อันนูร1

Page 1


ที่ชุมนุมบนถนนนักเขียน เพราะความคิดไม่ ถูกจ�ำกัดไว้ เพียงคนสองคน ”


:: บทแถลงบรรณาธิการ ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงปราณียิ่งเสมอ มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ค�ำสดุดีและการอ�ำนวยพรจงมีแต่ท่านนบี มุหัมมัด บรรดาภรรยาของท่าน เหล่าเศาะหาบะฮฺ ตลอดจนผู้ด�ำเนินตามแนวทางของท่านเหล่า นี้ตราบจนวันกียามะฮฺ อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะห์มาตุลลอฮิวาบารอกาตุฮฺ ขอทักทายพี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน ด้วยกับค�ำทักทายที่สวยงามที่สุด ด้วยค�ำทักทายที่เราใช้ทักทายกันในสวรรค์อันสถาพรของพระ องค์อัลลอฮฺซุบฮานาฮูวะตะอาลา ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับหน้าที่อันหนักหน่วงแห่ง นี้เพื่อรับใช้บรรณดานักอ่านทั้งหลายแหล่ ถือเป็นอามานะฮฺอย่างหนึ่งที่ข้าพเจ้าต้องรับผิดชอบ รวบรวมเรื่องราวต่างๆของบรรดานักเขียนและนักอยากเขียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้น กวี บทความ ต่างๆ เพื่อคัดสรรมาตอบสนองแก่นักอ่าน ในวารสารเล่มไม่ใหญ่และก็ไม่เล็กนักฉบับนี้ก็มีทั้งบทความที่เป็นวิชาการ บทความที่มา จากประสบการณ์ของผู้เขียนบางท่าน บทกวี และนิทานสอนใจ ที่คลุกเคล้ากันอย่างได้อรรถรส เพื่อให้ผู้อ่านไม่จ�ำเจกับเรื่องสไตล์เดิมๆ มาถึงตรงนี้ข้าพเจ้าคงคิดว่าท่านผู้อ่านทุกท่านคงยังไม่ลืมเรื่องราวของพี่น้องเราที่ถูก อธรรมทั่วมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นโรฮิงญาเอย ซีเรียเอย ถึงแม้ ณ ตอนนี้พี่น้องโรฮิงญาบางส่วนอาจ จะผ่านพ้นสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นแล้วก็ตามแต่ก็ยังมีพี่น้องอีกมากมายที่ยังล�ำบากอยู่ ซึ่งในอันนูรฉบับ นี้ก็ได้น�ำเรื่องราวต่างๆของพี่น้องของเรามาน�ำเสนอ มาบอกเล่า ให้แก่เราๆที่ยังสุขสบายอยู่ซึ่งบาง คนอาจจะลืมเรื่องราวของพี่น้องเราไปแล้วกระมั้ง อันนูรเล่มนี้จึงมาเตือนความทรงจ�ำจึงเอาเรื่องที่ เราหลายคนคิดว่าเก่ามาเล่าใหม่เพราะไม่อยากให้พวกเราเป็นห่วงพี่น้องตามแฟชั่น กลับกันอยาก ให้พวกเรามีความห่วงใยพี่น้องของเราที่ยากล�ำบากอยู่ตลอดเวลา อยากให้พวกเรามีพวกเขาไว้ใน ดุอา เผื่อในวันข้างหน้า(อาคีรัต)ด้วยการรักพี่น้องเพื่ออัลลอฮฺนี้จะท�ำตาชั่งความดีหนักขึ้น อินชา อัลลอฮฺ สุดท้ายนี้หากอันนูรเล่มนี้ผิดพลาดประการใดก็ขอมาอัฟ ณ ที่นี้ด้วยน่ะครับ


สารบัญ ก .บรรณาธิการแถลง ข .ผู้อาวุโสอยากพูด 1.เยี่ยม...มูฮาญีรีน โรฮิงญา / Mumin Tayyip 2. Ijmd / Ijmd 3.กวีลูกปืน / เกียร์มะเฟือง 4.เปิดโลก / อ.มัสลัน มาหามะ 5.ฝัน....กะลาใบใหม่(ของใครบางคน)/เจ้าชาย 6.ครอบครัวแสนสุข / ดอกหญ้าริมทาง 7.ดีพะย่ะค่ะ / เกียร์มะเฟือง 8.การ์ตูนท้ายเล่ม / Safeenah Bintu Kasem


5 | เปิดโลก

-----อยากพูด---- การเคลื่อนที่ของโทรศัพท์อย่างต่อเนื่องมันท�ำให้รู้สึกทนไม่ไหวต่อแรงสั่นของมัน จวน สมองเริ่มสั่งการไปยังกล้ามเนื้อให้ผมค่อยๆล้วงกระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและรีบเพ่งมองไป ยังสายที่โทรเข้ามาในทันใด ”อัสสาลามมุอะลัยกุม “ เสียงคุณแม่ผู้เป็นสุดที่รัก ในทุกครั้งของการพูดคุยกัน คุณแม่มักจะมีเรื่องเล่าให้ผมฟังอยู่เสมอ และวันนี้ก็เหมือน เช่นเคย “ ลูกรู้หม้ายนิโรฮิงญามาที่บ้านเรา ด่านกักขังคนเข้าเมืองสัก 200 ชีวิตได้ มะและกลุ่มฮา ลาเกาะฮฺได้ไปเยี่ยมเขาเมื่อกี้นี่เอง” ด้วยความอัดอั้นที่อยู่ในใจอยากระบายในสิ่งต่างๆที่ได้เจอะ เจอในแต่ละวัน แต่ในวันนี้แปลกกว่าครั้งก่อนๆ เพราะมันเป็นเรื่องเล่าในระดับบิ๊กๆ ซึ่งยากที่จะ แก้ไขได้ง่ายดายนัก ชาวโรฮิงญาได้อพยพจากประเทศพม่ามาสู่ประเทศไทยในจังหวัดต่างๆ เช่น สงขลา พังงา นราธิวาส ปัตตานีและอื่นๆ โดยเรือของนายจ้างที่ล่องมาในท้องทะเลอันไกลโพ้นโดย ใช้ระยะเวลาในท้องทะเลเกือบแรมเดือน แต่สิ่งใดเล่าที่จะสามารถขัดขว้างเขาได้ เพราะหากค�ำ ตอบคือเลือกที่จะอยู่ในบ้านเมืองที่เขาจากมาแล้วนั้นก็หมายถึงความตายอันใกล้ เมื่อตัวเลือกมีอยู่ ไม่มากนัก เขาจะต้องเลือกทางเดินของชีวิต นั้นคือการเดินทางเพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตและน�ำเขาให้ไป สู่ประเทศที่สาม สถานที่ที่เขาสามารถใช้ชีวิตได้ตามหลักสิทธิของมนุษย์ที่พึงมี คุณแม่ยังเล่าต่ออีกว่า “โรฮิงญาน่าสงสารมากลูกเห้อ ผอมแห้งกันเกือบทุกคนเหมือน อดข้าวมาหลายวัน ตอนแรกต�ำรวจเอาข้าวมาให้พวกเขากินแต่พวกเขาไม่กิน เขาบอกว่าเป็นข้าว ของ UN เขาไม่กิน แต่หลังจากนั้นมะและกลุ่มฮาลาเกาะฮฺพาข้าวไปให้เขาและบอกว่านิข้าวของ มุสลิมทีนั้นแหละน�้ำตาของพวกเขาไหลออกมาท�ำให้มะและเพื่อนๆน�้ำตาไหลไปพร้อมๆเขาด้วย” พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าแล้ว! โดยผ่านทางความช่วยเหลือของ มุสลิมด้วยกันเพราะศาสนาสอนให้เรารู้จักช่วยเหลือกัน เมื่อในยามผู้ใดได้รับความเจ็บปวดนั้นก็ ความเจ็บปวดของเราเช่นกัน จึงท�ำให้น�้ำตาแห่งความปลื้มปิติยินดี หลั่งโรยลงมาเป็นคราบน�้ำตา แห่งความเจ็บปวดที่ไม่มีวันลืม และเขาได้ปลดปล่อยความรู้สึกออกมาให้เราได้รับรู้ถึงสิ่งที่พวก เขาต้องการเช่นกัน เบื้องลึกเบื้องหลังที่เขาจากมานั้น พ่อแม่ พี่น้อง ภรรยาสามีของพวกเขา บ้างก็ เสียชีวิตไปแล้ว และบ้างก็แยกทางกัน


6 | เปิดโลก

และเช่นกันชีวิตของพวกเขานั้นเหมือนจะได้รับการปลดปล่อยให้หลุดพ้นจากพันธณา การจากการอพยพมา ความเกลียดชังที่มีต่อชนชาติชาวโรฮิงญาที่แอบแฝงด้วยความข้องเกี่ยวทาง ศาสนา(ชาวโรฮิงญาเป็นมุสลิมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงท�ำให้ได้รับการกดขี่มาตลอดจากรัฐพม่า) จึงเป็นที่มาของ หัวข้อในเล่มนี้ “เปิดโลก” จุดจบของเรื่องนี้จะเป็นไปอย่างไร พวกเขาจะได้รับ ความเป็นธรรมจากศาลโลกหรือไม่ จะได้ย้ายไปอยู่ในประเทศที่สาม หรือจะได้กลับบ้านเกิดเมือง นอนที่เขาจากมาโดยได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระอย่างคนทั่วไป ให้พวกเราคอยติดตามข่าวคราวอยู่ตลอด ช่วยเหลือเท่าที่มีความสามารถ และไม่ลืมที่จะดุอาอฺ(ขอพร)ให้แก่พวกเขาด้วย อินชาอัลลอฮฺ^_^

เด็กหญิงเดือนเก้า&นายเดือนสิบ (ที่ปรึกษาอาวุโส)

“ลาตันซานีฟีดุอาอฺอิกุม” อย่าลืมฉันในดุอาอฺของเธอ


7 | เปิดโลก

ภาพโดย : เกียร์มะเฟือง


8 | เปิดโลก

1

เรื่องราวของชาวโรฮิงญากับความทุกข์ยากที่พวกเขาได้รับ มันเป็นเรื่องทีส่ ร้างความ สะเทือนใจให้ผมเป็นอย่างมากมาตลอด หลายครั้งที่ผมต้องร้องให้ รู้สึกหดหู่ใจ รู้สึกอยากไปหา พวกเขา ไปเยี่ยมพวกเขา ช่วยเหลือพวกเขา แต่ผมก็ท�ำอะไรไม่ได้มากไปกว่า การขอดุอา และ บริจาคด้วยทรัพย์สินเล็กๆน้อยๆ แต่ก็ต้องขอชูโกรต่อเอกองค์อัลลอฮฺ(ซ.บ) ที่วันนี้อัลลอฮฺได้เปิด โอกาส ให้เราได้พบกับพวกเขา โดยให้พวกเขาเดินทางมาหาเราถึงที่(ประเทศของเรา)ท�ำให้ผมได้มี โอกาสไปเยี่ยมพวกเขา อย่างที่ผมได้ตั้งใจไว้ บทความนี้จึงขอเล่า ความทรงจ�ำดีๆของผมที่ได้จากการไปเยี่ยมพี่น้องชาวโรฮิงญา ณ ด่านกักตรวจคนเข้าเมือง สะเดา ความประทับใจครั้งแรกของผมเกิดขึ้น ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินขึ้นไป ชั้นสองของอาคารกักขังซึ่งพี่น้องเราอยู่ที่นั่น พวกเขาพร้อมใจกันให้สลามแก่พวกเรา พร้อมทั้งยื่น มือออกมานอกกรง รอเพื่อให้พวกเราเข้าไปจับมือด้วย เป็นการแสดงถึงความมีไมตรีจิตรของพวก เขาและความเป็นพี่น้องกันระหว่างเรากับเขา ซึ่งความแตกต่างทางภาษาและชาติพันธุ์ ไม่อาจเป็น เส้นแบ่งได้. พวกเราแต่ละคนจึงรีบรุดไปหาพวกเขา พร้อมทั้งรับสลามและจับมือกับพวกเขาอย่าง เป็นกันเอง ผมได้เห็นถึงใบหน้าของพวกเขาที่ยิ้มแย้ม และปลื้มปิติยินดีกับการมาเยือนของพวก เรา ผมได้เห็นถึงเนื้อตัวและใบหน้าของพวกเขาที่สะอาด สะอ้าน หนวดเคราถูกจัดไว้เป็นอย่างดี รู้สึกได้ถึง การมี “นูร” (รัศมี) ที่แปล่งประกายออกมา จากใบหน้าของแต่ละคน บ่งบอกว่าพวกเขา ไม่เคยลืมอัลลอฮ ไม่ทิ้งการละหมาดและการท�ำอิบาดะฮฺอื่นๆ ผมเห็นหลายคนถืออัลกุรอาน อยู่ใน มือตลอดเวลาหรือบางคนก็ถือ ลูกตัสเบี๊ยะฮฺไว้ในมือตลอด ทุกคนจะใส่กาปีเยาะฮฺ(หมวกที่ซึ่งเป็น อัตลักษณ์อย่างหนึ่งที่แสดงความเป็นมุสลิม) ผมทราบมาว่าพวกเขาจะพาติดตัวตลอดทุกที่ที่ไป พวกเขาอยู่ในสภาพที่พร้อมเสมอที่จะละหมาด ผมได้ทราบมาว่าพวกเขามีการอาซาน ละหมาด เป็นญามาอะฮฺ และมีการให้ค�ำนาซีฮัตทุกเวลาละหมาด. ผมได้หยุดจับมือค้างกับพี่ชายคนหนึ่งพร้อมทั้งจ้องหน้าเขา และยิ้มให้กับเขา แต่ก็ได้แต่ นิ่งเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร จนกระทั่งพี่ชายคนนั้นได้ถามผมว่า “How are you ?” ผมรู้สึก ประหลาดใจ แต่ก็รีบตอบกลับไปว่า “I’m fine Alhamdulillah. and you ?” พี่เขาก็ตอบกลับ มาพร้อมกับรอยยิ้มว่า “I’m fine” ผมจึงได้ทราบว่าพวกเขาหลายคนพูดภาษาอังกฤษได้ บางคน พูดได้ทั้งอังกฤษ อาหรับ มลายู อุรดู และภาษาของตัวเอง บางคนก็เป็นครูสอนศาสนา บางคนก็


