12 December 2019

Page 1


บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ อสย 2:1-5 นิมติ ทีป่ ระกาศกอิสยาห์บตุ รของอามอสเห็นเกีย่ วกับยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็ม ใน ยุคสุดท้าย ภูเขาแห่งพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะถูกตั้งขึ้นเหนือยอดภูเขา ทั้งหลาย และจะสูงกว่าบรรดาเนินเขา นานาชาติจะหลั่งไหลมาที่ภูเขานี้ ชนหลายชาติ จะมาและกล่าวว่า “มาเถิด เราจงขึ้นไปยังภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ไปยังพระวิหาร สัปดาห์ที่ 1 เทศกาล พระเจ้าของยาโคบ แล้วพระองค์จะทรงสอนวิถีทางของพระองค์ให้เรา เราจะได้เดิน เตรียมรับเสด็จ ตามมรรคาของพระองค์ เพราะว่าบทบัญญัติจะออกมาจากศิโยน และพระวาจาของ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะออกมาจากกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์จะทรงพิพากษาบรรดา พระคริสตเจ้า ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 1 ประชาชาติ และจะทรงวินิจฉัยประชากรจำ�นวนมาก เขาทั้งหลายจะตีดาบให้เป็นผาล ไถนา ตีหอกให้เป็นเคียว ชาติตา่ งๆ จะไม่ยกดาบขึน้ ต่อสูก้ นั อีก จะไม่ฝกึ ฝนยุทธวิธอี กี ต่อไป พงศ์พันธุ์ของยาโคบเอ๋ย จงมาเถิด เราจงเดินในความสว่างขององค์พระผู้เป็น เจ้า” เพลงสดุดี 122:1-2,3-5, (6-7),8 ก) ข้าพเจ้ายินดีเมื่อมีผู้บอกข้าพเจ้าว่า “เราจงไปยังบ้านขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยกันเถิด” บัดนี้ เยรูซาเล็มเอ๋ย เท้าของเรามายืนที่ประตูของเจ้าแล้ว ข) เยรูซาเล็มสร้างขึ้นเป็นนคร มีกำ�แพงล้อมรอบอย่างมั่นคง เผ่าพันธุ์ต่างๆ ขึ้นไปที่นั่น เผ่าพันธุ์ทั้งหลายขององค์พระผู้เป็นเจ้า ตามที่ทรงกำ�หนดให้อิสราเอล สรรเสริญพระนามพระองค์ ที่นั่นเป็นที่ตั้งบัลลังก์พิพากษา บัลลังก์แห่งราชวงศ์กษัตริย์ดาวิด ค) จงวอนขอสันติภาพเพื่อกรุงเยรูซาเล็มเถิด ขอให้ผู้ที่รักเจ้าประสบความเจริญรุ่งเรือง สันติสุขจงบังเกิดภายในกำ�แพงของเจ้า ความเจริญรุ่งเรืองจงบังเกิดในป้อมปราการของเจ้า ง) เพราะเห็นแก่บรรดาพี่น้องและมิตรสหาย ข้าพเจ้าจะกล่าวว่า “สันติสุขจงอยู่กับเจ้า”

บทอ่านจากจากหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม รม 13:11-14 ท่านทั้งหลายจงรู้เถิดว่า เวลาที่จะประพฤติปฏิบัติเช่นนี้มาถึงแล้ว บัดนี้ถึงเวลาที่


จะต้องตื่นขึ้นจากความหลับ ขณะนี้ความรอดพ้นอยู่ใกล้เรา มากกว่าเมื่อเราเริ่มมีความเชื่อ กลางคืนล่วงไปมากแล้ว กลางวันก็ใกล้จะมาถึง ดังนั้น เราจงละทิ้งกิจการของความ มืดมนเสีย แล้วสวมเกราะของความสว่าง เราจงดำ�เนินชีวิต อย่างมีเกียรติเหมือนกับเวลากลางวัน มิใช่กนิ เลีย้ งเสพสุรา เมามาย มิใช่ปล่อยตัวเสพกามอย่างผิดศีลธรรม มิใช่วิวาท ริ ษ ยา แต่ จ งดำ � เนิ นชี วิ ต โดยสวมพระเยซู ค ริ ส ตเจ้ า เป็ น อาภรณ์ อย่าทำ�ตามความต้องการของเนื้อหนัง

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 24:37-44 เวลานั้น “สมัยของโนอาห์เป็นเช่นไร เมื่อบุตรแห่ง มนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นเช่นนัน้ ในสมัยก่อนนาํ้ วินาศนัน้ ผูค้ น กิน ดื่ม แต่งงานกันจนถึงวันที่โนอาห์เข้าไปในเรือ ไม่มีใครนึกระแวงว่าจะเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งนํ้าวินาศมา กวาดพวกเขาไปหมดสิ้น เมื่อบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นเช่นนั้นด้วย เวลานั้น คนสองคนอยู่ในทุ่งนา คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้ หญิงสองคนที่กำ�ลังโม่แป้งอยู่ คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะ ถูกทิ้งไว้” “จงตืน่ เฝ้าระวังเถิด เพราะท่านไม่รวู้ า่ นายของท่านจะมาเมือ่ ไร พึงรูไ้ ว้เถิด ถ้าเจ้าบ้านรูว้ า่ ขโมยจะมาใน ยามใด เขาคงจะตื่นเฝ้าไม่ปล่อยให้ขโมยงัดแงะบ้านของตนได้ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน จงเตรียมพร้อม ไว้ เพราะว่าบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย” สัปดาห์ที่หนึ่งของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า พระวรสารนักบุญมัทธิวบอกเราว่า “จง ตืน่ เฝ้าระวังเถิด จงเตรียมพร้อมไว้” เพราะเราไม่รวู้ นั เวลาทีพ่ ระเจ้าจะเสด็จมาในวาระสุดท้ายของชีวติ ของเรา การเตรียมพร้อมที่ดีที่สุดคือ การมีสติรู้ว่าเวลานี้เป็นเวลาสำ�คัญ ประกาศกอิสยาห์เรียกร้องให้เราไปยังภูเขา และพระวิหารของพระเจ้า เพื่อเรียนรู้วิถีทางและมรรคาของพระองค์ นักบุญเปาโลบอกว่าเวลามาถึงแล้ว ต้อง ตืน่ จากความหลับและละทิง้ กิจการของความมืด ขอโปรดให้ขา้ ฯเลือกพระคริสต์ เป็นอุดมคติและเป็นบุคคลแรก ในชีวติ ขอพระองค์เปลีย่ นแปลงข้าฯ ให้เป็นศิษย์ธรรมทูตผูด้ �ำ เนินชีวติ ใหม่ และสืบสานพันธกิจแห่งการประกาศ ข่าวดีของพระองค์ในโลกปัจจุบัน


บทอ่านที่ 1 อสย 4:2-6 วันนั้น หน่ออ่อนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะโปรดให้งอกขึ้นจะงดงามและรุ่งโรจน์ ผลผลิตของแผ่นดินจะเป็นความภาคภูมใิ จ และเป็นเกียรติของชาวอิสราเอลผูร้ อดชีวติ ผู้ที่รอดชีวิตเหลืออยู่ในศิโยนและผู้ที่ยังอาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม จะได้ชื่อว่า “ผู้ ศักดิ์สิทธิ์” คือทุกคนที่มีชื่อบันทึกไว้ให้มีชีวิตอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อองค์พระผู้เป็น สัปดาห์ที่ 1 เทศกาล เจ้าจะทรงล้างความโสโครกของบรรดาธิดาแห่งศิโยน และจะทรงใช้พระอานุภาพของ เตรียมรับเสด็จ การพิพากษา ซึง่ เป็นประดุจไฟมาชำ�ระโลหิต ทีถ่ กู หลัง่ ลงภายในกรุงเยรูซาเล็มให้หมด สิน้ ไป แล้วองค์พระผูเ้ ป็นเจ้าจะทรงสร้างเมฆเวลากลางวัน ทรงสร้างควันและแสงแห่ง พระคริสตเจ้า สดด 122:1-2, เปลวเพลิงเวลากลางคืนทั่วไปบนภูเขาศิโยน และเหนือประชาชนที่มาชุมนุมกันที่นั่น 3-4,8-9 พระสิริรุ่งโรจน์จะเป็นที่กำ�บังและปกป้องทุกสิ่ง จะเป็นเหมือนกระโจมให้ร่มบังแดด ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 1 เวลากลางวัน เป็นที่หลบภัยและที่กำ�บังจากพายุและฝน พระวรสาร มธ 8:5-11 เวลานั้น เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จเข้าเมืองคาเปอรนาอุม นายร้อยคนหนึ่งเข้ามาเฝ้า พระองค์ ทูลอ้อนวอนว่า “พระองค์เจ้าข้า ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าเป็นอัมพาตนอนอยู่ที่ บ้าน ต้องทรมานอย่างสาหัส” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “เราจะไปรักษาเขาให้หาย” แต่นายร้อยทูลตอบว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรให้พระองค์เสด็จเข้ามาใน บ้านของข้าพเจ้า แต่ขอพระองค์ตรัสเพียงคำ�เดียวเท่านั้น ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าก็จะหาย จากโรค ข้าพเจ้าเป็นคนอยูใ่ ต้บงั คับบัญชา แต่ยงั มีทหารอยูใ่ ต้บงั คับบัญชาด้วย ข้าพเจ้า สั่งทหารคนนี้ว่า ‘ไป’ เขาก็ไป สั่งอีกคนหนึ่งว่า ‘มา’ เขาก็มา ข้าพเจ้าสั่งผู้รับใช้ว่า ‘ทำ� นี่’ เขาก็ทำ�” เมื่อพระเยซูเจ้าทรงได้ยินเช่นนี้ ทรงประหลาดพระทัย จึงตรัสแก่บรรดา ผูต้ ดิ ตามว่า “เราบอกความจริงแก่ทา่ นทัง้ หลายว่า เรายังไม่เคยพบใครมีความเชือ่ มาก เช่นนี้ในอิสราเอลเลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า คนจำ�นวนมากจะมาจากทิศตะวันออก และตะวันตก และจะนั่งร่วมโต๊ะกับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบในอาณาจักรสวรรค์” แม้พบปัญหาวุน่ วายต่างๆ ทีก่ รุงเยรูซาเล็ม แต่ประกาศกอิสยาห์มคี วามเชือ่ มัน่ ว่า พระเจ้าจะทรงปกป้องผูร้ อดชีวติ ทีเ่ หลืออยูท่ กี่ รุงเยรูซาเล็มเพราะพวกเขาวางใจใน พระองค์ พระวรสารนักบุญมัทธิวบอกว่า นายร้อยชาวโรมันทูลอ้อนวอนพระเยซูเจ้าด้วย ความเชื่อ ความวางใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า พระองค์จะทรงรักษาผู้รับใช้ของตนที่ป่วยเป็น อัมพาตอยูท่ บี่ า้ น พระเยซูเจ้าทรงประหลาดพระทัยและชมเชยความเชือ่ ของเขา แล้วตรัส ว่า “จงเป็นไปตามที่ท่านเชื่อนั้นเถิด” ผู้รับใช้ของเขาก็หายจากโรคในเวลานั้นเอง ข้าแต่ พระเยซูคริสตเจ้า “โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด” (ลก 17:5)


บทอ่านที่ 1 1 คร 9:16-19,22-23 พี่น้อง ในการประกาศข่าวดีข้าพเจ้าไม่รู้สึกภูมิใจแม้แต่น้อย เพราะข้าพเจ้าจำ�เป็น ต้องประกาศอยู่แล้ว หากข้าพเจ้าไม่ประกาศข่าวดี ข้าพเจ้าย่อมได้รับความวิบัติ เพราะ ถ้าข้าพเจ้าสมัครใจทำ�เอง ข้าพเจ้าก็จะได้รับค่าจ้าง แต่ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้สมัครใจทำ�ก็ หมายความว่า ข้าพเจ้าเพียงแต่ทำ�งานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ข้าพเจ้าจะได้รางวัลใด เล่า รางวัลสำ�หรับข้าพเจ้าก็คอื ความภูมใิ จทีข่ า้ พเจ้าประกาศข่าวดีให้ โดยไม่ใช้สทิ ธิตา่ งๆ จากการประกาศข่าวดีนั้น แม้วา่ ข้าพเจ้าเป็นอิสระ ข้าพเจ้าก็ยอมเป็นทาสรับใช้ทกุ คน เพือ่ เอาชนะใจผูอ้ นื่ ให้ มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ข้าพเจ้าทำ�ตนเป็นผู้อ่อนแอเพื่อชนะใจผู้อ่อนแอ ข้าพเจ้าเป็นทุกอย่างสำ�หรับทุก คน เพือ่ ข้าพเจ้าจะได้ใช้ทกุ วิถที างช่วยบางคนให้รอดพ้น ข้าพเจ้าทำ�ทุกอย่างเพราะเห็น แก่ข่าวดี เพื่อข้าพเจ้าจะได้มีส่วนรับพระพรจากข่าวดีนี้ร่วมกับเขาเหล่านั้นด้วย พระวรสาร มก 16:15-20 เวลานัน้ พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ท่านทัง้ หลายจงออกไปทัว่ โลก ประกาศข่าวดี ให้มนุษย์ทั้งปวง ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ ผู้ที่เชื่อจะทำ�อัศจรรย์เหล่านี้ได้ คือจะขับไล่ปีศาจในนามของเรา จะพูดภาษาใหม่ๆ ได้ จะจับงูได้ และถ้าดืม่ ยาพิษก็จะไม่ได้รบั อันตราย เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่า นั้นก็จะหายจากโรคภัย” เมื่อพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้แล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นสู่สวรรค์ ให้ประทับ ณ เบื้องขวา บรรดาศิษย์ก็แยกย้ายกันออกไปเทศนาสั่งสอนทั่วทุกแห่งหน องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าทรงทำ�งานร่วมกับเขา และทรงรับรองคำ�สัง่ สอนโดยอัศจรรย์ทตี่ ดิ ตาม มา พระคริสต์ผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพตรัสกับบรรดาศิษย์ให้ไปประกาศ ข่าวดี เรื่องความรอดพ้นจากผลของบาป ความตายและมีชีวิตใหม่ พระองค์ทรงทำ�งาน ร่วมกับพวกเขา พระคริสต์ผู้กลับคืนชีพทำ�ให้นักบุญเปาโลกลับใจดำ�เนินชีวิตใหม่และ ประกาศข่าวดี นักบุญฟรังซิสเซเวียร์ (ค.ศ. 1506-1556) ที่ฉลองในวันนี้ก็เช่นกัน ขณะที่ เป็นนักศึกษาในกรุงปารีสท่านได้กลับใจ ได้ฝกึ จิตภาวนา (Spiritual Exercises) และสมัคร เข้าคณะเยสุอิต ในปี ค.ศ.1540 นักบุญอิกญาซีโอมอบหมายให้ท่านเป็นธรรมทูตในเอเซีย ในอินเดียและญีป่ นุ่ ท่านเป็นธรรมทูตผูร้ อ้ นรนได้น�ำ คนจำ�นวนมากมาเป็นศิษย์พระคริสต์ โปรดภาวนาเพื่อพวกเราเป็นศิษย์ธรรมทูตประกาศข่าวดีของพระคริสต์ในโลกปัจจุบัน

ฉลอง น.ฟรังซิส เซเวียร์ พระสงฆ์ องค์อุปถัมภ์ ของมิสซัง สดด 96:1-2,3,7-8, 10-11


บทอ่านที่ 1 อสย 25:6-10ก เวลานั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมจักรวาลทรงจัดเตรียมงานเลี้ยงฉลองสำ�หรับ ประชากรทุกชาติบนภูเขานี้ เป็นงานเลี้ยงที่มีอาหารนานาชนิด เป็นงานเลี้ยงที่มี เหล้าองุน่ ชัน้ ดี มีอาหารเลิศรสและเหล้าองุน่ ทีเ่ ลือกสรรแล้ว บนภูเขานีพ้ ระองค์จะทรง ทำ�ลายผ้าคลุมที่คลุมหน้าประชากรทั้งหลาย และจะทรงทำ�ลายม่านซึ่งกางอยู่เหนือ น.ยอห์น แห่งดามัสคัส นานาชาติ พระองค์จะทรงทำ�ลายความตายตลอดไป องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าจะทรง พระสงฆ์ เช็ดนํ้าตาจากใบหน้าของทุกคน จะทรงช่วยประชากรของพระองค์ ให้พ้นจากการถูก และนักปราชญ์ ลบหลู่ทั่วแผ่นดิน เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสแล้ว วันนั้น เขาจะพูดกันว่า “นี่คือพระเจ้าของเรา เราเคยหวังว่าพระองค์จะทรงช่วย แห่งพระศาสนจักร เราให้รอดพ้น นี่คือองค์พระผู้เป็นเจ้า เราเคยมีความหวังในพระองค์ เราจงชื่นชมยินดี สดด 23:1-6 ที่พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดพ้นเถิด” เพราะพระหัตถ์องค์พระผู้เป็นเจ้าจะพักอยู่บน ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 1 ภูเขานี้ พระวรสาร มธ 15:29-37 เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จจากที่นั่นมายังทะเลสาบกาลิลี แล้วเสด็จขึ้นบนภูเขา ประทับที่นั่น ประชาชนจำ�นวนมากเข้ามาเฝ้าพระองค์ นำ�คนง่อย คนแขนขาพิการ คน ตาบอด คนใบ้ และคนเจ็บอื่นๆ จำ�นวนมากมาไว้แทบพระบาท พระองค์ทรงรักษาเขา ให้หายจากโรค เมือ่ ประชาชนเห็นคนใบ้พดู ได้ คนขาพิการหายเป็นปกติ คนง่อยเดินได้ คนตาบอด มองเห็นได้ ต่างประหลาดใจและสรรเสริญพระเจ้าแห่งอิสราเอล พระเยซูเจ้าทรงเรียกบรรดาศิษย์เข้ามา ตรัสว่า “เราสงสารประชาชน เพราะเขา อยู่กับเรามาสามวันแล้ว และเวลานี้ไม่มีอะไรกิน เราไม่อยากให้เขากลับบ้านโดยไม่ได้ กินอะไร เขาจะหมดแรงขณะเดินทาง” บรรดาศิษย์จงึ ทูลถามว่า “ในทีเ่ ปลีย่ วเช่นนี้ เรา จะหาอาหารจากทีไ่ หนให้ประชาชนจำ�นวนมากเช่นนีก้ นิ จนอิม่ ได้” พระเยซูเจ้าตรัสถาม ว่า “ท่านมีขนมปังกีก่ อ้ น” เขาทูลว่า “เจ็ดก้อนกับปลาเล็กๆ อีกสองสามตัว” พระองค์ ทรงสั่ ง ให้ ป ระชาชนนั่ ง ลงที่ พื้ นดิ น ทรงหยิ บ ปลาและขนมปั ง เจ็ ด ก้ อ นนั้ น ตรั ส ขอบพระคุณพระเจ้า ทุกคนกินจนอิ่ม และยังเก็บเศษที่เหลือได้อีกเจ็ดตะกร้า พระวาจาวันนีบ้ ทอ่านแรกเป็นบทเพลงขอบพระคุณพระเจ้า สำ�หรับความรักของพระองค์ พระเจ้า ทรงจัดงานเลี้ยงสำ�หรับประชากรทุกชาติบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ จะไม่มีความทุกข์และความตายอีกต่อไป จาก พระวรสารนักบุญมัทธิว พระเยซูเจ้าทรงแสดงความรักต่อประชาชน ทรงรักษาคนเจ็บป่วยจำ�นวนมากทีม่ คี วาม เชื่อในพระองค์ และทรงทวีขนมปังเลี้ยงประชาชนที่หิวโหย เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เป็นเวลา แห่งความหวังและเป็นเวลาเปิดรับความรักของพระเจ้าเข้ามาในใจของเรา เพื่อให้พระองค์เผยแสดง รักษา ทำ�ให้จิตใจบริสุทธิ์ เป็นอิสระ และเติมเต็มด้วยความรักของพระองค์


