2
3
ค�ำน�ำส�ำนักพิ มพ์
หลังจากพาเราไปเทีย่ วดูคอนเสิรต์ กันไปหลายทริปในหนังสือ เล่มแรก Live From Planet Earth สดจากโลกมนุษย์ คราวนี้ แพท บุญสินสุข หนุ่มร็อกผู้คลั่งไคล้วง MUSE ก็ชวนเราหยิบหูฟัง ใส่กระเป๋าเดินทาง แล้วนัง่ เครือ่ งบินไปสุดขัว้ โลก สูป่ ระเทศไอซ์แลนด์ ดินแดนที่หนาวเย็นแม้เป็นฤดูร้อน ด้วยท้องฟ้าที่สว่างตลอดทั้งวันในฤดูร้อน ทำ�ให้เขาไม่พบ แสงเหนืออย่างทีห่ ลายคนคาดหวัง แต่กท็ ดแทนด้วยความสะดวกดาย ในการท่องเที่ยว ที่ไม่ต้องกังวลกับสภาพอากาศที่เลวร้ายหรือพายุ หิมะ รวมไปถึงอุณหภูมิที่ลดต่ำ�กว่าจุดเยือกแข็งจนเกินจะทนไหว ที่นั่น นอกจากภูมิประเทศสวยๆ สถาปัตยกรรมงามๆ แล้ว แพทยังพบกับเพือ่ นใหม่อกี หลายรายทีพ่ กมิตรภาพและความรักจาก หลากประเทศใน 6 ทวีปทั่วโลกมาส่งมอบให้กันและกัน และแพท ก็ พ ร้ อ มแล้ ว ที่ จ ะส่ ง มัน ต่อ ให้ผู้อ่านและมิต รสหายอีกหลายราย
ผ่านจดหมายที่เขียนให้เมื่อนึกถึงกัน เราอ่านต้นฉบับหนังสือเล่มนีจ้ บแล้วนึกถึง Love is in the Air เพลงดิสโก้ชวนขยับของจอห์น พอล ยัง เนื้อเพลงในท่อนเวิร์สนั้น ร้องว่า “Love is in the air, in the whisper of the tree Love is in the air, in the thunder of the sea…” และ “Love is in the air, in the rising of the sun Love is in the air, when the day is nearly done…” รักอยู่ในเสียงกระซิบของไม้ใหญ่ รักอยู่ในเสียงแผดพร่า ของมหาสมุทร รักอยู่ในทุกการขึ้นและลงของดวงอาทิตย์ ความรักนั้นอบอวลอยู่ในอากาศ เรานึกถึงมัน พลันก็อยากเพิ่มท่อนลงไปในเพลงว่า ‘Love is in the ice’ ความรักก็ซ่อนแฝงอยู่ในน้ำ�แข็งที่เย็นเยียบเช่นเดียวกัน สำ�นักพิมพ์อะบุ๊ก
# LOVE FR O MP L ANE T I C E
W R I TE R ’S I C E CO LD I NT R O D U CTI O N
ถึงจะดูขดั กับภาพลักษณ์ภายนอก แต่ผมชอบฟังเพลงรักนะ เพลงรักมีหลายรูปแบบ เพลงรักสมหวัง เพลงแอบรัก เพลง โดนแทงข้างหลัง เพลงไปแย่งแฟนชาวบ้าน เพลงรักป่ารักเขา เพลง รักนู่นรักนี่ เพลงรักที่เขียนขึ้นโดยมีสถานที่ต่างๆ เป็นตัวเอกก็มีอยู่ เยอะแยะ เช่น California Dreaming ที่เราคุ้นเคยกัน รักเธอ ประเทศไทย ก็ใช่ New York State of Mind ก็เพราะเอามากๆ เมืองและประเทศที่โรแมนติกทั่วโลกก็ล้วนแต่มีเพลงรักของ พวกเขาเอง แต่เท่าที่ทราบนั้น ไอซ์แลนด์ยังไม่เคยมีครับ จริ ง อยู่ ที่ เ พลง Immigrant Song ของ Led Zeppelin ข้องเกี่ยวกับประเทศนี้ แต่มันยังห่างไกลจากคำ�ว่าเพลงรักอยู่มาก เนื่องจากเนื้อเพลงพูดถึงที่มาและการเดินทางสำ�รวจโลกของเหล่า ไวกิ้ง สรุปก็คือ ไอซ์แลนด์ยังปราศจากเพลงรักแห่งชาติ ทุกครัง้ ทีผ่ มออกเดินทางผมมักจะทำ�เพลย์ลสิ ต์ของประเทศ นั้นๆ ใส่ไว้ในไอพอดกับโทรศัพท์เพื่อเปิดฟังเพลินๆ คลอไปตลอด
ทริป แต่กับทริปไอซ์แลนด์ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะใส่เพลงอะไร เข้าไปให้เข้ากับประเทศเย็นๆ ที่อยู่ไกลแสนไกลซ้ำ�ยังมีจุดขายเป็น ความโล่งโจ้งแบบนี้ ผมเลยได้แต่ยดั เอาเพลงเหงาๆ ลอยๆ กับเพลงของป้า Bjork และ Of Monster And Men ซึง่ เป็นศิลปินไอซ์แลนดิกลงไปเพือ่ ความ ชัวร์ คือกะจะฟังให้เหงาตายคาหูฟังไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด จัดได้ว่า สิ้นคิดระดับแม็กซ์ แต่เชื่อมั้ยครับ ถึงแม้ทริปนี้ผมจะเดินทางคนเดียว แต่ผมแทบไม่มีเวลาว่างพอที่จะหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบหูเลย เพราะผมไม่เคยอยู่คนเดียว ทุกครั้งที่คิดว่าจะว่างแน่ๆ เหงาแน่ๆ ก็จะมีเพื่อนใหม่เดิน มาสะกิดและชวนไปทำ�นู่นทำ�นี่ ตอนอยู่บนรถบัสซึ่งคิดว่ากูต้องมีเวลาว่างแน่ๆ คนข้างๆ ก็จะมาชวนคุยเฮฮาบ้าบอไปตลอดทาง ตอนใกล้จะนอน ไอ้เตียงข้างๆ ก็ชวนไปจิบเบียร์ จิบจนไม่มี สติ คลานขึ้นเตียงปุ๊บหลับเลย พอตื่นขึ้นมาก็ไปออกเที่ยวต่อ สรุปได้ว่าเพลย์ลิสต์สุดเหงาของผมไม่ได้ถูกใช้ เพราะสิ่ ง ที่ ผ มได้ เ จอที่ นั่ น เป็ น มุ ม มองใหม่ อี ก ด้ า นของ ประเทศนี้ที่ผมไม่เคยรู้ มุมที่เอาเข้าจริง ผมว่าไม่มีใครรู้หรอกครับถ้าไม่ได้มาเจอ ได้สัมผัสด้วยตัวเอง ถามว่าบรรยากาศมืดๆ ตุ่นๆ เมฆเยอะๆ ภูเขาทะเลของ ไอซ์แลนด์มันชวนให้เหงามั้ย แน่นอนครับ ยิ่งถ้าอยู่คนเดียวเป็น เวลาหลายวันยังไงก็โคตรเหงา
เพียงแต่องค์ประกอบอื่นๆ ในประเทศนี้มันไม่ปล่อยให้ผม คิดแบบนั้นเลยแม้แต่วินาทีเดียว ผับบาร์ อาหาร บรรยากาศของถนนกลางเมือง โฮสเทล และผู้คนในนั้น ล้วนแต่ทำ�ให้ผมไม่เหงา แค่ไม่เหงาไม่พอครับ เพราะไอซ์แลนด์เป็นทีท่ ท่ี �ำ ให้ผมหลงจนเกือบจะรักได้ดว้ ยซ้� ำ ดังนั้น หนังสือเล่มนี้คือเพลงรัก ที่ผมเขียนให้ไอซ์แลนด์ L ove , from P l anet Ice
แพท บุญสินสุข
Chapter: 0
