสอบภาษาอังกฤษที่ศูนย์ภาษาฯ ด้วย ท่านผู้อ่านลองเริ่มทำ�แบบทดสอบ ได้เลยนะคะ อ่านโจทย์และเลือกคำ�ตอบที่คิดว่าถูกต้องจากตัวเลือก ๔ ตัวเลือกที่ให้มา . I feel tired.

a. I will be tired.

c. I am tired.

b. I was tired. d. I’m not tired.

. Peter is carrying the box.

a. He is sitting on the box.

c. He is buying the box.

b. He is painting the box. d. He is moving the box.

. Bill was a common American name.

a. Few people are named Bill.

c. Bill is a bad name.

b. Many people are named Bill. d. Bill is a rare name.

. I am not familiar with that kind of TV program.

a. I can’t find it.

b. I don’t know anything about it.

c. I don’t like it.

d. I can’t pay for it. . Mrs. Smith is fat but her husband is the opposite.

a. Her husband is rich.

b. Her husband is fatter.

c. Her husband is thin.

d. Her husband is sleepy.

เมื่อทำ�แบบฝึกหัดครบห้าข้อแล้ว เชิญตรวจคำ�ตอบและอ่านคำ�อธิบายเพิ่มเติมได้เลยค่ะ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 63

. I feel tired. ฉันรู้สึกเหนื่อย (เหตุการณ์ในปัจจุบัน)

a. I will be tired. ฉันจะรู้สึกเหนื่อย (เหตุการณ์ในอนาคต)

b. I was tired.

ฉันรู้สึกเหนื่อย (เหตุการณ์ในอดีต)

c. I am tired.

ฉันรู้สึกเหนื่อย (เหตุการณ์ในปัจจุบัน)

d. I’m not tired.

ฉันไม่รู้สึกเหนื่อย (เหตุการณ์ในปัจจุบัน)

คำ�ตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ c. I am tired. ฉันรู้สึกเหนื่อย คำ�อธิบายเพิ่มเติม

• ประโยค I am tired มีความหมายเหมือน I feel tired และมีโครงสร้างประโยคเหมือนกัน คือ คำ�กริยา (verb) + คำ�คุณศัพท์ (adjective)

• คำ�กริยา feel, taste, smell, look, sound, seem, appear, turn, become เป็นคำ�กริยาที่เรียกว่า Linking Verb Subject + be + adjective I was tired at the end of the workshop. ฉันรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อจบการประชุมเชิงปฏิบัติการ

Subject + linking Verb + adjective I felt tired at the end of the workshop. ฉันรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อจบการประชุมเชิงปฏิบัติการ

The students were very excited about the trip to The students looked very excited about the trip Suphanburi. to Suphanburi. นักเรียนรู้สึกตื่นเต้นมากกับการไปเที่ยวสุพรรณบุรี นักเรียนรู้สึกตื่นเต้นมากกับการไปเที่ยวสุพรรณบุรี The football match was boring. การแข่งขันฟุตบอลน่าเบื่อ

The football match seemed boring. การแข่งขันฟุตบอลน่าเบื่อ

They were very exhausted when the game was over. พวกเขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากเมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง

They looked very exhausted when the game was over. พวกเขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากเมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง

This ice cream is good. ไอศกรีมนี้รสชาติดี

This ice cream tastes good. ไอศกรีมนี้รสชาติดี

The milk is bad. Please throw it away. นมมีกลิ่นไม่ดี ช่วยเอามันไปทิ้ง(หน่อย)

The milk smells bad. Please throw it away. นมมีกลิ่นไม่ดี ช่วยเอามันไปทิ้ง(หน่อย)

พฤษภาคม ๒๕๕๕

64 ข่าวทหารอากาศ

. Peter is carrying the box. ปีเตอร์กำ�ลังย้ายที่กล่องใบนั้น

a. He is sitting on the box. เขากำ�ลังนั่งอยู่บนกล่องใบนั้น

b. He is painting the box. เขากำ�ลังทาสีกล่องใบนั้น

c. He is buying the box. เขากำ�ลังซื้อกล่องใบนั้น

d. He is moving the box. เขากำ�ลังย้ายที่กล่องใบนั้น

คำ�ตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ d. He is moving the box. เขากำ�ลังย้ายที่กล่องใบนั้น คำ�อธิบายเพิ่มเติม

• carry ในที่นี้หมายถึง ย้ายสิ่งของจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง (to take something from one place to another) . Bill was a common American name. บิลเป็นชื่อคนอเมริกันที่พบได้ทั่วไป

a. Few people are named Bill. มีคนไม่กี่คนที่ใช้ชื่อบิล

b. Many people are named Bill. มีคนจำ�นวนมากที่ใช้ชื่อบิล

c. Bill is a bad name.

บิลเป็นชื่อที่ไม่ดี

d. Bill is a rare name.

บิลเป็นชื่อที่หายาก คำ�ตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ b. Many people are named Bill. มีคนจำ�นวนมากที่ใช้ชื่อบิล คำ�อธิบายเพิ่มเติม

• common เป็นคำ�คุณศัพท์ (adjective) มีความหมายว่า ที่พบได้เป็นจำ�นวนมาก หรือ ที่พบได้ทั่วไป หรือพบได้หลายที่ (existing in large numbers or in many places). ตัวอย่างประโยค : - Breast cancer is the most common type of cancer among women around the world. มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งชนิดที่พบได้มากที่สุดในสตรีทั่วโลก

• ประโยค Few people are named Bill. และ Many people are named Bill. เป็นประโยค ที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ� เรียกว่า Passive Voice รูปแบบของ Passive Voice มีดังนี้ ประธาน (subject)

Verb to be

กริยาช่องที่ ๓ (Past Participle)

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 65

Tense

Active Voice ทอมกินข้าว

Passive Voice ข้าวถูกกินโดยทอม

Present Simple Tense Present Perfect Tense Past Simple Tense Past Continuous Tense Past Perfect Tense Future Simple Tense Future Perfect Tense

Tom eats rice.

Tom has eaten rice.

Tom ate rice.

Tom was eating rice.

Tom had eaten rice.

Tom will eat rice.

Tom will have eaten rice.

Rice is eaten by Tom. Rice has been eaten by Tom. Rice was eaten by Tom. Rice was being eaten by Tom. Rice had been eaten by Tom. Rice will be eaten by Tom. Rice will have been eaten by Tom.

ตัวอย่างประโยค :

- Cheese is made from milk. ชีสทำ�จากนม

- The packages were mailed yesterday. พัสดุถูกส่งทางไปรษณีย์เมื่อวานนี้ . I am not familiar with that kind of TV program. ฉันไม่คุ้นกับรายการทีวีประเภทนั้น

a. I can’t find it.

ฉันหามันไม่เจอ

b. I don’t know anything about it. ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย

c. I don’t like it.

ฉันไม่ชอบมัน

d. I can’t pay for it.

ฉันไม่สามารถจะจ่ายเพื่อสิ่งนี้ได้

คำ�ตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ b. I don’t know anything about it. ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย คำ�อธิบายเพิ่มเติม

• to be familiar with แปลว่า รู้จักคุ้นเคย ตัวอย่างประโยค : - I’m not familiar with Windows 7. ฉันไม่คุ้นเคยกับวินโดว์เจ็ด

• สำ�นวนอื่นๆ ที่มีความหมายเหมือนกันคือ be/get used to be/get accustomed to

+ noun หรือ V + ing

66 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ตัวอย่างประโยค : - You will get used to the hot weather in Thailand. คุณจะคุ้นเคยกับอากาศร้อนในประเทศไทย - She is accustomed to living in Bangkok, so she doesn’t mind the noise from the traffic. เธอคุ้นเคยกับการ(ใช้ชีวิต)อยู่ในกรุงเทพฯ ดังนั้นจึงไม่ใส่ใจเสียงที่มาจากการจราจร . Mrs. Smith is fat but her husband is the opposite. คุณนายสมิธอ้วนแต่สามีของเธอนั้นตรงกันข้าม

a. Her husband is rich.

สามีของเธอรวย

b. Her husband is fatter.

สามีของเธออ้วนกว่าเธอ

c. Her husband is thin.

สามีของเธอผอม

d. Her husband is sleepy. สามีของเธอง่วงนอน

คำ�ตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ c. Her husband is thin. สามีของเธอผอม คำ�อธิบายเพิ่มเติม

• but ใช้เชื่อมประโยคสองประโยคที่มีความหมายขัดแย้งกัน ตัวอย่างประโยค : - He is rich but I am poor. เขารวยแต่ผมจน

• opposite สามารถเป็นคำ�นาม (noun) คำ�คุณศัพท์ (adjective) หรือคำ�บุพบท (preposition) ดังนี้

1. ใช้เป็นคำ�นาม แปลว่า สิ่งที่อยู่ตรงกันข้าม คนหรือสิ่งที่แตกต่างจากคนหรือสิ่งอื่น (a person or thing that is as different as possible from another) ตัวอย่างประโยค : - Black is the opposite of white. สีดำ�เป็นสีตรงกันข้ามกับสีขาว

2. ใช้เป็นคำ�คุณศัพท์ แปลว่า ที่อยู่ตรงกันข้าม แตกต่าง ตัวอย่างประโยค : - Go straight for two blocks. The Grand Hotel is on the opposite side of the road. ตรงไปอีกสองช่วงตึก โรงแรมแกรนด์โฮเต็ลอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน

3. ใช้เป็นคำ�บุพบท แปลว่า ตรงข้าม (across from or facing someone or something) ตัวอย่างประโยค : - The bank is opposite the hotel. ธนาคารอยู่ตรงข้ามกับโรงแรม

หลังจากที่ได้ลองทำ�แบบทดสอบ ตรวจคำ�ตอบและอ่านคำ�อธิบายเพิ่มเติมแล้ว ท่านผู้อ่านคงจะได้รับ ความรูภ้ าษาอังกฤษเพิม่ ขึน้ ดิฉนั หวังเป็นอย่างยิง่ ว่าบทความในคอลัมน์ Test Tip จะเป็นประโยชน์ตอ่ ข้าราชการ กองทัพอากาศ ติดตามคอลัมน์นี้ได้ในฉบับหน้านะคะ สวัสดีค่ะ 

