27–28th 11, 2019
THAILAND’S MOST EXCITING ENERGY EVENT
27–28 ǑǗǝƵ˫ƮǦǕnj 2562
˚ Ǧ nj˫NJǖǖǝƮǦǖLJ˝ǦnjǑǙ˘ƴƴǦnjNJ˭nj˚ ˚ LJƯǣƴǎǖǥǨNJǝǬNJǕ Lj˱˚njǨLj˝njNJ˭ǟ˺
IMPACT Convention Center, Bangkok Ǩǔ˱ǣƴNJǣƴNjǦnj˭
ǙǙƴNJǥǨǍ˭ǕnjǨƯ˝Ǧǖ˚ǜǔƴǦnjǬLJ˝ǒǖ˭Ljǣnjnj˭˝
REGISTER FOR FREE NOW: www.terrapinn.com/visitfreeexpo-TH-GNT
Ʈǜ˚Ǧ Ƕǯ Ǐ˼ǟ ˝ nj˘Ǎǟnj˺njǩǙǥǏ˼Ƶ ˝ ˘LJǩǟLJƴƴǦnj | Ʈǜ˚Ǧ ǰDZǯ Ǡ˘ǜƯ˝ǣƮǦǖǟ˘ǔǔnjǦǟ˳ǦǠǖ˘ǍǨƯ˝Ǧǖ˚ǜǔǒǖ˭ | Ʈǜ˚Ǧ DZǯǯǯ Ǐ˼Ǩ˝ Ư˝Ǧǖ˚ǜǔƴǦnj
70+ SPONSORS & EXHIBITORS | 120+ FREE CONFERENCE SESSIONS | 2000+ ATTENDEES
ǖǥǍǍǟ˚ƴǩǙǥƵ˳ǦǠnj˚ǦǕǬǒǒ̋Ǧ Ȳ ʒ% ŧŃĮŸŰĚŃĹŧȳ ʒ ǖǥǍǍǬǒǒ̋ǦǫnjƷnjǍNJ Ȳ ŸŠÒĮ úĮúîŰŠĚîĚƥîÒŰĚŃĹȳ
ǑǙ˘ƴƴǦnjǩǟƴǣǦNJ˫LjǕ˥ǩǙǥƮǦǖƮ˘Ʈ ǨƮ˨ǍǑǙ˘ƴƴǦnj Ȳ ŃĮÒŠ ɪ ŰŃŠÒĎúȳ ʒ ǖǥǍǍǬǤǍǖ˫LJ ȲEƗíŠĚô ŧƗŧŰúķŧȳ
ǖǥǍǍǪƱǖƴƯ˚ǦǕǬǒǒ̋Ǧǣ˘Ƶƶǖ˫Ǖǥ Ȳ ķÒŠŰ ĎŠĚôȳ ʒ ǩǙǥ ǨƱǖ˱ǣƯ˚ǦǕ ǖǥǍǍǬǒǒ̋ǦǕ˚ǣǕ ȲeĚîŠŃĎŠĚôŧȳ
Ʈ˘ƴǠ˘njǙǔȢ Ʈǖǥǎ˺ƮǨǒ˱ ǣƴǨƮ˭Ǖǖ˥Ȣ ǠǣƱǣǕ Ȳ¾ĚĹô ŰŸŠíĚĹúŧȢ ĎúÒŠíŃƖúŧ ʒ ŰŃƑúŠŧȳ
ǫƷ˝ǑǙ˘ƴƴǦnjǩǟƴǣǦNJ˫LjǕ˥ Ȳ ŃĮÒŠ ÒŝŝĮĚÒĹîúŧȳ ȼ ǬǒȢ ǨƱǖ˱˚ǣƴNJ˳ǦƱǜǦǔ ǖ˝ǣnjȢ ǨƱǖ˱˚ǣƴǟ˼Ǎnj˝˳Ǧ
ǑǙ˘ƴƴǦnjLjǦǔǩǍǍ Ȳ ŃĹƐúĹŰĚŃĹÒĮ ŝŃƑúŠȳ ʒ ǖǥǍǍǨƱǖ˱˚ǣƴǟ˳ǦǖǣƴǬǒǒ̋Ǧ Ȳ¥ ŧƗŧŰúķŧȳ
ǩǍLjǨLjǣǖ˭˚ Ȳ ÒŰŰúŠĚúŧȳ
ǨƱǖ˱˚ǣƴǫƷ˝Ǭǒǒ̋ǦǎǖǥǠǕ˘LJǑǙ˘ƴƴǦnj Ȳ+ĹúŠĎƗ účƥîĚúĹŰ ÒŝŝĮĚÒĹîúŧȳ
Ʈ˘ƴǠ˘njǙǔǟ˳ǦǠǖ˘ǍNJ˭˚ǣǕ˼˚ǣǦǝ˘Ǖ Ȳ úŧĚôúĹŰĚÒĮ ƑĚĹôȳ
Jp Ȣ íĮŃîīîĕÒĚĹȢ ôŠŃĹúŧ
Ʈ˘ƴǠ˘njǙǔǫnjNJǥǨǙ ȲpččŧĕŃŠú ¾ĚĹôȳ
ǑǙ˘ƴƴǦnjǩǟƴǣǦNJ˫LjǕ˥ǍnjƷ˘˝njLJǦLJǒ̋Ǧ Ȳ ŃĮÒŠ ŃŃčŰŃŝŧȳ
ǪƱǖƴƮǦǖLJ˝ǦnjƮǦǖǨƴ˫njǩǙǥƮǦǖǙƴNJ˺nj ȲJĹƐúŧŰĚĹĎ ʒ =ĚĹÒĹîĚĹĎ ŝŠŃĨúîŰŧȳ
ǩǏƴǪƸǙ˚ǦǨƸǙǙ˥ Ȳ ŃĮÒŠ ŝÒĹúĮŧȳȢ ǣ˺ǎƮǖdž˥ǕLJ ˯ Lj˫LJ ȲķŃŸĹŰĚĹĎ ʒ ŠÒîīĚĹĎȳ ʒ ǨƱǖ˱˚ǣƴǩǎǙƴƮǖǥǩǟ Ǭǒǒ̋Ǧ ȲĚĹƐúŠŰúŠŧȳ ǣ˺ǎƮǖdž˥NJ˭˚
ǓǦǕǫnjǩǠǙ˚ƴǑ˘ƮǣǦǝ˘Ǖ Ȳ úŧĚôúĹŰĚÒĮ ȳȮ ǨƷ˫ƴǑǦdž˫ƷǕ˥ Ȳ ŃķķúŠîĚÒĮȳ Ȯ ǖǥǍǍ ǟǦNjǦǖdž˼ǎǪǓƱ Ȳ ¥ŰĚĮĚŰƗȺŧîÒĮú ŧƗŧŰúķŧȳ
REGISTER FOR FREE NOW: www.terrapinn.com/visitfreeexpo-TH-GNT
Contents September-October 2019 Green Industry 7
พัฒนาสูความยั่งยืน by ดร.วิฑูรย สิมะโชคดี
Green Report 8 10
พิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry Award) ป 2562 ยกระดับโรงงานไทยที่เปนมิตรกับสิ่งแวดลอม by กองบรรณาธิการ โกลบอลกรีนเคมิคอล และ ที.ซี.ฟารมาซูนิคอลฯ 2 บริษทั รางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว มุง ผลิตสินคาเปนมิตรตอสิง่ แวดลอม by กองบรรณาธิการ
38
Green Focus
20 โรงไฟฟาชุมชน สวัสดิการแหงรัฐ…รูปแบบใหม 26 35
Green Factory 11
BMW เปดตัวโรงงานประกอบแบตเตอรี่รถยนตปลั๊กอินไฮบริด ในนิคมอุตสาหกรรม จ.ชลบุรี by กองบรรณาธิการ
14
24
ปตท. จับมือ GPSC รวมวิจยั โรงงานแบตเตอรีต่ น แบบ ตอยอดการผลิต เชิงพาณิชย by กองบรรณาธิการ ภาครัฐ-ภาคเอกชนไทย รวมกับ ญี่ปุน จัดงาน Maintenance and Resilience Asia 2019 ยกระดับภาคการผลิตโรงงานในไทยและคมนาคมใหเทียบเทาญี่ปุน by กองบรรณาธิการ “PEA Solar Hero” “One Stop Service” เพื่อการผลิตไฟฟาจาก “Solar Rooftop” by กองบรรณาธิการ
22
การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนดานพลังงาน ครั้งที่ 37 เวทีความรวมมือ ดานพลังงานของอาเซียน by กองบรรณาธิการ
Green World 15
ทั่วโลกผนึกพันธมิตรโรงงานสีเขียวรักษสิ่งแวดลอม by กองบรรณาธิการ
Green Article 16 18 27
การประเมินวัฏจักรชีวิต : เครื่องมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรม by ผศ. ดร.ธภัทร ศิลาเลิศรักษา JGSEE มจธ. ดรามา เรื่อง PM 2.5 ตอน 4 : รูใหไว ไหวใหทัน by รศ. ดร.ศิริมา ปญญาเมธีกุล, ศ. กิตติคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ “ตุกตุก” รถเครื่องสามลอไทย พัฒนาสูรถตุกตุกไฟฟาดัดแปลง สําหรับธุรกิจ SME ไทย ตอน : เสนทางกวา…จะมาเปนรถตุกตุกไฟฟา by ผศ. ดร.ชนะ เยี่ยงกมลสิงห
กรมโรงงานอุตสาหกรรม เดินหนาผลักดันใหทุกโรงงานพัฒนา สูการเปนอุตสาหกรรมสีเขียว by กองบรรณาธิการ
Green Building
28 “สินธร ตนสน” อาคารเขียว อนุรักษพลังงานและสิ่งแวดลอม by กองบรรณาธิการ
Smart City 30
กระทรวงมหาดไทย จับมือ การอุดมศึกษาฯ นําเทคโนโลยี สวทช. พัฒนาเมืองอัจฉริยะ ชวยบริหารจัดการสิ่งแวดลอมเมือง by กองบรรณาธิการ
Energy Saving 32
Special Scoop 13
by พิชัย ถิ่นสันติสุข วาดวยเรื่องของ “Flexibility Options of Power Systems” by นรินพร มาลาศรี การไฟฟาสวนภูมิภาค จัดงาน Innovation Day 2019 ขับเคลื่อนสู PEA Digital Utility เปนองคกรแหงนวัตกรรม by กองบรรณาธิการ
Green People
Green Scoop 12
ไบโอพลาสติกที่ (อาจ) ไมยอยสลาย by ดร.กริชชาติ วองไวลิขิต, ดร.ณัฐวิญญ ชวเลิศพรศิยา, ศ. ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล
สวทช. รวมกับ สนพ. จัดสัมมนาเสนอผลงานวิจัยดานระบบกักเก็บ พลังงาน by กองบรรณาธิการ
33 Green Biz Green Technology & Innovation 36 2019 Taiwan Trade Mission of Green Technology to Thailand โชวโซลูชั่นเทคโนโลยีลดการใชพลังงาน นวัตกรรมอัจฉริยะ by กองบรรณาธิการ
Green Travel 40 มูลนิธิชัยพัฒนา จับมือ อพท. เปด 6 เสนทางเที่ยวคุงบางกะเจา
41
โครงการ Green Tourism “เทีย่ วอยางไรใหยงั่ ยืน ตามศาสตรพระราชา” อพท. พัฒนาประวัติศาสตรทองเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี เปนชุมชนตนแบบ อนุรักษทรัพยากรทองถิ่น by กองบรรณาธิการ สนง.การทองเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร เปดเสนทางทองเที่ยว “3 ธรรม” สรางรายไดใหชุมชนและประเทศ by กองบรรณาธิการ
ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ฯพณฯ พลอากาศเอก กําธน สินธวานนท คณะที่ปรึกษา ดร.ปยสวัสดิ์ อัมระนันทน นินนาท ไชยธีรภิญโญ ดร.อัศวิน จินตกานนท ศ. ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ดร.ประเสริฐ ภัทรมัย พานิช พงศพิโรดม ประสงค ธาราไชย ดร.กมล ตรรกบุตร ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ดร.วิฑูรย สิมะโชคดี ไกรฤทธิ์ นิลคูหา ดร.สุรพล ดํารงกิตติกลุ ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ชาย ชีวะเกตุ รศ. ดร.สิงห อินทรชูโต บรรณาธิการอํานวยการ/บรรณาธิการผูพิมพโฆษณา กิตติ วิสุทธิรัตนกุล บรรณาธิการ กิตติ วิสุทธิรัตนกุล ที่ปรึกษากองบรรณาธิการ นิภา กลิ่นโกสุม กองบรรณาธิการ นริศรา ออนเรียน เลขานุการกองบรรณาธิการ ปฐฐมณฑ อุยพัฒน พิสูจนอักษร ธิดาวดี บุญสุยา ศิลปกรรม ศศิธร มไหสวริยะ ประสานงาน ภัทรกันต กิจสินธพชัย ผูจัดการฝายการตลาด เขมจิรา ปลาทิพย ฝายการตลาด กัลยา ทรัพยภิรมย เลขานุการฝายการตลาด ชุติมันต บัวผัน ฝายวิเทศสัมพันธ ศิรินทิพย โยธาพันธ แยกสี บริษัท คลาสิคสแกน จํากัด โรงพิมพ หจก.รุงเรืองการพิมพ
เจาของ บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จํากัด
471/3-4 อาคารพญาไทเพลส ถนนศรีอยุธยา แขวงทุงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท 0-2354-5333 (ฝายการตลาด Ext. 230) แฟกซ 0-2640-4260 http://www.technologymedia.co.th http://www.greennetworkthailand.com E-Mail : editor@greennetworkthailand.com
สวัสดีครับ ทานสมาชิกและทานผูอานทุกทาน Green Network เลมที่ 95 นี้ กําลังขยับเขาสูไ ตรมาสที่ 4 กอนจะสงทายปหมู กันแลว ภาคสวนโรงงานอุตสาหกรรมตางๆ เตรียมปดยอดผลประกอบการกันยกใหญ แตเหนือสิง่ อืน่ ใดในฐานะผูป ระกอบการไมเพียงแคยอดตัวเลขผลกําไร-ขาดทุนเทานัน้ แตตอ งดําเนินธุรกิจอยูบ นความรับผิดชอบตอสังคมดวย โดยเฉพาะการใสใจตอปญหา สิ่งแวดลอมทั้งภายในและภายนอกบริษัท มาเริม่ ตนกันทีค่ อลัมนซงึ่ เกีย่ วของโดยตรงกับภาคโรงงานอุตสาหกรรม Green Industry ซึง่ ดร.วิฑรู ย สิมะโชคดี ไดนาํ เสนอเรือ่ งราวทีเ่ นนในเรือ่ งของการปรับปรุง องคกรไปสู “อุตสาหกรรมสีเขียว” ถือเปนวิธกี ารหนึง่ ทีจ่ ะนําไปสูค วามยัง่ ยืนได Green Report เปนพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry Award) ป 2562 ใหแกสถานประกอบการที่ไดรับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 4 จํานวน 115 ราย และสถานประกอบการทีไ่ ดรบั การรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 5 จํานวน 24 ราย สอดคลองกับ Green People ทางกองบรรณาธิการไดมโี อกาสสัมภาษณพเิ ศษ ทานอธิบดีและรองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ไดเดินหนาผลักดันใหทกุ โรงงาน พัฒนาสูก ารเปนอุตสาหกรรมสีเขียวอยางไร และพรอมสงเสริมผูป ระกอบการพัฒนา เขาสูก ารเปนอุตสาหกรรมสีเขียว 5 ระดับ โดยจะผลักดันใหไดรบั ใบรับรองอุตสาหกรรม สีเขียวเพิ่มขึ้นปละ 2,000 ราย Green World นําเสนอเรือ่ ง “ทัว่ โลกผนึกพันธมิตรโรงงานสีเขียวรักษสงิ่ แวดลอม” ผูประกอบการภาคอุตสาหกรรมองคกรระหวางประเทศตางๆ ทั่วโลกใหความสนใจ ดานสิง่ แวดลอมเปนอยางมาก เชน Fuenix Ecogy Group ตัง้ อยูใ นเมืองเวียรต ประเทศ เนเธอรแลนด ไดทาํ ขอตกลงรวมกับ ดาว (NYSE: DOW) ประเทศสหรัฐอเมริกา เพือ่ ใหเปนมาตรฐานสากลวาดวยความรับผิดชอบตอสังคมและสิ่งแวดลอม Green Factory พาไปเยี่ยมชม โรงงานประกอบแบตเตอรี่รถยนตปลั๊กอิน ไฮบริดของ BMW ในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เปนโรงงานประกอบโมดูลและ ตัวแบตเตอรีแ่ หงแรกและแหงเดียวในภูมภิ าคอาเซียนนี้ และยังไดรบั เกณฑมาตรฐาน โรงงานเปนมิตรตอสิ่งแวดลอม Green Technology&Innovation ประเทศไตหวัน จัดงาน 2019 Taiwan Trade Mission of Green Technology to Thailand โชว โซลูชนั่ เทคโนโลยีลดการใชพลังงาน นวัตกรรมอัจฉริยะ เปนการพบปะและเจรจาธุรกิจ คูคากับประเทศไทย ซึ่งไตหวันเปนประเทศที่มีการใชพลังงานอยางคุมคา จึงทําให ประชากรลดอัตราการสิ้นเปลืองไฟฟามาอยางยาวนาน ปดทาย Green Focus โดยการไฟฟาสวนภูมิภาค จัดงาน “Innovation Day 2019” เพือ่ สงเสริมการศึกษา การวิจยั การสรางนวัตกรรมและพัฒนางานทีเ่ กีย่ วของ กับธุรกิจพลังงานไฟฟาเพื่อขับเคลื่อนองคกรไปสู PEA Digital Utility แลวพบกันใหมฉบับหนา สวัสดีครับ กิตติ วิสุทธิรัตนกุล
GREEN
Industry ดร.วิฑูรย สิมะโชคดี
พัฒนา
สู ความยั่งยืน ความรั บ ผิ ด ชอบต อ สั ง คม (Corporate Social Responsibility : CSR) มีความสําคัญมากขึน้ ทุกขณะ จนอาจ กลาวไดวา ธุรกิจอุตสาหกรรมไมทําไมไดแลว การปรับปรุง องคกรไปสู “อุตสาหกรรมสีเขียว” เปนวิธกี ารหนึง่ ทีจ่ ะนําไปสู ความยั่งยืน (Sustainable) ได หลักการของ “อุตสาหกรรม สีเขียว” ทีม่ งุ ไปสูก ารพัฒนาอยางยัง่ ยืนนัน้ ความยัง่ ยืนจะเกิด ขึ้นไมไดถาสังคมและชุมชนไมยอมรับ และจะยั่งยืนอยูไมได ถาไมมีกําไรเชนกัน แตเดิมนัน้ ตัวชีว้ ดั ทางธุรกิจทีส่ าํ คัญมีอยู 4 ตัว คือ ตนทุน คุณภาพ การบริการ และความรวดเร็ว ซึ่งผูกติดกับการลด ตนทุนและเพิม่ กําไรเปนสวนใหญ แตวนั นีธ้ รุ กิจอุตสาหกรรม จะไมสามารถคงอยูไดอยางยั่งยืน ถาขาดตัวชี้วัดอีก 2 ตัว ทีส่ าํ คัญ คือ นวัตกรรม (Innovation) และความรับผิดชอบตอ สังคม เหตุผลทีน่ วัตกรรมมีความสําคัญ เพราะมีสนิ คาใหมๆ เกิดขึน้ อยูต ลอดเวลา ซึง่ ทําใหเราตองพยายามพัฒนา และสราง ความแตกตางเพือ่ ใหแขงขันได สวนสาเหตุทคี่ วามรับผิดชอบ ตอสังคมเปนสิ่งจําเปนมากขึ้นสําหรับการทําธุรกิจในสมัยนี้ เพราะถาไมไดรับการยอมรับจากสังคม ธุรกิจก็ไมสามารถ ยั่งยืนอยูได
7
พื้นฐานของการเปนอุตสาหกรรมสีเขียว จะอยูบนแนวความคิดหลัก 3 ประการ คือ
อุตสาหกรรมตองเปนมิตรกับสิ่งแวดลอม เราทําไดโดยการปรับปรุงกระบวนการผลิตและ เทคโนโลยี การประยุกตใชเทคโนโลยี 3R (Reuse Reduce Recycle) การประหยัดทรัพยากรและ ใชทรัพยากรอยางคุม คา (Resource Efficiency) การบริหารจัดการขยะและสิง่ แวดลอมอยางเปนระบบ ครบวงจร โดยอุตสาหกรรมในอนาคตตองเปนอุตสาหกรรมทีพ่ ฒ ั นานําไปสูส งั คมคารบอนตํา่ ซึง่ อาจตอง ตัง้ อยูใ นพืน้ ทีอ่ ตุ สาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco-Industry) ทีก่ าํ หนดเปนพืน้ ทีเ่ ฉพาะ เพราะนับวันอุตสาหกรรม ที่เปนเอกเทศหรือที่อยูเดี่ยวๆ อาจจะเกิดยากขึ้น การประกอบกิจการโดยมีความรับผิดชอบตอสังคม การประกอบกิจการจะตองไมสรางผลกระทบ และปญหาใหกับสังคมหรือชุมชนโดยรอบ ผูประกอบการตองประกอบกิจการโดยไมเอาเปรียบสังคม ชุมชน และแมแตพนักงานของตนเอง และจะตองประกอบกิจการถูกตองตามกฎหมายดวย การอยูรวมกับชุมชนไดอยางปกติสุข อุตสาหกรรมตองเปนสวนหนึ่งของชุมชนและพื้นที่ที่อยู และทําใหประชาชนมีความผูกพันกับโรงงานอุตสาหกรรมโดยตองเปดโอกาสใหประชาชนเขาถึง และ ตองสื่อสารกันใหเขาใจ สรางความรักและความเขาใจที่ดีตอกัน เพื่อใหประชาชนเกิดความไววางใจ ซึ่งกันและกัน การปรับเปลี่ยนความคิดของผูประกอบการโดยยึดหลักการ 3 ขอขางตน จึงมีความสําคัญตอ การปรับเปลีย่ นพฤติกรรมในการประกอบกิจการและดําเนินธุรกิจ ทีจ่ ะพัฒนาไปสูค วามยัง่ ยืนยาวนานได ทัง้ นี้ ความสําเร็จในการพัฒนาเปนอุตสาหกรรมสีเขียว จะตองอาศัยกลไกตางๆ ของหนวยงาน ภาครัฐ ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม และภาคประชาชน รวมดวยชวยกัน ครับผม!