9 | เปิดโลก

เป็น ตะฮฟิส (นักท่องจ�ำอัลกุรอาน) ผมประทับใจน้องคนหนึ่ง เขาได้มาคุยกับผม เขาอายุ 15 ปี เขาชอบเล่นฟุตบอล เขารู้จักทีมดังหลายทีมไม่ว่าจะเป็น แมนยู ลิเวอร์พูล แต่เขาชอบทีมบาร์เซ โลน่ามาก เขารู้จักนักเตะดังหลายคนโดยเฉพาะเมซซี่ ผมรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะ ภาษาอังกฤษของเขาพอๆกับผมซึ่งเป็นนักศึกษา ทีแรกผมเข้าใจว่าพวกเขาคงจะพูดได้แต่ภาษา ของเผ่าพันธุ์ตัวเองคงพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เพราะการปิดกั้นทางการศึกษาจากรัฐ แต่สิ่งที่ได้พบ เจอนั้นกลับตรงข้าม ผมได้ถามน้องเขาต่อไปว่ามีความใฝ่ฝันอยากเป็นอะไรน้องเขาตอบกลับมาว่า “ผมอยากเป็นหมอ” ผมยืนคุยกับกลุ่มวัยรุ่นอยู่สักพักหนึ่ง จนกระทั่งมีคนหนึ่งจากบรรดาพวกเขา(น่าจะเป็น ผู้น�ำ) ได้มาสั่งให้ทุกคนกลับไปนั่งประจ�ำที่ในแถว เพราะจะมีการแจกข้าวให้กิน เขาคนนั้นเป็นคน รูปร่างสูงใหญ่ บึกบึน แข็งแรง น่าเกรงขาม รู้สึกได้ถึงความดุดัน(อดไม่ได้ที่จะนึกถึงท่านอุมัร บิน อัลค็อฏฏ็อบ) แต่เขากลับหันมายิ้มให้ผม สลามกับผมถามทุกข์สุขของผม ผมรู้สึกได้ถึงความใส่ใจ ของเขาที่มีต่อทุกข์สุขของผมทั้งๆที่ตัวเขาเองก็ล�ำบาก! และแล้วเวลา 20 นาที ช่างผ่านไปเร็วเหลือเกินเจ้าหน้าที่ได้มาแจ้งให้พวกเรารีบเดินลง ไปเพราะหมดเวลาแล้ว แต่ผมก็พยามถ่วงเวลาเพราะอยากอยู่กับพวกเขานานๆ เมื่อรู้ว่าพวกเรา ต้องจากไปแล้ว พวกเขาก็พากันยื่นมือมาสลามกับพวกเรา บางคนไม่สามารถเข้าถึงพวกเราได้ก็ พากันโบกมือให้ ผมเห็นพี่น้องคนหนึ่งร้องไห้ พอหันกลับไปอีกทีหนึ่ง ปรากฏว่าร้องไห้น�้ำตาไหล กันเป็นกลุ่มเลย ซึ่งเป็นภาพที่ชีวิตนี้ผมไม่อาจลืมได้แน่ พวกเราหลายคนก็ร้องไห้ แต่ผมนั้นคิดว่า พวกเขาคงจะเจอกับหยดน�้ำตามามากพอแล้ว จึงอยากให้ได้เห็นรอยยิ้มบ้าง จึงกลั้นน�้ำตาเอาไว้ พร้อมยิ้มให้พวกเขาอย่างสุดก�ำลัง แต่ก็แอบไปร้องไห้ตอนจากพวกเขาไปแล้ว ชาวโรฮิงญานั้น แม้ตัวของพวกเขาจะถูกคุมขัง แต่ไม่อาจคุมขังจิตใจของพวกเขาได้


10 | เปิดโลก


11 | เปิดโลก

2

วันนี้ก็เหมือนเช่นครั้งที่แล้วๆมา ฮากิมได้รับค�ำสั่งมาจากหัวหน้าให้ยิงครูไทยพุทธคน นึง ที่สอนอยู่ชานเมืองจังหวัดยะลา เขาไม่รู้จักครูคนนี้ ไม่รู้ว่าเป็นครูที่ดีหรือไม่ดี มีลูกกี่คน และ เขาก็ไม่สนใจด้วย ฮากิมรับงานนี้มาเมื่อสิบวันที่แล้ว หลังจากที่ได้ท�ำการติดตามความเคลื่อนไหวของ คุณครูคนที่เขาต้องยิงนี้อย่างดีแล้ว ไหนจะทางหนีหลังจากที่ได้ลงมือ จนถึงตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่า ต้องไม่พลาดแน่ และเขาก็ไม่เคยท�ำงานพลาด ปืนถูกใส่มาในกล่องพัสดุที่เจ้านายส่งมา พร้อมรูปของเป้าหมาย มีอยู่สองกระบอก กระสุนเต็มทั้งคู่ พร้อมจะใช้งาน ฮากิมได้รับงานแบบนี้เสมอ เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าท�ำไมเจ้า นายถึงให้ปืนกับเขาสองกระบอกทั้งๆที่เวลาใช้จริงๆใช้เพียงกระบอกเดียว แต่เขาก็ไม่เคยถาม เหมือนกัน เจ้านายคงจะเผื่อปืนที่ให้เสียมั้งเลยส�ำรองไว้ พัสดุถูกท�ำให้ดูเหมือนส่งมาจากไปรษณีย์ ธรรมดาทั่วไป แต่ความจริงแล้วบุรุษไปรษณีย์คือคนของเจ้านายด้วยเหมือนกัน ฮากิมรอมานานมากแล้วอีกห้านาทีก็จะได้เวลาที่ครูคนนั้นขับรถผ่านตรงที่เขารอแล้ว เพื่อไปโรงเรียนเขาติดเครื่องรถรอไว้ เขามั่นใจว่าไม่พลาดแน่ คุณครูไม่ได้มาพร้อมขบวนทหารชุดดูแลความปลอดภัยครู พวกนั้นอีก งานนี้จึงเป็นงานง่ายมาก

เขามาเช้ากว่าทหารขี้เซา

ความจริงเขาน่าจะเป็นครูที่ดีมากคนหนึ่งเลยแหละ มาโรงเรียนตั้งแต่หกโมงครึ่ง และ กลับหกโมงเย็น ดูเป็นคนขยันขันแข็ง เอาการเอางาน ฮากิมเลือกที่จะลงมือตอนเช้าเพื่อที่จะได้ไม่เกะกะกับชาวบ้าน ถ้าเป็นวันปกติเขาอาจ จะต้องเลือกลงมือตอนเย็น เพื่อหลีกหนีจากคนกรีดยางยามเช้า แต่ส�ำหรับเช้าที่ฝนตกพรึมพร�ำ อย่างนี้ เขาไม่ลังเลเลยที่จะลงมือตอนเช้า ชาวบ้านจะไม่กรีดยางตอนฝนตก เพราะน�้ำฝนจะเข้าไป ปนกับน�้ำยางในถ้วยรอง ท�ำให้น�้ำยางเจือจางจนขายไม่ได้ แล้วบรรยากาศอย่างนี้ช่างเหมาะกับ การนอนคลุมโปงเป็นที่สุด เขาจึงมั่นใจได้ว่าปลอดคนอยู่พอสมควร และมันยังเช้าเกินไปที่เด็กๆจะ มาโรงเรียน อ่อใช่สิ ที่ส�ำคัญที่สุด วันนี้เป็นวันศุกร์หนิ ชาวบ้านต้องหยุดท�ำงานกันอย่างแน่นอน ไม่ น่าเชื่อว่าการปล่อยใบปลิวขู่ของเจ้านายจะได้ผลดีถึงขนาดนี้ ตลาดไม่มีการซื้อขาย ชาวบ้านก็ไม่


12 | เปิดโลก

ออกมาซื้อของ มือปืนอย่างเขาท�ำงานได้สะดวกด้วย ฮากิมได้ยินเสียงรถคันเก่าของคุณครูแล้ว มันดังมาแต่ไกล และใกล้เข้ามาทางที่เขารอ อยู่ ตลอดทางครึ่งกิโลเมตรที่เป็นสวนยาง ปราศจากบ้านคนแม้แต่หลังเดียว ช่างเป็นสถานที่ที่ เหมาะส�ำหรับจะยิงใครสักคน ครูคนนั้นค่อยๆช�ำเลืองมองฮากิมขณะที่ขับผ่านเขา คุณครูไม่ได้มีท่าระแวงหรือสงสัยแต่ อย่างใด ฮากิมติดเครื่องแล้วขับตีคู่รถคันเก่าของคุณครู ครูหันมามองเขาแล้วยิ้มให้ฮากิมอย่าง อารมณ์ดี จังหวะเดียวกันนั้นฮากิมก็ยกปืนที่ถือไว้ในมือซ้ายขึ้นมาเล็งที่คุณครูแล้วก็เหนี่ยวไก... “พ่อคร้าบบบ” เสียงอามีนวัยสามขวบเรียกพ่อมาแต่ไกล “ว่าไงจ๊ะลูกรัก วันนี้เป็นเด็กดีมั้ยเอ่ย” ฮากิมถามลูกอย่างเอ็นดู “แกซนมากเลยค่ะ วันนี้ท�ำแจกันแตกไปด้วยอันนึง” ฮาลีมะฮภรรยาของฮากิมตอบ พร้อมเดินออกมาจากห้องครัว รับผิด

“ผมก็แค่ซ้อมยิงปืน จะได้เก่งเหมือนพ่อ แต่พลาดไปชนโต๊ะ” อามีนแก้ตัวพร้อมท�ำหน้า

“สงสัยแกคงอยากจะเป็นต�ำรวจเหมือนคุณมากๆ เลยนะคะ ขนาดนอนยังละเมอว่า ก�ำลังยิงปืนอยู่เลย อ่า! กับข้าวพร้อมแล้วไปกินข้าวกันดีกว่า คุณคงจะไล่จับโจรทั้งวันจนเหนื่อย ” ฮาลีมะฮพูดพร้อมเดินน�ำเข้าไปในครัว “วันนี้ฉันเห็นข่าวครูถูกยิงด้วย โจรใต้พวกนี้มันเลวจริงๆเลย จะแบ่งแยกดินแดนแต่ดัน ไปยิงใส่ครูที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ขออัลลอฮให้ลงโทษพวกมันอย่าสาสม” ฮาลีมะฮพูดขึ้นมากลางวงกิน ข้าว

“โตขึ้นผมจะเป็นต�ำรวจจับโจรพวกนี้เข้าคุกให้หมดเลยคับ” อามีนพูดต่อจากแม่

“เอ้าอยากเป็นต�ำรวจก็ต้องกินข้าวเยอะๆสิ จะได้แข็งแรง” ฮากิมรีบตัดบท

“อ่อ แล้วก็มีกล่องพัสดุถึงคุณด้วยเห็นไม่มีชื่อคนส่งเหมือนอย่างทุกทีนั่นแหละ อยากรู้ จริงว่ามีอะไรอยู่ข้างใน มันหนักมากเลย แต่คุณก็บอกว่าห้ามเปิดเด็ดขาด ดีที่ฉันเป็นภรรยาที่ซอลี ฮะฮฺซะด้วย เลยเชื่อฟังค�ำสั่งสามี” เธอพูดพลางยิ้มให้สามี “อย่ายุ่งกับกล่องเหล่านั้นเลยที่รัก คุณไม่เปิดนั่นแหละดีแล้ว เพราะข้างในมันมีเชื้อโรค เหมือนกล่องแพนโดร่าในนิทานนั่นแหละ” ฮากิมพูดทีเล่นทีจริงอย่างอารมณ์ดี พร้อมตักข้าวค�ำ โตเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย


13 | เปิดโลก

งานใหม่เข้ามาอีกแล้วสินะ งานเก่าเพิ่งจะเสร็จไปเอง เจ้านายนี่ขยันป้อนงานจริงๆ แต่ เป็นอย่างนี้ก็ดีเงินเดือนต�ำรวจมันต�่ำเรี่ยดินซะอย่างนี้ ถ้าไม่ท�ำอาชีพเสริมคงจะอดตายกันทั้งบ้าน แต่ก็นั่นแหละเจ้านายก็จ�ำเป็นจะต้องมีสถานการณ์ความไม่สงบ เพื่อที่งบแก้ปัญหาสามจังหวัด ชายแดนภาคใต้จะได้ไม่ขาดตอน เห็นแกบ่นว่าจะโดนรัฐบาลตัดงบ ช่วงนี้มือปืนในคราบต�ำรวจ อย่างเราเลยมีงานเยอะเป็นพิเศษ แถมเจ้านายยังผ่อนบ้านไม่หมดเลยขืนมาตัดงบตอนนี้แกคง ล�ำบากน่าดู เห้อว่าแต่เราเถอะ เดือนนี้ผ่อนรถงวดสุดท้ายแล้ว เดือนหน้าจะเอาเงินไปท�ำอะไรดีน้า พาอามีนไปเที่ยวต่างประเทศสักหน่อยก็คงจะดี แกคงจะชอบ ก้อนความคิดของฮากิมก�ำลังท�ำงาน ...


