บทความตีพิมพ์ในสูจิบัตรการแสดงศิลปกรรมแหํงชาติ ครั้งที่ 46 ศิลปกรรมร่วมสมัยไทย แนวสื่อประสมและแนวการจัดวางกับพื้นที่ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิโชค มุกดามณี ศิลปินไทยแตํละยุคสมัยจะมีกลุํมที่แสวงหาแนวทางในการสร๎างสรรค์ เพื่อหารูปแบบใหมํ ๆ และทดลอง สร๎างผลงานด๎วยเทคนิควิธีการที่แตกตํางไปจากลักษณะเดิม ๆ ก็เพราะผลจากความเคลื่อนไหวในวงการศิลปะ ทั่วโลกที่มีกระแสของความเปลี่ยนแปลง ความกระตือรือร๎นของสังคมภายนอก และประชาชนที่หันมาติดตาม ความเคลื่อนไหวในวงการศิลปะทาให๎ศิลปินหนุํมสาวในรุํนตํอมามุํงแสวงหาแนวทางและนาเสนอผลงานด๎าน สื่อวัสดุใหมํ ๆ เพิ่มมากขึ้นตามลาดับ ศิลปินไทยรุํนอาวุโสที่ใช๎สื่อวัสดุประกอบในการสร๎างสรรค์ผลงานนั้นมีมาตั้งแตํยุคแรก ที่เห็นเดํนชัด ก็ คือ พิชัย นิรันด์ จิตรกรที่นาเอาทรายและกระจกสีมาปะติดลงในผลงาน พิชัยก็ยังคงสร๎างงานจิตรกรรมด๎ วย สื่อวัสดุตํอเนื่องมา งานของพิชัยจะเน๎นเรื่องราวและเนื้อหาที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ผลงานของประวัติ เล๎าเจริญ ชื่อ “Collage No.3” พ.ศ. 2509 ก็เป็นการใช๎วัสดุหลากชนิดปะติด ลง ไป อาทิเชํน กระสอบ ผ๎า พลาสติก เชือก แล๎วใช๎สีหนา ๆ ระบายทับ ประวัติไมํเน๎นเรื่องราวแตํจะทาเป็นภาพ นามธรรม ใช๎จังหวะของรูปทรงที่วํางและพื้นผิวที่เป็นทัศนธาตุทางศิลปะประสานกันให๎เกิดความงดงามตามใจ ปรารถนาประวัติยังคงทางานด๎วยสื่อ วัสดุ หลากชนิดทั้งงานภาพพิมพ์ จิตรกรรม และผสมผสานงาน 3 มิติเข๎า ไป มีการใช๎พื้นที่เพื่อการจัดวาง และบางครั้งศิลปินใช๎การแสดง (Performance) รํวมเข๎าไปในผลงานด๎วย ธงชัย รักปทุม เป็นศิลปินอีกคนที่ใช๎ทรายโรยลงในงานจิตรกรรมแล๎วระบายสีทับ ในผลงานชื่อ “จิตรกรรม หมายเลข 6” พ.ศ. 2511 ซึ่งได๎รับรางวัลเหรียญเงินจากการประกวดศิลปกรรมแหํงชาติ ครั้งที่ 18 รูปทรงที่ธงชัยสร๎างสรรค์ขึ้นเป็นรูปทรงเล็ก ๆ สอดคล๎องกับการใช๎ทรายขาวละเอียดโรยลงไป จากนั้นจึงใช๎สี น้ามันระบายทับ ผลงานชื่อ “รูปคน หมายเลข 2” พ.ศ. 2511 ของ อนันต์ ปาณินท์ ก็ใช๎เทคนิคหลากหลายทาลงบน ผ๎าใบ มีสํวนนูน สํวนยื่นออกมาจากภาพ รูปรํางที่อนันต์แสดงออกจะมีความบันดาลใจจากรูปรํางคน ผลงาน ชิ้นที่ได๎รับรางวัลเหรียญเงินจากการประกวดศิลปกรรมแหํงชาติ ครั้งที่ 18 เชํนกัน ในปี พ.ศ. 2512 เกียรติศักดิ์ ชานนนารถ ศิลปินชั้นเยี่ยมสาขาจิตรกรรมจากการแสดงศิลปกรรม แหํงชาติ ได๎ใช๎พลาสติกและอะลูมิเนียม ผสมผสานไปกับภาพเขียนสีน้ามันในภาพชื่อ “จิตรกรรม” พ.ศ. 2512 นับเป็นการใช๎สื่อวัสดุที่หลากหลายและไมํยึดถือเหตุผลของขอบเขต ภาพที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมเชํนที่เคยปฏิบัติ กัน เกียรติศักดิ์ใช๎มิติลวงในการเขียนภาพบนผ๎าใบ สํวนที่ประกอบเป็นวัสดุสาเร็จจะเป็นรูปทรงลอยตัวมีมิติ ความลึกจริง เนื้อหาของภาพเขียนเป็นความฝังใจในชีวิตสํวนตัวที่มีประสบการณ์จริงแตํนามาสร๎างสรรค์ขึ้น ตามจินตนาการความคิดฝันของตัวเองให๎ดูเหนือความจริง เกียรติศักดิ์ยังสร๎างผลงานด๎วยเทคนิควัสดุหลาก ชนิดอยูํอีกหลายชิ้น ตํอมาภายหลังจึงคํอย ๆ ลดวัสดุลงไปแตํใช๎มิติของภาพที่มีความสูงต่าแล๎วระบายสีแทน
พิชัย นิรันด์, แผํนดิน 2533 Pichai Nirand, Land, 1990 Mixed media, 110x110 cm. ประวัติ เล๎าเจริญ, Collage No.3, 2509 Prawat Laochareon, Collage No.3, 1966 Mixed media on canvas, 152x185 cm. ธงชัย รักปทุม, จิตรกรรม หมายเลข 6, 2511 Thongchai Rakpathum, Painting No.6, 1968 Oil and sand on canvas, 120x90 cm.
เกียรติศักดิ์ ชานนนารถ, ชีวิต-หนทาง, 2538 Kiettisak Chanonnart, Life-The way, 1995 Oil on canvas, 145x180 cm. อนันต์ ปาณินท์, รูปคน หมายเลข 2, 2511 Anand Panin, Figure No.2, 1968 Mixed media on canvas, 132x98 cm. เกียรติศักดิ์ ชานนนารถ, จิตรกรรม, 2512 Kiettisak Chanonnart, Painting, 1969 Mixed media, 150x150 cm.
ชลูด นิ่มเสมอ เป็นอาจารย์สอนศิลปะที่ได๎ทดลองสร๎างผลงานในหลายแนวทางกํอนนามาเป็นข๎อมูลใน การให๎ความรู๎แกํลูกศิษย์ ทั้งการทดลองสร๎างงานภาพพิมพ์ ศิลปะในงานจิตรกรรม การทาประติมากรรมและ แนวการสร๎างงานแบบสื่อประสม ชลูดได๎ทดลองใช๎วัสดุ จากท๎องถิ่นและวัสดุที่เกิดจากเศษผลิตผลของโปรดักส์ สมัย ใหมํมาประกอบเข๎าด๎ว ยกัน ในผลงานชุด “ประติมากรรมชนบท” พ.ศ. 2525 ชลู ดใช๎วิธีการบันทึก (Document) มาเป็นข๎อมูลเนื้อหาและสร๎างรูปทรงในผลงานชุด “บันทึกประจาวัน” ระหวําง พ.ศ. 2523 – 2528 และเริ่มใช๎พื้นที่ในลักษณะจัดวางภาพจิตรกรรมในผลงานชื่อ ”บันทึกของศิลปินชนบท 2496 – 2541” ผลงานชุดนี้ทาขึ้นในปี พ.ศ. 2541 มีผลงานชื่อ “ครัวชนบท” 2541 ที่ศิลปินใช๎วิถีชีวิตความเป็นอยูํของคนไทย ในห๎องครัว นาเสนอผลงานที่เป็นวัฒนธรรมของชนบทไทยด๎วยวัสดุสาเร็จและบรรยากาศของท๎องถิ่น เดชา วราชุน เริ่มใช๎วัสดุประเภทสเตนเลส โลหะ และไม๎ ในการสร๎างงานจิตรกรรม ลักษณะผลงานของ เดชาจะแสดงสาระแหํงมวลธาตุและความสัมพันธ์ของรูปทรงกับพื้นที่วํางในลักษณะนามธรรม ทวน ธีร ะพิจิ ตร เป็ นศิลปิ น ภาพพิมพ์ที่หันมาให๎ความสนใจในการสร๎างงานจิตรกรรม และใช๎วัส ดุ หลากหลายปะปิดลงไป อาทิเชํน หนังสัตว์ เชือก ไม๎ ในผลงานชื่อ “สังขาร หมายเลข 2526/1” ชํวงหลัง ๆ ทวน ใช๎วัสดุจริง เชํน กระเป๋าหนังและเริ่มสร๎างสรรค์ผลงานเป็นลักษณะ 3 มิติมากขึ้น ในผลงานชื่อ รูปทรง “2527/2” โดยทาเป็นรูปทรงลอยตัวและใช๎วัสดุตําง ๆ ปะปิดลงไป มีการระบายสีในสํวนที่ต๎องการ รุํง ธีร ะพิจิตร น๎ องชายของทวน เป็นศิล ปินที่สร๎างงานจิตรกรรมด๎วยการใช๎วัส ดุโ ลหะปะติดอยูํใน ระนาบตําง ๆ รุํงสร๎างพื้นผิวด๎วยสื่อวัสดุหลากชนิดทั้งผ๎ากระสอบ โลหะ และวัสดุสาเร็จที่เป็นชิ้นสํวนของ รถยนต์ เครื่องจักร รวมทั้งวัสดุจากเครื่องมือเครื่องใช๎ในท๎องถิ่น ผลงานของรุํงไมํแสดงเนื้อหาของเรื่องราวใด ๆ ทั้งสิ้น แตํจะให๎สาระจากมวลธาตุ ของ เส๎นรูปทรง สีและพื้นผิวที่มีความสัมพันธ์กับที่วํางอยํางนําสนใจ ผลงาน ของรุํงเริ่มปรากฏให๎เห็นแนวการใช๎สื่อวัสดุชัดเจนในงานชื่อ “องค์ประกอบ หมายเลข 2/2525” ซึ่งสํงเข๎ารํวม ในการประกวดศิลปกรรมแหํงชาติ ครั้งที่ 28 ในประเภทสื่อประสม ซึ่งครั้งนั้นศิลปินได๎รับรางวัลเหรียญเงิน
