The Prototype issue 1

Page 1

ISSUE.1 ปี 2558

GREEN PACKAGING ไทย จอดหรือไปต่อ ?

เสริมวิชาการ ดันเด็กไทยสู้อาเซียน รถไฟฟ้าดัน ราคาที่ดินพุ่งปี 58


LETTER FROM THE EDITOR

CONTENT

8

จะทำ�อย่างไรให้วัยรุ่นส่วนใหญ่สนใจหนังสือพิมพ์เชิงธุรกิจ? นี่คือ โจทย์ที่ท้าทายอย่างมาก สำ�หรับทีมกองบรรณาธิการ หลายคนรู้กันดีว่า คนไทยอ่านหนังสือน้อยลง เราจึงกำ�หนดเนื้อหาในรูปแบบเชิงธุรกิจที่หลาก หลายให้น่าสนใจ แม้เป็นเรื่องยากที่จะดึงดูดวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ และคนที่สนใจมี ธุรกิจของตัวเอง ด้วยว่าความต้องการเป็นเจ้าของกิจการทำ�ให้มี Start up หน้าใหม่ๆ ก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจปีละไม่น้อย แต่จะก้าวเข้ามาให้อยู่รอด ไม่ใช่ เรื่องง่าย ดังนั้น การเริ่ม..และต่อยอด คือสิ่งที่เราอยากให้ผู้อ่านเราทำ�ได้ The prototype ต้นแบบความคิดเพื่อชีวิตต่อยอด คือ จุ ด เริ่ ม ต้ น ที่ เ ราอยากทำ �ให้ ค นที่ อ ยากมี ธุ ร กิ จ ตั ว เองและทำ � ธุ ร กิ จ อยู่ แล้วเข้าถึงเรื่องราวของอาชีพและธุรกิจได้แบบเข้าใจง่ายแต่ได้ไอเดียไป เริ่มต้น พัฒนา เพื่อสานต่อธุรกิจตัวเอง เราหวังจะเป็นแหล่งความรู้ต้นแบบ ความคิ ดให้ ค นอยากมี ธุ ร กิ จได้ เ ริ่ ม คิ ด ต่ อ ยอดและประสบความสำ � เร็ จได้ The prototype ในรูปแบบหนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ ทำ�โดย นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (สถาบัน ระดับอุดมศึกษาในเครือบริษัท ซีพีออลล์ จำ�กัด มหาชน) เราอยากเห็นวัย รุ่นไทยหันมาสนใจเรื่องใกล้ตัวอย่างม สี าระ สำ�หรับฉบับแรกมากับแนวคิด “แรก...เริม่ ” ถึงเวลาทีต่ อ้ งเริม่ คิดและลงมือทำ�ครัง้ แรกเรื่องธุรกิจที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม แนวคิดการทำ�ธุรกิจของวัยรุ่นที่ทำ�จนเป็นวัยรวย และ ทิศทางของธุรกิจในปี 2558 ที่ประมวลภาพสำ�คัญที่นักลงทุนและคนธุรกิจ ควรรู้เพื่อตั้งรับและรุกปรับตัวให้อยู่รอดต่อไป ... อยากให้มาร่วมค้นหาความคิดดีๆเพื่อต่อยอดชีวิตร่วมกัน

3 4

13 14

6 12

18 20

The Prototype เป็นหนังสือพิมพ์หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ของนักศึกษาสาขาวารสารศาสตร์คอนเวอร์เจ้นท์ สาขาสื่อสารองค์กร และสาขาการสื่อสารแบรนด์

เจ้าของ คณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ โทรศัพท์ 02-832-0966 ที่ปรึกษา ดร.สุดารัตน์ ดิษยวรรธนะ จันทราวัฒนากุล, อ.สกุลศรี ศรีสารคาม, อ.ภัทราวดี ธีเลอร์ บรรณาธิการบริหาร สุวนันท์ มั่นศรี บรรณาธิการข่าวและบทความ ณรงเกียรติ ชูจันทร์ บรรณาธิการฝ่ายจัดการ วรัญญา ชิดนอก บรรณาธิการภาพและฝ่ายศิลป์ พงศกร วิทยกิจ, อภิรัฐ อาศิรวาท ทีมรายงานพิเศษ ชนันท์ เพียรเพิ่มภัทร, แก้วกานดา ตันเจริญ, อัจฉรา แย้มภิรมย์ศรี, วรัญญา ชิดนอก บรรณาธิการข่าวการศึกษา มณีกานต์ ลิบวาณิชย์ บรรณาธิการคอลัมน์เหลาให้แหลม ยอดกมล อยู่เทศ กองบรรณาธิการ กฤษฎา ตรงจิตธรรม, กิดาการ เอกอัครายุทธ, ชนัดดา บุญครอง, ชนิดาภา ดัดใจงาม, ฐิติยา ทราย ทอง, นนทิยา ตาน้อย, นันท์นภัส ทัตพรสิทธิ์เดช, ปราณิสา อำ�นาจประชา, ปรีณาพรรณ ธนีเจริญ, พรนภา แจ่มกระจ่าง, ศุภิสรา ศรีเมือง, สุทธินันท์ ประจักษ์สุวิถี, อนงค์ นาฏ ชนะกุล, อัญชิษฐา เรียบร้อย, เอกนุช เชยสูงเนิน, ธนัท เอี่ยมน้อย, ชมพูนุช จำ�รูญทัด


ปรานต์สิริ & ยอดกมล เขียน

เหลาให้แหลม 3 นักปั้นแบรนด์มือทอง PYNDELA แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นของคนไทยที่ประสบความสำ�เร็จ ดังไกล จนถึง New York Fashion Week จากความชอบและรักการ แต่งตัวเป็นชีวิตจิตใจ บวกกับการแต่งกายที่เป็นแบบฉบับเฉพาะตัว จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Pyndela นางสาวพลินร์ วงศ์ลี้เจริญ เล่าถึงประสบการณ์ปั้นแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองว่า หัวใจของการสร้างแบรนด์เสื้อผ้านอกจากเรื่องดีไซน์แล้ว ความเข้าใจธุรกิจ เครือข่าย และทำ�เลที่เหมาะสมก็สำ�คัญ “การสั่งสมประสบการณ์ ค่อยๆเรียนรู้ในธุรกิจ และเลือกที่จะสร้างแบรนด์ในสิ่งที่ตัวเองชอบ และหากเราชอบอะไร เราก็จะทำ�ในสิ่งที่เราชอบแบบเต็มที่ สุดความสามารถ และมีความสุขไปกับมัน เหมือนพลอยที่ชอบการแต่งตัว ชอบแฟชั่น พลอย จึงทำ�แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นในแบบที่พลอยชอบ จากการทำ�แบรนด์เสื้อผ้า Pyndela จึงพบว่าสิ่งที่สำ�คัญที่สุดในการทำ�ธุรกิจ คือการมี Connection ที่มาก และการเลือกหาทำ�เลที่ตั้งที่เหมาะสมกับ Brand ของเรา ตรงกับบริเวณกลุ่มเป้าหมาย หรือกลุ่ม ลูกค้าของเรา อาศัยอยู่” นอกจากนี้ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าในยุคดิจิทัลต้องรู้จักใช้สื่อสังคมออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ในการเพิ่มช่องทางการขาย สร้างการเป็นที่รู้จัก เพราะวัฒนธรรมปากต่อปากผ่านการแชร์บนโลกออนไลน์ช่วยกระตุ้นการซื้อได้ “การใช้สื่อโซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ ถือเป็นช่องทางการสื่อสารที่น่าสนใจที่สุดที่ไม่ต้องเสียเงินลงทุนมาก แต่ได้ผลกลับมาอย่าง มากมายมหาศาล จากการแชร์ เพราะคนในสังคมสมัยนี้ติดเทคโนโลยี และเกือบทุกคนมี Smart phone เป็นของตัวเอง เป็นปัจจัยที่ห้าในชีวิต จึงเล็งเห็นว่าการใช้พื้นที่ตรงนี้จึงเป็นช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมที่สุดสำ�หรับยุคสมัยนี้” นอกจากนั้น นางสาวพิณทิพย์มองเทรนด์แฟชั่นในปี 2015 ว่า ชุดเดรสที่ใส่ได้ทั้งในชีวิตประจำ�วันตอนกลางวันและออกงานกลาง คืนเ เทรนด์การออกแบบต้องตอบโจทย์การผสมผสานทั้งความเรียบง่ายและดีไซน์ที่หลากหลาย แหวกแนว เพื่อสร้างความลงตัวในแบบฉบับ ของตัวเอง

เรื่องส๊ด...สด NEW COLLECTION BY ELIE SAAB เมื่อพูดถึงแบรนด์ Couture ระดับโลกนาทีนี้คงหนีไม่พ้น Ellie Saap แบรนด์เสื้อผ้าชั้นสูงจากประเทศฝรั่งเศส ด้วยผีมือการ ออกแบบของ Ellie Saap ที่เนรมิตชุดสุดหรูให้เหล่าบรรดาเซเลบริตี้คนดังของโลกได้ใส่เดินเฉิดฉายบนพรมแดง อาทิ แองเจลิน่า โจลี่, บี ยอนเซ่ ไปจนถึงบรรดาเชื้อพระวงค์ต่างๆเช่น ราชินีราเนียแห่งจอร์แดน ที่ทรงชื่นชอบในผลงานการออกแบบชุดของ Saap เป็นอย่างมาก Ellie Saap นำ�เสนอความโดดเด่นล่าสุดกับคอลเล็คชั่น Spring 2015 Coutureในงาน Couture Fashion Week 2015 ด้วยการ จับคู่สิ่งที่ไม่น่าเข้ากันได้อย่างขนนกกระจอกเทศมากับรองเท้าส้นเตี้ยจากผ้าซาติน นำ�มารังสรรค์เป็นชุดเดรสราตรีทั้งแบบยาวได้อย่างลงตัว และอีกหนึ่งความน่าสนใจที่ Ellie Saab นำ�เสนอในคอลเล็คชั่นนี้ก็คือการนำ�เอาเทคนิคลายพริ้นที่ไม่ค่อยได้เห็นในผลงานของ Ellie Saab นำ� มาใช้ซึ่งลายพิมพ์รูปดอกทิวลิปนี้ Saab ได้รับแรงบรรดาลใจจากลายชุดของคุณแม่เมื่อตอนเค้ายังเด็ก ซึ่งนับว่าลายทิวลิปนี้เป็นสัญลักษณ์ที่ ทรงพลังที่สุดในซีซั่นนี้เลยทีเดียว เห็นอย่างนี้ต้องบอกเลยว่าบรรดาสาวก Ellie Saap พลาดไม่ได้กลับคอลเล็คชั่นระดับโลกสุดหรูแบบนี้

TIPS ในปี 2015 สาวๆได้อพั เดทเทรนด์กนั ไปรึยงั ? หากว่ายังล่ะก็มาอัพเดทไปพร้อมๆ กันกับเราดีกว่า ถ้าพูดถึงแฟชัน่ ทีใ่ ส่ได้ ไม่มเี อ้าท์แล้ว ก็คงไม่พน้ แฟชัน่ ยีนส์ ในปี 2015 แฟชั่นยีนส์ที่กำ�ลังจี๊ดสุดๆ คือ กางเกงยีนส์ทรงบอยเฟรนด์ ตัวหลวมโพรกกับเสื้อตัวหลวมที่ไม่รัดสัดส่วนจนเกินไป ใส่สบายไม่ทำ�ให้อึดอัด และจะช่วยอัพลุคให้สาวๆ ดูทันสมัย สวยชิคแบบแฟชั่นนิสต้า บอกลากางเกงยีนส์ขาสั้นตัวจิ๋วกับกางเกงยีนส์เอวสูงตัวเก่าไปได้เลย ลุคสาวหวานที่นำ�มา แมตซ์กับเสื้อเข้ารูปตัวสวย ลุคแบบเฟมมินีน (Feminine Look) ก็ดูสนุกกับการแต่งตัวไปอีกแบบ ลุคสาวแสบสุดแซ่บที่แม็ตซ์กางเกงทรงนี้เข้ากับ รองเท้าส้นสูงคู่สวยที่คุณมีก็ยังได้ ลุคสาวทำ�งานที่ดูทางการขึ้นอีกนิด ด้วยการสวมเสื้อสูทก็ดูสมาร์ทขึ้นได้


4

อัจฉรา แย้มภิรมณ์ศรี, นนทิยา ตาน้อย เขียน

Econ&Biz

Biz.update

นักลงทุนหน้าใหม่เตรียมรับมือปี 58 ท่องเทีย่ วโต ทองขาลง และภาษีการค้าออนไลน์! การท่องเที่ยวในไทยในปี 2558 คาดว่าจะขยายตัว ตามการรวมตัวของอาเซียน แต่ต้องระวังการแข่งขันสูงจาก นักลงทุนต่างชาติ ราคาทองคำ�อยู่ในช่วงขาลง มีความเสี่ยง เรื่องการเก็งกำ�ไรระยะยาว และผู้ค้าออนไลน์เตรียมรับมือ การเก็บภาษีกระทบต้นทุนของสินค้าและบริการแนะนักธุรกิจ ใน 3 สาขาติดตามข่าวสารและปรับตัวให้ทันสถานการณ์

ร้านค้าออนไลน์รายได้เกินปีละ 1.8 ล้านบาทเตรียม เสียภาษี

กรมสรรพากรได้ ส่ ง หนั ง สื อ ถึ ง ผู้ ป ระกอบการธุ ร กิ จ อีคอมเมิร์ซ 50,000 รายทั่วประเทศให้กับผู้ค้าออนไลน์ที่มีราย ได้เกินปีละ 1,800,000 ต่อปี เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการเสียภาษี อย่างถูกต้อง เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีผู้ค้าขายผ่าน ทางออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆทำ�ให้มูลค่าการซื้อขายและรายได้ของผู้ ประกอบธุรกิจในแต่ละปีเพิ่มมากขึ้นทั้งนี้ยังมีผู้ประกอบการที่ไม่เข้า ระบบเสียภาษีเป็นจำ�นวนมากเช่นเดียวกันจากข้อมูลของผูม้ รี ายได้จาก ธุรกิจจำ�นวนประมาณ 500,000 รายทั่วประเทศ กรมสรรพากร พบว่ายังมีผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการเสีย ภาษีอย่างถูกต้องประมาณ 50,000 ราย โดยมีทั้งรายที่เข้ามาอยู่ ในระบบแต่เสียภาษีไม่ครบถ้วน

ในกรณีการเปิดร้านค้าออนไลน์สำ�หรับบุคคลธรรมดา อย่างร้านค้ารายเล็ก มีการพิจารณาอยู่ 2 กรณีคือ ถ้ารายได้ ไม่ถึง 1,800,000 บาทต่อปี เสียแค่ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ถ้ากรณีเกิน 1,800,000 บาทต่อปี จะต้องเสียภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา และภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยผู้ค้าออนไลน์ที่มีรายได้เกิน 1,800,000 บาท ต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และไปบวก เพิ่มจากลูกค้าทันที อาทิ สินค้ามีราคา 100 บาท ต้องบวกภาษี มูลค่าเพิ่มไปอีก 7% รวมเป็นราคา 107 บาท

นักลงทุนทองคำ� เตรียมรับมือราคาทองคำ�ต้นปี 58 อยูใ่ นช่วงขาลง ราคาทองคำ�ต้นปี 58 ยังผันผวนและอยู่ใน ช่วงขาลง นักลงทุนควรลงทุนระยะสั้น ในลักษณะลงซื้อขึ้นขาย นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มเอทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก วิเคราะห์ราคาทองคำ�ในช่วงต้นปี 2558 ว่า จากสภาพตลาด ทองคำ�ในปี 2557 โดยภาพรวมจะเห็นการปรับตัวลดลงจากราคา ต้นปีกับราคาในปลายปี และจะเห็นได้ว่า ราคาทองคำ�ในตลาดโลก แกว่งตัวอย่างต่อเนื่อง และมีบางช่วงที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นไปสุดที่ 1,280เหรียญ และต่ำ�สุดอยู่ที่ระดับ 1,132 เหรียญ จึงทำ�ให้ใน ปี 2558 ราคาทองคำ�น่าจะยังคงแกว่งตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อม คาดว่าครึ่งปีแรกราคาทองคำ�จะปรับตัวลดลง MTS Gold แม่ ทองสุก คาดว่าการที่ราคาทองคำ�อยู่ระดับ 1,200 เหรียญอีก ครั้ง เป็นสิ่งยืนยันว่าราคาทองคำ�ในระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวลดลง

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย เตรียมรับมือท่อง เที่ยวไทยสู่อาเซียน ปี 58 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า

ในปี 2558 มีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจำ�นวนประมาณ 148.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 โดยจะช่วยสร้างเม็ดเงินสะพัด ไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมูลค่าประมาณ 7.72 แสนล้านบาท ขยาย ตัวร้อยละ 9.4 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าปี 2557 ร้อยละ 7 โดยการขยายตัว ที่โดดเด่นน่าจะมาจากการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยไปยังเมือง ท่องเที่ยวในภาคเ หนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ซึ่งมีสัดส่วนรวมกัน เกือบครึ่งของตลาดไทยทั้งหมดในปีนี้ สุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หากอุตสาหกรรม ท่ อ งเที่ ย วขยายตั ว ตามธุ ร กิ จ การค้ า ของประชาคมอาเซี ย นซึ่ ง ช่วยจูงใจนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนธุรกิจท่องเที่ยวในไทย จะกระทบผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ขาดทักษะ ประสบการณ์ หากมี การลงทุนจำ�นวนมากโดยขาดการวางแผน ภายในสามปีอาจส่งผล ต่อปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรและระบบสาธารณูปโภค ปัญหา การแย่งใช้ทรัพยากร และระบบสาธารณูปโภค ดังนั้นจำ�เป็นต้อง รีบสร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้ประกอบการรายย่อยกว่าร้อยละ 70 ทั้งนี้ ผู้ป ระกอบการไทยควรเร่ ง ปรั บ ตั วโดยใช้ ป ระโยชน์ จ ากการเป็ น อาเซียน เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด รวมทัง้ การปรับกลยุทธ์ทาง ธุรกิจ โดยอาศัยจุดแข็งของภาคการท่องเที่ยวของไทยโดยเฉพาะ การเป็นที่ยอมรับในด้านการเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

Outlook เผย 10 อันดับธุรกิจทางการ แพทย์ที่มีรายได้สูงที่สุด เผย 10 อันดับธุรกิจทางการแพทย์ที่มีรายได้สูงที่สุด อันดับ 1 แพทย์กระดูก รายได้เฉลี่ยต่อป ประมาณ 13,586,847 บาท เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ป่วยที่โรคกล้ามเนื้อและกระดูก อุบัติเหตุ ทางร่างกาย และกระดูกหักสูงขึ้นทุกปี เหตุนี้เองทำ�ให้ศัลยแพทย์ กระดูกมีความต้องการสูงมากในทุกประเทศ อันดับ 2 แพทย์โรค หัวใจ รายได้เฉลี่ยต่อปีประมาณ 11,503,294 บาท องค์การ อนามัยโลกรายงานว่า “โรคหัวใจ” เป็นสาเหตุของการป่วย และการเสียชีวิตของประชากรก่อนวัยอันควรมากี่สุดในโลก สูงถึงปีละ 17 ล้านคน และมีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี ทำ�ให้แพทย์ที่ มีความรู้ความชำ�นาญเกี่ยวกับโรคหัวใจเป็นที่ต้องการมากขึ้นโดย แพทย์ทางด้านนี้จึงต้องมีความชำ�นาญเป็นพิเศษโดยเฉพาะเรื่อง การผ่าตัด อันดับ 3 แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ รายได้เฉลี่ย ต่อปี ประมาณ 11,404,975 บาท แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ จะทำ�หน้าที่ในการตรวจวินิจฉัยและรักษาเฉพาะโรคในระบบทางเดิน ปัสสาวะทัง้ หมด ระบบอวัยวะภายในทีส่ �ำ คัญอย่าง “ตับและไต” ซึ่ง ได้แก่ องคชาติ อัณฑะ ถุงอัณฑะ ท่ออสุจิ ต่อมลูกหมาก และถุง น้ำ�กาม โดยเฉพาะโรคทางเดินปัสสาวะจะเป็นปัญหาที่พบบ่อย และ หากปล่อย ให้เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะเรื้อรัง เป็นเหตุให้ เกิดโรคไต อันดับ 4 แพทย์ระบบทางเดินอาหารรายได้เฉลี่ยต่อ ปี อันดับ 5 รังสีแพทย์ รายได้เฉลี่ยต่อปี ประมาณ 11.1 ล้าน บาท อันดับ 6 วิสัญญีแพทย์รายได้เฉลี่ย ประมาณ 11 ล้าน บาท อันดับที่ 7 ศัลยกรรมตกแต่งรายได้ ประมาณ 10.5 ล้าน บาท อันดับ 8 แพทย์โรคผิวหนังรายได 10 ล้านบาท อันดับ 9 ศัลยแพทย์ทั่วไป รายได้เฉลี่ยต่อประมาณ 9.6 ล้านบาท และอันดับ 10 แพทย์ตา หู คอ จมูก เฉลี่ีย 9.5 ล้านบาท

