คำ�นำ� สำ�นักพิมพ์ ห ลังจากพาเราไปสำ�รวจความเสือ่ มฮาในทุกพิกดั ละติจดู ลองจิจดู ใน รุง้ ตะแคงแวงตัง้ มาแล้ว รอบนี้ วิชยั จะกางปฏิทนิ แล้ววงวันเดือนปีทชี่ วนป่วยทัง้ หลายด้วยปากกา หมึกสีแดงแบบเน้นๆ ก่อนจะเริ่มร่ายสาธยายยาวให้เราได้รำ�ลึกถึงประสบการณ์ร่วม ที่ทุกคนต่างต้องเคยผ่านกันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวันที่ตกหลุมรัก วันที่เริ่มงานวันแรก วันที่ขับรถวันแรก วันที่ย้ายบ้าน วันที่หวยออก วันที่อกหัก และอีกมากมายหลายวัน ซึ่งล้วนเป็นวันที่ทุกคนล้วนมี แม้จะเป็นวันที่แตกต่างกันไป ในปฏิทินใคร ปฏิทินมัน สำ�นักพิมพ์อะบุ๊ก
คำ�นำ� เมื่อก่อนเนี่ย ผมจำ�ได้หมดเลยนะว่าวันอาสาฬหบูชาสำ�คัญยังไง วันมาฆบูชา สำ�คัญยังไง รูด้ ว้ ยว่าวันหยุดนักขัตฤกษ์นนั้ เกิดเหตุการณ์ส�ำ คัญอะไรขึน้ บ้าง เคยกระทัง่ นั่งดูรายการถ่ายทอดสดพิธีแรกนาขวัญด้วย เรียกได้ว่าเป็นเนิร์ดแฟนพันธุ์แท้วันหยุด นักขัตฤกษ์เลยก็ได้ แต่โตมานี่สิ อืม…ความสำ�คัญของวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็คือ เราไม่ต้องไปทำ�งาน และสำ�คัญยิ่งขึ้นถ้ามันเป็น long weekend แล้วยิ่งลาออกมาทำ�งานอยู่กับบ้านแล้วนี่ยิ่งแล้ว วันหยุดทั้งหลายก็แทบจะ ไม่มีจริงในโลกนี้อีกแล้ว แต่สิ่งที่รู้สึกก็คือ ตัวเราเองก็มีวันนักขัตฤกษ์ส่วนตัวมากขึ้นเหมือนกัน เช่น วันเกิดแฟน ที่ผมกับแฟนมักจะลาหยุดไปเที่ยวกันโดยไม่สนใจว่าวันนั้นจะเป็นวันอะไร หรืออาทิตย์หน้าสำ�หรับบางคนอาจจะเป็นวันธรรมดาทีน่ า่ เบือ่ และขีเ้ กียจลุกจากเตียง แต่อาจจะเป็นวันทีข่ นตูดฟูขนตาตัง้ เพราะเป็นวันย้ายทีท่ �ำ งานใหม่ของใครอีกคนอยูก่ ไ็ ด้ หรือเดือนหน้าวันที่ 17 บางคนอาจจะเล่นมือถือนั่งเบียดเป็นปลากระป๋องบนรถเมล์ เหมือนวันรถติดปกติทั่วๆ ไป แต่สำ�หรับอีกคนอาจเป็นวันสำ�คัญที่จะจดลงไดอะรี่ เพราะกำ�ลังจะได้ไปเที่ยวเมืองนอกครั้งแรก หรือกระทั่งวันหยุด long weekend ของ แต่ละคนก็สำ�คัญไม่เท่ากัน ถ้าคนนึงต้องหน้าเน่าเป็นฝีขึ้นตูดเพราะโดนบังคับให้มาทำ� โอฟรีในวันหยุด แต่อีกคนได้ไปเที่ยวหลังจากที่รอมานาน วั น แต่ ล ะวั น มี ค วามสำ � คั ญ ต่ อ คนไม่ เ ท่ า กั น แต่ เรื่ อ งน่ า ตลกก็ คื อ วั น เหล่ า นี้ ของแต่ละคน กลับมีความป่วยทีค่ ล้ายๆ กัน เราทำ�งานกันคนละที่ เริ่มงานกันคนละวัน แต่เวลาเรากับเพือ่ นมาคุยกันเรือ่ งวันทำ�งานวันแรกทีไร แม่งต้องมีเรือ่ งป่วยๆ ทีค่ ล้ายๆ กันซะอย่างงั้น เออ ทำ�ไมนะ?