ชลูด นิ่มเสมอ, ประติมากรรมชนบท 4, 2525 Chalood Nimsamer, Rural Sculpture 4, 1982 Artist and work of art, Variable dimension เดชา วราชุน, ของสะสม หมายเลข 3, 2535 Decha Warashoon, Collection No.3, 1992 Mixed media
ทวน ธีระพิจิตร Tuan Trirapichit ชลูด นิ่มเสมอ, บันทึกของศิลปินชนบท, 2496-2541 Chalood Nimsamer, Documents of Rural Artist, 1953-1998 Mixed media, Variable dimension
ชัยนันท์ ชะอุํมงาม เป็นศิลปินภาพพิมพ์ที่หันมาสร๎างงานจิตรกรรม และในระยะหลังใช๎เทคนิคงาน กระดาษที่ผลิตเอง แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีแหํงความสุขสงบ มีรูปทรงเปรียบดั่งสิ่งมีชีวิต ลํองลอย เคลื่อนไหว เชํนภาพชื่อ “วงจรชีวิตในความสงบ” พ.ศ . 2542 ผลงานชํวงหลัง ๆ ผสมผสานวัสดุพอกโลหะ ผ๎า ลงไปใน กระดาษที่ปั๊มให๎มีความสูงแบบนูนต่า มณเฑียร บุญมา เป็นจิตรกรและประติมากรที่สร๎างสรรค์ผลงานจิ ตรกรรมงานประติมากรรมและ ศิลปะแนวจัดวางอยํางหลากหลาย ในปี พ.ศ. 2527 สร๎างงานชื่อ “ธรรมชาติในสภาวะแวดล๎อมปัจจุบัน ” สะท๎อนภาพความเป็นไปของสังคมใหมํที่เติบโตทํามกลางความเจริญของเทคโนโลยี ตํอมาในปี พ.ศ. 2531 ได๎ สร๎างงานชุด “กิจกรรมชนบท” โดยใช๎วัสดุและเทคนิควิธีการของภูมิปัญญาท๎องถิ่นผสานกับการแก๎ปัญหาการ สร๎างสรรค์ ชํวงหลังมณเฑียรนาเนื้อหาทางศาสนา วัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยูํในสังคมไทย มาเป็นแนว เรื่องในการสร๎างสรรค์ สื่อและวัสดุจะมีหลากหลายโดยเน๎นความสัมพันธ์ที่ตอบรับกับแนวความคิดของเขา อาคม ด๎วงชาวนา เป็นศิลปินที่ใช๎สื่อวัสดุอยํางแท๎จริงมาตั้งแตํเมื่อเริ่มสร๎างสรรค์ อาคมพิจารณาการ เปลี่ยนสภาพของวัสดุในแงํมุมตําง ๆ ทั้งโดยตัวมันเองเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติและถูกกระทาให๎เกิดการ เปลี่ยนแปลง อาคมใช๎วัสดุประเภทหนังมาเผา ในผลงานชื่อ “แปรสภาพ หมายเลข 1” พ.ศ. 2524ผลงานชิ้นนี้ อาคมได๎รับรางวัลเหรียญเงินจากการประกวดศิลปกรรมแหํงชาติ ครั้งที่ 27 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการแยกประเภท สื่อประสมเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ประเภท
รุํง ธีระพิจิตร Roong Trirapichit ชัยนันท์ ชะอุํมงาม Chaiyanandha cha-um Ngarm
มณเฑียร บุญมา Montien Boonma, Natural Form in the Present Environment, 1984 Dead tree Sand, not and Sling, 215x200 cm. มณเฑียร บุญมา Montien Boonma, The Pleasure of Being, Crying, Dying and Eating, 1993 Porcelain, lead, brass and fabric, Variable dimension
ภายหลังงานศิลปกรรมแหํงชาติ ได๎เพิ่มประเภทสื่อประสมขึ้นมาในปี พ.ศ. 2524 มีศิลปินที่สร๎างผลงาน ในแนวที่ใช๎สื่อวัสดุเพิ่มขึ้น ถาวร โกอุดมวิทย์ ใช๎วัสดุสาเร็จในการทางาน ชื่อ “ภาพตัวเอง 1957/8” พ.ศ. 2525 ถาวรใช๎ตะเกียงเป็นวัสดุสาเร็จและพิมพ์ภาพตัวเองลงไปในครอบแก๎ว ถาวรยังได๎ผสมผสานไม๎ไผํปะปิด ลงไปในกระดาษสา กํอนพิมพ์ภาพลงไป
ถาวร โกอุดมวิทย์, จินตภาพจากอดีต, 2524 Thavorn Ko-Udomvit, Image From the Past, 1981 Mixed media, 127x86.5x122 cm. กมล เผําสวัสดิ์ Kamol Phaosavasdi, Mode of Moral Being 1996 Video installation, Variable dimension อาคม ด๎วงชาวนา Arkom Doungchauna
กมล เผําสวัสดิ์ เป็นศิลปินอีกคนที่ใช๎สื่อวัสดุในการสร๎างงานแนวสื่อประสม เชํนในผลงานชื่อ “มโน ทัศน์ 1982” พ.ศ. 2525 กมลใช๎โลหะผ๎าและพลาสติกในการประกอบภาพเป็นชํอง ๆ ชํวงหลั ง ๆ กมลเริ่ม พัฒนาผลงานไปในแนวความคิดมากขึ้นตามลาดับ ผลงานการจัดงานจิตรกรรม 2 ชิ้น กับวัสดุ 3 มิติ การใช๎ ดิน น้า แสง เสียง เข๎ามาผสมผสานในการทางาน รวมทั้งการใช๎เทคโนโลยีสมัยใหมํ ทั้งภาพนิ่ง วีดีโอในการ สร๎างงาน ทาให๎กมลก๎าวไปสูํการเป็นศิลปินแนวจัดวางยิ่งขึ้ น นอกจากนั้นกมลยังใช๎การแสดง (Performance) เข๎าไปรํวมในผลงานแนวจัดวางอยูํหลายครั้ง อภินันท์ โปษยานนท์ สร๎างความตื่นเต๎นให๎กับวงการศิลปกรรมแหํงชาติเมื่อสํงผลงานจิตรกรรมที่มี ขนาดใหญํ 2.40 x 3.60 เมตร ชื่อ “Apocalypse” เข๎าแสดงในการแสดงศิลปกรรมแหํงชาติ ครั้ งที่ 28 พ.ศ. 2525 จากนั้นในชํวงตํอมาอภินันท์ ก็ยังคงสร๎างงานด๎วยสื่อวัสดุหลากชนิดมีการแสดงวัสดุสาเร็จมาจัดแสดง รํวมกับวัสดุอื่น ๆ โดยใช๎ชื่อผลงานชื่อ “สอนศิลป์ให๎ไกํกรุง” พ.ศ. 2528 นอกจากนั้นอภินันท์ยังใช๎เทคโนโลยี ของระบบ Computer ประกอบในผลงาน แตํเป็นที่นํ าเสียดายวําชํวงหลังอภินันท์หยุดสร๎างสรรค์งานศิลปะ และไปท าหน๎ า ที่ เ ป็ น นั ก วิ ช าการศิ ล ป์ แ ละด าเนิ น การด๎ า นการจั ด การกิ จ กรรมทางศิ ล ปะของศิ ล ปิ น ไทย
อภินันท์ โปษยานนท์, Apocalypse, 2525 Apinan Poshyananda, Apocalypse, 1982 Acrylic, 240x360 cm. อภินันท์ โปษยานนท์ Apinan Poshyananda
พิษณุ ศุภนิมิต เป็นศิลปินภาพพิมพ์ที่หันมาทางานจิตรกรรมโดยใช๎กระดาษจากปรู๏ฟของโรงพิมพ์มา ประกอบกับเชือกและไม๎ในการสร๎างผลงานชื่อ “ต๎นฉบับ” พ.ศ. 2526 และผลงานชื่อ “เสียงจากกระดาษ หมายเลข 2” พ.ศ. 2527 พิษณุยังคงสร๎างงานที่ใช๎สื่อกระดาษอีกหลายชิ้น และในระยะหลัง ๆ พิษณุเริ่มใช๎ วัสดุสาเร็จบ๎าง แตํโดยสํวนใหญํจะให๎ความสาคัญกับผิวและรํองรอยของกระดาษในการสร๎างความสัมพันธ์ของ รูปนามธรรม วิโชค มุกดามณี เริ่ มใช๎วัส ดุป ะปิดผสมในงานจิตรกรรมกับสภาพแวดล๎อมในผลงานชื่อ “ชีวิตและ สัญลักษณ์ในชุมชน” พ.ศ. 2528 วัสดุที่ใช๎เป็นพลาสติก ไม๎ เชือก อะลูมิเนียม ทองแดง โดยมีเหตุผลเพื่อให๎ สัมพันธ์กับพื้นที่ภายนอกทนแดดทนฝน และมีเนื้อหาเกี่ยวกับพลังอานาจของเทคโนโลยีสมัยใหมํที่เข๎ามามี บทบาทตํอวิถีชีวิตของสังคมไทยในปัจจุบัน วิโชคยังคงสร๎างงานที่ใช๎สื่อ วัสดุตํอเนื่องมาอีกหลายชุด คือ ” สัญญาณสิ่งแวดล๎อม” พ.ศ. 2536 และ”วัฒนธรรมเทคโนโลยี” พ.ศ. 2539 และในระยะหลัง ๆ ให๎ความสาคัญ กับ พื้ น ที่ วํางกับ การจั ด วางผลงานให๎ สั ม พัน ธ์กั บพื้น ที่ จากผลงานชุ ด “ป่า ต๎นน้ า” “จักรวาล : ชีวิ ต : วิทยาศาสตร์ และเรือและชีวิต” เป็นต๎น เรวดี ใจชุํม เป็นศิลปินหญิงที่มีความบันดาลใจจากเรื่องราวของสถาปัตยกรรมไทยที่มีสํวนประกอบแวว วาว มีความรู๎สึกลี้ลับ ศักดิ์สิทธิ์ ใช๎เทคนิคการเย็บปักถักร๎อยกับวัสดุที่มีความมันวาว สีสดใส เป็นสื่อในการ สร๎างผลงานชุด “ความรู๎สึกที่มีตํอลวดลายสถาปัตยกรรมไทย” ในปี พ.ศ. 2529 และ พ.ศ. 2530 โดยทาเป็น จิตรกรรมสื่อผสมแขวนอยูํบนผนัง ผลงานในปี พ.ศ. 2542 ของเรวดีเริ่มทาเป็นงาน 3 มิติดูได๎รอบตัว