จับตาธุรกิจเด่นปึ 58 ธุรกิจการแพทย์ ความงาม เครื่องสำ�อางค์มาแรง นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดี ฝ่ายวิจัยและ ผู้อำ�นวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย เปิดเผยว่าจากการสำ�รวจด้านยอดขาย ต้นทุน กำ�ไร และความสอดคล้องกับกระแสนิยมต่างๆ พบว่า 10 ธุรกิจ เด่นปี 2558 ได้แก่ 1.ธุรกิจทางการแพทย์และความงาม 2.ธุรกิจ เครื่องสำ�อาง ครีมบำ�รุง 3.ธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสาร 4.ธุรกิจการ ศึกษาและธุรกิจท่องเที่ยว 5.ธุรกิจประกันชีวิต 6.ธุรกิจเครื่องดื่ม 7.ธุรกิจจำ�หน่ายและผลิตถุงมือยาง ถุงมือตรวจ และธุรกิจก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง 8.ธุรกิจจำ�หน่ายและผลิตสินค้าสำ�หรับผู้สูงอายุ 9.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 10.ประมงน้ำ�จืด และธุรกิจจำ�หน่าย รถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) เมื่อเทียบกับ 10 ธุรกิจเด่น ปี 2556 และปี 2557 พบว่าธุรกิจการแพทย์และความงาม ยังเป็นธุรกิจทีต่ ดิ อันดับอย่างต่อเนือ่ ง เพราะโดดเด่นในเรื่องยอดขาย โดยธุรกิจที่เพิ่มขึ้นในปี 2558 คือธุรกิจเครือ่ งสำ�อาง ครีมบำ�รุงผิว สินค้าสำ�หรับผู้สูงอายุ ธุรกิจร้านกาแฟ ประมงน้ำ�จืดและ จำ�หน่ายบิก๊ ไบค์ ส่วนธุรกิจทีต่ กจาก 10 อันดับ คือธุรกิจสือ่ โทรทัศน์ ธุรกิจออแกไนซ์ อุปกรณ์เทคโนโลยี เคมีภณ ั ฑ์ กลุม่ พลังงานทดแทน นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ส่วน 10 ธุรกิจดาวร่วง ปี 2558 ได้แก่ 1.ดอกไม้ประดิษฐ์ 2.หัตถกรรมทั่วไป 3.ผักและผลไม้อบแห้ง 4.สิ่งทอผ้าผืน 5.ร้านค้าดั้งเดิม 6.ยางพารา เพราะราคายังตกต่ำ� 7.โทรทัศน์สีรุ่นธรรมดา 8.ข้าว เพราะสต็อกสูงและราคาทรงตัวต่ำ� 9.ส้วมนั่งยอง และ10.มอเตอร์ไซค์ เพราะคนรุ่นใหม่หันไปซื้อรถยนต์และบิ๊กไบค์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำ�มันถูกลง อย่างไรก็ตามคาดว่าช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 สถานการณ์เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกจะยังไม่ฟื้นตัวแต่จะเริ่มฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ทั้งนี้ จากผลการวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือของ ม.หอการค้าไทย คงพอให้นักธุรกิจและนักการตลาดเห็นภาพแนวโน้มในอนาคตของธุรกิจ เพื่อเตรียมรับมือกับ “ปีแพะ” ที่มาเยือน


ณรงค์เกียรติ ชูจันทร์, ชนัดดา บุญครอง เขียน

EconPolicy

Econ&Biz

5

เว็บไซต์ DDproperty ได้ระบุว่า ธุรกิจที่คาดว่าจะรุ่งในปี 2558 ได้แก่ ก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง เนื่องจากการลงทุนในโครงสร้าง พ้นฐานด้านการคมนาคมของภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ทั้งเขตกรุงเทพ ปริมณฑลและต่างจังหวัด, ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม เนื่องจาก มีการเติบโตสูงและตื่นตัวมาก เพื่อรองรับการเข้ากลุ่มประชาคม อาเซียน AEC 2015, ธุรกิจโมเดิร์นเทรดและค้าปลีก, ธุรกิจท่อง เที่ยวและธุรกิจด้านสุขภาพ โดยเฉพาะชาวต่างประเทศยังคงท่อง เที่ยวไทยอย่างต่อเนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงไม่มีผลกระทบต่อ การท่องเที่ยวมากนักรวมถึงกระแสรักสุขภาพก็ยังได้รับความนิยม เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น เป็นอีกธุรกิจที่ทำ�กำ�ไรสูงและสุดท้าย ธุรกิจส่งออกที่สร้างมูลค่าเพิ่มการขยายตัวของประเทศเพื่อนบ้าน ทำ�ให้ไทยพร้อมเปิดเขตเศรษฐกิจและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สร้ า งความเชื่ อ มโยงระหว่ า งเศรษฐกิ จ ภู มิ ภ าคของไทยรั บ AEC ส่ ว นธุ ร กิ จ อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ที่ อ ยู่ ใ นบริ เ วณรถไฟฟ้ า ที่ กำ � ลั ง สร้ า งใหม่ ส ่ ง ผลกระทบให้ราคาและมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ ในทำ�เลนั้นให้สูงขึ้น เช่นเดียวกับราคาที่ดิน เพราะการมี รถไฟฟ้าวิ่งผ่าน ที่ดินจะมีโอกาสนำ�ไปลงทุนหรือสร้างธุรกิจ ได้มากขึ้น อย่างน้อยคือการเดินทางที่สะดวกสบาย นอกจาก นี้การที่มีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นมาก นั่นหมายถึงกลายเป็น แหล่งชุมชน ทำ�ให้เกิดกำ�ลังซื้อ จึงเป็นผลดีต่อธุรกิจที่ตอบโจทย์ ต่อการใช้ชีวิต อย่างธุรกิจบริการ ร้านค้า ร้านอาหาร เป็นต้น

กูรเู ศรษฐกิจเชือ่ รถไฟฟ้าดันเศรษฐกิจปี 58 โตกว่าร้อยละ 10 กูรูอสังหาริมทรัพย์เชื่อระบบขนส่งมวลชนแบบรางดันธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์โต กว่าร้อยละ 10 หลังเริ่มเห็นความชัดเจนจากการ ก่อสร้างรถไฟฟ้าแต่ละสาย ส่งสัญญาณการลงทุนย่านชานเมือง หลังจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมกับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เร่งรัด ให้เกิดการดำ�เนินการนำ�แผนแม่บทดังกล่าวเข้ามาเป็น 1 ใน 5 แผนยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมที่จะต้องเร่งรัด ให้เสร็จ ภายใต้กรอบเวลา 8 ปี (2558-2565) ซึ่งส่งผลกระ ทบต่อเศรษฐกิจอย่างแน่นอน ทำ�ให้กูรูอสังหาริมทรัพย์จากหลาก หลายองค์กร กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ปี 2558 นั้นจะขยายตัวอย่างแน่นอนร้อยละ 10 จากความคืบหน้า และความชัดเจนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชน แบบราง ตามแผนยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์เรียลเอสเตจ แอฟแฟร์ เปิดเผยว่าทำ�เลที่น่าจับตามองมาก ที่สุดในตอนนี้คือบางซื่อ ไปจนถึงรังสิต ซึ่งกำ�ลังทำ�การก่อสร้าง รถไฟฟ้าสายสีแดงอยู่ และสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ ที่คาด ว่าอนาคตนั้นราคาจะสูงขึ้นกว่าเท่าตัว จากราคาเฉลี่ยปัจจุบัน ที่ 80,000 – 150,000 บาทต่อตารางวา อาจจะพุ่งขึ้นสูง กว่า 300,000 – 450,000 บาท นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ย่าน ชานเมืองที่ห่างจากบริเวณรถไฟฟ้าออกไปพบว่า มีการขยายตัว ของอสังหาริมทรัพย์เป็นวงกว้างออกไปมากขึ้น เฉลี่ยตารางเมตร ละ 100,000 บาท เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่รองรับรถไฟฟ้าที่กำ�ลัง ก่อสร้างอยู่ ซึ่งจะมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต และภาพรวม ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ว่ามีแนวโน้มขยายตัวมากกว่าปีที่ ผ่านมา ส่วนราคานั้นหากเป็นชานเมืองออกไปไกลๆนั้น ราคาจะ อยู่ที่ประมาณ 50,000 – 100,000 / ตารางวา หากขยับเข้า มาในเมือง ก็จะอยู่ที่ 100,000 – 300,000 ต่อตารางวา

ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 100,000 / ตารางวา หาก ขยับเข้ามาในเมืองอยูท่ ่ี 100,000 – 300,000 ต่อตารางวา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่รองรับรถไฟฟ้าที่กำ�ลังก่อสร้างอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต และภาพรวมของธุรกิจ อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ใ นปี นี้ ว่ า มี แ นวโน้ ม ขยายตั ว มากกว่ า ปี ที่ ผ่ า น มา ส่วนราคานั้นหากเป็นชานเมืองออกไปไกลๆนั้น ราคาจะอยู่ ที่ประมาณ 50,000 – 100,000 / ตารางวา หากขยับเข้า มาในเมือง ก็จะอยู่ที่ 100,000 – 300,000 ต่อตารางวา ทั้งนี้จากผลการสำ�รวจข้อมูลโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั่ว ประเทศปี 2557 จำ�นวน 114,094 ยูนิต เป็น ห้องชุดพักอาศัย หรือ คอนโดมิเนียม 65,298 หน่วย คิดเป็น 57%, รองลงมาเป็น ทาวน์เฮ้าส์ร้อยละ 24, บ้านเดี่ยวร้อยละ 12, บ้านแฝดร้อยละ 5, อาคารพาณิชย์ร้อยละ 2 และอื่นๆ ร้อยละ 0.1 พบว่า มีการกระจุก ตัวของอสังหาริมทรัพย์ ประเภท คอนโดมิเนียม เพิ่มมากขึ้นในย่าน กลางเมือง โดย ทำ�เลหลักคือ พื้นที่อยู่ติดแม่น้ำ� และรถไฟฟ้าทั้ง บี ทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่ 3 อันดับแรก คือ คลองสาน, บางซื่อ, และถนนกาญจนาภิเษก - ถนนเพชรเกษม ที่ราคาเฉลี่ยหน่วยละ 3.04 ล้านบาท ซึ่งกว่าร้อยละ 84 ราคาไม่เกิน 5,000,000 บาท ด้านนายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโมเดิร์นพร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำ�กัด วิเคราะห์ถึง ราคาที่ดินปี 2557 ว่าขยับขึ้นจากปี 2556 เฉลี่ยร้อยละ10-20ขึ้น ไปโดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้ าในเขตกรุ ง เทพฯและปริ ม ณฑลที่ มี ฐ าน ราคาที่ดินสูงอยู่แล้ว ทั้งนี้มีผลกระทบมาจากการลงทุนโครงสร้าง พื้นฐานรัฐ โดยเฉพาะรถไฟฟ้า สายใหม่ ในเขตกทม.- ปริมณฑล ธุรกิจอสังหาฯตั้งแต่ปี 2556 – ปัจจุบันโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะ คอนโดมิ เ นี ย มบู ม ตามแนวรถไฟฟ้ า และรุ ก ไปตามต่ า งจั ง หวั ด เมื่อความต้องการที่ดินมีสูง จึงฉุดให้ราคาแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว อีกทั้งการลงทุนห้างค้าปลีก ช็อปปิ้งมอลล์กระจายไปยังหัวเมือง ใหญ่ ทำ�เลนั้นจะกลายเป็นทำ�เลที่มีศักยภาพและเกิดธุรกิจต่อเนื่อง

ทิศทางการปรับตัวขึ้นของที่ดินบริเวณรอบแนวรถไฟฟ้า จะทำ�ให้อสังหาริมทรัพย์ปี 2558 ขยายตัวประมาณร้อยละ 10 นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการ ผู้อำ�นวยการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท อธิบายว่าปี 2558 เห็นสัญญาณของการลงทุนของภาครัฐในระบบโครงสร้างพื้น ฐาน การเพิ่มส่วนต่อขยายของแนวรถไฟฟ้ าไปย่ า นชานเมื อ ง ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างไทย-จีน และ ไทย-ญี่ปุ่นในการ สร้างรถไฟรางคู่เชื่อมเศรษฐกิจภูมิภาคล้วนเป็นปัจจัยบวกกระตุ้น การเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ สำ�หรับโอกาสทางธุรกิจของผู้ ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คือการลงทุนในย่านชานเมือง เพราะต้นทุนที่ดินราคาต่ำ�กว่ าในเมื อ ง แต่ ต ้ อ งเน้ น เรื ่ อ งการ ออกแบบอสังหาริมทรัพย์ให้เหมาะกับวิถีชีวิตและค่าครองชีพของ คนในบริเวณนั้นเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุน ส่วนประชาชนใน พื้นที่ก็จะต้องปรับตัวและหาวิธีรับมือกับค่าครองชีพที่อาจจะสูงขึ้น เทียบเท่ากับในเมือง ทั้งการหารายได้เสริมผ่านอาชีพอื่นๆ หรือ การอดออมทั่วไปเพื่อปรับตัวให้เข้ากับเศรษฐกิจที่กำ�ลังขยายตัว ออกไปตามแนวรถไฟฟ้า ส่วนการสำ�รวจความเห็นของผู้อยู่อาศัยย่านดอนเมืองที่ กำ�ลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ต่างกล่าวเป็นเสียง เดียวกันว่าการสร้างรถไฟฟ้านั้นเป็นเรื่องดีช่วยลดเวลา อำ�นวย ความสะดวกในการเดินทางก็จริงแต่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเร่งรัด โครงการให้สำ�เร็จโดยเร็ว


6

อนงค์นาฎ ชนะกุล เขียน

Guru

รศ.ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการ วิจัยอิสระ ASEAN Business Intelligence กล่าวว่า การรวมอาเซียนถือเป็นการรวมให้เป็นหนึ่งเดียวมีเป้าหมายเพื่อรวมทั้ง 10 ประเทศ เพื่อสร้างโอกาสด้านการติดต่อการค้า การดำ�เนินกิจการกับประเทศต่างๆ ดั ง นั้ น จึ ง ต้ อ งมี ก ารเตรี ย มความพร้ อ มให้ เ ยาวชนมี ทั ก ษะที่ โ ดดเด่ น เฉพาะด้ า น และสร้างให้เป็นคนทำ�งานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อดึงขึ้นมาเเข่งกับชาติอื่นในอาเซียน นอกจากนั้น ควรส่งเสริมการขยายโอกาสทางด้านการศึกษา และด้านแรงงานการ ประกอบอาชีพ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันเตรียมความพร้อมทุกด้านของระบบ การศึกษา ซึ่งถือเป็นรากฐานในการสร้างฐานให้นักศึกษามีศักยภาพ มีคุณภาพ แล้วยังเป็นฐานในการสร้างโอกาสและความเจริญทางด้านแรงงานในการประกอบ อาชีพ การศึกษาควรเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการปลูกฝังหรือพัฒนาศักยภาพ นักศึกษาไทย ในการเรียนการสอนควรมีการนำ�ความรู้ใหม่ๆ มาสอนเพื่อต่อยอด ความรู้ที่มีอยู่ ในแง่การศึกษาวิจัย ควรศึกษาเกี่ยวกับประเด็นแรงงานและการหางาน ของ ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งยังมีข้อมูลดังกล่าวไม่มากพอที่จะให้วิเคราะห์โอกาสของ นักศึกษาไทยอย่างรอบด้าน

นักวิชาการแนะ เร่งสร้างเสริมวิชาการ ดันเด็กไทยสู้อาเซียน

รศ.ดร.การดี แนะ ระบบการศึกษาไทยต้องปรับตัว เน้นสร้างความโดดเด่นเฉพาะด้านให้เด็กไทย ควบคู่การเสริมฐานวิชาการ และภาษา เตรียมรองรับตลาดแรงงานอาเซียน

ในแง่ของระบบการศึกษาประเทศไทยควรเน้นให้นักศึกษามีความ กระตือรือร้นทางวิชาการและวิชาชีพที่เรียนมากขึ้น---เพื่อสร้างโอกาส ในการเข้าถึงงานที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจในอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผูท้ เ่ี รียนใน 7 สาขาวิชาชีพ ทีจ่ ะมีการเคลือ่ นย้ายแรงงาน อย่างเสรีประกอบด้วยในอาชีพวิชาชีพที่เกี่ยวกับการ รักษาหรือการแพทย์ ทันตกรรม พยาบาล วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การสำ�รวจ หรือนักสำ�รวจ และบัญชี นอกจากนัน้ ต้องพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ซึ่งจะเป็น ภาษากลางในการติดต่อระหว่าง--10--ประเทศ---จะเพิ่มโอกาสก้าวหน้า ในการทำ�งาน---จากสถิติล่าสุดการจัดอันดับความสามารถการใช้ภาษา อังกฤษในอาเซียน ไทยยังคงรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน---นอกจากนี้หากให้ มีคุณภาพและศักยภาพที่เเน่นพอสามารถแข่งขันในตลาดแรงงานได้-------ถือเป็นตัวเสริมที่สร้างโอกาสในการทำ�งานมากกว่าเดิมเพราะเมื่อเปิด อาเซียนเดินทางไปทำ�งานทั่วทั้งอาเซียนจะไม่มีข้อกีดกั้น ดังนั้นตัวนักศึกษา ไทยก็ต้องมีการเตรียมตัวให้ดีที่สุด มีเป้าหมายให้ชัดเจน ใฝ่เรียนรู้ให้มาก ที่สุด ต้องมีความรู้ความสามารถ ในการบริการ การทำ�งานกับเพื่อนร่วม งานอย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการปรับตัว ความเร็ว ความ ยืดหยุ่นในการทำ�งานเป็นหลัก เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และพัฒนาสม่ำ�เสมอ การเรี ย นรู้ จ ากผู้ เ ชี่ ย วชาญไม่ จำ � เป็ น ต้ อ งหาจากบุ ค คลอื่ น ภายนอก การค้นหาทางโซเชียลมีเดียต่างๆ---ก็ถือเป็นการใช้สื่อให้เกิดประโยชน์ ค้นหาความรู้รอบตัวบ่อยๆ ปรับทัศนคติมีความคิดที่ริเริ่มในการที่จะปรับ ตัวเองเพื่อพร้อมรับกับสิ่งใหม่ให้ได้มายังความก้าวหน้าทั้งทางการงานที่ ต้องแข่งขันและพัฒนาศักยภาพของไทยในอาเซียนพยายามคิดในทางบวก ในส่วนนี้ที่ไทยต้องปรับ ไม่ว่าการศึกษาที่มาจากครูผู้สอนที่ปลูกฝัง

ภาษาหรือการพัฒนาตัวเองหมั่นศึกษาข้อมูลจากเพื่อนบ้านหรือการ ปรั บ เปลี่ ย นวิ ถี ชี วิ ต ---แนวคิ ด นั้ น ไทยจะสามารถทำ � งานร่ ว มกั บ เพื่ อ น บ้านประชาคมอาเซียนได้--ในส่วนนี้ที่ไทยต้องปรับไม่ว่าการศึกษาที่มา จากครูผู้สอนที่ปลูกฝังภาษาหรือการพัฒนาตัวเอง--หมั่นศึกษาข้อมูล จากเพื่อนบ้านหรือการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต--แนวคิดนั้นไทยจะสามารถ ทำ�งานร่วมกับเพื่อนบ้านประชาคมอาเซียนได้-ด้านการรับประกันความ ก้าวหน้าการทำ�งานในอนาคต-รศ.ดร.การดี-เลียวไพโรจน์-เสริมว่า ไทยต้ อ งศึ ก ษาประเทศในอาเซี ย นและสร้ า งแบรนด์ ที่ เ ป็ น เอกลั ก ษณ์ ของประเทศให้ ชั ด เจนจึ ง จะเพิ่ ม ขี ด ความสามารถในการแข่ ง ขั น ได้- เนื่องจากในอนาคตตลาดในภูมิภาคจะไม่ได้จำ�กัดอยู่ในเฉพาะประเทศ นั้นๆ จึงต้องคิดใหม่ทำ�ใหม่ โดยเฉพาะหลังปี 2558 มีกระแสทุนสินค้า ที่มากขึ้น--แต่ละประเทศมีการผลิตสินค้าหรือนวัตกรรมที่ต้องคิดเผื่อไป ทั้งภูมิภาค---ตลาดเเรงงานที่จะมีการไหลข้ามพรมแดนไปหากันได้สะดวก มากขึ้น แม้จะยังไม่ส่งผลกระทบชัดเจนต่อไทยในช่วง 5 ปีข้างหน้า แต่ต้องเตรียมตัวแรงงานในระยะยาวเพื่อรองรับโอกาสและสู้การแข่งขัน “ตัวกำ�หนดความก้าวหน้าเหล่านี้--ถือเป็นหลักในการเตรียมความพร้อม เข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งความรู้เกี่ยวกับภาษาหลัก วัฒนธรรม วิถีชีวิต เศรษฐกิจของแต่ละประเทศ สิ่งนี้จะทำ�ให้นักศึกษาไทยมีโอกาสในการมีงาน ทำ�หรือไม่ ที่สำ�คัญทำ�ให้ประเทศไทยก้าวพ้นกับเศรษฐกิจแรงงานที่ตกต่ำ� ทำ�ให้มีความต้องการในการใช้แรงงานที่มีความรู้ความสามารถมากขึ้น การรับมือกับสิ่งที่ท้าทายและสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำ�ให้มีโอกาสในการได้รับตำ�แหน่งงานที่ดีกว่า--และเพื่อศักยภาพของเเร งงานไทยอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น”

infographic: ปราณิสา อำ�นาจประชา


กิดาการ เอกอัครายุทธ เขียน

Guru

เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค สร้างสินค้าบริการที่ตรงใจ หัวใจการทำ�ธุรกิจยุคดิจิทัล Digital Economy เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำ�วันของคนเรามากขึ้นทุกที ยิ่งในด้านเศรษฐกิจที่มี การพัฒนาทางด้านไอทีมากขึ้น ทำ�ให้ประตูของสังคมนั้นเปิดกว้างสำ�หรับบุคคลที่ตั้งใจจะเริ่มลงทุน ทำ�ธุรกิจ เพียงแต่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในการที่จะเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่จะ มีอยู่ตลอดเวลา Digital Economy คือ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยการนำ�เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตของประเทศ ซึ่งดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำ�คัญ ในระบบเศรษฐกิจ โดยอำ�นวยความสะดวกในการทำ�ธุรกรรมต่างๆ เช่น การโอนเงินผ่านโทรศัพท์ มือถือ การซื้อขายบนโลกออนไลน์ เพราะความสะดวกสบายเหล่านี้ ส่งผลให้วิถีชีวิตของมนุษย์เปลี ยนไป มีความรวดเร็วในการทำ�งาน การสื่อสาร และการดำ�รงชีวิต รวมถึงสามารถทำ�งานได้ถึง แม้ว่าจะอยู่ที่บ้านก็ตาม นายพรวิทย์ พัชรินทร์ตนะกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทุกคนต้องมีการปรับตัว โดยเฉพาะบุคคลที่ต้องการจะดำ�เนินธุรกิจ จะต้องมีความไวต่อการสังเกตตลาดเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน---เนื่องจากการทำ�ธุรกรรมต่างๆ สามารถทำ�ได้สะดวกมากขึ้นจากแต่ก่อน---รวมถึงการซื้อขายสินค้าที่สามารถทำ�ธุรกรรมผ่าน ออนไลน์ได้โดยที่ผู้ซื้อกับผู้ขายไม่จำ�เป็นต้องเห็นหน้ากัน นอกจากเรื่องเศรษฐกิจที่นักลงทุนจะต้องให้ความสนใจแล้ว การสังเกตพฤติกรรมของผู้บริโภคยัง ถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำ�คัญเป็นอันดับต้นๆ เพราะหัวใจสำ�คัญในการทำ�ธุรกิจ คือ พฤติกรรม ผู้บริโภค นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ไม่ทำ�การศึกษาความต้องการของผู้บริโภค จึงมักเลือกออกแบบสินค้า ออกมาในรูปแบบหลากหลาย เอาใจผู้บริโภคแบบมหาชน แทนที่จะผลิตสินค้าแบบเฉพาะเจาะจงให้ ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค เพราะฉะนั้นนักธุรกิจรุ่นใหม่จึงต้องปรับตัวเรียนรู้เกี่ยวกับการ ตลาดยุคใหม่ และทำ�ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อสามารถ สร้างทางเลือกให้ตรงกับผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยแนวคิดในการบริหารจัดการระบบเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับยุค Digital Economy ที่ทาง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้กำ�หนดไว้ แบ่งเป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 คือ การ ขายของผ่านเว็บไซต์ออนไลน์--หรือการค้าบนระบบดิจิทัลที่กระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจได้รวดเร็ว (Digital Commerce)--ขั้นตอนที่ 2 คือ การนำ�เอาเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ มาประยุกต์ใช้ให้เกิด มูลค่าทางธุรกิจ และขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการทำ�งาน ลดต้นทุน เพิ่มความพึงพอใจ ของลูกค้า (Digital Transformation) และขั้นตอนที่ 3 คือ การนำ�เทคโนโลยีมาใช้เป็นช่อง ทางการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการที่มีอยู่เดิม และการใช้เทคโนโลยี Digital มาประยุกต์ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการทำ�ธุรกิจต่างๆ (Digital Consumption) สำ�หรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ต้องการจะลงทุนทำ�ธุรกิจ ต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มความ ต้องการของผู้บริโภค ควรมองและวิเคราะห์ผลระยะยาว มีแผนรับรองปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่อาจมี ผลกระทบต่อธุรกิจในยุคดิจิทัล ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถปลูกฝังได้ในระดับอุดมศึกษา โดยสถาบันการ ศึกษาต้องให้ความรู้ด้านการประกอบธุรกิจ สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ บริโภค และวางแผนธุรกิจอย่างรอบคอบ คำ�นึงถึงผลประโยชน์ ผลกระทบในด้านต่างๆ เพื่อให้คน รุ่นใหม่สามารถเริ่มทำ�ธุรกิจของตนเองได้ถูกทางอย่างมีประสิทธิภาพ

7


SPECIAL REPORT

8


ทีมรายงานพิเศษ เขียน

GreenPackaging

9

ไร้แรงผลักดัน ไทยเมิน Green Packaging สวนกระเเสโลก บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Packaging) นับว่าเป็นอีกหนึ่งในคำ�ตอบของการช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน ผู้ผลิตสินค้าในต่างประเทศเริ่มที่จะสนใจในการผลิตตัวบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ เพราะถือว่าเป็น เรื่องที่ประชาชนในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วให้ความสนใจ และให้ความสำ�คัญกับการที่จะช่วยดูแลรักษาโลก ด้วยการลดมลภาวะต่างๆเท่าที่พวกเขาจะส่งเสริมได้ ถึงขี้นส่งเสริมในระดับนโยบายไม่ว่าจะ Tokyo-Protocal หรือ Zero-Waste ประเทศไทยแม้จะมีการพูดเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมบ้าง แต่การใช้งานจริงยังอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่จำ�กัด ความสนใจ กระแส และการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนอย่างจริงจังคือสิ่งที่สังคมยังถามหา... ทำ�ไมถึงเป็นเช่นนั้น?

Green Packaging บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บรรจุภัณฑ์เป็นที่นิยมของคนในสังคม ทำ�ให้การใช้บรรจุภัณฑ์มีมากขึ้น จนก่อให้เกิดปัญหาขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติซึ่งมีจำ�นวนเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้สัตว์ล้มตาย และใน ทุก 1 นาที ทั่วโลกจะมีการใช้ถุงพลาสติกกว่า 1 ล้านใบ จากบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยทำ�หน้าที่ปกป้องสินค้า กลับกลายเป็นปัญหาทางมลภาวะของสิ่งแวดล้อม จึงมีแนวคิดในการออกแบบ Green Packaging หรือ บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นการเลือกใช้วัสดุที่สามารถนำ�กลับมาใช้ใหม่ อาจจะเป็นวัสดุที่มาจากธรรมชาติก็ได้ เช่น ใบตอง ซึ่งการใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกจะทำ�ให้เราตระหนักถึงภาวะโลกร้อน กันมากขึ้น เพราะปัจจุบันนี้โลกของเราถูกทำ�ลายมายาวนานจากปริมาณขยะที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติหรือใช้ระยะเวลานานในการย่อยสลาย ปัจจุบันบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้มีทางเลือกในวัสดุที่จะนำ�มาใช้ผลิตที่หลากหลาย อาทิเช่น เห็ด, ชานอ้อย, ใบตอง หรือวัสดุจำ�พวกย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อ สิ่งแวดล้อม จำ�กัด ผู้ให้กำ�เนิดบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย นวัตกรรมสีเขียวนี้ คือ ซึ่งเปิดตลาดบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยตรา "ไบโอ" ในต่างประเทศมากว่า 6 ปีแล้ว โดยมีสหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น เป็นตลาดหลัก โดยผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารหลากหลายประเภททั้งจาน ชาม ถ้วย แก้ว กล่องใส่อาหาร ถาดหลุม สามารถขึ้นรูปได้ตามที่ต้องการกว่า 70 แบบ ทำ�จากเยื่อกระดาษชานอ้อยธรรมชาติ ซึ่งเป็นของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมผลิตน้ำ�ตาล สำ�หรับกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์ชานอ้อยนั้นไม่ได้ซับซ้อน นอกจากนี้ยังประหยัดพลังงานกว่าการผลิตวัสดุอย่างพลาสติก เพราะลดการใช้พลังงานไฟฟ้า แต่ใช้พลังงานไอน้ำ�แทน อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดของเสียจากกระบวนการผลิต ไม่ใช้คลอรีนในการฟอกสี (เทคโนโลยี ECF) ผลิตภัณฑ์จึงมีสีน้ำ�ตาลอ่อนตามสีชานอ้อยธรรมชาติ ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV จึงมั่นใจได้ว่าสะอาดและปลอดภัยต่อเราและโลก นายสมชนะ กังวารจิตต์ นักออกแบบบรรจุภัณฑ์ เจ้าของบริษัท Prompt Design ที่มีผลงานด้านบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก อธิบายเพิ่มเติมถึงบรรจุภัณฑ์สีเขียวว่า Green Packaging มีปัจจัยหลัก อยู่ 6 หัวข้อ 1.Material (วัสดุ) ลดวัสดุที่เปลี่ยนจากพลาสติกมาใช้ภาชนะที่มาจากพืช 2.Transport (การขนส่ง) คือ การออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในการขนส่งที่คุ้มค่าประหยัดเนื้อที่ 3.Use (รูปแบบการ ใช้) เป็นเรื่องของการใช้งานบรรณจุภัณฑ์ที่สามารถใช้ซ้ำ�กันได้หลายรอบ 4.Disposel (การจัดการขยะ) คือการแยกขยะก่อนทิ้งตามชนิดของขยะ 5.Manufacture (โรงงาน) เป็นเรื่องของที่จะมีวิธีการพัฒนา เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ 6.Communication (การสื่อสาร) คือการสื่อสารให้ผู้คนตระหนักถึงภาวะโลกร้อน แม้ในประเทศไทยจะยังไม่พร้อมในเรื่องของเครื่องจักรและผู้ผลิตที่กล้าจะลงทุน แต่หากคนในประเทศรวมถึงรัฐบาลเกิดความตระหนักถึงปัญหาโลกร้อนที่เริ่มส่งผลต่อชีวิตขึ้นทุกวัน ไม่แน่อีกไม่นาน ประเทศไทยอาจได้เป็นหนึ่งในประเทศที่มี Green Packaging สมบูรณ์แบบก็เป็นได้ สำ�หรับในต่างประเทศนั้นบรรจุภัณฑ์สีเขียวถือเป็นเรื่องที่ประเทศต่างๆนั้นกระตือรือร้นและเห็นความสำ�คัญเป็นอย่างมากโดย เฉพาะในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่หากมองกลับมาที่ประเทศไทยถึงการที่จะทำ�ให้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเข้ามามีบทบาทในสังคมไทย นายสมชนะ ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า ในประเทศไทยผู้ผลิตที่ จะมาสนใจดูแลเรื่องการผลิตเพื่อสิ่งแวดล้อม ยังไม่มีบริษัทไหนที่สนใจจะทำ�อย่างจริงจัง เนื่องจากต้องเพิ่มภาระให้กับตนเองในด้านต้นทุน แต่ในขณะที่ต่างประเทศมีผู้ผลิตที่พร้อมจะทำ� แต่ในเมืองไทยกลับไม่มี บริษัทไหนให้ความสนใจ เพราะการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะต้องมีการเปลี่ยนระบบการผลิตใหม่ทั้งหมด ก็คือต้องใช้เครื่องมือในการผลิตใหม่ทั้งหมดจากเดิมใช้แต่พลาสติกก็จะมีการผสมผสาน พืชเข้าไป ซึ่งความเป็นไปได้ของประเทศไทยยังถือว่าน้อยมาก เพราะไม่มีบริษัทไหนสนใจที่จะลงทุนในการซื้อเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบนี้

Green Consumer ผู้บริโภคใส่ใจสิ่งแวดล้อม

Green Packaging ในต่างประเทศค่อนข้างเป็นที่นิยม ซึ่งประชาชนจะให้ความสำ�คัญกับเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม อาทิ Coca Cola ที่เป็นบริษัทขายน้ำ�อัดลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผลิตขวดเป็น จำ�นวนมากในแต่ละวัน ได้ตระหนักถึงการใช้ Green Packaging พร้อมพัฒนานวัตกรรมจากเดิมที่ใช้พลาสติกเป็นวัตถุดิบในการผลิตขวดเป็นหลัก ก็พัฒนามาเป็นการนำ�เอาพลาสติกกับชานอ้อยมาผสมกันแทน พลาสติก นับตั้งแต่วันแรกที่ทาง Coca Cola ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ ได้ทำ�การผลิตขวดที่ทำ�จากพืชไปแล้วกว่า 14,000 ล้านขวด และยังเป็นที่น่าสนใจว่า จากบทวิเคราะห์ในนสพ.ลอสแองเจลิสไทม์ในปี 2012 ชี้ว่า ผู้บริโภคได้นำ�เอาบรรจุภัณฑ์มาเป็นประเด็นในการพิจารณาก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้ามากขึ้นกว่าเดิม จาก ประมาณร้อยละ 29 ในปี 2010 เป็นร้อยละ 36 ในปี 2011 เพื่อให้มั่นใจว่าได้เลือกบรรจุภัณฑ์ประเภทที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และทั้งนี้ผู้บริโภคเกินกว่าร้อยละ 50 ตอบแบบสอบถามว่า ยินดีที่จะจ่าย ค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น หากเห็นว่าบรรจุภัณฑ์สินค้านั้นเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก(green packaging)นับได้ว่าเป็นแนวโน้มที่น่าสนใจว่าจากฝั่งผู้บริโภค ที่เริ่มตอบรับกับการเป็น Green Consumer ด้วย การยอมรับภาระรายจ่ายเงินที่มากขึ้นของตนเอง ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่เป็นบวกของผู้บริโภค และบ่งบอกถึงสัญญาณ ความใส่ใจและเอาจริงเอาจังต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นจากผู้บริโภค แต่หากมองกลับมาที่ประเทศไทยจะเห็นได้ว่า คนไทยไม่มีความสนใจในเรื่องของ Green Packaging เพราะแบรนด์ Coca Cola ที่ออกแบบขวดน้ำ�ดื่มยี่ห้อน้ำ�ทิพย์ให้เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่ง แวดล้อมออกมา คนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจในตัวบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว อีกทั้งแคมเปญที่ออกมาช่วยรณรงค์ลดโลกร้อน และสุดท้ายก็ไม่ประสบผลสำ�เร็จ โดยดูจากยอดขายของน้ำ�ดื่มที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย


10

ทีมรายงานพิเศษ เขียน

SpecialReport

Green Global Policy นโยบายสิ่งแวดล้อมสากล

หัวใจหนึ่งที่สำ�คัการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สีเขียวคือการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์หลังใช้แล้วได้ ในปัจจุบันประเทศ เยอรมนี แคนาดา ฮอลแลนด์ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ นอร์เวย์ นิวซีแลนด์ ได้ก้าวสู่แนวคิดการรีไซเคิลแบบใหม่คือ Recycling 2.0 ที่เน้นการคัดแยก อย่างสมบูรณ์ และด้วยวิธีการอัจฉริยะไม่ใช่แบบหยาบๆ และแบบง่ายๆ อย่างเช่นแต่ก่อน และดินทุกก้อน ขยะทุกชิ้นจะต้องผ่านกระบวนการ คัดกรองจนกลับเป็นวัตถุดิบที่สกัดแยกพร้อมนำ�กลับมาใช้ใหม่ โดยให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าด้วยแนวคิดในการรีไซเคิลเริ่มพัฒนาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 จนถึงวันนี้นานหลายสิบปีทุกอย่างจึงเปลี่ยนไปมาก ปริมาณขยะของเสียที่สามารถรีไซเคิลได้เพิ่มขึ้น แต่ยังขาดวิธีการดำ�เนินการ อย่างได้มาตรฐานทั้งด้านผู้บริโภคและผู้ประกอบการ อุตสาหกรรมรีไซเคิล โดยเฉพาะขยะจากพลาสติกที่ผลิตขึ้นจากสูตรและส่วนผสมทาง เคมีที่แตกต่างกัน หลากหลาย สำ�หรับประเทศที่ประสบความสำ�เร็จในการใช้แนวคิดยุคที่ 2 ของการบริหารจัดการ ที่เรียกว่า Recycling 2.0 สามารถกำ�จัดขยะได้ในสัดส่วนสูงถึง 80% ของปริมาณขยะที่มี Recycling 2.0 เป็นที่มาของคำ�ว่า Zero waste Program เป็นเป้าหมายที่รับรู้กันทั่วโลกเพื่อทำ�ให้ทุกสังคมใช้การ Reuse และ Recycle อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะฝ่ายของผู้บริโภคที่ต้องใส่ใจกับพฤติกรรมของตนเองมากขึ้น แทนที่จะพยายามปฏิเสธ ไม่ รับรู้อย่างเช่นในอดีต แนวคิดของ Recycling 2.0 ที่เปลี่ยนไปจากเดิม คือ เปลี่ยนแปลงและยกระดับจากการจัดการขยะและของเสีย (Manage waste) เป็นการกำ�จัดขยะและของเสียทั้งหมด (Zero waste) ส่วนของประเทศไทย แม้จะมีการรณรงค์เรื่องการรีไซเคิลแต่การปฏิบัติร่วมกันอย่างจริงจัง รวมถึงการเลือกวัสดุที่สามารถ รีไซเคิลได้มาใช้งานยังไม่เกิดขึ้นเป็นภาพรวมจากทุกภาคส่วนในสังคม หากประเทศไทยต้องการลดปริมาณขยะ ควรจะกระตุ้นให้ประชาชนใช้ หลักการ “3R” อย่างจริงจัง คือ Reduce ลดการใช้ Reuse ใช้ซ้ำ� และ Recycle นำ�กลับมาใช้ใหม่ โดยคำ�นึงถึงปัจจัย เป็นมิตรต่อสิ่ง แวดล้อม ผลิตได้ และต้นทุนที่ไม่แพง ตลอดจนสื่อสารไปยังผู้บริโภคเพื่อให้เกิดความเข้าใจในตัวบรรจุภัณฑ์ วิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า เนื่องจาก วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของคนไทยทำ�ให้ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถุงพลาสติกและโฟม ซึ่งผลจากการศึกษาของ คพ.พบว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คือตั้งแต่ปี 2552 - 2556 ปริมาณโฟมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากวันละ 34 ล้านใบ เป็นวันละ 61 ล้านใบ หรือโดยเฉลี่ยแล้ว คนไทยสร้างขยะประเภทโฟมเพิ่มขึ้นวันละ 1 ใบ ทั้งนี้อธิบดีคพ. กล่าวถึงนโยบายของกรมควบคุมมลพิษ มีแนวทางเพื่อลดปริมาณการใช้โฟมและถุงพลาสติกให้ได้ ว่าเวลานี้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว. ทส. มีนโยบายออกมาชัดเจนแล้วว่า สำ�หรับร้านค้าภายในหน่วยงานของ ทส.ทุกพื้นที่ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และสวนสัตว์ จะต้องไม่ใช้โฟม หรือถุงพลาสติกในการบรรจุ อาหารเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม เรายอมรับว่าเรื่องของถุงพลาสติกนั้นบางแห่งยังมีการใช้กันอยู่บ้าง เพราะยังหาวัสดุมาทดแทนไม่ได้ สิ่งที่ คพ.จะต้องทำ� คือการไปจัดการที่ต้นเหตุ คือ ผลักดันให้มีการลดภาษีกล่องพลาสติกที่ผลิตจากชานอ้อย เยื่อไผ่ มันสำ�ปะหลัง ซึ่งสลายตัวได้ ทางชีวภาพ เพื่อให้ราคาถูกลง จะได้มีคนใช้มากขึ้น โดยในส่วนของ คพ.ได้รณรงค์เรื่องนี้เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ประชาชน ร้านค้าในสำ�นักงาน คพ.เวลานี้ปลอดทั้งโฟมและถุงพลาสติก 100%

แนวโน้ม Green Packaging เมื่อถามในมุมมองของนักออกแบบถึงความพร้อมของประเทศไทยต่อบรรจุภัณฑ์สีเขียวนั้น นายสมชนะกล่าวว่า “ผมว่าเรื่องนี้มัน เป็นเรื่องระดับประเทศนะ เป็นเรื่องที่ต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน ผมว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องเข้ามาสนับสนุนอย่างเต็มรุป แบบ ไม่ใช่เฉพาะหน่วยงาน เพราะรัฐบาลจะดูแลเกี่ยวกับระดับประเทศ ภาครัฐต้องมาดูแลเพราะมันช่วยประเทศ ช่วยโลก รัฐบาลก็ควรที่จะ ต้องมีนโยบายบางอย่างที่ให้การช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการงดใช้กล่องโฟม กล่องโฟมเป็นวัสดุที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมมาก เป็นตัว ที่ทำ�ลายมลภาวะ ก็เลยมีคนคิดค้นพลาสติกชีวภาพเกิดขึ้น สามารถฝังกลบ และย่อยสลายภายใน 45 วัน ซึ่งที่บางแสนจะใช้วัสดุแบบนี้ ทั้งบางแสนเลย มันก็มีบางพื้นที่เขาเริ่มตระหนักแล้ว เพราะนั้นผมว่าน่าจะเป็นภาครัฐแหละที่จะต้องช่วยกันทำ�นโยบายอะไรบางอย่างในการช่วย สิ่งแวดล้อมของประเทศ” นายสมชนะ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งสำ�คัญที่ทำ�ให้คนไทยหันมาตระหนักถึงเรื่อง Green Packaging คือรัฐบาลควรให้ความรู้ เพราะ บางคนอาจไม่เข้าใจในเรื่องนี้ อาทิ “ณ วันนี้ควรเข้าใจเรื่องบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม เนื่องด้วยตอนนี้ขยะมีมากมาย และย่อยไม่ทัน และอีกอย่างบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยดูแลโลก สามารถดูแลเรา ให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น และต้องออกแคมเปญที่สามารถให้คนทุกชนชั้นเข้าใจได้” นายสมชนะ กล่าว ด้าน ดร.ชนะ เยี่ยงกมลสิงห์ กรรมการวิชาการฝ่ายเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ สมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย ได้ให้ความเห็นในเรื่อง บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในงานสัมมนา “สร้างแบรนด์ดิ้ง ขยายโอกาสธุรกิจ ต่อยอดแนวคิด CSR ด้วยเทรนด์บรรจุภัณฑ์ สีเขียว (Green Packaging)” ณ งาน COSMEX 2014 ที่จัดโดย รี้ด เทรดเด็กซ์ เมื่อวันที่ 4 พฤษจิกายน 2557 ว่า “ขณะที่หลาย คนแอบขยาดกับคำ�ว่า “กรีน” เพราะมองว่า เป็นเรื่องที่ “ต้องลงทุน” แต่เขากลับย้ำ�ชัดว่า บางครั้งความกรีนก็ไม่ต้องลงทุน ตรงกันข้าม กลับจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลกำ�ไรให้แบรนด์ได้ด้วย”


“ควรเข้าใจเรื่องบรรจุภัณฑ์เพื่อ สิ่งแวดล้อมกันให้มากขึ้น เพราะตอน น้ีขยะมีมาก ย่อยสลายไม่ทัน เราต้อง ช่วยกันดูแลโลก โลกถึงจะดีขึ้นได้ การรณรงค์ก็ต้องทำ�ให้คนทุกชนชั้น เข้าใจตรงกัน”


12

ปรีณาพรรณ ธนีเจริญ, ศุภิสรา ศรีเมือง, วรัญญา ชิดนอก เขียน

PrototypeVoice

CONVERSATION เงินกู้ออนไลน์​์....ผิดกฎหมายหรือไม่ ใครรับผิดชอบ?

รองฯปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีเเจงกู้เงินออนไลน์ผิดกฎหมาย มีโทษจำ�คุก! สคบ.ย้ำ� หาก เหยื่อเกิน 10 ราย ผู้หลอกเพียงเจ้าเดียว โทษหนักยิ่งขึ้น ด้านผู้เสียหายวอนภาครัฐเข้ามาแก้ปัญหาจริงจัง พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำ�ผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า เงินกู้ นอกระบบที่โฆษณาผ่านเว็บไซต์ หรือหลอกลวงผ่านเว็บไซต์ จะมีความผิดอาญาแผ่นดิน คือมีโทษจำ�คุกไม่เกิน 5ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน บาท หรือทั้งจำ�และปรับ โดยมีมาตรการป้องกันและปราบปรามซึ่งจะตรวจทางเว็บไซต์ หากพบผู้กระทำ�ผิดจะ เตือนให้หยุดการกระทำ� หรือหากไม่หยุด จะเรียกมาเสียค่าปรับ อีกทั้งยังมีประชาสัมพันธ์ขึ้นเว็บไซต์ข่าวสาร www.cleanweb-thailand.com “เรื่องโฆษณาชวนเชื่อผ่านทางเว็บไซต์นั้นผู้บริโภคอย่าเพิ่งตัดสินใจจนกว่าจะตรวจสอบได้ว่าน่าเชื่อถือ เพราะบาง ครั้งกลุ่มมิจฉาชีพอาจนำ�ข้อมูลส่วนตัวของท่านไปใช้ในทางมิชอบ หากมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ให้ร้องเรียนกับสำ�นักงานคณะ กรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อดำ�เนินการในขั้นตอนต่อไป” ในส่วนของสำ�นักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ชี้แจงว่า การกู้เงินผ่านเว็บไซต์ ไม่มีเอกสารหลักฐาน และการรับประกันตามรูปแบบการกู้เงิน ถือเป็นการกระทำ�ที่ผิดกฎหมาย ต้องแจ้งความ และให้เจ้าหน้าที่ตำ�รวจดำ�เนินการตามความผิดฐานฉ้อโกง ร.ต.ไพโรจน์ คะนึงทรัพย์ ผู้อำ�นวยการกองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สคบ. ย้ำ�ว่าการกู้เงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีหนังสือเพื่อเพิ่มความชัดเจนในจำ�นวนเงิน กำ�หนดการชำ�ระเงิน และดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 15 บาท ตามที่กฎหมาย กำ�หนด หากมีผู้บริโภคถูกหลอกด้วยวิธีดังกล่าว ให้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำ�รวจ เพราะเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ยิ่งมีผู้ตก เป็นเหยื่อเกิน 10 ราย หากผู้หลอกลวงมีเจ้าเดียว โทษทางกฎหมายจะหนักยิ่งขึ้น น.ส.มิน (นามสมมุติ) เหยื่อกู้เงินนอกระบบผ่านทางสื่อออนไลน์ เล่าว่า พบเห็นโฆษณาบริการเงินด่วนบนหน้าเว็บไซต์ จึงติดต่อไปยังผู้ให้กู้ผ่านอีเมลล ์พร้อมทั้งส่งเอกสารสำ�คัญ เช่น สำ�เนาบัตรประชาชน สำ�เนา ทะเบียนบ้าน สำ�เนาหน้าแรกธนาคาร เอกสารเงินเดือน และเงินค่าทำ�สัญญากู้เงิน 550 บาท แต่ผู้ให้กู้กลับเงียบหายไปหลังจากยื่นเอกสารเรียบร้อยแล้ว จึงเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำ�วันไว้ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนที่โดนลักษณะคล้ายกัน แต่สูญเสียเงินร่วม 1,200 บาท และยังไม่มีการดำ�เนินการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าทแต่อย่างใด ด้าน พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ รักษา การในตำ�แหน่งที่ปรึกษาเฉพาะด้านนโยบาย เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กล่าวว่า การควบคุมสื่อในยุคปัจจุบันเป็นเรื่องยาก และหลักการกู้เงินที่ดีควรกู้กับสถาบันการเงิน ของรัฐ เพราะจะถูกควบคุมโดยสถาบันการเงินแห่งประเทศไทย ผู้บริโภคจะไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างแน่นอน

SOCIALMEDIA.MASHUP เตือน!! ผู้บริโภค รีวิวออนไลน์ง่าย ตรวจสอบยาก

นายอภิศลิ ป์ ตรุงกานนท์ ทีป่ รึกษาด้านกลยุทธ์ธุรกิจออนไลน์เว็บไซต์พันทิป เปิดเผยว่าทางเว็บไซต์ ได้มกี ารเปิดช่องทางให้บคุ คลทัว่ ไป เข้ามาตัง้ กระทูเ้ พือ่ แบ่งปันสิง่ ต่างๆ ในกรณีที่ ถ้ามีคนเข้ามาทำ�การรีววิ สินค้าในเว็บไซต์ แล้วมีคนหลงเชือ่ การรีววิ นัน้ ทางเว็บไซต์ จ็ ะแจ้งให้บคุ คลทีไ่ ด้ความเสียหายเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าทีต่ �ำ รวจ จากนั้นทางเว็บไซต์ก็จะช่วยดำ�เนินการในเรื่องข้อมูล การสนับสนุนข้อมูล เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำ�รวจ ส่วนเรื่องมาตรการในการควบคุมดูแลยังไม่มีขั้นตอน หรือกระบวนการใดที่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สื่ออนไลน์จะต้องมีวิจารณญาณในการรับสื่อด้วยเช่นกัน ด้านคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ชี้แจงว่า มีการกำ�หนดกฎหมายในมาตรการเกี่ยวกับบทลงโทษที่มีไว้สำ�หรับผู้ที่กระทำ�ความผิดบนออนไลน์ โดยกล่าวอ้างข้อความที่ไม่เป็นความจริง การโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคอย่างจงใจ โดยไม่คำ�นึงถึงผลเสียที่ตามมา ซึ่งหากมีผู้เสียหายจากการหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อเหล่านั้น แต่ผู้เสียหายเข้าร้องเรียนจำ�นวนน้อย การตรวจสอบข้อมูลออนไลน์ของผู้กระทำ� ผิดก็จะกระทำ�ได้ยากขึ้น ทั้งนี้ ร.ต.ไพโรจน์ คะนึงทรัพย์ ผู้อำ�นวยการกองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การโฆษณาชวนเชื่อตามสื่อออนไลน์มีจำ�นวนมาก ทำ�ให้ตรวจสอบว่าข้อมูลเหล่านั้นเป็นความจริงหรือไม่นั้นเป็นไปได้ยาก สำ�นักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจะทำ�การตรวจสอบประเด็นของการโฆษณา หากพบว่ามีผู้มาร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้านั้น ถ้าพบว่าโฆษณาไม่เป็นความจริง จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย จำ�คุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท

P.Poll

โพลชี้!! ผู้โดยสารกว่าร้อยละ 45 ระบุว่า รถสาธารณะควร พัฒนาด้านมารยาทการให้บริการ จากกระแสออนไลน์ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การให้บริการบนรถประจำ�ทางหรือแท็กซี่นั้น ผลสำ�รวจความคิดเห็นของคนบน โลกออนไลน์ ETIC ของคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ พบว่า ส่วนใหญ่ไม่ พึงพอใจในการให้บริการของรถประจำ�ทาง ส่วนการให้บริการของรถแท็กซี่นั้น พบว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจในเรื่ิอง การโกงมิเตอร์ การบังคับให้เหมาจ่าย การปฏิเสธผู้โดยสาร และการเลือกรับเฉพาะชาวต่างชาติ สำ�หรับรถประจำ�ทาง ผู้โดยสารส่วนใหญ่วิจารณ์เกี่ยวกับสภาพรถที่โทรม แอร์ที่ไม่เย็น รถมาล่าช้า คนขับขับรถไม่สุภาพ จอดไม่ตรงป้าย และ ไม่มีมารยาท จากประเด็นข้างต้น P-Poll โดยคณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้สำ�รวจความคิดเห็นของ ผู้ใช้บริการรถสาธารณะในประเด็น “พฤติกรรมผู้ขับรถสาธารณะ อยากให้เป็นแบบใด?” จากประชาชนในกรุงเทพมหานคร จำ�นวน 100 คน พบว่า ผู้ใช้บริการรถสาธารณะในกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่อยากให้ปรับมารยาทในการพูด โดยให้ เหตุผลว่าคนขับรถมีการพูดจาที่ไม่ค่อยสุภาพต่อการให้บริการ ร้อยละ 45.4 รองลงมา คือ อยากให้ขับรถตามอัตราที่ กฎหมายกำ�หนด เพราะบางคันขับรถเร็วอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ร้อยละ 36.4 และอยากให้จอดรถให้ตรงป้าย เพราะคน ขับรถมักชอบจอดก่อนถึงหรือเลยป้าย ร้อยละ 27.3

infographic: ศุภกฤต ดีพลงาม


Media&Literacy 13 กฤษฎา ตรงจิตธรรม, สุทธินันท์ ประจักษ์สุวิถี เขียน

“สื่อไร้จิตสำ�นึก....เรตติ้งหรือจรรยาบรรณ สิ่งไหนควรมาก่อน....” เมื่อช่วงปลายปี 2557 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่สื่อมวลชน ไ ท ย ต้ อ ง ก ลั บ ม า พิ จ า ร ณ า เ รื่ อ ง จ ร ร ย า บ ร ร ณ ข อ ง สื่ อ กั นใ ห ม่ อีกครั้ง หลังเกิดกระแสวิพากย์วิจารย์อย่างหนักในเชิงลบเกี่ยวกับ การล้อเลียน ด.ญ.วัลลี ณรงค์เวทย์ หรือ คุณวัลลี บุญเส็ง ที่ในอดีต เธอได้เลี้ยงดูแม่ที่ป่วย และยายที่พิการทางสายตาเพียงลำ�พัง ซึ่งเธอได้ รับการยกย่องว่าเป็น “เด็กหญิงยอดกตัญญู” โดยสื่อมวลชนในปัจจุบัน ได้นำ�เรื่องราวของเด็กหญิงวัลลีไปล้อเลียนผ่านรายการตลกชื่อดัง ซึ่ง คลิปรายการได้ถูกนำ�ไปเผยแพร่ผ่าน Youtube โดยมีผู้ชมคลิปวิดีโอ ย้อนหลังรายการดังกล่าวมากกว่า 1 ล้านวิว โดยเรื่องราวทั้งหมดส่ง ผลกระทบต่อสภาพจิตใจคุณวัลลีเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ คุณวัลลี จึง แจ้งความดำ�เนินคดีต่อผู้ผลิตรายการในคดีหมิ่นประมาท และฐานผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพื่อเรียกร้องสิทธิมนุษชนของตนเอง ซึ่งเรื่องราวดัง กล่าว ยังคงมีการดำ�เนินคดีกันอย่างยืดเยื้อ ตั้งแต่ วันที่ 17 ตุลาคม 2557 เป็นต้นมา จากเหตุการณ์นี้ สื่อมวลชนได้กระทำ�ผิดหลักจริยธรรมขั้นต่ำ� และ แนวปฏิบัติของผู้ประกอบวิชาชีพกระจายเสียงและโทรทัศน์ ในหลักการที่ 2 คือ สิทธิมนุษยชน สิทธิส่วนบุคคล สิทธิในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง ข้อมูลส่วนบุคคล โดยในเนื้อหาระบุไว้ว่าในการผลิตรายการผู้ปฏิบัติงานต้องเคารพใน หลักสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมตามสิทธิขั้นพื้นฐานเห็นถึงความสําคัญ ของความแตกต่างหลากหลายของผู้คน ไม่เหยียดหยาม แบ่งแยก หรือ เลือกปฏิบัติเพราะความแตกต่างในด้านเชื้อชาติ อายุ ภาษา วัฒนธรรม เพศ ความพิการ สุขภาพ ฐานะทางการเงินศาสนา การศึกษา และความ คิดเห็นทางการเมืองที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ รวมถึงไม่ละเมิดสิทธิส่วน บุคคล และครอบครัว เว้นแต่จะทําไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนส่วน ใหญ่ เพื่อเป็นการธำ�รงไว้เพื่อหลักการดังกล่าว

เหตุการณ์ที่ผ่านมา สื่อมวลชนได้นําเสนอเนื้อหาที่อาจละเมิดความ เป็นส่วนตัว หรือทําร้ายความรู้สึกของบุคคล รวมถึงการนําเสนอเรื่อง ราวหรือพฤติกรรมของบุคคลสาธารณะ ที่ส่งผลกระทบต่อส่วนรวมหรือ คนจํานวนมาก โดยสื่อมวลชนจะทําได้ก็ต่อเมื่อได้พิจารณาแล้วว่าประชาชน จะได้รับประโยชน์จากการรับรู้ข่าวนั้นๆ การนำ�เสนอข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์นั้น สื่อมวลชน ควรคำ�นึงถึงหลักความถูกต้องและจรรยาบรรณ เพื่อไม่ก่อให้เกิดความ เสียหายต่อบุคคล แต่หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น สื่อมวลชนต้องแสดงถ้อยคำ� ขอโทษต่อบุคคลที่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ต้องให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายมี โอกาสชี้แจงข้อมูลข่าวสารในด้านของตนด้วย นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ได้กล่าวถึงการละเมิดข้อมูลบนสื่อออนไลน์ไว้ว่า “ผู้ที่ไม่ได้ทำ�ข่าว หรือ คนทั่วไปผู้ซึ่งเป็นแหล่งข่าวที่ถูกนักข่าวนำ�ข้อมูลมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต จะต้องเรียกร้องสิทธิของตัวเอง เช่น เรื่องของลิขสิทธิ์ ต้องมีการ ฟ้องร้องเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับสื่อมวลชน หรือผู้บริโภคที่ผลิตข้อมูล ข่าวสารบนสื่อออนไลน์ ทั้งนี้ ผู้อ่านนั้นต้องใช้วิจารณญาณในการตรวจ สอบข้อมูลให้แน่ชัด ว่ามีที่มาเป็นอย่างไร หรือมีข้อเท็จจริงอย่างไร แล้วจึงนำ�ข้อมูลมาเผยแพร่ในภายหลัง” ทางด้าน นายพรชัย ปุณณวัฒนาพร ผู้ช่วยบรรณาธิการ บริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ได้กล่าวว่า “สื่อมวลชนต้องยึดมั่นในหลัก จรรยาบรรณ และมีความสร้างสรรค์ในการนำ�เสนอข่าว ซึ่งจะไม่ทำ�ให้มี ปัญหาในการรายงานออกผ่านสื่อต่างๆ ดังนั้น สื่อมวลชนจึงต้องช่วย กันตรวจตรา เพื่อไม่ให้มีข่าวที่เต็มไปด้วยการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หรือ การหาผลประโยชน์ต่างๆ ถูกนำ�เสนอออกมา นอกจากนี้ การนำ�เสนอ ที่ดี คือ ต้องมีอคติให้น้อยที่สุด และมุ่งไปสู่การลดความรุนแรงของสังคม และที่สำ�คัญ สื่อมวลชนควรยึดความเป็นมืออาชีพให้เหนียวแน่น”

ดังนั้น สื่อมวลชนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ จะต้องคำ�นึงถึง หลักจรรยาบรรณเป็นอย่างแรกในการเผยแพร่ข้อมูล มากกว่าคำ�นึงถึง ผลประโยชน์ขององค์กรของตัวเอง ซึ่งข้อมูลต่างๆ นั้น ควรนำ�ไปใช้อย่าง สร้างสรรค์เพื่อก่อให้เกิดผลประโยชน์แก่ตัวเองหรือสังคม และไม่ควรลืมว่า ข้อความเพียงข้อความเดียว ก็สามารถสร้างความเสียหายได้

นักวิชาการชี้ ปลูกฝังจริยธรรมสื่อ ควรเริ่มจากห้องเรียนเป็นสิ่งแรก การปฏิรูปเรื่องจริยธรรมสื่อมวลชนควรเริ่มต้นที่ห้องเรียน นักวิชาการเน้นการเรียนการสอนแบบ “การผสมผสานกัน” หรือ “การมีส่วนร่วมในการเรียนรู้” ทางด้าน กสทช. ร่วมมือ กับมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์พัฒนาคู่มือการเรียนการสอน จริยธรรมและจรรยาบรรณสื่อมาใช้ในการเรียนการสอน ผศ.ดร.นิษฐา หรุ่นเกษม อาจารย์สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เผยถึงวิธี การจัดการเรียนการสอนที่เน้นการปลูกฝังจริยธรรมสื่อโดยเริ่ม จากการเรียนรู้ในห้องเรียนว่า การปลูกฝังจริยธรรมสื่อจะต้อง มีวิธีการที่เรียกว่า “การผสมผสานกัน” คือ นักศึกษาต้องมีส่วน ร่วมในการเรียนรู้ หรือการมีบทบาทสมมุติในชั้นเรียน เช่น การเล่น บทบาทสมมุติเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรมสื่อในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง และนำ�เสนอให้รอบด้าน เปิดโอกาสให้นักศึกษาใช้การวิเคราะห์ตาม บทบาทของนักสื่อสารมวลชนในฐานะผู้ส่งสาร และผู้รับสาร เพื่อจะ ได้มีปฎิสัมพันธ์ต่อกัน รับรู้ถึงกระบวนการทำ�งานของทั้ง 2 ฝ่าย และตระหนักมากขึ้นถึงสิ่งที่ควรและไม่ควรปฏิบัติในฐานะสื่อมวลชน นอกจากนั้น การเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันทั้ง แง่บวกและแง่ลบ จะช่วยให้นักศึกษาสามารถสังเคราะห์ประเด็นทาง จริยธรรมได้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ พัฒนาคู่มือการเรียนการสอนด้านจริยธรรม และ กำ�กับดูแลกันเองในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เพื่อนำ� มาใช้ในการปลูกฝังจริยธรรมและจรรยาบรรณ ที่เริ่มจากห้องเรียน ซึ่งทางด้าน ดร.รดี ธนารักษ์ อาจารย์ประจำ�ภาควิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัย-ราชภัฎอุตรดิตถมองว่า การปลูกฝังจริยธรรมให้

นักนิเทศศาสตร์รุ่นใหม่ ต้องมีจิตสำ�นึกผ่านกระบวนการการเรียน รู้ และนักศึกษาสามารถสังเคราะห์สถานการณ์สื่อได้มากกว่าการใช้ คู่มือจริยธรรมประกอบในการเรียนการสอนเท่านั้น “การนำ�คู่มือจริยธรรมไปใช้ในชั้นเรียน ก่อให้เกิดผลดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้ของแต่ละมหาวิทยาลัยว่า นำ�ไปใช้ประกอบ การเรียนการสอนในลักษณะแบบไหน เช่น ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ จะกำ�หนดให้อาจารย์แต่ละท่าน นำ�คู่มือไป สอดแทรกใช้แต่ละรายวิชา อีกทั้งในคู่มือมีเนื้อหาค่อนข้างละเอียด ด้านอาจารย์จะสั่งงานให้นักศึกษา นำ�เนื้อหามาย่อยแล้วนำ�เสนอ ผ่านสื่ออย่างใดอย่างหนึ่งออกมาเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ีชัดเจน มากขึ้น ผศ.ดร.จินตวีร์ เกษมศุข ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวถึงผล การวิจัยเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นของนักศึกษานิเทศศาสตร์เกี่ยว กับจริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ว่า จริยธรรมเป็นเรื่องใน ตัวตนของคนทุกคน แต่มีระดับความมากน้อยต่างกัน ถ้าจะสร้าง การตระหนักรู้ ต้องมีการกระตุ้นย้ำ�ในหลักการอย่างสม่ำ�เสมอ ซึ่ง หมายความว่า ถ้าเป็นระดับนักศึกษา ต้องเป็นหน่วยงานในระดับ สถาบันการศึกษา แต่ถ้าเป็นระดับสื่อมวลชนที่มีความเป็นมืออาชีพ จะต้องเป็นองค์กรต้นสังกัด หน่วยงานเหล่านี้ต้องคิดอยู่เสมอ ว่าจะทำ�การกระตุ้นให้บุคลากรหรือนักศึกษาได้รับความรู้ความ เข้าใจ หรือได้ทำ�กิจกรรมที่เกี่ยวกับจริยธรรมสื่อมวลชนอย่าง สม่ำ�เสมอ เพื่อยกระดับการตระหนักรู้และกระตุ้นให้แสดงออกอย่าง มีจริยธรรมและจรรยาบรรณาที่ชัดเจนในการใช้ความรู้ความเข้าใจ โดยพิจารณาว่าสิ่งใดถูกจริยธรรม และสิ่งใดผิดจริยธรรม

จริยธรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และต้องผ่านการปลูกฝัง อย่างสม่ำ�เสมอจากการจัดสัมมนา เสวนา หรือการจัดอบรมเชิง ปฏิบัติการ เป็นการกระตุ้นจริยธรรมในระดับเพื่อก้าวไปสู้วิชาชีพ ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ “ช้าเกินไป” หากคิดที่จะปฏิรูปสื่อ ควรปฏิรูป การศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา จนเมื่อเข้าสู่ระดับอุดมศึกษาที่ มีรายวิชาเกี่ยวกับจริยธรรมอยู่ในหลักสูตร สอดคล้องกับงานวิจัย ที่ว่า ถ้ามีการกระตุ้นอยู่อย่างสม่ำ�เสมอ จะทำ�ให้นักศึกษาสามารถ ตระหนักถึงความสำ�คัญของจริยธรรมสื่อมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


14

ศุภิสรา ศรีเมือง, ปรัชญาวดี สินทวี เขียน

DreamCareer

วัยรุ่นวัยรวย

กระเป๋าหนัง สุดชิกค์!! หัวคิดเด็กวัยรุ่น กำ�ไรทะลุแสน “ก้องหล้า อมรส่งเจริญ” นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เจ้าของไอเดียแบรนด์ “ดั้งเดิม” หรือ “Original” ชื่อสุดเก๋! แฝงความเรียบง่ายที่น่าค้นหาและมีเสน่ห์ในตัวมันเอง ตามไลฟ์สไตล์ของร้าน โดยแรงบันดาล ใจมาจากความชอบเครื่องหนังและกางเกงยีนส์ตั้งแต่ในวัยเด็ก จึงผลักดันให้เริ่มต้นความฝันด้วยวัยเพียง 17 ปี และ เงินเก็บเพียงหนึ่งหมื่นบาทจนปัจจุบันมีรายได้ทะลุหลักแสน เริ่ ม แรกของการทำ � ธุ ร กิ จ นั้ น ต้ อ งใช้ ค วามพยายามในการเรี ย นรู้ อ ย่ า งมากเริ่ ม ตั้ ง แต่ ก ารลงเรี ย นตั ด เย็ บ เครื่ อ งหนั ง และนำ � มาต่ อ ยอดเพื่ อ ตอบโจทย์ ลู ก ค้ าในหลายๆรู ป แบบนอกจากนี้ ลู ก ค้ า ยั ง สามารถออกแบบตามความ ต้องการได้อีกด้วย โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัยรุ่นถึงวัยทำ�งาน อายุประมาณ 15–40 ปี ส่วนระยะเวลาในการ ทำ�นั้นต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของกระเป๋า และต้องแบ่งเวลาหลังจากเลิกเรียนเพื่อมาเปิด ร้านขายของในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ ถึงแม้จะค่อนข้างหนักแต่เป็นความชอบจึงทำ�ให้มาถึงจุดนี้ “จุดขายของแบรนด์อยู่ที่คุณภาพของสินค้า เนื่องจากกระเป๋าเป็นหนังวัวที่นำ�เข้ามาจากทุกมุมโลกไม่ว่าจะ เป็น อเมริกา ญี่ปุ่น ไทย เวียดนาม และออสเตรีย อีกทั้งยังมีในเรื่องของการตัดเย็บที่มีความละเอียดอ่อนและรูปแบบ นอกจากนี้ยังออกแบบของใช้และส่งโรงงานผลิตหลายอย่าง เช่น กางเกงยีนส์ เสื้อยืด พวงกุญแจ เข็มขัด หัวเข็มขัด กำ�ไลข้อมือ และสายคล้องกระเป๋า รวมถึงอุปกรณ์ที่ทำ�ให้เครื่องหนังมีความมันวาว ส่วนเรื่องการตลาดเน้นใช้ดีแล้วบอกต่อเพราะลูกค้าส่วนใหญ่ จะติดต่อมาหลายๆช่องทางไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ เฟสบุ๊ค อินสตราแกรม ในชื่อ Dungderm store” อย่างไรตามนี้ถือเป็นเพียงก้าวเเรกเท่านั้นเพราะในอนาคต จะเดินหน้าต่อด้วยเป้าหมายที่จะผลักดันแบรนด์ให้ก้าวไปสู่ระดับสากล รวมถึงวางขายบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำ�และส่งออกในต่างประเทศ

Insta.Printa ธุรกิจแนวใหม่ในยุคไซเบอร์ “ธุรกิจนี้เกิดจากเรามองว่า เมืองไทยมีอีเวนท์เกิดขึ้นเยอะมาก ซึ่งเวลาคนไปงานก็ต้องมีการถ่ายรูปและ แชร์ขึ้น Instagram แต่จะทำ�อย่างไรให้รูปที่ทุกคนถ่ายออกมานั้น สามารถเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดได้ และทุกคน อยากมีส่วนร่วมกับงานมากขึ้น” “ณัชพล ไตรวงศ์วรนาถ” ผู้อำ�นวยการฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท 9Zebra จำ�กัด วัย 26 ปี บอกที่มา ของธุรกิจบริการเช่าเครื่องปริ๊น "Insta.Printa" ที่เขาร่วมกับเพื่อนคนไทย 4 ชีวิต และเพื่อนชาวต่างชาติอีก 2 ชีวิต ช่วยกันพัฒนาขึ้น โดยที่ไม่ได้มีแค่เรื่องปริ๊นภาพ และการถ่ายภาพ แต่คือการตกผลึกทางความคิด เรื่องการสร้าง แบรนด์และการตลาดผ่านเครื่องพิมพ์ภาพจาก Instagram ธุรกิจสตาร์ทอัพของคนรุ่นใหม่ ที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน ขยับมามีรายได้นับสิบล้านบาท และไม่ใช่เติบโตแค่ เมืองไทย แต่กำ�ลังสยายปีกไปทั่วโลก ทั้ง สิงคโปร์ อังกฤษ สวีเดน และตุรกี เพียงแค่ถ่ายภาพ อัพขึ้น Instagram ติด hashtag ที่กำ�หนด อีกแค่อึดใจเดียว ไม่เกิน 1 นาที ภาพสวยๆ ก็จะถูกพิมพ์ออกมา เป็นภาพถ่ายแห่งความ ทรงจำ�ที่เก็บไว้ได้นานแสนนาน นี่คือความอัจฉริยะ ของเครื่อง "Insta.Printa" เครื่องปริ๊นภาพจาก "อินสตาแกรม” ที่กำ�ลังฮอตฮิต ติดลมบนในกลุ่มนักจัดอีเวนท์ และเจ้าของแบรนด์สินค้า ที่นำ�ไปสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ร่วมงาน ใช้เป็นกลยุทธ์ ด้านการสร้างแบรนด์ และเครื่องมือการตลาด “ขั้นเทพ” ฒนา Function ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของงานให้มากขึ้น เช่น สามารถตอบ Comment หรือขอบคุณลูกค้าได้ ความน่าสนใจของแบรนด์ที่เลือกใช้ Insta.Printa ในงานอีเวนท์ และยังคงไม่หยุดนิ่งด้วยการพั รวมทั้ง function เกม เพื่อสุ่มจับรางวัล เป็นต้น ตลอดจน การขยายไปในกลุ่มงานแต่งงานในอนาคตอีกด้วย


DreamCareer 15 ชนิดาภา ดัดใจงาม เขียน

HiddenJob HIDDEN.JOB ธุรกิจเช่าชุดเชียร์ลีดเดอร์ครบวงจร แม้ว่าจะไม่ได้เรียนจบด้านดีไซน์เนอร์มาโดยตรง แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำ�ให้ “ไฮ้ จักรพันธ์ ตั้งวิเทศจิต” ได้ทำ�ใน สิ่งตัวเองรัก จักรพันธ์เป็นเจ้าของธุรกิจร้านเช่าชุดสำ�หรับงานกีฬาสี งานอีเว้นท์ ในลักษณะเสื้อผ้าที่เป็นคอสตูม โดยจะเป็น เสื้อผ้าที่มีรายละเอียดเยอะกว่าเสื้อผ้าแฟชั่นทั่วไป เปิดให้บริการและมีชื่อเสียงที่เรียกได้ว่าเป็นต้นตำ�รับมากว่า 10 ปี โดยเริ่ม จากการเป็นคนสอนเชียร์หลีดเดอร์ในสมัยที่ตัวเองยังเรียนมหาวิทยาลัย และผันตัวเองมาดูแลในเรื่องเสื้อผ้าอย่างจริงจัง “ในอดีตเราเคยเป็นคนสอนหลีด แล้วเราก็รู้สึกว่าการต้องทำ�หน้าที่ใดหน้าที่หนึ่ง มันก็ต้องทิ้งบางอย่างไป ถาม ว่าทุกวันนี้ถ้าเรายังเป็นคนสอนหลีดอยู่ เราคงดูแลตรงนี้ได้ไม่เต็มที่ จุดเริ่มต้นจากตรงนั้น เราก็เลยมีทีม พอวันหนึ่งเรา ผันมาทำ�เสื้อผ้า ทีมตรงนั้นเขาก็ยังทำ�อยู่ แต่เราแค่เปลี่ยนหน้าที่มาดูแลในเรื่องของลุคของเสื้อผ้าหน้าผม การเป็นคนสอน หลีดสมัยก่อนมันก็ดี ทำ�ให้รู้จักกับเด็กเยอะ หลากหลายสถาบัน มันเหมือนเป็นที่โชว์ผลงาน การที่ได้รับโอกาสที่ดี ได้สอน โรงเรียนที่ดี ได้ร่วมงานกับโรงเรียนใหญ่ มหาลัยดังๆ มันก็เป็นที่โชว์ผลงานของเรา มันก็ทำ�ให้คนรู้จักเรา” ร้านจะตั้งอยู่ ในซอยประชาชื่น 19 โดยมองเผินๆแล้วไม่สังเกตก็จะไม่ทราบเลยว่าเป็นร้านเช่าชุด เนื่องจากมีการออกแบบตกแต่งร้านที่มี สไตล์เฉพาะ ไม่เหมือนร้านเช่าชุดทั่วไป มีการแบ่งออกเป็นสองส่วน คือส่วนที่เป็นหน้าร้านเช่าชุดและคาเฟ่เพื่อให้ลูกค้านั่งรอ ไฮ้บอกกับเราว่าจุดสำ�คัญที่สุดที่ทำ�ให้ร้านมีชื่อเสียงมาถึงทุกวันนี้คือเขายึดคุณภาพเป็นหลัก เพราะถ้าไม่มีคุณภาพ ต่อให้อยู่ ในที่ดีแค่ไหน ลูกค้าที่มาเช่าก็จะเช่าแค่ฉาบฉวย มาใช้บริการครั้งเดียวแล้วก็จะไม่กลับมาอีก “ถ้ามองในเรื่องของการตัดเย็บ มองเรื่องของการใช้วัสดุที่มีมูลค่า” มันก็เป็นส่วนสำ�คัญ แต่ถ้ามองในเรื่องของ รสนิยม บางทีมันเป็นสิ่งเหมือนเวลาลูกค้าเปิดตู้เสื้อผ้าแล้ววันนี้อยากใส่แบบนี้ ก็เหมือนกัน การทำ�กิจกรรมของเขาครั้ง หนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง คือเขาเป็นช่วงที่เขาเป็นวัยเด็กมัธยม เขาก็ให้ความสำ�คัญกับกีฬาสี เพราะฉะนั้นหนึ่งครั้งที่เขาให้ความ สำ�คัญ เขาก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุด มันก็เหมือนกับการเปิดตู้เสื้อผ้า ว่าวันหนึ่งที่สำ�คัญ เขาอยากใส่ชุดอะไร แล้วร้านนี้เลยเป็น รสนิยมตรงกันกับเขา ในแต่ละร้านทำ�ดีไซน์ไม่เหมือนกันหรอก เพียงแต่ว่าอาจจะถูกใจในบางกลุ่ม อัตราราคาจะดูจากความเก่าใหม่ ชุดที่ตัดมาใหม่มันก็ยังสดอยู่ ราคาแพงก็จะแพงกว่าชุดที่เคยผ่านการใช้มาแล้ว ราคาก็จะตามสภาพ ระบบเช่าไม่เหมือนระบบซื้อขาย เพราะซื้อขายดูที่งบ ถึงจะประเมินได้ว่าชุดนี้จะราคาเท่าไหร่ แต่ถ้าเช่า เราก็จะตั้งราคามาเลยตั้งแต่ต่ำ�สุดถึงสูงสุด ต่ำ�สุด 1,000 สูงสุด 4,000 บาท มีให้หมดทุกอย่างรวมไปถึงรองเท้า ไม่ รวมแต่งหน้าทำ�ผม แต่งหน้าทำ�ผมเป็นค่าใช้จ่ายแยก เราดูแลเรื่องคอสตูมเป็นหลัก โดยไฮ้จะบินไปดูของด้วยตัวเอง และส่ง ของกลับมาด้วยบริการของบริษัทคาโก้ “เราบินไปดูของเอง แล้วเราก็ไปดูตัวอย่างผ้าในแต่ละร้าน ที่จีนจะใจดีกว่าเมืองไทย เขาจะทำ�แผงไว้เลย ทุกร้าน แล้วเราก็ดึงกลับมา แล้วเราก็ทำ�การบ้านที่โรงแรมว่าเราอยากจะทำ�แบบนี้ บริษัทคาโก้เขาจะมีล่าม เราก็จะให้ ล่ามพาไปดึงมาในแต่ละร้าน ในการ์ดจะมีตัวอย่างผ้าและรายเอียดทุกอย่างคล้ายๆนามบัตร สั่งอุปกรณ์ทุกอย่าง ก็สั่งที่นั่น แต่ว่าถูกกว่าแต่มันก็ต้องมีจำ�นวน ซื้อทีก็ต้องซื้อยกม้วน สั่งออเดอร์รองเท้าก็ต้องสั่งขั้นต่ำ� 60–100 คู่ ต่อ 1 สี คละไซต์ได้ เพราะฉะนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่ร้านจะไม่ค่อยให้ความสำ�คัญคือเรื่องรองเท้า ปีหนึ่งที่ร้านต้องสั่งรองเท้า มาสต๊อกไว้มากกว่า 500 คู่ เฉลี่ย 1 ปี ต้องผลิตรองเท้าหญิง 400 คู่ ผู้ชาย 150-200 คู่ ปีหนึ่งต้​้องมี ค่าใช้จ่ายเรื่องรองเท้าแยกจากเสื้อผ้าที่นี่มันเลยครบวงจร” จักรพันธ์เล่าว่าเขาถือว่าโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นพื้นที่แสดงผลงาน ทำ�ให้เกิดการบอก ร้านซ้อไฮ้จึงเป็นที่รู้จักและเติบโต อย่างแข็งแรงมาจนถึงทุกวันนี้ โดยลูกค้าไม่ได้มีเฉพาะในกรุงเทพเท่านั้น ลูกค้าจากต่างจากหวัดถือเป็นครึ่งหนึ่งของจำ�นวน ลูกค้าทั้งหมด “ส่วนใหญ่เราก็ลงแค่โซเซียลเน็ตเวิร์ค แต่ก่อนจะมีไฮไฟว์ เดี๋ยวนี้ก็จะเป็นเฟสบุ๊คที่มีแฟนเพจ และอินสตาแกรมใน ยุคนี้ เราก็เล่นหมดนะ เพราะว่ามันเป็นช่องทาง จริงๆที่เล่นไม่ได้ตั้งใจขายของ ถ้าคนที่มีโอกาสติดตามเรา เราไม่ได้เป็น คนเอะอะขายของ แต่เพียงแต่ว่าเหมือนเป็นที่แสดงผลงานเรามากกว่า แล้วพอคนเห็นเยอะๆมันก็เลยเป็นเหมือนร้านค้า ทั้ง ที่จุดประสงค์แรกถ้าย้อนไปดูมันก็คือชีวิตของเรา มันไม่ได้พูดถึงเรื่องการขายของ มันพูดถึงเราชอบอะไร เราทำ�อะไร ทำ� กิจกรรมอะไรอยู่ ณ เวลานั้น เหมือนปากต่อปาก เพราะร้านเราไม่ได้ตั้งอยู่ริมถนน เราไม่ได้ทำ�ให้คนอื่นเห็นชัด มาที่ นี่เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร คือต้องโทรมาก่อน ลูกค้าที่เข้ามาจึงลูกค้าเฉพาะ เพราะว่าเขาต้องชอบ ชอบแล้วจึงโทรถาม อาจจะสอบถามเบื้องต้น แล้วถ้าถูกใจจึงจะเข้ามา ผ่านมากว่า 10 ปี เรียกได้ว่าเป็นร้านเช่าชุดที่ครบวงจร ด้วยความรักและความเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองทำ� จึงทำ�ให้ร้านซ้อไฮ เป็นที่ไว้วางใจของลูกค้าอย่างมากมาย ในอนาคตจักรพันธ์เล่าว่าเขาอยากวางระบบการบริหารร้านให้มีความรวดเร็วในการบริการมากยิ่งขึ้น “เป้าหมายของผมตอนนี้คือการวางระบบร้านให้แข็งแรง ทุกวันนี้มันก็มีระบบของมันแหละ เพียงแต่ว่าเรา อยากวางให้มันเป็นระบบที่ช่วยในเรื่องของการบริการมากกว่า เพราะว่าลูกค้าเป็นคนไม่อยากรอ ทำ�ยังไงก็ได้ให้บริการรวดเร็ว อาจจะมีช่องทางการติดต่อที่เพิ่มมากขึ้น มีช่างที่ทำ�แบบชุดให้บริการเฉพาะที่สามารถรับ รายการสั่งซื้อสินค้าได้โดยตรง หรือถ้าอยากได้อะไรที่พิเศษจริงๆ หรือว่าเป็นลูกค้าเก่าคุยกับผมได้ ก็อาจจะเพิ่มช่องทางทุกอย่างให้มันรวดเร็วขึ้น กับอีกแบบหนึ่งคือพัฒนาในเรื่องของธุรกิจ หมายถึงว่าอาจจะต้องแตก ลายเพิ่มออกไป เช่นทำ�เป็นชุดราตรี ชุดอีเว้นท์ หรือชุดแต่งงาน จริงๆเราก็ทำ� แต่ว่าเราทำ�โดยที่ยังไม่โปรโมท อย่างชุดสำ�หรับศิลปินดารา จริงๆเรามีเราทำ�ร่วมกับเพื่อน เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ไม่ได้ใช้ชื่อแบรนด์ซ้อไฮ้ ที่ เหมือนแตกลายธุรกิจแต่ไม่ให้มันหลุดออกจากเสื้อผ้า แค่นั้นเอง”


16

นนทิยา ตาน้อย เขียน

DreamCareer

HiddenJob MASTER&APPRENTICE

ทางรอดธุรกิจชุมชนบ้านบาตร... ปรับกลยุทธ์รบั จ้างผลิตตามสัง่ เน้นงานเฉพาะกลุม่ เพือ่ ทำ�ยอดธุรกิจแต่ยงั คงสืบสานวัฒนธรรม “ป้าทำ�บาตรมาตั้งแต่เล็กและไม่เคยคิดที่จะหยุดทำ� มีลูกมีหลานก็สอนให้ทำ�บาตร พอเด็กๆ เขาสนใจป้าก็รู้สึกดี เพราะอยากให้การทำ�บาตรมีอยู่ต่อไปแล้วเผยแพร่สู่คนรุ่นหลัง บ้าง” นางมยุรี เสือเสริมศรี หรือป้าไก่ ผู้สืบทอดการทำ�บาตร พระ ในชุมชนบ้านบาตร ย่านวัดภูเขาทองกล่าว ชุมชนบาตรพระเป็นชุมชนเล็กๆที่เป็นแหล่งผลิตบาตร พระมามากกว่า 100ปี โดยป้าไก่ได้สืบทอดอาชีพทำ�บาตรพระ ภายในชุมชน ซึ่งแต่ละบ้านจะนั่งทำ�บาตรพระอยู่หน้าบ้านของตัว เองและพูดคุยกันระหว่างคนในชุมชนนอย่างสนุกสนาน พ.ศ.2514 มีการก่อตั้งโรงงานผลิตบาตรปั๊มขึ้น ส่งผลให้กิจการทำ�บาตรพระที่บ้านบาตรเลือนหายไป ทำ�ให้การ ทำ�บาตรมือแบบที่ชาวบ้านบาตรทำ�มาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษประสบ ปัญหาเรื่องยอดขาย เพราะโรงงานผลิตบาตรปั๊ม สามารถตี ตลาดการขายบาตรพระด้วยการใช้วัสดุที่ถูกและกดราคาให้ถูก กว่าการทำ�บาตรด้วยมือได้สำ�เร็จ ชาวบ้านบาตรคิดจะละทิ้งอาชีพ การทำ�บาตร แต่ด้วยความมุ่งมั่น ที่จะอนุรักษ์สิ่งที่ทำ�มาตั้งแต่ บรรพบุรุษ ชาวบ้านบาตรจึงได้หาวิธีที่จะแข่งขันกับโรงงานที่ ผลิตบาตรปั๊มเพื่อสร้างให้อาชีพนี้ยังอยู่คงต่อไป ชาวบ้ า นจึ ง ได้ ป รั บ กลยุ ท ธ์ เ ป็ น การทำ � บาตรในแบบ Made to order ที่เจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะมากขึ้น จากเดิมก็เป็น ลูกค้าทั่วไป เปลี่ยนเป็นเจาะเฉพาะกลุ่มพระสงฆ์ในสายธรรมยุติ เพราะพระสงฆ์ต้องการบาตรพระที่ต้องเอาไปบ่มต่อ และเลือก ที่ จ ะออกแบบผลิ ต ภั ณ ฑ์ ต ามความต้ อ งการของลู ก ค้ า มากขึ้ น ซึ่งจะแตกต่างจากบาตรพระตามท้องตลาดอย่างแน่นอน และยัง เพิ่มเรื่องของวัสดุให้มีคุณภาพที่ดีที่สุดในการทำ�บาตรโดยเลือก วัสดุที่มีความหนามากกว่าทำ�ให้เวลาที่พระเอามาบ่มจึงทนความ ร้อนได้10 – 12 ชั่วโมง

โดยเลื อ กวั ส ดุ ที่ มี ค วามหนามากกว่ า ทำ �ให้ เ วลาที่ พ ระเอามา บ่มจึงทนความร้อนได้10 – 12 ชั่วโมง แต่ด้วยท่ามกลาง สภาวะทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ทำ�ให้บ้านบาตรต้องเจอกับ ปัญหาทั้งเรื่องของต้นทุน คนซื้อที่ลดลง ช่างฝีมือที่จะสืบ ต่อก็หายากขึ้นทุกวัน การทำ�บาตรพระแต่ละครั้งลงทุนถึง 1500 บาท ต่อ 1 ใบ ซึ่งราคานี้รวมทั้งค่าวัสดุในการทำ�และ ส่วนที่เหลือจะเป็นค่าแรงงานของช่าง ซึ่งก็ถือว่าการลงทุนต่อ 1 ใบราคาค่อนข้างสูง และการขายบาตรพระส่วนใหญ่จะขายได้แต่ ลูกค้าประจำ� ก็จะมีช่วงที่ขายได้บ้างไม่ได้บ้างสลับกันไป หนำ�ซ้ำ�ยัง มีเรื่องของการขาดคนงานที่ตอนนี้หลงเหลืออยู่แค่ไม่กี่คน “คนที่ทำ�งานอยู่ตอนนี้เป็นคนที่ต้องการอยากจะอนุรักษ์ อาชีพนี้ไว้จริงๆ ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรก็ต้องช่วยกันแก้ไขให้ มันผ่านไปได้ ซึ่งอาจจะใช้ความพยายามความอดทนสูงแต่ทุก คนก็ ย อมที่ จ ะทำ � หรื อ ที่ เ รี ย กว่ า เราต้ อ งทำ �ใจยอมรั บ มั นให้ ไ ด้ ” ป้าไก่กล่าว ด้ วยแรงศรั ท ธาของชาวบ้ า นที่ ร่ ว มมื อ ร่ วมใจกั น ที่ แ ม้ จะเคยล้มก็ช่วยพยุงมือกันลุกขึ้นมาทำ�ให้อาชีพการทำ�บาตรพระ อยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ ผู้ที่อนุรักษ์ในอาชีพนี้จะต้องทำ�ด้วยใจ รักอย่างแท้จริงและศรัทธาในพระพุทธศาสนาด้วยความเคารพ ในวิชาความรู้ ครูบาอาจารย์ ตลอดจนเครื่องมือใช้สอยในการ ยังชีพทุกชิ้น ตามแบบแผนขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไทย บาตรพระของชาวบ้านบาตรจึงเปี่ยมไปด้วยคุณค่าที่ผสานฝีมือ แรงงานและจิตใจไว้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนบางครั้งการตี ค่าความคุ้มค่าของบาตรอาจไม่สามารถกำ�หนดด้วยค่าเงินตรา แต่เป็นค่าที่จิตใจมากกว่า


DreamCareer 17 สุวนันท์ มั่นศรี เขียน

HiddenJob START.UP “รักการขาย เข้าใจผู้ซื้อ สังเกตคนสำ�เร็จ เคล็ดลับเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์” จับตาธุรกิจออนไลน์ปี 58 เติบโตตามความ ต้องการของผู้ซื้อที่สูงขึ้น แนะคุณสมบัตผิ ู้ ขายออนไลน์ตอ้ งรักการขาย เข้าใจพฤติกรรม ผู้บริโภค และจับตลาดสินค้าที่ง่ายจับต้อง โดยสินค้าเทรนด์สุขภาพมาแรงเป็นอันดับหนึ่ง อาชีพธุรกิจด้านการค้าออนไลน หรือ พาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) คือการขายสินค้าและบริการ ออนไลน์โดยผ่านอินเตอร์เน็ตในช่องทางต่างๆ ได้แก่ เว็บไซต์ เจ้าของธุรกิจ, เว็บไซต์ฝากขายสินค้า อย่างเช่น OLX.com, eBay เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์ยังใช้ Social Media อย่าง Facebook , Instragram หรือกระทั่ง Line shop ช่องทางการขายสินค้าและบริการนี้จึงนับเป็นปัจจัยที่จะเข้าถึงผู้ บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ในปีพ.ศ.2558 นี้ธุรกิจออนไลน์จึงนับว่ามาแรงเป็น อย่างมาก ยังคงพร้อมที่จะเติบโตและขยายตัว โดยคุณณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง Blogger การตลาดออนไลน กล่าวถึงปัจจัยใน การเติบโตของธุรกิจนี้ว่า คนส่วนมากเริ่มคุ้นเคยกับการซื้อของ ออนไลน์ จึงเกิดพฤติกรรมการซื้อที่ต่อเนื่องและอาจซื้อมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเกิดความสะดวกสบายและประหยัดเวลาในการเลือกสรร

ทองเที่ยว 4

“58”

1 กอสราง à¹×èͧ¨Ò¡¡ÒÃŧ·Ø¹ã¹â¤Ã§ÊÌҧ¾×é¹°Ò¹ ´ŒÒ¹¡ÒäÁ¹Ò¤Á¢Í§ÀÒ¤ÃÑ°ã¹¾×é¹·Õèµ‹Ò§æ ·Ñé§à¢µ¡Ãا෾ »ÃÔÁ³±ÅáÅе‹Ò§¨Ñ§ËÇÑ´

2 โทรคมนาคม

¸ØáԨ·‹Í§à·ÕèÂÇáÅиØáԨ´ŒÒ¹ÊØ¢ÀÒ¾ â´Â੾ÒЪÒǵ‹Ò§»ÃÐà·È Âѧ¤§·‹Í§à·ÕèÂÇä·Â Í‹ҧµ‹Íà¹×èͧ¨Ò¡ª‹Ç§à·È¡ÒÅ»‚ãËÁ‹ ¨Ö§äÁ‹ÁռšÃзºµ‹Í¡Ò÷‹Í§à·ÕèÂÇÁÒ¡¹Ñ¡ ÃÇÁ¶Ö§¡ÃÐáÊÃÑ¡ÊØ¢ÀÒ¾¡çÂѧ䴌ÃѺ¤ÇÒÁ¹ÔÂÁ ࢌҶ֧¡ÅØ‹Á¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÁÒ¡¢Öé¹ à»š¹ÍÕ¡¸ØáԨ·Õè·Ó¡ÓäÃÊÙ§

การคาปลีก 3 5 การสงออก ¸ØáԨâÁà´Ôà ¹à·Ã´áÅФŒÒ»ÅÕ¡µÒÁá¹ÇªÒÂá´¹ ·Õè¢ÂÒµÑÇÃͧÃѺἹ¾Ñ²¹ÒࢵàÈÃÉ°¡Ô¨¾ÔàÈÉ ¹ÓËͧ 5 ¾×é¹·Õè 䴌ᡋ µÒ¡ ÁØ¡´ÒËÒà ÊÃÐá¡ŒÇ µÃÒ´áÅÐʧ¢ÅÒ

¸ØáԨʋ§ÍÍ¡·ÕèÊÌҧÁÙŤ‹Òà¾ÔèÁ¡ÒâÂÒµÑÇ ¢Í§»ÃÐà·Èà¾×è͹ºŒÒ¹ ·ÓãËŒä·Â¾ÃŒÍÁà» ´ ࢵàÈÃÉ°¡Ô¨áÅСÒÃŧ·Ø¹â¤Ã§ÊÌҧ¾×é¹°Ò¹ ÊÌҧ¤ÇÒÁàª×èÍÁâ§ÃÐËÇ‹Ò§àÈÃÉ°¡Ô¨ÀÙÁÔÀÒ¤ ¢Í§ä·Â

¸ØáԨÊ×èÍÊÒô·Ã¤Á¹Ò¤Á à¹×èͧ¨Ò¡ÁÕ¡ÒÃàµÔºâµÊÙ§áÅе×è¹µÑÇÁÒ¡ à¾×èÍÃͧÃѺ¡ÒÃࢌÒÊÙ‹»ÃЪҤÁàÈÃÉ°¡Ô¨ÍÒà«Õ¹ (AEC) ã¹»‚ 2558

สำ�หรับผู้ต้องการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ คุณณัฐพัชญ์ แนะเคล็ดลับว่า ควรมีใจรักในอาชีพการขายโดยเริ่มจากสินค้า ง่ายๆที่จับต้องได้ อีกทั้งควรสังเกตวิธีทำ�พร้อมวิธีคิดของผู้ ประสบความสำ�เร็จและผู้ล้มเหลวในธุรกิจนี้ แล้วจึงนำ�ข้อสังเกต เป็นความรู้เพื่อวางแผนสู่การลงมือขายต่อไป เพื่อความไม่สะดุดต่อ การประกอบอาชีพในระยะยาว ส่วนผู้ที่กำ�ลังประกอบอาชีพขายของออนไลน์ในปัจจุบัน หากต้องการประสบความสำ�เร็จ Blogger การตลาดอออนไลน์ กล่าวว่า ควรต้องรู้จักผู้ซื้อเป็นสิ่งสำ�คัญและรู้ถึงวิธีการตัดสินใจ ซื้อสินค้าของผู้ซื้อ ถือเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพเพื่อเข้าถึง พฤติกรรมผู้ซื้ออย่างแท้จริง นอกจากนั้นสินค้าและบริการที่จะมาแรงในขณะนี้คงหนีไม่พ้นสินค้า ประเภทสุขภาพ ที่ยังคงมีค้าขายแพร่หลายในปัจจุบันเพราะผู้คน ต่างให้ความสำ�คัญกับสุขภาพตนเอง

·ÕèÁҢͧ¢ŒÍÁÙÅ : www.DDproperty.com

ทว่าของที่เข้าสู่ร่างกายก็ไม่พ้นความเสี่ยงและอันตรายหากไม่มี มาตรฐานอย่างแท้จริง สำ�หรับสินค้าด้านความงามและแฟชั่นคือ เทรนด์ที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ฉะนั้นคนที่สนใจขายสินค้าประเภทนี้ จึงควรต้องตามเทรนด์อยู่เสมอ ทั้งนี้ คุณณัฐพัชญ์ ได้ฝากถึงผู้ขายในธุรกิจออนไลน์ นี้ว่า ควรขายสินค้าที่เราชอบและเข้าใจ เพราะเราจะสามารถเรียน รู้ได้อย่างเต็มที่ หากขายโดยเน้นกำ�ไรแต่ไม่เข้าใจในสินค้าอย่าง แท้จริง ก็จะไม่สามารถขายสินค้านั้นได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งผู้ซื้อก็จะ ไม่ได้สินค้าที่ดีจากการขาย
 อย่างไรก็ตามอาชีพธุรกิจด้านการค้าออนไลน์ ยังคง เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเทคโนโลยียังคงเป็นเครื่องมือในการใช้ งานของอาชีพได้เป็นอย่างดี การเริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจก็ง่ายดายหาก มีความสนใจและเข้าใจอย่างแท้จริง

E-Book E-book ธุรกิจหนังสือใหม่ บนโลกออนไลน์ E-book หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนังสือรูปแบบใหม่ ทีส่ ร้างความสะดวกสบายให้แก่ผอู้ า่ น ซึง่ สามารถดาวน์โหลดคอนเทนส์ตา่ งๆทีต่ อ้ งการได้งา่ ยขึน้ E-Book สามารถดึงผูอ้ า่ นมากกว่าครึง่ เปลีย่ นพฤติกรรมการอ่านหนังสือก่อนนอนมาอ่านบน EReader อย่าง Kindle และiPad ถึง 45% มีอกี 43% ยังคงอ่านหนังสือพิมพ์รปู เล่ม ซึง่ มากกว่า 2% แม้ในอดีต ตลาด E-book ประเทศไทย จะยังไม่คอ่ ยเคลือ่ นไหวมากนัก แต่ในปัจจุบนั นีโ้ ลกยุคใหม่ก�ำ ลังเเพร่กระจาย E-book อย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนี้บริษัท E-book ในประเทศไทย มีประมาณ 8 เว็บ ทางเราได้สัมภาษณ์ พี่อัญรา เอกมั่น ผู้ดูแลเว็บไซต์ Meb Market กล่าวว่า การจะเป็นนักเขียนนั้น ไม่ยากอย่างที่คิด จะมีบริษัท E-book เป็นสื่อกลางคอยติดต่อระหว่างสำ�นักพิมพ์หรือนักเขียนหน้าใหม่ นำ�เอาคอนเท้นส์ต่างๆ มานำ�เสนอลูกค้าได้ฟรี และ หลังจากที่มีลูกค้าเข้ามาเลือกดาวน์โหลดผ่านแอปพลิเคชั่นของทางเว็บ รายได้ที่ได้ หลังหักส่วน แบ่ง20% จะเป็นของนักเขียน ซึ่งราคาที่เก็บจากลูกค้าในระบบiosจะได้มากที่สุด “ต้องบอกว่า ทิศทางของโลกทุกอย่างเป็นไปในเทรนด์ดิจิตอลอยู่แล้ว ยอดการขายE book จะมีเพิ่มขึ้นอีก ส่วนด้านความนิยม ต้องดูว่าในตลาดเล่มไหนขายดี เล่มนั้นใน E-book จะขายดีเช่นกัน E-book จะสะท้อนตลาดหนังสือผ่านออนไลน์” โดยในอนาคตหนังสือออนไลน์ จะได้รับความนิยมอย่างมากจาก กลุ่มผู้อ่านทั้งวัยเด็กและวัยรุ่นที่จะขึ้นมาทดแทนกลุ่มผู้ใหญ่ และจะทำ�เงินให้ผู้เขียนได้อย่าง มหาศาล


18

CRC@PIM เขียน

Education

INSIDE WORK-BASED LEARNING เรียนอย่างไรให้เป็นเซียน Work-based Learning คือการเรียนภาคทฤษฎีควบคู่กับ การฝึกปฏิบัติงานจริง และเป็นหัวใจสำ�คัญของหลักสูตรการเรียนการ สอนของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) เพื่อให้นักศึกษาได้ นำ�ความรู้ในห้องเรียนมาประยุกต์ใช้กับการทำ�งานจริงตามสาขาวิชา ที่เรียน โดยนักศึกษาทุกคนจะได้ฝึกงานตรงตามสาขาที่เรียนกับกลุ่ม ธุรกิจ ซีพี ออลล์ ตลอดจนบริษัทพันธมิตรทางธุรกิจของซีพี ออลล์ Deutsche Japan Thailand Business Model (DJT) ประกอบด้วย D – Deutsch คือ เยอรมนี เป็นชาติที่มีความโดดเด่น ด้านการฝึกบุคลากรในแนวทาง Work-based Learning และยังเป็นผู้ คิดค้นนวัตกรรมการทำ � งานที ่ เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล J – Japan คือ ญี่ปุ่น ชาติที่ขยันทำ�งานมากอันดับต้นๆ ของโลก มีความเป็นเจ้าตลาด (Marketability) และเป็นชาติแห่งข้อมูล ข่าวสาร (Information) และเทคโนโลยี (Technology) T – Thailand คือ ไทย ชาติที่มีความสร้างสรรค์ ยืดหยุ่น และเรียบง่ายสบายๆ เมื่อนำ�ความโดดเด่นของแต่ละชาติมาผสมผสาน กลายเป็นโมเดลการศึกษาเฉพาะตัวทีส่ ถาบันการจัดการปัญญาภิวฒ ั น์ (PIM) การเรียนแบบ work-based education ที่จัดการเรียน การสอนอยู่ในสถาบันการจัดการปัญญาภิวั ฒ น์ ทำ �ให้นักศึกษาของ เราเรียนกับมืออาชีพและฝึกงานอย่างมืออาชีพ เรียน 3 เดือน สลับ กับทำ�งาน 3 เดือน เป็นเวลา 4 ปี ทำ�ให้ได้สัมผัสประสบการณ์ ในการทำ�งานก่อนคนอื่น ได้เจอปัญหาจากการทำ�งาน จึงเกิดการ เรียนรู้และการแก้ไขปัญหาในการทำ�งานทำ�ให้นักศึกษาของเราได้คิด เป็นทำ�เป็น พร้อมกับการเรียนรู้การแบ่งเวลาการฝึกความอดทน เมื่อเรียนจบ จึงเป็นผู้นำ�ที่มีคุณภาพในเชิงวิชาการและมีทักษะซึ่งเป็นที่ ต้องการของตลาด และมีความพร้อมในการทำ�งานมากกว่าบัณฑิตใน ระดับเดียวกัน

มีทุน@PIM ทุนปริญญาตรี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) มีทุนการศึกษาเพื่อสนับสนุนการศึกษา 2,100 ทุน เปิดรับสมัครให้ บุคคลที่สนใจศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี สอบชิงทุนการศึกษาทุก คณะ สาขาวิชา ได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ คณะวิศวกรรมศาสตร์และ เทคโนโลยี คณะศิลปศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการการจัดการ และคณะนวัตกรรมการจัดการเกษตร โดยมีทนุ การศึกษา คือ ทุนเจียระไนเพชรและทุนปัญญาภิวัฒน์ โดยสามารถมาสอบรายละเอียด ได้ระหว่างวันจันทร์-วันเสาร์ ในเวลา 09.30 - 16.00 น. ถึง 25 พ.ค. 2556 ยกเว้นวันหยุดราชการ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำ�นักสื่อสารองค์กร โทร. 0-2832-0200-14 ทุนปริญญาโท มูลนิธิการศึกษาไทย-อเมริกัน (ฟุลไบรท์) เปิดรับสมัครสอบชิงทุนฟุลไบรท์ ประจำ�ปีการศึกษา 2016 ให้กับผู้ที่ ต้องการไปศึกษาต่อปริญญาโทในสหรัฐอเมริกาสาขาทุกสาขายกเว้นแพทยศาสตร์และพยาบาล รวมถึงสาขาด้านสุขภาพอื่น ๆ ที่ต้องเข้า คลินิก จำ�นวน 7 ทุน แบ่งทุนการศึกษา เป็น 4 ทุน สำ�หรับนักศึกษาที่มาจากมหาวิทยาลัยใน 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง จำ�นวน ภาคละ 1 ทุน ส่วนอีก 3 ทุน ที่เหลือนั้น เป็นของนักศึกษาจากทุกมหาวิทยาลัยแบบไม่จำ�กัดภาค ทุนปริญญาเอก Tallow Chandlers Benevolent Fund สหราชอาณาจักร มอบทุนการศึกษาในระดับปริญญาเอกด้าน เศรษฐศาสตร์ ประจำ�ปีการศึกษา 2558 โดยทุนนี้จะมีมูลค่าทุนละ 15,000 ปอนด์ หรือราวๆ 8 แสนบาท ซึ่งจะได้เข้าเรียนโดยตรงกับ ทาง University of London สามารถทำ�การสมัครกันได้แบบออนไลน์ ที่ทำ�การสมัคร ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2558 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.soas.ac.uk/registry/scholarships/elap-scholarship.html

BEST INNOVATION เป็นนวัตกรรมเกี่ยวกับเครื่องเติมเงิน Smart purse ในร้าน 7-11 ที่มีระบบปฏิบัติการที่เข้าใจง่ายและรวดเร็ว สามารถใช้ได้กับ ทุกเพศ ทุกวัย มีคุณสมบัติที่หลากหลาย - สามารถตรวจสอบ และ เติมเงินในบัตร Smart Purse ได้อย่างรวดเร็ว - สามารถบริจาค เงินผ่านตู้เติมเงินได้ หน้าจอสามารถแสดงโฆษณาเพื่อส่งเสริมการ ขายสามารถบริจาคเงินผ่านตู้เติมเงินได้มีแนวคิดอย่างไรในการทำ� นวัตกรรมชิ้นนี้ ปัจจุบันมีร้าน 7-11 เกิดขึ้นมากมายทั่วประเทศไทย ผู้เข้าใช้บริการนั้นวางใจในร้าน 7-11 เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะ เด็ก ผู้ใหญ่หรือกลุ่มวัยรุ่นและเพื่อการใช้บริการที่สะดวกรวดเร็ว ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จึงมีการสมัครบัตร Smart Purse เพื่อเพิ่ม ความสะดวกต่อการชำ�ระค่าสินค้าที่เคาน์เตอร์และมีสิทธิพิเศษเกิดขึ้น มากมายแก่ลูกค้า แต่ปัญหาที่ตามมาคือ เมื่อลูกค้ามีมากขึ้น อัตรา การให้บริการก็ช้าลง เพราะในการให้บริการต่อหนึ่งหน่วยลูกค้า ย่อมเสียเวลาไปกับการเติมเงินในบัตรบ้าง ทำ�ให้ลูกค้าที่มาเข้าคิวคน อื่นๆต้องรอนาน ดังนั้นเราจึงคิดค้นเครื่องเติมเงินนี้ขึ้น เพื่อเป็นการ ประหยัดระยะเวลา และ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มาใช้ บริการ ในวันที่ผู้คนหนาแน่นนอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มยอดขายของ

THE IDOL ดาวสุดสวยนางสาววิเวียนร์ พชรจรรยาภรณ์ คณะวิทยาการจัดการ สาขาการจัดการธุรกิจการบิน และ เดือนสุดหล่อ มาร์ชจักรพันธ์ ชนันชนะ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สาขา เทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวแทน The Idol แห่งสถาบันการจัดการ ปัญญาภิวัฒน์ Q - ทำ�ไมถึงเลือกเรียนที่ PIM A - วิเวียนร์ - มีความสนใจในงานด้านบริการค่ะ ก็เลยคิดว่าถ้ามา เรียนในคณะนี้เราก็จะได้ทำ�งานในส่วนของเซอร์วิสต่างๆ เช่น พวก แอร์โฮสเตสและกราวด์เซอร์วิส รวมทั้งได้ฝึกภาษาด้วยค่ะ A - มาร์ช - เป็นคนที่ชอบในด้าน คอมพิวเตอร์ และด้วยคณะวิศวฯ ที่นี่มีความแปลกใหม่และทันสมัยเลยอยากจะศึกษาและเรียนรู้ครับ Q - ความประทับใจ PIM A - วิเวียนร์ - บรรยากาศโดยรวมดีมากค่ะและอาจารย์ทุกคนน่ารัก มีความใส่ใจกับนักศึกษาในเรื่องการเรียนการสอนค่ะ A - มาร์ช - สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือประสบการณ์ ประสบการณ์ ที่สอนให้ผมเป็นมากกว่าตัวผมในวันนี้ Q - ฝากถึงน้องๆที่จะมาสอบที่ PIM ว่าจะเตรียมตัวยังไง A - วิเวียนร์ - อยากให้น้องๆทุกคน ทบทวนบทเรียนวิชาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ความถนัดทั่วไป คิดว่าข้อสอบที่ นี่ไม่ยากค่ะ ถ้าเตรียมตัวมาน่าจะทำ�ได้ และสำ�หรับน้องๆที่กำ�ลังคิด ว่าอยากจะเรียนอะไร ให้ลองไปหาตัวเองก่อน ลองทำ�พวกความถนัด ทั่วไป เพราะที่ PIM มีหลายคณะและหลายสาขา ที่สำ�คัญอย่าเรียน ตามเพื่อนเพราะถ้าเรียนแล้วไม่ชอบ อาจจะทำ�ให้เสียเวลาค่ะ A - มาร์ช - การเตรียมตัวสอบเป็นเรื่องที่สำ�คัญเช่นกัน แต่ผม ว่าการตั้งใจเรียนในห้องเรียนนั้นเป็นสิ่งที่สำ�คัญกว่า พอใกล้ถึงเวลา สอบนั้น ก็ให้ทบทวนบทเรียน อย่าหักโหมอ่านหนังสือจนดึก ผมว่า นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ตื่นมาหัวสมองจะได้ปลอดโปร่ง อยากจะ แนะนำ�ให้น้องๆที่กำ�ลังสนใจหรือกำ�ลังคิดว่าจะเรียนต่อที่ไหนดี ให้ ลองมองสถาบันฯ เราไว้สักนิด เพราะที่นี่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าที่อื่น เพราะที่นี่ เรียนจริง ทำ�งานจริง สามารถติดตามเรื่องราวของ The Idol ได้ใน The Prototype ฉบับต่อไป ลากันไปก่อนนะคะ See yaaaaaaaaaaa!!!!!