บทอ่านที่ 1 อสย 26:1-6 วันนัน้ ทุกคนในแผ่นดินยูดาห์จะร้องเพลงบทนี้ “พวกเรามีเมืองเข้มแข็งเมืองหนึง่ พระองค์ทรงสร้างกำ�แพงและเชิงเทินไว้เพื่อปกป้อง จงเปิดประตูเมืองเถิด ประชาชาติ ที่ชอบธรรมซึ่งรักษาความซื่อสัตย์ไว้จะได้เข้ามา พระองค์ทรงรักษาชนชาติที่มีใจมั่นคง ให้อยู่ในสันติ เขาอยู่ในสันติ เพราะวางใจในพระองค์ จงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า ตลอดไปเถิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าทรงเป็นศิลานิรันดร เพราะพระองค์ทรง สัปดาห์ที่ 1 เทศกาล กดผูอ้ ยูบ่ นทีส่ งู ให้ตาํ่ ลง ทรงทำ�ลายเมืองบนทีส่ งู ให้ราบถึงพืน้ ดิน กลายเป็นฝุน่ ดิน เท้า เตรียมรับเสด็จ ที่เหยียบเมืองนั้นคือเท้าของผู้ถูกกดขี่ คนยากจนจะเดินเหยียบยํ่าเมืองนั้น” พระคริสตเจ้า สดด 118:1,8-9,

19-21,25,27 พระวรสาร มธ 7:21,24-27 เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “คนที่กล่าวแก่เราว่า ‘พระเจ้าข้า ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 1 พระเจ้าข้า’ นั้นมิใช่ทุกคนจะได้เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ วันคล้าย ของพระบิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์นั่นแหละจะเข้าสู่สวรรค์ได้ วันพระบรมราชสมภพ ผู้ใดฟังถ้อยคำ�เหล่านี้ของเราและปฏิบัติตาม ก็เปรียบเสมือนคนมีปัญญาที่สร้าง พระบาทสมเด็จ บ้านไว้บนหิน ฝนจะตก นํ้าจะไหลเชี่ยว ลมจะพัดโหมเข้าใส่บ้านหลังนั้น บ้านก็ไม่พัง พระปรมินทร เพราะมีรากฐานอยู่บนหิน มหาภูมิพลอดุลยเดช ผูใ้ ดทีฟ่ งั ถ้อยคำ�เหล่านีข้ องเรา และไม่ปฏิบตั ติ ามก็เปรียบเสมือนคนโง่เขลาทีส่ ร้าง วันชาติ บ้านไว้บนทราย เมื่อฝนตก นํ้าไหลเชี่ยว ลมพัดโหมเข้าใส่บ้านหลังนั้น มันก็พังทลาย วันพ่อแห่งชาติ ลงและเสียหายมาก” คำ�สอนของพระเยซูเจ้าตอนสุดท้ายของบทเทศน์บนภูเขาคือ วิถีชีวิตศิษย์ แท้ของพระเยซูเจ้า “คนที่กล่าวแก่เราว่า “พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า” นั้นมิใช่ทุกคนจะได้ เข้าสูอ่ าณาจักรสวรรค์ แต่ผทู้ ปี่ ฏิบตั ติ ามพระประสงค์ของพระบิดาของเรา ผูส้ ถิตในสวรรค์ นั่นแหละจะเข้าสู่สวรรค์ได้” (มธ 7:21) มนุษย์ทุกคนสามารถปฏิบัติตามพระประสงค์ ของพระเจ้าได้ โดยปฏิบัติตามเสียงมโนธรรมที่ให้ทำ�ความดีและหลีกหนีความชั่ว ปฏิบัติ คุณธรรมความรักและปฏิบัติตามพระบัญญัติและพระวรสาร ทำ�ตามบทบาทและหน้าที่ ในชีวิตของแต่ละคน นี่คือหนทางสู่ความศักดิ์สิทธิ์ครบครันสำ�หรับทุกคน


น.นิโคลัส พระสังฆราช สดด 27:1,4,13-14 ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 1 วันศุกร์ต้นเดือน

บทอ่านที่ 1 อสย 29:17-24 องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าตรัสดังนี้ ในไม่ชา้ เลบานอนจะเปลีย่ นเป็นสวนผลไม้ และสวน ผลไม้จะกลายเป็นป่ามิใช่หรือ วันนั้น คนหูหนวกจะได้ยินถ้อยคำ�ของหนังสือ ตาของ คนตาบอดจะหายมืดมัวกลับมองเห็นได้ คนถ่อมตนจะยินดียงิ่ ขึน้ อีกในองค์พระผูเ้ ป็น เจ้า ผูย้ ากจนจะชืน่ ชมในพระผูศ้ กั ดิส์ ทิ ธิแ์ ห่งอิสราเอล เพราะจะไม่มที รราชอีก คนชอบ เยาะเย้ยจะสูญหายไป คนทัง้ หลายทีห่ าโอกาสทำ�ความชัว่ จะถูกกำ�จัด คือผูพ้ ดู ใส่ความ คนอื่น ผู้วางบ่วงไว้ดักผู้พิพากษาที่ประตูเมือง และปั้นเรื่องขึ้นทำ�ลายผู้ชอบธรรม ดัง นั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงไถ่อับราฮัม ตรัสกับเชื้อสายของยาโคบดังนี้ “ตัง้ แต่นไี้ ป ยาโคบจะไม่ตอ้ งอับอายอีก ใบหน้าของเขาจะไม่ซดี ลงอีกต่อไป เพราะ เมื่อเขาเห็นลูกหลานของตน ซึ่งเป็นผลงานจากมือของเรากลับมาอยู่กับเขาอีก เขาจะ ยอมรับว่านามของเราศักดิ์สิทธิ์ เขาทั้งหลายจะยอมรับว่าพระผู้ศักดิ์สิทธิ์ของยาโคบ ทรงความศักดิ์สิทธิ์ และจะยำ�เกรงพระเจ้าแห่งอิสราเอล จิตใจที่หลงผิดจะได้รับความ เข้าใจ และผู้ที่เคยบ่นจะยอมรับคำ�สั่งสอน” พระวรสาร มธ 9:27-31 ขณะที่พระเยซูเจ้ากำ�ลังเสด็จออกจากที่นั่น คนตาบอดสองคนตามพระองค์ไป ร้องตะโกนว่า “โอรสของกษัตริย์ดาวิด โปรดเมตตาเราเถิด” เมื่อเสด็จมาถึงบ้าน คน ตาบอดเข้ามาเฝ้าพระองค์ พระเยซูเจ้าจึงตรัสถามว่า “ท่านเชือ่ ว่าเราทำ�เช่นนัน้ ได้หรือ” เขาทั้งสองคนตอบว่า “เชื่อ พระเจ้าข้า” พระองค์จึงทรงสัมผัสตาของเขา ตรัสว่า “จง เป็นไปตามที่ท่านเชื่อเถิด” แล้วตาของเขาทั้งสองคนก็เริ่มมองเห็น พระเยซูเจ้าทรง กำ�ชับเขาอย่างเข้มงวดว่า “ระวัง อย่าบอกให้ใครรู้เรื่องนี้” แต่เมื่อทั้งสองคนออกไปก็ ประกาศเรื่องของพระองค์ทั่วแคว้นนั้น คนตาบอดทั้งสองวางใจว่าพระเมสสิยาห์มีอำ�นาจรักษาพวกเขาจากความ ทุกข์ ได้ร้องตะโกนว่า “โอรสของกษัตริย์ดาวิด โปรดเมตตาเราเถิด” แต่พระเยซูเจ้าถาม ถึงความเชื่อของพวกเขาก่อนแทนที่จะรักษาทันที และจึงตรัสว่า “จงเป็นไปตามที่ท่าน เชื่อเถิด” อาศัยความเชื่อในพระองค์พวกเขาได้รับการรักษา เทศกาลเตรียมรับเสด็จ พระคริสตเจ้าเป็นเวลาค้นพบตัวตนแท้ของเรา และรือ้ ฟืน้ ความเชือ่ ในพระเยซูคริสต์ผู้ มีพลังรักษาเราให้เป็นอิสระ และค้นพบว่าเราเป็นบุตรพระเจ้า เราได้รบั เรียกให้มสี ว่ นร่วม กับพระองค์ทำ�ให้แผนการของพระเจ้าเป็นจริงในชีวิตและในโลกของเรา


บทอ่านที่ 1 อสย 30:19-21,23-26 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ “ประชากรแห่งศิโยน ผู้อาศัยที่กรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จง ฟังเถิด ท่านทัง้ หลายจะไม่ตอ้ งร้องไห้อกี เลย เมือ่ ท่านร้องขอความช่วยเหลือ พระองค์ จะทรงพระเมตตาต่อท่าน เมื่อทรงได้ยิน พระองค์จะทรงตอบท่าน แม้องค์พระผู้เป็น เจ้าจะประทานความยากลำ�บากให้เป็นเหมือนอาหาร และประทานความทุกข์ใจให้เป็น เหมือนนํ้าดื่ม ถึงกระนั้น พระอาจารย์ของท่านจะไม่ซ่อนพระองค์อีก ตาของท่านจะ เห็นพระอาจารย์ หูของท่านจะได้ยินถ้อยคำ�นี้จากเบื้องหลังว่า ‘นี่เป็นหนทาง จงเดินใน ทางนี้เถิด’... แล้วพระองค์จะประทานฝนแก่เมล็ดพืชที่ท่านได้หว่านลงในดิน ข้าวสาลีผลิตผล ของดินจะอุดมสมบูรณ์ วันนั้น สัตว์เลี้ยงของท่านจะหากินอยู่ในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ โค และลาทีใ่ ช้ท�ำ นาจะกินหญ้าหมักรสอร่อย ทีใ่ ช้พลัว่ และส้อมซัดตักมาให้ บนภูเขาและ เนินสูงทุกแห่งจะมีล�ำ ธารและคูนาํ้ ไหล ในวันทีศ่ ตั รูจ�ำ นวนมากจะถูกฆ่า เมือ่ หอคอยจะ พังทลาย ในวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงพันบาดแผลให้ประชากรของพระองค์ และ จะทรงรักษาบาดแผลซึง่ เขาถูกพระองค์ทรงโบยตี แสงของดวงจันทร์จะเป็นเหมือนแสง ของดวงอาทิตย์ และแสงของดวงอาทิตย์จะสว่างเป็นเจ็ดเท่า จะเป็นเหมือนแสงสว่าง ของเจ็ดวัน”

ระลึกถึง น.อัมโบรส พระสังฆราช และนักปราชญ์ สดด 147:1-3,4-7 ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 1

พระวรสาร มธ 9:35-10:1,6-8 เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จไปตามเมืองและตามหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนในศาลาธรรม ทรงประกาศข่าวดี เรื่องพระอาณาจักร ทรงรักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิด เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชน ก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ ประดุจฝูงแกะทีไ่ ม่มคี นเลีย้ ง แล้วพระองค์ตรัสแก่บรรดาศิษย์วา่ “ข้าวทีจ่ ะเก็บเกีย่ วมีมาก แต่คนงานมีนอ้ ย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด” พระเยซูเจ้าทรงเรียกศิษย์สบิ สองคนเข้ามาพบ ประทานอำ�นาจให้เขาขับไล่ปศี าจ ให้รกั ษาโรคและความ เจ็บไข้ทุกชนิด พระองค์ทรงส่งศิษย์สิบสองคนนี้ออกไป ทรงสั่งเขาว่า “พวกท่านจงไปหาแกะพลัดฝูงของ วงศ์วานอิสราเอลก่อน จงไปประกาศว่าอาณาจักรสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว จงรักษาคนเจ็บไข้ จงปลุกคนตาย ให้กลับคืนชีพ จงรักษาคนโรคเรื้อนให้สะอาด จงขับไล่ปีศาจให้ออกไป ท่านได้รับมาโดยไม่เสียค่าตอบแทน ก็จงให้เขาโดยไม่รับค่าตอบแทนด้วย” พระเยซูเจ้าทรงประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักรสวรรค์ทั้งในเมืองและในหมู่บ้าน พระองค์ทอด พระเนตรเห็นประชาชน ทรงสงสารเพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง พระองค์ทรงส่งอัครสาวกสิบสองคนไปสืบสานพันธกิจของพระองค์ วันนีพ้ ระศาสนจักรระลึกถึงนักบุญอัมโบรส พระสังฆราชแห่งมิลาน (ค.ศ.339-397) นักอภิบาล นักปกครอง นักปฏิรูปพิธีกรรม นักเทศน์สอนที่ดี และ นักปราชญ์ของพระศาสนจักร ท่านมีส่วนช่วยให้นักบุญออกัสตินกลับใจและแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตจิตที่ ลุ่มลึกว่า “หัวใจของมนุษย์จะไม่สงบ จนกว่าจะได้พักพิงในพระเจ้า” (คำ�สารภาพ 1,1)


บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ อสย 11:1-10 หน่อหนึ่งจะแตกออกจากตอของเจสซี กิ่งหนึ่งจะงอกขึ้นจากรากของเขา พระจิต ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะพำ�นักอยู่เหนือเขา คือจิตแห่งปรีชาญาณและความเข้าใจ จิต แห่งความคิดอ่านและอานุภาพ จิตแห่งความรูแ้ ละความยำ�เกรงองค์พระผูเ้ ป็นเจ้า เขา จะพอใจยำ�เกรงองค์พระผูเ้ ป็นเจ้า จะไม่พพิ ากษาตามทีต่ าเห็น จะไม่ตดั สินตามทีห่ ไู ด้ยนิ สัปดาห์ที่ 2 เทศกาล แต่จะพิพากษาคนยากจนด้วยความชอบธรรม จะตัดสินอย่างเทีย่ งธรรมเพือ่ ผูถ้ กู ข่มเหง เตรียมรับเสด็จ ในแผ่นดิน คำ�พูดของเขาจะเป็นเหมือนไม้เรียวที่เฆี่ยนตีผู้คนบนแผ่นดิน ลมปากของ เขาจะประหารชีวิตคนอธรรม พระคริสตเจ้า ความชอบธรรมจะเป็นดังผ้าคาดสะเอว ความซื่อสัตย์จะเป็นเหมือนเข็มขัดคาด ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 2 บั้นเอวของเขา สุนัขป่าจะอยู่กับลูกแกะ เสือดาวจะนอนอยู่กับลูกแพะ ลูกโคและลูก สิงโตจะหากินอยูด่ ว้ ยกัน เด็กคนหนึง่ ก็ยงั นำ�มันไปได้ แม่โคกับหมีจะหากินด้วยกัน ลูก ของมันจะนอนอยูด่ ว้ ยกัน สิงโตจะกินฟางเหมือนโคเพศผู้ ทารกทีย่ งั ไม่หย่านมจะเล่น อยู่ที่ปากรูงูเห่า เด็กที่หย่านมแล้วจะเอามือวางที่รังของงูพิษ จะไม่มีผู้ใดทำ�ร้ายหรือ ทำ�ลายทั่วภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เพราะแผ่นดินจะรู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างสมบูรณ์ ดั่งนํ้าปกคลุมทะเล วันนั้น รากของเจสซีจะตั้งขึ้นเป็นเครื่องหมายสำ�หรับประชาชนทั้งหลาย จะเป็น ที่แสวงหาของนานาชาติ และจะมีที่พำ�นักอย่างรุ่งโรจน์ เพลงสดุดี สดด 72:1,7-8,12-13,17 ก) ข้าแต่พระเจ้า โปรดประทานวิจารณญาณของพระองค์แด่พระราชา และประทานความเที่ยงธรรมของพระองค์แก่พระโอรสของพระราชาด้วย ข) ในรัชสมัยของพระราชา ขอให้ความชอบธรรมเจริญงอกงาม และมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งตราบสิ้นแสงจันทร์ ขอให้พระอาณาจักรแผ่ขยายจากทะเลจรดทะเล จากแม่นํ้าจนสุดปลายแผ่นดิน ค) ขอพระราชาทรงปลดปล่อยผู้ขัดสนที่ร้องหาพระองค์ และทรงช่วยคนยากจนที่ไม่มีผู้ช่วยให้รอดพ้น ขอทรงสงสารผู้อ่อนแอและผู้ขัดสน ทรงช่วยผู้ขาดแคลนให้รอดจากความตาย ง) ขอพระนามของพระราชาคงอยู่ตลอดไป ขอพระนามพระองค์คงอยู่ตราบสิ้นแสงตะวัน ขอให้ชนทุกเผ่าพันธุ์ในโลกนี้ได้รับพรเดชะพระองค์ และนานาชาติประกาศว่าพระราชาทรงเกษมสุข


บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม รม 15:4-9 พี่น้อง สิ่งที่เขียนไว้ก่อนนั้นก็เขียนไว้สำ�หรับสั่งสอนเรา เพื่อเราจะมีความหวังอาศัยความอดทน พากเพียรและการปลอบใจทีม่ าจากพระคัมภีร์ ขอให้พระเจ้าผูป้ ระทานความพากเพียรและการปลอบใจ โปรด ให้ทา่ นเป็นนาํ้ หนึง่ ใจเดียวกัน ตามแบบฉบับของพระคริสตเยซู เพือ่ ท่านจะได้พร้อมใจกันและเปล่งวาจาเป็น เสียงเดียวกัน ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าผู้ทรงเป็นบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ดังนั้น ท่านจงยอมรับกันและกัน เช่นเดียวกับที่พระคริสตเจ้าทรงยอมรับท่านเพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของ พระเจ้า ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า พระคริสตเจ้าทรงยอมเป็นผูร้ บั ใช้พวกทีเ่ ข้าสุหนัต เพราะทรงเห็นแก่ความสัตย์ จริงของพระเจ้า เพือ่ ยืนยันพระสัญญาทีป่ ระทานไว้กบั บรรพบุรษุ ส่วนคนต่างชาตินนั้ ถวายเกียรติแด่พระเจ้า เพราะพระเมตตาของพระองค์ ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า เพราะเหตุนี้ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ ท่ามกลางนานาชาติ ร่วมขับร้องสดุดีพระนามพระองค์ บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 3:1-12 ในครั้งนั้น ยอห์นผู้ทำ�พิธีล้างมาประกาศสอนในถิ่นทุรกันดารแห่งยูเดีย ยอห์นกล่าวว่า “จงกลับใจเถิด อาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว” ยอห์นผู้นี้คือผู้ที่ประกาศกอิสยาห์ได้กล่าวถึงว่า คนคนหนึ่งร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่า “จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำ�ทางเดินของพระองค์ให้ตรงเถิด” ยอห์นนุ่งห่มด้วยผ้าขนอูฐ มีสายหนังรัดเอว กินตั๊กแตนและนํ้าผึ้งป่าเป็นอาหาร ประชาชนจากกรุง เยรูซาเล็ม จากทั่วแคว้นยูเดีย และจากทั่วเขตแม่นํ้าจอร์แดนพากันไปพบเขา รับพิธีล้างจากเขาในแม่นํ้า จอร์แดนโดยสารภาพบาปของตน เมือ่ ยอห์นเห็นชาวฟาริสแี ละสะดูสหี ลายคนมารับพิธลี า้ ง จึงกล่าวว่า “เจ้าสัญชาติงรู า้ ย ผูใ้ ดแนะนำ�เจ้า ให้หนีการลงโทษที่กำ�ลังจะมาถึง จงประพฤติตนให้สมกับที่ได้กลับใจแล้วเถิด อย่าอวดอ้างเองว่า ‘เรามี อับราฮัมเป็นบิดา’ ข้าพเจ้าบอกท่านทั้งหลายว่า พระเจ้าทรงบันดาลให้ก้อนหินเหล่านี้กลายเป็นลูกของ อับราฮัมได้ บัดนี้ขวานกำ�ลังจ่ออยู่ที่รากของต้นไม้แล้ว ต้นไม้ต้นใดที่ไม่เกิดผลดีจะถูกโค่นและโยนใส่ไฟ ข้าพเจ้าใช้นาํ้ ทำ�พิธลี า้ งให้ทา่ นทัง้ หลาย เพือ่ ให้กลับใจ แต่ผทู้ จี่ ะมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงอำ�นาจยิง่ กว่าข้าพเจ้า และข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะถือรองเท้าของเขา เขาจะทำ�พิธีล้างให้ท่านเดชะพระจิตเจ้าและไฟ เขากำ�ลัง ถือพลั่วอยู่แล้ว จะชำ�ระลานนวดข้าวให้สะอาด จะรวบรวมข้าวใส่ยุ้ง ส่วนฟางนั้นเขาจะเผาทิ้งในไฟที่ไม่รู้ ดับ” เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้านำ�เรากลับสูส่ ว่ นลึกในใจของเรา ในพระวรสารท่านยอห์น ผู้ทำ�พิธีล้างเทศน์สอนเน้นสามครั้งคือ “จงกลับใจเถิด” เป็นการปรับเปลี่ยนใจ ทัศนคติ และนำ�สู่วิถีชีวิตใหม่ ตามแบบพระคริสตเจ้า ประกาศกอิสยาห์บอกว่า จิตใหม่ของพระเมสสิยาห์เป็นจิตของพระเจ้า จิตแห่ง ปรีชาญาณ ความเข้าใจ ความคิดอ่าน อานุภาพ ความรู้และความยำ�เกรงพระเจ้า เมื่อพระเมสสิยาห์เสด็จมาจะ มีสันติภาพระหว่างมนุษย์และบรรดาสัตว์ต่างๆ ด้วย นักบุญเปาโลบอกเราว่า พระเยซูคริสต์เป็นกุญแจทำ�ให้ คริสตชนมีจิตใจใหม่คือ เป็นศิษย์พระคริสต์ผู้มีความเป็นนํ้าหนึ่งใจเดียวกันกับพระเจ้าและมนุษย์ทุกคน และ ร่วมกันเป็นพยานถวายเกียรติแด่พระเจ้า


