it was a good year นามธรรมประจำ�วัน
ไตรรงค์ ประสิทธิผล หนังสือในชุด Life & Inspiration ลำ�ดับที่ 009 เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ 978-616-327-044-3 พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม 2557 ราคา 220 บาท ข้อมูลบรรณานุกรมของสำ�นักหอสมุดแห่งชาติ ไตรรงค์ ประสิทธิผล. It Was A Good Year: นามธรรมประจำ�วัน. -- กรุงเทพฯ: อะบุ๊ก, 2557. 272 หน้า. 1. บันทึก. I. ชื่อเรื่อง 895.918 ISBN 978-616-327-044-3
ในกรณีที่หนังสือชำ�รุด หรือเข้าเล่มสลับหน้า กรุณาส่งหนังสือนั้น มาตามที่อยู่สำ�นักพิมพ์ ทางสำ�นักพิมพ์ยินดีเปลี่ยนเล่มใหม่ให้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
สั่งซื้อหนังสือราคาพิเศษ 0-2726-9996 ต่อ 49 E-mail member@daypoets.com
สำ�นักพิมพ์ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำ�กัด
เลขที่ 3 ซอยเจริญมิตร ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2726-9996 ต่อ 22 โทรสาร 0-2714-4252 E-mail abook9@gmail.com Official Page facebook.com/abookpublishing แยกสีและพิมพ์ บริษัท ฐานการพิมพ์ จำ�กัด โทรศัพท์ 0-2954-2799 จัดจำ�หน่าย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) อาคารทีซีไอเอฟ ทาวเวอร์ ชั้นที่ 19 เลขที่ 1858/87-90 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0-2739-8000 โทรสาร 0-2739-8609
ที่ปรึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย บรรณาธิการที่ปรึกษา วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ บรรณาธิการบริหาร ภูมิชาย บุญสินสุข บรรณาธิการเล่ม จิราภรณ์ วิหวา ผู้ช่วยบรรณาธิการ สุรเกตุ เรืองแสงระวี ภาพถ่าย ไตรรงค์ ประสิทธิผล อาร์ตไดเร็กเตอร์ บพิตร วิเศษน้อย ออกแบบปก/รูปเล่ม เพกา เจริญภักดิ์ กราฟิกดีไซเนอร์ เมธาสิทธิ์ กิตติกุลยุทธ์ เลขานุการ/พิสูจน์อักษร พิมพ์นารา มีฤทธิ์ กองบรรณาธิการ เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์ การตลาด วิไลลักษณ์ โพธิ์ตระกูล ประสานงานการผลิต อธิษฐาน กาญจนะพงศ์ ดิจิทัลคอนเท็นต์มาสเตอร์ วิศรุต วิสิทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป จัณฑรัศมิ์ เกียรติยศ ผู้ช่วยผู้จัดการ ณัฐธยาน์ อึ้งตระกูลนิธิศ ธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ลูกค้าสัมพันธ์ นริศรา เปยะกัง เว็บมาสเตอร์ จุฬชาติ รักษ์ใหญ่
