a day BULLETIN LIFE issue 14

Page 1


ภาพปก ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ ปีที่ 1 ฉบับที่ 14 วันที่ 13 - 19 มิถุนายน 2557

NOTE ON LIFE 2

Write and Wrong สมัยนี้ยังมีใครจับมือสอนลูกๆ เขียนหนังสือบ้าง? หรือว่าเด็กสมัยใหม่โตมาก็พิมพ์เป็นแลัว และลายมือไม่ได้ส�าคัญอีกต่อไป ว่ากันตามจริง เรื่องเหล่านี้อาจไม่ใช่ปัญหา แต่ก็พูดได้ยากว่ามันไม่สา� คัญ การเขียนด้วยลายมือเป็นการขีดเขียนเส้นสายแสดงตัวตน คือวิธีแสดงออกทางความคิดที่ง่ายและสะดวกที่สุด แต่ก็ต้องใช้เวลาในการบรรจงเขียน เรารู้ได้จากลายมือว่าคนเขียนคือใคร และครั้งหนึ่งเคยมีกระทั่งนักวิเคราะห์ลายมือเพื่ออ่านนิสัยใจคอคน หากแต่เส้นสายแสดงตัวตนเริ่มเลือนรางจางหาย เมื่อเราพิมพ์ได้ง่ายขึ้น และยิ่งง่ายเข้าไปอีกเมื่อเราใช้คีย์บอร์ดในคอมพิวเตอร์พิมพ์ได้ เราพิมพ์ กด Enter กดลบเมื่อเปลี่ยนใจ ทุกอย่างรวดเร็วทันใจจนบางครั้งเร็วเกินกว่าใจจะควบคุมทัน เมื่อพิมพ์ไปแล้ว ทุกอย่างก็เรียกคืนมาไม่ได้อีกต่อไป ยุคนี้เป็นยุคแห่งการช่วงชิงเวลา รวมถึงเวลาในการพิมพ์สิ่งที่เราคิด บางครั้งถ้าคิดน้อย เวลาที่เราช่วงชิงมาก็เอามาใช้เพื่อฆ่าตัวเองให้ตายเร็วขึ้น การพิมพ์ข้อความด้วยความเร็วสูงสุด กลายเป็นทักษะที่มีการใช้ประกวดกัน แต่การประกวดคัดลายมือจางหายไปเรื่อยๆ ความเร็วกับความสวยงามจึงเหมือนไม่มีวันเดินมาบรรจบพบกันบนเส้นทางแห่งการสื่อความ ไม่มีความบรรจงในโลกที่เร่งรีบ เมื่อต้องเขียน เราก็เขียนหวัด เมื่อต้องคิด เราก็คิดหวัดๆ คล้ายเราติดไข้หวัดกันจนงอมไปทั่ว เมื่อไข้หวัดยังต้องอยู่คู่มนุษยชาติต่อไป เราจึงต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรง วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม บรรณาธิการบริหาร Twitter : @khaopan www.facebook.com/adaybulletin

CONTENTS 06

24

20 4 The Stuff

6 Feature

สารพัดสิง่ รอบตัวเรา ไล่สายตาอ่านความที่เล่าผ่านตัวเลข คิดจากลายมือของ 4 นักเขียน ทีอ่ าจท�าให้ คุณอยากลุกขึ้นมา เขียนอีกสักครั้ง

16 18 Supermarket Calendar

ฉวยตะกร้ า คว้ า ร ถ เ ข็ น แ ล ้ ว ไ ป เดินเล่นจับจ่ายกับ เราใน Supermarket แห่งนี้

20 Make a Dish

ใคร ท�าอะไร ที่ไหน หนึ่งจานอร่อยจาก เช็กดูได้ สุดสัปดาห์นี้ ร้านดังที่เราอยาก จ ะ ไ ด ้ ไ ม ่ พ ล า ด ชวนคุ ณ ไปลิ้มลอง เรื่องราวสนุกๆ

22 22 Home Made

24 Out There

28 Selective

29 The 5ive

30 Everyday เงี่ ย หู ฟ ั ง บทเพลง Story

บ ้ า น ที่ ก ลั่ น จ า ก ความรู ้ สึ ก นึ ก คิ ด ของคู ่ รั ก สถาปนิ ก จักรชัย ปัญจนนท์ และ คัทลียา องคสิงห์

เพราะเราเชื่ อ ว่ า ส� า ร ว จ ข ้ า ว ข อ ง โลกใบนี้ มี ส ถานที่ ประกอบชี วิ ต ของ ที่ก้องอยู่ในความ- ทุ ก วั น คื อ ชี วิ ต มากมายรอให้ ไ ป กุสมุ า รุจกิจยานนท์ ทรงจ� า ของ ธ ชย ชี วิ ต คื อ ทุ ก วั น โดย วงศ์ทนง ค้นหา ประทุมวรรณ ชัยณรงค์สิงห์

LETTER เราชอบ a day BULLETIN LIFE ตรงที่แต่ละฉบับมีการน�าเอาเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจและก�าลังเป็นที่นิยมมาน�าเสนอ ท�าให้รู้ว่ามีสิ่งไหนบ้างที่เรายังไม่รู้จัก และควรที่จะรู้จัก และมีการพูดคุยกับคนที่น่าสนใจ ท�าให้เราได้เรียนรู้ถึงมุมมองของคนแต่ละคน แต่ละบทบาท เราชอบคอลัมน์ของพี่โหน่งที่เขียนปิดท้ายเล่ม อ่านสนุก แถมยังได้ข้อคิดดีๆ อีกมากมาย ในบางครั้งที่เรามองเรื่องเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่แย่ แต่พอได้อ่านบทความของพี่โหน่งก็ทา� ให้เราเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนมุมมองได้ สดใสขึ้นเยอะเลยค่ะ - Pimpinun Kaewtip

ส่งจดหมายติชม ทักทาย และให้ค�าแนะน�า a day BULLETIN LIFE มาได้ที่ adaybulletinmagazine@gmail.com และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมดีๆ ได้ที่ Facebook/Twitter/Instagram: a day BULLETIN

A TEAM ที่ปรึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นิติพัฒน์ สุขสวย บรรณาธิการอ�านวยการ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ บรรณาธิการบริหาร วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม ซับเอดิเตอร์ / นักเขียน วสิตา กิจปรีชา บรรณาธิการบทความ ประพัฒน์ สกุณา กองบรรณาธิการ เอกพล บรรลือ ทรรศน หาญเรืองเกียรติ อาทิตยา อาศิรวาท ไอรดา รื่นภิรมย์ใจ ปริญญา ก้อนรัมย์ บรรณาธิการภาพ นิติพัฒน์ สุขสวย ช่างภาพ กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร ภาสกร ธวัชธาตรี วงศกร ยี่ดวง บรรณาธิการศิลปกรรม วีระยุทธ คงเทศน์ ศิลปกรรม กิตติ ศรีวิเชียร เอกพันธ์ ครุมนต์ตรี พิสูจน์อักษร หัสยา ตั้งพิทยาเวทย์ ศักดิ์สิทธิ์ ไม ล้ �าดวน สราญรัตน์ ไว เ้ กียรติ ฝ า่ ยผลิต วิทยา ภู ่ทอง ทศพล บุญคง ที่ปรึ กษาฝ า่ ยโฆษณา ศรวณีย ์ ศิริ จรรยากุล ผู อ้ �านวยการกลุ ม่ โฆษณา อุบลวรรณ จรเจริ ญสุข ผู จ้ ัดการฝ า่ ยโฆษณา ศุภลักษณ์ เลิศกาญจนวัฒน์ 08-6378-6037, วราพร วิทยารุง่ เรืองศรี 08-9169-9509 ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายโฆษณา วาณี กนกวิลาศ 08-1859-8851, พงศ์ธิดา อังศุวัฒนากุล 08-9170-6001, อังศุนิตยุ์ จรุงชัยฤทธิกุล 08-1303-5242 ฝ่ายโฆษณาอาวุโส ธนาภรณ์ ศรีจฬุ างกูล 08-9662-7073, รวงรัชต์ ด้านเทาลา 08-1412-9478, ธัญชนก คงเทพ 08-4025-1015, อัมพิกา มณีวฒ ั น์ 08-5164-4896, วิชยุตม์ โชติวาณี 08-0776-6868 ผูจ้ ดั การ จัณฑรัศมิ์ เกียรติยศ ผูช้ ว่ ยผูจ้ ดั การ ณัฐธยาน์ อึง้ ตระกูลนิธศิ ฝ่ายธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ผู้ผลิต บริษัท เดย์ โพเอทส์ จ�ากัด เลขที่ 33 ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320 ติดต่อกองบรรณาธิการ โทร. 0-2716-6900 อีเมล adaybulletinmagazine@gmail.com เว็บไซต์ www.daypoets.com ฝ่ายสมาชิก นริศรา ธาระพุฒ โทร. 0-2716-6900 ต่อ 412 นักศึกษาฝึกงาน ภูวดี พฤษศิริสมบัติ พิมพลอย วิวัฒนาไพบูลย์ลาภ


STUFF 4

Glasses การมองคือหนึ่งในวิธีที่มนุษย์ใช้เรียนรู้ชีวิตและความเป็นไปบนโลกใบนี้ แต่มนุษย์ล้วนเกิดมาด้วยเงื่อนไขที่ไม่เท่าเทียมกัน เช่นเดียวกับการมองเห็น สายตาของบางคนสั้น บางคนยาว มองเห็นใกล้ไกล คมชัดได้ ไม่เท่ากัน ‘แว่นตา’ จึงได้สร้างขึ้นมาเพื่อลบข้อแตกต่าง ดังกล่าว ท�าให้มนุษย์มองเห็นและเรียนรู้โลกใบนี้ได้อย่างเท่าเทียม

คืออายุขั้นต�่าส�าหรับผู้ที่จะสั่งซื้อ Google Glass แว่นตาสุดล�า้ ทีพ ่ ฒ ั นาโดยบริษทั Google โดยอุปกรณ์ ชิ้นนี้ถูกมองว่าจะเข้ามาทดแทนสมาร์ตโฟนในอนาคต เพราะสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi, บลูทูธ และจีพีเอส พร้อมทัง้ มีหน้าจอแสดงผล และกล้องส�าหรับบันทึกภาพ ในตัว เรียกว่าพลิกมิตกิ ารใช้งานทัง้ แว่นตาและสมาร์ตโฟน แบบเดิมๆ

80

80% ของเลนส์แว่นทีผ่ ลิตขึน้ มา บนโลกทุ ก วั น นี้ ท� า มาจาก พลาสติ ก ไม่ ใ ช่ แ ก้ ว อย่ า งที่ หลายคนคิด

กว่า 25% ของประชากรโลกเป็นผู้ที่ มี ป ั ญ หาด้ า นสายตา แต่ เ ชื่ อ หรื อ ไม่ มีคนกว่า 1,000 ล้านคนบนโลกใบนี้ ที่ไม่สามารถหาแว่นสายตามาช่วยเหลือ การมองเห็นของตนเองได้

1712

คือปี ค.ศ. ที่ช่างแว่นตาชาวอังกฤษ เอ็ดเวิร์ด สการ์เลต ได้ประดิษฐ์ขาแว่นตาขึ้นเป็นครั้งแรก และเปลีย่ นรูปแบบการใช้จากเดิมทีต่ อ้ งใช้มอื ประคองให้อยูบ่ นใบหน้า ให้ตวั แว่นตามีขาทีค่ ล้อง ติดกับหลังใบหูได้ ท�าให้รูปแบบการผลิตแว่นแบบนี้ได้รับความนิยมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

1937

คือปี ค.ศ. ที่แว่นกันแดด Ray-Ban ผลิตขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา โดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก พลโท จอห์น แม็กครีดี นักบินทดสอบชาวอเมริกัน ได้เสนอให้บริษัท Bausch & Lomb ผลิตแว่นกันแดดเพื่อปกป้องสายตาของเหล่านักบินจากแสงแดด เพียงไม่นานแว่น Ray Ban รุ่น Aviator ก็ปล่อยออกมา และได้รับความนิยมไปทั่วโลก