สมโภช พระนางมารีย์ ผู้ปฏิสนธินิรมล สดด 98:1-2,3-4

บทอ่านที่ 1 ปฐก 3:9-15,20 หลังจากทีอ่ าดัมได้กนิ ผลไม้จากต้นไม้นนั้ แล้ว... องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าพระเจ้าจึงตรัส กับงูว่า “เพราะเจ้าทำ�เช่นนี้ เจ้าจงถูกสาปแช่ง... เราจะทำ�ให้เจ้าและหญิงเป็นศัตรูกัน ให้ลกู หลานของเจ้าและลูกหลานของนางเป็นศัตรูกนั ด้วย เขาจะเหยียบหัวของเจ้า และ เจ้าจะกัดส้นเท้าของเขา” มนุษย์เรียกภรรยาของตนว่า “เอวา” เพราะนางเป็นมารดา ของผู้มีชีวิตทั้งหลาย บทอ่านที่ 2 อฟ 1:3-6,11-12 ขอถวายพระพรแด่พระเจ้า พระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระองค์ทรงอวยพรแก่เราโดยประทานพระพรนานาประการของพระจิตเจ้าจากสวรรค์ เดชะพระคริสตเจ้า พระเจ้าทรงเลือกสรรเราในพระคริสตเจ้าแล้ว ตัง้ แต่กอ่ นการเนรมิต สร้างโลก เพือ่ ให้เราศักดิส์ ทิ ธิแ์ ละปราศจากมลทินเฉพาะพระพักตร์พระองค์ดว้ ยความ รัก...

พระวรสาร ลก 1:26-38 เมือ่ นางเอลีซาเบธตัง้ ครรภ์ได้หกเดือนแล้ว พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบรียลมายังเมืองหนึง่ ในแคว้น กาลิลีชื่อเมืองนาซาเร็ธ มาพบหญิงพรหมจารีคนหนึ่งซึ่งหมั้นอยู่กับชายชื่อโยเซฟ ในราชวงศ์ของกษัตริย์ ดาวิด หญิงพรหมจารีผู้นั้นชื่อมารีย์ ทูตสวรรค์เข้าในบ้านกล่าวกับพระนางว่า “จงยินดีเถิด ท่านผู้ที่พระเจ้า โปรดปราน องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่าน” เมื่อทรงได้ยินถ้อยคำ�นี้ พระนางมารีย์ทรงวุ่นวายพระทัยมาก ทรงถามพระองค์เองว่า คำ�ทักทายนี้หมายความว่ากระไร แต่ทูตสวรรค์กล่าวแก่พระนางว่า “มารีย์ อย่ากลัว เลย ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน ท่านจะตั้งครรภ์และให้กำ�เนิดบุตรชายคนหนึ่ง ท่านจะตั้งชื่อเขาว่าเยซู เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่และพระเจ้าผู้สูงสุดจะทรงเรียกเขาเป็นบุตรของพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทาน พระบัลลังก์ของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษให้แก่เขา เขาจะปกครองวงศ์ตระกูลของยาโคบตลอดไปและพระ อาณาจักรของเขาจะไม่สิ้นสุดเลย” พระนางมารีย์จึงทรงถามทูตสวรรค์ว่า “เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะข้าพเจ้าตัง้ ใจจะเป็นพรหมจารี” ทูตสวรรค์ตอบว่า “พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่านและพระอานุภาพ ของพระผูส้ งู สุดจะแผ่เงาปกคลุมท่าน เพราะฉะนัน้ บุตรทีเ่ กิดมาจะเป็นผูศ้ กั ดิส์ ทิ ธิแ์ ละจะรับนามว่าบุตรของ พระเจ้า ดูซิ เอลีซาเบธ ญาติของท่าน ทั้งๆ ที่ชราแล้ว ก็ยังตั้งครรภ์บุตรชาย ใครๆ คิดว่านางเป็นหมัน แต่ นางก็ตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว เพราะไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำ�ไม่ได้” พระนางมารีย์จึงตรัสว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจา ของท่านเถิด” แล้วทูตสวรรค์ก็จากพระนางไป ด้วยความสุภาพถ่อมตน และความไว้วางใจในพระเจ้าอย่างสูงสุดของแม่พระ ทำ�ให้ประวัตศิ าสตร์ แห่งความรอดพ้นในพระบุตรของพระนางสำ�เร็จไป มนุษย์จึงได้รับการไถ่กู้ให้รอดพ้นจากบาปและความตาย ทำ�ให้มนุษย์ได้รู้จักและติดตามพระคริสตเจ้าผู้ซึ่งเป็นความหวังแห่งชีวิตทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ดังนั้น ถ้าเรา ปรารถนาที่จะปฏิบัติตามตัวอย่างแห่งความเชื่อและความกล้าหาญของพระแม่ เราจำ�เป็นต้องเปิดใจยอมรับถึง สิ่งที่เกินจากความคาดหวังที่อาจเข้ามาในชีวิตด้วยความสุภาพและเสียสละ มั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้เป็นพระประสงค์ ของพระเจ้า ซึ่งทำ�ให้ชีวิตของเราเป็นท่อธารแห่งพระพรและพระหรรษทานไปยังบุคคลอื่น


บทอ่านที่ 1 อสย 40:1-11 พระเจ้าของท่านทั้งหลายตรัสว่า “จงปลอบโยน จงปลอบโยนประชากรของเรา เถิด จงพูดกับกรุงเยรูซาเล็มให้ประทับใจ จงร้องบอกเมืองนั้นว่า เวลาการเป็นทาสสิ้น สุดแล้ว ความผิดของเมืองนั้นได้รับการอภัย เมืองนั้นได้รับโทษจากพระหัตถ์ขององค์ พระผู้เป็นเจ้าเป็นสองเท่าแล้วเพราะบาปทั้งหมดของตน” เสียงหนึง่ ร้องว่า “จงเตรียมทางขององค์พระผูเ้ ป็นเจ้าในถิน่ ทุรกันดาร จงเปิดทาง สัปดาห์ที่ 2 เทศกาล ตรงในทุ่งเวิ้งว้างสำ�หรับพระเจ้าของเราเถิด จงถมหุบเขาทุกแห่งให้เต็ม จงปรับภูเขา เตรียมรับเสด็จ และเนินเขาทุกแห่งให้เรียบ ทีข่ รุขระจะราบเสมอกัน ทีส่ งู ๆ ตํา่ ๆ จะราบเรียบ แล้วองค์ พระคริสตเจ้า พระผูเ้ ป็นเจ้าจะทรงสำ�แดงพระสิรริ งุ่ โรจน์ให้ปรากฏ มนุษย์ทกุ คนจะได้เห็นทัว่ กัน เพราะ พระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้ดังนี้” สดด 96:1-3,10-12,13 เสียงหนึ่งกล่าวว่า “จงร้องซิ” ข้าพเจ้าตอบว่า “ข้าพเจ้าจะต้องร้องว่าอย่างไร” เสียงนั้นกล่าวว่า “มนุษย์ทุกคนเป็นเหมือนต้นหญ้า ความรุ่งเรืองทั้งหมดของเขาเป็น ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 2 วันรัฐธรรมนูญ เหมือนดอกไม้ในทุง่ เมือ่ องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าทรงบันดาลให้ลมพัดผ่าน หญ้าก็จะเหีย่ วแห้ง ดอกไม้ก็จะร่วงโรย แน่ทีเดียว ประชากรเป็นเสมือนต้นหญ้า หญ้าเหี่ยวแห้ง ดอกไม้ ฉลองวันครบรอบ ร่วงโรย แต่พระวาจาของพระเจ้าของเราคงอยู่ตลอดไป” การถวายอาสนวิหาร “ท่านผู้นำ�ข่าวดีมายังศิโยนเอ๋ย จงขึ้นไปบนภูเขาสูงเถิด ท่านผู้นำ�ข่าวดีมาให้กรุง แม่พระนิรมล เยรูซาเล็มเอ๋ย จงร้องตะโกนให้สุดเสียงเถิด จงร้องตะโกน อย่ากลัวเลย จงประกาศ สังฆมณฑลอุบลราชธานี แก่เมืองต่างๆ แห่งแคว้นยูดาห์ว่า ‘พระเจ้าของท่านทรงอยู่ที่นี่’ ดูซิ องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าเสด็จมาด้วยพระอานุภาพ พระกรของพระองค์ทรง อำ�นาจปกครอง ดูซิ รางวัลชัยชนะอยู่กับพระองค์ ประชากรที่ทรงกอบกู้เดินนำ�หน้า พระองค์ พระองค์ทรงเลีย้ งดูฝงู แกะของพระองค์เช่นคนเลีย้ งแกะ ทรงรวบรวมลูกแกะ ไว้ในอ้อมพระกร ทรงอุ้มไว้แนบพระอุระ และทรงนำ�แม่แกะอย่างทะนุถนอม” พระวรสาร มธ 18:12-14 เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ท่านทั้งหลายคิดอย่างไร ถ้าชายคนหนึ่งมีแกะอยู่ร้อยตัว แล้วแกะตัวหนึ่งบังเอิญหลงทาง เขาจะไม่ ปล่อยแกะเก้าสิบเก้าตัวไว้บนภูเขา เพื่อค้นหาแกะตัวที่หลงไปหรือ เราบอกความจริงแก่ทา่ นทัง้ หลายว่า ถ้าเขาหาแกะตัวนัน้ พบแล้ว เขาจะรูส้ กึ ยินดีทพี่ บมัน มากกว่ายินดี ในแกะเก้าสิบเก้าตัวที่มิได้พลัดหลง พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ก็เช่นเดียวกัน ไม่ทรงปรารถนาให้คน ธรรมดาๆ เหล่านี้แม้เพียงผู้เดียวต้องพินาศไป” ประกาศกอิสยาห์ได้บันทึกคำ�ปลอบโยนประชากรอิสราเอลที่ถูกเนรเทศ ให้มีความหวังว่า พวก เขาจะพ้นจากการเนรเทศ ได้รบั การปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ได้อพยพกลับบ้านเกิด “จงเตรียมทางของพระเจ้า” พระสิรริ งุ่ โรจน์ของพระเจ้าปรากฏให้ชมุ ชนแห่งความเชือ่ ทีเ่ ชีอ่ ในความรักของพระเจ้าต่อประชากรของพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงสอนเช่นเดียวกันว่า พระเจ้าทรงมีความรักแท้ทยี่ งิ่ ใหญ่และทรงปรารถนาให้ทกุ คนได้รบั ความ รอดพ้น โดยเฉพาะคนที่พลัดหลง คนที่อยู่ในความยากลำ�บาก ความทุกข์ และบาป


น.ดามาซัส ที่ 1 พระสันตะปาปา

สดด 103:1-2,3-4, 8-10 ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 2

บทอ่านที่ 1 อสย 40:25-31 พระผูศ้ กั ดิส์ ทิ ธิต์ รัสว่า “ท่านจะเปรียบเรากับผูใ้ ด ใครเล่าเท่าเทียมเรา” จงแหงน หน้าขึ้นดูว่าผู้ใดเนรมิตสร้างดวงดาวเหล่านี้ พระองค์ผู้ทรงอานุภาพและทรงพลัง เข้มแข็ง ทรงนำ�ดวงดาวทั้งหมดออกมาตามจำ�นวน ทรงเรียกชื่อดาวทุกดวง ซึ่งไม่ ขาดไปแม้แต่ดวงเดียว ยาโคบเอ๋ย ทำ�ไมท่านจึงพูดว่า อิสราเอลเอ๋ย ทำ�ไมท่านจึงยํ้า ว่า “ทางเดินของข้าพเจ้าถูกซ่อนไว้จากองค์พระผูเ้ ป็นเจ้า สิทธิของข้าพเจ้าถูกพระเจ้า ของข้าพเจ้ามองข้ามไป” ท่านไม่รู้หรือ ท่านไม่เคยได้ยินหรือ องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระเจ้านิรันดร เป็น พระผู้ เนรมิ ต สร้ า งแผ่ น ดิ น จนถึ ง ปลายสุ ด พระองค์ มิ ไ ด้ ท รงอ่ อ นเปลี้ ย หรื อ เหน็ดเหนื่อย พระดำ�ริของพระองค์เหลือที่จะหยั่งรู้ได้ พระองค์ประทานกำ�ลังแก่ผู้ อ่อนเปลีย้ ทรงเพิม่ เรีย่ วแรงแก่ผไู้ ม่มกี �ำ ลัง แม้คนหนุม่ จะอ่อนเปลีย้ และเหน็ดเหนือ่ ย แม้ชายฉกรรจ์จะสะดุดและล้มลง แต่ผู้มีความหวังในองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับพลัง ใหม่ เขาจะกางปีกบินขึ้นเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่เหน็ดเหนื่อย เขาจะเดิน และไม่อ่อนเปลี้ย พระวรสาร มธ 11:28-30 เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านทัง้ หลายทีเ่ หน็ดเหนือ่ ยและแบกภาระหนัก จงมาพบเราเถิด เราจะให้ทา่ น ได้พักผ่อน จงรับแอกของเราแบกไว้ และมาเป็นศิษย์ของเรา เพราะเรามีใจสุภาพ อ่อนโยน และถ่อมตน จิตใจของท่านจะได้รับการพักผ่อน เพราะว่าแอกของเรา อ่อนนุ่มและภาระที่เราให้ท่านแบกก็เบา” เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าเป็นเวลาแห่งหวังและความวางใจ ประกาศกอิสยาห์กล่าวถึงความรักของพระเจ้าที่ให้พลังแก่เรา “ผู้มีความหวังในองค์ พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับพลังใหม่ เขาจะกางปีกบินขึ้นเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่ เหน็ดเหนื่อย เขาจะเดินและไม่อ่อนเปลี้ย” พระเจ้าเสด็จมาหาเราในปัจจุบันทางพระเยซู คริสต์ “ผูเ้ หน็ดเหนือ่ ยและแบกภาระหนัก จงมาหาเราเถิด” คือ การนำ�ตัวตนแท้ของเรา มาอยู่ต่อหน้าพระเยซูผู้มีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน ภาวนาบอกพระองค์จากใจถึง สภาพชีวิตความรู้สึกของเราด้วยความวางใจ พระองค์จะทำ�ให้เราได้รับการพักผ่อน เป็นการภาวนาจากใจถึงพระหฤทัยพระเยซู


บทอ่านที่ 1 อสย 41:13-20 เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน เราจับมือขวาของท่านไว้ให้มั่นคง บอก ท่านว่า “อย่ากลัวเลย เราจะช่วยท่าน” องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าตรัสว่า “ยาโคบทีเ่ ป็นเหมือน หนอนเอ๋ย อย่ากลัวเลย อิสราเอลซึ่งเป็นเหมือนดักแด้เอ๋ย เราจะช่วยท่าน เรา ผู้ไถ่กู้ ท่าน คือพระผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล ดูซิ เราจะทำ�ให้ท่านเป็นเหมือนเลื่อนนวดข้าว ใหม่และมีฟันคม ท่านจะนวดและบดภูเขา จะทำ�ให้เนินเขาเป็นเหมือนแกลบ ท่านจะ ฝัดภูเขาและเนินเขาเหล่านัน้ และลมจะพัดไป ลมพายุจะทำ�ให้กระจัดกระจาย แต่ทา่ น จะชืน่ ชมในองค์พระผูเ้ ป็นเจ้า ท่านจะภูมใิ จในพระผูศ้ กั ดิส์ ทิ ธิแ์ ห่งอิสราเอล คนยากจน และผู้ขัดสนแสวงหานํ้า แต่ไม่มีนํ้า ลิ้นของเขาแห้งผากเพราะความกระหาย เราคือ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะตอบสนองเขา เรา พระเจ้าแห่งอิสราเอล จะไม่ทอดทิ้งเขา เราจะบันดาลให้มีแม่นํ้าไหลบนภูเขา โล่งเตียน มีพุนํ้าไหลในหุบเขา เราจะทำ�ถิ่นทุรกันดารให้เป็นสระนํ้า ทำ�ให้พื้นดินแห้ง กลายเป็นพุนํ้า เราจะปลูกต้นสนสีดาร์ในถิ่นทุรกันดาร ปลูกต้นกระถินเทศ ต้นเสม็ด และมะกอกเทศ เราจะปลูกต้นสนไซเปรสไว้ในที่แห้งแล้ง ปลูกต้นยางและต้นสนไว้ ด้วยกัน เพื่อทุกคนจะได้เห็นและรู้ จะได้พิจารณาและเข้าใจพร้อมกันว่า พระหัตถ์ องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทำ�เช่นนี้ พระผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลทรงสร้างสิ่งนี้” พระวรสาร มธ 11:11-15 เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ทา่ นทัง้ หลายว่า ในหมูผ่ ทู้ เี่ กิดจากหญิง ไม่มใี ครยิง่ ใหญ่กว่า ยอห์นผูท้ �ำ พิธลี า้ ง ถึงกระนัน้ ผูต้ าํ่ ต้อยทีส่ ดุ ในอาณาจักรสวรรค์ ก็ยงั ยิง่ ใหญ่กว่ายอห์น ตัง้ แต่สมัยของยอห์นผูท้ �ำ พิธลี า้ งจนถึงวันนี้ อาณาจักรสวรรค์ตอ้ งการความอดทนและ ความพยายาม ผูท้ ใี่ ช้ความอดทนและความพยายามเท่านัน้ จึงจะเข้าสูอ่ าณาจักรสวรรค์ ได้ ประกาศกทั้งหลายและธรรมบัญญัติต่างประกาศพระวาจาถึงสมัยของยอห์น ถ้า ท่านทั้งหลายยอมเชื่อ ยอห์นนี่เองคือประกาศกเอลียาห์ซึ่งจะต้องมา ใครมีหู ก็จงฟัง เถิด” เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าเป็นเวลาแห่งความหวังและความ วางใจประกาศกอิสยาห์กล่าวกับพวกอิสราเอลทีก่ ลับจากการเนรเทศ ทีต่ อ้ งพบกับปัญหา ความยากลำ�บาก ความขาดแคลน ท่านปลอบใจให้มคี วามหวังและความวางใจในพระเจ้า “เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน อย่ากลัวเลย เราจะช่วยท่าน” พระเยซูเจ้า ทรงตรัสชมเชยท่านยอห์นผู้ทำ�พิธีล้าง ผู้เตรียมใจชาวอิสราเอลให้พร้อมรับพระคริสตเจ้า คริสตชนศิษย์พระคริสต์ปัจจุบันได้รับการเรียกให้เป็นเหมือนท่านยอห์น ให้เป็นพยาน และเสริมสร้างความรัก ความเมตตา ความเป็นนํ้าหนึ่งใจเดียวกัน ความยุติธรรม และ สันติภาพ ในโลกปัจจุบัน

