ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์
เราก็เหมือนผูอ้ า่ นทุกๆ คนทีต่ ดิ ตามผลงานของบองเต่า ที่รักในส�ำนวนเขียนที่อ่านเพลินและจริตที่ ‘แรด’ ได้ใจของเขา หลังจากพาเราไปเรียนแรดๆ ที่ฝรั่งเศสใน BON EN FRANCE ตามด้วยพาเราไปท�ำงานชิคๆ ที่กัมพูชาใน BON EN KHMER กลับมาคราวนี้เขาจะพาเราไปที่ไหนอีก ไม่ต้องคิดนาน ครั้งนี้บองเต่าขอพาเราไปแรดรอบโลก บองเต่าเป็นคนที่เดินทางบ่อยเอามากๆ เรารู้เพราะ เขาชอบเช็กอินตามสนามบิน และด้วยความที่เป็นเฟรนด์กัน ในเฟซบุ๊ก ท�ำให้เราได้รับสิทธิ์ในการสอดรู้สอดเห็นชีวิตของเขา ไปโดยปริยาย หลายครั้งที่สถานที่เช็กอินของบองเต่า ท�ำให้เราร้อง โอ้โหในใจได้เต็มปาก เพราะบางประเทศก็ช่างดูไปยากซะ เหลือเกิน บางประเทศก็ดรู าคาแพงซะเหลือใจ ส่วนบางประเทศ เราก็แทบไม่รู้จักซะด้วยซ�้ำว่าอยู่ตรงไหนบนพื้นโลก BON EN VOYAGE คือเบื้องหลังการเช็กอินประเทศ เหล่านัน้ ที่ต่างก็มีความสนุกสนานและยากเข็ญในแบบของมัน เรื่องราวในบทต่างๆ เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจายจาก 2
ทริปต่างๆ ในชีวติ นักเดินทางของบองเต่า ร้อยเรียงเป็นเรือ่ งราว สัง่ สมค่าประสบการณ์ตงั้ แต่คราวทีเ่ ขายังไม่ประสีประสากับการ เดินทางนัก จนกระทั่งตบะแก่กล้าสามารถไปเที่ยวแรดได้สมใจ สิ่งที่เราชอบในงานเขียนของบองเต่าคือ เขาไม่ได้เขียน เรื่องราวชีวิตฟุ้งเฟ้อให้คนอิจฉา แต่เล่ามันให้เราเห็นภาพตาม ความเป็นจริง หลายครัง้ ทีม่ อื้ อาหารแรดหรูตอ้ งแลกมาด้วยทีพ่ กั ทีไ่ ม่สะดวกสบายนัก หรือทริปการเดินทางสุด luxury ก็ตอ้ งแลก มาด้วยแผลในบัญชีธนาคารที่ต้องเลียกันไปหลายเดือน ซึ่ง ทุกความเสียหาย บองเต่าได้วางแผนมาอย่างดีและยอมแลก อย่างเต็มใจ ทั้งหมดนั้น ท�ำให้เราประจักษ์ว่าสีสันในชีวิตนั้นส�ำคัญ เพียงใด เพราะเมื่อมองมาที่ชีวิตเรา หลายครั้งเรายอมขัดใจ ตัวเองด้วยความเสียดาย บ้างเสียดายเงิน บ้างเสียดายเวลา บ้างเสียดายความสบาย ฯลฯ แต่เราว่าบางครัง้ การได้ใช้ชวี ติ อย่างจรุงจิตจรุงใจเสียบ้าง แลกกับความล�ำบากเล็กน้อย หรือเงินในบัญชีที่ลดไปสักหน่อย ก็คงไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยเราควรอนุญาตให้ชีวิตตัวเอง ได้แรดกันเสียบ้าง ถ้าหากมนุษย์ท�ำงานกินเงินเดือนอย่างบองเต่าสามารถ แรดได้ คุณก็แรดได้ เพราะ everyone can แรด เราเชื่ออย่างนั้น ส�ำนักพิมพ์อะบุ๊ก 3
ค�ำน�ำ
ท�ำไมถึงเป็นคนแรดขนาดนี้? หลายคนถามผม บางคนบอกว่าส่วนหนึ่งคงมาจาก ประสบการณ์หนึ่งปีในประเทศแรดๆ อย่างฝรั่งเศส บางคน บอกว่าคงเป็นเพราะช่วงหลังๆ ได้ไปท�ำงานที่อิตาลีบ่อยๆ ซึ่งก็นับว่าเป็นประเทศที่แรดไม่น้อยไปกว่าฝรั่งเศส บางคน บอกว่าความแรดนั้นเป็นเฟิร์มแวร์ที่ถูกติดตั้งใส่กมลสันดาน มาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว ทั้งหมดนั้นก็น่าจะถูก แต่ผมคิดว่าส่วนนึงที่หล่อหลอม ให้ผมเป็นอย่างทีเ่ ป็นในวันนี้ คือการเดินทาง ไม่วา่ จะต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ ผมเชื่อว่าทุกครั้งที่เราออกเดินทาง เราจะ ค่อยๆ เปลีย่ นแปลงไปในทางใดทางหนึง่ ซึง่ มันเป็นกระบวนการ ช้าๆ ที่เราคงไม่รู้สึกตัว ยกเว้นเฉพาะการเดินทางไปศัลยกรรม ที่เกาหลี ที่อันนั้นทริปเดียวน่าจะเห็นผลชัดเจนทันใจ
4
ตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจว่าการเดินทางมันท�ำให้คนคนหนึง่ เปลี่ยนไปได้มากขนาดไหน แต่การเขียนหนังสือเล่มนี้ ย้อน มองตัวเองเดินทางไปหลายๆ แห่งในโลก ทั้งท�ำงาน ทั้งเที่ยว ทัง้ ล�ำบาก ทัง้ แรด ผมได้เห็นความเปลีย่ นแปลงของตัวเองชัดเจน อย่างไม่น่าเชื่อ และผมเชื่อว่า หนังสือเล่มนี้ จะท�ำให้คุณเห็นสิ่งนั้น เหมือนกับที่ผมเห็น บองเต่า
5
CONTENTS CHAPTER 01
• ทุกอย่างมีครั้งแรกเสมอ 011 — โดดเดี่ยวที่ฮ่องกง 035 — ปารีสเฟิสต์ไทม์ CHAPTER 02
• เที่ยวกับนาย 055 — แวะเที่ยวกับนาย 073 — ตกเครื่องกับนาย CHAPTER 03
