จรรยาบรรณนักวิจัยและแนวทางปฏิบัติ
สํานักงานคณะกรรมการวิจัยแหงชาติ เรียบเรียงใหมโดย สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคําแหง
ฉบับปรับปรุง กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๖ : สํานักพิมพมหาวิทยาลัยรามคําแหง
จรรยาบรรณนักวิจัย ความเปนมา ปจจุบันนี้ผลการวิจัยมีความสําคัญตอการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเปนอยางยิ่ง หากงานวิจัยที่ปรากฏสูสาธารณชน มีความเที่ยงตรง นําเสนอสิ่งที่เปนความจริงสะทอนใหเห็น สภาพปญหาที่เกิดขึ้นอยางแทจริง ก็จะนําไปสูการแกไขปญหาไดตรงจุดและมีประสิทธิภาพ การที่จะใหไดมาซึ่งงานวิจัยที่ดีมีคุณภาพ จําเปนจะตองมีสวนประกอบสําคัญหลายประการ นอกจากการดําเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยอยางมีคุณภาพแลว คุณธรรมหรือจรรยาบรรณ ของนักวิจัยเปนปจจัยสําคัญยิ่งประการหนึ่ง คณะกรรมการสภาวิจัยแหงชาติ สาขาสังคมวิทยา ตระหนักถึงความสําคัญของจรรยาบรรณนักวิจัยดังกลาว จึงไดริเริ่มดําเนินการยกราง จรรยาบรรณนักวิจัยเพื่อเปนมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ เพื่อใหนักวิจัย นักวิชาการ ในสาขาวิชาการตางๆ สามารถนําไปใชปฏิบัติไดโดยผานกระบวนการขอรับความคิดเห็นจาก นักวิจัย ผูทรงคุณวุฒิในสาขาตางๆ และไดปรับปรุงใหเหมาะสมรัดกุมชัดเจน จนกระทั่งไดรับ ความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารสภาวิจัยแหงชาติ ประกาศใหเปนหลักเกณฑควร ประพฤติของนักวิจัยทั่วไป วัตถุประสงค เพื่อเปนแนวทางในการประพฤติของนักวิจัยทั่วไป โดยมีลักษณะขอพึงสังวร มากกวา จะเปนขอบังคับ อันจะนําไปสูการเสริมสรางจรรยาบรรณในหมูนักวิจัยตอไป
๒ นิยาม
นักวิจัย หมายถึง ผูที่ดําเนินการคนควาหาความรูอยางเปนระบบ เพื่อตอบประเด็นที่ สงสัย โดยมีระเบียบวิธีอันเปนที่ยอมรับในแตละศาสตรที่เกี่ยวของ ซึ่งครอบคลุมทั้งแนวคิด มโนทัศน และวิธีการที่ใช ในการรวบรวมและวิเคราะหขอมูล จรรยาบรรณ หมายถึง หลักความประพฤติอันเหมาะสมแสดงถึงคุณธรรมและ จริยธรรมในการประกอบอาชีพที่กลุมบุคคลแตละสาขาอาชีพประมวลขึ้นไวเปนหลัก เพื่อให สมาชิกในสาขาวิชาชีพนั้นๆ ยึดถือปฏิบัติเพื่อรักษาชื่อเสียงและสงเสริมเกียรติคุณของสาขา วิชาชีพของตน จรรยาบรรณนักวิจัย หมายถึง หลักเกณฑควรประพฤติปฏิบัติของนักวิจัยทั่วไปเพื่อให การดําเนินงานวิจัยตั้งอยูบนพื้นฐานของจริยธรรมและหลักวิชาการที่เหมาะสม