ว นั สำ�คัญในการเขียนหนังสือมีอยูไ่ ม่กวี่ นั ยกตัวอย่างวันแรกทีค่ ดิ จะเขียนหนังสือ เล่มนี้ เป็นวันที่เขียน รุ้งตะแคงแวงตั้ง เสร็จ แล้วก็มานั่งคิดว่า เออ อี รุ้งตะแคงฯ เนี่ยมันพูดเกี่ยวสถานที่เนอะ ทำ�ไมเราไม่เขียนเกี่ยวกับวันบ้างนะ? หลังจากที่ไปทำ� การบ้าน สำ�รวจความเป็นไปได้ ก็เอาไอเดียมาเล่าให้ บ.ก. ฟัง พอผ่าน ก็ถึงวันที่ต้อง เริ่มเขียน (ชีวิตตรงนี้ก็วนลูปนรก “เหนื่อยจัง - ยากจัง - เขียนไม่ไหวแล้ว - พอเหอะ ฮึดสู้ - เหนื่อยจัง - ยากจัง...) ลุ้นว่าจะเขียนทันวันกำ�หนดมั้ย และลุ้นว่ากูจะเขียนจบ มั้ย วันสำ�คัญจะมาถึงอีกทีตอนที่เขียนต้นฉบับเสร็จ และครบทุกตอน หลังจาก บ.ก. ไม่มีอะไรต้องแก้ไขแล้ว ก็จะเหลือวันสำ�คัญอีกวันในขั้นตอนการเขียนหนังสือ ซึ่งก็คือ วันนี้ - วันเขียนคำ�นำ� คำ�นำ�เนี่ย เขียนยังไง วันไหน ตอนไหนก็ยาก เขียนคำ�นำ�แต่ละครั้งต้องเอาจริง วันนี้ก็เอาจริงเลยครับ ตื่นเช้า กินอาหารเช้า เอ็มร้อยห้าสิบ จิบกาแฟ นั่งทอดอารมณ์ พยายามไม่เครียด ไม่เร่ง ไปเล่นกับแมว ไปขี้ ไปอาบน้� ำ ดูการ์ตนู ฯลฯ และมาเขียน... ผลปรากฏว่า อืม…แม่งไม่เวิร์กเว้ย! (ฟ้าาก ยีหัวตัวเอง) ทำ�ไมเขียนยากงี้วะ! พอๆ วันนี้เขียนแค่นี้แหละ! เลิก เลิก เลิก วันนี้ขอลาป่วยครับ! แล้วเจอกัน วิชัย
CONTENTS หน้า 23
หน้า 9
วันที่ วันที่ ไป ขับรถครั้งแรก สัมภาษณ์งาน หน้า 105
หน้า 117
วันที่ เที่ยวทัวร์
วันที่ ไปคอนเสิร์ต หน้า 203
หน้า 189
วันที่ ไปงาน แต่งงาน
วันที่ติดม็อบ
6
หน้า 37
วันที่ ตกหลุมรัก หน้า 131
วันที่ ฉันถ่ายแบบ หน้า 215
วันที่ย้ายบ้าน
หน้า 5
1
หน้า 61
หน้า 77
วันที่ วันที่ เริ่มงานวันแรก หวยออก หน้า 141
วันที่ อกหัก
หน้า 89
วันที่ ฉันป่วย
หน้า 165
หน้า 155
วันที่ เข้าค่ายลูกเสือ วันคริสต์มาส
วันปีใหม่
หน้า 225
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2556
7
วันที่ ไปดูหมอ
หน้า 177
มีนาคม 2555/2012
วันที่ขับรถ ครั้งแรก ผ มเป็ น คนต่ า งจั ง หวั ด ที่ ไ ปไหนมาไหนด้ ว ยการเดิ น ปั่ น จั ก รยาน และ ขี่มอเตอร์ไซค์ ผมเลยไม่มีเหตุจำ�เป็นอะไรที่ต้องขับรถยนต์ จนกระทั่งย้ายมากรุงเทพฯ เพื่อเรียนและทำ�งาน จนอายุล่วงเลยมาถึงช่วงวัยรุ่นตอนปลาย ก็เริ่มรู้สึกว่า การที่ เราโตเป็นควายแล้วยังขับรถยนต์ไม่เป็นนั้น ควรจัดเป็นความสามารถพิเศษที่ควรจะ หวงแหนไว้ แลดูเท่เหมือนดาราหรือเซเลบฯ ที่ชอบมีความกลัวหรือความง่อยแปลกๆ เช่น กลัวกระดาษเอสี่ หรือลืมตาใต้น้ำ�ไม่เป็น ไรงี้ แต่จากทีอ่ าศัยอยูใ่ นกรุงเทพฯ เมืองเทพสร้าง และใช้บริการขนส่งมวลชนต่างๆ ที่เหมือนกำ�ลังทรมานตนหรือฝึกตนเพื่อบรรลุการปล่อยวางอัตตาในชีวิตขั้นโสดาบัน ก็เริ่มมีความรู้สึกว่า อืม ทำ�งานทุกวันก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ตอนเลิกงานเราก็อยาก ถึงบ้านเร็วๆ แบบไม่ต้องเข้าคิวนั่งวิน เบียดกับคนอื่นบนรถไฟฟ้า เข้าคิวรอขึ้นรถตู้ ที่ อ นุ ส าวรี ย์ ฯ นั่ ง เมื่ อ ยคอบนรถตู้ นั่ ง ต่ อ คิ ว ขึ้ น วิ น มอเตอร์ ไ ซค์ เ ข้ า ซอยในบ้ า น คือถ้ารถจะติด ก็ขอติดสบายๆ หน่อยเถอะ ก็เลยคิดว่า การมีรถซักคันน่าจะเป็น ความคิดที่ดี 9
