ข้อสอบวิชา วิทยาศาสตร์กายภาพ มิสชฎามาศ ศรีชนะวัฒน์ ผู้สอน
ตอนที่ จงเลือกคาตอบที่ถกู ที่สดุ เพียงข้อเดียว 1. ปิโตรเลียมเกิดขึ้นได้อย่างไร ก. เกิดจากซากสัตว์ทะเลเล็กๆ ที่ถูกทับถมอยู่ใต้ดิน ข. เกิดจากซากสัตว์กินพืชจมอยู่ใต้พื้นหินเป็นเวลานาน ๆ ค. เกิดจากซากพืชหรือต้นไม้ซึ่งจมอยูใ่ ต้ดินและหินลึก ๆ ง. เกิดจากพืชและสัตว์ทะเลที่ถูกทับถมอยู่ใต้ดินเป็นเวลานาน ๆ 2. ข้อใดเป็นตัวอย่างของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ก. มีเทน และ บิวเทน ข. พลาสติก และ เส้นใยไหม ค. ไขมัน และ คาร์โบไฮเดรต ง. คาร์โบไฮเดรต และ กรดอะมิโน 3. แก๊สแอลพีจี (LPG) คืออะไร ก. เป็นแก๊สมีเทน ข. เป็นแก๊สที่ใช้ในอุตสาหกรรมเหล็ก ค. เป็นแก๊สที่ได้จากการผสมระหว่างโพรเพน กับ บิวเทน
ง. เป็นแก๊สชนิดเดียวกับที่ได้จากการย่อยสลายของจุลินทรีย์ใน บ่อเกรอะขยะ 4. ข้อใด ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับแก๊สธรรมชาติ ก. ไม่มสี ี ไม่มีกลิ่น ข. มีราคาถูกกว่าน้้ามัน ค. เป็นแก๊สชนิดเดียวกับแก๊สหุงต้ม ง. เผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์กว่าน้้ามันเบนซิน 5. องค์ประกอบของปิโตรเลียม คือข้อใด ก. แก๊สธรรมชาติเหลว ข. น้้ามันดิบ ค. โอเลฟินส์ ง. ข้อ ก และ ข รวมกัน 6. น้้ามันปิโตรเลียมดิบหรือน้้ามันดิบ จัดเป็นสารประกอบชนิดใด ก. ของผสมไฮโดรคาร์บอน ข. สารละลาย ค. สารบริสุทธิ์ ง. ถูกหมดทุกข้อที่กล่าวมา
7. การกลั่นน้้ามันดิบ ใช้หลักการชนิดใดในการแยกองค์ประกอบ ออกจากกัน ก. สารบริสุทธิ์ทุกชนิดมีอณ ุ หภูมคิ งที่ ข. สารประกอบไฮโดรคาร์บอนแต่ละชนิดมีอุณหภูมิจุดเดือด ต่างกัน ค. ที่ความดันคงทีส่ ารประกอบไฮโดรคาร์บอนแต่ละชนิดจะมี อุณหภูมจิ ุดเดือดเท่ากัน ง. สารประกอบไฮโดรคาร์บอนกลุม่ เดียวกันจะมีอณ ุ หภูมิเท่ากันที่ ความดันเดียวกัน 8. ผลิตภัณฑ์จากกระบวนการกลั่นน้า้ มันดิบข้อใด กลั่นได้ล้าดับ หลังสุด ก. น้้ามันเบนซิน ข. น้้ามันเตา ค. น้้ามันก๊าด ง. น้้ามันดีเซล 9. แก๊สธรรมชาติมีองค์ประกอบเป็นสารใดมากที่สดุ ก. แก๊สมีเทน ข. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ค. แก๊สอีเทน
ง. แก๊สโพรเพน 10. ผลิตภัณฑ์ที่กลั่นได้จากน้า้ มันดิบข้อใดเรียงล้าดับก่อนหลังได้ ถูกต้องที่สุด ก. แก๊สเชื้อเพลิง น้้ามันเบนซิน น้้ามันดีเซล น้้ามันเตา ข. น้้ามันเบนซิน น้้ามันดีเซล น้้ามันก๊าด ค. น้้ามันก๊าด น้้ามันเบนซิน น้้ามันดีเซล ง. น้้ามันเบนซิน น้้ามันก๊าด น้้ามันดีเซล 11. ประเทศไทยมีการพบน้้ามันดิบแห่งแรกที่จังหวัดใด ก. ตาก ข. ก้าแพงเพชร ค. เชียงใหม่ ง. สุพรรณบุรี 12. แก๊สโซฮอล์ คืออะไร ก. เป็นน้้ามันไบโอดีเซลชนิดหนึ่ง ข. น้้ามันที่ได้จากการกลั่นล้าดับส่วนน้้ามันปาล์ม ค. เป็นน้้ามันเบนซินชนิดหนึ่งมีคณ ุ ภาพเทียบเท่าเบนซิน 91 ง. น้้ามันที่ได้จากการผสมระหว่างน้้ามันเบนซินกับแอลกอฮอล์
13. การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของสารประเภทไฮโดรคาร์บอนเกิด จากสาเหตุใด ก. มีปริมาณเชื้อเพลิงมากเกินไป ข. มีปริมาณออกซิเจนไม่เพียงพอ ค. มีปริมาณของไอน้้าผสมในเชื้อเพลิง ง. เกิดจากมีสารปรอทปนเปื้อนในสารเชื้อเพลิง 14. ข้อใดเป็นแหล่งพลังงานส้ารองในอนาคตของประเทศไทยที่ ได้มาจากพืช ก. แก๊สหุงต้ม ข. ไบโอดีเซล ค. น้้ามันดีเซล ง. แก๊ส LPG 15. วิธีการใดต่อไปนี้ใช้ตรวจสอบหาแหล่งปิโตรเลียมได้ ก. การวัดค่าความเข้มสนามแม่เหล็กโลก ข. การตรวจวัดค่าความโน้มถ่วงของโลก ค. การส้ารวจด้วยการวัดคลื่นไหวสะเทือน ง. ทุกข้อที่กล่าวมาสามารถตรวจสอบได้หมด
16. ข้อใดเป็นการส้ารวจแหล่งปิโตรเลียม โดยอาศัยวิธีทาง ธรณีวิทยา ก. การท้าแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ ข. การวัดค่าความเข้มสนามแม่เหล็กโลก ค. การตรวจวัดค่าความโน้มถ่วงของโลก ง. การส้ารวจด้วยการวัดคลื่นไหวสะเทือน 17. ไฮโดรคาร์บอนชนิดใดต่อไปนี้มมี วลโมเลกุลสูงที่สดุ ก. น้้ามันเตา ข. น้้ามันดีเซล ค. น้้ามันเบนซิน ง. ยางมะตอย 18. การเผาไหม้ของน้้ามันเบนซินในข้อใดที่ท้าให้เครื่องยนต์เกิดการ จุดระเบิดได้ง่ายทีส่ ุด ก. น้้ามันเบนซินที่มีเลขออกเทน 90 ข. น้้ามันเบนซินที่มเี ลขออกเทน 91 ค. น้้ามันเบนซินที่มเี ลขออกเทน 95 ง. น้้ามันเบนซินที่มเี ลขออกเทน 100
ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคาถามข้อ 19 และ 20 ก. ใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า ข. ใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์เบนซิน ค. ใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องบินไอพ่น ง. ใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดเี ซล 19. สารที่มีคาร์บอนประมาณ 6 - 12 อะตอม สามารถใช้เป็น เชื้อเพลิงแบบใดได้ 20. สารที่มีคาร์บอนประมาณ 14 - 19 อะตอม สามารถใช้เป็น เชื้อเพลิงแบบใดได้ 21. ผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้ข้อใด ไม่ได้ มาจากอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ก. ถุงพลาสติก ข. สีทาบ้าน ค. ปุ๋ยเคมี ง. แก๊สชีวภาพ 22. ท่อน้้าที่ใช้ท้าท่อประปาท้ามาจากพลาสติกชนิดใด ก. LDPE ข. HDPE ค. PVC
ง. PP 23. สารจากธรรมชาติใดจัดเป็นโคพอลิเมอร์ ก. โปรตีน ข. เซลลูโลส ค. ไกลโคเจน ง. ยางธรรมชาติ 24. ข้อใดเป็นมอนอเมอร์ของสารพอลิเมอร์ที่มีชื่อว่า พอลิเอทิลีน ก. มีเทน ข. เอทิลีน ค. เอทิล ง. มอนอเอทิลีน 25. มอนอเมอร์ของเซลลูโลสคืออะไร ก. แป้ง ข. กลูโคส ค. มอลโตส ง. ไกลโคเจน