1286 คือปี ค.ศ. ทีค่ าดการณ์ ไว้วา่ แว่นตาได้ถกู ประดิษฐ์ขนึ้ เป็นครัง้ แรกโดยฝีมอื ของพระ หรือช่างฝีมือชาวอิตาเลียนในเมืองปิซา โดยมีรูปร่างคล้ายแว่นตาในปัจจุบันที่มี 2 กรอบ แต่ยงั ไม่มขี าแว่น ท�าให้เวลาใช้ตอ้ ง อาศัยมือยกขึน้ ชิดกับใบหน้า และตัวเลนส์ ท�ามาจากแก้วหรือหินคริสตัล

90

ทุ ก ๆ 90 วิ น าที แว่ น กั น แดดส� า หรั บ ผู ้ ช ายจะถูกสั่งซื้อโดยใครสักคนที่อาศัย อยูม่ มุ ใดมุมหนึง่ บนโลกใบนีผ้ า่ นเว็บขายของ ออนไลน์ชื่อดังอย่าง eBay.com

ทุกๆ 14 วินาที คือจ�านวนเวลาที่ใครคนใดคนหนึง่ ในสหรัฐอเมริกาจะนัง่ ทับหรือท�าแว่นตา ของตนเองแตก

ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์ The Matrix ทั้ง 3 ภาค คงจะคุ้นตากันดีว่าตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้สวมแว่นตากันแทบจะทุกคน! และถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าตัวละครฝ่ายพระเอก ทุกคนจะสวมแว่นตาทรงกลม ในขณะที่ฝ่ายศัตรูทุกคนจะใช้แว่นที่มีรูปทรงเป็นเหลี่ยม อันเป็นสัญลักษณ์แทนของสองฝ่ายที่ไม่เหมือนกัน


FEATURE 6

Write and Learn ยังจ�ำได้ ไหมว่ำคุณใช้ลำยมือครั้งสุดท้ำยเมื่อไหร่ ถ้ำไม่นับกำรเซ็นชื่อ หรือกรอกข้อควำมลงบนเอกสำรต่ำงๆ เชื่อว่ำลำยมือคงห่ำงหำยไปจำกชีวิตของคนยุคนี้ไปค่อนข้ำงมำก แม้กำรพิมพ์ข้อควำมหำกันในโทรศัพท์มือถือ หรือพิมพ์สิ่งที่คิดลงบนแป้นคีย์บอร์ด จะได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่ำ และเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่ำ แต่ถึงอย่ำงนั้นลำยมือที่บรรจงเขียนด้วยมือก็ยังคงมีเสน่ห์ ไม่เสื่อมคลำย เช่นเดียวกับเรื่องรำวที่แทรกซึมอยู่ในลำยมือของ 4 นักเขียนชื่อดัง ที่เรำชวนมำเขียนสิ่งที่พวกเขำคิดผ่ำนหน้ำกระดำษ ซึ่งอำจท�ำให้คุณอยำกจะลุกขึ้นมำเขียนอะไรยำวๆ ผ่ำนลำยมือของตัวเองอีกครั้ง


เรื่อง : อาทิตยา อาศิรวาท ภาพ : วงศกร ยี่ดวง

ปราบดา หยุ่น เป็นอีกคนที่เรำสนใจในลำยมือ ไม่ใช่เพรำะเหตุผลที่น้อยคนนักจะได้เห็นร่องรอยน�้ำหมึกจำกปำกกำของเขำ แต่เป็นเพรำะน้อยครั้งนักที่จะมีโอกำสได้ชวนคุยและชวนเขียนเรื่องรำวเหล่ำนี้ และหลังจำกที่เขำตกปำกรับค�ำ พื้นที่หน้ำกระดำษหนึ่งคู่นี้จึงได้รับหน้ำที่เป็นสื่อกลำงในกำรถ่ำยทอดถ้อยค�ำและลำยมือของเขำสู่สำยตำของคุณ ปกติคุณได้ใช้มือในการท�างานมากน้อยแค่ ไหน ถ้าเป็นการท�างาน ส่วนใหญ่กจ็ ะพิมพ์กบั คอมพิวเตอร์ เราไม่ได้ เขียนด้วยลายมือมานานมากแล้ว ซึง่ ไม่เกีย่ วกับเรือ่ งคอมพิวเตอร์นะ เพียงแต่ตอนเริม่ เขียนหนังสือใหม่ๆ เราใช้เครือ่ งพิมพ์ดดี เป็นหลัก เพราะตอนนั้นเห็นผู้ใหญ่พิมพ์ดีดแล้วรู้สึกว่ามันเท่ดี ถ้าให้คิดถึง ตอนเริ่มเขียนหนังสือ เราก็จะนึกถึงภาพตัวเองใช้เครื่องพิมพ์ดีด มากกว่า จนระยะหลังๆ เรากลับมาเขียนด้วยลายมือมากขึ้น ซึ่งอาจเป็ น เพราะอยากลองใช้ ป ากกาหมึก ซึม ที่มีค วามหนา ในแบบที่เราชอบ อยากจะเขียนออกมาในแบบที่รู้สึกว่ามันคือ การท�างานศิลปะ เพราะเวลาไปเดินพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ ได้เห็นต้นฉบับเก่าๆ ของนักเขียนทีเ่ ขาจัดแสดงแล้วรูส้ กึ ประทับใจ มันมีเอกลักษณ์บางอย่างอยู่ในนั้น ความรู ้ สึ ก ของการกลั บ มาอ่ า นลายมื อ ของตั ว เองอี ก ครั้ ง เป็นอย่างไร ส่วนใหญ่กไ็ ม่คอ่ ยชอบนะ อาจเป็นเพราะเราชอบเปลีย่ น เช่น บางครั้งรู้สึกว่าตัว ค.ควาย แบบนี้ไม่สวย เราก็จะลองเปลี่ยน วิธีเขียน แต่ละช่วงวัยลายมือไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ พูดง่ายๆ ก็คือแต่ละครั้งที่เขียนด้วยลายมือมันเหมือนกับการวาดรูปที่เรา อยากจะให้ตวั หนังสือบนหน้ากระดาษมันน่าอ่าน เราจึงไม่ยดึ ติด อยู่กับเอกลักษณ์ของลายมือตัวเอง ลายมือสะท้อนตัวตนของคนเราได้มากน้อยแค่ ไหน อาจสะท้อนได้วา่ เราเป็นคนขีเ้ บือ่ และไม่คอ่ ยมีตวั ตนทีย่ ดึ ติด มากนัก เพราะเวลาเขียนเราก็จะรู้ตัวอยู่ตลอดว่าเราต้องการให้ ตัวอักษรนีม้ หี น้าตาแบบไหน ต่างจากหลายคนทีอ่ าจเขียนไปโดย อัตโนมัต ิ ไม่ได้มานัง่ คิดว่าจะต้องท�ายังไงให้มนั สวย แต่เราจะคิด ถ้าไม่พอใจเราก็จะขย�ากระดาษทิ้งไปเลย ความรู้สึกที่ ได้จากการเขียนบนกระดาษเป็นอย่างไร เราชอบเขียนบนกระดาษเพราะมันได้สัมผัสพื้นผิว ได้เห็น ความเข้มของหมึก เห็นการซึมของหมึกโดยที่เราไม่ตั้งใจ หรือ แม้กระทัง่ ตอนทีเ่ ราดืม่ กาแฟไปด้วย แล้วหยดกาแฟไปโดนกระดาษ แล้วมันก็กระจายอยูบ่ นนัน้ มันเป็นความสวยงามทีค่ าดเดาไม่ได้ ในขณะทีก่ ารใช้คอมฯ เขียนหนังสือจะเป็นไปเพราะความสะดวก แก้ไขง่าย แต่ไม่มีความรู้สึกทางศิลปะเข้าไปเกี่ยวข้อง คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับทุกวันนี้ที่คนใช้คอมพิวเตอร์ มากขึ้นจนแทบไม่มีโอกาสได้เขียนด้วยมือ มันเป็นความเปลีย่ นแปลงทีเ่ กิดขึน้ โดยทีเ่ ราก็ไม่ได้รสู้ กึ อะไร มันเป็นความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของสังคมที่เทคโนโลยี เข้ามามีบทบาท เพราะยุคสมัยหนึ่งคนเราก็ใช้วิธีสลักหินหรือใช้ พู่กันขนนกในการเขียน ต่อมาก็ไม่มีใครเขาท�าแล้ว ซึ่งการเขียน ด้วยลายมือในทุกวันนี ้ พอถึงวันหนึง่ มันก็อาจไม่มแี ล้วก็ได้ แต่สว่ นตัว แล้วคิดว่ายังไงการเขียนด้วยมือก็สะดวกกว่าการใช้อุปกรณ์ เพราะถึงคุณไม่มีคอมฯ แต่ก็ยังมีมือ