พระนางมารีย์ พรหมจารี แห่งกวาดาลูเป สดด 145:1,8-9, 10-11,12-13 ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 2


ระลึกถึง น.ลูเซีย พรหมจารี และมรณสักขี

บทอ่านที่ 1 อสย 48:17-19 องค์พระผู้เป็นเจ้า พระผู้กอบกู้ของท่าน พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลตรัสดังนี้ ว่า “เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน เราสั่งสอนท่านเพื่อประโยชน์ของท่าน นำ�ท่านไปในทางที่ท่านต้องเดิน ถ้าท่านตั้งใจฟังบทบัญญัติของเรา ความเจริญรุ่งเรือง ของท่านคงจะเป็นเหมือนแม่นํ้า ความชอบธรรมของท่านคงจะเป็นเหมือนคลื่นทะเล ลูกหลานของท่านจะมีจ�ำ นวนมากเหมือนทราย เชือ้ สายของท่านจะเป็นเหมือนเม็ดทราย ชื่อของเขาจะไม่ถูกตัด และไม่ถูกลบออกไปต่อหน้าเราเลย”

พระวรสาร มธ 11:16-19 เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า สดด 1:1-6 “เราจะเปรียบคนยุคนีก้ บั สิง่ ใด เขาเป็นเสมือนเด็กๆ ทีน่ งั่ ตามลานสาธารณะ ร้อง ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 2 บอกเพื่อนๆ ว่า ฉลองวันครบรอบ พวกเราเป่าขลุ่ย การถวายอาสนวิหาร พวกเจ้าก็ไม่เต้นรำ� อัสสัมชัญ พวกเราร้องเพลงโศกเศร้า อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ พวกเจ้าก็ไม่รํ่าไห้ ยอห์นมา ไม่กิน ไม่ดื่ม เขาก็ว่า ‘คนนี้มีปีศาจสิง’ บุตรแห่งมนุษย์มา กินและดื่ม เขาก็ว่า ‘ดูซิ นักกิน นักดื่ม เป็นเพื่อนกับคนเก็บภาษีและคนบาป’ แต่พระปรีชาญาณ ของพระเจ้าผ่านการพิสูจน์แล้วว่าถูกต้องโดยกิจการ” ประกาศกอิสยาห์ให้ก�ำ ลังใจพวกอิสราเอลทีถ่ กู เนรเทศ ทีก่ �ำ ลังจะกลับบ้าน เกิดว่า พระเจ้าทรงรักและนำ�ทางพวกเขา ถ้าพวกเขาตั้งใจฟังพระองค์ พวกเขาจะมีชีวิต เจริญรุง่ เรือง พวกอิสราเอลในสมัยนัน้ ไม่ได้ฟงั พระเยซูเจ้าหรือยอห์น ให้เหตุผลว่า ยอห์น มีชีวิตเคร่งครัดเกินไป ไม่กิน ไม่ดื่ม ส่วนพระเยซูเจ้ามีชีวิตใจดีเกินไป กิน ดื่ม เป็นเพื่อน กับคนเก็บภาษีและคนบาป แต่พระเยซูเจ้าทรงเป็นปรีชาญาณของพระเจ้า ชีวติ และกิจการ ของพระองค์เป็นกุญแจนำ�เราสู่พระอาณาจักรพระเจ้า เทศกาลนี้เป็นเวลาแห่งการฟัง ด้วยจิตภาวนา เปิดใจที่แท้ของเรา วางใจ ยินดี ที่จะพบและต้อนรับพระองค์ “อิมมานูเอล” แปลว่า พระเจ้าสถิตกับเรา


บทอ่านที่ 1 บสร 48:1-4,9-11 ต่อจากนั้นก็มีเรื่องราวของประกาศกเอลียาห์ซึ่งเป็นเหมือนไฟ วาจาของเขาเผา ผลาญเหมือนคบไฟ เขาทำ�ให้เกิดขาดแคลนอาหารในหมู่ประชากร ความกระตือรือร้น ของเขาทำ�ให้ประชากรลดจำ�นวนลง เขาปิดท้องฟ้าตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็น เจ้า ทำ�ให้ไฟลงมาจากท้องฟ้าถึงสามครัง้ ข้าแต่เอลียาห์ ท่านช่างมีชอื่ เสียงรุง่ เรืองเพราะ การอัศจรรย์ที่ได้ทำ� ใครบ้างจะอวดตัวได้ว่าตนเท่าเทียมกับท่าน ท่านถูกยกขึ้นไปในพายุหมุนที่เป็นไฟบนรถเทียมม้าเพลิง ท่านถูกกำ�หนดไว้ให้มา ตำ�หนิประชากรในอนาคต เพื่อจะได้ระงับพระพิโรธก่อนที่จะลุกเป็นไฟ เพื่อนำ�จิตใจ ของบิดามาคืนดีกับบุตร และแต่งตั้งบรรดาเผ่าของยาโคบขึ้นใหม่ บรรดาผู้ที่เคยเห็น ท่านย่อมเป็นสุข เขาตายในความรัก เพราะเราทั้งหลายจะได้มีชีวิตอย่างแน่นอน เช่นเดียวกัน พระวรสาร มธ 17:10-13 เวลานั้น บรรดาศิษย์ทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “เหตุใดบรรดาธรรมาจารย์จึงกล่าวว่า เอลียาห์ต้องมาก่อน” พระองค์ตรัสตอบว่า “ใช่แล้ว เอลียาห์จะมาและจะจัดทุกสิ่งให้ อยู่ในสภาพเดิม เราบอกท่านทั้งหลายว่า เอลียาห์ได้มาแล้ว แต่ประชาชนไม่รู้จักและ ทำ�ต่อเขาตามใจชอบ บุตรแห่งมนุษย์จะต้องรับการทรมานจากประชาชนเช่นเดียวกัน” บรรดาศิษย์จึงเข้าใจว่า พระองค์ตรัสถึงยอห์นผู้ทำ�พิธีล้าง พวกอิสราเอลรับรู้เรื่องราวของประกาศกเอลียาห์ ซึ่งพระเจ้าทรงช่วยให้ ท่านทำ�หน้าที่และทำ�อัศจรรย์ต่างๆ เป็นเหมือนไฟและความรุ่งเรือง พระเยซูเจ้าตรัสว่า เอลียาห์หรือยอห์นผู้ทำ�พิธีล้างมาแล้ว แต่ประชาชนไม่รู้จักและทำ�ต่อเขาตามใจชอบ พระองค์เองจะต้องรับการทรมานด้วยเหตุผลเดียวกัน วันนีพ้ ระศาสนจักรระลึกถึงนักบุญ ยอห์นแห่งไม้กางเขนผู้มีประสบการณ์เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ผ่านจิตภาวนา จิตความ จำ� (อดีต) สติปญ ั ญา (ปัจจุบนั ) และเจตจำ�นง (อนาคต) ได้รบั การรักษา การชำ�ระให้บริสทุ ธิ์ เป็นอิสระ รับแสงสว่าง ท่านกล่าวว่า “เมือ่ ผ่านคืนมืดมิด สูค่ วามสว่างของพระเจ้าในความ สนิทสัมพันธ์กับพระองค์ ซึ่งเป็นไปได้ในชีวิตนี้ต้องผ่านทางความรักเท่านั้น”

ระลึกถึง น.ยอห์น แห่งไม้กางเขน นักปราชญ์ แห่งพระศาสนจักร สดด 80:1-2ก,14-15, 17-18 ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 2


บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ อสย 35:1-6ก,10 ถิน่ ทุรกันดารและแผ่นดินแห้งแล้งจงยินดีเถิด ทุง่ เวิง้ ว้างจงเปรมปรีดแิ์ ละผลิดอก เหมือนต้นดอกดิน สถานที่นี้จงผลิดอกอย่างอุดม จงเปรมปรีดิ์และขับร้องด้วยความ ยินดี เพราะได้รับสิริรุ่งโรจน์แห่งเลบานอน ได้รับความรุ่งเรืองแห่งภูเขาคารเมลและ ที่ราบชาโรน ทุกคนจะเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า และเห็นความยิ่งใหญ่ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาล ของพระเจ้าของเรา จงทำ�ให้มือที่อ่อนแอแข็งแรงขึ้น จงทำ�ให้หัวเข่าที่ซวนเซมีความ เตรียมรับเสด็จ มั่นคง จงกล่าวกับคนที่ท้อแท้ว่า “จงมานะเถิด อย่ากลัวเลย” ดูซิ พระเจ้าของท่าน ทัง้ หลายจะเสด็จมาเพือ่ ช่วยท่านให้รอดพ้น และจะทรงลงโทษศัตรูของท่านอย่างสาสม พระคริสตเจ้า แล้วนัยน์ตาของคนตาบอดจะมองเห็น หูของคนหูหนวกจะได้ยิน คนง่อยจะกระโดด ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 3 ได้อย่างกวาง และคนใบ้จะร้องตะโกนด้วยความยินดี ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงไถ่ไว้แล้วจะกลับมายังศิโยน พลางโห่ร้องด้วยความ ชื่นชม ความยินดีจะอยู่บนศีรษะของเขาตลอดไป ความชื่นบานและความยินดีจะ ติดตามเขา ความโศกเศร้าและการถอนใจจะหนีไปจากเขา เพลงสดุดี สดด 146:7,8-9ก,9ข-10 ก) ประทานความยุติธรรมแก่ผู้ถูกกดขี่ ประทานอาหารแก่ผู้หิวโหย องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปล่อยบรรดาผู้ถูกจองจำ�ให้เป็นอิสระ ข) องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานสายตาแก่คนตาบอด องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพยุงผู้ที่ล้มให้ลุกขึ้น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักผู้ชอบธรรม องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพิทักษ์คนต่างถิ่นที่มาอาศัยอยู่ ค) ทรงคํ้าจุนเด็กกำ�พร้าและหญิงม่าย แต่ทรงขัดขวางหนทางของคนชั่วร้าย องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงครองราชย์ตลอดไป ศิโยนเอ๋ย พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของท่าน บทอ่านจากจดหมายนักบุญยากอบอัครสาวก ยก 5:7-10 พี่น้องทั้งหลาย จงพากเพียรรอจนกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมา จงดูชาวนา เถิด เขาย่อมรอผลมีค่าจากแผ่นดินด้วยความพากเพียร รอจนกระทั่งมีฝนต้นฤดูและ ฝนปลายฤดู ท่านก็เช่นเดียวกัน จงมีความพากเพียร ทำ�จิตใจให้เข้มแข็ง เพราะองค์ พระผูเ้ ป็นเจ้าใกล้จะเสด็จมาแล้ว พีน่ อ้ งทัง้ หลาย อย่าบ่นว่ากัน เพือ่ จะได้ไม่ถกู พิพากษา พระผูพ้ พิ ากษาทรงยืนอยูห่ น้าประตูแล้ว พีน่ อ้ งทัง้ หลาย จงยึดบรรดาประกาศกซึง่ พูด ในพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้ามาเป็นแบบฉบับในความพากเพียรอดทนต่อความยาก ลำ�บาก


บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 11:2-11 ขณะที่ยอห์นถูกจองจำ�อยู่ในคุก เขาได้ยินข่าวกิจการ ของพระเยซูเจ้า จึงใช้ศิษย์ไปทูลถามพระองค์ว่า “ท่านคือผู้ ที่จะต้องมาหรือเราจะต้องรอคอยใครอีก” พระเยซูเจ้าตรัส ตอบว่า “จงไปบอกยอห์นถึงสิ่งที่ท่านได้ยินและได้เห็น คน ตาบอดกลับแลเห็น คนง่อยเดินได้ คนโรคเรือ้ นหายจากโรค คนหูหนวกได้ยิน คนตายกลับคืนชีพ คนยากจนได้รับการ ประกาศข่าวดี ผู้ที่ไม่แคลงใจในเราย่อมเป็นสุข” ขณะที่คนเหล่านั้นกำ�ลังจะจากไป พระเยซูเจ้าตรัสกับ ประชาชนเกี่ยวกับยอห์นว่า “ท่านทัง้ หลายไปดูอะไรในถิน่ ทุรกันดาร ไปดูตน้ อ้อไหว ไปมาตามสายลมหรือ มิใช่เช่นนั้น แล้วท่านไปดูอะไรเล่า ดู คนสวมเสื้อผ้าสวยงามหรือ คนที่สวมเสื้อผ้าสวยงามอยู่ในพระราชวัง ถ้าเช่นนั้นท่านไปดูอะไร ไปดู ประกาศกหรือ ถูกแล้ว เราบอกท่าน และเหนือกว่าประกาศกเสียอีก ผู้นี้เองที่พระคัมภีร์กล่าวถึงว่า เราส่งทูตของเรานำ�หน้าท่าน เพื่อเตรียมทางไว้สำ�หรับท่าน “เราบอกความจริงแก่ทา่ นทัง้ หลายว่า ในหมูผ่ ทู้ เี่ กิดจากหญิง ไม่มใี ครยิง่ ใหญ่กว่ายอห์นผูท้ �ำ พิธลี า้ ง ถึง กระนั้น ผู้ตํ่าต้อยที่สุดในอาณาจักรสวรรค์ ก็ยังยิ่งใหญ่กว่ายอห์น” วันนี้เป็นวันอาทิตย์แห่งความชื่นชมยินดี ประกาศกอิสยาห์กล่าวถึงความชื่นชมยินดี เพราะ พระเจ้าจะเสด็จมาช่วยเราให้รอดพ้น พระเยซูเจ้าทรงบอกยอห์นผูถ้ กู จองจำ�ว่า คำ�ทำ�นายของประกาศกอิสยาห์ ได้เป็นจริงแล้ว พระองค์ทรงชมเชยยอห์นผู้เตรียมทาง เตรียมจิตใจประชาชนให้พร้อมต้อนรับพระองค์ นักบุญ ยากอบอัครสาวกบอกให้มีความพากเพียร อดทนรอการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า พระศาสนจักรใน ประเทศไทยฉลอง 350 ปี การก่อตั้งมิสซังสยาม ให้เราชื่นชมยินดีขอบคุณพระเจ้า และบรรดาธรรมทูตผู้ ประกาศข่าวดีด้วยความเชื่อ ความรัก และความพากเพียร เราคริสตชนได้รับการเรียกให้เป็นศิษย์ธรรมทูตของ พระคริสต์ในโลกปัจจุบันด้วย


ระลึกถึง บุญราศีทั้งเจ็ด แห่งสองคอน ประเทศไทย สดด 25:4-6,7-9,10 ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 3 วันครูคำ�สอนไทย

บทอ่านที่ 1 กดว 24:2-7,15-17 ในครั้งนั้น บาลาอัมเงยหน้าขึ้นเห็นอิสราเอลตั้งค่ายอยู่ตามเผ่าของตน พระจิต ของพระเจ้าเสด็จมาเหนือเขา เขาจึงกล่าวคำ�ทำ�นายเป็นบทประพันธ์ดังนี้ “คำ�ทำ�นาย ของบาลาอัม บุตรของเบโอร์ คำ�ทำ�นายของบุรุษผู้มีตาเห็นไกล คำ�ทำ�นายของผู้ได้ฟัง พระวาจาพระเจ้า ผู้เห็นนิมิตของพระผู้ทรงสรรพานุภาพ เมื่อเขาเข้าฌาน ตาของเขาก็ เปิดออก ยาโคบเอ๋ย กระโจมของท่านช่างงามจริง อิสราเอลเอ๋ย ที่อาศัยของท่านช่าง งดงาม เหมือนลำ�ธารที่แยกออกเป็นหลายสาย เหมือนสวนที่อยู่ริมฝั่งแม่นํ้า เหมือน ต้นหางจระเข้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปลูก เหมือนต้นสนสีดาร์ที่อยู่ริมนํ้า นํ้าจะไหล ออกจากถังของเขา และพืชพันธุข์ องเขาจะมีนาํ้ อุดมสมบูรณ์ กษัตริยข์ องเขาจะยิง่ ใหญ่ กว่าอากัก อาณาจักรของเขาจะเป็นที่ยกย่อง เขาจึงกล่าวคำ�ทำ�นายเป็นบทประพันธ์ดังนี้ “คำ�ทำ�นายของบาลาอัม บุตรของ เบโอร์ คำ�ทำ�นายของบุรษุ ผูม้ ตี าเห็นไกล คำ�ทำ�นายของผูฟ้ งั พระวาจาของพระเจ้า ผูร้ บั ความรูจ้ ากพระผูส้ งู สุด ผูเ้ ห็นนิมติ ของพระผูท้ รงสรรพานุภาพ เมือ่ เขาเข้าฌาน ตาของ เขาก็เปิดออก ข้าพเจ้าเห็นเขา แต่ไม่ใช่บัดนี้ ข้าพเจ้ามองดูเขา แต่ไม่ใช่จากใกล้ๆ ดาว ดวงหนึ่งกำ�ลังขึ้นมาจากยาโคบ คทาอันหนึ่งกำ�ลังขึ้นมาจากอิสราเอล จะทุบหน้าผาก ของโมอับ และทุบกะโหลกศีรษะบุตรทุกคนของเสท พระวรสาร มธ 21:23-27 เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าไปในพระวิหาร ขณะที่ทรงสั่งสอนประชาชนอยู่นั้น บรรดาหัวหน้าสมณะและผูอ้ าวุโสของประชาชนเข้ามาพบพระองค์แล้วทูลถามว่า “ท่าน มีอำ�นาจใดจึงทำ�เช่นนี้ ใครมอบอำ�นาจนี้ให้ท่าน” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราขอถามท่านอย่างหนึ่งด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าท่านตอบ เราก็จะบอกท่านว่าเราทำ�เช่นนีด้ ว้ ยอำ�นาจใด พิธลี า้ งของยอห์นมาจากไหน จากสวรรค์ หรือจากมนุษย์” บรรดาสมณะและผูอ้ าวุโสของประชาชนจึงปรึกษากันว่า “ถ้าเราตอบ ว่ามาจากสวรรค์ เขาก็จะถามว่า ‘แล้วทำ�ไมท่านจึงไม่เชื่อยอห์นเล่า’ ถ้าเราตอบว่ามา จากมนุษย์ เราก็เกรงกลัวประชาชน เพราะทุกคนคิดว่ายอห์นเป็นประกาศก” เขาจึงทูลตอบพระเยซูเจ้าว่า “เราไม่รู้” พระองค์จึงตรัสว่า “เราก็ไม่บอกท่านเช่น เดียวกันว่า เราทำ�การเหล่านี้โดยอำ�นาจใด”