ผมว่าข้อดีของอากาศหนาวมีอยู่สองอย่าง คือทำ�ให้เหงามากขึ้นและฟังเพลงเพราะขึ้น หลายคนอาจจะค้านว่าอีเหงามากขึ้นมันเป็นข้อดีตรงไหน แต่สำ�หรับคนที่จิตใจหยาบกระด้างแบบผมแล้ว อากาศที่หนาวเย็น เปิดโอกาสให้ผมได้คดิ ถึงคนอืน่ บ้าง ซึง่ จะว่าไปมันสนุกกว่าการคิดถึง แต่เรื่องของตัวเองเยอะเลยครับ เรื่องฟังเพลงเพราะขึ้นนั้นหลายคนคงไม่เถียง เพราะเมื่อไร ทีบ่ า้ นเราเข้าหน้า (เกือบ) หนาว ไอ้ความโรแมนติกความหวานหอม ความคลอเคลียมันจะมาพร้อมๆ กันเสมอ และแน่นอนว่าบรรยากาศแบบนี้ย่อมทำ�ให้บทเพลงที่ฟัง เพราะมากขึ้น อินมากขึ้น และหวานมากขึ้น
12
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงไปมากมาย แต่มีอยู่แค่สองอย่างที่ยังคงอยู่ และผมก็ยังหมั่นทำ�มันอยู่เสมอ นั่นคือการเดินทางและการฟังเพลง ดนตรีท�ำ ให้ผมออกเดินทางมาหลายต่อหลายครัง้ ผมเดินทาง ออกไปดูคอนเสิรต์ ทีต่ า่ งประเทศมากว่าสิบปี ผมไปเยอรมนีเพือ่ เจอ เพือ่ นเก่าทีเ่ คยเล่นดนตรีดว้ ยกัน ผมไปออสเตรเลียเพือ่ ดูคอนเสิรต์ รวดเดียวถึง 3 โชว์ ผมเดินทางไปเทศกาลดนตรีที่ญี่ปุ่นมา 3 ปีติดๆ แต่การเดินทางครัง้ นีผ้ มไม่ได้ไปดูคอนเสิรต์ ไม่ได้ไปหาเพือ่ น ไม่ได้ไปเพื่อสร้างประสบการณ์ทางดนตรีใหม่ๆ แต่ผมเดินทางไป เพื่อคิดถึงคนอื่นและฟังเพลงให้เพราะขึ้น มกราคม 2013 ผมคิดเล่นๆ ว่าอยากไปเที่ยวไอซ์แลนด์ แต่สถานะทางการเงินนั้นยังห่างไกลจากคำ�ว่าเป็นไปได้ ผมจึง พับเอาแผนท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ของผมเก็บไว้ก่อน เมื่อมีโอกาส ผมจะหยิบมันขึน้ มาปัดฝุน่ แล้วออกเดินทางตามแผนทีว่ างไว้แน่นอน เมษายน 2014 ผมตั้งใจว่าจะไปไอซ์แลนด์ ตั๋วถูกจองแล้ว แพลนทุกอย่างถูกวางไว้อย่างรอบคอบ สิง่ เดียวทีผ่ มไม่รอบคอบคือ เรื่องงาน การงานของผมเพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลง จึงไม่น่าจะลาไป เทีย่ วนานๆ ได้ ผมจึงพับเอาแผนท่องเทีย่ วไอซ์แลนด์ของผมเก็บไว้ ก่อน เมื่อมีโอกาสผมจะหยิบมันขึ้นมาปัดฝุ่นแล้วออกเดินทาง ตามแผนที่วางไว้แน่นอน
13
กุมภาพันธ์ 2015 ผมนั่งดูรูปสวยๆ จากไอซ์แลนด์ที่เพื่อนๆ โพสต์อวดกันในเฟซบุ๊ก ทำ�ให้ผมขุดเอาแผนการเดินทางไปเมือง น้ำ�แข็งกลับมาอีกครั้ง ผมวางแพลนไว้อย่างเงียบๆ ไม่กระโตกกระตาก ตัว๋ เครือ่ งบิน ยังไม่ถูกจอง แต่แผนการเดินทางทั้งหมดวางไว้ชัดเจนแล้ว แล้วก็ เหมือนฟ้าเล่นตลก ผมดันเลือกไปดูเทศกาลดนตรีที่ญี่ปุ่นแทน เพราะมีวงโปรดของผมหลายวงขึ้นเล่นในงานนั้น ประกอบกับปี 2015 ผมมีงบประมาณและเวลาพอจะเที่ยวต่างประเทศได้แค่ ครั้งเดียวเท่านั้น ผมจึงพับเอาแผนท่องเทีย่ วไอซ์แลนด์ของผมเก็บไว้กอ่ น เมือ่ มีโอกาสผมจะหยิบมันขึ้นมาปัดฝุ่นแล้วออกเดินทางตามแผนที่วาง ไว้แน่นอน มีนาคม 2016 ผมบอกกับตัวเองว่า กูจะไปไอซ์แลนด์ให้ได้ ซะที (โว้ย!) และจะไปให้ได้ในปีนี้ด้วย ไม่อ้างนู่นนี่แล้ว เข้าเดือน เมษายนผมจัดแจงลาออกจากงานประจำ�ของผมเพื่อจะได้ไปเที่ยว โดยไม่ตอ้ งกังวลใจ (ซึง่ เป็นความคิดทีท่ ยุ มาก) แพลนทุกอย่างทีต่ อ้ ง แพลน จองทุกอย่างที่ต้องจอง เก็บเงินทุกบาทที่ต้องใช้ ขายของใช้ ส่วนตัวที่ไม่จำ�เป็นเพื่อนำ�เงินมาถมในทริปนี้ซึ่งต้องใช้เงินมากกว่า ทริ ป อื่ น ที่ เ คยไป งดแอลกอฮอล์ เ พราะกลั ว เกาต์ จ ะขึ้ น ก่ อ นไป พยายามเดินออกกำ�ลังกายเยอะๆ ให้ร่างกายฟิตปั๋ง ผมเตรียมตัวอยู่เกือบเดือนแล้วจึงเดินเข้าไปขอวีซ่าอย่าง
14
มั่นใจเกินร้อย เพราะถึงเงินเก็บจะไม่เยอะแต่ก็เกินกว่าเงินเก็บ ขั้นต่ำ�ที่ทางสถานทูตขอไว้ เนื่องด้วยไอซ์แลนด์ไม่มีสถานทูตในบ้านเรา จึงต้องทำ�วีซ่า ผ่านสถานทูตเดนมาร์กแทน โดยไปทำ�ที่ VFS ที่เป็นตัวแทนในการ ยื่นขอวีซ่าหลายประเทศตรงซอยสุขุมวิท 13 แถวสถานีรถไฟฟ้า นานา ผมไปยื่นเอกสารตั้งแต่เช้า ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็เดิน ตัวปลิวออกมาพร้อมกับใบเสร็จที่ต้องนำ�มารับพาสปอร์ตคืน จะได้ไปแล้วครับ จะได้ไปซะที 1 พฤษภาคม ผมปวดขาซ้ายตุบๆ หวังว่าคงไม่ใช่เกาต์ โรคประจำ�ตระกูลที่ทั้งพ่อและพี่ชายของผมเป็น แต่ปรากฏว่าใช่ คิดในแง่ดี เป็นตอนนี้ยังดีกว่าเป็นที่โน่น หายทันน่า... 3 พฤษภาคม ผมรู้สึกเจ็บๆ ที่ก้น หวังว่าคงไม่ใช่ฝีที่ทั้งผม และพ่อผมเคยเป็นมาก่อน แต่ปรากฏว่าใช่ เอาน่า คิดในแง่ดี เป็นตอนนีย้ งั ดีกว่าเป็นทีโ่ น่น หายทันน่า... 5 พฤษภาคม วันที่อาการปวดขาปวดก้นทุเลาแล้ว มีเบอร์ โทรศัพท์ขึ้นต้นด้วย 02 โทรเข้ามาที่เครื่องผม ปลายสายเป็น เครื่องตอบรับอัตโนมัติ “สถานทูตเดนมาร์ก สวัสดีค่ะ” ผมสะดุ้งโหยง ด้วยความ ตื่นเต้น
15