14 | เปิดโลก

กวีลูกปืน ฉันไม่เคยคิดฆ่าใคร ฉันไม่เคยคิดฆ่าคน ฉันสังหารทั้งคนจน ฉันสังหารทั้งคนรวย เป็นเพราะฉันมันดวงซวย เป็นเพราะฉันคือโลหะ เป็นเพราะฉันจุดฉนวนความร้อนได้ เป็นเพราะฉันที่เกิดมาบนโลกนี้เพื่อ.. “ตอบสนองความหิวกระหายของมาร” ฉันเสียใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันโดนสัตว์เดรัจฉานควบคุม ยามเมื่อฉันได้ลั่นก้อนโลหะออกไป “นั่นแหละคือความสะใจของเจ้าของฉัน”

*ปล.แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์สามจังหวัดบ้านข้าพเจ้า ณ ยามเช้า เดือนรอมฎอนที่ 4สิงหา*


15 | เปิดโลก

ซีเรี ย จากแดนบะรอกะฮฺ(ความจ�ำเริญ)สู่แผ่ นดินมิคสัญญี (1)

4

ซีเรีย (เมืองชามในอดีตที่ครอบคลุมซีเรีย จอร์แดน ฟิลัสฏีนในปัจจุบัน) เมืองโบราณที่มี อดีตอันยาวนานถึง 8,000 ปีก่อนค.ศ. นักโบราณคดีประเมินกันว่าทั่วประเทศซีเรียมีโบราณสถาน ที่มีคุณค่าในยุคต่างๆ มากกว่า 4,500 แห่ง ในยุคจักรวรรดิไบแซนไทน์ซีเรียเคยอยู่ใต้ปกครองของ โรมนานถึง 700 ปี ในขณะที่กรีกเคยปกครองซีเรีย นาน 369 ปี ตลอดระยะเวลาที่อยู่ภายใต้ อ�ำนาจของกรีกโรมัน ประชาชนซีเรียไม่ต่างอะไรจากฝูงแกะ ที่นอกจากถูกถอนขนจนเกลี้ยงแล้ว ยังถูกรีดน�้ำนมจนเหลือแต่กระดูก หน�ำซ�้ำในบางครั้งกลับถูกฆ่าทิ้งอย่างไม่ใยดี ซีเรียเป็นถิ่นเกิดของบรรดานบี เป็นสุสานของบรรดาเศาะฮาบะฮฺและชาวศอลิฮีน เป็น ดินแดนที่อัลลอฮฺประทานความบะเราะกะฮฺ ก่อนวันกิยามะฮฺ มนุษย์จะถูกรวมพล ณ ดินแดนแห่ง นี้ และนบีอีซาจะลงจากฟากฟ้าเพื่อฆ่าดัจญาล ณ แผ่นดินนามซีเรียเช่นกัน เราสามารถสัมผัส ความประเสริฐของซีเรียได้ในทุกครั้งที่อ่านอัลกุรอานและอัลหะดีษที่พูดถึงดินแดนแห่งนี้ กองทัพของอุซามะฮฺ บินซัยด์ในยุคเคาะลีฟะฮฺอบูบักรฺ ในบุกเบิกก�ำชัยชนะเหนือโรมัน หลังจากนั้นจอมทัพคอลิด บิน วาลิดพร้อมทหารจ�ำนวน 40,000 คนยกทัพขับไล่ทหารโรมันออก จากแผ่นดินซีเรีย และกองทัพอิสลามสามารถมีชัยเหนือซีเรียทั้งหมดในยุคเคาะลีฟะฮฺอุมัร บิน ค็อฏฏอบ ภายใต้การน�ำทัพของอบูอุบัยดะฮฺที่สามารถขับไล่จอมทัพโรมัน ชื่อ เฮราคลีอุส ออก จากแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์แห่งซีเรียในปี 15 ฮ.ศ. พร้อมกับได้ทิ้งวลีอมตะที่ท่านอบูอุบัยดะฮฺ กล่าวว่า “สั น ติ ภ าพจงมี แ ด่ ซี เ รี ย สั น ติ ภ าพที่ มิ อ าจพบเจอได้ อี ก แล้ ว หลั ง จากนี้ ” จากนั้นซีเรียได้รับการบูรณะพัฒนาด้วยน�้ำมือของมหาบัณฑิต – หลังจากเตาฟิกจากอัลลอฮฺ - ที่ ส�ำเร็จการศึกษาจากสถาบันแห่งนบีผู้ปรานี พวกเขาเป็นทั้งผู้น�ำที่มีความยุติธรรม หัวหน้ากองคลัง ผู้ซื่อสัตย์ ผู้พิพากษาที่เที่ยงตรง แม่ทัพผู้มีความย�ำเกรง ผู้ปกครองที่ถ่อมตน และพลทหารที่ นอบน้อมภักดี ซีเรียจึงเปิดศักราชแห่งความสันติสุขและการพัฒนา และยังเป็นแหล่งอารยธรรมที่


16 | เปิดโลก

ยังคงเป็นประวัติศาสตร์แห่งความภูมิใจจวบจนทุกวันนี้ ซีเรี ย จากแดนบะรอกะฮฺส่ ูแผ่ นดินมิคสัญญี (2) ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ชาวซีเรียได้ประสบกับมรสุมชีวิตมากมาย แต่ไม่มียุคไหน ที่มีความโหดเหี้ยมและสร้างความสะพรึงกลัวเหมือนในยุคผู้น�ำลัทธิชีอะฮฺนุศ็อยรีย์ อะละวีย์อีก แล้ว เพราะมันเป็นการโหมโรงไฟแค้นของลัทธิมาญูซีย์ ความอาฆาตของคริสเตียนยุคโรมัน และ ความเจ้าเล่ห์ของยิวมาผสมผสานในตัวคนเดียวกัน ฝันร้ายของชาวซีเรียเริ่มตั้งแต่ สงคราม 6 วันระหว่างรัฐยิวกับชาวอาหรับในปี 1967 สงครามนี้ถือเป็นละครสงครามที่แสดงโดยรัฐอันธพาลยิวกับประเทศอาหรับที่มีทั้งอียิปต์ ซีเรีย และจอร์แดนรวมตัวกัน ซึ่งภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 วัน รัฐอันธพาลยิวที่เพิ่งเกิดใหม่ไม่ถึง 20 ปีและมีประชากรไม่ถึง 3 ล้านคนในสมัยนั้น สามารถมีชัยเหนือประเทศอาหรับทั้งสาม ที่มี ประชากรรวมกันกว่า 100 ล้านคน (ยังไม่นับรวมประเทศเพื่อนบ้านอีกมากมาย) กล่าวได้ว่า ยิวใช้ เวลาเพียงแค่นกกระจอกไม่ทันกินน�้ำ แต่สามารถยึดดินแดนมากมายทั้งฉนวนกาซ่า(ติดพรมแดน อียิปต์) เวสต์แบงค์ของจอร์แดน และที่ราบสูงโกลานของซีเรีย ท�ำให้ดินแดนของอิสราเอลขยายตัว ออกไปถึง 4 เท่า นี่คือการแสดงปาหี่ที่น่าทึ่งระดับโลกที่สะท้อนความอ่อนแอของประชาชาติ มุสลิมโดยเฉพาะอาหรับและน่าอับอายที่สุดในประวัติศาสตร์โลกอิสลาม นับแต่นั้นมา ทั้งซีเรียและจอร์แดนก็ไม่เคยทวงคืนดินแดนที่เสียไป อาวุธยุทโธปกรณ์ หรือแม้แต่กระสุนนัดเดียวของทั้งสองประเทศนี้ ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้แก่รัฐยิวแม้แต่น้อย และกองทหารประเทศมุสลิมเหล่านี้ไม่เคยสร้างสิ่งระคายเคืองให้กับจอมอันธพาลโลกนี้เลย ใน ขณะที่รัฐบาลอียิปต์ก็แสดงตนเป็นสหายผู้ภักดีกับศัตรูในการทรยศเพื่อนบ้านและพี่น้องร่วม อิสลามอย่างเสมอต้นเสมอปลายมาโดยตลอด แต่ฝ่ายที่ได้รับอันตรายสุดๆ จากกองทหารของประเทศมุสลิมเหล่านี้คือประชาชนของ ตนเอง โดยเฉพาะชาวซีเรีย หลังจากที่ฮาฟิส อะสัด ก่อรัฐประหารในปี 1970 เพื่อเป็นการให้ รางวัลจากผลงานอันอัปยศที่เขาได้มอบที่ราบสูงโกลานสมัยที่ด�ำรงต�ำแหน่งเป็นรมว.กลาโหมในปี 1967 (ช่วงสงคราม 6 วัน) เขาจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นนายก รมต.ในปี 1971 เขาจึงเป็นผู้น�ำซีเรีย ที่มาจากชนกลุ่มน้อยชีอะฮฺนุศ็อยรีย์อะละวีย์ซึ่งมีเพียง 6 % ของประชากรในประเทศ


17 | เปิดโลก

ตั้งแต่นั้นมา ผู้น�ำจอมกระหายเลือดผู้นี้ได้ประกาศท�ำสงครามล้างเผ่าพันธุ์กับประชาชน ของตนเองโดยเฉพาะสมาชิกในองค์กรอิควานุลมุสลิมูน สมาชิกกลุ่มนี้ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้คุกคาม ต่อความมั่นคงของประเทศที่อันตรายที่สุด ผู้ใดก็ตามที่เป็นสมาชิกองค์กรนี้ จะได้รับโทษประหาร ชีวิตสถานเดียว เล่ากันว่ามีชายไว้เคราคนหนึ่งถูกจับเข้าคุกนานถึง 12 ปี เพียงเพราะเข้าใจผิดว่า เป็นสมาชิกอิควานุลมุสลิมูน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเขาเป็นคริสเตียน ช่วงที่อยู่ในอ�ำนาจ นายฮา ฟิส อะสัด ได้ฝากผลงานอัปยศอย่างน้อย 4 ประการคือ

1.มอบที่ราบสูงโกลานให้เป็นของยิวตามที่ได้กล่าวข้างต้น

2. ในวันที่ 2 กพ. 1982 อะสัดได้กวาดล้างประชาชนที่จังหวัด Hamah โดยมีนายริฟอัต อะสัด (น้องชายฮาฟิส อะสัด) เป็นหัวหน้าปฏิบัติการ ซึ่งมีประชากรในขณะนั้นประมาณ 700,000 คน ถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เหี้ยมโหดที่้สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ กองทัพซีเรียโอบล้อม เมืองนี้และถล่มด้วยอาวุธหนัก พร้อมรถถังและเครื่องบินรบนานถึง 27 วัน มีการตรวจค้นทุกบ้าน เรือน ทุกซอกทุกมุม ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างสยด สยองประมาณ 30,000-40,000 คน มัสยิด ถูกท�ำลายย่อยยับ 88 แห่ง ย่านการค้าจ�ำนวน 21 แห่งราบเป็นหน้ากลอง กุโบร์(สุสาน)จ�ำนวน 7 แห่งถูกท�ำลาย 27ตระกูลถูกจองล้างจองผลาญชนิดไม่เหลือแม้กระทั่งลูกเล็กเด็กแดง ผู้สูญหายไร้ ร่องรอย 90,000 คน ถูกจับเข้าคุก 40,000 ราย และอพยพละทิ้งบ้านเรือนเป็นแสนๆคน โบราณ สถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์เสียหายอย่างหนัก บางแห่งถูกบดขยี้ไม่เหลือซาก หลังจาก ท�ำลายเมืองนี้อย่างหน�ำใจแล้ว พวกมันได้เขียนโปสเตอร์ขนาดใหญ่ติดทั่วเมืองว่า ‫يسقط هللا وحيىي‬ ‫ األسد‬หมายถึง อัลลอฮฺล่มสลาย อะสัดจงเจริญ 3. สถาปนาซีเรียเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ไม่มีฝ่ายค้านมีการแสดงปาหี่ให้ประชาชนเลือก ตั้งเป็นครั้งคราว แต่เขาได้รับชัยชนะท่วมท้นทุกครั้ง บางครั้งชนะด้วยคะแนน 99.99% ด้วยซ�้ำ เพื่อประกาศศักดาความเป็นพระเจ้าเหนือดินแดนซีเรีย มีการกราบไหว้รูปปั้นและรูปภาพของเขา สถาปนารัฐแห่งความหวาดกลัว ความตายสามารถเข้าไปเยือนทุกคนและทุกเมื่อแม้กระทั่งอยู่ใน ห้องนอนภายในบ้านของตนเอง ทุกคนไม่มีสิทธิตั้งค�ำถามต่อการกระท�ำของพวกเขา การทรมาน ประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ถึงขนาดมีหนุ่มคนหนึ่งถูกฆ่าต่อหน้าลูกเมียและพ่อแม่ แต่หลังจาก ฆ่าเสร็จพวกทหารได้บังคับให้สมาชิกครอบครัวร้องร�ำท�ำเพลงหน้าศพเสมือนพวกเขาก�ำลังได้รับ ข่าวดีในชีวิต ซุบฮานัลลอฮฺ เสียงกรีดร้องโหยหวนดังทั่วซีเรีย เลือดผู้บริสุทธิ์ถูกสังเวยไม่รู้เท่าไหร่ ความเดือดร้อนเกินบรรยาย ความยากจนคดแค้นในชีวิต ในขณะที่การเข่นฆ่า ปล้นสะดมถือเป็น เหตุการณ์รายวัน ปัญหาคอร์รัปชั่นฉ้อราษฎร์บังหลวงถือเป็นเรื่องปกติ 4. อะสัดได้ประกาศรัฐธรรมนูญที่ไม่ต่างไปจากใบอนุญาตฆ่าประชาชนอย่างถูกต้องตาม กฎหมาย มีอยู่ข้อหนึ่งที่ระบุว่า ไม่สามารถฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ถึงแม้จะเกี่ยวข้องกับคดีฆาตรกรรมก็ตาม ทั้งนี้เพราะผู้ที่สั่งฆ่าประชาชนโดยตรงก็คือมันนั่นเอง