ประกอบกับท่านรัฐบาลทีแ่ สนดีโชว์เจิดโครงการสุดเลิศ ‘คืนเงินภาษีรถคันแรก’ ผมก็รวั กลองมหาฤกษ์มหาชัย ตัดริบบิ้น ถอยรถคันแรกออกมาเบาๆ กับเค้าบ้าง ครับ ไอ้ที่ใครๆ บ่นๆ ว่าภาษีรถคันแรกทำ�ให้รถติดบ้าบอคอแตกเนี่ย...มีรถกู รวมอยู่ ด้ ว ยแหละ ก็อ ยากให้เ มียกลับ บ้านดีๆ ไม่ อยากให้ ไปนั่ งรถตู้ ที่ แม่ งขั บกั น อย่างกับเล่นรถบัม๊ พ์ แล้วก็ไม่อยากให้เมียต้องไปเป็นตัวเลือกให้แท็กซีต่ อนฝนตกไงล่ะ คือแค่จะบอกว่า เราอยากได้รถ เพราะมันจำ�เป็นสำ�หรับเรา เหมือนๆ กับที่จำ�เป็น สำ�หรับคนอื่นนั่นแหละนะ หลังจากที่จอง ดาวน์ รอ ก็ถึงวันที่รับรถตัวจริง รถเราก็รถสีดำ�ธรรมดา หน้าตา เหมือนกับของคนอื่นๆ ที่เห็นวิ่งกันเต็มถนนนี่แหละนะ แต่เรารู้สึกได้เลยว่าของเรา แม่งโก้กว่า สวยกว่า เท่กว่าของคนอื่นอะ เซลส์ก็อธิบายถึงสิ่งต่างๆ ในรถ เซลส์: เบาะที่นั่งตรงนี้ปรับได้นะคะ แล้วตรงนี้มีไว้ปรับกระจกมองข้าง ส่วน ตรงนีเ้ ป็นทีป่ รับอุณหภูมขิ องแอร์ เครือ่ งเสียงติดรถยนต์จะมีคมู่ อื ให้ตรงนีน้ ะคะ มีอะไร อย่างอื่นสงสัยมั้ยคะ? วิชัย: ครับ…ไอ้ตัว D ตรงคันเกียร์ มันแปลว่าอะไรครับ? เซลส์: … วิชัย: …เอ่อ อ้อ ไม่เป็นไรครับ ถามแค่นี้ ทำ�เป็นชักสีหน้า... ไม่ได้กวนตีนนะ ก็มันไม่รู้จริงๆ นี่นา วั น นั้ น พี่ เ ขยผมมาถอยรถเป็ น เพื่ อ น เพื่ อ ขั บ กลั บ มาไว้ ที่ บ้ า นให้ ในหั ว ผม มีแผนการว่า ถนนแถวบ้านเราก็รถไม่เยอะนะ กลางคืนดึกๆ แวบออกมาซ้อมขับ ก็คงไม่น่าจะมีปัญหา หัดสักเดือนนึง ก็น่าจะเป็น จากที่จินตนาการไว้ การขับรถแบบเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่น่าจะยากเท่าไหร่ ได้ยินมาว่ารถเกียร์ออโต้ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง มันก็เคลื่อนไปข้างหน้าเองได้อยู่แล้ว แบบนี้ก็น่าจะขับง่ายเหมือนรถบั๊มพ์ แค่ห้ามไปบั๊มพ์คนอื่นเท่านั้นเองนี่หว่า จะมีปัญหาก็ตอนถอยเข้าซอง หรือจอดขนาน อันนั้นน่าจะยาก แต่ถ้าคน ค่อนโลกขับรถได้ไม่มีปัญหา กูก็น่าจะขับได้เปล่าวะ? ภาพตัดมา พี่เขยกลับบ้านไปแล้ว วิชัยนั่งอยู่ในบ้าน มองรถคันใหม่แวววาว ที่จอดอยู่นอกบ้าน แล้วคิด...
10
ไอ้สัด...กูจะเอารถเข้ามาจอดในบ้านยังไง? นั่งปลง และเข้าบ้านนั่งเขียนงานตามปกติ แต่ นะ... ต้องเหลียวไปมองทุกครั้ง ที่เคาะ enter อะ เราต้องอดทน รอถึงตอนกลางคืนก่อนนะวิชัย แล้วเราถึงจะออกไป หัดขับรถนะวิชัย ขืนออกไปตอนนี้รถอาจจะแหกเป็นซากได้นะ แต่จุดนี้คือเขียนงาน ไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ เหมือนมีสาวน้อยหน้าใสหุ่นเซียะ ขาวหมวย นมใหญ่ ใจถึง มาระบำ� เปลื้องผ้าส่ายตูดไปมาอยู่หน้าบ้าน... อืม เด็กมันยั่วนะฮะ... สามสิ บ วิ น าที ต่ อ มา ผมก็ ม านั่ ง อยู่ ใ นที่ นั่ ง คนขั บ เรี ย บร้ อ ยละ และนี่ คื อ วันที่วิชัยขับรถเป็นครั้งแรก
ทำ�ความรู้จัก
เข้าใจเอาเองว่า การที่คนเราขับรถเฉี่ยวชนกันบนท้องถนน หรือการที่คนเรา ถอยเลี้ยวเฉี่ยวชนเสากำ�แพงนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกะระยะผิด ดังนั้นสิ่งที่ควรรู้ก่อน จะขับออกถนนใหญ่คือ การรู้จักรถของเราให้ดี โดยเริ่มจากการซ้อมเปิดไฟหน้า ไฟสูง ไฟต่ำ� ที่ปัดน้ำ�ฝนต่างๆ และดูว่าไอ้อะไรตรงไหนทำ�อะไร ไล่มาถึงการลอง ระยะเบรก เบรกเบาๆ เบรกธรรมดา กับเบรกหัวทิ่ม จากนั้นก็เริ่มลองเลี้ยว...ด้วยการ ชนถังขยะหน้าบ้านตัวเองทันที เอิ่ม…การกะระยะเป็นเรื่องต้องใช้เวลาจริงๆ ด้วย เลี้ยวไปเลี้ยวมา จนคิดว่าโอเคแล้ว ก็มาถึงการซ้อมกะระยะถอย ย้ายถังขยะ หน้าบ้านมาไว้ด้านหลังรถ ลองถอย และเดินลงไปดูว่า จังหวะสัญญาณเตือนดังถี่ ขนาดนี้ แปลว่ายังเหลือพื้นที่อีกเท่าไหร่ ก็เดินขึ้นเดินลง ค่อยๆ ลองถอยจนรถ ไปแตะถังขยะ เพื่อดูวงเลี้ยวต่างๆ นานา แลดูเป็นคนบ้า ขยับรถยึกยักๆ เดินขึ้นลงรถ สามสิบครั้งตอนกลางวันแสกๆ
ออกถนน
นายทองเคยพูดถึงหลักการขับรถไว้ว่า “อยู่ในเลนตัวเอง อย่าไปชนใคร” แค่นั้น จบ ยิ่งรถเป็นเกียร์ออโต้ ยิ่งไม่น่ายาก เอาวะ! ยี่สิบนาทีหลังจากรถจอดไว้ในบ้านตัวเอง ผมก็ทนความเย้ายวนไม่ไหว ตะลุย ขับมันออกถนนใหญ่เลยครับ!
