TOP - IR : E - Newsletter ไตรมาสที่ 1 ปี 2562 (Q1/2019)
บทบรรณิการ (Editor’s Note) สวัสดีค่ะ ท่านนักลงทุนและผู้สนใจทุกท่าน TOP-IR E-Newsletter เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่บริษัทฯ ได้จัดทาขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อกลางและ อีกช่องทางการในการสื่อสารให้นักลงทุนและผู้สนใจรับทราบข้อมูลธุรกิจและกิจการของ กลุ่มไทยออยล์และท่านยังสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดายและเปี่ยมไปด้วยสาระ ข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะเป็น รายงานสถานการณ์น้ามัน ผลสรุปการดาเนินงานรายไตรมาส รวมถึง รายละเอียดกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ สาหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลของ กลุ่มไทยออยล์เพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ www.thaioilgroup.com หน้านักลงทุน สัมพันธ์ ซึ่งจะมีข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลทางการเงิน ข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งท่าน ยั ง สามารถรั บ ชม VDO การแถลงผลการด าเนิ น งานรายไตรมาสของบริ ษั ท ฯผ่ า น webcast ได้อีกด้วยค่ะ บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลใน TOP-IR : E-Newsletter นี้จะเป็นประโยชน์กับท่าน นักลงทุน หากท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ หรือข้อปรับปรุง สามารถติดต่อมาที่ แผนก นักลงทุนสัมพันธ์ (TOP - IR) ขอบคุณค่ะ กองบรรณาธิการ
ผลการดาเนินงาน ไตรมาส 1 ปี 2562 (Performance Summary Q1/2019)
Unit : ล้านบาท (MB)
Q1/62 VS Q4/61
จากราคาปิดของน้ามันดิบดูไบที่สูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ทาให้กลุ่มไทยออยล์มีกาไรจากสต๊อกน้ามัน 2.7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลและมีกาไรขั้นต้นจาการผลิตของกลุ่ม รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ามันอยู่ที่ 7.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 8.8 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลจาก Q4/61 และเมื่อรวมผลขาดทุนจาก อนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยงสุทธิ 166 ล้านบาท ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์มี EBITDA 6,889 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,471 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีกาไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 652 ล้านบาท (โดยเป็นกาไรจากอัตรา แลกเปลี่ยนสุทธิของสินทรัพย์และหนี้สินที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศจานวน 334 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 885 ล้านบาท จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจาก ณ สิ้นไตรมาสก่อน ขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 137 ล้านบาท มาอยู่ที่ 1,215 ล้านบาท เนื่องจากเมื่อปลาย Q4/61 บริษัท ไทยออยล์ศูนย์บริหารเงิน จากัด (TTC) ได้ดาเนินการออก และเสนอขายหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิให้กับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ จานวนรวม 1,000 ล้าน เหรียญสหรัฐฯ เพื่อเตรียมความพร้อมทางการเงินรองรับการลงทุนตามแผนโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project) เมื่อหักค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว ทาให้ใน Q1/62 กลุ่มไทยออยล์มีกาไรสุทธิ 4,408 ล้านบาท หรือ 2.16 บาทต่อหุ้น เทียบกับผลขาดทุนสุทธิ 4,812 ล้านบาทใน Q4/61
Q1/62 VS Q1/61