การฟังพระวาจาของพระเจ้า และการตอบรับพระวาจาที่เราได้ฟังนั้น เป็นหัวใจของคริสตชนทุก คน บาลาอัมเชื่อฟังพระวาจาของพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด ท่านประกาศคำ�อวยพรและคำ�ทำ�นายโดยไม่เกรงกลัว ต่ออันตราย แต่ในพระวรสารเรากลับพบสิ่งที่ตรงกันข้าม เมื่อบรรดาสมณะและผู้อาวุโสของประชาชนไม่ยอม ฟังเสียงของพระเจ้า แม้จะรูว้ า่ ความจริงคืออะไร แต่กไ็ ม่กล้าทีจ่ ะเชือ่ พีน่ อ้ งขอให้เราเตรียมรับเสด็จพระเยซูเจ้า ด้วยความกล้าไม่ใช่ความกลัว พร้อมด้วยความเชื่อและความวางใจ


บทอ่านที่ 1 ปฐก 49:2,8-10 ในครั้งนั้น ยาโคบเรียกบรรดาบุตรมา แล้วพูดว่า “บุตรของยาโคบเอ๋ย จงมารวมกันฟัง จงฟังคำ�ของอิสราเอลบิดาของลูก ยูดาห์ เอ๋ย บรรดาพี่น้องจะสรรเสริญลูก มือของลูกจะจับคอศัตรู บุตรของบิดาของลูกจะ กราบไหว้ลกู ยูดาห์เป็นเหมือนลูกสิงโต ลูกเอ๋ย ลูกฆ่าเหยือ่ แล้วกลับมา ลูกเป็นเหมือน สิงโตตัวผู้ที่ซุ่มหมอบ เหมือนสิงโตตัวเมียที่นอนอยู่ ใครเล่าจะกล้าทำ�ให้ลุกขึ้น คทา สัปดาห์ที่ 3 เทศกาล จะไม่ไปจากยูดาห์ และไม้เท้าของผู้ปกครองจะไม่ถูกยกไปจากระหว่างเท้าของเขา เตรียมรับเสด็จ จนกว่าผู้ที่เป็นเจ้าของจะมา และประชาชาติจะนอบน้อมต่อเขา” พระคริสตเจ้า สดด 72:1-2,3-4กข,

7-8,17 พระวรสาร มธ 1:1-17 หนังสือลำ�ดับพระวงศ์ของพระเยซูคริสตเจ้า พระโอรสของกษัตริย์ดาวิด ผู้ทรง ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 3 สืบตระกูลมาจากอับราฮัม วันคล้ายวันสมภพ อับราฮัมเป็นบิดาของอิสอัค อิสอัคเป็นบิดาของยาโคบ ยาโคบเป็นบิดาของยูดาห์ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส กับบรรดาพี่น้อง ยูดาห์เป็นบิดาของเปเรศและเศราห์ มารดาของคนทั้งสองคือ นางทามาร์ เปเรศเป็นบิดาของเฮสโรน เฮสโรนเป็นบิดาของราม รามเป็นบิดาของ อัมมีนาดับ อัมมีนาดับเป็นบิดาของนาโซน นาโซนเป็นบิดาของสัลโมน สัลโมนเป็นบิดาของโบอาส มารดา ของโบอาสคือนางราหับ โบอาสเป็นบิดาของโอเบด มารดาของโอเบดคือนางรูธ โอเบดเป็นบิดาของเจสซี เจสซีเป็นบิดาของกษัตริย์ดาวิด กษัตริย์ดาวิดเป็นบิดาของซาโลมอน มารดาของซาโลมอนเคยเป็นภรรยา ของอุรียาห์ ซาโลมอนเป็นบิดาของเรโหโบอัม เรโหโบอัมเป็นบิดาของอาบียาห์ อาบียาห์เป็นบิดาของอาสา อาสา เป็นบิดาของเยโฮซาฟัท เยโฮซาฟัทเป็นบิดาของโยรัม โยรัมเป็นบิดาของอุสซียาห์... โยสิยาห์เป็นบิดาของ เยโคนียาห์และพี่น้อง ในสมัยถูกกวาดต้อนเป็นเชลยไปกรุงบาบิโลน หลังจากถูกกวาดต้อนไปกรุงบาบิโลนแล้ว เยโคนียาห์เป็นบิดาของเชอัลทิเอล เชอัลทิเอลเป็นบิดาของ เศรุบบาเบล เศรุบบาเบลเป็นบิดาของอาบียุด อาบียุดเป็นบิดาของเอลียาคิม เอลียาคิมเป็นบิดาของอาซอร์ อาซอร์เป็นบิดาของศาโดก ศาโดกเป็นบิดาของอาคิม อาคิมเป็นบิดาของเอลีอูด เอลีอูดเป็นบิดาของ เอเลอาซาร์ เอเลอาซาร์เป็นบิดาของมัทธาน มัทธานเป็นบิดาของยาโคบ ยาโคบเป็นบิดาของโยเซฟ พระสวามีของพระนางมารีย์ พระเยซูเจ้าที่ขานพระนามว่า “พระคริสตเจ้า” ประสูติจากพระนางมารีย์ผู้นี้ ดังนั้น ลำ�ดับพระวงศ์ของพระเยซูเจ้าจากอับราฮัมถึงกษัตริย์ดาวิดมีสิบสี่ชั่วคน นับจากกษัตริย์ดาวิด ถึงสมัยที่ถูกกวาดต้อนเป็นเชลยไปกรุงบาบิโลนมีอีกสิบสี่ชั่วคน และนับจากสมัยที่ถูกกวาดต้อนเป็นเชลย ไปกรุงบาบิโลนถึงพระเยซูเจ้ามีอีกสิบสี่ชั่วคน คำ�อวยพรของยาโคบ และลำ�ดับพระวงศ์ของพระเยซูเจ้าเป็นสิ่งที่แสดงสำ�หรับเราทุกคนถึงที่มา ที่ไปในชีวิตของเรา ทั้งในระดับส่วนตัวของเรา ตระกูลเรา ครอบครัวเรา และยังไปไกลถึงมิสซังสยามของเรา ซึ่ง ปีนี้เราฉลอง 350 ปี การก่อตั้งมิสซังสยาม เวลา บุคคล และเหตุการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตเรา ในมิสซังของเราล้วน เป็นการเตรียมเราทุกคนให้เป็นพยานถึงพระคริสตเจ้า จงใช้ทกุ สิง่ ทีเ่ รามี เราเป็น และรวมถึงความสามารถต่างๆ เพื่อเจริญชีวิตของการเป็นศิษย์ของพระคริสต์อย่างแท้จริง


บทอ่านที่ 1 ยรม 23:5-8 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ดูซิ วันเวลาจะมาถึง องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส เมื่อเราจะ ตั้งหน่อชอบธรรมให้แก่กษัตริย์ดาวิด เขาจะครองราชย์เป็นกษัตริย์และมีปรีชา เขาจะ ทำ�ให้ความถูกต้องและความยุตธิ รรมเกิดขึน้ ในแผ่นดิน ในรัชสมัยของพระองค์ ยูดาห์ จะรอดพ้น อิสราเอลจะดำ�เนินชีวติ อย่างปลอดภัย ทุกคนจะเรียกขานพระนามพระองค์ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาล ว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นความชอบธรรมของเรา’” ดังนัน้ วันเวลาจะมาถึง องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าตรัส เมือ่ ใครๆ จะไม่กล่าวคำ�สาบานอีก เตรียมรับเสด็จ ต่อไปว่า “องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าผูท้ รงนำ�ชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียปิ ต์ทรงพระชนม์ พระคริสตเจ้า อยูแ่ น่ฉนั ใด...” แต่เขาจะสาบานว่า “องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าผูท้ รงนำ�พงศ์พนั ธุอ์ สิ ราเอลจาก สดด 72:1-2,12-13,18-19 แผ่นดินทางทิศเหนือ และจากดินแดนทั้งหลายที่ทรงขับไล่ให้เขาไปอาศัยอยู่ และทรง ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 3 นำ�เขากลับมาอาศัยอยู่ในแผ่นดินของตนทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด...” พระวรสาร มธ 1:18-24 เรือ่ งราวการประสูตขิ องพระเยซูคริสตเจ้าเป็นดังนี้ พระนางมารีย์ พระมารดาของ พระองค์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน ปรากฏว่าพระนาง ตัง้ ครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า โยเซฟคูห่ มัน้ ของพระนางเป็นผูช้ อบธรรมไม่ตอ้ งการฟ้อง หย่าพระนางอย่างเปิดเผย จึงคิดถอนหมั้นอย่างเงียบๆ ขณะที่โยเซฟกำ�ลังคิดถึงเรื่อง นีอ้ ยู่ ทูตสวรรค์ขององค์พระผูเ้ ป็นเจ้าก็มาเข้าฝัน กล่าวว่า “โยเซฟ โอรสกษัตริยด์ าวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย เพราะเด็กที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนาง มาจากพระจิตเจ้า นางจะให้กำ�เนิดบุตรชาย ท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู เพราะเขาจะ ช่วยประชากรของเขาให้รอดพ้นจากบาป” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำ�รัสขององค์ พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสผ่านประกาศกจะเป็นความจริงว่า หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์ และจะคลอดบุตรชาย ซึ่งจะได้รับนามว่า “อิมมานูเอล” แปลว่า พระเจ้าสถิตกับเรา” เมื่อโยเซฟตื่นขึ้น เขาก็ทำ�ตามที่ทูตสวรรค์ขององค์ พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือรับภรรยามาอยู่ด้วย พระเจ้ากำ�ลังทำ�สิ่งใหม่ พระองค์กำ�ลังตั้งหน่อชอบธรรมใหม่ เพื่อปกครอง ดูแลประชากรของพระองค์อีกครั้งหนึ่ง และในพระวรสารเราพบกับเรื่องราวการประสูติ ของพระเยซูคริสตเจ้า ซึง่ นักบุญมัทธิวมุง่ ความสนใจไปทีร่ าชวงศ์ของดาวิดผ่านทางโยเซฟ แม้โยเซฟจะเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและสับสน แต่ท่านก็มีนํ้าใจดีตอบรับพระประสงค์ ของพระเจ้า คำ�ว่า อิมมานูเอล ซึ่งแปลว่า พระเจ้าสถิตกับเรา จึงเตือนใจเราทุกวันให้ ซื่อสัตย์ แสวงหาและน้อมรับวีธีการของพระเจ้าเสมอ


บทอ่านที่ 1 วนฉ 13:2-7,24-25 ในครัง้ นัน้ มีชายคนหนึง่ ชือ่ มาโนอาห์ เป็นคนเผ่าดานชาวเมืองโศราห์ ภรรยาของ เขาเป็นหมัน ไม่มบี ตุ ร ทูตสวรรค์ขององค์พระผูเ้ ป็นเจ้าปรากฏแก่หญิงผูน้ กี้ ล่าวว่า “ท่าน เป็นหมันไม่มีบุตร แต่บัดนี้ท่านจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย จงระวังอย่าดื่มสุรา เมรัยใดๆ อย่ากินอาหารที่มีมลทิน... อย่าให้ใบมีดมาโกนศีรษะของเขา เพราะเด็กคน นี้จะเป็นนาศีร์ถวายแด่พระเจ้าตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ของมารดา เขาจะเริ่มช่วยชาว สัปดาห์ที่ 3 เทศกาล อิสราเอลให้พ้นจากเงื้อมมือของชาวฟีลิสเตีย” หญิงคนนั้นก็ไปบอกสามีว่า “คนของ เตรียมรับเสด็จ พระเจ้ามาหาดิฉัน... เขาบอกดิฉันว่า ‘ท่านจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย อย่าดื่มสุรา พระคริสตเจ้า เมรัยใดๆ และอย่ากินอาหารที่มีมลทิน เพราะเด็กจะเป็นนาศีร์ถวายแด่พระเจ้าตั้งแต่ อยู่ในครรภ์มารดาจนถึงวันตาย’” หญิงคนนั้นคลอดบุตรชายและตั้งชื่อให้ว่าแซมสัน สดด 71:3-4ก,5-6กข, 16-17 เด็กน้อยเจริญวัยขึ้น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพระพรเขา... ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 3

พระวรสาร ลก 1:5-25 ในรัชสมัยของกษัตริยเ์ ฮโรดผูป้ กครองแคว้นยูเดีย สมณะผูห้ นึง่ ชือ่ เศคาริยาห์ ประจำ�เวรในหมวดของ อาบียาห์ มีภรรยาชือ่ เอลีซาเบธ จากตระกูลสมณะอาโรน ทัง้ สองคนเป็นผูช้ อบธรรมเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ปฏิบัติตามบทบัญญัติและข้อกำ�หนดทุกข้อขององค์พระผู้เป็นเจ้าโดยไม่มีข้อตำ�หนิ แต่สามีภรรยาคู่นี้ไม่มี บุตร เพราะนางเอลีซาเบธเป็นหมัน และทั้งสองคนชรามากแล้ว วันหนึ่ง เศคาริยาห์กำ�ลังปฏิบัติหน้าที่สมณะเฉพาะพระพักตร์ตามเวรในหมวดของตนตามธรรมเนียม ของสมณะ เขาจับสลากได้หน้าที่เข้าไปในพระวิหารของพระเจ้าเพื่อถวายกำ�ยาน... ทันใดนัน้ ทูตสวรรค์องค์หนึง่ ของพระเจ้าปรากฏองค์ยนื อยูเ่ บือ้ งขวาของพระแท่นถวายกำ�ยาน... กล่าว แก่เขาว่า “เศคาริยาห์ อย่ากลัวเลย พระเจ้าทรงฟังคำ�อธิษฐานของท่านแล้ว เอลีซาเบธภรรยาของท่านจะ ให้กำ�เนิดบุตรชายคนหนึ่ง ท่านจะตั้งชื่อเขาว่ายอห์น ท่านจะมีความชื่นชมยินดีและคนจำ�นวนมากจะยินดีที่ เขาเกิดมา...เขาจะมีจิตใจและพลังของประกาศกเอลียาห์มาเตรียมรับการเสด็จมาของพระองค์ เพื่อทำ�ให้ บิดาคืนดีกบั บุตรและทำ�ให้ผไู้ ม่เชือ่ ฟังกลับมีจติ สำ�นึกของผูช้ อบธรรม เป็นการเตรียมประชากรให้พร้อมทีจ่ ะ รับเสด็จองค์พระผู้เป็นเจ้า” เศคาริยาห์จึงถามทูตสวรรค์ว่า “ข้าพเจ้าจะแน่ใจเรื่องนี้ได้อย่างไร ข้าพเจ้าชรา แล้ว และภรรยาของข้าพเจ้าก็อายุมากแล้วด้วย” ทูตสวรรค์จงึ ตอบว่า “ข้าพเจ้าคือกาเบรียล ซึง่ เฝ้าอยูเ่ ฉพาะ พระพักตร์พระเจ้า พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้ามาพูดกับท่านและนำ�ข่าวดีนี้มาแจ้งให้ท่านทราบ แต่ท่านไม่เชื่อคำ� ของข้าพเจ้า ซึ่งจะเป็นจริงเมื่อถึงเวลากำ�หนด ดังนั้น ท่านจะเป็นใบ้จนถึงวันที่เหตุการณ์นี้จะเป็นจริง”... เมื่อหมดวาระทำ�หน้าที่ในพระวิหารแล้ว เศคาริยาห์ก็กลับไปบ้าน ต่อมาไม่นานนางเอลีซาเบธภรรยา ของเขาก็ตั้งครรภ์... คริสตชนในประเทศไทยได้รับความเชื่อมานานมากกว่า 350 ปีแล้ว พระวาจาวันนี้สอนเราจริงๆ ที่จะเป็นพยานถึงพระเป็นเจ้าอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการรู้จักน้อมรับพระประสงค์ของพระองค์ เศคาริยาห์ วันนี้สอน เราทุกคนว่า พระเจ้ามาพบเราด้วยเรื่องราวต่างๆ ที่บางทีเราไม่เข้าใจ แต่เราอย่าหยุดที่จะเชื่อในพระองค์ การ ไม่เชื่อพระทำ�ให้เราไม่สามารถพูดได้ เพราะฉะนั้น จงเชื่อก่อน แล้วเราจะสามารถเจริญชีวิตด้วยข่าวดีใหม่อย่าง แท้จริง


บทอ่านที่ 1 อสย 7:10-14 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับกษัตริย์อาคัสอีกว่า “จงขอองค์พระผูเ้ ป็นเจ้าพระเจ้าของพระองค์ ให้ทรงส่งเครือ่ งหมายจากทีล่ กึ ของ แดนผู้ตาย หรือจากที่สูงเบื้องบนเถิด” แต่กษัตริยอ์ าคัสตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทลู ขอ เราจะไม่ทดลององค์พระผูเ้ ป็นเจ้า” ประกาศกอิสยาห์จงึ ทูลว่า “ราชวงศ์กษัตริยด์ าวิดเอ๋ย จงฟังเถิด ท่านทำ�ให้มนุษย์ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาล เตรียมรับเสด็จ เอือมระอายังไม่พออีกหรือ ทำ�ไมท่านจึงทำ�ให้พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเอือมระอาอีก เล่า ดังนัน้ องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าจะประทานเครือ่ งหมายให้ทา่ นด้วยพระองค์เอง หญิงสาว พระคริสตเจ้า ผู้หนึ่งจะตั้งครรภ์และให้กำ�เนิดบุตรชาย และนางจะเรียกเขาว่า “อิมมานูเอล” สดด 24:2-3,4-6 แปลว่า “พระเจ้าสถิตกับเรา” ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 3

พระวรสาร ลก 1:26-38 เมื่อนางเอลีซาเบธตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบรียล มายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลีชื่อเมืองนาซาเร็ธ มาพบหญิงพรหมจารีคนหนึ่งซึ่งหมั้น อยู่กับชายชื่อโยเซฟ ในราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด หญิงพรหมจารีผู้นั้นชื่อมารีย์ ทูตสวรรค์เข้าในบ้านกล่าวกับพระนางว่า “จงยินดีเถิด ท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่าน” เมื่อทรงได้ยินถ้อยคำ�นี้ พระนางมารีย์ทรงวุ่นวาย พระทัยมากทรงถามพระองค์เองว่า คำ�ทักทายนี้หมายความว่ากระไร แต่ทูตสวรรค์ กล่าวแก่พระนางว่า “มารีย์ อย่ากลัวเลย ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน ท่านจะตัง้ ครรภ์และให้ก�ำ เนิดบุตรชายคนหนึง่ ท่านจะตัง้ ชือ่ เขาว่าเยซู เขาจะเป็น ผู้ยิ่งใหญ่และพระเจ้าผู้สูงสุดจะทรงเรียกเขาเป็นบุตรของพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้า จะประทานพระบัลลังก์ของกษัตริยด์ าวิดบรรพบุรษุ ให้แก่เขา เขาจะปกครองวงศ์ตระกูล ของยาโคบตลอดไปและพระอาณาจักรของเขาจะไม่สิ้นสุดเลย” พระนางมารีย์จึงทรงถามทูตสวรรค์ว่า “เหตุการณ์นจี้ ะเป็นไปได้อย่างไรเพราะข้าพเจ้าตัง้ ใจจะเป็นพรหมจารี” ทูตสวรรค์ตอบว่า “พระจิตเจ้าจะเสด็จ ลงมาเหนือท่านและพระอานุภาพของพระผู้สูงสุดจะแผ่เงาปกคลุมท่าน เพราะฉะนั้น บุตรที่เกิดมาจะเป็นผู้ ศักดิ์สิทธิ์และจะรับนามว่าบุตรของพระเจ้า ดูซิ เอลีซาเบธ ญาติของท่าน ทั้งๆ ที่ชราแล้ว ก็ยังตั้งครรภ์บุตร ชาย ใครๆ คิดว่านางเป็นหมัน แต่นางก็ตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว เพราะไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำ�ไม่ ได้” พระนางมารีย์จึงตรัสว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจา ของท่านเถิด” แล้วทูตสวรรค์ก็จากพระนางไป พีน่ อ้ งทีร่ กั เวลาได้ผา่ นมา 350 ปีแล้ว พระศาสนจักรในประเทศไทยยังคงเดินต่อไปด้วยความหวัง ในพระคริสตเจ้าผูก้ �ำ ลังจะเสด็จมาอีกไม่กวี่ นั นี้ พระองค์จงึ ขอให้เราเหมือนกับพระนางมารีย์ ทีน่ อ้ มรับข่าวดีใหม่ ด้วยความยินดีพร้อมทัง้ ความกังวลใจ พระนางต้องปรับเปลีย่ นชีวติ ตนเองทัง้ หมดเพือ่ ข่าวดีนี้ เราทุกคนก็เหมือน กันต้องดำ�เนินชีวิตในข่าวดีใหม่ ด้วยการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราทุกวัน


บทอ่านที่ 1 พซม 2:8-14 ฟังซิ เสียงทีร่ กั ของดิฉนั เขากำ�ลังมา กำ�ลังกระโดดอยูบ่ นภูเขา กำ�ลังกระโดดข้าม เนินเขา ที่รักของดิฉันเป็นเหมือนละมั่งหรือเหมือนลูกกวาง ดูซิ เขากำ�ลังยืนอยู่หลัง กำ�แพงของเรา มองเข้ามาทางหน้าต่าง ลอบมองผ่านลูกกรงเข้ามา ที่รักของดิฉันเริ่ม พูดกับดิฉันว่า “ที่รักของฉันเอ๋ย จงลุกขึ้นเถอะ คนสวยของฉันเอ๋ย จงมาเถิด ดูซิ ฤดู หนาวผ่านไปแล้ว ฝนก็วายและจบสิ้นไปแล้ว ดอกไม้ต่างๆ ปรากฏขึ้นมาบนแผ่นดิน เวลาสำ�หรับร้องเพลงมาถึงแล้ว เสียงคู ของนกเขาก็ได้ยินในแผ่นดินของเรา ต้นมะเดื่อเทศกำ�ลังผลิผล เถาองุ่นผลิดอกบาน ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ที่รักของฉันเอ๋ย จงลุกขึ้นเถิด คนสวยของฉันเอ๋ย จงมาเถิด นกพิราบ ของฉันเอ๋ย เธอซ่อนตัวอยู่ในซอกผา ในซอกลึกของหน้าผา ขอให้ฉันได้ยินเสียงของ เธอสักหน่อยเถิด เพราะเสียงของเธอนั้นไพเราะ และใบหน้าของเธอก็งดงาม” พระวรสาร ลก 1:39-45 หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขา แคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมือ่ นางเอลีซาเบธได้ยนิ คำ�ทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์กด็ นิ้ นางเอลีซาเบธ ได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ และลูก ของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำ�ไมพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเสด็จมาเยี่ยม ข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำ�ทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอ เป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง” ข่าวดีที่พระนางมารีย์ได้รับ เป็นข่าวดีที่นำ�พระนางออกเดินทางไปยังเมือง หนึง่ แถบภูเขาแคว้นยูเดีย วันนีเ้ ราต้องเริม่ พูด เริม่ คิด และทำ�สิง่ ดีๆ แก่กนั และกัน เราเห็น บรรดามิชชันนารีท่ีเข้ามาในประเทศไทยของเรา เราได้เคยเห็นถึงไมตรีจิตที่ทุกท่านมีต่อ เรา แม้จะไม่รู้จักเราก็ตาม นี่คือปีแห่งการแพร่ธรรมใหม่ที่เราทุกคนจะต้องเริ่มต้นใหม่อีก ครั้งหนึ่งในทุกที่ทุกสถานการณ์และทุกเหตุการณ์ นำ�ข่าวดี สิ่งดีๆ สู่ทุกคนด้วยใจกว้าง ขวางและไม่มีเงื่อนไข

น.เปโตร คานีซีอัส พระสงฆ์ และนักปราชญ์ แห่งพระศาสนจักร สดด 33:2-3, 11-12,20-21 ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 3


บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ อสย 7:10-14 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับกษัตริย์อาคัสอีกว่า “จงขอองค์พระผูเ้ ป็นเจ้าพระเจ้าของพระองค์ ให้ทรงส่งเครือ่ งหมายจากทีล่ กึ ของ แดนผู้ตาย หรือจากที่สูงเบื้องบนเถิด” แต่กษัตริยอ์ าคัสตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทลู ขอ เราจะไม่ทดลององค์พระผูเ้ ป็นเจ้า” ประกาศกอิสยาห์จงึ ทูลว่า “ราชวงศ์กษัตริยด์ าวิดเอ๋ย จงฟังเถิด ท่านทำ�ให้มนุษย์ สัปดาห์ที่ 4 เทศกาล เตรียมรับเสด็จ เอือมระอายังไม่พออีกหรือ ทำ�ไมท่านจึงทำ�ให้พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเอือมระอาอีก เล่า ดังนัน้ องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าจะประทานเครือ่ งหมายให้ทา่ นด้วยพระองค์เอง หญิงสาว พระคริสตเจ้า ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 4 ผู้หนึ่งจะตั้งครรภ์และให้กำ�เนิดบุตรชาย และนางจะเรียกเขาว่า “อิมมานูเอล” แปลว่า “พระเจ้าสถิตกับเรา” เพลงสดุดี สดด 24:1-2,3-4,5-6 ก) แผ่นดินและสรรพสิ่งบนแผ่นดินเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า โลกและผู้อาศัยอยู่ในโลกก็เช่นเดียวกัน พระองค์ทรงวางฐานของโลกไว้เหนือทะเล ทรงตรึงยึดไว้มั่นคงบนกระแสนํ้าไหล ข) ใครจะขึ้นไปยังภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ ใครจะยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ผู้มีมือสะอาดและใจบริสุทธิ์ ผู้ไม่ใฝ่หารูปเคารพ ผู้ไม่สาบานเพียงเพื่อหลอกลวง ค) บุคคลเช่นนี้จะได้รับพระพรจากองค์พระผู้เป็นเจ้า จะได้รับความเป็นธรรมจากพระเจ้าผู้ทรงช่วยเขาให้รอดพ้น นี่คือพงศ์พันธุ์ที่แสวงหาพระองค์ แสวงหาพระพักตร์พระองค์ ข้าแต่พระเจ้าแห่งยาโคบ บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม รม 1:1-7 จากเปาโล ผู้รับใช้ของพระคริสตเยซู ซึ่งพระเจ้าทรงเรียกมาเป็นอัครสาวก และ ทรงมอบหมายให้ประกาศข่าวดีซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาไว้ทางประกาศกในพระคัมภีร์ ข่าวดีนเี้ ป็นเรือ่ งเกีย่ วกับพระบุตรของพระองค์ ซึง่ โดยธรรมชาติมนุษย์ ทรงบังเกิด ในราชวงศ์กษัตริยด์ าวิด และโดยทางพระจิตเจ้าผูบ้ นั ดาลความศักดิส์ ทิ ธิ์ ทรงได้รบั การ สถาปนาขึ้นเป็นพระบุตรผู้ทรงอำ�นาจของพระเจ้าโดยการกลับคืนพระชนมชีพจาก บรรดาผู้ตาย พระองค์คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ด้วยเดชะพระเยซู คริสตเจ้านี้ เราได้รับพระหรรษทานและภารกิจการเป็นอัครสาวก เพื่อนำ�ประชาชาติ


ทัง้ หลายให้มาปฏิบตั ติ ามความเชือ่ ทัง้ นีเ้ พือ่ ถวายพระเกียรติ แด่พระนามพระองค์ และท่านทัง้ หลายก็อยูใ่ นบรรดาบุคคล เหล่านี้ ท่านเป็นของพระเยซูคริสตเจ้าแล้วเพราะพระองค์ ทรงเรียก ถึงทุกท่านในกรุงโรมผูท้ พี่ ระเจ้าทรงรักและทรงเรียกให้ เป็นประชากรศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ขอพระหรรษทานและสันติสขุ จากพระเจ้าพระบิดาของ เรา และจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา สถิต กับท่านทั้งหลายเถิด

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 1:18-24 เรื่องราวการประสูติของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นดังนี้ พระนางมารีย์พระมารดาของพระองค์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน ปรากฏว่า พระนางตัง้ ครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า โยเซฟคูห่ มัน้ ของพระนางเป็นผูช้ อบธรรมไม่ตอ้ งการฟ้องหย่าพระนาง อย่างเปิดเผย จึงคิดถอนหมั้นอย่างเงียบๆ ขณะที่โยเซฟกำ�ลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็น เจ้าก็มาเข้าฝัน กล่าวว่า “โยเซฟ โอรสกษัตริย์ดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย เพราะ เด็กทีป่ ฏิสนธิในครรภ์ของนางมาจากพระจิตเจ้า นางจะให้ก�ำ เนิดบุตรชาย ท่านจงตัง้ ชือ่ บุตรนัน้ ว่าเยซู เพราะ เขาจะช่วยประชากรของเขาให้รอดพ้นจากบาป” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำ�รัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ ตรัสผ่านประกาศกจะเป็นความจริงว่า หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์ และจะคลอดบุตรชาย ซึ่งจะได้รับนามว่า “อิมมานูเอล” แปลว่า พระเจ้าสถิตกับเรา” เมื่อโยเซฟตื่นขึ้น เขาก็ทำ�ตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือ รับภรรยามาอยู่ด้วย เราต้องยอมรับว่า การประทับอยู่ของพระเจ้าหายไปจากชีวิตและโลกปัจจุบันของเราพอสมควร ที่ไหนขาดพระเจ้าที่นั่นมีความวุ่นวาย ดังนั้นเราต้องแสวงหาพระองค์อีกครั้งหนึ่ง พระวาจาจึงสรุปอยู่ที่คำ�ว่า ข่าวดีใหม่ พระศาสนจักรในประเทศไทยกำ�ลังฟื้นฟูความเชื่อ พร้อมกับการดำ�เนินชีวิตด้วยพระวาจาและ ศีลศักดิ์สิทธิ์ ทั้งในระดับส่วนตัวและระดับชุมชน เพื่อจะได้เป็นพยานถึงข่าวดีใหม่อีกครั้งหนึ่ง ขอให้เราจริงจัง ในการกลับใจ ในความรัก และความเป็นหนึ่งเดียวกันเสมอ


น.ยอห์น แห่งเคนตี้ พระสงฆ์ สดด 25:4-5กข,8-9 10 และ 14 ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 4

บทอ่านที่ 1 มลค 3:1-4,23-24 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า “ดูซิ เราจะส่งผู้ถือสารของเราเพื่อเตรียมทางไว้ต่อหน้าเรา ทันใดนั้น องค์พระผู้ เป็นเจ้าที่ท่านแสวงหาจะเสด็จเข้ามาในพระวิหารของพระองค์ ทูตแห่งพันธสัญญาซึ่ง ท่านปรารถนา ดูซิ กำ�ลังมาแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมจักรวาลตรัส ใครจะทนวันที่เขา มาได้ และใครจะยืนหยัดอยู่ได้เมื่อเขาปรากฏ เพราะเขาจะเป็นเหมือนไฟของช่างถลุง โลหะ และเหมือนสบู่ของคนซักฟอก เขาจะนั่งลงเหมือนช่างหลอมและช่างถลุงเงิน เขาจะชำ�ระบุตรหลานของเลวีให้บริสทุ ธิ์ จะถลุงเขาเหมือนถลุงทองคำ�และถลุงเงิน เพือ่ เขาจะถวายเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความชอบธรรม เครื่องบูชาของยูดาห์ และเยรูซาเล็มจะเป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนในสมัยโบราณ เหมือนใน ปีก่อนๆ โน้น “ดูซิ เราจะส่งประกาศกเอลียาห์มาหาท่าน ก่อนที่วันยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัว ขององค์พระผูเ้ ป็นเจ้าจะมาถึง เขาจะทำ�ให้ใจของพ่อกลับมาหาลูก และใจของลูกกลับ ไปหาพ่อ เพื่อเราจะไม่ต้องมาทำ�ลายล้างแผ่นดิน” พระวรสาร ลก 1:57-66 เมื่อครบกำ�หนดคลอด นางเอลีซาเบธให้กำ�เนิดบุตรชายคนหนึ่ง เพื่อนบ้านและ บรรดาญาติรวู้ า่ องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าทรงแสดงพระกรุณายิง่ ใหญ่ตอ่ นาง จึงมาร่วมยินดีกบั นาง เมื่อเด็กเกิดได้แปดวัน เพื่อนบ้านและญาติพี่น้องมาทำ�พิธีสุหนัตให้ เขาต้องการ เรียกเด็กว่าเศคาริยาห์ตามชื่อบิดา แต่มารดาของเด็กค้านว่า “ไม่ได้ เขาจะต้องชื่อ ยอห์น” คนเหล่านั้นจึงพูดกับนางว่า “ท่านไม่มีญาติคนใดมีชื่อนี้” เขาเหล่านั้นจึงส่ง สัญญาณถามบิดาของเด็กว่าต้องการให้บุตรชื่ออะไร เศคาริยาห์ขอกระดานแผ่นหนึ่ง แล้วเขียนว่า “เขาชื่อยอห์น” ทุกคนต่างประหลาดใจ ทันใดนั้น เศคาริยาห์ก็กลับพูด ได้อกี เขาจึงกล่าวถวายพระพรพระเจ้า เพือ่ นบ้านทุกคนต่างรูส้ กึ กลัว และเรือ่ งทัง้ หมด นี้ได้เล่าลือกันไปทั่วแถบภูเขาของแคว้นยูเดีย ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ต่างก็แปลกใจและ ถามกันว่า “แล้วเด็กคนนีจ้ ะเป็นอะไร” เพราะพระหัตถ์ขององค์พระผูเ้ ป็นเจ้าอยูก่ บั เขา บทอ่านในวันนี้ ทำ�ให้เราเห็นว่าพระเจ้าทรงเตรียมทางของพระองค์ โดยส่ง ผูน้ �ำ สารของพระองค์มา นำ�ความยินดีและการกลับใจมาสูท่ กุ คน ยอห์นบัปติสต์คอื อีกคน หนึ่งที่พระเจ้าส่งมา ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็อยู่กับเขา เขา ทำ�ให้ทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิม เพื่อต้อนรับเสด็จพระคริสตเจ้า เราก็เช่นกันจงทำ�ให้ชีวิต เรามีเส้นทาง มีถนน มีทางเข้าทางออกบ้าง เพื่อเราจะได้พบกับพระเจ้า และเพื่อนมนุษย์ สามารถเข้ามาพบเราได้เช่นกัน


บทอ่าน 2 ซมอ 7:1-5,8-12,14ก,16 เมื่อกษัตริย์ดาวิดทรงเข้าไปประทับในพระราชวังและองค์พระผู้เป็นเจ้าประทาน ความสงบจากศัตรูโดยรอบ กษัตริย์ตรัสกับประกาศกนาธันว่า “ดูซิ เราอยู่ในวังสร้าง ด้วยไม้สนสีดาร์ แต่หีบของพระเจ้ากลับอยู่ในกระโจม” นาธันทูลตอบว่า “พระองค์ ทรงคิดจะทำ�อะไร ก็โปรดทำ�เถิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพระองค์” แต่ในคืนนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่นาธันว่า สัปดาห์ที่ 4 เทศกาล “จงไปบอกดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ ท่านจะไม่เป็นผู้ เตรียมรับเสด็จ สร้างวิหารให้เราอยู.่ .. เราให้ทา่ นเลิกเลีย้ งแกะในทุง่ หญ้ามาเป็นผูน้ �ำ อิสราเอลประชากร พระคริสตเจ้า ของเรา เราอยู่กับท่านไม่ว่าท่านไปที่ใด เรากำ�จัดศัตรูทั้งปวงที่ท่านเผชิญหน้า เราจะ สดด 89:1-2,3-4,26,28 ทำ�ให้ทา่ นมีชอื่ เสียงเหมือนกับผูย้ งิ่ ใหญ่ทสี่ ดุ ในแผ่นดิน... เรา องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าประกาศ ทำ�วัตรสัปดาห์ที่ 4 แก่ท่านว่า เราจะสร้างราชวงศ์ให้ท่าน เมื่อท่านสิ้นชีวิตในวัยชรา และถูกฝังไว้กับ บรรพบุรุษแล้ว เราจะตั้งเชื้อสายคนหนึ่งของท่าน ซึ่งเป็นบุตรของท่านให้เป็นกษัตริย์ ต่อจากท่าน เราจะพิทักษ์รักษาอาณาจักรของเขาให้มั่นคง เราจะเป็นบิดาของเขา และ เขาจะเป็นบุตรของเรา ราชวงศ์และอาณาจักรของท่านจะมั่นคงอยู่ต่อหน้าเราตลอดไป อำ�นาจปกครองของท่านจะตั้งมั่นอยู่ตลอดไป’” พระวรสาร ลก 1:67-79 เวลานั้น เศคาริยาห์ ผู้เป็นบิดาได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม จึงกล่าวพยากรณ์ดังนี้ ขอถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอล เพราะพระองค์เสด็จเยี่ยมและทรงกอบกู้ ประชากรของพระองค์ พระองค์ทรงบันดาลให้พระผูท้ รงอำ�นาจเกิดจากราชวงศ์กษัตริยด์ าวิด ผูร้ บั ใช้พระองค์ ตามที่ทรงสัญญาไว้ โดยปากของบรรดาประกาศกผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ตั้งแต่โบราณกาลว่า จะให้เรา รอดพ้นจากศัตรู จากเงื้อมมือของผู้ที่เกลียดชังเรา ทรงสัญญาว่าจะทรงแสดงพระกรุณาแก่บรรพบุรุษของ เรา ทรงระลึกถึงพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และคำ�ปฏิญาณที่ทรงให้ไว้แก่อับราฮัม บรรพบุรุษของ เรา ว่าจะทรงช่วยเราให้พ้นจากเงื้อมมือของศัตรู เพื่อรับใช้พระองค์โดยปราศจากความหวาดกลัวใดๆ ให้เรา เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และชอบธรรมเฉพาะพระพักตร์พระองค์ตลอดชีวิตของเรา ส่วนเจ้า ทารกเอ๋ย เจ้าจะได้ชื่อ ว่าเป็นประกาศกของพระผู้สูงสุด เจ้าจะนำ�หน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเตรียมทางสำ�หรับพระองค์ เพื่อให้ ประชากรของพระองค์รวู้ า่ เขาจะรอดพ้น เพราะบาปของเขาได้รบั การอภัย เดชะพระเมตตากรุณาของพระเจ้า ของเรา พระองค์จะเสด็จมาเยี่ยมเราจากเบื้องบน ดังแสงอรุโณทัย ส่องแสงสว่างให้ทุกคนที่อยู่ในความมืด และในเงาแห่งความตาย เพื่อจะนำ�เท้าของเราให้ดำ�เนินไปตามทางแห่งสันติสุข ความหวังดีและความรักที่ดาวิดมีต่อพระเจ้านั้นช่างเข้มแข็งยิ่งนัก พระองค์คิดจะสร้างพระวิหาร ถวายแด่พระเจ้า แต่พระเจ้าไม่ทรงต้องการ แต่พระองค์ทรงยืนยันถึงความรักของพระองค์ที่มีต่อราชวงศ์ดาวิด บทเพลงของเศคาริยาห์ สรรเสริญความรักของพระเจ้า เพราะพระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งประชากรของพระองค์ ความรักที่มั่นคงของพระเจ้าสำ�คัญกว่าความรักของเรา ให้เรามีความั่นใจในความรักนี้เสมอ เราอาจล้มเหลวได้ แต่พระเจ้าไม่มีวันล้มเหลว ถ้าเรารอคอยและเชื่อในพระองค์


สมโภช พระคริสตสมภพ

บทอ่านที่ 1 อสย 52:7-10 เท้าของผูน้ �ำ ข่าวดีมาประกาศบนภูเขาช่างงามยิง่ นัก เขาประกาศสันติภาพ นำ�ข่าวดี ประกาศความรอดพ้น กล่าวแก่ศิโยนว่า “พระเจ้าของท่านทรงเป็นกษัตริย์ปกครอง” บรรดาทหารยามของท่านร้องเสียงดัง ร้องตะโกนพร้อมกันด้วยความยินดี เพราะเขา ได้เห็นกับตาว่า องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าเสด็จกลับสูศ่ โิ ยน ซากปรักหักพังแห่งกรุงเยรูซาเล็ม เอ๋ย จงร้องเพลงยินดีพร้อมกันเถิด... พระเจ้าของเราประทานความรอดพ้นให้แก่เรา

บทอ่านที่ 2 ฮบ 1:1-6 ในอดีต พระเจ้าตรัสกับบรรพบุรษุ ของเราโดยทางประกาศกหลายวาระและหลาย วิธี ครั้นสมัยนี้เป็นวาระสุดท้าย พระองค์ตรัสกับเราโดยทางพระบุตร พระเจ้าทรง สถาปนาพระบุตรให้เป็นทายาทครอบครองทุกสิ่ง พระองค์ทรงสร้างจักรวาลเดชะ พระบุตรนี้ พระบุตรทรงเป็นรังสีแห่งพระสิรริ งุ่ โรจน์ของพระเจ้า ทรงเป็นภาพลักษณ์ทสี่ มบูรณ์ขององค์พระเจ้า พระบุตรทรงผดุงจักรวาลไว้ด้วยพระวาจาทรงฤทธิ์ บัดนี้ พระบุตรทรงลบล้างมลทินแห่งบาปเสร็จสิ้นแล้ว จึงเสด็จสู่สวรรค์ ประทับ ณ เบื้องขวาแห่งพระมหิทธานุภาพ ดังนั้น พระบุตรทรงอยู่เหนือบรรดาทูตสวรรค์ เช่นเดียวกับพระนามที่ทรงได้รับนั้นประเสริฐกว่านามของบรรดาทูตสวรรค์ พระเจ้าเคยตรัสแก่ทูตสวรรค์องค์ใดบ้างว่า “ท่านเป็นบุตรของเรา เราให้กำ�เนิดท่านในวันนี้” หรือว่า “เราจะเป็นบิดาของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา”...