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
Report กองบรรณาธิการ
พิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry Award) ป 2562 ยกระดับโรงงานไทยที่เปนมิตรกับสิ่งแวดลอม เมือ่ เร็วๆ นี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ไดจดั พิธมี อบ รางวัลรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวและงานสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู “Green Industry Forum” โดยมี ทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดี กรมโรงงานอุตสาหกรรม เปนประธานในพิธีเปด โครงการสงเสริมและพัฒนาสถานประกอบการ สูอุตสาหกรรมสีเขียว ประจําป 2562 ซึ่งเปนการ ดําเนินโครงการอุตสาหกรรมตามนโยบายสงเสริม ใหโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยยกระดับ เปนอุตสาหกรรมสีเขียวมากขึ้น โดยมีเปาหมาย ในการดําเนินงานตามยุทธศาสตรชาติ 20 ป ดานการสรางการเติบโตบนคุณภาพชีวติ ทีเ่ ปนมิตร ทองชัย ชวลิตพิเชฐ ตอสิ่งแวดลอม อุตสาหกรรมสีเขียว หรือ Green Industry คือ อุตสาหกรรมทีย่ ดึ มัน่ ในการประกอบกิจการทีเ่ ปนมิตรตอสิง่ แวดลอม ดวยการ มุง เนนในเรือ่ งของการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการ สิง่ แวดลอมทัง้ ภายในภายนอกโรงงานอยางตอเนือ่ ง พรอมกับการดําเนินธุรกิจดวย ความรับผิดชอบตอสังคมซึ่งครอบคลุมไปถึงเศรษฐกิจสีเขียว ในขณะเดียวกัน ภาคอุตสาหกรรมโรงงานตางๆ จะตองประกอบการโดยคํานึงการลดผลกระทบและ ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการบริโภคหรือการผลิตใดๆ ที่สงผลตอสภาพแวดลอม และระบบนิเวศวิทยาเปนไปตามขอกําหนดกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมไดสง เสริมและผลักดันใหผปู ระกอบการภาค อุตสาหกรรมมีการพัฒนาและปรับปรุงอยางตอเนือ่ ง เพือ่ เขาสูก ารเปนอุตสาหกรรม สีเขียวไว 5 ระดับ ดังนี้ ระดับที่ 1 ความมุง มัน่ สีเขียว (Green Commitment) คือ การแสดง ความมุงมั่นในรูปแบบของนโยบาย เปาหมายและแผนงานที่จะลดผลกระทบตอ สิ่งแวดลอม และมีการสื่อสารภายในองคกรใหทราบโดยทั่วกัน 8
ระดับที่ 2 ปฏิบตั กิ ารสีเขียว (Green Activity) คือ การดําเนินกิจกรรม ตามนโยบาย เปาหมายและแผนงานทีก่ าํ หนดเพือ่ ลดผลกระทบตอสิง่ แวดลอมอยาง เปนรูปธรรมและสําเร็จตามความมุง มัน่ ทีต่ งั้ ไว โดยองคกรตองกําหนดนโยบายดาน สิ่งแวดลอมซึ่งครอบคลุมถึงความมุงมั่นที่จะดําเนินการใดๆ ที่เกี่ยวของกับการลด ผลกระทบดานสิง่ แวดลอม หรือการปองกันมลพิษการใชทรัพยากรอยางยัง่ ยืน และ สื่อสารนโยบายดานสิ่งแวดลอมใหบุคลากรในองคกรทราบ ระดับที่ 3 ระบบสีเขียว (Green System) คือ การบริหารจัดการสิง่ แวดลอม อยางเปนระบบ มีการติดตาม ประเมินผลและทบทวนเพือ่ การพัฒนาอยางตอเนือ่ ง หรือการไดรบั รางวัลดานสิง่ แวดลอมอันเปนทีย่ อมรับ หรือไดรบั การรับรองมาตรฐาน ที่เกี่ยวของกับการอนุรักษทรัพยากรและสิ่งแวดลอมตางๆ ซึ่งผูบริหารสูงสุดของ องคกรตองกําหนดนโยบายดานสิ่งแวดลอม มีความมุงมั่นที่จะดําเนินการลด ผลกระทบดานสิ่งแวดลอม หรือการปองกันมลพิษการใชทรัพยากรอยางยั่งยืน การลดผลกระทบตอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พรอมกันนี้องคกรจัดทํา แผนงานดานสิง่ แวดลอมเพือ่ ลดผลกระทบดานสิง่ แวดลอม หรือการปองกันมลพิษ โดยแผนงานดานสิ่งแวดลอมตองประกอบดวยวัตถุประสงค เปาหมาย ขั้นตอน การปฏิบัติ ผูรับผิดชอบ และกรอบระยะเวลาแลวเสร็จ ระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) คือ การที่ทุกคนใน องคกรมีจิตสํานึกรวมกันในการสงวนและรักษาไวซึ่งสิ่งแวดลอมที่ดี และใหความ รวมมือรวมใจในทุกดานของการประกอบกิจการใหเปนมิตรกับสิ่งแวดลอมและ ดําเนินการตางๆ จนกลายเปนสวนหนึง่ ของวัฒนธรรมองคกร ทีม่ รี ะบบการจัดการ ดานสิ่งแวดลอมเปนไปตามเกณฑกําหนด และตองมีการสรางวัฒนธรรมองคกร ดานสิง่ แวดลอมนํามาปฏิบตั ใิ หเกิดประสิทธิผล โดยใหครอบคลุมตามหลักการของ มาตรฐานความรับผิดชอบตอสังคม ISO26000 ซึง่ ดําเนินการตามโครงสรางบริหาร ที่ชวยสงเสริมใหเกิดการปฏิบัติอยางมีจริยธรรมดานสิ่งแวดลอมในองคกร และ องคกรตองผลักดันใหเกิดความเคารพตอการปฏิบัติตามแนวทางของสากล หรือ เคารพตอสิทธิมนุษยชนในดานสิ่งแวดลอมที่ดี และใหการยอมรับความเปนสากล ของสิทธิมนุษยชนในดานสิ่งแวดลอมเพื่อเปดเผยตอสาธารณะ
GreenNetwork4.0 September-October 2019
ระดับที่ 5 เครือขายสีเขียว (Green Network) คือ การขยายขอบเขต ของการเปนอุตสาหกรรมสีเขียวจากภายในองคกรเองออกสูภายนอก ตลอด โซอปุ ทาน (Supply Chain) โดยสนับสนุนใหคคู า และพันธมิตรเปนอุตสาหกรรมสีเขียว ดวย ซึง่ ถือวาเปนเกณฑกาํ หนดอุตสาหกรรมสีเขียวระดับสูงทีส่ ดุ ของการดําเนินการ อุตสาหกรรมสีเขียว โดยองคกรตองมีระบบการจัดการดานสิ่งแวดลอมและมีการ สรางวัฒนธรรมองคกรในการสงเสริม สราง และสานสัมพันธกจิ กรรมดานสิง่ แวดลอม กับผูม สี ว นไดเสียทีค่ รอบคลุมทัง้ ชุมชน ผูบ ริโภค และสังคม ซึง่ จะตองทําใหประสบ ความสําเร็จเปนที่ประจักษ และมีการพัฒนาอยางตอเนื่องเพื่อมุงสูอุตสาหกรรม สีเขียวและนํามาปฏิบัติใหเกิดประสิทธิผล และสงเสริมการพัฒนาหรือมีสวนรวม ของชุมชนในการกระตุน จิตสํานึกเสริมสรางความรูค วามเขาใจตอผูบ ริโภค โดยให ความสําคัญและใสใจตอสิ่งแวดลอม ทั้งนี้ ในการดําเนินโครงการอุตสาหกรรมสีเขียวจะมีหลายหนวยงาน รวมมือกัน ประกอบดวย สํานักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (สปอ.) กรมโรงงาน อุตสาหกรรม (กรอ.) กรมสงเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐาน และการเหมืองแร (กพร.) สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม (สมอ.) สํานักงานรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) การนิคมอุตสาหกรรมแหงประเทศไทย (กนอ.) และสภาอุตสาหกรรมแหงประเทศไทย (ส.อ.ท.) ซึง่ การดําเนินงานโครงการ ตางๆ สามารถเทียบไดกับระดับของอุตสาหกรรมสีเขียว สําหรับการจัดงานรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวในครั้งนี้ เปนการมอบรางวัล แกสถานประกอบการที่ไดรับการยกระดับเปนอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 4 และ ระดับที่ 5 ในป พ.ศ. 2562 ซึง่ มีจาํ นวน 139 ราย ประกอบดวย สถานประกอบการ ทีไ่ ดรบั การรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว จํานวน 115 ราย และสถานประกอบการทีไ่ ดรบั การรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 5 เครือขาย สีเขียว จํานวน 24 ราย ในการเปนโรงงานอุตสาหกรรมทีด่ าํ เนินกิจการใหสามารถ อยูร ว มกับชุมชนโดยไดไมกระทบตอสิง่ แวดลอม ไมวา จะเปนการปรับปรุงเทคโนโลยี การผลิต การลดการใชทรัพยากร การลดปริมาณการปลอยกาซเรือนกระจก การเพิ่มปริมาณการใชพลังงานทดแทนในภาคอุตสาหกรรมและสนับสนุนการมี 9
สวนรวมของชุมชนในการแกไขปญหาและตรวจสอบสภาพแวดลอม สําหรับการจัดงานรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ถือเปนการสรางขวัญและ กําลังใจแกสถานประกอบการตางๆ ทีม่ งุ พัฒนาอุตสาหกรรมทีเ่ ปนมิตรตอสิง่ แวดลอม เปนองคกรทีม่ ีความรับผิดชอบตอสังคม และเพือ่ ใหโรงงานอุตสาหกรรมสามารถ อยูรวมกับสังคมและชุมชนไดอยางมีความสุขและยั่งยืน รวมทั้งเปนการสราง ภาพลักษณและทัศนคติทดี่ ตี อ ภาคอุตสาหกรรมของไทยอีกทางหนึง่ ดวย ซึง่ ทีผ่ า นมา กรมโรงงานอุตสาหกรรมไดตรวจประเมินสถานประกอบการที่ขอเลื่อนระดับสู อุตสาหกรรมสีเขียวอยางเขมงวด โดยมีวตั ถุประสงคเพือ่ ยกระดับสถานประกอบการ อุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 ถึงระดับที่ 5 พรอมทัง้ ไดมอบหมายใหสถาบันรับรอง มาตรฐาน ISO (International Organization for Standardization) เปนทีป่ รึกษา โครงการ และไดรับความสนใจจากสถานประกอบการทั่วประเทศที่จะขอรับการ ตรวจประเมินเพื่อการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว อยางไรก็ตาม กรมโรงงานอุตสาหกรรมไดตั้งเปาหมายที่จะผลักดันให ผูป ระกอบการไดรบั ใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวเพิม่ ขึน้ ปละ 2,000 ราย ซึง่ ในปจจุบนั มีโรงงานที่ไดรับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวแลวจํานวน 37,212 ใบรับรอง แบงเปนระดับที่ 1 จํานวน 20,581 ใบรับรอง ระดับที่ 2 จํานวน 8,737 ใบรับรอง ระดับที่ 3 จํานวน 7,329 ใบรับรอง ระดับที่ 4 จํานวน 493 ใบรับรอง และระดับที่ 5 จํานวน 72 ใบรับรอง แสดงใหเห็นวามีการผลิตที่เปนมิตรตอสิ่งแวดลอมอยาง ตอเนื่องและเปนโรงงานไดยึดมั่นในการประกอบกิจการดวยความรับผิดชอบตอ สังคมทั้งภายในและภายนอกองคกรตลอดหวงโซอุปทานเพื่อเขาสูการพัฒนา ทั้งหมดทั้งมวลนี้ การจัดทําขอกําหนดอุตสาหกรรมสีเขียวนั้น เพื่อสงเสริม และผลักดันใหอตุ สาหกรรมไดมกี ารพัฒนาและปรับปรุงเขาสูก ารเปนอุตสาหกรรม สีเขียวอยางตอเนื่อง ในขณะเดียวกันภาคสวนโรงงานอุตสาหกรรมตางใหความ สําคัญดานสิ่งแวดลอมและพรอมปรับปรุงเขาเกณฑกําหนดอุตสาหกรรมสีเขียว อยางคึกคัก เพือ่ มุง หวังรวมกันสรางมาตรฐานยกระดับโรงงานไทยใหเติบโตอยาง มั่นคง เคียงคูชุมชนไทยตอไปอยางยั่งยืน
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
Report กองบรรณาธิการ
โกลบอลกรีนเคมิคอล และ ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอลฯ 2 บริษัทรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว มุ่งผลิตสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผลประกอบการของโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้มีการพัฒนาและปรับปรุง อย่างต่อเนื่องเพื่อเข้าสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวไว้ 5 ระดับ ที่ผา่ นเกณฑ์จาก กรมโรงงานอุตสาหกรรมในแต่ละปีนนั้ ท�ำให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ตืน่ ตัวพร้อม ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ซึง่ นับว่าเป็นผูป้ ระกอบการทีม่ คี วามรับผิดชอบ ต่อชุมชน สังคม และด�ำเนินธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม จนกลายเป็นวัฒนธรรม องค์กรจากภายในสู่ภายนอก บริษทั โกลบอลกรีนเคมิคอล จ�ำกัด (มหาชน) หรือ GGC เป็นผูป้ ระกอบการ ทีเ่ ข้ารับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ระดับ 5 ซึง่ เป็นระดับสูงสุด ในงานรับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ประจ�ำปี 2562 ทีผ่ า่ นมา โดยบริษทั ฯ ได้รางวัล อุตสาหกรรมดีเด่นในระดับที่ 5 เครือข่ายสีเขียว (Green Network) ต่อเนือ่ งเป็นปี ที่ 2 โดยรางวัลดังกล่าว คือการขยายขอบเขตการเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวจากภายใน องค์กรสู่ภายนอก ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) โดยสนับสนุนให้คู่คา้ และพันธมิตรเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวด้วย นอกจากนี้ บริษทั ฯ ได้จดั กิจกรรม CSR ทีจ่ ะมอบหมายให้พนักงานลงพืน้ ที่ ท�ำกิจกรรมการคัดแยกขยะ ร่วมกับชุมชน มูลนิธิ ทีม่ แี นวคิดในการรักษาสิง่ แวดล้อม โดยการเข้าไปเสริมสร้างความรูใ้ ห้กบั ชุมชน เพือ่ ให้เกิดเป็นรัฐวิสาหกิจชุมชนด้าน การแก้ไขปัญหาสิง่ แวดล้อมในชุมชน ให้เกิดความเข้มแข็งอย่างยัง่ ยืน ทีส่ ำ� คัญก็ได้ ปลูกฝังเด็กๆ เยาวชนไทย ให้ตระหนักถึงการร่วมกันรักษาสิง่ แวดล้อม ไม่วา่ จะเป็น สิ่งแวดล้อมทางทะเล เพื่อช่วยสัตว์น�้ำไม่ได้ได้รับผลกระทบจากพลาสติกเพื่อลด ปัญหาขยะพลาสติกและสิง่ แวดล้อมในชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะพืน้ ทีจ่ งั หวัดทีม่ กี ลุม่ โรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่ ทางบริษัทฯ ได้มีการเชิญชวนกลุ่มโรงงานที่เป็นคู่คา้ ทีท่ ำ� เกีย่ วกับการรีไซเคิล หรือขยะรีไซเคิล ทีส่ ามารถผลิตเป็นสินค้าอุปโภค-บริโภค ทีใ่ ช้ในชีวติ ประจ�ำวัน และได้ขยายออกไปยังสถานทีอ่ นื่ ๆ เช่น วัด ก็จะผลิตจีวรทีท่ ำ� จากวัตถุดิบธรรมชาติ หรือวัสดุรีไซเคิล นิคม เกษมปุระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษทั โกลบอลกรีนเคมิคอล จ�ำกัด (มหาชน) หรือ GGC กล่าวว่า “ในฐานะทีเ่ ป็นผูป้ ระกอบการผลิตภัณฑ์ เคมี เ พื่ อ สิ่ ง แวดล้ อ มของไทยและเป็ น Green Flagship ของกลุม่ GC GGC บริษทั เราจึงมุง่ มัน่ รักษา ความเป็นอุต สาหกรรมสีเขียวตลอด สายการผลิต ตัง้ แต่การเริม่ ต้นออกแบบ โครงสร้ า งโรงงาน แหล่ ง วั ต ถุ ดิ บ กระบวนการผลิต ตลอดจนการน�ำไปใช้ เป็นผลิตภัณฑ์ พร้อมกับปลูกฝังค่านิยมนี้ นิคม เกษมปุระ ให้เกิดขึน้ ในใจพนักงาน และขยายไปยัง คูค่ า้ ให้มงุ่ มัน่ รักษามาตรฐานแห่งคุณภาพนีไ้ ว้เพือ่ สิง่ แวดล้อมและสังคมไทยในอนาคต 10
ดังนัน้ ด้วยแนวทางนโยบายของบริษทั ฯ การดูแลรับผิดชอบด้านสิง่ แวดล้อมถือเป็น หัวใจส�ำคัญของการด�ำเนินธุรกิจ โดยก�ำหนดนโยบายเป็น 2 แนวทาง คือ 1. เริม่ จาก การวางนโยบายองค์กรไปสู่พนักงานให้น�ำไปสู่การปฏิบัติ และพนักงานเองก็เป็น ตัวอย่างที่ดี และจากนั้นพนักงานก็จะชักชวนคนรอบข้างให้ค�ำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ด้วยการน�ำหัวใจสีเขียวกลับไปสูค่ รอบครัว ชุมชน และสังคมใหญ่ และ 2. ในระดับ ของบริษัท องค์กร ผู้บริหารก็จะก�ำหนดกลยุทธ์แนวทางส่งเสริมที่มีระบบบริหาร จัดการด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมกับเชิญหน่วยงานกลางเข้ามาร่วมตรวจสอบ ซึ่ง กลุ่มโรงงานในเครือของบริษัทฯ มีทั้งหมด 15 โรงงาน ที่เข้าสู่ระบบกระบวนการ อุตสาหกรรมสีเขียว ดังนัน้ GGC จึงได้นำ� นโยบายด้านสิง่ แวดล้อมเป็นกลยุทธ์ของ องค์กรที่เป็นลักษณะของความยั่งยืนเรื่อยมา” ส�ำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) คือ การที่ทุกคนในองค์กรมีจิตส�ำนึกร่วมกันในการ สงวนและรักษาไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมที่ดีและให้ความ ร่วมมือร่วมใจในทุกด้านของการประกอบกิจการให้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและด�ำเนินการ ต่างๆ จนกลายเป็นส่วนหนึง่ ของวัฒนธรรม องค์กร ซึง่ เป็นอีกหนึง่ โรงงานทีไ่ ด้รางวัล ระดับ 4 ในงานรับรางวัลอุตสาหกรรม สีเขียว ประจ�ำปี 2562 ด้วย นั่นก็คือ กัณพงษ์ พงษ์สวัสดิ์ ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอลฯ โดย กัณพงษ์ พงษ์สวัสดิ์ รองผู้อ�ำนวยการฝ่ายความปลอดภัยและอาชีวอนามัย บริษัท ที.ซี. ฟาร์มาซูนคิ อล อุตสาหกรรม จ�ำกัด กล่าวว่า “บริษทั ที.ซี.ฟาร์มาซูตคิ อลฯ ยึดมัน่ หัวใจสีเขียวทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม มีแนวนโยบายด้านการรักษาสิง่ แวดล้อม และ จัดกิจกรรม CSR ต่างๆ ที่ตอบโจทย์ให้กับภาคส่วนอื่นๆ และสังคมรวมทั้งชุมชน เพือ่ ให้เกิดการความร่วมมือร่วมใจกันรักษาสิง่ แวดล้อมไปพร้อมๆ กับเรา และสิง่ ที่ บริษทั ฯ ต้องขับเคลือ่ นมุง่ เดินหน้าต่อไปคือการพัฒนาด้านผลิตสินค้าทีเ่ ป็นมิตรต่อ สิง่ แวดล้อมให้สอดคล้องกับหน่วยงานภาครัฐ ซึง่ กระบวนการผลิตสินค้านัน้ จะไม่ให้ ส่งผลกระทบต่อมลภาวะทางอากาศ รวมไปถึงเรือ่ งของการไม่ปล่อยน�ำ้ เสียลงสูช่ มุ ชน โดยบริษทั ของเราจะมีเทคโนโลยีบำ� บัดน�ำ้ เสียในโรงงานทีส่ ามารถน�ำน�ำ้ กลับมาใช้ ใหม่ ส่วนปัญหาขยะ บริษัทฯ ก็จะร่วมลงนามกับหน่วยงานที่รับก�ำจัดขยะโดยตรง พร้อมกับปฏิบัติตามกฎหมายและการควบคุมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด” นี่คือโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว เพียง 2 บริษัทที่ยกตัวอย่างมาเพื่อให้เห็น แนวทางการพัฒนาจนสามารถยกระดับเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวในระดับสูงสุดของ การผลิตทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมอย่างต่อเนือ่ ง เป็นโรงงานอุตสาหกรรมทีไ่ ด้ยดึ มัน่ ในการประกอบกิจการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมทัง้ ภายในและภายนอกองค์กร ตลอดห่วงโซ่อปุ ทาน ซึง่ จะเป็นแบบอย่างทีด่ ใี ห้กบั โรงงานอืน่ ๆ ทีย่ งั คงพัฒนาตัง้ แต่ อุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 1 2 และ 3 เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงงานต่างๆ เกิด แรงกระตุ้นในการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อเข้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
Factory กองบรรณาธิการ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบ ความส�ำเร็จที่สุดในโลก โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 15 ประเทศ อีกทั้ง ยังมีเครือข่ายผู้จ�ำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก และเมื่อเร็วๆ นี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดตัวโรงงานประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูง ในประเทศอย่างเป็นทางการ โดยเป็นความร่วมมือพันธมิตรกับแดร็คเซิลไมเออร์ กรุป๊ ซึง่ เป็นผูน้ ำ� ด้านการผลิตชิน้ ส่วนยานยนต์ระดับโลกให้กบั โรงงานรถยนต์ระดับ พรีเมียมทั่วโลก โรงงานประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงแห่งนี้ของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ตั้งอยู่ ในพื้นทีน่ ิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ชลบุรี 2 อ�ำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ถือเป็นโรงงานแบตเตอรี่แห่งแรกและแห่งเดียวของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปในภูมิภาค อาเซียนทีค่ รอบคลุมทัง้ ในส่วนของการประกอบโมดูลแบตเตอรี่ และการประกอบ ตัวแบตเตอรี่ โดยมีตวั แทนจากหน่วยงานภาครัฐของไทย อาทิ กรณ์ภฐั วีญ์ ม่วงน้อย รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วย อดิศักดิ์ โรหิตะศุน กรรมการ สถาบันยานยนต์ ผู้ท�ำการแทนผู้อ�ำนวยการสถาบันยานยนต์ และผู้เชี่ยวชาญจาก บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มิวนิค ประเทศเยอรมนี ได้เข้าร่วมวางรากฐานกระบวนการ ประกอบแบตเตอรี่ที่โรงงาน เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการประกอบในประเทศไทย จะสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยมุ่งเน้นให้โรงงานอุตสาหกรรม ประกอบการทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม ซึง่ ถือว่าโรงงานประกอบแบตเตอรีด่ งั กล่าว ได้มาตรฐานคุณภาพระดับโลก ส�ำหรับแบตเตอรีแ่ รงดันสูง เป็นอีกหนึง่ องค์ประกอบทีส่ ำ� คัญของรถยนต์ที่ ขับเคลือ่ นด้วยพลังงานไฟฟ้า ไม่วา่ จะเป็นรถยนต์ประเภทปลัก๊ อินไฮบริด หรือรถยนต์ ทีใ่ ช้พลังงานไฟฟ้า (EV) โดยสมบูรณ์ในอนาคต แต่นบั ว่าเป็นชิน้ ส่วนทีม่ คี วามซับซ้อน และต้องใช้ทกั ษะเฉพาะด้านในการผลิตเพือ่ เป็นผูเ้ ชีย่ วชาญการประกอบแบตเตอรี่ แรงดันสูง โดยการปฏิบตั กิ ารของพนักงานยึดหลักแนวทางจากนโยบายของโรงงาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในเมืองดิงกอลฟิง ประเทศเยอรมนี และโรงงานน�ำร่องการ ผลิตระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อการประกอบแบตเตอรี่อันเป็น เทคโนโลยีที่มีการผลิตล�้ำสมัย เช่น การเชื่อมด้วยเลเซอร์ การเตรียมพื้นผิววัสดุ ด้วยพลาสม่า วิทยาการหุน่ ยนต์ กระบวนการยึดติด การตรวจสอบคุณภาพชิน้ ส่วน อิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติ (AOI) การตรวจสอบการท�ำงานของระบบไฟฟ้า และ การตรวจสอบคุณภาพเมื่อสิ้นสุดสายการผลิต นอกจากนี้ ภายในโรงงานยังได้มี การน�ำโปรแกรมการอบรมด้านทักษะต่างๆ ในการท�ำงานกับกระบวนการผลิต อัตโนมัติแก่พนักงาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ส�ำคัญในการประกอบโมดูลแบตเตอรี่
11
รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพ การออกแบบกระบวนการและเทคโนโลยีการผลิต การปรับปรุงแก้ไขคุณภาพ และการวิเคราะห์กระบวนการผลิต อูเว่ ควาส กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั บีเอ็มดับเบิลยู กรุป๊ แมนูแฟคเจอริง่ ประเทศไทย จ�ำกัด กล่าวว่า “การขับเคลือ่ นสังคมไปสูอ่ นาคตแห่งยนตรกรรมพลังงาน ไฟฟ้า โดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มุ่งมั่นที่จะบรรลุ เป้าหมายนี้เช่นกัน ด้วยการเดินหน้าสู่อีกก้าวแห่ง ความส�ำเร็จครั้งใหญ่ด้านกลยุทธ์ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งการเปิดตัวโรงงานประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูง ในประเทศนี้จะเป็นส่วนส�ำคัญที่ท�ำให้เราสามารถ ตอบโจทย์ความต้องการในตลาดรถยนต์พลังงาน ไฟฟ้ า ที่ เ พิ่ ม ขึ้ น อย่ า งต่ อ เนื่ อ งในประเทศไทย นอกจากนี้ยังถือเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ อูเว่ ควาส โรงงานบีเอ็มดับเบิลยูในจังหวัดระยองด้วย ซึ่งเป็น ศูนย์กลางการประกอบรถยนต์ในภูมภิ าคนีใ้ ห้มปี ระสิทธิภาพมากยิง่ ขึน้ จึงเป็นหนึง่ ในวิสัยทัศน์หลักของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป” แกร์ฮาร์ด แอร์เนสแบร์เกอร์ ผูอ้ ำ� นวยการโรงงาน แดร็คเซิลไมเออร์ กรุป๊ ประเทศไทย กล่าวว่า “เราเป็นผู้มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการมอบโซลูชั่นที่ล�้ำสมัย ให้กบั ผูผ้ ลิตยานยนต์ระดับพรีเมียม ไม่วา่ จะเป็นด้าน ระบบไฟฟ้า ระบบอิเล็กทรอนิกส์ การออกแบบภายใน รถยนต์ และระบบแบตเตอรี่ และด้วยความสัมพันธ์ อันยาวนานกับทางบีเอ็มดับเบิลยู กรุป๊ มากว่า 53 ปี จึงมีความยินดีอย่างมากทีไ่ ด้ตอ่ ยอดการเป็นพันธมิตร ทางธุรกิจกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง แกร์ฮาร์ด ประเทศไทย ซึ่งรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับ แอร์เนสแบร์เกอร์ ความไว้ ว างใจให้ ป ระกอบแบตเตอรี่ แ รงดั น สู ง ส�ำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู เพราะในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ได้รับการ ยอมรับจากพันธมิตรนานาชาติทั้งในภูมิภาคและระดับสากล” ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ได้รับอนุมัติจาก ส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ส�ำหรับการลงทุนประกอบรถยนต์ ปลัก๊ อินไฮบริด ซึง่ ถือเป็นอีกหนึง่ ความส�ำเร็จทีจ่ ะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ ในประเทศไทยขับเคลื่อนไปสู่อนาคตแห่งยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าที่ยั่งยืน
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
Scoop กองบรรณาธิการ
นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีในการต่อยอดและ เพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันด้านธุรกิจแบตเตอรี่ และเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานในระยะยาว โดยเป็น ความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท. จ�ำกัด (มหาชน) กับ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จ�ำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ในโครงการวิจัยและพัฒนา โรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นแบบ (Pilot Plant) ด้วย เทคโนโลยี Semi-Solid เป็นการเดินหน้ามุง่ สูก่ ารผลิต แบตเตอรีใ่ นเชิงพาณิชย์ โดยมีกำ� หนดระยะเวลาศึกษา แล้วเสร็จปี พ.ศ. 2564
ปตท. จับมือ GPSC ร่วมวิจัย
โรงงานแบตเตอรี่ต้นแบบ
ENERGY is POWER
POWER is SECONDARY ENERGY
ต่อยอดการผลิตเชิงพาณิชย์