11
ออกถนนครั้ ง แรก รู้ สึ ก เหมื อ นตั ว เองเป็ น กระทงน้ อ ยในสายน้ำ � เชี่ ย ว ที่ มี ปลาแซลมอนกำ�ลังหนีเอาชีวิตรอดจากหมีกริซลีย์ยักษ์ รถทุกคันบนถนนขับเร็วเหี้ยๆ เร็วและมหาประลัยกว่าที่เคยเห็นจากข้างถนนหลายเท่า ท่องอยู่ในหัวตลอดเวลา “อยู่ในเลนตัวเอง อย่าไปชนใคร” เป้าหมายของการออกถนนครั้งแรกคือ ขับเลียบคลองประปา ออกแจ้งวัฒนะ เลี้ยวเข้าโลคัลโร้ด และกลับบ้าน ง่าย! ซิ่งอีตั๊ก (ชื่อมอเตอร์ไซค์) มาแล้วล้านกว่าครั้ง แค่นี้กระจอกมาก! บนถนน... รถมาสด้าสีดำ�ป้ายแดง เคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 40 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง อุทานเหี้ยทุกครั้งที่มีรถแซง แอร์รถเย็น แต่เหงื่อแตกเต็มมือ ในใจยังท่อง อยู่ตลอดว่า “อยู่ในเลนตัวเอง อย่าไปชนใคร” กังวลทุกอย่าง เราอยู่ในเลนเรารึเปล่า นะ เข็มขัดนิรภัยมันเวิร์กรึเปล่า ไอ้แอร์แบ็กนีม่ นั มีจริงใช่มยั้ และกลัวทุกอย่าง กลัวโดน ชนตูด กลัวโดนเฉี่ยว กลัวเหยียบเส้นประบนถนน จะเปิดไฟเลี้ยว ไปเปิดที่ปัดน้ำ�ฝน … เกร็งจนขี้แข็งเกาะผนังลำ�ไส้หมดแล้วครับ ในหัวท่องอยู่แต่คาถานายทอง “อยู่ในเลนตัวเอง อย่าไปชนใคร” ส่วนใครจะด่าอะไรมาก็คิดไว้ในใจว่า “ไม่ต้องด่า กูไม่ได้ยิน” รถเลี้ยวเข้าเส้นคลองประปา ถนนโล่ง เริ่มมีความมั่นใจในการขับรถมากขึ้น แต่ ปั ญ หาคื อ อี ถ นนตรงนี้ แ ม่ ง แคบมาก เสี ย วเฉี่ ย วกั บ รถคั น ที่ ส วนมาอย่ า งแรง ขับไปก็คิดไปว่าไอ้พวกขับรถเป็นนี่จิตใจทำ�ด้วยอะไร ทำ�ไมถึงเหี้ยมโหดได้เพียงนี้ ถนนแคบขนาดนี้ยังขับมาซะใกล้ขนาดหูจะเกี่ยวกันอยู่แล้ว ใจไม่แรงพอจริงๆ ...ถึงกับ ต้องพับกระจกมองข้างขับ แต่พอขับมาถึงเส้นแจ้งวัฒนะ หนังตัวอย่างจึงจบลง และหนังใหญ่จึงเริ่มต้น... มึงรถเยอะม้ากกก คำ�ว่า ‘กรุงเทพฯ รถเยอะ’ นี่ เพิ่งมาเข้าใจก็วินาทีที่เราขับรถอยู่บนถนนจริงๆ นี่แหละ รถติดทุกเลนจนทำ�เอากลุ้มใจว่า อ้าว พี่มาขับรถในเลนผมแล้วผมจะขับยังไง แต่ปรากฏว่ารถติดกลับขับง่ายกว่ารถไม่ติดนะ เพราะรถติดเราก็แค่กระดึ๊บๆ ไปตาม จังหวะรถไหลก็สบายแล้ว จะมาวัดใจกันก็ตอนเปลี่ยนเลน ซึ่งมันคล้ายกับการแซงคิว คนแปลกหน้านั่นเอง
12
การเปลี่ยนเลนในวันขับรถวันแรก ก็เลยคล้ายๆ กับคนมารยาทดีที่สุดใน AEC โค้งคำ�นับสามร้อยรอบ ขอไปโหน่ยเต๊อะ ขอความกรุณาด้วยค้าบ ซึ่งแน่นอนครับ ในสายตาของคนที่ขับรถเป็นอยู่แล้ว ไอ้การกระดึ๊บๆ ลังเลยึกยักพยายามเปลี่ยน เลนนั้น มันน่ารำ�คาญเหี้ยๆ ครับ แต่วันนั้นผมก็ยอมเป็นคนใจตุ๊ดที่น่ารำ�คาญที่สุด บนท้องถนน เพราะกลัวโดนชน ไอ้ชนจนถึงกับได้รับบาดเจ็บนี่คงไม่แน่ๆ เพราะรถติด ขนาดนี้ แต่กลัวรถเจ็บครับ เพิ่งถอยมาใหม่ๆ ไม่อยากเสียเงินซ่อม