8


เรื่อง : อาทิตยา อาศิรวาท ภาพ : วงศกร ยี่ดวง

ทันทีทเี่ รำเริม่ นึกถึงลำยมือของนักเขียนสักคน เส้นสำยจำกกำรตวัดปำกกำของ วินทร์ เลียววาริณ ก็ปรำกฏชัดขึน้ มำในควำมคิดเป็นล�ำดับแรก จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เรำจะไม่เชิญชวนเขำเป็นส่วนหนึ่งของกำรน�ำเสนอเรื่องรำว เกี่ยวกับกำรเขียนด้วยมือในครั้งนี้ และนี่คือบทสนทนำที่เกิดขึ้นระหว่ำงเรำ ปกติแล้วคุณเขียนต้นฉบับอย่างไร เพราะรูต้ งั้ แต่แรกว่าจะต้องจบงานทีค่ อมพิวเตอร์ เราก็เลยพยายามถ่ายข้อมูลเข้าไปในคอมฯ ให้มากที่สุด แน่นอนว่าเราเขียนด้วยกระดาษเยอะ แต่ไม่ว่าจะเขียนยังไงเราก็จะถ่ายเข้าไปใน คอมพิวเตอร์ตอนท้ายอยู่ดี ในชีวิตของเราน่าจะมีแค่เรือ่ งสองเรื่องทีเ่ ขียนด้วยลายมือ นอกนั้น จะเขียนด้วยลายมือเป็นท่อนๆ แล้วไปคียเ์ ข้าคอมพิวเตอร์ ซึง่ เราก็ยงั สงสัยว่าจะมีนกั เขียนคนไหน ที่เขียนด้วยลายมือล้วนๆ หรือเปล่า ที่บอกว่ามีบางเล่มที่เขียนด้วยลายมือ นั่นคือเรื่องอะไร จ�าไม่ได้แล้ว เป็นเล่มทีไ่ ม่ได้ตพี มิ พ์ ยังเป็นยุคแรกเริม่ และเขียนได้หว่ ยแตกมาก เขียนหนังสือ ยังไม่เป็นเลย ตอนนั้นทุกอย่างท�าบนกระดาษทั้งหมด บางทีก็เขียน บางครั้งก็สเกตช์ภาพ ตอนนั้นคอมพิวเตอร์ยังไม่เข้ามาเมืองไทย น่าจะประมาณปี 1985 แมคอินทอชยังไม่เกิด พอผ่านไปสัก 2-3 ปี ก็มีคอมพิวเตอร์เข้ามา เราก็ต้องเรียนคอมพิวเตอร์เลย เพราะรู้ว่ามันจะ ต้องไปทางนี้แน่นอน การเขียนเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการท�างานของคุณอย่างไรบ้าง มันมีวิธีการท�างานหลายแบบ หนึ่ง คือเมื่อได้ไอเดียมา หากตอนนั้นอยู่หน้าคอมฯ เราก็คีย์ไปเลย แต่ถ้าไม่ เราก็เขียนบนกระดาษหรือบนฝ่ามือไปก่อนแล้วค่อยกลับไปพิมพ์ พอพิมพ์แล้วก็พรินต์มาอ่าน ใช้ปากกามานั่งแก้ ปัจจุบันก็ยังท�าอย่างนี้ทุกครั้ง การท�างานด้วยคอมพิวเตอร์กับการเขียนด้วยมือต่างกันอย่างไร ผมรู้สึกว่าเขียนด้วยมือมันจะไหลลื่นกว่า และการขีดๆ เขียนๆ ด้วยปากกามันมีความสุข มากกว่า เพราะปากกามันให้เรื่องความใกล้ชิด ส่วนใหญ่เราก็ใช้ปากการาคาถูกๆ เนี่ยแหละ มันพกสะดวกกว่าดินสอ เอาหน้าที่ใช้สอยเป็นหลัก ไม่ได้เอาความเท่ ส่วนกระดาษ ผมจะใช้ แต่กระดาษรีไซเคิล ไม่ได้พกสมุดบันทึกมานานแล้ว พอใช้เสร็จแล้วก็ขย�าทิง้ ไป ปกติเวลาออกไป ข้างนอก กระเป๋าผมจะมีตน้ ฉบับอย่างน้อยสักเรือ่ งหนึง่ อยูใ่ นนัน้ เผือ่ ต้องไปนัง่ รอใครข้างนอก ก็จะหยิบขึ้นมาเขียน มันส�าคัญแค่ ไหนทีค่ นเราควรใช้ลายมือ ในยุคทีด่ เู หมือนว่าจะมีอปุ กรณ์อย่างอืน่ มาทดแทน ไม่ว่าคุณจะใช้อะไรก็ตามมันก็เป็นแค่เครื่องมือตัวหนึ่งเท่านั้นเอง สาระมันอยู่ตรงเรื่อง ที่เราเขียน ไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณใช้เครื่องมืออะไรเขียน คุณถนัดแบบไหนก็ใช้แบบนั้น สังเกตได้ว่าคุณจะใช้ลายมือเขียนชื่อหนังสือบนปกเสมอ ท�าไมคุณเลือกวิธีการนี้ อาจเพราะเริ่มต้นมาอย่างนั้นก็เลยขี้เกียจเปลี่ยน มันก็มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย ข้อดีก็คือสะดวก ทุกครัง้ ทีท่ า� ก็ทา� แบบนัน้ ไปเลย ข้อเสียคือมันจ�ากัดการออกแบบ อีกเหตุผลคือตอนทีผ่ มท�าโฆษณา ก็จะถูกลูกค้าบังคับเสมอว่าจะต้องใช้ชอื่ สินค้าใหญ่ๆ พอมาท�าปกหนังสือของตัวเองก็เลยอยาก ท�าให้เล็กที่สุดโดยใช้ตัวอักษรจากลายมือ เคยได้ยนิ ว่าเวลาเขียนด้วยมือมันท�าให้สงิ่ ทีเ่ ขียนออกมาคมกว่าการพิมพ์ คุณคิดแบบนัน้ ไหม ผมคิดว่ามีสว่ น แต่มนั อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน เรามองตัวเองเป็นอาร์ทสิ ต์ เวลาเราเขียน บางทีก็วาดรูปไปด้วย เช่น เขียนนิยาย เราก็จะนึกเป็นภาพไปด้วยว่าเหตุการณ์มันเป็นยังไง แล้วสเกตช์ขึ้นมาเพื่อช่วยบรรยายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมันอาจไม่สามารถท�าในคอมพิวเตอร์ได้ทันที ที่ไอเดียเกิดขึ้นมา เพราะในคอมฯ ใช้โปรแกรมวาดกับเขียนคนละตัวกัน คุณคิดอย่างไรที่บางคนปฏิเสธการใช้เครื่องมือเทคโนโลยี อย่างที่บอก มันเป็นเครื่องมือ มันไม่มีถูกหรือผิด มันก็แค่ความถนัด เหมือนกับบางคน ชอบใช้จอบขุดดิน แต่ถ้ามีคนชอบใช้เสียมขุดดินก็เรื่องของเขา ก็ตามสบาย ตอนจบมันไม่ได้ อยู่ที่เครื่องมือ มันอยู่ที่ผลลัพธ์ที่ออกมาว่าเป็นอย่างไร 9


10

เรื่อง : ทรรศน หาญเรืองเกียรติ ภาพ : วงศกร ยี่ดวง

นักเขียนหญิงอำรมณ์ดเี จ้ำของผลงำนทีน่ ำ่ อ่ำนอย่ำง เทีย่ วย้อมใจ หรือควำมเรียงอ่ำนสบำยอย่ำง บันทึกคนเดินช้า, ภูมิคุ้มใจ และเรื่องสั้น สุขสันต์วันธรรมดา ซึ่งนอกจำกจะมีนำมปำกกำสุดเท่ว่ำ ‘เพลงดาบแม่นา�้ ร้อยสาย’ แล้ว เซียนโปสต์กำร์ดคนนี้ก็มีควำมรัก ควำมผูกพัน ในกำรเขียนหนังสือด้วยมือของตัวเองเช่นกัน

การเขียนหนังสือส�าหรับคุณนั้นมีความส�าคัญมากน้อยแค่ ไหน เราเป็นคนที่เขียนบันทึกอยู่แล้วเป็นประจ�า เขียนมากว่า 30 ปีแล้ว ดังนัน้ ส�าหรับเราก็ยงั คงได้ใช้ลายมือของตัวเองมาโดยตลอด ถึงแม้วา่ เวลา ท�างานบางทีเราจะใช้คอมพิวเตอร์กต็ าม เราก็เลยไม่รสู้ กึ ว่าตัวเองห่างหาย จากการเขียนหนังสือลงบนกระดาษ ยิง่ เราเป็นคนทีท่ า� งานเกีย่ วกับหนังสือ ด้วยแล้ว เวลาเกิดความคิดอะไรขึน้ มาเราก็ตอ้ งจดบันทึกลงไปในสมุดเสียก่อน ซึ่งการหยิบดินสอหรือปากกาขึ้นมาจดบันทึกมันง่ายกว่าการไปเสียบปลั๊ก แล้วเปิดสวิตช์คอมพิวเตอร์ รอเครือ่ งท�างาน หรือเราอยากไปนัง่ เล่นตรงไหน ก็หยิบสมุดขึ้นมาเขียนอะไรลงไปได้เลย คุณคิดอย่างไรทีท่ กุ วันนีร้ ะยะห่างของการเขียนด้วยมือเริม่ มีมากขึน้ เรือ่ ยๆ จากการเข้ามาแทนที่ของอุปกรณ์ ไฮเทคต่างๆ ถ้าแล็ปท็อปหรือแทบเล็ตของเราเกิดแบตเตอรีห่ มดขึน้ มา อุปกรณ์พวกนี้ ก็เป็นเพียงแค่ทที่ บั กระดาษ เราไม่สามารถท�าอะไรได้เลย แต่สมุดกับปากกา หรือดินสอก็ตาม เป็นเครื่องมือที่ใช้สอยง่าย หยิบขึ้นมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ ความสุขในการเขียนหนังสือด้วยมือตัวเองของคุณคืออะไร มีความอิสระ เพราะเวลาเราเขียนอะไรลงไปแล้วนึกอยากจะสเกตช์รปู ก็ท�าได้เลย ทุกอย่างอยู่ที่การควบคุมด้วยมือของเรา ถ้ามองย้อนกลับไป คุณเห็นอะไรจากลายมือของตัวเองบ้าง เราเคยย้อนกลับไปดูสมัยที่เราเขียนเฟรนด์ชิปให้เพื่อนตอนที่เรียนจบ ชัน้ ม.6 แล้วพบว่าลายมือของเราเปลีย่ นไปค่อนข้างมาก อาจจะเป็นเพราะ ปากกากับกระดาษเองก็มีส่วน และความเร่งรีบในชีวิตก็ส่งผลให้ลายมือ ของเราเปลีย่ นแปลงไป ซึง่ ท�าให้เราค้นพบลายมือแบบใหม่ของเราได้เหมือน กัน ซึง่ ก็ไม่ได้เปลีย่ นไปโดยสิน้ เชิง แต่ทา� ให้เราเห็นลายมือเก่าๆ ของตัวเอง แล้วรูว้ า่ นีล่ ายมือสมัยเด็ก พอตอนนีก้ ร็ สู้ กึ ว่าลายมือของเราดูเป็นผูใ้ หญ่ขนึ้ ในความคิดของคุณ ลายมือสามารถสื่อสารอะไรถึงคนอ่านได้ บอกถึงอารมณ์คนเขียนได้ เช่น ถ้าเราเขียนหนังสือตอนที่อารมณ์ไม่ดี หรือก�าลังรีบ ลายมือก็จะแสดงออกมาแบบหนึ่ง แต่ถ้าเป็นตอนที่เราก�าลัง สบายหรือนั่งคัดบรรจงตัวอักษรอยู่ ลายมือก็จะออกมาสวยงามอ่อนช้อย ซึง่ พอกลับมาดูเองก็ยงั รูเ้ ลยว่าอารมณ์ของเราทีข่ ดี เขียนลงไปนัน้ เป็นแบบไหน กดเส้นหนาลึกแบบเต็มที่ หรือลากหางยาวๆ แบบสบายใจ ประโยชน์ที่ ได้รับในการเขียนหนังสือด้วยมือส�าหรับคุณคืออะไร เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กของมือเราเป็นประจ�า โดยเฉพาะส�าหรับ เด็กๆ นีค่ อื สิง่ ส�าคัญ เพราะเป็นการฝึกควบคุมกล้ามเนือ้ และประสาทสัมผัส ไปในตัว คนโบราณจะบอกว่าลายมือก็เหมือนกับยศของคนเขียน คือลายมือ ก็เหมือนกับค�าว่าที่ว่ากิริยาส่อสกุล คนโบราณเมื่อดูลายมือของคนเขียน ก็จะวัดได้เลยว่ามีการศึกษาแค่ไหน หรือได้รบั การอบรมมามากน้อยเพียงใด และถ้ากล้ามเนือ้ มัดเล็กของเราถูกใช้งานบ่อยๆ เวลาไปเขียนอย่างอืน่ เช่น วาดรูปหรือใช้พู่กันจีนเขียนหนังสือ ลายเส้นก็จะออกมาอ่อนช้อยสวยงาม


11



เรื่อง : เอกพล บรรลือ ภาพ : ภาสกร ธวัชธาตรี

แม้จะได้ชื่อว่ำเป็นนักเขียนที่มีผลงำนเขียนออกมำมำกที่สุดคนหนึ่ง แต่คงมีน้อยครั้งที่เรำจะได้อ่ำนงำนเขียนของ ‘นิ้วกลม’ หรือ สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ ผ่ำนลำยมือที่เขำบรรจงเขียนขึ้นด้วยตัวของเขำเอง ซึ่งนอกจำกจะได้อ่ำนควำมคิดผ่ำนถ้อยค�ำ ที่เขำคัดสรรมำเป็นอย่ำงดีแล้ว เรำยังจะได้อ่ำนตัวตนของเขำผ่ำนรอยหวัดในลำยมือของเขำ รวมถึงบทสนทนำต่อไปนี้ด้วย