เมื่อเร็วๆ นี้ ปตท.ได้ลงนามสัญญาร่วมวิจัยกับ GPSC น�ำโดย ชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหารและกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ บริษทั โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จ�ำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย วรวัฒน์ พิทยศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและ ดิจทิ ลั บริษทั ปตท. จ�ำกัด (มหาชน) ใน “โครงการวิจยั และพัฒนาโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ต้นแบบ” โดยมีวตั ถุประสงค์สำ� คัญทีจ่ ะร่วมศึกษา และพิสจู น์ความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี ทั้งด้านเทคนิคและเชิงเศรษฐศาสตร์ และการจัดตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นแบบ เพื่อที่จะเดินหน้าวิจัยและต่อยอดการผลิตแบตเตอรี่ด้วยเทคโนโลยี Semi-Solid ซึ่งเป็น นวัตกรรมกระบวนการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบใหม่ของ 24M Technology ที่ GPSC เข้าไปร่วมลงทุน ทั้งนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยลดขั้นตอนการผลิตลงได้กว่า 50% อีกทั้งยังได้รับการออกแบบเซลล์แบตเตอรี่ให้มีความปลอดภัยสูง อันจะช่วยให้มี ประสิทธิภาพที่จะแข่งขันได้ในธุรกิจแบตเตอรี่และเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน ในระยะยาว รวมถึงเป็นฐานความรู้และความเชี่ยวชาญ เพื่อน�ำไปสู่การพัฒนาศักยภาพ บุคลากรของทั้ง 2 บริษัทในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ โดยมีระยะเวลาด�ำเนินโครงการ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จ�ำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปตท. ในฐานะ ผู้ประกอบกิจการด้านพลังงานที่มีสถาบันนวัตกรรม เป็นแกนหลักในการวิจัยและพัฒนา ได้จัดตั้งโครงการ Electricity Value Chain นีข้ นึ้ มาเพือ่ สนับสนุนกลยุทธ์ ทางธุรกิจของ ปตท.ที่มุ่งสู่ธุรกิจใหม่ ขณะที่ GPSC ในฐานะแกนน�ำการด�ำเนินธุรกิจไฟฟ้าของกลุม่ ปตท.ได้ ชวลิต ทิพพาวนิช ร่วมลงทุนในบริษัท 24M Technologies ซึ่งได้รับสิทธิ์ ในการใช้ ผลิต และขายแบตเตอรีป่ ระเภท Semi-Solid ซึง่ เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ 24M ในไทยและภูมภิ าคอาเซียน ภายใต้นโยบาย S-curves จึงได้เกิดความร่วมมือขึน้ ดังกล่าว” ทางด้าน ชาญศิลป์ ตรีนชุ กร ประธานเจ้าหน้าที่ บริหารและกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ บริษทั ปตท. จ�ำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความร่วมมือในครัง้ นีส้ อดคล้องกับ กลยุทธ์ทางด้านพลังงานของกลุม่ ปตท.ทีม่ งุ่ ใช้พลังงาน ไฟฟ้าทีม่ ากขึน้ โดยมีแบตเตอรีเ่ ป็นรากฐานและเป็นตัว ผลั ก ดั น ที่ ส� ำ คั ญ ซึ่ ง ปตท.มี ค วามพร้ อ มและยิ น ดี เป็นอย่างยิง่ กับความร่วมมือระหว่างกลุม่ ปตท.พร้อมจะ สนับสนุนการศึกษา พัฒนา และร่วมกันผลักดันเทคโนโลยี ชาญศิลป์ ตรีนุชกร Semi-Solid ให้มปี ระสิทธิภาพทีแ่ ข่งขันได้ และต่อยอด ไปสู่การผลิตระดับเชิงพาณิชย์” 12
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการลงนาม 15 วัน ทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการจัดตั้ง คณะกรรมการก�ำกับดูแลโครงการ (Steering Committee) รวม 7 คน โดยมี ประธานเจ้าหน้าทีเ่ ทคโนโลยีและวิศวกรรม ปตท.เป็นประธาน ส่วนกรรมการ อืน่ ๆ จะมาจากผูบ้ ริหารระดับสูงของทัง้ GPSC และ ปตท. เพือ่ ท�ำหน้าทีก่ ำ� กับ ดูแลความก้าวหน้า และติดตามผลการด�ำเนินงานวิจยั แบตเตอรีด่ งั กล่าวอย่าง ใกล้ชิด ซึ่งการด�ำเนินการในระยะแรก คณะกรรมการฯ จะท�ำการแต่งตั้ง คณะท�ำงาน เพื่อด�ำเนินการศึกษาในรายละเอียดหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แบตเตอรีเ่ ทคโนโลยี Semi-Solid โดยจัดท�ำแผนการก่อสร้าง แผนการควบคุม การผลิตและทดสอบ ก�ำหนดตัวชีว้ ดั และเกณฑ์การพิจารณา เพือ่ เป็นขัน้ ตอน พิสูจน์ความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีทั้งทางด้านเทคนิคและเศรษฐศาสตร์ รวมทัง้ จัดท�ำงบประมาณในการด�ำเนินการผลิตแบตเตอรี่ เพือ่ ประกอบการ พิจารณาอนุมัติก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ต้นแบบ (Pilot Plant) ดังกล่าว นอกจากนั้น ในระยะถัดไปหากทั้ง 2 ฝ่ายตัดสินใจร่วมด�ำเนินการ ลงทุนก่อสร้าง Pilot Plant แล้ว จะมีการก�ำหนดแผนการผลิตและด�ำเนินการ ผลิตแบตเตอรีจ่ ากโรงงานต้นแบบตามตัวชีว้ ดั และเกณฑ์ทกี่ ำ� หนดไว้ พร้อมมี การส่งมอบแบตเตอรี่ที่ผลิตได้ น�ำไปสู่การใช้จริง โดยผ่านการทดสอบจาก กลุม่ ลูกค้า น�ำข้อเสนอแนะจากลูกค้ากลับมาพัฒนาแบตเตอรี่ เพือ่ ให้สามารถ ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ได้มากยิ่งขึ้น และร่วมกัน พิจารณาถึงความเป็น ไปได้ ทั้ ง ทางเทคนิ ค และเศรษฐศาสตร์ ในการขยายการผลิต สู ่ ร ะดั บ เชิ ง พาณิ ช ย์ ร่วมกันต่อไป
GreenNetwork4.0 September-October 2019 19
SPECIAL
Scoop กองบรรณาธิการ
การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 เวทีความร่วมมือด้านพลังงานของอาเซียน การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนพลังงาน (AMEM) ครั้งที่ 37 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุม รวมทัง้ งาน ASEAN Energy Business Forum ภายใต้แนวคิดหลัก “Advancing Energy Transition Through Partnership and Innovation” ร่วมมือร่วมใจ เพื่อพัฒนานวัตกรรมพลังงานอาเซียนในยุค เปลีย่ นผ่านด้านพลังงานให้เข้าสูย่ คุ พลังงานทีม่ คี วามยัง่ ยืน โดยมี 10 ประเทศสมาชิก อาเซียน ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม บรูไนดารุส-ซาลาม สปป.ลาว เมียนมา และกัมพูชา นอกจากนีย้ งั มีอกี 8 ประเทศ นอกสมาชิกอาเซียนร่วมสังเกตการณ์ดว้ ย ได้แก่ จีน ญีป่ นุ่ เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย อินเดีย นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ทัง้ นี้ วัตถุประสงค์สำ� คัญของการประชุม เพือ่ ด�ำเนินการร่วมกันในการส่งเสริม ความมั่นคงด้านพลังงานให้ทุกประเทศมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอ และสามารถ จัดหาพลังงานได้ในราคาที่เหมาะสมต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และส่งเสริม คุณภาพชีวติ ของประชาชนอาเซียน พร้อมๆ กับส่งเสริมพลังงานสะอาดทีเ่ ป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม ส�ำหรับความร่วมมืออาเซียนด้านพลังงาน มี 7 สาขา และ 1 เครือข่ายความ ร่วมมือที่ส�ำคัญ ได้แก่ 1) ความเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน 2) การพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานส�ำหรับขนส่งก๊าซธรรมชาติ 3) การส่งเสริมเทคโนโลยีถ่านหิน สะอาด 4) การส่งเสริมพลังงานนิวเคลียร์เพือ่ สันติ 5) การส่งเสริมพลังงานทดแทน 6) การส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและอนุรักษ์พลังงาน และ 7) การจัดท�ำนโยบายและแผนอาเซียนด้านพลังงาน รวมถึงเครือข่ายความร่วมมือ ด้านการก�ำกับกิจการพลังงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาว่า “การประชุมครัง้ นีจ้ ะช่วยให้อาเซียน เดินหน้าสู่การสร้างยุทธศาสตร์พลังงานของอาเซียน ร่วมกันและสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานระหว่างกัน โดยไม่ทิ้งประเทศใดไว้ข้างหลัง โดยขณะนี้อาเซียน ก�ำลัง อยู่ในช่วงเริ่มต้น ของกระแสโลกในยุคแห่ง การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และก�ำลังก้าวเข้าสู่ยุค พลังงานแห่งอนาคต ประกอบกับภูมิภาคอาเซียน พล.อ.ประยุทธ์ มีความต้องการพลังงานมากขึ้นจากการเติบโตทาง จันทร์โอชา เศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็ว พลังงานสะอาดและ พลังงานทดแทนจะกลายเป็นพลังงานหลักต่อไปในอนาคตอันใกล้ ดังนัน้ การพัฒนา ตลาดและการลงทุนด้านพลังงาน รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานแห่ง อนาคต จึงเป็นสิง่ ส�ำคัญอย่างยิง่ ต่อการสร้างความมัน่ คงด้านพลังงานให้กบั ภูมภิ าค ในฐานะประธานอาเซียน ประเทศไทยจะผลักดันเป้าหมายของอาเซียนที่วางไว้ให้ เกิดความก้าวหน้ามากขึน้ ทัง้ ความร่วมมือซือ้ ขายไฟฟ้าระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย 13
สปป.ลาว และมาเลเซีย ทีเ่ ป็นรูปธรรมทีช่ ดั เจน ของอาเซียน และจะขยายไปสู่ประเทศอื่นๆ ในอาเซียนต่อไป ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็น การเสริมสร้างการเชื่อมโยงพลังงานไฟฟ้า อาเซียนให้มากขึ้นในอนาคต
นอกจากนั้น ผลการศึกษาและข้อเสนอแนะต่างๆ อาทิ ข้อเสนอแนะเรื่อง การศึกษาโครงสร้างพืน้ ฐานขนาดเล็กเพือ่ รองรับก๊าซธรรมชาติ แนวทางการส่งเสริม พลังงานหมุนเวียนในโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน จะช่วยก�ำหนดทิศทางและกิจกรรม ที่ควรจะด�ำเนินการในอนาคต เพื่อให้อาเซียนสามารถบรรลุเป้าหมายตามแผน ปฏิบัติการด้านพลังงานอาเซียนในด้านการส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงโครงข่าย และตลาดการซือ้ ขายก๊าซธรรมชาติในอาเซียน ในส่วนของอนาคตทางด้านพลังงาน นัน้ อาเซียนจะมุง่ เน้นพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน ซึง่ จะสามารถขับเคลือ่ น โดยระบบพลังงานแบบกระจายศูนย์ การผลิตพลังงานในรูปแบบของพลังงานไฟฟ้า และการใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั เพือ่ สนับสนุนการพัฒนาด้านพลังงานให้มปี ระสิทธิภาพ และมีความยั่งยืน รวมทั้งยังช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว อย่างไรก็ตาม แนวคิดหลักของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 นี้ เป็นการมุ่งเน้นความร่วมมือของกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศ คูเ่ จรจาในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงาน เพือ่ ให้ภมู ภิ าคอาเซียน สามารถก้าวเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากพลังงานที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ไปสู่พลังงานสะอาดที่มีความยั่งยืนในอนาคต ส�ำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ได้แก่ การผลักดันให้ขยายการเชือ่ มโยงไฟฟ้าระหว่างประเทศไทย สปป.ลาว และมาเลเซีย ให้มากขึ้นจาก 100 เมกะวัตต์ เป็น 300 เมกะวัตต์ โดยมีการลงนามระหว่างกัน ในปีนี้ ผลักดันให้อาเซียนมีการใช้พลังงานทดแทนสูงขึ้นสู่เป้าหมาย 23% ของ การใช้พลังงานทั้งหมด ภายในปี พ.ศ. 2568 เนื่องจากอาเซียนตั้งเป้าหมายจะลด ความเข้มข้นการใช้พลังงานให้ได้ 20% ในปี พ.ศ. 2563
GreenNetwork4.0 September-October 2019
ภาครัฐ ภาคเอกชนไทย ร่วมกับ ญี่ปุ่น จัดงาน
GREEN
Scoop
Maintenance and Resilience Asia 2019
กองบรรณาธิการ
ยกระดับภาคการผลิตโรงงานในไทย และคมนาคมให้เทียบเท่าญี่ปุ่น
ภาคอุตสาหกรรม ชั้นน�ำต่างๆ ได้ให้ความ ส�ำคัญในส่วนของภาคการผลิต ซึง่ ครอบคลุมถึงการพัฒนาศักยภาพ ด้านแรงงาน ด้านการส่งเสริมการตลาด ควบคูก่ ารผลิต ด้านการวางแผนงานและระบบ เทคโนโลยีทมี่ ปี ระสิทธิภาพในการจัดการความเสีย่ ง มาใช้ในการผลิตเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงใน ยุคดิจทิ ลั เกิดเป็นการผนึกก�ำลังร่วมกันระหว่างประเทศไทย กับประเทศญีป่ นุ่ โดย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม ของไทย และ สมาคมการบริหารจัดการประเทศญี่ปุ่น หรือ JMA จัดงาน Maintenance and Resilience Asia 2019 ภายใต้แนวคิด Smart Manufacturing & Smart Infrastructure ซึ่งจะช่วยยกระดับโรงงาน ไทยส�ำหรับภาคการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานไทยในภาค คมนาคมให้มปี ระสิทธิภาพเทียบเท่าญีป่ นุ่ เพือ่ ให้เกิดการเชือ่ มโยงพัฒนาเศรษฐกิจ ระหว่างไทย-ญี่ปุ่นเติบโตสู่ระดับมหภาค ทัง้ นี้ โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้นำ� นวัตกรรมและเทคโนโลยี อาทิ เซ็นเซอร์ ปัญญาประดิษฐ์ ระบบอัตโนมัตแิ ละหุน่ ยนต์ IoT ฯลฯ มาร่วมจัดแสดงนิทรรศการ ในครั้งนี้ โดยในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้น�ำเทคโนโลยีและนวัตกรรม ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาร่วมแสดงเพื่อให้เห็นถึงการเพิ่มศักยภาพของ ผู้ประกอบการโรงงานไทย ภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “แนวทางการด�ำเนินงานด้านหนึง่ ทีก่ ระทรวงอุตสาหกรรมให้ความส�ำคัญเป็นอย่าง มากคือ การส่งเสริมภาคการผลิตไปสู่ 4.0 โดยแนวทางดังกล่าวนอกจากจะช่วย ยกระดับอุตสาหกรรมแล้ว ยังเป็นกลไกทีม่ สี ว่ นในการพัฒนาประเทศไทยให้มคี วาม เท่าเทียมกับประเทศอุตสาหกรรมชัน้ น�ำ และส�ำหรับปัจจัยส�ำคัญทีภ่ าคการผลิตต้อง ให้ความส�ำคัญในการด�ำเนินธุรกิจ คือการคิดค้น และน�ำเทคโนโลยีทมี่ ปี ระสิทธิภาพ มาใช้ในการผลิต การติดตามสถานการณ์การค้า และอุตสาหกรรมในระดับประเทศ” ส�ำหรับกระทรวงคมนาคมก็ได้น�ำระบบเทคโนโลยีและดิจิทัลมาใช้ในการ บริหารจัดการ รวมทั้งระบบขนส่งที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยส�ำคัญเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และเป็นสิ่งที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกก�ำลังด�ำเนินนโยบายดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถยนต์ไฟฟ้า การขนส่งระบบราง การใช้พลังงานสะอาด ที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตให้สะดวก รวดเร็วและง่ายขึ้น วิจิตต์ นิมิตรวานิช นักวิชาการขนส่งทรงคุณวุฒิ ส�ำนักงานนโยบายและ แผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า “ในส่วนของการคมนาคม ในปีถดั ไป จะเป็นอีกหนึง่ ภาคส่วนทีม่ คี วามส�ำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในฐานะ การเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพและความแข็งแกร่งที่มากขึ้น สามารถ เชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าไว้ด้วยกันโดยเฉพาะในการเชื่อมต่อระบบขนส่งกับ สิ่งอ�ำนวยความสะดวก การแข่งขันด้านโลจิสติกส์ การเดินทาง และการยกระดับ 14
ภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี
วิจิตต์ นิมิตรวานิช
อัตสึชิ เทเรดะ
คุณภาพการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ตั้งแต่ในระดับ ภูมิภาค ส่วนกลาง และส่วนท้องถิ่น รวมถึงต้องขับเคลื่อนระบบคมนาคมขนส่งให้ สอดรับกับนโยบายการขับเคลื่อนสมาร์ทซิตี้ของรัฐบาล” ขณะที่ อัตสึชิ เทเรดะ ผู้จัดการอาวุโส สมาคมการบริหารจัดการประเทศ ญี่ปุ่น หรือ JMA กล่าวว่า “ประเทศญี่ปุ่นเล็งเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่ง ที่มีศักยภาพในด้านอุตสาหกรรม เป็นพันธมิตรและฐานการผลิตให้กับโรงงาน อุตสาหกรรมญีป่ นุ่ เป็นจ�ำนวนมาก รวมทัง้ ยังอยูใ่ นช่วงของการพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐาน ประเภทต่างๆ เพือ่ ขับเคลือ่ นเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตในทิศทางทีด่ ขี นึ้ ทัง้ นี้ ในฐานะพันธมิตรทางการค้าและเศรษฐกิจ จึงได้มีแนวคิดที่จะช่วยขับเคลื่อน ภาคส่วนต่างๆ ของไทยให้มีความทันสมัยและทัดเทียมกับญี่ปุ่น จึงได้ร่วมกับ บริษทั เอ็กซโปซิส จ�ำกัด กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น และภาคเอกชน ในการจัดกิจกรรม “Maintenance and Resilience Asia 2019” เพื่อจะได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตไปพร้อมๆ กับญี่ปุ่น”
อย่างไรก็ตาม การจัดงานดังกล่าวเชื่อมั่นว่าจะท�ำให้ภาคอุตสาหกรรม ภาคคมนาคม และในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานของไทยแข็งแกร่งได้เช่นเดียวกับ ญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้น�ำของโลกในเรื่องความสมบูรณ์แบบของระบบขนส่ง และโครงสร้างพืน้ ฐานสาธารณูปโภค โดยจะช่วยให้รวู้ ธิ กี ารจัดการกับการผลิตทีม่ ี ประสิทธิภาพ ทัง้ ระบบขนส่ง ถนน อุโมงค์ สะพาน รถไฟ ฯลฯ นอกจากนี้ ภายในงาน ยังได้มกี ารประชุมสัมมนาเพือ่ แลกเปลีย่ นความรูเ้ ป็นกรณีศกึ ษาต่างๆ ทีจ่ ะช่วยผลักดัน ให้ทกุ ภาคส่วนปรับตัวให้เข้ากับกระแสการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี เพือ่ ให้ทนั ต่อการแข่งขันในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
World กองบรรณาธิการ
มาตรฐานสากลว่ า ด้ ว ย ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิง่ แวดล้อม ภาคอุตสาหกรรมองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ทัว่ โลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากภาคส่วน โรงงานอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่ในต่างประเทศ มีจดุ มุง่ หมาย ในการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและพยายามทีจ่ ะลดต้นทุนทีไ่ ม่จำ� เป็น ขององค์กรลงเพือ่ แสดงความรับผิดชอบต่อสิง่ แวดล้อมเป็นส�ำคัญ ไม่วา่ จะเป็น ต้นทุนการขนส่ง ต้นทุนการจัดเก็บสินค้า ต้นทุนการจัดการค่าสัง่ ซือ้ และการควบคุม คุณภาพของสินค้า เป็นต้น ด้วยเหตุนที้ เี่ มืองมิดแลนด์ รัฐมิชแิ กน ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองเวียร์ต ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยบริษัท ดาว (NYSE: DOW) ก่อตั้งขึ้นในรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นบริษทั ทีม่ งุ่ มัน่ ในการน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทมี่ ี ความหลากหลายที่สุดในภาคอุตสาหกรรมเข้ากับการบูรณาการด้านการผลิต นวัตกรรมเฉพาะด้าน ด้วยพอร์ตโฟลิโอทั้งในด้านวัสดุประสิทธิภาพ สารตัวกลาง ในอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมสินค้าตั้งแต่น�้ำดื่ม อาหาร ยารักษาโรค สีทาอาคาร บรรจุภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์เพือ่ สุขอนามัย เพือ่ ยกระดับวิถชี ีวติ ของมนุษยชาติให้มี ความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน ดาว เคมิคอล มีโรงงานผลิตรวมทั้งสิ้น 113 แห่ง ใน 31 ประเทศ มีพนักงานเกือบ 40,000 คนทัว่ โลก และมีผลิตภัณฑ์จาํ นวน 3,300 รายการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าใน 136 ประเทศทั่วโลก และ บริษทั Fuenix Ecogy Group ตัง้ อยูใ่ นเมืองเวียร์ต ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึง่ Fuenix เป็นบริษทั ด้านนวัตกรรมทีด่ ำ� เนินธุรกิจเปลีย่ นขยะพลาสติกให้กลับไป เป็นวัตถุดบิ ตัง้ ต้น คือ น�ำ้ มัน โดยมีบทบาทในการชุบชีวติ ให้ขยะพลาสติกสามารถ น�ำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตพลาสติกใหม่ๆ ได้อีกครั้ง โดยกล่มบริษัท Fuenix ได้พัฒนาเทคโนโลยี แบบไฮบริดเพื่อใช้ในการแปรรูปวัสดุประเภทบรรจุภัณฑ์ใช้ แล้วทีห่ มดอายุใช้งาน ให้เป็นวัตถุดบิ หมุนเวียนระดับพรีเมียม และก๊าซปิโตรเลีย่ ม เหลว LPG ให้เป็นพลาสติกไม่ได้โดยปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียงครึง่ เดียวจาก ปริมาณปกติ หรือเป็นบริษทั ทีผ่ ลิตวัตถุดบิ ประเภทน�ำ้ มันไพโรไลซิส (Pyrolysis Oil) ที่ได้จากขยะพลาสติกรีไซเคิลให้กับโรงงานผลิตของดาวในเมืองแทร์นอยเซน ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ใหม่ เมือ่ เร็วๆ นี้ ทัง้ 2 โรงงาน ได้ประกาศการจัดท�ำข้อตกลงร่วมกันในการส่งเสริม ให้เกิดการรีไซเคิลพลาสติกกลับเป็นวัตถุดบิ ใหม่ (Feedstock Recycling) มากขึน้ โดยน�ำเอาขยะพลาสติกหลากประเภทมาผ่านกระบวนการเพือ่ ให้กลับไปเป็นวัตถุดบิ ตั้งต้นส�ำหรับโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกใหม่ โดยผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกที่ผลิต จากน�้ำมันไพโรไลซิสจะเหมือนกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบดั้งเดิมทุกประการ นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวที่จัดท�ำขึ้นนี้ยังสนับสนุนพันธมิตรของโรงงานดาวที่ มุง่ น�ำพลาสติกรีไซเคิลอย่างน้อย 100,000 ตัน มาใช้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ตา่ งๆ ส�ำหรับ จัดจ�ำหน่ายให้กบั ลูกค้าในสหภาพยุโรปภายในปี พ.ศ. 2568 และร่วมมือกับพันธมิตร ในอเมริกาใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เม็กซิโก เพือ่ ลดการใช้วตั ถุดบิ แบบดัง้ เดิม 15
และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก ขณะที่ในประเทศจีน บริษัท Risen Energy ได้ทำ� พิธีวางศิลาฤกษ์โรงงาน ผลิตโมดูลและเซลล์แสงอาทิตย์เทคโนโลยี Heterojunction ในอ�ำเภอหนิงไห่ เมืองหนิงโป มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ซึ่งถือเป็นโรงงานผลิตโมดูลและเซลล์ แสงอาทิตย์ พลังงานสะอาด รวมถึงอุปกรณ์การผลิต และคาดว่าจะมีกำ� ลังการ ผลิต 2.5 กิกะวัตต์ และเซลล์ 2.5 กิกะวัตต์ต่อปี ซึ่งเทคโนโลยี Heterojunction มีจุดเด่นคือ ไม่มีการเสื่อมสภาพจากแสงและมีค่าสัมประสิทธิ์ อุณภูมิต�่ำ เซลล์ Heterojunction ของบริษัท Risen Energy นี้ มีประสิทธิภาพการแปลงพลังงาน สูงกว่า 23% ซึง่ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ทงั้ 2 ด้าน จะช่วยให้นกั ลงทุนได้รบั ผลตอบแทน จากการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น 10-30% ทั้งนี้ การให้คะแนนการบริหารสภาพแวดล้อมแก่โรงงานอุตสาหกรรม สีเขียวต่างๆ ประเมินจากวิธกี ารทีก่ จิ การบริหารผลด�ำเนินงานทีม่ ตี อ่ สภาพแวดล้อม เช่น นโยบายของกิจการ การจัดโปรแกรมหรือโครงการเฉพาะเจาะจง การก�ำหนด เป้าหมายของกิจการทีใ่ ช้การวัดสิง่ ทีม่ าจากการด�ำเนินงานในระดับโลกของกิจการ ที่เปิดเผยโดยวัดในเชิงปริมาณและอิงตามมาตรฐานกว่า 700 เมทริกซ์ ทั้งผลต่อ สภาวะเรือนกระจก การใช้นำ�้ ของเสียท�ำลายดิน และสารพิษ โดยแยกในส่วนของ การด�ำเนินธุรกิจของกิจการเอง คูส่ ญ ั ญาและซัพพลายเออร์ รวมทัง้ สินค้าและบริการ และยังมีการน�ำดัชนีหลักด้านสิง่ แวดล้อมทีม่ กี ว่า 40 ดัชนีมาประกอบการพิจารณา ด้วย และปัจจุบนั โรงงานอุตสาหกรรมทัว่ โลกส่วนใหญ่กย็ นิ ดีจะเปิดเผยข้อมูลด้าน บริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย
GreenNetwork4.0 September-October tember-October 2019
GREEN
Article ผศ. ดร.ธภัทร ศิลาเลิศรักษา JGSEE มจธ.
การประเมินวัฏจักรชีวิต :
เครื่องมือเพื่อการพัฒนา เศรษฐกิจหมุนเวียน ที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรม
ช่วงนีเ้ ราอาจได้ยนิ การพูดถึงกันมากเกีย่ วกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึง่ ก�ำลังเป็นทีก่ ระแสทีไ่ ด้รบั ความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยเชือ่ กันว่า เป็ น แนวทางที่ อุ ต สาหกรรมควรน� ำ มาใช้ เ พื่ อ มาทดแทนระบบเศรษฐกิ จ เก่ า ซึ่งมักเป็นแบบเส้นตรง (Linear Economy) เป็นระบบการผลิตที่มุ่งเน้นการสร้าง ผลประกอบการทางธุรกิจโดยการน�ำทรัพยากรมาใช้เพื่อผลิตสินค้าไปสู่ผู้ใช้งาน และเมือ่ สินค้าหมดอายุกจ็ ะถูกน�ำไปก�ำจัด หรือทีเ่ รียกว่า “Take-Make-Dispose” ส่วนใหญ่มกั จบลงทีก่ ารน�ำไปฝังกลบ แต่เศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นกลยุทธ์ทเี่ กิดจาก แรงบันดาลใจว่าเราจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สังคม หรือทางธุรกิจอย่างไร ในขณะที่สามารถลดการใช้ทรัพยากรและผลกระทบสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย ซึ่งแนวทางอาจไม่จ�ำกัดเฉพาะเรื่องของการลด (Reduce) การน�ำกลับมาใช้ซ�้ำ (Reuse) และการน�ำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) อย่างที่อุตสาหกรรมเคยพยายาม ท�ำอยู่แล้วในอดีต แต่เศรษฐกิจหมุนเวียนในที่นี้จะหมายรวมไปถึงโมเดลธุรกิจแบบอื่นๆ ทั้งเรื่องของ (1) Circular Supply เช่น การใช้วัสดุรีไซเคิล ใช้พลังงานหมุนเวียน หรือทรัพยากรชีวภาพทีย่ อ่ ยสลายและสร้างใหม่ได้ (2) Resource Recovery เช่น การลดการสูญเสียวัตถุดิบและการหาทางน�ำกลับมาใช้ใหม่ (3) Product Life Extension เช่น การยืดอายุผลิตภัณฑ์โดยการซ่อมแซม การปรับปรุงคุณภาพ ไปจนถึงการน�ำกลับไปขายใหม่ (4) การสร้างแพลตฟอร์มของการแบ่งปัน (Sharing Platform) หรือการร่วมมือกันระหว่างผู้ใช้งาน และ (5) Product as a Service เช่น การให้เช่าผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการแก่ผทู้ ตี่ อ้ งการใช้เป็นครัง้ ๆ โดยหวังว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจากระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนนี้จะน�ำไปสู่การแก้ปัญหาที่กังวล เช่น ทรัพยากรที่มีอยู่จ�ำกัดและอาจไม่เพียงพอส�ำหรับการผลิตเพื่อตอบสนองความ ต้องการที่ก�ำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการเพิ่มขึ้นของประชากรและการ เติบโตของเมืองและเศรษฐกิจ หรือปัญหาสิง่ แวดล้อมโดยเฉพาะการเปลีย่ นแปลง สภาพภูมิอากาศอันเกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มมาก แต่หลายคนเคย 16
