ทำ�ไมการให้ธรรมทาน จึงเป็นการสร้างบุญใหญ่ ที่มีอานิสงส์บุญมาก... นั่นเพราะธรรมะได้เปลี่ยนจิต ช่วยชีวิตให้คน จำ�นวนมากได้พบความสุขความเจริญไปทุกภพชาติ เหนือกว่าวัตถุทานทีช่ ว่ ยให้แค่รอดเป็นครัง้ คราว เหนือกว่าอภัยทานที่เป็นเรื่องส่วนตน... ขอบุญรักษา ธ.ธรรมรักษ์
ข้าพเจ้าธ.ธรรมรักษ์และเจ้าภาพทีส่ ร้างหนังสือบุญเพือ่ ธรรมทาน ขอน้อมอุทศิ บุญกุศลแห่งการสร้างหนังสือบุญ เพื่ อ ธรรมทานที่ เ กิ ด ขึ้ น นี้ แ ละบุ ญ กุ ศ ลที่ ไ ด้ ทำ � มา ทุกภพชาติ ทุกกัป ทุกกัลป์ ทุกอสงไขย รวมเป็น มหากุศล น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เพื่อโมทนาพระคุณความดี พระมหาบารมี พระมหา กรุ ณ าธิ คุ ณ ขององค์ ส มเด็ จ พระสั ม มาสั ม พุ ท ธเจ้ า ทุ ก พระองค์ นั บ ตั้ ง แต่ ส มเด็ จ องค์ ป ฐมจนถึ ง องค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระปัจเจก พุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เจ้า พระอรหันต์เจ้า พระมหาโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ทุกๆ พระองค์ ในทุกกัป ทุกกัลป์ อุทศิ แด่พรหมเทพเทวาทัง้ หลาย สิง่ ศักดิส์ ทิ ธิท์ วั่ สากลโลก เจ้าทีเ่ จ้าทางผูด้ แู ลปกป้องบ้านเรือน สถานที่ ทำ�งานประกอบธุรกิจทั้งปวง พ่อแม่ผู้ให้กำ�เนิดและ บรรพบุรุษ ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณในทุกภพชาติ
โดยเฉพาะในชาติปัจจุบันนี้ อีกทั้งเจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลายทั้งที่กำ�ลังมาส่งผลและที่กำ�ลังรอส่งผล ขอ เมตตาให้ท่านทั้งหลายมาโมทนายินดีในมหากุศลนี้ หากท่านยินดีพอใจรับในมหาบุญกุศลนีแ้ ล้ว ขอได้โปรด เมตตาให้อโหสิกรรม อดโทษ ยกโทษในสิ่งที่ข้าพเจ้า ทัง้ หลายละเมิดล่วงเกินท่านทัง้ กาย วาจา ใจ ทัง้ ทีร่ ตู้ วั และไม่รู้ตัวและเจตนาหรือไม่เจตนา และขอให้มหาบุญกุศลนีจ้ งเป็นพลวปัจจัยส่งผล ให้เหล่าข้าพเจ้าทัง้ หลายและครอบครัว ท่านเจ้าภาพที่ สร้างหนังสือบุญเพื่อธรรมทานทั้งหลาย ท่านผู้อ่าน ทุกท่านทัง้ หลาย พบแต่ความสุข ความเจริญ ความราบรืน่ คล่องตัวทุกประการ ทัง้ ครอบครัว การงาน การเงิน และ ขอให้เป็น “มหาเศรษฐี” โดยฉับพลันทันทีเทอญ
วิ ช า
“มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง! ปาฏิหาริย์วิชาศักดิ์สิทธิ์ ๙
¾ à Р¾Ø · ¸ เ ¨Œ Ò Ê Í น ã ËŒ เ ป็ น
“มหาเศรษฐี” ได้จริงหรือ?
หลายคนทีห่ ยิบหนังสือเล่มนีข้ นึ้ มาอ่าน คงจะ มีความแปลกใจและอาจจะมีคาำ ถามในใจทีอ่ ยากจะ ถามว่า จริงหรือ มีหรือ ทีพ่ ระพุทธเจ้าสอนให้ เป็นมหาเศรษฐีได้?
6
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เพราะบางคนตัง้ แต่เกิดและรูจ้ กั พระพุทธศาสนา ได้ยินและรู้แต่เพียงว่า พระพุทธองค์สอนให้ลด ละเลิกความชัว่ ทัง้ ปวง มุง่ สร้างกรรมดี หาทางดับทุกข์ มุ่งกำ�จัดกิเลสให้หมดสิ้นเชื้อเพื่อไปสู่ความหลุดพ้น จากการเกิด แก่ เจ็บ ตายอย่างแท้จริง แล้วเรื่อง สอนให้เป็น “มหาเศรษฐี” สอนให้ร่ำ�สอนให้รวยจะ มีจริงหรือ ขอตอบว่าเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน ที่พระพุทธเจ้าสอนให้ทุกคนเป็น “มหา เศรษฐี” ได้ ในธรรมะทีพ่ ระองค์ตรัสรูน้ น้ั มากมายมหาศาล แต่ทรงนำ�มาสอนสรรพสัตว์เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ทีเ่ กิดผลมาก เพราะจริตและภูมธิ รรม กรรมกำ�เนิด ของสรรพสัตว์ทั้งหลายแตกต่างกันและไม่มีทาง เข้าใจสิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ได้ทั้งหมด
7
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เปรียบพระธรรมที่ทรงนำ�มาสอนนั้น เหมือนใบไม้ในกำ�มือเท่านั้น ไม่ใช่ป่าใหญ่ ทั้งหมด คำ�สอนที่พระพุทธองค์เลือกมานั้นทรงหวัง มุ่ ง เน้ นให้ ส รรพสั ต ว์ ทั้ ง หลายทั้ ง ปวงได้ พ บกั บ ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง สอนเรื่องการดับทุกข์ ทั้งภายในและภายนอก เพื่อพัฒนาตนเองเป็น ผู้ประเสริฐ โดยเฉพาะการเข้าใจในเรื่องกฎแห่งกรรม ทั้งปวง ที่เป็นส่วนหนึ่งของกฎธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่ เที่ยงธรรมไม่มีอำ�นาจใดมาเบี่ยงเบนได้ และส่งผล ต่อชีวิตสรรพสัตว์ทั้งปวง ขอให้เข้าใจตรงนี้เลยว่า พระพุทธเจ้าและ คำ�สอนพระพุทธศาสนาไม่ได้แอนตี้หรือรังเกียจ การที่คนจะมีทรัพย์
8
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ไม่ได้ตั้งแง่อะไรกับคนรวย และไม่ได้สอนให้ คนอดๆ อยากๆ ทิ้งครอบครัว ทิ้งงานทุกอย่างไป อยู่โดดเดี่ยวกินน้ำ�ค้างใบไม้ในถ้ำ�ในป่าอะไร แต่พระพุทธองค์ทรงให้รู้จักตนเอง รูจ้ กั คนอืน่ รูจ้ กั โลก อยูก่ บั โลกแบบรูเ้ ท่าทัน อยู่แบบเหนือโลก!!! หลายคนอาจจะยังไม่ทราบมาก่อนเลยว่า มี หลักธรรมคำ�สอนทีเ่ ป็น “ของวิเศษ” ทีใ่ ช้ได้ผลจริงแท้ ทีม่ งุ่ หวังส่งเสริม สนับสนุนค้�ำ จุนให้เป็น “มหาเศรษฐี” ด้วย อยูท่ เี่ ราท่านทัง้ หลายมองเห็นเข้าใจและปฏิบตั ิ จริงได้หรือไม่ อย่าลืมว่าธรรมะสอนให้ปฏิบัติ ไม่ได้ สอนให้เชื่อแบบงมงาย ถ้าใครอยากเป็น “มหาเศรษฐี” ท้าให้ลองพิสูจน์ดู เมื่ออ่าน หนังสือเล่มนี้จบ!!!
9
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ก่อนอืน่ เราควรมาเข้าใจคำ�ว่า “เศรษฐี” และจุด มุ่งหมายสำ�คัญของหนังสือเล่มนี้กันเสียก่อน เพื่อ ไม่ให้หลงทางและเข้าใจให้ตรงกัน เพราะหากจะว่ากันตามภาษาชาวบ้านทีเ่ หมา ตีความเออออเข้าใจเอาเองว่า “เศรษฐี” แปลว่า “ผูม้ ที รัพย์มาก” คือคนทีม่ เี งินเยอะ ร่�ำ รวยมากๆ มี ความเป็นอยู่สุขสบายเหนือชาวบ้านทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแท้ คำ�ว่า “เศรษฐี” นัน้ แปลว่า “ผูป้ ระเสริฐ” หรือ “ผูป้ ระเสริฐ ทีส่ ดุ ” อันเป็นความหมายทีล่ กึ และเกิดผล มากกว่าร่ำ�รวยเงินทองธรรมดาหลายร้อย หลายพันเท่านัก!!! หลายคนคงเคยได้ยินคำ�ว่า “มนุษย์เป็นสัตว์ ประเสริฐ”
10
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
โดยพื้ น ฐานแห่ ง การเกิ ด ก็ เ ป็ น อย่ า งนั้ น จริงๆ เพราะต้องเป็นผูม้ บี ญุ มากพอสมควรมากกว่า สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายถึงจะได้เกิดมาในภพภูมิ มนุษย์ เพราะเป็นภพภูมิที่พิเศษเหนือภพภูมิอื่น เพราะมนุษย์มีร่างกาย มีสติปัญญา จึงมีช่องทาง มีโอกาสได้สร้างบุญมากกว่าสัตว์ มากกว่าเทพเทวดา ที่สำ�คัญที่สุด มีโอกาสได้พัฒนาจิตให้ไปสู่ความ ประเสริ ฐ นำ � ไปสู่ ก ารกระทำ � ที่ ดี ก ว่ า สรรพสั ต ว์ ทั้งปวงทั้ง ๓ ภพ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา เป็นศาสนาแห่งเหตุและผล เป็นศาสนา แห่งความสุข ดังนัน้ ในคำ�สอนของพระศาสดานัน้ มีค�ำ สอน และเรือ่ งราวมากมายทีจ่ ะทำ�ให้ทกุ คนเกิด “ปัญญา” มีชีวิตอย่างมีเหตุมีผล รู้จักการค้นหาเหตุที่มาและ ผลลัพธ์ในการกระทำ�และการไม่กระทำ�
11
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เมื่อมีทุกข์ไม่ว่าเรื่องใด ทรงสอนให้กลับไป พิจารณาถึงเหตุและปัจจัยที่ทำ�ให้ทุกข์นั้นเกิด ทรง สอนให้รจู้ กั การดับทุกข์และการแก้ปญั หาด้วยปัญญา ด้วยธรรมะ ด้วยวิธีของธรรมชาติที่แท้จริง สอนเพื่อให้ทุกคนต่อสู้ชีวิต ไม่ยอมแพ้ใน กรรมเก่าทีถ่ กู ฝังหัวกันมานานว่า ถ้ามีกรรมเก่าแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ และทำ � ให้ ทุ ก คนตระหนั ก ตื่ น รู้ ว่ า “ไม่มอี ะไรในโลกนีเ้ กิดขึน้ ด้วยความบังเอิญ หรือเกิดขึ้นมาลอยๆ ต้องมาจากเหตุและ ปัจจัยสนับสนุนให้เกิด” พระพุทธเจ้ามาปลดแอกความเชื่อผิดเหล่านี้ ให้กับทุกคนบนโลกนี้ให้รู้ว่า กรรมใหม่ที่ดีที่ทำ�ใหม่ ในชาตินี้ จะทำ�ให้พบกับชีวติ ทีด่ ี สุข และรวยได้โดย ที่ไม่ต้องไปนั่งกลัวกรรมเก่าจนไม่เป็นอันทำ�อะไร ให้ชีวิตดีขึ้น
12
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
กรรมเก่าบางกรรมอาจจะส่งผลไม่ได้เลย ถ้ารู้วิธีการหนีกรรมอย่างแท้จริงทั้งแบบชั่วคราว และแบบถาวร ทีต่ อ้ งลงมือปฏิบตั อิ ย่างจริงจังจนหนี กรรมเก่าได้แบบครูบาอาจารย์หลายท่านทำ�สำ�เร็จ เรื่องที่จะนำ�มาเสนอนั้นเป็นแนวทางที่จะทำ� ให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้นได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน เป็นหลักธรรมคำ�สอนที่มาจากพระพุทธองค์ที่นำ� มาอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ปฏิบัติได้แบบสบายๆ อยากให้ผอู้ า่ นทุกท่านได้มชี วี ติ ทีด่ ี สุข รวย เป็นผูป้ ระเสริฐมากทีส่ ดุ หรือมหาเศรษฐี ทุกคนมากที่สุดเท่าที่บุญจะพาไป! นีต่ อ้ งเริม่ จากเราต้อง “ดี” ก่อน เมือ่ เราดีแล้ว ชีวติ ก็จะพบ “สุข” เมือ่ เราสุขแล้วจึงจะพบ “รวย” ได้ อันเป็นบันไดสามขัน้ ทีเ่ ชือ่ ว่าทุกคนปรารถนาให้ชวี ติ ของตนเป็นแบบนั้นเร็วที่สุด ยิ่งคนที่กำ�ลังลำ�บาก มากๆ
13
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
และก่อนทีจ่ ะเข้าสูเ่ นือ้ หาหลักๆ เน้นๆ กันจะ ขออนุญาตแนะนำ�ถึง ๓ หัวใจสำ�คัญที่ต้องรู้และ เตรียมการเตรียมใจกัน เพราะเรื่องบางเรื่องงานบางอย่าง กรรม บางชนิดไม่ได้เห็นผลแบบฉับพลันทันที ดังทีย่ �้ำ เสมอ ว่าโลกนีไ้ ม่มเี รือ่ งอะไรทีบ่ งั เอิญ ไม่มอี ะไรทีไ่ ด้มาฟรีๆ ทุกเรื่องต้องลงมือทำ� ต้องใช้เวลา สำ�หรับ ๓ หัวใจสำ�คัญที่ว่านี้ที่จะช่วยทำ�ให้ ทุกคนเป็น “มหาเศรษฐี” ได้จริงก็คอื สม่�ำ เสมอ มากพอ นานพอ - สม่�ำ เสมอ การกระทำ�ความดี กรรมดีใดๆ หรือสิ่งที่เราทำ�นั้นขอให้ลงมือทำ�สม่ำ�เสมอ อย่าทำ� แบบเพราะต้องการเร่งด่วนแล้วจึงโหมทำ� ขอให้ทำ� แบบพากเพียร อดทน มีศรัทธาอย่างแรงกล้าว่าสิ่ง ที่เรากำ�ลังทำ�นั้นเป็นเรื่องดีต่อชีวิตทั้งต่อตนเอง และคนรอบข้าง
14
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ถ้าเราเป็นพ่อค้าแม่ค้าหรือคนทำ�งานก็ตาม เราคงต้องทำ�งานกันแบบสม่ำ�เสมอจนชินเป็นนิสัย ไม่ใช่วนั นีต้ นื่ แต่เช้าทำ�มาหากินขันแข็ง แต่อกี ๓ วัน ไม่ทำ�งานหรือตื่นสาย ตื่นเมื่อไรค่อยทำ� แบบนี้ เรียกว่าไม่สม่ำ�เสมอและไม่มีทางเกิดผลดีได้อย่างที่ เราต้องการแน่นอน - มากพอ การกระทำ�หรือกรรมใดๆ ก็ตาม ต้องมากพอที่จะส่งผลได้ ยกตัวอย่างให้เห็นแบบ ง่ายๆ เหมือนน้�ำ ทีเ่ ราตักใส่ตมุ่ เราต้องตักไปเรือ่ ยๆ ให้เต็มตุ่ม จะเอามากิน อาบ ทำ�อะไรได้หมด เพราะมีน�้ำ เพียงพอ แต่ถา้ เราตักใส่แค่ขนั เดียวจะใช้ เลยทุกอย่างไม่มีทางพอ เหมือนเราเก็บเงินออมเงิน เพือ่ ต้องการซือ้ อะไรสักอย่างในชีวติ เราต้องเก็บให้ถงึ ทีเ่ งินพอจะซือ้ ได้ ความดี ความร่�ำ รวยก็เช่นกัน ต้อง ค่อยๆ สะสมไปเรื่อยจึงถึงจุดที่ส่งผลด้วย
15
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ลองศึกษาประวัตทิ า่ นมหาเศรษฐีในพุทธกาล หรือในปัจจุบันนี้ก็ได้ว่าท่านเหล่านั้นทำ�กันอย่างไร ท่านก็เริ่มจากการสะสมจากน้อยๆ ไปหามาก เป็น หลักการที่ถูกต้องที่สุด - นานพอ การกระทำ�ที่สม่ำ�เสมอ มาก พอเป็นระยะเวลานาน จนเรียกได้ว่านานพอนั้น จะเป็นจุดที่ดีที่สุด เป็นจุดที่ปลอดภัยมั่นคงที่สุด ถึงจะมีเหตุการณ์อะไรขึ้นเราก็ผ่านได้สบาย เพราะ เราทำ�มานาน เตรียมการมานานแล้วเหมือนน้ำ�ที่ เต็มตุ่ม เมื่อเรามีหลายตุ่ม นอกจากจะนำ�มาดื่ม อาบใช้ของเราเองแล้ว เราก็มีสำ�รองเผื่อขาดแคลน และแบ่งปันเผื่อแผ่ช่วยเหลือคนอื่นได้ หากทำ�ครบทั้ง ๓ ข้อนี้ทุกคนจะไม่มี ทางตกต่ำ�หรือหมดตัวอีกเลยในชาตินี้
16
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เพราะมีเสบียงบุญตุนสำ�รองเอาไว้มากมาย เพียงพอต่อชีวิตและคนรอบข้างแล้ว และ ๓ ข้อที่ มาแนะนำ�นี้ คืออีกเคล็ดลับสำ�คัญที่คุณควรรู้ และ ขอบอกให้อกี อย่างหนึง่ ว่า หลังจากบรรทัดนีเ้ ป็นต้น ไป ขอให้ตั้งใจอ่านให้ละเอียด อ่านให้แตก เพราะจะคัดแต่ “ของจริง” แบบเข้าใจ ง่ายๆ ปฏิบตั ไิ ด้ผลเลย เพือ่ ทีจ่ ะทำ�ให้ทกุ คน เป็น “มหาเศรษฐี” ได้จริง
ชนะใจตน ชนะใจคนอื่น คื อ วิ ช า แ ร ก ข อ ง
“วิชามหาเศรษฐี”
สิ่งหนึ่งที่คนทั้งหลายต้องมีอันดับแรกก่อนจะไปถึง ซึง่ ความเป็นผูป้ ระเสริฐ เพือ่ นำาชีวติ ตนเองไปสูค่ วาม ร่ำารวย ทั้งรวยสุขหรือรวยทรัพย์ทั้งปวงก็คือ หนึ่ง ต้องชนะใจตนเอง สอง ต้องชนะใจคนอื่น
18
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
การชนะใจทั้งสองแบบนี้ ถือว่าเป็นชัยชนะที่ ยิง่ ใหญ่เหนือทุกชัยชนะบนโลกนี้ ชนะแบบใสสะอาด เด็ดขาดด้วยหลักธรรม ด้วยความดีงามพร้อม ด้วย ความจริง ไม่ใช่การใช้ก�ำ ลังใช้อ�ำ นาจหักหาญบังคับ ใจใคร ที่ใครก็ตามอยากเป็นมหาเศรษฐีต้องผ่าน ๒ ข้อนีใ้ ห้ได้ ถ้าทำ�ไม่ได้กไ็ ม่มที างได้เป็น หรือแม้แต่ ทำ�งานอะไร ก็จะไม่ประสบความสำ�เร็จอะไรได้เลย ในทางกลับกันถ้าเราเอาชนะใจตัวเองไม่ได้ ทำ�ทุกอย่างตามใจตัวเองเป็นที่ตั้ง ผลเบื้องต้น ชีวิตเราก็คงจะตกต่ำ� เท่านั้นยังไม่พออาจจะกลาย เป็นที่เกลียดชังหรือแม้ไม่เกลียดแต่ไม่มีใครเขาเชื่อ ไม่มีใครเขาจะคบค้าสมาคมให้ความร่วมมือด้วย ทำ�งานอะไรก็พังพินาศ หรือไม่สำ�เร็จ ชีวิตก็จะพบ ปัญหามากมายนานาสารพันจนอาจจะรับไม่ไหวเลย
19
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
• หนึ่ง ต้องชนะใจตนเอง หลายคนบอกง่ายมาก หมูมากๆ เรือ่ งนี้ แต่ หลายคนบอกว่ายากมากๆ ไม่เป็นไรเรามาพิจารณา ร่วมกันว่า การชนะใจตนเองทีค่ วรจะต้องทำ�ให้ได้มี อะไรบ้างถ้าอยากเป็นมหาเศรษฐี พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า “อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย” แปลว่า ชนะตนนั่นแลดีกว่า “การชนะตน” หมายถึงความสามารถในการ ควบคุมตนเองให้ประพฤติในสิง่ ทีด่ งี าม ทัง้ ทางกาย วาจา ใจ แท้จริงแล้วการชนะตนนั้นคือหลักธรรมที่ เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาเลย ที่องค์สมเด็จ พระสั ม มาสั ม พุ ท ธเจ้ าได้ แ สดงพุ ท ธวจนะไว้ ใ น วันมาฆบูชาครัง้ แรกของโลก ทีร่ วมเรียกว่า “โอวาทปาฏิโมกข์”
20
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
หรือ “โอวาท ๓” คือ การทำ�ความดี ละเว้น ความชั่ว ทำ�จิตใจให้ผ่องใส การชนะใจตนอันดับแรกทีต่ อ้ งทำ�คือ การทำ� ความดี ละเว้นความชัว่ ทำ�จิตใจให้ผอ่ งใส ด้วยการ บังคับใจตนไม่ให้ผดิ ศีล ๕ ทัง้ กาย วาจา ใจ เพือ่ เป็น เกราะป้องกันตนไม่ให้ตกต่�ำ เป็นพืน้ ฐานของการนำ� คนไปสู่ความเจริญทั้งปวง หลายคนบอกทำ�ไม่ได้หรอก สังคมยุคใหม่ มันยาก ไม่มีทางสำ�เร็จนอกจากจะไม่ต้องคบค้า สมาคมกับใคร ที่บอกอย่างนี้อาจจะเข้าใจอะไร มาผิดๆ เพราะว่าไปถูกฝังหัวหรือได้ยนิ ได้เห็นมาว่า ถ้าอยากก้าวหน้าอยากรวย ต้องเอาใจนาย เอาใจ เพื่อน เอาใจลูกค้า คู่ค้า ต้องพาไปกินเหล้ามั่วสุม สังสรรค์กัน
21
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
คนที่อยู่รอดปลอดภัยต้องมีแอบชั่ว ต้องโกง บ้าง ต้องโกหกบ้าง เลวๆ บ้างชีวิตจะได้มีรสชาติ ใครๆ เขาก็ทำ�กันไม่เห็นเขาจะได้รับผลกรรมอะไร เลย ยังเห็นสุขสบายดี ใครที่ คิ ด และทำ � แบบนั้ น แสดงว่ า รู้ ไ ม่ จ ริ ง เพราะความที่รู้ไม่จริงนี้แหละจึงดึงชีวิตตัวเองไว้ ไม่ให้กา้ วหน้าไปสูค่ วามสุขความเจริญ แถมยังกลาย เป็น “นรกข้ามชาติ” เลย เพราะกรรมไม่ดบี างกรรม ที่ทำ�ในชาตินี้แม้ยังไม่ออกผล แต่ในชาติต่อไปออก ผลแน่นอน ดังทีค่ รูบาอาจารย์ทา่ นกล่าวไว้วา่ “บุญข้ามภพ นรกข้ามชาติ” หมายถึงกรรมดี บุญทีเ่ ราทำ�จะติดตาม ตัวเราไปเป็นเสบียงบุญในทุกภพชาติขา้ มภพข้ามชาติ เลย ส่วนกรรมชัว่ ก็ขา้ มภพข้ามชาติเหมือนกัน เราต้อง เลือกเอาเองว่าจะเอาอะไรติดตัวไป บุญหรือบาป?