ปกติแล้วคุณใช้ลายมือบ่อยแค่ ไหน จริงๆ เขียนอยู่บ่อยๆ นะครับ ทุกครั้งที่ไปถ่ายรายการ พื้นที่ชีวิต ก็จะจดบันทึก ตลอดเวลา ทั้งเรื่องราวที่ไปเจอ ทั้งความคิดของเราเวลาที่ไปเจอสถานการณ์ต่างๆ กลับมาก็จะมีสมุดบันทึกเป็นเล่มๆ ในทุกๆ ทริป หรือเวลาร่างบท พืน้ ทีช่ วี ติ ก็จะร่าง ด้วยลายมือ นอกจากนัน้ ก็จะมีการทดใส่สมุดบันทึก เช่น ขับรถอยูแ่ ล้วนึกอะไรออก ก็หยิบขึ้นมาจด หรืออ่านหนังสือเจออะไรน่าสนใจก็หยิบขึ้นมาทด จะเป็นลักษณะ การทดมากกว่า พอเขียนเยอะๆ แล้วกลับมาดูลายมือของตัวเองอีกครั้งคุณรู้สึกอย่างไร ลายมือเป็นเรือ่ งประหลาดมาก คือมันเปลีย่ นไปตลอด ลายมือมันบอกตัวเราได้ เป็นเหมือนร่องรอยของอดีต พอย้อนกลับไปดูก็จะเห็นว่าตอนเด็กๆ เป็นยังไง คือตอนเด็กๆ ผมเป็นคนมีระเบียบ เชื่อฟังครู เชื่อฟังกฎเกณฑ์ว่าถ้าคัดไทยมันต้อง เขียนแบบนีถ้ งึ จะเรียกว่าสวย แต่ลายมือผมเปลีย่ นบ่อยมาก บางช่วงเราอยากน่ารัก มันก็จะมีชว่ งทีล่ ายมือผมเป็นตัวกลมๆ หัวโตๆ เหมือนถัว่ งอก ถัดจากนัน้ มาก็เริม่ เขียน ตัวผอม แล้วก็มาเปลีย่ นอีกครัง้ หนึง่ อย่างชัดเจนตอนทีเ่ ข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เพราะทุกคนจะต้องคัดและเขียนลายมือสถาปัตย์ ซึ่งจะต้องเป็นลายมือที่อ่านง่าย เป็นเหลีย่ มๆ พอเรียนจบก็เปลีย่ นลายมืออีกครัง้ หนึง่ เพราะเราไม่ได้ทา� งานสถาปัตย์ และเราสามารถเขียนยังไงก็ได้ตามแบบเรา ก็จะพบว่าเมื่อเราแก่ขึ้น ลายมือมันจะ เอนไปเอง ไม่รู้ท�าไม (หัวเราะ) แล้วมันก็ค่อยๆ เอนมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้ ทีล่ ายมือกลายเป็นตัวเอนไปแล้ว ต่างจากช่วงจบมาใหม่ๆ เพราะตอนนี้มีการตวัด เยอะขึ้นด้วย ถ้าอย่างนั้นลายมือของคุณตอนนี้สะท้อนให้เห็นอะไรบ้าง สิง่ ทีเ่ ห็นชัดจากลายมือของตัวเองตอนนีค้ อื ผมคิดว่าผมมีความมัน่ ใจในตัวเอง มากขึ้น และกล้าออกนอกกรอบมากขึ้น คือผมเริ่มคิดว่าลายมือมันไม่ต้องเหมือน กับใครก็ได้ ตอนเด็กๆ เคยคิดว่าลายมือต้องเหมือนการคัดไทย แล้วลายมือทีเ่ หมือนทีส่ ดุ ก็คือลายมือที่สวยที่สุด แต่พอโตขึ้นผมกลับคิดว่าลายมือที่เราเขียนมันก็สวยแล้ว สวยในแบบเรา แล้วผมคิดว่าลายมือทีม่ คี วามมัน่ ใจอยูใ่ นเส้นสาย ไม่วา่ จะเป็นลายมือ ใครก็ตาม ลายมือนัน้ เป็นลายมือทีส่ วย จริงๆ แล้วลายมือมันสะท้อนหลายอย่างนะ เพราะลายมือเป็นอุปกรณ์สื่อความคิด แล้วลายมือที่เป็นตัวเองที่สุดก็คือลายมือที่ เราไม่ได้ตั้งใจเขียนให้ใครอ่าน ใครที่เขียนไดอารีแล้วมั่นใจว่าจะไม่มีใครมาอ่าน ไดอารีเล่มนี้ อันนั้นแหละเป็นลายมือที่เป็นตัวเขาเองที่สุด คุณคิดว่าที่สุดแล้วการพิมพ์มันแทนที่ลายมือได้ ไหม ผมเชื่อว่าลายมือมันเป็นฟอนต์หยุดเวลา คือลายมือไม่ได้บันทึกแค่เนื้อหา แต่ มันบันทึกตัวตนคนเขียนในช่วงเวลานั้นไว้ด้วย ซึ่งมันมีเสน่ห์ตรงนี้แหละ เพราะว่า ถ้าคุณพิมพ์ Cordia New หรือพิมพ์ Angsana UPC อีก 10 ปี มาอ่าน คุณก็จะเจอแต่ Angsana UPC แต่ถา้ คุณให้คนคนหนึง่ เขียนอะไรสักอย่าง อีก 5 ปี ผ่านไป คุณจะพบว่า ฟอนต์นมี้ นั ไม่มแี ล้วในโลก เพราะฉะนัน้ สิง่ ทีฟ่ อนต์แทนลายมือไม่ได้อย่างชัดเจนเลย ก็ คื อ เรื่ อ งความรู ้ สึ ก อี ก อย่ า งมั น อาจจะเป็ น เหมื อ นกั บ แคปซู ล กาลเวลาก็ ไ ด้ เพราะเวลาทีเ่ ราไปอ่านลายมือเก่าของเราเอง หรือของคนทีเ่ รารูจ้ กั ก็ตาม ภาพเก่าๆ ในความทรงจ�ามันจะผุดขึ้นมาด้วย ผมเคยไปญี่ปุ่นแล้วเจอกับคนท�าเทียนที่เขา สืบทอดเทคนิคการท�าเทียนด้วยมือมาตัง้ แต่รนุ่ ปู ่ ผมก็เลยถามเขาว่า เทียนทีเ่ ขาท�า ด้วยมือมันต่างจากเทียนอุตสาหกรรมยังไง เขาบอกว่า เปลวเทียนของเขามีชีวิต เปลวเทียนจากเทียนอุตสาหกรรมมันจะเหมือนกันไปหมด และจะค่อนข้างมั่นคง แต่เปลวจากเทียนท�ามือมันจะสัน่ ไหว มีชวี ติ เพราะสิง่ ทีท่ า� ขึน้ จากชีวติ มันก็จะมีชวี ติ ผมว่าลายมือมันมีชีวิต

13


SUPERMARKET 16

Go Green

นับว่าเป็นโชคดีของบางคนที่ชอบทานผักเป็นชีวิตจิตใจ เพราะนอกจากสารอาหารที่มีอยู่ในผักหลากหลายชนิด จะช่วยรักษารูปร่างและผิวพรรณแล้ว ประโยชน์ที่ส�าคัญอีกอย่างก็คือ กากใยจากผักจะช่วยท�าให้ขับถ่ายได้ง่าย มีแต่ประโยชน์อย่างนี้ ต้องหันมาเพิ่มสีเขียวในจานข้าวเสียแล้วสิ

Baby Bok Choy เบบี้ บ็ อ กชอย หรื อ อี ก หลายชื่อ เช่น ผักฉ่อย ผัก ฮ่ อ งเต้ น ้ อ ย เป็ น ผัก ทีม่ วี ติ ามินสูง โดยเฉพาะ วิตามินเอ และซี รวมทั้ง ธาตุ แ คลเซี ย ม และ ฟอสฟอรั ส เหมาะกั บ เมนูผัดน�้ามันหอย หรือ ต้มสุกี้ บะหมี่ต่างๆ

Broccoli บ ร็ อ ก โ ค ลี ผั ก รู ป ร ่ า ง มี เอกลักษณ์ มีต้นก�าเนิดแถว ยุ โ รปตอนใต้ มี คุ ณ ค่ า ทาง อาหารสูง เพราะอุดมไปด้วย เส้นใย เบตาแคโรทีน วิตามินซี รวมทัง้ ช่วยต่อต้านโรคมะเร็งด้วย Butterhead Lettuce ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด เป็นผักที่ มีรูปร่างเป็นช่อหลวมๆ สวยงาม นิ ย มน� า ใบมาทานสด ส่ ว นใหญ่ จะน�ามาผสมเป็นผักสลัด มีวติ ามินซี สูง และช่วยป้องกันโรคโลหิตจางด้วย

Lettuce ผักกาดหอม ผักสดทีเ่ ห็นกันบ่อยๆ โดยเฉพาะ ในตะกร้าผักที่เสิร์ฟในร้านอาหารเวียดนาม ร้านอาหารเกาหลี หรือแม้แต่เป็นผักตกแต่ง ข้างจาน เมื่อน�ามาทานควรล้างท�าความสะอาดให้ ดี เพราะเป็ น ผั ก ที่ ใ ช้ ส ารเคมี ในการดูแลเยอะกว่าผักชนิดอื่น

Chinese Cabbage ผักกาดขาว โดดเด่นที่เส้นใยที่สามารถ อุ้มน�้าได้เป็นอย่างดี จึงช่วยเพิ่มปริมาณ กากอาหาร ขับถ่ายสะดวก ท�าให้เศษอาหาร ไม่หมักหมมอยู่ในล�าไส้ เมนูที่ท�าได้ง่ายๆ ก็คือ ผัดผักกาดขาว หรือต้มจืด


Spinach สปิแนช จริงๆ แล้วไม่ใช่ผกั โขมตามทีค่ นไทย เข้าใจ แต่มนั คือผักปวยเล้ง มีตน้ ก�าเนิดจาก แถบอาหรับ แพร่หลายไปยังประเทศจีน และยุโรป อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก โฟเลต

Morning Glory ผักบุ้ง ซึ่งชนิดที่เราน�ามา ท�าอาหารกันก็คอื ผักบุง้ จีน เมนูทนี่ ยิ มกันก็คงหนีไม่พน้ ผัดผักบุ้งไฟแดง หรือถ้า ใครทีช่ อบทานสุกยี ากีก้ ค็ ง มีผักบุ้งเป็นส่วนประกอบ ส่วนคุณประโยชน์ทโี่ ดดเด่น ก็ คื อ ช่ ว ยบ� า รุ ง สายตา นั่นเอง

Cabbage กะหล�่าปลี ผักที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันดี ปลูกได้ดี ในสภาพอากาศเย็น ซึง่ การทานกะหล�า่ ปลีนนั้ ก็ตอ้ ง ใส่ ใจในการล้ า งท� าความสะอาด เพราะเป็ นผัก ทีป่ นเปือ้ นสารฆ่าแมลงมาก รวมทัง้ ไม่ควรทานแบบ ดิบๆ มากเกินไป เพราะจะส่งผลต่อต่อมไทรอยด์

Iceberg Lettuce ผักกาดแก้ว นิยมทานสดๆ เป็น ผักสลัด หรือเป็นผักเครื่องเคียง ส� า หรั บ เมี่ ย งหรื อ ลาบต่ า งๆ มีจดุ เด่นทีค่ วามกรอบ หลังจาก ล้างท�าความสะอาดแล้วควรแช่ น�า้ เย็นเพือ่ เพิม่ ความกรอบอร่อย

Asparagus หน่ อ ไม้ ฝ รั่ ง ล� า ต้ น สี เ ขี ย ว อ่อน ให้รสสัมผัสกรุบกรอบ เหมาะกับเมนูผัดต่างๆ มีทั้ง โปรตีน แร่ธาตุ วิตามิน กากใย มีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ ลดกรดในล�าไส้

Parsley พาร์สลีย์ เครื่องเทศส�าคัญในการแต่งกลิ่น และสีสนั ให้กบั อาหาร ต้นสดเป็นพุม่ เล็ก มักน�ามา ประดับบนจานอาหารฝรั่ง สามารถทานได้ แถมยังช่วยดับกลิน่ ปากหลังมือ้ อาหารอีกด้วย

