สัททอักษรไทยปาฬิ การนำเสนอ สัททอักษรไทยปาฬิ(Thai P honetic Alphabet Pāḷi) ตามแนวทางการเขียนคำอ่าน สัททอักษรสยามปาฬิ(Siam Phonetic Alphabet Pāḷi) ในพระไตรปิฎกปาฬิ จุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช พ.ศ. 2436 อักษรสยาม
โดย ศาสตราจารย์กิตติคุณดร.วิจินตน์ภาณุพงศ์ ภาคีสมาชิก ประเภทวรรณศิลป์ สาขาวิชาภาษาศาสตร์ ราชบัณฑิตยสถาน 16 ธ ันวาคม
พ.ศ. 2553
2 Pāḷi Phonetic Writing System Pāḷi Phonetic Writing System in Siam and Roman Scripts (การพิมพ์ปาฬิภาสาด้วยอักษรสยามและอักษรโรมัน) 1. Siam Alphabet Pāḷi (อักษรสยามปาฬิ) Roman Alphabet Pāḷi (อักษรโรมันปาฬิ) Chulachomklao of Siam Tipiṭaka 1893 (พระไตรปิฎกปาฬิ จุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช 2436)
ฉบับ จปร. 2436 อนุรักษ์ดิจิทัลโดยโครงการพระไตรปิฎกสากล กองทุนสนทนาธัมม์นำสุขฯ ในพระสังฆราชูปถัมภ์ฯ 2553
2. Roman Alphabet Pāḷi, (อักษรโรมันปาฬิ) The World Tipiṭaka Edition in Roman Script (พระไตรปิฎกสากล Vandāmi Dhammaṃ ahamādarena taṃ Saṅgho sukhettābhy ‿atikhettasaññito Yo diṭṭhasanto sugatānubodhako
Reading Stanzas in Phonetic Alphabets (การพิมพ์คำอ่านปาฬิภาสาด้วยสัททอักษรปาฬิประเภทต่างๆ)
[ สัททอักษรสยามปาฬิ ] [ วัน์ทามิธัม์มังอะหะมาทะเรนะตัง] ๎ เขต์ตะสัญญิโต] [ สังโฆสุเขต์ตาภ ยะติ [ โยทิฎ์ะสัน์โตสุคะตานุโพธะโก]
3. Siam Phonetic Alphabet Pāḷi
[ สัททอักษรไทยปาฬิ ] [ วันดามิธัมมังอะหะมาดะเรนะตัง] ๎ เขตตะสัญญิโต] [ สังโฆสุเขตตาภ ยะติ [ โยดิฎฐะสันโตสุคะตานุโบธะโก]
4. Thai Phonetic Alphabet Pāḷi
5. International Phonetic Alphabet Pāḷi
[ สัททอักษรสากลปาฬิ ]
[ ʋan̪d̪aːmi d̪ʱammã aɦamaːd̪areːn̪a tã ] [ s̪aŋɡʱoː s̪ukʰet̪t̪aːbʱj‿at̪ikʰet̪t̪as̪aɲɲit̪oː ] [ joː d̪iʈʈʰas̪an̪toː s̪uɡat̪aːn̪ubod̪ʱakoː ]
อักษรโรมัน 2553)
3