รสลิน กาสต์ เป็ นศิล ปินหญิงอีกคนที่ใช๎เทคนิคการพิมพ์ ทาลงบนพลาสติก และใช๎น้ามาประกอบ ผลงานในชุด “สํงถึงปลา” พ.ศ. 2526 รสลินทาเป็นซองจดหมายพลาสติก ใสํน้า และพิมพ์ภาพปลาลงไป รส ลินยังใช๎เมล็ดถั่วปลูกในดินประกอบผลงานจัดวางในการแสดงเดี่ยว ณ หอศิลป์พีระศรี พ.ศ. 2526 ศุภชัย สุกขีโชติ เป็นจิตรกรที่นาเอาเรื่องราวจากประสบการณ์จริงที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุในท๎องถนนมา สะท๎อนด๎วยวัสดุ 3 มิติ เชํน ทํอนไม๎ และเส๎นผมมนุษย์ในผลงานชื่อ “เหตุการณ์ที่รังสิต” พ.ศ. 2530 ศุภชัยยัง ได๎ใช๎วัสดุสาเร็จ เชํนพระเครื่อง มาสร๎างผลงานในการแสดงศิลปกรรมของกลุํม White ปี พ.ศ. 2534 ในชุด “จิตวิญญาณแหํงความเป็นไทย”
พิษณุ ศุภนิมิตร Pishnu Supanimit วิโชค มุกดามณี, ผลงานชุด จักรวาล : ชีวิต : วิทยาศาสตร์ 2539/1, 2539 Vichoke Mukdamanee
เรวดี ใจชุํม Rewadhi Chaichum รสลิน กาสต์ Rossalin Garst
ภายหลังจากการกํอตั้งภาควิชา ศิลปไทยที่คณะจิตรกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร ในปี พ.ศ. 2519 และศิษย์รุํนแรก ๆ ที่สาเร็จได๎เดินทางไปเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดพุทธปทีป กรุงลอนดอน ระหวํางปี พ.ศ. 2527 – 2530 ในกลุํมดังกลําวมีศิลปินที่สนใจแนวไทยประเพณีอยูํ 2 คน คือ ปั ญญา วิจินธนสาร และ
สมภพ บุตราช ซึ่งทั้ง 2 คนเมื่อกลับจากประเทศอังกฤษ แนวการสร๎างสรรค์มีการผสมผสานผลงาน 3 มิติ สื่อ วัสดุและใช๎วิธีการจัดวางผลงานในพื้นที่ ดังจะเห็นได๎จากผลงานของปัญญาชื่อ “Seascape” พ.ศ. 2535 ใช๎ ความร๎อนจากเตารีดบนกระดาษ Keno ทาให๎เกิดรูปภาพแบบนามธรรม และใช๎กระเบื้องดินเผา จัดวางอยูํใน สํวนลํางของภาพ สาหรับ สมภพ บุตราช นั้น ได๎จัดแสดงเดี่ยวอยูํหลายครั้ง และทุกครั้งจะใช๎สื่อวัสดุและการ จัดวางที่ละทิ้งรูปทรงของจิตรกรรมไทยโบราณไปคงไว๎แตํแนวความคิดและปรัชญาความเชื่อของวิถีไทย เชํน ผลงานชื่อ "Mountain like Mother" พ.ศ. 2535 และสร๎างผลงานสัมพันธ์กับสภาพแวดล๎อมในโครงการ กรุงเทพเมืองฟ้าอมร ชื่อ “ความปรารถนา” ในปี พ.ศ. 2541 อภิชัย ภิรมย์รักษ์ เป็นจิตรกรที่สนใจงานไทยประเพณี สร๎างผลงานจากความบันดาลใจของรูป จิตรกรรมฝาผนัง ตํอมาจึงได๎ใช๎แผํนหนังสัตว์ทาเป็นรูปทรงผสมผสานกับลวดลายและวัสดุปะปิดลงไปเพื่อทา เป็นรูปคล๎ายหนังตะลุงปักษ์ใต๎ อภิชัยยังคงใช๎คติความเชื่อของวิถีชีวิตไทยและศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็น แนวเรื่องในงานจิตรกรรมสื่อผสมอีกหลายชุด
วิโชค มุกดามณี, สัญญาณวัฒนธรรม ก-ข 2537 Vichoke Mukdamanee ศุภชัย สุขีโชติ, จิตวิญญาณแหํงความเป็นไทย, 2534 Supachai Sukkeechod, Thai Spirit Series, 1991 Mixed media, Variable dimension
สมภพ บุตราช, Mountain like Mother, 2535 Sompop Butarad, Mountain like Mother, 2535 กระดาษ โครงเหล็ก และกระจก, 80x200 cm. ปัญญา วิจินธนสาร, จิตวิญญาณแหํงความเป็นไทย, 2534 Panya Vijintanasarn, Thai Spirit Series, 1991
Iron on keno paper, Variable dimension
มงคล เกิดวัน เป็นศิลปินที่เริ่มต๎นจากงานศิลปไทย แล๎วพัฒนาไปสูํการสร๎างรูปงานเป็นประติมากรรม 3 มิติ โดยใช๎โครงสร๎างของเรือนไทยโบราณกับวัสดุท๎องถิ่นของชํางไทย ในผลงานชื่อ “รูปทรงพื้นบ๎าน” พ.ศ. 2539 มงคลใช๎ดิน ไม๎และปูนตา ตํอมาใช๎โลหะ เหล็ก สังกะสี และไม๎ไผํผสานเพิ่มเติมเข๎าไป ในผลงานชื่อ “จินตนาการจากความเหงา” พ.ศ. 2542
สมโภชน์ ทองแดง, จิตรกรรมศรัทธา, 2534 Sompote Thongdaeng, Painting of Faith, 1991 Mixed media, 110x120 cm. นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน Nonthivathn Chandhanapalin
ศุภชัย สุกขีโชติ Supachai Sukkeechod วิชัย สิทธิรัตน์, ประตูแหํงสติ, 2541 Vichai Sithirath, The Gate of Conciousness, 1998 Painted wood, 240x400x440 cm.
ศิลปินรุํนหนุํมที่สนใจแนวไทยประเพณี และมีผลงานก๎าวหน๎าจากงาน 2 มิติ ไปสูํการจัดวางแบบ 3 มิติ ที่เห็นเดํนชัดก็คือ สุวิชชา ดุษฎีวนิช จากผลงานชื่อ “โครงสร๎างที่เกิดจากเทคโนโลยีพื้นบ๎าน” เป็นงานศิลป นิพนธ์ที่ใช๎กระบวนการของการสร๎างสรรค์ของวิถีชีวิตและภูมิปัญญาไทยใช๎ไม๎ตอกรับสอดใสํทาเป็นโครงสร๎าง ขึ้นจัดวางสิ่งของ เครื่องมือของชําง แสดงความเป็นอยูํ สภาพแวดล๎อมชีวิตพื้นบ๎านของคนไทย ให๎ความสาคัญ ตํอรูปทรงทั้งหมด ทั้งรูปทรงยํอยและรูปทรงใหญํที่ต๎องเกี่ยวข๎องสัมพันธ์กัน
ศราวุธ ดวงจาปา, หนังกลางแปลง, 2534 Saravudth Duangjumpa, Mobile Theatre, 1991 Mixed media, Variable dimension
มงคล เกิดวัน, จินตนาการจากความเหงา, 2542 Mongkol Kerdvan, Imagination From Loneliness, 1999 Metal, bamboo, and rural plaster, Variable dimension
ธนะ เลาหกัยกุล, The Yellow Cake, 2527 Chana Lauhakaikul, The Yellow Cake, 1984 Mixed media, Variable dimension
ศราวุธ ดวงจาปา, เจดีย์อากาศ, 2542 Saravudth Duangjumpa, Air Pagoda, 1999 Plastic and air, Variable dimension ธนะ เลาหกัยกุล, Pulsation, 2526 Chana Lauhakaikul, Pulsation, 1983 Sound water, charcoal, briquettes wood, Plaster, etc, 180x30x1440 cm.
