ความกรุณาและปรานี (Kindness)
ความกรุณาและปรานี (Kindness) Misty Chorus พระธรรมเอเฟซัส 4:32 “จงเมตตาต่อกัน จงมีใจเอ็นดูต่อกันและอภัยโทษให้กัน เหมือนดังที่พระเจ้าได้ทรงโปรดอภัยโทษให้แก่ท่านในพระคริสต์นั้น” เสียงเพลง “Try a little kindness” ที่พวกเราเคยสอนเด็กๆตามโรงเรียนต่างๆร้องยังอยู่ในความทรงจาของพวกเราเสมอ ทั้งเนื้อร้องและทานองที่สอดคล้องกันอย่างลงตัวทาให้ ทุกครั้งที่มาถึงท่อนร้องรับของเพลงไม่อาจอดใจคิดถึงความหมายที่บรรดานักร้องและนักดนตรีต้องการสื่อสารออกมาได้ You’ve got to try a little kindness, show a little kindness. Just shine your light for everyone to see. And if you try a little kindness. Then you'll overlook the blindness of the narrow-minded people, on their narrow-minded streets
หากเรามีใจเอ็นดูต่อเขา สาแดงความเมตตาต่อเขาเพียงน้อยนิด ส่องสว่างแก่บรรดาคนเหล่านั้น เราก็จะมองข้ามความมืดบอดของผู้ที่มีใจคับแคบที่เดินบนหนทางคับแคบนั้น พี่น้องที่รัก ทาไมเราต้องมีใจเอ็นดูเมตตาต่อผู้อื่นคาตอบมีอยู่ในพระธรรมเอเฟซัส 4:32 เพราะพระเป็นเจ้าได้ทรงโปรดอภัยโทษ ทรงสาแดงความเมตตากรุณาต่อเราก่อนแล้ว พระองค์จึงทรงบัญชาให้เราทาตามที่พระองค์ทรงวางแบบอย่างไว้ ดังพระดารัสที่ปรากฏใน พระธรรมมัทธิว 7:12 “จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน...” เมื่อเรามีใจเมตตากรุณาต่อผู้อื่นเราเองย่อมได้รับความเป็นมิตรจากคนอื่นด้วย สิ่งนี้จะไม่มีวันสูญสิ้น เมื่อเริ่มต้นจากคนหนึ่งที่ หยิบยื่นให้แก่ผู้อื่นส่งต่อกันไปในที่สุดก็จะ กลับมายังผู้ให้นั่นเอง พระธรรมนางรูธ 2:10-12 “รูธก็ซบหน้าลงที่ดินกราบท่านแล้วพูดว่า ดิฉันเป็นแค่เพียงคนต่างด้าว ทาไมท่านจึงมองดิฉันด้วยความเอาใจใส่ แต่โบอาสตอบนางว่า ทุกอย่างที่ เจ้าได้ปฏิบัติต่อแม่ผัวของเจ้า ตั้งแต่สามีของเจ้าสิ้นชีวิตแล้วนั้น มีคนมาเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว และเขาบอกด้วยว่าเจ้ายอมจากบิดามารดาและบ้านเกิดเมืองนอนของเจ้ามาอยู่กับ ชนชาติที่เจ้าไม่รู้จักมาก่อน ขอพระเจ้าทรงตอบแทนความดีของเจ้าตามที่เจ้าได้กระทามาแล้วนั้นเถิด...”
สิ่งดีที่เธอได้กระทาเป็นเครื่องยืนยันคุณสมบัติความเป็นคนมีใจเมตตากรุณาต่อคนอื่นที่เธอประพฤติปฏิบัติตลอดมาอย่างต่อเนื่อง (consistently living) กับทุกคนแม้คน ต่างชาติภาษาที่ตนเองไม่รู้จักมาก่อน เพราะสิ่งนี้คือผลของพระวิญญาณที่สาแดงออกมาจากชีวิตของผู้ที่มีใจเมตตากรุณา พระธรรมกาลาเทีย 5:22 “ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ” จากน้าพุแห่งความรักที่หลั่งออกมาเป็นลาธารแห่งความเมตตากรุณา เราจะเห็นได้ว่าหากปราศจากความรักแล้วย่อมไม่มีความเอ็นดูและเอื้ออาทร พระธรรม 1 โครินธ์ 13:4 “ความรักนั้นก็อดทนนานและมีใจปรานี...” (Love is patient and kind…) ความมีใจเมตตาเอ็นดูนั้นมาจากจิตใจของผู้ให้โดยไม่มีการฝืนใจ ดังพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราช นิพนธ์เป็นบทละคร “เวนิ สวาณิช” “อันว่าความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน”