The Prototype by CA@PIM issue 5: hero

Page 1


LETTER FROM

THE EDITOR “หากเรานึกถึง Hero เราจะนึกถึงอะไร ฮีโร่ คือ ตัวแทนของการทำ�ความดี เป็นบุคคลที่ปกป้องคนใน สังคม ทำ�ลายความชัว่ ร้าย มีพลังพิเศษเหนือกว่าผูอ้ นื่ และเป็นผูท้ เี่ ติมเต็มในสิง่ ทีส่ งั คมขาดหายไป เวลาเกิด เหตุการณ์ตา่ งๆเรามักจะรอฮีโร่มาช่วยเสมอ รวมถึงเหตุการณ์ทเี่ กิดขึน้ ก็สามารถสร้างฮีโร่ได้เช่นกัน กาลเวลา เปลี่ยนไป คำ�ว่าฮีโร่ก็คงต้องเปลี่ยนไปตามมุมมองของแต่ละคน อยู่ที่ว่าใครจะให้คำ�จำ�กัดความว่าอย่างไร” หนังสือพิมพ์ฝกึ ปฏิบตั ิ The Prototype by CA@PIM ต้นแบบความคิดเพือ่ ชีวติ ต่อยอด ของนักศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้เดินทางมาถึงเล่มที่ 5 ในปีนี้มีความพิเศษแบบคูณสอง โดยคณะนิเทศศาสตร์ก็ได้ครบรอบ 5 ปีในการก่อตั้งด้วยเช่นกัน กองบรรณาธิการหยิบเรื่องราวของคนธรรมดา ที่ทำ�ความดี ทำ�ประโยชน์ให้สังคม ขับเคลื่อนสังคมในแบบของพวกเขามารวมไว้ให้เป็นพลังส่งต่อความหวัง ในการทำ�ความดี และสร้างสังคมให้เดินไปข้างหน้าด้วยกัน ในทุกส่วนของสังคมมีต้นแบบฮีโร่ให้เราได้เรียนรู้ คอลัมน์ Econ & Biz เดินตามรอยของคนทำ�เกษตรที่ พลิกชีวติ ตัวเองและคนอืน่ คอลัมน์ Special Report เรียนรูม้ มุ มอง ทัศนคติ ในการดำ�เนินชีวติ เพือ่ คนอืน่ ในสังคม กับคำ�ว่า “คนธรรมดาก็เป็นฮีโร่ได้” และตอบแทนแผ่นดินไทยที่พวกเขารัก ในมุมของอาชีพ The Prototype by CA@PIM ก็ยังหยิบอาชีพต่างๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจมาให้ผู้อ่านได้นำ�ไปต่อยอด ต่อเติมความคิด เพื่อชีวิต และการทำ�งานได้เช่นเดิม แต่มีกลิ่นอายของงานที่ทำ�ในสิ่งที่คนมองข้าม ทำ�ไม่ได้ เพราะทุกอาชีพคือฟันเฟืองใน การขับเคลื่อนสังคมนี้เช่นกัน กองบรรณาธิการเลือกที่จะเสนอข้อมูล เนื้อหาเกี่ยวกับคำ�ว่าฮีโร่ ปัจจุบันคนในสังคมมีการใช้ชีวิตที่แตก ต่างกัน จะมีสกั กีค่ นทีท่ �ำ เพือ่ ผูอ้ นื่ โดยไม่หวังสิง่ ตอบแทน บุคคลเหล่านัน้ ล้วนเป็นฮีโร่ พวกเราอยากให้ผอู้ า่ นลอง คิดตามไปว่า ฮีโร่นั้นแท้จริงหมายถึงอะไร ทุกคนบนโลกล้วนเป็นฮีโร่ได้ แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถเป็นฮีโร่เช่น กัน อยู่ที่พลังพิเศษที่แต่ละคนจะแสดงความเป็นฮีโร่ออกมาได้มากน้อยเพียงใด กองบรรณาธิการ

The Prototype เป็นหนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของนักศึกษา สาขาวารสารศาสตร์คอนเวอร์เจ้นท์ คณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์

โทรศัพท์ 02-832-0966 http://theprototype.pim.ac.th ที่ปรึกษา ดร.สุดารัตน์ ดิษยวรรธนะ จันทราวัฒนากุล, อ.สกุลศรี ศรีสารคาม, ดร.พิทยา พละพลีวัลย์ บรรณาธิการบริหาร นางสาวนภาพร กลั่นนํ้าทิพย์ เลขานุการ นางสาวคณิศรา พอจิต บรรณาธิการข่าวและบทความ นางสาวปพัชญา นิภานันท์ บรรณาธิการภาพ นายธนกร ประภากรวิภาวี​ี บรรณาธิการศิลป์ นายสหรัถ แสงขาว, นางสาวอทิตยา สมมาตร บรรณาธิการฝ่ายจัดการ นายภัทรพล กลอบจินดา บรรณาธิการพิสจู น์อกั ษร นางสาวอดิศร เงสันเทียะ ทีมบทความ คอลัมน์ Special Report นางสาวนันท์นภัส โอดคง, นายกานต์พิชชา โกฎค้างพูล, นายกษิดิ์เดช ปัดเกษม กองบรรณาธิการข่าว นายจิรายุ วัฒนประภาวิทย์, นางสาวศศิธร คมขำ�, นายณัฐวัฒน์ เสนาะพิณ, นางสาวเบญจรัตน์ อิ่มโต, นางสาวกัญญา เบี้ยเลี่ยม, นายเทวราช ชมภูนาค, นายสหรัฐ ศิริพันธ์, นายณัฐพงศ์ เสาวรัจ, นางสาวอภิษฎา แพภิรมย์รตั น์, นางสาวพัชรศรี ปิน่ แก้ว, นางสาวกนกพร เสนีย,์ นางสาวปรินทร์ดา ชุมขวัญ, นางสาวชฎาพร ตัง้ ตัว, นางสาวพรรณอร เสือเทศ, นางสาวปริยาภัทร จันทร์ทอง, นางสาวธัญชนก ปารวัณวงศ์, นางสาวนิตยา ร่มโพธิ์ชี, นางสาวสริตา นาคใจเสือ, นายวรยศ กลัดเนินกุ่ม, นางสาวปนัดดา วงษ์ประกรคำ�, นายภควรรธ อัญชลี, นายนันทกร ศรีนามบุรี, นางสาวอลิสา ลุนจันทร์, นายอนุชิต ไกรวิจิตร, นายอภินัท พันธ์สถิตย์, นางสาวศศิธร บุญขาว, นางสาวแพรวา คงฟัก, นายอาชวินญ์ กองวิเศษ, นายวีระพงศ์ ธัญญโภชน์, นายธนพล มหาวงษ์, นางสาวณัฐวิตรา แตงงาม, นางสาวศุภลักษณ์ สุโภวรวุฒ,ิ นางสาวศุภมาศ เนตรมณี, นางสาวธัญลักษณ์ อุม่ เจริญ, นางสาวกริสรินทร์ บุญรวิวัฒน์, นางสาวพนิดาภรณ์ อยู่ชื่น, นางสาวมัณฑณา ธราพรสกุลวงศ์, นางสาวภัทราวดี คำ�จันดา, นางสาวนิตยา สอนคำ�จันทร์, นางสาวเสาวลักษณ์ ศรีสรรค์, นายอาจประณต สิงห์ทองไชย, นางสาวสุพพัตรา วงศ์ราษฎร์, นางสาวธารินี หนูดำ�, นายณรงค์ฤทธิ์ มุ่งปันกลาง, นายภูมิรพี ศิริบรรณ


สารบัญ Contents VOICE

.ใครคือฮีโร่ในดวงใจของปี 2559

ECON & BIZ . .ข่าวเศรษฐกิ​ิจ

สร้างคน 84 ตำ�บล วีถีพอเพียง ตำ�บลป่าขะ อำ�เภอบ้านนา นครนายก

GURU

MEDIA LITERACY .สื่อสร้างฮีโร่..ฮีโร่โอละพ่อ..สื่อทำ�อย่างไร

INSIDE & OUTSIDE .จีเอ็มโอใกล้ตัวกว่าที่คิด .จะรอดหรือจะร่วง ? ปลูกพืช GMO ในประเทศไทย

Special Report . .บุคคลต้นแบบผู้ขับเคลื่อนสังคม

.PIM ส่ง‘ทีน่า‘ธัญญา เทอเนอร์ชิงรางวัล

พระราชทาน

.ADORA ครบเครื่องเรื่องชุดเพื่อนเจ้าสาว

.ครูแนะแนว...ผู้เปิดประตูสู่อนาคตการ ศึกษาเด็กไทย

.อาชีพและแรงบันดาลใจ

อ่านชิลอิ่มบุญเพื่อผู้บกพร่องทางการมองเห็น

เหลาให้แหลม

EDUCATION

DREAM CAREER

Comm.Arts NEWS

ME STYLE .สีสันของชีิวิต


VOICE อภิษฎา แพภิรมย์รัตน์ พัชรศรี ปิ่นแก้ว

ชีวิตจริงไม่ใช่ใน การ์ตูน เมื่อใครๆที่อยากเป็น “ฮีโร่” ต้องเริ่มต้นที่..มือเรา

​ คำ�ว่า “ฮีโร่” ใครๆก็สามารถเป็นฮีโร่ได้ไหม..ในสังคมต้องการคนลักษณะแบบ ไหนมาเป็นฮีโร่ในตอนนี้ แล้วใครคือบุคคลที่เหมาะควรจะเป็นฮีโร่กับสถานการณ์ ในปัจจุบัน ลองมาดูความคิดเห็นจาก 3 บุคคลที่เป็นแบบอย่างในสังคมอย่าง คุณเล้ง ผู้โดดเด่นเรื่องจิตอาสาจากธนาคารจิตอาสา โก้ วศิน นักแสดง พิธีกรที่มากความสามารถ และกัปตันแบม Bar7 กัปตันเว็บเด็กดีต้นแบบของเด็ก แอดมิชชั่นปี 59 ว่ามีความคิดเห็นว่าอย่างไร และคุณมีความคิดเห็นแบบไหนกับ “ฮีโร่” บุคคลแบบไหนที่สังคมต้องการ ? เล้ง โชติศักดิ์ กิจพรยงพันธุ์ (ผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารจิตอาสา) มองฮีโร่ ว่าเป็นบุคคลที่มีความใส่ใจ และดู แ ลสิ่ ง หนึ่ ง จากความตั้ ง ใจดี มี ค วามอดทนและความพยายามกั บ สิ่ ง นั้ น โดยฮี โร่ ที่ ผ มมองไม่ จำ � เป็ น ต้องเป็นบุคคลมีชื่อเสียงหรือเก่งมากมาย แต่ผมคิดว่าคนธรรมดาก็เป็นฮีโร่ได้ เพียงแค่เขาคนนั้นต้องรู้จัก ตั ว ตนของเขาดี ว่ า ตนเองถนั ด สิ่ ง ไหนและพร้ อ มใช้ ค วามถนั ด ของตนมาทำ � สิ่ ง หนึ่ ง โดยมาจากใจของเขา ถ้าลองเปรียบกับงานจิตอาสาของผม เมื่อก่อนงานจิตอาสากลายเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยงเพราะ พวกเขาคิดว่าการทำ�ความดีเป็นเรื่องน่าอาย แต่กลับกันในปัจจุบันเริ่มมีจำ�นวนของคนทำ�งานจิตอาสาเพิ่มขึ้น โดยพวกเขาใช้ความถนัดของตัวเองมาช่วยงานจิตอาสาเพียงเท่านี้พวกเขาก็ถือว่าเป็นฮีโร่ได้แล้ว แม้ไม่ใช่คน มีชื่อเสียงก็ตามและการเริ่มมีคนมาช่วยงานจิตอาสาเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนทำ�ให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น จากผู้คน ต่างเดินไปมาในห้างสรรพสินค้าในยามว่าง เปลี่ยนมาใช้เวลานั้นหากิจกรรมช่วยเหลือสังคม ทำ�ให้ทุกอย่าง ในสังคมเริ่มดีขึ้นทั้งวิถีของผู้คนกับสิ่งแวดล้อมต่างๆและลักษณะฮีโร่ของสังคมตอนนี้สำ�หรับผม คือคนที่รู้จัก ตัวเองดี ว่าตัวเองถนัดสิ่งไหนทำ�อะไรได้บ้างมีใจพร้อมช่วยเหลือเพียงเท่านี้เขาคนนั้นก็เป็นฮีโร่ได้และจะเป็น ฮีโร่ที่มีผลงานดี เพราะไม่ใช่เขาคนนั้นเป็นคนมีชื่อเสียงแต่เป็นเขาคนนั้นที่รู้ว่าตนถนัดกับสิ่งใดและทำ�มันจากใจ ผลงานจึงออกมาดี ลักษณะฮีโร่แบบนี้จึงเป็นสิ่งที่ผมอยากให้มีในสังคมนี้

อีกทั้งน้อง กัปตันแบม Bar7 อรปรียา สุภาภรณ์ประดับ (นักเรียนโรงเรียนโพธิสารพิทยากร และกัปตัน www.dek-d.com) มองฮีโร่ ว่าไม่ใช่บุคคลที่เพียงจะช่วยเหลือคนอื่นอย่างเดียว แต่ต้องเป็นต้นแบบของทุกด้าน ทั้งในเรื่องของความพยายาม ความอดทน รวมถึงพฤติกรรมในการกระทำ�ต่างๆของตัวเองด้วย และสำ�หรับสังคม ในตอนนี้ หนูมองว่าทุกอย่างในสังคม กำ�ลังค่อยๆพัฒนาขึ้นเป็นอย่างดี แม้ว่าบางอย่างอาจจะยังไม่เป็นรูปธรรมเท่าไร แต่สิ่งพวกนี้จำ�เป็นต้องใช้เวลาเป็นตัวช่วยถึงแม้จะต้องใช้เวลานานก็ตามในการทำ�สิ่งเหล่านั้นกว่าจะได้เห็นผลส่วน บุคคลที่คิดว่าสามารถเป็นฮีโร่ในสถานการณ์ตอนนี้ได้ หนูคิดว่าต้องเป็นบุคคลที่มีลักษณะเป็นผู้มีความมั่นใจในตนเอง กล้าคิดกล้าทำ�ในสิง่ ทีถ่ กู ต้อง รวมถึงกล้าตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดและมีอ�ำ นาจในตัวเองเพือ่ ให้คนอืน่ เชือ่ ถือได้ เพราะว่า หากฮีโร่ไม่สามารถเลือกสิง่ ทีด่ ที สี่ ดุ แล้วมีสทิ ธิในการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดได้กไ็ ร้ประโยชน์ทจี่ ะมีฮโี ร่อยูใ่ นสถานการณ์ แบบนี้และถ้าให้เลือกฮีโร่ที่เหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้ ในความคิดของหนู ขอยกให้เป็น พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ท่านนายกคนปัจจุบัน เพราะท่านมีบุคลิกที่น่าเกรงขามและเป็นบุคคลมีความสามารถตามที่หนูคิดไว้ว่าเป็นฮีโร่ได้


VOICE ณัฐพงส์ เสาวรัจ สหรัฐ ศิริพันธ์

โก้ วศิน อัศวนฤนาท (นักแสดงและพิธีกร) มองฮีโร่ ว่าเป็นบุคคลที่ทำ�อะไรแล้วจะประสบความ สำ�เร็จและไม่ว่าใครก็เป็นฮีโร่ได้ เพราะแต่ละคนมีข้อดีของตัวเองที่แตกต่างกันไป โดยสามารถนำ�มา เป็นต้นแบบต่อใครๆได้ สำ�หรับผมก็มีฮีโร่ในดวงใจหลายคนซึ่งล้วนแต่เป็นบุคคลใกล้ตัว อย่างเช่นคุณพ่อ ผมเห็นเวลาท่านทำ�งาน ท่านจะตัง้ ใจมากซึง่ ผมมองว่าเป็นข้อดีส�ำ หรับความประสบความสำ�เร็จ ผมจึงนำ�มา เป็นต้นแบบในการทำ�งาน ว่าเวลาทำ�งานจะต้องมีความตัง้ ใจทำ�งานตามทีผ่ มเอาข้อดีมาจากคุณพ่อ ผูเ้ ป็นฮีโร่ คนหนึง่ ของผม และในสังคมสำ�หรับผมจะนึกถึงฮีโร่เป็นบุคคลทีม่ อี ทิ ธิพลทำ�ให้คนอืน่ มองและนำ�ไปเป็นต้น แบบ เพื่อนำ�ไปเป็นแบบแผนของการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น โดยนำ�ไปเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเพื่อตัวเอง หรือ เพื่อสังคมก็ล้วนแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ก่อให้เป็นเรื่องราวดีๆทั้งนั้น

Poll - จากประเด็น “ฮีโร่” โดยคณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้สำ�รวจความ คิดเห็นจากกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ในอายุ 15-30 ปี จำ�นวน 300 คนเพื่อโหวต ฮีโร่ประจำ�ปี2558 มีผลพบว่า อันดับที่ 1 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (บิ๊กตู่) ได้ผลโหวตไป 82 คน 27.4% อันดับที่ 2 พ่อ แม่ ครูอาจารย์ นักแสดงหรือบุคคลที่ตนเองชื่นชอบ ได้ผลโหวตไป 77 คน 25.8% อันดับที่ 3 บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ผลโหวตไป 70 คน 23.4% อันดับที่ 4 โน้ส อุดม แต้พานิช ได้ผลโหวตไป 53 คน 17.7% อันดับที่ 5 ครูลูกกอล์ฟ คณาธิป สุนทรรักษ์ ได้ผลโหวตไป 17 คน 5.7%


ECON & BIZ BIZ UPDATE

ศศิธร คมขำ� ณัฐวัฒน์ เสนาะพิณ นภาพร กลั่นน้ำ�ทิพย์

คาดศก.ไทยไตรมาส 2 ไม่ฟื้น

เงินบาทอาจอ่อนตัวลงอีก

ทำ�ให้ดอลลาร์แข็งค่าและมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก นายธนเทพ นุ ช เกษม รองผู้ อำ � นวยการ ใน 3-6 เดือนข้างหน้า บวกกับตอนนี้ทั่วโลกกำ�ลัง สาขารังสิต บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำ�กัด เผชิญวิกฤตเหมือนกัน ทำ�ให้สหรัฐไม่ขึ้นดอกเบี้ย (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 2 ของ และหากสถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป เงินบาทอาจ ประเทศไทย จากค่า GDP ของปีที่แล้วที่สำ�นักงาน อ่อนค่าลงได้ คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประกาศออกมาเพิม่ ขึน้ เพียง 2.8% เชือ่ ว่าไตรมาสที่ 1 ปี 2559 น่าจะไม่เพิม่ ขึน้ มากว่าปีทแี่ ล้ว เนือ่ งจาก สถานการณ์มีการแข่งขันทำ�ให้ค่าเงินอ่อนตัวลง ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ส่วนไตรมาสที่ 2 จะน้อยกว่าไตรมาสแรกในปีนี้ ราคาน้ำ�มันจะยังถูกต่อเนื่อง ในด้ า นของค่ า เงิ น ในขณะนี้ นายธนเทพ นุ ช เกษม มองว่ า มี ก ารแข่ ง ขั น กั น อยู่ ร ะหว่ า ง สหรั ฐ อเมริ ก า ญี่ ปุ่ น จี น เป็ น ต้ น ทางด้ า น สหรัฐอเมริกา ที่มีการเพิ่มดอกเบี้ยในรอบ 10 ปี

ECON & BIZ ECON POLICY

ศศิธร คมขำ� ณัฐวัฒน์ เสนาะพิณ

“ถ้ามีโครงการอะไรที่สอดคล้องกับสภาพ ภูมิประเทศก็สามารถจะสร้างความเจริญให้กับเขต ทีใ่ หญ่ขนึ้ ได้ เขตทีใ่ หญ่ลงท้ายก็จะแผ่ทวั่ ประเทศได้ แต่เพือ่ การนีจ้ ะต้องมีความร่วมมืออย่างดี ระหว่าง ทุกฝ่ายทัง้ นักวิชาการ และนักปกครอง ดังนี้ ถึงบอก ว่าเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่สองอย่างนี้ จะทำ�ความเจริญแก่ประเทศได้แต่ตอ้ งมีความเพียร แล้วต้องอดทน ต้องไม่ใจร้อน ต้องไม่พูดมาก ต้องไม่ทะเลาะกัน ถ้าทำ�โดยเข้าใจกัน เชื่อว่า ทุกคนจะมีความพอใจได้ ” พระราชดำ�รัส พระราชทานแก่คณะบุคคล ต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวน จิตรลดา พระราชวังดุสติ วนั ศุกร์ที่ 4 ธันวาคม 2551

ต้องการที่จะลดราคานํ้ามันให้ตํ่าลง เพื่อให้ผู้ค้านํ้า มันขาดทุนและกลุ่มโอเปกจะเข้าไปคุมระบบนํ้ามัน ในทางกลับกันหากมองในมุมหลักการ เศรษฐกิจโลกในขณะนีย้ งั ไม่ฟนื้ ตัว แถบทางฝัง่ ยุโรป เริ่มกลับมาอ่อนตัว ทำ�ให้การบริโภคนํ้ามันมีไม่มาก เหมือนเดิม แต่ไม่ทำ�ให้ฐานการผลิตลดน้อยลง ผสมกั บ ประเทศอิ ห ร่ า นถู ก ยกเลิ ก การสั่ ง นํ้า มั น ทำ�ให้ไม่สามารถกลับมาทำ�การค้าได้อีกส่งผลให้ใน ตลาดมีนํ้ามันมากเกินความต้องการ

ราคานํ้ามันในตลาดโลกตอนนี้อยู่ที่ 26-35 เหรียญ โดยนายธนเทพ นุชเกษมมองว่าราคานาํ้ มัน จะอยู่ในระดับนี้อีกนานแต่ไม่เกิน 40 เหรียญ ในตอนนีท้ างกลุม่ โอเปก โดยเฉพาะซาอุดอิ าระเบีย

สร้างคน 84 ตำ�บล วีถีพอเพียง

ตำ�บลป่าขะ อำ�เภอบ้านนา นครนายก จากแนวพระราชดำ�รัสของในหลวง ผู้ใหญ่ ทวี มณฑา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 อำ�เภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ยึดถือและปฏิบัติตามจนทำ�ให้ ชีวิตอยู่ดีมีความสุขจนทุกวันนี้ ย้อนไปเมื่อปี 2535 ผู้ใหญ่เริ่มทำ�เกษตร แบบผสมผสานแบบปลอดสารพิษ และเผยแพร่ แนวความคิ ด ให้ กั บ คนในชุ ม ชนโดยมี สำ � นั ก งาน พัฒนาชุมชนสนับสนุนจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจ พอเพียง ประกอบด้วย 5 ฐานการเรียนรู้ ได้แก่ ฐานการเรียนรู้ผักสมุนไพรพื้นบ้านฐาน การเรียนรู้ผัก พื้นบ้านปลอดสารพิษ ฐานการเรียน รู้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ฐานการเรียนรู้สวนไม้ผล ปลอดสารพิ ษ และฐานการเรี ย นรู้ เรื่ อ งแปรรู ป กระท้อนสามรส โครงการรั ก ษ์ ป่ า สร้ า งคน ๘๔ ตำ � บล วิ ถี พ อเพี ย งเพื่ อ ต่ อ ยอดพั ฒ นาทุ น เดิ ม ชุ ม ชน เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน อาทิ ขยาย องค์ความรูเ้ กษตรอินทรีย์ ส่งเสริมอาชีพคนในตำ�บล ผ่านกิจกรรมมากมาย ชาวบ้านตำ�บลป่าขะให้ความ สำ�คัญกับการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก

ชุมชน คือ คนขับเคลือ่ นเศรษฐกิจพอเพียง ทีส่ �ำ คัญ โครงการรักษ์ป่า สร้างคน 84 ตำ�บล วิถีพอเพียง ของบริษัท ปตท. เป็นหนึ่งตัวอย่างในโครงการที่ส่ง เสริมการสร้างเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน ด้วยการ เรียนรู้ผ่านกระบวนการจริง และมีศูนย์การเรียนรู้ สอนกรรมวิธใี ห้น�ำ ไปปรับใช้กบั พืน้ ทีข่ องตนเอง จาก อดีตที่ชุมชนตำ�บลป่าขะมีการใช้ชีวิตความเป็นอยู่


ทีเ่ รียบง่ายและเน้นการพึง่ พาตนเองเป็นหลักอยูแ่ ล้ว ทำ�ให้ปัจจุบันทุกครัวเรือนมีการนำ�ความรู้ที่ได้จาก ศูนย์การเรียนรูไ้ ปต่อยอดกับสิง่ ทีต่ นเองมีอยูแ่ ล้วให้ มีประโยชน์เพิ่มขึ้น นายเลิศชาย พรรณวิเชียร หรือ ลุงเลิศได้เป็น ตัวแทนศูนย์เรียนรูเ้ ตาเผาถ่าน 200 ลิตร เล่าว่าจาก อาชีพขับรถบรรทุก เปลีย่ นมาเป็นการทำ�สวนเล็กๆ มีรายได้ 300 บาทต่อวันจากการเก็บของในสวนไป ขาย และเผาถ่านใช้เอง ชีวิตกลับอยู่ได้ไม่เดือดร้อน สบายกว่าตอนขับรถรับจ้าง เพราะใช้เศรษฐกิจพอ เพียงในการดำ�เนินชีวิต

เตาที่ลุงเลิศใช้เผาถ่านเป็นเตาอุโมงค์ (เตาดิน) เตาจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ เตาอุโมงค์ เตา 200 ลิตร และ เตาผี (เตาชาวบ้าน) เวลาในการเผา 2 วัน วัตถุดบิ มาจากไม้ทชี่ าวบ้านตัด ทิ้งไม่ได้นำ�มาเผาเป็นถ่าน โดยถ่านที่เผาได้จะอยู่ที่ 10 กระสอบป่าน หากไปซือ้ ใช้ 1 กระสอบ ราคาตก อยู่ที่ 400 บาท ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ “กรรมวิธีการหลีไฟหน้าเตาเผา ถ่านที่ดีจะ แกร่ง หรือ ติดไฟดี เวลาเคาะเสียงจะก้อง รายได้ ถือว่าอยูไ่ ด้ หากเผาถ่านทุกวัน ปัจจุบนั ชาวบ้านยัง คงมีการใช้ถา่ นมากกว่าแก๊สหุงต้ม ถ่านใช้ประโยชน์ ได้หลายอย่าง ดูแค่การต้มน้ำ�ที่ใช้ถ่านกับแก๊ส กินก็ ผิดกันแล้ว กินถ่านอร่อยกว่า” คำ�ว่า “พอเพียงจริงๆแล้วมันต้องพอที่ใจ ก่อนไม่ใช่พอเพียงเลยถ้าใจเราพอทุกอย่างก็จะพอ” ลุงเลิศกล่าวปิดท้าย ผู้ ใ หญ่ ท องหล่ อ แดงอร่ า ม อธิ บ ายว่ า ศู น ย์ เรียนรู้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพจะเน้น ปุ๋ยชีวภาพ และเกษตรอินทรีย์ เศรษฐกิจพอเพียง มีของที่ ขายได้ทุกวันเพื่อสร้างฐานะให้มีรายได้ เราต้องใช้ พืน้ ทีใ่ นการปลูกให้เกิดประโยชน์มากทีส่ ดุ ทีส่ วนลุง จะปลูกพืช 3 ระดับ คือ พืชที่ปกคลุมดิน พืชที่ กันแดด และไม้ยืนต้น “ตอนนี้ ใ นหมู่ บ้ า นที่ ลุ ง ดู แ ลอยู่ ทุ ก คนทุ ก หมู่ บ้ า นก็ คื อ ทำ � เป็ น เศรษฐกิ จ พอเพี ย ง มี อ ยู่ 4

หมู่บ้านซึ่งแต่ละหมู่บ้านเป็นเครือข่ายเดียวกัน เริ่มก่อตั้งศูนย์มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 โดยเน้นปุ๋ย ชีวภาพและไม้ใหญ่ ส่วนมากเกษตรที่ตำ�บลป่า ขะจะปลูก มะยงชิดมะปรางหวาน ผักขายใบ ผัก เก็บใบ จำ�นวนมาก แต่ทบี่ า้ นจะเน้นทำ�ปุย๋ ชีวภาพ เพื่อส่งให้ชาวบ้านหรือถ้าใครมาขอเรียนรู้โดยปุ๋ย ทำ�จากขี้วัว ขี้ไก่ เศษปูนมาล แคลเซียม ฟอสเฟต ฟอสฟอรัส เอาส่วนอื่นมาผสม เพื่อเพิ่มปริมาณ เพิ่มคุณภาพ เราก็จะสอนให้บอกวิธีการให้ เมื่อมีโครงการนี้เข้ามาเลยทำ�แบบครบวงจรแบบ ครบวงจร รวมถึงได้มีการทำ�เกษตรโมเดลของ แปลงสวนนี้ทั้งหมด ผู้ใหญ่ทองหล่อยํ้าด้วยว่า เศรษฐกิจพอ เพียง คือ “การประหยัด อดทน ขยันหมั่นเพียร รู้จักอดออม” อยู่แบบคิดว่า “ทำ�อย่างไรให้เงิน นั้นเหลือใช้” เริ่มจากตัวเรา ตามที่เราสามารถ ทำ�ได้ใช้ความพอดีในการดำ�เนินชีวิต ส่วนศูนย์เรียนรู้การขยายพันธุ์มะยงชิด เริ่มมาตั้งแต่ปี 2535 นายกิตติศักดิ์ ขาวสะอาด หรื อ ลุ ง เล็ ก อดี ต ที่ เ คยทำ � งานโรงงานจากจุ ด เริ่มต้นคือ ชอบการเพาะปลูกต้นไม้มีการนำ�มา ต่อ ยอด ดัดแปลง ทำ�ให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นจุดพลิกผันที่ทำ�ให้ กลับมาทำ�เศรษฐกิจ พอเพียงที่บ้าน เขาบอกกับตัวเองว่า “บ้านเรา เองก็มีทุนเดิมอยู่แล้ว ทุนเดิม คืออะไร คือ พื้นที่” เมื่อก่อนไม่มีต้นไม้ มีแต่หญ้าขึ้นเต็มหมด เราก็ มองดูว่าที่ 2 งานเราจะเอามาทำ�อะไร ของคน อื่นเขา 1 ไร่ 1 แสน ต่อปี แล้วเราจะทำ�ได้ไหม สุดท้าย แค่ 1 งาน ก็ได้ 1 แสนต่อปี ทำ�ได้จริงๆ” มะยงชิ ด ที่ ลุ ง ปลู ก นั้ น ลุ ง มี ก ารขยาย พันธุ์ที่หลากหลายกรรมวิธี ไม่ว่าจะเป็นทาบกิ่ง ตอนกิ่ง เพาะกล้า หรือเพาะชำ� โดยจะมีต้นพ่อ พันธุ์ในการขยายพันธุ์ รายได้ก็เพียงพอต่อการ ดำ�เนินชีวิต เพราะความชอบ มีความสุขในการ ทำ�บวกกับความรู้ท่ีได้จากประสบการณ์ในการ ศึกษาดูงานในหลายจังหวัดแล้วนำ�มาปรับใช้กับ ไร่ของเขา ทำ�ให้เกิดผลกำ�ไรที่ไม่ใช่แค่ “รายได้” แต่ คือ ความสุข

ต้นแบบของลุงทีล่ งุ ยึดเป็นหลักคือ “ทำ�อะไร ให้พอดีกบั ตัวเอง” อย่าไปทำ�เกิน วันนีเ้ ราทำ�ได้แค่น้ี ก็พอ เหนื่อยก็หยุด คือ การทำ�ให้ตัวเองสุขสบาย ก่อนแล้วค่อยไปทำ�เพือ่ คนอืน่ คนทีเ่ ป็นฮีโร่ในดวงใจ จะยึดหลักของผู้ใหญ่ทองหล่อ คือ เรามองเห็นว่า ผู้ใหญ่ทองหล่อเขาทำ�มานานแล้ว ทำ�มาตั้งแต่สมัย หนุม่ ๆ เช้ามารายได้เขา 400-500 มีแน่นอน ผูใ้ หญ่ หล่อเป็นต้นแบบของชีวิตเลย เขาเริ่มทำ�ก่อนแล้ว เรามามองเห็นเขา ผูใ้ หญ่หล่อเป็นต้นแบบทีด่ มี ากๆ ถ้าใครทำ�ตามได้นี่ดีเลย เราทำ�ให้พอดีกับตัวเอง และเอาที่เราทำ�ไหว

คติทยี่ ดึ มาจนถึงทุกวันนี ้ “รูจ้ กั คำ�ว่าให้กอ่ น ทีจ่ ะได้ของใครมาเป็นของเรา” คือเรือ่ งจริง หากวัน นี้เราไม่ได้ให้ใคร ถามว่าใครจะให้เราบ้าง เราพออยู่ พอกิน ไม่โลภ ก็อยู่ ทำ�อะไรให้มีความสุขให้ที่สุด คือเราไม่ตอ้ งไปเปรียบเทียบกับใคร เราก็แค่ท�ำ ของ เราให้มีความสุข แล้วก็มองทางออกให้ถูกต้อง “มะยงชิ ด ชื่ อ กระฉ่ อ น กระท้ อ นหวาน บ้านนา ผลไม้รสโอชาตำ�บลป่าขะ” สโลแกนทีล่ งุ ตัง้ ขึน้ ทุกวันนีไ้ ด้น�ำ ไปใช้กบั งานมะยงชิดมะปรางหวาน ซึ่งเป็นงานประจำ�ปีของ ตำ�บลป่าขะ นครนายก


GURU INSIDE

เบญจรัตน์ อิ่มโต

จีเอ็มโอใกล้ตัวกว่าที่คิด

ปัจจุบันนี้ผู้คนเริ่มที่จะหันมาสนใจเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพมากขึ้นมีการเลือกอาหารมากขึ้น โดยบางคนจะรับประทานอาหารที่ปลอดสาร

เคมีหรือรับประทานอาหารที่มีรูปลักษณ์ที่น่ารับประทาน เช่นมะเขือเทศที่เป็นผักชนิดที่สาวๆให้ความสนใจแต่รู้หรือไม่ว่าผักบางชนิดที่รับประทาน อาจจะไม่ได้เป็นผักที่ปลอดภัยไร้สาร 100% เพราะมะเขือเทศถือเป็นผักที่มีการตัดต่อพันธุกรรมโดยใส่แบคทีเรียหรือไวรัสบางชนิดลงไปเพื่อให้ดู น่ากินยิ่งขึ้น ซึ่งพืชผักที่มีการตัดต่อพันธุกรรมข้ามสายพันธุจะเรียกว่า “พืชจีเอ็มโอ”

จีเอ็มโอ (GMOs : Genetically Modified Organisms) หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรม (ยีน) เป็นผลผลิตจากการใช้เทคโนโลยีพันธ์ุ วิศวกรรม (เทคนิคการตัดต่อยีน) ในพืช สัตว์ หรือจุลินทรีย์ เพื่อให้มีคุณสมบัติ หรือคุณลักษณะเฉพาะเจาะจงตามที่ต้องการ กล่าวง่ายๆ จีเอ็มโอ (GMOs) ก็คอื การตัดแต่งเอายีนของสิง่ มีชวี ติ ชนิดใดชนิดหนึง่ มาใส่เข้าไปในสิง่ มีชวี ติ อีกชนิดหนึง่ ซึง่ ทีม่ าในการมีพชื จีเอ็มโอนัน้ คือลดปัญหาโรคระบาดในพืช-ผัก ตัวอย่าง มะละกอที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสทำ�ให้ต้องเปลี่ยนที่ปลูกไปเรื่อยๆ จนไม่มีที่สามารถเพาะปลูกได้ จึงมีการทำ�มะละกอจีเอ็มโอขึ้น เพื่อลดปัญหาดังกล่าวและ ช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้มากขึ้น นายมนตรี คงตระกูลเทียน คณบดีคณะนวัตกรรมการจัดการเกษตร สถาบัน การจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้กล่าวว่า “การทำ�พืช จีเอ็มโอ (GMOs) ประเทศสหรัฐอเมริกามีการ ทำ�มาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี รวมทั้งประเทศ อาร์เจนตินา บราซิล ออสเตรเลีย อินเดีย จีน รวม ทั้งประเทศในอาเซียนอย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนามที่ทำ�การเกษตรโดยการปลูกพืช จีเอ็มโอ(GMOs) ยกตัวอย่าง ข้าวโพด ถั่วเหลือง ที่มีการเอายีนจากแบคทีเรียใส่เข้าไป เพราะเมื่อมีการฆ่าวัชพืชบริเวณที่ปลูกจะ ทำ�ให้ข้าวโพดและถั่วเหลืองไม่ได้รับความเสียหาย และแน่นอนเมื่อมีการใส่แบคทีเรียเข้าไปแบคทีเรีย ก็จะถูกเก็บอยู่ในผลผลิต” นายมนตรี ยั ง เล่ า อี ก ว่ า “นอกจากนี้ ยั ง มี มะเขือเทศบางชนิดที่มีการปลูกแบบจีเอ็มโอเพื่อ ให้ ม ะเขื อ เทศมี ค วามกรอบและไม่ เ น่ า เสี ย ง่ า ย” แม้แต่สม้ ตำ�หนึง่ ในอาหารยอดนิยมของคนไทยก็ยงั มีพืชจีเอ็มโอเป็นส่วนประกอบซึ่งคือมะละกอเนื่อง ด้วยมะละกอที่ปลูกแบบจีเอ็มโอจะมีความกรอบ และทนทานมากกว่าปกติที่ให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ ประกอบและผู้บริโภค จะเห็นได้ว่าเรื่องจีเอ็มโอใกล้ตัวกว่าที่คิด เพราะพืชผักบางชนิดที่เรากินเข้าไปนั้นก็ใช่ว่าจะ เป็นผักที่ไม่มีพืชจีเอ็มโอปะปนอยู่เพราะดูด้วยตา เปล่าจะไม่สามารถแยกได้เลย บางครั้งหลายๆคน อาจจะทานพืชจีเอ็มโอเข้าไปแบบไม่รู้ตัวก็เป็นได้


GURU

OUTSIDE กัญญา เบี้ยเลี่ยม

จะรอดหรือจะร่วง ? ปลูกพืช GMO ในประเทศไทย สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมหรือที่หลายๆ คนจะคุ้ น หู กั น ในชื่ อ ของ จี เ อ็ ม โอ ซึ่ ง สิ่ ง มี ชี วิ ต ดัดแปลงพันธุกรรมนั้นไม่ได้มีเพียงเฉพาะในสัตว์ อย่างเดียว แต่ยังมีอยู่ ในพืชผักผลไม้ชนิดต่างๆ ที่ เรารั บ ประทานกั น อยู่ ใ นทุ ก ๆวั น และที่ เ ป็ น ประเด็นปัญหาอยู่ในประเทศไทยจะมีการพูดถึงใน เรื่องของการดัดแปลงพันธุกรรมใน พืช มากที่สุด เพราะประเทศไทยเป็นประเทศการเกษตรและเป็น ครัวของโลก หากจีเอ็มโอเข้ามามีบทบาทมากขึน้ จะ ส่งผลกระทบต่อรูปแบบการเกษตรดัง้ เดิมและทำ�ให้ การส่งออกของไทยไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ศ.ดร.สุ ร วิ ช วรรณไกรโรจน์ อาจารย์ ประจำ�ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ได้ ใ ห้ ค วามคิ ด เห็ น ว่ า หากใน อนาคตประเทศไทยมี ก าร อนุ มั ติ ร่ า ง พ.ร.บ. เกี่ยวกับการปลูกพืชจีเอ็มโอ จะทำ�ให้ประเทศไทย ต้ อ งสู ญ เสี ย ดุ ล การค้ า ทางเศรษฐกิ จ กั บ ต่ า ง ประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ เ ป็ น คู่ ค้ า กั บ ไทย มาอย่ า งยาวนาน เช่ น ในประเทศทางฝั่ ง ยุ โรป และประเทศแถบเอเชีย อย่างญี่ปุ่น เพราะประเทศ เหล่านี้ยังไม่ยอมรับพืชที่ดัดแปลงพันธุกรรม แต่ในขณะเดียวกันหากประเทศไทยมีการผลิตและจำ�หน่ายพืชผักจีเอ็มโอ สิ่งที่ควรทำ� คือ จะต้องมีการแปะฉลากที่ สินค้าของตัวเองก่อนทีจ่ ะส่งไปขายตามทีต่ า่ งๆ เพือ่ ทีจ่ ะแสดงให้กลุม่ ผูบ้ ริโภครูแ้ ละสามารถเลือกรับประทานพืชทีเ่ ป็นแบบจีเอ็มโอและพืชทีไ่ ม่เป็นจีเอ็มโอได้ตาม ความต้องการ หากเกษตรกร ยอมรับที่จะปลูกพืช จีเอ็มโอ ก็เท่ากับว่า เกษตรกรยอมรับที่จะมีภาระทางการเงินเพิ่มขึ้น คือ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำ�นวนมากใน การปลูกพืชจีเอ็มโอแต่ละครัง้ แต่หากเกษตรกรในประเทศไทยยังคงปลูกพืชแบบดัง้ เดิม คือ ปลูกในลักษณะวิถชี าวบ้านไม่มกี ารดัดแปลงพันธุกรรมเข้ามาเกีย่ วข้อง และหันมาปลูกพืชที่เป็นผลดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น ธัญพืช จะเป็นผลดีต่อตัวของเกษตรกรเอง เพราะจะเสียค่าต้นทุนในการผลิตและจำ�หน่ายในราคาที่ไม่สูง มาก และได้ผลผลิตส่งออกทั้งในและนอกประเทศที่มีคุณภาพ และยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุด คือ กลุ่มของผู้บริโภคเพราะจะได้รับอาหารที่ มีประโยชน์ต่อสุขภาพและซื้อในราคาที่ไม่สูงมาก และประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจทัดเทียมกับต่างชาติ ถึงอย่างไรก็ตาม เรื่องจีเอ็มโอ ถือว่าใกล้ตัวของเรามากกว่าที่คิด และไม่ว่าในอนาคตพืชจีเอ็มโอจะเข้ามามีบทบาทอย่างไรในประเทศไทย ก็ยังไม่สามารถ สรุปได้ แต่หากเข้ามาแล้วทำ�ลายระบบการเกษตรรูปแบบดั้งเดิมของไทยก็จะทำ�ลายระบบเศรษฐกิจของไทยด้วยเช่นกัน


MEDIA LITERACY เทวราช ชมภูนาค ปพัชญา นิภานันท์

สื่อสร้างฮีโร่..ฮีโร่โอละพ่อ..สื่อทำ�อย่างไร

จากกรณีบทบาทของสื่อต่อการกำ�หนดวาระข่าวสารและการชี้นำ�ประเด็น ในสังคม สื่อมีพลังในการทำ�ให้คนเชื่อในข่าวต่างๆ ในขณะเดียวกันสื่อเองยัง “สร้างฮีโร่ให้สังคม” ได้ ดร.มานะ ตรี ร ยาภิ วั ฒ น์ คณบดี ค ณะนิ เ ทศศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย หอการค้าไทย เผยว่า ข่าวมีอิทธิพลต่อการรับรู้ข่าวสาร และการหล่อหลอมความ เข้าใจต่อสังคมของผู้รับข่าวสารมาก โดยเฉพาะพฤติกรรมสื่อที่เปลี่ยนไป การเข้า ถึงข้อมูลข่าวสารของคนรุ่นใหม่ผ่านสื่อออนไลน์ การเข้าถึงข้อมูลก็ทำ�ได้มากขึ้น ด้วย ทัง้ สือ่ ดัง้ เดิมและสือ่ ออนไลน์ตา่ งมีอทิ ธิพลต่อการเชือ่ ของผูเ้ สพข่าว โดยเฉพาะ “ข่าว คือ สิ่งที่ประชาชนสนใจหรือคือที่ประชาชนควรจะสนใจ” ส่วนประเด็นฮีโร่ในข่าว ดร.มานะมองว่า เป็นเพียงการประกอบสร้างจากสือ่ เท่านัน้ ขึน้ อยูก่ บั ตัวนักข่าวเลือกหรือกองบรรณาธิการเลือกทีจ่ ะนำ�เสนอฮีโร่มานำ� เสนอในรูปแบบใด รวมถึงเจตนาของสือ่ ในการนำ�เสนอเรือ่ งราวของคนนัน้ ในฐานะ ฮีโร่ดว้ ย ส่วนเรือ่ งความผิดพลาดเมือ่ ถูกเปิดเผยภายหลังว่าบุคคลนัน้ ไม่ใช่ฮโี ร่ตามที่ ข่าวเสนอ ก็อาจเกิดขึน้ ได้ ถ้าจะป้องกันปัญหาความผิดพลาด สือ่ ต้องมีกระบวนการ ในการตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้ข่าวที่นำ�เสนอถูกต้องมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ทุกชีวติ ทุกเรือ่ งราวทีถ่ กู นำ�เสนอผ่านสือ่ มีหลายแง่มมุ สือ่ ก็มี บทบาทในการเลือกมุมมองในการนำ�เสนอในบริบทของช่วงเวลานัน้ ๆ และผูร้ บั สาร ต้องรู้ว่า ทุกเรื่องมีทั้งด้านบวกและลบเสมอ

ดร.มานะ ตร คณบดีค ีรยาภิวัฒน์ ณะนิเทศ ศาสตร์ ม หาวิท

ยาลัยหอ

การค้าไท

ด้านนายสถาพร พงษ์พิพัฒน์วัฒนา บรรณาธิการข่าวพีพีทีวี (PPTV) กล่าวถึง บทบาทของสื่อว่า การที่สื่อนั้นเลือกที่นำ�เสนอว่าใครคือฮีโร่นั้นหมายถึงสื่อกำ�ลังเล่น กับสิ่งที่ละเอียดอ่อนต่อสังคมมากเพราะสังคมปัจจุบันนั้นมองสื่อมีอิทธิพลและสื่อคือ สิ่งที่ผู้เสพข่าวนั้นเชื่อในค่านิยมที่สื่อนำ�เสนอ

นายสถาพร พงษ์พิพัฒน์วัฒนา บรรณาธิการข่าวพีพีทีวี (PPTV)

“สื่อไม่ได้สร้างคนให้เป็นฮีโร่ แต่ฮีโร่คือสิ่งที่เกิดจากตัวของเขาเองจากภายใต้ จิตสำ�นึกและการกระทำ�” การนำ�เสนอฮีโร่ของสือ่ นัน้ บางคนอาจมองว่าสือ่ สร้างคนให้เป็นฮีโร่นนั้ ซึง่ ไม่ใช่ ประเด็นสำ�คัญ แต่สงิ่ ทีส่ อื่ ทำ�คือสะท้อนเรือ่ งการทำ�ความดีของคนทัว่ ไปให้สงั คมได้รู้ ให้ มองเห็นจริยธรรมทางสังคม เป็นการสะท้อนมุมมองว่าคนดีจะช่วยให้สังคมดีงามการ ช่วยเหลือคนอื่นเป็นเรื่องที่ดีและควรได้รับการยกย่อง สื่อยังมีการสร้างรายการเพื่อ ค้นหาคนทำ�ดี โดยมีการสร้างเป้าหมายเพื่อจรรโลงสังคมให้ไปในทางที่ดี การนำ�เสนอ ในลักษณะนี้ของสื่อก็เพื่อกระตุ้นให้สังคมสร้างความดีในวงกว้าง “สื่อสร้างคนดีเองไม่ได้ แต่ทำ�หน้าที่หยิบเรื่องคนที่ได้รับการยกย่องเป็นฮีโร่มา นำ�เสนอ แต่ถา้ คนนัน้ เกิดไปทำ�ความผิด ไม่เป็นฮีโร่จริง ก็ผดิ พลาดทีก่ ระบวนการในการ ตรวจสอบข้อมูลของสื่อ สื่อก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่นำ�เสนอ ดังนั้นสื่อจึงเลือกที่จะนำ� เสนอในสิง่ ทีเ่ ป็นข้อเท็จจริงเท่านัน้ เพราะสือ่ ไม่สามารถยืนยันได้วา่ คนทุกคนเป็นคนดี แต่จะนำ�เสนอว่าใครเป็นฮีโร่จะยกย่องคนเป็นฮีโร่ ณ บริบทนั้น ณ ปัจจุบันนั้นๆแทน” นายสถาพรกล่าว.


4 บุคคลต้นแบบ ผู้ขับเคลื่อนสังคม Heroes are not like Superman who does not really exist but are ordinary people who sacrifice themselves to serve society. Everyone can be a

“Hero"

ในสภาวะที่สังคมกำ�ลังต้องการการพัฒนา แก้ไข เราอาจไม่ได้ต้องการฮีโร่ที่ทำ�เรื่องยิ่งใหญ่เพื่อพัฒนา ประเทศแต่สิ่งที่เราต้องการเป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆที่ คิดจะทำ�เพื่อสังคมโดยไม่จำ�เป็นต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เสมอไป ถ้าพลังเล็กๆเหล่านี้กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค ของประเทศได้ก็สามารถเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ ในการพัฒนาประเทศได้เช่นเดียวกับกลุ่มคนธรรมดา เหล่านี้ีที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่แต่คิดที่จะตอบแทนสังคม

R l a i c e

t r o p e

Sp

บทความโดย นันท์นภัส โอดคง กษิดิ์เดช ปัดเกษม กานต์พิชชา โกฏค้างพูล


Special Report

“ศุภนิดา” โปรดิวเซอร์ สาวผู้อุทิศตนทำ�สื่อเพื่อสังคม


“เราไม่ ไ ด้ ค าดหวั ง ให้ สื่ อ ของเราเปลี่ ย นแปลงทั ศ นคติ ห รื อ เปลีย ่ นแปลงคนทัง ้ ประเทศได้ อาจจะมีเพียงหนึง ่ คน ทีส ่ อ ื่ ของเราสามารถ เป็นตัวจุดประกายหรือสร้างแรงบันดาลใจอะไรบางอย่างให้กบ ั เขาได้ท�ำ ในสิ่งที่ดี นั่นก็นับเป็นความสำ�เร็จอย่างหนึ่งแล้ว” สื่อ มีอิทธิพลต่อการสร้างค่านิยม การรับรู้ของคน และหล่อหลอมสังคม สื่อส่วนใหญ่ในสังคมไทย เป็นสื่อเชิงธุรกิจที่ต้องหารายได้เพื่อความอยู่รอด จนบางครั้งสังคมก็ตั้งคำ�ถามว่า เรามีสื่อที่ตอบโจทย์การ พัฒนาหรือส่งเสริมสังคมบ้างไหม นางสาวศุภนิดา สกุลตั้งไพศาล Executive Producer ผู้ก่อตั้งบริษัท The Al Truist Production ซึ่งเป็นบริษัทที่รับเฉพาะงาน CSR หรืองานเพื่อสังคม และสื่อสีขาวเป็นคน สือ่ ทีล่ กุ ขึน้ มาสร้างสือ่ มีเนือ้ หาทีเ่ ป็นประโยชน์กบั สังคมและเป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลือ่ นสังคมให้ไป ในทิศทางทีด่ ขี นึ้ อาทิ หนังสัน้ สำ�หรับองค์กรเพือ่ สร้างค่านิยมในองค์กรให้พนักงานตระหนักถึงความสำ�คัญ และคุ ณ ค่ า ในตั ว เองรวมถึ ง บทบาทหน้ า ที่ ที่ กำ � ลั ง ทำ � อยู่ เ พื่ อ ให้ เ ห็ น ว่ า ทุ ก หน้ า ที่ ใ นองค์ ก รมี ค วาม สำ � คั ญ ในการขั บ เคลื่ อ นให้ ธุ ร กิ จ ประสบความสำ � เร็ จ นอกจากเหตุ ผ ลทางธุ ร กิ จ ที่ ลู ก ค้ า คาดหวั ง เธอยังสอดแทรกเนือ้ หาทีส่ ามารถเป็นตัวจุดประกายความคิดของสังคมให้เห็นว่าทุกคนในสังคมสามารถ ขับเคลื่อนประเทศให้ไปในทิศทางดีขึ้นได้เพียงแค่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำ�และทำ�หน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

“ตั้งแต่เด็ก ได้รับการปลูกฝังจากครอบครัวว่า เวลาทำ�อะไร ต้อง ให้ คื น กั บ สั ง คมด้ ว ย ด้ ว ยความที่ ช อบทางด้ า นการทำ � สื่ อ อยู่ แล้ว ก็เลยจุดประกายว่า ถ้าเราทำ�สื่อเหมือนเราไม่ได้ทำ�อยู่แค่คน เดียว เราสามารถใช้สื่อเพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ และเป็น กระบอกเสียงให้คนอื่นได้ทำ�สิ่งที่ดีเพื่อสังคม”

นางสาวศุภนิดา ได้เล็งเห็นถึงความสำ�คัญของสือ่ ทีม่ บี ทบาทต่อสังคม บวกกับความชืน่ ชอบในด้านการทำ�สือ่ และการปลูกฝังให้รจู้ กั ตอบแทนสังคมตัง้ แต่เด็กโดยเธอมีตน้ แบบมาจากคุณแม่ทเ่ี ปรียบเสมือนฮีโร่ในดวงใจทีถ่ งึ แม้จะเป็นนักธุรกิจ แต่กย็ งั คงช่วยเหลือสังคมอย่าง ต่อเนือ่ ง คุณแม่ของเธอสอนไว้เสมอว่า เวลาจะทำ�อะไรให้ค�ำ นึงถึงสังคมด้วยไม่ใช่แค่หวังผลทางธุรกิจอย่างเดียว นัน่ เป็นเหตุผลทีท่ �ำ ให้เธอ มุง่ มัน่ ทีจ่ ะทำ�เพียงสือ่ เพือ่ สังคมเท่านัน้ ซึง่ สือ่ ทีท่ �ำ จะต้องสะท้อนสังคมให้ขอ้ คิดหรือจุดประกายอะไรบางอย่างให้กบั คนในสังคมได้ ซึง่ ใน การทำ�สือ่ แต่ละครัง้ เธอจะนำ�หลักมานุษยวิทยา ทีไ่ ด้ศกึ ษาในระดับปริญญาโทเกีย่ วกับ สือ่ ด้านมานุษยวิทยา (Anthropology of Media) ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ณ ประเทศอังกฤษ หลักสูตรนี้เป็นสิ่งที่ทำ�ให้เข้าใจสังคม วิธีคิดต่างๆของคนในสังคมมากขึ้น เพื่อให้สามารถนำ� ไปปรับใช้ในการทำ�สื่อและตอบโจทย์สังคมได้อย่างถูกต้อง

“ บ า ง ค รั้ ง ก า ร ที่ เ ร า คิ ด จ ะ ทำ � อ ะ ไ ร สั ก อ ย่ า ง เ พื่ อ สั ง ค ม เ ร า อ า จ จ ะ เ ริ่ ม ต้ น ทำ � จากจุ ด เล็ ก ๆในสิ่ ง ที่ เ ราทำ � ได้ ถ้ า เรา มี เ จ ต น า ที่ ดี มี จุ ด เ ริ่ ม ต้ น ที่ ดี ไ ม่ ม า ก ก็ น้ อ ยเราก็ มี ส่ ว นที่ จ ะได้ ช่ ว ยเหลื อ สั ง คม”


“สมัยเด็กคุณพ่อพาออกไปทำ�งานในชนบทหลายครั้ง จึงทำ�ให้เห็นปัญหาว่าการ แพทย์ในชนบทยังไม่ค่อยพัฒนา บวกกับคำ�สอนของคุณพ่อ ที่สอนเสมอว่า ให้รู้จัก ช่วยเหลือสังคม ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำ�ให้หมอมุ่งมั่นที่จะเป็นหมอเพื่อช่วยเหลือ และรักษาผู้ป่วยโดยเฉพาะโรคมะเร็ง โรคที่รักษาได้ยาก และมีค่าใช้จ่ายสูงเพื่อให้คนไข้ ทุกชนชั้นได้เข้าถึงการรักษา”

โรคมะเร็ง ถือว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทย ซึ่งข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข

พบว่าคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งประมาณ 60,000 คนต่อปี หรือเฉลี่ยชั่วโมงละเกือบ 7 ราย แต่การรักษาโรคมะเร็งเป็น การรักษาระยะยาวและมีค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูงทำ�ให้ผู้ป่วยยากไร้จำ�นวนมากไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้ รองศาสตราจารย์นายแพทย์ อภิณพ จันทร์วิทัน หนึ่งในแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคมะเร็ง ได้เล็ง เห็นความสำ�คัญของปัญหาเหล่านี้รวมทั้งอยากที่จะพัฒนาการแพทย์ของประเทศไทยให้เข้าถึงในพื้นที่ชนบท จึงได้รวบรวม ประสบการณ์การทำ�งานและเทคนิคการรักษาโรคมะเร็งจากหลากหลายประเทศ อาทิ สถาบันมะเร็งแห่งชาติกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โรงพยาบาล Technical University of Munich ประเทศเยอรมนี สถาบันมะเร็ง MD Anderson รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะกลับมายังบ้านเกิดในอำ�เภอแก่งคอยอำ�เภอเล็กๆของจังหวัดสระบุรี และเปิดโรง พยาบาลอภิณพเวชกรรม โดยมีปณิธานที่มุ่งมั่นที่จะรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ประชาชนได้มีสิทธิ์ในการ รักษาเท่าเทียมกันทุกชนชั้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คุณหมอได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเข้ามาเป็นหมอรักษาโรคมะเร็งว่าสมัยก่อน ประชาชนคิดว่าเป็นมะเร็ง ต้องตายทุกคน จึงเลือกที่จะรักษากับพระ กับสมุนไพรมากกว่าที่จะเข้ามารักษาในโรงพยาบาล การแพทย์สมัยนั้น ยังไม่พัฒนารวมทั้งยังขาดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกเป็นจำ�นวนมากโดยเฉพาะในชนบท คุณหมอจึงได้ตัดสินใจมุ่งมั่นที่ จะเป็นหมอรักษาโรคมะเร็งเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและสืบสานเจตนารมณ์ของคุณพ่อที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กให้รู้จักช่วย เหลือผู้อื่นและช่วยเหลือสังคม จึงเป็นที่มาในการจัดตั้งโรงพยาบาลอภิณพเวชกรรม ที่รู้จักกันดีในนามของ โรงพยาบาลที่รักษามะเร็งแม้ไม่มีเงินก็รักษาได้ โดยวิธีการรักษาของคุณหมอจะเป็นการผสมผสานระหว่างผ่าตัด การใช้เคมีบำ�บัดหรือคีโม และการฉายแสงร่วมกับการกินยาแผนปัจจุบันและใช้ธรรมชาติบำ�บัดด้วยสมุนไพรไทยเป็น ตัวเสริมในการรักษาเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คนไข้ที่เข้ามารักษาที่นี่ส่วนมากจะเป็นคนไข้ที่รักษาจากที่อื่นไม่หาย หรือสิ้นหวังจากที่อื่น ซึ่งมาจากหลายหลายพื้นที่ทั้งจังหวัดใกล้เคียง และต่างจังหวัดที่โรงพยาบาลสามารถรองรับผู้ ป่วยได้ 30-40 เตียง ซึ่งบางครั้งก็ต้องเปิดห้องประชุมให้นอนเพราะคนไข้เข้ามารักษาที่นี่เป็นจำ�นวนมาก ถ้าคนไข้คนไหนพอมีค่ารักษาก็อาจจะเก็บค่ารักษาเพื่อใช้เป็นทุนในการรักษาฟรีให้กับผู้ที่ไม่มีทุนทรัพย์ซึ่งรักษา ของผู้ป่วยที่มีฐานะทางการกับผู้ป่วยที่ยากไร้ก็ไม่ได้แบ่งชนชั้นทุกครั้งมีสิทธิ์ได้รับการรักษาเท่าเทียมกันในทุก กระบวนการ ตลอดระยะเวลา 18 ปีในการเปิดโรงพยาบาลแห่งนี้ มีผู้ป่วยที่เข้ามารักษาหลายรายมีอาการที่ดีขึ้น และหายขาดจากโรค ทั้งหมดนี้คือผลตอบแทนที่คุณหมอได้รับไม่ใช่ค่ารักษาพยาบาลที่มีมูลค่าสูง สามารถสร้าง ฐานะให้รํ่ารวย แต่คือความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มอาการที่ดีขึ้นจากคนไข้ นับได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของ คนเป็นหมอ

“หมอภูมิใจที่ได้เป็นหมอ ได้เข้ามาช่วยเหลือสังคม และ นอกจากนี้หมอก็ยังปลูกฝังลูกๆของหมอให้เติบโตมาเป็นหมอที่ ดีมีความสามารถและช่วยเหลือสังคมต่อไป”


Special Report

“อภิณพ” แพทย์ผู้อุทิศตนเพื่อผู้ป่วยมะเร็งยากไร้


Special Report

ผู้ใหญ่ สมศักดิ์ ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน


“เกษตรกรทุกวันนี้ชอบความสบาย อยากรวย ขาดองค์ความรู้ในการ ทำ�นาทำ�สวน พึ่งแต่สารเคมี สิ่งที่พวกเขาได้รับตามมาก็คือเงินก้อนโต ที่มาจากหนี้สินไม่ใช่กำ�ไรอย่างที่วาดฝันเอาไว้ ”

เกษตรกร นับเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่เสมือนปากท้อง และเป็นอาชีพหลักของประเทศไทย แต่ในขณะ

เดียวกันปัจจุบันภาคการเกษตรกำ�ลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต เพราะการเกษตรในยุคนี้เน้นพึ่งพาสารเคมีและนิยมปลูก พืชตามกระแสเศรษฐกิจ ดังที่ปรากฏให้เห็นในข่าวอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาของผลผลิตทางการเกษตร ที่ตกตํ่า อาทิ ข้าว ยางพารา รวมถึงผลไม้ต่างๆ สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้เกิดหนี้สินที่ตามมาเป็นจำ�นวนมาก ทำ�ให้คนรุ่น หลังมองว่าอาชีพเกษตรกรเป็นอาชีพที่ไม่สามารถสร้างรายได้เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพวกเขาอีกต่อไป จนเป็นสาเหตุให้กลุ่มคนเหล่านี้ตัดสินใจเข้ามาขายแรงงานอยู่ตามเมืองใหญ่ๆอย่างเช่น กรุงเทพมหานคร เป็นต้น ผู้ใหญ่สมศักดิ์ เครือวัลย์ เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ปลูกพืชตามกระแสเศรษฐกิจ และใช้สารเคมีเข้ามาช่วย ในการเพิ่มผลผลิตสิ่งที่ตามมาไม่ใช่กำ�ไรมหาศาลแต่กลับเป็นหนี้กว่า 1 ล้านบาท และประสบปัญหาสุขภาพ ผู้ใหญ่ตัดสินใจเดินหน้าสู้ต่อกับปัญหาที่เกิดขึ้นโดยการนำ�หลักเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักของเศรษฐกิจพอเพียงเข้า มาปรับใช้ในที่ดินของเขาจนสามารถปลดหนี้ได้สำ�เร็จและปัจจุบันก็สามารถสร้างกำ�ไรได้ถึงปีละ 1 แสนบาทจาก อาชีพเกษตรกร ผู้ใหญ่เล็งเห็นถึงความสำ�คัญของปัญหาที่เกษตรกรจำ�นวนมากกำ�ลังเผชิญอยู่จึงได้ตัดสินใจใช้ที่ดิน ของตนเองจัดตั้งศูนย์กสิกรรมธรรมชาติสองสลึง ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำ�บลสองสลึง อำ�เภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นแปลง สาธิตในการใช้เกษตรทฤษฎีใหม่ ขึ้นเพื่อฝึกอบรม และให้ความรู้กับเกษตรกรโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้เกษตรกร ได้รู้จักพึ่งพาตนเอง และแนะนำ�วิธีการนำ�หลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการประกอบอาชีพ ผู้ใหญ่เล่าว่าจุดเริ่มต้นของการนำ�หลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้โดยในตอนแรกคิดว่าสิ่งที่ในหลวงทรงตรัส อยู่บ่อยครั้งคือเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงจะสามารถทำ�ให้เขาหลุดพ้นจากภาวะหนี้สินได้แต่ก็ยังมองไม่เห็นแนวทางว่า ควรจะเริ่มจากจุดไหนดี จนได้มาพบกับอาจารย์วิวัฒน์ ศัลยกำ�ธร ผู้ที่เคยรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท โดยรับราชการ ใกล้ชิดกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในหน่วยงานสำ�นักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ กว่า 16 ปี ที่ได้ผันตัวออกมาเป็นเกษตรกรเพื่อเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้องด้านปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ได้แนะนำ�วิธีการในการปรับใช้ให้กับผู้ใหญ่ทำ�ให้เขาค้นพบว่าตามตำ�ราที่เผยแพร่ออกสู่ประชาชนมีความแตกต่างกับสิ่งที่ในหลวง ทรงตรัสไว้อย่างแท้จริง หลังจากนั้นผู้ใหญ่จึงตั้งใจศึกษาในเรื่องนี้และทดลองทำ�กับที่ดินของตนเองรวมทั้งยังนำ�ความรู้จากการศึกษาดูงานกับ อาจารย์วิวัฒน์ มาประกอบใช้จนสามารถปลดหนี้ได้สำ�เร็จบนที่ดินเพียง 5 ไร่ จากวันนั้นทำ�ให้ผู้ใหญ่มุ่งมั่นที่จะเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนผ่านการจัด ตั้งศูนย์กสิกรรมโดยปรับพื้นที่ 50 ไร่ เป็นแปลงสาธิต เน้นการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ปลูกไร่ที่ใช้สารเคมีเปรียบเทียบกับไร่อินทรีย์ให้ชาว บ้านได้เข้ามาดูของจริงป่ากินได้ ได้แก่ ผัก ธัญญาหาร สมุนไพร และผลไม้อื่นๆ

ป่าโตเร็ว พวกไม้ใช้สอยที่โตเร็ว สามารถใช้ประโยชน์ได้ในระยะเวลาไม่นาน ประมาณ 3-4 ปีเช่น ไผ่ สะเดา ฯลฯ ป่าไม้ใช้สอย เป็นพวกไม้ยืนต้นที่ปลูกเอาไว้ใช้ประโยชน์ในระยะยาว เช่น สัก ยางนา ประดู่ มะฮอกกานี และยังมีการให้ความรู้ในเรื่องเลี้ยงหมูหลุม ทำ�ปุ๋ยหมัก น้ำ�ชีวภาพ ปลูกแฝก เผาถ่านทำ� น้ำ�ส้มควันไม้ พลังงานทดแทนไบโอดีเซล แก๊สชีวภาพ เพื่อให้ประชาชนสามารถนำ�ไปปรับใช้ตามความ เหมาะสมซึ่งในแปลงสาธิตแห่งนี้จะปราศจากการใช้สารเคมีที่จะส่งผลเสียในระยะยาว

ปัจจุบันผู้ใหญ่ได้รับการแต่งตั้งเป็นหมอดินอาสา และปราชญ์เกษตรของแผ่นดินสาขา เกษตรเศรษฐกิจพอเพียงประจำ�ปี 2558 ผู้ใหญ่ไม่ได้คาดหวังว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงภาค การเกษตรได้ทั้งหมดแต่เพียงอยากเป็นจุดเล็กๆที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้มี ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พึ่งพาตนเองได้ และทำ�ให้คนรุ่นหลังไม่ละทิ้งอาชีพเกษตรกรอาชีพที่เปรียบ เสมือนกำ�ลังหลักของประเทศชาติ อีกหนึ่งสิ่งที่สำ�คัญในการดำ�เนินชีวิตของผู้ใหญ่นอกจากความ พอเพียงคือผู้ใหญ่เชื่อมั่น และอยากให้พสกนิกรชาวไทยที่รักในหลวงทุกคนเลิกพูดว่ารักในหลวง แต่จงทำ�ในสิ่งที่พระองค์รัก ในหลวงรักทุกสิ่งที่พระองค์ทรงคิดค้น ผู้ใหญ่รักในหลวงและจะทำ� สิ่งที่ในหลวงรักเพื่อตอบแทนสังคมและผืนแผ่นดินไทยจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตนี้


“ค่ายนี้มันเป็นค่ายที่ รวมเด็กกิจกรรม รวมเด็กที่มีพลังในตัว มาพัฒนาให้เป็น คนเก่ง ดี และมีจิตอาสา เด็กมันมีพลังในตัว พอนำ�มาปรับทิศทางให้มันไปในทาง ที่ถูก พวกเขาก็สามารถใช้พลังที่มีทำ�สิ่งที่ดีเพื่อสังคมได้”

เยาวชน คือ อนาคตของชาติที่จะต้องเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีเพื่อพัฒนาประเทศในวันข้างหน้า

ต่อไปปัจจุบันสังคมไทยกำ�ลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับ พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเยาวชนและมีแนวโน้มที่จะ รุนแรงขึ้นอย่างที่ปรากฏให้เห็นในสื่อต่างๆ อาทิ ปัญหายาเสพติด ปัญหาตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ปัญหาการโจรกรรม เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นให้กลุ่มเยาวชนกลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า Youth for next step ลุกออกมาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาของสังคม และเป็นแบบอย่างให้เยาวชน โดยการจัดค่ายที่ชื่อว่า Youth camp for next step ค่ายที่จะพัฒนาศักยภาพเยาวชนให้เป็นคนที่เก่ง ดีมีจิตอาสา โดยการนำ�ผู้นำ�นักเรียนในโรงเรียนต่างๆมาร่วมในค่ายเพื่อพัฒนาศักยภาพและปรับมุมมอง ทัศนคติของความสำ�คัญของบทบาทเยาวชน เพื่อให้บุคคลเหล่านี้เป็นต้นแบบ หรือ role model ให้กับ เยาวชนอีกหลายๆ คน ได้เห็นว่าพวกเราในฐานะเยาวชนสามารถทำ�สิ่งที่ดีได้ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเราไม่ใช่ ปัญหาของสังคม และเราคืออนาคตที่ดีของประเทศไทย นายพชร จันทร์ศิริ ประธานเครือข่ายเยาวชนพัฒนาศักยภาพ Youth for next step ได้กล่าว ถึงแรงบันดาลใจ จากคนที่เป็นเพียงแค่สมาชิกในค่าย ก้าวมาสู่การเป็นประธานเครือข่ายเยาวชน พัฒนาศักยภาพ จุดเริ่มต้นทั้งหมดเริ่มมาจากการที่เป็นเด็กกิจกรรมอยู่แล้ว และเมื่อมีกิจกรรมของ เครือข่ายนี้ซึ่งจัดเป็นค่ายขึ้นมาก็มีความสนใจอยากที่จะเข้าร่วมกิจกรรมของค่าย สิ่งที่ค้นพบในค่าย กลับไม่ใช่แค่การทำ�จิตอาสาเหมือนค่ายทั่วๆไป แต่ยังเป็นการพัฒนาตัวเราให้สามารถไปเป็นต้นแบบ ให้คนอื่นได้ ให้เราเป็นคนที่เก่งทั้งด้านวิชาการ และกิจกรรมให้เราเป็นคนดีอยู่ในศีลธรรมที่ดี และให้เรารู้จัก การให้การตอบแทนสังคม ​​ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่เขาคิดว่าค่ายควรที่จะต้องมีคนสืบต่อ และถูกขับ เคลื่อนออกไปสู่สังคมไทยในทุกๆจังหวัดเพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยเขาจึงมุ่งมั่นที่จะสานต่อเจตนารมณ์ ของเยาวชนกลุ่มแรกที่คิดก่อตั้งค่ายนี้เพื่อให้ค่ายสามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้ต่อไป วันนี้รวมระยะ เวลาทั้งหมด 6 ปีในเครือข่าย ปัจจุบันเครือข่ายเยาวชนได้ขยายไปตามโรงเรียนในกรุงเทพมหานครแล้ว มากกว่า 20 โรงเรียน และได้ขยายออกไปตามจังหวัดต่างๆ มากกว่า 22 จังหวัด 100 โรงเรียน และมีการจัดตั้งชมรมรองรับการ พัฒนาทักษะชีวิตใน 7 สถาบัน (8 สหวิทยาเขต) มีสมาชิกเครือข่ายเยาวชนกว่า 2000 ชีวิต และยังได้รับรางวัลองค์กรเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ TAYO ASEAN Award : The Ten Accomplished Youth Organizations (รางวัลประกาศเกียรติคุณองค์กรที่มีผลการดำ�เนินงานดีเด่น 10 องค์กร จาก 10 ประเทศอาเซียน) โดยกิจกรรม ทั้งหมดของเครือข่ายนี้มีอยู่เป็นจำ�นวนมาก ค่ายก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นมาเพื่อตอบแทนสังคม ในลักษณะการอบรมการ เป็นต้นแบบที่ดีและมีจิตอาสา ในส่วนของกิจกรรมอาสาที่เกิดขึ้นในค่ายก็จะมีการนัดรวมตัวกันทำ�อย่างต่อเนื่องไม่ใช่แค่ทำ�ในวัน ที่อยู่ภายใต้การเข้าอบรมในค่ายเท่านั้น และเครือข่ายก็ยังคงเดินหน้ากิจกรรมเหล่านี้ต่อไปเพื่อสร้างสรรค์เยาวชนที่ดีเพื่อกลับไป พัฒนาสังคมให้ดีขึ้นด้วย

“่ผมตั้งใจที่จะอยู่ในเครือข่ายนี้และช่วยเหลือ สังคมต่อไปเรื่อยๆรวมถึง จะเดินหน้าขับ เคลื่อนสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมและปลุกระดมพลัง คนรุ่นใหม่ให้ออกมาทำ�ความดี ”


Special Report

“พชร จันทร์ศิริ” Role Model เยาวชนจิตอาสา


EDUCATION กนกพร เสนีย์ ปรินทร์ดา ชุมขวัญ

ครูแนะแนว...ผู้เปิดประตูสู่อนาคตการศึกษาเด็กไทย ถ้าเราจะพูดถึงฮีโร่ในการศึกษาเรายกให้ “ครู” เป็นฮีโร่ที่มีพลังพิเศษ คือ ความรู้ คอยช่วยเหลือแนะแนว และชี้ช่องทางให้นักเรียนประสบความสำ�เร็จซึ่งเป้า หมายสู่ความสำ�เร็จไม่ใช่แค่รั้วโรงเรียน แต่คือการประสบความสำ�เร็จในชีวิตถ้าพูดถึง ครูที่ไม่ใช่เพียงแค่ให้ความรู้ในห้องเรียนอย่างเดียวแต่ยังช่วยปูทางของอนาคตให้กับ นักเรียนคงต้องยกหน้าที่นี้ให้กับครูแนะแนว การแนะแนวมีความหมาย 3 นัย คือ การบอกแนวทางเพื่อช่วยให้นักเรียน ตัดสินใจในการเลือกทางเดินในอนาคต สิ่งที่คุณครูทำ�ไม่ใช่การแนะนำ�เพราะการ แนะนำ�คือเราต้องเป็นฝ่ายเลือกในการตัดสินใจให้กับนักเรียนแต่การแนะแนวคือ ให้ความช่วยเหลือไม่ทำ�หน้าที่เป็นผู้เลือกเป็นผู้ให้ข้อมูล และนักเรียนเป็นคนตัดสินใจ

นางสุพิศ รนขาว ครูชำ�นาญการโรงเรียน ปากเกร็ด

นางปัทมาสน์ บุณยรัตพันธุ์ หัวหน้าฝ่ายงานแนะแนว โรงเรียนนนทบุรีพิทยาคม ครูแนะแนว มีหน้าที่ ในการแนะแนวการศึกษา แนะแนวอาชีพเพื่อให้ นักเรียนมีอาชีพที่สอดคล้องกับความสามารถและบุคลิกของตนเอง ครูแนะแนวมีวิธีการช่วยเหลือ ให้นักเรียนรู้จักตัวเองโดยการทำ�แบบทดสอบ การลงมือปฏิบัติ และการทำ�กิจกรรมต่างๆเพื่อให้รู้จักทักษะประสบการณ์ของ ตัวเอง ด้านว่าที่ร้อยตรีหญิง เบญจมาศ บรรเจิด หัวหน้างานแนะแนวโรงเรียน จันทร์หุ่นบำ�เพ็ญ เสริมว่า ครูแนะแนวมีงานหลักอยู่ 2 งานซึ่งเป็นงานสอน และการ จัดกิจกรรมวัตถุประสงค์หลักๆเพื่อให้นักเรียน ได้ค้นพบตัวเองและได้ข้อมูลข่าวสาร มีการตัดสินใจโดยผ่านกระบวนการแนะแนว และการชี้แนวทางในการดำ�เนินชีวิตใน อนาคตโดยนักเรียนเป็นผู้ตัดสินใจ "การแนะแนว ถือว่าเป็นการบริการที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือ นักเรียนรายบุคคล หรือเป็นกลุ่ม ได้พัฒนาความรู้ ความสามารถของตนเองให้ สามารถเลือกและตัดสินใจได้อย่างฉลาดสามารถแก้ปัญหาต่างๆของตนเองได้อย่าง เหมาะสม ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ได้อย่างดีและดำ�รงตนเองอยู่ในสังคม ได้ อย่างมีความสุข” อย่างไรก็ตาม เด็กทุกคนมีความแตกต่าง จากทั้งพื้นฐานครอบครัว และสายการเรียนที่แตกต่างกันก็หล่อหลอมเด็กมาในแบบเฉพาะ ครูแนะแนวต้อง เข้าใจความแตกต่างและดึงความเฉพาะของพวกเขาออกมาเพื่อใช้ในการตัดสินใจเพื่อ เลือกเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา

ความเก่งแต่ละคนมีแตกต่างกันไป แต่ปัญหาที่พบมากคือ เด็กบางคนจะมีอุปสรรคในเรื่องการปรับตัวและการใช้ชีวิต “จากประสบการณ์แนะแนวที่ผ่านมา นักเรียนสายวิทย์คณิตจะ มีการค้นคว้าและสนใจตัวเองดี ในเรื่องการเรียนการศึกษาต่อใน ระดับมหาวิทยาลัย แต่มีหลายคนที่ครูกังวลในเรื่องการปรับตัว ให้อยู่ร่วมในสังคม การอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ และสามารถรับมือกับ ปัญหาอื่นๆ เช่นเรื่องความรัก ส่วนเด็กศิลป์คุณครูต้องให้กำ�ลังใจ และหาข้อมูลใหม่ๆในเรื่องการศึกษาต่อ เด็กห้องท้ายมักคิดว่า ตัว เองด้อยกว่าคนอื่น ครูก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ ทำ�ความเข้าใจและ เสริมกำ�ลังใจให้เด็กเหล่านี้ ต้องทำ�ให้เด็กเชื่อมั่นว่าทุกคนมีข้อดี และเตรียมทัศนคติที่พร้อมออกไปใช้ชีวิตกับคนอื่น” หลักของการแนะแนวเพราะการแนะแนว คือ การส่งเสริม ความแตกต่าง ระหว่างบุคคลช่วยให้ประสบความสำ�เร็จช่วยเหลือ ให้มีระเบียบและแบบแผน ช่วยให้นักเรียนทราบว่าการตัดสินใจ ของนักเรียนสัมฤทธิ์ผล การแนะแนวถือเป็นกลวิธีที่ซับซ้อน ที่ช่วย ให้ความต้องการของเด็กนักเรียนได้ประสบความสำ�เร็จ


ว่าที่ร้อยตรีหญิง เบญจมาศ บรรเจิด

ได้พูดเพิ่มเติมถึงเรื่องกิจกรรมสำ�หรับ แนะแนวนักเรียนภายในโรงเรียน โดยจัดกิจกรรม เป็นการดูวิดีโอเพื่อสร้างแรงกระตุ้นความคิด และ การใช้ชีวิต สำ�หรับเด็กนักเรียน ที่รู้สึกท้อในการเรียน เราใช้สื่อตรงนี้ เข้ามาช่วย เพราะทุกวันนี้เราสอนแค่เนื้อหาบนตำ�ราไม่ได้ เราเชื่อว่า "กิจกรรมสามารถสร้างแรงบันดาลใจ” จะเป็นการช่วยให้เด็กค้นหาตัวเอง และความ ต้องการในอนาคตของเขา ด้านนักเรียนมองว่า ใน ช่วงเวลาที่สับสนต่อการเลือกเส้นทางในการเรียนต่อ ครูแนะแนวที่ดีจะช่วยให้พวกเขารู้จักตัวเอง ตัดสิน ใจกับชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้น “ครูแนะแนวช่วยในเรื่องให้รู้จักตัวเองมาก ขึ้นอยากเรียนอะไรทำ�ให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ดูว่าในอนาคตมีคณะไหนดีต่อชีวิต และต่อยอดไป ถึงอนาคตขนาดไหนครูจะดูว่านักเรียนชอบทาง ด้านภาษา ด้านคณิตศาสตร์หรือด้านวิทยาศาสตร์ ว่าชอบอะไรและถนัดด้านไหนมากที่สุดในตัวหนู เองชอบทางด้านภาษาครูจะแนะแนวทางว่าควรจะ เดินไปทิศทางไหนทำ�ให้นักเรียนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ตอนนี้สนใจคณะการจัดการธุรกิจการบินเพราะว่า ในอนาคตเออีซีเข้ามาและจะมีโอกาสสูงมากที่ได้ไป ทำ�งานในต่างประเทศ และจะทำ�ให้เราได้ใช้ภาษาที่ หลากหลายมากขึ้น”

นางสาวศรัญญา ฝ้ายเทศ ชั้นม.6 โรงเรียนจันทร์หุ่นบำ�เพ็ญ

อิทธิพลของครูแนะแนวสู่นักเรียน การศึกษาจะขาดครูแนะแนวไม่ได้เลยเพราะครู แนะแนวมีความสำ�คัญ และมีอิทธิพลต่อนักเรียน เป็นอย่างมากการศึกษาเป็นสิ่งสำ�คัญในการ สร้างคน และครูแนะแนวถือเป็นหัวใจหลักใน การขัดเกลาบ่มเพาะนักเรียนครูแนะแนวไม่ใช่แค่ มีหน้าที่แนะแนวการศึกษาแต่ครูแนะแนวจะต้อง แนะแนวอาชีพให้กับนักเรียนจนตลอดการศึกษา ต่อครูแนะแนวคอยให้คำ�ปรึกษาชี้แนะแนวทาง ของอนาคตที่สวยงามให้นักเรียน ครูแนะแนวจะยํ้าเสมอว่าให้นักเรียนรู้จัก ตัวเองเป็นอันดับแรกตัวเองให้ดีที่สุดก่อนที่เราจะ ไปรู้จักคนอื่น และก่อนที่จะทำ�อะไรถ้านักเรียน ไม่รู้จักตัวเองนักเรียนก็จะเดินไปในทางที่ตัวเองไม่ ชอบ สำ�หรับคนที่เรียนจบใหม่ และผันตัวเองเข้าสู่ อาชีพการเป็นครูแนะแนว แรงบันดาลในที่สำ�คัญ คือ การเป็นคนกลางที่ช่วยให้เด็กหลายๆ คนเลือก ชีวิตที่ดีในอนาคตได้

นายปฏิภาณ สมพันธ์แพ เจ้าหน้าที่สำ�นักสื่อสาร องค์กร สถาบันการจัดการ ปัญญาภิวัฒน์ หน้าที่ของครูแนะแนวรูปแบบสถาบัน การจัดการปัญญาภิวัฒน์ เป็นการแนะนำ� สถานที่เรียนต่อให้กับเด็กๆ บอกแนวทาง อาชีพให้นักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ได้มี แนวทางในการตัดสินใจว่าอนาคตจะไปทำ� อะไร ชอบสายอาชีพ หรือสายสามัญ ให้เด็กมี เป้าหมายในชีวิตแล้วก็สามารถเลือกเส้นทาง เดินของตัวเองในอนาคตได้ “การเดินสายไป ตามโรงเรียนคือการไปบอกต่อและแนะนำ�ทาง เลือกในการศึกษาให้พวกเขา ด้วยความเชื่อ มั่นในโอกาสที่ผมเคยได้รับ และอยากส่งต่อ โอกาสให้น้องๆ ด้วยจะเป็นทีมแนะแนวได้ก็ เริ่มที่ความเชื่อมั่นที่ระบบการศึกษา ซึ่งผมเชื่อในระบบการเรียนแบบ Work-based Education ที่ดี”


Comm.Arts NEWS อ่านชิลอิ่มบุญเพื่อผู้บกพร่อง ทางการมองเห็น คณะนิ เ ทศศาสตร์ สถาบั น การจั ด การ

ปัญญาภิวัฒน์ ได้จัดโครงการ “CA Voice อ่านชิล อิ่มบุญ เพื่อผู้บกพร่องทางการมองเห็น” เพือ่ ทำ�การผลิตหนังสือเสียงระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้ กับผู้พิการทางสายตา โครงการ CA Voice เป็ น ความร่ ว มมื อ กันระหว่างคณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการ ปั ญ ญาภิ วั ฒ น์ ห้ อ งสมุ ด คนตาบอดและผู้ พิ ก าร ทางสื่ อ สิ่ ง พิ ม พ์ แ ห่ ง ชาติ มู ล นิ ธิ ค นตาบอดไทย เพื่อสนับสนุนนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากร ของสถาบั น ฯ ในการผลิ ต หนั ง สื อ เสี ย งระบบ อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ PIM ส่ง ‘ทีน่า‘ ธันญา เทอเนอร์ นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ เกีย่ วกับทักษะการอ่าน ชิงรางวัลพระราชทาน และการพากย์เสียง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด นางสาว ธันญา เทอเนอร์ นักศึกษาชัน้ ปีที่ 4 ค ณ ะ นิ เ ท ศ ศ า ส ต ร์ ส า ข า สื่ อ ส า ร อ ง ค์ ก ร ตำ � แหน่ ง ประธานคณะกรรมการนั ก ศึ ก ษา สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้รับคัดเลือก จากสถาบั น ให้ เ ข้ า รอบสุ ด ท้ า ยเพื่ อ รั บ รางวั ล พระราชทานระดั บ อุ ด มศึ ก ษา เขตภาคกลาง ประจำ�ปี 2558 ทั้งนี้ นางสาวธันญา เทอเนอร์ ได้เข้ารับการ สัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 ณ มหาวิทยาลัยรังสิต โครงการนี้ ไ ด้ รั บ เกี ย รติ จ ากคุ ณ ปิ ลั น ธนี คณะนิ เ ทศศาสตร์ จั ด สั ม มนา พาณิ ช พั ฒ น์ Corporate Relations Manager and Corporate Communications, “การตลาดและการจั ด การเนื้ อ หา Marketing PR&CSR คุณจิรกัญญา นภีตะภัฏ ดิจิทัลในสื่อ” คณะนิเทศศาสตร์ได้จัดสัมมนา Senior Public Relations Professional and Corporate Communications, Marketing หัวข้อเรื่อง“การตลาดและการจัดการเนื้อหาดิจิทัล PR&CSR และ คุณสัจจะ กาญจน์นิรันดร์ เจ้าของ ในสื่อ”โดยมีวิทยากร นางสาวปาริชาติ สัมฤทธิ์ เสียงในรายการ TV Champion ที่มีฉายาทาง จินดากุลผู้ช่วยผู้อำ�นวยการฝ่ายการตลาดดิจิทัล สถานี โ ทรทั ศ น์ เ คเบิ ล ทรู วิ ชั่ น ส์ เจ้ า ของเสี ย ง “ผูน้ .ี้ ..นีเ่ อง” อีกทัง้ ยังเป็นเจ้าของเสียง “ขำ�กลิง้ ลิง กับหมา” โดยทั้ง 3 ท่านให้เกียรติมาเป็นวิทยากร พิเศษในการในการความรู้เกี่ยวกับการพากย์เสียง ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นความรู้พร้อมทั้งนำ�ไปใช้ ในการอ่านหนังสือเสียงระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้กบั ผู้พิการทางสายตา ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำ�กัด และนางศรีสุดา วินิจสุวรรณ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และการตลาด Sanook Online

ทั้งนี้วงเสวนาสะท้อนว่า การเข้าใจผู้บริโภค ข้ อ มู ล เชิ ง ผู้ รั บ สาร และการทำ � การตลาดให้ กั บ เนื้อหาอย่างถูกวิธีจะทำ�ให้องค์กรสื่อประสบความ สำ�เร็จในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค สื่อและอยู่รอดท่ามกลางธุรกิจสื่อที่แข่งขันสูง ไขความลับการสร้างคน สู่ตัวตน แบบนิเทศ

คณะนิเทศศาตร์รว่ มกับสำ�นักอธิการบดี สถาบัน การจัดการปัญญาภิวัฒน์ จัดงานชุมชนแห่งการ เรียนรู้ (COP) WBL Show & Share ครัง้ ที่ 1 ประจำ� ปีการศึกษา 2558 ตอน ไขความลับการสร้างคน สู่ตัวตนแบบนิเทศ นำ�ทีมโดย ดร.สุดารัตน์ ดิ ษ ยวรรธนะ จั น ทราวั ฒ นากุ ล คณบดี ค ณะ นิเทศศาสตร์ อาจารย์ ชัยวุฒิ รื่นเริง ผู้ช่วยคณบดี ฝ่ายบริหาร และคุณมลทิพย์ แสนคนึง ผู้จัดการ ฝ่ายศูนย์ที่ปรึกษาและพัฒนาอาชีพนักศึกษาคณะ นิเทศศาสตร์ มาแชร์กระบวนการคิด วางแผนใน การสร้างนักศึกษาที่มีคุณภาพ โดยเน้นทางด้าน Activities Based หรือการพัฒนาทักษะนักศึกษา ผ่านกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกสถาบัน

คณะนิเทศศาสต์ถ่ายทอดกระบวนการบ่ม เพาะอัตลักษณ์ของนักศึกษาคณะนิเทศ ซึ่งพัฒนา ผู้เรียนด้วยระบบทั้งการเรียนในห้องเรียน การฝึก ทักษะนอกห้องเรียน การฝึกปฏิบัติงาน และความ สัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างอาจารย์นักศึกษา มีการ วางแผนอย่างเป็นระบบตั้งแต่ปี 1-4 เพื่อให้ค้นพบ ตัวเองและพัฒนาศักยภาพได้เต็มที่


เหลาให้แหลม จิรายุ วัฒนประภาวิทย์

ADORA ครบเครื่องเรื่องชุดเพื่อนเจ้าสาว

ปี 2558 ประเทศไทยมีการจดทะเบียนสมรสมากกว่า 300,000 คู่ ไม่แปลกใจเลย ที่ธุรกิจเกี่ยวข้องกับการแต่งงานจะมีการเติบโตที่สูงขึ้น และเริ่มมีผู้คนหันมาสร้างธุรกิจ ของตนเองเพิ่มมากขึ้น จึงทำ�ให้เจ้าของธุรกิจต่าง ๆ ต้องหาวิธีการตอบสนองลูกค้าให้โดน ใจมากขึ้น และธุรกิจอย่างหนึ่งที่สำ�คัญต่องานแต่งงาน คือ “ร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว” ด้วยแนวคิดที่ว่า เจ้าสาวหนึ่งคนมีเพื่อนหลายคน และบรรดาเหล่าสาวๆนั้น ก็ไม่ชอบ ใส่ชดุ ซ้�ำ ๆไปงาน ดังนัน้ ชุดเช่าจึงเป็นทางเลือกทีด่ สี �ำ หรับการลงทุนทีไ่ ม่สงู เกินไป แต่ทา่ มกลาง การแข่งขันทีส่ งู นี้ ร้านเช่าชุดเจ้าสาวจึงต้องหันมาสร้าง แบรนด์ของตนให้เป็นทีร่ จู้ กั เช่นเดียวกัน ร้าน ADORA เป็นอีกหนึง่ ทางเลือกของบรรดาเหล่าเพือ่ นเจ้าสาวทีต่ อ้ งการหาชุดราตรี สวย ๆ ไปงานแต่งของเพื่อน ซึ่งร้าน ADORA ได้เปิดให้บริการร้านเช่าชุดราตรีหรือชุดเพื่อน เจ้าสาวแบบครบวงจรในราคาประหยัด ทีม่ พี ร้อมทัง้ ชุดราตรี เครือ่ งประดับต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็น สร้อย สร้อยข้อมือ ต่างหู กระเป๋าถือ และรวมไปถึงทางร้านยังมีบริการให้เช่ารองเท้าอีกด้วย นางสาวสินีนาถ สัตยพงศ์ เจ้าของร้านเช่าชุด ได้เริ่มสร้างธุรกิจร้านเช่าชุดจากการต่อยอดจาก กิจการของครอบครัว โดยแต่ก่อนร้าน ADORA ได้เปิดบริการขายเสื้อผ้าที่นำ�เข้าจากประเทศ จีนทัง้ เสือ้ ผ้าทัว่ ไปและชุดราตรี แต่เนือ่ งจากชุดราตรีทที่ างร้านจำ�หน่ายนัน้ มีราคาทีส่ งู ทางร้าน ADORA จึงลองเปลี่ยนจากการขายชุดราตรีมาเป็นการเช่าชุดราตรีแทน และก็ได้การตอบรับ ที่ดีจากลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการ ภายหลังร้าน ADORA จึงเปลี่ยนมาตัดเย็บชุดราตรีแบบเช่าแทน โดยในช่วงแรกใช้การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เป็นหลัก โดยการสร้างเพจใน facebook , Instagram และก็ลงรูปรีวิวของลูกค้าที่มาใช้บริการเพื่อให้ลูกค้าที่สนใจเข้ามาดูได้ว่าถ้าใส่ชุดแบบนี้จะออกมาเป็นยังไง โดยจะไม่ใช้รูปของนางแบบ แต่จะใช้รูปของลูกค้าทั่ว ๆ ไปแทน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าร้านมีลูกค้าจริง สวมใส่ด้วย คนธรรมดาสวยจริง ทั้งนี้ ร้าน ADORA มีจุดเด่นที่แตกต่างจากร้านเช่าชุดทั่วๆไป คือ การออกแบบ และการตั ด เย็ บ ชุ ด ราตรี เ องที่ ไ ม่ เ หมื อ นใคร ด้ ว ยเนื้ อ ผ้ า ที่ ใ ช้ จ ะเป็ น เนื้ อ ผ้ า ที่ มี ร าคาสู ง และหาได้ ย ากตามท้ อ งตลาดทั่ ว ไป นั่ น คื อ ผ้ า ไหมอิ ต าลี ซึ่ ง ผ้ า ไหม อิ ต าลี ส่ ว นใหญ่ ใ ช้ ใ นการตั ด เย็ บ ชุ ด เจ้ า สาว ภายในร้ า น ADORA มี ชุ ด ราตรี ประมาณ 500 ชุ ด มี เ ฉดสี ใ ห้ เ ลื อ ก 21 เฉดสี และมี ชุ ด ราตรี ใ ห้ เ ลื อ กมากกว่ า 30 แบบ มีทั้งแบบสั้นและแบบยาว โดยราคาเริ่มต้นที่ 500 - 2,500 บาทต่อหนึ่งชุด ราคา นีไ้ ด้รวมเครือ่ งประดับต่าง ๆ และกระเป๋าถือแล้ว และทางร้าน ADORA ยังมีบริการให้เช่า รองเท้าเพิ่มอีกในราคาคู่ละ 100 บาท ให้สำ�หรับผู้ที่สนใจอีกด้วย


DREAM CAREER วัยรุ่น วัยรวย ชฏาพร ตั้งตัว พรรณอร เสือเทศ

จาก ดีไซน์เนอร์แบรนด์ดังระดับโลก สู่พ่อค้าผัดไท “ผัดไทยบุรี Cafe” ธุรกิจที่ต่อยอดจากอาชีพของคุณแม่ เมนูไฮไลท์ผัดไทของร้านที่สร้างชื่อเสียงและสร้างรายได้มากที่สุด คือ “ข้าวไข่ข้นเบคอนอบชีส” ในรูปแบบการตกแต่งของร้านได้ แรงบันดาลใจจากที่ตนเป็นดีไซน์เนอร์และประยุกต์เพื่อให้เกิด ความดึงดูดใจ นายพัชรายุธ เสือเทศ (แชมป์) อายุ 27 ปี จบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยรังสิต คณะแฟชั่นดีไซน์ ทำ�งานในวงการแฟชั่น มากว่า 3 ปี ทำ�งานกับแบรนด์ชื่อดังระดับโลกอย่าง F fashion ใช้ชีวิตบนความหรูหรา ฟุ่มเฟือย จนวันหนึ่งถึงจุดอิ่มตัวกลับมา ตั้งหลักที่บ้านเกิด จ.ลพบุรี และคิดได้ว่าตนจะต่อยอดธุรกิจ ผัดไทโต้รุ่งของคุณแม่ในคอนเซปต์ว่าไม่อยากให้ทุกคนคิดภาพ ผัดไทเป็นโต้รุ่ง แต่ใช้ไอเดียจากการทำ�งานแฟชั่นดีไซน์มาผสม ผสานให้มีแนวผัดไทของตัวเอง

“เริ่มเปิดร้านเล็กๆ ขึ้นมาจากที่เป็นนักแฟชั่นดีไซน์จึงเอาความรู้เก่ามาผสมผสานในการ ตกแต่งร้านและคิดชื่อเมนูต่างๆ จุดขายของร้าน คือผัดไทที่มีเส้นให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นเส้นจันท์ วุ้นเส้น เกี๊ยวกรอบและ มีท็อปปิ้งให้เลือกหลากหลายชนิดเช่น กุ้ง ปลาหมึก หอยนิวซีแลนด์ การ ที่ผัดไทมีให้เลือกหลายแบบนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับผัดไทไม่ใช่แค่ผัดไทธรรมดา อีกต่อ ไป ผัดไททุกจานจะมีมะม่วงเปรี้ยวเสิร์ฟอยู่ในจานด้วย เพื่อเพิ่มความเปรี้ยวให้กับอาหาร ในการปรุงอาหารนั้นจะมีดีไซน์การตกแต่งที่ไม่เหมือนกันแม้แต่จานเดียวและในการผัดแต่ละ จานตนก็เปรียบเสมือนการทำ�เสื้อผ้าอยู่บนรันเวย์ต้องพิถีพิถันในการปรุงชั้นยอดเพื่อให้ได้รสชาติ ที่อร่อยถูกปากผู้บริโภค” การที่ใช้ชีวิตบนความ หรูหรา ฟุ่มเฟือย ใช้ของ แบรนด์ เ นมตามสั ง คม และอาชี พ ดี ไซน์ เ นอร์ มี ค่ า ครองชี พ สู ง พอถึ ง จุ ด ๆหนึ่ ง จึ ง เดิ น ถอยหลั ง

และกลับมาคิดว่าสิง่ ทีท่ �ำ อยูต่ รงนัน้ มีความสุขจริงไหม ด้วยความที่ ชอบทำ�อาหารจึงเป็นสิง่ ทีช่ ว่ ยจุดประกายทำ�ให้เริม่ ร้าน ผัดไทยบุรี Cafe นี้ขี้นมา ซึ่งมีรายได้ประมาณ 15,000 บาท/วัน เมื่อได้ออกรายการทีวีและมีคนพูดต่อกัน ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น ตอนนี้ก็เพิ่มขึ้นจากเดิม เป้าหมาย ในอนาคตที่คิดไว้ จะทำ�ร้านให้มีคุณภาพ มากกว่าเดิมและเมนูแปลกใหม่เพิ่มขึ้น “ขอให้ทุกคนทำ�สิ่งที่ตัว เองชอบให้มีความสุขที่สุด แล้วผลจะตามมา ไปยืนอยู่จุดไหน ขอให้ทุกคนทำ�ให้เต็มที่” นายพัชรายุธกล่าว ฮีโร่ในดวงใจ : คุณพ่อ เพราะเป็นคนขยัน ประหยัดอดออม สู้กับงาน


DREAM CAREER HIDDEN JOB ปริยาภัทร จันทร์ทอง ธัญชนก ปารวัณวงศ์

สูง

เสี่ยง เสียว กับสไปเดอร์แมนบนตึกสูง

ในโลกของการแสดงหากนึกถึง Hero ชื่อดัง ในภาพยนตร์ที่หลายๆคนรู้จัก คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก สไปเดอร์ แมน หรือไอ้แมงมุมไต่ตึก แต่ในโลกความเป็นจริงแล้วจะมีกี่คน ที่รู้จัก อาชีพสไปเดอร์แมน ที่ไม่มีตัวแสดงแทน ทำ�จริงเล่นจริง เจ็บจริง ใช้อุปกรณ์ หลัก เพียงแค่สลิง เส้นเดียว เหมือนกับคำ� โบราณที่กล่าวไว้ว่า เอาชีวิตไปแขวนไว้บนเส้นด้าย และอาชีพ ที่น่าหวาดเสียวนี้ คือ พนักงานเช็ดกระจกบนตึกสูงนั่นเอง อาชีพสไปเดอร์แมน หรือพนักงานเช็ดกระจกบนตึกสูงนี้ เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปสรรคใน การทำ�งานที่อาจมีอุปกรณ์ชำ�รุด สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง หรือที่เกิดจากตนเอง เช่น ร่างกายอ่อนล้า พักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงสภาพจิตใจไม่พร้อมแก่การทำ�งาน และบ่อยครั้งที่หลาย คนตั้งคำ�ถาม ว่ามีระบบความปลอดภัยที่ดี มากพอหรือไม่ และ คุ้มกับค่าจ้างหรือเปล่า เราจะหาคำ�ตอบไปพร้อมๆกัน

นายบุญธรรม กันทะสาร หัวหน้าทีมเช็ดกระจกบนตึกสูง เล่าถึงการทำ�งานในแต่ละครั้งว่า ขั้นตอนในการปฏิบัติงาน เริ่มตั้งแต่พนักงานปีนขึ้นไปบนยอดตึกเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ทำ�ความสะอาด เมื่อติด ตั้งอุปกรณ์เสร็จสิ้น ต่อมาพนักงานจะโรยตัวอย่างเชี่ยวชาญจากยอดตึกลงมา เพื่อลงมาเช็ดกระจกแต่ละ บาน อุปกรณ์สำ�คัญในการปฏิบัติหน้าที่ประกอบด้วย เชือกโรยตัว กางเกง สำ�หรับคล้องอุปกรณ์ กระดาน นั่งร้าน และสิ่งสำ�คัญอีกหนึ่งอย่างคือ ลูกระนาด ที่เป็นตัวยึดเชือกโรยตัวและอุปกรณ์ทุกๆอย่างไว้ อุปกรณ์ ทุกชิ้นต้องผ่านการตรวจสอบ ซึ่งต้องมีสติกเกอร์ติดเพื่อประกันว่าผ่านการรับรองมาตรฐานแล้ว ซึ่งก่อน ทำ�งานทุกครั้งต้องมีการเช็คอุปกรณ์ และเตรียมความพร้อม นัดแนะกันภายในทีมให้เรียบร้อย อุปสรรค ในการเช็ดกระจกบนตึกสูงมีหลายปัจจัย ได้แก่รูปทรงของอาคาร การออกแบบ โครงสร้างของอาคาร ระยะเวลาในการทำ�งานที่มีอย่างจำ�กัด รวมไปถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดเวลา ปัจจัยเหล่านี้จึงทำ�ให้เกิดความยากลำ�บากในการปฏิบัติงาน นอกเหนือจากความปลอดภัยของ ชีวิตตนเองแล้ว ยังต้องดูแลความปลอดภัยชีวิตของลูกทีมด้วย ซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่มีคนข้างหลังที่ต้อง กลับไปคอยดูแล

นายสุชาติ โอวาทวรรณสกุล เจ้าของบริษัท โอวาท โปร แอนด์ ควิกจำ�กัด นโยบายในการทำ�งานคือพนักงานต้องมีความแข็งแกร่งทางร่างกาย และความกล้าหาญเป็นองค์ประกอบสำ�คัญ พนักงานต้องมีสติตลอดเวลา เพราะ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง ทางบริษัทต้องตรวจเช็ค สภาพร่างกายก่อนปฏิบัติงานทุกครั้ง และตรวจสอบอุปกรณ์ทุกครั้งอย่างละเอียด พนักงานที่จะปฏิบัติงานทุกคนต้องไม่ประมาทเพราะถ้าหากเกิดความผิดพลาด อาจก่อนให้เกิดถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งสวัสดิการที่พนักงานจะได้รับคือบริษัทจัดทำ� ประกันชีวิตให้แก่พนักงานทุกคน รวมทั้งพนักงานจะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเมื่อการ ปฏิบัติงานเสร็จสิ้นก่อนระยะเวลาที่กำ�หนด เพื่อเป็นแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ถึงแม้อาชีพสไปเดอร์แมนอาจไม่ได้เป็นอาชีพที่ใครหลายๆคนใฝ่ฝันแต่ บนโลกใบนี้ก็ยังต้องการฮีโร่ที่จะช่วยทำ�ความสะอาดบนตึกสูงอีกมากมาย


DREAM CAREER START UP นิตยา ร่มโพธิ์ชี

เล็กพริกขี้หนู ของจิ๋วที่ไอเดียไม่จิ๋ว จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ก่อเกิดเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับ เจ้าของธุรกิจอย่างมหาศาล ใครจะรู้ว่าของจิ๋วก็สร้างรายได้ให้กับเราได้มาก เลยทีเดียวสวนจิ๋วในขวดแก้วไปไกลโกอินเตอร์

Green Tree Latte สวนจิ๋วในขวดแก้ว ธุรกิจหนึ่งที่ทำ�ราย

ได้ให้กับ ศิรศิริ (เนย) และพิชชานนท์ ศรีพล (แยม) อย่างมหาศาลจากจุด เริ่มต้นที่มีเงินทุนไม่มากนักจนตอนนี้ธุรกิจนี้สร้างกำ�ไรให้แก่ทั้งศิรศิริ และพิชชานนท์ถึงหลักแสนต่อเดือน พิชชานนท์บอกว่าจากงานอดิเรกทำ� สวนจิ๋วเพราะชอบ ต่อยอดเป็นธุรกิจส่งออก “ตอนแรกธุรกิจนี้เป็นเพียงแค่งานอดิเรกที่ทำ�ร่วมกับครอบครัว ต่อมารู้สึกว่าไม่รู้ว่าเราจะซื้อต้นไม้บ่อยๆไปทำ�ไม จึงเริ่มลองทำ�เป็นธุรกิจ ส่วนตัวร่วมกับพี่สาว (ศิรศิริ) ตอนแรกก็เริ่มจากถ่ายรูปโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต จนมีคนมาเห็นและชอบ สนใจและสั่งซื้อ จากตอนแรกที่ได้รับรายได้เพียง สามพันถึงสี่พันต่อมาก็เริ่มมีคนพาไปออกอีเว้นท์ จนทำ�ให้รายได้เพิ่มขึ้นถึง หลักแสน นอกจากจะมีการเปิดร้าน Green Tree Latte แล้วยังมีการส่ง วัตถุดิบที่ใช้ทำ�สวนจิ๋วไปยังต่างประเทศเช่น สิงคโปร์ ” สวนจิ๋วเป็นการจำ�ลองสวนหรือระบบนิเวศให้มีขนาดเล็กและย่อ ส่วนเอาไว้ในขวดแก้วใสๆ หรือภาชนะที่เป็นกระจกใสโดยเป็นรูปทรงอะไร ก็ได้ ภายในของสวนจิ๋วนี้จะประกอบไปด้วยดินและพืชต่างๆที่นำ�มาทำ�ขึ้น เป็นสวน อาทิ พืชจำ�พวกเฟิร์น มอส ดอกไม้แห้ง พืชมงคลชนิดต่างๆ โดยนอกจากพืชชนิดต่างๆที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีของตกแต่งเพิ่มความ สวยงามให้กับสวนจิ๋วอีกมาก ทั้งหินมงคล และตุ๊กตาที่เป็นทั้งสัตว์ชนิด ต่างๆ และนักษัตรตามปีเกิดที่ทำ�จากเซรามิกเป็นชิ้นเล็กๆแล้วนำ�มาประดับ ในสวนจิ๋วเพื่อเพิ่มความสวยงาม การจัดสวนจิ๋วไม่ใช่เพียงการที่นำ�สิ่งต่างๆ ที่มีอยู่นำ�มาวางรวมกันในขวดแก้ว แต่มันคือ การจัดวางสิ่งที่มีอยู่ที่ให้เกิด องค์ประกอบของชิ้นงานที่ออกมาดูดี ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติจริงๆ โดย การที่จะผลิตชิ้นงานนี้ออกมาได้จะต้องอาศัยทั้งความละเอียดอ่อน ประณีต และต้องมีความเอาใจใส่ในชิ้นงานนั้นๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งชิ้นงานที่ดีที่สุด

ถึงแม้ธุรกิจสวนจิ๋วในขวดแก้วจะเป็นธุรกิจที่พึ่งเริ่มได้ไม่กี่ปี แต่ก็ ถือว่าประสบความสำ�เร็จเป็นอย่างมาก ด้วยความที่มีการเอาใจใส่ในผล งานทุกชิ้นที่ผลิตออกมา ด้วยการจัดสวนที่เป็นเอกลักษณ์และความมีเรื่อง ราวในตัวผลงาน ผนวกกับการบริการลูกค้าที่เปรียบเสมือนครอบครัวทำ�ให้ สร้างความเชื่อมั่นและขยายกลุ่มลูกค้าได้ต่อเนื่อง ​ “ การทำ�ธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย เราต้องล้มก่อนถึงจะลุกขึ้นมาได้ เราต้องเรียนรู้จากคนที่เขาเคยพลาดและจากคนที่ประสบความสำ�เร็จมา ก่อน และการที่เราจะประสบความสำ�เร็จเราต้องรู้จักการให้ เราต้องเริ่ม ที่จะให้ก่อนเราถึงจะได้รับ อาจไม่ได้ผลทางธุรกิจแต่ที่ได้ใหญ่หลวงคือ ทางใจ ได้ในจุดที่น้อย แต่มีค่ามหาศาล ”


DREAM CAREER START UP

นิตยา ร่มโพธิ์ชี

จิ๋วของตกแต่งที่จิ๋วแต่แจ๋ว

โมเดล

โมเดลเลียนแบบของใช้ ของกิน ในชีวิตประจำ�วันเรา ที่เป็นของจิ๋ว อันเล็กๆ อาศัยความประณีตในการประดิษฐ์แต่ให้รายได้ที่มั่นคงกับธุรกิจ สานฝันของจิ๋ว ของนาย ปกรณ์ กุลทอง

ถึงแม้ธุรกิจโมเดลจิ๋วจะเป็นธุรกิจที่ในตลาดไม่ค่อยมีมากนัก แต่ถึง อย่างนั้นก็ยังมีคู่แข่งที่ค่อนข้างเยอะพอสมควรในตลาดของจิ๋ว ซึ่งถือเป็น อุปสรรคอย่างหนึ่ง เพราะเมื่อมีการแข่งขันจึงต้องผลิตผลงานชิ้นใหม่ๆ ออกมา แต่ด้วยความที่เมื่อผลิตออกมาก็โดนลอกผลงานเกือบหมดจึงต้อง คิดและผลิตสิ่งใหม่ๆออกมา เปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ จึงทำ�ให้เกิดอาการ ท้อในบางครั้ง แต่ด้วยความที่ผลงานของทางร้านสานฝัน มีความต่าง ซึ่งก็คือการเอาใจใส่ในผลงาน การเลือกสินค้าที่จะนำ�มาผลิตของจิ๋วเอง ทั้งการศึกษาหาข้อมูลในผลงานที่จะผลิตก่อน เช่น การจะผลิตรถขายผัด ไทจิ๋วก็ต้องศึกษาก่อนว่าวัตถุดิบในการทำ�ผัดไทมีอะไรบ้าง อีกทั้งการจัดวางยังต้องจัดวางให้ตรงกับที่เป็นจริงด้วย แล้วยังจะ เรื่องความละเอียดอ่อนในการทำ� การลงรายละเอียดที่ต้องทำ�ให้คล้าย ที่สุด ความมีคุณภาพของชิ้นงาน

รวมถึงอายุการใช้งานจุดต่างนี้ทำ�ให้ ร้านสานฝันเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ทั้งหมดได้จนประสบความสำ�เร็จในที่สุด จนตอนนี้ธุรกิจนี้สร้างรายได้ให้คุณปกรณ์ อย่างมาก ทั้งนี้ยังมีการส่งออกต่างประเทศ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ 80% เป็นชาว ต่างชาติ นายปกรณ์ได้กล่าวถึงการใช้ชีวิตว่า “การที่ผมประสบความสำ�เร็จได้ก็เพราะมีคุณพ่อที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้ มาตลอดทั้งในเรื่องความคิด นิสัย ความสามารถ การวางตัว และวิธีการใช้ชีวิต จึงทำ�ให้ผมประสบความสำ�เร็จมาจนทุกวันนี้เพราะผมรู้วิธีการที่จะยอมรับคำ� ติชมยอมรับความผิดพลาดและรู้วิธีการที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดนั้นมองสิ่งที่คน อื่นมองข้ามนี่แหละคือสิ่งที่ทำ�ให้ผมมายืนอยู่จุดนี้ได้และประสบความสำ�เร็จใน ที่สุด ” ของจิ๋วต่างๆที่เราเห็นถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่คุณค่าของมันไม่ได้เล็กอย่างที่ เราเห็น นอกจากจะเป็นของสวยงามใช้ตกแต่งให้เราได้แล้วยังใช้ประโยชน์ได้อีกมาก เต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ในชิ้นงาน และบ่งบอกถึงความเอาใจใส่ในการ ผลิตของเจ้าของชิ้นงาน สามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้อย่างมหาศาล แม้จะเล็กแต่ก็เล็กพริกขี้หนู ของจิ๋วแต่ไอเดียไม่จิ๋วแบบนี้จะไม่ซื้อมาเป็นของตัวเองสัก ชิ้นสองชิ้นก็คงไม่ได้แล้ว


DREAM CAREER MASTER & APPRENTICE สริตา นาคใจเสือ

สวนกล้วยไม้ธรรมดา ผันตัวเป็นธุรกิจค้าปลีกและส่งออกครบวงจร

กล้วยไม้ไทยเป็นเกษตรกรรมที่มีการส่งออกและมีชื่อเสียงระดับโลกโดยประเทศไทยมียอดการส่งออกกล้วยไม้เมืองร้อนเป็นอันดับ 1 ของโลก ปัจจุบัน เกษตรกรไทยได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำ�มาพัฒนาสู่การทำ�ธุรกิจกล้วยไม้แบบครบวงจร ถ้าใครขับรถผ่านไปแถวๆ ต.นราภิรมย์ อ.บางเลน จ.นครปฐม จะเจอสวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่รูปแบบของสวนจะมีหน้าร้านที่จำ�หน่ายกล้วยไม้ทั้งปลีกและส่ง อีกทั้งยังมีรูปแบบเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตกล้วยไม้ มีรถเข็นเพื่ออำ�นวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาเลือกซื้อกล้วยไม้ นอกจากนี้ยังมีสวนกล้วยไม้อยู่ทางด้านหลัง และยังมีห้องแล็บเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่ออยู่ภายในสวนอีกด้วย นั่นคือที่ตั้งของบริษัท แอร์ออร์คิดส์ แอนด์ แล็บ จำ�กัด ธุรกิจกล้วยไม้แบบครบวงจรที่ต่อยอดมาจาก การทำ�สวนกล้วยไม้จากรุ่นตาสู่รุ่นหลาน นายพันธพัฒน์ คุม้ วิเชียร ผูจ้ ดั การฝ่ายการตลาดต่างประเทศ ทายาทรุน่ ที่ 3 บริษทั แอร์ออร์คดิ ส์ แอนด์ แล็บ จำ�กัด ได้กล่าวว่า ในฐานะทีเ่ ป็นคนสืบทอดธุรกิจ จึงต้องหาแนวทางเพือ่ พัฒนาสวนกล้วยไม้ธรรมดาๆให้ตอ่ ยอดเป็นธุรกิจทีค่ รบวงจร เพือ่ เพิม่ มูลค่าและอยูร่ อดในสังคมทีม่ กี ารแข่งขันในการทำ�ธุรกิจ ดังนัน้ เพือ่ ให้สนิ ค้า ที่มีอยู่แล้วขายได้มากขึ้นจึงต้องพัฒนาระบบการจัดจำ�หน่ายและจุดขายที่ดึงดูดคนซื้อ “ ในสมัยของคุณตาคุณยายบ้านเราทำ�สวนกล้วยไม้ตดั ดอกขาย พอถึงรุน่ คุณพ่อคุณแม่ได้มกี ารสรรหากล้วยไม้สใี หม่พนั ธุ์ใหม่เพิม่ ขึ้นและได้ลงทุนทำ�แล็บ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อทำ�ให้มีกล้วยไม้ออกมาแปลกและหลากหลายมากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มตัวเลือกสินค้าให้ลูกค้า ผมทายาทรุ่นที่ 3 ซึ่งทำ�กับน้องชายได้เพิ่มช่องทาง ทีจ่ ะจัดจำ�หน่ายทัง้ ในประเทศและต่างประเทศให้ได้เพิม่ มากขึน้ คือเพิม่ Division Channel เข้ามา และทำ�หน้าร้านเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตกล้วยไม้เป็นไอเดียทีไ่ ด้มา จากการที่ต้องการให้ลูกค้าเดินเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ” ทัง้ นีก้ ารทำ�สวนแบบครบวงจรก็ไม่ใช่เรือ่ งง่ายโดยต้องอาศัยเวลาในการใส่เซอร์วสิ เข้ามาช่วย ซึง่ เป็นความละเอียดอ่อน ต้องพบปะพูดคุยกับลูกค้า สอบถาม สิง่ ทีต่ ้องการ แลกเปลี่ยนความสนใจ คอยให้คำ�แนะนำ�ในการเลือกซื้อและการดูแลกล้วยไม้ เป็นการบริการลูกค้าที่สวนกล้วยไม้ที่อยากจะผันตัวจากสวนธรรมดา ที่ทำ�สวนเพียงอย่างเดียวมาเป็นสวนกล้วยไม้ที่ครบวงจร ซึ่งสวนกล้วยไม้ส่วนใหญ่จะไม่ได้ให้ความสำ�คัญกับการเซอร์วิสมากนักเพราะสวนส่วนใหญ่เลือกทำ�ด้าน ใดด้านหนึ่ง เช่น ถ้าทำ�แล็บเพาะพันธุ์ก็จะทำ�แล็บใหญ่ไปเลย เพราะสวนส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมที่จะเซอร์วิสให้กับลูกค้า เพราะฉะนั้นต้องอาศัยเวลาในการเซอร์วิสลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าซื้อขายอยู่กับสวนของเราและประสบความสำ�เร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ในที่สุด


ME STYLE

Aerial Acrobat ตัวเลือกเสริมสุขภาพ

HEALTH

วรยศ กลัดเนินกุ่ม ปนัดดา วงษ์ประกรคำ�

นายราชนิกร แก้วดี (เล้ง) เป็นครูผู้ฝึกสอนการ เล่นกายกรรมการปีนผ้าอยู่ที่โรงเรียน Kara’s Vic โดยจะเริม่ เรียนจากพืน้ ฐานหรือท่าเบสิคง่าย ๆ และ อยู่ในความสูงที่ไม่มากเกินไป และเล่นจนชำ�นาญ จึงเพิ่มระดับความสูงขึ้นไปเพื่อให้มีความสวยงาม ในการเล่น นอกจากนี้กายกรรมชนิดนี้เมื่อผ่าน การฝึกฝนและการเล่นอย่างจริงจังจะช่วยเสริม สร้างร่างกายไม่ว่าจะเป็นแขน ขา กล้ามเนื้อท้อง และส่วนอื่น ๆให้ แข็งแรง แถมยังฝึกความอดทน ของร่างกายและจิตใจ ฝึกสมาธิให้จิตใจอยู่นิ่งให้ อยู่กับกิจกรรมที่ทำ�อีกด้วยและยังได้ความท้าทาย นอกจากนั้นกีฬาหรือกายกรรมการปีนผ้ายังเป็นที่ การแสดงที่ ช นะใจคนของเล้ ง ในรายการ ได้มาเรียนกายกรรมชนิดนีแ้ ละรูส้ กึ ว่าทำ�ได้และทำ� นิยมอยูใ่ นปัจจุบนั อีกด้วยและนีก่ เ็ ป็นการออกกำ�ลัง Thailand’s Got talent season 2 ด้วยการ ออกมาได้ดีทำ�ให้กระหายความรู้ที่คุณครูสอน จึง กายที่มีประโยชน์มากมายอีกชนิดหนึ่งและเป็นตัว ประยุกต์ Aerial Acrobat ศิลปะที่ใช้เพียงผ้า 2 ผืน ทำ�ให้อยากจะทำ�ให้ออกมาดีที่สุด ก่อนเริ่มแสดง เลือกอีกหนึ่งตัวเลือกสำ�หรับคนที่รักสุขภาพให้หัน ที่ร่ายรำ�อยู่ในอากาศที่สวยงามและมีความสูงถึง ทุกครั้งจะต้องมีการวางแผนก่อนด้วยการนำ�ตุ๊กตา มาเล่นกีฬาชนิดนี้มากขึ้น... 10 เมตร แล้ ว วาดลวดลายในห้ ว งอากาศให้ มี มาพันผ้าในท่วงท่าต่างๆและต้องมีการวอร์มอัพ ความโดดเด่ น อ่ อ นช้ อ ยตามแบบของไทยการ ร่างกายเพราะเป็นส่วนสำ�คัญที่สุดในการเล่น โดย แสดงกายกรรมชนิ ด นี้ ต้ อ งใช้ พ ลั ง ในการแสดง เริ่มตั้งแต่ลมหายใจเข้าออก ขยับไหล่ คอ ก้มหน้า และยังมีประโยชน์สำ�หรับการเสริมความแข็งแกร่ง เงยหน้า เอียงขวา เอียงซ้าย ทำ�อย่างน้อยต้อง 1 ของร่ า งกายและความอดทนของจิ ต ใจด้ ว ย ชั่วโมง เพราะจะทำ�ให้ร่างกายค่อยๆปรับสภาพให้ “กายกรรมการปี น ผ้ า นั้ น ทำ � ให้ เรารู้ จั ก ตั ว เอง เส้นเลือดไหลเวียนสะดวกและกล้ามเนื้อยืดหยุ่นไม่ มากขึ้ น ทำ � ให้ เราออกจากกรอบบางอย่ า งที่ เรา ให้เกิดอุบัติเหตุขณะเล่น และกายกรรมการปีนผ้า จำ � กั ด ไว้ เ องและรู้ สึ ก ภู มิ ใจที่ ส ามารถทำ � ให้ เรา นั้นไม่ได้จำ�กัดอายุคนหรือนํ้าหนักของผู้เล่น หากผู้ หลุ ด จากกรอบความคิ ด บางอย่ า งที่ ป ระชาชน เล่นรู้จักขีดจำ�กัดของตัวเองว่าสามารถรับได้ขนาด สร้ า งขึ้ น ... กายกรรมชนิ ด นี้ ทำ � ให้ ร่ า งกายแข็ ง ไหน ไม่ว่าจะเด็ก คนแก่ หรือคนอ้วนแค่ไหน ก็ แรง โดยเฉพาะกล้ า มเนื้ อ ท้ อ งเพราะท้ อ งเป็ น สามารถเล่นได้แถมกีฬาชนิดนี้ยังเสริมสร้างให้มี เซ็ น เตอร์ ใ นการเกร็ ง กล้ า มเนื้ อ ของส่ ว นอื่ น ๆ สุขภาพที่แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย ดังนั้นเราจึงต้องใช้ทุกส่วนของร่างกาย บางคนอาจ บางท่ ว งท่ า ของ Aerial Acrobat มี จุ ด จะใช้กล้ามเนื้อหัวไหล่ได้ดีมาก เลยทำ�ให้กายกรรม เริ่ ม ต้ น มาจากการใช้ ใ นการแสดงกายกรรม ชนิดนี้สามารถดึงข้อดีของร่างกายออกมาได้” หรื อ เล่ น ในคณะละครสั ต ว์ ที่ มี ม าตั้ ง แต่ อ ดี ต นายราชนิ ก ร แก้ ว ดี ห รื อ ที่ รู้ จั ก กั น คื อ จากนั้ น ก็ ไ ด้ มี ก ารนำ � มาประยุ ก ต์ ใ ห้ ค นทั่ ว ไป เล้ ง เริ่ ม เล่ น ตั้ ง แต่ เ ป็ น นั ก ศึ ก ษาฝึ ก งานได้ ฝึ ก ใน ได้ นำ � มาเล่ น เพื่ อ เสริ ม สร้ า งความแข็ ง แรงของ หลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็น ร้อง เต้น เล่นละคร จน ร่ า งกายและจิ ต ใจ รวมถึ ง การฝึ ก สมาธิ จึ ง ทำ � ให้ ก ายกรรมชนิ ด นี้ ส ามารถทำ � ให้ มี สุ ข ภาพ ที่ดีและแข็งแรงได้เพราะกายกรรมปีนผ้านั้นต้อง ใช้ทักษะในการควบคุมตนเอง กายกรรมปีนผ้า นั้นมีอุปกรณ์ในการเล่น มีทั้งห่วงและผ้า ซึ่งผู้ เล่นสามารถเลือกเล่นได้ตามความสนใจและความ เหมาะสมของผู้เล่นเอง สว่ นคนทีอ่ ยากเล่นนัน้ เพียงแค่มคี วามกล้าทีจ่ ะเล่น มีความสนใจในกีฬาชนิดนีห้ รือกายกรรมนีก้ ส็ ามารถ เล่นได้โดยมีโรงเรียนที่เปิดสอนทางด้านนี้อยู่โดย


ME STYLE CHECK-IN ภควรรธ อัญชลี

แพ็คกระเป๋า พิชิตยอดเขาเทวดา

สักครั้งหนึ่งในชีวิตเชื่อว่าเกือบทุกท่านนั้นคงอยากที่จะชมทะเลหมอกพระอาทิตย์ค่อยๆ

ขึ้นจากภูเขาสีแดงสวยงาม อยากสัมผัสท้องฟ้าสีส้มและอากาศที่หนาวเย็น สำ�หรับคนที่ไม่มีเวลา และ อยากได้ บรรยากาศแบบที่กล่าวมาและอยากพบกับความท้าทายและการผจญภัยไปในตัว เราจะพา ท่านไป Check-in ที่ ยอดเขาเทวดา ณ เมืองแหล่งปราชญ์ศิลปิน ภาษาถิ่นชวนฟัง จังหวัดสุพรรณบุรี นั่นเอง หลายท่านคงยังไม่รู้จักที่นี่และยังไม่รู้ว่าใกล้ๆกับเมืองกรุงแบบนี้มีที่ชมทะเลหมอกมียอดเขาสูง ด้วยหรือ?.... มีสิครับ! ที่ ยอดเขาเทวดา ยอดเขาสูงที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรีแล้วยังเป็นรอยต่อของ 3 จังหวัดคือ อุทัยธานี สุพรรณบุรี และ กาญจนบุรี ยอดเขาเทวดาอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติพุเตย อำ�เภอ ด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี สำ�หรับการเดินทางโดยรถส่วนตัวออกจากกรุงเทพฯไปถึงจังหวัดสุพรรณใช้ เวลาเพียงชั่วโมงครึ่ง และเดินทางไปยังอำ�เภอด่านช้างประมาณ 2 ชั่วโมง บรรยากาศข้างทางนั้นเต็มไป ด้วยท้องทุ่งนาเขียวขจีและไร่สับปะรด บนเชิงเขา รวมถึงภูเขาที่ทอดเป็นแนว ยาวสุดขอบฟ้า ท้องฟ้าโปร่งใส ก้อน เมฆที่เป็นรูปร่างสวยงาม ใช้เวลาอีก 40 นาทีถึงที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติพุเตย อำ�เภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี

สำ�หรับท่านใดต้องการพักที่นี่ มีบริการจุดกางเต็นท์ ห้องนำ�้ และร้านอาหารให้ แต่ถ้าท่านใดต้องการจะชมทะเล หมอกและพิชิตยอดเขาเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นนั้นต้องต่อรถของ ทางอุทยานไปยัง หน่วยพิทักษ์อุทยานฯที่ 3 ตะเพินคี่ ค่าเช่ารถอุทยานสองพันบาทสามารถนั่งได้ 7 - 8คน ทางขึ้นนั้นถ้านั่งกระบะแล้วรับรองได้เลยว่าหัวแดงไม่ ก็แดงทั้งตัวเลยทีเดียวเพราะทางขึ้นชันและเป็นทางดินแดง สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าไผ่และหน้าผาแต่อากาศก็เย็นสบาย มาก ถึงแม้จะเป็นเวลาบ่ายๆแล้วก็ตาม ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯที่ 3 ตะเพินคี่ เป็นจุดพัก ใกล้กับที่หมายที่สุดโดย มีจุดให้กางเต็นท์และจุดประกอบ อาหาร หรือถ้าท่านใดไม่ได้เตรียมอาหารและเต็นท์มา ทางหน่วยมีเต็นท์ให้เช่าหลังละ 250 บาท นอนได้ 3-5 คน ค่ากางเต็นท์หลังละ 30 บาทและมีร้านอาหารเปิดให้บริการ รับรองว่าไม่อดตายอย่างแน่นอน บริเวณที่กางเต็นท์เป็น ที่ราบเชิงเขาลมพัดเย็นสบายสามารถมองเห็นวิวของทุ่งไร่ ข้าวโพดสีทองสวยงาม วิวภูเขาและเชิงเขาสวยงามไม่แพ้ที่ใด ในประเทศ พระอาทิตย์เริ่มตกประมาณ 5 โมงเย็นแสงสีส้ม อ่อนๆบนเส้นขอบฟ้า บรรยากาศที่เย็นสบายทำ�ให้เหมาะกับ การพักผ่อนเป็นอย่างมาก ยังมีของขวัญสุดพิเศษในเวลากลาง คืนด้วยท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง และอากาศเย็นสบายทำ�ให้เรา มองเห็นท้องฟ้าสวยงามในยามค่ำ�คืน บรรยากาศเต็มไปด้วย


หมู่ดาวส่องแสงระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า พระจันทร์ส่องสว่างสวยงามอากาศค่อยๆเย็นลง เรื่อยๆประมาณ 17-20 องศาเซลเซียล เช้าวันใหม่กับการพิชิตยอดเขาเทวดาต้องออกจากจุดพักเวลาตี 4 โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง ในการขึ้นเขา ต้องนั่งรถไปที่ตีนเขาแล้วจึงเดินขึ้นไปต่อ ทางขึ้นนั้นเป็นทางดิน แคบๆที่ทำ�เป็นขั้นบันได และมีเชือกเป็นเหมือนราวบันไดให้ดึงตัวเองขึ้นไป เพราะทาง ขึ้นชันมาก เดินเท้าข้ามเขาสองลูกประมาณ 2-3 กิโลเมตร สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าไม้ อุณหภูมิประมาณ 15 องศาเซลเซียล พอเดินไปเรื่อยๆแล้วจะไม่หนาวเพราะเหนื่อยจาก ทางที่ชัน มีจุดพักทุกๆ 100 เมตร ถึงยอดเขาแล้ว! หลังจากความเหนื่อยจนย่อท้ออยาก จะเดินลงแต่ก็พยายามจะไปต่อจนถึงยอดเขาเชื่อได้เลยว่าทุกคนคงหายเหนื่อยเมื่อพบกับ ทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่นใดในโลกนี้ และพระอาทิตย์ขึ้นสีแดงสวยงามค่อยๆขึ้นจาก ภูเขาเหมือนตอนที่เราวาดรูปตอนเด็กๆ ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีบนยอดเขาที่ช่างสวยงามทำ�ให้ เราสดชื่นหายเหนื่อยและทำ�ให้เราได้รู้ว่าเราทำ�ได้ถึงจะไม่ชนะอะไรแต่เราก็ชนะใจตัวเอง บนยอดเขามีเจดีย์และพระพุทธรูป พระพุทธรัตนมุนีศรีเทวดา ให้ทุกท่านได้กราบไหว้ ถึงจะเป็นทริปเป็นที่ดูทุรกันดารและลำ�บากยากเย็นแต่เชื่อว่าถ้าได้ไปลองสัมผัส และเห็นกับตาตัวเองทุกท่านจะมีความสุข และรู้สึกคุ้มกับเวลามากและที่สำ�คัญทำ�ให้เรามี ความอดทน ทำ�ให้เราได้ชนะใจตัวเองได้อีกด้วย


ME STYLE

ARTS & ENTERTAINMENT นันทกร ศรีนามบุรี อลิสา ลุนจันทร์

ผู้หญิงจำ�นวนมากฝันอยากเป็น “นางงาม” แต่อาชีพนี้เป็น ศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยทักษะหลายด้าน ทั้งการเดิน การโพสต์ท่า การพูด การไหว้ การยิ้ม และอีกมากมาย และ คนอยู่เบื้อง หลังนางงามทำ�งานหนักไม่แพ้กัน

“ป้าเป็นคนขี้เหร่ที่สุดในบ้าน แต่ตามพี่สาวไปงานประกวดชอบความสวยงาม ประกวดเองไม่ได้ ก็ไปเรียน แล้วมาปั้น มาส่งคนสวยๆ ให้ได้ไปเป็นนางงาม” ป้าศรีเวียง ตันฉาย เล่าถึงจุดเริ่มต้นสู่การเป็นพี่เลี้ยง นางงาม....ที่เริ่มจาก “ป้าได้ส่งคนสวยขึ้นประกวดเวทีใหญ่ๆ และน่าทึ่งมากที่การไปประกวดครั้งแรกก็คว้ารางวัลมาได้ หญิง งามคนนั้น คือ คุณสาวิณี ปะการะนัง ปีนั้นใครสูงถือเป็นเรื่องแปลก และป้าศรีเวียงได้เป็นคนเปิดศักราช นำ�สาวสูงส่งเข้าประกวด จึงทำ�ให้คว้ารางวัลไปได้อย่างสมเกียรติ เมื่อพูดถึงลักษณะนางงามนั้น ป้าได้พูด ด้วยถ้อยคำ�หวานๆอย่างช้าๆ ว่า “นางงามนั้นต้องมีความสวยตั้งแต่ใจ สวยแบบหญิงไทย แบบบุคลิกภาพดี” ลักษณะที่ครบตามประการที่พูด ป้าก็จะส่งคนสวยแต่ละคนขึ้นประกวดตามเวทีต่างๆไม่ว่าจะเวทีเล็กหรือใหญ่ ก็ไม่เกี่ยง มีความมานะ ความชอบ และความตั้งใจเป็นแรงผลักดัน ทำ�มาเวลานานกว่า 45 ปี ในการส่งสาวงาม มาแล้วหลายพันคน” นิยามคำ�ว่านางงาม ที่ใครๆก็ฝันอยากจะเป็น แต่เรารู้หรือเปล่าว่า นางงาม คืออะไร นอกจาก ความสวยตั้งแต่จิตใจอย่างเช่นที่ป้าคิดอยู่เสมอว่าคำ�ว่านางงามนั้น ต้องงามจากข้างในส่งมาถึงใจ และงามจากใจส่งผลมาที่หน้าตาโดยธรรมชาติ เหมือนเวลายิ้มใจเราจะส่งมาที่ปาก แล้วจากปากก็ส่งมาที่ ตาประกายแวววาวที่ไม่ได้มีแค่นางงามแต่มีกับเราทุกคนเพียงแค่ส่งจิตใจที่งดงามออกมา คำ�ว่านางงามที่ ไม่ใช่เพียงบุคคลสวย ก็เป็นนางงามในอีกมุมมิติหนึ่งในความคิดของเราได้เหมือนกัน หากเรายิ้มออกมาจากใจ เพราะเรื่องความสวยภายนอกมันสามารถตกแต่งได้ เมื่อป้าพูดถึงเหตุผลว่าทำ�ไมต้องมีการประกวดนางาม ป้าศรีเวียงได้ให้ความหมายว่า เพราะ คนสวยเปรียบเสมือนดอกไม้ประจำ�โลก ทั่วโลกมีการ ประกวดหมด มวลดอกไม้ที่มาอยู่รวมกันยิ่งเป็นที่หน้าตื่นตาตื่นใจของคนดู นอกจากความสวยที่เราได้เชยชมแล้ว ยังเป็นการขับความเครียดออกจากสมอง อย่างการได้มาดูประกวดนางงามก็ทำ�ให้ได้เห็นอีกมุมหนึ่ง ที่เกิดจากนางงามนั่นเอง นางงามเดินตลกบ้าง ล้มบ้าง ยิ้มแล้วตลกบ้าง คนชมก็เกิดอารมณ์ขันขึ้นมา ได้ และเหตุผลของการประกวดอีกอย่าง คือ การได้ใช้ความสวยในทางที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ได้เป็นตัวแทน เป็นเกียรติภูมิ ต่อตนเอง ต่อตระกูล ส่งผลไปถึงการศึกษาจะดีขึ้น จากการมีรายได้จุนเจือที่ได้มาจากการประกวด เหลือใช้ไว้เพิ่มพูนฐานะให้แก่ทางบ้านอีกทางด้วย กว่าจะสร้างตัวตนให้ตัวเองได้เข้าประกวดการเป็นนางงามได้นั้น นอกจากความสวยที่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นางงามยังต้อง สะอาด บริสุทธิ์ ดูแลตัวเองทั้ง ร่างกายและรักษาความประพฤติ หากมีประวัติไม่ดี ใครจะยอมรับ ใครจะชื่นชอบในตัวของเราเอง หลีกเลี่ยงทุกอย่างที่ทำ�ให้ตัวเองเสียหาย และทุนเดิมของจิตใจ ที่เหล่านางงามต้องมีสิ่งนั้นอยู่แล้ว คือ ความกตัญญูเป็นอันดับหนึ่งต่อพ่อแม่ ครูอาจารย์ และผู้มีพระคุณ นางงามที่จะเป็นได้นั้นต้องมีคุณลักษณะอีกอย่าง คือ ดูแลตัวเองให้มีคุณสมบัติของลูกผู้หญิง แม้ในยุคสมัยนี้จะยากก็ตาม ป้าศรีเวียงก็ให้ความหมายใหม่ไว้ว่า “ถึงแม้เราจะมีคุณสมบัตินั้นไม่ครบ 100 แต่พยายาม รักษาเอาไว้ให้ได้มากที่สุด” ในปัจจุบันเวทีการค้นหาสาวงามมีความหลากหลาย เวทีที่เปิดรับแนวคิดใหม่ๆที่เปลี่ยนผันไปตามยุคสมัยและความเหมาะสม บวกกับประเทศไทยที่เปิดรับความเป็นสากลเข้ามา จึงไม่จำ�กัดเพศ สีผิว และเพื่อเตรียมพร้อมในการประกวดเวทีโลก จึงต้องมีความหลากหลายของการค้นหา นางงามหลากหน้าหลายตามากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานเดิมจากอดีต นางงามในยุคนี้ เก่ง มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากอดีต จนทำ�ให้ บางครั้งอาจลืมความเป็นไทยของเราเองที่เหลือน้อยนัก แต่ป้าศรีเวียงก็ได้พยายามปลูกฝังให้เสมอ จากประเด็นการที่นางงามใช้โซเชียลผิดวิธีจนทำ�ให้เป็นข่าวดังในหลายๆกรณี เป็นเรื่องที่ป้าได้เตือนอยู่บ่อยๆ และแนะวิธีการใช้โซเชียลอย่างถูกต้อง ไม่เพียงเฉพาะนางงาม ฝากถึงทุกๆคนว่า.. เราควรใช้เพื่อค้นหาประโยชน์ดีกว่า การทะเลาะกันการสร้างปัญหาหรือการหาผลประโยชน์ และตัวอย่างก็มีให้เห็น อยู่มากมายจากการใช้โซเชียล โพสต์ด่าทอกันมาเรื่อยๆ นั้นก็เกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีจากตัวเราเอง ไม่ว่าจะโด่งดังมาจากไหนหรือเป็นบุคคลธรรมดา การกระทำ� แบบนี้ไม่สมควรจะปรากฏในสังคมไทยให้เห็นและเมื่อผิดก็ควรกล่าวคำ�ขอโทษยอมรับในสิ่งที่ผิดพลาด ป้าจึงแนะนำ�ว่าให้ใช้ในทางที่ถูกและเป็นประโยชน์จะดี กว่า


1. ประพฤติดี มีการวางตัวในสังคมที่เหมาะสม และไม่มีประวัติที่เสียๆหายๆ

2. มีคุณสมบัติของความเป็นลูกผู้หญิง คือ ยังคง ไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ 3. ฝึกฝนตนเองให้มีทักษะที่ดี ตั้งแต่ การ เดิน การไหว้ การยิ้ม การตอบคำ�ถาม การให้ สัมภาษณ์ รวมถึงมารยาทและการวางตัว

5. ต้องงามตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำ�ให้ ตัวเองสวยไม่ว่าจะด้วยวิธีธรรมชาติ หรือไม่ธรรมชาติก็ตาม

4. มีความมั่นใจ กล้าแสดงออกแบบสากล แต่ไม่ลืมความเป็นไทย

6. นางงามต้องไม่ลืมพระคุณ และตอบแทนคุณบิดามารดา ครู อาจารย์ และผู้มีพระคุณ

7. ประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ ดีของสังคม นางงามคือตัวแทน ของคนทั้งประเทศ คือต้นแบบ ของคนอีกหลายๆคน


ME STYLE DINING

ศศิธร บุญขาว แพรวา คงฟัก

มาเป็น “ฮีโร่” ที่บาร์สไตล์ใหม่เอาใจวัยรุ่น

“เหล่าวายร้ายเริ่มเคลื่อนไหวภารกิจใหม่ ของซูเปอร์ฮีโร่ คือ การปกป้องโลกในเหตุการณ์ ร้ายแรง ที่กำ�ลังจะเกิดขึ้น จากสงครามระหว่าง เหล่าวายร้ายที่จะมายึดครองโลก และซูเปอร์ฮีโร่ผู้ ผดุงความยุติธรรม สุดท้ายแล้วใครจะเป็นผู้ชนะ” วลี เ ด็ ด โดนใจที่ แ สนคุ้ น หู ข องคอหนั ง ซู เ ปอร์ ฮี โร่ ถู ก หยิ บ ยกมาเกริ่ น ให้ กั บ ร้ า นอาหาร ที่มีไลฟ์สไตล์ฮีโร่ แปลก แหวกแนว นั่นก็คือร้าน Hero Food & Gathering ร้านอาหารฟิวชั่นสไตล์ฮีโร่ที่ไม่เหมือนใคร โดยซูเปอร์ฮโี ร่เหล่านีถ้ กู ซือ้ ลิขสิทธิจ์ ากค่าย DC และ Marvel ใช้ในการตกแต่งร้าน ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่า ซูเปอร์ฮโี ร่และภาพวาดทีล่ กู ค้าสามารถร่วมถ่ายรูป ได้ภายนอกร้านมีปา้ ยร้านใหญ่โต มองขึน้ ไปข้างบน คุณจะพบกับ Spider-Man ที่คอยต้อนรับอยู่บน หลังคา บรรยากาศภายในร้านเย็นสบาย เหมาะกับ การพักผ่อน อาหารอร่อยลํ้า

นายนิธิศ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา หรือ พี่มิน เจ้าของร้าน Hero Food & Gathering บอกว่า ความชอบที่มีต่อหนังซูเปอร์ฮีโร่ คือแรงบันดาล ใจในการทำ�อาหาร “อยากสร้างพื้นที่ให้กับความ ชอบส่วนตัว ทั้งเรื่องของความชอบต่อหนังแนวซู เปอร์ฮีโร่ และชอบการทำ�อาหาร ตะลอนชิมมาทั่ว ทั้งในและนอกประเทศแล้ว ถึงเวลาเอาความชอบ มาทำ�ความฝัน ร้านอาหารเล็กๆแนวใหม่ ให้คนที่

ชอบซูเปอร์ฮีโร่มารวมตัวกันได้ เป็ น ที่ เ ล็ ก ๆสำ � หรั บ คนที่ ช อบ อะไรเหมื อ นกั น สะสมของ ซูเปอร์ฮีโร่ คอเดียวกัน มาเจอ มาสนุกในบรรยากาศที่หลุดไป ในโลกของตั ว ละครที่ เราคลั่ ง ไคล้เหมือนกัน” เมนูอาหารของ ร้านเป็นอาหารสไตล์ฟิวชั่น เมนู ย อดฮิ ต ของร้ า น คื อ Grilled NZ Lamb Chops with Kaprao Sauce ข้าวผัดเสิร์ฟคู่กับซี่โครงแกะย่างราดซอสกะเพรา ซึ่งไม่ค่อยมีใครทำ�กัน แต่พอลองชิมแล้วก็รสชาติ ลงตัว ได้ความรู้สึกแปลกไปจากจานปกติที่เคย ทาน นอกจากนั้นแล้วยังมี Thai-style Grilled Beef with Chilli Sauce เนื้อย่างแบบไทยๆ เสิร์ฟคู่กับน้ำ�จิ้มแจ่ว รสชาติไทยแท้เป็นที่ถูกอก ถูกใจเหล่าลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมในร้าน เมนูของ หวานก็ไม่ท�ำ ให้ผดิ หวังกับเมนูทชี่ อื่ ว่า Lemon Tart ทาร์ตเลมอนทานคูก่ บั ไอศกรีม ทีเ่ ป็นการผสมผสาน กันระหว่างความเปรีย้ วของเลมอน และความหวาน ของไอศกรีมอย่างลงตัว “ช่วงแรกที่เปิด ขายไม่ค่อยดี เพราะยังตี โจทย์คนทานไม่แตก ของแต่งร้านก็น้อย ก็เลยปิด ปรับปรุงใหม่ ทำ�ให้มนั ดูเป็นบาร์มากขึน้ หลังจากที่ ได้ปดิ ปรับปรุงร้านแล้วนัน้ กระแสตอบรับก็ดขี นึ้ ช่วง ปีทผี่ า่ นมารายได้อยูท่ ปี่ ระมาณ 400,000 บาท/เดือน สิง่ ทีไ่ ด้เรียนรูค้ อื อย่างแรกเลยทางร้านจะมีเป้าหมาย ไปทีก่ ลุม่ คนไทยมากไปหน่อย ในขณะทีเ่ ราลืมคิดไป ว่าสถานทีแ่ ถวนัน้ คนไทยไม่คอ่ ยคุน้ มันเป็นสถานที่ ท่องเทีย่ วของฝรัง่ หลังๆก็เลยเปลีย่ นแนวให้มนั เป็น บาร์มากขึน้ เป็นขายกลางคืนมากขึน้ เพือ่ ให้ตรงกับ กลุม่ ลูกค้าทีอ่ ยูบ่ ริเวณนัน้ มากขึน้ ก็เลยได้ลกู ค้ามาก ขึ้น” พีม่ นิ เจ้าของร้าน Hero Food & Gathering ได้บอกถึงความหมายของฮีโร่ในอุดมคติว่า “ฮีโร่ คื อ การที่ เราทำ � อะไรที่ เรารู้ สึ ก ว่ า ทำ � ให้ ตั ว เอง

มีความสุขและทำ�ให้คนอื่นมีความสุข ยกตัวอย่าง เช่น Batman เขาออกไปช่วยเหลือคนอื่น ในขณะ เดี ย วกั น กั บ คนแค่ วั น หนึ่ ง ทำ � ให้ พ่ อ แม่ ส บายใจ ตั้งใจเรียน หรือตั้งใจทำ�งาน ก็เป็นฮีโร่ของตัวเอง และของเพื่อนๆได้” “ตัวผมอายุแค่ 23 ปี แล้วทำ�ธุรกิจกับคุณพ่อ นี่ก็เป็นธุรกิจแรกเหมือนกัน ทุกอย่างจะไม่เป็นไป ตามสิง่ ทีเ่ ราคิดอยูแ่ ล้ว ไม่ใช่วา่ เราทำ�ธุรกิจแล้วมันจะ เปรีย้ งแล้วดังเลย อย่างตัวผมเองก็ท�ำ ร้านอาหารอยู่ เปิดมาก็ไม่ใช่วา่ อยูด่ ๆี เราจะได้เงินเป็นแสนเป็นล้าน อย่างที่เราคิดหรอก เปิดมาแค่เดือนแรกเราอาจจะ ขาดทุนด้วยซาํ้ เพราะฉะนัน้ เวลาเราทำ�อะไรอย่าท้อ ให้ลองทำ�ไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นสิ่งที่เราชอบยังไงมัน ก็จะดีเอง ยังไงสักวันหนึ่งถ้าเกิดเราทำ�อยู่ดีๆมันถูก จุด หรือวันหนึ่งเทรนด์มันเป็นในแบบนั้นๆมันกลับ มาขายได้ เราก็จะมีความสุข ทำ�อะไรที่ทำ�ให้ตัวเอง มีความสุขดีกว่า”

ที่ตั้งร้าน : HERO Food & Gathering

71 ซอย สุขุมวิท 4 แขวง คลองเตย เขต คลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 ราคาอาหารอยู่ที่ประมาณ 130-450 บาท


ME STYLE TECH BUZZ อภินัท พันธ์ถิตย์ี อนุชิต ไกรวิจิตร สหรัถ แสงขาว

ส่งท้ายแก็ดเจ็ตเก่า...ต้อนรับแก็ดเจ็ตใหม่ ! เราจะขอพาท่านไปพบกับสองแก็ดเจ็ตสุดทันสมัย และ แก็ดเจ็ตหนึง่ เดียวของไทย ที่น่าจับตามองในปีนี้กัน โดยเราจะไปเริ่มกันที่ เครื่องช่วยแปลภาษาอิลี่ (ili wearable translator) ซึ่งเจ้าเครื่องช่วยแปลภาษาอิลี่นี้ เป็นนวัตกรรมตัวใหม่จากบริษัท logbar โดย เจ้าเครือ่ งแปลภาษาตัวนีจ้ ะช่วยให้การสือ่ สารกับชาวต่างชาติเป็นเรือ่ งทีง่ า่ ยขึน้ และสามารถ ใช้งานได้งา่ ยๆ เพียงแค่พดู ใส่ในเครือ่ งและเครือ่ งจะทำ�การแปลภาษาออกมาโต้ตอบได้ทนั ที ตามที่ตั้งค่าไว้ และที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ เจ้าเครื่องแปลภาษาชิ้นนี้สามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องผ่านการเปิดระบบ Wi-Fi หรือ 3G,4G ใดๆทั้งสิ้น โดยเจ้าเครื่องแปลภาษาอิลี่ ชิ้นนี้ จะมีรูปร่างที่เล็กกะทัดรัดพกพาได้สะดวก น่าจะถูกใจคนที่ชอบผจญภัยในต่างแดน แต่ไม่ เก่งภาษาจริงๆ

แก็ดเจ็ตชิ้นที่สองก็คือ แว่นตาไฮเทคหรือโปรเจค (Smart glasses) ซึ่ ง เจ้ า แว่ น ตั ว นี้ จ ะช่ ว ยให้ ผู้ พิ ก ารทางสายตามี โ อกาสมองเห็ น ได้ ม าก ขึ้ น โดยแว่ น ตาไฮเทคชิ้ น นี้ กำ � ลั ง อยู่ ใ นช่ ว งการพั ฒ นาอุ ป กรณ์ เพื่ อ ให้ ใช้ งานได้ ส มบู ร ณ์ แ บบในอนาคต โดยเจ้ า แว่ น ตั ว นี้ เ กิ ด จากการร่ ว มมื อ กั น ผลิตระหว่างมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และองค์กรช่วยเหลือผู้มองไม่เห็น (RNIB) ซึ่ ง แว่ น ตั ว นี้ จ ะไม่ ไ ด้ ทำ � ให้ ผู้ พิ ก ารทางสายตาสามารถมองเห็ น ได้ ทันทีแต่จะทำ�ให้มองเห็นสิ่งกีดขวางและใบหน้าคนที่อยู่ด้านหน้าได้ชัดขึ้น ทั้งนี้ทีมผู้พัฒนาได้สร้างแว่นตามา 100 ชิ้น และได้นำ�ไปทดสอบกับผู้พิการ ทางสายตากว่า 1,000 คน เพือ่ หาจุดทีต่ อ้ งแก้ไขกันต่อไป ซึง่ ไม่แน่วา่ ในอนาคต อาจจะถูกนำ�มาผลิตเป็นแว่นเพื่อจำ�หน่ายแก่ผู้พิการทางสายตาก็เป็นไปได้

มาถึงแก็ดเจ็ตชิน้ สุดท้าย ซึง่ จะเป็นแก็ดเจ็ตฮีโร่ หนึง่ เดียวของไทย นัน่ ก็คอื มีดกรีดยางพาราแบบอเนกประสงค์ ซึง่ เจ้ามีดกรีดยางพาราตัวนีเ้ ป็นสิง่ ประดิษฐ์ ของ คุณเกรียงศักดิ์ งามแสน หรือ “นายช่างหอย” เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 15 ต.ชานุมาน โดยเจ้าตัวมีดกรีดยางพาราตัวนี้จะไม่เหมือนกับมีดกรีดยางทั่วไป เพราะเจ้ามีดกรีดยางตัวนี้จะทำ�ให้การกรีดยางไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยการ มีระบบการปรับตั้งและการเปลี่ยนใบมีด ซึ่งป้องกันการบาดลึกเกินไปของคม มีด และสามารถปรับตั้งคมมีดให้เกิดรอยกรีดที่หนาหรือบางตามที่ต้องการได้ และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำ�ให้ชาวเกษตรกรต้องชอบอุปกรณ์ชิ้นนี้ ก็เป็นเพราะจะช่วย ให้สามารถกรีดยางพาราได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และลดปัญหาหน้ายางเสีย หายและได้ผลผลิตทีย่ าวนาน ซึง่ มีดกรีดยางพาราแบบอเนกประสงค์นา่ จะถูกใจ พี่น้องชาวเกษตรกรของไทยเราอย่างแน่นอน



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.