• Bon en Afrique 089 — เปิบพิสดารอาหารอียิปต์ 099 — เดินตามธงเหลือง เที่ยวเมืองอียิปต์ 6
115 — ราตรีอียิปต์ 123 — ฝ่ากับระเบิดแองโกลา 131 — Welcome to Angola 139 — Surviving Angola CHAPTER 04
• พัง! พัง! พัง! 153 — Lost in New York 165 — รถไฟหยุดวิ่งที่อิตาลี 175 — หิมะถล่มที่โตเกียว CHAPTER 05
• ซิดนีย์ที่รัก 193 — ซิดนีย์ที่รัก CHAPTER 06
• Bon à la Mer 215 — อ่าวมะม่วง 227 — ตาฮิติ 245 — โบราโบรา CHAPTER 07
• Bon Voyage 267 — Bon Voyage 7
8
CHA P T E R
01 ทุกอย่าง มีครั้งแรกเสมอ
9
10
โดดเดี่ยวที่ฮ่องกง
1 เคยเที่ยวต่างประเทศคนเดียวกันไหมครับ ถ้าเคย, จ�ำได้ไหมว่าไปเทีย่ วต่างประเทศคนเดียวครัง้ แรก คือเมื่อไหร่ ถ้าเคย, จ�ำได้ไหมว่าทริปนัน้ รูส้ กึ ยังไง สนุกไหม เหงาไหม ถ้าเคย, จ�ำได้ไหมว่ากลับมาแล้ว มีอะไรในตัวเองที่ เปลี่ยนไปบ้าง ผมเคยครับ ผมไปเที่ยวฮ่องกงคนเดียว สนุกดี และมัน ท�ำให้ผมเสพติดการเที่ยวคนเดียวมาจนถึงวันนี้
11
2 “กู จ ะไปเที่ ย วฮ่ อ งกงนะ ไปคนเดี ย ว” ผมเลื อ กบอก เรื่องนี้กับเพื่อนและคนรู้จักแค่บางคน ซึ่งปฏิกิริยาแรกที่ได้รับ กลับมาล้วนแล้วแต่ไปในทิศทางเดียวกัน ไปคนเดียวแล้วจะสนุกเหรอวะ ไม่เหงาเหรอ ท�ำไมไม่หาคนไปเที่ยวด้วย บางคนไม่ถาม แต่เลือกท�ำหน้าแปลกๆ ตอนผมบอกว่า ผมจะไปคนเดียว บางคนไม่ถาม แต่พูดเป็นประโยคออกมาเลยว่า “เฮ้ย ไม่สนุกหรอก เที่ยวคนเดียวน่ะ” ผมเลี่ยงตอบค�ำถามนี้ทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าไม่อยากตอบนะ และก็ไม่ได้ยอมรับว่ามันคงไม่สนุกจริงๆ แต่ที่ไม่ตอบ เพราะ กูไม่รู้ค�ำตอบต่างหาก ก็ไม่เคยไปเที่ยวคนเดียวมาก่อนแล้วจะ รู้ได้ไงวะว่ามันเป็นยังไง ไว้รอเที่ยวเสร็จค่อยกลับมาตอบ คงไม่ช้าไปมั้ง 3 เรื่ อ งของเรื่ องมัน เกิดจากความลงตัวหลายๆ อย่ า ง ระหว่างทีผ่ มท�ำงานทีก่ มั พูชา มันต่างจากตอนทีผ่ มไปเวียดนาม แบบไม่ได้วางแผน เพราะตอนนัน้ คือไม่ทนั ตัง้ ตัวว่าสัปดาห์หน้า จะเป็นวันหยุดยาว กว่าจะรู้ตัวก็ไม่มีเวลาจะท�ำอะไรสักอย่าง
12
แต่ครั้งนี้ผมรู้ล่วงหน้าหนึ่งเดือน ในปฏิทินมีวันหยุดเว้นช่วง เป็นฟันหลออยู่ ถ้าลาพักร้อนสองวันก็จะได้วันหยุดติดต่อกัน ตั้งหกวัน คุ้มจะตาย แต่นี่มันวันหยุดที่เขมร แล้วใครที่ไทย เขาจะไปเที่ยวกับเราได้ ถ้าจะไปเที่ยว ท่าทางก็จะมีแค่ผม คนเดียวนี่แหละ แต่ถ้าไม่เที่ยว ก็กลับไทย ถ้ากลับไทยก็คงต้อง เข้าออฟฟิศ ไม่คุ้มเลยว่ะ สรุปแล้วทีต่ ดั สินใจไปเทีย่ วคนเดียวเนีย่ ไม่ได้ตงั้ ใจจะไป ค้นหาตัวตน หรือเดินตามวิถฮี ปิ สเตอร์อะไรหรอก ก็แค่ไม่อยาก ท�ำงานนั่นแหละ ผมคิดเงียบๆ อยู่คนเดียวเป็นอาทิตย์ ว่ามีเวลาหกวัน จะไปเที่ยวไหนดี ไอ้ไกลๆ น่ะตัดทิ้งไปได้เลย เพราะอายุเพิ่งจะ 23 เงินเดือนยังเบี้ยน้อยหอยเห็บมาก เอาใกล้ๆ นี่แหละ แต่ก็ ควรจะเป็นที่ที่มีอะไรให้ไปได้ถึงหกวันด้วยนะ ทีแรกจะไปญี่ปุ่น ก็ต้องขอวีซ่า แถมขอที่สถานทูตญี่ปุ่นในพนมเปญก็วุ่นวาย เลยตัดทิ้งไปด้วยความเสียดาย สุ ด ท้ า ยมานึ ก ออกว่ า มี ไ มล์ ข องสายการบิ น บางกอก แอร์เวย์เยอะแยะ ไม่รจู้ ะเอาไปใช้ทำ� อะไร ก็เลยลองมาหาข้อมูล เพิม่ เติม แล้วก็พบสิง่ ทีไ่ ม่คาดคิดมาก่อนว่า สายการบินนีบ้ นิ จาก พนมเปญไปฮ่องกงด้วย ทั้งๆ ที่จากกรุงเทพฯ ไม่เห็นมีบิน ไปฮ่องกงเลย ผมเลยรีบเข้าระบบไปดูว่ายังมีตั๋วให้แลกไมล์ อยู่มั้ย ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างจะให้ผมไปฮ่องกงได้จริงๆ เพราะไฟลต์ก็เวลาดี แถมแลกไมล์ได้ด้วย ก็ตัดสินใจกันตอนนั้นเลยว่า เอาวะ ไปฮ่องกงนี่แหละ
13
14