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 67

เวลา....การ์ตูน มิสกรีน

BLONDIE

ภาพ 1 - แด็กวูด ฉันดูดฝุ่นบ้านแล้วทั้งหลังขณะที่คุณนอนงีบนะ ภาพ 2 - แล้วคุณมีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ ภาพ 3 - ฟี้...ฟี้...ฟี้ ภาพ 4 - นั่นแหละ ที่ฉันคิดไว้ว่าเขาจะพูดอะไร to vacuum - ดูดฝุ่น ออกเสียงว่า “แว็คคิวเอิ่ม” ส่วนเครื่องดูดฝุ่นคือ vacuum cleaner ซึ่งใช้คำ�นาม

vacuum ที่แปลว่า สุญญากาศ มาขยาย cleaner to nap - งีบหลับในระยะสั้นๆ (to sleep for a short time during the day) คำ�นามก็คือ nap

ซึ่งใช้กับกริยา to have หรือ to take

Ex. I usually take a nap after lunch. (ฉันมักจะงีบหลับหลังอาหารกลางวัน)

กริยา to doze ก็เห็นใช้แทนได้ ส่วนสำ�นวน to doze off ให้ความหมายว่า เผลอหลับไป

แบบไม่ได้ตั้งใจ (to drop off / to nod off) whole (adj.) - ทั้งหมด (entire) whole ออกเสียงว่า “โฮล”

Ex. We ate the whole cake in about ten minutes. (เรากินขนมเค้กหมดทั้งอันในเวลาประมาณ 10 นาที) และ The entire class attended

a seminar yesterday. (เมื่อวานนี้นักศึกษาทั้งชั้นไปเข้าร่วมสัมมนา)

68 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

BEETLE BAILEY

ภาพ 1 - ขอพูดอะไรสักอย่างนะ คุณบักซลีย์นี่ทำ�ให้ที่ทำ�งานเราแจ่มจ้าสดใสขึ้นจริงๆ เลย

- เอ้า ! เดี๋ยวก่อนค่ะท่าน ! ภาพที่ 2 - ดิฉันเองนะที่เป็นคนเปิดไฟในที่ทำ�งานทุกเช้าค่ะ ! sure (adv.) - ในที่นี้เป็นภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ใช้เน้นย้ำ� (emphasize) ประโยคที่พูด

Ex. I sure hope they get there all right (ฉันหวังอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะไปถึงที่นั่นด้วยความเรียบร้อย) สำ�หรับ surely ก็เป็น adverb

เช่นกัน ใช้เมื่อผู้พูดคิดว่าสิ่งนั้นต้องเป็นจริง (certainly)

Ex. The protesters will surely cause many problems.

(พวกผู้ประท้วงจะก่อปัญหามากมายอย่างแน่นอน) does - ในที่นี้เป็นการใช้ V. to do ในการเน้นย้ำ�กริยาของประโยค เช่น

You do look nice in that dress. (คุณดูสวยมากเมื่อสวมชุดนั่น) และ He does come late every day. (เขามาสายทุกวันเลย) และเมื่อพูดถึงอดีตก็ใช้กริยาช่วย

did เพื่อเน้นย้ำ� Ex. Mr.Black did own a hotel. (คุณแบล็คเคยเป็นเจ้าของโรงแรม)

ซึ่งกริยา come ไม่ต้องเติม s เพราะใช้ does มาช่วยแล้ว และกริยา own ไม่ต้องเติม ed

เพราะใช้ did แล้ว to brighten up - ในที่นี้ตรงกับความหมายว่า ทำ�ให้ตื่นเต้นมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น (to make more enjoyable,

exciting or interesting) ซึ่งตรงกับความรู้สึกของท่านนายพล ไม่ใช่ brighten up ที่แปล ได้อีกว่า ทำ�ให้แสงสว่างจ้าขึ้น (to shine more strongly or become brighter in color) to turn on the lights - เป็นสำ�นวน แปลว่า เปิดไฟ และปิดไฟคือ turn off the lights ซึ่งใช้กับ radio, TV, เครื่องจักรและเครื่องไฟฟ้าอื่นๆ บางครั้งก็เห็นใช้ switch on และ switch off แทนได้

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 69

 Adaptive Vehicle Management System  F-16 รุ่นล่าสุด  ทอ.สหรัฐฯ จะประเมินจำ�นวนเครื่องบินรบรุ่นที่ 5 อีกครั้ง

 Adaptive Vehicle Management System

Boeing และกองทัพบกสหรัฐฯ ได้ประสบความสำ�เร็จในการทดสอบหลายครัง้ เกีย่ วกับระบบ Adaptive Vehicle Management System (AVMS) ซึ่งเป็นระบบควบคุมการบินขั้นสูงของเครื่องบินปีกหมุน โดยมีการ พัฒนามาเป็นเวลาสองปี ระบบนีช้ ว่ ยในการเพิม่ ขีดความสามารถในท่าทางการบินต่างๆ และเพิม่ ความปลอดภัย ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดภาระกรรมของนักบินตลอดจนลดค่าใช้จ่ายในการบินปฏิบัติการ

เฮลิคอปเตอร์แบบโบอิง้ H-6 ติดตัง้ ด้วยชุดอุปกรณ์ AVMS ได้ท�ำ การบินทดสอบรวม 7 เทีย่ วบิน ทดสอบ ใน Arizona ตั้งแต่วันที่ 9 ถึง 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา การทดสอบได้แสดงให้เห็นว่า AVMS ปรับการควบคุมการบิน อย่างไร ตามสภาวะการบินของเครือ่ งบิน สิง่ แวดล้อม และแม้กระทัง่ ความตัง้ ใจของนักบิน สิง่ นี้ชว่ ยเพิ่มขีดความ สามารถของเครือ่ งบินในการปฏิบตั กิ ารในสถานการณ์ทกี่ ารมองเห็นลดลง ด้วยการเพิม่ เสถียรภาพทีม่ ากขึน้ และ เพิ่มความปลอดภัย

AVMS นับเป็นก้าวต่อไปข้างหน้าจาก ระบบควบคุมการบินแบบปกติ โดยทีม่ นั สามารถ ทีจ่ ะประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และสือ่ สารกับ นักบินผ่านทางแรงที่ควบคุมคันบังคับ สิ่งที่สื่อ ออกมาทางสัมผัสนีช้ ว่ ยให้นกั บินและเครือ่ งบิน ทำ�งานร่วมกันได้ดยี งิ่ ขึน้ และเพิม่ ประสิทธิภาพ ของภารกิจ

องค์ประกอบหลายตัวของ AVMS สามารถที่จะนำ�ไปติดตั้งได้กับเฮลิคอปเตอร์แบบ CH-47 Chinook และ AH-64 Apache และสามารถเป็นขีดความสามารถหลักสำ�หรับเครื่องบินในอนาคตของโบอิ้งเช่น Future Vertical Lift rotorcraft โครงการอย่างเช่น AVMS เป็นส่วนหนึง่ ของคำ�มัน่ สัญญาของโบอิง้ ในการสร้างนวัตกรรม ที่คล่องตัว สามารถเอื้อมถึงได้ในสภาวะแวดล้อมที่ทรัพยากรมีจำ�กัด

AVMS เป็นโครงการพัฒนาร่วมกันระหว่าง U.S. Army Aviation Applied Technology Directorate (AATD) และ โบอิ้ง ขณะนี้โบอิ้งก็กำ�ลังเข้าแข่งขันในโครงการพัฒนาเฟสที่ 2 ของโครงการ ซึ่งมีกำ�หนดจะมอบ สัญญาในปลายปีนี้

70 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

 F-16 รุ่นล่าสุด

Lockheed Martin เปิดตัว F-16 รุน่ ล่าสุด ตัง้ แต่เริม่ ต้นเปิดตัวในปี 1978 มานัน้ F-16 Fighting Falcon ได้ถูกสร้างมาแล้วกว่า 4,450 ลำ� นับว่าเป็นเครื่องบินทางทหารที่ประสบความสำ�เร็จมากที่สุดแบบหนึ่ง ถึงแม้ว่า ทางกองทัพอากาศสหรัฐฯ จะไม่มกี ารสัง่ ซือ้ เครือ่ งบินแบบนีเ้ พิม่ เติมแล้ว (F-16 มีก�ำ หนดระยะเวลาประจำ�การ ไปจนกระทั่งถึงปี 2025) แต่ F-16 รุ่นใหม่ๆ ที่ได้ปรับปรุงขีดความสามารถก็กำ�ลังสร้างโดย Lockheed Martin สำ�หรับลูกค้ารวม 26 ประเทศทั่วโลก F-16 รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในงาน Singapore Airshow ก็คือ F-16V ที่ได้รับ การออกแบบปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อที่จะทำ�ให้เครื่องบินรบในยุคที่ 4 ปฏิบัติการร่วมกับเครื่องบินในยุคที่ 5 อย่าง เครื่องบินรบแบบ F-35 and F-22 ได้ดียิ่งขึ้น

ตัว “V” นัน้ หมายถึง “Viper” เป็นชือ่ เล่นทีน่ กั บินกองทัพอากาศสหรัฐฯ ตัง้ ให้ F-16 Fighting Falcon เนื่องจากมันมีความคล้ายกับยานรบ Colonial Viper ในภาพยนตร์เรื่อง Battlestar Galactica สำ�หรับการ ปรับปรุงเพิ่มเติมนั้นประกอบด้วยการปรับปรุง Mission computer การปรับปรุง Cockpit และติดตั้งเรดาร์ แบบ active electronically scanned array (AESA)

เรดาร์แบบ AESA นั้น ช่วยให้เครื่องบินส่งสัญญาณคลื่นเรดาร์กำ�ลังสูงมากออกไปหลายย่านความถี่ ซึ่งทำ�ให้เครื่องบินนั้นยากต่อการตรวจพบเนื่องจากอยู่หลังสัญญาณรบกวนนั้น Lockheed Martin ยังกล่าวว่า ได้พัฒนาชุดเพิ่มขีดความสามารถ AESA เรดาร์ในราคาที่เอื้อมถึงสำ�หรับเครื่องบิน F-16 ที่ประจำ�การอยู่แล้ว ในปัจจุบัน