สดด 89:1,2-3กข, 3ค-4,5-6

พระวรสาร ยน 1:1-5,9-14 เมื่อแรกเริ่มนั้น พระวจนาตถ์ทรงดำ�รงอยู่แล้ว พระวจนาตถ์ประทับอยู่กับพระเจ้า และพระวจนาตถ์ เป็นพระเจ้า พระองค์ประทับอยูก่ บั พระเจ้าแล้วตัง้ แต่แรกเริม่ พระเจ้าทรงสร้างทุกสิง่ อาศัยพระวจนาตถ์ ไม่มี สักสิ่งเดียวที่พระเจ้าไม่ทรงสร้าง โดยทางพระวจนาตถ์ ชีวิตอยู่ในพระองค์ และชีวิตเป็นแสงสว่างสำ�หรับ มนุษย์ แสงสว่างส่องในความมืด และความมืดชนะแสงสว่างนั้นไม่ได้ แสงสว่างแท้จริงซึ่งส่องสว่างแก่มนุษย์ทุกคน กำ�ลังจะมาสู่โลก พระวจนาตถ์ประทับอยู่ในโลก และ โลกถูกสร้างโดยอาศัยพระองค์ แต่โลกไม่รจู้ กั พระองค์ พระองค์เสด็จมาสูบ่ า้ นเมืองของพระองค์ แต่ประชากร ของพระองค์ไม่ยอมรับพระองค์ ผู้ใดที่ยอมรับพระองค์ คือผู้ที่เชื่อในพระนามพระองค์ พระองค์ประทาน อำ�นาจให้ผนู้ นั้ กลายเป็นบุตรของพระเจ้า เขามิได้เกิดจากสายเลือด มิได้เกิดจากความปรารถนาตามธรรมชาติ มิได้เกิดจากความต้องการของมนุษย์ แต่เกิดจากพระเจ้า พระวจนาตถ์ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ และเสด็จมา ประทับอยูใ่ นหมูเ่ รา เราได้เห็นพระสิรริ งุ่ โรจน์ของพระองค์ เป็นพระสิรริ งุ่ โรจน์ทที่ รงรับจากพระบิดา ในฐานะ พระบุตรเพียงพระองค์เดียว เปี่ยมด้วยพระหรรษทานและความจริง พีน่ อ้ ง บทอ่านวันนีพ้ ดู ถึงการเผยแสดงของพระเจ้า ในบทอ่านทีห่ นึง่ ประกาศกอิสยาห์พดู ถึงองค์ พระผูเ้ ป็นเจ้าทรงเสด็จกลับสูศ่ โิ ยน และความทุกข์โศกของชาวยิวกำ�ลังหมดไป บทอ่านทีส่ องพูดถึงวาระสุดท้าย นี้พระเจ้าพูดกับเราโดยทางพระบุตร ไม่ใช่ด้วยวิธีการเก่าๆ อีกแล้ว และในพระวรสาร พระคริสตเจ้าแสงสว่าง แท้จริงได้มาสู่โลกแล้ว ทั้งหมดนี้แสดงแก่เราถึงสารแห่งความยินดี เด็กน้อยผู้นี้คือการปลอบโยน ความสัมพันธ์ ใหม่และชีวิตใหม่สำ�หรับเราทุกคนที่มีความเชื่อ


บทอ่านที่ 1 กจ 6:8-10; 7:54-60 ในสมัยนัน้ สเทเฟนเปีย่ มด้วยพระหรรษทานและพระอานุภาพ ทำ�ปาฏิหาริยแ์ ละ เครื่องหมายอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ในหมู่ประชาชน บางคนจากศาลาธรรมที่เรียกกันว่าศาลา ธรรมของเสรีชนที่เคยเป็นทาส คือชาวยิวจากเมืองไซรีน เมืองอเล็กซานเดรีย แคว้น ซีลีเซียและอาเซีย เริ่มโต้เถียงกับสเทเฟน แต่เขาเหล่านั้นเอาชนะสเทเฟนไม่ได้ เพราะสเทเฟนพูดด้วยปรีชาญาณซึ่งมาจากพระจิตเจ้า เมื่อได้ฟังดังนั้น ทุกคนรู้สึกขุ่นเคืองเจ็บใจ ขบฟันคำ�รามเข้าใส่สเทเฟน สเทเฟนเปีย่ มด้วยพระจิตเจ้า เพ่งมองท้องฟ้า มองเห็นพระสิรริ งุ่ โรจน์ของพระเจ้า และเห็นพระเยซูเจ้าทรงยืนอยูเ่ บือ้ งขวาของพระเจ้า จึงพูดว่า “ดูซิ ข้าพเจ้าเห็นท้องฟ้า เปิดออก และเห็นบุตรแห่งมนุษย์ทรงยืนอยู่เบื้องขวาของพระเจ้า” ทุกคนจึงร้องเสียง ดัง เอามืออุดหู วิ่งกรูกันเข้าใส่สเทเฟน ฉุดลากเขาออกไปนอกเมืองแล้วเริ่มเอาหิน ขว้างเขา บรรดาพยานนำ�เสื้อคลุมของตนมาวางไว้ที่เท้าของชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อ “เซาโล” ขณะที่คนทั้งหลายกำ�ลังเอาหินขว้างสเทเฟน สเทเฟนอธิษฐานภาวนาว่า “ข้าแต่พระเยซูองค์พระผูเ้ ป็นเจ้า โปรดรับวิญญาณของข้าพเจ้าด้วย” เขาคุกเข่าลงและ ร้องเสียงดังว่า “ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็นเจ้า โปรดอย่าทรงลงโทษพวกเขาเพราะบาปนีเ้ ลย” เมื่อกล่าวดังนี้แล้ว เขาก็สิ้นใจ พระวรสาร มธ 10:17-22 เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงระมัดระวังตนจากมนุษย์ เขาจะมอบท่านที่ศาล และเฆี่ยนท่านในศาลาธรรม ของเขา ท่านจะถูกนำ�ตัวไปต่อหน้าผู้ว่าราชการและเฉพาะพระพักตร์กษัตริย์เพราะเรา เป็นเหตุ เพื่อเป็นพยานยืนยันแก่เขาและแก่บรรดาชนต่างชาติต่างศาสนา เมื่อเขาจะ มอบท่านที่ศาลนั้น อย่าวิตกกังวลว่าจะพูดอย่างไรหรือพูดอะไร สิ่งที่ท่านจะพูดนั้นจะ ได้รบั การดลใจในเวลานัน้ เอง เพราะท่านจะมิได้พดู ด้วยตนเอง แต่พระจิตของพระบิดา ของท่านจะตรัสในท่าน” “พีจ่ ะฟ้องน้อง น้องจะฟ้องพีใ่ ห้ตอ้ งโทษถึงตาย พ่อจะฟ้องลูก ลูกจะลุกขึน้ กล่าว โทษพ่อแม่ให้ถึงตาย” “คนทัง้ ปวงจะเกลียดชังท่านเพราะนามของเรา แต่ผทู้ ยี่ นื หยัดจนถึงวาระสุดท้าย ก็จะรอดพ้น”

ฉลอง น.สเทเฟน ปฐมมรณสักขี

สดด 31:2,5 และ 7ก, 15ข-16

นักบุญสเทเฟนคือ หนึง่ ในสามคนทีเ่ ป็นสักขีพยานถึงพระคริสตเจ้า ซึง่ เราฉลองในสามวันหลังจาก พระคริสตสมภพ ท่านคือสังฆานุกรรุ่นแรกๆ มรณสักขีคนแรก และผู้ปกป้องความเชื่อคนแรก ความรักคืออาวุธ สำ�หรับการเป็นมรณสักขี เพราะความรักโน้มนำ�ให้เราเป็นพยานและวางใจในพระเจ้าแม้ในสถานการณ์ที่เลว ร้ายที่สุด ขอให้เราวอนขอนักบุญสเทเฟน ช่วยเราให้เต็มไปด้วยพลังแห่งความรักทุกๆ วัน เพื่อจะได้เป็นพยาน ถึงความรักของพระคริสตเจ้าอย่างแท้จริง


ฉลอง น.ยอห์น อัครสาวกและ ผู้นิพนธ์พระวรสาร สดด 97:1-2,5-6, 11-12

บทอ่านที่ 1 1 ยน 1:1-4 พี่น้องที่รักยิ่ง เราประกาศเรื่องราวเกี่ยวกับพระวจนาตถ์แห่งชีวิต ซึ่งเป็นอยู่แล้ว ตั้งแต่แรกเริ่ม เราได้ฟัง เราได้เห็นด้วยตาของเรา เราได้เฝ้ามอง และเราได้สัมผัสด้วย มือของเรา ชีวิตนั้นได้ปรากฏ เราได้เห็นและได้เป็นพยาน เราประกาศให้ท่านทั้งหลาย รู้ถึงชีวิตนิรันดร ซึ่งอยู่กับพระบิดา และปรากฏให้เราเห็น สิ่งที่เราได้เห็นและได้ฟังนี้ เราประกาศให้ทา่ นทัง้ หลายรูด้ ว้ ย เพือ่ ท่านจะได้สนิทสัมพันธ์กบั เรา ความสนิทสัมพันธ์ นีค้ อื ความสนิทสัมพันธ์กบั พระบิดาและกับพระบุตรของพระองค์ คือพระเยซูคริสตเจ้า เราเขียนเรื่องนี้ถึงท่าน เพื่อความปีติยินดีของเราจะได้สมบูรณ์ พระวรสาร ยน 20:1ก,2-8 เช้าตรู่วันต้นสัปดาห์ มารีย์ชาวมักดาลาวิ่งไปหาซีโมนเปโตรกับศิษย์อีกคนหนึ่งที่ พระเยซูเจ้าทรงรักบอกว่า “เขานำ�องค์พระผู้เป็นเจ้าไปจากพระคูหาแล้ว พวกเราไม่รู้ ว่าเขานำ�พระองค์ไปไว้ที่ไหน” เปโตรกับศิษย์คนนัน้ จึงออกไป มุง่ ไปยังพระคูหา ทัง้ สองคนวิง่ ไปด้วยกัน แต่ศษิ ย์ คนนั้นวิ่งเร็วกว่าเปโตร จึงมาถึงพระคูหาก่อน เขาก้มลงมองเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่ บนพื้น แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน ซีโมนเปโตรซึ่งตามไปติดๆ ก็มาถึง เข้าไปในพระคูหาและ เห็นผ้าพันพระศพวางอยู่ที่พื้น รวมทั้งผ้าพันพระเศียรซึ่งไม่ได้วางอยู่กับผ้าพันพระศพ แต่พบั แยกวางไว้อกี ทีห่ นึง่ ศิษย์คนทีม่ าถึงพระคูหาก่อนก็เข้าไปข้างในด้วย เขาเห็นและ มีความเชื่อ นีค่ อื บุคคลทีส่ องทีเ่ ป็นสักขีพยานถึงพระคริสตเจ้า เขาคือผูด้ �ำ รงอยูใ่ นความ รักและมีประสบการณ์แห่งความรัก เขาคือผูท้ เี่ ห็นและเชือ่ พร้อมทัง้ ถ่ายทอดความเชือ่ นัน้ แก่ทุกคนที่อยากติดตามพระคริสตเจ้า พี่น้องที่รัก ขอให้แบบอย่างของนักบุญยอห์นช่วย ให้เราได้มีประสบการณ์ของการเห็น นั่นคือ สามารถสัมผัสถึงการประทับอยู่ของพระใน ทุกๆ เหตุการณ์แม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต และบุคคลที่ผ่านเข้ามาหาเรา เมื่อเป็นเช่น นี้แล้วเราจะได้เชื่อและวางใจในพระองค์อย่างแท้จริง


บทอ่านที่ 1 1 ยน 1:5-2:2 พี่น้องที่รักยิ่ง นี่คือข่าวที่เราได้ฟังจากพระองค์ และเรากำ�ลังประกาศให้ท่าน ทั้งหลายรู้ คือ พระเจ้าทรงเป็นความสว่าง และไม่มีความมืดใดๆ อยู่ในพระองค์เลย ถ้าเราพูดว่า เราสนิทสัมพันธ์กับพระองค์ แต่ยังดำ�เนินชีวิตอยู่ในความมืด เราก็กำ�ลัง พูดเท็จ เพราะเราไม่ดำ�เนินชีวิตอยู่ในความจริง แต่ถ้าเราดำ�เนินชีวิตในความสว่าง ดัง ที่พระองค์ทรงดำ�รงอยู่ในความสว่างแล้ว เราทุกคนก็สนิทสัมพันธ์กันด้วย และพระ โลหิตของพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระองค์ก็ชำ�ระเราให้สะอาดจากบาปทั้งปวง ถ้าเราพูดว่า “เราไม่มีบาป” เรากำ�ลังหลอกตนเอง และ “ความจริง” ไม่อยู่ในเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และทรงเที่ยงธรรม ถ้าเราสารภาพบาป พระองค์จะทรงอภัยบาป ของเรา และจะทรงชำ�ระเราให้สะอาดจากความอธรรมทั้งปวง ถ้าเราพูดว่า “เราไม่เคย ทำ�บาป” เราก็ทำ�ให้พระองค์ตรัสคำ�เท็จ และพระวาจาของพระองค์ไม่อยู่ในเรา ลูกที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนเรื่องนี้ถึงท่าน เพื่อท่านจะได้ไม่ทำ�บาป แต่ถ้าใคร ทำ�บาป เรายังมีทนายแก้ต่างให้เฉพาะพระพักตร์ของพระบิดา คือพระเยซูคริสตเจ้า ผูท้ รงเทีย่ งธรรม พระองค์ทรงเป็นเครือ่ งบูชาชดเชยบาปของเรา และไม่เพียงแต่ชดเชย เฉพาะบาปของเราเท่านั้น แต่ชดเชยบาปของมนุษย์ทั้งโลกด้วย

ฉลองนักบุญ ทารกผู้วิมล สดด 124:2-5,7ข-8

พระวรสาร มธ 2:13-18 เมือ่ บรรดาโหราจารย์กลับไปแล้ว ทูตสวรรค์ขององค์พระผูเ้ ป็นเจ้ามาเข้าฝันโยเซฟ กล่าวว่า “จงลุกขึน้ พาพระกุมารและพระมารดาหนีไปอียิปต์ และจงอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะบอกท่าน เพราะกษัตริย์เฮโรดกำ�ลัง สืบหาพระกุมารเพื่อจะประหารชีวิต” โยเซฟจึงลุกขึ้นพาพระกุมารและพระมารดาออกเดินทางไปอียิปต์ใน คืนนั้น และอยู่ที่นั่น จนกระทั่งกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ ทั้งนี้เพื่อให้พระดำ�รัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัส ทางประกาศกเป็นความจริงว่า เราเรียกบุตรของเรามาจากอียิปต์ เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงเห็นว่าพระองค์ถูกบรรดาโหราจารย์หลอกลวง ก็กริ้วยิ่งนัก จึงทรงสั่งให้ประหาร ชีวิตเด็กชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมาในเมืองเบธเลเฮมและบริเวณใกล้เคียงตามเวลาที่ทรงทราบ มาจากบรรดาโหราจารย์ ดังนี้ พระดำ�รัสที่ตรัสไว้โดยประกาศกเยเรมีย์ก็เป็นความจริงว่า มีผู้ได้ยินเสียงในหมู่บ้านรามาห์ เป็นเสียงร้องไห้และครํ่าครวญอย่างขมขื่น นางราเคลร้องไห้อาลัยถึง บรรดาบุตร นางไม่ยอมรับคำ�ปลอบโยนใดๆ เพราะบุตรเหล่านั้นไม่อยู่แล้ว ทารกผู้วิมลคือ สักขีพยานสุดท้าย บรรดาเด็กๆ ที่กล้าเป็นพยานไม่ใช่ด้วยคำ�พูดแต่ด้วยการสละ ชีวิต ในปัจจุบันเรายังต้องการวิธีการเป็นพยานแบบนี้ แบบที่หลายครั้งเราได้มีโอกาสเห็น เช่น คนพิการที่เลือก เกิดไม่ได้แต่ยอมรับสภาพของตนแบบเงียบๆ เด็กยากจนทีต่ อ้ งสูช้ วี ติ แบบเงียบๆ เพือ่ นมนุษย์ของเราทีต่ อ้ งต่อสู้ ต่อความอยุติธรรมต่างๆ แบบไม่ค่อยมีเสียงดังเท่าไร เขาทุกคนอดทนต่อสู้ในความเงียบด้วยความหวัง แม้จะไม่ ค่อยเป็นที่สนใจจากบุคคลอื่นๆ แต่พระเจ้าของเราทรงรู้เสมอ