ง่ายดี ส่วนเรื่องที่พัก ไปคนเดียวไม่ต้องเรื่องมาก เน้นประหยัด สุดๆ ชื่อ Free Walker Guest House ซึ่งในช่วงนั้นเป็นที่นิยม ของคนไทยมาก ชนิดที่ว่าเข้าพันทิปหาข้อมูลจะเจอชื่อที่พักนี้ บ่อยมาก เพราะราคาถูก ท�ำเลโอเค และเจ้าของเป็นคนไทย ซึ่งมานึกย้อนหลังแล้วก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าตอนนั้นยังมี ห้องพักเดี่ยวแถวหม่งก๊ก ราคาแค่คืนละไม่ถึงพันบาทหลงเหลือ อยู่บนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ด้วย อนึ่ง ตัดภาพกลับมาที่ปี 2016 ผมลองเข้าไปหาข้อมูล ของ Free Walker Guest House อีกครั้งก็พบว่ากูเกิ้ลแทบหา อะไรไม่เจอแล้ว หน้าเพจเฟซบุ๊กของทางโรงแรมอัพเดตครั้ง สุดท้ายคือปี 2011 4 ผมเคยมาฮ่องกงหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งผมมีหน้าที่ แค่เดินตามป๊า ป๊าพาไปไหนก็ไป กินไหนก็กิน ซึ่งมานั่งนึกดีๆ ก็พบว่าจริงๆ เราแทบไม่ได้หลุดออกไปจากย่านดังๆ อย่าง จิมซาจุ่ย หม่งก๊ก หรือคอสเวย์เบย์เท่าไรเลยนี่หว่า ไปทีไร ก็วนเวียนอยู่แถวนี้ กินร้านเดิมๆ เดินห้างเดิมๆ มาคราวนี้ ก็หวังอยู่เล็กๆ ว่าคงจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตาตัวเองหน่อย ไม่รู้ว่าป๊าเป็นคนดื้อ หรือป๊าแค่ไม่รู้ แต่ทุกครั้งที่บ้านผม มาฮ่องกง เราไม่เคยซื้อบัตร Octopus Card เลยทั้งที่มันแสนจะ สะดวก ไม่ต้องหยอดเหรียญซื้อตั๋วรถไฟฟ้าทุกครั้ง ไม่ต้องมี เงินทอนเป็นเศษเหรียญเต็มกระเป๋า เคยพยายามบอกป๊าแล้ว ว่าให้ซื้อ ป๊าก็ตอบกลับมาสั้นๆ ว่า “ไม่เห็นจ�ำเป็น” 15
ไม่เป็นไร คราวนี้มาคนเดียว กูว่ามันจ�ำเป็น ก็ซื้อสิครับ แล้วก็นงั่ รถเมล์สาย A21 ทีไ่ กด์บกุ๊ ทุกเล่มในประเทศไทยแนะน�ำ ให้เป็นวิธกี ารเข้าเมืองอันแสนประหยัดถ้าโรงแรมเราอยู่ในย่าน เกาลูน ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงผมก็มาถึงย่านหม่งก๊ก เดิน หาตึกที่เป็นที่อยู่ของโฮสเทลได้ไม่ยากเย็น ขึ้นลิฟต์ไปชั้นแปด เพื่อเช็กอิน ซึ่งที่พักที่จองมา ให้ความรู้สึกเหมือนมาแอบนอน บ้านคนอื่นยังไงไม่รู้ แต่ด้วยความมั่นใจในรีวิวอันท่วมท้นใน พันทิป ผมก็เชื่อครับว่าที่นี่คงจะไว้ใจได้ ‘พี่แอน’ คือชื่อที่ถูกพูดถึงในพันทิปในยุคปี 2007 เพราะ พี่แอนคือเจ้าของ Free Walker Guest House แห่งนี้ ที่นี่เป็น หนึ่งในที่พักราคาไม่ถึงพันบาทบนเกาะที่ทุกอย่างแพงบรรลัย เมื่อแลกกับท�ำเลอันยอดเยี่ยมแล้วนับว่าคุ้มแสนคุ้ม ผมเช็กอิน โดยจ่ายเงินค่าทีพ่ กั ทัง้ หมดให้พแี่ อน แล้วพีแ่ อนก็พาผมไปทีห่ อ้ ง ซึ่งมีขนาดพอให้พลิกตัวได้ ซี่งก็นับว่าสมราคาค่าห้องแล้ว 5 เช้าวันแรกที่ฮ่องกงครั้งนี้ ไม่เหมือนเช้าวันแรกที่ฮ่องกง ครั้งที่ผ่านๆ มา ด้วยความกะทัดรัดของฮ่องกง มันจึงมักถูก ผูกแพ็กเกจเป็นสามวันสองคืน หรือมากสุดก็สวี่ นั สามคืนไปโดย อัตโนมัติ พอเวลาจ�ำกัดจ�ำเขี่ยขนาดนั้น เรามักจะวางแผน มาหมดเรียบร้อยแล้ว ว่าวันไหนจะกินอะไร เดินที่ไหน ซื้ออะไร แต่มารอบนี้ จัดชุดใหญ่ไปห้าคืน ไม่ต้องวางแผนมันอะไรทัง้ นัน้ ดีไม่ดีเดินรอบเกาะสามรอบยังจะเหลือเวลาเลย
17
มาฮ่องกงต้องกินอะไร? กินติ่มซ�ำสิ! ใช่! มื้อแรกต้อง กินติ่มซ�ำตอนเช้าๆ ครอบครัวผมกับติม่ ซ�ำนีผ่ กู พันกันมานานตัง้ แต่ยงั เป็นเด็ก ไปกินทีนึงนี่แทบจะตัดพ่อตัดลูก ตัดพี่ตัดน้อง เพราะทันทีที่ เข่งติ่มซ�ำลงจอดบนจานกระจกหมุนปั๊บ ติ่มซ�ำสามสี่ชิ้นในเข่ง ก็หายเข้าปากไปราวกับระเหิดเป็นอากาศ แต่นต่ี อ้ งมากินติม่ ซ�ำ คนเดียว เออ เป็นความรู้ที่แปลกมาก ไม่มีใครแย่ง แต่ถาดนึง มาสี่ลูก สั่งแค่ขนมจีบกับฮะเก๋า ซัดคนเดียวแปดลูกก็อิ่มจน กินอะไรต่อไม่ไหว ได้บทเรียนแต่เช้าว่า ติ่มซ�ำไม่ใช่อาหาร ส�ำหรับนั่งกินคนเดียว และบนโลกนี้ควรจะมีติ่มซ�ำแบบ tasting menu สั่งถาดเดียวมีของแปดอย่างไม่ซ�้ำ ระหว่างที่นั่งละเลียด (โอเค จริงๆ ไม่ได้ละเลียด แต่ต้อง เรียกว่ากล�้ำกลืน เพราะการกินฮะเก๋าสี่ลูกซ้อนมันเลี่ยนกว่า ที่คิด) ผมก็คิดว่าทริปนี้เราควรจะไปเที่ยวในที่ป๊าไม่เคยพาไป มาก่อน หมวดแรกที่ตกส�ำรวจมาตลอดคือ หมวดวัด ไม่รู้ท�ำไม ที่บ้านไม่ค่อยพาไปวัดเลย วัดแรกที่อยากไปคือ Man Mo Temple ซึ่งเขาว่าคนฮ่องกงมักพาเด็กๆ มาไหว้เทพเจ้าที่วัดนี้ เพราะเป็นเทพเจ้าแห่งอักษรศาสตร์ จะได้ขอพรให้เด็กเรียน เก่งๆ ดูแล้วเหมาะส�ำหรับเนิร์ดอย่างเรามาก และอีกอย่างที่ อยากไปเห็นกับตาคือ ธูป ครับ เพราะธูปที่วัดนี้มันจะเป็นขด ใหญ่ๆ ห้อยลงมาจากเพดาน แลดูคล้ายยากันยุงเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบว่าควันธูปโหดกว่าที่คิดมาก เดินแล้วเกือบจะ