ในแวดวงประติมากรรม มีประติมากรหลายคนที่สนใจสร๎างงานโดยการใช๎สื่อวัสดุที่แตกตํางไปจากเดิม ๆ ที่เคยทากัน คือ ปั้นเสร็จแล๎วหลํอ แกะสลักหินไม๎การเชื่อมโลหะ หรืออื่น ๆ อินสนธิ์ วงศ์สาม ประติมากรที่พานักอยูํทางเหนือ มีความสามารถในการใช๎ไม๎แกะสลักอยํางงดงาม ได๎ จัดการแสดงเดี่ยวขึ้นในปี พ.ศ. 2533 ณ หอศิลปแหํงชาติ ใช๎วัสดุหลากชนิดในการสร๎างผลงาน เชํน ใช๎กระดูก และทองคาฝังเข๎าไปในไม๎ใช๎ก๎อนหินแกะสลักจัดวางอยูํในน้า และยังมีการจัดวางผลงานเชื่อมตํอกันหลายชิ้น นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ก็เริ่มสนใจ แก๎ว ต๎นไม๎ และก๎อนหิน ในการทดลองสร๎างงานกับ สภาพแวดล๎อม สาหรับวิชัย สิทธิรัตน์ เป็นประติมากรที่ทดลองสร๎างงานกับสภาพแวดล๎อม ชื่อ “ไตรลักษณ์” พ.ศ. 2526 โดยนาปรัชญาและหลักธรรมในพุทธศาสนามาเป็นเนื้อหาในการสร๎างสรรค์ ใช๎ไม๎อัดทาสีทาเป็น รูปทรงเรขาคณิตขนาดใหญํ วิชัย สิทธิรัตน์ ได๎สร๎างผลงานกับสภาพแวดล๎อมอีกหลายชิ้น และในปี พ.ศ. 2542 ผลงานชื่อ “ประตูแหํงสติ” รํวมในโครงการกรุงเทพเมืองฟ้าอมร และติดตั้งอยูํหน๎า วัดสุทัศนเทพวนาราม ผู๎คนที่มาชมผลงานเดินเข๎าออกไปมาอยูํในทวารทั้ง 5 ได๎
กมล ทัศนาญชลี Kamol Tassananchalee, The Lover Mona Lisa and Van Gogh, 1979 Mixed media, 91.5x82.5x20 cm. กมล ทัศนาญชลี Kamol Tassananchalee, Mojave Desert, Californai, 1975 Pigment on sand, dimensions variable
ฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช, ไมํมีชื่อ (ฟรี) 2539 Rirkrit Tiravanija, Untitle, (Free), 1992 Food, cookings pans, pots, bottle, table and chair, Variable dimension ธรรมศักดิ์ บุญเชิด, ตัวศิลปินกับทํอนไม๎ระบายสี Thammasak Booncherd, Myself Artist and Painted wood, Variable dimension
ศราวุธ ดวงจาปา เป็นประติมากรที่มีความแปลกแยกจากประติมากรหลาย ๆ คน แตํเดิมนั้นสร๎าง ผลงานด๎วยการหาความสัมพันธ์ของรูปทรงที่มุํงไปสูํความงามสมบูรณ์สูงสุด โดยอาศัยธรรมชาติเป็นแมํแบบใน การคิดค๎น แตํในการสร๎างสรรค์บางชํวง ศราวุธปลํอยให๎จิตใจมีอิสระหลุดพ๎นจากรูปแบบเดิม กระบวนการ สร๎างสรรค์เทคนิควิธีการและการใช๎สื่อวัสดุ ถูกใช๎ประกอบกันอยํางเสรี ผลงานเหลํานี้จะเห็นได๎จากผลงานชื่อ “หนังกลางแปลง” พ.ศ. 2534 ที่ใช๎จอหนัง ดินสี กากเพชร และวัสดุหลาย ๆ อยํางผสมผสานกัน นอกจากนั้น ยังมีผลงานอีกหลายชิ้น อาทิเชํน ผลงานชื่อ “กิเลสสีชมพู” พ.ศ. 2541 ที่ใช๎สีของแสงไฟประกอบการสร๎างงาน ชํวงหลังสุดศราวุธใช๎แรงลมเข๎ารํวมในผลงานในโครงการศิลปินไทยและศิลปินยุโรป (Thai – E.U.) ชื่อ “Air Pagoda” 1999 ธนะ เลาหกัยกุล เป็นประติมากรที่ใช๎ชีวิตอยูํในสหรัฐอเมริกา หันไปใช๎สื่อทางจิตรกรรม แสงและเสียง จากผลงาน “เสียงลม” พ.ศ. 2526 ศิลปินได๎ความบันดาลใจจากลาน้าเจ๎าพระยาสร๎างผลงานเป็นชั้นดินขึ้นมา ตามลาดับ โดยมีวัสดุผสมผสานหลากชนิดทั้ งถํานหิน พลาสเตอร์ น้า ต๎นไม๎ และใช๎ลาโพงเล็ก ๆ 48 ตัว ซํอน อยูํในผลงานทาให๎เกิดเสียงออกมาจากชํองในผลงาน ธนะยังสร๎างผลงานแนวจัดวางกับพื้นที่อีกหลายชุด เชํน ผลงานชื่อ “Yellow Cake” ที่ใช๎เสียงเชื่อมลอดตํอไปยังอุโมงค์ลาน้าจากสวนสาธารณะไปสูํเมือง และผลงาน บางชิ้นใช๎แสงเสียงในการสร๎างมิติลวงตา เชํน ผลงานชื่อ “รํางกาย วิญญาณชีวิต” พ.ศ. 2536 เป็นต๎น
เชาวลิต เสริมปรุงสุข, สุสานชาวนา นาผืนสุดท๎ายแหํงราชอาณาจักรสยาม, 2538 Installation at Faculty of Painting Sculpture and Graphic Art, Variable dimension อารยา ราษฎร์จาเริญสุข Araya Rasdjarmreansook
อามฤทธิ์ ชูสุวรรณ Amarit Chusuwan สรรเสริญ มิลินทสูต, น้าไหล, 2536 Sansern Milindasuta, Running Water, 1993 Mixed media, Variable dimension
ศิลปินไทยที่ไปใช๎ชีวิตอยูํในอเมริกานอกจาก ประวัติ เล๎าเจริญ และธนะ เลาหกัยกุล แล๎ว ยังมี กมล ทัศนาญชลี อยูํที่ลอสแองเจลิส แรก ๆ ที่เริ่มใช๎วัสดุนั้น เขาได๎แนวความคิดมาจากเหตุการณ์ในอเมริกาที่เขา สนใจ เชํน เรื่องราวของชนกลุํมน๎อยชาวอินเดียแดงผสมผสานกับรูปทรงของหนังใหญํ เขาใช๎กระดาษทาเองปะ ปิดด๎วยวัสดุหลากชนิด ตํอมาจึงได๎ทาเป็นงาน 3 มิติเพิ่มขึ้น เชํน ทารูปทรง 3 มิติของหลอดสี และใช๎สีฝุ่นโรย ในพื้นห๎อง กมลยังทางานกับสภาพแวดล๎อมในปี 2518 จากผลงานชื่อ “Mojave Desert” ที่แคลิฟอร์เนีย เขา ใช๎สีโรยบนพื้นทรายและปลํอยให๎แสงลมพัดฝุ่นสีกระจายไปในพื้นที่ขนาดใหญํ
สุรสีห์ กุศลวงศ์, ห๎องน้ากรุงเทพฯ, 2541 Surasi Kusolwong, Free for All Project, 1998 3 Container toilets, 54x100x200 cm.