บทอ่านจากหนังสือบุตรสิรา บสร 3:3-7,14-17ก บุตรที่ยำ�เกรงบิดาก็ชดเชยบาปของตน บุตรที่ให้เกียรติมารดาก็เหมือนกับสะสม ทรัพย์สมบัติไว้ ผู้ที่ยำ�เกรงบิดาก็มีความสุขจากบุตรของตน เมื่อเขาอธิษฐานภาวนา พระเจ้าก็จะทรงฟังเขา บุตรทีใ่ ห้เกียรติบดิ าจะมีอายุยนื บุตรทีเ่ ชือ่ ฟังองค์พระผูเ้ ป็นเจ้า จะทำ�ให้มารดาชื่นใจ ผู้ยำ�เกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าย่อมให้เกียรติแก่บิดา เขารับใช้บิดา มารดาเหมือนรับใช้เจ้านาย ฉลอง เพราะพระเจ้าจะไม่ทรงลืมความเมตตาของท่านต่อบิดา พระองค์จะทรงนับว่า ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ของพระเยซูเจ้า ความเมตตานั้นเป็นการใช้โทษบาปของท่าน เมื่อท่านตกทุกข์ได้ยาก พระเจ้าจะทรง ระลึกถึงท่าน บาปของท่านจะสลายไปดุจนํ้าแข็งละลายเมื่อถูกแสงแดด บุตรที่ละทิ้ง บิดาก็เหมือนผู้กล่าวดูหมิ่นพระเจ้า บุตรที่ทำ�ให้มารดาเสียใจ จะถูกองค์พระผู้เป็นเจ้า สาปแช่ง ลูกเอ๋ย ไม่ว่าท่านจะทำ�สิ่งใด จงทำ�ด้วยความอ่อนโยนเถิด แล้วท่านจะเป็น ที่รักมากกว่าคนให้ของกำ�นัล เพลงสดุดี สดด 128:1-2,3,4-5 ก) ผู้ย�ำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าย่อมเป็นสุข เขาเดินอยู่ในมรรคาของพระองค์ ท่านจะมีอาหารกินจากงานที่ท่านท�ำ ท่านจะเป็นสุขและเจริญรุ่งเรือง ข) ภรรยาของท่านจะเป็นดั่งเถาองุ่นที่มีผลดกภายในบ้านของท่าน บุตรของท่านจะเป็นเหมือนหน่อต้นมะกอกเทศนั่งอยู่รอบโต๊ะอาหาร ค) บุรุษผู้ย�ำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับพระพรเช่นนี้ ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานพระพรแก่ท่านจากศิโยน ขอให้ท่านเห็นความรุ่งเรืองของกรุงเยรูซาเล็ม ทุกวันตลอดชีวิตของท่าน บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโคโลสี คส 3:12-21 พีน่ อ้ ง ท่านเป็นผูท้ พี่ ระเจ้าทรงเลือกสรร เป็นผูศ้ กั ดิส์ ทิ ธิแ์ ละเป็นทีร่ กั ของพระองค์ จงเห็นใจกัน จงมีความใจดี ความถ่อมตน ความอ่อนโยนและความพากเพียรอดทน เป็นเสมือนเครื่องประดับตน จงผ่อนหนักผ่อนเบากัน หากมีเรื่องผิดใจก็จงยกโทษกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยความผิดของท่านอย่างไร ท่านก็จงให้อภัยอย่างนั้นเถิด แต่เหนือสิ่งใดจงมีความรัก ซึ่งรวมเราไว้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ ขอให้สันติสุข ของพระคริสตเจ้าครอบครองดวงใจของท่าน พระเจ้าทรงเรียกท่านทัง้ หลายให้รวมเป็น กายเดียวกันก็เพื่อจะได้บรรลุถึงสันติสุขนี้เอง จงระลึกถึงพระคุณนี้เถิด


ขอพระวาจาของพระคริ ส ตเจ้ า สถิ ต ในท่ า นอย่ า ง เต็ ม เปี่ ย ม จงสอนและตั ก เตื อ นกั นด้ ว ยปรี ช าญาณ จง ขอบพระคุณพระเจ้าโดยการขับร้องบทเพลงสดุดี เพลง สรรเสริญ และบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ จากใจจริง ท่านจะ พูดเรือ่ งใดหรือทำ�กิจการใด ก็จงพูดจงทำ�ในพระนามพระเยซู องค์พระผูเ้ ป็นเจ้า เป็นการขอบพระคุณพระเจ้าพระบิดาโดย ทางพระองค์เถิด ภรรยา จงอยู่ใต้อำ�นาจของสามีตามสมควรในองค์ พระผู้เป็นเจ้า สามี จงรักภรรยาและอย่าทำ�ให้นางรู้สึกขมขื่น บุตร จงเชื่อฟังบิดามารดาในทุกสิ่ง เพราะการกระทำ� เช่นนี้เป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า บิดาก็จงอย่าขัดใจบุตรเกินไป จนเขาท้อแท้หมดกำ�ลังใจ

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ลก 2:41-52 เมือ่ บรรดาโหราจารย์กลับไปแล้ว ทูตสวรรค์ขององค์พระผูเ้ ป็นเจ้ามาเข้าฝันโยเซฟ กล่าวว่า “จงลุกขึน้ พาพระกุมารและพระมารดาหนีไปอียิปต์ และจงอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะบอกท่าน เพราะกษัตริย์เฮโรดกำ�ลัง สืบหาพระกุมารเพื่อจะประหารชีวิต” โยเซฟจึงลุกขึ้นพาพระกุมารและพระมารดาออกเดินทางไปอียิปต์ใน คืนนั้น และอยู่ที่นั่นจนกระทั่งกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ ทั้งนี้เพื่อให้พระดำ�รัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัส ทางประกาศกเป็นความจริงว่า เราเรียกบุตรของเรามาจากอียิปต์ หลังจากกษัตริยเ์ ฮโรดสิน้ พระชนม์ ทูตสวรรค์ขององค์พระผูเ้ ป็นเจ้ามาเข้าฝันโยเซฟในอียปิ ต์ กล่าวว่า “จงลุกขึ้น พาพระกุมารและพระมารดากลับไปแผ่นดินอิสราเอล เพราะผู้ที่ต้องการฆ่าพระกุมารตายแล้ว” โยเซฟจึงลุกขึน้ พาพระกุมารและพระมารดากลับไปแผ่นดินอิสราเอล แต่เมือ่ รูว้ า่ อารเคลาอัสขึน้ ครองราชย์ เป็นกษัตริย์ในแคว้นยูเดีย สืบต่อจากกษัตริย์เฮโรดพระบิดา โยเซฟก็กลัวที่จะไปที่นั่น และเมื่อพระเจ้าทรง เตือนเขาในความฝัน เขาจึงกลับไปยังแคว้นกาลิลี ไปอาศัยอยู่ในเมืองหนึ่งชื่อนาซาเร็ธ ทั้งนี้ เพื่อให้พระ ดำ�รัสที่ตรัสทางประกาศกเป็นความจริงว่า พระองค์จะได้รับพระนามว่าชาวนาซาเร็ธ วันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ เตือนใจครอบครัวคริสตชนทุกครอบครัว ให้หันกลับมาดูครอบครัว ของเราว่า เป็นกระแสเรียกที่มาจากพระเป็นเจ้า ชีวิตครอบครัวจึงไม่ใช่ทุกคนจะทำ�ได้ การมีครอบครัวง่ายกว่า การรักษาชีวิตครอบครัวไว้ให้ยืนนาน มีสามเรื่องที่พระวาจาวันนี้พูดกับเรา เรื่องแรกคือ ความรับผิดชอบ (บท อ่านที่หนึ่ง) เรื่องที่สอง ความรัก (บทอ่านที่สอง) และสุดท้ายคือ ความเชื่อฟัง (พระวรสาร) นี่คือหัวใจของการ อยู่ร่วมกัน ทำ�หน้าที่ของเราด้วยความรักพร้อมทั้งฟังกันและกันเสมอ


วันในอัฐมวาร พระคริสตสมภพ สดด 96:7-9,10-12ก

บทอ่านที่ 1 1 ยน 2:12-17 ลูกทีร่ กั ทัง้ หลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เพราะบาปของท่านได้รบั การอภัยแล้วเดชะ พระนามพระองค์ ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เพราะท่านมารู้จัก พระองค์ผทู้ รงดำ�รงอยูต่ งั้ แต่แรกเริม่ เยาวชนทัง้ หลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เพราะท่าน ชนะมารร้ายแล้ว เด็กที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงเธอ เพราะเธอได้มารู้จักพระบิดา ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เพราะท่านมารู้จักพระองค์ผู้ทรงดำ�รงอยู่ ตั้งแต่แรกเริ่ม เยาวชนทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เพราะท่านเป็นคนแข็งแรง และพระวาจา ของพระเจ้าก็สถิตในท่าน และท่านชนะมารร้ายแล้ว จงอย่ารักโลก และสิง่ ทีอ่ ยูใ่ นโลก เลย ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักของพระบิดาก็ไม่อยู่ในตัวเขา เพราะทุกสิ่งที่อยู่ในโลก ได้แก่ ความมัวเมาในโลกีย์ ความโลภอยากได้ทุกสิ่ง และความหยิ่งทะนงโอ้อวดใน ทรัพย์สมบัติ ล้วนไม่ได้มาจากพระบิดา แต่มาจากโลกทั้งสิ้น และโลกพร้อมกับความ มัวเมาในโลกียข์ องโลกนัน้ กำ�ลังผ่านพ้นไป แต่ผทู้ ที่ �ำ ตามพระประสงค์ของพระเจ้า จะ ดำ�รงอยู่ตลอดนิรันดร พระวรสาร ลก 2:36-40 เวลานั้น ประกาศกหญิงคนหนึ่งชื่ออันนา เป็นบุตรหญิงของฟานูเอลจากเผ่า อาเชอร์ นางชรามากแล้ว แต่งงานตัง้ แต่ยงั สาว อยูก่ บั สามีเจ็ดปี หลังจากนัน้ ก็เป็นม่าย เวลานี้อายุแปดสิบสี่ปี ไม่ได้ออกจากพระวิหารเลย อยู่รับใช้พระเจ้าทั้งกลางวันกลาง คืนโดยจำ�ศีลอดอาหารและอธิษฐานภาวนา นางเข้ามาในเวลานั้นพอดี ขอบพระคุณ พระเจ้าและกล่าวถึงพระกุมารให้ทุกคนที่กำ�ลังรอคอยการไถ่กู้กรุงเยรูซาเล็มฟัง เมือ่ โยเซฟพร้อมกับพระนางมารียป์ ฏิบตั ติ ามทีธ่ รรมบัญญัตขิ ององค์พระผูเ้ ป็นเจ้า กำ�หนดไว้สำ�เร็จทุกประการแล้ว ก็กลับไปที่นาซาเร็ธ เมืองของตนในแคว้นกาลิลี พระกุ ม ารทรงเจริ ญ วั ย แข็ ง แรงขึ้ น ทรงพระปรี ช าญาณอย่ า งสมบู ร ณ์ และ พระหรรษทานของพระเจ้าสถิตกับพระองค์ การเสด็ จ มาบั ง เกิ ด ของพระเยซู เจ้ า คื อ เหตุ ผ ลของความชื่ น ชมยิ น ดี ประกาศกอันนาได้ถ่ายทอดความยินดีนี้แก่ทุกคนที่เข้าออกพระวิหาร ท่านเป็นหญิงชรา คนหนึง่ ทีท่ �ำ ทุกวิถที างเพือ่ ประกาศข่าวดี และยืนยันแก่เราทุกคนว่า อายุ สุขภาพ ร่างกาย และเงินทอง ไม่ใช่อุปสรรคในการประกาศข่าวดี ไม่ใช่เหตุผลที่จะใช้อ้างเพื่อเลิกล้มการ ทำ�ความดี และการมีความยินดี ขอให้เราฟังนักบุญเปาโลที่กล่าวว่า “สภาพชีวิตของ ข้าพเจ้าในปัจจุบัน กลายเป็นการส่งเสริมการประกาศข่าวดี” (ฟป 1:12)


บทอ่านที่ 1 1 ยน 2:18-21 ลูกที่รักทั้งหลาย นี่เป็นวาระสุดท้าย ท่านได้ฟังแล้วว่า ปฏิปักษ์ของพระคริสตเจ้า กำ�ลังมา และเวลานี้ ปฏิปักษ์จำ�นวนมากของพระคริสตเจ้าก็มาถึงแล้ว เพราะเหตุนี้เรา จึงรู้ว่า เป็นวาระสุดท้าย เขาทั้งหลายออกไปจากเรา แต่เขาไม่ได้เป็นพวกของเราอย่าง แท้จริง เพราะถ้าเขาเป็นพวกเดียวกันกับเราจริง เขาคงจะอยูก่ บั เรา แต่ทเี่ ป็นดังนีก้ เ็ พือ่ แสดงว่า เขาเหล่านั้นทุกคนไม่เป็นพวกเดียวกับเรา ท่านทั้งหลายได้รับการเจิมจาก น.ซิลเวสเตอร์ ที่ 1 พระผูศ้ กั ดิส์ ทิ ธิ์ และทุกคนต่างได้รบั ความรู้ การทีข่ า้ พเจ้าเขียนถึงท่านทัง้ หลายนัน้ มิใช่ พระสันตะปาปา เพราะท่านไม่รู้ความจริง แต่เขียนเพราะท่านรู้ดีอยู่แล้ว และเพราะไม่มีความเท็จใดมา สดด 96:1-3,10-12ก, 12ข-13 จากความจริงได้ วันสิ้นปี

พระวรสาร ยน 1:1-18 เมื่อแรกเริ่มนั้น พระวจนาตถ์ทรงดำ�รงอยู่แล้ว พระวจนาตถ์ประทับอยู่กับพระเจ้า และพระวจนาตถ์ เป็นพระเจ้า พระองค์ประทับอยูก่ บั พระเจ้าแล้วตัง้ แต่แรกเริม่ พระเจ้าทรงสร้างทุกสิง่ อาศัยพระวจนาตถ์ ไม่มี สักสิ่งเดียวที่พระเจ้าไม่ทรงสร้าง โดยทางพระวจนาตถ์ ชีวิตอยู่ในพระองค์ และชีวิตเป็นแสงสว่างสำ�หรับ มนุษย์ แสงสว่างส่องในความมืด และความมืดชนะแสงสว่างนั้นไม่ได้ พระเจ้าทรงส่งชายผู้หนึ่งมา เขาชื่อยอห์น เขามาในฐานะพยาน เพื่อเป็นพยานถึงแสงสว่าง ให้ทุกคน มีความเชื่ออาศัยเขา เขาไม่ใช่แสงสว่าง แต่เป็นพยานถึงแสงสว่าง แสงสว่างแท้จริงซึง่ ส่องสว่างแก่มนุษย์ทกุ คนกำ�ลังจะมาสูโ่ ลก พระวจนาตถ์ประทับอยูใ่ นโลก และโลก ถูกสร้างโดยอาศัยพระองค์ แต่โลกไม่รู้จักพระองค์ พระองค์เสด็จมาสู่บ้านเมืองของพระองค์ แต่ประชากร ของพระองค์ไม่ยอมรับพระองค์ ผู้ใดที่ยอมรับพระองค์ คือผู้ที่เชื่อในพระนามพระองค์ พระองค์ประทาน อำ�นาจให้ผู้นั้นกลายเป็นบุตรของพระเจ้า... พระวจนาตถ์ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ และเสด็จมาประทับอยู่ใน หมู่เรา เราได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ เป็นพระสิริรุ่งโรจน์ที่ทรงรับจากพระบิดา ในฐานะพระบุตร เพียงพระองค์เดียว เปี่ยมด้วยพระหรรษทานและความจริง ยอห์นเป็นพยานถึงพระองค์ และประกาศว่า “ผูท้ มี่ าภายหลังข้าพเจ้า ได้น�ำ หน้าข้าพเจ้า เพราะพระองค์ ทรงดำ�รงอยู่ก่อนข้าพเจ้า” จากความไพบูลย์ของพระองค์ เราทุกคนได้รับพระหรรษทานต่อเนื่องกัน เพราะ พระเจ้าได้ประทานธรรมบัญญัตผิ า่ นทางโมเสส แต่พระหรรษทานและความจริงมาทางพระเยซูคริสตเจ้า ไม่มี ใครเคยเห็นพระเจ้าเลย พระบุตรเพียงพระองค์เดียวผู้สถิตในพระอุระของพระบิดานั้นได้ทรงเปิดเผย ให้เรารู้ เราเดินทางมาในวันสุดท้ายของปี วันทีเ่ ราต้องขอบคุณพระเจ้า และทุกสิง่ ทุกอย่างทีผ่ า่ นเข้ามาใน ชีวิตของเรา พระวาจาวันนี้นำ�เราจบปีเก่านี้ด้วยเรื่องพระวจนาตถ์ และการเป็นพยานของยอห์นบัปติสต์ เพื่อ สอนเราทุกคนให้มคี วามหวังในปีใหม่ทกี่ �ำ ลังมา พระเจ้ากำ�ลังทำ�สิง่ ใหม่ พระองค์ก�ำ ลังส่องแสงสว่าง และให้ชวี ติ ใหม่แก่เรา ปีใหม่นี้ขอให้เราเป็นพยานถึงแสงสว่างและชีวิตใหม่นี้ ด้วยการดำ�เนินในความรัก และในความจริง อย่างหลงไปกับความเท็จและของเก่าที่ไม่สร้างสรรค์


ที่ปรึกษา : พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์ พระสังฆราช ลือชัย ธาตุวิสัย พระสังฆราช ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ประธาน

: เสถียร

เจนศักดิศ์ รีสกุล

รองประธาน : เพ็ญแข มาตระกูล เหรัญญิก

: อนุรักษ์ ตั้งกุลเกียรติ

เลขานุการ

: วีรวรรณ บุญสู

คณะกรรมการ : ปริญดา สุนีย์ รัชฎา นุชฎา วิยะนุช วีรวรรณ สมทรง จันทิมา ลูซี่ บุญเลิศ วรรณี

อมรสิริสมบูรณ์ คีรีกาญจนะรงค์ เล้ากอบกุล ดาษดาโดม ดาษดาโดม ผาสุขกิจวัฒนา ธุระวณิชย์ เอี่ยมมโน คีรีกาญจนะรงค์ หลักคำ� หลักคำ�

บรรณาธิการ : ซิสเตอร์พรรณี ภู่เรือนหงษ์

ผู้เขียนข้อคิด : พระสังฆราช ประธาน ศรีดารุณศีล พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์ พระสังฆราช พิบูลย์ วิสิฐนนทชัย พระสังฆราช บรรจง ไชยรา พระอัครสังฆราช จำ�เนียร สันติสุขนิรันดร์ พระสังฆราช ลือชัย ธาตุวิสัย คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์ คุณพ่อนิเวศน์ อินธิเสน คุณพ่อชีวิน สุวดินทร์กูร คุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม คุณพ่อสมชัย พิทยาพงศ์พร คุณพ่อเอนก นามวงษ์ คุณพ่อบรรจง สันติสุขนิรันดร์ คุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ คุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร คุณพ่อสุเทพ พงษ์วิรัชไชย คุณพ่อวิรัช อมรพัฒนา คุณพ่อสุรสิทธิ์ ชุ่มศรีพันธุ์ คุณพ่อสายชล คันยุไลย คุณพ่อจิตตพล ปลั่งกลาง คุณพ่อนิพนธ์ สาราจิตต์ คุณพ่ออมรกิจ พรหมภักดี คุณพ่อภควี เส็งเจริญ คุณพ่อวรวุธ สังขรัตน์

ติดต่อสอบถามได้ที่ : ซิสเตอร์พรรณี ภู่เรือนหงษ์ หรือ คุณวีรวรรณ บุญสู สำ�นักงานไบเบิล ไดอารี่ (อารามพระหฤทัยฯ) 94 ถนนสุนทรโกษา คลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทร. 02-6711853, 094-3693698



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.