20
ส�ำลักควัน แถมกลิ่นธูปติดเสื้อติดผมอีก เป็นบทเรียนที่สอง ของวันนีว้ า่ ถ้าจะมาวัดนี้ อย่ามาตอนเช้า เพราะหัวจะเหม็นธูป ไปยันเย็น 6 ผมชอบกินหมูกรอบมาก มากถึงขนาดว่าชีวิตที่ขาด หมูกรอบนั้นคงไม่อาจเรียกว่าชีวิตได้ แม้จะมีงานวิจัยยืนยัน ออกมามากมาย ว่าหมูกรอบเป็นอาหารที่อันตรายต่อชีวิต ก่อให้เกิดโรค ทัง้ คอเลสเตอรอลสูง และไขมันอุดตันในเส้นเลือด ไปจนถึ ง มะเร็ ง ก็ ไ ม่ ไ ด้ ท� ำ ให้ ค วามอยากกิ น หมู ก รอบลดลง เราเชือ่ ว่าความทรมานของการเป็นโรคเหล่านัน้ อาจจะน้อยกว่า ความทรมานของการอดกินหมูกรอบไปตลอดชีวิตก็ได้ ฮ่องกงคือเกาะที่มีหมูกรอบให้กินแทบทุกมุมตึก เดินไป ทางไหนก็เจอตลอดสองข้างทาง มีไปจนถึงร้านฟาสต์ฟู้ดที่ขาย หมูแดง เป็ดย่าง ไก่ซีอิ๊ว และแน่นอน หมูกรอบ โปะข้าวสวย ราดน�้ำซีอิ๊วด�ำๆ ใสๆ โปะก้านคะน้าลวกราดน�้ำมันหอยอีก ปืด้ นึง อูย๊ แดดิน้ แล้วทีส่ ำ� คัญคือ โอกาสเจอหมูกรอบทีไ่ ม่อร่อย ในฮ่องกงนั้นน้อยมาก น้อยพอๆ กับโอกาสที่จะเจอครัวซองต์ ไม่อร่อยในปารีส เรียกว่าน้อยกว่าการกินข้าวผัดกะเพราแล้วเจอ ถั่วฝักยาวกับข้าวโพดอ่อนในเมืองไทยซะด้วยซ�้ำไป ดังนัน้ ทริปนีผ้ มซัดข้าวหมูกรอบไปอย่างน้อยวันละจาน แบบไม่มีเบื่อ บางวันก็หมูกรอบล้วน บางวันก็แนมด้วยหมูแดง บางวันแนมด้วยเป็ดย่าง แต่ยงั ไงต้องมีหมูกรอบยืนพืน้ อยูเ่ สมอ
21
ใครๆ อาจจะตัง้ ฉายาให้ฮอ่ งกงว่าเกาะสวรรค์ของนักช้อป แต่ส�ำหรับผมแล้ว ฮ่องกงคือเกาะสวรรค์ส�ำหรับหมูกรอบครับ 7 นอกจากวัดแล้ว อีกอย่างในฮ่องกงที่ผมไม่เคยไปคือ พิพิธภัณฑ์ ถ้าไม่อยากออกไปไหนไกล ตรงใจกลางเมืองย่าน จิมซาจุ่ย มี Hong Kong Space Museum กับ Hong Kong Museum of Art ซึ่งโคตรสะดวก ถ้าประเทศไทยจะมีพิพิธภัณฑ์ ดีๆ ในท�ำเลแจ่มๆ แบบนี้ คงต้องเป็นทีส่ ยามเท่านัน้ ซึง่ แน่นอน ว่ า บนโลกของความจริ ง มั น กลายเป็ น แผงลอยไปหมดแล้ ว อย่าว่าแต่จะเดินหาความรู้ใส่สมองเลย แค่ขอกูเดินขึ้นบันได รถไฟฟ้ายังต้องมีความพยายามอุตสาหะเบียดแผงลอยเลย ในหมวดพิพิธภัณฑ์ทั้งหลาย พิพิธภัณฑ์ดาราศาสตร์ เป็นของโปรดในดวงใจของผมเลย คือตอนเด็กๆ อยากเรียน อะไรที่เกี่ยวกับจักรวาล อวกาศ ดวงดาว แต่หลักสูตรการศึกษา ไทยนี่แทบไม่มีเนื้อหาเรื่องเหล่านี้เท่าไหร่เลย เรียนแบบผิวเผิน ชนิดที่ดู เซเลอร์มูน ทุกสัปดาห์ตอนช่องเก้าการ์ตูนก็ได้ความรู้ เท่ากัน คือท่องชื่อดาวในระบบสุริยะจักรวาลได้ เป็นอันจบ หลักสูตร เก่งมากเจ้าหนู รับเกรดสี่ไป การได้มาเดินในพิพิธภัณฑ์ดาราศาสตร์ของฮ่องกง เลย กลายเป็นความสนุกแบบไม่ทันรู้ตัว สนุกแบบเงียบๆ สนุก แบบช้าๆ สนุกแบบเนิร์ดๆ ถึงสถานที่จะไม่ได้ใหญ่โตมากมาย แต่พอได้มาเดินคนเดียว อยากอ่านอยากดูอะไรก็ใช้เวลาเต็มที่ ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครเบื่อ 22
ขณะที่ก�ำลังเพลินกับความรู้ด้านระบบสุริยะจักรวาล ความคิดที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนในชีวิตนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว “มาเที่ยวคนเดียวแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน” 8 มีคนเคยบอกผมว่า เวลาไปต่างประเทศแล้วอยากเห็น ว่าคนที่นั่นเขาใส่ใจ หรือ ‘บ้า’ อะไรเป็นพิเศษ ให้ลองดูโฆษณา ทั้งในทีวี และป้ายต่างๆ ตามท้องถนน ซึง่ ถ้าเป็นอย่างนัน้ จริง จากการสรุปอย่างรวดเร็วของผม คนฮ่องกงน่าจะก�ำลังบ้าอยู่สองอย่าง คือเรียนพิเศษกับเสริม ความงาม ผมชอบป้ายโฆษณาโรงเรียนสอนพิเศษในฮ่องกงมาก มองผ่านๆ ตอนแรกนึกว่าโฆษณาหนังจีน หรือประกวดร้องเพลง อารมณ์ เดอะสตาร์ เพราะเสือ้ ผ้าหน้าผม ไปจนถึงอาร์ตไดเร็กชัน ของป้ายบิลบอร์ดมันเหมือนอะไรที่บันเทิงมาก แต่เฮ้ย พออ่าน ตัวหนังสือด้านล่าง คนพวกนี้เป็นครูสอนพิเศษทั้งนั้นเลยครับ มีให้เลือกครบทุกวิชา บางสถาบันนี่คือถ่ายรูปทีมสอนเป็นแผง เหมือนฉีกมาจากหน้าแฟชั่นของ Vogue แล้วโฆษณาคอร์ส กวดวิชาแบบนี้คือมีเยอะมาก ไปทางไหนก็เจอ โดยเฉพาะ ป้ายบิลบอร์ดในท�ำเลเจ๋งๆ ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าค่าเช่าแพงระยับ ทีช่ อบก็เพราะว่า แต่ละสถาบันทีโ่ ฆษณาเล่นใหญ่ลงทุน กับการใส่ ‘สไตล์’ ให้กับครูผู้สอนมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ของครูหลายคนที่หล่อสวยและยังเป็นหนุ่มสาวเกือบทุกคน การแต่งตัวทีไ่ ม่ได้เน้นความภูมฐิ านจนเป็นศาสตราจารย์ แต่เน้น 23
ให้ดูดีและเก๋ จะไม่แปลกใจเลยถ้าเขาจะลงทุนไปซื้อเสื้อผ้า Autumn/Winter คอลเล็กชันล่าสุดจากมิลานมาถ่ายโฆษณา นี่ยังไม่นับเรื่องการแต่งหน้า แอ็กเซสซอรีคือมาเต็มทุกคน โอย แรดอะ ทุกคนดูมีแอตติจูดและพร้อมจะลุกขึ้นตบกับเมนทอร์ ลูกเกดได้ตลอดเวลา ผมเชื่อว่าส่วนนึงที่มันมาถึงจุดนี้ได้ ก็เพราะการแข่งขัน ทีร่ นุ แรงอยูแ่ ล้ว แต่ละสถาบันก็ตอ้ งหาจุดขายของตัวเองมาสูก้ นั แต่ที่ประทับใจคือ มันล้างภาพความเนิร์ดแบบเก่าๆ ไทยๆ ไปจนหมด ว่านักเรียนที่เก่ง ต้องใส่แว่นหนา ใส่กางเกงเอวสูง ผมหน้าม้า แล้วพอนักเรียนทีส่ มองเทพเจ้าแบบนี้ พอไปแข่งขัน ทางวิชาการ ชนะเลิศระดับประเทศ ไปแข่งโอลิมปิกวิชาการ หรือสอบเข้ามหา’ลัยได้เป็นอันดับหนึ่งของคณะ ทางโรงเรียน ก็จะยกย่องสรรเสริญด้วยการเอารูปติดบัตรไปสแกนแล้วท�ำ บิลบอร์ดเห่ยๆ ติดหน้าโรงเรียน ซึ่งถ้าเราเป็นนักเรียนคนนั้น ใจนึงก็คงภูมใิ จ แต่ใจนึงก็คงอยากด่าว่า ท�ำให้มนั ดูดหี น่อยไม่ได้ เลยหรือไงวะ นี่กูสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนนะ แต่ป้ายนี่เหมือน ประกาศจับข้อหาลักลอบขายยาเสพติดในโรงเรียน เราก็ได้แต่หวังว่า วันนึงจะมีโรงเรียนไหนสักแห่งใน ประเทศไทย ที่จะเลิกท�ำบิลบอร์ดที่เหมือนใช้โปรแกรมพาวเวอร์พอยต์ออกแบบ เลิกใช้ฟอนต์ Angsana แล้วให้เด็กเนิร์ด มาใส่ชุดกูตูร์ๆ ก�ำกับศิลป์โดยช่างภาพชื่อดัง อย่างที่ฮ่องกง ท�ำล่วงหน้าเราไปแล้วเป็นสิบปี 25
9 “วันนี้ไปไหนดี” ค�ำถามแรกของวันผุดขึ้นมาตอนผมนั่งกินอาหารเช้า วันนีร้ บั รองกระเพาะอาหารด้วยบะหมีน่ ำ�้ เกีย๊ วกุง้ ร้อนๆ ตบด้วย ทาร์ตไข่ และชานม (จริงๆ อยากกินแค่บะหมี่ แต่ร้านเขาแปะ ป้ายไว้ว่ามี minimum charge* คนละสิบห้าเหรียญฮ่องกง เลย ต้องสั่งของหวานมาเพิ่ม ประเทศนี้อะไรก็เป็นเงินเป็นทอง) ไม่รู้อะไรดลใจ วันนี้ผมอยากไปเห็นความวุ่นวายของ มนุษย์เงินเดือนฮ่องกง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่ค่อยได้เห็นตอนที่มา ครั้งก่อนๆ เพราะส่วนมากมักจะเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ที่คน ไม่ได้ท�ำงานกัน แล้วก็สิงอยู่แต่ในย่านนักท่องเที่ยว วันนี้ผม เลยตั้งใจว่าจะไปนั่งดูชีวิตคนฮ่องกงในย่าน Central ที่เป็น ดงออฟฟิศและธนาคารใหญ่ยักษ์ระดับโลกอัดแน่นกันอยู่ใน เศษเสี้ยวของเกาะเล็กๆ นี้ แต่จะให้เราสาระแนเข้าไปเดินในออฟฟิศเขาก็คงไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือรอตอนพักเที่ยง แล้วดูชีวิตหนึ่งชั่วโมงตอน พักเที่ยงนี่แหละน่าจะเวิร์กที่สุด ผมเลยไปเดินเล่นฆ่าเวลา ช่วงสายๆ ทีค่ นดูบางตา มีแต่นกั ท่องเทีย่ วมาช้อปปิง้ จนกระทัง่ เวลาเกือบเที่ยง ฝูงมนุษย์เงินเดือนในชุดสูท เสื้อเชิ้ต ก็ค่อยๆ ไหลทะลักเข้ามาปะปนมากขึน้ เรือ่ ยๆ จนท่วมถนนทุกซอกซอย ร้านอาหารเกือบทุกร้านแน่นเอี้ยด *ค่าบริการหรือค่าอาหารขัน้ ต�ำ่ ทีร่ า้ นอาหารก�ำหนดว่าลูกค้าหนึง่ คนต้องสัง่ ถ้าสัง่ น้อยกว่า ขั้นต�่ำก็ต้องจ่ายตามเกณฑ์ที่ทางร้านก�ำหนดไว้
26