คำ�นำ� สำ�นักพิมพ์ นามธรรม = ไม่รู้เรื่อง สำ�หรับศิลปะ ความหมายหลังเครือ่ งหมายเท่ากับของบางคน สั้น ง่าย และจบแค่นั้น ไม่ต้องไตร่ตรอง ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องให้ ความสำ � คั ญ ซึ่ ง นั่ น ก็ เ ป็ น เรื่ อ งของรสนิ ย มและความหลงใหล แต่ สำ � หรั บ ชี วิ ต ล่ ะ นอกจากเรื่ อ งกิ น นอน ยื น เดิ น นั่ ง ยอง หรืออะไรก็ต ามที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ มัน ก็ยังมีสิ่งนามธรรม ยากอธิ บ ายทั้ ง หลายตามติ ด เรามาด้ ว ย ไม่ ว่ า จะเรื่ อ งความรั ก ความสัมพันธ์ ความคิดเห็น ความต้องการ ความสุข ความเศร้า ความโกรธ ความเกลียด ความขี้เกียจ ความนี่ ความนั่น หรือกระทั่ง ความตลก ของแบบนี้อธิบายไม่ค่อยได้ เข้าใจมันได้ไม่ค่อยดี หรือบางที ฉันเข้าใจอย่างนี้ แต่เธอดันเข้าใจอย่างนั้น บางคนจึงเลือกเดินหนี ไม่ต้องเข้าใจมันละ และบางคนก็ชอบที่จะสนใจ อยากรู้อยากเห็น หรือหมกมุ่นกับสิ่งที่ชีวิตอธิบายเอาไว้ไม่ค่อยรู้เรื่องเหล่านี้
โต้ง-ไตรรงค์ ประสิทธิผล เป็นอย่างหลังแน่ๆ เพราะหนังสือ เล่ ม นี้ คื อ บั น ทึ ก ความคิ ด แต่ ล ะวั น ที่ เขามี ต่ อ เรื่ อ งต่ า งๆ บางวั น เป็ น เรื่ อ งเล็ ก ๆ น้ อ ยๆ ในชี วิ ต ประจำ � วั น ที่ เราอาจไม่ เ คยสนใจ บางเรื่ อ งก็ ใ หญ่ โ ตระดั บ นโยบายประเทศ บางเรื่ อ งก็ ช วนให้ ขำ � บางเรือ่ งก็ชวนให้คดิ และบางเรือ่ งก็ชวนให้รสู้ กึ ไปด้วยทัง้ ทีไ่ ม่มเี อีย่ ว ด้วยเลย เราไม่รู้ว่าโต้งหมกมุ่นกับเรื่องนามธรรมมากแค่ไหน แต่ก็คง มากพอจนเข้าใจและอธิบายเรื่องเหล่านั้นออกมาได้ อย่างสนุก และ ‘รู้เรื่อง’ ผ่านประโยคสั้นๆ ตัดสลับกับบันทึกเหตุการณ์ในชีวิต ประจำ�วันที่ดีบ้าง แย่บ้าง ตามธรรมดาของสิ่งที่เรียกว่าชีวิต แต่สิ่งที่ พิเศษออกมาจากเรื่องเล่ารายวัน ก็คือความง่าย สั้น ฉับพลัน และ ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความคิดระเกะระกะ กลับกลมกล่อมเอา มากๆ เมือ่ เราได้อา่ นจนจบเล่ม และกลายเป็น ‘It was a good year’ โต้งเหยาะอะไรลงไปในชีวิตของเขา หรือชีวิตหยอดอะไร ลงไปในความคิดของโต้ง นี่อาจจะเป็นความลับของชีวิตก็ได้ สำ�หรับคนที่เป็นแฟนการ์ตูนเส้นน้อย คิดเยอะ หรือนิยม ตัวหนังสืออ่านสนุก ต่อยหนักแบบโต้ง น่าจะยิ่งชอบหนังสือเล่มที่ ถืออยู่นี้ เพราะบันทึกตลอดปีนี้ เป็นเหมือนแหล่งวัตถุดิบสำ�คัญ ในการผลิตงานของเขาทัง้ งานวาดและงานเขียน ส่วนใครทีย่ งั ไม่รจู้ กั การอ่านบันทึกคือทางลัดที่สนุกอย่างยิ่ง สุ ด ท้ า ยนี้ ไม่ มี อ ะไรดี ไ ปกว่ า ขอเชิ ญ เพลิ ด เพลิ น ไปกั บ นามธรรมประจำ�วัน ของไตรรงค์ ประสิทธิผล
จิราภรณ์ วิหวา บรรณาธิการเล่ม