สัททอักษรสยามปาฬิ และ สัททอักษรไทยปาฬิ ปาฬิภาสา หรือ ภาษาพระธัมม ์ เป็นภาษาที่บันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎกปาฬิ แม้ปาฬิมีี กำเนิดจากภาษาถิ่นในอินเดียโบราณ แต่ความเป็นภาษาพระธัมม์เกิดจากนิยามที่กำหนดขึ้นใหม่เกี่ยวกับสภาวะความ เปน็ จ ริงใ นธรรมชาติ ค ำศัพ ท ใ์ นปาฬภิ าสาจ งึ เปน็ วชิ ช ม า น บ ญ ั ญ ตั ิ ( บญ ั ญัต ทิ มี่ สภา ี วธมั ม์รองร บั ) ด ว้ ยเหตุนก้ี ารอนรุ กั ษ์ ปาฬิภาสาด้วยการออกเสียงสวดและอ่านสังวัธยาย จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะการแปลย่อมทำให้ความ หมายเดิมเปลี่ยนไปจากวิช ชมานบัญญัติ ดังนั้นการออกเสียงปาฬิและอักขรวิธีบันทึกเสียงปาฬิจึงมีความสำคัญยิ่ง เมื่อ พระไตรปิฎกปาฬิในพ ระพุทธศาสนาเถรวาทมีการเผยแผ่ไปท ั่วโลกปาฬิภาสาก็แพร่หลายไปในนานาประเทศด้วยและ เนื่องจากปาฬิเป็นภาษาที่ไม่แยกความหมายของคำตามเสียงวรรณยุกต์หรือเสียงสูงต่ำและมีเสียงสระเดี่ยวทั้งหมด ไม่มีเส ียงสระผสม จึงเป็นการง่ายที่จะใช้อักษรของอารยธรรมต่างๆ เขียนปาฬิ เช่น ปาฬิภาสาอักษรสิงหล ปาฬิภาสา อกั ษ ร มอญป าฬิภาสาอกษร ั พม่า ป า ฬภิ าสาอัก ษรขอม ป า ฬิภ าสาอ กั ษรสยามป าฬภิ าสาอัก ษ รไทยและปาฬภิ าสาอกั ษร โรมัน เป็นต้น เนื่องจากอักษรโรมันเป็นอักษรที่มีความเป็นสากลนานาชาติ พระไตรปิฎกปาฬิอักษรโรมันจึงแพร่หลาย มากทสี่ ดุ ในปจั จุบั น เพราะอกั ษ รโร มันเป็ นอั กษ รทีช่ า ว โลกคนุ้ เคย และสามา รถฝกึ ออกเสย ี งไดง้ า่ ย ก ารถอดอกั ษรข องชาติ หนึ่งไปเป็นอักษรของอีกชาติหนึ่งโดยรักษาเสียงเดิมในภาษานั้นไว้ เรียกว่า การปริวรรตอักษร (transliteration) เช่น ในส มัย รัช กาลที่ 5 เมื่อมีการพิม พ์ พระ ไ ตรปิฎ กป าฬิ เ ป็น อัก ษ ร ส ยาม เ ป็น ครั้ง แรก ก ็ไ ด้ มี ก ารป ริ ว รรต อักษรสยามเป็นอักษรโรมันที่ใช้เขียนปาฬิภาสาเทียบใว้ด้วยเช่น พ หรือที่ในส มัย ร.5 แ สดงความเป็น “หน่วย เสียง” ด้วยการพิม พ์เครื่องหมายวัชฌการ (์ )เพื่อแสดงว่าไม่ออกเสียงสระ(อะ) กำกับไว้เหนือ พยัญช นะ เป็น พ์ หรือที่เขีย น แสดงความเป็นหน่วยเสียงในปัจ จุบ ันว่า / พ/และก็ได้เทียบกับอัก ษรโรมันเป็น b ซึง่ ปัจจุบันได้พัฒนาวิธีเขียนคำอ่าน ปาฬิเป็น สัททอักษรสากล(International PhoneticAlphabet) หรือเรียกว่าก ารถ่ายถอดเสียง (transcription) เช่น ปาฬิภาสาที่ใช้อ ักษรโรมัน b และเขียนสัททอักษรสากลเป็น[ b] เทียบกับอักษรสยามปาฬิพ์ เหตุที่ในสมัย ร.5 ตอ้ งเทยี บอกั ษรสยามกบั อกั ษรโรมัน ก็เพราะ วา่ อ กั ษ ร โร ม นั เปน็ อ กั ษ ร เก า่ แ ก ท่ ส่ี ดุ อัก ษ ร ห น งึ่ ข อ ง โลก ชาวโลก ค นุ้ เคย กบั เส ยี งในอักษ รโรมันด กี ว่าอักษรขอมทีส่ ยามเคย ใช บ้ นั ทึกพระไตรปิฎกมาก่อน น อกจา กนัน้ ในภาษ า ไทยอักษรพคน ไทยในสมัย ร.5 ค ุ้นกับการออกเสียงเป็นไทย เช่น คำว่า “พุทธะ” ซึ่งเป็นเสียง พ [ ph ] ดังนั้นจึงต้องกำกับอักษรโรมัน ทีส่ ามารถอ้างอิงเป็นมาตรฐานได้ เรือ่ งนีเ้ ป็นปัญหาหนึง่ ในปัจจุบนั ทีท่ ำให้ชาวไทยไม่สามารถอ่านคำปาฬิในบทสวดมนต์ ให้้เสียงตรงกับพระไตรปิฎกปาฬิเหมือนชาวโลกทั้งหลายได้ แม้ในปัจจุบันจะได้มีการศึกษา วิจัยแล้วว่าในสมัยสุโขทัยก็ ออกเสียง พ เป็น บ ด้วย แต่เนื่องจากมิได้มีการศึกษาเรื่องนี้ในบริบทของปาฬิภาสา ทำให้เป็นการยากที่จะเปลี่ยน พฤติกรรมการออกเสียงชาวไทยในปัจจุบัน แต่อาศัยความรู้สัททศาสตร์เบื้องต้นก็อาจสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยง่าย บทความนี้ได้วิเคราะห์การพิมพ์ปาฬิอักษรสยามในพระไตรปิฎกปาฬิในสมัย ร.5 ว่า เป็นการนำเสนอในลักษณะ สัททอักษร (phonetic alphabet) เนื่องจากแสดงการพิมพ์ในลักษณะที่เป็นหน่วยเสียง เช่นใช้สัญลักษณ์วัชฌการ เพื่อแสดงว่าไม่ออกเสียงสระ(อะ) กำกับไว้บนพยัญช นะดังกล่าว จึงเรียกว่า สัททอักษรสยามปาฬิ นอกจากนั้นเมื่อทำ ตารางเสียงที่เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะปาฬิแสดงตำแหน่งฐานที่เกิดเสียง พร้อมทั้งลักษณะการออกเสียง โดยอาศัยหลัก สัททนีตขิ องตะวันออกเทียบกับหลักวิชาสัททศาสตร์ของตะวันตกแล้ว ทำให้สามารถเลือกชุด สัททอักษรสากลปาฬิ ที่ ปัจจุบันใช้เป็นคำอ่านพระไตรปิฎกปาฬิอักษรโรมันในปัจจุบันได้ด้วย และจากหลักการต่างๆ ดังกล่าว บทความนี้จึงได้ พัฒนาแนวความคิดของการพิมพ์คำอ่านปาฬิ ที่เรียกว่า สัททอักษรสยามปาฬิ เป็น สัททอักษรไทยปาฬิ เพื่อใช้สำหรับ เขียนคำอ่านปาฬิภาสาที่เขียนด้วยอักษรไทย ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการเขียนคำอ่านในบทสวดมนต์จากพระไตรปิฎก ปาฬิให้ถูกต้องตามเสียงปาฬิภาสา ที่ได้สืบทอดมานับพันปี คำสำคัญ : ปาฬิภาสา, ภาษาพระธัมม์, วิชชมานบัญญัต, ปริวรรต, ถ่ายถอด, สัททนีติ, สัททศาสตร์, สัททอักษร, สัททอักษรสยามปาฬิ, สัททอักษรสากลปาฬิ, สัททอักษรไทยปาฬิ
4