ตื่นเต้นนะครับ ไม่ใช่ดีใจ เพราะส่วนมากแล้วทางสถานทูต จะไม่ โ ทรหาเรานอกจากมี เ หตุ สุ ด วิ สั ย หรื อ ต้ อ งการหลั ก ฐาน บางอย่างเพิ่ม ผมหวังว่าจะเป็นอย่างหลัง อยากได้อะไรเพิ่มก็บอกมาครับ ผมอยากไปจะแย่แล้ว “ตอนนี้ทางสถานทูตเดนมาร์กไม่สามารถออกวีซ่าให้ได้ค่ะ เนื่องจากระบบล่มทั้งโลก” !!! หลังจากฟังสาเหตุจากเจ้าหน้าทีข่ องสถานทูตแล้วพบว่าเป็น เรื่องสุดวิสัยสุดๆ และตอนนี้ทางสถานทูตเองก็ไม่สามารถบอกได้ ว่าระบบจะกลับมาใช้ได้เมื่อไร ผมจึงเหลือทางเลือกอยู่สองทาง ทางแรกคือรอว่าเมื่อไร ระบบจะกลับมาใช้ได้ และเลื่อนทริปออกไปเรื่อยๆ ทางที่สองคือไปเอาพาสปอร์ตคืน ยกเลิกการขอวีซ่าซะ แล้ ว ไปเที่ ย วที่ อื่ น โดยทางสถานทู ต จะคื น เงิ น ค่ า วี ซ่ า ทั้ ง หมด เนื่องจากเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่รู้จะแก้ไขยังไงจริงๆ จุ ด นี้ ผ มมั่ น ใจแล้ ว ว่ า ฟ้ า ดิ น กำ � ลั ง กวนตี น ผมอยู่ แ น่ น อน พอเล่าเรือ่ งให้เพือ่ นสนิทฟังมันก็บอกว่าให้สตู้ อ่ เทพเจ้าไวกิง้ เขาจะ ดูว่ามึงอยากไปจริงหรือเปล่า ผมขอเวลาคิดดีๆ สักสองสามวันก่อนเลือกว่าจะทำ�อย่างไร ต่อไป 8 พฤษภาคม 2016 วันที่ผมควรจะได้ไปเดินแรดที่ยุโรปแล้ว ตามแพลนที่วางไว้ตอนแรก... ผมตัดสินใจที่จะไม่ไปครับ 16
ผมจะไปรับพาสปอร์ตคืน แล้วไปเที่ยวที่อื่นแทน (ก็ได้วะ) ผมโทษโชคชะตาโทษฟ้าโทษดิน และปลอบตัวเองว่าไอซ์แลนด์ มันไม่หนีไปไหนหรอก ประเทศทั้งประเทศนะ ไม่ใช่ยางรัดผม จะได้หายไปง่ายๆ โอกาสหน้ายังมี แม้ไม่แน่ใจว่าเมื่อไร แต่มันต้อง มีอีกแน่นอน ผมจึงพับเอาแผนท่องเทีย่ วไอซ์แลนด์ของผมเก็บไว้กอ่ น เมือ่ มีโอกาสผมจะหยิบมันขึ้นมาปัดฝุ่นแล้วออกเดินทางตามแผนที่วาง ไว้แน่นอน 9 พฤษภาคม ผมโทรกลับไปหาสถานทูตเพื่อบอกว่าไม่ไป แล้ว ผมยอมแพ้ตอ่ โชคชะตาและความซวย ปลายสายเป็นเจ้าหน้าที่ ชาวเดนมาร์กชื่อแอนเน็ต เธอค่อยๆ ฟังเหตุผลของผมอย่างเข้าใจ แล้วบอกกับผมว่า “ระบบซ่อมได้แล้วค่ะ ยังอยากไปอยู่มั้ยคะ” ผมกำ�โทรศัพท์แน่น แล้วถามกลับไปว่า “จริงเหรอครับ” แอนเน็ตแจ้งว่าแก้ปญ ั หาทีร่ ะบบได้แล้ว ช่วงสัปดาห์ทผ่ี า่ นมา มีแต่คนโทรมาโวยวายที่สถานทูต ตอนที่รับสายผมเธอก็คิดว่า ผมคงเป็นอีกคนทีจ่ ะโทรมาต่อว่า ด้วยความทีต่ อ้ งทนฟังคนโวยวาย หยาบๆ คายๆ มาตลอดสัปดาห์ เธอจึงดีใจมากที่ผมโทรมาพูดดีๆ กับเธอ กลายเป็นว่านอกจากผมจะเล่าปัญหาของผมให้เธอฟังแล้ว เธอก็ยงั เล่าปัญหาของเธอให้ผมได้ฟงั ด้วย พอได้ระบายเธอก็คงรูส้ กึ ดีขึ้น แอนเน็ตบอกว่า ผมต้องเปลี่ยนวันเดินทางแล้วส่งบุ๊กกิ้งตั๋ว 17
กับที่พักมาให้เธอทางอีเมล ไม่ต้องเข้ามายื่นใหม่แล้ว เธอและทีม งานของสถานทูตจะช่วยดูให้ ผมรับปากเธอว่าจะส่งทุกอย่างให้เร็วทีส่ ดุ ก่อนวางสายจาก กัน เธอบอกผมว่า ขอบคุณที่เข้าใจสถานการณ์ และ Thank you for the ‘LOVE’ วันรุ่งขึ้นผมส่งไฟล์เอกสารทุกอย่างไปให้สถานทูตแต่เช้า และโทรไปคอนเฟิรม์ อีกครัง้ ในตอนบ่าย แอนเน็ตรับสายเหมือนเดิม วันนีด้ เู หมือนน้�ำ เสียงของเธอจะรีแล็กซ์ขนึ้ เยอะ เธอบอกว่าได้อเี มล เรียบร้อย และจะรีบจัดการให้เลย ไม่ต้องห่วง เธอทิ้งท้ายอีกครั้งว่า “ขอบคุณที่เข้าใจสถานการณ์ และ Thank you for the LOVE” วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม ผมได้รับข้อความจาก VFS ว่า พาสปอร์ตของผมพร้อมแล้ว ให้มารับได้เลยในวันจันทร์ แต่ยังครับ ผมยังไม่ดีใจ ได้พาสปอร์ตไม่ได้หมายความว่าจะมีวีซ่าติดอยู่ในนั้น โชคชะตายิง่ กำ�ลังกวนๆ อยูด่ ว้ ย ผมอาจจะเจอเรือ่ งเฮงซวยคูณสาม เช่น ไปรับพาสปอร์ตแล้วมีตราปั๊มว่า ‘วีซ่าไม่ผ่าน’ อยู่ในเล่มก็ได้ วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม ผมไปรับพาสปอร์ตตอนบ่ายโมง เป๊ะ เพราะเป็นช่วงเวลาทีท่ าง VFS เปิดให้รบั พาสปอร์ตคืน ระหว่าง ที่นั่งรอคิวอยู่นั้น ผมคอยคิดถึงแผนเอ แผนบี และแผนซี ถ้าหาก ผมดันไม่ได้วซี า่ ขึน้ มาจริงๆ แต่ลกึ ๆ แล้วผมมัน่ ใจนะว่าได้ ต้องได้สิ ผมต้องได้ไปเสียที นั่งรออยู่ไม่กี่นาทีก็ถึงคิว ผมเดินไปรับซองจดหมายขนาด ใหญ่ทบี่ รรจุพาสปอร์ตของผมอยู่ แล้วเดินออกมาจากวีเอฟเอสทันที 18
ผมลงลิฟต์มาเรียกแท็กซี่กลับบ้านโดยยังไม่เปิดซองออกดู ผมกลัวครับ กลัวว่าเปิดออกมาแล้วจะไม่มีตราวีซ่าแปะอยู่ ซึง่ แปลกนะ เพราะผมก็เคยได้วซี า่ จากประเทศยากๆ มาแล้ว แต่กบั ครัง้ นีผ้ มเสียวครับ มันมีเรือ่ งประหลาดๆ หลายอย่างเกิดขึน้ ทุกครัง้ ที่ตั้งใจจะเดินทางไปไอซ์แลนด์ และมันก็คงเป็นการหักมุมอย่างเจ็บแสบเมือ่ ผมทำ�ทุกอย่าง แล้วแต่ก็ยังไม่ได้วีซ่า ผมนั่งเหงื่อซ่กอยู่ในแท็กซี่จนถึงบ้าน เดินขึ้น ห้องของตัวเองแล้วกระโดดขึน้ เตียง นัง่ จ้องซองจดหมายซองนัน้ อยู่ เกือบๆ นาทีแล้วค่อยๆ เปิดมันออก ... ผมไม่ตอ้ งพับเอาแผนการเทีย่ วไอซ์แลนด์ของผมเก็บไว้แล้ว ครับ เพราะผมกำ�ลังลากกระเป๋าขึน้ เครือ่ งบินเพือ่ ออกเดินทางไปยัง ประเทศที่ฝันมานานแสนนานสักที ประเทศที่ผมมั่นใจจะทำ�ให้ผม มีความสุข ประเทศที่ผมมั่นใจว่าจะรักมันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ผมออกเดินทางด้วยความรักทีจ่ ะเทีย่ ว และผมก็มนั่ ใจว่าการ เที่ยวครั้งนี้จะให้ความรักกลับมาที่ผม ดังนั้นมันคงจะเป็นความผิด มหันต์หากผมจะไม่มอบความรักนั้นต่อไปให้กับผู้อื่น ความรักจากประเทศที่อยู่เกือบๆ จะขั้วโลกเหนือ ประเทศ ที่ถึงแม้จะมีคำ�ว่าน้ำ�แข็งอยู่ในชื่อ แต่ก็ยังมีความอบอุ่นให้สัมผัสได้ ในทุกตารางเมตร ผมอยากจะส่งต่อความรักแบบไม่เลี่ยนซึ่งกลั่นออกมาจาก ประเทศที่คนมีความสุขและมีความรักให้กันมากที่สุดในโลก ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจุดนี้ผมต้องไปขอบคุณเทพนอร์ดิก 19