คำ�นำ� ผมเขียนบันทึกครั้งแรกตอนอายุสิบขวบ แล้วผมก็เขียนต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน มีบางช่วงเขียนหนักมาก เขียนเหมือนบำ�บัดจิต จะว่าไปก็ไม่ใช่ แค่เหมือน แต่ใช่เลย ผมเขียนเพื่อทำ�ความรู้จักกับตัวเอง อยากรู้ว่า เราคือใคร คิดอะไร ไหนเขียนอะไรมาให้กอู า่ นหน่อยซิ กูจะได้รจู้ กั มึง เพราะวันนึงมีความคิดผ่านมาในหัวมากมายนับหมืน่ นับแสน ทั้ ง เข้ า ท่ า ไม่ เข้ า ท่ า ที่ ส ามารถจดมายื น ยั น ได้ มี น้ อ ยมาก ไม่ ถึ ง หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ที่พอจะมีประโยชน์บ้างก็ยิ่งน้อย และปัจจุบัน เมื่อโลกเปลี่ยนไป ผมก็พบว่าวิธีเขียนบันทึก ของตัวเองก็เปลี่ยนไปด้วย มันสั้นลงเรื่อยๆ จะโทษโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ไหม โทษได้ โทษไปเหอะ งั้นก็ขอโอกาสโทษซะหน่อยละกัน โซเชียลเน็ตเวิร์กทำ�ให้ ผมเขียนบันทึกสั้นลง จากบทบันทึก บทความ เหลือสั้นจนอาจจะ เรียกได้ว่าเป็นเพียง บทคัดย่อ (ABSTRACT) สมัยเขียนศิลปนิพนธ์ (พ.ศ.2540) ผมเขียนบทคัดย่อซึ่ง สั้นที่สุดตั้งแต่มีนักศึกษาเขียนบทคัดย่อมาเลย ผมเขียนว่า “ศิลปนิพนธ์นี้เป็นหลักฐานว่าข้าพเจ้าเคยศึกษา ที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” จบแล้ว เท่านี้แหละ และอาจารย์ก็ไม่ได้ท้วงติงอะไร ก็บทคัดย่อนี่นะ เขียนย่อๆ ก็น่าจะถูกแล้ว
แต่บทคัดย่อที่ทับถมกันไปมาทุกๆ วันมันก็ยาวจนได้ ผมพก สมุดบันทึกติดตัวไว้ พอนึกอะไรได้ก็จด ไม่ใช่เชิงบันทึกเหตุก ารณ์ อีกต่อไป แต่กลายมาเป็นบันทึกความรูส้ กึ นึกคิดและความเห็นต่างๆ มากกว่า ยิ่งรู้สึกว่าโลกนี้ช่างสับสนวุ่นวาย ผมยิ่งเขียนสั้น จดทันบ้าง ไม่ทนั บ้าง สิง่ ใดทีจ่ ดไม่ทนั มันก็หายไปในอากาศและไม่มอี ะไรจะมา ยืนยันมันได้แม้แต่ตัวเรา เพราะบ่อยๆ ที่ผมก็ลืมว่าคิดอะไรบ้าง และยิ่ ง สงสั ย ว่ า อี กหน่อ ยจะมีแรงบัน ดาลใจพอที่จะเขี ยนอะไร สักประโยคไหม เพราะผม, บางทีรู้สึกว่าความคิดเดินทางมาถึงและระเหิด ไปรวดเร็วเหมือนหยดน้ำ�เล็กๆ ในกองไฟกองใหญ่ หรือราวกับ มันบินผ่านหน้าไปในพริบตาเหมือนกับผีหลอก ผมชอบคำ � ว่ า บทคั ด ย่ อ ชอบคำ � ว่ า abstract ที่ มั น มี ความหมายว่านามธรรมไปพร้อมๆ กันด้วย มันทำ�ให้ผมนึกถึง ภาพเขียนนามธรรม นึกถึงสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง อธิบายให้รู้เรื่องยาก เพราะบางทีผมก็รู้สึกแบบนั้นเวลาอ่าน กึ่งๆ จะรู้เรื่อง เหมือนมอง ภาพนามธรรม และในความเป็นจริง ความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ก็เป็น นามธรรม บันทึกบทคัดย่อประจำ�วันเล่มนี้ เป็นความคิดที่ผุดขึ้นมา และคว้ามาเขียนตามวันคืนในเวลาปัจจุบันอันไหลเชี่ยวกราก อ่านแล้วชอบ ผมก็ดีใจ อยู่ดีมีสุขทุกท่านครับ ไตรรงค์ ประสิทธิผล
CON TENTS
10 หน้า
กุมภาพันธ์
30 หน้า
มีนาคม
78 หน้า
พฤษภาคม
56 116 98 หน้า
เมษายน
หน้า
มิถุนายน
หน้า
กรกฎาคม
148 หน้า
168 หน้า
สิงหาคม
กันยายน
186 หน้า
ตุลาคม
204 หน้า
พฤศจิกายน
244 226 หน้า
หน้า
มกราคม
ธันวาคม
FEB RU ARY
กุมภาพันธ์
1 กุมภาพันธ์ ของแถมหรื อ ของฟรี มั ก มี ข้ อ แม้ เ ยอะ และนั่ น แหละคื อ สิ่งที่เราต้องจ่ายแทนเงิน เราไม่ ก ล้ า เล่ า บางเรื่ อ งให้ ใ ครฟั ง เพราะไม่ แ น่ ใจว่ า เขา อยากฟัง 2 กุมภาพันธ์ ไต้ฝุ่นนิ้วเกือบขาดเพราะเอาไปแหย่เครื่องฝัดข้าว แหย่เอง หมุนเอง แบบว่าเซลฟ์เซอร์วิส กระดูกแตก เล็บหลุด และเหลือ อีกไม่กี่มิลก็จะขาดออกจากกัน เลือดหยดติ๋งๆ ผมจะเป็นลม ไปโรงพยาบาล นั่งรอหน้าห้องผ่าตัด การนั่งรอลูกหน้าห้อง ผ่าตัดเป็นความรู้สึกที่แย่มาก ที่จริงเราควรต้องว่ายน้ำ�เล่นกันอยู่สิ ก่อนจะเกิดเรื่อง ผมรู้สึกปลอดโปร่งอย่างประหลาด ลูกคงเจ็บมาก 11
นั่ ง อยู่ ค นเดี ย ว ดมกลิ่ น ยาฆ่ า เชื้ อ ได้ ยิ น เสี ย งเด็ ก ผู้ ช าย แหกปากร้องออกมาจากห้องผ่าตัด เป็นวันที่แย่จริง ป.ล. หลังจากโรงพยาบาลเอาเมนูคา่ รักษามาให้ดแู ล้ว พบว่า ต้องแอดมิตสองคืน 3 กุมภาพันธ์ เมื่อคุณอายุใกล้สี่สิบ เพื่อนๆ ที่เคยเป็นสาวแจ่มๆ หรือ หนุ่ ม หล่ อ ๆ สมั ย มหา’ลั ย (รวมถึ ง ตั ว คุ ณ เองด้ ว ย) จะสอนคุ ณ เรื่องสังขารไม่เที่ยงโดยไม่ต้องปริปากพูดอะไรเลย อย่างชัดเจน ไม่อาจต่อกร และอย่างแนบเนียน น่ า ลองเปลี่ ย นก๊อ บปี้ ‘เห็น ผลภายในหนึ่ง สัปดาห์ ’ เป็ น ‘เห็นผลภายในสามวันเจ็ดวัน’ รากเหง้ า ของความเหงา ไม่ ไ ด้เ กิ ดจากคนอื่น ที่ ทำ �ให้ เรา ขาดความสุข แต่เกิดจากเราเองที่ ‘ทำ�ให้คนอื่นมีความสุข’ ไม่เป็น และการวัดว่าใครทำ�ให้คนอื่นมีความสุขได้จริงแค่ไหน ก็ต้องวัด จากคนใกล้ตัว ไม่ใช่ไกลตัว (อ่านมาจากนิตยสาร ธรรมะใกล้ตัว) -ธ นา คาร สา มารถ เปลี่ยน แปลง เงื่อน ไข โดย ไม่ ต้อง แจ้ง ให้ ลูก ค้า ทราบ -โปรด อ่าน คำ� เตือน บน ฉ ลาก ก่อน ใช้ ยา -ห้าม ดื่ม เกิน วัน ละ สอง ขวด โปรด สัง เกต คำ� เตือน บน ฉ ลาก ก่อน ดื่ม ทุก ครั้ง 12
-เงื่อน ไข เป็น ไป ตาม ที่ กรม ธรรม์ กำ� หนด -เงื่อน...น...ไข...เป็น..นน..น...ปายยย...ตามม...ที่...กรม.... มมม..ธรรม์...กำ�...หนด..ด..ดด...ดด... (ขอช้าๆ ชัดๆ ได้ไหม ไอ้ข้อความพวกเนี้ย จ้างผีไทยที่พูด ช้าๆ มาอ่านก็ได้) 4 กุมภาพันธ์ บางทีผมชอบทำ�ตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่ตัวเองไม่ถนัด เอาซะเลย อย่างเช่นการเลือกผลไม้ ผมชอบเลือกผลไม้ที่เปลือก สวยๆ ดูดี แต่หลายครั้งที่พอปอกกินก็พบว่า ไม่อร่อยเลย บางลูก ก็เปรี้ยวมาก ต่ อ มาผมเลยแก้ ปั ญ หาโดยให้ แ ม่ ค้ า เลื อ กให้ และพบว่ า ลูกที่อร่อย เปลือกนอกดูไม่ได้น่ากินอะไรเลย (อยากลงท้ายว่า คน แม่งก็ด้วย) (คิดว่า) genuine ก็คือ fusion ที่ถูกบ่มเพาะด้วยกาลเวลา 3 กลิ่นสาบอันตราย ได้กลิ่นแล้วต้องหลบ 1. สาบเสือ 2. สาบสาง 3. สาบสาว 5 กุมภาพันธ์ ดอกไม้ทนี่ านๆ บานครัง้ นึง ให้ความรูส้ กึ พิเศษกว่าดอกทีบ่ าน บ่อยๆ ทั้งที่อาจจะสวยพอๆ กัน
13
ทักษะที่เพิ่มขึ้นเมื่อมีลูกชาย 1. การแกะ ChupaChups (ที่ห่ออย่างแน่นหนาจนไม่ให้ มดเข้าได้) 2. การแกะปีโป้ (ทีง่ า่ ยบ้างยากบ้างราวกับการทำ�ความเข้าใจ อารมณ์ผู้หญิง) 3. การปฐมพยาบาล (ยังไงก็ต้องทำ� ถ้าลูกยิ่งซน ยิ่งมีให้ทำ� บ่อย) 6 กุมภาพันธ์ (วันแห่งการคุยงาน) คุยกับคุณแกะที่หอศิลป์ คุยขอติดโปสเตอร์งานแสดง ...in my hat ที่ร้าน Bookmoby, ร้าน Happening และ ร้านครัวคุณก้าน คุยกับคนทำ�เข็มกลัด คุยกับบัวลอยเรื่องกรอบรูป คุยกับหนุ่ม หนังสือเดินทาง เรื่องเปิดงาน คุยกับเอิ้นกับแบงก์เรื่องดนตรีวันเปิดงาน กลับบ้าน...หลับขาด แม่แซนด์: กินอะไรแล้วไม่เคีย้ วน่ะ มันจะทำ�ให้พดู ไม่ชดั รูไ้ หม ไต้ฝุ่น: แบบงูอนาคอนด้าไง มันกินวัวทั้งตัว ไม่เคี้ยวเลย มันพูดไม่ชัดเลยนะ 7 กุมภาพันธ์ หลายปีก่อน ริมทางรถไฟแถวๆ สถานีมักกะสัน มีหมาตัวนึง 14
ผมตัง้ ชือ่ มันว่าไอ้นงั่ เวลาผมเดินไปขึน้ รถไฟไปโรงเรียนและกลับบ้าน ผมจะเจอมั น นั่ ง อยู่ บ นทางรถไฟ ไม่ ไ ด้ นั่ ง เหมื อ นหมา แต่ นั่ ง เหมือนคน คือเอาก้นนั่งแล้วก็ปล่อยขาลงตามสบายคล้ายๆ เกือบ จะขัดสมาธิ ด้วยท่านั่งนี้ ผมเลยเรียกมันแบบนั้น แล้วมันก็นั่งอยู่ บนรางรถไฟทุกวัน มันเป็นหมาสุภาพ เชื่อง และผมก็แวะลูบหัวมัน ทุกวัน เป็นหมาตัวเดียวในละแวกนั้นที่ผมรู้สึกว่าน่าทักทายและ น่าจะมีชื่อ จนกระทั่งมันหายไป หลายวันต่อมา มีกลิ่นเน่ารุนแรง โชยมาจากพงหญ้าริมทางรถไฟ แล้วเพื่อนๆ หมาของมันก็คาบหัว กะโหลกหมาอันนึงมาแทะเล่น และปล่อยให้แดดเผาอยูบ่ นรางรถไฟ ไม่กี่วันหลังจากนั้น เพื่อนผมคนนึงก็เก็บกลับบ้าน (บทสนทนาโรคจิต) ชายคนนึงจีบผู้หญิง: คุณน่ารักมาก ผมขอกะโหลกคุณได้ไหม การพยายามกลับไปหาอดีต โดยคิดว่ามันจะเหมือนเดิม เป็นเรื่องเศร้าและเสียเวลาเปล่า อดีตล้วนแปรเปลี่ยนไป การที่เรา หวังว่าอดีตจะรอเราอยู่อย่างพอดิบพอดีในที่เดิมนั้นเป็นเรื่องงี่เง่า สิ้นดี อดีตมีอยู่แค่ในความทรงจำ� ทั้งเราและอดีตล้วนเปลี่ยนไป ไม่มีอะไรเหมือนเดิม แม้แต่สิ่งที่เห็นชัดๆ ว่าเหมือนเดิม มันก็ ไม่ใช่สิ่งเดิม 8 กุมภาพันธ์ วันนี้เป็นวันเกิดของแซนด์ เธอเป็นคนรักของผม เป็นหนึ่ง ในเพื่อนจำ�นวนน้อยนิดของผม เป็นภรรยาผม และเป็นแม่ของ ลูกผม ผมรักเธอ และผมดีใจที่มีเธอเป็นคู่ชีวิต ผมไม่ค่อยได้เขียน 15