22
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ถามจริงๆ เถอะ เคยเห็นขีเ้ หล้าเมายาคนไหน ได้รับการยอมรับและทำ�อะไรสำ�เร็จยิ่งใหญ่แบบ จริงจังไหม วันๆ เอาแต่ดมื่ เหล้ามัว่ สุม จะเอาเวลาเอา สมองทีไ่ หนไปคิดทำ�ให้ตวั เองเจริญ นอกจากไม่ท�ำ ให้ ตัวเองเจริญแล้วคนอื่นรอบข้างก็อาจจะเดือดร้อน มีชีวิตที่ลำ�บากตกต่ำ�ไปด้วย ถามจริงๆ เถอะเคยเห็นคนมั่วทางเพศมี ความสุขไหม ในชีวิตและครอบครัวมีแต่แตกหัก ร้าวฉาน มีแต่ทะเลาะเบาะแว้ง หลายคนหมด อนาคต หลายคนตายอนาถ ถ้าไม่ตายก็ตกนรก ทั้งเป็น ชีวิตมีรอยด่างพร้อย ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มี ความสุขเพราะเรื่องนี้
23
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ถามจริงๆ เถอะเคยเห็นคนโกหกพกลม เคย เห็นคนโกง คนที่คอยเอาเปรียบคนอื่น คนที่จ้องจะ เอาของคนอื่น คนไม่มีเครดิต ทำ�การค้าเจริญไหม มีคนเชื่อถือไหม พูดจาเชื่อถือไม่ได้ กลายเป็นมาร สังคม ขยะทีค่ นเขารังเกียจทีจ่ ะคบหาทำ�การค้าด้วย ถามจริงๆ เถอะเคยเห็นคนใจทราม ทำ�ร้าย ทำ�ลายคนอื่น สัตว์ทั้งหลายรุ่งเรืองในชีวิตไหม เพราะชีวิตจะมีแต่เรื่องตลอด ทำ�อะไรก็ติดขัด ทำ� อะไรไม่ขนึ้ เจ็บไข้ได้ปว่ ยอยูต่ ลอดเวลา หรือบางคน เจออุบัติเหตุแบบไม่คาดคิดด้วยกรรมตัดรอน ในทางตรงกั น ข้ า มเราคงเคยเห็ น คนที่ ทำ � แบบนีม้ ชี วี ติ ทีต่ กต่�ำ ใช่ไหม จริงๆ เรารูแ้ ก่ใจกันทัง้ นัน้ ว่าอันไหนไม่ดหี รือผิดปกติ เพราะคนทุกคนนัน้ แต่เดิม มีความปกติ หรือมีศลี อยูแ่ ล้วตัง้ แต่เกิดมาเป็นจิตเดิม ที่บริสุทธิ์
24
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เพราะ “สิง่ ภายนอก” ทีเ่ ราเข้าใจผิด ทีเ่ ราเห็น ที่เราได้สัมผัส ที่เรารับรู้มาแบบผิดๆ ทำ�ให้สิ่งดีๆ ทีเ่ รามีตดิ ตัวมาตัง้ แต่เกิดหายไป หลายคนทีห่ ลงทาง ขอเป็นกำ�ลังใจให้ เอาใหม่เถิด เริ่มใหม่ หากอยากมีชีวิตที่ดีกว่าดี เพื่อตัวเอง เพื่อ ครอบครัว เพือ่ คนทีเ่ รารัก ทุกการเปลีย่ นแปลงเริม่ ต้น มักจะยาก แต่ถ้าทำ�แบบอดทน อดกลั้น ทำ�จนชิน จะไม่ยากอะไรเลยแม้แต่น้อย กลับเกิดผลดีมากๆ ต่อชีวิตเสียอีก หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ แห่งวัดชลประทาน รังสฤษฎ์ ครูบาอาจารย์ทา่ นสำ�คัญของแผ่นดินธรรม ได้ เ มตตาบอกถึ ง วิ ธี ก ารเอาชนะใจตนเองหรื อ การควบคุมตัวเองไว้ว่าดีอย่างไรและไม่ดีอย่างไร หากเรา “แพ้ใจตัวเอง”
25
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
“...การควบคุมตัวเองนั้นมันหนักเหนื่อยใน ชั้นต้น ความจริงสบายปลายมือ แต่ว่าคนเราขาด ความอดทน จึงไม่สามารถจะควบคุมตัวเองไว้ได้ เรามีแต่เรื่องการตามใจตัวเอง การปล่อยไป ตามอารมณ์ ปล่อยไปตามอำ�นาจของสิ่งแวดล้อม แต่ไม่เคยกำ�ราบปราบปรามตัวเอง จึงยากแก่การ ที่จะควบคุมตัวเอง แต่ถา้ หากเราคุมบ่อยๆ ประพฤติจนเป็นนิสยั สิง่ ใดทีท่ �ำ จนเป็นปกติ มันก็เป็นศีลสำ�หรับบุคคลนัน้ เพราะศีลนั้นเขาแปลว่าปกติก็ได้ เช่นว่าเราตื่นเช้า เป็นปกติ ก็เรียกว่ามีศลี ของคนตืน่ เช้า เราทำ�อะไรๆ เป็นปกติ ก็เรียกว่ามีศีลในรูปนั้น คนเราบังคับตัวเองได้มากเท่าใด ยิ่ง เป็นผู้ประเสริฐมากเท่านั้น
26
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
คนที่ประเสริฐคือคนที่บังคับตัวเองได้ ถ้า บังคับตัวเองไม่ได้ก็ไม่ประเสริฐอะไร ความใหญ่ ของคนมันอยู่ที่การบังคับตัวเอง ถ้าไม่รจู้ กั บังคับตัวเอง เขาตัง้ ให้ใหญ่เท่าใด มัน ก็ใหญ่ไม่ได้เรือ่ งนัน่ แหละ สำ�คัญมันอยูต่ รงนี้ เพราะ ฉะนั้นเราจะต้องฝึกบังคับตัวเองไว้ เหนี่ยวรั้งไว้” การเอาชนะจิตใจฝ่ายต่ำ�หรือกิเลส ตัณหา ความหลงในตัวของเราเอง เป็นเรือ่ ง ที่เราต้องเอาชนะตัวเองให้ได้ ในทุกวันเราทุกคนได้พบกับสิ่งยั่วยวนที่ก่อ ให้เกิดกิเลส ความอยากกำ�เริบมากมายโดยเฉพาะ ที่จะดึงเราให้ทำ�ความชั่วลงไปในทางต่ำ�มากมาย ทั้งรูป รส กลิ่น เสียงต่างๆ สิ่งที่สำ�คัญที่สุดที่จะ ช่วยให้เราชนะก็คือ “กำ�ลังใจที่มั่นคง” และ “สติ”
27
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
หลายคนทำ�ผิดพลาดในชีวิตเพราะไม่อาจ ทนได้ ทำ�ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะได้รับผลลัพธ์อย่างไร ซึ่ง น่าสงสารมากๆ โปรดอย่าตามใจตัวเองเป็นอันขาด ต้องพิจารณาอย่างละเอียดว่าทำ�แล้วเกิดผลร้าย อะไร ถ้าไม่ท�ำ เกิดผลดีตอ่ ชีวติ อย่างไร ครูบาอาจารย์ ท่านบอกวิธีที่จะเอาชนะแบบเด็ดขาดเลยว่า “พิจารณาโทษของสิ่งนั้น เมื่อเห็นโทษแล้ว บรรเทาความมัวเมาในสิ่งนั้น บรรเทาแล้วพยายาม ทำ�ให้สนิ้ ไป เมือ่ สิน้ ไปแล้วพยายามไม่ให้เกิดขึน้ อีก” เป็น ๓ ขั้นตอนที่ชนะแบบเด็ดขาดถาวร การพิจารณาด้วยสติทสี่ มบูรณ์พร้อม เราจะได้ค�ำ ตอบ ทีด่ ใี นระดับหนึง่ หากคิดว่าคำ�ตอบน่าจะมีดกี ว่านีอ้ กี ก็ต้องไปแสวงหาความรู้เพิ่ม หรือไปหา “ผู้รู้” หรือ ครูบาอาจารย์ให้ท่านช่วยแนะนำ�
28
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
การพิจารณาต้องฝึกบ่อยๆ ฝึกให้เราคิดให้ได้ หากทำ�แบบนั้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้น พยายามคิดให้ ได้แบบต่อเนื่อง คิดไปให้สุดทาง เรือ่ งการคิดพิจารณาวิเคราะห์นี้ พระพุทธเจ้า ท่านสอนมากว่า ๒,๕๐๐ ปีแล้วจนมีฝรั่งได้เจอแล้ว เอาไปใช้ประยุกต์ใหม่ แล้วตั้งชื่ออย่างสวยหรูว่า “ROAD MAP” นัน่ เอง ไม่ใช่ของใหม่อะไร ชาวพุทธ จริงรู้ดี เช่น หากเราขีเ้ กียจตืน่ สาย ไม่ไปทำ�งาน จะมี อะไรเกิดขึน้ บ้าง เราคงโดนตำ�หนิ งานทีท่ �ำ คงไม่ทนั งานคงเสียหาย มีอะไรอีกเราก็ต้องคิดต่อไปอีก เพื่อนร่วมงานรังเกียจว่ากินแรงเขา เจ้านายไม่ชอบ เงินเดือนไม่ขึ้น
29
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เมื่ อ เงิ น เดื อ นไม่ ขึ้ น อาจจะถู ก ตั ด เงิ น ด้ ว ย หรือสายบ่อยๆ อาจจะโดนไล่ออก เมื่อโดนไล่ออก แล้วจะเอาเงินที่ไหนมากิน เอาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ ผ่อนบ้าน ผ่อนอะไรต่างๆ เอาเงินที่ไหนมาซื้อข้าว ให้ ลู ก เมี ย กิ น ไม่ มี ง านแล้ ว คงมี แ ต่ ค นรั ง เกี ย จ ครอบครัวมีปัญหา มีอะไรอีกที่จะเกิดขึ้นต้องคิด... คิด... แล้วก็คิดจนสุดทาง แล้วมาคิดกลับกันอีกด้านเป็นด้านบวก หาก เราตื่นเช้าไปทำ�งานล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น เพื่อนๆ ที่ ทำ�งานให้การยอมรับ เราเป็นคนมีวินัย รักษาเวลา งานที่ทำ�ก็ได้งานตามเวลา เจ้านายมองเห็นความดี ของเรา ความขยันหมัน่ เพียร ความรับผิดชอบ เป็น คนทีม่ เี ครดิต ทำ�อะไรพูดอะไรก็มคี นเชือ่ มีเวลาได้ ช่วยเหลืองานคนอืน่ มีอะไรอีกทีจ่ ะเกิดขึน้ ต้องคิด... คิด... แล้วก็คิดจนสุดทางเช่นกัน
30
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
การพิจารณานีค้ อื หนึง่ ในการฝึกทำ� “วิปสั สนา” ทีท่ กุ คนฝึกคิดและทำ�ได้ตลอดเวลา ในทุกเรือ่ ง ตั้งแต่เรื่องง่ายๆ ทั้งปัญหาการทำ�งาน ปัญหาชีวิต ปัญหาการเจ็บป่วย การสูญเสียคนหรือสิ่งของอัน เป็นที่รัก พิจารณากันไปได้จนถึงขั้นไตรลักษณ์ พิจารณาจนรูท้ ะลุวา่ โลกนีไ้ ม่มอี ะไรยัง่ ยืนเลย เกิดขึน้ ตัง้ อยู่ ดับไป การพิจารณาสังขาร เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทำ�ให้เข้าใจ รู้เท่าทัน มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่กลัว อดีต ไม่หวัน่ อนาคต ถ้าสร้างเหตุในปัจจุบนั ดี อนาคต ย่อมดีแน่นอน การพิจารณาหรือการ “วิปสั สนา” นีถ้ อื ว่าเป็น การสร้างบุญใหญ่มาก เกิดผลมาก เหนือจากทาน และศีล เป็นขั้นสูงสุดของการสร้างบุญที่ถูกต้องใน พระพุทธศาสนาเลย
31
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
คนที่ทำ�ความดี ชนะใจตนเองได้ ควบคุม ตัวเองได้ ตั้งมั่นอยู่ในศีล ในธรรม เกรงกลัวและ ละอายต่อบาปทั้งปวงไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือใหญ่ มีคนเห็นหรือไม่มคี นเห็น หมัน่ พิจารณาสิง่ ต่างๆ ด้วย “ปัญญา” เมือ่ พิจารณาแล้วก็ลงมือแก้ไขทัง้ ทางโลก และทางธรรม จะเป็นผูม้ บี ญุ มาก เป็นบุญทีเ่ กือ้ หนุน ให้คนพบความสุขความเจริญอย่างรวดเร็วด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เพราะมีตัวอย่างของ มหาเศรษฐี คนรวย คนทีป่ ระสบความสำ�เร็จในชีวติ มากมายที่ เ ริ่ ม ต้ น มาจากการเอาชนะใจตั ว เอง ชนะกิเลส ชนะความจน ชนะความย่อท้อ ชนะการ ดูถูก ทั้งมาจากตัวเองและจากการที่ถูกคนอื่นเขา ดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม การเอาชนะดินฟ้าอากาศ ธรรมชาติทั้งหลาย
32
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
สรุปก็คอื ใครทีอ่ ยากเป็น “มหาเศรษฐี” อยาก เป็นคนที่ประเสริฐ ให้ชีวิตดี สุข รวย ต้องเริ่มต้น จากชนะใจตนเอง ชนะกิเลส ตัณหาและอำ�นาจ ฝ่ายต่ำ�ภายในตัวตนให้ได้ก่อน ถึงจะไปชนะคนอื่น สิ่งอื่นภายนอกอันเป็นขั้นตอนที่สองในภายหลัง • สอง ต้องชนะใจคนอื่น เมือ่ เราเอาชนะใจตัวเองแล้ว ยังไม่พอเพียงที่ จะไปสู่เส้นทางมหาเศรษฐีได้ ต้องเอาชนะใจคนอื่น รอบข้างได้ด้วย พระพุทธองค์นั้นเป็นตัวอย่างที่ดีใน การทำ�ให้ผู้อื่นยอมรับและสามารถครองใจ คนได้อย่างอัศจรรย์!!! พระพุทธองค์เป็นผู้ที่มีความเมตตากรุณา และมีพระปรีชาสามารถอย่างยิ่งในการรับมือกับ อคติจริตวิสัยคนที่มีความแตกต่างกัน
33
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
รวมถึ ง อุ ป สรรคมากมายที่ ถ าโถมมาจาก ทุกทิศทางได้อย่างชาญฉลาด ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ พระพุทธองค์ได้ตัดสินใจออกบวชแล้ว จนถึงตรัสรู้ โดยเฉพาะการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธองค์ นั้นกว่าจะเป็นที่ยอมรับกันถึงบัดนี้ พระพุทธองค์ ต้องเผชิญหน้ากับอคติและการไม่ยอมรับจากคน จำ�นวนมากมายมหาศาล จากคนรอบข้างทุกวรรณะ ในสมั ย นั้ น ทางเชื้ อ พระวงศ์ พ ระประยู ร ญาติ ก็ ไม่เชื่อ วรรณะกษัตริย์ พราหมณ์ แพทย์ ศูทร แต่ พระพุทธองค์ก็สามารถเอาชนะใจทุกคนได้ด้วย พระเมตตาและพระปรีชาสามารถ หลักธรรมที่พระพุทธองค์ทรงใช้ครองใจคน ได้เสมอมาและยังถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รู้และนำ�ไป ประยุกต์ใช้ให้เกิดผลดีต่อชีวิต งาน อาชีพนั้นก็คือ ทรงใช้หลักของ “พรหมวิหาร ๔” และ “สังคหวัตถุ ๔” ที่ชนะใจคนอื่นเด็ดขาดถาวรเลย เรามาเริ่มที่
34
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
“พรหมวิหาร ๔” พระพุทธองค์ได้ทรงค้นพบ ธรรมะและสั่งสอนให้คนทั้งหลายที่จะพ้นทุกข์ ต้อง ตั้ ง จิ ต ใจของตนให้ อ ยู่ ใ นพรหมวิ ห ารธรรมทั้ ง ๔ ประการนี้ เพื่อให้จิตใจสงบ หยุดความโลภ โกรธ หลง ให้บรรเทาเบาบางหรือหมดสิน้ ไป เมือ่ จิต ของเราปราศจากความโลภ โกรธ หลง ก็จะสามารถ เปิดทางให้ “ปัญญา” เกิดและเจริญงอกงามขึ้น สำ�หรับพรหมวิหาร ๔ นี้ เป็น “ของวิเศษ” มาก ที่ผู้ใดทรงหรือมีไว้ จะชนะใจตัวเองและนำ�ไปสู่การ ชนะใจคนอื่นด้วยพร้อมๆ กัน คำ�ว่า “พรหมวิหาร” นัน้ “วิหาร” แปลว่าทีอ่ ยู่ “พรหม” แปลว่าประเสริฐ เมือ่ มารวมกันจึงหมายความ ว่า เอาใจจับอยู่ในอารมณ์แห่งความประเสริฐ หรือ เอาใจไปติดแนบสนิทในความดีที่สุด ซึ่งมีคุณธรรม ๔ ประการคือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา
35
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
- เมตตา แปลว่าความรัก หมายถึงรักทีม่ งุ่ เพื่อปรารถนาดี โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ จึงจะ ตรงกับคำ�ว่าเมตตาในทีน่ ี้ ถ้าหวังผลตอบแทนจะเป็น เมตตาที่เจือด้วยกิเลส ไม่ตรงต่อเมตตาในพรหมวิหารนี้ ลักษณะของเมตตา ควรสร้างความรู้สึกคุม อารมณ์ไว้ตลอดวันว่าเราจะเมตตาสงเคราะห์เพื่อน ที่เกิด แก่ เจ็บ ตาย จะไม่สร้างความลำ�บากให้แก่ สรรพสัตว์ทงั้ หลาย ความทุกข์ทเี่ ขามี เราก็มเี สมอเขา ความสุขทีเ่ ขามี เราก็สบายใจไปกับเขา รักผูอ้ นื่ เสมอ ด้วยรักตนเอง - กรุณา แปลว่าความสงสาร หมายถึงความ ปรานี ปรารถนาให้ผอู้ นื่ พ้นทุกข์ ไม่หวังผลตอบแทน เช่นเดียวกัน สงเคราะห์สรรพสัตว์ที่มีความทุกข์ให้ หมดทุกข์ตามกำ�ลังกาย กำ�ลังปัญญา กำ�ลังทรัพย์
36
