ร่าง พระราชบ ัญญ ัติภาษีทด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร้าง
http://www.richdadthai.com/rdtboard/viewtopic.php?t=269 หลักการ ให ้มีกฎหมายว่าด ้วยภาษี ทด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้าง เหตุผล โดยทีก ่ ฎหมายว่าด ้วยภาษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ และกฎหมายว่าด ้วยภาษี บํารุงท ้องทีไ่ ด ้ใช ้บังคับเป็ นเวลานานแล ้วการจัดเก็บภาษี ตาม กฎหมายทัง้ สองฉบับดังกล่าวไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปั จจุบัน ประกอบกับการประเมินภาษี ตามกฎหมายทัง้ สองฉบับดังกล่าว ไม่สอดคล ้องกัน เนือ ่ งจากภาษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ ตามกฎหมายว่าด ้วยภาษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ ทีค ่ ด ิ คํานวณจากค่ารายปี ของโรงเรือน และภาษี บํารุงท ้องทีต ่ ามกฎหมายว่าด ้วยภาษี บํารุงท ้องทีค ่ ด ิ คํานวณจากราคาปานกลางของทีด ่ น ิ ตามกฎหมายว่าด ้วยการกําหนด ราคาปานกลางของทีด ่ น ิ สําหรับการประเมินภาษี บํารุงท ้องที่ ตลอดจนขัน ้ ตอนการดําเนินการและปฏิบัตก ิ ารในเรือ ่ งต่างๆยังแต่ตา่ งกัน สมควรยกเลิกกฎหมายทัง้ สองฉบับดังกล่าว และให ้ใช ้กฎหมายว่าด ้วยภาษี ทด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างแทน โดยประเมินฐานภาษี จาก มูลค่าทัง้ หมดของทีด ่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้าง และจัดเก็บโดยองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ รวมทัง้ สมควรกําหนดให ้การดําเนินการต่างๆ เกีย ่ วกับการเก็บภาษี สอดคล ้องกับหลักการกระจายอํานาจให ้แก่องค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ด ้วย จึงจําเป็ นต ้องตราพระราชบัญญัตน ิ ี้ ร่างพระราชบัญญัตภ ิ าษี ทด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้าง โดยทีเ่ ป็ นการสมควรมีกฎหมายว่าด ้วยภาษี ทด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้าง พระราชบัญญัตน ิ ม ี้ บ ี ทบัญญัตบ ิ างประการเกีย ่ วกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึง่ มาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 35 และ มาตรา 48 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญติให ้กระทําได ้โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัตแ ิ ห่งกฎหมาย มาตรา 1 พระราชบัญญัตน ิ เี้ รียกว่า “พระราชบัญญัตภ ิ าษี ทด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้าง พ.ศ......” มาตรา 2 พระราชบัญญัตน ิ ใี้ ห ้ใช ้บังคับตัง้ แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็ นต ้นไป เว ้นแต่การจัดเก็บภาษี สําหรับทีด ่ น ิ ่ ้บั และสิงปลูกสร ้างตามพระราชบัญญัตน ิ ี้ ให ้ใช งคับตัง้ แต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ..... เป็ นต ้นไป มาตรา 3 ให ้ยกเลิก (1) พระราชบัญญัตภ ิ าษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ พ.ศ. 2475 (2) พระราชบัญญัตภ ิ าษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ แก ้ไขเพิม ่ เติม พ.ศ. 2475 (3) พระราชบัญญัตภ ิ าษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2475 (4) พระราชบัญญัตภ ิ าษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2475 (5) พระราชบัญญัตภ ิ าษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2475 (6) พระราชบัญญัตภ ิ าษี บํารุงท ้องที่ พ.ศ. 2508 (7) ประกาศของคณะปฏิวัต ิ ฉบับที่ 156 ลงวันที่ 4 มิถน ุ ายน พ.ศ. 2515 ( พระราชบัญญัตภ ิ าษี บํารุงท ้องที่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516 (9) พระราชกําหนดแก ้ไขเพิม ่ เติมพระราชบัญญัตภ ิ าษี บํารุงท ้องที่ พ.ศ. 2508 พ.ศ. 2524 (10) พระราชกําหนดแก ้ไขเพิม ่ เติมพระราชบัญญัตภ ิ าษี บํารุงท ้องที่ พ.ศ. 2508 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2529 (11) พระราชบัญญัตภ ิ าษี บํารุงท ้องที่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543 (12) พระราชบัญญัตก ิ ําหนดราคาปานกลางของทีด ่ น ิ สําหรับการประเมินภาษี บํารุงท ้องที่ พ.ศ. 2529 มาตรา 4 กฎหมาย กฎ ระเบียบและข ้อบังคับใดทีใ่ ช ้บังคับอยูก ่ อ ่ นวันทีพ ่ ระราชบัญญัตน ิ ใี้ ช ้บังคับ ทีก ่ ล่าวถึงหรืออ ้างถึงภาษี โรงเรือน และทีด ่ น ิ ตามกฎหมายว่าด ้วยภาษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ หรือภาษี บํารุงท ้องทีต ่ ามด ้วยกฎหมายว่าด ้วยภาษี บํารุงท ้องที่ ไม่ให ้มี ความหมายเป็ นการกล่าวถึงหรืออ ้างถึงภาษี ตามพระราชบัญญัตน ิ ี้ ้บั ้บั ่ ิ ของบุคคลใดได ้รับการยกเว ้นภาษี อากรตาม กฎหมายใดทีใ่ ช งคับอยูก ่ อ ่ นวันทีพ ่ ระราชบัญญัตน ิ ใี้ ช งคับ ซึงได ้บัญญัตใิ ห ้ทรัพย์สน กฎหมายโดยมิได ้ระบุถงึ ภาษี อากรประเภทใดประเภทหนึง่ โดยเฉพาะ หรือได ้รับการยกเว ้นภาษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ ตามกฎหมายว่าด ้วย ภาษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ หรือ๓ษี บํารุงท ้องทีต ่ ามกฎหมายว่าด ้วยภาษี บํารุงท ้องที่ ไม่ให ้มีความหมายเป็ นการยกเว ้นภาษี ตาม พระราชบัญญัตน ิ ี้ ความในวรรคสองมิให ้ใช ้บังคับกับการยกเว ้นภาษี อากรตามกฎหมายทีต ่ ราขึน ้ ตามข ้อผูกพันทีป ่ ระเทศไทยมีอยูต ่ อ ่ องค์การ สหประชาชาติ หรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือตามหลักถ ้อยทีถ ้อยปฏิบัตต ิ อ ่ กันกับนานาประเทศ มาตรา 5 ในพระราชบัญญัตน ิ ี้ “ภาษี ” หมายความว่า ภาษี ทด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้าง “ผู ้เสียภาษี ” หมายความว่า บุคคลธรรมดาหรือนิตบ ิ ค ุ คลซึง่ เป็ นเจ ้าของทีด ่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้าง หรือเป็ นผู ้ครอบครองหรือทําประโยชน์
ิ ของรัฐ ซึง่ เป็ นผู ้มีหน ้าทีเ่ สียภาษี ตามพระราชบัญญัตน ในทีด ่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้างอันเป็ นทรพย์สน ิ ี้ และให ้ความหมายรวมถึงผู ้มีหน ้าที่ เสียภาษี แทนผู ้เสียภาษี ตามพระราชบัญญัตน ิ ด ี้ ้วย “ทีด ่ น ิ ” หมายความว่า พืน ้ ทีด ่ น ิ และให ้ความหมายรวมถึงพืน ้ ทีท ่ เี่ ป็ นภูเขาหรือทีม ่ น ี ํ้ าด ้วย “สิง่ ปลูกสร ้าง” หมายความว่า โรงเรือน อาคาร ตึก รวมทัง้ คลังสินค ้าและแพทีบ ่ ค ุ คลอาจเข ้าอยูห ่ รือใช ้สอยได ้ และให ้หมายความ รวมถึงสิง่ ทีส ่ ร ้างขึน ้ อย่างอืน ่ ทีม ่ พ ี ระราชกฤษฎีกากําหนดให ้เป็ นสิง่ ปลูกสร ้างตามพระราชบัญญัตน ิ ด ี้ ้วย “องค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ ” หมายความว่า องค์การบริการส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริการส่วนตําบล กรุงเทพมหานคร เมือง พัทยา และองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ อืน ่ ตามทีม ่ ก ี ฎหมายจัดตัง้ “เขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ ” หมายความรวมถึง (1) เขตองค์การบริการส่วนจังหวัดทีอ ่ ยูน ่ อกเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ อืน ่ (2) เขตเทศบาล (3) เขตองค์การบริหารส่วนตําบล (4) เขตกรุงเทพมหานคร (5) เขตเมืองพัทยา (6) เขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ อืน ่ ตามทีม ่ ก ี ฎหมายจัดตัง้ กําหนด “ผู ้บริหารท ้องถิน ่ ” หมายความรวมถึง (1) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (2) นายกเทศมนตรี (3) นายกองค์การบริหารส่วนตําบล (4) ผู ้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (5) นายเมืองพัทยา (6) ผู ้บริหารท ้องถิน ่ หรือหัวหน ้าคณะผู ้บริหารท ้องถิน ่ อืน ่ ตามทีก ่ ฎหมายกําหนด “ข ้อบัญญัตท ิ ้องถิน ่ ” หมายความรวมถึง (1) ข ้อบัญญัตอ ิ งค์การบริหารส่วนจังหวัด (2) เทศบัญญัต ิ (3) ข ้อบัญญัตอ ิ งค์การบริหารส่วนตําบล (4) ข ้อบัญญัตก ิ รุงเทพมหานคร (5) ข ้อบัญญัตเิ มืองพัทยา (6) ข ้อบัญญัตข ิ ององค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ อืน ่ ตามทีก ่ ฎหมายกําหนด “รัฐวิสาหกิจ” หมายความว่า รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด ้วยวิธก ี ารงบประมาณ “คณะกรรมการกําหนดราคาประเมินทุนทรัพย์” หมายความว่า คณะกรรมการกําหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ตามประมวลกฎหมาย ทีด ่ น ิ “คณะอนุกรรมการประจําจังหวัด” หมายความว่า คณะอนุกรรมการประจําจังหวัดตามประมวลกฎหมายทีด ่ น ิ “พนักงานประเมิน” หมายความว่า ผู ้ซึง่ ได ้รับแต่งตัง้ ให ้มีหน ้าทีป ่ ระเมินภาษี และปฏิบัตห ิ น ้าทีอ ่ น ื่ ตามทีก ่ ฎหมายกําหนด “พนักงานเก็บภาษี ” หมายความว่า ผู ้ซึง่ ได ้รับแต่งตัง้ ให ้มีหน ้าทีร่ ับแบบแสดงรายการภาษี รับชําระภาษี จัดเก็บภาษี เร่งรัดให ้มีการ ชําระภาษี และปฏิบัตห ิ น ้าทีอ ่ น ื่ ตามทีก ่ ฎหมายกําหนด “ปี ” หมายความว่า ปี ปฏิทน ิ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู ้รักษาการตามพระราชบัญญัตน ิ ี้ มาตรา 6 ให ้รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตน ิ แ ี้ ละให ้มีอํานาจ ออกกฎกระทรวงร่วมกันเพือ ่ ปฏิบัตก ิ ารตามพระรชบัญญัตน ิ ี้ กฎกระทรวงนัน ้ เมือ ่ ได ้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล ้ว ให ้ใช ้บังคับได ้ ิ ดังต่อไปนี้ มาตรา 7 พระราชบัญญัตน ิ ม ี้ ใิ ห ้ชับังคับสําหรับทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างทีเ่ ป็ นทรัพย์สน ิ ส่วนสาธารณะสมบัตข ิ ฝ่ ายพระมหากัตริย ์ (1) ทรัพย์สน ิ องแผ่นดินตามกฎหมายว่าด ้วยการจัดระเบียบทรัพย์สน ิ ส่วนพระมหากษั ตริยต ิ ฝ่ ายพระมหากษั ตริยท (2) ทรัพย์สน ์ ามกฎหมายว่าด ้วยการจัดระเบียบทรัพย์สน ์ ม ี่ ไิ ด ้ใช ้หาผลประโยชน์ ิ ของรัฐทีใ่ ช ้ในกิจการของรัฐหรือสาธารณะ โดยมิได ้ใช ้หาผลประโยชน์ (3) ทรัพย์สน ิ ของรัฐวิสาหกิจทีใ่ ช ้การดําเนินกิจการของรัฐวิสาหกิจเพือ (4) ทรัพย์สน ่ การสาธารณูปโภคหรือสาธารณูปการตามทีก ่ ําหนดในพระ ราชกฤษฎีกา ิ ทีเ่ ป็ นทีท (5) ทรัพย์สน ่ ําการขององค์การสหประชาชาติ ทบวงการชํานัญพิเศษของสหประชาชาติหรือองค์การระหว่างประเทศอืน ่ ่ ั ซึงประเทศไทยมีข ้อผูกพันทีต ่ ้องยกเว ้นภาษี ให ้ตามอนุสญญาหรือความตกลงอืน ่ ใด ิ ทีเ่ ป็ นทีท (6) ทรัพย์สน ่ ําการสถานฑูตหรือสถานกงสุลของต่างประเทศ ทัง้ นีใ้ ห ้เป็ นไปตามหลักถ ้อยทีถ ้อยปฏิบัตต ิ อ ่ กัน ิ ของสภากาชาดไทย (7) ทรัพย์สน (
ิ ทีเ่ ป็ นศาสนสมบัตไิ ม่วา่ ของศาสนาใดทีใ่ ช ้เฉพาะเพือ ิ ทีเ่ ป็ น ทรัพย์สน ่ การประกอบศาสนกิจหรือกิจการสาธารณะ หรือทรัพย์สน
ศาลเจ ้า ทัง้ นี้ เฉพาะทีม ่ ไิ ด ้ใช ้หาผลประโยชน์ ิ ทีใ่ ช ้เป็ นสุสานสาธารณะหรือฌาปนสถานสาธารณะ โดยมิได ้รับประโยชน์ตอบแทน (9) ทรัพย์สน ิ ของเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจเฉพาะส่วนทีไ่ ด ้ยินยอมให ้ทางราชการหรือประชาชนใช ้เพือ (10) ทรัพย์สน ่ สาธารณะประโยชน์ โดย ิ นัน ิ นัน เจ ้าของทรัพย์สน ้ มิได ้ใช ้หรือหาผลประโยชน์ในทรัพย์สน ้ ิ ขององค์การหรือสถานสาธารณกุศลทีม (11) ทรัพย์สน ่ ไิ ด ้ใช ้ในการดําเนินกิจการเพือ ่ แสวงหากําไรตามทีก ่ ําหนดในพระราช กฤษฎีกา ิ ทีก (12) ทรัพย์สน ่ ําหนดในพระราชกฤษฎีกา หมวด 1 บททั่วไป มาตรา 8 ให ้องค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ มีอํานาจจัดเก็บภาษี จากทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างทีอ ่ ยูใ่ นเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ นัน ้ ตามหลักเกณฑ์และวิธก ี ารทีก ่ ําหนดในพระราชบัญญัตน ิ ี้ ภาษี ทจ ี่ ัดเก็บได ้ในเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ ใดให ้เป็ นรายได ้ขององค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ นัน ้ มาตรา 9 ผู ้เสียภาษี มห ี น ้าทีต ่ ้องเสียภาษี สําหรับทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างทีต ่ นถือครองอยูใ่ นวันที่ 1 มกราคมของแต่ละปี ตามฐานภาษี และอัตราภาษี ทก ี่ ําหนดในพระราชบัญญัตน ิ ี้ การเสียภาษี ของผู ้เสียภาษี หรือของบุคคลอืน ่ ใดตามพระราชบัญญัตน ิ ี้ ไม่เป็ นเหตุให ้เกิดสิทธิตามกฎหมายอืน ่ มาตรา 10 ในกรณีทม ี่ ก ี ารโอนกรรมสิทธิห ์ รือสิทธิครอบครองในทีด ่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้างทีอ ่ ยูในข่ายต ้องเสียภาษี ตามพระราชบัญญัตน ิ ี้ ให ้พนักงานเจ ้าหน ้าทีจ ่ ดทะเบียนสิทธิและนิตก ิ รรมเกีย ่ วกับอสังหาริมทรัพย์แจ ้งการโอนดังกล่าวต่อพนั กงานประเมินในเขตองค์กร ปกครองส่วนท ้องถิน ่ ทีท ่ ด ี่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้างตัง้ อยูต ่ ามแบบทีร่ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยกําหนด ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ มีการโอน มาตรา 11 ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ มีอํานาจแต่งตัง้ พนักงานสํารวจ พนักงานประเมิน และพนักงานเก็บภาษี เพือ ่ ปฏิบัตก ิ ารให ้เป็ นไปตาม พระราชบัญญัตน ิ ี้ ในการปฏิบัตห ิ น ้าทีต ่ ามพระราชบัญญัตน ิ ี้ ให ้พนักงานตามวรรคหนึง่ เป็ นเจ ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 12 ในกรณีทอ ี่ งค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ มอบหมายให ้บุคคลอืน ่ รับชําระภาษี แทนบุคคลนัน ้ อาจได ้รับส่วนลดหรือค่าใช ้จ่าย ตามอัตราทีก ่ ําหนดในกฎกระทรวงทัง้ นี้ ต ้องไม่เกินร ้อยละห ้าของภาษี ทรี่ ับชําระ มาตรา 13 การส่งคําสั่งเป็ นหนังสือ หนังสือแจ ้งการประเมินหรือหนังสืออืน ่ ให ้เจ ้าหน ้าทีส ่ ง่ ให ้แก่ผู ้รับโดยตรง หรือส่งทางไปรษณีย ์ ลงทะเบียนตอบรับ หรือให ้ส่ง ณ ภูมล ิ ําเนาหรือถิน ่ ทีอ ่ ยูห ่ รือสถานทีท ่ ําการของบุคคลนัน ้ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขน ึ้ ถึงพระอาทิตย์ ตกหรือในเวลาทําการของบุคคลนั น ้ ถ ้าไม่พบผู ้รับ ณ ภูมล ิ ําเนาหรือถิน ่ ทีอ ่ ยูห ่ รือสถานทีท ่ ําการของผู ้รับ จะส่งให ้แก่บค ุ คลใดซึง่ บรรลุ นิตภ ิ าวะแล ้ว และอยู่ ณ ภูมล ิ ําเนาหรือถิน ่ ทีอ ่ ยูห ่ รือสถานทีท ่ ําการทีป ่ รากฏว่าเป็ นของผู ้รับนัน ้ ก็ได ้ ถ ้าไม่สามารถส่งหนังสือตามวิธใี นวรรคหนึง่ ได ้ จะกระทําโดยวิธป ี ิ ดหนังสือในทีท ่ เี่ ห็นได ้ง่าย ณ ภูมล ิ ําเนาหรือถิน ่ ทีอ ่ ยูห ่ รือสถานทีท ่ ํา การของผู ้รับนัน ้ หรือลงประกาศแจ ้งความในหนังสือพิมพ์ก็ได ้ เมือ ่ ได ้ดําเนินการตามวรรคสองแล ้วและเวลาได ้ล่วงพ ้นไปไม่น ้อยกว่าเจ็ดวันนับต่วันทีไ่ ด ้ดําเนินการดังกล่าว ให ้ถือว่าผู ้นัน ้ ได ้รับ หนังสือนัน ้ แล ้ว หมวด 2 การสํารวจและจัดทําบัญชีรายการทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้าง มาตรา 14 เพือ ่ ประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี องค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ อาจจัดให ้มีการสํารวจทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างทีอ ่ ยูภ ่ ายในเขต องค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ เพือ ่ ให ้ทราบถึงประเภท จํานวน และขนาดของทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้าง ตามหลักเกณฑ์และวิธก ี ารที่ กําหนดไว ้ในหมวดนี้ มาตรา 15 ก่อนทีจ ่ ะดําเนินการสํารวจทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้าง ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ ประกาศกําหนดระยะเวลาทีจ ่ ะทําการสํารวจทีด ่ น ิ และ สิง่ ปลูกสร ้าง และแต่งตัง้ พนักงานสํารวจเพือ ่ ปฏิบัตก ิ ารดังกล่าว ในการนี้ ให ้ปิ ดประกาศไว ้ ณ สํานักงานหรือทีท ่ ําการขององค์กร ปกครองส่วนท ้องถิน ่ หรือสถานทีอ ่ น ื่ ตามทีเ่ ห็นสมควรภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ นัน ้ มาตรา 16 ให ้พนักงานสํารวจซึง่ ผู ้บริการส่วนท ้องถิน ่ แต่งตัง้ มีอํานาจทําการสํารวจทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างภายในเขตองค์กรปกครอง ส่วนท ้องถิน ่ เพือ ่ ให ้ทราบประเภทจํานวน และขนาดของทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างตลอดจนรายละเอียดต่างๆทีจ ่ ําเป็ นแก่การประเมิน ภาษี มาตรา 17 ในการสํารวจทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้าง ให ้พนักงานสํารวจมีอํานาจเรียกเอกสารหรือหลักฐานอืน ่ ใดทีเ่ กีย ่ วข ้องกับทีด ่ น ิ หรือสิง่ ่ ปลูกสร ้างจากผู ้เสียภาษี และมีอํานาจเข ้าไปในทีด ่ น ิ หรือสิงปลูกสร ้างหรือสถานทีอ ่ น ื่ ทีเ่ กีย ่ วข ้องในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขน ึ้ ถึงพระ อาทิตย์ตกหรือในเวลาทําการได ้ ทัง้ นีใ้ ห ้ผู ้เสียภาษี หรือผู ้เกีย ่ วข ้องอํานวยความสะดวกตามสมควร ในการนีพ ้ นักงานสํารวจอาจขอให ้ผู ้เสียภาษี ชเี้ ขตทีด ่ น ิ หรือให ้รายละเอียดเกีย ่ วกับทีด ่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้างได ้
มาตรา 18 เมือ ่ ได ้ดําเนินการสํารวจทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ ใดแล ้ว ให ้พนักงานสํารวจจัดทํา บัญชีรายการทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างโดยต ้องแสดงประเภท จํานวนและขนาดของทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้าง ตลอดจนรายละเอียดต่างๆที่ จําเป็ นแก่การประเมินภาษี และต ้องตรวจสอบข ้อมูลและรายละเอียดทีเ่ กีย ่ วข ้องให ้ถูกต ้องอยูเ่ สมอ และให ้ประกาศ ณ สํานักงานหรือ ทีท ่ ําการขององค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ หรือสถานทีอ ่ น ื่ ด ้วยตามทีเ่ ห็นสมควรภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ นัน ้ เป็ นเวลาไม่ น ้อยกว่าสามสิบวัน มาตรา 19 ในกรณีผู ้เสียภาษี เห็นว่าบัญชีรายการทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างทีไ่ ด ้จัดทําขึน ้ ไม่ถก ู ต ้องตามความเป้ นจริง ให ้ผู ้เสียภาษี มค ี ํา ร ้องแจ ้งไปยังผู ้บริหารส่วนท ้องถิน ่ เพือ ่ ข ้อแก ้ไขให ้ถูกต ้องได ้ เมือ ่ ได ้รับคําร ้องตามวรรคหนึง่ แล ้วให ้ผู ้บริหารส่วนท ้องถิน ่ มีคําสั่งให ้พนักงานสํารวจดําเนินการตรวจสอบข ้อเท็จจริงอีกครัง้ หนึง่ โดยเร็ว เมือ ่ ได ้ดําเนินการแล ้ว ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ แจ ้งผลการตรวจสอบให ้ผู ้เสียภาษี ทราบ ในกรณีต ้องแก ้ไขบัญชีรายการทีด ่ น ิ และ สิง่ ปลูกสร ้าง ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ ดําเนินการแก ้ไขบัญชีรายการทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างให ้ถูกต ้อง มาตรา 20 ในกรณีพนักงานสํารวจพบว่าบัญชีรายการทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างทีไ่ ด ้จัดทําขึน ้ ไม่ถก ู ต ้องตามความเป็ นจริง ให ้เสนอเรือ ่ ง ต่อผู ้บริหารท ้องถิน ่ เพือ ่ มีคําสั่งอนุมัตใิ ห ้มีการแก ้ไขเพิม ่ เติมบัญชีรายการทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้าง หมวด 3 ฐานภาษี อัตราภาษี และการคํานวณภาษี มาตรา 21 ฐานภาษี ในการคํานวณภาษี ตามพระราชบัญญัตน ิ ี้ ได ้แก่มล ู ค่าทัง้ หมดของทีด ่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้างทีค ่ ด ิ จากราคาประเมิน ิ อืน ทุนทรัพย์รวมกับมูลค่าของทรัพย์สน ่ อันติดกับทีด ่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้างนัน ้ ทีม ่ ล ี ักษณะถาวรหรือประกอบเป็ นอันเดียวกับทีด ่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้าง การกําหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ให ้เป็ นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (1) ทีด ่ น ิ ทีไ่ ม่มส ี งิ่ ปลูกสร ้าง ให ้ใช ้ราคาประเมินทุนทรัพย์ทด ี่ น ิ เป็ นฐานภาษี (2) ทีด ่ น ิ ทีม ่ ส ี งิ่ ปลูกสร ้างให ้ใช ้ราคาประเมินทุนทรัพย์ทด ี่ น ิ รวมกับราคาประเมินทุนทรัพย์สงิ่ ปลูกสร ้างเป็ นฐานภาษี (3) ห ้องชุด ให ้ใช ้ราคาประเมินทุนทรัพย์ห ้องชุดเป็ นฐานภาษี มาตรา 22 ราคาประเมินทุนทรัพย์ ตามมาตรา 21ให ้เป็ นไปตามราคาประเมินทุนทรัพย์ของอสังหาริมทรัพย์เพือ ่ เรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิตก ิ รรมตามประมวลกฎหมายทีด ่ น ิ ทีค ่ ณะอนุกรรมการประจําจังหวัดกําหนดโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการการกําหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ ในกรณีทม ี่ ก ี ารประกาศเปลีย ่ นแปลงราคาประเมินทุนทรัพย์ระหว่างปี ให ้ใช ้ราคาปกระเมินทุนทรัพย์ทเี่ ปลีย ่ นแปลงนัน ้ เป็ นฐานในการ คํานวณภาษี สําหรับปี ถัดจากปี ทป ี่ ระกาศเปลีย ่ นแปลงราคาประเมินทุนทรัพย์นัน ้ มาตรา 23 เพือ ่ ประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี ให ้กรมธนารักษ์ หรือสํานักงานธนารักษ์ พน ื้ ทีแ ่ ล ้วแต่กรณี ส่งหรือจัดให ้มีการส่งราคา ประเมินทุนทรัพย์ตามมาตรา 21 ให ้แก่องค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ ภายในสามสิบวันนับแต่วันทีค ่ ณะอนุกรรมการประจําจังหวัด ประกาศใช ้ราคาประเมินทุนทรัพย์ มาตรา 24 อัตราภาษี ทจ ี่ ัดเก็บตามพระราชบัญญัตน ิ ี้ ให ้มีอัตราไม่เกินร ้อยละ 0.1 ของฐานภาษี ให ้องค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ มี อํานาจออกข ้อบัญญัตท ิ ้องถิน ่ กําหนดอัตราภาษี ทใี่ ช ้จัดเก็บภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ นัน ้ หนึง่ อัตรา โดยคํานึงถึงความ จําเป็ นขององค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ และความสามารถของผู ้เสียภาษี ในการเสียภาษี ประกอบด ้วย มาตรา 25 ในแต่ละจังหวัดยกเว ้นกรุงเทพมหานคร ให ้มีคณะกรรมการพิจารณาอัตราภาษี ทด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างประจําจังหวัด ประกอบด ้วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู ้แทนของนายกเทศมนตรีอําเภอละหนึง่ คน ผู ้แทนของนายกองค์การบริหารส่วน ตําบลอําเภอละหนึง่ คน ผู ้บริหารท ้องถิน ่ อืน ่ ซึง่ อยูใ่ นจังหวัดนัน ้ และปลัดจังหวัด เป็ นกรรมการและให ้หัวหน ้ากลุม ่ ส่งเสริมการปกครอง ท ้องถิน ่ จังหวัดเป็ นกรรมการและเลขานุการ ให ้นายกเทศมนตรีและนายกองค์การบริหารส่วนตําบลในแต่ละอําเภอหรือกิง่ อําเภอเป็ นผู ้เลือกผู ้แทนของนายกเทศมนตรีและนายก องค์การบริหารส่วนตําบล แล ้วแต่กรณี ตามระเบียบทีก ่ ระทรวงมหาดไทยกําหนด ให ้คณะกรรมการพิจารณาอัตราภาษี ทด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างประจําจังหวัดเลือกกรรมการหนึง่ คนซึง่ มิใช่ข ้าราชการพลเรือนเป็ น ประธาน มาตรา 26 ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ เสนออัตราภาษี ทป ี่ ระสงค์จะจัดเก็บต่อคณะกรรมการพิจารณาอัตราภาษี ทด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างประจํา จังหวัดตามมาตรา 25 เพือ ่ พิจารณาให ้ความเห็นประกอบการกําหนดอัตราภาษี ในร่างข ้อบัญญัตท ิ ้องถิน ่ ขององค์กรปกครองส่วน ท ้องถิน ่ นัน ้ มาตรา 27 ในกรณีทอ ี่ ัตราภาษี ทใี่ ช ้จัดเก็บภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ ใดเมือ ่ เปรียบเทียบถึงความจําเป็ นและ ความสามารถของผู ้เสียภาษี ในการเสียภาษี ในเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ นัน ้ แล ้วเป็ นอัตราทีส ่ งู หรือตํ่าเกินไป อาจมีการกําหนด อัตราทีใ่ ช ้จัดเก็บภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ นัน ้ โดยตราเป็ นพระราชกฤษฎีกาได ้ ทัง้ นี้ ต ้องไม่เกินอัตราทีก ่ ําหนดในมาตรา 24 พระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึง่ ให ้ใช ้บังคับได ้ไม่เกินสองปี มาตรา 28 ให ้องค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ ประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของทีด ่ น ิ หลักเกณฑ์การประเมินทุนทรัพย์สําหรับสิง่ ปลูก
สร ้าง อัตราภาษี ทจ ี่ ัดเก็บ และรายละเอียดอืน ่ ทีจ ่ ําเป็ นในการจัดเก็ บภาษี ในแต่ละปี ณ สํานักงานหรือทีท ่ ําการขององค์กรปกครอง ส่วนท ้องถิน ่ ก่อนวันที่ 1 มกราคมของปี นัน ้ ทัง้ นี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธก ี ารทีก ่ ําหนดในกฎกระทรวง มาตรา 29 ในกรณีทท ี่ ด ี่ น ิ ทีต ่ ้องเสียภาษี เป็ นทีด ่ น ิ ทีท ่ งิ้ ไว ้ว่างเปล่าหรือไม่ได ้ใช ้ประโยชน์ตามควรแก่สภาพทีด ่ น ิ ให ้เสียภาษี เพิม ่ ขึน ้ อีกหนึง่ เท่าของจํานวนภาษี ทต ี่ ้องเสียสําหรับทีด ่ น ิ นัน ้ การพิจารณาว่ามีการใช ้ประโยชน์ตามควรแก่สภาพทีด ่ น ิ ตามวรรคหนึง่ ให ้เป็ นไปตามหลักเกณฑ์ทก ี่ ําหนดในกฎกระทรวง หมวด 4 การยืน ่ แบบ การชําระภาษี และการคืนภาษี มาตรา 30 ก่อนเริม ่ ปี ภาษี ให ้พนักงานประเมินแจ ้งการประเมินภาษี และส่งแบบแสดงรายการภาษี ให ้แก่ผู ้เสียภาษี ลว่ งหน ้าก่อนวันที่ 1 มกราคมของปี นัน ้ ในการนีต ้ ้องระบุรายการและราคาประเมินทุนทรัพย์ของทีด ่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้าง อัตราภาษี จํานวนภาษี ทต ี่ ้องเสีย และรายละเอียดอืน ่ ทีใ่ ช ้ในการประเมินภาษี ให ้แก่ผู ้เสียภาษี ทราบด ้วย การแจ ้งการประเมินภาษี และการส่งแบบแสดงรายการภาษี ให ้เป็ นไปตามหลักเกณฑ์และวิธก ี ารทีก ่ ําหนดในกฎกระทรวง แบบแสดงรายการภาษี ให ้เป็ นไปตามทีร่ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยประกาศกําหนด มาตรา 31 ในการปฏิบัตห ิ น ้าทีข ่ องพนักงานประเมินมีอํานาจเรียกผู ้เสียภาษี หรือบุคคลซึง่ เกีย ่ วข ้องมาให ้ถ ้อยคํา หรือส่งเอกสารหรือ หลักฐานอืน ่ ใดมาเพือ ่ ตรวจสอบภายในระยะเวลาทีก ่ ําหนด โดยจะต ้องมีหนังสือแจ ้งให ้บุคคลดังกล่าวทราบล่วงหน ้าไม่น ้อยกว่าเจ็ด วัน มาตรา 32 ให ้ผู ้เสียภาษี ยน ื่ แบบแสดงรายการภาษี พร ้อมกับชําระภาษี ภายในเดือนเมษายนของทุกปี ในกรณีมเี หตุจําเป็ น ผู ้บริหารส่วนท ้องถิน ่ อาจประกาศขยายหรือเลือ ่ นกําหนดเวลายืน ่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี ตามวรรค หนึง่ ออกไปได ้ ถ ้าในการยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี ผู ้เสียภาษี ไม่สามารถระบุฐานภาษี ได ้ ไม่ว่าโดยเหตุใดๆ ให ้พนักงานประเมินทําการประเมินฐาน ภาษี เพือ ่ ให ้ผู ้เสียภาษี ดําเนินการชําระภาษี ตอ ่ ไป มาตรา 33 ให ้บุคคลดังต่อไปนีม ้ ห ี น ้าทีย ่ น ื่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี แทนผู ้เสียภาษี (1) ผู ้จัดการมรดกหรือทายาท ในกรณีทผ ี่ ู ้เสียภาษี ถงึ แก่ความตาย ิ ในกรณีทผ (2) ผู ้จัดการทรัพย์สน ี่ ู ้เสียภาษี เป็ นผู ้ไม่อยูต ่ ามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด ้วยเรือ ่ งสาบสูญ (3) ผู ้แทนโดยชอบธรรม ผู ้อนุบาลหรือผู ้พิทักษ์ ในกรณีทผ ี่ ู ้เสียภาษี เป็ นผู ้เยาว์หรือคนไร ้ความสามารถหรือคนเสมือนไร ้ ความสามารถ แล ้วแต่กรณี (4) ผู ้แทนของนิตบ ิ ค ุ คล ในกรณีทผ ี่ ู ้เสียภาษี เป็ นนิตบ ิ ค ุ คล (5) ผู ้ชําระบัญชี ในกรณีทผ ี่ ู ้เสียภาษี เป็ นนิตบ ิ ค ุ คลเลิกกันโดยมีการชําระบัญชี ิ ทีต (6) เจ ้าของรวมคนหนึง่ คนใด ในกรณีทท ี่ รัพย์สน ่ ้องเสียภาษี เป็ นของบุคคลหลายคนรวมกัน มาตรา 34 ในกรณีทท ี่ ด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างเป็ นของต่างเจ ้าของกัน ให ้เจ ้าของทีด ่ น ิ มีหน ้าทีย ่ น ื่ แบบแสดงรายการภาษี พร ้อมชําระภาษี โดยให ้เจ ้าของทีด ่ น ิ และเจ ้าของสิง่ ปลูกสร ้างเหล่านัน ้ มีหน ้าทีร่ ับผิดชอบร่วมกันสําหรับภาษี ทต ี่ ้องชําระดังกล่าว มาตรา 35 ผู ้เสียภาษี หรือบุคคลธรรมดาตามมาตรา 33 อาจมอบหมายให ้บุคคลอืน ่ ยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี แทน ตนเองก็ได ้ โดยไม่จําเป็ นต ้องทําหนังสือมอบอํานาจ มาตรา 36 ให ้ผู ้เสียภาษี ยน ื่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี ตอ ่ พนักงานเก็บภาษี ณ สถานทีด ่ ังต่อไปนี้ ิ นัน (1) ทีท ่ ําการสภาตําบลทีท ่ รัพย์สน ้ ตัง้ อยู่ สําหรับทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างทีอ ่ ยูใ่ นเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด (2) สํานักงานเทศบาล สําหรับทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างทีอ ่ ยูใ่ นเขตเทศบาล (3) ทีท ่ ําการองค์การบริหารส่วนตําบล สําหรับทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างทีอ ่ ยูใ่ นเขตองค์การบริหารส่วนตําบล (4) สํานักงานเขตทีท ่ ด ี่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้างนัน ้ ตัง้ อยู่ สําหรับทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างทีอ ่ ยูใ่ นเขตกรุงเทพมหานคร (5) ศาลาว่าการเมืองพัทยา สําหรับทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างทีอ ่ ยูใ่ นเขตเมืองพัทยา (6) ทีท ่ ําการองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ อืน ่ ตามทีก ่ ฎหมายกําหนด สําหรับทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างทีอ ่ ยูใ่ นเขตองค์กรปกครองส่วน ท ้องถิน ่ นัน ้ ในกรณีทม ี่ ค ี วามจําเป็ น ผู ้บริหารท ้องถิน ่ อาจกําหนดให ้ใช ้สถานทีอ ่ น ื่ ภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ นัน ้ เป็ นสถานทีส ่ ําหรับยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี ตามวรรคหนึง่ ได ้ตามทีเ่ ห็นสมควร ่ ในใบเสร็จรับเงินเป็ นวันที่ การยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี ตามวรรคหนึง่ ให ้ถือว่าวันทีพ ่ นักงานเก็บภาษี ลงลายมือชือ ชําระภาษี มาตรา 37 เพือ ่ เป็ นการอํานวยความสะดวกสําหรับการเสียภาษี ผู ้เสียภาษี อาจยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี โดยทาง ไปรษณียล ์ งทะเบียนตอบรับหรือโดยวิธก ี ารอืน ่ ใดตามทีร่ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยประกาศกําหนดได ้ การยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี โดยทางไปรษณียล ์ งทะเบียนตอบรับตามวรรคหนึง่ ให ้ผู ้เสียภาษี สง่ แบบแสดงรายการ ภาษี พร ้อมกับธนาณั ต ิ ตั๋วแลกเงิน เช็คธนาคารหรือเช็คทีธ่ นาคารรับรองสั่งจ่ายให ้แก่องค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ ทีท ่ ด ี่ น ิ หรือสิง่ ปลูก สร ้างตัง้ อยูใ่ นเขต และให ้ถือว่าวันทีห ่ น่วยงานให ้บริการไปรษณียป ์ ระทับตราลงทะเบียนเป็ นวันทีย ่ น ื่ แบบแสดงรายการภาษี และวัน
ชําระภาษี ิ ธิ มาตรา 38 ในการชําระภาษี ตามพระราชบัญญัตน ิ ี้ ผู ้เสียภาษี อาจขอผ่อนชําระเป็ นงวด งวดละเท่าๆกันก็ได ้ จํานวนภาษี ทจ ี่ ะมีสท ผ่อนชําระ หลักเกณฑ์และวิธก ี ารในการผ่อนชําระ ให ้เป็ นไปตามทีก ่ ําหนดในกฎกระทรวง ในกรณีทผ ี่ ู ้เสียภาษี ไม่ชําระภาษี ตามระยะเวลาทีก ่ ําหนดในการผ่อนชําระ ให ้ผู ้เสียภาษี หมดสิทธิทจ ี่ ะผ่อนชําระ และต ้องเสียเงินเพิม ่ อีกร ้อยละหนึง่ ต่อเดือนของจํานวนภาษี ค ้างชําระ เศษของเดือนให ้นับเป็ นหนึง่ เดือน มาตรา 39 ผู ้ใดเสียภาษี โดยไม่มห ี น ้าทีต ่ ้องเสีย หรือเสียภาษี เกินกว่าจํานวนทีต ่ ้องเสีย ไม่ว่าโดยความผิดพลาดของตนเองหรือจาก ิ การประเมินของพนักงานประเมิน ผู ้นัน ้ มีสทธิได ้รับเงินคืน การขอรับเงินคืนตามวรรคหนึง่ ให ้ยืน ่ คําร ้องต่อผู ้บริหารท ้องถิน ่ หรือผู ้ซึง่ ผู ้บริหารท ้องถิน ่ มอบหมายตามแบบทีร่ ัฐมนตรีวา่ การ ้ จงใดๆ ประกอบ กระทรวงมหาดไทยกําหนด ภายในหนึง่ ปี นับแต่วันทีเ่ สียภาษี ในการนีใ้ ห ้ผู ้ยืน ่ คําร ้องส่งเอกสาร หลักฐาน หรือคําชีแ คําร ้องด ้วย ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ พิจารณาคําร ้องให ้เสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันทีไ่ ด ้รับคําร ้อง และให ้แจ ้งผลการพิจารณาคําร ้องให ้ผู ้ยืน ่ คําร ้อง ทราบภายในสิบห ้าวันนับแต่วันทีพ ่ จ ิ ารณาเสร็จ ิ ธิได ้รับเงินคืน ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ในกรณีทผ ี่ ู ้บริหารท ้องถิน ่ เห็นว่าผู ้ยืน ่ คําร ้องมีสท ่ มีคําสั่งคืนเงินให ้แก่ผู ้ยืน ่ คําร ้องโดยต ้องแจ ้งคําสั่ง ่ และกําหนดระยะเวลาในการมารับเงินคืนให ้ผู ้ยืน ่ คําร ้องทราบภายในสิบห ้าวันนับแต่วันทีไ่ ด ้มีคําสัง ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ สั่งให ้ดอกเบีย ้ แก่ผู ้ได ้รับเงินคืนในอัตราร ้อยละหนึง่ ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินทีไ่ ด ้รับคืนโดยไม่คด ิ ทบต ้น นับแต่วันทีย ่ น ื่ คําร ้องขอรับคืนเงิน แต่ต ้องไม่เกินจํานวนเงินทีไ่ ด ้รับคืน ถ ้าผู ้ยืน ่ คําร ้องไม่มารับเงินคืนภายในหนึง่ ปี นับแต่วันทีไ่ ด ้รับแจ ้ง ให ้เงินนัน ้ ตกเป็ นขององค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ หมวด 5 การลดและยกเว ้นภาษี ่ มสภาพ มาตรา 40 ในกรณีทท ี่ ด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างในเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ ใดได ้รับความเสียหายมากหรือถูกทําลายให ้เสือ ด ้วยเหตุอันพ ้นวิสัยทีจ ่ ะป้ องกันได ้โดยทั่วไป ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ มีอํานาจประกาศลดหรือยกเว ้นภาษี ภายในเขตพืน ้ ทีท ่ เี่ กิดเหตุนัน ้ ในช่วงระยะเวลาใดช่วงระยะเวลาหนึง่ ได ้ โดยต ้องเป็ นไปตามระเบียบทีก ่ ระทรวงมหาดไทยกําหนด การลดหรือยกเว ้นภาษี ตามวรรคหนึง่ ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ เสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาอัตราภาษี ทด ี่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างประจํา จังหวัดตามมาตรา 25 เพือ ่ พิจารณาให ้ความเห็นประกอบก่อนด ้วย มาตรา 41 ในกรณีทม ี่ เี หตุอันทําให ้ทีด ่ น ิ ได ้รับความเสียหายหรือทําให ้สิง่ ปลูกสร ้างถูกรือ ้ ถอนหรือทําลาย หรือชํารุดเสียหายจนเป็ น ิ ธิยน เหตุให ้ต ้องทําการซ่อมแซมในส่วนสําคัญ ให ้ผู ้เสียภาษี สําหรับทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างดังกล่าวมีสท ื่ คําขอลดหรือนยกเว ้นภาษี ท ี่ จะต ้องเสียต่อผู ้บริหารส่วนท ้องถิน ่ ได ้ ตามระเบียบทีก ่ ระทรวงมหาดไทยกําหนด มาตรา 42 เมือ ่ มีการยืน ่ คําขอลดหรือยกเว ้นภาษี ตามมาตรา 41 ให ้เจ ้าหน ้าทีซ ่ งึ่ มีหน ้าทีร่ ับผิดชอบทําการตรวจสอบข ้อเท็จจริงหาก ่ ได ้ว่ามีเหตุอันสมควรลดหรือยกเว ้นภาษี ให ้แก่ผู ้ยืน ปรากฏข ้อเท็จจริงเป็ นทีเ่ ชือ ่ คําขอให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ มีอํานาจออกคําสั่งหรือยกเว ้น ภาษี ได ้ ในการออกคําสั่งลดหรือยกเว ้นภาษี ตามวรรคหนึง่ ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ คํานึงถึงสัดส่วนความเสียหายทีเ่ กิดขึน ้ และระยะเวลาทีไ่ ม่ได ้รับ ประโยชน์จากทีด ่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้างนัน ้ มาตรา 43 ผู ้เสียภาษี ทม ี่ อ ี ายุเกินหกสิบปี บริบรู ณ์และไม่มรี ายได ้เพียงพอต่อการยังชีพ อาจได ้รับการลดหรือยกเว ้นภาษี สําหรับทีด ่ น ิ ่ ้เป็ หรือสิงปลูกสร ้างทีต ่ นใช นทีอ ่ ยูอ ่ าศัยได ้ ทัง้ นี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธก ี ารทีก ่ ําหนดในพระราชกฤษฎีกา หมวด 6 ภาษี ค ้างชําระ มาตรา 44 ภาษี ทม ี่ ไิ ด ้ชําระภายในเวลาทีก ่ ําหนดหรือชําระไม่ครบถ ้วน ให ้ถือเป็ นภาษี ค ้างชําระ มาตรา 45 ในกรณีทม ี่ ภ ี าษี ค ้างชําระสําหรับทีด ่ น ิ หรือสิง่ ปลูกสร ้างทีเ่ ป็ นของต่างเจ ้าของกัน ให ้เจ ้าของทีด ่ น ิ และเจ ้าของสิง่ ปลูกสร ้าง ดังกล่าวมีความรับผิดอย่างลูกหนีร้ ่วมกันในการชําระภาษี ค ้างชําระ มาตรา 46 เพือ ่ ประโยชน์ในการเร่งรัดภาษี ค ้างชําระ เมือ ่ ปรากฏว่าผู ้เสียภาษี ผู ้ใดไม่ยน ื่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี ตาม ระยะเวลาทีก ่ ําหนดในมาตรา 32 ให ้พนักงานประเมินมีอํานาจเรียกเก็บภาษี ทผ ี่ ู ้นัน ้ มีหน ้าทีต ่ ้องชําระ รวมทัง้ เบีย ้ ปรับและเงินเพิม ่ ตามทีก ่ ําหนดในมาตรา 54 มาตรา 55 และมาตรา 57 โดยมีหนังสือแจ ้งให ้ผู ้นัน ้ ยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี พร ้อมกับชําระภาษี ภายใน สิบห ้าวันนับแต่วันทีไ่ ด ้รับหนังสือ การเรียกเก็บภาษี ตามวรรคหนึง่ ให ้กระทําได ้ภายในห ้าปี นับแต่วันทีผ ่ ู ้เสียภาษี มห ี น ้าทีต ่ ้องชําระภาษี มาตรา 47 ในกรณีทผ ี่ ู ้เสียภาษี ยน ื่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี ไว ้ไม่ครบถ ้วน ให ้พนักงานประเมินมีอํานาจประเมินจํานวน ภาษี ทผ ี่ ู ้เสียภาษี มห ี น ้าทีต ่ ้องชําระเพิม ่ รวมทัง้ เบีย ้ ปรับและเงินเพิม ่ ตามทีก ่ ําหนดในมาตรา 56 และมาตรา 57 ได ้ การเรียกเก็บภาษี ตามวรรคหนึง่ ให ้กระทําได ้ภายในห ้าปี นับแต่วันทีผ ่ ู ้เสียภาษี มห ี น ้าทีต ่ ้องชําระภาษี
มาตรา 48 ในกรณีทม ี่ ก ี ารเรียกเก็บภาษี ตามมาตรา 47 ให ้พนักงานประเมินมีหนังสือแจ ้งผู ้เสียภาษี ให ้ชําระภาษี เบีย ้ ปรับและเงิน เพิม ่ ตามทีพ ่ นักงานประเมินได ้ประเมินภายในสิบห ้าวันนับแต่วันทีไ่ ด ้รับหนังสือแจ ้ง มาตรา 49 ถ ้าผู ้เสียภาษี มไิ ด ้ชําระภาษี เบีย ้ ปรับและเงินเพิม ่ ภายในระยะเวลาตามมาตรา 46 หรือมาตรา 48 ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ มี ิ ของผู ้เสียภาษี เพือ อํานาจออกคําสั่งเป็ นหนังสือยึดอายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สน ่ นํ าเงินมาชําระภาษี ค ้างชําระ เบีย ้ ปรับและเงิน ิ ของผู ้เสียภาษี เกินกว่าทีพ เพิม ่ ได ้ แต่ห ้ามมิให ้ยึดหรืออายัดทรัพย์สน ่ อจะชําระภาษี ค ้างชําระ เบีย ้ ปรับและเงินเพิม ่ ิ ของผู ้เสียภาษี ตามวรรคหนึง่ ให ้นํ าวิธก วิธก ี ารยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สน ี ารตามประมวลกฎหมายวิธพ ี จ ิ ารณาความแพ่งมา ้บั ใช งคับโดยอนุโลม มาตรา 50 เพือ ่ ประโยชน์ในการปฏิบัตห ิ น ้าทีต ่ ามมาตรา 49 ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ หรือเจ ้าหน ้าทีซ ่ งึ่ ได ้รับมอบหมายจากผู ้บริหาร ท ้องถิน ่ มีอํานาจเข ้าไปในทีด ่ น ิ และสิง่ ปลูกสร ้างหรือสถานทีอ ่ น ื่ ทีเ่ กีย ่ วข ้องในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขน ึ้ ถึงพระอาทิตย์ตกดินหรือใน เวลาทําการของสถานทีน ่ ัน ้ เพือ ่ สอบถามบุคคลใดๆหรือตรวจสอบ ค ้น ยึด หรืออายัดเอกสาร หรือหลักฐานอืน ่ ใดทีเ่ กีย ่ วข ้องได ้ ิ ของผู ้เสียภาษี ไว ้แล ้ว ถ ้าผู ้เสียภาษี ได ้นํ าเงินมาชําระค่าภาษี ค ้างชําระ เบีย มาตรา 51 ในกรณีทม ี่ ก ี ารยึดหรืออายัดทรัพย์สน ้ ปรับและ เงินเพิม ่ โดยครบถ ้วนก่อนการขายทอดตลาด ให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ่ มีคําสั่งเพิกถอนการยึดหรืออายัดนัน ้ โดยไม่คด ิ ค่าธรรมเนียมในการ เพิกถอนการยึดหรืออายัด ิ ของผู ้เสียภาษี ตามมาตรา 49 จะกระทํามิได ้ในระหว่างระยะเวลาทีใ่ ห ้คัดค ้านหรืออุทธรณ์ มาตรา 52 การขายทอดตลาดทรัพย์สน ตามมาตรา 60 หรือให ้ฟ้ องเป็ นคดีตอ ่ ศาลตามมาตรา 69 และตลอดเวลาทีก ่ ารพิจารณาและวินจ ิ ฉั ยคําคัดค ้านหรืออุทธรณ์ดังกล่าว ยังไม่ถงึ ทีส ่ ด ุ มาตรา 53 เงินทีไ่ ด ้จากการขายทอดตลาดตามมาตรา 49 ให ้หักไว ้เป็ นค่าภาษี ค ้างชําระ เบีย ้ ปรับและเงินเพิม ่ เหลือเท่าใดให ้คืนแก่ ผู ้เสียภาษี โดยไม่หักค่าใช ้จ่ายในการยึดอายัด หรือขายทอดตลาด หมวด 7 เบีย ้ ปรับและเงินเพิม ่ มาตรา 54 ในกรณีผู ้เสียภาษี มไิ ด ้ยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี ภายในกําหนดเวลาตามมาตรา 32 ให ้เสียเบีย ้ ปรับอีกหนึง่ เท่าของจํานวนภาษี ทค ี่ ้างชําระ เว ้นแต่ผู ้เสียภาษี ได ้ยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี กอ ่ นทีจ ่ ะได ้รับหนังสือแจ ้งตามมาตรา ิ ห ้าของจํานวนภาษี ทค 46 ให ้เสียเบีย ้ ปรับร ้อยละยีส ่ บ ี่ ้างชําระ มาตรา 55 ในกรณีผู ้เสียภาษี มไิ ด ้ยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี ภายในกําหนดเวลาตามมาตรา 32 แต่ตอ ่ มาได ้ยืน ่ แบบ แสดงรายการภาษี และชําระภาษี ภายในสิบห ้าวันนับแต่วันทีไ่ ด ้รับหนั งสือแจ ้งตามมาตรา 46 ให ้เสียเบีย ้ ปรับร ้อยละห ้าสิบของจํานวน ภาษี ทค ี่ ้างชําระ มาตรา 56 ในกรณีผู ้เสียภาษี ยน ื่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี ไว ้ไม่ถก ู ต ้อง ทําให ้จํานวนภาษี ทต ี่ ้องเสียขาดไป ให ้เสียเบีย ้ ปรับอีกร ้อยละห ้าสิบของจํานวนภาษี ทข ี่ าดไป เว ้นแต่ผู ้เสียภาษี ได ้มาขอยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี เพิม ่ ให ้ถูกต ้องก่อน วันทีจ ่ ะได ้รับหนังสือแจ ้งให ้ชําระภาษี ตามมาตรา 48 หรือได ้มาขอยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี เพิม ่ ภายในสิบห ้าวันนับแต่ ิ ห ้าของจํานวนภาษี ทข วันทีไ่ ด ้รับหนังสือแจ ้งให ้ชําระภาษี ดังกล่าว ให ้เสียเบีย ้ ปรับร ้อยละยีส ่ บ ี่ าดไป มาตรา 57 ผู ้เสียภาษี ผู ้ใดมิได ้ยืน ่ แบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษี ภายในกําหนดเวลาตามมาตรา 32 หรือชําระไม่ครบถ ้วนตาม จํานวนภาษี ทต ี่ ้องเสีย ให ้เสียเงินเพิม ่ อีกร ้อยละหนึง่ ต่อเดือนของจํานวนภาษี ทค ี่ ้างชําระ เศษของเดือนให ้นับเป็ นหนึง่ เดือน ทัง้ นี้ มิ ให ้นํ าเบีย ้ ปรับมารวมคํานวณเพือ ่ เสียเงินเพิม ่ ด ้วย เงินเพิม ่ ตามมาตรานี้ มิให ้เกินกว่าจํานวนภาษี ทต ี่ ้องชําระโดยไม่รวมเบีย ้ ปรับและมิให ้คิดทบต ้น มาตรา 58 เบีย ้ ปรับและเงินเพิม ่ อาจงดหรือลดลงได ้ตามทีก ่ ําหนดในกฎกระทรวง มาตรา 59 เบีย ้ ปรับและเงินเพิม ่ ตามหมวดนีใ้ ห ้ถือเป็ นเงินภาษี หมวด 8 การคัดค ้านและการอุทธรณ์การประเมินภาษี มาตรา 60 ผู ้เสียภาษี ผู ้ใดได ้รับแจ ้งการประเมินภาษี ตามมาตรา 30 หรือการเรียกเก็บภาษี ตามมาตรา 46 หรือมาตรา 48 แล ้วเห็น ิ ธิคัดค ้านและขอให ้ผู ้บริหารท ้องถิน ว่าการประเมินภาษี หรือการเรียกเก็บภาษี นัน ้ ไม่ถก ู ต ้อง ให ้มีสท ่ พิจารณาทบทวนการประเมินหรือ การเรียกเก็บภาษี ได ้ โดยให ้ยืน ่ คําร ้องต่อพนักงานประเมินตามแบบทีร่ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยประกาศกําหนดภายใน สามสิบวันนับแต่วันทีไ่ ด ้รับแจ ้งการประเมินภาษี หรือการเรียกเก็บภาษี แล ้วแต่กรณี ผู ้บริหารท ้องถิน ่ ต ้องพิจารณาคําร ้องของผู ้เสียภาษี ตามวรรคหนึง่ ให ้แล ้วเสร็จภายในสิบห ้าวันนับแต่วันทีไ่ ด ้รับคําร ้องดังกล่าว และ ั ช ้า แจ ้งคําสั่งพร ้อมด ้วยเหตุผลเป็ นหนั งสือไปยังผู ้เสียภาษี โดยไม่ชก ในกรณีทผ ี่ ู ้บริหารท ้องถิน ่ พิจารณาเห็นชอบกับคําร ้องของผู ้เสียภาษี ให ้แจ ้งจํานวนภาษี ทจ ี่ ะต ้องเสียเป็ นหนังสือไปยังผู ้เสียภาษี และ ํ ให ้ผู ้เสียภาษี ชาระภาษี ภายในสิบห ้าวันนับแต่วันทีไ่ ด ้รับหนังสือแจ ้งดังกล่าว ิ ธิอท ในกรณีทผ ี่ ู ้บริหารท ้องถิน ่ พิจารณาไม่เห็นชอบกับคําร ้องของผู ้เสียภาษี ให ้ผู ้เสียภาษี นัน ้ มีสท ุ ธรณ์ตอ ่ คณะกรรมการวินจ ิ ฉั ย