17


CALENDAR 18

FRI

MON

16

The Bootleg Beatles ดืม่ ด�า่ กับความสุนทรีย์ ในการแสดงสดของ ‘The Bootleg Beatles’ วงดนตรี ที่เกิดจากการรวมตัวกัน ของเด็ ก นั ก เรี ย น 4 คน ซึ่งหลงใหลในละครเพลง จากบรอดเวย์ และกลาย มาเป็นวงที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว เล่นเฉพาะเพลง ของเดอะ บีเทิลส์ วันนี ้ เวลา 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุม แห่งชาติสริ กิ ติ ิ์ จ�าหน่ายบัตร ที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์

TUE

17

Sor. Kor. Sor. Song Kon Sook นิ ท รรศการศิ ล ปะ ‘ส.ค.ส. - ส่ ง คน สุ ข ’ จัดแสดงผลงานศิลปกรรม ผลงานสร้ า งสรรค์ แ ละ งานออกแบบ โดย คณาจารย์และนักศึกษา ในฐานะของการเป็ น ศิ ล ปิ น และนั ก ออกแบบ มุ่งน�าเสนอกระบวนการ ทางความคิดสร้างสรรค์ และผลลัพธ์จากการบริการ ทางวิ ช าการแก่ ชุ ม ชน วันนีถ้ งึ 5 กรกฎาคม 2557 ณ หอศิลปมหาวิทยาลัย กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต (เว้นวันอาทิตย์และจันทร์)

WED

18

Silence on tourne! การแสดงเต้น ‘Silence on Tourne!’ โดยคณะโปเกมอนครู ผลงานเต้น ที่ มี พ รสวรรค์ เ ชิ ง ศิ ล ปะ ชั้ น ยอดซึ่ ง ผสมผสาน ระหว่างการเต้นฮิปฮอป กับภาพยนตร์ ทีด่ บู างครัง้ น่าตื่นเต้นประทับใจ และ บางครั้งก็ดูอ่อนไหว วันนี้ เวลา 20.00 น. ณ โรงละคร อักษรา คิงเพาเวอร์ จ�าหน่าย บัตรที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์

THU

19

#IMWTK นิ ท รรศการศิ ล ปะ ‘#IMWTK’ โดย จิ ต ติ เกษมกิจวัฒนา น�าเสนอ ผลงานซึง่ อาศัยฐานข้อมูล เกี่ ย วเนื่ อ งกั บ ผลงาน ในอดีต ที่ถูกเก็บบันทึกไว้ ในรู ป แบบของภาพถ่ า ย บั น ทึ ก ข้ อ ความ หรื อ ความทรงจ�า แล้วดึงเข้าสู่ กระบวนการการตีความ และการแปลความหมาย วันนีถ้ งึ 31 สิงหาคม 2557 ณ 338 OIDA Gallery ชัน้ 4 อาคารพงษ์ อ มร โทร. 09-0198-8749 (เฉพาะวัน พฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์)

13

SAT

14

SUN

15

0 4 8 2 0 1

AMAZING THAILAND GRAND SALE FAIR 2014 มหกรรมลดราคาสินค้า บริการ แหล่งท่องเที่ยว และแพ็กเกจทัวร์ทั่วไทย ครั้ ง ยิ่ ง ใหญ่ ‘Amazing Thailand Grand Sale Fair 2014’ พบกับสินค้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ และโรงแรมชัน้ น�า จากทั่ ว ประเทศ พร้ อ ม แพ็กเกจทัวร์ ตัว๋ เครือ่ งบิน รถเช่ า ในราคาพิ เ ศษ วันนีถ้ งึ 15 มิถนุ ายน 2557 ณ ศู น ย ์ ก า ร ป ร ะ ชุ ม แห่งชาติสิริกิติ์

BON SOLO SHOW 2014 นิ ท รรศการศิ ล ปะ ‘BON Solo Show 2014’ โดย ‘บอน’ ซึ่ ง ใช้ เ วลา เกือบ 2 ปี ในการเตรียมงาน ทั้งงานจัดวางขนาดใหญ่ ภาพสีน�้ามัน ภาพพิมพ์ ประติมากรรม รวมไปถึง ผลงานหุ่ น จัก รกล วัน นี้ ถึง 18 กรกฎาคม 2557 ณ the Soy Sauce Factory ซอยเจริญกรุง 24 โทร. 09-2115-8696 (เว้นวันอาทิตย์ และจันทร์)

GREEN SUN นิ ท รรศการศิ ล ปะ ‘Green Sun’ โดย เถา โจว ศิลปินชาวจีน ประกอบ ด้วยงานวิดีโอ ภาพถ่าย งานจิต รกรรม และงาน จิตรกรรมฝาผนัง ซึง่ แสดง ถึงสิง่ ทีศ่ ลิ ปินให้ความสนใจ สั ม พั น ธ์ กั บ สิ่ ง ที่ พ บเจอ ตลอดช่วงเวลาทีพ่ า� นักอยูท่ ี่ กรุงเทพฯ และระหว่างนัน้ วันนีถ้ งึ 29 มิถนุ ายน 2557 ณ ชัน้ 4 หอศิลปวัฒนธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร โทร. 0-2214-6630-8 (เว้นวันจันทร์)


The Moon Forgets ด ว ง ใ จ ใ น ด ว ง จ ั น ท ร์ Jimmy Liao เร�่องและรูป อนุรักษ กิจไพบูลทว� แปล เด็กชายคนหนึ่ง เก็บดวงจันทร ที่ตกสู พ�้นดินได เขาดูแลและมอบความรักแก มันเป นอย างดี เฝ าดูดวงจันทร เติบใหญ ข�้น สว างข�้นทุกวัน จนกระทั่งมันจําสถานที่ที่มันจากมาได เมืองที่สูญเสียดวงจันทร เกิดความโกลาหล แต ความลับระหว างเด็กชายผู โดดเดี่ยวกับดวงจันทร ให ความอบอุ นแก ดวงใจของกันและกัน ราคา 325 บาท

วางจําหน ายแล ววันนี้ ที่ร าน ทุกสาขา

facebook.com/polkadotbook, daypoets.com, polkadotbook@gmail.com

Come Rain Come Shine Seoul

มารูจักกับโซลจริงๆ จังๆ ในวันอากาศดีๆ

250.-

POLKADOT SPACESHIP WE BROUGHT FUN TO EARTH

Little Monster คูมือเลี้ยงลูกรักฉบับตัวปวน ชวนคุณมาหัดเลี้ยง และเริ่มรักไปกับเคล็ดลับเลี้ยงลูกตั้งแตแบเบาะจนถึงหนึ่งขวบ

250.-

ที่รัก

อิ่มอกอิ่มใจ

อิ่มอรอยไปกับเมนูคอมฟอรตฟูดและอบอุนไปกับเรื่องราว ของครอบครัวคนดังผานเมนูอาหารที่อิ่มทั้งอก อิ่มทั้งใจ

395.-

มะมวงจัง

หลักสูตรสอนปกผาฉบับเรงรักดวยลายปกมะมวงจัง

275.-

บุกกาซีนที่จะพาคุณไปตกหลุมรักกับ คน สิ่งของ หรือสถานที่กับทุกๆ เรื่องราวที่ทําใหหัวใจเตนแรง 300.AVAILABLE NOW ที่รานหนังสือชั้นนําทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อโดยตรงไดที่ 02-726-9996 ตอ 49 (ติดตอคุณเบียร)


MAKE A DISH 20

Miso Glazed Snowfish เรื่อง : ไอรดา รื่นภิรมย์ ใจ, ภูวดี พฤษศิริสมบัติ ภาพ : ภาสกร ธวัชธาตรี

ชั้นล่างโรงแรมหรูระดับห้าดาวอย่าง Oriental Residence ถนนวิทยุ เป็นที่ตั้งของร้านอาหารแสนอบอุ่นที่มีชื่อว่า Cafe Claire ซึ่งมาจากชื่อของลูกสาวเจ้าของโรงแรม ภายใต้การตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศสที่มีความหรูหรา ขาวสะอาดตา กับวิวสวนสีเขียวของสถานทูตด้านนอกหน้าต่างที่ถูกหยิบยืมมาเป็นฉาก ยิ่งมีเมนูสุขภาพอย่าง Miso Glazed Snowfish ปลาหิมะหมักกับซอสมิโซะที่บรรจงคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี และพิถิพิถันทุกขั้นตอน มื้อนี้ก็คงให้ความรู้สึกแสนวิเศษไม่น้อย

Chef

ณัฐกฤต กัลยาณมิตร

Miso Glazed Snowfish ราคา : 590 บาท

INGREDIENTS เนือ้ ปลาหิมะ / มันฝรัง่ / เต้าเจีย้ วญีป่ นุ่ / เหล้าหวานญี่ปุ่น / น�้าตาล

CHEF'S INSPIRATION “ปั จ จุ บั น คนเรามั ก จะสรรหาสิ่ ง ที่ มี ป ระโยชน์ ต ่ อ ร่ า งกาย เราจึงพยายามคิดเมนูทใี่ ช้วตั ถุดบิ ทีม่ คี ณ ุ ค่าทางอาหารสูง เราจึงเลือก ปลาหิมะ แล้วคิดค้นสูตรให้ทานคูก่ บั ซอสมิโซะ เพราะว่าปลาทีม่ รี สชาติ ไขมันสูง ถ้าทานคูก่ บั ซอสมิโซะ จะท�าให้มคี วามมัน หวาน และเค็มอยูใ่ น ตัวเนื้อปลา และใช้ซอสเกรวี ไก่ที่มีส่วนผสมของน�้าส้มสายชูหมัก จากไวน์แดงเพียงนิด เพื่อให้มีความเปรี้ยวตัดรสชาติกับเนื้อปลา”

TIPS เคล็ ด ลั บ ของเมนู นี้ คื อ การย่ า งไฟ ที่เรียกว่า ‘ซาลามานเดอร์’ ซึ่งจะต้องวาง ปลาไม่ให้ใกล้ไฟจนเกินไป เพราะถ้าใกล้มาก ความร้อนสูงจะขับไขมันออกมาเร็วเกินไป เนื้ อ ปลาจะสุ ก เร็ ว ขึ้ น จนท� า ให้ รี ด ไขมั น ออกไม่หมด เมื่อทานแล้วจะรู้สึกเลี่ยน



HOME MADE 22

Just the Two of Us เรื่อง : ไอรดา รื่นภิรมย์ ใจ, ภูวดี พฤษศิริสมบัติ ภาพ : วงศกร ยี่ดวง

เมื่อครอบครัวสถาปนิกมากฝีมืออย่าง ‘ตั๋ง’ - จักรชัย ปัญจนนท์ และ ‘แคท’ - คัทลียา องคสิงห์ จะออกแบบสร้างบ้าน ของพวกเขาทั้งที เขาและเธอกลับไม่ได้ออกแบบตามกฎเกณฑ์ที่ร�่าเรียนมาไปเสียทุกอย่าง เพราะพวกเขาใช้ ‘ความรู้สึก’ และเติมหัวใจใส่รายละเอียดลงไป จนกลายเป็นสถานทีท่ เี่ ต็มไปด้วยความอบอุน่ และอัดแน่นไปด้วยตัวตนของเขาและเธอจริงๆ

“ที่ที่เราอยู่แล้วสบายใจที่สุด”


รวม 100 บทสั ม ภาษณ์ คั ด สรร เข้ ม ข้ น ที่ เ คยตี พิ ม พ์ ใ นนิ ต ยสารแจกฟรี ร ายสั ป ดาห์ a day BULLETIN มาตลอดระยะเวลา 5 ปี เนื้อหาแบ่งเป็น 4 เล่ม ครอบคลุมทุกประเด็นจากปากคำาของบุคคลหลากหลายวงการ ที่ เ คยขึ้ น ปกและสร้ า งความฮื อฮาจากบทสัมภาษณ์หลักประจำาเล่มของ a day BULLETIN ที่ต รงไปตรงมา ทั้งคำาถามและคำาตอบ พร้อมต่อยอดการตั้งคำาถามให้กับสังคมในมุมมองที่แตกต่าง หลากหลาย พร้อมให้คุณ เลือกอ่านแบบเต็มอิ่มแล้ววันนี้ In Talk, We Trust เพราะเราเชื่อในการพูดคุยอย่างมีเหตุผล