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ลักษณะของกรุณา การสงเคราะห์ทั้งทาง ด้านวัตถุ โดยธรรม ว่าผู้ที่จะสงเคราะห์นั้นขัดข้อง ทางใด หรือถ้าหาให้ไม่ได้ ก็ชี้ช่องบอกทาง - มุทิตา แปลว่ามีจิตอ่อนโยน หมายถึงจิต ทีไ่ ม่มคี วามอิจฉาริษยาเจือปน มีอารมณ์สดชืน่ แจ่มใส ตลอดเวลา คิดอยูเ่ สมอว่าถ้าคนทัง้ โลกมีความโชคดี ด้วยทรัพย์ มีปญั ญาเฉลียวฉลาดเหมือนกันทุกคนแล้ว โลกนีจ้ ะเต็มไปด้วยความสุข สงบ ปราศจากอันตราย ทั้งปวง คิดยินดี โดยอารมณ์พลอยยินดีนี้ไม่เนื่อง เพื่อผลตอบแทน การแสดงออกถึงความยินดีใน พรหมวิหาร คือไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น - อุเบกขา แปลว่าความวางเฉย นัน่ คือมีการ วางเฉยต่ อ อารมณ์ ที่ ม ากระทบความวางเฉยใน พรหมวิหารนี้ หมายถึงเฉยโดยธรรม คือทรงความ ยุติธรรมไม่ลำ�เอียงต่อผู้ใดผู้หนึ่ง
37
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
คุณธรรม ๔ ประการนี้ นอกจากความเป็น มนุษย์ผู้ประเสริฐแล้ว ยังเป็นอานิสงส์ความสุขแก่ ผู้ปฏิบัติถึง ๑๑ ประการ ดังนี้ ๑. นอนหลับเป็นสุข เหมือนนอนหลับใน สมาบัติ ๒. ตื่นขึ้นมีความสุข ไม่มีความขุ่นมัวในใจ ๓. นอนฝัน ก็ฝันเป็นมงคล ๔. เป็นที่รักของมนุษย์ เทวดา พรหม และ ภูตผีทั้งหลาย ๕. เทวดา พรหม จะรักษาให้ปลอดภัยจาก อันตรายทั้งปวง ๖. จะไม่มอี นั ตรายจากเพลิง สรรพาวุธ และ ยาพิษ ๗. จิ ต จะตั้ ง มั่ นในอารมณ์ ส มาธิ เ ป็ น ปกติ สมาธิที่ได้ไว้แล้วจะไม่เสื่อม มีแต่จะเจริญยิ่งขึ้น
38
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๘. มีดวงหน้าผุดผ่องเป็นปกติ ๙. เมือ่ จะตาย จะมีสติสมั ปชัญญะสมบูรณ์ ๑๐. ถ้ามิได้บรรลุมรรคผลในชาตินี้ ผลแห่ง การเจริญพรหมวิหาร ๔ นี้ จะส่งผลให้ไปเกิดใน พรหมโลก ๑๑. มีอารมณ์แจ่มใส จิตใจปลอดโปร่ง ทรง สมาบัติ วิปัสสนา และทรงศีลบริสุทธิ์ ส่วน “สังคหวัตถุ ๔” ซึง่ เป็นหลักธรรมทีส่ ามารถ ใช้ยดึ เหนีย่ วน้�ำ ใจคน นำ�ตนเองไปนัง่ กลางใจผูอ้ นื่ ได้ มี ๔ ประการคือ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตา เรามาดู กั น ว่ า วิ เ ศษเพี ย งใดโดยมี พ ระพุ ท ธเจ้ า เป็นตัวอย่าง ดังนี้ ๑. ทรงรู้จักการให้ “ทาน” ทานแปลว่า “การให้” แต่ทานของพระพุทธเจ้า นั้นไม่เหมือนกับของปุถุชนทั่วไป
39
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
คือพระพุทธองค์จะไม่ได้ให้ในสิ่งที่เป็นของ หยาบที่เป็นวัตถุทานใดๆ แต่จะทรงเน้นให้ความรู้ ความเมตตา คำ�อบรมสัง่ สอนทีเ่ ป็นประโยชน์ ทำ�ให้ ผู้ อื่ น คิ ดได้ แ ละน้ อ มนำ � ความรู้ ข้ อ ธรรมทั้ ง หลาย ไปปฏิบัติตามให้เกิดประโยชน์ ทานของพระพุทธเจ้านั้นทรงแสดงออกถึง การให้หลายทาง ไม่ใช่แค่การตรัสสอนเท่านัน้ แต่ยงั ทรงใช้วิธีการสละตนเองปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่าง ในเวลาที่คนทั้งหลายเกิดความขัดแย้งแล้วไม่ยอม รับฟังซึ่งกันและกัน หรือในเวลาที่เพื่อนภิกษุได้รับ ความยากลำ�บาก ได้รับทุกขเวทนาก็ไม่ได้ทรงถือ พระองค์ว่าเป็นพระศาสดา ทรงลงไปปฏิบัติกิจให้ อย่างไม่ถือพระองค์ อย่างกรณีพระติสสะ เป็นต้น
40
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เรื่องมีอยู่ว่าคืนหนึ่งพระพุทธองค์ทรงตรวจ อุปนิสัยของสัตวโลกว่าวันพรุ่งนี้จะมีใครได้บรรลุ มรรคผลบ้าง ก็ทรงทราบว่าพระติสสะเวลานีอ้ าพาธ อย่างหนัก และการตายจะมาถึงพระติสสะแน่นอน ในวันพรุ่งนี้ หากได้ไปสงเคราะห์พระติสสะก็จะได้ เป็นพระอรหันต์พร้อมกับนิพพาน ในตอนเช้าเมือ่ ทรงปฏิบตั ภิ ตั กิจเรียบร้อยแล้ว พระพุทธเจ้าจึงเสด็จออกจากพระมหาวิหารไปโดย ไม่ได้บอกใคร เมือ่ บรรดาพระทัง้ หลายเห็นพระพุทธเจ้า เสด็จก็เดินตาม พอไปถึงกุฏิของพระติสสะ พระพุทธองค์ ก็แวะเข้าไป ทรงทอดพระเนตรเห็นน้ำ�เหลืองไหล เปรอะเปื้อนผ้าจีวรของพระติสสะ ก็ทรงเปลื้องผ้า พระติสสะทัง้ หมดเพือ่ จะนำ�เอาไปต้มกับน้�ำ ร้อนแล้ว เอาไปตาก
41
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
พระทั้งหลายที่ตามมาเห็นดังนั้น ก็รีบอาสา ทูลต่อพระพุทธองค์วา่ การต้มให้น�้ำ เหลืองออกหมด แล้วเอาไปตาก ขอเป็นหน้าที่ของข้าพระพุทธเจ้า ผูเ้ ป็นสาวก ไม่ตอ้ งถึงพระหัตถ์ของพระพุทธองค์ เมือ่ ได้ฟังดังนั้นพระพุทธองค์จึงทรงอนุญาตให้เหล่า สาวกนั้นได้ทำ�ตามเจตนาบุญนั้น หลังจากนัน้ พระพุทธองค์กเ็ อาผ้ามาชุบน้�ำ อุน่ เช็ดร่างกายให้พระติสสะ จนกระทั่งน้ำ�เหลืองแห้ง ร่างกายก็มีอาการปลอดโปร่ง ผ้าที่เอาไปต้มและ ตากนั้นก็แห้งพอดี พระพุทธเจ้าก็สั่งให้เหล่าภิกษุ ช่วยกันนุง่ ผ้าให้พระติสสะให้เรียบร้อย แล้วพระองค์ ก็ทรงยืนอยู่ข้างๆ ตรัสว่า “ติสสะ ร่างกายนี้อีกไม่ช้าวิญญาณจะต้อง ออกจากร่างขันธ์ ร่างกายนี้ก็ต้องถูกทอดทิ้งเหมือน กับท่อนไม้ที่ไร้ประโยชน์”
42
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ทรงหมายความว่า จิตใจเมื่อจะพ้นไปจาก ร่างกายแล้ว ร่างกายของเราก็ตอ้ งตาย เมือ่ ตายแล้ว ร่างกายของเราก็ไร้ประโยชน์เป็นของที่ชาวบ้านเขา จะทอดทิ้งเขาไม่ต้องการ สู้ท่อนไม้ที่ไร้ประโยชน์ก็ ไม่ได้ พระติสสะฟังเพียงเท่านี้ก็ได้บรรลุธรรมเป็น พระอรหันต์พร้อมปฏิสัมภิทาญาณ และก็ขึ้นสู่ นิพพานทันทีในวันนั้น นี่คือการให้ทานรูปแบบของพระพุทธเจ้าที่ ทรงให้ตอ่ ชาวโลกและต่อเหล่าภิกษุเรือ่ ยมา ซึง่ ทานที่ สำ�คัญทีส่ ดุ อีกประการหนึง่ และยิง่ ใหญ่ทสี่ ดุ ทีท่ รงให้ เสมอต่อผู้คนทั้งหลายก็คือ “อภัยทาน” โดยเฉพาะ ผูท้ คี่ อยผูกเวรกับพระองค์มากมาย ด้วยพระเมตตา และการให้ อ ภั ย นี้ ทุ ก รายล้ ว นพ่ า ยแพ้ ใ นคุ ณ งาม ความดีในทานของพระองค์ด้วยกันทั้งสิ้น
43
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๒. ทรงมี “ปิยวาจา” “ปิยวาจา” คือการพูดวาจาทีไ่ พเราะ ใครได้ฟงั แล้วเกิดความชืน่ ใจ เบิกบานใจ ซึง่ มีองค์ประกอบ ๔ ประการที่จะเรียกได้ว่าเป็นปิยวาจาก็คือ คำ�พูดนั้น เป็นคำ�พูดที่เป็นความจริง คำ�พูดนั้นเป็นคำ�พูดที่ ไพเราะไม่หยาบคาย คำ�พูดนัน้ ไม่ท�ำ ร้ายจิตใจหรือก่อ ความเสียหายให้กับใคร และคำ�พูดเป็นประโยชน์ ต่อผู้ฟัง พระพุทธองค์นั้นเวลาทรงตรัสสิ่งใดก็ตามจะ ตรัสด้วยองค์ประกอบทั้งสี่ประการนี้ และทรงตรัส ด้วยอาการสงบและมีพระสุรเสียงที่นุ่มก้องกังวาน จับใจคนฟังเป็นอย่างมาก ที่สำ�คัญปิยวาจาของ พระพุทธองค์นั้นประกอบด้วยกาลเทศะในการตรัส ทุกอย่าง ทรงเลือกเวลาในการตรัสสอนเป็นอย่าง ยิ่ง โดยทรงมีหลัก ๖ ประการว่า
44
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๒.๑ คำ�พูดทีไ่ ม่จริงไม่ถกู ต้องไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นที่รักที่ชอบใจของผู้อื่น ไม่ตรัส ๒.๒ คำ�พูดทีจ่ ริง ถูกต้อง แต่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นที่รักที่ชอบใจของผู้อื่น ไม่ตรัส ๒.๓ คำ�พูดทีจ่ ริง ถูกต้อง เป็นประโยชน์ ไม่ เป็นที่รักที่ชอบใจของผู้อื่น เลือกกาลตรัส ๒.๔ คำ�พูดทีไ่ ม่จริง ไม่ถกู ต้อง ไม่เป็นประโยชน์ ถึงเป็นที่รักที่ชอบใจของผู้อื่นก็ไม่ตรัส ๒.๕ คำ � พู ด ที่ จ ริ ง ถู ก ต้ อ ง แต่ ไ ม่ เ ป็ น ประโยชน์ ถึงเป็นที่รักที่ชอบใจของผู้อื่น ไม่ตรัส ๒.๖ คำ�พูดทีจ่ ริง ถูกต้อง เป็นประโยชน์ เป็น ที่รักที่ชอบใจของผู้อื่น เลือกกาลตรัส การที่พระพุทธองค์มีปิยวาจาอยู่เสมอ ผู้ที่ได้ รับฟังธรรมคำ�สั่งสอนของพระพุทธองค์ย่อมคลาย ความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ ได้ง่าย
45
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
คำ�พูดที่ไพเราะอ่อนหวานและเป็นความจริง นั้น หากลองพิจารณาแล้วนำ�มาใช้ให้ดีจะเห็นได้ว่า เป็นผลดีต่อทั้งตัวผู้พูดและผู้ฟังทั้งสิ้น โดยเฉพาะ ผูฟ้ งั จะรูส้ กึ ให้ความเคารพนับถือต่อผูพ้ ดู ทีม่ ปี ยิ วาจา ได้มากกว่าคนที่พูดจริงแต่ไม่มีความอ่อนหวานอยู่ ในวาจานั้น ๓. ทรงมี “อัตถจริยา” คือการบำ�เพ็ญประโยชน์ ให้แก่บคุ คลอืน่ พระพุทธเจ้าทรงเป็นแบบอย่างมาก ในการบำ�เพ็ญจริยาในฐานะที่ทรงเป็นพระพุทธเจ้า และทรงบำ�เพ็ญประโยชน์แก่พระประยูรญาติและแก่ ชาวโลกทั้งมวล โดยอัตถจริยาของพระพุทธองค์นั้น สามารถแยกย่อยได้ถึง ๓ ลักษณะได้แก่
46
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๓.๑ โลกัตถจริยา คือทรงเป็นแบบอย่างใน การบำ�เพ็ญประโยชน์เพื่อชาวโลก พระพุทธเจ้า ทรงงานเกือบตลอด ๒๔ ชั่วโมงทุกวัน เป็นเวลา ๔๕ ปี เรียกว่าแทบหาเวลาบรรทมเกือบจะไม่มีเลย ทีเดียว พระพุทธองค์ทรงปฏิบัติภารกิจเพื่อโลก ๕ ประการต่อวันคือ - เช้าเสด็จออกบิณฑบาตเพื่อเปิดโอกาสให้ มนุษย์และเทวดามีโอกาสได้ทำ�บุญให้ทาน - เวลาเย็นทรงแสดงธรรมโปรดประชาชนให้ ได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการดำ�รงชีวิต อย่างเป็นสุข - เวลาค่ำ�ประทานโอวาทแก่พระภิกษุ เพื่อ ตรัสสอนข้อธรรมใหม่ๆ และแก้ไขปัญหาข้อธรรม ที่ยังไม่กระจ่างให้เหล่าภิกษุได้ทราบ
47
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
- เวลาเที่ ย งคื น ทรงเปิ ดโอกาสให้ เ ทวดา ทูลถามปัญหาและทรงสอนเทวดาไปด้วยในเวลา เดียวกัน - เวลาก่อนรุ่งอรุณหรือเช้าตรู่ทรงพิจารณา ถึงบุคคลที่ควรจะเสด็จไปโปรดโดยเฉพาะ หรือการ เพ่งฌานตรวจดูนิสัยว่าใครที่เหมาะสมจะสามารถ เสด็จออกไปโปรดเพื่อให้คนผู้นั้นหลุดพ้นได้ ๓.๒ ญาตัตถจริยา หมายถึงการบำ�เพ็ญประโยชน์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่พระประยูรญาติ และ บุพการี โดยพระองค์ทรงช่วยเหลือญาติพี่น้องและ บิดามารดา คือเสด็จโปรดพระประยูรญาติให้คลาย ความสงสัยในตัวพระองค์ โปรดพระพุทธบิดาให้ได้ ดวงตาเห็นธรรม ไม่ยึดติดกับความเป็นกษัตริย์ โปรดพระนางพิมพาให้คลายความเศร้าที่พระนาง คิดว่าตนเองถูกทอดทิ้งจากพระสวามี
48
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ทรงโปรดพระราหุลเพื่อให้ได้รับอริยทรัพย์ อันประเสริฐ ทรงระงับข้อพิพาทระหว่างญาติกรณี การแย่งน้ำ�มาทำ�นา และห้ามศึกสงครามระหว่าง พระญาติทั้งสองฝ่าย และทรงสงเคราะห์พระญาติ ด้วยการให้ออกบวช โดยประทานอุปสมบทให้แก่ พระนันทะ พระนางรูปนันทา ซึง่ เป็นพระอนุชาและ พระภคินีต่างพระมารดา ทรงแนะนำ�สั่งสอนจนได้ เป็นพระอรหันต์ทั้งสองพระองค์ ๓.๓ พุทธัตถจริยา นั้นหมายถึงการบำ�เพ็ญ ประโยชน์แก่พระองค์เองและคนอืน่ ในฐานะทรงเป็น พระพุทธเจ้าซึง่ ถือเป็นความรับผิดชอบของพระองค์ สิง่ ทีพ่ ระพุทธองค์ทรงบำ�เพ็ญให้เป็นประโยชน์ แก่พระองค์เอง ได้แก่ การศึกษา ค้นคว้าทดลอง และ ปฏิบัติจนทรงประสบผลสำ�เร็จได้บรรลุความเป็น พระพุทธเจ้าที่เรียกว่ากิจเพื่อการ “ตรัสรู้” นี่เป็น พุทธัตถจริยาที่สำ�คัญที่สุด
49
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ต่ อ มาทรงใช้ สิ่ ง ที่ ต รั ส รู้ ม ากแล้ ว ให้ เ ป็ น ประโยชน์แก่คนอื่นคือ การประกาศเผยแผ่และ ประดิษฐานพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ในโลก เช่น ทรงแสดงธรรมโปรดสรรพสัตว์ที่สามารถโปรดได้ ทรงวางนโยบายการเผยแผ่ พ ระพุ ท ธศาสนาแก่ เหล่าพระสาวกอย่างชาญฉลาด ทรงบัญญัตพิ ระวินยั เพือ่ ป้องกันการถูกทำ�ลาย พระศาสนาจากนักบวชนอกรีต ทรงมอบความเป็น ใหญ่ให้แก่สงฆ์ และสุดท้ายคือทรงฝากพระธรรมวินยั ให้ เ ป็ น ศาสดาแทนพระองค์ เ องเพื่ อ ป้ อ งกั น การ ขัดแย้งของเหล่าพระสงฆ์หลังพุทธปรินิพพาน ๔. ทรงมีสมานัตตตา การวางตนให้พอดีในหน้าทีข่ องตนอย่างเสมอ ต้นเสมอปลาย พระพุทธเจ้าทรงวางพระองค์อย่าง เสมอต้นเสมอปลายในการบำ�เพ็ญกิจทุกอย่าง
50
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เคยปฏิบัติเช่นไรก็ปฏิบัติเช่นนั้นตลอดไม่เคย ละเว้น หรือเลือกปฏิบตั ใิ ห้กบั ใคร สร้างคุณงามความดี สม่�ำ เสมอดัง่ เกลือทีร่ กั ษาความเค็มตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษาในการประกาศพระธรรม พระพุทธเจ้าสม่ำ�เสมอในการสั่งสอนอบรม เหล่าเวไนยสัตว์แค่ไหน ก็ลองสังเกตได้จากแม้ใน คืนสุดท้ายก่อนที่จะปรินิพพานยังทรงเปิดโอกาสให้ สุภัททะปริพาชกเข้าเฝ้าเพื่อไต่ถามปัญหาที่สงสัย เพราะทรงทราบว่าในราตรีสุดท้ายของพระองค์ สุภัททะผู้นี้จะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ซึ่งก็เป็นไป ตามนั้น เรียกได้วา่ พระเมตตาและน้�ำ พระทัยทีจ่ ะมอบ ให้ แ ก่ ทุ ก คนนั้ น มหาศาลและมี ค วามสม่ำ � เสมอ เรือ่ ยมา ตัง้ แต่ครัง้ เมือ่ ทรงตรัสรู้ จนกระทัง่ ดับขันธปรินิพพานไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย
51
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