ฉบับ จปร. 2436 อนุรักษ์ดิจิทัลโดยโครงการพระไตรปิฎกสากล กองทุนสนทนาธัมม์นำสุขฯ ในพระสังฆราชูปถัมภ์ฯ 2553
Chulachomklao of Siam Pāḷi Tipiṭaka 1893 : Digital Preservation Edition 2010
พระไตรปิฎกปาฬิ จุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช อักษรสยาม 2436 : อนุรักษ์ดิจิทัล โดยกองทุนสนทนาธัมม์นำสุขฯ ในพระสังฆราชูปถัมภ์ 2553
5 Translitration of Thai-Roman Scripts and Transcription of Pāḷi Sounds
13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43
จ์ ฉ์ ช์ ฌ์ ์
c
ฏ์ ์ ฑ์ ฒ์ ณ์
ṭ
ต์ ถ์ ท์ ธ์ น์
t
ป์ ผ์ พ์ ภ์ ม์
p
kh g gh ṅ
j jh
Velar Kaṇṭhaja1
ñ
ṭh
Palatal Tāluja1
ḍ ḍh ṇ
Retroflex Muddhaja1
th d
Dental Dantaja1
dh n
Bilabial Oṭṭhaja1
ph b bh
[ɦ] k [k ] c [c] ṭ [ʈ ] t [t̪ ] p [p]
ก [ก]
kh
จ [จ]
ch
ฏ [ฏ]
ṭh
ต [ต]
th
ป [ป]
ph
[kʰ] [cʰ] [ʈʰ] [ t̪ʰ] [pʰ]
ข [ข] ฉ [ฉ] ฐ [ฐ] ถ [ถ] ผ [ผ]
g [ɡ] j [ ɟ] ḍ [ɖ] d [d̪ ] b [b]
ค [ค]
gh [ɡʱ]
ช [ช]
jh
ฑ [ฑ]
ḍh
ท [ด]
dh
พ [บ]
[ɟʱ ]
[ɖʱ ]
[d̪ʱ ] bh [bʱ ]
ฆ [ฆ] ฌ [ฌ] ฒ [ฒ] ธ [ธ] ภ [ภ]
ห [ห ]
ง [ง]
ṅ [ ŋ]
ญ [ญ]
ñ [ ɲ]
ณ [ณ]
ṇ [ɳ ]
y [ j] r [ ɻ]
ย [ย] ร [ร ]
น [น]
n [n̪] m [m]
ḷ [ɭ ] l [l̪ ]
ฬ [ฬ ] ล [ล]
s [ s ]̪
ส [ส]
ม [ม] v
Labio-dental Dantoṭṭhaja1
m
ย๎ y ร๎ r ล๎ l ว๎ v ส๎ s ห๎ h ฬ๎ ḷ อํ aṃ อิ ํ iṃ อุํ uṃ
h
Glottal Kaṇṭhaja1
ch
[ʋ]
ว [ว]
(a)ṃ อํ [ã] [ อัง] (i)ṃ อิํ [ĩ] [อิง]
Nasalised Nāsikalakkhaṇaṃ
k Roman Alphabet Pāḷi 1 2
ก
(u)ṃ อุํ [ũ] [ อุง] Thai Alphabet Pāḷi
Vichin Panupong, Dhamma Society’s World Tipiṭaka 2010
12
k
Fricative
11
ก์ ข์ ค์ ฆ์ ง
Voiced Ghosa1
Lateral
9 10
Voiceless Aghosa1
Non-lateral
8
Approximant
Nasal Nāsik1
7
Stops
Aspirated Dhanita1
6
Unaspirated Sithila1
5
Manner of Articulation Karaṇa1
Aspirated Dhanita1
3 4
อ2 a2 อา ā อิ i อี ī อุ u อู ū เอ e โอ o
Unaspirated Sithila1
2
Place of Articulation Ṭhānakaraṇa1
1
[k] International Phonetic Alphabet Pāḷi
See Saddanīti (913) Siam-script / Roman-script Tipiṭaka from the transliteration chart of Chulachomklao of Siam Pāḷi Tipiṭaka (1893)
6