18 | เปิดโลก

โศกนาฏกรรมแห่งมนุษยชาติที่อะสัดผู้พ่อที่ได้ฝากผลงานไว้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว บัดนี้อะสัดผู้ลูก(บัช ชาร์ อะสัด) ก�ำลังเจริญรอยตามทุกย่างก้าว ท่ามกลางความบอดใบ้ในสามัญส�ำนึกของประชาคม โลก แม้กระทั่งประชาชาติมุสลิม ใช่ เราเป็นเพียงมนุษย์ฝาผนังที่ไร้ความรู้สึก ถึงแม้อวัยวะบน ร่างกายของเราถูกเฉือนทีละชิ้นทีละอันก็ตาม(อัลลอฮุลมุสตะอาน) ซีเรี ย จากแดนบะรอกะฮฺส่ ูแผ่ นดินมิคสัญญี (3) ซีเรียหรือสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย (Syrian Arab Republic) เป็นประเทศในเอเชียตะวัน ตกเฉียงใต้ มีพรมแดนติดกับประเทศจอร์แดนทางตอนใต้ อิรักทางตะวันออก ตุรกีทางตอนเหนือ เลบานอนทางตะวันตกและรัฐอันธพาลยิวทางตะวันตกเฉียงใต้ที่ราบสูงโกลาน (Golan Heights) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีเรียที่ถูกอิสราเอลปล้นสมัยสงคราม 6 วันเมื่อปีค.ศ.1967 ซีเรียเคยอยู่ภายใต้ปกครองของฝรั่งเศส และได้รับเอกราชเมื่อ ค.ศ.1946 ต่อมาในปีค.ศ. 1970 พันเอกฮาฟิส อัลอะสัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น ได้ก่อรัฐประหารยึด อ�ำนาจปกครองประเทศ และในปี 1971 ได้ด�ำรงต�ำแหน่งประธานาธิบดีจนกระทั่งเสียชีวิตปี 2000 ต่อมา บุตรชายของเขาดร.บัชชาร์ อะสัด ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้น�ำคนใหม่จนกระทั่งปัจจุบัน ซีเรียมีประชากรทั้งสิ้น 23,695,000 คน ประมาณ 84% เป็นมุสลิมสายสุนหนี่ 6% นับ ถือชีอะฮฺนุศ็อยรีย์อะละวีย์ ซึ่งเป็นลัทธิของตระกูลอะสัดและชนชั้นปกครอง ส่วนอีก10% เป็น คริสเตียน ลัทธิชีอะฮฺนุศ็อยรีย์อะละวีย์ เกลียดชังมุสลิมสุนหนี่อย่างเข้ากระดูกด�ำ รัฐบาลซีเรียโดย การสนับสนุนจากรัฐบาลอิหร่านและพรรคฮิสบุลลอฮฺจากเลบานอน ได้กวาดล้างปราบปราม ประชาชนชาวซีเรียอย่างหนักหน่วงและโหดเหี้ยม โดยเฉพาะกรณีทุ่งสังหารฮามาส เมื่อปี 1982 หลังจากนั้น มุสลิมสุนหนี่ชาวซีเรียซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศถูกโดดเดี่ยวใน ประเทศของตนเองและหันหลังกับการเมืองภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดจากรัฐบาลชีอะฮฺ นุศ็อยรีย์อะละวีย์ 40 ปีกว่าที่ประชาชนชาวซีเรียไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐาน ของตนเอง ตลอดระยะเวลาดังกล่าวประชาชนแทบไม่ได้มีส่วนร่วมพัฒนาประเทศเลย สิ่งที่พวก เขาได้รับคือการกดขี่ด้านศาสนาอันเลวร้าย เผด็จการทางการเมืองอย่างไร้ความปรานี และทุกข์ ทรมานในวังวนแห่งความเลวร้ายที่เหี้ยมโหดที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ กล่าวได้ว่าไฟแค้น ลัทธิบูชาไฟยุคเปอร์เซียในอดีต ความอาฆาตของชาวคริสเตียนยุคสงครามครูเสด และความ ปลิ้นปล้อนตลบตะแลงที่แฝงด้วยความโหดร้ายของยิวได้หลอมรวมกันเป็นเนื้อเดียวกันในยุคตระ กูลอัลอะสัดปกครองซีเรีย


19 | เปิดโลก

การประท้วงของชาวซีเรียเริ่มปะทุขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2011 เมื่อเด็กนักเรียนประมาณ 28 คนในโรงเรียนแห่งหนึ่งได้เขียนข้อความประท้วงรัฐบาลว่า “ประชาชนต้องการโค่นล้มรัฐบาล” ซึ่งเป็นข้อความที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ในประเทศอาหรับที่มีการปฏิวัติดอกมะลิก่อนหน้านี้ ผล ปรากฏว่าเด็กนักเรียนกลุ่มนั้นถูกจับและทรมานด้วยการถอดเล็บมือเล็บเท้า หลังจากนั้นบรรดาผู้ ปกครองไปติดต่อขอรับลูกคืน แต่พวกเขาได้รับค�ำตอบว่า “กลับบ้านเถอะ และขอให้ลืมว่าเคยมี ลูกชายมาก่อน ถ้าลืมไม่ลงก็ขอให้มีลูกใหม่เสีย หากท่านแก่เกินที่จะมีลูก ก็ขอให้ส่งภรรยาและ ลูกสาวของท่านมาให้เรา และเรายินดีเป็นพ่อให้ ” ช่างเป็นค�ำพูดที่ดูถูกและเฉือนหัวใจของผู้เป็น พ่อเหลือเกิน หลังจากนั้น ประชาชนเริ่มแสดงปฏิกิริยาไม่พอใจ เริ่มต้นที่เมืองฮามาส ดาร์อา ฮูรอน ฮาลับ และขยายวงอย่างรวดเร็วไปยัง 157 แห่งทั่วซีเรีย ฝันร้ายชาวซีเรียได้หวนกลับมาอีกครั้ง อัลอะสัดผู้พ่อได้เคยทิ้งผลงานอัปยศเช่นใด บัดนี้อัลอะสัดผู้ลูกได้พยายามปฏิบัติตามทุกกระเบียด นิ้ว

ผลงานอัปยศของอัลอะสัดผู้ลูก (ข้อมูล ณ วันที่ 2 มี.ค. 2012)

1. ฆ่าผู้บริสุทธิ์ไปแล้วเกือบ 10,000 คน และจับประชาชนเข้าคุกมากกว่า 200,000 คน 2. มากกว่า 30,000 คน บาดเจ็บสาหัสโดยไม่ได้รับการเหลียวแล และสูญหายกว่า 65,000 3. นายแพทย์จ�ำนวน 19 คนและคนเจ็บจ�ำนวน 40 คนถูกฆ่าตายอย่างสยดสยองที่โรง พยาบาลเมือง Doma 4. มากกว่า 1,000 คน เสียชีวิตในคุก และลี้ภัยยังประเทศเพื่อนบ้านไปแล้วกว่า 20,000 คน

5. ผู้หญิงถูกข่มขืนต่อหน้าต่อตาสามีและลูก

6. มีมุสลิมะฮฺคนหนึ่งในเมือง Hims ได้ขัดขืนและต่อสู้เพื่อปกป้องตนเองจากการกระท�ำ ช�ำเรา นางถูกฆ่าหั่นศพเป็น 4 ท่อน ยัดเข้าไปในถุงพลาสติกแล้วโยนทิ้งหน้าบ้านครอบครัวของ นาง

7. การกล่าวตักบีร (อัลลอฮุอักบัร) ถือเป็นความผิดมหันต์

8. มีการบังคับให้กราบไหว้รูปภาพของบัชชาร์ พร้อมขู่เข็ญให้กล่าว ‫ال إله إال البشار‬ (ไม่มีพระเจ้านอกจากบัชชาร์) ผู้ใดขัดขืนก็จะถูกทรมานอย่างไร้ปรานี 9. ต�ำแหน่งต่างๆ ทางการเมือง สังคมและเศรษฐกิจ จ�ำนวน 84% ถูกครอบง�ำโดยชาว ลัทธิชีอะฮฺนุศ็อยรีย์อะละวีย์ อีก 6% เป็นของชาวต่างชาติ และ 10% เป็นของชนต่างศาสนิก ส่วน


20 | เปิดโลก

มุสลิมสายสุนหนี่แทบไม่มีบทบาทใดๆเลย พวกเขาจะเข่นฆ่ามุสลิมสุนหนี่ยิ่งกว่าศัตรูคู่อาฆาต แต่ ไม่เคยแตะต้องหรือสร้างความระคายเคืองแก่ยิวแม้แต่คนเดียว แม้กระสุนนัดเดียวก็ไม่เคยตกใน ดินแดนยิว ก่อนออกจากบ้านไปปะท้วงทุกครั้ง ผู้ประท้วงชาวซีเรียจะอาบน�้ำละหมาดและละหมาด อ�ำลา 2 รอกาอัตเสมอเพราะพวกเขามั่นใจว่า นี่คือวาระสุดท้ายของชีวิต และพวกเขาจะไม่มี โอกาสกลับบ้านอีกแล้ว -ปฏิกริ ิยาประชาคมโลก จี น และรั ส เซี ย ใช้ สิ ท ธิ คั ด ค้ า นหรื อ วี โ ต้ ร ่ า งมติ ข องคณะมนตรี ค วามมั่ น คงแห่ ง สหประชาชาติ (UN) ซึ่งสนับสนุนแผนของสันนิบาตอาหรับที่เรียกร้องให้บัชชาร์ อัลอะสัดของ ซีเรียสละอ�ำนาจ โดยมี 13 ชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงฯ ออกเสียงสนับสนุนเพื่อหวังหยุด ยั้งการปราบปรามผู้ประท้วงด้วยความรุนแรงในซีเรีย ในขณะที่ผู้รู้ชีอะฮฺอิหร่านได้รณรงค์ผ่านคุ ตบะฮฺวันศุกร์ให้ชาวอิหร่านลุกขึ้นปกป้องรัฐบาลของบัชชาร์ อะสัด นี่คือใบอนุญาตสั่งฆ่าประชาชนซีเรียที่ลงนามโดยประเทศมหาอ�ำนาจที่ผสมโรงกับประ เทศชีอะฮฺ โดยมีประชาคมโลกเป็นผู้ชมที่สงบนิ่งมาโดยตลอด หากมีการเข่นฆ่าสุนัขเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ซีเรียในปัจจุบันแล้ว เหล่าองค์กรสิทธิ สุนัขชนทั้งหลายจะต้องเรียกร้องให้ยุติการกระท�ำอันป่าเถื่อนนี้อย่างเร็วที่สุด หรืออาจสร้างแรง กดดันไม่ให้แผนการฆ่าสุนัขได้รับการปฏิบัติด้วยซ�้ำ แต่ในกรณีนี้ เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคือมุสลิม ทั่ว โลกจึงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เว้นแต่แสดงละครตีบทเศร้าตามเวทีโลกรายวันเท่านั้น ฟั ตวาอุละมาอฺมุสลิม(ข้ อวินิจฉัยของผู้ร้ ู ศาสนา) 1) สมาพันธ์อุละมาอฺซีเรียและสมาพันธ์อุละมาอฺโลกได้ออกฟัตวาเรียกร้องให้ชาวซีเรีย ลุกขึ้นปกป้องตนเองจากสงครามล้างเผ่าพันธุ์ในครั้งนี้ ถึงแม้ด้วยมีดในครัวก็ตาม 2) เชคเกาะเราะฎอวีย์ได้อ่านคุตบะฮฺประณามการกระท�ำของรัฐบาลบัชชาร์ และดุอา ให้อัลลอฮฺท�ำลายอ�ำนาจของเขา เชคได้สร้างความมั่นใจว่าสัจธรรมจะต้องได้รับชัยชนะ พร้อมให้ ค�ำมั่นสัญญาว่าท่านจะต้องไปละหมาดที่มัสยิดอุมะวีย์ ณ กรุงดามัสกัสในเร็วๆ นี้ 3) ส�ำนักพระราชวังแห่งซาอุดีอาระเบียได้ออกประกาศให้อิมามมัสยิดทั่วราชอาณาจักร อ่านดุอาอฺกุนูตในละหมาดเป็นเวลานาน 1 เดือน