“สังคหวัตถุ ๔” จึงเป็นหลักธรรมของการอยู่ ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุขและสามารถครองใจ คนได้อย่างดีที่สุด โดยที่พระพุทธองค์ทรงแสดงให้ เห็นด้วยการปฏิบัติหลายลักษณะต่อหลากหลาย บุคคลตั้งแต่ช่วงเวลาตรัสรู้ไปจนถึงวาระแห่งการ ปรินิพพาน ธรรมะนัน้ เป็นของจริง และพระพุทธเจ้าบอก ทางแห่งความสุขและความร่ำ�รวยไว้เมื่อ ๒,๕๐๐ กว่าปีก่อน หากใครนำ�ไปใช้ นำ�ไปปฏิบัติจริง ชีวิต ก็มีแต่ความสุขความเจริญ อย่าช้าหรือลังเลเลย แนวทางดีๆ แบบนี้ต้องรีบไขว่คว้า รีบทำ� เพราะ เวลานั้นไม่เคยคอยใคร
52
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
สังเกตดูดีๆ เถอะ มหาเศรษฐี คนที่มีทรัพย์ อย่างแท้จริงมีพรหมวิหาร ๔ และสังคหวัตถุ ๔ เป็น ฐานสำ � คั ญ และใช้ อ ยู่ ต ลอดเวลาจนเป็ น นิ สั ย จึงอยากให้ลองพิจารณานำ�เรื่องนี้มาใช้กับชีวิต กับ ธุรกิจการค้าของตน กับคนรอบข้าง แล้วจะรู้ด้วย ตัวเองเลยว่า ชีวติ มีแต่เรือ่ งดีๆ สิง่ ดีๆ เข้ามาตลอด เวลา
คิดและทำาถÙกทาง
มี ห รื อ จ ะ ไ ม่ เ ป็ น
“มหาเศรษฐี”
พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า จุดเริ่มต้นของ คนที่ประเสริฐและความสำาเร็จทั้งปวงอยู่ที่ “สัมมาทิฐิ” หรือ การคิด การมองอะไรให้ ถูกมุม ถูกต้องตรงทาง นักปรัชญายุคหลังๆ เพิง่ มาค้นพบหลังพระพุทธองค์เป็นพันปีวา่ คิดถูก ชีวติ เปลีย่ น สุขและรวยก่อน อีกนั่นแหละ
54
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เพราะ “ความคิด” เป็นกระบวนการแรกทีจ่ ะ นำ�เราไปสูค่ วามสำ�เร็จหรือล้มเหลวก็ได้ ขอเพียงเรา พบหรือสร้างกระบวนการคิดที่ถูกต้องให้ ส มองมี ความรูอ้ นั ถูกต้องและเฉียบแหลมประจำ�การอยูเ่ สมอ เราย่ อ มสามารถเลื อ กทางเดิ น และตั ด สิ นใจใน แต่ละย่างก้าวของชีวิตได้ในทิศทางที่ดี ยิง่ ถ้าเรามองถูกมุม เราก็จะสามารถเดินไปบน เส้นทางทีถ่ กู ได้ อันจะทำ�ให้เราพบความสุขมากกว่า ความทุกข์ คนรวยกับคนจน มหาเศรษฐีกับยาจก คนธรรมดากับยอดคน คนดีกบั มหาโจรนัน้ แตกต่าง กันทีค่ วามคิด ถ้าคิดดีคดิ บวกชีวติ จะเดินไปอีกทางที่ สว่าง ถ้าคิดชัว่ ตัง้ แต่แรกชีวติ ก็จะไปอีกทางทีม่ ดื มน
55
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
แต่โปรดเข้าใจไว้ก่อน ไม่ได้กำ�ลังจะบอกว่า ต้องคิดแบบที่บอกเท่านั้น ถึงจะเป็นความคิดที่ถูก ถึงจะเป็น “สัมมาทิฐ”ิ แต่อยากเปิดโอกาสให้ทกุ คน ได้อ่าน ได้คิด ได้พิสูจน์ทดลองด้วยตนเอง ข้อแรกที่อยากให้ทำ�ความเข้าใจ เพื่อให้เกิด สัมมาทิฐิในเบื้องต้นก็คือ ทุกสิง่ ทุกอย่างในชีวติ ของเรา มี “กรรม” หรือการกระทำ�ของเราเองเป็นผู้กำ�หนด ข้อแรกข้อนี้แหละที่จะชี้ชะตาเลยว่าใครจะดี หรือเลว ใครสมควรที่จะได้รับการยกย่องว่าเป็น “มหาเศรษฐี” ถึงแม้ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่มักเชื่อเรื่อง ดวง เชือ่ ในเรือ่ งโชคชะตามากกว่ากรรม โดยส่วนมาก จะเชื่อว่าดวงดาวหรือผู้มีอำ�นาจสิ่งอื่นมีผลต่อชีวิต
56
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เชื่ อ ว่ า ชาติ ก่ อ นมี ผ ลอย่ า งมากต่ อ กรรม ปัจจุบันของเรา เชื่อในเรื่องการสะเดาะเคราะห์แก้ กรรมอะไรต่างๆ การทีจ่ ะเชือ่ เรือ่ งเหล่านี้ จริงๆ แล้ว อาจจะไม่ใช่ปัญหาหรือเรื่องร้ายๆ อะไร แต่ปญ ั หาหรือเรือ่ งร้ายๆ มันจะเกิดขึน้ หากความเชื่อนั้นกลายเป็นตัวสกัดกั้นชีวิต ไม่ให้ได้รบั ความสำ�เร็จ ถ้าเรา “หลงงมงาย” ขาด “ปัญญา” นำ�ทาง เช่น ถ้าเราไปเชื่อในเรื่องแก้กรรม เรื่องการ สะเดาะเคราะห์แบบสุดชีวติ สุดโต่ง แล้ววันหนึง่ หาก ต้องเจอปัญหาใหญ่ในชีวติ ไม่วา่ จะภาวะงานทีก่ �ำ ลัง เสีย่ งอาจโดนไล่ออกได้ตลอดเวลา ไหนจะเรือ่ งคนรัก ที่อาจจะกำ�ลังมีกิ๊ก มีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่ที่ไหน สักแห่ง ความทุกข์ความกังวลประดังเข้ามาทุกด้าน
57
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
แล้วเราก็พยายามหาทางแก้โดยการไปหา เจ้าพ่อเจ้าแม่ พวกเข้าทรง หมอเดาทั้งหลายแล้ว เขาก็บอกให้เราไปแก้กรรมต่างๆ นานา เช่น ไปแก้ดวง ต้องวิ่งไปไหว้ตามวัดต่างๆ ต้องเสียเวลาเป็นวันๆ ทีเดียวกว่าจะไหว้ครบ ตามที่หมอเดาบอก หรือบูชาอะไรก็ไม่รู้บ้าๆ บอๆ หรือให้ไปทำ�อะไรที่คนมีสติเขาไม่ทำ�กันตามเจ้าพ่อ เจ้าแม่สั่ง การไปทำ�บุญนัน้ เป็นสิง่ ทีด่ ี เป็นมงคลต่อชีวติ แต่เราต้องใช้สติพิจารณาด้วยว่าอันไหนเหมาะสม ไม่เดือดร้อนต่อตนเองและผู้อื่นด้วย การเชื่อมาก แบบไม่ไตร่ตรองจนขนาดนัน้ วันๆ ไม่ท�ำ อะไรเพราะ มัวยุ่งกับการแก้กรรมอาจก่อปัญหาใหญ่ได้ เพราะ การแก้ปัญหาที่ตรงจุดนั้นไม่ใช่ไปแก้กรรมที่ไหน
58
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
แต่ ต้ อ งแก้ ไ ขลงลึ ก ไปที่ เ รื่ อ งนั้ น ๆ เหตุเกิดทีไ่ หนเราต้องไปแก้ทนี่ นั่ ด้วย ถึงจะ แก้ได้อย่างแท้จริง ถ้าแก้ไม่ได้ต้องรู้จัก ปล่อยวาง เตรียมรับมือกับสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ ด้วย สติ ด้วยปัญญา ด้วยใจที่สงบ อย่างถ้ามีปัญหาเรื่องงาน เราก็ต้องปรับปรุง ตัวเอง พยายามพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเรามี ข้อผิดพลาดอะไร มีจดุ เสียจุดดีตรงไหน ก็พยายาม แก้ไขทำ�งานให้ดกี ว่าเดิม พยายามทำ�ให้เจ้านายเห็น ว่าเราคือบุคลากรที่มีคุณภาพ หรือไม่ก็เตรียมตัว เสาะหางานใหม่แต่เนิ่นๆ ซึ่งควรเป็นงานที่ดีและมี อนาคตกว่า ยิ่งถ้าเราเลือกงานที่รักได้จะยิ่งดีใหญ่ แบบนี้ต่อให้โดนไล่ออกจริงๆ เราก็จะไม่มีปัญหา อะไรนัก เพราะเราได้พยายามทำ�ทุกอย่างแบบเต็มที่ เต็มกำ�ลังแล้ว
59
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
หรือถ้าเราสงสัยว่าคนรักมีกิ๊กก็ถามไปเลย ไม่ว่าเขาจะตอบยังไงก็ตาม เราก็ควรถามตัวเอง ด้วยว่าเรายังรักยังอยากอยู่กับเขาอีกไหม แก้ที่ “ใจตัวเอง” ก่อนอันดับแรก ถ้าอยากจะคบกันต่อ ก็ตอ้ งให้อภัย ต้องคิดหาทางแก้ อาจต้องลองมองดู จุดเสียของตัวเอง แล้วพยายามเปลีย่ นตัวเองให้ดขี นึ้ กว่าเดิม ปรุงโฉมตัวเองให้น่ามอง ทำ�ให้เขารู้สึก เสียใจที่ต้องสูญเสียเราไปเลย หรือหากเราตัดสินใจไม่ขออยู่กับคนรักอีก ต่อไป ก็อย่ารอช้า รีบฝึกฝน “ใจตัวเอง” ให้เข้มแข็ง เตรียมการการอยู่คนเดียว เพราะสักวันหนึ่งการลาจากแยกทางระหว่าง เรากับคนรักย่อมเกิดขึน้ แน่นอนจะช้าหรือเร็วเท่านัน้ เพราะทุกอย่างในโลกนีม้ เี กิดขึน้ ตัง้ อยู่ ดับไป ทุกชีวติ มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เสือ่ มสภาพตลอดเวลาไม่คงทน
60
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
อาจจะต้องเริ่มหาที่ปรึกษา ศึกษาเข้าใจ ในเรื่องธรรมะให้มากขึ้น ฝึกทำ�สมาธิ วิปัสสนา กรรมฐาน ฝึกใจให้เข้มแข็งพร้อมรับทุกเรื่องราวใน ขณะที่ใจเรายังมีแรงอยู่ บางคนหากลงมือแก้ไขปัญหาอย่างถูกทาง อาจยังพอระงับไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายไปกว่านั้นได้ แต่หลายคนกลับเลือกเดินทางผิด ไปแก้ดวงแก้กรรม เสียเงินเสียทอง แทนที่จะเอาเวลาไปแก้การกระทำ� แก้พฤติกรรม ในที่สุดก็เลยไม่เหลืออะไรให้แก้ แม้แต่ปัญหาดำ�เนินไปจนถึงจุดจบสุดท้าย (ตกงานหรือความรักจบลง) พระพุทธเจ้ายังทรงสอน ให้ เ ราเชื่ อในตนเพราะตนเป็ น ที่ พึ่ ง แห่ ง ตนเอง อย่ า หลงงมงายอย่ า งขาดสติ ไ ม่ คิ ด หน้ า คิ ด หลั ง เพราะตัวเองนั่นแหละจะเดือดร้อน
61
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เราคือผู้กำ�หนดชีวิตตนเอง อย่ามอบอำ�นาจ อันนี้ไปให้ใครง่ายๆ ไม่ว่าจะพวกพ่อหมอแม่หมอ สารพัดผู้ที่อ้างตัวเป็นผู้วิเศษทั้งหลายในโลกหล้านี้ ขอให้มั่นใจเชื่อในกฎแห่งกรรม อันหมายถึง กฎแห่งการกระทำ� เมื่อเราทำ�เช่นนี้ก็ย่อมได้เช่นนี้ เมื่อเราหว่านพืชเช่นไรก็ย่อมได้ผลเช่นนั้น ครูบา อาจารย์ท่านหนึ่งบอกว่า “ถ้ากรรมมันแก้กันได้ แบบนี้กฎแห่ง กรรมของพระพุทธเจ้าก็เป็นหมันน่ะสิ” ถ้าการแก้กรรมแก้ดวงมันมีอ�ำ นาจเปลีย่ นชีวติ ได้จริงๆ ก็แสดงว่ามีอำ�นาจเหนือกฎแห่งกรรมอีก อย่างนั้นหรือ อย่าไปผูกติดหรือโยนอำ�นาจชีวิตของ เราไปให้คนอืน่ อีกเลย ไปเอากลับมาไว้ทตี่ วั เอง แล้ว เดินหน้าควบคุมชีวติ ตนได้แล้ว ทำ�ทุกอย่างให้ดที สี่ ดุ กำ�หนดวางแผนชีวิตให้ได้ แล้วดำ�เนินไปตามนั้น
62
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
หากมีปัญหาเข้ามาก็แก้ด้วยสติและปัญญา อย่าหลงทางไปแก้ดว้ ยวิธอี นื่ ซึง่ บางครัง้ การหลงไป ทำ�พิธีเหล่านี้ก็ทำ�ให้เราเสียเงินเสียทอง คนที่โดน หลอกจนหมดตัวก็มีให้เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ มาแล้ว เราต้องเข้าใจเบือ้ งต้นอย่างถูกต้องว่า การทีเ่ รา จะดี จะสุข จะรวยนัน้ มาจากการกระทำ�ของเราทัง้ สิน้ ทำ�ดีเราต้องได้สกั วัน ทำ�ชัว่ เราต้องพบกับชีวติ ทีต่ กต่�ำ เพราะความชั่วที่เราทำ� “ทำ�ดีได้ดี ทำ�ชัว่ ได้ชวั่ ” เรือ่ งง่ายๆ แบบนีเ้ ด็ก สามขวบก็รแู้ ต่ผใู้ หญ่หลายคนทำ�ไม่ได้ เพราะคิดผิด ตัง้ แต่แรก เพราะคิดผิด จึงทำ�ผิด คิดว่าการโกงคนอืน่ เบียดเบียนคนอืน่ จะทำ�ให้ตนเองรวย เห็นคนอืน่ โกง ได้เราก็โกงได้เช่นกัน
63
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ในเบื้องต้นเพราะไม่เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรม ที่เห็นคนอื่นชั่วและโคตรโกงแต่ทำ�ไมมีเงินมหาศาล เพราะการโกง ทีส่ ขุ และรวยสัน้ ๆ นัน้ มาจากบุญเก่า ที่ทำ�มาซึ่งไม่รู้ว่าชาติไหนมาส่งผล แต่พอกรรมชั่ว ที่ไปโกงเขาส่งผล ที่บอกว่าสุขว่ารวยก็ต้องฉิบหาย ในพริบตา หลายท่านคงได้เห็นได้ยนิ มามาก ยกตัวอย่าง เอาแบบใกล้ ตั ว ก็ ค งเห็ น นั ก การเมื อ งที่ โ กงชาติ โกงแผ่นดินวาระสุดท้ายตายไม่ดที งั้ นัน้ ไม่ตายก็ตดิ คุกติดตะรางไป หรือหนีหัวซุกหัวซุนไม่มีที่ยืนใน สังคมอีก ลองถามตัวเองว่าชีวิตแบบนั้นเขาเรียกว่า “สุข” ว่าดีจริงหรือ
64
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
หากเราเข้าใจถูกต้อง มีความละอายเกรงกลัว ต่อบาปเป็นเบื้องต้น ก็แสดงว่ามาถูกทางรวยแล้ว ต้ อ งลงมื อ ทำ � งานด้ ว ยความขยั น หมั่ น เพี ย รมี ใ จ เป็นกุศลอยู่เสมอ ไม่เอาตัวเองไปยุ่งกับความชั่ว ไม่ไปสร้าง กรรมไม่ดี เชือ่ ว่าพระพุทธเจ้ามีจริง หลักคำ�สอนของ พระพุทธองค์ดีจริงมีคุณประโยชน์ เอาหลักคำ�สอน ของพระพุทธเจ้าไปดำ�เนินชีวติ อย่างถูกต้องตรงทาง ตรงประโยชน์ต่อตนและผู้อื่น เชื่อในกฎแห่งกรรม เชื่อว่าผลแห่งกรรมมีจริง ถ้าเชือ่ ได้แบบนี้ ถูกทาง ถูกธรรม ชีวติ ของ “มหาเศรษฐี” ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
กุ ญ แ จ วิ เ ศ ษ ๒ ดอก
ไขขุมทรัพย์ “มหาเศรษฐี” การที่จะเปิดกล่องขุมทรัพย์นั้นต้องใช้กุญแจฉันใด การทีค่ นธรรมดาจะกลายเป็นมหาเศรษฐีได้ ร่ำารวย ได้ หรือทำาอะไรก็สำาเร็จนั้นก็ต้องมีเคล็ดลับสำาคัญ เช่นกัน
66
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ครูบาอาจารย์ทา่ นบอกว่า พระพุทธเจ้าของเรา ได้มอบหลักธรรมอันเปรียบเสมือนเป็นกุญแจวิเศษ เพือ่ ไขกล่องขุมทรัพย์ “มหาเศรษฐี” เป็นกุญแจวิเศษ ๒ ดอกที่เหล่ามหาเศรษฐีในโลกนี้มีทุกคน กุญแจวิเศษ ๒ ดอกทีว่ า่ นีค้ อื “คาถา หัวใจมหาเศรษฐี” และ “อิทธิบาท ๔” • กุญแจดอกทีห่ นึง่ “คาถาหัวใจมหาเศรษฐี” สำ�หรับ “คาถาหัวใจมหาเศรษฐี” นีค้ งเป็นที่ รู้จักกันดีพอสมควร แต่ยังมีหลายคนที่คิดว่าเป็น คาถาที่แค่สวดแล้วรวย จึงพยายามสวดตลอดแบบ นกแก้วนกขุนทอง แต่คงแปลกใจว่า ทำ�ไมบอกว่า เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์แต่สวดแล้วชีวิตยังไม่ดีเลย ก็จะขอบอกว่า ทีพ่ าเข้าใจกันว่า “คาถาหัวใจ มหาเศรษฐี” เป็นคาถาศักดิส์ ทิ ธิน์ น้ั ถูกต้องแล้วทัง้ ปวง และไม่ใช่ศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาด้วย แต่ศักดิ์สิทธิ์มาก
67
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
แต่ที่หลงทางก็คือ คาถาศักดิ์สิทธิ์ ท่านให้น้อมนำ�ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ไม่ใช่ ให้แค่สวด!!! “คาถาหัวใจมหาเศรษฐี” เป็นหนึง่ ในคำ�สอน ของพระพุ ท ธเจ้ า ที่ ท รงแนะทางแห่ ง ความเป็ น ผูป้ ระเสริฐ ทางแห่งความสุขและรวยเอาไว้ ทีบ่ คุ คล ใดต้องการมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ร่ำ�รวยมี ทรัพย์สนิ เงินทองและเกียรติยศชือ่ เสียง จะต้องปฏิบตั ิ ตามหลักธรรม ๔ ประการนี้ให้ได้ ซึง่ คือ อุ อา กะ สะ โดยจะต้องเข้าใจอย่าง ถ่องแท้แล้วนำ�ไปปฏิบัติให้เกิดผลมากต่อชีวิต ย้ำ� อีกครั้งไม่ใช่แค่สวดอ้อนวอนนะ เรามาดูกันว่าใน แต่ละอักขระในคาถาหมายความว่าอะไรกัน