จักรพันธ์ วิลาสิณีกุล, คนทาความสะอาด, 2537 Jakapan Vilasineekul, Cleaner, 1994 Bench, floor, cleaning set, wood and Synthetic Leather, 153x125x75 cm. สุรสีห์ กุศลวงศ์ Surasi Kusolwong, For 12 Dipped Enamel Painting, 1996 Mixed media, dimensions variable
สุธี คุณาวิชยานนท์, ช๎างลอยน้า, 2538 Sutee Kunavichayanont, Floating, Elephants, 1995 Water, glass, ice and steel, dimensions variable ต๎อย อังคะวัฒนะพงษ์ Toi Ungkavatanapong, Modern Love, 1995-1996 Electric appliance and light, dimensions variable
นอกจากกมลแล๎ว ยังมีศิลปินอีกคนที่อยูํในอเมริกาและได๎รับการกลําวถึงบํอยครั้งคือ ฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช ที่นาแนวความคิดที่จะให๎เกิดการเรียนรู๎ทางวัฒนธรรมซึ่งกันและกันโดยให๎ผู๎ชมผลงานได๎มีสํวนรํวมใน
การแสดงงาน ศิลปินจัดกิจกรรมเกี่ยวกับอาหาร ทาผัดไทย แกงเขียวหวาน จัดเป็นห๎องแสดงและให๎ผู๎ชมได๎เข๎า มารํวมรับประทานรับทราบรสชาติของอาหาร
นาวิน ลาวัลย์ชัยกุล, นาวินแท็กซี่แกลเลอรี่ กรุงเทพฯ, 2538 Nawin Lawanchaikul, Nawin Taxi Gallery, Bangkok, 1995 Taxi and driver around Bangkok สุธี คุณาวิชยานนท์, ความซ้าซากอันเป็นนิรันดร์, 2540-2541 Sutee Kunavichayanont
นิพันธ์ โอฬารนิเวศน์, จิตรกรรมสาหรับแมํของฉัน, 2538-2539 Nipan Oranniwesna, Painting for my mother, 1995-1996 Pigment, Japanese paper, gourd and milk, 300x700x100 cm. ศุภชัย ศาสตร์สาระ Supachai Satsara
อารยา ราษฎร์จาเริญสุข เป็นศิลปินภาพพิมพ์ที่สนใจบทกวี ใช๎แนวเรื่องจากความทรงจาในอดีตมา สร๎างฝันให๎กับตัวเอง ผลงานมีความเศร๎า เหงา และลึกลับ ตํอมาเมื่อได๎รับทุนไปประเทศเยอรมัน และกลับมา อยูํประเทศไทยในปี พ.ศ. 2531 อารยาหันไปสร๎างงานจิตรกรรมและผลงานจัดวางกับพื้นที่ ใช๎รูปทรง 3 มิติ เข๎าไปผสมผสานกับงาน 2 มิติ อามฤทธิ์ ชูสุวรรณ เป็นจิตรกรที่เขียนภาพ 2 มิติ ได๎ทดลองสร๎างงานกับพื้นที่บ๎าง แตํไมํได๎ทาตํอเนื่อง ภายหลังจากไปศึกษาศิลปะที่ประเทศโปแลนด์ เริ่มใช๎สื่อหลากหลายยิ่งขึ้นและมักสรุปแนวความคิดในการ สร๎างสรรค์ไปตามเนื้อหาที่สนใจ อามฤทธิ์ยังสนใจการถํายภาพและการบันทึกด๎วยสื่อวิดีโอมาประกอบในงาน สรรเสริญ มิลินทสูต เป็นศิษย์เกําจากอังกฤษและเยอรมัน สร๎างผลงานโดยสรุปแนวความคิดของตัวเอง ตํอเรื่องราวที่สนใจ นาวัสดุที่มีความหมายสอดคล๎องกับแนวคิดมาจัดวาง ผลงานที่สร๎างขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ชื่อ “น้าไหล” จะมีทั้งวัสดุสาเร็จและวัสดุที่ศิลปินเข๎าไปจัดการด๎วยวิธีสร๎างสรรค์สํวนตัว สุรสีห์ กุศลวงศ์ ก็เป็นศิลปินภาพพิมพ์อีกคนที่เดินทางไปศึกษาตํอที่ประเทศเยอรมันและเปลี่ยนแปลง การทางานจากภาพพิมพ์ไปใช๎สื่อวัสดุ และวิธีการจัดวางผลงานในการแสดงออก จากผลงานชื่อ “For 12 Dipped Enamel Painting” พ.ศ. 2539 สุรสีห์ใช๎แนวเรื่องจากชีวิตครอบครัวสภาพแวดล๎อมที่ตนเอง เกี่ยวข๎องและใช๎เบาะนอน ถังไม๎ กลํองระบายสี ประกอบขึ้นในห๎องนิทรรศการ ชํวงตํอมาในปี พ.ศ. 2541 เขา ได๎แสดงผลงานชื่อ “Free For All Project” ในโครงการ Sydney Biennial โดยใช๎ลักษณะของตลาดขายของ ในประเทศไทยมาจัดวางและให๎ผู๎ชมมีสํวนรํวมในการชื่นชมและนาสิ่งของกลับไป จักรพันธ์ วิลาสิณีกุล เป็นประติมากรที่ไปใช๎ชีวิตศึกษาศิลปะที่ประเทศเยอรมันเชํนกัน แตํเดิมเขาจะ ค๎นหาความสัมพันธ์ของรูปทรงที่มีลีลาเคลื่อนไหวนุํมนวล เป็นลักษณะคํอนไปในลักษณะนามธรรม ภายหลัง เมื่อสาเร็จการศึกษาจากเยอรมัน ผลงานของจักรพันธ์จะเป็นการนาประสบการณ์และเสนอแนวความคิดด๎วย การใช๎วัสดุสิ่งของ และวัสดุสาเร็จ เพื่อบอกความรู๎สึกและความคิดเพื่อให๎คนดูค๎นหาคาตอบ เชํนผลงานชื่อ “คนทาความสะอาด” พ.ศ. 2537
ศุภชัย ศาสตร์สาระ Supachai Satsara ธวัชชัย พันธ์สวัสดิ์, เรือมาแล๎ว 2536 Tawatchai Pansawat, Here Comes the Boat, 1993
สุธี คุณาวิชยานนท์ ใช๎วัสดุที่เปลี่ยนแปลงด๎วยความร๎อนและเวลาคือน้าแข็งหลํอเป็นรูปช๎างแล๎วปลํอย ให๎ละลายลงในถังน้าในผลงานชื่อ “ช๎างลอยน้า” พ.ศ. 2528 และสุธียังคงสร๎างผลงานในเชิงอุปมา อุปมัยให๎ สติตํอสังคมในผลงานชื่อ “ช๎าง 70 เชือก” พ.ศ. 2538 และผลงานชุด “ความซ้าซากอันเป็นนิรันดร์” พ.ศ. 2540 – 2541 ที่ใช๎วิธีหลํอรูปคนในทําไหว๎ แล๎วใสํกลไกลลงไปในรูปหลํอ เมื่อคนดูเข๎ามาใกล๎และใช๎เท๎าเหยียบ สวิทช์ กลไกก็จะทางานในทําไหว๎ซ้าซากอยูํตลอดเวลา
โฆษิต จันทราทิตย์ Kosit Jantaratit
นฤพนธ์ บูรณะบัญญัติ Narupon Buramabunyat
อดุลย์ บุญฉ่า ธวัชชัย พันธุ์สวัสดิ์, สามเกลอ 2541 Tawatchai Punsawat, Tree Friendship, 1998
นพไชย อังคะวัฒนะพงษ์ (ต๎อย) เป็นศิลปินที่ใช๎ชีวิตอยูํในสหรัฐอเมริกาอยูํชํวงระยะหนึ่งตํอมาภายหลัง จึงได๎กลับมาสร๎างสรรค์งานในประเทศไทย เขาสนใจเรื่องราวของสิ่งของตําง ๆ ที่อยูํในชีวิตประจาวันเอามา ประกอบในงานชื่อ “Modern Love” พ.ศ.2538 – 2539 และลําสุดปี พ.ศ. 2541 ต๎อยทาผลิตภัณฑ์เพื่อใช๎ ใน ห๎องน้าร๎านอาหารและสถานที่ในชุมชน โดยเน๎นทัศนคติของความดีงาม ตามป้ายชื่อของผลิตภัณฑ์เหลํานั้น แล๎วแจกจํายออกไปให๎คนเอาไปใช๎ในโครงการกรุงเทพเมืองฟ้าอมร ศิษย์เกําญี่ปุ่น คือ นิพันธ์ โอฬารนิเวศน์ แตํเดิมเป็นศิลปินภาพพิมพ์ ได๎รับทุนไปศึกษาศิลปะที่ Tokyo University of Fine Arts & Music สร๎างงานจัดวาง ชื่อ “จิตรกรรมสาหรับแมํของฉัน” พ.ศ. 2538 – 2539 โดยใช๎วิธีของการพิมพ์ลายนิ้วมือลงบนกระดาษสา ใช๎น้าเต๎าและน้านม ประกอบในภาพลายนิ้วมือและจัดวาง บนพื้น ศิลปินรุํนหนุํมสาวหลายคนที่สนใจสร๎างผลงานด๎วยสื่อวัสดุและแนวการจัดวางกลุํมแรกเป็นศิลปินรุํน หนุํ มที่เริ่ มเคลื่ อนไหวจาก “โครงการเชีย งใหมํจัดวางสั งคม” ศิล ปิ นกลุํ มนี้สํ ว นใหญํเป็นลู ก ศิษย์อาจารย์ มณเฑียร บุ ญมา อาทิเชํน นาวิน ลาวัลย์ชัยกุล เสนอแนวคิดเกี่ยวกับวัฒ นธรรมของสั งคมไทย กระตุ๎น ความรู๎สึกของผู๎ชมตํอปัญหาและข๎อขัดแย๎งที่ศิลปินสนใจ ตํอมานาวินเสนอผลงานชื่อ “นาวินแท็กซี่ แกล เลอรี่ กรุงเทพฯ” พ.ศ. 2538 โดยใช๎รถแท็กซี่ขับไปทั่ว ๆ กรุงเทพฯ ภายในรถจะมีภาพ ข๎อความ และเรื่องที่ เกี่ยวกับทัศนะด๎านศิลปะของศิลปิน ศุภ ชัย ศาสตร์ ส าระ สนใจเรื่ องราวของสั งคม ผู๎ ใช๎ แรงงานและระบบการเมื องสร๎า งงานด๎ ว ยวัส ดุ หลากหลาย ผลงานหลังสุดทาขึ้นในสภาพแวดล๎อมจริง บริเวณวัดเกําในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โฆษิต จันทราทิพย์ สร๎างแนวงานแบบ Performance ด๎วยรํางกายของเขาเองในผลงานชื่อ “LiLy Ovary February 14” พ.ศ. 2537 ที่โบสถ์คริสต์ในจังหวัดเชียงใหมํ โดยการแตํงงานและเข๎าโบสถ์กับ ตุ๏กตายาง โฆษิตยังแสดงเรื่องความรักอีกครั้งใน Performance ชื่อ “เลือดของโฆษิตในอักษร LOVE” พ.ศ. 2537 ภายหลังปี พ.ศ. 2540 ได๎เดินทางไปประเทศเยอรมัน และสนใจแนวการสร๎างสรรค์ด๎วยเทคโนโลยีสมัยใหมํ เกี่ยวกับภาพเสียงและงานคอมพิวเตอร์ ลูกศิษย์ของอาจารย์มณเฑียรอีก 2 คนที่สร๎างงานแนวสื่อประสมและ สื่อวัสดุ 3 มิติ คือ นฤพนธ์ บูรณะสมบัติ ในผลงานชื่อ “จินตนาการจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล๎อม ในธรรมชาติ” พ.ศ. 2537 และธวัชชัย พันธุ์สวัสดิ์ ประติมากรที่เสนอผลงานประติมากรรมเชิงความคิดตาม ประสบการณ์และเนื้อหาที่สนใจ ผลงานสํวนใหญํจะใช๎วัสดุหลากหลายไมํติดยึดอยูํในแนวการสร๎างรูปเพื่อ ความลงตัวให๎เกิดความงาม ผลงานชื่อ “เรือมาแล๎ว” พ.ศ. 2536 ใช๎ไม๎และน้าในรูปทรงคล๎าย ๆ เรือ และ ผลงานลําสุดคือ “สามเกลอ” พ.ศ. 2540 จากงานกรุงเทพเมืองฟ้าอมร ที่ใช๎ตะลุมพุกของผู๎ใช๎แรงงานมาเป็น ตัวแบบของความคิดในการสร๎างงาน
พิณรี สัณพิทักษ์ อรอนงค์ กลิ่นศิริ, Lunatic is my head
ดวงหทัย พงษ์ประสิทธิ์ Dounghatai Pongprasit, Honging Spirit