15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43
[ɦ]
ก [ก]
kh
จ [จ]
ch
มุทธชะ 1 ṭ ที่ปลายลิ้นม้วน
ฏ [ฏ]
ṭh
ทันตชะ 1 ที่ฟันบน
ต [ต]
th
ป [ป]
ph
Velar
ตาลุชะ 1 ที่เพดานแข็ง Palatal
Retroflex
Dental
โอฏฐชะ 1 ที่ริมฝีปาก Bilabial
Fricative
h
Glottal
กัณฐชะ 1 ที่เพดานอ่อน
เสียงเสียดแทรก
Lateral
เสียงข้างลิ้น
Non-lateral
กัณฐชะ 1 ที่ช่องเส้นเสียง k [k ] c [c]
[ʈ ] t [t̪ ] p [p]
[kʰ] [cʰ] [ʈʰ] [ t̪ʰ] [pʰ]
ข [ข] ฉ [ฉ] ฐ [ฐ] ถ [ถ] ผ [ผ]
g [ ɡ] j [ɟ] ḍ [ɖ] d [d̪ ] b [ b]
ค [ค]
gh [ɡʱ]
ช [ช]
jh
ฑ [ฑ]
ḍh
ท [ด]
dh
พ [บ]
[ɟʱ ]
[ɖʱ ]
[d̪ʱ ] bh [bʱ ]
ฆ [ฆ] ฌ [ฌ] ฒ [ฒ] ธ [ธ] ภ [ภ]
ṅ [ ŋ] ñ [ ɲ] ṇ [ɳ ] n [n̪] m [m]
ห [ห ]
ง [ง] ญ [ญ] ณ [ณ]
y [ j] r [ ɻ]
ย [ย] ร [ร ]
น [ น]
ḷ [ɭ ] l [l̪ ]
ฬ [ฬ ] ล [ล]
s [ s ]̪
ส [ส]
ม [ม] v
ทันโตฏฐชะ 1 ทีร่ มิ ฝีปากกับฟัน
[ʋ]
Labio-dental
ว [ว]
(a)ṃ อํ [ã] [ อัง]
นาสิกลักขณัง เสียงขึน้ จมูก Nasalised
(i)ṃ อิํ [ĩ] [อิง] (u)ṃ อุํ [ũ] [ อุง]
k
1 2
ก อักษรไทยปาฬิ [ก] สัททอักษรไทยปาฬิ [k] สัททอักษรสากลปาฬิ Thai Alphabet Pāḷi Thai Phonetic Alphabet Pāḷi IPA Pāḷi เป็นคำที่ใช้ในคัมภีร์สัททนีติพ.ศ.1456 ซึ่งได้พิมพ์เปรียบเทียบไว้กับคำศัพท์ทางสัททศาสตร์ในปัจจุบัน อักษรสยามกับอักษรโรมันจากการปริวรรตในพระไตรปิฎกจปร.พ.ศ.2436 พระไตรปิฎกปาฬิฉบับพิมพ์ชุดแรก อักษรโรมันปาฬิ
Roman Alphabet Pāḷi
วิจินตน์ภาณุพงศ์โครงการพระไตรปิฎกสากลกองทุนสนทนาธัมม์นำสุขฯในพระสังฆราชูปถัมภ์2553
14
ไม่ใช่เสียงข้างลิ้น
13
Voiced
Nasal
12
Voiceless
นาสิก เสียงนาสิก
11
โฆสะ 1 เสียงก้อง
Aspirated
10
อโฆสะ 1 เสียงไม่ก้อง
ธนิต 1 มีลม
9
Approximant
Unaspirated
8
เสียงเปิด
Stops
สิถิล 1 ไม่มีลม
7
เสียงกัก
Aspirated
6
ธนิต 1 มีลม
5
Manner of Articulation
Unaspirated
4
ลักษณะการเปล่งเสียง
สิถิล 1 ไม่มีลม
3
อ a อา ā อิ i อี ī อุ u อู ū เอ e โอ o ก์ k ข์ kh ค์ g ฆ์ gh ง ṅ จ์ c ฉ์ ch ช์ j ฌ์ jh ์ ñ ฏ์ ṭ ์ ṭh ฑ์ ḍ ฒ์ ḍh ณ์ ṇ ต์ t ถ์ th ท์ d ธ์ dh น์ n ป์ p ผ์ ph พ์ b ภ์ bh ม์ m ย๎ y ร๎ r ล๎ l ว๎ v ส๎ s ห๎ h ฬ๎ ḷ อํ aṃ อิํ iṃ อุํ uṃ
Place of Articulation
2
ตาราง การปริวรรต “อักษร” ไทย-โรมัน และการถ่ายถอด “เสียง” ปาฬิ