68
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๑. อุ ย่อมาจากคำ�ว่า อุฏฐานสัมปทา แปลว่า ให้ถึงพร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียรในการแสวงหา ความรูเ้ พือ่ ทำ�งานให้ได้ดี ต้องหนักเอาเบาสูใ้ นหน้าที่ การงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย กิจการทัง้ หลายต้องรูจ้ กั รับผิดชอบให้สำ�เร็จลุล่วง ๒. อา ย่อมาจากคำ�ว่า อารักขสัมปทา แปลว่า ให้ถงึ พร้อมด้วยการรักษาคุม้ ครองทรัพย์สนิ เงินทอง ทีห่ ามาได้ดว้ ยความขยันหมัน่ เพียร ไม่ให้เงินทองรัว่ ไหลมีอันตราย ระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมิให้ เปลืองเงินทองโดยใช่เหตุ และรู้จักทำ�ให้เงินนั้นเกิด ประโยชน์สูงสุดหรือให้เงินนั้นงอกเงยขึ้นด้วยความ ชอบธรรม ไม่ลงทุนอะไรที่เกินกำ�ลัง เพราะนี่คือ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ทีเ่ ลีย้ งตัวเองได้อย่างสุข กายสบายใจไม่ตอ้ งอยูร่ อ้ นนอนทุกข์ มีชวี ติ ทีแ่ สนสุข อยู่กับคำ�ว่า “พอ” ให้ได้
69
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๓. กะ ย่อมาจากคำ�ว่า กัลยาณมิตตา แปลว่า การมีเพื่อนเป็นคนดี ไม่คบคนชั่วเป็นมิตรสหาย เพราะคบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล คบคนจึ ง ต้ อ งดู ห น้ า ว่ า เพื่ อ นเป็ น คนดี ที่ มี ลักษณะไม่เป็นคนปอกลอก ไม่ดีแต่พูด ไม่เป็นคน ชักชวนไปในทางฉิบหาย ชวนกันไปกินเหล้าเมายา เที่ยวกลางคืน มัวเมาในการเล่นและผีการพนัน เข้าสิงจิตใจ พยายามรักษาเพือ่ นดีๆ ถนอมน้�ำ ใจซึง่ กันและกัน ช่วยเหลือค้ำ�จุนกันไปทั้งในทางโลกและทางธรรม รักเพือ่ นเหมือนรักตัวเองก็จะได้เพือ่ นดีๆ มาส่งเสริม กันและกัน มีเพือ่ นดีมหี นึง่ ถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพือ่ น คิดริษยา เหมือนมีเกลือนิดหน่อยด้อยราคา ดีกว่า น้ำ�เค็มเต็มทะเล
70
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๔. สะ ย่อมาจากคำ�ว่า สมชีวิตา แปลว่า การเลี้ยงชีวิตตามสมควรแก่กำ�ลังทรัพย์ที่หามาได้ รู้จักกำ�หนดรายรับและรายจ่าย อย่าให้สุรุ่ยสุร่าย ฟุ่มเฟือยหรืออัตคัดขัดสนจนเกินไป ให้รู้จักใช้เงิน อย่างคุ้มค่าและเหมาะสม รวมถึงสิ่งที่หามาได้ด้วย อย่างชาญฉลาด หากได้ประพฤติปฏิบัติตามหลักหัวใจเศรษฐี สี่ประการ คือขยัน หมั่นรักษา คบหาคนดี มีชีวิต พอเพียง รับรองว่าจะได้เป็น “มหาเศรษฐี” หรือ ผู้ประเสริฐที่สุดสมใจแน่ ขอแนะนำ�ให้จ�ำ ไว้อกี คำ�ๆ หนึง่ ว่า “เส้นทาง ความสำ � เร็ จ ที่ ยิ่ ง ใหญ่ เ ราเดิ น คนเดี ย วไม่ ไ ด้ ” ดังนั้นการทำ�งานของคนทุกคนย่อมต้องเกี่ยวข้อง กับคนอื่นๆ เสมอ ต่อให้เราเป็นคนที่ต้องทำ�งานใน ลักษณะอาชีพที่เป็นเอกเทศแค่ไหนก็ตาม
71
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เช่น ศิลปิน นักวาดภาพ นักเขียนหรือคนทีม่ ี โลกส่วนตัวสูงก็ยังต้องมีวินัยมีกรอบในการทำ�งาน และทุกอาชีพ ทุกการทำ�งานต้องข้องเกีย่ วกับบุคคล อื่นๆ การที่จะสามารถทำ�งานโดยไม่หวังพึ่งคนอื่น หรือร่วมงานกับใครเลยนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ ในการทำ�งานให้ประสบความสำ�เร็จและการ ทำ�งานร่วมกับคนอืน่ ๆ จึงต้องมีวธิ กี ารทีถ่ กู ต้องเพือ่ ให้ เ กิ ด ความสุ ข และความราบรื่ นในการทำ � งาน ร่วมกันให้ได้ เริ่มที่ตัวเราเองก่อนเสมอ เราต้องหา กุญแจวิเศษของเราให้เจอ เพือ่ เปิดประตู “มหาเศรษฐี” ให้ได้
72
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
• กุญแจวิเศษดอกที่สองของ “มหาเศรษฐี” คือ อิทธิบาท ๔ อิทธิบาท ๔ เป็นหลักธรรมเปรียบเสมือนกุญแจ ที่ไขประตูสู่ความสำ�เร็จทั้งในชีวิตและงานให้เจริญ รุง่ เรืองไม่มตี กต่� ำ มีแต่เจริญก้าวหน้ายิง่ ๆ ขึน้ ไป ไม่วา่ งานที่ทำ�นั้นจะเป็นงานที่ทำ�คนเดียวหรืองานที่ทำ� ร่วมกันเป็นหมู่คณะ ซึ่งถ้าหากใครเข้าใจโดยทะลุแบบฝังลึก และ เพียรปฏิบัติไม่ให้ข้อใดข้อหนึ่งลดน้อยถอยลง ทำ� ทุกวัน ทำ�ทุกงานจนกลายเป็นนิสัย ให้เหมือนกับ นักธุรกิจระดับพันล้าน หมืน่ ล้าน ทีเ่ ขาเรียกว่า “นิสยั มหาเศรษฐี” แล้ว ก็จะนำ�พาชีวติ ให้ประสบผลสำ�เร็จ ตามปรารถนา ซึ่งมีทั้งสิ้น ๔ ข้อร้อยเรียงกัน
73
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๑. ความพอใจ (ฉันทะ) หมายถึงความพอใจ รักใคร่ในสิง่ ทีค่ ดิ จะทำ�หรือสิง่ ทีก่ �ำ ลังทำ�อยู่ และเป็น ข้อปฏิบัติสำ �คัญที่สุดที่จะนำ �ไปสู่ความสำ � เร็จได้ ในที่สุด ๒. ความเพียร (วิริยะ) หมายถึงความขยัน หมัน่ เพียรด้วยความพยายามอย่างต่อเนือ่ งจนกว่าจะ ประสบผลสำ�เร็จ คนทีท่ �ำ อะไรไม่ส�ำ เร็จหรือทำ�อะไร ไม่เป็นชิ้นเป็นอันมักจะขาดความเพียรข้อนี้ ๓. ความตัง้ ใจ (จิตตะ) หมายถึงการเอาใจใส่ ต่อหน้าที่การงานอย่างกระตือรือร้น ๔. ความไตร่ตรอง (วิมงั สา) หมายถึงการรูจ้ กั ใช้สติปัญญาพิจารณาใคร่ครวญให้ถ้วนถี่รอบคอบ ถ้าพบข้อบกพร่องหรือพบปัญหาก็จะได้ทบทวนแก้ไข ได้ทันท่วงที
74
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เราต้องรู้เท่าทันโลก อย่าตกยุคสมัย ธรรมะ ของพระพุทธองค์เป็นของจริงแท้ ใช้ได้กับทุกยุค ทุกสมัย โดยเฉพาะในโลกปัจจุบนั คนทีเ่ ป็นมหาเศรษฐี คนทีท่ �ำ อะไรก็ส�ำ เร็จโดยง่าย และเกิดผลมาก เกิดผล เร็วนั้น เพราะมีคอนเนคชั่นหรือคนที่สนิทสนมอย่าง จริงใจ ยินดีช่วยเหลือเพื่อสนับสนุนต่อยอดธุรกิจ การค้า หรือการทำ�งานให้ลุล่วงโดยง่าย ซึ่งก็คือ กัลยาณมิตรในข้อ ๓ ของคาถาหัวใจมหาเศรษฐีนนั่ เอง เห็นไหมพระพุทธองค์บอกทางไว้นานแล้ว อยู่ที่เรา เข้าใจและทำ�ได้หรือไม่เท่านั้น การทีจ่ ะมีคอนเนคชัน่ ดี ต้องเริม่ จากการสร้าง กัลยาณมิตรทีด่ เี สียก่อน ดังคำ�ครูบาอาจารย์ทกี่ ล่าว ว่า “กัลยาณมิตรดี มีชยั ไปแล้วกว่าครึง่ ” เราลองมา พิจารณาร่วมกัน ทำ�อย่างไรชีวติ นีถ้ งึ จะมีกลั ยาณมิตร ที่ดีมาเกื้อหนุนกัน
75
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๑. สลายอัตตาด้วยการยอมรับคนอื่นก่อน แล้วคนอื่นก็จะยอมรับตัวเรา นิสัยที่ติดตัวเรามา ตั้งแต่เด็กเป็นสิ่งที่ฝังแน่นอยู่ในกมลสันดาน ในวัยเด็กเราจะสร้างรูปแบบความคิดของ ตนเองขึน้ มาแล้วยึดมัน่ ถือมัน่ เอาไว้ และต้องการให้ คนอืน่ ยอมรับในตัวของเรา ในรูปแบบทีเ่ ราคิด หรือ เป็นไปในรูปแบบวัฒนธรรมของเราเอง การสลายอัตตาในตัวของตัวเองเป็นเรื่องดีที่ น่ายกย่องมาก และเห็นได้ชัดว่าเกิดประโยชน์มาก เพียงใดในงานนั้น สลาย “ตัวกู ของกู” ให้ได้มาก ที่สุด สิ่งดีๆ คนดีๆ จะเข้ามาในชีวิตอย่างแน่นอน ๒. ตั้งใจฟัง แล้วความสำ�เร็จจะเกิดขึ้นเอง คำ�ว่า “ฟัง” นั้นมีพลังมากและมีโอกาสทำ�ให้คน ประสบความสำ�เร็จได้
76
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ยกตัวอย่างเช่น “กาละ” ซึง่ เป็นบุตรชายคนโต ของสุ ทั ต ตะ หรื อ อนาถบิ ณ ฑิ ก เศรษฐี ผู้ โ ด่ ง ดั ง กาละบุตรชายเป็นคนเจ้าสำ �ราญ ตอนแรกพ่อ ต้องการให้เข้าใจธรรมเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น แต่กาละ ไม่สนใจจนพ่อต้องจ้างไปฟังธรรมด้วยเงิน ๑๐๐ กหาปณะ (๔๐๐ ร้อยบาท) ไปถึงวัดพระเชตวัน ก็ไปแบบอย่างนั้น ไม่ได้ตั้งใจฟังธรรมเลย เอาแต่ นอนเล่น ในใจก็คิดถึงแต่เงินที่จะได้มาโดยง่าย พอตกอี ก วั น สุ ทั ต ตะผู้ เ ป็ น พ่ อ ก็ ห ลอกล่ อ ด้วยเงินอีก คราวนี้เป็นเงินถึง ๑ พันกหาปณะ แต่ คราวนีต้ อ้ งจำ�ข้อธรรมมาให้ได้ ๑ บทก็พอ ก็เลยทำ�ให้ น้อมจิตตัง้ ใจฟังให้มากขึน้ ซึง่ พระพุทธเจ้าทราบดีวา่ กาละมาเพื่อจุดประสงค์ใดจึงทำ�อาการให้กาละจำ� บทธรรมไม่ได้
77
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
นายกาละก็พยายามตั้งใจฟังต่อไปเรื่อยๆ คราวนีเ้ มือ่ ตัง้ ใจฟังอย่างจริงจัง ไม่ได้คดิ ถึงเรือ่ งเงิน ก็เลยเข้าใจพระธรรมทีแ่ สดงอย่างแจ่มแจ้ง ในทีส่ ดุ ก็ บรรลุเป็นอริยบุคคลชั้นโสดาบัน ไม่มีความคิดที่จะ รับจ้างพ่อไปฟังธรรมอีกต่อไป การตัง้ ใจฟังคนอืน่ แม้ผนู้ นั้ จะไม่ใช่ผใู้ หญ่หรือ ครูบาอาจารย์ก็ตาม ถือเป็นคำ�แนะนำ�และเป็นข้อ ปฏิบตั ใิ ห้เกิดผลดี เกิดผลบุญได้ แม้แต่ในโลกของการ ทำ�งานด้วย เพราะเมือ่ เราได้ตง้ั ใจฟังในสิง่ ทีค่ นอืน่ พูด เราจะได้ข้อคิดหรือแนวคิดดีๆ กลับมาเสมอ เทคนิคการฟังทีด่ นี นั้ มีหลักง่ายนิดเดียว ก็คอื “ใส่ใจฟังให้เต็มที”่ เวลาทีจ่ ะฟังใครพูด ต้องพยายาม หลีกเลี่ยงบรรดาสิ่งรบกวนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น เครือ่ งมือสือ่ สาร โทรศัพท์ โซเชียลเน็ตเวิรก์ ทัง้ หลาย แล้วหันมาสนใจฟังในทุกประโยคที่คนอื่นกำ�ลังพูด กับเรา
78
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
การเป็ น ผู้ ฟั ง ที่ ดี จ ะต้ อ งใช้ หู ม ากกว่ า ปาก ที่สำ�คัญต้องขจัดสิ่งรบกวนในการฟังออกไปด้วย และทีส่ �ำ คัญในขณะทีฟ่ งั คนอืน่ พูดให้ตดั เอาความคิด ใดๆ ของตนเองในขณะนั้นทิ้งไปก่อน คนทีถ่ อื อัตตาในตัวเองอยู่ ต่อให้สภาพแวดล้อม เงียบสงบแค่ไหนก็จะไม่มที างได้ยนิ ในสิง่ ทีผ่ พู้ ดู กำ�ลัง พูดแน่นอน ทำ�ให้เสียเวลาเปล่าทั้งสองฝ่าย ๓. ใจนิง่ และพร้อมรับมือการถูกนินทา และ โดนแกล้ง ในการทำ�งานทุกอย่างในโลก ไม่วา่ จะทำ� อะไรก็อาจจะมีเรือ่ งให้ตวั เราถูกเพือ่ นร่วมงานนินทา ได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องการมาสายหรือมาเช้า ถ้า หากเรามาสายก็ อ าจจะโดนนิ น ทาว่ า เราไม่ มี ความรับผิดชอบ หากมาเช้าก็อาจจะโดนนินทาว่า เราอยากได้ความดีความชอบ ฯลฯ
79
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
การรับมือกับคำ�นินทานั้นอย่างแรกให้ถือคิด เสียว่า “มารไม่มีบารมีไม่เกิด” เวลาที่เราทำ�งาน ทุกชนิดนัน้ ต้องมีอยูแ่ ล้วทีจ่ ะมีคนแกล้ง คนไม่พอใจ คนอิจฉาตาร้อน หากมองให้ออกและมองให้เป็นธรรมชาติ มอง บวกเสมอ เราจะเห็นว่า “สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้น กำ�ไรเสมอ” แม้ในคำ�นินทานั้นก็มีประโยชน์ให้เรา นำ�มาพิจารณาว่าสิ่งที่คนอื่นเขาพูดถึงตัวเรานั้น เป็นความจริงหรือไม่ ถ้าจริงก็ควรนำ�ไปปรับปรุง แก้ไข และถ้าเรื่องนั้นไม่จริงก็ไม่จำ�เป็นต้องใส่ใจ เข้าทำ�นองที่ว่า ถูกชมก็เข้าท่า ถูกด่าบ้างก็ไม่เลว จิตใจจะได้ผอ่ งใสเบิกบานอยูเ่ ป็นนิจ ไม่ตอ้ งขุน่ ข้อง หมองใจอันเป็นเหตุให้ทำ�งานไม่เป็นสุขและเสีย สุขภาพจิตโดยใช่เหตุ
80
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๔. วิจารณ์ให้เป็น เหตุเพราะความหวังดี คำ�วิจารณ์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการทำ�งานที่เรา ต้องได้รบั และมอบให้ผอู้ นื่ ไม่วา่ จะเป็นการประเมิน อย่างเป็นทางการ หรือเป็นการพูดคุยประจำ�วันของ เจ้านายกับลูกน้องก็ตาม การที่คำ�วิจารณ์จะได้ผล มากแค่ไหนคือการทีเ่ รายอมรับคำ�วิจารณ์ได้กม็ กั จะ ดูที่ “เจตนา” ว่า ผู้ที่พูดเขาพูดเพราะความหวังดี หรือพูดเพื่อความสะใจ ถากถาง หลวงปูด่ ู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ครูบาอาจารย์ที่สำ�คัญคนหนึ่ง สอนเอาไว้เกีย่ วกับการพูดจา โดยท่านบอกว่า “คนดี เขาไม่ว่าใคร ถ้าแกไปว่าเขา แกก็จะเป็นคนไม่ดี” หลวงปู่ท่านมักกล่าวถึงมงคลชีวิตที่สำ�คัญ ที่ท่านอยากให้ลูกศิษย์ได้นำ�ไปปฏิบัติ
81
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
นั่ น คื อ มงคล ๓๘ ประการข้ อ หนึ่ ง คื อ “วาจาสุภาษิต” คือพูดแต่สงิ่ ทีเ่ ป็นมงคล คนส่วนมาก มักสร้างกรรมทางวาจาเพราะกรรมนี้สร้างได้ง่าย แต่ เ ขาไม่ รู้ ว่ า ผลของกรรมเมื่ อ ส่ ง ผลจะร้ า ยแรง เพียงไร คำ�พูดนัน้ สำ�คัญมาก บางคนพูดไม่ดกี บั ผูอ้ นื่ จนเป็ น เหตุ ใ ห้ ถึ ง กั บโกรธเกลี ย ดกั น ชั่ ว ชี วิ ต ก็ มี แม้คำ�คำ�นั้นจะเป็นคำ�วิจารณ์ด้วยความหวังดีก็ตาม หลวงปู่ดู่ท่านสอนศิษย์เสมอว่า “อย่าไปพูดไม่ดกี บั ใครเขา ถ้ามีคนมาว่าหรือ ด่าเราแต่เราไม่วา่ หรือด่าเขาตอบ มันก็จะไม่มเี รือ่ งกัน แต่ถ้าแกไปด่าเขาเมื่อไร นั่นแหละเรื่องใหญ่” “อย่ าไปพู ด ทำ � ลายความหวั ง ของใครเขา เพราะนัน่ อาจจะเป็นความหวังเดียวทีเ่ ขามีอยู่ ถ้าแก ไปพูดเข้าเมื่อไร กรรมใหญ่จะตกแก่ตนเอง
82
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