ตั้งค�ำถามหรือไม่ว่าอะไรที่จะช่วยบอกว่า เศรษฐกิจหมุนเวียนเราก�ำลังด�ำเนินการหรือจะด�ำเนินการนั้นมันยั่งยืน ต่อสิง่ แวดล้อมและการใช้ทรัพยากรได้อย่างแท้จริง หรือการทีอ่ ตุ สาหกรรมพยายาม น�ำเสนอแนวทางการน�ำผลิตภัณฑ์มาใช้ซำ�้ หรือน�ำกลับมาใช้ใหม่เพือ่ ต้องการปิดลูป (Closing the Loop) ไม่ต้องไปสู่การก�ำจัดโดยวิธีฝังกลบนั้นจะพอเพียงจริงหรือ? หรือจะช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้แค่ไหนเมื่อเทียบกับแบบเดิม? ตัวอย่างเช่น หากบริษัทวางกลยุทธ์เศรษฐกิจหมุนเวียนโดยการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีการใช้ วัสดุรไี ซเคิลให้มากทีส่ ดุ แต่ผลทีต่ ามมาก็คอื อาจต้องแลกกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ในเชิงอายุการใช้งานต้องลดลง หรือแม้แต่ผลกระทบอืน่ ทีเ่ กิดขึน้ จากการใช้พลังงาน และน�ำ้ ในการรีไซเคิลวัสดุนนั้ เพือ่ น�ำกลับมาใช้ซำ�้ หรือแม้แต่การเก็บรวบรวมและ ขนส่งมากลับมาเพื่อการใช้ซ�้ำ ดังนั้นการปิดลูปอย่างเดียวโดยไม่ได้พิจารณาถึง ผลกระทบทีอ่ าจเกิดขึน้ ตามมาอาจไม่เพียงพอและไม่ใช่เครือ่ งการันตีความส�ำเร็จ ด้านสิ่งแวดล้อม ในบทความนี้จึงขอน�ำเสนอถึงเครื่องมือหนึ่งที่เป็นพื้นฐานส�ำคัญ ในการน�ำไปใช้คู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน รวมไปถึงเพื่อบ่งชี้ความยั่งยืน ด้านสิง่ แวดล้อมของระบบการผลิตของอุตสาหกรรม ก็คอื “การประเมินวัฏจักรชีวติ (Life Cycle Assessment)” หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า “LCA”
GreenNetwork4.0 September-October 2019
LCA คือกระบวนการประเมินหาขนาดของผลกระทบสิง่ แวดล้อมทีอ่ าจเกิดขึน้ โดยพิจารณาตลอดวัฏจักรชีวติ ของผลิตภัณฑ์ บริการหรือโมเดลทางธุรกิจ หรือก็คือการพิจารณาตั้งแต่กระบวนการได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง การแปรรูปวัตถุดิบ การผลิต จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ การน�ำผลิตภัณฑ์ไปใช้งาน จนกระทัง่ การก�ำจัดท�ำลายหลังหมดอายุการใช้งาน ซึง่ LCA นีไ้ ม่ใช่เรือ่ งใหม่ เพราะ เป็นเครื่องมือด้านสิ่งแวดล้อมที่ถูกใช้มานานกว่า 20 ปี จนปัจจุบัน LCA ได้ถูกยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลกและถูกก�ำหนดเป็น มาตรฐานสากล ISO14040/44 Standards (International Organization for Standardization, 2006) ซึ่งอยากจะเน้นย�ำ้ ให้ เห็นถึงความส�ำคัญของ LCA และความจ�ำเป็นที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมควรต้องน�ำไปใช้ควบคู่กับการด�ำเนินงานด้านเศรษฐกิจ หมุนเวียน ดังตัวอย่างกรณีศึกษาของอุตสาหกรรมอ้อยและน�ำ้ ตาลทรายของไทย ที่พยายามในการใช้ประโยชน์จากชีวมวลที่เกิดขึ้น ตลอดห่วงโซ่คุณค่าให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยอาศัยแนวคิด “ไบโอรีไฟเนอรี่ (Biorefinery)” กล่าวคือ การแปรรูปชีวมวลจากอ้อย ไปสูผ่ ลิตภัณฑ์ทมี่ มี ลู ค่าสูง เช่น เชือ้ เพลิงชีวภาพ เคมีชวี ภาพ ไฟฟ้า ความร้อน หรือวัสดุ โดยเป็นหลักคิดเดียวกับโรงกลัน่ น�ำ้ มันทีม่ นี ำ�้ มันดิบ เข้ามาเป็นวัตถุดบิ แต่ได้ผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นหลายอย่าง ซึง่ กลุม่ วิจยั การประเมินวัฏจักรชีวติ บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิง่ แวดล้อม ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ทำ� การศึกษาถึงรูปแบบของระบบไบโอรีไฟเนอรี่ของการน�ำใบอ้อยกลับไปใช้ประโยชน์เพื่อการผลิตพลังงาน การน�ำน�้ำกากส่าของโรงเอทานอล ไปใช้งานร่วมกับกากหม้อกรองของโรงงานน�ำ้ ตาลเพือ่ ไปผลิตปุย๋ และกลับไปใช้งานในไร่ออ้ ยอีกครัง้ หนึง่ ซึง่ เหล่านีเ้ ป็นตัวอย่างของการหมุนเวียน ที่เกิดขึ้นแต่ต้องแลกกับการใช้พลังงานส่วนเพิ่มจากกิจกรรม เช่น การตัดอ้อยและเก็บใบอ้อยด้วยเครื่องจักร การขนส่งใบอ้อย การใช้พลังงาน ในช่วงการผลิตปุย๋ และการขนส่งปุย๋ กลับสูไ่ ร่ ดังนัน้ LCA จึงถูกน�ำมาใช้เพือ่ เปรียบเทียบประสิทธิภาพของระบบดังกล่าวกับแบบปกติทไี่ ม่ดำ� เนินการและ มีการเผาใบอ้อยช่วงเก็บเกี่ยวเหมือนเดิม ซึ่งผลการประเมิน LCA ช่วยชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนกว่าระบบไบโอรีไฟเนอรี่ดังกล่าวสามารถลดผลกระทบด้าน การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภาวะความเป็นกรด ภาวะการเกิดโฟโตเคมิคอลออกซิเดชั่น และการเกิดฝุ่นละอองลงได้ร้อยละ 40-90 เมื่อเปรียบเทียบกับกรณี ปกติที่ไม่มีการด�ำเนินการ
ดังนัน้ LCA จึงเป็นเครือ่ งมือส�ำคัญทีจ่ ะช่วยให้อตุ สาหกรรมสามารถประเมิน ประสิทธิภาพความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมของโมเดลธุรกิจหมุนเวียนที่ก�ำลังจะ พัฒนาขึ้นใหม่ว่าก่อนที่จะน�ำไปด�ำเนินการจริงว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด หรือจะช่วยท�ำให้อุตสาหกรรมสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม เช่น การรีไซเคิล การใช้ซำ�้ หรือแม้แต่แนวทางการก�ำจัดซาก และด้วยจุดแข็งของ LCA ที่ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งหมดที่เกิดขึ้นทุกช่วงของวัฏจักรชีวิตท�ำให้เราสามารถ วิเคราะห์เชิงลึกได้ถึงสาเหตุของปัญหาเพื่อก�ำหนดแนวทางแก้ไขหรือป้องกันได้ อย่างเหมาะสม รวมถึงยังสามารถน�ำผลประเมินไปใช้ในการตัง้ เป้าหมายและติดตาม ผลการปรับปรุงได้อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ ปัจจุบัน LCA ยังเป็นเครื่องมือ ส�ำคัญของการด�ำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมในเรื่องอื่นๆ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ทเี่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต การสนับสนุนการท�ำ ISO14001 การจัดท�ำและการรับรองฉลากสิ่งแวดล้อม เช่น ฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ของผลิตภัณฑ์ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ฉลากวอเตอร์ฟุตพรินต์ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น 17
ทั้งหมดนี้ ผู้เขียนหวังว่าผู้อ่านจะได้เห็นถึงความส�ำคัญของ LCA ที่เริ่ม เข้ามามีบทบาทต่ออุตสาหกรรม ซึ่งผู้ประกอบการอุตสาหกรรมจึงควรต้องปรับ กระบวนทัศน์และหาทางน�ำเครือ่ งมือ LCA ไปประยุกต์ใช้กบั โมเดลธุรกิจของตนเอง ต่อไปในอนาคต
เอกสารอ้างอิง Silalertruksa, T., Pongpat, P., Gheewala, S.H., 2017. Life cycle assessment for enhancing environmental sustainability of sugarcane biorefinery in Thailand, Journal of Cleaner Production, Vol. 140, Part 2, pp.906-913 Silalertruksa, T., Gheewala, S.H., 2019. Competitive use of sugarcane for food, fuel, and biochemical through the environmental and economic factors. The International Journal of Life Cycle Assessment. https://doi .org/10.1007/s11367-019-01664-0
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
Article รศ. ดร.ศิริมา ปัญญาเมธีกุล, ศ.กิตติคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ภาควิชาวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Working Group : Environmental Management Using Geospatial Information Technology (EnvGIT) FB Page : Thailand Network Center on Air Quality Management (TAQM) E-mail : Sirima.P@Chula.ac.th, www.taqm.org
ดราม่า เรื่อง PM 2.5
รู้ให้ไว ไหวให้ทัน
ขอย�้ำอีกครั้งว่า แม้จะเขียนจั่วหัวเรื่องไว้ในตอนที่ 1 ว่าเป็นเรื่องดราม่า อันเนือ่ งมาจากคุณภาพอากาศในกรุงเทพมหานครทีเ่ ลวมากในช่วงปลายมกราคม ต่อต้นกุมภาพันธ์เมือ่ ต้นปี พ.ศ. 2561 โดยดูหรือวัดเอาจากค่าสารมลพิษอากาศหรือ PM 2.5 แต่เมื่อเวลาผ่านไปสภาพลมฟ้าดีขึ้น ลมร้อนเริ่มมาและพัดแรงขึ้น มลพิษ ทัง้ หลาย ซึง่ จริงๆ ไม่ได้มแี ค่เพียง PM 2.5 ก็ถกู พัดพาให้กระจายออกไป ปัญหามลพิษ อากาศจึงน้อยลง และดราม่าเรือ่ งนีก้ ค็ ล้ายๆ กับเรือ่ งอืน่ ๆ คือจางหายไปกับสายลม แต่ในกรณีนมี้ นั หายไปกับสายลมจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่การเปรียบเปรย แต่เราจะต้อง มาท�ำตัวแบบ “รู้ให้ไว ไหวให้ทัน” เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้ทันท่วงที โดยต้องเรียนรู้ ในรายละเอียดที่จะกล่าวถึงต่อไป ดังนี้ เรือ่ งนีเ้ ป็นเรือ่ งทีซ่ เี รียสมาก ซีเรียสจนต้องรูใ้ ห้ไว ไหวให้ทนั คือ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ทีป่ จั จุบนั ก�ำหนดให้คา่ มาตรฐานเฉลีย่ 24 ชัว่ โมง ของคุณภาพอากาศในรูปฝุน่ จิว๋ PM 2.5 ไว้ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ มาตรฐานของไทยเราอยู่ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รวมถึงค่ามาตรฐาน เฉลีย่ รายปี PM 2.5 ของ WHO ก็อยูท่ เี่ พียง 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ ค่ามาตรฐานเฉลี่ยรายปีของไทยเป็น 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งก็ได้มี เสียงเรียกร้องและสอบถามว่าเหตุใด ไทยเราจึงไม่ลดค่าก�ำหนดนี้ให้ลงมาเท่ากับ ของ WHO กับเพียงแค่มาตรฐานเฉลีย่ 24 ชัว่ โมงปัจจุบนั ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เราก็ยังท�ำไม่ได้ในทุกๆ ปี ถ้าลดไปเป็น 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามองค์กร WHO ก็คงไม่ได้มาตรฐานกันเกือบทุกวันในช่วงเดือนเสีย่ ง (ฤดูลมสงบ) และกรุงเทพมหานครรวมทัง้ อีกหลายเมืองในประเทศไทย ถ้าดูเฉพาะจากตัวเลข ก็จะกลายเป็นเมืองทีม่ อี ากาศหายใจไม่ได้เอาทีเดียว และดราม่าก็จะมาอย่างรุนแรง กว่าเมือ่ ต้นปี พ.ศ. 2561 นีอ้ กี อย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้ดว้ ย ก็อย่างทีบ่ อกแหละว่าต้อง รูใ้ ห้ไว ไหวให้ทนั และจัดเตรียมนโยบายและแผนงาน รวมทัง้ มาตรการทัง้ ระยะสัน้ และระยะยาวเอาไว้ส�ำหรับรองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
18
มาตรการเด็ดขาด ค่าฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 ปกติไม่ได้สูงตลอดปี ค่านี้จะลดลงเมื่อภูมิอากาศมีสภาพลมแรง และสารมลพิษถูกพัดพาให้กระจายตัว ไปได้มากและเร็ว ค่า PM 2.5 จะสูงเป็นบางวันในช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม และ เมือ่ มีคา่ สูงในบางวันนัน้ ภาคราชการก็จะออกประกาศเตือนให้ประชาชนอยูใ่ นบ้าน (ไม่นา่ เวิรก์ เพราะคนมันต้องออกจากบ้านไปทําธุรกิจและภารกิจ รวมทัง้ คุณภาพ อากาศในหลายบ้านแย่กว่าอากาศภายนอกเสียอีกด้วยซำ�้ ) ให้ประชาชนใช้หน้ากาก ป้องกันมลพิษแบบ N95 ที่ละเอียดมาก (ไม่เวิร์ก เพราะหายใจไม่สะดวก เรียกว่า ไม่ได้เลยก็คงไม่ผดิ นัก) งดการออกกําลังกายนอกบ้าน (ข้อนีอ้ าจพอได้แต่ไม่ใช่การ แก้ปัญหาจริง) ฯลฯ รวมทัง้ ภาครัฐก็จะขอความร่วมมือไปยังผูก้ อ่ มลพิษอากาศทัง้ หลาย ไม่วา่ จะ เป็นการก่อสร้าง การขับรถยนต์ การเผาเชื้อเพลิงในโรงงาน การเผาในที่โล่ง ซึ่ง ปรากฏว่าทีผ่ า่ นมาหลายปีนนั้ ไม่มผี ใู้ ดให้ความร่วมมือเลย ดังนัน้ การแก้ไขปัญหา ที่รุนแรงนี้ จะมามัวขอแต่ความร่วมมือจากคนอื่นไม่ได้ รัฐนั้นแหละที่ต้องใช้ มาตรการเด็ดขาดมาบังคับสถานเดียว จึงจะเวิร์ก มาตรการระยะสัน้ จากการทีไ่ ด้พดู คุยและรับฟังเจ้าหน้าที่ รัฐ พอจะสรุปได้ว่า มาตรการระยะสั้นที่ภาครัฐวางแผนไว้สําหรับต่อกรเมื่อมีเหตุ ฉุกเฉิน คือค่า PM 2.5 เกินมาตรฐาน มีดังนี้ (1) ในสายวิชาการเราค่อนข้างเชื่อกันแล้วว่า สาเหตุหลักของ PM 2.5 มาจากไอเสียของรถยนต์ดีเซล และควันพิษจากรถยนต์ ไม่ว่าจะประเภทอะไรจะ สูงขึ้นถ้าสปีดหรือความเร็วของรถยนต์ต�่ำลง (ดูรูปที่ 1) ดังนั้น ถ้าต้องการจะลด ปัญหามลพิษอากาศ เราต้องท�ำให้การจราจรคล่องตัวและรถวิ่งได้เร็วขึ้น (2) ห้ามจอดในทีห่ า้ มจอด ตรวจจับรถควันดําอย่างเข้มงวด ห้ามรถควันดํา วิ่งบนท้องถนน รถบรรทุกต้องมีผ้าใบคลุมมิดชิด ฯลฯ (3) ประกาศให้รถทะเบียนเลขคู่ วิ่งได้เฉพาะวันคู่ และรถทะเบียนเลขคี่ วิ่งได้เฉพาะวันคี่
GreenNetwork4.0 September-October 2019
ลดหรือหยุดการผลิต และข้อ (12) ห้ามประชาชนเผาขยะ เพราะติดทีต่ วั บท กฎหมายและอํานาจหน้าทีข่ องทางราชการ ซึง่ ถ้าจะแก้ปญ ั หาให้ได้ทนั ท่วงที ก็จําเป็นต้องมีกฎระเบียบใหม่มารองรับให้เจ้าหน้าที่รัฐมีหลังพิงและ กฎระเบียบ รวมทัง้ ขัน้ ตอนสัง่ การทีเ่ ด่นชัดเหล่านี้ ต้องเตรียมไว้ตงั้ แต่บดั นี้ หากต้องอาศัยอํานาจบริหารของรัฐบาล เช่น จัดเป็นมติ ครม. ฯลฯ ก็ตอ้ งทํา เพราะฉะนัน้ เมือ่ ถึงเวลานัน้ เราก็จะมาพูดถึงมาตรการ 10 กว่าข้อนีก้ นั อีกครัง้ และอีกครัง้ ซึง่ ไม่ได้แก้ปญ ั หาอะไร และปอดคนกรุงเทพฯ ก็ตอ้ งพังกันต่อไป โปรดสังเกตว่า ผู้เขียนไม่ได้เอ่ยถึงกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เลย ในเรือ่ งมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหา เพราะ สธ. ก็เหมือนภาคประชาชน คือ เป็นผูถ้ กู กระทํา ไม่ใช่เป็นผูก้ ระทํา ดังนัน้ หากเราแก้ปญ ั หาโดยให้ผกู้ ระทํา นัน้ รับผิดชอบในการแก้ปญ ั หาจนสําเร็จได้ ผูถ้ กู กระทําก็ไม่มอี ะไรจะต้องทํา อีกต่อไป และเราเชือ่ ในมาตรการป้องกันปัญหาแต่ตน้ เหตุ มากกว่ามาตรการ การป้องกันปัญหา (ส่วนบุคคล) ที่ปลายเหตุ รูปที่ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างค่าตัวคูณการปลดปล่อยฝุ่นละอองจากยานพาหนะ ที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซลกับความเร็วของรถ ที่มา : สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา “ฝุ่น PM 2.5 แก้อย่างไรให้ตรงจุด” ทางออกร่วมกัน ในการลดฝุ่นละออง PM 2.5 ใน กทม., กรมควบคุมมลพิษ, 23 มีนาคม 2561 (4) หากคุณภาพอากาศเลวลงไปอีก ให้ประกาศสั่งห้ามรถดีเซลวิ่ง ไม่ว่าจะเป็น รถราชการหรือรถเอกชน 4 เรื่องนี้กองบังคับการตํารวจจราจรต้องเป็นหน่วยงานที่รับ เรื่องไป แต่ 2 เรื่องแรกเป็นเรื่องที่มีระเบียบมีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว คงไม่ต้องรอให้มี เหตุการณ์ฉกุ เฉิน PM 2.5 เกินมาตรฐาน ผูค้ นหายใจไม่ออกและดราม่าล้นโซเชียลกระมัง จึงจะมาลงมือทํา มันเป็นเรื่องที่ต้องทําอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว ฉะนั้นสิ่งนี้ภาครัฐต้องนําไป ปฏิบตั ทิ นั ที ถ้าไม่ทาํ ก็ขอให้มคี นใจกล้าฟ้องศาลด้วยมาตรา 157 ว่าด้วยการละเลย ไม่ปฏิบตั ิ หน้าที่กันสักทีเถิด ปอดของเราจะได้สะอาดกันเสียที (5) ควบคุมและกํากับดูแลการก่อสร้าง ไม่วา่ จะเป็นอาคารหรือทางรถไฟฟ้า ฯลฯ ในพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร มิให้มีการปล่อยฝุ่นออกมาเกินมาตรฐานที่กําหนด เช่น ต้องใช้รวั้ ทึบ ต้องมีผา้ ใบคลุมรถขนวัสดุ ต้องทําความสะอาดบริเวณก่อสร้าง ต้องล้างล้อรถ ขนวัสดุเข้าออก และห้ามก่อสร้างยามวิกาล ฯลฯ (6) ทําความสะอาดถนน (อันนี้ไม่เวิร์กสําหรับ PM 2.5 ได้อธิบายไว้ในเรื่องที่ 3 ตอน 5 (7) เพิ่มพื้นที่สีเขียว (ข้อนี้มันต้องทําอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีปัญหา PM 2.5 หรือไม่มี) (8) รณรงค์ให้ผขู้ ายอาหารปิง้ ย่างใช้เตาลดมลพิษ (ข้อนีค้ งหน่อมแน้มไปเล็กน้อย แต่ก็ดี คือพยายามดูไปทุกมาตรการที่พอจะช่วยกันได้) ข้อ (5)-(8) นี้ กรุงเทพมหานครเป็นผูร้ บั หน้าเสือ่ แต่กอ็ กี นัน่ แหละทุกข้อนีม้ นั ต้อง ทําอยู่แล้วโดยไม่เกี่ยวกับมีหรือไม่มีปัญหา PM 2.5 ส่วนที่น่าจะเสริมเพิ่มจากมาตรการ 4 ข้อหลังนี้ คือมาตรการข้อ (9) ที่เราจะขอนําเสนอเพื่อพิจารณา (9) หากใช้มาตรการอืน่ ๆ แล้วปัญหายังมิได้ลดลง ก็ตอ้ งใช้มาตรการสัง่ หยุดก่อสร้าง ทันที อาจจะเป็นการก่อสร้างในโครงการของรัฐก่อนเป็นอันดับแรก แล้วตามด้วยโครงการ ของเอกชนในลําดับต่อไป (10) ควบคุมกํากับดูแลโรงงานอุตสาหกรรม รวมทัง้ โรงไฟฟ้าทีม่ กี ารเผาเชือ้ เพลิง ฟอสซิล และระบบควบคุมมลพิษ มิให้ปล่อยสารมลพิษเกินมาตรฐาน (11) สั่งลดหรือหยุดการผลิต เมื่อเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ 2 ข้อล่าสุดนี้เป็นส่วนที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ต้องเป็นผู้รับผิดชอบและบังคับ ให้เป็นไปตามกฎหมายทีม่ ี ซึง่ ต้องทําอยูแ่ ล้วเป็นปกติวสิ ยั ไม่จาํ เป็นต้องรอจนเกิดเหตุฉกุ เฉิน (12) ประกาศห้ามประชาชนเผาขยะ สิง่ เหลือใช้หรือของเสียจากการเกษตร ฯลฯ ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ข้อนีก้ รุงเทพมหานครและองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ (อปท.) ทีเ่ กีย่ วข้อง คือ เทศบาล ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ต้องทําอยู่แล้ว โดยไม่เกี่ยวกับมีหรือไม่มี ปัญหาฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 ในมาตรการต่างๆ เหล่านี้ มีขอ้ สังเกตคือ ส่วนใหญ่มกี ฎหมายรองรับอยูแ่ ล้วและ ต้องปฏิบตั อิ ยูแ่ ล้ว แต่บางข้ออาจมีปญ ั หาทีเ่ จ้าหน้าทีร่ ฐั อาจมิกล้าสัง่ การทันที เช่น ข้อ (3) ให้รถวิง่ วันคูว่ นั คี่ ข้อ (4) ห้ามรถดีเซลวิง่ ข้อ (9) สัง่ หยุดการก่อสร้าง ข้อ (11) สัง่ โรงงาน 19
มาตรการระยะยาว มาตรการพวกนี้เป็นมาตรการ ระดับนโยบาย จึงจะขอเอ่ยถึงไว้เพียงสั้นๆ ในที่นี้ว่ามีอะไรบ้าง ดังนี้ (1) ต้ อ งเปลี่ ย นให้ น�้ ำ มั น รถยนต์ คุ ณ ภาพดี ขึ้ น โดยเปลี่ ย นจาก มาตรฐานยูโร 4 เป็นยูโร 5 และยูโร 6 ในที่สุด ยิ่งถ้าจะเป็นทางลัดโดยปรับ จากยูโร 4 ไปเป็นยูโร 6 เลยก็น่าจะดีต่อประเทศเราเร็วขึ้นเท่านั้น (2) ถ้าเปลี่ยนเป็นมาตรฐานยูโร 6 นั่นหมายถึงผู้ผลิตรถยนต์จะต้อง ปรับข้อกําหนดของเครื่องยนต์ตามมาตรฐาน* เช่นเครื่องยนต์ของรถยนต์ ดีเซล ต้องเป็นเครือ่ งยนต์ดเี ซลสะอาด (Clean Diesel Engine) สามารถปล่อย PM : Particulate Matter (ฝุน่ ละอองทุกขนาดรวมกัน) ได้เพียง 5 มิลลิกรัม ต่อกิโลเมตรจากข้อกําหนดยูโร 4 กําหนดให้ปล่อยได้ที่ 25 มิลลิกรัมต่อ กิโลเมตร(2) และสําหรับเครือ่ งยนต์ของรถยนต์เบนซินจํากัด การปล่อย PM ที่ 4.5 มิลลิกรัมต่อกิโลเมตร (บังคับใช้เฉพาะเครื่องยนต์ Direct Injection) จากข้อกําหนดยูโร 4 เดิมที่ไม่มีการกําหนดค่าของ PM(3) นอกจากนี้ ในมาตรฐานยู โ ร 6 ยั ง เพิ่ ม ข้ อ กํ า หนดของจํ า นวนอนุ ภ าคฝุ ่ น ละออง (PN : Particulate Number) เป็น 6x1011 #/km (อนุภาคต่อกิโลเมตร) สําหรับเครื่องยนต์ทั้งประเภทดีเซลและเบนซิน (3) รับรถขนส่งมวลชนทุกคัน ทัง้ ของรัฐและของเอกชน เป็นรถทีใ่ ช้ พลังงานไฟฟ้า ซึ่งไม่ปล่อยฝุ่นละอองและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดลง (4) จัดให้มีระบบ NMT หรือ Non-Motorized Transportation ที่ เป็นจริง ใช้งานได้ และสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้งาน จนเกิดการเปลี่ยน พฤติกรรม ลดหรือเลิกการใช้รถยนต์สว่ นตัวทีใ่ ช้เครือ่ งยนต์ มาใช้รถทีไ่ ม่ใช้ เครื่องยนต์ โดยเฉพาะระบบขนส่งมวลชน (5) จัดทําผังเมืองทีบ่ รู ณาการ เอาประเด็นลดมลพิษอากาศเข้าไปใน กระบวนการคิดและกระบวนการการทํางานรวมทั้งจัดวางผัง (6) จัดเก็บภาษีมลพิษจากผู้ก่อให้เกิดมลพิษ ซึง่ ถ้าเราทําได้จริงทัง้ หมด ทัง้ มาตรการระยะสัน้ และระยะยาวทีก่ ล่าว มานีอ้ ย่างเด็ดขาดและทันท่วงที เราก็คงจะมีอากาศทีม่ คี ณ ุ ภาพทีเ่ ราสามารถ หายใจกันได้เต็มปอด เหมือนที่เคยทํากันมาได้ในอดีต และเราภาวนาขอให้ เป็นเช่นนั้นได้จริงในเร็ววัน * มาตรฐานไอเสียรถยนต์นงั่ และรถบรรทุกขนาดเล็ก Light Commercial Vehicles ≤1305 kg
เอกสารอ้างอิง
(1) สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา “ฝุ่น PM 2.5 แก้อย่างไรให้ตรงจุด” ทางออกร่วมกันในการลด ฝุ่นละออง PM 2.5 ใน กทม., กรมควบคุมมลพิษ, 23 มีนาคม 2561 (2) สํานักงานคุณภาพเชือ้ เพลิง “นำ�้ มันยูโร 4 คืออะไร” กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน http://www.doeb.go.th/knowledge/data/uro_4.pdf (สืบค้นเมือ่ วันที่ 10 เมษายน 2561) (3) Williams, M. and R. Minjares. “A technical summary of Euro 6/VI vehicle emission standards.” The International Council on Clean Transportation. https://www.theicct.org/sites/default/files/publications/ICCT_Euro6-VI_briefing _jun2016.pdf (accessed April 10, 2018)
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
สิบกวาปมานี้ที่ประเทศไทยไดสนับสนุนให ผลิตไฟฟาจากพลังงานทดแทน โดยใหเหตุผลวา เพื่อเสริมสรางความมั่นคงดานไฟฟาในประเทศ ตลอดระยะเวลาอันยาวนานประเทศไทยก็ไมเคย ขาดแคลนไฟฟาเลย ในทางกลับกันกําลังไฟฟา ที่สํารองไวกลับเกินกวามาตรฐานที่กําหนดไว 15% กวาเทาตัว ดังนัน้ ประโยชนของการสงเสริมพลังงาน ทดแทนอยางมากมาย คงไมไดชวยดานความมั่นคง แต เ ป น การเป ด ประตู สู ธุ ร กิ จ ใหม ด า นพลั ง งาน เสริมสรางความมั่นคงดานเศรษฐกิจ ทําใหเกิด มหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นในระดับประเทศและระดับโลก หลายทาน อันเนือ่ งมาจากธุรกิจขายไฟฟาใหภาครัฐ แทที่จริงเปนธุรกิจสัมปทาน ซื้อขายลวงหนากันถึง 20 ป และในหลายๆ ชวงเวลาที่ผานมา รัฐก็ขาด ประสบการณ เสียคาโง ซือ้ ไฟฟาแพงเกินความจําเปน มาวันนี้ รัฐอยากจะแบงปนเศษสตางคจาก พลังงานทดแทนใหกบั ชุมชนทีม่ ฐี านะยากจนกระจาย อยูท วั่ ประเทศบาง กลับมีคาํ ถามมากมาย แตไมเคยมี ใครถามวา แทจริงแลวชุมชนตองการอะไร และใคร คือชุมชนเปาหมายที่รัฐสมควรจะแบงปนให
Focus พิชัย ถิ่นสันติสุข
โรงไฟฟาชุมชนคืออะไร? และใคร คือชุมชนคนนั้น!
โรงไฟฟาชุมชน สวัสดิการแหงรัฐ... รูปแบบใหม 20
1. โรงไฟฟาชุมชน ควรเปนโรงไฟฟาขนาด เล็กๆ ไมเกิน 3 เมกะวัตต จะมีการขายไฟฟาใหภาค รัฐหรือใชไฟฟากันเองในชุมชน ขึ้นอยูกับสภาพของ ทองถิน่ นัน้ ๆ สวนเชือ้ เพลิง ควรหาไดในชุมชนนัน้ ๆ หรือ รอบบริเวณนั้น จะเปนเศษเหลือทิ้งหรือวัสดุเหลือใช จากภาคเกษตรหรืออุตสาหกรรมเกษตรในทองถิ่น นัน้ ก็ได รวมถึงการปลูกพืชโตเร็วเพือ่ ใชเปนเชือ้ เพลิง ก็เปนอีกทางเลือกหนึ่ง 2. เทคโนโลยี การนําพลังงานธรรมชาติจาก ดวงอาทิตยที่สะสมไวบนผิวโลกมาใช มี 2 วิธีงายๆ ก็คอื การหมักและการเผา ดังนัน้ ดานเทคโนโลยีจงึ ควร เปดกวางไวรองรับเทคโนโลยีใหมๆ อยาง Disruptive Technology ไมวา จะเปนเทคโนโลยีการหมักกาซ หรือ การเผาตรง หรือเผาแบบควบคุมอากาศ ก็นา จะใชได ดวยกันทั้งหมด แตควรคํานึงถึงดานสิ่งแวดลอมและ งบประมาณที่เหมาะสม สิ่งที่ รัฐตองกําหนด ไวใน เงือ่ นไขครัง้ นีก้ ค็ อื เครือ่ งจักรและอุปกรณตอ งเปนของ ใหม ไมเคยใชงานมากอนเทานัน้ จะไดไมมโี รงไฟฟา เล็กๆ ทีใ่ ชงานไมไดอนั เนือ่ งจากใชเครือ่ งจักรอุปกรณ เกามากๆ กระจายอยูทั่วประเทศเหมือนในขณะนี้ 3. เชือ้ เพลิง ควรเปนแบบหลากหลายเชือ้ เพลิง (Multi-Feedstock) หรือที่ทางกระทรวงพลังงาน มักใชคาํ วาไฮบริด คือใชเชือ้ เพลิงไดหลากหลาย เชน ถาเปนระบบการเผาใหความรอน นอกจากชีวมวล แลว ก็ยังสามารถใชกับ RDF: Refuse Derived Fuel ซึ่งเปนเชื้อเพลิงที่คัดแยกจากบอฝงกลบในชุมชน นัน้ ๆ ในปริมาณทีเ่ หมาะสม หากเปนการหมักอาจใช พืชพลังงาน เชน หญาเนเปยร รวมทัง้ ขยะอินทรียห รือ กากผลไมจากเกษตรอุตสาหกรรม รวมทั้งนํ้าเสีย ชุมชน