2
ฐานที่เกิดเสียง
1
2
7
ประโยชน์ของ สัททอักษรไทยปาฬิ ตามแนว สัททอักษรสยามปาฬิ โดย ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. วิจินตน์ ภาณุพงศ์ 1. ประโยชน์ในการนำเสนอ ระบบการเขียนคำอ่านปาฬิภาสา (Pāḷi Phonetic Writing System) การศึกษาเรือ่ ง สัททอักษรสยามปาฬิ เป็นการเปิดมิตใิ หม่ของ อักษรสยาม-ไทย ในเชิงสัททศาสตร์ ซึง่ พระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดให้ “ปริวรรตอักษร” (transliteration) โดยใช้์อักษรสยาม แทน อักษรขอม เขียนคำอ่าน ปาฬิภาสา ในพระไตรปิฎกปาฬิ ตัง้ แต่ พ.ศ. 2436 ซึง่ แสดงถึงเอกลักษณ์อกั ษรของชาติไทยในระดับสากล เช่น <พ์> เทียบกับ <b> และ <ท์> กับ <d> ดู ข้อ 26 และ 31 ในด้านซ้ายมือ ตารางปริวรรตอักษร ซึ่งแสดงเอกลักษณ์ ชุดอักษรสยามปาฬิ ที่มีสัญลักษณ์โดดเด่นในทางการออกแบบสัททอักษร และความสามารถอันเป็นเลิศในการใช้เขียน คำอ่านปาฬิภาสาในพระไตรปิฎกปาฬิ ที่ตีพิมพ์ได้เป็นชุดถึง 39 เล่ม ครั้งแรกของโลก ซึ่งปัจจุบันได้รับการขนานนามว่า “พระไตรปิฎกปาฬิ จุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช พ.ศ. 2436 อักษรสยาม” 2. ประโยชน์ในการเลือกชุดสัททอักษรต่างๆ (Phonetic Alphabets in Various Scripts) ในตารางการ “ถ่ายถอดเสียง” (transcription) หน้าซ้ายมือ สัททอักษรปาฬิ [ ก ]/[ k ], [ ข ]/[ kh ]... ในแถวล่ า งของแต่ ล ะช่ อ งมี ค วามเป็ น สั ท ทอั ก ษรโดดเด่ น ยิ่ ง ขึ้ น เมื่ อ เปรี ย บเที ย บกั บ อั ก ษรโรมั น และสั ท ทอั ก ษร สากล จะเห็นได้ว่าในชุดสัททอักษรสากลปาฬิมิได้มีตัวอักษรแทนเสียงปาฬิครบทุกเสียง จึงจำเป็นต้องเพิ่มเครื่องหมาย พิเศษบนและใต้อักษรโรมันและพิมพ์ในวงเล็บ [ ] เพื่อให้ตรงกับเสียงปาฬิภาสาในพระไตรปิฎกปาฬิ แต่อักษรสยาม ที่ ใช้เขียนปาฬิภาสาตั้งแต่อดีตจนถึงสมัย ร.5 มีอักษรครบทุกเสียงปาฬิ โดยเขียนเครื่องหมายวัชฌการ ( ์ ) บนพยัญชนะ ทุกตัวเพือ่ แสดงการงดออกเสียง สระ-อะ และเขียนเครือ่ งหมายยามักการ ( ๎ ) บนพยัญชนะอวรรค หรือพยัญชนะอัฑฒสระ ยกเว้น อักษร ง ซึ่งในอดีตถือว่าไม่มีเสียง สระ-อะ เพราะเป็นเสียงนาสิกเกิดจากฐานเพดานอ่อน เป็นต้น อักษรสยาม นี้ภายหลังการพิมพ์พระไตรปิฎกปาฬิ พ.