ตลอดจน ประกันมาตรฐานของการศึกษาคนควาใหเปนไปอยางสมศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของนักวิจัย ขอ ๑ นักวิจัยตองซื่อสัตยและมีคุณธรรมในทางวิชาการและการจัดการ นักวิจัยตองมีความซื่อสัตยตอตนเองไมนําผลงานผูอื่นมาเปนของตน ไมลอกเลียนงาน ของผูอื่น ตองใหเกียรติและอางถึงบุคคล หรือแหลงที่มาของขอมูลที่นํามาใชในงานวิจัย ตองซื่อตรงตอการแสวงหาทุนวิจัย และมีความเปนธรรมเกี่ยวกับผลประโยชนที่ไดจากการวิจัย ๑.๑ นักวิจัยตองมีความซือ่ สัตยตอตนเองและผูอื่น - นักวิจัยตองมีความซื่อสัตยในทุกขั้นตอนของกระบวนการวิจัย ตั้งแตการเลือกเรื่องที่ จะทําวิจัย การเลือกผูเขารวมวิจัย การดําเนินการวิจัย ตลอดจนการนําผลงานวิจัยไปใช ประโยชน - นักวิจัยตองใหเกียรติผูอื่น โดยการอางถึงบุคคลหรือแหลงที่มาของขอมูลและ ความคิดเห็นที่นํามาใชในงานวิจัย ๑.๒ นักวิจัยตองซื่อตรงตอการแสวงหาทุนวิจัย - นักวิจัยตองเสนอขอมูลและแนวคิดอยางเปดเผยและตรงไปตรงมาในการเสนอ โครงการวิจัยเพื่อขอรับทุน - นักวิจัยตองเสนอโครงการวิจัยดวยความซื่อสัตยไมขอทุนซ้ําซอน ๑.๓ นักวิจัยตองมีความเปนธรรมเกี่ยวกับผลประโยชนที่ไดจากการวิจัย - นักวิจัยตองจัดสรรสัดสวนของผลงานวิจัยแกผูรวมวิจัยอยางยุติธรรม - นักวิจัยตองเสนอผลงานอยางตรงไปตรงมาโดยไมนําผลงานของผูอื่นมาอางวา เปนของตน
๓ ขอ ๒ นักวิจัยตองตระหนักถึงพันธกรณีในการทําวิจัย ตามขอตกลงที่ทําไวกับหนวยงานที่ สนับสนุนการวิจัยและตอหนวยงานที่ตนสังกัด นักวิจัยตองปฏิบัติตามพันธกรณีและขอตกลงการวิจัยที่ผูเกี่ยวของทุกฝายยอมรับ รวมกัน อุทิศเวลาทํางานวิจัยใหไดผลดีที่สุดและเปนไปตามกําหนดเวลา มีความรับผิดชอบ ไมละทิ้งงานระหวางดําเนินการ ๒.๑ นักวิจัยตองตระหนักถึงพันธกรณีในการทําวิจัย - นักวิจัยตองศึกษาเงื่อนไข และกฎเกณฑของเจาของทุนอยางละเอียดรอบคอบ เพื่อปองกันความขัดแยงที่จะเกิดขึ้นภายหลัง - นักวิจัยตองปฏิบัติตามเงื่อนไข ระเบียบและกฎเกณฑ ตามขอตกลงอยางครบถวน ๒.๒ นักวิจัยตองอุทิศเวลาทํางานวิจัย - นักวิจัยตองทุมเทความรู ความสามารถ และเวลาใหกับการทํางานวิจัย เพื่อใหไดมา ซึ่งผลงานวิจัยที่มีคุณภาพและเปนประโยชน ๒.