แต่คิดไปคิดมาก็บรรลุสัจธรรมว่า เออ รถเรามันมีประกันภัยชั้นหนึ่งนี่นา! ประกันภัยชั้นหนึ่งแปลว่าเขาซ่อมให้ทุกอย่างนี่หว่า! เหยยยดโด้ว เรียกได้ว่าธาตุไฟแตกครับ เหมือนทำ�สูตรคอนทร้า 30 ตัวติด พร้อมกับอัพเกรดรถตัวเองเป็นรถถังไม่มีวันตาย บุกตะลุยเละครับ ตัดเลนกันแบบ ท้าทายมารยาทบนท้องถนนทีเดียว จากทีท่ อ่ งในใจว่า “อยูใ่ นเลนตัวเอง อย่าไปชนใคร” เพื่อเจียมเนื้อเจียมตัว กลายเป็น “ไอ้แสรด กูทำ�ประกันชั้นหนึ่งนะเว้ยยย” กร่างขั้น เจ้ า โลกมี พ่ อ เป็ น รั ฐ มนตรี มี แ ม่ เ ป็ น นั ก การเมื อ งท้ อ งถิ่ น มี ลุ ง เป็ น มื อ ปื น รั บ จ้ า ง จุดนี้ซ่าขนาดยืนเยี่ยวกลางห้างได้ครับ ตัดเลนเหมือนถางหญ้าสวนหลังบ้านตัวเอง ด้วยคาถาประกันชั้นหนึ่ง หนังหน้าเริ่มปรับสภาพให้ด้านหนาขึ้น ก็เริ่มขับรถได้ ไม่เงอะงะมากขึ้น ทีนี้ก็ไปเรื่อยแล้วครับ จากที่โดนด่าเพราะใจตุ๊ดไม่กล้าเปลี่ยนเลน คราวนี้โดนด่าเพราะใจหมาหน้าด้านปาดเปลี่ยนเลนอย่างไร้มารยาท จากแจ้งวัฒนะ เลี้ยวเข้าโลคัลโร้ด จนถึงบ้าน ก็สังเกตเห็นว่า ตรงหน้าปัดรถเรา มีสญ ั ญาณไฟเครือ่ งหมายตกใจอันนึงไม่ยอมดับมาตลอดทาง ทีแรกก็คดิ ว่าลืมปิดอะไร รึเปล่า แต่ลองทำ�ทุกอย่างแล้วก็ไม่ดับ นึกเอาเองว่า เป็นเครื่องหมายตกใจ ให้เราระวัง การขับรถขับรารึเปล่านะ แต่เพื่อความแน่ใจ เลยต้องโทรถามคนอื่น
โจ้: ครับพี่ ว่าไงครับ วิชัย: คืองี้โจ้ พี่เพิ่งซื้อรถมา แล้วมันมีสัญญาณไฟอันนึงขึ้นตลอด ไม่ยอมดับ โจ้: เฮ้ย เดี๋ยวนะพี่ แต่พี่ขับรถไม่เป็นไม่ใช่เหรอ วิชัย: อื้ม แล้วไง? โจ้: ... วิชัย: ...
13
โจ้: ว่าแต่สัญญาณไฟรูปอะไรพี่ วิชัย: เป็นวงกลม แล้วมีเครื่องหมายตกใจอะ โจ้: อ๋อ เบรกมือพี่ แสดงว่าพี่ใส่เบรกมืออยู่ วิชัย: อ๋อออ ไอ้เราก็คิดว่า เป็นเครื่องหมายให้ขับรถอย่าประมาท โจ้: อ๋อ ไม่ใช่ครับพี่ วิชัย: แหม…เราก็เห็นมาทั้งวันเลย โจ้: นี่พี่ขับรถแบบไม่เอาเบรกมือลงมาทั้งวันเลยเรอะ? วิชัย: … โจ้: … วิชัย: เอ่อ ว่าแต่เอาเบรกมือลงนี่ทำ�ไง โจ้: …เอ่อ มันจะมีปุ่มให้กดอะพี่ แล้วค่อยเอาลง วิชัย: อ๋อ เออ จริง โจ้: เฮ้ยพี่ พี่ไหวปะเนี่ย วิชัย: …เอ่อ มีสายซ้อน แค่นี้นะ แต๊งกิ้ว
เอาล่ะ เราขับรถออกถนนใหญ่และกลับมาอย่างมีอวัยวะครบถ้วน และรถ ไม่ได้เสียหายใดๆ แถมเรายังเรียนรู้สัญลักษณ์ไฟเตือนเบรกมือ และการใช้เบรกมือ ที่ถูกวิธีแล้วด้วย...โอเค ถือว่าสำ�เร็จ ขับรถเป็นแล้วอย่างเป็นทางการ... อืม…กูทึกทักว่าตัวเองขับรถเป็นเอาเองแบบนี้แหละ จากขับรถไม่เป็น ลุยถนนใหญ่มาแล้วโดยไม่เป็นอะไร นักเลงมีพระดีคุ้มฉันใด รถเราก็มีประกันชั้นหนึ่งคุ้มครองฉันนั้น คราวนี้เหิมเกริมหนักข้อกว่าเดิมด้วยการ ขับไปรับเมียที่หลังสวนครับ!