อดุลย์ บุญฉ่า เป็นประติมากรที่แสดงออกด๎วยประสบการณ์ของตัวเองตํอชีวิตชนบท ในผลงานชื่อ “จินตนาการจากเครื่องมือเครื่องใช๎พื้นฐาน” พ.ศ. 2535 อดุลย์ใช๎ไม๎ไผํ กะลามะพร๎าว ดินและกระดาษ โดยใช๎ ข๎าวเหนียวตากับกระดาษ เพื่อประกอบรูปทรง แสดงวิถีการดาเนินชีวิตของเกษตรกร ทาให๎ประติมากรรมมี ลักษณะท๎องถิ่นตํางไปจากวัสดุของสังคมสมัยใหมํ ในขณะเดี ย วกั น ที่ สาธิ ต เทศนา ปั จ จุ บั น อยูํ ที่ จั ง หวั ด มหาสารคามภาคอี ส าน ให๎ ค วามสนใจกั บ เทคโนโลยีที่เป็นภูมิปัญญาท๎องถิ่น โดยสร๎างผลงานชื่อ “จินตนาการจากเครื่องมือเครื่องใช๎ในอดีต 4/39” พ.ศ. 2539 ใช๎วัสดุผสมไม๎ไผํ กระถางดินเผา และน้ามันยาง สร๎างงานแบบจัดวางเพื่อสะท๎อนให๎เห็นโครงสร๎างความ งามของหัตถกรรม วิถีชีวิตชาวบ๎านที่อยูํในสภาพแวดล๎อมแบบไทย ๆ ตามธรรมชาติ อมร พิณพิมาน เป็นอีกคนที่สนใจสร๎างงานจัดวางจากเรื่องราวของความเชื่อแบบไทย เขาได๎สร๎างงาน หลายชิ้นที่ใช๎วัสดุธรรมชาติ เชํน ดิน ไม๎ ผ๎าย๎อมสี ขณะที่ ปรีกมล เชี่ยววานิช สร๎างงานจากเศษเปลือกไม๎ปะ ปิดแล๎วระบายสี เสนอสาระเกี่ยวกับสิ่งแวดล๎อมและชีวิตสัตว์ป่า แดง บัวแสน เป็นคนหนุํมรุํนใหมํที่ใช๎สื่อวัสดุประเภทผ๎า และเชือกมัดเป็นรูปคนในอิริยาบถตําง ๆ บ๎าง ก็เป็นคนจรจัดไร๎ที่อยูํอาศัย ในผลงานชื่อ “สภาวะความเสื่อมถอยและโดดเดี่ยวในสังคม” พ.ศ. 2541 พิณ รี สั ณ พิทั ก ษ์ ศิ ษ ย์ เกํ า ของมหาวิ ท ยาลั ย Tsukuba ประเทศญี่ ปุ่ น ผั น ตั ว เองจากงานด๎ า น Communication มาสูํงานจิตรกรรมและงานศิลปะจัดวางในผลงานหลายชุดด๎วยกัน ผลงานที่ นําสนใจก็คือ งานที่เกี่ยวกับชีวิตผู๎หญิงที่เป็นแมํซึ่งพิณรีได๎ความบันดาลใจในขณะที่เธอให๎กาเนิดลูกชาย ชื่อโชน ผลงานชื่อ “โชนกับนม” พ.ศ. 2541 พิณรีทาเป็นรูปนมแมํจัดวางอยูํบนพื้นและในผลงานชุดนี้ยังมีงานจิตรกรรมและวาด เส๎นประกอบอีกหลายชิ้น สุโรจนา เศรษฐบุตร เป็นศิลปินทางเครื่องปั้นดินเผาจากสหรัฐอเมริกา ตํอมาหันมาสร๎างสรรค์งาน ศิลปกรรมที่ใช๎เทคนิคเครื่องปั้นดินเผาเป็นสื่อเพื่อการแสดงออกในงานชื่อ “อิสราเอล” พ.ศ. 2541 เธอใช๎ เทคนิคดังกลําวจัดวางในพื้นที่ของห๎องแสดง เนื้อหาของผลงานจะเกิดขึ้นไปตามประสบการณ์และเรื่อ งราวที่ สนใจ ศิลปินผู๎หญิงรุํนสาวที่เคลื่อนไหวอยูํในแนวงานสื่อประสมและการจัดวางมีอยูํหลายคนด๎วยกัน เชํน ดวงหทัย พงษ์ประสิทธิ์ ที่ใช๎ผ๎าสีสดใสม๎วนห๎อยในผลงานชุด “ลานาแหํงทะเล... 1” พ.ศ. 2540 ตํอมาสนใจไป สร๎างงานอยูํที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส เตยงาม ศรีสุบัติ ประติมากรหญิง ใช๎วัสดุจากโซํรถจักรยานมาสร๎างงานชื่อ “ความเคลื่อนไหว” พ.ศ. 2539 และใช๎เครื่องพิมพ์ดีดในผลงานชื่อ “Such A Fish” พ.ศ. 2540 ตํอมาภายหลังได๎รับทุนไปศึกษาตํอที่ ประเทศอังกฤษ
นุชรี พิเดช Nuchari Pidej ชลทิชา ตันวิเชียร Cholthicha Tunvichien
ม.ล.บุษยมาศ นันทวัน แรก ๆ สร๎างผลงานได๎ความบันดาลใจจากภาพเขียนของ Van Gogh ศิลปิน ชาวดัทช์ ทาเป็นรูปทรง 3 มิติลอยตัวออกมาจากผนัง ตํอมาสร๎างผลงานด๎วยวัสดุประเภทผ๎ากอตซ์นามาย๎อมสี ปะปิดลงไปบนรูปทรงหลายชนิด เชํน เก๎าอี้ โต๏ะ รวมทั้งรูปทรงแบบนามธรรม แล๎วประกอบสีวาวแสงและใน มืดลงไป วิริยา พูลสวัสดิ์ ใช๎แก๎วและไฟฟ้าประกอบในการสร๎างงาน รูปทรงที่เคลื่อนไหวไปมาในแก๎ว คือ “รูป ชีวิตในพื้นที่วําง” พ.ศ. 2542 ศิลปินหญิงอีกคน คือ อรอนงค์ กลิ่นศิริ ใช๎ผ๎า เบาะ นุํนและไนลํอนในการสร๎างงานชื่อ “I am Not a Sexual Suspect” พ.ศ. 2539 เพื่อเสนอประเด็นให๎พิจารณาการตั้งกฎเกณฑ์และเงื่อนไขของสิทธิสตรี ข๎อ แตกตําง ความขัดแย๎ง การไมํยอมรับของสังคมตํอสตรีเพศ และในแนวทางของการสร๎างงานเพื่อสตรี (Feminist) ยังมีคนรุํนใหมํที่มีผลงานนําติดตามอีก 2 – 3 คน คือ นุชรี พิเดช ที่ใช๎วัสดุประเภทโลหะในการ สร๎างงานจิตรกรรมสะท๎อนภาพของวัฒนธรรมที่ฝังรากฐานอยูํในฟอสซิล
แดง บัวแสน Daeng Buasen
ชลทิชา ตันวิเชียร สร๎างผลงานด๎วยวัสดุแวววาวของผ๎าเลื่อมพรายเพื่อแสดงเนื้อหาของความไมํเทํา เทียมกันของเพศแมํ ที่ถูกเลือกปฏิบัติจากสังคมและผลงานในหัวข๎อ “แรงบันดาลใจจากความกดดัน ทาง เพศ” พ.ศ. 2542 ของ เกษหทัย สิงห์อินทร์ ที่กลําวถึงรสนิยมทางเพศของมวลมนุษย์ ที่พึงมีสิทธิเลือกรูปแบบ ที่ตนต๎องการได๎ตามอารมณ์ที่ตนปรารถนา กลุํมศิลปินรุํนใหมํ ๆ จะยืนหยัดมั่นคงได๎แคํไหน ก็คงต๎องติดตามดู ผลงานที่เขาจะได๎นาเสนอตํอสังคมตํอไป ที่กลําวมาพอเป็นสังเขปคือศิลปินไทยในหลาย ๆ ชํวงเวลา ที่มีแนวทางการสร๎างสรรค์หลากหลาย ทั้ง สืบสานวัฒนธรรมเดิมและสร๎างผลงานโดยการคิดค๎นสิ่งใหมํ ๆ วงการศิลปะรํวมสมัยของเรานับวันจะเปิดกว๎าง สูํสังคมมากขึ้น อีกทั้งยังก๎าวไปสูํการเชื่อมโยงกับวงการศิลปะในระดับนานาชาติ แนวโน๎มในทศวรรษตํอไป ศิลปินและผู๎รักในงานศิลปะคงจะได๎จัดกิจกรรมเพื่อการแลกเปลี่ยนการขยายข๎อมู ลขําวสารแกํกันและกัน และ เปิดโลกทัศน์ของความรํวมมือทางด๎านศิลปวัฒนธรรมให๎ก๎าวไกลตํอไป
Thai Contemporary Art Mixed Media and Installation Global art movements have endlessly provided inspirations and craving for new changes in the Thai art scene. Among contemporary trends, mixed media and installation art have been well received by Thai artists. Enthusiastic feedback and increasing interest from the audience even attract budding artists to experience more with the two media. Thai artists from the older generation are no less interested in the media. Pichai Nirand’s many outstanding works are constructed with sand and colored glasses. His themes are Buddhism related. Mixed media can be traced in works of another famed Thai artist, Prawat Laocharoen, who created “Collage No.3” by assembling various kinds of materials such as sacks, pieces of clothes, plastic and robe together, then applying thick layers of paints over them to express a form of abstraction. Paying less attention to story-telling, Prawat rather in his oeuvres highlight rhythm and movement in forms, space, and contrasting texture to create aesthetics. The artist sometimes employs performance art and installation in his exhibits, apart from prints, paintings, and three-dimensional works. Thongchai Rakpathum won his silver medal from the 18th National Art Exhibition with a mixed media painting “Painting No.6” portrays minute forms drizzled over with white, delicate sand, painted with oil paints. “Figure No.2”, created in 1968 by Anand Panin is among early mixed media works in Thailand. Inspired by a human figure, the artist employed various techniques to build up protrusion and outstanding curves from his canvas frame. The work also won a silver medal from the 18th National Art Exhibition. In the following year, Kiettisak Chanonnart, who was awarded outstanding artist from the National Art Exhibition, blended in his oil painting “Painting” wooden prongs and plastic. The year 1969 saw a more flexibility in presentational materials, when art is no longer contained by a canvas frame. In his mixed media painting, Kiettisak created an illusion on canvas with depth and dimension. The subject matter concerns his personal impressions, but portrayed in accordance with his imagination to create surrealism, At first, the artist used varied materials in one work, but later reduced the amount of materials, but played more with various dimensions and depth of the works, and paint on them.