กลุ่มไทยออยล์มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 90 ล้า นบาท และมีกาไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม ไม่รวม ผลกระทบจากสต๊อกน้ามันลดลง 3.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เป็นผลจากค่าการกลั่นที่ลดลงโดยได้รับแรง กดดันจากส่วนต่างราคาน้ามันสาเร็จรูปที่ปรับลดลง โดยเฉพาะส่วนต่างราคาน้ามันเบนซินที่ปรับลดลงอย่างมี นัยสาคัญจากภาวะอุปทานล้นตลาด รวมถึงส่วนต่างราคาน้ามันหล่อลื่นพื้นฐานกับน้ามันเตาที่ปรับตัวลดลง ค่อนข้างมากจากอุปทานในเอเชียที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้ส่วนต่างราคาสารพาราไซลีนกับน้ามันเบนซิน 95 จะปรับ เพิ่มขึ้นก็ตาม ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์มี EBITDA ลดลง 470 ล้านบาท ทั้งนี้ กลุ่มไทยออยล์มีกาไรจากอัตรา แลกเปลี่ยนลดลง 818 ล้านบาท โดยต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 465 ล้านบาท เมื่อหักค่าเสื่อมราคา และ ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว ใน Q1/62 กลุ่มไทยออยล์มีกาไรสุทธิลดลง 1,200 ล้านบาท จาก Q1/61
สถานการณ์ราคานามันในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 2018 $/bbl DUBAI (DB) ULG95 - DB JET - DB GO - DB HSFO - DB
Q1 63.9 13.7 16.1 14.8 (4.9)
Q2 72.1 12.1 15.3 14.6 (4.4)
2019 Q3 74.3 11.6 14.5 14.4 (2.5)
Q4 67.4 4.7 15.6 14.8 1.4
Q1 63.5 3.7 13.0 12.8 0.6
Q2TD* 70.6 8.6 11.8 12.2 (3.1)
2018 FY18 69.4 10.5 15.4 14.6 (2.6) * ข้อมูล ณ วันที่ 24 พ.ค. 62
ราคาน้ามันดิบใน Q1/62 ปรับตัวลดลงจาก Q4/61 และ Q1/61 เนื่องจากแรงกดดันจากอุปทานน้ามันดิบจากสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมีนาคม 2562 กาลังการผลิตน้ามันดิบของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 12.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับอุปทานน้ามันดิบจากลิเบียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากแหล่งผลิตน้ามันดิบ El Sharara ซึ่งมีกาลังการผลิต 315,000 บาร์เรลต่อวัน สามารถกลับมาดาเนินการผลิตได้อีกครั้งหลังถูกปิดและประกาศ เหตุสุดวิสัยตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 จากสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ นอกจากนี้ อุปสงค์น้ามันดิบชะลอตัวลงเนื่องจากโรงกลั่นน้ามันเข้าสู่ช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบารุง อีก ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกที่อ่อนแอหลังการเจรจาการค้าระหว่าง สหรัฐฯ กับจีนยังคงยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ามันดิบใน Q1/62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นระดับต่าที่สุดในปี 2561 เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการปรับลดกาลังการผลิตน้ามันดิบของกลุ่มผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกตาม ข้อตกลงการปรับลดปริมาณการผลิตรวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เทียบกับระดับการผลิตในเดือนตุลาคม 2561) ใน 6 เดือนแรกของปี 2562 โดยปริมาณการผลิตน้ามันดิบของกลุ่มโอเปก 11 ประเทศ (ไม่รวมอิหร่าน เวเนซุเอลา และลิเบีย ) ใน เดือนมีนาคม 2562 ปรับลดลงราว 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน นาโดยซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มโอเปกสามารถปรับลดกาลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 9.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ากว่าระดับข้อตกลงที่ 10.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากมาตรการคว่าบาตรของสหรัฐฯ ต่อเวเนซุเอลาและอิหร่าน ส่งผลให้อุปทานน้ามันดิบจากทั้งสองประเทศปรับตัวลดลง
ส่วนต่างราคาน้ามันเบนซินกับราคาน้ามันดิบดูไบใน Q1/62 ปรับลดลงเมื่อเทียบกับ Q4/61 และ Q1/61 เนื่องจากอุปทานน้ามันเบนซินอยู่ในระดับสูง หลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มกาลังการผลิตน้ามันดิบชนิดเบาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับอัตราการเติ บโตของ อุปสงค์น้ามันเบนซินในปี 2562 ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ส่วนต่างราคาน้ามันเบนซินได้ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายไตรมาส ในขณะเดียวกัน ส่วนต่างราคาน้ามันดีเซลและน้ามันอากาศยาน/น้ามันก๊าดกับราคาน้ามันดิบดูไบใน Q1/62 ก็ปรับตัวลดลงจาก ไตรมาสที่ผ่านมาและช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากแรงกดดันจากสภาพอากาศในช่วงฤดูหนาวที่หนาวน้อยกว่าปกติทั้งในภูมิภาคเอเชียเหนือและยุโรป ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ามันเพื่อทาความร้อนปรับลดลง