F-16V นั้นเป็นเครื่องบิน F-16 รุ่นล่าสุดที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ F-16A (ที่นั่ง เดี่ยว) และ F-16B (สองที่นั่ง) ส่วนรุ่นอื่นๆ ประกอบด้วย F-16C/D ซึ่งเริ่มผลิตเมื่อปี 1984 และ Block 60 ประกอบด้วยรุ่น F-16E/F/IN/IQ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 71

 ทอ.สหรัฐฯ จะประเมินจำ�นวนเครื่องบินรบรุ่นที่ 5 อีกครั้ง

ทอ.สหรัฐอเมริกา กำ�ลังพิจารณาตัวเลขเครื่องบินรบรุ่นที่ 5 อีกครั้งหนึ่ง แม้ว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะยังไม่ยกเลิกคำ�สั่งซื้อเครื่องบิน F-35A จากบริษัท Lockheed Martin จำ�นวน 1,763 ลำ� ภายใน ระยะเวลา 35 ปี

โดย ทอ.สหรัฐฯ วางแผนทีจ่ ะปฏิบตั ภิ ารกิจโดยใช้งานเครือ่ งบิน Lockheed F-22A จำ�นวน 185 เครือ่ ง รวมกับฝูงบิน F-35A ที่จะทำ�ให้ ทอ.สหรัฐฯ มีเครื่องบินรบแบบล่องหน เกือบจำ�นวน 1,950 เครื่อง ที่มีขีดความ สามารถในการ maneuver และระบบ sensor ที่ทันสมัย สำ�หรับเครื่องบินรบรุ่นที่ 5

อย่างไรก็ตาม ราคาเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น และงบประมาณทางทหารที่ลดลง ที่ทำ�ให้ยอดการซื้อเครื่องบิน F-22A ลดลงจาก 750 เครื่องบิน เหลือเพียงต่ำ�กว่า 200 เครื่องบิน ในช่วงเวลา 20 ปี โดยทำ�ให้หลายฝ่ายกำ�ลัง สงสัยขีดความสามารถของ ทอ.สหรัฐฯ ในการซื้อเครื่องบิน F-35A ทั้งฝูง

“ในขณะที่พวกเรากำ�ลังมองหาเครื่องบินลำ�ถัดไปสำ�หรับอนาคต คำ�ตอบของเราคือเครื่องบินรบ รุ่นที่ 5 และสิ่งที่เราต้องทำ�ตอนนี้คือการประเมินตัวเลขเครื่องบินที่ต้องการ” พลอากาศโท Herbert “Hawk” Carlisle รองผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวระหว่างร่วมงานประจำ�ปีกองทัพอากาศ

พล.อ.ท. Carlisle ยังกล่าวเสริมอีกว่า ทอ.สหรัฐฯ ยังจะซื้อเครื่องบิน F-35A จำ�นวน 1,763 เครื่อง แต่ อาจจะมีการประเมินตัวเลขภาพรวมอีกทีในแต่ละช่วงเวลา

72 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

“พวกเรายังเชื่ออยู่ว่า 1,763 ยังเป็นจำ�นวนเครื่องบินทั้งหมดที่เราต้องการในช่วง 35 ปีข้างหน้า แต่เรา ก็ยังมีเวลาที่จะทำ�การประเมินตัวเลขที่เราต้องการทั้งหมด ในขณะที่เราเดินหน้าสู่อนาคต”

โดย ทอ.สหรัฐฯ ได้ทำ�การเลื่อนการซื้อเครื่องบินรบ F-35A จำ�นวนหลายร้อยเครื่องในช่วง 5 ปี ที่ได้ กำ�หนดไว้ เนื่องจากปัญหาด้านเทคนิคที่ทำ�ให้การทดสอบและการผลิตคลาดเคลื่อนจากกำ�หนดการที่วางไว้ โดยงบประมาณที่ ทอ.สหรัฐฯ จะได้รบั ในปัจจุบนั จะทำ�ให้ กองทัพอากาศ สามารถจัดซือ้ เครือ่ งบินรบแบบดังกล่าว ได้เพียง 172 เครื่องบินเท่านั้น ภายในปีงบประมาณ 2017

โดยรายงานดังกล่าวนีเ้ กิดขึน้ หลังจากทีอ่ ดีตนักบินรบ F-15C Eagle และว่าทีผ่ บู้ งั คับการ กองทัพอากาศ ภูมิภาคแปซิฟิค เสนอว่า ทอ.สหรัฐฯ ควรลงทุนเพิ่มในเครื่องบินรบรุ่นที่ 5

ถึงแม้ว่าราคาที่เพิ่มขึ้นและข้อขัดข้องทางเทคนิคจะส่งผลต่อทั้งโครงการเครื่องบินรบ F-22 และ F-35 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ก็จะมีเครื่องบินรบที่ทันสมัยที่สุดในโลกทั้ง F-22 และ F-35 โดยเครื่องบิน F-22 เป็น เครื่องบินรบทางอากาศที่ดีที่สุด ในขณะที่เครื่องบินรบ F-35 ถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องบินโจมตีภาคพื้น และ พล.อ.ท.Carlisle ยังกล่าวเสริมอีกว่ายังไม่มเี ครือ่ งบินรบแบบใดสามารถเทียบกับขีดความสามารถของเครือ่ งบิน ที่สองแบบนี้ได้

“เครื่องบิน F-22 สามารถโจมตีภาคพื้นได้ดีที่สุดในโลก ยกเว้นเครื่องบิน F-35 ในขณะที่เครื่องบินรบ F-35 สามารถทำ�การรบกลางอากาศได้ดีที่สุดในโลก ยกเว้นเครื่องบินรบแบบ F-22”

อย่างไรก็ดี พล.อ.ท.Carlisle ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่าการมีเครื่องบินจำ�นวนที่เพียงพอ เป็นปัจจัยสำ�คัญ ในปัจจุบัน แม้ว่าขีดความสามารถของเครื่องบินรบจะเพิ่มขึ้นเพียงใดก็ตาม

“อย่างไรก็ตามก็ยังมีข้อจำ�กัดทางกายภาพ เพราะคุณสามารถอยู่ได้ไม่กี่ที่ในเวลาเดียวกัน เช่น ถ้าเรา ต้องเผชิญสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี หรือ ทะเลจีนใต้ หรือในตะวันออกกลาง ไม่ว่าสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม จำ�นวนก็ยังเป็นปัญหาแรกอยู่ดี”

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 73

น.อ.เดชอุดม คงศรี ผอ.รร.นอส.ยศ.ทอ.นำ�คณะนายทหารนักเรียนหลักสูตรนายทหารอากาศอาวุโส รุน่ ที่ ๖๑ เดินทาง ไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นการพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการทหาร ณ ประเทศมาเลเซีย และสาธารณรัฐ สิงคโปร์ เมื่อ ๒๘ ก.พ. – ๓ มี.ค.๕๕

ประจำ�เดือน พฤษภาคม 2555

เฉลย CROSSWORD

อ.วารุณี

74 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ชาว ทอ. ก็สนใจภาษาไทยนะ

นวีร์

ภาษาไทยด้วยใจรัก

ฉบับที่แล้วได้กล่าวมาแล้ว ๓ เรื่อง ฉบับนี้จะกล่าวถึงเรื่องที่สี่

เรื่องที่สี่ เรื่องการเขียนคำ�ว่า “กตัญญู” และ “สัพพัญญู”

คำ�ถามนี้ ท่านผู้ถามคือ พล.อ.ท.พยุงศักดิ์ รวยรื่น ซึ่งเกษียณอายุราชการไปแล้ว ท่านถามว่า ญ ตัวหลังมีเชิงหรือไม่ เขียนอย่างไรแน่ เพราะน่าจะมีเชิงทั้ง ๒ ตัว แต่เท่าที่พบเห็นในหนังสือที่พิมพ์ ญ ตัวหลัง ไม่มีเชิงทั้งนั้น

ความจริง ถ้าเป็นการเขียน ควรต้องมีเชิงทั้ง ๒ ตัว แต่เนื่องจากการเรียงพิมพ์แม้ในสมัยก่อน ถ้าเผื่อให้ ญ มีเชิงด้วย มีสระอูอยู่ข้างใต้ด้วย เมื่อปรากฏเป็นตัวหนังสือ ความสูงต่ำ�จะไม่เท่ากัน ตัว ญ ที่มีเชิง และมีสระอู จะสูงขึ้น ช่างเรียงพิมพ์เลยต้องเอาเชิง ญ ออก ใส่แต่สระอู ส่วนการพิมพ์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ในสมัยปัจจุบันนี้ เทคนิคการพิมพ์ทำ�ให้ต้องใช้ ญ ที่ไม่มีเชิง เมื่อมีสระอูโดยปริยาย สรุปแล้วเป็นเรื่องของเทคนิค การพิมพ์ หนังสือที่พิมพ์คำ�ว่า กตัญญู และ สัพพัญญู ญ ตัวหลังจึงไม่มีเชิง แต่ถ้าให้เด็กเขียน ควรต้องมีเชิงไว้ก่อน คงรูป ญ ไว้ แต่ถ้าเด็กจะเขียน ญ ตัวหลังแบบไม่มีเชิง ก็ไม่ผิด เพราะในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พิมพ์ไว้อย่างนั้น กตัญญู และ สัพพัญญู

อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นคาถาบาลีหรือเป็นคำ�พระ ญ ก็ไม่ต้องใส่เชิงเลย และไม่ใส่เชิงทั้งสองตัว ด้วย เพราะ ญ ในภาษาบาลี ไม่มีเชิงอยู่แล้ว

เรื่องที่ห้า ที่มาของคำ�กลอน ข้อนี้มีผู้ถามบ่อยๆ ว่า บทนี้เป็นของใคร

เมื่อแก่เฒ่าหมายเจ้าช่วยรับใช้

เมื่อยามไข้หมายเจ้าช่วยรักษา

เมื่อยามถึงวันตายวายชีวา

หวังลูกช่วยปิดตาเมื่อสิ้นใจ

บทนี้ เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องวิวาหพระสมุท และในเรื่องนี้ ก็ยังมีบทที่มีผู้ถามถึงบ่อยๆ คือ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 75

