ตามรอยพุทธบาทพระศาสดา (๓) รศ.ชูชีพ อ่ อนโคกสูง เช้ าตรู่ของวันอังคารที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ออก เดินทางจากวัดไทยพุทธคยาไปยังเมืองพาราณสี ซึง่ เป็ นเมืองเก่าแก่ที่สดุ ในโลกที่ยงั มีคนอยู่อาศัย มีอายุ มากกว่า ๔,๐๐๐ ปี เป็ นเมืองที่พระพุทธเจ้ าเสด็จมา เมื่อครัง้ ตรัสรู้ใหม่ ๆ เพื่อโปรดพระปั ญจวัคคีย์ทงห้ ั ้ า ที่ ป่ าอิสปิ ตนมฤคทายวันซึง่ ปั จจุบนั อยู่ในเขตเมืองสาร นาถ สักการะพระมูลคันธกุฎีที่พระพุทธเจ้ าเสด็จมา จาพรรษาเป็ นพรรษาแรกหลังทรงตรัสรู้ ชมเขต สังฆารามรอบพระมูลคันธกุฎี และหลักศิลาจารึกของ พระเจ้ าอโศกมหาราชที่จารึกไว้ ว่าพระพุทธองค์ทรง แสดงปฐมเทศนา
แล้ วไปชมเจาคันธีสถูป สถานที่พระพุทธองค์ทรงพบปั ญจวคีย์ทงห้ ั ้ า หลังจากทรงตรัสรู้แล้ ว
จากนันเข้ ้ าไปสักการะธัมเมกขสถูป ซึง่ สร้ างครอบจุดที่พระพุทธเจ้ าทรงแสดงธรรมจักร กัปปวัตนสูตร ซึง่ เป็ นปฐมเทศนาโปรดปั ญจวคีย์ จนโกณทัญญะบรรลุโสดาบันและกราบทูลขอบวช เป็ นพุทธสาวกรูปแรก นับว่าเป็ นวันแรกที่ครบองค์รัตนตรัย อันประกอบด้ วยพระพุทธพระธรรม และ พระสงฆ์ พระอาจารย์นาสวดมนต์และสวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตรเป็ นพุทธบูชาแล้ วเวียนประทักษิณ รอบพระสถูป ๓ รอบ ก่อนเดินทางกลับไปล่องแม่น ้าคงคาแล้ วเข้ าพักค้ างคืนในเมืองพาราณสีต่อไป เช้ าวันรุ่งขึ ้นเดินทางไปยังกรุงสาวัตถี หรื อ ศราวัสตี ในปั จจุบนั สมัยพุทธกาลเป็ นเมืองหลวง ของแคว้ นโกศล พระเจ้ าประเสนทิโกศลพระราชาที่ปกครองเมืองนี ้ ทรงเสื่อมใสและอุปถัมภ์ พระพุทธศาสนาเป็ นอันมาก พระพุทธเจ้ าทรงประทับอยู่ทีเมืองนี ้นานถึง ๒๕ พรรษา และทรงบาเพ็ญ พุทธกิจต่าง ๆ ไว้ เป็ นอันมาก ถึงสาวัตถีค่าพอดีทงั ้ ๆ ที่ระยะทางเพียง ๓๖๐ กิโลเมตรเท่านัน้ ทังนี ้ ้ เนื่องจากถนนไม่ค่อยดีและยังรถติดตลอดทาง เป็ นอันว่าไม่สามารถไปวัดเชตวันมหาวิหารได้ จึง ต้ องเข้ าพักค้ างคืนที่โรงแรมอีกคืนหนึ่ง รุ่งเช้ าวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ เดินทางไปพระเชตวันมหาวิหารที่ท่านอนาถบิณฑกะเศรษฐี สร้ าง ถวายพุทธเจ้ า มีเรื่ องราวที่แสดงถึงความศรัทธาของท่านเศรษฐี ที่มีต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้ าว่า ที่ดินที่จะสร้ างวัดถวายเป็ นสวนของเจ้ าเชตกุมาร เมื่อท่านเศรษฐี ไปขอซื ้อ เจ้ าเชต ฯ เสนอ ราคาโดยให้ นาทองคามาปูให้ เต็มเนื ้อที่ ๆ ต้ องการจะซื ้อทังหมดซึ ้ ง่ ท่านเศรษฐี ยอมทาตาม ให้ คนนา เกวียนบรรทุกทองคาแผ่นมาปูจนเกือบเต็มบริเวณที่ต้องการ เจ้ าเชต ฯ เห็นในความสัทธาแน่วแน่ของ ท่านเศรษฐี จึงร่วมทาบุญด้ วยโดยมอบที่ดินที่เหลือให้ และขอให้ มีคาว่า เชต จารึกไว้ ชื่ออารามด้ วย วัด นี ้จึงได้ ชื่อว่า เชตวันมหาวิหาร ตังแต่ ้ นนมา ั ้ ภายในประกอบด้ วยกุฎี ห้ องประชุม ห้ องน ้า เวจกุฎี บ่อ
น ้า ธรรมศาลา ฯลฯ เป็ นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สาคัญที่สดุ พระพุทธเจ้ าเสด็จมา ประทับจาพรรษาที่นี่ถึง ๑๙ พรรษา
พระคันธกุฎี
ธรรมสภา
พระอรหันต์ ทงั ้ แปดทิศ
กุฎีพระอรหันต์ รูปหนึ่ง
ห่างจากพระคันธกุฎีไม่มากนักมีต้นโพธิต้นสูงใหญ่ต้นหนึ่งชื่อ อานันทะโพธิ ปลูกในสมัย พุทธกาลเพื่อให้ พทุ ธศาสนิกชนกราบไหว้ สกั การะแทนพระพุทธเจ้ าขณะที่พระองค์มิได้ ประทับอยู่ที่ พระเชตวันมหาวิหาร ได้ รับการพิสจู น์วา่ มีอายุยืนยาวกว่า ๒,๐๐๐ ปี ในพระเชตะวันมหาวิหารนี ้ พระอาจารย์นาสวดมนต์ไหว้ พระ ทาสมาธิ และทาประทักษิณรอบพระคันธกุฎี และ อานันทะโพธิ เพื่อเป็ นการปฏิบชู าด้ วย
จากนันเดิ ้ นทางไปชมบ้ านของอานาถบิณฑิกเศรษฐี และบ้ านองคุลมิ าลซึง่ อยู่ห่างออกไป เล็กน้ อย แล้ วกลับเข้ าไปรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรมที่พกั เวลาบ่ายออกเดินทางต่อไปลุมพินี ในเนปาล แวะพักที่ ๙๖๐ ซึง่ เป็ นที่พกั ระหว่างทางสาหรับผู้แสวงบุญ ๙๖๐ มีความ หมายว่าสร้ างใน สมัยรัชการที่เก้ าเมื่อพระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติครบหกสิบปี มีเครื่ องดื่ม ขนม และโรตีที่อร่อย ที่สดุ ในโลกไว้ บริการ(ฟรี ) ส่วนจะหยอดตู้บริจาคหรื อไม่ เท่าไร ตามแต่จะศรัทธา ที่พิเศษมากคือ ห้ องน ้า สวย สะอาด หอม ราวกับห้ องน ้าในโรงแรมห้ าดาวก็ไม่ปาน
เดินทางต่อถึงวัดไทยลุมพินีประมาณสองทุ่ม รับประทานอาหารและถวายสังฆทาน แล้ วเข้ า ที่พกั วัดนานาชาติเกาหลีก่อนเข้ าชมสวนลุมพินีในวันพรุ่งนี ้