ทางด่วน
เรี ย กว่ า ถนนแถวบ้ า นคื อ บทเรี ย นชั้ น ประถม ถนนแจ้ ง วั ฒ นะคื อ มั ธ ยม ถนนวิภาวดีรังสิตคือมหาวิทยาลัย และทางด่วนคือชีวิตจริง! ถนนวิภาวดีรงั สิตทีแ่ อบหนักใจตอนแรก เอาเข้าจริงๆ ไม่คอ่ ยเท่าไหร่ เพราะเรา ก็ขับของเราตรงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องพยายามเปรี้ยวตีนไปแซงก็แค่นั้น แต่หลังจากนั้นนี่สิ
14
ต้องขึ้นทางด่วนตรงดินแดง เพื่อไปลงสุขุมวิท เหมือนเดิม ท่องคาถาปลุกใจให้ฮึกเหิม “อยู่ในเลนตัวเอง อย่าไปชนใคร” แต่ถ้าต้องเปลี่ยนเลนก็ไม่ต้องกลัวอะไร เพราะเรา มีเทพเจ้าประกันชั้นหนึ่งคุ้มครองอยู่แล้ว จ่ายตังค์ขึ้นทางด่วนปุ๊บ พอจะเบี่ยงซ้าย ซูมมมมมมมมมมมม~ เอิ่ม นั่นรถเก๋งส่วนบุคคลหรือรถไฟชินคันเซ็นครับ! พอได้มองกระจกมองหลังแค่นนั้ แหละ ชิบหาย รถทุกคนแม่งพุง่ มาทีร่ ถเราอย่าง กับหนังสามมิติติดจรวด เร็วเกิ๊นนนนนน!!!!! รู้สึกเลยว่าเราคือสิงโตน้อยในการ์ตูน เดอะ ไลอ้อน คิง ที่กำ�ลังวิ่งหนีตายอยู่ใน ฝูงวัวป่าโหดร้าย ที่วิ่งเร็วเป็นจรวดทางเลียบ แบบนี้ถึงจะมีประกันชั้นหนึ่งก็คงซ่อมได้ แต่รถ แต่ก็จะต่อแขนที่ขาด และปะไส้ที่แตกไม่ได้แหงๆ อืม… “อยู่ในเลนตัวเอง อย่าไปชนใคร” ทำ�ได้แค่นั้น ขับไปเรื่อยๆ ก็โดนคันหลัง บีบแตรไล่ อ่า เราไปขวางเขา เอ้า ก็เปลีย่ นเลนให้พคี่ นั หลังแซง ก็โดนอีกคันบีบแตรอีก! กลับมาเลนเดิม ก็โดนคันหลังบีบแตรอี๊ก! ขับๆ ไปมีปา้ ยบอกทาง ก็ตอ้ งอ่านไง ขับเร็วก็อา่ นไม่ทนั ไง ก็ตอ้ งขับช้าๆ ไง พอ ขับช้าๆ กูก็โดนบีบแตรด่าอีก! คือ เหมือ นเราเป็น โจรใจหมาที่โดนประชาชนในเมื องรุ ม ด่ า และเอาผั ก เน่ า ปาหน้าอะครับ โว้ยยย พ่อมึ้งงงง ใจเย็นๆ กับกูหน่อยได้มั้ยยยยย กูเพิ่งหัดขับ! อ้าว เหี้ย ป้ายเมื่อกี้ขับเลยมา อ่านไม่ทันด้วยอะ ไคลแม็กซ์อยู่ตรงที่เราต้องเปลี่ยนเลนเพื่อไปลงตรงทางออกของเราอะครับ วัดใจเหี้ยๆ เรียกได้ว่านอกจากใจต้องเหี้ยมแล้ว ยังต้องปล่อยวางชีวิตในระดับนึง ด้วยนะ เพราะอย่างกับกำ�ลังขับรถไปขวางปืนใหญ่ อารมณ์เหมือนหลับตา แล้ว ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นตามที่ชะตากรรมกำ�หนดแบบนั้นเลย แต่การเสี่ยงทั้งหมดก็คุ้มค่าตรงที่ได้เซอร์ไพรส์มยุรีถึงที่ทำ�งาน ...และโดนประชาชีเอาผักเน่าปาหน้าโชว์เมียอีกหนตอนขึ้นทางด่วนกลับบ้าน แต่คราวนี้มีภาพประกอบของคำ�ว่า “เหี้ยแล้ว กูจะตายมั้ย” จากอาการนั่งเกร็งจิกเบาะ ของท่านภริยาร่วมด้วย
15
งุ้งงิ้ง
คือเหมือนพระเจ้ากำ�ลังจะสอนขับรถหลักสูตรเร่งรัดให้กับผม วันเดียวพี่ท่าน จัดให้ครบ ผมชวนมยุรีแวะฟู้ดแลนด์เพื่อซื้อของเข้าบ้าน พอมีรถเป็นของตัวเองในที่สุด ก็อยากจะมีโมเมนต์ในฝันกับเค้าบ้าง เช่น ก่อนเข้าบ้านแวะซูเปอร์งงุ้ งิง้ ซือ้ ของนิดหน่อย หอบของคนละไม้คนละมือหัวเราะงุ้งงิ้ง มาถึงรถก็กดรีโมตเปิดกระโปรงท้ายดังปิ๊บๆ งุ้งงิ้ง หัวเราะกับเมียงุ้งงิ้งอีกครั้ง กลับบ้านกันอย่างงุ้งงิ้งๆ ตัดภาพมา หน้าฟู้ดแลนด์ แกรกกกก รถเอียง! รถเอียง!!! แช่แฟ้บ!!! ทำ�ไมมีเนินลูกระนาดตรงทางเข้าวะ!? เงยหน้าไปเห็นน้องผู้หญิงตรงป้อมเก็บตังค์กำ�ลังอึ้ง มองตาค้าง ... อ๋อ ไม่ใช่เนินลูกระนาด กูไต่ฟุตปาธนี่เอง ใครใช้ให้สร้างฟุตปาธตรงริมถนนยังงีว้ ะ! แม่ง เพราะเป็นกันแบบนีแ้ หละ ประเทศ เลยไม่เจริญ! ... น้องตรงป้อมเก็บตังค์: เอ่อ พี่คะ ตรงนี้ปิดแล้วค่ะ วิชัย: … ชิบหาย แล้วที่กูโฟร์วีลโชว์สตั๊นท์ไต่ฟุตปาธเมื่อกี้นี้เพื่ออะไรวะเนี่ย เอาๆ ก็ต้องถอยออก ซึ่งก็ทำ�ให้นึกขึ้นได้ว่า “อ้าวเวร กูยังไม่เคยถอยเลยนี่หว่า” ก็ไม่เป็นไร เราต้องไม่ลืมว่าเราขับรถเป็นแล้ว แต่เรายังไม่เคยถอยแค่นั้นเอง ไม่ยากหรอก ถอยรถโดยไร้แ รงกดดัน ...ซัดไปร่วมสิบ ห้ายึ ก ถอยเข้ า ถอยออก ถอยเข้ า ถอยออก และทุกอย่างเกิดขึ้นในสายตาท่านเมียที่เคารพรัก... ช็อตฮีโร่ที่ไปเซอร์ไพรส์ รับจากที่ทำ�งาน ดับวูบ จบกันโมเมนต์งุ้งงิ้งในฝันกู โอเค ตั้งลำ�ได้แล้ว เสยผมตั้งสติ เข้าฟู้ดแลนด์อีกรอบ ทุกอย่างเริ่มต้นกันใหม่ได้ รวมทั้งเดอะงุ้งงิ้งโมเมนต์ เก๊กหน้ารับบัตรจอดรถเรียบร้อย การหาที่จอดนั้นมัน
