เรื่อง/ภาพ : นนท์ นาเรจ
1. เมื่อสวรรค์อยู่ใกล้แค่เอื้อม ทะเลสาบดาลจึงแปดเปื้อน ด้วยน้ำมือของมนุษย์ได้โดยง่าย
181 BrandAge
Recover ภูมปิ ญ ั ญา ในแคชเมียร์ เมืองศรีนาคา ตั้งอยู่ในแคว้นจัมมู-แคชเมียร์ เป็นเมืองเอกอันเป็น เส้นทางการค้าขายบนเทือกเขาหิมาลัย และเป็นเพชรเม็ดงามของอินเดีย ทีถ่ กู ประคบประหงมมากที่สุดแห่งหนึ่ง พื้นที่นี้มีความอ่อนไหวด้านการเมือง เพราะประชากรส่วนใหญ่มีความแตกต่างจากคนอินเดียอยู่ค่อนข้างมาก ตั้ง แต่เรื่องของศาสนาที่คนส่วนใหญ่นับถืออิสลามมากกว่าฮินดู มีดินแดนที่อยู่ ทางตอนเหนือของแคชเมียร์ ซึ่งยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเป็นของใคร ระหว่าง อินเดียกับปากีสถาน เป็นเวลานานที่เกิดสงครามแย่งชิงดินแดน กระทบ กระทั่งกัน จนเป็นดินแดนต้องห้ามที่ใครมาแล้วก็จะต้องดูแลตัวเองให้มากเป็น พิเศษ นักเดินทางไม่ได้ยี่หระต่อภยันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ พวกเขา
บอกว่า มันเป็นความประสงค์ของพระเจ้าที่ได้มอบดินแดนที่สวยงามนี้ให้ เป็นสวรรค์บนดินของมนุษย์ เมื่อสวรรค์อยู่ใกล้แค่มนุษย์เอื้อมถึง มันย่อม แปดเปื้อนด้วยน้ำมือของมนุษย์ได้โดยง่าย ตั้งแต่ประตูการท่องเที่ยวแคช เมียร์ถูกเปิดออกเมื่อราวค.ศ.1990 จนวันนี้พื้นที่แห่งความสุขถูกบีบให้เล็กลง กลายเป็นความแออัด แย่งกันกินใช้ทรัพยากรที่มีอยู่น้อยนิด ถ้าหากเปรียบ แคชเมียร์ เป็นช่องทางการขายสินค้า ก็นับว่าอยู่ใน ทำเลที่ดีเยี่ยม บนเทือกเขาหิมาลัยการเดินทางให้ไปถึงนั้นมีหนทางค่อนข้าง ลำบาก ต้องไต่เขาสูงสุดของโลก แต่เมืองศรีนาคาในแคชเมียร์ อยู่ในพื้นที่ ราบกลางหุบเขา ที่นี่จึงเข้าถึงได้ง่ายและเหมาะกับนักท่องเที่ยวแทบทุกกลุ่ม จุดนัดพบของผู้คนอยู่ที่ทะเลสาบดาล (Dal Lake) มีถนนเลียบทะเลสาบชื่อ
2
บูเลอวาร์ด (Boulevard Street) ที่คลาคล่ำด้วยแหล่งช้อปปิ้งและที่พัก สำหรับคนไม่ชอบนอนบนเรือ ตลอดวันสภาพการจราจรที่มีถนนอยู่น้อย นิดก็คับคั่งไปด้วยยวดยานและคนเดิน เรือชิคาร่าหลายลำจอดรอเพื่อพา ลูกค้าของพวกเขา ลอยล่องไปกลางน้ำหลีกหนีความวุ่นวาย บ้านเรือ เป็นการทำสิ่งที่มีอยู่เดิมให้คงอยู่ และตอบสนองความ รู้สึกของคนยุคถัดมาได้เป็นอย่างดี หลังจากนักล่าอาณานิคมชาวอังกฤษ เข้ามาปกครอง ก็ใช่ว่าจะครอบงำอะไรได้ไปหมดทุกอย่าง คนอังกฤษ ไม่มีสิทธิ์ในการถือครองที่ดินในแคชเมียร์ พวกเขาจึงทำบ้านพักลอยน้ำ อยู่อาศัยกันในทะเลสาบดาล บรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติกของน้ำที่ ใสดุจราวกระจกบานใหญ่ สะท้อนแนวภูเขาหิมะและท้องฟ้าสีสะอาดตา ทำเอาเจ้าของถิ่นอยากที่จะมีชีวิตอยู่กลางน้ำบ้าง เมื่อหมดยุคของนักล่า อาณานิคม คนแคชเมียร์นำเรือที่ถูกทิ้งให้รกร้างมาปรับตกแต่งตามสไตล์ ของตัวเอง ทำเป็นที่พักบริการนักท่องเที่ยว จนกลายเป็นเอกลักษณ์และ มีบา้ นเรือเพิม่ ขึน้ มากกว่า 1,000 ลำแล้วล่ะครับ ผลทีต่ ามมาคือความแออัด ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมามีการสำรวจพบว่า น้ำในทะเลสาบตื้นเขินไปมาก
3
5 6
4
2-6. กลิ่นอายของความเป็นมุสลิมในศรีนาคา ที่รับเอาวัฒนธรรมดั้งเดิมมาประยุกต์ให้เข้ากับ รสนิยมของตัวเอง สังเกตที่รูปทรงที่มีกลิ่นอายของศาสนสถานของชาวพุทธและลวดลาย ดอกไม้สีฉูดฉาด 7-8. มุมสบายๆ ในเรือชิคาร่า (Shikara) ไม่ว่าจะมีมากมายสักกี่พันลำ แต่ละลำก็จะมีลวดลายไม่ซ้ำ แบบ นี่คือความเหมือนในความต่างของสัญลักษณ์แห่งการท่องเที่ยวแคชเมียร์
7 182 BrandAge 8
9
10 11
12
19.
เปเปอร์มาร์เช่ แม้ว่า จะมีขายกันในที่ต่างๆ ทั่วโลก แต่ที่แคชเมียร์ ลวดลายจะมีเอกลักษณ์ และเป็นของที่ระลึกที่ จะสร้างความทรงจำ ที่ดีให้แก่ผู้มาเยือน
19
13
9. 10-11. 12-13. 14-16. 17. 18.
14 15
16
17
18
ธรรมชาติอันเป็นจุดขายของการท่องเที่ยว วิวพาโนรามาที่ โซนามาร์ก (Sonamarg) แปลว่า “ท้องทุ่งแห่งทองคำ” วิถีชาวบ้านในชนบท ผู้หญิงกับเด็กๆ จะอยู่บ้าน คนแก่ก็ขายของที่เป็นผลิตผล ของพวกเขาเอง ในย่านเมืองเก่าศรีนาคา แววเสียงภูมิปัญญาคนแคชเมียร์ที่ผ่านลอดหน้าต่างมาให้ เราได้ยิน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของงานฝีมือที่กำลังจะเป็นลมหายใจสุดท้ายของพวกเขา บรรยากาศในย่านเมืองเก่า จุดที่นักท่องเที่ยวหลงลืม ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นสัญลักษณ์ ที่บอกตัวตนของคนแคชเมียร์ได้ชัดเจนที่สุด มุมสูงของเมืองศรีนาคา เห็นทะเลสาบดาล และจุดเล็กๆ ก็คือบ้านเรือที่แออัด กับเรือชิคาร่า แคชเมียร์ในอดีต
183 BrandAge
14
วัชพืชที่ขึ้นหนาแน่นและเป็นตัวการที่ทำให้น้ำในทะเลสาบเริ่มจะส่งกลิ่นและ ขาดออกซิเจน รัฐบาลอินเดียได้ออกกฎเหล็กในการควบคุมปริมาณของบ้าน เรือไม่ให้สร้างเพิ่มเติม และเริ่มที่จะนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการบำบัดน้ำ ชาวบ้านก็เริ่มที่จะช่วยกันนำเอาวัชพืชเก็บขึ้นมาใช้ประโยชน์ในการคลุมดิน ปลูกพืชผัก สวนดอกไม้ลงในแปลงเกษตรที่ลอยอยู่กลางน้ำ ความเจริญในแคชเมียร์ กระจุกตัวอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวเพียงไม่กี่ แห่ง รองรับอาชีพใหม่ๆ ให้กับคนท้องถิ่น เดี๋ยวนี้ผู้ชายในแคชเมียร์ ไม่ค่อยได้ ทำไร่ทำนา เลี้ยงสัตว์เหมือนเคยแล้วครับ พวกเขาออกจากบ้านและมุ่งหน้า มาคอยบริการให้พวกคุณได้สุขสบาย โชคดีหน่อยก็อาจจะได้ทิปก้อนใหญ่ จากนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก พอวกมาดูในย่านเมืองเก่าหรือตามชนบทที่ ห่างไกลจากแหล่งท่องเที่ยว ก็เห็นมีแต่ผู้หญิง เด็กๆ และคนแก่ ยังคงวนเวียน ใช้ชีวิตตามวิถีแบบดั้งเดิม แต่ความเก่าแก่แห่งภูมิปัญญานั้นกลับมีคุณค่าที่ ซ่อนเร้น เป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร และน่าจะได้รับการส่งเสริมและบอกต่อกัน ปากต่ อ ปาก ตั ้ ง แต่ ห ั ต ถกรรมท้ อ งถิ ่ น พรมแคชเมี ย ร์ ที ่ ย ั ง คงหลงเหลื อ ลายแทงสำหรับการทักถอลวดลายโบราณมาสู่คนรุ่นหลัง การทำเปเปอร์ มาร์เช่ สีสันฉูดฉาด ตวัดลายเส้นด้วยอารมณ์แห่งศิลปินชาวแคชเมียร์ การ ปลูกพืชไร่และวิถีของคนในท้องถิ่นที่ต้องต่อสู้กับสภาพอากาศที่แปรปรวนใน ทุกฤดูกาล หากว่าพวกเขาได้กลับไปทำงานที่ตัวเองถนัด และมีคนเห็น คุณค่าของผลงานที่ทำ เชื่อแน่ว่า ยังมีอีกหลายคนอยากที่จะกลับไปอยู่ บ้านไม่ว่าที่นั่นจะอยู่ในย่านเมืองเก่าหรือชนบทที่ห่างไกล ก็ไม่อดตาย ตราบใดที่เราได้นำเอาภูมิปัญญาเหล่านี้ มาตอบสนองความรู้สึกของ ผู้คนได้ สามารถจับต้องได้ และไม่ปล่อยให้มันดับสูญไปกับกาลเวลา เหมือนเช่นที่พวกเขาทำสำเร็จมาแล้วจากบ้านเรือกลางทะเลสาบดาล แคชเมียร์... ®