ฉันจะซื่อสัตย์ by (Misty Chorus Faith Mission)

Page 1

ฉันจะซื่อสัตย์ (ไทยนมัสการบทที่ 150)


ฉันจะซื่อสัตย์ (ไทยนมัสการบทที่ 150) พระคัมภีร์อ้างอิง พระธรรมสดุดี 119:30 “ข้าพระองค์ได้เลือกทางความสัตย์ซื่อ ข้าพระองค์ตั้งกฎหมายของพระองค์ ไว้ตรงหน้าข้าพระองค์” บทเพลง “ฉันจะซื่อสัตย์” (I Would Be True) เป็นเพลงนมัสการที่แต่งขึ้นมาแตกต่า งจากเพลง นมัสการทั่วไป กล่าวคือ ที่มาของเนื้อเพลงบทนี้เป็นการส่งข่าวสารทางจดหมายจากลูกชายซึ่งอยู่ที่ประเทศ ญี่ปุ่นถึงผู้เป็นแม่ของเขาที่อยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่เนื้อหาสาระของเพลง คือ ปณิธานอัน แน่วแน่ของ ผู้ประพันธ์จะยึดมั่นและทาตามสัญญาที่ให้ไว้ กับผู้เป็นแม่และพระเป็นเจ้า ทั้งยังเป็นการเตือนสติคนหนุ่ม สาวให้รักษาบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเป็นแนวทางในการดาเนินชีวิต บทเพลง “ฉันจะซื่อสัตย์” ประพันธ์โดย เฮาเวิร์ด เอ วอลเตอร์ (Howard A. Walter) เกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1883 ที่นิวบริเตน มลรัฐคอนเนคติกัต ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี ค.ศ. 1905 เขาสาเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยพรินสตัน (Princeton University) ด้วยคะแนนเกียรตินิยม ปี ค.ศ. 1906 วอลเตอร์ เ ดิ น ทางออกจากประเทศสหรั ฐ อเมริ ก าไปประเทศญี่ ปุ่น เพื่ อ สอนวิ ช า ภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ กรุงโตเกียว เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุเพียงยี่สิบปีเศษเท่านั้น การจากครอบครัวเป็นเวลานานและระยะทางที่ห่างไกลเช่นนี้ วอลเตอร์ต้องการให้ผู้เป็นแม่ของเขาคือนาง เฮนรี่ (Mrs. Henry Walter) ได้รับรู้ถึงปรัชญาในการดาเนินชีวิตของเขา ดังนั้นในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1906 เขาจึงเขียนจดหมายถึงเธอในรูปแบบของบทประพันธ์ 3 ข้อ โดยใช้ชื่อว่า “My Creed” หรือ “หลัก ความเชื่อของฉั น ” ผู้เป็นแม่ป ลื้มใจและมั่นใจในความแน่วแน่ของลูก ชายมาก จึงส่งบทประพั นธ์นี้ใ ห้ นิตยสาร Harper’s Magazine และได้รับการตีพิมพ์ในเดือน พฤษภาคม ค.ศ. 1907 หลังกลับจากประเทศญี่ปุ่น วอลเตอร์สมัครเข้าศึกษาต่อด้านศาสนศาสตร์ที่โรงเรีย นพระคริส ต ธรรมฮาร์ทฟอร์ด (Hartford Seminary) จนสาเร็จ และได้ทาหน้าที่ผู้ช่วยศิษยาภิบาลที่คริสตจักร แอสไซลัม ฮิลล์ (The Asylum Hill Congregational Church) ที่บ้านเกิดของเขาเป็นเวลา 3 ปี วันหนึ่งในช่วงกลางฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1909 วอลเตอร์ได้พบกับนักดนตรีคนหนึ่งชื่อ โจเซฟ เยตส์ พีค (Joseph Yates Peek) เมื่อพีคเห็นเนื้อเพลงเขาจึงเริ่มผิวปากและฮัมทานองเพลงนี้ ไม่นานนัก ทั้งเนื้อ เพลงและทานองก็เข้ากันได้อย่างกลมกลืน ส่วนการเรียบเรียงเสียงประสานนั้นได้รับการช่วยเหลือจาก นักเล่นออร์แกนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง คือ แกรนท์ คอลแฟกซ์ ทูลเลอร์ (Grant Colfax Tuller) ทาให้บทเพลงนี้ มีลีลาทานองและรูปแบบสมัยใหม่ โดยที่เราสามารถใช้เพลงนมัสการบทนี้กับจังหวะอื่นๆได้อีกเพื่อให้เกิด สีสันทางดนตรีร่วมสมัยโดยไม่กระทบต่อความรู้สึกเดิมของบทเพลง นอกจากนี้ “ฉันจะซื่อสัตย์” ยังเป็นบท