เทพไวกิ้ง เทพเจ้าธอร์ เทพมาร์เวล เทพดีซี หรือเทพองค์ไหน แต่ผมอยากจะบอกว่า ท่านครับ Thank you for the LOVE L ove , from P l anet Ice
Chap t e r:1
I’ ll m ak e the m o s t o f i t, I’ m an ext r ao r di n ar y ma ch i n e *Extra o rdin a r y M a chin e - Fi o na Apple
9:05 A M St ockh olm , S weden
ณ สนามบินเวสเตอรอส กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ก่อนเวลาเครื่องออกสองชั่วโมง ในการเดินทางไปกลับไอซ์แลนด์-สวีเดน ผมใช้บริการของ สายการบินโลว์คอสต์สัญชาติไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า Wow Air เจ้าของ สโลแกน ‘We promise you the WOW feeling’ จริงๆ ผมสามารถเลือกเดินทางกับสายการบินอื่นที่เป็น ฟูลเซอร์วิสในราคาไม่แพงมากก็ได้ แต่สาเหตุที่เลือกที่จะบินกับ ว้าววว! ก็เพราะว่าราคาตั๋วสายการบินนี้ถูกสะใจอยู่ที่ราวๆ 3,0004,000 บาท (ไม่รวมน้�ำ หนักกระเป๋า) หากจองตัว๋ ล่วงหน้านานหน่อย ครับ ซึ่งราคานี้เทียบกับความเป็นสแกนดิเนเวียที่แพงแม่งทุกอย่าง แล้วจัดได้ว่าถูกอย่างกับขี้ เท่าทีอ่ า่ นๆ เอาใน TripAdviser น้องว้าวของผมจัดได้วา่ เป็น 24
สายการบินราคาถูกที่บริการดี อาจจะโหดเรื่องน้ำ�หนักกระเป๋าไป นิดแต่ผมสะพายเป้ชิลล์ๆ แค่ใบเดียว (ถ้าหิ้วสัมภาระขึ้นเครื่อง น้ำ�หนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม จะไม่ชาร์จเงินเพิ่ม) และลึกๆ แล้วก็อยากจะลองดูด้วยครับว่าไอ้ WOW! feeling ที่โฆษณาเอาไว้มันจะ ‘ว้าวววว’ จริงมั้ย นั่งรอในเกตโล่งๆ และสนามบินเงียบๆ อยู่ราวชั่วโมงนิดๆ ก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง ผมเอาบอร์ดิ้งพาสไปสแกนเสร็จก็เปิดประตู ออกไปเดินตากลมขึ้นเครื่องได้เลย ความประทับใจแรกของน้องว้าวคือ แอร์สวยมาก! สวย มากๆๆ! สวยว้าววว! ไม่แน่ใจว่าเธอเป็นคนไอซ์แลนด์หรือสวีเดน แต่ทแี่ น่ๆ นับเป็นความประทับใจแรกทีย่ ากจะลืม ทักทายทีนกี่ แู ทบ จะขอแต่งงาน ผ่านจากคุณแอร์สุดสวยมาแล้วก็มานั่งประจำ�ที่ครับ ผมพบ ว่าที่นั่งของผมคือตรงกลางของแถวแบบ 3 ตอนเลย หมดสิทธิ์เอา หัวไปหนุนผนังเครื่องบินนอน แต่ไม่เป็นไรครับ จุดนี้ผมตื่นเต้นเกิน กว่าจะหลับได้ ไว้เครื่องตั้งลำ�แล้วค่อยชวนคนข้างๆ คุย ขอให้เจอ คนเฟรนด์ลี่ๆ ละกัน ผลออกมาว่าเพือ่ นร่วมแถวฝัง่ ติดทางเดินคือสาวผมบลอนด์ สุดสวย ทีพ่ อขึน้ เครือ่ งก็เอาฮูด้ คลุมหัวนอนทันที ส่วนเพือ่ นร่วมแถว ฝั่งติดหน้าต่างนั้นเป็นชาวไอซ์แลนด์ชื่อกิลฟี ผมโชคดีมากๆ ที่กิลฟีเป็นมนุษย์ช่างคุยคนหนึ่ง ผมเลยได้ โอกาสถามข้อมูลนูน่ นีเ่ กีย่ วกับไอซ์แลนด์ คำ�ถามแรกทีผ่ มถามกิลฟี คือคำ�ถามยอดฮิตครับ 25
“เมืองหลวงของประเทศนายออกเสียงถูกต้องว่ายังไงฟะ” ถ้าใครเคยหาข้อมูลเกี่ยวกับไอซ์แลนด์น่าจะปวดหัวกับวิธี การสะกดและออกเสียงสถานทีใ่ นประเทศนีม้ ากๆ เคยได้ยนิ ฝรัง่ เขา แซวกันว่าเมืองในไอซ์แลนด์ตั้งชื่อโดยการเอามือไปไถแป้นพิมพ์ มั่วๆ ได้ตัวอักษรอะไรก็เอามารวมๆ เป็นคำ� ก็ฟังดูเว่อร์ไปนิด (แต่ก็เกือบจริง) เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ชื่อว่า Reykjavik ออกเสียงอย่าง ถูกต้องว่า ‘เร็คเควิก’ ตรงคำ�ว่า ‘เร็ค’ ต้องมีขากตรง ค ควายหน่อยๆ จึงจะเป็นการออกเสียงที่ถูกต้อง เวลา 3 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อมีเพื่อนคุย เผลอ แป๊บเดียวกัปตันของน้องว้าวก็ประกาศว่าอีก 20 นาทีจะถึงสนามบิน เคฟลาวิก (Keflavik) ผมขออนุญาตกิลฟีชะโงกไปดูนอกหน้าต่าง ก็เห็นว่าวิวทีเ่ ป็น ทะเลมาตลอดไฟลต์ได้เปลี่ยนเป็นแผ่นดินไอซ์แลนด์ ผืนดินของ ประเทศทีผ่ มฝันถึงมาหลายปี กิลฟีเ่ ห็นผมยิม้ เป็นเด็กได้ของเล่นเลย เสนอว่าแลกที่กันมั้ย จะได้มองให้จุใจ ผมยิ้มกว้างขึ้นอีก ผมประทับใจกับประเทศนี้ตั้งแต่ยังไม่เหยียบสนามบินเลย จั ง หวะที่ เ ห็ น พื้ น ดิ น โคลนสี น้ำ � ตาลค่ อ ยๆ เปลี่ ย นเป็ น ยอดเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะมันสวยงามมากๆ ผมแทบจะเอา หน้าแปะหน้าต่างดูวิวไปจนเครื่องลงจอด น้องว้าวพาผมมาถึง ไอซ์แลนด์อย่างปลอดภัยและนิ่มนวล เคฟลาวิกจัดได้ว่าเป็นสนามบินขนาดกลางครับ คือไม่ได้ ใหญ่โตแบบสุวรรณภูมิ ไม่ได้เล็กจิ๋วเหมือนเวสเตอรอสของสวีเดน 26
