การตีสอน (Chastisement)
การตีสอน (Chastisement) วิศรุต จินดารัตน์ คาว่า “การตีสอน” มีความหมายว่า การตักเตือนสั่งสอน การทาให้อยู่ในระเบียบวินัย การปรับปรุงให้ดีขึ้น การลงโทษ พ่อแม่ผู้ปกครองมีภาระความรับผิดชอบในการอบรมว่ากล่าว ตักเตือนสั่งสอนให้ลูกอยู่ในระเบียบวินัย เมื่อเขากระทาผิดก็อาจมีการลงโทษตีสอนด้วยความ รัก การละเลยเพิกเฉยเมื่อบุตรกระทาผิดเป็นการเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้องซึ่งไม่เป็นไปตามพระคริสตธรรมคัมภีร์ พระธรรม 2 ซามูเอล 7:14-15 “เราจะเป็นบิดาของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา ถ้าเขากระทาผิดเราจะตีสอนเขาด้วยไม้เรียวของมนุษย์ ด้วยการเฆี่ยน แห่งบุตรมนุษย์ทั้งหลาย” ในฐานะบุตรต้องยอมรับในการตีสอนของพ่อแม่ ทั้งนี้เพื่อปลูกฝังระเบียบวินัย ปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมที่ออกนอกลู่ นอกทางของตน ให้สานึกว่าการตีสอนนั้น กระทาด้วยความรักความห่วงใยของผู้เป็นบิดามารดา พระธรรมฮีบรู 12:5-8 “และท่านได้ลืมคาเตือน ที่พระองค์ได้ทรงเตือนในฐานะที่เป็นบุตรว่า บุตรชายของเราเอ๋ย อย่าละเลยต่อการตีสอนขององค์พระผู้เป็น เจ้า และอย่าท้อถอยในเมื่อพระองค์ทรงตีสอนนั้น เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเตือนผู้ที่พระองค์ทรงรัก และเมื่อพระองค์ทรงรับผู้ใดเป็นบุตร พระองค์ก็ทรงตีสอนผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงรับและทนเอาเถอะเพราะเป็นการตีสอน พระเจ้าทรงปฏิบัติต่อท่านในฐานะที่ท่านเป็นบุตรของพระองค์ ด้วยว่ามีบุตรคนใดเล่าที่ บิดาไม่ได้ตีสอนเขา บ้าง แต่ถ้าท่านทั้งหลายไม่ได้ถูกตีสอนเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ท่านก็ไม่ได้เป็นบุตร แต่เป็นลูกที่ไม่มีพ่อ” ดังนั้นความหมายของคาว่า “การตีสอน” จึงครอบคลุมทั้งด้านการอบรมสั่งสอนให้บรรดาบุตรและธิดารู้ถึงสิ่งถูกต้องสิ่งใดผิดต้องหลีกเลี่ยงไม่ประพฤติปฏิบัติ อีกทั้งการลงโทษเมื่อมีการฝ่าฝืนทั้งนี้เพื่อให้เขาเติบโตขึ้นเป็นคนที่ทาประโยชน์ต่อตนเองและสังคม พระธรรมสุภาษิต 13:24 “บุคคลที่สงวนไม้เรียวก็เกลียดบุตรชายของตน แต่ผู้ที่รักเขาพยายามตีสอนเขา” พระคริสตธรรมคัมภีร์กาหนดบทบาทความรับผิดชอบของผู้เป็นพ่อแม่ให้อบรมสั่งสอน รวมถึงการตีสอนเมื่อมีการฝ่าฝืนระเบียบวินัย แม้เป็นการยากสาหรับ พ่อแม่ที่รักลูกดังแก้วตาดวงใจ แต่มีความจาเป็นอย่างยิ่งเป็นสิ่งที่พระเป็นเจ้ามอบหมายให้ผู้เป็นพ่อแม่กระทา นั่นคือการเลี้ยงดูฟูมฟัก (nurture and guidance) และ
ชี้แนะลูกของตนให้ดาเนินชีวิตในทางที่ถูกต้องสอดคล้องตามน้าพระทัยพระเป็นเจ้า การปล่อยปละละเลยต่อระเบียบวินัยจึงเป็นคาถามต่อผู้เ ป็นบิดามารดาว่าท่านรัก ลูกของท่านจริงหรือ การอบรมเลี้ยงดูและปลูกฝังวินัยรวมทั้งการตีสอนจึงเป็นเครื่องหมายของการกระทาที่พ่อแม่มีค วามรักอย่างจริงใจต่อลูก รวมทั้งเป็นการ ตอบสนองต่อพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า เพื่อชีวิตของบรรดาลูกหลานจะได้จาเริญขึ้นในพระคุณความรักของพระองค์ การตีสอนของผู้เป็นบิดามารดาจึงเป็นไปเพื่อแก้ไขปรับปรุงให้พฤติกรรมของบุตรเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อตีสอนพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ได้ตักเตือนว่าจงกระทา ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องและปราศจากอารมณ์ฉุนเฉียว พระธรรมเอเฟซัส 6:4 “ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน และการเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็น เจ้า” เหมือนบิดามารดาที่พยายามฝึกอบรมและปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมบุตรของตน พระเป็นเจ้าทรงวางกรอบแห่งวินัยแก่บรรดาประชากรของพระองค์ อันเป็น การพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนแล้วว่าผู้ที่ได้รับการตีสอนก็เป็นบุตรของพระองค์ พระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติ 8:5 “ท่านทั้งหลายพึงทราบอยู่ในใจเถอะว่า พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้ งหลายทรงตีสอนท่าน เหมือนกับบิดาตีสอนบุตร ของตนเช่นกัน” พระประสงค์ของพระเป็นเจ้าในการกาหนดวินัยแก่ประชากรของพระองค์เพื่อให้เขาปรับปรุงตนเองจากการกระทาที่ผิด เป็นการสอนให้เขาเชื่อฟัง พระองค์ และให้เขาเป็นผู้ที่พระองค์ทรงรัก พระธรรมสดุดี 94:12 “ข้าแต่พระเจ้า คนที่พระองค์ทรงตีสอนนั้น ก็เป็นสุข คือคนที่พระองค์ทรงสอนด้วยพระธรรมของพระองค์” ทั้งนี้การตีสอนจึงเป็นวิธีการที่พระเป็นเจ้าทรงขัดเกลาเราทุกคนให้เป็นคนที่สมบูรณ์ ปราศจากตาหนิ และให้ถึงซึ่งความเจริญเติบโตอย่างครบถ้วนบริบูรณ์ พระธรรมเอเฟซัส 5:25-27 “ฝ่ายสามีก็จงรักภรรยาของตน เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงรักคริสตจักร และทรงประทานพระองค์เองเพื่อคริสตจักร เพื่อจะได้ ทรงทาให้คริสตจั กรบริสุทธิ์ โดยการทรงชาระด้วยน้าและพระวจนะ เพื่อพระองค์จะได้มีคริสตจั กรที่มีสง่าราศี ไม่มีตาหนิริ้วรอย หรือมลทิ นใดๆเลย แต่บริสุทธิ์ ปราศจากตาหนิ”