Education 19 CRC@PIM เขียน

ปฏิทินข่าว

วันที่ 9 เมษายน : พบกับกิจกรรมงานสงกรานต์ ประจำ�ปี 2558 ที่ทางสำ�นักกิจการนักศึกษา สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้จัดงานภายใต้แนวคิด “สืบสานประเพณีสงกรานต์” พร้อมกับจัดเตรียม กิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย อาทิ กิจกรรมรดน่้ำ�ดำ�หัว กิจกรรมประกวด นางสงกรานต์ และกิจกรรมเปิดซุ้มขายของจากนักศึกษาทุกคณะ บรรยากาศจะสนุกสนาน ครึ้กครื้นขนาดไหน อย่าลืมมาร่วมงานกันนะ

วันที่ 30 พฤษภาคม และ 1 - 2 มิถุนายน : งานปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ประจำ�ปี 2558 กิจกรรมต้อนรับน้องใหม่เข้าสู่รั้วสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ภายในงานจะมีการ กล่าวต้อนรับจากอธิการบดี การแสดงจากนักศึกษา การแจ้งกฎระเบียบต่างๆ ที่ควรปฏิบัติ อีกทั้งยังเป็นวันแรกที่น้องๆ ยังได้พบปะกับรุ่นพี่เพื่อทำ�กิจกรรมสานสัมพันธ์อีกด้วย

EAT ’N READ ฉบับปฐมฤกษ์นี้ เราจะพาทุกคนไปดื่มด่ำ�กับบรรยากาศของร้านกาแฟน่านั่งที่มีความเป็นธรรมชาติ ผสมผสานกับความทันสมัยแบบเรียบง่ายที่ร้าน DX Playground…จุดเริ่มต้นของ DX Playground เกิดจากความคิดของคุณอัญชณี รอดจินดา ที่เชื่อมั่นในคำ�พูดของไอสไตน์ที่ว่า “จินตนาการสำ�คัญกว่า การเรียนรู”้ ด้วยรูปแบบร้านทีเ่ ป็นสไตล์ Material แบบดิบๆ กึง่ Industrial ทีใ่ ห้ความรูส้ กึ เรียบง่าย และ ทันสมัย ซึ่งบ่งบอกตัวตนของเจ้าของร้านที่เป็นคนเรียบง่าย สบายๆ มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ซึ่งเป็น ผูอ้ อกแบบ และตกแต่งเองทัง้ หมด บรรยากาศภายในร้าน DX Playground เต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ทีเ่ จ้าของร้านนัน้ คัดสรรและปลูกเองทัง้ หมดให้บรรยากาศทีร่ ม่ เย็น เข้ากับรูปแบบของร้านอย่างลงตัว เหมาะกับ คนทำ�งานรุ่นใหม่ที่ชอบนั่งทำ�งาน อ่านหนังสือ ท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่น และมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว สำ�หรับเมนูเครื่องดื่มแนะนำ�ของที่นี่ที่ชวนให้ลิ้มลอง คือ คาราเมล แมคเคียโต รสชาติเข้ม ข้น หอมหวาน กาแฟของที่นี่ เป็นกาแฟระดับพรีเมียม เมล็ดพันธุ์อาราบิก้า เครื่องดื่มทั้งหมดที่มีส่วน ผสมของกาแฟ จะได้รับอโรม่าของกาแฟออกมา รสชาติจะเบา ไม่กระชาก และไม่แรงจนเกินไป ส่วน เมนูอาหารแนะนำ�ที่สะกดใจไม่แพ้กัน คือ ไข่กระทะ มาพร้อมสลัด ขนมปังปิ้ง เสิร์ฟพร้อมน้ำ�ส้ม อีกทั้ง ยังสามารถเลือกเครื่องดื่มเป็น ชา โอวัลติน หรือกาแฟก็ได้ตามความชอบ และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ เมนูเซฟสลัด สไตล์ญี่ปุ่น รสชาติถูกปากด้วยน้ำ�สลัดงาใสสูตรลับเฉพาะของทางร้าน โรยหน้าด้วยไข่กุ้ง แสนอร่อย ไม่รู้จะอธิบายถึงความอร่อยอย่างไรดี คงต้องไปลองเอง... เมนูแนะนำ� ไข่กระทะ Dx coffee Caramel Macchiato Chef’s salad Aftermoon tea with bancoffee เมืองทองธานี ซอย C9 เวลาทำ�การ : เปิดทุกวัน 7:30 am – 10:00 pm 02 961 2426 Line : dx_playground

รู้หรือไม่

จากบทความในเว็บไซต์การศึกษา Eduzones.com กล่าวว่า สาขานิเทศศาสตร์และนวัตกรรม เป็น 1 ใน 10 สาขาวิชาเปิดใหม่ซึ่งเป็นที่ต้องการของประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) โดยสถาบันการศึกษาในประเทศไทยของเราก็มีการเปิดการเรียนการสอนทางด้านนี้เช่นกัน “4 สถาบันฯ” ที่น่าสนใจและเป็นที่ต้องการของอาเซียนมีอะไรบ้าง เรามาดูกันเลย... สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดสอนในสาขา “นิเทศศาสตร์เกษตร” เป็นสาขาที่เน้นนำ�ความรู้ ข่าวสาร รวมทั้งวิทยาการใหม่ๆ ในวงการเกษตรออกเผยแพร่ ให้เกษตรกรและชุมชน เพื่อการพัฒนาระบบการเกษตรของไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน มหาวิทยาลัยรังสิต อีกหนึ่งสถาบันการศึกษาที่เลื่องลือในศาสตร์ทางด้านนิเทศฯ ได้เปิดสาขา “สื่อสารการกีฬา” เป็นสาขาใหม่เน้นเรื่องการนำ�เสนอข่าวด้านกีฬาให้ชัดเจน และเข้าใจง่าย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดสอน 2 สาขาใหม่ ได้แก่ “วารสารศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์” ได้เรียนรู้การนำ�เสนอข่าว พร้อมฝึกปฏิบัติการทำ�ข่าวอย่างจริงจัง ทั้งในสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และสื่อใหม่ในโลกออนไลน์ และอีกสาขา “การสื่อสารการตลาดข้ามวัฒนธรรม” เป็นหลักสูตรที่พัฒนาแนวคิดด้านการสื่อสารการตลาด และแบรนด์ในบริบททางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ สถาบันการศึกษาที่เปิดการเรียนการสอนสาขา “วารสารศาสตร์คอนเวอร์เจ้นท์”, “การสื่อสารองค์กร” และ “การสื่อสารแบรนด์” ที่มีความจำ�เป็นอย่าง มากในด้านธุรกิจ การสื่อสารระหว่างประเทศ และการทำ�งานที่หลากทักษะ โดยมีการเรียนการสอนแบบ Work-based Education ซึ่งตอบโจทย์กับความต้องการของสถานประกอบการ จะเห็นได้ว่าองค์ความรู้จาก “สาขานิเทศศาสตร์” เป็นกลไกในการสื่อสาร เพื่อการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งทางด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่สำ�คัญ เพราะทุกอย่างใน โลกล้วนเชื่อมโยงถึงกัน


20

ฐิติยา ทรายทอง, กิดาการ เอกอัครยุทธ, ชมพูนุช จำ�รูญทัด, สุทธินันท์ ประจักษ์สุวิถี

MEStyle

TECHBUZZ

DINING ตะลุยร้านอาหาร ‘กินจุ ราคาถูก’ โดนใจนักศึกษา

เทรนด์สำ�หรับนักพัฒนาเว็บไซต์ ปี 2015 หลายปีที่ผ่านมาที่เราได้พูดถึงการขยายตัวของผู้ใช้สมาร์ทโฟน และในปีนี้ก็ยัง เป็นเช่นนั้น สมาร์ทโฟนยังคงมีอิทธิพลและเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอยู่ ผู้พัฒนาทั้งหลายจะปรับตัวอย่างไรเพื่อความอยู่รอดของเว็บไซต์ จากการเสวนาเว็บเทรนด์ปี 2015 ที่จัดโดยสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย มีผู้ร่วมเสวนาคือ คุณอัครวุฒิ ตำ�ราเรียง จาก Marvelic Engine, คุณณิชา จุฑาศิริวงศ์ จาก LnwShop คุณจักรพงษ์ คงมาลัย จาก Sanook Online, คุณศิวัตร เชาวรียวงษ์ จาก M Interaction และคุณศุภเดช สุทธิพงศ์คณาสัย จากสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย ได้ร่วมกัน วิเคราะห์กำ�หนดทิศทางการพัฒนาเว็บไซต์ในปี 2015 นี้ แต่จะเป็นอย่างไร

#1 มือถือต้องมาก่อน Mobile First

จากยอดการใช้งานมือถือที่เพิ่มมากขึ้น เว็บไซต์ต่างๆจึงต้องปรับหน้าเว็บให้ รองรับการใช้งานผ่านมือถือด้วย ซึ่งสามารถทำ�ได้ทั้งการสร้างแอพพลิเคชั่น เป็นของตัวเอง (แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสูง) หรือทำ�หน้าเว็บให้เป็น Responsive ย่อขยายตามขนาดหน้าจอของแต่ละอุปกรณ์ โดยผู้พัฒนาจะต้องทำ�หน้า เว็บไซต์ออกมาหลายขนาด โดยเริ่มจากหน้าจอมือถือก่อน

#2 ระบบ Payment Gateway

การชำ�ระเงินที่สะดวกสบาย ก็เป็นอีกสิ่งที่ทำ�ให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้น เว็บไซต์จึงจำ�เป็นต้องมีระบบ Payment Gateway หรือการชำ�ระเงินออนไลน์ ผ่านมือถือ เพื่อความสะดวกในการโอนเงินของผู้ซื้อ และความรวดเร็วใน การปิดการขาย ควรใช้งานร่วมกับระบบการจัดการเอนจิ้นอัตโนมัติ เพื่อลด ปัญหาการจองซ้ำ�ซ้อน หรือหลุดจอง

#3 Social Media

ปัจจุบันคนเสพสื่อจาก Social Media เป็นส่วนใหญ่ หากเว็บไซต์ของเรา สามารถใช้บัญชี Social Media ในการล็อกอินเข้าใช้งานได้เลย จะทำ�ให้ผู้ บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลากับการสมัครสมาชิกใหม่ จะเห็นได้ว่า เว็บไซต์ที่สามารถลิ้งค์กับได้เลย จะมียอดผู้เข้าชมที่สูงกว่า

#4 การโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

การใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ ทำ�ให้เราสามารถรู้ location ของผู้ใช้ได้ จึงเป็นโอกาสที่เราจะยิงโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น เช่น ถ้าผู้ใช้อยู่ ใกล้ทะเล เราอาจจะยิงโฆษณาครีมกันแดดไป เป็นต้น การยิงโฆษณาที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค จะส่งผลให้เปอร์เซ็นการ เลือกซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย

#5 เข้าถึงผู้บริโภค

การขยายฐานธุรกิจที่รวดเร็วที่สุด คือการเข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด ตัวอย่างเช่น บริการ Supermarket Online ที่กำ�ลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ในประเทศจีนขณะนี้ เนื่องจากเป็นการเจาะตลาดกลุ่มใหญ่ อย่างคนทั่วไป ที่จำ�เป็นต้องซื้อของใช้อุปโภคบริโภคอยู่แล้ว ธุรกิจจึงขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่การที่เขาจะทำ�แบบนี้ได้ เขาต้องมีการจัดการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมีโกดัง เก็บสินค้าอยู่ครอบคลุมทุกรัฐในจีน

‘กองทัพต้องเดินด้วยท้อง’ ประโยคคุ้นหูที่ได้ยินกันมาอยู่ ตลอด แน่นอนว่าการดำ�เนินชีวิตในแต่ละวันนั้น สิ่งสำ�คัญที่สุด คือ อาหารการกิน แต่ยุคที่ราคาอาหารแพงขึ้นทุกวัน คอลัมน์ DINING จึงมีร้านอาหารอร่อย ราคาประหยัด หรือที่เรียกว่า ‘กินจุ ราคาถูก’ มาแนะนำ� มาเริ่มที่ร้านแรก “ร้านสุกี้นายพัน” ร้านอาหารชื่อดัง ที่มีหลากหลายสาขาทั่วประเทศ ซึ่งกำ�ลังได้รับความนิยมจากคน รักสุกี้ ด้วยรสชาติที่อร่อยลงตัว และราคาถูก ทำ�ให้มีลูกค้าแวะ เวียนเข้ามารับประทานไม่ขาดสาย และวันนี้ทางทีมงานได้บุกไปที่ ร้านสุกี้นายพัน สาขามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นายพัน พงษ์พันธ์ หรือพี่พัน เจ้าของร้านสุกี้ นายพัน กล่าวว่า “เราใส่ใจในรสชาติ และความสดใหม่ ของอาหาร และมีสูตรสำ�คัญที่ทำ�ให้ใครหลายคนติดใจนั่นคือ น้ำ�จิ้มสุกี้ ที่ทางร้านได้คิดค้นสูตรเอง ทำ�ให้ได้รับความนิยมจาก ลูกค้าอยู่เสมอ” ในส่วนของเมนูอาหาร เป็นจำ�พวกสุกี้เป็นส่วนใหญ่ ทั้งสุกี้แห้ง สุกี้น้ำ� แบ่งออกเป็นสุกี้หมู ไก่ ทะเล หรือรวมมิตร นอกจากนี้ ยังมีบะหมี่หยก ลูกชิ้นหมูลวก เกี๊ยวปลาลวก พร้อมเสิร์ฟในราคา ที่นักศึกษาสามารถซื้อได้ เพียงราคาชามละ 45 บาท เท่านั้น มาต่อกันที่อาหารสไตล์ตะวันตกกันบ้าง ‘ร้าน sam steak and more’ สเต็กเนื้อเน้นๆ ที่มีทั้ง หมู ไก่ เนื้อ ปลา และอีกมากมาย ซึ่งถ้าหากคุณกำ�ลังมองหาร้านอาหาร บรรยากาศดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนรักสเต็ก ร้าน แซม สเต็ก แอน มอร์ คงเป็นตัวเลือกที่ใครหลายคนให้การยอมรับว่าเป็น ร้าน สเต็ก ที่มีรสชาติอร่อยถูกปากราคาย่อมเยา และเป็นที่รู้จัก ในกลุ่มของนักศึกษา แถมสเต็กร้านนี้ยังมีเมนูให้เลือกอีกมากมาย โดยทางร้านใช้เนื้อที่สดใหม่และไม่ใส่ผงชูรส หมักด้วยน้ำ�หมัก สู ต รพิ เ ศษจากทางร้ า นทำ �ให้ เ นื้ อ สเต็ ก มี ค วามนุ่ ม อย่ า งลงตั ว โดยสเต็กหนึ่งจานราคาเริ่มอยู่ที่ 65 บาท และมีเครื่องเคียงให้ เลือกอีกมากมาย แซม สเต็ก จึงกลายเป็นร้านอาหารขวัญใจ ของชาวนิสิตหรือลูกค้าทั่วไป ที่ติดใจทั้งเรื่อง รสชาติ และราคา สบายกระเป๋า หากท่ า นไหนสนใจที่ อ ยากจะลิ้ ม รสชาติ ค วามอร่ อ ย แซม สเต็ก เปิดให้บริการความสะดวกด้วยกันถึง 4 สาขา ทั้งมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต และ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ (2สาขา) เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00– 22.00 ตบท้ายร้านสุดท้ายกันด้วยขนมหวาน เย็นๆ ชื่นใจ ยิ่งอากา ศร้อนๆแบบประเทศไทย ขนมหวานที่ว่านี้คงหนีไม่พ้น ไอศกรีม ที่ เป็นตัวช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างเราจะพาคุณไปรู้จักร้านไอศกรีม ที่นอกจากจะอร่อย รสชาตินุ่มลงตัว ราคาถูก ยังมีรูปแบบการ เสิร์ฟที่ไม่ซ้ำ�ใคร นั่ก็คือร้าน ‘Tongue Fun Icecream ทั้งฟัน.. ไอติมหม้อไฟ’ ร้านขายไอศกรีมโฮมเมดที่เริ่มจากธุรกิจเล็กๆ มีเอกลักษณ์ที่โดน เด่นจนกลายเป็นร้านไอศกรีมที่โด่งดัง ได้รับความนิยมในหมู่วัย รุ่น ด้วยรสชาติที่หวานเย็นอร่อยลงตัว และยังได้ในปริมาณที่มาก คุ้มค่าต่อราคา และเอกลักษณ์ที่โดดเด่น นั่นคือการเสิร์ฟแบบหม้อ ไฟ มีควันพุ่งออกมาตรงกลางหม้อ สร้างความแปลกใหม่ และน่า ลิ้มลอง

นายชัยวัฒน์ หรือพี่วัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ของ Tongue fun icecream ซึ่งตั้งอยู่ที่เทอมินอล 21 บอกว่า “เสน่ห์ของไอติมหม้อไฟอยู่ที่รูปแบบการเสิร์ฟที่แปลกใหม่ รสชาติ ไอศกรีม รวมถึงการมีบริการที่ดี เราทักทายลูกค้าด้วยรอยยิ้ม ให้ทดลองชิมได้ทุกรสชาติ และเน้นราคาสบายกระเป๋า ได้ปริมาณ มาก” รสชาติของไอศกรีมนั้น มีให้เลือกมากถึง 24 รสชาติ ราคาเฉลี่ยลูกละไม่เกิน 30 บาท และรสที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือรสนม ที่ทำ�จากหัวนมเข้มข้น รสโคโคนัทมิลค์ มะม่วงเชอร์เบท บานาน่าชีส ช็อคโกแลตบราวนี่ เชอรี่บรั่นดี และอีกมากมาย ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ บอกว่า ร้านไอติมหม้อไฟ ยังมีอีกที่ หนึ่ง คือซอยยศเส ถือได้ว่าเป็นไอติมหม้อไฟเจ้าแรก ภายในร้าน ถูกจัดให้มีบรรยากาศชิวๆ นั่งเล่น สบายๆ ซึ่งได้รับความนิยม จากวัยรุ่นเป็นจำ�นวนมาก นั่นเป็นเพราะความแปลกใหม่ อร่อย และราคาถูก ทำ�ให้สามารถครองใจลูกค้ามาโดยตลอด ร้านอาหารที่เข้ากับคอนเซปต์ “กินจุ ราคาถูก” ยังมี อีกหลายร้านที่น่าเข้าไปรับประทาน ฉบับหน้า เราจะพาไปรู้จักกับ ร้านอาหารร้านไหนอีก ขอให้ติดตาม รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่าง แน่นอน