Senior and well-respected artist Chalood Nimsamer had experimented with various techniques-printing, painting, sculpture making, and mixed media. In “Rural Sculpture’, he combined together local materials and some industrial products. In 1982, he used documentation to record subject matters and forms for his “Diary”, which was executed during 1980 and 1985. The artist began playing with installation in the work entitled, “Documents of Rural Artist 1953-1998” and “Streetside Sculpture 1953-1998”, both were made in 1998. Among the series, “Rural Kitchen 1998” portrays life of local folks through a display of their kitchen. Decha Varashoon uses stainless steel, metal, and wood in his mixed media works to highlight their metallic essence in an abstract setting that is shaped by forms and space. Tuan Trirapichit is a print artist who later became attracted to painting. He employs animal skins, robe, and wood in “Body 1983/1.” Then he works more on three-dimensional works. In “Forms 1984/2” he created free forms, wrapped with various materials, and painted on them. Tuan’s brother, Roong, is also an artist who has contributed to mixed media art movement in Thailand. Using various materials for textures, he puts layers of metal sheets or some ready-made metallic pieces to create a “car” machines, or even rural gadget. The artist tends to relate to elements, forms, and texture to space, rather than tells a story to his audience. Roong won a silver medal in the 28th National Art Exhibition with the work entitled “Composition No.2/1982” in the mixed media category. Chaiyanandha Cha-um Ngarm switched to painting from printing. He makes his own paper for his works, which tries to show a path towards peace by displaying organic forms in movement. One of the series is “Life Cycle in Peace” in 1999. His recent works are a combination of metal and fabrics covering special paperworks created to have high and bas relief. A painter and sculptor, Montien Boonma has an extensive works of paintings, sculptures, and installation art His “Nature Form in the Present Environment” in 1984 well reflects the society undergoing technological advancement. “Rural Activities” in 1988 shows the other side of his interest. The artist uses local materials to create his work, conveying rural people’s way of life. Montien’s more recent works focus more on religion, culture, and Thai lifestyle, while experimenting more with a variety of materials and media.
Arkom Doangchauna started his professional art life with mixed media. His theme is about transformation of each material both by nature, and by outside forces. His “Transformation No.1/9981,” a work consisting of burned leather, won a silver medal from the 27th National Art Gallery in 1981. The year was also the first time the national art competition added mixed media as a new category. There were more artists working on mixed media in the following year. One of them, Thavorn Ko-udomvit, printed his own image on rice paper and bamboo sticks before wrapping them over the glass cover of a lamp. In the same year, Kamol Phaosavasdi employed pieces of cloth, plastic, and metal to create a mixed media work entitled “Images of the mind 1982.” He later developed his ideas into an installation, comprising two paintings, three-dimensional forms, soil, water, light, and sound to create his works. He makes use of performance art as well. Apinan Poshayanonda shook the Thai art scene when he submitted his 2.4 by 3 meter work to the 28 National Art Exhibition in the year 1982. He continued to create more mixed media works. Another sensational piece is “Teach Art To Downtown Rooster” in 1985. It is regret, however, that Apinanda is no longer an artist, but instead becomes an art scholar. Still, he is actively involved in both international and local art scenes, and does more curating. Formerly a print artist, Pishnu Supanimit turned to painting and started with proof paper from a publishing house, composing the paper with strings and wood to create “Manuscript” in 1983 and “Voice from Paper No.2” in the following year. He continued to use paper in several of his works, but recently switched to more ready-made products. His works are abstract in nature, and highlights texture and paper folds. Vichoke Mukdamanee launched his first mixed media adventure when he combined copper, aluminum, plastic, wood and rope in “Life and Symbols in A Community” in the year 1985. In the work he tried to show how technology plays a part in the Thai society by using such durable materials to create a relation with the space outside. Mixed media works became part of his many other series namely “Environmental Signs” in 1993. “Culture and Technology” in 1996. His more recent works turn more towards installation such as “Forest Earth Water,” “Universe : Life Science,” and “Boat and Life” Traditional Thai architecture has inspired Rewadhi Chaichum, particularly those glittering parts in temple decorations, which conveys mysticism and holiness. The artist uses
embroidery techniques with shiny materials in “Feelings toward Thai architectural Motifs” in 1986 and 1987, and hang her mixed media on the walls. In 1999, her works became threedimensional. Rossalin Garst used printing techniques on plastic texture, and made water part of the work. In “To the Fish” in 1986, she made a plastic envelop, contained with water and enclosed prints of fish. She planted beans as part of her installation on display at the Bhirasri Art Institute in 1983. Supachai Sukkeechod likes to weave in real experiences on road accidents into his three-dimensional works. In “Incident in Rangsit” in 1987, he used human hair and wood blocks, while putting Buddha images in his work displayed in a group exhibition with the White Group in the series “The Thai Spirit.” In 1976, Silpakorn University’s Faculty of Painting Sculpture and Graphic Arts founded a new department-the Thai Art Department. Early graduates from the department were commissioned to work on a mural painting at Buddhaprateep Temple in London during 1984 and 1987. Two of them, Panya Vijinthanasarn and Sompob Butarad were traditionalist painters before going to Britain. Upon their return, the two began working on three-dimensional mixed media. In 1992, Panya created abstract forms by ironing Keno paper and arranged terra cotta at the bottom of the work, which is entitled “Seascape.” Sompop, on the other hand, held several solo exhibitions, all of which included mixed media and installation works with no trace of traditional Thai art. However, he remains faithful to themes related to Thai beliefs and philosophy, such as in “Mountain like Mother” in 1992. In the Bangkok Art Project 1998, his work shows a relationship with the environment. Apichai Piromrak’s main interest is traditional Thai art and his inspirations include mural paintings, which are reflected in his oeuvres. With dried animal skins he creates motifs and forms similar to those Southern-style shadow play characters, then covers them with other materials. Buddhist faiths and folk beliefs are often depicted in many of his mixed media works. Mongkol Kerdwan began with traditional Thai art before progressing to threedimensional works, which are inspired by structures of traditional Thai houses and architecture. “Folk Forms,” created in 1996, the artist mixed in his work soil, wood, black cement, and in “Imagination from Loneliness” in 1999, he used up with metal, iron, tin, and bamboo sticks.