GreenNetwork4.0 September-October 2019
นอกจากไฮบริดเชื้อเพลิงแลว ในแตละโรงไฟฟาชุมชน ยังควรเปดโอกาส ใหเปนไฮบริดดานเทคโนโลยีอกี ดวย อาทิ มีการผลิตไฟฟาจากกาซชีวภาพรวมกับ โรงไฟฟาพลังงานความรอน ก็จะชวยใหโรงไฟฟามีประสิทธิภาพดีขึ้น 4. ใครคือชุมชน..สมหลน..คนนั้น! อาจเปนเกษตรกร ชาวไร ชาวนา คนหาเชากินคํา่ ทีร่ วมตัวเปนวิสาหกิจชุมชน หรือองคกรอื่นๆ ตามกฎหมายจะเปนสหกรณ องคกรปกครองสวนทองถิ่นดวย หรือไม ก็ขนึ้ อยูก บั นโยบายรัฐในการกระตุน เศรษฐกิจ เพราะนีค่ อื สวัสดิการแหงรัฐ อีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเห็นเนื้อเห็นนํ้ามากกวา “บัตรคนจน” อีกทั้งชุมชนที่ขยันก็ยังมี โอกาสเพิ่มรายไดจากการหาเชื้อเพลิงมาจําหนายใหกับโรงไฟฟาอีกดวย 5. แนวทางการรวมลงทุน โรงไฟฟาชุมชนนัน้ ตางจากโรงไฟฟาประชารัฐ คือ ภาครัฐไมตอ งลงทุนดวย งบประมาณใดๆ เนื่องจากภาคเอกชนพรอมลงทุนทั้ง 100% จัดสรรหุนใหชุมชน ที่เขาหลักเกณฑถือหุน 30% โดยไมตองชําระคาหุนใดๆ หนาที่ของภาครัฐ คือ จัดหาสายสงและสัญญาขายไฟฟา (PPA) และอํานวยความสะดวกดานกฎระเบียบ ประโยชนที่ไดจากแนวคิดนี้ คือ รัฐไมตอ งลงทุนดวยงบประมาณเปนกอน ซึง่ อาจมีการใชจา ยไดไมเต็ม ประสิทธิภาพเทากับภาคเอกชน ทําใหเอกชนผูล งทุนตองคํานึงถึงประสิทธิภาพของโรงไฟฟา เนือ่ งจาก ตองนํารายไดจากการขายไฟฟาไปชําระคืนงบลงทุน และใชเปนคาใชจา ย ในการซื้อเชื้อเพลิง รวมทั้งการเดินระบบในโรงไฟฟา (O&M) เปนการลดโอกาสการนําโครงการโรงไฟฟาชุมชนไปขายเปลี่ยนมือ ทํากําไรเปนทอดๆ
21
6. อัตรารับซื้อไฟฟา ควรเปนแบบ FIT ระยะเวลาขายไฟฟา 20 ป ราคา รับซื้อไฟฟาไมควรตํ่ากวาอัตราปกติของโรงไฟฟาที่เปดดําเนินการแลว เพื่อให โรงไฟฟาชุมชนไมเสียเปรียบดานตนทุนราคาเชื้อเพลิง ซึ่งในอนาคตอาจมีการ แขงขันดานราคาเชือ้ เพลิงกันมากขึน้ โดยควรกําหนดใหโรงไฟฟาขนาดเล็กไดราคา ขายไฟฟาที่สูงกวา ตัวอยางเชน โรงไฟฟาขนาด 1.5 เมกะวัตต สามารถขายไฟฟา ไดในราคาหนวยละ 5.50 บาท สวนโรงไฟฟาขนาด 3 เมกะวัตต อาจขายไฟฟาได เพียงหนวยละ 4.50 บาท เปนตน 7. การพิจารณาคัดเลือกโครงการ ควรจะเปดโอกาสใหชมุ ชนทีม่ คี วามพรอม มีสวนรวมในการคัดเลือกเอกชนที่สนใจลงทุนดวย แทนที่ชุมชนจะถูกคลุมถุงชน เหมือนในอดีตทีผ่ า นมา และทีส่ าํ คัญ คณะกรรมการคัดเลือกควรมาจากองคกรทีเ่ ปน กลางไมมสี ว นไดเสีย และเปดเผยวิธคี ดั เลือก ไมควรผลักภาระให สกพ. (สํานักงาน คณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน) เนื่องจากทาง สกพ.มีบุคลากรนอย จึงอาจ พิจารณาโดยถือความครบถวนของเอกสารเปนสําคัญ แตสาํ หรับโรงไฟฟาชุมชนแลว ควรมุงเนนไปที่โอกาสความสําเร็จของโครงการเปนสําคัญ ไมวาจะเปนเชื้อเพลิง เทคโนโลยี ความพรอมในการลงทุน สําหรับเอกสารควรเปนเพียงสวนประกอบใน การพิจารณา ไมวาโรงไฟฟาชุมชนของคนที่จนกระจายทั่วประเทศ จะไดรับการตัดสินใจ ทางการเมืองใหมหี นาตาออกมาเปนเชนไรก็ตาม ผูเ ขียนในฐานะภาคเอกชนคนหนึง่ ขอเคารพการตัดสินใจนั้น หลังจากที่ไดพยายามสื่อสารทุกชองทางใหผูมีอํานาจ ไดทราบขอมูล ดวยการถอดบทเรียนในอดีตทีล่ ม เหลว…เราคาดหวังใหโครงการดีๆ อยางโรงไฟฟาชุมชน มาชวยปูพนื้ ฐานเศรษฐกิจฐานรากในรูปแบบใหม เปนตนแบบ ของการแบงปน ชวยลดชองวางระหวางคนรวยและคนจน
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
การพัฒนา 5 ระดับสูอ ตุ สาหกรรมสีเขียว
People กองบรรณาธิการ
นโยบายแนวทางการพัฒนาภาคธุรกิจอุตสาหกรรมใหมคี วามสอดคลองกับศักยภาพ และ ความเปนไปไดของระบบนิเวศ รวมทั้งความผาสุกของสังคม เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมมีการ แขงขันกันสูงมาก ทั้งในดานกระบวนการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑใหมีความแตกตางและ มีประสิทธิภาพมากขึน้ อาจสงผลกระทบตอมลภาวะและสิง่ แวดลอมเปนพิษได ดังนัน้ เพือ่ พัฒนา ใหการประกอบกิจการเปนมิตรตอสิ่งแวดลอมมากยิ่งขึ้น หนวยงานภาครัฐที่เกี่ยวของจะตอง เขาไปสงเสริมและสนับสนุนสถานประกอบการสูอุตสาหกรรมสีเขียว หรือ Green Industry ตามยุทธศาสตร Thailand 4.0 อยางยั่งยืน เฉกเชนนี้ แนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรมสีเขียวจะตองเกิดจากแนวคิด ของผูน าํ หรือผูบ ริหารหนวยงานทีม่ หี วั ใจสีเขียวเปนสําคัญดวย จึงจะสามารถผลักดันโครงการตางๆ ใหเดินหนาและประสบผลสําเร็จบรรลุตามเปาหมายไดอยางเปนรูปธรรมและยัง่ ยืนอยางวงกวาง ตอประเทศชาติ โดยเฉพาะหนวยงานทีเ่ กีย่ วของโดยตรงเกีย่ วกับการดําเนินโครงการอุตสาหกรรม สีเขียว คือ กรมโรงงานอุตสาหกรรม สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมีผูบริหารหนวยงานหลัก ทานนีค้ ลุกคลีในแวดวงสายสิง่ แวดลอมมาอยางยาวนาน และเปนผูน าํ หัวใจสีเขียว นัน่ ก็คอื ทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ทองชัย ชวลิตพิเชฐ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัย เชียงใหม ประกาศนียบัตรนักบริหารระดับสูง สถาบันพัฒนาขาราชการพลเรือน วิทยาลัยปองกัน ราชอาณาจักร เปนผูครํ่าหวอดในกระทรวงอุตสาหกรรม จากประสบการณเคยดํารงตําแหนง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผูต รวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงผูอ าํ นวยการระดับสูง อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดเชียงราย ซึง่ ตําแหนงโดยกอนหนานีด้ าํ รงตําแหนง รองเลขาธิการ สํานักงานคณะกรรมการออยและนํ้าตาลทราย นอกจากนั้นยังเคยดํารงตําแหนง รองประธานกรรมการ บริษัท บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษสิ่งแวดลอม จํากัด (มหาชน) ซึ่งเปนบริษัทที่บริการกําจัดของเสียในภาคอุตสาหกรรมโรงงานตางๆ รวมถึงเปนกรรมการโดย ตําแหนง สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียรแหงชาติ ทองชัย ถือเปนผูบริหารหัวใจสีเขียวที่มีแนวคิดดําเนินการตามนโยบายในฐานะภาครัฐ ในดานการพัฒนาและสงเสริมและพัฒนาบูรณาการระหวางมิติทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดลอม ซึ่งตรงกับแนวคิดเรื่องประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ โดยเปนหนึ่งในนโยบายของกรมโรงงาน 22 22
GreenNetwork4.0 September-October 2019 Green
อุตสาหกรรม ที่ตองการใหการเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมีความ สอดคลองกับศักยภาพ และความเปนไปไดของระบบนิเวศ เกิดความสมดุล สรางความ ผาสุกของสังคมดวยอุตสาหกรรมสีเขียวเพือ่ เปนการพัฒนาอยางสมดุลและยัง่ ยืน และลาสุด เมื่อเร็วๆ นี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมไดจัดโครงการตรวจประเมินสถานประกอบการ ทีข่ อเทียบระดับหรือเลือ่ นระดับสูอ ตุ สาหกรรมสีเขียวใหแกสถานประกอบการ 139 โรงงาน โดยมีวัตถุประสงคเพื่อยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 ถึง ระดับที่ 5 ซึ่งโครงการดังกลาวเปนโครงการตอเนื่องมาตั้งแตป พ.ศ. 2559 ทองชัย กลาววา “สําหรับโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยทีไ่ ดพฒ ั นาจนสามารถ ยกระดับเปนอุตสาหกรรมสีเขียว ก็จะแสดงใหเห็นถึงประเทศไทยมีการผลิตที่เปนมิตร ตอสิ่งแวดลอมอยางตอเนื่อง สําหรับการจัดงานรับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวถือเปน การสรางขวัญและกําลังใจแกสถานประกอบการที่มุงพัฒนาอุตสาหกรรมที่เปนมิตร ตอสิ่งแวดลอม มีความรับผิดชอบตอสังคม และเพื่อใหโรงงานอุตสาหกรรมสามารถอยู รวมกับสังคมและชุมชนไดอยางมีความสุขและยัง่ ยืน รวมทัง้ เปนการสรางภาพลักษณและ ทัศนคติทดี่ ตี อ ภาคอุตสาหกรรมของไทยอีกดวย ทีส่ าํ คัญการพยายามทีจ่ ะทําใหผบู ริโภค ไดรับผลประโยชนจากผลิตภัณฑสินคาและการบริการโดยสงผลกระทบตอสิ่งแวดลอม และทรัพยากรธรรมชาตินอยที่สุด รวมถึงคํานึงการใหผูบริโภคลดการบริโภคทรัพยากร พลังงาน นํา้ และทีด่ นิ หรือสงเสริมใหใชผลิตภัณฑซาํ้ ใหม เปนอีกทางหนึง่ ทีจ่ ะชวยลดการ ปลอยของเสีย ขยะ และสารพิษออกสูส งิ่ แวดลอม เพือ่ ใหเกิดคุณภาพความเปนอยูท ดี่ ขี นึ้ ทั้งสิ่งแวดลอมและสุขภาพของประชาชน อันจะสงผลระยะยาวตอสิ่งแวดลอมในอนาคต ของประเทศและของโลกไดดวย” ทางดาน กรณภฐั วีญ มวงนอย รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม จบการศึกษา ระดับปริญญาตรี อุตสาหกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีขนถายวัสดุ คณะวิศวกรรมศาสตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ และเปนศิษยเกาดีเดน ประจําป พ.ศ. 2559 เปนอีกบุคคลหนึง่ ในฐานะผูบ ริหารองคกรทีม่ เี กียรติประวัตแิ ละผลงานสรางชือ่ เสียงมากมาย ใหกบั กระทรวงอุตสาหกรรม ในดานโรงงานอุตสาหกรรมทีเ่ ปนผูผ ลักดันใหโรงงานจังหวัด ตางๆ รวมกันรักษาสิง่ แวดลอม โดยเริม่ ตัง้ แตป พ.ศ. 2526 รับราชการครัง้ แรกทีส่ าํ นักงาน อุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก ตอมาในป พ.ศ. 2552-2559 ดํารงตําแหนงหัวหนาฝาย โรงงานอุตสาหกรรม สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตางๆ ทั่วภูมิภาคของประเทศ กรณภัฐวีญ กลาววา “เนื่องจากกระแสของโลกมีการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว อยางตอเนื่อง ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงตองปรับเปลี่ยนใหสอดรับกับนโยบาย ไทยแลนด 4.0 และจะวางรูปแบบของการพัฒนาทีส่ นองความตองการของคนในรุน ปจจุบนั จึงอยากแนะนําไปยังโรงงานตางๆ ใหความรวมมือและปรับเปลีย่ นนําเทคโนโลยีเขามาใช ในกระบวนการผลิต เขาสูกระบวนการอุตสาหกรรมสีเขียวเพื่อการดําเนินธุรกิจอยาง ยั่งยืนยาวนานใหเปนไปตามมาตรฐานผานการรับรองจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึง่ แผนนโยบายขับเคลือ่ นตอไปของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ไดวางเปาหมายในแตละป รวมกับอุตสาหกรรมจังหวัด โดยมีนโยบายมาตรการใหโรงงานทีเ่ ปดกิจการแลว แจงประสงค ยืน่ เอกสารเขาสูก ารพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว ซึง่ กรมโรงงานอุตสาหกรรมมีคณะกรรมการ ที่ไดรับการแตงตั้งจากกระทรวงอุตสาหกรรมใหทําหนาที่กําหนดกรอบแผนการดําเนิน ธุรกิจ และคณะอนุกรรมการเปนผูก าํ หนดหลักเกณฑและประเมินระดับอุตสาหกรรมสีเขียว อีกทัง้ ยังไดจดั สรรงบประจําปในการสนับสนุนพัฒนาโครงการอุตสาหกรรมสีเขียว เพือ่ ให ผูเ กิดแรงกระตุน การรักษาสิง่ แวดลอม และสามารถอยูร ว มกับชุมชนและสิง่ แวดลอมได” อยางไรก็ดี อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) นับวาเปนโครงการทีก่ รมโรงงาน อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ไดดาํ เนินการสงเสริม สนับสนุนใหโรงงานอุตสาหกรรม ตางๆ ทุกระดับทั่วประเทศไดมุงสูอุตสาหกรรมสีเขียวใหทั่วโลกยอมรับ มุงเนนใหความ ชวยเหลือและกระตุนใหมีการพัฒนาและยกระดับการบริหารจัดการดานสิ่งแวดลอม ความปลอดภัย และประหยัดพลังงาน โดยมีหลายองคกรสถานประกอบการชัน้ นําไดมกี าร รายงานผลการดําเนินงานผานตัวเลข หรือคาประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจขององคกร สูสาธารณะ ใหเกิดความสามารถในการแขงขันดานธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนําไปสูผลลัพธ ของการพัฒนาดานเศรษฐกิจของภาคธุรกิจนัน้ ๆ ใหเกิดการเพิม่ มูลคาของผลิตภัณฑและ การบริการ และทําใหผบู ริโภคไดรบั ประโยชนจากผลิตภัณฑสนิ คาและการบริการทีเ่ ปนมิตร ตอสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืน 23
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
Scoop กองบรรณาธิการ
การผลิตไฟฟาจากพลังงานแสงอาทิตยในภาคครัวเรือน เปนหนึ่งในเทรนดพลังงานสะอาดที่กําลังไดรับความนิยมเพิ่มขึ้น อยางตอเนื่อง เพราะใหความคุมคาในการลงทุนและชวยประหยัด คาใชจายในระยะยาว การไฟฟาสวนภูมิภาค หรือ กฟภ. (PEA) ภายใตการนําของ “สมพงษ ปรีเปรม” ผูว า การการไฟฟาสวนภูมภิ าค ไดมวี สิ ยั ทัศนทจี่ ะสงเสริม การผลิตไฟฟาจากพลังงานแสงอาทิตยจากครัวเรือน หรือ Solar Rooftop จึงไดมกี ารจัดทําแอพพลิเคชัน่ “PEA Solar Hero Application” ซึง่ เปนการนํา Digital Platform มาใชใหบริการประชาชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ PEA ในการตอบสนองความตองการของผูสนใจติดตั้ง Solar Rooftop ให สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย มั่นคง และยั่งยืน
“One Stop Service” สําหรับผูตองการติดตั้ง “Solar Rooftop”
สมพงษ กลาววา การผลิตไฟฟาจากพลังแสงอาทิตยดว ยระบบ Solar Rooftop ไดรบั ความนิยมมากขึน้ เนือ่ งจากราคาคาไฟฟาทีผ่ ลิตไดจากพลังงาน แสงอาทิตยใกลเคียงกับราคาไฟฟาที่ซื้อจากสายสงมาใชงาน ซึ่งหากลงทุน ติดตั้งระบบผลิตไฟฟาพลังแสงอาทิตยประมาณ 300,000-400,000 บาท ก็จะคุม ทุนในระยะเวลา 6-8 ป จากนัน้ ก็ใชไฟเกือบฟรี ฉะนัน้ เรียกไดวา ตนทุน อาจจะถูกกวาคาไฟฟาฐาน จึงไมแปลกทีผ่ บู ริโภคจะหันมาผลิตไฟเองในอนาคต “สิ่งที่ PEA ทําคือการสรางธุรกิจจากแนวโนมนี้ นั่นคือการอํานวย ความสะดวกใหกบั ผูท ตี่ อ งการติดตัง้ Solar Rooftop โดยพัฒนาแอพพลิเคชัน่ PEA Solar Hero ซึง่ แอพพลิเคชัน่ จะเชือ่ มขอมูลกับระบบแผนทีท่ าํ ใหผใู ชงาน สามารถวิเคราะหบา นของตัวเองไดเลยวา หลังคาบานมีพนื้ ทีเ่ พียงพอในการ ติดตัง้ หรือไม ติดตัง้ แลวสามารถผลิตไฟฟาไดปริมาณเทาไร ใชเงินลงทุนเทาไร จะเลือกอุปกรณประเภทใดบาง จะหาแหลงทุนจากไหน แอพพลิเคชัน่ นีท้ าํ ได หมด” ผูวาการการไฟฟาสวนภูมิภาค กลาว สมพงษ กลาวอีกวา รายไดของ PEA จากการใหบริการแอพพลิเคชัน่ นี้ ก็คอื คาธรรมเนียมในการใชบริการ เชน เรามีผใู หบริการติดตัง้ และผลิตภัณฑ Solar Rooftop อยูใ นเครือขายของ PEA เมือ่ ไปติดตัง้ ใหกบั ลูกคา ก็จะคิดคา ธรรมเนียมจากผูประกอบการ นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่นยังเชื่อมโยงกับ ธนาคารดวยเพือ่ ใหบริการในการขอสินเชือ่ ของลูกคาเพือ่ ลงทุนติดตัง้ Solar Rooftop “หลังจากดําเนินโครงการ PEA Solar Hero Application ไปก็ได ผลตอบรับที่ดี เปนที่สนใจจากประชาชน ซึ่งสิ่งเหลานี้เปนสิ่งที่ PEA พัฒนา ขึน้ เพือ่ ตอบสนองความตองการของลูกคา เรียกวาเปน ’One Stop Service’ สําหรับผูที่ตองการติดตั้ง Solar Rooftop” 24
นํารอง 4 จังหวัด และเดินหนาขยายไปทั่วประเทศ ปจจุบันโครงการ PEA Solar Hero Application ไดเริ่มดําเนินการในพื้นที่นํารอง แลว 4 จังหวัด ไดแก จังหวัดระยอง เชียงใหม ภูเก็ต และนครราชสีมา โดยมียอดดาวนโหลด แอพพลิเคชั่นและลงทะเบียน 5,000 ราย และมีลูกคาขอเขารวมโครงการ 3,000 จุด ทัว่ ประเทศ โดยอยูร ะหวางดําเนินการดานการจัดทําสัญญา 1,000 จุดทัว่ ประเทศ จุดละ 2 kW รวม 2,000 kW ซึ่งเปนรานคาขนาดยอม PEA มีเปาหมายในการผลิตพลังงานจาก Solar Rooftop ภายใน พ.ศ. 2562-2563 จํานวน 26 MW ทั่วประเทศ โดยมีการสงเสริมการลงทุนใน 3 รูปแบบ คือ 1) ลงทุนเอง : เจาของเปนผูล งทุนในระบบ Solar Rooftop และไดรบั ผลประหยัดเอง 2) ผอนชําระ : เจาของเปนผูผอนชําระกับธนาคาร (ดอกเบี้ยตํ่า) และไดรับผล ประหยัดเอง 3) ลงทุนรวมกับพันธมิตร : หาผูลงทุนใหแลวแบงผลประหยัดโดยจะเปดตัว โครงการใหญทั่วประเทศในวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2562
GreenNetwork4.0 September-October 2019
...PEA Solar Hero กอใหเกิดประโยชนตอทุก ภาคสวน โดยในภาคประชาชนจะไดรับความสะดวก และรวดเร็วในการติดตั้ง Solar Rooftop และลดคาใชจายการใชพลังงานภายในครัวเรือน...
สรางประโยชนใหกับทุกภาคสวน ผูวาการการไฟฟาสวนภูมิภาค กลาววา แอพพลิเคชั่น PEA Solar Hero กอใหเกิดประโยชนตอ ทุกภาคสวน โดยในภาคประชาชนจะไดรบั ความสะดวกและ รวดเร็วในการติดตัง้ Solar Rooftop และลดคาใชจา ยการใชพลังงานภายในครัวเรือน โดยปจจุบนั คาติดตัง้ เริม่ ตนที่ kW ละ 40,000 บาท ใชเวลาคืนทุนประมาณ 6-7 ป ขณะทีภ่ าคสังคม ชุมชน และประเทศ จะไดใชพลังงานสะอาด ลดการนําเขา เชือ้ เพลิงฟอสซิล สวน PEA และภาครัฐ ก็จะสามารถบริหารจัดการพลังงานไดงา ย ขึ้น เนื่องจากสามารถมอนิเตอรติดตามกําลังการผลิตจากแหลงพลังงานสะอาด ทัง้ นี้ PEA มีโครงการภายใตแผนปฏิบตั กิ ารดานระบบไฟฟา การไฟฟาสวน ภูมิภาค พ.ศ. 2561-2580 ทีร่ องรับการเขาสูย คุ ดิจทิ ลั โดยมีโครงการที่เกีย่ วเนือ่ ง กับดานพลังงานทดแทนหลายโครงการ อาทิ โครงการพัฒนาระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อรองรับการบริหารความตองการไฟฟา และพลังงานหมุนเวียน ระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2 โครงการกิจการไฟฟาเพื่อสังคม สําหรับพื้นที่ไมมีไฟฟา ระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2 โดยมีระบบผลิตจากชีวมวล แสงอาทิตย และระบบกักเก็บพลังงานไฟฟา
ปูพรมติด Charging Station 62 สถานีทั่วประเทศ ดัน “EV CAR”
สมพงษ ยังกลาวถึงแนวโนมการใชรถพลังงานไฟฟา (EV CAR) ซึง่ เปนหนึง่ ในเรื่องที่ PEA ตองการผลักดันวาในอนาคตสิ่งที่จะเกิดขึ้นแนนอนคือเรื่องของ รถพลังงานไฟฟา เพราะราคาเริ่มใกลเคียงกับรถยนตที่ใชนํ้ามันเปนเชื้อเพลิงแลว และมีแนวโนมทีจ่ ะเติบโตเร็ว ซึง่ ถือเปนโอกาสทางธุรกิจสําหรับ PEA ทีจ่ ะชวยเพิม่ รายไดในอนาคต เพราะ EV CAR จําเปนตองใชพลังงานไฟฟามาก “ปจจุบนั EV CAR ชารจ 1 ครัง้ จะวิง่ ไดประมาณ 200-300 กิโลเมตร ถาวิง่ ระยะทางเกินกวานั้นจะตองมีสถานีชารจไฟ หรือ Charging Station ที่เปนแบบ Quick Charge คือชารจประมาณครึง่ ชัว่ โมงเสร็จ และสถานีชารจเหลานีจ้ ะตองอยู ระหวางเมือง ซึง่ เปนสิง่ ที่ PEA ตองการสงเสริมใหเกิดขึน้ เพือ่ ใหคนเกิดความมัน่ ใจ
ในการหันมาใชรถพลังงานไฟฟา “PEA ไดลงนามเอ็มโอยูรว มกับบริษทั บางจาก คอรปอเรชัน่ จํากัด ในการติดตัง้ Charging Station ทีเ่ ปนแบบ Quick Charge ทุก 100 กิโลเมตร ทัง้ ขาขึน้ ขาลอง ทุกทิศทาง ภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต ประมาณ 62 สถานีจะติดตัง้ เสร็จสิน้ ภายใน 2 ป เราลงทุนเกือบ 300 ลานบาท ซึง่ ระบบนีส้ ามารถจองลวงหนาผานแอพพลิชนั่ ได เชน จองสถานีชารจลวงหนาวาจะเขาไปชารจในชวงกีโ่ มง และชําระคาชารจไฟผาน แอพพลิเคชั่น สิ่งเหลานี้เราตองทําเพื่อใหคนเกิดความมั่นใจ” ผูวาการการไฟฟาสวนภูมิภาค กลาววา ขณะนี้โครงการไดเริ่มไปแลว โดย อยูร ะหวางการดําเนินการติดตัง้ Charging Station ภายในสถานีบริการนํา้ มันของ บางจาก ซึ่ง Charging Station ที่เปนแบบ Quick Charge นั้น PEA เปนผูเดียวที่ ลงทุนเพราะใชเงินลงทุนสูง ขณะทีส่ ถานีชารจทีเ่ ห็นโดยทัว่ ไปจะเปนแบบสถานีชารจ ธรรมดา กอนหนานี้ PEA ก็ไดทดลองติดตั้ง Charging Station ที่เปนแบบ Quick Charge ไปบางแลว โดยใหผใู ช EV CAR ชารจฟรี ซึง่ เสนทางภาคเหนือไปถึงอยุธยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปถึงปากชอง ภาคตะวันออกไปถึงชลบุรี ภาคใตไปถึงหัวหิน และภาคตะวันตกไปถึงนครปฐม
ชู 2 นวัตกรรมในงาน Thailand Lighting Fair 2019 และ Thailand Building Fair 2019
ในปนี้ PEA เปนเจาภาพในการจัดงาน Thailand Lighting Fair 2019 ซึ่ง จะจัดขึน้ พรอมกับงาน Thailand Building Fair 2019 ระหวางวันที่ 28-31 ตุลาคม พ.ศ. 2562 โดยสิ่งที่ PEA จะนําไปจัดแสดงภายในงานนั้น นอกจากแอพพลิเคชั่น PEA Solar Hero ทีช่ ว ยอํานวยความสะดวกใหกบั ประชาชนทีม่ คี วามประสงคจะติดตัง้ Solar Rooftop แลว ยังมีผลิตภัณฑ “PEA IHAPM” (Intelligent Home Appliances Power Monitoring) เปนเครื่องตรวจจับและควบคุมการใชพลังงานไฟฟาภายใน ที่พักอาศัย และอาคารสํานักงานทั่วไป รวมทั้งยังสามารถแจงเตือน เมื่อมีการใช ไฟฟาที่ผิดปกติหรือกระแสไฟฟาดับผานทางสมารทโฟนดวย แอพพลิเคชัน่ IHAPM นีส้ ามารถใชรว มกับอุปกรณไฟฟาทีเ่ ปนระบบเดิมและ อุปกรณไฟฟาทีร่ องรับระบบ IoT โดยภายในบูธของ PEA จะมีการจําลองหองนัง่ เลน ภายในบาน โดยแบงเปน 2 รูปแบบ คือ หองนัง่ เลนรูปแบบเกา ทีม่ อี ปุ กรณเครือ่ งใช ไฟฟาเปนระบบปกติทวั่ ไป และหองนัง่ เลนรูปแบบใหม ทีม่ อี ุปกรณเครือ่ งใชไฟฟา รองรับระบบ IoT โดยหองทั้ง 2 รูปแบบ จะแสดงการควบคุมเครื่องใชไฟฟาผาน Application IHAPM ผูว า การการไฟฟาสวนภูมภิ าค กลาววา PEA หวังวางาน Thailand Lighting Fair ซึ่งจัดรวมกับ Thailand Building Fair จะเติบโตขึ้นอยางตอเนื่องเพื่อที่จะ ตอกยํ้าจุดยืนในการเปนเวทีสงเสริมศักยภาพของประเทศไทยใหเปนศูนยกลาง การจัดงานแสดงนวัตกรรมไฟฟา แสงสวาง เทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะ และการบริหาร จัดการพลังงานแหงภูมภิ าคอาเซียน เพือ่ เปนประโยชนตอ ภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ ที่เกี่ยวของใหสามารถเติบโตและแขงขันในตลาดโลกได อันจะนําไปสูความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
พบกับนวัตกรรมจากการไฟฟาสวนภูมิภาค ในงาน Thailand Lighting Fair, Thailand Building Fair และ Secutech Thailand 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นพรอมงาน Digital Thailand Big Bang ภายใตแนวคิดรวม Smart City Solutions Week 2019 ระหวางวันที่ 28-31 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ณ ฮอลล 104-105 ศูนยนิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา 25
GreenNetwork4.0 September-October 2019
การไฟฟาสวนภูมิภาค จัดงาน
Innovation Day 2019
GREEN
ขับเคลื่อนสู PEA Digital Utility เปนองคกรแหงนวัตกรรม
Focus กองบรรณาธิการ
การไฟฟาสวนภูมภิ าค (กฟภ.) จัดงาน PEA Innovation Day 2019 โดยมี วัตถุประสงคเพื่อสงเสริมการศึกษา การวิจัย การสรางนวัตกรรมและพัฒนางาน ที่เกี่ยวของกับธุรกิจพลังงานไฟฟาเพื่อขับเคลื่อนองคกรไปสู PEA Digital Utility มุงสูการเปนองคกรแหงนวัตกรรม สงเสริมการจัดการความรูอยางตอเนื่อง เปดโอกาสในการแลกเปลีย่ นความรูร ะหวางนักวิชาการ นักวิจยั นักประดิษฐ และ นวัตกรรมของ PEA เพื่อนําไปตอยอดประยุกตใชงานตอไป ทัง้ นี้ ไดรบั เกียรติจาก เทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปนประธานในพิธมี อบโลและตรารับรองมาตรฐานการใหบริการของศูนยราชการ สะดวก ประจําป 2562 โดยการไฟฟาสวนภูมภิ าค เปนหนวยงานทีผ่ า นการรับรอง สูงสุด 149 แหง จากหนวยงานภาครัฐทั่วประเทศ 340 แหง ขณะที่ สมพงษ ปรีเปรม ผูว า การการไฟฟาสวนภูมภิ าค เปนประธานในพิธี เปดงาน PEA Innovation Day 2019 พรอมมอบรางวัล โดยมีผูบริหาร พนักงาน PEA และนักศึกษาจากสถาบันชั้นนํารวมพิธี 35
บริเวณภายในการจัดงาน ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนยประชุมวายุภักษ ศูนยราชการ เฉลิมพระเกียรติ ถนนแจงวัฒนะ แขวงทุงสองหอง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ไดแสดงผลงานเทคโนโลยีนวัตกรรมและดิจทิ ลั ของหนวยงาน กฟภ. แตละภาค โดยมี ทัง้ การจัดการความรูแ ละกลุม ผลงานคุณภาพ รวม 158 ผลงาน จากหนวยงานตางๆ ทัง้ ในสํานักงานใหญ และการไฟฟาสวนภูมภิ าค 12 เขตทัว่ ประเทศ รวมทัง้ ผลงาน จากทีม Innovation Hub และชิน้ งานของนักเรียนชางการไฟฟาสวนภูมภิ าค และ นวัตกรรมที่เกี่ยวของกับธุรกิจพลังงานไฟฟา ดังนั้น ในการจัดงานดังกลาว นับวาเปนการรวมมือของ กฟภ. กับสถาบัน การศึกษาชัน้ นําในประเทศและหนวยงานวิจยั ทัง้ ภาครัฐและเอกชน พรอมเปนกําลัง สําคัญในการสงเสริมการศึกษาและงานวิจัยดานการพัฒนาธุรกิจพลังงานไฟฟา เพือ่ สรางนวัตกรรมทีเ่ กีย่ วของ และเปนเวทีแลกเปลีย่ นความรู เพือ่ นํามาประยุกตใช กับการพัฒนาดานธุรกิจพลังงานไฟฟาในอนาคตตอไป
GreenNetwork4.0 September-October 2019
ว่าด้วยเรื่องของ
GREEN
Focus นรินพร มาลาศรี รองกรรมการ ผูจ้ ดั การใหญ่ สายบริหาร บริษัท เอสพีซีจี จ�ำกัด (มหาชน)
“Flexibility Options of Power Systems”
Connecting VRE Smoothening effect over large distances