THE INFLUENCER

เรื่องราวก่อนจะมาเป็นบ้านหลังนี้ “เมื่อก่อน เราสองคนอยู่คอนโดฯ แล้วเช่าออฟฟิศท�างาน สักพักก็เริ่มอยากขยับขยายพื้นที่ให้มันใหญ่ขึ้น และรวมพื้ น ที่ บ ้ า นกั บ พื้ น ที่ ท� า งานเข้ า ด้ ว ยกั น เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย เราชอบท�าเล บริเวณทองหล่อ ซอย 13 อยู่แล้ว เลยขับรถมาดู ก็เจอบ้านหลังนีป้ ระกาศขายอยูพ่ อดี เลยตกลงซือ้ ซึ่งเดิมทีบ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่า อายุกว่า 25 ปี สภาพค่อนข้างโทรม และเป็นทาวน์เฮาส์สองห้อง ต่อกัน เราก็ชวนเพือ่ นมาดู แล้วก็แชร์พนื้ ทีก่ บั เพือ่ น คนละครึ่ง” แนวความคิดการออกแบบบ้านหลังนี้ “สมัยก่อน บ้านหลังนีจ้ ะเป็นบ้านสไตล์คลาสสิกเก่าๆ แต่เรา ก็ ท� า ให้ ดู โ มเดิ ร ์ น ขึ้ น และวางพื้นที่ใหม่ทั้งหมด เอง เป็นทัง้ บ้านและออฟฟิศ โครงหลักๆ ของบ้าน เราไม่ได้แก้ อย่างช่องรูตรงกลางบ้าน เราเห็นว่า มันสวย ก็เลยเก็บเอาไว้ แต่เปลี่ยนหลังคาเป็น skylight เพราะเราอยากให้บ้านดูสว่างและโปร่ง ขึ้น ยกเว้นผนังห้องต่างๆ ที่ถูกกั้นไว้ เราก็ทุบใหม่ หมด เพราะอยากให้ลมพัดหมุนเวียนไปมาได้ และสามารถมองเห็ น พื้ น ที่ ส วนหน้ า บ้ า นและ หลังบ้านได้ โดยพื้นที่ชั้นหนึ่งจะเป็นห้องครัวและ ห้องนั่งเล่นของเราเอง พื้นที่ชั้นสองเป็นออฟฟิศ บริษัท Txture LAB ของเราสองคน และชั้นสาม เป็นห้องนอน ห้องดนตรี ซึง่ เป็นความชอบส่วนตัว ของพี่ตั๋ง” สไตล์การตกแต่งของบ้านหลังนี้ “โดยรวมแล้ว เป็ น การตกแต่ ง สไตล์ Minimal Industries

ที่ ผ สมผสานสไตล์ ล อฟต์ แ ละมิ นิ ม อล เข้าด้วยกัน คืออยากให้เรียบง่าย มีรายละเอียดน้อยๆ ซึง่ ส่วนใหญ่จะมาจากการคิด แก้ปัญหาของพื้นที่นี้ เพื่อให้เข้ากับชีวิต ความเป็นอยู่ของเรา อย่างเรื่องแสงสว่าง ทิศของลม และเราอยากให้พื้นที่ทั้งหมด เชื่อมกัน จึงเจาะผนังให้มีแสงผ่านทั่วถึง ทุ ก มุ ม และท� า ประตู ใ ห้ เ ปิ ด -ปิ ด ได้ ห มด เพื่ อ ให้ ล มเกิ ด การหมุ น เวี ย นทั้ ง บ้ า น ส่วนเฟอร์นเิ จอร์ เราพยายามไม่ตดิ ตัง้ ถาวร ไปเลย ตั้งใจซื้อแบบที่สามารถเคลื่อนย้าย ได้ เ อง วางได้ ต ามที่ เ ราชอบ ไม่ ต ้ อ งพึ่ ง ผู้รับเหมา” ความสุขที่เกิดจากบ้านหลังนี้ “มันเป็น ที่ที่เราอยู่แล้วรู้สึกดีกับมัน มองไปทางไหน ก็เจอสิ่งที่เป็นตัวเรา ความทรงจ�าของเรา ซึ่งเราสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมของ บ้ า นเราให้ สดใส มีความสุข แค่ ไ หนก็ไ ด้ แตกต่างจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่เรา ไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย ซึ่งมันท�าให้ เราไม่ค่อยชอบออกนอกบ้านเท่าไหร่”

บทสัมภาษณ์บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ ขับไล่ความว้าวุ่น เกื้อหนุนความฝัน

THE MASTER

บทสัมภาษณ์นักธุรกิจนักบริหารองค์กร ที่มีวิสัยทัศน์สร้างสรรค์ ไม่เหมือนใคร

THE OBSERVER

บทสัมภาษณ์บุคคลที่เฝ้าสังเกตปรากฏการณ์ หลากหลายในสังคมอุดมปัญหาเพื่อค้นหาปัญญาและคำาตอบร่วมกัน

THE THINKER

• สไตล์เพลงทีช่ อบฟัง... อิเล็กทรอนิก ซึง่ อาจมีแนวอืน่ ผสมผสานอยูด่ ว้ ยก็ได้ • แหล่งของแต่งบ้านที่แวะเวียนไป บ่อยๆ... IKEA • อั ล บั้ ม ล่ า สุ ด ของจั ก รชั ย ในชื่ อ Casinotone... Life is Too Short • ของสะสมที่กลายเป็นของแต่งบ้าน... เทปคาสเซ็ต

บทสัมภาษณ์นักคิดที่มีบทบาท ต่อสังคมในทุกแง่มุม


OUT THERE 24

Munich

ถ้านึกถึงเมืองใหญ่ในยุโรปสักเมืองที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต มิวนิก คือเมืองที่เราต้องนึกถึง เพราะนอกจากความสวยงาม อลังการของสถาปัตยกรรมในเทพนิยายแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยสีสันของชีวิตหลากหลายแง่มุม เป็นเมืองที่มีทั้งเรื่องราวน่าประทับใจ ในอดีต ความทันสมัยของปัจจุบัน และวิถีชีวิตของชาวดอยช์ ที่แตกต่างจากหลายเมืองในภูมิภาคนี้ นักเดินทางที่เคยไปเยือนกล่าวไว้ว่า เมืองมิวนิกนั้นยิ่งใหญ่ แต่ที่น่าสนใจคือผู้คน


The City Facts มิวนิก เมืองใหญ่อนั ดับสามของเยอรมนี เคยเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นบาวาเรีย เป็น เมืองทีร่ า�่ รวยทีส่ ดุ ในยุโรป มีสถาปัตยกรรม เก่าแก่ทสี่ วยงาม ทันสมัย และเป็นระเบียบ เรียบร้อย อาหารอร่อย แถมยังมีค�าขวัญ ประจ�าเมืองน่ารักๆ อย่าง ‘Munich Loves You’ มิวนิกเคยถูกโหวตให้เป็นเมืองทีน่ า่ อยูท่ สี่ ดุ ในเยอรมนี หากมาที่นี่ต้องไม่พลาดที่จะ ไปเยือนพิพิธภัณฑ์ ปราสาท พระราชวัง และโบสถ์ ซึ่งแต่ละแห่งยิ่งใหญ่เป็นอันดับ ต้นๆ ของยุโรป ปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้ ง อยู ่ บ น หน้ า ผาขนาดใหญ่ บ นเทื อ กเขาแอลป์ สร้างในสมัยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ตามพระประสงค์ที่อยากให้ปราสาทแห่งนี้ เป็นเหมือนอุปรากรเรื่อง โลเฮนกริน และ ทานน์ฮอยเซอร์ ที่พระองค์ทรงโปรดปราน พื้นที่โดยรอบปราสาทเป็นป่าขนาดใหญ่ที่มี พั น ธุ ์ ไ ม้ ห ลากหลายเปลี่ ย นสี ต ลอดทั้ ง ปี ภายในปราสาทตกแต่งได้อย่างวิจติ รอลังการ ด้ ว ยฝี มื อ ช่ า งที่ ดี ที่ สุ ด ของยุ โ รปในยุ ค นั้ น เราอาจจะคุน้ ตาปราสาทแห่งนี้ เพราะทีน่ คี่ อื ต้ น แบบปราสาทเทพนิ ย ายเจ้ า หญิ ง ใน ดิสนียแ์ ลนด์ ครัง้ หนึง่ ทีน่ เี่ คยได้เข้ารอบสุดท้าย ในการเป็นใน 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก มาแล้ว

เรสซิเดนซ์ พระราชวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในมิวนิก มีห้องกว่า 130 ห้อง ในอดีตเป็นที่ประทับของกษัตริย์ที่ปกครองแคว้นบาวาเรีย ที่นี่เป็นสถานที่เก็บสมบัติ ล�้าค่ามากมาย ทั้งเครื่องทอง เครื่องเงิน เป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจที่นักเดินทางควรมาเยือนสักครั้ง 25


สถานที่ ที่ น ่ า สนใจและไม่ ค วรพลาดคื อ พิพิธภัณฑ์ภายในเมือง เช่น พิพิธภัณฑ์ของเล่นที่ บริเวณจัตรุ สั มาเรียนปลัตซ์ ทีร่ วบรวมของเล่นต่างๆ มาจัดแสดง เช่น ตุ๊กตาบาร์บี้คอลเล็กชันต่างๆ ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ หรือพิพิธภัณฑ์รถยนต์ BMW ทีจ่ ดั แสดงเรือ่ งราวตัง้ แต่กอ่ ตัง้ ขึน้ มาในปี ค.ศ. 1916 โดยตัวพิพธิ ภัณฑ์ตงั้ อยูข่ า้ งๆ อาคารส�านักงานใหญ่ ของ BMW นัน่ เอง ส่วนใครทีย่ งั ไม่จใุ จกับเครือ่ งยนต์ กลไก ก็ต้องไปที่พิพิธภัณฑ์ดอยซ์เชส พิพิธภัณฑ์ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทใี่ หญ่ทสี่ ดุ ในโลก มีสงิ่ ของจัดแสดงอยูถ่ งึ 28,000 ชิน้ ครอบคลุมทุกเรือ่ ง ที่คุณอยากรู้


"I LIKED GERMANY, I'M NOT INTO BERLIN, IT'S TOO HUGE AND EMPTY AND IMPOSING, BUT MUNICH WAS GOOD." GRAHAM COXON, AN ENGLISH MUSICIAN

ตลาดวิคทัวเลียน ตลาดกลางแจ้งทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ของเมือง ถือเป็นจุดนัดพบส�าคัญทีไ่ ม่ควรพลาด เพราะจะได้เห็นวิถชี วี ติ น่ารักๆ ของชาวเมือง มีทงั้ ของกิน ของฝาก ให้เลือกกันอย่างจุใจ ทีส่ �าคัญ อย่าลืมชิมเบียร์และไส้กรอกของขึ้นชื่อของชาวเยอรมัน และถ้าจะให้ดี รีบกาปฏิทินเอาไว้ ที่เดือนตุลาคม จองตั๋วเครื่องบินมาเที่ยวเทศกาล Oktoberfest รับรองว่าสนุกแน่นอน