คนทีช่ อบด่าหรือใส่รา้ ยผูอ้ นื่ รวมไปถึงการพูด ไม่ดตี า่ งๆ กับคนอืน่ นัน้ กรรมจะมาเร็วมาก เขาผูน้ นั้ จะเป็นคนทีม่ ศี ตั รูทงั้ ภายนอกและภายใน ไม่เป็นทีร่ กั ของคนทั่วไป ตรงกันข้ามกลับเป็นคนที่น่ารังเกียจแก่คน ทั้งหลาย กรรมนี้จะทำ�ให้เขามีเรื่องและเดือดร้อน อยู่เสมอๆ ทั้งทางกายและทางใจ บางคนทำ�กรรมนี้ไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้ตัว พอกรรมดีที่ตนเคยสร้างมาแต่ปางก่อนหมดหรือ เหลือน้อยลง กรรมชั่วที่สร้างนี้ก็จะสนองเขาอย่าง หนักทั้งในภพนี้และภพหน้า ในภพนี้เวลาที่กรรม ดีแต่ปางก่อนจะส่งผลให้มีความสุขหรือมีโชคลาภ กรรมชั่วก็จะเข้ามาตัดรอนกรรมดี
83
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เหมือนอย่างเช่น เขาผู้นั้นซื้อหวยเลข ๕๖ หวยก็จะออกเลข ๕๕ หรือ ๕๗ บางทีกต็ ดิ ต่อการค้า หรืองานต่างๆ มองเห็นอยูว่ า่ งานนีไ้ ด้แน่นอน แต่พอ ถึงเวลาก็ไปไม่ทนั บ้าง ไปแล้วไม่เจอหรือมีเหตุตา่ งๆ มาทำ�ให้มีอุปสรรคอยู่เสมอๆ ซึง่ ความจริงแล้วผูน้ น้ั ควรจะประสบความสำ�เร็จ หรือมีโชคทีค่ วรได้ประมาณเป็นล้านๆ เขาก็จะได้แค่ หมืน่ สองหมืน่ หรือโชคครัง้ นีจ้ ะได้หลายหมืน่ แต่เขา กับได้เพียงไม่กพ่ี นั บาทหรือเพียงได้ไม่กร่ี อ้ ยเท่านัน้ เอง ทั้ ง หมดนี้ ก็ เ ป็ น เพราะผลกรรมทางวาจาที่ ก ล่ า ว คำ�ร้ายทิ่มแทงใจคนอื่นเป็นนิจ...” ในโลกของการทำ�งานนั้นเราอาจพลั้งเผลอ วิพากษ์วิจารณ์คนอื่นอย่างแรงๆ โดยบางทีไม่อาจ ทราบว่าเราได้ก่อบาปหนักขึ้นไม่รู้ตัว
84
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
การปฏิบตั ติ ามคำ�สอนด้วยการมีวาจาสุภาษิต ดังคำ�สอนของหลวงปูด่ กู่ ็คือ หากจะวิพากษ์วิจารณ์ ใครก็ ค วรพู ด แต่ สิ่ ง ที่ เ ป็ น จริ ง และแสดงออกมา ให้ไพเราะอ่อนหวาน จะเป็นการเอาชนะใจเพือ่ นร่วมงาน ได้ดีที่สุด การวิจารณ์นนั้ ก็จะไม่เป็นการสร้างบาปต่อกัน และกลายเป็นบุญได้ เมื่อเขาคนนั้นได้ตอบสนอง กลับมาเป็นการปรับปรุงตัวและพัฒนาตนเองให้ดี ขึ้นต่อไป ๕. ประสานงานสิบทิศด้วยทางสายกลาง การ ทำ�งานในแต่ละวัน อย่ามัวแต่ท�ำ งานจนหลงลืมสร้าง ความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน เพราะไม่มีใคร เก่งอยูไ่ ด้คนเดียว แท้ทจี่ ริงเราจะต้องอาศัยผูร้ ว่ มงาน จากทุกฝ่ายอยู่เสมอ
85
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ดังนั้นอย่ามัวแต่ทำ�งาน แต่จงร่วมงานและ สร้างสัมพันธ์กบั คนด้วยเพือ่ ก่อให้เกิดสภาวะ “งานก็ สัมฤทธิ์ ชีวิตก็รื่นรมย์ คนก็สำ�ราญ งานก็สำ�เร็จ” การใช้ทางสายกลางในการทำ�งานและการ ดำ�รงชีวิตควรแบ่งการทำ�งานและการอยู่ร่วมกับ ผู้อื่นแบบ ๕๐-๕๐ คืองานกับชีวิตจะต้องสมดุลกัน คนที่บ้าทำ�งานในเนื้องานของตนเองมากเกินไป สิ่งที่ได้กลับมาก็คือความเครียดและสุขภาพไม่ดี หวั ง ว่ า คงเข้ าใจแล้ ว สำ � หรั บ กุ ญ แจวิ เ ศษ ๒ ดอกนี้ว่าดีอย่างไร และต้องใช้อย่างไร สำ�หรับ คนที่ไม่มีกุญแจวิเศษนี้ มีข่าวดีจะบอกเพิ่มก็คือ กุญแจวิเศษสองดอกนี้ ทุกคนสร้าง ขึ้นมาเองได้
ม ร ร ค ๘ น ำา ท า ง
“มหาเศรษฐี”
ทำาไมถึงบอกว่ามรรค ๘ นำาทาง “มหาเศรษฐี” ขอให้ ตัง้ ใจอ่านไปก่อนให้จบ แล้วจะอธิบายเฉลยให้ทราบ กันในตอนท้าย “มรรค ๘” คือข้อปฏิบัติให้พ้นทุกข์ตามที่ พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ “มรรค” นั้นแปลว่า ทาง การเดินทางใดๆ ให้ไปสู่จุดมุ่งหมายย่อมต้องอาศัยเส้นทางเพื่อก้าว เดินให้ถึงจุดหมายปลายทาง
87
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เมื่อปลายทางคือความพ้นทุกข์ที่แท้จริง ก็ จำ�เป็นต้องดำ�เนินรอยตามทางที่ตรงที่สุด เร็วที่สุด และสะดวกที่สุด หากมัวคิดมากสงสัยหรือใช้วิธี เลี้ยวลดก็ย่อมเดินทางถึงจุดหมายได้ยาก ส่วนประกอบ ๘ ประการของมรรค ๘ คือ ๑. เห็นชอบ (สัมมาทิฐิ) สัมมาทิฐินั้นเปรียบ เหมือนเข็มทิศ การจะเดินทางให้ถูกต้องมีเข็มทิศ คอยชีท้ างทีถ่ กู ต้อง ความเห็นชอบนีก้ ค็ อื การมองเห็น โลกทุกอย่างตามความเป็นจริง รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ในโลกนี้เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน คนที่เคยจนก็ร่ำ�รวยได้ คนที่ ร่ำ � รวยได้ ก็ จ นลงได้ เ ช่ น กั น หากตั้ ง อยู่ ใ น ความประมาทและเห็นผิด ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เพียงแค่ มองให้เห็นความจริงในข้อนี้ก็เท่ากับการปลดล็อก กุญแจอันใหญ่ที่พันธนาการชีวิตเราไว้ และพร้อม จะก้าวเดินไปสู่การหลุดพ้นทุกข์ที่แท้ได้
88
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๒. ดำ�ริชอบ (สัมมาสังกัปปะ) ดำ�ริชอบแปล ง่ายๆ ว่า “คิดดี” ๓ ประการได้แก่ - คิดตรึกตรองถึงแต่สงิ่ ทีเ่ ป็นกุศล ได้แก่ คิด ทีจ่ ะเสียสละความสุขของตนเองเพือ่ คนอืน่ ปรารถนา ให้คนอื่นพ้นทุกข์ ยินดีเมื่อคนอื่นมีความสุข และ รู้จักปล่อยวาง - คิดที่จะให้อภัยผู้อื่นได้ตลอดเวลา ไม่ ขัดเคือง ไม่มุ่งทำ�ร้าย ไม่ต้องการเบียดเบียนใคร จะช่วยให้จิตใจสบายปลอดโปร่ง - คิดที่จะออกจากความอยากให้ได้ คือ ความนึกคิดในทางที่จะละออกจากกาม พยายาม ทำ�ลายกิเลสตัณหาของตนเองให้หมดไปให้ได้ ๓. เจรจาชอบ (สัมมาวาจา) ประกอบด้วย การไม่พดู เท็จหลอกลวงใคร ไม่พดู ส่อเสียดให้คนอืน่ เกิดความขัดเคืองใจ ไม่พดู หยาบคายให้ระคายเคือง ความรู้สึกใคร และไม่พูดเพ้อเจ้อให้ผู้อื่นต้องเสีย เวลาฟังโดยไร้ประโยชน์
89
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๔. กระทำ�ชอบ (สัมมากัมมันตะ) ได้แก่ การ ลงมือกระทำ�เพือ่ การละเว้น ในการไม่ฆา่ สัตว์ เพราะ สัตวโลกทุกชนิดย่อมรักชีวิตของตนไม่ต่างจากตัว ของเราเอง ไม่ลงมือลักทรัพย์ใคร เพราะทุกคน ย่อมหวงแหนทรัพย์ที่ตนเองอุตส่าห์หามาได้ และ ไม่ประพฤติผิดในกาม เพราะรู้ว่ามนุษย์ทุกคนย่อม รักหวงแหนในคู่ครองของตนเอง ๕. เลี้ยงชีพชอบ (สัมมาอาชีวะ) การงดเว้น จากการหาเลี้ ย งชี พ โดยการเบี ย ดเบี ย นผู้ อื่ น ไม่วา่ ทางกาย วาจา ใจ ทีเ่ รียกว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ ประกอบอาชีพทีม่ งุ่ เอือ้ ประโยชน์ให้แก่ผอู้ นื่ เป็นหลัก และตนเองสามารถดำ�รงชีวิตอยู่ได้ไม่ลำ�บากจาก อาชีพนั้น
90
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๖. พยายามชอบ (สัมมาวายามะ) ความ พยายามชอบนั้นหมายถึงความพยายามระมัดระวัง ใน “จิต” ของตนเองที่จะไม่ให้เกิด และพยายาม จะทำ�ให้เกิดในสิ่งต่อไปนี้ เพียรระวัง หรือเพียรปิดกั้น คือเพียรระวัง ยับยัง้ บาปอกุศลธรรมความชัว่ ทีย่ งั ไม่เกิดมิให้เกิดขึน้ เพียรละ หรือเพียรกำ�จัด คือเพียรละบาป อกุศลธรรมที่เกิดขึ้นมาแล้วให้ขยายตัวอีก เพียรเจริญ หรือเพียรก่อให้เกิด คือเพียรทำ� กุศลธรรมคุณงามความดีที่ยังไม่เกิดให้เกิดมีขึ้น เพียรรักษา คือเพียรรักษากุศลธรรมคุณงาม ความดีทเี่ กิดขึน้ แล้วให้ตงั้ มัน่ และให้เจริญยิง่ ๆ ขึน้ ไป
91
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
๗. ระลึกชอบ (สัมมาสติ) สติ ก็คอื ความรูส้ กึ ตัว รู้ตนเองว่ากำ�ลังทำ�อะไรอยู่ในทุกขณะจิต ไม่เป็น คนเผลอ การไม่เผลอการรู้ตัวอยู่เป็นประจำ�จะทำ� ให้หลีกได้จากการกระทำ�ความชั่ว เป็นหลักธรรมที่ เรียกว่า “สติปฏั ฐาน” แบ่งออกเป็น ๔ อย่าง กาย เวทนา จิต ธรรม คือระลึกได้เมื่อรู้สึกสบายหรือ ไม่สบายก็รู้ตัวอยู่ แต่ไม่ยึดติดกับความไม่สบายนั้น จิตระลึกได้เมือ่ รูส้ กึ สุขหรือทุกข์ หรือเฉยๆ ก็ รับรู้ได้ระลึกได้ว่าจิตกำ�ลังเศร้าหมองหรือผ่องแผ้ว อยู่ก็รับรู้ได้ และระลึกได้ว่าอารมณ์อะไรกำ�ลังผ่าน เข้ามาในจิตใจ เมือ่ รับรูแ้ ล้วก็เพียงแต่รแู้ ละปล่อยวาง ๘. ตั้งจิตมั่นชอบ (สัมมาสมาธิ) เป็นความ ตั้งใจมั่นโดยถูกทาง ที่เหนือกว่าสมาธิเพียงเฉยๆ โดย “สมาธิ” กับ “สัมมาสมาธิ” มีความแตกต่าง กัน
92
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
สมาธิ จ ะเป็ น เพี ย งการถื อ เอาอารมณ์ ใ ด อารมณ์หนึง่ ทำ�ให้แน่วแน่อยูใ่ นอารมณ์นนั้ ถ้าจิตจับ ทีเ่ รือ่ งร้ายมาเป็นอารมณ์แน่วแน่อยูใ่ นเรือ่ งนัน้ สมาธิ นั้นก็นับเป็นสมาธิได้แต่ไม่เป็นไปเพื่อสร้างสรรค์ เช่น การมีจิตจดจ่ออยู่กับการมุ่งทำ�ร้ายผู้อื่นก็เรียก ได้ว่ามีสมาธิ แต่ไม่ใช่สัมมาสมาธิ ส่วนคำ�ว่าสัมมาสมาธิหมายถึงการยึดเรื่องดี มาเป็นอารมณ์แน่วแน่ อยูใ่ นเรือ่ งทีเ่ ป็นกุศลเป็นบุญ สมาธินนั้ จึงจะยังประโยชน์ให้ส�ำ เร็จได้ในทุกๆ อย่าง หนทางแห่งการดำ�รงชีวิตอย่างรู้แจ้ง ที่เรียกว่า มรรค ๘ จะมีสติเป็นพื้นฐาน ด้วยการฝึกสตินั้นสามารถพัฒนาสมาธิจิต ซึ่งจะช่วยให้บรรลุถึงปัญญา
93
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เพราะสั ม มาสมาธิ จึ ง สามารถบรรลุ ถึ ง สัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ และสัมมาวายามะ ปัญญาความเข้าใจ ซึ่งพัฒนาขึ้นนั้นสามารถกำ�จัดความไม่รู้ (อวิชชา) ได้ในที่สุด ในทางปฏิบัตินั้น พระพุทธเจ้าทรงอุทิศตน สัง่ สอนตลอดช่วงเวลา ๔๕ ปี คำ�สอนของพระองค์ มีสว่ นเกีย่ วข้องกับอริยมรรค ๘ นีไ้ ม่ทางใดก็ทางหนึง่ พระองค์ทรงอธิบายทางสายนีด้ ว้ ยวิธกี ารและ ใช้คำ�พูดที่แตกต่างกันไปให้สอดคล้องกับระดับการ พัฒนาตามความแตกต่างของบุคคล ตามศักยภาพ ในการเข้าใจและตามได้ทันของบุคคลเหล่านั้น ซึ่งเราต้องทำ�ความเข้าใจว่า “องค์” หรือ ส่วนประกอบ ๘ ประการของทางสายกลางนี้ต้อง นำ�ไปปฏิบัติ “ทีละข้อ” โดยเรียงตามลำ�ดับ
94
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
องค์ต่างๆ เหล่านั้นจะต้องพัฒนาให้มีขึ้น พร้อมๆ กัน มากบ้างน้อยบ้างตามแต่ขีดความ สามารถของแต่ละบุคคลที่จะให้เป็นไปได้ มาถึงตอนนี้ดังที่กล่าวไว้ว่ามรรค ๘ นำ�ทาง มหาเศรษฐีได้จริงไหม จะพิสจู น์ให้ดดู ว้ ยเรือ่ งจริง ของจริง ประสบการณ์ จริงสักตัวอย่างหนึ่ง เป็นเรื่องของมหาเศรษฐีไทย ที่ชื่อ คุณทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ เจ้าของพฤกษา เรียลเอสเตท ทีส่ ร้างหมูบ่ า้ นขายในนามบ้านพฤกษา และอีกหลายชื่อทั่วประเทศ จากลูกชายคนขายกระเพาะปลาที่จนแต่มี คุณธรรม จนกลายมาเป็นมหาเศรษฐีมเี งินเป็นแสน ล้านบาทที่นำ�มรรค ๘ มาใช้กับชีวิตและธุรกิจ จาก คนที่ไม่มีอะไรเลยในชีวิต เกิดมาก็ยากจน
95
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
และเพราะจนเลยต้องหยุดเรียนหนังสือไป ทำ�งานเป็นลูกจ้างเขา เพราะรักดีใฝ่ดี จึงพยายาม หาทางเรียนศึกษาผู้ใหญ่ จนสอบและเรียนจบ มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศ จบออกมาก็ เ ป็ น ลู ก จ้ า งสั่ ง สมเก็ บ เกี่ ย ว ประสบการณ์จนเข้าที่เข้าทาง ก็ออกมาสร้างธุรกิจ ของตัวเองโดยใช้ธรรมะนำ�ทาง ยึดเอาคำ�สอนของ พระพุทธเจ้าเป็นที่ตั้งจนกลายมาเป็นมหาเศรษฐี ของเมืองไทยในวันนี้ หลายปีที่ผ่านมา เมื่อคุณทองมาได้รับเชิญ ไปพูดหรือแสดงความคิดเห็นทีไ่ หนก็ตาม ก็มกั จะมี คำ�ถามหนึง่ อยูเ่ สมอว่า ทำ�อย่างไรถึงรวยและประสบ ความสำ�เร็จได้ ซึ่งต่อมาเขาก็ค้นพบว่าธรรมะของ พระพุทธเจ้าคือหลักการสำ�คัญที่ทำ�ให้เขามีวันนี้ได้ เขาเคยบอกว่า
96
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
“ในช่วง ๒-๓ ปีหลังมานี้ทำ�ให้ผมได้พบว่า จริงๆ แล้วที่สำ�เร็จได้เป็นเพราะเราเดินตามหลัก มรรค ๘ เมื่อก่อนเราทำ�มาโดยอัตโนมัติ ทำ�โดยเข้าใจ บ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ก็สามารถ ประคองชีวิตไปได้เรื่อยๆ” ในความเป็นจริงคุณทองมาเริม่ สนใจอ่านและ ศึกษาธรรมะตัง้ แต่สมัยยังเรียนศึกษาผูใ้ หญ่ สมัยนัน้ มักจะไปนัง่ อ่านตามศาลาวัด ไปนัง่ ตามวัดเบญจมบพิตร วัดโพธิ์ วัดพระแก้วบ้าง ซึมซับมาเรื่อยๆ อ่านมา เป็นช่วงๆ มากกว่ายีส่ บิ ปี จนกระทัง่ เริม่ มาทำ�ธุรกิจ รับเหมาก่อสร้างที่เริ่มมีปัญหามากขึ้น ทุกครั้งที่ เครียดๆ กลุม้ ใจ แก้ปญั หาไม่ออก ก็จะหยิบหนังสือ ธรรมะมาอ่ า นแก้ เ ครี ย ด จะช่ ว ยให้ ผ่ อ นคลาย สบายใจขึ้น
97
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
“....อ่านแบบเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่กท็ �ำ ให้ เราได้ซมึ ซับ ใจเราก็คอ่ ยๆ พัฒนา ค่อยๆ มีสติ สมาธิ จนค่อยๆ แก้ไขปัญหาไปได้ทีละเรื่อง สมัยก่อนเคยอ่านธรรมะ ทีพ่ ระท่านบอกว่า ศีล สมาธิท�ำ ให้รวยทำ�ให้คา้ ขายเจริญรุง่ เรืองได้ เราก็ยงั นึกไม่ออกเหมือนกันนะว่าจะช่วยให้รวยได้ยังไง...” ตอนนี้เมื่อรู้เห็นและมองทะลุแล้ว ยิ่งช่วยให้ ก้ า วย่ า งตามหลั ก อย่ า งถู ก ทิ ศ ถู ก ทางมากขึ้ น หลักธรรม “มรรค ๘” ถูกนำ�มาหลอมรวมไว้อยู่ใน ค่านิยมสำ�หรับผู้บริหารและพนักงานในบริษัทของ เขาให้ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติอีกด้วย เพราะเขามองว่า หากต้องการให้องค์กรแห่ง นีเ้ ติบโตอย่างมัน่ คงและยัง่ ยืน จำ�เป็นต้องมีหลักหรือ แนวปฏิบัติให้คนในองค์กรยึดเป็นแผนแม่บท เพื่อ เดินไปในทางที่ถูกที่ควร