Suvicha Dusadeevanich is among young outstanding artists who are attracted to the traditional Thai art school. His work has developed from two-dimensional to threedimensional installation. In “Structure Rural Technology,” which is his art thesis, the artist brought in the image of Thai lifestyle in the old days by building a bamboo wood structure to display artisans’ tools and other utensils. There is a harmony reflected in various sizes of shapes and forms he employed in the main composition. On the sculpture side, many sculptors employ mixed media to create innovations in their works. Inson Wongsam, a northerner, is best-known for his wood carving mastery. At a solo exhibition at the National Gallery in 1990, he aptly inlaid bones and gold into wood, and carved stones before aesthetically displaying them in the water. In the exhibition, he also linked many works together to form a common concept. Some other sculptors try to create installations that relate to the surroundings. Nonthivathn Chandhanapalin played with glass, plants and stones while Vichai Sitthirath leans more towards Buddhism and the environment. Created in 1983, “The Three Forms,” a composition of a few huge geometric forms made of plywood, conveys Buddhist philosophy and essence. Vichai has sculpted many other works on the theme of environment, and in 1999, his “The Gate of Conciousness,” his entry for the Bangkok Art Project, was installed in front of Suthep Wanaram temple so viewers could participate in the work by walking through various Buddhist symbols. Saravudth Duangjumpa is different from most other sculptors. At first he struggled to achieve ultimate aestheticism by composing forms inspired by nature. During his creative process somehow Saravudth let go of himself to break away from what others have created before him. “Mobile Theatre” in 1991 exemplifies his innovative process and consists of a movie screen, colored clay, and diamond dust. “Pink Lust” in 1998 has a light and sound effect. In 1999 he participated in a Thai-E.U. art project, submitting an entry entitled “Air Pagoda” (1999) Living in the United States, Thana Lauhakaikul exploits a combination of painting, light and sound in “Pulsation” in 1983. His life on foreign soil doesn’t make him forget inspirations from his homeland, such as the Chao Phraya river, which is apparent in the work. The work is made of coal, plaster, water, and plants. The artist hid small 48 Ioud speakers to bring in various sounds. “Yellow Cake, 1984” another installation, connects a pipeline from a park to a city with a sound pipe. “Body, Soul, Life” in 1993 is an illusion created by light and sound.
Among other Thai artists residing in the United States, Kamol Thasananchalee who lives in Los Angeles is one of the most famous. When he first turned to mixed media, he speaks out his minds about American topics such as the American Indian minority by using Thai shadow play characters, made of handmade papers. He later produces more threedimensional forms with paint tubes and dusted with tempera. In 1975, he created an environmental art entitle ”Mojave Dessert” in California where he poured paints on the sand then let the wind carry the paints away in a wide area. Another much-mentioned Thai artist in the States is Rirkrit Tiravanija, who tries to promote cultural exchange by allowing viewers to participate with, and react directly to his works One of his displays include a culinary exhibition where viewers can try Thai food such as Phad Thai, or Thai-style stir-fry noodles, and Gaeng Kiew Wan Gai, or green chicken curry. Many Thai artists are inspired by mixed media and installation in Germany. Araya Ratchamrearnsuk is a print artist whose reminisce is well reflected in her mysterious and melancholic prints. After a scholarship to study art in Germany, she returned to her hometown in 1998 and worked more on paintings and installation, combining twodimensional works with three-dimensional ones. Amrit Chusuwan started as a painter, from now and then tried installation. After his education in Poland, he explores with more various media and changes subject matters to match his interest. He is also interested in photography and video recording, which he uses in his works sometimes. Sansern Milintasutra was educated in both Britain and Germany .His individualistic oeuvres display a relationship between his subject matters and coordinating materials. “Running Water” in 1993 is a combination of ready-made materials and what the artist created himself. Surasri Kusolwong is another art graduate from Germany and switched from prints to mixed media and installation. “For 12 Dipped Enamel Paintings” in 1996, he narrates his family background and surroundings by using a mattress, wood buckets, and paint boxes as a setup in the exhibition room. In 1998, he displayed “Free for All Project” at the Sydney Biennial by creating a Thai-style market to invite audience participation. Sculptor Jakapan Vilasineekul received his art education in Germany. His early works are abstract forms indicating gentle lines and movements. After his return from Germany, he works more with mixed media to reflect his ideas, and sometimes challenges viewers to find an answer, such as in “Cleaners” in 1994.
Elephant, national animal, has been a subject matter to Sutee Kunavichayanont. In “Floating Elephants” in 1985 he sculpted an elephant out of ice, and let it melt into a bucket. In the same year, he created a parable to wake up the society to its conscience in “70 Elephants.” In “Eternal Monotone” in 1997-1998, he created a mechanical human sculpture, which bows down to pay respect every time a viewer steps on a switch. Toi Ungkavattanapong spent a part of his life in the States before coming back to Thailand to work. “Modern Love” in 1995-1996 is a display of daily life objects. In 1997 he manufactured toiletries, bottled and labeled with social values such as “kindness” and “gratitude,” then distributed these bottles to people on the street in the Bangkok Art Project 1998. A graduate from Tokyo University of Fine Arts & Music, Nipan Oranniwesna turned to installation from prints. “Painting for My Mother” in 1995-1996 is a display of fingerprints on rice paper, decorated with gourd and milk on the ground. Many budding artists are interested in mixed media and installation. The Chiang Mai Social Installation, a once-annual art exhibition in the northern city of Thailand, served as a starting venue for many of them. Artists who have become famous in the Thai art scene are mostly students of Montien Boonma. One of them is Nawin Lawanchaikul who is very critical of the Thai society. He tries to challenge viewers to pay more attention to existing social problems and conflicts. In 1995, he employed a taxi driver and his vehicle as a mobile art gallery. Inside the car displayed his paintings and points of view. Nawin’s friend, Supachai Satsara and Kosit Chantarathip are also from the group. Supachai talks about society, laborers, and the political system. His latest work was built in a real setting near a temple in Ayudhya. Kosit uses performance art as his medium. “Lily Ovary February 14” in 1994 took place in a church in Ching Mai, where he got married to a rubber doll. The love theme is in another of his performance “Kosit’s Blood In Letters of Love” He went to study in Germany in 1997, and now becomes interested in new technological tools to create images, sound, and digital works. Two of Montien’s students who are interested in mixed media and three-dimensional works are Naruepon Buranasombat and Tawatchai Pansawasdi. In 1994, Naruepon created “Imagination” From Environmental Change In Nature. Sculptor Tawatchai has no fixed forms nor subject matters, but rather changes in according with his interest at that time. “The Boat
Has Arrived” in 1993 composes of leaves and water in a boat-like form. His latest works “Three Friends” in 1997 exhibition at the Bangkok Art Project displays a hammer used by laborers as subject matter. Mixed media and installation appear perfect presentational means among artists from rural areas who want to talk about folk cultures. Sculptor Adul Booncham relates his experience from upcountry life in “Imagination From Basic Tools” in 1992, using bamboo, coconut shells, soil and paper. He pounded black sticky rice with paper to imitate farmers’ way of life, while trying to differentiate folk sculpture from products of a modern lifestyle. Satit Tesana, from Mahasarakham, a northeastern province, pays attention to local technology. “Imagination From Tools From the Past” in 1996, Satit created an installation using bamboo clay pots and rubber oil to highlight beauty of handicraft and folk lifestyle. Thai beliefs are portrayed in Amorn Pinpimarn’s installation. Soil, wood, and dyed clothes are his favorite materials. Preecha Kamolwanich, on the other hand, works about the environment and wildlife by using wood chips and paints. Daeng Buasen’s theme is on the homeless. He uses fabrics and clothes bundled up to create human forms in different postures in “Deterioration and Alienation in the Society” in 1998 Looking at women artists, there are quite a few who have been consistent in using mixed media and installation in their works. Pinaree Sanhapitak is one of them. She graduated from Tsukuba University in Japan, and switched herself from communication design to paintings and installations. Surojana Setthabutr received her ceramic art education from the United States. “Israel” 1998 is an installation of ceramic works in the display room. Her themes vary on to what she is currently interested in. Other promising young woman artists who have worked on mixed media include Dounghatai Pongprasit. Her Lively, colorful “Songs of the Sea No.1” in 1997 used gaudy cloth hanging from the walls. She later moved to Paris. Sculptor Tuey-ngarm Srisubat uses bike chain to create “Movement” in 1996, and a typewriter in “Such a Fish : in 1997. She has received a scholarship to study in Britain. The Iate Dutch artist Vincent Van Gogh plays an early inspiration to ML Busayamas Nantawan, who built his free standing three-dimensional sculptor from the wall. Her more
recent works include dyed pieces of cloth, attached on other forms such as chairs, desks, and other abstract forms, before sticking on glow-in-the-dark materials. “Organic Forms” in 1999 by Viriya Poonsawasdi comprises glasses and electricity to create moving forms in her mixed media. There are quite a few young, progressive woman artists who have developed more critical themes in their works and use mixed media. Among them is Orn-anong Klinsiri, whose “I am not a sexual suspect,” made in 1996, argues about sexual discrimination and mistreatment against women. The work consists of clothes, cotton, and nylon. Another feminist advocate artist is Nuchari Pidej. Her metal mixed media work mocks on a culture, which stays deep-rooted on fossils. Focusing on sexual discrimination, Cholthicha Tunvichien exploits glittering materials to convey her striking messages of how women have been mistreated in a double-standard Thai society. Another work in 1999 of Ket-hatai Sing-in tries to point out that each individual has the rights to one’s own sexual preferences. Only time can prove for how long these progressive budding artists can stay faithful to their commitment and points of views to the society. This article wishes to give an overall picture of Thai artists’ contributions to the mixed media art by interweaving their own cultural and personal experiences. As days go by, the Thai contemporary art scene is more open to the society, and tries to relate more to international art movements. In the next decade, artists and art lovers will continue to organize more art activities and information exchanges to ensure our cultural cooperation will be successful and progressive.