อุทธรณ์การประเมินภาษี ประจําจังหวัดหรือคณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี กรุงเทพมหานคร แล ้วแต่กรณี โดยยืน ่ คํา อุทธรณ์ตอ ่ ผู ้บริหารท ้องถิน ่ ภายในสามสิบวันนับแต่วันทีไ่ ด ้รับหนังสือแจ ้ง การคัดค ้านและการอุทธรณ์ไม่เป็ นการทุเลาการชําระภาษี เว ้นแต่ผู ้เสียภาษี จะได ้ยืน ่ คําร ้องต่อผู ้บริหารท ้องถิน ่ ขอให ้ทุเลาการชําระ ภาษี ไว ้ก่อนและผู ้บริหารท ้องถิน ่ มีคําสั่งให ้ทุเลาการชําระภาษี ไว่กอ ่ นในกรณีเช่นว่านี้ ผู ้บริหารท ้องถิน ่ อาจจะสั่งให ้ทุเลาการชําระภาษี ไว ้ก่อนทัง้ หมดหรือบางส่วน และจะสั่งให ้หาประกันตามทีเ่ ห็นสมควรก็ได ้ ในกรณีทผ ี่ ู ้บริหารท ้องถิน ่ ได ้สั่งให ้ทุเลาการชําระภาษี ตามวรรคทีห ่ ้าไว ้แล ้วถ ้าต่อมาปรากฏว่าผู ้เสียภาษี ได ้กระทําการใดๆเพือ ่ ประวิง ิ การชําระภาษี หรือจะกระทําการโอน ขาย จําหน่ายหรือยักย ้ายทรัพย์สนทัง้ หมดหรือบางส่วนเพือ ่ ให ้พ ้นอํานาจการยึดหรืออายัด ผู ้บริหารท ้องถิน ่ มีอํานาจเพิกถอนคําสั่งให ้ทุเลาการชําระภาษี นัน ้ ได ้ มาตรา 61 ให ้คณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี ประจําจังหวัดประกอบด ้วยผู ้ว่าราชการจังหวัดหรือผู ้แทนเป็ นประธาน กรรมการ สรรพากรพืน ้ ทีห ่ รือผู ้แทน ธนารักษ์ พน ื้ ทีห ่ รือผู ้แทน เจ ้าพนักงานทีด ่ น ิ จังหวัดหรือผู ้แทน และผู ้ทรงคุณวุฒซ ิ งึ่ ประธาน กรรมการและกรรมการโดยตําแหน่งดังกล่าวแต่งตัง้ อีกจํานวนไม่เกินสามคน เป็ นกรรมการ ให ้ผู ้ว่าราชการจังหวัดแต่งตัง้ ข ้าราชการสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท ้องถิน ่ เป็ นเลขานุการและเป็ นผู ้ช่วยเลขานุการ มาตรา 62 ให ้คณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี กรุงเทพมหานครประกอบด ้วยปลัดกระทรวงมหาดไทยหรือผู ้แทนเป็ น ประธานกรรมการ ผู ้อํานวยการสํานั กงานเศรษฐกิจการคลังหรือผู ้แทนอธิบดีกรมสรรพากรหรือผู ้แทน อธิบดีกรมธนารักษ์ หรือผู ้แทน อธิบดีกรมทีด ่ น ิ หรือผู ้แทน อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท ้องถิน ่ หรือผู ้แทน ปลัดกรุงเทพมหานคร และผู ้ทรงคุณวุฒซ ิ งึ่ ประธาน กรรมการและกรรมการโดยตําแหน่งดังกล่าวแต่งตัง้ อีกจํานวนไม่เกินสามคน เป็ นกรรมการ ให ้ผู ้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตัง้ ข ้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานครเป็ นเลขานุการและผู ้ช่วยเลขานุการ มาตรา 63 ให ้กรรมการผู ้ทรงคุณวุฒต ิ ามมาตรา 61 และมาตรา 62 มีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสองปี เมือ ่ ครบกําหนดตามวาระในวรรคหนึง่ หากยังมิได ้มีการแต่งตัง้ กรรมการผู ้ทรงคุณวุฒข ิ น ึ้ ใหม่ ให ้กรรมการผู ้ทรงคุณวุฒซ ิ งึ่ พ ้นจาก ตําแหน่งตามวาระปฏิบัตห ิ น ้าทีต ่ อ ่ ไปจนกว่ากรรมการผู ้ทรงคุณวุฒซ ิ งึ่ ได ้แต่งตัง้ ใหม่เข ้ารับหน ้าที่ กรรมการผู ้ทรงคุณวุฒซ ิ งึ่ พ ้นจากตําแหน่งตามวาระอาจได ้รับแต่งตัง้ อีกได ้ แต่จะเป็ นกรรมการผู ้ทรงคุณวุฒเิ กินสองวาระติดต่อกัน มิได ้ มาตรา 64 นอกจากการพ ้นตําแหน่งตามวาระกรรมการผู ้ทรงคุณวุฒต ิ ามมาตรา 61 และมาตรา 62 พ ้นจากตําแหน่งเมือ ่ (1) ลาออก (2) เป็ นบุคคลล ้มละลาย (3) ถูกจําคุกโดยคําพิพากษาถึงทีส ่ ด ุ ให ้จําคุก (4) คณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี ประจําจังหวัดหรือคณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี กรุงเทพมหานคร ่ มเสียอย่างรุนแรง แล ้วแต่กรณี มีคําสั่งให ้ออกเนือ ่ งจากมีเหตุบกพร่องอย่างยิง่ ต่อหน ้าทีห ่ รือมีความประพฤติเสือ (5) เป็ นคนไร ้ความสามารถหรือคนเสมือนไร ้ความสามารถ ในกรณีทก ี่ รรมการผู ้ทรงคุณวุฒพ ิ ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ ให ้คณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี ประจําจังหวัดหรือ คณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี กรุงเทพมหานคร แล ้วแต่กรณี แต่งตัง้ ผู ้อืน ่ เป็ นกรรมการผู ้ทรงคุณวุฒแ ิ ทน และให ้ผู ้ซึง่ ได ้รับแต่งตัง้ ให ้ดํารงตําแหน่งแทนอยูใ่ นตําแหน่งเท่ากับวาระทีเ่ หลืออยูข ่ องกรรมการผู ้ทรงคุณวุฒซ ิ งึ่ ตนแทน มาตรา 65 การประชุมคณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษีประจําจังหวัดหรือคณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี กรุงเทพมหานคร แล ้วแต่กรณี ต ้องมีกรรมการมาประชุมอย่างน ้อยกึง่ หนึง่ ของจํานวนกรรมการทัง้ หมด จึงจะเป็ นองค์ประชุม ถ ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัตห ิ น ้าทีไ่ ด ้ ให ้กรรมการทีม ่ าประชุมเลือกกรรมการคนหนึง่ เป็ นประธานในที่ ประชุม ้ าดของทีป การวินจ ิ ฉั ยชีข ่ ระชุมให ้ถือเสียงข ้างมาก กรรมการคนหนึง่ ให ้มีหนึง่ เสียงในการลงคะแนน ถ ้าคะแนนเสียงเท่ากันให ้ประธาน ้ าด ในทีป ่ ระชุมออกเสียงเพิม ่ ขึน ้ อีกเสียงหนึง่ เป็ นเสียงชีข มาตรา 66 กรรมการผู ้ใดมีสว่ นได ้เสียในเรือ ่ งทีว่ น ิ จ ิ ฉั ยจะลงมติในเรือ ่ งนัน ้ มิได ้ มาตรา 67 เพือ ่ ประโยชน์ในการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์ ให ้คณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี ประจําจังหวัดหรือคณะกรรมการ วินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษีกรุงเทพมหานคร แล ้วแต่กรณี มีอํานาจออกหนังสือเรียกผู ้อุทธรณ์หรือบุคคลทีเ่ กีย ่ วข ้องมาให ้ถ ้อยคํา หรือให ้ส่งเอกสารหรือหลักฐานอืน ่ ใดมาแสดงได ้ โดยให ้เวลาบุคคลดังกล่าวไม่น ้อยกว่าสิบห ้าวันนับแต่วันทีไ่ ด ้รับหนั งสือเรียก ผู ้อุทธรณ์ผู ้ใดไม่ปฏิบัตต ิ ามหนังสือเรียกตามวรรคหนึง่ หรือไม่ยอมให ้ถ ้อยคําโดยไม่มเี หตุผลอันสมควร คณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์ การประเมินภาษี ประจําจังหวัดหรือคณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี กรุงเทพมหานคร แล ้วแต่กรณี จะยกอุทธรณ์นัน ้ เสีย ก็ได ้ มาตรา 68 คณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี ประจําจังหวัดหรือคณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี กรุงเทพมหานคร แล ้วแต่กรณี มีอํานาจสั่งไม่รับอุทธรณ์ ยกอุทธรณ์ เพิกถอน หรือแก ้ไขการประเมินของพนักงานประเมิน หรือให ้ผู ้ อุทธรณ์ได ้รับการลดหรือยกเว ้นภาษี หรือได ้คืนภาษี ให ้คณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี ประจําจังหวัดหรือคณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี กรุงเทพมหานคร แล ้วแต่กรณี วินจ ิ ฉั ยคําอุทธรณ์ให ้แล ้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันทีพ ่ นักงานประเมินได ้รับคําอุทธรณ์ และต ้องแจ ้งคําวินจ ิ ฉั ย อุทธรณ์พร ้อมด ้วยเหตุผลเป็ นหนังสือไปยังผู ้อุทธรณ์ภายในสิบห ้าวันนับแต่วันทีพ ่ จ ิ ารณาเสร็จ ทัง้ นี้ จะเก็บภาษี เกินกว่าจํานวนภาษี ท ี่