Absorb electricity for later use Different scales and locations in the value chain
“ความยืดหยุ่นของระบบโครงข่ายไฟฟ้า”
การส่งเสริมระบบไฟฟ้าให้มีเสถียรภาพสามารถรองรับการผลิตไฟฟ้าจาก แสงอาทิตย์และลมได้มากที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งในปัจจุบันพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ก�ำลังเปลี่ยนสัดส่วนพลังงานทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงต้องการความยืดหยุ่นของระบบเพื่อที่จะบูรณาการในแบบที่ปลอดภัยและคุ้มค่า ต่อราคา รวมทั้งเพื่อมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของ ปัญหาโลกร้อน การน�ำ 2 ประเด็นหลักมาบูรณาการกันจึงถือว่าเป็นการเปลีย่ นจาก “ความท้าทาย” มาเป็น “โอกาส” การไฟฟ้าทัง้ 3 แห่งมีบทบาทส�ำคัญอย่างยิง่ ต่อการพัฒนาและสร้างความยืดหยุน่ ให้สามารถตอบสนองได้รวดเร็ว เพื่อรองรับการเข้ามาของพลังงานหมุนเวียนกับ เชือ้ เพลิงหลัก เพือ่ เสริมความมัน่ คงให้กบั ระบบไฟฟ้า ซึง่ ระบบไฟฟ้าไทยในปัจจุบนั เป็น ระบบแบบรวมศูนย์ แต่ในอนาคตจะมีกระจายแหล่งผลิตไฟฟ้าและศูนย์ควบคุมระบบ ไฟฟ้าไปสูช่ มุ ชน รวมถึงมีสดั ส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เพิม่ มากขึน้ ด้วย ดังนัน้ การเดินหน้าของอุตสาหกรรมไฟฟ้าในยุคเทคโนโลยี เปลี่ยนโลกต้องรองรับการเข้ามาของพลังงานหมุนเวียน คือการสร้างความยืดหยุ่น ของระบบไฟฟ้า โดยโรงไฟฟ้าต้องมีความยืดหยุ่นสามารถเริ่มเดินเครื่องได้รวดเร็ว ส่วนในระบบส่งและจ�ำหน่ายไฟฟ้าจะต้องพัฒนาสู่ระบบสมาร์ทกริด ท�ำงานผ่าน รีโมตมอนิเตอร์สามารถเรียกดูขอ้ มูลและสัง่ การจากศูนย์ควบคุม และพยากรณ์ความ ต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคตได้ ส่วนพลังงานหมุนเวียนทีย่ งั มีขอ้ จ�ำกัดเรือ่ งความไม่เสถียร ควรถูกพัฒนาในรูปแบบของการผสมผสานระหว่างพลังงานหมุนเวียนกับเชื้อเพลิง หลัก (RE Hybrid Firm) เพือ่ ลดความผันผวน สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีเสถียรภาพ มากขึน้ เช่น โซลาร์เซลล์กบั โรงไฟฟ้าพลังน�ำ้ พลังงานลมกับเซลล์เชือ้ เพลิง เชือ้ เพลิง ชีวมวลกับโซลาร์เซลล์ ซึ่งจะกลายเป็นทางเลือกส�ำคัญส�ำหรับการพัฒนาพลังงาน หมุนเวียนในอนาคต ควบคู่กับการพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานเพื่อช่วยให้การจ่าย ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมีเสถียรภาพ VRE Share Globally
Shift in time or Interruption of power consump Adjustment of setpoints
Refers to conventional generation hydro/ thermal Dominant flexibility source today
2. สาระส�ำคัญของการประชุม 37th SOME (ASEAN Senior Officials Meeting on Energy Meeting) และนโยบายรัฐบาล 2.1 “โครงการซือ้ ขายไฟฟ้า สปป.ลาว-ไทย-มาเลเซีย (LTM on Power Integration Project)” 300 เมกะวัตต์ เนื่องจากประเทศมาเลเซียมีความต้องการไฟฟ้า จาก สปป.ลาว มากขึ้น โดยไทยจะเป็นจุดเชื่อมต่อการซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง 2 ประเทศ 2.2 การเพิ่มการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของอาเซียนเพิ่มขึ้นให้ถึง 30% ในปี พ.ศ. 2573 2.3 การเชื่อมโยงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนระหว่างประเทศอาเซียนให้เกิด ประโยชน์สูงสุด ด้วยการเชื่อมโยงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้เกิดการใช้ อย่างมีประสิทธิภาพและการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันมากขึ้นในอนาคต 2.4 มติ กพช. เห็นชอบนโยบายพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนให้เกิด การจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนทั่วประเทศในพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านพืชพลังงาน และพลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ โดยโครงการดังกล่าวทีเ่ ป็นผลจากการประชุม SOME และนโยบายของรัฐบาล จะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดความยืดหยุ่นของระบบโครงข่ายไฟฟ้า รวมถึงท�ำให้นโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเกิดได้เร็วขึ้นและ มากขึน้ จากเดิมทีม่ นี โยบายหยุดรับซือ้ ไฟฟ้าเนือ่ งจากปริมาณการผลิตไฟฟ้ามีเพิม่ ขึน้ ในอัตรามากกว่าความต้องการใช้ไฟฟ้า ท�ำให้สถานการณ์ไฟฟ้าในปัจจุบนั อยูใ่ นภาวะ Oversupply โดยมีปริมาณส�ำรองไฟฟ้าอยูส่ งู กว่า 30% (เทียบกับระดับปกติ 15%) แต่ จะค่อยๆ ลดลงมาอยู่ที่ 15% ซึ่งเป็นระดับปกติภายหลังปี พ.ศ. 2569 เป็นต้นไป 3. โรงไฟฟ้าชุมชนของไทย โครงสร้างการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนจะมาจากความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน ตั้งบนพื้นที่ที่มีศักยภาพพลังงานหมุนเวียน ระบบไฟฟ้า รองรับได้ ได้รบั งบประมาณสนับสนุนจากกองทุนเพือ่ ส่งเสริมการอนุรกั ษ์พลังงานและ กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โดยราคารับซือ้ ไฟฟ้าจะกระทบต่อราคาค่าไฟฟ้าน้อยทีส่ ดุ ก่อให้ เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในชุมชน ซึ่งจะมีรูปแบบใกล้เคียงกับ Feldheim : Germany's Renewable Village จะแตกต่างกันที่ค่าไฟฟ้าของที่นั่นจะเกิดขึ้นจาก การตกลงร่วมกันระหว่างผูใ้ ช้พลังงานในท้องถิน่ เทศบาล และผูใ้ ห้บริการสาธารณูปโภค ท้องถิ่น Demand-Side Integration - DSI
Phases of VRE Integration According to IEA
1. หลักการ 4 ด้าน เพื่อความยืดหยุ่นของระบบโครงข่ายไฟฟ้า 1.1 การเชือ่ มโยงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Grid) เพือ่ ให้เกิดความมัน่ คงและ เสถียรภาพ 1.2 ด้านประสิทธิภาพและการอนุรกั ษ์พลังงาน (Demand Side Integration) เช่น การปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า การบริหารจัดการการใช้ไฟฟ้า การเปลี่ยน มาใช้อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง 1.3 ระบบกักเก็บพลังงาน (Storage) เช่น แบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน 1.4 การสัง่ เดินเครือ่ งโรงไฟฟ้า (Dispatchable Generation) การสร้างสมดุลของ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล โรงไฟฟ้าพลังน�ำ้ 26
4. ปัจจัยสู่ความส�ำเร็จของการสร้างความยืดหยุ่น ของระบบโครงข่ายไฟฟ้า ความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลทีจ่ ะส่งเสริมให้เกิดการผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน หมุนเวียนที่กระจายแหล่งผลิตไฟฟ้าและศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้าไปสู่ชุมชน ท�ำให้ การบริหารจัดการระบบไฟฟ้าและการจัดวางระบบโครงสร้างไฟฟ้าทีส่ ามารถบริหาร จัดการตามพื้นที่แบบแบ่งเป็น NODE ที่จะพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าไปสู่ระบบ ไมโครกริดและระบบสมาร์ทกริดของประเทศไทยต่อไป
GreenNetwork4.0 September-October 2019
“ตุ๊กตุ๊ก” รถเครื่องสามล้อไทย
พัฒนาสู่รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าดัดแปลงส�ำหรับธุรกิจ SME ไทย
ตอน : เส้นทางกว่า...จะมาเป็นรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า
GREEN
Article ผศ. ดร.ชนะ เยี่ยงกมลสิงห์ อาจารย์ประจ�ำสาขา วิศวกรรมธุรกิจยานยนต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ขั้นตอนในการด�ำเนินงานกว่าจะมาเป็นรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าหนึ่งคัน รถตุ๊กตุ๊กหรือรถสามล้อเครื่องที่หลายคนเห็นกันจนชินตา และเป็นซิกเนเจอร์รถรับจ้างของ เมืองไทยทีช่ าวต่างชาติตอ้ งเรียกใช้บริการนัน้ กว่าจะมาเป็นรถตุก๊ ตุก๊ ไฟฟ้าได้หนึง่ คันนัน้ มีรายละเอียด ในการดัดแปลง ดังนี้ 1. ศึกษาข้อมูลและข้อก�ำหนดทีเ่ กีย่ วข้อง เริม่ ท�ำการศึกษากฎหมายทีเ่ กีย่ วข้อง และสัมภาษณ์ ผู้ใช้งานรถตุ๊กตุ๊กที่บริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตามประกาศกรม การขนส่งทางบก เรื่อง กําหนดกําลังของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ขับเคลื่อนรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2560 [14] โดยมีรายละเอียดได้แก่ “รถยนต์รบั จ้างสามล้อและรถยนต์สามล้อส่วนบุคคลทีข่ บั เคลือ่ น ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า จะต้องมีกาํ ลังพิกดั (Rated Power) ของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่นอ้ ยกว่า 4 กิโลวัตต์ และ สามารถขับเคลือ่ นรถให้มคี วามเร็วสูงสุดได้ไม่นอ้ ยกว่า 45 กิโลเมตรต่อชัว่ โมง” ปัจจุบนั รถตุก๊ ตุก๊ มีให้ บริการเพียงขนส่งสาธารณะที่จ�ำนวนรถไม่เพิ่มขึ้น หรือนิติบุคคลที่ให้บริการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ การขนส่งเฉพาะ [15] 2. จัดหารถตุ๊กตุ๊กเพื่อท�ำต้นแบบ รถตุ๊กตุ๊กต้องมีสภาพดีเพื่อสามารถท�ำการดัดแปลงได้ง่าย
การท� ำ รถตุ ๊ ก ตุ ๊ ก ไฟฟ้ า ต้ น แบบของสมาคมฯ มีรายละเอียดขัน้ ตอนการด�ำเนินงานตัง้ แต่เริม่ ต้นจนสิน้ สุด โครงการ ดังต่อไปนี้ 1. ศึกษาข้อมูลและข้อก�ำหนดทีเ่ กีย่ วข้อง เช่น กฎหมาย คุณลักษณะ และการใช้งานของรถตุก๊ ตุก๊ รวมถึงต้นทุนและ ราคาขาย หากมีศกั ยภาพในการตลาดด�ำเนินการในขัน้ ตอน ต่อไป 2. จัดหารถตุ๊กตุ๊กเพื่อท�ำต้นแบบ โดยน�ำมาศึกษา โครงสร้าง ระบบขับเคลื่อน ระบบเบรค ฯลฯ 3. ตรวจสอบสภาพเพือ่ หาจุดปรับปรุงแก้ไขเพือ่ ให้มี สภาพที่ดี และปลอดภัยในการใช้งาน 4. ปรั บ ปรุ ง สภาพรถตุ ๊ ก ตุ ๊ ก แชสซี และตั ว ถั ง ให้รถตุ๊กตุ๊กอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และปลอดภัย 5. ออกแบบ ติดตั้ง มอเตอร์ ชุดควบคุม แบตเตอรี่ และระบบไฟฟ้ากับโครงสร้างรถตุ๊กตุ๊กเดิม 6. เลื อ กมอเตอร์ และชุ ด ควบคุ ม แบตเตอรี่ ให้เหมาะสมกับงบประมาณ และความต้องการใช้งาน 7. ติดตัง้ และทดสอบอุปกรณ์มอเตอร์ และชุดควบคุม แบตเตอรี่กับรถตุ๊กตุ๊ก 8. เดินสายไฟรวมทัง้ หมด เก็บรายละเอียด และสายไฟ ทั้งหมด 9. ท�ำสี และเก็บรายละเอียดงานโครงสร้าง งานเหล็ก หลังคา สี ติดตั้งส่วนประกอบต่างๆ เช่น เบาะ กระจก ฯลฯ 10. ทดสอบใช้งานและเก็บข้อมูลการทดสอบใช้งาน ตรวจสอบรายละเอียด พิจารณาต้นทุนรวมทั้งหมด ข้อมูล เชิงเปรียบเทียบการลงทุนใหม่กบั การดัดแปลง ความคุม้ ค่า เชิงพาณิชย์ 11. ค�ำนวณต้นทุนในการด�ำเนินการ และตรวจสอบ เปรียบเทียบกับต้นทุนเบือ้ งต้นในขัน้ ตอนที่ 3 แล้วด�ำเนินการ จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก และส่งมอบให้กับลูกค้า
27
3. ตรวจสอบสภาพ ตรวจสอบสภาพอย่างละเอียดเพือ่ ประเมินชิน้ ส่วนทีจ่ ะต้องเปลีย่ น รวมถึง ต้นทุนในการเปลี่ยนชิ้นส่วน จากการตรวจสอบสภาพรถตุ๊กตุ๊กต้นแบบมีสภาพเก่ามาก ชิ้นส่วนเหล็ก กระจังหน้าและกระบะผุมาก สูญเสียความมัน่ คงแข็งแรง จ�ำเป็นต้องเปลีย่ นชิน้ ส่วนเหล่านี้ เพือ่ การใช้งาน ที่ปลอดภัย ประเมินราคาเบื้องต้น เพื่อให้เห็นต้นทุนก่อนการดัดแปลง และจัดท�ำแผนการด�ำเนินการ ตามระยะเวลา เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนต่างๆ 4. ปรับปรุงสภาพรถตุ๊กตุ๊ก ถอดชิ้นส่วนที่เสียหายออก ท�ำความสะอาดแชสซีและเตรียมสีพื้น กันสนิม และติดตั้งกระบะและกระจังหน้าของรถตุ๊กตุ๊ก แล้วจึงท�ำสีพื้นเพื่อกันสนิม 5. เลือกมอเตอร์ และชุดควบคุม แบตเตอรี่ ให้เหมาะสม เลือกมอเตอร์กระแสสลับขนาด 5kW 72V ตามข้อก�ำหนดของประกาศกรมการขนส่งทางบก ค�ำนวณหาความเร็ว เลือกมอเตอร์ และชุดควบคุม ตามตัวอย่างทีใ่ ช้ ซึง่ มีความเร็วรอบ 3,000-6,000 Rpm แรงบิดสูงสุด 15.9 Nm อัตราทดเฟืองท้าย 1:6.4 รัศมีล้อ 25 ซม. ความเร็วในกรณีไม่มีโหลดจะเป็น 44-73 กม./ชม. หากประสิทธิภาพการถ่ายทอด ก�ำลังเป็น 95% แรงขับเคลื่อน (6.4x15.9x.9/.25) 366 N 6. ออกแบบ ติดตั้ง มอเตอร์ ชุดควบคุม แบตเตอรี่ และระบบไฟฟ้า ในขั้นตอนนี้จะเป็นการ ออกแบบ และทดสอบติดตั้งระบบไฟฟ้า มอเตอร์ ชุดควบคุม และแบตเตอรี่ LiFePo4 แบตเตอรี่ มีจ�ำนวน 2 ลูก ลูกที่ 1 ติดตั้งในบริเวณกลางแซสซีรถตุ๊กตุ๊ก ลูกที่ 2 เนื่องจากมีขนาดพื้นที่จำ� กัด หากวางแบตเตอรี่ที่พื้นที่วางเท้าคนขับจะท�ำให้มีพื้นที่วางเท้าเหลือน้อยมาก จึงต้องน�ำแบตเตอรี่ใส่ไว้ ในกรอบเหล็กบริเวณทีน่ งั่ คนขับ และติดตัง้ ชุดควบคุมในบริเวณแบตเตอรีท่ ใี่ ต้ทนี่ งั่ คนขับเพือ่ ความง่าย ในการดูแลรักษา 7. ติดตั้ง และทดสอบอุปกรณ์มอเตอร์ และชุดควบคุม แบตเตอรี่ กับรถตุ๊กตุ๊ก ระบบไฟฟ้า ทีน่ ำ� มาใช้เป็นระบบไฟฟ้าขนาด 72V ส�ำหรับระบบขับเคลือ่ น และผ่านอินเวอร์เตอร์เพือ่ เปลีย่ นให้เป็น 12V ส�ำหรับระบบไฟฟ้าแรงดันต�ำ่ เพือ่ ใช้ในรถตุก๊ ตุก๊ ทดสอบการท�ำงานเพือ่ สังเกตการท�ำงานร่วมกัน ของระบบทั้งหมด ทั้งมอเตอร์ ชุดควบคุมมอเตอร์ ล้อ ระบบเบรค ระบบไฟฟ้า 8. เก็บรายละเอียดงานระบบไฟฟ้ารวมทั้งหมด เมื่อติดตั้งงานระบบไฟฟ้ารวม ทั้งระบบไฟฟ้า หลักเพือ่ การขับเคลือ่ น และระบบไฟฟ้าแรงดันต�ำ่ จ�ำเป็นต้องมีการปรับแต่งความยาวของสายไฟทัง้ หมด เพือ่ ให้เข้ากับโครงสร้างของรถตุก๊ ตุก๊ รวมไปถึงการติดตัง้ ระบบสวิทช์ หลอดไฟ ซึง่ จ�ำเป็นต้องจัดสายไฟ ใหม่ พร้อมทั้งการทดสอบการท�ำงานของระบบขับเคลื่อน 9. ท�ำสี และเก็บรายละเอียดงานโครงสร้าง ถอดชิ้นส่วนต่างๆ ออกมาเพื่อท�ำสี โดยเริ่มจาก ขัดสนิม ขัดสีพนื้ เตรียมสีพนื้ พ่นสีจริง และประกอบชิน้ ส่วนต่างๆ กลับเข้าต�ำแหน่งเดิม พร้อมทดสอบ ระบบไฟฟ้าขับเคลื่อน และระบบไฟฟ้าแรงดันต�ำ่ ว่าท�ำงานตามการออกแบบหรือไม่ ตรวจสอบการ ท�ำงานของระบบเบรค เบรคมือ และการท�ำงานในขณะใช้งาน (อ่านต่อฉบับหน้า เรื่อง ทดสอบใช้งาน และเก็บข้อมูลการทดสอบใช้งาน)
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
Building
“สินธร ต้นสน”
กองบรรณาธิการ
อาคารเขียว
อนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อม
ในยุคปัจจุบนั อาคารเขียว หรือ Green Building เป็นอีกหนึง่ นวัตกรรม รักษ์โลกทีไ่ ม่เพียงแต่ใส่ใจต่อสิง่ แวดล้อม ทัง้ ในเรือ่ งการใช้พลังงาน น�ำ้ ทีด่ นิ วัสดุกอ่ สร้างอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังรวมถึงการลดของเสียและมลภาวะ ต่างๆ ที่เกิดจากอาคารเพื่อค�ำนึงถึงสังคม หรือสุขภาพและความสุขสบาย ของผู้ใช้อาคารเป็นส�ำคัญ มาตรฐานสากลในการประเมิน Green Building ทีไ่ ด้รบั การยอมรับ ทั่วโลก หรือมาตรฐานอาคาร Leadership in Energy and Environmental Design (LEED) เป็นเกณฑ์การพิจารณาหลักๆ โดยจะเน้นในเรื่องของท�ำเล ทีต่ งั้ อาคาร การประหยัดพลังงาน การประหยัดน�ำ้ ระบบระบายอากาศ และ การเติมอากาศบริสุทธิ์ รวมไปถึงการรีไซเคิลและการเลือกใช้วัสดุที่ไม่มี สารระเหยที่เป็นพิษตกค้าง เป็นต้น โครงการสินธร วิลเลจ ได้รบั การพัฒนาภายใต้แนวคิด Green Building เป็นโครงการทีพ่ กั อาศัยโครงการแรกในประเทศไทยทีท่ กุ อาคารในโครงการ ได้รับการรับรองตามมาตรฐานอาคาร LEED ทั้งหมด ซึ่งโครงสร้างการ ออกแบบอาคารตั้งแต่การออกแบบอาคารและวัสดุที่ใช้จะเน้นอนุรักษ์ พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะท�ำให้ผู้อยู่อาศัยหรือใช้อาคาร มีคุณภาพการอยู่อาศัยที่ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เป็น อย่างดี บริษัท สยามสินธร จ�ำกัด ร่วมกับ SCG Green Building Solution ที่ปรึกษาด้านอาคารเขียว ในการพัฒนากลุ่มอาคารภายใต้โครงการสินธร วิลเลจ โครงการมิกซ์ยสู พืน้ ทีก่ ว่า 56 ไร่ ตัง้ อยูบ่ นถนนวิทยุ (ย่านหลังสวน) แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เพื่อให้สอดรับกับวิสัยทัศน์ใน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทเี่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม ล่าสุดอาคาร “สินธร ต้นสน” เป็นอาคารประเภททีพ่ กั อาศัย ได้ผา่ นการรับรองมาตรฐาน LEED ด้วยคุณสมบัติ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น กระจกแบบ 3 ชั้นที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อลดอุณหภูมิ ป้องกันอันตรายจากรังสียูวี และเสียงรบกวนจากภายนอก 28
ท�ำให้บรรยากาศน่าอยู่ และประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งใส่ใจเรื่องคุณภาพอากาศ เป็นพิเศษ ด้วยการทดสอบคุณภาพอากาศของทุกห้องพักด้วยเครือ่ งมือทางวิทยาศาสตร์ ให้เป็นไปตาม WELL Standard ซึ่งจะท�ำให้มีคา่ PM 10, Formaldehyde, Total VOCs และ Carbon Monoxide ไม่เกินค่ามาตรฐาน รวมถึงการเติมอากาศบริสทุ ธิภ์ ายนอกเข้าไป ในอาคารตามมาตรฐาน ASHRAE 62.1-2007 มากกว่าถึง 30% เพือ่ ให้แน่ใจได้วา่ ทุกห้อง มีอากาศที่บริสุทธิ์เหมาะกับการอยู่อาศัย จึงท�ำให้โครงการสินธร ต้นสน เป็นโครงการ Multi-Family Residential โครงการแรกทีไ่ ด้รบั การรับรอง LEED Silver ในประเทศไทย วชิระชัย คูน�ำวัฒนา Head of Living Solution Business พร้อมด้วย สิทธิชัย เนี๋ยมเจริญ Innovation Management and Incubation Director บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จ�ำกัด เป็นตัวแทนมอบ LEED Certificate ในฐานะ LEED ั น์กลุ กรรมการบริหาร และ อภิชยั สิรดิ ำ� รงพันธุ์ Consultant ให้กบั ปราโมทย์ เตชะสุพฒ ผูอ้ ำ� นวยการพัฒนาโครงการ บริษทั สยามสินธร จ�ำกัด ได้จบั มือร่วมกันพัฒนากลุม่ อาคาร สินธร วิลเลจ เป็นอาคารเขียวประหยัดพลังงานเพื่อโลกที่น่าอยู่
GreenNetwork4.0 September-October 2019
วชิระชัย คูนำ� วัฒนา Head of Living Solution Business บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จ�ำกัด กล่าวว่า “ทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้ค�ำปรึกษาด้านอาคารเขียวแบบครบวงจร และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากสยามสินธร ให้ร่วม พัฒนากลุ่มอาคารภายใต้โครงการสินธร วิลเลจ ให้มีประสิทธิภาพตามเนื้อหา การประเมินอาคารเขียวของสหรัฐอเมริกา หรือ Leadership in Energy & Environmental Design (LEED)” โดยส�ำหรับอาคารแรกทีท่ าง SCG Green Building Solution ได้ให้คำ� ปรึกษาจนได้รบั การรับรองมาตรฐาน LEED ในระดับ Silver คือ คอนโดฯ สินธร ต้นสน ซึ่งเป็นอาคารที่ออกแบบเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและการ ค�ำนึงถึงผูใ้ ช้อาคารอย่างแท้จริง เนือ่ งจากสามารถประหยัดพลังงานตามมาตรฐาน ASHRAE 90.1 ได้มากถึงกว่า 23% และประหยัดน�ำ้ ได้ 30%” ทางด้าน ปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล กรรมการบริหาร บริษัท สยามสินธร จ�ำกัด กล่าวว่า “ในฐานะองค์กรทีม่ วี สิ ยั ทัศน์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทเี่ ป็นมิตร กับสิง่ แวดล้อม ใส่ใจเรือ่ งความยัง่ ยืน และคุณภาพชีวติ ของผูใ้ ช้งาน จึงมุง่ มัน่ อย่าง เต็มที่ในการผลักดันให้กลุ่มอาคารภายใต้โครงการสินธร วิลเลจ ที่ประกอบด้วย อาคารประเภทที่พักอาศัย และอาคารส�ำนักงานให้เช่า ให้เป็นอาคารเขียวอย่าง เต็มรูปแบบ และด้วยความเชี่ยวชาญของทีมที่ปรึกษาอาคารเขียว SCG Green
29
Building Solution เราก็มีความมั่นใจว่า นอกจากโครงการสินธร ต้นสนแล้ว สยามสินธร จะสามารถพัฒนาโครงการในรูปแบบ LEED Campus ซึ่งประกอบด้วย โครงการสินธร ลุมพินี, สินธร มิดทาวน์ และกลุ่มสินธร วิลเลจ ให้เป็นกลุ่มโครงการโรงแรมและที่พักอาศัยกลุ่มแรกในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ทัง้ นี้ อาคารเขียว คือกระบวนการของการออกแบบ ก่อสร้าง และดูแลอาคาร ทีส่ ง่ เสริมสุขภาพและประสิทธิภาพการท�ำงานของผูใ้ ช้งานให้สงู สุด โดยลดการใช้ ทรัพยากร การสร้างขยะ และผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อมให้ต�่ำที่สุด รวมถึง ลดต้นทุนตลอดวัฏจักรชีวิตของอาคาร (Life Cycle Cost) โดยสามารถท�ำได้ด้วย การวางแผนทีด่ ตี งั้ แต่เริม่ ต้นสร้างอาคาร คุณภาพของอาคารสามารถส่งผลกระทบ โดยตรงต่อสุขภาพและคุณภาพการอยูอ่ าศัยของผูใ้ ช้งาน การสร้างสมดุลระหว่าง ความยั่งยืนและความสะดวกสบายในการใช้งานของอาคาร จึงท�ำให้โครงการ ประเภททีพ่ กั อาศัยเป็นกลุม่ ทีม่ คี วามท้าทายในการด�ำเนินการเป็นล�ำดับต้นๆ ของ โครงการที่สามารถขอการรับรองทั้งหมด อย่างไรก็ตาม อาคารเขียวภายใต้โครงการสินธร วิลเลจ จะเป็นอีกหนึ่ง ต้นแบบอาคารเขียวอนุรกั ษ์พลังงานในประเทศไทยทีจ่ ะท�ำให้เกิดอาคารเขียวอืน่ ๆ อีกมากมาย เป็นบรรทัดฐานการอยูร่ ว่ มกันในสังคม เพือ่ ให้เกิดการอนุรกั ษ์ พลังงานและสิ่งแวดล้อมโลกให้นา่ อยู่อย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น
GreenNetwork4.0 September-October 2019
SMART
City
กองบรรณาธิการ
กระทรวงมหาดไทย จับมือ การอุดมศึกษาฯ
น�ำเทคโนโลยี สวทช. พัฒนาเมืองอัจฉริยะ
ช่วยบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง
นับเป็นความร่วมมือกันทางด้านบริหารจัดการเมืองแบบอัจฉริยะ หรือ Smart City ของประเทศไทย โดยเป็นการจับมือกันระหว่าง 2 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย (มท.) และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (อว.) ได้ลงนามความร่วมมือใน “โครงการน�ำเทคโนโลยี สารสนเทศมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเมืองและบริการ ประชาชน” เพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของเนคเทคภายใต้ส�ำนักงาน พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนาขึน้ มาใช้ในการ พัฒนาเมือง เป็นการขับเคลือ่ นการพัฒนาสูเ่ มืองอัจฉริยะ โดยน�ำเทคโนโลยี Big Data ด้านการบริหารจัดการสิง่ แวดล้อมของเมืองและชุมชนมาส่งเสริม และสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) น�ำไปใช้ประโยชน์ โดยความร่วมมือดังกล่าวน�ำร่องด้วยแอพพลิเคชั่น Traffy Fondue ให้ประชาชนใช้แจ้งปัญหาและข้อร้องเรียนด้านสิ่งแวดล้อมของเมืองและ ชุมชน และระบบ Traffy Waste เครือ่ งมือบริหารจัดการการเก็บขยะ ช่วยให้ บริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของเมืองและชุมชนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นระบบมากขึ้น ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่น Traffy Fondue และระบบ Traffy Waste เป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในกลุ่ม Traffy City Platform หรือแพลตฟอร์มการบริหารจัดการเมืองด้วย เทคโนโลยีและข้อมูล ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยนักวิจัยเนคเทค สวทช. น�ำโดย ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมวิจยั ระบบ ขนส่งและจราจรอัจฉริยะ ซึง่ จุดเด่นของเทคโนโลยีอยูท่ ี่ การเพิม่ ความเป็นอัจฉริยะหรือความสมาร์ทให้กบั เมือง โดยเชือ่ มสิง่ ทีป่ ระชาชนพบเห็นว่าเป็นสิง่ ทีค่ วรปรับปรุง น�ำส่งไปให้ถงึ ผูบ้ ริหารและเจ้าหน้าที่ เพือ่ ให้สามารถเข้าใจ ความต้องการและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากขึน้ รวมถึงเป็นการพัฒนาเมืองด้วยความช่วยเหลือ 30
จากหลายฝ่ายที่เข้าถึงง่ายไม่ซับซ้อน ตอบสนองจุดที่เป็นปัญหาและสร้างความยุ่งยาก (Pain Point) ของประชาชนผู้อยู่อาศัย พนักงานผู้ดูแล และผู้บริหารได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ Traffy Fondue แพลตฟอร์มแจ้งซ่อมและบริหารจัดการปัญหาเมือง เป็นแอพพลิเคชั่นรับเรื่องแจ้งซ่อมและบริหารจัดการปัญหา ที่ช่วยลดระยะเวลา ขั้นตอน และค่าใช้จา่ ยในการแก้ปญ ั หา ท�ำให้ผบู้ ริหารเมืองเข้าถึงใจของประชาชน โดยเพิม่ ช่องทาง แจ้งปัญหาเมืองจากประชาชนถึงเจ้าหน้าที่โดยตรง โดยหลังแจ้งปัญหาแล้วประชาชนยัง สามารถติดตามสถานะการด�ำเนินการแก้ไขได้ผา่ น LINE@ และแอพพลิเคชัน่ ซึง่ หน่วยงาน ภาครัฐจะได้ข้อมูลที่เพียงพอส�ำหรับบริหารจัดการปัญหาของประชาชน เช่น ภาพถ่าย ต�ำแหน่งบนแผนที่ มีผลให้เจ้าหน้าที่สามารถแก้ปัญหาได้สะดวกรวดเร็วขึ้น เนื่องจาก ผู้บริหารมีภาพรวมและข้อมูลในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะส�ำหรับ น�ำไปใช้ในอาคาร ส�ำนักงาน คอนโดฯ หมู่บ้าน โรงงาน โรงเรียน และโรงพยาบาล โดยแพลตฟอร์มการสือ่ สารดังกล่าว สามารถใช้งานได้โดยการแจ้งปัญหาผ่านแอพพลิเคชัน่ หรือผ่าน Line Chat ถ่ายรูปปัญหา ต�ำแหน่งที่เกิดปัญหา พร้อมการแจ้งเตือน รวมถึง รับทราบความก้าวหน้าของการแก้ไข ซึง่ ข้อมูลทีไ่ ด้จากระบบสามารถน�ำมาเป็นบทวิเคราะห์ ทางสถิติที่ช่วยรวบรวบข้อมูลปัญหาและการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลส�ำหรับ การตัดสินใจในการลงทุนเพื่อแก้ปัญหาได้