และที่ขายดีไม่แพ้กันคือซุ้มอาหารแบบ grab & go เช่น พวกสลัด แซนด์วิช ข้าวกล่องที่ขายดีคนต่อคิวไม่แพ้คริสปี้ครีม ตอนเปิดสาขาแรกที่พารากอนเลย บางคนไม่ได้ซื้อชุดเดียว แต่หอบถุงใหญ่เหมือนจะเอาไปฝากทั้งออฟฟิศ บรรยากาศ จากเดิมที่เคยเดินชิลล์ๆ เอื่อยๆ ช่วงสายๆ เหมือนภาพถูก ตัดเข้าสู่โหมด fast forward แบบไม่ทันตั้งตัว คนตักก็รีบตัก คนรอก็รบี จ่าย คนเดินก็รบี เดิน ทุกอย่างดูรบี ไปหมด จนถึงเวลา ประมาณบ่ายโมงครึ่ง ทุกอย่างก็กลับเข้าสู่สภาพเดิมที่ทุกอย่าง ด�ำเนินไปด้วยความเร็วปกติ เท่าที่สังเกต ผมไม่เห็นว่าฮ่องกงมีตลาดนัดออฟฟิศ แบบยิ่งใหญ่อลังการอย่างที่กรุงเทพฯ มี จุดนี้อยากชี้ช่องรวย ให้พอ่ ค้าแม่คา้ บินมาดูงานทีต่ ลาดนัดย่านอโศก และซอยละลายทรัพย์มากว่ามันคือช่วงนาทีทองแห่งการท�ำมาค้าขาย ไม่รู้ว่า แค่ช่วงหนึ่งชั่วโมงของหนึ่งวัน มีเงินสะพัดสร้างจีดีพีให้ไทย ได้มหาศาลขนาดไหน แถมมีสินค้าครบทุกอย่างตั้งแต่ซาลาเปา ไส้ไหล ชานมไข่มุก เสื้อผ้าเกาหลี ยันเข็มกลัดชาเนลปลอม มีการอัพเดตเทรนด์สินค้าใหม่จากทั่วโลก คิทแคทรสใหม่ล่าสุด จากญี่ปุ่นมีขายภายในไม่ถึงสัปดาห์ ส�ำหรับฝั่งคนซื้อแล้วก็นับ เป็นไฮไลต์ออฟเดอะเดย์ ซึ่งน่าเสียดายสาวออฟฟิศฮ่องกง คงไม่มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์นี้ (ผมเพิง่ มาทราบทีหลังจากเพือ่ นทีเ่ รียนทีฝ่ รัง่ เศสด้วยกัน และเคยท�ำงานเป็นนายธนาคารแห่งหนึ่งในฮ่องกง นางเล่า ให้ฟังว่า เป็นเรื่องปกติมากส�ำหรับคนท�ำงานธนาคารจะกิน
27
ข้าวเที่ยงบนโต๊ะท�ำงาน เพราะงานยุ่งเกินกว่าจะเดินลงไปกิน ส่วนที่เห็นคนหอบซื้ออาหารถุงใหญ่นั่นส่วนมากจะเป็นเด็ก ฝึกงาน หรือพนักงานใหม่ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของบางองค์กรที่ คนระดับนี้มีหน้าที่ซื้ออาหารไปให้คนในออฟฟิศกินตอนเที่ยง ถ้าช่วงไหนงานยุ่งหรือหนักมากๆ ก็จะมีรอบเย็นอีกรอบด้วย งานมันหนักระดับนั้นจริง) 10 แปลกดีเหมือนกันที่ฮ่องกงเป็นเกาะ แต่ไม่ค่อยมีใคร พูดถึงทะเลฮ่องกงเท่าไร ผมเหลือเวลาครึ่งวันบ่ายของวันศุกร์ ที่ไม่รู้จะท�ำอะไร เพราะเดินย่านใจกลางเมืองทั้งฝั่งเกาลูนและฮ่องกงจนทะลุ ปรุโปร่งหน�ำใจแล้ว ครึ่งบ่ายวันนี้เลยอยาก ‘อยู่เฉยๆ’ แต่ด้วย สภาพความอุดอูแ้ ละคับแคบของทีพ่ กั แล้ว คิดว่าควรไปอยูเ่ ฉยๆ ข้างนอกจะดีกว่า ไปทะเลแล้วกัน ผมนั่งรถเมล์จากใจกลางเมือง ใช้เวลาประมาณเกือบ ชั่วโมงครึ่ง กว่าจะไปสุดสายที่ Stanley เมืองริมทะเลเล็กๆ ทางด้านใต้ของเกาะฮ่องกงก็เย็นแล้ว เมืองนี้ขนาดกะทัดรัด เดินแป๊บเดียวก็ครบ มีฝั่งนึงเป็นตลาด และถนนที่เต็มไปด้วย ร้านค้าร้านอาหาร ซึง่ ถ้าใช้เวลากับใจกลางเมืองฮ่องกงมาตลอด สามวันเต็มที่ผ่านมาแล้ว เราคงไม่ได้นั่งรถเมล์มาชั่วโมงครึ่ง เพื่อมาซื้ออะไรที่นี่อีก แต่แค่เดินข้ามไปอีกฟากของถนน ก็จะ
28
เจอชายหาด ซึ่งเป็นหนึ่งในชายหาดที่คนฮ่องกงมาเที่ยวทะเล กันจริงๆ ผมแวะเข้ามินมิ าร์ท ซือ้ น�ำ้ ขวดนึงแล้วท�ำสิง่ ทีต่ งั้ ใจจะท�ำ คือ ‘อยู่เฉยๆ’ ซึ่งถ้าไปบอกใครว่าเรามาฮ่องกงเพื่อมานั่งเฉยๆ อยู่ริมทะเล คงโดนด่าว่าท�ำไมต้องถ่อมาถึงที่นี่ ไปเสม็ดมั้ย หัวหินก็ได้ มีไก่เหลืองให้กินด้วย แต่มันก็เพลินไปอีกแบบนะ แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่า การมาเที่ยวคนเดียว มัน รู้สึกดีตรงนี้นี่แหละ อยากท�ำอะไรก็ท�ำ 11 เปล่า ผมไม่ได้บอกว่าการเที่ยวคนเดียวมันแสนดีงาม ปราศจากอุปสรรคและเรือ่ งร�ำคาญใจ ทุกอย่างช่างสดใสเหมือน ขี่สายรุ้งมาเที่ยว นอกจากบทเรียนแรกที่ได้จากการกินติ่มซ�ำคนเดียว สองถาดไปแล้ว การมาเทีย่ วคนเดียวยังท�ำให้ผมได้เรียนรูอ้ กี ครัง้ ว่ามันไม่ได้สวยงามเสมอไป นั่นคือ สถานที่บางแห่งมันก็ไม่ เหมาะกับการไปเที่ยวคนเดียว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือดิสนีย์แลนด์ ผมเคยมาเที่ยวดิสนีย์แลนด์ที่ฮ่องกงสองครั้งแล้ว แต่ คราวนี้ก็ยังอยากมาอีกรอบ ด้วยเหตุผลที่เฉพาะกิจมากคือ หนึ่ง ผมอยากมาดูพาเหรดพิเศษ คือจากเดิมที่มีพาเหรดมุ้งมิ้ง กิงก่องแก้ว มิกกี้เมาส์ โดนัลด์ดั๊ก นางเงือกลิตเติลเมอร์เมด จะมีเพิ่มเติมพาเหรดตัวร้ายของดิสนีย์ ทั้งปลาหมึกเออร์ซูล่า จาฟาร์จากเรื่องอะลาดิน ไปจนถึงขุ่นแม่มาเลฟิเซนต์ กล่าวคือ
29