ปากเป็นเอกเลขเป็นโทโบราณว่า

หนังสือตรีมีปัญญาไม่เสียหลาย

ถึงรู้มากไม่มีปากลำ�บากตาย

มีอุบายพูดไม่เป็นเห็นป่วยการ (ปากนั้นคือการพูด เลขนั้นคือการเขียน มาจากคำ�ภาษาบาลีสันสกฤตว่า เลขนะ ซึ่งแปลว่า รอยเขียน ตัวอักษร ลวดลาย หรือคำ�ว่า เลขา ซึ่งแปลว่า รอยเขียน ตัวอักษร การเขียน)

มีนายทหารคนหนึง่ พบหน้าผูเ้ ขียนก็ถามเลยว่า “พิษน้อยหยิง่ โยโส แมลงป่อง” นัน้ บทเต็มๆ ว่าอย่างไร ผมจำ�ได้เท่านี้ ดีนะที่ยังจำ�ได้

โคลงบาทนี้ เป็นบาทหนึ่งของโคลงโลกนิติ สำ�นวนกรมพระยาเดชาดิศร มีบทเต็มๆ ว่า

นาคีมีพิษเพี้ยง สุริโย

เลื้อยบ่ทำ�เดโช

แช่มช้า

พิษน้อยหยิ่งโยโส

แมลงป่อง

ชูแต่หางเองอ้า

อวดอ้างฤทธี

บทนี้ก็มีผู้ถามถึงข้อความเต็มๆ เหมือนกัน มาจากเรื่องเดียวกันกับบทข้างต้น

โคควายวายชีพได้ เขาหนัง

เป็นสิ่งเป็นอันยัง

อยู่ไซร้

คนเด็ดดับสูญสัง-

ขาร์ร่าง

เป็นชื่อเป็นเสียงได้

แต่ร้ายกับดี

ส่วนบทนี้ มีผู้ถามถึงเนื้อความเต็มๆ เหมือนกัน แต่ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าใครแต่ง อาจารย์ระเด่น ทักษิณา กล่าวไว้ในหนังสือคนมีเสน่หแ์ ละศิลปะการพูดการฟังว่า เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว

เห็นหน้ากันเมื่อเช้า สายตาย

สายอยู่สุขสบาย

บ่ายม้วย

บ่ายยังรื่นเริงกาย

เย็นดับ ชีพนา

เย็นอยู่หยอกลูกด้วย ค่ำ�ม้วยดับสูญ

เรื่องที่หก เรื่องการเขียนคำ�ว่า พงษ์ หรือ พงศ์ หรือ พงส์ คำ�ไหนถูกต้องแน่ คำ�นี้ ถ้าเขียนถูกต้องตามพจนานุกรมแล้ว ต้องเขียนว่า พงศ์ แปลว่า เชื้อสาย เหล่ากอ เทือกเถา สกุล ปัจจุบนั ก็ยดึ ถือเขียนตามนีก้ นั ยกเว้นชือ่ เฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ชือ่ เฉพาะทีม่ มี าแต่โบราณ เช่น จักรพงษ์ เป็นต้น ทั้งนี้เพราะโบราณนิยมให้ใช้ ษ เป็นตัวการันต์ ไม่ว่าคำ�เดิมจะมี ศ หรือ ส อยู่ข้างท้ายก็ตาม เมื่อนำ�คำ�นั้น มาใช้ในภาษาไทย ให้ใช้ ษ เป็นตัวการันต์ทั้งสิ้น ต่อมา เนื่องจากภาษาไทยวิวัฒนาการในทางที่คิดว่าถูกต้อง

76 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

จึงเปลี่ยนให้ใช้ตัวการันต์เป็นตัวอักษรตามรูปภาษาเดิม เช่น ภาษาบาลีว่า หงส ก็เขียนว่า หงส์ ภาษาสันสกฤต ว่า วงศ ก็เขียนว่า วงศ์ มิได้ใช้หงษ์ หรือ วงษ์ ดังโบราณใช้

อนึ่ง คำ�ว่าถูกต้องในที่นี้คือถูกต้องตามหลักภาษา กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

“พระยาศรีสุนทรโวหาร(น้อย) เป็นใหญ่ในพวกอาจารย์หนังสือไทยในตอนต้นรัชกาลที่ ๕ ตลอดมาราว ครึง่ รัชกาล เป็นศาลฎีกาในเรือ่ งหนังสือไทย เมือ่ ตัดสินว่ากระไรก็เป็นคำ�พิพากษาสุดท้าย ใครจะเถียงว่ากระไรอีก ก็ฟังไม่ขึ้นในสมัยนั้น เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนรุ่นใหญ่แล้ว เคยได้ยินผู้คัดค้านตัวสะกดบางคำ�ที่พระยาศรีสุนทร โวหาร(น้อย)ใช้ เป็นต้นว่าคำ�ที่เขียนกันว่า วงษ์ นั้น มีคำ�ค้านว่าคำ�นี้ภาษาบาลีเป็น วํโส สันสกฤตเป็น วํศ ใช้ ษ การันต์โดยหลักอะไร ควรต้องเขียน วงส์ หรือ วงศ์ จึงจะถูก ตำ�หนินี้ พระยาศรีสุนทรโวหาร(น้อย)จะตอบ ว่ากระไร หรือไม่ตอบว่ากระไรเลย ข้าพเจ้าไม่ทราบ แต่ข้าพเจ้านึกว่า ถ้าพระยาศรีสุนทรโวหาร(น้อย)ตอบ คงจะ ตอบเป็นใจความว่า คำ�ในภาษาบาลีว่า วํโส ก็ทราบแล้ว เพราะเป็นเปรียญถึง ๗ ประโยค และคำ�ว่า วํศ ก็ทราบ แล้วเหมือนกัน การที่เขียน วงษ์ ใช้ ษ การันต์นั้น เพราะอักษร วิธีเดิมของไทยใช้ ษ ตัวเดียวเป็นตัวการันต์ ตัว ส กับ ศ ไม่ใช้ เป็นตัวการันต์เลย คำ�ในภาษาเดิมจะเป็นอย่างไรก็ตาม เมือ่ เอา มาใช้ในภาษาไทย ถ้ามี ศ หรือ ส อยู่ท้าย ก็ต้องเปลี่ยนเป็น ษ อันเป็นตัวเดียวในสามสอที่เราใช้เป็นตัวการันต์”

เหตุผลของพระยาศรีสุนทรโวหาร(น้อย) ที่ใช้ ษ เป็น ตัวการันต์ยนื พืน้ นัน้ ทำ�ให้สะดวกต่อการเขียนมากขึน้ คือไม่ตอ้ ง ไปมัวคิดว่าเป็นคำ�บาลีหรือสันสกฤต ใช้เป็นแบบไทยเหมือนกัน หมด ส่วนเหตุผลของผูท้ ตี่ อ้ งการใช้ตวั เดิมของภาษานัน้ ๆ ก็เพือ่ จะให้ผอู้ า่ นได้รวู้ า่ คำ�นัน้ มาจากภาษาอะไร ภาษาบาลีหรือภาษา สันสกฤต ซึ่งปัจจุบันเป็นเช่นนี้

วิวฒ ั นาการของภาษาไทยจึงเป็นไปอย่างมีเหตุผล ถ้า เหตุผลใดเห็นชัดกว่าก็คงใช้แบบนั้น

การเขียนชื่อโดยใช้ ษ เป็นตัวการันต์ จึงไม่ต้องกังวลว่าเขียนผิด จงภูมิใจว่าเป็นคำ�ที่เขียนมาแต่โบราณ แต่ถ้าเป็นชื่อตัวหรือนามสกุล อย่าเขียนผิดจากทะเบียนบ้านหรือบัตรประจำ�ตัวประชาชน เพราะจะทำ�ธุรกรรม การเงินหรือธุรกรรมอื่นๆ ไม่ได้นะจ๊ะ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๗๗

เมือ่ พูดถึงมะเร็ง หลายคนอาจจะเคยสับสนระหว่างมะเร็งตับกับมะเร็งท่อน้�ำ ดี ซึง่ จริงๆ แล้ว ทัง้ ตับและ ท่อน้ำ�ดีเป็นอวัยวะที่อยู่ต่อเนื่องกัน บางส่วนของท่อน้ำ�ดีก็อยู่ในเนื้อตับ ด้วยเหตุนี้ การจะบอกว่าเป็นมะเร็งชนิดใด ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำ�คัญมากนัก เพราะจริงๆ แล้ว ประเด็นสำ�คัญน่าจะอยู่ที่ ทำ�อย่างไร เราจะสามารถป้องกันมะเร็งชนิดนี้ได้ต่างหาก

มุมสุขภาพ

ตะลึง!! ไทยขึ้นอันดับ ๑ แชมป์โลก“มะเร็งท่อน้ำ�ดี” นายห่วงใย

ปัจจุบันประเทศไทยโดยเฉพาะภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ถือว่าเป็นแชมป์อันดับ ๑ มะเร็งท่อน้ำ�ดีโลก คือมีผชู้ ายเป็นมะเร็งชนิดนี้ ๘๖.๔ ต่อแสนประชากร และ ผูห้ ญิง ๓๖.๘ ต่อแสนประชากร นับเป็นสาเหตุส�ำ คัญของ การเสียชีวิตของคนไทยที่สถิติมากกว่าการเสียชีวิตจาก อุบัติเหตุเสียอีก ทั้งๆ ที่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก มีผู้ป่วย จำ�นวนไม่มากนัก

มะเร็งท่อน้ำ�ดีมกั มีอบุ ตั กิ ารณ์ในภาคอีสานและ ภาคเหนือ ในแต่ละปีจะมีผปู้ ว่ ยใหม่ประมาณ ๒๐,๐๐๐ คน ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนทั้งสองภูมิภาคนี้มีวัฒนธรรม การกิน สุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะปลาน้ำ�จืดมีเกล็ดดิบ ที่มี ตัวอ่อนของพยาธิใบไม้ในตับ เช่น ปลาแม่สะแด้ง ปลา แก้มช้ำ� ปลาขาวนา ปลาตะเพียนทราย เป็นต้น อาหาร ที่มีความเสี่ยงก็คือ ก้อย ลาบปลาดิบ ปลาส้ม ปลาร้าดิบ หรือส้มตำ�ปลาร้าดิบ ซึ่งปลาร้าดิบรวมทั้ง ปลาจ่อม ปลาส้ม ปลาเค็ม และไส้กรอก ที่มักมีสารก่อมะเร็งพวก ไนโตรซามีนที่เกิดจากการหมักดองด้วยเกลือไนเตรทหรือดินประสิว