จัตุรัสมาเรีย หรือมาเรียนปลัตซ์ เป็นจุัตรัสเก่าแก่ของมิวนิกที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางของเมือง ในการท�ากิจกรรมต่างๆ จุดเด่นของจัตุรัสนี้คือที่ท�าการของศาลาว่าการเมืองหลังใหม่ที่เรียกว่า นอยเยอรัตเฮาส์ สร้างในสไตล์นโี อโกธิกกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยมีหอคอยสูง 80 เมตร อยูต่ รงกลาง บนหอคอยจะมีตกุ๊ ตากลเต้นระบ�าทีเ่ ล่าเรือ่ งราวการเฉลิมฉลองสมรสของเจ้าชายเจ้าหญิงประจ�าแคว้น และการเฉลิมฉลองการสิ้นสุดของโรคระบาดในมิวนิก โดยตุ๊กตาจะออกมาเต้นระบ�าให้ชมในเวลา 11 นาฬิกา และเที่ยงตรงของทุกวัน ในหน้าร้อนจะเพิ่มรอบ 5 โมงเย็นอีกหนึ่งรอบ

WHAT YOU NEED TO KNOW สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี 9 ถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ 10120 อ่านรายละเอียดการขอวีซ่าได้ที่ www.bangkok.diplo.de

27

การเดินทาง สายการบินแอร์ฟรานซ์ www.airfrance.com/th สายการบินเคแอลเอ็ม www.klm.com สายการบินเอทิฮัด www.ethihad.com/th-th ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 15 ชั่วโมง


SELECTIVE 28

Delight is in the details เรื่อง : อำทิตยำ อำศิรวำท ภาพ : วงศกร ยี่ดวง

คงไม่ใช่ทุกคนที่สำมำรถแต่งเติมรำยละเอียดเข้ำไปในชีวิตได้อย่ำงสมบูรณ์ แต่กับบำงคนเพียงแค่มีของที่ผูกพันอยู่ใกล้ๆ ก็เพียงพอแล้วที่จะเติมควำมสุขได้ในแต่ละวัน เช่นเดียวกับ กุสุมา รุจกิจยานนท์ เจ้ำของร้ำน The Kasama Shop ผู้เก็บเล็กผสมน้อยสิ่งของที่ดูเผินๆ อำจธรรมดำ แต่ทันทีที่เรื่องรำวของมันได้เปล่งเสียง ควำมพิเศษก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

2 3 1 4

5

7

6 8 9

10

11 1. น�ำ้ หอม Chanel No.5 “กลิน่ ของมันจะหอมแบบเก่าๆ นิดหนึง่ ต้นก�าเนิดคือ โคโค ชาแนล ให้คนทีป่ รุงน�า้ หอมให้พระเจ้าซาร์เป็นคนท�าสูตรน�า้ หอมกลิน่ นี”้ 2. กล้องโพลำรอยด์ OneStep “ปกติเราจะชอบถ่ายรูปโพลารอยด์ แล้วกล้องตัวนีม้ นั น่ารักมาก และเป็นรุน่ ทีอ่ นิ สตาแกรมเอาไปท�าเป็นไอคอน” 3. แว่นตำกันแดด AO รุน่ Saratoga “เป็นรุน่ เดียวกับที่ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ใส่ในวันพักผ่อน เป็นรุน่ ทีห่ ายากมาก” 4. กล่องแหวน Birks “เป็นกล่องใส่แหวนแต่งงานทีผ่ ลิตตัง้ แต่ปี ค.ศ. 1964 ซือ้ มาจาก eBay เพราะจะใช้ในวันแต่งงาน แต่สง่ มาถึงไม่ทนั (หัวเราะ)” 5. สร้อยทหำรเรือ “เป็นสร้อยทีท่ หารเรือชอบใส่ชว่ งสงครามโลก บางครัง้ เขาก็ให้แฟนไว้ มีสลักชื่ออยู่ด้านหลัง” 6. เสื้อเชิ้ต 45PM “เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่มักจะท�าเสื้อผ้าย้อมคราม งานของเขาจะเป็นงานคราฟต์ที่ท�าด้วยมือทุกขั้นตอน” 7. เทียนหอม Diptyque “ปกติเวลาเข้าบ้านมาจะจุดเทียนก่อนเลย กลิน่ นีเ้ ป็นกลิน่ จัสมินทีเ่ ราชอบ” 8. นิตยสำร The Heritage Post “เป็นนิตยสารจากเยอรมนีทสี่ วยมาก ปกติเขาจะท�าเรือ่ งไลฟ์สไตล์ของผูช้ าย แต่เล่มนีพ้ เิ ศษตรงทีเ่ ขาท�าฉบับผูห้ ญิง เนือ้ หาก็จะหนักไปในเรือ่ งท�าอาหาร ทีเ่ ราชอบมาก” 9. ไม้บรรทัดแบบพับได้ “เป็นไม้วดั ทีใ่ ช้แล้วปลอดภัย ไม่ตอ้ งกลัวมันเด้งกลับเหมือนตลับเมตร ช่วงนีจ้ ะใช้บอ่ ยเพราะก�าลังตกแต่งบ้าน” 10. ผ้ำพันคอ RRL “เรากับแฟนชอบแบรนด์นมี้ าก เป็นแบรนด์ที่ Ralph Lauren ท�าเพื่อความชอบส่วนตัว ไม่เน้นผลิตเยอะ ของก็จะสวย ช็อปของเขาก็เก๋มาก” 11. กระเป๋ำ United Bamboo “ในตู้เสื้อผ้าก็จะมีหลายชิ้นที่เป็นแบรนด์นี้ เราว่าเขาท�าเสื้อผ้าเท่ดี”


THE 5IVE

Play it All Night Long เรื่อง : ทรรศน หาญเรืองเกียรติ

เสียงเพลงไม่เพียงพาเราไปพบกับ ‘เก่ง’ - ธชย ประทุมวรรณ นักร้องหนุ่มน�้าเสียงทรงพลังจากเวทีการประกวด The Voice Thailand แต่ยังช่วยน�าทางให้เราไปท�าความรู้จักกับตัวตนที่ซ่อนอยู่ภายใต้สไตล์การแต่งตัวที่จัดจ้านของเขาด้วย และถ้าคุณอยากรู้จักชายคนนี้ให้ลึกซึ้งกว่าเดิม ก็เงี่ยหูฟังเพลงที่เจ้าตัวชื่นชอบเหล่านี้กันได้เลย... 1. Between Two Lungs : Florence and The Machine

2. Acoustica : Scorpions “Scorpions คื อ วงดนตรี ในต� ำ นำน และอั ล บั้ ม นี้ เ ป็ น บันทึกกำรแสดงสดอัลบั้มที่ 4 ของพวกเขำ ซึง่ ชีวติ วัยเด็กของผม ก็ถกู เลีย้ งมำด้วยเพลงของศิลปิน กลุ ่ ม นี้ อัลบั้มนี้ถือเป็นอัลบั้ม ประจ�ำบ้ำนของแม่ผม แม่จะเปิด ตลอดเวลำ เปิดไปขำยของไป และทิ้ ง ผมให้ อ ยู ่ บ นชั้ น ลอย เสียงเพลงของ Scorpions คลอ ในหั ว ผมตลอดเวลำ ดั ง นั้ น เมื่อโตขึ้น ทุกๆ ครั้งที่ฟังเพลง อัลบั้มนี้จะท�ำให้ผมเหงำทุกครั้ง คิ ด ถึ ง ตอนเด็ ก ที่ ถู ก ทิ้ ง ให้ อ ยู ่ คนเดียวกับเพลงเหล่ำนี้ แต่ทกุ ครัง้ ที่ฟังก็คิดถึงแม่เสมอ” Recommended Track : Always Somewhere, Send Me an Angel และ Hurricane 2001

“อัลบั้มที่ผมฟังจนจบ วนซ�้ำอีกสิบรอบ และให้คูณอีกสิบรอบก็ยังไม่เคยเบื่อ เพลงของวงนี้เต็มไปด้วย ควำมกลมกล่อม ไม่เพรำะหวำน แต่ทรงพลังด้วยจังหวะ เสียงร้องของฟลอเรนซ์บอกเลยว่ำมีเอกลักษณ์ อย่ำงชัดเจน ฟังครัง้ แรกผมคิดว่ำท�ำไมเขำร้องเพีย้ นๆ แต่จริงๆ ไม่ใช่ เสียงร้องหนำๆ กับเสียงกลองอันโดดเด่น สลับกับจังหวะทีค่ ดิ จะฉุดลงมำก็ฉดุ ลงมำเลย เป็นควำมแปลกใหม่สำ� หรับผม อัลบัม้ นีค้ อื กำรเปิดประวัตศิ ำสตร์ ที่ท�ำให้ผมรู้จักดนตรีในมุมอื่นๆ มำกขึ้น ทุกๆ เพลงล้วนมีจังหวะเป็นตัวเอก ดังนั้น ทุกครั้งที่ฟัง ใจเรำจะเต้น ตำมจังหวะ และหยุดขยับไม่ได้สักครั้ง” Recommended Track : Dog Days Are Over, Girl With One Eye และ Cosmic Love

"No dawn, no day, I'm always in this twilight. In the shadow of your heart." Cosmic Love - Florence and the Machine

4. The Great Gatsby : Music from Baz Luhrmann's Film “อั ล บั้ ม ซำวนด์ แ ทร็ ก จำกภำพยนตร์ เ รื่ อ ง The Great Gatsby เพลงเพรำะและเจ๋งทุกเพลง ผมยกให้ เ ป็ น อั ล บั้ ม เพลงประกอบภำพยนตร์ ยอดเยี่ยมแห่งปี เพรำะแต่ละเพลงพิถีพิถันมำก มีกำรคัดศิลปินแนวหน้ำมำร่วมงำน ไม่ว่ำจะเป็น วิล.ไอ.แอม., บียอนเซ หรือ ลำนำ เดล เรย์ ฯลฯ Recommended Track : Bang Bang, Back to Black และ Kill and Run

"We wore his love like a hand in a glove. Where the future plays it all night long."

3. Born To Die : Lana Del Rey “ครั้งแรกที่ฟัง Born to Die จำกในยูทูบ เพรำะ สงสัยว่ำ นีใ่ ครกัน ท�ำไมมียอดคนฟังเยอะ มิวสิกวิดโี อ ก็มเี สือนัง่ อยูด่ ว้ ย ฟังรอบแรกก็รสู้ กึ เฉยๆ แต่ไม่รอู้ ะไร ดลใจให้ฟังรอบ 2 และรอบ 3, 4, 5 จนรอบที่ 100 ตำมมำ แล้วก็อทุ ำนออกมำว่ำ พระเจ้ำ! เพลงอะไรเนีย่ ท�ำให้ผมซำบซึง้ และจมอยูก่ บั มัน มิวสิกวิดโี อก็เต็มไปด้วย สัญลักษณ์ ท�ำนองเพลงติดหู เข้ำใจง่ำย และเหมือนเป็น บทกวี ผมจึงเริม่ หันมำฟังเพลงอืน่ ๆ ของเธอ ทุกๆ เพลง เจ๋งมำก ล�้ำ แต่ไม่เกินที่หูคนจะฟังไม่ได้ ทุกท�ำนอง ทุกเพลง ไพเรำะ แอบรู้สึกว่ำท�ำนองในทุกๆ เพลง มีควำมเป็นเอเชียเล็กๆ อยู่ในนั้นด้วยซ�้ำ ผมเชื่อว่ำ ถ้ำคุณได้ฟังมำกกว่ำ 1 ครั้ง จะหลงในมนต์เพลงของ ผู้หญิงคนนี้” Recommended Track : Born to Die, Off to the Races และ Blue Jeans