21 | เปิดโลก

4) เชคมุหัมมัด หัสสาน เชคมุหัมมัด อัลอะรีฟีย์ เชคซัลมาน อัลเอาดะฮฺ เชคอาอิด อัลก็อรนีย์ และ อุละมาอฺท่านอื่นๆ ทั่วโลก (ยกเว้นอุละมาอฺสายรัฐบาลบัชชาร์และอุละมาอฺสายชีอะฮฺ) ได้ประณาม การกระท�ำอันป่าเถื่อนนี้ และดุอาอฺต่ออัลลอฮฺได้โปรดให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องชาวซีเรีย แนวโน้ มและจุดยืน 1) สถานการณ์ในซีเรียยากที่จะคาดเดา เพราะนอกจากเป็นแหล่งความขัดแย้งประเด็น ศาสนาสุนหนี่-ชีอะฮฺแล้ว ซีเรียคือรัฐกันชนที่ส�ำคัญที่สร้างความปลอดภัยให้แก่รัฐยิวจากภัย คุกคามของมุสลิม 2) มีรายงานเพิ่มว่า นายทหารจ�ำนวนกว่า 30,000 นายได้เข้าสมทบกับกองก�ำลัง ประชาชน เพราะทนดูพฤติกรรมอันโหดร้ายของรัฐบาลไม่ได้ 3) อย่าหลงกลละครน�้ำเน่าที่แสดงโดยชีอะฮฺและยิว ที่ตบตาผู้ชมทั่วโลกว่าทั้งคู่คือศัตรูคู่ อาฆาต ทั้งที่ความจริงในประวัติศาสตร์ ลัทธิชีอะฮฺ – ไม่ว่าในระดับประเทศหรือองค์กร- ไม่เคย สร้างความเดือดร้อนแก่ยิวแม้ด้วยกระสุนนัดเดียว อาจมีบทก้าวร้าวที่ดูเหมือนจะห�้ำหั่นใส่กัน อย่างเอาเป็นเอาตายในบางครั้งบางคราว แต่ก็เป็นเพียงละครตบตาที่ไม่มีทางเกิดขึ้นในสนามแห่ง ความเป็นจริง 4) ในอดีต มุสลิมอาจถูกปิดหูปิดตาจากการรับรู้ข่าวสารไปบ้าง แต่ปัจจุบัน ขอเพียงแต่มี ใจและให้ความส�ำคัญกับพี่น้องมุสลิมทั่วโลก ก็สามารถติดตามข่าวคราวผ่านสื่อต่างๆ ได้อย่างใกล้ ชิดและฉับไว เพราะผู้ใดที่ไม่สนใจกิจการของมุสลิม เขาไม่ใช่มุสลิมที่แท้จริง 5) การดุอาอฺคือเกณฑ์ขั้นต�่ำที่สุดที่เป็นตัวชี้วัดว่าเรามีความห่วงใยพี่น้องของเรามาก น้อยแค่ไหน ดังนั้นอย่าอ้างว่าไม่มีเวลาแม้แค่ติดตามข่าวสาร ไม่สนใจแม้กระทั่งที่จะดุอาอฺ 6) เราต้องเชื่อมั่นว่า สัจธรรมเหนือกว่าความเท็จ ผู้อธรรมย่อมพินาศพนาสูร ความมืด มิดปกคลุมหนาทึบมากเพียงใด ย่อมแสดงว่าแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จะเยือนมาในไม่ช้า อัลลอฮฺ ผู้ทรงรอบรู้และทรงตัดสินอย่างยุติธรรมที่สุด และฉากสุดท้ายจะต้องเป็นชัยชนะของศรัทธาชน อย่างแน่นอน วัลลอฮุอะลัม

อ.มัสลัน มาหามะ : เขียน สีชมพู : เรียบเรียง


22 | เปิดโลก

5

มอเตอร์ไซค์คันเก่าเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ฝ่าละอองหมอกยามเช้า เจ้าตัว เจ้าของรถหน้าตามึนๆชาคล้ายๆครึ่งหลับครึ่งตื่นในตะกร้าหน้ารถมีแกงถุง 2-3 ถุง ควันร้อนคละ คลุ้งหอมปนกับสายหมอก แต่รถมอเตอร์ไซค์มันขี่แกว่งไปแกว่งมา เหมือนคนเมา คงเป็นพิษจากการดูฟุตบอลคู่หยุดโลกของพรีเมียร์ลีกอังกฤษดึกไปหน่อย อาจจะไม่ หน่อยเพราะดูบอลจบก็ละหมาดซุบฮีเลยทันที คลับคล้ายคลับคลาว่าละหมาดไปยืนหลับไป หลับๆตื่นๆจนจบละหมาด ตั้งใจไว้ว่าละหมาดเสร็จจะนอนต่อ แต่หนังสงครามที่โหลดไว้เมื่อคืน โหลดได้จบพอดี จึงตะเบ็งตาดูต่อจนจบเรื่อง ดูหนังจบ อารมณ์ยังค้าง นึกในใจ “มันสุดยอด โหด ฉิบหายเลย ”นอนดีกว่า เหนื่อยแล้วเว้ยเฮ้ย “ไอ้มะแอมึงไม่ต้องนอนเลย วันนี้เวรมึงหุงข้าวและไป ซื้อกับข้าวเช้าที่โรงช้าง” อามีร ยิ้มพลางชี้ไปที่รถมอเตอร์ไซค์ “อามีรจร้า ไปซื้อกับข้าวก็ได้นะ เดี่ยวแอจะหุงข้าวไว้ให้” “ไอ้หัวหมอ ไอ้กาก กูไปซื้อมา 3 วันติดต่อกัน มึงกินแล้วนอน พุดมาก เดี่ยวกูถีบเลย มึงตลกแล้ว”“เออๆกูไปก็ได้”“อะโด้วช่วยนิดช่วยหน่อยก็ไม่ได้มีไหมๆความเป็นพี่ น้อง มีป้าววว”“ยังพูดทะลึ่งได้อีก เดี่ยวกูถีบเลย” เป็นแบบนี้ทุกๆวัน มะแอและอามีร เพื่อนรักที่ ทะลึ่งล้อเล่นกันจนเป็นนิสัย เขาอยู่หอนอกมาได้ 2ปีแล้ว เพราะจองหอในไม่ทัน “โอโห้… ปี 3 แล้ว เร็วฉิบเป้ง เฮ้ย กูเรียนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย แบบนี้แอเซ็งเลยอ่ะ”“เซ็ง กากอะไรของมึงไอ้แอ แม่งดูบอล นอนก็ดึก หนังสือไม่เคยอ่าน กูไม่ใช่พ่อมึงนะเว้ย ให้กูสอนมึงอยู่ ได้ไอ้แอ” ”ครับๆๆๆท่านพ่อ ท่านอามีรที่เคารพเอ้ย! มีบ้างอะไรบ้างนิดๆ ดูสอบครั้งก่อน กูไม่อ่าน เลย มาอ่านคืนเดียวก่อนสอบ ไงหละ รองท็อปภาควิชาเลย มึง555 มึงผ่านมีนเส้นยาแดงมา 2 คะแนน แม่งอ่านเกือบตาย 5555” “ท�ำเป็นอวด สนุกสนานเฮฮา

อะโด้ว ไอ้อัจฉริยะ ไอ้มะแอ” ทั้งสองไล่เตะกันไปมาในบ้าน อย่าง


23 | เปิดโลก

เดือนนี้มันก็เดือนเมษายน เป็นเดือนที่ร้อนหูดับตับไหม้ ด้วยใครๆหลายคนต่างบ่นเป็น เสียงเดียวกันจนทนไม่ไหว ว่าอะไรมันร้อนแทบบรรลัยแบบนี้ ว่าไปบ่นไป หลายวันเข้า ฝนก็ตกมา โปรยปรายให้ชื่นตาชื่นใจกัน ในมุมมองของกลุ่มความเชื่อหนึ่งก็ขอบคุณฟ้า ขอบคุณเทวดา แต่อีก มุมหนึ่งก็มองไปว่า ท่านเทวดาหรือใครคนนั้นบนฟ้า คงร�ำคาญที่มวลมนุษย์แหกปากบ่นอยู่ได้ ก็ เลยรดน�้ำต้นไม้ ให้โลกชุ่มฉ�่ำสบายใจ คงทุเลาลงได้ ระบายความร้อน ข�ำๆ ก็เป็นมุมมองแบบเฮฮา แล้วแต่ใครจะใคร่เชื่อ หลังจากเดือนเมษายน ก็เข้าสู่เดือนพฤษภาคม สังเกตได้ว่ามวลดอกไม้ทั่ว ม.อ.หาดใหญ่ ต่างเบ่งบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมหวนขจรขจายไปทั่วอาณาบริเวณ เป็นการสร้างร้อยยิ้ม ความ สดชื่น ความปิติยินดี ที่จะมารองรับ ใครสักคน คนนั้น ที่จะมาอยู่ มาอาศัย มาพัก มาท�ำอะไรก็ แล้วแต่ สังเกตได้ ใช่มันคือเดือนนี้ เดือนพฤษภาคม ภาพเก่าๆมันยังตราตรึง ภาพเดิมๆมันยังลอยวน มันประติดประต่อได้ สมองเริ่มสั่งการ เริ่มประมวลผล แสดงภาพออกมา เป็นภาพอดีต ภาพแห่งความสุข ภาพแห่งความผูกพันธ์ ที่เคย เกิดขึ้น ณ ช่วงเวลาหนึ่งที่ผ่านพ้นเลยไป ณ ช่วงเวลาหนึ่งที่มีสถานะเป็นน้องใหม่ แต่วันนี้มัน เปลี่ยนไป นึกถึงอดีตเรื่องราวเก่าๆมันก็ทยอยออกมาทีละเรื่องๆ นึกถึงปัจจุบันก็รับรู้ได้ถึงการ เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนไปของอะไรๆหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ดูผันแปรจากเดิมไปเสียมาก ไม่ว่า กายภาพ หรือด้านอารมณ์ความรู้สึก รวมไปถึงจิตวิญญาณของด�ำรงอยู่ มันก็บิดเบี้ยวเฟี้ยวไปจาก เดิมโขนัก “มะแอ มึงจ�ำได้เปล่าหวะ ตอนมามหาลัยวันแรก โครตกากเลย โดนรถมอเตอร์ไซค์ รับจ้างหน้าโลตัส ต้มซะเปื่อย กูละมึน มารู้ทีหลัง ตอนนั้น มันเอากูกับมึง คนละ100 บาท ได้ไป 200 บาท นึกแล้วข�ำไม่หายเลยหวะ” “เออหวะอามีร จ�ำได้เลย มาวันแรก มีพี่ๆมาต้อนรับที่หอ 1โครตซึ้งเลย เสียอย่างเดียว ผู้คุมหอแหกปากอยู่ได้ ขี้บ่นฉิบหาย555” “แอดีใจมากเลย ได้มาเรียนวิดวะ แม่โครตภูมิใจเลย แม่เราซื้อNotebook ใหม่ให้และ มอเตอร์ไซค์มือสองให้เราด้วย แม่ของแอน่ารักที่สุดเลย แต่ก็ว่าไปหอพักไม่ให้น�ำรถมา กูเห็น เวร กรรมดันทุรังพามาทุกคน ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย มันหลอกเด็กกันชัดๆ โห้… ให้เดินจากหอ 1 ไป คณะวิดวะ โอ้ย ตายเลย ยิ่งรีบๆเรียนเช้า ตายแหง่ๆ” “เพื่อนๆในหอเป็นกันเองมากเลย มีเด็ก มลายูเยอะมาก มันพูดอะไรกันก็ไม่รู้ ยอๆ แยๆอิงๆอังๆ กูไม่รู้ กูยิ้ม จับมือสลามอย่างเดียว เออ