GreenNetwork4.0 September-October 2019
ส่วน Traffy Waste ระบบจัดการการเก็บขยะอัจฉริยะ เป็นแพลตฟอร์มบริหารงาน และวางแผนจัดเก็บขยะ ด้วยเทคโนโลยี AI วิเคราะห์ข้อมูลจากการติดตามต�ำแหน่ง รถเก็บขยะด้วย Multi-GNSS บันทึกเส้นทางและประวัตกิ ารเก็บขยะ วิเคราะห์พฤติกรรม และเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บขยะ ประชาชนและเจ้าหน้าที่สามารถรับการแจ้งเตือน จุดเก็บขยะที่สนใจได้ สามารถท�ำงานร่วมกับระบบ Traffy Fondue โดยแจ้งปัญหาขยะ ล้นถังและขยะเกลื่อนกลาด ผ่าน LINE@ และแอพพลิเคชั่นได้ ท�ำให้ประชาชนค้นหา จุดทิ้งขยะใกล้บ้านพร้อมเวลาจัดเก็บประจ�ำ ตรวจสอบประวัติและสถิติการเก็บขยะ รับแจ้งเตือนการเก็บขยะผ่าน LINE และช่วยรายงานขยะล้นถัง ขยะเกลื่อนกลาด ผ่าน Traffy Fondue ได้ โดยทางเทศบาล อบต. และนิคมอุตสาหกรรม จะมีข้อมูลภาพรวม การจัดเก็บขยะและประสิทธิภาพการท�ำงาน ท�ำให้ทราบพฤติกรรมท�ำงานของรถเก็บขยะ รวมถึงรับรูจ้ ดุ แจ้งเตือนเก็บขยะส�ำคัญทีไ่ ม่ถกู จัดเก็บ พร้อมยังสามารถบันทึกประวัตกิ าร จัดเก็บและสถิตเิ ก็บขยะ พร้อมแนะน�ำเส้นทางทีป่ ระหยัดเชือ้ เพลิงได้ดว้ ย ซึง่ แพลตฟอร์ม ดังกล่าวถือเป็นเครือ่ งมือส�ำหรับผูใ้ ห้บริการจัดเก็บขยะทัง้ ทีเ่ ป็นส่วนภาครัฐ (การปกครอง ส่วนท้องถิน่ นิคมอุตสาหกรรม) และภาคเอกชน (ผูใ้ ห้บริการจัดเก็บขยะ ผูใ้ ห้เช่ารถขยะ ส�ำหรับใช้บริหารและติดตามการใช้งานทรัพยากร เช่น คน และรถขยะ) สามารถน�ำผล มาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการท�ำงาน และลดต้นทุนค่าน�้ำมันได้ บุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “เป็นโอกาสอันดี ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. จะได้ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทางด้าน Big Data มาช่วยในการบริหารจัดการเมืองและชุมชน ทีส่ ำ� คัญคือประชาชนจะได้รบั ความ สะดวกในการร้องเรียนปัญหาขยะ ปัญหาด้านสิง่ แวดล้อม รวมถึงปัญหาด้านสาธารณูปโภค และการแจ้งซ่อมต่างๆ โดยกระทรวงมหาดไทยจะส่งเสริมให้มกี ารน�ำแอพพลิเคชัน่ ระบบ Traffy Fondue และ Traffy Waste ไปใช้อย่างแพร่หลายต่อไป” ปฐม สวรรค์ปญ ั ญาเลิศ รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และ นวัตกรรม กล่าวว่า “กระทรวงการอุดมศึกษาฯ โดย สวทช. จะสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการ บุคลากรในการอบรมและสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับระบบแจ้งปัญหาและข้อร้องเรียน ผ่านแอพพลิเคชั่น Traffy Fondue และระบบบริหารจัดการการจัดเก็บขยะอัจฉริยะผ่าน แอพพลิเคชัน่ Traffy Waste ซึง่ จะช่วยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ มีเครือ่ งมือทีท่ นั สมัย สะดวกสบายให้กบั ประชาชนในพืน้ ทีบ่ ริการของเมืองและชุมชน และองค์กรปกครองส่วน ท้องถิน่ เองจะมีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทีม่ ปี ระสิทธิภาพในวิเคราะห์ขอ้ มูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data ในการวางแผน การแก้ไขปัญหา การบริหารจัดการเมืองและชุมชน” 31
ทั้งนี้ Smart City ถือเป็นโครงการที่หลายๆ เมืองทั่วโลกพยายาม พัฒนาให้เข้ากับยุค 4.0 โดยการเอาเทคโนโลยีมาผสานกับการใช้ชีวิตของ ประชาชนแต่ละเมือง ไม่วา่ จะทัง้ ด้านการขนส่ง การใช้พลังงาน หรือโครงสร้าง พื้นฐาน ที่จะท�ำให้เมืองมีความสะดวกสบาย ที่ส�ำคัญยังท�ำให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ดีมีสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย ถึงแม้ประเทศไทยจะยังไม่มี Smart City ทีส่ มบูรณ์เป็นรูปเป็นร่างมากนัก แต่สงิ่ ทีภ่ าครัฐก�ำลังขับเคลือ่ น และผลักดันให้หลายๆ จังหวัด หรือมหาวิทยาลัยด�ำเนินการในขั้นตอนการ พัฒนาอยู่ ซึง่ หัวใจส�ำคัญในการพัฒนา Smart City ของเมือง คือการสร้าง Data Hub หรือศูนย์รวมข้อมูลทีท่ นั สมัยทีร่ วมข้อมูลทัง้ พลังงาน การบริโภค น�้ำ การขนส่งมวลชน สังคม เศรษฐกิจ เพื่อการพัฒนาทรัพยากรเมือง และ ประชาชนให้เข้าถึงเชื่อมโยงในหลายๆ ด้านได้ด้วย
GreenNetwork4.0 September-October 2019
ENERGY
Saving กองบรรณาธิการ
การสนับสนุนให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบ กักเก็บพลังงานในด้านต่างๆ เช่น ความมั่นคงและภัยพิบัติ พลังงานทดแทน และยานยนต์ไฟฟ้านัน้ ในส่วนงานภาครัฐอย่าง ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภายใต้กำ� กับการดูแลของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (อว.) ได้รบั มอบหมายจาก กองทุนเพือ่ ส่งเสริม การอนุรักษ์พลังงาน โดยส�ำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ท�ำหน้าที่บริหารจัดการทุนวิจัยใน “โครงการสนับสนุนการศึกษา วิจยั พัฒนาเทคโนโลยีพลังงาน ทดแทน ปีงบประมาณ 2559 (Energy Storage)” มีระยะเวลา ด�ำเนินโครงการ 3 ปี ตลอดการด�ำเนินงานมีโครงการวิจัยภายใต้โครงการฯ เพือ่ เผยแพร่ขอ้ มูลความก้าวหน้างานวิจยั และพัฒนาเทคโนโลยี ระบบกักเก็บพลังงานของประเทศ และเป็นช่องทางแลกเปลีย่ น เรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักวิจัย ทั้งนี้ ได้น�ำร่องใช้ในงานด้าน ความมั่นคงและภัยพิบัติด้านอุตสาหกรรม และยานยนต์ไฟฟ้า เพือ่ สร้างฐานพัฒนาเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานให้เข้มแข็ง และแข่งขันได้ในระยะยาว มีระยะเวลาด�ำเนินโครงการ 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2559-12 กันยายน 2562 โดยคณะ ท�ำงานก�ำกับงานวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน อนุมตั กิ ารสนับสนุนโครงการและมีโครงการด�ำเนินการเสร็จสิน้ แล้ว จ�ำนวน 27 โครงการ จาก 12 หน่วยงาน สวทช. เนือ่ งจาก ระบบกักเก็บพลังงานเป็นส่วนประกอบหลักที่จะท�ำให้เกิด การเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ให้ใช้ได้นาน ท�ำให้เกิดเสถียรภาพ ในระบบผลิตไฟฟ้าและพลังงานจากแหล่งพลังงานทดแทน ยานพาหนะไฟฟ้าใช้งานได้นานขึ้น รวมถึงบุคลากรที่มีความรู้ เรือ่ งนีย้ งั มีนอ้ ย ประเทศไทยจึงจ�ำเป็นต้องสร้างขีดความสามารถ ด้านนี้ด้วยการพัฒนาขึ้นมาเอง พร้อมศึกษาจากต่างประเทศ แล้วพัฒนาต่อยอดในอนาคต ศ. นพ.ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ รองผู้อ�ำนวยการ สวทช. กล่าวว่า “สืบเนือ่ งจากคณะกรรมการกองทุนเพือ่ ส่งเสริม การอนุ รั ก ษ์ พ ลั ง งาน เล็ ง เห็ น ความจ�ำเป็นในการใช้เทคโนโลยี ระบบกักเก็บพลังงาน หรือ Energy Storage ทีม่ ปี ระสิทธิภาพส�ำหรับ ประยุกต์ใช้รว่ มกับระบบผลิตไฟฟ้า และพลังงานจากแหล่งพลังงาน ทดแทน เพื่อเพิ่มเสถียรภาพการ ศ. นพ.ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผลิตและใช้พลังงานของประเทศ จึงมีมติเห็นชอบให้สำ� นักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวง พลังงาน จัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน แผนพลังงานทดแทน กลุม่ งานค้นคว้าวิจยั ศึกษาเพือ่ การพัฒนา และส่งเสริมโครงการสนับสนุนการศึกษา วิจยั พัฒนาเทคโนโลยี พลังงานทดแทน ปีงบประมาณ 2559 ให้ สวทช. เพื่อด�ำเนิน โครงการดังกล่าวในเรื่องเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน โดยท�ำหน้าทีบ่ ริหารจัดการทุนวิจยั เพือ่ สร้างความเข้มแข็งด้าน
32
การวิจยั และพัฒนาตลอดห่วงโซ่คณ ุ ค่า พร้อมสนับสนุนให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกกั เก็บพลังงาน ในด้านต่างๆ” โครงการฯ มีกรอบงานวิจยั 3 กลุม่ ได้แก่ กลุม่ ที่ 1 การจัดท�ำยุทธศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยี ระบบกักเก็บพลังงานของประเทศไทย ระยะ 20 ปี กลุ่มที่ 2 การสนับสนุนงานวิจัยเชิงประยุกต์ที่เน้น การพัฒนาเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานเพื่อใช้งานด้านต่างๆ ประกอบด้วย 3 กรอบวิจัย ได้แก่ กรอบการพัฒนาเพือ่ ใช้งานด้านความมัน่ คงและภัยพิบตั ิ กรอบการพัฒนาเพือ่ ใช้งานกับนิคมอุตสาหกรรม พลังงานทดแทน และพืน้ ทีห่ า่ งไกล และกรอบการพัฒนาเพือ่ ใช้งานในยานยนต์ และกลุม่ ที่ 3 การสนับสนุน งานวิจัยพื้นฐานที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานตลอดห่วงโซ่คุณค่า ประกอบด้วย 2 กรอบวิจัย ได้แก่ กรอบงานด้านวัสดุ ระบบการกักเก็บและการศึกษาการใช้เซลล์เชื้อเพลิงส�ำหรับ การใช้งานเป็นระบบกักเก็บพลังงาน และกรอบงานด้านการควบคุมการท�ำงาน การน�ำระบบกักเก็บ พลังงานไปใช้งานร่วมกับระบบการใช้และผลิตพลังงานอื่นๆ
Lithium Sulphur Battery
นอกจากนี้ ในการจัดงานดังกล่าวมีนกั วิจยั ในโครงการ Energy Storage บางส่วนได้รว่ มบรรยาย ถ่ายทอดผลงานวิจัย ประกอบด้วย รศ. ดร.ฐปนีย์ สารครศรี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ รศ. ดร.วรวัฒน์ มีวาสนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสรุ นารี จังหวัดนครราชสีมา รศ. ดร.ภัทรพงษ์ ผาสุขกิจ ั น์ มหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ ดร.ปัญญา บุญญาภิวฒ ราชภัฏพระนคร ซึง่ ได้นำ� เสนอข้อมูลเชิงวิชาการเกีย่ วกับการส่งเสริมพัฒนาทางด้าน Energy Storage ที่จะท�ำให้ยกระดับความก้าวหน้าเสริมสร้างอุตสาหกรรมภายในประเทศและท�ำให้ผลิตระบบกักเก็บ พลังงานภายในประเทศได้ และรวมถึงการให้ข้อมูลทางด้านการจัดท�ำแบบจ�ำลองเพื่อวิเคราะห์และ คาดการณ์ความต้องการทีจ่ ะกักเก็บพลังงานทีเ่ หลือใช้จากการผลิต และน�ำไปใช้เพือ่ สร้างเสถียรภาพ พลังงานในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม งานสัมมนาครัง้ นีจ้ ะท�ำให้หน่วยงานภาคส่วนอืน่ ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องน�ำข้อมูลความก้าวหน้า งานวิจยั และพัฒนาเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานของประเทศ ซึง่ จะเป็นช่องทางในการแลกเปลีย่ น และเรียนรูเ้ ทคโนโลยีรว่ มกันระหว่างนักวิจยั นักวิชาการ ผูป้ ระกอบการ และผูเ้ กีย่ วข้องในเชิงนโยบาย และสร้ า งโอกาสการต่ อ ยอดนวั ต กรรมระบบกั ก เก็ บ พลั ง งานสู ่ ก ารใช้ ป ระโยชน์ ต ามนโยบาย Energy 4.0
GreenNetwork4.0 September-October 2019
Magazine to Save The World
มูลนิธิแอสเสท เวิรด์ ร่วมกับ กรุงเทพฯ ภาครัฐ-เอกชน จัดโครงการ “GIVE GREEN CBD : SYNERGY POWER 2019”
มูลนิธิแอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล ภายใต้ แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ร่วมมือกับ กรุงเทพมหานคร กลุม่ ผูป้ ระกอบการย่านสาทรและพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมกันจัดงานโครงการ “GIVE GREEN CBD : SYNERGY POWER 2019” น�ำโดย วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่ บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งรวมพลังร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และจากหน่วยงานทุกภาคส่วนทัง้ ภาครัฐและเอกชน เพือ่ พัฒนาชุมชนในย่าน สาทรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ตลอดจนคืนกลับสิ่งดีๆ สู่สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมุ่งมั่น และตัง้ ใจ โดยผ่าน 4 กิจกรรมหลัก ทีเ่ ริม่ ด�ำเนินการไปถึงมกราคม 2563 ประกอบด้วยกิจกรรม ตลาดนัดการกุศล AWC Charity Market Around และกิจกรรมวิ่งอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมลดขยะ Empire Tower We Run 2019 with Virgin Active
มูลนิธิไอวีแอล จับมือ GEPP ร่วมโครงการจัดเก็บขยะรีไซเคิล เพื่อความยั่งยืน
มูลนิธิไอวีแอล น�ำโดย สุจิตรา โลเฮีย ประธานมูลนิธิไอวีแอล จับมือองค์กร GEPP ทีม่ ี มยุรี อรุณวรานนท์ ซีอโี อและผูร้ ว่ มก่อตัง้ องค์กร GEPP ร่วมกันแถลงข่าวลงนามบันทึก ความร่วมมือใน “โครงการจัดเก็บขยะรีไซเคิลเพื่อความยั่งยืน” เพื่อน�ำขวดพลาสติก PET มาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ด้วยแนวคิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในโอกาสเดียวกันนี้ มูลนิธิไอวีแอลได้มอบถังขยะรีไซเคิลกว่า 70 ใบ แก่สถานทูตประจ�ำ ประเทศไทย 5 แห่ง ได้แก่ สถานทูตโปรตุเกส สถานทูตเนเธอร์แลนด์ สถานทูตอินโดนีเซีย สถานทูตอินเดีย และสถานทูตมาเลเซีย ซึ่งมีเอกอัครราชทูตโปรตุเกส ประจ�ำประเทศไทย และผู้แทนจาสถานทูตทั้ง 5 แห่งเข้าร่วมด้วย โดยทุกฝ่ายคาดหวังจะสร้างความร่วมมือใน การจัดเก็บและคัดแยกขยะเพื่อน�ำมารีไซเคิลอย่างยั่งยืนต่อไป
กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท. จัดงาน Experiencing ASEAN POP Culture การท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย น�ำโดย กฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผูอ้ ำ� นวยการภูมภิ าค อาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟกิ ใต้ พร้อมด้วย นภินทร ศรีสรรพางค์ ผูช้ ว่ ยรัฐมนตรีประจ�ำ กระทรวงการท่องเทีย่ วและกีฬา และ อรุณรุง่ ศรีวฒ ั นประภา ผูช้ ว่ ยประธานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายการเงิน กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ และผู้ประกอบการโรงแรม ร่วมกันจัดงานภายใต้ โครงการ “Experiencing ASEAN POP Culture” ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อ เชือ่ มโยงท่องเทีย่ วเชิงวัฒนธรรมไทย-อาเซียน โดยมีเหล่าศิลปินและสถาปนิกทัง้ ไทยและ อาเซียนร่วมเสวนาในหัวข้อ “อิทธิพลของศิลปะสมัยนิยมทีม่ ตี อ่ อุตสาหกรรมการท่องเทีย่ ว” ซึง่ น�ำร่องเปิดเส้นทางผ่านงานศิลปะ อาทิ สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วในอ�ำเภอแหลมงอบ จังหวัด ตราด สถานที่ท่องเที่ยวอ�ำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย เป็นต้น
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงาน “TSE Engineering and Beyond” ในโอกาสครบรอบ 30 ปี
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ น�ำโดย รศ. ดร.ธีร เจียศิรพิ งษ์กลุ คณะบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานครบรอบ 30 ปี ในงาน “TSE Engineering and Beyond” โดยภายในงานได้จัดเสวนาซึ่งมีอาจารย์รุ่นใหม่ไฟแรง ศิษย์เก่าทีม่ ชี อื่ เสียง และนักศึกษา ร่วมเสวนาแลกเปลีย่ นประสบการณ์บนเส้นทาง “เป็นมากกว่า วิศวกร” นอกจากนี้ ในงานดังกล่าว คณะอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ได้โชว์นวัตกรรมรางวัล ระดับโลก อาทิ นวัตกรรมทีเ่ ปลีย่ นพลาสติกสูค่ อนกรีตรักษ์โลก ทางออกปัญหาขยะพลาสติก ล้นเมือง รวมทัง้ งานวิจยั เกีย่ วกับกรีนโปรดักส์ยอ่ ยสลายง่าย ใช้ตน้ ทุนต�ำ่ วัสดุทางเลือกใหม่ จากยางพาราและมันส�ำปะหลัง รวมถึงเทคโนโลยีไบโอพลาสติกเพิม่ มูลค่าสินค้าเกษตรไทย นวัตกรรมเทคโนโลยีเครือ่ งนับไข่เอไออัตโนมัตนิ ำ� ร่องเทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์ม และทางเลือก ใหม่เกีย่ วกับแบบจ�ำลองส�ำหรับการรักษามะเร็งตับโดยใช้คลืน่ ไมโครเวฟครัง้ แรกของโลก
33
GreenNetwork4.0 September-October 2019
Magazine to Save The World
กรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบรางวัล CSR-DIW Continuous Award โรงงานกลุ่มไอวีแอล 9 แห่ง
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จ�ำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล น�ำโดยผู้บริหารจาก 9 โรงงานในกลุม่ บริษทั ไอวีแอล เข้ารับรางวัล CSR-DIW Continuous Award ประจ�ำปี 2562 จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ต่อเนือ่ งเป็นปีที่ 9 สะท้อนให้เห็นถึงความ ส�ำเร็จของไอวีแอลในการด�ำเนินงานด้านความยัง่ ยืน มุง่ เน้นการสร้างประโยชน์ให้กบั พนักงาน ชุมชน และผูม้ สี ว่ นได้เสียทุกฝ่ายในสังคมอย่างต่อเนือ่ ง อาทิ การส่งเสริมด้านสุขภาพและความ ปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ พนักงาน และผู้รับเหมา การจ้างงานพนักงานในชุมชนเพื่อส่งเสริม ความเติบโตทางเศรษฐกิจของชุมชน การใช้ทรัพยากรและพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนให้การสนับสนุนและให้ความรู้ในการรีไซเคิลแก่ชุมชนโดยรอบ
บริษัท เดลต้าฯ ส�ำนักงานใหญ่ รับรางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทอาคารเขียว
เซีย เชน เยน ประธานบริหาร บริษัท เดลต้า ประเทศไทย พร้อมด้วย ปิติสุข จิตเกษม ผู้อ�ำนวยการบริหารโรงงานเดลต้า รับรางวัลในพิธีมอบรางวัล ASEAN Energy Awards 2019 โดยบริษทั เดลต้าฯ ส�ำนักงานใหญ่ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รบั รองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทอาคารเขียว (Green Building) ทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม ในฐานะผูน้ ำ� ทีป่ ระสบความส�ำเร็จเป็นอย่างยิง่ ในเรือ่ งอาคารเขียว ซึง่ ได้มงุ่ เน้นในเรือ่ ง การออกแบบอาคารและการเลือกใช้วสั ดุฉนวนเพือ่ ประหยัดพลังงาน โซลูชนั่ พลังงาน แสงอาทิตย์บนชั้นดาดฟ้าเพื่อสร้างพลังงานทดแทน อุปกรณ์อ�ำนวยความสะดวกใน ห้องน�ำ้ อุปกรณ์ HVAC และ LED ทีม่ ปี ระสิทธิภาพ วัสดุกอ่ สร้างทีเ่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม รวมถึงการจัดการของเสีย การควบคุมมลพิษ และการขนส่งพนักงาน และคุณภาพ อากาศภายในอาคารและระบบนิเวศสีเขียว
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯ ผนึก เซ็นทรัล รีเทล สร้างอาคารอนุรักษ์พลังงานติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เต็มหลังคา บริษทั เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จ�ำกัด น�ำโดย โสภณ ราชรักษา ผูอ้ ำ� นวยการใหญ่ บริษทั เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จ�ำกัด ในฐานะผูน้ ำ� การให้บริการอสังหาริมทรัพย์เพือ่ อุตสาหกรรม ระดับโลก พร้อมด้วย ดร.ปิยะพงษ์ ธัญญศรีสังข์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายปฏิบตั กิ าร บริษทั สรรพสินค้าเซ็นทรัล จ�ำกัด ผูน้ ำ� ธุรกิจค้าปลีกไทยเพือ่ พัฒนา ศูนย์กระจายสินค้า ร่วมลงนามในสัญญาเช่าอาคารระยะยาว 15 ปี โดยโครงการ โลจิสติกส์แคมปัสระดับเวิลด์คลาส เป็นอาคารอนุรกั ษ์พลังงาน ด้วยการติดตัง้ แผง โซลาร์เซลล์เต็มพืน้ ทีบ่ นหลังคาโครงการ และเป็นอาคารทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม ผ่านการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว หรือ LEED ซึง่ ตัง้ อยูใ่ นโครงการเฟรเซอร์ส เซ็นเตอร์โลจิสติกส์เซ็นเตอร์ อ�ำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
สผ. ร่วมกับ องค์กร GIZ ประเทศเยอรมนี จัดกิจกรรม “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลกร้อน”
ดร.รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการส�ำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากร ธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม (สผ.) พร้อมด้วย ดร.พิรณ ุ สัยยะสิทธิพ์ านิช รองเลขาธิการ ส�ำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม และ ทิม มาเลอร์ ผู้อ�ำนวยการองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ร่วมกัน จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และเผยแพร่การด�ำเนินงานด้านการเปลีย่ นแปลงสภาพ ภูมอิ ากาศของไทย “เปลีย่ นเรา เปลีย่ นโลกร้อน” (Climate Change, WE Change) โดยมีวตั ถุประสงค์เพือ่ เสริมสร้างความรูค้ วามเข้าใจทีถ่ กู ต้องเกีย่ วกับการด�ำเนินงาน ของไทยด้านการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศภายใต้กรอบอนุสญ ั ญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและกรอบอาเซียนให้แก่ภาคส่วนต่างๆ โดยมี ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี ดารานักแสดงและพิธีกรชื่อดัง ร่วมเสวนาในงาน ดังกล่าวด้วย 34
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
Technology &Innovation กองบรรณาธิการ
ประเทศไตหวัน ถือเปนประเทศทีม่ กี ารใชพลังงานอยางมีประสิทธิภาพ มีระบบบริหารจัดการทีด่ ี มีความ ปลอดภัย เปนอีกประเทศหนึง่ ทีม่ กี ารใชทรัพยากรและพลังงานอยางคุม คา ทําใหประชากรของประเทศไตหวัน ลดอัตราการสิ้นเปลืองไฟฟา และพลังงานมาอยางยาวนาน นํามาซึ่งการจัดงาน “2019 Taiwan Trade Mission of Green Technology to Thailand” โดยมี สํานักงานโครงการการคาสีเขียว กรมการคาตางประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไตหวัน รวมกับ สภาสงเสริมการคา และการสงออกไตหวัน จัดงานพบปะและเจรจาธุรกิจ ซึง่ มีคณะผูผ ลิตอุปกรณและพัฒนาโซลูชนั่ ดานพลังงานและ แสงสวางชั้นนําจากประเทศไตหวันไดนํานวัตกรรมเทคโนโลยีที่เต็มไปดวยโซลูชั่นไดรับรางวัลความเปนเลิศ จากไตหวัน อีกทัง้ เปนเทคโนโลยีทมี่ คี วามทันสมัยและบุคลากรมีความเชีย่ วชาญเปนพิเศษในการพัฒนาอุปกรณ อิเล็กทรอนิกส สามารถตอบสนองความตองการใชพลังงานที่มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพจากภาคครัวเรือน พาณิชยกรรม และอุตสาหกรรม เขามาแสดงใหผเู ขารวมงานไดนาํ ไปเปนกรณีศกึ ษาเกีย่ วกับผลิตภัณฑเทคโนโลยี สีเขียวดานพลังงาน และแสงสวางมากกวา 20 รายการครอบคลุมในหมวดแสงสวาง การควบคุม การจัดการ พลังงาน และการใชพลังงานอยางมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเทคโนโลยีสําหรับจัดการอาคาร อาทิ Da Da Da จะนําเสนอโซลูชั่นแพลตฟอรมอัจฉริยะดานการใชพลังงานอยางมีประสิทธิภาพ เชน ระบบการจัดการพลังงาน อัจฉริยะ (EMS) การวิเคราะหอยางชาญฉลาด อุปกรณ เชน Smart Meter IoT Gateway และ CT เปนตน โดยโซลูชั่นจาก Da Da Da ไดถูกนําไปใชกับอาคารในองคกรตางๆ ของรัฐบาลไตหวันหลายราย ดวยระบบ Robust AI Cloud Service หรือ Team Young Corp. ไดพัฒนา EZCon เพื่อเชื่อมตอชีวิตของผูใชอาคารดวย รีโมทคอนโทรล ระบบ EZCon สามารถติดตัง้ ระบบไดงา ย ควบคุมพลังงานไดอยางมีประสิทธิภาพ โดยไมตอ ง เชือ่ มตออินเทอรเน็ต ประหยัดพลังงาน และลดการปลอยคารบอน และมีระบบปองกันกระแสไฟฟาเกิน (Smart OCP) เพื่อหลีกเลี่ยงไฟฟาลัดวงจร ลดการใชพลังงานสํารอง ไดรับการรับรองดวยสิทธิบัตรนวัตกรรม ซึง่ ในสวนของแสงสวาง OMA-Lighting ไดนาํ เสนอโซลูชนั่ แสงสวางคุณภาพสูงในการจัดหาแสงไฟในพืน้ ที่ สาธารณะ ปจจุบนั เปนซัพพลายเออรหลักในตลาด ไดแสดงวิสยั ทัศนวา แสงสวางเปนมากกวาความเปนเลิศทาง เทคนิค ประสิทธิภาพ สุนทรียภาพ แตยังเปนหัวใจหลักเมืองอัจฉริยะที่เปนมิตรตอสิ่งแวดลอม ทําใหผูอยูอาศัย ไดรบั ประโยชนสงู สุดจากการทีม่ จี ดุ เชือ่ มตอโดยคํานึงผูใ ชงานเปนสําคัญ สําหรับ Neotroni Lighting เปนบริษทั ชัน้ นําทางดานแสงไฟสําหรับอุตสาหกรรมไฟฟากําลัง ไฟ LED และผูใ หบริการโซลูชนั่ ระบบอัจฉริยะ ดวยประสบการณ จาก 18 ประเทศทัว่ ทุกมุมโลก ครอบคลุมการใชบนทองถนน โรงงาน ทาเรือ สนามกีฬา เครือ่ งจักรกลหนัก และ ความตองการพิเศษอืน่ ๆ และยังมีระบบ IoT และอุปกรณควบคุมแสงไฟอัจฉริยะและระบบสําหรับการใชทงั้ ภายใน และภายนอกอาคาร นอกจากนีย้ งั เปนผูผ ลิตไฟ LED และระบบอัจฉริยะทีใ่ หญทสี่ ดุ แหงหนึง่ ในไตหวัน ทางดาน LixControls International มานําเสนอเทคโนโลยีใหมระบบการควบคุมแสงสวางอยางชาญฉลาด ไฟสองสวาง 36