ถึงเธอเท่าไหร่ เพราะผมเขินที่จะเล่าเรื่องความรักและอะไรหวานๆ ผมเป็นคนรักที่ไม่ค่อยได้เรื่องและไม่น่าเอามาอวด ความรักของผม ไม่อุดมสมบูรณ์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ผมก็มีชีวิตอยู่ได้ด้วยความรัก ที่มีอยู่จากแซนด์และจากครอบครัวที่เราสร้างมาด้วยกัน มันเหมือน โอเอซิ ส ในทะเลทรายที่ ทำ � ให้ เราอยู่ ต่ อ ไปได้ ผมอยากขอบคุ ณ เธอผ่านบันทึกวันนี้ เพราะจะให้ไปนั่งพูดแบบนี้ต่อหน้ากันคงเขิน ตายห่าเลย เคยมีคนอ่านหนังสือของผมแล้วถามว่า ทำ�ไมไม่เขียนเรื่อง ความรักบ้าง ผมก็เพิ่งสังเกตนะ มันไม่มีเลยเหรอ...ผมตอบเขาไป สั้นๆ ว่าผมเป็นคนขี้อาย เวลาเล่าเรื่องความรักผมก็อาย แต่หากจะ ให้นิยามเรื่องความรักของตัวเองแบบสั้นๆ ผมก็คงบอกว่า มันคือ การมาพบกันของซากปรักหักพังทางจิตวิญญาณที่หวังจะคืนรูป เป็นปกติไปด้วยกัน (บทกวีให้คนรัก) หากฉันเป็นหมา, เวลาเห็นเธอ, หางฉัน คงกระดิกๆๆๆ, ...ราวใบพัดแบล็กฮอว์ก 9 กุมภาพันธ์ ผมเคยอยู่โรงเรียนประจำ�แห่งนึง ผมไม่ชอบโรงเรียนนี้เลย แต่กอ็ ยูม่ าตัง้ ห้าปี ผมจึงผูกพันกับทีน่ นั่ ไม่นอ้ ย ผมพบว่าคำ�ว่าผูกพัน อาจเกิดกับทีท่ เี่ ราไม่ชอบแต่ตอ้ งทนอยูน่ านๆ ก็ได้ อยูน่ าน ผ่านเวลา ก็ย่อมผูกพันเป็นธรรมดา แต่ที่แน่ๆ เลยคือสิ่งที่ประทับใจจากที่นั่น เทียบไม่ได้กบั ความเศร้าทีผ่ มต้องจ่ายไป และนิสยั ประหลาดทีต่ ดิ ตัว ผมมา... ผมเป็นคนชอบร้องเพลงให้ตวั เองฟัง เพราะทีโ่ รงเรียนประจำ� 16
มีกฎว่า ห้ามนักเรียนมีเครือ่ งเล่นเทปหรือวอล์กแมน ผมชอบฟังเพลง มาก หากชอบเพลงไหนผมจะฟังเพลงนั้นจนร้องได้ แล้วผมจะ ร้องเพลงให้ตัวเองฟังโดยใช้มือนึงป้องไว้ที่ปาก อีกมือนึงป้องไว้ที่หู โดยให้สองมือต่อกัน เหมือนกระซิบอะไรเข้าไปในหูตัวเองนั่นแหละ แล้วผมก็ใช้วิธีนี้ร้องเพลงให้ตัวเองฟังในห้องเรียน ตามมุมต่างๆ ของโรงเรียนที่ผมจะไปนั่งหลบ นั่งเหม่อลอย จนปัจจุบันผมก็ยัง ร้องเพลงให้ตัวเองฟัง ดูไกลๆ ก็เหมือนคนบ้าแหละ มี ค ราวนึ ง ตอนนั้ น ผมอยู่ ป.5 เป็ น บ่ า ยวั น อาทิ ต ย์ ที่ บรรยากาศหนืดๆ เซ็งๆ เด็กนักเรียนประจำ�ทั้งหลายนั่งฆ่าเวลา อั น โคตรน่ า เบื่ อ ด้ ว ยการเต้ น เบรกแดนซ์ มี ใ ครบางคนเอาวิ ท ยุ เครื่องใหญ่มาเปิดเพลงจากคาสเซตต์เทป แล้วก็เต้นกัน ผมตื่นตาตื่นใจมากกับการเต้นเบรกแดนซ์ที่ได้เห็นจากรุ่นพี่ แต่ไม่นานก็มี คุณครูแก่ๆ คนนึงเดินมาเงียบๆ พวกนักเรียนจะเรียกครูคนนี้ว่า ‘แฟร์’ (ทั้งๆ ที่แกก็ไม่ได้แฟร์อะไรสักเท่าไหร่) ถ้าจำ�ไม่ผิดมันมาจาก ภาษาฝรั่ ง เศส แปลว่ า อะไรผมก็ ไ ม่ ไ ด้ ใ ส่ ใจจะจำ � ตกลงว่ า แฟร์ ก็แฟร์วะ ใครจะสนว่าแม่งคืออะไร แฟร์คนนี้เหมือนหุ่นยนต์ คือ แต่งตัวเหมือนกันทุกวันด้วยเสื้อขาว กางเกงสแล็กสีดำ�กลีบโง้ง ผมเรียบกริบไม่มขี ยับ ผมชอบสังเกตหาทีใ่ ส่ถา่ นของแกว่าอยูต่ รงไหน พอแฟร์ เ ดิ น โผล่ มาเงียบๆ เหมือ นผี พวกพี่ๆ รีบปิด เพลงแล้ ว เอาเสื้อผ้าคลุมเครื่องวิทยุไว้ แฟร์เดินมาด้วยหน้าเฉยๆ เปิดเสื้อ ที่คลุมวิทยุออก แล้วก็ถือวิทยุเดินไป...