24 | เปิดโลก

หวะ กูข�ำตอนไปประชุมเชียร์ โหดมาก กูไม่กลัวพี่หรอก แต่ตกใจเสียงพี่ว๊าก ตะคอกอยู่ได้ กูเรียน รอดอมาก่อน แค่นี้ ข�ำๆ กูมันไส้มากเลย อยากจะถีบ ไอ้พี่หัวฟูๆคนนั้นที่ลงโทษพวกเรา กูนึกว่า เออ มันน่าจะมีอะไรสร้างสรรค์กว่านี้ แต่ก็ดีไปอีกแบบ ได้เพื่อนเยอะเลย” “อามีรว่าแอนะ ดีเหมือนกันเราเข้าประชุมเชียร์ตอนนั้น อย่างน้อยมีพี่ๆมุสลิมมา จัดการเรื่องอาหาร เรื่องเวลา สถานที่ละหมาดให้ เราประทับใจสุดๆ ได้ข่าวว่าไอ้พวกฟาริด ยามีน ซากีย์ แม่งหนีตั้งแต่ 3 วันแรก ดูมันสิ พูดกับใครไม่รู้เรื่องเลย แอคิดว่าเราจะเห็นด้วยกับการ ประชุมเชียร์นะหรือ เปล่าเลยโครตไม่ชอบ ชอบแต่ด้านดีๆของมันเท่านั้นแหละ” “รุ่นพี่มันจะโหดไปไหนหวะ หรือว่ามันเก็บกด ก็เข้าใจดีแล้ว ตอนนี้เราก็เป็นรุ่นพี่แล้วก็ อยากว๊ากน้องบ้าง สะใจดี ยิ่งแกล้งผู้หญิงแอช้อบชอบ” “เยอะไอ้แอ ความคิดมึงหัวไม่พัฒนาเลย ไม่เคยออกนอกกรอบ เอาแต่อยู่ในกะลา กับความคิดเดิมๆที่มันโหล้ยโท้ย รุ่นพี่มันเก็บกด จากรุ่น สู่รุ่น แม่งไม่บ้ากันหมดหรือหวะ มันส่งต่อกะลาโง่ๆใบใหม่ที่แสนเก่ากันแบบนี้ ก็เลยอยู่แต่ในมุม ทึบๆที่ไม่สร้างสรรค์แบบนี้ ไม่หรอยเลย” “อย่าพูดเลย มีร รับน้อง ประชุมเชียร์ เดียวอีกไม่กี่วัน น้องๆมาแล้ว รอบนี้ว่าจะไปเยี่ยม น้องๆหน่อย ไปละหมาด ไปกินข้าวกับน้อง 555 กินข้าวฟรี” “มึงหวังผลประโยชน์ตลอดไอ้แอ ไอ้…..มึงสุดๆจริงๆ” เข้าสู่กลางเดือนพฤษภาคม “เฮ้ย บ้านเราโจรขึ้นแม่งเอ้ยNotebook ของแอหาย อามีร เรา เว้ย มันหายอ้า เราปิดประตูลงกลอนแล้วเมื่อคืน ไงหวะแบบนี้ได้” “ไม่เป็นไร อัลลอฮก�ำหนด แล้ว แอต้องอดทนนะ ถามหน่อย เมื่อคืนแอนอนตอนไหน” “อืมมมมมมมมม ก็ประมาณตี 4แอว่า อย่างั้นนะ” “กูว่าแล้วมาโม้อีกว่าปิดประตูลงกลอน จ�ำไม่ได้ละสิ รอบหลังไปซื้อชาเขียวที่เซเว่ นกุญแจยังแขวนหราอยู่เลย ล็อกแต่ลูกบิด โจรมันพัฒนาไปถึงไหนแล้ว มะแอเอ่ย มาแอไม่ต้องไป แจ้งต�ำรวจหรอก แจ้งไปก็เท่านั้น นั่นไง ที่หลังมึงจะนอนดึกอีกไหม” “หลาบแล้ว เราไม่นอนดึก แล้ว อืม ทีหลังเราจะไม่พูดมึงกู แม่ง อีกแล้วด้วย บทเรียนคราวนี้ สอนใจเราจริงๆ สงสารแม่ ต้อง ขอตังค์แม่อีกรอบสินะ” มะแอ หน้าเศร้าไปหลายวัน หลังจากนั้นมะแอไม่เคยนอนดึกอีกเลย ตอนเช้าทั้งสองคนไปวิ่งรอบอ่างม.อ.หาดใหญ่


25 | เปิดโลก

แล้วไปกินข้าวเช้าที่โรงช้างทุกๆวัน มะแอตั้งใจเรียนกว่าเดิม เทอมแรกก็ได้เกรดสูงที่สุดในภาควิชา ด้วยความที่เขาหัวดีอยู่แล้ว เมื่อขยันนิดนึงก็ไปได้ดีกว่าคนอื่น ประกอบกับอยู่ด้วยกันกับอามีรนัก กิจกรรมชมรมตัวเก๋าที่คอยพาไปโน้นไปนี่ คอยเตือน คอยดูแลทุกๆอย่าง ท�ำให้ทุกอย่างมันดูดีไป เสียหมด --เทอมที่ 2 ใกล้จบลง ทั้งสองหาสถานที่ฝึกงาน มะแอว่าจะไปฝึกงานที่ชลบุรี อามีร ว่าจะไปล�ำปาง-“ฝึกงานแล้ว เร็วคาดๆ เลย อืมตั้งแต่Notebook เราหายไป เราขยันกว่าเดิมมาก เล่น คอมก็ต้องวิ่งไปศูนย์คอม ไปห้องสมุด มันดีแฮ่ะ ตอนแรกว่าจะขอแม่ ขอตังค์ซื้อเครื่องใหม่ แต่ก็ยัง ไม่ขอ รอบนี้ไปฝึกงานมันจ�ำเป็นแล้ว ฮ้าย…สงสารแม่จัง แม่ต้องขายวัวอีกตัวแล้ว คอยดูจบไปจะ ไปซื้อวัวให้แม่สัก 3 ตัว จะพาแม่ไปเที่ยว จะซื้อเสื้อสวยๆให้แม่ อามีร ขอบใจมากอามีรนะ ที่ช่วย เราทุกอย่าง ท่านพ่อครับ555 ท่านอามีร” “แอสัญญากับเราได้ไหม สักหนึ่งเรื่อง” “เอาเลย หลายเรื่องก็ได้ แอได้อยู่แล้วนะมีรเอ่ย ” “คือ..... แออย่าโกรธเรานะ หากเราท�ำอะไรผิดพลาดไป” “โอ้ย ไม่มีเลย อามีรดีมากๆ จะโกรธ ได้ไงหละ บ้าแล้ว ” “จริงๆนะแอ ” “อืม จริ๊ง……จริงจร้ามีรจ๋า” “คือ.............................อะ.. คือ..................อืม” “ที่จริง เราขโมย Notebook ของแอ ไปเองหละ เราขอโทษนะ เราจ�ำเป็นจริงๆช่วงนั้น เราช็อตเรื่องเงิน เราไม่รู้จะปรึกษาใคร เดี่ยวเราชดใช้ให้นะ แอนะเราขอโทษนะแอจ๋า” :: ทุกอย่างอยู่ในความเงียบงัน.......... เสียงลมพัดหวิวๆใบไม้ร่วงหล่น เจ้าชาย 30/4/56


26 | เปิดโลก

ตอนที่2 เที่ยวบ้านญาติ(โต๊ะแมะ)

6

ช่วงเย็นหลังเลิกเรียน นักเรียนชั้นป.3/2 ก็ต่างช่วยกันท�ำความสะอาด ทุกคนท�ำหน้าที่ ตามตารางเวรที่ตนเองถูกมอบหมายAbdulrahman เพื่อน Muklis ใช้แปรงลบกระดานด�ำเคาะ ฝุ่นชอค์ก 3-4 ครั้งแล้วก็ลบกระดานด�ำไปมาจนเสร็จก็มานั่งบนเก้าอี้ของคุณครูหน้าชั้นเรียน ซึ่ง บนโต๊ะก็เต็มไปด้วยหนังสือ เอกสารการสอน ปากกา กล่องดินสอที่ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อยเด็กชาย Abdulrahman ก�ำลังคิดทบทวนตัวเองว่าวันนี้ได้เรียนอะไรบ้าง พลันหยิบ กระดาษที่ใช้หน้าเดียวกลับมาใช้ใหม่เพื่อเขียนบางสิ่งบางอย่างที่ตนก�ำลังนึกคิดอยู่เด็กชายน้อยห ยิบดินสอแล้วก็ลงเส้นลวดลายบนแผ่นกระดาษด้วยความตั้งใจสักพัก เพื่อนๆทุกคนแยกย้ายกัน กลับบ้าน muklis เดินมาจากหลังห้องเพื่อมาชวนเพื่อนรักกลับบ้านด้วยกัน muklis พูด “ไปกัน เถอะ abdulrahman” สายตาเหลือบไปเห็นรูปที่เพื่อนรักวาดขึ้นมา muklis ถึงกับอึ่งแล้วหัน หน้ามามองหน้า abdulrahman แล้วพูดว่า “นี่นายเป็นคนวาดภาพนี้เองหรอเนี้ยะ” abdulrahman “อืมใช่เลย…สวยไหมเพื่อน ฝีมือการวาดภาพของฉันพอที่จะส่งเข้าประกวดได้ไหมอ่า” abdulrahman พูดเพื่อขอความคิดเห็นจากเพื่อนรัก “สุดยอดไปเลยเพื่อน”muklis ตอบแล้วส่งยิ้มให้ เพื่อนรัก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ abdulrahman ได้วาดภาพสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนๆที่ได้ดู ภาพความสวยงามของธรรมชาติระหว่างสองข้างทางที่เต็มไปด้วยท้องทุ่งนาเหลืองอร่าม เห็นยอด ต้นตาลสูงมาแต่ไกล ทางเดินระหว่างสองคันนา มีเด็กๆก�ำลังเล่นกันอย่าสนุกสนาน มีฝูงนก กระเรียน นกกระเต็นบินกันตามทุ่งนา และฝูงนกพิราบบินอยู่บนฟ้า เพื่อกลับไปยังรัง ท้องฟ้ายามเย็นสดใส เสียงลมพัดเบาๆจากทางเหนือ เสียงนกกระจาบร้องประสานเสียง ความกลมกลืนที่สมดุลของธรรมชาติกับสิ่งมีชีวิต “ภาพวาดนี้เป็นภาพวาดที่สุนทรียภาพเพราะมัน สามารถพรรณนาให้คนๆหนึ่งเห็นภาพ ได้สัมผัสกับบรรยกาศเสมือนจริงและอินกับจินตนาการ ของภาพ abdulrahman พูดเสริมด้วยความภาคภูมิใจในฝีมือการวาดภาพที่พัฒนามากขึ้นกว่า เดิม abdulrahman เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ขี้เล่น ตลก และสุขุมมีเพื่อนสนิทหลายคนแต่ muklis เป็นเพื่อนรัก abdulrahman เขามาจากครอบครัวที่อบอุ่นมากไม่แพ้ครอบครัวของเขาเลยด้วย การอบรมเลี้ยงดูจากครอบครัวที่มีศาสนาเป็นพื้นฐานท�ำให้เด็กชาย abdulrahman เติบโตเป็น เด็กที่ดี เชื่อฟังพ่อแม่(อาบี อุมมี) ชอบช่วยเหลือเพื่อนและชอบวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจ abdulrahman กับ muklis มีส่วนคล้ายคลึงกันในหลายอย่างจึงท�ำให้เด็กทั้งสองสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ


27 | เปิดโลก

จึงกลายมาเป็นเพื่อนรักกัน เด็กทั้งสองคนออกจากห้องเดินไปหน้าโรงเรียน muklis รอส่ง abdulrahman ในขณะ นั้นการสนทนาระหว่างเพื่อนรักก็เกิดขึ้นอีกครั้ง”abdulrahman วันหยุดพรุ่งนี้นายจะไปไหน” muklis ได้ถามขึ้น “อ่อก็อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากันไงมีความสุขดีออก” abdulrahman ตอบแบบก๊วนๆ “ แล้วนายละคิดว่าจะไปเที่ยวที่ไหนหรอ” abdulrahman ย้อนถามขึ้น มา “ไม่รู้เหมือนกันแล้วแต่อุมมีกับอาบีพาไป” ค�ำตอบของ muklis “อิจฉาครอบครัวนายจัง เลย…ขอให้เที่ยวมีความสุขละกันนะเพื่อน”abdulrahman พูดพร้อมกับสีหน้ายินดี จู่ๆก็มีรถขับมาจอดหน้าเด็กทั้งสองพร้อมกับเปิดประตูรถ “abdulrahman ลูกรัก” เสีย งอุมมี(แม่)บนรถ “ต้องไปแล้วละmuklis ฟิอามานิลละฮ” เพื่อนรักทั้งสองก็สวมกอด สลาม และ โบกมือลาให้กัน เสียงรถแล่นผ่านไป…คราวนี้ muklis ก็เดินลากรองเท้าเตะฝุ่นคนเดียวกลับเข้าไป ในโรงเรียนเพื่อไปหาอาบี (พ่อ) มูฮัมมัดซึ่งเป็นคุณครูสอนอยู่ที่นี่ระหว่างเดินก็นึกร�ำพึงอยู่ในใจว่า พรุ่งนี้จะไปไหน ท�ำอะไร ทุกๆวันหยุดสุดสัปดาห์ muklis เเละmunir จะหาท�ำกิจกรรมพิเศษๆกับ ครอบครัวแต่ความคิดก็สะดุดชั่วขณะ เมื่อได้เห็นไอติมหวานเย็นอยู่ในมือน้องชาย munir “กินไอติมไหมพี่อร่อยดี” ค�ำเชิญชวนของน้องชายพร้อมกับยื่นไอติมอีกแท่งให้กับพี่ชาย muklis ชอบกินไอติมมากๆตามประสาเด็กๆเพราะคิดว่ากินไอติมแล้วจะท�ำให้ตนเองอารมณ์ดี muklis ชอบไอติมรสหวานพวก chocolate เผือก ส่วน munir ชอบกินไอติมรสเปรี้ยว รสส้ม รส มะนาว สองพี่น้องเดินไป คุยไป แล้วก็กินไอติมไปด้วย จังหวะนั้น muklis นึกถึงค�ำถามของเพื่อน รักจึงพูดกับน้องชายว่า “พรุ่งนี้เราชวนอุมมี อาบีไปเที่ยวบ้านโต๊ะแมะกันไหม” (เป็นบ้านคุณยายอยู่ตาบาซึ่งติด อยู่กับชายแดนไทยมาเลเซีย) “อืมก็ดีเหมือนกันพี่เราไม่ได้ไปเยี่ยมโต๊ะแมะมานานแล้ว คิดถึงโต๊ะ แมะ และน้าๆทุกคน” munir พูดพร้อมกับแสดงสีหน้าดีใจด้วยใจเบิกบาน “ถ้าไปคราวนี้จะซื้อ อาหารให้ sayang ด้วย(แมวพันธ์อเมริกันเคอล)ไม่เจอมันนานคงอ้วนน่าดูเลยละ” สองพี่น้องหัวเราะชอบใจแล้วก็รีบเดินไปห้องพักครู พลางเลียไอติมไปด้วย “assalamualaikum ครับอาบี” ลูกทั้งสองกล่าวทักทายคุณพ่อยามเย็น “งั้นไปกันเถอะอุมมีคงรออยู่ ….พร้อม กันหรือยังเด็กๆ” “ พร้อมตั้งนานแล้วครับอาบี” ลูกน้อยทั้งสองคนตอบด้วยความพร้อมเพรียง กันบทสนทนาระหว่างพ่อลูกก่อนกลับจากโรงเรียนบนเส้นทางที่รถแล่นผ่านเต็มไปด้วยความ ร่มรื่นของต้นไม้ที่รายล้อม สีเขียว สีเหลืองของใบไม้ท�ำให้รู้สึกสบายตา muklis นึกถึงเพื่อนรัก abdulrahman ภาพความสวยงามของธรรมชาติยังคงติดตาสร้างความประทับใจยังไม่หาย muklis คิดว่าคงจะดีถ้าได้ไปเที่ยวบ้านโต๊ะแมะแล้วก็วาดภาพความประทับใจของครอบครัวให้เพื่อนรักได้ ชื่นชมบ้าง