ประกอบกับโรงกลั่นบางส่วนหันมา ผลิตน้ามันดีเซลและน้ามันอากาศยาน/น้ามันก๊าดแทนน้ามันเบนซิน หลังเผชิญภาวะราคาน้ามันเบนซินตกต่า ส่งผลให้อุปทานน้ามันดีเซลและน้ามันอากาศยาน/น้ามันก๊าดปรับตัวสูงขึ้น สาหรับส่วนต่างราคาน้ามันเตากับราคาน้ามันดิบดูไบใน Q1/62 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับ Q4/61 จากอุปสงค์ภาคการเดินเรือที่ปรับตัวลดลงหลังหมดช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก Q1/61 หลังได้รับแรงหนุนจากการปรับลดกาลังการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ามันดิบทั้ง ในและนอกกลุ่มโอเปกและมาตรการคว่าบาตรของสหรัฐฯ ต่อเวเนซุเอลา ทาให้อุปทานน้ามันดิบชนิดหนักปรับลดลง ส่งผลให้ผลผลิตน้ามันเตาทั่วโลกปรับตัวลดลงไปด้วย
เหตุการณ์ที่สาคัญของกลุ่มไทยออยล์ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2562 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น มีมติอนุมัติการขายทรัพย์สินเพื่อโอนกรรมสิทธิ์หน่วยผลิตพลังงาน (Energy Recovery Unit) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project : CFP) และการเข้าทาสัญญาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สัญญาซื้อขายทรัพย์สิน สัญญาจัดหาเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค สัญญาซื้อขายไฟฟ้า สัญญาดาเนินการและบารุงรักษา และสัญญาเช่าช่วงที่ดิน ตลอดจนสัญญาการรับโอนสิทธิและหน้าที่ และสัญญาอื่นใดที่จาเป็นและเกี่ยวข้องกับการ ขายทรัพย์สินเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ใน Energy Recovery Unit (“โครงการ ERU”) กับบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จากัด (มหาชน) (“GPSC”) หรือ บริษัทย่อย ของ GPSC ซึ่ง GPSC ถือหุ้นร้อยละ 100 โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์สาคัญเพื่อลดภาระเงินลงทุนโครงการ CFP เพิ่มสภาพคล่องและรองรับการลงทุน เพิ่มเติมในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและยังส่งผลให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนโครงการ CFP สูงขึ้นด้วย บริษัท ไทยออยล์ศูนย์บริหารเงิน จากัด (TTC) ได้ดาเนินการออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิให้กับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ จานวนรวม 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเตรียมความพร้อมทางการเงินรองรับการลงทุนตามแผนโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project) บริษัทฯ วางแผนที่จะหยุดการเดินเครื่องหน่วยกลั่นน้ามันดิบหน่วยที่ 3 (CDU-3) ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน 2562 ถึงกลางเดือนกรกฎาคม ประมาณ 30 วัน และหยุด การเดินเครื่องของหน่วยผลิตหลักอื่นๆ เพื่อตรวจซ่อมบารุงครั้งใหญ่ตามวาระ (Major Turnaround) และเชื่อมต่อหน่วยกลั่นใหม่ (Tie-in Activity) ตามแผนงานของ โครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project : CFP) ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะมีอัตราการใช้กาลังการกลั่นรวมทั้งปีอยู่ที่ประมาณร้อยละ 103 ของกาลังการกลั่นที่ 275,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ หน่วยกลั่นน้ามันดิบและหน่วยผลิตหลักอื่นๆ ข้างต้น จะกลับมาดาเนินการผลิตได้ตามปกติช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2562 โดยที่ระหว่างการหยุด ซ่อมบารุงดังกล่าว หน่วยผลิตอื่นๆ ที่เหลือยังคงดาเนินการตามปกติ
กิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ – ไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 ปี 2562 21- 22 Jan
Local Roadshow “A Big Step Forward”
24 Jan
Local Roadshow “Thailand Conference 2019”
25 Feb
Analyst Meeting Q4 & FY/2018
28 Feb
Opportunity Day Q4 & FY/2018
8 Mar
2 Apr
10 Apr
15 May
21 May
Local Roadshow “Thailand Energy & Utilities Sector Corporate Day”
Local Roadshow “Thailand Investment Conference 2019”
Annual General Meeting of Shareholders (AGM) 2019
Analyst Meeting Q1/2019
Opportunity Day Q1/2019