ทําการประเมินไม่ได ้ เว ้นแต่จะได ้มีการประเมินภาษี ใหม่ ในกรณีทค ี่ ณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี ประจําจังหวัดหรือคณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมิน ภาษี กรุงเทพมหานคร แล ้วแต่กรณี มีคําวินจ ิ ฉั ยให ้คืนเงินแก่ผู ้อุทธรณ์ ให ้แจ ้งคําวินจ ิ ฉั ยไปยังผู ้บริหารท ้องถิน ่ เพือ ่ ให ้มีคําสั่งคืนเงินและ กําหนดระยะเวลาในการมารับเงินคืนให ้แก่ผู ้อุทธรณ์ภายในสิบห ้าวันนั บแต่วันทีไ่ ด ้มีคําสั่งคืนเงิน ให ้คณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี ประจําจังหวัดหรือคณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี กรุงเทพมหานคร แล ้วแต่กรณี สั่งผู ้บริหารท ้องถิน ่ ให ้ดอกเบีย ้ แก่ผู ้ได ้รับคืนเงินในอัตราร ้อยละหนึง่ ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินทีไ่ ด ้รับคืนโดยไม่ คิดทบต ้นนับแต่วันทีม ่ ค ี ําวินจ ิ ฉั ยให ้คืนเงิน แต่ต ้องไม่เกินจํานวนเงินทีไ่ ด ้รับคืน ถ ้าผู ้อุทธรณ์ไม่มารับเงินคืนภายในหนึง่ ปี นับแต่วันทีไ่ ด ้รับแจ ้ง ให ้เงินนัน ้ ตกเป็ นขององค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ ิ ธิอท มาตรา 69 ผู ้อุทธรณ์มส ี ท ุ ธรณ์คําวินจ ิ ฉั ยของคณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษี ประจําจังหวัดหรือคณะกรรมการ วินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษีกรุงเทพมหานคร แล ้วแต่กรณี โดยฟ้ องเป็ นคดีตอ ่ ศาลภายในสามสิบวันนับแต่วันทีไ่ ด ้รับแจ ้งคํา วินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์ หมวด 9 บทกําหนดโทษ มาตรา 70 ผู ้ใดขัดขวางการปฏิบัตห ิ น ้าทีข ่ องพนักงานสํารวจตามมาตรา 16 หรือมาตรา 17 หรือผู ้บริหารท ้องถิน ่ หรือเจ ้าหน ้าทีซ ่ งึ่ ผู ้บริหารท ้องถิน ่ มอบหมายตามมาตรา 50 ต ้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึง่ ปี หรือปรับไม่เกินสองหมืน ่ บาท หรือทัง้ จําทัง้ ปรับ มาตรา 71 ผู ้ใดไม่ปฏิบัตต ิ ามหนังสือเรียกของพนักงานประเมินตามมาตรา 31 หรือของคณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมิน ภาษี ประจําจังหวัดหรือคณะกรรมการวินจ ิ ฉั ยอุทธรณ์การประเมินภาษีกรุงเทพมหานครตามมาตรา 17 ต ้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน หนึง่ เดือน หรือปรับไม่เกินหนึง่ พันบาท หรือทัง้ จําทัง้ ปรับ ความในวรรคหนึง่ มิให ้ใช ้บังคับกับผู ้อุทธรณ์ มาตรา 72 ผู ้เสียภาษี ผู ้ใดไม่ยน ื่ แบบแสดงรายการภาษี ภายในกําหนดเวลาตามมาตรา 32 ต ้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึง่ หมืน ่ บาท มาตรา 73 ผู ้ใดขัดขวางหรือไม่ปฏิบัตต ิ ามคําสั่งของผู ้บริหารท ้องถิน ่ ตามมาตรา 49 หรือทําลาย ย ้ายไปเสีย ซ่อนเร ้นหรือโอนไป ิ ทีผ ่ มืน ให ้แก่บค ุ คลอืน ่ ซึง่ ทรัพย์สน ่ ู ้บริหารท ้องถิน ่ มีคําสั่งให ้ยึดหรืออายัด ต ้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสีห ่ บาท หรือทัง้ จําทัง้ ปรับ มาตรา 74 ผู ้ใดแจ ้งข ้อความอันเป็ นเท็จหรือนํ าพยานหลักฐานอันเป็ นเท็จมาแสดงเพือ ่ หลีกเลีย ่ งหรือพยายามหลีกเลีย ่ งการเสียภาษี ต ้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมืน ่ บาท หรือทัง้ จําทัง้ ปรับ มาตรา 75 ในกรณีทผ ี่ ู ้กระทําผิดซึง่ ต ้องรับโทษตามพระราชบัญญัตน ิ ี้เป็ นนิตบ ิ ค ุ คล ให ้กรรมการผู ้จัดการ หุ ้นส่วนผู ้จัดการ หรือผู ้แทน ของนิตบ ิ ค ุ คลนัน ้ ต ้องรับโทษตามทีบ ่ ัญญัตไิ ว ้สําหรับความผิดนัน ้ ๆด ้วย เว ้นแต่จะพิสจ ู น์ได ้ว่าการกระทํานัน ้ กระทําโดยตนมิได ้รู ้เห็น หรือยินยอมหรือตนได ้จัดการตามสมควรเพือ ่ ป้ องกันมิให ้เกิดความผิดนัน ้ แล ้ว มาตรา 76 บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตน ิ ท ี้ ม ี่ โี ทษปรับสถานเดียวหรือเป็ นความผิดทีม ่ โี ทษปรับหรือจําคุกไม่เกินหนึง่ ปี ให ้ ผู ้บริหารท ้องถิน ่ หรือผู ้ซึง่ ผู ้บริหารท ้องถิน ่ มอบหมายมีอํานาจเปรียบเทียบได ้ เมือ ่ ผู ้กระทําผิดได ้ชําระเงินค่าปรับตามจํานวนทีเ่ ปรียบเทียบภายในสามสิบวันให ้ถือว่าคดีเลิกกันตามบัญญัตแ ิ ห่งประมวลกฎหมายวิธ ี พิจารณาความอาญา ถ ้าผู ้กระทําผิดไม่ยน ิ ยอมตามทีเ่ ปรียบเทียบ หรือเมือ ่ ยินยอมแล ้วไม่ชําระเงินค่าปรับภายในระยะเวลาทีก ่ ําหนด ให ้ดําเนินคดีตอ ่ ไป มาตรา 77 เงินค่าปรับตามพระราชบัญญัตน ิ เี้ กิดขึน ้ ในเขตองค์กรปกครองส่วนท ้องถิน ่ ใด ให ้ตกเป็ นรายได ้ขององค์กรปกครองส่วน ท ้องถิน ่ นัน ้ บทเฉพาะกาล มาตรา 78 บทบัญญัตแ ิ ห่งกฎหมายว่าด ้วยภาษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ และกฎหมายว่าด ้วยภาษี บํารุงท ้องทีซ ่ งึ่ ถูกยกเลิกโดย พระราชบัญญัตน ิ ี้ ให ้ยังคงใช ้บังคับต่อไปสําหรับการจัดเก็บภาษี ทค ี่ ้างอยูห ่ รือทีพ ่ งึ่ ชําระหรือทีต ่ ้องการคืนก่อนวันทีพ ่ ระราชบัญญัตน ิ ี้ ใช ้บังคับ มาตรา 79 ในกรณีทผ ี่ ู ้มีหน ้าทีเ่ สียภาษี ตามกฎหมายว่าด ้วยภาษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ หรือกฎหมายว่าด ้วยภาษี บํารุงท ้องทีซ ่ งึ่ ถูกยกเลิก ิ หรือยืน โดยพระราชบัญญัตน ิ ี้ยังไม่ได ้ยืน ่ แบบพิมพ์เพือ ่ แจ ้งรายการทรัพย์สน ่ แบบแสดงรายการทีด ่ น ิ หรือยืน ่ ไว ้ไม่ครบถ ้วน หรือค ้าง ชําระภาษี ถ ้าได ้ยืน ่ คําขอเสียภาษี ตามแบบทีร่ ัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกําหนดภายในหนึง่ ร ้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ พระราชบัญญัตน ิ ใี้ ช ้บังคับ และได ้ชําระภาษี ตามจํานวนทีพ ่ นักงานประเมินภายในสามสิบวันนับแต่วันทีไ่ ด ้แจ ้งการประเมิน หรือได ้ ชําระภาษี ภายในสามสิบวันนับแต่วันทีไ่ ด ้ยืน ่ คําขอเสียภาษี ในกรณีทเี่ ป็ นการค ้างชําระภาษี ให ้ผู ้นัน ้ ได ้รับยกเว ้นไม่ต ้องเสียเงินเพิม ่ ิ ธิผอ และยกเว ้นความรับผิดทางอาญารวมทัง้ มีสท ่ นชําระภาษี ตามทีก ่ ฎหมายว่าด ้วยภาษี โรงเรือนและทีด ่ น ิ หรือกฎหมายว่าด ้วยภาษี บํารุงท ้องทีก ่ ําหนดไว ้ แล ้วแต่กรณี ผู ้รับสนองพระบรมราชโองการ นายกรัฐมนตรี