28 | เปิดโลก

“อาบีๆพรุ่งนี้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์เป็นวันครอบครัวเราไปเที่ยวบ้านโต๊ะแมะกันนะ” muklis พูดขึ้นหวังอยากได้ค�ำตอบยินดีจากอาบี “ไปนะอาบี munir คิดถึงโต๊ะแมะจะแย่อยู่แล้ว คิดถึงจิมะห์ด้วย” สองพี่น้องพูดอ้อนวอน รอลุ้นฟังค�ำตอบจากอาบี “คงต้องถามอุมมีนะ ว่าคิดถึง โต๊ะแมะด้วยไหม” อาบีพูดยิ้มๆเด็กทั้งสองคนดีใจสุดๆแล้วพูดออกมาว่า “ไชโย……เราจะได้ไป เที่ยวบ้านโต๊ะแมะแล้ว” เพราะรู้ดีว่าค�ำตอบของอุมมีคงไม่ปฏิเสธและสนับสนุนความคิดของทั้ง สองแน่ๆ ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าสองพี่น้องเตรียมตัวอาบน�้ำ แต่งตัว แล้วก็ร่วมละหมาดญามาอะห์ (พร้อมกัน) มี อุมมี อาบี ลูกทั้งสองคน “Assalamualaikumwarahmatulahiwabarakatuh” เสียงให้สลาม 2 ครั้งจากอีหม่าม(อาบี) หลังละหมาดมัฆริบเสร็จ แล้วทุกคนก็ยกมือขอพร(ดูอาอฺ) จากพระผู้เป็นเจ้า “amin”เสียงประสานเสียงจากสองพี่น้องหลังจากนั้นอาบีก็เริ่มด้วยบิสมิลลาฮฺ ท�ำฮาลาเกาะฮฺของคืนนี้ อาบีได้อรรถาธิบายอัลกรุอานสั้นๆพร้อมกับยกฮาดิสของ ท่านนบีมูฮัมมัด (ซ.ล.) “บรรดาพวกเจ้าเป็นประชาชาติที่ดีเลิศในมวลมนุษยชาติ ดังนั้นจงตักเตือนพี่น้องของพวกเจ้า เพื่อให้พวกเขาได้ใคร่ครวญท�ำสิ่งที่เป็นความดีงามและห่างไกลจากสิ่งไม่ดี” munir หันหน้ามามองพี่ชาย muklis “แล้วพูดว่าอาแบ(พี่ชาย)อย่าลืมตักเตือนน้องด้วย นะเวลาที่น้องท�ำผิด” อุมมีกับอาบีได้ยินอย่างนั้นก็แอบยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในตัวลูก “คุณน้อง ก็เหมือนกันนะ หากพี่ชายคนนี้ท�ำตัวไม่ดีขัดกับหลักศาสนาก็ช่วยบอกด้วยละกันนะ”อุมมีฮายาตี เอามือทั้งสองลูบศีรษะลูกน้อยทั้งสองแล้วก็พูดเสริมว่า “ท่านนบียังได้กล่าวว่า อีมานของคนๆหนึ่งจะไม่สมบูรณ์หากเขาคนนั้นไม่รักพี่น้องของเขา เสมือนกับที่เขารักตัวเองด้วยนะลูกรัก” อาบีจับมือลูกน้อยทั้งสองแล้วก็โอบกอดลูกน้อยด้วยไออุ่นแห่งความรักเด็กทั้งสองจึง เติบโตเป็นเด็กที่น่ารัก ช่างคิด ช่างสงสัย “อาบีครับ…..ผมเห็นข่าวพี่น้องจากซีเรีย ปาเลสไตน์ โร ฮิงญา ถูกฆ่าตายด้วยความอธรรม เห็นภาพนั้นรู้สึกหดหู่ สงสารจังเลยครับ” muklis พูดแสดง ความห่วงใยพี่น้องต่างเเดน “พี่น้องสามจังหวัด ก็น่าสงสารเหมือนกันครับอาบี” munir พูดเสริม “เมื่อไรสันติภาพจะเกิดขึ้น…ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน” muklis พูดเสร็จก็ถอนหายใจ “เราต้องดู อาอฺไงลูก ขอพรจากพระเจ้าให้ความสันติสุขและความปลอดภัยแก่พี่น้องของเรา” อุมมีพูด คลายความตรึงเครียดของลูกชาย “ดีแล้วละที่ลูกชายของอาบีทั้งสองคนมีความรู้สึกแบบนี้ มุสลิม เป็นพี่น้องกัน คือเรือนร่างอันเดียวกันถ้าส่วนใดได้รับบาดเจ็บทุกส่วนก็จะเจ็บปวดไปด้วย” อาบี พูดสรุปให้เด็กน้อยทั้งสองฟัง อุมมีออกจากวงฮาลาเกาะฮฺไปยังห้องครัวแล้วน�ำนมอุ่นๆกับขนมปัง ปิ้งมาเสิร์ฟให้สามีและลูกน้อย “อุมมี อาบี พรุ่งนี้เราไปเยี่ยมโต๊ะแมะที่ตาบากันนะ” muklis พูด ด้วยความตื่นเต้น “munir อยากจะไปเที่ยวทะเลกับจิมะห์” อุมมีกับอาบีมองตากันแล้วส่งยิ้มให้ ลูกน้อยแทนค�ำตอบ “ไชโย…. เย้ๆผมรู้สึกดีใจมากเลยครับอุมมี อาบีขอบคุณนะครับ” muklis พูด


29 | เปิดโลก

“ผมด้วยๆ”คุณน้อง munir รีบตอบ “ถ้างั้นคงต้องเตรียมอาหาร เสื้อผ้าเราจะไปนอนคางคืนที่ บ้านโต๊ะแมะดีไหม” อาบีพูด และแล้วค�่ำคืนนั้นก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วความเงียบเคลือบคลาน มาแทนที่ เสียงไก่ขันต้อนรับเช้าวันใหม่ munir กับ muklis ตื่นมารับไออุ่นจากแสงแดดและ วิตามินดี ด้วยการขี่จักยานรอบๆบ้าน ส่วนอาบีวิ่งออกก�ำลังกายบริเวณสนามหน้าบ้าน อุมมีอยู่ใน ห้องครัวท�ำอาหารเช้าและจัดเตรียมอาหารไปเที่ยววันนี้ เช้าสายของวันนี้รถก็ได้แล่นพร้อมกับ ความคิด อารมณ์ความรู้สึกตื่นเต้น ดีใจของคนในครอบครัว “ Ooo…..you are my brother you’re my sister, We are one big family” เสียงอนาชีดได้บรรเลงขึ้น ความไพเราะของเสียง ผู้ร้องท�ำเอาทุกคนเคลิ้ม อารมณ์คล้อยไปตามๆกัน เนื้อหาของเพลงก็กินใจชวนให้คิด “มุสลิมทุก คนเป็นพี่น้องกันนะลูก แม้ว่าเราจะมาจากชนเผ่า เชื้อชาติ ภาษาที่ต่างกันแต่เรามีเลือดสีเดียวกัน นั้นคือเลือดของผู้ศรัทธา เรามีกาลีมะฮฺชาฮาดะฮฺเหมือนกันและที่ส�ำคัญเราแตกต่างเพื่อที่เราจะได้ ท�ำความรู้จักกันจ�ำไว้นะลูกรัก” อุมมีพูดกับลูกรัก ส่วนที่บ้านตาบาหลังจากได้รับข่าวเมื่อคืน ว่าหลานรักจะมาเที่ยวที่บ้านทุกคนต่างดีอก ดีใจยกใหญ่เลย ห่างหายจากการรวมญาติมานานแล้ว โต๊ะแมะเข้าครัวลงมือท�ำอาหารเตรียม ส�ำรับมื้อเที่ยงต้อนรับหลาน น้าๆบางคนก็ซื้อขนมของโปรดให้หลานส่วนจิมะห์กับจิวังก็พากันไป จ่ายตลาดซื้อข้าวของที่จะน�ำมาท�ำอาหารเฉลิมฉลองในวันนี้บรรยากาศที่บ้านดูคึกคักเป็นพิเศษมี การจัดระเบียบท�ำความสะอาดบ้าน ……….เสียงรถหยุดหน้าบ้านทุกคนรู้ทันทีว่าแขกคนส�ำคัญได้ มาถึงแล้ว ประตูหน้าบ้านถูกเปิดออกทันที “Assalamualaikum” เสียงสลามรอยยิ้ม หัวเราะ ดังขึ้น “โต๊ะแมะ”หลานรักทั้งสอง คนกระโจนเข้ามากอดโต๊ะแมะ หอมแก้ม สลามกับน้าๆ “ โอ้โฮไม่เจอกันนาน Muklis โตเป็นหนุ่ม ขึ้นเยอะเลยส่วนน้อง munir ก็หล่อไม่เบาเลยนะ” เสียงน้าๆแซวหลาน “เที่ยงแล้วไปกินข้าวกัน เถอะทุกคนคงจะหิวน่าดู” โต๊ะแมะชวนลูกๆหลานๆไปกินข้าวพร้อมกัน โต๊ะแมะท�ำกับข้าวได้ อร่อยมากเลย ลูกๆทุกคนจึงไม่ชอบกินข้าวนอกบ้าน หรือพูดได้ว่ากินที่ไหนไม่ถูกปากเท่าที่บ้าน โต๊ะแมะจะพิถีพิถันเรื่องการท�ำอาหารมากๆ ความสะอาดถือเป็นปัจจัยส�ำคัญ ความสดใหม่ของ วัตถุดิบ ไร้ผงชูรสและที่ส�ำคัญอาหารอร่อยได้เพราะโต๊ะแมะใส่หัวใจความรักความห่วงใหญ่ที่มีต่อ ลูกๆหลานๆทุกคน “โอ้โฮ…..ท่าทางอร่อยมากเลยมีของโปรดพวกเราด้วย ไก่ทอด เมี่ยงปลาเผา สเต็กเนื้อ ต้มย�ำ และลอดช่องสิงคโปร์ muklis พูดพร้อมท�ำตาลุกวาว “ขอบคุณโต๊ะแมะมากเลย ครับ”muklis ยิ้มส่งให้โต๊ะแมะ “ผมด้วยๆอาหารที่โต๊ะแมะท�ำทุกอย่างอร่อยถูกปากผมทุกครั้ง” munir พูดเอาใจโต๊เมะ “ถ้างั้นมัวรออะไรอยู่….กินกันเลยดีกว่า” เสียงจากน้าสาวข้างๆ แม้ว่าสิ่งที่ ท�ำให้อาหารดูน่ากินและเป็นที่อิ่มเอมหัวใจ กลับไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในส�ำรับตรงหน้า แต่เป็นสิ่งที่อยู่ รอบๆส�ำรับที่พร้อมหน้าพร้อมตากันของสมาชิก แม้กับข้าวจะไม่โก้หรูหราก็ตาม ความสุขความ อบอุ่นที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวปรารถนาอยากให้เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่มีการกลับบ้านรวมตัวของ ญาติมิตร “ เวลาแห่งความสุขที่เกิดขึ้นเป็นเพียงชั่วขณะเท่านั้น รู้สึกว่ามันช่างสั้นเหลือเกิน ภาพ