16
เตือนสติผมอีกหนึ่งอย่างคือ...กูยังไม่เคยถอยเข้าซองเลยนี่หว่า... เอาน่า เราต้องไม่ลืมว่า เราขับรถเป็นแล้ว แต่เรายังไม่เคยถอยรถเข้าซอง... ก็แค่นั้นเอ๊งงงง เจอที่จอดว่างหนึ่งที่ ข้างขวามีรถหนึ่งคัน ข้างซ้ายมีมอเตอร์ไซค์จอดแอบรถอีก คั น ไว้ ดู จ ากพื้ น ที่ แ ล้ ว เพี ย งพอแน่ น อนสำ � หรั บ การเข้ า จอด ไม่ เ คยถอยเข้ า ซอง ก็ไม่เห็นเป็นไร เอาหน้าเข้าก็ได้นี่นา เราก็ขับรถไปข้างหน้ามาทั้งวันแล้วนี่ มยุรี: ตัวเอง เค้าลงไปดูให้ปะ วิชัย: ไม่ต้อง (เสียงสูง มั่นใจ) ตีวง หน้ารถเสียบเข้าไปเลยครับ ใจๆ เข้าไปเลย หักซ้ายก่อน แล้วถอยตั้งลำ� หนึ่งครั้ง แล้วทิ่มให้มิดแค่นี้เอง ไม่มีใครมากดดันข้างหลังด้วย...โอ๊ย งานนี้ ง้าย! หมู! ทำ � ตามแผนทุ ก อย่ า ง ตี ว ง หั ก ซ้ า ยเพื่ อ เอาหั ว เข้ า ซอง เหมื อ นจะไม่ พ้ น ไม่เป็นไร เราปลอดภัยไว้ก่อน ถอยอีกหนึ่งครั้ง ตีวงเข้าไปใหม่ เอ…พ้นมั้ยวะ ไม่เป็นไร ปลอดภัยไว้ก่อน ถอยอีกรอบก็ได้ โมเมนต์งุ้งงิ้งมาเป็นฉากๆ แล้วครับ ‘ซื้อของนิดหน่อย หอบของคนละไม้คนละมือ หัวเราะงุ้งงิ้ง’ เข้าไปอีกรอบ ตีวงอีกรอบ โอเค พ้นละ...หัวรถเข้าไป 45% ละ ดูทรงตอนนี้ ก็ แ ค่ ถ อยอี ก ครั้ ง ตั้ ง ลำ � ให้ ต รง ก็ จ บหลั ก สู ต รเข้ า ซองอย่ า งสวยงาม ถอยอี ก รอบ ตั้งลำ�เรียบร้อย ทิ่มให้สุดก็เสร็จ คิดดูสิครับ ขับรถวันแรก ทำ�ได้ขนาดนี้ เก่งมากนะครับ รถเข้าซองเลยครับ ‘กดรี โ มตเปิ ด กระโปรงท้ า ยดั ง ปิ๊ บ ๆๆ งุ้ ง งิ้ ง หั ว เราะกั บ เมี ย งุ้ ง งิ้ ง อี ก ครั้ ง กลับบ้านกันอย่างงุ้งงิ้งๆ’ ปุ!!! ปะ!!! สาบานได้ว่าไอ้เสียง ‘ปุ’ ที่ได้ยินมันดังในหูมาก โมเมนต์งุ้งงิ้งแทบจะดับวูบ เหยดโด้ว เสียงเหี้ยอะไรอะ! มอเตอร์ ไ ซค์ ! ชิ บ หาย มี ม อเตอร์ ไ ซค์ อ ยู่ ต รงนี้ ตั้ ง แต่ เ มื่ อ ไหร่ ! (ตั้ ง แต่ เ มื่ อ ชาติที่แล้วไงล่ะมึง) ไม่รู้ว่าตอนนั้นมยุรีคิดอะไร แต่ผมกลั้นหายใจ ‘ซื้อของนิดหน่อย หอบของคนละไม้คนละมือหัวเราะงุ้งงิ้ง’
17
มอเตอร์ไซค์ค่อยๆ เสียการทรงตัวครับ ‘ซื้อของนิดหน่อย หอบของคนละไม้ค...’ มันเซครับ มันเซครับ มันเซครับ! ถึงไม่เคยเล่นแองกรี้เบิร์ด ก็รู้ว่าจุดนัดพบความความบรรลัยของการที่มอเตอร์ ไซค์เซลส์้มนั้น มันอยู่ที่รถคันข้างๆ แน่นอน! งานนี้ไม่หมู แต่หมาครับ โมเมนต์แวะซูเปอร์งุ้งงิ้ง ซื้อของนิดหน่อย - จบ. หอบของมาที่รถกดรีโมตงุ้งงิ้ง - ดับ …แม่ง ทำ�ไมมึงไม่เซย้อนกลับมาชนรถกูวะ รถกูมีประกันชั้นหนึ่งนะว้อย …แรงดึงดูดของโลกนี่มันเหี้ยจริงๆ (ยังคงโทษชาวบ้าน) พอลงไปดูก็พบว่ากระจกมองหลังของมอเตอร์ไซค์เบี้ยวนิดหน่อย และรถ คันนั้นมีหลุมสิวขนาดหนึ่งไมครอนเกิดขึ้น... อุ๊ย! อยู่ดีๆ ก็นึกขึ้นได้ว่ามีสายซ้อน! ตั้งรถมอไซค์ - กลับเข้ารถ - คาดเข็มขัดนิรภัย - ถอยรถครั้งเดียว - ออกมาจาก จุดเกิดเหตุ ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลา 10 วินาที! สายตาจ้องกระจกมองหลังอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวนะ ตรงนั้นมีกล้องวงจรปิดมั้ย! จะมีใครเห็นรึเปล่า! เข้าใจเลยว่าไอ้พวกปล้นร้านทองมันรู้สึกยังไง และไม่กล้าไปห้างนั้นอีกเลยเป็นเดือน
วันแรกของการขับรถ เริ่มอย่างวีรบุรุษ จบอย่างโจร!