ที่ ผ มจากมา แต่ ผ มชอบดี ไ ซน์ ข องที่ นี่ ม ากที เ ดี ย ว ทั้ ง การใช้ สี การวางฟอนต์ตา่ งๆ นัน้ ทำ�ได้ดี ไม่ได้ใหญ่เบ้อเริม่ จนต้องถอยหลังอ่าน และไม่เล็กจนต้องเอาหน้าไปจ่อถึงมองเห็น กิลฟีที่เป็นเพื่อนคุยมาตลอดไฟลต์เดินมาสะกิดหลังผมแล้ว บอกว่าเที่ยวให้สนุก ก่อนจะขอตัวไปรอรับกระเป๋า ผมขอบคุณเขา แล้วเดินตรงต่อไปที่ประตูทางออก ประตูที่มีป้ายเขียนอยู่ด้านบนว่า Welcome to Iceland ประตูที่พอเดินก้าวข้ามไปก็จะหมายความว่าผมเดินทางมา ถึงประเทศในฝันของผมอย่างเป็นทางการ ผมยิม้ กว้างทีส่ ดุ เท่าทีจ่ ะยิม้ ได้แล้วเดินผ่านประตูนนั้ ออกไป ไอซ์แลนด์ กูมาแล้ว! เสมอ
ทุกครั้งที่ออกเดินทางไปประเทศที่ไม่เคยไป ผมจะตื่นเต้น
ตอนนีผ้ มเหยียบแผ่นดินไอซ์แลนด์อย่างเป็นทางการและถูก กฎหมายเรียบร้อย เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ที่ได้มาถึงซะทีหลังจาก ได้แต่ฝันถึงมา 3-4 ปี ที่จริงผมควรจะซึมซับโมเมนต์นี้ไว้ แต่หิวว่ะ ไปหาที่แลกตังค์แล้วซื้อหนมกินดีกว่า สกุลเงินของประเทศไอซ์แลนด์คือไอซ์แลนดิกโครนา หรือ เรียกย่อๆ ว่าโครนา (Krona) วิธีคำ�นวนค่าเงินโครนาให้เป็นไทย ก็คล้ายๆ กับเงินเยนของประเทศญีป่ นุ่ ครับ คือตัดศูนย์ตวั สุดท้ายออก แล้วคูณสามเข้าไป ก็จะได้เป็นจำ�นวนเงินไทยโดยคร่าวๆ ผมจัดการนำ�เงินยูโรทีแ่ ลกมาจากกรุงเทพฯ มาแปรสกุลเป็น 27
โครนาที่สนามบิน เรตแลกเปลี่ยนที่สนามบินนั้นแทบจะไม่ต่างจาก เรตในเมืองครับ แลกแม่งให้หมด ขาดเหลือค่อยรูดบัตรเอา เพราะ ที่ ไ อซ์ แ ลนด์ นั้ น ก็ ค ล้ า ยกั บ ทุ ก ประเทศในสแกนดิ เ นเวี ย คื อ ใช้ บัตรเครดิตกันแทบทุกคน เงินสดเราพกไว้ให้อุ่นใจดันกลายเป็น ภาระที่เราต้องแบกไปตลอดทั้งทริป ใครที่ จ ะมาเที่ ย วแถวนี้ ค วรเอาเงิ น สดมาน้ อ ยๆ หน่ อ ย เพราะสำ�หรับที่นี่ ต่อให้ของสิ่งนั้นราคา 7 บาท เราก็สามารถจ่าย ด้วยบัตรเครดิตได้ พอแลกเงินเรียบร้อยก็เดินตรงไปยังบูททีเ่ ขียนว่า Flybus ซึง่ เป็นชัตเติลบัสที่จะพาคุณไปยังดาวน์ทาวน์ของเร็คเควิกหรือยิงตรง ไปยังโรงแรมที่จองไว้เลยก็ได้แล้วแต่จะเลือก บริษัทที่ให้บริการฟลายบัสนั้นมีหลายบริษัทครับ ทุกเจ้า ราคาเท่ากัน รถบัสก็คุณภาพดีเหมือนกัน ต่างกันแค่เวลารถออก ฉะนั้น รถเจ้าไหนกำ�ลังจะออกก็เอาเจ้านั้นแหละครับ ผมเดินไปซือ้ ตัว๋ รถชัตเติลบัสในราคาชิลล์ๆ ที่ 900 กว่าบาท รูดบัตรตูม! แล้วก็เดินไปซื้อแซนด์วิชซาลามีที่มาพร้อมขนมปัง แข็งโป๊กปาใส่หมาตายในราคาเกือบๆ 400 บาทไทย รูดบัตรอีก หนึ่งที ตูม! อืม อาหารแบบนีใ้ นราคาแบบนี้ เริม่ เห็นเค้าลางความบรรลัย ของค่าอาหารในทริปนีแ้ ล้ว ถ้าอยากกินอะไรอร่อยๆ ต้องมีอย่างต่�ำ มื้อละพันแน่นอน แต่ไม่เป็นไร นี่มันไอซ์แลนด์นะโว้ย ประเทศที่มึง อยากมาตั้งหลายปีแล้ว อีกะแค่มื้อละพัน กระจอก! ก็กินข้าว วันละมื้อก็สิ้นเรื่อง (อย่างควาย) 28
ไอซ์แลนด์ต้อนรับผมด้วยอากาศที่ยอดเยี่ยม แสงแดดอุ่นๆ ช่วยให้ 9 องศาเซลเซียสเป็นอุณหภูมิที่กำ�ลังดี ผมเดินขึ้นรถบัส พร้ อ มกั บ ครอบครั ว ชาวอิ น เดี ย นิ สั ย ดี ที่ พ บตอนอยู่ ที่ ส นามบิ น เวสเตอรอสด้วย เอาเข้ า จริ ง ผมว่ า แทบจะทุ ก คนในไฟลต์ น่ า จะอยู่ บ นรถ คันเดียวกับผม ผมมองหากิลฟี่ แต่ไม่เจอ คงจะมีคนมารับล่ะมั้ง พอรถเต็มทุกที่นั่ง คนขับก็เดินมาถามทุกคนว่าพักที่โรงแรมไหน แล้วก็จัดการสตาร์ทเครื่องแล้วออกรถ ผมจะได้เห็นเร็คเควิกด้วยตาตัวเองซะที หลังจากเห็นมันผ่าน หน้าจอคอมพิวเตอร์มานานแสนนาน เร็คเควิกนั้นจัดได้ว่าเป็นเมืองหลวงที่ประชากรน้อยที่สุด แห่งหนึ่งของโลก ที่นี่มีประชากรไม่ถึง 150,000 คนเลยด้วยซ้ำ� (แต่ก็นับเป็นเกือบครึ่งของประชากรทั้งประเทศ) ไม่แออัดเหมือน ญี่ปุ่น แถมผมก็แทบไม่ต้องทำ�การบ้านเรื่องการเดินทางในเมือง สักเท่าไร เพราะรถเมล์ที่นี่มีอยู่ไม่กี่สาย แทบทุกสายต่างก็วิ่งผ่าน จุดท่องเที่ยวสำ�คัญของเมืองหมด และถือว่าเป็นโชคดีคูณสอง เพราะโฮสเทล Hlemur Square ทีผ่ มจองนัน้ ตัง้ อยูข่ า้ งๆ จุดออกรถ ของรถเมล์ทุกสาย ปกติแล้วถ้าผมไปเทีย่ วทีไ่ หนเกิน 5 วัน ผมจะเปลีย่ นโรงแรม เพือ่ ความหลากหลายและกันเหนียว เผือ่ ว่าโรงแรมทีจ่ องนัน้ ไม่ได้ดี อย่างที่คิดไว้ 29
แต่ครั้งนี้ผมกลับจองที่พักไว้แค่ที่นี่ที่เดียว เพราะที่นี่มีรีวิวที่ ดีเยี่ยม โลเคชันที่เจ๋งสุดๆ คืออยู่ใกล้ท่ารถ ใกล้ถนนช้อปปิ้ง และ ถูกล้อมไปด้วยผับบาร์ แถมราคาก็เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวทุนต่ำ� อย่างผมมาก เอาเงินไปถลุงกับอาหารและการท่องเที่ยวดีกว่า มาไกลขนาดนี้แล้วอยู่ห่างๆ เตียงหน่อยเหอะ ไว้ค่อยกลับไปนอนถอนทุนที่กรุงเทพฯ เนอะ รถชัตเติลบัสไม่ได้วิ่งไปส่งทุกคนที่โรงแรมนะครับ แต่จะวิ่ง ไปทีส่ �ำ นักงานใหญ่ของบริษทั นัน้ ๆ แล้วจัดการแยกให้นกั ท่องเทีย่ ว แต่ละคนขึ้นรถตู้ชัตเติลแวนของโรงแรมที่จะไปส่งคนตามโรงแรม อีกที ผมว่าเป็นระบบที่ดีนะครับ สะดวกและถึงโรงแรมเร็วกว่า การต้องมานั่งรอรถบัสไปส่งนักท่องเที่ยวทีละคน ผมใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็มาถึงโฮสเทลฮเลเมอร์สแควร์ ทุ ก อย่ า งเป็ น ไปตามรู ป ภาพที่ เ ห็ น ในเว็ บ ไซต์ จ องโรงแรมครั บ สภาพภายนอกอาจจะไม่ได้หรูนกั เพราะมันคือตึกแถวเก่าๆ ทีเ่ อามา รีโนเวต แต่บรรยากาศที่นี่ดูดีมากๆ พอก้าวเข้ามาข้างในก็พบกับล็อบบีก้ ว้างขวาง มีนกั ท่องเทีย่ ว หัวทอง หัวแดง หัวน้ำ�ตาล และหัวดำ� กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ บางคนก็พูดคุยกันสนุกสนาน บางคนก็นอนสัปหงกอยู่บนโซฟา บางคนก็หวั เราะกันเสียงดังทีบ่ าร์ของโรงแรม ซึง่ ดูนา่ นัง่ มากๆ ครับ คืนนี้เจอกัน 8 วันของผมในประเทศนี้ต้องสนุกแน่นอน ผมเดินไปเช็กอินทีเ่ คาน์เตอร์ พอยืน่ พาสปอร์ตให้ พนักงาน 30