98
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
หลักธรรม “มรรค ๘” ทีร่ วมหลักของศีล สมาธิ ปัญญา ง่ายๆ ที่เขายึดถือ ประกอบไปด้วย - หลักของศีล ได้แก่ กายชอบ วาจาชอบ และใจชอบ - หลักสมาธิ ได้แก่ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ - หลักปัญญา ได้แก่ ดำ�ริชอบ เพียรพิจารณา ชอบ และรู้แจ้งชอบ มาประยุกต์ใช้ในส่วนต่างๆ ให้เหมาะสมกับองค์กร โดยคุณทองมาเห็นว่าหลักธรรมนี้เหมาะแก่ การนำ�มาใช้ในธุรกิจ เพราะมรรค ๘ หากเป็นทางธรรม หมายถึง หนทางเพื่อมุ่งสู่นิพพาน หากเป็นทางธุรกิจก็คือ หนทางที่ทำ�ให้ทำ� ธุรกิจประสบความสำ�เร็จนั่นเอง
99
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
อย่างเช่นข้อที่หนึ่งที่ว่า ใจรัก เมตตาอยาก ช่วยเหลือ ก็คอื การมี “ศีล” เป็นพืน้ ฐานในการคิด เช่น ลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ เราก็ตอ้ งไม่เบียดเบียน ลูกค้า คือต้องให้ความช่วยเหลือ อย่าเพิกเฉยหรือ ไม่สนใจ ข้อทีส่ อง มุง่ เพือ่ ลูกค้า มาจาก “สมาธิ” หมายถึง เมื่อต้องการช่วยเหลือลูกค้า ก็ต้องมีสติและสมาธิ ในการคิดถึงสิ่งที่เกี่ยวข้อง เช่น หากลูกค้าต้องการ หาสินเชื่อ เราก็ต้องมีสติรู้คิดว่าจะช่วยเหลือเรื่อง สินเชือ่ ได้อย่างไร หรือต้องการให้ชว่ ยเหลือเรือ่ งไหน ก็มีสมาธิมุ่งตรงไปที่เรื่องนั้น ไม่สับสนหลงทาง สำ�หรับข้อที่สาม คิดไตร่ตรองแนวปฏิบัติ พื้นฐานการคิดข้อนี้มาจาก “ปัญญา” หรือการ คิดและไตร่ตรอง จนรู้ถึงแนวทางช่วยเหลือ และ ตอบสนองความต้องการของลูกค้า
100
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ส่วนข้อที่สี่และห้าคือ มุ่งมั่นปฏิบัติจนสำ�เร็จ และส่งมอบผลงานประทับใจลูกค้า เป็นสิง่ ทีเ่ พิม่ เติม ขึน้ มา เพราะเมือ่ รูถ้ งึ แนวทางช่วยเหลือและตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าแล้ว ก็ต้องมุ่งมั่นปฏิบัติ มี ความเพียรพยายามจนสำ�เร็จ หลักธรรมทัง้ หมดของมรรค ๘ นี้ สามารถนำ�มา ปรับใช้กบั การทำ�ธุรกิจจนประสบความสำ�เร็จ ไม่วา่ จะเป็นกายชอบ วาจาชอบ ใจชอบ หรือการไม่ เบียดเบียน เอาเปรียบผู้อื่นทั้งลูกค้าและคู่ค้า มีใจรักเมตตาอยากจะสร้างบ้านดีๆ มีสติรบั รู้ รูปธรรม นามธรรม เพือ่ ตอบสนองความต้องการของ ลูกค้าที่อยากมีบ้าน ไม่เอาเปรียบเอาของคุณภาพ ไม่ดีมาให้ลูกค้า
101
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ดำ � ริ ช อบจะสร้ า งบ้ า นยั ง ไงให้ มี คุ ณ ภาพ แข็งแรง และมองไปข้างหน้าหาทางพัฒนาปรับปรุง ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นต้น ในทุกวันนีม้ หาเศรษฐีทชี่ อื่ “ทองมา” ก็ยงั ใช้ หลักธรรมในการทำ�ธุรกิจ และเชือ่ ว่าคงเจริญรุง่ เรือง ต่อไปอย่างยิ่งใหญ่มั่นคงแน่นอน ตอนนี้ เ ห็ น หรื อ ยั ง ว่ า คำ � สอนของ พระพุทธเจ้านัน้ หากใครรูจ้ ริง ทำ�เป็น ย่อม เป็น “มหาเศรษฐี” และรวยได้จริง จริงไหม?
รู้ ห รื อ ยั ง ว่ า
ทุกง�น ทุกÍ�ชÕ¾ คือการสร้างบุญเพื่อให้เป็น “มหาเศรษฐี” ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวเสมอว่า บุญคือฐานกำาลัง สำาคัญของมหาเศรษฐี เพราะหากไม่มีบุญพอก็คง ไม่เป็นมหาเศรษฐีแน่นอน เราทุกคนสร้างบุญได้ทุกวัน ด้วยการ ทำางาน ทำาอาชีพของเรา พอพูดถึงคำาว่า “งาน” นัน้ คงทำาให้ความคิดของ ใครหลายคนพาลไปนึกถึงแค่คำาว่า “อาชีพ”
103
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
บางคนพอพู ด ถึ ง งานถึ ง อาชี พ ก็ ทำ � หน้ า เหนือ่ ยหน่ายระอาใจ เพราะบอกว่าทีท่ นทำ�ทุกๆ วัน ยังไม่เห็นชีวิตดีขึ้นเลย จะบอกให้อย่างหนึ่งว่า การทำ�งานทุกชนิด หากเราคิดไม่เป็นตั้งแต่ต้น ก็จะรู้สึกว่างานที่ทำ�นั้น คือ “ความทุกข์” เป็นเรื่อง “ภาระ” ที่ฝืนใจมาก จนไม่อยากจะทำ�และต้องปลดเปลื้องออกไปทุกวัน หากคิดว่างานเป็นทุกข์ตั้งแต่ต้น งานทุกงานที่ทำ�ก็ จะไม่เกิดผลอะไรเลย งานทีท่ �ำ หากเราทำ�ด้วยความไม่เต็มใจ ไม่รกั ทีจ่ ะทำ� ในแต่ละวันจึงไม่ใส่ใจแค่ทำ�ให้พน้ ๆ มือไป จิตที่ไม่ดี การกระทำ�ที่ไม่ดี ย่อมส่งผลให้งานออก มาไม่ดี นอกจากนั้นจิตใจก็ไม่สดชื่นและคุณภาพ ชีวิตก็จะเสียไปด้วย
104
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ใครที่ คิ ด ว่ า งานคื อ ความทุ ก ข์ แ ละภาระ แสดงว่ า ยั ง ไม่ รู้ จั ก ว่ า ทุ ก งานทุ ก อาชี พ คื อ การ สร้างบุญ และเป็นอีกฐานสำ�คัญที่จะส่งให้เป็น “มหาเศรษฐี” ได้ ถ้าคิดเป็นทำ�เป็น งานที่ทุกคนทำ�ในเวลานี้ไม่ใช่บุญธรรมดา แต่ เ ป็ น บุ ญ ใหญ่ ที่ ทั้ ง หนุ น ทั้ ง พลิ ก คนให้ เ ป็ น มหาเศรษฐีได้เลย โดยเฉพาะอาชีพที่ได้บุญมาก สำ�หรับ “อาชีพทีไ่ ด้บญุ มาก” คือ ทุกอาชีพเลย เพียงมีเงือ่ นไขอยูว่ า่ ต้องเป็นอาชีพทีท่ �ำ ประโยชน์และ มีส่วนทำ�ให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ นั่นแหละจึงถือเป็นอาชีพ หรือเป็นงานที่ได้บุญ งานที่ได้บุญที่สุดจึงมีความหมายถึง “งานที่ ตัง้ ใจทำ�เพือ่ ก่อประโยชน์สขุ แก่ทงั้ ตนเองและผูอ้ นื่ มี ความปรารถนาให้เราเป็นสุขด้วย ผูอ้ นื่ สุขด้วย และ ได้ลงมือทำ�ให้ส�ำ เร็จจริง” ย่อมเป็นงานทีไ่ ด้บญุ ทัง้ สิน้
105
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
คนทีป่ ระกอบอาชีพใดๆ ทีม่ จี ดุ มุง่ หมายหรือ เจตนาปรารถนาดี และมีผลดีเกิดขึ้นจริงแล้วดังนี้ ย่อมเกิดผลบุญติดตัวมาก หากได้ท�ำ ซ้�ำ ๆ สัง่ สมกัน ไปก็จะเกิดเป็นบารมีอันเป็นพื้นฐานให้คนเราพบกับ ความสุข ความเจริญ เพราะเริ่มจากเหตุที่ดี ผลก็ ย่อมออกมาดีด้วย จงสังเกต “บุญในงาน” นั้นให้เจอ คำ�ว่าสังเกต “บุญในงาน” นัน้ หมายความว่า เราต้องพยายามหมั่นมองหา “แง่ดีแง่งามของสิ่ง ต่างๆ ที่เราทำ�อยู่ให้พบให้ได้” เช่น งานของคนกวาดถนนนั้นเป็นงานที่มี ความหนักเหนื่อยในการทำ�งานมาก แม้ดูเหมือนว่า จะเป็นงานทีต่ อ้ ยต่�ำ ต้องตากแดดร้อนๆ ทำ�งานและ ค่าแรงน้อย
106
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
แต่หากหมั่นมองหาแง่ดีแง่งามในงานกวาด ถนนให้พบก็จะพบว่า “งานนี้เป็นงานที่คนอื่นทำ�ได้ ยาก และถือเป็นงานทีม่ คี วามเสียสละเป็นอย่างยิง่ ” เพราะถนนนัน้ ถือเป็นของส่วนรวมทีผ่ คู้ นทุกคนต้อง ใช้ ต้องเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก หากผู้ที่ สังเกตเห็นคุณค่าในงานนีอ้ อกก็จะรูว้ า่ งานนีม้ คี วาม สำ�คัญและสร้างความสุขให้กับคนจำ�นวนมากได้ มากมายเพียงใด คนเก็บขยะ หากรู้สึกว่างานที่ทำ�นั้นมีคุณค่า มาก ทำ�ให้บา้ นทุกบ้านสะอาด ไม่เป็นจุดสะสมเชือ้ โรค คนในสังคมจะได้ไม่เป็นโรคต่างๆ ซึง่ ก็มมี าแล้วทีค่ น เก็บขยะมาขายสุดท้ายกลับกลายเป็น “มหาเศรษฐี” เพราะคิดเป็น มองเห็นคุณค่า เห็นมูลค่าในสิ่งที่ คนอื่นไม่เห็น
107
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
หากเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายอาหาร หากเรา สามารถเห็นบุญในการทำ�อาหาร ขายอาหาร จะพบ ว่างานที่ทำ�นั้นช่วยให้คนมีสุขภาพที่ดี ช่วยให้คนมี ความสุข ขายในราคาทีเ่ หมาะสม ถูกและดี ก็จะช่วย คนให้ประหยัดมีเงินเหลือไปสร้างความสุขให้กับ ครอบครัว ส่วนทีป่ ระหยัดได้อาจเป็นค่าเทอมของลูก ค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บไข้ ความสุขเกิดจากมือ ของเรา ผู้เป็นพ่อค้าแม่ขายทั้งหลายก็พยายามทำ� อาหารด้วยวัตถุดิบที่ดี ราคาเหมาะสม ในที่สุด หลายรายมหาศาลรวยเพราะอาหาร รวยเพราะจิต ที่เป็นกุศลในการทำ�อาชีพนี้ หากเป็นครู เป็นอาจารย์ บุญที่เกิดขึ้นนั้น มากมายมหาศาล ช่วยคนให้มีความรู้ มีความ ประพฤติที่ดีงาม ให้ได้นำ�ความรู้ความดีนั้นไป สร้างสิ่งดีๆ ให้กับตนเอง ครอบครัว ประเทศชาติ
108
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
หากเป็นพนักงาน ลูกจ้าง ก็ท�ำ งานตามทีไ่ ด้รบั มอบหมายอย่างเต็มกำ�ลัง พัฒนาสร้างสรรค์สงิ่ ดีใน งานทีต่ นทำ� ไม่เพียงแต่หน้าทีก่ ารงานของตนเจริญ รุ่งเรือง องค์กรก็เจริญรุดหน้า ลูกค้าที่ได้รับสินค้า การบริการก็ได้รับแต่สิ่งดีๆ มีความสุขสมหวังกัน ทั่วหน้า หากเป็นข้าราชการ ก็ลงมือทำ�งานให้เกิดผลดี ต่อหน่วยงานทีต่ นทำ� รับใช้ประชาชน รับใช้แผ่นดิน ด้วยความเต็มใจ ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน อำ�นวยความสะดวกด้วยใจของ “ผู้ให้” รับรองว่า ทั้งหน้าที่การงานชีวิตส่วนตัวย่อมดี เพราะ “บุญในงาน” ที่เราทำ�อย่างมี ปัญญา อย่างเต็มกำ�ลัง บุญในงานอยู่ใน ทุกอาชีพ ทุกงานที่เราทำ�
109
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ในพระไตรปิฎกเองก็มีตัวอย่างเกี่ยวกับการ ทำ�งานที่ดูเหมือนต้อยต่ำ�แต่ได้ผลบุญสูงไว้ กรณี ของพระภิกษุที่ชื่อ “พระวีถิสัมมัชชกเถระ” ซึ่งเป็น พระอรหันต์รูปหนึ่งในสมัยพุทธกาล ในสมัยก่อน หน้าทีจ่ ะมาเกิดเป็นพระวีถสิ มั มัชชกเถระ ท่านได้เกิด ในยุคของพระสิขีพุทธเจ้า เป็นผู้มีตระกูลดีและ ร่ำ�รวยเสียด้วย อดีตชาติของพระวีถิสัมมัชชกะ ได้พบเห็น พระพุ ท ธเจ้ า สิ ขี ท รงดำ � เนิ น และนำ � พาผู้ ค นไปสู่ ความเจริญก้าวหน้าด้วยการออกบวชเป็นอันมาก ก็เกิดความเลือ่ มใส ท่านเห็นว่าถนนทีใ่ ช้เดินเท้านัน้ เป็นหลุมเป็นบ่อไม่มีความสะอาดเรียบร้อย จึงได้ ร่วมมือกับชาวเมืองลงมาช่วยกันกวาดถนนและ ปรับผิวถนนให้เสมอเรียบกันหวังจะให้พระพุทธเจ้า ได้ทรงพระดำ�เนินโดยสะดวก
110
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ด้วยผลบุญที่ได้ให้ความเต็มใจในการลงมา กวาดถนนอั น นั้ น เมื่ อ ตายแล้ ว ชายหนุ่ ม จึ งได้ ท่องเทีย่ วไปในเทวโลกและมนุษยโลก ได้เสวยสมบัติ ในโลกทัง้ สองจนครบแล้ว ในสมัยพุทธกาลปัจจุบนั จึง ได้กลับมาเกิดในตระกูลสูงแห่งหนึ่ง พอท่านเติบโต จนบรรลุนิติภาวะแล้ว ได้ฟังพระธรรมเทศนาของ พระพุทธเจ้าแล้ว ก็เกิดมีศรัทธา มีใจเคารพใน พระธรรม จึงขอบรรพชาอุปสมบท ไม่นานนักก็ได้ เป็นพระอรหันต์ จะเห็นว่าหากคนเรามองเห็นในคุณค่าของ งานทุกงานทีท่ �ำ แล้ว ล้วนเป็นผลดีเสมอ ซึง่ ส่วนใหญ่ ผู้คนมักจะมองอยู่จุดเดียว มองแค่ว่า “เรากำ�ลัง เหนื่อยหนัก” ซึ่งความจริงความเหนื่อยเป็นแค่ ส่วนหนึง่ ของการทำ�งาน แต่สว่ นทีด่ จี ริงๆ ทีซ่ อ่ นอยู่ เมื่อพิจารณาจริงๆ แล้วส่วนดีมีมากกว่า
111
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เรื่องระดับความสำ�คัญของการทำ�งานเป็น เรื่องหนึ่งที่มีการถามกันมากว่า แม้จะเป็นงาน เหมือนๆ กันแล้วงานใดหรืองานของใครมีความ สำ�คัญมากที่สุด งานของนายกรัฐมนตรีสำ�คัญกว่า งานของคนกวาดถนน งานของผู้บริหารสำ�คัญกว่า งานของผู้ปฏิบัติงานอย่างนั้นหรือเปล่า หากมองผิวเผินนัน้ อาจจะใช่ เพราะงานทีต่ อ้ ง ใช้ความคิด ความรู้ และการตัดสินใจที่ต้องอาศัย ความละเอียดรอบคอบและมีผลต่อผูค้ นจำ�นวนมาก เรียกได้ว่าเป็นการจัดระดับความสำ�คัญเอาไว้แบบ เบือ้ งต้น แต่ความเป็นจริงแล้วทุกๆ งานมีความสำ�คัญ หากไม่มีคนกวาดถนนแล้วไหนเลยเราจะมีถนน สะอาดๆ ให้รถแล่นได้อย่างสะดวกและรูส้ กึ ปลอดภัย สบายตา
112
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
งานทีส่ �ำ คัญทีส่ ดุ ในทางพระพุทธศาสนาก็คอื “งาน ณ เวลาปัจจุบัน” คือ “งานที่สำ�คัญที่สุด” คือไม่ว่ากำ�ลังทำ�งานอะไรอยู่ขอให้เติม “สติ” ทุ่ม “ปัญญา” เข้าไป และ “ใส่ใจ” ให้มากทีส่ ดุ งานนัน้ ก็จะกลายเป็นงานทีท่ รงคุณค่าได้ผลมากทีส่ ดุ เช่นกัน ให้เราสังเกตอย่างนี้ รู้จักสังเกต รู้จักพินิจ พิจารณา เราจะเห็นความแตกต่างเสมอว่างาน ทุกงานจะก่อเป็นบุญกุศลได้กค็ อื เราสังเกตเห็นและ คิดดีกับงานนั้นๆ มากแค่ไหนและจะลงมือปฏิบัติ อย่างไร ทำ�อย่างไรให้งานเราดีขึ้น เกิดประโยชน์ มากขึ้น บุญของเราจะเพิ่มขึ้นทุกครั้ง และอย่าลืมเป็นอันขาดว่า “บุญ” คือ ฐานกำ�ลังสำ�คัญของมหาเศรษฐีทุกคน
การสร้าง “บุญใหญ่” สำาหรับว่าที่
“มหาเศรษฐี” ทั้งหลายควรรู้และทำา “...หมั่นสร้างบารมีไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง จงจำา ไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วย เจ้าไม่ได้ ครั้นเมื่อถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้า ไม่อยู่...”