Great DJ - The Ting Tings

5. W e Sta rt e d N o t h i n g : The Ting Tings “อั ล บั้ ม นี้ ผ มต้ อ งสั่ ง มำจำกเมื อ งนอก เพรำะหำซื้อยำกมำก มีโอกำสได้ฟังพวกเขำ แสดงสดที่ประเทศญี่ปุ่น ท�ำให้ประทับใจมำก ทั้งวงมีสมำชิกอยู่ 2 คน ชำย 1 หญิง 1 แต่สลับ กั น เล่ น เครื่ อ งดนตรี ทุ ก อย่ ำ ง ทั้ ง ร้ อ งไปด้ ว ย เล่นกีตำร์ กลอง คอรัส คียบ์ อร์ด และของเล่นต่ำงๆ อีกจิปำถะ เพลงฟังเพลิน สนุกสนำน ให้ควำมรูส้ กึ เป็นวัยรุน่ มัธยมอีกครัง้ เป็นอัลบัม้ สุดหวงของผม ครับ” Recommended Track : Great DJ, That’s Not My Name และ Shut Up and Let Me Go 29


EVERYDAY STORY 30

ท�ำอะไรเล็กๆ ง่ำยๆ ก็มีควำมสุขได้ เรื่อง : วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์

ไม่นา่ จะใช่เพราะก�าลังหิวหรอก แต่ขา้ วราดแกงกะหรีห่ น้าตาธรรมดาๆ ทีผ่ มก�าลังกินอยูม่ นั อร่อย จริงๆ ข้าวหุงมาหอมนุม่ เหนียวก�าลังดี น�า้ แกงไม่ขน้ ไป ไม่ใสไป ปรุงรสได้กลมกล่อมลงตัว ส่วนเนือ้ วัว ก็ตุ๋นจนเปื่อยเข้าที่ ตักเข้าปากค�าแรกก็รับรู้ได้ทันทีถึงความตั้งใจของคนที่ปรุงมันขึ้นมา ยามบ่ายปลายฤดูใบไม้ผลิของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผมเดินเล่นแถวย่านชิโมคิตะซาวา ไปเรื่อยๆ แล้วมาเจอ ‘Cafe Molti Santi’ โดยบังเอิญ รู้สึกสะดุดกับชื่อร้านว่าแปลกดี แถมยังขาย ข้าวแกงกะหรี่ที่ก�าลังอยากกิน เลยเดินขึ้นบันไดตามป้ายไปบนชั้นสอง เปิดประตูเข้าไปก็เห็น ห้องเล็กๆ วางโต๊ะไม้ไว้สามตัวกับเก้าอีเ้ ชคโกเก่าๆ อีก 7-8 ตัว ด้านหนึง่ เป็นตูโ้ ชว์วางของกระจุกกระจิก อีกด้านเป็นเคาน์เตอร์ซึ่งใช้เป็นครัวในตัว ความรู้สึกเหมือนก�าลังนั่งอยู่ในบ้านของคุณป้าสักคน มากกว่านั่งอยู่ในร้านอาหาร อิชิเอะ ฟูคากาวา เจ้าของร้าน เป็นชายหนุ่มร่างผอมสูงท่าทางเหนียมอายที่หน้าตาดูเด็กกว่า อายุ 28 ปี เขาตอบขอบคุณผมเบาๆ เมือ่ ผมบอกว่าข้าวแกงเขาอร่อยมาก “ได้สตู รมาจากแม่ครับ” เขาบอก และเล่าว่าร้านเขาเพิ่งเปิดได้ไม่นาน ก่อนหน้านี้เขาเคยท�างานประจ�าแล้วรู้สึกเบื่อ ที่ต้องท�างานร่วมกับคนเยอะๆ เผอิญได้ห้องเล็กๆ บนชั้นสองที่นี่ เลยตัดสินใจทุบกระปุกมาเปิด ร้านอาหารกึง่ คาเฟ่ทมี่ เี มนูคาวหวานไม่กอี่ ย่าง และเพือ่ เซฟค่าใช้จา่ ย เขาจึงรับหน้าทีท่ า� เองทุกอย่าง ตั้งแต่ท�าอาหาร เสิร์ฟอาหาร เก็บเงิน ท�าความสะอาด ท�าคนเดียวเล็กๆ ง่ายๆ… ไม่ได้ถามความรู้สึกจากเจ้าตัว แต่ผมสัมผัสได้ว่าชายหนุ่มคนนี้ ดูมีความสุขดี อิม่ มือ้ กลางวันแล้วผมก็เดินเล่นเรือ่ ยเปือ่ ยย่านชิโมคิตะซาวาต่อ แล้วก็เดินมาเจอ ‘Otonomad’ ร้านขายแผ่นเสียงและซีดมี อื สองในห้องแถวเล็กๆ ขนาดหนึง่ ห้อง ภายในร้านวางกระบะแผ่นไวนิล จ�าแนกตามแนวเพลงไว้หลายร้อยแผ่น บนผนังโชว์ปกแผ่นเสียงอัลบั้มเพลงแจ๊ซสวยคลาสสิก ที่เห็นแล้วผมอยากซื้อหอบกลับเมืองไทยสักหลายแผ่น ยูจ ิ ทากาฮาชิ บอกผมว่า ร้านนีเ้ ปิดมา 4 ปีกว่าแล้ว แผ่นเสียงและซีดสี ว่ นใหญ่เป็นคอลเล็กชัน ส่วนตัวทีเ่ ขาเก็บสะสมไว้ อีกส่วนไปตามหาซือ้ มา คนย่านนีร้ จู้ กั ร้านเขาดี มีลกู ค้าขาประจ�าทีช่ นื่ ชอบ อะไรคล้ายๆ กันจ�านวนหนึง่ แวะเวียนมาอุดหนุนเสมอ ท�าให้รา้ นพออยูไ่ ด้ในเงือ่ นไขค่าเช่าห้องทีส่ งู พอสมควร “ท่าทางดูมคี วามสุขดีนะครับ” ผมเปรยกับชายหนุม่ เสือ้ ลายขวางไว้เครา เจ้าของร้านแผ่นเสียง ที่ชื่อร้านมีความหมายโรแมนติกน่าดูว่า ‘เสียงที่ลอยออกมาจากหน้าต่าง’ “Happy, but poor” ยูจิที่ก�าลังจัดแผ่นเสียงบอกผมแล้วหัวเราะสนุก ฟังแล้วผมคิดว่า ค�าว่า ‘poor’ กับ ‘happy’ ของเขาน่าจะสลับที่กันมากกว่า สองสัปดาห์ที่เดินเล่นตามตรอกซอกซอยในกรุงโตเกียว ผมได้รู้จักพบเจอชาวญี่ปุ่นอย่างยูจิ และอิชเิ อะหลายคนด้วยกัน พอได้พดู คุยด้วยแล้ว ผมพบว่าคนหนุม่ สาวเหล่านีม้ บี างอย่างคล้ายคลึงกัน พวกเขาเติบโตในประเทศที่โคตรจะทุนนิยม เป็นเด็กที่ต้องแข่งขันกันเรียนหนัก มุ่งหวังสอบเข้า

มหาวิทยาลัยชั้นน�าให้ได้ เพื่อที่จะได้ไปเป็นคนท�างานในบริษัทที่มีเงินเดือนและสวัสดิการดี ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้มีชีวิตที่พอเรียกได้ว่ามั่นคงในประเทศที่ขึ้นชื่อว่าค่าครองชีพสูงติดอันดับโลก ความกดดันดังกล่าวมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็อย่างที่เรารับรู้กันว่าการแข่งขันอันเข้มข้นนั้น ได้สร้างมาตรฐานคุณภาพ ‘Made in Japan’ จนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ศักยภาพอันสูงส่งผลักดัน ให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลกมาเนิ่นนานหลายทศวรรษ แต่ในอีกด้าน ทัศนคติและอุดมการณ์ทมี่ งุ่ เน้นความเป็นเลิศจากการแข่งขันจริงจัง ก็แปรสภาพ เป็นความกดดันที่ทา� ให้พลเมืองญี่ปุ่นจ�านวนมากเกิดความเครียดจนต้องระบายออกในทางต่างๆ ตั้งแต่ระดับเบาจนถึงขั้นหนักหนาสาหัส ดังที่เรารับรู้ผ่านข้อมูลข่าวสารกันอยู่เนืองๆ เรียวตะ ซูซกู ิ เพือ่ นชาวญีป่ นุ่ คนหนึง่ ของผม เคยเล่าให้ฟงั ว่า เหตุการณ์เศรษฐกิจล่มในประเทศญีป่ นุ่ เมื่อราวสองทศวรรษที่แล้ว ส่งผลต่อความคิดความเชื่อของคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ไม่น้อยทีเดียว “เมือ่ ก่อนเราได้รบั การปลูกฝังมาตัง้ แต่รนุ่ พ่อรุน่ ปูว่ า่ ให้กม้ หน้าก้มตาท�างานให้ดที สี่ ดุ และจงรักภักดี กับองค์กรที่เราท�าอยู่ เพื่อที่ทั้งองค์กรและคนท�างานจะได้เติบโตไปด้วยกัน แต่พอเศรษฐกิจตกต�่า เกิดเหตุการณ์ที่คนท�างานหลายสิบปียังถูกบริษัทเลย์ออฟ มันเปลี่ยนค่านิยมของคนรุ่นใหม่ ไปเลยว่า สิ่งที่เราเชื่อกันมานานอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสียแล้ว” เรียวตะเล่าว่า คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนเมือง ยังคงยึดถือค่านิยมดั้งเดิม แต่คนอีกจ�านวนหนึ่งตัดสินใจพาตัวเองออกจาก กระแสหลัก พวกเขาหันไปท�าสิ่งเล็กๆ ง่ายๆ ที่อาจไม่ได้สร้างตัวตนหรือรายได้อะไรมากมาย เอาแค่พอเลี้ยงชีวิต (พูดอีกแบบที่อาจฟังดูไม่ค่อยดีนัก คือพออยู่ได้ไปวันๆ) แต่สิ่งที่พวกเขา ให้ความส�าคัญมากกว่าชื่อเสียงและความร�่ารวย คือ ความมีอิสระ และการมีความสุข ‘อิสระ’ และ ‘ความสุข’ เป็นสองค�าที่ดูดี ฟังทีไรก็ชวนเคลิ้มฝัน อยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนชีวิต ไปในทางนั้นเสียเดี๋ยวนี้ โดยเฉพาะคนที่ก�าลังเคร่งเครียดกดดันกับการเป็นลูกจ้างในบริษัท แต่ความจริงคือมันไม่ใช่ชีวิตที่คิดแล้วท�าได้เลยหรอก ตรงกันข้าม มันต้องอาศัยการวางแผน และผ่านการไตร่ตรองที่ตกผลึกพอสมควร ที่ส�าคัญ เงื่อนไขภาระชีวิตของแต่ละคนนั้นหนักหนา และมากน้อยแตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่ท�าให้ในโลกความเป็นจริง ชีวิตจริงกับชีวิตที่ฝันไว้ มันยังคงไม่ใช่ชีวิตในแบบเดียวกัน อย่างไรก็ด ี ผมได้เรียนรูจ้ ากประสบการณ์ทผี่ า่ นมาว่า การทีค่ นเราจะมีความสุขหรือความทุกข์นนั้ การเลือก ‘ขนาด’ ของชีวิตมีส่วนอย่างมาก บางคนที่ไม่มีความสุขอาจเพราะเขาเลือกมีชีวิต ที่เกินตัวเกินไป ช่วงหนึ่งของชีวิตผมเองก็เคยฝันทะเยอทะยานอยากเป็นเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ จนเมือ่ ได้กระโจนลงไปลองท�าแล้วพ่ายแพ้ยบั เยินในท้ายทีส่ ดุ แม้จะบอบช�า้ สาหัสได้แผลเป็นติดตัว มาจนวันนี้ แต่บทเรียนส�าคัญที่ผมได้รับจากเหตุการณ์นั้นมีค่าเหลือเกิน บทเรียนทีว่ ่าคือ เขตคามเล็กๆ นัน้ ให้ความรืน่ รมย์แก่ชวี ติ มากกว่าอาณาจักร และความสุขนัน้ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตที่ต้องลงทุนมหาศาลกว่าจะได้มาครอบครองหรอก ท�าอะไรเล็กๆ ง่ายๆ ก็มีความสุขได้


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.