๓ นักวิจัยตองมีความรับผิดชอบในการทําวิจัย - นักวิจัยตองมีความรับผิดชอบ ไมละทิ้งงานโดยไมมีเหตุผลอันควร และสงงานตาม กําหนด ไมทําผิดสัญญาและขอตกลงจนกอใหเกิดความเสียหาย - นักวิจัยตองมีความรับผิดชอบในการจัดทํารายงานฉบับสมบูรณ เพื่อใหผลอันเกิด จากการวิจัยไดถูกนําไปใชประโยชนตอไป ขอ ๓ นักวิจัยตองมีพื้นฐานความรูในสาขาวิชาที่ทําการวิจัย นักวิจัยตองมีพื้นฐานความรูในสาขาวิชาการที่ทําวิจัยอยางเพียงพอ และมีความรู ความชํานาญ หรือมีประสบการณเกี่ยวเนื่องกับเรื่องที่วิจัย เพื่อนําไปสูงานวิจัยที่มีคุณภาพและ เพื่อปองกันปญหาการวิเคราะห การตีความ หรือการสรุปที่ผิดพลาด อันอาจกอใหเกิด ความเสียหายตองานวิจัย ๓.๑ นักวิจัยตองมีพื้นฐานความรู ความชํานาญหรือประสบการณที่เกี่ยวของกับเรื่อง ที่ทําวิจัยอยางเพียงพอ เพื่อนําไปสูงานวิจัยที่มีคุณภาพ ๓.๒ นักวิจัยตองรักษามาตรฐานและคุณภาพของงานวิจัยในสาขาวิชาการนั้น เพื่อปองกันความเสียหายตอวงวิชาการ
๔ ขอ ๔ นักวิจัยตองมีความรับผิดชอบตอสิ่งที่ศึกษาไมวาจะเปนสิ่งมีชีวิตหรือไมมีชีวิต นักวิจัยตองดําเนินการดวยความรอบคอบระวัดระวัง และเที่ยงตรงในการทําวิจัยที่ เกี่ยวกับคน สัตว พืช ศิลปวัฒนธรรม ทรัพยากร และสิ่งแวดลอม มีจิตสํานึกและปณิธานที่จะ อนุรักษ ศิลปวัฒนธรรม ทรัพยากรและสิ่งแวดลอม ๔.๑ การใชคนหรือสัตวปาเปนตัวอยางทดลอง ตองทําในกรณีที่ไมมีทางเลือกอื่น เทานั้น ๔.๒ นักวิจัยตองดําเนินการวิจัยโดยมีจิตสํานึกที่จะไมกอใหเกิดความเสียหายตอคน สัตว พืช ศิลปวัฒนธรรม ทรัพยากร และสิ่งแวดลอม ๔.๓ นักวิจัยตองมีความรับผิดชอบตอผลที่จะเกิดแกตนเอง กลุมตัวอยางที่จะใชใน การศึกษาและสังคม ขอ ๕ นักวิจัยตองเคารพศักดิ์ศรี และสิทธิของมนุษยที่ใชเปนตัวอยางในการวิจัย นักวิจัยตองไมคํานึงถึงผลประโยชนทางวิชาการจนละเลย และขาดความเคารพใน ศักดิ์ศรีของเพื่อนมนุษย ตองถือเปนภาระหนาที่ที่จะอธิบายจุดมุงหมายของการวิจัยแกบุคคล ที่เปนกลุมตัวอยาง โดยไมหลอกลวงหรือบีบบังคับ และไมละเมิดสิทธิสวนบุคคล แนวทางปฏิบัติ ๕.๑ นักวิจัยตองมีความเคารพในสิทธิของมนุษยที่ใชในการทดลองโดยตองไดรับ ความยินยอมกอนทําวิจัย ๕.๒ นักวิจัยตองปฏิบัติตอมนุษยและสัตวที่ใชในการทดลองดวยความเมตตา ไมคํานึงถึงแตผลประโยชนทางวิชาการจนเกิดความเสียหายที่อาจกอใหเกิดความขัดแยง ๕.๓ นักวิจัยตองดูแลปกปองสิทธิประโยชนและรักษาความลับของกลุมตัวอยางที่ใชใน การทดลอง ขอ ๖ นักวิจัยตองมีอิสระทางความคิดโดยปราศจากอคติในทุกขั้นตอนของการทําวิจัย นักวิจัยตองมีอิสระทางความติด ตองตระหนักวา อคติสวนตนหรือความลําเอียง ทางวิชาการ อาจสงผลใหมีการบิดเบือนขอมูลและขอคนพบทางวิชาการ อันเปนเหตุใหเกิด ผลเสียหายตองานวิจัย ๖.๑ นักวิจัยตองมีอิสระทางความคิด ไมทํางานดวยความเกรงใจ ๖.๒ นักวิจัยตองปฏิบัติงานโดยใชหลักวิชาการเปนเกณฑ และไมมีอคติมาเกี่ยวของ ๖.๓ นักวิจัยตองเสนอผลงานวิจัยตามความเปนจริง ไมจงใจเบี่ยงเบนผลการวิจัย โดยหวังผลประโยชนสวนตนหรือตองการสรางความเสียหายแกผูอื่น