ก็โชว์สกิลภาษาไทยทันที “สวัสดีค่ะ” เหยดดดดด เก่งมากๆ แต่มึงเป็นผู้ชาย! ผมจั ด การแก้ แ กรมมาร์ ใ ห้ เ ขาว่ า ผู้ ช ายต้ อ งพู ด ลงท้ า ยว่ า ‘ครับ’ ต่างหาก แล้วก็หัวเราะตลกแดกใส่กันแก้เขิน พนักงานคนนี้ ชื่อโอเล เป็นชาวนอร์เวย์ที่มาทำ�งานในเร็คเควิก แลดูนิสัยดีทีเดียว ผมถามเรื่องการซื้อเดย์ทัวร์และพูดคุยเล่นกันเล็กน้อย แล้วโอเล ก็ให้กุญแจห้องรวมถึงอธิบายกฎกติกาของที่นี่ สถานที่เที่ยวรอบๆ ที่น่าสนใจ และร้านอาหารเด็ดๆ รวมถึงสรรพคุณของบาร์โรงแรม ซึ่งขายเบียร์ถูกมาก ผมขอบคุณเขาแล้วขอตัวขึน้ ห้องทันทีโดยสัญญาว่าจะลงมา เมาท์มอยเรื่อยๆ ปกติ ผ มจะแบ่ ง การเที่ ย วของตั ว เองออกเป็ น สองแบบ แบบแรกคือไปพักผ่อน ซึ่งจะพักดีประมาณนึง กินดีมากๆ และจะ ไม่รู้สึกผิดอะไรหากจะนอนอืดอยู่ที่ห้องจนถึงห้าโมงเย็น เพราะผม มาพักผ่อน ส่วนแบบทีส่ องคือมาท่องเทีย่ ว คือการเดินทางมาทีใ่ หม่ๆ พบเจอคนใหม่ๆ ออกจากโรงแรมแต่เช้า มืดค่�ำ ค่อยกลับ นอนไม่ตอ้ ง แพงมากเพราะจะกลับห้องก็ตอ่ เมือ่ ง่วงตาแทบปิดหรือเหนือ่ ยแทบ ขาดใจ ซึ่งทริปไอซ์แลนด์นี้ แน่นอนว่าเป็นแบบที่สองครับ ผมเดินขึน้ บันไดมาถึงชัน้ สาม เดินผ่านห้องครัวและห้องนัง่ เล่น ประจำ�ชั้นจนมาถึงห้อง 305 ห้องที่จะเป็นบ้านของผมไปอีก 8 คืน ในทริปนี้ผมจองห้องรวมแบบ 12 เตียงเอาไว้ แปลว่าเมื่อเปิดประตู เข้าไปผมต้องเจอเพื่อนร่วมห้องอีกมากมาย ผมตืน่ เต้นและสนุกทุกครัง้ ทีไ่ ด้นอนห้องรวม มาดูกนั ครับว่า 31
เพื่อนรวมห้องของผมจะเป็นอย่างไรบ้าง เอ้า! เปิดประตู! “Heyyyyyyyy” เจ้าของเสียงเป็นหนุ่มหน้าตี๋ใส่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวนั่ง เล่นโน้ตบุก๊ อยูบ่ นเตียง ผมเดินเข้าไปทักทายเขย่ามือและแนะนำ�ตัว ทันที นี่คงจะเป็นสิ่งที่ผมต้องทำ�อีกหลายรอบในทริปนี้ “สวัสดีครับ แพทครับ มาจากประเทศไทย” ผมชิงแนะนำ�ตัว ก่อน “เอียนครับ มาจากยูเอสเอ” เจ้าหนุ่มหน้าตี๋คนนี้เป็นลูกครึ่งจีน-อเมริกัน อายุ 24 ปี เป็น ทนายฝึกหัดอยู่ที่นิวยอร์ก ตอนนี้ทั้งห้องมีเจ้าเอียนอยู่คนเดียว สมาชิกคนอื่นๆ ของห้องออกไปเที่ยวกันหมดแล้ว จึงเป็นโอกาสดี ที่ผมจะทำ�ความรู้จักกับเขาให้มากขึ้น เอียนเดินไปหยิบเสื้อมาใส่ แล้วนั่งลงที่โซฟากลางห้อง ทุกห้องในโฮสเทลนีม้ เี ฟอร์นเิ จอร์ให้ นอกจากโซฟากลางห้อง แล้ว ยังมีโต๊ะส่วนกลางกับอ่างล้างหน้าไว้ให้ผู้เข้าพักได้ใช้อีกด้วย ส่ ว นการเลื อ กว่ า จะนอนเตี ย งไหนนั้ น ก็ ใ ช้ ร ะบบมาก่ อ นได้ ก่ อ น ทุกเตียงจะมีหมายเลขและล็อกเกอร์สว่ นตัว หากเราไปดูทลี่ อ็ กเกอร์ เบอร์ ไ หนแล้ ว ยั ง ไม่ มีใ ครเอาลูกกุญ แจมาคล้อ งแสดงความเป็น เจ้าของก็หมายความว่ายังว่างอยู่ ผมเลือกเอาเตียงเบอร์ 5 ซึ่งเป็น เตียงชั้นล่าง เนื่องจากขี้เกียจปีนขึ้นปีนลงเตียง 2 ชั้นทุกวัน “ผมเพิ่งไปเที่ยวกรุงเทพฯ เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว” เอียนเริม่ ต้นประโยคมาแบบนีผ้ มก็สบายใจ เราน่าจะมีเรือ่ ง คุยกันได้ยาวๆ เราสองคนล้วนเดินทางมาไอซ์แลนด์เป็นครั้งแรก 32
พอฟังเหตุผลว่าทำ�ไมถึงอยากมาเทีย่ วทีน่ ข่ี องเจ้าเอียนแล้วอิจฉาครับ “อ๋อ เมื่ออาทิตย์ก่อนเห็นมีตั๋วโปรดีๆ แล้วลางานได้ ก็เลย มา” มันพูดพร้อมทำ�หน้าชิลล์ “ไม่ต้องทำ�วีซ่าเหรอ” ผมถาม “หือ? อ๋อ พวกคุณต้องทำ�วีซ่าสินะ ลำ�บากเนอะ” เออสิวะ จะว่าไปผมก็อิจฉาชาวต่างชาติที่สามารถเดินทาง ไปเที่ยวประเทศนั้นนี้ได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าอยู่นะ ไอ้เรานี่กว่าจะมา เทีย่ วแต่ละทีตอ้ งแพลนกันเป็นปี แต่งบัญชีเงินฝากกันให้หล่อเฟีย้ ว เพื่อไปขอวีซ่า ขอเสร็จแล้วยังต้องมานั่งลุ้นให้ปวดม้ามว่าจะผ่าน หรือไม่ผ่าน แต่นี่ “อ๋อ เมื่ออาทิตย์ก่อนเห็นมีตั๋วโปรดีๆ แล้วลางาน ได้ ก็เลยมา” หมั่นไส้วุ้ย! ไม่สิ อิจฉามันมากกว่า “แล้วคุณล่ะ ทำ�ไมถึงอยากมาเที่ยวที่นี่” ผมตอบไปตรงๆ ว่าผมอยากเที่ยวไอซ์แลนด์มานานมากๆ แล้ว นี่เพิ่งลาออกจากงาน เลยได้มาซะที “ทำ�ไมไม่มาหน้าหนาวล่ะ จะได้มาดูแสงเหนือ” มีคนถามผมเยอะมากๆ ว่ามาไอซ์แลนด์ตอนหน้าร้อนทำ�ไม เพราะในฤดูร้อน ท้องฟ้าที่นี่จะไม่มืดสนิท โอกาสเห็นแสงเหนือ เป็นศูนย์ ทีจ่ ริงผมก็อยากเห็นแสงเหนือเหมือนกันนะครับ ปรากฏการณ์ ธรรมชาติทส่ี วยขนาดนัน้ ใครจะไม่อยากเห็นล่ะ และผมก็มน่ั ใจว่า 90% ของคนที่มาเยือนประเทศนี้ล้วนแต่มีแสงเหนือเป็นแรงบันดาลใจ และหลายๆ ท่านก็น่าจะทราบว่าโอกาสที่จะเห็นแสงเหนือนั้น 33