30 | เปิดโลก

ที่ครอบครัวก�ำลังกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน ภาพเที่ยวทะเลสวยๆกับจิมะห์ จิปัง ภาพเดิน ตลาดเก่าตาบากับจิฮะห์ จูยัง ภาพเสียงหัวเราะกอดคอกัน จูงมือกันอย่างสนุกสนานมันช่างป็นภา พที่มีความสุขที่สุดเลย ภาพความประทับใจเหล่านี้จะเก็บเป็นความทรงจ�ำที่ยังคงตราตรึงในหัวใจ ตลอดไป muklis หันหน้ามามองเพื่อนรักแล้วพูดต่อไปว่า “เราหวังว่าช่วงวันหยุดของนายก็คง พิเศษเหมือนกับเรานะ”abdulrahman ยิ้มแล้วพูดว่า “ดูจากภาพแล้วนายเล่าเรื่องได้ลึกซึ้งและ กินใจเรามาก อิจฉาครอบครัวนายจังเลยเราชักอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนายจัง” abdulrahman พูดแล้วท�ำตาอิจฉา “นายไม่ต้องมามองอย่างนั้นเลยนะ..ว่าแต่นายมีเรื่อง เล่าให้ฟังไหม” muklis ถามด้วย ความอยากรู้ “อืมเราหรอ….ไปเที่ยวทะเลมา นอนพักที่ลีลารีสอร์ท ปิคนิค ย่างกุ้ง หอย ปู ปลากิน กันช่วงเย็นเล่นน�้ำทะเลทั้งวัน ครอบครัวของเราถือโอกาสเลี้ยงฉลองยินดีที่พี่สาว suzan ได้รับทุน เรียนต่อที่ Australia นะ”abdulrahman เล่าพร้อมสบตากับเพื่อนรัก ยักคิ้วไปด้วย “อืมวันหยุด ของนายก็เจ๋งนะเพื่อนท�ำให้เราอิจฉาเลยละ…..ไปกันเถอะหิวข้าวแล้ว” หวังว่าคงจะมีข้าวมันไก่ ทอดให้เราได้กินนะ muklis พูดแล้วเด็กทั้งสองก็เดินเข้าไปชวนเพื่อนๆไปพักกินข้าวเที่ยงที่โรง อาหารพร้อมกัน “หลับแล้วหรอลูกน้อยอุมมี”อุมมีหันมามองลูกชาย “ป่าวๆครับแค่หลับตาเชยๆครับ” farooq รีบแก้ตัวทันที “ผมชอบนิทานเรื่องนี้มากครับได้ฟังทีไร….อยากเป็นเหมือนตัวละครใน เรื่องนี้จังเลยครับ farooq บอกอุมมี “ว่าแต่ลูกอยากเป็นตัวละครตัวไหนละ” อุมมีถามลูกน้อย พร้อมกับปิดหนังสือนิทาน “คิดไปแล้วในนิทานก็เหมือนผมรับบทเป็น muklis ส่วน amin เพื่อน รักรับบทเป็น abdulrahman “ผมคงต้องเอาเรื่องเล่าดีดีในช่วงวันหยุดมาเล่าสู่กันฟังให้เพื่อนๆ แล้วละ” “งั้นนอนเถอะลูกรักอุมมีจะปิดไฟแล้ว” อุมมีพูดเเล้วก็ยื่นมือมาปิดไฟ แล้วลูกน้อยก็ หลับตาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า


31 | เปิดโลก

7

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วโคตรๆ ซึ่งสมัยนั้นเป็นสมัยการปกครองแบบกษัตริยซ์ ึ่งเป็น มหาอ�ำนาจเหลือกลุ่มชนอื่นใด ณ ราชอาณาจักรแห่งหนึ่งชื่อว่าอาณาจักร “tahtahu” ซึ่งมีพระ ราชาผู้น่าเกรงขามนามว่า “อารัยโช” เป็นพระราชาคนที่สี่ของอาณาจักรโดยพระราชาผู้นี้จะมี มหาดเล็กคู่ใจอยู่หนึ่งคน ซึ่งเป็นคนไม่ค่อยพูดโม้โอ้อวดมาก คิดจะท�ำอะไรก็ท�ำเลย ซึ่งเวลาพระ ราชาออกไปไหน เขาก็จะออกคอยตามไปรับใช้เสมอ มีอยู่วันหนึ่ง พระราชาคิดอยากออกไปล่าสัตว์ เลยได้ชวนมหาดเล็กคู่ใจคนนี้ออกไปด้วย เพื่อคอยช่วยเหลือถือสิ่งของต่างๆ ในขณะก�ำลังเดินทางอยู่ภายในป่าดงพงไพร ด้วยสายตาที่กวา ดรอบๆกายเพื่อที่จะหาเป้าหมายคือสัตว์ป่า ทันใดนั้น! เกิดอุบัติเหตุอย่างไม่คาดฝันขึ้น ปลอกพระ ขันต์อันเก๋ากึ๊กได้ขาดลง และท�ำให้มีดภายในปลอกที่พระราชาพกอยู่ข้างเอวนั้นทะลุลงมา ฟันฉับ เข้าที่นิ้วหัวแม่เท้าของพระราชา ท�ำให้หัวแม่เท้าพระราชาหลุดกระเด็นออกไป เลือดอันแดงก�่ำได้ ไหลพุ่งออกมาเป็นโลหิต เลยท�ำให้พระราชาผู้นั้นกลายเป็นคนนิ้วด้วนโดยปริยาย และพระราชาผู้ นั้นได้ไปปรึกษากับมหาดเล็กคู่ใจว่า “เจ้าคิดอย่างไรรึกับเหตุการณ์นี้” “ดีพะย่ะค่ะ” มหาดเล็กได้ ตอบด้วยเสียงอันชัดเจน ซึ่งท�ำให้พระราชาทรงกริ้วมาก เลยถามกลับไปว่าท�ำไมเจ้าถึงพูดอย่างนี้ “ดีกว่าตายพะย่ะค่ะ” มหาดเล็กตอบ จากนั้นพระราชาทรงกริ้วกว่าเดิม “ทหารจับมันไปขังในคุกขี้ไก่” เสียงพระราชาตะโกนบอกด้วยสีหน้าอันแดงก�่ำราวกับ เลือดที่หัวแม่เท้า สุดท้ายมหาดเล็กก็ได้โดนขังภายในคุกขี้ไก่ที่โคตะระเหม็นหึ่งนั้น สิบปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก พระราชาด้วน(เรียกด้วนซะงั้น)ก็ได้ออกไปล่าสัตว์อย่างเช่น เคย ซึ่งได้น�ำก�ำลังพลทหารไปเป็นจ�ำนวนสิบกว่าคน เพราะได้ออกไปส�ำรวจพื้นที่เพื่อขยาย อาณาเขตไปด้วย ในขณะที่เดินทางไปเรื่อยๆ กองคาราวานของพระราชาอารัยโชหรือพระราชา ด้วนได้เกิดหลงป่าพร้อมกับกองคาราวารเหล่าทหาร เข้าไปในหุบเขากินคน และได้เจอะเจอกับ เผ่ากินคนที่แสนอ�ำมหิต ป่าเถื่อน รุนแรง ชิบหาย ขึ้น ซึ่งเผ่านี้เป็นเรียกขานในสมัยนั้นว่า “เผ่า ตะแกซิ” จะกินทุกคนที่เข้ามาในพื้นที่หรือเขตแดนของมัน “เฮ่ย ! พวกเราจับแดกให้เหม็ดเกลี้ยง” เสียงหัวหน้าเผ่าได้ตะโกนดังขึ้น ด้วยจรรยาบรรณของพลทหารปกป้องพระราชา จึงได้เกิดการสู้รบขึ้นระหว่างเผ่ากินคน กับพลทหารของพระราชา หลังจากการสู้รบมาพักหนึ่ง เหล่าพลทหารของพระราชาได้พ่ายแพ้ และถูกจับกินในที่สุด


32 | เปิดโลก

จนกระทั้งเหลือแต่พระราชาอยู่องค์เดียว “พวกเราจับมันไปต้มส้มใบม่วง” เสียงหัวหน้า เผ่าดังขึ้น “เอ่ออม...ไว้ชีวิตข้าเถอะ พวกเจ้าจะเอาอะไรข้ายอมให้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน เงินทอง สิ่งของมีค่า ที่ดินที่นา สนามบิน สนามบอล ข้ายอมให้หมด แต่ขอให้พวกเจ้าปล่อยข้าไป เถอะ ข้าขอร้อง” พระราชาได้เจรจาต่อรองขึ้นด้วยเสียงอันสั่นๆด้วยความกลัว “พวกข้าไม่เอาอะไรทั้งสิ้น พวกข้าเตะบอลไม่เป็น อีกอย่างข้าก็ไม่มีอารมณ์อีกด้วย ข้า ต้องการอย่างเดียวคือ ชีวิตของเอ็ง ฮึฮึ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ” หัวหน้าเผ่าตอบ

“แต่ข้าเป็นพระราชาน่ะ” พระราชาเอ่ยต่อ

“ฮึ่ม...พระราชาน่ะแหละหรอยดี” “พวกเราจับปลอกเปลือก”(หัวหน้าเผ่า)

“ย่ะเฮ่ย!...คนน่ะไม่ใช่ลูกมะม่วง” (พระราชา)

“เออ...พวกเราจับมันแก้เปลือย”(หัวหน้าเผ่า)

ในขณะที่ชาวเผ่ากินคนก�ำลังจับพระราชาแก้ผ้า และถอดรองเท้าของพระราชา ทันใด นั้น! สีหน้าของเผ่ากินคนแต่ละคน ได้ตะลึงและตกใจอย่างสุดขีด เมื่อได้เห็นพระบาทของพระ ราชา ซึ่งมีนิ้วไม่ครบหรือนิ้วด้วนนั้นเอง

“เฮ่ย...ปล่อยมันๆกินไม่ด้าย กินไม่ได้” เสียงหัวหน้าเผ่าเอ่ยบอกอย่างตกใจ

“หากพวกเรากินพระราชาคนนี้เข้าไป พวกเราอาจพินาศ ฉิบหายเลยเชียวน่ะ เฮ่ย.... พวกเราพามันไปทุ้ม” เพราะเผ่ากินคนจะถือว่า หากกินคนที่ไม่สมบูรณ์หรืออวัยวะไม่ครบ อาจจะเกิดภัยพิบัติ อันเลวร้ายแก่พวกมันได้ จึงต้องรีบน�ำออกไปจากเขตแดนหมู่บ้านของมัน เมื่อพระราชาได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจสุดขีด “ยิปปี้ข้ารอดแล้ว เพราะนิ้วเท้าของเราที่ด้วน นี่เอง” หลังจากเหตุการณ์อันเลวร้ายนั้น พระราชาได้หาทางออกกลับพระราชวังอย่างทุลัก ทุเล และก็ได้เล่าเรื่องให้พวกทหารประจ�ำวังและชาววังฟัง และได้บอกว่า “ที่ข้ารอด ไม่ใช่เพราะความเก่งหรือวิเศษของข้าหรอก แต่เป็นเพราะนิ้วหัวแม่เท้าของ ข้าต่างหากที่ถูกมีดฉับไปเมื่อสิบปีก่อน”

“เอ๊ะ!..เมื่อสิบปีก่อน เดี๋ยวๆๆ ข้าจ�ำได้ว่า...”

“ใช่เลยมหาดเล็กได้บอกไว้กับข้า ข้ายังจ�ำได้ขึ้นใจ มหาดเล็กได้บอกกับข้าว่า ที่นิ้วด้วนดี กว่าตาย พะย่ะค่ะ ใช่ๆ ใช่เลยมหาดเล็กพูดถูก”


33 | เปิดโลก

ทันใดนั้นพระราชาก็รีบวิ่งไปเอากุญแจรีบมาไขคุกที่ท่านได้เคยจับมหาดเล็กขังไว้ และ ได้น�ำตัวมหาดเล็กออกมา กอดอย่างแน่น และได้ขอบพระทัยและขอโทษกับสิ่งที่ท่านได้ท�ำไปใน เมื่อสิบปีก่อน “ค�ำพูดของเจ้าที่เจ้าได้เอ่ยไว้เมื่อสิบปีก่อนมันเป็นจริง จริงๆ ด้วย ข้าขอโทษด้วยที่ข้าได้ ท�ำกับเจ้าแบบนี้” “เอ่อ...ว่าแต่เป็นยังไงบ้างล่ะ อยู่ในคุกขี้ไก่แห่งนี้” พระราชาได้สอบถามมหาดเล็กด้วย ความเป็นห่วง

“ก็เหม็นดีพะย่ะค่ะ ถึงจะเหม็นแต่ก็ดีพะย่ะค่ะ”

มหาดเล็กตอบด้วยรอยยิ้มเช่นเคย พระราชาก็ถามด้วยความสงสัยว่า

“มันดียังไงหล่ะ อยู่ในคุกล�ำบากก็ล�ำบาก และไม่โกรธข้าบ้างเลยรึ มหาดเล็ก” มหาดเล็กเอ่ยกลับว่า “ขอบพระทัยมากพะย่ะค่ะไม่โกรธพะย่ะค่ะ ขอบพระทัยที่ท่านได้ จับข้าขังไว้”

พระราชาก็ยังสงสัยขึ้นกว่าเดิมและถามอีกว่า “ที่เจ้าว่ามันดี มันดียังไงรึ”

มหาดเล็กก็ได้ตอบไปด้วยน�้ำเสียงที่ชัดเจนว่า “หากพระราชาไม่จับหม่อมฉันขังคุกไป เมื่อสิบปีก่อน ป่านนี้หม่อมฉันคงต้องโดนพวกเผ่ากินคนจับผัดเผ็ดแกงเลียง กินไปแล้วพะย่ะค่ะ ขอบพระทัยมากพะย่ะค่ะ”

จงภูมิใจจงพอใจในสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องเลวร้าย ก็ขอให้เรากล่าวว่า”อัลหัมดุลิ ลลาฮฺ”อยู่เสมอเพราะว่าอัลลอฮฺ(ซ.บ.)ทรงจัดสรรสิ่งที่ดีให้ไว้แก่เราเสมอ ถึงแม้ว่าเราจะได้ในสิ่งที่ ดีแล้ว แต่เรากลับพลาดโอกาส อินชาอัลลอฮฺเราจะได้ในสิ่งที่ดีกว่าก็ได้เพราะอัลลอฮฺทรงรักบ่าว ของพระองค์ทุกคน อัลลอฮฺทรงจัดสรรสิ่งที่ดีให้แก่เราเสมอ อินชาอัลลอฮฺ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะ เป็นนิทานโดยใช้ค�ำว่า “ดีพะย่ะค่ะ” ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของข้าพเจ้า


การ์ตูนอันนูร




บันทึก


บันทึก




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.