เพลงแห่งคาสัญญาที่คนหนุ่มสาวจับมือกันเป็นวงกลมร้องเพื่อปฏิญาณว่าจะรักษาไว้ซึ่งความสัตย์ซื่ อ จริงใจ ความเชื่อ และความสะอาดปราศจากมลทินทั้งกายและใจ เป็นที่ชอบจาเพาะพระพักตร์พระเจ้าและต่อหน้า คนทั้งปวง แม้ว่าบทเพลงนี้จะขึ้นต้นด้วยคาว่า “I” หรือ “ฉัน” แต่เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาหรือบริบทของ เพลงแล้ว ก็จะเห็นว่าวอลเตอร์มุ่งเน้นสาระสาคัญ “เพื่อผู้อื่น” มากกว่าที่จะเป็นเพื่อตนเอง ปี ค.ศ. 1913 วอลเตอร์ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการฝ่า ยบริหารของสมาคม Y.M.C.A. เขา ได้เดินทางไปรัฐลาฮอร์ ประเทศอินเดีย เพื่อช่วยเหลือเด็กยากจน เร่ร่อน โดยสอนหนังสือและประกาศพระ เกียรติคุณของพระเจ้าด้วยความรักและความห่วงใยที่มีต่อเด็กๆเหล่านั้น ก่อนเดินทางแพทย์ได้เตือนว่าเขา จะมีชีวิตอยู่อีกไม่เกิน 5 ปี เพราะโรคหัวใจของเขา วอลเตอร์ได้ตอบแพทย์ว่า “ถ้าเช่นนั้นผมต้องรีบทางาน ตั้งแต่ตอนนี้เลย เพราะเวลาผมเหลือไม่มาก” เขาทางานอย่างอุทิศทั้งแรงกายแรงใจเพื่อสังคม ปี ค.ศ. 1918 มีการระบาดอย่างรุนแรงของไข้หวัดใหญ่ในประเทศอินเดีย วอลเตอร์ได้ทางานอย่าง หนักท่ามกลางเด็กยากจนเหล่านั้น จนเขาติดเชื้อและจบชีวิตลงอย่างกะทันหันในขณะที่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม แน่น ก่อนสิ้นใจวอลเตอร์ได้กล่าวว่า “โอพระเยซูคริสตเจ้า ข้าพระองค์พร้อมแล้วที่จะไปอยู่กับพระองค์” ชีวิตของวอลเตอร์ได้รับการยกย่องในการเป็นแบบอย่างที่ดีของคนหนุ่มสาวทั่วไป ทั้งในด้านการ รับใช้ผู้อื่น และความซื่อสัตย์ ดังปรากฏในคาปฏิญาณที่ปรากฏอยู่ในรูปแบบของเพลงนมัสการ “I Would Be True” ซึ่งเนื้อร้องของเพลงบทนี้ได้รับการจารึกลงบนแผ่นศิลาตั้งไว้เป็นอนุสรณ์ที่คริสตจักรแอสไซลัม นอกจากนี้ ที่คริสตจักรแห่งนี้และที่โรงเรียนพระคริสตธรรมฮาร์ทฟอร์ดก็ยังได้จารึกชื่อของเขาในฐานะศิษย์ เก่าที่สร้างชื่อเสียงและทาคุณประโยชน์แก่สังคม นับเป็นชีวิตที่ดาเนินตามแบบอย่างขององค์พระเยซูคริสต์ จนวาระสุดท้าย


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.