ไม่สามารถการันตีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าโชคไม่ดีคุณก็จะไม่เห็น อะไรเลยเพราะอากาศไม่เป็นใจมีแต่เมฆเต็มท้องฟ้าไปหมด แต่ ผ มเลื อ กมาที่ นี่ ใ นฤดู ร้ อ น (ซึ่ ง ก็ ยั ง หนาวอยู่ ) เพราะ พระอาทิตย์ตกวันละแค่สองชั่วโมงครับ สว่างมันทั้งวัน ถ้าไม่ง่วง คุ ณ ก็ ยั ง สามารถเดิ น เที่ ย วได้ ต ามใจชอบโดยยั ง มี แ สงสว่ า งและ บรรยากาศดีๆ ของประเทศทีอ่ ยูห่ า่ งจากขัว้ โลกเหนือไม่ถงึ 2,000 ไมล์ เป็นเพื่อน เอาว่ า ไว้ มี เ งิ น ค่ อ ยกลั บ มาช่ ว งหน้ า หนาวอี ก ที แ ล้ ว กั น ประเทศนี้เที่ยวสนุกทั้งสองฤดู ทริปนี้ขอเที่ยวเน้นๆ แบบไม่ต้อง กังวลเรื่องพายุหิมะดีกว่า “ไปเดินเล่นกันเหอะ” ผมพูดกับเจ้าเอียน เพื่อนคนแรกของผมในดินแดนน้ำ�แข็ง แห่งนี้ การชวนคนทีเ่ พิง่ รูจ้ กั ไม่เกินสิบนาทีออกไปเดินเทีย่ วชมเมือง ไม่ใช่สงิ่ ทีผ่ มจะทำ�ตอนอยูก่ รุงเทพฯ แน่ๆ แต่การท่องเทีย่ วมันทำ�ให้ คุณหลุดออกจากกรอบเดิมๆ หลุดจากนิสยั และสถานทีเ่ ดิมๆ ทีเ่ จอ ทุกวัน และผมว่าการได้พดู คุยกับคนอืน่ นีแ่ หละทีท่ �ำ จะให้ทริปสนุก และมีเรื่องราว “เอ้อ ไปๆๆ ว่าจะชวนอยู่พอดี” เอียนตอบผมด้วยรอยยิ้ม
มิก! ผมถึงไอซ์แลนด์แล้วโว้ย! ก่อนอื่นฝากกราบขอบคุณเมียท่านด้วยนะฮะสำ�หรับไมล์ มหาศาลที่ช่วยเอามาแลกตั๋วเครื่องบินให้ผม แล้วนี่ยังแลกเป็น บิสิเนสคลาสให้อีก นั่งโคตรจะสบายเลยครับมึง เอ้ย! ท่าน ด้วยความที่ทั้งชีวิตเคยขึ้นบิสิเนส (โดยไม่ได้จ่ายเอง) มาแค่ สองครั้ง และทั้งสองครั้งก็ล้วนแต่เป็นไฟลต์ใกล้ๆ อย่างภูเก็ต เชียงใหม่ จึงพูดได้เต็มปากว่ายังไม่เคยสัมผัส ‘ความบิสิเนสคลาส’ ที่แท้จริงเลยสัักครั้งเดียว ไอ้ความรู้สึกที่ได้เช็กอินในแถวพิเศษ ได้เดินเข้าเครื่องบินที่ทางเข้าพิเศษมันเยี่ยมจริงๆ สิให้ดิ้นตาย คือกูก็ทำ�การบ้านมาเหมือนกันนะ ว่าการนั่งบิสิเนสคลาส มีความแตกต่างจากคลาสธรรมดาเวลาเช็กอินและขึ้นเครื่องยังไง บ้าง กลัวทำ�อะไรเปิ่นๆ ให้อายฟ้าดิน พยายามสร้างภาพภูมิฐาน ให้แอร์ดไู ม่รวู้ า่ ใช้ตว๋ั ฟรี! พอขึน้ เครือ่ งปุบ๊ แอร์เดินมาคุกเข่าคุยกับผม เลยฮะ “ท่านคะ จะรับเวลคัมดริงก์เป็นอะไรคะ” เหยดดดดดด เรียกกูว่าท่านอะะะะ ท่านแพทททท “อืม มีอะไรบ้างครับ” เท่าที่ถามเพื่อนที่เคยนั่งบิสิเนสมาเนี่ย มันเล่าให้ฟังว่าแอร์ เขาจะเสนอแชมเปญให้เป็นเวลคัมดริงก์ แต่นเี่ ขาถามว่า “จะรับอะไร คะท่าน”
“มีทุกอย่างเลยค่ะ” เจ๋งอะ มีทกุ อย่าง นีแ่ หละความบิสเิ นสทีผ่ มถวิลหามาตลอด ชีวิต แหม่ กำ�ลังคอแห้งอยู่พอดี อยากกินอะไรเย็นๆ ให้ชื่นใจ เสียหน่อย “งั้น เอาน้ำ�เก๊กฮวยเย็นครับ” “...” ทำ�ไมวะ ออกเสียงไม่ชัดเหรอ “เก๊ก-ฮวย-เย็น-ครับ เอาไม่ หวานมาก” “คือ...เอ่อ คือทางเราไม่มีเก๊กฮวยค่ะท่าน” สัส! เค้ารู้หมดเลยว่าไม่เคยบินบิสิเนส! ไก่นี่วิ่งกันเต็มเครื่อง เลยมึง พอสติสตังกลับเข้าร่างพร้อมๆ กับยางอายแล้วก็รีบอธิบาย ให้คณ ุ แอร์ฟงั ว่าไม่ได้กวนตีนครับ แค่โง่ หลังจากนัน้ ก็ไม่กล้าขออะไร อีกเลยตลอดทั้งไฟลต์ กลัวเขาไม่มี แม้ว่าจะอยากกินข้าวหมูกรอบ ผัดพริกแกงมากก็ตาม (ซึ่งดีแล้วที่ไม่สั่ง) หลังจากนั่งเครื่องจากไทยมาลงที่สวีเดน กูก็ชิลล์อยู่ที่นี่ 2-3 วันก่อนจะนัง่ เครือ่ งต่อไปไอซ์แลนด์ (เพราะมันไม่มสี ายการบินไหน บินตรงจากไทยไปทีน่ น่ั ) กูประทับใจในประเทศนีต้ ง้ั แต่วนั แรกทีม่ าถึง เลยว่ะ มันอาจจะฟังดูเว่อร์นะ ว่ากูมน่ั ใจเลยว่ากูตอ้ งหลงรักประเทศนี้ อย่างถอนตัวไม่ขนึ้ แน่นอน กลับไทยแล้วจะไปนัง่ เม้าท์ให้ฟงั นะเว้ย แล้วจะซื้อเบียร์ไปฝาก (ถ้าเงินเหลือ) L ove , from Planet Ice
374
375
Wr i te r ’s I n for m a ti o n
แพท-สิระ บุญสินสุข เป็นติง่ วงมิวส์ทช่ี น่ื ชอบจอห์น เมเยอร์ และบูชาวงควีน ทำ�งานวงการเพลงและวงการทีวีมา 18 ปี เคยเป็นดีเจ เคยเป็นฟรีแลนซ์แต่เหนื่อยสัสๆ ฟังเพลงทุกแนว มีรายการพอดแคสต์ชื่อ Eargasm ลองหา ฟังดู สนุกสุดๆ ดูหนังบ่อย บ้าหนังแก๊งสเตอร์ คลั่งสกอร์เซซี่กับทารันติโน่ ชอบดูบอล ชอบดูบาสเก็ตบอล ชอบดูอเมริกนั ฟุตบอล เชียร์ ทีม Seattle Seahawks ชอบเล่นกีตาร์ เล่นไม่เก่งแต่บ้าอุปกรณ์ เคยคิดว่าร้องเพลง ได้ดี แต่จริงๆ ไม่ดีเท่าไหร่
รักการกินเนื้อ หลงใหลการดื่มเบียร์ ต้องดื่มกาแฟดำ� ห้าม ใส่น้ำ�เชื่อมเด็ดขาด ชอบไปญีป่ นุ่ อยากอยูล่ อนดอน คิดถึงซีแอตเทิล หลงเร็คเควิก รักกรุงเทพมหานคร ชอบผู้หญิงผิวแทน และเกลียดการมีอยู่ของครีมไวท์เทนนิง ทุกชนิด ติดต่อได้ทาง Instagram pattookthispicture Twitter @Erotomanian (ไม่ค่อยทวีตนะครับ มีไว้ส่อง) E-mail patboonsinsukh@gmail.com