จากการสำ�รวจในปี ๒๕๕๓ โดยสำ�นักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ ๖ ขอนแก่น พบว่า คนอีสานกว่า ๗๙% ยังชอบกินปลาดิบ แม้จะมีการรณรงค์มานาน แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมการบริโภคของชาวอีสาน ได้

๗๘ ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

มะเร็งของท่อน้ำ�ดี ตับ ท่อน้ำ�ดี ท่อน้ำ�ดี มะเร็งใน ท่อน้ำ�ดี

เมื่อพยาธิใบไม้ในตับเข้าสู่ร่างกาย ตัวพยาธิ จะเข้าไปอยูใ่ นท่อน้�ำ ดีในตับจนก่อให้เกิดการอักเสบขึน้ อาการทีส่ �ำ คัญคือ แน่นท้อง เจ็บ จุก ปวดท้อง เบือ่ อาหาร น้ำ�หนักลด เมื่อเกิดเป็นประจำ�จะนำ�ไปสู่มะเร็งท่อน้ำ�ดี ในที่สุด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโรคนี้มักไม่แสดงอาการ จะพบได้ตอ้ งตรวจอัลตราซาวนด์เท่านัน้ อาการจะแสดง ก็มกั จะเข้าสูร่ ะยะทีร่ นุ แรงแล้ว เช่น ตัวเหลือง ตาเหลือง คันตามตัว ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระซีดเนื่องจากท่อน้ำ�ดี อุดตันจากมะเร็ง เมื่อปล่อยไว้จะทำ�ให้มะเร็งลุกลามไป ยังต่อมน้�ำ เหลืองบริเวณข้างเคียงและมักมีมะเร็งท่อน้�ำ ดี เกิดขึ้นหลายตำ�แหน่ง

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ ๗๙

โรคนี้ พบในผู้ป่วยทุกวัย ตั้งแต่อายุเพียง ๔ ขวบ ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะเด็กกินปลาดิบตามผู้ใหญ่ ทางที่ดี จึงอยูท่ กี่ ารป้องกัน โดยไม่รบั ประทานปลาน้�ำ จืดดิบ รวมทัง้ สัตว์น�้ำ จืดอืน่ ๆ ทีย่ งั ไม่ได้ปรุงสุก ทีส่ �ำ คัญจะต้องปรับ ทัศนคติของคนอีสาน โดยเริ่มตั้งแต่ระดับเยาวชนขึ้นไป ให้หันมารับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ส่วนความ เชือ่ ทีว่ า่ หากรับประทานปลาดิบเข้าไปแล้วสามารถกินยาฆ่าพยาธิใบ้ไม้ในตับได้นนั้ เป็นความเข้าใจทีค่ ลาดเคลือ่ น ถ้าทำ�เพียงครั้งเดียวคงไม่มีปัญหา แต่หากทำ�บ่อยๆ แม้ว่าพยาธิใบไม้ในตับจะตายจริง แต่ตัวพยาธิจะปล่อยสาร ชนิดหนึง่ ออกมา ทำ�ให้เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งท่อน้�ำ ดีได้มากยิง่ ขึน้ เช่นกัน นอกจากนี้ ยังต้องลบความเชือ่ ผิดๆ ที่ว่า ถ้าเป็นแล้วหากไปรักษากับคุณหมอ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการผ่าตัดนั้น จะทำ�ให้มะเร็งแพร่กระจายได้เร็วขึ้น

สำ�หรับการรักษา การผ่าตัดถือว่าสามารถทำ�ให้หายขาดประมาณร้อยละ ๒๐ – ๓๐ เท่านั้น ส่วนใหญ่ ผู้ป่วยมักได้รับการรักษาด้วยการให้เคมีบำ�บัดหรือบรรเทาอาการ การระบายท่อน้ำ�ดีด้วยวิธีต่างๆ ซึ่งเป็นการ รักษาแบบประคับประคอง

ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติต้องไปพบคุณหมอเพื่อตรวจรักษา หรือถ้าสงสัยควรไปตรวจคัดกรองมะเร็ง เพราะธรรมชาติของมะเร็งชนิดนี้เป็นโรคอันตราย ถ้าเป็นแล้วจะทำ�ให้เสียชีวิตในระยะเวลาอันรวดเร็ว

การรู้จักป้องกันก่อนสาย อันตรายจากโรคนี้คงไม่เกิด เริ่มจากตัดใจไม่กินปลาน้ำ�จืดดิบ แค่นี้ก็เป็นการ ป้องกันเบื้องต้นได้แล้ว 

ขอขอบคุณนิตยสาร Hosipital & Healthcare

วัตถุมงคลของชาว (ต่อจากฉบับที่แล้ว)

กองบิน ๕ (เพิ่มเติม)

รุ่นที่ ๘ รุ่น “สมโภชรูปหล่อเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก” สร้างเมื่อวัน พฤหัสบดีที่ ๕ กันยายน ๒๕๔๕ ในสมัย น.อ.ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ (ยศใน ขณะนั้น) ดำ�รงตำ�แหน่ง ผบ.บน.๕๓ฯ โดยสร้างเป็น ๒ แบบ คือ

๑. รูปหล่อบูชาเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก เนื้อโลหะผสม มี ๒ ขนาด คือ

- ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว สร้างจำ�นวน ๑๕๐ องค์

- ขนาดหน้าตัก ๑.๕ นิ้ว สร้างจำ�นวน ๕๐๐ องค์

หมายเหตุ รูปหล่อบูชาเจ้าพ่อเขาล้อมหมวกขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว มี ๒ รุ่น รุ่นแรกนี้จะมีโค้ดตราปีกตอกที่ฐานด้านหลัง ส่วนขนาดหน้าตัก ๑.๕ นิ้ว จะมี โค้ดตราปีกตอกที่ฐานด้านหน้า

๒. เหรียญ “เจ้าพ่อเขาล้อมหมวก” มี ๓ ชนิด คือ

- ชนิดเนื้อทองคำ� จำ�นวนตามสั่งจอง

- ชนิดเนื้อเงิน จำ�นวนตามสั่งจอง

- ชนิดเนื้อทองแดง จำ�นวน ๑,๐๐๐ เหรียญ

ลักษณะของเหรียญ เป็นเหรียญกลม ด้านหน้าเป็นรูปเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก มีตัวหนังสือ “เจ้าพ่อเขาล้อมหมวก” ส่วนด้านหลังเป็นรูปอนุสาวรีย์วีรชนอยู่ หน้าเขาล้อมหมวก ข้างบนมีตวั หนังสือ “กองบิน ๕๓ กองพลบินที่ ๔” ข้างล่าง มีตัวหนังสือ “๘ ธันวาคม ๒๔๘๔” ข้างขวาของเหรียญมีรูปดาว ๕ ดวง ข้างซ้าย ของเหรียญมีรูปดาว ๓ ดวง

พระคณาจารย์ในพิธพี ทุ ธาภิเษกทีห่ น้าศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก มีดงั นี้

๑. พระธรรมปริยัติเมธี (เจ้าคณะภาค ๑๕) วัดพระปฐม จ.นครปฐม

๒. พระราชวิสุทธิคุณ (เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ) วัดคลองวาฬ จ.ประจวบฯ

๓. พระอุดมธีรคุณ วัดธรรมิการาม (เขาช่องกระจก) จ.ประจวบฯ

๔. พระเมธีคุณาภรณ์ วัดเกาะหลัก จ.ประจวบฯ ฯลฯ

ทอ.

น.อ.อภิชัย ศักดิ์สุภา (นนอ.๒๒)

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 81

รุ่นที่ ๙ รูปหล่อบูชาเจ้าพ่อเขาล้อมหมวกเช่นเดียวกับรุ่นที่ ๔ สร้างในปี ๒๕๔๗ ในสมัย น.อ.เลิศฤทธิ์ เศศะเทศานนท์ ดำ�รงตำ�แหน่ง ผบ.บน.๕๓ฯ โดยใช้แม่พิมพ์เดียวกันกับรูปหล่อบูชาฯ ปี ๔๕ ผิดกันตรงที่ว่า รูปหล่อ บูชาฯ ปี ๔๕ จะมีโค้ดตราปีกตอกที่ฐานด้านหลัง ทั้งนี้รูปหล่อบูชาฯ ปี ๔๗ ที่ฐานด้านหน้าจะมีตัวหนังสือ “เจ้าพ่อเขาล้อมหมวก” ส่วนที่ฐานด้านหลังมีตัวหนังสือ “กองบิน ๕๓ จ.ประจวบคีรีขันธ์” และมีตัวเลข แสดงลำ�ดับองค์เจ้าพ่อฯ ด้วย นอกจากนั้น รุ่นที่ ๙ นี้ จะออกเนื้อเขียวมากกว่ารุ่นที่ ๘ รูปหล่อบูชาฯ ปี ๔๗ นี้ สร้างเป็นเนื้อโลหะผสม และมีขนาดเดียวคือ ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว จำ�นวน ๑๐๐ องค์ พระคณาจารย์ผู้ปลุกเสก และอธิษฐานจิต มีดังนี้

๑. หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม

๒. หลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม

๓. หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม

๔. หลวงพ่อเอียด วัดคลองวาฬ จ.ประจวบฯ

ฯลฯ

หากมีผอู้ า่ นท่านใดทีท่ ราบว่ายังมีวตั ถุมงคลของชาว ทอ. แบบอืน่ ๆ อีก หรือสามารถให้ขอ้ มูลในรายละเอียด เพิ่มเติมอื่นๆ ได้ โปรดกรุณาแจ้งได้ที่ e-mail : at16102499@hotmail.com ขอขอบพระคุณครับ...