18
เกี่ยวกับ ผู้เขียน วิชัย ใส่แว่น ขี้รำ�คาญ ขี้เบื่อ ขี้บ่น เมื่อก่อนทำ�งานโรงแรม ทำ�งานโฆษณา ปัจจุบันเป็น Creative Content ของ MONDAY ดิจิทัลแมกกาซีน และเป็นทาสของแมว 3 ตัว เป็นสามีของภรรยา 1 คน เป็นพ่อของลูก 1 คน ชอบแอบดูพฤติกรรมคนอื่น และชอบแอบดูพฤติกรรมตัวเอง ผลงานที่ผ่านมากับสำ�นักพิมพ์ a book • สิ่งมีชีวิตในโรงแรม (Original Edition) • ตะคริว ณ นิ่วใจ (Original Edition) • กรุณาอย่ารบกวน • ซากะ อาโออิ: สิ่งมีชีวิตในเจแปน • ตะคริว ณ นิ่วใจ ICU Edition • สิ่งมีชีวิตในโรงแรม Renovate Edition • MONDAY ดิจิทัลแมกกาซีนรายสัปดาห์) • MONDAY Paper บุ๊กกาซีนรายสะดวก • มันมากับความเหมียว • รุ้งตะแคงแวงตั้ง • นิทานตบกบาล อ่านบล็อกวิชัยได้ที่ doggiestyle.exteen.com มีเฟซบุ๊กเกรียนๆ facebook.com/dogst กระแดะมีเพจ (ที่เกรียนอีก) facebook.com/pagevichai ทวีตวันละหนึ่งครั้ง ที่ @dogst มีอินสตาแกรม @dogst
ขอบคุณ …กราบส์ พ่อแม่และน้องสาว ชาวคณะอะบุ๊กทุกๆ คน มันเดย์ทีม และทาเคชิทุกคน วันที่เราเริ่มแก่ และวันที่เราเคยเด็ก มิตรรักคนอ่านสำ�หรับมิตรภาพ คำ�ปรึกษา และให้ความช่วยเหลือระหว่างการเขียนหนังสือเล่มนี้ คุณนก ที่วันแบบนั้นยังอุตส่าห์เอายามาให้ผม ตกใจและแปลกใจมาก ขอบคุณจริงๆ ครับ มยุรี สำ�หรับทุกๆ วันต่อจากนี้
เกี่ยวกับ นักวาด ภาพประกอบ Hibpo ชื่อจริงๆ ก็ชื่อฮิปโปครับ เป็นคนดีครับ (พูดเอง) มีความฝันว่าอยากอ้วน วาดภาพประกอบไม่เหมือนกันสักเล่ม ชอบวาดรูปลงอินสตาแกรม @hibpo เพิ่งมีเพจ facebook.com/hibpopo
วันที่ฉันป่วย วิชัย
หนังสือในชุด Humor ลำ�ดับที่ 011 เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ 978-616-327-046-7 พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม 2557 ราคา 235 บาท ข้อมูลบรรณานุกรมของสำ�นักหอสมุดแห่งชาติ วิชัย. วันที่ฉันป่วย. -- กรุงเทพฯ : อะบุ๊ก, 2557. 236 หน้า. 1. บันทึก. 2. เรื่องเล่า. I. Hibpo, ผู้วาดภาพประกอบ. II. ชื่อเรื่อง. 895.918 ISBN 978-616-327-046-7
ในกรณีที่หนังสือชำ�รุด หรือเข้าเล่มสลับหน้า กรุณาส่งหนังสือนั้นมาตามที่อยู่สำ�นักพิมพ์ ทางสำ�นักพิมพ์ยินดีเปลี่ยนเล่มใหม่ให้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
ที่ปรึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย บรรณาธิการที่ปรึกษา วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ บรรณาธิการบริหาร ภูมิชาย บุญสินสุข ผู้ช่วยบรรณาธิการ สุรเกตุ เรืองแสงระวี อาร์ตไดเร็กเตอร์ บพิตร วิเศษน้อย ออกแบบปก/รูปเล่ม เพกา เจริญภักดิ์ ภาพประกอบ/ภาพปก hibpo กราฟิกดีไซเนอร์ เมธาสิทธิ์ กิตติกุลยุทธ์ เลขานุการ/พิสูจน์อักษร พิมพ์นารา มีฤทธิ์ กองบรรณาธิการ เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์ การตลาด วิไลลักษณ์ โพธิ์ตระกูล ประสานงานการผลิต อธิษฐาน กาญจนะพงศ์ ดิจิทัลคอนเท็นต์มาสเตอร์ วิศรุต วิสิทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป จัณฑรัศมิ์ เกียรติยศ ผู้ช่วยผู้จัดการ ณัฐธยาน์ อึ้งตระกูลนิธิศ ธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ลูกค้าสัมพันธ์ นริศรา เปยะกัง เว็บมาสเตอร์ จุฬชาติ รักษ์ใหญ่
สำ�นักพิมพ์ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำ�กัด
เลขที่ 3 ซอยเจริญมิตร ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2726-9996 ต่อ 22 โทรสาร 0-2714-4252 E-mail abook9@gmail.com Official Page facebook.com/abookpublishing แยกสีและพิมพ์ บริษัท ทีเอส อินเตอร์พริ้นท์ จำ�กัด โทรศัพท์ 0-2174-6060 จัดจำ�หน่าย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) อาคารทีซีไอเอฟ ทาวเวอร์ ชั้นที่ 19 เลขที่ 1858/87-90 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0-2739-8000 โทรสาร 0-2739-8609 สั่งซื้อหนังสือราคาพิเศษ 0-2726-9996 ต่อ 49 E-mail member@daypoets.com