T h ank y ou f r o m the b o tto m o f my i c e c o l d h e a r t…
• ขอบคุณ ประกาย วรนิสารกุล หรือ มิก Abuse the Youth และเมย์ ภรรยาสุดสวยแห่ง Be Your Travel สำ�หรับไมล์จำ�นวน มหาศาล • ขอบคุณ ณัฐวัฒน์ แสงวิจิตร หรือคุณณัฐ วง Klear ที่ช่วยซื้อแอมป์ในวินาทีสุดท้ายก่อนเดินทาง ทำ�ให้มีเงินเที่ยว เพิ่มขึ้นอีกหมื่นสอง • ขอบคุณบรรณาธิการ นทธัญ แสงไชย หรือโจ้บองโก้ วง Alarm9 สำ�หรับการดูแลเล่มนี้ รวมถึงเล่มที่แล้วด้วย ไว้มาเล่น ดนตรีกันอีกนะ ไว้จะตั้งชื่อวงให้เลวทรามกว่าเดิม • ขอบคุณ เมธาสิทธิ์ กิตติกลุ ยุทธ หรือ เบส วง Vivid Dream (ทำ�ไมคนที่เกี่ยวข้องกับหนังสือกูนี่เป็นนักดนตรีล้วนๆ เลยวุ้ย) • ขอบคุณทีมงาน a book Publishing ทุกคน ทั้งคนที่ ออกไปแล้วและคนที่ยังอยู่ • ขอบคุณทีม godaypoets ที่ช่วยขาย/ส่งหนังสือ
• ขอบคุณ ภูมิชาย บุญสินสุข พี่ชายแท้ๆ ของตัวเอง ที่แนะนำ�เรื่องการเขียนหนังสือมาตลอด • ขอบคุณ กรุ๊ป LINE ภาคีนักเขียน a book ที่คุยกันแต่ เรื่องชั่วๆ และหยาบโลน แต่นานๆ ครั้งก็มีประโยชน์นะ • ขอบคุณแอมและเอียริก สำ�หรับที่พักในสวีเดน • ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทั้ง 24 คนที่ยอมให้เขียนถึง (จงเอาหนังสือกูไปถ่ายรูปโปรโมตในทุกๆ สื่ออย่างบ้าคลั่ง!) • Ian / Kyle / Elenore. I told you guys that all of you will be in my new book! Thank you again for making the Iceland trip ultra spectacular! WE WILL DEFINITELY MEET AGAIN GUARANFUCKING-TEE! • สุดท้ายนี้ ขอบคุณผู้อ่านทุกๆ ท่านที่ให้โอกาสหนังสือ ของผมตั้งแต่เล่มแรกจนมาถึงเล่มนี้ ภูมิใจและดีใจทุกครั้งที่ได้รับ ข้อความจากผู้อ่าน ทุกๆ ข้อความคือดนตรีท่ีผมฟังได้ไม่มีวันเบื่อ ออกไปเที่ยวกันเยอะๆ และอย่าหยุดฟังเพลงนะครับ เชื่อผม ไว้เจอกันโอกาสหน้าครับ L ove , from P lan e t Bangk ok
แพท บุญสินสุข
380
3 81
แพท บุ ญ สิ น สุ ข
หนังสือในชุด Journey เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ 978-616-327-191-4 พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม 2560 ราคา 325 บาท
ข้อมูลบรรณานุกรมของสำ�นักหอสมุดแห่งชาติ แพท บุญสินสุข. Love, From Planet Ice.-- กรุงเทพฯ : อะบุ๊ก, 2560. 384 หน้า. 1. ไอซ์แลนด์--ภูมิประเทศและการท่องเที่ยว. I. ชื่อเรื่อง. 914.912 ISBN 978-616-327-191-4 ในกรณีที่หนังสือชำ�รุดหรือเข้าเล่มสลับหน้า กรุณาส่งหนังสือเล่มนั้นมาตามที่อยู่สำ�นักพิมพ์ สำ�นักพิมพ์อะบุ๊กยินดีเปลี่ยนเล่มใหม่ให้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
สำ�นักพิมพ์อะบุ๊ก บรรณาธิการที่ปรึกษา วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ บรรณาธิการอำ�นวยการ ภูมิชาย บุญสินสุข บรรณาธิการบริหาร นทธัญ แสงไชย บรรณาธิการสำ�นักพิมพ์ เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์ ผู้จัดการสำ�นักพิมพ์ สุรเกตุ เรืองแสงระวี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด วิไลลักษณ์ โพธิ์ตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการสำ�นักพิมพ์ อธิษฐาน กาญจนะพงศ์ ออกแบบปกและรูปเล่ม เมธาสิทธิ์ กิตติกุลยุทธ์ ศิลปกรรม พิชญ์สินี บุญมั่นพิพัฒน์, นันทิยา ฤทธาภัย ภาพปกและภาพถ่าย แพท บุญสินสุข โซเชียลมีเดียและกิจกรรมพิเศษ พีรพิชญ์ ฉั่วสมบูรณ์ พิสูจน์อักษร ศักดิ์สิทธิ์ ไม้ลำ�ดวน เลขานุการ ปวริศา ตั้งตุลานนท์ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำ�กัด ที่ปรึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ที่ปรึกษา นิติพัฒน์ สุขสวย ผู้จัดการทั่วไป ณัฐธยาน์ อึ้งตระกูลนิธิศ ธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ผู้จัดการฝ่ายดิจิทัลคอนเทนต์ วิมลพร รัชตกนก ผู้จัดการฝ่ายขายออนไลน์ พิมพ์นารา มีฤทธิ์, ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์ ส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ ชลธร จารุสุวรรณวงค์ ศิลปกรรม เทียนจรัส วงศ์พิเศษกุล ลูกค้าสัมพันธ์ จุฬชาติ รักษ์ใหญ่, อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค จัดพิมพ์โดย สำ�นักพิมพ์ ในเครือ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำ�กัด เลขที่ 33 ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทรศัพท์ 0-2716-6900-4 ต่อ 308, 309 โทรสาร 0-2718-0690 แยกสีและพิมพ์ บริษัท ศิริวัฒนาอินเตอร์พริ้นท์ จำ�กัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2675-5600 จัดจำ�หน่าย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) เลขที่ 1858/87-90 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0-2739-8000 โทรสาร 0-2751-5999