82 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

มุมกฎหมาย

เหตุฟ้องหย่า เพราะภรรยาฟ้องนาย ร.ต.ชานุวัฒน์ แสงสุวรรณ

ชีวิตครอบครัวทหาร มีโอกาสร้าวฉานถึงขั้นหย่าร้างได้เช่นเดียวกับครอบครัวของบุคคลทั่วไป แต่ทหาร ต้องพบ “วิบากกรรม” มากกว่า โดยเฉพาะทหารชาย กล่าวคือ เมื่อมีปัญหาครอบครัวอันเป็นปัญหาส่วนตัวโดยแท้ แทนทีค่ สู่ ามีภรรยาจะหันหน้าเข้าแก้ปญ ั หาให้ถกู จุด ภรรยาทหารส่วนหนึง่ จะนำ�ความเข้าร้องเรียนผูบ้ งั คับบัญชา โดยการไปพบด้วยตนเองบ้าง ร้องเรียนเป็นหนังสือบ้าง การร้องเรียนเช่นนี้อาจเรียกอย่างง่ายว่า “ไปฟ้องนาย”

ผู้ร้องเรียนแต่ละคนมีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์แตกต่างกัน บางรายเห็นว่า ผู้บังคับบัญชาของสามี เป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่ มีอะไรย่อมปรึกษาได้ บางรายเข้าใจว่า ผู้บังคับบัญชามีอำ�นาจบังคับบัญชาที่เด็ดขาด สามารถสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำ�หรือไม่กระทำ�เรื่องใดๆ ก็ได้ แม้ว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว บางรายมี เจตนาแอบแฝงเป็นพิเศษ คือ ต้องการให้สามีของตนเอง ได้รับความอับอายเสื่อมเสียชื่อเสียง ยิ่งกว่านั้น ถ้าสามี ได้รับความกระทบกระเทือนต่อตำ�แหน่งหน้าที่ราชการถึงขั้นงดบำ�เหน็จประจำ�ปี หรือถึงขั้นให้ออกจากราชการ ก็เป็นการสะใจ

เนื้อหาสาระของเรื่องที่ร้องเรียน หรือนำ�ไปฟ้องนายนั้น ก็ล้วนเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยทั่วไป เช่น สามีไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายภายในบ้าน สามีมีภรรยาน้อย สามีชอบเล่นการพนัน สามีดื่มสุรา อาละวาดทุบตี ฯลฯ มีน้อยรายที่จะกล่าวข้อความจริงทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมา ส่วนมากจะเล่าความไม่หมด รวบรัดตัดตอนเฉพาะทีผ่ ฟู้ งั ๆ แล้วน่าสงสาร หรือเกิดประโยชน์ตอ่ ผูร้ อ้ งเรียน ซ้�ำ ร้ายบางรายทหารชายทีม่ ภี รรยา ดังเพชฌฆาตจะถูกสาดโคลน ระบายสีใส่ไข่อย่างคาดไม่ถึงและไม่ใยดี ว่าผู้ถูกร้องเรียนคือสามีซึ่งเป็นพ่อของลูก น้อยที่ผู้ร้องเรียนร่วมกันให้กำ�เนิดขึ้นมาหรือไม่

ผู้พิจารณาเรื่องที่ร้องเรียน บางหน่วย ผู้บังคับบัญชามอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายหรือนายทหารพระ ธรรมนูญ เป็นผู้พิจารณาดำ�เนินการเบื้องต้น แล้วเสนอแนะให้ผู้บังคับบัญชาสั่งการ บางหน่วยผู้บังคับบัญชา อนุญาตให้ภรรยาทหารเข้าพบและรับร้องเรียนด้วยตนเอง แล้วสั่งการให้นายทหารพระธรรมนูญดำ�เนินการใน ส่วนที่เกี่ยวข้อง บางหน่วยผู้บังคับบัญชาบอกปัดไม่รับพิจารณาให้เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 83

จุดอ่อนของการพิจารณาขึ้นอยู่กับภูมิหลังของผู้พิจารณาเป็นสำ�คัญ กล่าวคือ ถ้าผู้พิจารณาด้อย ประสบการณ์ในชีวติ ครอบครัว และพบแต่สงิ่ ดีๆ ในชีวติ อีกทัง้ มีทศั นคติวา่ ความสงบสุขในครอบครัวจะมีหรือไม่ ขึน้ อยูก่ บั ฝ่ายชายเป็นหลัก เช่นนี้ ทหารชายมีโอกาสตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบมาก แต่ถา้ ผูพ้ จิ ารณามีประสบการณ์ ผ่านพบความเป็นจริงของโลกมนุษย์มาพอสมควร และเคยพบว่าอันหญิงร้ายชายเลวนั้น ยังมีมากในสังคม เช่นนี้ แสงแห่งความเป็นธรรมจะวับแวมออกมาโดยพลัน อย่างไรก็ตาม เรื่องทำ�นองนี้ ยกแรกที่เกิดการร้องเรียนขึ้น ฝ่ายหญิงเป็นต่อในอัตราส่วนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะผู้หญิงที่พูดเก่ง หรือแสดงบทบาท “ดาราเจ้าน้ำ�ตา” ทหารชายเตรียมรับศึกหนักได้

การที่ภรรยาฟ้องนายจะเกิดผลสุดท้ายแตกต่างกัน บางรายทำ�ให้ปัญหายุติโดยที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจ บางรายผู้ร้องเรียนไม่พอใจหาว่า ผู้บังคับบัญชาเข้าข้างลูกน้อง หลายรายนอกจากแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว กลับตอกลิ่ม ให้แตกแยกเพิ่มขึ้นอีก โดยมีคำ�ถามจากฝ่ายผู้ถูกร้องเรียนว่า การที่ภรรยาฟ้องนายนั้นตนรู้สึกอับอายทำ�ให้ เสื่อมเสียชื่อเสียง และกระทบกระเทือนต่อตำ�แหน่งหน้าที่ราชการ จะอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าภรรยาได้หรือไม่

เหตุฟ้องหย่าตามที่กฎหมายกำ�หนดไว้มี ๑๐ เหตุ ส่วนใหญ่จะเป็นเหตุเกี่ยวกับความประพฤติของ อีกฝ่ายหนึ่ง เช่น สามีมีภรรยาน้อย การมีชู้ การประพฤติชั่ว การทำ�ร้ายร่างกายหรือดูหมิ่นเหยียดหยามกัน การจงใจละทิ้งร้างกันเกิน ๑ ปี และการทำ�การอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรง เป็นต้น

ในคำ�ฟ้องของฝ่ายโจทก์ ไม่วา่ จะเป็นกรณีสามีฟอ้ งภรรยา หรือภรรยาฟ้องสามี ข้อหาทีจ่ ะต้องแถมท้าย ไว้เสมอ มักจะเป็น “การกระทำ�อันเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรง” ซึ่งหมายถึง การกระทำ� ทีข่ ดั ขวางต่อการดำ�เนินชีวติ ครอบครัวอย่างปกติ อันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย จิตใจ สุขภาพอนามัยของ คูส่ มรสและต้องเป็นการกระทำ�ทีร่ า้ ยแรงด้วย เช่น สามีท�ำ ร้ายภรรยาอย่างไม่ปราณีหลายครัง้ และยักย้ายถ่ายเท ทรัพย์สนิ ร่วมกันไปเป็นของสามี สามีไล่ภรรยาออกจากบ้านและพาภรรยาใหม่มาอยูด่ ว้ ย หรือภรรยาปฏิเสธ ไม่ให้สามีร่วมประเวณีด้วย เหล่านี้ถือว่าเป็นเหตุฟ้องหย่าได้

ปัญหาว่าการที่ภรรยาร้องเรียนผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัตขิ องสามี สามีจะอ้างเป็นเหตุ ฟ้องหย่า โดยถือว่า เป็นการกระทำ�อันเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรง ได้หรือไม่ คำ�ตอบ ของปัญหานี้ เคยมีคดีฟ้องร้องกันมามากมายพอสมควร แต่คดีที่ขึ้นสู่ศาลฎีกา และผู้เขียนขอยกมาเป็นกรณี ศึกษาเพียง ๒ คดี ดังนี้

คดีแรก จ่าสิบเอก ก. ฟ้องภรรยา ซึง่ จดทะเบียนสมรสกันที่ อ.เมือง จ.นครพนม ว่า หลังจากจดทะเบียน แล้ว ภรรยาได้แยกมาอยู่ที่ กรุงเทพฯ โดยไม่ได้อยู่กินหลับนอนกันเลย ต่อมาภรรยามีหนังสือถึงผู้บังคับบัญชา ของตนขอแบ่งเงินเดือน ๆ ละ ๕๐๐.-บาท ผู้บังคับบัญชาจึงตั้งกรรมการสอบสวน ทำ�ให้ตนเกิดความเสียหาย จึงขอฟ้องหย่า ภรรยาต่อสู้คดีทกุ ประเด็นข้อพิพาท รวมทั้งต่อสู้ดว้ ยว่า ทีม่ ีหนังสือร้องเรียนนัน้ เพื่อความเห็นใจ ให้ชว่ ยอุปการะส่งเสียบ้างเท่านัน้ ศาลชัน้ ต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พพิ ากษายืนตามศาลชัน้ ต้น จ่าสิบเอก ก. ผูเ้ ป็นโจทก์จงึ ฎีกา ผลของคำ�พิพากษาศาลฎีกาเป็นประการใด ปรากฏจากข้อความส่วนหนึง่ ของคำ�พิพากษา ดังนี้