GreenNetwork4.0 September-October 2019
สําหรับงานเชิงพาณิชย สํานักงาน ครัวเรือน ทีผ่ สมผสานเทคโนโลยี IoT กับแสงไฟ อัจฉริยะ โดยไดมีการรวมมือกับกระทรวงพลังงานไตหวันในการพัฒนาระบบ สองสวางในอาคารวาการทองถิ่น จํานวน 30 อาคาร ใหเปนระบบอัจฉริยะ ในทิศทางเดียวกันยังมีผลิตภัณฑโคมไฟและหลอดไฟจาก Radiant Star ผูผ ลิตไฟฝง ไฟ LED อะลูมเิ นียมอุตสาหกรรม ไฟติดฝา โคมไฟหอยเพดาน โคมไฟ LED Panel แบบฝงฝา ดาวนไลท ไฟอุตสาหกรรมอื่นๆ และไฟภายนอกอาคาร โดยไดรับความไวใจจากภาคอุตสาหกรรมในไตหวันรวมไปถึงสําหรับอาคาร Taipei 101 และแบรนดระดับโลกอื่นๆ และ Lih Yang Electric Machinery ที่ โดดเดนดานหลอดไฟ LED สําหรับตลาดตางๆ กัน Reecos Technology กับ ผลิตภัณฑแสงไฟอุตสาหกรรมแบบประหยัดพลังงานที่สามารถเปลี่ยนได เชน หลอด E27 Low Bay, E40 High Bay และไฟถนน การเปลี่ยนแบบนี้สามารถลด ตนทุนคาใชจา ยการบํารุงลงอยางมากหลังจากหมดระยะเวลาประกัน และโดยเปน ผูต ดิ ตัง้ ระบบไฟใหกบั โรงงาน Coca Cola และ Toyota ในญีป่ นุ Volvo ในสวีเดน และบริษทั มหาชนตางๆ ทัง้ นีย้ งั มีระบบไฟทีต่ รวจจับความเคลือ่ นไหว โดยใชโมดูล เซ็นเซอรทมี่ นี าํ้ หนักเพียง 5.8 G และมีความแมนยําสูง ชวยประหยัดคาไฟไดถงึ 90%
ชาวฮุย หลิน รองผูอํานวยการบริหาร สภาพัฒนาการคาภายนอก ไตหวัน (TAITRA) กลาววา “ภายในงานไดนาํ ผูป ระกอบการไตหวัน ชั้นนําใหเกิดการพบปะกับผูประกอบการภาค เอกชนไทย รวมไปถึงในสวนของโรงพยาบาล ไทยประมาณ 9 โรงพยาบาล และมหาวิทยาลัย หรือสถานศึกษาตางๆ ในประเทศไทย เพื่อให คนไทยไดนาํ ไปเปนกรณีศกึ ษาเกีย่ วกับนวัตกรรม ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มีผูประกอบการไทย จํานวนมากสนใจและใหความสําคัญเขารวมงาน เพือ่ เพิม่ โอกาสทางธุรกิจตอกันผานการนําเสนอ และเจรจาธุรกิจกับทั้ง 9 ผูประกอบการจากไตหวันนี้ใหตรงตามวัตถุประสงค การจัดงานที่ตองการผลักดันนวัตกรรมไตหวันจากการคิดคน พัฒนาและวิจัย การออกแบบและพัฒนาคุณภาพ ผานธุรกิจนํามาสูการสานความสัมพันธทาง เศรษฐกิจและการคาของไทยและไตหวันอยางตอเนื่อง”
และยังมาพรอมกับ 1-10V Dimming Series ไดถกู นําไปใชในมอเตอรไซค Scooter แบรนด Sanyo Taiwan โดยทางบริษัทยังผลิต DOB, Driver and Light Board ไดเอง และ Delta Electronics ไดนําเสนอระบบ Smart PASS ในการจัดการ อาคารภาคสนาม ใหการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศดวย 3 ฟเจอรอจั ฉริยะ ไดแก การจัดการพืน้ ทีจ่ อดรถ การควบคุมการเขาอาคารอัจฉริยะ และโซลูชนั่ ระบบ การตรวจตรา ดวยความเปนเลิศทางดานความปลอดภัย สําหรับโซลูชนั่ การจัดการ ทีจ่ อดรถโดยอัตโนมัตขิ อง Delta นัน้ ผสมผสานการจดจําปายทะเบียนรถมุมกวาง พิเศษกับเทคโนโลยี RFID และใชคุณสมบัติการเรียนรูของเครื่อง เพื่อระบุตัวตน ที่แมนยําแมองศาเอียงของทางเขา-ออก ซึ่งโซลูชั่นลานจอดรถไดมีการปรับปรุง ประสิทธิภาพการควบคุมทั้งทางเขา-ออกเพื่อใหไดการจดจําปายทะเบียนรถที่มี ประสิทธิภาพสูงสุด เจสัน ซู ตัวแทนจากสํานักงานเศรษฐกิจ และวั ฒ นธรรมไทเป ประจํ า ประเทศไทย กลาววา “แนวโนมความตองการใชพลังงานที่ มากขึน้ และสามารถควบคุมตนทุนคาไฟฟาได ทัง้ ในระยะสัน้ และระยะยาว และลดการปลอย กาซเรือนกระจกนั้น ดังที่รัฐบาลไทยกําลัง ปรับใชนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 โดยมีความมุงหมายในการสรางสมดุลทั้งทาง ดานเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดลอม ภายใต กรอบแนวคิดของการพัฒนาทีย่ งั่ ยืน และมีการ พัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอยางเปน รูปธรรม สอดคลองกับแผนพัฒนาอุตสาหกรรมดานเทคโนโลยีพลังงานและเศรษฐกิจ หมุนเวียนของไตหวัน ซึง่ เปนการพัฒนาการสงเสริมอุตสาหกรรมสีเขียวในไตหวัน อันมีรากฐานแข็งแกรง ดวยโซลูชั่นที่ทันสมัยและความเชี่ยวชาญเปนพิเศษในการ พัฒนาอุปกรณอิเล็กทรอนิกส ทําใหสามารถตอบสนองความตองการใชพลังงาน ที่มีเสถียรภาพ”
ถง เจิน้ หยวน ตัวแทนจากสํานักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจํา ประเทศไทย กลาววา “รัฐบาลไทยกําลังอยูในชวงพัฒนาตามแผนระยะยาว 10 ป ในการขับเคลื่อนใหประเทศไทยขึ้นแทนเปนศูนยกลางทางการแพทยในเอเชีย จึงนํามาสูการนําสินคาและบริการดานสุขภาพอัจฉริยะที่สามารถตอบโจทยดาน สุขภาพและดานการแพทยเขามาในประเทศเปนจํานวนมาก ซึง่ ตรงกับแผนพัฒนา อุตสาหกรรมดานเทคโนโลยีของไตหวันทีท่ นั สมัยเพือ่ ใหคนไทยมีชวี ติ ทีด่ ขี นึ้ ตลอด ชวงระยะเวลาทีผ่ า นมา ในขณะทีป่ ระเทศไตหวันก็มคี วามเชีย่ วชาญเปนพิเศษในการ ผลิตนวัตกรรมทางการแพทยตา งๆ จึงเกิดความรวมมือกันระหวางไทยและไตหวัน” นอกจากนี้ ภายในงานยังไดมกี ารจัดเสวนาเพือ่ การนําเสนอขอมูลนวัตกรรม เทคโนโลยีของแตละผูประกอบการที่มารวมแสดงผลิตภัณฑ อาทิ วัชรพงศ สุขกําเนิด ผูจัดการฝายขายประจําประเทศไทย ธุรกิจ Intelligent Healthcare Advantech Corporation (Thailand) Co., Ltd. นําเสนอหัวขอ การบริหารโรงพยาบาล อัจฉริยะ ไซรัส ตง ผูช ว ยผูจ ดั การทัว่ ไป จาก Hiwin Technologies Corp. นําเสนอ หัวขอ การผาตัดดวยกลองสองระบบหุนยนตอัจฉริยะ เดวิด ฮัง Supervisor, IEI Integration Corp. นําเสนอหัวขอ IEI Smart Healthcare-Nursing Solution สําหรับตัวแทนขายประจําภูมิภาค Mediland Enterprise Corporation บรรยาย โดย เรย หยาง นําเสนอหัวขอ ระบบเชื้อโรคที่ทันสมัยดวยหุนยนตฆาเชื้อโรค คูณซี ไฉ ผูจัดการทั่วไป จาก IMEDIPLUS Inc. นําเสนอหัวขอ Technology Medicalization - กุญแจสู Smart Medicine แหงอนาคต อดัม ฮวง ตัวแทน จาก Fasion Systems นําเสนอหัวขอ Medical Digitalization & Telemedical Application อยางไรก็ตาม การจัดงานในครั้งนี้ จะเปนการผลักดันนวัตกรรมไตหวัน ดวยการคิดคน พัฒนาและวิจยั การออกแบบและพัฒนาคุณภาพผานธุรกิจ นํามาสู การสานความสัมพันธทางเศรษฐกิจและการคาของไทยและไตหวันอยางตอเนื่อง ซึ่งนวัตกรรมจะสามารถสรางความแตกตางใหกับชีวิตผูคน ตลอดจนระบบทาง การแพทยทนี่ าํ เทคโนโลยีมาชวยใหมสี ขุ ภาพดี และมีระบบขนสงอัจฉริยะเคลือ่ นที่ และเทคโนโลยีเครือ่ งจักรทางธุรกิจทีช่ ว ยใหมคี วามคิดแนวทางทีช่ ว ยดานการผลิต ใหงายขึ้นโดยนวัตกรรมเชื่อมตอกันในการทําใหโลกนาอยูยิ่งขึ้น
37
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
ไบโอพลาสติก
Article ดร.กริชชาติ วองไวลิขิต, ดร.ณัฐวิญญ ชวเลิศพรศิยา, ศ. ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล
ที่ (อาจ) ไมยอยสลาย “ขยะพลาสติก” เปนเรือ่ งทีถ่ กู หยิบยกขึน้ มาพูดถึงเปนอยางมากโดยเฉพาะ ในชวง 2-3 ปทผี่ า นมา เนือ่ งจากกระแสดานสิง่ แวดลอมกําลังถูกยกใหเปนประเด็น สําคัญในการดํารงชีวติ ของมนุษย ปญหาขยะพลาสติกในปจจุบนั เกิดจากพฤติกรรม ทีก่ อ ใหเกิดการใชพลาสติกในปริมาณมากขึน้ อีกทัง้ พลาสติกสวนมากมักเปนรูปแบบ ของพลาสติกแบบใชครั้งเดียวทิ้ง (Single-Used Plastic) จึงเปนสาเหตุใหเกิด ขยะพลาสติกปริมาณมหาศาล และจากการทีพ่ ลาสติกสามารถเก็บรวบรวมไดยาก เนือ่ งจากมีนํ้าหนักเบา สามารถถูกลมพัดปลิวและกระจายไปยังพื้นทีต่ า งๆ ไดงาย จึงทําใหเปนปญหาโดยเฉพาะอยางยิง่ ตอทรัพยากรนํา้ ทีม่ กั เปนแหลงรองรับสุดทาย ของขยะพลาสติกเหลานี้
ปริมาณการผลิตพลาสติกและสัดสวนของพลาสติกที่สามารถยอยสลายได
“การยอยสลายตัวชา” เปนความเขาใจทีเ่ กีย่ วกับปญหาพลาสติกเนือ่ งจาก ตองใชเวลามากกวารอยปพันปในการยอยสลาย จึงทําใหพลาสติกเหลานี้ตกคาง อยูใ นสิง่ แวดลอม โดยเวลาการยอยสลายยาวนานนีเ้ กิดจากโครงสรางทางเคมีของ พลาสติกทีท่ าํ ใหมคี วามทนทาน ไมสามารถยอยสลายไดในระยะเวลาอันสัน้ เหมือน ใบไมใบหญา หรือชีวมวลอืน่ ๆ ดวยสาเหตุนเี้ อง จึงไดมกี ารพัฒนาพลาสติกชีวภาพ หรือไบโอพลาสติก (Bioplastic) ขึ้นมาโดยใชชีวมวลตางๆ โดยมุงเปาวาจะเปน พลาสติกที่ใชเวลาในการยอยสลายนอยกวาพลาสติกทั่วไป ซึ่งเห็นไดอยางชัดเจน เปนอยางยิ่งในป ค.ศ. 2017 และ 2018 ที่มีการผลิตไบโอพลาสติกในปริมาณที่ มากขึน้ กวาปกอ นเกือบเทาตัว ไบโอพลาสติกจึงเริม่ เขามาทดแทนการใชงานพลาสติก มากขึน้ โดยในปจจุบนั มีการใชไบโอพลาสติกทดแทนพลาสติกประเภทใชครัง้ เดียวทิง้ โดยเฉพาะอยางยิง่ บรรจุภณ ั ฑทเี่ กีย่ วของกับอาหาร เชน ถุงชา ถุงเก็บอาหาร หรือ ฟลมที่ใชในการหออาหาร นอกจากนี้ยังนํามาใชเปนสวนประกอบในผาออมเด็ก ถุงขยะ หรือสวนผสมในยางรถยนตอีกดวย 38
GreenNetwork4.0 September-October 22019
แนวทางการใชงานและการจัดการไบโอพลาสติกอยางถูกวิธี ผลิตภัณฑจากไบโอพลาสติก PLA ถุงชาและผาออมเด็ก
อยางไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ตองเขาใจใหถูกตองก็คือไบโอพลาสติกที่ใชกันอยาง แพรหลายในปจจุบันยังไมสามารถยอยสลายไดตามธรรมชาติเหมือนการฝงเศษตนไม ใบหญาลงดิน เนือ่ งดวยกระบวนการผลิตของไบโอพลาสติกมีกระบวนการทีท่ าํ ใหเกิดการ เปลี่ยนแปลงโครงสรางภายในของวัสดุชีวมวลตางๆ ที่นํามาใชเปนวัตถุดิบไมวาจะเปน กระบวนการที่ใชอุณหภูมิหรือความดันสูง จึงสงผลใหไบโอพลาสติกมีความทนทานและ สามารถใชงานทดแทนพลาสติกได ดวยสาเหตุนเี้ อง ไบโอพลาสติกสวนมากจึงไมสามารถ ยอยสลายไดโดยงายเหมือนกับวัสดุทางธรรมชาติ และใชเวลาหลายรอยถึงหลายพันป เชนเดียวกันกับการยอยสลายพลาสติกทัว่ ไป นอกจากไบโอพลาสติกบางประเภทเทานัน้ ทีม่ รี ะยะเวลาในการยอยสลายสัน้ จนกลาวไดวา สามารถยอยสลายได เชน พลาสติกจําพวก PHA (Polyhydroxyalkanoates) หรือ PLA (Polylactic Acid) ซึง่ คิดเปนเพียงรอยละ 17 ของปริมาณไบโอพลาสติกที่ถูกผลิตขึ้นมาในป ค.ศ. 2018 เทานั้น ทัง้ นีท้ งั้ นัน้ คําวา “การยอยสลายได” ของพลาสติกเปนคําทีต่ อ งระวังเปนอยางมาก เนือ่ งจาก “ไบโอพลาสติก” ทีย่ อ ยสลายไดทอี่ อกสูท อ งตลาดในปจจุบนั ยังเปนไบโอพลาสติก ที่ “ยอยสลายไดภายใตสภาวะควบคุม” กลาวคือ ไบโอพลาสติกจะตองถูกจัดการโดย โรงงานที่รับจัดการขยะเฉพาะทางที่มีกระบวนการที่สามารถจัดการกับไบโอพลาสติก เหลานี้ไดเทานั้น จึงจะทําใหไบโอพลาสติกสามารถยอยสลายได ถานําไปฝงดินโดยตรง หรือกําจัดในหลุมฝงกลบดวยวิธีการปกติ ไบโอพลาสติกก็จะใชเวลาในการยอยสลาย ยาวนานเหมือนกับพลาสติกอืน่ ๆ ดังนัน้ เสนทางทีค่ วรจะเปนของไบโอพลาสติกควรจะตอง เริม่ ตนจากการผลิตไบโอพลาสติกทีส่ ามารถยอยสลายได และเมือ่ มีการใชงานไบโอพลาสติก ควรจะตองมีการ แยกขยะไบโอพลาสติก ออกมาจากขยะอืน่ ๆ อยางชัดเจน ซึง่ ในปจจุบนั สามารถสังเกตการแยกไบโอพลาสติกจากพลาสติกประเภทอื่นๆ ไดดวย “สัญลักษณ พลาสติกรีไซเคิลหมายเลข 7” แลวจึงเก็บรวบรวมและจัดการใหเกิดการยอยสลายของ ไบโอพลาสติกในสภาวะทีเ่ หมาะสมภายในโรงงาน กอนทีจ่ ะนําสวนทีย่ อ ยสลายแลวมาใช ในการผลิตไบโอพลาสติกตอไปในรูปแบบวัตถุดิบหรือปุยสําหรับปลูกพืช
ดังนัน้ จึงจะเห็นไดวา แมจะมีการผลิตไบโอพลาสติกทีส่ ามารถยอยสลาย ขึน้ มาไดแลวในปจจุบนั มนุษยเราก็ยงั คงเปนตัวแปรสําคัญทีต่ อ งรวมมือกัน จัดการปญหาขยะพลาสติกที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอยางยิ่งการแยกขยะใหอยู ในจุดที่มีการรองรับอยางถูกวิธีเพื่อปองกันไมใหขยะไปปนเปอนกับแหลง นํ้าหรือดิน อีกทั้งยังตองมีการแยกขยะพลาสติกออกจากขยะประเภทอื่นๆ เพื่อใหสามารถนําพลาสติกทุกชนิดรวมไปถึงไบโอพลาสติกกลับไปใชงาน ไดอยางเต็มประสิทธิภาพ เราทุกคนจึงควรรวมมือกันดูแลโลกของเราไป พรอมๆ กัน ซึง่ หากทุกคนรวมกันจัดการและแยกขยะอยางถูกตอง โดยเริม่ ตน จากจุดเล็กๆ อยางในครอบครัว ปญหาของขยะในประเทศไทยที่ปจจุบัน เปน 5 อันดับตนของโลกดานขยะทะเลจะลดลง และประเทศไทยจะกลับมา มีสิ่งแวดลอมที่สวยงามและเหมาะสมกับการใชชีวิตของลูกหลานของพวก เราในอนาคต
Reference
39
ASTM D6400-19, Standard Specification for Labeling of Plastics Designed to be Aerobically Composted in Municipal or Industrial Facilities, ASTM International, West Conshohocken, PA, 2019. Ammala, Anne (2011). “An overview of degradable and biodegradable polyolefins”. Progress in Polymer Science. 36 (8): 1015-1043. doi:10.1016/j.progpolymsci.2010.12.002. Chen, Guo-Qiang; Patel, Martin K. (2012-04-11). “Plastics Derived from Biological Sources: Present and Future: A Technical and Environmental Review”. Chemical Reviews. 112 (4): 2082-2099. doi:10.1021/cr200162d Bioplastics Market Report: “Industry Analysis, 2023”. www.ceresana .com. Philip, S.; Keshavarz, T.; Roy, I. (March 2007). “Polyhydroxyalkanoates: biodegradable polymers with a range of applications”. Journal of Chemical Technology & Biotechnology. 82 (3): 233-247. doi: 10.1002/jctb.1667. Tokiwa, Yutaka; Calabia, Buenaventurada; Ugwu, Charles; Aiba, Seiichi (2009-08-26). “Biodegradability of Plastics”. International Journal of Molecular Sciences. 10 (9): 3722-3742. doi:10.3390/ ijms10093722.
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
Travel กองบรรณาธิการ
มูลนิธิชัยพัฒนา จับมือ อพท.
เปด 6 เสนทางเที่ยวคุงบางกะเจา
โครงการ Green Tourism
“เที่ยวอยางไรใหยั่งยืน ตามศาสตรพระราชา”
บางกะเจา ไดรับการขนานนามวา “ปอดสีเขียว” ตั้งอยูในอําเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เปนสถานทีท่ อ งเทีย่ วเชิงนิเวศและอนุรกั ษสงิ่ แวดลอม ซึง่ ครอบคลุม พื้นที่ 6 ตําบล คือ ทรงคนอง บางกระสอบ บางนํ้าผึ้ง บางยอ บางกะเจา และบางกอบัว ไดรับการยกยองใหบางกะเจาเปนปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย ผูคนที่มาบางกะเจา มักมาสัมผัสธรรมชาติและปนจักรยานชมวิว มูลนิธชิ ยั พัฒนา และ องคการบริหารการพัฒนาพืน้ ทีพ่ เิ ศษเพือ่ การทองเทีย่ วอยาง ยั่งยืน (องคการมหาชน) หรือ อพท. รวมมือจัดกิจกรรมเปดเสนทางนําเที่ยว 6 เสนทาง “คุงบางกะเจา” สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณี และธรรมชาติ พรอมกิจกรรมการ ทองเทีย่ วโดยชุมชน ภายใตโครงการ “เทีย่ วอยางไรใหยงั่ ยืน ตามศาสตรพระราชา” เพือ่ ติดตามความกาวหนาการพัฒนาแหลงทองเทีย่ วชุมชนทัง้ 6 ตําบลในคุง บางกะเจาเปนไป ตามนโยบายการขับเคลือ่ นการทองเทีย่ วทีเ่ ปนมิตรตอสิง่ แวดลอม หรือ Green Tourism ไดพัฒนาพื้นที่แหงนี้ใหเปนแหลงทองเที่ยวที่ยั่งยืนอยางไรบาง
ดร.เตชพล ฐิตยารักษ รองเลขาธิการมูลนิธิ ชัยพัฒนา กลาววา “จากจุดเริม่ การพัฒนาไดนอ มนํา พระราชดํารัสในหลวง รัชกาลที่ 9 ในการมุง พัฒนา เพือ่ สรางความเขมแข็งใหคนและครอบครัวในชุมชน เสียกอน แลวจึงคอยออกมาสูส งั คมภายนอก ในสวนของ คณะทํางานดานการทองเทีย่ วอยางยัง่ ยืน มีเปาหมายเพือ่ พัฒนาการทองเทีย่ ว ดานธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถชี วี ติ ชุมชน และแหลงทองเทีย่ วดานนันทนาการ ใหมีความยั่งยืนที่จะชวยกระจายรายไดใหกับชุมชน และรวมกันฟนฟู ทรัพยากรธรรมชาติใหคงอยูคูกับชุมชนอนุรักษวิถีชีวิต ภูมิปญญาทองถิ่น เพือ่ สรางภูมคิ มุ กันใหชมุ ชนคุง บางกะเจาสามารถรักษาความสมดุลของชีวติ ไมวาจะเปนดานสังคม สิ่งแวดลอม และเศรษฐกิจ” ทวีพงษ วิชัยดิษฐ ผูอํานวยการ อพท. กลาววา “จากภารกิจที่ อพท.ไดรบั มอบหมายพืน้ ทีค่ งุ บางกะเจา เปนพื้นที่พิเศษเพื่อการทองเที่ยวอยางยั่งยืน และ นําองคความรูดานการจัดการการทองเที่ยวอยาง ยัง่ ยืนไปพัฒนาใหกบั 6 ตําบล โดยเนนการทํางานอยาง บูรณาการความรวมมือกับทุกหนวยงาน การเปดโอกาสใหชมุ ชนเจาของพืน้ ที่ ไดเขามามีสวนรวมตั้งแตกระบวนการวางแผนไปถึงการรวมรับรายได” อยางไรก็ดี การเปด 6 เสนทางทองเที่ยวโดยชุมชนทั้ง 6 ตําบล ในคุงบางกระเจานี้ พรอมแลวที่จะเปดบาน เปดชุมชนตอนรับนักทองเที่ยว ควบคูไปกับการรักษาอัตลักษณทองถิ่น สืบสานประเพณีและวัฒนธรรม ใหเกิดความยัง่ ยืนสืบไป รวมทัง้ ยังไดทอ งเทีย่ วพืน้ ทีท่ มี่ กี ารอนุรกั ษใหเปนพืน้ ที่ สีเขียวเพื่อสงตอใหคนรุนตอๆ ไปไดมุงเนนใหเกิดการอนุรักษทรัพยากร ธรรมชาติรวมกัน
อพท. พัฒนาประวัติศาสตรทองเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี เปนชุมชนตนแบบอนุรักษทรัพยากรทองถิ่น
องค ก ารบริ ห ารการพั ฒ นาพื้ น ที่ พิ เ ศษเพื่ อ การท อ งเที่ ย วอย า งยั่ ง ยื น (องคการมหาชน) หรือ อพท. ไดดําเนินการจัดกิจกรรมสงเสริมการทองเที่ยว เพื่อเพิ่มศักยภาพชุมชนในดานการใหบริการตามมาตรฐานสากลที่เนนประโยชน ของชุมชน ซึง่ ทําใหเกิดการเชือ่ มโยงความรวมมือการทองเทีย่ วระหวางหนวยงาน ทองถิน่ ชุมชน และผูป ระกอบการไดรว มมือกันสรางพืน้ ทีท่ อ งเทีย่ วทองถิน่ ใหเกิด ความเขมแข็งและอนุรกั ษทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอม ใหยงั่ ยืน โดยมี สุจนิ ต มีประดิษฐ ผูอ าํ นวยการฝายปฏิบตั กิ าร อพท. 8 ไดพัฒนากิจกรรมใหนักทองเที่ยวไดเรียนรูและ มีสว นรวมในการลงมือทํา เพือ่ สรางประสบการณทปี่ ระทับใจ ใหกบั นักทองเทีย่ วกลุม ตางๆ อาทิ กลุม นักทองเทีย่ วเชิงนิเวศ กลุมครอบครัว กลุมศึกษาดูงาน ฯลฯ เปนการกระจาย สุจินต มีประดิษฐ นักทองเที่ยวใหทั่วถึงทั้งจังหวัด แนวทางการพัฒนาทองเทีย่ วจังหวัดเพชรบุรี ภายใต “เปดเสนทางทองเทีย่ ว เมืองเพชร เที่ยวถํ้ารงคแหลงตาลโตนด-สัมผัสวิถีชุมชนเการิมนํ้ากลางเมือง” เปนการดําเนินงานรวมกับสํานักทองเทีย่ วโดยชุมชน เพือ่ พัฒนาศักยภาพการบริหาร จัดการการทองเที่ยวใหเปนชุมชนตนแบบของจังหวัดเพชรบุรีที่มีความเขมแข็ง มีสว นรวมของชุมชนทัง้ 6 หมูบ า น ทีม่ งุ เนนใหทอ งเทีย่ วเชิงนิเวศเพือ่ รักษาสิง่ แวดลอม และเปนศูนยการเรียนรูตอยอดพัฒนาไปสูเยาวชนที่ผานการฝกอบรมของ อพท. ไมวา จะเปนการถายทอดเรือ่ งราวในทองถิน่ ใหมคี วามนาสนใจ สงผลใหในปจจุบนั มีนักทองเที่ยวทั้งชาวไทยและตางชาติเขารวมกิจกรรมตางๆ จํานวนมาก เชน “ชุมชนบานถํา้ รงค” อําเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เชิญกราบสักการะหลวงพอดําและ หลวงพอขาวศักดิส์ ทิ ธิแ์ หงวัดถํา้ รงค ซึง่ อพท. สงเสริมและเขาไปพัฒนายกระดับ 40
การทองเที่ยวเชิงนิเวศใหเปนพื้นที่ สีเขียวที่สามารถเชื่อมโยงกับพื้นที่ ท องเที่ยวอื่นๆ ทั้ งวัฒนธรรมทาง ศาสนา การใชวสั ดุจากธรรมชาติ และ การรีไซเคิลอุปกรณที่ใชแลวใหเปนศิลปะธรรมชาติ อาทิ วัดพลับพลาชัย ชุมชน หนองกระแชง สวนตาลลุงถนอม กลุม จักสานใบตาล บานยีโตนด บานทําขนมตาล (ยีตาล) และตลาดเลียบแมนํ้าเพชรบุรี สุจินต กลาววา “การทองเที่ยวสําหรับชุมชนเกาเมืองเพชรบุรีนี้ ถือวาเปน แหลงทองเทีย่ วทางเศรษฐกิจ ผสมผสานกับเสนทางศิลปวัฒนธรรมทีส่ าํ คัญของไทย ชมประวัติศาสตรวิถีชุมชน และชุมชนถํ้ารงค อพท. 8 จะพัฒนาเปนชุมชนตนแบบ ดานการอนุรักษทรัพยากรทองถิ่น และชุมชนเมืองเกาเพชรจะพัฒนาเปนชุมชน ตนแบบดานศิลปะและวัฒนธรรม โดยใชทรัพยากรทีม่ อี ยูใ นชุมชนเปนฐานการเรียนรู ที่สําคัญ” ทัง้ นี้ อพท. ในฐานะเปนหนวยงานภาครัฐทีต่ อ งสงเสริมอุตสาหกรรมการทองเทีย่ ว ใหเปนไปตามนโยบายไทยแลนด 4.0 โดยเฉพาะการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม ซึ่งในสวนพื้นที่ของ อพท. 8 การพัฒนาเสนทางการทองเที่ยว เชื่อมโยงเขตพัฒนาการทองเที่ยวฝงทะเลตะวันตกที่ดูแลรับผิดชอบ 4 จังหวัด ประกอบดวย จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรขี นั ธ ชุมพร และระนอง เพือ่ เพิม่ ศักยภาพ ชุมชนในดานการใหบริการตามมาตรฐานสากล GSTC ใหเกิดความเขมแข็ง
GreenNetwork4.0 September-October 2019
GREEN
Travel กองบรรณาธิการ
สนง.การทองเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร เปดเสนทางทองเที่ยว
“3 ธรรม”
สรางรายไดใหชุมชนและประเทศ
สกลนคร หรือนักทองเทีย่ วมักจะเรียกอีกชือ่ หนึง่ วา “เมืองหนองหารหลวง” เปนจังหวัดหนึง่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทีม่ แี หลงทองเทีย่ วตางๆ ตัง้ แต สมัยกอนประวัตศิ าสตรสบื เนือ่ งจวบจนปจจุบนั ทัง้ ยังเปนอีกหนึง่ จังหวัดภาคอีสาน ที่เปนเมืองเกาแกมีความสําคัญและหลากหลายในดานตางๆ โดยเฉพาะทองเที่ยว ดานสิ่งแวดลอมทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร และวัฒนธรรม โดย สํานักงาน การทองเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร เล็งเห็นศักยภาพของจังหวัดสกลนครวา เปนชุมชนทองเที่ยวนวัตวิถี ที่สามารถสรางรายไดใหกับคนในชุมชน จังหวัด และ ระดับประเทศ จึงไดจดั กิจกรรมสือ่ มวลชนสัญจร ประจําป 2562 เพือ่ ประชาสัมพันธ ใหกับนักทองเที่ยวเขามาสัมผัสวิถีชีวิตอันเปนเอกลักษณและอัตลักษณของชุมชน ตลอดจนแหลงทองเที่ยวทางธรรมชาติ สถานที่สําคัญทางพุทธศาสนา รวมถึง การสนับสนุนผลิตภัณฑสนิ คา OTOP อันเปนภูมปิ ญ ญาของชุมชน เพือ่ สรางรายได ใหกับชุมชน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมงาน “ไทยสกลรวมเผา รากเหงาเดียวกัน โฮมเหงาไทยสกล ยลถิน่ วัฒนธรรม” เพือ่ เรียนรูถ งึ วิถชี วี ติ ของ 6 ชนเผาตางๆ ใน จังหวัดสกลนคร ใหเปนที่รูจักของนักทองเที่ยวมากขึ้น ชนมบันลือ วรรธนพันธุ ผูอํานวยการทองเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร สํานักงานการทองเทีย่ วและกีฬาจังหวัดสกลนคร กลาววา สําหรับกิจกรรมดังกลาว ไดเปดเสนทางทองเทีย่ ว “3 ธรรม” ไดแก 1. เสนทางทองเทีย่ ว “ธรรมะ” ซึง่ เปนแหลง ทองเที่ยวทางพุทธศาสนาที่มีปูชนียสถานสําคัญคูบานคูเมืองมาแตโบราณ นั่นคือ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เปนที่ประดิษฐานหลวงพอองคแสน พระคูบานคูเมือง
41
จังหวัดสกลนคร วัดปาสุทธาวาส เปนสถานที่ในการละสังขารของพระอาจารย มัน่ ภูรโิ ต ภายในอาคารจึงมีอฐั ธิ าตุและหุน ขีผ้ งึ้ ของพระอาจารยเพือ่ ใหพทุ ธศาสนิกชน ไดเขามากราบไหวสักการะ วัดถํ้าผาแดน ตั้งอยูบนภูเขาสูง ทามกลางธรรมชาติ ที่รมรื่น มีความสวยงามดวยงานแกะสลักบนหนาผาหินที่มีเอกลักษณวิจิตรศิลป ถายทอดเรื่องราวพุทธประวัติ โดยมีการจัดพื้นที่ใหนักทองเที่ยวชมทิวทัศนและ ถายรูปบริเวณศาลาผาแดง เพราะสามารถมองเห็นตัวเมืองสกลนครและทะเลสาบ หนองหารไดแบบ 180 องศา และยังมี องคพญาศรีสตั ตนาคราช พญาศรีสตั ตนาคราช หลอดวยโลหะทองเหลืองทัง้ ตัว สูง 9 ม. กวาง 6 ม. ตัง้ ประดิษฐานบนแทนความสูง 5 ม. ลักษณะขององคพญานาคจะขดตัวและชูเศียร 7 เศียร พนนํ้าไปทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือลงสูแ มนาํ้ โขง ผูม จี ติ ศรัทธาเดินทางมาเคารพกราบไหวขอพร อยางคับคั่ง 2. เสนทางทองเทีย่ ว “ธรรมชาติ” เปนแหลงทองเทีย่ วทางธรรมชาติทะเลสาบ หนองหารขนาดใหญที่สุดของภาคอีสานและใหญเปนอันดับ 2 ของประเทศ นอกจากนี้ ทีห่ นองหารยังมีเกาะตางๆ กวา 20 เกาะ เชน เกาะดอนสวรรค ซึง่ เปน เกาะทีใ่ หญทสี่ ดุ บนเกาะมีวัดรางและพระพุทธรูปเกาแกซงึ่ เปนสิ่งศักดิส์ ทิ ธิค์ บู าน คูเ มือง อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติและพญานาคเผือก เปนแหลงรวบรวมบัวพันธุ ตางๆ อีกทัง้ ยังเปนทีต่ งั้ ของรูปปน พญานาคเผือกขนาดใหญสขี าว โดยชาวสกลนคร และนักทองเที่ยวที่มีความเชื่อและใหความเคารพสักการะกราบไหวมาตั้งแต บรรพบุรษุ และ 3. เสนทางทองเทีย่ วทาง “วัฒนธรรม” เปนแหลงทองเทีย่ วในชุมชน ตางๆ อาทิ ชุมชนคาทอลิกทาแร ซึง่ เปนหมูบ า นทีม่ ปี ระชากรนับถือศาสนาคริสตมาก ทีส่ ดุ ในประเทศไทย และเปนชุมชนทีเ่ กาแกมอี ายุกวา 100 ป จะเห็นถึงสถาปตยกรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ทัง้ นี้ จังหวัดสกลนคร ถือเปนแหลงทองเทีย่ วทีม่ ศี กั ยภาพแหงหนึง่ ของประเทศ นักทองเทีย่ วสามารถเทีย่ วไดตลอดทัง้ ป นอกจากนีย้ งั มีเทศกาล งานประเพณีแห ปราสาทผึ้งและงานประเพณีแหดาว ซึ่งจัดเปนประจําทุกป โดยในปนี้จะจัดขึ้นใน วันที่ 22-25 ธันวาคม พ.ศ. 2562
GreenNetwork4.0 September-October 2019