ไม่พูดไม่จาอะไร ปล่อย พวกเด็กๆ ไว้กบั ความเงียบและริบความสุข ความสนุกนัน้ ไปโดยไม่มี คำ�อธิบายใดๆ หลุดออกมาจากปากแม้แต่คำ�เดียว อี ก เหตุ ก ารณ์ นึ ง ที่ ผ มลื ม ไม่ ล งก็ คื อ วั น หนึ่ ง ตอนหั ว ค่ำ � หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จ ผมออกมาเดินเรื่อยเฉื่อยในบริเวณ 17
โรงเรียน ด้านหลังตึกประถมมีไฟสปอตไลต์ดวงหนึ่ง มีแมลงมาตอม เป็นจำ�นวนมาก ทำ�ให้มีจิ้งจกหลายตัว รวมไปถึงตุ๊กแกมาหาแมลง กินตรงนี้ วันนั้นผมมองจากที่ไกลๆ เห็นกลุ่มเด็กประถมหก 2-3 คน ทำ � ท่ า เหมื อ นกำ � ลั ง เหยี ย บอะไรบางอย่ า งที่ พื้ น เด็ ก โตคนนึ ง ขึ้นกระโดดขยี้ด้วยสองขา พอผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็พบว่ามันเป็น ตุ๊กแกตัวใหญ่ที่นอนหงายจมกองเลือดอยู่ ผมไม่ได้ร่วมสังฆกรรม การขยี้ตุ๊กแกตัวนั้น แต่ผมคิดว่าการที่เราต้องโดนกดขี่และทำ�โทษ อย่างรุนแรงบ่อยๆ จากบาทหลวงและคุณครูทั้งหลาย อาจจะนำ�มา ซึ่งความซวยของตุ๊กแกตัวนี้ เกือบจะสามสิบปีแล้ว ภาพตุ๊กแกตัวนั้นยังติดตาผมอยู่ 10 กุมภาพันธ์ (เตรียมแสดงงาน ...in my hat) เส้นทางการสื่อสารหลายช่องทางนั้น ในแง่หนึ่งมันก็ทำ�ให้ คนเรารั่วใส่กันได้ง่ายขึ้น 11 กุมภาพันธ์ ยังไม่ได้ ก็อยากได้ พอได้มา ก็งั้นๆ แหละ
ยังไปไม่ถึง ก็อยากไปถึง พอไปถึงแล้ว ก็งั้นๆ แหละ 19
(หากผลิตได้สำ�เร็จคงรวย) 1.สเกาเตอร์วัดจรรยาบรรณหมอ 2.ที่จอดรถแบบพกติดตัว
12 กุมภาพันธ์ (ปรากฏการณ์ประหลาด) เบื่อ จนรู้สึกบันเทิงใจ (อ้างอิง) สว่าง จนรู้สึกอนาจาร หรือสาวเรียบร้อย จนรู้สึกว่า เซ็กซี่มาก เหตุที่คนเราวาดรูป ก็เพราะมันเป็นสัญชาตญาณ ศิลปะ คือสัญชาตญาณของมนุษย์ 13 กุมภาพันธ์ ความโกรธ ทำ�ให้ทำ�อาหารออกมาไม่อร่อย วาดรูปออกมา ไม่สวย ขับรถก็ง่ายที่จะเกิดอุบัติเหตุ ถ้ า เกิ ด แรงบั น ดาลใจ แล้ ว นั่ ง คิ ด เฉยๆ ผลที่ ไ ด้ เรี ย กว่ า ฝันกลางวัน (ลอกจากคำ�พูดของ สรจักร ศิริบริรักษ์) 14 กุมภาพันธ์ เคยได้ยินใครบางคนเขียนไว้ว่าการขาดรัก คงคล้ายกับการ ขาดพาหนะบางอย่าง สำ�หรับผม การขาดรักก็อาจจะเหมือนว่าว ที่ขาดลอย เหมือนลูกโป่งที่ไม่มีคนถือ เหมือนดอกแดนดิไลอ้อน ที่ลอยเคว้งคว้างไปกลางมหาสมุทร (ฟังดูอุปมาได้แรดและน่าถีบ ใช่ ป ะ แต่ ผ มเขี ย นจากความรู้ สึ ก นะเว้ ย ) หากไร้ รั ก ผมคงลอย 20