ศ. 2436 ก็คืออักษรไทยนั่นเอง โดยชุดสัททอักษรไทยปาฬิที่นำเสนอใหม่มีข้อ แตกต่างเล็กน้อยจากชุด สัททอักษรสยามปาฬิ (ดูรายละเอียดหน้า 13 และ 15) 3. ประโยชน์ในทางสัททศาสตร์ (Phonetics) ทำให้สามารถแก้ไขวิธเี ขียนคำอ่านในปัจจุบนั ให้เขียนได้ถ้ กู ต้องยิง่ ขึน้ เช่น สังโฆ สุเขต์ตาภ ย๎ ติเขต์ตสั์ิโต เสียงควบกล้ำ ภย ว่า ภย๎ ะ ด้วยการใช้เครือ่ งหมายยามักการบนพยัญชนะควบกล้ำ เขียนคำอ่านด้วย สัททอักษรไทยปาฬิ ว่า [สังโฆ สุเขตตาภ ย๎ ะติเขตตะสัญญิโต] สัททอักษรสากลปาฬิว่า [s̪aŋɡʱoː s̪ukʰet̪t̪aːbʱj‿at̪ikʰet̪t̪as̪aɲɲit̪oː] นอกจากนี้ยังสามารถเขียนคำศัพท์ปาฬิ เช่น <ท> กับ <ด> และ <พ> กับ <บ> เพื่อแก้ไขให้อ่านออก เสียงตรงตามเสียงปาฬิได้ด้วย เช่น [ดิฎฐะสันโต] ไม่ใช่ออกเสียงเป็นไทยว่า ทิฏฐะ... หรือ ปาฬิภาสาว่า [โบธะโก] ไม่ใช่ออกเสียงเป็นไทยว่า โพธะ... 4. ประโยชน์ในทางสภาวนิรุตติและการแปลพระไตรปิฎกปาฬิ (Pāḷi Tipiṭaka Translation) การเขียนคำอ่านตามแนว สัททอักษรสยามปาฬิ ที่พัฒนาเป็น สัททอักษรไทยปาฬิ ทำให้สามารถเขียนคำอ่าน ที่ยังคงรูปศัพท์ปาฬิอยู่ ซึ่งเป็นการช่วยให้ผู้อ่านสามารถมองเห็นรูปศัพท์ปาฬิเดิมและเข้าใจความหมายด้วย เช่น Saṅgho เขียนคำอ่านว่า [สังโฆ] / [s̪aŋɡʱoː] ซึ่ง ในภาษาไทยหมายถึง สงฆ์ แทนที่จะเขียนคำอ่านว่า [สัง-โค] ส่วนการแปลพระไตรปิฎกปาฬิในรูปศัพท์ท่ียังไม่ได้แจกวิภัตติ เช่น สังฆะ (Saṅgha) จะเขียนคำวิชชมานบัญญัติ ทีม่ สี ภาวนิรตุ ติของอริยสงฆ์ ด้วยวิธเี ขียนทับศัพท์ปาฬิ ทีส่ อดคล้องกับการเขียนคำอ่านปาฬิภาสา ว่า สังฆะ (Saṅgha) 5. ประโยชน์ในทางภาษาศาสตร์ (Linguistics) เช่น การทำพจนานุกรม (Lexicography) ระบบการเขี ย นคำอ่ า นปาฬิ ภ าสาในรู ป สั ท ทอั ก ษรนี้ ส ามารถพั ฒ นาเป็ น ระบบการเขี ย นคำอ่ า นด้ ว ย อักขรวิธีในภาษาไทยตามแนวสัททอักษรสยามปาฬิ สำหรับอ่านพระไตรปิฎกอักษรต่างๆ เช่น ปาฬิภาสาอักษรพม่า ปาฬิภาสาอักษรโรมัน เป็นต้น และจะใช้เป็นระบบการเขียนคำอ่านในพจนานุกรมที่เกี่ยวกับปาฬิภาสาในรูปแบบต่างๆ ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ปัจจุบันกำลังเกิดขึ้นมากมาย เนื่องจากชุดสัททอักษรไทยปาฬิมีความเป็นสากลทาง วิชาการ และสามารถใช้แทนชุดสัททอักษรสากลปาฬิ ได้ด้วย