เป็นอะไรที่ดาร์กและมุ้งมิ้งไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งมีเฉพาะช่วง สั้นๆ ไม่กี่วันส�ำหรับเทศกาลฮาโลวีนเท่านั้น ส่วนอีกเหตุผล คือ ผมอยากได้สมุดไดอารีที่วางขายในร้านขายของที่ระลึกใน ดิสนียแ์ ลนด์ ซึง่ ปีกอ่ นซือ้ ไปแล้วพบว่ามันเป็นแค่ Volume 1 และ มันจะออกเล่ม Volume 2 ปีนี้ ซึ่งถ้าไปตอนนี้มันก็น่าจะมีขาย แล้วแหละน่า และเหตุผลที่ยวนใจมากก็คือ เราไม่ได้อยากไป เล่นเครื่องเล่นอยู่แล้ว ถ้าซื้อตั๋วช่วงเย็นจะได้ส่วนลดครึ่งราคา อันนี้ไม่ต้องคิดเลย ไปแน่นอน ภารกิจทั้งสองอย่างของผมลุล่วงไปอย่างสวยงาม ได้ดู พาเหรดสมใจ ได้ถ่ายรูปคู่กับคุณแม่มาเลฟิเซนต์สมใจ (แต่ คุณแม่ก็อินกันบทบาทมาก คือนางเป็นตัวร้าย นางจะท�ำตัว เฟรนด์ลี่นอกบทไม่ได้ นางจึงไม่ยิ้ม ไม่ทักทายอะไรเลย ยืนเชิด ให้ถ่ ายรูปอย่างเดียว เป็นการคีปลุคที่น่านับถือและน่าตบ ในเวลาเดียวกัน) ส่วนไดอารีที่อยากได้ก็มีขายอย่างที่คาดไว้ จริงๆ แต่แหม ไหนๆ ก็เสียค่าตั๋วเข้ามาแล้ว จะกลับเลยก็ดูจะ ไม่คุ้ม แวะเล่นเครื่องเล่นหน่อยละกันน่ะ ถ้าเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะอะไรพวกนี้ เล่นคนเดียว ยังไม่แปลกมากนะครับ เพราะมันมีแถว single rider ด้วย บางคนเขาก็มาเล่นคนเดียว อาจจะเพราะเพื่อนกลัว ไม่อยาก เล่นด้วยงี้ แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้เราไปเล่นบ้านผีสิงคนเดียว ซึ่งคนอื่นเขามากันสามสี่คน กรี๊ดกันอย่างสนุกสนาน แต่นี่มา คนเดียว พนักงานที่หน้าบ้านผีสิงก็ถามย�้ำอีก คนเดียวเหรอ?
30
เออ คนเดียวนี่แหละ พอเดินเข้าไป ใจนึงก็กลัว ถ้าเกิดกรี๊ด ขึ้นมาแล้วกูจะไปเกาะใครก็ไม่ได้อีก เป็นการเข้าบ้านผีสิงที่ตน เป็นที่พึ่งแห่งตนอย่างยิ่ง ดูหงอยจนผีอาจจะต้องหยุดหลอน และเริ่มเห็นใจเราแทน เป็นอะไรหรือเปล่า เพื่อนไม่คบเหรอ ไม่เป็นไร เราไม่หลอกก็ได้ สรุปแล้วก็ผ่านบ้านผีสิงมาได้ และออกจากดิสนีย์แลนด์ ในเวลาเดียวกับที่สวนสนุกปิด ซึ่งแน่นอนในบรรดาคนที่ก�ำลัง แห่ไกลไปที่ทางออก ไม่มีใครที่มาคนเดียวเลย ไม่เป็นคู่แฟน มุ้งมิ้งก็มาเป็นครอบครัว ซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกขัดเขินอะไรเท่าไรหรอก แต่มนั ก็อดคิดไม่ได้วา่ มันคงจะสนุกกว่านีม้ ากถ้าเรามีคนมาด้วย แค่นั้นเอง 12 ห้าวันในฮ่องกงผ่านไป ผมนั่งเครื่องบินกลับสู่โลกของ ความจริงทีพ่ นมเปญเพือ่ เตรียมท�ำงานวันจันทร์อกี ครัง้ ห้าวันนี้ ผมตอบค�ำถามเกีย่ วกับการเทีย่ วคนเดียวทีเ่ คยสงสัยได้ครบถ้วน สนุกมั้ย? สนุก สนุกมากด้วย (ถ้าไม่นับดิสนีย์แลนด์) ซึง่ ความสนุกนัน้ มันมีหลายรูปแบบ บางรูปแบบก็เป็นความสนุก ได้อย่างไม่คาดคิด เช่น การนั่งดูคนเรื่อยเปื่อยที่หาดสแตนลีย์ และที่สนุกสุด คือการปลดปล่อยความแรด หรือความโอตาคุ บางอย่างที่เราไม่สามารถปลดปล่อยได้เต็มที่เวลาไปเที่ยวกับ คนอื่น เช่น การตะบี้ตะบันกินข้าวหมูกรอบทุกวันไม่ซ�้ำร้าน เป็นต้น 32
เหงามั้ย? ตอบได้โดยไม่ต้องโกหกเลยว่า ไม่เหงา คือ ถ้าเราไม่จดจ่อว่าเราจะเหงามัย้ และเรารูว้ า่ เราชอบอะไร อยาก ท�ำอะไร เวลาไปเที่ยวมันสั้นเกินกว่าจะเหงามาก คงตอบยาก ว่าทุกคนจะชอบการเที่ยวคนเดียวเหมือน กับที่ผมติดใจหลังจบทริปนี้หรือเปล่า แต่อย่างน้อยผมก็อยาก แนะน�ำให้ทุกคนลองสักครั้ง ไม่ต้องไกล ไม่ต้องแอดวานซ์ ไป ประเทศเดิมที่เคยไปก็ได้ อย่างน้อยเราจะได้รู้จักตัวเองมากขึ้น และอาจจะรูจ้ กั เมืองเดิมๆ ประเทศเดิมๆ ทีไ่ ปมาแล้วกีร่ อบไม่รู้ ในมุมที่เราไม่เคยได้สัมผัสก็ได้
33
เกี่ ย วกั บ บองเต่ า
282