ลอย และลอยไปเรื่อยๆ... เป็น generation float เลย (คือยิ่งกว่า generation walk อีก) (คิดต่อ) การเดินทางของความรัก ต้องมีการดูแล ตรวจสภาพ เปลี่ยนถ่ายน้ำ�มันเครื่องและซ่อมแซมกันไปตลอดทาง ผู้ชายก็เหมือนที่จอดรถนั่นแหละ ที่เหมาะๆ ก็มีคนจอดกัน จนเต็ ม (ช่ า งตั ด ผมสาวใต้ ห น้ า ตาคมขำ � คนนึ ง ที่ ด อนเมื อ งพู ด ไว้ ในวั น ที่ ข้ า พเจ้ า ไปตั ด ผมแล้ ว โดนถามว่ า มี แ ฟนยั ง และข้ า พเจ้ า ตอบว่ามีแล้ว) (สมมติฐาน) คำ�ว่าโสด ในหลายบริบทก็ถูกใช้เป็นการตลาด ชนิดนึง ซึ่งคนที่ใช้คำ�นี้เพียงเพื่อเอามาบอกว่าตัวกูยังไม่ปิดการขาย นะเฟ้ย จากนั้นก็ฮัมเพลงไปในดงดอกไม้อันตระการตาไปเรื่อยๆ
a: ผู้หญิงในสเปคนายเป็นไง b: แค่รักฉันเท่านั้นก็พอ
15 กุมภาพันธ์ (ไปติดตั้งงานที่ร้านไดอะล็อก ถนนพระสุเมรุ สี่โมงเย็นถึง ห้าทุ่ม หนุ่ม-ร้านหนังสือเดินทาง มาช่วยติดด้วยอย่างตั้งอกตั้งใจ จนดึกดื่น...น่ารักมากๆ) 16 กุมภาพันธ์ เปิดนิทรรศการ …in my hat สนุกดี คนมาเยอะกว่าที่คิดไว้ ทักทายใครต่อใครจนเวียนหัว ได้เล่นดนตรีด้วย ดีใจ เพื่อนหลายๆ ยุค เวลามาคลุกรวมกันนี่งงดีนะ เพื่อนที่เรา ไม่คิดว่ามันจะได้เจอกันก็มาเจอกัน 21
เกี่ยวกับผู้เขียน ชอบวาดรูป ชอบถ่ายรูป ชอบเขียนสมุดบันทึก ชอบดู ภ าพวาดและคนวาดรู ป ชอบอ่ า นความคิ ด และ ดู ภ าพถ่ า ยที่ ใ ครต่ อ ใครถ่ า ยมาแชร์ ใ ห้ ช มกั น ชอบเวลามี ค นเอา สมุดบันทึกมาแบ่งให้ดู ชอบการที่ความคิดดีๆ ไอเดียเจ๋งๆ มุมมอง งามๆ ของมนุษย์ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรมให้เห็นได้ Email tongg90@gmail.com Instagram/Twitter @horjorgor
ขอบคุณ
ขอขอบคุณอย่างมากมายครับ พี่โหน่ง-วงศ์ทนง พี่บิ๊กบุญ น้องเต้ ทีมงานอะบุ๊ก โบ ตาล เบนเซ่ แป้ง จอม เบส ทราย ฝัน ภูภู่ฯ
คำ� ตาม ทั้งหลายทั้งปวงที่ได้เขียนลงไปในบันทึกประจำ�วัน ข้าพเจ้า แน่ใจเป็นอย่างยิ่งว่า มีอีกมากมายที่ยังไม่ได้เขียนลงไป อีกหลายสิ่งที่คิด แต่มองไม่เห็น หลายสิ่งที่เป็น แต่ไม่รู้ตัว ที่ ผ่ า นไปนั้ น เป็ น แค่ เ ศษเสี้ ย วของมั น ที่ ไ ด้ บั น ทึ ก ไว้ เ ป็ น ลายลักษณ์อักษร เหมือนปลาจำ�นวนน้อยนิดทีเ่ รือลำ�เล็กๆ จับได้ในมหาสมุทร อันกว้างใหญ่ ที่ถึงที่สุดแล้ว อาจไม่ใช่ตัวตนหรือสาระอะไรเลย เวลาในแต่ละนาทีที่ไหลผ่านอดีตมายังปัจจุบัน เมื่อมันยิ่ง ผ่านไปมากเท่าไหร่ ข้าพเจ้าก็ยิ่งรู้สึกว่าความคิด ความฝันและ ความรูส้ กึ ต่างๆ ค่อยๆ ลอยช้าๆ ลงมาอยูใ่ นภาชนะทีป่ นั้ ขึน้ มาจาก วิญญาณของตัวเอง และสิง่ ทัง้ หลายเหล่านัน้ ถูกผนึกไว้เพือ่ รอให้เวลา แปรสภาพสู่ความเป็นปกติธรรมดา ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ (ริมถนนพุทธบูชา วันฮาโลวีน)