26. พอลิเมอร์ชนิดใดทีเ่ กิดจากการรวมตัวแบบต่อเติมของมอนอ เมอร์ ก. เซลลูโลส ข. โปรตีน ค. ไนลอน ง. พอลิเอทิลีน 27. พอลิเมอร์ที่มโี ครงสร้างแบบใดที่มคี วามแข็งมากแต่ ไม่ยืดหยุ่น เมื่อได้รับความร้อนสูงจะแตก ก. โครงสร้างแบบกิ่ง ข. โครงสร้างแบบเส้น ค. โครงสร้างแบบร่างแห ง. โครงสร้างแบบกิ่งและแบบร่างแห 28. ข้อใดเป็นสาเหตุที่ท้าให้พลาสติกแต่ละชนิดมีสมบัติแตกต่างกัน ก. เพราะมีโครงสร้างต่างกัน ข. เพราะมีองค์ประกอบของมอนอเมอร์ต่างกัน ค. เพราะมีการผลิตจากเม็ดพลาสติกต่างชนิดกัน ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
29. ข้อใดเป็นข้อแตกต่างระหว่างยางธรรมชาติกับยางสังเคราะห์ ก. มีโครงสร้างไม่เหมือนกัน ข. มีจ้านวนมอนอเมอร์ไม่เท่ากัน ค. มีความทนต่อสารเคมี ความร้อน และตัวท้าละลายไม่เท่ากัน ง. ยางสังเคราะห์มีกระบวนการเกิดทีซ่ ับซ้อนมากกว่ายาง ธรรมชาติ 30. เส้นใยชนิดใดต่อไปนี้ที่เกิดราได้ง่าย ก. ฝ้าย ข. เรยอน ค. เส้นไหม ง. ป่าน 31. วัตถุดิบในการผลิตยางสังเคราะห์ได้มาจากแหล่งใด ก. ปิโตรเลียม ข. น้้ามัน ค. แก๊สธรรมชาติ ง. ถ่านหิน 32. ข้อใดเป็นประโยชน์ของพอลิเมอร์สังเคราะห์ ก. ใช้ท้าอวัยวะเทียม ข. ใช้ในด้านศัลยกรรม
ค. ใช้เป็นสารยึดติด เช่น กาว ง. ท้าได้ทุกข้อที่กล่าวมา 33. มอนอเมอร์ของพอลิโพรพิลีนคืออะไร ก. โพรเพน ข. โพรพีน ค. แนฟทา ง. โพรพิลีน 34. ข้อใดเป็นพอลิเมอร์ธรรมชาติทั้งหมด ก. แป้ง เซลลูโลส พอลิสไตรีน ข. โปรตีน ยางพารา กรดนิวคลิอิก ค. ยางพารา พอลิเอทิลีน เทฟลอน ง. ไกลโคเจน ไขมัน ซิลิโคน 35. ข้อใดไม่จัดเป็นเส้นใยธรรมชาติ ก. เส้นใยพืช เช่น นุ่น ข. เส้นใยสัตว์ เช่น ขนแกะ ค. ใยหิน ง. ใยแก้ว
36. วิธีการที่ง่ายที่สุดและสะดวกทีส่ ุดในการทดสอบเส้นใยผ้าว่า เป็นเส้นใยธรรมชาติหรือไม่คือข้อใด ก. ดูการย้อมสี ข. ดูลักษณะเส้นใย ค. ดูการติดไฟและลักษณะของเถ้า ง. ดูการดูดซับความชื้นและการระบายความร้อน 37. เส้นใยแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ คือข้อใด ก. เส้นใยหินและเส้นใยแร่ ข. เส้นใยพืชและเส้นใยสัตว์ ค. เส้นใยดิบ และ เส้นใยฟอก ง. เส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสังเคราะห์ 38. ถ้าต้องการท้าถุงมือส้าหรับการผ่าตัดของแพทย์ ควรท้าจาก มอนอเมอร์ชนิดใด ก. สไตรีน ข. เอทิลรีน ค. บิวตะไดอีน ง. ไอโซพรีน
39. ผลิตภัณฑ์ใดท้าจาก PVC ก. ท่อน้้า ข. เส้นเลือดเทียม ค. ถุงใส่เลือด ง. ท้าได้ทุกข้อที่กล่าวมา 40. พอลิเมอร์แบบควบแน่นเกิดขึ้นเมือ่ ใด ก. มีผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งเป็นน้้า ข. มีมอนอเมอร์เป็นแอลคีน ค. มีตัวเร่งปฏิกิริยา ง. มอนอเมอร์ที่มีหมู่ฟังก์ต่างกันท้าปฏิกิริยากัน