• ชื่อเล่นชื่อ เต่า ส่วน ‘บองเต่า’ คือนามปากกา • ถ้าอยากรู้ว่าท�ำไมต้อง ‘บองเต่า’ ให้ไปหาซื้อ BON EN KHMER มาอ่าน (พื้นที่โฆษณา) • ปัจจุบันยังคงท�ำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนที่บริษัทย่าน บางซื่อ บินไปบินมาทั้งในรัศมีเออีซีและอ่าวตังเกี๋ย บางทีก็ได้ ไปไกลถึงอเมริกาและยุโรปบ้างบางโอกาส • เคยคิ ด ว่ า จะไม่ เ รี ย นปริ ญ ญาโท จนกระทั่ ง ได้ ทุ น ไปเรียน MBA ที่ฝรั่งเศสหนึ่งปี เพราะมันฟังดูแรดดี จึงไป เพื่ออรรถรสในการอ่าน แนะน�ำให้ไปหาซื้อ BON EN FRANCE มาอ่านด้วย (พื้นที่โฆษณาอีกครั้ง) • นิยมการท่องเที่ยวแบบ กินอย่างหรู อยู่อย่างไพร่ โรงแรมจะนอนแบบไหนก็ได้ แต่เรือ่ งกินต้องดี ต้องเต็ม ต้องใหญ่ และต้องจริงจัง • เป็นคนเรียบร้อย พูดน้อย แต่สังคมมักเข้าใจผิดว่า เป็นคนแรด #วอนสังคมให้ความเป็นธรรมด้วย • รายได้ส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ สมทบทุนทริปเที่ยว หมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียประจ�ำปี 2017 ได้แก่ เกาะเซเชลส์ เกาะมอริเชียส และเกาะมาดากัสการ์
283
ขอบคุ ณ
284
ป๊า ม้า ครอบครัว ส�ำหรับทุกอย่าง คุณ ที่ไปเที่ยวด้วยกันทุกปี ไม่ว่าจะที่ไหน งานและบริษัท ที่ท�ำให้ได้ออกไปเห็นโลกกว้าง เจ้านาย ที่อนุมัติลาพักร้อนโดยไม่เกี่ยงงอน อะบุ๊กและทีมงานทุกคน ดีใจเสมอที่ได้ร่วมงานกัน สายการบินและเพจชี้เป้าโปรโมชันตั๋วราคาประหยัด เด็กทุกคนบนเครื่องบินที่ไม่ร้องไห้งอแง โลกนี้ ที่ใหญ่พอให้เที่ยวได้ไม่จบสิ้น ตัวเอง ที่ยังอยากเที่ยวต่อไปได้ไม่จบสิ้น
285
BON EN VOYAGE แรดรอบโลก
บองเต่า — ผู้เขียน เพกา เจริญภักดิ์ — ออกแบบปกและรูปเล่ม ธนิทาน พานาริม — พิสูจน์อักษร หนังสือในชุด Journey พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม 2559 ราคา 295 บาท เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ 978-616-327-175-4
ข้อมูลบรรณานุกรมของสำ�นักหอสมุดแห่งชาติ บองเต่า. BON EN VOYAGE แรดรอบโลก.-- กรุงเทพฯ : อะบุ๊ก, 2559. 288 หน้า. 1.การท่องเที่ยว. 2.การเดินทาง I.ชื่อเรื่อง. 910.4 ISBN 978-616-327-175-4 แยกสีและพิมพ์ บริษัท ทีเอส อินเตอร์พรินต์ จำ�กัด โทรศัพท์ 0-2675-5600 จัดจำ�หน่าย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) เลขที่ 1858/87-90 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0-2739-8000 โทรสาร 0-2751-5999 ในกรณีที่หนังสือชำ�รุดหรือเข้าเล่มสลับหน้า กรุณาส่งหนังสือเล่มนั้นมาตามที่อยู่สำ�นักพิมพ์ สำ�นักพิมพ์อะบุ๊กยินดีเปลี่ยนเล่มใหม่ให้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
286
สำ�นักพิมพ์อะบุ๊ก บรรณาธิการที่ปรึกษา บรรณาธิการบริหาร ผู้จัดการสำ�นักพิมพ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผู้ช่วยผู้จัดการสำ�นักพิมพ์ บรรณาธิการ ศิลปกรรม กองบรรณาธิการ ส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ เลขานุการ
วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ภูมิชาย บุญสินสุข สุรเกตุ เรืองแสงระวี วิไลลักษณ์ โพธิ์ตระกูล อธิษฐาน กาญจนะพงศ์ นทธัญ แสงไชย พิชญ์สินี บุญมั่นพิพัฒน์ ชลธิชา จารุสุวรรณวงค์ นันทิยา ฤทธาภัย พีรพิชญ์ ฉั่วสมบูรณ์ เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์ ชลธร จารุสุวรรณวงค์ ปวริศา ตั้งตุลานนท์
บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำ�กัด ที่ปรึกษา ผู้ช่วยผู้จัดการ ธุรการ ผู้จัดการฝ่ายขายออนไลน์ ผู้จัดการฝ่ายดิจิทัลคอนเทนต์ ศิลปกรรมสื่อออนไลน์ ลูกค้าสัมพันธ์ เว็บมาสเตอร์
สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย นิติพัฒน์ สุขสวย ณัฐธยาน์ อึ้งตระกูลนิธิศ ณัฐรดา ตระกูลสม พิมพ์นารา มีฤทธิ์ ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์ วิมลพร รัชตกนก เทียนจรัส วงศ์พิเศษกุล อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค จุฬชาติ รักษ์ใหญ่
ฟอนต์ Covington, TF Srivichai, DB Helvethaica X รูปถ่ายหน้า 114 Dennis Jarvis จัดพิมพ์โดย สำ�นักพิมพ์ ในเครือ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำ�กัด เลขที่ 33 ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทรศัพท์ 0-2716-6900-4 ต่อ 308, 309 โทรสาร 0-2718-0690
287