พฤษภาคม ๒๕๕๕

84 ข่าวทหารอากาศ

คำ�พิพากษาฎีกาที่ ๑๙๓๒/๒๕๓๖ “พิเคราะห์แล้ว ได้ความ จากคำ�เบิกความของจำ�เลยว่า โจทก์พกั อาศัยอยูก่ บั เพือ่ นโจทก์ในค่ายทหาร ตลอดมา เมื่อจดทะเบียนสมรสกันแล้ว จำ�เลยได้ขอให้โจทก์หาที่พัก ต่างหากเพื่อจำ�เลยจะได้โอนย้ายไปอยู่กับโจทก์ แต่โจทก์ไม่ดำ�เนินการ ประการใด ในข้อนีโ้ จทก์เองก็เบิกความตอบคำ�ถามค้านของทนายจำ�เลย โดยรับว่าโจทก์พักอาศัยอยู่กับเพื่อนทหารสองคน และจำ�เลยเคยขอ ให้โจทก์หาบ้านพักในจังหวัดนครพนม แต่โจทก์ไม่สามารถหาได้ ทั้ง ได้ความจากร้อยโท ว. ผู้บังคับบัญชาของโจทก์พยานโจทก์เองว่า โจทก์ไม่เคยขอบ้านพักในค่ายทหารจากพยาน จากข้อเท็จจริงที่ได้ ความดังกล่าวเห็นได้ว่า การที่จำ�เลยยังคงทำ�การงานและพักอาศัย อยู่ในกรุงเทพฯ ก็เพราะโจทก์ไม่ขวนขวายหาที่พักอันเหมาะสมเพื่อโจทก์จำ�เลยจะได้อยู่ร่วมกัน ส่อเจตนาว่า โจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำ�เลยไปอยู่ร่วมกันมากกว่า กรณีจึงยังถือไม่ได้ว่าจำ�เลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ ส่วนการที่ จำ�เลยมีหนังสือเอกสารหมาย จ.๒ ถึงผู้บังคับบัญชาของโจทก์ ก็เป็นเรื่องที่จำ�เลยดำ�เนินการไปตามคำ�แนะนำ�ของนายทหาร พระธรรมนูญ ซึ่งผู้บังคับบัญชาของโจทก์เป็นผู้แนะนำ�ให้ไป หารือด้วย ทั้งเป็นการดำ�เนินการไปตามข้อบังคับทหารว่าด้วย การปกครองครอบครัว ลงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๔๘๓ ข้อ ๕ ตาม เอกสารหมาย ปล.๑ ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาไม่ได้ความว่า โจทก์ได้รบั ความเดือดร้อนเกินควรจากการกระทำ�ดังกล่าวของ จำ�เลยในเมื่อเอาสภาพฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามี ภรรยาระหว่างโจทก์จำ�เลยมาคำ�นึงประกอบแล้ว แต่กลับได้ ความจากคำ�ของโจทก์เองว่าโจทก์ได้เลื่อนยศตามลำ�ดับมา การร้องเรียนตามเอกสารหมาย จ.๒ ของจำ�เลย ไม่ถึงขนาดทำ�การเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่าง ร้ายแรงอันจะเป็นเหตุหย่าได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น” ฉบับหน้า ติดตามคดีที่สอง

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 85

... ความประหยัด (๑) …

ผู้เขียนได้อ่านหนังสือประวัติของบุคคลสองท่าน ที่เป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลกโดยบังเอิญ ที่ว่า บังเอิญเพราะไม่มีเจตนาจะไปค้นคว้าประวัติของท่านเหล่านี้ และไม่ได้คิดจะค้นคว้าหาวิธีเป็นเศรษฐีอย่างท่าน ด้วย แต่เมื่อไปพบแพทย์ระหว่างรอก็น่าจะทำ�อะไรสักอย่าง เพื่อให้เวลาผ่านไปรวดเร็ว โดยไม่ต้องสนใจกับการ รอ สิ่งที่ได้อ่านเจอก็คือ บิล เกตส์ มหาเศรษฐี อันดับสองของโลก ในปี ๒๕๕๔ ท่านทานอาหารฟาสต์ฟูด ง่ายๆ ราคาถูกๆ เป็นประจำ� เมื่อมีเวลาว่างได้ออกกำ�ลังกาย ท่านไปเล่น กอล์ฟกับเพื่อนๆ พนันกันหลุมละ ๑ เหรียญ เสื้อผ้าที่ใช้ ประจำ�เป็นเสื้อผ้าราคาถูกๆ เขามีเงินมากกว่า ๕๐,๐๐๐ ล้านเหรียญ แต่บอกว่าจะให้ลูกสามคน คนละ ๑๐ ล้าน เหรียญ ที่เหลือจะยกให้มูลนิธิที่ช่วยเหลือสังคม เขา ให้เหตุผลว่าเงิน ๑๐ ล้านเหรียญนัน้ เพียงพอในการดำ�รง ชีวติ ของคนทัว่ ไปแล้ว ถ้าลูกๆ ของเขาไม่สามารถหาเงินเพิม่ ได้อีก เขาเหล่านั้นก็คงจะรักษาเงินที่มากกว่านี้ไว้ไม่ได้ อีกท่านหนึ่ง คือ วอร์เร็น บัพเฟตต์ มหาเศรษฐีอนั ดับสามของโลก ประจำ�ปี ๒๕๕๔ เขาอาศัย อยูใ่ นบ้านหลังเล็กๆ ขนาด ๓ ห้องนอนทีซ่ อี้ ไว้หลังแต่งงาน เมื่อ ๕๐ ปีก่อน เขาบอกว่าบ้านนี้ก็ดีอยู่แล้ว อยู่ได้สบาย เขาไม่เคยมีคนขับรถ ไม่มีคนคุ้มกัน ไม่เคยเดินทางไป ไหนๆ ด้วยเครื่องบินส่วนตัว ทั้งๆ ที่เขาเป็นเจ้าของบริษัทขายเครือ่ งบินส่วนตัวใหญ่ที่สุดของโลก เขาไม่ใช้มอื ถือ

86 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ไม่ใช้บัตรเครดิต ไม่เข้าสังคมไฮโซ การพักผ่อนของเขา คือ ทำ�ข้าวโพดคั่วทานและดูโทรทัศน์ ... เออ! ชีวิตคนเรา มันก็ไม่ยากเย็นนัก ทำ�อะไรง่ายๆ ก็ได้เนอะ ผู้เขียนพูดกับตัวเองก่อนเข้าไปให้หมอตรวจร่างกาย

ผูเ้ ขียนคิดว่า จากการสังเกตผูค้ นรอบข้างเราหรือจากการอ่าน พบว่าผูท้ ปี่ ระสบความสำ�เร็จในชีวติ มีชอื่ เสียง และร่ำ�รวยทุกๆ ส่วนของโลก ล้วนมีคุณลักษณะนิสัยการประหยัดและอดออมอยู่ โดยประหยัดทั้งเวลา เงินทอง และทรัพยากร ทำ�ให้เขาเหล่านั้นพบความสำ�เร็จได้ แม้รอบๆ ตัวเราก็จะพบคนจีนที่ประสบความสำ�เร็จ ในชีวิต เป็นส่วนใหญ่ นอกจากมุมานะอดทนแล้วยังมีการประหยัดและอดออมอยูด่ ว้ ย ส่วนผูท้ ลี่ ม้ เหลวจะขาดคุณลักษณะ เหล่านี้

ความประหยัด หมายถึง การรู้จักใช้ทรัพย์สิน เวลา ทรัพยากร ทั้งส่วนตนและสังคมตามความจำ�เป็น ให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด รวมทั้งการรู้จักดำ�รงชีวิตให้เหมาะสมกับฐานะความเป็นอยู่ส่วนตนและสังคม

จะเห็นว่า ความประหยัด หลักๆ แล้วที่เกี่ยวข้องกับส่วนตน มี ๒ เรื่องใหญ่ๆ คือ เรื่องการประหยัดเวลา และการประหยัดทรัพย์สินเงินทอง เมื่อมีความประหยัดอยู่ในตัวแล้ว การประหยัดทรัพยากรของส่วนรวมก็จะ ตามมาเอง

การประหยัดเวลา หมายถึง การที่รู้จักวางแผนการใช้เวลาของตนและใช้ เวลาให้เกิดประโยชน์คมุ้ ค่าทีส่ ดุ ในเรือ่ งการใช้เวลาเดินทางไปและเดินทางกลับบ้าน การใช้เวลาในการทำ�งาน การประชุม และหาความรู้เพิ่มเติม การใช้เวลาในการทำ� ธุระส่วนตัว การใช้เวลาในการนอนพักผ่อน และทำ�งานอดิเรก การใช้เวลาในการ ทำ�งานบ้าน ชุมชนและสังคม การใช้เวลาให้เหมาะสม และให้ถูกเวลา ฯลฯ

รู้จักกับกาล คือ รู้จักกาลเวลาอันเหมาะสม รู้ว่าเวลาไหนควรทำ�อะไร และทำ�ให้ตรงเวลา ให้เป็นเวลา ให้ทันเวลา ให้เหมาะสมและให้ถูกเวลา

ความเป็นผู้รู้จักกาล คือ ความรู้จักคุณค่าของเวลา รู้จักใช้เวลา ต้องเตือนใจตนเองอยู่เสมอว่า “วันคืน ล่วงไปเวลาชีวิตมีอยู่เหลือน้อยลงไปทุกที บัดนี้เราทำ�อะไรอยู่” ผู้ที่รู้คุณค่าของเวลาต้องมีความรู้อื่นประกอบ อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะงานและหน้าที่ และจัดงานนั้นให้เหมาะกับเวลา ด้วย และควรคำ�นึงถึงหลักสำ�คัญ คือ

- งานบางอย่างต้องทำ�ให้ทันเวลา ถ้าไม่ทันจะเสียผล

- งานบางอย่างต้องทำ�ให้ถกู เวลา รูจ้ งั หวะ เช่น ปลูกต้นไม้ การร่วม ประชุม ฯลฯ

- งานบางอย่างต้องทำ�ตามเวลา เช่น วันสำ�คัญต่างๆ

- งานบางอย่างต้องทำ�ให้ตรงเวลา รักษาเวลาตามที่นัด

เมื่อเราฝึกเป็นผู้รู้จักเวลา ใช้เวลาที่มีอยู่อย่างคุม้ ค่าที่สุด เราจะเป็น ผู้ประสบความสำ�เร็จตามเป้าหมายที่ต้องการได้

พฤษภาคม ๒๕๕๕

ข่าวทหารอากาศ 87

การประหยัดเงิน หมายถึง การรู้จักวางแผนการใช้จ่ายเงิน ใช้เงินให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่ามากที่สุด เหมาะสมกับรายรับ และมีการเก็บออม ยับยั้งความต้องการของตนเองอันมีผลทำ�ให้ใช้เงินอยู่ในขอบเขต พอเหมาะพอควร ตัดสินใจใช้เงินโดยคำ�นึงถึงประโยชน์ ความคุ้มค่า ความจำ�เป็นของตนเองอย่างรอบคอบ ไม่ตระหนี่ถี่เหนียวเกินไป