114
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ขอยกเมตตาธรรมของสมเด็จโตฯ แห่งวัด ระฆังโฆสิตาราม ครูบาอาจารย์ในแผ่นดินธรรมที่ เชื่อว่าคนไทยรู้จักท่านดี ที่ ท่ า นบอกเรื่ อ งจริ ง ที่ ยิ่งใหญ่ในเรื่องของพลังแห่งบุญบารมี ที่ทุกคนควร ทำ�ตลอดเวลา หากอยากจะมีชีวิตที่ดี ที่จะสรุป สั้นๆ ให้ท่านทั้งหลายเข้าใจได้ง่ายๆ ว่า ถ้าบุญถึงแล้ว อะไรก็ต้านไม่อยู่!!! ในบทนีจ้ งึ จะพูดถึงเรือ่ ง “บุญ” และการสร้าง บุญที่ช่วยหนุนนำ�ให้หลายคนเป็น “มหาเศรษฐี” สมใจ แต่จะเน้นเรือ่ งการสร้าง “บุญใหญ่” ทีเ่ กิดผล มากตลอดเวลา ซึ่งมีมาครั้งพุทธกาลแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าแล้วจะทำ�บุญ แบบไหนอย่างไรดีให้เกิดผลสูงสุดกับชีวิต ให้เป็น “บุญใหญ่” จะขอแนะนำ�แบบนี้ โปรดลองพิจารณา ไปทำ�กันให้เหมาะสม
115
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ก่ อนอื่นเราต้ องรู้ ว่ าเราทำ �บุ ญ กั นไปทำ �ไม ทำ�บุญแล้วได้อะไรและต้องทำ�อย่างไรให้ได้บุญมาก เป็นบุญใหญ่ในชีวิต มาดูอย่างแรกก่อน เราทำ�บุญกันไปทำ�ไม ทำ�บุญแล้วได้อะไร ทำ�บุญเพือ่ ชำ�ระล้างจิตให้ผอ่ งใส ให้จติ มีก�ำ ลัง มากในฝ่ายดี จิตเย็นสบาย อิม่ เอิบ ผ่องใส เกิดปัญญา เพื่อต่อสู้กับกิเลส อำ�นาจฝ่ายต่ำ�ที่จะฉุดรั้งเราไม่ให้ พบกับความเจริญ เมื่อใจมีกำ�ลังมากหรือที่เรียกว่า “ฤทธิท์ างใจ” แล้วจะทำ�ให้อะไรก็ส�ำ เร็จโดยง่าย แม้จะ พบอุ ป สรรคใหญ่ ก็ สำ � เร็ จ ด้ ว ยความเพี ย รโดยมี “ฤทธิ์ทางใจ” นำ�ทาง
116
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ทำ�บุญเพือ่ ส่งเสริมสนับสนุนพระพุทธศาสนา ให้มั่นคงสืบไป เพื่อโมทนาพระคุณความดีครูบา อาจารย์ เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งปวง ทำ�เพื่อ สร้างบุญบารมีเดินไปสู่แดนพระนิพพาน หลุดพ้น ทั้งปวง ทำ � บุ ญ เพื่ อ อุ ทิ ศ บุ ญ ส่ ว นกุ ศ ลให้ กั บ พ่ อ แม่ บรรพบุรษุ ทีล่ ว่ งลับ หรือยังมีชวี ติ อยู่ คนทีเ่ รารัก ทำ� เพือ่ ตัวเอง จะได้มเี สบียงบุญ ทำ�เพือ่ อุทศิ ให้เจ้ากรรม นายเวร เพื่อขออโหสิกรรม ชำ�ระหนี้เวรหนี้กรรม ชำ�ระหนี้สงฆ์ที่อาจจะพลั้งพลาดล่วงเกินไปโดยไม่ เจตนา ไม่รู้ตัว ที่บอกมาทั้งหมดเป็นเหตุแห่งการสร้างบุญ และผลที่ได้ ซึ่งดีทุกข้อ ทำ�แล้วดีเป็นไปตามระดับ จริต ตามภูมิธรรมของตนที่เข้าใจ
117
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
แล้วทำ�บุญอย่างไรถึงจะเรียกว่า “บุญ ใหญ่” ให้ปาฏิหาริยเ์ กิดในชีวติ อันนีส้ �ำ คัญ มาก บอกก่อนเลยว่าไม่ใช่การทำ�บุญที่ต้องใช้เงิน มากๆ จัดงานใหญ่ๆ โตๆ มีคนมาร่วมนับหมืน่ นับแสน ไม่ใช่งานบุญที่สร้างหรือทำ�อะไรใหญ่โตมโหฬาร ตระการตาหนึ่งเดียวในโลกหรืออะไรก็ตาม ถึงจะ เรียกว่า “บุญใหญ่” ให้เข้าใจกันใหม่วา่ บุญทีเ่ ราทำ�นัน้ ทัง้ วัตถุทาน บริสุทธิ์ ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับหรือเนื้อนาบุญบริสุทธิ์ ครบถ้วนทั้ง ๓ ประการนี้ถือเป็น “บุญใหญ่” วัตถุทานบริสุทธิ์ หมายถึงเงินทอง สิ่งของ วัตถุต่างๆ ที่เรานำ�มาทำ�บุญมาจากน้ำ�พักน้ำ�แรง ของเรา ไม่ได้ไปลักขโมยแย่งชิงใครมา ไม่บงั คับฝืนใจ กะเกณฑ์ของของใคร
118
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ผูใ้ ห้บริสทุ ธิ์ หมายถึงจิตบริสทุ ธิข์ องผูใ้ ห้ทาน นัน้ ทัง้ ก่อนให้ กำ�ลังให้ และหลังให้ ต้องไม่คดิ เสียดาย ไม่ท�ำ บุญหวังผลเลิศ หวังผลตอบแทน ครูบาอาจารย์ ท่านเสริมให้ดว้ ยว่า ควรสมาทานศีล ๕ ก่อนให้ทาน ทำ�บุญใดๆ เพือ่ ตัวเราบริสทุ ธิท์ สี่ ดุ ในช่วงเวลาสำ�คัญ นี้ ผู้รับหรือเนื้อนาบุญบริสุทธิ์ หมายถึงผู้รับจะ เป็นพระสงฆ์หรือใครก็ตาม ถ้าท่านเป็นผูป้ ฏิบตั ธิ รรม มาก ถือศีลมั่นคงมาก บุญที่ทำ�กับผู้มีเนื้อนาบุญ สูงนี้จะยิ่งมากขึ้นทวีคูณ คิดง่ายๆ ระหว่างทำ�บุญ กับคนทั่วไปที่ผิดศีลมากหรือกับคนดีๆ ผลบุญย่อม ผิดกันมาก ทำ�บุญกับพระอริยเจ้า กับพระสงฆ์หรือ สมมติ ส งฆ์ ที่ เ พิ่ ง บวชใหม่ ยั ง ถื อ ศี ลไม่ มั่ น คงนั ก บุญก็ผิดกันลิบลับ
119
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ในสมัยนี้อาจจะดูยาก ครูบาอาจารย์ท่าน เลยแนะนำ�ให้วางใจให้บริสุทธิ์เสีย อย่าไปคิดอะไร อย่าไปปรามาสท่าน แล้วถวายทานทำ�บุญตรงถึง พระพุทธเจ้า พระอรหันต์เจ้า หรือพระอริยสงฆ์ทเี่ รา เคารพ ส่วนพระสงฆ์ทรี่ บั ตรงหน้าท่านเพียงทำ�หน้าที่ มารับแทน หากเราสร้างบุญนั้นแล้ว กิเลสเราลดลง ลด ความอยากได้อยากมี ลดหรือปิดอำ�นาจฝ่ายต่ำ�ได้ ทำ�แล้วเรามีความสุขในจิตมากทีส่ ดุ แบบนีค้ อื “บุญ ใหญ่” หากเราสร้างบุญนัน้ แล้ว คนทีไ่ ด้รบั นัน้ ลดทุกข์ แก้ปัญหาได้จริงจากบุญที่เราทำ� แบบนี้คือ “บุญ ใหญ่”
120
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
หากเราสร้างบุญนั้นแล้ว สิ่งที่เราร่วมสร้าง บุญเกิดประโยชน์แก่คนหมู่มาก เกิดประโยชน์มาก และนานหรือเปลี่ยนชีวิตเขาได้จริง ทำ�ให้ชีวิตเขามี ความสุขได้จริงในระยะยาว แบบนี้คือ “บุญใหญ่” เช่น การให้ธรรมทาน การสร้างถาวรวัตถุทางศาสนา การสร้างโรงพยาบาล โรงเรียน ถนนหนทาง การให้ ทุนการศึกษาทั้งพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และคน ทั่วไป หากเราสร้ า งบุ ญ นั้ น แล้ ว ไม่ ทำ �ให้ ต นเอง เดือดร้อน ทำ�แล้วไม่มีโทษ เป็นบุญบริสุทธิ์ ไม่มี บาปเจือปน ไม่ส่งเสริมให้คนรับเกิดกิเลสหรือไป กระทำ�ผิดต่อ แบบนี้คือ “บุญใหญ่” “บุญใหญ่” ไม่จ�ำ เป็นต้องใช้เงินมาก หรือไม่ ใช้เงินเลยก็ได้ มีมากมายทั้งอภัยทาน ธรรมทาน การถือศีล การทำ�สมาธิ เจริญวิปัสสนา ฯลฯ
121
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
จะยกตัวอย่างการสร้าง “บุญใหญ่” ให้ฟงั เรือ่ ง หนึ่ง คือเรื่อง “ทำ�บุญสองสลึง ทำ�ให้แผ่นดินไหว” เรื่ อ งที่ จ ะเล่ า นี้ เ ป็ น เมตตาธรรมจากครู บ าวงศ์ หรือครูบาชัยยะวงศาพัฒนา พระอริยสงฆ์อกี รูปหนึง่ ของแผ่นดินธรรม ครูบาวงศ์ท่านเป็นศิษย์ของ ครูบาเจ้าศรีวิชัย ต้นบุญผู้ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดิน ครู บ าวงศ์ ท่ า นมี เ มตตาบุ ญ บารมี ม าก โดยเฉพาะคนไทยและคนกะเหรี่ ย งภาคเหนื อ ตอนบนรู้จักท่านดี เรื่องนี้ท่านเทศนาธรรมเพื่อให้ สาธุชนเข้าใจการสร้างบุญที่เกิดผลมากเป็นอย่างไร ขอเมตตาครูบาวงศ์ แปลและปรับเปลี่ยนเป็นภาษา ที่กัลยาณมิตร กัลยาณธรรมอ่านและเข้าใจง่าย เทศนาธรรมมีอยู่ว่า
122
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
“...ในอดีตกาลล่วงมาแล้ว สมัยองค์พระผู้มี พระภาคเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ มีพระยาเจ้าเมือง ของเมืองหนึง่ มีใจศรัทธาปรารถนาจะถวายผ้ากฐิน เป็นทาน จึงได้ป่าวประกาศไปทั่วบ้านเมืองเพื่อ เชิญชวนให้ชาวเมืองได้ร่วมทำ�บุญในครั้งนี้ ข่าวทราบถึงมหาเศรษฐีสองคนผัวเมีย มีเงิน ทองอยู่ ๘๘ โกฏิ เขาทั้งสองเกิดความศรัทธา ปีติ ยินดีในกองบุญกฐินนั้น จึงตั้งใจที่จะร่วมถวายทาน ผ้ากฐิน ตกกลางคืนมาสองผัวเมียก็มาคิดว่า ‘ตัวเรานีม้ ขี า้ วของมากมาย แต่ไม่มอี นั ใดเลย ทีห่ ามาด้วยน้�ำ พักน้�ำ แรงของตน มีแต่ใช้คนอืน่ หามา มันจะเกิดอานิสงส์แก่เรามากไหมหนอ’
123
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
เมื่ อ คิ ด อย่ า งนั้ น ผู้ เ ป็ น ผั ว จึ ง ชวนเมี ย ว่ า พรุง่ นีเ้ ช้า เราพากันไปเกีย่ วหญ้ามาขาย เอาเงินทีไ่ ด้ ด้วยน้ำ�พักน้ำ�แรงเราไปทำ�บุญ มันจักได้บุญมาก ผู้เป็นเมียจึงตอบตกลง พอรุ่งเช้าก็พากันถือเคียว เที่ยวเกี่ยวหญ้ากลางแดดร้อน ได้หญ้ามาสามมัด จึงเอามาสาง เอามาล้างเเล้วมอบให้คนใช้น�ำ ไปขาย ให้คนเลี้ยงม้า ได้เงินมาสามสลึงจึงมอบให้คนใช้ สลึงหนึ่ง ผัวเอาสลึงหนึ่ง เมียได้สลึงหนึ่ง สองคนผัวเมียได้เงินสองสลึงแล้วจึงพากัน นำ�เงินนั้นมาชำ�ระล้างด้วยน้ำ�อบน้ำ�หอม ตั้งจิต อธิษฐานยกเงินขึ้นเหนือหัว แล้วตั้งสัจจะอธิษฐาน ด้วยความปีติยินดี แล้วคิดว่า ‘นีเ่ เหละ คือเงินทีไ่ ด้มาด้วยน้�ำ พักน้�ำ แรงของ เรา เราจะได้บุญมาก’
124
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
จากนั้นสองคนผัวเมียมหาเศรษฐีจึงเดินทาง ไปที่บ้านของพระยาเจ้าเมือง พอไปถึงก็เดินเข้าไป ในบ้าน ไปหยุดตรงทีเ่ ขาตัง้ ขันรับบริจาคทานบุญกฐิน ไว้ เขาจึงพากันหย่อนเงินลงเสียงดัง แก๊ก แก๊ก แล้ว ก็เดินออกไป พอพระยาเจ้ า เมื อ งเห็ น จึ ง เดิ น มาดู ใ นขั น เห็ น เงิ น อยู่ ส องสลึ ง จึ ง เกิ ดโทสะโกรธขึ้ น เป็ น ฟื น เป็นไฟว่า ‘ไอ้อสี องคนนีม้ นั เป็นถึงมหาเศรษฐี มีขา้ วของ ๘๘ โกฏิ มาตระหนี่ ดูถกู ดูแคลนกู กูตงั้ กองบุญกฐิน เอาเงินมาร่วมนิดเดียว’ ด้วยความโกรธจึงหยิบเงิน ขว้างทิ้งลงพื้นกระเด็นไปตกข้างกำ�แพง
125
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ครั้นพอถึงเวลาพระยาเจ้าเมืองและบริวาร ชาวบ้านชาวเมืองจึงพากันแห่ผา้ กฐินเข้าไปสูอ่ าราม เพื่อจะถวายพระพุทธเจ้า ครานั้นแผ่นดินไหวสนั่น ไปทัว่ บังเกิดต้นกัลปพฤกษ์งอกขึน้ ตรงทีเ่ งินสองสลึง ตกอยู่ พระยาเจ้าเมืองดีใจว่ากูนี้เป็นผู้มีบุญมาก ทำ�บุญกฐินแผ่นดินพอไหว ต้นไม้กลั ปพฤกษ์พองอก จึงวิ่งเข้าไปหมายจักหยิบเงินทองข้าวของที่ห้อยอยู่ บนกิ่งกัลปพฤกษ์ แต่เข้าไม่ถึงเกิดร้อนขึ้นนัยน์ตา แทบแตก ใครก็เข้าไม่ถึง มีแต่สองคนผัวเมียมหาเศรษฐีเท่านัน้ ทีเ่ ข้าไป ได้ และนำ�ต้นกัลปพฤกษ์มาวางบนฝ่ามือได้พอดี เมือ่ นัน้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้ตรัสว่า
126
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
‘เหตุทแี่ ผ่นดินไหวและต้นกัลปพฤกษ์งอกขึน้ นัน้ มิใช่เพราะนาบุญของท่านพระยาเจ้าเมือง แต่เป็น เพราะอานิสงส์ของสองคนผัวเมียมหาเศรษฐีนี้แล’ ดังนัน้ คนเราอย่าได้นบั ประมาท ดูถกู ดูแคลน คนที่เขาทำ�บุญน้อยนิด เพราะเขาอาจจะแลกด้วย ชีวติ ถึงจะได้เงินนัน้ มาทำ�บุญ เขาอาจจะได้อานิสงส์ มากว่าเราทีม่ เี งินแสนเงินล้านอีกก็ได้ บุญมิได้วดั กัน ที่ค่าของทรัพย์สินเงินทอง แต่มันอยู่ที่กำ �ลังใจ นั่นแหละ บางทีชาวไร่ชาวนาที่ยากจน นำ�เงินน้อย นิดทีไ่ ด้จากน้�ำ พักน้�ำ แรงของตนมาทำ�บุญ อาจจะได้ อานิสงส์มากกว่าคนรวยๆ ที่ได้เงินมาง่ายๆ เสีย อีกเน้อ”
127
วิชา “มหาเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!
ขอให้ ด วงจิ ต ของทุ ก ท่ า นที่ ไ ด้ อ่ า น เมตตาธรรมนี้ ได้ เ กิ ด ปั ญ ญาธรรมอั น บริสุทธิ์ สร้าง “บุญใหญ่” ให้ชีวิตเกิด ปาฏิหาริย์ทุกคน
วิชา “มหาเศรษฐี” ทีพ่ ระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง! โดย ธ.ธรรมรักษ์
สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามนำ�ส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปลอกเลียน ทำ�สำ�เนา ถ่ายเอกสาร หรือนำ�ไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต หรือสือ่ ชนิดอืน่ ๆ ไม่วา่ ในรูปแบบใด นอกจากจะได้รบั อนุญาตเป็น ลายลักษณ์อกั ษรเท่านัน้ ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งชาติ ธ.ธรรมรักษ์ วิชา “มหาเศรษฐี” ทีพ่ ระพุทธเจ้าสอน และทุกคนทำ�ได้จริง!.--กรุงเทพฯ : ไตรวรินท์, ๒๕๕๙. ๑๒๘ หน้า ๑. ธรรมะกับชีวิตประจำ�วัน. I. ชื่อเรื่อง. ๒๙๔.๓๑๔๔ ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๒๙๒-๓๗๔-๖ พิมพ์ที่
บริษัท โรงพิมพ์มิตรสัมพันธ์กราฟฟิค จำ�กัด
๕๒๐-๕๓๐ ซอยเพชรเกษม ๔ ถนนเพชรเกษม แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐
จัดทำ�โดย website
สำ�นักพิมพ์ไตรวรินท์ ๑๕/๑๐๗ ม.๑๘ ต.คูคต อ.ลำ�ลูกกา จ.ปทุมธานี ๑๒๑๓๐ โทรศัพท์ ๐๖๒-๙๕๙๔๕๑๔, ๐๘๙-๔๔๕๖๑๔๙ www.trivarin.com
จัดทำ�รูปเล่มโดย แฮปปี้กราฟิก
ท่านที่ต้องการหนังสือสร้างบุญนี้เป็นจำ�นวนมากเพื่อใช้ในการสร้างบุญต่างๆ ใช้แจกเป็นธรรมทานหรือเป็นหนังสือที่ระลึกในวาระโอกาสสำ�คัญ ติดต่อได้ที่ ๐๙๔-๖๕๖๑๕๖๕
ราคา ๔๙ บาท