MEStyle 21

ชนัดดา บุญครอง, ปรัชญาวดี สินทวี, ณรงค์เกียรติ ชูจันทร์ เขียน

CHECK-IN

เที่ยวหน้าร้อนสไตล์ “สงบ-สนุก-สะดวก” เมื่อฤดูหนาวผ่านไป ฤดูร้อนเข้ามาแทนที่ หลายคนคงมองหา สถานที่พักผ่อนคลายร้อนแบบไม่วุ่นวาย สนุกและสะดวกในการเดินทางกัน อยู่ใช่ไหมคะ ขอแนะนำ� 3 สถานที่สุดสงบผสมกับความสนุกสนานและสะดวก ในการเดินทาง ที่จะทำ�ให้กิจกรรมคลายร้อนของคุณครบเครื่องมากขึ้น เริ่มต้นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวแสนสงบ เหมาะกับคู่รักที่อยากได้ ความเป็นส่วนตัว รักความเงียบ ไม่ชอบความวุ่นวาย หาดบางเบิดจะ ทำ�ให้ช่วงเวลาของคุณมีความหมายมากขึ้น ด้วยการนอนฟังเสียงคลื่น ซัดเข้าฝั่ง สูดกลิ่นไอทะลที่บริสุทธิ์ เม็ดทรายขาวละเอียดที่จะทำ�ให้การ เดินเล่นริมหาดของคุณสองคนโรแมนติกอย่างถึงที่สุด ซึ่งหาดนี้ตั้งอยู่ บริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดชุมพร โดย ห่างจากกรุงเทพมหานคร 200 กิโลเมตร นอกจากบางเบิดจะมีทะเล ที่สวยสะอาดตาแล้ว ยังมีอาหารทะเลสดๆ ที่ให้คุณเพลิดเพลินในการ รับประทานอาหาร พร้อมกับการชมวิวทิวทัศน์อันสงบควบคู่กันไป หาก ใครชื่นชอบกิจกรรมชายหาด บางเบิดยังมีเรือแคนนูให้ใช้บริการ หรือ การจัดปาร์ตี้เล็กๆ ริมหาด พร้อมทั้งยังมีที่พักหลากหลายสไตล์ที่ได้รับ มาตรฐาน ชาวบ้านในท้องถิ่นให้การต้อนรับด้วยรอยยิ้มเสมอ ทำ�ให้การ เที่ยวที่หาดบางเบิดอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกทีเดียวเลย ที่ต่อมามีไว้เอาใจคนวัยมันส์ที่ชอบใช้เวลาพักผ่อนในวันหยุดกับเพื่อนๆ โดยขับรถต่อมาอีกนิดจากบางเบิด เข้าไปในตัวอำ�เภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะพบกับ Black Mountain Wake Park สวรรค์ หน้าร้อนของคนรักการเล่นน้ำ� ที่จะทำ�ให้วัยมันส์มาสนุกสนาน เร้าใจ และสุดเหวี่ยงไปกับเครื่องเล่นในสวนน้ำ�มากกว่า 5 แบบ ที่มีระดับความมันส์แตกต่างกัน โดยมี Sport Pool ไว้เอาใจแกงส์เพื่อนฝูงที่ชอบกิจกรรม ริมหาด ไม่ว่าจะเป็นวอลเลย์บอล บาสเก็ตบอล โดยมีไลฟ์การ์ดคอยอำ�นวยความสะดวกตลอดเวลา และกีฬาเวคบอร์ด ไว้เอาใจคอกีฬาเอ๊กซ์ตรีม เพราะฉะนั้นที่นี่จึงเป็นสวรรค์บนดินที่วัยรุ่นทุกคนไม่ควรพลาด สุดท้าย สถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับคนมีครอบครัว มองหาที่เที่ยวสบายๆ สะดวกในการเดินทาง ถูกใจลูกน้อย อยู่ในกรุงเทพมหานครนี่เอง เพียงแค่ใช้เส้นทางรถไฟฟ้าลงที่สถานีแบริ่ง และออกทางประตูทางออก ที่ 2 ก็จะได้สัมผัสความเย็นสุดขั้วรับหน้าร้อน ที่ Habin Ice Wonderland กับความเย็น -15 องศาเซลเซียส ที่จะทำ�ให้คุณเพลิดเพลินไปกับความเย็น โดยมีการจำ�ลองสถานที่สำ�คัญทั่วโลกมาไว้ในรูปแบบของน้ำ�แข็ง จะทำ�ให้เด็กๆ ตื่นตาตื่นใจกับความอลังการของงานศิลปะ นอกจากนั้นยังมีเครื่องเล่นเพิ่มความสนุกสนานอย่างสไลด์เดอร์ ล่องแก่ง และบาร์เล็กๆพร้อมเสริฟเครื่องดื่มให้คุณพ่อคุณแม่ระหว่างรอลูกๆ ถือเป็นอีกสถาน ที่หนึ่งที่ตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่ที่มองหาสถานที่สร้างเสริมประสบการณ์การเรียนนอกห้องเรียนแก่ลูกน้อยได้อย่างดี สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นอีกทางเลือกจากหลายๆ ทางเลือกที่ทำ�ให้พวกคุณได้สัมผัสความรู้สึกใหม่ๆ ในการท่องเที่ยวหน้าร้อนปีนี้ ที่จะทำ�ให้พวกคุณได้คลายความเหนื่อยล้า เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เดินทางสะดวก ที่แตกต่างจากหน้าร้อนที่ผ่านๆ มา


22

ชนิดาภา ดัดใจงาม เขียน

MEStyle

ART&ENTERTAINMENT

สงกรานต์ชื่อเดียวกันกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง “ฟ้าใหม่แล้วละนะน้อง สงกรานต์เร้าร้องทำ�นองเพลงโทน โน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโท่นโทน ทั้งโยกทั้งโยน เย้ายวนยั่วใจ…” เมื่อได้ยินเพลงนี้ดังขึ้น เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าวันแห่งการสาดน้ำ�คล้ายร้อนในช่วง เดือนที่ร้อนระอุ หรือการรดน้ำ�ดำ�หัวผู้ใหญ่กำ�ลังจะเวียนมาบรรจบอีกครั้ง แต่คราวนี้เราจะไม่พูดถึงบรรยากาศสงกรานต์ของไทย แต่จะพาบินลัดฟ้าไปยังมณฑลยูนนาน ของจีนในสิบสองปันนา บ้านเมืองที่ตั้งอยู่ห่างจากจังหวัดเชียงรายไม่ไกลนัก เป็นแหล่งอาศัยของชน เผ่าไต หนึ่งในชนเผ่ากลุ่มน้อยของจีน หากได้ลองศึกษาวัฒนธรรม ความเชื่อ และธรรมเนียมปฏิบัติ ของชาวไตอย่างเข้าใจ จะพบว่ามีหลายสิ่งที่คล้ายคลึงกับชาวไทยมากทีเดียว เทศกาลสงกรานต์หรือที่ชาวไตเรียกกันว่า “เทศกาลสรงน้ำ�พระ” เป็นเทศกาลที่มีส่วน สัมพันธ์กับการรับเอาพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศจีน โดยรับเอาจากอินเดียส่งผ่านมาทางประเทศพม่า จน เข้าสู่ประเทศจีนแถบมณฑลยูนนานในที่สุด การหยั่ ง รากลึ ก ของพระพุ ท ธศาสนา ในยูนนาน นำ�ไปสู่การคงไว้ซึ่งเทศกาล สงกรานต์ของชาวไตที่มีธรรมเนียมปฏิบัติ ทางศาสนารวมอยู่ด้วย ชาวไตจะจั ด กิ จ กรรมรื่ น เริ ง ในช่วงสงกรานต์นาน 3-7 วัน ซึ่งจะ จัดขึ้นบริเวณชายฝั่งแม่น้ำ�หลันชัง ชาว จีนหลากหลายชนเผ่าจะแต่งตัวกันอย่าง เต็มยศเพื่อเดินทางมารวมตัวกันที่ชายฝั่ง แห่งนี้ บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยเสียง กลองและเสียงโห่ร้องของผู้ร่วมงาน เมือ่ กิจกรรมสาดน้ำ�เริ่มขึ้น ผู้คนจะพรมน้ำ� ด้วยใบไม้ไผ่ พร้อมกล่าวคำ�อวยพรที่เป็น สิริมงคลซึ่งกันและกัน และเมื่อบรรยากาศ เข้าสู่ความรื่นเริงจนถึงขีดสุด ผู้คนจะเริ่ม ใช้ขันน้ำ�หรือถังน้ำ�สาดใส่กันจนเปียกปอน และชุ่มไปทั้งตัว โดยพวกเขามีความเชื่อ กันว่าน้ำ�เป็นสิ่งมงคลที่จะช่วยชะล้างสิ่ง เลวร้ายที่ติดตัวมาในปีที่ผ่านมา ช่วยปัด เป่าเคราะห์กรรมและยังเป็นการอวยพรให้ ประสบแต่สิ่งดีๆ ในปีใหม่ที่จะมาถึง นอกจากนั้ น ยั ง มี กิ จ กรรม รืน่ เริงอืน่ ๆ อีกมากมาย เช่น การพาย เรือมังกรแข่งกัน ปล่อยบั้งไฟ การแสดง จินตลีลา และการโยนถุงผ้า ที่ถือเป็น กิจกรรมที่ต้องกล่าวถึง เพราะหนุ่ม สาวจะมี โ อกาสแลกเปลี่ ย นความรู้ สึ ก ผ่านถุงผ้าที่บรรจงปักขึ้น ฯลฯ เห็นที สงกรานต์ ค ราวนี้ ค งไม่ ต้ อ งมองหา โปรแกรมเที่ยวกันที่ไหน แพ็คกระเป๋าไป ดื่มดำ�บรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ที่ดิน แดนสิบสองปันนาก็ไม่เลวทีเดียว ขยับมาทางตอนใต้ของทวีปเอเชีย อีกหนึ่งประเพณีสงกรานต์ของชาวอินเดีย หรือที่มีชื่อ เรียกว่าเทศกาล “โฮลี่” เป็นเทศกาลของชาวฮินดู โดยกำ�หนดเอาคืนพระจันทร์เต็มดวงในเดือนที่ 12 ตามปฏิทินฮินดู ซึ่งจะตรงกับเดือนกุมภาพันธ์หรือเดือนมีนาคมของทุกปีเป็นวันเฉลิมฉลองกัน เพื่อต้อนรับ ฤดูใบไม้ผลิ ชาวฮินดูหลายคนจึงถือเอาเทศกาลโฮลี่เป็นช่วงแห่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่และนำ�ความสุขกลับ มาให้ พวกเขาจะสลัดทิ้งความทุกข์ ลืมเรื่องเข้าใจผิด ให้อภัยและปรับความเข้าใจกัน

นอกจากนี้โฮลี่ยังเป็นการฉลองผลผลิตที่ได้จากการเก็บเกี่ยว เพื่อขอบคุณพระเจ้าที่บันดาลพืชพรรณ ธัญญาหารตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา และเพื่อบขอให้ปีต่อไปได้ผลผลิตที่สมบูรณ์เหมือนเดิมด้วย นอกจาก นั้นยังเป็นเทศกาลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเทศกาลที่มีสีสันมากที่สุดในโลก ที่บอกว่าโฮลี่เป็นสุดยอดเทศกาลแห่งสีสันนั้น เพราะในช่วงเทศกาลนี้ ท้องถนนในแคว้นมธุระ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเดลีของอินเดีย จะเต็มไปด้วยฝูงชนที่ออกมาสาด ป้าย และเทสีใส่กัน ร้องรำ�ทำ� เพลงและโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะของเพลงบอลลีวูดที่ดังคละเคล้าไปกับเสียงหัวเราะ ความเฮฮา และบรรยากาศที่รื่นเริงถึงขีดสุด การเฉลิมฉลองจะมีเพียงหนึ่งวันและหนึ่งคืน ถ้าได้มีโอกาสไปร่วมเป็นสักขีพยานในการเฉลิมฉลองของชาวฮินดู ก็ดูจะเป็นการแต่งแต้ม ประสบการณ์ชีวิตให้มีสีสัน สัมผัสความหวัง ความสดใส และการเริ่มต้นใหม่ในเทศกาลนี้ ข้ามไปทีแ่ ถบยุโรปกันบ้าง ทีน่ น่ั มี ป ระเพณี ส าดน้ำ � คล้ า ยๆกั บ ในบ้ า น เรา คือประเพณี “Wet Monday” วั น จั น ทร์ แ ห่ ง การเปี ย กปอนของ ยุโรป เป็นประเพณีเก่าแก่ทางศาสนา ที่นิยมจัดขึ้นแถบยุโรปกลางในโปแลนด์ เช็ค สโลวาเกีย และยูเครน จะจัดขึน้ ในช่วงวันที่สองของเทศกาลอีสเตอร์ โดยจั ด ขึ้ น ตามความเชื่ อ ของผู้ นั บ ถื อ ศาสนาคริสต์ ใช้น�ำ้ เป็นสัญลักษณ์ ของการทำ�ความสะอาด เพือ่ ชำ�ระล้าง บาปและต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ โดยเมือ่ ศาสนาคริ ส ต์ ก ลายเป็ น ศาสนาหลั ก เทศกาลเว็ท มันดย์ จึงถูกนำ�มาใช้ เป็ น พิ ธี ก รรมทางศาสนาของชาว คริสเตียนโดยให้ความหมายเกีย่ วข้องกับ การทำ�ความสะอาดของวิญญาณบาป เด็ ก ชายและผู้ ช ายจะถื อ ขวด หรือถังน้ำ� วิ่งไล่ตามสาว ๆ และ สาดตั้งแต่หัวจรดเท้า ในอดีตผู้หญิง ที่สวยที่สุดในหมู่บ้านจะเป็น คนที่เปีย ก ที่สุด แต่ในปัจจุบัน ผู้ชายจะสาดน้ำ� ใส่ผู้หญิงคนไหนก็ได้ที่พวกเขาพบเจอ ต่อมาด้วยปัญหาการขาดแคลนน้ำ�ใน ปัจจุบันที่โลกกำ�ลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ บางคนบอกว่านี่เป็นการทำ�ให้เสียของที่ แย่มาก แต่ผู้ชายก็ยังเที่ยวพกขวดน้ำ� ตามสาดผู้หญิงอยู่เหมือนเดิม และไม่ คิดจะละทิ้งประเพณีโบราณนี้ เพราะ อย่ า งน้ อ ยมั น ก็ ทำ � ให้ เ กิ ด สี ห น้ า ที่ มี ความสุขของผู้คนจากการละเล่นนี้ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทศกาล ที่เกิดขึ้นในมุมต่างๆ ของโลก ที่มี ความคล้ายคลึงกับเทศกาลสงกรานต์ของบ้านเรา ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกหลายเทศกาลที่มีความหมายใน ทำ�นองเดียวกัน แต่อาจไม่เป็นที่รู้จักแต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าแต่ละเทศกาลจะมีความหมาย มีวันเวลา ของการเฉลิมฉลองที่เหมือนและต่างกันบ้าง แต่สิ่งที่มีความเหมือนกันของทุกเทศกาลนั่นก็คือ ต่าง นำ�มาซึ่งความสนุกสนานและความสุขของผู้คน และนั่นก็คือที่มาขอการดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกไป เฉลิมฉลองยังแหล่งกำ�เนิดของเทศกาลนั้น ๆ นั่นเอง


MEStyle 23 ชนันท์ เพียรเพิ่มภัทร เขียน

HEALTH ภัยเงียบจากพฤติกรรมการบริโภค และกิจวัตรประจำ�วัน ที่นำ�ไปสู่โรค “ไม่ติดต่อเรื้อรัง” (NCDs หรือ Non-communicable diseases) ซึ่งนำ�ไปสู่การเป็นโรคระบบหัวใจ และหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคระบบทาง เดินหายใจเรือ้ รัง กลุม่ โรคเหล่านีก้ �ำ ลังเป็นปัญหายอดนิยม ทางสุขภาพของประชากรทัว่ โลก สาเหตุเกิดจากพฤติกรรม การใช้ชีวิตแบบผิดวิธี เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ถูก หลักโภชนาการ และการไม่ออกกำ�ลังกายอย่างสม่ำ�เสมอ หากผู้บริโภครู้วิธีการดูแลตนเอง ด้วยวิธี “กินอย่าง ชาญฉลาด” ก็สามาถลดอัตราเสี่ยงจากการป่วยเป็นโรคไม่ ติดต่อเรื้อรังได้ง่ายขึ้น

รู้จักกับกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs หรือ Non-communicable diseases) โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ประกอบไปด้วย 4 โรคสำ�คัญ ได้แก่ 1.โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด 2.โรคเบาหวาน 3.โรคมะเร็ง 4.โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง ซึ่งปัจจัย เสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคทั้ง 4 กลุ่มนี้ คือ การสูบบุหรี่ การ บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การไม่ออกกำ�ลังกายอย่าง สม่ำ�เสมอ รวมถึงการบริโภคที่ไม่ถูกต้องตามหลักคุณค่า ทางโภชนาการ สำ � นั ก งานกองทุ น สนั บ สนุ น การสร้ า งเสริ ม สุขภาพ (สสส.) ระบุว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นปัญหา และอุปสรรคที่สำ�คัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศ โดยเฉพาะด้านคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ เพราะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ทำ�ให้ประชากรเสียชีวิตก่อนวัย อันควร เกิดการสูญเสียศักยภาพในการประกอบอาชีพ และผู้ป่ว ยมี ค วามทุ ก ข์ ท รมานจากการเจ็บ ป่ว ยและโรค แทรกซ้อน อีกทั้งค่าใช้จ่ายทางการรักษาแต่ละปีมีมูลค่า มหาศาล อีกด้วย องค์การอนามัยโลกได้ออกมาเปิดเผยสถิติการเสีย ชีวิตของประชากรทั่วโลกจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง พบว่ามี ผู้เสียชีวิตมากกว่า 36 ล้านคนต่อปี ส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิต อายุต่ำ�กว่า 60 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พบมากที่สุดใน ประเทศด้อยพัฒนาอย่างแอฟริกา พบผู้เสียชีวิตเกือบ ร้อยละ 80 ของประชากรทั้งประเทศ หรือประมาณ 29 ล้านคน

แนวโน้ ม ของคนไทยต่ อ การเป็ นโรคไม่ ติดต่อเรื้อรัง

อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการสาธารณสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กล่าวว่า จากพฤติกรรมทาง สุขภาพ “3 อ. 2 ส.” คือ อ.อาหาร อ.ออกกำ�ลังกาย อ.อารมณ์ ส.สูบบุหรี่ และ ส.สุรา กันอย่างผิดวิธีที่มาก ขึ้นส่งผลให้คนไทยมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่ม มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า “ปัจจุบันคนเราบริโภคอาหารรสเค็มมากขึ้น เพราะอาหาร ปรุงสำ�เร็จแต่ละชนิดมักจะมีเกลือเป็นส่วนประกอบสำ�คัญ ซึ่งในขณะที่เราควรบริโภคเกลือเพียงวันละ 1 ช้อนชา หรือ ไม่เกิน 6 กรัมเท่านั้น ถ้าร่างกายมีปริมาณโซเดียมที่ได้จาก เกลือสูงเกินไป ไตจะทำ�งานผิดปกติและจะไม่สามารถขับ โซเดียมได้ หากร่างกายได้รับปริมาณโซเดียมสะสมสูงเกิน กว่าปริมาณที่ร่างกายรับได้ น้ำ�ในร่างกายจะเพิ่มปริมาณ มากขึ้น และไตต้องทำ�งานหนักเพื่อขับปริมาณโซเดียม ส่วนเกินออกจากร่างกายในรูปแบบของปัสสาวะ ซึง่ ทำ�ให้มี ความเสี่ยงในการเป็นโรคไตเสื่อมสูงขึ้น โรคความดันโลหิต เป็น 1 ในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่ คนไทยเป็นกันมาก เนื่องจากรับประทานอาหารที่มีโซเดียม สูง หรืออาหารที่มีรสเค็มจัดนั่นเอง “โซเดียม” นอกจาก พบในเกลือ น้ำ�ปลา หรือกะปิแล้ว แต่ยังสามารถพบใน ผงชูรส และผงฟูที่ใช้ในการทำ�เบเกอรี่อีกด้วย อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ กล่าวถึงแนวทางการดูแล สุขภาพเพื่อป้องกันการเป็นโรคในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ว่า “การเปลี่ยนพฤติกรรมให้ห่างไกลจากกลุ่มนี้ ไม่ควร เจาะจงไปที่โรคใดโรคหนึ่งแต่ควรป้องกันไม่ให้เรามีความ เสี่ยงเลยใน ทุกๆ โรค ดังนั้นสิ่งสำ�คัญคือ “ความสมดุล” ในการรับประทาน ซึ่งพบว่าหลายคนที่ต้องการควบคุม ระดับน้ำ�ตาลในเลือด ด้วยการงดของหวาน เพราะกลัว เป็นโรคเบาหวาน แต่ละเลยการควบคุมแป้ง ทั้งๆ ที่แป้ง สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำ�ตาลได้ในเลือด ทำ�ให้ยังคงมีความ เสี่ยงสูงในการเป็นโรคเบาหวานนั่นเอง เพราะฉะนั้นพวกเราควรหันมารับประทานอาหารที่ ครบถ้วน 5 หมู่ตามหลักโภชนาการ โดยเฉพาะอาหารที่มี กากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช เพราะมีส่วนช่วยให้การ ย่อย และการดูดซึมน้ำ�ตาลในเลือดช้าลง ซึ่งเซลล์ต่างๆ ของร่างกายสามารถดึงน้ำ�ตาลที่อยู่ในเลือดไปใช้งานได้ ทันที ทำ�ให้ไม่เกิดการสะสมปริมาณน้ำ�ตาลในเลือดมากเกิน ความจำ�เป็นของร่างกาย เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเสียใหม่ กินให้ ถูกหลัก ดูแลจิตใจ และออกกำ�ลังกายเป็นประจำ� ไม่ว่าจะ อายุเท่าไร ย่อมห่างไกลจากการป่วยในกลุ่มโรคไม่ติดต่อ เรื้อรัง...ก้าวสู่เส้นทางสุขภาพดี หากคุณใส่ใจสุขภาพ

Info. เคล็ดลับในการบริโภคคือการดูข้อมูลแหล่งที่มา ของอาหารที่รับประทานว่ามีปริมาณไขมัน น้ำ�ตาล หรือ เกลือมากน้อยเท่าไหร่ สังเกตจากพฤติกรรมการรับ ประทานของตนเอง ลดปริมาณการบริโภคให้เพียงพอกับ ร่างกาย แล้วหันมารับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น ใน ทุก ๆ มื้อควรจะมีผักผลไม้เป็นส่วนประกอบ



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.