มนุษย์ทกุ คนอยากมีชวี ติ ทีด่ ี อยากมีความสุข ความต้องการ ของมนุษย์จึงมีทั้งสิ่งจำ�เป็นที่มนุษย์จะขาดเสียมิได้ เช่น อาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย ฯลฯ และสิ่งไม่จำ�เป็น ได้แก่ เครื่องอำ�นวยความสะดวกต่างๆ ความต้องการของมนุษย์มักไม่มี ทีส่ นิ้ สุด เพราะเมือ่ ได้อย่างหนึง่ ก็มกั อยากได้อกี สิง่ หนึง่ หรือเห็นเขามี อย่างหนึง่ ก็อยากมีอย่างเขา ทรัพย์เป็นเครือ่ งช่วยให้บคุ คลประสบ ความสำ�เร็จในชีวติ ฉะนัน้ บุคคลจึงควรแสวงหาทรัพย์ในทางทีถ่ กู ทีค่ วร และรูจ้ กั ใช้ทรัพย์นนั้ ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองเพือ่ เป็นหลัก แก่ครอบครัว

การแสวงหาทรัพย์ ต้องได้มาด้วยน้�ำ พักน้�ำ แรง ด้วยอุตสาหะ หมัน่ เพียรและด้วยสติปญ ั ญา ทรัพย์นนั้ จึงจะมีคณ ุ ค่ากว่าทรัพย์ทไี่ ด้มาโดยไม่ซอื่ สัตย์สจุ ริต เช่น คดโกง หลอกลวง ฯลฯ เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังทำ�ความเดือดร้อนให้ผู้อื่นอีกด้วย ทรัพย์มีแต่คนสาปแช่ง

การจ่ายทรัพย์ต้องมีความพอดี พอควร คือรู้จักการประมาณรายได้กับรายจ่ายให้พอเหมาะพอควร ไม่ฟมุ่ เฟือย ไม่สรุ ยุ่ สุรา่ ยจนตัวเองไม่มเี หลือหรือเก็บ ในอนาคตความจำ�เป็นกะทันหันจะเดือดร้อน การประหยัด จึงเป็นการสร้างอนาคตให้สุขสบายภายหน้า การเก็บสะสมวันละเล็กละน้อยนานๆ จะมากเองเหมือนน้ำ�หยด ลงตุ่มทีละหยดในที่สุดมันก็เต็ม  หลักในการประหยัดการใช้จ่าย 

๑. กำ�หนดการใช้จ่ายอย่างมีระเบียบเหมาะสมกับรายได้ของตน จ่ายตามรายได้ที่ตนมีไม่ฟุ่มเฟือย ให้เหลือบ้าง ให้เลือกซื้อเลือกจ่าย เลือกซื้ออาหารที่ราคาไม่แพงมีประโยชน์แก่ร่างกาย งดสิ่งที่ไม่จำ�เป็น

๒. จ่ายด้วยความรอบคอบ ซื้อแต่สิ่งที่จำ�เป็นต้องใช้ อย่าซื้อเพราะเอาอย่างคนอื่น อย่าซื้อเพราะเชื่อ คำ�โฆษณา อะไรที่ควรทำ�ได้ก็ควรทำ� อย่าซื้อหรือจ้างอย่างเดียว

๓. รู้จักถนอม เก็บรักษา ซ่อมแซมของใช้อย่าทิ้งขว้างให้เสียหาย ต้องรู้จักเก็บรักษาให้เป็นระเบียบ ให้คงทนถาวร รู้จักซ่อมแซม รู้จักดัดแปลงจะประหยัดได้มาก

๔. ต้องรู้จักหารายได้เพิ่ม เพราะลำ�พังแต่ประหยัดเฉยๆ ยังไม่เพียงพอ ต้องรู้จักพึ่งตนเอง หารายได้ เพื่อเป็นการยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของตน และควรเริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก จะได้ฝึกนิสัยจะได้ไม่เป็นภาระ แก่ผู้อื่น

88 ข่าวทหารอากาศ

พฤษภาคม ๒๕๕๕

๕. การยืมหนี้ยืมสินเป็นทุกข์ที่สุดในโลก หนี้สินทั่วไปก็มีดอกเบี้ยชำ�ระดอกเบี้ยและผ่อนชำ�ระเงินต้น เป็นภาระมากขึ้นได้ จริงๆ ก็อาจประพฤติในทางที่ผิดก็ได้ ฉะนั้นจึงไม่ควรก่อหนี้สินเป็นอันขาด ๖. หลีกเลีย่ งอบายมุขให้ได้ เพราะอบายมุขจะเป็นบ่อเกิดแห่งความ ฉิบหายจึงต้องห่างไกลอบายมุข หลักในการจ่ายทรัพย์ต้องมีการวางเป้าหมายว่าในเดือนหนึ่งๆ เรา จะต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง เป็นจำ�นวนเท่าไร แล้วก็ฝึกตนเองปฏิบัติตามนั้น และมีวินัยไม่ทำ�อะไรตามใจ หรือใช้จ่ายเกินตัว เราจะปฏิบัติอย่างไร ถ้าบังคับความอยากไม่ได้ต้องอดกลั้น ยับยั้งชั่งใจ หรือพิสูจน์ว่าต้องการ แท้จริงหรือแค่อยากได้ จะเห็น ได้ว่า หากเราตั้งสติให้ดี สร้างคุณธรรมเรื่องความประหยัด ให้เป็นนิสยั ประจำ�ตัวของตนเองและทุกคนในครอบครัว ในทีท่ �ำ งาน และ ในสังคมได้แล้ว เราอาจจะตั้งคำ�ถามได้แปลกๆ ว่า ทำ�ไมต้องทานอาหาร นอกบ้าน ทำ�ไมต้องใช้รถราคาแพงๆ ทำ�ไมต้องใช้เสือ้ ผ้าและเครือ่ งประดับ แพงๆ ทำ�ไมต้องใช้มอื ถือแพงๆ ทำ�ไมต้องใช้คอมพิวเตอร์แพงๆ ทำ�ไมต้อง ดื่มแอลกอฮอล์ ทำ�ไมต้องสูบบุหรี่ ทำ�ไมต้องดื่มน้ำ�อัดลม ทำ�ไม ๆ ๆ ฯลฯ หากไม่ตอ้ งทำ�สิง่ เหล่านี้ เงินเดือนเราก็จะเหลือใช้ เมือ่ เราบริหารเวลา ได้ดี งานที่ต้องทำ�ก็จะเรียบร้อย มีเวลาออกกำ�ลังกาย ดูแลสุขภาพ มีเวลาพักผ่อน มีเวลาให้ครอบครัวและสังคม และที่สำ�คัญมีเวลาใช้ความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับชีวิต ท่านทั้งหลายจะเชื่อไหมว่า เราทุกคนมีเวลา เท่าๆ กับ บิล เกตส์และวอร์เร็น บัพเฟตต์ แล้วอะไรล่ะที่ทำ�ให้เราแตกต่างจากเขา หรือเขาแตกต่างจากเรา .... ความประหยัด ....น่าจะเป็นข้อแรกๆ ก็ได้ 

พล.อ.ต.เชิดพงศ เอี่ยมสมุทร ผบ.วทอ.ยศ.ทอ.พรอมดวย พล.อ.ต.สุทธิพงศ อินทรียงค ผบ.รร.สธ.ทอ.ยศ.ทอ.และ นทน.รร.สธ. ขาราชการ นศ.วทอ.รุนที่ ๔๖ ลูกจาง และพนักงานราชการ ทอ.ฯ รุนที่ ๕๖ เยี่ยมชมกิจการ บน.๕๖ โดยมี น.อ.สุจินดา สุมามาลย ประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระบิดาแหงกองทัพอากาศ ผบ.บน.๕๖ ใหการตอนรับ เมื่อ ๒๖ มี.ค.๕๕

น.อ.สมคิด พัวเวส รอง ผบ.ดม. ใหการตอนรับ น.อ.ศักดิ์พินิต พรอมเทพ รอง จก.สบ.ทอ. พรอมคณะฯ

ตรวจติดตามการใชงานระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส (e-admin) ณ หองประชุม สน.ผบ.ดม. เมื่อ ๒๓ มี.ค.๕๕

น.อ.สกันต สอนหลักทรัพย รอง ผอ.ศกอ. เปนประธานในพิธี ทำบุญถวายสังฆทานแดพระสงฆเนื่องในโอกาสวันคลายวันสถาปนา ศกอ. ครบรอบ ๑๗ ป (๗ มี.ค.๕๕) ณ หองปฏิบัติการศึกษา ศกอ. เมื่อ ๖ มี.ค.๕๕

ทำบุญถวายสังฆทานแดพระสงฆ และจัดเสวนาทางวิชาการ เรื่อง “ความพรอมของกองทัพไทยกับบทบาทความมั่นคงในประชาคมอาเซียน” เนื่องในวันคลายวัน วทอ. ครบรอบ ๔๕ ป เมื่อ ๑๐ เม.ย.๕๕

น.อ.คงศักดิ์ จันทรโสภา ผบ.บน.๑ นำคณะ ปจว.ออกปฏิบัติการ

ชวยเหลือประชาชนตามโครงการ “ธรรมทาน” เพื่อถวายเปนพระราชกุศล และอุทิศแดบรรพชนของ ทอ. เนื่องใน “วันที่ระลึกกองทัพอากาศ” และ “วันกองทัพอากาศ” ณ วัดบานไร (หลวงพอคูณ ปริสุทโธ) ต.กุดพิมาน อ.ดานขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อ ๒๙ มี.ค.๕๕

น.อ.พงษสวัสดิ์ จันทสาร ผบ.บน.๔ / ผอ.ศพส.บน.๔

เปนประธานเปดโครงการสงเสริมการเรียนรูเพื่อสรางภูมิตานทาน ยาเสพติด ณ อาคารอเนกประสงค บน.๔ เมื่อ ๒๑ มี.ค.๕๕