๕ ขอ ๗ นักวิจัยพึงนําผลงานวิจัยไปใชประโยชนในทางที่ชอบ นักวิจัยพึงเผยแพรผลงานวิจัยเพื่อประโยชนทางวิชาการและสังคม ไมขยายผล ขอคนพบจนเกินความเปนจริง และไมใชผลงานวิจัยไปในทางมิชอบ ๗.๑ นักวิจัยพึงมีความรับผิดชอบและรอบคอบในการเผยแพรผลงานวิจัย ๗.๒ นักวิจัยถึงเผยแพรผลงานวิจัยโดยคํานึงถึงผลประโยชนทางวิชาการและสังคม ไมเผยแพรผลงานวิจัยเกินความเปนจริงโดยเห็นแกประโยชนสวนตนเปนที่ตั้ง ๗.๓ นักวิจัยพึงเสนอผลงานวิจัยตามความเปนจริง ไมขยายผลขอคนพบโดยปราศจาก การตรวจสอบยืนยันในทางวิชาการ ขอ ๘ นักวิจัยพึงเคารพความคิดเห็นทางวิชาการของผูอื่น นักวิจัยพึงมีใจกวางพรอมที่จะเปดเผยขอมูลและขั้นตอนการวิจัย ยอมรับฟง ความคิดเห็นและเหตุผลทางวิชาการของผูอื่น และพรอมที่จะปรับปรุงแกไขงานวิจัยของตน ใหถูกตอง ๘.๑ นักวิจัยพึงมีมนุษยสัมพันธที่ดี ยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสรางความเขาใจ ในงานวิจัยเกี่ยวกับเพื่อนรวมงานและนักวิชาการอื่นๆ ๘.๒ นักวิจัยพึงยอมรับฟง แกไขการทําวิจัยและการเสนอผลงานวิจัยตามขอแนะนําที่ดี เพื่อสรางความรูที่ถูกตอง และสามารถนําผลงานวิจัยไปใชประโยชนได ขอ ๙ นักวิจัยพึงมีความรับผิดชอบตอสังคมทุกระดับ นักวิจัยมีจิตสํานึกที่จะอุทิศกําลังสติปญญาในการทําวิจัย เพื่อความกาวหนาทาง วิชาการ เพื่อความเจริญและประโยชนสุขของสังคมและมวลมนุษยชาติ ๙.๑ นักวิจัยพึงไตรตรองหาหัวขอการทําวิจัยดวยความรอบคอบและทําการวิจัย ดวยจิตสํานึกที่จะอุทิศกําลังปญญาของตนเพื่อความกาวหนาทางวิชาการ เพื่อความเจริญ ของสถาบัน และประโยชนสุขตอสังคม ๙.๒ นักวิจัยพึงรับผิดชอบในการสรางสรรคผลงานวิชาการเพื่อความเจริญของสังคม ไมทําการวิจัยที่ขัดกับกฎหมาย ความสงบเรียบรอย และศีลธรรมอันดีของประชาชน ๙.๓ นักวิจัยพึงพัฒนาบทบาทของตนใหเกิดประโยชนยิ่งขึ้น และอุทิศเวลา น้ําใจ กระทําการสงเสริมพัฒนาความรู จิตใจ พฤติกรรมของนักวิจัยรุนใหมใหมีสวนสรางสรรค ความรูแกสังคมสืบไป ********************************
ธรรมจักร พรหมพวย / พิมพ ๙ กุมภาพันธ ๒๕๕๙